The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือ ประสบการณ์ภาคสนามเวชศาสตร์ชุมชน 1
CMD211 ปีการศึกษา 2562 - 2563 นักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 2 รุ่นที่ 30

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Sopha Chaimut, 2019-10-24 05:16:51

คู่มือ ประสบการณ์ภาคสนามเวชศาสตร์ชุมชน 1

คู่มือ ประสบการณ์ภาคสนามเวชศาสตร์ชุมชน 1
CMD211 ปีการศึกษา 2562 - 2563 นักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 2 รุ่นที่ 30

12.2

แบบสารวจชุมชน

96

□□□รหัสแบบสอบถาม

ผู้สัมภาษณ์…………….....…………..

แบบสารวจชุมชน

โครงการฝึกภาคสนาม วิชา CMD211 มหาวทิ ยาลยั รงั สติ 2561 ณ อ.โคกเจริญ จ.ลพบุรี

คาชี้แจง : โปรดตอบแบบสอบถามตามความคิดเห็นและพฤติกรรมสุขภาพของท่าน

ส่วนท่ี 1 : ข้อมูลทวั่ ไปเกีย่ วกบั ผตู้ อบแบบสอบถาม

1.1 เพศ ( ) 1. ชาย ( ) 2.หญงิ

1.2 อายุ………………..ปี

1.3 ศาสนา ( ) 2.คริสต์ ( ) 3. อสิ ลาม ( ) 4. อื่นๆ (ระบุ) ……………
( ) 1. พทุ ธ

1.4 การศึกษาสูงสุดของท่าน ( ) 2. มัธยมศกึ ษา (ม.6 หรือต่ากว่า)
( ) 1. ประถมศกึ ษา (ป.6 หรือตา่ กวา่ ) ( ) 4. ปริญญาตรี หรอื สงู กว่า
( ) 3. ต่ากวา่ ปรญิ ญาตรี (ปวช. / ปวส.)
( ) 5. ไม่ได้เรียนหนังสอื

1.5 ท่านประกอบอาชพี (ตอบได้มากกวา่ 1 ขอ้ ) ( ) 2. พนกั งาน / ลกู จ้างบริษัท / โรงงาน /
( ) 1. รับราชการ / พนักงานรฐั วสิ าหกจิ สถานประกอบการเอกชน

( ) 3. เกษตรกรรม (ปลกู พชื / เลยี้ งสตั ว์ / ไรอ่ อ้ ย) ( ) 4. ค้าขาย / ประกอบธุรกจิ ของตนเอง
) 6. รับจา้ งในโรงงานอุตสาหกรรม
( ) 5. รบั จา้ งทวั่ ไป ( ) 8. อนื่ ๆ ระบุ.................................

( ) 7. ทอผ้า / จักสาน (

1.6 ท่านมรี ายได้ครัวเรือนเฉลี่ยตอ่ เดือน
( ) 1. ต่ากว่า 5,000 บาท
( ) 2. 5,001 – 10,000 บาท
( ) 3. 10,001 – 15,000 บาท
( ) 4. 15,001 – 20,000 บาท
( ) 5. มากกวา่ 20,000 บาท

1.7 สถานภาพในครวั เรือนของทา่ น ( ) 2. คู่สมรสของหวั หน้าครวั เรอื น
( ) 1. เปน็ หัวหน้าครัวเรือน ( ) 4. บดิ า / มารดา / ของหัวหนา้ ครัวเรอื น
( ) 3. บุตร / บตุ รเขย / บตุ รสะใภ้ ของครวั เรอื น ( ) 6. อนื่ ๆ (ระบุ)…………………….......…………
( ) 5. ญาติ / พ่ี / นอ้ ง ของหวั หนา้ ครวั เรือน

97

สว่ นท่ี 2 : ขอ้ มลู ทัว่ ไปของครวั เรอื น

ในท่ีนี้ เก็บขอ้ มูลทั่วไปสาหรบั ครวั เรอื น ไมใ่ ชส่ าหรับครอบครัว (พิจารณาขอ้ 2.1, 2.5)

2.1 จานวนสมาชิกในครวั เรอื นทั้งหมด.....................คน
( ) ครอบครวั เดยี วกัน โดยแบ่งเปน็ เพศชาย.......................คน เพศหญงิ .....................คน
( ) ตา่ งครอบครัวกนั โดยแบ่งเป็น เพศชาย.......................คน เพศหญงิ .....................คน

2.2 จานวนสมาชกิ ในครัวเรือนท่ีทางาน / มีงานทา .................... คน

2.3 จานวนสมาชิกในครวั เรือนทไี่ มไ่ ดท้ างาน .................... คน จาแนกเป็น
2. เรียนหนังสอื
1. เด็กเล็กยงั ไมเ่ ขา้ เรียน ............. คน 4. ตกงาน / กาลังหางาน ............. คน
6. ปว่ ยตดิ เตียง ............. คน
3. คนชรา ............. คน ............. คน

5. ปว่ ยติดบา้ น ............. คน

7. อ่นื ๆ ระบุ ............. คน

2.4 ทา่ นคิดวา่ รายได้ครัวเรอื นเทียบกับรายจา่ ยในครัวเรอื นเปน็ อยา่ งไร
( ) 1. ไม่พอ
( ) 2. เพยี งพอ
( ) 3. เพยี งพอและเหลอื เกบ็ ออมในแต่ละเดือน

2.5 ทา่ นคดิ วา่ ความสมั พันธ์ระหว่างสมาชกิ ในครวั เรอื น ของท่านเปน็ อยา่ งไร
( ) 1. สนทิ สนม มคี วามสุขกันดี
( ) 2. ไม่ค่อยสนิทสนมกัน ตา่ งคนต่างอยู่
( ) 3. ไมส่ นทิ สนม บางครงั้ มีทะเลาะกนั บ่อยครงั้

( ) 4. มีทั้งสนิทสนม และไม่สนิทสนม ระหว่างสมาชิกในครอบครวั

ส่วนท่ี 3 พฤติกรรมสุขภาพของท่าน

3.1 ท่านมีโรคประจาตัว ตอ้ งพบแพทยอ์ ย่างต่อเน่ืองหรือไม่

( ) 1. ไม่มี ( ) 2. ไม่แน่ใจ เพราะไม่เคยไปตรวจรกั ษา

( ) 3. มีโรคประจาตวั (ระบุได้มากกวา่ 1 ขอ้ )

ขอ้ ความ การกินยาต่อเนือ่ ง รกั ษาดว้ ยการ ไม่ไดร้ กั ษา อาหาร อ่ืนๆ ระบุ
คมุ อาหาร เสริมอื่นๆ
ยาแผน ยา
ปจั จบุ ัน สมุนไพร

□ โรคเบาหวาน

□ โรคความดันโลหิตสงู

□ โรคไขมันในเลือดสูง

□ โรคหอบหืด

□ อน่ื ๆ ระบุ.....................

