ส่วนหน้าวิจัยอินโฟกราฟิกแอนิเมชัน (E-Book)

๙๓

๓.สาระสาคญั
การศึกษาเร่ืองราวความเป็นมาของชนชาติไทยได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจาก

นักวชิ าการทง้ั ชาวไทยและชาวต่างชาติ แต่ยังไม่อาจสรุปแน่ชัดได้ว่าคนไทยมาจากท่ีใดกันแน่
อยา่ งไรกด็ ี จากหลักฐานร่องรอยการก่อต้ังบา้ นเมืองทัว่ ทุกภาคของประเทศไทย ต้ังแต่ยุคก่อน
ประวตั ิศาสตร์ ซึง่ บา้ นเมืองเหล่านั้นไดม้ พี ฒั นาการจากชมุ ชนจนกระทั่งกลายมาเป็นอาณาจักร
ที่เข้มแข็งและมวี ฒั นธรรมวถิ ีชีวติ ของตนเองควบคไู่ ปกบั การผสมผสานวัฒนธรรมจากภายนอก
ทรี่ งุ่ เรอื งกว่าและกลายเปน็ เอกลักษณ์สบื ทอดมาจนถึงปัจจบุ ัน

๔.จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
๔.๑ อธบิ ายความเปน็ มาของชนชาติไทยตามขอ้ สันนิษฐานตา่ งๆได้
๔.๒ วเิ คราะหพ์ ัฒนาการของอาณาจกั รตา่ งๆในดินแดนไทยได้

๕. สาระการเรยี นรู้
๕.๑ แนวคดิ ความเปน็ มาของชนชาตไิ ทย
๕.๒ หลักฐานทใ่ี ช้ในการศกึ ษาเร่ืองราวของชนชาตไิ ทย
๕.๓ อาณาจักรโบราณในดินแดนไทย

๖.สมรรถนะสาคัญ
๖.๑ ความสามารถในการคดิ
๖.๑.๑ คดิ วเิ คราะห์
๖.๒ ความสามารถในการแกป้ ญั หา
๖.๒.๑ กระบวนการสบื คน้ ข้อมูล

๖.๓ ความสามรถในการใชท้ ักษะชีวิต
๖.๓.๑ กระบวนการปฏิบัติ

๖.๔ ความสามารถในการสอื่ สาร
๖.๔.๑ การใชภ้ าษาพดู และภาษาเขียนในการสอ่ื สารในสาธารณะ

๖.๕ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

๖.๕.๑ การใช้ ICTในการศึกษาคน้ ควา้
๗. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

๗.๑ รักชาติ ศาสน์กษัตริย์
๗.๒ มวี นิ ัย
๗.๓ ใฝุเรียนรู้

๙๔

๗.๔ มุง่ มน่ั ในการทางาน
๗.๕ รกั ความเปน็ ไทย
๘. ชิน้ งาน/ภาระงาน
-ทาแผนท่ีความคดิ สรปุ เนื้อหาพัฒนาการของชนชาติไทยได้
๙..กระบวนการจัดการเรียนรู้
(ชั่วโมงท่ี ๑)
๙.๑ ขน้ั นาเขา้ สบู่ ทเรยี น ( ใช้เวลาประมาณ ๑๐ นาที )

๑) นักเรียนดภู าพแผนทีท่ วีปเอเชียจากจอโปรเจก็ เตอร์
๒) ครตู งั้ คาถามพร้อมกับชต้ี าแหนง่ บนแผนที่ ดงั นี้

“ นักเรียนเชอื่ หรอื ไมว่ า่ ถน่ิ กาเนดิ ของชนชาติไทยอยบู่ รเิ วณประเทศมองโกเลยี ”
๓) นักเรียนร่วมกนั อภปิ รายโดยอาจเสนอแนวคิดคัดค้านหรอื สนบั สนนุ
๔) ครยู ังไม่สรปุ ประเด็นท่ีอภปิ รายแตแ่ จ้งนกั เรียนวา่ เราจะไดศ้ กึ ษารายละเอยี ดในเร่ือง
น้ี

กนั ตอ่ ไป
๕) ครแู จ้งจดุ ประสงคก์ ารเรียนรใู้ หน้ กั เรียนทราบ
๙.๒ ข้นั จัดการเรียนรู้
๑) นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี นเรอื่ งพฒั นาการของชนชาติไทย จานวน ๓๐ ข้อ
ใช้เวลาประมาณ ๓๐ นาที
๒) ครูให้นักเรยี นชมอนิ โฟกราฟกิ แอนิเมชัน เรื่อง พฒั นาการของชนชาตไิ ทย ตอนท่ี ๑
คนไทยมาจากไหน ความยาว ๖ นาที
๙.๓ ข้นั สรปุ
๑) ครูและนักเรียนสรุปร่วมกันเกี่ยวกับแนวคิดความเป็นมาของชนชาติไทย ๕
แนวคดิ
(ช่วั โมงที่ ๒ )
๙.๑ ขัน้ นาเข้าสู่บทเรียน ( ใชเ้ วลาประมาณ ๑๐ นาที )
๑) นักเรยี นอ่านข้อความจากพระบรมราโชวาท ของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยูห่ ัว
รัชกาลท่ี ๙ ดังน้ี

“ ความจงรกั ภกั ดตี อ่ ชาติน้นั คอื ความสานึกตระหนักในคุณของแผ่นดิน
อันเป็นท่เี กิดอาศัย ซึ่งทาให้บุคคลเกิดความภาคภูมใิ จในชาติกาเนิด
ม่งุ ม่ันทจี่ ะธารงรกั ษาประเทศชาตไิ ว้ ให้เปน็ อสิ ระมน่ั คงตลอดไป”

พระบรมราโชวาทพระราชทานในพิธถี วายสตั ย์ปฏญิ าณและสวนสนาม
ของทหารรกั ษาพระองค์ ณ ลานพระราชวงั ดสุ ิต ๓ ธันวาคม ๒๕๒๙

