หลกั สตู รสาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ
โรงเรียนนคิ มพัฒนา 6
ตามหลกั สตู รแกนกลางขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551
ส˚านกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษานราธวิ าส เขต 2
ส˚านกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
หลกั สัตรกลััมสาระภาษาตัางประเทศ โรง
เรัยนวดบั าั นสอง
ธรรมชาตแิ ละลกั ษณะเฉพาะ
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศมุ่งเน้นการพัฒนาผเู้ รียนให้มีความรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกับการ ติดต่อส่ือสาร การศึกษา การแสวงหา
ความรู้ การประกอบอาชีพ การสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมและ วิสัยทัศนของชุมชนโลก ช่วยพัฒนาผู้เรียนให้มีความเข้าใจตนเองและผอู้ ืน่ เรียนรู้
และเข้าใจความแตกต่างของ ภาษาและวัฒนธรรมขนบธรรมเนียม ประเพณี การคดิ สังคม เศรษฐกิจ การเมอื ง การปกครอง มีเจตคติท่ีดีต่อ การ
ภาษาต่างประเทศ และใช้ภาษาต่างประเทศเพอ่ื การสอื่ สารได้
วสิ ยั ทศั น
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน มุ่งพัฒนาผเู้ รียนทุกคน ซ่งึ เป็นกาลังของชาติให้เป็นมนุษยท่ีมี ความสมดลุ ทง้ั ดา้ นรา่ งกาย ความรู้ คณุ ธรรม มี
จติ สานกึ ในความเป็นพลเมืองไทยและเป็นพลโลก ยึดม่ันในการ ปกครองตามระบอบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษัตรยิ ทรงเป็นประมุข มีความรู้และทักษะพน้ื ฐาน
รวมทงั้ เจตคติ ทจี่ าเป็นต่อการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพและการศกึ ษาตลอดชีวิต โดยมงุ่ เน้นผูเ้ รียนเปนสาคัญบนพน้ื ฐาน ความเช่ือวา่ ทุกคนสามารถ
เรยี นรู้และพัฒนาตนเองไดเ้ ตมตามศักยภาพ
หลักการ
หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐานโรงเรียนนิคมพัฒนา 6 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ มหี ลักการที่สา
ดังน้ี
๑.เปนหลกั สูตรการศึกษาเพ่ือความเปน็ เอกภาพของชาติมีจุดหมายและมาตรฐานการเรยี นรเู้ ปนเปา้ หมายสาหรบั พฒั นาเดกและเยาวชนให้มี
ความรู้ ทกั ษะ เจตคติ และคุณธรรมบนพ้นื ฐาน ของความเป็นไทยควบคูก่ บั ความเปนสากล
๒.เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อปวงชน ท่ปี ระชาชนทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาอย่างเสมอภาค และมคี ณุ ภาพ
๓. เปนหลักสูตรการศึกษาที่สนองการกระจายอานาจ ให้สังคมมีสว่ นร่วมในการจัดการศึกษาให้สอดคลอ้ งกับสภาพและความต้องการของท้องถน่ิ
๔. เปนหลักสูตรการศกึ ษาทมี่ ีโครงสร้างยืดหยนุ่ ท้ังด้านสาระการเรียนรู้ เวลาและการจัดการเรยี นรู้
๕. เปนหลักสูตรการศกึ ษาทเี่ น้นผ้เู รียนเปนสำคัญ
๖. เปนหลักสูตรการศกึ ษาสาหรับการศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัยครอบคลุมทุก กลุ่มเป้าหมาย สามารถเทียบโอนผลการ
เรียนรู้ และประสบการณ
จดุ หมาย
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐานโรงเรียนวัดบ้านส้อง ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ มงุ่ พัฒนา
ผู้เรียนให้เปนคนดี มปี ัญญา มีความสุข มีศักยภาพในการศึกษาต่อ และ ประกอบอาชพี จึงก าหนดเปนจุดหมายเพื่อให้เกิดกบั ผเู้ รียน เมื่อจบการศึกษาขนั้
พ้ืนฐาน ดังน้ี
๑. มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านยิ มท่ี พึงประสงค เหนคุณค่าของตนเอง มวี ินัยและปฏิบัติตนตาม หลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาท่ีตนนับถือ ยดึ
หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
๒. มีความรู้ ความสามารถในการสื่อสาร การคิด การแก้ปญั หา การใชเ้ ทคโนโลยี และมีทกั ษะชีวิต
๓. มสี ุขภาพกายและสุขภาพจิตทดี่ ี มีสุขนิสยั และรกั การออกก าลังกาย
๔. มีความรักชาติ มจี ิตสานกึ ในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลกยึดม่ันในวถิ ีชีวิตแล การปกครอง ตามระบอบประชาธปิ ไตยอันมี
พระมหากษัตริยทรงเป็นประมขุ
๕. มจี ิสานกึ ในการอนรุ ักษวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทยการอนุรักษและพัฒนาส่ิงแวดล้อม มจี ิต สาธารณะที่มุ่งหาประโยชนและสร้างส่ิงท่ีดีงาม
ในสังคม และอยู่ร่วมกันในสังคมอยา่ งมีความสขุ
สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค
ในการพัฒนาผู้เรียนตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนนิคมพัฒนา 6 ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช
๒๕๕๑ มงุ่ เน้นพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานท่ีก˚าหนด ซึ่งจะช่วยให้ผเู้ รยี นเกิดสมรรถนะส˚าคัญและคุณลักษณะอนั พึงประสงค ดงั นี้
สมรรถนะส˚าคญั ของผู้เรียน
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน มุ่งให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะส˚าคัญ ๕ ประการ ดังน้ี
๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร เปนความสามารถในการรับและส่งสาร มวี ัฒนธรรมในการใช้ภาษา ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเขา้ ใจ
ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพอ่ื แลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสารและ ประสบการณอันจะเปนประโยชนตอ่ การพัฒนาตนเองและสังคม รวมทัง้ การเจรจา
ตอ่ รองเพ่ือขจัดและลด ปัญหาความขัดแยง้ ต่าง ๆ การเลอื กรับหรือไม่รบั ขอ้ มูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถกู ต้อง ตลอดจนการ เลอื กใช้วิธกี ารสอ่ื สาร
ท่ีมีประสิทธิภาพโดยค˚านึงถึงผลกระทบท่ีมีต่อตนเองและสังคม
๒. ความสามารถในการคดิ เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห การคิดสังเคราะห การคดิ อย่าง
สร้างสรรค การคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ และการคิดเปน็ ระบบ เพอื่ น˚าไปสูก่ ารสรา้ งองคความรู้หรอื สารสนเทศ เพื่อการตดั สนิ ใจเก่ียวกบั ตนเองและสงั คม
ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา เปนความสามารถในการแก้ปญั หาและอุปสรรคต่าง ๆ
ท่ีเผชิญได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสมบนพ้ืนฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจ ความสัมพันธและการเปลี่ยนแปลงของ
เหตกุ ารณต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกตความรู้มาใช้ในการ ป้องกันและแก้ไขปัญหา และมีการตัดสินใจทีม่ ปี ระสิทธภิ าพโดยค˚านึงถึงผลกระทบท่ี
เกิดขึน้ ตอ่ ตนเอง สังคม และส่ิงแวดล้อม
๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ เป็นความสามารถในการน˚ากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้ใน
กาดาเนนิ ชวี ติ ประจ˚าวนั การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง การเรยี นรอู้ ยา่ งตอ่ เนอื่ ง การท˚างาน และการอย่รู ว่ มกันใน สงั คมดว้ ยการสรา้ งเสรมิ ความสมั พนั ธอนั ดรี ะหว่าง
บคุ คล การจัดการปัญหาและความขดั แยง้ ตา่ ง ๆ อยา่ ง เหมาะสม การปรบั ตวั ให้ทันกบั การเปลย่ี นแปลงของสังคมและสภาพแวดลอ้ ม และการร้จู กั หลีกเลย่ี ง
พฤติกรรม ไม่พึงประสงคท่ีส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อ่ืน
๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยดี า้ นต่าง ๆ และมี
ทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่ือการพัฒนาตนเองและสังคม ในดา้ นการเรียนรู้ การสื่อสาร การท˚างาน การแก้ปญั หาอยา่ งสรา้ งสรรค ถูกต้อง
เหมาะสม และมีคุณธรรม
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค
หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐานโรงเรียนวัดบ้านส้อง ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ มงุ่ พัฒนาผู้เรียน
ให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค เพ่ือให้สามารถอย่รู ว่ มกับผู้อ่ืนใน สังคมได้อย่างมีความสุข ในฐานะเป็นพลเมอื งไทยและพลโลก ดังนี้
๑. รกั ชาติ ศาสน กษัตรยิ
๒. ซ่ือสัตยสุจรติ
๓. มีวินยั
๔. ใฝเ่ รยี นรู้
๕. อยู่อยา่ งพอเพยี ง
๖. มงุ่ ม่นั ในการท˚างาน
๗. รกั ความเปน็ ไทย
๘. มจี ติ สาธารณะ
กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ
ในสัง คมโลก ปัจจุบัน กา รเรีย นรู้ภา ษาต่างป ระเทศมี ความส˚าคัญ และจ˚า เปนอย่าง ย่ิ ง ในชีวิตประจ˚าวัน เน่ืองจาก
เปนเคร่ืองมือส˚าคัญในการติดต่อส่ือสาร การศึกษา การแสวงหาความรู้ การประกอบอาชีพ การสร้างความเข้าใจเกี่ยวกบั วัฒนธรรมและวิสยั ทัศน
ของชุมชนโลก และตระหนักถึงความ หลากหลายทางวัฒนธรรมและมุมมองของสังคมโลก น˚ามาซึ่งมติ รไมตรีและความร่วมมอื กับประเทศต่างๆ ช่วย พฒั นา
ผเู้ รียนให้มีความเข้าใจตนเองและผ้อู ่นื ดีขนึ้ เรยี นรู้และเข้าใจความแตกต่างของภาษาและวฒั นธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี การคิด สงั คม เศรษฐกิจ การเมือง
การปกครอง มเี จตคตทิ ีด่ ตี ่อการใช้ ภาษาตา่ งประเทศ และใช้ภาษาต่างประเทศเพอ่ื การส่อื สารได้ รวมทง้ั เข้าถงึ องคความรูต้ ่างๆ ไดง้ า่ ยและ กว้างขึ้น และมี
วสิ ัยทัศนในการด˚าเนินชีวติ
ภาษาตา่ งประเทศที่เปน็ สาระการเรียนรูพ้ นื้ ฐาน ซง่ึ ก˚าหนดให้เรยี นตลอดหลกั สูตรการศกึ ษา ขัน้ พ้นื ฐาน คอื ภาษาองั กฤษ ส่วนภาษาตา่ งประเทศ
อืน่ เช่น ภาษาฝร่ังเศส เยอรมัน จนี ญป่ี นุ่ อาหรบั บาลี และภาษากลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน หรือภาษาอ่ืนๆ ให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษาท่ีจะจัดท˚า
รายวิชาและ จัดการเรยี นร้ตู ามความเหมาะสม
เรียนรู้อะไรในภาษาต่างประเทศ
กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ มงุ่ หวงั ใหผ้ ูเ้ รยี นมเี จตคตทิ ่ดี ตี ่อภาษาต่างประเทศ สามารถใช้ ภาษาตา่ งประเทศ สอ่ื สารในสถานการณต่าง
ๆ แสวงหาความรู้ ประกอบอาชีพ และศกึ ษาตอ่ ในระดบั ทส่ี งู ข้นึ รวมท้ังมคี วามรคู้ วามเข้าใจในเรอื่ งราวและวฒั นธรรมอนั หลากหลายของประชาคมโลก และ
สามารถถ่ายทอด ความคิดและวฒั นธรรมไทยไปยังสังคมโลกได้อยา่ งสร้างสรรค ประกอบด้วยสาระส˚าคญั ดังนี้
ภาษาเพื่อการส่อื สาร การใช้ภาษาต่างประเทศในการฟัง-พูด-อ่าน-เขียน แลกเปลี่ยนข้อมูล ขา่ วสาร แสดงความรู้สกึ และ
ความคิดเหน ตีความ น˚าเสนอข้อมูล ความคิดรวบยอดและความคิดเหนในเรอื่ ง ต่างๆ และสรา้ งความสัมพันธระหว่างบคุ คลอยา่ งเหมาะสม
ภาษาและวฒั นธรรม การใชภ้ าษาต่างประเทศตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาความสัมพันธ ความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างภาษากบั
วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา ภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของ ภาษากับวฒั นธรรมไทย และน˚าไปใชอ้ ยา่ งเหมาะสม
ภาษากบั ความสมั พนั ธกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ น่ื การใชภ้ าษาต่างประเทศในการเชอื่ มโยง คว ามรู้กับก ลุ่ มสา ระ การเรีย นรู้ อ่ื น เ
ป็ น พ้ืน ฐาน ใน ก ารพัฒ น า แสว งห า คว ามรู้ และเปดิ โลกทัศนของตน
ภาษากบั ความสมั พนั ธกบั ชมุ ชนและโลก การใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณตา่ งๆ ทงั้ ในห้ องเรี ยนและ
นอกห้องเรียน ชุ มชน และสังคมโลก เป็ นเครื่ อง มื อพ้ื นฐานในการศึกษาต่อ ประกอบอาชพี และแลกเปล่ียนเรียนรกู้ ับสังคมโลก
สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้
สาระท่ี ๑ ภาษาเพอการสอื่ สาร
ต ๑.๑ เข้าใจและตีความเรอื่ งทฟ่ี ังและอ่านจากสอื่ ประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเหนอยา่ งมี เหตุผล
ต ๑.๒ มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลีย่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สกึ และความ คดิ เหนอย่างมีประสิทธิภาพ
ต ๑.๓ น˚าเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหนในเร่อื งต่างๆ โดยการพูด และการเขยี น
สาระที่ ๒ ภาษาและวฒั นธรรม
ต ๒.๑ เข้าใจความสัมพนั ธระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และน˚าไปใช้ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ
ต ๒.๒ เขา้ ใจความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และน
˚ามาใช้อยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
สาระท่ี ๓ ภาษากบั ความสมั พันธกับกลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ ่ืน
