ประวัติทวดกลาย 1 ทวดกลาย ประวัติ ต�าบลสระแก้ว อ�าเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช จัดพิมพ์เผยแพร่โดย คุณสุชาติ พิมเสน ส.อบจ.นครศรีธรรมราช
2 ประวัติทวดกลาย
ประวัติทวดกลาย 3 สารบัญ เรื่อง หน้า เครื่องเซ่นไหว้เชื้อทวดกลาย 4 “กลาย” โดย บุญเสริม แก้วพรหม 5 พระยารามเดโช เจ้าเมืองนครศรีธรรมราช โดย ภูมิ จิระเดชวงศ์ 10 จันพอ โดย ขุนพันธรักษ์ราชเดช 14 เ(ทวด)า กลาย : ความเป็นมา ความเชื่อ และการอนุรักษ์ลุ่มน�้ำคลองกลาย 20 อย ่างยั่งยืน กรณีศึกษา ชุมชนบ้านสระแก้ว ต�ำบลสระแก้ว อ�ำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช : กานต์ชนก ช่วยบ�ำรุงนิตยา จิตติมา ด�ำรงวัฒนะ อุดมศักดิ์ เดโชชัย และเดโช แขน�้ำแก้ว พิสูจน์ความจริงกับ บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ 42 ประวัติทวดกลาย 44 ภาคผนวก 59
4 ประวัติทวดกลาย เครื่องเซ่นไหว้เชื้อทวดกลาย 1. บายศรีปากถ้วยเทียนชัยใหญ่ เทียนรายเล็ก 2. ธูป เทียน ผ้าขาวเพดานบน เพดานล่าง 3. หมากพลู ข้าวตอก ดอกไม้แป้งจันทร์ มันหอม 4. ข้าว ขนมแดง ขนมขาว ย�ำ ปลามีหัวมีหาง ขนมโคลูกใหญ่ 5. ศาสตราวุธใช้ในการทรง เพื่อเป็นเครื่องเสวยอาหาร ควันธูปควันเทียนโดยใช้ปลายดาบ เครื่องเซ่นสังเวย จาก มโนราห์ขรรชัย ดาราศิลป์ โทร. 095 234 2028
ประวัติทวดกลาย 5 “กลาย” เป็นค�ำส�ำคัญที่มีความผูกพันเชื่อมโยงกับวิถีชีวิตของผู้คนในพื้นที่ อ�ำเภอท่าศาลามาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นอกจากเป็นชื่อเทพเจ้าที่เคารพบูชาแล้ว ยังปรากฏเป็นชื่อบ้านนามเมือง เป็นชื่อสายน�้ำส�ำคัญ จนถึงเป็นชื่อผลิตผลจากพื้นที่ ที่เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป ดังนี้ “พ่อท่านกลาย-ทวดกลาย” เป็นชื่อเทพเจ้าซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของผู้คนสองฝั ่งคลองกลาย ตลอดจนถึง ผู้คนในพื้นที่ท่าศาลา นบพิต�ำ และสิชล ในต�ำนานชื่อว่า เป็นมุสลิมสืบสายโลหิตจาก เจ้าเมืองไทรบุรี ในช่วงกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย โดยเป็นบุตรของพระยารามเดโชซึ่ง สมเด็จพระนารายณ์มหาราชส่งมาปกครองเมืองนครศรีธรรมราชในช่วงเวลานั้น ครั้น ต ่อมาได้เป็นกบฏต ่อสมเด็จพระเทพราชา จึงถูกส ่งกองทัพลงมาปราบปราม พระยา รามเดโชสู้ไม่ได้ก็หนีออกจากเมืองไป ส่วนบุตรสามคนของพระยารามเดโช ประกอบด้วย ต่วนกูหนาด เจ้านายนอกหน้า และต่วนกูกลาย ได้หลบหนีกองทัพข้าศึกพาไพร่พล มาตั้งถิ่นฐานในบริเวณดินแดนแถบนี้ (ในพื้นที่อ�ำเภอท ่าศาลาและนบพิต�ำ-ปัจจุบัน) แต ่ต ่อมาก็ถูกเจ้าเมืองนครคนใหม ่ส ่งกองทหารมาปราบปราม จนต ่วนกูหนาดและ ต่วนกูกลายเสียชีวิตในที่สุด ผู้คนสองฝั ่งคลองกลาย ตลอดจนถึงผู้คนในพื้นที่ท ่าศาลา นบพิต�ำ และสิชล ให้ความเคารพนับถือเป็นที่ยึดเหนี่ยวและสักการะบูชา ด้วยความเชื่อถือว่าเป็นเทพเจ้า ที่มีอิทธิฤทธิ์คุ้มครองปกป้องให้ปลอดภัยจากอันตรายทั้งหลายทั้งปวง (“หลาทวดกลาย”) “กลาย” โดย บุญเสริม แก้วพรหม ประธานสภาวัฒนธรรมอ�ำเภอท่าศาลา
6 ประวัติทวดกลาย โดยเรียกขานว่า “พ่อท่านกลาย” บ้าง “ท่านกลาย” บ้าง (เรียกว่า “พ่อท่าน” อย่าง ที่เรียกพระภิกษุซึ่งมีอภินิหาริย์เป็นที่เคารพสักการะทั่วไป) หรือเรียกว่า “ทวดกลาย” บ้าง โดยมักจะเอ่ยอ้างประกาศตัวว่าเป็น “ลูกหลานพ่อท่านกลาย” หรือ “ลูกหลาย ทวดกลาย” ทั้งนี้มีการตั้งศาลา (“หลาทวดกลาย”) เป็นสถานที่เพื่อกราบไหว้บูชาอยู่เป็น ระยะๆ ตลอดสองฝั่งคลองกลาย และมีพิธีบวงสรวงเข้าทรงเป็นงานใหญ่และส�ำคัญ ต่อเนื่องกันมาประจ�ำทุกปี โดยเฉพาะอย ่างยิ่ง “หลาทวดลาย” ที่ตั้งอยู ่เชิงสะพานกลาย (ทางหลวง แผ่นดินสายนครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี) หมู่ที่ ๕ ต�ำบลสระแก้ว อ�ำเภอท่าศาลา จัดพิธีเชื้อเชิญทวดกลายเป็นพิธีใหญ่และจัดเป็นประจ�ำทุกปี โดยเลือกท�ำพิธีในวันเสาร์ หรือวันอังคาร ช่วงเดือน ๖ หรือเดือน ๙ ในแต่ละปีมีพิธีกรรมเชื้อเชิญดวงวิญญาณของ พ่อท่านกลายโดยคณะโนรา เป็นพิธีกรรมที่น่าสนใจอย่างยิ่ง มีผู้ร่วมพิธีจ�ำนวนมากมาย “คลองกลาย” เป็นชื่อคลองสายใหญ่ เป็นสายน�้ำสายชีวิตของคนนบพิต�ำ-ท่าศาลา ต้นน�้ำเกิด จากเทือกเขาหลวงในอ�ำเภอนบพิต�ำ ไหล่ผ่านพื้นที่ต�ำบลกรุงชิง ต�ำบลนบพต�ำ ต�ำบลนา เหรง (อ�ำเภอนบพิต�ำ) เข้าสู่ต�ำบลสระแก้ว ต�ำบลตลิ่งชัน ต�ำบลกลาย (อ�ำเภอท่าศาลา) ระยะทางร่วมร้อยกิโลเมตร ไหลออกสู่ทะเลอ่าวไทยที่ต�ำบลกลาย เรียกบริเวณปากน�้ำ ว่า “ปากกลาย” “คลองกลาย” เป็นคลองที่มีขนาดกว้างใหญ่ มีน�้ำไหลอยู่ตลอดปี เป็นแหล่ง น�้ำที่ส�ำคัญหล ่อเลี้ยงเรือกสวนไร ่นาตลอดสองฝั ่งคลองที่ไหลผ ่าน ทั้งสวนยางพารา สวนปาล์ม สวนทุเรียน สวนมังคุด และผลไม้อื่นๆ ซึ่งเป็นรายได้หลักและเป็นรากฐาน เศรษฐกิจที่ส�ำคัญของอ�ำเภอนบพิต�ำและท ่าศาลา ในฤดูน�้ำหลากนั้นน�้ำจะเจิ่งนองจน เต็มเปี่ยมฝั่งคลอง เมื่อไหลออกสู่ทะเลอ่าวไทยที่ปากน�้ำกลายนั้นจะพัดพาธาตุอาหารลง สู่ทะเลเป็นอาหารของสัตว์น�้ำ เป็นส่วนหนึ่งที่ท�ำให้ทะเลอ่าวท่าศาลามีความอุดมสมบูรณ์ ด้วยกุ้งหอยปูปลานานาชนิด จนได้ชื่อว่าเป็น “อ่าวทองค�ำ”
ประวัติทวดกลาย 7 ตลอดสายคลองกลายมีสะพานคอนกรีตข้ามคลองอยู ่เป็นระยะๆ ทั้งในพื้นที่ อ�ำเภอนบพิต�ำและอ�ำเภอท่าศาลา โดยเฉพาะสะพานคลองกลายซึ่งเชื่อมต่อทางหลวง แผ่นดินหมายเลข ๔๐๑ (นครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี) ถือว่าเป็นสะพานข้ามคลอง กลายที่มีความยาวที่สุดอีกแห่งหนึ่ง “อ�าเภอกลาย” ในอดีตเคยเป็นชื่ออ�ำเภอ ชื่อแขวง ชื่อด่าน ตามท�ำเนียบการปกครองมาตั้งแต่ ครั้งกรุงศรีอยุธยาตอนปลายและสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นจนถึงสมัยปฏิรูปการปกครอง ของสมัยรัชกาลที่ ๕ พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ปรากฏการปกครอง “ที่กลาย” นายที่ชื่อ ขุนพิชัยธานีศรีสงคราม ในสมัยรัชกาลที่ ๒ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ นครศรีธรรมราช แบ ่งการปกครองเป็นเมือง อ�ำเภอ ต�ำบล แขวงและด ่าน การปกครองอ�ำเภอมี ๑๔ อ�ำเภอ “อ�ำเภอกลาย” เป็นอ�ำเภอหนึ่งในนั้น ปกครองโดยขุนพิชัยธานีศรีสงคราม ศักดินา ๖๐๐ และปรากฏชื่อ “ด่านกลาย” มีหมื่นศรีเดชะ เป็นนายด่าน ศักดินา ๓๐๐ จนถึงการปฏิรูปการปกครองสมัยรัชกาลที่ ๕ ร.ศ.๑๑๖ (พ.ศ.๒๔๔๐) นครศรีธรรมราชได้แบ่งเขตการปกครองตามพระราชบัญญัติการปกครองเป็น ๙ อ�ำเภอ “อ�ำเภอกลาย” ได้รับการจัดตั้งเป็นอ�ำเภอหนึ่งของเมืองนครศรีธรรมราช ต ่อมาได้ เปลี่ยนชื่อเป็น “อ�ำเภอท่าศาลา” ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๕๙ จนถึงปัจจุบัน “ต�าบลกลาย” ปัจจุบันเป็นชื่อต�ำบลหนึ่งใน ๑๐ ต�ำบลของอ�ำเภอท่าศาลา (เดิมนั้น “ต�ำบลกลาย” เป็นต�ำบลใหญ่ ต่อมาแยกไปเป็น “ต�ำบลตลิ่งชัน” อีกต�ำบลหนึ่ง) ต�ำบลกลายเป็นต�ำบล เหนือสุดของอ�ำเภอ ทิศเหนือติดกับอ�ำเภอสิชล ทิศใต้ติดกับต�ำบลสระแก้ว (โดยมีคลอง กลายกั้นเขต) ทิศตะวันออกติดกับทะเลอ่าวไทย และทิศตะวันตกติดกับต�ำบลตลิ่งชัน ปัจจุบัน (๒๕๖๕) ต�ำบลกลายแบ่งเป็น ๑๒ หมู่บ้าน มีพื้นที่ประมาณ ๔๑ ตารางกิโลเมตร มีจ�ำนวนครัวเรือนประมาณ ๓,๑๐๐ ครัวเรือน ประชากรประมาณ ๘,๘๐๐ คน
8 ประวัติทวดกลาย “ยากลาย” เป็นชื่อของยาสูบพันธุ์พื้นเมืองที่รู้จักกันดีในชื่อ “ยากลาย” เป็นที่นิยมไปไกลจน เป็นสินค้าส่งออกส�ำคัญของเมืองนครศรีธรรมราช มาตั้งแต่อดีต ปรากฏหลักฐานใน รายงานราชการมณฑลนครศรีธรรมราช ร.ศ.๑๑๖ กล่าวถึงหมวดการค้าขายในเมือง นครศรีธรรราชว่า “สินค้าที่เกิดขึ้นในพื้นบ้านเมืองมีข้าว ไต้ ยาสูบ คราม ดีบุก เรือมาศ เป็นต้น สินค้าเหล่านี้ เช่น ไต้ ยาสูบ ที่แขวงอ�ำเภอกลายมีมาก ถึงแขวงอ�ำเภออื่นๆ ก็มีบ้าง แต่ไม่สู้มากนัก ไต้และยาสูบที่ออกไปจากเมือง ในศก ๑๑๖ ไต้ ๒๒๖, ๗๔๐ ล�ำ ไปต ่างประเทศคือเมืองสิงคโปร์บ้าง หัวเมืองในพระราชอาณาเขตบ้าง ยาสูบไป ต่างเมืองคือ กรุงเทพฯ เมืองแขก ๗ หัวเมืองๆ กลันตัน ตรังกานู ๒๐๙๐ หาบ ๕๐ ชั่ง” การปลูกยากลาย มีขั้นตอนการปลูกหลายขั้นตอน ผ่านการถ่ายทอดต่อๆ กันมา ตั้งแต่การเตรียมพื้นที่ที่เรียกว่า “ปรนไร่” การเตรียมเมล็ดพันธุ์ การหว่านเพาะเมล็ด การเตรียมต้นกล้าที่เรียกว่า “ฉุนลูกยา” การปลูก การใส่ปุ๋ย การกลบดินรอบโคนต้นที่ เรียกว่า “พูนยา” การดูแลในช่วงที่ต้นเจริญเติบโตทั้งการจัดการกับหนอน และการเก็บ แขนงที่ไม่ต้องการออก เรียกว่า “หักแหนะ” จนเมื่อใบยาแก่ได้ที่แล้ว ก็เก็บใบยามาบ่ม รูดก้านออก ม้วนเป็นมวน แล้วหั่นด้วยมีดและขื่อเฉพาะที่เรียกว่า “ฝานยา” จากนั้น จึงตากยาเส้นทั้งตากแดดและตากน�้ำค้าง แล้วพับเก็บ ไว้ใช้และจ�ำหน่าย ซึ่งต้องใช้เวลา ในการลงแรงงานกันทั้งครอบครัว เป็นระยะเวลาตั้งแต่ต้นจนจบ ประมาณ ๖ เดือน ทีเดียว พื้นที่ในการปลูกยากลาย ส ่วนใหญ ่อยู ่บริเวณสองฝั ่งคลองกลาย ในพื้นที่ ต�ำบลกลาย ตลิ่งชัน สระแก้ว ท ่าขึ้น และพื้นที่ในอ�ำเภอนบพิต�ำ รวมถึงในพื้นที่ อ�ำเภอสิชลและพรหมคีรีก็มีอยู่บ้าง ยากลายเป็นยาสูบพันธุ์พื้นเมืองที่มีรสชาติเป็นที่นิยมของผู้สูบ จึงมีราคาค ่อน ข้างสูง ปัจจุบัน (๒๕๖๕) ราคากิโลกรัมละ ๘๐๐-๑,๓๐๐ บาท (ราคาตามคุณภาพและ ฤดูกาล)
