The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by gprestarts, 2021-06-14 08:50:11

No.1 กิจกรรมผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน

นายกรัฐมนตรีเชิญชวนส่งความสุขปีใหม่ด้วยกระเช้าของขวัญ


ของฝากจากผลิตภัณฑ์ชุมชน



2 ธันวาคม 2562

98

2 ธันวาคม 2562









คณะรัฐมนตรี ได้มีมติเม่อวันท่ 12 พฤศจิกายน 2562 รณรงค์ใช้ผลิตภัณฑ์ OTOP ผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิโครงการ



หลวง และผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ โดยสมเด็จพระนาง
เจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นของขวัญ ของที่ระลึกเทศกาลปีใหม่ 2563
นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นำา นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ และคณะจัดแสดง

กระเช้าของขวัญของฝากจากผลิตภัณฑ์ชุมชนต่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีใน
วันประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 3 ธันวาคม 2562 ณ ตึกบัญชาการ 1 ทำาเนียบรัฐบาล เพื่อประชาสัมพันธ์กระเช้า


ของขวัญ ของท่ระลึกสาหรับเทศกาลปีใหม่ 2563 ตามมติคณะรัฐมนตรีท่เห็นชอบรณรงค์ให้ภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ


เอกชน และประชาชนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ ใช้ผลิตภัณฑ์ OTOP ผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิโครงการหลวง และผลิตภัณฑ์
จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม
ราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นของขวัญ ของที่ระลึกเทศกาลปีใหม่ 2563
















นายกรฐมนตร ไดเยยมชมกระเชาของขวญจากผลตภณฑชมชน รบมอบกระเชาของขวญปใหมจากรฐมนตร ี


ช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ราคาไม่เกิน 3,000 บาท และรับมอบกระเช้าของขวัญปีใหม่จากอธิบดีกรมการพัฒนา
ชุมชน อีกท้ง ท่านนายกรัฐมนตรีกล่าวขอเชิญชวนให้ทุกภาคส่วนช่วยกันประชาสัมพันธ์ และร่วมกันสนับสนุนกระเช้า



ของขวัญผลิตภัณฑ์จากชุมชนเพ่อสร้างช่องทางการตลาดให้มากข้นและเพ่มรายได้ให้แก่ประชาชนในชนบท ทาให้เกิด


การกระจายรายได้และส่งผลให้เกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจในระดับฐานราก
นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมการ
พัฒนาชุมชน ได้จัดเตรียมกระเช้าของขวัญ ของท่ระลึก สาหรับเทศกาลปีใหม่ 2563 นอกจากน้ ยังมีผลิตภัณฑ ์


จากมูลนิธิโครงการหลวง เป็นโครงการส่วนพระองคในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดลยเดช


มหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนชาวไทยภูเขาที่เป็นคนยากไร้ให้มีอาชีพ มีรายได้ และมีความเป็น
อยู่ที่ดีขึ้น โดยผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิโครงการหลวง ได้แก่ ชา กาแฟ ถั่วและธัญพืช ผลไม้ และผลิตภัณฑ์แปรรูปในชื่อ
การค้าโครงการหลวง และดอยคำา และผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม
ราชินีนาถ จัดตั้งขึ้นโดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อช่วยเหลือ


ราษฎรในชนบทให้มีอาชีพเสริมและเพ่มรายได้ ซ่งเป็นการแก้ปัญหาความยากจนในชนบท โดยเฉพาะราษฎรท่ประสบ

ปัญหาในการเพาะปลูก หรือที่ว่างจากฤดูเพาะปลูกให้ได้มีงานทำา โดยผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการส่งเสริมจากมูลนิธิ ได้แก่
งานผ้า งานไม้ งานจักสาน งานเซรามิก ดอกไม้ประดิษฐ์ ผลิตภัณฑ์จากโครงการฟาร์มตัวอย่าง และเบ็ดเตล็ด อาทิ
สมุดบันทึก กล่องผ้าไหม เป็นต้น

99

2 ธันวาคม 2562

100

2 ธันวาคม 2562

















รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากชุมชนนอกจากจะได้ของขวัญ ของที่
ระลึกจากภูมิปัญญาและฝีมือของคนไทยในราคายุติธรรมแล้ว ยังช่วยสร้างงาน สร้างรายให้แก่คนในชุมชนท้งระบบ








ต้งแต่ผ้ผลิต ผ้ประกอบการ ผ้ผลิตวัตถุดิบ สมาชิกของกล่ม ผ้ใช้แรงแรงงาน ภาคการขนส่ง ทาให้ประชาชนในชนบท
มีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่ามีเงินสะพัดจากการจำาหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวกว่า 1,000 ล้านบาท สาหรับผู้ที่สนใจของ
ขวัญ ของที่ระลึกจากผลิตภัณฑ์ OTOP สามารถดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์ได้ใน www.cdd.go.th และผลิตภัณฑ์จาก
มูลนิธิโครงการหลวง สามารถเลือกซ้อได้จากร้านดอยคาทุกสาขา และสาหรับผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปา



ชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สามารถดูรายละเอียดได้ใน http://silapacheep.ohm.go.th/
ด้านนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ทุกจังหวัดมีกระเช้าของขวัญปี
ใหม่ OTOP ของแต่ละจังหวัดให้เลือกซื้อได้ ไม่ว่าจะเป็นที่ศาลากลางจังหวัด , ที่ว่าการอำาเภอ และกลุ่ม OTOP ใน
ทุกจังหวัด สำาหรับส่วนกลางสามารถเลือกซื้อผ่านกรมการพัฒนาชุมชน ทาง Website www.cdd.go.th หรือโทร
สั่งได้ที่ 064-993-9399 หรือ 063-271-3891 มีราคาตั้งแต่ไม่ถึง 100 บาท จนถึงไม่เกิน 3,000 บาท โดยกระเช้า

ของขวัญปีใหม่ OTOP ปีนี้ จะเน้นใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด และตั้งแต่ท่านนายกรัฐมนตรีได้ช่วย
รณรงค์ ขณะนี้ก็มียอดจำาหน่ายกระเช้าของขวัญปีใหม่ OTOP แล้วกว่า 6.4 ล้านบาท เป็นยอดจองผ่านกรมการ

พัฒนาชุมชน 1.2 ล้านบาท ที่เหลือก็กระจายไปในทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ

101

2 ธันวาคม 2562



พช. ยึดหลัก บวร (บ้าน วัด ราชการ) ร่วมขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชน


สร้างสังคมแห่งความสุข



7 ธันวาคม 2562

104

7 ธันวาคม 2562















7 ธันวาคม 2562
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนให้เกียรติบรรยายพิเศษเร่อง “บทบาทพระสงฆ์กับการพัฒนา




ชุมชน” ในโอกาสท่เจ้าคณะจังหวัดคณะธรรมยุตประชุมสัญจรกับคณะอนุกรรมการคณะธรรมยุต คร้งท่ 1 /2562 จัด
ขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 7 ธันวาคม 2562 โดยมีวัตถุประสงค์การประชุมเพื่อให้เจ้าคณะจังหวัดคณะธรรมยุต ได้พบปะ
แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคณะอนุกรรมการคณะธรรมยุต ในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคข้อขัดข้องที่เกิดขึ้น รับ

ทราบระเบียบวิธีปฏิบัติท่ถูกต้องเหมาะสมร่วมกัน และเพ่อส่งเสริมสนับสนุนให้ศาสนกิจของวัดเป็นไปด้วยความ


เรียบร้อย โดยในการประชุมครั้งนี้มีการเชิญภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมาร่วมบรรยายถึงบทบาทหน้าที่ของสงฆ์ใน
การจรรโลงสังคม แสดงถึงการทำางานร่วมกันของผู้นำาในทุกมิติ อาทิ เชิญปลัดกระทรวงมหาดไทย บรรยายในหัวข้อ
พระพุทธศาสนากับการปกครองของประเทศไทย ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ บรรยายในหัวข้อ บทบาทสงฆ์กับการ

ศึกษาของชาติไทย และอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน บรรยายในหัวข้อ บทบาทพระสงฆ์กับการพัฒนาชุมชน อันแสดง

ให้เห็นถึงการทำางานแบบบูรณาการทุกภาคส่วน ณ วัดพระศรีมหาธาตุ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร

โดยในการบรรยาย อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ได้กล่าวให้เห็นถึงความสาคัญของพระสงฆ์ในงานของกรมการ
พัฒนาชุมชน ที่เป็นส่วนเติมเต็มสำาคัญที่ชาวกรมการพัฒนาชุมชนได้ยึดเป็นหลักการดำาเนินงานมาโดยตลอด นั่นคือ

หลัก “บวร” อันประกอบด้วย บ้าน วัด ราชการทุกภาคส่วน 3 ส่วนนี้เป็นเสาหลักในการพัฒนาชุมชน ที่จะนำามา

ซึ่งความเจริญของประเทศชาติต่อไป โดยปัจจุบันประเทศ ร่วมถึงโลกในยุคดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เกิด
วิกฤตต่าง ๆ มากมาย ทั้งวิกฤตเศรษฐกิจ สภาวะโลกร้อน ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นหน้าที่ของ




ประชาชนทุกคนต้องร่วมมือกัน ทุกภาคส่วนต้องม่งม่นทาหน้าท่ของตนอย่างมีจิตอาสา น้อมนาหลักปรัชญาของ


เศรษฐกิจพอเพียงมาดำารงชีวิต

105

7 ธันวาคม 2562

106

7 ธันวาคม 2562


























กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้น้อมนาศาสตร์พระราชา ส่การปฏิบัติด้วยหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้หมู่บ้าน ตำาบลมีความเข้มแข็ง มั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน
ในปี 2563 ที่จะถึงนี้ กรมการพัฒนาชุมชนมีแนวทางในการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชน สู่ตำาบลเข้มแข็ง มั่นคง

มั่งคั่ง และยังยืน แบ่งเป็น 2 ระดับคือ

ระดับครัวเรือน เป็นขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนาให้ทุกครัวเรือนมีความ พอมีพอกิน พออยู่ พอใช้ พอร่มเย็น เช่น การ
ปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้ เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน โดยใช้ “โก่งธนูโมเดล” เป็นต้นแบบและ ระดับชุมชน

เป็นขั้นก้าวหน้า เป็นการพัฒนาเพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ มีการรวมกลุ่มด้วยการประกอบสัมมาชีพ ในเบื้องต้นได้
ใช้ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน ทั้ง 18 แห่ง ดำาเนินการพัฒนาพื้นที่ตามรูปแบบ “โคกหนองนาโมเดล” โดยใช้ภาค

ประชาชนที่เป็นแกนนำาในพื้นที่ดำาเนินการพัฒนาให้เป็น “ปราชญ์”แล้วกลับไปทำาเป็นอาชีพของตนเอง
ทั้งนี้การขับเคลื่อนทั้ง 2 ระดับ กรมการพัฒนาชุมชน ได้มอบหมายให้ “พัฒนากร” เป็นแกนหลัก บูรณาการ




การทางานร่วมกับภาคีการพัฒนา และผ้นาชุมชนในพ้นท่ พัฒนาส่เป้าหมายเดียวกัน คือ ตาบลเข้มแข็ง ม่นคง ม่งค่ง







และยั่งยืน”
และในช่วงท้ายอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนได้กล่าวอาราธนานิมนต์พระสงฆ์ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนา


ชุมชน ในฐานะท่พระสงฆ์เป็นผ้นาทางจิตวิญญาณให้กับชาวบ้านเพ่อให้งานพัฒนาชุมชนประสบผลสาเร็จเป็นรูปธรรม




107

7 ธันวาคม 2562



สุดยอดเทศกาลช้อปแห่งปี OTOP City 2019


มท.จัดเต็ม ยกขบวนสินค้า OTOP ร่วมฉลองปีใหม่ กระตุ้นเศรษฐกิจไทย



9 ธันวาคม 2562

110

9 ธันวาคม 2562



กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน ชวนคนไทยส่งความสุขปีใหม่ด้วยกระเช้าของขวัญจากสินค้า


ชุมชน พบกับคาราวานของขวัญและสินค้า OTOP กว่า 2 หม่นรายการ ให้เกิดการกระจายรายได้และเกิดการ
หมุนเวียนในระดับฐานราก ในงาน OTOP City 2019 ระหว่างวันที่ 15 – 23 ธันวาคมนี้ รวม 9 วัน ณ อาคารชา
เลนเจอร์ 1 – 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

วันนี้ (9 ธ.ค.62) นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานแถลงข่าวการจัด
งาน OTOP City 2019 ภายใต้แนวคิด “เทศกาลของขวัญปีใหม่ ของฝากถูกใจ ผลิตภัณฑ์ทั่วไทยรวมไว้ใน OTOP

City 2019” โดยมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ร่วมแถลงข่าว ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล
ตึกนารีสโมสร ทำาเนียบรัฐบาล

นายทรงศักด์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การจัดงาน OTOP City 2019 เป็นหน่ง









ในงานส่งเสริมการตลาดให้แก่ผ้ผลิต ผ้ประกอบการ OTOP ท่รัฐบาลให้ความสาคัญทจะขับเคล่อนเศรษฐกิจฐานราก
ให้เชื่อมโยงเศรษฐกิจมหภาค เป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำา เพื่อให้
บรรลุเป้าหมายตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยบูรณาการการทำางาน
ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ทุกภาคส่วน โดยมีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อน ซึ่งผลการจัด
งาน OTOP City ที่ผ่านมา (13 ครั้ง) สามารถสร้างรายได้จากการจำาหน่ายสินค้า OTOP ได้มากกว่า 13,000 ล้าน
บาท (13,194,884,379 บาท) และในปีนี้ กรมการพัฒนาชุมชนคาดว่าจะมียอดจำาหน่ายในงานไม่น้อยกว่า 1,400

ล้านบาท มีผู้เข้าร่วมงานไม่น้อยกว่า 5 แสนคน และมีผู้ผลิตผู้ประกอบการเข้าร่วมงานไม่น้อยกว่า 3,500 ราย โดย
กำาหนดให้มีพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม 2562 เวลา 15.00 น. ซึ่งกระทรวงมหาดไทย


คาดหวังว่าจะเป็นโอกาสอันดี ท่ประเทศไทยจะได้แสดงให้ชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้เห็นถึงความก้าวหน้าในการ
พัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP ที่เป็นภูมิปัญญาของคนไทย ทั้งนี้ จากข้อมูลเดือนตุลาคม 2562 มีรายได้จากการจำาหน่าย

สินค้าชุมชน มากกว่า 237,000 ล้านบาท (237,255,028,633 บาท) ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนและประชาชน

ฉะนั้น การจัดงานในครั้งนี้ จึงมุ่งหวังว่าจะนำาไปสู่การสร้างงาน สร้างรายได้ให้ผู้ผลิตผู้ประกอบการมากยิ่งขึ้น เพื่อ
ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป


นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวเพ่มเติมว่า การจัดงานในคร้งน้ เป็นการจัดงานระดับ

ประเทศ ที่มีความพิเศษและมีกิจกรรมที่หลากหลาย มีสินค้ามากกว่า 20,000 รายการ โดยภายในงาน ประกอบด้วย
7 ส่วนหลัก ได้แก่
1. นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ภายใต้แนวคิด “จิตอาสา

ทำาความดีด้วยหัวใจ”
2. การจัดแสดงและจำาหน่ายสินค้า OTOP 5 ประเภท หรือ OTOP Classic จาก 77 จังหวัด มากกว่า 2,500

ราย มีสินค้าให้เลือกมากกว่า 20,000 รายการ แบ่งเป็น 1) OTOP 3-5 ดาว 2) OTOP Lady โซนพิเศษเฉพาะผู้หญิง
“ช้อปสินค้าครบจบในที่เดียว” 3) OTOP ฮาลาล อาทิ น้ำาอินทผลัม 1000 พฤกษาฟาร์ม จ.กาญจนบุรี, ไชโป๊วหวาน

แม่กิมฮวย จ.ราชบุรี, ขนมข้าวเหนียวมะม่วงฟรีซดราย จ.จันทบุรี,มะพร้าวเคลือบช็อกโกแลต จ.ประจวบคีรีขันธ์ 4)

111

9 ธันวาคม 2562

112

9 ธันวาคม 2562






OTOP เพื่อสุขภาพ 5) OTOP Premium นำาเสนอผลงานศิลปิน OTOP อาทิ งานประดิษฐ์จากดินไทย โดยนางสาว


นงลักษณ์ ทรัพย์เจริญ จังหวัดพิษณุโลก, เคร่องเคลือบเวียงกาหลง โดยนายทัน ธิจิตตัง จังหวัดเชียงราย, ผ้าซ่นตีนจก

