The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานการพัฒนาการอ่านคิดวิเคราะห์วรรณคดีไทย โดยใช้การจัดการรู้แบบสืบเสาะหาความรู้

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 631031273, 2024-06-16 10:34:25

รายงานการพัฒนาการอ่านคิดวิเคราะห์วรรณคดีไทย โดยใช้การจัดการรู้แบบสืบเสาะหาความรู้

รายงานการพัฒนาการอ่านคิดวิเคราะห์วรรณคดีไทย โดยใช้การจัดการรู้แบบสืบเสาะหาความรู้

43 ภาคผนวก


44 ภาคผนวก ก รายนามผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเครื่องมือการวิจัย


45 รายนามผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเครื่องมือการวิจัย ๑. นางอรวรรณ ชนะ ครูชำนาญการพิเศษ และหัวหน้าฝ่ายวิชาการ โรงเรียนอนุบาลสงขลา จังหวัดสงขลา ๒. นางนงนุช ขาวศรี ครูชำนาญการพิเศษ และหัวหน้าฝ่ายการวัดและประเมินผล โรงเรียนอนุบาลสงขลา จังหวัดสงขลา ๓. นางสาวปิยตา พงศ์สุชาติ ครูชำนาญการ วิชาภาษาไทย โรงเรียนอนุบาลสงขลา จังหวัดสงขลา


46 ภาคผนวก ข แผนการจัดการเรียนรู้


47 แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๖๑๐๑ รายวิชา ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง รามเกียรติ์ ตอนศึกไมยราพ สอนวันที่……......เดือน.........................พ.ศ............. เวลา ๒ ชั่วโมง ๑. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหา ในการดำเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็น คุณค่า และนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๖/4 แยกข้อคิดเห็นและข้อเท็จจริงจากเรื่องที่อ่าน ท ๑.๑ ป.๖/๕ อธิบายการนำความรู้และความคิด จากการอ่านไปตัดสินใจแก้ปัญหา การดำเนินชีวิต ท ๕.๑ ป.๖/๑ แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดี หรือวรรณกรรมที่อ่าน ท ๕.๑ ป.๖/๓ อธิบายคุณค่าของวรรณคดี และวรรณกรรมที่อ่านและนำไปประยุกต์ใช้ ในชีวิตจริง ๒. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๒.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๒.๑.๑ ทักษะการอ่าน ๒.๑.๒ ทักษะการเขียน ๒.๑.๓ ทักษะการฟัง การดู และการพูด ๒.๒ ความสามารถในการคิด ทักษะการสรุปความรู้ ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ เมื่อนักเรียนเรียนเรื่องรามเกียรติ์ ตอนศึกไมยราพแล้วสามารถปฏิบัติได้ดังนี้ ๓.๑ ความรู้ (K) นักเรียนสามารถวิเคราะห์วรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ ตอนศึกไมยราพได้อย่างถูกต้อง ๓.๒ ทักษะ / กระบวนการ (P) นักเรียนสามารถอธิบายการนำความรู้และความคิด แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดี หรือวรรณกรรมที่อ่านและอธิบายคุณค่าของวรรณคดีกลอนบทละครเรื่องรามเกียรติ์ตอนศึกไมยราพได้ ถูกต้อง ๓.๓ คุณลักษณะ (A) นักเรียนเห็นความสำคัญของการอ่านวรรณคดีไทยเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาในการ ดำเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน ๔. สาระสำคัญ บทละครเรื่องรามเกียรติ์ เป็นวรรณคดีที่สำคัญเรื่องหนึ่งของไทยที่แสดงให้เห็นพระอัจฉริยภาพ ทางด้านวรรณคดีของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช การศึกษาบทละครเรื่องรามเกียรติ์


48 ตอนศึกไมยราพ จะทำให้นักเรียนซาบซึ้งในความรักระหว่างพ่อกับลูกซึ่งเป็นสายเลือดเดียวกัน อีกทั้งยังเห็น ความกตัญญูรู้คุณต่อผู้มีพระคุณ และความมีไหวพริบของทั้งหนุมานและมัจฉานุ ๕. สาระการเรียนรู้ 5.1 ที่มาของรามเกียรติ์ ตอนศึกไมยราพ 5.2 เนื้อเรื่องของรามเกียรติ์ตอนศึกไมยราพ 5.3 ลักษณะคำประพันธ์ 5.4 ตัวละครสำคัญ 5.5 คำศัพท์น่ารู้ ๖. การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ร่วมกับเทคนิค 5W1H การจัดการเรียนรู้(ชั่วโมงที่ ๑) ๑. การสร้างความสนใจ (Engagement) 1.๑ ครูอ่านทำนองเสนาะ หรือเปิดคลิปวิดีโอจากสื่อyoutube เกี่ยวกับการอ่านกลอน บทละครเรื่องรามเกียรติ์ ตอนศึกไมยราพ ให้นักเรียนฟัง 1.2 ครูติดแผนภูมิตัวอย่างบทร้อยกรองซึ่งเป็นบทเดียวกับที่นักเรียนฟัง จำนวน ๔ บท บนกระดาน แล้วนำสนทนาเรื่องการแบ่งวรรคในการอ่านกลอนบทละคร 1.3 ครูอ่านทำนองเสนาะกลอนบทละครเพื่อให้นักเรียนสังเกตการเว้นวรรคในการอ่าน 1.4 จากนั้นครูให้นักเรียนส่งตัวแทนออกมาใช้ปากกาเมจิขีดเส้นแบ่งวรรคในการอ่าน กลอนบทละครว่าถูกต้องหรือไม่ แล้วครูและนักเรียนช่วยกันเฉลยคำตอบพร้อมกัน ๒. การสํารวจและค้นหา (Exploration) ๒.1 ครูให้นักเรียนรับชมสื่อวีดิโอ เรื่องรามเกียรติ์ ตอนศึกไมยราพ จากสื่อ youtube คร่าว ๆ และครูเล่าเรื่องย่อเกี่ยวกับเรื่องเรื่องรามเกียรติ์ ตอนศึกไมยราพ ให้นักเรียนฟัง ๒.๒ จากนั้นครูใช้วิธีการตั้งคำถามโดยใช้กระบวนการ ๕W1H ดังนี้ 1) Who มีตัวละครใดบ้าง ๒) What ตัวละครทำอะไรกัน ๓) Where เกิดเหตุการณ์ขึ้นที่ไหน ๔) When เกิดเหตุการณ์ขึ้นเมื่อไหร่ ๕) Why ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ๖) How ผลของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร ๒.3 นักเรียนร่วมกันตอบคำถามดังกล่าวร่วมกัน 3. การอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) ๓.๑ นักเรียนร่วมกันตอบคำถามภาพตัวละครจากเรื่องรามเกียรติ์ ตอนศึกไมยราพ โดยมี ครูเป็นผู้ตั้งคำถามกระตุ้นความคิดกับนักเรียน โดยใช้คำถามดังต่อไปนี้ 1) นักเรียนเคยเห็นตัวละครนี้หรือไม่ หากเคยเห็นตัวละครนี้มีชื่อว่าอะไร 2) ภาพที่เปิดให้นักเรียนชมเป็นตัวละครจากเรื่องใด


49 ๓.๒ ครูอธิบายเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องรามเกียรติ์ ตอนศึกไมยราพ ได้แก่ ที่มาของรามเกียรติ์ ตอนศึกไมยราพ เนื้อเรื่องของรามเกียรติ์ ตอนศึกไมยราพ ลักษณะคำประพันธ์ตัวละครสำคัญและคำศัพท์ น่ารู้ 4. การขยายความรู้ (Elaboration) ๔.๑ เมื่อนักเรียนเข้าใจเนื้อหาดังกล่าวแล้ว ครูตั้งคำถามชวนคิด “ถ้าเปรียบตัวเราเป็น ตัวละครในเรื่องนักเรียนจะเป็นใคร” เพราะอะไร ๕. การประเมินผล (Evaluation) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ สอบถามความเข้าใจ และครูให้นักเรียนกลับไป ทบทวน เรื่องรามเกียรติ์ ตอนศึกไมยราพ อีกครั้งเพื่อทำกิจกรรมในคาบถัดไป การจัดการเรียนรู้ (ชั่วโมงที่ ๒) ๑. การสร้างความสนใจ (Engagement) ๑.๑ ครูและนักเรียนทักทายพูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์ประจำวัน ๑.๒ ครูทบทวนบทเรียนจากคาบที่เเล้ว เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนเกิดความคิด แล้วจึง นำเข้าสู่กิจกรรมการเรียนรู้ ๒.การสํารวจและค้นหา (Exploration) ๒.๑ ครูให้นักเรียนทำกิจกรรมการเรียนรู้ “ปริศนาฟ้าแลบ” โดยแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน จากนั้นครูอธิบายกติกาเกม คือ ให้แต่ละกลุ่มเปิดคำถามปริศนาฟ้าแลบในซองคำถาม ซึ่ง แต่ละกลุ่มจะได้เหมือนกัน คือ จะต้องบอกหลักการอ่านบทร้อยกรองประเภทกลอนบทละครลงในใบ กิจกรรมซึ่งทำลงในกระดาษบรู๊ฟ และต้องตอบคำถามที่อยู่ในซองคำถามจะเป็นการให้นักเรียนได้สืบสวน ว่าตัวละครที่ได้ต่อไปนี้ ตรงกับบทประพันธ์ชนิดใดเป็นการจับคู่ระหว่างบทประพันธ์กับตัวละครให้ตรงกัน ลงในใบกิจกรรมเช่นกัน เช่น จงหาบทกลอนละครที่เกี่ยวกับมัจฉานุ ซึ่งคำตอบที่นักเรียนจะต้องหาคือ บัดนั้น มัจฉานุผู้ใจแกล้วกล้า ซึ่งอยู่ในสระคงคา เป็นด่านรักษาชั้นใน ราตรีเที่ยงคืนเคยเที่ยว ลดเลี้ยวกระเวนทางใหญ่ ก็สำแดงแผลงฤทธิเกรียงไกร ขึ้นไปจากท้องชลธาร แล้วตอบคำถามว่า 1) Who ใคร ๒) What ทำอะไร ๓) Where ที่ไหน ๔) When เมื่อไหร่ ๕) Why ทำไม ๖) How อย่างไร กลุ่มไหนสามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้เสร็จก่อนจะเป็นผู้ชนะ และจะต้องอ่านบท ประพันธ์ทั้งหมดที่ได้ โดยทุกกลุ่มจะต้องอ่านบทประพันธ์ที่จับคู่ทุกกลุ่มเรียงไปตามลำดับ ๓. การอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) เมื่อนักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันรังสรรค์ผลงานแล้ว ครูให้นักเรียนนำเสนอหน้าชั้น เรียน โดยการเล่าถึงการทำงานและเรื่องราวที่ตนเองสืบค้นมา


50 4. การขยายความรู้ (Elaboration) จากนั้นครูขยายความรู้โดยการสรุปเป็นแผนผังความคิดให้นักเรียนเข้าใจเรื่องราว รามเกียรติ์ ตอนศึกไมยราพ ๕. การประเมินผล (Evaluation) เมื่อเสร็จกิจกรรมการเรียนรู้แล้ว ครูและนักเรียนและครูผู้สอนร่วมกันสรุปความรู้ คุณค่า และข้อคิดที่ได้จากการเรียนรู้พร้อมให้แจกกระดาษให้นักเรียนเขียนข้อคิดที่สามารถนำไปประยุกต์ ในชีวิตประจำวันแล้วนำไปติดบนกระดาน เพื่อเป็นการเช็คเอาท์จากห้องเรียน ๗. สื่อ/ แหล่งการเรียนรู้ 7.1 สื่อประกอบการสอน 7.2 ติดแผนภูมิตัวอย่างบทร้อยกรอง 7.3 สื่อวิดีโอเรื่องรามเกียรติ์ ตอนศึกไมยราพ 7.4 สื่อการเรียนรู้กิจกรรม“ปริศนาฟ้าแลบ” 7.5 กระดาษ (โพสอิท) 7.6 ใบกิจกรรมในกระดาษบรู๊ฟ 7.7 ปากกา ๘. ชิ้นงาน/ภาระงาน เกมกิจกรรมการเรียนรู้ปริศนาฟ้าแลบ ๙. การวัดผลและการประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีวัดผลและประเมินผล เครื่องมือวัดผลและประเมินผล ๑. นักเรียนสามารถวิเคราะห์วรรณคดีเรื่อง รามเกียรติ์ ตอนศึกไมยราพได้อย่างถูกต้อง สังเกตจากการตอบคำถามใน กิจกรรมการเรียนรู้ปริศนาฟ้า แลบ เกมกิจกรรมการเรียนรู้ปริศนาฟ้า แลบ ๒. นักเรียนสามารถอธิบายการนำความรู้ และความคิด แสดงความคิดเห็นจาก วรรณคดี หรือวรรณกรรมที่อ่าน และ อธิบายคุณค่าของวรรณคดีกลอนบทละคร เรื่องรามเกียรติ์ ตอนศึกไมยราพได้ถูกต้อง สังเกตและตรวจคำตอบของ นักเรียนขณะทำกิจกรรมการ เรียนรู้ปริศนาฟ้าแลบ กิจกรรมการเรียนรู้ปริศนาฟ้าแลบ ซึ่งจะต้องผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๗๐ ตั้งแต่ ๗ คะแนนขึ้นไป 3. นักเรียนเห็นความสำคัญของการอ่าน วรรณ คดี ไท ยเพื่ อ น ำไป ใช้ตั ด สิน ใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิตและมีนิสัยรัก การอ่าน สังเกตจากการทำกิจกรรมใน ห้องเรียน แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ เกณฑ์การวัดผลและประเมินผล ๑. เกณฑ์การวัดผล ๑.๑ เกณฑ์การให้คะแนนกิจกรรมการเรียนรู้ปริศนาฟ้าแลบ คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน โดย พิจารณาจากการทำกิจกรรมการเรียนรู้ปริศนาฟ้าแลบ มีช่วงคะแนน ดังนี้


51 ช่วงคะแนนระดับคุณภาพ ๗-๑๐ ระดับคุณภาพ ดี 4-๖ ระดับคุณภาพ พอใช้ ๐-3 ระดับคุณภาพ ปรับปรุง ๒. เกณฑ์การประเมินผล ๒.๑ เกณฑ์การตัดสินคุณภาพแบบประเมินกิจกรรมการเรียนรู้ปริศนาฟ้าแลบ ได้ระดับดีถือ ว่าผ่าน


52 บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ ผลการจัดการเรียนรู้ ........................................................................................................................................................ ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ............................................. ปัญหาหรืออุปสรรค ๑. ปัญหาหรืออุปสรรคของผู้เรียน ๑.๑ ........................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ๑.๒ ........................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ๒. ปัญหาหรืออุปสรรคของผู้สอน ๒.๑............................................................................................................................................ ......................................................................................................................................................................... ๒.๒ ........................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ๓. อื่น ๆ ……................................................................................................................................................... ข้อเสนอแนะ ๑. .................................................................................................................................................... ๒. ................................................................................................................................................... หมายเหตุ ........................................................................................................................................................ ลงชื่อ………………………………............... (นายเกษมศักดิ์ สิทธิฤกษ์) นิสิตฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู …………/…………/………..


