ก บทสรุปผู้บร ิหาร ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561 – 2580) ได้ก าหนดวิสัยทัศน์ว่า “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งประกอบด้วย 6 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1) ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง 2) ยุทธศาสตร์ด้านการสร้าง ความสามารถในการแข่งขัน 3) ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสร ิมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ 4) ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม 5) ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างการ เติบโตบนคุณภาพชวีติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ 6) ยุทธศาสตรด์ ้านการปรบัสมดุลและพัฒนา ระบบการบร ิหารจัดการภาครัฐ กระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้สถาบันด ารงราชานุภาพ ส านักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน ด าเนินโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ : ผู้บร ิหารระดับสูง กระทรวงมหาดไทย จ านวน 3 หลักสูตร ประกอบด้วย 1. หลักสูตร “ผู้น านักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์น าการเปลี่ยนแปลงสู่เป้าหมายการพัฒนาทยี่ั่งยืน” ระดับกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยและผู้ตรวจราชการกรม) (Inspector – Change Agent for Strategic Transformation : INS - CAST) ด าเนินการระหว่างวันที่ 15 – 18 พฤษภาคม 2566 ณ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครนายก โดยมีกลุ่มเป้าหมายเข้ารับ การฝึกอบรมรวมทั้งสิ้น 67 คน แบ่งเป็นเพศชาย จ านวน 58 คน เพศหญิง จ านวน 9 คน ประกอบด้วย ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย จ านวน 11 คน ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง จ านวน 10 คน ผู้ตรวจราชการกรมที่ดิน จ านวน 12 คน ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน จ านวน 12 คน ตรวจราชการกรมโยธาธิการและผังเมือง จ านวน 10 คน ผู้ตรวจราชการกรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย จา นวน 6 คน และผู้ตรวจราชการกรมส่งเสรมิการปกครองท้องถิ่น จา นวน 6 คน 2. หลักสูตร “ผู้น านักขับเคลื่อนยุทธศาสตรน์ าการเปลี่ยนแปลงสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” ระดั บจังหวัด 76 จังหวัด (Province – Change Agent for Strategic Transformation : P- CAST) ด าเนินการระหว่างวันที่ 22 – 25 พฤษภาคม 2566 ณ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน 11 แห่ง ได้แก่ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครนายก สระบุร ี ชลบุร ี นครราชสีมา อุบลราชธานี อุดรธานี ล าปาง พิษณุโลก เพชรบุร ี นครศร ีธรรมราช และยะลา โดยมีกลุ่มเป้าหมายเข้ารบัการฝึกอบรมรวมทั้งสิ้น ๘8๔ คน แบ่งเป็นเพศชาย จ านวน 710 คน เพศหญิง จ านวน 174 คน ประกอบด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัด จ านวน ๗6 คน ปลัดจังหวัดจ านวน ๗6 คน หัวหน้าส านักงานจังหวัด จ านวน ๗6 คน พัฒนาการจังหวัด จ านวน 76 คน เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด จ านวน ๗6 คน โยธาธิการและผังเมืองจังหวัด จ านวน ๗6 คน หัวหน้าส านักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด จ านวน ๗6 คน ท้องถิ่นจงัหวัด จา นวน 7๖ คน ผู้แทนภาคีเคร ือข่ายด้านศาสนา จ านวน ๗2 คน ผู้แทนภาคีเคร ือข่ายด้านวิชาการ จ านวน ๗1 คน และ ผู้แทนภาคีเคร ือข่ายการพัฒนาพื้นที่ที่สอดคล้องตามบร ิบทของภูมิสังคม จ านวน 133 คน
ข 3. หลักสูตร “ผู้น านักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์น าการเปลี่ยนแปลงสู่เป้าหมายการพัฒนาทยี่ั่งยืน” ระดับกระทรวง (Ministry of Interior – Change Agent for Strategic Transformation : MOI CAST) ด าเนินการระหว่างวันที่ 29 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2566 ณ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครนายก โดยมีกลุ่มเป้าหมายเข้ารบัการฝึกอบรมรวมทั้งสิ้น 97 คน แบ่งเป็น เพศชาย จ านวน 54 คน เพศหญิง จ านวน 43 คน ประกอบด้วย ส านักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย จ านวน ๖ คน กรมการปกครอง จ านวน ๑๐ คน กรมที่ดิน จ านวน ๑๐ คน กรมการพัฒนาชุมชน จ านวน ๑๒ คน กรมโยธาธิการและ ผังเมือง จ านวน ๙ คน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ านวน ๑๐ คน กรมส่งเสร ิมการปกครอง ท้องถิ่น จ านวน ๑๒ คน การประปานครหลวง จ านวน ๕ คน การประปาส่วนภูมิภาคจ านวน ๔ คน การไฟฟ้านครหลวง จ านวน ๕ คน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ านวน ๕ คน องค์การตลาด จ านวน ๔ คน องค์การจัดน้าเสีย จ านวน ๕ คน สถาบันการพัฒนาชุมชน ได้ด าเนินการประเมินผลโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ : ผู้บร ิหาร ระดับสูง กระทรวงมหาดไทย จ านวน 3 หลักสูตร ดังนี้ 1. หลักสูตร “ผู้น านักขับเคลื่อนยุทธศาสตรน์ าการเปลี่ยนแปลงสู่เป้าหมายการพัฒนาทยี่ั่งยืน” ระดับกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยและผู้ตรวจราชการกรม) (Inspector – Change Agent for Strategic Transformation : INS CAST) 1) การบรรลุวัตถุประสงค์โครงการ ภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.72 วัตถุประสงค์ที่มีค่าเฉลี่ยมากสุด คือวัตถุประสงค์ข้อที่ 1 เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ผู้เข้ารับ การฝึกอบรมเกี่ยวกับหลักการทรงงานและการพัฒนาประเทศตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อน ามา ปรับใช้ในการปฏิบัติราชการเพื่อ "บ าบัดทุกข์ บ ารุงสุข" ให้แก่พี่น้องประชาชน อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.75 รองลงมาคือวัตถุประสงค์ข้อที่ 4 เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีโอกาสพบปะ แลกเปลี่ยนเร ียนรู้ซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นประโยชน์ในการพัฒนาเคร ือข่ายในการท างานเป็นทีม ซึ่งถือว่า เป็นหัวใจส าคัญส าหรับการท างานร่วมกันในปัจจุบัน รวมถึงการสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน ท าให้เกิดพลังในการขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวงมหาดไทย ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.73 น้อยสุดคือ วัตถุประสงค์ข้อที่ 3 เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมน าความรู้ความเข้าใจที่ได้รับไปต่อยอด ขยายผล เพื่อการพัฒนาพื้นที่ตามบร ิบทของภูมิสังคมและยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนอย่างยั่งยืน ค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.69 2) การน าความรู้ไปปรับใช้ในการปฏิบัติงาน ภาพรวมอยู่ในระดับดี ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.75 หัวข้อวิชาต่อการน าความรู้ไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานมากสุดคือวิชาฝึกปฏิบัติ “จิตอาสาภัยพิบัติ หาอยู่ หากิน” อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.91 รองลงมา มี๒ หัวข้อวิชาคือหัวข้อวิชาฝึกปฏิบัติการ “จิตอาสาพัฒนา เอามื้อสามัคคี” อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.85 และหัวข้อวิชาทฤษฎีใหม่ด้าน การบร ิหารจัดการทรัพยากร ดิน น้า ป่า สู่การพัฒนาตามหลักกสิกรรมธรรมชาติ อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.80 น้อยสุดคือหัวข้อกระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.50
ค 3) ความพึงพอใจต่อขั้นตอนการให้บร ิการ ภาพรวมผู้เข้ารับการฝึกอบรม มีความพึงพอใจ อยู่ในระดับดี ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.00 ระดับความพึงพอใจสูงสุดคือ ความเหมาะสมของสถานที่ อยู่ใน ระดับดีมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.25 รองลงมาคือการจัดล าดับขั้นตอนของการจัดกิจกรรม อยู่ในระดับ ดี ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.17 น้อยสุดคือความเหมาะสมของระยะเวลา อยู่ในระดับดี ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.88 4) วิทยากรของหน่วยงานที่จัด ภาพรวมความพึงพอใจ อยู่ในระดับดีมาก มีค่าเฉลี่ย 4.55 ระดับความพึงพอใจสูงสุดคือความรอบรู้ในเนื้อหาของวิทยากร อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.58 รองลงมาคือความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.56 และ น้อยที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากันคือ ความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ และการสร้างบรรยากาศเร ียนรู้ อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.54 5) เจ้าหน้าที่ผู้ให้บร ิการ/ประสานงาน ภาพรวม ความพึงพอใจ อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.62 