The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หนังสือที่รวบรวมและเรียบเรียงหลักธรรมเพื่อนำมาเผยแพร่ให้กับโรงเรียน องค์กร ชุมชน ได้เรียนรู้ถึงหัวใจ แก่นพระธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า (flle updated: ม.ค.2565)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ICP, 2021-06-14 07:27:53

ใบไม้ในกำมือเดียว

หนังสือที่รวบรวมและเรียบเรียงหลักธรรมเพื่อนำมาเผยแพร่ให้กับโรงเรียน องค์กร ชุมชน ได้เรียนรู้ถึงหัวใจ แก่นพระธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า (flle updated: ม.ค.2565)

Keywords: NUii

ISBN 978-616-93621-5-2

ชื่อหนงั สือ
ใบไมใ นกาํ มือเดียว
เรยี บเรยี งโดย นิตยา ลกั ษณวิสิษฐ
ISBN (e-book) 978-616-93621-5-2
ตหพทพาาาํิ.มศมมกพ.กามค2รฎใิ ร5คหห้ัง6ดัผทม4ลใู ่ีาดอ1สยนกง:ําเวมพสนิถวอ่ื ลนุนนขิ ใาาํสดยไิทปสนธวแิ์ต2นจา5หกม6จนพ4าํ่งึ รหหะนรรือาายทชต้ังบหอ ัญมโญดดขตัยอิขงอหสนงวังนสอืลเิขลสม ิทนธ้ีไ์ิ ป
แจกฟรี หา มจําหนา ย

จดั ทาํ โดย:
ณัชปภา จรี ะกุลกจิ
บicoรmษิ ทัpaไsอs20ค1อ3ม@พgmาสailจ.cาํ oกmดั

เผยแพรโดย :
NN Writer บริษัท ไอ คอมพาส จํากัด
บริษัท อคุ บี จํากดั
บรษิ ทั เมพ คอรปอเรเช่ัน จาํ กดั
บริษัท ซีเอ็ดยูเคช่นั จํากัด (มหาชน)



• งานทกุ อย่าง
มดี ้านหนา้ และด้านหลงั เหมอื นเหรยี ญบาท
• งานดา้ นหน้าน้ันมีคนทำ�กันเยอะแยะ
และมีคนแย่งกันท�ำ เพราะมีผลเห็นไดช้ ัด
และกป็ ูนบำ�เหน็จกันไดเ้ ต็มที่
• แตง่ านด้านหลงั ท่ีไมป่ รากฏแก่สายตา
ของคนต้องเป็นคนทีเ่ ข้าใจงานและหนา้ ที่
ของตวั จรงิ ๆจงึ จะท�ำ ไดแ้ ละตอ้ งเสียสละดว้ ย
• เพราะงานดา้ นหลงั เปน็ งาน
“ปดิ ทองหลงั พระ” ถ้าทำ�ดแี ล้ว
ต้องไมใ่ หเ้ หน็ ปรากฏ
• และต้องยอมรับว่าจะไม่ไดอ้ ะไร
ตอบแทนเลยนอกจากความภมู ิใจ
ในการท�ำ งานในหนา้ ท่ขี องตน

สารจากใจ
ประธานชมรมอ่านพระธรรม

“ใบไมใ้ นกำ�มือเดียว”

ผู้จัดทำ�โครงการมุ่งมั่นในการรวบรวมและเรียบเรียงหลักธรรมเพ่ือนำ�มาเผยแผ่
ให้กับโรงเรยี น องค์กร ชมุ ชนในกรงุ เทพมหานครและจังหวดั ต่างๆ ไดเ้ รียนรถู้ ึง หวั ใจ หรือ
แก่นพระธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ชาวพุทธทุกๆคนควรน้อมนำ�มาปฏิบัติ
มาเรียนรู้อย่างง่ายๆ เข้าใจง่ายๆ ในการนำ�หลักธรรมมาใช้กับชีวิตประจำ�วันเพ่ือเป็น
ภูมคิ ุม้ กนั ให้เกิด สตปิ ัญญา รแู้ จง้ รทู้ นั กับภาวะของโลกท่ีเปล่ียนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
จนตามไมท่ นั มกี ารแขง่ ขนั ทางธรุ กจิ รอบๆ ดา้ น การใชช้ วี ติ อยกู่ บั ความเจรญิ ในดา้ นวตั ถมุ ากขน้ึ ๆ
ท�ำ ใหเ้ พลดิ เพลนิ เดนิ หลงทางไปตามกเิ ลส อยากได้ อยากเปน็ อยากมี ทแ่ี อบแฝง นอนเนอ่ื งอยู่
เราได้สร้างเตาไฟเผาใจตนเองให้ร้อนรนจนลนลานกันอย่างเหน็ดเหน่ือย ไม่มีเวลาให้กับ
ตนเอง ครอบครัว จนลืมเนอ้ื แท้ของชวี ิตทเ่ี คยมีความรัก มีความสขุ มคี วามเอื้ออาทรตอ่ กัน
เคยอยอู่ ยา่ งพอเพยี งในชวี ติ ท่ผี ่านมา
แต่ในทุกๆทางเดินของชีวิต เป็นทางเดินของการเรียนรู้ ไม่ว่าจะเดินทางถูกหรือ
เดินทางผิดก็ตาม ทุกทางเดินเป็นครูของเราทั้งส้ิน ในหลักธรรมคำ�สอนของพระพุทธเจ้า
‘สิ่งทั้งปวงไม่ควรยึดม่ัน ถือมั่น’ ท่านทรงสอนให้เราอยู่กับปัจจุบันและเดินทางสายกลาง
‘มัชฌมิ าปฏปิ ทา’ พระองค์ทรงช้ที างใหเ้ ราเดินตามดว้ ย อรยิ มรรคมอี งค์ ๘
อนั เป็นหนทางลดละกเิ ลส ๓ กอง โลภ โกรธ หลง จงึ ท�ำ ให้เกิด ศลี สมาธิ ปัญญา
คำ�สอนของพระพุทธเจ้าเป็นวิทยาศาสตร์ ที่สามารถพิสูจน์ได้เป็นธรรมชาติ
เปน็ เหตุ เปน็ ผล เปน็ สจั ธรรมอนั ทรงคณุ คา่ ทชี่ ใ้ี หเ้ หน็ ทกุ ทกุ สรรพสง่ิ เกดิ ขน้ึ ตงั้ อยู่ และดบั ไป
ในท่ีสุด ชีวิตของเราที่เกิดมามีเวลาน้อยนัก ถ้ามีอายุ ๑๐๐ ปี ก็มีวันเพียงสามหมื่นกว่าวัน
กนิ นอนไปเกอื บหมน่ื วนั เวลาทม่ี อี ยเู่ ราทกุ คนไดใ้ ชช้ วี ติ ใหเ้ ปน็ ประโยชนต์ อ่ ตนเอง ตอ่ สว่ นรวม
ต่อแผ่นดินเกิดของเราอย่างคุ้มค่าแล้วหรือยัง ถ้าเราเป็นผู้ที่ปฏิบัติตนเป็นผู้มีศีลรักษาศีล
จะเปน็ ผมู้ สี ตปิ ญั ญาชว่ ยตนเองได้ ชว่ ยผอู้ นื่ ได้ ไมเ่ อาเปรยี บ ไมเ่ บยี ดเบยี น รจู้ กั รกั เมตตา และ
แบง่ ปนั ผทู้ ย่ี งั ขาดโอกาสในการเรยี นรแู้ ละยงั ชว่ ยตวั เองไมไ่ ด้ เราควรใหโ้ อกาส ใหอ้ ภยั เมอื่ เขา
ทำ�ผิด และให้กำ�ลังใจให้เขาช่วยเหลือตนเองได้ ตัวเราเองก็จะประสบความสุขความสำ�เร็จ
ในชวี ิตเช่นกนั น้แี หละ คอื ใบไม้ในกำ�มือเดยี ว มรดกธรรม สำ�หรับลกู ๆ หลานๆ

นิตยา ลักษณวสิ ิษฐ์ ( นา้ํ พริกนิตยา ) ธันวาคม ๒๕๕๕

1

ค�ำ นยิ ม

โลก และสังคมเร่ิมเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก จิตใจของผู้คนเปลี่ยนไปเพราะการ
ตอ่ สดู้ นิ้ รนหาเลย้ี งชพี การไดฝ้ กึ ฝนจติ ใจใหอ้ ยใู่ นความดงี าม มศี ลี ธรรมใหจ้ ติ ใจใหอ้ ยใู่ นความ
ดีงาม มีศีลธรรมน้ันไม่จำ�เป็นที่เราต้องหลีกหนีชีวิตความเป็นอยู่ในปัจจุบันแต่เราจะต้องเอา
เหตกุ ารณใ์ นชีวิตประจ�ำ วันมาสงั่ สอน อบรมจิตใจใหเ้ ราอยู่ในคุณธรรม ความดีงาม ฝึกฝนจิต
ใหอ้ ยรู่ ว่ มกนั ในสงั คมไดอ้ ยา่ งสงบสขุ เพอื่ ความรม่ เยน็ เปน็ สขุ ในโลกไดอ้ ยา่ งแทจ้ รงิ ไมเ่ ดนิ หนี
ไมห่ ลีกเลี่ยงปญั หาท่เี กิดข้นึ เราจะต้องสู้กบั มนั แม้จะมปี ญั หาอปุ สรรคและกิเลสมากมาย นี่
แหละเป็นบททดสอบท่ีดีเยี่ยมในการฝึกจิต ใครสามารถทำ�ได้ย่อมเป็นผู้ซึ่งฝึกจิตตัดกิเลสได้
อยา่ งแทจ้ ริง
โลกท่ีเปล่ียนแปลง เทคโนโลยีที่สร้างข้ึนมาจากมนุษย์มีมากมาย เราจะนำ�มาใช้
อย่างไรให้เกิดคุณค่า และมีประโยชน์กับสังคมมากที่สุด ธรรมะก็ต้องปรับเปล่ียนให้เข้ากับ
โลกปจั จบุ ัน ใหส้ ามารถสกู้ ับอธรรมให้ได้ เพราะธรรมะจะพาจติ ใจของผ้คู นในสังคมทใ่ี ช้ชีวติ
ในโลกปจั จุบันไดอ้ ยกู่ นั อย่างสงบสขุ ตอ่ ไป
คณะผจู้ ดั ท�ำ หนงั สอื เลม่ น้ี สงิ่ ทกี่ �ำ ลงั กระท�ำ เพยี ง เพอ่ื อยากกระตนุ้ คณุ ความดที ม่ี อี ยู่
ในตวั ของทกุ คนออกมา หากไมเ่ ปดิ เผยตวั ตนกม็ ิ มคี นเขา้ ใจ และยอมรบั ฟงั สงิ่ ทเี่ ราพดู ออกมา
สงิ่ ทเี่ ราตอ้ งการใหผ้ คู้ นสามารถอยรู่ ว่ มกนั อยา่ งมธี รรมในตวั มคี วามดใี นสงั คมคณุ ธรรมความดี
สรา้ งไดห้ ากเราต้งั ใจท่ีจะกระท�ำ
หนงั สอื เลม่ นี้ ไดร้ วบรวมเนอื้ หาบทความบางสว่ นจากการเขยี นบทความธรรมะและ
ความรทู้ ว่ั ไปลงในปา้ ยนเิ ทศ รวมทงั้ สอ่ื ตา่ งๆ ทที่ างชมรมใบไมใ้ นก�ำ มอื เดยี ว ซงึ่ ตงั้ ใจจดั ท�ำ ให้
เหมอื นหนงั สอื เลม่ ใหญ่ท่ใี ครๆกส็ ามารถศึกษาไดต้ ลอดเวลาเรียบเรยี งทกุ บทความด้วยความ
ต้งั ใจ เพื่อให้สงั คมสว่ นรวม อาศัยอยู่รว่ มกันอยา่ งสงบ สนั ติ และร่มเย็น

