The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by palidakoy88, 2019-10-02 02:38:48

palida

portfolio

มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวช้ีวดั ฯ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๔๖

สาระท่ี ๑ วิทยาศาสตรช์ ีวภาพ

มาตรฐาน ว ๑.๒ เขา้ ใจสมบัตขิ องสิง่ มีชีวติ หนว่ ยพ้นื ฐานของสิง่ มชี ีวติ การลาเลยี งสารผา่ นเซลล์ ความสมั พนั ธข์ อง

โครงสร้าง และหน้าที่ของระบบต่างๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทางานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของ

โครงสรา้ งและหน้าทขี่ องอวัยวะต่างๆ ของพืชทที่ างานสัมพนั ธก์ นั รวมทง้ั นาความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์

ตวั ชี้วดั ช้นั ปี

ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖

๑. เปรียบเทยี บ ๑. ระบุอวยั วะและ - ไมเ่ น้นวิทยาศาสตร์ - -

รปู รา่ งและ บรรยายหน้าท่ีของ ๑. อธิบาย

โครงสร้างของ อวยั วะทเี่ กีย่ วขอ้ ง โครงสร้างและ

เซลล์พชื และ ในระบบหายใจ สมบตั ิของ

เซลลส์ ตั ว์ รวมทงั้ ๒. อธิบายกลไกการ เยือ่ หุม้ เซลล์ที่

บรรยายหน้าท่ี หายใจเขา้ และ สมั พันธ์กับการ

ของผนังเซลล์ ออก โดยใช้ ลาเลยี งสาร และ
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
เย่ือหมุ้ เซลล์ แบบจาลอง เปรียบเทยี บการ

ไซโทพลาซมึ รวมทั้งอธิบาย ลาเลียงสารผา่ น

นิวเคลยี ส กระบวนการ เย่ือหุ้มเซลล์แบบ

แวควิ โอล ไมโท แลกเปล่ยี นแกส๊ ต่างๆ

คอนเดรยี และ ๓. ตระหนักถึง ๒. อธบิ ายการ

คลอโรพลาสต์ ความสาคัญของ ควบคุมดลุ ยภาพ

๒. ใช้กลอ้ ง ระบบหายใจ โดย ของนา้ และสาร

จุลทรรศนใ์ ชแ้ สง การบอกแนวทาง ในเลอื ดโดยการ

ศกึ ษาเซลล์ ในการดูแลรกั ษา ทางานของไต

และโครงสร้าง อวยั วะในระบบ ๓. อธิบายการ

ต่างๆ ภายใน หายใจให้ ควบคุมดลุ ยภาพ

เซลล์ ทางานปน็ ปกติ ของกรด-เบสของ

๓. อธบิ าย ๔. ระบอุ วัยวะและ เลือดโดยการ

ความสัมพนั ธ์ บรรยายหน้าทีข่ อง ทางานของไต

ระหวา่ งรูปร่างกับ อวัยวะในระบบ และปอด

การทาหน้าทขี่ อง ขับถ่ายในการ ๔. อธบิ ายการ

เซลล์ กาจัดของเสยี ทาง ควบคุมดลุ ยภาพ

๔. อธิบายการ ไต ของอุณหภมู ิ

จัดระบบของ ๕. ตระหนักถึงความ ภายในร่างกายโดย

สิง่ มีชีวติ โดย สาคัญของระบบ ระบบหมนุ เวยี น

เร่ิมจากเซลล์ ขับถา่ ยในการ เลอื ด ผวิ หนงั

เน้อื เย่อื อวัยวะ กาจดั ของเสยี ทาง และกลา้ มเนอ้ื

ระบบอวยั วะ ไตโดยการบอก โครงร่าง

จนเปน็ ส่งิ มชี ีวิต แนวทางใน ๕. อธบิ ายและ

๕. อธิบาย การปฏิบตั ิตนท่ี เขียนแผนผงั

กระบวนการแพร่ ชว่ ยใหร้ ะบบ เก่ยี วกบั การ

และออสโมซสิ ขบั ถา่ ยทา ตอบสนองของ

จากหลักฐานเชิง หนา้ ท่ไี ดอ้ ยา่ งปกติ ร่างกายแบบไม่

ประจกั ษ์ และยก ๖. บรรยาย จาเพาะและแบบ

ตัวอย่างการแพร่ โครงสรา้ ง จาเพาะตอ่ สิ่ง

มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชี้วัด ฯ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ๔๗

สาระท่ี ๑ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ

มาตรฐาน ว ๑.๒ เข้าใจสมบตั ขิ องสงิ่ มีชวี ติ หน่วยพื้นฐานของส่งิ มีชวี ิต การลาเลยี งสารผ่านเซลล์ ความสมั พนั ธ์ของ

โครงสร้าง และหน้าที่ของระบบต่างๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทางานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของ

โครงสรา้ งและหนา้ ทข่ี องอวยั วะตา่ งๆ ของพชื ทที่ างานสัมพนั ธ์กัน รวมทั้งนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ตัวช้ีวัดช้ันปี

ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖

และออสโมซสิ ใน และหนา้ ทข่ี อง แปลกปลอมของ

ชีวติ ประจาวนั หวั ใจ หลอดเลือด ร่างกาย

๖. ระบปุ ัจจัยที่ และเลือด ๖. สืบค้นขอ้ มูล

จาเป็นในการ ๗. อธิบายการทางาน อธบิ ายและ

สงั เคราะหด์ ว้ ย ของระบบ ยกตัวอยา่ งโรค

แสงและผลผลติ หมนุ เวียนเลือด หรอื อาการท่เี กิด

ท่ีเกดิ ข้ึนจากการ โดยใชแ้ บบ จากความผดิ ปกติ
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
สงั เคราะหด์ ว้ ย จาลอง ของระบบ

แสง โดยใช้ ๘. ออกแบบการ ภมู ิคุ้มกัน

หลักฐานเชิง ทดลองและ ๗. อธบิ ายภาวะ

ประจกั ษ์ ทดลองในการ ภมู คิ ้มุ กัน

๗. อธิบาย เปรยี บเทยี บ บกพร่องท่ีมี

ความสาคญั ของ อัตราการเตน้ ของ สาเหตุมาจาก

การสังเคราะห์ หัวใจขณะปกติ การตดิ เช้อื HIV

ด้วยแสงของพืช และหลังทา ๘. ทดสอบและบอก

ต่อสิ่งมีชวี ิตและ กจิ กรรม ชนิดของ

สง่ิ แวดลอ้ ม ๙. ตระหนักถึงความ สารอาหารท่พี ืช

๘. ตระหนักใน สาคัญของระบบ สงั เคราะหไ์ ด้

คณุ คา่ ของพืชท่ีมี หมุนเวียนเลือด ๙. สืบค้นข้อมลู

ต่อสง่ิ มีชีวติ โดย การบอก อภปิ ราย และยก

และสงิ่ แวดล้อม แนวทางในการ ตวั อยา่ งเกีย่ วกบั

โดยการร่วมกัน ดูแลรักษา การใช้ประโยชน์

ปลูกและดแู ล อวยั วะในระบบ จากสารตา่ งๆ ท่ี

รักษาตน้ ไมใ้ น หมุนเวียนเลอื ดให้ พืชบางชนิดสร้าง

โรงเรียนและ ทางานเป็นปกติ ขึน้

ชุมชน ๑๐. ระบอุ วัยวะและ ๑๐. ออกแบบการ

๙. บรรยายลักษณะ บรรยายหนา้ ทีข่ อง ทดลอง ทดลอง

และหน้าทีข่ อง อวยั วะในระบบ และอธิบาย

ไซเลม็ และโฟล ประสาทส่วนกลาง เกย่ี วกบั ปัจจัย

เอ็ม ในการควบคมุ การ ภายนอกทีม่ ีผลตอ่

๑๐. เขียนแผนภาพ ทางานต่าง ๆ ของ การเจรญิ เติบโต

ทบ่ี รรยาย รา่ งกาย ของพืช

ทศิ ทางการ ๑๑. ตระหนกั ถงึ ๑๑. สบื คน้ ขอ้ มลู

ลาเลียงสารใน ความสาคัญของ เกีย่ วกับสาร

ไซเลม็ และ ระบบประสาท ควบคมุ การ

โฟลเอม็ ของพชื โดยการบอก เจริญเติบโตของ

๑๑. อธบิ ายการ พชื ที่มนษุ ย์

มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวช้วี ัด ฯ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๔๘

สาระท่ี ๑ วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ

มาตรฐาน ว ๑.๒ เขา้ ใจสมบัติของสิง่ มชี วี ติ หน่วยพืน้ ฐานของสิ่งมชี วี ติ การลาเลียงสารผ่านเซลล์ ความสัมพนั ธข์ อง

โครงสร้าง และหน้าที่ของระบบต่างๆ ของสัตว์และมนุษย์ท่ีทางานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของ

โครงสร้างและหน้าท่ขี องอวัยวะตา่ งๆ ของพืชท่ีทางานสัมพนั ธ์กนั รวมทัง้ นาความรไู้ ปใช้ประโยชน์

ตวั ชี้วดั ชัน้ ปี

ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖

สืบพันธ์แุ บบ แนวทางในการ สงั เคราะห์ข้นึ และ

อาศัยเพศและไม่ ดูแลรักษา รวมถึง ยกตัวอยา่ งการ

อาศยั เพศของ การป้องกนั การ นามาประยุกต์ใช้

พชื ดอก กระทบกระเทอื น ทางดา้ น

๑๒. อธิบาย และอนั ตรายตอ่ การเกษตรของพืช

ลกั ษณะ สมองและไขสัน ๑๒. สงั เกตและ

โครงสร้างของ หลงั อธบิ ายการ
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
ดอกทีม่ ีสว่ นทา ๑๒. ระบอุ วยั วะและ ตอบสนองของ

ใหเ้ กดิ การถ่าย บรรยายหนา้ ทขี่ อง พืชต่อสิง่ เร้าใน

เรณู รวมทัง้ อวัยวะในระบบ รูปแบบต่าง ๆ ท่มี ี

บรรยายการ สืบพนั ธ์ุของเพศ ผลตอ่ การ

ปฏสิ นธิของพชื ชายและเพศหญงิ ดารงชีวิต

ดอก การเกดิ โดยใช้แบบจาลอง

ผลและเมล็ด ๑๓. อธิบายผลของ

การกระจาย ฮอร์โมนเพศชาย

เมลด็ และการ และเพศหญิงท่ี

งอกของเมล็ด ควบคมุ การ

๑๓. ตระหนกั ถงึ เปล่ียนแปลงของ

ความสาคัญของ รา่ งกายเม่อื เข้าสู่

สัตว์ทช่ี ่วยในการ วัยหนุ่มสาว

ถ่ายเรณูของพืช ๑๔. ตระหนกั ถงึ การ

ดอก โดยการไม่ เปลี่ยนแปลงของ

ทาลายชวี ิตของ ร่างกายเม่ือเขา้ สู่

สตั วท์ ่ีช่วยใน วัยหนุ่มสาวโดย

การถ่ายเรณู การดูแลรักษา

๑๔. อธิบาย ร่างกายและจติ ใจ

ความสาคัญ ของตนเองในชว่ ง

ของธาตุอาหาร ทม่ี ีการ

บางชนดิ ทีม่ ีผล เปล่ียนแปลง

ตอ่ การ ๑๕. อธบิ ายการ

เจรญิ เตบิ โตและ ตกไข่ การมี

การดารงชวี ิต ประจาเดอื น การ

ของพืช ปฏิสนธิ และการ

๑๕. เลอื กใช้ปุ๋ยทม่ี ี พฒั นาของไซโกต

ธาตุอาหาร จนคลอดเป็นทารก

เหมาะสมกับ ๑๖. เลือกวธิ กี าร

พชื ใน คุมกาเนิดที่

มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชว้ี ัด ฯ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๔๙

สาระท่ี ๑ วิทยาศาสตร์ชวี ภาพ

มาตรฐาน ว ๑.๒ เข้าใจสมบัติของสิ่งมชี ีวติ หนว่ ยพ้ืนฐานของส่งิ มีชีวิต การลาเลียงสารผ่านเซลล์ ความสัมพนั ธ์ของ

โครงสร้าง และหน้าที่ของระบบต่างๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทางานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของ

โครงสรา้ งและหนา้ ทีข่ องอวัยวะตา่ งๆ ของพชื ท่ที างานสมั พันธ์กนั รวมทง้ั นาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ตัวช้วี ัดชน้ั ปี

ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖

สถานการณท์ ่ี เหมาะสมกบั

กาหนด สถานการณ์ท่ี

๑๖. เลือกวธิ กี าร กาหนด

ขยายพันธุพ์ ืชให้ ๑๗. ตระหนกั ถึงผล

เหมาะสมกบั กระทบของการ

ความตอ้ งการ ตัง้ ครรภ์กอ่ นวัย

ของมนษุ ย์ โดย อนั ควร โดยการ
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
ใช้ความรู้ ประพฤติตนให้

เกยี่ วกบั การ เหมาะสม

สืบพนั ธขุ์ องพชื

๑๗. อธบิ าย

ความสาคญั

ของเทคโนโลยี

การเพาะเลี้ยง

เน้ือเยอื่ พืชในการ

ใช้ประโยชน์ด้าน

ตา่ ง ๆ

๑๘. ตระหนักถึง

ประโยชนข์ อง

การขยายพนั ธุพ์ ชื

โดยการนา

ความรู้ไปใช้

ในชวี ิตประจาวนั

มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ช้ีวดั ฯ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ๕๐

สาระท่ี ๑ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ

มาตรฐาน ว ๑.๓ เขา้ ใจกระบวนการและความสาคญั ของการถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม สารพันธกุ รรม

การเปลยี่ นแปลงทางพนั ธกุ รรมท่ีมีผลตอ่ ส่ิงมีชีวติ ความหลากหลายทางชีวภาพและวิวฒั นาการ

ของสิ่งมชี วี ติ รวมทงั้ นาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์

ตวั ชีว้ ัดช้ันปี

ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖

- ๑. เปรยี บเทยี บ - ๑. จาแนกสิ่งมชี วี ิต ๑. อธิบายลกั ษณะ -

ลักษณะของ โดยใชค้ วามเหมือน ทางพนั ธกุ รรมทีม่ ี

สิ่งมชี ีวติ และความแตกต่าง การถ่ายทอดจาก

และสิง่ ไมม่ ีชวี ิต ของลักษณะของ พ่อแม่สูล่ ูกของ

จากขอ้ มูลที่ สิ่งมีชีวิต ออกเป็น พืช สตั ว์ และ

รวบรวมได้ กลมุ่ พืช กลมุ่ สตั ว์ มนุษย์

และกลมุ่ ทไ่ี มใ่ ช่พชื ๒. แสดงความ
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
และสตั ว์ อยากรูอ้ ยากเห็น

๒. จาแนกพชื โดยการถาม

ออกเป็นพชื ดอก คาถามเกีย่ วกบั

และพืชไมม่ ีดอก ลักษณะท่ี

โดยใชก้ ารมดี อก คล้ายคลึงกนั ของ

เปน็ เกณฑ์ โดยใช้ ตนเองกบั พอ่ แม่

ขอ้ มลู ที่รวบรวมได้

๓. จาแนกสัตว์

ออกเปน็ สัตวม์ ี

กระดูกสันหลงั และ

สตั วไ์ ม่มกี ระดูกสนั

หลงั โดยใชก้ ารมี

กระดกู สนั หลังเปน็

เกณฑ์ โดยใช้

ขอ้ มลู ทีร่ วบรวมได้

๔. บรรยายลกั ษณะ

เฉพาะทีส่ ังเกตได้

ของสัตว์มกี ระดูก

สันหลังในกลมุ่ ปลา

กลมุ่ สตั วส์ ะเทนิ นา้

สะเทินบก กลมุ่

สัตวเ์ ลอื้ ยคลาน

กลุม่ นก และกล่มุ

สัตวเ์ ล้ียงลกู ดว้ ย

นา้ นม และ

ยกตัวอย่าง

ส่งิ มชี ีวติ ในแต่ละ

กลมุ่

มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวชี้วัด ฯ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๕๑

สาระท่ี ๑ วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ

มาตรฐาน ว ๑.๓ เข้าใจกระบวนการและความสาคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สารพันธุกรรม

การเปลี่ยนแปลงทางพันธกุ รรมที่มีผลต่อสิง่ มชี ีวติ ความหลากหลายทางชีวภาพและววิ ัฒนาการ

ของสง่ิ มชี วี ติ รวมทงั้ นาความรู้ไปใช้ประโยชน์

ตวั ช้วี ดั ชนั้ ปี

ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖

- - ๑. อธิบายความ ไม่เนน้ วทิ ยาศาสตร์ - -

สมั พนั ธร์ ะหวา่ ง ๑. อธบิ ายความ

ยนี ดเี อน็ เอ สัมพนั ธ์ระหวา่ งยีน

และโครโมโซม การสังเคราะห์

โดยใช้ โปรตนี และลกั ษณะ

แบบจาลอง ทางพันธุกรรม
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
๒. อธบิ ายการ ๒. อธบิ ายหลกั การ

ถ่ายทอด ลักษณะ ถา่ ยทอดลักษณะ

ทางพนั ธุกรรมจาก ท่ถี ูกควบคุมด้วย

การผสมโดย ยนี ท่ีอยูบ่ น

พจิ ารณาลักษณะ โครโมโซมเพศ

เดียวทแ่ี อลลีลเด่น และมลั ตเิ ปิล

ข่มแอลลลี ดอ้ ย แอลลลี

อย่างสมบูรณ์ ๓. อธิบายผลทเ่ี กดิ

๓. อธิบายการเกดิ จากการเปล่ียนแปลง

จโี นไทป์และ ลาดบั นิวคลโี อไทด์

ฟีโน-ไทปข์ องลกู ในดเี อ็นเอตอ่ การ

และคานวณ แสดงลกั ษณะของ

อัตราส่วนการ สง่ิ มีชวี ติ

เกิดจีโนไทป์ ๔. สืบค้นขอ้ มลู และ

และฟโี นไทป์ของ ยกตวั อยา่ งการ

ร่นุ ลกู นามิวเทชันไปใช้

๔. อธบิ ายความ ประโยชน์

แตกต่างของการ ๕. สืบค้นขอ้ มูลและ

แบง่ เซลลแ์ บบ อภปิ รายผลของ

ไมโทซสิ และไมโอ เทคโนโลยที างดี

ซิส เอน็ เอทมี่ ีตอ่ มนษุ ย์

๕. บอกได้ว่าการ และสง่ิ แวดล้อม

เปล่ียนแปลงของ ๖. สบื คน้ ขอ้ มูล

ยีนหรือโครโมโซม อธิบาย และ

อาจทาให้เกดิ โรค ยกตวั อยา่ งความ

ทางพันธุกรรม หลากหลายของ

พรอ้ มทง้ั ส่ิงมีชวี ติ ซ่งึ เปน็

ยกตัวอย่างโรคทาง ผลมาจาก

พนั ธกุ รรม ววิ ฒั นาการ

มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชวี้ ัด ฯ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ๕๒

สาระท่ี ๑ วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพอ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ

มาตรฐาน ว ๑.๓ เขา้ ใจกระบวนการและความสาคญั ของการถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม สารพนั ธกุ รรม

การเปลยี่ นแปลงทางพันธกุ รรมที่มีผลต่อส่ิงมชี วี ิต ความหลากหลายทางชีวภาพและวิวัฒนาการ
ของสง่ิ มชี ีวิต รวมทั้งนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ตวั ชว้ี ัดชนั้ ปี

ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖

๖. ตระหนักถึง
ประโยชน์ของ
ความรูเ้ ร่อื งโรค
ทางพนั ธุกรรม โดย
รูว้ า่ ก่อนแตง่ งาน
ควรปรึกษาแพทย์
เพ่อื ตรวจและ
วนิ ิจฉยั ภาวะเสย่ี ง
ของลูกท่อี าจเกดิ
โรคทางพนั ธกุ รรม

๗. อธิบายการใช้
ประโยชนจ์ าก
สิ่งมชี วี ติ ดัดแปร
พันธกุ รรมและ
ผลกระทบท่ีอาจ
มีตอ่ มนุษย์และ
สง่ิ แวดลอ้ ม โดย
ใช้ข้อมลู ที่
รวบรวมได้

๘. ตระหนกั ถงึ
ประโยชนแ์ ละ
ผลกระทบของ
สงิ่ มชี ีวติ ดดั แปร
พันธกุ รรมท่อี าจ
มีต่อมนุษยแ์ ละ
สิ่งแวดล้อม โดย
การเผยแพร่
ความรทู้ ่ไี ดจ้ าก
การโตแ้ ยง้ ทาง
วิทยาศาสตร์ซ่งึ มี
ขอ้ มลู สนับสนุน

๙. เปรยี บเทยี บ
ความหลากหลาย
ทางชีวภาพใน
ระดบั ชนิด
สิ่งมีชีวติ ในระบบ
นิเวศตา่ ง ๆ

มาตรฐานการเรยี นร้แู ละตัวช้วี ัด ฯ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ๕๓

สาระที่ ๑ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ

มาตรฐาน ว ๑.๓ เข้าใจกระบวนการและความสาคญั ของการถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรม สารพันธกุ รรม
การเปลยี่ นแปลงทางพนั ธุกรรมที่มผี ลตอ่ สง่ิ มีชีวติ ความหลากหลายทางชวี ภาพและวิวัฒนาการ
ของสิง่ มชี ีวติ รวมทง้ั นาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ตัวช้วี ดั ชั้นปี

ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖

๑๐. อธบิ ายความ
สาคญั ของความ
หลากหลายทาง
ชวี ภาพท่มี ตี ่อ
การรักษาสมดลุ
ของระบบนเิ วศ
และตอ่ มนุษย์

๑๑. แสดงความ
ตระหนักในคณุ คา่
และความสาคญั
ของความ
หลากหลายทาง
ชวี ภาพ โดยมสี ่วน
ร่วมในการดแู ล
รักษาความ
หลากหลายทาง
ชีวภาพ
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ

มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวช้ีวัด ฯ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๕๔

สาระที่ ๒ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ

มาตรฐาน ว ๒.๑ เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับโครงสร้าง

และแรงยึดเหน่ียวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปล่ียนแปลงสถานะของสสาร

การเกดิ สารละลาย และการเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมี

ตวั ช้วี ดั ชั้นปี

ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖

๑. อธบิ ายสมบัติท่ี ๑. เปรยี บเทยี บ ๑. อธบิ ายวา่ วัตถุ ๑. เปรยี บเทียบสมบตั ิ ๑. อธบิ ายการ ๑. อธิบายและ

สงั เกตได้ของ สมบัตกิ ารดดู ซับ ประกอบขึ้น ทางกายภาพ ด้าน เปลี่ยนสถานะ เปรยี บเทยี บการ

วสั ดทุ ่ใี ชท้ าวัตถุ นา้ ของวัสดุโดย จากช้ินสว่ น ความแขง็ สภาพ ของสสารเมอื่ ทา แยกสารผสมโดย

ซ่ึงทาจากวัสดุ ใช้หลักฐานเชิง ยอ่ ย ๆ ซ่งึ ยืดหยุ่น การนา ให้สสารรอ้ นขน้ึ การหยิบออก

ชนดิ เดยี วหรอื ประจกั ษ์ และ สามารถแยก ความรอ้ น และการ หรือเยน็ ลง โดย การร่อน การใช้

หลายชนดิ ระบุการนา ออกจากกนั ได้ นาไฟฟา้ ของวสั ดุ ใช้หลกั ฐานเชิง แม่เหลก็ ดึงดูด

ประกอบกันโดย สมบตั ิการดดู ซบั และประกอบ โดยใช้หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ การรินออก การ
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
ใช้หลักฐานเชงิ นา้ ของวสั ดุไป กนั เปน็ วตั ถุชิ้น ประจักษ์จากการ ๒. อธบิ ายการ กรอง และการ

ประจักษ์ ประยุกต์ใช้ใน ใหม่ได้ โดยใช้ ทดลองและระบุ ละลายของสาร ตกตะกอน โดย

๒. ระบชุ นดิ ของ การทาวตั ถุใน หลกั ฐานเชิง การนาสมบตั เิ ร่ือง ในน้า โดยใช้ ใชห้ ลกั ฐานเชงิ

วสั ดแุ ละจัดกลมุ่ ชีวิตประจาวัน ประจกั ษ์ ความแขง็ สภาพ หลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ รวมทงั้

วสั ดุตามสมบตั ิท่ี ๒. อธบิ ายสมบตั ิท่ี ๒. อธบิ ายการ ยดื หยนุ่ การนา ประจกั ษ์ ระบุวธิ แี ก้ปัญหา

สงั เกตได้ สงั เกตไดข้ องวสั ดุ เปลีย่ นแปลง ความร้อน และการ ๓. วิเคราะห์การ ในชีวติ ประจาวัน

ท่ีเกิดจากการนา ของวสั ดุเมือ่ ทา นาไฟฟ้าของวัสดุ เปลีย่ นแปลงของ เก่ยี วกับการแยก

วัสดุมาผสมกัน ใหร้ อ้ นข้ึนหรอื ไปใช้ใน สารเมือ่ เกิดการ สาร

โดยใชห้ ลักฐาน ทาให้เยน็ ลง ชีวิตประจาวัน เปลี่ยนแปลงทาง

เชงิ ประจักษ์ โดยใช้หลกั ฐาน ผา่ นกระบวนการ เคมี โดยใช้

๓. เปรยี บเทียบ เชงิ ประจกั ษ์ ออกแบบชนิ้ งาน หลักฐานเชงิ

สมบตั ิทสี่ ังเกตได้ ๒. แลกเปล่ยี น ประจกั ษ์

ของวัสดุเพ่อื ความคดิ กับผอู้ ่ืน ๔. วิเคราะหแ์ ละ

นามาทาเป็นวตั ถุ โดยการอภปิ ราย ระบกุ าร

ในการใชง้ านตาม เกี่ยวกบั สมบตั ิทาง เปล่ียนแปลงท่ี

วตั ถุประสงค์ กายภาพของวสั ดุ ผนั กลับได้และ

และอธบิ ายการ อยา่ งมเี หตผุ ลจาก การเปลย่ี นแปลง

นาวัสดุที่ใชแ้ ล้ว การทดลอง ท่ีผันกลับไมไ่ ด้

กลับมาใชใ้ หม่ ๓. เปรยี บเทยี บ

โดยใช้หลกั ฐาน สมบัติของสสารท้ัง

เชงิ ประจกั ษ์ ๓ สถานะ จาก

๔. ตระหนกั ถงึ ขอ้ มลู ทีไ่ ดจ้ ากการ

ประโยชนข์ อง สังเกตมวล การ

การนาวัสดทุ ใี่ ช้ ตอ้ งการที่อยู่

แลว้ กลบั มาใช้ รูปรา่ งและปรมิ าตร

ใหม่ โดยการนา ของสสาร

วสั ดทุ ่ใี ชแ้ ล้ว ๔. ใช้เคร่ืองมอื เพือ่

กลับมาใช้ใหม่ วดั มวล และ

ปริมาตรของสสาร

ทั้ง ๓ สถานะ

มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชีว้ ัด ฯ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๕๕

สาระท่ี ๒ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ

มาตรฐาน ว ๒.๑ เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับโครงสร้าง

และแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปล่ียนแปลงสถานะของสสาร

การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกริ ยิ าเคมี

ตัวช้วี ัดช้นั ปี

ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖

๑. อธิบายสมบัติ ๑. อธิบายการแยก ๑. ระบสุ มบตั ทิ าง - ไม่เน้นวทิ ยาศาสตร์ -

ทางกายภาพบาง สารผสมโดยการ กายภาพและการ ๑. ระบุว่าสารเปน็

ประการของธาตุ ระเหยแหง้ การตก ใช้ประโยชน์วัสดุ ธาตุหรือ

โลหะ อโลหะ ผลกึ การกลัน่ ประเภทพอลิเมอร์ สารประกอบ และ

และกึง่ โลหะ โดย อยา่ งง่าย เซรามกิ สแ์ ละวัสดุ อยูใ่ นรปู อะตอม

ใชห้ ลกั ฐานเชิง โครมาโทกราฟี ผสม โดยใช้ โมเลกุล หรือ
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
ประจกั ษท์ ี่ไดจ้ าก แบบกระดาษ การ หลักฐานเชิง ไอออน จากสูตร

การสังเกตและ สกัดด้วยตวั ทา ประจักษแ์ ละ เคมี

การทดสอบ และ ละลาย โดยใช้ สารสนเทศ ๒. เปรยี บเทียบความ

ใชส้ ารสนเทศท่ี หลกั ฐานเชงิ ๒. ตระหนกั ถงึ คุณค่า เหมือนและความ

ไดจ้ ากแหล่งขอ้ มลู ประจักษ์ ของการใชว้ ัสดุ แตกตา่ งของ

ต่าง ๆ รวมทงั้ จดั ๒. แยกสารโดยการ ประเภทพอลเิ มอร์ แบบจาลอง

กลมุ่ ธาตเุ ป็น ระเหยแห้ง การตก เซรามกิ ส์ และวัสดุ อะตอมของโบร์กับ

โลหะ อโลหะ ผลึก การกล่นั ผสม โดย แบบจาลอง

และก่งึ โลหะ อย่างงา่ ย เสนอแนะแนว อะตอมแบบกลมุ่

๒. วิเคราะหผ์ ลจาก โครมาโทกราฟี ทางการใช้วสั ดุ หมอก

การใชธ้ าตโุ ลหะ แบบกระดาษ อย่างประหยดั และ ๓. ระบจุ านวน

อโลหะ ก่งึ โลหะ การสกดั ด้วยตวั ทา คมุ้ คา่ โปรตอน นวิ ตรอน

และธาตุ ละลาย ๓. อธบิ ายการเกดิ และอเิ ลก็ ตรอน

กมั มันตรงั สี ทม่ี ี ๓. นาวธิ กี ารแยกสาร ปฏกิ ิรยิ าเคมี ของอะตอม และ

ต่อส่งิ มชี วี ิต ไปใชแ้ ก้ปญั หาใน รวมถงึ การจัดเรียง ไอออนทเ่ี กิดจาก

สิ่งแวดล้อม ชีวติ ประจาวนั โดย ตัวใหม่ของอะตอม อะตอมเดยี ว

เศรษฐกจิ และ บรู ณาการ เมอ่ื การเกดิ ๔. เขยี นสัญลักษณ์

สงั คม จากข้อมลู วิทยาศาสตร์ ปฏิกริ ิยาเคมี โดย นวิ เคลยี ร์ของธาตุ

ทีร่ วบรวมได้ คณิตศาสตร์ ใช้แบบจาลองและ และระบุการเปน็

๓. ตระหนักถึง เทคโนโลยี และ สมการขอ้ ความ ไอโซโทป

คุณคา่ ของการใช้ วิศวกรรมศาสตร์ ๔. อธบิ ายกฎทรง ๕. ระบหุ ม่แู ละคาบ

ธาตโุ ลหะ อโลหะ ๔. ออกแบบการ มวล โดยใช้ ของธาตุ และระบุ

กึ่งโลหะ ธาตุ ทดลองและทดลอง หลกั ฐานเชงิ ว่าธาตเุ ป็นโลหะ

กัมมนั ตรงั สี โดย ในการอธิบายผล ประจกั ษ์ อโลหะ กงึ่ โลหะ

เสนอแนวทาง ของชนดิ ตัวละลาย ๕. วิเคราะห์ กลมุ่ ธาตเุ รพรเี ซน

การใชธ้ าตอุ ยา่ ง ชนิดตัวทาละลาย ปฏิกิรยิ าดดู ความ เททีฟ หรอื กลมุ่

ปลอดภยั คมุ้ ค่า อณุ หภมู ิ ที่มตี อ่ รอ้ น และ ธาตุแทรนซิชนั

๔. เปรยี บเทยี บ สภาพละลายได้ ปฏกิ ริ ิยาคาย จากตารางธาตุ

จดุ เดอื ด จดุ ของสาร รวมท้งั ความร้อน จาก ๖. เปรยี บเทยี บ

หลอมเหลวของ อธิบายผลของ การเปลยี่ นแปลง สมบัตกิ ารนา

มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชวี้ ัด ฯ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๕๖

สาระที่ ๒ วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ

มาตรฐาน ว ๒.๑ เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับโครงสร้าง

และแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปล่ียนแปลงสถานะของสสาร

การเกดิ สารละลาย และการเกิดปฏิกิริยาเคมี

ตัวชีว้ ัดชั้นปี

ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖

สารบริสุทธ์ิและ ความดันทมี่ ีตอ่ พลังงานความ ไฟฟา้ การให้และ

สารผสม โดยการ สภาพละลายได้ ร้อนของปฏิกริ ยิ า รบั อิเล็กตรอน

วดั อณุ หภมู ิ เขยี น ของสารโดยใช้ ๖. อธบิ ายปฏกิ ริ ยิ า ระหวา่ งธาตุ ใน

กราฟ แปล สารสนเทศ การเกิดสนมิ ของ กลุ่มโลหะกบั

ความหมาย ๕. ระบุปริมาณตัว เหลก็ ปฏิกริ ิยา อโลหะ

ขอ้ มูลจากกราฟ ละลายใน ของกรดกับโลหะ ๗. สบื ค้นข้อมลู และ

หรอื สารสนเทศ สารละลายใน ปฏิกิรยิ าของกรด นาเสนอตัวอย่าง
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
๕. อธิบายและ หน่วยความเขม้ ข้น กบั เบส และ ประโยชนแ์ ละ

เปรยี บเทยี บ เป็นร้อยละ ปฏกิ ริ ยิ าของเบส อนั ตรายทเ่ี กดิ จาก

ความหนาแน่น ปริมาตรต่อ กบั โลหะ โดยใช้ ธาตเุ รพรเี ซนเททฟี

ของสารบรสิ ทุ ธ์ิ ปริมาตร มวลต่อ หลักฐานเชิง และธาตแุ ทรนซิชนั

และสารผสม มวล และมวลต่อ ประจักษ์ และ ๘. ระบุวา่ พนั ธะ

๖. ใชเ้ คร่ืองมือเพอ่ื ปริมาตร อธบิ ายปฏกิ ิรยิ า โคเวเลนตเ์ ป็น

วัดมวลและ ๖. ตระหนักถึง การเผาไหม้ การ พันธะเด่ยี ว

ปริมาตรของสาร ความสาคญั ของ เกิดฝนกรด การ พันธะคู่ หรอื

บริสทุ ธแ์ิ ละสาร การนาความรเู้ ร่ือง สงั เคราะห์ด้วย พนั ธะสาม และ

ผสม ความเขม้ ข้นของ แสง โดยใช้ ระบุจานวนคู่

๗. อธิบายเกี่ยวกบั สารไปใช้ โดย สารสนเทศ อิเล็กตรอน

ความสัมพนั ธ์ ยกตัวอย่างการใช้ รวมทัง้ เขยี น ระหว่างอะตอมคู่

ระหวา่ งอะตอม สารละลายใน สมการข้อความ ร่วมพันธะ จาก

ธาตุ และ ชวี ิตประจาวนั แสดงปฏิกริ ิยา สตู รโครงสรา้ ง

สารประกอบ อยา่ งถกู ตอ้ งและ ดังกล่าว ๙. ระบสุ ภาพข้ัว

โดยใช้ ปลอดภัย ๗. ระบุประโยชน์ ของสารทีโ่ มเลกลุ

แบบจาลองและ และโทษของ ประกอบดว้ ย ๒

สารสนเทศ ปฏกิ ริ ิยาเคมีทมี่ ตี ่อ อะตอม

๘. อธบิ ายโครงสรา้ ง สง่ิ มีชวี ิตและ ๑๐. ระบสุ ารทเ่ี กดิ

อะตอมท่ี สิ่งแวดล้อม และ พนั ธะไฮโดรเจน

ประกอบดว้ ย ยกตัวอย่างวิธกี าร ไดจ้ ากสูตร

โปรตอน นวิ ตรอน ป้องกนั และ โครงสรา้ ง

และอเิ ล็กตรอน แกป้ ัญหาท่เี กดิ ๑๑. อธิบาย

โดยใชแ้ บบจาลอง จากปฏิกิรยิ าเคมที ี่ ความสัมพนั ธ์

๙. อธบิ ายและ พบใน ระหวา่ งจุดเดือด

เปรียบเทยี บการ ชวี ิตประจาวัน ของสารโคเวเลนต์

จดั เรยี งอนภุ าค จากการสืบค้น กับแรงดึงดดู

แรงยดึ เหนย่ี ว ขอ้ มลู ระหว่างโมเลกลุ

ระหว่างอนุภาค ๘. ออกแบบวธิ ีแก้ ตามสภาพขวั้

และการเคลื่อนที่ ปญั หาในชีวติ

มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชวี้ ัด ฯ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๕๗

สาระที่ ๒ วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ

มาตรฐาน ว ๒.๑ เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับโครงสร้าง

และแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปล่ียนแปลงสถานะของสสาร

การเกดิ สารละลาย และการเกดิ ปฏกิ ิริยาเคมี

ตัวชีว้ ดั ชั้นปี

ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖

ของอนภุ าคของ ประจาวันโดยใช้ หรือการเกดิ

สสารชนดิ ความรู้เกย่ี วกับ พันธะไฮโดรเจน

เดียวกนั ใน ปฏิกริ ิยาเคมี โดย ๑๒. เขยี นสตู รเคมี

สถานะของแขง็ บูรณาการ ของไอออนและ

ของเหลว และ วทิ ยาศาสตร์ สารประกอบ

แก๊ส โดยใช้ คณติ ศาสตร์ ไอออนกิ

แบบจาลอง เทคโนโลยี และ ๑๓. ระบวุ ่าสารเกดิ
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
๑๐. อธิบาย วิศวกรรมศาสตร์ การละลายแบบ

ความสัมพนั ธ์ แตกตวั หรอื ไมแ่ ตก

ระหว่างพลงั งาน ตวั พร้อมให้

ความรอ้ นกบั การ เหตุผลและระบุวา่

เปล่ยี นสถานะของ สารละลายท่ีได้

สสาร โดยใช้ เป็นสารละลาย

หลกั ฐานเชิง อิเล็กโทรไลต์ หรือ

ประจักษแ์ ละ นอนอเิ ลก็ โทรไลต์

แบบจาลอง ๑๔. ระบุ

สารประกอบ

อนิ ทรีย์ประเภท

ไฮโดรคารบ์ อนว่า

อ่มิ ตัวหรอื ไม่

อ่มิ ตวั จากสตู ร

โครงสรา้ ง

๑๕. สบื คน้ ข้อมลู

และเปรยี บเทียบ

สมบตั ทิ าง

กายภาพระหวา่ ง

พอลเิ มอรแ์ ละ

มอนอเมอร์ของ

พอลเิ มอร์ชนิด

นัน้

๑๖. ระบสุ มบัติ

ความเป็นกรด-

เบสจาก

โครงสร้างของ

สารประกอบ

อินทรยี ์

มาตรฐานการเรียนร้แู ละตัวช้วี ดั ฯ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๕๘