ประวัติทวดกลาย 9 “เคยกลาย” เป็นชื่อกะปิซึ่งผลิตในพื้นที่หมู ่บ้านชุมชนประมงริมฝั ่งทะเลต�ำบลกลาย เป็น กะปิที่มีรสชาติอร่อย ไม่เค็มเกิน เนื้อไม่หยาบ ไม่ปนทรายอ่อน กลิ่นหอม เพราะผลิต จากกุ้งเคอยพันธุ์ดีในอ ่าวทะเลกลายและหมักเกลือตามกรรมวิธีเฉพาะ จึงเป็นที่นิยม ใช้บริโภคทั้งใช้ปรุงแกง ท�ำน�้ำพริกและอื่นๆ โดยรู้จักกันดีในชื่อ “เคยกลาย” ตั้งแต่ อดีตจนถึงปัจจุบัน “ลูกหลานท่านกลาย” เป็นค�ำที่ใช้เรียกตนเองของผู้คนในพื้นที่ท่าศาลา-นบพิต�ำ รายรอบคลองกลาย ซึ่งต่างเคารพนับถือทวดกลายเป็นที่พึ่งทางจิตใจ ด้วยความศรัทธาเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ ว่า เป็นพวกเดียวกัน เพราะต่างเป็น “ลูกหลานท่านกลาย” เหมือนกัน “โหมกลาย” ย้อนหลังไปในอดีตช่วงก่อน ๕๐ ปีที่แล้ว คนในเมืองนครศรีธรรมราชทั้งคนต่าง อ�ำเภออื่นๆ มักเรียกคนที่อาศัยในพื้นที่อ�ำเภอท่าศาลาว่า “พวกกลายหรือโหมกลาย” แต่ในปัจจุบันโดยทั่วไปเรียกว่า “โหมกลาย” แทนแล้ว.... จากที่กล่าวถึงข้างต้น แสดงให้เห็นว่า “กลาย” เป็นค�ำส�ำคัญที่มีความ ผูกพันเชื่อมโยงกับวิถีชีวิตของผู้คนในพื้นที่อ�ำเภอท่าศาลามาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สื่อสารให้ประจักษ์ถึงความรู้สึกรัก ภาคภูมิใจในแผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอนและแผ่น ดินถิ่นอาศัยของคนท่าศาลาทุกภาคส่วนอันน่าชื่นชมอย่างยิ่ง
10 ประวัติทวดกลาย
ประวัติทวดกลาย 11 พระยารามเดโช (ชูหรือหวาน) หนึ่งในขุนศึกคู ่พระทัยสมเด็จพระนารายณ์ มหาราช มีชาติก�ำเนิดเป็นชาวเมืองไทรบุรี (เคดาห์) ได้เข้ารับราชการเป็นมหาดเล็ก ในรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง พร้อมด้วย พระยายมราช (สังข์), พระยา ราชวังสัน (ฮัสซัน), พระเพทราชา (ทองค�ำ), พระโกษาธิบดี (เหล็ก) ซึ่งมหาดเล็กเหล่า นี้ต ่างเป็นข้าในสังกัดของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เมื่อครั้งทรงพระอิสริยศเป็น เจ้าฟ้านารายณ์ราชกุมารทั้งสิ้น ได้ร่วมกันกระท�ำการให้สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรง ได้เถลิงถวัลย์ราชสมบัติเป็นก�ำลังส�ำคัญในการขยายพระราชอ�ำนาจของราชอาณาจักร ศรีอยุธยาให้กว้างไกล โดยเมื่อครั้งต้นรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงมีพระ ราชโองการให้ พระยาโกษาธิบดี (ขุนเหล็ก) พร้อมด้วย พระยารามเดโช พระยา สุรสงคราม และ พระยาสีหราชเดโช ยกทัพไปขับไล่ทัพราชอาณาจักรอังวะออกจาก เชียงใหม่ ด้วยกองทัพที่เข้มแข็ง ได้ท�ำให้กองทัพอังวะนั้นล่าถอยกลับไป พระเจ้าเชียงใหม่ ขอเป็นพระราชาไมตรี ท�ำให้ในยุคนั้นกรุงศรีอยุธยามีอ�ำนาจเกรียงไกรอย่างมาก เนื่องจากพระยารามเดโชเป็นขุนนางมุสลิมชาวไทรบุรี เป็นผู้ที่คุ้นเคยกับหัว เมืองอิสระทางใต้ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช จึงทรงไว้วางพระทัยให้เป็นแม่ทัพของ กรุงศรีอยุธยา ในการบุกโจมตี “นครสิงขร” (เพี้ยนจากค�ำว่า ซิงคอรา จนเป็น ค�ำว่า สงขลา ในปัจจุบัน) รัฐอิสระที่สถาปนา โดยสุลต่านสุไลมาน ชาห์ โดยใช้ก�ำลังทหาร จากทั้งกรุงศรีอยุธยา และเมืองนครศรีธรรมราช ทั้งทัพบก และทัพเรือ ในการโอบ ล้อมโจมตีเมืองสิงขรหัวเขาแดง การต่อสู้ระหว่างทัพกรุงศรีอยุธยากับทัพนครสิงขรนั้น พระยารามเดโช เจ้าเมืองนครศรีธรรมราช เมืองพระที่นับถือศาสนาอิสลาม โดย ภูมิ จิระเดชวงศ์
12 ประวัติทวดกลาย รุนแรงมาก ถึงขนาดเมื่อกองทัพกรุงศรีอยุธยาเข้าเมืองแล้วถึงกับเผาเมืองทิ้งจนราบคาบ กองทัพที่น�ำโดยพระยารามเดโช (หวานหรือชู) ได้กวาดต้อนเจ้าชายมุสตาฟา พร้อม ด้วยบริวารไปปกครองเมืองไชยา และให้เจ้าชายฟาเพริชี น้องชายของสุลต่านสงขลา ครองเมืองไชยบุรีที่พัทลุง จากการที่พระยารามเดโชปราบรัฐนครสิงขรได้ส�ำเร็จ ส่งผลให้ พระยาขุนศึกผู้นี้ กลายเป็น ขุนนางที่มีอ�ำนาจเต็มในภาคใต้ในทันที ต่อมาสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงแต่งตั้งให้พระยารามเดโช (ชูหรือหวาน) และพระยายมราช (สังข์) ขุนศึกคู่พระทัยไปปกครองเมืองนครศรีธรรมราช และ เมือง นครราชสีมา เป็นขุนศึกควบคุมดินแดนห่างไกลต่างพระเนตรพระกรรณ ปลายรัชสมัย สมเด็จพระนารายณ์มหาราช การขับเคี่ยวแย่งชิงอ�ำนาจระหว่าง ออกพระเพทราชา กับ ออกญาวิชเยนทร์ ได้เข้มข้นทวีขึ้นทุกขณะ จนกระทั่งสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงประชวรหนัก ออกพระเพทราชา กับ หลวงสรศักดิ์ บุญธรรม ได้ฉวยโอกาสนี้ น�ำขุนนางในสังกัดตนเข้าควบคุมราชส�ำนัก จับกุมตัวออกญาวิชเยนทร์ไปประหาร และ ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระเจ้าอยู ่หัว ตั้งราชวงศ์บ้านพลูหลวง หลังการสวรรคตของ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เมื่อสองพระยาขุนศึกในสมเด็จพระนารายณ์ได้ข่าวก็พากันโกรธทั้งคู่ไม่ยอม ไป ถือน�้ำพิพัฒน์สัตยาที่กรุงศรีอยุธยา ท�ำให้สมเด็จพระมหาบุรุษวิสุทธิเดชอุดม (พระราชทินนามของพระเพทราชาเมื่อทรงราชาภิเษกแล้ว) ทรงกริ้วเป็นอย่างมาก มีราชโองการ ให้พระยาสีหราชเดโชคนใหม่ยกทัพไปตีเมืองนครราชสีมาให้จงได้ กองทัพกรุงศรีอยุธยา ใช้เวลาถึงสองปีจึงจะสามารถปราบเมืองนครราชสีมาลง แต่พระยายมราช (สังข์) พร้อม สมัครพรรคพวกจ�ำนวนหนึ่งได้หลบหนีลงไปทางหัวเมืองปักษ์ใต้ได้ส�ำเร็จ จึงท�ำให้สมเด็จ พระมหาบุรุษฯ ทรงกริ้วพิโรธยิ่งกว่าเก่า ได้โปรดให้พระยาสุรสงครามเป็นแม่ทัพหลวง พระยาสุรเสนาเป็นยกกระบัตร พระยาเพชรบุรีเป็นเกียกกาย พระยาราชบุรีเป็นทัพหลัง กบฏต่อเมืองหลวง กองทัพหลวงเข้าโจมตีเป็นเวลาหลายวันจนกระทั้งค่ายหัวควนท่าข้าม แตก พระยายมราช (สังข์) พร้อมลูกน้องทั้งหมดเสียชีวิตในสมรภูมิ กองทัพกรุงศรีอยุธยา จึงยกพลทั้งทัพบกและทัพเรือ เข้าโจมตีเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งพระยารามเดโช พร้อม
ประวัติทวดกลาย 13 ด้วยบุตรชายทั้งสอง คือ ตวนกูนาด (ทวดหน้าศพ) และ ตวนกูกลาย (ทวดกลาย/ ท่านกลาย) เป็นขุนพลออกประจัญบานกับทัพจากกรุงศรีอยุธยา การต่อสู้เป็นไปอย่าง ดุเดือด กองทัพเมืองหลวง ก็ยากที่จะเอาชนะกองทัพเมืองนคร กองทัพเมืองนครก็มิอาจ เอาชัยชนะขับไล่กองทัพเมืองหลวงไปได้ สงครามยืดเยื้อยาวนานถึงสามปี ในที่สุดกองทัพ กรุงศรีอยุธยา ได้ปิดล้อมเมืองนครศรีธรรมราชไว้ทุกด้าน ท�ำให้กองทัพฝ่ายนครอ่อน แรงลง จนกระทั่ง พระยารามเดชโช ได้ปรึกษากับบุตรชายทั้งสอง คือ ตวนกูนาด และ ตวนกูกลาย รวมถึงเจ้านายนอกหน้า ที่เป็นบุตรสาว ตลอดจนขุนพลที่เหลืออยู่ ว่าเรา จะแยกกันตีฝ่าวงล้อมหลบหนี โดยพระยารามเดโชหนีไปทางตะวันออก ส่วนบุตรธิดา ทั้งสามให้หนีไปทางตะวันตก เมื่อนัดแนะแผนการกันเสร็จ พระยารามเดโชกับบุตรทั้งสาม จึงแยกกันพาไพร่พลหลบหนี พระยารามเดโชยกพวกทหารฝีมือดีที่สุดออกไปทางตะวันออก ต่อสู้กับทหารกอง เรืออาสาจามของพระยาราชวังสัน และได้ชิงเอาเรือล�ำหนึ่งไปจากทัพเรืออยุธยา หนีกลับ ไปยังไทรบุรีได้ส�ำเร็จ การที่พระยารามเดโชหนีไปได้นั้น พระยาราชวังสัน (ฮัสซัน) ถูก พระยาสุรสงครามแม่ทัพหลวงจับได้ว่าเต็มใจเปิดทางหนีให้ศัตรู จึงจัดการพาไปประหาร ชีวิตเสียที่เมืองนครฯ ส่วนตวนกูนาด ตวนกูกลาย เจ้านายนอกหน้า ได้หลบลี้หนีภัย ขึ้นไปยังกรุงชิง ยึดคลองเอาลุ่มน�้ำกลายทั้งหมดเป็นที่อาศัย แต่ก็มีสายข่าวไปส่งข่าวให้ กับเจ้าเมืองนครฯ คนใหม่ เจ้าเมืองคนใหม่ฯ จึงส่งกองทัพมากวาดล้าง ตวนกูนาด และ ตวนกูกลาย สิ้นชีพในที่รบ ส่วนเจ้านายนอกหน้านั้น ปรากฏว่าท่านได้เสียชีวิตเนื่องจาก คลอดบุตรไม่ออกที่บ้านกรุงนาง ชาวบ้านจึงพาศพของท่านไปฝังไว้ข้างๆ หลุมศพของ ตวนกูนาดผู้เป็นพี่ชาย ถึงแม้ว ่าชะตากรรมสุดท้ายของพระยารามเดโช ขุนศึกคู ่พระทัยสมเด็จ พระนารายณ์มหาราช จะจบลงด้วยความโศกเศร้า แต ่ก็แสดงให้เห็นถึงความภักดี อย ่างเหนี่ยวแน ่น และความเป็นชาตินักรบของขุนศึกชาวมุสลิมที่เคยปกครองเมือง นครศรีธรรมราช ให้เป็นที่กล่าวขานกันยาวนานสืบไป
14 ประวัติทวดกลาย
ประวัติทวดกลาย 15 จันพอ โดย...ขุนพันธรักษ์ราชเดช ก ่อนอื่นข้าพเจ้าต้องขออภัยต ่อท ่านผู้อ ่านและท ่านผู้รอบรู้ทั้งหลาย ในข้อ บกพร่องเพราะรู้น้อย ทั้งไม่เคยเขียนเรื่องชนิดนี้ แต่เนื่องจากคณะกรรมการจัดงาน เดือนสิบปี ๒๕๐๔ หลายท่าน ขอค�ำขวัญและเรื่องอะไรสักเรื่องหนึ่ง เพื่อลงในหนังสือที่ ระลึกงานเดือนสิบ จึงได้เลือกเอาเรื่องจันพอมาเขียน “จันพอ” เป็นหมู่บ้านมีผู้คนหนาแน่น ตั้งเป็นหลักฐานคู่กันมากับจังหวัดนครฯ อยู่ทางทิศพายัพของตัวเมือง ในต�ำบลดอนตะโก อ�ำเภอท่าศาลา และต�ำบลอินทร์คีรี อ�ำเภอเมือง เดินเท้าจากจังหวัดราว ๓ ชั่วโมง ชื่อนี้มีผู้สันนิฐานกันหลายท่านว่า มาจากต้นจันทน์กระพ้อ เขาว่าเดิมมีต้นจันทน์ กระพ้อ สภาพของบ้าน เป็นที่ราบต�่ำมีทุ่งนาอยู่เกือบรอบ พันธุ์ไม้มีหมากมะพร้าวหรือจะ พูดรวมได้ว่า มีพืชพันธุ์ของนครฯ แทบทุกชนิด พื้นที่ท�ำนาได้ดีมาก มีล�ำธารผ่านกลาง หมู่บ้าน ซึ่งเป็นเส้นเขตแดนระหว่างอ�ำเภอเมืองกับอ�ำเภอท่าศาลาเรียกว่าคลองอ้าย เขียวเดิมเราเรียกว่าคลองทวด มีวัดโบราณ เรียกว่าวัด “จันพอ” วัดนี้ตามต�ำนานอ้างว่าสร้างก่อนวัดพระบรมธาตุ ยุคเดียวกันกับวัดขุนโขลง โมคลาน อ�ำเภอท ่าศาลา สากเหล็ก แพงถม เสมาทอง (มเหยงคณ์) ท ่าช้าง อ�ำเภอเมือง เดี่ยวนี้ยุบเข้าเป็นวัดเดียวกันกับวัดจันพอนอก มีภิกษุสามเณรมากที่สุดในวัดชนบทด้วยกัน เจ้าอาวาสเคยเป็นพระครู และอุปัชฌายะ มาตลอด เป็นส�ำนักเล่าเรียนที่ส�ำคัญ พระเณรในวัดนี้ปฏิบัติธรรมวินัยเคร่งครัด เป็น มหานิกาย หน้าวัดอยู่ทางทิศตะวันออก และที่หน้าวัดนี้มีดงตะเคียนทองต้นสูงใหญ่ใบกิ่งก้าน