๙๕

๒) ครูใหน้ กั เรยี นร่วมกันอภปิ รายจากข้อความในพระบรมราโชวาท

๙.๒ ข้ันจัดการเรียนรู้
๑) ครแู ละนกั เรียนร่วมกันทบทวนเกี่ยวกบั แนวคดิ ความเปน็ มาของชนชาติไทย ใช้เวลา

๕ นาที
๒) นักเรียนทาแบบฝกึ หดั ตอนท่ี 1 เร่ือง แนวคิดความเป็นมาของชนชาติไทย ใช้เวลา

๒๐ นาที
๓) นักเรยี นตรวจคาตอบจากแบบเฉลยบนจอโปรแจคเตอร์ ใช้เวลา ๕ นาที
๔) นักเรียนและครูร่วมกันสรุปสาระสาคัญเร่ืองแนวคิดความเป็นมาของชนชาติไทย

ใชเ้ วลา
๑๐ นาที

(ชั่วโมงที่ ๓)
๙.๑ ขน้ั นาเข้าสู่บทเรียน ( ใชเ้ วลาประมาณ ๑๐ นาที )

๑) นกั เรียนดูภาพโบราณสถาน โบราณวตั ถุ จานวน ๒-๓ ภาพบนจอโปรเจก็ เตอร์
๒) ครสู นทนาซกั ถามนกั เรียน ดงั นี้

-นกั เรยี นทราบหรือไม่ว่าภาพทน่ี กั เรยี นเห็นเปน็ ภาพของอะไร
-ภาพแตล่ ะภาพมีความสาคัญอย่างไร
๘.๒ ขัน้ จัดการเรยี นรู้
๑) ครูทบทวนเน้ือหาที่เรียนมาในคาบท่ีแล้วได้แก่ เรื่อง แนวคิดความเป็นมาของชน
ชาติไทย ใช้เวลา ๕ นาที
๒) ครูให้นักเรียนชมอินโฟกราฟิกแอนิเมชัน เร่ือง พัฒนาการของชนชาติไทย ตอนท่ี
๒ อาณาจักรโบราณในดินแดนไทย ความยาว ๗ นาที
๓) นักเรียนทาแบบฝึกหัด ตอนท่ี ๒ เรื่อง อาณาจักรโบราณในดินแดนไทย ใช้เวลา
๒๐ นาที
๙.๓ ข้ันสรุป
๑) ครูและนักเรียนสรุปร่วมกันเก่ียวกับอาณาจักรโบราณในดินแดนไทย ใช้เวลา
๑๐ นาที
(ชว่ั โมงท่ี ๔ )
๙.๑ ขัน้ นาเข้าสู่บทเรยี น ( ใชเ้ วลาประมาณ ๑๐ นาที )
๑) ครูทบทวนเน้ือหาเร่ือง พัฒนาการของชนชาติไทย ที่เรียนมาแล้วโดยการสุ่ม
นกั เรยี นจานวน ๕ คน ออกมาหน้าชัน้ เรยี น
๒) ให้นกั เรยี นทงั้ ๕ คน หยบิ บตั รขอ้ ความท่คี รูเตรียมไว้คนละ ๑ ใบ ดงั นี้

บตั รข้อความท่ี ๑ แตเรียน เดอลาคูเปอรี
บตั รขอ้ ความที่ ๒ นายแพทย์สมศกั ด์ิ พนั ธสุ์ มบุญ

๙๖

บตั รข้อความท่ี ๓ ตานานสงิ หนวตั ิ
บัตรข้อความที่ ๔ ลงั กาสกุ ะ
บตั รข้อความที่ ๕ ปราสาทหิน

๓) จากน้นั ใหน้ กั เรยี นอธิบายหรือใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั ขอ้ ความบนบัตรนัน้
๙.๒ ขนั้ จดั การเรยี นรู้

๑) ครูทบทวนเนื้อหาเรื่องพัฒนาการของชนชาติไทย โดยการตั้งคาถามแล้วให้
นกั เรยี นรว่ มกันตอบ เชน่ ( ใชเ้ วลา ๑๐ นาที )

- แนวคิดความเป็นมาของชนชาติไทยมกี ีแ่ นวคดิ อะไรบ้าง
- ใครเป็นผ้เู สนอแนวคิดทีว่ ่าถ่ินเดิมของไทยอยู่บริเวณเทอื กเขาอลั ไต
- แนวคิดใดมีความน่าเช่อื ถือมากทส่ี ุด เพราะเหตุใด
- มหี ลักฐานใดบา้ งท่ีเกี่ยวข้องกบั อาณาจักรละโวห้ รอื ลพบรุ ี
-เราสามารถค้นพบเรื่องราวเก่ียวกับอาณาจักรโยนกเชียงแสน ได้จากหลักฐาน
ใดบ้าง

๙.๓ ข้นั สรปุ
๑) นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียนเรื่อง พัฒนาการของชนชาติไทย จานวน ๓๐

ข้อ
ใชเ้ วลา ๓๐ นาที
๑๐. สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้

๑๐.๑ สื่อการเรยี นรู้
๑) แผนทท่ี วีปเอเชยี
๒) อนิ โฟกราฟกิ แอนเิ มชนั เรื่อง พัฒนาการของชนชาติไทย
๓) แบบฝึกหดั เรื่อง พฒั นาการของชนชาติไทย
ตอนที่ ๑ แนวคดิ ความเปน็ มาของชนชาตไิ ทย
คอนท่ี ๒ อาณาจักรโบราณในดนิ แดนไทย
๔) พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั รชั กาลท่ี ๙
๕) ภาพโบราณสถาน/โบราณวัตถุ จานวน ๔ ภาพ
๖) บัตรขอ้ ความจานวน ๕ ใบ
๗) จอและเครอื่ งฉายโปรเจ็คเตอร์
๘) เครอื่ งเลน่ VCD

