แผนการจัดการเรียนรู้ ฉบับสมบูรณ์ ม.2

ใบงาน
เร่อื ง ประโยคความรวม

คาชี้แจง ให้นักเรียนนาหมายเลขของชนิดประโยคความรวมท่ีกาหนดให้
เติมลงในประโยคแต่ละข้อให้ถูกตอ้ ง

๑ = ประโยคความรวมทม่ี ีเน้ือความคล้อยตามกัน
๒ = ประโยคความรวมท่มี ีเน้ือความแตกต่างกนั
๓ = ประโยคความรวมชนิดเลือกอย่างใดอย่างหน่ึง
๔ = ประโยคความรวมชนิดเป็นเหตุเป็นผล
๑. .............. เอเป็นคนดี เพราะฉะนั้นจึงมคี นชว่ ยเขา
๒. ............. มายอยากเรียนนิเทศศาสตร์ แต่พ่อใหเ้ รยี นนิติศาสตร์
๓. ............. พอทาการบา้ นเสร็จ นอ้ งกไ็ ปว่ิงเล่น
๔. ............. พอเมลเ์ ลิกเรยี นเสรจ็ กไ็ ปชว่ ยแมข่ ายของทันที
๕. ............. อุษาไมอ่ ิจฉาใคร เธอจงึ มคี วามสขุ
๖. ............. ครน้ั พี่สง่ ของมาถึงหนา้ บ้าน สนุ ขั ฉนั ก็เห่าทันที
๗. ............ พอ่ อยากกินทเุ รยี น แต่แม่ดนั ไมช่ อบทุเรียน
๘. ............. ไมเ่ ธอกว็ ินยั ตอ้ งออกไปพูดนาเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น
๙. ............. สวมหมวกกันนอ็ กด้วยนะ มเิ ชน่ นั้นเธอจะโดนปรบั
๑๐. ........... ถงึ ฉันจะทมุ่ เทมากแคไ่ หน เธอกไ็ มส่ นใจอยู่ดี

ช่ือ - นามสกลุ .............................................. เลขที่ ........ ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ ๒/......

แผนการจดั การเรยี นรู้

รหสั วิชา ท22101 ช่อื วิชา ภาษาไทย กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย

ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565

หน่วยการเรยี นรู้ เรือ่ ง เรียงร้อยถ้อยอกั ษร แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 8

เรอื่ ง ประโยคความซ้อน

เวลา 1 ช่วั โมง ผสู้ อน นางสาวลลิตา เภาคำ โรงเรยี นวัดประดู่ในทรงธรรม

มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้ีวดั

มาตรฐาน ท 4.๑ เขาใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของภาษา

ภมู ิปญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเปนสมบัตขิ องชาติ

ม.2/2 วิเคราะหโครงสรางประโยคสามัญ ประโยครวม และประโยคซอน

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

ด้านความรู้ ( Knowledge)

เมื่อจบหนว่ ยการเรยี นรแู้ ลว้ ผเู้ รียนสามารถ

(1) อธิบายโครงสร้างและลกั ษณะของประโยคความซ้อนได้

ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ( Process)

การฟัง : .............................................................

การพดู : ............................................................

การอ่าน : วิเคราะหล์ ักษณะของประโยคความซอ้ นได้

การเขียน : ......................................................

ด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ( Attitude )

ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ( Attitude )

คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551

รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง ซื่อสตั ยส์ ุจริต ม่งุ ม่นั ในการทำงาน

มวี นิ ัย รกั ความเปน็ ไทย ใฝเ่ รียนรู้ มีจิตสาธารณะ

ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน

ความสามารถในการส่อื สาร : .......................................................................................

ความสามารถในการคิด : ..............................................................................................

ความสามารถในการแก้ปญั หา : ...................................................................................

ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ : .............................................................................

ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี : .............................................................................

