The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ ฉบับสมบูรณ์ ม.2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by dawny6944, 2022-07-15 04:40:10

แผนการจัดการเรียนรู้ ฉบับสมบูรณ์ ม.2

แผนการจัดการเรียนรู้ ฉบับสมบูรณ์ ม.2

แผนการจัดการเรียนรู้
วชิ า ภาษาไทย

รหสั วิชา ท22101
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 1

นางสาวลลิตา เภาคำ
ตำแหน่ง นักศึกษาฝกึ ประสบการณ์

โรงเรยี นวัดประดใู่ นทรงธรรม
สำนักงานเขตพนื้ ที่การศกึ ษามธั ยมศกึ ษา เขต 1

สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน
กระทรวงศกึ ษาธิการ

แผนการจดั การเรยี นรู้
วิชา ภาษาไทย

รหสั วิชา ท22101
กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย

ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นที่ 1

ลงชอ่ื ………………………………………......…ผู้จดั ทำ
(นางสาวลลติ า เภาคำ)

ลงชื่อ……………………………….......…………หวั หนา้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้
(นายณฐั ภัทร สำเรจ็ )

ลงชอ่ื ……………………………….................,,รองผูอ้ ำนวยการฝ่ายวชิ าการ
(นางสาววาสนา เปรมชืน่ )

ลงชอ่ื ………………………………………......…ผู้อำนวยการสถานศึกษา
(นางสาวเอื้อมพร วอนยิน)

แผนการจัดการเรยี นรู้ เล่มน้ีประกอบด้วย

1. แบบวิเคราะห์ตัวช้ีวดั / ผลการเรยี นรู้
2. คำอธิบายรายวชิ า
3. โครงสรา้ งรายวิชา
4. หนว่ ยการเรยี นรู้
5. แผนการจดั การเรยี นรู้

- ใบงาน
- ใบกจิ กรรม
- ส่ือ/นวัตกรรม
- แบบประเมนิ
- แบบทดสอบกอ่ นเรียน/หลังเรียน
- ฯลฯ
6. หลักฐาน/ร่องรอยการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน

บันทกึ ขอ้ ความ

ส่วนราชการ โรงเรียนวัดประดใู่ นทรงธรรม

ท…ี่ ………………………………………. วนั ที่ ...............................................................................................

เรอื่ ง ขออนุมัตแิ ผนการจัดการเรียนรู้

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

-------------

เรียน ผู้อำนวยการโรงเรยี นวัดประด่ใู นทรงธรรม

ตามท่ขี ้าพเจ้านางสาวลลิตา เภาคำ ตำแหนง่ นกั ศกึ ษาฝกึ ประสบการณ์วิชาชีพครู กลุ่มสาระ
การเรียนรู้ภาษาไทย ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 รหัสวิชา ท 22101
รายวิชาภาษาไทย จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 น้ัน

ข้าพเจ้าจึงได้วิเคราะห์ตวั ชี้วัด/ผลการเรียนรู้ คำอธิบายรายวิชา โครงสร้างรายวิชา เพื่อจัดทำ
แผนการจัดการเรียนรู้รายหน่วยการเรียนรู้และรายคาบ ซึ่งสอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดประดู่
ในทรงธรรม พุทธศักราช 2562 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 โดยจัดกจิ กรรม
การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และได้นำไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้บรรลุ
เปา้ หมายของหลกั สูตรฯ ตอ่ ไป

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ

ลงชอ่ื ............................................................
(นางสาวลลิตา เภาคำ)

ตำแหนง่ นักศกึ ษาฝึกประสบการณ์วชิ าชีพครู

ความเหน็ ของหวั หนา้ กลุม่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย
..............................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ............................................................
(นายณัฐภัทร สำเรจ็ )

ความเห็นของรองผ้อู ำนวยการโรงเรียนกลมุ่ บรหิ ารวิชาการ
..............................................................................................................................................................................

ลงช่อื ............................................................
(นางสาววาสนา เปรมชน่ื )

ความเห็นของผู้อำนวยการโรงเรยี น
..............................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ............................................................
(นางสาวเอื้อมพร วอนยนิ )

คำอธบิ ายรายวชิ าพ้ืนฐาน (Course Syllabus)

ท22๑๐๑ ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย

ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา 11 ชั่วโมง จำนวน ๑.5 หน่วยกติ

ครูผสู้ อน นางสาวลลติ า เภาคำ

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

จับใจความสําคัญ สรุปความ และอธิบายรายละเอียดจากเรื่องท่ีอาน และเขียนผังความคิดเพื่อแสดง

ความเขาใจในบทเรียนตาง ๆ ที่อาน และอภิปรายแสดงความคิดเห็น และขอโตแยงเกี่ยวกับเรื่องที่อาน

และมมี ารยาทในการอาน คัดลายมอื ตัวบรรจงครึ่งบรรทดั และอธบิ ายคุณคาของวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอาน

และสรุปความรูและขอคิดจากการอานไปประยุกตใชในชีวิตจริง อานออกเสียงบทรอยแกวและบทรอยกรองได

ถูกตอง และมีมารยาทในการฟง การดู และการพูด สรางคําในภาษาไทย และวิเคราะหโครงสรางประโยค

สามัญ ประโยครวม และประโยคซอน รวมถงึ อธบิ ายคุณคาของวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอาน

เพื่อให้ผู้เรียนมีพื้นฐานความรู้ด้านธรรมชาติและลักษณะของภาษาอย่างถูกต้อง สามารถใช้ภาษา

ในการสื่อสารได้เหมาะสมแก่โอกาสและบุคคล ผู้เรียนสามารถวิเคราะห์หลักการสร้างคำในลักษณะต่าง ๆ ได้

รวมถึงตระหนักและเห็นคุณค่าของวรรณกรรมทั้งด้านวรรณศิลป์และด้านเนื้อหา สามารถนำข้อคิดที่ได้

จากวรรณกรรมไปประยุกต์ใช้ในชวี ติ ประจำวนั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

ตัวชว้ี ดั ตามหลกั สูตร
ตัวช้วี ัด สาระท่ี 1 (การอ่าน)
มาตรฐาน ท 1.1 ใชกระบวนการอานสรางความรูและความคิดเพื่อนําไปใชตัดสินใจ แกปญหาในการดําเนิน

ชีวิต และมีนสิ ัยรกั การอาน (1,2,3,4,8)
ตวั ช้วี ัด สาระท่ี 2 (การเขียน)
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชกระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ยอความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบ

ตาง ๆ เขียนรายงานขอมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาคนควาอยางมีประสิทธิภาพ
(1)
ตัวชี้วัด สาระท่ี 3 (การฟง การดู และการพูด)
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟงและดูอยางมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู ความคิด และความรูสึกใน
โอกาสตาง ๆ อยางมีวิจารณญาณและสรางสรรค์ (6)
ตวั ช้วี ัด สาระที่ ๔ (หลกั การใช้ภาษาไทย)
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลยี่ นแปลงของภาษาและพลังของภาษา
ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัตขิ องชาติ (1,2)
ตัวชวี้ ดั สาระที่ ๕ (วรรณคดแี ละวรรณกรรม)
มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคดิ เหน็ วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่าและนำมา
ประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตจรงิ (3,4)
รวมทัง้ หมด 11 ตัวชว้ี ดั /ผลการเรยี นรู้

โครงสรา้ งรายวชิ า

รายวชิ าภาษาไทย รหัสวิชา ท22101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 2
เวลา 11 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ ภาคเรยี นที่ 1

ลำดับ ช่ือหน่วยการ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสำคญั เวลา น้ำหนกั
(ชั่วโมง) คะแนน
ที่ เรียนรู้ / ตัวชวี้ ดั

ท 1.1 ม.2/2 - การอา่ นจบั ใจความ 45

มรดกทาง ท 1.1 ม.2/4 - การอภปิ รายเกีย่ วกบั เรื่องท่ีอ่าน
ท 1.1 ม.2/7 - มีมารยาทในการอ่าน
1 วรรณคดีไทย ท 2.1 ม.2/1 - การคดั ลายมือ
และวรรณกรรม ท 1.1 ม.2/3 - การเขยี นผังความคิดจากเร่ืองที่

อ่าน

ท 1.1 ม.2/1 - อ านออกเสียงบทร อยแก ว 7 6

และบทรอยกรอง

ท 1.1 ม.2/2 - จับใจความสําคัญ สรุปความ

และอธิบายรายละเอียดจากเรื่อง

ทีอ่ าน

ท 1.1 ม.2/4 - อภิปรายแสดงความคิดเห็น
เรยี งร้อยถ้อย และขอโตแยงเกี่ยวกบั เรื่องทอี่ าน
2 อักษร ท 3.1 ม.2/6 - มีมารยาทในการฟ ง การดู

และการพูด

ท 4.1 ม.2/1 - คำสมาส

ท 4.1 ม.2/2 - ประโยคสามัญ ประโยครวม

และประโยคซอน

ท 5.1 ม.2/3 - ค ุ ณ ค า ข อ ง ว ร ร ณ ค ด ี แ ล ะ

วรรณกรรมท่อี าน

รวม 11 11

คะแนนกลางภาค 50 คะแนน คะแนนปลายภาค 50 คะแนน รวมท้ังสนิ้ 100 คะแนน

แผนการจดั การเรียนรู้

รหัสวชิ า ท22101 ชื่อวิชา ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย

ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2565

หนว่ ยการเรยี นรู้ เรอ่ื ง มรดกทางวรรณคดไี ทยและวรรณกรรม แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1

เรื่อง การอ่านจับใจความ

เวลา 1 ชวั่ โมง ผสู้ อน นางสาวลลติ า เภาคำ โรงเรียนวัดประดูใ่ นทรงธรรม

มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัด

มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชกระบวนการอานสรางความรูและความคดิ เพอื่ นาํ ไปใชตดั สินใจ แกปญหาในการดาํ เนนิ ชวี ติ

และมีนิสยั รักการอาน

ม.2/2 จบั ใจความสาํ คัญ สรปุ ความ และอธิบายรายละเอยี ดจากเร่อื งท่ีอาน

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

ดา้ นความรู้ ( Knowledge)

เม่ือจบหน่วยการเรียนรู้แล้ว ผ้เู รียนสามารถ

(1) อธบิ ายหลักการจับใจความสำคัญได้ถกู ตอ้ ง

ดา้ นทักษะกระบวนการ ( Process)

การฟงั : .............................................................