.........................................

98

3.2 ท่านหรอื คนในครัวเรือน เคยป่วยจากโรคตดิ ตอ่ หรือไม่ ใน 1 ปี ทผ่ี ่านมา (ตอบได้มากกว่า 1 ขอ้ )
 ไม่เคย
 เคย ได้แก่ ( ) 1. วณั โรค ( ) 2. ไขห้ วดั ใหญ่ ( ) 3. ไขเ้ ลือดออก
( ) 4. อุจจาระร่วง ( ) 5. โรคพษิ สนุ ัขบา้ ( ) 6. อืน่ ๆ .......................................

3.3 พฤตกิ รรมการบริโภคอาหารและพฤติกรรมสุขภาพของท่านเปน็ อย่างไร

ข้อความ ไม่เคย 0 ระดบั ความถี่ของการปฏบิ ัติ
ตอ่ สปั ดาห์
1. กินอาหารเช้า 1-2 วัน บอ่ ยครัง้ 3-4 วัน บอ่ ยมาก 5-6 วนั ทกุ วนั 7 วนั
2. กินอาหารหลากหลายครบ 5 หมู่ในแต่ละวัน เช่น ตอ่ สัปดาห์ ต่อสัปดาห์ ตอ่ สปั ดาห์ ตอ่ สปั ดาห์

ข้าว เน้อื สตั ว์ ผัก ผลไม้
3. ท่านชอบกนิ อาหารสกุ ๆ ดบิ ๆ

4. ทา่ นชอบกนิ อาหารรสหวานจดั

5. ท่านชอบกนิ อาหารเคม็ จัด

6. ท่านชอบกนิ อาหารมัน/กะทิ/ทอด

7. ทา่ นชอบกินขนมกรบุ กรอบ

8. ท่านชอบดม่ื น้าอัดลม

9. ทา่ นดม่ื เครอ่ื งดม่ื แอลกอฮอล์ เชน่ สุรา ยาดอง เบยี ร์

10. ทา่ นดื่มเครือ่ งดืม่ ชูกาลัง

11. ท่านด่มื กาแฟ/ชา

12. ท่านออกกาลงั กาย วิธ.ี ................ ครง้ั ละ.............นาที

3.4 พฤตกิ รรมการสบู บหุ รี่ท่านเคยสูบบุหร่ี หรอื ยาเสน้ หรือไม่
( ) 1. ไมเ่ คย (จบการตอบคาถาม ข้ามไปสว่ นที่ 4)
( ) 2. เคย ปจั จบุ ันยังสบู อยไู่ หม
( ) 2.1 ไมส่ บู เลกิ มา...........ปี
( ) 2.2 สบู ..............มวน/วนั
มคี วามตัง้ ใจจะเลกิ เพอื่ สุขภาพตนเองและครอบครัว
( ) 1. ไม่มี
( ) 2. มี

99

ส่วนที่ 4 : สภาพชวี ิตความเปน็ อย่ใู นชมุ ชน

4.1 ด้านโครงสร้างพืน้ ฐานและบริการพน้ื ฐาน
4.1.1 ทา่ นคิดว่าในชมุ ชนท่ีท่านอย่อู าศัย มีสง่ิ อานวยความสะดวกและการให้บริการในด้านต่างๆ
ท่เี หมาะสมเพยี งพอ มากนอ้ ยเพียงใด (ให้ทาเคร่ืองหมายถกู ลงในชอ่ งทต่ี ้องการตอบ)

ระดบั ความเหมาะสม/เพยี งพอ

ข้อความ น้อยทีส่ ุด นอ้ ย ปานกลาง มาก มากทส่ี ุด
1. ถนนและการเดินทางในหมบู่ า้ นเหมาะสมอย่างไร
1 23 45

2. แสงสวา่ งไฟในหมู่บา้ นเพยี งพอหรือไม่

3. น้าประปามใี ชท้ ว่ั ถงึ หรือไม่

4. การกาจัดขยะ / การจัดเก็บขยะของหมบู่ า้ น

5. โรงเรียนในหมบู่ า้ น

6. สนามกีฬา / สถานทีอ่ อกกาลังกายในชุมชน

7. ความปลอดภัยในหมบู่ า้ น

8. อนื่ ๆ ระบุ...............................................................

4.2 ดา้ นศลิ ปวฒั นธรรม ประเพณี สังคม และศาสนา
4.2.1 ชุมชนของท่านมีขนบธรรมเนยี มประเพณีท้องถน่ิ ศลิ ปวัฒนธรรม ทางสงั คม และศาสนา อย่างไร
............................................................................................................................. .........................................
......................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .........................................
........................................................................................................................................ ..............................

......................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .........................................
................................................................................................................................................... ...................
......................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .........................................
............................................................................................................................. .........................................
......................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .........................................
........................................................................................................................................ ..............................

......................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .........................................

100

4.3 ระบบบริการดา้ นสาธารณสขุ ในชุมชนของท่านเปน็ อยา่ งไร

4.3.1 ปกตทิ า่ นใช้บริการสถานพยาบาลทีใ่ ดบ้าง โดยลาดับ 1 – 2 – 3 (ใสใ่ นวงเลบ็ ทเ่ี ลือก) ตามความถ่ี

ทเี่ ขา้ ใชบ้ ริการ และเหตุผลทีเ่ ลือกใชบ้ รกิ าร (ตอบได้มากกวา่ 1 ข้อ) โดยใส่ () ลงในตาราง

เหตุผล

ขอ้ ความ ระยะทาง ตามสทิ ธิ ความ การบริการ อ่ืนๆ
สะดวก ทันสมัยของ หรือความ

อปุ กรณ์ สะอาด

( ) 1. รพ.สต.โคกแสมสาร

( ) 2. โรงพยาบาลโคกเจรญิ

( ) 3. โรงพยาบาลบ้านหมี่

( ) 4. โรงพยาบาลพระนารายณ์
มหาราช (รพ.ลพบรุ ี)

( ) 5. โรงพยาบาลอานนั ทมหดิ ล

( ) 6. สถานบริการเอกชน เช่น
รพ. เอกชน/คลินกิ เอกชน

( ) 7. อื่นๆ ระบุ..........................
………………………..............

ส่วนที่ 5 : ความคดิ เห็นของนกั ศกึ ษาแพทย์
5.1 ข้อสงั เกตเพ่มิ เตมิ เก่ยี วกับปัจจัยทม่ี ผี ลตอ่ สขุ ภาพ

5.1.1 สภาพแวดลอ้ มภายในบา้ น.................................................................................................................