16 ประวัติทวดกลาย สาขาร่มครึ้ม ทั้งเป็นป่าช้าเผาฝังด้วย ถนนเข้าวัดผ่านดงตะเคียนนี้ ปีละครั้งจะมีนก ดอกบัวพากันมาท�ำรังออกไข่บนยอดตะเคียนในป่าช้านี้เต็มไปหมด ตอนที่ลูกนกยังอ่อน จะได้ยินเสียงร้องเซ็งแซ่ จนฟังเสียงอะไรไม่ได้ยิน ตะเคียนทุกๆ ต้นรวมทั้งไม้อื่น จะถูก นกหักเอาใบก้านท�ำรังจนใบโกร๋น เว้นไว้แต่ตะเคียนทวดต้นเดียว พวกนกเคารพมากถึง กับไม่จับเกาะ ตะเคียนต้นนี้เป็นพุ่มเขียวตลอดปี นกนี้คนแถบนั้นถือกันว่าเป็นนกของ วัดไม่มีใครกล้ารังแก หน้าป่าช้าริมทุ่งนา มีต้นประดู่แก้บนเจ้านายนอกหน้า ซึ่งเป็นน้องหญิงของทวด จันพอ เรียกว่า “ประดู่แก้บน” การบนเจ้านายนอกหน้านั้น ส่วนมากผู้หญิงบนให้คลอด บุตรง่าย เมื่อคลอดแล้วไปแก้บนกันที่นั่น ยังคงบนบานกันตลอดมา ทางทิศตะวันตก เป็นบ้านและสวนผลไม้ตลอดจนถึงเขาหลวง ทิศเหนือ เป็นท้องนา ถัดจากนั้นไปเป็นป่ายางอันหนาแน่น ยืดยาวติดต่อลงไป ทิศตะวันออกถึงวัดโมคลาน และทิศตะวันตกถึงเขาหลวง ทางทิศใต้เป็นท้องนา และบ้านคนสลับกันไป อาชีพ ท�ำนา ค้าขาย ท�ำสวนผลไม้ และสวนยางพารา ท�ำน�้ำมันยางและท�ำใต้ ประวัติ สืบทราบจากผู้เฒ่าหลายคนเช่น คุณป้าทัพ พันธรักษ์ และหมื่นประวัติ บ้านเขา ว ่าแต ่ก ่อนบ้านนี้เคยเป็นที่เจริญ มีวัดและผู้คนตั้งท�ำมาหากินเป็นหลักฐาน แต่ในคลองนี้ไม่มีน�้ำ ต้องใช้น�้ำบ่อ ต่อมามีเรื่องส�ำคัญเกิดขึ้นคือ เมื่อนายหวานลูกเจ้าพระยาไทรบุรี อันเป็นมหาดเล็กสมเด็จพระนารายณ์ เป็น ที่พระยารามเดโช ได้มากินเมืองนครฯ ครั้นพระเพทราชา และหลวงสุรศักดิ์แย ่ง ราชสมบัติได้ หัวเมืองเอกหลายเมือง เกิดกระด้างกระเดื่อง ไม่ยอมอ่อนน้อมรวมทั้ง เมืองนครฯ ด้วย ทางกรุงต้องส่งกองทัพออกไปปราบปราม เมื่อได้ปราบยมราชสังข์ เจ้าเมืองนครราชศรีมาแตกแล้ว ยมราชสังข์พร้อมด้วยทหารพอประมาณหนีมาเข้ากับ รามเดโชนครฯ ทางกรุงฯ จึงยกกองทัพบก-เรือ ลงมาปราบ ยมราชสังข์อาสาไปตั้งรับ อยู่ที่ด่านท่าข้าม อ�ำเภอพุนพินเดี๋ยวนี้ กองทัพกรุงตีแตกยมราชสังข์ตายในที่รบ กองทัพ กรุงจึงเข้าถึงนครฯ ทัพบกยกมาทางด่านดอนตะโกใกล้จันพอ ด่านนี้เป็นเส้นทางเดินทัพ
ประวัติทวดกลาย 17 เข้าตีนครฯ มาแต่โบราณ มีบ้านพระยาจักรีอยู่ที่นั่น และเป็นที่ตั้งยุ้งฉางหลวง กองทัพ กรุงทั้งบกและเรือล้อมตีนครฯ อยู่ถึง ๓ ปี ไม่อาจหักเอาเมืองได้ ทั้งนี้ เนื่องจากนครฯ เป็นเมืองใหญ่อุดมด้วยอาหาร และคนดี พระยารามเดโชเป็นคนเข้มแข็งฝีมือดี ไพร่พล รักนับถือมาก จึงมีแก่ใจต่อสู้โดยไม่คิดชีวิต รบอยู่ได้ถึง ๓ ปี แต่เป็นธรรมดาน�้ำน้อย ย่อมแพ้ไฟ ประกอบกับทหารกรุงอยู่ภายนอกก�ำแพง มีโอกาสท�ำไร่นาตั้งยุ้งฉางออกลาด ตระเวนหาเสบียงอาหารสะสมไว้ได้สะดวกและพอเพียง ฝ่ายนครไม่มีโอกาสเช่นนั้น จึง ขาดเสบียงลง รามเดโชจึงได้ประกาศให้กองทัพกรุงรู้ว่านครนั้นไม่ใช่แพ้ แต่ขาดเสบียง จะตีออกให้ล้อมไว้ให้มั่นคง พอตกกลางคืนใกล้จะถึงฤกษ์ก็ไล่ฆ่าฟันลูกเมียซึ่งไม่สามารถ จะเอาตัวรอดได้ เพื่อไม่ให้ตกไปเป็นเชลยของข้าศึก แต่ยังมีคนดีซึ่งเป็นลูกหลานอยู่ อีก ๓ คน ชื่อพ่อนาค (ทวดจันพอหรือเทวดาหน้าศพ) ทวดกลาย (เทวดากลาย) กับ เจ้านายนอกหน้าน้องหญิงขอร้องว่ายังสามารถเอาตัวรอดได้ไม่ต้องฆ่า รามเดโชยินยอม ตามค�ำขอร้อง พอได้ฤกษ์รามเดโชพร้อมด้วยทหารเอก ๕๐ คน ตีหักกองทัพหลวง ออกทางด้านตะวันออก มุ ่งเข้าหากองทัพเรือในหน้าที่พยาราชวังสัน แย ่งเรือรบได้ ๕๐ ล�ำ หนีออกทะเลไป พวกพ่อนาค ๓ คนพี่น้อง พร้อมด้วยข้าทาสทหารและอพยพ ช้างม้า หักออกทางด้านตะวันตก ยกไปตั้งอยู่ในป่าทางพายัพของเมือง ครั้งสุดท้ายลง มาตั้งหลักฐานที่บ้านจันพอ เวลานั้นจันพอเป็นบ้านดอนไกลคลองน�้ำ ข้าทาสต้องต้อนวัว ควายช้างม้ามาลงคลองนอกท่า (พรหมโลก) ที่บ้านเกาะตรงท่านพไทร ครั้นต่อมาบ่าว ทาสของเศรษฐีนพไทรเกิดทะเลาะกับบ่าวทาสของพ่อนาคจันพอ หนักเข้าก็ก้าวร้าวลาม ไปถึงนายซึ่งกันและกัน พวกนพไทรว่า พวกจันพออวดดีถือตัวว่าเป็นเจ้านายแต่ไม่มีน�้ำ กิน ต้องขนกันมาลงน�้ำคลองเรา ความนี้ทราบถึงพ่อนาค พ่อนาคคิดเห็นว่า จะเกิดเรื่อง ลุกลามขึ้นต่อไป จึงน�ำผู้คนช้างม้าวัวควายขึ้นไปขุดคลอง แยกจากคลองอ้ายเขียวที่บ้าน โปนในต�ำบลเดียวกัน ผ่านลงมาทางบ้านนาสร้าง หญ้าปล้อง ยางโพรง จันพอ ตีนคลอง สากเหล็ก ไปออกคลองโดน คลองนี้เรียกว่าคลองทวดแต่นั้นมา ไหลไปออกปากพยิง จนบัดนี้ ก่อนทวดขุดคลองอ้ายเขียวนั้นน�้ำไหลไปร่วมกับคลองนอกท่า ที่นพชี้อ้นเหนือ วัดบ้านนา เดี๋ยวนี้คลองเก่ายังมีอยู่
18 ประวัติทวดกลาย กาลล่วงมาไม่นาน เศรษฐีนพไทรฟ้องมายังเจ้าเมืองใหญ่ว่า พวกรามเดโชไปตั้ง ซ่องสุมอยู่ที่จันพอ ทางเมืองได้ยกก�ำลังออกไปปราบพ่อนาคตายในที่รบ ทวดกลายและ เจ้านายนอกหน้าพาอพยพหนีไปตั้งอยู่ที่กลาย ต�ำบลสระแก้ว อ�ำเภอท่าศาลาเดียวนี้ ต ่อมาทางเมืองตามไปปราบ ทวดกลายตายในที่รบเสียอีกคนหนึ่ง เจ้านายนอกหน้า ถูกจับพามามอบให้เจ้าเมืองๆ เลี้ยงเป็นภรรยา พวกลูกหลานและบ่าวทาสที่หนีได้ ได้ จัดการฝังศพพ่อนาคไว้ที่โคนตะเคียนในป่าช้าวัดจันพอ ศพทวดกลายฝังไว้ที่ฝั่งแม่น�้ำ กลายทั้ง ๒ คนนี้ยังเป็นที่นับถืออันศักดิ์สิทธิ์มาจนบัดนี้ ส ่วนทรัพย์สมบัติซึ่งเป็น แก้วแหวนเงินทอง เสื้อผ้าและเครื่องใช้พรรคพวกที่เหลือตายพาหนีเข้าป่า เอาเก็บไว้ ในถ�้ำทางต้นน�้ำกลาย และตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บ้านปากลงจนบัดนี้ยังแต่งตัวและหน้าตา มีเค้าเป็นแขกอยู่ เจ้านายนอกหน้า เมื่อตกมาเป็นภรรยาเจ้าเมือง ก็ได้รับความกรุณาให้มีบ ่าว ทาสและเชื้อสายรักษาบ้านเรือนที่จันพอ เจ้านายนอกหน้าเมื่อท้องแก่จวนคลอด ก็ขอ ไปคลอดที่บ้านเดิม คือบ้านจันพอ แต่บังเอิญถึงเวลาจะหมดอายุจึงตายเสียขณะคลอด ทั้งแม่และลูก คนชั้นหลังยังนับถือบนบานมาจนบัดนี้ เชื้อสายของทวดจันพอ ยังมีติดต่อกันมาจนเวลานี้ ครั้งแผ่นดินพระจุลจอมเกล้า มีอาจารย์บุญคนทั้งหลายเรียกหม่อมบุญ บวชเป็น สมภารวัดเสมาทอง (มเหยงคณ์) เป็นอาจารย์บิดาของเจ้าพยายนครขนทวน และเป็น นายช ่างใหญ ่ซ ่อมวิหารหลวง สร้างโบสถ์วัดมิตร โบสถ์วัดท ่าโพธิ์ ลูกชายหม ่อมบุญ ชื่อเมือง เป็นขุนทิพย์โภชากร นายนา อยู่บ้านจันพอ ลูกหญิง ชื่อนาค เป็นภรรยาพยากลันตัน มีลูกหญิงชื่อต่วนกูสะบิ หลานชายที่รับราชการมีบรรดาศักดิ์เท่าที่ทราบคือ พระก�ำเหนิดนพคุณ เจ้าเมือง บางสะพาน พระปทิว เจ้าเมืองปทิว พระอ�ำภัย ได้ท่านศรี ญาติเจ้าพยานครเป็นภรรยา หลวงรามเดชะ (เดช) ผู้รั้งเมืองตรัง
ประวัติทวดกลาย 19 หลวงก�ำแหง รับราชการที่ตรัง หลวงภักดีสมบัติ ข้าราชการแผนกการเงินรับราชการในนครฯ หลวงบรรเทา ทุขราษฎร์ เจ้าเมืองกระบี่ หลานหญิง คุณยายทิม เป็นภรรยา เจ้าพระยาชนทวน คุณยายนาค เป็นภรรยา พยานครชนทวน คุณป้าปริก เป็นภรรยา คุณชื่น ลูกเจ้าพยานครชนทวน คุณป้าหนูทรัพย์ เป็นภรรยา ท่านปลัด น้องเจ้าพยาชนทวน รวมความว่าบ้านจันพอ มีประวัติเกี่ยวกับจังหวัดนครฯ มานาน และสัมพันธุ์กับ ตระกูล ณ นคร ตลอดมา นับว่าเป็นบ้านส�ำคัญบ้านหนึ่ง
20 ประวัติทวดกลาย เ(ทวด)า กลาย ความเป็นมา ความเชื่อ และการอนุรักษ์ลุ่มน�้ำคลองกลาย อย่ายั่งยืน กรณีศึกษา ชุมชนบ้านสระแก้ว ต�ำบลสระแก้ว อ�ำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช กานต์ชนก ช่วยบ�ำรุงนิตยา* จิตติมา ด�ำรงวัฒนะ, อุดมศักดิ์ เดโชชัย และ เดโช แขน�้ำแก้ว** * นักศึกษาสาขาวิชาการพัฒนาชุมชน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ** อาจารย์ประจ�ำสาขาวิชาการพัฒนาชุมชน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช
ประวัติทวดกลาย 21 บทคัดย่อ บทความวิจัยครั้งนี้ เพื่อการศึกษาความเป็นมา และความเชื่อเกี่ยวกับทวดกลาย และการอนุรักษ์ลุ่มน�้ำคลองกลายอย่างยั่งยืน กรณีศึกษา ชุมชนบ้านสระแก้ว ต�ำบล สระแก้ว อ�ำเภอท ่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพผล การวิจัยพบว่า ๑. ความเป็นมา และความเชื่อเกี่ยวกับทวดกลาย พบว่า ทวดกลายในต�ำนาน นั้นนับถือศาสนาอิสลามเป็นผู้ที่มีวิชาอาคมเก่งกล้า ท่านมีภรรยาสองคน ชื่อนางมณฑา และนางยา ทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน ทวดกลายนั้นมีลักษณะสูงใหญ่ ผิวคล�้ำ พูดจาตรง ไปตรงมา สุขุม เป็นคนมีจิตใจดี มีความเมตตาต่อผู้อื่น ส�ำหรับข้อควรปฏิบัติของผู้ที่ เคารพทวดกลายนั้นมีหลายประการด้วยกัน เช่น ห้ามน�ำเนื้อหมูเข้าแท่นบูชา ห้ามซัก เสื้อผ้าเครื่องใช้สอย หรือทิ้งสิ่งปฏิกูลลงในคลองกลาย อีกทั้งผู้เคารพบูชาทวดกลายที่ อยู่บริเวณต�ำบลกลาย และต�ำบลสระแก้ว หรือบุคคลทั่วไป มีความเชื่อว่าทวดกลายเป็น เทพองค์หนึ่ง ซึ่งเปี่ยมด้วยความรักความเมตตา สามารถดลบันดาลให้ผู้ที่เคารพ และ ผ่านภยันตรายต่างๆ ได้ ๒. การอนุรักษ์ลุ ่มน�้ำคลองกลายอย ่างยั่งยืน พบว ่า ผลจากความเชื่อที่ผู้คน ส่วนใหญ่เคารพทวดกลาย กล่าวได้ว่าเป็นเครื่องมือส�ำคัญให้ผู้คนส่วนใหญ่บริเวณลุ่มน�้ำ คลองกลายมักมีกิจกรรมสาธารณประโยขน์ร่วมกันอย่างสม�่ำเสมอ เช่น การปลูกหญ้า แฝกบริเวณริมคลองกลาย กิจกรรมปล่อยพันธุ์ปลาในล�ำคลองฝายมีชีวิต หรือแม้แต่ การปลูกป่าทดแทน เป็นต้น ค�ำส�ำคัญ ทวดกลาย, ความเป็นมา และความเชื่อเกี่ยวกับทวดกลาย, การอนุรักษ์ ลุ่มน�้ำคลองกลาย
