Egyptian Story จัด จั ทำ โดย เป็ดมะลิ Ped-Mali นำ เสนอ คุณครูสุ รู สุ รดา เต้นปัก ปั ษี รายงานวิชวิา การศึก ศึ ษาค้นคว้า(I32201) ปีการศึก ศึ ษา 2566 โรงเรีย รี นคุรุราษฎร์รัง รั สฤษฏ์ อำ เภอจอมบึง บึ จัง จั หวัด วั ราชบุรี สำ นัก นั งานเขตพื้น พื้ ที่การศึก ศึ ษามัธ มั ยมศึก ศึ ษา เขตที่8
คำ นำ รายงานเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาการศึกษาค้นคว้า(I32201) การ ศึกษาเรื่องราวของอียิปต์โบราณ โดยคณะผู้จัดทำ ศึกษาผ่านแหล่งความรู้ต่างๆ อาทิ หนังสือ วารสาร และอินเตอร์เน็ต โดยรายงานเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับ เทพ ความเชื่อ ประวัติศาสตร์ ฟาโรห์ ภาษา และศิลปะ รายงานโครงงานศิลปะ เรื่อง Egyption Story จัดทำ ขึ้นโดยได้รับการ ช่วยให้คำ แนะนำ จากครูที่ปรึกษาโครงงาน คือ อาจารย์สุรดา เต้นปักษี รวมทั้ง ยังให้คำ ปรึกษา ตรวจสอบ แก้ไข ข้อบกพร่องต่างๆ โครงงานศิลปะ เรื่อง Egyption Story นี้สำ เร็จลุล่วงได้ดี จึงขอขอบคุณ อาจารย์สุรดา เต้นปักษีและเพื่อนๆ ทุกคนที่ให้ความช่วยเหลือมาโดยตลอด คณะผู้จัดทำ หวังว่ารายงานเล่มนี้ที่ไปศึกษาค้นคว้า รวบรวมข้อมูล และเรียบ เรียงออกมาจะเป็นประโยชน์ให้แก่ผู้ที่ศึกษาเรื่องนี้ ทีมผู้จัดทำ เป็ดมะลิ Ped-Mali
สารบัญ บั ตำ นานเทพเจ้าของชาวอียิ อี ยิปต์ เทพเจ้ารา เทพเจ้าอามุน เทพเจ้าอานูบิส เทพเจ้าโอซิริส เทพีนูตและเทพเจ้ากบ เทพีเซคเมต เทพเจ้าฮอรัส เทพเจ้าธอธ เทพีไอซิส เทพีฮาเธอร์ เทพีมาอัภ เทพเจ้าเซธ ความเชื่อ ชื่ ของคนอียิ อี ยิปต์ ตำ นานมัมมี่ ตำ นานเทพเจ้าอานูบิส เครื่องรางแห่งการฟื้นคืนชีพ เอเลี่ยนอียิปต์ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18
ประวัติ วั ติ ศาสตร์ของอียิ อี ยิปต์ พระนามแห่งฟาโรห์ ช่วงก่อนยุคราชวงศ์แห่งอียิปต์ ช่วงสมัยราชวงศ์ตอนต้นแห่งอียิปต์ ช่วงสมัยราชอาณาจักรเก่าแห่งอียิปต์ ช่วงสมัยระหว่างกลางที่หนึ่งแห่งอียิปต์ ช่วงสมัยราชอาณาจักรกลางแห่งอียิปต์ ช่วงสมัยระหว่างที่สองแห่งอียิปต์ ช่วงสมัยราชอาณาจักรใหม่แห่งอียิปต์ (จักรวรรดิอียิปต์) ช่วงสมัยระหว่างกลางที่สามแห่งอียิปต์ สมัยปลายแห่งอียิปต์โบราณ ช่วงเฮลเลนิสติก ยุคโรมัน ภาษาอียิ อี ยิปต์ ศิล ศิ ปะอียิ อี ยิปต์ จิตรกรรม ประติมากรรม สถาปัตยกรรม ผู้จัด จั ทำ 19 22 24 26 28 30 32 33 40 44 48 51 53 54 57 58 59 60 61
ตำ นานเทพเจ้าของชาว อียิปต์ ในดินแดนอียิปต์โบราณหรือไอยคุปต์ (Ancient Egypt) ชาวอียิปต์นับถือและบูชาเทพเจ้าและเทพีมากกว่าพันองค์ ที่ ต่างก็เป็นตัวแทนของสิ่งที่แตกต่างกันออกไป และมีบทบาท ต่อการดำ เนินชีวิตของผู้คน อียิปต์โบราณถือว่ามีตำ นาน เทพเจ้าที่ซับซ้อนที่สุดแห่งหนึ่งในหมู่อารยธรรมโลกสมัย โบราณ โดยมีความเกี่ยวข้องกับการสร้างโลกและชีวิตหลังค วามตาย เทพเจ้าอียิปต์ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นมนุษย์ แต่ บางองค์มีศีรษะหรือร่างกายเป็นสัตว์อื่น ๆ ตำ นานเทพเจ้าอียิปต์โบราณมีความเชื่อว่าเทพเจ้าอวตาร มายังโลกมนุษย์ ซึ่งคล้ายกับความเชื่อแบบฮินดูของชาว อินเดีย อย่างไรก็ตาม ลักษณะเฉพาะของเทพเจ้าหรือเทพี แต่ละองค์นั้นไม่สามารถระบุได้แน่นอน เนื่องจากความ สำ คัญของเทพเจ้ามีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไป สอดคล้องกับการพัฒนาของสังคมอียิปต์ เ ท พ เ จ้ า 1
เทพเจ้ารา คือ สุริยเทพ และถือเป็นเทพสูงสุด แห่งอียิปต์ โดยเป็นหนึ่งในเทพเจ้าที่มีความ เกี่ยวข้องกับพระอาทิตย์ ในรูปเทพเจ้ารามักจะมี ลักษณะเด่นคือร่างกายมนุษย์และศีรษะเป็น เหยี่ยว พร้อมทั้งมีสัญลักษณ์รูปดวงอาทิตย์ซึ่งมี งูเห่าพันรอบอยู่เหนือศีรษะ ตำ นานเล่าว่าเทพเจ้าราล่องเรือบนฟากฟ้าทุก วัน ก่อนที่จะผ่านไปยังโลกหลังความตายหรือ The Underworld ช่วงกลางคืน ก่อนที่จะกลับ มาในโลกอีกครั้งเมื่อพระอาทิตย์ขึ้น ดังนั้น เทพเจ้าราจึงเป็นตัวแทนของการฟื้นคืนชีพ เปรียบดั่งพระอาทิตย์ที่ขึ้นทุกเช้า ชาวไอยคุปต์เชื่อว่าฟาโรห์หรือกษัตริย์ผู้ครอง อาณาจักรอียิปต์โบราณนั้นเป็นโอรสของ เทพเจ้ารา ดังนั้น เทพเจ้าราจึงถือว่ามีความ สำ คัญเป็นอย่างยิ่ง เทพเจ้ารา (Ra/Re) -เทพแห่ง ห่ ดวงอาทิต ทิ ย์หรือ สุริยเทพ เ ท พ เ จ้ า 2
เ ท พ เ จ้ า 3 เทพเจ้าอามุน คือ เทพเจ้าแห่งอากาศ ดวงอาทิตย์ และท้องฟ้า รวมทั้งยังได้ขึ้นชื่อว่าเป็นราชาแห่ง ปวงเทพของอียิปต์โบราณ เป็นผู้สร้างทุกสิ่งอย่าง ในจักรวาล ลักษณะของเทพเจ้าอามุนในรูปวาดมี ความแตกต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่จะมีศีรษะ เป็นมนุษย์ สวมกระโปรงแบบฟาโรห์ และสวม หมวกมงกุฎขนนกคู่ แต่บางครั้งมีศีรษะเป็นแกะ ต่อมาชาวอียิปต์ได้นำ มารวมกับเทพเจ้ารา เป็น เทพเจ้าอามุน-รา (Amun-Ra) และถือเป็น เทพเจ้าสูงสุดของตำ นานอียิปต์โบราณ รวมทั้งยัง ได้รับการยกย่องจากชาวกรีกให้เทียบเท่าเทพเจ้า ซุสเลยทีเดียว เทพเจ้าอามุน มุ (Amun/Amon) - ราชาแห่ง ห่ ปวงเทพและเทพ แห่ง ห่ อากาศ
