The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by palidakoy88, 2019-10-02 02:38:48

palida

portfolio

มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชี้วดั ฯ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ๙๖

สาระท่ี ๕ เคมี

มาตรฐาน ว ๕.๓ เขา้ ใจหลักการทาปฏบิ ตั กิ ารเคมี การวัดปรมิ าณสาร หนว่ ยวัดและการเปลย่ี นหน่วย การ

คานวณปรมิ าณของสาร ความเขม้ ข้นของสารละลาย รวมท้งั การบรู ณาการความรแู้ ละ

ทักษะในการอธบิ ายปรากฏการณ์ในชวี ติ ประจาวันและการแก้ปญั หาทางเคมี

ตวั ชว้ี ัดช้ันปี

ม.๔ ม.๕ ม.๖

เนน้ วทิ ยาศาสตร์ - เนน้ วทิ ยาศาสตร์

๑. บอกและอธิบายขอ้ ปฏบิ ัติเบื้องต้น และ ๑. กาหนดปัญหาและนาเสนอแนวทางการ

ปฏบิ ัติตนที่แสดงถงึ ความตระหนกั ใน แก้ปัญหาโดยใช้ความรูท้ างเคมจี าก

การทาปฏบิ ัตกิ ารเคมี เพอ่ื ใหม้ คี วาม สถานการณท์ ี่เกดิ ขนึ้ ในชีวติ ประจาวัน

ปลอดภยั ท้ังต่อตนเอง ผอู้ ่นื และ การประกอบอาชพี หรอื อตุ สาหกรรม

ส่งิ แวดล้อม และเสนอแนวทางแกไ้ ขเม่ือ ๒. แสดงหลกั ฐานถงึ การบรู ณาการความรู้

เกิดอุบัตเิ หตุ ทางเคมีร่วมกบั สาขาวชิ าอน่ื รวมทัง้ ทกั ษะ
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
๒. เลอื กและใช้อุปกรณห์ รอื เครอ่ื งมือใน กระบวนการทางวิทยาศาสตรห์ รอื

การทาปฏิบตั กิ าร และวดั ปรมิ าณต่าง ๆ กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม โดย

ได้อย่างเหมาะสม เนน้ การคดิ วเิ คราะห์ การแกป้ ญั หาและ

๓. นาเสนอแผนการทดลอง ทดลองและ ความคดิ สร้างสรรค์ เพ่ือแก้ปัญหาใน

เขยี นรายงานการทดลอง สถานการณ์หรอื ประเดน็ ทสี่ นใจ

๔. ระบหุ น่วยวัดปรมิ าณต่าง ๆ ของสาร ๓. นาเสนอผลงานหรือชน้ิ งานทไ่ี ดจ้ ากการ

และเปลี่ยนหนว่ ยวดั ให้เป็นหนว่ ยใน แก้ปญั หาในสถานการณ์หรอื ประเด็นท่ี

ระบบเอสไอด้วยการใชแ้ ฟกเตอรเ์ ปล่ียน สนใจโดยใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ

หน่วย ๔. แสดงหลักฐานการเข้าร่วมการสมั มนา

๕. บอกความหมายของมวลอะตอมของ การเขา้ รว่ มประชุมวชิ าการ หรือการแสดง

ธาตุ และคานวณมวลอะตอมเฉลยี่ ของ ผลงานสง่ิ ประดิษฐ์ในงานนิทรรศการ

ธาตุ มวลโมเลกุล และมวลสูตร

๖. อธบิ ายและคานวณปรมิ าณใดปรมิ าณ

หนึง่ จากความสมั พันธ์ของโมล จานวน

อนภุ าค มวล และปริมาตรของแกส๊ ท่ี

STP

๗. คานวณอตั ราสว่ นโดยมวลของธาตุ

องค์ประกอบของสารประกอบตามกฎ

สดั สว่ นคงท่ี

๘. คานวณสตู รอยา่ งง่ายและสตู รโมเลกลุ

ของสาร

๙. คานวณความเขม้ ข้นของสารละลายใน

หนว่ ยต่าง ๆ

๑๐. อธิบายวธิ กี ารและเตรยี มสารละลาย

ใหม้ ีความเข้มขน้ ในหน่วยโมลารติ ี และ

ปรมิ าตรสารละลายตามท่กี าหนด

๑๑. เปรยี บเทียบจุดเดือดและจดุ เยอื กแขง็

ของสารละลายกับสารบรสิ ุทธ์ิ รวมท้งั

คานวณจดุ เดือดและจดุ เยือกแข็งของ

สารละลาย

มาตรฐานการเรียนร้แู ละตัวชี้วดั ฯ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๙๗

สาระที่ ๖ ฟิสิกส์

มาตรฐาน ว ๖.๑ เข้าใจธรรมชาติทางฟิสกิ ส์ ปรมิ าณและกระบวนการวดั การเคลื่อนที่แนวตรง แรงและ

กฎการเคลอ่ื นทขี่ องนิวตนั กฎความโน้มถว่ งสากล แรงเสยี ดทาน สมดลุ กลของวตั ถุ งานและกฎการ

อนรุ กั ษพ์ ลงั งานกล โมเมนตมั และกฎการอนรุ ักษ์โมเมนตัม การเคลื่อนที่แนวโค้ง รวมทั้งนาความรู้

ไปใชป้ ระโยชน์

ตัวชว้ี ดั ชน้ั ปี

ม.๔ ม.๕ ม.๖

เน้นวทิ ยาศาสตร์ --

๑. สืบคน้ และอธิบายการค้นหาความรู้

ทางฟิสกิ ส์ ประวตั คิ วามเปน็ มา

รวมทง้ั พฒั นาการของหลกั การและ

แนวคดิ ทางฟิสิกสท์ ่มี ผี ลตอ่ การ

แสวงหาความรู้ใหมแ่ ละการพัฒนา
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
เทคโนโลยี

๒. วดั และรายงานผลการวดั ปรมิ าณ

ทางฟสิ ิกส์ได้ถูกตอ้ งเหมาะสม โดย

นาความคลาดเคล่ือนในการวัดมา

พจิ ารณาในการนาเสนอผล รวมทง้ั

แสดงผลการทดลองในรปู ของ

กราฟ วิเคราะหแ์ ละแปลความหมาย

จากกราฟเสน้ ตรง

๓. ทดลองและอธบิ ายความสมั พันธ์

ระหวา่ งตาแหนง่ การกระจดั

ความเร็ว และความเรง่ ของการ

เคลื่อนที่ของวัตถุในแนวตรงที่มี

ความเร่งคงตวั จากกราฟและ

สมการ รวมทงั้ ทดลองหาค่า

ความเร่งโนม้ ถว่ งของโลก และ

คานวณปรมิ าณต่าง ๆ ท่เี ก่ียวข้อง

๔. ทดลองและอธิบายการหาแรงลพั ธ์

ของแรงสองแรงที่ทามมุ ต่อกัน

๕. เขียนแผนภาพของแรงทก่ี ระทาต่อ

วัตถุอสิ ระ ทดลองและอธิบายกฎ

การเคลือ่ นท่ขี องนิวตนั และการใช้

กฎการเคลือ่ นท่ขี องนวิ ตนั กบั

สภาพการเคลอ่ื นทข่ี องวตั ถุ รวมทงั้

คานวณปรมิ าณต่างๆ ที่เกยี่ วขอ้ ง

๖. อธบิ ายกฎความโนม้ ถ่วงสากลและ

ผลของสนามโน้มถว่ งทที่ าใหว้ ัตถมุ ี

นา้ หนกั รวมท้ังคานวณปรมิ าณตา่ ง ๆ

ที่เก่ยี วข้อง

๗. วเิ คราะห์ อธบิ าย และคานวณแรง

เสยี ดทานระหว่างผิวสัมผสั ของวัตถุ

มาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตวั ชว้ี ดั ฯ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๙๘

สาระที่ ๖ ฟิสกิ ส์อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ

มาตรฐาน ว ๖.๑ เขา้ ใจธรรมชาติทางฟิสกิ ส์ ปรมิ าณและกระบวนการวดั การเคล่อื นที่แนวตรง แรงและ

กฎการเคล่ือนท่ขี องนวิ ตัน กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทาน สมดลุ กลของวัตถุ งานและกฎการ
อนรุ กั ษพ์ ลังงานกล โมเมนตมั และกฎการอนรุ ักษ์โมเมนตมั การเคล่ือนท่ีแนวโค้ง รวมทง้ั นาความรู้

ไปใชป้ ระโยชน์

ตวั ช้ีวดั ชน้ั ปี

ม.๔ ม.๕ ม.๖

คู่หนึ่ง ๆ ในกรณีทว่ี ตั ถหุ ยดุ นง่ิ และ
วัตถเุ คลือ่ นที่ รวมทงั้ ทดลองหา
สัมประสิทธิ์ความเสยี ดทาน
ระหวา่ งผิวสัมผัสของวตั ถคุ หู่ นึ่ง ๆ
และนาความรเู้ รือ่ งแรงเสยี ดทาน
ไปใช้ในชวี ิตประจาวนั
๘. อธิบายสมดลุ กลของวัตถุ โมเมนต์
และผลรวมของโมเมนตท์ ่ีมตี อ่ การ
หมนุ แรงคู่ควบและผลของแรงคู่
ควบที่มตี อ่ สมดุลของวัตถุ เขียน
แผนภาพของแรงทก่ี ระทาตอ่ วตั ถุ
อิสระเม่อื วัตถุอยใู่ นสมดลุ กล และ
คานวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ท่ีเกยี่ วข้อง
รวมท้งั ทดลองและอธิบายสมดุล
ของแรงสามแรง
๙. สงั เกตและอธบิ ายสภาพการ
เคลือ่ นท่ีของวตั ถุ เมื่อแรงทก่ี ระทา
ตอ่ วตั ถผุ ่านศูนยก์ ลางมวลของวัตถุ
และผลของศูนย์ถว่ งทมี่ ีต่อ
เสถียรภาพของวัตถุ
๑๐. วิเคราะห์ และคานวณงานของ
แรงคงตัว จากสมการและพืน้ ที่ใต้
กราฟความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งแรงกับ
ตาแหนง่ รวมทัง้ อธบิ ายและ
คานวณกาลังเฉลี่ย
๑๑. อธบิ ายและคานวณพลังงานจลน์
พลงั งานศักย์ พลังงานกล ทดลอง
หาความสมั พันธร์ ะหวา่ งงานกับ
พลังงานจลน์ ความสมั พันธ์
ระหว่างงานกบั พลังงานศกั ยโ์ นม้
ถว่ ง ความสัมพนั ธ์ระหว่างขนาด
ของแรงทใ่ี ชด้ ึงสปริงกับระยะท่ี
สปรงิ ยืดออกและความสมั พันธ์
ระหวา่ งงานกับพลังงานศักย์
ยืดหย่นุ รวมท้งั อธิบาย
ความสมั พนั ธร์ ะหว่างงานของแรง

มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชว้ี ดั ฯ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ๙๙

สาระท่ี ๖ ฟิสกิ ส์อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ

มาตรฐาน ว ๖.๑ เข้าใจธรรมชาติทางฟิสิกส์ ปริมาณและกระบวนการวดั การเคลื่อนท่ีแนวตรง แรงและ

กฎการเคลือ่ นทข่ี องนวิ ตนั กฎความโน้มถว่ งสากล แรงเสียดทาน สมดลุ กลของวัตถุ งานและกฎการ
อนุรักษพ์ ลงั งานกล โมเมนตมั และกฎการอนุรกั ษ์โมเมนตมั การเคลื่อนท่ีแนวโค้ง รวมทงั้ นาความรู้

ไปใช้ประโยชน์

ตวั ชีว้ ดั ชน้ั ปี

ม.๔ ม.๕ ม.๖

ลัพธแ์ ละพลงั งานจลน์ และคานวณ
งานท่ีเกดิ ข้ึนจากแรงลพั ธ์
๑๒. อธบิ ายกฎการอนรุ กั ษ์พลงั งานกล
รวมทัง้ วเิ คราะห์ และคานวณ
ปริมาณต่าง ๆ ที่เก่ยี วขอ้ งกบั การ
เคล่ือนทีข่ องวัตถใุ นสถานการณ์
ตา่ ง ๆ โดยใชก้ ฎการอนุรักษ์
พลงั งานกล
๑๓. อธิบายการทางาน ประสิทธภิ าพ
และการไดเ้ ปรียบเชิงกลของ
เคร่อื งกลอยา่ งงา่ ยบางชนิด โดย
ใชค้ วามรูเ้ รอื่ งงานและสมดุลกล
รวมท้งั คานวณประสทิ ธภิ าพและ
การไดเ้ ปรยี บเชิงกล
๑๔. อธิบายและคานวณโมเมนตมั ของ
วตั ถุ และการดลจากสมการและ
พน้ื ทใี่ ตก้ ราฟความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง
แรงลัพธ์กบั เวลา รวมทั้งอธบิ าย
ความสมั พนั ธร์ ะหว่างแรงดลกบั
โมเมนตมั
๑๕. ทดลอง อธบิ ายและคานวณ
ปริมาณตา่ ง ๆ ทเ่ี กีย่ วกับการชน
ของวัตถุในหนึง่ มิติทัง้ แบบยดื หยุ่น
ไม่ยดื หยุน่ และการดีดตวั แยกจาก
กนั ในหนึง่ มิตซิ ่ึงเป็นไปตามกฎการ
อนรุ ักษโ์ มเมนตมั
๑๖. อธบิ าย วิเคราะห์ และคานวณ
ปรมิ าณตา่ ง ๆ ทเ่ี ก่ยี วข้องกับการ
เคล่ือนทีแ่ บบโพรเจกไทล์ และ
ทดลองการเคล่อื นทีแ่ บบโพรเจก
ไทล์
๑๗. ทดลองและอธบิ ายความสัมพนั ธ์
ระหวา่ งแรงสศู่ นู ย์กลาง รศั มขี อง
การเคลื่อนที่ อตั ราเรว็ เชงิ เสน้
อัตราเร็วเชิงมุม และมวลของวัตถุ
ในการเคล่ือนทแ่ี บบวงกลมใน

