ประวัติทวดกลาย 51 คราวเดียวกันทางเมืองนครราชสีมา เจ้าพระยายมราชเจ้าเมืองเดิมถึงแก่อนิจกรรมลงก็ ยังว่างเจ้าเมืองอยู่ พระยายมราช (สังข์) ซึ่งเป็นบุตร ก็มีความชอบคู่กันมากับพระยา รามเดโช ทั้งเป็นพระสหายและเป็นญาติกัน มีความรู้ความสามารถทัดเทียมกัน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระยารามเดโชลงมาครองเมืองนครศรีธรรมราช พระยายมราช (สังข์) ขึ้นไปครองเมืองนครราชสีมา สมเด็จพระนารายณ์ครองราชย์อยู่ 32 ปี เสด็จสวรรคตเมื่อ พ.ศ. 2231 ที่พุทไธสวรรค์ เมืองลพบุรี เมื่อสมเด็จพระนารายณ์สวรรคตแล้ว พระเพทราชาก็ขึ้นครองราชย์สมบัติต ่อ มาหลวงสรศักดิ์(นายเดื่อ) เป็นอุปราช เมื่อพระเพทราชาขึ้นครองราชย์ใหม่ ๆ ให้ท้าย พระยาหัวเมืองทั้งหลายเข้าไปถวายบังคมถือน�้ำพิพัฒน์สัตยาโดยทั่วกัน แต่พระยายมราช สังข์กับพระยารามเดโชไม่ยอมเข้าไปโดยถือว่าพระเพทราชากับหลวงสรศักดิ์เป็นขบถ ไม ่สมควรที่จะเข้าไปถวายความเคารพ ต ่างก็แข็งเมืองไม ่ยอมขึ้นต ่อกรุงศรีอยุธยา ทั้งสองเมืองพร้อมกันนั้นก็เตรียมฝึกทแกล้วทหาร เตรียมอาวุธยุทโธปกรณ์และเสบียง อาหารไว้ต ่อสู้กับกองทัพกรุงศรีอยุธยา ต ่อไป พระเพทราชาตรัสสั่งให้พระยา สีหราชเดโชคนใหม ่เป็นแม ่ทัพ แล้วยก ไปตีเมืองนครราชสีมา กองทัพกรุงตี หั วเมือ ง ร ายท า งเ รื่อยไปจนถึ งเมือ ง นครราชสีมาแล้วล้อมเมืองไว้ พยายามตีเข้าปล้นเอาเมืองเกือบ ปีก็ไม ่สามารถเอาเมืองได้ จึงขอกองทัพ กรุงไปช ่วย พระเพทราชาทรงพิโรธ สั่ง ให้จับแม่ทัพนายกองประหารชีวิตเสียเป็น อันมาก ในฐานะที่ตีเอาเมืองนครราชสีมา ไม่ได้ แล้วเกณฑ์กองทัพขึ้นไปตีเป็นครั้งที่ 2 พระยายมราช(สังข์) ต ่อต้านกองทัพ
52 ประวัติทวดกลาย กรุงศรีอยุธยาอยู ่ถึง 2 ปี ชาวเมืองไม ่ได้ท�ำไร ่ไถนามานาน จึงขาดเสบียงอาหาร พระยายมราชด�ำริว ่า ถ้าขืนต ่อสู้ต ่อไปจะท�ำให้ไพร ่บ้านพลเมืองอดอยาก ล�ำบากยิ่ง ขึ้นจึงตัดสินใจทิ้งเมือง โดยตีแหกกองทัพกรุงน�ำครอบครัวสมัครพรรคพวกพร้อมด้วย ทหารคู ่ใจ ฝีมือดี และท้าวทรงกันดารซึ่งหนีจากกรุงไปอยู ่ด้วยแล้วก็รีบยกเดินทาง ทางบกล ่องสู ่ปักษ์ใต้ เข้าสมทบกับพระยารามเดโช เจ้าเมืองนครศรีธรรมราช โดย ตั้งซ ่องสุมรี้พลอยู ่ที่ท ่าข้ามปลายด ่านแดนนครศรีธรรมราชต ่อกับแดนไชยาสมัยนั้น (ปรากฏว ่าแถวอ�ำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานีเวลานี้ ยังมีร ่องรอยค ่ายคูบนควน ท่าข้ามอยู่ครบครัน) เจ้าเมืองไชยาแจ้งข ่าวราชการลับให้ทางกรุงทราบว ่า พระยารามเดโช เมืองนครเป็นขบถแข็งเมืองร ่วมกับพระยายมราชสังข์นครราชสีมา ก�ำลังเตรียมการ จะตีเอาหัวเมืองต ่าง ๆ แล้วจะยกเข้าไปตีกรุงศรีอยุธยาเป็นเมืองขึ้นต ่อไป เมื่อ พระเพทราชาทรงทราบก็พิโรธอย ่างยิ่ง ตรัสว ่า “จะจับสองคนนี้แล้วสับให้ละเอียด ไม่ให้แค้นคออีแร้ง อีกา” จึงสั่งให้สมุหกลาโหม เตรียมทัพช้าง ม้า พลรบครบทั้งทางบก และทางเรือ ก�ำหนดให้พระยาสุรสงครามเป็นแม ่ทัพหลวง พระยาสุรเสนาเป็นทัพ ยกกระบัตร พระยาเพชรบุรีเป็นทัพเกียกกาย พระยารามบุรีเป็นทัพหลัง ยกลงมา ทางบก ให้พระยาราชบังสันยกลงมาทางเรือ และให้ทัพทั้งสองมาบรรจบกันที่ไชยา เมื่อทัพมาถึงไชยา พระยายมราชสังข์ตั้งรับอยู่เป็นเวลากลางคืน