145 ปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะ - การบันทึกข้อมูลบางระบบ การบันทึกข้อมูลมีความซ้ำซ้อน ไม่สามารถนำข้อมูลมาใช้งานได้ มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบ หรือเนื้อหาบ่อยครั้ง และมีการเพิ่มระบบ เช่น จำนวนข้อมูลผู้ประสบปัญหา 1 ราย จะต้องบันทึกหลายระบบ เช่น กรมเด็กฯ ต้องบันทึกทั้งในระบบ MS-logbook และ ในระบบ CPIS หรือถ้าได้มีการ ช่วยเหลือเงินสงเคราะห์จะต้องมาบันทึกในระบบศูนย์บริการทางสังคมอีกระบบหนึ่ง - ฐานข้อมูลบางระบบ มีข้อจำกัดในการเข้าถึงข้อมูล ทำให้ไม่สะดวกในการนำมาใช้งาน และส่งต่อข้อมูล ให้แก่เครือข่ายในการนำข้อมูลไปใช้ให้เกิดประโยชน์ เช่น MSO-logbook ผู้ปฏิบัติงานไม่สามารถดูข้อมูลในภาพรวม ได้ ผู้รายงาน นางสาวอัญชลีย์ ไกรทอง ตำแหน่งนักพัฒนาสังคม หน่วยงาน บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกระบี่
146 ครั้งที่ ๑ (๑ ตุลาคม ๖๕ – ๓๑ มีนาคม ๖๖) รายงานภายในวันที่ ๗ เม.ย. ๖๖ ครั้งที่ ๒ (๑ เมษายน ๖๖ - ๓๐ สิงหาคม ๖๖) รายงานภายในวันที่ ๗ ก.ย. ๖๖ บันทึกตรวจราชการนอกรอบ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย. 66) จังหวัด............กระบี่......... ................ ๙.๑ การขับเคลื่อนศูนย์ฝึกอาชีพบูรณาการทุกช่วงวัย ผู้รับผิดชอบหลัก ทุกหน่วยงานในสังกัด พม. ที่มีการดำเนินงานด้านการฝึกอาชีพ วัตถุประสงค์ - เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกหน่วยงานในสังกัด พม. มีการดำเนินงานด้านการฝึก อาชีพให้ครอบคลุมทุกช่วงวัย - เพื่อขยายผลการดำเนินงานของศูนย์ฯ ต่าง ๆ ที่ดำเนินการด้านการฝึกอาชีพให้กับ กลุ่มเป้าหมายเฉพาะ ให้ขยายผลไปยังกลุ่มเป้าหมายอื่น ๆ เพิ่มเติม กลุ่มเป้าหมาย - ทุกหน่วยงานในสังกัด พม. ที่มีการดำเนินงานด้านการฝึกอาชีพ ตัวชี้วัด - จุดเน้นประเด็น การตรวจ - การขับเคลื่อนศูนย์ฝึกอาชีพให้ครอบคลุมทุกช่วงวัย - การขยาย/ต่อยอดงานของศูนย์ฯ ต่าง ๆ ที่มีการดำเนินงานด้านการฝึกอาชีพให้กับ กลุ่มเป้าหมายเฉพาะ โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปซึ่งมิใช่กลุ่มเป้าหมายเฉพาะได้ เข้ามาร่วมฝึกอาชีพด้วย เป้าหมาย และผลการดำเนินงาน กระบวนงาน และ ระยะเวลา ดำเนินงาน การปฏิบัติ รายละเอียด ผลการ ดำเนินงาน หมายเหตุ ดำเนินการแล้ว อยู่ระหว่าง ดำเนินการ ยังไม่ได้ ดำเนินการ (ระบุสาเหตุ) การฝึกอบรมทักษะ อาชีพ จำนวน 30 วัน ระหว่างวันที่ 12 พ.ค. – 15 มิ.ย. 2566 และรวมกลุ่ม ประกอบอาชีพ จำนวน 40 วัน ระหว่างวันที่ 16 มิ.ย. – 28 ก.ค. 2566 รวมระยะเวลาตลอด โครงการ 70 วัน ดำเนินการฝึก ทักษะอาชีพ 30 วัน เรียบร้อยแล้ว (12 พ.ค. – 15 มิ.ย. 2566) การรวมกลุ่ม ประกอบอาชีพ 40 วัน (16 มิ.ย.66 - 28 ก.ค.66) ศูนย์เรียนรู้การ พัฒนาสตรีและ ครอบครัว ภาคใต้จังหวัด สงขลา ดำเนินงาน โครงการพัฒนา ทักษะอาชีพแก่ ครัวเรือน เปราะบางสู่ ความยั่งยืน แบบตรวจและติดตามการปฏิบัติงานตามแผนการตรวจราชการ พม. ปี๒๕๖๖ ประเด็น การขับเคลื่อนศูนย์ฝึกอาชีพบูรณาการทุกช่วงวัย ๙
กระบวนงาน และ ระยะเวลา ดำเนินงาน การปฏิบัติ รายละเอียด ผลการ ดำเนินงาน หมายเหตุ ดำเนินการแล้ว อยู่ระหว่าง ดำเนินการ ยังไม่ได้ ดำเนินการ (ระบุสาเหตุ) ปีงบประมาณ 2566 กิจกรรม สร้างชีวิตใหม่ ให้แก่สตรีและ ครอบครัว ณ กลุ่มสานเส้นดิน อุดม หมู่ที่ 3 ตำบลดินอุดม อำเภอลำทับ จังหวัดกระบี่ ฝึกอบรม หลักสูตรการทำ ผลิตภัณฑ์จัก สานจากเส้น พลาสติก มี ผู้เข้าร่วม โครงการ แรกเริ่ม จำนวน 30 คน ปัจจุบัน มีผู้ที่ยังรวมตัว เป็นกลุ่มอาชีพ จำนวน 27 คน มีรายได้จากการ จำหน่าย ผลิตภัณฑ์ของ กลุ่มเฉลี่ยเดือน ละ 5,000 บาท
148 ผลลัพธ์/ผลการดำเนินงาน (ภาพรวม) กลุ่มเป้าหมายได้รับความรู้และทักษะด้านการจักสานเส้นพลาสติก เป็นผลิตภัณฑ์รูปแบบต่าง ๆ เช่น กระเป๋า ตระกร้า และในระหว่างฝึกอบรมสามารถจำหน่ายสินค้าได้ เป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ ส่งเสริมการมีรายได้ให้กับ กลุ่มเป้าหมายในชุมชน ปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะ กลุ่มเป้าหมายยังขาดองค์ความรู้ด้านการทำธุรกิจ การทำบัญชีรับจ่าย การคำนวณต้นทุน กลยุทธ์การตลาด (เทคนิคการถ่ายภาพ การทำคอนเท้นต์เพื่อส่งเสริมการขาย) ผู้รายงาน นางสาวศรีไพร ลิ่มเกิดสุขวงศ์ ตำแหน่ง นักพัฒนาสังคมชำนาญการ หน่วยงาน สนง.พมจ.กระบี่
149 ครั้งที่ ๑ (๑ ตุลาคม ๖๕ – ๓๑ มีนาคม ๖๖) รายงานภายในวันที่ ๗ เม.ย. ๖๖ ครั้งที่ ๒ (๑ เมษายน ๖๖ - ๓๐ สิงหาคม ๖๖) รายงานภายในวันที่ ๗ ก.ย. ๖๖ บันทึกตรวจราชการนอกรอบ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย. 66) จังหวัด..........กระบี่........... ................ ๑๐.๑ โครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพแก่นักเรียนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจากจบการศึกษาภาคบังคับ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ผู้รับผิดชอบหลัก สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด วัตถุประสงค์ - เพื่อสนับสนุนเงินสงเคราะห์ประเภทต่าง ๆ ให้กับเด็กนักเรียนกลุ่มเป้าหมายที่ไม่ได้ เรียนต่อหลังจากจบการศึกษาภาคบังคับ กลุ่มเป้าหมาย - นักเรียนที่ไม่เรียนต่อหลังจากจบการศึกษาภาคบังคับ ตัวชี้วัด - จุดเน้นประเด็น การตรวจ - จำนวนนักเรียนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจากจบการศึกษาภาคบังคับที่หน่วยงานให้ความ ช่วยเหลือในการเข้ารับการฝึกทักษะอาชีพกับหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน รายชื่อเด็กที่ลงทะเบียนเข้ารับการฝึกอบรม ลำดับ ที่ ชื่อ - สกุล การฝึกทักษะอาชีพด้าน... 1 นายสมโชค จันทร์นารถ ช่างซ่อมและบำรุงรักษารถจักรยานยนต์ 2 นายชัชพิสิฐ สร้างสม ช่างซ่อมและบำรุงรักษารถจักรยานยนต์ 3 นายธิติวัฒน์ กสิคุณ ช่างซ่อมและบำรุงรักษารถจักรยานยนต์ 4 นายสรวิชญ์ เกิดรักษ์ ช่างซ่อมและบำรุงรักษารถจักรยานยนต์ 5 นายปริวรรต ก๊กใหญ่ ช่างเดินสายไฟภายในอาคาร 6 นายนรากร ศรีพักตร์ ช่างเดินสายไฟภายในอาคาร 7 นายเสกสรร มะตะผล ช่างเดินสายไฟภายในอาคาร 8 นายณัฐชนน บุตรอีด ช่างเดินสายไฟภายในอาคาร 9 นายวชิรวิทย์ หมั่นด้าเหร๊ะ ช่างเดินสายไฟภายในอาคาร 10 นายศุภชัย สุภาวุฒิ ช่างเดินสายไฟภายในอาคาร แบบตรวจและติดตามการปฏิบัติงานตามแผนการตรวจราชการ พม. ปี๒๕๖๖ ประเด็น การตรวจราชการกรณีพิเศษ (สำนักงานผู้ตรวจราชการแผ่นดิน) ๑๐ @Q ๑๐