เ ท พ เ จ้ า 4 เทพเจ้าอนูบิส คือ เทพเกี่ยวกับการจัดการ ดูแลผู้ที่เสียชีวิต และการเก็บรักษาศพ (Embalming) ตามความเชื่อของชาวอียิปต์ โบราณ ในรูปวาดมักจะมีร่างกายเป็นมนุษย์ ขณะที่ศีรษะเป็นหมาในสีดำ โดยเชื่อว่าความ สัมพันธ์ระหว่างหมาในกับความตายและงาน ศพนั้นมาจากการที่ชาวอียิปต์มักจะสังเกตเห็น หมาในบริเวณสุสาน ชาวอียิปต์โบราณที่ทำ หน้าที่ทำ มัมมี่นั้นนิยม แต่งตัวหรือใส่หน้ากากเทพเจ้าอนูบิสระหว่าง ขั้นตอนการทำ มัมมี่ นอกจากนี้ยังพบบทสวด ถวายเทพเจ้าอนูบิสในที่ฝังศพของชาวอียิปต์ โบราณส่วนใหญ่อีกด้วย เทพเจ้าอนูบิส (Anubis) - เทพแห่ง ห่ ความตายและการ เก็บ ก็ รักษาศพ
เทพเจ้า จ้โอซิริ ซิ สริ (Osiris) - เทพแห่ง ห่ โลกหลัง ลั ความตาย เทพเจ้าโอซิริส คือ เทพแห่งโลกหลังค วามตาย และเป็นผู้ตัดสินชะตาของ มนุษย์หลังจากที่เสียชีวิต ตำ นานเล่าว่า เทพเจ้าโอซิริสเป็นกษัตริย์ปกครอง อียิปต์ที่ถูกสังหารโดยเทพเจ้าเซธผู้เป็น น้องชาย จากนั้นเทพีไอซิส พระชายา ของเทพเจ้าโอซิริสได้นำ ร่างของพระ สวามีมาประกอบรวมกันอีกครั้ง ทำ ให้ ทั้งสองพระองค์มีบุตร ซึ่งก็คือเทพเจ้าฮ อรัส ที่กอบกู้อาณาจักรคืนจากเทพเจ้า เซธได้ในที่สุด ลักษณะของเทพเจ้าโอซิริสมักจะเห็น เป็นกษัตริย์ที่อยู่ในรูปมัมมี่ มองเห็นมือ และหน้าที่มีผิวสีเขียว มีเครา ถือคทาหัว ขอและแส้ นอกจากจะเป็นผู้พิพากษาใน โลกหลังความตายแล้ว เทพเจ้าโอซิริส ยังเป็นเทพเจ้าแห่งกษัตริย์ที่ฟื้นคืนชีพ และความอุดมสมบูรณ์อีกด้วย เ ท พ เ จ้ า 5
เทพเจ้าโอซิริส คือ เทพแห่งโลกหลังความตาย และเป็นผู้ตัดสิน ชะตาของมนุษย์หลังจากที่เสียชีวิต ตำ นานเล่าว่าเทพเจ้าโอซิริสเป็น กษัตริย์ปกครองอียิปต์ที่ถูกสังหารโดยเทพเจ้าเซธผู้เป็นน้องชาย จากนั้นเทพีไอซิส พระชายาของเทพเจ้าโอซิริสได้นำ ร่างของพระ สวามีมาประกอบรวมกันอีกครั้ง ทำ ให้ทั้งสองพระองค์มีบุตร ซึ่งก็คือ เทพเจ้าฮอรัส ที่กอบกู้อาณาจักรคืนจากเทพเจ้าเซธได้ในที่สุด ลักษณะของเทพเจ้าโอซิริสมักจะเห็นเป็นกษัตริย์ที่อยู่ในรูปมัมมี่ มองเห็นมือและหน้าที่มีผิวสีเขียว มีเครา ถือคทาหัวขอและแส้ นอกจากจะเป็นผู้พิพากษาในโลกหลังความตายแล้ว เทพเจ้าโอซิริส ยังเป็นเทพเจ้าแห่งกษัตริย์ที่ฟื้นคืนชีพและความอุดมสมบูรณ์อีกด้วย เทพีนู พี ต นู และเทพเจ้า จ้ เกบ (Nut and Geb) - เทพีแ พี ห่ง ห่ ท้องฟ้า ฟ้ และเทพแห่ง ห่ ผืน ผื ดิน ดิ เ ท พ เ จ้ า 6
เทพีเ พีซคเมต (Sekhmet) - เทพีแ พี ห่ง ห่ สงคราม เซคเมตป็นลูกสาวของเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์รา และเธอได้ทำ หน้าที่ล้างแค้นของเขา เธอสามารถอยู่ในร่างของ ดวงตาของรา ซึ่งเป็น ส่วนหนึ่งของร่างกายของเทพเจ้า แต่ก็เป็นเทพด้วยตัวของมันเอง เซคเมตป็นเทพีแห่งนักรบ แต่เธอก็เกี่ยวข้องกับการรักษาด้วยเช่น กัน ในภาพบางส่วนของเธอ เซคเมตปรากฏตัวพร้อมกับแผ่นสุริยะบน หัวของเธอ ภาพของเธอมักจะแสดงให้เธอเห็นว่าเธอเป็นสิงโตหรือเป็น เทพที่มีหัวเป็นสิงโต เมื่อเธออยู่ในสภาพที่สงบขึ้น เธอกลายร่างเป็น แมวบ้าน คล้ายกับเทพธิดา บาสเตตเซคเมตมีลักษณะพิเศษที่สวมชุด สีแดง เชื่อมโยงเธอกับเลือดและอารมณ์ที่ร้อนแรง บทบาทที่สำ คัญที่สุดอย่างหนึ่งของเธอคือเป็นเครื่องมือในการแก้ แค้น เธอจะทำ ตามคำ สั่งของรา และปลดปล่อยความโกรธของเธอใส่ผู้ ที่เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ต้องการทำ ร้าย นักเขียนบางคนเชื่อว่ารา สร้างเธอขึ้นมาเพื่อลงโทษและกำ จัดมนุษย์ออกจากโลกเพราะไม่ได้ใช้ ชีวิตอย่างสมดุลและยุติธรรม ตามหลักการของมาอัต เ ท พ เ จ้ า 7
เทพเจ้าฮอรัส คือ เทพเจ้าแห่งท้องฟ้า มีความเกี่ยวข้องกับ สงครามและการล่า เป็นบุตรของโอซิริสและไอซิส เทพ เจ้าฮอรัสเป็นที่นับถือทั่วอียิปต์จากเรื่องเล่าในตำ นานที่ได้ แก้แค้นแทนพระบิดา ด้วยการต่อสู้กับเทพเจ้าเซธผู้มีศักดิ์ เป็นอา ก่อนที่จะขึ้นเป็นกษัตริย์ของอียิปต์ในที่สุด โดย ตำ นานยังกล่าวว่าฮอรัสได้สูญเสียดวงตาระหว่างการต่อสู้ แต่เทพเจ้าธอธได้ช่วยรักษาให้ ทำ ให้สัญลักษณ์ตาของ ฮอรัส (Eye of Horus) กลายเป็นสัญลักษณ์ของการ ปกป้องคุ้มครอง สุขภาพ และการฟื้นคืน ลักษณะของเทพเจ้าฮอรัสมักจะมีร่างกายเป็นมนุษย์ ศีรษะเป็นเหยี่ยว ดวงตาข้างซ้ายคือพระอาทิตย์ ดวงตา ข้างขวาคือดวงจันทร์ ชาวอียิปต์โบราณยังมีความเชื่อว่า ฟาโรห์คือเทพเจ้าฮอรัสที่มาเกิดบนโลกมนุษย์ เทพเจ้า จ้ฮอรัสรั (Horus) - เทพแห่ง ห่ ท้อ ท้ งฟ้า เ ท พ เ จ้ า 8