พระครปู ลัดปราโมทย์ สิริเตโช

ผอู้ ำ�นวยการโรงเรยี นวัดไผด่ ำ� แผนกสามญั ศกึ ษา จังหวัดสิงห์บรุ ี

2

ค�ำ นยิ ม

พระพทุ ธองค์ทรงแสดงไวว้ ่า “ธรรมทง้ั หลายมใี จเปน็ สภาพถึงก่อน มใี จเป็นใหญ่
สำ�เร็จได้ด้วยใจ ถ้าบคุ คลมใี จอนั โทษประทุษรา้ ยแลว้ คำ�พูดหรอื การกระท�ำ ยอ่ มเปน็ ไป
ในทางทจุ รติ กอ่ ใหเ้ กดิ โทษ แตถ่ า้ บคุ คลนน้ั มใี จผอ่ งใส ไมถ่ กู กเิ ลสครอบง�ำ ค�ำ พดู หรอื การ
กระท�ำ ย่อมเปน็ ไปในทางสจุ รติ ไม่สรา้ งความเดอื ดรอ้ นใจในภายหลัง”
จากพุทธพจน์ดังกล่าวข้างต้น ย่อมแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า พระพุทธศาสนา
ใหค้ วามส�ำ คญั กบั จติ มากกวา่ รา่ งกาย เพราะจติ ใจเปน็ เสมอื นนายทค่ี อยสงั่ การใหร้ า่ งกายเปน็
ผกู้ ระท�ำ ตาม เพราะฉะนั้นการศกึ ษา เพือ่ พัฒนาจติ ใจใหม้ ีประสทิ ธภิ าพ มีอ�ำ นาจอยา่ งเตม็ ท่ี
ในการสั่งการให้คำ�พูดและการกระทำ�เป็นไปในทางที่ถูกต้อง จึงเป็นเรื่องที่มีความสำ�คัญ
อยา่ งยงิ่ สามารถทพ่ี ฒั นาชีวติ ของเราใหด้ ขี น้ึ จนถงึ สามารถพน้ ไปจากสังสารวัฏฏไ์ ดใ้ นทสี่ ดุ
หนงั สอื โครงการอา่ นพระธรรม “ใบไมใ้ นก�ำ มอื เดยี วเดยี ว” ของปา้ นดิ (คณุ นติ ยา
ลักษณวิสิษฐ์) เล่มนี้เป็นผลงานของการศึกษาค้นคว้าและปฏิบัติตามหลักธรรมที่เป็นแก่น
แท้ของพระพุทธศาสนา มคี วามเข้าใจสจั ธรรมของชีวติ และส�ำ นกึ ในพระมหากรุณาธิคณุ ของ
บรู พมหากษตั ริย์ไทยทกุ พระองค์ ทที่ รงกอบกู้ชาตไิ ทยไวใ้ ห้อยคู่ ู่กับพระพุทธศาสนา คนไทย
จงึ มแี ผน่ ดนิ อยอู่ ยา่ งสงบสขุ ในปจั จบุ นั ไดม้ จี ติ ส�ำ นกึ รกั หวงแหนถนิ่ ก�ำ เนดิ อนั เปน็ ผนื แผน่ ดนิ
แหง่ สดุ ทา้ ยของประเทศ หากทา่ นไดศ้ ลี ธรรม “ใบไมใ้ นก�ำ มอื เดยี ว” เทา่ ทปี่ า้ นดิ หยบิ มาไวใ้ น
หนังสือเลม่ นก้ี เ็ พียงพอแล้ว ทจ่ี ะเขา้ ใจหลักธรรมของพระพุทธองคไ์ ด้อยา่ งแทจ้ ริง
ขออนโุ มทนาในความอตุ สาหะ วริ ยิ ะในการศกึ ษาคน้ ควา้ และจดั พมิ พเ์ ผยแพรค่ รงั้ นี้
ขอให้ผลานิสงส์แห่งธรรมทาน จงนำ�ประโยชน์อันย่ิงใหญ่มาสู่ผู้ศึกษาและปฏิบัติทุกท่าน
สมดงั เจตนาปรารภของป้านิดทกุ ประการ

(พระครูปลัดนายกวัฒน.์ ดร.)

เจา้ อาวาสวดั เทพนารี เขตบางพลดั กรงุ เทพมหานคร

3

คำ�นยิ ม

ใบไม้ก�ำ มอื เดียว

คำ�สอนมากมายในพุทธศาสนา เหมือนใบไมใ้ นปา่ คัดเลือกมาจ�ำ เพาะท่ีจ�ำ เปน็ เพือ่
ความดับทุกข์ได้ทันทีทันการ เป็นพุทธวิธีบริหารที่ทรงแสดงแก่พระภิกษุสงฆ์ในดงไม้สีเสียด
เรียกว่า “พุทธธรรมกำ�มือเดียว” ท่านพุทธทาสให้ความสำ�คัญเรื่องนี้มากหากว่าจับหัวใจ
พุทธศาสนาได้ส่วนปลีกย่อยอื่นก็ไม่มากลบทับ หรือแม้กระท่ังบดบังแก่นธรรมท่ีเป็นความ
จริงสงู สุด คือ อริยสัจ ๔
• ยามไหวพ้ ระพทุ ธ อยา่ สะดุดทีท่ องค�ำ หิน ปนู ไม้ หรือ โลหะ
• ยามไหวพ้ ระธรรม อย่าขย�ำ แดใ่ บลาน หรอื กระดาษและแผน่ ซีดีทงั้ หลาย
• ยามไหวพ้ ระสงฆ์ อยา่ ไปหลงถกู ลูกชาวบ้าน
• อย่าลืมไหว้ตัวเองให้ได้เพราะเป็นคนดีท่ีมีพระพุทธ พระธรรมอยู่ในวิถีชีวิต
อย่างสุดจติ สุดใจ
คุณโยมนิตยา ลักษณวิสิษฐ์ เปน็ อบุ าสิกาในพระพทุ ธศาสนาท่ีมหี วั ใจเปน็ ชาวพุทธ
ท่ีเป่ยี มดว้ ยศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญาและมคี วามเสยี สละอยา่ งยง่ิ ในการท�ำ งานเผยแผ่
พระพทุ ธธรรมอยา่ งสดุ ความสามารถอุทิศท้ังแรงกาย แรงใจ เวลา และทุนทรัพยจ์ ำ�นวนมาก
ทำ�งานเผยแผ่พระพุทธศาสนามาโดยตลอด ทั้งอุปถัมภ์ บำ�รุงและส่งเสริม พระและแม่ชีที่
ท�ำ งานชว่ ยเหลอื สงั คม โดยสว่ นตวั กพ็ ยายามปฏบิ ตั ธิ รรม บ�ำ เพญ็ ตนเปน็ ตวั อยา่ งทดี่ ี และเปน็
ประโยชน์แก่คนท่ัวไปโดยไม่เกี่ยงงอน มีแต่ปีติและความสุขที่ได้ทำ�ดี นับเป็นเรื่องท่ีน่า
อนุโมทนาอย่างย่ิง หากพุทธบริษัท ๔ สามัคคีและทุ่มเทกันทำ�งานอย่างมียุทธศาสตร์ ยุทธ
วิถี และมีแรงหนนุ จากทกุ ฝา่ ยอยา่ งผสานสอดคลอ้ งกันเหมอื นพายเรือพรอ้ มๆกนั หันไปทาง
เดียวกัน และมที ิศทางจงั หวะจะโคนถกู ต้องเร่ียวแรงทล่ี งไป ยอ่ มเหน็ ผลได้ชัดเจนในเวลาอนั
ใกล้ จงึ ขอใหง้ านของคณุ โยมและพทุ ธอาสาท้ังหลายจงเกดิ ผลส�ำ เร็จประโยชน์แก่ชนเปน็ อัน
มาก ยงั ความสขุ แก่อนุชนทกุ รุน่ ด้วยเทอญ

เจรญิ พรมาพด้วรยะคดวุษามฎศี รเมทั ธธางั แกลโุ ะรปรารถนาดี

พระดษุ ฎี
เจา้ อาวาสวัดทงุ่ ไผ่ อ.เมอื ง จ.ชุมพร
เครอื ขา่ ยสงั ฆะเพือ่ สงั คม : พระสงฆน์ ักพฒั นา ๔ ภาค

4

คำ�นยิ ม

ขอแสดงความชื่นชมในกิจกรรมท่ีคุณนิตยา ลักษณวิสิษฐ์ (หรือป้านิด) ท่ีมี
จิตอาสาสงู ย่ิงในการทุ่มเทก�ำ ลงั กายและก�ำ ลงั ทรัพย์จดั แสดงนิทรรศการเร่ือง ใบไมใ้ น
ก�ำ มือเดยี ว โดยรวบรวมความรู้และข้อคดิ เก่ยี วกบั คำ�สอนของพระพุทธเจา้ เพื่อแสดง
ให้เห็นว่าคำ�สอนของพระพุทธองค์ว่าเป็นสัจธรรม เป็นอมตะ และเป็นวิทยาศาสตร์ท่ี
พิสูจน์ได้ว่าเป็นจริงในทุกยุคทุกสมัย เพ่ือให้ความรู้และประสบการณ์ท่ีน่าสนใจเหล่า
นี้ถา่ ยทอดไปสเู่ ด็กและเยาวชน ตลอดจนประชาชนผสู้ นใจทง้ั หลาย คุณนิตยาจึงไดจ้ ดั
พมิ พเ์ อกสารทร่ี วบรวมมาเปน็ อยา่ งดนี ้ี เพอ่ื เผยแพรส่ สู่ าธารณชน เพอ่ื ประโยชนใ์ นการ
ศกึ ษาพทุ ธศาสนาและเพอ่ื เปน็ เอกสารทใี่ ชป้ ระกอบการเรยี นการสอนเกยี่ วกบั พระพทุ ธ
ศาสนาต่อไป ผมจึงขอชน่ื ชมและอนุโมทนาในกุศลเจตนา ในการทอี่ ันจะยงั ประโยชน์
แกก่ ารรณรงค์ให้คนในสังคมทำ�ดตี ามแนวทางของพระพทุ ธองค์ ซ่งึ จะนำ�สังคมไทยไป
สคู่ วามสงบสุขตลอดกาล

(ศาสตราจารยศ์ รรี าชา วงศารยางกรู )