ได้ปะทะกันเป็น การใหญ่ พระยายมราชสังข์สู้อย่างไว้ลายชายชาติทหาร แต่เนื่องจากพลรบน้อยกว่า ทหารเจ็บป่วยล้มตายเหลือน้อยเต็มที พระยายมราชสังข์กับทหารคู่ใจ 7-9 คนยืนหยัด ต่อสู้ด้วยดาบคู่จนขาดใจตายในที่รบ เป็นอันว่าด่านส�ำคัญแตกแล้ว กองทัพกรุงก็เดินทางสู่เมืองนครศรีธรรมราช ทาง เมืองนครก็เตรียมตัวต่อสู้กันอย่างเต็มที่ก่อนแล้วทั้งทางบกและทางทะเล เมื่อกองทัพ พระยาราชบังสันยกมาถึงก็สู้รบกันสุดความสามารถ แต่กองทัพกรุงก็ไม่สามารถท�ำอะไร แก่พวกนครศรีธรรมราชได้ ต่อเมื่อทัพบกมาถึงแล้ว ได้ตีโอบล้อมเมืองนครศรีธรรมราช ไว้รอบด้านทางเมืองนครก็ตั้งรับอย่างเต็มที่เช่นกัน
ประวัติทวดกลาย 53 เมื่อกองทัพกรุงล้อมนครศรีธรรมราชไว้ได้แล้ว พระยารามเดโชเจ้าเมืองนคร หาได้ต่อสู้อยู่แต่ภายในก�ำแพงเท่านั้น ยังได้แต่งทัพออกไปตีกรุงรบกันทุกวัน แล้วยัง ได้นัดหมายกับทหารฝีมือดีออกต่อสู้กับกรุงตัวต่อตัว ด้วยวิชาเพลงดาบคู่ดาบเดี่ยว ดาบดั้ง และดาบโล่มิได้ขาด คืนหนึ่งเห็นกองทัพกรุงเงียบก็คิดเข้าปล้นค่าย จึงจัดทหารฝีมือดี สามพันคน ยกเข้าปล้นค่ายทัพกรุง ได้รบกันเป็นความสามารถ กองทัพกรุงมีพลมากกว่า ไม่สามารถตีให้แตกได้ ก็ยกกลับเข้าเมืองการรบด�ำเนินอยู่ 3 ปี ทางเมืองนครไม่ได้ ท�ำไร่ไถนามานาน เจ้าเมืองคิดว่าถ้าให้กองทัพกรุงปิดล้อมอยู่อย่างนี้พวกไพร่พลคงจะ อดตายแน่ เพราะเสียเปรียบเข้า ถ้าจะแหกวงล้อมออกไปตั้งนอกเมืองคงจะดีกว่า พระยารามเดโชเจ้าเมืองนครจึงปรึกษาแก่แม่ทัพนายกองพร้อมกับบุตรทั้งสามคน คือ ต่วนกูหนาด (พี่ใหญ่) เจ้านายนอกหน้า(หญิง) และต่วนกูกลาย (พ่อท่านกลาย) บุตรคนน้องสุดของเจ้าพระยานคร* เฉพาะต ่านกูกลายเป็นยอดทหารเอกของ เมืองนครในสมัยนั้น มีความสามารถในการยุทธ อาวุธที่ถนัดที่สุด คือ ดาบ (ซึ่งใช้เป็น อุปกรณ์ส�ำคัญในพิธีเชิญเจ้าเข้าทรงในการเชื้อเชิญดวงวิญญาณของท ่านในปัจจุบันนี้ ด้วย) เมื่อเจ้าพระยานครปรึกษาแม่ทัพนายกองต่าง ๆ พร้อมด้วยต่วนกูทั้ง 3 ก็ลงความ เห็นด้วยพวกที่จะหนีได้แก่ ตัวเจ้าพระยานครกับทหารฝีมือดี 50 คน ต่วนกู 3 พี่น้องกับ พวกก็แต่งตัวประดับด้วยเครื่องรางของขลัง โพกผ้าประเจียด มือถือดาบได้ฤกษ์งาม ยามดีก็ตีหักค่านทหารกรุงออกพร้อมกัน ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 พวก พวกของเจ้าพระยา ออกทางตะวันออก ต ่วนกู 3 พี่น้องออกทางตะวันตก กองทัพกรุงสยามสกัดกั้น ฟันแทงแย้งยุทธสักเท่าไรก็ไม่สามารถต้านทานและปิดล้อมไว้ได้ ท�ำให้คนเก่งของเมือง *จากการสัมภาษณ์ พ.ตต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช โดย อ.อนันต์ รัตนวงศ์ อ.พีรพงศ์ นงค์นวล ผู้จัดท�ำภาคนิพนธ์ส่งอาจารย์ภาษาไทย 103 ตอนเรียนปริญญาตรี ณ วิทยาลัยครูนครศรีธรรมราช ท่านได้เล่าว่า สมัยนั้นพระยารามราชเดโชมีโอรสธิดา 3 คน คือ 1. ทวดหน้าศพ 2.ทวดกลาย 3.เจ้านายนอกหน้า และเอกสารเล่มนี้ อ.พีรพงศ์ นงค์นวล ได้รับหนังสือชมเชยพร้อมเช็คเงินสด 2,600 บาท จาก อบจ.นคร ด้วย