53 แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๖๑๐๑ รายวิชา ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒ เรื่อง เสภาขุนช้างขุนแผน ตอนกำเนิดพลายงาม สอนวันที่……......เดือน.........................พ.ศ............. เวลา ๒ ชั่วโมง ๑. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหา ในการดำเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็น คุณค่า และนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๖/4 แยกข้อคิดเห็นและข้อเท็จจริงจากเรื่องที่อ่าน ท ๑.๑ ป.๖/๕ อธิบายการนำความรู้และความคิด จากการอ่านไปตัดสินใจแก้ปัญหา การดำเนินชีวิต ท ๕.๑ ป.๖/๑ แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดี หรือวรรณกรรมที่อ่าน ท ๕.๑ ป.๖/๓ อธิบายคุณค่าของวรรณคดี และวรรณกรรมที่อ่านและนำไปประยุกต์ใช้ ในชีวิตจริง ๒. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๒.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๒.๑.๑ ทักษะการอ่าน ๒.๑.๒ ทักษะการเขียน ๒.๑.๓ ทักษะการฟัง การดู และการพูด ๒.๒ ความสามารถในการคิด ทักษะการสรุปความรู้ ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ เมื่อนักเรียนเรียนเรื่องเสภาขุนช้างขุนแผน ตอนกำเนิดพลายงาม แล้วสามารถปฏิบัติได้ดังนี้ ๓.๑ ความรู้ (K) นักเรียนสามารถวิเคราะห์วรรณคดีเรื่องเสภาขุนช้างขุนแผน ตอนกำเนิดพลายงามได้อย่าง ถูกต้อง ๓.๒ ทักษะ / กระบวนการ (P) นักเรียนสามารถอธิบายการนำความรู้และความคิด แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดี หรือวรรณกรรมที่อ่าน และอธิบายคุณค่าของวรรณคดีเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน ตอนกำเนิดพลายงามได้ ถูกต้อง ๓.๓ คุณลักษณะ (A) นักเรียนเห็นความสำคัญของการอ่านวรรณคดีไทยเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาในการ ดำเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน


54 ๔. สาระสำคัญ เสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน เป็นวรรณคดีที่ได้รับการยกย่องให้เป็นยอดของกลอนเสภาที่มีคุณค่าทั้ง ทางด้านภาษา ปัญญา และอารมณ์ สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนไทยในสมัยรัตนโกสินทร์ ตอนต้นอย่างเด่นชัด การศึกษาเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผนจะทำให้มีความรู้เกี่ยวกับตัวละครและประเพณีต่าง ๆ ของไทย อีกทั้งเป็นการปลูกฝังคุณค่าทางด้านต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี สามารถนำข้อคิดไปประยุกต์ใช้ ในชีวิตประจำวัน ๕. สาระการเรียนรู้ 5.1 ที่มาของเสภาขุนช้างขุนแผน ตอนกำเนิดพลายงาม 5.2 เนื้อเรื่องของเสภาขุนช้างขุนแผน ตอนกำเนิดพลายงาม 5.3 ลักษณะคำประพันธ์ 5.4 ตัวละครสำคัญ 5.5 คำศัพท์น่ารู้ ๖. การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ร่วมกับเทคนิค 5W1H การจัดการเรียนรู้(ชั่วโมงที่ ๑) ๑. การสร้างความสนใจ (Engagement) ๑.1 นักเรียนและครูทักทายพูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์ประจำวัน พร้อมให้นักเรียนทำ กิจกรรม Brain Gym เคลื่อนไหวร่างกายเพื่อให้นักเรียนตื่นตัวและเป็นการกระตุ้นการทำงานของสมองให้มี ความสัมพันธ์กัน ๒. การสํารวจและค้นหา (Exploration) ๒.1 ครูให้นักเรียนรับชมสื่อวีดิโอ นักเรียนร่วมกันรับชมวิดีโอการ์ตูน เสภาเรื่องขุนช้าง ขุนแผน ตอนกำเนิดพลายงาม เพื่อทำความเข้าใจเนื้อหา หลังจากนั้นครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาใน ประเด็น เสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน ตอนกำเนิดพลายงามมีคุณค่าอย่างไร ๒.๒ จากนั้นครูใช้วิธีการตั้งคำถามโดยใช้กระบวนการ ๕W1H ดังนี้ 1) Who มีตัวละครใดบ้าง ๒) What ตัวละครทำอะไรกัน ๓) Where เกิดเหตุการณ์ขึ้นที่ไหน ๔) When เกิดเหตุการณ์ขึ้นเมื่อไหร่ ๕) Why ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ๖) How ผลของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร ๒.3 นักเรียนร่วมกันตอบคำถามดังกล่าวร่วมกัน 3. การอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) ๓.๑ นักเรียนทบทวนบทเรียนเกี่ยวกับหลักการแสดงความคิดเห็น เพื่อกระตุ้นให้นักเรียน เกิดกระบวนการคิดและสรุปหลักการแสดงความคิดให้นักเรียนอีกครั้งหนึ่ง ๓.๒ นักเรียนและครูร่วมกันศึกษาประวัติผู้แต่ง เนื้อเรื่อง ลักษณะการประพันธ์ และศึกษา คำศัพท์และความหมาย เพื่อให้เข้าใจเนื้อเรื่องได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และร่วมกันแสดงความคิดเห็นในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้


55 1) ถ้าหากนักเรียนเป็นนางวันทองจะยอมสารภาพความจริงกับขุนช้างหรือไม่ที่ พลายงามนั้นไม่ใช่ลูกของขุนช้าง และถ้านักเรียนเป็นขุนช้างจะคิดทำร้ายพลายงามหรือไม่ เพราะเหตุใด 2) นักเรียนคิดว่าหากผีพรายมาช่วยพลายงามไว้ไม่ทัน เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร 3) นักเรียนคิดว่าการที่พลายงามเดินทางไปบ้านย่าคนเดียว แสดงให้เห็นลักษณะ นิสัยอย่างไร 4. การขยายความรู้ (Elaboration) ๔.๑ เมื่อนักเรียนเข้าใจเนื้อหาดังกล่าวแล้ว ครูตั้งคำถามชวนคิด “ถ้าเปรียบตัวเราเป็น ตัวละครในเรื่องนักเรียนจะเป็นใคร” เพราะอะไร ๕. การประเมินผล (Evaluation) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ สอบถามความเข้าใจ และครูให้นักเรียนกลับไป ทบทวนเรื่องเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน ตอนกำเนิดพลายงาม อีกครั้งเพื่อทำกิจกรรมในคาบถัดไป การจัดการเรียนรู้ (ชั่วโมงที่ ๒) ๑. การสร้างความสนใจ (Engagement) ๑.๑ ครูและนักเรียนทักทายพูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์ประจำวัน ๑.๒ ครูทบทวนบทเรียนจากคาบที่เเล้ว เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนเกิดความคิด แล้วจึง นำเข้าสู่กิจกรรมการเรียนรู้ ๒.การสํารวจและค้นหา (Exploration) ๒.๑ เมื่อนักเรียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นข้างต้นแล้ว นักเรียนเริ่มทำกิจกรรม “จับคู่รู้ตัวละคร” เป็นการเล่นเกมจับคู่ตัวละครกับลักษณะ หรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับตัวละครให้ตรงกัน โดยแบ่งนักเรียนออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน โดยครูผู้สอนจะแบ่งกลุ่มตามการนับเลข 1–4 ของ ผู้เรียน ซึ่งนักเรียนนับเลขเหมือนกันจะได้อยู่กลุ่มเดียวกัน 2.2 นักเรียนรับกล่องปริศนามหาสมบัติซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ในกิจกรรม ในกล่อง ประกอบด้วยบัตรคำลักษณะนิสัย รูปภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวละครในเรื่อง แล้วนำไปติดให้ ตรงกับตัวละครบนกระดาน กลุ่มไหนเสร็จก่อนและคำตอบถูกต้องทั้งหมดจะเป็นผู้ชนะ ซึ่งเมื่อเสร็จ กิจกรรมครูจะสรุปถึงลักษณะนิสัยของตัวละครและเหตุการณ์สำคัญในเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน ตอนกำเนิด พลายงามให้นักเรียนเข้าใจอีกครั้งหนึ่ง แล้วตอบคำถามว่า 1) Who ใคร ๒) What ทำอะไร ๓) Where ที่ไหน ๔) When เมื่อไหร่ ๕) Why ทำไม ๖) How อย่างไร ๓. การอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) นักเรียนทำใบงาน เรื่อง ใครเอ่ยที่ฉันอยากเป็น คือให้นักเรียนเขียนบรรยายว่า ตนเองอยากเป็นใครในเรื่องขุนช้างขุนแผน ตอนกำเนิดพลายงาม และให้เหตุผลว่าอยากเป็นเพราะอะไร พร้อมวาดภาพตัวละครประกอบ แล้วสุ่มนักเรียนนำเสนอ


56 4. การขยายความรู้ (Elaboration) จากนั้นครูขยายความรู้โดยการให้นักเรียนสรุปความรู้ร่วมกันเกี่ยวกับประเด็น หลักการแสดงความคิดเห็นและวรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผน ตอนกำเนิดพลายงาม ว่านักเรียนได้ข้อคิด อย่างไรบ้าง ได้อะไรจากเรื่องที่อ่านและนำข้อคิดไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ๕. การประเมินผล (Evaluation) ครูและนักเรียนและครูผู้สอนร่วมกันสรุปความรู้ คุณค่า และข้อคิดที่ได้จากการ เรียนรู้ว่านักเรียนได้ข้อคิดอย่างไรบ้าง ได้อะไรจากเรื่องที่อ่านและนำข้อคิดไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ๗. สื่อ/ แหล่งการเรียนรู้ 7.1 วิดีโอ Brain Gym 7.2 วิดีโอการ์ตูนขุนช้างขุนแผน ตอนกำเนิดพลายงาม 7.3 สื่อทำมือ บัตรคำลักษณะตัวละคร รูปภาพเหตุการณ์และรูปภาพตัวละคร 7.4 ใบงาน ใครเอ่ยที่ฉันอยากเป็น 7.5 หนังสือเรียนวรรณคดีลำนำ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 7.6 สื่อCanvaประกอบการสอน 7.7 กล่องปริศนามหาสมบัติ 7.8 ใบความรู้ เรื่องการแสดงความคิดเห็นจากวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน ๘. ชิ้นงาน/ภาระงาน ใบงานเรื่องใครเอ่ยที่ฉันอยากเป็น ๙. การวัดผลและการประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีวัดผลและประเมินผล เครื่องมือวัดผลและประเมินผล ๑. นักเรียนสามารถวิเคราะห์วรรณคดีเรื่อง เสภาขุนช้างขุนแผน ตอนกำเนิดพลายงามได้ อย่างถูกต้อง สังเกตและตรวจคำตอบ ข อ งนั ก เรีย น ข ณ ะ ท ำ กิจกรรมการเรียนรู้“จับคู่ รู้ตัวละคร” เกมกิจกรรมการเรียนรู้“จับคู่รู้ตัว ละคร” ๒. นักเรียนสามารถอธิบายการนำความรู้และ ความคิด แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดี หรือวรรณกรรมที่อ่าน และ อธิบายคุณค่าของ วรรณคดีเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน ตอนกำเนิด พลายงาม ได้ถูกต้อง ตรวจใบงาน เรื่อง ใครเอ่ย ที่ฉันอยากเป็น ใบงาน เรื่อง ใครเอ่ยที่ฉันอยาก เป็นซึ่งจะต้องผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๗๐ ตั้งแต่ ๗ คะแนนขึ้นไป 3. นักเรียนเห็นความสำคัญของการอ่าน วรรณคดีไทยเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาใน การดำเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน สังเกตจากการทำกิจกรรม ในห้องเรียน แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้