............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................

5.1.2 สภาพแวดลอ้ มนอกบ้าน และในหม่บู า้ น............................................................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................

5.1.3 ความสมั พนั ธข์ องคนในครอบครวั ......................................................................................................
............................................................................................................................. ................................................ .......
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................

101

5.1.4 ความสมั พนั ธ์ของคนในหมูบ่ า้ น..........................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................

5.1.5 เศรษฐกจิ ............................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................

5.1.6 อืน่ ๆ...................................................................................................................................................
............................................................................................................ ........................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................

5.2 โอกาสพัฒนาที่จะเปน็ ประโยชน์ตอ่ สขุ ภาพของคนในชุมชน ในความคิดเหน็ ของนักศึกษาแพทย์
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..................................................... ..
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
.............................................................................................................. ......................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................

102



การใหส้ ขุ ศกึ ษา

103

การใหส้ ขุ ศกึ ษา (Health education)

ผศ.นพ.ธีระ กุศลสุข
[email protected]

กระบวนการสอนสุขศึกษาเปน็ งานสาคญั พื้นฐานสาหรับกิจกรรมส่งเสรมิ สุขภาพอนามัย เพ่ือต้องการ
ใหป้ ระชาชนในชมุ ชนมคี วามรูค้ วามเข้าใจในการดแู ลตนเอง ให้รู้จกั วิธีในการป้องกันตนเอง ส่งเสริมสุขภาพ
ตนเอง และผ้อู นื่ ใหป้ ราศจาคโรคภยั ตา่ งๆ ซง่ึ ผูใ้ หค้ วามรู้ ให้สุขศึกษาจะต้องนาความรู้ และประสบการณ์ด้าน
สุขภาพมานาเสนอใหช้ มุ ชนเกดิ ความรู้ ความเข้าใจ มีเจตคติท่ีดี นาไปสู่การปฏิบัติที่ถูกต้อง เหมาะสมต่อ
สุขภาพของตนเอง และชุมชน ทั้งยังส่งผลใหช้ มุ ชนมสี ุขภาพสมบรู ณ์ทั้งร่ายกายและจติ ใจ

จุดมุง่ หมายของการสอนสขุ ศึกษา
1. สอนใหช้ ุมชนรจู้ กั การดแู ลรักษาตนเอง ให้มสี ขุ ภาพอนามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง มีความสุข และ

สามารถกระทาการใดๆ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพเพอ่ื ชวี ติ ทีด่ ีของตนเอง ครอบครวั และชมุ ชน
2. สง่ เสริมให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ และเจตนคติที่ดีต่อการรักษา และดูแลสุขภาพของตนเอง

ครอบครวั และชุมชน
3. สอนชุมชนรูจ้ กั ปรบั ตัวเอง ปรบั ชีวติ ความเป็นอยู่ ปรับวธิ ีการดาเนินชีวิตของตนเอง ครอบครัว

และชุมชนอย่างถูกตอ้ ง เหมาะสม เพื่อใหม้ สี ขุ ภาพทด่ี ีย่ิงๆ ข้นึ ไป
4. ผลจากการมสี ุขภาพแขง็ แรงสมบูรณ์ จะส่งผลให้ชุมชนมผี ลสมั ฤทธท์ิ ่ดี ีในทุกๆ ดา้ น

การสอนสุขศึกษา ประกอบดว้ ย “K A P” คือ
1. วธิ ีการใหค้ วามรู้ (Knowledge) เพอื่ ใหช้ ุมชนมคี วามรู้ ความเขา้ ใจทถ่ี ูกตอ้ งเกย่ี วกับสุขภาพ และ

โรคภยั ตา่ งๆ
2. การปรับทัศนคติ เจตนคติที่ดี (Attitude) เพื่อให้ชุมชนตระหนักและใส่ใจในเรื่องสุขภา พ

มีทัศนคตทิ ่ดี ี ท่ีถกู ตอ้ ง เหมาะสมในการดูแลสุขภาพ
3. การปรับเปล่ียนพฤติกรรมสุขภาพ (Practice) คือ ชุมชนสามารถนาความรู้มาปรับใช้ให้

เหมาะสม ปรับเปล่ยี นพฤติกรรมให้ถกู ต้องตอ่ การการดูแลสขุ ภาพและการป้องกันโรคเหล่านน้ั
แนวทางสาหรบั การสอนสุขศกึ ษา ประกอบดว้ ย แนวการสอนโดยตรง (Direct Health Education)
การสอนแบบประสานสัมพันธ์ (Correlation Health Education) และ การบูรณาการประสานสัมพันธ์
(Integration Health Education) ซ่ึงกระบวนการสอนตอ้ งมคี วามเกีย่ วขอ้ งเช่ือมโยงซงึ่ กันและกัน โดยมีหลัก
และแนวทางดาเนนิ การดงั น้ี
1. กระบวนการสอนสขุ ศกึ ษาเน้นความตอ่ เนอ่ื ง เช่ีอมโยง และสมั พันธก์ นั
2. กระบวนการสอนเน้นการปรบั เปล่ียน เปล่ียนแปลงพฤตกิ รรมสุขภาพในทุกดา้ น
3. กระบวนการสอนควรให้สอดคลอ้ งกบั บริบท และความเป็นจริงในปจั จบุ นั
4. เนอื้ หา ความรู้ ต้องมีความเหมาะสม ทันสมยั เชอ่ื ถือได้

104

5. กระบวนการสอน ควรเน้นการเสนอแนะในสง่ิ ท่เี หมาะสม มากกว่าการห้ามปราม
6. กระบวนการสอนทีน่ ามาใชต้ อ้ งมีความเหมาะสมและถกู ต้องตามหลักการ
7. การเลอื กสอื่ การสอนทีเ่ หมาะสมกับกล่มุ เปา้ หมาย
8. กระบวนการสอนไมค่ วรเป็นหลักการมากจนเกินไป หรอื ยากเกนิ ความเข้าใจของผูร้ ับความรู้

หลักพืน้ ฐานในการให้สุขศกึ ษา
ผสู้ อนและผรู้ ับฟงั (ประชาชนในชมุ ชน) ไดร้ ว่ มกันวางจุดมงุ่ หมายในการเรียนรู้ร่วมกัน วางแผนการ