เ ท พ เ จ้ า 9 เทพเจ้า ธอธเป็นเทพเจ้าแห่งปัญญา ในเทพนิยายอียิปต์ โบราณ เทพเจ้าแห่งดวงจันทร์ คณิตศาสตร์การแพทย์ ผู้ ประดิษฐ์อักษรอียิปต์โบราณ เครื่องมือของเทพเจ้า และ หนึ่งในเทพเจ้าหลักของเฮอร์โมโพลิส ในหนังสือแห่ง ความตาย เป็นภาพผู้พิพากษา เขาปรากฏเป็นร่างมนุษย์ สวมแผ่นดิสก์พระจันทร์เต็มดวง และไอบิสหงอนหรือลิง บาบูน เขาสอนฮอรัสในวัยเยาว์ และช่วยเขาปราบเซ็ต เพื่อทวงบัลลังก์คืน เขาเป็นเทพเจ้าแห่งปัญญา และการเรียนรู้ในเทพนิยาย อียิปต์ เขาและภรรยาของเขา มีลูกด้วยกันสิบคน ธอธมัก ถูกอธิบายว่า เป็นรูปคนที่มีหัวของนกกระสา โดยบอกถึง ความคิดและเหตุผล เขาถือสมุดบันทึกในมือ เพื่อบันทึก สิ่งต่างๆ ชาวอียิปต์เชื่อว่า เทพเจ้าธอธประดิษฐ์งานเขียน ขึ้น และเชื่อว่า พระองค์เป็นผู้เขียนเรื่องฮาเดส และคัมภีร์ แห่งความตาย เป็นของเขาเสร็จสมบูรณ์ เป็นที่เชื่อกัน อย่างกว้างขวางว่า เขาคิดค้นเวทมนตร์ที่น่าทึ่ง ในการ แยกตัวจากโลก เทพเจ้าธอธ (Thoth) - เทพแห่ง ห่ ความรอบรู้
เ ท พ เ จ้ า 1 0 เทพีไอซิส คือ เทพีผู้ปกป้องฟาโรห์หรือกษัตริย์ของอียิปต์โบราณ เทพีแห่ง มารดา เด็ก และการเยียวยารักษา ไอซิสมีความสำ คัญเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จน กลายเป็นเทพีที่มีความสำ คัญที่สุดในหมู่เทพอียิปต์โบราณ ชื่อของเทพีไอซิส (Isis) มาจากคำ ภาษาอียิปต์ว่า Eset หรือที่นั่ง ("the seat") ซึ่งสื่อถึงความมั่นคงและบัลลังก์ของอียิปต์ เนื่องจากถือว่าเทพีไอซิสเป็น มารดาของฟาโรห์ทุกพระองค์ ลักษณะของเทพีไอซิสนั้นรูปร่างเป็นสตรี สวม หมวกเป็นรูปดวงอาทิตย์ วงกลม หรือรูปเก้าอี้บัลลังก์บนศีรษะ ไอซิสเป็นธิดาของเทพีนูตและเทพเจ้าเกบ เทพีแห่งท้องฟ้าและเทพแห่งผืนดิน เป็นภรรยาของโอซิริส และมารดาของฮอรัส มีการเปรียบเทียบเทพีไอซิ สกับอะโฟรไดท์ (Aphrodite) ของกรีก เทพีไพี อซิส ซิ (Isis) - เทพีผู้ พี ปผู้ กป้อ ป้ ง
เ ท พ เ จ้ า 1 1 เมื่อกล่าวถึงเทพเจ้าในสมัยอียิปต์โบราณ ทุกคนคงจะนึกถึง เทพเจ้ารา โอซิริส เซธ ฮอรัส ซึ่งอาจเคยได้ยินหรือรู้จักผ่าน ตำ นานสงครามเทพเจ้า เทพเจ้าที่กล่าวมานั้นล้วนเกี่ยวข้องกับ สงคราม การเกิดของสรรพสิ่ง และความตาย แต่เทพเจ้าที่ชาว อียิปต์นับถือยังมีอีกหลายองค์ที่มีความสำ คัญ เมื่อมีสงคราม การเกิด และความตาย ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับชีวิต มนุษย์ นั่นก็คือความรัก ซึ่งเทพีแห่งความรักที่ได้รับการนับถือ จากชาวอียิปต์โบราณคือ เทพีฮาเธอร์ (Hathor) ฮาเธอร์ ทรงมีพระนามในภาษาอียิปต์ว่า เฮ็ท-เฮร์ท (Het-Hert) พระนางทรงเป็นเทพีที่ได้รับการเคารพอย่างกว้างขวางอีกองค์ หนึ่งทั่วแผ่นดินอียิปต์โบราณ นอกจากที่ทรงเป็นเทพีแห่งความ รัก พระนางยังทรงเป็นเทพีแห่งความงาม ความสุข พิธีกรรม ศิลปวิทยาการ การเกิดของเด็ก และคุณสมบัติที่ดีของเพศหญิง ลักษณะของพระนางส่วนศรีษะและลำ ตัวเป็นมนุษย์ บนศรีษะ สวมศิราภรณ์รูปเขาวัวคู่โอบดวงสุริยะ หรือปรากฏเป็นรูปวัวทั้ง ตัวและทรงถือซิสทรัม (เครื่องให้จังหวะในพิธีกรรม) เทพีฮพี าเธอร์ (Hร์ athor) - เทพีแ พี ห่ง ห่ ความรัก
เ ท พ เ จ้ า 1 2 เทพีม พี าอัท อั (Ma'at) - เทพีแ พี ห่ง ห่ ความยุติธ ติ รรม เทพีมาอัท คือ เทพีแห่งความจริง ความยุติธรรม และความ สามัคคี ในภาพเทพีมาอัทมักจะนั่งหรือยืน พร้อมกับมีขนนกกระ จอกเทศประดับศีรษะ รวมทั้งอาจมีปีกด้วย ตามความเชื่อของชาวอียิปต์โบราณ จักรวาลมีระเบียบแบบแผน และเทพีมาอัทคือผู้รักษาสมดุลนี้เอาไว้ ช่วยให้ชาวอียิปต์โบราณ มีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าต่อคุณธรรมและความยุติธรรม
เ ท พ เ จ้ า 1 3 เซต (อังกฤษ: Set) หรือ เซท (อังกฤษ: Seth) เป็น เทพแห่งความแห้งแล้ง พายุ ทะเลทราย ความวุ่นวาย ชั่วร้าย โหดเหี้ยม และสิ่งที่ไม่ดี เซตเป็นลูกคนที่ 3 ของเทพีนัต เซตอิจฉาเทพโอไซริสผู้พี่ จึงคิดกำ จัดโอ ไซริสเพื่อเป็นฟาโรห์แทน หลังจากโอไซริสกลับจาก การประพาสต้น เซตได้จัดงานฉลองครั้งใหญ่และให้ ลูกน้องปลอมตัวเป็นคณะละครสัตว์ ได้นำ หีบมาใบ หนึ่ง และเซตประกาศว่าเป็นหีบที่เทพราประทานใคร เข้าไปได้คือผู้มีบุญญาธิการ แต่หีบทำ โดยราชินีอาโส มเหสีของเซต ที่ลงตัวกับโอไซริส พอโอไซริสเข้าไป ทหารของราชินีอาโสก็หั่นหีบเป็นชิ้น ๆ และนำ โลงไป ลอยอังคาร จากนั้นเซตก็แกล้งทำ เป็นโดนอาโส หลอก จึงประหารอาโสพร้อมกับกบฏ ทั้งหมดเป็นไป ตามแผนของเซต เซตปลดไอซิสออกจากตำ แหน่ง มเหสี และ ได้อภิเสกสมรสกับเทพีเนฟทิส พอเทพฮ อรัสรู้ความจริงก็มาสู้กับเซต เซตกัดฮอรัสจนตาซ้าย หมองมัว แต่ฮอรัสก็ฆ่าเซตสำ เร็จ เทพเจ้า จ้ เซธ (Seth) - เทพแห่ง ห่ ความแห้ง ห้ แล้ง ล้ ทะเลทราย พายุ และความวุ่น วุ่ วาย