22 ประวัติทวดกลาย บทน�ำ “ทวดกลาย” หรือพ่อท่านกลาย ท่านมีภรรยา ๒ คน คือ คนแรกชื่อ มณฑา คนที่สองชื่อ ยา ซึ่งทั้งสองเป็นพี่น้องกัน มีความหึงหวงพ่อท่านกลายเป็นอย่างมาก นอกจากเมียทั้งสองแล้วพ่อท่านกลายยังมีเพื่อนฝูงที่ศักดิ์สิทธิ์อีกหลายคน ซึ่งต่างก็เป็น มุสลิมด้วยกัน ได้แก่ ท่านแสงท่านกรอบเหล็ก ท่านโคกแข ท่านทรายทอง บุคคลเหล่านี้ ล้วนเป็นทหารคนส�ำคัญของพ่อท่านกลายทุกคน ยังมีบุคคลที่รักกันมากอยู่อีกคนหนึ่ง พึ่งพาอาศัยกัน โดยตกลงยินยอมเป็นเกลอกันบุคคลท่านนั้น คือ ท่านตก มีเวทมนต์คาถา มึความสามารถในวิชาไสยศาสตร์เป็นเยี่ยมเหมือนกัน (อัคราวุฒิ คุณารักษ์ ๒๕๕๔) นอกจากนี้ยังมีอีกท่านหนึ่ง ซึ่งคนทั่วไปรู้จักดี คือ ตาหลวงรอง เป็นคนใกล้ชิด ของพ่อท่านกลาย เป็นคนรับใช้ภายในบ้าน เมื่อพ่อท่านกลายมีธุระ หรือต้องการอะไร ก็เรียกใช้บุคคลคนนี้เสมอ ดังนั้นเวลาเชิญเจ้าเข้าทรง ถ้าดวงวิญญาณพ่อท่านกลาย ไม่ได้มาปรากฏ ก็จะเรียกท่านหลวงรองมาไต่ถามดูก่อนเสมอในบรรดาบริวารทั้งหมด ของพ่อท่านกลายนี้ ต่างก็เป็นคนมุสลิมด้วยกันทั้งนั้น แต่ใช้ค�ำน�ำหน้าว่าท่านตามความ นิยมของคนไทยทั่วไป พ่อท่านกลายเป็นอิสลามที่เคร่งครัดในทางศาสนา และเก่งกล้า เรื่องไสยศาสตร์มาก เมื่อตายไปแล้วก็เกิดศักดิ์สิทธิ์ขึ้น กลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนทั่วไป กราบไหว้บูชาอยู่เป็นประจ�ำ คนทุกร้อนประการใดก็ไปบนบานศาลกล่าวเพื่อขอความ ช ่วยเหลือจากดวงวิญญาณท ่านที่บ้าน หรือที่ศาลเจ้าก็ได้อ�ำนาจแห ่งความศักดิ์สิทธิ์ ก็จะดลบันดาลให้ประสบความส�ำเร็จ (อัคราวุฒิ คุณารักษ์ ๒๕๕๔) ดังค�ำสัมภาษณ์ ของเคลิ้น พันชนะ ที่กล่าวว่า.... “หากขับรถผ่านไปทางสิชลก่อนข้ามสะพานกลาย ทางด้านซ้ายมือจะเห็น ศาลาทวดกลายสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของพี่น้องแถบนี้ ความศรัทธาใน การบนบานบอกกล ่าว เห็นได้จากเสียงบีบแตรรถ ไก ่ชน เสียงปะทัด และการทรงเจ้าเข้าทรงในทุกๆ ปี “(เคลิ้น พันชนะ, สัมภาษณ์วันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๙)”
ประวัติทวดกลาย 23 ซึ่งความเชื่อศรัทธาของคนทั่วไปที่มีต่อพ่อท่านกลายโดยเฉพาะคนที่มีภูมิล�ำเนา อยู่ในต�ำบลกลาย และสระแก้ว มีความเชื่อพ่อท่านกลายมากที่สุด ยึดถือเป็นเทวดาองค์ หนึ่ง เชื่อว่าพ่อท่านกลายมีความรัก มีเมตตากรุณา ยึดเป็นที่พึ่งได้เมื่อหากมีความเดือด ร้อนเกิดขึ้น ตามที่บุคคลจ�ำนวนมากเคยประสบผลส�ำเร็จมาแล้วบุคคลทั่วไปมีความเชื่อ ว่า พ่อท่านกลายสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้หายได้ หากได้บนบานศาลกล่าววิงวอน ต่ออ�ำนาจศักดิ์สิทธิ์นี้ แม้คนเจ็บป่วยที่ได้รับการรักษาในโรงพยาบาลมาแล้วไม่หาย ถ้า ได้บนบานศาลกล่าวและใช้น�้ำมนต์ที่ศาลเจ้าของท่านมาชโลมความไข้ก็จะหายได้ จึง ท�ำให้บุคคลทั่วไปมีความเชื่อต่อพ่อท่านกลาย เชื่อในดวงวิญญาณ แม้ว่าท่านได้ถึงแก่ กรรมไปนานแล้ว (อัคราวุฒิ คุณารักษ์, ๒๕๕๔) โดยความเชื่อดังกล่าวมีความเชื่อมโยง ต่อการอนุรักษ์ลุ่มน�้ำคลองกลาย ดังค�ำสัมภาษณ์ของสุธรรม ข�ำคมที่กล่าวว่า... “ทวดกลายเป็นที่เคารพของคนในชุมชนมาตั้งแต่ สมัยบรรพบุรุษเพราะ ทวดกลายนั้นเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของผู้คน ทั้งถายในและภายนอก ชุมชน ทวดกลายจะแสดงปาฏิหาริย์ทุกปีเพื่อตักเตือนลูกหลานให้หมั่น ท�ำความดีและช ่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมให้คงอยู ่สภาพเดิม นอกจากนี้ ผู้คนที่นับถือทวดกลายนั้น เวลามีเรื่องทุกข์ร้อนอะไร ก็จะมาบ่นบานศาล กล่าวก็จะได้ดั่งใจที่ปรารถนาทุกครั้ง” (สุธรรม ข�ำคม, สัมภาษณ์วันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๙) โดยเฉพาะคนที่ตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณสองฝั่งคลองกลาย จะไม่ท�ำให้น�้ำในคลอง กลายสกปรกเป็นอันขาด เช่น ไม่กล้าถ่ายอุจจาระลงไป ไม่น�ำมุ้งลงไปซักฟอก ไม่น�ำ เนื้อสุกรลงไปล้าง ถ้าจะล้างก็ให้ตักน�้ำขึ้นมาล้างบนฝั่งได้สิ่งเหล่านี้กลายเป็นข้อห้ามที่ ทุกคนยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดมาจนตราบเท่าทุกวันนี้ ด้วยเกรงกลัวต่ออ�ำนาจความ ศักดิ์สิทธิ์ของพ่อท่านกลาย เพราะถือว่า คลองกลาย เป็นสายน�้ำที่พ่อท่านกลายเคย ปกป้องรักษามาก่อนเปรียบเสมือนพ่อท่านกลายเป็นเจ้าของล�ำคลองแห่งนี้ก็ว่าได้ การ กระท�ำที่ฝ่าฝืนไม่ถูกต้องเกี่ยวกับน�้ำในคลอลกลายนี้ มีตัวอย่างให้ปรากฏมากต่อมาก
24 ประวัติทวดกลาย แล้ว ไม่ใช่เป็นความงมงายของคนทั่วไปก็หาใช่ไม่ บุคคลที่ฝ่าฝืนน�ำมุ้งลงไปซักก็เคย ได้รับโทษมาแล้ว คนที่น�ำมุ้งไปซักเกิดมีอาการจุกเสียดทุรนทุราย พูดจาเพ้อคลั่งสืบ ได้ความว่า ท�ำผิดข้อห้าม จึงต้องบวงสรวงขอขมาต่อพ่อท่านกลาย อาการผิดปกติ จึงหายไป (อัคราวุฒิ คุณารักษ์, ๒๕๕๔) ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ศึกษาเรื่อง เ(ทวด)า กลาย ความเป็นมา ความเชื่อ และการ อนุรักษ์ลุ่มน�้ำคลองกลายอย่างยั่งยืน กรณ๊ศึกษา ชุมชนบ้านสระแก้ว ต�ำบลสระแก้ว อ�ำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อส่งเสริมให้คนในชุมชนมีความรู้ในเรื่อง การฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นถายใต้ความเป็นมา และ ความเชื่อที่น�ำไปสู่การอนุรักษ์ลุ่มน�้ำคลองกลายต่อไป วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อศึกษาความเป็นมา และความเชื่อเกี่ยวกับทวดกลาย กรณีศึกษา ชุมชน บ้านสระแก้ว ต�ำบลสระแก้ว อ�ำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ๒. เพื่อศึกษาการอนุรักษ์ลุ่มน�้ำคลองกลายอย่างยั่งยืน กรณีศึกษาชุมชนบ้าน สระแก้ว ต�ำบลสระแก้ว อ�ำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช
ประวัติทวดกลาย 25 ความเป็นมา และความ ผู้ให้ข้อมูล ๑. ม้าทรงทวดกลาย ๒. ผู้อัญเชิญเจ้าเข้าทรง ๓. ประธานฯ และรองประธาน คณะกรรมการศาลาทวดกลาย ๔. ผู้ดูแลศาลาทวดกลาย ๕. ผู้เก็บอุปกรณ์เครื่องทรง ๖. ครูภูมิปัญญาด้านศาสนา และวัฒนธรรม ๗. ผู้อ�ำนวยการสถาบันความ เป็นท้องถิ่นไทย กรอบแนวคิดการวิจัย การอนุรักษ์ลุ่มน�้ำคลองกลาย ๑. การอนุรักษ์โดยตรง ๑.๑ การน�ำทรัพยากรน�้ำกลับ มาใช้ได้อีก ๑.๒ การบูรณะซ่อมแซม ๑.๓ การบ�ำบัด และฟื้นฟู ๑.๔ การใช้สิ่งทดแทน ๑.๕ การเฝ้าระวังดูแลป้องกัน ๒. การอนุรักษ์โดยทางอ้อม ๒.๑ การพัฒนาคุณภาพ ประชาชน ๒.๒ การใช้มาตรการทาง สังคมและกฎหมาย ๒.๓ ส่งเสริมให้ประชาชนใน ท้องถิ่น ได้มีส่วนร่วมใน การอนุรักษ์ ๒.๔ ส่งเสริมการศึกษาวิจัย ค้นหาวิธีการและพัฒนา เทคโนโลยี
26 ประวัติทวดกลาย ขอบเขตด้านประชากรเป้าหมาย ๑. ผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูล คือ ม้าทรงทวดกลาย บริวารม้าทรงทวดกลาย ผู้ที่มีความรู้ และผู้สนับสนุนความเชื่อเกี่ยวกับทวดกลาย ชุมชนบ้านสระแก้ว ต�ำบลสระแก้ว อ�ำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช จ�ำนวน ๑๐ คน โดยเลือกแบบเจาะจง ได้แก่ ม้าทรงทวดกลาย จ�ำนวน ๓ คน ผู้อัญเชิญเจ้าเข้าทรง จ�ำนวน ๑ คนประธานคณะ กรรมการศาลาทวดกลาย จ�ำนวน ๑ คน รองประธานคณะกรรมการศาลาทวดกลาย จ�ำนวน ๑ คน ผู้ดูแลศาลาทวดกลาย จ�ำนวน ๑ คน ผู้เก็บอุปกรณ์เครื่องทรง จ�ำนวน ๑ คน ครูภูมิปัญญาด้านศาสนา และวัฒนธรรม จ�ำนวน ๑ คน และผู้อ�ำนวยการสถาบัน ความยั่งยืนท้องถิ่นไทย จ�ำนวน ๑ คน ๒. เครื่องมือในการวิจัย ๒.๑ แบบการสัมภาษณ์ ใช้วิธีสัมภาษณ์ในการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยมีประเด็น ค�ำถามที่ก�ำหนด ตามขอบเขตเนื้อหาการศึกษา และการสัมภาษณ์มีลักษณะการพูดคุย แบบธรรมชาติ และเป็นกันเอง ตามเวลาความเหมาะสม และโอกาสโดยให้ผู้ตอบเล่า เรื่องราวตามประเด็นที่วางไว้ ๒.๒ การสังเกต ได้ใช้การสังเกตแบบมีส่วนร่วมในบริบทลุ่มน�้ำคลองกลาย ซึ่งจะ รวบรวมข้อมูล ในการบันทึกตามประเด็นที่ก�ำหนดไว้และถ่ายภาพประกอบ ๓. การเก็บรวบรวมข้อมูล การเก็บรวบรวมข้อมูลจากเอกสาร และส�ำรวจพื้นที่ในชุมชนสร้างความสัมพันธ์ และการปรับตัวให้เข้ากับชุมชน และผู้ให้ข้อมูลเบื้องต้นเป็นการพูดคุยอย ่างไม ่เป็น ทางการ ชี้แจงวัตถุประสงค์ แล้วจึงนัดวันเวลา และสถานที่เพื่อการเก็บข้อมูลราย ละเอียดแบบเจาะลึก จากนั้นผู้วิจัยได้เก็บข้อมูล และรายละเอียดแต่ละประเด็น โดย
ประวัติทวดกลาย 27 สัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูล โดยการใช้แบบสัมภาษณ์ การสังเกตแบบมีส่วนร่วม และถ่ายภาพ ประกอบและหากขาดข้อมูลส่วนใด ก็จะไปเก็บข้อมูลเพิ่มเติม จากนั้นได้รวบรวมข้อมูล เพื่อน�ำไปสู่วิเคราะห์ข้อมูล และสรุปผลการศึกษาต่อไป ๔. การวิเคราะห์ข้อมูล การน�ำข้อมูลจากเอกสาร และข้อมูลจากภาคสนามแล้ว ผู้ศึกษาจึงน�ำข้อมูล ทั้งหมดที่ได้มารวบรวมมาวิเคราะห์ สรุปเป็นภาพรวม โดยการน�ำแนวคิดและงานวิจัย ที่เกี่ยวข้องมาใช้ประกอบเพื่อหาความสัมพันธ์ของข้อมูล จนสามารถอธิบายข้อเท็จ จริงเพื่อตอบวัตถุประสงค์ของการวิจัย ตามขอบเขตที่ก�ำหนดไว้อย่างชัดเจน โดยการ วิเคราะห์พรรณนา ผลการศึกษา ๑. ความเป็นมา และความเชื่อเกี่ยวกับทวดกลาย ๑.๑ ประวัติความเป็นมาของทวดกลาย ผลการศึกษาพบว่า ทวดกลายนั้น เป็นชาวอิสลามเป็นคนที่มีวิชาอาคาแก่กล้า กล้าหาญชาญชัยทวดกลายนั้นมีเมียสอง คน ชื่อมณฑา และนางญา ซึ่งอาศัยอยู่ริมฝั่งลุ่มน�้ำคลองกลาย ทวดกลายนั้นเป็นคน ที่มีความส�ำคัญต่อชุมชน และทางจิตใจของผู้คนในท้องถิ่น ดังค�ำสัมภาษณ์ของหนูแนบ ข�ำคม และเคลิ้น พันชนะ ที่กล่าวว่า... “เชื่อกันว ่าทวดกลายนั้นเป็นชาวอิสลาม ซึ่งมีเมียสองคน ชื่อ นางมณฑา และนางญา ซึ่งเป็นพี่น้องกัน เดิมทีทวดกลายนั้นในยามที่ยัง มีชีวิตอยู่เป็นคนสุขุม จิตใจดี มีความเมตตาต่อเพื่อนฝูง อีกอย่างหนึ่ง คือ ทวดกลายนั้นท่านเป็นคนมีวิชาอาคม ที่น่าเลื่อมใสยิ่งนัก ไม่ว่าใคร เดือดร้อนประการใดท่านก็มักจะช่วยด้วยใจ.... (หนูแนบ ข�ำคม, สัมภาษณ์ วันทีท ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๙) และ”...วันดีคืนดีที่ผ่านมา ทวดกลายจะ ปรากฎให้เห็น ในรูปของงูจงอางตัวใหญ่ เพื่อย�้ำเตือนสติลูกหลานให้มุ่ง
