The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

20000 1101 ภาษาไทยพื้นฐาน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Toy Bvj, 2020-06-27 02:21:36

20000 1101 ภาษาไทยพื้นฐาน

20000 1101 ภาษาไทยพื้นฐาน

๑๐

แผนการจัดการเรียนรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ หน่วยที่…………..…๑……….……..

ชือ่ หน่วย ความรทู้ ั่วไปเกยี่ วกับหลักการใช้ สอนครัง้ ท่ี……….…๒…..………….

ภาษาไทยในการสื่อสาร ชัว่ โมงรวม…………๒..……………

จานวนช่วั โมง........๒................

๔. เนือ้ หาสาระการเรยี นรู้
๔.๑ ความหมายของคาวา่ “ภาษา”
๔.๒ ถอ้ ยคาภาษาที่ใช้ในการสอ่ื สาร
๔.๓ สานวนภาษาท่ีใช้ในการสื่อสาร
๔.๔ ระดบั ของภาท่ใี ช้ในการส่อื สาร

๕. กิจกรรมการเรียนรู้

๕.๑ ขั้นนาเข้าสบู่ ทเรียน
๑. ครขู านช่อื นักเรยี น สารวจการแตง่ กายของนักเรยี น พร้อมทงั้ บันทกึ ลงในแบบสังเกต

พฤติกรรมความมวี ินัยและความรับผิดชอบ
๒. ใหน้ ักเรยี นแบง่ กลมุ่ ๖ กลุ่มเลือกประธาน เลขานุการ เพ่อื ปฏบิ ตั ิงานท่ีมอบหมาย
๓. ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มสารวจปัญหาเก่ียวกับภาษาไทยไม่ถูกตอ้ งในการส่อื สารตาม

ประสบการณ์ของแต่ละคน และจดบนั ทึก
๔. ครูใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ สง่ ตัวแทนออกมานาเสนอความคดิ เห็นของกลุ่มหน้าชั้นเรียน
๕. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรุปอกี ครง้ั หนึง่

๕.๒ ขนั้ สอน
๖. ใหน้ กั เรยี นกลุ่มเดมิ ศึกษาเน้ือหาในหนังสือเรียนวิชาภาษาไทยพื้นฐานและปฏบิ ัติตามใบงาน

ทีก่ าหนดให้
กลุ่มที่ ๑ และ ๓ ศึกษาเนื้อหาและปฏบิ ัติใบงาน เรอ่ื ง ความหมายและระดับของภาษา
กลมุ่ ท่ี ๒ และ ๕ ศึกษาเนื้อหาและปฏบิ ัตใิ บงาน เรื่อง หลกั การใช้คา
กลุ่มที่ ๔ และ ๖ ศกึ ษาเน้ือหาและปฏบิ ตั ิใบงาน เรื่อง การใช้ภาษาไทยในการสื่อสาร

๗. สมาชกิ ทุกคนในกลุ่มรว่ มกนั ทาความเขา้ ใจ คน้ คว้าคาตอบ รว่ มแสดงความคดิ เหน็

๑๑

แผนการจดั การเรยี นรู้มงุ่ เน้นสมรรถนะ หน่วยที่…………..…๑……….……..

ชือ่ หน่วย ความร้ทู ั่วไปเกีย่ วกับหลักการใช้ สอนครงั้ ท่ี……….…๒…..………….

ภาษาไทยในการสอ่ื สาร ชว่ั โมงรวม…………๒..……………

จานวนชั่วโมง........๒................

๘. สมาชิกทุกคนในกล่มุ รว่ มกันอภิปราย แลกเปลี่ยนความรู้ บันทึกสรปุ มสี ว่ นรว่ มใน
กลุ่ม แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และยอมรบั ความคดิ เหน็ ของผอู้ ่นื

๙. ใหต้ ัวแทนของแต่ละกลมุ่ ออกผลงานการศึกษาที่ได้รบั มอบหมาย สมาชกิ กลุ่มอนื่ ๆ

ประเมินผลการ
๕.๓ การสรปุ
๑๐. ครูสรปุ เนื้อหาหน่วยที่ ๑
๑๑. ใหน้ กั เรียนซกั ถามข้อสงสยั
๑๒. ใหน้ ักเรียนทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้หน่วยที่ ๑ ตรวจคาตอบดว้ ยตนเองจากแผน่ ใส
๑๓. ครูบนั ทึกคะแนนของแตล่ ะคน

แผนการจัดการเรียนรูม้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี…………..…๑……….……..

ชอ่ื หน่วย ความรทู้ ั่วไปเกี่ยวกบั หลักการใช้ สอนครง้ั ท่ี……….…๒…..………….

ภาษาไทยในการส่อื สาร ช่ัวโมงรวม…………๒..……………

จานวนชว่ั โมง........๒................

๖. สอ่ื การเรยี นร/ู้ แหล่งการเรียนรู้
๖.๑ ส่อื สิ่งพิมพ์
๖.๑.๑ หนงั สือเรียนวชิ า ภาษาไทยพนื้ ฐาน (๒๐๐๐–๑๑๐๑)
๖.๑.๒ ใบงานท่ี ๑ เรือ่ ง “ความหมายและระดับของภาษา”

๑๒
๖.๑.๓ ใบงานที่ ๒ เรือ่ ง “หลกั การใชค้ า”
๖.๑.๔ ใบงานท่ี ๓ เรือ่ ง “การใช้ภาษาไทยในการสื่อสาร”
๖.๒ สือ่ โสตทัศน์
๖.๒.๑ เพาเวอร์พอยท์
๖.๒.๒ คอมพวิ เตอรก์ ระเปา๋ ห้ิว
๖.๒.๓ เคร่อื งฉายโปรเจคเตอร์
๖.๓ หุ่นจาลองหรอื ของจรงิ
-
๖.๔ อื่นๆ
-

๗. หลกั ฐานการเรยี นรู้

๗.๑ หลักฐานความรู้
- สมดุ จดวิชาภาษาไทยพนื้ ฐาน

๗.๒ หลักฐานการปฏบิ ตั งิ าน
- ใบงาน

๘. กิจกรรมเสนอแนะ/งานมอบหมาย (ถ้ามี)

ใหน้ กั เรียนคน้ ควา้ ข้อมูลเบ้อื งต้นจากระบบอนิ เทอรเ์ น็ต ก่อนการเรยี นจะทาให้นักเรียนมีความเขา้ ใจเพม่ิ
มากขึ้น

๙. การวดั และประเมินผล
๙.๑ ก่อนเรยี น
ให้นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี น
๙.๒ ขณะเรียน
๙.๒.๑ ทาคาถามท้ายบทประจาหนว่ ยที่ ๑
๙.๒.๒ ทาใบงานที่ ๑ – ๓
๙.๒.๓ สังเกตพฤติกรรมนักนักเรียนและซกั ถามนกั เรยี นในขณะสอน
๙.๓ หลังเรียน
ทาแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยที่ ๑

๑๓

แผนการจดั การเรียนรมู้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่…………..…๑……….……..

ชือ่ หน่วย ความรูท้ ่ัวไปเกยี่ วกบั หลกั การใช้ สอนครั้งที่……….…๒…..………….

ภาษาไทยในการสือ่ สาร ช่ัวโมงรวม…………๒..……………

จานวนชวั่ โมง........๒................

๑๐. เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้
สุภัค มหาวรากรและนิธิอร พรอาไพสกุล. ภาษาไทยพ้ืนฐาน (๒๐๐๐๐-๑๑๐๑). นนทบุรี :
เอมพนั ธ์, ๒๕๕๖.

๑๑. การบูรณาการ/ความสมั พนั ธ์กบั วชิ าอ่ืน
วิชาสังคมศึกษา วชิ าคณิตศาสตร์ วิชาวทิ ยาศาสตร์

๑๔
แผนการจดั การเรียนรู้ม่งุ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่…………..…๑……….……..

ชอื่ หน่วย ความรู้ทั่วไปเก่ยี วกับหลกั การใช้ สอนครัง้ ที่……….…๒…..………….

ภาษาไทยในการสื่อสาร ช่วั โมงรวม…………๒..……………

จานวนชัว่ โมง........๒................

๑๒. บนั ทกึ หลังสอน

๑๒.๑ ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

๑๒.๒ ผลการเรียนรู้ของนักเรียน นกั ศกึ ษา
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

๑๒.๓ ทางการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................

๑๕

ใบงานที่ ๑
เรื่อง ความหมายและระดับของภาษา

-------------------------
จดุ ประสงค์ อธบิ ายภาษาและระดับภาษาท่ใี ชใ้ นการสอ่ื สารได้
คาชแ้ี จง จงอธบิ ายความหมายของภาษาและยกตวั อยา่ งระดับภาษาตามที่กาหนดให้

๑. ภาษา คือ......................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ....................................................
............................................................................................................................. ....................................................

๒. ภาษาระดบั พธิ กี าร...........................................................................................................................
............................................................................................................................. ....................................................
............................................................................................................................. ....................................................
.......................................................................................................................................................................... .......

๓. ภาษาระดับไมเ่ ป็นพิธีการ................................................................................................................
............................................................................................................................. ....................................................
.................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ....................................................

๒. ให้แตก่ ลมุ่ ส่งตัวแทนนาเสนอหนา้ ช้ันเรียน

ลงชอ่ื ………………………………………… ประธานกลมุ่
………………………………………… สมาชิก
………………………………………… สมาชิก
………………………………………… สมาชิก
………………………………………… เลขานกุ ารกลุ่ม

๑๖

ใบงานที่ ๒
เรอื่ ง หลักการใช้คา
-------------------------
จดุ ประสงค์ ใชถ้ ้อยคาและสานวนภาษาในการส่ือสารได้อยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม
คาชแ้ี จง จงแกไ้ ขการใช้คาในประโยคต่อไปน้ีให้ถกู ต้อง

๑. แดงอ่านหนังสือพลา่ เวลา
๒. กลว้ ยน้ีหงอ่ มแล้วกินไม่อร่อย
๓. แดงทาใจกวา้ งทั้ง ๆ ที่มเี งนิ เพียง ๒๐ บาท
๔. เขาไม่ได้กินอาหารท้ังวันจึงมีอาการตาลอย
๕. แมเ่ สยี ใจทลี่ กู ประพฤติตัวแหลกเหลว
๖. ประชาชนควรมคี วามกลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
๗. เขาเหงอื่ ไหลโทรมกาย

- ให้แต่กลุม่ ส่งตัวแทนนาเสนอหนา้ ชน้ั เรียน

ลงชือ่ ………………………………………… ประธานกลมุ่
………………………………………… สมาชกิ
………………………………………… สมาชิก
………………………………………… สมาชกิ
………………………………………… เลขานุการกลุ่ม

๑๗

ใบงานท่ี ๓
เร่ือง การใช้ภาษาไทยในการสอื่ สาร

-------------------------
จุดประสงค์ ใชภ้ าษาไทยในการสอ่ื สารได้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
คาช้ีแจง จงเติมการใช้ภาษาไทยในชอ่ งว่างให้ถูกต้องเหมาะสมกบั การสอื่ สาร

๑. การสื่อสารที่มีสาระสาคัญวา่ จะบอกเรือ่ งราว

บคุ คลท่สี ่ือสารกนั โอกาสและกาลเทศะ ภาษาที่ใช้พดู
...................................................
เพอื่ นกบั เพ่ือนสนิท คยุ กนั เปน็ สว่ นตัว ...................................................
...................................................
เพ่ือนกับเพ่ือนไมส่ นทิ คยุ กันที่โรงเรยี น ...................................................