ค ว า ม เ ชื่ อ ข อ ง ค น อี ยิ ป ต์ มีเรื่องเล่าต่อกันมาว่า หากใครเปิดหลุมฝังพระศพขององค์ฟาโรห์ "ตุตันคามุน" จะต้องคำ สาป ทำ ให้มีอันเป็นไปอย่างน่าพิศวง เช่น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ ลอร์ด คาร์นาร์วอน และคณะสำ รวจของ โฮ เวิร์ด คาร์เตอร์ ที่ทำ การสำ รวจค้นหาสุสาน ฟาโรห์ ตุตันคามุน ซึ่ง ผลสุดท้ายแล้วนักสำ รวจทั้งหมดเสียชีวิตไปโดยที่แพทย์ไม่สามารถ วินิจฉัยอาการได้เลย ความเชื่อ ชื่ ของคนอียิ อีปยิ ต์ ค ว า ม เ ชื่ อ 1 4 คำ สาปขององค์ฟาโรห์
ค ว า ม เ ชื่ อ ข อ ง ค น อี ยิ ป ต์ ค ว า ม เ ชื่ อ 1 5 การทำ มัมมี่ถือว่าเป็นหัวใจสำ คัญอย่างหนึ่งของอารยธรรมอียิปต์ เพราะ ชาวอียิปต์เชื่อว่า เมื่อตายไปแล้ว วิญญาณจะจากร่างไป เพียงชั่วคราว เพื่อไปพบกับพระเจ้าในโลกหน้า เมื่อวิญญาณกลับ มาแล้วยังต้องมีร่างกายอยู่ และต้องเป็นร่างกายของตนเองเท่านั้น จึงเป็นที่มาของการทำ มัมมี่ ตำ นานมัม มั มี่
ก ษั ต ริ ย์ 3 ค ว า ม เ ชื่ อ 1 6 "อานูบิส" จะคอยนำ ดวงวิญญาณไปโลกหลังความตายเพื่อตัดสิน ผลกรรมที่ได้ทำ มา โดยเทพอานูบิสจะนำ หัวใจของผู้ตายมาชั่ง เทียบกับขนนก ถ้าหัวใจเบากว่าขนนกแสดงว่า ในขณะที่คนผู้นั้นมี ชีวิตอยู่ได้ทำ สิ่งเป็นกุศล จึงได้รับพรให้มีชีวิตอันเป็นนิรันดร์ ส่วน คนที่หัวใจหนักมากกว่าขนนก สัตว์อสูรอัมมุทที่นอนรออยู่ใต้ตาชั่ง ก็จะกินหัวใจของดวงวิญญาณดวงนั้นทันที ทำ ให้ดวงวิญญาณนั้น ตายสนิทถาวร ตำ นานเทพอานูบิส บิ
ก ษั ต ริ ย์ 3 ค ว า ม เ ชื่ อ 1 7 "แมลงสคารับ" เป็นสิ่งที่คนอียิปต์นับถือ ว่าเป็นเทพแห่งการเริ่มต้น ใหม่ และถ้าใครบูชาจะทำ ให้ฟื้นคืนชีพได้ แมลงสคารับจึงถูกสร้างเป็น เครื่องราง โดยเฉพาะเครื่องรางในพิธีการทำ มัมมี่ จะวางแมลงสคารับ อยู่ในผ้าที่ห่อหุ้ม หรือสลักหินเป็นรูปแมลงสคารับใส่ไว้แทนที่หัวใจ เครื่อ รื่ งรางแห่งการฟื้นคืน คื ชีพ ชี
ก ษั ต ริ ย์ 3 ค ว า ม เ ชื่ อ 1 8 มีความเชื่อกันว่า เอเลี่ยนบุกโลกมาตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ แล้ว สิ่งที่เสริมความเชื่อเรื่องนี้ คือภาพฝาผนังในสุสานเมืองกิ ซ่า ที่มีการวาดภาพของเอเลี่ยนปะปนอยู่ ด้วยเรื่องนี้ทำ ให้มี เรื่องเกี่ยวกับพีระมิด ที่ผู้คนสงสัยกันว่า ยุคนั้นมนุษย์ไม่มีทาง สร้างได้สูงขนาดนี้ได้ แต่อาจจะเป็นฝีมือการสร้างของเอเลี่ยน เอเลี่ย ลี่ นอียิ อี ยิปต์
ก ษั ต ริ ย์ 3 ประวัติศาสตร์ของอียิปต์โบราณจำ แนกตามยุคอาณาจักร ที่มั่นคง หรือที่รู้จักกันในยุค "ราชอาณาจักร" (Kingdoms) โดย มักแบ่งตามราชวงศ์ที่ขึ้นมาปกครองและยุคที่ไม่มีความแน่นอนที่ เรียกว่า "ช่วงต่อ" (Intermediate Periods) ยุคที่สำ คัญๆ ได้แก่ ราชอาณาจักรเก่าในช่วงต้นยุคสัมฤทธิ์ ราชอาณาจักร กลางในช่วงกลางยุคสัมฤทธิ์และราชอาณาจักรใหม่ในช่วงปลาย ยุคสัมฤทธิ์ ซึ่งในยุคราชอาณาจักรใหม่นี่เองที่อารยธรรใอียิปต์ โบราณถึงจุดสูงสุดโดยได้ปกครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของนูเบียและ ส่วนหนึ่งของตะวันออกใกล้ก่อนที่จะถดถอยไปอย่างช้าๆ ตลอดช่วงประวัติศาสตร์ อียิปต์ถูกรุกรานหรือยึดครองโดยต่าง ชาติหลายต่อหลายครั้ง กล่าวคือ โดยฮิกซอส ลิเบีย นูเบีย อัส ซีเรีย อคีเมนียะห์เปอร์เซียและมาเกโดเนียภายใต้การยึดครอง โดยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชเมื่อ 332 ปีก่อนคริสต์ศักราช ซึ่งทำ ให้ความเป็นอาณาจักรอียิปต์โบราณล่มสลายลง และจัด อียิปต์เป็นเพียงจังหวัดหนึ่งของจักรวรรดิมาเกโดเนีย ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร์ 1 9 ประวัติ วั ศติ าสตร์ ของอียิ อีปต์
ก ษั ต ริ ย์ 3 แม้กระนั้นเองความเป็นอารยธรรมอียิปต์โบราณก็ดำ รงอยู่ต่อไป ภายใต้ราชวงศ์ทอเลมีเชื้อสายกรีกที่ตั้งขึ้นภายหลังการสวรรคต ของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ และปกครองอียิปต์จนถึง 30 ปีก่อน คริสตกาล ภายใต้พระนางคลีโอพัตรา กระทั่งถูกจักรวรรดิโรมัน เข้ายึดครองและกลายมาเป็นจังหวัดหนึ่งของจักรวรรดิโรมัน เกิด การผสมผสานเข้ากับอารยธรรมผู้ปกครองเรื่อยมาจนเลือนหาย ไปในที่สุด อารยธรรมอียิปต์พัฒนาการมาจากสภาพของลุ่มแม่น้ำ ไนล์ การควบคุมระบบชลประทาน, การควบคุมการผลิตพืชผลทางการ เกษตร พร้อมกับพัฒนาอารยธรรมทางสังคม และวัฒนธรรม พื้นที่ของอียิปต์นั้นล้อมรอบด้วยทะเลทรายเสมือนปราการป้องกัน การรุกรานจากศัตรูภายนอก นอกจากนี้ยังมีการทำ เหมืองแร่ และอียิปต์ยังเป็นชนชาติแรกๆ ที่มีการพัฒนาการด้วยการเขียน ประดิษฐ์ตัวอักษรขึ้นใช้ การบริหารเน้นไปที่สิ่งปลูกสร้างและ การเกษตรกรรม พร้อมกันนั้นก็มีการพัฒนาการทางทหารของ อียิปต์ที่เสริมสร้างความแข็งแกร่งแก่ราชอาณาจักร โดยประชาชน จะให้ความเคารพกษัตริย์หรือฟาโรห์เสมือนหนึ่งเทพเจ้า ฟาโรห์ ทรงมีอำ นาจเด็ดขาดทำ ให้การบริหารราชการบ้านเมืองและการ ควบคุมอำ นาจนั้นทำ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร์ 2 0