28 ประวัติทวดกลาย คิดดี ท�ำดี อย่าท�ำลายทรัพยากร สายน�้ำคลองกลาย “ (เคลิ้น พันชนะ, สัมภาษณ์วันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๙) ทั้งนี้เพราะเรื่องเล่า และประวัติของทวดกลายนั้นมีการเล่าต่อๆ กันมา ว่ามีกฎ ของการอาศัยริมลุ่มน�้ำคลองกลายนั้น คือ อย่าน�ำหมู และมุ้งลงไปซักล้างในลุ่มน�้ำคลอง กลาย หลายต่อหลายรุ่น และยังคงมีการสืบสานการเชื่อทวดกลาย และม้าทรงองค์อื่นๆ นั้นทุกปี ถือได้ว่า เป็นงานประจ�ำปีของชาวบ้าน ต�ำบลสระแก้วที่จัดขึ้นทุกปี ณ ศาลา ทวดกลายเพราะในแต่ละปีแล้วแต่ว่าช่วงไหนทวดกลายนั้น จะแปลงร่างเป็นงูจงอาง ตัวใหญ่นั้นมานอนอยู่ที่กลางสวนมะพร้าว เพื่อแสดงให้ลูกหลานเห็นว่า ท่านยังคงดูแล ทุกคนอยู่ตลอดเวลา ๑.๒ คุณลักษณะของทวดกลาย ผลการศึกษาพบว่าตามค�ำบอกเล่าตั้งแต่รุ่น สู่รุ่น รูปร่างของทวดกลายนั้นเป็นคนที่สูงใหญ่ บางคนบอกว่า ทวดกลายนั้นเป็นคน ผิวเหลือง บางคนก็ว่า ผิวคล�้ำ สืบเนื่องมาจากที่ว่าไม่มีใครเคยเห็นทวดกลายในยามที่ ท่านยังมีชีวิตอยู่ เพราะวันเวลามันผ่านมา ๒๐๐ กว่าปีแล้ว เลยท�ำให้คนรุ่นหลังได้เห็น และได้ยินแค่ประวัติศาสตร์ของทวดกลายตามค�ำบอกเล่าของผู้ที่เคยพบเห็นทวดกลาย ในยามที่ยังมีชีวิตอยู่ ดังค�ำสัมภาษณ์ของปรีชา ข�ำคม และหนูแนบ ข�ำคม ที่กล่าวว่า... ภาพที่ ๒ ป้ายอาณาเขตตั้งคลองกลาย อยู่หน้าศาลาทวดกลาย ภาพที่ ๑ ศาลาทวดกลาย
ประวัติทวดกลาย 29 “คุณลักษณะของทวดกลายนั้นทวดกลายเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ ผิว คล�้ำ กล้าหาญ ชาญชัย พูดจาตรงไปตรงมา มีความเมตตา และมีความ ยุติธรรมสูงมาก จึงเป็นที่เคารพของเพื่อนฝูง และคนในชุมชน” (ปรีชา ข�ำคม, สัมภาษณ์วันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๙) อีกทั้ง ใครได้รับความเดือด ร้อนอะไรทวดกลายก็จะช่วยทุกครั้งไม่เคยปฏิเสธชาวบ้านที่มาขอความ ช่วยเหลือ” หนูแนบ ข�ำคม, สัมภาษณ์วันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๙) ซึ่งความจริงแล้วทวดกลายนั้นเป็นคนรูปร่าง สูงใหญ่ ผิวคล�้ำ ใจดีน่าเกรงขาม ฟันแทงไม่เข้าพูดจาตรงไปตรงมา มีความเมตตา สุขุม และมีความยุติธรรมสูงมาก จึง เป็นที่รู้จักของชาวบ้าน และเป็นที่ยอมรับนับถือของทุกคนในชุมชน ๑.๓ บริวารของทวดกลาย ผลการศึกษาพบว่าทวดกลายนั้นจะมีบริวารรับใช้ ใกล้ชิด จ�ำนวน ๓ คนส่วนใหญ่จะมีบริวาร เป็นคนสนิทใกล้ชิดที่คอยช่วยกันท�ำหน้าที่ ต่างๆ ดังค�ำสัมภาษณ์ของเคลิ้น พันชนะ และปรีชา ข�ำคม ที่กล่าวว่า... “บริวารทวดกลายนั้นจะมีหลวงตารอง ตาพรานคง ตาจันทร์ ซึ่ง เป็นบริวารอยู่ใกล้ชิดรับใช้ทวดกลายมาตลอด “(เคลิ้น พันชนะ) สัมภาษณ์ ภาพที่ ๓ คุณลักษณะรูปร่างหน้าตา ของทวดกลาย ภาพที่ ๔ การเข้ามาบนบานของชาว บ้าน ทั้งในชุมชนและนอกชุมชน
30 ประวัติทวดกลาย วันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๙) ในขณะที่ “พ่อท ่านเจ้าเพชร ตาหวันตก พ่อท่านแสง คือ สามเกลอของทวดกลาย” ปรีชา ข�ำคม, สัมภาษณ์ วันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๙) ทั้งนี้บริวารของทวดกลายทุกองค์นั้นจะมารวมกันก็ต่อเมื่อวันท�ำบุญรอบปี และ วันท�ำพิธีเชื้อเชิญ หรือหาม้าทรงใหม ่ในปีนั้นๆ แต ่ถ้าหากว ่าทวดกลายไม ่สามารถมา ประทับม้าทรงได้ ก็จะให้หลวงตามาแทน ๑.๔ การอัญเชิญทวดกลายประทับทรง ผลการศึกษาพบว่าการอัญเชิญทวด กลายนั้นจะต้องใช้มโนราห์เชื้อเป็นหลัก เพราะมีเสียงกลอง และเสียงของมโนราห์เชื้อ ที่ต้องส่งเสียงดังเสมือนการเชื้อเชิญเพื่อท�ำพิธี ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการไหว้ครูหมอ หรือ ครูหนังตะลุงทั่วๆ ไป ในแถบภาคใต้ ดังค�ำสัมภาษณ์ของหนูแนบ ข�ำคม และ สุธรรม ข�ำคม ที่กล่าวว่า... “การอัญเชิญทวดกลายนั้นอุปกรณ์ต่างๆ ต้องครบ เช่น เครื่องนุ่งห่ม ดาบ บายศรี สิ่งเหล ่านี้เป็นสิ่งที่ขาดไม ่ได้ในการท�ำพิธี เพราะถ้าขาด สิ่งใดสิ่งหนึ่ง พิธีก็จะไม่เกิด การเรียกทวดกลายก็จะไม่มาตามค�ำเรียก” ภาพที่ ๕ ม้าทรงทวดกลายตะวันตก ภาพที่ ๖ ม้าทรงตะวันตก ภาพที่ ๗ ม้าทรงท่านเจ้าเพชร
ประวัติทวดกลาย 31 (หนูแนบ ข�ำคม สัมภาษณ์วันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๙) ทั้งนี้ “...จะยึดถือ มโนราห์เชื้อเป็นหลัก เสียงกลอง เสียงของมโนราห์เชื้อ ต้องส่งเสียงดัง ถือได้ว่าเป็นวันดีที่ลูกหลานจะได้พบประพูดคุยถามเรื่องราวต่างๆ ที่ทุกคน อยากจะถาม...” (สุธรรม ข�ำคม, สัมภาษณ์วันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๙) แต่ ในการอันเชิญทวดกลายประทับทรงนั้น ต้องมีบายศรี โรงเชื้อมโนรา ดาบ และเครื่องนุ่งห่ม สิ่งเหล่านี้จะขาดไม่ได้ในการอัญเชิญทวดกลายประทับ ทรง เพื่อเป็นการสักการะทวดกลาย และบริวารที่มาประทับทรง ๑.๕ กลอนเชื้อทวดกลาย ผลการศึกษาพบว ่ากลอนเชื้อทวดกลายนั้นจะมี อยู่แค่บทเดียวเท่านั้น แต่การออกเสียงที่ต่างกัน ดังค�ำสัมภาษณ์ของ เคลิ้น พันชนะ ซึ่งกล่าวกลอนเชื้อว่า... “ฤกษ์งามยามดี ปานนี้ ขอบยามเพราะเวลา ออกลูกจ�ำเพาะเจาะจงร้องเรียกท่านกลายตัวยง และตัวกล้าออนัดกันเอาไว้ไหนว่าไม่ได้ จะอยู่ช้า ออเรือตอชายคา ไหรเหลยเรียกนาน ภาพที่ ๘ บริวารทวดกลายเพื่อการอัญเชิญ ทวดกลายประทับทรง ภาพที่ ๙ ดาบของบริวารทวดกลาย ใช้ในการอัญเชิญ
32 ประวัติทวดกลาย แล้วขานยากเชิญพ่อมานั่ง ไม่ให้ร้อยชั่ง ต้องเปรี้ยวปากเหล้าขาวของหายาก หมากพลูลูกสูให้พ่อกิน หาเนียมใส่แผ่นดิน เท่านี้ พ่อร้อยชั่งเหอ ไม่คุณจาคุณ พ่อเหอไม่เคย ต้องจาเคย ออทีเดียวท่านกลายเหออย่าให้ผีร้ายนั้นดูถูก งานนี้เขากวดขันพ่ออย่าพลัดวันประกันโพลก อย่าให้ผีขี้ร้ายเข้ามาดูถูก เราลูกผู้ชายเหมือนกัน พ่ออย่าท�ำหล็อกเหล็ก เหมือนเด็ก ไม่รู้จักหวัน พ่อมาร่วมใส่หัวกันสนั่นทั้งโรงมโนราห์ มาเถิดพ่อ ท่านกลายมาเล่นบนบัน สาหลา” (เคลิ้น พันชนะ, สัมภาษณ์วันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๙) แต ่การร้องบทกลอนเชื้อของทวดกลายนั้นจะร้องแบบภาษาพูด ไม ่เหมือนกับ กลอนมโนราห์ที่จะออกเสียงเอื้อนมากกว่า และเสียงขึ้นจมูกในการเรียกเชื้อเชิญ และ ขับร้องกลอนบทนี้ก่อนที่มโนราห์เชื้อจะว่าบทกลอนดังกล่าวพร้อมกับลูกคู่ ๑.๖ มโนราห์เชื้อ ผลการศึกษาพบว ่ามโนราห์เชื้อจะมีในการที่จัดท�ำพิธีไหว้ ครูหมอ หรือเชื้อเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนต่างนับถือกันเป็นพิธีที่ส�ำคัญมากๆ เพื่อ ที่จะอัญเชิญสิ่งเล ่านั้นมาสถิตในพิธีที่ก�ำลังจัดขึ้น เพื่อถามทุกข์สุขของพี่น้องในชุมชน ดังค�ำสัมภาษณ์ของเคลิ้น พันชนะ และปรีชา ข�ำคม ที่กล่าวว่า... “มโนราห์เชื้อ เป็นผู้ที่คอยเรียกทวดกลายและบริวาร เวลาที่มีการ ท�ำบุญรอบปีและเวลามีงานเชื้อ ทวดกลาย การที่มีมโนราห์เชื้อจัดได้ว่า พิธีนี้ ถือเป็นพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นพิธีใหญ่ที่มีความส�ำคัญเป็นอย่างยิ่ง” (เคลิ้น พันชนะ, สัมภาษณ์วันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๙) ในขณะที่ “ผู้ที่
ประวัติทวดกลาย 33 คอยเรียกเชิญทวดกลายในวันที่เชื้อเชิญทวดกลาย... เพราะหากไม่เรียก ตามธรรมเนียมทวดกลายก็จะไม่มาประทับทรง” (ปรีชา ข�ำคม, สัมภาษณ์ วันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๙) ภาพที่ ๑๑ มโนราห์เชื้อก�ำลังว่าบทกลอนเชื้อ ภาพที่ ๑๐ การว่าบทกลอนเชื้อทวดกลาย ๒. การอนุรักษ์ลุ่มน�้ำคลองกลายอย่างยั่งยืน ๒.๑ การอนุรักษ์โดยตรง ๒.๑.๑ การน�ำทรัพยากรน�้ำกลับมาใช้ได้อีก ผลการศึกษาพบว ่า ทรัพยากรน�้ำเป็นสิ่งส�ำคัญของคนในชุมชนที่เราควร จะรักษาสภาพแวดล้อม และระบบนิเวศน์ของน�้ำ ควรช่วยกันเก็บขวดพลาสติกที่ลอย
