The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้แบบออนแฮนด์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by vyutung, 2022-03-07 14:09:44

แผนการจัดการเรียนรู้แบบออนแฮนด์

แผนการจัดการเรียนรู้แบบออนแฮนด์



แผนการจดั การเรียนรแู้ บบ ON-HAND

กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

รายวิชา วิทยาการคานวณ

ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 2

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4

เรื่อง หลกั การทางานของระบบคอมพิวเตอร์

ผจู้ ดั ทา
นายจิรายสุ ไฝขาว
นางสาวจินดารตั น์ พรายพรรณ
นางสาววาริธร หย่ตู งุ้



แผนการจดั การเรียนรู้
ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 2

ตัวชว้ี ดั และสารการเรียนร้แู กนกลาง
กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์

(ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.2560)
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551

สาระท่ี 4 เทคโนโลยี

 1. Onsite (ออนไซต)์
 2. Online (ออนไลน์)
 3. On-hand (ออนแฮนด์)

สมาชิกในกลุ่ม
นายจิรายุส ไฝขาว 6115108001048
นางสาววาริธร หยู่ตงุ้ 6115108001004
นางสาวจินดารัตน์ พรายพรรณ 6115108001010

กลุม่ เรยี น
61515.152 คอมพิวเตอร์



คำนำ

แผนการจัดการเรียนรู้ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 จัดทำขึ้นเพ่ือ
กำหนดหรือวางแผนเรือ่ งที่จะสอนอย่างเป็นระบบ ให้สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรยี นรู้ ตัวชี้วัดของ
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้โดยเน้นผู้เรียนเปน็
สำคัญให้ผู้เรียนได้เป็นผู้คิดและปฏิบัติด้วยตนเองตามสภาพแวดล้อม คิด ออกแบบ สื่ออุป กรณ์ท่ี
เหมาะกบั สาระการเรียนรู้ วัดและประเมินผลดว้ ยวธิ กี ารที่หลากหลาย เหมาะสมกบั จุดประสงคใ์ นการ
เรยี นรแู้ ละวัยของผู้เรียน

แผนการจัดการเรยี นรู้ให้ประโยชนห์ ลายประการ นอกจากจะชว่ ยทำให้ผสู้ อนเกดิ ความม่นั ใจ
ในการสอนและการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ยงั มีส่วนช่วยในการวางแผน การ
จัดการเรียนการสอนใหม้ ปี ระสิทธิภาพ

แผนการจัดการเรียนรู้ฉบับนี้ ประกอบไปด้วย มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด ช้ัน
มัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คำอธิบายรายวิชา กำหนดการสอนวชิ าวิทยาการคำนวณ ช้ันมัธยมศึกษาปี
ที่ 2 ภาคเรียนท่ี 1 การประเมินและการใหค้ ะแนน รวมทัง้ แผนการจัดการเรียนรูท้ ง้ั หมด 3 แผน สื่อ
ใบกิจกรรม วัดผลสัมฤทธ์ิที่ใช้ในการประเมินความรู้ ความสามารถของผู้เรยี น วิธีการและเกณฑก์ าร
ประเมินการเรียนรู้ของผูเ้ รียน

ผสู้ อนขอขอบพระคุณผมู้ สี ว่ นเก่ียวขอ้ งทกุ ทา่ นที่ให้คำแนะนำ และเปน็ ทปี่ รกึ ษาในการจัดทำ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่มีประโยชน์และมีคุณค่าต่อการจัดการเรียนการสอน อันจะเป็นประโยชน์
สงู สุด ต่อตัวผเู้ รียนไว้ ณ โอกาสน้ี

คณะผู้จัดทำ

ข หนา้

สารบัญ 1
2
มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชวี้ ัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง 2
เปา้ หมายของหลกั สูตร 5
คุณภาพผเู้ รียน 6
คำอธบิ ายรายวิชา 9
โครงสร้างรายวชิ า 11
โครงสรา้ งการจัดเวลาเรยี น 12
สมรรถนะทาง ICT 13
กจิ กรรมการเรยี นรู้ 23
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 37
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 2
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3

1

มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชีว้ ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
สาระท่ี 4 เทคโนโลยี

มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจ และใชแ้ นวคดิ เชิงคำนวณในการแกป้ ญั หาทพ่ี บในชวี ิตจริงอย่างเป็น
ขั้นตอนและเป็นระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการ
แก้ปัญหาได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ รู้เทา่ ทัน และมีจริยธรรม

มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2

ตัวชีว้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

1. ออกแบบอัลกอริทมึ ทใ่ี ช้แนวคิดเชงิ คํานวณ • แนวคิดเชิงคํานวณ

ในการแก้ปัญหา หรือการทำงานที่พบในชีวิต • การแก้ปญั หาโดยใช้แนวคิดเชงิ คํานวณ

จริง • ตัวอย่างปัญหา เชน่ การเขา้ แถวตามลำดบั

ความสูงให้เร็วทสี่ ุด จดั เรียงเสอ้ื ใหห้ าได้ง่ายทีส่ ดุ

2. ออกแบบและเขียนโปรแกรมที่ใชต้ รรกะและ • ตัวดำเนินการบูลนี

ฟังกช์ ันในการแก้ปญั หา • ฟังก์ชัน

• การออกแบบและเขียนโปรแกรมที่มีการใช้

ตรรกะและฟงั กช์ นั

• การออกแบบอลั กอรทิ ึม เพื่อแก้ปัญหาอาจใช้

แนวคดิ เชงิ คํานวณในการออกแบบ เพอ่ื ให้

การแก้ปัญหามีประสทิ ธภิ าพ

• การแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอนจะช่วยให้

แกป้ ญั หาได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ

• ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการเขียนโปรแกรม เช่น

Scratch, python, java, c

• ตัวอย่างโปรแกรม เช่น โปรแกรมตัดเกรด

หาคําตอบทงั้ หมดของอสมการหลายตัวแปร

3. อภิปรายองค์ประกอบและหลักการทำงาน • องคป์ ระกอบและหลกั การทำงานของระบบ

ของระบบคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีการ คอมพิวเตอร์

สื่อสาร เพื่อประยุกต์ใช้งานหรือแก้ปัญหา • เทคโนโลยกี ารส่ือสาร

เบือ้ งตน้ • การประยกุ ตใ์ ช้งานและการแกป้ ญั หาเบ้ืองต้น

4. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มี • ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย โดย

ความรับผิดชอบ สร้างและแสดงสิทธิในการ เลือกแนวทางปฏิบัติเมื่อพบเนื้อหาที่ไม่

เผยแพรผ่ ลงาน เหมาะสม เช่น แจ้งรายงานผู้เกี่ยวขอ้ ง ป้องกนั

การเขา้ มาของข้อมลู ทีไ่ มเ่ หมาะสม ไม่ตอบโต้ไม่

เผยแพร่

2

ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง

• การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความ
รับผิดชอบ เช่น ตระหนักถึงผลกระทบในการ
เผยแพร่ขอ้ มลู
• การสร้างและแสดงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ
ผลงาน
• การกำหนดสทิ ธิการใชข้ ้อมูล

เปา้ หมายของหลักสตู ร
การจัดการเรียนการสอนวิชาวิทยาการคํานวณ มเี ป้าหมายที่สำคญั ในการพฒั นาผ้เู รียน ดงั น้ี
1. เพื่อใช้ทักษะการคิดเชิงคํานวณในการคิดวิเคราะห์แก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอนและเปน็

ระบบ
2. เพื่อให้มที กั ษะในการค้นหาข้อมูลหรือสารสนเทศ ประเมิน จัดการ วิเคราะห์สังเคราะห์

และนาํ สารสนเทศไปใชใ้ นการแก้ปญั หา
3. เพ่ือประยุกตใ์ ช้ความรูด้ า้ นวทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ ส่ือดจิ ิทลั เทคโนโลยีสารสนเทศและการ

สื่อสาร ในการแก้ปัญหาในชวี ิตจริง การทำงานรว่ มกันอย่างสร้างสรรค์ เพื่อประโยชน์ต่อตนเองหรือ
สงั คม

4. เพ่ือใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สารอย่างปลอดภยั รู้เทา่ ทนั มคี วามรับผิดชอบ มี
จริยธรรม

คุณภาพผู้เรยี น
หลักสูตรเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) จัดให้มีการเรยี นการสอนตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษา

ตอนต้นจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยมีความคาดหวังเพื่อให้ได้คุณภาพผู้เรียนเมื่อจบ
การศกึ ษา ดงั น้ี

จบชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 3
1. เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีได้แก่ ระบบทางเทคโนโลยีการเปลี่ยนแปลงของ