การพดู : ............................................................

การอา่ น : จบั ใจความสำคัญจากเรอ่ื งท่อี ่านได้

การเขยี น : .......................................................

ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ( Attitude )

ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ( Attitude )

คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551

รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยูอ่ ย่างพอเพยี ง ซอ่ื สัตย์สจุ ริต มุง่ มัน่ ในการทำงาน

มีวินยั รักความเป็นไทย ใฝ่เรยี นรู้ มีจิตสาธารณะ

ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน

ความสามารถในการสือ่ สาร : .......................................................................................

ความสามารถในการคิด : ..............................................................................................

ความสามารถในการแก้ปัญหา : ...................................................................................

ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ : .............................................................................

ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี : .............................................................................

สาระการเรียนรู้
การอ่านจับใจความ สรุปความ และอธิบายรายละเอียดจากเรื่องที่อ่าน เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การอ่านมี

ประสิทธภิ าพและเปน็ พ้ืนฐานการอ่านในระดบั ท่ียากขึน้ ฉะนน้ั การอ่านจับใจความสำคัญจากการอ่าน และจากส่ือ
ตา่ ง ๆ ต้องมคี วามรูค้ วามเข้าใจในเรอื่ งหลักการอ่านจับใจความสำคญั

การบรู ณาการ
บรู ณาการข้ามกลุ่มสาระการเรียนรู้ (ระบุ)……………………………………………………………….

บรู ณาการกับปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
บรู ณาการกบั ประชาคมอาเซยี น
บูรณาการอนื่ ๆ (ระบุ) .....................................................................................................

คา่ นิยม 12 ประการ
ความรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ซอ่ื สตั ย์ เสยี สละ อดทน มีอุดมการณ์ในสิง่ ที่ดีงามเพ่ือส่วนรวม
กตัญญูต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์
ใฝ่หาความรู้ หมัน่ ศกึ ษาเล่าเรยี นทั้งทางตรง และทางอ้อม
รักษาวฒั นธรรมประเพณไี ทยอนั งดงาม
มศี ีลธรรม รกั ษาความสตั ย์ หวังดตี อ่ ผอู้ ืน่ เผื่อแผ่และแบง่ ปนั
เขา้ ใจเรยี นรู้การเป็นประชาธปิ ไตย อนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมุขที่ถูกต้อง
มีระเบียบวนิ ยั เคารพกฎหมาย ผู้นอ้ ยรจู้ กั การเคารพผู้ใหญ่
มีสตริ ้ตู วั ร้คู ิด รทู้ ำ ร้ปู ฏิบัติตามพระราชดำรสั ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั
รูจ้ กั ดำรงตนอยู่โดยใช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
มคี วามเข้มแข็งท้งั ร่างกาย และจิตใจ ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝา่ ยตำ่ หรอื กิเลส มีความละอายเกรง
กลัวตอ่ บาปตามหลกั ของศาสนา
คำนงึ ถึงผลประโยชนข์ องส่วนรวม และของชาติมากกว่าผลประโยชนข์ องตนเอง

กรอบแนวคิดโรงเรยี นคณุ ธรรม 5 ประการ ความซื่อสตั ยส์ ุจรติ
ความพอเพยี ง ความกตญั ญู
ความรบั ผิดชอบ อดุ มการณ์คุณธรรม

ภาระ / ชน้ิ งาน
- ใบงาน เรอ่ื ง การอา่ นจับใจความสำคัญ

แนวทางการวดั ประเมนิ ผล

สง่ิ ทป่ี ระเมนิ เคร่ืองมอื วธิ ีการ เกณฑ์
อธิบายหลักการจับใจความสำคญั ได้ ถูก 80% - ผ่าน
การถามคำถาม ตรวจสอบคำตอบ
จบั ใจความสำคัญจากเรอ่ื งท่ีอ่านได้ ของนักเรียน ถกู 80% - ผา่ น

การถามคำถาม/ ตรวจสอบคำตอบ
ของนักเรยี น/ ตรวจสอบ
ใบงาน เรอ่ื ง
การอ่านจบั คำตอบใบงาน เรอ่ื ง
ใจความสำคญั การอา่ นจับใจความสำคัญ

คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ แบบประเมิน ตรวจแบบประเมิน 1–ผ่าน, 0–ไมผ่ า่ น

กจิ กรรมการเรียนรเู้ นน้ ทักษะการคดิ หลักฐานการเรยี นรู้

ความเขา้ ใจท่ีคงทน การตอบคำถามหน้าชั้นเรยี น
เข้าใจหลกั การจบั ใจความสำคัญ
จบั ใจความสำคญั จากเร่อื งท่ีอ่านได้ การตอบคำถามหน้าช้นั เรียน/
ใบงาน เร่ือง การอ่านใจความสำคัญ

ชั่วโมงที่ 1

กลยทุ ธ์การสอน/เน้ือหา VARK style Bloom’s
taxonomy
1. การนำเขา้ ส่บู ทเรยี น (Warm-up & Introduction) Visual
- ค ร ู ก ล ่ า ว ท ั ก ท า ย แ ล ะ น ำ ผ ู ้ เ ร ี ย น เ ข ้ า ส ู ่ เ น ื ้ อ ห า Auditory 6: Create
โดยการตั้งคำถามว่า ผู้เรียนรู้จักการอ่านจับใจความสำคัญ Read/write 5: Evaluate
หรอื ไม่ และมพี น้ื ฐานในการอา่ นจับใจความมากนอ้ ยเพยี งใด Kinesthetic 4: Analyze
3: Apply
2. การนำเสนอเนือ้ หา ทักษะ กระบวนการ Visual 2:Understand
1:Remember
(Presentation) Auditory
6: Create
- ครูอธิบายความหมาย วิธีสังเกต และหลักการอ่าน Read/write 5: Evaluate
4: Analyze
จับใจความสำคัญ พร้อมทั้งมีการยกตัวอย่างการอ่าน Kinesthetic 3: Apply
2:Understand
จบั ใจความสำคญั จากบทความท่ีกำหนดให้ 1:Remember

3. การฝึกเนื้อหา ทกั ษะ กระบวนการ (Practice) Visual 6: Create
5: Evaluate
- ผู้เรียนร่วมทำกิจกรรม “เซียมซีนักอ่าน” โดยให้ผู้เรียน Auditory 4: Analyze
3: Apply
ออกมาเสี่ยงเซียมซีที่มีหมายเลข 1-9 และให้ผู้เรียน Read/write 2:Understand
1:Remember
รับคำทำนายตามหมายเลขทีต่ นได้ ไปจับใจความสำคัญและ Kinesthetic
6: Create
เขียนลงในใบงาน การอา่ นจบั ใจความสำคัญ 5: Evaluate
4: Analyze
4. การนำไปใช้ (Application) Visual 3: Apply
- ผเู้ รยี นที่ไดแ้ ตล่ ะหมายเลข ส่งตวั แทนมานำเสนอส่งิ ที่สรุป Auditory 2:Understand
จากคำทำนายท่ีไดห้ นา้ ช้ันเรียน Read/write 1:Remember
Kinesthetic

สอื่ และแหล่งการเรยี นรู้
1) หนงั สอื เรยี นหลกั ภาษา และการใชภ้ าษาไทย ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2
2) สือ่ การเรียนการสอน เรอ่ื ง เซียมซีนักอ่าน

บันทึกผลหลังการสอน
1. ผลการสอน
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................................................................. .......
............................................................................................................................ ........................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................
2.ปญั หา/อปุ สรรค
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
.................................................................................................................................................... ................................
................................................................................................... .................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
3. แนวทางแก้ไข
............................................................................................................................. .......................................................
........................................................................................................................................................ ............................
....................................................................................................... .............................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. ......................................................

ลงชื่อ ………………………………………
ผูส้ อน

(นางสาวลลติ า เภาคำ)
ตำแหนง่ นักศึกษาฝกึ ประสบการณว์ ิชาชพี



แผนการจดั การเรยี นรู้

รหัสวชิ า ท22101 ช่ือวิชา ภาษาไทย กลุม่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย

ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565

หนว่ ยการเรยี นรู้ เร่อื ง มรดกทางวรรณคดีไทยและวรรณกรรม แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 2

เรอ่ื ง การอภปิ รายเก่ียวกับเรือ่ งที่อา่ น

เวลา 1 ชั่วโมง ผู้สอน นางสาวลลิตา เภาคำ โรงเรียนวดั ประดูใ่ นทรงธรรม

มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชวี้ ัด
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชกระบวนการอานสรางความรูและความคดิ เพอ่ื นาํ ไปใชตัดสินใจ แกปญหาในการดําเนินชีวติ

และมนี สิ ยั รักการอาน
ม.2/4 อภปิ รายแสดงความคิดเหน็ และขอโตแยงเก่ียวกับเรือ่ งท่ีอาน
ม.2/7 มีมารยาทในการอ่าน

จุดประสงค์การเรียนรู้

ด้านความรู้ ( Knowledge)

เม่อื จบหนว่ ยการเรียนรแู้ ลว้ ผเู้ รียนสามารถ

(1) อธิบายหลักการอภิปรายแสดงความคดิ เหน็ และขอ้ โตแ้ ยง้ เกี่ยวกบั เร่ืองท่ีอ่านได้

ด้านทักษะกระบวนการ ( Process)

การฟงั : .............................................................

การพดู : ............................................................

การอ่าน : อภิปรายและแสดงความคิดเห็นและข้อโต้แยง้ เกยี่ วกบั เรอ่ื งทีอ่ ่านได้

การเขยี น : .......................................................

ด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ( Attitude )

ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ( Attitude )

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคต์ ามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551

รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อย่อู ยา่ งพอเพียง ซือ่ สตั ย์สุจริต มุง่ มั่นในการทำงาน

มีวนิ ัย รักความเปน็ ไทย ใฝ่เรยี นรู้ มีจิตสาธารณะ

ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน

ความสามารถในการส่ือสาร : .......................................................................................