150 - 2 - ผลลัพธ์/ผลการดำเนินงาน (ภาพรวม) 1. ผ่านหลักเกณฑ์ (กำลังเข้าร่วมโครงการฯ และบ้านมีฐานะยากลำบาก เข้าหลักเกณฑ์ตามระเบียบการ เบิกจ่ายของกระทรวงพม.) โดยได้รับการอนุมัติช่วยเหลือ จำนวน 4 ราย 2. ไม่ได้ช่วยเหลือ เนื่องจากเด็กไม่เข้าร่วมโครงการฯ (ลงชื่อสมัครไว้) ไม่เข้ารับการฝึกอบรมและออกจาก โครงการ จำนวน 2 ราย 3. ไม่ผ่านหลักเกณฑ์ (ฐานะทางบ้านไม่ลำบาก ไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามระเบียบการเบิกจ่ายของกระทรวงฯ) จำนวน 2 ราย 4. ติดต่อไม่ได้เลย ไม่รับโทรศัพท์ (ตามเบอร์ที่ให้ไว้) จำนวน 1 ราย 5. มี 1 รายที่พื้นเพอยู่จ.นราธิวาส มาอาศัยอยู่หอพักกับเพื่อน ซึ่งยังเป็นเยาวชน ไม่ได้อยู่กับผู้ปกครอง ไม่เข้า ตามหลักเกณฑ์เรื่องอายุผู้รับเงิน/ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ลำ ดับ ที่ ชื่อ - สกุล การให้ความช่วยเหลือ (ประเภทเงินสงเคราะห์) จำนวนเงิน 3,000 (บาท) การฝึกทักษะอาชีพด้าน... เงินสงเคราะห์ผู้ประสบ ปัญหาทางสังคมกรณี ฉุกเฉิน เงินสงเคราะห์เด็กใน ครอบครัวยากจน 1 นายสมโชค จันทร์นารถ - - (ออกจากโครงการ) 2 นายชัชพิสิฐ สร้างสม / ช่างซ่อมและบำรุงรักษารถจักรยานยนต์ 3 นายธิติวัฒน์ กสิคุณ - - (ไม่ผ่านหลักเกณฑ์) 4 นายสรวิชญ์ เกิดรักษ์ - - ติดต่อไม่ได้ 5 นายปริวรรต ก๊กใหญ่ - - (ไม่ผ่านหลักเกณฑ์) 6 นายนรากร ศรีพักตร์ / ช่างเดินสายไฟภายในอาคาร 7 นายเสกสรร มะตะผล / ช่างเดินสายไฟภายในอาคาร 8 นายณัฐชนน บุตรอีด - - (ออกจากโครงการ) 9 นายวชิรวิทย์ หมั่นด้าเหร๊ะ / ช่างเดินสายไฟภายในอาคาร 10 นายศุภชัย สุภาวุฒิ - - ไม่เข้าหลักเกณฑ์ ปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะ เด็กที่เข้ารับการอบรม มีอายุเกิน 18 ปี และมีบางรายอยู่ในครอบครัวที่มีฐานะดี และไม่อยากเรียน ในระบบ ซึ่งไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงตามวัตถุประสงค์ของ MOU ผู้รายงาน นางสาวนฤตยา เนียมรุ่ง ตำแหน่ง นักสังคมสงเคราะห์ปฏิบัติการ หน่วยงาน สนง.พมจ.กระบี่
151 ครั้งที่ ๑ (๑ ตุลาคม ๖๕ – ๓๑ มีนาคม ๖๖) รายงานภายในวันที่ ๗ เม.ย. ๖๖ ครั้งที่ ๒ (๑ เมษายน ๖๖ - ๓๐ สิงหาคม ๖๖) รายงานภายในวันที่ ๗ ก.ย. ๖๖ บันทึกตรวจราชการนอกรอบ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย. 66) หน่วยงาน สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด กระบี่ **************************** คำชี้แจงประกอบ ขอให้หน่วยงานจัดทำรายงานเป็นรายหน่วยงาน ประเด็น การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนหรือข้อร้องเรียนของประชาชน คำชี้แจงประกอบ ขอให้หน่วยงานจัดทำรายงานเป็นรายหน่วยงาน ๑. ปัญหาความเดือดร้อน/ร้องเรียนของประชาชนผ่านช่องทางต่าง ๆ ปัญหาความเดือดร้อน/ร้องเรียน ของประชาชนผ่านช่องทางต่าง ๆ ประเด็นปัญหา การดำเนินการ ๑. มาด้วยตนเอง......357.......เรื่อง ๒. ส่งหนังสือ ...............-..............เรื่อง ๓. สายด่วน ๑๓๐๐ .......417.......เรื่อง ๔. ส่งผ่านหน่วยงานอื่น........245.....เรื่อง ๔.๑ สำนักนายกรัฐมนตรี.....1.....เรื่อง ๔.๒ ศูนย์ดำรงธรรม............2......เรื่อง ๔.๓ ถวายฎีกา....................-.......เรื่อง ๔.๔ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ..............-..........เรื่อง ๔.๕ อปท.ในจังหวัดกระบี่..242..เรื่อง 5. พลเมืองดี..........30..........เรื่อง รวม............1049.................. เรื่อง ๑. ที่อยู่อาศัย...105......เรื่อง ๒. รายได้ไม่พอยังชีพ.930 เรื่อง ๓. ไม่ได้รับความเป็นธรรมจาก กฎหมาย...................-............เรื่อง ๔. ถูกล่วงละเมิด.......-...........เรื่อง ๕. ความรุนแรงในครอบครัว ...................14.................เรื่อง ๕. ถูกเลิกจ้างหรือตกงานของ สถานการณ์โควิด -19.....-......เรื่อง ๖. อื่น ๆ ..............-................เรื่อง รวม...........1049................เรื่อง ๑. ดำเนินการแล้วเสร็จ..1049...เรื่อง ๒. ประสานส่งต่อ.........90........เรื่อง ๒.๑ หน่วยงานใน พม. .................15...........เรื่อง ๒.๒ หน่วยงานภายนอก.......เรื่อง ๓. อยู่ระหว่างดำเนินการ....-....เรื่อง ๔. ยังไม่ดำเนินการ..........-...........เรื่อง รวม...............1049...................เรื่อง ๑๑ แบบตรวจและติดตามการปฏิบัติงานตามแผนการตรวจราชการ พม. ปี๒๕๖๖ ประเด็น การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนหรือข้อร้องเรียนของประชาชน
152 เรื่อง/ประเด็นสำคัญ /เร่งด่วน /วิกฤต/ ส่งผลต่อภาพลักษณ์องค์กร/สื่อให้ ความสำคัญและติดตาม ผลการดำเนินงาน การส่งต่อ ๑. ประเด็นที่สื่อสนใจ : ผู้ที่ไม่สามารถ เข้าถึงสิทธิสวัสดิการของรัฐได้ เช่น เด็กที่ ไม่ได้เข้ารับการศึกษาตามเกณฑ์ ถูกพ่อแม่ ทอดทิ้ง ให้อาศัยกับผู้สูงอายุ/ ผู้สูงอายุที่ ถูกทอดทิ้ง/ ผู้ที่อาศัยอยู่ในที่อยู่อาศัยที่ ผุพัง ทรุดโทรม ไม่เหมาะแก่การพักอาศัย เป็นต้น นักสังคมสงเคราะห์ ทีม One Home ก ระบี่ ล งพื้ น ที่ ส อ บ ข้อเท็จจริง เยี่ยมบ้าน ประเมิน ปัญหา ส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น บ้านพักเด็กและครอบครัว สถานสงเคราะห์เด็ก สถานสงเคราะห์ คนไร้ที่พึ่ง เป็นต้น 2. ประเด็นที่สื่อสนใจ : ตกงาน ไม่มีงาน ทำ ไม่สามารถเข้าถึงสิทธิสวัสดิการของรัฐ ได้ นักสังคมฯพมจ. ลงพื้นที่เพื่อสอบ ข้อเท็จจริงและประเมินปัญหา นำข้อมูลเข้าที่ประชุม คณะกรรมการพิจารณาช่วยเหลือ ผู้ประสบปัญหาทางสังคมจังหวัด เพื่ออนุมัติการช่วยเหลือเป็นเงิน สงเคราะห์ผู้ประสบปัญหาทาง สังคมกรณีฉุกเฉิน หาก ผู้รับบริการรายไหนเห็นควรให้ ความช่วยเหลือเพิ่มเติม จะ ดำเนินการส่งต่อเป็นรายกรณี - หมายเหตุ ประเด็นสำคัญเร่งด่วนหรือวิกฤต ขอให้รายงานต่อผู้ตรวจราชการกระทรวงทราบโดยด่วน และเมื่อดำเนินการแล้ว ขอให้รายงานให้ทราบเป็นระยะ ผู้รายงาน นางสาวกัญญาวีร์ พริกกุล ตำแหน่ง นักสังคมสงเคราะห์ปฏิบัติการ หน่วยงาน สนง.พมจ.กระบี่
153 ๒. มาตรการในการป้องกันการทุจริตของหน่วยงาน (ทำอย่างไรในการป้องกันการทุจริต / มาตรการในการ ป้องกัน ของจังหวัด) ๒.๑ มาตรการในการควบคุมภายใน 1.ประกาศเจตจำนงการบริหารงานด้วยความสุจริตเรื่องนโยบายคุณธรรมและความโปร่งใสสามารถ ตรวจสอบได้ 2. รณรงค์ประชาสัมพันธ์ความรู้ วินัยประมวลจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ 3. เสริมสร้างจิตสำนึกและค่านิยมแก่บุคลากรในการปฏิบัติงานตามหลักธรรมาภิบาล 4. ประกาศนโยบายเกี่ยวกับการให้หรือรับของขวัญหรือประโยชน์อื่นใด 5. เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ กฎ ระเบียบ ข้อกฎหมาย ให้แก่บุคลากรในการเป็นคณะกรรมการ การจัดซื้อจัดจ้าง ๒.๒ มาตรการการบริหารความเสี่ยง/การจัดทำแผนการจัดการความเสี่ยง 1. สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกระบี่ ได้จัดทำแผนบริหารความเสี่ยง ระดับ องค์กร ตามที่จังหวัดกระบี่กำหนดในประเด็นยุทธศาสตร์การเสริมสร้างคุณภาพชีวิตประชาชนสู่สังคมน่าอยู่ และ ปรับตัวรองรับกระแสการเปลี่ยนแปลง 2. สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกระบี่ มีการจัดทำแผนการป้องกันปราบปราม การทุจริตและประพฤติมิชอบ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 3. การสรรหาบุคลากร จัดให้มีการประกาศรับสมัคร โดยมีระยะเวลาที่ผู้สมัครมีโอกาสรับรู้ได้อย่าง เท่าเทียมกัน ผ่านช่องทางการสื่อสารทั้งภายในและภายนอกที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย 4. กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ดำเนินงานตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ ภาครัฐ พ.