มาตรฐานการเรียนร้แู ละตวั ชี้วดั ฯ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ๑๐๐

สาระท่ี ๖ ฟสิ ิกส์
มาตรฐาน ว ๖.๑ เข้าใจธรรมชาตทิ างฟสิ กิ ส์ ปรมิ าณและกระบวนการวัด การเคลอ่ื นท่ีแนวตรง แรงและ

กฎการเคล่อื นที่ของนิวตัน กฎความโน้มถว่ งสากล แรงเสียดทาน สมดุลกลของวัตถุ งานและกฎการ
อนุรกั ษ์พลงั งานกล โมเมนตมั และกฎการอนรุ ักษ์โมเมนตัม การเคลื่อนที่แนวโคง้ รวมทง้ั นาความรู้
ไปใชป้ ระโยชน์

ตัวชี้วดั ชัน้ ปี

ม.๔ ม.๕ ม.๖

ระนาบระดับ รวมทงั้ คานวณ
ปรมิ าณตา่ ง ๆ ที่เกยี่ วข้อง และ
ประยุกตใ์ ช้ความรู้การเคลอื่ นที่
แบบวงกลมในการอธบิ ายการ
โคจรของดาวเทียม

อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ

มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชี้วัด ฯ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๑๐๑

สาระที่ ๖ ฟิสกิ ส์

มาตรฐาน ว ๖.๒ เข้าใจการเคลอื่ นทแี่ บบฮาร์มอนิกสอ์ ยา่ งง่าย ธรรมชาติของคล่ืน เสยี งและการได้ยิน ปรากฏการณ์

ที่เก่ียวข้องกบั เสียง แสงและการเหน็ ปรากฏการณท์ ่ีเกย่ี วข้องกับแสง รวมท้ังนาความรู้ไปใช้

ประโยชน์

ตัวชวี้ ดั ชัน้ ปี

ม.๔ ม.๕ ม.๖

- เน้นวิทยาศาสตร์ -

๑. ทดลองและอธิบายการเคล่อื นท่แี บบ

ฮารม์ อนกิ อยา่ งงา่ ยของวัตถุติดปลาย

สปรงิ และลูกตมุ้ อยา่ งงา่ ย รวมทั้งคานวณ

ปรมิ าณตา่ ง ๆ ทเ่ี กี่ยวข้อง

๒. อธบิ ายความถธ่ี รรมชาติของวัตถแุ ละ

การเกิดการส่นั พอ้ ง
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
๓. อธบิ ายปรากฏการณ์คลืน่ ชนดิ ของคลน่ื

ส่วนประกอบของคลนื่ การแผ่ของหน้า

คลืน่ ด้วยหลักการของฮอยเกนส์ และการ

รวมกันของคลนื่ ตามหลักการซอ้ นทับ

พร้อมทงั้ คานวณอตั ราเร็ว ความถ่ี และ

ความยาวคลนื่

๔. สังเกตและอธิบายการสะท้อน การหกั เห

การแทรกสอด และการเลยี้ วเบนของ

คลื่นผวิ นา้ รวมท้ังคานวณปริมาณตา่ ง ๆ

ทีเ่ ก่ียวข้อง

๕. อธิบายการเกิดเสียง การเคลือ่ นทขี่ อง

เสยี ง ความสมั พันธร์ ะหวา่ งคลื่นการ

กระจดั ของอนภุ าคกับคลนื่ ความดนั

ความสมั พันธร์ ะหวา่ งอัตราเรว็ ของเสยี ง

ในอากาศท่ีขนึ้ กับอุณหภูมใิ นหนว่ ยองศา

เซลเซียส สมบัติของคลนื่ เสยี ง ไดแ้ ก่ การ

สะท้อน การหกั เห การแทรกสอด การ

เล้ียวเบน รวมทั้งคานวณปริมาณตา่ ง ๆ

ทเี่ ก่ยี วขอ้ ง

๖. อธบิ ายความเขม้ เสยี ง ระดับเสยี ง

องคป์ ระกอบ ของการได้ยนิ คณุ ภาพ

เสียง และมลพิษทางเสียง รวมทง้ั คานวณ

ปริมาณต่าง ๆ ทเ่ี กยี่ วข้อง

๗. ทดลองและอธบิ ายการเกดิ การสัน่ พอ้ ง

ของอากาศในทอ่ ปลายเปิดหนง่ึ ด้าน

รวมทัง้ สังเกตและอธิบายการเกดิ บีต

คลน่ื นง่ิ ปรากฏการณด์ อปเพลอร์ คล่ืน

กระแทกของเสียง คานวณปรมิ าณต่าง ๆ

ที่เกีย่ วขอ้ ง และนาความรเู้ รอื่ งเสยี งไปใช้

ในชวี ติ ประจาวัน

มาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตัวชีว้ ัด ฯ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๑๐๒

สาระที่ ๖ ฟสิ ิกส์อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ

มาตรฐาน ว ๖.๒ เข้าใจการเคล่อื นทีแ่ บบฮาร์มอนิกสอ์ ยา่ งงา่ ย ธรรมชาตขิ องคล่ืน เสียงและการได้ยนิ ปรากฏการณ์

ท่ีเกี่ยวข้องกับเสยี ง แสงและการเห็น ปรากฏการณ์ที่เก่ยี วข้องกับแสง รวมทงั้ นาความรไู้ ปใช้
ประโยชน์

ตวั ช้ีวัดชัน้ ปี

ม.๔ ม.๕ ม.๖

๘. ทดลองและอธบิ ายสมบตั ิการแทรกสอด
ของแสงผ่านสลติ คแู่ ละเกรตติง สมบตั ิ
การเลยี้ วเบนและการแทรกสอดของแสง
ผ่านสลติ เด่ียว รวมทง้ั คานวณปรมิ าณ
ตา่ ง ๆ ท่ีเก่ยี วข้อง
๙. ทดลองและอธบิ ายการสะทอ้ นของแสง
ที่ผวิ วัตถตุ ามกฎการสะทอ้ น เขยี นรงั สี
ของแสงและคานวณตาแหน่งและขนาด
ภาพของวัตถุเม่ือแสงตกกระทบกระจก
เงาราบและกระจกเงาทรงกลม รวมท้งั
อธิบายการนาความร้เู ร่อื งการสะท้อน
ของแสงจากกระจกเงาราบและกระจกเงา
ทรงกลมไปใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจาวนั
๑๐. ทดลองและอธิบายความสัมพันธ์
ระหว่างดรรชนีหักเห มมุ ตกกระทบ และ
มุมหกั เห รวมทงั้ อธบิ ายความสมั พนั ธ์
ระหว่างความลึกจรงิ และความลกึ ปรากฏ
มุมวิกฤตและการสะท้อนกลับหมดของ
แสง และคานวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ท่ี
เกย่ี วขอ้ ง
๑๑. ทดลองและเขยี นรงั สขี องแสงเพอ่ื
แสดงภาพทเ่ี กดิ จากเลนสบ์ าง หาตาแหนง่
ขนาด ชนิดของภาพ และความสัมพันธ์
ระหว่างระยะวัตถุ ระยะภาพและความ
ยาวโฟกสั รวมทงั้ คานวณปริมาณตา่ ง ๆ
ท่ีเก่ยี วข้อง และอธิบายการนาความรู้
เรื่องการหกั เหของแสงผ่านเลนส์บางไป
ใชป้ ระโยชน์ในชีวิตประจาวัน
๑๒. อธบิ ายปรากฏการณ์ธรรมชาตทิ ี่
เก่ยี วกบั แสง เช่น รุ้ง การทรงกลด มิราจ
และการเหน็ ทอ้ งฟ้าเป็นสตี ่าง ๆ ในช่วง
เวลาตา่ งกนั
๑๓. สังเกตและอธบิ ายการมองเหน็ แสงสี
สีของวัตถุ การผสมสารสี และการผสม
แสงสี รวมท้ังอธบิ ายสาเหตุของการบอดสี

มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชีว้ ดั ฯ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ๑๐๓

สาระท่ี ๖ ฟิสิกส์
มาตรฐาน ว ๖.๓ เขา้ ใจแรงไฟฟ้าและกฎของคลู อมบ์ สนามไฟฟา้ ศักย์ไฟฟา้ ความจุไฟฟา้ กระแสไฟฟ้าและกฎของ

โอหม์ วงจรไฟฟา้ กระแสตรง พลงั งานไฟฟ้าและกาลงั ไฟฟา้ การเปลีย่ นพลังงานทดแทนเปน็ พลงั งาน

ไฟฟ้า สนามแม่เหลก็ แรงแมเ่ หลก็ ที่กระทากับประจุไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้า การเหนยี่ วนา

แม่เหลก็ ไฟฟ้าและกฎของฟาราเดย์ ไฟฟา้ กระแสสลบั คลื่นแมเ่ หล็กไฟฟา้ และการสอื่ สาร รวมท้ังนา

ความรไู้ ปใช้ประโยชน์

ตวั ช้ีวดั ชนั้ ปี

ม.๔ ม.๕ ม.๖

- เน้นวิทยาศาสตร์ เนน้ วทิ ยาศาสตร์

๑. ทดลองและอธบิ ายการทาวตั ถทุ ี่เป็น ๑. สงั เกตและอธิบายเสน้ สนามแมเ่ หล็ก

กลางทางไฟฟา้ ใหม้ ีประจุไฟฟา้ โดยการ อธิบายและคานวณฟลักซแ์ มเ่ หล็กใน

ขัดสีกันและการเหนี่ยวนาไฟฟา้ สถติ บรเิ วณทกี่ าหนด รวมทง้ั สงั เกต และ
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
๒. อธบิ ายและคานวณแรงไฟฟ้าตามกฎ อธิบายสนามแม่เหล็กทเี่ กดิ จาก

ของคูลอมบ์ กระแสไฟฟา้ ในลวดตวั นาเสน้ ตรง และ

๓. อธบิ ายและคานวณสนามไฟฟ้าและแรง โซเลนอยด์

ไฟฟ้าทกี่ ระทากบั อนุภาคทม่ี ปี ระจไุ ฟฟ้า ๒. อธิบายและคานวณแรงแมเ่ หลก็ ท่ี

ทีอ่ ยใู่ นสนามไฟฟา้ รวมทั้งหาสนามไฟฟา้ กระทาต่ออนุภาคทม่ี ปี ระจุไฟฟา้ เคลอ่ื นท่ี

ลพั ธ์เนอ่ื งจากระบบจุดประจโุ ดยรวมกัน ในสนามแมเ่ หล็ก แรงแมเ่ หลก็ ทก่ี ระทา

แบบเวกเตอร์ ตอ่ เสน้ ลวดทม่ี ีกระแสไฟฟ้าผ่านและวาง

๔.อธบิ ายและคานวณพลังงานศักยไ์ ฟฟา้ ในสนามแม่เหลก็ รัศมีความโค้งของการ

ศกั ย์ไฟฟ้า และความต่างศักย์ระหวา่ ง เคลื่อนทีเ่ มื่อประจเุ คลื่อนท่ีตงั้ ฉากกับ

สองตาแหนง่ ใด ๆ สนามแมเ่ หล็ก รวมทั้งอธิบายแรง

๕. อธบิ ายสว่ นประกอบของตัวเกบ็ ประจุ ระหว่างเส้นลวดตวั นาคขู่ นานที่มี

ความสัมพนั ธร์ ะหว่างประจุไฟฟ้า ความ กระแสไฟฟ้าผ่าน

ต่างศักย์ และความจุของตวั เกบ็ ประจุ ๓. อธบิ ายหลักการทางานของ

และอธบิ ายพลังงานสะสมในตวั เกบ็ ประจุ แกลแวนอมเิ ตอร์และมอเตอร์ไฟฟา้

และความจสุ มมลู รวมทงั้ คานวณปรมิ าณ กระแสตรง รวมทั้งคานวณปรมิ าณต่างๆ

ตา่ ง ๆ ที่เก่ยี วข้อง ทีเ่ ก่ยี วข้อง

๖. นาความรู้เร่ืองไฟฟา้ สถติ ไปอธบิ าย ๔. สังเกตและอธิบายการเกดิ อเี อม็ เอฟ

หลักการทางานของเครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ บาง เหนย่ี วนา กฎการเหนยี่ วนาของฟาราเดย์