๙๗

๑๐.๒ แหล่งเรียนรู้
๑) ห้องสมุดโรงเรยี นบา้ นไผ่
๒) แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศจากอนิ เทอรเ์ นต็

๑๑.การวัดและประเมินผล
๑๑.๑ วธิ ีการวัด
๑) ตรวจผลงาน
- แบบทดสอบกอ่ น-หลงั เรยี น ด้วยข้อสอบปรนัย ๔ ตวั เลอื ก ๓๐ ข้อ
-แบบฝกึ หัดตอนท่ี ๑ จานวน ๑๐ ข้อ
-แบบฝกึ หัดตอนท่ี ๒ จานวน ๑๐ ขอ้
๒) สงั เกต
- คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
- การตอบคาถามในชั้นเรียน
๑๑.๒ เคร่ืองมือวัด
๑) แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิท์ างการเรียนกอ่ น-หลงั เรยี น
๒) แบบฝึกหดั ตอนที่ ๑
๓) แบบฝกึ หดั ตอนที่ ๒
๔) แบบสังเกตคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
๑๑.๓ เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล
๑) แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนก่อน-หลังเรียน จานวน ๓๐ ขอ้ มีเกณฑ์

ประเมินดังน้ี
ถกู ตอ้ ง ๒๑-๓๐ ขอ้ หมายถึง ระดับคณุ ภาพ ดี
ถูกต้อง ๑๑-๒๐ ข้อ หมายถงึ ระดับคุณภาพ ปานกลาง
ถูกต่ากวา่ ๑๐ ขอ้ หมายถงึ ระดบั คณุ ภาพ ปรบั ปรงุ

๒) แบบฝกึ หดั ตอนที่ ๑ และตอนที่ ๒ มีเกณฑก์ ารผ่านดงั นี้
ถูกต้อง ๘-๑๐ ขอ้ หมายถงึ ระดบั คุณภาพ ดี
ถูกตอ้ ง ๖-๗ ข้อ หมายถึง ระดับคุณภาพ ปานกลาง
ตา่ กว่า ๖ ขอ้ หมายถงึ ระดับคุณภาพ ปรับปรงุ

๓) สงั เกตคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ มีเกณฑ์การประเมนิ ดงั นี้
ได้คะแนน ๑๘-๒๐ คะแนน หมายถึง ระดบั คณุ ภาพ ดี
ไดค้ ะแนน ๑ต-๑๗ คะแนน หมายถงึ ระดบั คุณภาพ ปานกลาง
ได้คะแนน ต่ากว่า ๑๖ คะแนน หมายถงึ ระดบั คณุ ภาพ ปรับปรงุ

๙๘

๑๒.บนั ทกึ ผลหลงั การสอน
๑๒.๑ ผลการเรยี นรู้
ด้านความรู้ (K:Knowledge)

..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
.................................

ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P:Process)
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
.................................

ด้านคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค(์ A:Attitude)
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
.................................

๑๒.๒ ปัญหา /อปุ สรรค
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
.................................

12.3 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
..............................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
.................
..............................................................................................................................................................
................

ลงช่ือ.......................................................
(นางศีตลา สนิทโกศัย)
ครูชานาญการพเิ ศษ

วันท่ี...........เดือน.....................พ.ศ..................

๙๙

๑๓. ความคดิ เหน็ ของผู้บริหาร/ผทู้ ่ไี ด้รับมอบหมาย
๑๓.๑ หัวหน้ากลมุ่ สาระการเรียนรูส้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม

……………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
...........................................

ลงชือ่ ………………………… หัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้
( นางสาวสพุ รรษา แถวโนนงว้ิ )
……../………../................

๑๓.๒หัวหน้างานการจดั การเรียนรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….
......................................

ลงชือ่ ………………………… หัวหนา้ งานการจัดการเรียนรู้
( นางวไิ ลวรรณ เมอื งวงษ์ )
……../………../..................

๑๓.๓ ผู้บรหิ ารฝุายการบรหิ ารงานวชิ าการ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………..................................................................
......................…………………………...........................................................................................................
...........................................................................

ลงชอ่ื …………………………
( นายมนตรี เบ้าศรี )

รองผ้อู านวยการฝุายการบริหารงานวิชาการ
……../………../..............

๑๓.๔ ผูบ้ รหิ ารสถานศึกษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………..................................................................
.....................…………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………..............................................
...........................................................

ลงชือ่ …………………………
( นายวทัญญู ภูชาดา )
ผูอ้ านวยการโรงเรยี นบา้ นไผ่
……../………../..................

๑๐๐

แบบสังเกตพฤตกิ รรมอนั พงึ ประสงค์

คาช้แี จง ใหค้ ะแนนพฤตกิ รรมตามระดับคุณภาพของการแสดงออกที่สงั เกตไดด้ งั นี้
๐ = ไมแ่ สดงออกให้เหน็ เลย

๑ = แสดงออกให้เห็นบา้ งสว่ นน้อย
๒ = แสดงออกมากข้ึนเพราะถกู กระตนุ้
๓ = แสดงออกด้วยตนเอง แต่ไมส่ ม่าเสมอ

๔ = แสดงออกด้วยตนเองอยา่ งชนื่ ชมและสม่าเสมอ

ชื่อ - สกลุ พฤติกรรม รวม

เลขท่ี ตรง คะแนน หมาย
คะแนน ต่อ รับผดิ ชอบ มวี ินัย ใฝเ่ รยี นรู้ ซอื่ สตั ย์
น เวลา เหตุ

๔ ๔ ๔ ๔ ๔ ๒๐

ลงชอื่ ..................................................ผูป้ ระเมนิ

๑๐๑

แบบสังเกตการตอบคาถาม

คาชีแ้ จง ทาเคร่อื งหมาย  ลงในช่องระดับคะแนนพฤติกรรมที่นกั เรียนปฏบิ ตั ดิ งั นี้
ระดบั ๓ หมายถงึ แสดงพฤตกิ รรมให้เหน็ มาก
ระดับ ๒ หมายถงึ แสดงพฤตกิ รรมใหเ้ หน็ ปานกลาง
ระดับ ๑ หมายถึง แสดงพฤตกิ รรมให้เหน็ นอ้ ย

พฤติกรรม/ สนใจและ ตอบคาถาม ตอบคาถาม การ
ระดับคะแนน ตั้งใจฟงั ไดต้ รง อยา่ ง
คาถาม ประเด็น รวม ประ
ช่ือ-สกุล สม่าเสมอ คะ
๓๒๑ ๓๒๑ แนน เมนิ หมาย
๓๒๑ เหตุ
ลาดับ ผล
ท่ี
ผ่าน ไม่
ผ่าน

๑.