ระดับความพึงพอใจสูงสุดคือความสุภาพ อยู่ในระดับดีมาก มีค่าเฉลี่ย 4.75 รองลงมา คือการแต่งกาย อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.60 ล าดับสุดท้ายคือการประสานงาน อยู่ในระดับ ดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.54 6) การอ านวยความสะดวก ภาพรวมความพึงพอใจ อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.44 ระดับความพึงพอใจสูงสุดคือ เจ้าหน้าที่สนับสนุน (เจ้าหน้าที่โครงการ/ครูพาท า) อยู่ในระดับ ดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.50 รองลงมาคือโสตทัศนูปกรณ์ (การสื่อสาร ระบบสัญญาณภาพและเสียง) อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.46 และเอกสารและสื่อประกอบการอบรม อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.37 7) คุณภาพการให้บร ิการ ภาพรวมความพึงพอใจ อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.52 ความพึงพอใจระดับสูงสุดคือ การได้รับความรู้ แนวคิด ทักษะ และประสบการณ์ใหม่ ๆ จากโครงการ อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.58 รองลงมาคือ สิ่งที่ท่านได้รบัจากโครงการตรงตามความ คาดหวังของผู้เข้าอบรม อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.54 และน้อยที่สุด คือ ประโยชน์ที่ได้รับ จากโครงการ อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.40 8) ความพึงพอใจต่อโครงการ ภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.52 9) วิทยากรและหัวข้อวิชา ภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.67 2. หลักสูตร “ผู้น านักขับเคลื่อนยุทธศาสตรน์ าการเปลี่ยนแปลงสู่เป้าหมายการพัฒนาทยี่ั่งยืน” ระดับจังหวัด 76 จังหวัด (Province – Change Agent for Strategic Transformation : P- CAST) 1) การบรรลุวัตถุประสงค์โครงการ ภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.66 วัตถุประสงค์ที่มีค่าเฉลี่ยมากสุดเท่ากัน คือวัตถุประสงค์ข้อที่ 1 เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ผู้เข้า รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับหลักการทรงงานและการพัฒนาประเทศตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อน ามาปรับใช้ในการปฏิบัติราชการเพื่อ "บ าบัดทุกข์ บ ารุงสุข" ให้แก่พี่น้องประชาชน และ
ง วัตถุประสงค์ข้อที่ 4 เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนเร ียนรู้ซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็น ประโยชน์ในการพัฒนาเคร ือข่ายในการท างานเป็นทีม ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจส าคัญส าหรับการท างาน ร่วมกันในปัจจุบัน รวมถึงการสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน ท าให้เกิดพลังในการขับเคลื่อนภารกิจ ของกระทรวงมหาดไทย อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.67 น้อยสุดคือวัตถุประสงค์ข้อที่ 3 เพื่อให้ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมน าความรู้ความเข้าใจที่ได้รับไปต่อยอด ขยายผล เพื่อการพัฒนาพื้นที่ตามบร ิบท ของภูมิสังคมและยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนอย่างยั่งยืน เท่ากับ ๔.64 2) การน าความรู้ไปปรับใช้ในการปฏิบัติงาน ภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.61 หัวข้อวิชาต่อการน าความรู้ไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานมากสุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากันคือ วิชาฝึกปฏิบัติ “จิต อาสาภัยพิบัติ หาอยู่ หากิน” และการพัฒนาเมืองและการขับเคลื่อนเขตพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียงใน บร ิบทของการร่วมทุน 3 ภาคี ภาครัฐ ภาคประชาชน และภาคเอกชน อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.65 รองลงมาคือ หัวข้อวิชาทฤษฎีใหม่ด้านการบร ิหารจัดการทรัพยากร ดิน น้า ป่า สู่การพัฒนาตามหลัก กสิกรรมธรรมชาติ อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.64 น้อยสุดคือ หัวข้อ ฝึกปฏิบัติการจัดท าแผน แม่บทการขับเคลื่อนงานพื้นที่จากการจัดท าแผนและประสานแผนพัฒนาพื้นที่แบบบูรณาการ อยู่ใน ระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.55 3) การให้บร ิการ ภาพรวมผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความพึงพอใจ อยู่ในระดับดี ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.37 