57 เกณฑ์การวัดผลและประเมินผล ๒. เกณฑ์การวัดผล ๑.๑ เกณฑ์การให้คะแนนใบงาน เรื่อง ใครเอ่ยที่ฉันอยากเป็น คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน โดย พิจารณาจากการทำใบงาน เรื่อง ใครเอ่ยที่ฉันอยากเป็น มีช่วงคะแนน ดังนี้ ช่วงคะแนนระดับคุณภาพ ๗-๑๐ ระดับคุณภาพ ดี 4-๖ ระดับคุณภาพ พอใช้ ๐-3 ระดับคุณภาพ ปรับปรุง ๒. เกณฑ์การประเมินผล ๒.๑ เกณฑ์การตัดสินคุณภาพแบบประเมินใบงาน เรื่อง ใครเอ่ยที่ฉันอยากเป็น ได้ระดับดีถือ ว่าผ่าน


58 บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ ผลการจัดการเรียนรู้ ........................................................................................................................................................ ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ............................................. ปัญหาหรืออุปสรรค ๔. ปัญหาหรืออุปสรรคของผู้เรียน ๑.๑ ........................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ๑.๒ ........................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ๕. ปัญหาหรืออุปสรรคของผู้สอน ๒.๑............................................................................................................................................ ......................................................................................................................................................................... ๒.๒ ........................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ๖. อื่น ๆ ……................................................................................................................................................... ข้อเสนอแนะ ๓. .................................................................................................................................................... ๔. ................................................................................................................................................... หมายเหตุ ........................................................................................................................................................ ลงชื่อ………………………………............... (นายเกษมศักดิ์ สิทธิฤกษ์) นิสิตฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู …………/…………/………..


59 แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๖๑๐๑ รายวิชา ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓ เรื่อง นิทานทองอิน ตอน นากพระโขนงที่สอง สอนวันที่……......เดือน.........................พ.ศ............. เวลา ๒ ชั่วโมง ๑. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหา ในการดำเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็น คุณค่า และนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๖/4 แยกข้อคิดเห็นและข้อเท็จจริงจากเรื่องที่อ่าน ท ๑.๑ ป.๖/๕ อธิบายการนำความรู้และความคิด จากการอ่านไปตัดสินใจแก้ปัญหา การดำเนินชีวิต ท ๕.๑ ป.๖/๑ แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดี หรือวรรณกรรมที่อ่าน ท ๕.๑ ป.๖/๓ อธิบายคุณค่าของวรรณคดี และวรรณกรรมที่อ่านและนำไปประยุกต์ใช้ ในชีวิตจริง ๒. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๒.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๒.๑.๑ ทักษะการอ่าน ๒.๑.๒ ทักษะการเขียน ๒.๑.๓ ทักษะการฟัง การดู และการพูด ๒.๒ ความสามารถในการคิด ทักษะการสรุปความรู้ ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ เมื่อนักเรียนเรียนเรื่องนิทานทองอิน ตอน นากพระโขนงที่สอง แล้วสามารถปฏิบัติได้ดังนี้ ๓.๑ ความรู้ (K) นักเรียนสามารถวิเคราะห์วรรณคดีนิทานทองอิน ตอน นากพระโขนงที่สองได้อย่าง ถูกต้อง ๓.๒ ทักษะ / กระบวนการ (P) นักเรียนสามารถอธิบายการนำความรู้และความคิด แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดี หรือวรรณกรรมที่อ่านและอธิบายคุณค่าของวรรณคดีนิทานทองอิน ตอน นากพระโขนงที่สอง ได้ถูกต้อง ๓.๓ คุณลักษณะ (A) นักเรียนเห็นความสำคัญของการอ่านวรรณคดีไทยเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาในการ ดำเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน ๔. สาระสำคัญ นิทานทองอิน ตอน นากพระโขนงที่สอง เป็นวรรณคดีที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้น โดยใช้นามปากกาว่า “นายแก้ว นายขวัญ” เนื้อเรื่องมีลักษณะเป็นเรื่อง


60 สั้น เป็นเรื่องประเภทสืบสวนสอบสวน โดยมีตัวละครเอกเป็นนักสืบเหมือน “เชอร์ลอกโฮลมส์” นิทานทอง อิน มีนายทองอินเป็นตัวละครเอก ทำงานราชการลับที่เรียกว่า “พลตระเวนลับ” คอยสืบข่าวต่าง ๆ ให้ทาง ราชการ นิทานทองอิน มีทั้งหมด ๑๕ ตอน ซึ่งเมื่อเรียนแล้วสามารถนำข้อคิดไปประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจำวัน ๕. สาระการเรียนรู้ 5.๑ ที่มาของนิทานทองอิน ตอน นากพระโขนงที่สอง 5.2 เนื้อเรื่องนิทานทองอิน ตอน นากพระโขนงที่สอง 5.3 ลักษณะการแต่ง 5.4 ตัวละครสำคัญ 5.5 คำศัพท์น่ารู้ ๖. การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ร่วมกับเทคนิค 5W1H การจัดการเรียนรู้(ชั่วโมงที่ ๑) ๑. การสร้างความสนใจ (Engagement) ๑.1 นักเรียนและครูทักทายพูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์ประจำวัน พร้อมให้นักเรียนทำ กิจกรรม Brain Gym เคลื่อนไหวร่างกายเพื่อให้นักเรียนตื่นตัวและเป็นการกระตุ้นการทำงานของสมองให้มี ความสัมพันธ์กัน 1.2 ครูถามนักเรียนว่ารู้จักแม่นากหรือไม่ ให้นักเรียนช่วยกันเล่าเรื่องแม่นาก ตามที่ นักเรียนเคยได้ยินได้ฟังมา 1.3 ครูนำสนทนาโยงเข้าสู่นิทานทองอิน เรื่อง นากพระโขนงที่สอง ๒. การสํารวจและค้นหา (Exploration) ๒.1 ครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม ครูแบ่งเนื้อหานิทานทองอินเรื่อง นากพระโขนงที่สอง ในหนังสือเรียน/สื่อการเรียนรู้ภาษาไทย สมบูรณ์แบบ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ตามจำนวนกลุ่มของนักเรียน แล้วให้นักเรียนจับสลากเลือกตอน เมื่อเลือกได้แล้ว ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มอ่าน เรื่องนากพระโขนงที่สองใน ตอนที่จับสลากได้ในใจ สรุปเรื่อง แล้วส่งตัวแทนออกมาเล่าให้เพื่อนฟัง โดยเรียงตามลำดับเนื้อหาของเรื่อง ๒.๒ จากนั้นครูใช้วิธีการตั้งคำถามโดยใช้กระบวนการ ๕W1H ดังนี้ 1) Who มีตัวละครใดบ้าง ๒) What ตัวละครทำอะไรกัน ๓) Where เกิดเหตุการณ์ขึ้นที่ไหน ๔) When เกิดเหตุการณ์ขึ้นเมื่อไหร่ ๕) Why ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ๖) How ผลของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร ๒.3 นักเรียนร่วมกันตอบคำถามดังกล่าวร่วมกัน 3. การอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) ๓.๑ นักเรียนและครูร่วมกันศึกษาประวัติผู้แต่ง เนื้อเรื่อง ลักษณะการประพันธ์ และศึกษา คำศัพท์และความหมาย เพื่อให้เข้าใจเนื้อเรื่องได้ชัดเจนยิ่งขึ้น


61 ๓.๒ นักเรียนบอกคำศัพท์ยากในตอนที่อ่าน แล้วช่วยกันเปิดพจนานุกรมหาความหมาย ของคำศัพท์ 4. การขยายความรู้ (Elaboration) เมื่อนักเรียนเข้าใจเนื้อหาดังกล่าวแล้ว ครูตั้งคำถามชวนคิด “ถ้าเปรียบตัวเราเป็นตัว ละครในเรื่องนักเรียนจะเป็นใคร” เพราะอะไร ๕. การประเมินผล (Evaluation) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ สอบถามความเข้าใจ และครูให้นักเรียนกลับไป ทบทวนเรื่อง นิทานทองอิน ตอน นากพระโขนงที่สอง อีกครั้งเพื่อทำกิจกรรมในคาบถัดไป การจัดการเรียนรู้ (ชั่วโมงที่ ๒) ๑. การสร้างความสนใจ (Engagement) ๑.๑ ครูและนักเรียนทักทายพูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์ประจำวัน ๑.๒ ครูทบทวนบทเรียนจากคาบที่เเล้ว เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนเกิดความคิด แล้วจึง นำเข้าสู่กิจกรรมการเรียนรู้ ๒.การสํารวจและค้นหา (Exploration) ๒.๑ เมื่อนักเรียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นข้างต้นแล้ว ครูให้นักเรียนแล้วตอบ คำถามว่า 1) Who ใคร ๒) What ทำอะไร ๓) Where ที่ไหน ๔) When เมื่อไหร่ ๕) Why ทำไม ๖) How อย่างไร 2.2 เมื่อนักเรียนตอบคำถามดังกล่าวแล้ว ครูให้นักเรียนทำกิจกรรมการเรียนรู้ “นิทาน ทองอินกับนักล่าปริศนา” ซึ่งขั้นตอนมีดังต่อไปนี้ ขั้นแรกเลยครูออกแบบคำถามจากเรื่องที่เรียน ใช้คำถาม ๑๐ ข้อ (จุดประสงค์ ของคำถามคือต้องการให้นักเรียนจับประเด็นสำคัญจากเรื่องที่อ่านได้ว่าใคร ทำอะไร อย่างไร เป็นหลัก) ดังนี้ ๑. นามปากกา/นามแฝง ของผู้แต่งเรื่อง “นิทานทองอิน” คือ ๒. “นายทองอิน” ประกอบอาชีพอะไร ๓. นิทานทองอินมีทั้งหมดกี่ตอน ๔. สามีของ “นางนาก” ชื่ออะไร ๕. นายทองอินเดินทางไปบางพระโขนงกับใคร ๖. “นางนาก” มีลูกกี่คน ชื่ออะไรบ้าง ๗. นายเปรมเล่าเรื่องอะไรให้นายทองอินฟังแล้วเกิดความสงสัย ๘. เพราะเหตุใดนายทองอินจึงให้พันโชติและบุตรไปหาของไล่ผี ๙. ใครปลอมเป็นผีเพื่อหลอกชาวบ้าน ๑๐. คนที่ปลอมเป็นผีหลอกชาวบ้านมีจุดประสงค์ใด


62 จากนั้นเขียนคำถามใส่กระดาษ ๑๐ แผ่น ขั้นที่สอง ครูนำคำถามไปซ่อนยังสถานที่ต่าง ๆ ในโรงเรียนพร้อมออกแบบคำใบ้ ว่าสถานที่เหล่านั้นอยู่ที่ใด แล้วแอบเอาคำถามไปติดตามสถานที่นั้น ๆ ขั้นที่สาม ให้นักเรียนเขียนข้อ ๑ - ๑๐ ในสมุดภาษาไทยให้เรียบร้อยแล้วตามล่า หาคำตอบ แล้วจดลงในสมุดให้เรียบร้อย ๓. การอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) นักเรียนตอบคำถามดังกล่าวเสร็จแล้ว ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำตอบ เป็น การขยายความและเรื่องราวให้คลี่คลายลง 4. การขยายความรู้ (Elaboration) จากนั้นครูขยายความรู้โดยการให้นักเรียนสรุปความรู้ร่วมกันเกี่ยวกับประเด็น นิทานทองอิน ตอน นากพระโขนงที่สอง ว่านักเรียนได้ข้อคิดอย่างไรบ้าง ได้อะไรจากเรื่องที่อ่านและนำ ข้อคิดไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ๕. การประเมินผล (Evaluation) ครูและนักเรียนและครูผู้สอนร่วมกันสรุปความรู้ คุณค่า และข้อคิดที่ได้จากการ เรียนรู้ว่านักเรียนได้ข้อคิดอย่างไรบ้าง ได้อะไรจากเรื่องที่อ่านและนำข้อคิดไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ๗. สื่อ/ แหล่งการเรียนรู้ 7.1 สื่อCanvaประกอบการสอน 7.2 หนังสือเรียน/สื่อการเรียนรู้ภาษาไทย สมบูรณ์แบบ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ 7.3 ฉลาก 7.4 เกมการเรียนรู้“นิทานทองอินกับนักล่าปริศนา” ๘. ชิ้นงาน/ภาระงาน ตอบคำถามจากเรื่องนิทานทองอิน ตอน ตอน นากพระโขนงที่สอง ๙. การวัดผลและการประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีวัดผลและประเมินผล เครื่องมือวัดผลและประเมินผล ๑. นักเรียนสามารถวิเคราะห์วรรณคดี นิทานทองอิน ตอน นากพระโขนงที่สองได้ อย่างถูกต้อง สังเกตและตรวจคำตอบของ นักเรียนขณะทำกิจกรรมการ เรียนรู้“นิทานทองอินกับนัก ล่าปริศนา” เกมกิจกรรมการเรียนรู้“นิทาน ทองอินกับนักล่าปริศนา” ๒. นักเรียนสามารถอธิบายการนำความรู้ และความคิด แสดงความคิดเห็นจาก วรรณคดี หรือวรรณกรรมที่อ่าน และ อธิบายคุณค่าของวรรณคดีนิทานทองอิน ตอน นากพระโขนงที่สอง ได้ถูกต้อง ตรวจคำตอบในสมุด กิจกรรม “นิทานทองอินกับนักล่า ปริศนา” ใบงาน เรื่อง ใครเอ่ยที่ฉันอยาก เป็นซึ่งจะต้องผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๗๐ ตั้งแต่ ๗ คะแนนขึ้นไป 3. นักเรียนเห็นความสำคัญของการอ่าน วรรณ คดี ไท ยเพื่ อ น ำไป ใช้ตั ด สิน ใจ สังเกตจากการทำกิจกรรมใน ห้องเรียน แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้


