2.4 การต ่ อโดยใช ้ หม ุ ดยา ้ 2.4.1 ชนิดของการต่อ 1. การต่อเกย (Lap Joint) 2. การต่อชน (Butt Joint)
2.4.2 หลักการค านวณ สัญลักษณ์ต่างๆที่ใช้ในการค านวณ t คือความหนาของแผ่นโลหะ d ค ื อขนาดเส ้ นผ ่ านศ ู นย ์ กลาง n ค ื อจา นวนหม ุ ดยา ้ ของหม ุ ดยา ้ t p P คือระยะ pitch
1. การต่อชิ้นงานเป็ นแผ่นแคบๆ F F ใช้การค านวณทีเดียวทั้งแผ่น 2. การต่อชิ้นงานเป็ นแผ่นกว้างๆ F p F ใช้วิธีการตัดชิ้นงานมาค านวณ ให้มีความกว้างเท่ากับระยะ Pitch (P)
2.4.3 ชน ิ ดของการแตกห ั กหร ื อขาดของหม ุ ดยา ้ และแผ ่ นต ่ อ F F 1. หม ุ ดยา ้ ถ ู กเฉ ื อนขาด แรงต้านการเฉือน = พ ื น ้ ทท ี ่ ถ ี ่ ู กเฉ ื อน x ความเค ้ นเฉ ื อนของหม ุ ดยา ้ R s = A s x = d x 4 2 d x xn 4 R 2 s = ถ ้ าม ี หม ุ ดย ้า n ตัว และถ้าการต่อชิ้นงานเป็ นแบบ Double Shear d x xn 2 R 2 s =
2. หม ุ ดยา ้ ถ ู กแผ ่ นต ่ ออดแตก ั F F t แรงต้านการอัด = พื้นที่การอัด x ความเค้นอัด c R c = n d t x c R c = n A s x
3. แผ่นต่อขาดตามแนวขนานกับตะเข็บ F F p d แรงต้านการดึงขาด = พ ื น ้ ทท ี ่ ถ ี ่ ู กด ึ งx ความเค้นดึง t Rt = ( p-d ) t x t แนวที่ขาด p
แรงต้านของแผ่นเต็ม ( R ) F F p t p R = p t x t
2.4.4 ประสิทธิภาพของรอยต่อ 1. ประสิทธิภาพการเฉือน x100% R R s s = 2. ประสิทธิภาพการอัด x100% R R c c = 3. ประสิทธิภาพการดึง x100% R Rt t = ใช้ค่าประสิทธิภาพที่มีค่าต ่าทส ี ่ ุ ด
ตว ั อย ่ าง การคา นวณเร ื ่ องหม ุ ดย ้า ใช ้ หม ุ ดยา ้ 2 ต ั ว ขนาดเส ้ นผ ่ านศ ู นย ์ กลาง 25 mm ต่อแบบต่อเกย ต่อแผ่นเหล็กหนา 20 mm ระยะpitch เท่ากับ 80 mm ถ้าค่าความ เค ้ นเฉ ื อนในหม ุ ดยา ้ เท่ากับ 350 MN/m2 ค่าความเค้นอัดเท่ากับ 560 MN/m2 ความเค้นดึงของแผ่นเหล็กเท่ากับ 420 MN/m2 จงหาประสิทธิภาพของรอยต่อ โจทย์ก าหนด n = 2 ตัว , d = 25 mm , t = 20 mm = 350 MN/m2 560 c = MN/m2 420 t = MN/m2
จากส ู ตร d x xn 4 R 2 s = (25) x350x2 343611.696N 4 2 = t Rt = ( p-d ) t x = (80-25)20x420 = 462,000 N R c = n d t x c = 2x25x20x560 = 560,000 N R = p t x t = 80x20 x420 = 672,000 N =
1. ประสิทธิภาพการเฉือน x100% R R s s = 2. ประสิทธิภาพการอัด x100% R R c c = 3. ประสิทธิภาพการดึง x100% R Rt t = x100 51.132% 672000 343611.696 = = x100 83.33% 672000 560000 = = x100 68.75% 672000 462000 = = ประสิทธิภาพของรอยต่อ = 51.132 %