ผูเ้ รียนกบั อาจารย์ พดู กนั ทโ่ี รงเรยี น

อาจารย์กบั นายกรัฐมนตรี พดู กนั ในห้องประชุมโรงเรยี น

๒. การสอ่ื สารเร่อื งแจ้งข่าวการตาย

บคุ คลทีส่ ่อื สารกนั โอกาสและกาลเทศะ ภาษาท่ใี ชพ้ ดู
...................................................
เพื่อนกบั เพื่อนสนทิ คุยกนั ที่รา้ นอาหาร ...................................................
...................................................
พี่กับน้อง คยุ กนั ทบี่ ้าน ...................................................

ผู้เรยี นกบั อาจารย์ พูดกนั ทโ่ี รงเรยี น

อาจารยก์ ับนายกรัฐมนตรี พดู กนั ในห้องประชมุ โรงเรยี น

๓. ใหแ้ ตก่ ล่มุ ส่งตวั แทนนาเสนอหน้าชน้ั เรยี น

ลงชือ่ ……….......…………………… ประธานกลุ่ม
………………………………………… สมาชกิ
………………………………………… สมาชกิ
………………………………………… สมาชกิ
………………………………………… เลขานกุ ารกลุ่ม

แผนผังความคดิ หนว่ ยที่ ๒
เร่ือง “การรับสารจากสอ่ื สิ่งพิมพ์และส่อื อิเลก็ ทรอนิกส์”

ท่ีบรู ณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

พอประมาณ ๓. นาประโยชนจ์ ากการฟัง การดแู ละ
การอ่านไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั ได้
มเี หตผุ ล อยา่ งเหมาะสม

๑. วเิ คราะห์สารจากการรับสารจาก การรับสารจากสอื่ ภูมคิ ุ้มกนั
ส่อื สิ่งพมิ พแ์ ละสอ่ื อิเล็กทรอนกิ ส์ได้ สิง่ พมิ พแ์ ละส่อื
ตามหลักการ อเิ ล็กทรอนิกส์ ๔. นาความรไู้ ปใช้ในชีวติ
ประจาวันและในงาน
๒. ประเมินคา่ สารจากการรับสารจาก อาชพี
สื่อสิ่งพิมพแ์ ละสื่ออิเล็กทรอนกิ ส์
ไดต้ ามหลกั การ

ความรู้ + ทักษะ คุณธรรม

 สาคัญของการรับสาร  มคี วามรบั ผดิ ชอบ
 จุดมุง่ หมายในการรับสาร  มวี ินยั
 หลกั ในการวิเคราะห์และประเมนิ ค่าข่าว  มมี นุษยสัมพนั ธ์
 หลกั ในการวเิ คราะห์และประเมินค่าบทความ  ความผกู พนั
 หลกั ในการวเิ คราะหแ์ ละประเมินค่าสารคดี  ความรแู้ ละทักษะทางวิชาชีพ
 หลกั ในการวิเคราะห์และประเมนิ ค่าโฆษณา

สังคม เศรษฐกจิ วฒั นธรรม สงิ่ แวดล้อม

๓,๔ ๓,๔ ๑,๒ ๓,๔

๑๘

แผนการจัดการเรียนรู้มงุ่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่…………..…๒……….……..

ชื่อหน่วย การรบั สารจากสื่อส่งิ พิมพ์ สอนครั้งที่……….…๓ - ๔……….
และส่ืออเิ ล็กทรอนิกส์ ช่วั โมงรวม…………๔..……………
จานวนชวั่ โมง........๔................

๑. สาระสาคัญ

การรบั สาร ไดแ้ ก่ การฟัง การดู และการอ่าน เป็นทกั ษะที่สาคัญในปัจจุบันซงึ่ เป็นยุคขอ้ มูล
ขา่ วสาร จึงจาเป็นอย่างยง่ิ ท่ีผู้รับสารจะต้องเลือกรับสารจากสือ่ สิง่ พิมพแ์ ละสื่ออเิ ล็กทรอนกิ ส์ ซึง่ มีอยู่มากมาย
เพอ่ื นาขอ้ มลู ทไ่ี ดไ้ ปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ทาใหเ้ กดิ ประโยชน์ทั้งตอ่ ตนเองและผู้อ่นื

๒. สมรรถนะประจาหนว่ ย
๒.๑ แสดงความรู้เก่ยี วกับความสาคัญและจุดมุง่ หมายของการรับสาร
๒.๒ แสดงความรูเ้ กีย่ วกบั หลักในการวิเคราะห์และประเมินคา่ ขา่ ว บทความ สารคดี

และโฆษณา
๒.๓ แสดงพฤติกรรมความมวี ินัย ความรบั ผิดชอบ ความมีมนษุ ยสมั พนั ธ์ ความเปน็

ประชาธิปไตย และห่างไกลจากยาเสพตดิ

๓. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๓.๑ ดา้ นความรู้
๓.๑.๑ เพือ่ ให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความสาคัญของการรับสาร
๓.๑.๒ เพ่ือให้มีความรคู้ วามเข้าใจเก่ยี วกบั จุดมุ่งหมายในการรับสาร
๓.๑.๓ เพือ่ ให้มีความรู้ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั การวิเคราะห์และประเมินคา่ ข่าว
๓.๑.๔ เพอ่ื ใหม้ คี วามรู้ความเข้าใจเกีย่ วกับการวิเคราะห์และประเมินคา่ บทความ
๓.๑.๕ เพื่อให้มีความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกับการวเิ คราะห์และประเมินคา่ สารคดี
๓.๑.๖ เพ่ือใหม้ คี วามรูค้ วามเขา้ ใจเก่ยี วกบั การวิเคราะหแ์ ละประเมนิ ค่าโฆษณา
๓.๒ ด้านทักษะ
๓.๒.๑ อธิบายความสาคัญของการรับสารได้
๓.๒.๒ บอกจดุ มุ่งหมายในการรับสารได้

๑๙

แผนการจัดการเรยี นรูม้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี…………..…๒……….……..

ช่ือหน่วย การรับสารจากส่ือส่ิงพมิ พ์ สอนครง้ั ที่……….…๓ - ๔……….
และส่ืออิเลก็ ทรอนิกส์ ชัว่ โมงรวม…………๔..……………
จานวนชัว่ โมง........๔................

๓.๑.๓ วเิ คราะห์และประเมินคา่ สารจากการฟัง การดู และการอ่านตามหลักการได้
๓.๑.๔ สามารถนาประโยชน์จากการฟัง การดู และการอ่านไปใช้ในชีวิตประจาวันได้
๓.๓ ด้านคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์
มคี วามเพยี รพยายามในการเรยี นและปฏิบตั งิ าน แต่งกายถกู ระเบียบของวิทยาลยั ฯ เข้าเรยี นและส่ง
งานตรงต่อเวลา เขา้ รว่ มกิจกรรมทีก่ าหนด รับฟังความคิดเห็นของผู้อน่ื และให้ความรว่ มมือกับผู้อื่น

๔. เนอื้ หาสาระการเรียนรู้
๔.๑ สาคญั ของการรบั สาร
๔.๒ จุดม่งุ หมายในการรับสาร
๔.๓ หลกั ในการวิเคราะห์และประเมนิ ค่าขา่ ว
๔.๔ หลกั ในการวเิ คราะหแ์ ละประเมินค่าบทความ
๔.๕ หลกั ในการวิเคราะหแ์ ละประเมินคา่ สารคดี
๔.๖ หลกั ในการวเิ คราะหแ์ ละประเมนิ คา่ โฆษณา

๕. กิจกรรมการเรยี นรู้

๕.๑ ขน้ั นาเขา้ สู่บทเรียน
๑. ครขู านชอ่ื นักเรยี น แจ้งหวั ขอ้ เรอื่ งทีจ่ ะเรยี นในวันน้ี และแจง้ ผลการเรยี นรทู้ ่ีคาดหวัง
๒. ใหน้ ักเรียนดูโฆษณาจากโทรทัศน์ เปน็ การโฆษณาครีมบารงุ ผิวหน้าทม่ี ีผลทาให้ผวิ หน้าขาวข้นึ
๓. ครูสนทนากับนักเรยี นถึงความเป็นไปไดข้ องผลการโฆษณา ว่าควรเชอ่ื หรอื ไม่อย่างไร
๔. ครพู ูดถึงความจาเป็นทีจ่ ะต้องเรียนรู้เกยี่ วกับเรอ่ื งการฟงั การดูอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ

๕.๒ ขน้ั สอน
๕. ใหน้ กั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ ๕-๖ คน โดยเลือกประธาน และเลขานุการกลุ่ม

๒๐

แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่…………..…๒……….……..

ช่ือหน่วย การรบั สารจากส่ือสงิ่ พิมพ์ สอนครง้ั ท่ี……….…๓ - ๔……….
และส่ืออเิ ลก็ ทรอนิกส์ ช่ัวโมงรวม…………๔..……………
จานวนชั่วโมง........๔................

๖. ให้นักเรียน แต่ละกลุ่มศึกษาเอกสารประกอบการเรยี นการเรียนในหวั ข้อต่อไปน้ี
กลุ่มท่ี ๑ สาคญั ของการรบั สารและจุดม่งุ หมายในการรับสาร
กล่มุ ท่ี ๒ หลักในการวเิ คราะห์และประเมนิ คา่ ข่าว
กลมุ่ ท่ี ๓ หลักในการวเิ คราะหแ์ ละประเมินค่าบทความ
กลุ่มท่ี ๔ หลกั ในการวเิ คราะหแ์ ละประเมนิ ค่าสารคดี
กลมุ่ ท่ี ๕ หลักในการวิเคราะหแ์ ละประเมนิ ค่าโฆษณา

๗. ครใู หน้ ักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมาสรปุ สาระสาคญั ของกลมุ่ ตนเองหน้าชนั้ เรยี น

๕.๓ การสรปุ
๘. ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ สาระสาคัญของเนื้อหาข้างต้น และมีการอภปิ รายซกั ถาม

สอนคร้งั ท่ี ๒ (คาบท่ี ๓ – ๔)

๕.๑ ข้นั นาเข้าสู่บทเรียน

๙. ครูทบทวนเนือ้ หาเม่ือสปั ดาหท์ ี่แลว้
๕.๒ ข้ันสอน

๑๐. ครูใหน้ ักเรียนกลุ่มเดมิ รับใบงานที่ ๑ การฟังขา่ ว และใบงานที่ ๒ การดูโฆษณา
๑๑. ครูนาวีซดี ีท่ีบนั ทึกการอา่ นขา่ วและโฆษณามาเปิดให้นักเรียนดแู ละฟงั แล้วใหน้ กั เรยี นสรุป
ขา่ วเขียนลงใบงาน
๑๒. ครใู ห้นักเรียนแต่ละกลมุ่ ส่งตัวแทนออกไปนาเสนอผลงานหนา้ ช้ันเรียน
๑๓. ในขณะปฏิบตั ิงานกลุ่ม ครแู ละประธานกลมุ่ ประเมินพฤติกรรมการปฏบิ ตั งิ านกลมุ่ จด
บันทึกคะแนนไว้
๕.๓ การสรุป
๑๔. ครูและนักเรยี นร่วมกันสรปุ ใจความสาคัญของขา่ ว จดบันทกึ ไว้

๒๑

แผนการจัดการเรียนรูม้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี…………..…๒……….……..

ช่ือหน่วย การรับสารจากสื่อส่ิงพิมพ์ สอนคร้ังที่……….…๓ - ๔……….
และสื่ออิเล็กทรอนกิ ส์ ช่ัวโมงรวม…………๔..……………
จานวนช่ัวโมง........๔................