ต ๓.๑ ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชอ่ื มโยงความรู้กบั กลุ่มสาระการเรียนรอู้ น่ื และเปนพ้ืนฐาน ในการพัฒนา แสวงหาความรู้
และเปิดโลกทัศนของตน
สาระท่ี ๔ ภาษากบั ความสมั พนั ธกบั ชุมชนและโลก
ต ๔.๑ ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณต่างๆ ท้ังในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสังคม
ต ๔.๒ ใช้ภาษาต่างประเทศเปนเครอ่ื งมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และการ แลกเปลย่ี นเรยี นรกู้ ับสังคมโลก
คุณภาพผู้เรยี น
จบชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓
ปฏิบัติตามค˚าสั่ง ค˚าขอร้องที่ฟัง อ่านออกเสียงตัวอักษร ค˚า กลมุ่ ค˚า ประโยคง่ายๆ และ บทพูด เข้าจังหวะง่ายๆ ถูกต้องตามหลักการ
อ่าน บอกความหมายของค˚าและกลุ่มค˚าที่ฟังตรงตามความหมาย ตอบ ค˚าถามจากการฟังหรอื อา่ นประโยค บทสนทนาหรือนิทานงา่ ยๆ
พูดโต้ตอบด้วยค˚าส้ันๆ ง่ายๆ ในการสื่อสารระหว่างบุคคลตามแบบท่ีฟัง ใช้ค˚าสั่งและ ค˚าขอร้องง่ายๆ บอกความ
ต้องการง่ายๆ ของตนเอง พูดขอและให้ข้อมูลเก่ียวกับตนเองและเพ่ือน บอกความรู้สกึ ของตนเองเก่ยี วกบั ส่ิงต่างๆ ใกล้ตัวหรอื กจิ กรรมต่างๆ ตาม
แบบทฟี่ ัง
พูดให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเร่อื งใกล้ตัว จัดหมวดหมู่ค˚าตามประเภทของบุคคล สัตว และ สิง่ ของตามทฟ่ี ังหรืออ่าน
พูดและท˚าท่าประกอบ ตามมารยาทสังคม/วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา บอกชื่อและค˚าศพั ทง่ายๆ เก่ยี วกับเทศกาล/วนั ส˚าคัญ/งานฉลอง
และชีวิตความเปนอยู่ของเจ้าของภาษา เข้าร่วมกจิ กรรมทางภาษาและ วฒั นธรรมทเี่ หมาะกับวัย
บอกความแตกต่างของเสียงตัวอักษร ค˚า กลุ่มค˚า และประโยคง่ายๆ ของภาษาต่างประเทศและ ภาษาไทย
บอกค˚าศัพททีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน
ฟัง/พูดในสถานการณง่ายๆ ทเ่ี กิดข้ึนในห้องเรียน
ใช้ภาษาต่างประเทศ เพอื่ รวบรวมค˚าศัพทท่ีเกยี่ วขอ้ งใกล้ตัว
มีทักษะการใช้ภาษาตา่ งประเทศ (เนน้ การฟงั -พดู ) ส่ือสารตามหัวเรื่องเกีย่ วกับตนเอง ครอบครัวโรงเรียน สิ่งแวดล้อมใกล้ตัว อาหาร
เครื่องดื่ม และเวลาว่างและนันทนาการ ภายในวง ค˚าศัพทประมาณ
๓๐๐-๔๕๐ ค˚า (ค˚าศัพทที่เปนรูปธรรม)
ใช้ประโยคค˚าเดียว (One Word Sentence) ประโยคเดี่ยว (Simple Sentence) ในการสนทนา โต้ตอบตามสถานการณในชีวิตประจ˚
าวัน
จบชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖
ปฏิบัติตามค˚าส่ัง คา˚ ขอร้อง และค˚าแนะน˚าที่ฟังและอ่าน อ่านออกเสียงประโยค ข้อความ นิทาน และบทกลอนสน้ั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลักการ
อา่ น เลือก/ระบปุ ระโยคและข้อความตรงตามความหมายของ สัญลักษณหรือเคร่ืองหมายทอี่ ่าน บอกใจความส˚าคัญ และตอบค˚าถามจากการฟังและอ่าน
บทสนทนา นิทาน ง่ายๆ และเรอ่ื งเล่า
พูด/เขียนโต้ตอบในการส่ือสารระหว่างบุคคล ใช้ค˚าส่ัง ค˚าขอร้อง และให้ค˚าแนะน˚า พูด/เขียน แสดงความตอ้ งการ ขอความชว่ ยเหลอื
ตอบรบั และปฏเิ สธการให้ความชว่ ยเหลือในสถานการณง่ายๆ พดู และเขยี นเพ่ือขอและใหข้ อ้ มลู เกีย่ วกบั ตนเอง เพ่ือน ครอบครวั และเรอ่ื งใกลต้ วั พดู /เขียน
แสดงความรสู้ กึ เก่ียวกับเรอื่ งต่างๆ ใกล้ตัว กจิ กรรมต่างๆ พรอ้ มทั้งให้เหตุผลส้ันๆ ประกอบ
พดู /เขียนใหข้ ้อมูลเกย่ี วกบั ตนเอง เพ่อื น และสิ่งแวดล้อมใกล้ตวั เขียนภาพ แผนผงั แผนภูมิ และ ตารางแสดงขอ้ มูลต่างๆ ท่ีฟังและอา่ น พดู /
เขียนแสดงความคิดเหนเก่ยี วกับเรื่องต่างๆ ใกล้ตวั
ใช้ถ้อยคา˚ น้˚าเสียง และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพ เหมาะสม ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของ เจ้าของภาษา ให้ข้อมูลเก่ียวกับ
เทศกาล/วันส˚าคัญ/งานฉลอง/ชีวิตความเปนอยู่ของเจ้าของภาษา เข้ารว่ มกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
บอกความเหมอื น/ ความแตกตา่ งระหวา่ งการออกเสยี งประโยคชนดิ ต่างๆ การใช้เคร่อื งหมาย วรรคตอน และการล˚าดับค˚า ตามโครงสร้าง
ประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย เปรียบเทียบความ เหมือน/ความแตกต่างระหวา่ งเทศกาล งานฉลองและประเพณีของเจ้าของภาษากับของ
ไทย
ค้นคว้า รวบรวมค˚าศัพทท่ีเกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืนจากแหล่งการเรียนรู้ และน˚าเสนอด้วย การพูด/การเขียน
ใช้ภาษาส่อื สารในสถานการณต่างๆ ท่ีเกิดขึ้นในห้องเรียนและสถานศกึ ษา
ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้นและรวบรวมขอ้ มูลต่างๆ
มที กั ษะการใชภ้ าษาตา่ งประเทศ (เนน้ การฟงั -พดู -อา่ น-เขยี น) ส่ือสารตามหวั เรื่องเกี่ยวกบั ตนเอง ครอบครวั โรงเรียน ส่ิงแวดล้อม อาหาร
เครื่องด่ืม เวลาว่างและนันทนาการ สุขภาพและสวัสดิการ การซื้อ-ขาย และลมฟ้าอากาศ ภายในวงค˚าศพั ทประมาณ ๑,๐๕๐-๑,๒๐๐ ค˚า (ค˚าศัพทท่เี ปน็ รปู ธรรม
และนามธรรม)
ใช้ประโยคเด่ียวและประโยคผสม (Compound Sentences) ส่อื ความหมายตามบรบิ ทต่างๆ
ตวั ชว้ี ดั และสาระการเรียนรู้
สาระท่ี ๑ ภาษาเพอื่ การสอื่ สาร
ต ๑.๑ เข้าใจและตีความเร่ืองทีฟ่ ังและอ่านจากส่ือประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเหน อย่างมี เหตุผล
ชนั้ ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๑ ๑. ปฏบิ ัติตามค˚าสั่งง่ายๆ ทฟี่ ัง ค˚าสั่งที่ใช้ในหอ้ งเรียน เช่น Stand up./Sit down./
Listen./ Repeat./Quiet!/ Stop! etc.
๒. ระบุตัวอักษรและเสยี ง อา่ นออก เสียงและ ตัวอกั ษร (letter names) เสียงตวั อักษรและสระ (letter sounds) และการ
สะกดค˚าง่ายๆ ถกู ตอ้ งตาม หลกั การอ่าน สะกดค˚า
หลกั การอ่านออกเสียง เช่น
- การออกเสียงพยัญชนะต้นค˚าและพยัญชนะท้ายค˚า
- การออกเสียงเน้นหนัก-เบา (stress)ในค˚าและ กลมุ่ ค˚า
- การออกเสยี งตามระดับเสียงสูง-ต่˚า (intonation)
ในประโยค
๓. เลือกภาพตรงตามความหมายของค˚าและกลุ่มค˚าที่ ค˚า กลุ่มค˚า และความหมาย เก่ยี วกับตนเอง ครอบครวั โรงเรียน สง่ิ แวดลอ้ ม
ฟัง ใกล้ตัว อาหาร เครื่องด่ืม และ นันทนาการ ภายในวงค˚าศพั ทประมาณ ๑๕๐-
๒๐๐ ค˚า
(ค˚าศัพทที่เปนรปู ธรรม)
๔. ตอบค˚าถามจากการฟังเืรอ่ งใกล้ตวั บทอ่านเกย่ี วกบั เรอ่ื งใกล้ตัว หรอื นิทานท่มี ีภาพประกอบ ประโยคค˚าถาม
และค˚าตอบ
- Yes/No Question เช่น
Is it a/an..? Yes, it is./No, it is not. etc.
- Wh-Question เช่น
What is it? It is a/an... etc.
ค˚าส่ังและค˚าขอรอ้ งทใ่ี ช้ในหอ้ งเรียน
ป.๒ ๑. ปฏิบัติตามค˚าสั่ง และค˚าขอร้อง ง่าย ๆ ทฟ่ี ัง
- ค˚าส่ัง เช่น Show me a/an../ Open your book.
Don’t talk in class. etc.
- ค˚าขอร้อง เช่น Please come here./ Come here, please. Don’t make a
loud noise, please./ Please don’t make a loud noise. etc.
ชนั้ ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๒ ๒.ระบุตัวอักษรและเสียง อ่านออก เสียงค˚า ตัวอักษร เสยี งตวั อกั ษรและสระ การสะกดค˚า และ ประโยค หลกั การ
อ่านออกเสียง เช่น
สะกดค˚า และอ่านประโยคง่ายๆ ถูกตอ้ งตาม - การออกเสียงพยญั ชนะตน้ ค˚าและพยัญชนะท้ายค˚า
หลกั การอ่าน - การออกเสียงเน้นหนัก-เบา ในค˚าและกลุ่มค˚า
- การออกเสยี งตามระดับเสียงสูง-ต่˚า ในประโยค
๓. เลือกภาพตรงตามความหมายของค˚า กลุ่มค˚า ค˚า กลุ่มค˚า ประโยคเด่ียว (simple sentence) และ ความหมาย เก่ียวกับ
และประโยคท่ีฟัง ตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สิ่งแวดล้อมใกล้ตัว อาหาร เครอื่ งด่ืม และ
นันทนาการ เปนวงค˚าศัพทสะสมประมาณ ๒๕๐-๓๐๐ ค˚า (ค˚าศพั ทท่ี
เป็นรูปธรรม)
๔. ตอบค˚าถามจากการฟงั ประโยค บทสนทนา หรือ ประโยค บทสนทนา หรอื นิทานท่ีมภี าพประกอบ ประโยคค˚าถาม
นิทานง่ายๆ ท่ีมีภาพ ประกอบ และค˚าตอบ
- Yes/No Question เช่น
Is this/that a/an..? Yes, it is./No, it isn’t.
- Wh-Question เช่น
What is this/that/it? This/that/It is a/an…How
many…? There is/are…
Where is the…? It is in/on/under… etc.
ป.๓ ๑. ปฏิบัติตามค˚าสัง่ และค˚าขอร้องที่ ฟงั หรืออา่ น ค˚าส่ังและค˚าขอร้องทใี่ ช้ในหอ้ งเรียน
- ค˚าสั่ง เช่น Give me a/an../Draw and color the picture./ Put
a/an…in/on/under a/an…/ Don’teat in class. etc.
- ค˚าขอร้อง เช่น Please take a queue./ Take a queue, please./
Don’t make a loud noise, please./ Please don’t make a loud
noise./
Can you help me, please? etc.
๒. อา่ นออกเสียงค˚า สะกดค˚า อ่าน กลุ่มค˚า ค˚า กลุ่มค˚า ประโยคเด่ียว และบทพูดเข้าจังหวะ และการ สะกดค˚า
ประโยค และบทพูดเขา้ จังหวะ (chant) ง่ายๆ การใชพ้ จนานุกรม หลกั การอา่ นออกเสียง เช่น
ถกู ต้องตาม หลักการอา่ น - การออกเสียงพยญั ชนะต้นค˚าและพยัญชนะท้ายค˚า
- การออกเสียงเน้นหนัก-เบา ในค˚าและกลุ่มค˚า
- การออกเสยี งตามระดับเสียงสูง-ต่˚า ในประโยค
ชนั้ ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๓ ๓. เลือก/ระบภุ าพ หรือสญั ลักษณตรงตาม กลุ่มค˚า ประโยคเดี่ยว สัญลักษณ และความหมาย เก่ียวกับตนเอง
ความหมายของกลมุ่ ค˚าและ ประโยคที่ฟัง ครอบครวั โรงเรยี น สง่ิ แวดล้อมใกล้ตัว อาหาร เคร่ืองดื่ม และนันทนาการ
เป็น วงค˚าศัพท
สะสมประมาณ ๓๕๐-๔๕๐ ค˚า (ค˚าศัพทที่เป็นรูปธรรม)
๔. ตอบค˚าถามจากการฟังหรืออา่ น ประโยค บทสนทนา หรือนิทานที่มีภาพประกอบ
ประโยค บทสนทนา หรือนิทานงา่ ยๆ ประโยคค˚าถามและค˚าตอบ
- Yes/No Question เชน่
Is/Are/Can…? Yes,…is/are/can./
No,…isn’t/aren’t/can’t. etc.
- Wh-Question เชน่
What is this/that/it? This/that/It is a/an…How
many…? There is/are…
Where is/are…? It is
in/on/under…
They are etc.
ป.๔ ๑. ปฏิบัติตามค˚าสั่ง ค˚าขอร้อง และ ค˚าแนะน˚า ค˚าส่ังและค˚าขอรอ้ งที่ใช้ในห้องเรียน และค˚าแนะน˚าใน การเล่นเกม การวาด
(instructions) ง่ายๆ ท่ฟี งั หรืออ่าน ภาพ หรอื การท˚าอาหารและ เคร่อื งด่ืม
- ค˚าส่ัง เช่น Look at the…/here/over there./ Say it
again./ Read and draw./ Put a/an…in/on/undera/an…/ Don’t go
over there. etc.
- ค˚าขอร้อง เชน่ Please take a queue./ Take a queue, please./ Can
you help me, please? etc.
- ค˚าแนะน˚า เช่น You should read everyday./Think before you speak./
ค˚าศพั ทที่ ใช้ในการเล่นเกม Start./ My turn./ Your turn./ Roll the
dice./ Count the number./ Finish./ ค˚าบอกล˚าดับขนั้ ตอน First,..
Second,… Then,… Finally,... etc.
ชน้ั ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๔ ๒. อ่านออกเสียงค˚า สะกดค˚า อา่ น กลุ่มค˚า ค˚า กลุ่มค˚า ประโยค ขอ้ ความ บทพูดเขา้ จังหวะ และการสะกดค˚า การ
ใชพ้ จนานุกรม หลักการอา่ นออกเสียง เช่น
ประโยค ขอ้ ความง่ายๆ และบทพูดเข้าจังหวะ - การออกเสียงพยัญชนะต้นค˚าและพยัญชนะท้ายค˚า
ถูกตอ้ งตาม หลกั การอา่ น - การออกเสียงเน้นหนัก-เบา ในค˚าและกลุ่มค˚า
- การออกเสียงตามระดับเสยี งสูง-ต่˚า ในประโยค
๓. เลอื ก/ระบุภาพ หรอื สัญลกั ษณ หรอื กลุ่มค˚า ประโยคเด่ยี ว สัญลักษณ เคร่ืองหมาย และ ความหมาย
เครอื่ งหมายตรงตามความหมายของประโยคและ เก่ยี วกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สิง่ แวดลอ้ ม อาหาร เครื่องดื่ม เวลาว่าง
ข้อความสั้นๆ ที่ฟัง หรืออา่ น และ นนั ทนาการ สุขภาพและสวัสดกิ าร การซ้ือ-ขาย และลมฟ้าอากาศ
และเป็นวงค˚าศพั ทสะสมประมาณ
๕๕๐-๗๐๐ ค˚า (ค˚าศัพทที่เปนรูปธรรมและนามธรรม)
๔. ตอบค˚าถามจากการฟังและอา่ น ประโยค บท ประโยค บทสนทนา นิทานที่มภี าพประกอบ ค˚าถามเกี่ยวกับ
สนทนา และนิทานงา่ ยๆ
ใจความส˚าคัญของเรือ่ ง เช่น ใคร ท˚าอะไร ท่ไี หน
- Yes/No Question เชน่
Is/Are/Can…? Yes,…is/are/can./
No,…isn’t/aren’t/can’t.
Do/Does/Can/Is/Are...? Yes/No… etc.
etc.
- Wh-Question เช่น
Who is/are…? He/She is…/They are…
What…?/Where…? It is …/They are… What...doing?
…is/am/are…
- Or-Question เช่น
Is this/it a/an...or a/an…? It is a/an… etc.
ป.๕ ๑. ปฏิบัติตามค˚าสง่ั ค˚าขอรอ้ ง และ ค˚าสั่งและค˚าขอรอ้ งที่ใช้ในหอ้ งเรียน ภาษาท่าทาง
ค˚าแนะน˚าง่ายๆ ที่ฟังและอา่ น และค˚าแนะน˚าในการเล่นเกม การวาดภาพ หรือการท˚าอาหารและ
เคร่อื งดืม่
- ค˚าสั่ง เช่น Look at the…/here/over there./ Say it again./
Read and draw./ Put a/an…in/on/under a/an…/
Don’t go overthere. etc.