สอน แลกเปล่ียน ประสบการณ์ อยา่ งมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดตี อ่ กัน และประเมนิ ผลการเรียนการสอนร่วมกัน โดย
เนน้ ใหช้ ุมชนไดเ้ รยี นรอู้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเกิดความพึงพอใจในเรื่องท่ีเรียนรู้ด้วยกัน สามารถเริ่มต้นเร่ืองใหม่ๆ
ตอ่ ไปได้อยา่ งราบร่ืน และสามารถกระตุ้นให้ชุมชนสามารถมีเจตนคติที่ดี สามารถนาไปปรับใช้ในการ
เปลย่ี นแปลงพฤตกิ รรมทีถ่ ูกตอ้ ง เหมาะสมต่อไปได้ สรา้ งบรรยากาศท่ีดี แสดงความคิดเห็นต่างๆ อย่างเป็น
กันเอง เพอ่ื กระตนุ้ ให้ชมุ ชนได้เรียนรู้ รับร้อู ย่างเหมาะสมต่อไป

ลกั ษณะงานสุขศกึ ษาในชมุ ชน ประกอบดว้ ย
1. Health Promotion คอื การใหส้ ุขศึกษาขณะปฎบิ ัติงานสง่ เสรมิ สขุ ภาพ
2. Prevention คือ การให้สขุ ศกึ ษาขณะปฏิบตั ิงานปอ้ งกันโรค
3. Treatment คอื การใหส้ ุขศกึ ษาขณะปฏิบตั งิ านด้านการรกั ษา
4. Rehabilitation คอื การให้สขุ ศกึ ษาขณะปฏิบตั ิงานดา้ นการฟ้ืนฟูสขุ ภาพ

เทคนคิ การใหส้ ขุ ศกึ ษา
การใหส้ ุขศึกษาทดี่ ตี ้องเนน้ ใหผ้ ้รู บั ฟงั (ชุมชน) เป็นศูนย์กลาง ชุมชนมสี ่วนรว่ มในการสอนสุขศึกษาให้

มากท่สี ดุ หากระบวนการใหช้ มุ ชนสามารถเรยี นรู้ หรอื ค้นพบได้ด้วยตนเอง จะส่งผลใหเ้ กิดความสนใจ ความใส่
ใจ และความเขา้ ใจกบั ปัญหาสุขภาพ และแนวทางในการดแู ลรกั ษา การปอ้ งกันอยา่ งถูกต้องเหมาะสม จนถึง
สามารถนาไปปฏิบัติต่อไปได้

รปู แบบทีน่ ามาใช้ในกระบวนการให้สุขศึกษา มีมากมายหลายวิธี ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับ
กลมุ่ เป้าหมายทีเ่ ปน็ ผฟู้ ัง เชน่ การพูดคยุ สนทนา การเลา่ ประสบการณ์ การสาธติ การดาเนินโครงการ การใ ช้
วธิ กี ารแก้ปญั หา การใช้กระบวนการตดั สนิ ใจและการแก้ปัญหา การบรรยาย การสอนแบบสืบสวน การแสดง
บทบาทสมมติ การเล่นเกมส์ การต้งั คาถาม เพอื่ ตอบปญั หา การอภปิ ราย การใชว้ ธิ ี Why technique เป็นต้น

เทคนิคในการใชว้ ธิ ีการตดิ สนิ ใจและการแกป้ ญั หา โดยใช้หลัก “3 C” ซึ่งผู้สอนและผู้เรียน (ชุมชน)
จะตอ้ งรว่ มกนั คดิ รว่ มกนั ตัดสนิ ใจอยา่ งมีหลักการณแ์ ละเหตุผล โดยใชห้ ลักดงั ตอ่ ไปน้ี

1. Clarify คอื ตอ้ งรว่ มกนั คดิ ร่วมกันตดั สินใจ ว่าจะกาหนดปญั หาใดเป็นปัญหาเร่งด่วน เพ่ือความ
ชัดเจนสาหรบั การใหค้ วามรู้สุขศึกษาอย่างเหมาะสม

105

2. Consider คอื พจิ ารณาเลอื กวิธกี ารแก้ปัญหาหลายๆ ทาง และคาดเดาผลลัพท์ท่ีจะเกิดข้ึนใน
แต่ละทางนัน้

3. Choose คือ การเลอื กทางทด่ี ี เหมาะสมทีส่ ุดทีจ่ ะนามาแก้ไขปญั หา
หลงั จากนั้นผสู้ อนสขุ ศกึ ษาจะได้สมมติสถานการณ์ และให้กลุ่มผู้ฟังได้เลือกแนวคิด วิธีการต่างๆ
เพอื่ นามาส่กู ระบวนการสอนสุขศกึ ษา ให้ความรทู้ เ่ี หมาะสมกบั ปญั หาทไ่ี ดเ้ ลอื กมาไดอ้ ยา่ งเหมาะสมต่อไป
หรืออาจใช้วธิ ี Why technique คือ กระบวนการต้ังคาถามจากเหตุการณ์สมมติ หรือสถานการณ์
ตัวอย่างเพื่อให้ผู้ฟัง ไดร้ ่วมกันคดิ ถึงปัญหา ถึงสาเหตุ และการแกป้ ญั หา โดยผู้สอนจะต้ังคาถามๆ ต่อไปเร่ือยๆ
วา่ “ทาไม” จนผูฟ้ ังไมส่ ามารถตอบคาถามนน้ั ตอ่ ไปได้ แสดงวา่ คาถามหรือเหตุการณ์นั้นๆ เป็นเร่ืองท่ีจะต้อง
หยิบยกมาเพ่มิ เตมิ องคค์ วามรู้ ความเขา้ ใจ เพอื่ ให้ชุมชนไดร้ จู้ ริง และสามารถนาไปปฏบัติได้จริงกับการแก้ไข
ปัญหาสขุ ภาพต่อไป

การประเมนิ ผลการให้สขุ ศกึ ษา
เป็นกระบวนการสาคัญในการประเมินความรู้ ความเขา้ ใจ เจตคติ และการนาไปปฏิบัติได้จริงตามที่

ผูเ้ รียน (ชุมชน) ได้เรียนรู้จากการสอนหรอื ไม่ โดยประเมินจาก ความรคู้ วามเข้าใจของผู้เรียน ผู้ฟัง ประเมิน
เนื้อหาการสอนของผู้ให้สุขศึกษา ประเมินการสอน ประเมิน การส่ิงแวดล้อม หรือประเมินจากการวัด
ผลสัมฤทธิ์การสอนตา่ งๆ โดยมขี ั้นตอนการประเมนิ ดังน้ี

1. ประเมนิ กอ่ นการสอน เช่น ประเมินจากความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติท่ีผ่านมาของชุมชน
ประเมนิ สขุ ภาพอนามัยของชมุ ชนว่าเปน็ อย่างไร

2. ประเมินขณะการสอน เช่น ประเมินวา่ ผู้เรยี น มคี วามสนใจ มคี วามร่วมมือในการซกั ถาม ตอบข้อ
สงสยั หรอื ไม่ อยา่ งไร

3. ประเมินหลังการสอน เช่น การประเมินว่าชุมชนมีความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติท่ีถูกต้อง
เหมาะสมกบั บริบทของชุมชนกับปัญหาสุขภาพเพียงใด รวมถึงการเฝ้าสังเกตุพฤติกรรมว่า
เปลยี่ นแปลงหรอื ไม่ และผลสัมฤทธดิ์ า้ นสขุ ภาพในอนาคตวา่ ดีข้นึ เพยี งใด

106

แบบประเมนิ 1

แบบประเมนิ การสอนสขุ ศึกษาของนักศึกษาสาหรบั ประชากรชมุ ชน

กล่มุ ........