๑๕. ครสู รุปสาระจากการดวู ซี ีดโี ฆษณาอีกครั้ง นักเรียนซกั ถาม
๑๖. ครูและนักเรียน ประเมนิ พฤติกรรมการปฏบิ ัติงานกลมุ่ จดบันทึกคะแนนไว้
๑๗. ครสู รุปเนอ้ื หาอกี ครง้ั โดยใช้แผน่ ใส

๖. สอื่ การเรยี นร้/ู แหลง่ การเรยี นรู้
๖.๑ ส่อื ส่ิงพิมพ์
๖.๑.๑ หนังสอื เรยี นวชิ า ภาษาไทยพนื้ ฐาน (๒๐๐๐–๑๑๐๑)
๖.๑.๒ ใบงานท่ี ๑ เรอื่ ง การฟงั ขา่ ว และใบงานท่ี ๒ เรอื่ งการดโู ฆษณา
๖.๒ สื่อโสตทัศน์
๖.๒.๑ เพาเวอรพ์ อยท์
๖.๒.๒ คอมพิวเตอรก์ ระเปา๋ หว้ิ
๖.๒.๓ เครอ่ื งฉายโปรเจคเตอร์
๖.๒.๔ วีซดี ีขา่ วและโฆษณา

๖.๓ หนุ่ จาลองหรือของจริง
-

๖.๔ อนื่ ๆ
-

๒๒

แผนการจัดการเรยี นร้มู ุ่งเนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่…………..…๒……….……..

ช่อื หน่วย การรับสารจากสื่อสง่ิ พมิ พ์ สอนครง้ั ที่……….…๓ - ๔……….
และสื่ออเิ ลก็ ทรอนิกส์ ชั่วโมงรวม…………๔..……………
จานวนช่วั โมง........๔................

๗. หลกั ฐานการเรียนรู้

๗.๑ หลักฐานความรู้
- สมุดจดวิชาภาษาไทยพื้นฐาน
- ใบงาน
- แบบสงั เกต

๗.๒ หลักฐานการปฏบิ ตั งิ าน
- ผลการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมในใบงาน
- พฤตกิ รรมทีแ่ สดงออกขณะปฏบิ ตั ิงานที่มอบหมาย

๘. กิจกรรมเสนอแนะ/งานมอบหมาย (ถา้ ม)ี

ให้นักเรียนค้นควา้ ข้อมลู เบ้ืองต้นจากระบบอนิ เทอรเ์ น็ต ก่อนการเรียนจะทาใหน้ ักเรยี นมคี วามเขา้ ใจเพม่ิ
มากขนึ้

๙. การวัดและประเมินผล
๙.๑ ก่อนเรยี น
ใหน้ ักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน
๙.๒ ขณะเรยี น
๙.๒.๑ ทาคาถามท้ายบทประจาหนว่ ยท่ี ๒
๙.๒.๒ ทาใบงานที่ ๑ – ๓
๙.๒.๓ สังเกตพฤติกรรมนกั นกั เรยี นและซักถามนักเรยี นในขณะสอน
๙.๓ หลงั เรียน
ทาแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยที่ ๒

๒๓

แผนการจดั การเรียนรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี…………..…๒……….……..

ชอ่ื หน่วย การรับสารจากสื่อสิ่งพมิ พ์ สอนคร้ังที่……….…๓ - ๔……….
และสื่ออิเล็กทรอนกิ ส์ ช่ัวโมงรวม…………๔..……………
จานวนช่วั โมง........๔................

๑๐. เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู้
สุภัค มหาวรากรและนิธอิ ร พรอาไพสกุล. ภาษาไทยพ้นื ฐาน (๒๐๐๐๐-๑๑๐๑). นนทบุรี :
เอมพันธ,์ ๒๕๕๖.

๑๑. การบูรณาการ/ความสมั พันธก์ ับวิชาอนื่
วิชาสังคมศึกษา วชิ าคณติ ศาสตร์ วชิ าวิทยาศาสตร์

๒๔ หน่วยท่ี…………..…๒……….……..
สอนครัง้ ท่ี……….…๓ - ๔……….
แผนการจัดการเรยี นรู้มงุ่ เน้นสมรรถนะ ชว่ั โมงรวม…………๔..……………
จานวนชว่ั โมง........๔................
ชือ่ หน่วย การรบั สารจากสื่อสง่ิ พิมพ์
และส่ืออิเล็กทรอนิกส์

๑๒. บันทกึ หลังสอน

๑๒.๑ ผลการใช้แผนการจดั การเรยี นรู้
...................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

๑๒.๒ ผลการเรียนร้ขู องนกั เรยี น นกั ศกึ ษา
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

๑๒.๓ ทางการพฒั นาคุณภาพการเรียนรู้
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................

๒๕

ใบงานที่ ๑
การฟงั ขา่ ว

จดุ ประสงค์ เพ่ือให้นักเรียนมคี วามรู้ ความเขา้ ใจ และฟังเร่ืองราวต่างๆ อย่างมีประสิทธภิ าพ และสามารถจับ
สาระสาคัญของเร่ืองที่ฟังไดถ้ ูกตอ้ ง

คาสง่ั นกั เรยี นทกุ กลุ่มฟังข่าวจากวีซีดี (อดั มาจากโทรทัศน์) แลว้ สรุปสาระสาคัญลงใบงาน

ข่าวเรอ่ื ง………………………………………………………….

สาระสาคัญของ
ข่าว………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………..............................................................................................……………………………..
ประเภทของขา่ ว……………………………………………………............…………………………….………….…………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ความชัดเจนของขา่ ว………………………………………………………………………....................................………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ความนา่ เชอ่ื ถือ………………………………………………………………………………………………...........……………...
……………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ลงช่ือ ………………………………………… ประธานกลุ่ม
………………………………………… สมาชกิ
………………………………………… สมาชิก
………………………………………… สมาชิก
………………………………………… เลขานุการกลุ่ม

๒๖

ใบงานท่ี ๒
การดูโฆษณา

จดุ ประสงค์ เพื่อให้นักเรียนรู้จักการใชว้ ิจารณญาณในการดสู อ่ื โฆษณา สามารถนาไปใชใ้ นชีวิต ประจาวัน
ได้

คาสงั่ นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ดูวีซดี ีเกี่ยวกับโฆษณา โดยสรปุ สาระสาคัญดังนี้

โฆษณา เร่อื ง……………………………....……….
ประเภทของสนิ ค้า……………………………………………………………................…………………………….……………..
……………………………………………..........…………………………………………………………………………….…………….
……………….………………………………………………………………….………………………………………………………..……
จุดมุ่งหมายของการโฆษณา……………………………………………………........................................…..……………
……………………………………………………………………………..……………………………………………………………………
ความสาคญั และความน่าเช่อื ถอื …………………………………………......................................................…………
……………………..…………………………………………………………………………………………………….…………………….
ความคิดสร้างสรรค์……………………………...................………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………….…

ลงชอ่ื ………………………………………… ประธานกลมุ่
………………………………………… สมาชกิ
………………………………………… สมาชิก
………………………………………… สมาชิก
………………………………………… เลขานุการกลุ่ม

แผนผังความคดิ หนว่ ยที่ ๓
เรอื่ ง “การอ่านวรรณกรรมท้องถ่ิน สง่ เสรมิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรมและคา่ นยิ ม”

ท่ีบรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

พอประมาณ ๔. ข้อคิดทีไ่ ดร้ บั จากวรรณกรรม
นาไปใชใ้ นชีวิตจริงได้อยา่ งเหมาะสม
มีเหตผุ ล
ภูมคิ ุ้มกนั
๑. วเิ คราะห์คุณธรรม จริยธรรมและ
คา่ นยิ มวรรณกรรมท้องถ่นิ ได้ การอา่ นวรรณกรรม ๕. รู้จกั นาคณุ คา่ จาก
ท้องถิ่น สง่ เสรมิ วรรณกรรมท้องถิน่ มาใช้
๒. เห็นคุณค่าของเอกลักลกั ษณ์และ คุณธรรม จรยิ ธรรม ปฏิบตั ติ นให้เป็น
ค่านยิ มของสงั คมท้องถน่ิ แบบอย่างที่ดไี ด้
และคา่ นิยม
๓. ภาคภูมใิ จในการใชห้ ลกั เศรษฐกจิ
พอเพยี งในชีวติ จรงิ

ความรู้ + ทกั ษะ คณุ ธรรม

 ความหมายของวรรณกรรมท้องถน่ิ  มคี วามรบั ผิดชอบ
 ลกั ษณะของวรรณกรรมทอ้ งถน่ิ  มีวินยั
 ประโยชน์ในการศึกษาวรรณกรรมท้องถ่นิ  มมี นษุ ยสมั พันธ์
 ลักษณะของนิทานพื้นบ้าน  ความผกู พัน
 ประเภทของนทิ านพืน้ บ้าน  ความรูแ้ ละทักษะทางวิชาชีพ
 บทบาทและหนา้ ท่ีของนิทานพืน้ บ้าน
 การอา่ นวรรณกรรมท้องถน่ิ ทส่ี ่งเสรมิ คุณธรรม จริยธรรมและ

ค่านิยม : นิทานพน้ื บ้าน เร่ือง ปลาบู่ทอง

สังคม เศรษฐกิจ วฒั นธรรม สิง่ แวดล้อม

๕ ๓,๔ ๑,๒ ๔,๕

๒๗

แผนการจัดการเรยี นรู้มงุ่ เน้นสมรรถนะ หนว่ ยที่…………..…๓……….……..

ชอ่ื หน่วย การอ่านวรรณกรรมท้องถ่ิน สอนคร้งั ที่……….…๕……….
สง่ เสริมคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและ ชัว่ โมงรวม…………๒..……………
คา่ นิยม จานวนชวั่ โมง........๒................

๑. สาระสาคญั

วรรณกรรมท้องถ่ินเป็นวรรณกรรมเฉพาะถิน่ ทมี่ ีอยู่ในท้องถ่ินหน่ึง ๆ แสดงเอกลกั ษณ์ และคา่ นยิ ม
ของสังคมท้องถ่ินนัน้ นิทานพน้ื บา้ นเปน็ วรรณกรรมท้องถ่ินประเภทหน่ึงทีแ่ สดงสภาพสังคม ตลอดจนคา่ นยิ ม
ของทอ้ งถ่นิ น้ัน นบั เปน็ วธิ ีการหน่งึ ในการบนั ทึกวิถชี วี ิตของคนในท้องถ่นิ นั้นได้อยา่ งดียิ่ง วรรณกรรมท้องถนิ่ มี
ลกั ษณะเฉพาะตวั ขณะเดียวกนั ก็มีการนาเสนอแนวคิดท่นี ่าสนใจและควรคา่ แก่การศึกษา

๒. สมรรถนะประจาหนว่ ย
๒.๑ แสดงความร้เู ก่ียวกบั คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมจากวรรณกรรมท้องถนิ่ ท่ีศึกษา
๒.๒ นาความร้ทู ่ไี ดร้ บั ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ติ จรงิ
๒.๓ แสดงพฤติกรรมความมี ความรบั ผดิ ชอบ ความมวี นิ ัย มนษุ ยสัมพันธ์ ความผูกพัน ความรู้

และทักษะทางวชิ าชีพ ความเป็นประชาธปิ ไตยและหา่ งไกลจากยาเสพตดิ

๓. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
๓.๑ ด้านความรู้
๓.๑.๑ เพอ่ื ใหม้ คี วามรู้และความเขา้ ใจเกย่ี วกบั ความหมาย ลักษณะ และประโยชนข์ องวรรณกรรม

ทอ้ งถนิ่
๓.๑.๒ เพ่ือให้มีความรแู้ ละเขา้ ใจเก่ียวกบั ลักษณะของนิทานพื้นบ้าน
๓.๑.๓ เพอื่ ให้มีความรู้เกยี่ วกบั ประเภท บทบาท และหน้าท่ีของนิทานพ้ืนบ้าน
๓.๑.๔ เพ่ือใหเ้ ห็นคณุ คา่ ของการอา่ นนทิ านพื้นบ้าน เรือ่ ง ปลาบทู่ อง

๓.๒ ดา้ นทักษะ
๓.๒.๑ บอกความหมาย ลกั ษณะ และประโยชน์ของวรรณกรรมทอ้ งถิน่ ได้
๓.๒.๒ อธิบายลักษณะของนทิ านพืน้ บา้ นได้
๓.๒.๓ อธบิ ายประเภท บทบาท และหนา้ ทีข่ องนทิ านพ้นื บ้านได้

๒๘

แผนการจัดการเรยี นรู้มงุ่ เนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี…………..…๓……….……..

