The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การบริหารเส้นทางการขนส่ง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by panumate5260, 2023-04-04 01:39:23

การบริหารเส้นทางการขนส่ง

การบริหารเส้นทางการขนส่ง

98 3.9.2 การค านวณเส้นทาง (Calculate Route) ใช้ส าหรับค านวณเส้นทางการส่งสินค้าเพื่อใช้แสดง ระยะทางในรายละเอียดเส้นทาง โดยสามารถเลือกค านวณได้จากเส้นทางที่สั้นที่สุด หรือค านวณตามเวลา ก าหนดส่งสินค้า ได้ตามความต้องการของผู้ใช้ 3.9.3 ความถี่ของแต่ละเส้นทาง (Route Frequency) เป็นการประมาณการส่งสินค้าที่ใช้ค านวณ สรุปยอดในการส่งของใช้กับลูกค้าในแต่ละ เดือนซึ่งข้อมูลในส่วนนี้จะดึงข้อมูลส่วนความถี่การส่งของ เพื่อ เปรียบเทียบแผนการเดินรถยนต์ที่ก าหนดไว้กับการเดินทางรถยนต์จริง เพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพในเรื่อง ระยะทาง ระยะเวลา และค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิง และยังสามารถประมาณการการเดินรถยนต์เพื่อประเมิน จ านวนรถยนต์และจ านวนพนักงานขับรถยนต์ว่าเพียงพอต่อการให้บริการขนส่งหรือไม่ เพื่อเปรียบเทียบ แผนการเดินรถยนต์ที่ก าหนดไว้กับการเดินรถยนต์จริง เพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพในเรื่องระยะทาง ระยะเวลาและค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิง 3.9.4 ตรวจเชคสถานการณ์ จัดส่ง (Check Shipment Status) ใช้ส าหรับการตรวจเช็ค สถานการณ์ส่งสินค้าให้กับลูกค้า โดยผู้ใช้สามารถรู้ ได้ว่ารถยนต์แต่ละคันที่ออกไปส่งสินค้าให้กับลูกค้าพร้อม ใบส่งของนั้น คันไหนได้ท าการส่งสินค้าเรียบร้อยแล้วบ้างและจุดต่อไปของการส่งสินค้านั้นเป็น ลูกค้ารายไหน หรือคันไหนยังส่งของไม่ถึงลูกค้าท าให้ผู้ใช้สมารถตรวจเช็ค โดยโทรไปสอบถามพนักงานได้ว่าเพราะสาเหตุใด ถึงยังไม่ส่งของให้ลูกค้ารายนั้นๆ 3.9.10 รายงานการใช้รถยนต์แลกราฟ (Report & Graph) - ทุกรายงานสามารถดูจากจอ และส่งอีเมล์ได้ทันทีจากโปรแกรมเพื่อความรวดเร็วลด ขั้นตอนการท างาน และลดต้นทุนในการด าเนินงานได้ - สามารถส่งไฟล์ออกเป็นรายงานในรูปแบบของ แฟ้มข้อมูล หรือภาพได้ เช่น Excel File, Text File HTML File, BMP Image, GIF Image - การออกรายงาน (Report) รายงานที่สร้างได้ป ระกอบด้วยรายงานดังต่อไปนี้ - รายงานรายละเอียดของรถยนต์ - รายงานการเติมน้ ามัน - รายงานใบส่งของ - รายงานการจอดรถยนต์ดับเครื่อง - รายงานการเดินรถยนต์รายวัน - รายงานอัตราการใช้น้ ามัน - รายงานก าหนดรหัสรถยนต์ - รายงานความเร็วเกินก าหนด - รายงานสรุปการเดินรถยนต์ - รายงานสิ้นเปลืองน้ ามันจากการจอด - รายงานการใช้น้ ามัน รถยนต์ติดเครื่อง - รายงานการจอดรถยนต์ติดเครื่อง - รายงานพฤติกรรมการขับรถยนต์ - รายงานเปรียบอัตราการใช้น้ ามัน รายวัน - มีการแสดงเป็นกราฟแท่ง กราฟกลม ที่ง่ายต่อการวิเคราะห์ และการน าเสนอแสดงผล ในรูปแบบกราฟ (Graph) ประกอบด้วยกราฟดังต่อไปนี้ - กราฟสรุปเวลาการเดินรถยนต์ - กราฟการใช้น้ ามันของรถยนต์รายวัน - กราฟความเร็วในการขับรถยนต์รายวัน - กราฟอัตราการใช้น้ ามัน - กราฟเปรียบการใช้น้ ามัน - กราฟอุณหภูมิของรถยนต์รายวัน


99 3.11 การแจ้งเตือน (Alerts) เป็นการแจ้งเหตุการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งเป็นการท าให้ทราบว่า ขณะนี้เกิด เหตุที่ไม่พึงประสงค์ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการโจรกรรม หรือการทุจริตของพนักงานก็เกิดเป็นประจ าเช่นแบตเตอรี่ ถูกถอดรถยนต์ถูกเคลื่อนย้าย ขับรถยนต์ความเร็วเกินก าหนด รถยนต์ออกนอกพื้นที่ โดยเจ้าของรถยนต์หรือ ผู้ประกอบการต่างๆ สามารถหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ได้ถ้ามีการป้องกันที่รอบครอบและรัดกุม ซึ่งการแจ้ง เตือนสามารถท าให้หลายรูปแบบดังนี้ - การแจ้งเตือนเมื่อรถยนต์เคลื่อนที่เข้าพื้นที่ไม่อนุญาต (Inside Geo Fence) - การแจ้งเตือนเมื่อรถยนต์เคลื่อนที่อกจากพื้นที่ที่อนุญาต (Outside Geo Fence) - การแจ้งเตือนผ่านโปรแกรมเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน (Program Alerts) - การแจ้งเตือนผ่านข้อความสั้น (SMS Alerts) การแจ้งเตือน สามารถก าหนดหัวข้อที่จะแจ้งเตือนในระบบได้ในเหตุการณ์ดังต่อไปนี - แจ้งเตือนรถยนต์เคลื่อนที่โดยไม่ได้ติดเครื่อง - แจ้งเตือนความเร็วเกินก าหนด - แจ้งเตือนการสตาร์ทรถยนต์ - แจ้งเตือนสัญญาณ GPS ขาดหาย หรือไม่มีสัญญาณติดต่อ - แจ้งเตือนอุณหภูมิสูงหรือ ต่ าเกินก าหนด - แจ้งเตือนแบตเตอรี่ถูกถอด หรือโจรกรรม - แจ้งเตือนแบตเตอรี่ใกล้จะหมด หือระดับแบตเตอรี่ต่ ากว่าที่ก าหนด - แจ้งเตือนน้ ามันใกล้จะหมด หรือระดับน้ ามันต่ ากว่าที่ก าหนด - รถยนต์ออกนอกโซนที่ก าหนดไว้ สามารถส่งค าสั่งทาง SMS ข้อความจะส่งเพื่อนแจ้งเตือนในเหตุการณ์ดังต่อไปนี - สามารถส่งค าสั่งร้องขอข้อมูลสถานะทั้งหมดกลับมาทาง SMS ได้ - สามารถควบคุมผลลัพธ์ได้ เช่น สั่งตัดน้ ามัน - แจ้งเตือน ค าสั่งเปิด-ปิดการท างาน เช่น ในกรณีที่เราใช้งานปกติไม่อยากให้ระบบส่งแจ้ง เตือนก็สั่งปิดก่อนเพื่อประหยัดน้ ามัน เพราะต้องเปิด-ปิดประตู หรือสตาร์ทรถยนต์ หลายครั้ง แต่ถ้าต้องการ จอดรถยนต์ก็ตั้งเปิดระบบแจ้งเตือน - ป้องกันการขโมย และสิ่งผิดปกติต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้ระบบส่งสัญญาณเตือนไปยัง เจ้าของ สามารถส่งค าสั่งทางการเรียกสาย (Voice Call) โดยการเรียกเข้าไปยังพนักงานขับรถยนต์เพื่อแจ้ง เตือนในเหตุการณ์ดังต่อไปนี้ - โทรไปยังหมายเลขโทรศัพท์ของ GPS Box หลังจากรับสายแล้วกดหมายเลขที่ต้องการเพื่อ ควบคุม เช่น กด 0 เพื่อขอข้อมูลสถานะรถยนต์, กด * เพื่อปิดการใช้งานการแจ้งเตือน - ส าหรับการส่งค าสั่งทาง Voice Call มีข้อดีตรงที่สามารถสั่งงานได้มากกว่า 1 ค าสั่ง ในการ โทร 1 ครั้ง ท าให้ประหยัดค่าใช้จ่าย 3.12 การวิเคราะห์(Analytics) รายงานเป็นส่วนหนึ่งช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งสามารถแสดง ให้เห็นทั้งในรูปแบบกราฟ และรูปแบบรายงาน ท าให้ง่ายต่อการน าไปใช้งาน โดยไม่ต้องเสียเวลา อีกทั้งยังช่วย เพิ่มประสิทธิภาพในการะบวนการตัดสินใจ ซึ่งสามารถเลือกท าแบบกลุ่ม แบบเฉพาะคัน หรือเลือกทั้งหมด ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ การออกรางานสามารถเลือกวันที่ เดือน ปี ที่ต้องการได้จากตารางปฏิทินและรายงานสรุป สามารถสร้างได้ทั้งแบบรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน ซึ่งระบบสามารถวิเคราะห์ในเรื่องต่อไปนี้