ก ษั ต ริ ย์ 3 ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร์ 2 1 ชาวอียิปต์โบราณไม่ได้เป็นเพียงแต่เกษตรกรหรือช่าง ก่อสร้าง แต่ยัง เป็นนักคิด นักปรัชญา ผู้ได้มาซึ่งความ - รู้ใน ศาสตร์ต่าง ๆ มากมาย ตลอดพัฒนาการของอารยธรรมกว่า 4,000 ปี ทั้งคณิตศาสตร์ วิธีการสร้างพีระมิด วัด โอเบลิสก์ ตัวอักษร และ เทคนิคโลยีด้านกระจก นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาประสิทธิภาพทาง ด้านการแพทย์, ระบบชลประทานและการเกษตรกรรม สิ่งที่อียิปต์ทิ้ง ไว้เป็นมรดกแก่อนุชนรุ่นหลัง คือ ศิลปะและสถาปัตยกรรม ซึ่งถูกคัด ลอกนำ ไปใช้ทั่วโลก อนุสรณ์สถานที่ต่างๆ ในอียิปต์ต่างดึงดูดนัก ท่องเที่ยวและนักประพันธ์ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา ปัจจุบันมี การค้นพบวัตถุใหม่ ๆ ในอียิปต์มากมายซึ่งกำ ลังตรวจส ' อบถึง ประวัติความเป็นมา เพื่อเป็นหลักฐานแก่อารยธรรมอียิปต์ และ อารยธรรมของโลกต่อไป
พ ร ะ น า ม แ ห่ ง ฟ า โ ร ห์ 2 2 343 ปีก่อนคริสตกาล(สุดท้ายอย่างเป็นทางการ) 30 ปีก่อนคริสตกาล(ฟาโรห์กรีกองค์สุดท้าย) ค.ศ. 313(จักรพรรดิโรมันองค์สุดท้ายที่ได้รับฉายาว่าฟาโรห์) กษัตริย์องค์แรก : นาร์เมอร์ กษัตริย์องค์สุดท้าย : เนคทาเนโบที่ 2(ฟาโรห์ชาวอียิปต์พระองค์สุดท้าย) : คลีโอพัตรา และซีซาเรียน(ฟาโรห์พระองค์สุดท้าย) : แม็กซิมินัส ดาซา(ผู้ดำ รงตำ แหน่งฟาโรห์พระองค์สุดท้ายในนาม) สถาปนาเมื่อประมาณ 3100 ปีก่อนคริสตกาล การล้มล้าง ที่ประทับ : แตกต่างกันไปตามยุค ผู้แต่งตั้ง : ราชาศักดิ์สิทธิ์ การพรรณนาตามแบบฉบับของฟาโรห์ พระนามแห่ง ห่ ฟาโรห์
ก ษั ต ริ ย์ 3 พ ร ะ น า ม แ ห่ ง ฟ า โ ร ห์ 2 3 บันทึกพระนามแห่งอียิปต์โบราณต่อไปนี้ที่เป็นที่รู้จักกัน พร้อม ด้วยราชวงศ์ที่สร้างขึ้น ตราประทับของฟาโรห์เดน ราชวงศ์ที่1 ศิลาจารึกหินปาแลร์โม ราชวงศ์ที่5 บันทึกพระนามแห่งกีซ่า ราชวงศ์ที่6 หินสลักแห่งซัคคาราใต้ราชวงศ์ที่6 บันทึกพระนามแห่งคาร์นัก ราชวงศ์ที่18 บันทึกพระนามแห่งอไบดอส ราชวงศ์ที่19 บันทึกพระนามแห่งอไบดอสของฟาโรห์แรเมซีสที่สอง ราชวงศ์ที่19 บันทึกพระนามแห่งแรเมสเซียม ราชวงศ์ที่19 บันทึกพระนามแห่งซัคคารา ราชวงศ์ที่19 บันทึกพระนามแห่งตูริน ราชวงศ์ที่19 บันทึกอียิปต์โบราณของแมนีโท ยุคกรีก รายพระนามฟาโรห์ในบทความนี้อยู่บนพื้นฐานของบันทึกทาง ประวัติศาสตร์ บันทึกพระนามแห่งอียิปต์โบราณและนอกจากนั้นเช่น บันทึก เกี่ยวกับอียิปต์โบราณของแมนีโท เช่นเดียวกับหลักฐานทางโบราณคดีและ แหล่งโบราณคดี นักไอยคุปต์วิทยาและนักประวัติศาสตร์เรียกร้องให้ ระมัดระวังเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือความถูกต้องและความครบถ้วนสมบูรณ์ ของแหล่งข้อมูลเหล่านี้หลายแห่งซึ่งเขียนขึ้นเป็นเวลานานหลังจากรัชกาลที่ เหล่าฟาโรห์ [3] ปัญหาเพิ่มเติมคือบันทึกพระนามของฟาโรห์ มักได้รับ ความเสียหายโดยการขีดพระนามและผุผังกาลเวลา ทำ ให้พระนามนั้น สูญหายไปอย่างสิ้นเชิง
พ ร ะ น า ม แ ห่ ง ฟ า โ ร ห์ 2 4 อียิปต์ตอนบนรู้จักกันในนาม ดินแดนสีแดง ประกอบด้วยอาณาเขตทางตอนล่างของแม่น้ำ ไนล์ รวมไปถึงทะเลทรายรอบข้าง ฟิงเกอร์ สเนล สมัยนาคาดา3 ฟิช สมัยนาคาดา3 เอลเลเฟนต์ สมัยนาคาดา3 สตอร์ก สมัยนาคาดา3 บูล สมัยนาคาดา3 สกอร์เปียนที่1 สมัยนาคาดา3 ดับเบิลฟอลคอน สมัยนาคาดา3 ช่วงก่อนยุคราชวงศ์แห่งอียิ อี ยิปต์
พ ร ะ น า ม แ ห่ ง ฟ า โ ร ห์ 2 5 อียิปต์ตอนล่างเป็นที่รู้จักกันในนาม ดินแดนสีดำ ประกอบด้วยอาณาเขตทางตอนเหนือของแม่น้ำ ไนล์ รวมไป ถึงพื้นที่ ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ ไนล์ เซคา ก่อนยุคราชวงศ์ คายู ก่อนยุคราชวงศ์ ตีอู ก่อนยุคราชวงศ์ เธช ก่อนยุคราชวงศ์ เนเฮบ ก่อนยุคราชวงศ์ วาสเนอร์ ก่อนยุคราชวงศ์ เมค ก่อนยุคราชวงศ์ รายพระนามต่อไปนี้ของผู้ปกครองในยุคก่อนราชวงศ์ ซึ่งอาจจะไม่ สมบูรณ์ เนื่องจากผู้ปกครองเหล่านี้มีก่อนสมัยราชวงศ์ที่หนึ่งได้รับ การจัดกลุ่มอย่างไม่เป็นทางการเป็น ราชวงศ์ที่ศูนย์ ไอรี-ฮอร์ 3,150 ก่อนคริสต์ศักราช ค็อกไคโด 3,150ก่อนคริสต์ศักราช เซ เคน 3,150ก่อนคริสต์ศักราช สกอร์เปียนที่2 3,150ก่อนคริสต์ศักราช