อาจารยผ์ ปู้ ระเมนิ ..................................................วันที่ ....... เดอื น ......................พ.ศ........ ..

หัวข้อประเมนิ คะแนน คะแนน
เต็ม 5 4 3 2 1 ได้
1.เน้ือหา 30
1.1 ชีแ้ จ้งวตั ถุประสงค์ 10
1.2 ความถูกตอ้ ง ครอบคลมุ 10
1.3 ประโยชน์ 10
50
2. วิธกี ารสอน 20
2.1 เทคนิคการสอน/การนาเสนอ 10
2.2 การทาให้ผ้ฟู งั มสี ว่ นรว่ ม 10
2.3 การใชภ้ าษาท่ีเข้าใจง่าย 10
2.4 สือ่ อปุ กรณ์ 10
10
3. บทสรปุ 100
4. การตอบคาถาม

รวม

5 = มากทีส่ ุด คะแนนเตม็ 10 คะแนนไดค้ ณู ดว้ ย 2
4 = มาก คะแนนเต็ม 20 คะแนนได้คูณดว้ ย 4
3 = ปานกลาง
2 = น้อย คดิ เป็นคะแนนจรงิ 10 % ได.้ .......
1 = น้อยที่สุด

107



การบนั ทึกสะท้อนการเรียนรู้
(Learning reflection)

108

การบันทกึ สะทอ้ นการเรยี นรู้ (Learning reflection)

ใหน้ ักศึกษาแพทย์เขยี นเร่ืองประสบการณ์ในการฝึกอบรมภาคสนามท่ีได้เรียนรู้ ประทบั ใจคนละ 1
เรื่อง อาจเปน็ เร่ืองสขุ ภาพ การเยยี่ มผูป้ ่วยที่บา้ น การใชช้ วี ติ กบั พอ่ แมใ่ นชุมชน การทางานใชช้ วี ติ กับเพอ่ื น

1. เรอื่ งทเ่ี ขยี นแสดงความเชอ่ื มโยง สอดคลอ้ งกับวัตถปุ ระสงคข์ องวิชาเวชศาสตร์ชุมชน 1
(CMD211)

2. เร่ืองทีเ่ ขยี นแสดงให้เหน็ วา่ มกี ารเรยี นรู้ มีการนาไปปฏิบัติ
3. มีการวเิ คราะห์แสดงความคิดเหน็ และหรือการเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา / พฒั นา /

แผนปฏิบัตใิ นอนาคต
4. รายงานเขียนด้วยลายมือตวั บรรจง เปน็ ระเบยี บ อ่านง่าย ขนาดตวั อักษร 16

1 หน้ากระดาษ A4

109

บนั ทกึ สะทอ้ นการเรียนรู้ (Learning reflection)

ชื่อ-สกลุ รหสั นักศึกษา กลุ่ม วันที่ .
สะทอ้ นการเรยี นรู้ : 1 เร่ือง
ความร้สู กึ ตอ่ ส่ิงทีเ่ รียนรู้ การนาไปใช้ในวิชาชพี /ชวี ติ สว่ นตวั
ประเดน็ การเรยี นรู้

110

คะแนนบันทกึ สะทอ้ นการเรยี นรู้ (Learning reflection)

วิชา CMD 211 ปกี ารศกึ ษา 2562-2563

ชอื่ - สกลุ ....................................................... รหัสนักศึกษา........................... กลมุ่ .........

1. เวลาท่ีส่งบนั ทกึ 0 1 2
2. รปู แบบบันทึก ชา้ กวา่ กาหนด ตามกาหนด
ไมเ่ ปน็ ระเบยี บ เป็นระเบยี บ เปน็ ระเบยี บ อ่านงา่ ย
รายงาน อา่ นยาก อา่ นไดพ้ อใช้
บรรยาย เลา่ เรอ่ื ง บรรยาย เรอ่ื ง และแสดงความเชื่อมโยง
3. เน้ือหาประเด็น ประเดน็ การเรียนรู้ ของเรื่องสอดคลอ้ งกบั วัตถุประสงค์ของ
การเรียนรู้ รายวิชา
สะท้อนความรสู้ ึก สะทอ้ นความรู้สึกทางใจและหรอื
4. ความรูส้ ึกต่อสงิ่ ที่ ทางใจและหรอื ความคดิ จากประเด็นทีเ่ รยี นรู้และบอก
เรยี นรู้ การเรียนรู้ ความคดิ จาก เหตผุ ลได้
ประเด็นทเ่ี รียนรู้
5. การนาไปใชใ้ น บอกแนวทางทจี่ ะ บอกแนวทางที่จะนาไปปฏบิ ัติในปัจจุบนั
วชิ าชพี /ชวี ติ นาไปปฏิบัตใิ น และหรืออนาคต สอดคลอ้ งกับบทบาท
ส่วนตัว ปจั จุบันหรืออนาคต หน้าท่ใี นปจั จุบนั หรือในอนาคต

รวมคะแนน.....................................
ลงชื่ออาจารย.์ ................................................. วนั ท่ี เดอื น ปี................................

111



การสรุปประสบการณ์ภาคสนาม
วชิ าเวชศาสตร์ชุมชน 1
และ

การนาเสนอโดยนักศึกษาแพทย์

112

การสรุปประสบการณ์ภาคสนามเวชศาสตร์ ชุมชน1 การสรุปประสบการณ์ภาคสนามวิชาเวชศาสตร์ชมุ ชน 1
ของนกั ศกึ ษาแพทย์ นาเสนอผลงานด้วย PowerPoint เป็ นรายทมี

วนั ท่ี 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

• กาหนดให้นักศกึ ษาท่รี ับผิดชอบแต่ละทมี (A, B, C)
นาเสนอผลการศกึ ษาชุมชนจากการสารวจชุมชน
จากการสมั ภาษณ์

• กลุ่มละ 30 นาที
• สรุปตามประเด็นต่อไปนี ้

เนอื้ หาท่นี าเสนอ (70 คะแนน) แบบประเมนิ การนาเสนอผลงานโดยนักศกึ ษาแพทย์ แบบประเมนิ 2
กล่มุ ........