สาระที่ ๒ วิทยาศาสตรก์ ายภาพอ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ

มาตรฐาน ว ๒.๑ เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับโครงสร้าง

และแรงยึดเหน่ียวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร
การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกริ ยิ าเคมี

ตวั ชีว้ ดั ช้ันปี

ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖

๑๗. อธิบายสมบตั ิ
การละลายในตวั
ทาละลายชนดิ
ต่าง ๆ ของสาร

๑๘. วเิ คราะห์และ
อธิบาย
ความสัมพันธ์
ระหวา่ งโครงสร้าง
กับสมบัตเิ ทอร์มอ
พลาสตกิ และ
เทอรม์ อเซตของ
พอลิเมอร์ และการ
นาพอลิเมอรไ์ ปใช้
ประโยชน์

๑๙. สืบคน้ ข้อมลู
และนาเสนอ
ผลกระทบของ
การใชผ้ ลิตภณั ฑ์
พอลิเมอรท์ มี่ ตี อ่
ส่ิงมีชีวติ และ
สิ่งแวดล้อม
พรอ้ มแนวทาง
ปอ้ งกนั หรอื แก้ไข

๒๐. ระบสุ ตู รเคมี
ของสารตงั้ ต้น
ผลติ ภณั ฑ์ และ
แปลความหมาย
ของสญั ลกั ษณ์ใน
สมการเคมีของ
ปฏิกริ ยิ าเคมี

๒๑. ทดลองและ
อธิบายผลของ
ความเข้มข้น
พ้ืนทผ่ี ิว อุณหภูมิ
และตัวเร่ง
ปฏิกิริยา ที่มผี ล

มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชว้ี ัด ฯ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๕๙

สาระท่ี ๒ วิทยาศาสตร์กายภาพ

มาตรฐาน ว ๒.๑ เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับโครงสร้าง

และแรงยึดเหน่ียวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปล่ียนแปลงสถานะของสสาร
การเกิดสารละลาย และการเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมี

ตัวชีว้ ดั ช้นั ปี

ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖

ตอ่ อตั ราการเกิด
ปฏกิ ริ ยิ าเคมี
๒๒. สบื ค้นข้อมลู
และอธบิ ายปจั จยั
ที่มผี ลต่ออตั รา
การเกดิ ปฏิกริ ยิ า
เคมีทใ่ี ช้
ประโยชน์ใน
ชีวิตประจาวนั
หรอื ใน
อตุ สาหกรรม
๒๓. อธบิ าย
ความหมายของ
ปฏกิ ริ ยิ ารดี อกซ์
๒๔. อธบิ ายสมบตั ิ
ของสาร
กัมมนั ตรงั สี และ
คานวณครง่ึ ชวี ิต
และปรมิ าณของ
สารกัมมนั ตรังสี
๒๕. สบื ค้นข้อมลู
และนาเสนอ
ตัวอย่าง
ประโยชนข์ อง
สารกมั มันตรังสี
และการป้องกนั
อันตรายที่เกดิ
จาก
กมั มันตภาพรังสี
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ

มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ช้วี ัด ฯ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๖๐

สาระท่ี ๒ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ

มาตรฐาน ว ๒.๒ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องแรงในชีวติ ประจาวนั ผลของแรงทก่ี ระทาต่อวตั ถุ ลักษณะการเคลอื่ นท่แี บบ

ต่างๆ ของวัตถุ รวมทัง้ นาความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์

ตัวชวี้ ดั ชนั้ ปี

ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖

- - ๑. ระบผุ ลของแรง ๑. ระบผุ ลของแรง ๑. อธบิ ายวธิ ีการหา ๑. อธิบายการเกดิ

ท่ีมีต่อการ โนม้ ถ่วงทม่ี ตี ่อ แรงลพั ธข์ องแรง และผลของแรง

เปล่ียนแปลง วัตถุจากหลักฐาน หลายแรงในแนว ไฟฟา้ ซึง่ เกดิ จาก

การเคล่อื นที่ของ เชิงประจักษ์ เดียวกนั ทีก่ ระทา วัตถทุ ่ผี ่านการ

วัตถุจากหลกั ฐาน ๒. ใช้เครอื่ งช่ัง ต่อวตั ถใุ นกรณีที่ ขัดถโู ดยใช้

เชิงประจกั ษ์ สปรงิ ในการวัด วตั ถอุ ยูน่ ่ิงจาก หลกั ฐานเชิง

๒. เปรยี บเทยี บและ น้าหนักของวัตถุ หลกั ฐานเชิง ประจกั ษ์

ยกตัวอย่างแรง ๓. บรรยายมวล ประจักษ์
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
สัมผสั และแรงไม่ ของวัตถทุ ม่ี ผี ล ๒. เขียนแผนภาพ

สมั ผสั ท่มี ผี ลตอ่ ต่อการ แสดงแรงท่ี

การเคลอ่ื นท่ีของ เปลีย่ นแปลงการ กระทาต่อวัตถทุ ่ี

วัตถุโดยใช้ เคล่ือนทีข่ องวัตถุ อยูใ่ นแนว

หลกั ฐานเชิง จากหลักฐานเชิง เดียวกันและแรง

ประจกั ษ์ ประจกั ษ์ ลัพธท์ ีก่ ระทาตอ่

๓. จาแนกวัตถุโดย วัตถุ

ใชก้ ารดงึ ดูดกบั ๓. ใช้เครอื่ งชง่ั

แม่เหลก็ เป็น สปรงิ ในการวัด

เกณฑ์จาก แรงทก่ี ระทาตอ่

หลักฐานเชงิ วตั ถุ

ประจักษ์ ๔. ระบผุ ลของแรง

๔. ระบุข้ัวแมเ่ หล็ก เสียดทานทมี่ ตี อ่

และพยากรณผ์ ล การเปลย่ี นแปลง

ทีเ่ กดิ ขน้ึ ระหว่าง การเคลื่อนทขี่ อง

ขัว้ แมเ่ หล็กเม่ือ วตั ถจุ ากหลกั ฐาน

นามาเข้าใกลก้ ัน เชิงประจักษ์

จากหลักฐานเชงิ ๕. เขยี นแผนภาพ

ประจกั ษ์ แสดงแรงเสยี ด

ทานและแรงทอ่ี ยู่

ในแนวเดียวกนั ที่

กระทาต่อวตั ถุ

มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชีว้ ดั ฯ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๖๑

สาระที่ ๒ วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ

มาตรฐาน ว ๒.๒ เข้าใจธรรมชาตขิ องแรงในชวี ิตประจาวัน ผลของแรงที่กระทาต่อวตั ถุ ลกั ษณะการเคลอ่ื นทแ่ี บบ

ตา่ ง ๆ ของวัตถุ รวมทั้งนาความรู้ไปใช้ประโยชน์

ตวั ชี้วัดชนั้ ปี

ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖

๑. สรา้ งแบบจาลอง ๑. พยากรณก์ าร - - ไม่เน้นวทิ ยาศาสตร์ -

ท่อี ธิบาย เคลือ่ นท่ขี องวัตถุที่ ๑. วเิ คราะหแ์ ละ

ความสัมพันธ์ เปน็ ผลของแรง แปลความหมาย

ระหว่างความดัน ลพั ธท์ ีเ่ กิดจากแรง ขอ้ มูลความเร็ว

อากาศกบั ความ หลายแรงทก่ี ระทา กบั เวลาของการ

สงู จากพ้นื โลก ตอ่ วัตถุในแนว เคลอื่ นท่ขี องวัตถุ

เดียวกันจาก เพื่ออธบิ าย

หลกั ฐานเชิง ความเร่งของวัตถุ
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
ประจักษ์ ๒. สังเกตและอธิบาย

๒. เขียนแผนภาพ การหาแรงลัพธท์ ่ี

แสดงแรงและแรง เกิดจากแรงหลาย

ลพั ธ์ที่เกดิ จากแรง แรงท่อี ยู่ในระนาบ

หลายแรงทก่ี ระทา เดยี วกันทก่ี ระทา

ตอ่ วัตถุในแนว ตอ่ วัตถุโดยการ

เดยี วกัน เขียนแผนภาพการ

๓. ออกแบบการ รวมแบบเวกเตอร์

ทดลองและทดลอง ๓. สังเกต วิเคราะห์

ดว้ ยวธิ ที ีเ่ หมาะสม และอธิบาย

ในการอธิบาย ความสัมพันธ์

ปจั จยั ที่มีผลต่อ ระหว่างความเร่ง

ความดันของ ของวัตถกุ บั แรง

ของเหลว ลพั ธ์ทกี่ ระทาต่อ

๔. วเิ คราะหแ์ รงพยงุ วตั ถแุ ละมวลของ

และการจม การ วัตถุ

ลอยของวตั ถใุ น ๔. สังเกตและ

ของเหลวจาก อธบิ ายแรงกิรยิ า

หลักฐานเชิง และแรงปฏกิ ริ ิยา

ประจกั ษ์ ระหว่างวตั ถคุ ู่

๕. เขยี นแผนภาพ หนึง่ ๆ

แสดงแรงทก่ี ระทา ๕. สังเกตและ

ต่อวัตถใุ น อธบิ ายผลของ

ของเหลว ความเรง่ ที่มตี อ่

๖. อธิบายแรงเสียด การเคลื่อนที่แบบ

ทานสถติ และแรง ตา่ ง ๆ ของวตั ถุ

เสียดทานจลนจ์ าก ได้แก่ การ

หลกั ฐานเชงิ เคลื่อนทแ่ี นวตรง

ประจักษ์ การเคลอ่ื นท่แี บบ

โพรเจกไทล์ การ

มาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตัวช้ีวดั ฯ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๖๒

สาระที่ ๒ วทิ ยาศาสตร์กายภาพ

มาตรฐาน ว ๒.๒ เขา้ ใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจาวัน ผลของแรงที่กระทาต่อวตั ถุ ลกั ษณะการเคลอ่ื นที่แบบ

ตา่ ง ๆ ของวัตถุ รวมทัง้ นาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์

ตัวชี้วดั ชั้นปี

ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖

๗. ออกแบบการ เคลื่อนทีแ่ บบ

ทดลองและ วงกลม และการ

ทดลองด้วยวิธีที่ เคลือ่ นทแ่ี บบสน่ั

เหมาะสมในการ ๖. สบื คน้ ข้อมลู และ

อธิบายปัจจยั ท่มี ี อธิบายแรงโน้ม

ผลต่อขนาดของ ถว่ งท่เี กย่ี วกบั

แรงเสยี ดทาน การเคลอ่ื นท่ีของ

๘. เขยี นแผนภาพ วัตถุต่างๆ รอบ
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
แสดงแรงเสียด โลก

ทานและแรงอนื่ ๆ ๗. สงั เกตและ

ทก่ี ระทาตอ่ วตั ถุ อธบิ ายการเกดิ

๙. ตระหนักถงึ สนามแมเ่ หลก็

ประโยชนข์ อง เนอื่ งจาก

ความรเู้ รอื่ งแรง กระแสไฟฟา้

เสียดทานโดย ๘. สงั เกตและ

วิเคราะห์ อธบิ ายแรง

สถานการณ์ปญั หา แม่เหล็กที่กระทา

และเสนอแนะ ต่ออนุภาคที่มี

วธิ ีการลดหรือเพิ่ม ประจไุ ฟฟา้ ที่

แรงเสียดทานที่ เคลื่อนทใี่ นสนาม

เปน็ ประโยชน์ตอ่ แมเ่ หลก็ และแรง

การทากิจกรรมใน แมเ่ หล็กท่กี ระทา

ชีวติ ประจาวัน ต่อลวดตวั นาทม่ี ี

๑๐. ออกแบบการ กระแสไฟฟ้าผ่าน

ทดลองและทดลอง ในสนามแมเ่ หล็ก

ดว้ ยวิธีที่เหมาะสม รวมทั้งอธบิ าย

ในการอธบิ าย หลักการทางาน

โมเมนตข์ องแรง ของมอเตอร์

เมอ่ื วัตถุอยใู่ น ๙. สงั เกตและ

สภาพสมดลุ ต่อ อธบิ ายการเกดิ

การหมนุ และ อเี อ็มเอฟ รวมท้งั

คานวณโดยใช้ ยกตัวอยา่ งการ

สมการ M = Fl นาความรไู้ ปใช้

๑๑. เปรียบเทียบ ประโยชน์

แหล่งของ ๑๐. สบื ค้นข้อมลู

สนามแมเ่ หลก็ และอธิบายแรง

สนามไฟฟา้ และ เขม้ และแรงออ่ น

สนามโนม้ ถว่ ง

มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชวี้ ดั ฯ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ๖๓

สาระท่ี ๒ วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ

มาตรฐาน ว ๒.๒ เข้าใจธรรมชาตขิ องแรงในชีวติ ประจาวัน ผลของแรงทก่ี ระทาตอ่ วตั ถุ ลกั ษณะการเคลือ่ นทแ่ี บบ

ตา่ ง ๆ ของวตั ถุ รวมท้ังนาความรูไ้ ปใช้ประโยชน์

ตวั ชว้ี ัดช้นั ปี

ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖

และทิศทางของ

แรงท่ีกระทาตอ่

วัตถทุ ่ีอยูใ่ นแตล่ ะ

สนามจากขอ้ มลู ที่

รวบรวมได้

๑๒. เขยี นแผนภาพ

แสดงแรงแม่เหล็ก

แรงไฟฟ้าและแรง
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
โนม้ ถว่ งทก่ี ระทา

ต่อวัตถุ

๑๓. วิเคราะห์

ความสมั พันธ์

ระหว่างขนาดของ

แรงแม่เหลก็ แรง

ไฟฟา้ และแรงโนม้

ถว่ งทีก่ ระทาตอ่

วตั ถทุ ่อี ยใู่ นสนาม

นัน้ ๆ กบั

ระยะห่างจาก

แหลง่ ของสนามถงึ

วัตถจุ ากข้อมลู ท่ี

รวบรวมได้

๑๔. อธิบายและ

คานวณอัตราเร็ว

และความเรว็ ของ

การเคลือ่ นท่ขี อง

วัตถโุ ดยใช้สมการ

v s และ
v  t
s

t

จากหลกั ฐานเชิง

ประจกั ษ์

๑๕. เขยี นแผนภาพ

แสดงการกระจดั

และความเร็ว

มาตรฐานการเรยี นร้แู ละตวั ชวี้ ดั ฯ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ๖๔

สาระท่ี ๒ วทิ ยาศาสตร์กายภาพ

มาตรฐาน ว ๒.๓ เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลยี่ นแปลงและการถา่ ยโอนพลงั งาน ปฏสิ ัมพนั ธ์ระหวา่ งสสาร

และพลงั งาน พลงั งานในชีวติ ประจาวัน ธรรมชาติของคลน่ื ปรากฏการณท์ เ่ี กีย่ วข้องกับเสียง แสง

และคลน่ื แม่เหลก็ ไฟฟา้ รวมท้ังนาความรู้ไปใช้ประโยชน์

ตัวชวี้ ัดชน้ั ปี

ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖

๑. บรรยายการเกิด ๑. บรรยายแนวการ ๑. ยกตวั อยา่ งการ ๑. จาแนกวตั ถุเปน็ ๑. อธบิ ายการได้ยิน ๑. ระบสุ ่วนประกอบ

เสยี งและทศิ เคลื่อนท่ีของแสง เปลีย่ นพลังงาน ตวั กลางโปร่งใส เสียงผ่านตวั กลาง และบรรยายหนา้ ท่ี

ทางการเคลื่อนที่ จากแหล่งกาเนดิ หน่ึงไปเปน็ อกี ตวั กลางโปรง่ แสง จากหลักฐานเชงิ ของแต่ละ

ของเสียงจาก แสง และอธิบาย พลงั งานหน่งึ จาก และวัตถุทึบแสง ประจักษ์ ส่วนประกอบของ

หลักฐานเชงิ การมองเห็นวตั ถุ หลกั ฐานเชงิ จากลักษณะการ ๒. ระบตุ วั แปร วงจรไฟฟ้าอย่าง

ประจกั ษ์ จากหลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ มองเหน็ สง่ิ ตา่ ง ๆ ทดลองและ งา่ ยจากหลักฐาน

ประจกั ษ์ ๒. บรรยายการ ผ่านวัตถนุ ้ันเป็น อธบิ ายลกั ษณะ เชงิ ประจักษ์
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
๒. ตระหนกั ในคุณคา่ ทางานของเครอื่ ง เกณฑ์โดยใช้ และการเกดิ ๒. เขียนแผนภาพ

ของความรู้ของ กาเนดิ ไฟฟ้าและ หลกั ฐานเชิง เสียงสูง เสยี งตา่ และต่อวงจรไฟฟา้

การมองเหน็ โดย ระบแุ หล่ง ประจกั ษ์ ๓. ออกแบบการ อยา่ งง่าย

เสนอแนะแนว พลังงานในการ ทดลองและ ๓. ออกแบบการ

ทางการป้องกนั ผลิตไฟฟา้ จาก อธิบายลักษณะ ทดลองและทดลอง

อนั ตรายจากการ ข้อมลู ทร่ี วบรวม และการเกดิ ดว้ ยวธิ ีทเี่ หมาะสม

มองวตั ถทุ ี่อยใู่ น ได้ เสียงดัง เสยี งค่อย ในการอธิบาย

บริเวณทมี่ ีแสง ๓. ตระหนักใน ๔. วัดระดับเสียง วิธีการและผลของ

สวา่ งไม่เหมาะสม ประโยชนแ์ ละ โดยใช้เครอ่ื งมือ การต่อเซลลไ์ ฟฟา้

โทษของไฟฟ้า วดั ระดบั เสยี ง แบบอนกุ รม

โดยนาเสนอ ๕. ตระหนกั ใน ๔. ตระหนกั ถงึ

วธิ ีการใช้ไฟฟ้า คณุ คา่ ของความรู้ ประโยชน์ของ

อยา่ งประหยดั เร่อื งระดบั เสยี ง ความรู้ของการต่อ

และปลอดภัย โดยเสนอแนะ เซลลไ์ ฟฟ้าแบบ

แนวทางในการ อนกุ รมโดยบอก

หลกี เลยี่ งและลด ประโยชน์และการ

มลพิษทางเสยี ง ประยกุ ต์ใช้ใน

ชวี ติ ประจาวนั

๕. ออกแบบการ

ทดลองและ

ทดลองดว้ ยวธิ ที ี่

เหมาะสมในการ

อธบิ ายการตอ่

หลอดไฟฟ้าแบบ

อนกุ รมและแบบ

ขนาน

๖. ตระหนักถึง

ประโยชนข์ อง

ความรู้ของการ

ตอ่ หลอดไฟฟา้

มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวช้วี ดั ฯ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ๖๕

สาระท่ี ๒ วทิ ยาศาสตร์กายภาพ
มาตรฐาน ว ๒.๓ เขา้ ใจความหมายของพลังงาน การเปล่ยี นแปลงและการถ่ายโอนพลงั งาน ปฏสิ มั พันธร์ ะหวา่ งสสาร

และพลังงาน พลังงานในชวี ิตประจาวัน ธรรมชาติของคลนื่ ปรากฏการณ์ทเ่ี กี่ยวข้องกบั เสียง แสง
และคลื่นแม่เหลก็ ไฟฟ้า รวมท้ังนาความรู้ไปใช้ประโยชน์