ประธานผตู้ รวจการแผน่ ดนิ

5

คำ�นิยม

หนงั สอื โครงการอา่ นพระธรรม “ใบไมใ้ นก�ำ มอื เดยี ว” เลม่ นี้ คณุ นติ ยา ลกั ษณวสิ ษิ ฐ์
ได้รวบรวมเรียบเรียงหลักพระธรรมของพระบรมศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้ทราบถึง
หวั ใจหรอื “แกน่ พระธรรม” จากการตดิ ตามมารดาเขา้ วดั ฟงั ธรรมในวยั เดก็ รวมกบั การยดึ ถอื
ปฏิบัติตามหลักพระธรรมในการดำ�เนินชีวิต เม่ือเติบโตข้ึนจนถึงปัจจุบันโดยมีแรงบันดาลใจ
และศรัทธาท่ีได้อ่านพระบรมราโชวาท พระราชนิพนธ์เก่ียวกับพระพุทธศาสนาในพระบาท
สมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั (รชั กาลท่ี 5 ในพระบรมราชจกั รวี งศ)์ และ พระบาทสมเดจ็
พระปกเกล้าเจ้าอยหู่ วั รชั กาลที่ 7) ไดศ้ กึ ษาหาความรเู้ พมิ่ เติมรวมกับประสบการณต์ รง ซ่ึง
การทหี่ นงั สอื เลม่ นจี้ ะส�ำ เรจ็ เปน็ รปู เลม่ ได้ นบั วา่ ไดใ้ ชเ้ วลาและความเพยี ร ความมานะ อดทน
โดยมเี จตนาอนั แนว่ แนท่ จี่ ะ “กตญั ญตู อ่ แผน่ ดนิ เกดิ ” ซง่ึ มสี ถาบนั ชาติ ศาสนา และพระมหา
กษตั รยิ ์ เป็นหลกั ยึดเหนี่ยว ของดวงใจ จึงประกันไดว้ ่าหนงั สือเลม่ นถี้ ูกต้อง เป็นจรงิ ได้ หาก
ยดึ ถอื ปฏิบัตติ าม
การเผยแพรห่ นงั สอื โครงการอา่ นพระธรรม “ใบไมใ้ นกำ�มอื เดียว” ไปยงั โรงเรียน
องค์กรและประชาชนทว่ั ไปให้ได้ศึกษาค้นควา้ รับทราบอยา่ งกวา้ งขวาง จึงเปน็ สิง่ ควรแก่การ
ยกย่องและสนบั สนนุ อย่างย่งิ
นอกจากจะทำ�ให้ทราบถึง “แก่นพระธรรม” ของพระบรมศาสดาพระสัมมาสัม
พุทธเจ้าแล้ว ยังได้ทราบถึงพระมหากรุณาธิคุณ ใน สมเด็จพระบูรพกษัตริยาธิราชของไทย
ที่ทรงปฏบิ ตั ิตอ่ ศาสนา และปวงชนชาวไทย รวมท้ังการสดุดียอมรบั ของนกั วทิ ยาศาสตร์และ
นักปราชญ์ของโลกที่แสดงต่อพระพุทธศาสนา ซ่ึงยืนยันได้ว่าเป็นศาสนาที่เป็นวิทยาศาสตร์
มเี หตุผล สามารถพสิ ูจน์ได้ทกุ กาลสมัยและสร้างสันติสุขแก่มนษุ ยชาติไดจ้ รงิ จงึ ยนื ยนั ได้ว่า
พระธรรมคำ�สอนขององค์พระบรมศาสดาดีจริง ถูกต้องจริง พิสูจน์ได้จริง และปฏิบัติแล้ว
ได้ผลดจี ริง
สิ่งท่ีได้ประการหน่ึงของหนังสือ โครงการอ่านพระธรรม “ใบไม้ในกำ�มือเดียว”
เลม่ นคี้ อื หลกั ธรรมในการด�ำ เนนิ ชวี ติ สรา้ งความภมู คิ มุ้ กนั ใหก้ บั เยาวชน สอนใหร้ จู้ กั แบง่ ปนั
ให้ผู้ขาดโอกาสในการเรียนรู้และยังช่วยตวั เองไม่ได้ และใหอ้ ภัยเม่อื มผี กู้ ระท�ำ ผิด รวมทั้งให้
กำ�ลังใจเพื่อที่จะให้เขาเหล่าน้ันช่วยเหลือตัวเองได้ อันจะทำ�ให้สังคมเกิดสันติสุขจึงมีความ
ยนิ ดอี ยา่ งยง่ิ ทหี่ นงั สอื ที่ คณุ นติ ยา ลกั ษณวสิ ษิ ฐ์ ไดร้ วบรวมเรยี บเรยี งเลม่ นเ้ี ปน็ ประโยชนท์ ง้ั
ในดา้ นเปน็ “มรดกธรรม” แลเปน็ หนงั สอื อา้ งองิ ทางประวตั ศิ าสตรท์ สี่ ถาบนั พระมหากษตั รยิ ์
ของไทยได้ทรงมีคุณูปการต่อปวงชนชาวไทยและประเทศไทยมาอย่างต่อเน่ืองยาวนาน
จวบจนปจั จบุ นั สมดงั เจตนาของ คณุ นติ ยาฯ ทต่ี งั้ ใจจะ “กตญั ญตู อ่ แผน่ ดนิ เกดิ ” ทกุ ประการ

พลเอก ฉัตรชัย ธรรมรกั ษา
ราชองครักษ์พิเศษ/ตลุ าการศาลทหารสูงสุด

๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๘

6

คำ�ขอบคุณ

โรงเรยี นเทศบาลวดั ประทมุ คณาวาส (นพิ ทั ธ์ หรณิ สตู ร)์ ไดร้ บั ความอนเุ คราะห์
จาก ประธานชมรมอ่านพระธรรม “ใบไมใ้ นก�ำ มือเดียว” ที่ไดน้ ำ�หลกั ธรรมมาเผยแผ่
ใหก้ บั โรงเรยี น ท�ำ ใหค้ ณะครู ผปู้ กครอง และนกั เรยี นไดเ้ รยี นรถู้ งึ หวั ใจ หรอื แกน่ พระธรรม
ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยน้อมนำ�หลักธรรมมาปฏิบัติและนำ�มาใช้ในชีวิต
ประจ�ำ วนั
ขอขอบคณุ ผ้จู ดั ท�ำ โครงการอ่านพระธรรม “ใบไม้ในกำ�มือเดียว” คุณนิตยา
ลกั ษณวสิ ษิ ฐ์ ทมี่ คี วามมงุ่ มนั่ ในการรวบรวมและเรยี บเรยี งหลกั ธรรมมาเผยแผ่ ซง่ึ นบั ได้
ว่าเปน็ คณุ ประโยชนม์ หาศาลตอ่ คณะครู บุคลากร นกั เรียนและชมุ ชนสืบไป

โรงเรียนเทศบาลวดั ประทมุ คณาวาส
(นพิ ัทธห์ รณิ สูตร์)

7

คำ�ขอบคุณ

เร่อื ง ขอขอบคณุ สำ�หรับส่อื การเรียนการสอน
เรียน ประธานชมรมอา่ นพระธรรม “ใบไมใ้ นก�ำ มอื เดยี ว”
ตามที่ ท่านประธานชมรมอ่านพระธรรม “ใบไม้ในกำ�มือเดียว” คุณนิตยา
ลกั ษณวสิ ษิ ฐ์ ไดม้ อบสอื่ การเรยี นการสอน ในโครงการศลี หา้ ใหก้ บั โรงเรยี นหลกั สร่ี าษฎรส์ โมสร
เพ่ือใช้เป็นส่ือการเรียนการสอนสำ�หรับนักเรียนในโรงเรียนได้ใช้ประโยชน์ดังกล่าว โรงเรียน
วดั หลกั สร่ี าษฎรส์ โมสร ขอขอบคณุ ทา่ นเปน็ อยา่ งสงู ในการมอบสอื่ การเรยี นการสอนดงั กลา่ ว
และทางโรงเรยี นจะนำ�ไปใชเ้ พือ่ ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สดุ แก่นักเรียนต่อไป

จึงเรียนมาเพ่ือขอขอบคุณ มา ณ ท่นี ้ี

ขอแสดงความนบั ถือ

(นายศกั ด์ิณรงค์ บญุ เรอื ง)
รองผู้อ�ำ นวยการโรงเรียนวดั หลักส่รี าษฎรส์ โมสร

รกั ษาการแทน
ผ้อู �ำ นวยการโรงเรยี นวัดหลักส่ีราษฎรส์ โมสร

8

ค�ำ ขอบคุณ

Roll up ป้ายไวนิลสรุปหัวใจธรรมะ ทางพระพุทธศาสนาและเกี่ยวกับ
ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์มีประโยชน์แก่คนไทยทุกคน โดยเฉพาะนักเรียน นิสิต
นกั ศกึ ษา ท�ำ ใหเ้ ปดิ ตา เปดิ ใจผไู้ ดอ้ า่ นไดศ้ กึ ษา นอ้ มน�ำ มาปฏบิ ตั ใิ นชวี ติ ประจ�ำ วนั ไดเ้ ลย
และสร้างความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ต้องขอขอบพระคุณคุณป้านิตยา
ลกั ษณวสิ ษิ ฐ์ ทมี่ ใี จเปน็ บญุ เปน็ กศุ ลเปน็ ประโยชนแ์ กป่ ระเทศชาติ จะท�ำ ใหเ้ กดิ สนั ตสิ ขุ
แก่มวลมนษุ ยชาตอิ ยา่ งแท้จรงิ นกั เรียน ในสังกดั กรุงเทพมหานครได้รบั ประโยชน์เป็น
อยา่ งมาก

นายวลิ ัน ทำ�ไร่
ศกึ ษานิเทศกช์ �ำ นาญการ หนว่ ยศึกษานเิ ทศก์

ส�ำ นกั การเรียนกรุงเทพมหานคร

9

ค�ำ นิยม

ปญั ญาคอื แสงสว่างแห่งโลก
การน�ำ พทุ ธปญั ญามาถา่ ยทอดดว้ ยวธิ ีการทง่ี า่ ยเพื่อการ

ทบทวนตรวจสอบตนเองเปน็ สงิ่ ที่ประเสรฐิ สุด
“ใบไม้ในก�ำ มอื เดียว” คอื การมอบปญั ญา
เพ่อื การหลุดพน้ สู่ทางมรรคผลนิพพาน โดยแท้

มาสเตอร์โค้ช วิตเตอร์ มณีรักษ์
ประธานมลู นธิ พิ ัฒนามนษุ ยน์ านาชาติโฟกสั

10

ท�ำ ความเขา้ ใจเรอ่ื งใบไมใ้ นก�ำ มอื

ใบไม้ ในกำ�มือ เปน็ หนังสือ ส่ือสรา้ งสรรค์
หากใคร ใจมงุ่ ม่ัน ขยันอา่ น จะร้ดู ี
รเู้ หตุ แล้วรู้ผล จะพาตน สูงราศี
ดุจดงั อญั มณี ทเี่ รอื งแสง แหง่ คุณธรรม
ถ้อยค�ำ น�ำ ดวงจติ ใหข้ ้อคิด ท่ีคมขำ�
ทุกสำ�นวน ควรจดจำ� นำ�มาใช้ ในตวั เรา
จะเห็น เปน็ มงคล สาธุชน จะคลายเขลา
ใครเอย่ เคยซมึ เศรา้ จงรีบเอา มาอ่านดู
ผู้สร้าง หนงั สือนี้ มีไมตรี ท่เี ลิศหรู
ตั้งใจ ใหค้ วามรู้ และเป็นผู้ ทเี่ บกิ บาน
ใบไม้ ในก�ำ มอื เปน็ หนังสือ มีแก่นสาร
ลิขติ ด้วยจิตวิญญาณ วิทยาทาน อนั บรรจง
ความรู้ อย่ใู นน้ี ล้วนเปน็ ที่ นา่ พิศวง
เสรมิ ธรรม ในด�ำ รง และเสรมิ สง่ เนอื้ นาบญุ
หลายฝ่าย หลายองค์กร เอ้ืออาทร สนบั สนุน
ใบไม้ ในมอื คุณ จะกระตุ้น บญุ บารมี

ดร.ชินกร ไกรลาศ ศลิ ปินแห่งชาติ ประพันธ์

11

ความหมายแหง่ ธงไตรรงค์

ขอร่ํารำ�พรรณบรรยาย ความคิดเคร่ืองหมาย
แหง่ สีทง้ั สามงามถนัด

ขาว คือ บรสิ ุทธิศ์ รีสวัสดิ์ หมายพระไตรรัตน์และ
ธรรมะคมุ้ จิตไทย

แดง คอื โลหติ เราไซร้ ซง่ึ ยอมสละได้
เพื่อรกั ษา ชาติ ศาสนา

นาํ้ เงนิ คือ สีโสภา อนั จอมประชา
ธ โปรดเป็นของส่วนองค์

จัดริ้วเข้าเปน็ ไตรรงค ์ จึ่งเป็นสีธง
ทรี่ ักแห่งเราชาวไทย
ทหารอวตารนำ�ไป ยงยทุ ธว์ ิชยั
วิชติ ก็ชูเกยี รติสยามฯ

(จาก ดุสติ สมติ ฉบบั พเิ ศษ ๒๕๖๑ , หน้า ๔๒)

12

ใบไม้ในกำ�มือเดียว

มรดกธรรมสำ�หรบั ลกู ๆ หลาน ๆ

...หลักพุทธศาสนามูลฐาน มุ่งเฉพาะไปยังความดับทุกข์ มีเหตุผล

อยู่ในตัวเอง ที่ทุกคนอาจเห็นได้ มีส่วนที่เป็นหลักอยู่ไม่มากมาย จนถึงกับ
พระพทุ ธเจ้าเรียกวา่ มัน “ก�ำ มือเดยี ว” มันมีเร่อื งเพยี งก�ำ มือเดียว...
...พระพทุ ธเจา้ ตรสั กบั ภกิ ษทุ ง้ั หลายวา่ เรอื่ งทต่ี รสั รแู้ ละรนู้ นั้ มนั มาก
เท่าใบไม้ทั้งป่า แต่เร่ืองจำ�เป็นที่ควรรู้ควรนำ�มาสอนและปฏิบัติน้ัน เท่ากับ
ใบไม้ในกำ�มือเดียว ถ้าคนไม่รู้ ก็ไม่รจู้ กั จบั ใจความส�ำ คัญ มันเลยเหมือนกับ
วา่ เหน็ ของมากแลว้ ไมร่ จู้ ะเลอื กอนั ไหนดจี นงงไปหมด สว่ นมากกไ็ ปถกู เอา
ตรงเรอื่ งทีต่ รงกบั กเิ ลส มากกวา่ จะเป็นเร่อื งของ สติปัญญา เลยกลายเป็น
เรือ่ งทำ� พธิ ีรตี อง ตา่ ง ๆ มันเลย ไมถ่ กู พุทธศาสนาตวั จรงิ