63 จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีวัดผลและประเมินผล เครื่องมือวัดผลและประเมินผล แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิตและมีนิสัยรัก การอ่าน เกณฑ์การวัดผลและประเมินผล ๓. เกณฑ์การวัดผล ๑.๑ เกณฑ์การให้คะแนนกิจกรรม“นิทานทองอินกับนักล่าปริศนา” คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน โดยพิจารณาจากการตอบคำถามลงในสมุดจำนวน 1๐ ข้อ ข้อละ ๑ คะแนน มีช่วงคะแนน ดังนี้ ช่วงคะแนนระดับคุณภาพ ๗-๑๐ ระดับคุณภาพ ดี 4-๖ ระดับคุณภาพ พอใช้ ๐-3 ระดับคุณภาพ ปรับปรุง ๒. เกณฑ์การประเมินผล ๒.๑ เกณฑ์การตัดสินคุณภาพแบบประเมินกิจกรรม“นิทานทองอินกับนักล่าปริศนา” ได้ ระดับดีถือว่าผ่าน


64 บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ ผลการจัดการเรียนรู้ ........................................................................................................................................................ ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ............................................. ปัญหาหรืออุปสรรค ๗. ปัญหาหรืออุปสรรคของผู้เรียน ๑.๑ ........................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ๑.๒ ........................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ๘. ปัญหาหรืออุปสรรคของผู้สอน ๒.๑............................................................................................................................................ ......................................................................................................................................................................... ๒.๒ ........................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ๙. อื่น ๆ ……................................................................................................................................................... ข้อเสนอแนะ ๕. .................................................................................................................................................... ๖. ................................................................................................................................................... หมายเหตุ ........................................................................................................................................................ ลงชื่อ………………………………............... (นายเกษมศักดิ์ สิทธิฤกษ์) นิสิตฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู …………/…………/………..


65 แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๖๑๐๑ รายวิชา ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔ เรื่อง สุภาษิตสอนหญิง สอนวันที่……......เดือน.........................พ.ศ............. เวลา ๒ ชั่วโมง ๑. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหา ในการดำเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็น คุณค่า และนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๖/๕ อธิบายการนำความรู้และความคิด จากการอ่านไปตัดสินใจแก้ปัญหา การดำเนินชีวิต ท ๕.๑ ป.๖/๓ อธิบายคุณค่าของวรรณคดี และวรรณกรรมที่อ่านและนำไปประยุกต์ใช้ ในชีวิตจริง ๒. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๒.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๒.๑.๑ ทักษะการอ่าน ๒.๑.๒ ทักษะการเขียน ๒.๑.๓ ทักษะการฟัง การดู และการพูด ๒.๒ ความสามารถในการคิด ทักษะการสรุปความรู้ ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ เมื่อนักเรียนเรียนเรื่องสุภาษิตสอนหญิง แล้วสามารถปฏิบัติได้ดังนี้ ๓.๑ ความรู้ (K) นักเรียนสามารถวิเคราะห์วรรณคดีสุภาษิตสอนหญิงได้อย่างถูกต้อง ๓.๒ ทักษะ / กระบวนการ (P) นักเรียนสามารถอธิบายการนำความรู้และความคิด แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดี หรือวรรณกรรมที่อ่านและอธิบายคุณค่าของวรรณคดีเรื่องสุภาษิตสอนหญิง ได้ถูกต้อง ๓.๓ คุณลักษณะ (A) นักเรียนเห็นความสำคัญของการอ่านวรรณคดีไทยเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาในการ ดำเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน ๔. สาระสำคัญ สุภาษิตสอนหญิงเป็นวรรณกรรมคำสอนสำหรับสตรี ประเภทกลอนสุภาพของสุนทรภู่ได้กล่าวถึง ข้อคิดเตือนใจและหลักในการประพฤติตนแก่สตรีในเรื่องต่างๆ จึงควรนำข้อคิดมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิต ให้เหมาะสมตามประเพณีและวัฒนธรรมของสุภาษิตสังคมไทย ซึ่งเมื่อเรียนแล้วสามารถนำข้อคิดไป ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน


66 ๕. สาระการเรียนรู้ 5.1 ที่มาของวรรณคดี เรื่อง สุภาษิตสอนหญิง 5.2 เนื้อเรื่องวรรณคดี เรื่อง สุภาษิตสอนหญิง 5.3 ลักษณะการแต่ง 5.4 ตัวละครสำคัญ 5.5 คำศัพท์น่ารู้ ๖. การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ร่วมกับเทคนิค 5W1H การจัดการเรียนรู้(ชั่วโมงที่ ๑) ๑. การสร้างความสนใจ (Engagement) ๑.1 นักเรียนและครูทักทายพูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์ประจำวัน พร้อมให้นักเรียนทำ กิจกรรม Brain Gym เคลื่อนไหวร่างกายเพื่อให้นักเรียนตื่นตัวและเป็นการกระตุ้นการทำงานของสมองให้มี ความสัมพันธ์กัน 1.2 ครูให้นักเรียนพิจารณาข้อความในแถบประโยคที่ครูติดบนกระดานว่าพฤติกรรมใด จากนั้นช่วยกันใส่เครื่องหมายถูกต้องหน้าแถบประโยคที่แสดงมารยาทอันเหมาะสมและพึงปฏิบัติ เเละ เครื่องหมายผิดหน้าแถบประโยคที่แสดงมารยาทอันไม่เหมาะสมและไม่พึงปฏิบัติ ครูและนักเรียนร่วมกัน สนทนา โดยครูใช้คำถามกระตุ้นความคิด ดังนี้ 1) จามเสียงดังและไม่ปิดปาก 2) ใช้เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายสะอาด และเรียบร้อยเสมอ 3) แต่งกายตามสมัยนิยมและทันสมัยตลอดเวลา 4) เลี้ยงบิดามารดาเมื่อท่านแก่ชรา 5) ซื้อสิ่งของเครื่องใช้เท่าที่จำเป็น 6) ใช้คำพูดให้เหมาะสม 7) การโต้เถียงผู้อื่น 1.3 ครูนำสนทนาโยงเข้าสู่เรื่องสุภาษิตสอนหญิง ๒. การสํารวจและค้นหา (Exploration) ๒.1 ครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม ครูแบ่งเนื้อหาในของวรรณคดี เรื่อง สุภาษิตสอนหญิง หนังสือเรียนวรรณคดีลำนำ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ตามจำนวนกลุ่มของนักเรียน แล้วให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม ร่วมกันอ่านเรื่องในหนังสือ จากนั้นครูให้นักเรียน สรุปเรื่อง แล้วส่งตัวแทนออกมาเล่าให้เพื่อนฟัง โดยเรียง ตามลำดับเนื้อหาของเรื่อง ๒.๒ จากนั้นครูใช้วิธีการตั้งคำถามโดยใช้กระบวนการ ๕W1H ดังนี้ 1) Who มีตัวละครใดบ้าง ๒) What ตัวละครทำอะไรกัน ๓) Where เกิดเหตุการณ์ขึ้นที่ไหน ๔) When เกิดเหตุการณ์ขึ้นเมื่อไหร่ ๕) Why ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ๖) How ผลของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร ๒.3 นักเรียนร่วมกันตอบคำถามดังกล่าวร่วมกัน


67 3. การอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) ๓.๑ นักเรียนและครูร่วมกันศึกษาประวัติผู้แต่ง เนื้อเรื่อง ลักษณะการประพันธ์ และศึกษา คำศัพท์และความหมาย เพื่อให้เข้าใจเนื้อเรื่องได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ๓.๒ นักเรียนบอกคำศัพท์ยากในตอนที่อ่าน แล้วช่วยกันเปิดพจนานุกรมหาความหมาย ของคำศัพท์ 4. การขยายความรู้ (Elaboration) เมื่อนักเรียนเข้าใจเนื้อหาดังกล่าวแล้ว ครูตั้งคำถามชวนคิด “เราจะปฏิบัติตน อย่างไร” เพราะอะไร ๕. การประเมินผล (Evaluation) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ สอบถามความเข้าใจ และครูให้นักเรียนกลับไป ทบทวนวรรณคดีเรื่องสุภาษิตสอนหญิง อีกครั้งเพื่อทำกิจกรรมในคาบถัดไป การจัดการเรียนรู้ (ชั่วโมงที่ ๒) ๑. การสร้างความสนใจ (Engagement) ๑.๑ ครูและนักเรียนทักทายพูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์ประจำวัน ๑.๒ ครูทบทวนบทเรียนจากคาบที่เเล้ว เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนเกิดความคิด แล้วจึง นำเข้าสู่กิจกรรมการเรียนรู้ ๒.การสํารวจและค้นหา (Exploration) ๒.๑ เมื่อนักเรียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นข้างต้นแล้ว ครูให้นักเรียนแล้วตอบ คำถามว่า 1) Who ใคร ๒) What ทำอะไร ๓) Where ที่ไหน ๔) When เมื่อไหร่ ๕) Why ทำไม ๖) How อย่างไร (หมายเหตุ การตอบคำถามในเรื่องสุภาษิตสอนหญิงจะเป็นการถามเกี่ยวกับผู้แต่งว่าแต่ง ทำไม มีจุดประสงค์อย่างไร เนื่องจากวรรณคดีเรื่องนี้ไม่มีตัวละคร) 2.2 เมื่อนักเรียนตอบคำถามดังกล่าวแล้ว ครูให้นักเรียนทำกิจกรรมการเรียนรู้ โดยการ เขียนแผนผังความคิดจากเรื่องสุภาษิตสอนหญิง ประกอบไปด้วย ที่มาและประวัติผู้แต่ง เนื้อเรื่อง ลักษณะ การประพันธ์ ข้อคิดที่ได้รับ โดยที่นักเรียนสามารถสืบค้นหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ได้ ๓. การอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานของตนเองโดยการแสดงละครประกอบ เรื่องสุภาษิตสอนหญิง โดยเลือกสุภาษิตมากลุ่มละ ๑ บท แล้วทำการแสดงประกอบการนำเสนอ 4. การขยายความรู้ (Elaboration) จากนั้นครูขยายความรู้โดยการให้นักเรียนสรุปความรู้ร่วมกันเกี่ยวกับประเด็น สุภาษิตสอนหญิง ว่านักเรียนได้ข้อคิดอย่างไรบ้าง ได้อะไรจากเรื่องที่อ่านและนำข้อคิดไปประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจำวัน


68 ๕. การประเมินผล (Evaluation) ครูและนักเรียนและครูผู้สอนร่วมกันสรุปความรู้ คุณค่า และข้อคิดที่ได้จากการ เรียนรู้ว่านักเรียนได้ข้อคิดอย่างไรบ้าง ได้อะไรจากเรื่องที่อ่านและนำข้อคิดไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ๗. สื่อ/ แหล่งการเรียนรู้ 7.1 สื่อCanvaประกอบการสอน 7.2 หนังสือเรียนวรรณคดีลำนำ ประถมศึกษาปีที่ ๖ 7.3 กระดาษบรู๊ฟ 7.4 ปากกา ๘. ชิ้นงาน/ภาระงาน แผนผังความคิด ๙. การวัดผลและการประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีวัดผลและประเมินผล เครื่องมือวัดผลและประเมินผล ๑. นักเรียนสามารถวิเคราะห์วรรณคดี สุภาษิตสอนหญิงได้อย่างถูกต้อง สังเกตจากการทำกิจกรรมใน ห้องเรียน แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ๒. นักเรียนสามารถอธิบายการนำความรู้ และความคิด แสดงความคิดเห็นจาก วรรณคดี หรือวรรณกรรมที่อ่าน และ อธิบายคุณค่าของวรรณคดี เรื่องสุภาษิต สอนหญิง ได้ถูกต้อง ตรวจแผนผังความคิด แผนผังเป็นซึ่งจะต้องผ่านเกณฑ์ ร้อยละ ๗๐ ตั้งแต่ ๗ คะแนนขึ้น ไป 3. นักเรียนเห็นความสำคัญของการอ่าน วรรณ คดี ไท ยเพื่ อ น ำไป ใช้ตั ด สิน ใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิตและมีนิสัยรัก การอ่าน สังเกตจากการทำกิจกรรมใน ห้องเรียน แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ เกณฑ์การวัดผลและประเมินผล ๔. เกณฑ์การวัดผล ๑.๑ เกณฑ์การให้คะแนนแผนผังความคิด คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน โดยพิจารณาจากการทำ แผนผังความคิด มีช่วงคะแนน ดังนี้ ช่วงคะแนนระดับคุณภาพ ๗-๑๐ ระดับคุณภาพ ดี 4-๖ ระดับคุณภาพ พอใช้ ๐-3 ระดับคุณภาพ ปรับปรุง ๒. เกณฑ์การประเมินผล ๒.๑ เกณฑ์การตัดสินคุณภาพแบบประเมินกิจกรรม“นิทานทองอินกับนักล่าปริศนา” ได้ ระดับดีถือว่าผ่าน


69 บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ ผลการจัดการเรียนรู้ ........................................................................................................................................................ ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ............................................. ปัญหาหรืออุปสรรค ๑๐. ปัญหาหรืออุปสรรคของผู้เรียน ๑.๑ ........................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ๑.๒ ........................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ๑๑. ปัญหาหรืออุปสรรคของผู้สอน ๒.๑............................................................................................................................................ ......................................................................................................................................................................... ๒.๒ ........................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ๑๒. อื่น ๆ ……................................................................................................................................................... ข้อเสนอแนะ ๗. .................................................................................................................................................... ๘. ................................................................................................................................................... หมายเหตุ ........................................................................................................................................................ ลงชื่อ………………………………............... (นายเกษมศักดิ์ สิทธิฤกษ์) นิสิตฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู …………/…………/………..