100 3.12.1 ช่วยวิเคราะห์การใช้น ามัน - กราฟแสดงการใช้น้ ามันของรถยนต์ในแต่ละวัน - กราฟเปรียบเทียบอัตราการใช้น้ ามันของรถยนต์แต่ละคัน - สามารถตรวจสอบการใช้น้ ามัน เปรียบเทียบกับระยะทาง และ เวลา - สามารถตรวจสอบว่าการทุจริตน้ ามัน ต าแหน่งที่ทุจริต และกราฟที่แสดงการเติมน้ ามัน - สามารถตรวจสอบการเติมน้ ามัน เพื่อป้องกันการแทรกบิลน้ ามัน - สามารถประมาณการใช้น้ ามันจากระยะทางที่รถยนต์วิ่ง และเปรียบเทียบกับการใช้จริง - สามารถวิเคราะห์การสิ้นเปลืองน้ ามันอันเนื่องมาจากการจอดรถยนต์ไม่ดับเครื่องได้ 3.12.2 ช่วยวิเคราะห์อุณหภูมิ - กราฟแสดงการใช้น้ ามันของรถยนต์แต่ละคัน - สามารถตรวจสอบช่วงเวลาที่อุณหภูมิสูง หรือต่ ากว่าที่ก าหนดได้ สูง หรือต่ ากว่าก าหนด นานเท่าไหร่ (ชม.) และอุณหภูมิ เฉลี่ยเท่าไหร่ 3.12.3 ช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมการขับรถยนต์ - สามารถตรวจสอบการขับรถยนต์ความเร็วเกินก าหนด จ านวนกี่ครั้ง ความเร็วสูงสุดที่ขับ เพื่อเป็นข้อมูลส าหรับการป้องกันอุบัติเหตุ - ตรวจสอบต าแหน่งที่จอด ระยะเวลาที่จอด ทั้งจอดดับเครื่อง และจอดติดเครื่องจอดเป็น เวลานานเท่าไหร่ เพื่อป้องกันการน ารถยนต์ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ 3.12.4 ช่วยวิเคราะห์ประสิทธิภาพการใช้รถยนต์ - สรุปประสิทธิภาพการใช้งานรถยนต์แต่ละคัน และเปรียบเทียบทั้งกองพาหนะ - สรุปการเดินรถยนต์ในแต่ละวัน แสดงเวลาที่ใช้เดินรถยนต์ ระยะทางรวมที่ใช้ ปริมาณ น้ ามันที่ใช้ โดยวิเคราะห์แต่ละคันและเฉลี่ยของรถยนต์ทั้งกองพาหนะ ซึ่งมีตัวอย่างรายงานเกี่ยวกับการควบคุมการชนส่งในระบบจีพีเอสที่นิยมใช้ โดยมีในระบบซอฟต์แวร์ที่ พัฒนาโดย Map point Asia ดังแสดงในรูปที่ 6.216


101 รูปที่ 6.2 รายงานสรุปการอยู่ในและนอกจุด (In/Out Waypoint Summary Report)


102


103


104


105


106


107


108


109


110 3. ซอฟต์แวร์อื่นที่ใช้ในการขนส่ง ในตลาด GPS ของไทยมีผู้พัฒนาซอฟต์แวร์เจ้าที่ส าคัญที่ เข้าร่วมในโครงการประหยัดพลังงานเพื่อการ ขนส่งและโลจิสติกส์ 2 รายคือ Mappoint Asia c]t DTC ซึ่งมีการให้บริการซอฟต์แวร์ที่ครอบคลุมงานขนส่ง มากขึ้น แต่อาจจะมีชื่อต่างกัน โดย DTC 0จะมีระบบดังนี้ 3.1 ระบบติดตามยานพาหนะ (SWR-E:SwrMonitor Evolution) โปรแกรมที่ใช้ในการดู พฤติกรรมของรถยนต์บนแผนที่ ท าหน้าที่ประมวลข้อมูลจากฐานข้อมูลที่ได้รับข้อมูลที่ได้รับข้อมูลมาจากกล่อง ด า (Black-Box) ที่ติดตั้งของรถยนต์ส่งข้อมูลแสดงแสดงผ่านหน้าจอ และออกรายงานให้กับผู้บริหารได้รับ ทราบข้อมูล มีการตั้งค่าข้อมูลเพื่อให้ผู้ใช้ได้สามารถตรวจสอบและติดตามรถยนต์แต่ละคันได้อย่างรวดเร็วด้วย ค่าที่ก าหนดขึ้นเองตามความเหมาะสม นอกจากความสามารถในการแสดงผลข้อมูลเดินทางของพาหนะ แบบ เรียลไทม์ โปรแกรมนี้ยังมีส่วนของการจัดการท ารายการเพื่อสรุปข้อมูลการเดินทาง การจัดท ารายงานเป็นการ สรุปข้อมูลจากกพฤติกรรมการใช้ยานพาหนะได้หลายรูปแบบ เช่น รายงานที่แสดงการเกิดพฤติกรรมในรูปแบบ สถิติตัวเลขรายงานแสดงร้อยละของการเกิดพฤติกรรมในรูปแบบกราฟแท่ง รายงานสรุปแบกลุ่ม เพื่อ เปรียบเทียบพฤติกรรมต่างๆ เป็นต้น โดยในระบบ ถ้าเปิดเครื่องมาจะแสดงตามรูปที่ 6.17


111 จากรูปที่ 6.18 รถยนต์ที่เลือกจะแสดงบนแผนที่ว่าอยู่ต าแหน่งใด เวลาใด บอกความเร็วในการเดิน รถยนต์ ให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบและติดตามความเคลื่อนไหวของรถยนต์คันนั้นได้ นอกจากนั้น ยังแสดง สถานะของรถยนต์ว่าอยู่ในสถานะใด เช่น จอดรถยนต์ดับเครื่องจอดรถยนต์ไม่ดับเครื่อง ก าลังเดินทางจาก ภาพรถยนต์ที่ถูกเลือก มีลูกศรสีแดงรายละเอียดของรถยนต์บอกสถานะว่า รถยนต์จอด ส่วนลูกศรสีเขียว รถยนต์อยู่ในสถานะก าลังเดินทาง


112 จากรูปที่ 6.19 เป็นการแสดงประวัติการเดินทางของรถยนต์แต่ละคัน สามารถดูประวัติการเดิน รถยนต์ได้ โดยใช้ข้อมูลจากแถบด้านซ้ายมือ จากรูปที่ 6.20 แสดงร้อยละของการใช้ความเร็วในรูปแบบกราฟแท่ง โดยแบ่งตามช่วงของความเร็ว (กิโลเมตร ต่อชั่วโมง) ของรถยนต์ทั้งหมดที่เลือกมาเพื่อจัดท ารายงาน ก าหนดให้แกนในแนวนอน (x) แสดงช่วง ความเร็ว และแกนแนวตั้ง ( Y) แสดงร้อยละของการเกิดความเร็วในชั่วโมงการขับขี่


113 จากรูปที่ 6.21 เป็นการสรุปข้อมูลแบบกลุ่มสามารถเปรียบเทียบการท างานของรถยนต์แต่ละคันที่ ปฏิบัติงานในช่วงเวลาเดียวกันได้ สรุปรายงานแบบกลุ่ม สรุปรายงานรายคัน สรุปรายงานการเข้าสถานีรายคัน สรุปการเข้าสถานี สรุปการใช้เชื้อเพลิง สรุปการเดินทางระหว่างสถานี และสรุปประสิทธิภาพการใช้รถยนต์ 3.2 ระบบติดตามยานพาหนะผ่านเว็บไซต์ (Website Monitor) ระบบติดตามยานพาหนะผ่าน เว็บไซต์เป็นระบบที่ให้บริการในด้านการติดตามต าแหน่งของยานพาหนะ สามารถตรวจสอบเส้นทางการเดิน รถยนต์ย้อนหลัง ข้อมูลการใช้งานรถยนต์แบบต่อเนื่องแบบเรียลไทม์ และรายการย้อนหลังต่างๆ เกี่ยวกับการ เดินทางนาแต่ละช่วงเวลา มีการแจ้งเตือนข้อมูลรถยนต์ออกพื้นที่ และรถยนต์ที่วิ่งด้วยความเร็วเกินที่ก าหนด ไว้ ตามที่แสดงในรูปที่ 6.22 ซึ่งสามารถท างานต่อไปนี้ - Tracking ติดตามข้อมูลรถยนต์แบบต่อเนื่องแบบเรียลไทม์ (Real-Time) - Ranking ระบบตรวจพิกัดรถยนต์กับสถานี - History ระบบตรวจพิกัดรถยนต์ย้อนหลัง - Report ระบบแสดงรายงานอย่างมีประสิทธิภาพ - Setting ระบบการตั้งค่าอย่างอัจฉริยะและรวดเร็ว - Monitor ระบบตรวจสอบข้อมูลรถยนต์