34 ประวัติทวดกลาย มากับน�้ำออก โดยเฉพาะตอนที่น�้ำเค็มขึ้นมาแทนน�้ำจืดยิ่งต้องประหยัดใช้สอยกันอย่าง รอบคอบ เช่น การน�ำน�้ำที่ใช้แล้วรดน�้ำต้นไม้ หรือน�้ำที่เราซักผ้าด้วยผงซักฟอก สามารถ น�ำมารดผักสวนครัวได้ เพราะจะช่วยให้หนอนแมลงนั้นไม่กัดผักที่ปลูกไว้ และการปลูก ต้นไม้ เพื่อทดแทนทรัพยากรธรรมชาติที่เกิดความเสียหายให้มีเหมือนเดิม เช่น การปลูก ต้นไม้แทนต้นไม้ที่ถูกท�ำลายไป ๒.๑.๒ การบูรณะซ่อมแซม ผลการศึกษาพบว ่า ตลิ่งริมฝั ่งคลองกลายควรที่จะบูรณะซ ่อมแซมเป็น อย่างยิ่ง เพราะว่าตลิ่งเริ่มจะทรุดตัวลงมาแล้ว เนื่องจากการดูดทรายมีจ�ำนวนมากต่อวัน บวกกับจ�ำนวนบ่อทรายก็เยอะอยู่ เพราะบ่อทรายนั้นมีตั้งแต่ต้นน�้ำจนถึงปลายน�้ำ และ ควรที่จะสร้างฝายชะลอน�้ำเพิ่มขึ้น เพราะมีน�้ำทะเลมากกว่าน�้ำจืดแล้วในปัจจุบัน จึง ท�ำให้เกิดน�้ำกร่อยเราต้องรีบแก้ไขโดยด่วน ๒.๑.๓ การบ�ำบัด และฟื้นฟู ผลการศึกษาพบว่า การบ�ำบัดฟื้นฟูทางกายภาพบ�ำบัดน�้ำกร่อยให้กลับมา เหมือนเดิม เพราะน�้ำกร่อยนั้นไม่สามารถน�ำกลับมาใช้อะไรได้นอกจากให้สัตว์ดื่มกิน และ น�้ำทะเลหนุนสูงเข้ามาในลุ่มน�้ำคลองกลายเป็นบางส่วนแล้ว ควรจัดตั้งเครือข่ายองค์กร ชุมชนเพื่อช่วยเฝ้าระวังคุณภาพน�้ำในแม่น�้ำ คู คลอง ของชุมชนในพื้นที่ และช่วยกัน ดูแลอย่าให้ใครน�ำขยะมาทิ้งตามคูระบายน�้ำ และส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนองค์กร เอกชน มีความรู้ความเข้าใจความตระหนักต่อคุณค่า และความส�ำคัญของแม่น�้ำคูคลอง ๒.๑.๔ การใช้สิ่งทดแทน ผลการศึกษาพบว่าการปลูกป่าเสริมธรรมชาติเป็นการเพิ่มที่อยู่อาศัยแก่ สัตว์ป่า และเพิ่มจ�ำนวนของป่าไม้ที่ถูกท�ำลายไปนั้นกลับคืนมาสู่ดั้งเดิม และการปลูก หญ้าแฝกบริเวณตลิ่งลุ ่มน�้ำคลองกลาย การสงวนน�้ำไว้ใช้ในบางฤดู หรือสภาวะที่มี น�้ำมากเหลือใช้ควรมีการเก็บน�้ำไว้ใช้ เช่น การท�ำบ่อเก็บน�้ำ การสร้างโอ่งน�้ำ ขุดคลอง แหล่งน�้ำ รวมทั้งการสร้างอ่างเก็บน�้ำ และระบบชลประทาน ๒.๑.๕ การเฝ้าระวังดูแลป้องกัน
ประวัติทวดกลาย 35 ผลการศึกษาพบว ่า การสร้างชุมชนให้เข้มแข็งด้วยการร ่วมกันในการตั้ง กฎของชุมชน และให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมในทุกๆ เรื่อง ที่เกี่ยวข้องกับชุมชน โดยส่วนมาก คนในชุมชนจะช่วยดูแล และสอดส่องความเป็นอยู่ของชุมชน เพราะหากว่าเรามัวแต่รอ ระบบข้าราชการนั้นมาดูแลในส่วนของชุมชน ก็จะไม่มีอะไรที่ดีกับชุมชน เพราะเขาท�ำ อะไรไม่ค่อยฟังเหตุผลของประชาชน ภาพที่ ๑๒ ทรัพยากรลุ่มน�้ำคลองกลาย ภาพที่ ๑๓ ริมตลิ่งข้างศาลาทวดกลายที่พังและ ได้รับการซ่อมแซมแล้ว ๒.๒ การอนุรักษ์โดยทางอ้อม ๒.๒.๑ การพัฒนาคุณภาพประชาชน ผลการศึกษาพบว่า มีการส่งเสริมให้ประชาชนในท้องถิ่นได้มีส่วนร่วมใน การอนุรักษ์ช่วยกันรักษาให้คงสภาพเดิม เพื่อประโยชน์ในการด�ำรงชีวิตในท้องถิ่นของตน การประสานงานเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ และความตระหนักระหว ่างหน ่วยงาน ของรัฐ องค์กรปกครองส ่วนท้องถิ่นกับประชาชน ให้มีบทบาทหน้าที่ในการปกป้อง คุ้มครอง ฟื้นฟูการใช้ทรัพยากรอย ่างคุ้มค ่า และเกิดประโยชน์สูงสุด โดยสนับสนุน การศึกษาด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมที่ถูกต้องตามหลักวิชา ซึ่งสามารถท�ำได้ทุกระดับอายุ เพื่อให้ตระหนักถึงความส�ำคัญฯ และความจ�ำเป็นในการ อนุรักษ์เกิดความรักความหวงแหน และให้ความร่วมมือกันอย่างจริงจัง
36 ประวัติทวดกลาย ๒.๒.๒ การใช้มาตรการทางสังคม และกฎหมาย ผลการศึกษาพบว ่า หากกฎหมายนั้นเข้มแข็งต ่อพวกนายทุนนั้น คงจะ ไม่กล้าก็เพราะกฎหมายนั้นไม่เข้มแข็งพอ ที่จะปราบปรามพวกนายทุนที่ลักลอบในการ ท�ำธุรกิจที่ผิดกฎหมายต่อชุมชน พอมีเจ้าหน้าที่อ่อนข้อให้เลยเหิมเกริมไม่เกรงกลัวต่อ กฎหมายแต่กฎหมายนั้นกลับกลัวอิทธิพลของนายทุน และจะดีมากหากไม่มีส่วนได้ส่วน เสียกับพวกนายทุน ส ่วนมากระบบราชการเดี๋ยวนี้จะรับสินบน หรือนายทุนสอดเงิน ใต้โต๊ะเพื่อที่จะจ่ายเป็นค่าเปิดทางในการท�ำธุรกิจส่วนตัว ๒.๒.๓ ส่งเสริมให้ประชาชนในท้องถิ่นได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ผลการศึกษาพบว ่า ส ่งเสริมให้ชาวบ้านนั้นมีกระบวนการความผิด หรือที่เรียกว ่าติดอาวุธปัญญาให้แก ่ชุมชน เพราะบางทีข้าราชการส ่วนใหญ ่มัดคิดว ่า ชาวบ้านนั้นไม่มีความรู่ความเข้าใจในการท�ำงาน ในกระบวนการต่างที่ระบบราชการ ก�ำลังท�ำ เพราะฉะนั้นคนที่มีความรู้ความเข้าใจทางด้านนี้ก็จะไปให้ความรู้ให้ร่วมกันปลูก ต้นไม้ถางป่าข้างทาง เพราะจะท�ำให้ชุมชนของเรานั้นสะอาด และไม่เป็นอันตรายต่อผู้ที่ สัญจรไปมา เพราะว่าถนนบางสายนั้นเป็นสถานที่เปลี่ยวห่างจากบ้านคนไม่มีไฟฟ้าเข้าถึง เราจึงต้องช่วยกันเพื่อลด และป้องกันการเกิดอาชญากรรมในชุมชน ๒.๒.๔ ส่งเสริมการศึกษาวิจัยค้นหาวิธีการ และพัฒนาเทคโนโลยี ผลการศึกษาพบว่า ส่งเสริมให้นักศึกษาท�ำงานวิจัยของทวดกลาย และ ชุมชนจะได้เผยแพร่ประวัติทวดกลายไปทางด้านเทคโนโลยีต่างๆ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง กับทวดกลายนั้น ก็จะมีโดยการพิมพ์ประวัติของทวดกลายเป็นหนังสือเล ่มเล็กแจก ประชาชน ในวันที่มีการเชื้อเชิญทวดกลายประทับทรงของทุกปี และมุ ่งให้ผู้บริหาร ท�ำการวิจัยมาประกอบการตัดสินใจ รวมทั้งจัดท�ำนโยบาย และวางแผนบริหารจัดการ ระบบชุมชนสู่คุณภาพการจัดการศึกษา และเป็นแหล่งสร้างเสริมประสบการณ์การเรียนรู้ ของผู้เรียนอย่างมีคุณภาพ
ประวัติทวดกลาย 37 ภาพที่ ๑๙ หน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น และประชาชนร่วมกัน เฝ้าระวังพื้นที่รอบคลองกลาย ภาพที่ ๒๐ การให้ความรู้ วิถีชุมชน และประวัติศาสตร์ชุมชน เพื่อส่งเสริมการวิจัย ด้านอนุรักษ์แหล่งน�้ำ ภาพที่ ๑๘ คนในชุมชน ภาครัฐ และเอกชน ร่วมกันดูแล และจัดการขยะ รอบคลองกลาย
38 ประวัติทวดกลาย อภิปรายผล ๑. ความเป็นมา และความเชื่อเกี่ยวกับทวดกลาย กรณีศึกษาชุมชนบ้านสระแก้ว ต�ำบลสระแก้ว อ�ำเภอท ่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด ของอัครวุฒิ คุณารักษ์ (๒๕๕๔) ได้กล่าวว่า ตามประวัติซึ่งเล่าสืบทอดกันมาเกี่ยวกับ ท่านกลาย คือ มีข้อห้ามหลักๆ ของการใช้ล�ำน�้ำคลองกลายที่ชาวบ้านต่างทราบกัน คือ ห้ามซักมุ้ง ห้ามล้างเนื้อหมู และท�ำความสกปรกลงคลองกลายโดยเด็ดขาด ใครไม่ ท�ำตาม หรือลบหลู่ดูหมิ่นจะได้รับโทษต่างๆ นานา อีกทั้งยังสอดคล้องกับแนวคิดของ ณิชามาศ หนูเกาะทวด (๒๕๕๒) ได้กล่าวว่า หากขับรถผ่านไปทางสิชลก่อนข้ามสะพาน กลาย ทางด้านซ้ายมือ คงเห็นศาลทวดกลาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู ่บ้านคู ่มืองของพี่น้อง แถบนี้ มีความเชื่อที่ว่าคนสองฝั่งคลองไม่กล้าท�ำความสกปรกลงในคลองสายนี้ โดย เฉพาะที่เกี่ยวกับหมู เพราะเชื่อว ่าทวดกลายเป็นมุสลิม วันดีคืนดีที่ผ่านมาทวดกลาย จะปรากฏให้เห็นในรูปของจระเข้ หรืองูตัวใหญ่เพื่อดูแลลูกหลาน รวมทั้งสอดคล้องกับ แนวคิดของนันทยา จงใจเทศ และคณะ (๒๕๕๔) ได้กล่าวว่า ความสัมพันธ์ของคนใน ชุมชน และท้องถิ่น เพราะเกิดมาจากฐานรากของความศรัทธาในศาสนา และความกลัว ต่ออ�ำนาจบางอย่างที่มีพลังในการควบคุมมนุษย์ และธรรมชาติ ซึ่งดอกผลของความ เชื่อเหล ่านั้นได้ถูกแสดงออกผ ่านปฏิบัติการทางประเพณี และพิธีกรรมในสังคม โดย เพื่อผลิตซ�้ำความเชื่อที่สังคมนั้นๆ ยึดถือร่วมกัน ซึ่งความเชื่อเกี่ยวกับการปฏิบัติตนของ ทวดกลายจะเป็นตัวอย่างที่ดีในการด�ำรงชีวิตร่วมกับเพื่อนมนุษย์คนอื่นๆ อย่างมีน�้ำใจ ช่วยเหลือผู้อื่น และความเชื่อเกี่ยวกับทวดกลายก็เป็นสิ่งที่สนับสนุนให้คนในชุมชนได้ ท�ำความดี หรือเกรงกลัวต่อการกระท�ำที่ท�ำลายแหล่งน�้ำ หรือธรรมชาติ ๒. การอนุรักษ์ลุ่มน�้ำคลองกลาย กรณีศึกษา ชุมชนบ้านสระแก้ว ต�ำบลสระแก้ว อ�ำเภอท ่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของกลุ ่มสาระการ เรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (๒๕๖๐) ได้กล่าวว่า การอนุรักษ์ทรัพยากรน�้ำ ทั้งทางตรง และทางอ้อม ได้แก่ การใช้อย่างประหยัด การน�ำกลับมาใช้ซ�้ำอีก การบูรณะ ซ่อมแซม การบ�ำบัด และการฟื้นฟู การใช้สิ่งอื่นทดแทน การเฝ้าระวังดูแล และป้องกัน
ประวัติทวดกลาย 39 พร้อมกับการพัฒนาคุณภาพประชาชนที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ การใช้มาตรการ ทางสังคม และกฎหมายส ่งเสริมให้ประชาชนในท้องถิ่นได้มีส ่วนร ่วมในการอนุรักษ์ ช ่วยกันดูแลรักษาให้คงสภาพเดิม ไม ่ให้เกิดความเสื่อมโทรม อีกทั้งยังต้องส ่งเสริม การศึกษาวิจัย ค้นหาวิธีการ และพัฒนาเทคโนโลยีให้มีความทันสมัย และช่วยรักษา ทรัพยากรน�้ำ รวมทั้งสอดคล้องกับแนวคิดของแอนดริว แคมเบลล์ (Andrew Campbell, 149-151) ได้กล ่าวว ่า โลกก�ำลังประสบปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย ่าง ความเร็ว เพราะสภาพภูมิอากาศ การเติบโตชองประชากรมนุษย์ และการเปลี่ยนแปลง รูปแบบการบริโภค เช่น อาหาร น�้ำ และความมั่นคงทางพลังงาน โดยเฉพาะทรัพยากร น�้ำของโลกที่ใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ จึงต้องใช้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์ สูงสุดเพื่อชุมชน และสภาพแวดล้อม จากการศึกษา ท�ำให้ทราบว่าประวัติความเป็นมาของทวดกลาย เป็นต�ำนาน ของผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม บอกถึงความอ�ำนาจบารมี พูดจาตรงไปตรงมา สุขุม จิตใจดี และมีเมตตาต ่อผู้อื่น ท�ำให้คนในชุมชนของผู้ที่เคารพทวดกลายไม ่กระท�ำสิ่ง บางประการที่เป็นการลบหลู่ท่าน เช่น การห้ามน�ำเนื้อหมูไปบูชา ห้ามซักเสื้อผ้า หรือ ของใช้ในคลองกลาย หรือทิ้งสิ่งสกปรกในคลองกลาย เพราะถ้าฝ่าฝืนก็จะบทลงโทษ บางประการจากทวดกลาย ซึ่งเป็นการนับถือกันมาตั้งแต ่สมัยบรรพบุรุษมาจนถึงรุ ่น สู่รุ่นลูกหลาน แต่ความจริงแล้วผลจากความเชื่อของผู้คนที่เคารพทวดกลาย จะเป็น เครื่องมือส�ำคัญให้ผู้คนส่วนใหญ่บริเวณลุ่มน�้ำคลองกลาย มีกิจกรรมสาธารณประโยชน์ที่ เกี่ยวกับการอนุรักษ์แหล่งน�้ำร่วมกันอย่างสม�่ำเสมอ ข้อเสนอแนะ ๑. ข้อเสนอแนะต่อบุคคล ควรมีการจัดตั้งกลุ่มเพื่อการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมระบบนิเวศน์ชุมชน อย่างมีส่วน ร ่วม และสนับสนุนในการให้ความรู้แก ่ประชาชนในชุมชน พร้อมทั้งควรให้ความรู้ใน