ศ. 2560 อย่างเคร่งครัด โดยเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการตรวจสอบการ จัดซื้อจัดจ้างขององค์กรได้มีการสืบราคาพัสดุก่อนดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง 5. ด้านการเงิน มีการจัดทำคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเกี่ยวกับการรับ-จ่าย นำส่งเงิน และมีการตรวจสอบ เอกสารหลักฐานก่อนอนุมัติเบิกจ่ายเงินให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังกำหนด ๒.๓ มาตรการการเปิดเผยข้อมูล 1. มีการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลข่าวสารสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกระบี่ เพื่อให้บริการข้อมูลต่างๆ กับประชาชนที่เข้ามาใช้บริการ 2. มีคำสั่งคณะทำงานศูนย์ข้อมูลข่าวสาร 3. มีขั้นตอนการให้บริการแก่ประชาชน ณ ศูนย์ข้อมูลข่าวสารสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของ มนุษย์จังหวัดกระบี่ 4. มีเว็บไซต์สำนักงาน [email protected] สำหรับให้บริการประชาชนเข้ามาดูข้อมูลข่าวสาร ต่างๆ ของสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกระบี่ 5. มีประกาศสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกระบี่ ลงวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2566 เรื่อง ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับติดต่อ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด กระบี่ พ.ศ. 2566
154 6. มีคำสั่งสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกระบี่ ที่ 1/2566 ลงวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2566 เรื่อง ระบบสำหรับการปฏิบัติหน้าที่โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ 7. มีการประชาสัมพันธ์ให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ตอบแบบวัดการรับรู้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายในและแบบ วัดการรับรู้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอก ในการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงาน ภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment : ITA) 8. มีการประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริต สร้างจิตสำนึกไทยไม่โกง ในที่ประชุมประจำเดือน ของสำนักงานฯ 9. การสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้บริการที่มาขอรับบริการภายในสำนักงาน ช่องทางการติดต่อสื่อสาร ระหว่างหน่วยงานกับผู้ใช้บริการ ในรูปแบบ Social เช่น Facebook การสำรวจความพึงพอใจกับการใช้บริการ เว็บไซต์ ช่องทางการแสดงความคิดเห็น หรือข้อเสนอแนะ ช่องทางการรับเรื่องร้องเรียน เป็นต้น ผู้รายงาน นางพิมพ์ใจ แซ่อึ้ง ตำแหน่ง เจ้าพนักงานธุรการชำนาญงาน หน่วยงาน สนง.พมจ.กระบี่
155 หน่วยงาน .............ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง............จังหวัด........กระบี่ ................ **************************** คำชี้แจงประกอบ ขอให้หน่วยงานจัดทำรายงานเป็นรายหน่วยงาน ๑. ปัญหาความเดือดร้อน/ร้องเรียนของประชาชนผ่านช่องทางต่าง ๆ ปัญหาความเดือดร้อน/ร้องเรียน ของประชาชนผ่านช่องทางต่าง ๆ ประเด็นปัญหา การดำเนินการ ๑. มาด้วยตนเอง...................8..........เรื่อง ๒. ส่งหนังสือ .................33.........เรื่อง ๓. สายด่วน ๑๓๐๐ ...........๔๐.........เรื่อง ๔. ส่งผ่านหน่วยงานอื่น......๒๘.........เรื่อง ๔.๑ สำนักนายกรัฐมนตรี.......-....เรื่อง ๓.๒ ศูนย์ดำรงธรรม.........๔.........เรื่อง ๓.๓ ถวายฎีกา..................-.........เรื่อง ๓.๔ อื่นๆ ระบุ..............๒๔........เรื่อง - สื่อออนไลน์...........6.........เรื่อง - ตำรวจ....................3........เรื่อง - เครือข่าย/พลเมืองดี..15..เรื่อง รวม....๑๐๙....เรื่อง ๑. ที่อยู่อาศัย............๒๑........เรื่อง ๒. รายได้ไม่พอยังชีพ....33....เรื่อง ๓. ไม่ได้รับความเป็นธรรมจาก กฎหมาย................๑...............เรื่อง ๔. ถูกล่วงละเมิด..........-.........เรื่อง ๕. ความรุนแรงในครอบครัว ......................-..................... เรื่อง ๕. ถูกเลิกจ้างหรือตกงานของ สถานการณ์โควิด-๑๙ .....๑.....เรื่อง ๖. อื่น ๆ .............53..........เรื่อง - ถูกทอดทิ้ง/ไม่มีผู้ดูแล ....10...เรื่อง - กลับภูมิลำเนา..............7......เรื่อง - จิตเวช...............32..............เรื่อง - บุคคลสูญหาย............-.........เรื่อง - สิทธิสวัสดิการอื่นๆ .......๔....เรื่อง (บัตรประชาชน/สาธารณูปโภค ,กำลังใจ) รวม....109....เรื่อง ๑. ดำเนินการแล้วเสร็จ....71.....เรื่อง ๒. ประสานส่งต่อ..........๑7.........เรื่อง ๒.๑ หน่วยงานใน พม. ..........8............เรื่อง ๒.๒ หน่วยงานภายนอก ..........9............เรื่อง ๓. อยู่ระหว่างดำเนินการ......6....เรื่อง (รอส่งเข้าสถานคุ้มครองฯ 2 เรื่อง/วางแผน ช่วยเหลือเงินสงเคราะห์ปีงบ 2567 = 4 เรื่อง) ๔. เข้าพัก/ปัจจัยสี่..........4..........เรื่อง ๕. ไม่ขอรับการช่วยเหลือ /ไม่พบกลุ่มเป้าหมาย/เสียชีวิต .............๑1.....................เรื่อง รวม....109....เรื่อง หมายเหตุ นอกจากนี้ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดกระบี่ ยังมีการประสานภาคีเครือข่ายองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น และโรงพยาบาล เพื่อดำเนินการสำรวจข้อมูลผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อนด้านรายได้ เพื่อให้การ ช่วยเหลือด้านเงินอุดหนุนเงินครอบครัวทั้ง 3 ประเภท มีรายละเอียดดังนี้ 1. เงินอุดหนุนเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง สำรวจ ๔๕ อปท. จำนวน 71๘ ราย 2. เงินอุดหนุนเงินสงเคาะห์ผู้ติดเชื้อเอดส์และครอบครัว สำรวจ 7 อปท. / 3 รพ. จำนวน 43 ราย 3. เงินอุดหนุนเงินสงเคราะห์ด้านเงินทุนประกอบอาชีพสำหรับผู้ติดเชื้อเอดส์ สำรวจ 4 อปท. จำนวน 4 ราย