114 3.3 ระบบติตามรถยนต์ออกนอกเส้นทาง (ETA & GEO Monitor) รูปที่ 6.23 ซึ่งมีรายละเอียด ต่อไปนี้ - ผู้ใช้สามารถแบ่งพื้นที่ก าหนดขอบเขตที่ใช้ในการจ ากัดความเร็วได้ - ผู้ใช้สามารถแสดงรายงานรถยนต์ที่ฝ่าผืนใช้ความเร็วเกินก าหนดในพื้นที่ ที่จ ากัดความเร็วไว้ - ผู้ใช้สามารถประมาณระยะเวลาเข้าถึงปลายทางของรถยนต์แต่ละคันได้ - ผู้ใช้สามารถแสดงรายงานรถยนต์ที่ถูกน าไปใช้นอกเวลาท างานได้ - ผู้ใช้สามารถแสดงข้อมูลรถยนต์เชื่อมต่อกับแผนที่ G Map ได้


115 นอกจากซอฟต์แวร์ติดตามรถยนต์แล้ว ยังให้บริการซอฟต์แวร์อื่นเป็นทางเลือกเสริม เช่น การจัดการ ขนส่ง (TMS) การจัดการเส้นทาง (Routing Management) การบริหารการไหลของระบบจัดการขนส่ง (Wok flow) ระบบการจัดการยานพาหนะ (Fleet Management System:FMS) ระบบบริหารจัดการงาน ซ่อมบ ารุงขนส่ง ระบบบริหารผ่านมือถือ (Mobile Phone) ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ 3.4 ระบบบริหารจัดการงานขนส่ง (Transpot Manngement System:TMS) โปแกรมการแก้ไข ปัญหางานบริการขนส่งที่ซับซ้อน ประกอบด้วยฐานข้อมูลส าคัญ ได้แก่ 1. เส้นทางการวิ่งรถยนต์ รวมถึงจุดจอดพักรถยนต์ ทางอันตราย ทางซ่อมบ ารุง แผนที่ หรือ ระบบ GPS 2. กองรถยนต์ รวมถึง ขนาด ประเภท อัตราการใช้เชื้อเพลิง ระยะทางวิ่งที่เหมาะสม ส าหรับรถยนต์แต่ละคัน/ประเภท 3. พนักงานขับรถยนต์ รวมถึงประเภทใบขับขี่ เส้นทางที่ช านาญหรหือต้องการวิ่ง ช่วงเวลาที่ ต้องการท างาน อัตราค่าจ้าง 4. ข้อจ ากัดด้านกฎหมาย เช่น กฎหมายเกี่ยวกับรถยนต์บางประเภท สินค้าบางประเภท เส้นทางบางเส้นทาง จ านวนชั่วโมงในการขับขี่ และการขับรถยนต์บางประเภทใบขับขี่ 5. จุดหลักหรือสถานที่ที่รถยนต์ต้องแวะรับและส่งสินค้า เช่น โรงงานและศูนย์กระจายสินค้า ของลูกค้า ร้านค้าหรือบ้านเรือนปลายทาง ท่าเรือ ท่าอากาศยาน และด่านศุลกากรตามชายแดน 6. ระบบการรับค าสั่งจากลูกค้า เช่น ประเภทสินค้า จ านวน ต้นทาง-ปลายทาง เวลานัด หมายบริการเพิ่มเติมอื่นๆ เมื่อได้ฐานข้อมูลหลักต่าง ๆ แล้ว โปรแกรมจะค านวณและจัดสรรรถยนต์ คนขับ เส้นทางการวิ่ง รถยนต์รับและส่งสินค้า ตารางเวลารถยนต์เข้า-ออกที่สอดคล้องกับค าสั่งซื้อที่เข้ามาได้อย่างเหมาะสม รวมทั้ง ค านวณต้นทุนและระยะเวลาที่เกี่ยวข้องให้ได้ทราบอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีทั้งการจัดสรรรถยนต์แบบเต็มคันจุดรับส่งน้อยจุด และจัดสรรรถยนต์แบบค่อยๆ วิ่งรับสินค้าแบบหลายจุด ส่งปลายทางแบบหลายจุด ได้ตามความ ต้องการของลูกค้าด้วยต้นทุนที่ต่ าที่สุด ผู้ประกบการขนส่งจึงสามารถใช้ทรัพยากรได้อย่างสมประโยชน์ที่สุด รวมทั้งสามารถใช้ประโยชน์ในรถยนต์วิ่งเที่ยวกลับได้มากขึ้นด้วยระบบบริหารการขนส่งเป็นโปรแกรมที่ใช้ใน การบริหารธุรกิจขนส่ง ช่วยในการจัดระบบงาน และเก็บข้อมูลต่างๆ ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์โดยระบบจะ ครอบคลุมกิจกรรม ดังนี้ - ระบบรับค าสั่งจ้างจากลูกค้า - ระบบการวางแผนการขนส่ง - ระบบการควบคุมการขนส่ง - ระบบบริหารจัดการทรัพยากร ได้แก่ รถยนต์ พนักงานขับรถยนต์ ลูกค้า สินค้า เป็นต้น - ระบบรายงานต่างๆ นอกจากนั้นยังมีระบบบริหารการไหลของงานขนส่ง (Transpor System Work Flow) ตาม รูปที่แสดงใน 6.24


116 3.5 ระบบบริหารจัดการงานซ่อมบ ารุงขนส่ง (Fleet Management System:FMS) ระบบนี้บาง ยี่ห้อเรียกว่า การจัดการกองพาหนะ ระบบนี้มีความสามารถ ในการสร้างรายกรให้บริการซ่อม สร้างรายการ ซ่อมบ ารุง รถยนต์เชื่อมต่อกกกับรายการซ่อมบ ารุง รายการซ่อมบ ารุงเชื่อมต่อกับอะไหล่ แจ้งเตือนเข้าซ่อม บ ารุงรถยนต์ เก็บค่าใช้จ่ายในการซ่อมบ ารุง เก็บค่าแรงในการซ่อมบ ารุง และเก็บค่าใช้จ่ายอะไหล่ ลักษณะ หน้าจอแสดงในรูปที่ 6.25