40 ประวัติทวดกลาย ด้านประวัติทวดกลายแก่เยาวชนรุ่นใหม่ เพื่อปลูกฝังต�ำนายทวดกลายที่เล่าสืบต่อกันมา อย่างช้านาน ๒. ข้อเสนอแนะต่อชุมชนบ้านสระแก้ว ควรส ่งเสริมให้คนในชุมชนมีความรู้เรื่องการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และ ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นภายหลังส่งเสริมให้เยาวชนนั้นมีการอนุรักษ์ และห่วงแหน ทรัพยากรธรรมชาติที่ถิ่นฐานบ้านเกิด และส ่งเสริมให้ประชาชนนั้นรู้ในเรื่องของ กฎหมายสิ่งแวดล้อมที่มีต่อชุมชน ๓. ข้อเสนอแนะต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรมีประชาสัมพันธ์ และให้ความรู้แก่ประชาชน และเยาวชนให้ทั่วถึง พร้อม ทั้งมีการก�ำหนดนโยบายในการขุดบ่อทรายบริเวณที่ดินท�ำกินในชุมชน และมีมาตรการที่ เด็ดขาดต่อผู้กระท�ำผิดต่อกฎหมาย ๔. ข้อเสนอแนะในการศึกษาครั้งต่อไป ควรมีการศึกษาสภาพปัญหาสิ่งแวดล้อมชายฝั่งทะเลอย่างมีส่วนร่วม กรณีศึกษา ชุมชนบ้านสระแก้ว ต�ำบลสระแก้ว อ�ำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อให้ ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
ประวัติทวดกลาย 41 บุคลานุกรม เคลิ้น พันชนะ อยู่บ้านเลขที่ ๒๒/๒ หมู่ที่ ๘ ต�าบลท่าขึ้น อ�าเภอท่าศาลา จังหวัด นครศรีธรรมราช (สัมภาษณ์เมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๙) ปรีชา ข�ำคม อยู ่บ้านเลขที่ ๔๒/๓ หมู ่ที่ ๘ ต�าบลท ่าขึ้น อ�าเภอท ่าศาลา จังหวัด นครศรีธรรมราช (สัมภาษณ์เมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๙) สุธรรม ข�ำคม อยู่บ้านเลขที่ ๓๗ หมู่ที่ ๘ ต�ำบลท่าขึ้น อ�ำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรี- ธรรมราช (สัมภาษณ์เมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๙) หนูแนบ ข�ำคม อยู่บ้านเลขที่ ๓๒/๒ หมู่ที่ ๘ ต�าบลท่าขึ้น อ�าเภอท่าศาลา จังหวัด นครศรีธรรมราช (สัมภาษณ์เมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๙) เอกสารอ้างอิง กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ๒๕๖๐, การอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสืบค้นจาก(http://www.maccduca- tion.com/eknowlefge/2343104100/02htm(12 ธันวาคม 2560) ณิชามาศ หนูเกาะทวด ๒๕๕๒ ประวัติทวดกลาย นครศรีธรรมราชโรงพิมพ์เม็ดทราย ท่าวัง อัครวุฒิคุณารักษ์ ๒๕๕๔ ประวัติทวดกลาย นครศรีธรรมราช โรงพิมพ์เม็ดทราย ท่าวัง Andrew C2008Foode, cinflitinginsecurities (andthe rare winwins offered by soitstewardship) journal of sail snd water conservation vol 63, no.5 P.149-151
42 ประวัติทวดกลาย พิสูจน์ความจริงกับ บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ ทวดกลายบรรพชนบนความศรัทธา ออกอากาศทางช่อง 3 SD เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2559 โลกลี้ลับ เสียงแตรที่ดังไม่ว่างเว้นจากรถที่ขับผ่านสะพานข้ามคลองกลาย อ�ำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช แห ่งความรู้สึกเคารพและแรงศรัทธาที่มีต ่อทวดกลายหรือ โต๊ะกลาย รูปปั้นชายนั่งขัดสมาธิ มือสองข้างวางไว้บนเข่า ห่มสไบเฉียง และโพกหัว ด้วยผ้าสีขาวภายในศาลาเชิงสะพานฝั่งต�ำบลสระแก้ว จุดสถิตจิตวิญญาณบรรพชนที่ คนในพื้นที่เชื่อว่ามีฤทธิ์ดั่งเทวดาอารักษ์ ถ้าเดินทางผ่านตรงนี้แล้วไม่ได้แวะที่บอกกล่าวต่อท่าน เช่น หนังตะลุงเดินทาง ผ่านมาจะไปแสดงที่อื่น แล้วไม่ได้แวะบอกกล่าวก็จะเกิดอาการปวดท้อง เจ็บป่วยทาง สมอง จนต้องมาบอกกล่าวขอขมา แผ่นทองค�ำเปลวที่ถูกปิดจนเหลืองอร่ามไปทั่วรูปปั้น และประทัดที่ถูกน�ำมาแก้บน แทนค�ำบ ่งบอกถึงความศักดิ์สิทธิ์ หลังค�ำตั้งจิตอธิษฐานสัมฤทธิ์ผล โดยเฉพาะขอให้ หายเจ็บป่วย ขอสอบเข้าเรียน หรือท�ำงานได้ตามต้องการ ทวดกลายเป็นคนซื่อ พูดน้อย มีวาจาที่น ่าเชื่อถือ มีลักษณะที่ประนีประนอม คุณสมบัติทั้ง 3 ประการ ท�ำให้เป็นที่ยอมรับนับถือ เมื่อตายไปแล้ว ฝังตามประเพณี ไปแล้ว แต่ว่าความผูกพันของคนในท้องถิ่นยังมีต่อทวดกลาย ที่ได้แพร่กระจายในเรื่อง ความนับถือมากขึ้น คือบ่นได้ไหว้รับ ใครจะบ่นท่านก็ไปได้ที่หัวตะพานกลาย ความรู้ในไสยเวทย์ เคร่งครัดในวิชาอาคมและการปฏิบัติตัวตั้งแต่เมื่อครั้งยังมี ชีวิตอยู่ แม้นทวดกลายจะสิ้นลมหายใจไปกว่า 200 ปีแล้ว แต่ความเคารพนับถือหาได้ เลือนหายไปตามวันเวลา ทุกวันนี้เรื่องเล่าในอภินิหารเหนือธรรมชาติยังถ่ายทอดจาก
ประวัติทวดกลาย 43 รุ่นสู่รุ่น บ ่อยครั้งที่ไม ่สบายใจเวลาทุกข์ใจก็มาที่นี่ ส�ำเร็จหลายคนที่ผ ่านมาแก้บน หลายรอบ บ่นทุกเรื่องที่ร้อนใจ เรื่องเจ็บไข้ได้ป่วย ความเชื่อที่เล่าต่อกันมาและข้อมูลจากขุนพันธรักษ์ราชเดช หนึ่งในผู้มีอาคมแห่ง เมืองนคร ยืนยันกันว่าทวดกลาย เดิมชื่อ ต่วนกูกลาย เป็นบุตรของพระรามราชเดโช เจ้าเมืองนครศรีธรรมราช เชื้อสายมุสลิมจากไทรบุรี ในช่วงสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ก่อนที่จะถูกข้อหาให้ที่พักพิงแก่กบฏ ต้องท�ำศึกกับกรุงศรีอยุธยาอยู่หลายปีจนต้องหนี ออกไปตั้งรกรากที่อื่น เมื่อเจ้าเมืองนครทราบว่ายังมีชีวิตอยู่จึงสั่งคนเข้าปราบอีก 2 ครั้ง ก็ไม่ส�ำเร็จ เพราะทวดกลายเป็นคนมีวิชาอาคม แต่เมื่อคราวเคราะห์ดาบคู่ใจหลุดจากมือ เสียทีระหว่างรบ จนมีผู้พบศพลอยมาทางปากน�้ำกลายในสภาพไม่เน่าเปื่อย อัศจรรย์แห่งเรื่องเล่า ยิ่งตอกย�้ำความเลื่อมใสศรัทธาของผู้คน ความแตกต่าง ในศาสนาก็ไม่อาจบดบังแรงศรัทธา ความเชื่อในบารมีและคนมีอาคมจะปกปักรักษาน�ำสู่ การตั้งศาลเคารพบูชา ท่านเป็นนักรบที่ต่อสู้ มีวิชาอาคมมากมาย มีความเมตตาต่อชาวบ้านจนเป็นที่ เคารพของคนละแวกสายน�้ำนี้ สายน�้ำกลายตั้งแต่นบพิต�ำ กรุงชิง ออกมาทะเลที่นี้ พื้นที่ ตรงนี้มีการเคารพนับถือท่านกลาย สายน�้ำกลายที่สะอาด ยังรินไหลไม่ขาดสาย ดุจศรัทธาของคนสองฝั่งคลองมีต่อ ทวดกลาย ไม่มีผู้ใดกล้าฝ่าฝืนในข้อห้าม นั้นคือ ไม่ทิ้งสิ่งปฏิกูล ไม่น�ำมุ้งลงไปซัก และ ไม ่ช�ำระล้างเนื้อหมู หรือภาชนะที่เปื้อนเนื้อหมูลงสายน�้ำแห ่งนี้ เพราะถือว ่าเป็นการ ลบหลู่ดูหมิ่น หากใครท�ำผิดข้อห้ามแล้วจะเกิดโทษกับตัว ความเชื่อของคนของทวดกลายเป็นคนดูแลสายน�้ำแห่งนี้ ความศักดิ์สิทธิ์อันแรงกล้า บนรอยศรัทธาเหนือวันเวลา เรื่องเล่าที่ถูกถ่ายทอด จากรุ่นสู่รุ่นยังคงย�้ำชัดว่าทวดกลายคือสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของคนลุ่มน�้ำคลองกลาย รวม ถึงผู้คนที่แวะเวียนมาขอบารมีคุ้มครอง บ่นบานสารกล่าว ท่ามกลางความเชื่อว่าท่านยัง คงเฝ้ามอง ปกปักรักษาลูกหลานและถิ่นอาศัยเสมือนยังมีชีวิตอยู่
44 ประวัติทวดกลาย ประวัติทวดกลาย คลองกลาย ต�ำบลสระแก้ว อ�ำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช พ่อท่านกลาย เป็นอิสลามที่เคร่งครัดในทางศาสนาและเก่งกล้าในเรื่องไสยศาสตร์ มาก เมื่อตายไปแล้วก็เกิดศักดิ์สิทธิ์ขึ้น กลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนทั่วไปกราบไหว้บูชา อยู่เป็นประจ�ำ คนทุกข์ร้อนประการใดก็ไปบนบานศาลกล่าวขอความช่วยเหลือจากดวงวิญญาณ ท่านที่บ้านหรือที่ศาลเจ้าก็ได้ อ�ำนาจแห่งความศักดิ์สิทธิ์ก็จะดลบันดาลให้ประสบความ ส�ำเร็จ แต่ในท�ำนองเดียวกัน คลองกลายซึ่งเป็นล�ำน�้ำส�ำคัญต่อพ่อท่านกลายตอนที่ยัง มีชีวิตอยู่ ซึ่งท่านได้ยึดบริเวณสองฝั่งเป็นที่ตั้งถิ่นฐานอาศัยล�ำน�้ำในล�ำคลองกลายนี้เป็น เครื่องชุบเลี้ยงชีวิตให้มีความสดชื่นแก่พรรคพวกและบริวารของท่านนั้น มาถึงปัจจุบันนี้ไม่มีใครกล้าท�ำความสกปรกลงไป ถ้าฝ่าฝืนก็จะบังเกิดมีอาการ จุกเสียดทุรนทุรายต่าง ๆ นานา เกิดขึ้นแก่ผู้กระท�ำผิดนั้นทุกรายไป ฉะนั้นบุคคลทั่วไป
ประวัติทวดกลาย 45 จึงปฏิบัติ ยึดถืออย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะคนที่ตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณสองฝั่งคลองกลาย จะไม่ท�ำ ให้น�้ำในคลองกลายสกปรกเป็นอันขาด เช่น ไม่กล้าถ่ายอุจจาระลงไป ไม่น�ำมุ้ง ลงไปซักฟอก ไม่น�ำเนื้อสุกรลงไปล้าง ถ้าจะล้างก็ให้ตักน�้ำขึ้นมาล้างบนฝั่งได้ สิ่งเหล่านี้จึงกลายเป็นข้อห้ามที่ทุกคนยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดมาจนตราบเท่า ทุกวันนี้ ด้วยเกรงกลัวต ่ออ�ำนาจความศักดิ์สิทธิ์ของพ ่อท ่านกลาย เพราะถือว ่า “คลองกลาย” เป็นสายน�้ำที่พ ่อท ่านกลายเคยปกป้องรักษามาก ่อน เปรียบเสมือน พ่อท่านกลายเป็นเจ้าของล�ำคลองแห่งนี้ก็ว่าได้ การกระท�ำที่ฝ่าฝืนไม่ถูกต้องเกี่ยวกับน�้ำในคลองกลายนี้ มีตัวอย่างให้ปรากฏมาก ต่อมากแล้วไม่ใช่เป็นความงมงายของคนทั่วไปก็หาใช่ไม่ บุคคลที่ฝ่าฝืนน�ำมุ้งลงไปซักก็ เคยได้รับโทษมาแล้ว คนที่น�ำมุ้งลงไปซักเกิดมีอาการจุกเสียดทุรนทุราย พูดจาเพ้อคลั่ง สืบได้ความว่า ท�ำผิดข้อห้าม จึงต้องบวงสรวงขอขมาต่อพ่อท่านกลาย อาการผิดปกติ จึงหายไป ครั้งหนึ่งชาวอ�ำเภอปากพนัง ได้น�ำเรือไปซื้อสินค้าต่าง ๆ ในย่านคลองกลาย เพื่อน�ำไปจ�ำหน่ายที่อ�ำเภอปากพนังต่อไป ในพรรคพวกที่ไปด้วยกันนั้น มีอยู่คนหนึ่งที่ ไม่ทราบเหตุผลมาก่อน น�ำภาชนะที่ใส่เนื้อสุกรลงไปช�ำระล้างในคลองกลาย เพื่อเก็บไว้ ต่อไป เลยเกิดอาการผิดปกติบ้าคลั่งเหมือนคนวิกลจริต เป็นเรื่องแปลกประหลาด ของ พรรคพวกอย่างยิ่ง เพราะอยู่ ๆ ก็มีอาการเป็นไปช่วยกันพยาบาลหายามาให้รับประทาน หาหมอมารักษา อาการก็ยังเหมือนเดิม ต่อเมื่อสืบทราบจ�ำได้ความว่าน�ำภาชนะที่เปื้อน ด้วยเนื้อสุกรลงไปล้างในคลองกลาย ซึ่งถือว่าเป็นการท�ำความผิดอย่างร้ายแรง จึงได้จุด เทียนธูปขอขมาต่อพ่อท่านกลายที่ศักดิ์สิทธิ์ให้อภัยในการรู้เท่า ไม่ถึงการณ์ครั้งนี้ อาการ ดังกล่าวจึงหายไปในบัดดล นอกจากการท�ำสกปรกลงในน�้ำแล้ว ใครน�ำสัตว์จากที่อื่น เช่น วัว ควายจูงผ่าน ล�ำคลองก็ต้องจุดธูปเทียนบวงสรวงพ่อท่านเสียก่อน จึงจะน�ำสัตว์เดินผ่านไปได้ มิฉะนั้น วัวควายจะบังเกิดขาหักเดินต่อไปไม่ได้เลย จากความศักดิ์สิทธิ์อันแรงกล้านี้เอง มีบุคคลเกิดความศรัทธาสร้าง “หลา” (ศาลเจ้า)