ชนิด และปรากฏการณ์ในชีวิตประจาวนั และคานวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ท่เี กย่ี วข้อง

๗. อธิบายการเคล่ือนที่ของอิเล็กตรอน รวมทงั้ นาความรเู้ รือ่ งอเี อม็ เอฟเหน่ยี วนา

อสิ ระและกระแสไฟฟ้าในลวดตัวนา ไปอธบิ ายการทางานของเคร่ืองใชไ้ ฟฟา้

ความสมั พันธร์ ะหวา่ งกระแสไฟฟ้าในลวด ๕. อธบิ ายและคานวณความต่างศกั ย์อาร์

ตัวนากับความเรว็ ลอยเลอื่ นของ เอ็มเอส และกระแสไฟฟ้าอาร์เอ็มเอส

อิเลก็ ตรอนอสิ ระ ความหนาแน่นของ ๖. อธบิ ายหลักการทางานและประโยชน์

อิเล็กตรอนในลวดตัวนาและพน้ื ทหี่ นา้ ตัด ของเครือ่ งกาเนดิ ไฟฟ้ากระแสสลบั ๓

ของลวดตัวนา และคานวณปริมาณต่าง ๆ เฟส การแปลงอีเอ็มเอฟของหม้อแปลง

ทีเ่ กย่ี วข้อง และคานวณปรมิ าณต่าง ๆ ที่เกีย่ วขอ้ ง

๘. ทดลองและอธบิ ายกฎของโอหม์ ๗. อธบิ ายการเกิดและลกั ษณะเฉพาะของ

อธบิ ายความสมั พันธร์ ะหวา่ งความ คลนื่ แมเ่ หล็กไฟฟ้า แสงไมโ่ พลาไรส์ แสง

ต้านทานกบั ความยาว พืน้ ที่หนา้ ตดั และ โพลาไรสเ์ ชงิ เส้น และแผ่นโพลารอยด์

มาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตัวชว้ี ดั ฯ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ๑๐๔

สาระที่ ๖ ฟิสกิ ส์
มาตรฐาน ว ๖.๓ เขา้ ใจแรงไฟฟ้าและกฎของคลู อมบ์ สนามไฟฟา้ ศักย์ไฟฟ้า ความจุไฟฟา้ กระแสไฟฟา้ และกฎของ

โอห์ม วงจรไฟฟา้ กระแสตรง พลงั งานไฟฟ้าและกาลังไฟฟา้ การเปลย่ี นพลังงานทดแทนเปน็ พลงั งาน

ไฟฟ้า สนามแมเ่ หล็ก แรงแม่เหล็กทกี่ ระทากับประจุไฟฟ้าและกระแสไฟฟา้ การเหน่ยี วนา

แม่เหล็กไฟฟ้าและกฎของฟาราเดย์ ไฟฟ้ากระแสสลับ คลื่นแม่เหล็กไฟฟา้ และการส่ือสาร รวมทัง้ นา

ความรูไ้ ปใช้ประโยชน์

ตัวชีว้ ดั ชน้ั ปี

ม.๔ ม.๕ ม.๖

สภาพตา้ นทานของตวั นาโลหะทอี่ ุณหภมู ิ รวมทั้งอธบิ ายการนาคลนื่ แมเ่ หลก็ ไฟฟ้า

คงตวั และคานวณปรมิ าณต่าง ๆ ท่ี ในชว่ งความถี่ต่าง ๆ ไปประยุกต์ใช้และ

เก่ยี วขอ้ ง รวมทง้ั อธิบายและคานวณ หลักการทางานของอปุ กรณ์ทเี่ กย่ี วขอ้ ง

ความต้านทานสมมลู เมอ่ื นาตวั ตา้ นทาน ๘. สืบคน้ และอธิบายการสื่อสารโดยอาศัย
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
มาตอ่ กันแบบอนุกรมและแบบขนาน คลนื่ แม่เหล็กไฟฟ้าในการสง่ ผา่ น

๙. ทดลอง อธบิ ายและคานวณอเี อม็ เอฟ สารสนเทศ และเปรยี บเทียบการส่อื สาร

ของแหล่งกาเนดิ ไฟฟ้ากระแสตรง รวมทั้ง ดว้ ยสญั ญาณแอนะล็อกกับสัญญาณดจิ ิทลั

อธบิ ายและคานวณพลังงานไฟฟา้ และ

กาลังไฟฟา้

๑๐. ทดลองและคานวณอเี อม็ เอฟสมมลู

จากการต่อแบตเตอรี่แบบอนุกรมและ

แบบขนาน รวมทงั้ คานวณปริมาณตา่ ง ๆ

ท่เี ก่ียวขอ้ งในวงจรไฟฟา้ กระแสตรงซง่ึ

ประกอบด้วยแบตเตอรแ่ี ละตวั ตา้ นทาน

๑๑. อธบิ ายการเปล่ียนพลังงานทดแทน

เปน็ พลังงานไฟฟ้า รวมท้งั สืบค้นและ

อภิปรายเกย่ี วกบั เทคโนโลยี ที่นามา

แกป้ ญั หาหรือตอบสนองความต้องการ

ทางดา้ นพลังงานไฟฟ้า โดยเน้นด้าน

ประสิทธภิ าพและความคุ้มค่าดา้ น

ค่าใชจ้ ่าย

มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชว้ี ัด ฯ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ๑๐๕

สาระท่ี ๖ ฟิสิกส์
มาตรฐาน ว ๖.๔ เข้าใจความสัมพนั ธข์ องความรอ้ นกับการเปลีย่ นอณุ หภมู แิ ละสถานะของสสาร สภาพยดื หยุ่นของ

วัสดุและมอดลุ ัสของยัง ความดันในของไหล แรงพยุงและหลกั ของอาร์คิมดี สี ความตึงผวิ และแรงหนืด

ของของเหลว ของไหลอดุ มคติและสมการแบรน์ ลู ลี กฎของแก๊ส ทฤษฎจี ลนข์ องแก๊สอุดมคตแิ ละ

พลังงานในระบบ ทฤษฎอี ะตอมของโบร์ ปรากฏการณ์โฟโตอเิ ล็กทริก ทวภิ าวะของคลืน่ และอนภุ าค

กมั มันตภาพรงั สี แรง นวิ เคลยี ร์ ปฏกิ ิรยิ านวิ เคลียร์ พลังงานนวิ เคลียร์ ฟิสิกส์อนภุ าค รวมท้งั นาความรู้

ไปใช้ประโยชน์

ตัวช้ีวัดชั้นปี

ม.๔ ม.๕ ม.๖

- - เนน้ วิทยาศาสตร์

๑. อธบิ ายและคานวณความรอ้ นที่ทาให้

สสารเปล่ียนอุณหภมู ิ ความร้อนทท่ี าให้
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
สสารเปล่ียนสถานะ และความร้อนที่เกิด

จากการถ่ายโอนตามกฎการอนุรักษ์

พลงั งาน

๒. อธบิ ายสภาพยดื หยุ่นและลกั ษณะการยืด

และหดตัวของวัสดทุ เี่ ป็นแท่งเมื่อถูก

กระทาด้วยแรงค่าต่าง ๆ รวมทัง้ ทดลอง

อธิบายและคานวณความเคน้ ตามยาว

ความเครยี ดตามยาว และมอดลุ สั ของยัง

และนาความรเู้ ร่ืองสภาพยดื หยุน่

ไปใช้ในชวี ิตประจาวัน

๓. อธิบายและคานวณความดนั เกจ ความดนั

สัมบรู ณ์ และความดนั บรรยากาศ รวมทัง้

อธิบายหลักการทางานของแมนอมเิ ตอร์

บารอมิเตอร์ และเครอ่ื งอดั ไฮดรอลิก

๔. ทดลอง อธิบายและคานวณขนาดแรงพยงุ

จากของไหล

๕. ทดลอง อธบิ ายและคานวณความตึงผวิ

ของของเหลว รวมทงั้ สังเกตและอธิบาย

แรงหนดื ของของเหลว

๖. อธิบายสมบัติของของไหลอุดมคติ สมการ

ความต่อเนอ่ื ง และสมการแบร์นลู ลี

รวมทัง้ คานวณปริมาณตา่ ง ๆ ท่ีเกย่ี วขอ้ ง

และนาความร้เู กย่ี วกบั สมการความ

ตอ่ เนื่องและสมการแบรน์ ูลลไี ปอธบิ าย

หลักการทางานของอปุ กรณต์ า่ ง ๆ

๗. อธิบายกฎของแกส๊ อุดมคตแิ ละคานวณ

ปริมาณต่าง ๆ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง

๘. อธิบายแบบจาลองของแก๊สอดุ มคติ

ทฤษฎีจลน์

มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชีว้ ัด ฯ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ๑๐๖

สาระที่ ๖ ฟิสกิ ส์
มาตรฐาน ว ๖.๔ เขา้ ใจความสัมพนั ธ์ของความร้อนกบั การเปลยี่ นอณุ หภมู แิ ละสถานะของสสาร สภาพยดื หยุน่ ของ

วัสดุและมอดลุ ัสของยัง ความดนั ในของไหล แรงพยุงและหลักของอาร์คิมดี ีส ความตึงผวิ และแรงหนดื

ของของเหลว ของไหลอดุ มคติและสมการแบรน์ ลู ลี กฎของแกส๊ ทฤษฎจี ลนข์ องแก๊สอุดมคติและ

พลงั งานในระบบ ทฤษฎอี ะตอมของโบร์ ปรากฏการณโ์ ฟโตอเิ ลก็ ทริก ทวิภาวะของคลนื่ และอนภุ าค

กมั มนั ตภาพรังสี แรง นวิ เคลยี ร์ ปฏกิ ิริยานิวเคลยี ร์ พลังงานนวิ เคลียร์ ฟสิ ิกสอ์ นุภาค รวมทงั้ นาความรู้

ไปใชป้ ระโยชน์

ตวั ช้วี ดั ช้นั ปี

ม.๔ ม.๕ ม.๖

ของแก๊ส และอัตราเรว็ อาร์เอม็ เอสของ

โมเลกุลของแก๊ส รวมทัง้ คานวณปรมิ าณ

ตา่ ง ๆ ทีเ่ กย่ี วขอ้ ง
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
๙. อธบิ ายและคานวณงานท่ที าโดยแก๊สใน

ภาชนะปดิ โดยความดนั คงตวั และอธบิ าย

ความสัมพันธร์ ะหว่างความรอ้ น พลังงาน

ภายในระบบ และงาน รวมท้ังคานวณ

ปรมิ าณตา่ งๆ ทเี่ ก่ยี วข้อง และนาความรู้

เรือ่ งพลังงานภายในระบบไปอธบิ าย

หลักการทางานของเครื่องใชใ้ นชวี ิต

ประจาวนั

๑๐. อธบิ ายสมมตฐิ านของพลังค์ ทฤษฎี

อะตอมของโบร์ และการเกดิ เส้น

สเปกตรัมของอะตอมไฮโดรเจน รวมทง้ั

คานวณปรมิ าณต่าง ๆ ทเี่ กี่ยวขอ้ ง

๑๑. อธบิ ายปรากฏการณ์โฟโตอเิ ล็กทรกิ และ

คานวณพลงั งานโฟตอน พลังงานจลนข์ อง

โฟโตอิเล็กตรอนและฟงั กช์ นั งานของโลหะ

๑๒. อธิบายทวิภาวะของคล่ืนและอนภุ าค

รวมทัง้ อธบิ ายและคานวณความยาวคล่ืน

เดอบรอยล์

๑๓. อธิบายกมั มันตภาพรังสีและความ

แตกต่างของรงั สแี อลฟา บีตาและแกมมา

๑๔. อธิบายและคานวณ กมั มนั ตภาพของ

นวิ เคลียส กัมมันตรังสี รวมท้ัง ทดลอง

อธิบาย และคานวณจานวนนิวเคลยี ส

กมั มันตภาพรงั สที เ่ี หลือจากการสลาย

และครึง่ ชวี ติ

๑๕. อธบิ ายแรงนวิ เคลยี ร์ เสถยี รภาพของ

นวิ เคลียส และพลงั งานยดึ เหนยี่ ว รวมทง้ั

คานวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ทเี่ กย่ี วขอ้ ง

๑๖. อธบิ ายปฏิกิรยิ านิวเคลยี ร์ ฟชิ ชนั และ

มาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตวั ชวี้ ัด ฯ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ๑๐๗