เร่อื งท่ี 1 ผลการศึกษาชมุ ชน จากการสารวจ สมั ภาษณ์ และสงั เกตในพนื้ ท่ที ่ไี ด้รับ อาจารย์ผ้ปู ระเมนิ ..................................................วนั ท่ี ....... เดอื น ......................พ.ศ..........

มอบหมาย (35 คะแนน)

เนอื ้ หาประกอบด้วย

1.1 ข้อมูลท่วั ไปเกย่ี วกบั ผ้ตู อบแบบสอบถามและครัวเรือน (5 คะแนน)

1.2. สภาพชีวติ ความเป็นอยู่ (5 คะแนน)

1.3. พฤตกิ รรมสขุ ภาพ (15 คะแนน)

1.4. การอภปิ รายผลการศึกษา (10 คะแนน)

เร่อื งท่ี 2 กจิ กรรมเย่ยี มผ้ปู ่ วยท่บี ้าน(Home health care) (15 คะแนน)

เร่อื งท่ี 3 กจิ กรรมให้ความร้กู บั ชุมชน(Health education) (10 คะแนน)
เร่อื งท่ี 4 การศกึ ษาดงู านรพสต.โคกแสมสารและโรงพยาบาลชยั บาดาล (10 คะแนน)

คิดเป็นคะแนนจริง 30% ได้.....

113

อาจารยป์ ระจาทีม

ตัวอย่างการนาเสนอ รุ่น ท่ี 27, 28 ทมี A ทีม B ทีม C
ผศ.สเุ ทพ มงคลเลศิ ลพ ผศ.นพ.ธรี ะ กศุ ลสขุ ผศ.อดศิ ักดิ์ ภมู ิรัตน์
รศ.พญ.วราภรณ์ แสงทวสี นิ พญ.อาวพี รรณ กมลศรี ศ.พญ.ชตุ มิ า ศิริกลุ ชยานนท์
นพ.ณฐั เกตุมาน อจ.ประภาศรี แพทยศ์ ิริ พญ.เสาวนินทร์ อินทรภักดี

อจ.ศริ ิพร ยทุ ธวรา อจ.วันเพญ็ อิ่มเอิบสนิ
ภรณ์

114

แบบประเมิน 2

แบบประเมนิ

การนาเสนอสรปุ ประสบการณภ์ าคสนามวชิ าเวชศาสตร์ชุมชน 1 ของนกั ศกึ ษาแพทย์

กลมุ่ ........

อาจารย์ผู้ประเมิน ..................................................วันท่ี ....... เดอื น ......................พ.ศ..... ........

หวั ข้อประเมิน คะแนน คะแนน
เตม็ 5 4 3 2 1 ได้

1.เนอ้ื หา 70

เร่ืองที่ 1 ผลการศกึ ษาชมุ ชน 35
1.1 ขอ้ มลู ทั่วไปเก่ียวกับผ้ตู อบแบบสอบถาม (5)
และครัวเรือน (5)
1.2 สภาพชวี ิตความเปน็ อยู่ (15)
(10)
1.3 พฤติกรรมสุขภาพ 15

1.4 การอภิปรายผลการศึกษา 10

เรอ่ื งที่ 2 กิจกรรมเยี่ยมผู้ป่วยทบ่ี า้ น 10
(Home health care) 20

เร่อื งท่ี 3 กจิ กรรมใหค้ วามรู้กับชมุ ชน
(Health education)

เรอ่ื งท่ี 4 การศกึ ษาดงู าน รพสต.โคกแสมสาร และ
โรงพยาบาลชยั บาดาล

2. การนาเสนอ

2.1 การตรงต่อเวลา (10)
2.2 สือ่ การสอน (Power Point) (10)
3. การตอบคาถาม 10

รวม 100

5 = มากท่สี ุด คะแนนเตม็ 5 คะแนนไดค้ ณู ดว้ ย 1
4 = มาก คะแนนเตม็ 10 คะแนนได้คณู ดว้ ย 2
คะแนนเต็ม 15 คะแนนได้คณู ดว้ ย 3
3 = ปานกลาง
2 = นอ้ ย คะแนนเตม็ 20 คะแนนไดค้ ูณด้วย 4
1 = น้อยที่สดุ

คิดเป็นคะแนนจริง 30% ได.้ .......

115



การประเมนิ ผล
วชิ าเวชศาสตร์ชมุ ชน 1

116

การประเมนิ ผล วิชาเวชศาสตร์ชมุ ชน 1

การประเมิน คะแนนเต็ม คะแนนที่ได้
1. กิจกรรมกลมุ่ และผลงานนาเสนอ power point 30
2. ความร่วมมอื ในการทางานกล่มุ 20
3. บนั ทึกสะท้อนการเรยี นรู้ (Learning reflection) 10
4. การสอนสขุ ศกึ ษา 10
5. ความประพฤติ 10
6. การสอบ MCQ 20
100
รวม

เกณฑ์ ผ่าน > 70 คะแนน

117



ภาคผนวก

118

ภาคผนวก 1

การศกึ ษาดูงานโรงพยาบาลสง่ เสริมสุขภาพตาบล

1. บทบาทของโรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพตาบลต่อสขุ ภาพของประชาชนในพื้นที่ ท่รี บั ผดิ ชอบ
1.1 การสร้างเสรมิ สขุ ภาพ
1.2 การปอ้ งกันโรค
1.3 การรกั ษา
1.4 การฟื้นฟู และประคบั ประคอง

2. การส่งตอ่ รกั ษา
3. บคุ คลากรทที่ างาน รวมทง้ั อาสาสมคั ร
4. การเช่อื มโยงกับผนู้ าชุมชน
5. จดุ เดน่ ส่ิงทีป่ ระทบั ใจ
6. ประโยชนท์ น่ี ักศึกษาจะไปประยกุ ตใ์ ช้ในอนาคต
7. ขอ้ เสนอแนะ

119

ภาคผนวก 2

การศึกษาดูงานโรงพยาบาลชุมชนชยั บาดาล

1. บทบาทของโรงพยาบาลชมุ ชนตอ่ สขุ ภาพของประชาชนในพ้ืนที่ ท่รี บั ผดิ ชอบ
1.1 การสร้างเสรมิ สุขภาพ
1.2 การปอ้ งกนั โรค
1.3 การรกั ษา
1.4 การฟนื้ ฟู และประคับประคอง
1.5 ศกั ยภาพของโรงพยาบาล เชน่ การตรวจรกั ษาพยาบาล แพทย์ท่วั ไป แพทยเ์ ฉพาะทาง แพทย์
เพม่ิ พนู ทักษะ แพทย์ใช้ทนุ ฯลฯ
1.6 ข้อจากดั ของโรงพยาบาล