ชือ่ หน่วย การอา่ นวรรณกรรมทอ้ งถ่ิน สอนครั้งที่……….…๕……….
สง่ เสริมคณุ ธรรม จริยธรรมและ ชว่ั โมงรวม…………๒..……………
คา่ นิยม จานวนชว่ั โมง........๒................

๓.๒.๔ เห็นคณุ คา่ ของการอ่านนิทานพนื้ บ้าน เรอ่ื ง ปลาบู่ทอง
๓.๓ ด้านคุณลักษณะท่ีพงึ ประสงค์

มคี วามเพยี รพยายามในการเรียนและปฏบิ ัตงิ าน แตง่ กายถกู ระเบียบของวทิ ยาลยั ฯ เขา้ เรยี นและสง่
งานตรงต่อเวลา เข้ารว่ มกจิ กรรมทกี่ าหนด รับฟังความคดิ เหน็ ของผู้อน่ื และใหค้ วามร่วมมอื กับผู้อนื่

๔. เนอ้ื หาสาระการเรียนรู้
๔.๑ ความหมายของวรรณกรรมท้องถ่ิน
๔.๒ ลักษณะของวรรณกรรมทอ้ งถนิ่
๔.๓ ประโยชน์ในการศึกษาวรรณกรรมท้องถิ่น
๔.๔ ลกั ษณะของนิทานพืน้ บ้าน
๔.๕ ประเภทของนิทานพ้ืนบ้าน
๔.๖ บทบาทและหน้าที่ของนิทานพ้ืนบ้าน
๔.๗ การอา่ นวรรณกรรมทอ้ งถน่ิ ทสี่ ง่ เสรมิ คุณธรรม จริยธรรม และคา่ นิยม : นทิ านพื้นบา้ น เรอื่ ง ปลา

บทู่ อง

๕. กิจกรรมการเรียนรู้

๕.๑ ขน้ั นาเขา้ สู่บทเรียน
๑. ครูตรวจสอบเชค็ รายชอื่ นักเรยี นทเ่ี ข้าเรยี น
๒. ครแู จง้ ผลการเรียนรูท้ ค่ี าดหวังเรือ่ งการอ่านวรรณกรรมทอ้ งถิ่นทส่ี ่งเสรมิ คุณธรรม จรยิ ธรรม

และคา่ นิยม
๓. ครูนาหนงั สือวรรณคดหี ลาย ๆ เร่อื ง อาทเิ ชน่ รามเกียรต์ิ ขุนชา้ งขุนแผน ลิลิตพระลอ มาให้

๒๙

แผนการจัดการเรยี นรู้มงุ่ เน้นสมรรถนะ หน่วยท่ี…………..…๓……….……..

ช่ือหน่วย การอ่านวรรณกรรมทอ้ งถ่นิ สอนครง้ั ท่ี……….…๕……….
ส่งเสริมคณุ ธรรม จริยธรรมและ ชั่วโมงรวม…………๒..……………
คา่ นยิ ม จานวนชั่วโมง........๒................

นักเรยี นดู
๔. ใหน้ ักเรียนช่วยกันอภิปรายถึงความสาคัญต่อสังคมและวฒั นธรรมไทยอยา่ งไร
๕. ครูสรุปถึงความสาคญั ของวรรณคดี และการนาคตแิ งค่ ิดจากวรรณคดีไปปรับใชใ้ น

ชวี ติ ประจาวนั
๕.๒ ขั้นสอน
๖. ใหน้ กั เรยี นแบ่งกล่มุ ๆ ละ ๕ - ๖ คนเลอื กประธานและเลขานกุ าร
๗. ให้นกั เรียนแต่ละกล่มุ ศึกษาจากหนังสือประกอบการเรียนวิชาภาษาไทยพนื้ ฐาน ในหัวข้อ

ต่อไปน้ี

กลุ่มท่ี ๑ ความหมายของวรรณกรรมท้องถ่นิ
กลุ่มที่ ๒ ประโยชนข์ องวรรณกรรมท้องถ่ิน
กล่มุ ท่ี ๓ ลักษณะและประเภทของนิทานพืน้ บา้ น
กลมุ่ ท่ี ๔ บทบาทและหน้าทขี่ องนิทานพ้ืนบา้ น
๘. ครใู ห้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนนาเสนอหนา้ ชน้ั เรียน
๙. ใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ ศึกษาจากหนงั สือประกอบการเรยี นวิชาภาษาไทยพ้นื ฐาน ในหวั ขอ้ เร่ือง
“การอ่านวรรณกรรมท้องถนิ่ ท่ีสง่ เสริม คุณธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นยิ ม : นทิ านพนื้ บ้าน เรื่อง ปลาบู่ทอง”
๑๐. ครูแจกใบงาน ให้นักเรียน แต่ละกลุ่มปฏิบตั งิ านดงั น้ี
กลมุ่ ที่ ๑ ลักษณะนิสยั ตวั ละคร
กลุ่มท่ี ๒ เปรียบเทยี บลกั ษณะนสิ ยั คนในปัจจบุ ัน
กล่มุ ท่ี ๓ ตวั อยา่ งทคี่ วรนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวัน
กลุ่มท่ี ๔ แง่คดิ การนาไปใช้

๓๐

แผนการจดั การเรยี นรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี…………..…๓……….……..

ชอ่ื หน่วย การอ่านวรรณกรรมท้องถ่ิน สอนครงั้ ที่……….…๕……….
สง่ เสรมิ คุณธรรม จรยิ ธรรมและ ชว่ั โมงรวม…………๒..……………
คา่ นยิ ม จานวนช่วั โมง........๒................

๑๑. ครใู หน้ ักเรยี นอภปิ รายถึงคุณธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ ม นทิ านพืน้ บา้ น เรอื่ ง “ปลาบู่
ทอง”

๑๒. ครแู ละนกั เรียนสรปุ สาระสาคญั ของเนื้อหาร่วมกัน

๑๓. จดบันทกึ ผลการปฏิบัตงิ าน แล้วใหต้ ัวแทนกลุ่มนาเสนอหนา้ ช้นั เรยี น กลมุ่ อน่ื ๆ ช่วยกนั
ประเมนิ ผล

๑๔. ครปู ระเมนิ การนาเสนองานกลมุ่ จดบนั ทึกคะแนนไว้

๕.๓ การสรปุ
๑๕. ครูสรปุ เนื้อหาหน่วยที่ ๓
๑๖. ให้นักเรียนซักถามขอ้ สงสยั
๑๗. ให้นักเรียนทาแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้หนว่ ยท่ี ๓ ตรวจคาตอบดว้ ยตนเองจากแผ่นใส
๑๘. ครจู ดบนั ทึกคะแนนไว้

๖. สอื่ การเรยี นร/ู้ แหล่งการเรียนรู้

๖.๑ สอื่ ส่ิงพิมพ์
๖.๑.๑ หนังสอื เรยี นวิชา ภาษาไทยพื้นฐาน (๒๐๐๐–๑๑๐๑)
๖.๑.๒ ใบงาน
๖.๑.๓ ตัวอย่างหนงั สอื วรรณคดี

๖.๒ สอ่ื โสตทศั น์
๖.๒.๑ เพาเวอร์พอยท์
๖.๒.๒ คอมพิวเตอรก์ ระเปา๋ หวิ้
๖.๒.๓ เครอ่ื งฉายโปรเจคเตอร์

๓๑

แผนการจดั การเรียนรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี…………..…๓……….……..

ชอ่ื หน่วย การอา่ นวรรณกรรมทอ้ งถน่ิ สอนครง้ั ท่ี……….…๕……….
ส่งเสรมิ คุณธรรม จรยิ ธรรมและ ชว่ั โมงรวม…………๒..……………
ค่านยิ ม จานวนชวั่ โมง........๒................

๖.๓ หนุ่ จาลองหรือของจรงิ
-

๖.๔ อน่ื ๆ
-

๗. หลักฐานการเรยี นรู้

๗.๑ หลักฐานความรู้
- สมุดจดวชิ าภาษาไทยพน้ื ฐาน
- ใบงาน
- แบบสังเกต

๗.๒ หลักฐานการปฏบิ ัติงาน
- ผลการปฏิบัติกิจกรรมในใบงาน
- พฤติกรรมทแ่ี สดงออกขณะปฏิบตั ิงานที่มอบหมาย

๘. กจิ กรรมเสนอแนะ/งานมอบหมาย (ถา้ ม)ี

ให้นักเรียนคน้ คว้าข้อมลู เบื้องตน้ จากระบบอนิ เทอร์เน็ต ก่อนการเรยี นจะทาให้นักเรียนมีความเขา้ ใจเพ่ิม
มากขน้ึ

๙. การวดั และประเมินผล
๙.๑ ก่อนเรยี น
ใหน้ กั เรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียน

๓๒

แผนการจดั การเรียนรู้มงุ่ เนน้ สมรรถนะ หน่วยที่…………..…๓……….……..

ชอ่ื หน่วย การอ่านวรรณกรรมทอ้ งถิ่น สอนคร้งั ท่ี……….…๕……….
สง่ เสริมคุณธรรม จรยิ ธรรมและ ชวั่ โมงรวม…………๒..……………
ค่านยิ ม จานวนชว่ั โมง........๒................

๙.๒ ขณะเรยี น
๙.๒.๑ ทาคาถามท้ายบทประจาหน่วยที่ ๓
๙.๒.๒ ทาใบงานท่ี ๑
๙.๒.๓ สังเกตพฤติกรรมนักนักเรยี นและซกั ถามนกั เรียนในขณะสอน

๙.๓ หลงั เรียน
ทาแบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยท่ี ๓

๑๐. เอกสารประกอบการจดั การเรียนรู้
สุภคั มหาวรากรและนธิ อิ ร พรอาไพสกลุ . ภาษาไทยพ้ืนฐาน (๒๐๐๐๐-๑๑๐๑). นนทบรุ ี :
เอมพนั ธ,์ ๒๕๕๖.

๑๑. การบรู ณาการ/ความสัมพนั ธ์กับวิชาอ่ืน
วิชาสังคมศกึ ษา วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์

๓๓

แผนการจัดการเรยี นรูม้ ่งุ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี…………..…๓……….……..
สอนคร้ังที่……….…๕……….
ช่ือหน่วย การอ่านวรรณกรรมท้องถน่ิ ชั่วโมงรวม…………๒..……………
สง่ เสริมคุณธรรม จริยธรรมและ จานวนช่ัวโมง........๒................
คา่ นยิ ม

๑๒. บนั ทกึ หลังสอน

๑๒.๑ ผลการใช้แผนการจดั การเรียนรู้
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

๑๒.๒ ผลการเรยี นรู้ของนักเรยี น นกั ศึกษา
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

๑๒.๓ ทางการพัฒนาคณุ ภาพการเรยี นรู้
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................