ความสามารถในการคิด : ..............................................................................................

ความสามารถในการแก้ปัญหา : ...................................................................................

ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต : .............................................................................

ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี : .............................................................................

สาระการเรยี นรู้
การอภิปรายแสดงความคิดเห็นและข้อโต้แย้งเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน ควรเป็นการแสดงความคิดเห็นที่

ประกอบด้วยเหตผุ ลทถ่ี กู ต้อง มคี ณุ ธรรม ก่อใหเ้ กิดประโยชน์ต่อผูร้ บั สารและสังคม ไม่กอ่ ใหเ้ กดิ ความขดั แยง้

การบรู ณาการ
บรู ณาการข้ามกลุ่มสาระการเรียนรู้ (ระบ)ุ ……………………………………………………………….

บรู ณาการกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
บูรณาการกับประชาคมอาเซียน
บูรณาการอ่นื ๆ (ระบุ) .....................................................................................................

คา่ นยิ ม 12 ประการ
ความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน มีอุดมการณ์ในส่ิงทด่ี งี ามเพ่ือส่วนรวม
กตญั ญูต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์
ใฝห่ าความรู้ หมน่ั ศึกษาเล่าเรียนทงั้ ทางตรง และทางอ้อม
รกั ษาวัฒนธรรมประเพณไี ทยอันงดงาม
มศี ีลธรรม รักษาความสัตย์ หวังดตี ่อผอู้ น่ื เผือ่ แผ่และแบ่งปนั
เข้าใจเรียนรูก้ ารเปน็ ประชาธปิ ไตย อันมีพระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมขุ ท่ีถกู ต้อง
มรี ะเบียบวินัย เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรู้จักการเคารพผใู้ หญ่
มสี ติรตู้ วั ร้คู ิด รูท้ ำ รปู้ ฏิบตั ิตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั
รจู้ กั ดำรงตนอยโู่ ดยใชห้ ลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
มีความเข้มแขง็ ทง้ั ร่างกาย และจิตใจ ไมย่ อมแพต้ ่ออำนาจฝ่ายตำ่ หรอื กเิ ลส มคี วามละอายเกรง
กลวั ตอ่ บาปตามหลกั ของศาสนา
คำนึงถงึ ผลประโยชน์ของสว่ นรวม และของชาติมากกว่าผลประโยชนข์ องตนเอง

กรอบแนวคิดโรงเรียนคุณธรรม 5 ประการ ความซอ่ื สัตยส์ ุจริต
ความพอเพียง ความกตัญญู
ความรับผิดชอบ อุดมการณค์ ุณธรรม

ภาระ / ช้นิ งาน
- ใบงาน เรื่อง การอภิปรายเกยี่ วกับเร่ืองท่อี า่ น

แนวทางการวดั ประเมนิ ผล

ส่งิ ทปี่ ระเมนิ เครอื่ งมอื วธิ กี าร เกณฑ์
ถูก 80% - ผา่ น
อธบิ ายหลักการอภปิ รายแสดงความ การถามคำถาม/ ตรวจสอบคำตอบ ถกู 80% - ผ่าน
คิดเหน็ และขอ้ โตแ้ ย้งเกีย่ วกับเรอ่ื งที่ ใบงาน เรอ่ื ง การ ของนักเรยี น/ตรวจสอบ
อภิปรายเก่ยี วกับ
อ่านได้ ใบงาน
เร่ืองท่ีอ่าน

อภิปรายและแสดงความคิดเห็นและข้อ การถามคำถาม ตรวจสอบคำตอบ
โต้แย้งเก่ยี วกับเร่ืองท่ีอา่ นได้ ของนักเรยี น

คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ แบบประเมนิ ตรวจแบบประเมิน 1–ผา่ น, 0–ไมผ่ า่ น

กจิ กรรมการเรียนรเู้ นน้ ทักษะการคดิ หลกั ฐานการเรียนรู้
การตอบคำถามหน้าช้ันเรยี น/ใบงาน เร่ือง
ความเข้าใจทคี่ งทน
หลกั การอภปิ รายแสดงความคดิ เห็นและ การอภิปรายเกี่ยวกับเรอื่ งท่ีอ่าน

ข้อโต้แย้งเกย่ี วกับเร่ืองที่อ่าน การตอบคำถามหน้าช้นั เรียน
อภิปรายและแสดงความคิดเห็นและข้อโตแ้ ย้ง

เก่ยี วกับเรอ่ื งที่อ่านได้

ช่วั โมงที่ 1

กลยทุ ธ์การสอน/เนื้อหา VARK style Bloom’s
taxonomy
1. การนำเข้าสูบ่ ทเรียน (Warm-up & Introduction) Visual
- ผู้สอนกล่าวทักทายและนำผู้เรียนเข้าสู่เนื้อหา Auditory 6: Create
และสอบถามผู้เรียนว่ารู้จักการอภิปรายหรือไม่ Read/write 5: Evaluate
และมีประสบการณ์ในการอภิปรายในชวี ิตประจำวนั มากน้อย Kinesthetic 4: Analyze
เพียงใด 3: Apply
2:Understand
2. การนำเสนอเนื้อหา ทักษะ กระบวนการ (Presentation) Visual 1:Remember

- ผู้สอนบรรยายเนื้อหาความหมาย จุดมุ่งหมาย Auditory 6: Create
5: Evaluate
การอภิปรายและขอ้ โตแ้ ยง้ พร้อมทัง้ ยกตวั อยา่ งการอภปิ ราย Read/write 4: Analyze
3: Apply
บทความ Kinesthetic 2:Understand
1:Remember
3. การฝึกเนอื้ หา ทกั ษะ กระบวนการ (Practice) Visual
6: Create
- ผู้เรียนจดสรุปสาระสำคัญที่ครูบรรยาย ลงในใบงาน Auditory 5: Evaluate
4: Analyze
เร่ือง การอภปิ รายเก่ียวกับเรือ่ งทอ่ี ่าน Read/write 3: Apply
2:Understand
Kinesthetic 1:Remember

4. การนำไปใช้ (Application) Visual 6: Create
5: Evaluate
- ผู้เรียนและผู้สอนร่วมกันอภิปรายเนื้อหาที่เรียน Auditory 4: Analyze
3: Apply
พรอ้ มร่วมกนั สรปุ เนือ้ หาเร่อื ง การอภปิ รายจากเร่อื งทีอ่ า่ น Read/write 2:Understand
1:Remember
Kinesthetic

ส่อื และแหล่งการเรยี นรู้
1) หนงั สือเรียนหลักภาษาและการใชภ้ าษาไทย ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 2
2) สอ่ื การเรียนการสอน เรื่อง การอภปิ รายเก่ยี วกับเร่ืองทอ่ี า่ น

บันทกึ ผลหลงั การสอน
1. ผลการสอน
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
................................................................................................................................................................ ....................
............................................................................................................... .....................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
.................................................................................................................................... ................................................
2.ปญั หา/อปุ สรรค
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
................................................................................................................................................................... .................
.................................................................................................................. ..................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................... .............................................
...................................................................................... ............................................. .................................................
3. แนวทางแก้ไข
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................... .............
...................................................................................................................... ..............................................................
............................................................................................................................. .......................................................
........................................................................................................................................... .........................................
.......................................................................................... ..........................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................

ลงชือ่ ………………………………………
ผู้สอน

(นางสาวลลติ า เภาคำ)
ตำแหน่ง นกั ศกึ ษาฝกึ ประสบการณว์ ิชาชีพ

ใบงาน
เร่ือง การอภปิ รายเกีย่ วกบั เรื่องท่ีอ่าน

คำชแี้ จง ให้นกั เรียนอา่ นข้อความดงั ต่อไปน้ี และรว่ มอภิปรายเกีย่ วกับเรือ่ งท่ีอา่ นตามความคิดเห็นของตนเอง

“เกมคอมพิวเตอร์มีท้ังผลดแี ละผลเสียต่อเด็กขึ้นอยู่กบั เกมและเวลาท่ีใช้ในการเลน่ ผลเสียต่อเดก็ ข้ึนอยู่
กับเด็กขึ้นอยู่กับเกมและเวลาที่ใช้ในการเล่น ผลเสียนั้นจะมีผลกระทบทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
เช่น ผลการเรียนตกต่ำเพราะไม่อ่านหนังสือ สมองเฉื่อยชา ร่างกายทรุดโทรม
มีสมั พนั ธภาพกับผู้อ่ืนน้อยลง”

1. ใจความสำคญั ของเรื่อง
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................

2. ขอ้ สนบั สนุน/ข้อโตแ้ ย้ง
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................

3. ข้อสรปุ
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
.............................................................................................................................................................. ......................

แผนการจัดการเรียนรู้

รหัสวิชา ท22101 ช่ือวิชา ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย

ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565

หนว่ ยการเรยี นรู้ เร่ือง มรดกทางวรรณคดไี ทยและวรรณกรรม แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 3

เรอื่ ง การคดั ลายมือ

เวลา 1 ชวั่ โมง ผู้สอน นางสาวลลติ า เภาคำ โรงเรยี นวัดประดใู่ นทรงธรรม

มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชีว้ ดั
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชกระบวนการเขยี นเขยี นส่ือสาร เขยี นเรยี งความ ยอความ และเขียนเรอื่ งราวในรูปแบบตาง ๆ

เขียนรายงานขอมลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาคนควาอยางมปี ระสทิ ธิภาพ
ม.2/1 คัดลายมือตัวบรรจงคร่งึ บรรทดั

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

ด้านความรู้ ( Knowledge)

เม่อื จบหนว่ ยการเรียนรู้แล้ว ผ้เู รียนสามารถ

(1) บอกหลักการคดั ลายมือที่ถกู ต้องได้

ดา้ นทักษะกระบวนการ ( Process)

การฟงั : .............................................................

การพดู : ............................................................

การอ่าน : ..........................................................