54 ประวัติทวดกลาย นครศรีธรรมราชหักผ่านมาได้อย่างปลอดภัย เจ้าพระยานครกับพวกมุ่งสู่ทะเล ได้เรือรบ ของพระยาราชบังสรรค์ล�ำหนึ่งชักใบออกสู่ทะเล หนีไปได้โดยปลอดภัย ต่วนกูหนาด น้องหญิง และต่วนกูกลาย หักออกทางด้านตะวันตก พร้อมด้วย ครอบครัวมากมายสู ่ป ่าหาที่พึ่งต ่อไป หลังจากนั้นกองทัพกรุงก็เข้าจัดการปกครอง เมืองนครต่อไป ต ่วนกูทั้ง 3 พร้อมด้วยครอบครัวอิสลามยกไปสู ่บ้านวังเลา (ต�ำบลกะหรอ กิ่งอ�ำเภอนบพิต�ำ ปัจจุบัน) อยู ่พักหนึ่ง แล้วถอยร ่นออกมาหาล�ำน�้ำใหญ ่ คือคลอง ชุมขลิง (ในเขตต�ำบลหัวตะพาน อ�ำเภอท่าศาลา ปัจจุบัน) เพราะพื้นที่ดี เมื่อบ้านเมือง สงบก็ย้ายออกทุ่ง มาอยู่ที่บ้านจันพอ (ต�ำบลดอนตะโก อ�ำเภอท่าศาลาปัจจุบัน) แล้วก็สร้างบ้านเมืองเป็นหลักฐานมั่นคงอยู่เป็นปกติมาหลายปี แต่ที่บ้านจันพอใน สมัยนั้นขาดแคลนน�้ำใช้ในการท�ำนา ช้าง ม้า วัว ควาย ต้องน�ำไปใช้น�้ำที่คลองปากหราม ตรงข้ามนบไทร บ้านแตะ (อ�ำเภอพรหมคีรี - ปัจจุบัน) ตลอดมา ซึ่งที่นบไทรนี้มีบุคคล ส�ำคัญอยู่คนหนึ่งเป็นหัวหน้า เป็นเศรษฐีมีข้าทาสมาก คนทั้งหลายเรียกว่า “เศรษฐี นบไทร” อยู ่มาวันหนึ่งบ ่าวทาสของต ่วนกูทั้ง 3 เกิดมีปากเสียงทะเลาะกันขึ้นกับ ข้าทาสของเศรษฐีนบไทร เรื่องน�้ำใช้ที่คลองปากหราม เศรษฐีนบไทรว่ากล่าวเสียดสี ต่วนกูทั้ง 3 ว่า “เป็นถึงหัวหน้าจะหาน�้ำให้ลูกน้องใช้ก็ไม่ได้ จนจะตาย” ต่วนกูทั้ง 3 เมื่อรู้เรื่องก็โกรธ จึงกะเกณฑ์พรรคให้ขุดคลองต่อจากคลองในเขียวถึงจันพอ แล้วไป เชื่อมต ่อกับล�ำน�้ำที่ปากพยิง จึงมีน�้ำใช้ตั้งแต ่นั้นมาเนื่องจากความสมบูรณ์ของพวก จันพอจึงท�ำให้เศรษฐีนบไทรเกิดการอิจฉาต่วนกู 3 พี่น้องขึ้น จึงร้องเรียนให้เจ้าเมือง นครคนใหม่ให้ทราบว่า “ต่วนกูทั้ง 3 พี่น้องคิดขบถ ซ่องสุมผู้คนไว้มากเพื่อต้องการเข้า ยึดเมืองนครต่อไป ให้ทางบ้านเมืองเกณฑ์ทหารไปปราบเสียแต่เนิ่น ๆ” เจ้าเมืองนครจึง เกณฑ์รี้พลออกไปปราบ พวกจันพอมีพรรคพวกน้อยกว่าแต่สู้เต็มที่ ในที่สุดต่วนกู้นาด ตายในที่รบ น้องหญิงคือคือเจ้านายนอกหน้ากับต่วนกูกลาย เห็นสู้ไม่ได้จึงพาพรรคพวก หนีเข้าป่าเขาล�ำเนาไพรมุ่งสู่กรุงชิง กรุงนาง บ้านนบ บ้านเปียน ซึ่งเป็นชัยภูมิที่เหมาะ อยู่ทางทิศตะวันตก (ในเขตกิ่งอ�ำเภอนบพิต�ำ - ปัจจุบัน และเป็นถิ่นก�ำเนิดของคลองกลาย)
ประวัติทวดกลาย 55 (กรุงชิงเป็นแหล ่งที่เหมาะสมที่สุด อยู ่บนภูเขาสูงมีที่ราบหลายหมื่นไร ่ ภูเขา ล้อมรอบมีล�ำธารไหลผ่าน ผัก ผลไม้ ปลา อุดมสมบูรณ์ เป็นป่าที่ขึ้นชื่อของเมืองนคร มีไม้ที่มีค่า ตะเคียน หลุมพอ จ�ำปา ฯลฯ ล้วนแต่ต้นใหญ่ ๆ และเป็นที่อาศัยของ สัตว์นานาชนิด ผู้ที่ขึ้นไปเคยพบกระเบื้องถ้วยชามโบราณซึ่งมีอายุมากมาย เคยพบ กูบช้างกลายเป็นหินไปแล้วก็มี สันนิฐานว่า เป็นเมืองส�ำคัญมาแต่โบราณ) ต่วนกูกลายและเจ้านายนอกหน้าพร้อมกับพรรคพวกเมื่อหลบหนีขึ้นไปอยู่ตอนบน ของคลองกลายนานพอสมควร เห็นว่าทางบ้านเมืองติดตามไปรบกวนอีก ประจวบกับ การท�ำมาหากินล�ำบากก็ถอนร่นลงมาอยู่ทางตอนล่างริมฝั่งคลองกลายแถวบ้านสระแก้ว ตลอดไปจดปากน�้ำกลาย เป็นแห่งสุดท้าย จึงท�ำให้ครอบครัวอิสลามอาศัยอยู่ริมทะเล แถวปากน�้ำกลายสืบมาจนถึงปัจจุบันนี้ เมื่อต่วนกูกลายมาอยู่แถบนี้ ก็ตั้งหน้าท�ำมาหากินไป เนื่องจากต่วนกูกลายเป็น ผู้มีวิชาความรู้ มีความสามารถมีเวทมนต์คาถาแก่กล้าในวิชาไสยศาสตร์อยู่ยงคงกระพัน แต ่มีใจเมตตา กรุณาต ่อคนทั้งหลาย จึงท�ำให้เป็นที่เคารพนับถือย�ำเกรงต ่อคนทั่วไป