46 ประวัติทวดกลาย ถวายซึ่งปรากฏอยู่ทั่วไปบริเวณริมฝั่งคลองกลายตั้งแต่ต้นน�้ำจนถึงปากน�้ำ แต่ศาลเจ้า ที่ใหญ่ที่สุดและอนุสาวรีย์บรรจุอยู่ด้วยนั้น ตั้งอยู่ที่ตลาดสระแก้ว หมู่ที่ 5 ต�ำบลสระแก้ว ใกล้หัวสะพานคลองกลาย แห่งหนึ่งอยู่ริมถนนสายนคร - สิชล และที่หมู่ที่ 3 ต�ำบลกลาย ใกล้ปากน�้ำอีกแห่งหนึ่ง เฉพาะที่สระแก้วนั้นเมื่อก่อนศาลเจ้าพ่อท่านกลาย ตั้งอยู่ที่ตลาด เก่า ๆ ริมคลองกลายใกล้เส้นทางเก่า ผู้ใดเดินตลาดเก่า ๆ ริมคลองกลายใกล้เส้นทางเก่า ผู้ใดเดินผ่านศาลเจ้านี้ต้องหยุดคารวะ หนังตะลุง โนราจะไปแสดงที่ไหนถ้าเดินมาถึงจะ ต้องหยุดบรรเลงถวายทุกครั้งไป ครั้งนี้ “หนังเที่ยว” หนังตะลุงชื่อดังของอ�ำเภอสิชล เดินมาแข่งขันที่อ�ำเภอท่าศาลา เมื่อประมาณ 20 ปีผ่านมาแล้ว เมื่อเดินทางผ่านศาลเจ้าพ่อท่านกลายไปเฉย ๆ ปรากฏ ว่าหนังเที่ยวประสบความปราชัยในการแข่งขันครั้งนี้ เกิดอาการปวดเศียรเวียนเกล้า แสดงไม่ได้เลย เลยต้องพ่ายแพ้ ตระกูล ณ นคร ซึ่งเป็นลูกหลานของเจ้าพระยานครมาก่อน ขี่ช้างผ่านหน้าศาล เจ้าพ่อท่านกลาย ซึ่งตั้งอยู่ที่ตลาดสระแก้วนั้น จะต้องลงจากกูบช้างแสดงความคารวะ เสียก่อนจึงเดินทางต่อไปได้ ความศักดิ์สิทธิ์ในด้านการสงเคราะห์บุคคลที่ตกทุกข์ได้ยากนั้น ถ้าใครเดือดร้อน หาที่พึ่งไม่ได้ก็ให้ไปบนบานศาลกล่าวขอความช่วยเหลือต่อพ่อท่านกลาย แล้วอ�ำนาจ ความศักดิ์สิทธิ์ก็บันดาลให้ได้ตามใจปรารถนา เช่น เกิดบาดเจ็บ ล้มหมอนนอนเสื่อถ้าได้ อธิษฐานต่อดวงวิญญาณของพ่อท่านกลายว่าให้หายก็จะหายได้ บุคคลซึ่งอาศัยอยู่ริมคลองกลายในต�ำบลกรุงชิง นบพิต�ำ สระแก้ว กลาย และ ต�ำบลใกล้เคียง ถือกันว ่าเป็นลูกหลานของพ ่อท ่านกลายที่สืบต ่อกันมา ท ่านให้ความ คุ้มครองป้องกันไม่ให้มีภัยอันตรายเกิดขึ้นเสมอดวงวิญญาณของท่านกลายก็ปรากฏ ในความฝันให้บุคคลปฏิบัติ แล้วบุคคลทั่วไปก็ถือปฏิบัติตามที่พ ่อท ่านกลายบอกให้ใน ความฝันนั้น ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวแล้ว จึงท�ำให้บุคคลทั่วไปไม่กล้าท�ำผิดข้อบังคับต่าง ๆแต ่กลับมีความเคารพบูชาต ่อท ่านในฐานะท ่านเป็นผู้สงเคราะห์แก ่คนทั่วไป มีความ
ประวัติทวดกลาย 47 เมตตากรุณาเกลียดชังแต่คนที่ประพฤติชั่ว ดลใจให้คนกลัวต ่อบาปจึงท�ำให้คนทั่วไป เคารพบูชา บางคนก็ตั้งจิตภาวนาอยู ่ที่ บ้านบางคนก็ไปนมัสการที่ศาลเจ้า ด้วย ความศักดิ์สิทธิอันแรงกล้าดังกล ่าวแล้ว จึงท�ำให้รูปปั้นซึ่งเป็นรูปจ�ำลองของท่านที่ ประดิษฐานอยู่ในศาลเจ้าที่ตลาดสระแก้ว เหลืองอร่ามไปด้วยแผ่นทอง มีบุคคลทั่วไป ไม ่เลือกเพศและวัย ไม ่เลือกชั้นวรรณะ และเชื้อชาติหรือตระกูล น�ำไปปิดให้เพื่อ เป็นการแก้บนที่ท ่านช ่วยให้ แต ่ละคน ประสบความส�ำเร็จความสมหวังดังที่ขอไป ทุกประการ รูปปั้นของพ่อท่านกลาย ไม่ใช่ปั้นมาจากตัวจริง เพราะท่านถึงแก่กรรมมา 200 กว่าปีมาแล้ว ไม่มีใครจ�ำได้ว่าท่านมีหน้าตาอย่างไร แต่ลูกหลานพ่อท่านกลาย อยาก ให้มีรูปจ�ำลองแทนไว้เพื่อสักการบูชาจึงตกลงปั้นรูปให้มีลักษณะหน้าตาคล้ายนายชื่น เงินสยาม หมู ่ที่ 4 ต�ำบลสระแก้ว ซึ่งเป็นคนเชื้อเชิญดวงวิญญาณในพิธีบวงสรวง พ่อท่านกลายมาเป็นเวลานานก่อนที่จะถึงแก่กรรม เมื่อ 25 ปีที่ผ่านมาแล้ว อาจารย์ฝาก ณ นคร อาจารย์ใหญ่โรงเรียนชุมชนวัดสระแก้ว (พ.ศ. 2515) อาจารย์วิมล ยุวัฒนะ อาจารย์โรงเรียนชุมชนวัดสระแก้ว อาจารย์อนันต์ รัตนวงศ์ อาจารย์โรงเรียนชุมชน วัดสระแก้ว นายโมรา บุญญปฎิภา นายสว ่าง ทินมณี เพื่อนสนิทอาจารย์ฝาก ณ นคร ได้ปรึกษาหารือ และตกลงให้นายต ่วน ช ่างปั้นพระพุทธรูปพระประธาน โบสถ์วัดสระแก้วก�ำลังปั้นพระพุทธรูปอยู ่พอดี เลยให้ปั้นรูปทวดกลายด้วยโดยให้ นายชื่นเงินสยาม ผู้เป็นร่างทรงนั่งให้เป็นตัวอย่างเวลานั้น นายต่วน แจ่มแสง ปั้นเมื่อ พ.ศ. 2515
48 ประวัติทวดกลาย ความเชื่อของคนทั่วไป คนทั่วไปโดยเฉพาะคนที่มีภูมิล�ำเนาอยู่ในต�ำบลกลายและสระแก้ว มีความเชื่อ พ่อท่านกลายมากที่สุดยึดถือเป็นเทวดาองค์หนึ่ง เชื่อว่าพ่อท่านกลายมีความรัก มีเมตตา กรุณา ยึดเป็นที่พึ่งได้เมื่อหากมีความเดือดร้อนเกิดขึ้น ตามที่บุคคลจ�ำนวนมากเคย ประสบผลส�ำเร็จมาแล้ว บุคคลทั่วไปมีความเชื่อว่า พ่อท่านกลายสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้หายได้ หาก ได้บนบานศาลกล ่าววิงวอนต ่ออ�ำนาจศักดิ์สิทธิ์นี้ แม้คนเจ็บป ่วยที่ได้รับการรักษาใน โรงพยาบาลมาแล้วไม่หายถ้าได้บนบานศาลกล่าวและใช้น�้ำมนต์ที่ศาลเจ้าของท่านมา ชโลมความไข้ก็จะหายได้ จึงท�ำให้บุคคลทั่วไปมีความเชื่อต่อพ่อท่านกลายจริง ๆ เชื่อใน ดวงวิญญาณ แม้ว่าท่านได้ถึงแก่กรรมไปนานแล้ว วิญญาณของท่านสามารถดลบันดาล ให้อะไรเป็นอะไรก็ได้ และสามารถรู้และบอกเหตุการณ์ล ่วงหน้าได้ ถ้าปรากฏว ่าคน “คนที่เชิญเจ้าเข้าทรง” เกิดฝันไป ว่าพ่อท่านกลายให้ทุกคนท�ำอะไรแล้วลูกหลานหรือ บุคคลทั่วไป โดยเฉพาะบริเวณสองฝั่งคลองกลาย ก็จะปฏิบัติทันทีทุกครั้งไปซึ่งปีหนึ่ง ๆ มีเหตุการณ์เหล ่านี้เกิดขึ้นหลายครั้ง เช ่น ผูกข้อมือเด็กด้วยด้ายสีแดง เพื่อป้องกัน
ประวัติทวดกลาย 49 ประวัติความเป็นมา อันตรายที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตเด็ก ให้จุด “ประทัด” ทุกครัวเรือน เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ และเป็นสิริมงคลแก่ทุกคนในครอบครัว ทุกครัวเรือนก็ปฏิบัติกัน เพราะความเชื่อต่อ สิ่งศักดิ์สิทธิ์นี้ แม้แต ่น�้ำในล�ำคลองกลายก็ไม ่มีใครกล้าท�ำความสกปรกลงไป เพราะ มีความเชื่อว ่า ถ้าขืนท�ำลงไปจะถูกสาปแช ่งจากพ ่อท ่านกลายให้บังเกิดเคราะห์กรรม ต่าง ๆ นานา น�้ำในล�ำคลองจึงใสสะอาดมาจนตราบเท่าทุกวันนี้ “พ่อท่านกลาย” มีเชื้อสายมาจากพระยาไทรบุรี กล่าวคือ ในครั้งแผ่นดินพระเจ้า ปราสาททอง แห ่งกรุงศรีอยุธยา เจ้าพระยาไทรบุรีได้น�ำ นายหวาน (ต ่วนกูหวาน) บุตรชายเข้าไปถวายให้เป็นมหาดเล็กของเจ้าฟ้านายรายณ์โอรสของพระเจ้าปราสาททอง เพื่อนมหาดเล็กด้วยกันมี นายทองค�ำ ลูกเจ้ากรมคชบาล นายเผื่อน ลูกเจ้าพระยา พิษณุโลก นายเหล็ก นายปาน ลูกเจ้าแม่วัดดุสิต นายน้อย ลูกเจ้าพระยาราชบังสัน นายสังข์ ลูกเจ้าพระยายมราชเจ้าเมืองนครราชสีมา ต ่อมาพระนารายณ์ได้เสวยราชย์แล้วโปรดเกล้าฯให้ พระยาโกษาธิบดีเหล็ก เป็นแม่ทัพยกไปตีกรุงอังวะของพม่า เพื่อเป็นการแก้แค้นที่พม่ายกกองทัพมาเหยียบย�่ำ แผ่นดินไทยตอนที่ติดตามครัวมอญ (ในเวลานั้นบรรดามหาดเล็กดังกล่าวมีบรรดาศักดิ์
50 ประวัติทวดกลาย กันแทบทุกคน เช่น “นายหวาน” เป็น “พระยารามเดโช” นายสังข์เป็นพระยายมราช และต ่างก็เป็นแม ่ทัพนายกองกันทั่วทุกคน) พระยาสีหราชเดโชเป็นทัพหน้า พระยา รามเดโชกับพระยาก�ำแพงเพชรคุมทัพอีกทัพหนึ่งไปทางล�ำพูน ล�ำปาง เชียงใหม่ เกณฑ์ เอาทหารทั้งสามเมืองนี้ไปด้วย ตีทัพพม ่า มอญ หัวเมืองรายทางไปตลอด แล้วไป บรรจบกับทัพพระยาโกษาเหล็ก ตีเมืองอังวะจนพม่าหนีเข้าอยู่ในเมืองไม่กล้าออกมาต่อสู้ การรบครั้งนี้กองทัพไทยได้เชลย ช้าง ม้า และศาสตราวุธเป็นอันมากแต่ขาดเสบียง อาหารจึงต้องยกทัพกลับ ในระหว่างเดินทางกลับนั้นเอง กองทับเชียงใหม่ ล�ำพูน ล�ำปาง ได้แยกหนีกลับไป โดยไม่ได้บอก เพราะเห็นว่าทหารไทยตีกรุงอังวะไม่แตกและหวังพึ่งพม่าต่อไป เมื่อทัพ เชียงใหม่กับหัวเมืองฝ่ายเหนือเอาใจออกห่างเช่นนั้น พระยารามเดโชหรือต่วนกูหวาน กับพระยาก�ำแพงเพชรก็ยกติดตามไปเพื่อจะเอาตัวแม ่ทัพมาลงโทษ แต ่ตามไม ่ทันทัพ เมืองเหนือยกเข้าเมืองเตรียมตัวต่อต้านอย่างเข้มแข็ง ทัพพระยารามเดโชได้ยิงธนูไฟ และปล่อยว่าวไฟเข้าไปเผาเมืองไหม้อยู่ทั่วไป แต่ก็ตีเชียงใหม่ไม่ได้ เนื่องจากทหารบอบช�้ำ มาจากการตีพม่า จึงกราบทูลให้สมเด็จพระนารายณ์ทรงทราบ สมเด็จพระนารายณ์จึง มีรับสั่งให้ยกทัพกลับ ครั้งต่อมา ทางนครศรีธรรมราชเกิดเหตุเรื่องศรีปราชญ์มหาดเล็กคนโปรดของ สมเด็จพระนายรายณ์ ถูกพระยานครสั่งให้ประหารชีวิต เมื่อตอนที่ถูกเนรเทศมาอยู่เมืองนี้ กรณีแต่งโคลงกลอนท�ำท่าเจ้าชู้กับภรรยาเจ้าเมือง เมื่อศรีปราชญ์มาอยู่เมืองนี้ กรณี แต่งโคลงกลอนท�ำท่าเจ้าชู้กับภรรยาเจ้าเมือง เมื่อสมเด็จพระนารายณ์ทราบข่าวมีความ เสียดายและพิโรธมาก ตรัสสั่งให้ประหารชีวิตเจ้าเมืองนคร ด้วยดาบเล่มที่ฆ่าศรีปราชญ์ ให้ตายตามไปด้วย เมืองนครศรีธรรมราชจึงว่างเจ้าเมืองอยู่ จึงทราบพระราชด�ำริว่า พระยารามเดโชผู้เป็นบุตรเจ้าพระยาไทรบุรี และเป็นข้าหลวงเดิมและเป็นพระสหายต้น เป็นผู้มีความชอบครั้งไปรบพม่า และติดตามกองทัพเชียงใหม่ ตีได้เชลย ช้างม้า และ ทรัพย์สินมากมาย ผีมือเข้มแข็งในการสงคราม มีความรู้เชี่ยวชาญในทางไสยศาสตร์ สงครามและพิชัยสงคราม การปกครองก็ดี ทั้งมีความจงรักภักดียอดเยี่ยม และใน