สาระการเรยี นรู้
ประโยคซ้อน คือ ประโยคที่ประกอบด้วยประโยคความเดียวตั้งแต่ 2 ประโยคขึ้นไป มีใจความสำคัญจะเป็น

ประโยคหลัก (มุขยประโยค) มีประโยคย่อย (อนุประโยค) ทำหน้าที่ขยายความส่วนใดส่วนหนึ่งของประโยคหลัก
ให้ชดั เจน โดยมีคำเช่ือมทัง้ 2 ประโยคเขา้ ดว้ ยกนั

การบูรณาการ
บรู ณาการขา้ มกลุ่มสาระการเรียนรู้ (ระบุ)……………………………………………………………….

บูรณาการกบั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
บูรณาการกบั ประชาคมอาเซียน
บรู ณาการอื่นๆ (ระบุ) .....................................................................................................

ค่านยิ ม 12 ประการ
ความรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์
ซือ่ สตั ย์ เสยี สละ อดทน มีอดุ มการณ์ในสิ่งท่ดี ีงามเพื่อสว่ นรวม
กตญั ญูต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครบู าอาจารย์
ใฝ่หาความรู้ หมั่นศกึ ษาเล่าเรียนทั้งทางตรง และทางอ้อม
รกั ษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอันงดงาม
มศี ีลธรรม รักษาความสัตย์ หวงั ดตี ่อผู้อนื่ เผ่ือแผ่และแบง่ ปัน
เขา้ ใจเรยี นร้กู ารเป็นประชาธปิ ไตย อนั มีพระมหากษัตริยท์ รงเปน็ ประมขุ ท่ีถกู ต้อง
มรี ะเบียบวนิ ยั เคารพกฎหมาย ผ้นู อ้ ยรู้จกั การเคารพผู้ใหญ่
มสี ตริ ตู้ วั รู้คดิ รทู้ ำ รปู้ ฏบิ ัติตามพระราชดำรสั ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั
ร้จู ักดำรงตนอยู่โดยใชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
มคี วามเข้มแขง็ ทั้งร่างกาย และจิตใจ ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายตำ่ หรอื กิเลส มีความละอายเกรง
กลวั ตอ่ บาปตามหลักของศาสนา
คำนงึ ถึงผลประโยชนข์ องสว่ นรวม และของชาติมากกว่าผลประโยชนข์ องตนเอง

กรอบแนวคิดโรงเรยี นคณุ ธรรม 5 ประการ ความซ่ือสตั ยส์ ุจรติ
ความพอเพียง ความกตญั ญู
ความรบั ผิดชอบ อดุ มการณค์ ุณธรรม

ภาระ / ช้นิ งาน
-

แนวทางการวัดประเมนิ ผล

สิ่งท่ปี ระเมนิ เครอื่ งมอื วิธีการ เกณฑ์
ถูก 80% - ผ่าน
อธบิ ายโครงสรา้ งและลักษณะของ การถามคำถาม ตรวจสอบคำตอบ
ประโยคความซ้อนได้ ผู้เรยี น ถูก 80% - ผ่าน
การถามคำถาม/
วิเคราะหล์ กั ษณะของประโยค บตั รคำ เรอ่ื ง ตรวจสอบคำตอบของ
ความรวมได้ ประโยคความซ้อน ผู้เรียน/ ตรวจสอบ

บตั รคำ

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ แบบประเมนิ ตรวจแบบประเมนิ 1–ผา่ น, 0–ไมผ่ า่ น

กิจกรรมการเรยี นรู้เน้นทักษะการคดิ หลักฐานการเรียนรู้

ความเขา้ ใจท่คี งทน การตอบคำถามหน้าชัน้ เรียน
อธิบายโครงสร้างและลักษณะของ
การตอบคำถามหน้าช้ันเรยี น/บตั รคำ
ประโยคความซ้อน เรือ่ ง ประโยคความซอ้ น

วิเคราะห์ลกั ษณะของประโยคความซอ้ น

ชัว่ โมงท่ี 1

กลยทุ ธ์การสอน/เนอ้ื หา VARK style Bloom’s
taxonomy
1. การนำเข้าสูบ่ ทเรียน (Warm-up & Introduction) Visual
- ผู้สอนกล่าวทักทายผู้เรียน และทบทวนเนื้อหาเรื่อง Auditory 6: Create
ประโยคสามญั /ประโยคความเดยี ว ประโยคความรวม Read/write 5: Evaluate
4: Analyze
Kinesthetic 3: Apply
2:Understand
2. การนำเสนอเน้อื หา ทกั ษะ กระบวนการ (Presentation) Visual 1:Remember