56 ประวัติทวดกลาย เป็นเหตุให้ต ่วนกูกลายมีสมัครพรรคพวกเพิ่มมากขึ้นอีก กลายเป็นผู้มีอิทธิพลครอง คนทั่วไปทั้งสองฝั ่งคลองกลาย ตั้งแต ่ตอนบนไปจดทะเล ข ่าวนี้รู้ไปถึงเจ้าเมืองนคร อีกครั้งหนึ่งจึงจัดทหารฝีมือดี 1 กองพันไปปราบ สั่งให้จับต ่วนกูกลายให้ได้ เมื่อ ทหารยกไปถึงก็เกิดการต่อสู้กันขึ้น ทหารล้อมพรรคพวกของต่วนกูกลายไว้ได้ ต่วนกูกลายโพกศีรษะด้วยผ้าประเจียดพร้อมด้วยของขลัง มือถือดาบทั้งสองข้างออก ต ่อสู้กับทหารของเมืองนครอย ่างไม ่หวาดหวั่นเกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น สองมือถือดาบ กวัดแกว่งอย่างทะนงไม่กลัวความตาย แต่เนื่องจากพรรคพวกมีน้อยกว่า บางพวกก็ วิ่งหนี บางพวกก็ตั้งหน้าสู้ แต่น�้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ ทหารจึงจับได้ตัวเจ้านายนอกหน้า กับพวกที่หนีไม ่ทัน ลูกหลานกับข้าทาสหนีไปได้มากกว ่าที่ถูกจับ พวกที่ถูกจับได้ ถูกน�ำตัวส ่งเจ้าเมืองนคร เจ้านายนอกหน้าเจ้าเมืองนครรับเลี้ยงดูเป็นภรรยาต ่อไป เนื่องจากเป็นสตรีที่มีคุณสมบัติ หลายประการ เช ่น รูปสวย รวยท รัพย ์ กิ ริย าม า รย าทดี ตระกูลดี เจ้าเมืองรักใคร่หลงใหล มากและเมื่อเจ้านายนอกหน้า ท้องแก่ถึงก�ำหนดคลอด ก็อนุญาต ให้ไปคลอดที่บ้านจันพอ ซึ่งเป็น ที่ตั้งถิ่นฐานเดิมของท ่านมาก ่อน เมื่อถึงเวลาคลอดแต ่คลอดไม ่ ออกเลยเสียชีวิตทั้งแม ่และลูก พวกลูกหลานได้เชิญศพไปฝัง ไว้กับศพของต ่วนกูนาดซึ่งเป็น พี่ชาย ส ่วนต ่วนกูกลายได้ต ่อสู้ อยู ่จนค�่ำ ทหารก็ยังหาจับตัว ไปถวายเจ้าเมืองนครไม ่ได้ แต ่
ประวัติทวดกลาย 57 ถึงคราวเคราะห์ดาบหลุดกระเด็นจากมือทั้งสอง เนื่องจากต้องต่อสู้กันมานานและฝ่าย ตรงกันข้ามมีมากกว่าปัดป้องฟันแทงจนดาบกระเด็นจึงออกวิ่งหนีเอาตัวรอด หนีไปเรื่อย ๆ สูญหายไปหนึ่งสัปดาห์ไม่มีใครพบเห็น จนในที่สุดมีชาวมุสลิมคนหนึ่ง คนทั่วไปเรียกว่า “หว ่าหลี” ได้พบศพของต ่วนกูกลายลอยน�้ำเข้ามาทางปากน�้ำกลาย และศพนั้น ไม ่เน ่าไม ่เปื ่อยและไม ่เหม็น รูปร ่างยังคงสภาพเดิม พวกลูกหลานจึงได้น�ำศพไปฝัง ไว้ที่ริมคลองกลายใกล้ ๆ กับปากน�้ำกลาย (ทางฝั่งซ้ายของคลองกลาย ในเขต หมู่ที่ 1 ต�ำบลกลาย อ�ำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช สถานที่ฝังศพถูกกระแสน�้ำ กัดเซาะพังทลายไป เมื่อ 200 กว่าปีมานี้เอง) บริวารของพ่อท่านกลาย ในตอนที่พ ่อท ่านกลายยังมีชีวิตอยู ่ที่บ้านสระแก้ว โดยมีคลองกลายเป็นหลัก กั้นนอกจากญาติพี่น้องข้าทาสบริวารแล้ว พ ่อท ่านกลายยังมีภรรยาอีก 2 คน คือ คนแรกชื่อ มณฑา คนที่สองชื่อ ยา ทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน มีความหึงหวงพ่อท่านกลาย
58 ประวัติทวดกลาย เป็นอย่างมาก นอกจากเมียทั้งสองแล้ว พ่อท่านกลายยังมีเพื่อนฝูงที่ศักดิ์สิทธิ์อีกหลายคน ซึ่งต่างก็เป็นมุสลิมด้วยกัน ได้แก่ ท่านแสง ท่านกรอบเหล็ก ท่านโคกแข ท่านทรายทอง บุคคลเหล ่านี้ล้วนเป็นทหารคนส�ำคัญของพ ่อท ่านกลายทุกคน ยังมีบุคคลที่รักกันมาก อยู่อีกคนหนึ่ง พึ่งพาอาศัยกัน โดยตกลงยินยอมเป็นเกลอกัน บุคคลท่านนั้นคือ ท่านตก มีเวทมนต์คาถา มีความสามารถในวิชาไสยศาสตร์เป็นเยี่ยมเหมือนกัน