สาระที่ ๖ ฟสิ กิ ส์
มาตรฐาน ว ๖.๔ เข้าใจความสัมพนั ธข์ องความร้อนกับการเปล่ยี นอณุ หภูมแิ ละสถานะของสสาร สภาพยืดหย่นุ ของ

วัสดุและมอดุลัสของยงั ความดนั ในของไหล แรงพยุงและหลักของอาร์คมิ ีดีส ความตึงผิวและแรงหนืด

ของของเหลว ของไหลอุดมคติและสมการแบรน์ ลู ลี กฎของแกส๊ ทฤษฎีจลนข์ องแกส๊ อุดมคตแิ ละ

พลังงานในระบบ ทฤษฎีอะตอมของโบร์ ปรากฏการณโ์ ฟโตอเิ ล็กทริก ทวิภาวะของคลน่ื และอนภุ าค

กมั มันตภาพรังสี แรง นวิ เคลยี ร์ ปฏกิ ิรยิ านิวเคลียร์ พลงั งานนวิ เคลียร์ ฟิสกิ ส์อนภุ าค รวมท้งั นาความรู้

ไปใชป้ ระโยชน์

ตวั ช้วี ดั ชน้ั ปี

ม.๔ ม.๕ ม.๖

ฟิวชนั รวมทัง้ คานวณพลังงานนวิ เคลยี ร์

๑๗. อธิบายประโยชน์ของพลังงานนิวเคลยี ร์

และรังสี รวมท้ัง อันตรายและการปอ้ งกัน
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
รังสใี นด้านต่าง ๆ

๑๘. อธิบายการค้นควา้ วิจยั ด้านฟสิ กิ ส์

อนภุ าคแบบจาลองมาตรฐาน และการใช้

ประโยชน์จากการคน้ ควา้ วจิ ยั ดา้ นฟสิ ิกส์

อนุภาคในด้านต่าง ๆ

มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวช้ีวัด ฯ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ๑๐๘

สาระท่ี ๗ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ

มาตรฐาน ว ๗.๑ เข้าใจกระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก ธรณพี ิบตั ิภัย และผลตอ่ ส่งิ มชี ีวิตและ

สงิ่ แวดลอ้ ม การศึกษาลาดับช้ันหนิ ทรพั ยากรธรณี แผนท่ี และการนาไปใช้ประโยชน์

ตวั ชี้วัดชัน้ ปี

ม.๔ ม.๕ ม.๖

เนน้ วทิ ยาศาสตร์ --

๑. อธิบายการแบง่ ชั้นและสมบตั ิของ

โครงสรา้ งโลก พรอ้ มยกตัวอย่างขอ้ มลู ท่ี

สนับสนุน

๒. อธบิ ายหลักฐานทางธรณวี ิทยาท่ี

สนบั สนุนการเคล่ือนทขี่ องแผน่ ธรณี

๓. ระบสุ าเหตุและอธบิ ายแนวรอยตอ่ ของ

แผน่ ธรณที ่ีสมั พนั ธก์ บั การเคล่อื นทข่ี อง
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
แผ่นธรณี พร้อมยกตัวอยา่ งหลกั ฐานทาง

ธรณีวทิ ยาทพ่ี บ

๔. วเิ คราะหห์ ลกั ฐานทางธรณวี ิทยาที่พบ

ในปจั จุบัน และอธบิ ายลาดับเหตกุ ารณ์

ทางธรณวี ทิ ยาในอดีต

๕. อธิบายสาเหตุกระบวนการเกดิ ภเู ขาไฟ

ระเบดิ และปัจจยั ท่ที าใหค้ วามรุนแรง

ของการปะทแุ ละรปู รา่ งของภูเขาไฟ

แตกต่างกัน รวมทงั้ สบื คน้ ข้อมลู พน้ื ที่

เสย่ี งภยั ออกแบบและนาเสนอ

แนวทางการเฝ้าระวงั และการปฏบิ ตั ิตน

ให้ปลอดภัย

๖. อธบิ ายสาเหตุ กระบวนการเกดิ ขนาด

และความรนุ แรง และผลจากแผ่นดนิ ไหว

รวมท้งั สบื ค้นข้อมลู พน้ื ท่ีเสยี่ งภยั

ออกแบบและนาเสนอแนวทางการเฝ้า

ระวงั และการปฏิบตั ิตนใหป้ ลอดภยั

๗. อธบิ ายสาเหตุ กระบวนการเกดิ และผล

จากสึนามิ รวมทง้ั สบื ค้นขอ้ มูลพน้ื ท่ี

เสีย่ งภัย ออกแบบและนาเสนอ

แนวทางการเฝา้ ระวังและการปฏบิ ตั ติ น

ใหป้ ลอดภัย

๘. ตรวจสอบ และระบุชนดิ แร่ รวมท้ัง

วิเคราะหส์ มบตั ิและนาเสนอการใช้

ประโยชน์จากทรพั ยากรแร่ท่ีเหมาะสม

๙. ตรวจสอบ จาแนกประเภท และระบุ

ชอื่ หิน รวมทัง้ วเิ คราะหส์ มบัติและ

นาเสนอการใช้ประโยชน์ของทรัพยากร

หินที่เหมาะสม

มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชี้วัด ฯ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ๑๐๙

สาระท่ี ๗ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ
มาตรฐาน ว ๗.๑ เข้าใจกระบวนการเปลย่ี นแปลงภายในโลก ธรณพี บิ ตั ภิ ัย และผลตอ่ ส่งิ มชี ีวิตและ

สงิ่ แวดล้อม การศึกษาลาดับชั้นหนิ ทรพั ยากรธรณี แผนท่ี และการนาไปใช้ประโยชน์

ตัวช้ีวดั ช้นั ปี

ม.๔ ม.๕ ม.๖

๑๐. อธิบายกระบวนการเกิด และการ
สารวจแหล่งปิโตรเลยี มและถา่ นหนิ โดย
ใช้ขอ้ มลู ทางธรณีวทิ ยา

๑๑. อธบิ ายสมบตั ขิ องผลติ ภณั ฑท์ ่ไี ด้จาก
ปิโตรเลยี มและถา่ นหนิ พรอ้ มนาเสนอ
การใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสม

๑๒. อ่านและแปลความหมายจากแผนที่
ภูมปิ ระเทศและแผนทธี่ รณวี ิทยาของ
พนื้ ท่ที กี่ าหนด พร้อมทั้งอธิบายและ
ยกตัวอยา่ งการนาไปใช้ประโยชน์
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ

มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ช้วี ัด ฯ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๑๑๐

สาระที่ ๗ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ

มาตรฐาน ว ๗.๒ เขา้ ใจสมดุลพลงั งานของโลก การหมุนเวียนของอากาศบนโลก การหมนุ เวยี นของน้าในมหาสมุทร

การเกิดเมฆ การเปล่ยี นแปลงภูมิอากาศโลก และผลตอ่ ส่ิงมีชวี ิตและส่งิ แวดล้อม รวมทง้ั การ

พยากรณ์อากาศ

ตัวช้ีวดั ชัน้ ปี

ม.๔ ม.๕ ม.๖

- เนน้ วิทยาศาสตร์ -
๑. อธิบายปจั จัยสาคญั ท่ีมีผลต่อการรบั และ
คายพลังงานจากดวงอาทติ ย์แตกตา่ งกนั
และผลที่มตี อ่ อุณหภมู อิ ากาศในแตล่ ะ
บรเิ วณของโลก
๒. อธบิ ายกระบวนการทีท่ าให้เกดิ สมดลุ
พลงั งานของโลก
๓. อธิบายผลของแรงเน่ืองจากความแตกตา่ ง
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พของความกดอากาศ แรงคอรอิ อลสิ แรงสู่
ศูนยก์ ลาง และแรงเสยี ดทานท่ีมตี อ่ การ
หมุนเวียนของอากาศ
๔. อธบิ ายการหมุนเวยี นของอากาศตามเขต
ละตจิ ดู และผลที่มตี ่อภมู อิ ากาศ
๕. อธิบายปจั จยั ทท่ี าให้เกดิ การแบ่งชน้ั น้าใน
มหาสมุทร
๖. อธิบายปัจจยั ทท่ี าให้เกดิ การหมุนเวียนของ
นา้ ในมหาสมุทรและรปู แบบการหมนุ เวียน
ของนา้ ในมหาสมุทร
๗. อธิบายผลของการหมนุ เวยี นของน้าใน
มหาสมทุ รทีม่ ตี อ่ ลกั ษณะลมฟา้ อากาศ
สง่ิ มชี ีวิต และสิง่ แวดล้อม
๘. อธบิ ายความสมั พันธร์ ะหวา่ งเสถียรภาพ
อากาศและการเกดิ เมฆ
๙. อธิบายการเกิดแนวปะทะอากาศแบบตา่ ง ๆ
และลกั ษณะลมฟ้าอากาศทเี่ ก่ยี วขอ้ ง
๑๐. อธบิ ายปจั จยั ตา่ ง ๆ ที่มีผลตอ่ การ
เปลยี่ นแปลงภูมอิ ากาศของโลก พรอ้ ม
ยกตวั อยา่ งข้อมูลสนับสนุน
๑๑. วิเคราะห์ และอภิปรายเหตุการณ์ที่เป็น
ผลจากการเปลี่ยนแปลงภูมอิ ากาศโลก และ
นาเสนอแนวปฏบิ ตั ขิ องมนุษยท์ ี่มสี ว่ นช่วย
ในการชะลอการเปลย่ี นแปลงภูมิอากาศโลก
๑๒. แปลความหมายสญั ลกั ษณล์ มฟ้าอากาศ
บนแผนทอี่ ากาศ
๑๓. วิเคราะห์ และคาดการณล์ ักษณะลมฟา้
อากาศเบ้ืองต้นจากแผนที่อากาศและขอ้ มลู
สารสนเทศอน่ื ๆ เพ่อื วางแผนในการ
ประกอบอาชีพและการดาเนนิ ชีวติ ให้
สอดคลอ้ งกับสภาพลมฟ้าอากาศ

มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชีว้ ัด ฯ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ๑๑๑

สาระท่ี ๗ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศอ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ

มาตรฐาน ว ๗.๓ เขา้ ใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกดิ และววิ ฒั นาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์

และระบบสรุ ิยะ ความสัมพนั ธข์ องดาราศาสตร์กบั มนุษยจ์ ากการศึกษาตาแหนง่ ดาวบนทรงกลมฟ้า
และปฏิสมั พันธภ์ ายในระบบสรุ ยิ ะ รวมทั้งการประยุกต์ใช้เทคโนโลยอี วกาศในการดารงชีวติ

ตัวชี้วดั ชัน้ ปี

ม.๔ ม.๕ ม.๖

เนน้ วทิ ยาศาสตร์
๑. อธบิ ายการกาเนดิ และการเปลย่ี นแปลง

พลังงาน สสาร ขนาดอณุ หภมู ิของ
เอกภพหลงั เกดิ บิกแบงในช่วงเวลาตา่ ง ๆ
ตามววิ ฒั นาการของเอกภพ
๒. อธิบายหลกั ฐานที่สนับสนนุ ทฤษฎี
บิกแบง จากความสมั พันธร์ ะหวา่ ง
ความเรว็ กบั ระยะทางของกาแล็กซี
รวมทั้งขอ้ มลู การคน้ พบไมโครเวฟพืน้
หลงั จากอวกาศ
๓. อธบิ ายโครงสรา้ งและองคป์ ระกอบของ
กาแล็กซีทางชา้ งเผอื ก และระบุ
ตาแหน่งของระบบสรุ ยิ ะพรอ้ มอธบิ าย
เช่อื มโยงกับการสังเกตเห็นทางช้างเผอื ก
ของคนบนโลก
๔. อธบิ ายกระบวนการเกดิ ดาวฤกษ์ โดย
แสดงการเปลย่ี นแปลงความดัน
อุณหภมู ิ ขนาด จากดาวฤกษก์ ่อนเกิด
จนเป็นดาวฤกษ์
๕. อธบิ ายกระบวนการสร้างพลงั งานของ
ดาวฤกษแ์ ละผลทีเ่ กดิ ขน้ึ โดยวเิ คราะห์
ปฏกิ ิรยิ าลูกโซโ่ ปรตอน-โปรตอน
และวฏั จกั รคาร์บอน ไนโตรเจน
ออกซิเจน
๖. ระบปุ จั จัยทสี่ ง่ ผลตอ่ ความส่องสวา่ งของ
ดาวฤกษ์ และอธิบายความสมั พนั ธ์
ระหวา่ งความส่องสวา่ งกบั โชติมาตรของ
ดาวฤกษ์
๗. อธบิ ายความสมั พันธร์ ะหวา่ งสี อณุ หภูมิ
ผิว และสเปกตรัมของดาวฤกษ์
๘. อธบิ ายวิธีการหาระยะทางของดาวฤกษ์
ดว้ ยหลักการแพรลั แลกซ์ พร้อม
คานวณหาระยะทางของดาวฤกษ์
๙. อธิบายลาดบั วิวัฒนาการทส่ี มั พนั ธก์ บั
มวลตัง้ ตน้ และวิเคราะห์การ
เปล่ยี นแปลงสมบตั บิ างประการของ

มาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตวั ช้ีวดั ฯ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ๑๑๒

สาระท่ี ๗ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศอ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ

มาตรฐาน ว ๗.๓ เขา้ ใจองค์ประกอบ ลกั ษณะ กระบวนการเกดิ และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์

และระบบสรุ ิยะ ความสมั พันธ์ของดาราศาสตร์กับมนุษยจ์ ากการศึกษาตาแหน่งดาวบนทรงกลมฟ้า
และปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะ รวมทั้งการประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยอี วกาศในการดารงชวี ิต

ตวั ชว้ี ดั ช้ันปี

ม.๔ ม.๕ ม.๖

ดาวฤกษใ์ นลาดับววิ ฒั นาการ จาก
แผนภาพเฮริ ซ์ ปรุง-รสั เซลล์
๑๐. อธิบายกระบวนการเกดิ ระบบสุริยะ
การแบง่ เขตบริวารของดวงอาทิตย์ และ
ลักษณะของดาวเคราะห์ทเี่ ออื้ ตอ่ การ
ดารงชีวิต
๑๑. อธบิ ายการโคจรของดาวเคราะหร์ อบ
ดวงอาทิตยด์ ้วยกฏเคพเลอร์ และกฎ
ความโนม้ ถว่ งของนิวตัน พรอ้ มคานวณ
คาบการโคจรของดาวเคราะห์
๑๒. อธิบายโครงสรา้ งของดวงอาทติ ย์ การ
เกดิ ลมสรุ ยิ ะ พายสุ รุ ยิ ะ และวเิ คราะห์
นาเสนอปรากฏการณ์หรือเหตกุ ารณ์ที่
เก่ียวข้องกบั ผลของลมสรุ ยิ ะ และพายุ
สุริยะท่ีมีต่อโลกรวมท้ังประเทศไทย
๑๓. สรา้ งแบบจาลองทรงกลมฟา้ สงั เกต
และเช่อื มโยงจุดและเสน้ สาคญั ของ
แบบจาลองทรงกลมฟ้ากบั ท้องฟา้ จริง
และอธบิ ายการระบพุ ิกดั ของดาวใน
ระบบขอบฟา้ และระบบศนู ยส์ ตู ร
๑๔. สังเกตทอ้ งฟา้ และอธิบายเสน้ ทาง
การข้ึน การตกของดวงอาทิตยแ์ ละดาว
ฤกษ์
๑๕. อธิบายเวลาสรุ ยิ คตปิ รากฏ โดย
รวบรวมข้อมลู และเปรียบเทียบเวลา
ขณะที่ดวงอาทติ ยผ์ ่านเมริเดียนของผู้
สงั เกตในแตล่ ะวนั
๑๖. อธิบายเวลาสุรยิ คติปานกลาง และ
การเปรยี บเทยี บเวลาของแต่ละเขตเวลา
บนโลก
๑๗. อธบิ ายมุมห่างท่ีสมั พนั ธ์กับตาแหน่ง
ในวงโคจร และอธิบายเชื่อมโยงกบั
ตาแหนง่ ปรากฏของดาวเคราะห์ท่ี
สงั เกตได้จากโลก
๑๘. สบื คน้ ขอ้ มลู อธิบายการสารวจ
อวกาศโดยใชก้ ลอ้ งโทรทรรศนใ์ นช่วง
ความยาวคลื่นต่าง ๆ ดาวเทียม ยาน

มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวช้ีวดั ฯ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๑๑๓

สาระท่ี ๗ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ
มาตรฐาน ว ๗.๓ เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และววิ ฒั นาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์

และระบบสุริยะ ความสัมพนั ธข์ องดาราศาสตร์กบั มนุษยจ์ ากการศึกษาตาแหน่งดาวบนทรงกลมฟ้า
และปฏสิ มั พันธ์ภายในระบบสุรยิ ะ รวมทั้งการประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยอี วกาศในการดารงชีวติ

ตวั ชีว้ ัดชั้นปี

ม.๔ ม.๕ ม.๖

อวกาศ สถานอี วกาศ และนาเสนอ
แนวคิดการนาความรู้ทางด้าน
เทคโนโลยอี วกาศมาประยกุ ตใ์ ช้ใน
ชีวิตประจาวันหรอื ในอนาคต
๑๙. สบื คน้ ขอ้ มลู ออกแบบและนาเสนอ
กิจกรรมการสังเกตดาวบนท้องฟ้าดว้ ย
ตาเปลา่ และ/หรือกลอ้ งโทรทรรศน์
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ

มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ช้วี ัด ฯ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๑๑๔

สาระท่ี ๘ เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว ๘.๑ เขา้ ใจแนวคดิ หลักของเทคโนโลยเี พอื่ การดารงชวี ิตในสังคมที่มกี ารเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ใช้

ความรูแ้ ละทักษะทางดา้ นวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และศาสตร์อืน่ ๆ เพือ่ แกป้ ญั หาหรือพฒั นางาน
อย่างมคี วามคิดสร้างสรรค์ดว้ ยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลอื กใช้เทคโนโลยีอย่าง
เหมาะสมโดยคานงึ ถงึ ผลกระทบต่อชีวิต สังคม และสง่ิ แวดล้อม

ตัวช้ีวัดช้นั ปี

ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖
------

สาระที่ ๘ เทคโนโลยีอ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ

มาตรฐาน ว ๘.๑ เข้าใจแนวคดิ หลกั ของเทคโนโลยีเพอ่ื การดารงชวี ติ ในสงั คมท่ีมกี ารเปลย่ี นแปลงอยา่ งรวดเร็ว ใช้

ความรู้และทกั ษะทางด้านวทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่นๆ เพ่อื แกป้ ัญหาหรือพัฒนางาน

อยา่ งมีความคดิ สร้างสรรคด์ ้วยกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม เลือกใชเ้ ทคโนโลยีอย่าง

เหมาะสมโดยคานึงถึงผลกระทบต่อชวี ิต สงั คม และสงิ่ แวดล้อม

ตัวชีว้ ดั ช้ันปี

ม.๑ ม.๒ ม.๓ ม.๔ ม.๕ ม.๖

๑. อธิบายแนวคดิ ๑. คาดการณ์ ๑. วเิ คราะหส์ าเหตุ ๑. วิเคราะห์แนวคดิ ๑. ประยุกต์ใช้ -

หลกั ของ แนวโนม้ หรือปัจจัยทส่ี ่งผล หลกั ของ ความรแู้ ละ

เทคโนโลยีใน เทคโนโลยีท่จี ะ ต่อการ เทคโนโลยี ทกั ษะจาก

ชีวิตประจาวัน เกดิ ข้นึ โดย เปล่ยี นแปลงของ ความสมั พันธ์กับ ศาสตร์ต่างๆ

และวิเคราะห์ พิจารณาจาก เทคโนโลยี และ ศาสตรอ์ ่ืน รวมทั้งทรัพยากร

สาเหตุหรอื ปัจจยั สาเหตุ หรือ ความสมั พันธ์ของ โดยเฉพาะ ในการทา

ทส่ี ่งผลต่อการ ปัจจยั ทีส่ ่งผลตอ่ เทคโนโลยกี ับ วทิ ยาศาสตร์ โครงงานเพอ่ื

เปล่ยี นแปลงของ การเปลยี่ นแปลง ศาสตร์อนื่ หรือคณติ ศาสตร์ แก้ปญั หาหรือ

เทคโนโลยี ของเทคโนโลยี โดยเฉพาะ รวมทัง้ พัฒนางาน

๒. ระบุปญั หาหรอื และวิเคราะห์ วิทยาศาสตร์ หรอื ประเมนิ ผล

ความต้องการใน เปรียบเทยี บ คณิตศาสตร์ เพ่ือ กระทบท่จี ะ

ชีวติ ประจาวัน ตดั สนิ ใจเลอื กใช้ เปน็ แนวทางการ เกิดขึ้นต่อมนษุ ย์

รวบรวม เทคโนโลยี โดย แกป้ ญั หาหรือ สังคม เศรษฐกจิ

วเิ คราะหข์ ้อมูล คานึงถึง พัฒนางาน และส่งิ แวดล้อม

และแนวคดิ ที่ ผลกระทบท่ี ๒. ระบุปญั หาหรอื เพื่อเปน็ แนวทาง

เกี่ยวข้องกบั เกดิ ขึ้นตอ่ ชวี ติ ความตอ้ งการของ ในการพัฒนา

ปญั หา สังคม และ ชุมชนหรอื ท้องถนิ่ เทคโนโลยี

๓. ออกแบบวธิ กี าร สงิ่ แวดล้อม เพอ่ื พัฒนางาน ๒. ระบุปญั หาหรือ

แก้ปญั หา โดย ๒. ระบุปญั หาหรือ อาชพี สรปุ กรอบ ความต้องการท่มี ี

วิเคราะห์ ความต้องการใน ของปัญหา ผลกระทบตอ่

เปรียบเทยี บ และ ชมุ ชนหรือ รวบรวม วิเคราะห์ สังคม รวบรวม

ตัดสินใจเลอื ก ทอ้ งถ่นิ สรุป ข้อมูลและแนวคิด วเิ คราะห์ขอ้ มลู

มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ช้วี ัด ฯ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ๑๑๕

สาระที่ ๘ เทคโนโลยี

มาตรฐาน ว ๘.๑ เขา้ ใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยเี พือ่ การดารงชวี ติ ในสังคมที่มกี ารเปล่ียนแปลงอยา่ งรวดเรว็ ใช้

ความรู้และทกั ษะทางดา้ นวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และศาสตร์อน่ื ๆ เพอ่ื แก้ปัญหาหรือพฒั นางาน

อย่างมีความคิดสรา้ งสรรคด์ ว้ ยกระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม เลอื กใช้เทคโนโลยอี ย่าง

เหมาะสมโดยคานงึ ถงึ ผลกระทบต่อชวี ิต สงั คม และสิ่งแวดล้อม

ตัวชีว้ ัดชน้ั ปี

ม.๑ ม.๒ ม.๓ ม.๔ ม.๕ ม.๖

ข้อมูลทจี่ าเปน็ กรอบของปัญหา ทเ่ี ก่ียวขอ้ งกบั และแนวคดิ ท่ี

นาเสนอแนวทาง รวบรวม ปัญหา โดย เก่ยี วขอ้ งกบั

การแกป้ ญั หาให้ วิเคราะหข์ ้อมลู คานึงถงึ ความ ปัญหาท่มี คี วาม

ผู้อื่นเข้าใจ และแนวคดิ ที่ ถกู ตอ้ งดา้ น ซับซอ้ นเพอื่

วางแผนและ เก่ียวข้องกบั ทรพั ย์สนิ ทาง สงั เคราะห์วิธกี าร

ดาเนินการ ปัญหา ปัญญา เทคนิคในการ
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
แก้ปญั หา ๓. ออกแบบวธิ ีการ ๓. ออกแบบวิธกี าร แกป้ ญั หา โดย

๔. ทดสอบ แก้ปญั หา โดย แกป้ ญั หา โดย คานึงถงึ ความ

ประเมินผล และ วิเคราะห์ วิเคราะห์ ถกู ต้องดา้ น

ระบขุ ้อบกพรอ่ งท่ี เปรยี บเทยี บ เปรยี บเทยี บ และ ทรัพย์สินทาง

เกิดขนึ้ พร้อมทง้ั และตดั สินใจ ตัดสนิ ใจเลือก ปัญญา

หาแนวทางการ เลือกขอ้ มลู ท่ี ข้อมูลทจ่ี าเป็น ๓. ออกแบบวิธีการ

ปรบั ปรุงแก้ไข จาเปน็ ภายใต้ ภายใตเ้ งื่อนไข แก้ปญั หา โดย

และนาเสนอผล เงอ่ื นไขและ และทรัพยากรที่มี วเิ คราะห์

การแก้ปัญหา ทรพั ยากรที่มอี ยู่ อยู่ นาเสนอ เปรียบเทยี บ และ

๕. ใช้ความรู้และ นาเสนอแนวทาง แนวทางการ ตดั สินใจเลอื ก

ทักษะเก่ยี วกับ การแกป้ ญั หาให้ แกป้ ัญหาให้ผอู้ นื่ ขอ้ มลู ทจี่ าเป็น

วัสดุ อุปกรณ์ ผูอ้ ่ืนเข้าใจ เข้าใจด้วยเทคนคิ ภายใต้เงอ่ื นไข

เคร่ืองมือ กลไก วางแผน หรอื วธิ กี ารที่ และทรพั ยากรทม่ี ี

ไฟฟา้ หรอื ขน้ั ตอนการ หลากหลาย อยู่ นาเสนอ

อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ทางานและ วางแผนข้ันตอน แนวทางการ