ทม่ี า : แก่นพทุ ธศาสตร์ (พุทธทาส) 13

14

*****พระสูตรนี้ พระพุทธเจ้าทรงโปรดชาวกาลามะท่ีกำ�ลังสับสน ไม่รู้จะเชื่อใครดี เพราะอาจารย์
เจ้าลัทธิทม่ี าสอนต่างยืนยันวิธีของตนเท่าน้นั ถกู ของคนอน่ื ผดิ *****

15

16

นิพพาน ในพระพุทธศาสนา

เราจะนพิ พาน
ไดทกุ ลมหายใจ เขา -ออก
เม่ือจติ กำลังวา งจากกเิ ลส

พทุ ธทาส : ตามรอยพทุ ธทาส ภาคหลกั ธรรม หนา้ ๗ ช. หมวดสง่ิ ทคี่ วรเขา้ ใจและตราขนึ้ ไวเ้ ปน็ หลกั

นพิ พานทน่ี ี่ เด๋ียวนี้

พทุ ธศาสนาทแี่ ทส้ อนเรือ่ ง นิพพาน
ค�ำ นแี้ ปลว่า เยน็ เยน็ ดบั ไฟแหง่ ความร้อน
นั้นแหละ คอื เย็น
นัน้ แหละ คอื นิพพาน
ไม่เกย่ี วกบั การตาย
โดยประการทั้งปวงไม่ต้องรอหลังจาก
ตายจึงจะได้ เป็นท่ีน่าเสียดายว่า เด๋ียวน้ีเรา
มีความรู้ หรือสอนเด็ก ๆ กันว่า นิพพาน
แปลวา่ ตาย

ขอใหท้ �ำ ความเขา้ ใจให้ถกู ต้อง
นิพพานแปลวา่ เย็น มีไดท้ ่นี ่ี และเด๋ียวนว้ี นั ละหลาย ๆ คร้ังกไ็ ด้

นไมี่เป่ใช็น่ตสา่ิงยทแ่ีจละ้วตห้อลงาทยำ�ชคาวตาิหมลเขา้ายใรจ้อกยันชใาหต้ถิ ึงที่สุดว่า นิพพานเป็นอย่างน้ี

ทีม่ า : ปกณิ กธรรม ตามรอยพุทธทาส หน้า 281

17

ศาสนาพุทธ เปน็ ศาสนาแห่งกรรม

กรรม คอื การกระทำ�
• การกระทำ�ทางกาย เรยี ก กายกรรม (ท�ำ )
• การกระทำ�ทางวาจา เรยี ก วจกี รรม (พดู )
• การกระทำ�ทางใจ เรียก มโนกรรม (คดิ )
แบ่งเปน็ 2 ประเภท คือ
• กรรมดี เรยี กว่า กุศลกรรม หรอื บญุ กรรม
• กรรมช่วั เรยี กว่า อกุศลกรรม หรือ บาปกรรม
กรรมในปัจจุบันเป็นผลมาจากการกระทำ�ในอดีต และกรรมท่ีก่อไว้ใน
ปัจจบุ ันเปน็ เหตุทีจ่ ะส่งผลสบื เน่ืองต่อไปยังอนาคต

****(วิถิพีเดีย สารานุกรมเสรี เข้าถึงคำ�ว่า “กรรม”)*****

หลกั ชาวพุทธ

๑. ฝกึ แล้วคอื เลศิ มนุษย์ :
ข้าฯ ม่ันใจวา่ มนุษยป์ ระเสริฐเลศิ สดุ แม้กระทั่งเป็นพุทธะไดเ้ พราะ
ฝกึ ตน ต้องสกิ ขา คือ การศกึ ษา
๒. ใฝ่พุทธคุณเป็นสรณะ :
ข้าฯ จะฝึกตนให้มีปัญญา มีความบริสุทธ์ิ และมีความเมตตา กรุณา
ตามอยา่ งองคพ์ ระสมั มาสมั พทุ ธเจ้า
๓. ถอื ธรรมะเป็นใหญ่ :
ข้าฯ ถือธรรม คือ ความจริง ความถูกต้องดีงามเป็นใหญ่เป็นเกณฑ์
ตดั สนิ
๔. สรา้ งสงั คมใหเ้ ยีย่ งสงั ฆะ :
ข้าฯ จะสร้างสังคมตั้งแต่ในบ้านให้มีความสามัคคีเป็นท่ีมาเก้ือกูล
รว่ มกันสร้างสรรค์
๕. สำ�เร็จด้วยกระท�ำ กรรมดี :
ข้าฯ จะสร้างความสำ�เร็จ ด้วยการกระทำ�ที่ดีงามของตนโดยพากเพียร
อยา่ งไมป่ ระมาท

*****จากหนังสือ “พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนอะไร” พระราชชนนีศรีสังวาลย์ทรงมีพระปรารภ ให้เรียบเรียงและจัดพิมพ์เนื่องในวาระคล้ายวันประสูติ
วันที่ 21 ตุลาคม 2510***

18

เบญจศลี (ศลี ๕)..

...เบญจศีล เป็นเครื่องรักษาเจตนาที่จะควบคุมกายและวาจาให้เป็นปกติ
คือ ไม่ทำ�บาป โดยการละเวน้ ๕ ประการ
• ปาณาติบาต คือ ละเวน้ จากการฆา่ สตั ว์ และการเบยี ดเบยี นสัตว์
• อทินนาทาน คอื ละเว้นจากการลักขโมย ปลน้ จี้ ฉกชงิ วงิ่ ราว
• กาเมสุมิจฉาจาร คือ ละเว้นจากการประพฤติผิด ล่วงละเมิดลูกเมีย
ผู้อนื่
• มุสาวาท คือ ละเว้นจากการพูดปด พูดคำ�หยาบ พูดเพ้อเจ้อ
พดู ส่อเสียด
• สุราเมระยะ คอื ละเว้นจากการเสพสุราและสิ่งเสพติดทกุ ชนิด

(เบญจศีลทั้ง ๕ ข้อนี้ จะเกดิ ข้ึนมาได้ กเ็ พราะบคุ คลผนู้ ัน้
มีเบญจธรรมประจ�ำ ตวั )
19

เบญจธรรม ๕ ขอ้

๑. มคี วามเมตตากรณุ า

๒. ประกอบอาชีพที่สจุ รติ

๓. มคี วามส�ำ รวมในกาม

๔. มีความซื่อสตั ย์สุจริต

๕. มสี ตริ อบคอบ

เบญจธรรม เป็นหลกั ธรรมท่คี วรปฏบิ ัติมี ๕ ประการ ไดแ้ ก่
๑. เมตตากรณุ า คอื บคุ คลใดทม่ี ีเมตตาย่อมไมฆ่ ่าหรอื เบยี ดเบียนสัตว์
ดว้ ยรู้ดวี า่ ทุกชีวิต ย่อมมีความรกั ตวั กลัวตายเชน่ เดยี วกับเรา ทำ�ใหไ้ มผ่ ดิ
ศีลข้อ ๑
๒. สมั มาอาชพี คอื ประกอบอาชพี ทสี่ จุ ริต มรี ายได้ รู้จกั ใช้จ่าย และที่ส�ำ คัญ
รู้จักคำ�ว่าพอดี และมีหิริโอตตัปปะ คือ ความละอายและเกรงกลัว
ตอ่ ผลของบาป ทำ�ใหไ้ มผ่ ิดศีลขอ้ ๒
๓. ความสำ�รวมอินทรีย์ คอื ระมดั ระวงั ตา หู จมูก ลิน้ กาย และใจ ท�ำ ให้
ความใครใ่ นกามคุณ คอื การติดใน รปู รส กล่ิน เสียง สัมผัส ลดน้อยลง
เม่ือความส�ำ เร็จเกิดข้นึ ท�ำ ใหไ้ ม่ผดิ ศีลขอ้ ๓
๔. ความซ่อื สตั ย์ คอื การพูดความจริง เป็นสิง่ ท่ีทำ�ใหไ้ ม่เกดิ การมสุ าวาท
ท�ำ ใหไ้ ม่ผดิ ศีลขอ้ ๔
๕. สติ คอื การรู้สึกตวั ซ่งึ เปน็ หัวหนา้ ฝ่ายกุศล ทำ�ใหช้ วี ิตไมป่ ระมาทเพราะรู้
วา่ อะไรดี อะไรชว่ั ท�ำ ใหไ้ มเ่ กลอื กกลวั้ กบั สง่ิ ทจี่ ะท�ำ ใหช้ วี ติ ตกตาํ่ เชน่ สรุ า
เมอ่ื คนด่ืมกนิ กท็ ำ�ให้มึนเมาและขาดสติ การมสี ตจิ ึงทำ�ให้ไมผ่ ดิ ศีลขอ้ ๕

20

อริยสัจ ๔
อริยสัจ แปลว่า สัจจะของผู้ประเสริฐ (ผู้เจริญ) เป็นสัจจะทางปัญญา
โดยตรง
๑. ทกุ ข์ ไดแ้ ก่ ความเกิด ความแก่ ความตาย ซง่ึ มีเป็นธรรมดาของชวี ิต
๒. สมทุ ยั เหตใุ ห้เกดิ ทุกข์ ได้แก่ ตัณหา ความดนิ้ รน ทะยานอยาก
ของจติ ใจ
๓. นโิ รธ ความดับทุกข์ ได้แก่ ดับตัณหา ดับความดิ้นรน ทะยานอยาก
ของจิตใจ
๔. มรรค ทางปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ ได้แก่ ทางมีองค์ ๘ (มรรค
มีองค์ ๘)

มรรคมีองค์ ๘

เปน็ ขอ้ ปฏิบัตใิ ห้ถึงความดบั ทุกข์ ได้แก่
๑. สมั มาทิฏฐิ เหน็ ชอบ คอื เหน็ อริยสจั ๔ หรือ เหน็ เหตุผลตามเป็นจริง
๒. สมั มาสังกปั ปะ ด�ำ รชิ อบคือ ดำ�ริ หรอื คิดออกจากส่งิ ท่ีผกู พัน
ให้เปน็ ทุกข์
๓. สัมมาวาจา วาจาชอบ แสดงในทางเวน้ คอื เว้นจากพดู เท็จ
เว้นจากพดู สอ่ เสยี ดใหแ้ ตกรา้ วกนั
๔. สมั มากมั มนั ตะ การงานชอบแสดงในทางเวน้ คอื เวน้ จากการฆา่ การทรมาน
เวน้ จากการลกั เวน้ จากการประพฤตผิ ดิ ในทางกาม
๕. สมั มาอาชีวะ เลยี้ งชีวติ ชอบ คอื เวน้ จากมจิ ฉาอาชีวะ (อาชพี ผิด)
๖. สัมมาวายามะ เพยี รพยายามชอบ คอื เพียรระวงั บาปท่ยี งั ไมเ่ กิด
มิใหเ้ กิดขนึ้ เพยี รละบาปท่เี กดิ ข้นึ แล้ว เพยี รท�ำ กุศลเพียรรักษากุศล
๗. สัมมาสติ ระลึกชอบ คือ ระลึกไปในทางท่ีต้ังของสติท่ีดีทั้งหลาย เช่น
ในสติปฏั ฐาน ๔ (กาย เวทนา จติ ธรรม)
๘. สมั มาสมาธิ ตง้ั ใจมน่ั ชอบ คอื ท�ำ ใจใหเ้ ปน็ สมาธิ (ตง้ั มน่ั แนว่ แน)่ ในเร่ืองท่ี
ตงั้ ใจจะท�ำ ในทางทชี่ อบ
21