นอกจากนี้ยังมีอีกท่านหนึ่ง ซึ่งคนทั่วไปรู้จักดีคือ ตาหลวงรอง เป็นคนใกล้ชิด ของพ่อท่านกลาย เป็นคนรับใช้ภายในบ้าน เมื่อพ่อท่านกลายมีธุระหรือต้องการอะไร ก็เรียกใช้บุคคลคนนี้เสมอ (ดังนั้นเวลาเชิญเจ้าเข้าทรง ถ้าดวงวิญญาณพ่อท่านกลาย ไม่ได้มาปรากฏ ก็จะเรียกท่านหลวงรองมาไต่ถามดูก่อนเสมอ) ในบรรดาบริวารทั้งหมด ของพ ่อท ่านกลายนี้ ต ่างก็เป็นคนมุสลิมด้วยกันทั้งนั้น แต ่ใช้ค�ำน�ำหน้าว ่า “ท ่าน” ตามความนิยมของคนไทยทั่วไป
ประวัติทวดกลาย 59 ภาคผนวก
60 ประวัติทวดกลาย ขั้นตอนการเชื้อเจ้าเข้าทรงทวดกลาย ในภาพท�ำโรงมโนราห์ส�ำหรับให้ทวดกลายและม้าทรงนั่ง เขาเรียกว่า “แซง” เป็นภาษาท้องถิ่นภาคใต้ ใช้มุงหลังคาโรงมโนราห์ในการเชื้อเจ้าเข้าทรง
ประวัติทวดกลาย 61 ม้าทรงทวดกลาย
62 ประวัติทวดกลาย ม้าทรงท่านเจ้าเพชร ร่างทรงท่านกรอบเพชร และ ท่านตก ม้าทรงตาหลวงรอง
ประวัติทวดกลาย 63 ม้าทรงแม่มณฑา ช่วยเหลือพิธีเชิญเจ้าเข้าทรง ม้าทรงแม่นางญา
64 ประวัติทวดกลาย โรงมโนราห์ในการเชื้อเจ้าเข้าทรงทวดกลาย
ประวัติทวดกลาย 65 อัญเชิญทวดกลายประทับทรง ยกมือประนม จะกล่าวเชยชมพ่อท่านกลาย ยกมือขึ้นไหว้ ร้องเรียกท่านกลายไม่หอนช้า วันนี้วันดี ถึงวันชันชีเข้าแล้วหนา ท่านกลายอยู่ไหน ให้ไหลให้เทเข้ามา เชิญลงพ่อลง อย่าให้คนทรงมานั่งถ้า ม้าทรงตัวนี้ เชลยเคยเขแต่ก่อนมา แต่งไว้รอรับ ส�ำหรับพระเทวดา แลโน้...แลโหน ท่านกลายรูปโอแกร่อนมา เด็กเอ๋ยเด็กเหย สูอย่าไปน�้ำไปท่า ท่านกลายแกร่อนมา ชักให้มืดฟ้ามัวฝน แกร่อนมาทางบน เผยปากตูยนต์เอาไว้ถ้า ท่านกลายแกมาแล้ว มาอยู่แคล้วแคล้วจะเห็นหน้า มานั่งตรงไหน ให้ยิ้มละไมเข้ามา จับเข้าคริ่วคริ่ว จับเข้าหว่างคิ้วหว่างตา จับเข้าบ่าซ้าย แล้วย้ายไปลงบ่าขวา จับให้ชับชับ จับเข้าหวั้นตับหวั้นใจ จับเข้าหัวไหล่ ลืมไปบ้านเมืองพารา ใครสั่งใครเสีย หรือว่าลูกเมียไม่ให้มา ใครสั่งใครสอน ให้ร่อนให้เร่อยู่เวหา อยู่ใกล้แค่นี้ ท�ำไมเรียกนานขานช้า
66 ประวัติทวดกลาย ถ้าท่านไม่มาก็แล้วไป หนมโคลูกใหญ่ซัดให้หมา ไม้ค้อนตีสิว ลิวหัวท่านกลายเข้าแลต้า เหน็ดเหลยเหน็ด เอาขี้ชันเพชรเช็ดหว่างขา คลองกลายเจ้าข้า มีแต่หว้ากาจับ พ่อทองงามสรรพ จับควายมาเลื้อยเชียกไว้ จับให้ดีดี อย่าให้คนตามนี้เขาว่าได้ จับควายมาเลื้อยเชียกไว้ จับให้อย่าวางเชียกเหอ จับให้แขงแขง ขาดเรี่ยวขาดแรงเท่าไหรหนา ท�ำอยู่แหย็กแหย็ก เหมือนเด็กไม่รู้ภาษา ท�ำอยู่หยกหยก เหมือนหนึ่งคางคกผึ้งก่า ลูกร้องเรียกหา อย่าท�ำให้ม้ามันเสียเช่น ลูกยาเหมือนรวงข้าว พ่อเจ้าเหมือนนกกระจอกเต้น นานนานละเว้น มาเล่นในโรงโนราห์ ถ้าท่านกลายไม่มา ลูกน้อยจะเห็นหน้าใคร หรือว่าคนทรงไม่ชอบเนื้อ หรือผู้เชื้อไม่ชอบใจ ถ้าชอบพอตรงไหน ให้จ�ำเพาะเจาะจงลงมา จะมาทางใต้หรือทางเหนือ หัวเรือมาจอดอยู่หน้าท่า ท่านกลายพ่อทองงามครบ หรือว่าเสือขบเสียแล้วหนา หรือว่าท่านกลายแกตายโหง ไม่หานเข้าโรงมโนราห์ ผิดไปแล้วลูกขอโทษ ถ้าโกรธแล้วลูกขอขมา พ่ออย่าได้ถูกได้ถือ ลูกประนมมือวันทา ยกโทษให้ข้า ขออย่าได้มีโพยภัย ผิดพลาดบางส่วน พ่อไม่ควรเอาใจใส่ ถ้าพ่อไม่มาในคืนนี้ สิบปีก็ไม่ต้องบูชา เรียบเรียงโดย นายจัด เงินสยาม