๒.

๓.

๔.

๕.

๖.

๗.

๘.

๙.

๑๐.

เกณฑก์ ารประเมนิ
คะแนนตง้ั แต่ ๔ – ๙ ผ่าน

๘ - ๙ = ดี
๖ - ๗ = ปานกลาง

๔ - ๕ = พอใช้
คะแนนตา่ กว่า ๔ ไม่ผา่ น

๑๐๒

แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี น
เรอ่ื ง พฒั นาการของชนชาตไิ ทย

รายวิชา ส๓๑๑๐๒ ประวัตศิ าสตรไ์ ทย
ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๔

คาชแ้ี จง ให้เลอื กคาตอบที่ถูกท่ีสุดเพียงคาตอบเดยี วแลว้ ทาเคร่อื งหมายกากบาท X ลงใน
กระดาษคาตอบท่กี าหนดให้

๑. ใครเปน็ ผู้ริเร่มิ เสนอแนวคดิ ทีว่ ่า ถ่นิ เดมิ ของชนชาตไิ ทยอยูใ่ นบรเิ วณตอนกลางของจีน
ก. รูธ เบเนดกิ ต์
ข. อาร์ชิบอลด์ รอสส์ คอลคูน
ค. ดร.วลิ เลยี ม คลฟิ ตนั ดอดด์
ง. ศาสตราจารย์แตเรยี ง เดอ ลาคเู ปอรี

๒. เพราะเหตุใดนกั วิชาการปจั จุบันจึงคัดคา้ นและปฏิเสธแนวคิดที่ว่าถ่ินเดิมของชนชาติไทยอยู่แถบ
เทือกเขาอัลไต

ก ความคล้ายคลงึ ทางด้านภาษามีเหตผุ ลนอ้ ยเกนิ ไป
ข. สภาพภูมิประเทศและภมู อิ ากาศบรเิ วณนี้ไม่เหมาะแก่

การดารงชพี ของคนไทย
ค. เทอื กเขาอัลไตเปน็ ทะเลทรายกวา้ งใหญ่และทุรกันดาร

ไม่นา่ จะมผี ู้คนอาศยั อยู่
ง. หลักฐานทางโบราณคดีทคี่ น้ พบ เชน่ สง่ิ ของเครื่องใช้

เสอ้ื ผา้ แตกตา่ งจากชนชาติไทย
๓. หลกั ฐานสาคญั ในข้อใดท่นี ักวชิ าการใช้ยนื ยัน แนวคิดที่วา่ ถิ่นเดิมของชนชาติไทยอยู่ใน ประเทศ
ไทยปัจจุบนั

ก. ประตมิ ากรรมสารดิ
ข. ขอ้ มูลทางดา้ นมานษุ ยวิทยา
ค. หลกั ฐานทางดา้ นภาษาศาสตร์
ง. โครงกระดกู มนษุ ยย์ คุ หินใหม่
๔. นักวิชาการไทยท่ีสนบั สนนุ ว่า “ถน่ิ เดมิ ของชนชาติไทย อยู่ในประเทศไทยปัจจบุ ัน” คือใคร
ก. หลวงวิจิตรวาทการ
ข. นายแพทยส์ มศักด์ิ พนั ธุ์สมบญุ
ค. ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร
ง. ศาสตราจารย์นายแพทย์สดุ แสงวิเชียร

๑๐๓

๕. แนวคิดทเี่ ชื่อว่าถ่ินเดมิ ของชนชาตไิ ทยอยทู่ างตอนใต้ของจีน เพราะผคู้ นที่อาศยั อย่ใู นบริเวณน้ัน
มีลกั ษณะคลา้ ยกบั คนไทยในด้านใด
ก. ภาษาและวฒั นธรรม
ข. อาชีพการทานาขา้ ว
ค. การนบั ถอื พระพทุ ธศาสนา
ง. ความจงรกั ภกั ดตี อ่ สถาบันพระมหากษัตริย์

๖. สมเด็จฯกรมพระยาดารงราชานุภาพ พระบิดาแหง่ ประวัติศาสตร์ไทยทรงมคี วามเห็นว่า
แหล่งกาเนิดเดิมของ