อทิ ธิบาท ๔

หนทางสูค่ วามส�ำ เร็จ คุณธรรมท่ีนำ�ไปสู่ความส�ำ เร็จแหง่ ผลทมี่ งุ่ หมาย
ฉนั ทะ ความพอใจ ใฝ่ใจรกั จะทำ�สิ่งน้นั อย่เู สมอ และปรารถนาจะท�ำ
ให้ได้ผลดยี ง่ิ ๆข้นึ ไป
วริ ยิ ะ ความเพยี ร หมน่ั ประกอบสง่ิ นนั้ ดว้ ยความพยายามเขม้ แขง็ อดทน
เอาธุระไมท่ ้อถอย
จติ ตะ ความเอาใจใส่ ต้ังจิตรับรู้ในส่ิงที่ทำ� และทำ�ส่ิงนั้นด้วยความคิด
เอาจิตฝกั ใฝ่ ไมป่ ลอ่ ยใจให้ฟุง้ ซา่ นเลื่อนลอยไป
วมิ ังสา ความไตร่ตรอง หรือ ทดลองหม่ันใช้ปัญญา พิจารณาใคร่ครวญ
ตรวจหาเหตผุ ล และตรวจสอบข้อยง่ิ หยอ่ น ในสิ่งทีท่ �ำ นน้ั มกี าร
วางแผน วัดผล คิดค้นวิธี แก้ไขปรับปรุง (=การพัฒนาตนเอง)

พรหมวหิ าร ๔

ธรรมสำ�หรับเป็นที่อาศัยอยู่ของจิตใจมุ่งหมาย
๑. เมตตา ความรักที่จะให้เป็นสุขเป็นเหตุให้เกิดความรู้สึกเป็นมิตร
ไม่เป็นศัตรูไม่เบียดเบียนใครแม้สัตว์เล็กเพียงไหนให้เดือดร้อนทรมาน
ด้วยความเกลียดโกรธ หรือสนุกก็ตาม
๒. กรุณา ความสงสารจะช่วยให้พ้นทุกข์ เป็นเครื่องปลูกอัธยาศัยเผื่อแผ่
เจือจานช่วยผู้ทุกข์ยาก เป็นพระคุณ (คุณสมบัติ) สำ�คัญข้อหนึ่ง
ของพระพุทธเจ้า ของพระมหากษัตริย์ ของผู้มีคุณทั้งหลาย (พ่อ-แม่)
๓. มุทิตา ความพลอยยินดีในความได้ดีของผู้อื่น เป็นเครื่องปลูกอัธยาศัย
ส่งเสริมความดีความสุข ความเจริญ ของกันและกัน
๔. อุเบกขา ความวางใจเป็นกลาง ในเวลาที่ควรวางใจ ด้วยพิจารณา
ในทางกรรม ว่าทุกๆคนมีกรรมเป็นของตน ต้องเป็นทายาทรับผลกรรม
ที่ตนได้ทำ�ไว้เองเป็นเหตุปลูกอัธยาศัยให้เพ่งเล็งถึงความผิดถูก ชั่วดี
เป็นข้อสำ�คัญทำ�ให้เป็นคนมีใจยุติธรรมในเรื่องทั่วๆไปด้วย

22

หริ โิ อตตปั ปะ

หิริ ความละอาย ความละอายใจตัวเองต่อการทำ�ความชั่วความผิด
ต่อการประพฤติทุจรติ ทั้งหลายทง้ั ตอ่ หน้าและลบั หลงั ท�ำ ใหไ้ มก่ อ่
ความเดอื ดรอ้ นใหแ้ ก่ โลกและสรรพสตั ว์ ทงั้ ปวง
โอตตัปปะ ความเกรงกลัว ความสะดุ้งกลัวต่อผลของความชั่ว
ตอ่ ผลของความทจุ ริตท่ที �ำ ไว้

ไตรลักษณ์

ลักษณะท่ที ่ัวไปแกส่ งั ขารท้งั ปวง คือ อนิจจะ ทุกขะ อนตั ตา
อนิจจะ ไมเ่ ท่ยี ง คอื ไมด่ ำ�รงอยู่เป็นนิตยน์ ิรันดร์ เพราะเมอ่ื เกดิ มาแลว้
กต็ อ้ งดบั ในท่สี ดุ
ทกุ ขะ ทนอยคู่ งท่ีไม่ได้ ตอ้ งเปลย่ี นไปอย่เู สมอ
อนตั ตา ไม่ใชต่ ัวตน
• ไม่ยึดม่ันกับตนเกินไป เพราะถ้ายึดม่ันกับตนเกินไป ทำ�ให้เป็นคน
เหน็ แกต่ นถ่ายเดียว
• บังคับให้ส่ิงต่างๆ รวมท้ังร่างกายและจิตใจไม่ให้เปล่ียนแปลง
ตามความต้องการไม่ได้
• สำ�หรับผู้ท่ีได้ปฏิบัติไปได้จนถึงข้ันสูงสุด เห็นส่ิงต่างๆ รวมท้ัง
รา่ งกายและจิตใจ เปน็ อนตั ตาไมใ่ ชต่ ัวตนทั้งสิ้นแล้ว ตัวตนจะไม่มี

พุทธธรรมวถิ แี ท้

ตอ้ งพฒั นาชวี ติ ให้พ้นจากความโลภ โกรธ หลงจึงพน้ ทุกข์
ท้ังผอง โดยตอ้ งเปน็ ผูร้ ักษาศีล ๕
- ไมต่ อ้ งสะเดาะเคราะห์ - ไมต่ ้องตอ่ ดวงชะตา
- ไม่ตอ้ งใบ้หวย - ไม่ตอ้ งทำ�นายทายทกั
- ไมต่ ้องปลกุ เสกของขลัง

ตอ้ งม่งุ มน่ั ท�ำ แต่ความดีดว้ ยการ
คิด พดู ทำ� ตามหลักธรรมค�ำ สอนของพระพทุ ธเจา้

23

การบชู าพระพุทธเจ้าทีถ่ กู ตอ้ ง

พระพทุ ธองคต์ รสั วา่ “ดกู อ่ นอานนท์ ผใู้ ดจะเปน็ ภกิ ษุ ภกิ ษณุ ี อบุ าสก หรอื
อบุ าสกิ า กต็ าม ปฏบิ ตั ธิ รรมสมควรแกธ่ รรม (คอื ปฏบิ ตั ธิ รรมถกู ทาง ปฏบิ ตั ิ
ตรงตามเปา้ หมายแทจ้ รงิ ) ปฏบิ ตั ชิ อบ ปฏบิ ตั ติ ามธรรม ผนู้ นั้ ชอ่ื วา่ สกั การะ
เคารพนบั ถอื บชู าตถาคตด้วยการบูชาอย่างยอดเยยี่ ม”
ไหว้พระทกุ คนื จุดธปู เทียนบชู าหมดเป็น พนั ๆ เลม่ พันๆดอก ดอกไมห้ มด
เปน็ สวนๆ กด็ อี ยู่ นบั วา่ เปน็ ผบู้ ชู าพระบชู าเจา้ ดว้ ยจติ ศรทั ธา เลอื่ มใส แตเ่ พยี ง
แคน่ ยี้ งั ไมน่ บั วา่ เปน็ การบชู าอยา่ งยอดเยย่ี ม ถงึ จะมผี ลกม็ ไี มม่ าก แตก่ ารบชู า
ท่ียอดเย่ยี มจริงๆ คอื

บชู าดว้ ยการปฏบิ ตั ิ

ปฏิบัตติ นตามค�ำ สอนของพระพุทธองค์ อย่างนอ้ ยมีศลี ๕ ธรรม ๕ ครบ
อย่างนอ้ ยมคี วามเพียร ๔ ประการครบ คอื
• เพียรระวงั มิใหอ้ กศุ ล (ความไมด่ ี) เกิดขนึ้ ในใจ
• เพยี รละความไม่ดีท่ที ำ�แลว้
• เพียรพยายามท�ำ ความดที ย่ี งั ไม่ไดท้ �ำ
• เพยี รรักษาความดแี ล้วให้คงอยู่

ที่มา : หนังสือ ‘คำ�บรรยายพระไตรปิฎก’ ศาสตราจารย์ พิเศษ เสถียรพงษ์ วรรณปก พิมพ์ครั้งที่ ๖ พ.ศ. ๒๕๕๓

24

พระราชศรทั ธา

พ่อขุนรใานพมรคะพำ�ทุ แธศหาสงนมาหาราช
( รัชสมยั กรงุ สุโขทยั )

...ชาวสโุ ขทยั มีศรทั ธาในพระพุทธศาสนา ตา่ งทรงศลี เมื่อเขา้ พรรษา
ในที่นี้แสดงให้เห็นว่าชาวสุโขทัยนั้นเคารพในคำ�ส่ังสอนของสมเด็จ
พระสัมมาสมั พทุ ธเจา้ อยา่ งยิ่ง คำ�วา่ ‘ทรงศลี เมอื่ พรรษา’ เทียบได้กบั ว่า
ถอื บวชเขา้ วดั ฟงั ธรรม อยา่ งนอ้ ยกจ็ ดั เปน็ กจิ วตั รอยา่ งหนง่ึ ทยี่ ดึ ถอื ปฏบิ ตั ิ
กนั อย่างสม่ําเสมอถว้ นหน้าในช่วงฤดูพรรษา
...ศีลบารมี เป็นการรกั ษากาย วาจา ใจ ใหเ้ รียบร้อยแม้ในศลิ าจารึก
จะมิได้ระบุเจาะจงว่าหมายถึงศีลในระดับใด แต่หากเป็นท่ีเข้าใจ
โดยทวั่ ไปถงึ ค�ำ สอนของสมเดจ็ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ทพี่ ทุ ธศาสนกิ ชน
ผู้เปน็ ฆราวาสนั้นจะทรงศลี ๕ อยู่เป็นเบอ้ื งต้น และทรงศลี ๘ ในวนั
ธรรมสวนะ ศีล เป็นการป้องกันการเข้าสู่อบายภูมิ การปฏิบัติในศีล
บารมีนี้ แสดงให้เห็นว่าชาวสุโขทัยจะต้องประกอบไปด้วยทานบารมี
หรือแม้แต่อภัยทาน มีความเมตตาตลอดจนความกรุณาอยู่เป็น
พ้ืนฐาน

ที่มา : Website http://www.lip.ru.ac.th/pk/binside.html

25

สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช

( รัชสมัยกรงุ ศรอี ยุธยา )
พระบรมสตั ยาธิฏฐาน
..ให้บงั เกดิ มาในประยรู มหาเศวตฉตั ร
จะใหบ้ ำ�รงุ พระบวรพุทธศาสนา..