70 การประเมินและตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือแผนการจัดการเรียนรู้ การพัฒนาการอ่านคิดวิเคราะห์วรรณคดีไทย โดยใช้การจัดการรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (๕E) ร่วมกับเทคนิค 5W1H ในรายวิชาภาษาไทยบูรณาการกับจรรยาบรรณวิชาชีพ ครู สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอนุบาลสงขลา แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่องรามเกียรติ์ ตอนศึกไมยราพ จำนวน ๒ ชั่วโมง คำชี้แจง จากข้อมูลที่กำหนดให้ ให้ประเมินความสอดคล้องระหว่างแผนการจัดการเรียนรู้กับตัวชี้วัดและ วัตถุประสงค์การเรียนรู้ หากมีความคิดเห็นว่าสอดคล้องกันให้กาเครื่องหมาย ✓ ที่ช่องผลการประเมิน +1 หากมีความคิดเห็นว่าไม่แน่ใจว่าสอดคล้องกันให้กาเครื่องหมาย ✓ ที่ช่องผลการประเมิน 0 หากมีความคิดเห็นว่าไม่สอดคล้องกันให้กาเครื่องหมาย ✓ ที่ช่องผลการประเมิน -1 พร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม แบบประเมินแบ่งเป็น 2 ตอน คือ ตอนที่ 1 แบบประเมินความถูกต้อง เหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้เป็นการ พิจารณาองค์ประกอบต่าง ๆ ของแผนการจัดการเรียนรู้ว่ามีความเหมาะสมเพียงใด ตอนที่ 2 แบบประเมินความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้ เป็นการพิจารณา องค์ประกอบต่าง ๆ ของแผนการจัดการเรียนรู้ว่ามีความสอดคล้องกันเพียงใด ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๖/4 แยกข้อคิดเห็นและข้อเท็จจริงจากเรื่องที่อ่าน ท ๑.๑ ป.๖/๕ อธิบายการนำความรู้และความคิด จากการอ่านไปตัดสินใจแก้ปัญหาการดำเนิน ชีวิต ท ๕.๑ ป.๖/๑ แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดี หรือวรรณกรรมที่อ่าน ท ๕.๑ ป.๖/๓ อธิบายคุณค่าของวรรณคดี และวรรณกรรมที่อ่านและนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง


71 ตอนที่ 1 แบบประเมินความถูกต้อง เหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้ คำชี้แจง โปรดทำเครื่องหมาย ในช่องระดับความเหมาะสมที่ตรงกับความคิดเห็นของท่าน และขอ ความกรุณาเขียนข้อเสนอแนะอื่น ๆ เพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรู้ต่อไป ที่ รายการประเมิน ระดับคุณภาพ มีครบทุกแผน (3 คะแนน) มีเป็นบางแผน (2 คะแนน) ไม่มีเลย (1 คะแนน) 1 แผนการจัดการเรียนรู้มีองค์ประกอบสำคัญครบถ้วน ตามแบบฟอร์มที่โรงเรียนกำหนด 2 ระบุมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ ถูกต้อง 3 การเขียนสาระสำคัญในแผนการจัดการเรียนรู้ถูกต้อง 4 จุดประสงค์การเรียนรู้ระบุพฤติกรรมชัดเจน ถูกต้อง สามารถวัดได้ 5 กิจกรรมการเรียนรู้มีความเหมาะสม ครบถ้วนทุก ขั้นตอนตามวิธีสอน หรือกระบวนการ หรือเทคนิคการ สอนที่ระบุไว้ในแผนการจัดการเรียนรู้ 6 ระบุการใช้สื่อ/แหล่งเรียนรู้ในกิจกรรมการเรียนรู้ 7 ระบุวิธีการวัดผลประเมินผลอย่างชัดเจน 8 ระบุเครื่องมือสำหรับการวัดผลประเมินผลอย่างชัดเจน 9 ระบุเกณฑ์การประเมินผลอย่างชัดเจน 10 มีหลักฐานการเรียนรู้ อาทิ สื่อ ใบกิจกรรม ใบความรู้ เครื่องมือวัด ฯ ที่ปรากฎในแผนการจัดการเรียนรู้ ครบถ้วน รวมคะแนน ผลการประเมิน ตอนที่ 2 แบบประเมินความสอดคล้ององค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ คำชี้แจง โปรดทำเครื่องหมาย ลงในช่องที่ตรงกับความคิดเห็นของท่าน ที่ รายการประเมิน ผลการประเมิน -1 0 1 1 การเขียนสาระสำคัญมีความสัมพันธ์สอดคล้องกับจุดประสงค์การ เรียนรู้ 2 จุดประสงค์การเรียนรู้มีความสอดคล้องสัมพันธ์กับสาระการเรียนรู้ 3 หลักฐานการเรียนรู้มีความสัมพันธ์ สอดคล้องกับจุดประสงค์การ


72 ที่ รายการประเมิน ผลการประเมิน -1 0 1 เรียนรู้/กิจกรรมการเรียนรู้ 4 วิธีการวัดผลประเมินผลมีความสัมพันธ์กับจุดประสงค์การเรียนรู้ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียน 5 เครื่องมือวัดผลประเมินผล มีความสัมพันธ์กับจุดประสงค์การเรียนรู้ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียน 6 กิจกรรมการเรียนรู้มีความสัมพันธ์สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 7 สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้ มีความสัมพันธ์สอดคล้องกับกิจกรรมการ เรียนรู้ คะแนนเฉลี่ยรวม ผลการประเมิน เกณฑ์การประเมิน ตอนที่ 1 แบบประเมินความถูกต้อง เหมาะสมของ แผนการจัดการเรียนรู้ ตอนที่ 2 แบบประเมินความสอดคล้องของ แผนการจัดการเรียนรู้ คะแนนระหว่าง 1 – 14 ระดับคุณภาพต้องปรับปรุง คะแนนระหว่าง 15 – 23 ระดับคุณภาพดี ค่าความสอดคล้องต้องมีค่าตั้งแต่ 0.50 ขึ้นไป คะแนนระหว่าง 24 – 30 ระดับคุณภาพดีมาก ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ( ) ผู้ประเมินและตรวจสอบคุณภาพ เครื่องมือวัดแผนการจัดการเรียนรู้ / /


73 ผลการประเมินความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้ ตอนที่ 1 แบบประเมินความถูกต้อง เหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้ ที่ รายการประเมิน คะแนนการประเมินของผู้เชี่ยวชาญ คนที่ ๑ คนที่ ๒ คนที่ ๓ 1 แผนการจัดการเรียนรู้มีองค์ประกอบสำคัญครบถ้วน ตามแบบฟอร์มที่โรงเรียนกำหนด 3 3 3 2 ระบุมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ ถูกต้อง 3 3 3 3 การเขียนสาระสำคัญในแผนการจัดการเรียนรู้ถูกต้อง 3 3 3 4 จุดประสงค์การเรียนรู้ระบุพฤติกรรมชัดเจน ถูกต้อง สามารถวัดได้ 3 3 3 5 กิจกรรมการเรียนรู้มีความเหมาะสม ครบถ้วนทุก ขั้นตอนตามวิธีสอน หรือกระบวนการ หรือเทคนิคการ สอนที่ระบุไว้ในแผนการจัดการเรียนรู้ 3 3 3 6 ระบุการใช้สื่อ/แหล่งเรียนรู้ในกิจกรรมการเรียนรู้ 3 3 3 7 ระบุวิธีการวัดผลประเมินผลอย่างชัดเจน 3 3 3 8 ระบุเครื่องมือสำหรับการวัดผลประเมินผลอย่างชัดเจน 3 3 3 9 ระบุเกณฑ์การประเมินผลอย่างชัดเจน 3 2 3 10 มีหลักฐานการเรียนรู้ อาทิ สื่อ ใบกิจกรรม ใบความรู้ เครื่องมือวัด ฯ ที่ปรากฎในแผนการจัดการเรียนรู้ ครบถ้วน 2 2 2 รวมคะแนน 29 28 29 ผลการประเมิน ระดับ คุณภาพดี มาก ระดับ คุณภาพดี มาก ระดับ คุณภาพดี มาก


74 ตอนที่ 2 แบบประเมินความสอดคล้ององค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ที่ รายการประเมิน ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ คนที่ ๑ คนที่ ๒ คนที่ ๓ ค่า IOC แปลผล 1 การเขียนสาระสำคัญมีความสัมพันธ์สอดคล้อง กับจุดประสงค์การเรียนรู้ +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง 2 จุดประสงค์การเรียนรู้มีความสอดคล้องสัมพันธ์ กับสาระการเรียนรู้ +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง 3 หลักฐานการเรียนรู้มีความสัมพันธ์ สอดคล้องกับ จุดประสงค์การเรียนรู้/กิจกรรมการเรียนรู้ +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง 4 วิธีการวัดผลประเมินผลมีความสัมพันธ์กับ จุดประสงค์การเรียนรู้ คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ และสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียน +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง 5 เครื่องมือวัดผลประเมินผล มีความสัมพันธ์กับ จุดประสงค์การเรียนรู้ คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ และสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียน +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง 6 กิจกรรมการเรียนรู้มีความสัมพันธ์สอดคล้องกับ จุดประสงค์การเรียนรู้ คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ และสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง 7 สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรียนรู้ มีความสัมพันธ์ สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง ผลการประเมิน สามารถนำแผนไปใช้ในการวิจัยได้ เพราะมีค่าความสอดคล้อง ต้องมีค่าตั้งแต่ 0.50 ขึ้นไป


75 ภาคผนวก ค แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน


76 แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนวิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ข้อสอบปรนัย จำนวน ๓๐ ข้อ คะแนนเต็ม ๓๐ คะแนน คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกข้อที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว แล้วกาลงในกระดาษคำตอบให้ถูกต้อง 1. เจ้าพลายงามความแสนสงสารแม่ ชําเลืองแลดูหน้าน้ำตาไหล แล้วกราบกรานมารดาด้วยอาลัย ลูกเติบใหญ่คงจะมาหาแม่คุณ จากเสภาขุนช้างขุนแผน ตอน กำเนิดพลาย งาม ที่ยกมานี้ แสดงใหเห็นลักษณะนิสัยของพลายงาม อย่างไร ก. ออนไหว ข. กตัญญูรู้คุณ ค. ลูกแหง ง. ทะนงตน 2. “ขุนช้างตื่นฟื้นตัวหัวผงก เห็นเมียตกใจผวาออกว้าวุ่น ประคองนางพลางบนเอาต้นทุน อย่าท้อแท้แม่คุณจงแข็งใจ” จากเสภาขุนช้างขุนแผน ตอน กำเนิดพลาย งาม ที่ยกมานี้ ขุนช้างมีข้อดีอย่างไร ก. รักพลายงามเหมือนลูกแท้ ๆ ข. ดูแลบ่าวไพร่เป็นอย่างดี ค. มียศถาบรรดาศักดิ์ ง. รักนางวันทองมาก 3. เพราะเหตุใดพลายงามจึงการไปอยู่กับย่า ก. เพราะรู้ความจริงว่าขุนช้างไม่ใช่พ่อแท้ๆ ข. เพราะต้องการตามหาพ่อแท้ๆ ค. เพราะอยากเรียนหนังสือ ง. เพราะกลัวขุนช้าง ๔. จากเสภาขุนช้างขุนแผน ตอน กำเนิดพลายงาม การที่นางวันทองส่งพลายงามไปอยู่กับนางทอง ประศรี สะท้อนภาพหญิงไทยในอดีตอย่างไร ก. ต้องพึ่งพาครอบครัวของสามี ข. ไม่สามารถเลี้ยงลูกเองได้ ค. เป็นแม่บ้านแม่เรือน ง. เทิดทูนสามีมาก ๕. จากเสภาขุนช้างขุนแผน ตอน กำเนิดพลายงาม การที่นางวันทองส่งพลายงามไปอยู่กับนาง ทองประศรี สะท้อนภาพหญิงไทยในอดีตอย่างไร ก. ต้องพึ่งพาครอบครัวของสามี ข. ไม่สามารถเลี้ยงลูกเองได้ ค. เป็นแม่บ้านแม่เรือน ง. เทิดทูนสามีมาก ๖. “นางกอดจูบลูบหลังแล้วสั่งสอน อํานวยพรพลายน้อยละห้อยไห้ พ่อไปดีศรีสวัสดิ์กําจัดภัย จนเติบใหญ่ยิ่งยวดได้บวชเรียน ลูกผู้ชายลายมือนั้นคือยศ เจ้าจงอุตส่าห์ทำสม่ำเสมียน แล้วพาลูกออกมาข้างท่าเกวียน จะจากเจียนใจขาดอนาถใจ” จากบทอาขยานที่กำหนด แสดงให้เห็นค่านิยม ของสังคมไทยในสมัยก่อนอย่างไร ก. เมื่อโตขึ้นต้องเดินทางไปหาวิชาความรู้ต่างๆ ข. ผู้ชายต้องฝึกเขียนเพื่อให้มีลายมือที่สวยงาม ค. ผู้ชายต้องบวชเรียนเพื่อความก้าวหน้า ง. เมื่อลูกชายโตขึ้นต้องไปอยู่ที่วัด ๗. “พอจวนพลบพบฝูงจิ้งจอกน้อย วิ่งร่อยร่อยตามเขาแล้วเห่าหอน แสยงเส้นโลมาให้อาวรณ์ ถึงดงดอนแดนบ้านกาญจน์บุรี” จากเสภาขุนช้างขุนแผน ตอน กำเนิดพลายงาม ที่กำหนด แสดงอารมณ์ความรู้สึกใดของตัวละคร ก. กังวล ข. เหงา ค. หวาดเกรง ง. หดหู่