โบราณ โดยนายโกมล พานิชพันธ์ จังหวัดแพร่ 6) OTOP Trader 7) OTOP หน่วยงานภาคี และ 8) OTOP ชวนชิม
3. กิจกรรมนิทรรศการกรมฯ และหน่วยงานภาคี ประกอบด้วย OTOP ออนไลน์ และนิทรรศการ การจัดแสดง

และจำาหน่ายของ 10 หน่วยงานภาคี 4. กิจกรรมส่งเสริมการขาย ได้แก่ การแสดงศิลปะพื้นบ้าน และมินิคอนเสิร์ต
จากศิลปินชื่อดัง, OTOP Story, กิจกรรมคัดเลือกนักขายมืออาชีพ, กิจกรรมจับรางวัลชิงโชค เพียงช้อปครบทุก

1,000 บาท ลุ้นรับรางวัลสร้อยคอทองคำาหนัก 1 สลึง ทุกวัน ๆ ละ 10 เส้น รวม 90 รางวัล วันสุดท้ายลุ้นรับรางวัล
ใหญ่ สร้อยคอทองคำาหนัก 5 บาท จำานวน 5 รางวัล มูลค่า 500,000 บาท 5. กิจกรรมการบริการ เช่น ธนาคาร/

ไปรษณีย์, Health & Spa, สนามเด็กเล่น, บริการขนส่งสินค้า ฯลฯ

สำาหรับกิจกรรม Highlight ในปีนี้ ได้แก่ 1) โซนของขวัญปีใหม่ การจัดแสดงและจำาหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP
ของขวัญของฝาก จาก 40 จังหวัด 2) โซนหมู่บ้านท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี พบกับการจำาลองชุมชนท่องเที่ยว

OTOP นวัตวิถี 4 ภาค จำานวน 8 หมู่บ้าน 3) OTOP Masterpiece นำาเสนอผลงานที่มีความโดดเด่น เช่น ผลิตภัณฑ์



ย่านลิเภา จังหวัดนครศรีธรรมราช งานไม้แกะสลัก จังหวัดเชียงใหม่ เรือสาเภาจาลอง จังหวัดชลบุรี ดีบุกกาแพงเพชร
จังหวัดกำาแพงเพชร 4) ผลิตภัณฑ์ที่ชนะการประกวด Knowledge based OTOP (KBO) 5) โซนตัดเย็บเสื้อผ้า ให้
บริการตัดเย็บเสื้อผ้าสำาเร็จรูปในงาน

ทั้งนี้ การสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากชุมชนในงาน OTOP City 2019 นอกจากจะได้ของขวัญ ของที่ระลึกจาก

ภูมิปัญญาและฝีมือของคนไทยในราคายุติธรรมแล้ว ยังช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่พี่น้อง ในชุมชน
ทั้งระบบ ซึ่งขณะนี้ รัฐบาลได้ดำาเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านมาตรการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ ใน

มาตรการ “ชิม ช้อป ใช้” ทั้ง 3 เฟส โดยขยายช่องทางการซื้อสินค้าของประชาชนไปสู่ E-Marketplace ผ่านช่อง
ทางของ thailandpostmart.com ซึ่งถือเป็นแหล่งรวมสินค้า OTOP จากชุมชน และผลิตผลทางการเกษตร ใน

ระบบ E-Commerce ที่ใหญ่ที่สุด และยังเป็นการส่งเสริมการจ่ายเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเป็นการกระจาย




รายได้ส่ท้องถ่นและผ้ประกอบการรายย่อยโดยตรงด้วย จึงขอเชิญชวนให้ทุกคนเลือกซ้อกระเช้าของขวัญและสินค้า
OTOP ประเภทต่าง ๆ ทั้งที่ได้เข้าร่วมมาตรการ “ชิม ช้อป ใช้” แล้ว และกำาลังจะเข้าร่วมโครงการ เพื่อเพิ่มรายได้
ให้แก่พี่น้องประชาชนในชนบท เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจในระดับฐานรากต่อไป

ด้านนายประวิช สุขุม เลขานุการร่วมภาคเอกชน คณะทางานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ กล่าว
ด้วยว่า ในส่วนของภาคเอกชนก็ได้เข้ามามีส่วนร่วมด้วย ในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากช่วง 5 ปีมานี้ ทำาให้



ได้ทราบถึงศักยภาพของพ่น้องคนไทย ท่มีท้งภูมิปัญญาและวัตถุดิบในการผลิตสินค้าดๆ ซ่งส่งผลให้เกิดการหมุนเวียน



ทางเศรษฐกิจท่ดี ท้งในแง่การกระจายรายได้อย่างท่วถึง และด้านการสร้างความม่นคงให้กับประชาชนฐานราก โดย




ในงาน OTOP ปีนี้ ทางคณะเศรษฐกิจฐานราก ได้จัดแสดงผลงานของบริษัทประชารัฐรักสามัคคี รวมทั้งจะเชิญชวน






นกออกแบบเส้อผ้าช่อดังเข้ามารวมงาน และขอเชญชวนทุกท่านมาเลอกของขวัญของฝากจากกระเช้า OTOP หรือ
จะซื้อไว้เป็นของที่ระลึกก็คุ้มค่ามาก เพราะสินค้ามีแต่ของดีที่มีคุณภาพทั้งนั้น

113

9 ธันวาคม 2562



มท.3 “เน้นนำาการพัฒนาสร้างความเข้มแข็งฐานราก


สู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน”



15 ธันวาคม 2562

116

15 ธันวาคม 2562



วันนี้ (15 ธันวาคม 2562) เวลา 10.00 น. นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็น

ประธานพิธีเปิดและมอบนโยบายการประชุมเชิงปฏิบัติการสื่อสารทิศทาง การพัฒนาชุมชน ประจำาปี พ.ศ. 2563

โดยมีนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายโชคชัย แก้วป่อง รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน
นำาคณะผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน ผู้ตรวจราชการกรม พัฒนาการจังหวัด พัฒนาการอำาเภอ และข้าราชการใน

สังกัดกรมการพัฒนาชุมชน ร่วมรับมอบนโยบายฯ จำานวนกว่า 330 คน ณ ห้องประชุมแซฟไฟร์ 204 – 205 อาคา
รอิมแพ็คฟอรั่ม เมืองทองธานี อำาเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มอบนโยบายและบรรยายพิเศษหัวข้อ“การ
พัฒนาสร้างความเข้มแข็งจากฐานราก” ว่า เพราะหมู่บ้าน คือ ฐานของแผ่นดิน การพัฒนาฐานของแผ่นดินจึงเป็น


ภารกิจท่สาคัญ จึงขอให้ทุกท่านม่งเน้นการบริหารงานภาครัฐแบบบูรณาการโดยยึดยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (พ.ศ.


2561 – 2580) เป็นเป้าหมาย เพื่อการนำาพาประเทศชาติสู่ความมั่นคง มั่งคง ยั่งยืน โดยปัญหาสำาคัญของเศรษฐกิจ
ในระดับฐานราก กล่าวคือ “ความยากจน ความเจ็บป่วย ความไม่รู้” ถือเป็น 3 ปัญหาใหญ่ที่ต้องได้รับการแก้ไขและ
พัฒนาอย่างเร่งด่วน โดยแนวทางการสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน จำาเป็นต้องแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจฐานรากตาม



แนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และจะประสบความสาเร็จได้ต้องอาศัยการบูรณาการการขับเคล่อนการ



ปฏิบัติงานจากทุกภาคส่วนในระดับพ้นท่จะม่งเน้นไปท่การขับเคล่อนการพัฒนาในทุกๆ ด้าน อาทิ เกษตรกร วิสาหกิจ


ชุมชน OTOP ท่องเที่ยว เป็นต้น เน้นให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับฐานราก ตั้งแต่ระดับพื้นที่ หมู่บ้าน ชุมชน
และตัวบุคคล โดยหน่วยงานภาครัฐให้การสนับสนุน ด้านความรู้ และเงินทุน ดำาเนินการภายใต้ความต้องการของ

ประชาชนโดยใช้กลไกการสร้างความเข้มแข็งในระดับฐานราก ซ่งมีกรมการพัฒนาชุมชน หน่วยงานในสังกัดกระทรวง
มหาดไทย ที่มี พัฒนาการจังหวัด และพัฒนาการอำาเภอ เป็นผู้นำาในการนำานโยบายสู่การปฏิบัติ โดยการบูรณการ
ร่วมกับหน่วยงานภาคีร่วมวางแผนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่จังหวัด และกลุ่มจังหวัด และโดยเฉพาะ