156 เรื่อง/ประเด็นสำคัญ /เร่งด่วน / วิกฤต/ส่งผลต่อภาพลักษณ์องค์กร/ สื่อให้ความสำคัญและติดตาม ผลการดำเนินงาน การส่งต่อ ๑. (ให้ใคร /ไปทำอะไร /ที่ไหน / เมื่อไหร่/อย่างไร) ๒. ๓. ๔. หมายเหตุ ประเด็นสำคัญเร่งด่วนหรือวิกฤต ขอให้รายงานต่อผู้ตรวจราชการกระทรวงทราบโดยด่วน และเมื่อดำเนินการแล้ว ขอให้รายงานให้ทราบเป็นระยะ ๒. มาตรการในการป้องกันการทุจริตของหน่วยงาน (ทำอย่างไรในการป้องกันการทุจริต / มาตรการในการ ป้องกัน ของจังหวัด) ๒.๑ มาตรการในการควบคุมภายใน - ด้านการเบิกจ่ายงบประมาณเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและไร้ที่พึ่ง เงินสงเคราะห์ผู้ติด เชื้อเอดส์และครอบครัว และเงินทุนประกอบอาชีพแก่ผู้ติดเชื้อเอดส์ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดกระบี่ ได้ ปฏิบัติงานตามหลักกระบวนการด้านเอกสารตามแนวทางที่กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการกำหนด โดยให้เจ้าหน้าที่ ที่ได้รับการแต่งตั้งตามคำสั่งในการลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริง เยี่ยมบ้านผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อน ทั้งที่ร้องขอเข้า มาหรือได้รับการประสานจากหน่วยงาน นำเข้าที่ประชุมเสนอให้คณะกรรมการพิจารณาช่วยเหลือผู้ประสบปัญหา ทางสังคมและดำเนินการเบิกจ่ายโดยการโอนเงินผ่านระบบ KTB ทุกครั้ง ๒.๒ มาตรการการบริหารความเสี่ยง/การจัดทำแผนการจัดการความเสี่ยง - มีคำสั่งมอบหมายให้เจ้าหน้าที่รับผิดชอบงานพิจารณาให้การช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคม ด้านเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ - กระบวนงานช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมด้านเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ - ประชุมวางแผนการดำเนินงานช่วยเหลือของหน่วยงาน
157 ๒.๓ มาตรการการเปิดเผยข้อมูล - ข้อมูลของผู้ใช้บริการได้รับการคุ้มครองเป็นไปตามขอบเขตและหลักจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพสังคม สงเคราะห์และกฎหมายที่เกี่ยวข้องดังนี้ . ๑) รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.๒๕๖๐ มาตรา ๓๒ บุคคลย่อมมีสิทธิในความอยู่ส่วนตัว เกียรติยศ ชื่อเสียงและครอบครัว การกระทำอันเป็นการละเมิดหรือกระทบต่อสิทธิของบุคคลตามวรรคหนึ่งหรือการ นำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ประโยชน์ไม่ว่าในทางใดๆ จะกระทำมิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่ง กฎหมายที่ตราขึ้นเพียงเท่าที่จำเป็นเพื่อประโยชน์สาธารณะ ๒) พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.๒๕๖๒ มาตรา ๒๖ ห้ามมิให้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วน บุคคล หรือข้อมูลได้ซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยมิได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วน บุคคล และมาตรา ๒๗ ห้ามมิให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโยไม่ได้รับความยินยอม จากเจ้าของส่วนบุคคล ผู้รายงาน นางสาวธิดารักษ์ บุษบรรณ์ ตำแหน่ง เจ้าหน้าทีพัฒนาสังคม หน่วยงาน ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดกระบี่
158 หน่วยงาน ....................บ้านพักเด็กและครอบครัว................จังหวัด........กระบี่............. ................ **************************** คำชี้แจงประกอบ ขอให้หน่วยงานจัดทำรายงานเป็นรายหน่วยงาน ๑. ปัญหาความเดือดร้อน/ร้องเรียนของประชาชนผ่านช่องทางต่าง ๆ ปัญหาความเดือดร้อน/ร้องเรียน ของประชาชนผ่านช่องทางต่าง ๆ ประเด็นปัญหา การดำเนินการ ๑. มาด้วยตนเอง.............26.............เรื่อง ๒. ส่งหนังสือ .................28.............เรื่อง ๓. สายด่วน ๑๓๐๐ .........54...........เรื่อง ๔. ส่งผ่านหน่วยงานอื่น........49.......เรื่อง ๔.๑ สำนักนายกรัฐมนตรี....-........เรื่อง 4.๒ ศูนย์ดำรงธรรม...........6.......เรื่อง 4.๓ ถวายฎีกา....................-........เรื่อง 4.๔ อื่น ๆ ระบุ........ครัวเรือเปราะบาง ...............................43......................เรื่อง รวม......................157........................เรื่อง ๑. ที่อยู่อาศัย...........5...........เรื่อง ๒. รายได้ไม่พอยังชีพ..112..เรื่อง ๓. ไม่ได้รับความเป็นธรรมจาก กฎหมาย....................-...........เรื่อง ๔. ถูกล่วงละเมิด.......6..........เรื่อง ๕. ความรุนแรงในครอบครัว .................................15....... เรื่อง ๕. ถูกเลิกจ้างหรือตกงานของ สถานการณ์โควิด-๑๙ ..-........เรื่อง ๖. อื่น ๆ ..............19............เรื่อง รวม................157................เรื่อง ๑. ดำเนินการแล้วเสร็จ.....61.....เรื่อง ๒. ประสานส่งต่อ............71.......เรื่อง ๒.๑ หน่วยงานใน .พม. ...........36.......เรื่อง ๒.๒ หน่วยงานภายนอก .............35......เรื่อง ๓. อยู่ระหว่างดำเนินการ....11....เรื่อง ๔. ยังไม่ดำเนินการ...........14......เรื่อง รวม...................157...................เรื่อง เรื่อง/ประเด็นสำคัญ /เร่งด่วน / วิกฤต/ส่งผลต่อภาพลักษณ์องค์กร/ สื่อให้ความสำคัญและติดตาม ผลการดำเนินงาน การส่งต่อ กรณีเคสออกสื่อออนไลน์เกี่ยวกับเด็ก และเยาวชนและการให้ความ ช่วยเหลือด้านเด็กและเยาวชน ผู้ประสบปัญหาทางสังคมได้รับการ ช่วยเหลือตรงตามสภาพปัญ ห า ครอบคลุมทุกๆ ด้าน บางกรณีสภาพ ปัญหามีความซับซ้อนไม่สามารถ ให้การช่วยเหลือได้ทันทีต้องใช้ ระยะเวลาสืบค้นข้อเท็จจริง หรือใช้ ทีมวิชาชีพร่วมกันประเมินสภาพ ปัญหาและวางแผนให้การช่วยเหลือ ได้ตรงประเด็น ร่วมบู รณ าการขอ งที ม one home จังหวัดกระบี่ ได้รับความร่วมมือของทีม วิชาชีพ ซึ่งประกอบด้วย นักสังคม สงคราะห์นักจิตวิทยา แพทย์เจ้าหน้าที่ ตำรวจและหน่วยงานสนับสนุน เช่น กาชาดจังหวัด องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น หน่วยงานความมั่นคง กอ.รมน. อื่นๆ กำหนดแนวทางการช่วยเหลือตาม หน้าที่รับผิดชอบ เพื่อให้บรรลุตาม ประเด็นของสภาพปัญหาที่กำลังเผชิญ พร้อมติดตามผลและความคืบหน้าตาม แผนให้บริการ
159 หมายเหตุ ประเด็นสำคัญเร่งด่วนหรือวิกฤต ขอให้รายงานต่อผู้ตรวจราชการกระทรวงทราบโดยด่วน และเมื่อดำเนินการแล้ว ขอให้รายงานให้ทราบเป็นระยะ ๒. มาตรการในการป้องกันการทุจริตของหน่วยงาน (ทำอย่างไรในการป้องกันการทุจริต / มาตรการในการ ป้องกัน ของจังหวัด) 2.1 มาตรการในการควบคุมภายใน - จัดระบบการตรวจสอบให้มีประสิทธิภาพ พร้อมรับการตรวจจากส่วนกลาง - สร้างความโปร่งใสในการปฏิบัติตามหน้าที่ โดยการควบคุมบัญชีการเบิกจ่ายทุกครั้งที่มีการขออนุมัติ กิจกรรมต่างๆ โดยหัวหน้าบ้านพักเด็กฯ - ปฏิบัติหน้าที่ตามประกาศ ข้อบังคับ แนวทางปฏิบัติต่างๆ ของจังหวัดและของกรมฯ เพื่อไม่ให้เกิด ความผิดพลาดในการปฏิบัติหน้าที่และสามารถตรวจสอบได้ 2.2 มาตรการการบริหารความเสี่ยง/การจัดทำแผนการจัดการความเสี่ยง - แต่งตั้งผู้รับผิดชอบงานโดยตรง โดยมีหัวหน้าบ้านพักเด็กฯ เป็นผู้ควบคุม ติดตามการปฏิบัติงาน - จัดทำขั้นตอนการให้บริการของหน่วยงาน เผยแพร่ประชาสัมพันธ์แก่ผู้รับบริการและประชาชนทั่วไป ไม่น้อยกว่า ๓ เรื่อง - ปรับปรุงขั้นตอนการให้บริการต่อผู้รับบริการในหน่วยงาน อย่างน้อย ๑ เรื่อง - มาตรการในการเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะ Facebook หรือ Line หรือทางเว็บไซต์ของหน่วยงาน 2.3 มาตรการการเปิดเผยข้อมูล - เผยแพร่ขั้นตอนการให้บริการต่อผู้รับบริการในหน่วยงานและเผยแพร่ผ่านช่องทาง Facebook หรือ Line หรือทางเว็บไซต์ของหน่วยงาน - สำรวจความพึงพอใจของผู้รับบริการในหน่วยงานรายเดือน พร้อมรายงานผลการสำรวจความพึงพอใจ ของผู้รับบริการในหน่วยงานรายไตรมาสและเผยแพร่ผ่านช่องทาง Facebook หรือ Line หรือทางเว็บไซต์ของ หน่วยงาน - สรุปสถิติการให้บริการต่อผู้รับบริการในหน่วยงาน รายเดือน และเผยแพร่ผ่านช่องทาง Facebook หรือ Line หรือทางเว็บไซต์ของหน่วยงาน - จัดทำช่องทางสำหรับการแสดงความคิดเห็นของผู้รับบริการในหน่วยงานและรายงานผลการแสดง ความคิดเห็นของผู้รับบริการรายไตรมาส ผู้รายงาน นางสาวอรนันต์ คงภักดี ตำแหน่ง นักจิตวิทยา หน่วยงาน บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัด กระบี่