เพ่ือแกป้ ญั หาได้ ดาเนินการ การทางานและ แกป้ ัญหาให้ผู้อนื่

อยา่ งถูกต้อง แกป้ ัญหาอย่าง ดาเนินการ เข้าใจด้วยเทคนิค

เหมาะสมและ เป็นขั้นตอน แก้ปัญหาอยา่ ง หรอื วธิ กี ารท่ี

ปลอดภยั ๔. ทดสอบ เปน็ ขน้ั ตอน หลากหลาย โดย

ประเมนิ ผล และ ๔. ทดสอบ ใชซ้ อฟตแ์ วรช์ ว่ ย

อธบิ ายปญั หา ประเมนิ ผล ในการออกแบบ

หรือขอ้ บกพร่อง วเิ คราะห์และให้ วางแผนข้ันตอน

ที่เกดิ ขึ้น ภายใต้ เหตุผลของปัญหา การทางาน และ

กรอบเงือ่ นไข หรือข้อบกพร่องท่ี ดาเนนิ การ

พร้อมทัง้ หาแนว เกดิ ข้นึ ภายใต้ แกป้ ัญหา

ทางการปรับปรุง กรอบเง่อื นไข ๔. ทดสอบ

แกไ้ ข และ พรอ้ มทงั้ หา ประเมนิ ผล

นาเสนอผลการ แนวทางการ วเิ คราะหแ์ ละให้

แก้ปญั หา ปรบั ปรงุ แกไ้ ข เหตผุ ลของปญั หา

หรอื ขอ้ บกพร่องท่ี

มาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตัวชว้ี ัด ฯ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๑๑๖

สาระท่ี ๘ เทคโนโลยี

มาตรฐาน ว ๘.๑ เขา้ ใจแนวคดิ หลักของเทคโนโลยีเพ่ือการดารงชีวติ ในสังคมท่ีมีการเปลย่ี นแปลงอยา่ งรวดเร็ว ใช้

ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อน่ื ๆ เพ่อื แก้ปญั หาหรือพัฒนางาน

อยา่ งมีความคิดสร้างสรรคด์ ว้ ยกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม เลือกใชเ้ ทคโนโลยอี ย่าง

เหมาะสมโดยคานงึ ถงึ ผลกระทบต่อชีวิต สังคม และส่ิงแวดล้อม

ตัวชีว้ ดั ชัน้ ปี

ม.๑ ม.๒ ม.๓ ม.๔ ม.๕ ม.๖

๕. ใชค้ วามรู้และ และนาเสนอผล เกดิ ข้นึ ภายใต้

ทกั ษะเกยี่ วกับ การแกป้ ญั หา กรอบเงือ่ นไข

วสั ดุ อุปกรณ์ ๕. ใชค้ วามรู้และ หาแนวทางการ

เครอื่ งมือ กลไก ทักษะเกย่ี วกับ ปรับปรงุ แก้ไข

ไฟฟ้า และ วัสดุ อุปกรณ์ และนาเสนอผล

อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ เครอื่ งมอื กลไก การแกป้ ญั หา
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
เพ่ือแกป้ ัญหา ไฟฟ้าและ พรอ้ มทง้ั เสนอ

หรือพฒั นางาน อิเล็กทรอนกิ ส์ให้ แนวทางการ

ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง ถูกต้องกับลักษณะ พัฒนาตอ่ ยอด

เหมาะสม และ ของงาน และ ๕. ใชค้ วามรูแ้ ละ

ปลอดภยั ปลอดภยั เพ่ือ ทักษะเกี่ยวกบั

แก้ปัญหาหรือ วัสดุ อุปกรณ์

พัฒนางาน เคร่ืองมอื กลไก

ไฟฟ้าและ

อเิ ลก็ ทรอนิกส์

และ

เทคโนโลยที ี่

ซบั ซอ้ นในการ

แก้ปญั หาหรือ

พัฒนางาน ได้

อย่างถกู ต้อง

เหมาะสม และ

ปลอดภัย

มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวช้วี ดั ฯ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ๑๑๗

สาระที่ ๘ เทคโนโลยี

มาตรฐาน ว ๘.๒ เขา้ ใจและใชแ้ นวคิดเชงิ คานวณในการแก้ปัญหาที่พบในชวี ิตจริงอย่างเป็นข้ันตอนและเป็นระบบ

ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี

ประสทิ ธิภาพ รเู้ ท่าทนั และมีจรยิ ธรรม

ตัวชวี้ ัดชน้ั ปี

ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖

๑. แก้ปญั หาอยา่ ง ๑. แสดงลาดับ ๑. แสดงอลั กอริทมึ ๑. ใชเ้ หตผุ ลเชงิ ๑. ใชเ้ หตุผลเชิง ๑. ใชเ้ หตผุ ลเชงิ

ง่าย โดยใชก้ าร ขั้นตอนการ ในการทางาน ตรรกะในการ ตรรกะในการ ตรรกะในการ

ลองผดิ ลองถูก ทางานหรอื การ หรือการ แก้ปัญหา การ แก้ปัญหา อธิบายและ

การเปรยี บเทียบ แกป้ ัญหาอย่าง แกป้ ัญหาอย่าง อธิบายการ การอธบิ าย ออกแบบวธิ กี าร

๒. แสดงลาดบั ง่ายโดยใชภ้ าพ งา่ ยโดยใชภ้ าพ ทางาน การ การงาน แก้ปัญหาที่พบใน

ข้นั ตอนการ สัญลกั ษณ์ หรอื สัญลักษณ์ หรอื คาดการณ์ การคาดการณ์ ชวี ติ ประจาวนั

ทางานหรือการ ขอ้ ความ ขอ้ ความ ผลลพั ธ์ จาก ผลลัพธ์จาก ๒. ออกแบบและ
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
แก้ปญั หาอยา่ ง ๒. เขยี นโปรแกรม ๒. เขยี นโปรแกรม ปญั หาอยา่ งงา่ ย ปญั หาอย่างง่าย เขียนโปรแกรม

ง่าย โดยใช้ภาพ อยา่ งงา่ ย โดยใช้ อย่างงา่ ย โดยใช้ ๒. ออกแบบ และ ๒. ออกแบบและ อยา่ งงา่ ยเพอื่

สัญลกั ษณ์ หรือ ซอฟตแ์ วร์หรอื ซอฟต์แวรห์ รือ เขยี นโปรแกรม เขียน แก้ปัญหาในชวี ติ

ข้อความ สือ่ และตรวจหา ส่ือ และตรวจหา อย่างง่าย โดยใช้ โปรแกรมท่ีมกี าร ประจาวัน

๓. เขียนโปรแกรม ขอ้ ผดิ พลาดของ ขอ้ ผดิ พลาดของ ซอฟตแ์ วรห์ รือ ใช้เหตุผลเชิง ตรวจหา

อยา่ งง่าย โดยใช้ โปรแกรม โปรแกรม ส่อื และตรวจหา ตรรกะอยา่ งงา่ ย ขอ้ ผดิ พลาดของ

ซอฟต์แวร์ หรือ ๓. ใชเ้ ทคโนโลยีใน ๓. ใช้อนิ เทอร์เนต็ ข้อผิดพลาดและ ตรวจหา โปรแกรมและ

ส่อื การสร้าง จดั คน้ หาความรู้ แก้ไข ข้อผดิ พลาดและ แกไ้ ข

๔. ใชเ้ ทคโนโลยีใน หมวดหมู่ ค้นหา ๔. รวบรวม ๓. ใชอ้ นิ เทอร์เน็ต แก้ไข ๓. ใช้อนิ เทอร์เน็ต

การสรา้ ง จดั เกบ็ จัดเกบ็ เรยี กใช้ ประมวลผล และ ค้นหาความรู้ ๓. ใช้อินเทอร์เนต็ ในการค้นหา

เรียกใชข้ ้อมลู ข้อมูลตาม นาเสนอข้อมูล และประเมนิ คน้ หาข้อมลู ข้อมูลอยา่ งมี

ตามวตั ถุประสงค์ วัตถปุ ระสงค์ โดยใชซ้ อฟต์แวร์ ความน่าเชื่อถือ ติดต่อสือ่ สาร ประสิทธภิ าพ

๕. ใชเ้ ทคโนโลยี ๔. ใชเ้ ทคโนโลยี ตามวตั ถปุ ระสงค์ ของข้อมูล และทางาน ๔. ใช้เทคโนโลยี

สารสนเทศอยา่ ง สารสนเทศอยา่ ง ๕. ใชเ้ ทคโนโลยี ๔. รวบรวม ประเมนิ ร่วมกนั สารสนเทศ

ปลอดภยั ปฏิบตั ิ ปลอดภยั ปฏบิ ตั ิ สารสนเทศอยา่ ง นาเสนอขอ้ มลู ประเมนิ ความ ทางานร่วมกนั

ตามข้อตกลงใน ตามข้อตกลงใน ปลอดภัย และสารสนเทศ นา่ เชอ่ื ถอื ของ อย่างปลอดภยั

การใช้ การใช้ ปฏบิ ตั ิตาม โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ ข้อมลู เข้าใจสทิ ธิและ

คอมพวิ เตอร์ คอมพวิ เตอร์ ขอ้ ตกลงในการ ท่หี ลากหลาย ๔. รวบรวม หน้าท่ขี องตน

รว่ มกนั ดูแลรกั ษา ร่วมกนั ดูแล ใช้อินเทอร์เนต็ เพอื่ แกป้ ัญหาใน ประเมิน เคารพในสิทธิ

อปุ กรณ์เบื้องต้น รกั ษา ชีวติ ประจาวนั นาเสนอขอ้ มูล ของผู้อื่น แจ้ง

ใช้งานอย่าง อปุ กรณ์เบ้ืองต้น ๕. ใชเ้ ทคโนโลยี และสารสนเทศ ผเู้ ก่ียวขอ้ งเม่อื พบ

เหมาะสม ใชง้ านอย่าง สารสนเทศอยา่ ง ตามวตั ถุประสงค์ ขอ้ มูลหรอื

เหมาะสม ปลอดภัย เขา้ ใจ โดยใช้ซอฟต์แวร์ บุคคลทีไ่ ม่

สทิ ธแิ ละหนา้ ท่ี หรือบริการบน เหมาะสม

ของตน เคารพใน อนิ เทอร์เน็ตที่

สิทธขิ องผอู้ ื่น หลากหลาย เพอื่

แจง้ ผ้เู ก่ยี วข้อง แกป้ ญั หาใน

เมื่อพบข้อมลู ชวี ติ ประจาวัน

หรือบุคคลท่ี ๕. ใช้เทคโนโลยี

ไม่เหมาะสม

มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ช้ีวดั ฯ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ๑๑๘

สาระที่ ๘ เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว ๘.๒ เข้าใจและใชแ้ นวคดิ เชงิ คานวณในการแกป้ ัญหาท่ีพบในชีวติ จรงิ อยา่ งเป็นข้ันตอนและเปน็ ระบบ

ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรยี นรู้ การทางาน และการแกป้ ัญหาได้อย่างมี
ประสิทธภิ าพ รเู้ ท่าทนั และมีจรยิ ธรรม

ตัวช้วี ัดช้ันปี

ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖

สารสนเทศอยา่ ง
ปลอดภยั มี
มารยาท
เข้าใจสทิ ธแิ ละ
หน้าท่ีของตน
เคารพในสิทธิ
ของผู้อ่นื แจง้
ผเู้ ก่ียวข้อง เม่ือ
พบข้อมูลหรอื
บุคคล
ทไี่ ม่เหมาะสม
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ

มาตรฐานการเรยี นร้แู ละตัวชีว้ ดั ฯ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๑๑๙

สาระที่ ๘ เทคโนโลยี

มาตรฐาน ว ๘.๒ เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแกป้ ัญหาท่ีพบในชีวติ จริงอยา่ งเป็นขนั้ ตอนและเปน็ ระบบ

ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สารในการเรยี นรู้ การทางาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี

ประสทิ ธิภาพ รู้เทา่ ทันและมีจรยิ ธรรม

ตัวชี้วัดช้ันปี

ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ ม. ๕ ม. ๖

๑. ออกแบบ ๑. ออกแบบ ๑. พัฒนาแอพ ๑. ประยกุ ต์ใช้ ๑. รวบรวม ๑. ใช้เทคโนโลยี

อลั กอริทึมทใี่ ช้ อลั กอรทิ ึมท่ีใช้ พลิเคชันทมี่ ีการ แนวคดิ เชิง วิเคราะห์ข้อมลู และ สารสนเทศในการ

แนวคิดเชงิ แนวคดิ เชงิ บรู ณาการกับวชิ า คานวณในการ ใชค้ วามรดู้ า้ น นาเสนอและ

นามธรรมเพือ่ คานวณในการ อน่ื อย่าง พัฒนาโครงงานที่ วทิ ยาการ แบ่งปนั ขอ้ มลู อยา่ ง

แกป้ ญั หาหรือ แก้ปัญหา หรือ สรา้ งสรรค์ มีการบูรณาการ คอมพวิ เตอร์ สอื่ ปลอดภัย มี