ประวัติทวดกลาย 67 ฤกษ์งามยามดี ปานนี้ ชอบยาม พระเวลา ออกลูกจ�ำเพาะเจาะจง ร้องเรียก ท่านกลายตัวยง และตัวกล้า ออนัดกันเอาไว้ ไหนว่าไม่มา จะอยู่ช้า ออเรือนตอชายคา ไหรเหลยเรียกนาน แล้วขานยาก เชิญพ่อเข้ามานั่ง ไม่ให้ร้อยชั่ง ต้องเปรี้ยวปาก เหล้าขาวของหายาก หมากพลูลูกสูให้พ่อกิน ท�ำเนียมในแผ่นดิน เท่านี้ พ่อร้อยชั่งเหอ ไม่คุณจ�ำคุณ พ่อเหอไม่เคย ต้องจ�ำเคย ออทีเดียวท่านกลายเหออย่าให้ผีร้ายนั้นดูถูก งานนี้เขากวดขันพ่ออย่าผลัดวันประกันโพรก อย่าให้ผีขี้ร้ายเข้ามาดูถูก เราลูกผู้ชายเหมือนกัน พ่ออย่าท�ำหล็อกเหล็ก เหมือนเด็ก ไม่รู้จักหวัน พ่อมาร่วมใสหัวกันสนั่นทั้งโรงมโนราห์ มาเถิดพ่อ ท่านกลายมาเล่นบนบัน สาหลา กลอนเชื้อ ทวดกลาย
68 ประวัติทวดกลาย ถ้าพ่อมาเรือให้พ่อเทียบเรือ ถ้าพ่อมาม้าให้หยุดม้า หรือพ่อมาทางเวหล ลูกเปิดตูยนเอาไว้ถ้า ออถ้าพ่อมาทางม้า ลูกจะแต่งม้า เอาไปรับ ออว่าม้าต้นตัวยง ม้าทรงเครื่องประดับ ลูกจะแต่งม้าเอาไปรับ ส�ำหรับท่านกลายให้เข้ามา มาเถิดพ่อเหออย่าลังเล นั่งเล่นใต้เพดานผ้า ม้าทรงตัวนี้ เชลยเคยขี่ แต่ก่อนมา เอาไหรเอาต้า ท�ำเขินเนิ่นช้า อยู่ท�ำไหร จับเข้าที่หวั้นตับ ค่อยหยับให้ลงที่หวั้นใจ จับเข้าให้แข็งๆ หมดเรี่ยวหมดแรงสักเท่าไร จับเข้าที่หัวไหล่ ให้สืบไป บ้านเมืองพระพารา ออว่าท่านกลายไปไหนเสีย หรือว่าลูกเมียไม่ให้มา หรือว่าท่านกลายขี้หก หรือเสือหมั้นขบเสียแล้วหนา หรือว่าท่านกลายตายโหง ไม่หานเข้าโรงมโนราห์ ออลูกผิดไปแล้วขอโทษ โปรดน้อยลูกขอความขมา แต่ถ้าไม่มาในคืนนี้ สิบปีก็ไม่ต้องบูชา ออว่าท่านกลายโน้ พ่อมาแล้ว แคล้วๆ แลเหมือนจะเห็นหน้า ไม่มาอยู่ช้า ขอมาสักบัดเดียวใจ โน้พ่อมาทางสายด้าย คิ้วคล้ายไร่มาทางสายไหม จับเข้าที่เทียนหลัก ค่อยหยับมาลงที่เทียนชัย
ประวัติทวดกลาย 69 ออว่าพ่อมาสักเดียวใจ ไหลเข้าคนทรงนะพ่อหนา แลโน่ แลโน้ ท่านกลายรูปโอ พ่อร่อนมา แลโน้พ่อร่อนมาทางเวหา มาให้มืดฟ้าและมัวฝน หรือว่าทางดินพ่อมาไม่ได้ คิ้วคล้ายพ่อมาทางข้างบน ออว่าพ่อมาทางเวหล ลูกเปิดตูยนเอาไว้ถ้า พ่อเหออย่าท�ำเหมือนนกบินหลาเที่ยวบินฉาบมาแล้วฉาบไป พ่อเหอให้ท�ำเหมือนนกเขาไฟ อาบน�้ำอยู่ในโน๋สระแก้ว มาเถิดพ่อเหอมาต้า ได้นัดสัญญากันไว้แล้ว พ่อทูลกระหม่อมแก้ว ไหนว่าไม่ได้จะอยู่ช้า ออถ้าไม่มาก็แล้วไป หนมโคลูกใหญ่โยนให้หมา ถ้าพ่อไม่มาในคืนนี้ บายสีลูกโยนในขี้กรา ออผิดไปแล้วลูกขอโทษ โปรดน้อย ลูกขอความขอขมา **เรียบเรียงโดย** มโนราห์ สรรชัย ดาราศิลป์ มโนราห์บุญเสริม บันเทิงศิลป์ ทายาท ผู้สืบทอดและสืบสานศิลปินพื้นบ้าน มโนราห์ล่องเจริญ โทร. บุญเสริม 081-6075641 โทร. สรรชัย 083-6416169
70 ประวัติทวดกลาย เคารพรักผักแกงทั้งแตงถั่ว ยอดและหัวนี่เป็นผักเคยภักษา ไหว้ลอกอไม่ได้พ้นต้นชายคา เคยทอดปลาใส่พร้าวเจ้าพระคุณ อีกพักพวกหยวกกล้วยมาช่วยเหลือ ทั้งแกงเขือแพะใหญ่และแกงเมล็ดในหนุน(ขนุน) ยอดมันควายไหว้หาได้การุณ ขอบพระคุณยอดแหมะไม่แพ้ใคร หวันเที่ยงๆ เลียงซดเข้าหมดหม้อ ไม่เหลือหลอทั้งแหลมหลักยอดผักไห่ อีกน�้ำเต้าแกงเผ็ดเด็ดหวาใคร เคยอาศัยช่วยเหลือกินเหงื่อพราย น�้ำลายย้อยหรอยพอเกล็ดกับตอหมก อิ่มล้นอกเกือบชักนั่งยักหงาย ยกยอคุณบุญมากขอฝากกาย ยกมือไหว้ขี้พร้าเวลาแกง