- ค˚าขอร้อง เช่น Please take a queue./ Take a
queue, please./ Can/Could you help me,please?
etc
ชนั้ ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๕
.- ค˚าแนะน˚า เช่น You should read everyday./ Think before you
๒. อา่ นออกเสียงประโยค ขอ้ ความ และบทกลอน
สัน้ ๆ ถกู ต้องตาม หลกั การอ่าน speak./ ค˚าศพั ทที่ใช้ในการ เล่นเกม Start./ My turn./ Your turn./
Roll the dice./ Count the number./ Finish./ ค˚า บอกล˚าดบั
ข้ันตอน First,… Second,… Next,…
Then,… Finally,… etc.
ประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนการใชพ้ จนานกุ รม
หลกั การอา่ นออกเสียง เชน่
- การออกเสียงพยัญชนะต้นค˚าและพยัญชนะท้ายค˚า
- การออกเสียงเน้นหนัก-เบา ในค˚าและกลุ่มค˚า
- การออกเสียงตามระดับเสียงสูง-ต่˚า ในประโยค
- การออกเสียงเชือ่ มโยง (linking sound) ในขอ้ ความ
- การออกเสียงบทกลอนตามจังหวะ
๓. ระบุ/วาดภาพ สญั ลักษณ หรือ เครื่องหมายตรง กลุ่มค˚า ประโยคผสม ข้อความ สัญลักษณ เคร่ืองหมาย และความหมาย
ตามความหมายของประโยคและขอ้ ความส้ันๆ ที่ฟงั เกย่ี วกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน ส่ิงแวดลอ้ ม อาหาร เครือ่ งดื่ม เวลาวา่ ง
หรือ อ่าน และนันทนาการ สขุ ภาพและสวสั ดิการ การซอ้ื -ขาย และลมฟ้าอากาศ
และเปนวงค˚าศัพทสะสม ประมาณ ๗๕๐-๙๕๐ ค˚า (ค˚าศพั ทท่เี ปนรปู ธรรม
และ
นามธรรม)
๔. บอกใจความส˚าคัญ และตอบ ค˚าถามจากการฟงั ประโยค บทสนทนา นิทาน หรือเร่ืองสนั้ ๆ ค˚าถามเก่ียวกับใจความส˚
และอ่านบทสนทนาและนิทานงา่ ยๆ หรอื เร่อื ง
สน้ั ๆ าคัญของเรอื่ ง เช่น ใคร ท˚าอะไร ทไ่ี หน เมอ่ื ไร - Yes/No Question
เช่น
Is/Are/Can…? Yes,…is/are/can./
No,…isn’t/aren’t/can’t.
Do/Does/Can/Is/Are...? Yes/No… etc.
Who is/are…? He / She is…/They are…
What…?/Where…? It is …/They are… What...doing?
…is/am/are… etc.Is
this/it a/an...or a/an…? It is a/an… etc
Wh-Question เชน่ .
ชนั้ ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๖ ๑. ปฏบิ ัติตามค˚าสง่ั ค˚าขอรอ้ ง และ ค˚าแนะน˚าท่ี ค˚าส่ัง ค˚าขอรอ้ ง ภาษาท่าทาง และค˚าแนะน˚าในการ เล่นเกม การวาด
ฟังและอา่ น ภาพ การท˚าอาหารและเครื่องด่ืม และการประดิษฐ
- ค˚าส่ัง เช่น Look at the…/here/over there./ Say it again./
Read and draw./ Put a/an…in/on/under a/an…/ Don’t go
overthere. etc.
- ค˚าขอรอ้ ง เช่น Please look up the meaning in a dictionary./
Look up the meaning in adictionary, please./ Can/Could you
help me, please? etc.
- ค˚าแนะน˚า เช่น You should read every day./ Think before you
speak./ ค˚าศพั ทท่ใี ช้ในการ เลน่ เกม Start./ My turn./ Your turn./
Roll the dice./ Count the number./ Finish./ค˚า
บอกล˚าดับขัน้ ตอน First,… Second,… Next,…Then,… Finally,…
etc.
๒. อา่ นออกเสียงข้อความ นิทาน ข้อความ นทิ าน และบทกลอน
และบทกลอนสน้ั ๆ ถูกต้องตามหลักการอา่ น การใช้พจนานุกรม หลักการอ่านออกเสยี ง เช่น
- การออกเสียงพยัญชนะต้นค˚าและพยัญชนะท้ายค˚า
- การออกเสียงเน้นหนัก-เบา ในค˚าและกลุ่มค˚า
- การออกเสียงตามระดับเสียงสูง-ต่˚า ในประโยค
- การออกเสียงเชอื่ มโยง (linking sound) ในข้อความ
- การออกเสียงบทกลอนตามจังหวะ
ป.๖ ๓. เลอื ก/ระบุประโยค หรือข้อความ ประโยค หรือข้อความ สัญลักษณ เครอ่ื งหมาย และ
สั้นๆ ตรงตามภาพ สัญลักษณ หรือ ความหมายเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน ส่ิงแวดล้อม อาหาร
เครื่องหมายทอา่ น เครอ่ื งดื่ม เวลาวา่ งและ นันทนาการ สุขภาพและสวัสดกิ าร การซอ้ื -ขาย
และลมฟ้าอากาศ และเป็นวงค˚าศัพทสะสมประมาณ
๑,๐๕๐-๑,๒๐๐ ค˚า (ค˚าศัพทที่เปนรูปธรรมและ นามธรรม)
๔. บอกใจความส˚าคัญและตอบ ค˚าถามจากการฟงั ประโยค บทสนทนา นิทาน หรอื เร่ืองเล่า ค˚าถามเกี่ยวกับใจความส˚
และอา่ นบทสนทนานิทานง่ายๆ และเรือ่ งเลา่ าคัญของเร่ือง เช่น ใคร ท˚าอะไร ทไ่ี หน เม่อื ไร อย่างไร ท˚าไม
- Yes/No Question เช่น
ชน้ั ตัวชวี้ ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
Is/Are/Can…?Yes,…is/are/can./
No,…isn’t/aren’t/can’t.Do/Does/Can/Is/Are...?Yes/No… etc.
- Wh -Question เช่น
Who is/are…?He /She is…/They are…What…?/Where…? It is
…/They are… What...doing? …is/am/are… etc.
- Or-Question เช่น
Is this/it a/an...or a/an…? It is a/an…
Is/Are/Was/Were/Did…or…? etc.
สาระที่ ๑ ภาษาเพอื่ การสอื่ สาร
มาตรฐาน ต ๑.๒ มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลขา่ วสารแสดงความรู้สกึ และความ คิดเหนอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
ชนั้ ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๑ ๑. พูดโต้ตอบด้วยค˚าส้ันๆ ง่ายๆ ในการ
บทสนทนาท่ีใช้ในการทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ
สื่อสารระหว่างบุคคลตามแบบทฟี่ ัง ขอโทษ และประโยค/ข้อความทใ่ี ช้แนะน˚าตนเอง เช่น Hi/ Hello/ Good
๒. ใช้ค˚าส่ังง่ายๆ ตามแบบท่ีฟงั morning/ Good afternoon/
๓. บอกความตอ้ งการง่ายๆ ของตนเอง
ตามแบบทฟี่ ัง Good evening/ I am…/ Goodbye./ Bye./ Thankyou./ I am sorry.
๔. พดู ขอและให้ขอ้ มูลงา่ ยๆ เกยี่ วกับตนเองตาม
แบบทฟี่ งั etc.
ป.๒ ๑. พูดโต้ตอบดว้ ยค˚าสัน้ ๆ ง่ายๆ ในการ ค˚าสัง่ ทีใ่ ช้ในห้องเรียน
สื่อสารระหวา่ งบุคคลตามแบบทฟ่ี งั
ค˚าศัพท ส˚านวน และประโยคท่ีใชบ้ อกความต้องการ
เช่น I want…/Please,… etc.
ค˚าศพั ท ส˚านวน และประโยคท่ใี ชข้ อและให้ขอ้ มูล เกยี่ วกับตนเอง เช่น
What’s your name?/ My
name is…/ I am…/ How are you?/ I am fine
บทสนทนาที่ใช้ในการทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ
ขอโทษ และประโยค/ข้อความท่ใี ช้แนะน˚าตนเอง เช่น Hi/ Hello/ Good
morning/ Good afternoon/ Good evening/ How are you?/ I’m
fine./ I am… / Goodbye./ Bye./ Thank you./ I am
sorry. etc.
๒. ใช้คา˚ สงั่ และค˚าขอรอ้ งง่ายๆ ตาม ค˚าสั่งและค˚าขอรอ้ งที่ใช้ในห้องเรียน
แบบทีฟ่ งั
ค˚าศพั ท ส˚านวน และประโยคที่ใชบ้ อกความตอ้ งการ
๓. บอกความตอ้ งการง่ายๆ ของตนเอง
ตามแบบทฟี่ ัง เชน่ I want…/ Please,… etc.
ชนั้ ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
๔. พูดขอและให้ข้อมลู ง่ายๆ เก่ยี วกบั ตนเองตามแบบที่ ค˚าศัพท ส˚านวน และประโยคทใี่ ช้ขอและให้ขอ้ มูล เก่ยี วกบั ตนเอง เชน่
ฟงั What’s your name?/ My name is…/ I am…/ How are you?/ I
am fine.
etc.
ป.๓ ๑. พูดโต้ตอบดว้ ยค˚าสนั้ ๆ ง่ายๆ ในการ สื่อสารระหว่าง บทสนทนาที่ใช้ในการทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ และประโยค/
บุคคลตามแบบท่ีฟัง ขอ้ ความท่ีใช้แนะน˚าตนเอง เช่น Hi/ Hello/ Good morning/ Good
afternoon/ Good evening/ I am sorry./ How are you? I’mfine.
Thank you. And you?/ Nice to see you./ Nice to see you too./
Goodbye./Bye./ See you soon/ later./ Thanks./ Thank you./
Thank
you very much./ You’re welcome. etc.
๒. ใช้ค˚าสง่ั และค˚าขอรอ้ งง่ายๆ ตามแบบ ทฟี่ ัง ค˚าส่ังและค˚าขอร้องทใี่ ช้ในหอ้ งเรียน
๓. บอกความต้องการง่ายๆ ของตนเอง ตามแบบทฟี่ งั ค˚าศพั ท ส˚านวน และประโยคท่ีใชบ้ อกความต้องการเช่น Please,…/ May I
๔. พูดขอและให้ข้อมูลงา่ ยๆ เก่ียวกบั ตนเอง go out?/ May I come in?
และเพอื่ นตามแบบทีฟ่ ัง
etc.
ค˚าศัพท ส˚านวน และประโยคท่ใี ช้ขอและให้ข้อมูล เก่ียวกับตนเอง และ
เพ่อื น เช่น
What’s your name? My name is…
How are you? I am fine.
What time is it? It is one o’clock.
What is this? It is a/an…
How many…are there? There is a/an…/Thereare…
Who is…? He/She is… etc.
๕. บอกความร้สู ึกของตนเองเกยี่ วกับสงิ่ ต่างๆ ใกล้ตวั ค˚าและประโยคที่ใช้แสดงความรู้สึก เช่น ดีใจ เสียใจ ชอบไม่ชอบ เช่น
หรือกิจกรรมต่างๆ ตาม แบบทีฟ่ ัง Yeah!/ Great!/ Cool!/ I’m happy./ I like cats./ I don’t like snakes.
etc. บทสนทนาท่ีใช้ในการทกั ทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ การพูด
แทรกอยา่ งสภุ าพ ประโยค/ข้อความทใ่ี ช้แนะน˚าตนเอง เพือ่ น และบุคคล
ใกล้ตัว และ
ส˚านวนการตอบรับ เชน่ Hi/Hello/Good
ชนั้ ตัวชว้ี ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ป.๔ ๑. พูด/เขียนโต้ตอบในการสื่อสาร ระหว่าง morning/Good afternoon/Good evening/I am sorry./How are
you?/I’m fine. Thank you. And you?/ Hello. I am… Hello,…I am…
บคุ คล This is my sister. Her name is… Hello,…/Nice to see you.Nice to
see you too./Goodbye./ Bye./See you soon/later./
Thanks./Thank you./Thank you very much./You’re welcome./It’s
O.K.
etc.
๒. ใช้ค˚าสัง่ ค˚าขอร้อง และค˚าขอ ค˚าสั่ง ค˚าขอร้อง และค˚าขออนุญาตที่ใช้ในหอ้ งเรียน
อนญุ าตง่ายๆ
๓. พูด/เขยี นแสดงความต้องการ ของตนเอง และขอความ ค˚าศพั ท ส˚านวน และประโยคท่ีใช้แสดงความตอ้ งการ และขอความ
ชว่ ยเหลอื ในสถานการณง่ายๆ ช่วยเหลือในสถานการณต่างๆ เช่น
I want …/ Please…/ May…?/ I need your
help./ Please help me./ Help me! etc.
๔. พูด/เขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล เกี่ยวกับตนเอง เพ่ือน ค˚าศพั ท ส˚านวน และประโยคทใ่ี ช้ขอและให้ขอ้ มูล เก่ียวกับตนเอง สิ่งใกล้
และครอบครัว ตวั เพ่ือน และครอบครัว เช่น What’s your name? My name
is…
What time is it? It is one o’clock.
What is this? It is a/an…
How many…are there? There is a/an…/Thereare…
Where is the…? It is in/on/under…
etc.
๕. พูดแสดงความรู้สกึ ของตนเอง เก่ียวกับเรอ่ื งต่างๆ ใกล้ ค˚าและประโยคท่ีใช้แสดงความรู้สึก เช่น ดีใจ เสียใจ ชอบ ไม่ชอบ รัก ไม่
ตัว และกจิ กรรม ต่างๆ ตามแบบที่ฟัง รัก เช่น
I/You/We/They like…/He/She likes… I/You/We/They
love…/He/She loves…I/You/We/They don’t
like/love/feel…He/She doesn’t like/love/feel…
I/You/We/They feel… etc.
ป.๕ ๑. พูด/เขียนโต้ตอบในการสอื่ สาร ระหว่าง บทสนทนาท่ีใช้ในการทกั ทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ ชมเชย การพูด
บคุ คล แทรกอย่างสุภาพ ประโยค/ ข้อความทีใ่ ชแ้ นะน˚าตนเอง เพือ่ น และ
บุคคลใกล้ตัว
และส˚านวนการตอบรับ เช่น Hi/ Hello/ Good
ชน้ั ตัวชว้ี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
morning/ Good afternoon/ Good evening/ I am sorry./ How are
you?/ I’m fine. Thank you. And you?/ Hello. I am…/ Hello,…I
am… This is my sister. Her name is… /Hello,…/ Niceto see you.
Nice to see you too./ Goodbye./ Bye./ See you soon/later./
Good/Very good./ Thanks./ Thank you./ Thank you very much./
You’re welcome./
It’s O.K. etc.
ป.๕ ๒. ใช้คา˚ สั่ง ค˚าขอร้อง ค˚าขออนุญาต ค˚าส่ัง ค˚าขอรอ้ ง ค˚าแนะน˚าที่มี ๑-๒ ขั้นตอน
และใหค้ ˚าแนะน˚าง่ายๆ
๓. พูด/เขยี นแสดงความต้องการ ขอความช่วยเหลอื ค˚าศพั ท ส˚านวน และประโยคที่ใชบ้ อกความต้องการ ขอความช่วยเหลือ
ตอบรับและปฏิเสธ การใหค้ วามชว่ ยเหลือใน ตอบรบั และปฏิเสธการให้ความ ช่วยเหลือ เชน่ Please…/ May…?/ I
สถานการณ need…/
ง่ายๆ Help me!/ Can/ Could…?/ Yes,.../No,… etc.
๔. พูด/เขียนเพ่ือขอและให้ข้อมูล เกี่ยวกับตนเอง เพื่อน ค˚าศัพท ส˚านวน และประโยคท่ใี ช้ขอและให้ขอ้ มูล เกยี่ วกบั ตนเอง เพอ่ื น
ครอบครวั และ เรอ่ื งใกล้ตัว ครอบครัว และเรือ่ งใกล้ตวั เช่น What do you do? I’m a/an…
What is she/he? …is a/an (อาชีพ)
How old/tall…? I am…
Is/Are/Can…or…? …is/are/can…
Is/Are…going to…or…? …is/are going to…etc.