การเขียน : คดั ลายมือได้ถกู ต้องตามรูปแบบต่าง ๆ

ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ( Attitude )

ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ( Attitude )

คุณลักษณะอนั พึงประสงคต์ ามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551

รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง ซอ่ื สัตย์สจุ ริต มุ่งม่ันในการทำงาน

มีวนิ ัย รักความเป็นไทย ใฝเ่ รียนรู้ มจี ิตสาธารณะ

ด้านสมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน

ความสามารถในการส่อื สาร : .......................................................................................

ความสามารถในการคิด : ..............................................................................................

ความสามารถในการแก้ปัญหา : ...................................................................................

ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ : .............................................................................

ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี : .............................................................................

สาระการเรียนรู้
การคัดลายมือ เป็นการฝึกเขียนเบื้องต้นที่จำเป็นต้องฝึกตั้งแต่เยาว์วัยเพื่อให้มีทักษะการเขียนที่สวยงาม

เป็นระเบียบเรียบรอ้ ยเพราะการคัดลายมือเป็นพื้นฐานท่ีจะนำไปสู่การเขียนได้ถกู ต้องคลอ่ งแคล่ว

การบูรณาการ
บูรณาการข้ามกล่มุ สาระการเรยี นรู้ (ระบุ)……………………………………………………………….

บูรณาการกบั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
บรู ณาการกบั ประชาคมอาเซยี น
บรู ณาการอื่นๆ (ระบุ) .....................................................................................................

คา่ นยิ ม 12 ประการ
ความรักชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์
ซอ่ื สตั ย์ เสียสละ อดทน มีอดุ มการณ์ในสิ่งท่ีดีงามเพ่ือสว่ นรวม
กตัญญตู ่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครบู าอาจารย์
ใฝ่หาความรู้ หม่ันศึกษาเล่าเรยี นทัง้ ทางตรง และทางอ้อม
รักษาวฒั นธรรมประเพณีไทยอนั งดงาม
มศี ีลธรรม รักษาความสตั ย์ หวังดตี ่อผอู้ ่ืน เผ่อื แผ่และแบง่ ปนั
เขา้ ใจเรยี นรกู้ ารเปน็ ประชาธปิ ไตย อันมีพระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมขุ ที่ถกู ต้อง
มรี ะเบยี บวินยั เคารพกฎหมาย ผูน้ ้อยร้จู ักการเคารพผู้ใหญ่
มสี ติรตู้ วั รู้คดิ รทู้ ำ ร้ปู ฏบิ ัติตามพระราชดำรสั ของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัว
รู้จักดำรงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
มีความเข้มแข็งท้งั รา่ งกาย และจติ ใจ ไม่ยอมแพต้ ่ออำนาจฝา่ ยต่ำ หรอื กเิ ลส มคี วามละอายเกรง
กลวั ต่อบาปตามหลกั ของศาสนา
คำนึงถึงผลประโยชนข์ องสว่ นรวม และของชาตมิ ากกว่าผลประโยชนข์ องตนเอง

กรอบแนวคดิ โรงเรียนคณุ ธรรม 5 ประการ ความซือ่ สัตย์สจุ ริต
ความพอเพียง ความกตัญญู
ความรบั ผิดชอบ อุดมการณ์คุณธรรม

ภาระ / ชนิ้ งาน
- ใบงาน เรือ่ ง การคดั ลายมือ

แนวทางการวัดประเมินผล

ส่ิงทปี่ ระเมิน เครอื่ งมอื วธิ กี าร เกณฑ์
ตรวจสอบคำตอบ ถูก 80% - ผ่าน
บอกหลักการคดั ลายมือทีถ่ ูกต้องได้ การถามคำถาม ถูก 80% - ผา่ น
ของนักเรยี น
คัดลายมือไดถ้ ูกต้องตามรปู แบบต่าง ๆ ใบงาน เรอื่ ง
การคดั ลายมือ ตรวจสอบใบงาน

คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ แบบประเมนิ ตรวจแบบประเมิน 1–ผา่ น, 0–ไม่ผา่ น

กจิ กรรมการเรยี นรู้เนน้ ทักษะการคดิ หลกั ฐานการเรียนรู้
การตอบคำถามหนา้ ชน้ั เรียน/ใบงาน เรื่อง
ความเข้าใจทค่ี งทน
หลักการคดั ลายมอื ทถี่ ูกต้อง การคดั ลายมือ
คัดลายมอื ได้ถูกต้องตามรูปแบบตา่ ง ๆ ใบงาน เร่ือง การคดั ลายมือ

ช่ัวโมงที่ 1

กลยุทธก์ ารสอน/เนอื้ หา VARK style Bloom’s
taxonomy
1. การนำเขา้ ส่บู ทเรยี น (Warm-up & Introduction) Visual 6: Create
5: Evaluate
- ผู้สอนกลา่ วทกั ทายและนำผูเ้ รียนเข้าสเู่ นือ้ หา โดยสอบถาม Auditory 4: Analyze
3: Apply
ผู้เรียนว่าการมีลายมือที่สวยงามถูกต้องตามอักขรวิธี Read/write 2:Understand
1:Remember
มคี วามสำคัญและมปี ระโยชน์อยา่ งไร Kinesthetic 6: Create
5: Evaluate
2. การนำเสนอเน้ือหา ทักษะ กระบวนการ (Presentation) Visual 4: Analyze
3: Apply
- ผู้สอนอธิบายหลักการ จุดมุ่งหมาย และประโยชน์ Auditory 2:Understand
1:Remember
ของการคัดลายมือแก่ผู้เรียน พร้อมยกตัวอย่างลักษณะ Read/write 6: Create
5: Evaluate
การคดั ลายมอื ทดี่ ี Kinesthetic 4: Analyze
3: Apply
3. การฝกึ เน้อื หา ทกั ษะ กระบวนการ (Practice) Visual 2:Understand
1:Remember
- ผู้เรียนทำใบงาน เรื่อง การคัดลายมือ ใช้เนื้อหา Auditory
กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง จากหนังสือเรียน Read/write 6: Create
หลักภาษา และการใช้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 Kinesthetic 5: Evaluate
(หน้าท่ี 75) 4: Analyze
3: Apply
*กำหนดให้คัดตัวอักษรแบบกระทรวงศึกษาธิการ คือ 2:Understand
1:Remember
หวั กลม ตัวมน ตวั บรรจงครึ่งบรรทัด

4. การนำไปใช้ (Application) Visual

- ผู้เรียนและผู้สอนร่วมกันอภิปรายเนื้อหา เรื่อง Auditory
การคัดลายมือ โดยผู้สอนตรวจสอบใบงานการคัดลายมือ Read/write
พร้อมให้คำแนะนำตามความเหมาะสม
Kinesthetic

สือ่ และแหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียนหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 2
2) ส่อื การเรียนการสอน เรื่อง การคัดลายมอื

บนั ทกึ ผลหลงั การสอน
1. ผลการสอน
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................................................................. .......
............................................................................................................................ ........................................................
............................................................................................................................. .......................................................
................................................................................................................................. ..................................................
2.ปญั หา/อปุ สรรค
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
................................................................................................................................................................................. ...
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
..................................................................................................................................................... ...............................
.................................................................................................... ................................................................................
3. แนวทางแก้ไข
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
......................................................................................................................................................... ...........................
........................................................................................................ ............................................................................
............................................................................................................................. .......................................................

ลงชื่อ ………………………………………
ผู้สอน

(นางสาวลลิตา เภาคำ)
ตำแหนง่ นกั ศกึ ษาฝึกประสบการณว์ ชิ าชพี



แผนการจดั การเรยี นรู้

รหัสวชิ า ท22101 ชอ่ื วิชา ภาษาไทย กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 2 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565

หน่วยการเรยี นรู้ เรอื่ ง มรดกทางวรรณคดีไทยและวรรณกรรม แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 4

เร่ือง การเขียนผังความคิดจากเรอ่ื งทอ่ี ่าน

เวลา 1 ช่ัวโมง ผ้สู อน นางสาวลลิตา เภาคำ โรงเรยี นวดั ประดู่ในทรงธรรม

มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ดั
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชกระบวนการอานสรางความรูและความคดิ เพ่อื นาํ ไปใชตดั สนิ ใจ แกปญหาในการดําเนินชีวติ

และมนี สิ ยั รักการอาน
ม.2/3 เขยี นผงั ความคิดเพื่อแสดงความเขาใจในบทเรยี นตาง ๆ ท่ีอาน

จุดประสงค์การเรยี นรู้

ดา้ นความรู้ ( Knowledge)

เมอ่ื จบหน่วยการเรยี นรแู้ ลว้ ผู้เรียนสามารถ

(1) อธบิ ายความหมายและรูปแบบการเขยี นแผนภาพความคดิ ได้

ดา้ นทักษะกระบวนการ ( Process)

การฟัง : .............................................................

การพดู : ............................................................

การอ่าน : สรา้ งผงั ความคดิ เพื่อสรุปเน้ือหาจากการอา่ นได้

การเขยี น : ......................................................

ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ( Attitude )

ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ( Attitude )

คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551

รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยอู่ ยา่ งพอเพียง ซ่ือสตั ยส์ ุจริต มุง่ มัน่ ในการทำงาน

มวี นิ ัย รกั ความเป็นไทย ใฝ่เรยี นรู้ มจี ติ สาธารณะ

ด้านสมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น

ความสามารถในการส่อื สาร : .......................................................................................

ความสามารถในการคดิ : ..............................................................................................

ความสามารถในการแก้ปัญหา : ...................................................................................

ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต : .............................................................................

ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี : .............................................................................

สาระการเรยี นรู้
ผังความคดิ มหี ลายรูปแบบ แตล่ ะรูปแบบเหมาะสำหรบั จดั ข้อมลู แตกต่างกนั ตอ้ งเลือกใชใ้ หเ้ หมาะสมกบั ข้อมูล

จะทำใหจ้ ดั ความคดิ ไดเ้ ป็นระบบท่ีชดั เจนขึน้

การบูรณาการ
บูรณาการขา้ มกล่มุ สาระการเรยี นรู้ (ระบ)ุ ……………………………………………………………….

บรู ณาการกบั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
บรู ณาการกบั ประชาคมอาเซียน
บูรณาการอ่นื ๆ (ระบุ) .....................................................................................................