รสโอชาพาให้ชื่นกลืนข้าวคล่อง ดีหวาย่องไปเปิดมุ้งถ้าได้ทอดกุ้งแห้ง ไหว้ยานัดผัดเผ็ดคั่วเห็ดแครง ทั้งย�ำแตงกินติดมาช่วยประสิทธี แกงหัวบอนแกงหัวมันถึงวันคาด มาประสาทพรชัยให้เกษี ยอดย่านางสร้างสรรค์อันชุลี ยังอีกทียุบๆ ไปถึงน�้ำชุบโจร ผักกูดสุกบุกจี่ของที่จุ่ม มาห่อหุ้มได้โปรดให้โลดโผน แกงอุตพิดฤทธากล้าโชกโชน ไหว้ยอดโอนต้มกะทิดีหวาใคร ตักน�้ำซดคลดเยื่อหรอยเหงื่อพ่าน ค่อยกราบกรานติดต่อไหว้หน่อไม้ไผ่ ปอกกาบฝานแช่เปรี้ยวเคี้ยวชื่นใจ ได้ทอดไก่ลงห่างๆ ซดแล้วครางทุกที แกงยอดพ้อหน่อปุดสุดจะฝืน อย่าไปอื่นเรียกหามาถ้วนถี่ เคยหาแลทอดกุ้งพุงปลาดี หรอยทุกทีค่อยกราบเรียน ไปถึงผักเสี้ยนดอง เยื่อหยิบเคี้ยวน�้ำซดหมดที่ถ้วย กลอนมโนราห์โกลน
ประวัติทวดกลาย 71 ถึงวันรวยหมูควายยังดายของ เมื่อต้นตายยังไว้เมล็ดหว่านเด็ดดอง ค่อนนั่งยองไหว้ให้เหม็ดดอกเห็ดจูน แกงเลียงซดนึกถึงย่าน�้ำตาไหล ออกจากไปครางดังหือ อิ่มจนดือเกือบสูญ ยกมือไหว้หมายมุ่งอิ่มพุงพูน ไม่เสื่อมสูญได้รับสุขหรอยทุกที ในเรื่องผักพักตั้งยังมากขู แต่ควายหมูไม่ต้องของผีๆ เป็นเดือนๆ ไม่ได้กวนจวนสักที เพราะไม่มีตางค์ซื้อทุกมื้อไป กล่าวค�ำกลอนตอนที่สองไหว้ของหวาน เคยซดจานกัดเคี้ยวหรอยเยี่ยวไหล ไหว้ยาหนมสะคะเนตังเหมไป ขออภัยนอบน้อมไปถึงหนมค่อมญวณ อีกลอดรูคู่เชยใส่เตยหอม ไหว้วุ้นหลอมเส้นแววเล็บแมวข่วน มือสองปล้าขวาซ้ายไหว้เหนียวกวน ขอให้ชวนเหนียวดังเพราะหวังดี หนมบัวลอยร้อยชั่งตั้งใส่โถ อีกหนมโคใส่ไส้อย่าหน่ายหนี ทั้งหนมจากฝากฝังเพราะหวังดี กินทุกทีไม่ลืมหวานปลื้มใจ หนมหม้อแกงแหนงหน่ายไม่ใคร่พบ ค่อยน้มนบหนมครกไม่หกใส่ หนมลูกโหนดโปรดปรานไม่ผ่านไป ขออภันคนดีน�้ำที่เรียน เคยกินซดบดเคี้ยวกับเหนียวนึ่ง ดีดดังตึงพุงคัดอิ่มหนัดเหนียน ทั้งคงบวดถั่วต้มก้มกราบเรียน บูชาเวียนไปให้ทั่วถึงหนมหัวมัน มาห้อมล้อมพร้อมพรูในรูปาก ให้คนมากลือลึ่งให้ถึงหวัน มีคนชมเรียกใช้ได้รางวัล เพื่อสุขสันต์ตลอดไปกลอยไข่นวน กลอนมโนราห์โกลน ไข่นวน ชวนสนุก บ้านหนองหว้า
72 ประวัติทวดกลาย ราชครูมโนราห์โกลน บ้านบ่อกรูด ฤกษ์งามยามดี ลูกควายสามปียังไม่ถึก ฤกษ์งามยามดึก ควายถึกมันใหญ่กว่าไก่เภา ไหว้ราชครูของข้า คนเดินชายคาไตรไม่เห่า แต่ไหรแต่ก่อนไม่หอนเซา พ่อมาเมาข้าวคั่วเพราะมัวนอน ตั้งแต่หัวค�่ำจร่นร�่ำรุ่ง ได้ยินฆ้องมุ้งมุ้งยกขึ้นหอน หยิกได้แต่มุดสังและพังพอน มานอนม้วนหางอยู่ข้างครัว ไหว้ครูผู้หัดตัวตัดเขา พ่ออย่าขากหมูกเปล่าพ่อทูนหัว จับยากนักหนาลูกสากลัว ถึงไม่ได้ทั้งตัวขอแค่หัวอัก ไหว้ครูเนื้อแดงครูเนื้อขาว ถึงสาบสาบคาวคาวดีหวาผัก ไหว้ปลาช่อนตัวเฒ่าเจ้าของปลัก ตัวลูกรักอุตส่าห์พยายาม เชิญมาเข้าไซนะพ่อเหอไข่ในยังอ่อน ถึงไม่ส้มท้อนใส่ส้มขาม ลูกกินไม่เบื่อกินทั้งเยื่อทั้งน�้ำ ไม่ท�ำความอุจจาดกับราชครู ถึงอดถึงอยากไม่มากมาย ให้ได้แกงควายกับต้มหมู ปลาเบนปลาหมกช่วยยกช่วยชู ไหว้ปูลอยแพมาเถิดแม่มา เป็นหนักรักห่วงรัดดวงล่อ ต้องสร้างท่อลงท้ายร้ายหนักหนา ไหว้พ่อตัวแรงพ่อท่านแมงดา ขอเชิญมาเข้าครัวสักชั่วคราว จะไหว้ครูหอยแคลงไม่ใช่แกล้งว่า ต้มพอให้เปลือกง่าแกล้มกับเหล้า เป็ดไก่ไปหมั้งเป็นครั้งเป็นคราว ไหว้พ่อเจ้าทูกังชอบกันทั้งโรง นานนานสักที ปีสักหน ยามขัดสนหน่อยหน่อยไหว้หอยโข่ง ทั้งปลาดุกปลากดไม่คดไม่โกง อย่าไปไกลโรงมโนราห์