อย่างยิ่งข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่ในระดับพื้นที่ มีบทบาทภารกิจที่ใกล้ชิดและเข้าถึงประชาชน “พัฒนากร” ซึ่งถือ

เป็นกำาลังสำาคัญของรัฐบาล
“เน้นให้มีการบูรณาการการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากด้วยการเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชน มีการกาหนดตัวช ี ้

วัดชุมชนเข้มแข็งเป็นเป้าหมายในการทำางาน 7 ด้าน อันได้แก่ 1) ด้านเศรษฐกิจชุมชน 2) ด้านความมั่นคงปลอดภัย

ในชีวิตและทรัพสิน 3) ด้านการบริหารจัดการชุมชน 4) ด้านการพัฒนาคนในชุมชน 5) ด้านศาสนาวัฒนธรรมและ




ประเพณี 6) ด้านสุขภาพและอนามัย และ 7) ด้านการจัดการทรัพยากรในชุมชน อีกท้ง จะต้องกาหนดพ้นท่เป้าหมาย


ในการขับเคล่อน พร้อมท้งบูรณาการแผนงาน/โครงการ ไปในทิศทางเดียวกันร่วมกันทุกหน่วยงานในพ้นท่ อันจะทาให ้




เกิดการพัฒนาชุมชนส่เป้าหมายเดียวกัน กล่าวคือ 1) การสร้างรายได้ให้ชุมชน ประชาชนมีความสุข 2) การลดความ

เหลื่อมล้ำา 3) เกิดการกระจายรายได้ และ 4) ประชาชนในชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งการสร้างความเข้มแข็งใน
ระดับฐานรากเป้าหมายสำาคัญ คือ “พี่น้องประชาชนในระดับฐานราก” ซึ่งข้าราชการในสังกัดกระทวงมหาดไทยจะ


ต้องทาหน้าท่ในการให้ความร้ สร้างความเข้าใจในพ้นท่ และใช้พลังของรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลมีหน่วยงานต่างๆ มากมาย



ที่สนับสนุนประชาชนในการพัฒนาและสร้างความเข้มแข็ง พัฒนาประชาชนในทุกๆ ด้าน ผ่านการขับเคลื่อนภารกิจ
ของหน่วยงานภาครัฐทุกภาคส่วนใน เพื่อการพัฒนาอาชีพ สร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนอย่างยั่งยืน

117

15 ธันวาคม 2562

118

15 ธันวาคม 2562













นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชนเป็นหน่วยงานในสังกัด
กระทรวงมหาดไทยมีภารกิจขับเคล่อนนโยบายของรัฐบาลด้านการพัฒนาสร้างความเข้มแข็งจากฐานราก โดยส่ง

เสริมวิสาหกิจชุมชนและผลิตภัณฑ์ชุมชนสร้างความเข้มแข็งของชุมชน ส่งเสริมบทบาทภาคเอกชนในการช่วยพัฒนา
สังคมและเศรษฐกิจฐานราก สอดคล้องกับทิศทางของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) 15 ประเด็นเร่ง

ด่วน 5 ปีแรกของยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับ
ที่ 12 สู่การบริหารการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติราชการกรมการพัฒนาชุมชน ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 กรมฯ จึง

ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการสื่อสารทิศทาง การพัฒนาชุมชน ประจำาปี พ.ศ. 2563 ครั้งนี้ขึ้น ระหว่างวันที่ 14 – 16










ธันวาคม 2562 เพ่อส่อสารสรางการรับร้สผ้บรหารกรมการพัฒนาชมชน ให้มีความเข้าใจในนโยบายและทิศทางการ
ขับเคลื่อนองค์กรในปี 2563 ให้บรรลุเป้าหมายดังวิสัยทัศน์กรมการพัฒนาชุมชนที่ว่า “เศรษฐกิจฐานรากมั่นคงและ
ชุมชนพึ่งตนเองได้ ภายในปี 2565” และหวังผลเพื่อการนำาพาประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคง และยั่งยืน




“ขอใหทุกทานได้น้อมนาหลกการทรงงาน “เข้าใจ เข้าถง และพฒนา” และหลักปรัชญาของเศรษฐกจพอ



เพียง ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาเป็นหลักชัยในการ
ทำางาน มุ่งเน้นการทำางานเพื่อการพัฒนาคน มุ่งสอนชาวบ้านให้รู้จักการพึ่งพาตนเอง และยึดแนวทางในการปฏิบัติ
ตัวและปฏิบัติหน้าที่ภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์มาโดยตลอดอย่างสร้างสรรค์ ตลอดจน
มีความพร้อมในการแก้ไขปัญหาของชุมชนด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน สมด่งคาขวัญพระราชทาน “พัฒนา


คือสร้างสรรค์”


และท้ายน้ ขอฝากให้ทุกท่านขับเคล่อนการดาเนินงานเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ ซ่งรัฐบาลให้การสนับสนุน


การดำาเนินงาน และเอกชนขับเคลื่อนให้ชุมชนลงมือทำา อาศัยผู้นำา ผลักดันให้ชุมชนลงมือทำา ส่งผลให้ชุมชนพึ่งพา

ตนเองได้ และกาหนดให้คณะทางานจากส่วนกลางลงพ้นท่ไปประเมินและส่งผลให้ คสป. เพ่อจะได้ทราบปัญหาและนา





ไปปรับพัฒนาการขับเคล่อนให้มีประสิทธิภาพย่งข้น รวมถึงการใช้กลไกการดาเนินงานจากพลังสตรี โดยการส่งเสริม







สนับสนุนจากกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี การบูรณาการแหล่งทุนชุมชนในพ้นท่ เพ่อทาให้พ่น้องในชุมชนท่วประเทศม ี



อาชีพ มีงานทำา เกิดการกระจายรายได้อย่างแท้จริง” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าว

119

15 ธันวาคม 2562



เปิดยิ่งใหญ่ OTOP City 2019 ตระการตา อาณาจักรของขวัญ


ของฝากทั่วไทย ปลุกเศรษฐกิจปลายปีคึกคัก”



16 ธันวาคม 2562

122

16 ธันวาคม 2562








กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน ชวนคนไทย ช้อปของขวัญปีใหม่จากผลิตภัณฑ์ชุมชน ร่วม

กระตุ้นเศรษฐกิจไทย ตื่นตาตื่นใจกับมหัศจรรย์งานศิลป์ ของเหล่าศิลปิน OTOP ทั้ง “เรือสุพรรณหงส์จำาลอง” และ
“ผลิตภัณฑ์ไม้รูปสัตว์จากเมืองแพร่” พร้อมเปิดโซนใหม่ OTOP Lady เอาใจสาวนักช้อป “ช้อปสินค้าได้ครบในท่เดียว”

และโซน “ตัดเย็บเสื้อผ้า” ระหว่างวันที่ 15 – 23 ธันวาคมนี้ ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1 – 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
วันนี้ (16 ธ.ค.62) นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดงาน OTOP

City 2019 ครั้งที่ 14 ภายใต้แนวคิด “เทศกาลของขวัญปีใหม่ ของฝากถูกใจ ผลิตภัณฑ์ทั่วไทย รวมไว้ใน OTOP
City 2019” พร้อมมอบเกียรติบัตรแก่ผู้แทนคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีระดับจังหวัด โดยมี

นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ดร.วันดี
กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ คณะทูตานุทูต คณะรัฐมนตรี ข้าราชการ

ระดับสูง และประชาชนเข้าร่วมงานเป็นจำานวนมาก
นายทรงศักด์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การจัดงาน OTOP City 2019 เป็นการ



จัดงานเพ่อให้ประชาชนคนไทยได้ซ้อหาของขวัญของฝากท่เป็นผลิตภัณฑ์อันมีค่าจากฝีมือคนไทย โดยการจัดงานคร้ง










น้ ถือเป็นการนาองค์ความร้เชิงนวัตกรรมจากหน่วยงานท่เก่ยวข้องมานาเสนอ ซ่งถือเป็นจุดเด่นท่สาคัญ คือ การเป็น

ศูนย์เรียนรู้ระหว่างผู้ประกอบการ OTOP และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ การพัฒนาสินค้า OTOP เป็นสิ่ง









ทรฐบาล และกระทรวงมหาดไทยไดใหความสาคญและสนบสนนมาอย่างตอเนอง และจะสนบสนนชองทางการตลาด