ตัวชว้ี ดั ช้ันปี

ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖

แบบอนกุ รมและ
แบบขนาน โดย
บอกประโยชน์
ขอ้ จากดั และ
การประยุกตใ์ ช้
ในชีวติ ประจาวัน
๗. อธบิ ายการเกดิ
เงามืดเงามัวจาก
หลักฐานเชิง
ประจกั ษ์
๘. เขียนแผนภาพ
รังสีของแสง
แสดงการเกดิ
เงามดื เงามวั
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ

มาตรฐานการเรียนร้แู ละตัวชวี้ ดั ฯ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๖๖

สาระที่ ๒ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ

มาตรฐาน ว ๒.๓ เขา้ ใจความหมายของพลังงาน การเปลยี่ นแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสมั พนั ธ์ระหวา่ งสสาร

และพลังงาน พลังงานในชีวติ ประจาวนั ธรรมชาตขิ องคลื่น ปรากฏการณท์ ่ีเก่ยี วขอ้ งกับเสยี ง แสง

และคล่ืนแมเ่ หล็กไฟฟ้า รวมทง้ั นาความรูไ้ ปใช้ประโยชน์

ตัวชีว้ ัดชั้นปี

ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖

๑. วเิ คราะห์ แปล ๑. วเิ คราะห์ ๑. วิเคราะห์ความ - ไม่เน้นวทิ ยาศาสตร์ -

ความหมาย สถานการณแ์ ละ สมั พนั ธร์ ะหวา่ ง ๑. สืบค้นข้อมลู และ

ขอ้ มลู และ คานวณเกย่ี วกับ ความตา่ งศักย์ อธบิ ายพลังงาน

คานวณปรมิ าณ งานและกาลังที่ กระแสไฟฟ้า และ นิวเคลยี ร์ ฟชิ ชนั

ความร้อนที่ทาให้ เกดิ จากแรงที่ ความต้านทาน และฟวิ ชันและ

สสารเปลีย่ น กระทาต่อวัตถุ และคานวณ ความสมั พนั ธ์

อณุ หภมู ิและ โดยใช้สมการ ปรมิ าณทีเ่ กีย่ วข้อง ระหวา่ งมวลกบั
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
เปลย่ี นสถานะ W  Fs และ โดยใชส้ มการ พลังงานที่

โดยใชส้ มการ P  W จากข้อมลู = จาก ปลดปล่อยออกมา
Q  mct และ t หลกั ฐานเชงิ จากฟชิ ชนั และฟวิ
ประจกั ษ์ ชัน
Q  mL ท่ีรวบรวมได้ ๒. เขียนกราฟความ ๒. สืบค้นขอ้ มลู และ
สมั พนั ธ์ระหว่าง อธิบายการเปลย่ี น
๒. ใช้เทอรม์ อ ๒. วเิ คราะห์ กระแสไฟฟ้าและ พลังงานทดแทน
มิเตอรใ์ นการวัด ความตา่ งศักย์ เปน็ พลงั งานไฟฟา้
อณุ หภมู ขิ อง หลักการทางาน ไฟฟา้ รวมท้ังสืบคน้ และ
สสาร ๓. ใชโ้ วลตม์ เิ ตอร์ อภปิ รายเกยี่ วกับ
ของเครื่องกล แอมมเิ ตอร์ ในการ เทคโนโลยี ท่ีนามา
๓. สรา้ งแบบจาลอง วดั ปรมิ าณทาง แกป้ ัญหาหรอื
ท่ีอธบิ ายการ อย่างงา่ ยจาก ไฟฟ้า ตอบสนองความ
ขยายตวั หรอื หด ๔. วเิ คราะห์ความ ตอ้ งการทางดา้ น
ตัวของสสาร ขอ้ มูลทร่ี วบรวม ต่างศักยไ์ ฟฟ้า พลังงาน โดยเน้น
เนื่องจากไดร้ บั และกระแสไฟฟา้ ดา้ นประสทิ ธภิ าพ
หรือสูญเสยี ความ ได้ ในวงจรไฟฟ้าเมื่อ และความคุ้มค่า
ร้อน ต่อตัวต้านทาน ด้านคา่ ใช้จา่ ย
๓. ตระหนกั ถงึ หลายตวั แบบ ๓. สังเกตและ
๔. ตระหนักถงึ อนกุ รมและแบบ อธบิ ายการ
ประโยชนข์ อง ประโยชนข์ อง ขนานจาก สะทอ้ น การหักเห
ความรู้ของการหด หลักฐานเชงิ การเลย้ี วเบน
และขยายตัวของ ความรู้ของ ประจักษ์ และการรวมคลื่น
สสารเนอ่ื งจาก ๕. เขยี นแผนภาพ ๔. สังเกตและอธบิ าย
ความรอ้ นโดย เคร่ืองกลอย่างง่าย วงจรไฟฟ้าแสดง ความถีธ่ รรมชาติ
วิเคราะห์ การต่อตวั การสั่นพอ้ ง และ
สถานการณ์ปญั หา โดยบอกประโยชน์ ตา้ นทานแบบ ผลที่เกดิ ขน้ึ จาก
และเสนอแนะ อนกุ รมและ การสัน่ พ้อง
วธิ ีการนาความรู้ และการ ขนาน ๕. สงั เกตและ
มาแก้ปัญหาใน อธิบายการ
ชีวติ ประจาวัน ประยุกต์ใชใ้ น

๕. วเิ คราะห์ ชวี ิตประจาวนั
สถานการณ์การ
ถา่ ยโอนความร้อน ๔. ออกแบบและ

ทดลองดว้ ยวธิ ที ่ี

เหมาะสมในการ

อธบิ ายปจั จัยที่มี

ผลต่อพลังงาน

จลนแ์ ละพลังงาน

ศกั ยโ์ นม้ ถ่วง

๕. แปลความหมาย

ขอ้ มูลและอธบิ าย

การเปลย่ี น

พลงั งานระหว่าง

พลงั งานศักย์

มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชว้ี ดั ฯ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๖๗

สาระท่ี ๒ วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ

มาตรฐาน ว ๒.๓ เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถา่ ยโอนพลงั งาน ปฏิสมั พันธ์ระหว่างสสาร

และพลงั งาน พลังงานในชวี ติ ประจาวัน ธรรมชาตขิ องคลืน่ ปรากฏการณท์ เี่ กีย่ วขอ้ งกับเสียง แสง

และคลืน่ แมเ่ หล็กไฟฟ้า รวมทงั้ นาความรู้ไปใช้ประโยชน์

ตวั ชี้วดั ชนั้ ปี

ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖

และคานวณ โนม้ ถ่วงและ ๖. บรรยายการ สะทอ้ น การหักเห

ปรมิ าณความร้อน พลงั งานจลนข์ อง ทางานของชน้ิ สว่ น การเลย้ี วเบน

ที่ถ่ายโอนระหว่าง วัตถุโดยพลงั งาน อิเล็กทรอนิกส์ และการรวมคลนื่

สสารจนเกดิ สมดุล กลของวัตถมุ ีค่า อย่างง่ายในวงจร ของคลน่ื เสยี ง

ความร้อนโดยใช้ คงตวั จากขอ้ มลู ที่ จากขอ้ มูลที่ ๖. สบื ค้นขอ้ มลู และ

สมการ รวบรวมได้ รวบรวมได้ อธิบาย

Qสญู เสีย = Q ไดร้ ับ ๖. วเิ คราะห์ ๗. เขยี นแผนภาพ ความสมั พนั ธ์
ระหว่างความเข้ม
๖. สรา้ งแบบจาลอง สถานการณแ์ ละ และต่อชิ้นสว่ นอ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ

ที่อธิบายการถา่ ย อธิบายการเปลีย่ น อเิ ล็กทรอนิกส์ เสยี งกบั ระดบั เสยี ง

โอนความรอ้ นโดย และการถ่ายโอน อย่างง่ายใน และผลของความถ่ี

การนาความร้อน พลังงานโดยใชก้ ฎ วงจรไฟฟ้า กบั ระดับเสียงที่มี

การพาความร้อน การอนรุ กั ษ์ ๘. อธิบายและ ต่อการได้ยนิ เสียง

การแผร่ ังสีความ พลงั งาน คานวณพลงั งาน ๗. สงั เกตและ

รอ้ น ไฟฟา้ โดยใชส้ มการ อธบิ ายการเกดิ

๗. ออกแบบ = Pt เสียงสะท้อนกลบั
เลือกใชแ้ ละสรา้ ง บตี ดอปเพลอร์
อุปกรณ์เพื่อ รวมทงั้ คานวณ และการสน่ั พ้อง
แก้ปญั หาใน ค่าไฟฟา้ ของ ของเสยี ง
ชวี ติ ประจาวัน เครื่องใชไ้ ฟฟ้าใน ๘. สืบค้นขอ้ มลู และ
โดยใชค้ วามรู้ บ้าน ยกตวั อย่างการนา
เกยี่ วกับการถา่ ย ๙. ตระหนักในคณุ ค่า ความรู้เกี่ยวกบั
โอนความรอ้ น ของการเลือกใช้ เสยี งไปใช้
เคร่อื งใช้ไฟฟ้าโดย ประโยชนใ์ นชีวิต
นาเสนอวธิ กี ารใช้ ประจาวัน
เครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ ๙. สงั เกตและ
อย่างประหยดั และ อธิบายการ
ปลอดภัย มองเหน็ สขี อง
๑๐. สร้าง วัตถแุ ละความ
แบบจาลองที่ ผดิ ปกตใิ นการ
อธิบายการเกิด มองเห็นสี
คลื่นและบรรยาย ๑๐. สังเกตและ
ส่วนประกอบของ อธบิ ายการ
คล่ืน ทางานของแผ่น
๑๑. อธิบายคลืน่ กรองแสงสี การ
แม่เหล็กไฟฟา้ ผสมแสงสี การ
และสเปกตรัม ผสมสารสแี ละ
คล่ืนแม่เหล็ก การนาไปใช้

มาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตวั ชีว้ ดั ฯ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ๖๘

สาระท่ี ๒ วทิ ยาศาสตร์กายภาพ

มาตรฐาน ว ๒.๓ เข้าใจความหมายของพลงั งาน การเปล่ียนแปลงและการถ่ายโอนพลงั งาน ปฏสิ มั พนั ธร์ ะหวา่ งสสาร

และพลังงาน พลังงานในชีวิตประจาวนั ธรรมชาตขิ องคลื่น ปรากฏการณ์ทีเ่ ก่ียวข้องกับเสยี ง แสง

และคลน่ื แม่เหล็กไฟฟ้า รวมทง้ั นาความรู้ไปใช้ประโยชน์

ตวั ชีว้ ดั ชั้นปี

ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖

ไฟฟ้าจากข้อมูลที่ ประโยชนใ์ นชวี ติ

รวบรวมได้ ประจาวนั

๑๒. ตระหนักถงึ ๑๑. สบื ค้นข้อมลู

ประโยชนแ์ ละ และอธิบายคล่นื

อันตรายจากคลืน่ แม่เหลก็ ไฟฟ้า

แม่เหล็กไฟฟ้าโดย ส่วนประกอบคลน่ื

นาเสนอการใช้ แม่เหลก็ ไฟฟา้
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
ประโยชนใ์ นด้าน และหลักการ

ตา่ งๆ และ ทางานของ

อนั ตรายจากคล่นื อุปกรณบ์ างชนดิ ท่ี

แมเ่ หลก็ ไฟฟ้าใน อาศัยคลื่น

ชีวติ ประจาวนั แมเ่ หลก็ ไฟฟา้

๑๓. ออกแบบการ ๑๒. สบื คน้ ข้อมลู

ทดลอง และ และอธบิ ายการ

ดาเนนิ การทดลอง สื่อสารโดยอาศยั

ด้วยวธิ ีทีเ่ หมาะสม คลนื่ แม่เหล็ก

ในการอธบิ ายกฎ ไฟฟ้าในการ

การสะท้อนของ สง่ ผ่านสารสนเทศ

แสง และเปรียบเทียบ

๑๔. เขียนแผนภาพ การส่อื สารด้วย

การเคลอื่ นที่ของ สญั ญาณ

แสงแสดงการเกดิ แอนะลอ็ กกบั

ภาพจากกระจกเงา สัญญาณดิจทิ ัล

๑๕. อธิบายการ

หักเหของแสงเมือ่

ผา่ นตวั กลาง

โปร่งใสทแ่ี ตกตา่ ง

กนั และอธบิ าย

การกระจายแสง

ของแสงขาวเม่อื

ผ่านปรซิ มึ จาก

หลักฐานเชงิ

ประจกั ษ์

๑๖. เขยี นแผนภาพ

การเคลื่อนที่ของ

แสงแสดงการเกิด

มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวชวี้ ัด ฯ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๖๙

สาระที่ ๒ วิทยาศาสตรก์ ายภาพอ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ

มาตรฐาน ว ๒.๓ เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลยี่ นแปลงและการถา่ ยโอนพลังงาน ปฏสิ มั พนั ธ์ระหวา่ งสสาร

และพลังงาน พลงั งานในชวี ิตประจาวัน ธรรมชาตขิ องคลื่น ปรากฏการณท์ ี่เกยี่ วข้องกบั เสยี ง แสง
และคลืน่ แมเ่ หล็กไฟฟา้ รวมท้ังนาความรไู้ ปใช้ประโยชน์

ตัวช้วี ัดชนั้ ปี

ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖

ภาพจากเลนส์
บาง
๑๗. อธิบาย
ปรากฏการณ์ที่
เกยี่ วกับแสงและ
การทางานของ
ทศั นอุปกรณจ์ าก
ข้อมลู ทร่ี วบรวม
ได้
๑๘. เขียนแผนภาพ
การเคล่ือนท่ีของ
แสงแสดงการเกิด
ภาพของทัศน-
อปุ กรณ์และ
เลนสต์ า
๑๙. อธิบายผลของ
ความสว่างทีม่ ตี ่อ
ดวงตาจากขอ้ มูล
ทไี่ ดจ้ ากการ
สบื คน้
๒๐. วัดความสวา่ ง
ของแสงโดยใช้
อุปกรณว์ ัดความ
สวา่ งของแสง
๒๑. ตระหนกั ใน
คุณคา่ ของความรู้
เร่ืองความสวา่ ง
ของแสง ทม่ี ีต่อ
ดวงตาโดย
วิเคราะห์
สถานการณ์ปัญหา
และเสนอแนะการ
จดั ความสว่างให้
เหมาะสมในการ
ทากิจกรรมต่าง ๆ

มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชวี้ ัด ฯ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๗๐

สาระท่ี ๓ วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ

มาตรฐาน ว ๓.๑ เข้าใจองคป์ ระกอบ ลักษณะ กระบวนการเกดิ และวิวฒั นาการของเอกภพ กาแลก็ ซี ดาวฤกษ์ และ

ระบบสุรยิ ะ รวมทั้งปฏิสมั พันธ์ภายในระบบสรุ ยิ ะทสี่ ่งผลตอ่ สง่ิ มชี วี ติ และการประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยี

อวกาศ

ตวั ช้วี ดั ชน้ั ปี

ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖

๑.ระบดุ าวทป่ี รากฏ - ๑. อธิบายแบบรูป ๑. อธบิ ายแบบรปู ๑. เปรยี บเทียบ ๑. สร้างแบบจาลอง

บนทอ้ งฟ้าในเวลา เส้นทางการขน้ึ เส้นทางการข้ึน ความแตกต่าง ทีอ่ ธิบายการเกิด

กลางวนั และตกของ และตกของ ของดาวเคราะห์ และเปรียบเทยี บ

และกลางคนื จาก ดวงอาทติ ยโ์ ดย ดวงจันทร์ โดยใช้ และดาวฤกษ์ ปรากฏการณ์

ข้อมูลทร่ี วบรวม ใชห้ ลักฐานเชิง หลักฐานเชงิ จากแบบจาลอง สุรยิ ุปราคาและ

ได้ ประจักษ์ ประจักษ์ ๒. ใช้แผนท่ีดาว จันทรุปราคา

๒. อธิบายสาเหตุที่ ๒. อธิบายสาเหตุ ๒. สรา้ ง ระบตุ าแหน่ง ๒. อธิบาย
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
มองไมเ่ ห็นดาว การเกิด แบบจาลองท่ี และเสน้ ทาง พัฒนาการ

สว่ นใหญ่ในเวลา ปรากฏการณ์ อธิบายแบบรูป การขึ้นและตก ของเทคโนโลยี

กลางวันจาก การขน้ึ และตก การเปลย่ี นแปลง ของกลมุ่ ดาว อวกาศ และ

หลักฐานเชงิ ของดวงอาทิตย์ รปู รา่ งปรากฏ ฤกษบ์ นทอ้ งฟา้ ยกตัวอย่างการ

ประจักษ์ การเกดิ กลางวนั ของดวงจนั ทร์ และอธบิ าย นาเทคโนโลยี

กลางคนื และการ และพยากรณ์ แบบรปู เสน้ ทาง อวกาศมาใช้

กาหนดทศิ โดยใช้ รปู รา่ งปรากฏ การขึ้นและตก ประโยชนใ์ น

แบบจาลอง ของดวงจันทร์ ของกลุม่ ดาว ชวี ติ ประจาวนั

๓. ตระหนักถึง ๓. สรา้ งแบบจาลอง ฤกษบ์ นท้องฟา้ จากข้อมลู ท่ี

ความสาคญั ของ แสดงองค์ประกอบ ในรอบปี รวบรวมได้

ดวงอาทติ ย์ โดย ของระบบสุรยิ ะ

บรรยาย และอธบิ าย

ประโยชน์ของดวง เปรียบเทยี บคาบ

อาทิตย์ตอ่ การโคจรของ

สิง่ มชี ีวิต ดาวเคราะหต์ า่ ง ๆ

จากแบบจาลอง

มาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตัวชว้ี ัด ฯ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ๗๑

สาระท่ี ๓ วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ

มาตรฐาน ว ๓.๑ เข้าใจองคป์ ระกอบ ลกั ษณะ กระบวนการเกิด และวิวฒั นาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และ

ระบบสรุ ิยะ รวมทง้ั ปฏิสมั พันธภ์ ายในระบบสุริยะทสี่ ง่ ผลตอ่ ส่งิ มีชีวิตและการประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยี

อวกาศ

ตวั ชวี้ ดั ชนั้ ปี

ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖

- - ๑. อธิบายการโคจร - - ๑. อธบิ ายการกาเนดิ

ของดาวเคราะห์ และการ

รอบดวงอาทิตย์ เปลย่ี นแปลง

ด้วยแรงโนม้ ถว่ ง พลังงาน สสาร

จากสมการ ขนาด อณุ หภมู ิ

F=(Gm1m2) / r2 ของเอกภพหลัง
๒. สรา้ งแบบจาลอง เกดิ บกิ แบงใน
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
ท่ีอธบิ ายการเกดิ ชว่ งเวลาต่าง ๆ

ฤดแู ละการ ตามวิวัฒนาการ

เคลอ่ื นทป่ี รากฏ ของเอกภพ

ของดวงอาทิตย์ ๒. อธิบายหลกั ฐาน

๓. สรา้ งแบบจาลอง ท่ีสนบั สนนุ

ที่อธบิ ายการเกิด ทฤษฎีบกิ แบง

ข้างขึน้ ข้างแรม จากความ

การเปลยี่ นแปลง สัมพันธร์ ะหวา่ ง

เวลาการขน้ึ และ ความเร็วกับ

ตกของดวงจันทร์ ระยะทางของ

และการเกดิ น้าขน้ึ กาแล็กซี รวมท้ัง

นา้ ลง ขอ้ มูลการค้นพบ

๔. อธบิ ายการใช้ ไมโครเวฟพ้นื

ประโยชน์ของ หลังจากอวกาศ

เทคโนโลยีอวกาศ ๓. อธิบายโครงสร้าง

และยกตัวอยา่ ง และองคป์ ระกอบ

ความก้าวหน้า ของกาแล็กซที าง

ของโครงการ ชา้ งเผอื ก และระบุ

สารวจอวกาศ ตาแหน่งของระบบ

จากข้อมูลที่ สุรยิ ะพรอ้ มอธบิ าย

รวบรวมได้ เชอื่ มโยงกับการ

สงั เกตเหน็ ทาง

ช้างเผือกของคน

บนโลก

มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวชี้วดั ฯ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๗๒