- ผู้สอนอธิบายความหมายและโครงสร้างของประโยค Auditory 6: Create
5: Evaluate
ความซ้อน รวมถึงอธิบายลักษณะและยกตัวอย่างการ Read/write 4: Analyze
3: Apply
วิเคราะหโ์ ครงสรา้ งของประโยคความซ้อน Kinesthetic 2:Understand
1:Remember
3. การฝกึ เนื้อหา ทักษะ กระบวนการ (Practice) Visual
6: Create
- ผู้เรียนจับบัตรคำที่ผู้สอนเตรียมมาประกอบการสอน Auditory 5: Evaluate
เรื่อง ประโยคความซ้อน โดยผู้เรียนต้องวิเคราะห์ว่า Read/write 4: Analyze
ข้อความที่ผู้สอนกำหนดให้มีประโยคใดเป็นประโยคหลัก Kinesthetic 3: Apply
และประโยคใดเปน็ ประโยคย่อย 2:Understand
1:Remember
4. การนำไปใช้ (Application) Visual
6: Create
- ผู้เรียนและผู้สอนตรวจสอบคำตอบจากบัตรคำ เรื่อง Auditory 5: Evaluate
ประโยคความซ้อน และผู้สอนสรุปเนื้อหาประโยคทั้ง 3 Read/write 4: Analyze
ชนดิ ไดแ้ ก่ 3: Apply
Kinesthetic 2:Understand
1) ประโยคสามัญ/ประโยคความเดียว 1:Remember

2) ประโยคความรวม

3) ประโยคความซ้อน

ส่อื และแหล่งการเรยี นรู้
1) หนงั สอื เรียนหลกั ภาษาและการใช้ภาษาไทย ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2
2) สอื่ การเรียนการสอน เรอ่ื ง ประโยคความซอ้ น

บนั ทึกผลหลงั การสอน
1. ผลการสอน
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................... .............
...................................................................................................................... ..............................................................
............................................................................................................................. .......................................................
2.ปญั หา/อุปสรรค
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
.......................................................................................................................................................................... ..........
......................................................................................................................... ...........................................................
............................................................................................................................. .......................................................
.................................................................................................................................... ................................................
3. แนวทางแก้ไข
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................................................................. .......
............................................................................................................................ ........................................................
............................................................................................................................. .......................................................
.................................................................................................................................... ................................................

ลงชื่อ ………………………………………
ผ้สู อน

(นางสาวลลิตา เภาคำ)
ตำแหนง่ นกั ศึกษาฝึกประสบการณ์วชิ าชีพ

แผนการจัดการเรียนรู้

รหัสวชิ า ท22101 ชือ่ วิชา ภาษาไทย กล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย

ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565

หน่วยการเรียนรู้ เรอื่ ง เรียงร้อยถ้อยอักษร แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 9

เรื่อง คำสมาส

เวลา 1 ชว่ั โมง ผสู้ อน นางสาวลลิตา เภาคำ โรงเรียนวัดประดใู่ นทรงธรรม

มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชี้วัด

มาตรฐาน ท 4.๑ เขาใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของภาษา

ภมู ิปญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเปนสมบัตขิ องชาติ

ม.2/1 สรางคําในภาษาไทย

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

ดา้ นความรู้ ( Knowledge)

เม่ือจบหนว่ ยการเรยี นรแู้ ล้ว ผ้เู รียนสามารถ

(1) อธิบายลกั ษณะของคำสมาสได้

ด้านทักษะกระบวนการ ( Process)

การฟัง : .............................................................

การพูด : ............................................................

การอ่าน : แยกคำสมาสได้

การเขยี น : ......................................................

ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ( Attitude )

ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ( Attitude )

คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงคต์ ามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551

รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง ซื่อสัตย์สุจริต มุง่ มน่ั ในการทำงาน

มีวนิ ยั รกั ความเปน็ ไทย ใฝ่เรียนรู้ มจี ิตสาธารณะ

ด้านสมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น

ความสามารถในการสื่อสาร : .......................................................................................

ความสามารถในการคดิ : ..............................................................................................

ความสามารถในการแก้ปญั หา : ...................................................................................

ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ : .............................................................................

ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี : .............................................................................

สาระการเรยี นรู้
คำสมาสเกิดจากการนำคำบาลีหรือคำสันสกฤตตั้งแต่ ๒ คำขึ้นไปมารวมกัน เป็นวิธีการสร้างคำอีกวิธีหนึ่ง

ในภาษาไทย การสร้างคำสมาสทำให้ภาษาไทยมีคำใช้เพิ่มมากขึ้น ช่วยให้ภาษาไพเราะสละสลวยเป็นประโยชน์
ในการแต่งคำประพนั ธ์ และมคี ำใช้สำหรบั วทิ ยาการสมยั ใหม่

การบรู ณาการ
บูรณาการขา้ มกลมุ่ สาระการเรียนรู้ (ระบุ)……………………………………………………………….

บรู ณาการกบั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
บูรณาการกบั ประชาคมอาเซียน
บูรณาการอืน่ ๆ (ระบุ) .....................................................................................................

คา่ นิยม 12 ประการ
ความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์
ซ่ือสตั ย์ เสียสละ อดทน มีอุดมการณใ์ นสง่ิ ที่ดีงามเพื่อส่วนรวม
กตญั ญูต่อพ่อแม่ ผูป้ กครอง ครูบาอาจารย์
ใฝห่ าความรู้ หมนั่ ศกึ ษาเล่าเรียนทัง้ ทางตรง และทางอ้อม
รักษาวฒั นธรรมประเพณไี ทยอนั งดงาม
มีศลี ธรรม รักษาความสัตย์ หวังดตี ่อผอู้ ืน่ เผื่อแผ่และแบง่ ปัน
เขา้ ใจเรยี นรกู้ ารเป็นประชาธิปไตย อนั มีพระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมขุ ท่ีถูกต้อง
มีระเบยี บวินัย เคารพกฎหมาย ผ้นู อ้ ยรจู้ ักการเคารพผู้ใหญ่
มีสติรูต้ ัว ร้คู ิด รทู้ ำ รูป้ ฏบิ ัติตามพระราชดำรสั ของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัว
รจู้ กั ดำรงตนอยโู่ ดยใช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
มคี วามเข้มแข็งท้งั ร่างกาย และจติ ใจ ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายตำ่ หรือกเิ ลส มีความละอายเกรง
กลวั ตอ่ บาปตามหลกั ของศาสนา
คำนึงถึงผลประโยชนข์ องสว่ นรวม และของชาตมิ ากกว่าผลประโยชนข์ องตนเอง

กรอบแนวคดิ โรงเรยี นคณุ ธรรม 5 ประการ ความซ่ือสัตยส์ ุจรติ
ความพอเพียง ความกตญั ญู
ความรบั ผิดชอบ อดุ มการณ์คุณธรรม

ภาระ / ชิน้ งาน
- ใบงาน เรอ่ื ง คำสมาส

แนวทางการวดั ประเมินผล เคร่อื งมือ วธิ ีการ เกณฑ์
สิ่งทีป่ ระเมิน ถกู 80% - ผ่าน
การถามคำถาม ตรวจสอบคำตอบ
อธิบายลักษณะของคำสมาสได้ ผเู้ รียน ถูก 80% - ผา่ น
การถามคำถาม/
แยกคำสมาสได้ ใบงาน เร่ือง ตรวจสอบคำตอบของ
ผเู้ รียน/ ตรวจสอบ
คำสมาส
ใบงาน

คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ แบบประเมิน ตรวจแบบประเมิน 1–ผา่ น, 0–ไมผ่ า่ น