117 3.6 ระบบบริหารผ่านมือถือ (D.T.C.Moobile Management:DMM) ระบบติดตามและบริหารงานผ่าน ระบบ MoBile Device ระบบนี้ผู้บริหารสามารถตรวจสอบและติดตามผู้ใช้ผ่าน Web Browser ได้ ตลอดเวลาไม่ว่าเป็นฝ่ายขาย,ฝ่ายบริการ หรือฝ่ายใดๆ ก็ตามเพียงแค่ผู้ใช้มี MoBile Device ที่เป็น OS Android หรือ Black Berry OS และติดตั้งระบบ DTC Mobile Mananement โดยระบบจะรายงานสถานะ ของผู้ใช้ตลอดเวลาทุกๆ 5 นาทีหรือตามเวลาที่ผู้บริหารก าหนด และใช้งานสามารถส่งรายงานเข้าเยี่ยมลูกค้า และรายงานการเข้าบริการลูกค้าผ่าน Mobile Device ได้ตลอดเวลาระบบสามารถใช้งานดังนี้ - สามารถเปิดประวัติลูกค้าใหม่ - ลงเวลาเริ่มเข้าปฏิบัติงานและเลิกงานได้ - สั่งงาน และ ติดตามทีมงานขายได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส - มีแผนกขายในการเข้าพบ และเยี่ยมลูกค้าแบบเรียลไทม์ Real Time - สามารถบริหารจัดการแผนการขายของพนักงานขายแต่ละคน ก าหนดเป้าหมายรายได้ - ดูรายงานการเข้าพบลูกค้าสรุปเป็นรายวัน แยกตามพนักงานขายได้ - ดูรายงานการเข้าพบลูกค้าสรุปเป็นรายวัน แยกตามพนักงานขายได้ - เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทีขายอย่างถูกต้อง และรวดเร็ว 3.7 ระบบให้บริการขนส่งผ่านออนไลน์ นอกจากนั้นมีบางบริษัท เช่น DX Innovation หรือ ‘DX’ ได้พัฒนาและให้บริการระบบหริการการขนส่งและโลจิสติกส์ โดยบริการระบบผ่านเวบไซท์ 3 ระบบดังนี้ 3.7.1 DXplace ศูนย์กลางหารถยนต์ส่งสินค้าผ่านระบบออนไลน์ ให้บริการหารถยนต์ ขนส่งออนไลน์ เพื่อลดต้นทุนค่าขนส่งและประหยัดพลังงาน รวมถึง ค านวณระยะทาง หาเส้นทาง ลงประกาศ หารถยนต์ ลงประกาศมีรถยนต์เที่ยวเปล่า ราคากลางค่าขนส่ง หารถยนต์รวมแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ระบบ ถูกพัฒนาขึ้นจากแนวคิดง่ายๆ คือ การท าอย่างไรให้รถยนต์สามรถวิ่งงานได้อย่าต่อเนื่อง หรือลดระยะทางที่ รถยนต์ต้องวิ่งเที่ยวเปล่า โดยเปิดโอกาสให้เจ้าของสินค้าและผู้ให้บริการขนส่งสินค้ามาพบกับออนไลน์ซึ่ง นอกจากเป็นการเพิ่มรอบและโอกาสวิ่งงานของรถยนต์แล้ว ยังสามารถลดการสูญเสียพลังงานไปโดยเปล่า ประโยชน์อีกทางหนึ่งด้วย กลุ่มผู้ใช้บริการประกอบไปด้วย เจ้าของสินค้า บริษัทขนส่ง และผู้ให้บริการโลจิ สติกส์ 3.7.2 DX TMS เป็นระบบบริหารการขนส่งตามความต้องการแบบออนไลท์ เพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพงานขนส่งและบริการ วิเคราะห์โมเดลต้นทุน ท าใบเสนอราคาออนไลน์ บันทึกค่าใช้จ่ายขนส่ง ออกใบวางบิลลูกค้า บริหารจัดการ พนักงานขับรถยนต์ บริหารจัดการซ่อมบ ารุงรักษารถยนต์ ระบบบริหาร จัดการขนส่ง (TMS) เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการบริหารธุรกิจขนส่ง โดยช่วยในการจัดการระบบงาน และเก็บ ข้อมูลต่างๆ ในรูปแบบอิเล็กทรอนิคส์ ระบบนี้ครอบคลุมระบบงานต่างๆ ในธุรกิจขนส่ง ตั้งแต่การรับสินค้าจาก ลูกค้ารายละเอียดของผู้ส่ง-ผู้รับสินค้า การุมรถยนต์และพนักงานประจ ารถยนต์ การกระจายสินค้าและการวาง บิลประวัติของงรถยนต์และระบบงานซ่อมบ ารุง รวมถึงฟังก์ชั่นการออกรายงาต่างๆ ส าหรับกรณีที่บริษัทขนส่ง มีมากกว่า 1 สาขา ระบบยังรอรับการใช้งานข้อมูลร่วมกันได้อีกด้วย เพียงแค่ log-in ผ่านเว็บบราวเซอร์ สามารถใช้งานได้ 3.7.2.1 ระบบบริหารการขนส่งแบบเหมาคัน (Full Truck Load) ระบบนี้เป็น โปรแกรมที่ใช้ในการบริหารธุรกิจขนส่ง ช่วยในการจัดการระบบงาน และเก็บข้อมูลต่างๆ ในรูปแบบ อิเล็คทรอนิคส์โดยระบบจะครอบคลุมกิจกรรม ดังนี้ - ระบบรับค าสั่งจ้างจากลูกค้า - ระบบการวางแผนการขนส่ง


118 - ระบบการกระจายสินค้า - ระบบการควบคุมการขนส่ง - ระบบการวางบิล - ระบบบริหารจัดการทรัพยากร ได้แก่ รถยนต์ พนักงานขับรถยนต์ เงินสดย่อย ถัง น้ ามันฯลฯ - ระบบงานซ่อมบ ารุง - ระบบรายงานต่างๆ 3.7.2.2 ระบบการขนส่งแบบรายชิ น (Less than Truck Load) ระบบนี้เป็น โปรแกรม เพื่อบันทึก วางแผน ติดตาม และควบคุมปฏิบัติงานด้านการขนส่ง และการบันทึกบัญชีได้อย่าง ถูกต้อง โดยใช้งานผ่านเวบไซท์ ซึ่งจะช่วยลดการส่งสินค้าผิดพลาด ท าให้ส่วนกลางตรวจสอบสถานะ การปฏิบัติงาน ที่ไม่เป็นไปตามแผนและด าเนินการแก้ไขได้ทันการณ์ เพิ่มประสิทธิภาพการท างานให้ได้ตาม KPI เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน มีข้อมูลและช่องทางในการแชร์ทรัพยากรขนส่งระหว่างบริษัทที่อยู่ใน เครือข่ายเดียวกันจากข้อมูลรถยนต์เทียวเปล่าที่มีข้อมูลอยู่ในระบบ ซึ่งจะช่วยให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่าคุ้มค่า 3.7.3 DX TRACK เป็นระบบติดตามยานพาหนะตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น เป็นระบบบริหาร ตรวจสอบ ติดตามสถานะรถยนต์ และจัดส่งสินค้า ช่วยในการวางแผนและตัดสินใจแบบ เรียลไทม์ซึ่งประกอบด้วย 2 ส่วนดังนี้ - กล่องอุปกรณ์ 2 Way GPS เป็นอุปกรณ์สื่อสารส าหรับตั้งในรถยนต์เพื่อติดตาม สถานะปัจจุบันของรถยนต์ ข้อมูลจะถูกส่งมายัง Data Server ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วยบริการ GPRS - โปรแกรมการใช้งาน (Web Applicatin) เป็นโปรแกรมใช้งานส าหรับลาติดตาม สถานะการจัดส่งสินค้าผู้ใช้สามารถเข้าใช้งานโดยง่าย เพียงแค่ log-in ผ่านเว็บไซต์ได้ DX TRACK .com 4. อุปกรณ์ในระบบจีพีเอส 4.1 อุปกรณ์จีพีเอส ติดตามรถยนต์แบบออนไลน์ ระบบนี้ติดตั้งในรถยนต์โดยไม่มีหน่วยความจ า ติดตั้งในกล่องในรถยนต์ สามารถตรวจสอบข้อมูลในการใช้งานรถยนต์ผ่านระบบดาวเที่ยวบอกพิกัด GPS(Global Positioning System) และส่งข้อมูลผ่านระบบ GPRS ไม่ว่าจะเป็นต าแหน่งปัจจุบันของรถยนต์ หรือเส้นทางการใช้งานรถยนต์ย้อนหลัง ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบ และสรุปรายงานการใช้งานยานพาหนะ ผ่านโปรแกรม และ Web Brower โดยข้อมูลที่ดูจากโปรแกรมสามารถดูย้อนหลัง และท ารายงานได้ตั้งแต่วัน แรกที่ติดตั้งกล่อง สิ่งที่ได้รับ ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบต าแหน่ง และสรุปการใช้งานยานพาหนะเพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพ ควบคุมและลดต้นทุนการท างาน ใช้การวางแผนการจัดการ(Fleet Management) เพื่อความ สะดวกและรวดเร็ว ผ่านโปรแกรมและ Web Browser ได้ทุกเวลาแบบเรียลไทม์ แสดงในรูป 6.26 4.2 อุปกรณ์จีพีเอส ติดตามรถยนต์แบบออฟไลน์ เป็นอุปกรณ์ส าหรับบันทึกการใช้งานยานพาหนะ โดยใช้ระบบดาวเทียมบอกพิกัด GPS (Global Positioning System) ซึ่งสามารถจะรายงานทางการเดิน รถยนต์ เวลาที่มีการเริ่มใช้งาน หยุด หรือจอดรถยนต์ ความเร็วขณะใช้งานรถยนต์ ต าแหน่งของรถยนต์ใน ช่วงเวลาต่างๆ ฯลฯ โดยข้อมูลการใช้รถยนต์จะถูกเก็บไว้ในหน่วยความจ า SD Card ซึ่งสามารถน าข้อมูลมาท า การประมวลผลการใช้งานรถยนต์ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์โดยโปรแกรมภาษาไทย เพื่อให้ผู้ควบคุมสามารถท า การตรวจสอบพฤติกรรมการใช้งานรถยนต์ และทราบถึงจุดที่ควรท าการปรับปรุงเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ในการใช้งานรถยนต์ แสดงในรูปที่ 6.26