สาระที่ ๓ วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศอ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
มาตรฐาน ว ๓.๑ เข้าใจองค์ประกอบ ลกั ษณะ กระบวนการเกดิ และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และ

ระบบสุริยะ รวมทัง้ ปฏสิ มั พันธ์ภายในระบบสรุ ิยะที่สง่ ผลต่อสงิ่ มชี วี ิตและการประยกุ ตใ์ ช้เทคโนโลยี
อวกาศ

ตัวชว้ี ัดช้ันปี

ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖
๔. อธบิ าย
กระบวนการเกิด
ดาวฤกษ์ โดย
แสดงการ
เปลย่ี นแปลง
ความดนั อณุ หภูมิ
ขนาด จากดาว
ฤกษ์กอ่ นเกดิ จน
เปน็ ดาวฤกษ์
๕. ระบุปจั จยั ท่ีส่งผล
ตอ่ ความสอ่ งสวา่ ง
ของดาวฤกษ์ และ
อธิบาย
ความสัมพนั ธ์
ระหว่างความสอ่ ง
สว่างกับโชติมาตร
ของดาวฤกษ์
๖. อธบิ าย
ความสมั พันธ์
ระหวา่ งสี
อุณหภมู ผิ วิ และ
สเปกตรัมของ
ดาวฤกษ์
๗. อธิบายลาดับ
วิวัฒนาการที่
สมั พันธ์กบั มวล
ต้งั ต้น และ
วเิ คราะห์การ
เปล่ยี นแปลง
สมบัตบิ าง
ประการของดาว
ฤกษ์

มาตรฐานการเรยี นร้แู ละตวั ชว้ี ดั ฯ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ๗๓

สาระที่ ๓ วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศอ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
มาตรฐาน ว ๓.๑ เข้าใจองคป์ ระกอบ ลักษณะ กระบวนการเกดิ และววิ ฒั นาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และ

ระบบสุรยิ ะ รวมทง้ั ปฏิสัมพนั ธ์ภายในระบบสรุ ยิ ะที่สง่ ผลตอ่ สิง่ มีชวี ติ และการประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยี
อวกาศ

ตวั ชีว้ ัดชั้นปี

ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖
๘. อธิบาย
กระบวนการเกิด
ระบบสรุ ิยะ และ
การแบง่ เขต
บรวิ ารของดวง
อาทติ ย์ และ
ลกั ษณะของดาว
เคราะห์ทเ่ี อื้อตอ่
การดารงชวี ิต
๙. อธิบาย
โครงสรา้ งของ
ดวงอาทิตย์ การ
เกดิ ลมสรุ ยิ ะ
พายสุ รุ ยิ ะ และ
สืบคน้ ข้อมูล
วิเคราะห์
นาเสนอ
ปรากฏการณ์
หรือเหตุการณ์ท่ี
เกี่ยวข้องกับผล
ของลมสรุ ยิ ะ
และพายสุ ุริยะท่ี
มตี อ่ โลกรวมทั้ง
ประเทศไทย
๑๐. สบื คน้ ข้อมลู
อธบิ ายการ
สารวจอวกาศ
โดยใช้กลอ้ ง
โทรทรรศน์
ในช่วงความยาว
คลื่นต่าง ๆ
ดาวเทยี ม

มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวช้วี ัด ฯ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๗๔

สาระที่ ๓ วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ
มาตรฐาน ว ๓.๑ เขา้ ใจองคป์ ระกอบ ลกั ษณะ กระบวนการเกดิ และววิ ฒั นาการของเอกภพ กาแลก็ ซี ดาวฤกษ์ และ

ระบบสรุ ิยะ รวมทงั้ ปฏสิ มั พนั ธ์ภายในระบบสรุ ิยะทสี่ ง่ ผลตอ่ สิ่งมชี ีวิตและการประยกุ ต์ใชเ้ ทคโนโลยี
อวกาศ

ตัวช้วี ัดช้นั ปี

ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖
ยานอวกาศ

สถานีอวกาศ

และนาเสนอ

แนวคดิ การนา

ความรทู้ างดา้ น

เทคโนโลยีอวกาศ

มาประยกุ ตใ์ ช้ใน

ชวี ิตประจาวัน

หรือในอนาคต
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ

มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชว้ี ดั ฯ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๗๕

สาระท่ี ๓ วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ

มาตรฐาน ว ๓.๒ เขา้ ใจองค์ประกอบ และความสัมพันธข์ องระบบโลก กระบวนการเปลยี่ นแปลงภายในโลก

และบนผวิ โลก ธรณีพบิ ตั ิภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟา้ อากาศและภูมิอากาศโลก รวมทงั้

ผลตอ่ สิง่ มชี วี ิตและสง่ิ แวดล้อม

ตัวช้วี ดั ชัน้ ปี

ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖

๑. อธบิ ายลักษณะ ๑. ระบสุ ่วนประกอบ ๑. ระบสุ ว่ นประกอบ - ๑. เปรยี บเทยี บ ๑. เปรียบเทยี บ

ภายนอกของหนิ ของดิน และ ของอากาศ ปรมิ าณน้าใน กระบวนการเกิด

จากลักษณะ จาแนกชนดิ ของ บรรยาย แตล่ ะแหลง่ และ หนิ อัคนี หนิ

เฉพาะตัวท่ี ดินโดยใชล้ ักษณะ ความสาคญั ของ ระบปุ รมิ าณนา้ ที่ ตะกอน และหิน

สังเกตได้ เนือ้ ดินและการจบั อากาศ และ มนุษย์สามารถ แปร และอธิบาย

ตัวเปน็ เกณฑ์ ผลกระทบของ นามาใช้ วัฏจักรหนิ จาก

๒. อธบิ ายการใช้ มลพษิ ทางอากาศ ประโยชนไ์ ด้ แบบจาลอง
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
ประโยชนจ์ ากดิน ต่อส่งิ มชี ีวิต จาก จากขอ้ มูลที่ ๒. บรรยายและยก

จากข้อมูลที่ ข้อมูลที่รวบรวมได้ รวบรวมได้ ตวั อย่างการใช้

รวบรวมได้ ๒. ตระหนักถงึ ๒. ตระหนกั ถึง ประโยชนข์ องหนิ

ความสาคญั ของ คุณค่าของนา้ โดย และแร่ในชวี ิต

อากาศ โดย นาเสนอแนวทาง ประจาวันจาก

นาเสนอแนว การใช้นา้ อย่าง ข้อมูลทีร่ วบรวม

ทางการปฏิบตั ิ ประหยดั และการ ได้

ตนในการลดการ อนุรกั ษ์น้า ๓. สรา้ งแบบจาลอง

เกดิ มลพิษทาง ๓. สรา้ งแบบจาลอง ทอ่ี ธิบายการเกิด

อากาศ ทีอ่ ธิบายการ ซากดึกดาบรรพ์

๓. อธบิ ายการเกดิ หมุนเวียนของนา้ และคาดคะเน

ลมจากหลกั ฐาน ในวัฏจักรน้า สภาพแวดล้อมใน

เชิงประจกั ษ์ ๔. เปรยี บเทียบ อดตี ของซากดึก

๔. บรรยาย กระบวนการเกดิ ดาบรรพ์

ประโยชนแ์ ละ เมฆ หมอก ๔. เปรยี บเทียบการ

โทษของลมจาก นา้ คา้ ง และ เกดิ ลมบก ลม

ขอ้ มลู ที่รวบรวม น้าค้างแขง็ จาก ทะเล และมรสมุ

ได้ แบบจาลอง รวมทงั้ อธิบายผลที่

๕. เปรยี บเทยี บ มีตอ่ สงิ่ มีชีวิตและ

กระบวนการเกิด สงิ่ แวดล้อมจาก

ฝน หิมะ และ แบบจาลอง

ลูกเหบ็ จาก ๕. อธบิ ายผลของ

ขอ้ มลู ทีร่ วบรวม มรสมุ ต่อการเกิด

ได้ ฤดูของประเทศ

ไทย จากขอ้ มูลท่ี

รวบรวมได้

๖. บรรยายลกั ษณะ

และผลกระทบของ

นา้ ท่วม การกดั

เซาะชายฝ่ัง

มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวช้วี ดั ฯ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๗๖

สาระท่ี ๓ วิทยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ

มาตรฐาน ว ๓.๒ เข้าใจองค์ประกอบ และความสัมพันธข์ องระบบโลก กระบวนการเปล่ยี นแปลงภายในโลก

และบนผวิ โลก ธรณีพบิ ัติภยั กระบวนการเปล่ยี นแปลงลมฟ้าอากาศและภมู ิอากาศโลก รวมทง้ั
ผลต่อส่งิ มชี ีวติ และสงิ่ แวดลอ้ ม

ตัวช้วี ดั ชน้ั ปี

ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖

ดนิ ถล่ม
แผน่ ดนิ ไหว
สนึ ามิ
๗. ตระหนกั ถงึ
ผลกระทบของภัย
ธรรมชาติและธรณี
พบิ ัติภยั โดย
นาเสนอแนวทาง
ในการเฝ้าระวัง
และปฏบิ ตั ิตนให้
ปลอดภยั จากภัย
ธรรมชาตแิ ละธรณี
พิบัติภยั ทอี่ าจเกดิ
ในท้องถิ่น
๘. สรา้ งแบบจาลอง
ที่อธบิ ายการเกดิ
ปรากฏการณ์
เรอื นกระจกและ
ผลของ
ปรากฏการณ์
เรอื นกระจกตอ่
ส่ิงมีชวี ิต
๙. ตระหนกั ถึง
ผลกระทบของ
ปรากฏการณ์เรือน
กระจกโดย
นาเสนอแนวทาง
การปฏิบตั ติ นเพือ่
ลดกิจกรรมท่ี
ก่อให้เกิดแกส๊
เรอื นกระจก
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ

มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวช้ีวดั ฯ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ๗๗

สาระท่ี ๓ วิทยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ

มาตรฐาน ว ๓.๒ เข้าใจองค์ประกอบ และความสมั พันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลยี่ นแปลงภายในโลก

และบนผวิ โลก ธรณพี ิบัตภิ ยั กระบวนการเปล่ียนแปลงลมฟ้าอากาศและภมู ิอากาศโลก รวมทัง้

ผลต่อสิ่งมชี ีวติ และสิ่งแวดลอ้ ม

ตัวช้ีวัดชนั้ ปี

ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖

๑. สรา้ งแบบจาลอง ๑. เปรยี บเทียบ - - - ไมเ่ น้นวิทยาศาสตร์

ทอี่ ธบิ ายการแบง่ กระบวนการเกดิ ๑. อธบิ ายการแบง่

ชนั้ บรรยากาศและ สมบัติ และการ ช้ันและสมบัติ

เปรียบเทยี บ ใช้ประโยชน์ ของโครงสรา้ ง

ประโยชน์ของ รวมทัง้ อธิบาย โลก พรอ้ ม

บรรยากาศ ผลกระทบจาก ยกตวั อย่างข้อมลู

แตล่ ะชน้ั การใชเ้ ช้ือเพลิง ท่สี นับสนุน
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
๒. อธบิ ายปจั จัยทม่ี ี ซากดึกดาบรรพ์ ๒. อธบิ าย

ผลต่อการ จากข้อมลู ที่ หลกั ฐานทาง

เปล่ยี นแปลง รวบรวมได้ ธรณวี ิทยาที่

องคป์ ระกอบของ ๒. แสดงความ สนบั สนนุ การ

ลมฟ้าอากาศ ตระหนักถึงผลจาก เคล่อื นท่ีของแผ่น

จากขอ้ มูลท่ี การใชเ้ ชอื้ เพลิง ธรณี

รวบรวมได้ ซากดึกดาบรรพ์ ๓. ระบุสาเหตุ และ

๓. เปรยี บเทยี บ โดยนาเสนอ อธิบายรูปแบบ

กระบวนการเกดิ แนวทางการใช้ แนวรอยต่อของ

พายุฝนฟา้ คะนอง เชอ้ื เพลงิ ซากดึกดา แผน่ ธรณีที่

และพายหุ มุนเขต บรรพ์ สมั พนั ธ์กับการ

รอ้ น และผลทีม่ ตี ่อ ๓. เปรยี บเทยี บข้อดี เคล่อื นท่ขี องแผ่น

สิง่ มีชีวิตและ และข้อจากดั ของ ธรณี พรอ้ ม

ส่ิงแวดล้อม พลังงานทดแทน ยกตวั อยา่ ง

รวมท้ังนาเสนอ แตล่ ะประเภทจาก หลกั ฐานทาง

แนวทางการปฏบิ ัติ การรวบรวมขอ้ มูล ธรณวี ิทยาที่พบ

ตนใหเ้ หมาะสม และนาเสนอ ๔. อธบิ ายสาเหตุ

และปลอดภัย แนวทางการใช้ กระบวนการเกดิ

๔. อธิบายการ พลงั งานทดแทนที่ ภูเขาไฟระเบดิ

พยากรณอ์ ากาศ เหมาะสมใน รวมทั้งสบื ค้น

และพยากรณ์ ท้องถน่ิ ข้อมลู พ้นื ทเ่ี สยี่ ง

อากาศอยา่ งงา่ ย ๔. สรา้ งแบบจาลอง ภัย ออกแบบ

จากข้อมูลที่ ท่อี ธบิ ายโครงสรา้ ง และนาเสนอ

รวบรวมได้ ภายในโลก ตาม แนวทางการเฝา้

๕. ตระหนักถึง องค์ประกอบ ระวังและการ

คณุ คา่ ของการ ทางเคมี จาก ปฏิบตั ิตนให้

พยากรณ์อากาศ ขอ้ มูลทีร่ วบรวม ปลอดภยั

โดยนาเสนอแนว ได้ ๕. อธิบายสาเหตุ

ทางการปฏิบัติ ๕. อธิบาย กระบวนการเกิด

ตนและการใช้ กระบวนการผุพัง ขนาดและความ

มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ช้วี ดั ฯ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๗๘

สาระท่ี ๓ วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ

มาตรฐาน ว ๓.๒ เข้าใจองคป์ ระกอบ และความสมั พนั ธข์ องระบบโลก กระบวนการเปล่ยี นแปลงภายในโลก

และบนผิวโลก ธรณพี ิบตั ิภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟา้ อากาศและภูมิอากาศโลก รวมท้งั

ผลต่อสงิ่ มีชวี ติ และส่งิ แวดล้อม

ตวั ชี้วดั ช้ันปี

ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖

ประโยชน์จากคา อยู่กบั ที่ รุนแรง และผล

พยากรณอ์ ากาศ การกร่อน และการ จากแผน่ ดินไหว

๖. อธิบาย สะสมตัวของ รวมท้งั สืบค้น

สถานการณแ์ ละ ตะกอนจาก ขอ้ มลู พน้ื ที่เส่ยี ง

ผลกระทบการ แบบจาลอง ภยั ออกแบบ

เปลีย่ นแปลง รวมทัง้ ยกตวั อย่าง และนาเสนอแนว

ภูมิอากาศโลก ผลของ ทางการเฝ้าระวัง
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
จากข้อมลู ท่ี กระบวนการ และการปฏิบตั ิ

รวบรวมได้ ดงั กล่าวที่ทาให้ ตนให้ปลอดภยั

๗. ตระหนักถงึ ผิวโลกเกดิ การ ๖. อธบิ ายสาเหตุ

ผลกระทบของ เปล่ียนแปลง กระบวนการเกดิ

การเปลย่ี นแปลง ๖. อธิบายลักษณะ และผลจากสึนามิ

ภูมอิ ากาศโลก ของชน้ั หน้าตัด รวมทั้งสบื คน้

โดยนาเสนอแนว ดินและ ข้อมลู พน้ื ทีเ่ ส่ยี ง

ทางการปฏบิ ตั ิ กระบวนการเกดิ ภัย ออกแบบ

ตนภายใต้การ ดนิ จาก และนาเสนอ

เปลีย่ นแปลง แบบจาลอง แนวทาง การเฝา้

ภูมิอากาศโลก รวมท้ังระบุปจั จยั ระวังและการ

ทีท่ าให้ดินมี ปฏบิ ัตติ นให้

ลกั ษณะและ ปลอดภัย

สมบตั แิ ตกต่าง ๗. อธบิ ายปจั จัย

กัน สาคญั ทีม่ ผี ลตอ่

๗. ตรวจวดั สมบตั ิ การไดร้ บั

บางประการของ พลงั งานจากดวง

ดนิ โดยใช้ อาทิตยแ์ ตกตา่ ง

เครอื่ งมอื ท่ี กันในแต่ละ

เหมาะสมและ บริเวณของโลก

นาเสนอแนวทาง ๘. อธิบายการ

การใชป้ ระโยชน์ หมนุ เวียนของ

ดินจากขอ้ มลู อากาศทเ่ี ปน็ ผล

สมบตั ิของดนิ มาจากความ

๘. อธิบายปจั จยั แตกต่างของ

และกระบวนการ ความกดอากาศ

เกดิ แหลง่ นา้ ผิว ๙. อธิบายทิศทาง

ดนิ และแหล่งนา้ การเคลื่อนท่ขี อง

ใต้ดิน จาก อากาศทเี่ ป็นผล

แบบจาลอง มาจากการ

มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ช้ีวดั ฯ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๗๙

สาระท่ี ๓ วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ

มาตรฐาน ว ๓.๒ เข้าใจองคป์ ระกอบ และความสมั พนั ธ์ของระบบโลก กระบวนการเปล่ยี นแปลงภายในโลก

และบนผิวโลก ธรณีพบิ ตั ภิ ยั กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศและภมู ิอากาศโลก รวมทั้ง

ผลตอ่ สง่ิ มีชวี ติ และส่งิ แวดลอ้ ม

ตัวชีว้ ดั ชนั้ ปี

ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖

๙. สรา้ งแบบจาลอง หมุนรอบตวั เอง

ท่อี ธิบายการใช้ ของโลก

นา้ และนาเสนอ ๑๐. อธบิ ายการ

แนวทางการใช้ หมุนเวียนของ

น้าอย่างยง่ั ยืนใน อากาศตามเขต

ท้องถนิ่ ของ ละติจดู และผลท่ี

ตนเอง มีต่อภูมิอากาศ
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
๑๐. สรา้ ง ๑๑. อธบิ ายปัจจัยท่ี