ครั้งที่ ๑ (ไตรมาสที่ ๒) รายงานภายในวันที่ ๗ เม.ย. ๖๖ ครั้งที่ ๒ (ไตรมาสที่ ๓) รายงานภายในวันที่ ๗ ก.ค. ๖๖ ครั้งที่ ๓ (ไตรมาสที่ ๔) รายงานภายในวันที่ ๗ ต.ค. ๖๖ จังหวัด..............กระบี่....... ................ ๑๑.๑ การรายงานผลสัมฤทธิ์เชิงประจักษ์(โครงการต่าง ๆ ตามแผนการตรวจราชการกระทรวงการพัฒนา สังคม และความมั่นคงของมนุษย์ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖) อย่างน้อย ๓ เรื่อง เรื่องที่ ๑ โครงการเสริมสร้างกลไกการพัฒนาผู้สูงอายุในชุมชน ปีงบประมาณ ๒๕๖๖ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกระบี่ ได้รับการโอนจัดสรร งบประมาณเบิกจ่ายแทน กรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) แผนงานบูรณาการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสังคมสูงวัย โครงการพัฒนาระบบคุ้มครองทางสังคมของผู้สูงอายุกิจกรรมหลักการเสริมสร้างกลไกการพัฒนาผู้สูงอายุในชุมชน งบดำเนินงาน โครงการเสริมสร้างกลไกการพัฒนาผู้สูงอายุในชุมชน กิจกรรมที่ 1 ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพ ศูนย์ พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุจำนวน 70,000 บาท (เจ็ดหมื่นบาทถ้วน) ดังนี้ 1) กิจกรรมพัฒนาศักยภาพเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็ง ศพอส. ประเมินมาตรฐานการดำเนินงาน ศพอส. ประจำปี2566 ขับเคลื่อนการขยายผลการจัดตั้ง ศพอส.แบบไม่ของบประมาณ ติดตามการดำเนินกิจกรรมของ ศพอส. ในพื้นที่ และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เพื่อขยายผลการจัดตั้ง ศพอส. ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั้งจังหวัด โดย จัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการขับเคลื่อนงานและกิจกรรม จำนวน 50,000 บาท (ห้า หมื่นบาทถ้วน) 2) กิจกรรมขยายผลการสร้างรูปแบบโมเดลต้นแบบ ศพอส. ในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้(กระบี่ สงขลา สุราษฎร์ธานีนครศรีธรรมราช พัทลุง) สนับสนุนจังหวัดละ 20,000 บาท โดยให้จังหวัด เป็นค่าใช้จ่ายใน ดำเนินการจัดประชุมจัดทำแผนพัฒนาศักยภาพ ศพอส. ลูกข่าย ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานพัฒนา ศักยภาพของ ศพอส. ลูกข่าย ของ ศพอส. ต้นแบบ และกิจกรรมอื่น ๆ ที่เป็นการขับเคลื่อนกิจกรรมการพัฒนา ศักยภาพ ศพอส. ต้นแบบและ ศพอส. ลูกข่าย เช่น กิจกรรมศึกษาดูงานการดำเนินกิจกรรมในพื้นที่ ศพอส. ต้นแบบ เป็นต้น ผลการดำเนินงาน - กิจกรรมพัฒนาศักยภาพเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็ง ศพอส. จังหวัดกระบี่มีการจัดตั้ง ศพอส. จำนวน 17 แห่ง ดังนี้ 1) อำเภอเมืองกระบี่ จำนวน 2 แห่ง ประกอบด้วย ทต.กระบี่น้อย อบต.ไสไทย 2) อำเภออ่าวลึก จำนวน 1 แห่ง ประกอบด้วย ทต.อ่าวลึกใต้ 3) อำเภอเกาะลันตา จำนวน 3 แห่ง ประกอบด้วย อบต.คลองยาง อบต.โคกยาง อบต.เกาะกลาง 4) อำเภอคลองท่อม จำนวน 5 แห่ง ประกอบด้วย ทต.คลองท่อมใต้ทต.คลองพนพัฒนา ทต.คลองพน อบต.พรุดินนา อบต.คลองท่อมใต้ 5) อำเภอปลายพระยา จำนวน 2 แห่ง ประกอบด้วย ทต.ปลายพระยา อบต.เขาเขน 6) อำเภอเขาพนม จำนวน 2 แห่ง ประกอบด้วย อบต.หน้าเขา อบต.เขาดิน 7) อำเภอลำทับ จำนวน 1 แห่ง ประกอบด้วย ทต.ลำทับ 8) อำเภอเหนือคลอง จำนวน 1 แห่ง ประกอบด้วย ทต.เหนือคลอง การรายงานผลสัมฤทธิ์เชิงประจักษ์ ๑๒ @๑ 160
- 2 - โดย ศพอส.หลายแห่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่กำกับดูแล ให้การ สนับสนุนงบประมาณในการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เช่น กิจกรรมโรงเรียนผู้สูงอายุกิจกรรมให้บริการจรวจ สุขภาพ กิจกรรมนันทนาการ กิจกรรมส่งเสริมอาชีพ กิจกรรมอนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมประเพณีเป็นต้น ในปีงบประมาณ 2566 ได้ดำเนินการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการโครงการเสริมสร้างกลไกการพัฒนา ผู้สูงอายุในชุมชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ครั้งที่ 1 วันที่ 22 ธันวาคม 2565 ณ โรงแรมเดอะไพน์แอพเปิ้ล อำเภอเมืองกระบี่ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาศักยภาพ ศพอส. ให้ดำเนินงานเป็นไปตามมาตรฐาน มีการขับเคลื่อนกิจกรรมและบริการที่เหมาะสม ครอบคลุมในทุกมิติสำหรับผู้สูงอายุและคนทุกวัย เสริมสร้างกลไกการพัฒนาผู้สูงอายุในชุมชน และเป็นศูนย์รวมให้ ผู้สูงอายุและคนทุกวัยมีสถานที่ในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ โดยผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย เจ้าหน้าที่องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทน ศพอส. จำนวน 17 แห่ง และเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของ มนุษย์จังหวัดกระบี่ รวม 56 คน มีการบรรยาย ในหัวข้อนโยบายในการขับเคลื่อนงานด้านผู้สูงอายุการขับเคลื่อน กิจกรรม ศพอส. โดยการยกระดับ ศพอส.เป็นศูนย์ช่วยเหลือสังคมตำบล และฝึกปฏิบัติเขียนโครงการเพื่อขอรับ สนับสนุนงบประมาณจากกองทุนผู้สูงอายุ ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 8 พฤษภาคม – 31 พฤษภาคม 2566 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพ ศพอส. ให้ดำเนินงานเป็นไปตามมาตรฐาน มีการขับเคลื่อนกิจกรรมและบริการที่เหมาะสมครอบคลุมในทุกมิติ สำหรับผู้สูงอายุและคนทุกวัย เสริมสร้างกลไกการพัฒนาผู้สูงอายุในชุมชน และเป็นศูนย์รวม ให้ผู้สูงอายุและคนทุก วัย มีสถานที่ในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ และประชาสัมพันธ์ชี้แจง ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการ จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือสังคมตำบลขอจัดตั้ง และขึ้นทะเบียนเป็น ศพอส. แบบไม่ของบลงทุน โดยผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทน ศพอส. ผู้แทนศูนย์ช่วยเหลือสังคมตำบล จำนวน 31 แห่ง เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกระบี่ เจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดกระบี่ และเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกระบี่ รวม 665 คน - การขับเคลื่อนการขยายผลการจัดตั้ง ศพอส.