ระดับความพึงพอใจสูงสุดคือ ความเหมาะสมของสถานที่ อยู่ในระดับดีมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.64 รองลงมาคือการจัดล าดับขั้นตอนของการจัดกิจกรรม อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.46 น้อยสุดคือ ความเหมาะสมของระยะเวลา อยู่ในระดับดี ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.07 4) วิทยากรของหน่วยงานที่จัด ภาพรวมความพึงพอใจ อยู่ในระดับดีมาก มีค่าเฉลี่ย 4.56 ระดับความพึงพอใจสูงสุดคือการสร้างบรรยากาศการเร ียนรู้ อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.60 รองลงมาคือความรอบรู้ในเนื้อหาของวิทยากร อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.59 รองลงมาคือ การเปิดโอกาสให้ซักถามและแสดงความคิดเห็น อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.54 และน้อยสุด คือความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.56 5) เจ้าหน้าที่ผู้ให้บร ิการ/ประสานงาน ภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.69 ระดับความพึงพอใจสูงสุดคือการแต่งกาย อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.72 รองลงมาคือ ความสุภาพ อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.71 ล าดับสุดท้ายคือ การตอบค าถาม อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.65 6) การอ านวยความสะดวก ภาพรวมความพึงพอใจ อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.55 ระดับความพึงพอใจสูงสุดคือ เจ้าหน้าที่สนับสนุน (เจ้าหน้าที่โครงการ/ครูพาท า) อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.64 รองลงมามีค่าเฉลี่ยเท่ากันคือ โสตทัศนูปกรณ์ (การสื่อสาร ระบบสัญญาณภาพ และเสียง) และเอกสารและสื่อประกอบการอบรม อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.50
จ 7) คุณภาพการให้บร ิการ ภาพรวมความพึงพอใจอยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.56 ความพึงพอใจระดับสูงสุดคือ การได้รับความรู้ แนวคิด ทักษะ และประสบการณ์ใหม่ ๆ จากโครงการ อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.62 รองลงมาคือ สามารถน าสิ่งที่ได้รบัจากโครงการไปใชใ้นการ เร ียนรู้ อยู่ในระดับดีมาก มีค่าเฉลี่ย 4.60 และประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการ อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.59 และน้อยที่สุดคือสัดส่วนระหว่างฝึกอบรมภาคทฤษฎีกับปฏิบัติ มีความเหมาะสม อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.45 8) ความพึงพอใจต่อโครงการ ภาพรวม อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.61 9) วิทยากรและหัวข้อวิชา ภาพรวม อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.45 3. หลักสูตร “ผู้น านักขับเคลื่อนยุทธศาสตรน์ าการเปลี่ยนแปลงสู่เป้าหมายการพัฒนาทยี่ั่งยืน” ระดับกระทรวง (Ministry of Interior – Change Agent for Strategic Transformation : MOI CAST) 1) การบรรลุวัตถุประสงค์โครงการ ภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.73 วัตถุประสงค์ที่มีค่าเฉลี่ยมากสุดเท่ากันทุกข้อ ประกอบด้วย วัตถุประสงค์ข้อที่ 1 เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจให้แก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมเกี่ยวกับหลักการทรงงานและการพัฒนาประเทศตามหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อน ามาปรับใช้ในการปฏิบัติราชการเพื่อ "บ าบัดทุกข์ บ ารุงสุข" ให้แก่พี่น้องประชาชน วัตถุประสงค์ข้อที่ 2 เพื่อปลูกฝังค่านิยมการเป็นผู้น าการเปลี่ยนแปลงแก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรม ซึ่งน าไปสู่การขับเคลื่อนและสร้างกลไกการท างานร่วมกันระหว่างภาคีเคร ือข่ายต่าง ๆ สนับสนุน/ ส่งเสร ิมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการพัฒนากิจกรรมสาธารณประโยชน์ที่ส่งผลต่อการสร้างสังคม/ ชุมชนที่เข้มแข็ง การปรับเปลี่ยนค่านิยมให้เสียสละ มีจิตอาสา จิตสาธารณะ เอื้อเฟื้ อแบ่งปันแก่ผู้อื่น เป็นพลังส าคัญในการจัดการกับปัญหาความเหลื่อมล้า การพัฒนาตนเองและการจัดการของชุมชน ท้องถิ่น วัตถุประสงค์ข้อที่3 เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมน าความรู้ความเข้าใจที่ได้รับไปต่อยอด ขยายผล เพื่อการพัฒนาพื้นที่ตามบร ิบทของภูมิสังคมและยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน อย่างยั่งยืน และข้อที่ 4 เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนเร ียนรู้ซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นประโยชน์ในการพัฒนาเคร ือข่ายในการท างานเป็นทีม ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจส าคัญส าหรับการ ท างานร่วมกันในปัจจุบัน รวมถึงการสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน ท าให้เกิดพลังในการขับเคลื่อน ภารกิจของกระทรวงมหาดไทย 2) การน าความรู้ไปปรับใช้ในการปฏิบัติงาน ภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.64 หัวข้อวิชาต่อการน าความรู้ไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานมากสุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากัน 2 หัวข้อ คือ หัวข้อการพัฒนาภูมิสังคมอย่างยั่งยืนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง และหัวข้อ ฝึกปฏิบัติการทฤษฎีใหม่ด้านการบร ิหารจัดการทรัพยากรดิน น้า ป่า สู่การพัฒนาตามหลักกสิกรรม ธรรมชาติ อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.73 น้อยสุดมีค่าเฉลี่ยเท่ากัน 3 หัวข้อวิชา แต่ยังอยู่ใน ระดับดีมาก คือหัวข้อฝึกปฏิบัติการ P-CAST to MOI-CAST for SDGs(จากจังหวัดสู่กรม/รัฐวิสาหกิจ)
ฉ หัวข้อจัดท าแผนแม่บทการขับเคลื่อนงานพื้นที่จากการจัดท าแผนและประสานแผนพัฒนาพื้นที่แบบ บูรณาการ (จากจังหวัดสู่กรม/รัฐวิสาหกิจสู่กระทรวง) และหัวข้อการจัดท าแผนแม่บทการขับเคลื่อน งานพื้นที่จากการจัดท าแผนและประสานแผนพัฒนาพื้นที่แบบบูรณาการ (จากกรม/รัฐวิสาหกิจ สู่กระทรวง) ค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.55 3) การให้บร ิการ ภาพรวมผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.45 ระดับความพึงพอใจสูงสุดคือ ความเหมาะสมของสถานที่อยู่ในระดับดีมากมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.58 รองลงมาคือการจัดล าดับขั้นตอนของการจัดกิจกรรม อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.52 น้อยสุดคือ ความเหมาะสมของระยะเวลา อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.33 4) วิทยากรของหน่วยงานที่จัด ภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก มีค่าเฉลี่ย 4.78 ระดับความ พึงพอใจสูงสุดมีค่าเฉลี่ยเท่ากัน 3 หัวข้อ คือความรอบรู้ในเนื้อหาของวิทยากร การเปิดโอกาส ให้ซักถามและแสดงความคิดเห็น การสร้างบรรยากาศการเร ียนรู้ อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.79 และน้อยสุดคือความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.76 5) เจ้าหน้าที่ผู้ให้บร ิการ/ประสานงาน ภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.78 ระดับความพึงพอใจสูงสุดคือความสุภาพ อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.82 รองลงมาคือการ ประสานงาน อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.79 และน้อยสุดมีค่าเฉลี่ยเท่ากัน 2 หัวข้อ คือ การแต่งกาย และการตอบค าถาม อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.76 6) การอ านวยความสะดวก ภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.72 ระดับความ พึงพอใจสูงสุดคือ เจ้าหน้าที่สนับสนุน (เจ้าหน้าที่โครงการ/ครูพาท า) อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.76 รองลงมา คือโสตทัศนูปกรณ์ (การสื่อสาร ระบบสัญญาณภาพและเสียง) อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.73 และน้อยสุดคือเอกสารและสื่อประกอบการอบรม อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.50 7) คุณภาพการให้บร ิการ ภาพรวมความพึงพอใจ อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.56 ความพึงพอใจระดับสูงสุดคือ การได้รับความรู้ แนวคิด ทักษะ และประสบการณ์ใหม่ ๆ จากโครงการ อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.62 รองลงมาคือ สามารถน าสิ่งที่ได้รบัจากโครงการไปใชใ้นการ เร ียนรู้ อยู่ในระดับดีมาก มีค่าเฉลี่ย 4.60 และประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการ อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.59 และน้อยที่สุดคือสัดส่วนระหว่างฝึกอบรมภาคทฤษฎีกับปฏิบัติมีความเหมาะสม อยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.45 8) ความพึงพอใจต่อโครงการ ภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.58 9) วิทยากรและหัวข้อวิชา ภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.59