77 ๘. “แต่ครั้งนี้มีกรรมจะจำจาก ต้องพลัดพรากแม่ไปเพราะอ้ายขุน เที่ยวหาพ่อขอให้ปะเดชะบุญ ไม่ลืมคุณมารดาจะมาเยื่อน” จากเสภาขุนช้างขุนแผน ตอน กำเนิดพลาย งามที่กำหนด คําว่า อ้ายขุน หมายถึงผู้ใด ก. ขุนไกร ข. ขุนแผน ค. ขุนช้าง ง. ขุนทอง ๙. ข้อใดมีการใช้คําที่ให้ภาพและเสียงเด่นที่สุด ก. ดูเงียบเชียบเรียบรอบริมขอบรั้ว ไม่เห็นตัวท่านย่าน่าสงสัย ประตูหับยับยั้งยืนฟังไป เสียงแต่ในออดแอดแรดแรแร ข. พวกเด็กเด็กดีใจไปสิหวา ซ่อนข้าวปลาปล่อยควายแล้วผายผัน บ้างเหน็บหน้าผ้านุ่งเกี้ยวพุงพัน หัวเราะกันกูจะห่อให้พอแรง ค. แล้วพยักกวักเรียกอ้ายเด็กเด็ก ลูกเล็กเล็กหลบลอบค่อยหมอบก้ม ระวังตัวกลัวยายเฒ่าเจ้าคารม เก็บมะยมซุบซิบกระหยิบตา ง. จึงจะบอกออกตามเนื้อความลับ ได้อยู่กับย่ากำเนิดบังเกิดหัว แล้วเมียงมองย่องดอดเข้าลอดรั้ว ค่อยแฝงตัวขึ้นบนต้นมะยม ๑๐. “นางวันทองหมองมัวกลัวขุนช้าง ไม่เหมือนอย่างคนทั้งปวงมันหวงหึง ออกชายทุ่งมุ่งเมินเดินตะบึง กลับมาถึงเรือนร่ำระกำตรอม ทุกเย็นเช้าเศร้าหมองเฝ้าร้องไห้ ด้วยอาลัยพลายงามทรามถนอม ถึงยามกินสิ้นรสสู้อดออม จนซูบผอมผิวพรรณทุกวันคืน” จากเสภาขุนช้างขุนแผน ตอน กำเนิดพลายงามที่ กำหนด ข้อใดสะท้อนอารมณ์ของนางวันทอง ก. เศร้าใจ ข. โกรธ ค. ตื่นเต้น ง. กลัว 11. คนที่จะเป็นนักสืบ ไม่ควร มีลักษณะในข้อใด ก. สอดรู้สอดเห็น ข. ช่างสังเกต ค. ฉลาด ง. ไหวพริบดี 12. “จริง! จริง! ฉันไม่เชื่อว่าผีเหมือนกัน และอะไรผีจะมาทําอย่างนั้น” จากคําพูดที่ยกมานี้ แสดงให้เห็นลักษณะเด่น ของผู้พูดอย่างไร ก. จริงจังในชีวิต ข. ไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ ค. พูดจาโผงผาง ง. มีระเบียบวินัย 13. ข้อใด ไม่เกี่ยวข้อง กับเรื่องนิทานทองอิน ก. พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ข. นวนิยายเรื่อง เชอร์ล็อก โฮล์มส์ ค. การ์ตูนยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ง. นากพระโขนงที่สอง ๑4. “ที่นั้นก็ไม่มีอะไรมาก มีเรือนฝากระดานสอง หลัง รั้วกั้นสามด้าน รั้วนั้นจดถนนหลังเรือนมีคูแต่ไม่มี รั้วกั้น ต่อคูออกไปอีกสี่ห้าก้าวก็ถึงคอกกระบือ ผู้ที่จะ ออกไปจากเรือนไปคอกกระบือ ต้องข้ามสะพานไม้ ท่อนเดียว ต่อคอกกระบือออกไปเป็นทุ่งนามีโรงนาอยู่ ปลายเขตของพันโชติโรงหนึ่ง” จากเรื่อง นิทานทองอิน ตอน นากพระโขนงที่ สองที่ยกมานี้ ใช้โวหารประเภทใด 1. บรรยายโวหาร 2. พรรณนาโวหาร 3. อุปมาโวหาร 4. สาธกโวหาร


78 อ่านเรื่องย่อนิทานทองอิน ตอน นากพระโขนงที่ สอง แล้วตอบคําถาม ข้อ 15 -16. “นายวัดเล่าข่าวลือเรื่องปีศาจดุร้ายเที่ยวมา หลอกหลอนผู้คนย่านพระโขนงให้นายทองอินฟัง โดยเหตุเกิดที่บ้านของพันโชติซึ่งเป็นกำนันพันโชติ มีภรรยาชื่อนาก ซึ่งเสียชีวิตแล้วและเป็นปีศาจที่ ชาวบ้านลือกัน นายทองอินสนใจไปสืบเรื่องนี้จึง ชวนนายวัดไปด้วย โดยเริ่มสืบจากลูกบ้านของ กํานันพันโชติที่บอกเล่าเรื่องปีศาจนางนากเขียนจด หมายถึงพันโชติ แล้วไปคุยกับกํานันพันโชติที่เชื่อ ว่า มีปีศาจนางนากอดีตภรรยาของตนจริง ๆ เพราะปรากฏตัวในสถานที่สองแห่งได้ในเวลา เดียวกัน นายทองอินจึงออกอุบายให้นายวัดปลอม เป็นหมอผี แล้วบอกให้กํานันพันโชติและลูกไป จัดหาของใช้สำหรับไล่ผีจากนั้นนายทองอินและ นายวัดก็เดินสํารวจบ้านของกํานันพันโชติ เมื่อถึง เวลาไล่ผี นายทองอินนัดแนะให้นายวัดจับผีตน หนึ่ง และตนเองจับผีอีกตนหนึ่ง ปรากฏว่า ผีทั้ง สองคือลูกของกํานันพันโชติและเพื่อน โดยสาเหตุ ที่ปลอมตัวเป็นปีศาจ เพราะลูกของกํานันพันโชติ ไม่ต้องการให้พ่อแต่งงานใหม่นั่นเอง” 15. เหตุการณ์ใดเกิดขึ้นเป็นลำดับแรก ก. นายวัดวิ่งไล่ปีศาจที่แต่งกายเป็นผู้หญิง ข. นายวัดและนายทองอินไปสนทนากับ ชาวบ้านที่พระโขนงเรื่องข่าวลือ ค. นายทองอินและนายวัดไปที่บ้านพันโชติ ง. นายวัดไปเล่าเรื่องปีศาจนากพระโขนงที่สอง ให้นายทองอินฟัง ๑6. ข้อใดแสดงให้เห็นว่า นายทองอินเป็นผู้มี ปฏิภาณไหวพริบดี ก. คิดเดินทางไปบางพระโขนง ข. ปลอมตัวเก่งและแนบเนียนมาก ค. คิดสงสัยจดหมายที่นางนากเขียนถึงสามี ง. ไม่บอกกํานันพันโชติว่าผีนางนากไม่มีจริง ๑7. ใครปฏิบัติตนตามข้อคิดที่ได้จากเรื่อง นิทานทอง อิน ตอน นากพระโขนงที่สอง ก. ปุ้กคิดพิจารณาก่อนที่จะเชื่อเรื่องต่าง ๆ ข. ปออ่านเรื่องสืบสวนสอบสวนบ่อย ๆ ค. ป้อมเชื่อข่าวลือที่มีคนเล่าให้ฟัง ง. เป้ยเชื่อว่าภูตผีปีศาจมีจริง ๑8. หากทินต้องการเป็นนักสืบทินไม่ควรปฏิบัติตน อย่างไร ก. หาความรู้อยู่เสมอ ข. หมั่นสังเกตสิ่งต่าง ๆ ค. ปรับตัวให้เข้ากับสิ่งต่าง ๆ ได้ ง. ให้ผู้อื่นหาข้อมูลเรื่องต่าง ๆ ให 19. “ไมยราพฝัน โหรทํานายฝันว่า ไวยวิกลูกนาง พิรากวนผู้เป็นน้องสาวจะได้ครองราชสมบัติ ไมยราพ จึงจับไวยวิกไปจองจำจากนั้นไมยราพไปจับตัว พระรามมาขังไว้แล้วสั่งให้นางพิรากวนไปตักน้ำเพื่อ นำมาต้มพระรามและไวยวิก ซึ่งหนุมานที่กําลังหาทาง ลักลอบเข้าในเมืองบาดาลเพื่อช่วยพระรามได้พบนาง พิรากวนก่อน นางพิรากวนอยากให้หนุมานช่วยไว ยวิกด้วย หนุมานจึงแปลงร่างเป็นใยบัวติดสไบนางพิ รากวน นางพิรากวนจึงพาหนุมานเข้าไปในเมืองของ ไมยราพได้สำเร็จ” จากเรื่องย่อของวรรณคดีเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ ที่ยกมานี้ สะท้อนให้เห็นเรื่องอะไร ก. ความฉลาดของหนุมาน ข. กลโกงในการเอาชนะศัตรู ค. ความไม่ซื่อสัตย์สุจริตต่อผู้ปกครอง ง. ความรักที่มีแม่มีต่อลูกทำให้ยอมทำในเรื่อง ที่เสี่ยงอันตราย 20. ลักษณะข้อใดของหนุมานที่ทำให้มัจฉานุยอมเชื่อ ว่าเป็นบิดา ก. กุณฑลของหนุมาน ข. ขนเพชรของหนุมาน ค. เขี้ยวแก้วของหนุมาน ง. การหาวเป็นดาวเป็นเดือนของหนุมาน