พ ร ะ น า ม แ ห่ ง ฟ า โ ร ห์ 2 6 เป็นกลุ่มของฟาโรห์แ ห์ ห่งอียิปต์โบราณกลุ่มแรกที่ปกครองอียิปต์ที่ เป็นปึกแผ่น ซึ่งเกิดขึ้นทันทีหลังจากการผนวกรวมกันของอียิปต์บน และ อียิปต์ล่างโดยฟาโรห์ นาร์เมอร์ และถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของช่วง ต้นยุคราชวงศ์ 3,100 ก่อนคริสต์ศักราชซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อำ นาจมี ศูนย์กลางอยู่ที่เมืองไทนิส นาร์เมอร์ ราชวงศ์ที่1 ฮอร์-อฮา ราชวงศ์ที่1 ดเจอร์ ราชวงศ์ที่1 ดเจต ราชวงศ์ที่1 เมอร์นีท ราชวงศ์ที่1 เดน ราชวงศ์ที่1 เนตจิป ราชวงศ์ที่1 เซเมอร์เคต ราชวงศ์ที่1 กาอา ราชวงศ์ที่1 สเนเฟอร์คา ราชวงศ์ที่1 ฮอรัส เบิร์ด ราชวงศ์ที่1 ช่วงสมัย มั ราชวงศ์ตอนต้นแห่งอียิ อี ยิปต์
ก ษั ต ริ ย์ 3 พ ร ะ น า ม แ ห่ ง ฟ า โ ร ห์ 2 7 โฮเทปเซเคมวี ราชวงศ์ที่2 เนบรา ราชวงศ์ที่2 นิเนทเจอร์ ราชวงศ์ที่2 บา ราชวงศ์ที่2 เวเนก ราชวงศ์ที่2 วัดจ์เนส ราชวงศ์ที่2 นุบเนเฟอร์ ราชวงศ์ที่2 เซเนดจ์ ราชวงศ์ที่2 เซธ-เพอร์อิบเซน ราชวงศ์ที่2 เซเคมอิบ-เพอร์เอนมา'อัต ราชวงศ์ที่2 เนเฟอร์คาเรที่1 ราชวงศ์ที่2 เนเฟอร์คาโซคาร์ ราชวงศ์ที่2 ฮอรัส ซา ราชวงศ์ที่2 ฮูดเจฟาที่1 ราชวงศ์ที่2 คาเซเคมวี ราชวงศ์ที่2 ราชวงศ์ที่ 2 ปกครองอียิปต์เป็นเวลาประมาณ 204 ปีมีศูนย์กลางของ ราชวงศ์ที่เมือง ไทนิส
พ ร ะ น า ม แ ห่ ง ฟ า โ ร ห์ 2 8 ราชวงศ์ที่ 3 เป็นราชวงศ์แรกในช่วงสมัย ราชอาณาจักรเก่า ดโจเซอร์ ราชวงศ์ที่3 เซเคมเคต ราชวงศ์ที่3 เนบคา ราชวงศ์ที่3 กาเฮดเจต ราชวงศ์ที่3 คาบา ราชวงศ์ที่3 ฮูนิ ราชวงศ์ที่3 ราชวงศ์ที่ 4 เป็นราชวงศ์ที่ปกครองอียิปต์ ระหว่าง 2613 - 2496 ปีก่อนคริสตกาล สเนเฟอร์อู ราชวงศ์ที่4 คูฟู ราชวงศ์ที่4 ดเจดเอฟเร ราชวงศ์ที่4 คาฟเร ราชวงศ์ที่4 บาคา ราชวงศ์ที่4 เมนคาอูเร ราชวงศ์ที่4 เชปเซสคาฟ ราชวงศ์ที่4 ทัมฟ์ธิส ราชวงศ์ที่4 ช่วงสมัย มั ราชอาณาจัก จั รเก่า แห่งอียิ อี ยิปต์
พ ร ะ น า ม แ ห่ ง ฟ า โ ร ห์ 2 9 ราชวงศ์ที่ 5 เป็นราชวงศ์ที่ปกครองอียิปต์ระหว่าง 2498 - 2345 ปีก่อนคริสตกาล ยูเซอร์คาฟ ราชวงศ์ที่5 ซาห์อูเร ราชวงศ์ที่5 เนเฟอร์อิร์คาเร ราชวงศ์ที่5 เนเฟอร์เอฟเร ราชวงศ์ที่5 เซปเซสคาเร ราชวงศ์ที่5 นิอูเซอร์เร ราชวงศ์ที่5 เมนคาอูฮอร์ ราชวงศ์ที่5 ดเจดคาเร ราชวงศ์ที่5 อูนัส ราชวงศ์ที่5 เตติ ราชวงศ์ที่6 อูเซอร์คาเร ราชวงศ์ที่6 เมริเร ราชวงศ์ที่6 เมอร์เอนเร ราชวงศ์ที่6 เนเฟอร์คาเร ราชวงศ์ที่6 เนเฟอร์คา ราชวงศ์ที่6 เนมติเอมซาฟที่2 ราชวงศ์ที่6 นิธเกอร์ติ ราชวงศ์ที่่6
พ ร ะ น า ม แ ห่ ง ฟ า โ ร ห์ 3 0 เป็นช่วงเวลาแห่งความระส่ำ ระสายและความวุ่นวายระหว่างการ ล่มสลายของ ราชอาณาจักรเก่าแห่งอียิปต์ และการสถาปนาของ ราชอาณาจักรกลางแห่งอียิปต์ ไม่แน่ชัดลำ ดับราชวงศ์ เมนคาเร ราชวงศ์ที่8 เนเฟอร์คาเรที่3 ราชวงศ์ที่8 ดเจดคาเร ราชวงศ์ที่8 เนเฟอร์คาเรที่4 ราชวงศ์ที่8 เมอร์เอนฮอร์ ราชวงศ์ที่8 สเนเฟอร์คา ราชวงศ์ที่8 ไนคาเร ราชวงศ์ที่8 ช่วงสมัย มั ระหว่างกลางที่หนึ่ง แห่งอียิ อี ยิปต์ เนเฟอร์คาเรที่5 ราชวงศ์ที่8 เนเฟอร์คาฮอร์ ราชวงศ์ที่8 เนเฟอร์คามิน ราชวงศ์ที่8 กาคาเร ราชวงศ์ที่8 เนเฟอร์คาอูเร ราชวงศ์ที่8 คูวิฮับอิ ราชวงศ์ที่8 เปปิ ราชวงศ์ที่8
พ ร ะ น า ม แ ห่ ง ฟ า โ ร ห์ 3 1 บันทึกพระนามแห่งตูริน ปรากฏการพระนามของฟาโรห์ ราชวงศ์ที่ 9 และ 10 ปกครองจำ นวน 18 พระองค์ และพบว่าพระนามจำ นวน 12 พระนามได้ สูญหาย และพระนามอีกจำ นวน 4 พระนามที่หลงเหลืออยู่บางส่วน เมริอิบเร ราชวงศ์ที่9 เนเฟอร์คาเรที่7 ราชวงศ์ที่9 เนบคาอูเร ราชวงศ์ที่9 เซทุต ราชวงศ์ที่9 เมริ ราชวงศ์ที่9 เซด ราชวงศ์ที่9 อูเซอร์ ราชวงศ์ที่9 อิมโฮเทป ราชวงศ์ที่9 ราชวงศ์ที่ 10 เป็นกลุ่มผู้ปกครองท้อง ถิ่นที่ทรงมีอิทธิพลเหนือ อียิปต์ล่าง และปกครองตั้งแต่ 2130 ถึง 2040 ปี ก่อนคริสตกาล เมริฮัตฮอร์ ราชวงศ์ที่ 10 เนเฟอร์คาเรที่10 ราชวงศ์ที่ 10 วาห์คาเร ราชวงศ์ที่ 10 เมริคาเร ราชวงศ์ที่ 10 ราชวงศ์ที่ 11 ได้รับการสถาปนาขึ้นจากกลุ่มผู้ปกครองท้องถิ่นแห่ง ธีบส์ ที่รับ ใช้ราชสำ นักของฟาโรห์จากราชวงศ์ที่ 8 , 9 , หรือ 10 แห่งอียิปต์ อินโยเทป ผู้อาวุโส ราชวงศ์ที่11 เทปิอา ราชวงศ์ที่11 เซเฮอร์ทาวี ราชวงศ์ที่11 วาห์อังค์ ราชวงศ์ที่11 นัคต์เนบเทปเนเฟอร์ ราชวงศ์ที่11
พ ร ะ น า ม แ ห่ ง ฟ า โ ร ห์ 3 2 สมัยราชอาณาจักรกลาง (ระหว่าง 2040 – 1802 ปีก่อนคริสตกาล) เป็น ช่วงเวลาที่นับตั้งแต่สิ้นสุดช่วงสมัยระหว่างกลางที่หนึ่ง จนถึงช่วงเริ่มต้นของ สมัยระหว่างกลางที่สอง เนบเฮเทปเร ราชวงศ์ที่11(2) สอังค์คาเร ราชวงศ์ที่11(2) เนบทาวีเร ราชวงศ์ที่11(2) ช่วงสมัย มั ราชอาณาจัก จั ร กลางแห่งอียิ อี ยิปต์ ราชวงศ์ที่ 12 เป็นราชวงศ์ที่ปกครองอียิปต์ระหว่าง 1991 - 1802 ปี ก่อนคริสตกาล เมนค์คาเร ราชวงศ์ที่11(2) อินิ ราชวงศ์ที่11(2) ไอย์อิบเคนต์เร ราชวงศ์ที่11(2) เซเฮเทปอิบเร ราชวงศ์ที่12 เคเปอร์คาเร ราชวงศ์ที่12 นุบคาอูเร ราชวงศ์ที่12 คาเคเปอร์เร ราชวงศ์ที่12 คาคาอูเร ราชวงศ์ที่12 นิมาอัตเร ราชวงศ์ที่12 มาอาเคอร์อูเร ราชวงศ์ที่12 โซเบคคาเร ราชวงศ์ที่12