๓๔

ใบงานท่ี ๑
เรื่อง วเิ คราะหน์ ิทานพ้ืนบา้ นเรอ่ื ง “ปลาบู่ทอง”

วตั ถปุ ระสงค์ เพ่ือใหม้ คี วามรู้ ความเข้าใจ วิเคราะหล์ ักษณะนสิ ยั ตวั ละคร เปรยี บเทยี บชวี ติ จริง นาไป
คาช้แี จง ปรับใช้ในชีวติ ประจาวนั ได้
ให้นักเรยี นศึกษาหนงั สือประกอบการเรยี นวชิ าภาษาไทยพ้ืนฐาน ในหวั ขอ้ เร่อื ง“การอา่ น
วรรณกรรมทอ้ งถนิ่ ท่สี ่งเสริม คณุ ธรรม จริยธรรม และค่านยิ ม : นทิ านพ้นื บา้ น เร่อื ง
ปลาบ่ทู อง” แตล่ ะกลุ่มปฏิบัติงาน ดังน้ี
กลมุ่ ที่ ๑ ลกั ษณะนสิ ัยตัวละคร
กลมุ่ ที่ ๒ เปรียบเทียบลกั ษณะนิสยั คนในปัจจบุ ัน
กลมุ่ ที่ ๓ ตัวอย่างท่ีควรนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวัน
กลมุ่ ที่ ๔ แงค่ ดิ การนาไปใช้

ลงช่ือ …………………… ประธานกลมุ่
...………………… สมาชกิ

...………………… สมาชกิ
...………………… สมาชิก

...………………… เลขานกุ ารกลุ่ม

แผนผังความคดิ หน่วยที่ ๔
เร่อื ง “การพดู สอ่ื สารตามมารยาทของสังคม”

ท่ีบรู ณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

พอประมาณ ๔. นาความรเู้ ก่ยี วกบั การพดู ไปใชใ้ น
ชวี ิตจรงิ และในงานอาชีพไดอ้ ยา่ ง
มีเหตุผล เหมาะสม

๑. วิเคราะหส์ ถานการณ์การพูดสอ่ื สาร การพูดสอ่ื สารตาม ภูมคิ ุ้มกนั
ได้ มารยาทของสงั คม
๕. พูดสือ่ สารได้โดยคานงึ ถึง
๒. พดู ได้ถูกต้องตามหลกั การและ ความถกู ตอ้ งเหมาะสม
มารยาทของสงั คม กบั กาลเทศะ บุคคล
และโอกาส
๓. พดู สือ่ สารไดใ้ นชีวิตจรงิ และในงาน
อาชีพ

ความรู้ + ทักษะ คุณธรรม

 ความหมายและความสาคญั ของการพูด  มีความรับผดิ ชอบ
 การกลา่ วทักทายและโตต้ อบ  มวี ินยั
 การแนะนาตนเองและผู้อื่น  มีมนษุ ยสัมพันธ์
 การตอบรับและปฏิเสธ  ความผกู พนั
 การพูดแสดงความยนิ ดีและความเสียใจ  ความรูแ้ ละทักษะทางวิชาชีพ

สังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม
๔,๕ ๓,๔,๕ ๑,๒ ๔,๕

๓๕

แผนการจัดการเรียนรูม้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี…………..…๔……….……..

ชอื่ หน่วย การพูดสื่อสารตามมารยาท สอนครง้ั ท่ี……….…๖……….
ของสังคม ชวั่ โมงรวม…………๒..……………
จานวนช่วั โมง........๒................

๑. สาระสาคัญ

การพูดเป็นทักษะการสง่ สารท่ีใช้ในชีวติ ประจาวนั เปน็ การสื่อสารตามมารยาทของสังคม ซึง่ ต้องมี
หลักการพดู เพื่อใหส้ อ่ื สารในชีวิตประจาวันได้ ผทู้ ป่ี ระสบความสาเร็จในชวี ติ ส่วนใหญเ่ ป็นผ้ทู ่ีมที ักษะการพดู
อย่ใู นขั้นทีด่ ี และพฒั นาให้ดีขน้ึ ได้หากเรียนรู้และมีโอกาสฝึกฝน

๒. สมรรถนะประจาหน่วย
๒.๑ พูดติดต่อกิจธรุ ะตามมารยาทของสงั คม
๒.๒ นาความรูท้ ่ีไดร้ ับไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ติ ประจาวนั และในงานอาชพี ได้อยา่ งถูกต้อง เหมาะสมกับ

กาลเทศะ และโอกาส

๓. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
๓.๑ ดา้ นความรู้

๓.๑.๑ เพื่อใหม้ ีความรู้ ความเข้าใจ เกยี่ วกบั ความหมายและความสาคัญของการพูด
๓.๑.๒ เพ่อื ให้มคี วามร้แู ละเข้าใจในการกลา่ วทักทายและโตต้ อบ
๓.๑.๓ เพ่อื ให้มคี วามรแู้ ละเข้าในการแนะนาตนเองและผูอ้ ืน่
๓.๑.๔ เพื่อให้รู้จกั การตอบรบั และปฏิเสธ
๓.๑.๕ เพอ่ื ใหม้ ีความรู้และเข้าใจการพูดแสดงความยินดีและความเสยี ใจ
๓.๒ ดา้ นทกั ษะ
๓.๒.๑ อธบิ ายความหมายและความสาคญั ของการพดู ได้
๓.๒.๒ อธบิ ายการพดู ประเภทตา่ ง ๆ ได้
๓.๒.๓ สามารถนาหลกั การพดู ประเภทตา่ ง ๆ ไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั ได้

๓๖

แผนการจัดการเรียนรูม้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่…………..…๔……….……..

ช่ือหน่วย การพดู สื่อสารตามมารยาท สอนครั้งที่……….…๖……….
ของสังคม ชว่ั โมงรวม…………๒..……………
จานวนช่ัวโมง........๒................

๓.๓ ดา้ นคุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์
มีความเพยี รพยายามในการเรียนและปฏบิ ตั ิงาน แต่งกายถกู ระเบียบของวิทยาลยั ฯ เขา้ เรยี นและส่ง

งานตรงต่อเวลา เข้ารว่ มกจิ กรรมทีก่ าหนด รบั ฟังความคดิ เห็นของผู้อืน่ และให้ความร่วมมอื กบั ผู้อ่ืน

๔. เนื้อหาสาระการเรยี นรู้

๔.๑ ความหมายและความสาคญั ของการพดู

๔.๒ การกลา่ วทกั ทายและโต้ตอบ
๔.๓ การแนะนาตนเองและผูอ้ นื่
๔.๔ การตอบรบั และปฏเิ สธ
๔.๕ การพดู แสดงความยินดแี ละความเสียใจ

๕. กิจกรรมการเรยี นรู้

๕.๑ ขัน้ นาเขา้ สูบ่ ทเรียน
๑. ให้นักเรียนดวู ีซีดกี ารพูดของนกั พดู ที่มชี ือ่ เสียง
๒. ครูและนกั เรียนรว่ มกันอภิปรายถงึ ความสาคัญของการพูดและปัจจยั ทีท่ าให้การพูดประสบ

ความสาเรจ็
๓. ครูสรุปความสาคญั ของการพดู และปจั จัยท่ที าใหก้ ารพูดประสบความสาเรจ็ ในโอกาสตา่ ง ๆ

ซงึ่ สามารถฝกึ ฝนได้

๓๗

แผนการจดั การเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่…………..…๔……….……..

ชื่อหน่วย การพูดสื่อสารตามมารยาท สอนครั้งที่……….…๖……….
ของสังคม ช่ัวโมงรวม…………๒..……………
จานวนชั่วโมง........๒................

๕.๒ ขนั้ สอน
๔. ใหน้ ักเรยี นแบง่ กลมุ่ กล่มุ ละ ๖ คน โดยเลือกประธาน และเลขานุการกลุ่ม
๕. ใหแ้ ตล่ ะคนของสมาชกิ กล่มุ ศึกษาตามหัวข้อต่อไปนี้ จากเอกสารประกอบการเรยี น แลว้ สรปุ ยอ่
คนที่ ๑ ความหมายและความสาคญั ของการพดู
คนท่ี ๒ การกล่าวทักทายและโต้ตอบ
คนที่ ๓ การแนะนาตนเองและผอู้ ื่น

คนท่ี ๔. การตอบรับและปฏเิ สธ
คนท่ี ๕ การพูดแสดงความยินดี
คนที่ ๖ การพดู แสดงความเสียใจ
๖. ใหส้ มาชิกแตล่ ะกลุ่มที่ได้รับมอบมายให้ศึกษาหวั ข้อเดียวกันมารวมกล่มุ ใหม่ แล้วอภิปรายเพ่อื
สรุปสาระสาคัญ ใช้เวลาประมาณ ๑๕ นาที
๗. ใหส้ มาชิกแตล่ ะกล่มุ กลบั ไปยังกลมุ่ เดมิ แลว้ ผลดั เปล่ียนกนั อธิบายจนทุกคนเข้าใจทุกหัวขอ้
ครบถ้วน ใช้เวลา ๓๐ นาที
๘. ครูสุ่มให้สมาชิกในกลมุ่ อธบิ ายหวั ข้อท่ีครูกาหนดให้ หากอธิบายไม่ถูกตอ้ งหรือไมค่ รบถว้ นให้
ผู้รบั ผิดชอบหัวขอ้ นนั้ อธิบายซ้าอกี ครงั้ หน่ึง
๘. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุปเนอื้ หาสาระสาคัญอีกคร้งั นักศกึ ษาจดบนั ทึกไว้
๙. ในขณะปฏบิ ตั งิ านกลุ่ม ครูและประธานกลุ่มตอ้ งประเมินพฤติกรรมการปฏบิ ัติงานจดบนั ทึก
คะแนนไว้
๕.๓ การสรุป
๑๐. ครูสรปุ เน้ือหาสาระของหน่วยที่ ๔ โดยใช้โปรเจคเตอร์
๑๑. ใหน้ ักเรียนอภปิ รายซักถาม

๓๘

แผนการจัดการเรียนรมู้ ่งุ เน้นสมรรถนะ หนว่ ยท่ี…………..…๔……….……..

ช่อื หน่วย การพูดส่ือสารตามมารยาท สอนครั้งที่……….…๖……….
ของสังคม ช่ัวโมงรวม…………๒..……………
จานวนชวั่ โมง........๒................

๖. สือ่ การเรยี นร้/ู แหล่งการเรยี นรู้

๖.๑ ส่ือส่ิงพิมพ์
๖.๑.๑ หนังสอื เรียนวิชา ภาษาไทยพืน้ ฐาน (๒๐๐๐–๑๑๐๑)

๖.๒ ส่ือโสตทัศน์
๖.๒.๑ เพาเวอร์พอยท์
๖.๒.๒ คอมพวิ เตอร์กระเป๋าห้วิ
๖.๒.๓ เคร่ืองฉายโปรเจคเตอร์
๖.๒.๔ วีซีดกี ารพูดของนักพูดทีม่ ชี ่ือเสยี ง

๖.๓ หุน่ จาลองหรือของจรงิ
-

๖.๔ อ่ืนๆ
-

๗. หลกั ฐานการเรียนรู้

๗.๑ หลกั ฐานความรู้
- สมุดจดวิชาภาษาไทยพ้นื ฐาน
- ใบงาน
- แบบสังเกต

๗.๒ หลกั ฐานการปฏบิ ตั งิ าน
- ผลการปฏิบัตกิ จิ กรรมในใบงาน
- พฤติกรรมทแ่ี สดงออกขณะปฏิบตั ิงานทมี่ อบหมาย

๓๙

แผนการจัดการเรยี นรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี…………..…๔……….……..