๕. พูด/เขยี นแสดงความรู้สึกของตนเอง เกีย่ วกบั เรือ่ ง ค˚าและประโยคที่ใช้แสดงความรู้สึก เช่น ชอบ ไม่
ต่างๆ ใกล้ตัว และกิจกรรม ต่างๆ พร้อมทั้งให้เหตุผลสั้นๆ ชอบ ดีใจ เสียใจ มีความสุข เศรา้ หวิ รสชาติ เช่น I’m…/He/She/It
ประกอบ is…/You/We/They are… I/You/We/They like…/He/She
likes…because…I/You/We/They love…/He/She loves…because…
I/You/We/They don’t like/love/feel…because
He/She doesn’t like/love/feel…because… I/You/We/They
feel…because… etc.
ป.๖ ๑. พูด/เขียนโต้ตอบในการส่ือสาร Goodbye./ Bye./ See you soon/later./ Great!/
ระหวา่ งบคุ คล Good./ Very good. Thank you./ Thank you very much./ You’re
welcome./ It’s O.K./ That’s O.K./ That’s all right./ Not at all./
Don’t
worry./ Never mind./ Excuse me./ Excuse me,Sir./Miss./Madam.
etc.
ชนั้ ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
๒. ใช้คา˚ ส่ัง ค˚าขอร้อง และให้ค˚าแนะน˚า ค˚าส่ัง ค˚าขอร้อง และค˚าแนะน˚าทมี่ ี ๒-๓ ขั้นตอน
๓. พูด/เขยี นแสดงความต้องการ ค˚าศัพท ส˚านวน และประโยคที่ใช้บอกความต้องการ
ขอความชว่ ยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธ การให้ความ ขอความชว่ ยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการให้ความ ชว่ ยเหลือ เช่น
ช่วยเหลอื ในสถานการณ Please…/ May…?/ I need…/ Help
ง่ายๆ me!/ Can/Could…?/ Yes,.../No,… etc.
๔. พูดและเขียนเพื่อขอและให้ขอ้ มูล เก่ียวกบั ตนเอง เพือ่ น ค˚าศพั ท ส˚านวน และประโยคทใ่ี ชข้ อและให้ขอ้ มูล เกยี่ วกบั ตนเอง เพือ่ น
ครอบครัว และ เร่อื งใกล้ตวั ครอบครวั และเรือ่ งใกล้ตวั เช่น What do you do? I’m a/an…
What is she/he? …is a/an (อาชพี )
How old/tall…? I am…
Is/Are/Can…or…? …is/are/can…
Is/Are…going to…or…? …is/are going to…etc.
๕. พูด/เขยี นแสดงความรู้สึกของตนเอง เก่ียวกับเรอ่ื ง ค˚าและประโยคท่ีใช้แสดงความรู้สึก และการให้ เหตุผลประกอบ เช่น ชอบ/
ต่างๆ ใกล้ตัว กจิ กรรม ตา่ งๆ พร้อมทั้งใหเ้ หตผุ ลสั้นๆ
ประกอบ ไม่ชอบ ดีใจ เสียใจ มี
ความสขุ เศร้า หิว รสชาติ สวย น่าเกลียด เสียง ดงั ดี ไมด่ ี เช่น
I’m…/He/She/It is…/You/We/They are… I/You/We/They
like…/He/She likes…because…I/You/We/They love…/He/She
loves…because…
I/You/We/They don’t
like/love/feel…because…
He/She doesn’t like/love/feel…because…I/You/We/They
feel…because… etc.
สาระท่ี ๑ ภาษาเพอการสอ่ื สาร
ต ๑.๓ น˚าเสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหนในเรอื่ งต่างๆ โดยการพูด และการเขยี น
ชนั้ ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๑ ๑. พูดให้ข้อมลู เกีย่ วกบั ตนเองและ ค˚าและประโยคทใ่ี ชใ้ นการพดู ให้ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ตนเอง
เรอ่ื งใกล้ตัว บุคคลใกล้ตัว และเร่ืองใกล้ตัว เช่น บอกช่ือ อายุ รูปรา่ ง ส่วนสูง
เรียกสิ่งต่างๆ จ˚านวน ๑-๒๐ สี ขนาด สถานท่อี ยู่ของส่ิงของ
ป.๒ ๑. พูดใหข้ ้อมูลเกย่ี วกับตนเองและเรอ่ื งใกล้ตวั ค˚าและประโยคทใ่ี ช้ในการพดู ให้ขอ้ มูลเกย่ี วกับตนเอง บุคคลใกล้ตวั และเรื่อง
ใกล้ตัว เช่น บอกชอ่ื อายุ รปู ร่าง ส่วนสงู เรียกสิ่งต่างๆ จ˚านวน ๑-๓๐
สี ขนาด สถานท่ีอยู่ของส่ิงของ
ชนั้ ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๓ ๑. พดู ใหข้ อ้ มูลเกยี่ วกบั ตนเองและเร่อื งใกล้ตวั
ค˚าและประโยคที่ใช้ในการพูดให้ข้อมูลเกยี่ วกบั ตนเอง บุคคลใกล้ตัว และเรอ่ื ง
ใกล้ตัว เช่น บอกชอื่ อายุ รูปร่าง สว่ นสูง เรียกส่ิงต่างๆ จ˚านวน ๑-๕๐
สี ขนาด สถานที่อยู่ของสิ่งของ
๒. จดั หมวดหมู่ค˚าตามประเภทของ ค˚า กลมุ่ ค˚าที่มีความหมายเกย่ี วกบั บุคคล สัตว และ
บุคคล สัตว และสิ่งของ ตามที่ฟัง หรอื อา่ น ส่ิงของ เช่น การระบุ/เช่อื มโยงความสัมพันธของภาพ กบั ค˚า หรือกลุ่มค˚า
โดยใช้ภาพ แผนภูมิ แผนภาพ แผนผัง
ป.๔ ๑. พูด/เขียนให้ข้อมูลเกย่ี วกับตนเอง ประโยคและข้อความท่ีใชใ้ นการพูดให้ขอ้ มูลเกี่ยวกับ
และเรอื่ งใกล้ตัว ตนเอง บุคคล สัตว และเรอ่ื งใกล้ตวั เชน่ ชอ่ื อายุ รูปร่าง สี ขนาด
รูปทรง ส่ิงตา่ งๆ จ˚านวน ๑-๑๐๐ วนั เดือน ปี ฤดูกาล ทอ่ี ยขู่ องสง่ิ ต่างๆ
เครื่องหมายวรรคตอน
๒. พูด/วาดภาพแสดงความสมั พันธ ของสิ่งต่างๆ ค˚า กลุ่มค˚าที่มีความหมายสัมพันธของส่ิงต่างๆ ใกล้ตัว เชน่ การระบุ/
ใกล้ตวั ตามที่ฟังหรอื เชื่อมโยงความสัมพันธของภาพกบั ค˚า
อ่าน หรอื กลมุ่ ค˚า โดยใช้ภาพ แผนภมู ิ แผนภาพ แผนผงั
๓. พดู แสดงความคดิ เหนง่ายๆ ประโยคทีใ่ ช้ในการแสดงความคิดเหนเกย่ี วกบั เรอ่ื ง
เกีย่ วกบั เรอื่ งต่างๆ ใกล้ตัว ต่างๆ ใกล้ตัว
ป.๕ ๑. พูด/เขียนให้ข้อมูลเกยี่ วกับตนเอง และเรือ่ งใกล้ ประโยคและขอ้ ความทใ่ี ชใ้ นการให้ขอ้ มลู เกย่ี วกับ บุคคล สัตว สถานที่ และ
ตวั กจิ กรรมต่างๆ เช่น ขอ้ มูล ส่วนบุคคล เร่อื งต่างๆ ใกล้ตวั จ˚านวน ๑-๕๐๐
ล˚าดับที่ วัน เดือน ปี ฤดกู าล เวลา สภาพดินฟ้า อากาศ อารมณ
ความรสู้ กึ สี ขนาด รูปทรง ที่อยู่
ของสง่ิ ต่างๆ เครือ่ งหมายวรรคตอน
๒. เขียนภาพ แผนผงั และแผนภมู ิ ค˚า กลมุ่ ค˚า ประโยคที่แสดงขอ้ มูลและความหมายของ
แสดงข้อมูลต่างๆ ตามที่ฟังหรอื อา่ น เรอื่ งต่างๆ ภาพ แผนผัง แผนภมู ิ ตาราง
๓. พดู แสดงความคดิ เหนเกย่ี วกบั เร่ืองต่างๆ ประโยคทใี่ ชใ้ นการพดู แสดงความคิดเหนเกี่ยวกบั กจิ กรรมหรอื เรอื่ ง
ใกล้ตัว ต่างๆ ใกล้ตัว
ป.๖ ๑. พูด/เขยี นให้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เพือ่ น และ ประโยคและข้อความทีใ่ ช้ในการให้ขอ้ มูลเกีย่ วกับ ตนเอง กจิ วัตรประจ˚าวนั
ส่ิงแวดลอ้ มใกล้ตัว เพ่อื น สิ่งแวดลอ้ มใกล้ตัวเชน่ ข้อมูลส่วนบุคคล เรียกส่ิงต่างๆ จ˚านวน ๑-
๑,๐๐๐ ล˚าดับท่ี วนั เดือน ปี ฤดูกาล เวลา กิจกรรม ท่ีท˚า สี ขนาด
รูปทรง ทีอ่ ยขู่ องสงิ่ ตา่ งๆ ทิศทาง ง่ายๆ สภาพดินฟ้าอากาศ อารมณ
ความร้สู กึ
เครื่องหมายวรรคตอน
ชน้ั ตัวช้ีวัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
๒. เขยี นภาพ แผนผงั แผนภมู ิ และ ค˚า กล่มุ ค˚า และประโยคท่ีมีความหมายสัมพันธกับ
ตารางแสดงขอ้ มูลต่างๆ ที่ฟังหรืออา่ น ภาพ แผนผัง แผนภมู ิ และตาราง
๓. พูด/เขยี นแสดงความคิดเหน เกยี่ วกับเรื่อง ประโยคท่ีใช้ในการแสดงความคิดเหน
ต่างๆ ใกล้ตัว
สาระท่ี ๒ ภาษาและวฒั นธรรม
ต ๒.๑ เขา้ ใจความสมั พนั ธระหวา่ งภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และน˚าไปใชไ้ ดอ้ ยา่ ง เหมาะสมกบั กาลเทศะ
ชนั้ ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๑ ๑. พูดและท˚าท่าประกอบ ตาม วัฒนธรรม วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา เช่น การใช้สีหน้าท่าทาง ประกอบการพูดขณะ
ของเจา้ ของภาษา แนะน˚าตนเอง การสัมผัสมือ
การโบกมอื การแสดงอาการตอบรับหรอื ปฏเิ สธ
๒. บอกชอื่ และค˚าศพั ทเก่ียวกบั ค˚าศัพทเกี่ยวกบั เทศกาลส˚าคัญของเจ้าของภาษา เชน่
เทศกาลส˚าคัญของเจ้าของภาษา วนั คริสตมาส วนั ขึ้นปีใหม่ วันวาเลนไทน
๓. เข้ารว่ มกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่เี หมาะกับ กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เชน่ การเล่นเกม การร้องเพลง การ
วัย เล่านิทานประกอบท่าทาง
วนั คริสตมาส วนั ขึ้นปีใหม่ วันวาเลนไทน
ป.๒ ๑. พูดและท˚าท่าประกอบ ตาม วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา เชน่ การใช้สีหนา้
วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
ท่าทางประกอบการพูดขณะแนะน˚าตนเอง การ สัมผัสมอื การโบกมอื
การแสดงอาการตอบรับหรือ ปฏิเสธ
๒. บอกชือ่ และค˚าศพั ทเกยี่ วกับ ค˚าศัพทเกีย่ วกับเทศกาลส˚าคัญของเจ้าของภาษา เช่น
เทศกาลส˚าคัญของเจ้าของภาษา วนั คริสตมาส วนั ขน้ึ ปีใหม่ วันวาเลนไทน
๓. เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทเ่ี หมาะกบั กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เช่น การเล่นเกม
วยั การรอ้ งเพลง การเล่านิทานประกอบท่าทาง วันคริสตมาส วนั
ขนึ้ ปีใหม่ วนั วาเลนไทน
ป.๓ ๑. พูดและท˚าท่าประกอบ ตาม มารยาทสังคม/วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เช่น
มารยาทสงั คม/วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา การขอบคุณ ขอโทษ การใช้สีหน้าท่าทางประกอบ การพูดขณะแนะน˚
าตนเอง การสัมผัสมอื การโบกมือ
การแสดงอาการตอบรับหรอื ปฏเิ สธ
๒. บอกชอื่ และค˚าศพั ทงา่ ยๆ เกีย่ วกบั ค˚าศัพทเก่ียวกบั เทศกาล/วนั ส˚าคัญ/งานฉลอง และ
เทศกาล/วนั ส˚าคัญ/งานฉลอง และ ชวี ติ ความเปน็ อยู่ ชีวิตความเปนอยู่ของเจ้าของภาษา เช่น วันคริสตมาส วนั ข้นึ ปีใหม่ วนั วาเลน
ของเจา้ ของภาษา ไทน เคร่อื งแต่งกาย อาหาร
เครอ่ื งดื่ม
ป.๓ ๓. เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่ี กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เชน่ การเล่นเกม
เหมาะกบั วัย การร้องเพลง การเล่านิทานประกอบท่าทาง วนั คริสตมาส วนั
ข้ึนปีใหม่ วนั วาเลนไทน
ชน้ั ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
ป.๔ ๑. พูดและท˚าท่าประกอบอย่างสุภาพ ตามมารยาท มารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา เชน่ การขอบคุณ ขอโทษ
สงั คมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา การใช้สีหน้าท่าทางประกอบ การพูดขณะแนะน˚าตนเอง การสมั ผัสมอื การ
โบกมือ การแสดงความรู้สึกชอบ/ไม่ชอบ การแสดงอาการ
ตอบรับหรอื ปฏิเสธ
๒. ตอบค˚าถามเก่ียวกับเทศกาล/ ค˚าศัพทและขอ้ มูลเกีย่ วกับเทศกาล/วนั ส˚าคัญ/งาน
วันส˚าคัญ/ งานฉลองและชีวิตความ เป็นอย่งู า่ ยๆ ฉลอง และชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้าของภาษา เช่น วนั คริสตมาส วนั
ของเจา้ ของภาษา ขึน้ ปีใหม่ วนั วาเลนไทน
๓. เขา้ รว่ มกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่ี เครือ่ งแต่งกาย ฤดกู าล อาหาร เคร่อื งดื่ม
เหมาะกบั วัย
กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เชน่ การเล่นเกม การร้องเพลง การ
ป.๕ ๑. ใช้ถ้อยค˚า น้˚าเสียง และกิริยา เล่านทิ านประกอบทา่ ทาง บทบาท
ท่าทางอย่างสภุ าพ ตามมารยาทสังคม และ สมมตุ ิ วันคริสตมาส วันขน้ึ ปีใหม่ วันวาเลนไทน
วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา
การใช้ถ้อยค˚า น้˚าเสียง และกิริยาท่าทาง ตามมารยาท
สังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เช่น การขอบคุณ ขอโทษ การ
ใช้สหี น้าท่าทาง ประกอบการพูดขณะแนะน˚าตนเอง การสัมผัสมือ
การโบกมือ การแสดงความรสู้ ึกชอบ/ไมช่ อบ การกลา่ วอวยพร การแสดง
อาการตอบรับหรอื ปฏเิ สธ
๒. ตอบค˚าถาม/บอกความส˚าคัญของ ข้อมูลและความส˚าคัญของเทศกาล/วนั ส˚าคัญ/งาน
เทศกาล/วนั ส˚าคัญ/งานฉลองและชีวิต ความเปน็ อยู่ ฉลองและชีวติ ความเปน็ อยขู่ องเจา้ ของภาษา เชน่
งา่ ยๆ ของเจา้ ของภาษา วนั คริสตมาส วนั ขึน้ ปีใหม่ วันวาเลนไทน เครื่องแต่งกาย
ฤดูกาล อาหาร เคร่ืองด่ืม
๓. เขา้ รว่ มกิจกรรมทางภาษาและ
วฒั นธรรมตามความสนใจ กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เชน่ การเล่นเกม
การรอ้ งเพลง การเล่านิทาน บทบาทสมมุติ วันขอบคุณพระเจ้า
วนั คริสตมาส วนั ขนึ้ ปีใหม่ วันวาเลนไทน
ป.๖ ๑. ใช้ถ้อยค˚า น้˚าเสียง และกิริยา การใช้ถอ้ ยค˚า น้˚าเสียง และกิริยาท่าทาง ตามมารยาท
ท่าทางอย่างสภุ าพเหมาะสม ตาม มารยาท สังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เชน่ การ ขอบคุณ ขอโทษ การ
สังคมและวฒั นธรรมของ เจ้าของภาษา ใช้สหี น้าท่าทางประกอบการ พูดขณะแนะน˚าตนเอง การสัมผัสมอื การโบก
มอื การ แสดงความรู้สึกชอบ/ไม่ชอบ การกล่าวอวยพร การ แสดงอาการ
ตอบรับหรือปฏเิ สธ
๒. ให้ขอ้ มูลเก่ียวกับเทศกาล/วนั ส˚าคัญ/งาน ข้อมูลและความส˚าคัญของเทศกาล/วนั ส˚าคัญ/ งานฉลองและชีวิต
ฉลอง/ชีวิตความเป็นอยู่ ของเจ้าของภาษา ความเป็นอยขู่ องเจา้ ของภาษา เช่น วันคริสตมาส วนั ข้นึ ปีใหม่ วนั วา
เลนไทน เคร่ืองแต่งกายตามฤดกู าล อาหาร เครื่องดื่ม
ชน้ั ตัวชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