แบบไม่ของบประมาณ ปี2566 มีพื้นที่แจ้งความประสงค์จัดตั้ง ศพอส.แบบไม่ของบลงทุน และได้รับหนังสือรับรองการจัดตั้ง ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุจากกรมกิจการผู้สูงอายุและ จำนวน 3 แห่ง คือ อบต.คลอง ขนาน อบต.เกาะศรีบอยา อำเภอเหนือคลอง และ อบต.อ่าวลึกใต้อำเภออ่าวลึก - การประเมินมาตรฐานการดำเนินงาน ศพอส. ประจำปี2566 ผลการประเมินมาตรฐานในการพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุของ ศพอส. จำนวน 17 แห่ง พบว่า มีศพอส. ที่ผ่านการประเมิน ระดับ A = 16 แห่ง และระดับ B = 1 แห่ง (ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ ตำบลเขาเขน อำเภอปลายพระยา) - ผลงานโดดเด่น จากการดำเนินโครงการด้านผู้สูงอายุ มีหลายพื้นที่ที่เป็นต้นแบบการดำเนินโครงการด้านผู้สูงอายุที่โดด เด่น และสามารถเป็นต้นแบบ เป็นที่ศึกษาดูงานให้กับพื้นที่อื่นได้ เช่น ในพื้นที่เทศบาลตำบลเหนือคลอง อำเภอเหนือคลอง สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกระบี่ ได้ดำเนินกิจกรรมภายใต้กิจกรรม ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ (ศพอส.) และกิจกรรมโรงเรียนผู้สูงอายุ ตั้งแต่ปี2562 จนถึงปัจจุบัน ด้วยการทำงานเชิงรุกเพื่อสร้างสุขคนทุกวัย โดยร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แกนนำผู้สูงอายุ ชมรมผู้สูงอายุ อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) จิตอาสา และชุมชนในพื้นที่ โดยให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุซึ่งปัญหาสำคัญที่พบในพื้นที่เทศบาลตำบลเหนือคลอง คือ ผู้สูงอายุติดบ้าน และไม่มี ความมั่นคงทางรายได้จึงเป็นโจทย์สำคัญที่จะทำอย่างไรให้ผู้สูงอายุใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณค่า มีศักดิ์ศรีและมีความสุข โดยเน้นให้ชมรมผู้สูงอายุศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุเทศบาลตำบลเหนือคลอง และโรงเรียน 161 161
- 3 – ผู้สูงอายุร่วมกันทำให้ผู้สูงอายุในตำบล สูงวัยอย่างมีคุณค่า ผลจากความร่วมมือของ ศพอส. ชมรมผู้สูงอายุ โรงเรียนผู้สูงอายุ ที่ร่วมกันออกแบบแนวทางในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ โดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มาช่วยจัดระบบช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง และเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุที่ยังมีกำลังใช้ศักยภาพทำประโยชน์ให้กับ ชุมชน รวมไปถึงบทบาทของสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกระบี่ ที่ส่งเสริมให้คนทุกช่วง วัยเตรียมความพร้อม ตระหนัก และสร้างหลักประกันให้กับตนเอง ทั้งด้านสุขภาพอนามัยที่แข็งแรง การเงินที่มั่นคง การดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีส่งผลให้ผู้สูงอายุเทศบาตำบลเหนือคลองเป็นผู้สูงวัยอย่างมีคุณค่า คือ มีสุขภาพร่างกาย แข็งแรง มีความมั่นคงปลอดภัยในชีวิต ได้รับความรัก มีความภาคภูมิใจ และมีความสมบูรณ์แบบในวัยของตนเอง การดำเนินการ (วิธีการ/รูปแบบ) สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกระบี่ มีการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาคี เครือข่าย อาทิองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โรงเรียน วัด เป็นต้น โดยมีผู้สูงอายุ เข้าร่วมจำนวน 100 คน มีการดำเนินงาน ดังนี้ 1. การประสานงานเครือข่าย โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกระบี่ ประสาน ความร่วมมือจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานระดับท้องถิ่น และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับการ ดำเนินงานด้านสวัสดิการผู้สูงอายุ เพื่อเข้าไปขับเคลื่อนงานในพื้นที่ พร้อมทั้งร่วมวางแผนการดำเนินงาน 2. การดำเนินกิจกรรม ดำเนินงานผ่านกิจกรรม ดังนี้ 1) กิจกรรมโครงการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุดำเนินการตั้งแต่ปี 2557 ประกอบด้วย กิจกรรมด้านสุขภาพ การฝึกอาชีพ การส่งเสริมการตลาด การเยี่ยมบ้าน การถ่ายทอดภูมิ ปัญญา ฯลฯ 2) กิจกรรมโครงการพัฒนาศักยภาพและส่งเสริมการเรียนรู้ผู้สูงอายุในชุมชน (โรงเรียนผู้สูงอายุ เทศบาลตำบลเหนือคลอง) ดำเนินการตั้งแต่ 2562 จนถึงปัจจุบัน โดยได้รับการหนุนเสริมจากภาคีเครือข่ายอย่าง ต่อเนื่อง กิจกรรมของโรงเรียนผู้สูงอายุจะเป็นเรื่องที่ผู้สูงอายุสนใจและมีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิต ช่วยเพิ่มพูน ความรู้ทักษะชีวิตที่จำเป็น เน้นให้ผู้สูงอายุจะได้แสดงศักยภาพ โดยการถ่ายทอดภูมิความรู้ประสบการณ์ที่สั่งสมแก่ บุคคลอื่น เพื่อสืบสานภูมิปัญญาให้คงคุณค่าคู่กับชุมชน โรงเรียนผู้สูงอายุเทศบาลตำบลเหนือคลอง มีความโดดเด่น ในการสร้างการมีส่วนร่วม โดยการเริ่มต้นจากการรวมกลุ่มของผู้สูงอายุในชุมชนจากกลุ่มเล็ก ๆ เพื่อชักชวนกันมาทำ กิจกรรมร่วมกัน เช่น การออกกำลังกายในตอนเช้า การไปวัดทำบุญในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งกิจกรรมทุกอย่างมาจากการ ร่วมกันลงเงินลงแรงกันเองของสมาชิกตามกำลังความสามารถของแต่ละคน เพื่อให้กิจกรรมเกิดขึ้น จนเริ่มมีสมาชิก เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และต่อมามีกิจกรรมมากมาย และเกิดกิจกรรมโรงเรียนผู้สูงอายุเทศบาลตำบลเหนือคลอง เริ่มต้นการประสานขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงานต่าง ๆ อาทิสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกระบี่, เทศบาลตำบลเหนือคลอง, โรงพยาบาลเหนือ คลอง ,สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) วิทยาลัยสารพัดช่างกระบี่ ฯลฯ กิจกรรมด้านผู้สูงอายุได้รับการบรรุอยู่ในแผนพัฒนาตำบล และอยู่ในข้อบัญญัติของเทศบาล ได้รับการสนับสนุน งบประมาณเพื่อการทำกิจกรรมทุกปีและสนับสนุนงบประมาณค่าบริหารจัดการอาคารที่ทำการโรงเรียนผู้สูงอายุ ทำให้เป็นสถานที่ที่มีความสะดวก ปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุและคนทุกวัย จนเป็นอีกรูปแบบหนึ่งในการส่งเสริมการ เรียนรู้ ตลอดชีวิต การจัดการศึกษา และการฝึกอาชีพ การพัฒนาทักษะเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ มีกิจกรรม ที่หลากหลายตามความต้องการของผู้สูงอายุ ปัจจุบันมีหน่วยงานภาครัฐทีมีภารกิจในการส่งเสริม ถ่ายทอดองค์ ความรู้พัฒนาอาชีพ เข้ามาทำกิจกรรมกับกลุ่มผุ้สูงอายุในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง 3) กิจกรรมจิตอาสาเพื่อชีวิตและสังคม เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมใน การจัดบริการทางสังคม โดยเน้นการดูแล ช่วยเหลือผู้สูงอายุกลุ่มคนเปราะบาง ในพื้นที่ ในรูปแบบของอาสาสมัคร ร่วมเป็นคณะกรรมการ คณะทำงาน ของกลุ่มองค์กรต่าง ๆ ที่ตั้งในขั้นชุมชน 162