ประวัติทวดกลาย 73 เพลงทับ จะกาดไปเหลยก็กาดได้ ยกไหว้ศักดิ์สิทธิ์พ่อเหอแปดทิศา ขอไหว้พ่อท่านหน่อตง พ่อเป็นเจ้าดงเจ้าป่า อย่ามาแค่มาใกล้ หลีกเสียให้ไกล แกงเลียงแกงเผ็ดลูกหลาบเหม็ดแล้วละพ่อ เชิญพ่อขึ้นบนซอเถิดนะพ่อหน่อไผ่ ไหว้ลูกหนุนย่านัดถัดกันไป ทั้งลูกผักไหน�้ำเต้าอย่าเข้ามา ออว่าแต่งตัวเข้าเถิดเวอน้อง ว่าบทขึ้นร�ำลองสองสามท่า จะดีหรือว่าไม่ดี ท�ำไปตามประเพณี ที่เราเคยท�ำมา แต่งตัวให้โอกันเถิดโนราห์ ออกร�ำท่ารุนปรนให้คนชม นายเอก พูลสวัสดิ์ มโนราห์โกลนบ้านบ่อกรูด เรียบเรียง
74 ประวัติทวดกลาย คณะกรรมการที่ปรึกษา 1. นายสุชาติ พิมเสน ส.อบจ.นครศรีธรรมราช 2. นายประจักษ์ พิมเสน นายก อบต.สระแก้ว 3. นายสาคร ทองประพันธ์ รองนายก อบต.สระแก้ว 4. นายสาโรจน์ บริสุทธิ์ รองนายก อบต.สระแก้ว 5. นายไชยสิทธิ์ เทพทอง ปลัด อบต.สระแก้ว 6. นายอัครวุฒิ คุณารักษ์ ก�ำนัน ต.สระแก้ว 7. อาจารย์อนันต์ รัตนวงศ์ 8. อาจารย์ประจวบ ปัทมาวิไล 9. อาจารย์กระจาย สมศักดิ์ 10.อาจารย์บุญเสริม แก้วพรหม หมู่ที่ 5 ต�ำบลสระแก้ว อ�ำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช พิมพ์ครั้งที่ 1 (พฤษภาคม 2554) พิมพ์ครั้งที่ 2 (กรกฎาคม 2558) พิมพ์ครั้งที่ 3 (ตุลาคม 2560) พิมพ์ครั้งที่ 4 (กุมภาพันธ์ 2565) คณะผู้ด�ำเนินการจัดพิมพ์ ประวัติ“ทวดกลาย” ข้อมูลเพิ่มเติม พิสูจน์ความจริง กับ บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ “ทวดกลายบรรพชนบนความศรัทธา” (5 พฤษภาคม 2559) http://www.youtube.com/watch?v=RFFpVrpHB7I นายสุชาติพิมเสน ส.อบจ.นครศรีธรรมราช
ประวัติทวดกลาย 75 คณะกรรมการศาลาทวดกลาย 1. นายอัครวุฒิ คุณารักษ์ ก�ำนัน ต.สระแก้ว / ประธาน 2. รต.เจริญ ลักษมีจันทร์ รองประธาน/เลขานุการ 3. นางณิชามาศ หนูเกาะทวด เหรัญญิก 4. น.ส.บุญเรือน ยกย่อง ผู้ช่วยเหรัญญิก/เก็บเงินศาลาทวดกลาย 5. น.ส.ศิริทิพย์ ผุดวัฒน์ ฝ่ายบัญชี (รายรับ-รายจ่าย) 6. อาจารย์นราศรี พิมเสน ประชาสัมพันธ์ 7. นางจิราภรณ์ ผุดวัฒน์ ประชาสัมพันธ์ 8. นายโกศล ชนกอุปถัมภ์ ปฏิคม 9. นายจิรศักดิ์ ศรีศักดา ประธานสภา อบต.สระแก้ว / ปฏิคม 10.อาจารย์พรรณี ปัทมาวิไล ประสานงาน/อุปกรณ์ศาลาทวดกลาย 11. นางอุทิพย์ ผุดวัฒน์ กรรมการ 12. นายณัฐวุฒิ แซ่ลิ้ม กรรมการ 13. นายเสกสรร ผุดวัฒน์ กรรมการ 14. นายมงคล แซ่เต้า กรรมการ 15. นายทัชชา ส�ำลีนิล กรรมการ 16. นายธาตรี ประจันพล กรรมการ 17. นางปราณี นิลวงศ์ กรรมการ ผู้สนับสนุนในการด�ำเนินงาน นายอนันต์ รัตนวงศ์ จัดหาข้อมูล นายกระจาย สมศักดิ์ จัดหาข้อมูล นายอัครินทร์ สมศักดิ์ จัดหาข้อมูล นางอุบลวัลย์ แก้วจ�ำนง เจ้าของโรงพิมพ์เม็ดทราย (ท่าวัง นครฯ) ภูมิ จิระเดชวงศ์ ประวัติศาสตร์นครศรีธรรมราช อาจารย์ นักศึกษา สาขาวิชาการพัฒนาชุมชน คณะมนุษยศาสตร์สังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ นครศรีธรรมราช กองทุนทวดกลาย นายสุชาติพิมเสน ส.อบจ.นครศรีธรรมราช จัดพิมพ์เผยแพร่
76 ประวัติทวดกลาย พิมพ์ที่ : โรงพิมพ์เม็ดทราย จังหวัดนครศรีธรรมราช โทร. 075-341475