พ ร ะ น า ม แ ห่ ง ฟ า โ ร ห์ 3 3 สมัยระหว่างกลางที่สอง (ตั้งแต่ 1802–1550 ปีก่อนคริสตกาล) เป็นช่วง เวลาที่เกิดความระส่ำ ระส่ายขึ้นระหว่างการสิ้นสุดของช่วงราชอาณาจักร กลางและจุดเริ่มต้นของช่วงราชอาณาจักรใหม่ ราชวงศ์ที่ 13 (ตามบันทึกรายพระนามแห่งตูริน) ปกครองจาก 1802 ไปถึง ประมาณ 1649 ปีก่อนคริสตกาล และรวมทั้งหมดเป็นเวลา 153 หรือ 154 ปี เซเคมเร คูทาวี เซเบคโฮเตปที่1 ราชวงศ์ที่13 เซเคมคาเร โซนเบฟ ราชวงศ์ที่13 เนไรคาเร ราชวงศ์ที่13 เซกเคมคาเร อเมเนมเฮตที่5 ราชวงศ์ที่13 อเมนีกีเมา ราชวงศ์ที่13 โฮเทปอิบเร กีมานู ซิฮาร์เนดจเฮริเทฟ ราชวงศ์ที่13 รูฟอิน ราชวงศ์ที่13 กีมานู ซิฮาร์เนดจเฮริเทฟ ราชวงศ์ที่13 เซเมนคาเร เนบนูนิ ราชวงศ์ที่13 เซเฮเทปอิบเร เซเสเซกทาวี ราชวงศ์ที่13 เซวัดจ์คาเร ราชวงศ์ที่13 ช่วงสมัย มั ระหว่างที่สองแห่งอียิ อี ยิปต์
พ ร ะ น า ม แ ห่ ง ฟ า โ ร ห์ 3 3 เนบเจมอิบเร ราชวงศ์ที่13 คาอังค์เร เซเบคโฮเตป ราชวงศ์ที่13 เรนเซเนบ ราชวงศ์ที่13 อาวายเบร ฮอร์ ราชวงศ์ที่13 เซเคมเรคูทาวี คาบาว ราชวงศ์ที่13 ดเจดเคเปอร์เร ราชวงศ์ที่13 เซบคาย ราชวงศ์ที่13 เซดเจฟาคาเร ราชวงศ์ที่13 คูทาวีเร เวกาฟ ราชวงศ์ที่13 เคนด์เจอร์ ราชวงศ์ที่13 อิมย์เรเมสชาว ราชวงศ์ที่13 เซเฮเทปคาเร อินโยเทฟที่ 4 ราชวงศ์ที่13 เซท เมริบเร ราชวงศ์ที่13 เซเคมเรเซเวดจ์ทาวี เซเบคโฮเตปที่3 ราชวงศ์ที่13 คาเซเคมเร เนเฟอร์โฮเตปที่1 ราชวงศ์ที่13 เมนวัดจ์เร ซิฮาเธอร์ ราชวงศ์ที่13 คาเนเฟอร์เร เซเบคโฮเตปที่4 ราชวงศ์ที่13 เมอร์โฮเทปเร เซเบคโฮเตปที่5 ราชวงศ์ที่13 คาโฮเทปเร เซเบคโฮเตปที่ 6 ราชวงศ์ที่13
พระนามแห่งฟาโรห์34 ว า ฮิ บเร ไ อ บิ อ า ยู ร า ช ว ง ศ์ ที่13เมอร์เนเฟอร์เร อัยย์ ราชวงศ์ที่13เมอร์โฮเทปเร ไออิน ราชวงศ์ที่13สอังค์เอนเร เซวัดจ์ตู ราชวงศ์ที่13เมอร์เซกเคมเร ไอเนด ราชวงศ์ที่13เวซัดจ์คาเร โฮริ ราชวงศ์ที่13เมอร์เคาเร เซเบคโฮเตปที่7 ราชวง ศ์ ที่13เมอร์เคปเปอร์เร ราชวงศ์ที่13เมอร์คาเร ราชวงศ์ที่13เซวัดจ์เร เมนทูโฮเทปที่ 5 ราชวงศ์ที่13เซเฮเคนเร เซนค์พตาร์ไฮ ราชวงศ์ที่13เดดูโมสที่1ทีราชวงศ์ที่13เดดูโมสที2ทีราชวงศ์ที่13เซวาเฮนเร เซเนบมิอู ราชวงศ์ที่13สนาอิบ ราชวงศ์ที่13เมอร์เซปเซสเร ไออินที่2 ราชวงศ์ที่13
พ ร ะ น า ม แ ห่ ง ฟ า โ ร ห์ 3 5 ราชวงศ์ที่ 14 เป็นมีศูนย์อำ นาจอยู่ที่เมืองอวาริส ซึ่งปกครองระหว่าง 1805 หรือ 1710 จนถึง 1650 ปีก่อนคริสตกาล ราชวงศ์ประกอบด้วยผู้ ปกครองหลายคนที่มีชื่อแบบ เซมิติกตะวันตก และดังนั้นจึงเชื่อว่าจะได้ รับแหล่งกำ เนิดจาก อารยธรรมคานาอัน ยากคิม เซเคมเร ราชวงศ์ที่14 ยา'อัมมู นูบวอเซอร์เร ราชวงศ์ที่14 กาเร คาวอเซอร์เร ราชวงศ์ที่14 อัมมู เอโฮเทปเร ราชวงศ์ที่14 เชชิ ราชวงศ์ที่14 เนเฮซี ราชวงศ์ที่14 คาเคเรวเร ราชวงศ์ที่14 เนเบฟาว์เร ราชวงศ์ที่14 เซเฮบเร ราชวงศ์ที่14 เมอร์ดเจฟาเร ราชวงศ์ที่14 เซวัดจ์คาเรที่3ที่ ราชวงศ์ที่14 เนบดเจฟาเร ราชวงศ์ที่14 เวเบนเร ราชวงศ์ที่14
พระนามแห่งฟาโรห์36 ดเจ ฟ าเร ร า ช ว ง ศ์ ที่14เบเวนเร ราชวงศ์ที่14อาวอิบเรที่2 ราชวงศ์ที่14เฮอร์อิบเร ราชวงศ์ที่14เนบเซนเร ราชวงศ์ที่14เซเคเปอร์เอนเร ราชวงศ์ที่14อานาติ ดเจดคาเร ราชวงศ์ที่14เบบนุม ราชวงศ์ที่14เอเปปิ ราชวงศ์ที่14นูยา ราชวงศ์ที่14วาซาส ราชวงศ์ที่14เชเนฮ์ ราชวงศ์ที่14เซนเซก ราชวงศ์ที่14คามูเร ราชวงศ์ที่14ยากาเรบ ราชวงศ์ที่14ยาคุบ-ฮาร์ ราชวงศ์ที่14
พ ร ะ น า ม แ ห่ ง ฟ า โ ร ห์ 3 7 เซมเคน ราชวงศ์ที่15 เอเปอร์-อนัท ราชวงศ์ที่15 ซาคิร์-ฮาร์ ราชวงศ์ที่15 คยาน ราชวงศ์ที่15 อเปปิ ราชวงศ์ที่15 คามูดิ ราชวงศ์ที่15 ราชวงศ์ที่ 15 ได้ถูกสถาปนาจากคนฮิกซอส แต่เป็นการปกครองแบบ สั้น ๆ ในภูมิภาคปาก แม่น้ำ ไนล์ และปกครองตั้งแต่ 1674 ถึง 1535 ปี ก่อนคริสตกาล ราชวงศ์อไบดอส ระยะช่วงต่อที่สองอาจจะมีราชวงศ์อิสระปกครองเมืองอไบดอส ตั้งแต่ 1650 ถึง 1600 ปีก่อนคริสตกาล เซคเอมเรเนเฟอร์คาอู เวปวาเวทเอมซาฟ ราชวงศ์อไบดอส เซคเอมเรคูทาวี พันท์เจนี่ ราชวงศ์อไบดอส เมนคาอูเร สนาอิบ ราชวงศ์อไบดอส วอเซอร์อิบเร เซเนบคาอี ราชวงศ์อไบดอส