- 4 - 3. การติดตามผลการดำเนินงาน - ลงพื้นที่ติดตามผล - ติดตามผลผ่านการประสานทางโทรศัพท์/แอพพลิเคชั่น Line, Facebook และช่องทางการสื่อสาร อื่นๆ ความสำเร็จของการดำเนินการ (ผลผลิต/ผลลัพธ์/ผลกระทบ) ผลผลิต : ผู้สูงอายุจำนวน 100 คน สามารถมีอาชีพ สร้างรายได้แก่ตนเอง คิดเป็นร้อยละ 98 ของผู้สูงอายุที่เข้าร่วมกิจกรรม โดยมีรายได้จากผลงานของนักเรียนผู้สูงอายุ ได้แก่ ยาดมสมุนไพร ตะกร้าพลาสติก ผ้าปาเต๊ะเพ้นท์ผ้ามัดย้อม กระเป้าผ้าเย็บมือ ตะกร้าพลาสติก การแปรรูปอาหาร (กล้วยฉาบ น้ำพริกสมุนไพร) ผลลัพธ์: ผู้สูงอายุมีอาชีพจากการเข้าร่วมกิจกรรม สามารถนำความรู้จากการร่วมกิจกรรมในการฝึกอาชีพ ไปประกอบอาชีพเสริม สร้างรายได้แก่ตนเอง ร้อยละ 98 ผลกระทบ : การดำเนินโครงการก่อให้เกิดองค์กรเครือข่ายด้านผู้สูงอายุที่มีความเข้มเข็ง สามารถบริหาร จัดการองค์กรโดยผู้สูงอายุ เพื่อผู้สูงอายุได้ทุกมิติตามกรอบข้อมูล TPMAP ทั้งมิติที่อยู่อาศัย สุขภาพ การศึกษา การมีงานทำ และการเข้าถึงสวัสดิการของรัฐ ได้รับการเชิดชูเกียรติเป็นโรงเรียนผู้สูงอายุดีเด่น โรงเรียนผู้สูงอายุ ต้นแบบ คณะทำงานขององค์กรด้านผู้สูงอายุเทศบาลตำบลเหนือคลอง สามารถเป็นวิทยากร ที่ปรึกษา พี่เลี้ยง ให้กับโรงเรียนผู้สูงอายุในพื้นที่อื่นในการดำเนินกิจกรรม การขอรับงบประมาณ การบริหารจัดการองค์กร และเป็น สถานที่ศึกษาดูงานที่โดดเด่น มีผลผลิตที่เป็นผลิตภัณฑ์ชุมชน โดยฝีมือของผู้สูงอายุและสมาชิก เช่น ผ้าปาเต๊ะเพ้นท์ ผ้ามัดย้อม ฝาชีแฟนซีถุงผ้า การแปรรูปอาหาร เช่น กล้วยฉาบ น้ำพริก ยาดมสมุนไพร ฯลฯ จากการประเมินระดับความสำเสร็จในการแก้ปัญหาของพื้นเทศบาลตำบลเหนือคลอง ที่ประสบปัญหา ผู้สูงอายุติดบ้าน และไม่มีความมั่นคงทางรายได้หลังการดำเนินการ พบว่าผู้สูงอายุที่เข้าร่วมโครงการร้อยละ 98 มี รายได้เพิ่มขึ้น คุณภาพชีวิตดีขึ้น มีความภาคภูมิใจในตนเอง และผู้สูงอายุร้อยละ 90 ออกมาร่วมทำกิจกรรมอย่าง สม่ำเสมอ สถิติการเข้าร่วมกิจกรรมของผู้สูงอายุในเทศบาลตำบลเหนือคลองเพิ่มขึ้นทุกปีและมีกิจกรรมที่ หลากหลายขึ้น เช่น กิจกรรมวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2566 มีผู้สูงอายุและเครือข่ายให้ความสนใจเข้าร่วมจำนวนมาก มี การร่วมกันบริจาคเงินสมบททุนในการจัดงานปีใหม่ จำนวน 59 ราย รวมเป็นเงิน 36,350 บาท และมีผู้บริจาค อาหารและเครื่องดื่มจำนวนมาก ผู้สูงอายุที่มาร่วมงานต่างร่วมใจกันแต่งกายด้วยผ้าพื้นเมือง มาทำบุญตักบาตร ข้าวสารอาหารแห้ง พระสงฆ์จำนวน 66 รูป มีการนำของขวัญมาจับฉลาก ซึ่งการดำการดังกล่าว เกิดขึ้นจากความ ร่วมมือของผู้สูงอายุและดำเนินการโดยผู้สูงอายุเองทั้งสิ้น จากการจัดกิจกรรมปีใหม่ มีเงินเหลือจ่ายจำนวน 5,507 บาท ผู้สูงอายุมีมตินำเงินที่เหลือไปมอบเป็นทุนการศึกษาให้เด็กในโรงเรียนราชประชานุเคราะห์1 จำนวน 10 ทุน ๆ ละ 500 บาท ส่วนที่เหลือนำไปทำข้าวไข่เจียวแจกเด็ก ๆ ที่มาร่วมงานวันเด็กแห่งชาติประจำปี2566 ทั้งนี้กลุ่ม ผู้สูงอายุในพื้นที่เทศบาลตำบลเหนือคลอง มีความตื่นตัวในการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ และเต็มใจที่จะเข้ามามีส่วน ร่วมกับโครงการ แม้ว่าในบางกิจกรรมจะมีค่าใช้จ่ายที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมต้องออกเอง เช่น การร่วมแสดงในงานต่าง ๆ จะต้องออกค่าชุด ค่าแต่งหน้าเอง เป็นต้น 164 163
164 ปัจจัยความสำเร็จ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกระบี่ ให้ความสำคัญกับกระบวนการมีส่วนร่วม จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานระดับท้องถิ่น และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน ด้าน สวัสดิการผู้สูงอายุจึงมีการแสวงหาทรัพยากรด้านต่าง ๆ รวมทั้งการประสานความร่วมมือจากหน่วยงาน ภาคี เครือข่าย ในการขับเคลื่อนงาน เพื่อให้ผู้สูงอายุได้แสดงศักยภาพและพลังทำให้ผู้สูงอายุมองเห็นคุณค่า และ ความสำคัญของตนเอง และชุมชนประจักษ์ในศักยภาพและพลังของผู้สูงอายุซึ่งสามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้แก่ ตนเอง คิดเป็น ร้อยละ 98 ของผู้สูงอายุที่เข้าร่วมกิจกรรม ผู้รายงาน นางสาวศรีไพร ลิ่มเกิดสุขวงศ์ ตำแหน่ง นักพัฒนาสังคมชำนาญการ หน่วยงาน สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกระบี่
165 เรื่องที่ 2 การพัฒนาศักยภาพผู้แสดงความสามารถ (ศคพ.) กลุ่มเป้าหมาย ผู้แสดงความสามารถจังหวัดกระบี่ ที่ขอจดแจ้งมีบัตรประจำตัวผู้แสดงความสามารถ . เป้าประสงค์ 1. เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้แสดงความสามารถได้รับการพัฒนาศักยภาพ 2. เพื่อยกระดับการแสดงให้มีคุณภาพและได้มาตรฐาน 3. พัฒนาสู่อาชีพ มีรายได้และมีงานทำในอนาคต ผลการดำเนินงาน 1) ประชาสัมพันธ์การขึ้นทะเบียนผู้แสดงความสามารถที่ถูกต้องตาม พ.ร.บ.การควบคุมการ ขอทาน พ.ศ.2559 2) ดำเนินการพิจารณาออกบัตรประจำตัวผู้แสดงความสามารถ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2560 - ปัจจุบัน โดยจำแนกประเภทความสามารถดังนี้ 2.1 ด้านการแสดงดนตรี77 ราย 2.2 ด้านการแสดงนาฤศิลป์30 ราย 2.3 ด้านการแสดงกายกรรม 5 ราย 2.4 ด้านการแสดงละคร 1 ราย 2.5 ด้านการแสดงศิลปะ 0 ราย 2.6 ด้านการแสดงอื่น (B-Boy/หนังตะลุง/มายากล/ประติมากรรมหุ่นนิ่ง) 10 ราย 3) ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อประกาศพื้นที่สาธารณะเพื่อให้แสดงความสามารถ 27 แห่ง 4) สนับสนุนผู้แสดงความสามารถ ร่วมกิจกรรม “ครบรอบ 150 ปีกระบี่เมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก” จัดโดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกระบี่ และพื้นที่เสรีการแสดงความสามารถอื่นๆ 5) วางแผนการพัฒนาศักยภาพผู้แสดงความสามารถจังหวัดกระบี่ โดยจัดตั้งเป็นองค์กรสาธารณะ ประโยชน์และบูรณาการทุกภาคส่วนจัดงานมหกรรมรวมพลผู้แสดงความสามารถ ผลสัมฤทธิ์เชิงประจักษ์ : สามารถนำพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ. 2559 มาแปลงสู่การ ปฏิบัติได้อย่างเชิงประจักษ์และประชาสัมพันธ์ผู้แสดงความสามารถมาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย ได้อย่างทั่วถึง รวมถึงร่วมเป็นเครือข่ายป้องกันและเฝ้าระวังปัญหาคนไร้ที่พึ่งและคนขอทาน ผู้รายงาน นางสาวธิดารักษ์ บุษบรรณ์ ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคม หน่วยงาน ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดกระบี่