2. การส่งตอ่ รักษาและการรับกลบั เพอ่ื ดแู ลตอ่
3. บคุ คลากรท่ีทางาน
4. การเชอ่ื มโยงกับผู้นาชุมชน
5. จดุ เด่น สง่ิ ท่ีประทบั ใจ
6. ประโยชนท์ นี่ ักศึกษาจะไปประยกุ ตใ์ ช้ในอนาคต
7. ข้อเสนอแนะ

120

สาหรบั นักศกึ ษา และอาจารย์ เอกสารหมายเลข 3

แบบประเมินการฝึกภาคสนามวชิ าเวชศาสตร์ชมุ ชน 1 (CMD 211)

วิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั รังสิต ปกี ารศึกษา 2562 -2563

วันท่ี 2 - 9 พฤศจิกายน 2562

ผู้ตอบสถานภาพ  1) นักศกึ ษาแพทย์  2) อาจารย์
เพศ  1) ชาย  2) หญงิ

คาช้ีแจง โปรดทาเครื่องหมาย √ ลงในชอ่ งว่างตามลาดับความคดิ เห็นของท่าน ระดบั ความคิดเหน็
5 = มากท่สี ดุ 4 = มาก 3 = ปานกลาง 2 = น้อย 1 = นอ้ ยท่ีสุด 54321

หวั ขอ้ ความคิดเห็น
ปจั จยั นาเขา้
1. ความพรอ้ มในการจัดการเรียนการสอน
2. นักศึกษามคี วามรคู้ วามเขา้ ใจดา้ นปญั หาสุขภาพของประชาชนก่อนฝกึ ภาคสนาม
3. นักศึกษามีความร้ดู า้ นการให้บรกิ ารด้านสาธารณสุขของรฐั ก่อนฝกึ ภาคสนาม
4. ความสะดวกสบายของทีพ่ ักและหอ้ งประชุม
5. ความพงึ พอใจตอ่ อาหาร
ปจั จยั ด้านกระบวนการ
6. ความเหมาะสมของระยะเวลาการฝึกภาคสนาม
7. ความเหมาะสมของกิจกรรมฝกึ ภาคสนาม :

7.1. การทางานเป็นกลุ่ม
7.2. การเตรียมข้อมลู ก่อนเขา้ ชมุ ชน
7.3. การดาเนินชีวิตในหมูบ่ ้าน
7.4. การสอนสุขศึกษา
7.5. การเขียนบันทึกสะท้อนการเรยี นรู้ (Learning reflection)
7.6. การอภิปรายแลกเปลย่ี นเรยี นรรู้ ะหว่างอาจารย์และนกั ศึกษาในหมบู่ า้ น
7.7. สรุปผลการเรยี นรู้ชมุ ชน
ปจั จยั ด้านผลผลิต
8. นกั ศกึ ษามีความรู้ความเข้าใจดา้ นปัญหาสขุ ภาพของประชาชนหลังฝกึ ภาคสนาม
9. นกั ศึกษามคี วามรู้ด้านการให้บรกิ ารด้านสาธารณสุขของรฐั หลงั ฝกึ ภาคสนาม
9.1. การทางานและการใหบ้ ริการของ รพ.สต.โคกแสมสาร
9.2. การทางานและการให้บรกิ ารของโรงพยาบาลชมุ ชน (รพ.ชยั บาดาล)
9.3. การเยี่ยมผ้ปู ่วยทบี่ ้าน (Home health care)
10. นกั ศึกษาได้เรยี นรู้ปัญหาสุขภาพและปจั จัยทเ่ี ก่ยี วขอ้ งต่อสขุ ภาพของประชาชน
11. นกั ศึกษาไดเ้ รยี นรูข้ นบธรรมเนียมประเพณีและวฒั นธรรมของชมุ ชน
12. นกั ศึกษาไดเ้ รียนรู้กระบวนการทางานเปน็ กล่มุ
13. นกั ศึกษาได้ฝึกคดิ วเิ คราะหส์ ถานการณจ์ ากการฝกึ ภาคสนาม

ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ
................................................................................................................................................................................. ................
..................................................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................... ........................................................................

121

สาหรับประชาชน เอกสารหมายเลข 4

แบบประเมินความพงึ พอใจของประชากรในชุมชนต่อการฝกึ ภาคสนาม

วชิ าเวชศาสตร์ชุมชน 1

วทิ ยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั รงั สิต
ปีการศึกษา 2562-2563

วันท่ี 2 - 9 พฤศจิกายน 2562

คาช้แี จง 1. แบบสอบถามนี้ มวี ัตถุประสงค์เพ่ือสารวจความพงึ พอใจของประชากรในชุมชนที่มตี อ่ การฝกึ
ภาคสนาม วิชาเวชศาสตรช์ มุ ชน 1 เพอื่ เป็นข้อมูลในการดาเนินงานคร้งั ต่อไป

2. โปรดเติมเคร่ืองหมาย  และกรอกข้อความให้สมบูรณ์

สว่ นที่ 1 ขอ้ มลู ทว่ั ไปของผู้ตอบแบบประเมนิ  หญงิ
1. เพศ  ชาย  อสม.
2. สถานะ  เจา้ ของบา้ นพกั  อ่ืนๆ (โปรดระบ)ุ …………………………………
 ประชากรในชุมชน

ส่วนที่ 2 ความพงึ พอใจของประชากรในชุมชนตอ่ การฝึกภาคสนาม วชิ าเวชศาสตรช์ มุ ชน 1

5 = มากทส่ี ดุ 4 = มาก 3 = ปานกลาง 2 = นอ้ ย 1 = นอ้ ยที่สดุ

รายการประเมนิ ระดับความพึงพอใจ 1
5432

1. นกั ศึกษาแพทย์ให้ความรเู้ ป็นประโยชน์ตอ่ ชุมชน

2. นักศึกษาแพทย์ปฏิบัตติ นเป็นกันเองกบั ชาวบ้าน

3. ความประพฤตขิ องนกั ศึกษาแพทย์ในที่พัก
(เฉพาะเจ้าของบา้ นทนี่ ักศึกษาแพทย์พัก)
- การรักษาความสะอาด เรยี บรอ้ ย