อธบิ ายการ การทางานที่พบ ๒. รวบรวมขอ้ มูล กับวชิ าอื่นอยา่ ง ดจิ ทิ ลั เทคโนโลยี จริยธรรม และ

ทางานทพี่ บใน ในชวี ิตจรงิ ประมวลผล สร้างสรรค์ และ สารสนเทศในการ วเิ คราะหก์ าร
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
ชวี ติ จรงิ ๒. ออกแบบและ ประเมนิ ผล เชอื่ มโยงกบั ชวี ติ แก้ปญั หาหรอื เพมิ่ เปล่ยี นแปลง

๒. ออกแบบและ เขียนโปรแกรมที่ นาเสนอข้อมลู จริง มลู ค่าให้กบั บริการ เทคโนโลยี

เขยี นโปรแกรม ใชต้ รรกะและ และสารสนเทศ หรอื ผลติ ภณั ฑ์ทีใ่ ช้ สารสนเทศที่มผี ล

อย่างง่าย เพื่อ ฟังกช์ นั ในการ ตามวัตถุประสงค์ ในชีวิตจรงิ อย่าง ต่อการดาเนนิ ชีวติ

แกป้ ัญหาทาง แก้ปญั หา โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ สร้างสรรค์ อาชพี สังคม และ

คณติ ศาสตร์หรอื ๓. อภิปราย หรอื บริการบน วฒั นธรรม

วิทยาศาสตร์ องคป์ ระกอบและ อินเทอร์เน็ตที่

๓. รวบรวมขอ้ มลู หลกั การทางาน หลากหลาย

ปฐมภูมิ ของระบบ ๓. ประเมนิ ความ

ประมวลผล คอมพิวเตอร์ นา่ เช่อื ถือของ

ประเมินผล และเทคโนโลยี ข้อมูล วเิ คราะห์

นาเสนอข้อมลู การสอ่ื สาร เพ่อื สือ่ และ

และสารสนเทศ ประยุกตใ์ ช้งาน ผลกระทบจาก

ตามวตั ถุประสงค์ หรอื แก้ปญั หา การให้ขา่ วสารท่ี

โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ เบื้องต้น ผดิ เพื่อการใช้

หรอื บริการบน ๔. ใช้เทคโนโลยี งานอยา่ งรู้เทา่

อนิ เทอรเ์ น็ตที่ สารสนเทศอยา่ ง ทนั

หลากหลาย ปลอดภัย มคี วาม ๔. ใช้เทคโนโลยี

๔. ใช้เทคโนโลยี รับผดิ ชอบ สรา้ ง สารสนเทศอย่าง

สารสนเทศอยา่ ง และแสดงสิทธิใน ปลอดภยั และมี

ปลอดภัย ใชส้ อื่ การเผยแพร่ ความรบั ผดิ ชอบ

และแหล่งขอ้ มูล ผลงาน ต่อสังคม ปฏบิ ตั ิ

ตามขอ้ กาหนด ตามกฎหมาย

และขอ้ ตกลง เกย่ี วกับ

คอมพิวเตอร์ ใช้

ลขิ สทิ ธิ์ของผูอ้ ืน่

โดยชอบธรรม

มาตรฐานการเรยี นร้แู ละตัวชีว้ ัด ฯ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๑๒๐

สาระภูมิศาสตร์ ในกลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

ทาไมต้องเรยี นภูมิศาสตร์

สาระภูมิศาสตร์ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจลักษณะทางกายภาพของโลก ปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับ
สิ่งแวดล้อมท่ีก่อให้เกิดการสร้างสรรค์วิถีการดาเนินชีวิต เพ่ือให้รู้เท่าทัน ปรับตัวตามการเปล่ียนแปลง
ของส่ิงแวดล้อม ตลอดจนสามารถใช้ทักษะ กระบวนการ ความสามารถทางภูมิศาสตร์ และเคร่ืองมือ
ทางภูมิศาสตร์จัดการทรพั ยากรและสงิ่ แวดลอ้ มตามสาเหตแุ ละปัจจัย อนั จะนาไปสู่การปรบั ใช้ในการดาเนนิ ชวี ติ
ดงั นั้น เพ่ือให้การเรียนรู้สาระภมู ิศาสตร์บรรลผุ ลตามเป้าหมายทกี่ าหนดไว้ จึงได้กาหนดทิศทางสาหรับครูผู้สอน
เพื่อใช้เป็นแนวทางการจัดการเรียนรู้ท่ีส่งผลให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถ และทักษะ
กระบวนการทางภูมิศาสตร์ ท่ีสะท้อนสมรรถนะสาคัญและ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน
ให้สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ที่มุ่งพัฒนาให้เป็น
คนดี มีปัญญา มีความสุข มีศักยภาพในการศึกษาต่อ และการประกอบอาชีพ จึงได้กาหนดแนวทางการจัดการ
เรียนรู้ ซ่งึ ประกอบด้วย (๑)ความรู้ความเข้าใจทางภูมิศาสตร์ (๒) ความสามารถทางภูมิศาสตร์ (๓) กระบวนการ
ทางภมู ิศาสตร์ (๔) ทกั ษะทางภมู ิศาสตร์

เรียนรอู้ ะไรในภมู ิศาสตร์

ลักษณะทางกายภาพของโลก การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ ปัญหาทางกายภาพและภัยพิบัติ
ความสัมพันธ์ของสรรพส่ิงซึ่งมีผลต่อกัน แผนที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ การใช้ภูมิสารสนเทศ
ปฏิสมั พนั ธ์ระหวา่ งมนษุ ย์กับส่ิงแวดลอ้ มทางกายภาพกบั การสร้างสรรคว์ ิถีการดาเนนิ ชีวิต กิจกรรมทางเศรษฐกิจ
และสังคม ความรว่ มมอื ด้านทรพั ยากรและสงิ่ แวดล้อมในประเทศและระหว่างประเทศ และการจัดการทรัพยากร
และสง่ิ แวดลอ้ มเพอื่ การพฒั นาอย่างย่ังยนื
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ

มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ช้ีวดั ฯ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๑๒๑

คุณภาพผู้เรียน

จบชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 3
มีความรู้เก่ียวกับลักษณะทางกายภาพของส่ิงต่าง ๆ ท่ีอยู่รอบตัวและชุมชน และสามารถปรับตัว

เท่าทันการเปลย่ี นแปลงทางกายภาพ และมีสว่ นร่วมในการจดั การทรพั ยากรและสงิ่ แวดลอ้ มใกลต้ ัว
จบชั้นประถมศึกษาปที ี่ 6

มีความรูเ้ กยี่ วกับลักษณะทางกายภาพ ภัยพิบัติ ลักษณะกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสงั คมในจงั หวัด
ภาค และประเทศไทย สามารถเตรียมพร้อมเพ่ือรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพกับภัยพิบัติต่าง ๆ ใน
ประเทศไทย และหาแนวทางในการจดั การทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม
จบชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 3

มีความรู้เกี่ยวกับลักษณะทางกายภาพ ภัยพิบัติ ลักษณะกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคม ใน
ภูมิภาคต่างๆ ของโลก ความร่วมมือด้านทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ เพื่อเตรียมพร้อมกับการ
รับมือภยั พิบัติและการจัดการทรพั ยากรและส่ิงแวดลอ้ มอย่างยงั่ ยืน
จบชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 6

มีความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ ปัญหาทางกายภาพและภัยพิบัติ ซ่ึงได้รับอิทธิพล
จากปัจจัยทางภูมิศาสตร์ ปฏิสัมพันธ์ระหว่างส่ิงแวดล้อมทางกายภาพกับการสร้างสรรค์วิถีการดาเนินชีวิต
ความร่วมมือด้านทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมในประเทศและระหว่างประเทศ เพ่ือเตรียมพร้อมกับการรับมือต่อ
การเปลีย่ นแปลงของโลก และการจดั การทรพั ยากรและสง่ิ แวดลอ้ มเพื่อการพัฒนาอย่างยัง่ ยืน
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ

มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชี้วดั ฯ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ๑๒๒

สาระท่ี ๕ ภมู ิศาสตร์

มาตรฐาน ส ๕.๑ เข้าใจลักษณะทางกายภาพของโลกและความสัมพนั ธข์ องสรรพส่ิงซงึ่ มีผลต่อกนั ใช้แผนทแี่ ละ

เครอ่ื งมือทางภูมศิ าสตร์ในการคน้ หา วิเคราะห์ และสรปุ ข้อมลู ตามกระบวนการทางภมู ศิ าสตร์

ตลอดจนใช้ภูมสิ ารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ

ตวั ช้วี ัดชั้นปี

ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖

๑. จาแนกสงิ่ ตา่ งๆ ๑. ระบุสิ่งแวดล้อม ๑. สารวจขอ้ มูล ๑. สืบค้นและ ๑.สบื คน้ และ ๑. สืบคน้ และ

รอบตัวท่เี กดิ ข้ึน ทางธรรมชาติ ทางภมู ิศาสตร์ อธิบายขอ้ มูล อธิบายข้อมูล อธบิ ายข้อมลู

เองตามธรรมชาติ และที่มนษุ ย์ ในโรงเรียนและ ลักษณะทาง ลักษณะ ลกั ษณะ

และทมี่ นุษยส์ รา้ ง สร้างข้นึ ซง่ึ ชมุ ชนโดยใช้ กายภาพของ ทางกายภาพ ทางกายภาพ

ขน้ึ ปรากฏระหวา่ ง แผนผัง แผนท่ี จงั หวดั ตนเอง ของภมู ิภาคของ ของประเทศไทย

๒. ระบุ โรงเรียนกับบา้ น และรปู ถา่ ย เพือ่ ดว้ ยแผนที่และ ตนด้วยแผนท่ี ด้วยแผนท่ี รูป

ความสมั พนั ธ์ของ ๒. ระบุตาแหน่ง แสดง รปู ถา่ ย และรูปถา่ ย ถ่ายทางอากาศ
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
ตาแหนง่ ระยะ และลกั ษณะทาง ความสัมพนั ธ์ ๒. ระบุแหลง่ ๒. อธบิ ายลกั ษณะ และภาพจาก

ทิศของสิง่ ต่างๆ กายภาพของส่ิง ของตาแหน่ง ทรัพยากรและ ทางกายภาพที่ ดาวเทยี ม
๓. ใช้แผนผังง่าย ๆ ต่างๆ ทปี่ รากฏ ระยะ ทศิ ทาง สถานทส่ี าคญั ใน ส่งผลตอ่ แหลง่ ๒. อธิบาย

ในการแสดง ในแผนผัง แผน วาดแผนผังเพอื่ จงั หวัดของตน ทรัพยากรและ ความสมั พันธ์

ตาแหนง่ ของสิ่ง ที่ รปู ถา่ ย และ แสดงตาแหนง่ ดว้ ยแผนที่และ สถานที่สาคญั ระหวา่ ง

ตา่ งๆในห้องเรยี น ลูกโลก สงั เกต ทีต่ ัง้ ของสถานที่ รูปถ่าย อธบิ าย ในภูมิภาคของ ลักษณะทาง

สงั เกตและบอก และแสดง สาคัญในบรเิ วณ ลกั ษณะทาง ตน กายภาพกับ

การเปลยี่ นแปลง ความสมั พันธ์ โรงเรียนและ กายภาพทสี่ ง่ ผล ภัยพิบตั ิ

ของสภาพอากาศ ระหวา่ งโลก ดวง ชมุ ชน ต่อแหล่ง ในประเทศไทย
อาทติ ย์และดวง ทรัพยากรและ เพื่อ
ในรอบวนั
จันทร์ ท่ที าให้ สถานที่สาคญั เตรียมพรอ้ ม

เกิด ในจังหวดั รบั มือภยั พบิ ตั ิ

ปรากฏการณ์

มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ช้ีวัด ฯ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๑๒๓

สาระท่ี ๕ ภูมิศาสตร์

มาตรฐาน ส ๕.๑ เข้าใจลกั ษณะทางกายภาพของโลกและความสัมพันธข์ องสรรพส่ิงซ่ึงมีผลต่อกัน ใชแ้ ผนทแ่ี ละ

เคร่ืองมอื ทางภมู ศิ าสตร์ในการคน้ หา วิเคราะห์ และสรปุ ข้อมูลตามกระบวนการทางภูมิศาสตร์

ตลอดจนใชภ้ มู ิสารสนเทศอย่างมีประสทิ ธิภาพ

ตวั ชวี้ ัดช้ันปี ตัวชวี้ ัดชว่ งชน้ั

ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ – ๖

๑. วเิ คราะหล์ กั ษณะทาง ๑. วิเคราะหล์ กั ษณะทาง ๑. วเิ คราะหล์ กั ษณะทาง ๑. วเิ คราะห์การเปลย่ี นแปลงทาง

กายภาพของทวีปเอเชีย กายภาพของทวีปยโุ รป กายภาพของ ทวปี กายภาพของพน้ื ที่ในประเทศไทยและ