๓. เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เชน่ การเล่นเกม การรอ้ งเพลง การ
ตามความสนใจ เล่านิทาน บทบาทสมมตุ ิ วนั ขอบคุณพระเจา้ วนั คริสตมาส วนั ขึ้นปีใหม่
วนั วาเลนไทน
สาระท่ี ๒ ภาษาและวฒั นธรรม
ต ๒.๒
เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษากบั ภาษาและวัฒนธรรมไทย และน˚ามา
ชนั้ ใช้อย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม
ป.๑
ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๒
๑.ระบุตัวอักษรและเสียงตวั อกั ษรของ ตัวอกั ษรและเสียงตัวอักษรของภาษาต่างประเทศและ
ป.๓ ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย ภาษาไทย
๑.ระบุตวั อกั ษรและเสียงตวั อกั ษรของ ตัวอกั ษรและเสียงตัวอกั ษรของภาษาต่างประเทศและ
ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย ภาษาไทย
๑. บอกความแตกตา่ งของเสยี ง ความแตกต่างของเสียงตวั อักษร ค˚า กลมุ่ ค˚า และ
ตัวอกั ษร ค˚า กลุ่มค˚า และประโยคง่ายๆ ของ ประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
ภาษาต่างประเทศและ ภาษาไทย
ป.๔ ๑. บอกความแตกตา่ งของเสียง ความแตกต่างของเสียงตัวอักษร ค˚า กลุ่มค˚า และ
ตัวอกั ษร ค˚า กลุ่มค˚า ประโยค และ ข้อความของ ประโยคของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย
ภาษาตา่ งประเทศและ
ภาษาไทย
๒. บอกความเหมือน/ความแตกตา่ ง ความเหมอื น/ความแตกต่างระหวา่ งเทศกาล และ
ระหวา่ งเทศกาลและงานฉลอง ตามวฒั นธรรมของ งานฉลองตามวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษากับของไทย
เจา้ ของภาษากบั
ของไทย
ป.๕ ๑. บอกความเหมือน/ความแตกตา่ ง ระหว่างการ ความเหมอื น/ความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียง ประโยคชนิดต่างๆ
ออกเสียงประโยค ชนิดต่างๆ การใชเ้ คร่ืองหมาย ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย การใชเ้ ครื่องหมายวรรคตอนและการล˚
วรรคตอน และการล˚าดับค˚า (order)ตามโครงสรา้ ง าดับค˚าตาม โครงสรา้ งประโยคของภาษาต่างประเทศและ
ประโยค ของ ภาษาไทย
ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
๒. บอกความเหมอื น/ความแตกตา่ ง ความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างเทศกาลและ
ระหวา่ งเทศกาลและงานฉลอง ของเจา้ ของภาษากับของ งานฉลองของเจา้ ของภาษากบั ของไทย
ไทย
ช้นั ตวั ช้ีวดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
ป.๖ ๑. บอกความเหมอื น/ความแตกตา่ งระหวา่ งการออก ความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออกเสียง ประโยคชนดิ ต่างๆ
เสยี งประโยค ชนิดต่างๆ การใชเ้ ครอื่ งหมาย วรรคตอน ของเจ้าของภาษากบั ของไทย การใช้เครอ่ื งหมายวรรคตอนและการล˚
และการล˚าดบั ค˚าตาม โครงสร้างประโยค ของ าดบั ค˚าตาม โครงสร้างประโยคของภาษาตา่ งประเทศและ
ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย ภาษาไทย
๒. เปรยี บเทียบความเหมอื น/ความ แตกต่าง การเปรียบเทียบความเหมือน/ความแตกต่างระหว่าง เทศกาล งานฉลอง
ระหวา่ งเทศกาล งานฉลอง และประเพณีของ และประเพณขี องเจา้ ของภาษา กบั ของไทย
เจ้าของภาษากบั
ของไทย
สาระท่ี ๓ ภาษากบั ความสมั พันธกับกลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ ื่น
ต ๓.๑ ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่อื มโยงความรู้กบั กลุ่มสาระการเรยี นรอู้ ่นื และเปนพ้ืนฐาน ในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปดิ
โลกทัศนของตน
ชน้ั ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ค˚าศพั ทที่เกี่ยวขอ้ งกับกลุ่มสาระการเรยี นรอู้ ื่น
ป.๑ ๑. บอกค˚าศัพทที่เกย่ี วขอ้ งกบั กลุ่มสาระการ
เรียนรู้อน่ื
ป.๒ ๑. บอกค˚าศัพทที่เกีย่ วข้องกบั กล่มุ ค˚าศัพทท่ีเก่ยี วขอ้ งกับกลุ่มสาระการเรียนรูอ้ ่นื
สาระการเรียนรู้อืน่
ป.๓ ๑. บอกค˚าศพั ททเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั กลุ่มสาระการ ค˚าศัพทที่เกี่ยวข้องกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่นื
เรยี นรอู้ ่ืน
ป.๔ ๑. ค้นคว้า รวบรวมค˚าศัพทท่ี เกย่ี วขอ้ งกับกลุ่ม การคน้ คว้า การรวบรวม และการน˚าเสนอ ค˚าศัพทท่ีเกยี่ วขอ้ งกับกลุ่มสาระการ
สาระการเรยี นรอู้ นื่ และน˚าเสนอด้วยการพดู / การ เรยี นรอู้ ื่น
เขยี น
ป.๕ ๑. ค้นควา้ รวบรวมค˚าศัพทที่ เกีย่ วขอ้ งกบั กลุ่ม การค้นคว้า การรวบรวม และการน˚าเสนอค˚าศัพทที่ เกี่ยวข้องกบั กลุ่ม
สาระการเรียนรูอ้ ืน่ และน˚าเสนอด้วยการพูด / การ สาระการเรยี นรู้อ่ืน
เขียน
ป.๖ ๑. ค้นควา้ รวบรวมค˚าศัพทท่ี เกยี่ วขอ้ งกบั กลมุ่ การค้นควา้ การรวบรวม และการน˚าเสนอค˚าศัพทท่ี เกยี่ วขอ้ งกบั กล่มุ
สาระการเรยี นรูอ้ ื่น จากแหลง่ เรียนรู้ และน˚าเสนอ สาระการเรียนรู้อนื่
ด้วย การพูด / การเขียน
สาระท่ี ๔ ภาษากบั ความสมั พนั ธกบั ชมุ ชนและโลก
ต ๔.๑ ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณต่างๆ ท้ังในสถานศึกษา ชุมชน และสงั คม
ชนั้ ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
การใช้ภาษาในการฟัง/พูดในสถานการณง่ายๆ
ป.๑ ๑. ฟงั /พูดในสถานการณงา่ ยๆ ที่ ทีเ่ กิดขึ้นในห้องเรยี น
เกดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี น การใช้ภาษาในการฟัง/พูดในสถานการณง่ายๆ
ที่เกิดขึ้นในหอ้ งเรียน
ป.๒ ๑. ฟงั /พูดในสถานการณง่ายๆ ท่ี การใชภ้ าษาในการฟัง/พูดในสถานการณง่ายๆ
เกดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรียน ทีเ่ กิดขึ้นในห้องเรียน
การใช้ภาษาในการฟังและพูด/อา่ นในสถานการณที่
ป.๓ ๑. ฟงั /พดู ในสถานการณงา่ ยๆ ท่ี เกดิ ข้ึนในห้องเรยี น
เกดิ ขนึ้ ในห้องเรยี น การใชภ้ าษาในการฟงั พูด และอา่ น/เขยี นใน สถานการณต่างๆ
ท่ีเกิดข้ึนในห้องเรยี น
ป.๔ ๑. ฟังและพูด/อา่ นในสถานการณท่ี
เกิดขน้ึ ในหอ้ งเรยี นและสถานศึกษา การใช้ภาษาสอ่ื สารในสถานการณต่างๆทีเ่ กิดข้ึนใน หอ้ งเรียนและ
สถานศึกษา
ป.๕ ๑. ฟัง พูด และอา่ น/เขยี นใน สถานการณ
ต่างๆ ท่ีเกิดข้นึ ใน
หอ้ งเรยี นและสถานศึกษา
ป.๖ ๑. ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ
ต่างๆ ทเี่ กิดขน้ึ ในห้องเรียนและ สถานศึกษา
สาระที่ ๔ ภาษากบั ความสมั พนั ธกบั ชมุ ชนและโลก
ต ๔.๒ ใช้ภาษาต่างประเทศเปนเครื่องมอื พ้นื ฐานในการศกึ ษาตอ่ การประกอบอาชีพและการ แลกเปลี่ยนเรยี นรกู้ ับสังคมโลก
ชนั้ ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ป.๑ ๑. ใช้ภาษาต่างประเทศ เพื่อรวบรวม การใชภ้ าษาต่างประเทศในการรวบรวมค˚าศัพทที่
ค˚าศพั ทที่เกย่ี วขอ้ งใกล้ตัว เกี่ยวขอ้ งใกล้ตัว จากสื่อต่างๆ
ป.๒ ๑. ใช้ภาษาต่างประเทศ เพอ่ื รวบรวม ค˚าศัพทท่ี การใช้ภาษาต่างประเทศในการรวบรวมค˚าศัพทท่ี เก่ยี วขอ้ งใกล้ตวั
เกีย่ วขอ้ งใกล้ตวั จากสอ่ื ต่างๆ
ป.๓ ๑. ใช้ภาษาต่างประเทศ เพ่อื รวบรวม การใชภ้ าษาต่างประเทศในการรวบรวมค˚าศัพทที่
ค˚าศัพทท่ีเกยี่ วข้องใกล้ตัว เกีย่ วขอ้ งใกล้ตัว จากสื่อต่างๆ
ป.๔ ๑. ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวม การใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้นและการ รวบรวมค˚าศพั ทท่เี กย่ี วขอ้ ง
ขอ้ มูลตา่ งๆ ใกล้ตัว จากสื่อและแหล่ง
การเรียนร้ตู า่ งๆ
ป.๕ ๑. ใช้ภาษาต่างประเทศในการสบื ค้น และรวบรวม การใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบค้นและการ
ข้อมูลตา่ งๆ รวบรวมค˚าศพั ทท่เี กี่ยวขอ้ งใกล้ตวั จากส่ือและแหลง่ การเรยี นร้ตู ่างๆ
ป.๖ ๑. ใช้ภาษาต่างประเทศในการสบื คน้ และรวบรวม การใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบค้นและการ
ข้อมูลตา่ งๆ รวบรวมค˚าศพั ทท่เี กี่ยวขอ้ งใกล้ตวั จากส่ือและแหลง่ การเรยี นรู้ต่างๆ
โครงสร้างหลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ
รายวชิ าพน้ื ฐาน จ˚านวน 120 ชวั่ โมง
อ 11101 ภาษาอังกฤษ จ˚านวน 120 ชว่ั โมง
อ 12101 ภาษาองั กฤษ จ˚านวน 120 ชว่ั โมง
อ 13101 ภาษาอังกฤษ จ˚านวน 80 ช่ัวโมง
อ 14101 ภาษาอังกฤษ จ˚านวน 80 ชั่วโมง
อ 15101 ภาษาอังกฤษ จ˚านวน 80 ชั่วโมง
อ 16101 ภาษาอังกฤษ
รายวิชา ภาษาองั กฤษ คาอธบิ ายรายวชิ าพนฐาน รหสั วชิ า อ 11101
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 1 เวลาเรยี น 120 ชวั่ โมง
ศึกษา เรยี นรู้ ค˚าสง่ั ทใี่ ชใ้ นห้องเรยี น ตัวอักษร เสยี งตวั อักษร และสระ ของภาษาตา่ งประเทศ และ ภาษาไทย การสะกดค˚าและหลักการออกเสียง
ค˚า กลุ่มค˚า และความหมาย เก่ยี วกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สงิ่ แวดล้อมใกล้ตวั อาหาร เคร่ืองดื่ม และนันทนาการ ภายในวงค˚าศัพทประมาณ 150-
200 ค˚า บทอ่าน เก่ียวกบั เร่ืองใกล้ตวั หรอื นิทานท่ีมภี าพประกอบ บทสนทนาท่ีใช้ในการทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ ค˚าศัพท ส˚านวนภาษา
ประโยคที่ใช้บอกความต้องการ การแนะน˚าตนเอง ประโยคท่ีใช้ขอและใหข้ ้อมูลเก่ยี วกับ ตนเอง บุคคลและเรือ่ งใกล้ตัว วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ค˚าศพั ท
เก่ยี วกับเทศกาลส˚าคัญ ของเจ้าของภาษา กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมท่ีเหมาะสมกับวยั ค˚าศัพทท่ีเกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระ การเรียนรอู้ ่ืน การใช้ภาษา ใน
การฟัง การพูดในสถานการณง่าย ๆ ท่เี กิดขนึ้ ในห้องเรียน การใช้ภาษาต่างประเทศในการรวบรวมค˚าศัพทที่ เกย่ี วขอ้ งใกล้ตัว
โดยใช้ทักษะการส่อื สาร ฝกึ ปฏบิ ัติ เลือก ระบุ ตอบค˚าถาม รวบรวม ท˚าท่าทางประกอบ และ เขา้ รว่ ม กจิ กรรม เพอ่ื ให้เกดิ ความรู้ ความคิด ความ
เข้าใจ สามารถน˚าเสนอ ส่ือสารส่ิงท่เี รียนรู้
ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน มีเจตคติท่ีดีต่อการใช้ภาษาต่างประเทศ มารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
สาระทอ้ งถิน่
- วฒั นธรรมทางภาษาท่ีใช้ในการสอื่ สาร เชน่ การทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ
ตัวชว้ี ัด ป 1/2 ป 1/3 ป 1/4
ต 1.1 ป 1/1 ป 1/2 ป 1/3 ป 1/4
ต 1.2 ป 1/1
ต 1.3 ป 1/1 ป 1/2 ป 1/3
ต 2.1 ป 1/1
ต 2.2 ป 1/1
ต 3.1 ป 1/1
ต 4.1 ป 1/1
ต 4.2 ป 1/1
รวม 16 ตัวชวี้ ัด
รายวิชา ภาษาองั กฤษ คาอธบิ ายรายวชิ าพนฐาน รหสั วชิ า อ 12101
กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 เวลาเรยี น 120 ชว่ั โมง
ศึกษา เรยี นรู้ ค˚าสง่ั และค˚าของรอ้ งที่ใช้ในหอ้ งเรยี น ตัวอกั ษร เสยี งตัวอกั ษร และสระ ของ ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย การ
สะกดค˚า ความหมายของค˚า ประโยค หลกั การอา่ นออกเสยี ง ค˚า กลุ่มค˚าประโยคท่ีเกี่ยวกับตนเอง ครอบครวั โรงเรียน ส่ิงแวดล้อมใกล้ตัว อาการ เครือ่ งด่มื
และนันทนาการ เปนวง ค˚าศัพทสะสมประมาณ 250-300 ค˚า ประโยค บทสนทนา หรอื นิทานที่มภี าพประกอบ บทสนทนาท่ีใช้ใน การทกั ทาย กล่าว
ลา ขอบคุณ ขอโทษ ค˚าศัพท ประโยค ข้อความ และส˚านวนภาษา ที่ใช้ในการแนะน˚าตนเอง บอกความตอ้ งการ การให้ข้อมูลเกย่ี วกับตนเอง บุคคลและเรอ่ื ง
ใกล้ตวั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา ค˚าศัพท เก่ียวกบั เทศกาลส˚าคัญของเจ้าของภาษา กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมทเ่ี หมาะสมกับวัย ค˚าศัพท
ที่ เกี่ยวข้องกบั กล่มุ สาระการเรยี นรู้อน่ื การใช้ภาษาในการฟงั การพดู ในสถานการณง่าย ๆ ท่เี กิดข้นึ ในหอ้ งเรียน การใช้ภาษาต่างประเทศเพื่อรวบรวมค˚าศัพท
ท่ีเกี่ยวข้องใกล้ตัว
โดยใชท้ ักษะการสอ่ื สาร ฝกึ ปฏบิ ตั ิ เลือก ระบุ ตอบค˚าถาม ท˚าท่าทางประกอบ และเขา้ รว่ มกจิ กรรม เพอ่ื ให้เกดิ ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ
สามารถน˚าเสนอ ส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้
ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน มีเจตคติท่ีดีต่อการใชภ้ าษาต่างประเทศ มารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
ตัวชว้ี ัด ป 2/4
ต 1.1 ป 2/1 ป 2/2 ป 2/3 ป 2/4
ต 1.2 ป 2/1 ป 2/2 ป 2/3
ต 1.3 ป 2/1
ต 2.1 ป 2/1 ป 2/2 ป 2/3
ต 2.2 ป 2/1