ค่านยิ ม 12 ประการ
ความรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์
ซื่อสัตย์ เสยี สละ อดทน มีอดุ มการณ์ในส่ิงที่ดีงามเพื่อสว่ นรวม
กตญั ญูต่อพ่อแม่ ผ้ปู กครอง ครูบาอาจารย์
ใฝ่หาความรู้ หมน่ั ศึกษาเล่าเรยี นทั้งทางตรง และทางอ้อม
รกั ษาวฒั นธรรมประเพณไี ทยอันงดงาม
มศี ลี ธรรม รักษาความสตั ย์ หวงั ดตี ่อผอู้ นื่ เผื่อแผ่และแบ่งปนั
เข้าใจเรยี นรูก้ ารเปน็ ประชาธิปไตย อันมีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมุขที่ถกู ต้อง
มีระเบยี บวนิ ยั เคารพกฎหมาย ผนู้ ้อยรจู้ กั การเคารพผ้ใู หญ่
มีสติรตู้ วั รู้คิด รูท้ ำ รู้ปฏบิ ตั ิตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั
ร้จู ักดำรงตนอย่โู ดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
มีความเข้มแข็งทง้ั ร่างกาย และจิตใจ ไมย่ อมแพต้ ่ออำนาจฝ่ายตำ่ หรือกิเลส มีความละอายเกรง
กลวั ต่อบาปตามหลกั ของศาสนา
คำนึงถึงผลประโยชนข์ องสว่ นรวม และของชาตมิ ากกว่าผลประโยชนข์ องตนเอง

กรอบแนวคิดโรงเรยี นคุณธรรม 5 ประการ ความซ่ือสัตยส์ ุจรติ
ความพอเพียง ความกตัญญู
ความรับผดิ ชอบ อุดมการณ์คุณธรรม

ภาระ / ช้นิ งาน
- แผนผังความคดิ

แนวทางการวัดประเมินผล เครือ่ งมือ วธิ ีการ เกณฑ์
ถกู 80% - ผ่าน
สงิ่ ทป่ี ระเมิน การถามคำถาม ตรวจสอบคำตอบ
อธบิ ายความหมายและรูปแบบ ผู้เรียน ถกู 80% - ผา่ น
การเขียนแผนภาพความคิดได้
การถามคำถาม/ ตรวจสอบคำตอบของ
สร้างผังความคิดเพอ่ื สรุปเน้ือหา
จากการอ่านได้ แผนผังความคดิ ผูเ้ รียน/ตรวจสอบแผนผัง

ของผู้เรยี น ความคดิ ของผ้เู รยี น

คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ แบบประเมนิ ตรวจแบบประเมนิ 1–ผา่ น, 0–ไม่ผา่ น

กิจกรรมการเรยี นรู้เน้นทกั ษะการคิด

ความเข้าใจที่คงทน หลกั ฐานการเรียนรู้
ความหมายและรปู แบบการเขียนแผนภาพ
การตอบคำถามหน้าชน้ั เรียน
ความคดิ
การตอบคำถามหนา้ ชั้นเรยี น/แผนผังความคดิ ของ
สร้างผงั ความคิดเพ่ือสรปุ เน้ือหาจากการอ่าน ผูเ้ รียน

ชวั่ โมงท่ี 1

กลยทุ ธก์ ารสอน/เนอื้ หา VARK style Bloom’s
taxonomy
1. การนำเข้าสูบ่ ทเรยี น (Warm-up & Introduction) Visual 6: Create
5: Evaluate
- ผู้สอนกล่าวทักทายและนำผู้เรียนเข้าสู่เนื้อหา พูดคุยกับ Auditory 4: Analyze
3: Apply
ผู้เรียนว่ารู้จักการเขียนแผนผังความคิดและมีประสบการณ์ Read/write 2:Understand
1:Remember
ในการเขยี นแผนผังความคิดหรอื ไม่ อยา่ งไร Kinesthetic 6: Create
5: Evaluate
2. การนำเสนอเน้ือหา ทักษะ กระบวนการ (Presentation) Visual 4: Analyze
3: Apply
- ผู้สอนอธิบายความหมายของผังความคิด (Mind Auditory 2:Understand
1:Remember
mapping) และรูปแบบของแผนผงั ความคิดท่ีมีวตั ถุประสงค์ Read/write
6: Create
ในการใช้แตกต่างกันออกไป ไดแ้ ก่ Kinesthetic 5: Evaluate
4: Analyze
1) ผงั ความคดิ แบบข้ันบนั ได 3: Apply
2:Understand
2) ผงั ความคิดแบบเปรยี บเทยี บ 1:Remember
6: Create
3) ผงั ความคดิ แบบใยแมงมมุ 5: Evaluate
4: Analyze
4) ผงั ความคดิ แบบโครงสรา้ ง 3: Apply
2:Understand
5) ผงั ความคดิ แบบกา้ งปลา 1:Remember

6) ผังความคดิ เพอ่ื ตดั สินใจ

3. การฝกึ เนื้อหา ทักษะ กระบวนการ (Practice) Visual

- ผู้สอนให้ผ้เู รียนอาสาออกมายกตวั อยา่ งในการสรา้ งแผนผัง Auditory
ค ว า ม ค ิ ด ( Mind mapping) ใ น ร ู ป แ บ บ ต ่ า ง ๆ Read/write
จากสถานการณใ์ นชวี ิตประจำวัน
Kinesthetic

4. การนำไปใช้ (Application) Visual

- ผู้เรียนและผู้สอนร่วมกันอภิปรายเนื้อหา เรื่อง Auditory
การเขียนแผนผังความคิด และตั้งคำถามร่วมกันว่าผัง Read/write
ความคิดในแต่ละรูปแบบนำไปใช้ในวัตถุประสงค์ที่แตกต่าง Kinesthetic
กนั อย่างไร

ส่อื และแหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สอื เรียนหลักภาษาและการใชภ้ าษาไทย ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2
2) สื่อการเรียนการสอน เรอื่ ง การเขยี นแผนผังความคิด

บันทกึ ผลหลงั การสอน
1. ผลการสอน
............................................................................................................................. .......................................................
......................................................................................................................................................................... ...........
........................................................................................................................ ............................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................................. .......................................
............................................................................................ ........................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
2.ปัญหา/อปุ สรรค
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................................................................. .......
............................................................................................................................ ........................................................
............................................................................................................................. .......................................................
................................................................................................................................... ................................................
3. แนวทางแก้ไข
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................................................................. .......
............................................................................................................................ ........................................................
............................................................................................................................. .......................................................
.................................................................................................................................... ................................................

ลงช่อื ………………………………………
ผู้สอน

(นางสาวลลติ า เภาคำ)
ตำแหน่ง นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชพี

แผนการจดั การเรียนรู้

รหัสวิชา ท22101 ช่ือวิชา ภาษาไทย กล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย

ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 2 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2565

หนว่ ยการเรียนรู้ เร่ือง เรียงร้อยถ้อยอกั ษร แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 5

เรื่อง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร

เวลา 3 ชวั่ โมง ผ้สู อน นางสาวลลติ า เภาคำ โรงเรยี นวัดประดูใ่ นทรงธรรม

มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัด

มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลือกฟงและดูอยางมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู ความคิด และความรูสึกใน

โอกาสตาง ๆ อยางมีวจิ ารณญาณและสรางสรรค

ม.2/6 มีมารยาทในการฟง การดู และการพดู

มาตรฐาน ท ๕.๑ เขาใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณวรรณคดีและวรรณกรรมไทยอยางเห็นคุณคาและนํามา

ประยุกตใชในชีวิตจรงิ

ม.2/1 สรุปเนื้อหาวรรณคดแี ละวรรณกรรมที่อานในระดบั ที่ยากข้ึน

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

ด้านความรู้ ( Knowledge)

เมื่อจบหน่วยการเรียนรู้แล้ว ผู้เรยี นสามารถ

(1) อธิบายประวตั คิ วามเป็นมา ผพู้ ระราชนพิ นธ์ จดุ ประสงค์การประพันธ์ ลักษณะการประพันธ์ คำศัพท์

คณุ ค่าของวรรณคดีเรอื่ งโคลงพระราชพงศาวดารได้

ด้านทักษะกระบวนการ ( Process)

การฟัง : .............................................................

การพูด : ............................................................

การอา่ น : สรปุ เนื้อเรอ่ื งโคลงพระราชพงศาวดารได้

การเขียน : ......................................................

ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ( Attitude )

ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ( Attitude )

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551

รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ อยู่อย่างพอเพยี ง ซอ่ื สัตยส์ ุจริต มงุ่ มนั่ ในการทำงาน

มีวินยั รักความเป็นไทย ใฝ่เรยี นรู้ มีจิตสาธารณะ

ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น

ความสามารถในการสอื่ สาร : .......................................................................................

ความสามารถในการคิด : ..............................................................................................

ความสามารถในการแก้ปัญหา : ...................................................................................

ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต : .............................................................................

ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี : .............................................................................

สาระการเรยี นรู้
โคลงภาพพระราชพงศาวดาร เป็นมรดกที่มีคุณค่าทั้งด้านประวัติศาสตร์ ซึ่งโคลงภาพพระสุริโยทัยขาดคอช้าง

และโคลงภาพพันท้ายนรสิงห์ถวายชีวิตแสดงให้เห็นถึงบทบาทและหน้าที่ของบุคคลที่เป็นตัวอย่างที่ดี โคลงภาพ
พระสุริโยทัยขาดคอช้าง เป็นโคลงภาพที่บรรยายเหตุการณ์อันสำคัญทางประวัติศาสตร์ซึ่งแสดงให้ เห็นถึง
ความกล้าหาญของพระสุรโิ ยทยั ทยี่ อมเสยี สละชีวติ เพือ่ ปกปอ้ งแผ่นดิน
การบรู ณาการ

บรู ณาการข้ามกล่มุ สาระการเรยี นรู้ (ระบุ)……………………………………………………………….

บรู ณาการกับปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
บรู ณาการกับประชาคมอาเซียน
บูรณาการอ่ืนๆ (ระบุ) .....................................................................................................