ทวปี ออสเตรเลยี และโอ และทวปี แอฟรกิ า โดยใช้ อเมรกิ าเหนอื และทวีป ภูมภิ าคต่างๆ ของโลก ซึ่งได้รบั

เชียเนีย โดยใช้เครือ่ งมอื เครอื่ งมือทางภมู ศิ าสตร์ อเมริกาใต้ โดยเลอื กใช้ อิทธพิ ลจากปัจจยั ทางภมู ิศาสตร์

ทางภูมิศาสตรส์ บื คน้ สืบค้นข้อมลู แผนทีเ่ ฉพาะเรื่องและ ๒. วเิ คราะหล์ ักษณะทางกายภาพซ่ึงทา

ข้อมูล ๒. อธบิ ายมาตราส่วน เครอ่ื งมอื ทางภมู ิศาสตร์ ใหเ้ กดิ ปญั หาหรือภยั พิบตั ทิ าง

๒. อธบิ ายพกิ ัดภมู ิศาสตร์ ทิศ และสญั ลักษณ์ สบื ค้นข้อมูล ธรรมชาตใิ นประเทศไทยและภูมภิ าค
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
(ละติจดู และลองจจิ ูด) ๓. วเิ คราะหส์ าเหตกุ ารเกดิ ๒. วเิ คราะหส์ าเหตุการเกดิ ต่าง ๆ ของโลก

เสน้ แบ่งเวลา และ ภัยพิบัติ ของทวปี ยโุ รป ภยั พบิ ตั ขิ องทวปี อเมรกิ า ๓. ใช้แผนท่ีและเครือ่ งมือทางภูมศิ าสตร์

เปรยี บเทยี บวัน เวลาของ และทวีปแอฟริกา เหนือ และทวีปอเมริกาใต้ ในการคน้ หา วเิ คราะห์ และสรปุ ขอ้ มลู

โลก ตามกระบวนการทางภูมศิ าสตร์

๓. วเิ คราะหส์ าเหตกุ ารเกดิ และนาภมู สิ ารสนเทศมาใชป้ ระโยชน์

ภยั พบิ ัติของทวีปเอเชยี ในชวี ิตประจาวนั

ทวปี ออสเตรเลยี และ

โอเชยี เนีย

มาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตัวช้วี ดั ฯ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๑๒๔

สาระที่ ๕ ภูมศิ าสตร์

มาตรฐาน ส ๕.๒ เข้าใจปฏิสัมพันธร์ ะหว่างมนุษย์กบั ส่งิ แวดลอ้ มทางกายภาพท่กี อ่ ใหเ้ กิดการสร้างสรรค์วถิ ีการ

ดาเนินชวี ติ มีจิตสานึกและมีส่วนรว่ มในการจดั การทรัพยากร และส่ิงแวดลอ้ มเพื่อการพฒั นาท่ี

ยั่งยนื

ตัวช้ีวัดช้นั ปี

ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖

๑. บอกส่ิงตา่ ง ๆ ๑. อธิบาย ๑. เปรียบเทยี บการ ๑. วิเคราะห์ ๑. วิเคราะห์ ๑. วเิ คราะห์

ทีเ่ กดิ ตาม ความสาคญั ของ เปล่ียนแปลง สิ่งแวดล้อมทาง ส่งิ แวดลอ้ มทาง ปฏสิ มั พนั ธ์

ธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อม ทาง ส่ิงแวดลอ้ มของ กายภาพท่ีส่งผล กายภาพทมี่ ี ระหว่าง

ทีส่ ง่ ผลต่อความ ธรรมชาตแิ ละที่ ชมุ ชนในอดตี กับ ต่อการดาเนิน อิทธพิ ลตอ่ ส่งิ แวดลอ้ มทาง

เปน็ อยู่ของ มนษุ ยส์ รา้ งขึน้ ปจั จุบนั ชวี ิตของคนใน ลกั ษณะการตัง้ กายภาพกบั

มนษุ ย์ ๒. จาแนกและใช้ ๒. อธบิ ายการใช้ จังหวดั ถิ่นฐานและการ ลกั ษณะกจิ กรรม

๒. สงั เกตและ ทรัพยากร - ประโยชนจ์ าก ๒. อธิบายการ ยา้ ยถนิ่ ของ ทางเศรษฐกจิ
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
เปรียบเทยี บ ธรรมชาติที่ใช้ ส่งิ แวดลอ้ มและ เปลย่ี นแปลง ประชากรใน และสงั คม

การเปลย่ี นแปลง แลว้ ไมห่ มดไป ทรพั ยากร - สิ่งแวดลอ้ ม ภูมภิ าคของตน ในประเทศไทย

ของสง่ิ แวดล้อม และทใี่ ชแ้ ลว้ หมด ธรรมชาติ ในจังหวดั และผล ๒.วิเคราะหอ์ ทิ ธพิ ล ๒. วเิ คราะหก์ าร

ทอี่ ยู่รอบตวั เพือ่ ไปได้อยา่ งค้มุ ค่า ในการสนอง ที่เกิดจากการ ของสิง่ แวดลอ้ ม เปลย่ี นแปลงทาง

การปฏิบัตติ น ๓. อธบิ ายความ ความตอ้ งการ เปลี่ยนแปลงน้ัน ทางธรรมชาตทิ ่ี กายภาพของ

อยา่ งเหมาะสม สมั พนั ธข์ อง พืน้ ฐานของ ๓. นาเสนอ ก่อให้เกดิ วถิ ีการ ประเทศไทยใน

๓. มสี ว่ นร่วมในการ ฤดูกาลกบั การ มนษุ ย์ และการ แนวทางการ ดาเนนิ ชวี ติ ใน อดตี กับปัจจบุ ัน

ดูแลส่งิ แวดล้อม ดาเนนิ ชีวติ ของ ประกอบอาชีพ จดั การ ภมู ภิ าคของตน และผลทีเ่ กิดข้นึ

ท่ีบ้านและช้ัน มนุษย์ ๓. อธิบายสาเหตทุ ี่ ส่ิงแวดล้อมใน ๓. นาเสนอตวั อยา่ ง จากการ

เรียน ๔. มสี ่วนร่วมในการ ทาใหเ้ กิดมลพษิ จงั หวดั ที่สะทอ้ นใหเ้ หน็ เปลี่ยนแปลงนั้น

จัดการ โดยมนุษย์ ผลจากการรักษา ๓. นาเสนอตวั อยา่ งที่

ส่ิงแวดล้อม ๔. อธิบายความ และทาลาย สะทอ้ นให้เหน็

ในโรงเรียน แตกต่างของ สิ่งแวดล้อม และ ผลจากการรกั ษา

ลกั ษณะเมือง เสนอแนวทางใน และทาลาย

และชนบท การจัดการ ทรัพยากรและ

๕. อธิบาย สิ่งแวดล้อมใน สงิ่ แวดล้อม และ

ความสัมพันธ์ ภูมิภาคของตน เสนอแนวทาง

ของลักษณะ ในการจัดการ

ทางกายภาพ อย่างยง่ั ยนื ใน

กับการดาเนิน ประเทศไทย

ชีวติ ของคนใน

ชุมชน

๖. มสี ว่ นรว่ มใน

การจัดการ

สง่ิ แวดล้อม

ในชุมชน

มาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตวั ชีว้ ดั ฯ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ๑๒๕

สาระที่ ๕ ภูมิศาสตร์

มาตรฐาน ส ๕.๒ เข้าใจปฏสิ ัมพนั ธร์ ะหวา่ งมนุษยก์ ับส่งิ แวดล้อมทางกายภาพท่ีก่อให้เกดิ การสรา้ งสรรค์วิถีการดาเนิน

ชีวติ มจี ติ สานกึ และมสี ว่ นร่วมในการจัดการทรัพยากร และสงิ่ แวดลอ้ มเพื่อการพัฒนาท่ียั่งยนื

ตวั ช้ีวดั ช้ันปี ตัวชวี้ ัดช่วงช้ัน

ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ ม. ๔ – ๖

1. สารวจและระบุทาเลทตี่ งั้ 1. สารวจและระบทุ าเลทตี่ ง้ั 1. สารวจและระบทุ าเลทต่ี ้ัง ๑. วิเคราะห์ปฏสิ มั พนั ธ์ระหว่าง

ของกจิ กรรมทาง ของกิจกรรมทาง ของกจิ กรรมทาง สิง่ แวดล้อมทางกายภาพกบั กจิ กรรม

เศรษฐกจิ และสังคมใน เศรษฐกจิ และสังคมใน เศรษฐกจิ และสงั คมใน ของมนุษย์ ในการสรา้ งสรรคว์ ถิ กี าร

ทวปี เอเชยี ทวปี ทวปี ยุโรป และทวีป ทวีปอเมรกิ าเหนอื และ ดาเนนิ ชีวติ ของทอ้ งถนิ่ ทง้ั ในประเทศ

ออสเตรเลยี และโอเชีย แอฟรกิ า ทวปี อเมรกิ าใต้ ไทยและภมู ภิ าคตา่ งๆ ของโลก

เนยี 2. วิเคราะหป์ ัจจยั ทาง 2. วเิ คราะห์ปจั จยั ทาง และเหน็ ความสาคญั ของส่งิ แวดลอ้ มท่ี

2. วิเคราะห์ปจั จยั ทาง กายภาพและปัจจยั ทาง กายภาพและปจั จยั ทาง มผี ลตอ่ การดารงชวี ติ ของมนุษย์

กายภาพและ สังคมท่มี ผี ลต่อทาเลท่ตี งั้ สงั คมท่ีมีผลตอ่ ทาเลท่ตี ้งั ๒. วเิ คราะหส์ ถานการณ์ สาเหตุ และ
อ ู่ยระห ่วาง ํดเาอเกนิสนากรา ้ตรนจัฉด ับพิบม ์พ
ปจั จัยทางสงั คมทม่ี ผี ล ของกิจกรรมทาง ของกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ผลกระทบของการเปลยี่ นแปลง

ตอ่ ทาเลทตี่ ั้ง เศรษฐกจิ และสงั คมใน และสงั คมในทวปี อเมริกา ด้านทรพั ยากรธรรมชาติและ

ของกจิ กรรมทาง ทวปี ยโุ รป และทวีป เหนอื และทวปี อเมรกิ าใต้ สง่ิ แวดลอ้ มของประเทศไทยและ

เศรษฐกจิ และสังคม แอฟรกิ า 3. สบื ค้น อภปิ รายประเดน็ ภูมภิ าคต่าง ๆ ของโลก

ในทวีปเอเชีย ทวปี 3. สืบคน้ อภิปรายประเด็น ปญั หาจากปฏสิ ัมพนั ธ์ 3. ระบุมาตรการป้องกนั และแก้ไข

ออสเตรเลีย และ ปัญหาจากปฏิสมั พันธ์ ระหวา่ งสภาพแวดล้อม ปัญหา กฎหมายและนโยบายท

โอเชียเนีย ระหว่างสภาพแวดล้อม ทางกายภาพกบั มนุษยท์ ่ี ด้านทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ

3. สบื คน้ อภปิ รายประเด็น ทางกายภาพกับมนุษย์ที่ เกิดขึ้นในทวปี อเมริกา ส่งิ แวดล้อม บทบาทขององค์การ

ปญั หาจากปฏสิ ัมพนั ธ์ เกิดข้ึนในทวีปยุโรป และ เหนือ และทวีปอเมริกาใต้ ทเ่ี กีย่ วขอ้ ง และการประสานความ

ระหวา่ งสภาพแวดลอ้ ม ทวปี แอฟริกา 4. วเิ คราะห์แนวทางการ ร่วมมือทัง้ ในประเทศและระหว่าง

ทางกายภาพกับมนษุ ยท์ ี่ 4. วิเคราะหแ์ นวทางการ จดั การภยั พบิ ตั แิ ละการ ประเทศ

เกิดขนึ้ ในทวีปเอเชยี จัดการภยั พบิ ัติและการ จัดการทรัพยากรและ 4. วิเคราะหแ์ นวทางและมสี ่วนรว่ มใน

ทวปี ออสเตรเลยี และโอ จัดการทรพั ยากรและ สิ่งแวดล้อมในทวปี อเมรกิ า การจดั การทรัพยากรธรรมชาติ

เชยี เนีย ส่งิ แวดล้อมในทวีปยโุ รป เหนอื และทวปี อเมริกาใต้ และสง่ิ แวดล้อมเพื่อการพฒั นาทีย่ ง่ั ยืน

4. วเิ คราะหแ์ นวทางการ และทวปี แอฟรกิ า อย่าง อย่างย่งั ยืน

จัดการภยั พิบัติและการ ย่งั ยืน ๕. ระบุความรว่ มมือระหวา่ ง

จดั การทรพั ยากรและ ประเทศ ทมี่ ผี ลต่อการ

สงิ่ แวดล้อมในทวีปเอเชยี จัดการทรัพยากรและ

ทวีปออสเตรเลยี และโอ สิง่ แวดล้อม

เชยี เนยี อย่างยัง่ ยนื


Click to View FlipBook Version