กิจกรรมการเรียนร้เู น้นทักษะการคิด หลักฐานการเรยี นรู้
การตอบคำถามหนา้ ชนั้ เรียน
ความเข้าใจทีค่ งทน การตอบคำถามหนา้ ชั้นเรียน/ใบงาน เรอ่ื ง
อธิบายลักษณะของคำสมาสได้
คำสมาส
แยกคำสมาสได้

ชวั่ โมงที่ 1

กลยทุ ธก์ ารสอน/เนือ้ หา VARK style Bloom’s
taxonomy
1. การนำเข้าสบู่ ทเรยี น (Warm-up & Introduction) Visual
6: Create
- ผู้สอนกล่าวทักทายผู้เรียน และสอบถามผู้เรียนว่ารู้จักการ Auditory 5: Evaluate
4: Analyze
สร้างคำในภาษาไทยแบบใดบา้ ง Read/write 3: Apply
2:Understand
Kinesthetic 1:Remember

2. การนำเสนอเน้อื หา ทักษะ กระบวนการ (Presentation) Visual 6: Create
- ผู้สอนอธิบายความหมายของการสร้างคำสมาส ลักษณะ Auditory 5: Evaluate
คำสมาส ตัวอย่างคำสมาสในชีวิตประจำวัน และประโยชน์ Read/write 4: Analyze
ของคำสมาส รวมถงึ อธบิ ายข้อสังเกตในการแยกคำสมาส Kinesthetic 3: Apply
2:Understand
3. การฝึกเนือ้ หา ทักษะ กระบวนการ (Practice) Visual 1:Remember

- ผู้เรียนทำใบงาน เรื่อง คำสมาส โดยผู้เรียนต้องแยก Auditory 6: Create
คำสมาสท่ผี ้สู อนกำหนดให้ถูกตอ้ ง 5: Evaluate
Read/write 4: Analyze
3: Apply
Kinesthetic 2:Understand
1:Remember
4. การนำไปใช้ (Application) Visual
6: Create
- ผู้เรียนและผู้สอนตรวจสอบคำตอบจากใบงาน เรื่อง Auditory 5: Evaluate
คำสมาส และรว่ มกนั อภปิ รายความสมเหตสุ มผลของคำตอบ Read/write 4: Analyze
พรอ้ มสรปุ เนือ้ หา เร่ือง คำสมาส 3: Apply
Kinesthetic 2:Understand
1:Remember

สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้
1) หนังสอื เรียนหลกั ภาษาและการใชภ้ าษาไทย ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 2
2) ส่ือการเรียนการสอน เร่อื ง คำสมาส

บันทกึ ผลหลงั การสอน
1. ผลการสอน
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
................................................................................................................................................................ ....................
............................................................................................................... .....................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
.................................................................................................................................. ..................................................
2.ปญั หา/อปุ สรรค
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
................................................................................................................................................................... .................
.................................................................................................................. ..................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................... .............................................
...................................................................................... ..............................................................................................
3. แนวทางแก้ไข
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................... .............
...................................................................................................................... ..............................................................
............................................................................................................................. .......................................................
........................................................................................................................................... .........................................
.......................................................................................... ..........................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................

ลงชือ่ ………………………………………
ผู้สอน

(นางสาวลลติ า เภาคำ)
ตำแหน่ง นกั ศกึ ษาฝกึ ประสบการณว์ ิชาชีพ

ใบงาน เร่อื ง คำสมาส

ตอนท่ี 1 ใหน้ ักเรยี นเชอื่ มคำสมาสตอ่ ไปน้ี
1. มหา + ชน = ……………………………………………………………………….

2. สาระ + คดี = ……………………………………………………………………….

3. ภาพ + ยนตร์ = ................................................................................

4. พทุ ธ + ศาสนา = ………………………………………………………………………

5. ทนั ต์ + แพทย์ = ……………………………………………………………………….

ตอนที่ 2 ให้นักเรียนแยกคำสมาสตอ่ ไปนี้
๑. ปยิ มหาราช  ....................................................................................
๒. มัธยมศกึ ษา  ....................................................................................
๓. สุนทรพจน์  ....................................................................................
๔. วรรณคดี  ....................................................................................
๕. ทัศนคติ  ....................................................................................