ชนชาติไทยมาจากแหล่งใด
ก. รัฐฉาน ในพมา่
ข. ดนิ แดนลา้ นช้างในประเทศลาว
ค. มณฑลเสฉวน ตอนกลางของจนี
ง. ดนิ แดนล้านนา ภาคเหนอื ของไทย
๗. เพราะเหตใุ ด นายแพทย์สมศกั ด์ิ พันธุส์ มบญุ จึงเชื่อวา่ ชนชาติไทยมแี หลง่ กาเนิดเดิมในแถบ
คาบสมุทรมลายู
หรือหมู่เกาะตา่ ง ๆ ในประเทศอนิ โดนเี ซีย
ก. ระดบั สตปิ ญั ญาใกลเ้ คียงกนั
ข. ความคลา้ ยคลึงกนั ดา้ นภาษา
ค. พบหลักฐานทางโบราณคดี
ง. กลุ่มเลอื ดของคนไทยและคนอินโดนเี ซียคลา้ ยกัน
๘. หลักฐานในข้อใด มีประโยชนใ์ นการศึกษาเรื่องแหล่งกาเนิดเดมิ ของชนชาติไทย น้อยท่ีสุด
ก. ตานานอาณาจกั รโยนกเชยี งแสน
ข. แผนท่ีกรงุ ศรอี ยธุ ยาของพอ่ คา้ ชาวฝรง่ั เศส
ค. แหลง่ โบราณคดบี ้านเชยี ง จงั หวัดอดุ รธานี
ง. งานเขียนเรือ่ งชนชาตไิ ทยของนกั วิชาการตา่ งชาติ
๙. เหตุใดทฤษฎีท่ีว่าชนชาตไิ ทยอย่ใู นประเทศไทยมาต้งั แต่อดตี จึงยังไม่เป็นทีย่ อมรบั ทง้ั ทมี่ ีการพบ
โครงกระดกู และเครอื่ งใช้ของมนุษยโ์ บราณในไทย
ก.บรเิ วณท่พี บอยู่ห่างไกลจากแหล่งท่ตี ้งั ชุมชนในปจั จบุ ัน
ข.เครอ่ื งใช้ทีพ่ บไมเ่ หมอื นกับเคร่ืองใชข้ องคนไทยในปจั จุบัน
ค. โครงกระดูกทีพ่ บไมม่ ีลักษณะท่เี หมือนกับคนไทยในปจั จุบัน
ง. ไมม่ ีหลักฐานชดั เจนว่าโครงกระดกู และเครือ่ งใช้ท่พี บเป็นของชนชาตไิ ทย

๑๐๔

๑๐ แนวคดิ เกยี่ วกบั ถิ่นเดมิ ของชนชาติไทยในข้อใดทีน่ กั วชิ าการในปัจจบุ นั ยอมรบั มากท่ีสดุ
ก. ถน่ิ เดมิ ของชนชาตไิ ทยอย่แู ถบเทือกเขาอัลไต
ข. ถิ่นเดิมของชนชาติไทยอยบู่ รเิ วณตอนใต้ของจีน
ค. ถ่นิ เดมิ ของชนชาตไิ ทยอยู่ในประเทศไทยปัจจุบัน
ง. ถนิ่ เดมิ ของชนชาติไทยอยู่ในคาบสมุทร มลายูและหมู่เกาะอนิ โดนีเชยี

๑๑. อะไรเปน็ ปจั จัยสาคัญทีม่ ีอิทธิพลตอ่ การ ตัดสินใจเลือกต้งั ถน่ิ ฐานของมนษุ ย์ในดนิ แดนไทย
ก. ภมู อิ ากาศ
ข. ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ
ค. ความปลอดภัยในชวี ิต
ง. ถูกทุกขอ้

๑๒. จากบันทึกของหลวงจีนอจ้ี ิง อาณาจักร “โตโลโปตี้”
หมายถึงอาณาจกั รตามข้อใด
ก. อาณาจกั รละโว้
ข. อาณาจักรศรีวชิ ัย
ค. อาณาจักรทวารวดี
ง. อาณาจกั รโยนกเชยี งแสน

๑๓. ขอ้ ใดตอ่ ไปนีค้ ือสถาปัตยกรรมเกา่ แก่ที่สร้างข้นึ ในสมัย ทวารวดี
ก. ปรางค์แขก
ข. ปราสาทหนิ
ค. พระปฐมเจดยี ์
ง. พระปรางค์สามยอด

๑๔. พระปรางคส์ ามยอด ลพบุรี ให้ข้อมลู เก่ยี วกับอาณาจักรละโว้ในข้อใดได้ ถูกต้องทีส่ ุด
ก. เปน็ ศูนย์กลางของอาณาจกั รกมั พชู า
ข. รับอทิ ธพิ ลวัฒนธรรมมาจากขอม
ค. นบั ถอื หลายศาสนาผสมผสานกนั
ง. มีอิทธิพลเหนอื ดินแดนสวุ รรณภมู ิ

๑๕. ข้อใดกล่าวถงึ อาณาจกั รละโวไ้ ด้ ถูกต้อง
ก. ปกครองดว้ ยพระสงฆ์
ข. แผอ่ านาจไปทัว่ ภาคใต้ของไทย
ค. มลี พบุรเี ป็นศูนยก์ ลางการปกครอง
ง. เป็นแคว้นท่ีเขมรสรา้ งขน้ึ เมอ่ื ครงั้
ปกครองดินแดนในลุม่ นา้ เจ้าพระยา

๑๐๕

๑๖. อาณาจักรโยนกเชยี งแสนมีศูนยก์ ลางอยู่ที่เมืองใด
ก. เชียงใหม่
ข. เชยี งราย
ค. ลาปาง
ง. ลาพนู

๑๗. อาณาจกั รโยนกเชยี งแสนปรากฏข้นึ ตามตานานในเรอื่ งใด
ก. ลวจังกราช
ข. สงิ หนวตั ิกุมาร
ค. จามเทววี งศ์
ง. ศรีสว่างวงศ์

๑๘. ตามตานานกล่มุ คนท่ีชว่ ยสร้างเมืองหริภญุ ชยั จน
เจริญรุ่งเรืองมาจากอาณาจักรในข้อใด
ก.อาณาจกั รศรีวิชยั
ข.อาณาจกั รล้านนา
ค.อาณาจกั รละโว้
ง. อาณาจักรทวารวดี

๑๙ หลกั ฐานตามข้อใดทแี่ สดงถึงความเจรญิ ร่งุ เรืองของ
อาณาจักรหริภุญชัย
ก. พระธาตุพนม
ข. พระธาตหุ ริภญุ ชัย
ค. พระธาตศุ รสี องรัก
ง. พระธาตุนครศรธี รรมราช