คา่ นิยม 12 ประการ
ความรักชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์
ซอ่ื สตั ย์ เสยี สละ อดทน มีอุดมการณใ์ นสิ่งท่ดี งี ามเพ่ือสว่ นรวม
กตัญญตู ่อพ่อแม่ ผูป้ กครอง ครบู าอาจารย์
ใฝ่หาความรู้ หม่ันศกึ ษาเล่าเรียนท้งั ทางตรง และทางอ้อม
รักษาวัฒนธรรมประเพณไี ทยอนั งดงาม
มีศลี ธรรม รักษาความสตั ย์ หวงั ดีตอ่ ผอู้ ่ืน เผอ่ื แผ่และแบ่งปัน
เข้าใจเรียนรกู้ ารเป็นประชาธิปไตย อันมีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมขุ ที่ถูกต้อง
มรี ะเบียบวนิ ยั เคารพกฎหมาย ผนู้ ้อยรู้จักการเคารพผ้ใู หญ่
มีสติรูต้ วั รู้คดิ รทู้ ำ ร้ปู ฏิบตั ิตามพระราชดำรสั ของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั
รจู้ ักดำรงตนอย่โู ดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
มีความเข้มแขง็ ทง้ั รา่ งกาย และจติ ใจ ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝา่ ยตำ่ หรอื กเิ ลส มีความละอายเกรง
กลวั ตอ่ บาปตามหลักของศาสนา
คำนงึ ถึงผลประโยชนข์ องส่วนรวม และของชาตมิ ากกว่าผลประโยชนข์ องตนเอง

กรอบแนวคิดโรงเรียนคุณธรรม 5 ประการ ความซ่อื สัตย์สุจริต
ความพอเพยี ง ความกตัญญู
ความรับผดิ ชอบ อดุ มการณค์ ุณธรรม

ภาระ / ช้นิ งาน
-

แนวทางการวดั ประเมินผล

ส่งิ ทปี่ ระเมนิ เคร่อื งมอื วิธีการ เกณฑ์
ถกู 80% - ผ่าน
อธิบายประวตั ิความเปน็ มา การถามคำถาม/ ตรวจสอบคำตอบ ถูก 80% - ผ่าน
ผู้พระราชนพิ นธ์ จดุ ประสงค์ กิจกรรม Word ผ้เู รยี น
การประพนั ธ์ ลักษณะการประพนั ธ์
คำศัพทแ์ ละคณุ คา่ ของวรรณคดี wall ตรวจสอบคำตอบของ
เร่อื ง โคลงพระราชพงศาวดารได้ ผ้เู รียน

การถามคำถาม/
สรปุ เนือ้ เร่อื งโคลงพระราชพงศาวดาร กิจกรรม Word

wall

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ แบบประเมนิ ตรวจแบบประเมนิ 1–ผ่าน, 0–ไม่ผ่าน

กิจกรรมการเรียนรเู้ น้นทกั ษะการคิด

ความเขา้ ใจทคี่ งทน หลักฐานการเรยี นรู้
ประวัติความเปน็ มา ผู้พระราชนิพนธ์
จุดประสงค์การประพนั ธ์ ลกั ษณะการประพันธ์ การตอบคำถามหน้าชน้ั เรยี น/การทำกิจกรรม
คำศัพท์ และคณุ ค่าของวรรณคดี Word wall

เร่อื งโคลงพระราชพงศาวดาร การตอบคำถามหนา้ ชั้นเรยี น/การทำกจิ กรรม
Word wall
สรุปเนือ้ เรอื่ งโคลงพระราชพงศาวดาร

ชว่ั โมงท่ี 1

กลยทุ ธ์การสอน/เนื้อหา VARK style Bloom’s
taxonomy
1. การนำเขา้ สูบ่ ทเรยี น (Warm-up & Introduction) Visual 6: Create
- ผเู้ รียนดูภาพการทำยุทธหตั ถีของพระสรุ โิ ยทยั แล้วตอบ Auditory 5: Evaluate
คำถามวา่ บุคคลที่ในภาพเปน็ ใครและกำลังทำสิง่ ใด Read/write 4: Analyze
Kinesthetic 3: Apply
2:Understand
2. การนำเสนอเน้อื หา ทักษะ กระบวนการ (Presentation) Visual 1:Remember
6: Create
- ผู้เรียนเรียนรู้ความหมายของคำศัพท์ยากจากเรื่อง Auditory 5: Evaluate
4: Analyze
โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพที่ 10 ภาพพระสุริโยทัย Read/write 3: Apply
2:Understand
ขาดคอช้าง Kinesthetic 1:Remember

- ผู้สอนบรรยายที่มาของโคลงภาพพระราชพงศาวดาร 6: Create
5: Evaluate
ลักษณะคำประพันธ์ และถอดคำประพันธ์ไปพร้อม ๆ 4: Analyze
3: Apply
กับผูเ้ รียน พร้อมทงั้ เปิดสอื่ วิดที ศั น์ประกอบ 2:Understand
1:Remember
3. การฝึกเนอ้ื หา ทกั ษะ กระบวนการ (Practice) Visual 6: Create
5: Evaluate
- ผู้เรียนทำกิจกรรมการตอบคำถามผ่านโปรแกรม Auditory 4: Analyze
Word wall เรอ่ื ง พระสุรโิ ยทยั ขาดคอช้าง 3: Apply
Read/write 2:Understand
1:Remember
Kinesthetic

4. การนำไปใช้ (Application) Visual

- ผู้เรียนและผู้สอนร่วมกันอภิปรายเนื้อหา เรื่อง Auditory
พระราชพงศาวดาร ภาพพระสุริโยทัยขาดคอช้าง Read/write
และพูดคุยถึงการนำข้อคดิ ท่ีไดจ้ ากเร่ืองไปประยุกตใ์ ช้
Kinesthetic

สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้
1) หนังสอื เรยี นวรรณคดแี ละวรรณกรรม ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2
2) สือ่ การเรยี นการสอน เรอื่ ง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร
3) โปรแกรม Word wall

บนั ทกึ ผลหลงั การสอน
1. ผลการสอน
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................................................................. .......
............................................................................................................................ ........................................................
............................................................................................................................. .......................................................
.................................................................................................................................... ................................................
2.ปญั หา/อปุ สรรค
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
................................................................................................................................................................................ ....
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
.................................................................................................................................................... ................................
................................................................................................... .................................................................................
3. แนวทางแก้ไข
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
........................................................................................................................................................ ............................
....................................................................................................... .............................................................................
............................................................................................................................. .......................................................

ลงชื่อ ………………………………………
ผสู้ อน

(นางสาวลลิตา เภาคำ)
ตำแหน่ง นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพ

ชว่ั โมงที่ 2

กลยทุ ธ์การสอน/เนื้อหา VARK style Bloom’s
taxonomy
1. การนำเข้าส่บู ทเรยี น (Warm-up & Introduction) Visual 6: Create
5: Evaluate
- ผู้สอนทักทายผู้เรียนและทบทวนความรู้เดิมเรื่อง Auditory 4: Analyze
3: Apply
โคลงภาพพระราชพงศาวดาร และสอบถามผู้เรียนว่า Read/write 2:Understand
1:Remember
รู้จกั พันท้ายนรสงิ หห์ รอื ไม่ Kinesthetic 6: Create
5: Evaluate
2. การนำเสนอเนอื้ หา ทักษะ กระบวนการ (Presentation) Visual 4: Analyze
3: Apply
- ผู้เรียนเรียนรู้ความหมายของคำศัพท์ยากจากเรื่อง Auditory 2:Understand
1:Remember
โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพที่ ๕๖ ภาพพันทา้ ยนรสงิ ห์ Read/write
6: Create
ถวายชีวติ Kinesthetic 5: Evaluate
4: Analyze
- ผู้สอนบรรยายที่มาของโคลงภาพพระราชพงศาวดาร 3: Apply
2:Understand
ลักษณะคำประพันธ์ และถอดคำประพันธ์ไปพร้อมกับ 1:Remember
6: Create
ผู้เรยี น พร้อมทั้งเปดิ สอ่ื วดิ ที ัศนป์ ระกอบ 5: Evaluate
4: Analyze
3. การฝึกเนอื้ หา ทกั ษะ กระบวนการ (Practice) Visual 3: Apply
2:Understand
- ผู้เรียนทำกิจกรรมการตอบคำถามผ่านโปรแกรม Auditory 1:Remember
Word wall เรื่อง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพที่ ๕๖ Read/write
ภาพพนั ทา้ ยนรสงิ ห์ถวายชวี ิต
Kinesthetic

4. การนำไปใช้ (Application) Visual

- ผ ู ้ เ ร ี ย น แ ล ะ ผ ู ้ ส อ น ร ่ ว ม ก ั น อ ภ ิ ป ร า ย เ น ื ้ อ ห า Auditory
เรื่อง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพพันท้ายนรสิงห์ Read/write
ถวายชีวิต และพูดคุยถึงการนำข้อคิดที่ได้จากเรื่อง Kinesthetic
ไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตประจำวนั

ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้
1) หนังสือเรยี นวรรณคดีและวรรณกรรม ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2
2) ส่ือการเรยี นการสอน เรอื่ ง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร
3) โปรแกรม Word wall

บนั ทกึ ผลหลงั การสอน
1. ผลการสอน
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................................................................. .......
............................................................................................................................ ........................................................
............................................................................................................................. .......................................................
.................................................................................................................................... ................................................
2.ปญั หา/อปุ สรรค
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
................................................................................................................................................................................ ....
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
.................................................................................................................................................... ................................
................................................................................................... .................................................................................
3. แนวทางแก้ไข
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
........................................................................................................................................................ ............................
....................................................................................................... .............................................................................
............................................................................................................................. .......................................................