สารบัญ หน้า บทสรุปผู้บร ิหาร ก - ฉ ส่วนที่ 1 บทน า 1 - 11 ส่วนที่ 2 ท าไมต้อง CAST - ท าไมต้อง “INS - CAST” 12 - 25 - ท าไมต้อง “P - CAST” 26 - 31 - ท าไมต้อง “MOI – CAST” 32 - 41 ส่วนที่ 3 รายงานผลการฝึกอบรม - หลักสูตร “ผู้น านักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์น าการเปลี่ยนแปลง 42 - 50 สู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” ระดับกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยและผู้ตรวจราชการกรม) (Inspector – Change Agent for Strategic Transformation) - หลักสูตร “ผู้น านักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์น าการเปลี่ยนแปลง 51 - 59 สู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” ระดับจังหวัด 76 จังหวัด (Province – Change Agent for Strategic Transformation) - หลักสูตร “ผู้น านักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์น าการเปลี่ยนแปลง 60 - 69 สู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” ระดับกระทรวง (Ministry of Interior – Change Agent for Strategic Transformation) ส่วนที่ 4 ภาคผนวก 70 - 72
1 ส่วนที่ ๑ บทน า 1. หลักการและเหตุผล ๑.๑ ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๘๐) ได้ก าหนดวิสัยทัศน์ว่า “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งประกอบด้วย ๖ ยุทธศาสตร์ได้แก่ ๑) ยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง ๒) ยุทธศาสตร์ชาติด้าน การสร้างความสามารถในการแข่งขัน ๓) ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสร ิมสร้างศักยภาพทรัพยากร มนุษย์ ๔) ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาส และความเสมอภาคทางสังคม ๕) ยุทธศาสตร์ชาติด้าน การสรา้งการเติบโตบนคุณภาพชวีติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ ๖) ยุทธศาสตรช์าติด้านการปรบัสมดุล และพัฒนาระบบการบร ิหารจัดการภาครัฐ ยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง ได้ก าหนดประเด็นการพัฒนาและเสร ิมสร้างความ จงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติ เพื่อให้คนในชาติมีจิตส านึกรักและหวงแหน มุ่งจงรักภักดี พรอ้มธา รงรกัษาไว้ซึ่งสถาบันชาติศาสนา พระมหากษัตรยิ์ให้เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวและศูนย์รวมจิตใจ หนึ่งเดียวกันของคนทั้งชาติ โดยปลูกฝังและสร้างความตระหนักรู้ถึงความส าคัญของสถาบันหลัก ของชาติ รณรงค์เสร ิมสร้างความรักและภาคภูมิใจในความเป็นคนไทยและชาติไทย ผ่านทางกลไกต่าง ๆ รวมถึงการศึกษาประวัติศาสตร์ในเชิงสร้างสรรค์ น้อมน าและเผยแพร่ศาสตร์พระราชา หลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง รวมถึงแนวทางพระราชด าร ิต่าง ๆ ให้เกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้และน าไปประยุกต์ ปฏิบัติใช้อย่างกว้างขวาง อีกทั้งยังช่วยส่งเสร ิมให้เกิดการปลูกฝังและสร้างความตระหนักรู้ถึง ความส าคัญของสถาบันหลักของชาติ ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน มีเป้าหมายการพัฒนาที่มุ่งเน้น การยกระดับศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติ บนพื้นฐานแนวคิด ๓ ประการ ได้แก่ (๑) “ต่อยอด อดีต” โดยมองกลับไปที่รากเหง้าทางเศรษฐกิจ อัตลักษณ์ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และจุดเด่นทาง ทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย รวมทั้งความได้เปร ียบเชิงเปร ียบเทียบของประเทศในด้านอื่น ๆ น ามาประยุกต์ผสมผสานกับเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อให้สอดรับกับบร ิบทของเศรษฐกิจและสังคม โลกสมัยใหม่ (๒) “ปรับปัจจุบัน” เพื่อปูทางสู่อนาคตผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศในมิติ ต่าง ๆ ทั้งโครงข่ายระบบคมนาคมและขนส่ง โครงสร้างพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และดิจิทัล และการปรับสภาพแวดล้อม ให้เอื้อต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมและบร ิการอนาคต และ (๓) “สร้างคุณค่า ใหม่ในอนาคต” ด้วยการเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการ พัฒนาคนรุน่ ใหม่ ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสร ิมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ มีเป้าหมาย การพัฒนาที่ส าคัญเพื่อพัฒนาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี เก่ง และมีคุณภาพ โดยคนไทย มีความพร้อมทั้งกาย ใจ สติปัญญา มีพัฒนาการที่ดีรอบด้านและมีสุขภาวะที่ดีในทุกช่วงวัย มีจิตสาธารณะ รับผิดชอบต่อสังคมและผู้อื่น มัธยัสถ์ อดออม โอบอ้อมอาร ี มีวินัย รักษาศีลธรรม และ เป็นพลเมืองดีของชาติมีหลักคิดที่ถูกต้อง มีทักษะที่จ าเป็นในศตวรรษที่ ๒๑