ด้าน E-Commerce Online ให้มากข้น โดยการเช่อมประสานแบบบูรณาการกับภาคเอกชน ประชารัฐ องค์การตลาด




และส่วนราชการ เพ่อช่วยกันขับเคล่อนและผลักดันยอดจาหน่ายสินค้า OTOP ให้ถึงเป้าหมายสามแสนล้านบาทต่อไป

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือเป็น
อย่างดีจากทุกภาคส่วน มีการจัดแสดงและจำาหน่ายสินค้ามากกว่า 2,500 บูท ผลิตภัณฑ์ OTOP มากกว่า 20,000
รายการ ทั้งนี้ ในการจัดงานทุกครั้งที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์ผ้าทอไทย มักมียอดจำาหน่ายสูงสุด ดังนั้น กรมการพัฒนา
ชุมชน จึงได้ร่วมกับสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ รณรงค์ให้คนไทยสวมใส่ ผ้าไทยให้มากขึ้น ซึ่งหากคน
ไทยเพียง 35 ล้านคน สวมใส่ผ้าไทยเฉลี่ยคนละ 10 เมตร เมตรละ 300 บาท จะมีการใช้ผ้าไทยถึง 350 ล้านเมตร
คิดเป็นเงินกว่า 100,000 ล้านบาท ภายในงานยังมีโซนพิเศษซึ่งจัดขึ้นเป็นปีแรกกับโซน OTOP Lady เพื่อเอาใจสา





วนักช้อปท่มีเวลาน้อยให้ “ช้อปสินค้าได้ครบในท่เดียว” ซ่งภายในโซนจะมีท้งเส้อผ้า (ผ้าผืน/เส้อผ้าสาเร็จรูป) กระเป๋า


รองเท้า หมวก เครื่องประดับ (เครื่องทอง เงิน เพชรพลอย มุก ลูกปัด ฯลฯ) และเครื่องสำาอาง เป็นต้น

123

16 ธันวาคม 2562

124

16 ธันวาคม 2562








ภายในงาน OTOP City 2019 ยังมีโซนกิจกรรมมากมายประกอบด้วย 1. นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาท

สมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ภายใต้แนวคิด “จิตอาสาทำาความดีด้วยหัวใจ” 2. การจัดแสดงและ
จำาหน่ายสินค้า OTOP 5 ประเภท 3.กิจกรรม Highlight ได้แก่ โซนของขวัญปีใหม่ โซนหมู่บ้านท่องเที่ยว OTOP

นวัตวิถี โซน OTOP Masterpiece โซนผลิตภัณฑ์ที่ชนะการประกวด Knowledge based OTOP (KBO) และโซน

ตัดเย็บเสื้อผ้า 4. การจัดนิทรรศการของหน่วยงานภาคี ที่ขับเคลื่อนโครงการหนึ่งตำาบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ร่วมกัน 5.
กิจกรรมการบริการ เช่น ธนาคาร/ไปรษณีย์, Health & Spa, บริการห่อของขวัญ และ 6.OTOP ชวนชิม ตลอด

จนกิจกรรมความบันเทิงหลากหลาย อาทิ การแสดงศิลปวัฒนธรรม การแสดงมินิคอนเสิร์ต กิจกรรมสินค้านาทีทอง
กิจกรรมจับรางวัลชิงโชค เพียงช้อปสินค้า OTOP ครบทุก 1,000 บาท ลุ้นรับเครื่องใช้ไฟฟ้าและสร้อยคอทองคำา

หนัก 1 สลึง ทุกวัน ๆ ละ 5 เส้น รวม 45 รางวัล วันสุดท้ายลุ้นรับรางวัลใหญ่ สร้อยคอทองคำาหนัก 5 บาท จำานวน
5 รางวัล มูลค่ารวม 500,000 บาท ซึ่งกระแสตอบรับจากผู้เข้าชมงานวันแรก (15 ธ.ค.62) ได้สร้างรายได้ให้แก่ผู้

ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP กว่า 152 ล้านบาท โดยยอดจำาหน่ายสูงสุด 5 ลำาดับแรก ได้แก่ 1) นางสมสมัย เขา
หิน ทองสุโขทัย จ.สุโขทัย 2) หินหยกแกะสลัก จ.เชียงราย 3) นางอรอนงค์ พิพิธทอง ทองสุโขทัย จ.สุโขทัย 4)

ลำาพูนไทยซิลด์ ไหมยกดอกลำาพูน จ.ลำาพูน และ 5) นางสาวปาริชาติ แก้วหนัก ผ้าไหมยกดอก จ.ลำาพูน




















สาหรบพธเปดงานครงน ยงจดใหมพธมอบเกยรตบตรแกผแทนคณะอนกรรมการบรหารกองทนพัฒนาบทบาท





สตรี ท่มีการบริหารจัดการหน้กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีดีเด่น จานวน 10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เพชรบูรณ์


พะเยา น่าน เชียงราย แพร่ สุพรรณบุรี อุตรดิตถ์ สระแก้ว และจังหวัดตาก เพื่อยกย่องเชิดชูแบบอย่างของการ

บริหารกองทุนฯ ซ่งกรมการพัฒนาชุมชนได้รับมอบหมายตามมติคณะรัฐมนตรีให้รับผิดชอบกองทุนพัฒนาบทบาท
สตรี ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2559 เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนให้แก่สตรีและองค์กรสตรีในการนำาไปประกอบอาชีพสร้าง
งานสร้างรายได้ ส่งเสริมพัฒนาบทบาทสตรี และพัฒนาคุณภาพชีวิตสตรี ผู้ด้อยโอกาสในชุมชน ปัจจุบันมีทรัพย์สิน
กองทุนมากกว่า 7,200 ล้านบาท มีสมาชิกกว่า 13 ล้านคน โดยในปี 2560 – 2562 ได้อนุมัติเงินอุดหนุนและเงิน
ทุนหมุนเวียน จำานวน 48,900 โครงการ เป็นเงินกว่า 5,000 ล้านบาท มีสตรีได้รับประโยชน์มากกว่า 1.7 ล้านคน
มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนในงานช้อปยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี เทศกาลของขวัญ
ปีใหม่เอาใจขาช้อป ทั้งของกิน ของใช้ ของขวัญ ของฝาก ของที่ระลึก มอบให้คนที่ท่านรัก ที่ยกขบวนขนกันมาให้
เลือกชิม ชม ช้อป มากกว่า 20,000 รายการ 2,500 ร้านค้า ได้ทั้งช้อปของเด็ดของดีจากทั่วประเทศแล้ว ยังได้ลุ้น
รับโชคทองและเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ มากมายทุกวัน ในงาน OTOP City 2019 วันนี้ – 23 ธันวาคม 2562 เวลา
10.00-21.00 น. อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี

125

16 ธันวาคม 2562



กรมการพัฒนาชุมชน จับมือ Airbnb และกรมส่งเสริมการปกครอง


ท้องถิ่น เดินหน้าแคมเปญระดับโลก Beyond Big Cities ลุยโปรโมท


เสริมแกร่งโฮมสเตย์ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีสระบุรี


เตรียมรับนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลก



18 ธันวาคม 2562

128

18 ธันวาคม 2562






วันน้ 18 ธันวาคม 2562 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) ร่วมกับนายมิช โกห์ หัวหน้า
ฝ่ายนโยบายสาธารณะประจำาภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Airbnb, นายสำาเนียง สิมมาวัน ผู้อำานวยการกลุ่ม

งานส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตกองพัฒนาและส่งเสริมการบริหารงานท้องถ่น กรมส่ง

เสริมการปกครองท้องถิ่น, คุณอุดร สารคม และคุณอารีดา ไวยะวงษ์ เจ้าของที่พักโฮมสเตย์ แถลงข่าว Airbnb ชู


แคมเปญนอกเหนือจากเมืองใหญ่ : เสริมแกร่งท่องเท่ยวชุมชนในจังหวัดสระบุรี โดยมี นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผ้ว่า

ราชการจังหวัดสระบุรี และ นางวรสุดา รัตนสุคนธ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสระบุรี ให้การต้อนรับ ณ พิพิธภัณฑ์
บ้านไร่กาแฟ อ.หนองแซง จ.สระบุรี

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เผยว่า กรมการพัฒนาชุมชน (พช.) มีความยินดีเป็นอย่าง
มากที่ได้เห็น Airbnb (แอร์บีเอ็นบี) ทำางานร่วมกับชุมชนท้องถิ่นต่าง ๆ ในประเทศไทย ทั้งนี้ เป็นการเสริมแกร่ง