ชื่อหน่วย การพดู ส่ือสารตามมารยาท สอนครงั้ ท่ี……….…๖……….
ของสังคม ช่ัวโมงรวม…………๒..……………
จานวนช่ัวโมง........๒................

๘. กิจกรรมเสนอแนะ/งานมอบหมาย (ถา้ ม)ี

ให้นกั เรยี นค้นคว้าขอ้ มลู เบ้อื งตน้ จากระบบอินเทอรเ์ น็ต ก่อนการเรียนจะทาให้นักเรยี นมีความเข้าใจเพมิ่
มากข้นึ

๙. การวัดและประเมินผล
๙.๑ กอ่ นเรียน
ให้นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี น
๙.๒ ขณะเรยี น
๙.๒.๑ ทาคาถามท้ายบทประจาหน่วยที่ ๔
๙.๒.๒ สงั เกตพฤติกรรมนักนกั เรยี นและซกั ถามนกั เรยี นในขณะสอน
๙.๓ หลงั เรียน
ทาแบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยที่ ๔

๑๐. เอกสารประกอบการจัดการเรียนรู้
สภุ ัค มหาวรากรและนิธอิ ร พรอาไพสกลุ . ภาษาไทยพื้นฐาน (๒๐๐๐๐-๑๑๐๑). นนทบรุ ี :
เอมพนั ธ,์ ๒๕๕๖.

๑๑. การบรู ณาการ/ความสมั พนั ธก์ ับวชิ าอ่ืน
วชิ าสงั คมศึกษา วชิ าคณติ ศาสตร์ วชิ าวิทยาศาสตร์

๔๐

แผนการจดั การเรียนร้มู ุ่งเนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี…………..…๔……….……..
สอนครัง้ ที่……….…๖……….
ช่อื หน่วย การพูดสื่อสารตามมารยาท ชั่วโมงรวม…………๒..……………
ของสังคม จานวนชวั่ โมง........๒................

๑๒. บันทกึ หลงั สอน

๑๒.๑ ผลการใช้แผนการจัดการเรียนรู้
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

๑๒.๒ ผลการเรยี นรูข้ องนักเรยี น นักศึกษา
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

๑๒.๓ ทางการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................

แผนผังความคิด หน่วยที่ ๕
เรอ่ื ง “การพูดสอื่ สารในชีวิตประจาวนั ”
ที่บรู ณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

มีเหตผุ ล พอประมาณ ๕. นาความร้เู ก่ยี วกบั การพดู ไปใช้ใน
ชีวติ จรงิ และในงานอาชีพได้อย่าง
๑. พดู สรุปความได้ตามหลักการ การพูดสอ่ื สารใน เหมาะสม
๒. พูดแสดงความคิดเหน็ ไดต้ าม ชีวติ ประจาวนั
ภูมคิ ุ้มกนั
สถานการณ์
๓. พดู โทรศัพทต์ ดิ ต่อกจิ ธรุ ะได้อย่างมี ๖. พดู ส่ือสารไดโ้ ดยคานึงถึง
ความถกู ตอ้ งเหมาะสม
ประสทิ ธิภาพ กบั กาลเทศะ บคุ คล
๔. พูดสื่อสารไดใ้ นชีวิตจริงและในงาน และโอกาส

อาชพี

ความรู้ + ทกั ษะ คุณธรรม

 การพดู สรุปความ  มคี วามรับผิดชอบ
 การพูดแสดงความคิดเห็น  มีวินัย
 การพดู โทรศพั ท์ตดิ ต่อกิจธุระ  มมี นษุ ยสมั พันธ์
 ความผกู พนั
 ความรแู้ ละทักษะทางวิชาชีพ

สงั คม เศรษฐกจิ วัฒนธรรม สงิ่ แวดล้อม
๑,๒,๓,๔,๕,๖ ๓,๔,๕,๖ ๑,๒,๕,๖ ๔,๕,๖

๔๒

แผนการจดั การเรียนรู้ม่งุ เนน้ สมรรถนะ หน่วยที่…………..…๕……….……..
ชื่อหน่วย การพูดสื่อสารในชีวติ ประจาวนั สอนครั้งท่ี……….…๗……….

ชั่วโมงรวม…………๒..……………
จานวนช่ัวโมง........๒................

๑. สาระสาคัญ

การพดู ส่ือสารในชวี ิตประจาวัน ได้แก่ การพูดสรปุ ความ การพูดแสดงความคดิ เหน็ และการพูด
โทรศัพท์ตดิ ต่อกิจธุระ มหี ลักการพดู ทเี่ รียนรู้และฝึกฝนได้

๒. สมรรถนะประจาหนว่ ย
๒.๑ พดู ส่ือสารในชวี ติ ประจาวันไดต้ ามหลักการ
๒.๒ นาความรู้ท่ีได้รบั ไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ิตประจาวนั และในงานอาชพี ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสมกับ

กาลเทศะ และโอกาส

๓. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
๓.๑ ดา้ นความรู้
๓.๑.๑ เพื่อให้มีความรู้ ความเขา้ ใจ เก่ยี วกบั หลักการพดู สรปุ ความ การพูดแสดงความคดิ เห็น

และการพูดโทรศัพทต์ ดิ ตอ่ กิจธรุ ะ
๓.๒ ด้านทกั ษะ
๓.๒.๑ อธิบายหลักการพูดสรปุ ความ การพูดแสดงความคิดเห็น และการพดู โทรศพั ท์ตดิ ต่อกิจธุระ
๓.๒.๒ สามารถพูดสรุปความ พูดแสดงความคดิ เหน็ และพดู โทรศัพทต์ ิดต่อกจิ ธุระได้
๓.๓ ดา้ นคุณลกั ษณะที่พึงประสงค์
มคี วามเพยี รพยายามในการเรียนและปฏบิ ัตงิ าน แต่งกายถูกระเบียบของวทิ ยาลยั ฯ เข้าเรยี นและสง่

งานตรงต่อเวลา เข้ารว่ มกิจกรรมทีก่ าหนด รบั ฟังความคดิ เหน็ ของผู้อื่นและใหค้ วามร่วมมือกับผู้อ่ืน

๔๓

แผนการจดั การเรียนรู้ม่งุ เน้นสมรรถนะ หน่วยท่ี…………..…๕……….……..

ชอื่ หน่วย การพูดส่ือสารในชีวติ ประจาวัน สอนคร้ังที่……….…๗……….
ชว่ั โมงรวม…………๒..……………
จานวนชั่วโมง........๒................

๔. เนือ้ หาสาระการเรยี นรู้
๔.๑ การพดู สรุปความ
๔.๒ การพูดแสดงความคดิ เห็น
๔.๓ การพดู โทรศพั ท์ติดต่อกจิ ธุระ

๕. กจิ กรรมการเรียนรู้

๕.๑ ขั้นนาเข้าสู่บทเรยี น
๑. ครูแจ้งหวั ข้อเร่อื งท่ีจะเรียนและผลการเรียนร้ทู ่ีคาดหวงั ให้นักเรียนทราบ
๒. ครสู นทนากับนักเรยี นเก่ยี วกบั ละครท่ีนักเรียนชอบ แลว้ สมุ่ เรยี กนักเรียน ๒ - ๓ คน ออกมาเลา่

เร่อื งยอ่ ของละครตอนที่นักเรียนประทับใจให้เพ่ือนฟังหน้าช้นั เรียน (เลือกนักเรยี นที่ชอบละครต่างเรื่องกนั )
๓. ครอู ธิบายให้นักเรียนทราบวา่ การดูละครและสามารถเลา่ เรือ่ งราวได้ แสดงให้เห็นวา่ นักเรียนมี

ทักษะการดูส่ือที่ดี สามารถที่จะจบั ใจความสาคญั ของเร่ืองได้
๔. ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั บอกวิธีการปฏบิ ตั ใิ นการฟงั และการดูสือ่ ท่ีดี เพอ่ื ให้สามารถเลา่ เรื่องได้

ใจความ
สมบรู ณ์

๕.๒ ขั้นสอน
๕. ให้นกั เรยี นจับกลมุ่ กนั กลมุ่ ละ ๓ คน และกาหนดหมายเลขประจาตัวเป็น หมายเลข ๑ - ๓

เพอ่ื ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมทค่ี รกู าหนดให้ ดงั นี้
- หมายเลข ๑ อา่ นนิทานเร่อื ง เทพารกั ษก์ บั คนตดั ต้นไม้
- หมายเลข ๒ พูดสรุปใจความสาคัญจากการฟงั เพื่อนหมายเลข ๑ เลา่ นทิ าน
- หมายเลข ๓ เขยี นสรุปใจความสาคัญจากการฟังเพอื่ นหมายเลข ๓ พูดสรปุ ใจความสาคัญ

ของนิทาน ลงในใบงานที่ ๑ เร่ือง ชายตาบอดกบั สุนัขปา่

๔๔

แผนการจัดการเรียนรมู้ ุ่งเน้นสมรรถนะ หนว่ ยที่…………..…๕……….……..

ชื่อหน่วย การพดู ส่ือสารในชีวิตประจาวนั สอนครัง้ ที่……….…๗……….
ช่ัวโมงรวม…………๒..……………
จานวนชั่วโมง........๒................

๖. ให้นักเรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง สมบูรณข์ องใบงานก่อนนาส่งครตู รวจ
๗. ครเู ปิดซดี ีเพลง รางวัลแด่คนช่างฝนั ใหน้ กั เรยี นฟังแล้วใหน้ ักเรียนแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เพลง
ทฟี่ งั
๘. ครพู ดู ถงึ หลกั การแสดงความคิดเห็นโดยท่วั ไป แลว้ มอบหมายให้นักเรยี นศึกษาความรู้เกยี่ วกบั
หลักการพูดแสดงความคดิ เห็น
๙. ใหน้ ักเรียนฝกึ แสดงความคิดเหน็ จากบทความหรือข่าวตามหลกั การพูดแสดงความคิดเห็น เพ่ือให้
นักเรยี นนาไปใช้ให้เกดิ ประโยชนใ์ นชวี ิตประจาวัน

๑๐. นักเรยี นและครูรว่ มกันสรุปความรู้เกีย่ วกับหลกั การพูดแสดงความคิดเห็น แลว้ ใหน้ กั เรยี น
บนั ทกึ ความรู้ลงในสมดุ

๑๑. ให้นกั เรียนทาใบงานที่ ๒ เรื่อง เหน็ ด้วยหรือไม่
๑๒. ให้นกั เรยี นออกมานาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรยี นตามทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย
๑๓. ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรปุ สาระสาคัญอกี ครั้งหน่ึง
๑๔. นกั เรยี นกลมุ่ เดิมศึกษาความรู้เรือ่ ง “ การพดู โทรศัพท์” จากหนงั สอื เรียนภาษาไทยพื้นฐาน
เกย่ี วกบั มารยาทในการพดู
๑๕. ครใู ห้นกั เรียนแต่ละกลุ่มช่วยกนั สร้างบทสนทนาในการพูดโทรศพั ท์ในหัวขอ้ ทีก่ าหนดให้
จากน้นั ใหแ้ ต่ละกลุ่มสง่ ตัวแทนมาแสดงบทบาทสมมตุ ิคยุ โทรศพั ท์ทีห่ นา้ ชัน้ เรียน รว่ มกันวจิ ารณแ์ ละประเมินผล
การพูดโทรศพั ท์ของแต่ละกลุ่ม
๕.๓ การสรุป
๑๖. ครแู ละนักเรยี นร่วมสรุปสาระสาคัญของเน้ือหา หน่วยท่ี ๕ อีกครั้งหนึ่ง
๑๗. ครใู หน้ กั เรียนทาประเมินผลการเรียนรูห้ ลงั เรยี น
๑๘. ครเู ฉลยแบบประเมนิ ผลการเรยี นรหู้ ลังเรียน โดยใช้แผ่นใส นกั เรียนตรวจดว้ ยตนเอง
๑๙. ครบู ันทกึ คะแนนนักเรยี นแต่ละคน

๔๕

แผนการจดั การเรียนรูม้ ่งุ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยท่ี…………..…๕……….……..