79 21. บัดนั้น หนุมานผู้ชาญชัยศรี กริ้วโกรธพิโรธดั่งอัคคี ขุนกระบี่รับระปะทะกร จากเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ ที่กำหนดเป็นการใช้โวหารลักษณะใด ก. บรรยายโวหาร ข. เทศนาโวหาร ค. อุปมาโวหาร ง. พรรณนาโวหาร 22. หากนักเรียนไม่ได้อยู่กับพ่อหรือแม่เหมือนกับ มัจฉานุที่ไม่ได้อยู่กับหนุมาน แล้วมีโอกาสได้พบ พ่อกับแม่ ควรปฏิบัติตนอย่างไร ก. กล่าวทักทายและไหว้สวัสดี ข. ทำเฉย ๆ เพราะไม่คุ้นเคยกัน ค. กล่าวทักทายแล้วหลบออกไป ง. กล่าวขอโทษที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน 23. การที่มัจฉานุบอกใบ้เป็นนัยให้หนุมานหาทาง ลงไปในเมืองบาดาล โดยไม่บอกตรง ๆ เพราะเห็น แก่ไมยราพ สะท้อนคุณธรรมใด ก. ความมีวินัย ข. ความสุภาพ ค. ความกตัญญูรู้คุณ ง. ความซื่อสัตย์สุจริต 24. ข้อใด ไม่ได้ กล่าวถึงหนุมาน ก. เห็นวานรเผือกผู้อหังการ ล่วงด่านผ่านทางเข้ามา ข. จึ่งคิดว่าวานรนี้ เหตุใดมีหางเป็นมัจฉา ค. ฟังลูกพระพายเทวัญ ขบฟันชี้หน้าแล้วร้องไป ง. เหม่เหม่ดูดู๋กระบี่ศรี มุสาพาทีก็เป็นได้ 25.ข้อใด ไม่ได้ หมายถึง พระจักรี ก. สมเด็จพระหริวงศ์ ข. พระจอมมงกุฎเกศ ค. องค์ทรงศร ง. ลือเดช 26. “อะไรฉาวกราวเกรียวอย่าเหลียวแล ฟังให้แน่เนื้อความค่อยถามกัน” ใครปฏิบัติตนตามคําสอนจากวรรณคดีเรื่อง สุภาษิตสอนหญิง ที่ยกมานี้ ก. นกได้ยินเสียงดังจึงหลบไปให้พ้นจากบริเวณนั้น ข. นิดถามนัดเรื่องการทำงานต่าง ๆ อยู่เสมอ ค. น้อยเชื่อเรื่องที่แนนพูดโดยไม่ซักถามใด ๆ ง. นิ่มหาข้อมูลในเรื่องต่าง ๆ ก่อนจะเชื่อ 27. “จงรักนวลสงวนงามห้ามใจไว้ อย่าหลงใหลจำคำที่พร่ำสอน คิดถึงหน้าบิดาแลมารดร อย่ารีบร้อนเร็วนักมักไม่ดี” ข้อใดสัมพันธ์กับบทร้อยกรองนี้ ก. อย่าทำงานด้วยความรีบร้อน ข. ต้องนึกถึงพ่อแม่อยู่เสมอ ค. อย่าชิงสุกก่อนห้าม ง. จงหักห้ามใจ 28. วรรณคดีคําสอนเรื่อง สุภาษิตสอนหญิง มี ลักษณะแตกต่าง จากวรรณคดีเรื่องอื่น ๆ อย่างไร ก. ประพันธ์โดยใช้กลอนสุภาพ ข. ให้ข้อคิดคติสอนใจแก่ผู้อื่น ค. ไม่มีตัวละครและเหตุการณ์ ง. สํานวนกลอนไพเราะ 29. จากวรรณคดีเรื่อง สุภาษิตสอนหญิง เป็นการ สอนที่คนทุกเพศทุกวัยสามารถนำไปปฏิบัติตามได้ ยกเว้น ข้อใดที่เน้นสอนเฉพาะผู้หญิง ก. แม้นลูกดีก็จะมีศรีสง่า ญาติวงศ์พงศาก็ผ่องใส ข. แม้นแตกร้าวรานร้อยถอยราคา จะพลอยพาหอมหายจากกายนาง ค. แม้นจะเรียนวิชาทางค้าขาย อย่าปากร้ายพูดจาอัชฌาสัย ง. แม้นพูดดีมีคนเขาเมตตา จะพูดจาจงพิเคราะห์ให้เหมาะความ


80 30. “มีสลึงพึงประจบให้ครบบาท อย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์ จงมักน้อยกินน้อยค่อยบรรจง อย่าจ่ายลงให้มากจะยากนาน” บทร้อยกรองนี้ให้ข้อคิดในเรื่องใด ก. การคบเพื่อน ข. การดำเนินชีวิต ค. การประกอบอาชีพ ง. การรับประทานอาหาร


81 แบบทดสอบการคิดวิเคราะห์ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ข้อสอบแบบอัตนัย จำนวน ๕ ข้อ คะแนนเต็ม 1๐ คะแนน คำชี้แจง ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง 1. หากขุนช้างอยู่ในปัจจุบัน นักเรียนคิดว่าการที่ขุนช้างซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงทุบตีลูกเลี้ยง คือ พลายงาม จะมี ความผิดหรือไม่ เพราะเหตุใด ๒. เรื่อง นิทานทองอิน ตอน นากพระโขนงที่สอง มีลักษณะการดำเนินเรื่อง และให้ข้อคิดอย่างไร 3. จากวรรณคดีเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ จงยกตัวอย่างตัวละครมา 2 ตัว และบอกว่ามี ความสำคัญอย่างไร


82 4. จากวรรณคดีเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ การที่มัจฉานุไม่ยอมช่วยหนุมานผู้เป็นบิดาปราบยักษ์ ไมยราพที่เลี้ยงตนมา แสดงให้เห็นถึงสิ่งใด 5. นักเรียนคิดว่าคําสอนในวรรณคดีเรื่อง สุภาษิตสอนหญิง ล้าสมัยและไม่สอดคล้องกับสภาพสังคมปัจจุบัน หรือไม่และมีคําสอนใดที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์ในการดำเนินชีวิตประจำวันของเราบ้าง ยกตัวอย่าง พร้อมอธิบายและให้เหตุผลมา 2 ตัวอย่าง ชื่อ ชั้น เลขที่


83 ผลการวิเคราะห์ค่าความยากง่ายและค่าความเหมาะสมของแบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ตอนที่ ๑ ข้อสอบปรนัย จำนวน ๓๐ ข้อ คะแนนเต็ม ๓๐ คะแนน ข้อที่ ข้อคำถาม ความคิดเห็นของ ผู้เชี่ยวชาญ ค่า IOC แปลผล 1 2 3 ๑ เจ้าพลายงามความแสนสงสารแม่ ชําเลืองแลดูหน้าน้ำตาไหล แล้วกราบกรานมารดาด้วยอาลัย ลูกเติบใหญ่คงจะมาหาแม่คุณ จากเสภาขุนช้างขุนแผน ตอน กำเนิด พลายงาม ที่ยกมานี้ แสดงใหเห็นลักษณะนิสัยของพลาย งาม อย่างไร ก. ออนไหว ข. กตัญญูรู้คุณ ค. ลูกแหง ง. ทะนงตน +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง ๒ “ขุนช้างตื่นฟื้นตัวหัวผงก เห็นเมียตกใจผวาออกว้าวุ่น ประคองนางพลางบนเอาต้นทุน อย่าท้อแท้แม่คุณจงแข็งใจ” จากเสภาขุนช้างขุนแผน ตอน กำเนิด พลายงาม ที่ยกมานี้ ขุนช้างมีข้อดีอย่างไร ก. รักพลายงามเหมือนลูกแท้ ๆ ข. ดูแลบ่าวไพร่เป็นอย่างดี ค. มียศถาบรรดาศักดิ์ ง. รักนางวันทองมาก +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง ๓ เพราะเหตุใดพลายงามจึงการไปอยู่กับย่า ก. เพราะรู้ความจริงว่าขุนช้างไม่ใช่ พ่อแท้ๆ ข. เพราะต้องการตามหาพ่อแท้ๆ ค. เพราะอยากเรียนหนังสือ ง. เพราะกลัวขุนช้าง +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง ๔ จากเสภาขุนช้างขุนแผน ตอน กำเนิดพลายงาม การที่นางวันทองส่งพลายงามไปอยู่กับนางทอง ประศรี สะท้อนภาพหญิงไทยในอดีตอย่างไร +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง


84 ข้อที่ ข้อคำถาม ความคิดเห็นของ ผู้เชี่ยวชาญ ค่า IOC แปลผล 1 2 3 ก. ต้องพึ่งพาครอบครัวของสามี ข. ไม่สามารถเลี้ยงลูกเองได้ ค. เป็นแม่บ้านแม่เรือน ง. เทิดทูนสามีมาก ๕ จากเสภาขุนช้างขุนแผน ตอน กำเนิดพลายงาม การที่นางวันทองส่งพลายงามไปอยู่กับนาง ทองประศรี สะท้อนภาพหญิงไทยในอดีต อย่างไร ก. ต้องพึ่งพาครอบครัวของสามี ข. ไม่สามารถเลี้ยงลูกเองได้ ค. เป็นแม่บ้านแม่เรือน ง. เทิดทูนสามีมาก +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง ๖ “นางกอดจูบลูบหลังแล้วสั่งสอน อํานวยพรพลายน้อยละห้อยไห้ พ่อไปดีศรีสวัสดิ์กําจัดภัย จนเติบใหญ่ยิ่งยวดได้บวชเรียน ลูกผู้ชายลายมือนั้นคือยศ เจ้าจงอุตส่าห์ทำสม่ำเสมียน แล้วพาลูกออกมาข้างท่าเกวียน จะจากเจียนใจขาดอนาถใจ” จากบทอาขยานที่กำหนด แสดงให้เห็น ค่านิยมของสังคมไทยในสมัยก่อนอย่างไร ก. เมื่อโตขึ้นต้องเดินทางไปหาวิชาความรู้ ต่างๆ ข. ผู้ชายต้องฝึกเขียนเพื่อให้มีลายมือที่ สวยงาม ค. ผู้ชายต้องบวชเรียนเพื่อความก้าวหน้า ง. เมื่อลูกชายโตขึ้นต้องไปอยู่ที่วัด +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง ๗ “พอจวนพลบพบฝูงจิ้งจอกน้อย วิ่งร่อยร่อยตามเขาแล้วเห่าหอน แสยงเส้นโลมาให้อาวรณ์ ถึงดงดอนแดนบ้านกาญจน์บุรี” จากเสภาขุนช้างขุนแผน ตอน กำเนิด พลายงามที่กำหนด แสดงอารมณ์ความรู้สึกใด +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง


85 ข้อที่ ข้อคำถาม ความคิดเห็นของ ผู้เชี่ยวชาญ ค่า IOC แปลผล 1 2 3 ของตัวละคร ก. กังวล ข. เหงา ค. หวาดเกรง ง. หดหู่ ๘ “แต่ครั้งนี้มีกรรมจะจำจาก ต้องพลัดพรากแม่ไปเพราะอ้ายขุน เที่ยวหาพ่อขอให้ปะเดชะบุญ ไม่ลืมคุณมารดาจะมาเยื่อน” จากเสภาขุนช้างขุนแผน ตอน กำเนิด พลายงาม ที่กำหนด คําว่า อ้ายขุน หมายถึงผู้ใด ก. ขุนไกร ข. ขุนแผน ค. ขุนช้าง ง. ขุนทอง +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง ๙ ข้อใดมีการใช้คําที่ให้ภาพและเสียงเด่นที่สุด ก. ดูเงียบเชียบเรียบรอบริมขอบรั้ว ไม่เห็นตัวท่านย่าน่าสงสัย ประตูหับยับยั้งยืนฟังไป เสียงแต่ในออดแอดแรดแรแร ข. พวกเด็กเด็กดีใจไปสิหวา ซ่อนข้าวปลาปล่อยควายแล้วผายผัน บ้างเหน็บหน้าผ้านุ่งเกี้ยวพุงพัน หัวเราะกันกูจะห่อให้พอแรง ค. แล้วพยักกวักเรียกอ้ายเด็กเด็ก ลูกเล็กเล็กหลบลอบค่อยหมอบก้ม ระวังตัวกลัวยายเฒ่าเจ้าคารม เก็บมะยมซุบซิบกระหยิบตา ง. จึงจะบอกออกตามเนื้อความลับ ได้อยู่กับย่ากำเนิดบังเกิดหัว แล้วเมียงมองย่องดอดเข้าลอดรั้ว ค่อยแฝงตัวขึ้นบนต้นมะยม +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง ๑๐ “นางวันทองหมองมัวกลัวขุนช้าง ไม่เหมือนอย่างคนทั้งปวงมันหวงหึง ออกชายทุ่งมุ่งเมินเดินตะบึง กลับมาถึงเรือนร่ำระกำตรอม +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง


86 ข้อที่ ข้อคำถาม ความคิดเห็นของ ผู้เชี่ยวชาญ ค่า IOC แปลผล 1 2 3 ทุกเย็นเช้าเศร้าหมองเฝ้าร้องไห้ ด้วยอาลัยพลายงามทรามถนอม ถึงยามกินสิ้นรสสู้อดออม จนซูบผอมผิวพรรณทุกวันคืน” จากเสภาขุนช้างขุนแผน ตอน กำเนิดพลายงาม ที่กำหนด ข้อใดสะท้อนอารมณ์ของนางวันทอง ก. เศร้าใจ ข. โกรธ ค. ตื่นเต้น ง. กลัว ๑๑ คนที่จะเป็นนักสืบ ไม่ควร มีลักษณะในข้อใด ก. สอดรู้สอดเห็น ข. ช่างสังเกต ค. ฉลาด ง. ไหวพริบดี +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง ๑๒ “จริง! จริง! ฉันไม่เชื่อว่าผีเหมือนกัน และอะไรผีจะมาทําอย่างนั้น” จากคําพูดที่ยกมานี้ แสดงให้เห็นลักษณะ เด่นของผู้พูดอย่างไร ก. จริงจังในชีวิต ข. ไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ ค. พูดจาโผงผาง ง. มีระเบียบวินัย +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง ๑๓ ข้อใด ไม่เกี่ยวข้อง กับเรื่องนิทานทองอิน ก. พ ระบ าทสมเด็จพ ระมงกุฎเกล้า เจ้าอยู่หัว ข. นวนิยายเรื่อง เชอร์ล็อก โฮล์มส์ ค. การ์ตูนยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ง. นากพระโขนงที่สอง +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง ๑๔ “ที่นั้นก็ไม่มีอะไรมาก มีเรือนฝากระดานสอง หลัง รั้วกั้นสามด้าน รั้วนั้นจดถนนหลังเรือนมีคู แต่ไม่มีรั้วกั้น ต่อคูออกไปอีกสี่ห้าก้าวก็ถึงคอก กระบือ ผู้ที่จะออกไปจากเรือนไปคอกกระบือ ต้องข้ามสะพานไม้ท่อนเดียว ต่อคอกกระบือ ออกไปเป็นทุ่งนามีโรงนาอยู่ปลายเขตของพัน โชติโรงหนึ่ง” +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง


87 ข้อที่ ข้อคำถาม ความคิดเห็นของ ผู้เชี่ยวชาญ ค่า IOC แปลผล 1 2 3 จากเรื่อง นิทานทองอิน ตอน นากพระ โขนงที่สองที่ยกมานี้ ใช้โวหารประเภทใด 1. บรรยายโวหาร 2. พรรณนาโวหาร 3. อุปมาโวหาร 4. สาธกโวหาร ๑๕ อ่านเรื่องย่อนิทานทองอิน ตอน นากพระ โขนงที่สอง แล้วตอบคําถาม ข้อ 15 -16. “นายวัดเล่าข่าวลือเรื่องปีศาจดุร้ายเที่ยวมา หลอกหลอนผู้คนย่านพระโขนงให้นายทองอิน ฟัง โดยเหตุเกิดที่บ้านของพันโชติซึ่งเป็นกำนัน พันโชติมีภรรยาชื่อนาก ซึ่งเสียชีวิตแล้วและเป็น ปีศาจที่ชาวบ้านลือกัน นายทองอินสนใจไปสืบ เรื่องนี้จึงชวนนายวัดไปด้วย โดยเริ่มสืบจาก ลูกบ้านของกํานันพันโชติที่บอกเล่าเรื่องปีศาจ นางนากเขียนจดหมายถึงพันโชติ แล้วไปคุยกับ กํานันพันโชติที่เชื่อว่า มีปีศาจนางนากอดีต ภรรยาของตนจริง ๆ เพราะปรากฏตัวใน สถานที่สองแห่งได้ในเวลาเดียวกัน นายทองอิน จึงออกอุบายให้นายวัดปลอมเป็นหมอผี แล้ว บอกให้กํานันพันโชติและลูกไปจัดหาของใช้ สำหรับไล่ผีจากนั้นนายทองอินและนายวัดก็เดิน สํารวจบ้านของกํานันพันโชติ เมื่อถึงเวลาไล่ผี นายทองอินนัดแนะให้นายวัดจับผีตนหนึ่ง และ ตนเองจับผีอีกตนหนึ่ง ปรากฏว่า ผีทั้งสองคือ ลูกของกํานันพันโชติและเพื่อน โดยสาเหตุที่ ปลอมตัวเป็นปีศาจ เพราะลูกของกํานันพันโชติ ไม่ต้องการให้พ่อแต่งงานใหม่นั่นเอง” 15. เหตุการณ์ใดเกิดขึ้นเป็นลำดับแรก ก. นายวัดวิ่งไล่ปีศาจที่แต่งกายเป็นผู้หญิง ข. นายวัดและนายทองอินไปสนทนากับ ชาวบ้านที่พระโขนงเรื่องข่าวลือ ค. นายทองอินและนายวัดไปที่บ้านพันโชติ ง. นายวัดไปเล่าเรื่องปีศาจนากพระโขนงที่ +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง


88 ข้อที่ ข้อคำถาม ความคิดเห็นของ ผู้เชี่ยวชาญ ค่า IOC แปลผล 1 2 3 สองให้นายทองอินฟัง ๑๖ 6. ข้อใดแสดงให้เห็นว่า นายทองอินเป็นผู้มี ปฏิภาณไหวพริบดี ก. คิดเดินทางไปบางพระโขนง ข. ปลอมตัวเก่งและแนบเนียนมาก ค. คิดสงสัยจดหมายที่นางนากเขียนถึง สามี ง. ไม่บอกกํานันพันโชติว่าผีนางนากไม่มี จริง +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง ๑๗ ใครปฏิบัติตนตามข้อคิดที่ได้จากเรื่อง นิทาน ทองอิน ตอน นากพระโขนงที่สอง ก. ปุ้กคิดพิจารณาก่อนที่จะเชื่อเรื่องต่าง ๆ ข. ปออ่านเรื่องสืบสวนสอบสวนบ่อย ๆ ค. ป้อมเชื่อข่าวลือที่มีคนเล่าให้ฟัง ง. เป้ยเชื่อว่าภูตผีปีศาจมีจริง +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง ๑๘ หากทินต้องการเป็นนักสืบทินไม่ควรปฏิบัติตน อย่างไร ก. หาความรู้อยู่เสมอ ข. หมั่นสังเกตสิ่งต่าง ๆ ค. ปรับตัวให้เข้ากับสิ่งต่าง ๆ ได้ ง. ให้ผู้อื่นหาข้อมูลเรื่องต่าง ๆ ให +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง ๑๙ “ไมยราพฝัน โหรทํานายฝันว่า ไวยวิกลูกนาง พิรากวนผู้เป็นน้องสาวจะได้ครองราชสมบัติ ไมยราพจึงจับไวยวิกไปจองจำจากนั้นไมยราพ ไปจับตัวพระรามมาขังไว้แล้วสั่งให้นางพิรากวน ไปตักน้ำเพื่อนำมาต้มพระรามและไวยวิก ซึ่งหนุ มานที่กําลังหาทางลักลอบเข้าในเมืองบาดาล เพื่อช่วยพระรามได้พบนางพิรากวนก่อน นาง พิรากวนอยากให้หนุมานช่วยไวยวิกด้วย หนุ มานจึงแปลงร่างเป็นใยบัวติดสไบนางพิรากวน นางพิรากวนจึงพาหนุมานเข้าไปในเมืองของ ไมยราพได้สำเร็จ” จากเรื่องย่อของวรรณคดีเรื่อง รามเกียรติ์ ตอนศึกไมยราพ ที่ยกมานี้ สะท้อนให้เห็นเรื่อง +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง


89 ข้อที่ ข้อคำถาม ความคิดเห็นของ ผู้เชี่ยวชาญ ค่า IOC แปลผล 1 2 3 อะไร ก. ความฉลาดของหนุมาน ข. กลโกงในการเอาชนะศัตรู ค. ความไม่ซื่อสัตย์สุจริตต่อผู้ปกครอง ง. ความรักที่มีแม่มีต่อลูกทำให้ยอมทำใน เรื่องที่เสี่ยงอันตราย ๒๐ ลักษณะข้อใดของหนุมานที่ทำให้มัจฉานุยอม เชื่อว่าเป็นบิดา ก. กุณฑลของหนุมาน ข. ขนเพชรของหนุมาน ค. เขี้ยวแก้วของหนุมาน ง. การหาวเป็นดาวเป็นเดือนของหนุมาน +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง ๒๑ บัดนั้น หนุมานผู้ชาญชัยศรี กริ้วโกรธพิโรธดั่งอัคคี ขุนกระบี่รับระปะทะกร จากเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ ที่กำหนดเป็นการใช้โวหารลักษณะใด ก. บรรยายโวหาร ข. เทศนาโวหาร ค. อุปมาโวหาร ง. พรรณนาโวหาร +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง 22 หากนักเรียนไม่ได้อยู่กับพ่อหรือแม่เหมือนกับ มัจฉานุที่ไม่ได้อยู่กับหนุมาน แล้วมีโอกาสได้พบ พ่อกับแม่ ควรปฏิบัติตนอย่างไร ก. กล่าวทักทายและไหว้สวัสดี ข. ทำเฉย ๆ เพราะไม่คุ้นเคยกัน ค. กล่าวทักทายแล้วหลบออกไป ง. กล่าวขอโทษที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง 23 การที่มัจฉานุบอกใบ้เป็นนัยให้หนุมานหาทางลง ไปในเมืองบาดาล โดยไม่บอกตรง ๆ เพราะเห็น แก่ ไมยราพ สะท้อนคุณธรรมใด ก. ความมีวินัย ข. ความสุภาพ ค. ความกตัญญูรู้คุณ ง. ความซื่อสัตย์สุจริต +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง 24 ข้อใด ไม่ได้ กล่าวถึงหนุมาน +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง


90 ข้อที่ ข้อคำถาม ความคิดเห็นของ ผู้เชี่ยวชาญ ค่า IOC แปลผล 1 2 3 ก. เห็นวานรเผือกผู้อหังการ ล่วงด่านผ่านทางเข้ามา ข. จึ่งคิดว่าวานรนี้ เหตุใดมีหางเป็นมัจฉา ค. ฟังลูกพระพายเทวัญ ขบฟันชี้หน้าแล้วร้องไป ง. เหม่เหม่ดูดู๋กระบี่ศรี มุสาพาทีก็เป็นได้ 25 ข้อใด ไม่ได้ หมายถึง พระจักรี ก. สมเด็จพระหริวงศ์ ข. พระจอมมงกุฎเกศ ค. องค์ทรงศร ง. ลือเดช +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง 26 “อะไรฉาวกราวเกรียวอย่าเหลียวแล ฟังให้แน่เนื้อความค่อยถามกัน” ใครปฏิบัติตนตามคําสอนจากวรรณคดีเรื่อง สุภาษิตสอนหญิง ที่ยกมานี้ ก. นกได้ยินเสียงดังจึงหลบไปให้พ้นจาก บริเวณนั้น ข. นิดถามนัดเรื่องการทำงานต่าง ๆ อยู่เสมอ ค. น้อยเชื่อเรื่องที่แนนพูดโดยไม่ซักถามใด ๆ ง. นิ่มหาข้อมูลในเรื่องต่าง ๆ ก่อนจะเชื่อ +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง 27 “จงรักนวลสงวนงามห้ามใจไว้ อย่าหลงใหลจำคำที่พร่ำสอน คิดถึงหน้าบิดาแลมารดร อย่ารีบร้อนเร็วนักมักไม่ดี” ข้อใดสัมพันธ์กับบทร้อยกรองนี้ ก. อย่าทำงานด้วยความรีบร้อน ข. ต้องนึกถึงพ่อแม่อยู่เสมอ ค. อย่าชิงสุกก่อนห้าม ง. จงหักห้ามใจ +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง 28 วรรณคดีคําสอนเรื่อง สุภาษิตสอนหญิง มี ลักษณะแตกต่าง จากวรรณคดีเรื่องอื่น ๆ อย่างไร +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง


91 ข้อที่ ข้อคำถาม ความคิดเห็นของ ผู้เชี่ยวชาญ ค่า IOC แปลผล 1 2 3 ก. ประพันธ์โดยใช้กลอนสุภาพ ข. ให้ข้อคิดคติสอนใจแก่ผู้อื่น ค. ไม่มีตัวละครและเหตุการณ์ ง. สํานวนกลอนไพเราะ 29 จากวรรณคดีเรื่อง สุภาษิตสอนหญิง เป็นการ สอนที่คนทุกเพศทุกวัยสามารถนำไปปฏิบัติตาม ได้ ยกเว้นข้อใดที่เน้นสอนเฉพาะผู้หญิง ก. แม้นลูกดีก็จะมีศรีสง่า ญาติวงศ์พงศาก็ผ่องใส ข. แม้นแตกร้าวรานร้อยถอยราคา จะพลอยพาหอมหายจากกายนาง ค. แม้นจะเรียนวิชาทางค้าขาย อย่าปากร้ายพูดจาอัชฌาสัย ง. แม้นพูดดีมีคนเขาเมตตา จะพูดจาจงพิเคราะห์ให้เหมาะความ +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง 30 “มีสลึงพึงประจบให้ครบบาท อย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์ จงมักน้อยกินน้อยค่อยบรรจง อย่าจ่ายลงให้มากจะยากนาน” บทร้อยกรองนี้ให้ข้อคิดในเรื่องใด ก. การคบเพื่อน ข. การดำเนินชีวิต ค. การประกอบอาชีพ ง. การรับประทานอาหาร +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง


92 ข้อสอบแบบอัตนัย จำนวน ๕ ข้อ คะแนนเต็ม 1๐ คะแนน ข้อที่ ข้อคำถาม ความคิดเห็นของ ผู้เชี่ยวชาญ ค่า IOC แปลผล ๑ ๒ ๓ ๑ หากขุนช้างอยู่ในปัจจุบัน นักเรียนคิดว่าการที่ ขุนช้างซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงทุบตีลูกเลี้ยง คือ พลาย งาม จะมีความผิดหรือไม่ เพราะเหตุใด +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง ๒ เรื่อง นิทานทองอิน ตอน นากพระโขนงที่สอง มีลักษณะการดำเนินเรื่อง และให้ข้อคิดอย่างไร +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง ๓ จากวรรณคดีเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ จงยกตัวอย่างตัวละครมา 2 ตัว และบอกว่ามี ความสำคัญอย่างไร +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง ๔ จากวรรณคดีเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ การที่มัจฉานุไม่ยอมช่วยหนุมานผู้เป็นบิดา ปราบยักษ์ไมยราพที่เลี้ยงตนมา แสดงให้เห็นถึง สิ่งใด +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง ๕ นักเรียนคิดว่าคําสอนในวรรณคดีเรื่อง สุภาษิต สอนหญิง ล้าสมัยและไม่สอดคล้องกับสภาพ สังคมปั จจุบั นห รือไม่และมี คําสอน ใดที่ เหมาะสมและเป็นประโยชน์ในการดำเนิน ชีวิตประจำวันของเราบ้าง ยกตัวอย่างพร้อม อธิบายและให้เหตุผลมา 2 ตัวอย่าง +1 +1 +1 1.00 สอดคล้อง


Click to View FlipBook Version