ลงชื่อ ………………………………………
ผสู้ อน

(นางสาวลลิตา เภาคำ)
ตำแหน่ง นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพ

ช่ัวโมงที่ 3

กลยทุ ธก์ ารสอน/เน้อื หา VARK style Bloom’s
taxonomy
1. การนำเขา้ สู่บทเรยี น (Warm-up & Introduction) Visual 6: Create
5: Evaluate
- ผู้สอนทักทายผู้เรียนและทบทวนความรู้เดิมเรื่อง Auditory 4: Analyze
3: Apply
โคลงภาพพระราชพงศาวดาร Read/write 2:Understand
1:Remember
Kinesthetic 6: Create
5: Evaluate
2. การนำเสนอเนอ้ื หา ทกั ษะ กระบวนการ (Presentation) Visual 4: Analyze
3: Apply
- ผู้สอนบรรยายคุณค่าด้านต่าง ๆ ของโคลงภาพพระราช Auditory 2:Understand
1:Remember
พงศาวดาร ไดแ้ ก่ Read/write
6: Create
1) คณุ ค่าดา้ นเนอื้ หา Kinesthetic 5: Evaluate
4: Analyze
2) คณุ คา่ ดา้ นแนวคิด 3: Apply
2:Understand
3) คุณค่าดา้ นวรรณศลิ ป์ 1:Remember
6: Create
4) คณุ ค่าดา้ นสังคม 5: Evaluate
4: Analyze
3. การฝกึ เนอื้ หา ทกั ษะ กระบวนการ (Practice) Visual 3: Apply
2:Understand
- ผู้เรียนยกตัวอย่างบทประพันธ์ที่มีคุณค่าด้านต่าง ๆ ที่พบ Auditory 1:Remember
ในโคลงภาพพระราชพงศาวดาร พร้อมทั้งถอดคำประพันธ์ Read/write
และอธิบายรายละเอียดประกอบ
Kinesthetic

4. การนำไปใช้ (Application) Visual

- ผู้เรียนและผู้สอนร่วมกันอภิปรายเนื้อหา เรื่อง Auditory
โคลงภาพพระราชพงศาวดาร
Read/write

Kinesthetic

สื่อและแหล่งการเรยี นรู้
1) หนังสือเรียนวรรณคดแี ละวรรณกรรม ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2
2) ส่ือการเรยี นการสอน เรอ่ื ง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร

บนั ทกึ ผลหลงั การสอน
1. ผลการสอน
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................................................................. .......
............................................................................................................................ ........................................................
............................................................................................................................. .......................................................
.................................................................................................................................... ................................................
2.ปญั หา/อปุ สรรค
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
................................................................................................................................................................................ ....
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
.................................................................................................................................................... ................................
................................................................................................... .................................................................................
3. แนวทางแก้ไข
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
........................................................................................................................................................ ............................
....................................................................................................... .............................................................................
............................................................................................................................. .......................................................

ลงชื่อ ………………………………………
ผสู้ อน

(นางสาวลลิตา เภาคำ)
ตำแหน่ง นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพ

แผนการจัดการเรียนรู้

รหัสวชิ า ท22101 ชอ่ื วิชา ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565

หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง เรียงร้อยถ้อยอักษร แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 6

เรือ่ ง ประโยคสามัญ

เวลา 1 ชวั่ โมง ผู้สอน นางสาวลลติ า เภาคำ โรงเรยี นวดั ประดใู่ นทรงธรรม

มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ดั

มาตรฐาน ท 4.๑ เขาใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของภาษา

ภูมิปญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเปนสมบัตขิ องชาติ

ม.2/2 วิเคราะหโครงสรางประโยคสามญั ประโยครวม และประโยคซอน

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

ด้านความรู้ ( Knowledge)

เมื่อจบหนว่ ยการเรยี นร้แู ลว้ ผเู้ รียนสามารถ

(1) อธิบายโครงสร้างและลักษณะของประโยคได้

ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ( Process)

การฟัง : .............................................................

การพดู : ............................................................

การอ่าน : วเิ คราะหล์ กั ษณะของประโยคสามัญได้

การเขียน : ......................................................

ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ( Attitude )

ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ( Attitude )

คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงคต์ ามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551

รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อยู่อยา่ งพอเพยี ง ซอื่ สตั ยส์ ุจริต ม่งุ มัน่ ในการทำงาน

มีวินยั รักความเปน็ ไทย ใฝเ่ รยี นรู้ มีจติ สาธารณะ

ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

ความสามารถในการส่อื สาร : .......................................................................................

ความสามารถในการคิด : ..............................................................................................

ความสามารถในการแก้ปญั หา : ...................................................................................

ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ : .............................................................................

ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี : .............................................................................

สาระการเรียนรู้
ประโยคเป็นข้อความที่มีใจความสมบูรณ์ แต่ละประโยคประกอบด้วย ภาคประธาน และภาคแสดง

ประโยคมี 3 ชนิด ประโยคสามัญ ประโยครวม และประโยคซ้อน การมีความรู้เรื่องประโยคจะทำให้การใช้ภาษา
ในการส่อื สารมีประสทิ ธภิ าพย่งิ ข้นึ

ประโยคสามัญหรือประโยคความเดียว (เอกรรถประโยค) คือ ประโยคที่มีประธานและกริยาสำคัญ
เพียงบทเดยี ว ไมม่ ีคำเชือ่ มปรากฏ
การบูรณาการ

บรู ณาการขา้ มกลุ่มสาระการเรยี นรู้ (ระบุ)……………………………………………………………….

บูรณาการกบั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
บรู ณาการกบั ประชาคมอาเซยี น
บูรณาการอน่ื ๆ (ระบุ) .....................................................................................................

ค่านยิ ม 12 ประการ
ความรักชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์
ซอ่ื สตั ย์ เสยี สละ อดทน มีอุดมการณใ์ นส่ิงทด่ี ีงามเพื่อสว่ นรวม
กตัญญตู ่อพ่อแม่ ผูป้ กครอง ครูบาอาจารย์
ใฝ่หาความรู้ หมนั่ ศึกษาเล่าเรยี นท้งั ทางตรง และทางอ้อม
รักษาวัฒนธรรมประเพณไี ทยอนั งดงาม
มศี ีลธรรม รักษาความสัตย์ หวังดตี อ่ ผอู้ นื่ เผอื่ แผ่และแบ่งปนั
เข้าใจเรียนรกู้ ารเปน็ ประชาธิปไตย อนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมขุ ท่ีถูกต้อง
มรี ะเบียบวนิ ยั เคารพกฎหมาย ผนู้ ้อยรูจ้ ักการเคารพผู้ใหญ่
มสี ตริ ตู้ ัว รคู้ ิด รูท้ ำ รปู้ ฏบิ ัติตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
รจู้ ักดำรงตนอยโู่ ดยใช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
มีความเข้มแข็งทั้งร่างกาย และจติ ใจ ไมย่ อมแพ้ต่ออำนาจฝา่ ยต่ำ หรือกิเลส มคี วามละอายเกรง
กลวั ตอ่ บาปตามหลกั ของศาสนา
คำนงึ ถงึ ผลประโยชนข์ องส่วนรวม และของชาตมิ ากกว่าผลประโยชนข์ องตนเอง

กรอบแนวคิดโรงเรยี นคณุ ธรรม 5 ประการ ความซื่อสัตย์สุจรติ
ความพอเพยี ง ความกตัญญู
ความรบั ผิดชอบ อุดมการณค์ ุณธรรม

ภาระ / ชนิ้ งาน
-

แนวทางการวัดประเมนิ ผล

สงิ่ ท่ีประเมนิ เคร่อื งมอื วิธีการ เกณฑ์
การถามคำถาม ถกู 80% - ผ่าน
อธิบายโครงสรา้ งและลักษณะของ ตรวจสอบคำตอบ ถกู 80% - ผา่ น
ประโยคได้ ผู้เรียน

วิเคราะห์ลกั ษณะของประโยคสามัญได้ การถามคำถาม ตรวจสอบคำตอบของ
ผเู้ รียน

คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ แบบประเมนิ ตรวจแบบประเมนิ 1–ผ่าน, 0–ไมผ่ ่าน

กิจกรรมการเรียนรเู้ นน้ ทักษะการคิด หลกั ฐานการเรียนรู้
การตอบคำถามหน้าช้นั เรียน
ความเข้าใจที่คงทน การตอบคำถามหนา้ ชั้นเรียน
อธิบายโครงสรา้ งและลักษณะของประโยค

วิเคราะห์ลักษณะของประโยคสามญั

ชั่วโมงท่ี 1

กลยุทธก์ ารสอน/เน้อื หา VARK style Bloom’s
taxonomy
1. การนำเขา้ ส่บู ทเรียน (Warm-up & Introduction) Visual
6: Create
- ผ้สู อนกล่าวทกั ทายผูเ้ รยี น และสอบถามถึงความรู้เดิมของ Auditory 5: Evaluate
4: Analyze
ผเู้ รยี นเกยี่ วกับประโยคในภาษาไทยทผ่ี ู้เรยี นร้จู กั Read/write 3: Apply
2:Understand
Kinesthetic 1:Remember

2. การนำเสนอเนื้อหา ทกั ษะ กระบวนการ (Presentation) Visual 6: Create
5: Evaluate
- ผู้สอนอธิบายความหมายและโครงสร้างของประโยค Auditory 4: Analyze
3: Apply
รวมถึงอธบิ ายลักษณะและยกตัวอย่างการวเิ คราะหโ์ ครงสร้าง Read/write 2:Understand
1:Remember
ของประโยคสามัญ Kinesthetic
6: Create
3. การฝึกเนือ้ หา ทักษะ กระบวนการ (Practice) Visual 5: Evaluate
4: Analyze
- ผู้สอนยกตัวอย่างประโยคหน้าชั้นเรียน ให้ผู้เรียนออกมา Auditory 3: Apply
วิเคราะหส์ ว่ นตา่ ง ๆ ของประโยคให้ถูกตอ้ ง 2:Understand
Read/write 1:Remember

Kinesthetic 6: Create
5: Evaluate
4. การนำไปใช้ (Application) Visual 4: Analyze
3: Apply
- ผู้เรียนและผู้สอนร่วมกันอภิปรายเนื้อหา เรื่อง Auditory 2:Understand
ประโยคสามัญ ว่ามีลักษณะเด่น และข้อสังเกตอย่างไร Read/write 1:Remember
พร้อมร่วมกันยกตัวอย่างประโยคสามัญตามความเข้าใจของ Kinesthetic
ผเู้ รียน

สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้
1) หนังสอื เรียนหลักภาษาและการใชภ้ าษาไทย ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 2
2) ส่ือการเรียนการสอน เร่อื ง ประโยคสามัญ

บนั ทกึ ผลหลงั การสอน
1. ผลการสอน
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................................................................. .......
............................................................................................................................ ........................................................
............................................................................................................................. .......................................................
.................................................................................................................................... ................................................
2.ปญั หา/อปุ สรรค
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
................................................................................................................................................................................ ....
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
.................................................................................................................................................... ................................
................................................................................................... .................................................................................
3. แนวทางแก้ไข
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
........................................................................................................................................................ ............................
....................................................................................................... .............................................................................
............................................................................................................................. .......................................................