ช่อื หน่วย การพดู ส่ือสารในชีวติ ประจาวัน สอนคร้งั ที่……….…๗……….
ชวั่ โมงรวม…………๒..……………
จานวนชว่ั โมง........๒................

๖. สอ่ื การเรียนร้/ู แหล่งการเรียนรู้
๖.๑ สื่อสง่ิ พิมพ์
๖.๑.๑ หนงั สอื เรยี นวิชา ภาษาไทยพื้นฐาน (๒๐๐๐–๑๑๐๑)
๖.๑.๒ บทความข่าวจากหนงั สอื พิมพ์
๖.๑.๓ ใบงานที่ ๑ เรื่อง นทิ าน
๖.๑.๔ ใบงานที่ ๒ เรื่อง เหน็ ด้วยหรอื ไม่
๖.๒ ส่ือโสตทัศน์
๖.๒.๑ เพาเวอร์พอยท์
๖.๒.๒ คอมพิวเตอรก์ ระเปา๋ ห้วิ
๖.๒.๓ เครอ่ื งฉายโปรเจคเตอร์
๖.๒.๔ ซีดเี พลงรางวลั แดค่ นชา่ งฝนั
๖.๓ หนุ่ จาลองหรือของจรงิ
-
๖.๔ อนื่ ๆ
-

๗. หลักฐานการเรียนรู้

๗.๑ หลกั ฐานความรู้
- สมุดจดวิชาภาษาไทยพน้ื ฐาน
- ใบงาน
- แบบสังเกต

๗.๒ หลักฐานการปฏบิ ัตงิ าน
- ผลการปฏิบตั กิ ิจกรรมในใบงาน

๔๖

แผนการจัดการเรียนรู้มุง่ เนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี…………..…๕……….……..
ชือ่ หน่วย การพดู ส่ือสารในชีวติ ประจาวัน สอนคร้ังที่……….…๗……….

ช่ัวโมงรวม…………๒..……………
จานวนช่ัวโมง........๒................

- พฤตกิ รรมท่ีแสดงออกขณะปฏิบตั ิงานที่มอบหมาย

๘. กิจกรรมเสนอแนะ/งานมอบหมาย (ถา้ มี)

ให้นักเรยี นคน้ ควา้ ข้อมูลเบือ้ งตน้ จากระบบอินเทอร์เน็ต ก่อนการเรยี นจะทาใหน้ ักเรียนมคี วามเขา้ ใจเพิม่
มากขึน้

๙. การวดั และประเมินผล
๙.๑ กอ่ นเรียน
ให้นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน
๙.๒ ขณะเรยี น
๙.๒.๑ ทาคาถามท้ายบทประจาหนว่ ยที่ ๕
๙.๒.๒ ทาใบงานที่ ๑ – ๒
๙.๒.๓ สังเกตพฤติกรรมนกั นักเรียนและซกั ถามนกั เรยี นในขณะสอน
๙.๓ หลงั เรียน
ทาแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยท่ี ๕

๑๐. เอกสารประกอบการจัดการเรียนรู้
สุภคั มหาวรากรและนธิ อิ ร พรอาไพสกลุ . ภาษาไทยพนื้ ฐาน (๒๐๐๐๐-๑๑๐๑). นนทบุรี :
เอมพันธ,์ ๒๕๕๖.

๑๑. การบูรณาการ/ความสัมพนั ธก์ ับวิชาอน่ื
วชิ าสงั คมศกึ ษา วิชาคณติ ศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์

๔๗

แผนการจดั การเรยี นรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยท่ี…………..…๕……….……..
ชอื่ หน่วย การพดู ส่ือสารในชีวติ ประจาวัน สอนครง้ั ท่ี……….…๗……….
ชวั่ โมงรวม…………๒..……………
จานวนชวั่ โมง........๒................

๑๒. บันทกึ หลงั สอน

๑๒.๑ ผลการใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

๑๒.๒ ผลการเรียนร้ขู องนักเรียน นกั ศกึ ษา
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................

๑๒.๓ ทางการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................

๔๘

ใบงานท่ี ๑
เร่อื ง ชายตาบอดกับสนุ ขั ปา่

ณ หม่บู ้านแหง่ หนง่ึ ในชนบทแสนไกล มีชายคนหน่งึ ตาบอดมาตัง้ แต่กาเนดิ แตเ่ ขามี
ความสามารถพเิ ศษ เพียงแค่ใช้มือสมั ผัสก็สามารถบอกได้ว่า สตั ว์ทอี่ ยู่ตรงหนา้ เขาน้ันคือตวั อะไรได้ ราวกับวา่ ตา
ของเขายังปกตดิ อี ยู่

วนั หน่ึงคนในหมบู่ า้ นคิดอยากจะทดสอบว่าชายตาบอดผู้น้มี ีความสามารถพิเศษจรงิ หรือไม่ จงึ ได้
เลือกสตั วท์ จ่ี ะวางอย่ตู รงหน้าเขา แลว้ ใหท้ ายว่าคือ สุนขั ป่า หรือ สุนัขบา้ น

"นี่ พวกเราไปคัดสรรหาหมาป่ามาตวั หนงึ่ สิ ขอแบบทเี่ หมือนหมาบา้ นเลยนะ" เสียงชาวบา้ นคน
หนง่ึ ไดเ้ อ่ยปากกบั ชาวบา้ นอีกหลายคน

"เอา้ ไดม้ าแลว้ หน้าตาเหมือนหมาบา้ นเปี๊ยบเลย ขนาดคนตาดี ๆ อยา่ งขา้ ยังแยกแทบไม่ออก"
ชายคนหนงึ่ พดู ขน้ึ พร้อมอุม้ มันไปยังลานประชมุ เพ่ือทดสอบชายตาบอด ทกุ คนตา่ งลนุ้ กันอย่างใจจดใจจ่อว่า
ชายตาบอดคนน้ีจะตอบถูกหรอื ไม่

"แนน่ อนว่า ขา้ เป็นคนหนึง่ ทจ่ี ะไม่มที างใหส้ นุ ขั ตวั น้ีเขา้ ใกล้ฝงู แกะเดด็ ขาด"
นิทานเรื่องนส้ี อนใหร้ ู้ว่า
คนท่มี ีบางส่ิงบางอย่างขาดหายไป กจ็ ะมีส่งิ หนงึ่ มาเตมิ เต็ม หรือ พรสวรรคพ์ ิเศษชดเชยมา

๔๙

ใบงานที่ ๒
เรือ่ ง เห็นด้วยหรือไมเ่ หน็ ด้วย
สวัสดคี ะ่ น้องๆ... ยอมรับเลยวา่ ปี 55-56 เปน็ ช่วงท่ีวงการการศกึ ษาบ้านเราค่อยๆ
เปลี่ยนแปลงไปทีละอยา่ งสองอยา่ ง เมื่อไม่นานมานี้ทรงติ่ง-เกรยี นก็ยกเลิกไปแลว้ ลา่ สุด สพฐ.แย้มออกมาว่า
เปดิ เทอมหนา้ จะให้ครูสง่ั การบ้านเดก็ น้อยลง เพ่ือเอาเวลาให้นักเรยี นไปทากิจกรรมนอกหอ้ งเรยี นมากข้ึน
เชือ่ วา่ คงเป็นขา่ วดีของน้องๆ ทัง้ ประถมและมธั ยมท่ีตอนนบี้ น่ กันเปน็ แถววา่ ไม่รู้การบ้านจะ
เยอะไปไหน ทั้งเรยี นทัง้ ทาการบ้านกลายเปน็ เดก็ หัวโตแล้ว!!

โดยในเร่อื งนี้ นายชินภัทร ภมู ริ ตั น เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน (เลขาธิการ
กพฐ.) เปดิ เผยหลังการประชุมผูบ้ รหิ ารสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน (สพฐ.) วา่ จะมีการปฏริ ูป
หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พ.ศ.2544 ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.2551 ตามนโยบายของ นายพงศ์เทพ เทพ
กาญจนา รมว.ศกึ ษาธิการ ได้กาหนดระยะเวลาดาเนินการ 2 ระยะ ในระยะทไี่ มเ่ ร่งด่วนจะพิจารณาเรอ่ื งมาตรฐาน

๕๐

และตัวช้ีวดั หลักสูตรการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ซึง่ เปรยี บเทยี บเนื้อหาและเวลาเรยี นของประเทศไทยกับ

ประเทศอื่นๆ รวมถึงจะหยิบประเด็นทีม่ ีนักวชิ าการวจิ ารณว์ ่าเน้ือหาในการเรยี นมคี วามซา้ ซอ้ นกันมาหารอื ดว้ ย

ส่วนนโยบายท่เี ปน็ ระยะเรง่ ด่วนและนอ้ งๆ ให้ความสนใจ คือ การลดภาระของนกั เรียนจากการบ้านในหอ้ งเรียน
ซ่งึ สพฐ.จะเนน้ บูรณาการทงั้ เน้อื หา เวลาเรยี น การวดั และประเมินผล ตลอดจนการบ้าน ให้มีการบรู ณาการทุก
กลุ่มสาระวชิ า รวมท้งั ลดภาระงานของนักเรียนด้วย เพราะทีผ่ า่ นมาเด็กไทยต้องทาการบ้านเยอะมาก ทาให้เกิด
ความเครียด โดยถือเป็นนโยบายเรง่ ดว่ นท่ีจะทาใหท้ นั เปิดภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2556 ซงึ่ นายชนิ ภทั ร ภมู ิ
รัตน ไดพ้ ดู สรปุ ถึงสาระการประชมุ ครง้ั น้ีว่า

“ตงั้ แตภ่ าคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 หรอื ต้นเดอื น พ.ค.เป็นตน้ ไป เด็กไทยทุกคนในทุก
ระดับช้ันจะมภี าระการเรียนในห้องเรียนลดน้อยลง และจะมีโอกาสเรยี นรู้ รวมถงึ ทากิจกรรมนอกห้องเรยี นมากขึ้น
ส่วนการบ้าน และโครงงานที่ครูมอบใหก้ จ็ ะมกี ารบูรณาการในทกุ กลุ่มสาระวชิ า ขณะท่ีการวดั และประเมินผลกจ็ ะ
สอบเท่าท่จี าเป็น และเหมาะกับช่วงวยั เทา่ นน้ั จะไม่มวี ิธีการทีค่ รูจะมอี านาจเหนอื นักเรียน ครูจะไม่สามารถให้
การบ้านเด็กได้ตามใจชอบอกี ตอ่ ไป หากครใู ห้การบา้ นเด็กจนเกดิ ความทุกข์ทรมานก็สามารถร้องเรยี นมาได้ท่ี
สพฐ.เพอ่ื ใหเ้ กดิ การปรับปรุงต่อไป”