2 ยุทธศาสตรช์าติด้านการสรา้งการเติบโตบนคุณภาพชีวติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีเป้าหมายการพัฒนาที่ส าคัญเพื่อน าไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ธรรมาภิบาล และความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือระหว่างกันทั้งภายในและ ภายนอกประเทศ อย่างบูรณาการ ใช้พื้นที่ เป็นตัวตั้งในการก าหนดกลยุทธ์และแผนงาน และการให้ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้เข้ามามีส่วนร่วม ในแบบทางตรงให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยเป็นการ ด าเนินการบนพื้นฐานการเติบโตรว่มกัน ไม่ว่าจะเป็นทางเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิต โดยให้ความส าคัญกับการสร้างสมดุลทั้ง ๓ ด้าน อันจะน าไปสู่ความยั่งยืนเพื่อคนรุ่นต่อไปอย่างแท้จร ิง ยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและการพัฒนาระบบการบร ิหารจัดการภาครัฐ มีเป้าหมายการพัฒนาที่ส าคัญเพื่อปรับเปลี่ยนภาครัฐที่ยึดหลัก “ภาครัฐของประชาชนเพื่อประชาชน และประโยชน์ส่วนรวม” โดยภาครัฐต้องมีขนาดที่เหมาะสมกับบทบาทภารกิจ แยกแยะบทบาท หน่วยงานของรัฐที่ท าหน้าที่ในการก ากับหร ือในการให้บร ิการในระบบเศรษฐกิจที่มีการแข่งขัน มีขีดสมรรถนะสูง ยึดหลัก ธรรมาภิบาล ปรับวัฒนธรรมการท างานให้มุ่งผลสัมฤทธแิ์ละผลประโยชน์ ส่วนรวม มีความทันสมัยและพร้อมที่จะปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การน านวัตกรรม เทคโนโลยีข้อมูลขนาดใหญ่ และระบบการท างานที่เป็นระบบ ดิจิทัลเข้ามาประยุกต์ใช้อย่างคุ้มค่า และปฏิบัติงานเทียบได้กับมาตรฐานสากล รวมทั้งมีลักษณะเปิดกว้าง เชื่อมโยงถึงกัน และเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อตอบสนองความต้องการของ ประชาชนได้อย่างสะดวก รวดเร็วและโปร่งใส โดยมีประเด็นยุทธศาสตร์ด้านการปรับสมดุลและการ พัฒนาระบบการบร ิหารจัดการภาครัฐ ดังนี้ 1) ภาครัฐที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง การตอบสนองความต้องการ และให้บร ิการอย่าง สะดวกรวดเร็ว โปร่งใส หน่วยงานของรัฐต้องร่วมมือและช่วยเหลือกันในการปฏิบัติหน้าที่ มีระบบ การบร ิหารจัดการที่ทันสมัยมีประสิทธิภาพ มีความโปร่งใส ให้การบร ิหารราชการแผ่นดินทั้งราชการ ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่นและงานของรฐัอย่างอื่นให้เป็นไปตามหลักการบรหิารกิจการ บ้านเมืองที่ดีสร้างประโยชน์สุขแก่ประชาชน การให้บร ิการสาธารณะของภาครัฐได้มาตรฐานสากลและเป็นระดับแนวหน้าของ ภูมิภาค ปรับรูปแบบและวิธีการด าเนินการของภาครัฐมีลักษณะที่เบ็ดเสร็จ ครบวงจร และหลากหลาย รูปแบบตามความต้องการของผู้รับบร ิการ มีความร่วมมือกับภาคีอื่น ๆ พร้อมทั้งปรับปรุงกลไก การปฏิบัติงานของภาครัฐให้มีลักษณะบูรณาการ สามารถส่งเสร ิมภารกิจของภาคส่วนต่าง ๆ ภาครัฐมีความเชื่อมโยงในการให้บร ิการสาธารณะต่าง ๆ ผ่านการน าเทคโนโลยีดิจิทัล มาประยุกต์ใช้ มีระบบการบร ิหารจัดการข้อมูลที่มีความเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานและแหล่งข้อมูลต่าง ๆ น าไปสู่การวิเคราะห์การจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อการพัฒนานโยบายและการให้บร ิการภาครัฐ มีการ น าเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการให้บร ิการสาธารณะตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ เพื่อให้ สามารถติดต่อราชการได้โดยง่าย สะดวก รวดเร็ว โปร่งใส เสียค่าใช้จ่ายน้อย และตรวจสอบได้