ลงชื่อ ………………………………………
ผสู้ อน

(นางสาวลลิตา เภาคำ)
ตำแหน่ง นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพ

แผนการจดั การเรยี นรู้

รหสั วชิ า ท22101 ช่ือวิชา ภาษาไทย กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย

ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565

หนว่ ยการเรยี นรู้ เรื่อง เรียงร้อยถ้อยอักษร แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 7

เรอ่ื ง ประโยคความรวม

เวลา 1 ชั่วโมง ผ้สู อน นางสาวลลิตา เภาคำ โรงเรยี นวดั ประด่ใู นทรงธรรม

มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วดั

มาตรฐาน ท 4.๑ เขาใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของภาษา

ภูมปิ ญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเปนสมบตั ิของชาติ

ม.2/2 วิเคราะหโครงสรางประโยคสามัญ ประโยครวม และประโยคซอน

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

ดา้ นความรู้ ( Knowledge)

เม่ือจบหน่วยการเรยี นรแู้ ลว้ ผู้เรียนสามารถ

(1) อธิบายโครงสรา้ งและลกั ษณะของประโยคความรวมได้

ด้านทกั ษะกระบวนการ ( Process)

การฟงั : .............................................................

การพูด : ............................................................

การอ่าน : วเิ คราะหล์ ักษณะของประโยคความรวมได้

การเขียน : ......................................................

ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ( Attitude )

ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ( Attitude )

คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551

รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยู่อย่างพอเพยี ง ซือ่ สัตย์สจุ ริต ม่งุ มน่ั ในการทำงาน

มีวนิ ัย รกั ความเปน็ ไทย ใฝ่เรยี นรู้ มจี ิตสาธารณะ

ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน

ความสามารถในการสอื่ สาร : .......................................................................................

ความสามารถในการคดิ : ..............................................................................................

ความสามารถในการแก้ปัญหา : ...................................................................................

ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต : .............................................................................

ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี : .............................................................................

สาระการเรียนรู้
ประโยคความรวม คือประโยคที่มีใจความสำคัญอยู่ตั้งแต่สองใจความขึ้นไป ประกอบด้วยภาคแสดง

หรือภาคกริยาที่มีมากกว่าหนึ่งส่วน โดยทุกประโยคย่อยมีน้ำหนักใจความสำคัญที่เท่าเทียมกัน
ประโยคความรวมแบ่งย่อยได้ตามลักษณะเนื้อความได้เป็น 4 ประเภท คือ ประโยคความรวมที่มีเนื้อความ
คล้อยตามกัน ประโยคความรวมที่มีใจความขัดแย้ง ประโยคความรวมให้เลือก และประโยคความรวม
ท่เี ปน็ เหตุผล

การบูรณาการ
บรู ณาการข้ามกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ (ระบุ)……………………………………………………………….

บรู ณาการกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
บูรณาการกบั ประชาคมอาเซียน
บรู ณาการอ่ืนๆ (ระบุ) .....................................................................................................

ค่านยิ ม 12 ประการ
ความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์
ซื่อสตั ย์ เสียสละ อดทน มีอุดมการณใ์ นส่งิ ท่ีดงี ามเพื่อสว่ นรวม
กตัญญตู ่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์
ใฝห่ าความรู้ หมนั่ ศกึ ษาเล่าเรยี นท้ังทางตรง และทางอ้อม
รกั ษาวัฒนธรรมประเพณไี ทยอันงดงาม
มศี ีลธรรม รักษาความสัตย์ หวงั ดีต่อผู้อืน่ เผอื่ แผ่และแบ่งปัน
เข้าใจเรียนรกู้ ารเปน็ ประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมุขที่ถกู ต้อง
มรี ะเบียบวนิ ัย เคารพกฎหมาย ผนู้ อ้ ยรู้จกั การเคารพผู้ใหญ่
มีสตริ ู้ตัว รูค้ ดิ รทู้ ำ ร้ปู ฏิบตั ิตามพระราชดำรสั ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัว
รู้จกั ดำรงตนอยู่โดยใชห้ ลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
มคี วามเข้มแข็งท้ังร่างกาย และจติ ใจ ไมย่ อมแพ้ต่ออำนาจฝา่ ยต่ำ หรอื กิเลส มคี วามละอายเกรง
กลวั ต่อบาปตามหลักของศาสนา
คำนงึ ถงึ ผลประโยชนข์ องสว่ นรวม และของชาติมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง

กรอบแนวคิดโรงเรยี นคุณธรรม 5 ประการ ความซอื่ สัตยส์ ุจริต
ความพอเพียง ความกตัญญู
ความรับผิดชอบ อดุ มการณ์คุณธรรม

ภาระ / ช้ินงาน
- ใบงาน เร่ือง ประโยคความรวม

แนวทางการวัดประเมนิ ผล

สิง่ ทปี่ ระเมนิ เคร่ืองมือ วิธีการ เกณฑ์
ถูก 80% - ผา่ น
อธบิ ายโครงสรา้ งและลักษณะของ การถามคำถาม ตรวจสอบคำตอบ
ประโยคความรวมได้ ผู้เรยี น ถกู 80% - ผา่ น
การถามคำถาม/
วิเคราะหล์ กั ษณะของประโยค ใบงาน เรอื่ ง ตรวจสอบคำตอบของ
ความรวมได้ ประโยคความรวม ผเู้ รียน/ ตรวจสอบ

ใบงาน

คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ แบบประเมิน ตรวจแบบประเมิน 1–ผ่าน, 0–ไม่ผ่าน

กิจกรรมการเรยี นรเู้ น้นทกั ษะการคิด หลกั ฐานการเรียนรู้

ความเขา้ ใจที่คงทน การตอบคำถามหน้าช้ันเรียน
อธิบายโครงสรา้ งและลักษณะของ
การตอบคำถามหนา้ ช้นั เรียน/ใบงาน
ประโยคความรวม เรอ่ื ง ประโยคความรวม

วิเคราะห์ลักษณะของประโยคความรวม

ชว่ั โมงที่ 1

กลยทุ ธก์ ารสอน/เน้ือหา VARK style Bloom’s
taxonomy
1. การนำเขา้ สู่บทเรยี น (Warm-up & Introduction) Visual 6: Create
5: Evaluate
- ผู้สอนกล่าวทักทายผู้เรียน และทบทวนเนื้อหาเรื่อง Auditory 4: Analyze
3: Apply
ประโยคสามญั /ประโยคความเดยี ว Read/write 2:Understand
1:Remember
Kinesthetic 6: Create
5: Evaluate
2. การนำเสนอเน้อื หา ทกั ษะ กระบวนการ (Presentation) Visual 4: Analyze
3: Apply
- ผู้สอนอธิบายความหมายและโครงสร้างของประโยค Auditory 2:Understand
1:Remember
รวมถงึ อธิบายลกั ษณะและยกตัวอย่างการวิเคราะหโ์ ครงสร้าง Read/write
6: Create
ของประโยคความรวมทั้ง 4 ประเภท ไดแ้ ก่ Kinesthetic 5: Evaluate
4: Analyze
1) ประโยคความรวมท่มี เี น้ือความคลอ้ ยตามกัน 3: Apply
2:Understand
2) ประโยคความรวมที่มเี น้ือความแตกตา่ งกัน 1:Remember
6: Create
3) ประโยคความรวมชนิดเลอื กอยา่ งใดอย่างหน่ึง 5: Evaluate
4: Analyze
4) ประโยคความรวมชนิดเป็นเหตุเป็นผล 3: Apply
2:Understand
3. การฝึกเนอ้ื หา ทกั ษะ กระบวนการ (Practice) Visual 1:Remember

- ผู้เรียนทำใบงาน เร่ือง ประโยคความรวม โดยผู้เรียนตอ้ ง Auditory
วเิ คราะห์ว่าข้อความท่ีผู้สอนกำหนดใหเ้ ป็นประโยคความรวม Read/write
ประเภทใด
Kinesthetic

4. การนำไปใช้ (Application) Visual

- ผู้เรียนและผู้สอนร่วมกันอภิปรายเนื้อหา เรื่อง Auditory
ประโยคความรวม ว่ามีลักษณะเด่น และประโยคความรวม Read/write
ประเภทตา่ ง ๆ มขี อ้ สังเกตอยา่ งไร พร้อมรว่ มกันยกตัวอย่าง Kinesthetic
ประโยคความรวมตามความเขา้ ใจของผเู้ รยี น

สือ่ และแหล่งการเรียนรู้
1) หนังสือเรียนหลกั ภาษาและการใชภ้ าษาไทย ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2
2) สอื่ การเรยี นการสอน เรอ่ื ง ประโยคความรวม

บนั ทึกผลหลังการสอน
1. ผลการสอน
............................................................................................................................. .......................................................
......................................................................................................................................................................... ...........
........................................................................................................................ ............................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................................. .......................................
............................................................................................ ........................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
2.ปญั หา/อุปสรรค
............................................................................................................................................................................ ........
........................................................................................................................... .........................................................
............................................................................................................................. .......................................................
................................................................................................................................................ ....................................
............................................................................................... .....................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
3. แนวทางแก้ไข
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
.................................................................................................................................................... ................................
................................................................................................... .................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................

ลงช่ือ ………………………………………
ผ้สู อน

(นางสาวลลิตา เภาคำ)
ตำแหนง่ นักศกึ ษาฝกึ ประสบการณว์ ชิ าชพี


Click to View FlipBook Version