119 4.3 อุปกรณ์จีพีเอส ติดตามรถยนต์แบบออนไลน์แบบง่าย เป็นอุปกรณ์ส าหรับตรวจสอบต าแหน่ง ของรถยนต์ผ่านระบบดาวเทียมบอกพิกัด GPS (Global Positioning System) และส่งข้อมูลผ่านระบบ GPRS การท างาน ผู้ใช้งานเพียงเปิด Web Browser แดละ Login ด้วย User/password ได้รับ ก็สามารถติดตาม รถยนต์ได้โดยสามารถดูข้อมูลย้อนหลังเส้นทางได้ 7 วัน ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบต าแหน่งของรถยนต์ของ ตนเองหรือรถยนต์ของคนที่คุณห่วงใยด้วยความสะดวก และรวดเร็วได้ทุกเวลา ผ่าน Web Browser บน Computer หรือ มือถือได้ทุกเวลาแบบเรียลไทม์ แสดงในรูปที่ 6.26 4.4 อุปกรณ์จีพีเอส ติดตามรถยนต์ส่วนบุคคล (Personal Wireless Tracking GPS) เป็น อุปกรณ์ขนาดเล็กที่มีน้ าหนักเบา สะดวกในการพกพา เพื่อระบุต าแหน่งของผู้ใช้งาน และส่งข้อมูลต าแหน่ง รวดเร็วผ่านระบบ GPRS ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ PDA หรือมือถือ ลักษณะแสดงในรูปที่ 6.27 4.5 อุปกรณ์จีพีเอส ติดตามตู้คอนเทนเนอร์(Container Tracking) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ส าหรับ ติดตามต าแหน่งของตู้คอนเทนเนอร์สามารถท างานได้โดยใช้พลังจากแบตเตอรี่ภายในได้ถึง 7-30 วัน หลังจากถอดแหล่งจ่ายไฟจากตัวรถยนต์ออก ในกรณีตู้คอนเทนเนอร์ถูกถอดทิ้งไว้ ลักษณะแสดงในรูปที่ 6.29 4.6 อุปกรณ์บันทึกภาพเคลื่อนไหวขนาดเล็ก (DTC- Mini Digital Video Recorder: DVR) เป็น อุปกรณ์บันทึกภาพเคลื่อนไหวผ่านวิดีโอแบบดิจิตอลส าหรับติดตั้งในรถยนต์ท าให้สารถเห็นภาพเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องโดยสารตลอดจนรอบๆ ตัวรถยนต์ ภาพเหตุการณ์ต่างๆ จะบันทึกไว้ในหน่วยความจ าภายในซึ่ง มีขนาด 4 GB ซึ่งสามารถน ามาเปิดดูย้อนหลังได้ในซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์และด้วยอุปกรณ์ GPS ที่ติดตั้งอยู่ภายในจะช่วยให้เจ้าของรถยนต์สามารถมองเห็นต าแหน่งสถานที่เกิดเหตุต่างๆ ได้อย่างชัดเจน ลักษณะแสดงในรูปที่ 6.28


120 4.7 อุปกรณ์บันทึกภาพเคลื่อนไหว (Digital Video Recorder: DVR) เป็นอุปกรณ์บันทึกภาพ เคลื่อนไหวผ่านวิดีโอแบบดิจิตอล ส าหรับติดตั้งในรถยนต์ ท าให้คุณสามารถ ตรวจสองข้อมูลในการใช้งาน รถยนต์ไม่ว่าพฤติกรรมของคนขับรถ เหตุการณ์ที่ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องโดยสาร ตลอดจน รอบๆ ตัวรถยนต์โดย ข้อมูลจะเก็บเป็นไฟล์วีดีโอ และบันทึกในหน่วยความจ า (Hard Disk) ของตัวเครื่อง ลักษณะแสดงในรูปที่ 6.29 4.8 อุปกรณ์บันทึกภ าพเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์ (Real Time Digital Video Recorder Streaming) เป็นอุปกรณ์บันทึกและแสดงภาพเคลื่อนไหวส าหรับติดตั้ง ในรถยนต์ท าให้คุณเห็นภาพเหตุการณ์ ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องโดยสารตลอดจนรอบๆ ตัวรถยนต์ภาพเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งในและนอกรถยนต์จะถูก ส่งผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือเข้ามาแสดงในเครื่องคอมพิวเตอร์ ในลักษณะเรียลไทม์ ตลอดเวลาและด้วย อุปกรณ์ GPS ที่ติดตั้งอยู่ภายในจะช่วยให้เจ้าของรถยนต์ สามารถมองเห็นต าแหน่งและสถานที่เกิดเหตุต่างๆ ได้อย่างชัดเจน ลักษณะแสดงในรูปที่ 6.29 5. ผู้จ าหน่ายระบบจีพีเอส ในประเทศไทยมีผู้จ าหน่ายระบบหลายรายซึ่งสามารถเข้าไปดูรายละเอียดในเว็บไซท์ต่อไปนี้


121 ต้นทุนในการติดตั้งอุปกรณ์และระบบควบคุมจีพีเอสต่อคันประมาณ 10,000-20,000 บาท ส่วน อัตราในการให้บริการรายเดือนต่อคัน ประมาณ 300 – 500 บาท ทั้งยังไม่รวมค่าใช้จ่ายที่ใช้ซอฟต์แวร์อื่น เพิ่มเติมซึ่งสามารถของทราบรายละเอียดจากผู้จ าหน่ายแต่ละราย แบบฝึกหัดท้ายบทที่ 6 1. ให้อธิบายภาพรวมของระบบจีพีเอส 2. ระบบจีพีเอส มีประโยชน์อย่างไรบ้าง 3. ระบบบริหารและติดตามพาหนะผ่านจีพีเอส ประกอบด้วยระบบใดบ้างให้อธิบายโดย ละเอียด 4. อุปกรณ์ในระบบจีพีเอส ประกอบด้วยระบบใดบ้าง ให้อธิบายโดยละเอียด


122 บทที่ 7 การใช้โปรแกรมซอฟต์แวร์เพื่อวางแผนเส้นทางขนส่ง (Apply Software Program for Transport Route Planning) 1. โปรแกรมส าหรับวางแผนเส้นทางให้เกินทางสั นสุด (Shortest Route Program) เป็นโปรแกรมเพื่อหาเส้นทาง ให้มีระยะทางสั้นสุดของจุดในเครือข่ายขนส่ง โดยการเชื่อม เส้นทางขนส่งเข้าด้วยกัน ซึ่งสามารถใช้ทางถนน รางรถไฟ หรือเส้นท่อ เส้นทางเป็นการเชื่อมต าแหน่งจุดในการ ขนส่งเป็นคู่ ๆ ที่คาดว่าการขนส่งอาจจะเกิดขึ้น เส้นทางจะเชื่อมจากต้นทางไปยังปลายทางส าหรับการขนส่ง จากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่งในเครือข่าย เพื่อให้เกิดระยะทางสั้นสุด หรือเวลาในการเคลื่อนย้ายที่สุด ระหว่างจุด 2 จุด โปรแกรมจะค้นหาต้นทุนขนส่งในเส้นทางที่ต าสุดจากจุดเริ่มต้นหรือศูนย์กระจายสินค้าไปยังทุกจุดใน เครือข่าย


123 ข้อมูลป้อนเข้า (Input) จากรูปที่ 7.1 ที่เป็นหน้าจอส าหรับป้อนข้อมูลในซอฟแวร์แบ่งเป็น 3 ส่วน ดังนี้ 1. ส่วนนี้เป็นหัวเรื่องของปัญหา และก าหนดจุดเริ่มต้นเป็นตัวเลข จาก 1 จุด จนถึง 500 จุด ใน เครือข่าย 2. ส่วนนี้ใช้เพื่อสร้างรายการข้อมูลหลักของแต่ละจุด ซึ่งมีรายละเอียดข้อมูล การเติมโคออร์ดิเนต ของแต่ละจุดในการขนส่ง สร้างระบบกริดเพื่อจัดท าแผนที่ต าแหน่งต่างๆ บนแกน X,Y โคออร์ดิเนต เริ่มต้น (0,0) ต้องเริ่มต้นที่มุมตะวันตกเฉียงใต้เสมอ 3. ใช้เพื่อก าหนดเส้นทางที่มีอยู่ระหว่างแต่ละจุด และต้นทุน หรือระยะทางกับเวลา โดยแต่ละจุด ก าหนดข้อมูลเป็นตัวเลข ส่วนต้นทุนอาจจะอยู่ในรูปต่อระยะทางหรือต่อน้ าหนัก ฉะนั้นเป้าหมาย ในการวางแผนเส้นทางเพื่อให้ได้เวลาสั้นที่สุด และระยะทางสั้นที่สุด หลังจากป้อนข้อมูลครบถ้วนให้ท าการบันทึกและจัดเก็บข้อมูลไว้ในแฟ้มข้อมูล (Save) แล้วเริ่ม ก าหนดเส้นทาง ในการใช้โปรแกรมหลังจากป้อนข้อมูล และเก็บไว้แล้ว ให้กดปุ่มเปิดแฟ้มข้อมูล (Open file) และเมื่อเปิดขึ้น ให้ท าการปรับแก้ไข สามารถเพิ่มแถวข้อมูล (Add Row) หรือลบ แถวข้อมูลได้ แล้วท าการแก้ไขปัญหา (Solve) ผลก็จะแสดงข้อมูลเส้นทางที่สั้นสุด พร้อมต้นทุน จนถึงปลายทาง ตัวอย่าง จากข้อมูลถนนหลักในการขนส่งระหว่างเมือง อมาริลโล (Amarillo) เทกซัส (Texas) และฟอร์ทวอร์ท (Fort Worth) เวลาที่ใช้ในแต่ละคู่ของจุดตามที่แสดงในตาราง แล้วหา เวลาที่วิ่งน้อยสุดจาก อมาริลโลไปเทกซัส จาก เทกซัสไปฟอร์ทวิร์ท ตามที่แสดงในรูปที่ 7.2 รูปที่ 7.2 เครือข่ายระหว่างถนนไฮเวย์ 3 สายหลัก พร้อมเวลาที่ใช้ในการขับ