แบบจาลอง ท่ี ทาให้เกิดการ

อธบิ ายกระบวน หมุนเวยี นของน้า

การเกิดและ ผวิ หน้าใน

ผลกระทบของน้า มหาสมทุ รและ

ทว่ ม การกดั เซาะ รปู แบบการ

ชายฝง่ั ดนิ ถลม่ หมุนเวยี นของนา้

หลุมยบุ แผ่นดิน ผวิ หนา้ ใน

ทรุด มหาสมุทร

๑๒. อธิบายผลของ

การหมนุ เวยี น

ของอากาศและ

นา้ ผวิ หน้าใน

มหาสมทุ รท่มี ีต่อ

ลักษณะ

ภูมิอากาศ ลมฟา้

อากาศ ส่งิ มชี ีวิต

และสงิ่ แวดล้อม

๑๓. อธิบายปจั จัยท่ี

มผี ลต่อการ

เปลี่ยนแปลง

ภมู ิอากาศของ

โลก พร้อมทง้ั

นาเสนอแนว

ปฏิบัติเพือ่ ลด

กจิ กรรมของ

มนษุ ยท์ ี่สง่ ผลต่อ

การเปลย่ี นแปลง

ภมู ิอากาศโลก

มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชว้ี ดั ฯ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ๘๐

สาระที่ ๓ วิทยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ
มาตรฐาน ว ๓.๒ เขา้ ใจองคป์ ระกอบ และความสมั พันธข์ องระบบโลก กระบวนการเปลยี่ นแปลงภายในโลก

และบนผิวโลก ธรณพี บิ ัติภัย กระบวนการเปลย่ี นแปลงลมฟา้ อากาศและภูมิอากาศโลก รวมทั้ง
ผลตอ่ สิง่ มีชีวิตและสิง่ แวดลอ้ ม

ตัวช้วี ัดช้ันปี

ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖

๑๔. แปล
ความหมาย
สัญลกั ษณล์ มฟ้า
อากาศท่สี าคญั
จากแผนท่ีอากาศ
และนาขอ้ มลู
สารสนเทศตา่ ง ๆ
มาวางแผนการ
ดาเนนิ ชวี ิตให้
สอดคลอ้ งกับ
สภาพลมฟ้า
อากาศ
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ

มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชี้วดั ฯ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๘๑

สาระที่ ๔ ชวี วทิ ยา

มาตรฐาน ว ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องสิง่ มชี ีวติ การศึกษาชวี วิทยาและวธิ ีการทางวิทยาศาสตร์ สารท่ีเปน็

องค์ประกอบของสิง่ มชี วี ิต ปฏิกริ ิยาเคมใี นเซลล์ของสง่ิ มีชีวิต กล้องจลุ ทรรศน์ โครงสรา้ งและ

หน้าท่ขี องเซลล์ การลาเลยี งสารเขา้ และออกจากเซลล์ การแบ่งเซลล์ และการหายใจระดับเซลล์

ตัวชว้ี ดั ชั้นปี

ม.๔ ม.๕ ม.๖

เน้นวิทยาศาสตร์ --

๑. อธบิ ายและสรุปสมบัติทส่ี าคญั ของ

สง่ิ มชี ีวิต และความสมั พันธ์ของการ

จดั ระบบในสง่ิ มีชวี ติ ท่ที าให้ส่งิ มีชีวติ

ดารงชวี ติ อยู่ได้

๒. อภิปรายและบอกความสาคัญของการ

ระบปุ ญั หา ความสัมพันธร์ ะหว่างปญั หา
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
สมมติฐาน และวิธีการตรวจสอบ

สมมติฐาน รวมท้งั ออกแบบการทดลอง

เพอ่ื ตรวจสอบสมมตฐิ าน

๓. สบื คน้ ขอ้ มลู อธบิ ายเกี่ยวกับสมบตั ิของ

น้าและบอกความสาคญั ของนา้ ที่มีตอ่

สิ่งมชี วี ิต และยกตัวอย่างธาตชุ นดิ ต่างๆ

ทม่ี คี วามสาคัญตอ่ ร่างกายส่ิงมชี วี ติ

๔. สืบคน้ ข้อมลู อธิบายโครงสรา้ งของ

คาร์โบไฮเดรต ระบุกลมุ่ ของ

คารโ์ บไฮเดรต รวมทัง้ ความสาคญั ของ

คาร์โบไฮเดรตท่มี ตี ่อส่ิงมชี วี ติ

๕. สืบคน้ ข้อมลู อธบิ ายโครงสรา้ งของ

โปรตนี และความสาคญั ของโปรตนี ท่ีมี

ต่อสงิ่ มชี ีวติ

๖. สบื คน้ ขอ้ มลู อธบิ ายโครงสรา้ งของลิพิด

และความสาคญั ของลพิ ดิ ทีม่ ีตอ่ สิง่ มชี วี ติ

๗. อธิบายโครงสรา้ งของกรดนิวคลิอกิ

และระบุชนดิ ของกรดนวิ คลอิ กิ และ

ความสาคญั ของกรดนวิ คลิอิกทีม่ ีตอ่

ส่งิ มีชีวติ

๘. สบื ค้นขอ้ มลู และอธิบายปฏิกริ ยิ าเคมีท่ี

เกิดขึน้ ในสงิ่ มชี วี ิต

๙. อธบิ ายการทางานของเอนไซมใ์ นการ

เร่งปฏิกิรยิ าเคมีในสงิ่ มีชวี ติ และระบุ

ปัจจยั ที่มผี ลต่อการทางานของเอนไซม์

๑๐. บอกวิธกี ารและเตรยี มตวั อยา่ ง

ส่งิ มชี วี ติ เพ่อื ศกึ ษาภายใตก้ ลอ้ ง

จุลทรรศน์ใชแ้ สง วดั ขนาดโดยประมาณ

และวาดภาพทปี่ รากฏภายใต้กลอ้ ง บอก

มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวชวี้ ดั ฯ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๘๒

สาระที่ ๔ ชีววทิ ยา

มาตรฐาน ว ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องสงิ่ มชี วี ิต การศึกษาชวี วทิ ยาและวิธีการทางวิทยาศาสตร์ สารทเี่ ป็น

องคป์ ระกอบของส่ิงมชี ีวติ ปฏกิ ิรยิ าเคมีในเซลล์ของส่งิ มีชีวติ กล้องจุลทรรศน์ โครงสรา้ งและ
หน้าท่ีของเซลล์ การลาเลยี งสารเขา้ และออกจากเซลล์ การแบ่งเซลล์ และการหายใจระดับเซลล์

ตัวชีว้ ดั ช้นั ปี

ม.๔ ม.๕ ม.๖

วิธกี ารใช้ และการดแู ลรกั ษากล้อง
จุลทรรศน์ใชแ้ สงทถี่ ูกต้อง
๑๑. อธิบายโครงสร้างและหนา้ ที่ของส่วน
ทหี่ อ่ หมุ้ เซลลข์ องเซลลพ์ ืชและเซลลส์ ัตว์
๑๒. สืบคน้ ข้อมลู อธบิ าย และระบุชนดิ
และหน้าทีข่ องออรแ์ กเนลล์
๑๓. อธิบายโครงสรา้ งและหนา้ ทข่ี อง
นิวเคลียส
๑๔. อธบิ ายและเปรยี บเทยี บการแพร่
ออสโมซสิ การแพร่แบบฟาซลิ ิเทต และ
แอกทฟี ทรานสปอร์ต
๑๕. สบื คน้ ขอ้ มลู อธิบาย และเขยี น
แผนภาพการลาเลยี งสารโมเลกุลใหญ่
ออกจากเซลลด์ ้วยกระบวนการเอกโซไซ-
โทซสิ และการลาเลียงสารโมเลกลุ ใหญ่
เขา้ ส่เู ซลลด์ ้วยกระบวนการเอนโดไซ-
โทซสิ
๑๖. สังเกตการแบ่งนวิ เคลยี สแบบไมโทซสิ
และแบบไมโอซสิ จากตัวอยา่ งภายใต้
กลอ้ งจลุ ทรรศน์ พร้อมท้งั อธิบายและ
เปรยี บเทยี บการแบง่ นิวเคลียสแบบ
ไมโทซสิ และแบบไมโอซสิ
๑๗. อธิบาย เปรียบเทียบ และสรปุ
ข้นั ตอนการหายใจระดับเซลลใ์ นภาวะท่ี
มีออกซิเจนเพยี งพอและภาวะที่มี
ออกซเิ จนไมเ่ พียงพอ
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ

มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชวี้ ดั ฯ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๘๓

สาระท่ี ๔ ชีววิทยา

มาตรฐาน ว ๔.๒ เข้าใจการถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรม การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม สมบัตแิ ละหน้าท่ี

ของสารพนั ธุกรรม การเกดิ มวิ เทชัน เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ หลกั ฐาน ข้อมลู และแนวคิด

เกย่ี วกับวิวัฒนาการของส่งิ มีชวี ิต ภาวะสมดุลของฮารด์ ี-ไวน์เบริ ก์ การเกิดสปชี ีส์ใหม่ ความ

หลากหลายทางชีวภาพ กาเนิดของสิง่ มีชวี ติ ความหลากหลายของส่งิ มีชวี ิต และ

อนุกรมวธิ าน รวมท้งั นาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ตวั ชว้ี ดั ชัน้ ปี

ม.๔ ม.๕ ม.๖

เนน้ วทิ ยาศาสตร์ - เน้นวทิ ยาศาสตร์

๑. สืบค้นข้อมลู อธิบายและสรุปผลการ ๑. อภปิ รายความสาคญั ของความ

ทดลองของเมนเดล หลากหลายทางชวี ภาพ และความ

๒. อธิบายและสรปุ กฎแห่งการแยกและกฎ เชอ่ื มโยงระหวา่ งความหลากหลายทาง

แห่งการรวมกลมุ่ อยา่ งอิสระ และนากฎ พนั ธุกรรม ความหลากหลายของสปชี ีส์
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
ของเมนเดลนไี้ ปอธบิ ายการถ่ายทอด และความหลากหลายของระบบนเิ วศ

ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมและใชใ้ นการ ๒. อธบิ ายการเกิดเซลลเ์ รมิ่ แรกของ

คานวณโอกาสในการเกดิ ฟโี นไทปแ์ ละ ส่ิงมีชวี ิตและวิวัฒนาการของสงิ่ มีชวี ิต

จโี นไทป์แบบตา่ ง ๆ ของร่นุ F1 และ F2 เซลลเ์ ดยี ว

๓. สืบค้นข้อมลู วเิ คราะห์ อธบิ าย และ ๓. อธิบายลกั ษณะสาคัญและยกตวั อยา่ ง

สรุปเกย่ี วกบั การถ่ายทอดลกั ษณะทาง สิ่งมีชีวติ กล่มุ แบคทีเรีย ส่ิงมชี ีวิตกลุม่

พันธุกรรมที่เปน็ สว่ นขยายของ โพรทสิ ต์ สิ่งมีชวี ิตกลมุ่ พชื สิ่งมชี วี ติ กลุ่ม

พันธุศาสตรเ์ มนเดล ฟงั ไจ และสิง่ มีชวี ิตกลมุ่ สัตว์

๔. สืบค้นข้อมูล วิเคราะห์ และเปรยี บเทียบ ๔. อธิบายและยกตวั อย่างการจาแนก

ลักษณะทางพนั ธุกรรมทม่ี กี ารแปรผัน สงิ่ มีชีวติ จากหมวดหม่ใู หญ่จนถงึ

ไม่ต่อเนอ่ื งและลักษณะทางพันธกุ รรมที่ หมวดหมยู่ อ่ ย และวธิ ีการเขียนชอ่ื

มกี ารแปรผนั ต่อเน่ือง วิทยาศาสตร์ในลาดับขน้ั สปีชสี ์

๕. อธบิ ายการถา่ ยทอดยีนบนโครโมโซม ๕. สรา้ งไดโคโทมสั คีย์ในการระบสุ ่งิ มีชีวิต

และยกตัวอย่างลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมท่ี หรือตวั อย่างทก่ี าหนดออกเป็นหมวดหมู่

ถูกควบคุมดว้ ยยีนบนออโตโซมและยนี

บนโครโมโซมเพศ

๖. สืบค้นขอ้ มูล อธิบายสมบตั แิ ละหน้าที่

ของสารพนั ธกุ รรม โครงสรา้ งและ

องค์ประกอบทางเคมีของ DNA และ

สรปุ การจาลอง DNA

๗. อธบิ ายและระบุขัน้ ตอนในกระบวนการ

สงั เคราะห์โปรตนี และหนา้ ทขี่ อง DNA

และ RNA แตล่ ะชนิดในกระบวนการ

สงั เคราะห์ โปรตนี

๘. สรุปความสมั พันธ์ระหว่างสาร

พันธุกรรม แอลลีล โปรตีน ลักษณะทาง

พันธุกรรม และเชื่อมโยงกับความรเู้ ร่ือง

พนั ธุศาสตรเ์ มนเดล

มาตรฐานการเรียนร้แู ละตวั ชีว้ ัด ฯ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๘๔

สาระท่ี ๔ ชีววิทยา

มาตรฐาน ว ๔.๒ เขา้ ใจการถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรม การถา่ ยทอดยนี บนโครโมโซม สมบตั ิและหน้าที่

ของสารพนั ธุกรรม การเกดิ มิวเทชัน เทคโนโลยที างดเี อ็นเอ หลักฐาน ขอ้ มลู และแนวคิด
เก่ียวกบั ววิ ัฒนาการของสงิ่ มีชีวิต ภาวะสมดลุ ของฮาร์ดี-ไวนเ์ บิร์ก การเกิดสปีชีสใ์ หม่ ความ

หลากหลายทางชีวภาพ กาเนิดของสิง่ มีชีวติ ความหลากหลายของสงิ่ มีชีวติ และ

อนุกรมวิธาน รวมทัง้ นาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์

ตัวช้วี ัดชน้ั ปี

ม.๔ ม.๕ ม.๖

๙. สบื ค้นข้อมลู และอธิบายการเกิดมวิ เทชนั
ระดับยนี และระดับโครโมโซม สาเหตุ
การเกิดมิวเทชนั รวมทงั้ ยกตัวอย่างโรค
และกลมุ่ อาการที่เป็นผลของการเกิด
มิวเทชัน

๑๐. อธิบายหลักการสร้างสิ่งมชี ีวติ ดัดแปร
พนั ธุกรรมโดยใชด้ ีเอ็นเอรคี อมบแิ นนท์

๑๑. สืบคน้ ขอ้ มลู ยกตัวอยา่ ง และอภปิ ราย
การนาเทคโนโลยีทางดเี อ็นเอไปประยกุ ต์
ท้ังในดา้ นส่งิ แวดล้อม นติ ิวทิ ยาศาสตร์
การแพทย์ การเกษตร และอตุ สาหกรรม
และข้อควรคานึงถงึ ดา้ นชวี จรยิ ธรรม

๑๒. สบื คน้ ข้อมลู และอธิบายเก่ียวกบั
หลกั ฐานที่สนับสนนุ และข้อมูลทีใ่ ช้
อธิบายการเกดิ วิวฒั นาการของสิง่ มชี วี ติ

๑๓. อธิบายและเปรยี บเทียบแนวคิด
เกี่ยวกบั วิวัฒนาการของสง่ิ มีชวี ติ ของ
ฌอง ลามารก์ และทฤษฎเี ก่ียวกบั
ววิ ฒั นาการของสง่ิ มีชวี ิตของชาลส์ ดาร์วนิ

๑๔. ระบสุ าระสาคญั และอธบิ ายเง่ือนไข
ของภาวะสมดุลของฮาร์ดี-ไวนเ์ บิรก์
ปัจจัยทที่ าให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
ความถข่ี องแอลลีลในประชากร พร้อม
ทง้ั คานวณหาความถ่ีของแอลลลี และ
จีโนไทปข์ องประชากรโดยใช้หลกั ของ
ฮารด์ ี-ไวน์เบริ ก์

๑๕. สบื คน้ ข้อมลู อภิปราย และอธิบาย
กระบวนการเกดิ สปีชสี ใ์ หม่ของสิง่ มชี ีวติ
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ

มาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตัวชีว้ ดั ฯ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ๘๕

สาระที่ ๔ ชีววิทยา

มาตรฐาน ว ๔.๓ เข้าใจส่วนประกอบของพชื การแลกเปลย่ี นแกส๊ และคายนา้ ของพืช การลาเลียงของพืช

การสังเคราะห์ด้วยแสง การสืบพันธ์ขุ องพชื ดอกและการเจรญิ เตบิ โต และการตอบสนองของพชื

รวมทงั้ นาความรไู้ ปใช้ประโยชน์

ตัวชว้ี ดั ช้นั ปี

ม.๔ ม.๕ ม.๖

- เนน้ วิทยาศาสตร์ -

๑. อธบิ ายเกย่ี วกบั ชนิดและลกั ษณะของ

เน้ือเย่อื พืช และเขียนแผนผังเพ่อื สรปุ ชนิด

ของเนอ้ื เยื่อพชื

๒. สังเกต อธิบาย และเปรียบเทยี บ

โครงสร้างภายในของรากพืชใบเลย้ี งเดย่ี ว

และรากพืชใบเลีย้ งคู่จากการตัดตามขวาง
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
๓. สงั เกต อธบิ าย และเปรยี บเทยี บ

โครงสร้างภายในของลาตน้ พชื ใบเลี้ยง

เดี่ยวและลาต้นพืชใบเลี้ยงคจู่ ากการตดั

ตามขวาง

๔. สังเกต และอธิบายโครงสร้างภายใน

ของใบพืชจากการตดั ตามขวาง

๕. สืบคน้ ข้อมลู สงั เกต และอธิบายการ

แลกเปลยี่ นแก๊สและการคายนา้ ของพชื

๖. สืบค้นขอ้ มลู และอธบิ ายกลไกการ

ลาเลียงน้าและธาตุอาหารของพชื

๗. สืบค้นขอ้ มลู อธิบายความสาคญั ของ

ธาตุอาหาร และยกตวั อยา่ งธาตุอาหารท่ี

สาคัญท่ีมผี ลตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของพชื

๘. อธบิ ายกลไกการลาเลียงอาหารในพืช

๙. สืบค้นข้อมลู และสรุปการศกึ ษาทีไ่ ดจ้ าก

การทดลองของนักวทิ ยาศาสตร์ในอดีต

เก่ียวกบั กระบวนการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง

๑๐. อธิบายขัน้ ตอนทีเ่ กิดขนึ้ ใน

กระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสงของพืช

C3

๑๑. เปรียบเทยี บกลไกการตรึงคาร์บอนได

ออกไซด์ในพชื C3 พชื C4 และ พชื

CAM

๑๒. สบื คน้ ขอ้ มลู อภปิ รายและสรปุ ปจั จยั

ความเขม้ ของแสง ความเขม้ ขน้ ของ

คาร์บอนไดออกไซด์ และอณุ หภูมิ ทีม่ ผี ล

ต่อการสังเคราะหด์ ว้ ยแสงของพืช

๑๓. อธบิ ายวัฏจักรชีวติ แบบสลบั ของ

พชื ดอก

มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชว้ี ดั ฯ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๘๖

สาระที่ ๔ ชีววิทยา

มาตรฐาน ว ๔.๓ เขา้ ใจสว่ นประกอบของพืช การแลกเปล่ียนแก๊สและคายน้าของพืช การลาเลยี งของพืช

การสังเคราะหด์ ว้ ยแสง การสืบพันธ์ขุ องพชื ดอกและการเจริญเตบิ โต และการตอบสนองของพชื
รวมทง้ั นาความรูไ้ ปใช้ประโยชน์