ต 3.1 ป 2/1
ต 4.1 ป 2/1
ต 4.2 ป 2/1
รายวิชา ภาษาองั กฤษ คาอธบิ ายรายวชิ าพนฐาน รหสั วชิ า อ 13101
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 เวลาเรียน 120 ชวั่ โมง
ศกึ ษา เรียนรู้ ค˚าส่ังและค˚าขอร้องท่ีใช้ในห้องเรียน ค˚า กลุ่มค˚า ประโยคเด่ียว บทพูดเข้าจังหวะ การ สะกดค˚า การใชพ้ จนานุกรม หลกั การ
อ่านออกเสียง สัญลกั ษณและความหมายเกย่ี วกบั ตนเอง ครอบครวั โรงเรียน ส่งิ แวดลอ้ มใกล้ตวั อาหาร เคร่อื งดื่มและนันทนาการ เปนวงค˚าศัพทสะสม
ประมาณ 350 - 450 ค˚า ประโยค บทสนทนา หรอื นิทานท่มี ภี าพประกอบ บทสนทนาที่ใช้ในการทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ ประโยค ขอ้ ความ
และส˚านวนภาษาทใ่ี ช้ในการแนะน˚าตนเอง บอกความตอ้ งการ การใหข้ ้อมูลเกยี่ วกบั ตนเอง แสดงความรู้สกึ กลุ่มค˚าท่ีมีความหมายเก่ียวกบั เก่ียวกับบุคคล
สัตว ส่ิงของ มารยาทสังคม วฒั นธรรมของ เจ้าของภาษา ค˚าศัพททเ่ี ก่ียวกับเทศกาล วนั ส˚าคัญ งานฉลองและชีวิตความเป็นอยูข่ องเจ้าของภาษา
กจิ กรรม ทางภาษาและวัฒนธรรมทเี่ หมาะสมกับวัย ความแตกต่างของเสียงตัวอกั ษร กลมุ่ ค˚าและประโยคของภาษา ต่างประเทศและภาษาไทย ค˚
าศัพทท่ีเกีย่ วข้องกับกลุ่มสาระการเรยี นรอู้ ่ืน การใชภ้ าษาในการฟงั การพูดใน สถานการณง่าย ๆ ที่เกิดขึ้นในหอ้ งเรียน การใช้ภาษาต่างประเทศ ในการ
รวบรวมค˚าศัพทท่ีเกี่ยวข้องใกล้ตัว
โดยใช้ทกั ษะการสอ่ื สาร ฝกึ ปฏิบตั ิ เลือก ระบุ ตอบค˚าถาม ท˚าท่าทางประกอบ เข้ารว่ มกิจกรรม และจดั หมวดหมู่ เพ่อื ใหเ้ กดิ ความรู้ ความคิด
ความเขา้ ใจ สามารถน˚าเสนอ สื่อสารสงิ่ ทเ่ี รยี นรู้
ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน มีเจตคติท่ีดีตอ่ การใช้ภาษาต่างประเทศ มารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
สาระทอ้ งถ่นิ
- วฒั นธรรมทางภาษาท่ีใช้ในการสอ่ื สาร เชน่ การทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ การแนะน˚าตนเอง การถามและตอบเพื่อให้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเองและเรือ่ งใกล้ตัว
รหสั ตัวช้วี ดั ป 3/3 ป 3/4
ป 3/3 ป 3/4 ป 3/5
ต 1.1 ป 3/1 ป 3/2
ต 1.2 ป 3/1 ป 3/2 ป 3/3
ต 1.3 ป 3/1 ป 3/2
ต 2.1 ป 3/1 ป 3/2
ต 2.2 ป 3/1
ต 3.1 ป 3/1
ต 4.1 ป 3/1
ต 4.2 ป 3/1
รวม 18 ตัวช้วี ดั
อ 14101 ภาษาองั กฤษ ค อธบิ ายรายวชิ าพนฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
ภาษาต่างประเทศ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 4 เวลา 80 ชว่ั โมง
เข้าใจค˚าสัง่ ค˚าขอร้องและค˚าแนะน˚าง่ายๆที่ฟังหรืออ่าน สะกดค˚า อ่านออกเสยี งค˚า กลมุ่ ค˚า ประโยค ขอ้ ความง่ายๆ และบทพูดเข้าจังหวะ
ถูกต้องตามหลกั การอา่ น เลือก / ระบุภาพ หรอื สัญลักษณ หรือ เครอ่ื งหมายตรงตามความหมายของประโยค และข้อความสั้นๆที่
ฟังหรอื อ่าน ตอบค˚าถามจากเรอ่ื งที่ฟงั บทสนทนา และนทิ านงา่ ยๆ เขา้ ใจความแตกตา่ งของเสยี ง ตัวอักษร ค˚า กลมุ่ ค˚า ประโยค และข้อความของ
ภาษาองั กฤษและภาษาไทย เขา้ ใจเทศกาล / วันส˚าคัญ / งานฉลอง และชวี ิตความเปน็ อยู่ง่ายๆของเจ้าของ ภาษา ความเหมอื นและความ
แตกต่างระหวา่ งเทศกาล และงานฉลองตามวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษากับของไทย และเข้ารว่ มกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมทเี่ หมาะกับวัย สนทนา
ทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ พูดแทรกอยา่ งสุภาพ แนะน˚าตนเอง เพ่อื น พร้อมตอบรับ ใช้ค˚าส่ัง ค˚าขอรอ้ ง
และค˚าอนุญาตง่ายๆ โดยท˚า ท่าทางประกอบอย่างสุภาพตามมารยาทสังคม และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา พูด / เขยี นเพอ่ื แสดงความ คิดเหนง่ายๆ
แสดงความตอ้ งการของตนเอง และขอความชว่ ยเหลือในสถานการณต่างๆ รวมทง้ั ให้ข้อมูล เก่ยี วกบั ตนเอง เพอื่ นและครอบครวั เพื่อแสดง
ความรู้สึกของตนเอง เกีย่ วกับเรอ่ื งใกล้ตัว และกจิ กรรมต่างๆ ระบุ / เชื่อมโยงความสัมพันธของภาพกับค˚า หรือกลมุ่ ค˚า โดยใช้ภาพ แผนภูมิ แผนภาพและ
แผนผัง
โดยใช้กระบวนการสอนภาษา กระบวนการกลุ่ม และกระบวนการคดิ ในการฝกึ ออกเสยี ง ฟัง พดู อา่ นและเขยี น เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นเกดิ ความรู้
ความเข้าใจ สามารถส่อื สารส่ิงที่เรียนรู้ สนใจเขา้ รว่ มกจิ กรรมทาง ภาษาและวัฒนธรรม รวมถงึ การรวบรวมความร้แู ละแสวงหาความเพลดิ เพลินจาก
ภาษาอังกฤษ
รหสั ตัวช้วี ดั
ต. 1.1.1, ต.1.1.2, ต.1.1.3, ต.1.1.4
ต. 1.2.1, ต.1.2.2, ต.1.2.3, ต.1.2.4, ต.1.2.5ต. 1.3.1, ต.1.3.2,
ต.1.3.3
ต. 2.1.1, ต.2.1.2, ต. 2.1.3
ต. 2.2.1, ต. 2.2.2
ต. 3.1.1
ต. 4.1.1
ต. 4.2.1
รวมทง้ั หมด 20 ตัวช้วี ัด
รายวชิ า ภาษาองั กฤษ ค าอธบิ ายรายวชิ าพนฐาน รหสั วชิ า อ 15101
กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 เวลาเรยี น 80 ชวั่ โมง
ศกึ ษา เรียนรู้ ค˚าสัง่ ค˚าขอร้อง ท่ใี ช้ในหอ้ งเรยี น ภาษาท่าทาง ค˚าแนะน˚าง่าย ๆ ประโยค ขอ้ ความ บทกลอน การใช้พจนานุกรม หลักการ
อ่านออกเสียง กล่มุ ค˚า ประโยคผสม ข้อความ สัญลักษณ เคร่ืองหมาย และความหมายเก่ยี วกบั ตนเอง ครอบครวั โรงเรยี น สงิ่ แวดลอ้ ม อาหาร เคร่ืองด่มื
เวลาว่างและนนั ทนาการ สุขภาพและสวัสดิการ การซอื้ ขาย ลมฟ้าอากาศ และเปนวงค˚าศพั ทสะสมประมาณ 750-950 ค˚า ประโยค บทสนทนา นิทาน
หรือเรื่องส้ัน ๆ ค˚าถามเก่ียวกับใจความส˚าคัญของเร่ือง บทสนทนาที่ใช้ในการทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ ชมเชย การพูดแทรกอย่างสุภาพ
ค˚าสั่ง ค˚าขอร้อง ค˚าขออนุญาต ค˚าแนะน˚าที่มี 1-2 ขน้ั ตอน ค˚าศัพท ประโยค ข้อความ ส˚านวนภาษา ทีใ่ ช้ขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง แนะน˚
าตนเอง เพือ่ น บคุ คลใกล้ตัว บอกความต้องการ ขอความช่วยเหลอื ตอบรับ ปฏเิ สธการใหค้ วามชว่ ยเหลอื พดู แสดง ความรสู้ กึ แสดงความคดิ เหนและการให้
เหตุผลประกอบ เคร่ืองหมายวรรคตอน ภาพ แผนผัง แผนภมู แิ สดงขอ้ มูลต่าง ๆ การใช้ถ้อยค˚า น้˚าเสียง และกิริยาท่าทางตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรม
ขอ้ มูลและความส˚าคัญ ของเทศกาล วันส˚าคัญ งานฉลองและชีวิตความเปนอยู่ของเจ้าของภาษา กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม ความเหมอื น
ความแตกต่าง ระหว่างการออกเสยี ง ประโยคชนดิ ต่าง ๆ การใชเ้ ครอื่ งหมายวรรคตอน และการล˚าดับค˚าตาม
โครงสร้างประโยค ของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย เทศกาลและงานฉลองของเจ้าของ ภาษากับของไทย การค้นคว้า การรวบรวม และการน˚า
เสนอค˚าศัพทที่เก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน การใชภ้ าษาในการฟัง พดู อ่าน เขียน ในสถานการณตา่ ง ๆ ที่เกดิ ขนึ้ ในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา
การใช้ ภาษาต่างประเทศในการสืบค้นและรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ
โดยใช้ทกั ษะการสื่อสาร ฝึกปฏิบัติ เลือก ระบุ ตอบค˚าถาม ท˚าท่าทางประกอบ เข้าร่วมกิจกรรม ศึกษาค้นคว้า รวบรวม น˚าเสนอ และ
สืบค้นข้อมูล เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถ น˚าเสนอ สื่อสารสงิ่ ที่เรียนรู้
ใฝ่รู้ ใฝเ่ รียน มีเจตคติท่ีดีตอ่ การใช้ภาษาต่างประเทศ มารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
รหัสตัวชว้ี ดั
ต 1.1 ป 5/1 ป 5/2 ป 5/3 ป 5/4
ต 1.2 ป 5/1 ป 5/2 ป 5/3 ป 5/4 ป 5/5
ต 1.3 ป 5/1 ป 5/2 ป 5/3
ต 2.1 ป 5/1 ป 5/2 ป 5/3
ต 2.2 ป 5/1 ป 5/2
ต 3.1 ป 5/1
ต 4.1 ป 5/1
ต 4.2 ป 5/1
รวม 20 ตัวชวี้ ดั
รายวชิ า ภาษาองั กฤษ ค าอธบิ ายรายวชิ าพนฐาน รหสั วชิ า อ 16101
กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 เวลาเรยี น 80 ชวั่ โมง
ศึกษา เรียนรู้ ภาษาท่าทาง ค˚าแนะน˚า ข้อความ นิทาน บทกลอน การใชพ้ จนานุกรม หลกั การ อา่ นออกเสียง ประโยคหรอื ขอ้ ความ
สัญลกั ษณ เครอื่ งหมายและความหมายเกีย่ วกับตนเอง ครอบครวั โรงเรียน สงิ่ แวดล้อม อาหารเคร่ืองดื่ม เวลาว่างและนันทนาการ สขุ ภาพและ
สวัสดิการ การซอื้ ขาย ลมฟ้า อากาศ และเปนวงค˚าศัพทสะสมประมาณ 1,050-1,200 ค˚า ประโยค บทสนทนา นิทานหรอื เรอื่ งเลา่ ค˚าถาม
เกย่ี วกับใจความส˚าคัญของเรื่อง บทสนทนาที่ใช้ในการกล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ ชมเชย การพูดแทรก อย่างสุภาพ ค˚าส่ัง ค˚าขอรอ้ ง ค˚าขออนุญาต
และค˚าแนะน˚าทีม่ ี 2-3 ข้ันตอน ค˚าศัพท ประโยค ข้อความ ส˚านวนภาษา ท่ีใช้ขอและให้ข้อมูลเก่ียวกับตนเอง แนะน˚าตนเอง เพ่ือน บุคคลใกล้ตวั บอก
ความต้องการ ขอ ความชว่ ยเหลอื ตอบรบั ปฏิเสธการใหค้ วามชว่ ยเหลือ การพูดแสดงความรู้สึก แสดงความคิดเหนและการให้ เหตุผลประกอบ ค˚า
กลมุ่ ค˚า และประโยคท่ีมีความหมายสัมพันธกับภาพ แผนผัง แผนภมู ิและตาราง การใช้ ถอ้ ยค˚า น้˚าเสียงและกิรยิ าท่าทางอย่างสุภาพ เหมาะสม ตาม
มารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ข้อมลู และความส˚าคัญของเทศกาล วนั ส˚าคัญ งานฉลอง และชีวิตความเปนอยู่ของเจ้าของภาษา กจิ กรรม
ทางภาษาและวัฒนธรรม ความเหมือน ความแตกต่าง ระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนิดต่าง ๆ การใช้ เครอ่ื งหมายวรรคตอนและการล˚าดับตาม
โครงสร้างประโยค ของภาษา ต่างประเทศและภาษาไทย เทศกาล งานฉลอง ประเพณี ของเจ้าของภาษากับของไทย การค้นควา้ การรวบรวม และ
การน˚าเสนอค˚าศพั ท ที่ เกย่ี วขอ้ งกับกลุ่มสาระการเรยี นรอู้ ื่น การใช้ภาษาสื่อสาร ในสถานการณต่าง ๆ ทเ่ี กิดขนึ้ ในหอ้ งเรียนและ สถานศกึ ษา การใช้
ภาษาต่างประเทศในการสืบค้นและรวบรวมค˚าศัพททเี่ ก่ยี วข้องใกล้ตัว
โดยใช้ทกั ษะการสอื่ สาร ฝกึ ปฏิบัติ เลอื ก ระบุ ตอบค˚าถาม ท˚าทา่ ทางประกอบ เข้าร่วมกจิ กรรมศึกษาค้นคว้า รวบรวม น˚าเสนอ และ
สบื คน้ ข้อมูล เพือ่ ให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถ น˚าเสนอ สอ่ื สารสิ่งทีเ่ รียนรู้
ใฝ่รู้ ใฝเ่ รยี น มีเจตคติที่ดีตอ่ การใช้ภาษาต่างประเทศ มารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
สาระทอ้ งถ่ิน
วฒั นธรรมทางอาหารและเครือ่ งด่ืมพ้ืนบ้าน วฒั นธรรมประเพณี สถานที่ส˚าคัญและแหล่ง
ทอ่ งเทยี่ ว ในท้องถ่ิน การละเล่นพืน้ บ้าน และสินค้าในท้องถิ่น
รหัสตัวชวี้ ดั
ต 1.1 ป 6/1 ป 6/2 ป 6/3 ป 6/4
ต 1.2 ป 6/1 ป 6/2 ป 6/3 ป 6/4 ป 6/5
ต 1.3 ป 6/1 ป 6/2 ป 6/3 ต 2.1 ป 6/1
ป 6/2 ป 6/3 ต 2.2 ป 6/1 ป 6/2
ต 3.1 ป 6/1 ต 4.1 ป
6/1 ต 4.2 ป6/1
รวม 20 ตัวชวี้ ัด
โครงสรา้ งรายวชิ า
การจดั ท าโครงสรา้ งรายวชิ า
รายวชิ าแต่ละรายวิชาน้ันประกอบดว้ ยหนว่ ยการเรยี นร้หู ลายหนว่ ย ซึ่งได้วางแผนและออกแบบไว้ เพือ่ พัฒนาผ้เู รียนให้มีคุณภาพตามเป้าหมาย การจัดท˚า
โครงสร้างรายวิชาจะช่วยให้ผู้สอนและผเู้ กี่ยวข้องเหน ภาพรวมของแต่ละรายวชิ า เพื่อได้ทราบวา่ รายวชิ านนั้ ประกอบดว้ ยหนว่ ยการเรียนรจู้ ˚านวนเทา่ ใด เร่อื งใดบา้ ง แต่ละหนว่ ย
พัฒนาให้ผู้เรียนบรรลุตวั ชี้วัดใด ใช้เวลาในการจัดการเรียนการสอนเท่าใด สัดสว่ นการเกบคะแนน ของรายวิชานั้นเป็นอยา่ งไร
โครงสร้างรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) มีดังนี้
รายวิชา ภาษาองั กฤษ โครงสรา้ งรายวชิ า ภาษาองั กฤษ พน้ื ฐาน รหสั วชิ า อ 11101
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ ประถมศกึ ษาปีที่ 1 เวลาเรยี น 120 ชวั่ โมง
หนว่ ยท่ี ชือ่ หน่วยการ มาตรฐานการเรียนรู้/ ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรู้ เวลา น้˚าหนกั
เรียนรู้ (ชั่วโมง) คะแนน
1 Fun withA-Z ต 1.1 ป.1/2 - เรียนรตู้ ัวอกั ษร (letter names)เสยี งตัวอกั ษรและ 18 6
สระ (letter sounds) และการสะกดค˚า หลกั การ
อ่านออกเสียง เช่น
- การออกเสียงพยัญชนะต้นค˚าและ
พยัญชนะท้ายค˚า
2 Hello ต 1.2 ป.1/1 - บทสนทนาท่ใี ช้ในการทักทาย กล่าวลา 16 6
ต 1.2 ป.1/4
ต 2.1 ป.1/1 ขอบคุณ ขอโทษและ ประโยค/ขอ้ ความที่ใช้
แนะน˚าตนเอง เช่น Hi/ Hello/ Good
morning/ Good afternoon/ Good
evening/ I am…/ Goodbye./ Bye./
Thank you. / I am sorry. etc.