พ ร ะ น า ม แ ห่ ง ฟ า โ ร ห์ 3 8 ราชวงศ์ที่ 16 เป็นราชวงศ์ที่มีอำ นาจอยู่ที่เมืองธีบส์ ซึ่งถูกสถาปนาขึ้น ภายหลังจากการล่มสลายของราชวงศ์ที่ 13 ที่เมมฟิสใน 1650 ปีก่อน คริสตกาล และในที่สุดก็ถูกล้มล้างราชวงศ์โดยชาวฮิกซอสใน 1580 ปี ก่อนคริสตกาล ราชวงศ์ที่สิบหกมีอำ นาจเพียงอียิปต์บนเท่านั้น เซคเอมเรเซเมนทาวี ดเจฮูติ ราชวงศ์ที่16 เซคเอมเรเซอูเซอร์ทาวี โซเบคโฮเทปที่8 ราชวงศ์ที่16 เซคเอมเรเซอังค์ทาวี เนเฟอร์โฮเทปที่3 ราชวงศ์ที่16 เซอังค์เอนเร เมนทูโฮเทปอิ ราชวงศ์ที่16 เซวัดจ์เอนเร เนบอิร์ริราวที่1 ราชวงศ์ที่16 เนเฟอร์คาเร เนบอิร์ริราวที่2ที่ ราชวงศ์ที่16 เซเมนเร ราชวงศ์ที่16 เซอูเซอร์เอนเร เบบิอังค์ ราชวงศ์ที่16 ดเจดโฮเทปเร เดดูโมสที่1 ราชวงศ์ที่16 ดเจดเนเฟอร์เร เดดูโมสที่2 ราชวงศ์ที่16 ดเจดเนเฟอร์เร เดดูโมสที่2 ราชวงศ์ที่16 ดเจดเนเฟอร์เร เดดูโมสที่2 ราชวงศ์ที่16 ดเจดเนเฟอร์เร เดดูโมสที่2 ราชวงศ์ที่16 เซคเอมเร-เชด-วาเซท ราชวงศ์ที่16
พ ร ะ น า ม แ ห่ ง ฟ า โ ร ห์ 3 9 ราชวงศ์ที่ 17 ปกครองอยู่ในอียิปต์บนและปกครองตั้งแต่ 1650 ถึง 1550 ปีก่อนคริสตกาล เซเคมเร-วาห์คาอูร อู าโฮเทป ราชวงศ์ที่17 เซเคมเร-เชดทาวีเ วีซเบคเอมซาฟที่2 ราชวงศ์ที่17 เซเคมเร-เวบมาอัตอินเตฟที่5 ราชวงศ์ที่17 เนบูเคเปอร์เรอินเตฟที่ 6 ราชวงศ์ที่17 เซเคมเร-เฮรูเฮอร์มาอัตอินเตฟที่7 ราชวงศ์ที่17 เซนัคท์เอนเรอาโมส ราชวงศ์ที่17 เซเคนเอนเรทาโอ ราชวงศ์ที่17 วาดจ์เคเปอร์เรคาโมส ราชวงศ์ที่17
พ ร ะ น า ม แ ห่ ง ฟ า โ ร ห์ 4 0 สมัยราชอาณาจักรใหม่ (ตั้งแต่ 1550-1077 ปีก่อนคริสตกาล) คือ ช่วงที่ครอบคลุมราชวงศ์ที่ 18 , 19 และ 20 แห่งอียิปต์ตั้งแต่คริสต์ ศตวรรษที่ 16 ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 11 ระหว่างช่วงระหว่างกลางครั้งที่ สองและช่วงระหว่างกลางครั้งที่สาม เนบเพฮ์ติเร ราชวงศ์ที่18 ดเจเซอร์คาเร ราชวงศ์ที่18 อาร์เคปเปอร์คาเร ราชวงศ์ที่18 อาร์เคปเปอร์เอนเร ราชวงศ์ที่18 มาอัตคาเร ราชวงศ์ที่18 เมนเคปเปอร์เร ราชวงศ์ที่18 อาร์เคเปอร์อูเร ราชวงศ์ที่18 เมนเคเปอร์อูเร ราชวงศ์ที่18 ช่วงสมัย มั ราชอาณาจัก จั รใหม่แห่งอียิ อี ยิปต์ (จัก จั รวรรดิอียิ อี ยิปต์)
พ ร ะ น า ม แ ห่ ง ฟ า โ ร ห์ 4 1 เนบมาอัตเร ราชวงศ์ที่18 เนเฟอร์เคเปอร์อูเร วาเอนเร ราชวงศ์ที่18 อังค์เคเปอร์อูเร ราชวงศ์ที่18 อังค์เคเปอร์อูเร เมริ อังค์เคเปอร์อูเร ราชวงศ์ที่18 เนบเคเปอร์อูเร ราชวงศ์ที่18 เคเปอร์เคเปอร์อูเร อิริมาอัต ดเจเซอร์เคเปอร์อูเร เซเทปเอนเร
พ ร ะ น า ม แ ห่ ง ฟ า โ ร ห์ 4 2 ราชวงศ์ที่ 19 ปกครองมาตั้งแต่ 1292 ถึง 1186 ปีก่อนคริสตกาล รวมถึงมี ฟาโรห์ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ แรเมซีสที่ 2 มหาราช เมนเพห์ตีเร ราชวงศ์ที่19 เมนมาอัตเร ราชวงศ์ที่19 อูเซอร์มาอัตเร เซเทปเอนเร ราชวงศ์ที่19 บาเอนเร เมริเนตเจอร์อู ราชวงศ์ที่19 เมนมิเร เซเทปเอนเร ราชวงศ์ที่19 อูเซอร์เคเปอร์อูเร เซเทปเอนเร ราชวงศ์ที่19 เซไคเอนเร เมริอามุน ราชวงศ์ที่19 ซิทเร เมริอามุน ราชวงศ์ที่19
พ ร ะ น า ม แ ห่ ง ฟ า โ ร ห์ 4 3 ราชวงศ์ที่ 20 ปกครองระหว่าง 1190 ถึง 1077 ปีก่อนคริสตกาล อูเซอร์คาอูเร เซเทปเอนเร ราชวงศ์ที่20 อูเซอร์มาอัตเร เมริอามุน ราชวงศ์ที่20 อูเซอร์มาอัตเร เซเทปเอนอามุน ราชวงศ์ที่20 อูเซอร์มาอัตเร เซเคเปอร์เอนเร ราชวงศ์ที่20 เนบมาอัตเร เมริอามุน ราชวงศ์ที่20 อูเซอร์มาอัตเร เซเทปเอนเร เมริอามุน ราชวงศ์ที่20 อูเซอร์มาอัตเร อัคเอนอามุน ราชวงศ์ที่20 เนเฟอร์คาเร เซเทปเอนเร ราชวงศ์ที่20 เคเปอร์มาอัตเร เซเทปเอนเร ราชวงศ์ที่20 เมนมาอัตเร เซเทปเอนพทาห์ ราชวงศ์ที่20
พ ร ะ น า ม แ ห่ ง ฟ า โ ร ห์ 4 4 ราชวงศ์ที่ 21 มีศูนย์กลางอำ นาจอยู่ที่เมืองแทนิส และเป็นราชวงศ์ที่ ค่อนข้างอ่อนแอ ในทางนิตินัยถือว่าเป็นผู้ปกครองของอียิปต์ทั้งหมด แต่ ในทางพฤตินัยแล้ว อิทธิพลถูกจำ กัดไว้ที่อียิปต์ล่างเท่านั้น ราชวงศ์นี้มระ ยะเวลาตั้งแต่ 1069-943 ปีก่อนคริสตกาล เฮดจ์เคเปอร์เร เซเทปเอนเร ราชวงศ์ที่21 เนเฟอร์คาเร เฮคาวาสเอต ราชวงศ์ที่21 เออาเคเปอร์เร เซเทปเอนอามุน ราชวงศ์ที่21 ยูเซอร์มาอัตเร เซเทปเอนอามุน ราชวงศ์ที่21 เออาเคเปอร์เร เซเทปเอนเร ราชวงศ์ที่21 เนดเจอร์เคเปอร์เร เซเทปเอนอามุน ราชวงศ์ที่21 ติตเราชวงศ์ที่21คเปอร์อูเร เซเทปเอนเร ช่วงสมัย มั ระหว่างกลางที่สาม แห่งอียิ อี ยิปต์
พ ร ะ น า ม แ ห่ ง ฟ า โ ร ห์ 4 4 ช่วงปลายรัชกาล ฟาโรห์แรมีซีสที่ 11 นักบวชสูงสุดแห่งเทพอามุนทีธีบส์ ได้ขึ้นมามีอิทธิพลปกครองอียิปต์ตอนบน ที่มีศูนย์กลางอำ นาจอยู่ที่เมือง ทีบส์ แม้ว่าจะไม่ใช่ฟาโรห์อย่างเป็นทางทางการ แต่ในทางพฤตินัยถือว่า เป็นฟาโรห์ที่ปกครองของอียิปต์ตอนบน โดยมีการเขียนนามแบบฟาโรห์ใน คาร์ทูธ และมีการฝังพระศพในสุสานหลวง เฮริฮอร์ ซิอามุน พิอังค์ พิเนดเจม เมริอามุน มาซาเฮอร์ตา ดเจดคอนซูเอฟอังค์ เมนเคเปอร์เร เนซูบาเนบ'ดเจดเอต พิเนดเจมที่2 เฮมเนดเจอร์เทปิเอนอามุน ปาเซบาคาเอนนิอุต