..รับส่ังฝากไว้ถงึ ..ลูก..หลาน..เหลนไทย

อันองั คารสงั ขาร ของกูนี้
บดั นผ้ี า่ นส่รี ้อยปี หามีไม่
ถึงกายกตู วั ก ู จะจากไป
วิญญาณไซร้ยังอย่ ู คแู่ ผ่นดิน
ก็แผ่นดินผนื น้ี หรือมใิ ช่
ท่กี ูสู้ กู้ไว ้ ให้ลูกหลาน
บัดนี้ เหลน โหลนอย ู่ สขุ มานาน
ถึงปราศปราณญาณยงั อยู่ คู่พวกมงึ
กู สู้ สู้ กู้แผ่นดนิ ไว ้ ใหอ้ ิสระ
นำ�คนไทยสู่ชยั ชนะ มิรูส้ ้ิน
ถึงตวั ตายใจยงั ภกั ด ิ์ รักแผน่ ดิน
ปณธิ านน้ีมสิ ูญสิ้น ถึงสนิ้ ปราณ
แผน่ ดินผืนน้มี ี ความศกั ด์ิสทิ ธ์ิ
แม้นผใู้ ดคดิ มุง่ รา้ ย ตอ้ งตายสิน้
เหตเุ พราะกู ผกู้ อบ ผู้ กูแ้ ผน่ ดิน
ยงั ดแู ลธรณนิ ทร ์ ตราบสนิ้ กาล
กรงุ ศรีอยุธยาคลกุ คลี อาบสีเลอื ด
แผ่นดนิ เคยลุกเดอื ด เลือดโลมไหล
แต่ไทยตอ้ งคงนาม ความเปน็ ไทย
ไมม่ ีใคร วิญญาณก ู จะสู้เอง

ทม่ี า : ศาสนาประจ�ำ ชาติ : สทุ ธวิ งศ์ ตนั ตยาพศิ าลสทุ ธ์ิ ส�ำ นกั งานสง่ เสรมิ คณุ ธรรมจรยิ ธรรม สนบั สนนุ ขอ้ มลู โดย องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั เชยี งใหม่

26

สมเด็จน้าํ พพรระะทัยนแาละรพาระยรณาชด์ม�ำ รหัสาราช
(รัชสมยั กรงุ ศรีอยุธยา)
..เพราะในราชวงศข์ องเรา กไ็ ดน้ บั ถอื พระพทุ ธศาสนามาชา้ นาน
แล้ว จะใหเ้ ราเปลย่ี นศาสนาอย่างนี้ เป็นการยากอย.ู่ .
..ไดท้ รงนับถอื ศาสนาอันไดน้ บั ถอื ตอ่ ๆ กันมาถึง ๒๒๒๙ ปีแลว้
เพราะฉะนน้ั ทจี่ ะใหเ้ ปลย่ี นศาสนาเสยี นนั้ เปน็ การทพ่ี ระองคจ์ ะท�ำ ไมไ่ ด.้ .

ทมี่ า : ศาสนาประจำ�ชาติ : สุทธิวงศ์ ตันตยาพศิ าลสทุ ธ์ิ สำ�นักงานส่งเสริมคุณธรรมจรยิ ธรรม

27

สมนเา้ํ ดพร็จะทมพัยหแรละาะเรพจราะ้าชรตาชาดก�ำ รสัส นิ
(รัชสมยั กรุงธนบุร)ี

อนั ตวั พอ่ ชือ่ วา่ พระยาตาก
ทนทุกข์ยาก ก้ชู าติ พระศาสนา
ถวายแผน่ ดนิ ให้เปน็ พทุ ธบูชา
แดพ่ ระศาสดา สมณะ พระพุทธโคดม
คงถ้วน ห้าพันปี
ให้ยนื ยง ปฏบิ ัต ิ ใหพ้ อสม
สมณะพราหมณช์ ี วิปัสสนา พอ่ ชนื่ ชม
เจริญสมถะ รอยบาท พระศาสดา
ถวายบังคม คกู่ ับเจ้า
คพู่ ระศาสนา
คดิ ถึงพอ่ พ่ออยู่ คอู่ งคก์ ษัตรา
ชาติของเรา คงอยู่ ใหค้ กู่ นั ฯ
พทุ ธศาสนา อยยู่ ง
พระศาสดา ฝากไว้

ท่มี า : จารกึ ในศาลพระเจา้ ตากสินมหาราชวัดอรณุ ราชวราราม

28

รชั กาลท่ี ๑
ราชวงศจ์ ักรี

(รัชสมยั กรุงรตั นโกสินทร์)

พระบาทสมเด็จพระพพระุทราธชปยณอิธดานฟา้ จุฬาโลกมหาราช

..ต้ังใจจะอปุ ถมั ภก ยอยกพระพุทธศาสนา
จะป้องกนั ขอบขัณฑสีมา รกั ษาประชาชนและมนตรีฯ

• ส่ิงของทงั้ น้ี จงจัดทำ�นุบำ�รงุ ไว้ใหจ้ งดี จะไดป้ ้องกนั รักษาแผน่ ดนิ
ท�ำ นบุ �ำ รุงพระพทุ ธศาสนาและพระราชอาณาเขตสืบไป..
• กรุงเทพมหานครฯ เป็นมหานครที่ดำ�รงรักษาพระมหามณีรัตน
ปฏิมากร..
• ทกุ วนั นตี้ งั้ พระทยั แตท่ จี่ ะท�ำ นบุ �ำ รงุ บวร พระพทุ ธศาสนา ไพรฟ่ า้
ประชากรใหอ้ ยเู่ ยน็ เปน็ สขุ ใหต้ งั้ อยใู่ นคตธิ รรมทงั้ ๔ด�ำ รงจติ จตั รุ สั
บ�ำ เพ็ญศีลทานจะได้สุคตภิ ูมมิ นษุ ย์สมบตั ิ สวรรคสมบตั ิ นิพพาน
สมบัติเป็นประโยชน์แตต่ น

ท่มี า : ศาสนาประจ�ำ ชาติ : สุทธวิ งศ์ ตนั ตยาพิศาลสทุ ธ์ิ สำ�นกั งานส่งเสรมิ คุณธรรมจรยิ ธรรม

29

รชั กาลท่ี ๒
ราชวงศ์จักรี

(รชั สมัยกรุงรตั นโกสนิ ทร)์

พระบาทสมเด็จพพระรระาชพศรทุ ัทธธาเลศิ หล้านภาลัย

...ทรงพระราชศรทั ธาจะยกรือ้ วสิ าขบูชามหายัญพธิ ีอันขาด
ประเพณมี าน้ัน ให้กลับคืน เจียรฐิตกิ าลปรากฏสำ�หรับ
แผ่นดินสืบไป...

...ทรงพระราชศรทั ธาจะใหส้ ตั ว ์ โลก ข้ามขอบขณั ฑเสมาท้ัง
ปวง จ�ำ เริญอายุ และอยู่เย็น เปน็ สุข ปราศจากทกุ ข์ภัยใน
ช่วั น้ี แลช่วั หน้า...

ท่มี า : ศาสนาประจ�ำ ชาติ : สุทธิวงศ์ ตนั ตยาพิศาลสุทธ์ิ สำ�นักงานส่งเสริมคณุ ธรรมจรยิ ธรรม

30

รัชกาลท่ี ๓
ราชวงศ์จกั รี

(รชั สมยั กรุงรัตนโกสนิ ทร์)

พระราชหฤทยั

พระบาทสมเด็จพระนั่งเกลา้ เจา้ อย่หู ัว

...กระแสพระราชโองการปฏิญาณยกนามพระรัตนตรัย
สรณาคมน์ อนั อุดมเปน็ ประธานพยานอนั ยิ่ง...
...เมื่อเห็นว่าพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์ใดที่มีวัยวุฒิปรีชา
รอบรู้ราชานุวัตรจะเป็นศาสนูปถัมภกยกพระบวรพุทธศาสนา แลจะ
ปกป้องไพร่ฟ้าอาณาประชาราษฎร์ รักษาแผ่นดินให้สุขสวัสดิ์โดยยิ่ง
เปน็ ท่ียินดแี ก่มหาชนทั้งปวง...

ปฏิสังขรณว์ ดั ราชโอรส (วัดจอมทอง)
ปฏิสังขรณ์วดั พระเชตุพนฯ (วดั โพธ)์ิ
สรา้ งวดั เฉลมิ พระเกยี รติ วัดราชนดั ดาราม
วัดเทพธิดาราม ฯลฯ
สรา้ งเกง๋ โรงทาน ส�ำ หรบั แจกทานแกบ่ คุ คลทว่ั ไป

ท่ีมา : ศาสนาประจำ�ชาติ : สุทธวิ งศ์ ตนั ตยาพิศาลสุทธิ์ สำ�นักงานสง่ เสรมิ คณุ ธรรมจรยิ ธรรมพระมหากษัตริย์ไทยกับพระพุทธศาสนา : อ�ำ นวย วรี วรรณ

31

รชั กาลท่ี ๔
ราชวงศ์จกั รี

(รัชสมัยกรงุ รัตนโกสนิ ทร)์

พระราชนพิ นธ์

พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจา้ อยูห่ วั

...พระนครน้ีเป็นถิ่นที่ของคนนับถือพระพุทธศาสนามาแต่เดิม...
...ทรงพระราชด�ำ รเิ หน็ วา่ จะฆา่ สตั วม์ ชี วี ติ คอื สกุ ร เปด็ ไก่ นก ปลา
แลอื่นๆ ให้ตายเป็นอันมาก จะเป็นไปว่าเป็นเวลาเฉลิมพระชนมพรรษา
สตั วท์ มี่ ชี วี ติ ซงึ่ ตอ้ งตายเปน็ อนั มากดงั นี้ เปน็ เวลาท�ำ บญุ แลว้ จะมาท�ำ บาป
เล่า ดูไม่ควร เพราะบ้านเมืองนับถือบรมพุทธศาสนา แลลัทธิก็ถือว่า
การฆ่าสัตว์เป็นบาป ขอให้ท่านทั้งปวง บรรดาที่เร่ิมการทำ�บุญในคร้ังนี้
คดิ ยักย้ายท�ำ ของเล้ยี งพระสงฆ์แตท่ ่ีควร...

ทม่ี า : ศาสนาประจำ�ชาติ : สุทธิวงศ์ ตนั ตยาพิศาลสุทธ์ิ สำ�นักงานสง่ เสรมิ คณุ ธรรมจรยิ ธรรม

32

รชั กาลท่ี ๕
ราชวงศ์จักรี

(รชั สมัยกรงุ รตั นโกสินทร)์

พระราชปฏิญาณและพระราชนพิ นธ์

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจ้าอยูห่ ัวมหาราช

...ขา้ พเจา้ จะไมม่ จี ติ ยนิ ดนี อ้ มไปในศาสดาอนื่ นอกจากสมเดจ็ พระสมั มา
สมั พทุ ธเจา้ และพระธรรมอนั พระองคไ์ ดต้ รสั รชู้ อบดแี ลว้ กบั ทง้ั พระสงฆห์ มใู่ หญ่
อนั ไดป้ ระพฤตติ ามค�ำ สงั่ สอนของพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ พระองคน์ น้ั เลยเปน็ อนั
ขาดจนตราบกว่าสน้ิ ชวี ิต...
...การสอนศาสนาในโรงเรียน ทั้งในกรุงและหัวเมืองจะต้องให้มีขึ้น
ให้มีความวิตกไปว่าเด็กชั้นหลังจะห่างเหินจากการศาสนาจนเลยเป็นคนไม่มี
ธรรมในใจมากข้ึน...
...คนท่ไี ม่มธี รรมเปน็ เคร่อื งดำ�เนินตาม คงจะหนั ไปทางทุจรติ โดยมาก
ถ้ารู้น้อยก็โกงไม่ค่อยคล่อง ฤๅโกงไม่สนิทถ้ารู้มากก็โกงคล่องมากขึ้นและโกง
พิสดารมากขนึ้ ...
...จึงเห็นว่าถ้ามีหนังสืออ่านสำ�หรับโรงเรียนที่บังคับให้โรงเรียน
ตอ้ งสอนกนั แตใ่ หเ้ ปน็ อยา่ งใหมๆ่ ทคี่ นจะเขา้ ใจงา่ ยๆ จะเปน็ คณุ ประโยชนม์ าก...

ท่ีมา : ศาสนาประจ�ำ ชาติ : สุทธวิ งศ์ ตนั ตยาพิศาลสุทธิ์ สำ�นักงานส่งเสรมิ คุณธรรมจริยธรรม

33

รชั กาลที่ ๖
ราชวงศ์จักรี

(รัชสมัยกรงุ รัตนโกสนิ ทร์)

พระราชปฏิญาณและพระราชนพิ นธ์

พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกล้าเจา้ อยู่หัว

...ในประวตั ศิ าสตร์ไทย พระมหากษตั รยิ ไ์ ทยทุกพระองค์ทรงเปน็
พุทธมามกะ และทรงเป็นอคั รศาสนปู ถัมภก...
...เพอื่ ความมน่ั คงแหง่ พระพทุ ธศาสนา ขา้ พเจา้ รสู้ กึ วา่ ไดท้ �ำ หนา้ ท่ี
สมควรแก่อุปถัมภ์พระพุทธศาสนาเราตั้งใจจะรักษาศาสนาของเราด้วย
ชวี ติ ...
...จงึ เปน็ หนา้ ทข่ี องเราทงั้ หลายทเี่ ปน็ เชอื้ ชาตนิ กั รบตอ้ งชว่ ยรกั ษา
พระศาสนาอนั นใ้ี หค้ งอยใู่ นเมอื งไทยอกี ตอ่ ไป ตอ้ งรกั ษาไวเ้ พอื่ ใหเ้ ปน็ มรดก
แก่ลกู หลานของเราท้งั หลายใหเ้ ขารักษากันต่อไป...
...เมืองเราเกือบจะเป็นเมืองเดียวแล้วในโลก ได้มีบุคคลถือ
พระพทุ ธศาสนามากและเปน็ เหลา่ เดยี วกนั เพราะฉะนน้ั เปน็ หนา้ ทข่ี องเรา
ทัง้ หลายท่ีจะชว่ ยกนั บำ�รุงรกั ษาพระพุทธศาสนาอย่าให้เสื่อมสูญไป.....