๒๐. “ มีตัวอักษรเปน็ ของตนเอง ใชก้ ฎหมายมังรายศาสตร์
ในการปกครอง ” ข้อความดงั กล่าวหมายถงึ อาณาจักร
ในข้อใด
ก. อาณาจกั รล้านนา
ข. อาณาจกั รทวารวดี
ค. อาณาจักรลงั กาสกุ ะ
ง. อาณาจกั รโยนกเชียงแสน

๒๑. อาณาจักรใดที่ถกู รวมเข้าเป็นส่วนหนง่ึ ของไทยในสมัย รชั กาลที่ 5 แหง่ กรงุ รัตนโกสนิ ทร์
ก. อาณาจักรทวารวดี
ข. อาณาจักรล้านนา
ค. อาณาจกั รหรภิ ุญชยั
ง. อาณาจกั รโยนกเชยี งแสน

๑๐๖

๒๒. ตานานอรุ งั คธาตุ มคี วามเกยี่ วข้องกบั อาณาจักรใด
ก. อาณาจกั รศรวี ิชยั
ข. อาณาจกั รทวารวดี
ค. อาณาจักรลังกาสุกะ
ง. อาณาจกั รโคตรบูรณ์

๒๓. ข้อใดต่อไปนีม้ คี วามสมั พันธ์กบั อาณาจกั รโคตรบรู ณ์
ก. พระธาตพุ นม
ข. พระธาตหุ รภิ ญุ ชัย
ค. พระธาตุศรสี องรัก
ง. พระธาตนุ ครศรธี รรมราช

๒๔.ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ โบราณสถานที่แสดงถงึ อทิ ธิพลของ
อาณาจกั รขอมในประเทศไทย
ก. ปราสาทเมอื งต่า
ข. ปราสาทหินพนมร้งุ
ค. พระปรางค์สามยอด
ง. เจดีย์พระบรมบรรพต

๒๕. ข้อใด ไม่เกย่ี วข้อง กบั ความเจริญรงุ่ เรืองของอาณาจักรขอม
ก. สรา้ งปราสาทหินที่ใหญ่และสวยงามไวห้ ลายแหง่
ข. สง่ สมณทตู ไปสบื ทอดศาสนา ณ ประเทศอนิ เดีย
ค. นิยมสรา้ งปราสาทหินไวท้ ุกแห่งท่ขี ยายอาณาเขตถึง
ง. เผยแพรร่ ูปแบบการปกครองไปยังอาณาจักร

๒๖. อาณาจกั รใดเป็นศนู ยก์ ลางในการเผยแผ่พุทธศาสนา นิกายมหายาน
ก. อาณาจกั รตามพรลงิ ค์
ข. อาณาจกั รลังกาสุกะ
ค. อาณาจกั รหรภิ ุญชยั
ง. อาณาจักรโคตรบูรณ์

๒๗. การขดุ พบประติมากรรมพระโพธิสัตวอ์ วโลกเิ ตศวร แสดง ใหเ้ หน็ ถงึ การนับถอื ศาสนาในขอ้ ใด
ก. ศาสนาอิสลาม
ข. ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู
ค. ศาสนาพุทธ นิกายเถรวาท
ง. ศาสนาพุทธ นิกายมหายาน

๑๐๗

๒๘. ข้อใด ไม่ใช่ หลักฐานทเี่ ก่ยี วข้องกับอาณาจักรตามพรลงิ ค์
ก. ชินกาลมาลีปกรณ์
ข. ตานานเมืองนครศรีธรรมราช
ค. ตานานพระบรมธาตนุ ครศรธี รรมราช
ง. บนั ทกึ เอกสารของจีนและอินเดียโบราณ

๒๙. อาณาจักรใดท่ีมอี ทิ ธิพลครอบคลมุ บรเิ วณคาบสมุทรภาคใตข้ องไทยตลอดจนแหลมมลายู
ก. อาณาจกั รขอม
ข.อาณาจักรศรวี ชิ ัย
ค. อาณาจกั รทวารวดี
ง. อาณาจกั รตามพรลิงค์

๓๐. อาณาจักรศรีวชิ ยั ไดร้ บั อทิ ธิพลการนับถอื ศาสนาพทุ ธนิกายเถรวาทจากอาณาจักรใด
ก. อาณาจักรละโว้
ข. อาณาจักรล้านนา
ค. อาณาจักรทวารวดี
ง. อาณาจักรโยนกเชยี งแสน

๑๐๘

แบบฝกึ หดั เรอ่ื ง พัฒนาการของชนชาติไทย
รายวชิ า ประวตั ิศาสตรไ์ ทย ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๔

ตอนที่ ๑ คนไทยมาจากไหน

คาช้ีแจง จงตอบคาถามต่อไปนีใ้ หถ้ กู ต้องและสมบูรณ์
๑. นักเรียนทราบไหมว่ามีผ้เู สนอแนวคดิ เก่ียวกับแหล่งกาเนิดของชนชาตไิ ทย มีกแ่ี นวคิด
อะไรบา้ ง
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………..
๒. ใครเปน็ ผู้เสนอแนวคิดเรือ่ งแหล่งกาเนดิ ของชนชาตไิ ทยอพยพมาจากเทือกเขาอลั ไต
.....................................................................................................................................................
..............
๓.ในปจั จบุ ันแนวคดิ เร่ืองแหล่งกาเนดิ ของชนชาติไทยอพยพมาจากเทือกเขาอัลไต ไดร้ บั การ
ยอมรบั หรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด

..................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................
............................
๔. ผู้เสนอแนวคดิ วา่ คนไทยอย่บู รเิ วณมณฑลเสฉวน หรือตอนกลางของจีนคอื ใคร
.....................................................................................................................................................
..............
๕. สมเดจ็ กรมพระยาดารงราชานภุ าพทรงมีความเหน็ ว่าแหลง่ กาเนดิ เดมิ ของไทยมาจากทใ่ี ด
.....................................................................................................................................................
..............
๖. สิง่ ท่ีจะช่วยสนบั สนุนแนวคิดวา่ คนไทยอยู่บริเวณมณฑลเสฉวนหรอื ตอนกลางของจนี ไดแ้ ก่
หลักฐานใด
.....................................................................................................................................................
..............
๗. แนวคดิ ท่วี ่าถิ่นเดมิ ของไทยอยู่บรเิ วณคาบสมุทรมลายหู รอื หม่เู กาะตา่ งๆในประเทศ
อินโดนเี ซยี อาศยั หลกั ฐานในเร่อื งใด
.....................................................................................................................................................
..............