เป็นอีกหนึ่งประเดน็ ทีม่ ีท้งั คนท่ีเห็นด้วย และไม่เหน็ ดว้ ย เห็นดว้ ยตรงทว่ี ่าเดก็ ไทยจะไดห้ าย
เครียดซักทีและหันมาเรียนรู้นอกห้องเรยี นมากขน้ึ แต่ที่ไม่เหน็ ดว้ ยเพราะยังเห็นว่าการบ้านเป็นสิง่ จาเปน็ ของ
เดก็ ไทย แล้วน้องๆ ล่ะคะ ในฐานะที่ได้รบั ผลกระทบเต็มๆ คดิ เห็นอย่างไรกับประเด็นนีบ้ ้าง ดหี รอื ไมด่ ี ลองมา
โหวตตามหวั ข้อข้างลา่ งนี้เลย หรอื อยากให้มีนโยบายอะไรมาเสริมเตมิ แตง่ บ้าง กม็ าแชร์กันเลยนะคะ

๕๑

แผนผังความคดิ หนว่ ยท่ี ๖
เรอื่ ง “การพูดในโอกาสตา่ ง ๆ”
โดยบรู ณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

พอประมาณ ๒. พดู ในโอกาสต่าง ๆ ไดเ้ หมาะสม
กบั กาลเทศะ บคุ คล โอกาส

มเี หตุผล ภูมคิ ุ้มกนั

๑. พูดในโอกาสตา่ ง ๆ ได้ถูกต้องตาม ๓. นาความรู้เรือ่ งการพูดในโอกาส
หลักการ ต่าง ๆ ไปใช้ในชีวติ ประจาวัน
และในงานอาชีพ

การพดู
ในโอกาสต่าง ๆ

ความรู้ + ทกั ษะ คณุ ธรรม

 ความหมายของการพดู ในโอกาสตา่ งๆ  มีความรับผดิ ชอบ
 หลกั การสาคัญของการพูดในโอกาสต่าง ๆ  มวี นิ ัย
 มีมนษุ ยสมั พันธ์
ความผูกพัน
 มคี วามรู้และทักษะ

สังคม เศรษฐกจิ วัฒนธรรม ส่ิงแวดล้อม

๑,๒,๓ ๒,๓ ๒ ๓

๕๒

แผนการจดั การเรียนรมู้ ุ่งเน้นสมรรถนะ หนว่ ยที่…………..…๖……….……..
ช่อื หน่วย การพดู ในโอกาสต่าง ๆ
สอนครง้ั ท่ี……….…๘ – ๙……….
ช่วั โมงรวม…………๔..……………
จานวนชว่ั โมง.......๔................

๑. สาระสาคญั

การพดู มคี วามสาคัญอย่างยงิ่ ในชวี ติ ประจาวนั และในการประกอบอาชพี การพดู ที่ดีและสร้างสรรค์ย่อม
ทาใหป้ ระสบความสาเร็จ การพูดในโอกาสต่าง ๆ ในบทน้ี ได้แก่ การกล่าวแสดงความยินดี เช่น การกล่าว
มอบของขวญั หรือรางวลั การกล่าวอวยพรในโอกาสต่าง ๆ และการกลา่ วแสดงความเสียใจ เช่น การ
กล่าวอาลา และการกล่าวคาไว้อาลัย การพูดในโอกาสต่าง ๆ มหี ลกั การพูดที่ผเู้ รยี นฝึกฝนจนเกดิ ความ
ชานาญได้

๒. สมรรถนะประจาหนว่ ย
๒.๑ แสดงความรู้เกยี่ วกับการกลา่ วแสดงความยนิ ดี
๒.๒ แสดงความรเู้ ก่ยี วกบั การกล่าวอวยพรในโอกาสต่างๆ
๒.๓ แสดงความรเู้ กีย่ วกบั การกล่าวแสดงความเสยี ใจ

๓. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๓.๑ ด้านความรู้
๓.๑.๑ เพ่อื ให้มีความรู้เกี่ยวกบั ความหมายของการพูดในโอกาสตา่ ง ๆ
๓.๑.๒ เพอ่ื ให้มีความรเู้ กี่ยวกบั หลักการทว่ั ไปของการพูดในโอกาสต่าง ๆ
๓.๑.๓ เพ่ือให้มีความรู้เก่ยี วกบั แนวทางการพูดในโอกาสตา่ งๆ
๓.๑.๔ เพือ่ ให้สามารถพดู ในโอกาสตา่ ง ๆ
๓.๒ ด้านทักษะ
๓.๒.๑ อธบิ ายความหมายของการพดู ในโอกาสตา่ ง ๆ ได้
๓.๒.๒ อธิบายหลกั การทั่วไปของการพดู ในโอกาสต่าง ๆ ได้
๓.๒.๓ บอกแนวทางการพูดในโอกาสต่าง ๆ ได้

๕๓

แผนการจัดการเรยี นรู้มุ่งเนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่…………..…๖……….……..
ชอื่ หน่วย การพดู ในโอกาสต่าง ๆ
สอนคร้ังที่……….…๘ – ๙……….
ชั่วโมงรวม…………๔..……………
จานวนชัว่ โมง.......๔................

๓.๒.๔ สามารถพดู ในโอกาสตา่ ง ๆ ได้
๓.๓ ด้านคุณลกั ษณะที่พึงประสงค์

มคี วามเพียรพยายามในการเรียนและปฏบิ ัตงิ าน แต่งกายถูกระเบียบของวทิ ยาลัยฯ เข้าเรยี นและสง่
งานตรงต่อเวลา เขา้ ร่วมกิจกรรมท่กี าหนด รบั ฟังความคิดเหน็ ของผู้อื่นและให้ความร่วมมอื กบั ผู้อนื่

๔. เนือ้ หาสาระการเรยี นรู้
๔.๑ ความหมายของการพดู ในโอกาสตา่ ง ๆ
๔.๒ หลักการทั่วไปของการพดู ในโอกาสต่าง ๆ

๕. กจิ กรรมการเรยี นรู้
๕.๑ ขั้นนาเข้าสบู่ ทเรียน สอนครัง้ ที่ ๑ (ช่วั โมงที่ ๑- ๒)

๑. นกั เรยี นชว่ ยกนั ยกตวั อย่างการพูดลักษณะต่างๆ ทส่ี ร้างสรรค์และสัมพันธ์กบั ชวี ิตประจาวัน
และรว่ มกนั อภิปรายประเดน็ “การพูดทดี่ แี ละสร้างสรรค์ย่อมทาใหป้ ระสบความสาเรจ็ ในการทางานและในชีวติ
จริงหรือไม่” (ครตู ิดแถบประโยคขอ้ ความน้ี บนกระดานหน้าชัน้ เรียน)

๒. ครแู ละนักเรียนร่วมสรปุ ผลการอภิปราย โดยครอู ธบิ ายเพ่ิมเติมเร่ืองหลักการพูดท่ีประสบ
ผลสัมฤทธิ์

๕.๒ ขนั้ สอน
๓. นกั เรียนแบง่ กล่มุ กลุ่มละ ๕ - ๖ คน หรือตามความเหมาะสม เลือกประธานและเลขานกุ าร

กลมุ่
๔. แต่ละกลุ่มศึกษาจดบนั ทึกสรปุ สาระสาคัญในหวั ข้อต่อไปนี้
กลมุ่ ที่ ๑ ความหมายของการพูดและหลกั การสาคญั ของการพูดในโอกาสต่าง ๆ
กลุม่ ที่ ๒ การกลา่ วมอบของขวญั หรอื รางวัลและการกลา่ วในโอกาสท่ีได้รับรางวัล

๕๔

แผนการจดั การเรียนรู้มุ่งเนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่…………..…๖……….……..
ช่อื หน่วย การพูดในโอกาสต่าง ๆ
สอนคร้งั ที่……….…๘ – ๙……….
ชวั่ โมงรวม…………๔..……………
จานวนชั่วโมง.......๔................

กลุ่มท่ี ๓ การกล่าวอวยพรในงานมงคลสมรส
กลมุ่ ที่ ๔ การกล่าวอวยพรวันคล้ายวนั เกิด
กลุ่มท่ี ๕ การกลา่ วอาลา
กลุม่ ที่ ๖ การกล่าวคาไวอ้ าลยั
๕. ตวั แทนกลมุ่ นาเสนอผลสรุปหนา้ ช้ันเรียน (ประธานกลุ่มและครูประเมินพฤตกิ รรม
การปฏิบัตงิ านและจดบันทกึ ไว้)
๕.๓ การสรุป
๖. ครแู ละนักเรียนอภปิ รายสาระสาคัญของเนื้อหาร่วมกัน
๗. ให้นกั เรียนเลือกคากลา่ วในหวั ข้อตอ่ ไปน้ี
๗.๑ การกลา่ วมอบของขวัญหรอื รางวัล
๗.๒ การกล่าวในโอกาสทไ่ี ด้รับรางวัล
๗.๓ การกล่าวอวยพรในงานมงคลสมรส
๗.๔ การกลา่ วอวยพรในวันคลา้ ยวันเกดิ
๗.๕ การกลา่ วอาลา
๗.๖ การกล่าวคาไวอ้ าลัย
๘. ให้นักเรียนสมมุตสิ ถานการณข์ น้ึ ตามความเหมาะสม แลว้ เตรยี มร่างคาพูด เพ่อื จะนาเสนอ
หน้าช้นั เรียน

สอนครั้งท่ี ๒ (ช่ัวโมงที่ ๓- ๔)

๕.๑ ขน้ั นาเขา้ สบู่ ทเรยี น
๙. ครทู บทวนเนอื้ หาเมื่อสัปดาห์ทแ่ี ล้ว และซกั ถามงานท่มี อบหมายเมื่อสัปดาหท์ ี่แล้ว

๕.๒ ข้ันสอน
๑๐. ครูให้นกั เรียนแต่ละคนนาเสนอหน้าชั้นเรียน ครูประเมนิ พฤติกรรมการปฏิบัติงานและ

จดบนั ทกึ ไว้

๕๕

แผนการจดั การเรยี นรมู้ ุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยท่ี…………..…๖……….……..
ช่อื หน่วย การพดู ในโอกาสต่าง ๆ
สอนคร้ังท่ี……….…๘ – ๙……….
ช่วั โมงรวม…………๔..……………
จานวนช่วั โมง.......๔................

๕.๓ การสรุป
๑๐. ครูสรุปสาระสาคัญของหน่วยที่ ๖
๑๑. นักเรยี นซกั ถามข้อสงสัย
๑๒. นกั เรยี นทาแบบประเมินผลการเรยี นรู้ หน่วยที่ ๖
๑๓. นกั เรียนตรวจคาตอบจากแผ่นใสเพ่ือประเมินตนเองและทดสอบความซื่อสตั ย์

๖. ส่อื การเรยี นร/ู้ แหลง่ การเรียนรู้

๖.๑ ส่ือสง่ิ พิมพ์
๖.๑.๑ หนังสือเรยี นวิชา ภาษาไทยพ้ืนฐาน (๒๐๐๐–๑๑๐๑)

๖.๒ ส่ือโสตทศั น์
๖.๒.๑ เพาเวอร์พอยท์
๖.๒.๒ คอมพวิ เตอรก์ ระเปา๋ หว้ิ
๖.๒.๓ เคร่ืองฉายโปรเจคเตอร์

๖.๓ หุน่ จาลองหรอื ของจริง
-

๖.๔ อนื่ ๆ
-

๗. หลกั ฐานการเรียนรู้

๗.๑ หลักฐานความรู้
- สมุดจดวิชาภาษาไทยพื้นฐาน
- แบบสงั เกต


Click to View FlipBook Version