- How are you? /I am…
- การถามชื่อ : What is your
name?/My name is …
3 One-Ten ต 3.1 ป.1/1 ค˚าศพั ทท่เี กยี่ วข้องกบั กลุ่มสาระการ เรียนรู้ 16 6
คณติ ศาสตร 16 6
4 My body ต 1.1 ป.1/3 Number 1-20 : 18 6
- Vocabulary: Parts of body
5 My ต 2.2 ป.1/1 - บอกอวยั วะตา่ งๆในรา่ งกายโดยใชป้ ระโยค This 10
first ต 4.2 ป.1/1 my …
Words เรียนรู้ Word Families กลุ่มค˚าทมี่ ี เสียงสระ
เดยี วกนั และมีรูปแบบ ตัวสะกดแบบเดยี วกัน (-
at, -an, - ad, -ar, -un, -ap, -en, -ut, -ig)
เชน่ cat – rat – hat – bat – fat
สอบกลางปี 1
หนว่ ย ชอ่ื หนว่ ย มาตรฐานการ สาระส าคญั เวลา น้ าหนกั
ท่ี การ เรียนรู้ เรียนร/ู้ ตัวชวี้ ัด (ชว่ั โมง) คะแนน
- บอกชอ่ื ค˚าศพั ทในห้องเรียน : book, pencil, eraser,
6 At School ต 1.1 ป.1/1 ruler, bag, chair, desk, clock, teacher and student 18 6
ต 1.2 ป.1/2 ect.
ต 4.1 ป.1/1 - ค˚าส่ังทใ่ี ช้ในห้องเรียน: Stand up.Run. Sit
down. Listen. Quiet!
Stop.
7 My Family ต 1.3 ป.1/1 - ค˚าศัพทสมาชกิ ในครอบครัว 16 6
8 My Food ต 1.2 ป.1/3 16 6
9 Animals ต 1.1 ป.1/4 - การพูดแนะน˚าสมาชิกในครอบครัว 16 6
10 Festival ต 2.1 ป.1/2 - การถาม-ตอบอายุ 6
ต 2.1 ป.1/3
- เรียนรู้ Vocabulary : colors
- เรยี นรู้ค˚าศพั ท Food (Fruits, Drinks, Vegetables,
etc.)
- บอกอาหารท่ชี อบและไม่ชอบWhat food
do you like? /
I like …
- บอกค˚าศัพทเก่ยี วกบั สัตว Goat, sheep,
horse, rabbit, cow, cat, rat, hen, dog,
pig,duck, bird, rabbit, etc.
- การใช้ “on” และ “in”
A cat in a hat.
- การเชือ่ มค˚าโดยใช้ andA hen and
a pig.
- อ่านออกเสียง สะกดค˚า และบอก ความหมายค˚าศพั ท 8
เกยี่ วกบั เทศกาลตา่ งๆได้
- เรียนรวู้ ัฒนธรรมของแต่ละเทศกาล
สอบปลายปี 1 30
รวมทง้ั ปี 120 100
รายวิชา ภาษาองั กฤษ โครงสรา้ งรายวชิ า ภาษาองั กฤษ พนื้ ฐาน รหสั วชิ า อ 12101
กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 เวลาเรียน 120 ชวั่ โมง
ล˚าดับ ชือ่ หนว่ ย การ มาตรฐานการเรยี นรู้/ ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรู้ เวลา น้˚าหนัก
ท่ี เรยี นรู้ (ชวั่ โมง) คะแนน
(๑๐๐)
๑ The ต ๑.๑ ป.๑/๓ต ๒.๒ - The Alphabet ตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวพิมพ ๑๖
Alphabet ป.๒/๑ ใหญ่ ตวั พิมพเลกทั้ง ๒๖ ตัว ๑๖ ๖
๒ My self ต ๑.๑ ป.๑/๒ - สระในภาษาอังกฤษ a ,e ,i, o , u ๕
-การอ่านและการเขียนตัวอักษร
ภาษาองั กฤษ
- Vocabulary A-Z : ass , bee , cat ,
deer ,egg , fish ,ink , jug , king ,lion ……
- Consonants sound
- Vowels sound
-การใช้ a/an น˚าหนา้ ค˚านาม
- Vocabulary Part of Body ( head ,
hair , eye , ear , nose , mouth , neck
- Numbers ๑ – ๑๐
- Pronoun He , She , It,I ,you ,
We , They
- การใช้ have , has
- การใช้ can , can not
- ค˚านามเอกพจน ค˚านามพหูพจน
- This , That,
- การเรยี งล˚าดับค˚าให้เปน็ ประโยค ( Rearrange )
- Question Word : What, Where ,How many
- Yes / No Question :
Is it a/an… ...................?
Yes, it is. / No, it is
not.
ล˚าดับ ชื่อหนว่ ย การ มาตรฐานการ สาระการเรียนรู้ เวลา น้˚าหนัก
ที่ เรียนรู้ เรียนรู้/ (ชวั่ โมง) คะแนน
ตวั ชว้ี ดั (๑๐๐)
๓ My Family ต ๑.๑ ป.๒/๔ต - Vocabulary : family grandfather ๑๖ ๖
๑.๓ ป.๒/๑
,grandmother , father , mother , etc ๙
- Family Tree
- การใช้ Verb to be เหมาะกบั Pronoun
- การใชhis , her ,my , your
-การเรียงล˚าดับค˚าให้เปน็ ประโยค (
Rearrange )
- Question Word : What, What doeshe / she look like
? , Who
-การตอบค˚าถามจากบทความหรอื บทอา่ นสน้ั ๆ
- Adjective : big , small ,fat , thin
,young ,old, beautiful , ugly , new ,…..
๔ My School ต ๑.๑ ป.๑/๑ - Vocabulary : Places in the school ๑๖
ต ๑.๒ ป.๒/๒ต ๔.๑ - Vocabulary : Things in the classroom
ป.๒/๑
-ประโยคค˚าสง่ั ค˚าขอรอ้ งในห้องเรียน
-บทสนทนาที่ใช้ในการทกั ทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอ
โทษ ข้อความที่ใช้ในการ แนะน˚าตนเอง เช่น Hi , Hello
, Good morning , How are you ? Thank you
. etc……
- This ,that ,these ,those
-There is , There are
-Numbers ๑๑ – ๒๐
- Question Word : What, Where,Who , How
many
ล˚าดับ ชอ่ื หนว่ ย การ มาตรฐานการ สาระการเรยี นรู้ เวลา น้˚าหนกั
ที่ เรยี นรู้ เรียนรู้/ (ชวั่ โมง คะแนน
ตัวชีว้ ดั - Vocabulary : Rooms in the house (๑๐๐)
๕ Environment -Vocabulary : Places , Occupations )
ต ๑.๒ ป.๒/๑ -บทสนทนาท่ีใช้ในการทกั ทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอ ๔
โทษ ข้อความท่ีใช้ในการ แนะน˚าตนเอง เช่น Hi , Hello ๑๕
, Good morning , How are you ? Thank you
. etc…และท่ีใช้ในชีวิตประจ˚าวัน
-Preposition in , on ,under ,between
, near
-What is he / she do ?ถามตอบเร่อื ง อาชพี
-What time is it ? ถามตอบเรอ่ื งเวลา
- Article “ The”
-Numbers ๒๑ –๓๐
- Shapes ( oval , circle )
- Height
- Colors : What is your favorite color?
๖ Food สอบกลางปี 1 ๑๐
Drinks And ต ๑.๒ ป.๒/๓ต ๔.๒ - Vocabulary : Food and drinks ,Fruits , ๒๐ ๘
ป.๒/๑ Vegetable
-บทสนทนาทใี่ ช้ในประจ˚าวัน เช่น Foods : What is
your favorite food
? My favorite food is.. . etc
- การรับประทานอาหารตามวัฒนธรรม ของเจา้ ของ
ภาษา
-I like ………/ I don’ t like…………..
-He / She likes …………..
-He /She doesn’t’ t like …..
- การใช้A / An /The
- การจดั หมวดหมตู่ ามประเภทของค˚าศพั ท
-การเรยี งล˚าดับข้ันตอนในการประกอบ อาหารแบบ
งา่ ย ๆ
- Countable Noun, UncountableNoun - How
much , How many
- These , Those
ล˚าดับ ชอื่ หนว่ ย การ มาตรฐานการ สาระการเรียนรู้ เวลา น้˚าหนกั
ท่ี เรียนรู้ เรียนรู้/ (ชวั่ โมง) คะแนน
ตัวชี้วดั (๑๐๐)
๗ My lovely ต ๑.๒ ป.๒/๔ - Vocabulary : pets , sports , hobby ๒๐ ๖
pets , activity
-บทสนทนาท่ใี ช้ในประจ˚าวัน เช่น Pets
: What is your favorite pets ?
My favorite pets is ….. .
Hobby: What is your favoritehobby?
My favorite hobby is................ etc
- I like …………/I don’ t like…………..
- He / She likes …………..
- He /She doesn’t’ t like …..
- การจัดหมวดหมตู่ ามประเภทของค˚าศัพท
-การใช้ have , has
- Can ในรูปประโยคบอกเลา่ ประโยค ปฏิเสธ
ประโยคค˚าถาม
-Question Word : WhatWhat can you
do ?
- Verb ตา่ งๆ ( run , stand )
- การใช้ my , your ,his
,her , its , our
๘ Let’s go to ต ๓.๑ ป.๒/๑ - Vocabulary : Animals in the zoo ๒๐ ๗
the zoo . , Wild animals , Sea animals ….
- Question Word : What
- Yes / No Question เช่น
Is it a /an ..............................? Is
this a /an.................. ... ?
Is that a /an................................?
Is these a /an................... ?
-บทสนทนาทีใ่ ช้ในประจ˚าวัน เชน่ Animals : What
is your favorite animal? My favorite animal is…..
.
-I like………… - I don’ t like…………
-การจัดหมวดหมู่ตามประเภทของค˚าศัพท
ล˚าดับ ช่อื หนว่ ย การ มาตรฐานการ สาระการเรยี นรู้ เวลา น้˚าหนัก
ที่ เรียนรู้ เรียนรู้/ (ชว่ั โมง) คะแนน
- Can ในรูปประโยคบอกเลา่ ประโยค ปฏิเสธ (๑๐๐)
ตัวช้วี ดั ประโยคค˚าถาม
- Verb ต่างๆ ( run , stand ) ๙
- การใช้ my , your ,his ,her , its ,our
-Adjective : big , small , tall ,short
, ( Opposite words )
๙ About ต ๒.๑ ป.๒/๑ต ๒.๑ - Vocabulary : ชื่อค˚าศพั ทเทศกาล ต่าง ๆ เช่น วนั 20
festivals ป.๒/๒ คริสตมาส วันขึ้นปีใหม่
ต ๒.๑ ป.๒/๓ วนั วาเลนไทน วันฮาโลวีน วนั ขอบคุณ พระเจ้า
-กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เช่น การเลน่ เกมการ
รอ้ งเพลง การเลา่ นทิ านประกอบท่าทาง
- Days / Months
- Cardinal numbers
- Question Word : What , When , Who , How
เชน่ (How about you)
- Yes / No Question เช่น
Is this a /an...................?
-บทสนทนาที่ใช้ในประจ˚าวัน เช่น festivals : What is
your favoritefestivals ?
My favorite festivals is…..