๑๐๙

๘. สิ่งท่ีทาใหน้ กั ประวัติศาสตรแ์ ละคนท่ัวไปเช่ือวา่ ถิ่นกาเนิดของคนไทยอยู่บรเิ วณตอนใต้ของ
จีนคอื อะไร
.....................................................................................................................................................
..............
๙. นักวชิ าการไทยที่สนบั สนุนแนวคิดถิน่ เดมิ ของไทยอยใู่ นประเทศไทยในปจั จบุ นั คือใคร
...................................................................................................................................................
๑๐. หลกั ฐานใดท่ีทาใหเ้ ช่อื วา่ แหลง่ กาเนดิ เดิมของคนไทยอยใู่ นบริเวณดนิ แดนประเทศไทย
ปัจจบุ นั
...................................................................................................................................................

๑๑๐

แบบฝกึ หดั เร่อื ง พฒั นาการของชนชาตไิ ทย

รายวิชา ประวตั ิศาสตรไ์ ทย ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๔
ตอนท่ี ๒ อาณาจักรโบราณในดนิ แดนไทย

คาชแี้ จง จงเติมคาลงในช่องว่างให้ถูกตอ้ งและสมบรู ณ์

อาณาจักร ๑. มศี ูนยก์ ลางอย่ทู ี่.................................................................
ทวารวดี. ๒. จากบันทึกของจีนเรียก.................................................................

๓. หลกั ฐานความเจริญ ไดแ้ ก่......................................

อาณาจกั ร ๑. มีศนู ย์กลางอยทู่ ่ี.......................................................................
ละโวห้ รือลพบรุ ี ๒.ปรากฏตามตานานเรอ่ื ง........................................................................
๓. หลักฐานความเจรญิ ไดแ้ ก่…………………………………………………………………….
. .......................................................................

อาณาจักร ๑. มศี นู ยก์ ลางอยทู่ ี่.......................................................
โยนกเชยี งแสน ๒.ปรากฏตามตานานเร่ือง....................................................
๓ หลักฐานความเจริญ ไดแ้ ก่……………………………………………..
.

อาณาจกั ร ๑. มศี นู ยก์ ลางอยทู่ ่ี...............................................
ล้านนา
๒.ถกู รวมเปน็ สว่ นหน่งึ ของไทยสมยั .............................................
๓. หลกั ฐานความเจริญ ไดแ้ ก่.........................................

อาณาจกั ร ๑. มศี ูนย์กลางอยูท่ ี่………………………………………………………………
โคตรบรู ณ์ ๒.ปรากฏตามตานานเรือ่ ง.............................................................
๓ หลักฐานความเจริญ ไดแ้ ก่......................................................

๑๑๑

อาณาจักร ๑. เจริญสูงสดุ ในสมัยของ................................................
อิศานปรุ ะ ๒ หลักฐานความเจริญ ได้แก่.............................................

อาณาจกั ร ๑. มศี นู ยก์ ลางอยู่ท่.ี ................................และ...........................
ลังกาสกุ ะ ๒ เป็นศนู ย์กลางพุทธศาสนา นกิ าย ไดแ้ ก่............................
๓ หลักฐานความเจริญ ไดแ้ ก่......................................................

อาณาจักร ๑. มศี นู ย์กลางอยทู่ ี่..................................................
ตามพรลิงค์
๒ เป็นศูนยก์ ลางพุทธศาสนา ลัทธิ ...............................................
๓ หลกั ฐานความเจริญ ได้แก.่ .......................................

อาณาจักร ๑. มีศูนย์กลางอย่ทู ี่...................................และ .................................
ศรีวิชัย ๒. รับเอาพุทธศาสนานิกายเถรวาทจากอาณาจกั ร.................................

๓. หลักฐานความเจริญของพทุ ธศาสนานิกายมหายาน ได้แก่……………………..

๑๑๒

แบบประเมินคณุ ภาพของอนิ โฟกราฟิกแอนิเมชนั
เรอ่ื ง พฒั นาการของชนชาติไทย ดา้ นเทคนิค โดยผเู้ ชี่ยวชาญ

*************

คาชีแ้ จง โปรดทาเคร่ืองหมาย / ลงในช่องที่ตรงกับความคดิ เห็น ดังนี้
คะแนน ๕ หมายถึง มคี ุณภาพระดับมากท่ีสุด

คะแนน ๔ หมายถงึ มีคุณภาพระดับมาก

คะแนน ๓ หมายถงึ มีคุณภาพระดบั ปานกลาง

คะแนน ๒ หมายถงึ มีคุณภาพระดับนอ้ ย
คะแนน ๑ หมายถึง มีคณุ ภาพระดบั นอ้ ยทส่ี ุด

ท่ี รายการประเมนิ ระดับของความคิดเหน็
๕๔ ๓๒๑
๑ ดา้ นภาพเคลอ่ื นไหว
๑. การใช้เทคนิคการเคลื่อนไหวเพื่ออธบิ ายเนือ้ หา
๒. ระยะเวลาในการเคลอ่ื นไหวมีความเหมาะสม
๓. การเคล่อื นไหวลงตวั กับเสียงพากย์
๔. ความนา่ สนใจในการเคลอ่ื นไหว
๕. ความลงตวั ในการนาเสนอสือ่ แบบเคลื่อนไหว