เจ้าของโฮมสเตย์ในสระบุรีท่มีความกระตือรือร้นในการแบ่งปันวิถีชีวิตให้กับนักท่องเท่ยวไทยและต่างชาติได้เป็นอย่าง






ดี ด้วยการริเร่มดังกล่าวน้เราจะใช้เป็นตันแบบนาไปขยายผลในชุมชนอ่น ๆ พร้อมกับการสนับสนุนให้เกิดความพร้อม
เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว เพราะเราอยากเห็นชุมชนท้องถิ่นต่าง ๆ ทั่วประเทศ ได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยว ซึ่ง
จะช่วยเผยแพร่เสน่ห์ความสวยงาม และสิ่งที่ดี ๆ ของไทย รวมทั้งทำาให้เศรษฐกิจท้องถิ่นเข้มแข็งและยั่งยืน โดย




เม่อคร้งดารงตาแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถ่น เคยร่วมมือกับแพลตฟอร์มระดับโลกอย่างแอร์บีเอ็นบี




(Airbnb) เป็นคร้งแรกเม่อปี 2561 เพื่อสนับสนุนเจ้าของท่พักโฮมสเตย์ และส่งเสริมการกระจายรายได้จากการท่อง
เที่ยวสู่ชุมชน เสริมสร้างศักยภาพของชุมชน เปลี่ยนครัวเรือนดั้งเดิมให้เป็นผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวรุ่นใหม่






ใช้เทคโนโลยีมาเป็นส่อกลางเช่อมโยงนักท่องเท่ยวท้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเข้ากับชุมชนท้องถ่นท่มีศักยภาพ
ในการพัฒนาการท่องเที่ยวในพื้นที่ของตน สร้างพลังให้ชุมชนเล็ก ๆ ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตในด้านการท่อง



เท่ยวของประเทศได้ตามนโยบายการกระจายรายได้จากการท่องเท่ยวไปส่เมืองรอง และชุมชนท้องถ่นของรัฐบาล

ที่คำานึงถึงการเข้ามามีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชนในชุมชนเป็นสำาคัญ















นายสทธพงษ กลาวเพมวา การสงเสรมการทองเทยวชมชนโดยคนในชมชนเปนเจาบานใหบรการแกนกทอง







เที่ยว โดยอาศัยแพลตฟอร์มของ Airbnb เป็นช่องทางทางการตลาดซึ่งจะถือได้ว่าเป็นการเติมเต็มตลาดท่องเที่ยว
เพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตความเป็นอยู่ ประเพณี วัฒนธรรมของชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ โดยมีหน่วยงานราชการ องค์กร



ปกครองท้องถ่น (อปท.) ช่วยเหลือส่งเสริมและสนับสนุน จะเป็นมิติของการส่งเสริมการท่องเท่ยวท่ย่งยืน ทาให ้


เศรษฐกิจหมุนเวียนไปสู่ชนบทในทุกสาขาอาชีพ ไม่ใช่เฉพาะเจ้าของบ้าน และจะตรงกับหลักการทำางานที่เรามุ่งเน้น
ในปัจจุบัน นั่นคือ เอกชนนำา ประชาชนลงมือทำา ราชการสนับสนุน โดยกรมการพัฒนาชุมชน จะนำาความสำาเร็จของ
อ.หนองแซง จ.สระบุรี นี้ ขยายผลไปยังหมู่บ้านท่องเที่ยวนวัตวิถีทั่วทุกภาคที่เราประเมินผลว่า มีความพร้อมที่จะได้
เข้าร่วมกับ Airbnb เพื่อเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวเมืองไทยมากๆ หรือหากมีภาคเอกชนรายอื่นประสงค์
ที่จะช่วยเหลือชุมชนเหมือนอย่างเช่น Airbnb ก็จะน่ายินดียิ่งนัก

129

18 ธันวาคม 2562

130

18 ธันวาคม 2562










ด้านนางมิช โคห์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะประจาภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ Airbnb กล่าวว่า Airbnb






ยังคงม่งม่นและต้งใจท่จะกระจายผลประโยชน์จากการท่องเท่ยวไปยังชุมชนนอกเหนือจากเมืองใหญ่ ซ่งสอดคล้อง
กับนโยบายของทางรัฐบาล Airbnb มีความยินดีที่จะเปิดเผยว่าจังหวัดสระบุรีเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวใหม่

สาหรับนักเดินทาง ซ่งอย่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ท่พร้อมด้วยเจ้าของท่พักท่อยากแบ่งปันท่พักและวิถีชีวิตชุมชน ตลอด






จนประสบการณ์ วัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าสนใจอีกมากมาย เรามุ่งมั่นที่จะให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและผู้ที่

เก่ยวข้องในอุตสาหกรรมการท่องเท่ยวท่วประเทศอย่างต่อเน่องในการประชาสัมพันธ์จุดหมายปลายทางท่องเท่ยว




ใหม่ๆ ในประเทศไทย”
นายสำาเนียง สิมมาวัน ผู้อำานวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิต กองพัฒนา
และส่งเสริมการบริหารงานท้องถิ่น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กล่าวเสริมว่า “การทำางานร่วมกับ Airbnb


เป็นการช่วยให้โฮมสเตย์หรือบ้านพักท่มีห้องว่างไม่เกิน 4 ห้อง หรือผ้เข้าพักไม่เกิน 20 คน ของคนไทยท่ขาดศักยภาพ




ในการประชาสัมพันธ์ให้สามารถเข้าถึงกล่มเป้าหมาย เข้าใจถึงความต้องการของนักท่องเท่ยวต่างชาติได้ดีย่งข้น




และช่วยส่งเสริมให้เจ้าของโฮมสเตย์ไทยสามารถมอบประสบการณ์ท้องถ่นไทยท่แท้จริง เราหวังว่าจะเห็นคนไทยเร่ม
ทำาธุรกิจโฮมสเตย์ของตนเองและได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยวผนวกกับการสนับสนุนจาก Airbnb ด้วยแล้ว ผู้
ประกอบการโฮมสเตย์ไทยจะสามารถเข้าถึงนักท่องเที่ยวหลายล้านคนจากทั่วโลก”
โดยหลังจากการแถลงข่าว ได้เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์จาก 13 อำาเภอ ของจังหวัดสระบุรี เช่น กระเป๋าจากรังไหม
ผลิตภัณฑ์ผักหวาน อ.บ้านหมอ, ผลิตภัณฑ์สมุนไพรสปาเรือบุญ ครกหิน กระเป๋าหนัง แคปหมู น้ำาพริกหนุ่มอ.อำาเภอ
เมือง และฟักทอง เมล่อน อ.วิหารแดง ที่นำามาจัดแสดงด้วย
ทั้งนี้ Airbnb (แอร์บีเอ็นบี) เป็นสตาร์ทอัพเกี่ยวกับการจองที่พักที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั่วโลก ณ ตอน
นี้ โดยมีที่พักในประเทศไทยให้เลือกหลากหลายมากกว่า 79,600 ที่พัก ราคาตั้งแต่หลักร้อยจนไปถึงหลักหมื่นบาท
ต่อคืน และยังช่วยผ้ทาธุรกิจในด้านน้ให้สามารถมีรายได้ เพียงแค่คุณมีห้องว่างสักห้องคุณก็สามารถสร้างรายได ้



ผ่าน Airbnb ได้ทันที ซึ่งพบว่าปีนี้มีการเติบโตกว่าร้อยละ 54 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว กอปรกับในปัจจุบันมีนักท่อง
เที่ยวจากในประเทศและต่างประเทศหันมาใช้บริการ Airbnb ซึ่งมีความต้องการอยากเข้าพักในบ้านพักท้องถิ่นที่มี

ความโดดเด่นและได้สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวอันแท้จรึง โดยในปี2561 มีผู้เข้าพักในประเทศไทยผ่าน Airbnb
มากกว่า 1.9 ล้านคน โดยมีจำานวนผู้เข้าพักในจังหวัดสระบุรีเติบโตมากถึง 115% จากปีที่ผ่านมา (อ้างอิงจากข้อมูล

ภายในของ Airbnb ระหว่างเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2562) ในขณะที่ข้อมูลนักเดินทางส่วนใหญ่ที่เดินทางไปเที่ยว

จังหวัดสระบุรีมากที่สุดปัจจุบัน คือ ไทย สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และสหราชอาณาจักร ตามลำาดับ