ตวั ชวี้ ดั ชัน้ ปี

ม.๔ ม.๕ ม.๖

๑๔. อธบิ ายและเปรยี บเทยี บกระบวนการ
สรา้ งเซลลส์ ืบพันธเุ์ พศผู้และเพศเมียของ
พชื ดอก และอธิบายการปฏิสนธขิ อง
พืชดอก
๑๕. อธิบายการเกดิ เมล็ดและการเกดิ ผล
ของพชื ดอก โครงสรา้ งของเมลด็ และผล
และยกตัวอยา่ งการใชป้ ระโยชนจ์ าก
โครงสรา้ งตา่ งๆ ของเมลด็ และผล
๑๖. ทดลอง และอธบิ ายเกี่ยวกบั ปัจจยั
ต่างๆ ที่มผี ลต่อการงอกของเมลด็ สภาพ
พกั ตวั ของเมลด็ และบอกแนวทางใน
การแกส้ ภาพพกั ตวั ของเมลด็
๑๗. สืบค้นขอ้ มลู อธบิ ายบทบาทและ
หนา้ ท่ีของออกซิน ไซโทไคนนิ จบิ เบอ
เรลลนิ เอทิลนี และกรดแอบไซซิก และ
อภิปรายเกยี่ วกบั การนาไปใชป้ ระโยชน์
ทางการเกษตร
๑๘. สบื ค้นข้อมลู ทดลอง และอภปิ ราย
เกย่ี วกับส่ิงเรา้ ภายนอกทีม่ ผี ลต่อการ
เจรญิ เติบโตของพืช
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ

มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชีว้ ัด ฯ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๘๗

สาระที่ ๔ ชีววิทยา

มาตรฐาน ว ๔.๔ เขา้ ใจการยอ่ ยอาหารของสตั วแ์ ละมนุษย์ รวมท้งั การหายใจและการแลกเปล่ยี นแก๊ส

การลาเลยี งสารและการหมุนเวยี นเลอื ด ภมู คิ ้มุ กนั ของร่างกาย การขับถา่ ย การรบั รแู้ ละ

การตอบสนอง การเคลื่อนที่ การสบื พนั ธ์ุและการเจรญิ เตบิ โต ฮอร์โมนกบั การรักษาดลุ ยภาพ และ

พฤติกรรมของสัตว์ รวมทง้ั นาความรู้ไปใช้ประโยชน์

ตวั ชี้วัดช้นั ปี

ม.๔ ม.๕ ม.๖

- เนน้ วทิ ยาศาสตร์ เน้นวิทยาศาสตร์

๑. สืบคน้ ข้อมลู อธิบาย และเปรยี บเทียบ ๑. สืบคน้ ข้อมูล อธิบาย และเปรยี บเทยี บ

โครงสร้างและกระบวนการยอ่ ยอาหาร โครงสร้างและหนา้ ที่ของระบบประสาท

ของสตั วท์ ไ่ี ม่มีทางเดินอาหาร สัตว์ท่ีมี ของไฮดรา พลานาเรยี ไสเ้ ดือนดิน ก้งุ

ทางเดนิ อาหารแบบไมส่ มบรู ณ์ และสตั ว์ หอย แมลง และสตั วม์ กี ระดูกสันหลงั

ท่มี ีทางเดนิ อาหารแบบสมบรู ณ์ ๒. อธิบายเก่ียวกับโครงสร้างและหน้าที่
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
๒. สังเกต อธบิ าย การกนิ อาหารของ ของเซลล์ประสาท

ไฮดรา และพลานาเรีย ๓. อธบิ ายเกีย่ วกับการเปลี่ยนแปลงของ

๓. อธิบายเกีย่ วกบั โครงสรา้ ง หน้าที่ และ ศักยไ์ ฟฟ้าท่ีเย่ือหุ้มเซลล์ของเซลล์

กระบวนการย่อยอาหาร และการดูดซึม ประสาท และกลไกการถา่ ยทอดกระแส

สารอาหารภายในระบบยอ่ ยอาหารของ ประสาท

มนษุ ย์ ๔. อธบิ ายและสรปุ เกย่ี วกบั โครงสร้างของ

๔. สบื ค้นขอ้ มลู อธิบาย และเปรยี บเทยี บ ระบบประสาทสว่ นกลางและระบบ

โครงสรา้ งทท่ี าหน้าทีแ่ ลกเปล่ยี นแก๊สของ ประสาทรอบนอก

ฟองน้า ไฮดรา พลานาเรยี ไสเ้ ดอื นดิน ๕. สืบค้นขอ้ มูล อธบิ ายโครงสรา้ งและ

แมลง ปลา กบ และนก หน้าที่ของส่วนตา่ งๆ ในสมองสว่ นหน้า

๕. สังเกต และอธิบายโครงสรา้ งของปอด สมองสว่ นกลาง สมองส่วนหลัง และไข

ในสตั ว์เลย้ี งลกู ด้วยนา้ นม สนั หลัง

๖. สบื คน้ ข้อมลู อธบิ ายโครงสรา้ งท่ีใชใ้ น ๖. สบื ค้นขอ้ มูล อธบิ าย เปรยี บเทยี บ และ

การแลกเปลยี่ นแกส๊ และกระบวนการ ยกตวั อย่างการทางานของระบบ

แลกเปลยี่ นแกส๊ ของมนุษย์ ประสาทโซมาตกิ และระบบประสาท

๗. อธิบายการทางานของปอด และทดลอง อตั โนวัติ

วัดปริมาตรของอากาศในการหายใจออก ๗. สืบค้นขอ้ มลู อธบิ ายโครงสรา้ งและ

ของมนุษย์ หนา้ ท่ีของ ตา หู จมูก ลิ้น และผิวหนงั

๘. สืบคน้ ข้อมลู อธบิ ายและเปรยี บเทยี บ ของมนุษย์ ยกตัวอยา่ งโรคตา่ งๆ ท่ี

ระบบหมุนเวยี นเลือดแบบเปดิ และระบบ เกีย่ วข้อง และบอกแนวทางในการดแู ล

หมนุ เวยี นเลอื ดแบบปดิ ป้องกนั และรกั ษา

๙. สังเกตและอธิบายทศิ ทางการไหลของ ๘. สงั เกตและอธบิ ายการหาตาแหนง่ ของ

เลอื ดและการเคลื่อนท่ีของเซลลเ์ มด็ เลือด จุดบอด โฟเวยี และความไวในการรบั

ในหางปลา และสรุปความสมั พนั ธ์ สมั ผสั ของผวิ หนัง

ระหวา่ งขนาดของหลอดเลอื ดกับ ๙. สืบคน้ ขอ้ มลู อธบิ าย และเปรยี บเทยี บ

ความเร็วในการไหลของเลือด โครงสรา้ งและหน้าท่ขี องอวยั วะท่ี

๑๐. อธบิ ายโครงสรา้ งและการทางานของ เกี่ยวข้องกบั การเคลอ่ื นทีข่ อง

หัวใจและหลอดเลือดในมนุษย์ แมงกะพรุน หมึก ดาวทะเล ไส้เดอื นดิน

๑๑. สงั เกตและอธบิ ายโครงสรา้ งหวั ใจของ แมลง ปลา และนก

สัตว์เลี้ยงลกู ดว้ ยน้านม ทศิ ทางการไหล

มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชว้ี ดั ฯ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๘๘

สาระที่ ๔ ชีววิทยา

มาตรฐาน ว ๔.๔ เข้าใจการยอ่ ยอาหารของสตั วแ์ ละมนุษย์ รวมทงั้ การหายใจและการแลกเปล่ยี นแกส๊

การลาเลยี งสารและการหมนุ เวียนเลอื ด ภมู คิ ้มุ กันของร่างกาย การขับถ่าย การรบั รูแ้ ละ

การตอบสนอง การเคล่ือนที่ การสืบพนั ธุ์และการเจรญิ เตบิ โต ฮอรโ์ มนกบั การรักษาดลุ ยภาพ และ

พฤตกิ รรมของสัตว์ รวมท้ังนาความรู้ไปใช้ประโยชน์

ตวั ช้วี ดั ชนั้ ปี

ม.๔ ม.๕ ม.๖

ของเลอื ดผา่ นหวั ใจของมนษุ ย์ และเขียน ๑๐. สบื ค้นขอ้ มลู และอธบิ ายโครงสรา้ ง

แผนผงั สรุปการหมุนเวยี นเลอื ดของมนษุ ย์ และหน้าที่ของกระดูกและกลา้ มเนอ้ื ท่ี

๑๒. สบื ค้นขอ้ มลู ระบคุ วามแตกตา่ งของ เกยี่ วข้องกบั การเคลอื่ นไหวและการ

เซลล์เมด็ เลือดแดง เซลลเ์ ม็ดเลอื ดขาว เคลอื่ นที่ของมนษุ ย์

เพลตเลต และพลาสมา ๑๑. สงั เกตและอธิบายการทางานของ

๑๓. อธิบายหมู่เลอื ดและหลกั การให้และ ข้อตอ่ ชนดิ ต่างๆ และการทางานของ
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
รับเลอื ดในระบบ ABO และระบบ Rh กลา้ มเนือ้ โครงรา่ งที่เกี่ยวขอ้ งกับการ

๑๔. อธิบาย และสรปุ เก่ยี วกับส่วนประกอบ เคล่อื นไหวและการเคลอ่ื นท่ีของมนษุ ย์

และหน้าท่ีของน้าเหลือง รวมทง้ั ๑๒. สบื คน้ ข้อมลู อธิบาย และยกตัวอยา่ ง

โครงสร้าง และหนา้ ท่ขี องหลอดนา้ เหลือง การสืบพนั ธุ์แบบไมอ่ าศยั เพศและการ

และตอ่ มนา้ เหลอื ง สบื พันธแุ์ บบอาศัยเพศในสัตว์

๑๕. สืบคน้ ข้อมลู อธิบาย และเปรยี บเทียบ ๑๓. สืบคน้ ขอ้ มลู อธบิ ายโครงสร้างและ

กลไกการตอ่ ต้านหรอื ทาลายส่ิง หน้าทีข่ องอวยั วะในระบบสบื พนั ธเุ์ พศ

แปลกปลอม แบบไมจ่ าเพาะและแบบ ชายและระบบสบื พันธเ์ุ พศหญิง

จาเพาะ ๑๔. อธิบายกระบวนการสร้างสเปริ ม์

๑๖. สืบค้นข้อมลู อธบิ าย และเปรยี บเทยี บ กระบวนการสรา้ งเซลลไ์ ข่ และการ

การสร้างภมู ิคมุ้ กันกอ่ เองและภูมิคมุ้ กนั รับมา ปฏสิ นธิในมนุษย์

๑๗. สืบค้นข้อมลู และอธบิ ายเก่ียวกบั ความ ๑๕. อธิบายการเจรญิ เติบโตระยะเอ็มบรโิ อ

ผดิ ปกติของระบบภูมคิ ุ้มกันทท่ี าใหเ้ กิด และระยะหลงั เอม็ บรโิ อของกบ ไก่ และ

เอดส์ ภมู แิ พ้ การสร้างภมู ติ ้านทานต่อ มนุษย์

เน้ือเย่อื ตนเอง ๑๖. สืบค้นข้อมลู อธบิ าย และเขยี น

๑๘. สบื คน้ ข้อมลู อธิบาย และเปรียบเทียบ แผนผังสรุปหนา้ ท่ีของฮอรโ์ มนจากต่อม

โครงสร้างและหน้าทีใ่ นการกาจัดของเสยี ไรท้ ่อและเน้อื เยอ่ื ทสี่ รา้ งฮอร์โมน

ออกจากร่างกายของฟองน้า ไฮดรา ๑๗. สบื คน้ ขอ้ มลู อธิบาย เปรยี บเทียบ

พลานาเรยี ไสเ้ ดือนดิน แมลง และสตั ว์ และยกตวั อย่างพฤติกรรมทีเ่ ป็นมาแต่

มกี ระดูกสนั หลงั กาเนดิ และพฤติกรรมที่เกิดจากการ

๑๙. อธิบายโครงสร้างและหนา้ ท่ีของไต เรียนรู้ของสตั ว์

และโครงสร้างที่ใชล้ าเลยี งปสั สาวะออก ๑๘. สืบคน้ ขอ้ มลู อธบิ าย และยกตัวอย่าง

จากร่างกาย ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งพฤตกิ รรมกบั

๒๐. อธิบายกลไกการทางานของหนว่ ยไต วิวฒั นาการของระบบประสาท

ในการกาจัดของเสยี ออกจากรา่ งกาย ๑๙. สืบคน้ ขอ้ มลู อธิบาย และยกตวั อยา่ ง

และเขยี นแผนผงั สรปุ ขนั้ ตอนการกาจดั การส่ือสารระหว่างสตั ว์ทท่ี าใหส้ ตั ว์

ของเสยี ออกจากรา่ งกายโดยหนว่ ยไต แสดงพฤตกิ รรม

๒๑. สืบค้นข้อมลู อธิบายและยกตวั อยา่ ง

เกีย่ วกับความผิดปกติของไตอันเนอ่ื ง

มาจากโรคตา่ งๆ

มาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตวั ชีว้ ัด ฯ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๘๙

สาระท่ี ๔ ชีววิทยา

มาตรฐาน ว ๔.๕ เข้าใจแนวคดิ เกย่ี วกับระบบนเิ วศ กระบวนการถา่ ยทอดพลังงานและการหมนุ เวยี นสารในระบบ

นเิ วศ ความหลากหลายของไบโอม การเปล่ียนแปลงแทนท่ีของสง่ิ มีชวี ิตในระบบนิเวศ ประชากร

และรูปแบบการเพ่ิมของประชากร ทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม ปัญหา และผลกระทบที่

เกิดจากการใชป้ ระโยชน์ และแนวทางการแกไ้ ขปญั หา

ตวั ชีว้ ัดช้นั ปี

ม.๔ ม.๕ ม.๖

- - เน้นวทิ ยาศาสตร์

๑. วเิ คราะห์ อธบิ าย และยกตัวอย่าง

กระบวนการถา่ ยทอดพลังงานในระบบ

นิเวศ

๒. อธิบาย ยกตัวอย่างการเกิดไบโอแมกนิฟิเคชัน

และบอกแนวทางในการลดการเกดิ ไบโอ
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
แมกนิฟเิ คชัน

๓. สืบคน้ ข้อมูล และเขยี นแผนภาพเพ่อื อธบิ าย

วัฏจักรไนโตรเจน วัฏจักรกามะถนั และ

วัฏจกั รฟอสฟอรสั

๔. สบื ค้นข้อมลู ยกตัวอย่าง และอธบิ าย

ลกั ษณะของไบโอมทีก่ ระจายอยตู่ ามเขต

ภมู ศิ าสตรต์ า่ งๆ บนโลก

๕. สบื ค้นขอ้ มลู ยกตวั อย่าง อธบิ าย และ

เปรียบเทยี บการเปล่ยี นแปลงแทนท่แี บบ

ปฐมภูมแิ ละการเปลยี่ นแปลงแทนท่ีแบบ

ทตุ ยิ ภมู ิ

๖. สืบค้นขอ้ มูล อธบิ าย ยกตัวอยา่ งและสรุป

เกย่ี วกับลักษณะเฉพาะของประชากรของ

สิ่งมชี วี ิตบางชนดิ

๗. สืบคน้ ข้อมลู อธบิ าย เปรยี บเทยี บ และ

ยกตวั อย่างการเพ่ิมของประชากรแบบ

เอ็กโพเนนเชยี ลและการเพิม่ ของประชากร

แบบลอจิสตกิ

๘. อธบิ ายและยกตวั อย่างปัจจยั ทค่ี วบคมุ การ

เตบิ โตของประชากร

๙. วิเคราะห์ อภปิ ราย และสรปุ ปญั หาการขาด

แคลนนา้ การเกดิ มลพิษทางน้า และ

ผลกระทบท่มี ีต่อมนษุ ย์และส่ิงแวดล้อม

รวมทั้งเสนอแนวทางการวางแผนการ

จัดการนา้ และการแกไ้ ขปญั หา

๑๐. วิเคราะห์ อภิปราย และสรปุ ปญั หามลพษิ

ทางอากาศ และผลกระทบที่มตี อ่ มนุษย์

และส่ิงแวดลอ้ ม รวมท้ังเสนอแนวทางการ

แกไ้ ขปัญหา

มาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้วี ัด ฯ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๙๐

สาระท่ี ๔ ชีววิทยา

มาตรฐาน ว ๔.๕ เข้าใจแนวคดิ เกีย่ วกับระบบนิเวศ กระบวนการถา่ ยทอดพลังงานและการหมุนเวียนสารในระบบ

นิเวศ ความหลากหลายของไบโอม การเปล่ียนแปลงแทนท่ีของส่งิ มชี ีวติ ในระบบนเิ วศ ประชากร

และรปู แบบการเพ่ิมของประชากร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปัญหา และผลกระทบที่

เกดิ จากการใชป้ ระโยชน์ และแนวทางการแกไ้ ขปญั หา

ตวั ชว้ี ัดชนั้ ปี

ม.๔ ม.๕ ม.๖

๑๑. วเิ คราะห์ อภปิ ราย และสรุปปัญหาท่เี กดิ

กบั ทรพั ยากรดิน และผลกระทบทม่ี ีตอ่

มนษุ ย์และสง่ิ แวดล้อม รวมทั้งเสนอ

แนวทางการแกไ้ ขปญั หา

๑๒. วเิ คราะห์ อภิปราย และสรุปปญั หา

ผลกระทบที่เกิดจากการทาลายปา่ ไม้
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
รวมทั้งเสนอแนวทางในการป้องกันการ

ทาลายป่าไมแ้ ละการอนรุ กั ษป์ ่าไม้

๑๓. วิเคราะห์ อภิปราย และสรุปปญั หา

ผลกระทบทีท่ าใหส้ ัตว์ปา่ มีจานวนลดลง

และแนวทางในการอนุรกั ษ์สตั วป์ า่

มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด ฯ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๙๑

สาระท่ี ๕ เคมี

มาตรฐาน ว ๕.๑ เข้าใจโครงสร้างอะตอม การจัดเรียงธาตุในตารางธาตุ สมบัตขิ องธาตุ พันธะเคมีและสมบัติ

ของสาร แก๊สและสมบัติของแก๊ส ประเภทและสมบตั ิของสารประกอบอินทรยี แ์ ละพอลเิ มอร์

รวมทง้ั การนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ตัวช้ีวดั ชัน้ ปี

ม.๔ ม.๕ ม.๖

เนน้ วทิ ยาศาสตร์ เนน้ วิทยาศาสตร์ เน้นวิทยาศาสตร์

๑. สบื ค้นขอ้ มลู สมมติฐาน การทดลอง ๑. อธบิ ายความสมั พันธแ์ ละคานวณ ๑. สืบค้นขอ้ มลู และนาเสนอตวั อยา่ ง

หรือผลการทดลองทเ่ี ปน็ ประจักษพ์ ยาน ปริมาตร ความดนั หรอื อณุ หภูมิของแก๊ส สารประกอบอนิ ทรีย์ทม่ี ีพันธะเดี่ยว

ในการเสนอแบบจาลองอะตอมของ ท่ภี าวะตา่ ง ๆ ตามกฎของบอยล์ กฎของ พนั ธะคู่ หรือพันธะสาม ทพี่ บใน

นกั วทิ ยาศาสตร์ และอธิบายวิวฒั นาการ ชารล์ กฎของเกย–์ ลูสแซก ชีวติ ประจาวนั

ของแบบจาลองอะตอม ๒. คานวณปริมาตร ความดนั หรอื อุณหภมู ิ ๒. เขยี นสตู รโครงสรา้ งลิวอสิ สูตร

๒. เขยี นสญั ลกั ษณน์ ิวเคลียรข์ องธาตุ และ ของแกส๊ ทภ่ี าวะต่าง ๆ ตามกฎรวมแก๊ส โครงสรา้ งแบบยอ่ และสตู รโครงสร้าง
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
ระบจุ านวนโปรตอน นวิ ตรอน และ ๓. คานวณปริมาตร ความดัน อุณหภมู ิ แบบเส้นของสารประกอบอนิ ทรยี ์