๒ ดา้ นภาษาและเสียง
๑. ภาษาและเสยี งพากย์ชัดเจนเข้าใจง่าย
๒. ภาษาและเสียงพากย์ดึงดดู ใจในการตดิ ตามชม
๓. ภาษาและเสยี งพากย์ลงตัวกับเนอื้ หา
๔. เสยี งดนตรีประกอบเหมาะสมกบั เร่ืองราว
๕. เสยี งดนตรีประกอบมคี วามน่าสนใจ

๓ ด้านการออกแบบกราฟิก
๑. ภาพประกอบมมี สี สี นั สวยงามนา่ ติดตาม
๒. วิดโี อมคี วามละเอยี ดสูงและแสดงผลได้คมชัด.
๓. มีการจัดองคป์ ระกอบภาพไดส้ วยงาม
๔. มรี ูปแบบของภาพและตัวอักษรท่ีชัดเจนเข้าใจง่าย
๕. ภาพกราฟิกมีความลงตวั กบั เน้ือหา

๔ ดา้ นการนาเสนอและการจดั การบทเรียน
๑. สามารถใชง้ านและเขา้ ถึงได้งา่ ย
๒. การนาเสนอนา่ สนใจชวนติดตาม

ท่ี รายการประเมิน ๑๑๓

๓. บทเรยี นมคี วามสวยงาม ระดบั ของความคดิ เห็น
๔. มคี วามแปลกใหมแ่ ละดทู ันสมัย ๕๔ ๓๒๑
๕. มกี ารนาเสนอเนอ้ื หาที่เข้าใจง่าย

๑๑๔

แบบประเมนิ คุณภาพของอนิ โฟกราฟิกแอนเิ มชัน

เร่อื ง พัฒนาการของชนชาตไิ ทย ด้านเน้ือหา โดยผู้เชย่ี วชาญ

*************

คาช้แี จง โปรดทาเครือ่ งหมาย / ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ความคิดเหน็ ดงั น้ี
คะแนน ๕ หมายถงึ มีคุณภาพระดบั มากที่สุด
คะแนน ๔ หมายถงึ มีคณุ ภาพระดับมาก
คะแนน ๓ หมายถึง มคี ณุ ภาพระดบั ปานกลาง
คะแนน ๒ หมายถึง มคี ุณภาพระดับน้อย
คะแนน ๑ หมายถงึ มคี ุณภาพระดับนอ้ ยทส่ี ดุ

ท่ี รายการประเมิน ระดบั ของความคิดเหน็
๕๔ ๓๒๑
๑ ดา้ นเนือ้ หา
๑. ความเหมาะสมในการเลอื กหวั ข้อของบทเรียน
๒.ความสอดคลอ้ งของจดุ ประสงค์กับเนือ้ หา
๓. ปรมิ าณเนอื้ หาทน่ี าเสนอ
๔. ความเหมาะสมกับระดับของผ้เู รียน
๕. ความถกู ต้องของเน้อื หา

๒ ด้านการดาเนินเรื่อง
๑. มกี ารสรุปเน้ือหาท่ีสัน้ กะทัดรดั
๒. มคี วามดงึ ดดู ใจในการตดิ ตามชม
๓. สามารถทาให้เขา้ ใจได้ง่าย
๔. มีความสอดคล้องกบั เน้ือหา
๕. มลี าดบั ข้ันในการนาเสนอไดด้ ี

๓ ดา้ นการใช้ภาษา
๑.สามารถเข้าใจไดง้ า่ ย
๒ มคี วามเหมาะสมกับผเู้ รียน.
๓. มคี วามชัดเจนตรงประเดน็
๔.มคี วามถูกต้องตามหลักภาษา
๕.มีความสละสลวย

๑๑๕

แบบสอบถามความพึงพอใจของนกั เรยี น

ที่มตี ่ออินโฟกราฟิกแอนเิ มชัน
เร่ือง พฒั นาการของชนชาตไิ ทย

*************

คาชแ้ี จง โปรดทาเคร่ืองหมาย / ลงในช่องทตี่ รงกับความคิดเหน็ ดังนี้
๕ หมายถึง มคี วามพงึ พอใจในระดบั มากทส่ี ดุ

๔ หมายถึง มีความพึงพอใจในระดับ มาก
๓ หมายถงึ มคี วามพงึ พอใจในระดบั ปานกลาง
๒ หมายถึง มีความพงึ พอใจในระดับ นอ้ ย

๑ หมายถึง มีความพงึ พอใจในระดบั น้อยทส่ี ุด

ข้อ รายการประเมิน ระดับของความคดิ เห็น
๕ ๔๓๒๑

ดา้ นเนือ้ หาและการนาเสนอ

๑ มคี วามนา่ สนใจชวนใหต้ ดิ ตามชม

๒ มีความเหมาะสมกับผู้เรยี น

๓ ชว่ ยใหม้ คี วามเข้าใจในเนอื้ หาท่ีเรยี นมากข้นึ

๔ ช่วยใหไ้ ดฝ้ ึกฝนกระบวนการคิดวเิ คราะห์

๕ ช่วยใหไ้ ด้ข้อคดิ และสามารถนามาปรบั ใชใ้ นการดาเนินชีวิตได้

ดา้ นการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้

๑ มคี วามน่าสนใจและช่วยสร้างบรรยากาศการเรยี นรู้ได้ดี

๒ สง่ เสริมใหน้ ักเรียนกลา้ คิด กลา้ แสดงออก

๓ เนน้ ใหผ้ ้เู รียนพัฒนาทกั ษะการคดิ วิเคราะห์

๔ ช่วยเพ่มิ ประสทิ ธภิ าพในการเรียนรไู้ ด้ดี

๕ ความตอ้ งการให้นาส่อื อินโฟกราฟกิ มาประยกุ ต์ใช้ในการจัดการเรยี นรู้