124 การเริ่มต้นเติมข้อมูลจะเริ่มจากส่วนที่ 1 คือ ตั้งชื่อปัญหา EXAMPLEPROBLEM และจุดเริ่มต้น Problem label – EXAMPLE PROBLEM จากกริด หรือตารางระยะเวลาในการขับตามรูปที่ 7.2 จะตั้งค่าจุดแต่ละจุด เช่น A=1, B=2, เป็นต้น ส่วนข้อมูลหลังกรอกเสร็จจะแสดงได้ดังนี้ หลังจากนั้นจะลองจ าลองการเชื่อมต่อระหว่างจุด 2 จุด ในเครือข่ายพร้อมต้นทุน ส่วนข้อมูลจะแสดงดังนี้ Problem label – EXAMPLEPROBLEM Origin node number : 1


125 ซึ่งบนหน้าจอคอมพิวเตอร์แสดงในรูปที่ 7.3 รูปที่ 7.3 หน้าจอหลังจากป้อนข้อมูลเสร็จ หลังจากนั้นกดปุ่มแก้ไขปัญหา (Solve) ซึ่งจะได้ผลลัพธ์ดังนี้ ซึ่งจากกการแก้ไขปัญหา พบว่าจะใช้ต้นทุนรวม 384 ดอลล่าห์สหรัฐ (USD) ซึ่งเป็นเส้นทางที่สั้น ที่สุดจาก อมาริลโล ไปฟอร์ทวอร์ท ตามเส้นทาง 1 2 5 9 10 ห รื อ A B E I J ซึ่งจากรูปที่ 7.2 สามารถน ามาเขียนในรูปที่ 7.4


126 รูปที่ 7.4 เส้นทางการขนส่งที่สั้นสุด


127 2.โปรแกรมการจัดล าดับการเดินทาง เป็นโปรแกรมที่นิยมใช้แก้ปัญหาในการจัดส่งสินค้าของพนักงานขาย ที่มีจุดแวะส่งสินค้าที่ต้อง จัดล าดับในการจัดส่งสูงถึง 20 จุด โดยใช้ระบบโคออร์ดิเนตในการควบคุม ตามที่แสดงในรูปที่ 7.5 รูปที่ 7.5 หน้าจอคอมพิวเตอร์ส าหรับเติมข้อมูล การป้อนข้อมูล (Input) มีข้อมูลที่ต้องเติม 4 ชุดซึ่งประกอบด้วย 1. โคออร์ดิเนต X,Y เมื่อเทียบกับจุดก าเนิด (0,0) 2. ค่าแฟคเตอร์หรือตัวประกอบในเส้นทาง (Circuity Factor) ส่วนมากจะเผื่อไว้ประมาณ 1.21 เท่า 3. ค่าแฟคเตอร์หรือตัวประกอบจากแผนที่ (Map Scaling Factor) 4. ค่าโคออร์ดิเนตของจุดที่หยุดในแต่ละจุด - ฉลากก ากับปัญหา (Problem Label) เป็นการอธิบายหัวเรื่องปัญหา - ตัวประกอบในเส้นทาง (Circuity Factor) เป็นค่าคูณขึ้นที่มากกว่า 1 เพื่อเปลี่ยนค่าเป็นระยะ ทางตรง ในข้อมูลเป็นระยะทางถนน ทางราง ทางท่อ ทางอากาศ เช่น ค่าโคออร์ดิเนตเชิงเส้น จะคูณด้วย 1.21 ซึ่งเป็นค่าที่ดีในการคูณระยะทางบนถนน แต่ค่าต้องไม่น้อยกว่า 1 - ตัวประกอบจากแผนที่ (Map Scaling Factor) เป็นตัวคูณเพื่อเปลี่ยนค่าโคออร์ดิเนตไปยังค่าการ วัด ระยะทางที่ต้องการบนแผนที่ส่วนมากใช้แปลงจากแผนที่เป็นระยะทางในรูปของกิโลเมตร หรือไมล์ เช่นใน แผนที่ แสดงสกล 1” = 50 ไมล์ ค่าแฟคเตอร์ หรือปัจจัยเผื่อ คือ 1:5 - ค่าโคออร์ดิเนตของศูนย์กระจายสินค้า (Depot Coordinates) เป็นจุดตั้งต้นของการเริ่มต้น เส้นทาง และเป็นจุดซึ่งสิ้นสุดกิจกรรม จะอยู่ในรูปโคออร์ดิเนต X,Y


128 - ข้อมูลจุดหยุดแวะส่งสินค้า (Stop Data) เป็นจุดที่หยุดแวะส่งสินค้าจะอยู่ในรูปโคออร์ดิเนต X,Y เป็นกริดที่สามารถแวะส่งได้หลายจุดส่วนมากกว่า 50 จุด ซึ่งผลจากการกรอกข้อมูล หน้าจอแสดงตามรูปที่ 7.6 หลังจากข้อมูลครบถ้วนสามารถกดปุ่ม แก้ไขปัญหา (SOLVE) ถ้าต้องการพิมพ์ออกกริด (Plot) ก็สามารถท าได้เลย รูปที่ 7.6 ข้อมูลบนหน้าจอ ตัวอย่าง รถบรรทุกแวะหยุดส่งสินค้า 5 จุด โดยใช้ค่าตัวประกอบในเส้นทาง 1.21 และค่าตัว ประกอบในเส้นทาง 1.21 ค่าตัวประกอบจากแผนที่ มีค่าเป็น 1 ซึ่งจากข้อมูลตามรูปที่ 7.6 เมื่อหาเส้นทาง เสร็จแล้วได้ค่าดังนี้ จากการจัดล าดับการแวะส่งสินค้า พบว่า มีการวิ่งจากศูนย์กระจายสินค้า (Depot) 1 4 2 5 3 Depot โดยมีระยะทางรวม 14.167 กิโลเมตร สามารถน ามาเขียนกราฟระบุเส้นทางและต าแหน่ง โคออร์ดิเนตรูปที่ 7.7


129 2. โปรแกรมการก าหนดเส้นทางเดินรถยนต์ และตารางจัดส่งสินค้า โปรแกรมการก าหนดเส้นทางเดินรถยนต์ และตารางจัดส่งสินค้า (Vehicle Routing and Scheduling) เป็นระบบที่น ามาใช้ตัดสินใจในการก าหนดเส้นทางเดินรถยนต์ และตารางส่งสินค้าที่ดีที่สุดของ กองพาหนะ โดยรถยนต์เริ่มจากศูนย์กระจายสินค้าเพื่อแวะจัดส่งสินค้า หรือทยอยรับสินค้ากลับมายังศูนย์ กระจายสินค้า ต้องมีการจัดล าดับการจัดส่งให้รถยนต์แต่ละคัน เพื่อให้ลดระยะทางในการเดินทางและจ านวน รถยนต์ที่ต้องการบริการและส่งสินค้า ตัวอย่าง บริษัทผลิตอาหารมีการจัดส่งสินค้ารายวันจากคลังสินค้าไปยังร้านค้าปลีก ตามที่ แสดงในรูป 7.8 ฉะนั้นผู้จัดส่งต้องวางแผนจ านวนเส้นทาง ร้านที่มอบหมายให้จัดส่งไปกับรถยนต์แต่ละคัน ล าดับการจัดส่ง เวลาที่ร้านก าหนดให้จัดส่งในแต่ละวัน ชั่วโมงที่คนขับรถใช้ ค่าล่วงเวลา ซึ่งการจัดส่งมีข้อจ ากัด และอุปสรรคมากมาย