131

18 ธันวาคม 2562



อธิบดี พช. ร่วมเข้าเฝ้าทูลละอองพระบาท รับพระราชทานเข็มที่ระลึก


ของมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์



23 ธันวาคม 2562

134

23 ธันวาคม 2562
































วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม 2562 เวลา 17.30 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ


สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดาเนินพระราชทานเข็มท่ระลึกของมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์และทรง

เป็นประธานการประชุมสามัญประจำาปี พ.ศ. 2563 มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ (เป็นการส่วนพระองค์)

นายสุมธ ตันติเวชกุล ประธานกรรมการมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นาคณะกรรมการมูลนิธิฯ คณะ

ผ้มีจิตศรัทธาบริจาค และคณะผ้สนับสนุนการดาเนินงานของมูลนิธิฯ เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาท รับพระราชทาน


เข็มที่ระลึกของมูลนิธิฯ โดยมีนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาท รับ
พระราชทานเข็มที่ระลึกของมูลนิธิฯ ในฐานะคณะผู้สนับสนุนการดำาเนินงานของมูลนิธิฯ ด้วย ณ ห้องประชุม 101




ช้น 1 อาคารสานักงานโครงการอันเน่องมาจากพระราชดาริ ถนนอรุณอมรินทร์ แขวงบางย่ขัน เขตบางพลัด


กรุงเทพมหานคร

135

23 ธันวาคม 2562



“พช. หนุน นวดแผนไทยในชุมชนท่องเที่ยว ส่งเสริมอาชีพสตรี


มุ่งสร้างรายได้ชุมชนอย่างยั่งยืน”



24 ธันวาคม 2562

138

24 ธันวาคม 2562















วันที่ (24 ธันวาคม 2562) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรม
















การสรางการรบรและเผยแพร่ประชาสมพนธโครงการสงเสรมอาชพสตรดานการนวดแผนไทย และมอบวสดแกผ ู ้
เข้ารับการฝึกอบรม 20 ชุดโดยมี ผู้ตรวจราชการกรม ผู้อำานวยการสำานัก/กอง ศูนย์ พัฒนาการจังหวัด ผู้อำานวย
การศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน ผู้บริหารโรงเรียนแพทย์แผนโบราณวัดพระเชตุพนฯ (วัดโพธิ์) สื่อมวลชน ร่วมพิธีฯ
ณ บ้านพุแค หมู่ที่ ๑ ตำาบลพุแค อำาเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า “กรมการพัฒนาชุมชน เล็งเห็นความสำาคัญของ
สตรีที่ประสบปัญหาจากสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ประเทศไทยประสบปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว โรงงานใหญ่หลายแห่ง

ปิดตัวลง คนงานถูกปลด ปัญหาคนว่างงาน ซ่งในจานวนคนว่างงานดังกล่าว มีสตรีท่เป็นคนต่างจังหวัดท่ต้องเปล่ยน




ชีวิตจากคนทำางานโรงงาน เป็นคนตกงาน ไม่มีอาชีพไม่มีรายได้ กอรปกับ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงมหาดไทย ได้มอบนโยบายให้กรมการพัฒนาชุมชน ดำาเนินการสร้างความเข้มแข็งให้สตรีมีศักยภาพ มีทาง
เลือก มีอาชีพ และรายได้ สามารถทางานอย่ในหม่บ้าน/ชุมชน ไม่ต้องไปทางานรับจ้างในกรุงเทพมหานคร หรือ




เมืองท่องเที่ยวต่างๆ กรมการพัฒนาชุมชน จึงได้จัดทำาโครงการส่งเสริมอาชีพสตรีด้านการนวดแผนไทยเพื่อพัฒนา
อาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ และเสริมสร้างความเข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจให้แก่สตรี และกาหนดให้มีกิจกรรมการ

ฝึกอบรมอาชีพสตรีด้านการนวดแผนไทย หลักสูตรระยะสั้น 60 ชั่วโมง 10 วัน จำานวน 4 รุ่น รุ่นละ 20 คน ซึ่งได้
ดำาเนินการแล้วตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2562 และจะสิ้นสุดวันที่ 25 ธันวาคม 2562 ดำาเนินการในพื้นที่ 4 จังหวัด
ได้แก่ จังหวัดสระบุรี พังงา อุทัยธานี และนครพนม กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการ เป็นสตรีที่มีความสนใจและ
สมัครเข้าร่วมโครงการส่งเสริมอาชีพสตรีด้านการนวดแผนไทย จำานวนรวมทั้งสิ้น 80 คน เป็นการดำาเนินการภาย

ใต้ความร่วมมือของกรมการพัฒนาชุมชน กับ โรงเรียนแพทย์แผนโบราณวัดพระเชตุพนฯ (วัดโพธ์) ซ่งเป็นแหล่งรวม


วิทยาการทางการแพทย์การนวดแผนไทยท่เก่าแก่มีช่อเสียงมากท่สุดของไทย วัตถุประสงค์เพ่อส่งเสริมศักยภาพของ



ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ผ่านภูมิปัญญาการนวดแผนโบราณ

139

24 ธันวาคม 2562

140

24 ธันวาคม 2562















ผมได้รับความเมตตาจากเจ้าอาวาส และรองเจ้าอาวาส วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร จึงทาให ้

เกิดความร่วมมือโครงการส่งเสริมอาชีพสตรีด้านการนวดแผนไทยดังกล่าวขึ้น ซึ่งหลังจากกรมฯ ได้เปิดกิจกรรมฝึก

อบรมอาชีพสตรีด้านการนวดแผนไทย ผ่านมา 2 สัปดาห์ มีข่าวดีว่า มีประกาศยกย่องให้นวดแผนไทย เป็นมรดก






โลก รับรองจากยูเนสโก ซ่งการอบรมฯ ท่จัดข้นคร้งน้ เป็นการช่วยรักษามรดกโลก ภูมิปัญญาของมนุษย์ จะนา





ประโยชน์ไปส่คนในชุมชน ได้มีสุขภาพอนามัยท่ดี มีวิชาความร้ในการดูแลแก้ไขเก่ยวกับการปวดเม่อย ดูแลท้งตัว

เองและคนในครอบครัว รวมถึงสามารถขยายผลวิชการความรู้ไปสู่บ้านหลังอื่น ๆ ในชุมชนได้ เมื่อเรียนครบจบสูตร
(สำาเร็จ) จะได้รับประกาศนียบัตร ซึ่งได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข สามารถเปิดร้านนวดได้ถูกต้องตาม



กฎหมาย ให้ม่นใจได้ในความถูกต้อง เปิดบริการนวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซ่งประโยชน์มากมายท่เกิดข้น จะช่วยให ้

พี่น้องประชาชนในชนบทสามารถดูแลครอบครัวได้ ท้ายที่สุดจะก่อเกิดเป็นรายได้อย่างยั่งยืน อธิบดีกรมการพัฒนา
ชุมชน กล่าวเพิ่มเติม
นายปรีดา ตั้งตรงจิตร ผู้อำานวยการโรงเรียนแพทย์แผนโบราณวัดพระเชตุพนฯ (วัดโพธิ์) กล่าวว่า ในนามของ


โรงเรียนฯ กระผมโชคดีท่มีโอกาสได้ทางานร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน ในการส่งเสริมให้สตรีมีอาชีพ เพื่อการสร้าง



รายได้ในครอบครัว ซ่งหลักสูตรการนวดของโรงเรียนฯ เป็นหลักสูตรท่มีมาอย่างยาวนาน เป็นต้นตารับการนวดแผน
ไทยโบราณ อีกทั้ง การนวด เป็นการลงทุนที่นิยมที่สุด หากเปิดบริการนวดวันละ 2 – 3 คน ก็จะมีรายได้ 600 –
700 บาท จะทำาให้ท่านสามารถดูแลครอบครัวได้ แก้ไขปัญหาสุขภาพได้เยอะเลย ท้ายนี้ ขอกราบขอบพระคุณท่าน
อธิบดีฯ ด้วยความจริงใจ ที่หยิบยื่นโอกาสให้กระผม และสิ่งที่ท่านอธิบดีฯ ได้บรรยาย ชี้แนะ อย่างละเอียดไปแล้ว
นั้น กระผมจะนำาไปปรับปรุง เพื่อความถูกต้องและถูกใจผู้รับบริการ ต่อไป



“ในวันน้ ผมยินดีเป็นอย่างย่งท่ได้มีโอกาสสร้างการรับร้และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์โครงการส่งเสริมอาชีพสตร ี