ที่มา : ศาสนาประจำ�ชาติ : สทุ ธิวงศ์ ตนั ตยาพิศาลสทุ ธ์ิ ส�ำ นักงานสง่ เสริมคุณธรรมจรยิ ธรรม

34

รัชกาลท่ี ๗
ราชวงศ์จกั รี

(รชั สมยั กรุงรตั นโกสินทร์)

พระบรมราโชวาท

พระบาทสมเด็จพระปกเกลา้ เจา้ อยู่หวั

…พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาสำ�หรับชาติเราเราจำ�เป็นต้องถือด้วยความ
กตญั ญู ต่อบดิ า มารดา และตน้ โคตรวงศ์ของเรา...เป็นหน้าทขี่ องเราทจี่ ะตอ้ งตง้ั ใจ
ทีจ่ ะรกั ษาความมน่ั คงของพระพุทธศาสนาในประเทศไทย...
...ตามธรรมดาเด็กๆ จะเรียนแต่หนังสือเท่านั้นไม่พอ ถ้าเรียนแต่หนังสือ
อยา่ งเดยี วกจ็ ะตรงกบั โบราณทา่ นวา่ ไวว้ า่ “วชิ าทว่ มหวั เอาตวั ไมร่ อด” เราตอ้ งเรยี น
อยา่ งอน่ื ดว้ ย ตอ้ งฝกึ กาย วาจา ใจพระพทุ ธองคไ์ ดร้ บั สง่ั ไวเ้ ปน็ พทุ ธภาษติ วา่ “ทนโฺ ต
เสฏฺโฐ มนุสเฺ สส”ุ คือแปลว่า บุคคลทีไ่ ดฝ้ ึกหัดแลว้ เป็นผูป้ ระเสรฐิ ในหมมู่ นุษย.์ ..
...ศาสนาเปน็ ยาบ�ำ รงุ ก�ำ ลงั บ�ำ รงุ นา้ํ ใจ ใหท้ นความล�ำ บากได้ ใหม้ แี รงทจ่ี ะ
ท�ำ การงานของตน ใหเ้ ปน็ ผลส�ำ เรจ็ ได้ และยงั เปน็ ยาทจี่ ะสมานหวั ใจ ใหห้ ายเจบ็ ปวด
ในยามทกุ ขไ์ ด้ด้วย...พวกเราทกุ ๆคนควรพยายามให้เด็กๆลูกหลานของเรามี “ยา”
สำ�คัญคือ คำ�สัง่ สอนของพระบรมศาสดาสัมมาสมั พุทธเจา้ ตดิ ตวั ไวเ้ ป็นก�ำ ลงั เพราะ
“ยา” อยา่ งน้เี ป็นท้งั “ยาบ�ำ รุงกำ�ลงั ” และ “ยาสมานหรือระงบั ความเจบ็ ปวด”...

ท่มี า : ศาสนาประจ�ำ ชาติ : สทุ ธิวงศ์ ตนั ตยาพศิ าลสุทธ์ิ ส�ำ นกั งานสง่ เสรมิ คุณธรรมจรยิ ธรรม
พระราชนพิ นธค์ �ำ น�ำ ของพระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ในทศิ ๖ หนงั สอื สอนพระพทุ ธศาสนาแกเ่ ดก็ โรงพมิ พโ์ สภณพพิ รรณธนากร ๒๔๗๔

35

รัชกาลที่ ๘
ราชวงศ์จกั รี

(รัชสมยั กรุงรัตนโกสนิ ทร)์

พระราชหฤทยั

พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ วั อานนั ทมหิดล

…ทรงประกอบพิธที รงปฏญิ าณตนเป็นพุทธ
มามกะท่ามกลางมณฑลสงฆใ์ นพระอโุ บสถ
วัดพระศรรี ัตนศาสดาราม...
...ทรงต้งั พระราชหฤทัยอยา่ งแนว่ แน่ว่าจะ
ทรงผนวชในพระพุทธศาสนาสกั วารหนึง่
...โดยได้มีพระราชหตั ถเลขาถงึ สมเดจ็
พระสงั ฆราชเจา้ กรมหลวงวชริ ญาณวงศ์
ทรงขอตำ�ราทางพระพทุ ธศาสนา
เพ่อื ใช้เตรียมพระองค์...

ที่มา : ศาสนาประจำ�ชาติ : สุทธวิ งศ์ ตนั ตยาพศิ าลสทุ ธ์ิ ส�ำ นกั งานสง่ เสรมิ คุณธรรมจริยธรรม

36

รัชกาลท่ี ๙
ราชวงศ์จักรี

(รัชสมยั กรงุ รัตนโกสินทร์)

พระเจ้าอยหู่ พวั รพภะรมูะบบิพรามทลราอสโชดมวาลุเทดยจ็ เดชมหาราช

...ข้าพเจ้าถือว่าพระพุทธนวราชบพิตรเป็นที่ต้ังแห่งคุณพระรัตนตรัย
อันเป็นท่ีเคารพสูงสุดและเป็นท้ังที่หมายของความเป็นอันหนึ่ง
อันเดียวกันของประเทศไทยและคนไทยท้งั ชาติชาวพุทธท่แี ท้จึงเป็น
ผทู้ ค่ี ดิ ชอบ ปฏบิ ตั ชิ อบอยเู่ ปน็ ปกติ อยู่ ณ ทใี่ ดกท็ �ำ ใหท้ นี่ นั้ สงบ รม่ เยน็
มีแต่ความปรองดองและสร้างสรรค์...
...ดว้ ยประชาชนมหี ลกั ของใจอนั มนั่ คง มศี รทั ธาและปญั ญาอนั ถกู ตอ้ ง
และปฏิบัติตนอยู่ในทางท่ีเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม คือการส่งเสริม
ประชาชนให้มีพระรัตนตรัยและธรรมในพระพุทธศาสนาเป็นหลัก
ของใจ และความประพฤติด้วยศรทั ธาและปญั ญาท่ถี ูกตอ้ ง...

ที่มา : ศาสนาประจ�ำ ชาติ : สทุ ธวิ งศ์ ตันตยาพศิ าลสุทธิ์ สำ�นกั งานสง่ เสรมิ คุณธรรมจรยิ ธรรม

37

รัชกาลที่ ๑๐
ราชวงศ์จักรี

(รัชสมัยกรงุ รตั นโกสินทร)์

พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทพรรระาบมรามธริบาดโชศี วรสีาทินทร มหาวชิราลงกรณมหศิ ร
ภมู พิ ลราชวรางกรู กิติสิรสิ มบูรณอดลุ ยเดช สยามนิ ทราธเิ บศรราชวโรดม

บรมนาถบพติ ร พระวชริ เกลา้ เจา้ อยู่หวั

“ขา้ แต่พระสงฆ์ผูเ้ จริญ แต่เดมิ มาขา้ พเจ้า
ได้มีจิตศรัทธาเลื่อมใส และไดน้ กึ ถงึ
พระรัตนตรัยเปน็ สรณะด้วยวิธนี ้นั ๆ
ฉะนั้น บดั นขี้ ้าพเจ้า

ได้เถลิงถวัลยร์ าชสมบตั ิบรมราชาภเิ ษกแลว้
จึงขอมอบตวั แดพ่ ระพุทธเจา้ พระธรรมเจ้า

และพระสงั ฆเจ้า จะได้รับการจัดการ
และใหก้ ารคุ้มครองรกั ษาพระพทุ ธศาสนา
โดยชอบธรรมตลอดไป ข้าแต่พระสงฆ์

ผู้เจริญ ขอพระสงฆจ์ งจ�ำ ไว้ด้วยดีว่า
ข้าพเจ้าเปน็ พุทธศาสนปู ถมั ภกเถดิ ”

ท่ีมา : มพี ระราชด�ำ รสั ประกาศพระองคเ์ ปน็ พทุ ธศาสนูปถมั ภก เม่ือวนั ท่ี ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๒

38

สมเพดอจ็รดพะลุบรคยระ�ำเมมดสรหชอาิตนวชลิกชารนธมกเิ บศร

...ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่สองประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่
หนง่ึ ลาภ ทรัพย์ และเกียรตยิ ศ จะตกมาแก่ท่านเองถ้าท่านทรงธรรมะแห่ง
อาชีพไวใ้ หบ้ รสิ ทุ ธ์ิ

สมเดบ็จพรมรระาศชรชีนนครนินี ทรา

...สมเดจ็ พระราชชนนศี รสี ังวาลย์ ทรงมีพระปรารภว่า นักเรยี น นกั ศกึ ษา ตลอด
ถึงข้าราชการผู้ที่ไปศึกษาต่อหรือไปรับราชการ ณ ต่างประเทศควรจะมีหนังสือ
แนะแนวคำ�ส่ังสอนในพระพุทธศาสนาเป็นคู่มือสำ�หรับอ่าน เพื่อให้เกิดความรู้
เป็นแนวทางสำ�หรับปฏิบัติตนเองและเพื่ออธิบายให้บรรดามิตรชาวต่างประเทศ
ผู้ต้องการจะทราบเข้าใจได้ถึงหลักธรรมบางประการในพระพุทธศาสนา จึงทรง
อาราธนา พระสาสนโสภณ (สุวฑฺฒโน) วดั บวรนเิ วศวิหาร เรยี บเรียงเร่ือง

“พรวะันพท(ทุพี่ ๒ธวาเ๑กงั จสษ้าตรฯท์ภุละลารปาฯษงคะสามทัง่ไุมสท๒อย๕น)๑อ๐ะไร”

ทีม่ า : พระพุทธเจา้ ทรงสง่ั สอนอะไร ชมรมพระพุทธศาสนา เอ ไอ เอ ธันวาคม ๒๕๕๓

39

อัลเบริ ต์ ไอนส์ ไตน์

นกั วทิ ยาศาสตร์
ชาวอเมรกิ า

“ศาสนาในอนาคตควรจะเป็นศาสนาสากลแห่งจักรวาลท่ี
ครอบคลุมท้งั ความเจรญิ ของธรรมชาตแิ ละจติ ใจ ถา้ หากจะมี
ศาสนาใดทส่ี ามารถ ตอบสนองความตอ้ งการของวทิ ยาศาสตร์
สมยั ใหมไ่ ด้ ศาสนาน้นั คือพระพทุ ธศาสนา”

เบอรท์ รนั ด์ รัสเซล

นกั วทิ ยาศาสตร์
นักปรชั ญา นกั เขยี น

ชาวอังกฤษ
“พระพทุ ธศาสนาใชว้ ธิ กี ารทางวทิ ยาศาสตร์ และการแสวงหา
เป้าหมายสูงสุดท่ีอาจเรียกได้ว่ามีความเป็นเหตุเป็นผลอย่าง
ย่งิ ”

40

คาร์ล กูสตาฟ จงุ

นกั จติ วิทยา
ชาวสวิส
“พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาท่ีสมบูรณ์ท่ีสุดในโลก ที่
ขา้ พเจา้ เคยพบเหน็ ปรชั ญาของพระพทุ ธเจา้ ในเรอ่ื งทฤษฎี
แห่งวิวัฒนาการและกฎแห่งกรรมมีความเหนือกว่าความ
เช่ืออ่นื ๆ”