130 โดยปกติซอฟต์แวร์ที่นิยมใช้ มีแบบจ าลองที่มีคุณสมบัติดังนี - ทั้งการแวะจัดส่ง และรับการรับสินค้ากลับอนุญาตให้สามารถท าในเที่ยวเดียวกัน สามารถผสมทั้ง รับและจัดส่งได้ หรือให้รับได้หลังจากจัดส่งเสร็จ - ยอมให้ผสมรถยนต์หลายขนาดได้ - การบรรทุกสินค้าควบคุมด้วยน้ าหนัก ปริมาตร หรือจ านวนจดแวะส่งสินค้า - ยอมให้มีต าแหน่งโคออร์ดิเนตจุดแวะส่งสินค้า และศูนย์กระจายสินค้าหลายจุด - ระยะทางระหว่างจุดแวะส่งสินค้า และศูนย์กระจายสินค้า หรือระหว่าง จุดแวะส่งสินค้ากับจุดแวะ ส่งสินค้า สามารถค านวณจากโคออร์ดิเนตได้ - สามารถก าหนดเวลา และระยะทางในเส้นทางได้ - ตัดกีดขวางเส้นทาง ส่วนมากเป็น ทะเลสาบ แม่น้ า ที่จอดรถ ที่ท าให้รถเข้าไม่ถึงที่จัดส่งได้ - เวลาที่รถยนต์ขณะออกจากศูนย์กระจายสินค้าได้เร็วสุด และเวลาที่ช้าสุดสามารถกลับมาที่ศูนย์ กระจายสินค้า - เวลาในการหยุดรถยนต์ การขึ้นและลงสินค้า สามารถค านวณจากน้ าหนัก ปริมาตร หรือ การแวะ ส่งแต่ละจุด - โซนความเร็ว ก าหนดความเร็วระหว่างกลุ่มที่จะแวะส่งสินค้า หรือ ความเร็วที่อาจจะก าหนด ระหว่างต าแหน่ง 2 ต าแหน่งที่แวะส่งสินค้า - ช่วงเวลาซึ่งการจัดส่งหรือการแวะรับในแต่ละจุดที่ก าหนด - การออกแบบเส้นทางต้องมีการค านวณโดยใช้แบบจ าลองทั้ง 3 วิธี หรือออกแบบโดยก าหนดจาก ผู้ใช้งาน - ต้นทุนในแต่ละเส้นทาง ก าหนดตามอัตราต้นทุนคงที่ และต้นทุนผันแปร และค่าล่วงเวลาใน การขนส่ง - ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการให้บริการตามจุดแวะส่งสินค้าแต่ละจุดในเส้นทางขนส่ง โดยเทียบกับ การขนส่งในรูปแบบต่าง ๆ การป้อนข้อมูลเข้า จะต้องป้อนข้อมูลให้ครบทุกจอ ซึ่งข้อมูลที่ต้องเติมรวมถึง ค่าพารามิเตอร์ก าหนด ความเร็วในแต่ละจุดที่แวะส่งสินค้า ระยะทางในแต่ละจุดที่แวะส่งสินค้า ตัวกัดขวางเส้นทางขนส่งโซนความเร็ว ต าแหน่งที่แวะส่งสินค้า ความเร็วระหว่างโซนต่อโซน ข้อมูลรถยนต์ และการตรวจเช็คข้อมูลซึ่งมีรายละเอียด ต่อไปนี้ 3.1พารามิเตอร์ (Parameters) ประกอบด้วยชื่อปัญหา (Problem Label) ทิศทางมุมเริ่มต้น ในตาราง (Grid Corner) ในตัวอย่างจะใช้ - SW หมายถึงทิศ ตะวันตกเฉียงใต้ (South West) - ชื่อของศูนย์กระจายสินค้า (Depot Description) - โซนที่ตั้ง (Located Zone) - โคออร์ดิเนตแนวตั้ง (Vertical Coordinate) - โคออร์ดิเนตแนวนอน (Horizontal Coordinate) - เวลาที่รถยนต์ขณะออกจากศูนย์กระจายสินค้าได้เร็วสุด (Earliest Starting time) - เวลาที่ช้าสุดสามารถกลับมาที่ศูนย์กระจายสินค้า (Latest Return time) - ความเร็วของรถยนต์ที่ก าหนด (Default Vehicle Speed) - จ านวนชั่วโมงที่ปฏิบัติงานก่อนจ่ายค่าล่วงเวลา (After How Many Hours will Overtime Begin)


131 - ร้อยละการใช้รถยนต์ก่อนที่จะให้รับสินค้ากลับ (Percent of Vehicle in use Before Allowing Pickups) - ค่าแฟคเตอร์หรือตัวประกอบสเกลแนวตั้ง (Vertical Scaling Factor) - ค่าแฟคเตอร์สเกลแนวนอน (Horizontal Scaling Factor) - จ านวนชั่วโมงมากสุดที่ยอให้อยู่ในเส้นทาง (Maximum Time allowed on a Route) - ระยะทางไกลสุดที่ยอมให้อยู่ในเส้นทาง (Maximum Distance allowed on a Route) - เวลาตายตัวที่ใช้ในการหยุดส่งสินค้า ( Fixed Time Per Stop) - เวลาผันแปรที่ใช้ในการหยุดส่งสินค้า (Fixed Time Per Stop) - คิดตามปริมาตร (Cube) - น้ าหนัก (Weight) - ช่วงในการพักแต่ละครั้งติดเป็นนาที (Du-ration of….. Break) ลักษณะจอแสดงในรูปที่ 7.9 จุดโคออร์ดิเนต (Coordinate Point) จะก าหนดต าแหน่งโคออร์ดิเนตจุดแวะส่งสินค้า และศูนย์กระจายสินค้า ทั้งในรูปของละติจูดและลองติจูด และการลงในตารางธรรมดา ใช้ในการค านวณระยะทางของต าแหน่งแวะส่ง สินค้าแต่ล่ะคู่ เพื่อจัดท าแผนที่ต่อไป


132 แฟคเตอร์ของสัดส่วน (Scaling Factors) จะใช้คูณเข้าเพื่อเผื่อจากการเปลี่ยนจากค่าโคออร์ดิเนตเป็น ระยะทางมีทั้งแนวนอนและแนวตั้ง ควบคู่กับการใช้ตัวประกอบที่คูณเข้ากับแผนที่ ถ้ามีการใช้ค่าละติจูดและ ลองติจูด แฟคเตอร์ของสัดส่วนจะขึ้นกับค่าละติจูดโดยประมาณของจุดที่จัดส่งสินค้าและศูนย์กระจายสินค้า โดยค่าการแปลงส าหรับละติจูดและลองติจูดแสดงในตารางที่ 7.1 และส่วนหนึ่งขึ้นกับแผนที่ที่ใช้ แฟคเตอร์ในเส้นทาง เป็นค่าที่ใช้ปรับระยะทางตรงข้ามกับความเป็นจริงของเส้นทางถนน ส่วนมากฝ่าย ก่อสร้างจะใช้แฟคเตอร์มีค่า 1.21 เพราะส่วนมากความยาวของถนนมีความยาวมากกว่าร้อยละ 21 เมื่อ เปรียบเทียบกับระยะทางที่ตรงที่ได้จากการค านวณ ในกรณีที่เป็นค่าโคออร์ดิเนตที่เป็นละติจูด และลองติจูดจะ ใช้ค่าแฟคเตอร์ 1.17 เพราะมีความแม่นย ามากกว่าระยะทางจากถนนจริง เช่น กรณีใช้แฟคเตอร์ของแผนที่ มี ค่า0.3 ส่วนแฟคเตอร์ในเส้นทางมีค่า 1.21 ค่าแฟคเตอร์รวมมีค่า 0.3 1.21 = 0.363 ซึ่งจะมีผลกระทบต่อ ค่าโคออร์ดิเนตทั้งแกนนอนและแกนตั้ง ซึ่งต้องใช้ค่าแฟคเตอร์ของทั้งสองสัดส่วน (Horizontal and Vertical Scaling Factors) ซึ่งจะแตกต่างจากโคออร์ดิเนตของละติจูดและลองติจูด ข้อจ ากัดเกี่ยวกับเวลาของศูนย์กระจายสินค้า (Depot time Restrictions) ส่วนมากมีผลจากชั่วโมงการเปิด และปิดศูนย์กระจายสินค้า ซึ่งเป็นเวลาที่รถยนต์สามารถออกได้เร็วที่สุด และเข้ามายังพื้นที่ได้ช้าที่สุด ข้อจ ากัดของเส้นทาง (Route Restrictions) มีข้อจ ากัดในเส้นทางจากเวลา หรือระยะทางเช่น จ านวนชั่วโมง สูงสุดที่ยอมให้อยู่ในเส้นทาง ระยะทางสูงสุดที่ยอมให้รถวิ่งในแต่ละเที่ยว ก่อนกลับมายังศูนย์กระจายสินค้า แต่ พึงระวังว่าจะไม่เกิดข้อขัดแย้งระหว่างระยะทางกับเวลา