อิเลก็ ตรอนของอะตอมจากสญั ลักษณ์ จานวนโมล หรอื มวลของแก๊ส จาก ๓. วิเคราะห์โครงสรา้ งและระบุประเภท

นวิ เคลียร์ รวมท้ังบอกความหมายของ ความสัมพนั ธต์ ามกฎของอาโวกาโดร และ ของสารประกอบอนิ ทรยี ์จากหมฟู่ งั กช์ ัน

ไอโซโทป กฎแกส๊ อุดมคติ ๔. เขียนสูตรโครงสร้างและเรยี กชื่อ

๓. อธิบายและเขยี นการจดั เรยี งอิเลก็ ตรอน ๔. คานวณความดนั ย่อยหรือจานวนโมล สารประกอบอนิ ทรยี ป์ ระเภทต่าง ๆ ทม่ี ี

ในระดับพลงั งานหลกั และระดบั พลังงาน ของแก๊สในแก๊สผสม โดยใชก้ ฎความดนั หม่ฟู งั กช์ ันไม่เกิน ๑ หมู่ ตามระบบ

ย่อยเมือ่ ทราบเลขอะตอมของธาตุ ย่อยของดอลตัน IUPAC

๔. ระบหุ มู่ คาบ ความเปน็ โลหะ อโลหะ ๕. อธิบายการแพร่ของแก๊สโดยใชท้ ฤษฎี ๕. เขยี นไอโซเมอรโ์ ครงสรา้ งของ

และกงึ่ โลหะ ของธาตุเรพรีเซนเททฟี จลน์ของแก๊ส คานวณและเปรยี บเทยี บ สารประกอบอนิ ทรยี ป์ ระเภทต่าง ๆ

และธาตแุ ทรนซิชนั ในตารางธาตุ อตั ราการแพรข่ องแก๊ส โดยใช้กฎการ ๖. วเิ คราะหแ์ ละเปรียบเทยี บจดุ เดอื ดและ

๕. วเิ คราะห์และบอกแนวโน้มสมบตั ขิ อง แพรผ่ า่ นของเกรแฮม การละลายในน้าของสารประกอบ

ธาตเุ รพรเี ซนเททีฟตามหมู่และตามคาบ ๖. สืบคน้ ข้อมลู นาเสนอตวั อย่าง และ อนิ ทรยี ท์ ่ีมีหมู่ฟงั กช์ ัน ขนาดโมเลกลุ

๖. บอกสมบตั ิของธาตโุ ลหะแทรนซิชนั อธิบายการประยุกต์ใช้ความรเู้ กีย่ วกับ หรอื โครงสรา้ งตา่ งกนั

และเปรยี บเทียบสมบตั ิกบั ธาตโุ ลหะใน สมบัตแิ ละกฎตา่ ง ๆ ของแกส๊ ในการ ๗. ระบปุ ระเภทของสารประกอบ

กลุ่มธาตเุ รพรเี ซนเททีฟ อธบิ ายปรากฏการณ์ หรอื แก้ปญั หาใน ไฮโดรคาร์บอนและเขียนผลติ ภณั ฑ์จาก

๗. อธบิ ายสมบัตแิ ละคานวณครงึ่ ชวี ติ ของ ชวี ิตประจาวนั และในอตุ สาหกรรม ปฏกิ ิริยาการเผาไหม้ ปฏกิ ิรยิ ากบั

ไอโซโทปกมั มันตรงั สี โบรมนี หรอื ปฏิกริ ยิ ากับโพแทสเซยี ม

๘. สบื คน้ ขอ้ มลู และยกตัวอยา่ งการนาธาตุ เปอร์แมงกาเนต

มาใชป้ ระโยชน์ รวมทั้งผลกระทบตอ่ ๘. เขยี นสมการเคมีและอธบิ ายการ

สงิ่ มีชีวิตและสิ่งแวดลอ้ ม เกิดปฏกิ ริ ยิ า เอสเทอรฟิ ิเคชนั ปฏกิ ริ ยิ า

๙. อธบิ ายการเกิดไอออนและการเกิด การสังเคราะห์เอไมด์ ปฏิกริ ยิ าไฮโดรลิซิส

พันธะไอออนิก โดยใช้แผนภาพหรอื และปฏิกริ ิยาสะปอนนิฟิเคชัน

สัญลกั ษณแ์ บบจดุ ของลวิ อิส ๙. ทดสอบปฏกิ ิริยาเอสเทอริฟิเคชนั

๑๐. เขยี นสตู รและเรียกช่ือสารประกอบ ปฏกิ ริ ยิ าไฮโดรลิซสิ และปฏิกริ ยิ า

ไอออนกิ สะปอนนฟิ เิ คชัน

๑๑. คานวณพลังงานที่เกี่ยวขอ้ งกบั ๑๐. สืบคน้ ขอ้ มลู และนาเสนอตัวอย่างการ

ปฏิกิริยาการเกิดสารประกอบไอออนิก นาสารประกอบอินทรยี ไ์ ปใชป้ ระโยชน์

จากวัฏจักรบอร์น-ฮาเบอร์ ในชีวติ ประจาวันและอตุ สาหกรรม

๑๒. อธบิ ายสมบตั ิของสารประกอบไอออนกิ

มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชี้วดั ฯ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๙๒

สาระที่ ๕ เคมี

มาตรฐาน ว ๕.๑ เข้าใจโครงสร้างอะตอม การจัดเรียงธาตใุ นตารางธาตุ สมบตั ขิ องธาตุ พันธะเคมีและสมบัติ

ของสาร แกส๊ และสมบัตขิ องแกส๊ ประเภทและสมบัตขิ องสารประกอบอนิ ทรยี แ์ ละพอลเิ มอร์

รวมทั้งการนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ตัวชวี้ ัดช้ันปี

ม.๔ ม.๕ ม.๖

๑๓. เขยี นสมการไอออนกิ และสมการ ๑๑. ระบปุ ระเภทของปฏกิ ิรยิ าการเกิด

ไอออนิกสทุ ธิของปฏิกริ ยิ าของ พอลเิ มอร์ จากโครงสร้างของมอนอเมอร์

สารประกอบไอออนิก หรอื พอลิเมอร์

๑๔. อธบิ ายการเกดิ พันธะโคเวเลนต์แบบ ๑๒. วเิ คราะหแ์ ละอธิบายความสมั พนั ธ์

พันธะเด่ียว พนั ธะคู่ และพันธะสาม ระหว่างโครงสรา้ งและสมบัตขิ อง

ดว้ ยโครงสรา้ งลวิ อสิ พอลิเมอร์ รวมทัง้ การนาไปใช้ประโยชน์

๑๕. เขยี นสตู รและเรยี กชือ่ สารโคเวเลนต์ ๑๓. ทดสอบและระบปุ ระเภทของพลาสตกิ
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
๑๖. วเิ คราะห์และเปรยี บเทยี บความยาว และผลติ ภัณฑ์ยาง รวมทัง้ การนาไปใช้

พันธะและพลังงานพนั ธะในสารโคเวเลนต์ ประโยชน์

รวมทัง้ คานวณพลังงานทเ่ี ก่ียวข้องกบั ๑๔. อธบิ ายผลของการปรับเปล่ยี น

ปฏิกิรยิ าของสารโคเวเลนต์จากพลงั งาน โครงสร้าง และการสงั เคราะห์พอลเิ มอร์

พันธะ ทมี่ ตี ่อสมบตั ิของพอลิเมอร์

๑๗. คาดคะเนรูปร่างโมเลกลุ โคเวเลนตโ์ ดย ๑๕. สบื คน้ ขอ้ มลู และนาเสนอตวั อย่าง

ใชท้ ฤษฎกี ารผลกั ระหว่างคู่อิเล็กตรอน ผลกระทบจากการใช้และการกาจดั

ในวงเวเลนซ์ และระบสุ ภาพขัว้ ของ ผลิตภณั ฑพ์ อลเิ มอรแ์ ละแนวทางแก้ไข

โมเลกุลโคเวเลนต์

๑๘. ระบุชนดิ ของแรงยดึ เหน่ียวระหวา่ ง

โมเลกลุ โคเวเลนต์ และเปรยี บเทยี บจุด

หลอมเหลว จดุ เดอื ด และการละลายน้า

ของสารโคเวเลนต์

๑๙. สบื ค้นข้อมลู และอธิบายสมบตั ขิ อง

สารโคเวเลนตโ์ ครงร่างตาขา่ ยชนิดต่าง ๆ

๒๐. อธบิ ายการเกดิ พนั ธะโลหะและสมบตั ิ

ของโลหะ

๒๑. เปรียบเทียบสมบัติบางประการของ

สารประกอบไอออนิก สารโคเวเลนต์

และโลหะ สืบคน้ ขอ้ มลู และนาเสนอ

ตวั อย่างการใชป้ ระโยชนข์ อง

สารประกอบไอออนิก สารโคเวเลนต์

และโลหะ ได้อยา่ งเหมาะสม

มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชว้ี ดั ฯ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๙๓

สาระท่ี ๕ เคมี

มาตรฐาน ว ๕.๒ เขา้ ใจการเขยี นและการดลุ สมการเคมี ปรมิ าณสัมพันธใ์ นปฏกิ ริ ิยาเคมี อตั ราการเกิดปฏิกริ ยิ า

เคมี สมดลุ ในปฏิกิริยาเคมี สมบตั แิ ละปฏกิ ริ ยิ าของกรด–เบส ปฏกิ ริ ยิ ารดี อกซ์และเซลล์

เคมไี ฟฟ้า รวมทั้งการนาความรู้ไปใช้ประโยชน์

ตัวชวี้ ัดชนั้ ปี

ม.๔ ม.๕ ม.๖

เน้นวทิ ยาศาสตร์ เนน้ วิทยาศาสตร์ -

๑. แปลความหมายสญั ลักษณ์ในสมการ ๑. ทดลอง และเขียนกราฟการเพม่ิ ขึ้นหรอื

เคมี เขียนและดลุ สมการเคมีของ ลดลงของสารทีท่ าการวัดในปฏกิ ิรยิ า

ปฏกิ ิรยิ าเคมบี างชนดิ ๒. คานวณอตั ราการเกิดปฏิกริ ยิ าเคมี และ

๒. คานวณปริมาณของสารในปฏกิ ริ ยิ าเคมี เขยี นกราฟการลดลงหรอื เพิม่ ขน้ึ ของสาร

ที่เก่ยี วข้องกบั มวลสาร ทไ่ี มไ่ ดว้ ัดในปฏิกริ ิยา

๓. คานวณปริมาณของสารในปฏกิ ิริยาเคมี ๓. เขยี นแผนภาพและอธิบายทศิ ทางการ
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
ทเ่ี ก่ียวข้องกับความเข้มข้นของ ชนกันของอนุภาคและพลังงานทีส่ ง่ ผลตอ่

สารละลาย อัตราการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี

๔. คานวณปรมิ าณของสารในปฏกิ ิรยิ าเคมี ๔. ทดลองและอธบิ ายผลของความเข้มข้น

ท่เี กยี่ วขอ้ งกับปรมิ าตรแก๊ส พ้ืนทผ่ี ิวของสารตน้ั ต้น อณุ หภมู ิ และ

๕. คานวณปรมิ าณของสารในปฏกิ ิริยาเคมี ตวั เรง่ ปฏกิ ริ ยิ าทม่ี ตี อ่ อตั ราการเกดิ

หลายข้ันตอน ปฏิกิรยิ าเคมี

๖. ระบสุ ารกาหนดปริมาณและคานวณ ๕. เปรยี บเทยี บอัตราการเกดิ ปฏิกริ ยิ าเมื่อ

ปริมาณสารต่าง ๆ ในปฏกิ ริ ิยาเคมี มีการเปลีย่ นแปลงความเขม้ ขน้ พน้ื ทีผ่ วิ

๗. คานวณผลไดร้ ้อยละของผลติ ภณั ฑใ์ น ของสารตั้งตน้ อุณหภูมิ และตัวเรง่

ปฏิกิรยิ าเคมี ปฏกิ ริ ยิ า

๖. ยกตวั อย่างและอธิบายปจั จยั ทม่ี ีผลตอ่

อัตราการเกิดปฏิกริ ยิ าเคมใี นชวี ติ

ประจาวันหรืออุตสาหกรรม

๗. ทดสอบและอธิบายความหมายของ

ปฏกิ ริ ยิ าผนั กลับได้และภาวะสมดลุ

๘. อธบิ ายการเปลีย่ นแปลงความเข้มข้น

ของสาร อัตราการเกดิ ปฏิกริ ยิ าไป

ขา้ งหนา้ และอตั ราการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ า

ยอ้ นกลับ เมือ่ เริ่มปฏิกิรยิ าจนกระทั่ง

ระบบอยู่ในภาวะสมดุล

๙. คานวณคา่ คงท่สี มดลุ ของปฏกิ ริ ิยา

๑๐. คานวณความเขม้ ขน้ ของสารท่ภี าวะ

สมดลุ

๑๑.คานวณคา่ คงที่สมดลุ หรือความเขม้ ข้น

ของปฏิกริ ยิ าหลายขนั้ ตอน

๑๒. ระบปุ จั จยั ท่มี ีผลตอ่ ภาวะสมดลุ และ

ค่าคงทส่ี มดลุ ของระบบ รวมท้งั คาดคะเน

การเปลยี่ นแปลงท่เี กดิ ขนึ้ เมอื่ ภาวะสมดลุ

ของระบบถกู รบกวนโดยใช้หลกั ของ

เลอชาเตอลิเอ

มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชวี้ ดั ฯ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ๙๔

สาระที่ ๕ เคมีอ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ

มาตรฐาน ว ๕.๒ เขา้ ใจการเขยี นและการดลุ สมการเคมี ปรมิ าณสัมพันธใ์ นปฏิกิรยิ าเคมี อัตราการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ า

เคมี สมดุลในปฏิกริ ยิ าเคมี สมบตั แิ ละปฏิกริ ิยาของกรด–เบส ปฏิกิรยิ ารดี อกซ์และเซลล์
เคมไี ฟฟา้ รวมท้ังการนาความร้ไู ปใช้ประโยชน์

ตวั ชว้ี ดั ชนั้ ปี

ม.๔ ม.๕ ม.๖

๑๓. ยกตัวอยา่ งและอธบิ ายสมดลุ เคมีของ
กระบวนการทเี่ กดิ ขึ้นในส่งิ มชี วี ติ
ปรากฏการณ์ในธรรมชาตแิ ละกระบวนการ
ในอุตสาหกรรม
๑๔. ระบุและอธิบายว่าสารเป็นกรดหรอื
เบส โดยใช้ทฤษฎกี รด–เบสของ
อาร์เรเนยี ส เบรินสเตด–ลาวรี และลวิ อสิ
๑๕. ระบุคู่กรด-เบสของสารตามทฤษฎี
กรด-เบสของเบรินสเตด-ลาวรี
๑๖. คานวณและเปรียบเทียบ
ความสามารถในการแตกตวั หรอื ความ
แรงของกรดและเบส
๑๗. คานวณคา่ pH ความเขม้ ขน้ ของ
ไฮโดรเนยี มไอออน หรอื ไฮดรอกไซด์
ไอออนของสารละลายกรดและเบส
๑๘. เขยี นสมการเคมแี สดงปฏกิ ริ ยิ าสะเทิน
และระบุความเปน็ กรด-เบสของ
สารละลายหลงั การสะเทนิ
๑๙. เขยี นปฏกิ ิรยิ าไฮโดรลซิ ิสของเกลือ
และระบุความเป็นกรด-เบสของ
สารละลายเกลอื
๒๐. ทดลองและอธบิ ายหลักการการ
ไทเทรต และเลอื กใชอ้ ินดเิ คเตอรท์ ่ี
เหมาะสมสาหรบั การไทเทรตกรด-เบส
๒๑. คานวณปรมิ าณสารหรอื ความเข้มขน้
ของสารละลายกรดหรือเบสจากการ
ไทเทรต
๒๒. อธิบายสมบตั ิ องคป์ ระกอบ และ
ประโยชนข์ องสารละลายบฟั เฟอร์
๒๓. สบื คน้ ขอ้ มลู และนาเสนอตวั อย่างการ
ใช้ประโยชน์และการแกป้ ัญหาโดยใช้
ความรเู้ กี่ยวกบั กรด–เบส
๒๔. คานวณเลขออกซิเดชันและระบุ
ปฏกิ ริ ยิ าทเี่ ปน็ ปฏิกริ ยิ ารดี อกซ์
๒๕. วิเคราะหก์ ารเปล่ียนแปลงเลข
ออกซิเดชันและระบตุ ัวรีดิวซ์และตวั ออก
ซิไดส์ รวมทง้ั เขียนครึง่ ปฏกิ ริ ยิ า

มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วดั ฯ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๙๕

สาระที่ ๕ เคมี

มาตรฐาน ว ๕.๒ เข้าใจการเขยี นและการดลุ สมการเคมี ปริมาณสมั พันธใ์ นปฏกิ ริ ิยาเคมี อตั ราการเกิดปฏิกริ ิยา

เคมี สมดลุ ในปฏิกิรยิ าเคมี สมบตั ิและปฏิกริ ยิ าของกรด–เบส ปฏิกิรยิ ารดี อกซ์และเซลล์
เคมีไฟฟา้ รวมทั้งการนาความรไู้ ปใช้ประโยชน์

ตัวชีว้ ดั ชัน้ ปี

ม.๔ ม.๕ ม.๖

ออกซเิ ดชนั และคร่ึงปฏกิ ริ ยิ ารดี ักชันของ
ปฏิกริ ยิ ารีดอกซ์
๒๖. ทดลองและเปรยี บเทยี บความสามารถ
ในการเปน็ ตัวรดี ิวซห์ รือตัวออกซิไดส์
และเขยี นแสดงปฏิกริ ิยารีดอกซ์
๒๗. ดุลสมการรีดอกซด์ ว้ ยการใช้เลข
ออกซเิ ดชนั และวธิ คี รง่ึ ปฏิกิรยิ า
๒๘. ระบุองค์ประกอบของเซลลเ์ คมีไฟฟา้
และเขียนสมการเคมีของปฏิกริ ยิ าที่
แอโนดและแคโทด ปฏิกริ ยิ ารวม และ
แผนภาพเซลล์
๒๙. คานวณคา่ ศกั ยไ์ ฟฟา้ มาตรฐานของ
เซลล์ และระบปุ ระเภทของเซลล์
เคมีไฟฟา้ ขั้วไฟฟา้ และปฏกิ ริ ิยาเคมที ี่
เกดิ ขึ้น
๓๐. อธิบายหลกั การทางานและเขียน
สมการแสดงปฏิกิรยิ าของเซลล์ปฐมภมู ิ
และเซลลท์ ตุ ยิ ภมู ิ
๓๑. ทดลองชุบโลหะและแยกสารเคมดี ว้ ย
กระแสไฟฟา้ และอธบิ ายหลักการทาง
เคมไี ฟฟ้าท่ใี ชใ้ นการชุบโลหะ การแยก
สารเคมีดว้ ยกระแสไฟฟ้า การทาโลหะให้
บริสทุ ธ์ิ และการปอ้ งกนั การกัดกรอ่ นของ
โลหะ
๓๒. สืบค้นขอ้ มูลและนาเสนอตวั อยา่ ง
ความกา้ วหน้าทางเทคโนโลยที ่เี กี่ยวข้อง
กบั เซลลเ์ คมไี ฟฟา้ ในชีวิตประจาวนั
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ


Click to View FlipBook Version