เทคโนโลยีความสมั พนั ธ์ระหว่างเทคโนโลยีกับศาสตร์อื่น โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์
วิเคราะห์ เปรยี บเทยี บ และตัดสนิ ใจเพอ่ื เลือกใช้เทคโนโลยีโดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบ ตอ่ ชวี ิต สงั คม และ
สิ่งแวดล้อม ประยุกต์ใช้ความรู้ทักษะ และทรัพยากรเพื่อออกแบบและสร้างผลงานสำหรับการ
แก้ปัญหาในชวี ติ ประจำวนั หรอื การประกอบอาชพี โดยใช้กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม รวมท้ัง
เลือกใช้วัสดุอุปกรณแ์ ละเคร่อื งมือได้อยา่ งถูกต้อง เหมาะสม ปลอดภยั รวมทั้ง คำนงึ ถงึ ทรัพย์สินทาง
ปญั ญา

2. นำข้อมูลปฐมภูมิเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ วิเคราะห์ ประเมิน นำเสนอข้อมูลและ
สารสนเทศได้ตามวตั ถุประสงค์ ใชท้ กั ษะการคดิ เชงิ คำนวณในการแกป้ ญั หาทพ่ี บในชีวติ จริง และเขยี น

3

โปรแกรมอย่างง่ายเพื่อช่วยในการแก้ปัญหา ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารอย่างรู้เท่าทัน
และรับผิดชอบต่อสังคม

3. ตง้ั คำถามหรอื กำหนดปัญหาทีเ่ ชอ่ื มโยงกับพยานหลักฐาน หรือหลกั การทางวิทยาศาสตร์
ที่มีการกำหนดและควบคุมตัวแปร คิดคาดคะเน3คำตอบหลายแนวทาง สร้างสมมติฐานที่สามารถ
นำไปสู่การสำรวจตรวจสอบ ออกแบบและลงมอื สำรวจตรวจสอบโดยใชว้ ัสดแุ ละเครอ่ื งมอื ที่เหมาะสม
เลอื กใช้เครอ่ื งมือและเทคโนโลยสี ารสนเทศทีเ่ หมาะสมในการเก็บรวบรวมขอ้ มลู ท้ังในเชงิ ปรมิ าณและ
คุณภาพท่ไี ด้ผลเท่ยี งตรงและปลอดภัย

4. วิเคราะห์และประเมินความสอดคล้องของข้อมูลที่ได้จากการสำรวจตรวจสอบ จาก
พยานหลักฐาน โดยใช้ความรู้และหลักการทางวทิ ยาศาสตร์ในการแปลความหมายและลงข้อสรปุ และ
ส่อื สารความคิด ความรจู้ ากผลการสำรวจตรวจสอบหลากหลายรปู แบบ หรอื ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
เพ่อื ใหผ้ ู้อ่นื เข้าใจไดอ้ ย่างเหมาะสม

จบชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6
1. ระบปุ ัญหา ตัง้ คำถามท่ีจะสำรวจตรวจสอบ โดยมกี ารกำหนดความสมั พนั ธ์ระหว่างตัวแปร

ตา่ งๆ สืบค้นข้อมลู จากหลายแหลง่ ตัง้ สมมตฐิ านทเี่ ป็นไปได้หลายแนวทาง ตัดสินใจเลอื ก ตรวจสอบ
สมมตฐิ านทเี่ ป็นไปได้

2. ตงั้ คำถามหรอื กำหนดปัญหาทีอ่ ยบู่ นพน้ื ฐานของความรแู้ ละความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์
ที่แสดงให้เห็นถึงการใช้ความคิดระดับสูงที่สามารถสำรวจตรวจสอบหรือศึกษาค้นคว้าได้อย่าง
ครอบคลุมและเชื่อถือได้สร้างสมมติฐานที่มีทฤษฎีรองรับหรือคาดการณ์สิ่งทีจ่ ะพบ เพื่อนำไปสู่การ
สำรวจตรวจสอบ ออกแบบวิธีการสำรวจตรวจสอบตามสมมติฐานที่กำหนดไว้ได้อย่างเหมาะสม มี
หลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ เลือกวัสดุ อปุ กรณ์ รวมท้ังวิธกี ารในการสำรวจตรวจสอบอยา่ งถกู ต้อง ทง้ั ในเชงิ
ปรมิ าณและคุณภาพ และบนั ทึกผลการสำรวจตรวจสอบอย่างเป็นระบบ

3. วิเคราะห์แปลความหมายข้อมูล และประเมนิ ความสอดคล้องของข้อสรุป เพื่อตรวจสอบ
กับสมมติฐานที่ตั้งไว้ให้ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงวิธีการสำรวจตรวจสอบ จัดกระทำข้อมูล และ
นำเสนอขอ้ มูลดว้ ยเทคนคิ วิธีทีเ่ หมาะสม สอ่ื สารแนวคิด ความร้จู ากผลการสำรวจตรวจสอบ โดยการ
พูด เขยี น จัดแสดงหรอื ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือให้ผู้อ่ืนเข้าใจโดยมหี ลักฐานอา้ งอิง หรือมีทฤษฎี
รองรบั

4. แสดงถึงความสนใจ มุ่งมั่น รับผิดชอบ รอบคอบ และซื่อสัตย์ ในการสืบเสาะหาความรู้
โดยใช้เครื่องมือและวิธีการที่ให้ได้ผลถูกต้อง เชื่อถือได้มีเหตุผลและยอมรับได้ว่าความรู้ทาง
วิทยาศาสตร์ อาจมีการเปลยี่ นแปลงได้

5. แสดงถึงความพอใจและเห็นคุณค่าในการค้นพบความรู้พบคำตอบ หรือแก้ปัญหาได้
ทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างสร้างสรรค์ แสดงความคิดเห็นโดยมีข้อมูลอ้างอิงและเหตุผลประกอบ
เกี่ยวกับผลของการพัฒนาและการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างมีคุณธรรมต่อสังคมและ
สิ่งแวดล้อม และยอมรับฟงั ความคดิ เหน็ ของผู้อ่นื

4

6. เข้าใจความสัมพันธ์ของความรู้วิทยาศาสตรท์ ี่มผี ลต่อการพัฒนาเทคโนโลยปี ระเภทตา่ งๆ
และการพัฒนาเทคโนโลยที ่สี ง่ ผลให้มีการคดิ คน้ ความรทู้ างวทิ ยาศาสตร์ทกี่ ้าวหนา้ ผลของเทคโนโลยี
ต่อชีวิต สังคม และสง่ิ แวดล้อม

7. ตระหนักถึงความสำคัญและเห็นคุณค่าของความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ใช้ใน
ชีวิตประจำวัน ใช้ความรู้และกระบวนการทางวิท4ยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการดำรงชีวิตและการ
ประกอบอาชีพ แสดงความชื่นชม ภูมิใจ ยกย่อง อ้างอิงผลงาน ชิ้นงานที่เป็นผลมาจากภูมิปัญญา
ท้องถิ่น และการพัฒนาเทคโนโลยีทีท่ ันสมัย ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ทำโครงงานหรอื สร้างชิ้นงาน
ตามความสนใจ

8. แสดงความซาบซ้งึ ห่วงใย มพี ฤตกิ รรมเกย่ี วกบั การใช้และรักษาทรพั ยากร ธรรมชาติและ
สงิ่ แวดลอ้ มอย่างรคู้ ุณค่า เสนอตัวเองรว่ มมือปฏิบัติกับชมุ ชนในการปอ้ งกนั ดแู ล ทรพั ยากรธรรมชาติ
และส่ิงแวดลอ้ มของทอ้ งถ่ิน

9. วเิ คราะห์แนวคดิ หลกั ของเทคโนโลยีได้แก่ ระบบทางเทคโนโลยีทซ่ี ับซ้อน การเปลีย่ นแปลง
ของเทคโนโลยีความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งเทคโนโลยีกบั ศาสตร์อนื่ โดยเฉพาะวทิ ยาศาสตรห์ รอื คณติ ศาสตร์
วิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสินใจเพื่อเลือกใช้เทคโนโลยี โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคม
เศรษฐกิจ และสง่ิ แวดล้อม ประยุกต์ใช้ความรูท้ กั ษะ ทรพั ยากรเพือ่ ออกแบบสร้างหรือพัฒนาผลงาน
สำหรับแกป้ ญั หาทีม่ ผี ลกระทบต่อสงั คม โดยใชก้ ระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม ใชซ้ อฟต์แวร์ช่วย
ในการออกแบบและนำเสนอผลงาน เลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์และเครื่องมือได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม
ปลอดภัย รวมทั้งคำนึงถึงทรพั ย์สินทางปญั ญา

10. ใชค้ วามรทู้ างดา้ นวิทยาการคอมพิวเตอร์สื่อดจิ ทิ ลั เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร
เพื่อรวบรวมขอ้ มลู ในชีวติ จรงิ จากแหลง่ ต่าง ๆ และความรจู้ ากศาสตร์อนื่ มาประยุกตใ์ ช้ สร้างความรู้
ใหม่ เข้าใจการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยที ่ีมผี ลต่อการดำเนินชีวิต อาชีพ สังคม วัฒนธรรม และใช้
อย่างปลอดภัย มีจริยธรรม

5

คำอธิบายรายวชิ า

อธบิ ายแนวคิดเชิงคำนวณ การแก้ปัญหาโดยใชแ้ นวคดิ เชิงคำนวณ การเขียนโปรแกรมทม่ี กี าร
ใช้ตรรกะและ ฟังก์ชัน องค์ประกอบและหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสื่อสาร
แนวทางการปฏบิ ัติเมอ่ื พบเนื้อหา ที่ไม่เหมาะสม การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างมคี วามรับผิดชอบ
วธิ กี ารสร้างและกำหนดสิทธคิ วามเป็นเจ้าของผลงาน โดยนำความร้แู นวคิดเชงิ คำนวณไปประยุกต์ใช้
ในการเขียนโปรแกรมหรอื การแก้ปัญหาในชวี ิตจริง สร้างและกำหนดสิทธิ์ การใช้ขอ้ มูล ตระหนักถงึ
ผลกระทบในการเผยแพรข่ ้อมลู

มาตรฐานและตัวชว้ี ัด
ว 4.2 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4
ม.2/1 ออกแบบอลั กอริทึมที่ใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแกป้ ัญหา หรอื การทำงานที่พบใน

ชวี ติ จรงิ
ม.2/2 ออกแบบและเขียนโปรแกรมท่ใี ช้ตรรกะและฟงั ก์ชันในการ แก้ปญั หา
ม.2/3 อภปิ รายองคป์ ระกอบและหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยกี าร

สือ่ สาร เพ่อื ประยุกต์ใช้ งานหรอื แกป้ ญั หาเบ้ืองตน้
ม.2/4 ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย มคี วามรบั ผดิ ชอบ สรา้ งและแสดงสทิ ธใ์ิ นการ

เผยแพรผ่ ลงาน

รวมทง้ั หมด 4 ตัวช้ีวดั

6

เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) โครงสร้างรายวิชา
ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เวลาเรียน 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต

หน่วย ชอื่ หน่วย มาตรฐานการ สาระการเรยี นรู้ จำนวน น้ำหนัก
ท่ี การเรยี นรู้ เรียนร้/ู ตวั ช้ีวัด ชั่วโมง คะแนน

1 แนวคดิ เชิง ว. 4.2 ม.2/1 • แนวคดิ เชิงคํานวณ 4 20
คำนวณ
• การแก้ปญั หาโดยใชแ้ นวคิดเชงิ

คํานวณ

• ตัวอย่างปัญหา เช่น การเข้า

แถวตามลำดับความสูงให้เร็ว

ที่สุด จัดเรียงเสื้อให้หาได้ง่าย

ที่สดุ

2 การแก้ปญั หา ว. 4.2 ม.2/1, • การแกป้ ัญหาโดยใช้แนวคิดเชิง 3 15

ดว้ ยภาษาไพ ม.2/2 คํานวณ

ทอน • ตัวอย่างปัญหา เชน่ การเข้า

แถวตามลำดับความสงู ให้เรว็

ทส่ี ุด จดั เรียงเสอื้ ใหห้ าได้งา่ ย

ทีส่ ดุ

• ตวั ดำเนนิ การบลู นี

• ฟงั ก์ชนั

• การออกแบบและเขยี น

โปรแกรมทมี่ กี ารใช้ตรรกะ

และฟงั ก์ชัน

• การออกแบบอลั กอรทิ มึ เพือ่

แกป้ ัญหาอาจใช้แนวคิดเชงิ

คํานวณในการออกแบบ เพอ่ื ให้

การแกป้ ญั หามีประสทิ ธภิ าพ

• การแกป้ ัญหาอยา่ งเปน็ ขนั้ ตอน

จะชว่ ยให้แกป้ ญั หาได้อย่างมี

ประสิทธภิ าพ

7

หน่วย ชือ่ หนว่ ย มาตรฐานการ สาระการเรยี นรู้ จำนวน นำ้ หนัก
ท่ี การเรยี นรู้ เรียนร/ู้ ตัวชวี้ ดั ชวั่ โมง คะแนน

3 การแกป้ ญั หา ว. 4.2 ม.2/1, • ฟังกช์ ัน 3 15

ดว้ ย Scratch ม.2/2 • การออกแบบและเขียน

โปรแกรมที่มีการใช้ตรรกะและ

ฟงั กช์ ัน

• การออกแบบอัลกอริทึม เพื่อ

แ ก ้ ป ั ญ ห า อ า จ ใ ช ้ แ น ว ค ิ ด เ ชิ ง

คำนวณในการออกแบบ เพื่อให้

การแก้ปัญหามปี ระสิทธภิ าพ

• การแก้ปัญหาอย่างเป็นข้ันตอน

จะช่วยให้แก้ปัญหาได้อย่างมี

ประสิทธภิ าพ

• ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการเขียน

โ ป ร แ ก ร ม เ ช ่ น Scratch,

python, java, c

4 หลักการทำ ว. 4.2 ม.2/3 • องค์ประกอบและหลกั การ 3 15

งานของระบบ ทำงานของระบบคอมพวิ เตอร์

คอมพวิ เตอร์ • การประยุกตใ์ ช้งานและการ

แกป้ ัญหาเบอื้ งตน้

5 เทคโนโลยีการ ว. 4.2 ม.2/3 • เทคโนโลยีการสอื่ สาร 4 20

ส่ือสาร

6 การใช้ ว. 4.2 ม.2/4 • ขัน้ ตอนการพฒั นาแอปพลเิ ค 3 15

เทคโนโลยี ชนั

สารสนเทศ • Internet of Things (IoT)

อยา่ งมีความ • ซอฟต์แวรท์ ่ีใช้ในการพฒั นา

รับผิดชอบ แอปพลเิ คชัน เชน่ Scratch,

python, java, c,

AppInventor

8

หนว่ ย ชอ่ื หน่วย มาตรฐานการ สาระการเรยี นรู้ จำนวน นำ้ หนกั
ที่ การเรยี นรู้ เรียนร้/ู ตัวช้วี ัด ช่วั โมง คะแนน

• ตวั อยา่ งแอปพลเิ คชนั เชน่ 20 100

โปรแกรมแปลงสกลุ เงิน

โปรแกรมผนั เสยี งวรรณยกุ ต์

โปรแกรมจำลองการแบ่งเซลล์

ระบบรดนำ้ อัตโนมตั ิ

รวม

9

โครงสร้างการจัดเวลาเรียน

เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 2 เวลาเรียน 20 ชัว่ โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต

หนว่ ย ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้ ชื่อหนว่ ยการเรียนรยู้ อ่ ย จำนวน สมรรถนะ ICT
ที่ ชั่วโมง ICA4 การแกไ้ ข
การแบง่ ปัญหาใหญ่เป็น ปัญหาในบรบิ ทโลก
1 แนวคดิ เชงิ คำนวณ ปัญหายอ่ ย 4 ดิจทิ ลั และการคดิ เชงิ
การพจิ ารณารปู แบบ คำนวณ
2 การแกป้ ญั หาด้วย การคดิ เชิงนามธรรม 3
ภาษาไพทอน การออกแบบอลั กอรทิ มึ ICA4 การแก้ไข
กรณศี กึ ษา 3 ปัญหาในบรบิ ทโลก
3 การแกป้ ญั หาดว้ ย ตวั อย่างระบบคำนวณคา่ ดจิ ิทัลและการคิดเชงิ
Scratch โดยสารประจำทาง 3 คำนวณ
ตัวดำเนนิ การบลู ีน
4 หลักการทำงานของ การวนซำ้ ดว้ ยคำสั่ง While 4 ICA4 การแกไ้ ข
ระบบคอมพิวเตอร์ เง่อื นไขทางเลอื ก ปัญหาในบรบิ ทโลก
ฟังก์ชนั 3 ดิจทิ ัลและการคิดเชิง
5 เทคโนโลยกี ารสือ่ สาร ฟังก์ชนั คำนวณ
ตวั ดำเนนิ การบลู นี
6 การรบั คา่ และสง่ ค่าให้ ICA5 การใช้ ICT
ฟงั ก์ชัน อยา่ งเหมาะสม
องค์ประกอบของระบบ
คอมพวิ เตอร์ ICA5 การใช้ ICT
หลกั การทำงานของระบบ อยา่ งเหมาะสม
คอมพิวเตอร์
ซอฟต์แวร์ประยุกต์ ICA1 การเข้าถงึ
องคป์ ระกอยของการ ประเมนิ และจัดการ
ส่อื สาร
เครอื ข่ายคอมพิวเตอร์
อนิ เทอรเ์ นต็
บรกิ ารบนอินเทอร์เนต็
คลาวดค์ อมพิวติง
แนวทางปฏบิ ัติเม่อื พบ
เนื้อหาที่ไม่เหมาะสม

10

หนว่ ย ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้ ชอ่ื หนว่ ยการเรียนรยู้ ่อย จำนวน สมรรถนะ ICT
ที่ ชว่ั โมง
ผลกระทบการเผยแพร่
การใชเ้ ทคโนโลยี ขอ้ มูลท่ไี มเ่ หมาะสม ขอ้ มลู และสารสนเทศ
แนวทางการพจิ ารณา
สารสนเทศอย่างมี เนอื้ หากอ่ นเผยแพรข่ อ้ มลู
การสรา้ งและแสดงสทิ ธ์ิ
ความรบั ผิดชอบ ความเป็นเจา้ ของผลงาน
มารยาทในการ
ติดต่อสื่อสาร

11

สมรรถนะทาง ICT
5 ICT competency areas

ลำดบั ที่ หนว่ ยการเรยี นรู้ สมรรถนะทาง ICT
ICA5 การใช้ ICT อย่างเหมาะสม
1 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4
เร่ือง หลกั การทำงานของระบบ
คอมพวิ เตอร์

12

กจิ กรรมการเรยี นรู้

หน่วยการเรยี นรู้ แผนการเรยี นรู้ที่/ ชอ่ื แผน ชื่อใบงาน
แผนการเรยี นรทู้ ่ี 1 องค์ประกอบของ
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 ระบบคอมพิวเตอร์ 1. ใบงานที่ 1 องคป์ ระกอบ
เรอื่ ง หลกั การทำงาน ของฮารด์ แวร์
ของระบบคอมพวิ เตอร์ 2. ใบงานท่ี 2 ประเภทของ
ซอฟตแ์ วร์

แผนการเรยี นรูท้ ี่ 2 หลกั การทำงานของ 1. ใบงานท่ี 3 วงรอบความ
ระบบคอมพิวเตอร์ คดิ กับสมองตัวนิดของ

คอมพวิ เตอร์
2. ใบงานที่ 4 เจาะลกึ
อุปกรณ์ดจิ ิทลั

แผนการเรียนรทู้ ี่ 3 ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ต์ 1. ใบงานท่ี 5 เลอื กให้ไดใ้ ช้
ให้เป็น

2. แบบฝึกหัดทา้ ยบท



14

แผนการจัดการเรยี นรู้

รายวชิ า วิทยาการคำนวณ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 4 เรอ่ื ง หลกั การทำงานของระบบคอมพวิ เตอร์ เวลา 3 ชวั่ โมง

แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 1 เรื่อง องค์ประกอบของระบบคอมพวิ เตอร์ เวลา 1 ชวั่ โมง

………………………………………………………………………………………………………………………………..……..

1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวช้ีวัด
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจ และใช้แนวคดิ เชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็น

ขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการ
แกป้ ัญหาได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทนั และมจี รยิ ธรรม

ตัวชี้วัด ม.2/3 อภิปรายองค์ประกอบและหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์และ
เทคโนโลยกี ารส่ือสาร เพอื่ ประยกุ ตใ์ ชง้ านหรอื แกป้ ัญหาเบอื้ งตน้

2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
ระบบคอมพิวเตอร์ หมายถึง การทำงานของคอมพิวเตอร์ที่มีส่วนต่าง ๆ มาทำงานร่วมกนั

เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการทำงานอย่างมีระบบ ซึ่งระบบคอมพิวเตอร์จะประกอบไปด้วย
องคป์ ระกอบสำคัญ 5 ส่วน คอื ฮารด์ แวร์ ซอฟต์แวร์ บคุ ลากร ขอ้ มลู สารสนเทศ และกระบวนการ

3. สาระการเรยี นรู้
องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์

4. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. อธบิ ายองคป์ ระกอบของระบบคอมพวิ เตอร์ได้ถูกต้อง (K)
2. อธบิ ายการทำงานของหน่วยต่าง ๆ ของฮาร์ดแวรไ์ ด้ถกู ตอ้ ง (K)
3. บอกอปุ กรณท์ ใ่ี ชท้ ำหนา้ ที่ในแตล่ ะหนว่ ยได้ถกู ต้อง (K)
4. เลือกใช้งานซอฟต์แวร์ใหส้ อดคลอ้ งและเหมาะสมกบั ความตอ้ งการได้ (P)
5. สนใจใฝเ่ รียนรใู้ นการศกึ ษาและนำไปใช้ในชวี ิตประจำวันได้อยา่ งเหมาะสม (A)

ด้านความรู้ (Knowledge : K)
ดา้ นกระบวนการ (Process : P)
ด้านเจตคตแิ ละคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (Attitude : A)

15

5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มวี ินยั รบั ผิดชอบ
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน

6. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น
1. ความสามารถในการส่ือสาร
- ทักษะการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
- ทักษะการสืบคน้ ข้อมลู

7. สมรรถนะทาง ICT
- ICA5 การใช้ ICT อย่างเหมาะสม

8. รปู แบบการสอน

 1. Onsite (ออนไซต์)
 2. Online (ออนไลน)์
 3. On-hand (ออนแฮนด)์

9. รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ Active Learning
o การเรียนร้แู บบแลกเปล่ียนความคิดหรอื เทคนคิ คู่คดิ (Think-pair-share)
o การเรยี นรู้แบบทบทวนโดยผ้เู รียน (Student-led Review Sessions)
o การเรยี นรู้แบบวิเคราะหว์ ีดีโอ (Analysis or Reactions to Videos)

10. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (Learning activities)
ขัน้ นำ
1. ผสู้ อนกล่าวทกั ทายและพูดคยุ กบั ผเู้ รียนผา่ นกลุ่มไลน์บอทของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
2 ซึ่ง ไลน์บอท สามารถให้ความรู้ และตอบคำถามของนักเรียน พร้อมทั้งให้การช่วยเหลือ
ผู้ปกครองของนกั เรียนในการดแู ลนักเรียนในเรอ่ื งของการเรียน
2. ผู้สอนส่งส่อื ประกอบการสอนลงในกลุ่มไลน์บอท ซึ่งมีดงั นี้
- คลปิ วิดีโอ เร่ือง องคป์ ระกอบของระบบคอมพวิ เตอร์ ทค่ี ร(ู สอนจัดทำขนึ้
- คลปิ วดิ โี อในอนิ เทอร์เน็ต โดยส่งไฟลเ์ ป็นลิงค์ ผา่ นไลน์
3. ผู้สอนแจ้งให้ผู้เรียนเตรียมอุปกรณ์การให้พร้อมสำหรับการเรียนที่บ้าน ร่วมถึงการแจง้
กจิ กรรมต่าง ๆ ผา่ นไลน์บอท

4. ผู้สอนนำเข้าสู่บทเรียนโดยการตงั้ คำถาม เชน่

16

-“องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ คืออะไร และองค์ประกอบของคอมพิวเตอร์เป็น
อย่างไร"
- "หากต้องการอยากรู้องค์ประกอบของคอมพวิ เตอร์
นักเรยี นคิกว่าเราสามารถทำอยา่ งไรได้บ้าง โดยให้ผู้เรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นผ่าน
ทางกลมุ่ ไลน์
5. ผสู้ อนแจ้งข้อความในกลุ่มไลนบ์ อททกุ ๆ ครั้งก่อนถึงคาบเรยี นในรูปแบบการเรยี นปกติให้
ผู้เรียนทำกิจกรรมในชุดกิจกรรมที่แจกให้ผู้ปกครองหรือนักเรียนที่มารับเอกสารที่โร งเรียนในวันท่ี
โรงเรยี นมกี ารนดั หมาย

ขนั้ สอน
6. ผสู้ อนให้ผเู้ รยี นแตล่ ะคนศกึ ษาเรอื่ ง องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ จากหนงั สือ

เรียนหนงั สือเรยี นรายวชิ าพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.2 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่

4 เรอ่ื ง หลักการทำงานของระบบคอมพวิ เตอร์ และศกึ ษาวิดีโอในไลน์บกททผ่ี สู้ อนสง่ ใหน้ กั เรียน

และนักเรียนสามารถเรียนดว้ ยตวั เองผา่ นชุดกิจกกรมการเรยี นรู้ ที่มีแบบฝกึ หัดและใบความรู้
7. ผ้เู รยี นทำใบกจิ กรรม ใบงาน ใบงานที่ 1 เรอื่ ง องคป์ ระกอบของฮาร์ดแวร์ และทำกิจกรรม

ใบ ใบงานที่ 2 เร่อื ง ประเภทของซอฟต์แวร์
8. ผเู้ รยี นสามารถสอบความเรอื่ งท่ไี ม่เข้าใจผ่านไลน์ไดท้ ุกเวลา ไลน์บอทที่ผสู้ อบพัฒนาข้นึ จะ

สามารถตอบกลับแก่นกั เรียนได้ ข้อมลู ตอบกลบั อาจะเป็นได้หลายแบบ เชน่ ไฟลล์ งิ ค์ ขอ้ ความ หรอื
วิดีโอ

ขนั้ สรุป
9. ผู้สอนกำหนดให้ผูเ้ รยี นถ่ายรูปในขณะทำกิจกรรมเรียนรู้ ส่งกลบั มาทุกครั้งผ่านทางแชทไลน์
บอท เพื่อแสดงใหเ้ ห็นวา่ นกั เรียนไดป้ ฏิบตั จิ ริง 9. ผู้เรยี นจะต้องสรปุ เรอื่ งทไ่ี ดเ้ รียนรจู้ ากการทำใบงาน
ลงท้ายกิจจรรมการเรยี นการสอนทกุ ครงั้ ในชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ดว้ ยลายมอื นักเรยี น 3-5 บรรทัด
พร้อมบอกแหลง่ เรยี นร้ปู ระกอบ

10. เม่ือผเู้ รียนทำใบกิจกรรมเสร็จ ใหถ้ า่ ยรูปชน้ิ งานท่ที ำสง่ มาผา่ นทางกล่มุ ไลน์

17

11. การวัดและประเมินผล

รายการวัด วิธวี ัด เครือ่ งมอื เกณฑก์ าร
ประเมนิ
ประเมนิ ระหว่างการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ - แบบประเมนิ
1) องคป์ ระกอบของฮาร์ดแวร์ - ตรวจใบงานท่ี 1 ใบงานท่ี 1 รอ้ ยละ 60
ผ่านเกณฑ์
2) ประเภทของซอฟต์แวร์ - ตรวจใบงานท่ี 2 - แบบประเมิน รอ้ ยละ 60
ใบงานที่ 2 ผ่านเกณฑ์
3) การนำเสนอผลงาน - ประเมนิ การนำเสนอ ระดับคุณภาพ 2
ผลงาน - แบบประเมนิ ผ่านเกณฑ์
4) พฤติกรรมการทำงาน การนำเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2
รายบคุ คล - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ผ่านเกณฑ์
5) คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ การทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบคุ คล ระดับคณุ ภาพ 2
ผา่ นเกณฑ์
- สังเกตความมวี นิ ัย - แบบประเมิน
ความรบั ผิดชอบ คณุ ลักษณะ
ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ ม่นั อันพงึ ประสงค์
ในการทำงาน

12. ชนิ้ งาน/หลกั ฐานการเรยี นรขู้ องผเู้ รียน (Work piece)

1. ใบงานที่ 1 เร่อื ง องคป์ ระกอบของฮาร์ดแวร์

2. ใบงานท่ี 2 เรื่อง ประเภทของซอฟต์แวร์

13. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
13.1 ส่ือการเรียนรู้
1) หนงั สอื เรยี นรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.2 หนว่ ยการ

เรียนรู้ท่ี 4 เรอ่ื ง หลกั การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์
2) ใบความรู้/สอ่ื นาํ เสนอ
3) ใบงานท่ี 1 เร่ือง องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
4) ใบงานที่ 2 เรื่อง ประเภทของซอฟต์แวร์

13.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) หอ้ งคอมพวิ เตอร์ และอินเทอร์เน็ต





20

แบบประเมินใบงาน

คำชีแ้ จง ให้ทำเคร่อื งหมาย √ ลงในช่องที่ตรงกับคะแนน

รายการประเมิน

ความถกู ต้อง ความสะอาด รวมคะแนน ระดับ
(5) คุณภาพ
ที่ ชื่อ - นามสกลุ ของงาน เรียบรอ้ ยของ

(3) งาน

(2)

เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ
5 ดีมาก

3-4 ดี
1-2 พอใช้
ควรปรับปรุง
0

เกณฑผ์ า่ นการประเมิน ตง้ั แต่ระดับคุณภาพดขี นึ้ ไป
สรปุ  ผา่ นเกณฑ์  ไมผ่ า่ นเกณฑ์

21

เกณฑ์การใหค้ ะแนนใบงาน

เกณฑ์การให้คะแนนใบงาน

รายการประเมิน ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปง

(3) (2) (1) (0)

1. ความถูกต้องของงาน ตอบได้ ตอบได้ถูกตอ้ ง ตอบได้ถกู ต้อง ไม่มีคำตอบถกู

ถกู ตอ้ งทุกข้อ เปน็ สว่ นใหญ่ เปน็ บางส่วน

2. ความสะอาดเรียบรอ้ ยของ - สะอาด คอ่ นขา้ ง -

งาน เรียบร้อยดี เลอะเทอะ

22

แบบประเมนิ การนำเสนองาน
(Oral Presentation Assessment)

ชอ่ื - สกลุ ................................................................ เลขที่..……………………….............................
คำชี้แจง โปรดประเมินพฤตกิ รรมของนกั ศึกษาโดย  ลงในช่องคะแนนตามเกณฑ์การประเมนิ

หวั ขอ้ การประเมิน คะแนน

1 เนอ้ื หาหรือขอ้ มลู ท่ี ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1)
นำเสนอ  ถกู ต้อง
ครบถ้วน และมี  ถูกต้อง  ถูกต้องแต่ไม่  ไม่ถกู ต้อง
ความทนั สมยั ไมค่ รบถว้ น ไม่
ครบถ้วน แต่ไม่ ครบถว้ น /ไม่ ว่ากรณใี ดๆ

ทันสมัย ทนั สมยั

2. การสอื่ สาร  พดู ชัดเจน  พูดชัดเจน  พดู ชัดเจน ไม่  พดู ไม่

สบตาผ้ฟู งั กระตนุ้ สบตาผ้ฟู งั ขาด สบตาผู้ฟัง ขาด ชดั เจน ไม่สบตา

ให้ผู้ฟงั มสี ว่ นร่วม การกระตุ้นใหผ้ ู้ฟัง การกระต้นุ ใหผ้ ฟู้ ัง ผู้ฟัง ขาดการ

มีส่วนร่วม มสี ่วนรว่ ม กระตนุ้ ใหผ้ ฟู้ งั มี

สว่ นรว่ ม

3. การสรปุ  สรปุ ครบถว้ น  สรปุ ครบถ้วน  สรปุ ไม่  ไม่มีการ
และมกี าร แตข่ าดการ ครบถ้วน และ/ สรปุ ไมม่ ี
เสนอแนะขอ้ มูลที่ เสนอแนะขอ้ มูลที่ หรือไมม่ ี ข้อเสนอแนะ
เปน็ ประโยชน์ เป็นประโยชน์ ข้อเสนอแนะ

รวม 3 ขอ้ 3
คะแนน

ขอ้ เสนอแนะ
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................

ชอ่ื ผ้ปู ระเมนิ .............................................
วัน/เดอื น/ป…ี ……………………………………



24

แผนการจัดการเรียนรู้

รายวชิ า วทิ ยาการคำนวณ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ชั้น มัธยมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 เร่อื ง หลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ เวลา 3 ชว่ั โมง

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 เร่ือง หลกั การทำงานของระบบคอมพวิ เตอร์ เวลา 1 ชว่ั โมง

………………………………………………………………………………………………………………………………………

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวดั
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจ และใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแกป้ ัญหาท่ีพบในชีวติ จริงอย่างเป็น

ขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการ
แกป้ ญั หาได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ รเู้ ทา่ ทัน และมีจริยธรรม

ตัวชี้วัด ม.2/3 อภิปรายองค์ประกอบและหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์และ
เทคโนโลยีการสอ่ื สาร เพอื่ ประยกุ ตใ์ ช้งานหรือแก้ปัญหาเบอ้ื งตน้

2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
คอมพิวเตอร์ประกอบด้วย หน่วยรับเข้า หน่วยประมวลผลกลางหน่วยความจำและหน่วย

ส่งออก ซึ่งแต่ละหน่วยจะมกี ารทำงานท่ีประสานกันอยา่ งต่อเนื่องตลอดเวลา เพื่อให้สามารถทำงาน
ตอบสนองตามความต้องการของผู้ใช้ การประมวลผลแต่ละคำสั่งของหน่วยประมวลผลกลางจะ
ทำงานตามขั้นตอนของวงรอบเครื่องจักร (machine cycle) ซึ่งประกอบด้วยการนำคำสั่ง การ
ถอดรหัส และการกระทำการ ตามลำดับ

3. สาระการเรียนรู้
หลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์

4. จุดประสงค์การเรียนรู้
ดา้ นความรู้ (Knowledge : K)
1. นักเรียนสามารถอธบิ ายหลักการทำงานของคอมพิวเตอรไ์ ด้
ดา้ นกระบวนการ (Process : P)
2. นกั เรียนมที ักษะในการคดิ วเิ คราะหเ์ ก่ยี วกบั การทำงานของวงรอบเคร่ืองจกั ร
ด้านเจตคติและคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude : A)
1. มีความกระตอื รอื รน้
2. มคี วามตรงต่อเวลา
3. มคี วามรับผดิ ชอบ

5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มีวินัย รบั ผิดชอบ
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มงุ่ มั่นในการทำงาน

25

6. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการสอื่ สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

7. สมรรถนะทาง ICT
1. ICA5 การใช้ ICT อย่างเหมาะสม

8. รปู แบบการสอน

 1. Onsite (ออนไซต์)
 2. Online (ออนไลน)์
 3. On-hand (ออนแฮนด)์

9. รูปแบบการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ Active Learning
1. การเรียนรูแ้ บบวเิ คราะหว์ ดี ีโอ (Analysis or Reactions to Videos)
2. การเรยี นรู้แบบเทคนคิ คู่คิด (Think-pair-share)

10. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (Learning activities)

ขัน้ นำ
1. ผู้สอนกล่าวทักทายและพูดคุยกบั ผู้เรียนผ่านกลมุ่ ไลนข์ องนกั เรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 2
2. ผู้สอนสง่ ส่อื ประกอบการสอนลงในกล่มุ ไลน์ ซงึ่ มีดงั น้ี
- คลิปวิดโี อสาธติ วงรอบของเครื่องจกั ร
- คลปิ วิดโี ออนิ เทอร์เน็ตของสรรพส่ิง (Internet of Things: IoT)
- ใบงานที่ 3 และ 4
3. ผสู้ อนแจง้ ให้ผู้เรียนเตรียมใบงานไวใ้ ห้พร้อมสำหรับทำกจิ กรรม
4. ผู้สอนนำเข้าสู่บทเรียนโดยการตั้งคำถาม ยกตัวอย่างการใช้งานคอมพิวเตอร์ใน

ชีวิตประจำวัน โดยใหผ้ ู้เรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ ผ่านทางกลุ่มไลน์
5. ผู้สอนให้ผู้เรียนแต่ละคนศึกษาเนื้อหาหัวข้อ 4.2 เรื่อง หลักการทำงานของระบบ

คอมพิวเตอร์ จากหนังสือเรยี น
6. ผู้สอนให้ผู้เรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของการทำงานของ

อุปกรณใ์ นแตล่ ะหน่วย ผ่านทางกลมุ่ ไลน์

ขั้นสอน
7. ผ้สู อนให้ผ้เู รยี นแต่ละคนศกึ ษาเรื่อง วงรอบของเครื่องจกั ร (machine cycle) จากหนังสือ

เรียน และศึกษาวิดโี อสาธติ วงรอบของเคร่อื งจักร จากลงิ ก์ท่ีกำหนดในหนังสือเรยี นหรอื จากลิงก์ท่ีครู
ส่งผา่ นกลมุ่ ไลน์

8. ผเู้ รียนทำใบงานท่ี 3 เรื่อง วงรอบความคดิ กับสมองตัวนิดของคอมพิวเตอร์

26

9. ผูส้ อนให้ผเู้ รยี นจบั ค่กู นั ทำใบงานท่ี 4 เจาะลึกอุปกรณด์ จิ ิทลั
10. ผู้เรียนดูคลิปวิดีโอจากลิงก์ที่ครูส่งผ่านกลุ่มไลน์ และศึกษาจากหนังสือเรียนเกี่ยวกับ
อนิ เทอรเ์ นต็ ของสรรพสิง่ (Internet of Things: IoT) เพมิ่ เตมิ
11. ผู้สอนตง้ั คำถาม การนาํ เซนเซอรม์ าควบคมุ อุปกรณ์ เพ่ือใชใ้ นชีวิตประจำวันของผู้เรียน
ไดอ้ ย่างไรบ้าง โดยให้ผเู้ รยี นร่วมกันแสดงความคดิ เห็นผ่านทางกลุ่มไลน์

ขัน้ สรุป
12. ผสู้ อนและผ้เู รียนร่วมกันอภิปรายเพ่อื หาคาํ ตอบในกิจกรรมท่ี 4.1 จากหนงั สอื เรียน
13. เมอ่ื ผู้เรยี นทำใบกจิ กรรมเสรจ็ ให้ถา่ ยรูปส่งมาผ่านทางกลมุ่ ไลน์

11. การวัดและประเมนิ ผล วิธีการวัด เครือ่ งมือวดั เกณฑ์การวัด
สงั เกตพฤติกรรม
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดบั 2 ข้นึ ไป
ของนักเรียน
1. นักเรียนสามารถอธิบาย ของนักเรยี น ถอื วา่ ผา่ น
หลักการทำงานของคอมพวิ เตอร์ ตรวจใบงาน
ได้ ร้อยละ 60 ข้ึน
สงั เกตพฤตกิ รรม
2. นักเรียนมีทักษะในการคิด ของนักเรยี น แบบประเมนิ ใบงาน ไป
วิเคราะหเ์ กยี่ วกบั การทำงานของ
วงรอบเครอื่ งจกั ร ถอื ว่า ผา่ น

1. มีความกระตือรือรน้ แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับ 2 ข้นึ ไป
2. มีความตรงตอ่ เวลา
3. มคี วามรับผดิ ชอบ ของนกั เรียน ถือวา่ ผา่ น

12. ชนิ้ งาน/หลกั ฐานการเรียนรูข้ องผเู้ รยี น (Work piece)
1. ใบงานท่ี 3 เร่ือง วงรอบความคิดกบั สมองตวั นิดของคอมพวิ เตอร์
2. ใบงานที่ 4 เจาะลกึ อุปกรณ์ดจิ ิทลั

13. สื่อและแหล่งเรียนรู้
1. หนงั สือเรยี น รายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 ของสถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
2. วดิ ีโอสาธติ วงรอบของเครอื่ งจักร http://oho.ipst.ac.th/machineCycle
3. เครือ่ งคอมพิวเตอรท์ ่ใี ช้
4. วดิ ีโอ เรอ่ื ง IoT https://www.youtube.com/watch?v=8Mobesbc11M
5. กิจกรรมท่ี 4.1 จากหนงั สอื เรียน







30

แบบประเมินพฤตกิ รรมนักเรียน

รายการประเมิน

ท่ี ชอ่ื - มคี วามเขา้ ใจ สามารถ การมี รวม ระดับ
นามสกลุ หลกั การ ส่วนรวม คะแนน คณุ ภาพ
อภปิ ราย ในกจิ กรรม (12)
ทำงานของ หลกั การ
คอมฯ ทำงานของ (4 คะแนน)

(4 คะแนน) คอมฯ
(4 คะแนน)

เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
10 - 12 ดมี าก

7- 9 ดี
4-6 พอใช้
1-3 ควรปรบั ปรงุ

เกณฑ์ผา่ นการประเมิน ตงั้ แตร่ ะดับคณุ ภาพดีข้ึนไป
สรปุ  ผ่านเกณฑ์  ไมผ่ ่านเกณฑ์

31

เกณฑ์การประเมนิ พฤติกรรมนักเรียน

เกณฑ์การให้คะแนน

รายการประเมิน ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรงุ

(4) (3) (2) (1)

1. มคี วามเข้าใจ มีความเขา้ ใจใน มคี วามเขา้ ใจใน มีความเข้าใจใน ไม่ค่อยมีความ

ในหลักการทำงาน หลกั การทำงาน หลักการทำงาน หลกั การทำงาน เข้าใจหลักการ

ของคอมพวิ เตอร์ ของคอมพวิ เตอร์ ของคอมพวิ เตอร์ ของคอมพิวเตอร์ ในทำงานของ

เปน็ อยา่ งดี เปน็ ส่วนใหญ่ เป็นอย่างดี คอมพิว เตอร์

เปน็ อย่างดี

2. สามารถ สามารถ สามารถอภปิ ราย สามารถอภปิ ราย แทบจะไม่

อภปิ รายหลักการ อภปิ ราย หลักการทำงาน หลกั การทำงาน สามารถอภปิ ราย

ทำงานของ หลกั การทำงาน ของคอมพวิ เตอร์ ของคอมพิวเตอร์ หลกั การทำงาน

คอมพิวเตอร์ ของคอมพิวเตอร์ ได้เปน็ สว่ นใหญ่ ไดบ้ างคร้งั ของคอมพวิ

เป็นอย่างดี เตอร์ได้

3. การมสี ว่ นรว่ ม มีส่วนรว่ มใน มีสว่ นร่วมใน มสี ่วนรว่ มใน ไม่คอ่ ยมีส่วน
กจิ กรรมเป็น กิจกรรมเพราะครู รว่ มในกจิ กรรม
ในกิจกรรม กจิ กรรมอย่าง บางครง้ั หรอื เพือ่ นกระต้นุ

เตม็ ที่ ให้มีส่วนร่วม

32

แบบประเมนิ ใบงาน

คำชีแ้ จง ใหท้ ำเครือ่ งหมาย √ ลงในชอ่ งทีต่ รงกบั คะแนน

รายการประเมนิ

ความถกู ต้อง ความสะอาด รวมคะแนน ระดับ
(5) คุณภาพ
ที่ ชือ่ - นามสกลุ ของงาน เรยี บร้อยของ

(3) งาน

(2)

เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
5 ดมี าก
ดี
3-4 พอใช้
1-2
ควรปรับปรงุ
0

เกณฑผ์ า่ นการประเมิน ตงั้ แต่ระดบั คุณภาพดีข้ึนไป
สรปุ  ผา่ นเกณฑ์  ไมผ่ ่านเกณฑ์

33

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนใบงาน

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนใบงาน

รายการประเมนิ ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปง

(3) (2) (1) (0)

1. ความถูกต้องของงาน ตอบได้ ตอบได้ถกู ตอ้ ง ตอบไดถ้ ูกตอ้ ง ไมม่ ีคำตอบถกู

ถูกตอ้ งทกุ ข้อ เป็นส่วนใหญ่ เปน็ บางส่วน

2. ความสะอาดเรยี บรอ้ ยของ - สะอาด ค่อนข้าง -

งาน เรียบรอ้ ยดี เลอะเทอะ

34

แบบสงั เกตพฤติกรรมด้านคุณลกั ษณะ

คำช้ีแจง ให้สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 2 แลว้ ทำเครือ่ งหมาย √ ลงในช่องท่ี
ตรงกบั คะแนน

รายการประเมนิ

ท่ี ช่ือ - นามสกลุ ความ ความ ความ รวม ระดับ
กระตอื รือร้น ตรง รบั ผดิ ชอบ คะแนน คณุ ภาพ

(4) ต่อเวลา (4) (12)
(4)

เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
10 - 12 ดีมาก
7- 9 ดี
4-6 พอใช้
1-3
ควรปรับปรงุ

เกณฑ์ผา่ นการประเมนิ ตงั้ แต่ระดบั คุณภาพดีข้ึนไป
สรปุ  ผา่ นเกณฑ์  ไมผ่ ่านเกณฑ์

35

เกณฑ์การให้คะแนนพฤติกรรมดา้ นคุณลกั ษณะ

รายการ เกณฑ์การใหค้ ะแนนพฤติกรรมดา้ นคณุ ลักษณะ
ประเมนิ
1. ความ ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรงุ
กระตือรือร้น
(4) (3) (2) (1)
2. ความตรง
ตอ่ เวลา ความ ความ ความ ไม่คอ่ ยมีความ

3. ความรบั ผิด กระตอื รอื รน้ ใน กระตอื รอื รน้ ใน กระตอื รอื รน้ ใน กระตือรอื รน้ ใน
ชอบ
การเรยี นเป็น การเรยี นเป็นสว่ น การเรยี นเปน็ การเรยี น

อยา่ งดี ใหญ่ บางครง้ั

เข้าเรียนช้ากว่า เขา้ เรยี นช้ากว่า เข้าเรยี นช้ากวา่
เวลาเล็กน้อย
เข้าเรยี นตรงเวลา เวลา ประมาณ เวลา 20 นาทขี ึ้น

10 – 15 นาที ไป

มคี วามรับผิดชอบ มคี วามรับผดิ ชอบ มีความรบั ผิดชอบ ไม่คอ่ ยมคี วาม

ตอ่ งานทไี่ ดร้ บั ต่องานที่ไดร้ บั ตอ่ งานที่ไดร้ บั รับผิดชอบตอ่

มอบ หมายเปน็ มอบ หมายเปน็ มอบ หมายเป็น งานทไี่ ด้รบั

อย่างดี ส่วนใหญ่ บางครงั้ มอบหมาย

36

บนั ทึกผลการสอน

1. ผลการสอนตามแผนการจดั การเรยี นรู้เร่ือง…………………………………………………………………………..
 สอนไดต้ ามแผนการจดั การเรยี นรู้
 สอนไม่ได้ตามแผนการจดั การเรียนรู้ เนอื่ งจาก .............................................................

2. ผลการเรียนรขู้ องนักเรยี น
2.1 การประเมนิ ผลดา้ นความรู้ ตามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ข้อที่............................................
จำนวนนักเรยี นท่ผี า่ นจดุ ประสงค์ ............................ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ...............................
ระดบั เกง่ ……………………… คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ............................
ระดบั ปานกลาง ……………………… คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ...........................
จำนวนนกั เรยี นทไี่ ม่ผา่ นจดุ ประสงค์ ......................... คน คดิ เป็นร้อยละ ............................
ระบุชื่อ 1. …………….………………..……… 2. ………………………..………………3. ………….…………
4. ……………………………………. 5. …………………………………..……6. ………….…………
............................................................................................................................. .....................
แนวทางแก้ไขนกั เรียนทไ่ี ม่ผา่ นการ
ประเมิน…………………………………………………………………………….....
 สอนซอ่ มเสรมิ
 อืน่ ๆ ................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………….
2.2 การประเมนิ ผลดา้ นทกั ษะกระบวนการเรียน ตามจุดประสงค์การเรียนรขู้ อ้ ท่ี................
นกั เรียนผา่ นการประเมิน...................................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ..........................................
ไมผ่ ่านเกณฑ์ข้ันตำ่ ทกี่ ำหนดไว้...........................คน คิดเป็นร้อยละ..........................................
2.3 การประเมนิ ผลดา้ นคุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ ตามจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ข้อท.่ี ............
นกั เรียนผา่ นการประเมิน...................................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ..........................................
ไมผ่ ่านเกณฑ์ขั้นตำ่ ทก่ี ำหนดไว้...........................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ..........................................

3. การพัฒนานกั เรยี นระดบั เก่ง...............…………………………………….….……….…….…..…….……………….
............................................................................................................................. ..............................

4. ปัญหาและอุปสรรค
 กจิ กรรมการจดั การเรียนร้.ู ................................................................................................
 มีนักเรียนทำใบงาน/ใบกจิ กรรมไมท่ นั ตามกำหนดเวลา
 มีนกั เรียนที่ไม่สนใจเรยี น
 อื่น ๆ ................................................................................................................................

แนวทางแกไ้ ข....................................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………….…..

ลงชอื่ ..................................................... ผู้บันทกึ
(.....………………………………………..)



38

แผนการจดั การเรยี นรู้

รายวิชา วิทยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรอื่ ง หลักการทำงานของระบบคอมพวิ เตอร์ เวลา 3 ชั่วโมง

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เร่อื ง ซอฟตแ์ วร์ประยุกต์ เวลา 1 ชว่ั โมง

………………………………………………………………………………………………………………………………………

1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชี้วัด

สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจ และใชแ้ นวคดิ เชิงคำนวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชวี ิตจริงอย่างเป็น

ขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการ

แก้ปญั หาได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ รู้เท่าทนั และมีจริยธรรม
ตัวชี้วัด ม.2/3 อภิปรายองค์ประกอบและหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์และ

เทคโนโลยีการสือ่ สาร เพอื่ ประยุกตใ์ ชง้ านหรอื แก้ปญั หาเบอ้ื งต้น

2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
ซอฟต์แวร์แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ซอฟต์แวร์ระบบ ซึ่งทำหน้าที่จัดการรวมถึงอํานวย

ความสะดวกในการประมวลผลซอฟตแ์ วรป์ ระยุกต์ผา่ นส่วนตอ่ ประสานกับผใู้ ช้ (user interface) โดย
จัดสรรฮาร์ดแวร์ตามความต้องการของซอฟตแ์ วร์ประยุกต์อย่างมปี ระสิทธิภาพ รวมถงึ ให้บริการต่าง
ๆ และซอฟตแ์ วร์ประยกุ ต์ เป็นโปรแกรมหรือชดุ โปรแกรมทผี่ ู้ใช้เรยี กใชง้ านหรอื สั่งประมวลผล

3. สาระการเรยี นรู้
การประยุกตใ์ ช้งานและการแกป้ ญั หาเบอื้ งตน้

4. จุดประสงค์การเรยี นรู้
ด้านความรู้ (Knowledge : K)
1. นักเรยี นสามารถอธิบายความหมายของซอฟต์แวรป์ ระยกุ ต์
ด้านกระบวนการ (Process : P)
2. นักเรยี นมที ักษะใชซ้ อฟต์แวรแ์ กป้ ัญหาเบื้องต้น
ด้านเจตคตแิ ละคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (Attitude : A)
1. มคี วามกระตอื รอื ร้น
2. มีความตรงต่อเวลา
3. มคี วามรบั ผิดชอบ

5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีวนิ ัย รับผดิ ชอบ
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มงุ่ มั่นในการทำงาน

39

6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
1. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

7. สมรรถนะทาง ICT
1. ICA5 การใช้ ICT อย่างเหมาะสม

8. รปู แบบการสอน
 1. Onsite (ออนไซต)์
 2. Online (ออนไลน)์
3. On-hand (ออนแฮนด์)

9. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ (Learning activities)
1. การเรยี นรู้แบบวเิ คราะหว์ ดี โี อ (Analysis or Reactions to Videos)
2. การเรียนรู้แบบทบทวนโดยผเู้ รียน (Student-led Review Sessions)

10. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (Learning activities)

ข้ันนำเข้าสู่บทเรียน
1.ครจู ะกลา่ วทักทายและพดู คุยกบั นกั เรยี นผ่านกล่มุ ไลน์ของนกั เรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 2

2. ครตู ัง้ คำถามชวนคิด “นักเรียนทราบหรอื ไม่ ซอฟต์แวร์คอื อะไร” โดยใหน้ กั เรยี นรว่ มกันแสดง
ความคดิ เห็นผา่ นทางกลมุ่ ไลนข์ องนักเรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 2

3. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุปคำตอบ จากการตอบคำถาม

ขัน้ สอน
1.ครใู หน้ ักเรยี นรบั ชมคลิปวีดีโอประกอบการเรียนการสอน เรอ่ื ง ซอฟตแ์ วรป์ ระยกุ ต์
2. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนศกึ ษาเนอื้ หา หวั ข้อ 4.1.2 เรอื่ ง ซอฟต์แวร์ และ 4.3 เรื่อง ซอฟต์แวร์

ประยุกตจ์ ากหนังสือเรียน

3. ครโู พสต์ไฟล์ใบงานที่ 4 เรอ่ื ง เลอื กใหไ้ ด้ ใช้ใหเ้ ป็น
ใหน้ กั เรียนดาวนโ์ หลดผา่ น Google classroom และให้นักเรียนดำเนนิ การทำใบงาน จากนนั้
ถา่ ยภาพหรือแปลงเป็นไฟล์ pdf สง่ ผ่านกลุ่ม Google classroom ตามเวลาทก่ี ำหนดสง่

4. ครูตรวจสอบความถูกต้องพรอ้ มทั้งให้คะแนน

40

ขน้ั สรุป
1. ครสู รา้ งโพสตท์ าง Google classroom “ใหน้ ักเรียนแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 3-4 คน

ยกตวั อย่างปัญหาการใช้งานคอมพิวเตอรท์ ี่พบมากลุ่มละ 1 ประเด็น”
2. ผเู้ รยี นแตล่ ะกลมุ่ ส่งตัวแทนมาสรปุ วิธกี ารแกป้ ัญหาในประเดน็ ของตนเอง โดยแสดงความ

คิดเหน็ ใตโ้ พสตข์ องครู

3. ผู้สอนและผู้เรียนรว่ มกันสรปุ แนวคดิ ในการแกป้ ญั หาการใชง้ านคอมพวิ เตอร์

4. ครูโพสต์ในกลุ่ม Google classroom ใหน้ กั เรียนทำแบบฝกึ หัดทา้ ยบทจากหนังสือเรียน

พรอ้ มบนั ทกึ คำตอบลงในสมุด จากนนั้ ถา่ ยภาพหรอื แปลงเปน็ ไฟล์ pdf สง่ ผ่านกลุ่ม Google
classroom ตามเวลาทก่ี ำหนดส่ง

5. ครตู รวจสอบความถกู ตอ้ งพร้อมเฉลยคำตอบ

11. การวดั และประเมนิ

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วธิ ีการวดั เคร่ืองมือวัด เกณฑก์ ารวดั
- ตรวจใบงาน - ใบงาน
1. นกั เรยี นสามารถอธบิ าย รอ้ ยละ 60 ขึน้
ความหมายของซอฟต์แวร์ - ตรวจใบงาน - แบบประเมินใบงาน ไปถือว่า ผา่ น
ประยกุ ตไ์ ด้ - ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบฝกึ หัด
ร้อยละ 60 ข้นึ
2. นักเรยี นมที ักษะใช้ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมินพฤติกรรม ไปถือวา่ ผา่ น
ซอฟตแ์ วร์แกป้ ญั หา
เบอ้ื งตน้ ได้ ระดบั 2 ขนึ้ ไป
ถอื วา่ ผ่าน
1. มีความกระตอื รอื ร้น
2. มคี วามตรงต่อเวลา
3. มีความรบั ผดิ ชอบ

12. ช้นิ งาน/หลักฐานการเรียนรู้ของผเู้ รียน (Work piece)
- ใบงานท่ี 4 เรอ่ื ง เลือกให้ได้ ใช้ใหเ้ ป็น
- แบบฝกึ หัดท้ายบท
- สังเกตพฤตกิ รรมมีสว่ นร่วมในชน้ั เรียน

13. สือ่ และแหล่งเรยี นรู้
1. หนังสือเรยี น
2. สือ่ ประกอบการสอน





43

แบบประเมินพฤติกรรมนักเรียน

ที่ ชื่อ - รายการประเมิน การมี รวม ระดับ
นามสกลุ ส่วนรวม คะแนน คุณภาพ
นักเรียน
สามารถ นักเรียนมี ในกจิ กรรม (12)
อธบิ าย ทกั ษะใช้ (4 คะแนน)
ความหมาย ซอฟต์แวร์

ของ แก้ปัญหา
ซอฟต์แวร์ เบื้องต้น
ประยกุ ต์ (4 คะแนน)

(4 คะแนน)

เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
10 - 12 ดมี าก
7- 9 ดี

4-6 พอใช้
1-3 ควรปรบั ปรุง

เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ ตั้งแต่ระดับคณุ ภาพดีขน้ึ ไป
สรปุ  ผ่านเกณฑ์  ไมผ่ า่ นเกณฑ์

44

แบบประเมนิ ใบงาน

คำชีแ้ จง ใหท้ ำเครือ่ งหมาย √ ลงในชอ่ งทีต่ รงกบั คะแนน

รายการประเมนิ

ความถกู ต้อง ความสะอาด รวมคะแนน ระดับ
(5) คุณภาพ
ที่ ชือ่ - นามสกลุ ของงาน เรยี บร้อยของ

(3) งาน

(2)

เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
5 ดมี าก
ดี
3-4 พอใช้
1-2
ควรปรับปรงุ
0

เกณฑผ์ า่ นการประเมิน ตงั้ แต่ระดบั คุณภาพดีข้ึนไป
สรปุ  ผา่ นเกณฑ์  ไมผ่ ่านเกณฑ์

45

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนใบงาน

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนใบงาน

รายการประเมนิ ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปง

(3) (2) (1) (0)

1. ความถกู ต้องของงาน ตอบได้ ตอบได้ถกู ตอ้ ง ตอบไดถ้ ูกตอ้ ง ไมม่ ีคำตอบถกู

ถูกตอ้ งทกุ ข้อ เป็นส่วนใหญ่ เปน็ บางส่วน

2. ความสะอาดเรยี บรอ้ ยของ - สะอาด ค่อนข้าง -

งาน เรียบรอ้ ยดี เลอะเทอะ

46

แบบสงั เกตพฤติกรรมด้านคุณลกั ษณะ

คำช้ีแจง ให้สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 2 แลว้ ทำเครือ่ งหมาย √ ลงในช่องท่ี
ตรงกบั คะแนน

รายการประเมนิ

ท่ี ช่ือ - นามสกลุ ความ ความ ความ รวม ระดับ
กระตอื รือร้น ตรง รบั ผดิ ชอบ คะแนน คณุ ภาพ

(4) ต่อเวลา (4) (12)
(4)

เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
10 - 12 ดีมาก
7- 9 ดี
4-6 พอใช้
1-3
ควรปรับปรงุ

เกณฑ์ผา่ นการประเมนิ ตงั้ แต่ระดบั คุณภาพดีข้ึนไป
สรปุ  ผา่ นเกณฑ์  ไมผ่ ่านเกณฑ์


Click to View FlipBook Version