133 เวลาพัก (Break Time) การออกแบบเส้นทางอาจจะต้องการให้พนักงานขับรถยนต์พักชั่วคราวระหว่างเที่ยว เช่น พักเที่ยง พักตามช่วงเวลา จะต้องก าหนดเวลาเหล่านี้ในการวางแผนด้วย ภาพรวมของเวลา (Time Windows) จุดใดๆ อาจจะมีเวลาที่แน่นอนซึ่งใช้ในการจัดส่งหรือรับสินค้ากลับคืน ต้องก าหนดเวลาเริ่มต้น และสิ้นสุดการส่งสินค้า ถ้าเวลาในการเริ่มต้นและสิ้นสุดไม่ใช่ข้อจ ากัดแล้วต้อง ก าหนดเวลาให้กว้างเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้เปิดศูนย์กระจายสินค้าเร็วขึ้น และปิดศูนย์ฯ ช้าที่สุด นโยบายการแวะรับสินค้า (Pickup Policy) เมื่อได้รวมกิจกรรมการแวะรับสินค้าเที่ยวกลับเข้าไว้ในเส้นทาง การจัดส่งสินค้า ต้องเติมข้อมูลปริมาณสินค้าลงบนรถยนต์ โดยนโยบายส่วนมากจะนิยมให้จัดส่งสินค้าเสร็จ ค่อยแวะรับสินค้ากลับ ฉะนั้นจึงต้องก าหนดร้อยละของสินค้าที่บรรทุกบนรถยนต์ที่ยอมให้มีการแวะรับสินค้า นโยบายนี้แสดงให้เห็นความจุที่รถยนต์มารอยู่ในปัจจุบัน เช่น รถยนต์ได้บรรทุกเหลือ 0 % หมายถึง ให้แวะ รับสินค้าเมื่อรถได้ส่งสินค้าเรียบร้อย หรือรถยนต์ว่างนั้นเอง กรณี รถยนต์ได้บรรทุกเหลือ 35 % หมายถึง ให้ แวะรับสินค้าเมื่อรถได้ส่งสินค้า เหลือเพียงร้อยละ 35 หรือน้อยกว่า ส่วน 100% หมายถึงสามารถแวะรับ สินค้าตลอดเส้นทาง ซึ่งท าให้เกิดความยืดหยุ่นในการออกแบบและวางแผนเส้นทางขนส่งได้ 3.2 การก าหนดโซนความเร็ว (Speed Zone) ทั้งศูนย์กระจายสินค้าและจุดแวะรับส่งสินค้าจะรวมเป็นกลุ่ม เดียวกัน โดยอยู่ในรูปกรอบสี่เหลี่ยม ซึ่งเรียกว่าโซนความเร็ว แล้วจึงขยายเป็นความเร็วระหว่างโซน เช่น โซนในเมือง และโซนชนบท โซนที่จราจรแออัด และโซนที่จราจรเบาบาง โดยส่วนมาก าหนดโซนความเร็วจะ ก าหนดอยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมมุมฉากซึ่งจุดที่แวะส่งสินค้าอยู่ในกรอบนี้ ส่วนมากก าหนดเป็นโคออร์ดิเนตทั้ง 4 มุม คือ มุมซ้าย มุมขวา มุมล่างและมุมบน ระบบโคออร์ดิเนตทั้งของศูนย์กระจายสินค้าและจุดแวะรับส่งสินค้า ต้องอยู่ในโซนเดียวกัน เช่น ในสหรัฐอเมริกา โซนในเมืองจะขับได้ 25 ไมล์ต่อชั่วโมง และนอกเมืองจะขับได้ 50 ไมล์ต่อชั่วโมง นอกจากนั้นต้องพิจารณาความเร็วระหว่างเมือง ส าห รับป ระเทศไทยนั้นปฏิบัติต าม พ.ร.บ.จราจรทางบก 2522 ก าหนด ส าหรับในตัวอย่างนี้ก าหนดความเร็วเป็น 6 ระดับ สมมุติฐานความเร็วระหว่างโซนที่ 1 ไปยังโซนที่ 2 เท่ากับ โซนที่ 2 ไปยังโซนที่ 1 โดยความเร็วมีดังนี้


134 ต้องก าหนดความเร็วให้กับกลุ่มจุดจัดส่งสินค้าที่ได้เลือก หรือจุดจัดส่งกับศูนย์กระจายสินค้าให้ใช้ ความเร็วตามที่ก าหนด การก าหนดโซนความเร็วต้องครอบคลุมพื้นที่จัดส่งสินค้าที่ใหญ่พอ เพื่อให้สามรถ ตอบสนองต่อข้อจ ากัดเรื่องเวลา หน้าจอในการก าหนดความเร็วแสดงในรูป 7.10 การก าหนดความเร็วโซนต่อ โซนแสดงใน รูป ที่ 7.11 และก าหนดโซนความเร็วแสดงในรูปที่ 7.12


135


136 3.3 การก าหนดระยะทาง (Distances) การก าหนดระยะทางจะใช้โคออร์ดิเนตของจุดส่งสินค้าเพื่อใช้ก าหนด ระยะทางโดยประมาณ แต่ต้องการ การค านวณที่แม่นย ามากกว่าโดยการคูณด้วยค่าแฟคเตอร์เมื่อเส้นทางเป็น ตัวแทนเวลามาตรฐาน เพราะบางครั้งเส้นทางก็เป็นแบบถนนเดินรถทางเดียว ทะเลสาบ ภูเขา หรือสิ่งขวางกัน ชนิดอื่น ที่ท าให้ระยะทางผิดจากความเป็นจริง จนไม่เป็นที่ยอมรับ ฉะนั้นต้องการก าหนดระยะทางระหว่าง ศูนย์กระจายสินค้า กับจุดส่งสินค้า หรือจุดต่อจุดในการส่งสินค้า รวมถึงการก าหนดระยะทาง ระหว่างจุดส่ง สินค้า แสดงในรูป 7.13 3.4 สิ่งกีดขวางเส้นทาง (Route Barriers) อาจจะเป็นพื้นที่ที่ท าให้รถยนต์สามารถไม่วิ่งตรงได้ ต้องอ้อม เช่น ทะเลสาบ แม่น้ า สวนสาธารณะ เป็นต้น ซึ่งต้องน าระยะที่รถยนต์วิ่งอ้อมมารวมในระยะที่เชื่อมจุดจัดส่งแต่ ละคู่ ซึ่งตามแบบจ าลองเป็นเส้นตรง ส่วนมากจุดขวางกั้นจะมีค่าโคออร์ดิเนตเป็นมุม 4 มุม ในทิศตะวันตกเฉียง เหนือ (NW) ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ (NE) ทิศตะวันตกเฉียงใต้ (SW) ทิศตะวันตกเฉียงใต้ (SE) ซึ่งอาจจะมีสิ่ง กีดขวางหลายจุดในแต่ละเส้นทาง ลักษณะการกรอกข้อมูลแสดงในรูปที่ 7.14


137


138 3.5ปริมาณจัดส่งในแต่ละจุดจัดส่ง (Stop Volumes) การออกแบบในแต่ละจุดจัดส่ง จะมีการ จัดส่ง (Delivery :D) หรือการรับสินค้ากลับ (pickup p:) โดยจุดที่จัดส่งหนึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของ อีกจุดจัดส่งหนึ่งเหมือนกับศูนย์กระจายสินค้า เป็นจุดสุดท้ายส าหรับหยุดรถยนต์ ปริมาณสินค้าที่ จัดส่งแต่ละจุดอาจจะอยู่ในรูปของน้ าหนัก หรือปริมาตร กล่อง เช่น ลูกบาศก์เมตร กิโลกรัม หรือ หน่วยที่คล้ายคลึงกันเพื่อให้สามารถควบคุมการบรรจุสินค้าในแต่ละเส้นทางได้ ลักษณะการเติม ข้อมูลในซอฟต์แวร์แสดงรูปที่ 7.15 3.6ความจุของรถยนต์ (Vehicle capacity) รถยนต์มีหลายประเภท และแต่ละกิจการก็มีหลาย คันมีตัวถังหลายลักษณะ สามารถบรรจุได้ในปริมาตรและน้ าหนักที่แตกต่างกัน ซึ่งต้องก าหนดใน แต่ละจุดแวะส่งสินค้า ต้นทุน (cost) มีต้นทุนผันแปรและต้นทุนคงที่ (Fixed rate per vehicle) เป็นค่าซื้อหรือ เช่ารถยนต์และบ ารุงรักษารถยนต์พนักงานขับรถยนต์ เงินเดือนเป็นต้นทุนคงที่ สวัสดิการ ส่วน ต้นทุนที่ผันแปร (Variable cost) ขึ้นกับชั่วโมงที่จ่ายจริงที่เกิดขึ้นในแต่ละเที่ยว ลักษณ์ ซอฟต์แวร์ดังรูป 7.16


139 3.7การตรวจเช็คข้อมูล ก่อนที่จะวางแผนเส้นทาง ต้องตรวจสอบข้อมูลว่ามีความถูกต้องและ ครบถ้วนหรือไม่ แล้วจึงเริ่มท าการค านวณเพื่อวางแผนเส้นทาง ลักษณะการตรวจเช็คข้อมูลใน ซอฟต์แวร์ หลังจากนั้นเริ่มก าหนดเส้นทางในการวางแผน โดยมีการออกแบบเส้นทางให้ถูกต้อง การออกแบบใช้หลักการ แก้ปัญหาของ คลาร์ค และวริจท์ (Clarke and Wright) โดยผู้ใช้งานระบบสามารถออกแบบ และควบคุมเพื่อ ออกแบบเส้นทาง จากข้อมูลกราฟ สถิติการขนส่ง และเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถก าหนดเส้นทางให้กับรถยนต์ ล าดับการจัดส่ง ที่สามารถสร้างทางเลือกได้หลายแนวทาง แต่ผลสุดท้ายต้องท าให้ต้นทุนในการให้บริการลูกค้า ต่ าสุด ดังตัวอย่าง รูปที่ 7.18 และรูปได้จากการค านวณ รูปที่ 7.19


140


141 แบบฝึกหัดท้ายบท 1. โปรแกรมส าหรับการวางแผนเส้นทางให้เกิดทางสั้นสุด ต้องจัดเตรียมข้อมูลอะไรบ้าง ก่อนประมวลผล 2. โปรแกรมการจัดล าดับการเดินทาง ต้องจัดเตรียมข้อมูลอะไรบ้างก่อนประมวลผล 3. โปรแกรมการก าหนดเส้นทางเดินรถยนต์ และตารางจัดส่งสินค้า ต้องจัดเตรียมข้อมูลอะไรบ้าง ก่อน ประมวลผล ----------------------------------


Click to View FlipBook Version