อลั ดสั ฮกั ซ์เลย์

นกั เขียน ชาวอังกฤษ
“ในบรรดาศาสนาท่ียิ่งใหญ่ของโลกพุทธศาสนาเพียง
ศาสนาเดียวเท่าน้ัน ท่ีดำ�เนินไปโดยปราศจากการ
เบียดเบียนทางศาสนา การตามจองเวร กดขี่ การตรวจ
บงั คับ หรอื ศาลไตส่ วนศรทั ธาตามศาสนา”

41

โซเพน เฮาเออร์

นกั ปรชั ญา
ชาวเยอรมนั
“พระพุทธศาสนาเป็นมาตรฐานของความจริงที่โดดเด่น
ทสี่ ดุ ในบรรดาปรัชญาท้งั หมด”

เซอร์ เอ็ดวิน อารโ์ นลด์

นักกวี
ชาวองั กฤษ
“ระหว่าง พระพุทธศาสนาและวิทยาศาสตร์สมัยใหม่
ปรากฏว่า มสี ายสัมพนั ธ์ทางปัญญาอย่างใกลช้ ิดกนั ”
“...พระบรมศาสดาเปน็ ผไู้ ดร้ บั เกยี รตจิ ากมหาชน ทรงเปน็
ผมู้ คี วามปรารถนาดที สี่ ดุ องอาจทส่ี ดุ และเมตตาทส่ี ดุ ทรง
เปน็ บรมครูผ้สู อนธรรม และพระนิพพาน”

42

บิดาแเหอง่ชชนายิวจาอยังี วกเวทิฤยษลาลศา์ สตร์

“พระพุทธศาสนาได้มีส่วนเกื้อหนุนต่อความก้าวหน้าของ
อารยธรรมโลกจะทำ�ให้คำ�สอนด้ังเดิมของพระโคตมะซ่ึง
เม่ือได้รับการฟื้นฟูและทำ�ให้บริสุทธ์ิแล้วก็อาจยังคงมี
บทบาทอย่างมากในการกำ�หนดทิศทางแห่งชะตากรรม
ตอ่ มนุษยชาต”ิ

อแัลพแทบยช์ารนว์ตักฝสรชอ่งั เนไศวศสาเสซนอาร์

“พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงออกซ่ึงสัจธรรมอันมีคุณค่า
เป็นนริ ันดร และไดท้ �ำ ให้จริยธรรมมใิ ช่ของอนิ เดยี เทา่ น้นั
แต่ของมนุษยชาตกิ ้าวหน้าไป พระพุทธเจ้าเป็นผู้หนง่ึ ใน
บรรดาอัจฉริยมนษุ ย์ทางศีลธรรมท่โี ลกเคยไดม้ า”

43

พระพุทธเจ้าในทศั นะ
สามรตั นบรุ ุษของอนิ เดยี

...ส�ำ หรบั ขา้ พเจา้ แลว้ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ทรงเปย่ี มดว้ ย
พระปญั ญาคณุ และ พระเมตตาคณุ อยา่ งลน้ เหลอื พระพทุ ธ
ศาสนาเปน็ ศาสนาแหง่ เมตตาธรรมโดยแท้
...พระพทุ ธองคท์ รงสอนเราไวด้ ว้ ย “พทุ ธวจนะ”ทพ่ี วกเรา
ไมค่ วรลืมเลอื น “ชวี ิตเปน็ ของชว่ั คร่ชู ่ัวยาม ปราศจากแกน่ สาร”
มหาตมะ คานธี และหากท่านสามารถตระหนักถึงความไม่เป็นแก่นสารของ

สรรพส่ิงที่แปรเปล่ียนอยู่ต่อหน้าเราเป็นนิรันดรแล้วไซร้ ท่านจะพบสมบัติซึ่งรอ
ท่านอยเู่ บ้อื งบน ส่วนเบ้ืองลา่ ง ณ ทนี่ ้ีท่านจะพบความสงบซ่งึ อย่เู หนอื ความเข้าใจ
ทง้ั ปวง ท่านจะพบความสขุ ซ่งึ เราท้งั หลายไมเ่ คยพบปะ หากเราสละทกุ สิง่ ทเ่ี รา
เหน็ อยู่ต่อหนา้ เรา

...มโนภาพของข้าพเจ้าเกี่ยวกับพระพุทธองค์ผู้ทรงอยู่
เหนอื กเิ ลส ตณั หา ทง้ั ปวงทา่ มกลางผมู้ จี ติ ศรทั ธาจ�ำ นวนนบั
ไมถ่ ว้ น...
...พระธรรมคำ�สอนของพุทธองค์ซึ่งเป่ียมด้วยไมตรีจิต
มิตรภาพ และความเมตตาปราณี มีความสำ�คัญเป็นพิเศษ ยวาหระลาล เนรหู ์
ในโลกปจั จุบันอนั เตม็ ไปด้วยความอลเวงวนุ่ วาย...

รพินทรนาถ ฐากรุ ...เราใฝ่ฝันที่จะได้สดับตรับฟังพระสุรเสียงของ
พระศาสดาผู้ทรงประกาศว่า “วิถีทางแห่งความรักและ
ความเมตตาเท่านั้นท่ีจะช่วยให้สรรพสัตว์บรรลุความ
หลุดพ้นได้”การบริจาคซึ่งพระองค์ถือว่าเป็นความดีน้ัน
การใหท้ แ่ี ทจ้ รงิ คอื การใหต้ วั เราเอง ซง่ึ พระองคท์ รงสอน
ไว้ว่าการจะให้สิ่งใดต้องให้ด้วยศรัทธา อันได้แก่ความ
เคารพเลอ่ื มใส...

44

การเผยแผ่พระธรรม
ตามรอยพระพุทธบาท (ในต่างแดน)

เออรเ์ นสท์ สุภาพบุรุษอังกฤษอุปสมบทเปน็ พระภิกษุ พระพทุ ธศาสนานกิ ายเชน
ชนิ การุ ฮนั ท์ ประเทศญปี่ ุ่น ปฏิบัติศาสนกิจ เทศนาสอนประชาชนญปี่ ่นุ ทำ�หน้าทข่ี อง
“พุทธสาวก” ผู้เจริญรอยตามพุทธยุคลบาทท่ีว่า “...ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
เธอทงั้ หลายจงทอ่ งเทย่ี วไปเพอื่ บ�ำ เพญ็ ประโยชน์ เพอื่ ความเกอ้ื กลู และเพอ่ื
ความสุขแกป่ ระชาชนทัง้ หลาย...”

เจ.พ.ี แมพกเรกะชภนิกี ษ( ศุ J.ลี Pา.Mจา’รKะechnie)
...พระภิกษุชาวอังกฤษผู้เป็นแบบฉบับของพุทธสาวกผู้ประกาศพระพุทธศาสนาอย่างมี
ประสทิ ธผิ ลท้งั ในตะวนั ออกและตะวันตกเป็นเวลานานกว่า ๒๕ ปี
“...น่ี ! คอื ศาสนา ข้าพเจ้าพูดกับตนเอง ศาสนาทกี่ ำ�ลังมชี ีวิตที่แทจ้ ริง เป็นวถิ ีชีวิตท่ีมหาชน
สว่ นใหญใ่ ชเ้ ปน็ หลกั การด�ำ เนนิ ชวี ติ ไมก่ ลา่ วถงึ เรอ่ื งมหศั จรรย์ เรอื่ งเหลอื เชอื่ ไรเ้ หตผุ ล เรอ่ื งพเิ ศษสดุ
ท่ีสอนนั้น โดยการตรวจสอบแล้วด้วยปัญญา ก็คือ เร่ืองง่ายๆ สามารถปฏิบัติได้ เป็นเร่ืองตรงกับ
ธรรมชาติของชวี ติ ”

ฮันส์ มุช Hans Much

นายแพทย์ผู้เช่ียวชาญด้านวัณโรคอุทิศชีวิตตนเอง ศึกษา
ปฏบิ ตั ธิ รรมเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาในดนิ แดนปติ ภุ มู ขิ องตน-ประเทศ
เยอรมนี

“...เม่ือข้าพเจ้าได้อ่านเร่ืองอนัตตาจบ ข้าพเจ้าเกิดความรู้สึกดุจดังว่า
พระพทุ ธเจา้ ทรงจบั ขา้ พเจา้ ไวใ้ นองุ้ หตั ถข์ องพระองคอ์ ยา่ งแนบแนน่ ...”
“...หวั ใจของพระพทุ ธศาสนาคอื หลกั แนวคดิ เรอ่ื งอนตั ตา บคุ คลใดกต็ ามทเ่ี ขา้ ใจองคป์ ระกอบของหลกั
แนวคดิ นส้ี มบรู ณแ์ ลว้ บคุ คลนน้ั ยอ่ มประจกั ษแ์ จง้ ดว้ ยตนเอง หลกั แนวคดิ เรอ่ื งอนตั ตาเปน็ แนวคดิ ท่ี
ทรงพลงั ทส่ี ดุ เปน็ แนวคดิ ทง่ี า่ ยมากอยา่ งนา่ อศั จรรย์ งา่ ยจรงิ ๆชวี ติ ของเราไมม่ อี ะไร ... ไมม่ อี ะไรเลย
จรงิ ๆ โลกทง้ั โลกคอื อนตั ตา ไมม่ ตี วั ตน ...”
“...ขา้ พเจา้ ทราบชดั ทนั ทวี า่ พระนพิ พานคอื อะไร? ...เสย้ี ววนิ าทแี หง่ ความวา่ งเปลา่ อยา่ งสมบรู ณ์
จากความปรารถนาทง้ั ปวง คอื ภาวะของนพิ พาน...ทบ่ี คุ คลสามารถบรรลไุ ดแ้ นน่ อน เมอ่ื จติ ใจของเขา
ไมป่ รารถนาสง่ิ ใดเลย...”

ทม่ี า: “เมธตี ะวนั ตกชาวพทุ ธ” เลม่ ๑ โดย พนั เอก (พเิ ศษ) นวม สงวนทรพั ย์

45

การเผยแผ่พระธรรม
ตามรอยพระพุทธบาท (ในต่างแดน)

(TตhิชichนNัทhatฮHันanหh์ )

“จิตสงบ ใจเปิดกว้าง”

พระภิกษุนิกายเชน ชาวเวียดนาม “บิดาแห่งพระพุทธ
ศาสนาเพ่อื สังคม” (Engaged Buddhism) ทำ�ใหป้ ระจกั ษว์ ่า
“...การปฏบิ ัตธิ รรมสามารถกระทำ�ได้ในทุกขณะเวลา ไมจ่ ำ�เป็นต้อง
ไปทว่ี ัดหรือแสวงหาสถานทเ่ี พื่อสรา้ งความสงบภายใน...”
การอธิบายธรรมะของท่านเข้าใจง่ายเหมาะสมกับยุคสมัย เช่น
เร่อื งศีล ๕ พวกเรารูส้ กึ วา่ มันควรได้รับการพูดเสยี ใหม่ ในความหมาย
ทเี่ ขา้ ใจได้ง่ายขนึ้ สำ�หรบั คนในปจั จบุ นั ...”

การถือศีลกค็คนือทกี่คาุณรปรักกปแักลษะส์รักังคษมาตัวคุณเอง
(นCาarงoคlinาeโรAไuลgนus์ tเaอFoเอleฟy Rรhสิ ysเDดaวviิดdสs)์

แก่นแท้หลักพระพุทธศาสนา

“อยู่ที่รูปลักษณ์ความเสรีและความก้าวหน้า”

สภุ าพสตรีนักปราชญภ์ าษาบาลี ชาวอังกฤษ อธิบายวา่
“ธรรมทั้งหลาย มีใจเป็นหัวหน้า มีใจประเสริฐสุด สำ�เร็จแล้ว
แต่ใจ บุคคลใดพูดและทำ�ด้วยจิตช่ัว ความทุกข์ย่อมติดตามตัวเขา
ดจุ ลอ้ เกวยี นยอ่ มตดิ ตามโคทลี่ ากเกวยี น แตถ่ า้ บคุ คลใดท�ำ และพดู ดว้ ยจติ
ที่ดี ความสุขยอ่ มตดิ ตามตัวเขา ดจุ เงาของร่างกาย ย่อมประจกั ษ์ชัดว่า
จติ คอื “เครอื่ งมอื ” ประกอบกรรมอนั มีเจตนา คือ จิต นี้”

46


Click to View FlipBook Version