ดานการนวดแผนไทย ภายใตความรวมมอของกรมการพฒนาชมชนกบโรงเรยนแพทยแผนโบราณวดพระเชตพนฯ (วด





โพธ์) ให้ทราบอย่างท่วถึงกัน ผมขอขอบคุณทุกภาคส่วนท่ได้ม่งม่นดาเนินกิจกรรมท่เป็นประโยชน์แก่พ่น้องประชาชน





ในพ้นท่ ขอขอบคุณแขกผ้มีเกียรติ และส่อมวลชนทุกท่าน ท่ให้ความสนใจมาร่วมงานกับเราในวันน้ ผมหวังเป็นอย่าง





ย่งว่าโครงการน้ จะนาไปส่การสร้างสร้างงาน สร้างรายได้ และเสริมสร้างความเข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจให้แก่สตรี




เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืนของคนไทยต่อไป” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนกล่าวทิ้งท้าย

141

24 ธันวาคม 2562



อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนจับมือประธานสภาสตรี รณรงค์สตรีแพร่


ใส่ผ้าไทย ช่วยสร้างเศรษฐกิจไทยให้มั่นคง ตามโครงการ”สืบสาน


อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำารงไว้ในแผ่นดิน “



28 ธันวาคม 2562

144

28 ธันวาคม 2562








วันที่ 28 ธันวาคม 2562 เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมสักทอง 1 – 3 โรงแรมแม่ยมพาเลส อำาเภอเมืองแพร่

จังหวัดแพร่
ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ พร้อมด้วย นายสุทธิพงษ์

จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และ นางรชตภร โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชา


ติฯ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับผ้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ขับเคล่อนโครงการสืบสาน อนุรักษ ์

ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำารงไว้ในแผ่นดิน กับจังหวัดแพร่ นำาโดย นางกานต์เปรมปรีด์ ชิตานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัด โดย
ก่อนลงนามได้มีการแสดงโชว์อัตลักษณ์ผ้าไทยของจังหวัดแพร่ ด้วยการเดินแฟชั่นโชว์ผ้าไทย ผ้าไทยประยุกต์ จาก
แบรนด์ที่มีชื่อเสียงระดับสากลที่ออกแบบและผลิตโดยคนแพร่ จำานวน 14 แบรนด์ อาทิ อัญชิ กฤษณะ เลอโซเลย์

เป็นต้น ทำาให้เห็นถึงความสวยงาม น่าสวมใส่ และใส่ได้ทุกวัน ทุกโอกาส

การลงนามบันทึกข้อตกลงความความร่วมมือ ตามโครงการ “สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดารงไว้ในแผ่นดิน




จังหวัดแพร่” คร้งน้มีวัตถุประสงค์ เพ่อสืบสานพระราชปณิธานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์พระบรมราชินีนาถ พระบรม
ราชชนนีพันปีหลวง โดยการอนุรักษ์ ส่งเสริมและเผยแพร่ผ้าไทยอันมีอัตลักษณ์และทรงคุณค่า ศิลปะอันล้ำาค่าของ



ชาติให้ดารงอย่ปรากฏเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย และให้ท่วโลกได้ช่นชม อีกท้งช่วยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้เกิด


กระแสความนิยมการแต่งกายด้วยผ้าไทย โดยเน้นในกลุ่มข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ลูกจ้างหน่วยงานของรัฐ
ให้ใช้ผ้าไทยอย่างต่อเนื่อง นำามาซึ่งทุกคนได้มีส่วนร่วมสืบสาน อนุรักษ์ผ้าท้องถิ่นไทยให้คงอยู่คู่แผ่นดิน และที่สำาคัญ
เพื่อเป็นสนับสนุน ส่งเสริมการสร้างงาน สร้างอาชีพ และเสริมสร้างรายได้ให้กลุ่มสตรีในท้องถิ่น
ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ กล่าวว่า ภารกิจของสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรม




ราชินูปถัมภ์กิจกรรมหลักจะเป็นเร่องของสตรี ม่งเน้นการพัฒนาศักยภาพอาชีพสืบสานโครงการตามพระราชดาร ิ

ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชนนีพันปีหลวงเม่อได้ทาโครงการอนุรักษ์ศิลป์ผ้า


ถ่นไทยดารงไว้ในแผ่นดิน ทาให้เข้าใจถึงกรรมวิธีการผลิตการใช้ภูมิปัญญาท้องถ่นเป็นงานทรงคุณค่าและเป็นงาน








ภูมิปัญญาท่สืบทอดส่ร่นหลานดังน้นหาก 35 ล้านคน หันมาใส่ผ้าไทยก็จะสร้างรายได้กลับส่ชุมชนเป็นการกระต้น


เศรษฐกิจฐานรากสู่ความมั่นคงมั่งคั่งยั่งยืน สืบสานภูมิปัญญาในวันนี้จังหวัดแพร่ได้จัดงาน 1191 ปี คือสิ่งที่สืบทอด
จากบรรพบุรุษที่ต้องรักษาไว้อย่างยิ่ง
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวต่อว่า ด้วยสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ ์



ได้คานึงถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชนนีพันปีหลวงทรงร้อฟ้น



ผ้าไทยมาต้งแต่ พ.ศ.2514 ทรงให้ชาวบ้านทอผ้าเพ่อไปตัดชุดฉลองพระองค์และพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์เป็น






คาผาและสงเสรมพฒนาฝมอและจดประกวดการทอผาทาใหพวกเราไดทราบถงพระมหากรณาธคณของพระองคทาน













ให้ตระหนักถึงความเป็นตัวตนของคนไทยผ่านการทอผ้าดังเช่น การส่วนใส่ผ้าหม้อห้อมของคนแพร่ ท่เป็นเอกลักษณ ์









ทชัดเจนดังน้นเราต้องรวมมอกนในการเชญชวนภาคเครือขายในจงหวัดรวมถึงส่วนราชการ รัฐวิสาหกจ และภาค




145

28 ธันวาคม 2562

146

28 ธันวาคม 2562





















เอกชนในการร่วมกันสวมใส่ผ้าไทย หากคนไทย 35 ล้านคนใส่ผ้าไทยเพิ่มขึ้นคนละ 10 เมตร เมตรละ 300 บาท จะ
สร้างรายได้ 105,000 ล้านบาท ซึ่งรายได้ดังกล่าวนั้นจะกระจายถึงคนในชุมชนและอีกหลายชีวิต จะทำาให้เศรษฐกิจ




ของชาติเกิดการหมุนเวียนเกิดความม่นคงด้านเคร่องน่งห่มรวมท้งแสดงถึงการมีวัฒนธรรมท่ดีงาม จังหวัดแพร่ม ี


ศิลปินแห่งชาติคนสำาคัญได้แก่ แม่ประนอม ทาแปง ท่านมีส่วนช่วยทำาให้งบประมาณของกรมการพัฒนาชุมชน ได้
รับงบประมาณในการพัฒนางบโอทอป ในปี 2563 อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย จังหวัดแพร่มีผ้าหม้อห้อม อันเป็นสีเดียว




กับกรมการพัฒนาชุมชน ผมคงต้องส่งซ้อผ้าหม้อห้อมแล้วใส่ตรากรมการพัฒนาชุมชนให้เจ้าหน้าท่ใส่ทางานสัก 1 วัน
โดยจะคัดเลือกร้านที่มีกำาลังการผลิตและจะคัดเลือกแบบอีกครั้งนึง
นางกานต์เปรมปรีด์ ชิตานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กล่าวต้อนรับจังหวัดแพร่มีความยินดี ที่ได้รับเกียรติ
จากสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และกรมการพัฒนาชุมชนที่ให้เกียรติมาเยี่ยมจังหวัดแพร่และจัดพิธี

ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU โครงการ “สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำารงไว้ในแผ่นดิน” ในวันนี้

จังหวัดแพรมีทรัพยากรไม้สักทองท่สวยท่สุด มวิถีชีวตท่เป็นอัตลักษณ์และมผ้าหมอฮ้อมทสืบทอดมาจากภูมิปัญญา









ท้องถิ่นซึ่งขณะนี้ได้มีการพัฒนาให้กว้างไปสู่ความเป็นสากล ในโอกาสนี้ขอขอบคุณท่านอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน



และประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ท่ให้การสนับสนุนการอนุรกษ์ผ้าถ่นไทย จนเกดโครงการสืบสาน

อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำารงไว้ในแผ่นดินครั้งนี้


Click to View FlipBook Version