- I like………… /I don’ t like………
- Verb ต่างๆ เช่น celebrate
สอบปลายปี 1 30
รวมทง้ั ปี 120 100
โครงสร้างรายวิชา ภาษาองั กฤษ พน้ื ฐาน
รายวชิ า ภาษาองั กฤษ รหสั วชิ า อ 13101
กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เวลาเรยี น 160 ชวั่ โมง
ล าดบั ชอ่ื หนว่ ยการ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ สาระการเรยี นรู้ เวลา น้ าหนกั
ที่ เรียนรู้ ตวั ชว้ี ดั (ชวั่ โมง) คะแนน
1 Myself ต 1.1 ป. 3/1ต 1.1 ค˚าศัพท ๒๓ ๑๐
ป. 3/2 - first, family, how, spell
- shoulder, shoulders, finger, fingers, knee, knees, foot,
feet, toe, toes, boy, round
- a T-shirt, a shirt, socks, a dress, sandals,
- What’s your first name?
- My first name is…………….
- What’s your family name?
- My family name is………….
- How do you spell that?
- What is this?
- What are these?
- It’s a toe. It’s an eye.
- They are toes.
- Touch your............., please.
- What color is this?
- What color are these?
- It’s + color………………
- They + color…………..
- It’s a + color + shirt.
- They are + color + socks.
- Present Simple Tense
- How old is.................................?
- She/He is........... years old.
- What are you wearing?
- I am wearing a ……………
หน้าท่ที างภาษา
- พูดและให้ขอ้ มูลเกี่ยวกับเรื่องของตนเองและ ส่ิงรอบตัว
- พูดบอกเก่ยี วกบั เครอื่ งแต่งกายของตนเอง และเพอื่ น
ล าดบั ชอ่ื หนว่ ยการ มาตรฐานการเรยี นรู/้ สาระการเรยี นรู้ เวลา น้ าหนกั
ที่ เรยี นรู้ ตวั ชว้ี ดั (ชวั่ โมง) คะแนน
2 My Family ต 1.1 ป. 3/๓ ค˚าศัพท ๒๔ ๕
ต 1.1 ป. 3/๔ - ค˚าศพั ทบุคคลต่างๆในครอบครวั /สี/ค˚าสรรพ นาม
- ค˚าศพั ทอวัยวะส่วนประกอบบนใบหน้าและ ผม และ ค˚า
คุณศพั ทบอกขนาด long, short, big, small,
- ค˚าศัพท blond, curly, wavy, straight, glasses, wear
- ค˚าศพั ทอาชีพต่างๆ ได้แก่ shoemaker, park keeper, doctor,
dentist, vet, librarian,teacher, waiter, fireman,
policeman,farmer, postman, teacher, fire fighter,taxi
driver, nurse, cook, waiter, pilot,shoe shop,
park, hospital, library,school,
restaurant, fire station, policestation, farm ,flies, fight,
teach, bring,serve, catch, work, drive, treat, cook โครงสรา้ ง
- Who is this/that?
- He/She is my ………………….
- How many people are there inyour/his/her/
family?
- There are …number…people.
- Who are they?
- They are my/his/her……, and
me/him/her.
- They are my …. and me.
- They are her….and …ช่อื เพอ่ื น…….
- They are his …..and … ชอ่ื เพือ่ น…..
- What does she/he do?
- He/She is a........................occupation……- Who
teaches at school?
- The teacher.
- Do you want to be a/an ……?
- Yes, I do. / No, I don’t.
ล าดบั ชอื่ หนว่ ยการ มาตรฐานการ สาระการเรยี นรู้ เวลา น้ าหนกั
ท่ี เรยี นรู้ เรียนรู้/ตัวชวี้ ัด
(ชว่ั โมง) คะแนน
2 My Family ต 1.1 ป. 3/๓
ต 1.1 ป. 3/๔ - I want to be a/an…………………………..
- What do you do?
- I am a …… occupation……
- Where do you work?
- I work in a ….place…………….
- This is my father/mother/brother/sister/uncle/aunt
/Grandfather/grandmother
- He/She has got long hair (shorthair/curly
hair/straight hair/browneyes/black eyes/black
hair/grey hair/blond hair/brown hair/big
nose/small eyes
หน้าท่ีทางภาษา
- ขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับสมาชิกในครอบครัว
- การพูดบรรยายลกั ษณะของคนในครอบครวั
- การพดู และให้ขอ้ มูลเก่ยี วกบั ตนเองและบุคคลอืน่
- ขอและให้ข้อมูลเก่ยี วกบั อาชีพและหน้าที่ของ อาชพี น้ัน
๔ My School ต ๑.๒ ป. ๓/๔ต ๓.๑ ค˚าศพั ท ๑๘ ๑๐
ป. ๓/๑ - ค˚าศัพททบทวน Numbers ๑-๓๐
- ค˚าศัพท Numbers ๓๑-๕๐
- ค˚าศพั ท blackboard, window, computer, television, radio,
teacher, student, chair,desk, classroom, music room, computer
room, playground, library, restroom,swings, a seesaw, slides,
No fishing, Don’twalk on the grass, Don’t pick the flowers, Put
the garbage here, half past, quarter past…, quarter to …,
- Sunday, Monday, Tuesday, Wednesday, Thursday, Friday,
Saturday English, Thai, Art, Music, Math, Physical
Education,Science, January, February, March, April,
May, June, July, August, September,October, November,
December
ล าดบั ชอื่ หนว่ ยการ มาตรฐานการ สาระการเรยี นรู้ เวลา น้ าหนกั
ที่ เรยี นรู้ เรยี นรู้/ตัวชว้ี ัด (ชวั่ โมง) คะแนน
๔ My School ต ๑.๒ ป. ๓/๔ โครงสรา้ ง
ต ๓.๑ ป. ๓/๑ - What time is it? It is ……………………..
- Where is ……………..? She/He is in the ….
- Where are ………….? They are in the…….
- How many ………. are there in your
school?
- There are.............. in my school
- Do you like…. ชื่อวิชา ........................?
- Yes, I do./ No, I don’t.
- What subject do you like? I like………
- What subject don’t you like? I don’tlike……….
- Excuse me, what time is it? It’s………..
- How many (nouns) are there in theclassroom?
- There is + one + ค˚าศัพทเอกพจน
- There are
- - When do you study English?
- I study English on ……….. at ………….
- What is your favorite subject?
- My favorite subject is …………………….
- When is your birthday?
- It’s in ……(month)หน้าท่ี
ทางภาษา
- การถามตอบเกี่ยวกับจ˚านวนสง่ิ ต่างๆใน หอ้ งเรยี น
- การถามตอบเกย่ี วกับเวลาท่ีมีเศษเป็น ๑๕
นาที หรือครงึ่ ชวั่ โมง
- การถามตอบเกีย่ วกับวันเวลาเรียน
- การถามตอบเกี่ยวกบั วชิ าที่ชอบ
- การถามตอบเกี่ยวกับเดอื นเกิดของตวั เอง
สอบกลางปี 1 10
ล าดบั ท่ี ชอ่ื หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการ เรียนรู/้ สาระการเรยี นรู้ เวลา น้ าหนกั คะแนน
๕ Food andDrink ตัวชวี้ ัด (ชว่ั โมง
- ค˚าศัพท และประโยคทใี่ ช้ในการพูดคุยเก่ียวกับ อาหาร
ต ๑.๒ ป. ๓/๓ต ๑.๒ -ตัวอย่างประโยคท่ีใชก้ ารถาม-ตอบเก่ยี วกบั อาหาร )
ป. ๓/๕ -การใชป้ ระโยคค˚าถามและค˚าตอบเก่ยี วกับอาหาร
- ประโยคที่ใช้ในการถามความต้องการและบอก ความตอ้ งการ ๒๑ ๕
เกยี่ วกับอาหารที่ชอบของแต่ละ บคุ คล
- ค˚าศพั ทเก่ียวกบั ชื่ออาหาร เชน่
- rice, sushi, noodles, pizza, hamburger, salad, fried egg, fried
fish, fried pork,fried chicken, water, orange juice, soft drink,
lemonade, milkshake, salt, cut, put, wash,squeeze, knife,
fruit, vegetable, apple, banana, orange, lemon, cabbage, onion,
carrot, tomato, cabbage, onion, carrot, tomato, hamburger,
chips, cake, candy, papaya, mango, durian, mangosteen,
cucumber, pumpkin, cabbage, tomato, healthy, unhealthy
- hungry, favorite, food, soup, ice creambread, curry
โครงสร้างประโยค เชน่
- What’s this/that? - It’s a ……………………
- Can I have a/an…................, please?
- Here you are. / Thank you.
- Are you hungry? - Yes, I am./No, I’m not.
- What is your favorite food?
- My favorite food is ………………..
- Do you like…............................................................?
- Yes, I do. / No, I don’t.
- Is it food or drink?
- It’s a kind of food/drink?
- Is it a fruit or a vegetable?
- It’s a kind of vegetable.
หนา้ ที่ทางภาษา: ถามตอบเก่ยี วกบั อาหารทชี่ อบ
ล าดบั ท่ี ชอื่ หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการ เรยี นร้/ู สาระการเรยี นรู้ เวลา น้ าหนกั คะแนน
ตัวชวี้ ัด (ชว่ั โมง ๙
๖ Nearby ค˚าศัพท
Environment ต ๑.๓ ป. ๓/๑ ต ๒.๒ - bank, supermarket, hospital, zoo, shop,swimming pool, )
ป. ๓/๑ ต ๑.๓ ป. ๓/ school, house, next to, behind, in front of, boat, train, bike,
๒ plane, bus, car, monkey, giraffe, tiger, lion, snake, elephant, deer, ๑๘
panda, zebra, fly, walk, jump, hop, climb, climb, crawl,
swim, forest, farm, river, Station, bridge, castle, mountain, sea,
school, park, beach, shop, home, pool, rule, litter, keep quiet,
feed, Do not litter, Do not feed the animals, Please keep
quiet,
โครงสร้าง
- What’s this? - It’s a/an… .................(สถานท่ี)
- Where do you live?
- I live near the ……สถานที่…….
- Where are you going?
- I’m going to the …. (สถานที่) …….
- Where are you going this weekend?
- I’m going to the ……สถานที่…….
- ประโยค Imperative
- Do not + v.๑ หรือ Don’t + v.๑
- Please + v.๑
- การใช้ Can หรอื Can’t
หนา้ ที่ทางภาษา
- ระบุชื่อสถานท่ีจากรูปภาพได้
- ถามและให้ข้อมูลเก่ียวกบั สถานท่ีใกล้ตัว
- ถามตอบเกี่ยวกบั สถานที่
- ถามตอบเกยี่ วกับสถานท่ี ท่จี ะไป
- การใหข้ อ้ ควรค˚านึงเก่ียวกบั กฎต่างๆในสวนสัตว
ล าดบั ชอื่ หนว่ ยการ มาตรฐานการเรยี นรู/้ สาระการเรยี นรู้ เวลา น้ าหนกั
ที่ เรียนรู้ ตวั ชว้ี ดั (ชวั่ โมง) คะแนน
๗ Recreation ต ๔.๑ ป. ๓/๑ ค˚าศัพท ๒๐ ๕
ต ๔.๒ ป. ๓/๑ - movie, cartoon, video game, pet, food ,comic book, TV
show, sport, favorite, like,surfing, rafting, biking, skating, bus, bike,
train,boat, plane, car, ship, horse, catch the ball,pick up the
ball, throw the ball, drop theball, jump up and catch the
ball, bounce โครงสร้าง
- What’s your favorite…............................................?
- I like ……………………………………………
- What sport do you like?
- I like …………………………………………..
- How do you go to ................................................................?
- Imperative ทบทวน walk, jump, run
- Imperative ใหม่ ( Catch the ball )
- Present Simple Tense เช่น I catch the ball. หน้าทที่ างภาษา
- การถามและการให้ขอ้ มูล
- การออกค˚าสั่งและปฏบิ ัตติ ามค˚าส่ัง
- การอ่านจับใจความส˚าคัญ
๘ Culture ต ๒.๑ ป. ๓/๑ ต ๒.๑ Festivals: ๑๔ ๖
- Father’s Day
ป. ๓/๒ ต ๒.๑ ป. ๓/
๓ - Mother’s Day
- Christmas Day
- New Year’s Day
- Valentines’ Day
- ค˚าศัพทที่เกี่ยวข้องกับวันส˚าคัญในเทศกาลงาน ฉลองตา่ งๆ
สอบปลายปี 1 30
รวมทง้ั ปี 160 100
รายวิชา ภาษาองั กฤษ โครงสร้างรายวชิ า ภาษาองั กฤษ พนื้ ฐาน รหสั วชิ า อ 14101
กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 เวลาเรียน 80 ชว่ั โมง
หน่ ชอ่ื หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการ เรียนร/ู้ สาระการเรยี นรู้ เวลา (ชว่ั โมง) น้ าหนกั
วยท่ี ตัวชวี้ ัด คะแนน
1 About Me ต 1.1 ป.4/1 การพูดค˚าศพั ทเกย่ี วกบั ร่างกาย ตวั เลข 12 12
ต 1.1 ป.๔/๒ เครอื่ งแต่งกาย และการใชโ้ ครงสร้าง 12 (3)
ต 1.2 ป.๔/3 ประโยคค˚าส่งั ค˚าขอร้องและปฏบิ ัติได้ อย่างถูกตอ้ งเปน (3)
ต 1.2 ป.๔/4 ขอ้ มูลส˚าคัญที่น˚าไปใช้ ในการส่ือสารในชีวิตประจ˚าวัน (3)
(3)
2 At the ต 1.1 ป.๔/3 และยงั
market ต 1.1 ป.๔/4 น˚าไปใช้ในการเรยี นรู้สาระการเรยี นร้อู นื่ 9
ต 1.2 ป.๔/5 ได้ (3)
(3)
การสนทนาเกีย่ วกบั อาหาร ผลไม้ การ บอกและถาม (3)
ราคา รวมทั้งกจิ วัตร
ประจ˚าวนั เป็นทักษะการสอื่ สารในชีวิตประจ˚าวัน และ
ยังน˚าไปใช้ในการเรียนรู้สาระการเรยี นรู้อื่นได้
3 The ต 1.2 ป.๔/1 การบอกสภาพอากาศในฤดตู ่างๆ และ 13 9
Weather ต 1.2 ป.๔/2 การบรรยายเครื่องแต่งกายให้เหมาสม กับฤดกู าลน้ัน (3)
ต 2.2 ป.๔/1 (3)
(3)
4 At the ต 1.1 ป.๔/3 กลางปี 1
market ต 1.1 ป.๔/4 12 10
ต 1.2 ป.๔/5 การสนทนาเกี่ยวกบั อาหาร ผลไม้ การ
บอกและถามราคา รวมท้งั กจิ วตั ร ประจ˚าวัน เปนทักษะ 9
การส่ือสารใน ชีวติ ประจ˚าวัน และยงั น˚าไปใช้ในการเรยี นรู้ (3)
สาระการเรียนรูอ้ ื่นได้ (3)
(3)
5 My ต 1.3 ป.4/3 การฟงั พูด อ่าน และเขยี นเกยี่ วกับ สถานท่ี 13 12
และอาชีพเปนข้อมูลที่น˚าไปใช้ ในการสื่อสารและ (3)
hometown ต 2.1 ป.4/1 (3)
ต 3.1 ป.4/1 ยังน˚าไปใช้ในการ เรียนรู้สาระการเรียนรู้อื่นได้ (3)
ต 4.2 ป.4/1
การบอกทิศทางเพ่อื ให้ข้อมูลดว้ ยค˚าประโยค (3)
สัญลกั ษณ เคร่อื งหมาย และ ความหมายของค˚าศัพทที่
เกีย่ วขอ้ งกบั ตนเองครอบครัว
หนว่ ย ชอ่ื หนว่ ย มาตรฐานการ สาระการเรยี นรู้ เวลา น้ าหนกั
ท่ี การเรยี นรู้ เรยี นรู้/ตัวชว้ี ัด (ชว่ั โมง) คะแนน
6 Sports การบรรยายเกย่ี วกับกฬี าและการ เปนทักษะ
ต 2.1 ป.4/2 เปรียบเทียบคนหรอื สัตว 13 9
ต 2.1 ป.4/3 (3)
ต 2.2 ป.4/2 การส่ือสารในชวี ิตประจ˚าวันและยัง 1 (3)
160 (3)
น˚าไปใช้ในการเรียนรู้สาระอื่นๆได้
30
สอบปลายปี 100
รวมทัง้ ปี