166 เรื่องที่ 3 การพัฒนาระบบปกป้องคุ้มครองเด็กและเยาวชน การทำงานด้านเด็กและเยาวชน ภายใต้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ คือ เด็ก เยาวชน ที่ประสบปัญหาได้รับบริการอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม โดยการจัดสวัสดิการสังคมขั้นพื้นฐานที่เหมาะสม เพื่อให้ กลุ่มเป้าหมาย สามารถดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสามารถช่วยเหลือตนเองได้โดยไม่เป็นภาระ ของสังคม ซึ่งบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกระบี่ ได้ให้บริการจัดสวัสดิการและส่งเสริมพัฒนาเด็กและเยาวชน ให้มีพัฒนาการที่เหมาะสม และได้รับการดูแลปกป้องคุ้มครอง เพื่อให้เด็กทุกคนปลอดภัยอยู่ดีมีสุข ภายใต้ความ ร่วมมือขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น และเครือข่ายในการคุ้มครองเด็ก ที่เข้ามาร่วมกันช่วยเหลือ คุ้มครองเด็ก ผ่านศูนย์ชุมชนคุ้มครองเด็ก โดยให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการรับผิดชอบต่อสังคม และมีส่วนร่วมใน การคุ้มครองเด็กและเยาวชน ผลักดันให้เกิดกลไกการคุ้มครองเด็กในชุมชน และการช่วยเหลือเด็กที่อยู่ในสภาวะเสี่ยงหรือ ตกเป็นเหยื่อของการใช้ความรุนแรง การกระทำมิชอบการแสวงประโยชน์ การละเลยทอดทิ้งเด็ก ภายใต้แนวคิดการมี ส่วนร่วมของชุมชนในการพัฒนา ปกป้องคุ้มครอง และช่วยเหลือเด็กในชุมชน ซึ่งกิจกรรมที่ดำเนินการและเห็นผลใน ภาพรวมในการจัดสวัสดิการ ทั้งนี้ โครงการที่มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี2560 ซึ่งปัจจุบัน บ้านพัก เด็กฯ จังหวัดกระบี่ มีอปท.จำนวน 61 แห่ง มีศูนย์ชุมชนคุ้มครองเด็กฯ 32 แห่ง คิดเป็น 52.46 % ของพื้นที่ ซึ่งถือว่าเป็นการทำให้เด็กและเยาวชนยังไม่เข้าถึงการช่วยเหลือ คุ้มครอง พิทักษ์สิทธิ ตามวัตถุประสงค์ที่ได้จัดให้มี ศูนย์ชุมชนคุ้มครองเด็ก คือ เด็กทุกคนอยู่ดี มีสุข ปลอดภัย ในครอบครัว ชุมชน และสังคมแวดล้อม ที่คุ้มครองและดูแล โดยมุ่งสร้างหลักประกันให้หน่วยงานด้านเด็กมีความเข้าใจชัดเจน และยึดมั่นต่อบทบาทภารกิจ ของหน่วยงาน ผู้ปฏิบัติงานแต่ละคนมีความรู้ ความเข้าใจในหน้าที่และมีความรับผิดชอบ ในการป้องกันและรับมือ กับปัญหางานด้านคุ้มครองเด็ก ในกระบวนการที่ต้องปฏิบัติกรณีต้องดำเนินการช่วยเหลือเด็กที่ประสบปัญหา ทั้งนี้ กรมกิจการเด็กฯ มีระบบสารสนเทศเข้ามาพัฒนาการทำงานให้รวดเร็วครอบคลุม ในการดูแลกลุ่มเป้าหมายให้ทั่วถึง มากยิ่งขึ้น โดยจัดทำระบบสารสนเทศเพื่อการคุ้มครองเด็ก หรือ Child Protection Information System หรือ CPIS เป็นระบบบูรณาการกระบวนการคุ้มครองเด็กโดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาสนับสนุนทำให้เด็กในทุก พื้นที่ได้รับการคุ้มครองช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วซึ่งระบบ CPIS ประกอบด้วย ๖ ระบบย่อยคือ 1. ระบบแจ้งเหตุ หรือแอปพลิเคชันคุ้มครองเด็ก ให้ประชาชนทั่วไปสามารถแจ้งเหตุผ่านมือถือ หรือคอมพิวเตอร์ได้ เมื่อพบเห็นเหตุการณ์ที่เด็กพึ งได้รับการคุ้ม ครอง สามารถปักหมุดพิ กัด สถานที่ และส่งข้อมูลแจ้งเหตุ ข้อมูลจะเชื่อมต่อไปยังบ้านพักเด็กและครอบครัวในพื้นที่รับผิดชอบทันที เมื่อบ้านพักเด็กฯ ได้รับแจ้งเหตุ จะประสานหน่วยงานพื้นที่ เช่น อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) หรือกลไกเครือข่ายในพื้นที่เข้าช่วยเหลือเบื้องต้น หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ท้องที่นั้น ๆ เข้าไปช่วยเหลือได้ทันท่วงที ขณะเดียวกันประชาชนที่แจ้งเหตุก็ตรวจสอบได้ว่าเคสที่แจ้งไปอยู่ในขั้นตอนการช่วยเหลืออย่างไร
167 ๒. ระบบการคัดกรองข้อมูล เป็นเครื่องมือสำหรับ อปท.ในการประเมินเด็กที่ต้องการได้รับความ ช่วยเหลือ ซึ่ง อปท.สามารถดำเนินการได้เอง มีแบบประเมินแบ่งเป็นสีเขียวหมายถึง อยู่ในภาวะที่ต้องเฝ้าระวัง ซึ่ง ท้องถิ่นอาจจะเฝ้าระวังดูแลได้เอง สีเหลืองหมายถึงอยู่ในภาวะเสี่ยง และสีแดงแสดงว่าเด็กพึงได้รับการคุ้มครองทันที ก็จะประสานไปยังบ้านพักเด็กฯ เข้าช่วยดูแล ๓. ระบบการจัดการรายกรณี เป็นระบบให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือเด็กแต่ละคนได้ทันท่วงที และมีการบันทึกข้อมูลเป็นรายบุคคล ๔. ระบบผู้ปฏิบัติงานเป็นฐานข้อมูลเจ้าหน้าที่รวมถึงผู้ปฏิบัติงานคุ้มครองเด็ก ๕. ระบบการจัดสวัสดิการสำหรับเด็ก สามารถสืบค้นข้อมูลว่าเด็กได้รับการช่วยเหลือสวัสดิการ จากกรมกิจการเด็กฯ ๖. ระบบตรวจสอบสิทธิ์ การเข้าถึงสิทธิ์ของเด็ก จากการพัฒนาระบบดังกล่าว บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกระบี่ ได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานระบบ สารสนเทศโดยการประชาสัมพันธ์ Application “คุ้มครองเด็ก” ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นรับแจ้งเหตุสำหรับประชาชน เมื่อพบเห็นเด็กและเยาวชนที่ต้องการความช่วยเหลือ ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ แท็บเล็ตและคอมพิวเตอร์โดยผ่าน เว็บไซต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในนวัตกรรมการปกป้องคุ้มครองเด็กและเยาวชน ดังนั้น ภายใต้นโยบายกระทรวงฯ เด็ก เยาวชน ที่ประสบปัญหาได้รับบริการอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม โดยการจัดสวัสดิการสังคมขั้นพื้นฐานที่เหมาะสม เพื่อให้ กลุ่มเป้าหมาย สามารถดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสามารถช่วยเหลือตนเองได้โดยไม่เป็นภาระของสังคม จะสำเร็จได้จากความร่วมมือของทุกภาคส่วนซึ่งโครงการ/กิจกรรมดังกล่าว เป็นกิจกรรม ที่สามารถทำให้บรรลุตาม วัตถุประสงค์ได้ซึ่งในปี 2566 โดยมีผลการดำเนินงาน ดังนี้
168 รายงานสรุปผลการคัดกรองจำแนกเพศ ข้อมูล ณ วันที่ 25 ก.ย. 2566 ลำดับ หน่วยงาน หญิง ชาย รวม เขียว เหลือง แดง รวม เขียว เหลือง แดง รวม ทั้งสิ้น (ฉบับ) (ฉบับ) (ฉบับ) (ฉบับ) (ฉบับ) (ฉบับ) (ฉบับ) (ฉบับ) (ฉบับ) 1 ต.คลองท่อมใต้ 6 0 0 6 2 0 0 2 8 2 ทต.ห้วยน้ำขาว 4 0 0 4 5 0 0 5 9 3 ทต.คลองพนพัฒนา 3 1 0 4 8 1 0 9 13 4 ทต.ทรายขาว 1 0 0 1 1 0 0 1 2 5 ต.อ่าวลึกใต้ 9 0 0 9 18 1 0 19 28 6 ต.คลองยาง 242 5 3 250 289 10 6 305 555 7 ต.เกาะกลาง 188 8 12 208 206 11 11 228 436 8 ทต.เขาพนม 0 0 0 0 0 1 0 1 1 9 ต.ไสไทย 1 0 0 1 8 0 0 8 9 10 ทต.กระบี่น้อย 1 0 0 1 0 0 0 0 1 11 ต.คลองขนาน 7 1 0 8 6 1 0 7 15 12 ต.เกาะศรีบอยา 1 0 0 1 3 0 0 3 4 13 ทต.ปลายพระยา 0 0 1 1 1 0 0 1 2 14 ต.สินปุน 1 0 0 1 0 0 0 0 1 15 ต.บ้านกลาง 1 0 0 1 1 0 0 1 2 16 ต.คลองประสงค์ 1 0 0 1 0 0 0 0 1 17 ต.พรุเดียว 2 0 0 2 1 0 0 1 3 18 ต.ทับปริก 1 0 0 1 0 0 0 0 1 19 ทต.คลองพน 2 0 0 2 0 0 0 0 2 20 ต.คลองหิน 2 0 0 2 3 0 0 3 5 21 ต.คลองยา 1 0 0 1 0 0 0 0 1 รวม 474 15 16 505 552 25 17 594 1,099 ดำเนินงานให้การคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิเด็กของศูนย์ชุมชนคุ้มครองเด็กในระดับตำบลตามสถานการณ์ และสภาพปัญหา ของชุมชน ทั้ง 21 พื้นที่จำนวน 1,099 คน โดยมีการให้การช่วยเหลือดังนี้ 1) ลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน ให้คำปรึกษาแก่ครอบครัว จำนวน 450 ราย 2) มอบเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 120 ครอบครัว 3) พิจารณาเงินสงเคราะห์เด็กในครอบครัวยากจน จำนวน 1,099 ราย 4) พิจารณาเงินสงเคราะห์เด็กแบบครอบครัวอุปถัมภ์จำนวน 12 ราย ผู้รายงาน นางสาวดวงใจ แซ่อื้อ ตำแหน่ง นักสังคมสงเคราะห์หน่วยงาน บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกระบี่