การดูแลและสร้างเสริมสุขภาพ
เดก็ และวยั รุ่นในโรงเรียน
(School Health)
พ.ญ. สุธาทพิ ย์ เอมเปรมศิลป์
ภาควชิ ากมุ ารเวชศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
วตั ถุประสงค์ของการเรียนรู้
1. ทม่ี าและความสาคญั ของงานด้านการดูแลสุขภาพเด็กในโรงเรียน
2. แนวคดิ และการพฒั นาต้นแบบของโรงพยาบาลรามาธิบดี
3. ความร่วมมือกบั กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานทเี่ กยี่ วข้อง
4. ความรู้เร่ืองชุดสิทธิประโยชน์ข้นั พืน้ ฐานของเด็กวยั เรียน
5. บทบาทของแพทย์ในการทางานด้านอนามยั โรงเรียน
6. ทกั ษะในการส่ือสารและการทางานกบั โรงเรียนและชุมชน
สรุปปัญหาเดก็ วยั เรียนช่วงอายุ 6-12 ปี
ความเจบ็ ป่ วยลดลง (โรคทางเดนิ หายใจ ไข้หวดั ไข้เลือดออก) /
สาเหตุการตายทพี่ บบ่อย (อบุ ตั เิ หตุ จมนา้ )
โรคทป่ี ้องกนั ได้ แต่ยงั เป็ นปัญหาอยู่ คือ ฟันผุ โรคอ้วน ภาวะโลหิตจาง
ครอบครัวปัจจุบัน : พ่อแม่เลยี้ งลกู เองลดลง พ่อแม่แยกทางกนั
-พบปัญหาอารมณ์และพฤตกิ รรมพบได้สูงถึง 1 ใน 3 ของเดก็ วยั เรียน
เด็กออกกาลงั กายน้อยมาก ถูกปล่อยให้ดูทวี ี ติดเกม..โรคอ้วนเพมิ่ ขนึ้
ปัญหาการเรียนพบเพม่ิ ขนึ้ :ADHD, LD มีปัญหาการช่วยเหลือ
Conductive ADHD
hearing loss 2.4-8%
3.9 – 6.1% Learning Disorder
Vision problem 6-9.95 %
6.2 – 8.7%
ปญั หาทพี่ บบอ่ ยในเด็กวยั เรยี น
Anemia Goiter Obesity
7% 8-25%
13-26.7%
ลัดดา เหมาะสวุ รรณ และคณะ 2553
สทศ.
Global School-based Student
Health Survey(GSHS) 2015
63 Schools in Thailand were selected , Grade 7-12 (อายุ 12-18 ปี )
ร้อยละ 8.9 มโี รคอ้วน, ร้อยละ 22 มภี าวะนา้ หนักเกนิ เกณฑ์
ร้อยละ 35 ไม่ได้รับประทานอาหารเช้าก่อนมาโรงเรียน
ร้อยละ 56 ดื่มเครื่องด่ืมทมี่ นี า้ ตาลสูง
ร้อยละ 44 วยั รุ่นนอนหลบั พกั ผ่อนน้อยกว่า 8 ชั่งโมงต่อคืน
ร้อยละ 22 มปี ระวตั ิด่ืมแอลกอฮอล์,ร้อยละ10 สูบบุหรี่
ร้อยละ 9.7 รู้สึกว่าตนเองว้าเหว่
ร้อยละ 18.6 เคยมเี พศสัมพนั ธ์
เกดิ คาถามว่า
มรี ะบบดูแลเดก็ ไทยในโรงเรียนหรือไม่อย่างไร?
Review
School Health Services in Other Countries
Difference recommendations at each country
Same concerns about ineffective health
education curriculums
Emphasis in 3 topics: nutrition, exercise and
sleep
Students lack of practical training in health
issues
Textbook is not enough for life long health
education
School Health Screening Guidelines in USA
Screening Kindergarten All students Middle schools
Physical check by doctor K Elementary
BMI K
Blood pressure K First grade 8, Annually at high school
Hearing PreK, K 2, 4, 6, 8, Annually at high school
2, 4, 6
7
Grade 1, 3, 5
Vision PreK, K Grade 1, 3, 5 7
Oral health Encouraged to Encouraged to screen Encouraged to screen
screen
Scoliosis Grade 6 -
- First grade New students at risk
Urine, Hct, TB
K
-Speech-language screening K First grade and New students at risk
children at risk
-Fine motor/gross motor K
First grade
School Entry Health Checkups
School Health Services in USA*
45% have nurses: student ration 1:750
(Recommendation)
86% have at least part-time school nurses.
*Brener ND. J school health, 2007.
ถอดบทเรียนจาก ศาสตราจารย์กติ ตคิ ุณ ดร. สุชาติ โสมประยูร
Health & Education
Plato และ Aristotle กล่าวไว้ว่า
“ถ้าจะให้การศึกษากบั เดก็ ควรให้เดก็ มสี ุขภาพดเี สียก่อน”
ปี พ.ศ. 2438 มหี ลกั สูตรวชิ าสุขศึกษา ฉบบั แรกของประเทศไทย
(องค์ประกอบ 3 ด้านคือ ส่ิงแวดล้อม บริการสุขภาพ การสอนสุขศึกษา)
ปี พ.ศ. 2543-50 กระทรวงศึกษาธิการ รับผดิ ชอบเกย่ี วกบั วชิ าสุขศึกษา
กระทรวงสาธารณสุข รับผดิ ชอบเกย่ี วกบั งานอนามยั โรงเรียน
พ.ศ. 2543, WHO ได้ปรับSchool health program เพม่ิ เป็ น 8 องค์ประกอบ
วกิ ฤติของโปรแกรมสุขภาพในโรงเรียนในประเทศไทย เกดิ จากนักการศึกษาไม่รู้จริงเร่ืองโปรแกรม
สุขภาพ และไม่เห็นความสาคญั ด้านสุขภาพ
ปี พ.ศ. 2526 สถาบนั ผลติ ครูจานวนมาก ตดั วชิ าโปรแกรมสุขภาพในโรงเรียนออกจากหลกั สูตรครู
ขาดการจดั ต้ังคณะกรรมการสุขศึกษาในโรงเรียนจากอดตี จนถงึ ปัจจุบนั
8 องค์ประกอบของงานอนามยั โรงเรียน
1. การให้สุขศึกษาในโรงเรียน
2. การออกกาลงั กาย กฬี าและนันทนาการ
3. การบริการด้านสุขภาพร่างกายและจติ ใจ**
4. โภชนการและสุขาภบิ าลอาหาร
5. การส่งเสริมสุขภาพบุคลากรในโรงเรียน
6. การให้คาปรึกษาและสนับสนุนทางสังคม**
7. อนามยั ส่ิงแวดล้อมและความปลอดภยั
8. การมีส่วนร่วมของครอบครัวและชุมชน**
ความทรงจาของนักศึกษาแพทย์เกย่ี วกบั เดก็ วยั เรียน?
ความทรงจาเกย่ี วกบั การตดิ ตามดูแลสุขภาพเดก็ ดี
“Well baby clinic”
งานบริการในอดตี เน้นการติดตามเดก็ ช่วงแรกเกดิ ถึงอายุ 5 ปี
หมดเกณฑ์การฉีดวคั ซีนท่ี 4 หรือ 5 ปี ..........แพทย์และพยาบาลจะไม่นัด
คาพูดทค่ี ุ้นเคยในอดีต คือ “วคั ซีนครบแล้วไม่นัดนะ ถ้ามีปัญหาอะไรค่อยพา
เดก็ มาโรงพยาบาล”
เดก็ วยั เรียนโดยรวมดูแข็งแรงด.ี ....ทมี สาธารณสุขกว็ างใจ ไม่ได้ดูแลใกล้ชิด
ปัจจุบัน“ภยั เงียบ” ในเดก็ วัยเรียน .......เกดิ ขนึ้ รุนแรงต่อยอดถงึ วยั รุ่น
ท้งั ทป่ี ัญหาส่วนใหญ่ป้องกนั ได้
ในมุมมองพ่อแม่และผู้ปกครอง
เดก็ โตแล้วดูทวั่ ไปแขง็ แรงดที าไมต้องตรวจสุขภาพ? คาตอบคือ
เดก็ ทุกคนทด่ี ูด้วยตาเปล่าว่าปกติ (อาจมีความเสี่ยงต่อการเกดิ โรค)
ความผดิ ปกติในระยะแรกๆ ไม่แสดงอาการ
การตรวจสุขภาพกาย จติ ใจและประเมนิ พฤตกิ รรมเส่ียงเป็ นระยะๆ
ตามความจาเป็ นเพ่ือค้นหา “ภยั เงียบ”
การค้นพบปัญหาแต่เนิ่นๆ จะรักษาได้ทนั ไม่รุนแรง และลด
ภาวะแทรกซ้อนได้
.......แต่ “พ่อแม่ไม่มคี วามรู้และไม่มีใครแนะนา” ใครจะช่วย?
ระบบบริการทางสุขภาพแก่เดก็ นักเรียนในประเทศไทย
งานบริการด้านสุขภาพ ในเดก็ ระดบั ประถมศึกษา (กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสุข)
- การคดั กรองสุขภาพโดย “พยาบาล” จาก ร.พ. สต หรือ เวชกรรมสังคม
ตรวจเฉพาะระดบั ช้ัน ป. 1- ป. 4 (บางโรงเรียนไม่ได้รับบริการ)
- ตรวจสุขภาพ 10 ท่า ตรวจตา หู ตรวจฟัน (ทตั บุคลากร)
- ตรวจภาวะโลหิตจาง(ทา ในเดก็ ทม่ี เี สี่ยง)
- ให้ธาตุเหลก็ เพ่ือป้องกนั ภาวะโลหิตจาง (มใี ห้บางพืน้ ที่)
- ให้วคั ซีน
-ระดบั มธั ยมศึกษาแตกต่างกนั ไป (เขต กทม บางแห่งเกบ็ เงนิ ผ้ปู กครอง)
ด้านพฤตกิ รรมและจิตใจ(ทาบางโรงเรียน/กาหนดเป็ นภาระงานของครู )
- ตรวจ SDQ (Strengths and Difficulties Questionnaires)
ชุดสิทธิประโยชน์สาหรับเดก็ วยั ประถมศึกษา (อายุ 6 – < 13 ปี )/ สปสช
ตารางเปรียบเทยี บผลสารวจงานบริการอนามยั โรงเรียน
ตรวจสุขภาพประจาปี ในเขตกรุงเทพมหานคร ในเขตปริมณฑล ต่างจงั หวดั
( n= 91) ) ปี พ.ศ. 2553 ( n= 125) ปี พ.ศ. 2555 ( N= 229) ปี พ.ศ. 2557
ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ
53 62 96
ชั่งนา้ หนัก วดั ส่วนสูง 97 94 97
วดั ความดนั (BP) 54 19 25
ตรวจสายตา 89 82 89
ตรวจการได้ยนิ อย่างง่าย 84 64 89
ตรวจภาวะโลตติ จาง 12 28 47
(CBC or Hct)
ตรวจกรุ๊ปเลือด 56 32 35
ตรวจเอกซเรย์ปอด 62 6 2
ตรวจตาบอดสี 63 14 15
โครงการพฒั นาศักยภาพประชากรไทย
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
โครงการอนามยั โรงเรียนและการคดั กรองสุขภาพ
เดก็ วยั เรียนอย่างเป็ นองค์รวม
(เริ่มปี งบประมาณ พ.ศ 2552)
Acknowledgement
คณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
ศ.นพ. รัชตะ รัชตะนาวนิ
ศ.นพ. วนิ ิต พวั ประดิษฐ์
ศ.นพ. ปิ ยะมิตร ศรีธรา
ผู้บริหารคณะทางาน โครงการพฒั นาศักยภาพประชากรไทย
นพ. ววิ ฒั น์ โรจนพทิ ยากร
รศ.พญ. นิชรา เรืองดารกานนท์
อาจารย์ ภาควชิ ากมุ ารเวชศาสตร์
คณะทางานกจิ กรรมอนามัยโรงเรียน
ผู้สูงวัย New ANC 2.1 Breast feeding
Toxic screening 2.2 Neonatal
6. Adulthood :
couples 1.Pregnancy screening
- hearing
2. Newborn - genetic
2.3 LBW clinic
3. Early childhood
กจิ กรรมภายใต้ โครงการ 3.1 Nutrition
พฒั นาศกั ยภาพประชากรไทย 3.2 Comprehensive WCC
3.3 Book start
5. Adolescence 3.3 Child safety
3.4 Hearing screening
3.5 Visual screening
3.6 Cochlear Implant
3.8 Dental health
5.1 Health risk behaviors 4.1 Bone development
5.2 Teenage pregnancy 4.2 Childhood obesity
5.3 Safety
5.5 Bone development 4.3 School health program
5.6 Obesity
4. School age
period
What should the service model be
for Thai children?
School Health Model
The Elements of School Health
Program
Health education
Physical education and activities
Health & mental health services
Nutrition services
Health promotion for staff
Counseling
Healthy & safety environment at the school
Parent engagement
Community involvement
Social & emotional climate
Related Factors with School Health
Program
School health policy and the committee including
physician, pediatrician or gynecologist
School nurses
School counselor
School psychologist
Social worker
Special educator
Family resource center
Community organization
วตั ถุประสงค์ของการทาโครงการในปี พ.ศ. 2552
1. เพ่ือสร้างองค์ความรู้เกยี่ วกบั ระบบการประเมนิ และมาตรฐานการคดั
กรองสุขภาพของเดก็ วยั เรียนโดยเน้นบทบาทของพยาบาล
อนามยั โรงเรียน
2. เพื่อหาอตั ราความชุกของภาวะซีดจากการขาดธาตุเหลก็ ในเดก็
นักเรียนและปัจจยั ทเี่ กยี่ วข้อง
เป้าหมาย
มตี ้นแบบการให้บริการอนามยั โรงเรียนและระบบ
คดั กรองสุขภาพแบบองค์รวม(ตามสิทธิข้นั พืน้ ฐาน)
ผลประโยชน์ท่จี ะได้รับ
1. เดก็ ทม่ี ปี ัญหาสุขภาพจะได้รับการดูแลและตดิ ตามอย่างต่อเนื่อง
โดยพยาบาลอนามยั โรงเรียน และมีระบบส่งต่อตดิ ตามที่เป็ น
มาตรฐาน โดยเน้นให้ผู้ปกครองมสี ่วนรวม
2. เดก็ วยั เรียนมีสุขภาพดขี นึ้ และส่งผลเชิงบวกต่อผลสัมฤทธ์ิทาง
การศึกษาในระยะยาว
ทมี ทางานและเครือข่าย
หน่วยผู้ป่ วยนอก ภาควชิ ากมุ ารเวชศาสตร์
ภาควชิ าจติ เวชเดก็ และวยั รุ่น
ภาควชิ าจักษุวทิ ยา
ภาควชิ าโสต ศอ นาสิกวทิ ยา
ภาควชิ าพยาบาลศาสตร์
ภาควชิ าวทิ ยาศาสตร์การสื่อความหมายฯ
นักวชิ าการกรมอนามยั กระทรวงสาธารณสุข
ชมรมพยาบาลอนามยั โรงเรียน
ฝ่ ายสนับสนุน : Programmer คุณ ชัยวฒั น์ จนิ าวงศ์
ผ้ชู ่วยวจิ ยั คุณ ธีรารัตน์ ทศั นปิ ตกิ ลู
ผ้ปู ระสานงาน คุณ สุภรารัตน์ บัวแย้ม
กล่มุ ประชากรเป้าหมาย (ใกล้โรงพยาบาลรามาธิบดี)
เดก็ นักเรียนระดับประถมศึกษา
1. โรงเรียนอนุบาลสามเสน
2. โรงเรียนสวนมิสกวนั
3. โรงเรียนพญาไท
4. โรงเรียนกง่ิ เพชร
ผลลพั ธ์ของการทาโครงการพฒั นารูปแบบงานบริการ
ด้านสุขภาพเดก็ ในโรงเรียน
ต้นแบบการให้บริการคดั กรองสุขภาพเดก็ วยั เรียน (ป.1, ป.3, ป.5)
กาหนดการดูแลสุขภาพเดก็ ไทย โดยราชวทิ ยาลยั กุมารแพทย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2557
(Recommended Guideline for Preventive Pediatric Health Care by
The Royal College of Pediatricians of Thailand, 2014 )
หลกั สูตรอบรมเชิงปฏิบตั กิ ารเรื่องการคดั กรองสุขภาพสาหรับ
พยาบาลอนามัยโรงเรียน (หลกั สูตร 2 วนั )
ชุดความรู้ทใ่ี ช้ประกอบการอบรม
พฒั นาโปรแกรมการเกบ็ ข้อมูลสุขภาพและ
ประเมินผลรายบุคคลสาหรับครูและพยาบาล
(web based program)
http://schoolheathservice.ana
mai.moph.go.th
โปรแกรมการเกบ็ ข้อมูลสุขภาพ
(web based program)
ศึกษาลงลกึ ในปัญหาสุขภาพทพ่ี บบ่อยในเดก็ วยั เรียน
Anemia
Vision problem
Obesity
Dental carries
Learning problem: ADHD, LD
ตารางเปรียบเทยี บปัญหาภาวะโลหิตจางในเดก็ นกั เรียน
Screening ปี การศึกษา ปี การศึกษา ปี การศึกษา ปี การศึกษา ปี การศึกษา ปี การศึกษา รายงานสุข
2552 2553 ภาวะ
(CBC) (Hb) 2554 2555 2556 2557
(Hb) (Hb) ของเดก็ และ
N=226 N=483 (Hb) (Hb< 12)* วยั รุ่นไทย
N=362 N=250 N=694 N=755 คน
% % มธั ยมศึกษา ปี พ. ศ
% % %
% 2552
Anemia 12.8 21.7 13.5 11.6 25.6 25 13
(Hb < 11.5
g/dL) (Hct),
Iron 26.7
deficiency (Hb)
anemia
4.5 18 11.9 8 18 20 6 - 27. 3%
Hb typing varies by
-A2A (Therapeuti (Therapeuti (Therapeuti (Therapeutic (Therapeutic
-Trait c diagnosis) c diagnosis) c diagnosis) diagnosis) diagnosis) age
-Disease* group
(n=131) (n=34) (n=11) ไม่ได้ตรวจ ไม่ได้ตรวจ N= 56
64 62 37 45
34 32 45 41
2 6 18 14
แสดงการเปรียบเทยี บร้อยละของภาวะโลหิตจางในเดก็ นักเรียน
พ.ศ. 2556
เขตพืน้ ท่ี จานวนเดก็ ท้ังหมด ภาวะโลหิตจาง ภาวะโลหิตจางจากการ
(คน) (Hb < 11.5 mg%)
ขาดธาตุเหลก็ (%)
รพสต. ท่าอฐิ 144 ร้อยละ
จงั หวดั นนทบุรี (ป. 1-ป.2) (Therapeutic diagnosis)
ป. 1 = 268 15.8
อาเภอบางนา้ เปรี้ยว ป. 6= 266 11
จังหวดั ฉะเชิงเทรา
70 34.2 21
(ให้ยาธาตุเหลก็ ป้องกนั (ป. 1-ป.6) 11.5 8
ต่อเน่ืองในโรงเรียน)
748 66 56
อาเภอท่าตะเกยี บ
จงั หวดั ฉะเชิงเทรา 25.6 18
รวม
ตาราง แสดงการเปรียบเทยี บค่าคะแนนเฉลยี่ ของทกั ษะการคานวณ ความจา
ระยะส้ันและสมาธิ ในเดก็ นักเรียนทม่ี ีภาวะโลหิตจางในปี 2554
คะแนน ( เตม็ = 19) เดก็ ทผ่ี ล Hb ปกติ เดก็ ทยี่ งั ซีดอยู่
ค่าเฉลย่ี = 10 หลงั กนิ ยา (n=5 คน)
(n=37 คน)
ทกั ษะการคานวณ: ก่อนรักษา ค่าเฉลยี่ SD
: หลงั รักษา ค่าเฉลยี่ SD 6.0 1.9
4.7 2.9 6.4 b 3.2
ความจาและสมาธิ :ก่อนรักษา 7.8 a 3.5 10.1 1.2
: หลงั รักษา 9.3 2.5
10.2 b 1.2
P-value: a: < 0. 01 11.7 a 2.5
b: NS
ตาราง แสดงการเปรียบเทยี บค่าคะแนนเฉลย่ี ของทักษะการคานวณ ความจา
ระยะส้ันและสมาธิ ในเดก็ นักเรียนที่มภี าวะโลหิตจาง
คะแนน ( เตม็ = 19) พ. ศ. 2553 พ.ศ. 2554
ค่าเฉลย่ี = 10
เดก็ ทผ่ี ล Hb ปกติ เดก็ ทผี่ ล Hb ปกติ
หลงั กนิ ยา (n= 84 คน) หลงั กนิ ยา (n= 37 คน)
ทกั ษะการคานวณ :ก่อนรักษา ค่าเฉลยี่ SD ค่าเฉลยี่ SD
9.8 3.8 4.7 2.9
: หลงั รักษา 10.4 * 3.6 7.8 * 3.5
ความจาระยะส้ันและสมาธิ 11.5 2.9 9.3 2.5
:ก่อนรักษา 12 * 2.7 11.7 * 2.5
: หลงั รักษา
* P-value: < 0. 01
โรคอว้ น ซนสมาธสิ น้ั
2.4-8%
8.9%
โลหติ จาง ปญั หาการเรยี น
26%
6-10 %
พบปัญหาในเด็กวยั เรียนต่อเน่ือง
“ส่ งผลกระทบต่อการเรียน”
นอนไมพ่ อ ตดิ เกมและ สายตา** ฟนั ผุ
44% FB ผดิ ปกติ
30% 6.6% 52%
** โครงการเดก็ ไทยสายตาดี
แหล่งท่มี าข้อมูล : กระทรวงสาธารณสขุ , 2558-59
ถอดบทเรียนของการพฒั นางานอนามยั โรงเรียน
ผ้บู ริหารโรงเรียนคือ “Key success factor ” ..ปัญหาคือ ผ้บู ริหารเปลย่ี นบ่อย
โรงเรียนทีมคี รูพยาบาล จะจดั ระบบงานบริการได้มีประสิทธภาพมากกว่า
ปัจจุบันไม่มอี ตั ราบรรจุเพมิ่ ในตาแหน่งครูพยาบาล...บางเวลาห้องพยาบาลปิ ดไม่มีคนดูแล
(เดก็ ป่ วยไม่มใี ครดูแล)
ภาระงานของพยาบาล ใน รพสต. มคี ่อนข้างมาก…งานในโรงเรียนไม่สาคญั จะถูกลืม
ต่างคนต่างทา จุดด้อยคือ ขาดการประสานงานในพืน้ ท่ี
งบสร้างเสริมสุขภาพและป้องกนั โรค(งบ PP) …ไปไม่ถึงเดก็ ในโรงเรียน
การเข้าถึงงานบริการด้านสุขภาพของเดก็ ในโรงเรียนจึงแตกต่างกนั ......ปัญหายงั คงอยู่
ปัญหาทุกอย่างจะไม่ถูกค้นพบ
ถ้าขาดระบบและการบริหารทดี่ ี เพื่อมาดูแลคดั กรอง
ช่วยเหลือ ตดิ ตามและป้องกนั โรคเดก็ ในโรงเรียน
พฒั นาชุดความรู้ในการอบรมผู้จดั การและคุณครูใน อปท.