- กิริยามารยาท สุภาพ เรียบรอ้ ย

- สง่ เสยี งรบกวน

4. ความประพฤติของนกั ศกึ ษาแพทย์ในชุมชน
- ความสะอาด

- กิรยิ ามารยาท สภุ าพ เรยี บรอ้ ย

- ส่งเสยี งรบกวน

5. นักศกึ ษาแพทย์มจี ิตอาสา

ขอ้ เสนอแนะอนื่ ๆ
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

ขอขอบคณุ ในความร่วมมือ
ภาควิชาเวชศาสตร์ปอ้ งกนั และสงั คม และเวชศาสตรช์ มุ ชน

วิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั รงั สติ

122

เอกสารหมายเลข 5

แบบประเมนิ ความพึงพอใจของ วิทยากร ผู้ใหก้ ารดแู ลผู้ป่วยเย่ยี มบา้ น

วชิ าเวชศาสตรช์ มุ ชน 1 (CMD 211)
วนั ที่
กลมุ่ ที่ ชือ่ ผู้ป่วย

ส่วนท่ี 1 ขอ้ มูลทว่ั ไปของผู้ประเมนิ 2.  หญงิ
เพศ 1.  ชาย

สถานะ 1.  พยาบาล 3.  นักวชิ าการดา้ นสาธารณสุข

2.  Care giver 4.  อน่ื ๆ ระบุ

สว่ นที่ 2 ความพึงพอใจ

(5 = มากทส่ี ุด, 4 = มาก, 3 = ปานกลาง, 2 = น้อย, 1 = น้อยที่สดุ )

หวั ขอ้ ความพึงพอใจ 1
5432

1. นกั ศกึ ษาแพทยม์ คี วามกระตือรือรน้ สนใจ

2. นกั ศกึ ษามกี รยิ า มารยาท เรยี บรอ้ ย

3. การมสี ว่ นรว่ มในการซักถามที่เปน็ ประโยชน์

4. การมาเยย่ี มบา้ นสร้างความพงึ พอใจตอ่ ผู้ป่วย

5. การเยีย่ มบ้านเปน็ ประโยชน์ต่อนักศกึ ษาแพทย์

ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ

123

เอกสารหมายเลข 6

แบบประเมินความพงึ พอใจของวิทยากรในการดงู านของนกั ศึกษาแพทย์

สถานท่ี  รพ.สต.  รพ.ชยั บาดาล

วันท่.ี .............................................

แผนก/กลุม่ งาน.................................................

สว่ นที่ 1 ข้อมลู ทั่วไปผู้ประเมนิ 2.  หญงิ
เพศ 1.  ชาย
3.  พยาบาล
สถานะ 1.  แพทย์ 4.  อ่ืนๆ ....................
2.  นักวชิ าการ

สว่ นท่ี 2 ความพึงพอใจนกั ศึกษาแพทย์ที่ดูงาน

(5 = มากทีส่ ดุ , 4 = มาก, 3 = ปานกลาง, 2 = นอ้ ย, 1 = นอ้ ยท่ีสดุ )

หวั ข้อ ความพึงพอใจ 1
5432

1. ความกระตอื รอื รน้

2. ความสนใจซกั ถาม

3. ความสนใจในสถานพยายาล

4. ทา่ ทางกริยา มารยาท สารวม เครื่องแต่งกาย

ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ

124

วิชา CMD 211 (ปกี ารศึกษา 2562 - 2563) เอกสารหมายเลข 7

บ้านคณุ ตารางบันทกึ สขุ ภาพสมาชิกในครอบครวั หมูท่ ่ี
นกั ศึกษาแพทย์ กล่มุ
บ้านเลขท่ี

ลาดับ ชื่อ – สกุล อายุ นา้ หนกั ส่วนสูง รอบเอว BP BMI โรคประจาตัว Stool
ที่ (กก.) (ซม.) (ซม.) (มม.ปรอท) 12 345 6789 exam

หมายเหตุ โรคประจาตัว
1 = เบาหวาน, 2 = ไขมนั ในโลหิตสงู , 3 = ความดันโลหิตสงู , 4 = โรคไตเรอื้ รงั , 5 = โรคหลอดเลอื ดและสมอง, 6 = โรคข้อเขา่ อักเสบ, 7 = โรคถุงลมโปง่ พอง, 8 = วัณโรค, 9 = อืน่ ๆ

125

แบบประเมนิ ผล (ภาควิชาการ) เอกสารหมายเลข 8

การฝกึ ภาคสนามวชิ า เวชศาสตรช์ มุ ชน (CMD 211)
ณ หอ้ งบรรยาย ชน้ั 5 อาคาร รงั สติ ประยูรศกั ดิ์ วิทยาลัยแพทยศาสตร์ ม หาวิทยาลัยรงั สติ

วนั ท่ี 2 พฤศจิกายน 2562
เพศ  1) ชาย  2) หญงิ
คาช้แี จง โปรดทาเคร่ืองหมาย  ลงในชอ่ งว่างตามลาดับความคดิ เห็นของท่าน
( 5 = มากที่สุด 4 = มาก 3 = ปานกลาง 2 = นอ้ ย 1 = นอ้ ยทส่ี ุด )

ศ .ค ลนิ ิก นพ.สรุ วิทย์ รศ .พญ.วราภรณ์ ศ .พญ.ช ุตมิ า พญ .อาวีพร ร ณ ผศ .สเุ ทพ ผศ .นพ.ธ ีระ

หัวข อ้ เตช ธ วุ านนั ท์ แสงทวีสิน ศ ิรกิ ลุ ช ยานนท์ กมลศ รี มงค ลเลศิ ลพ กศุ ลสุข

54321543215432154321 5432154321

เนื้อหาวชิ าการ

1. ความรอบรขู้ องวทิ ยากร/ผู้บรรยาย

2. ความสามารถในการถา่ ยทอดชดั เจนและเขา้ ใจงา่ ย

3. การใชส้ ือ่ ประกอบการบรรยายเหมาะสม

4. เน้อื หามีประโยชน์ สามารถนาไปปฏิบัติได้

5. การสรุปประเด็นใหผ้ ู้ฟงั เขา้ ใจ

6. มโี อกาสแสดงความคิดเหน็ และมีส่วนรว่ ม

ขอ้ เสนอแนะอื่นๆ

เอกสารประกอบการเรยี นการสอนภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสงั คมและเวชศาสตร์ชมุ ชน

126

“True success is not in the learning,
but in its application to the benefit of mankind”

ความสาเร็จที่แท้จริงมไิ ด้ขน้ึ อยู่กับการเรียนรู้เพ่ือรู้
แต่อย่กู ับการนาความรู้น้ันไปใช้ให้เกดิ ประโยชน์แก่มนุษยชาติ

127


Click to View FlipBook Version