3 ๒) ภาครัฐบร ิหารงานแบบบูรณาการโดยมียุทธศาสตร์ชาติเป็นเป้าหมายและเชื่อมโยง การพัฒนาในทุกระดับ ทุกประเด็น ทุกภารกิจ และทุกพื้นที่ การบร ิหารจัดการภาครัฐมีความสอดคล้อง เชื่อมโยงและเป็นกลไกส าคัญในการน ายุทธศาสตร์ชาติสู่การปฏิบัติในทุกระดับ ระบบติดตามประเมินผลที่สะท้อนการบรรลุเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติในทุกระดับ มีการติดตามประเมินผลทั้งก่อนเรม่ิโครงการ ระหว่างด าเนินการ และหลังการด าเนินงาน เป็นการติดตาม ประเมินผลทั้งระบบ ตั้งแต่ปัจจัยน าเข้า กระบวนการด าเนินการ ผลผลิต ผลลัพธ์ และผลกระทบต่อ การบรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติตั้งแต่ระดับชาติ ระดับประเด็นการพัฒนา ระดับหน่วยงาน และ ระดับพื้นที่ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามามีส่วนร่วมในการติดตามประเมินผล และจัดให้ มีการรายงานการติดตามประเมินผลในการบรรลุเป้าหมายต่อสาธารณะเป็นประจ า รวมทั้งการตรวจสอบ โดยองค์กรอิสระต้องเป็นไปเพื่อส่งเสร ิมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ ๑.๒ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๓ ให้ความส าคัญกับการเสร ิมสร้างความ เข้มแข็งจากภายใน ให้สามารถเติบโตต่อไปได้อย่างมั่นคง ท่ามกลางความผันแปรที่เกิดขึ้นรอบด้าน และ ค านึงถึงผลประโยชน์ของประเทศทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน สามารถก้าวข้าม ความท้าทายต่าง ๆ เพื่อให้ “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการ พัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ตามเจตนารมณ์ของยุทธศาสตร์ชาติ ได้อาศัยหลักการ และแนวคิด ๔ ประการ ดังนี้ 1) หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยสืบสาน รักษา ต่อยอดการพัฒนาตามหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ผ่านการก าหนดทิศทางการพัฒนาประเทศอย่างมีเหตุผล ความพอประมาณ ภูมิคุ้มกันบนฐานของความรู้ คุณธรรม และความเพียร โดยค านึงถึงความสอดคล้องกับสถานการณ์ และเงื่อนไขระดับประเทศและระดับโลกทั้งในปัจจุบันและอนาคตอันใกล้ และศักยภาพของทุนทาง เศรษฐกิจ ทุนทางสังคม และทุนทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศ ให้ความส าคัญกับการ เสร ิมสร้างความสมดุลในมิติต่าง ๆ ทั้งความสมดุลระหว่างการพัฒนาความสามารถในการแข่งขันกับ ต่างประเทศกับความสามารถในการพึ่งตนเองได้อย่างมั่นคง ความสมดุลของการกระจายโอกาสเพื่อ ลดความเหลื่อมล้าระหว่างกลุ่มคนและพื้นที่ และความสมดุลทางธรรมชาติเพื่อให้คนอยู่ร่วมกับ ทรพัยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน รวมถึงการบรหิารจัดการองคาพยพต่าง ๆ ของประเทศ ให้พร้อมรับกับความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายในประเทศ 2) การสร้างความสามารถในการ “ล้มแล้ว ลุกไว” โดยมุ่งเน้นการพัฒนาใน ๓ ระดับ ประกอบด้วย (๑) การพร้อมรับ หร ือ ระดับ “อยู่รอด” ในการแก้ไขข้อจ ากัดหร ือจุดอ่อนที่มีอยู่ ซึ่งเป็น ผลให้ประชาชนประสบความยากล าบากในการด ารงชีวิต หร ือท าให้ประเทศมีความเปราะบางต่อการ เปลี่ยนแปลงจากภายนอกและภายในรวมถึงการสร้างความพร้อมในทุกระดับในการรับมือกับสภาวะ วิกฤติที่อาจเกิดขึ้นให้สามารถฟื้ นคืนสู่ภาวะปกติได้อย่างรวดเร็ว (๒) การปรับตัว หร ือ ระดับ “พอเพียง” ในการปรับเปลี่ยนปัจจัยที่จ าเป็นเพื่อเสร ิมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
4 ตั้งแต่ในระดับครอบครัว ชุมชน พื้นที่ และประเทศ รวมถึงปรับทิศทางรูปแบบ และแนวทางการพัฒนาให้ สอดรับกับกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ และ (๓) การเปลี่ยนแปลงเพื่อพร้อมเติบโตอย่างยั่งยืน หร ือระดับ “ยั่งยืน” ในการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในมิติต่าง ๆ เพื่อเสร ิมสร้าง ความสามารถของบุคคลและสังคมในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเพื่อสนับสนุนให้ประเทศสามารถ เติบโตได้อย่างมีคุณภาพและยั่งยืน 3) เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติซึ่งอยู่บนพื้นฐานของแนวคิด “ไม่ทิ้งใคร ไว้ข้างหลัง” โดยมุ่งเสร ิมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนทุกกลุ่ม ทั้งในมิติของการมีปัจจัยที่จ าเป็น ส าหรับการด ารงชีวิตขั้นพื้นฐานที่เพียงพอ การมีสภาพแวดล้อมที่ดี การมีปัจจัยสนับสนุนให้มีสุขภาพ ที่สมบูรณ์ ทั้งทางร่างกายและจิตใจ การมีโอกาสที่จะใช้ศักยภาพของตนในการสร้างความเป็นอยู่ที่ดี และการมุ่งส่งต่อทรพัยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ดีไปยังคนรุน่ต่อไป 4) การพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว โดยให้ความส าคัญกับ การประยุกต์ใช้องค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีสมัยใหม่ และความคิดสร้างสรรค์ เพื่อสร้าง มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ควบคู่กับการรกัษาความสมดุลระหว่างการอนุรกัษ์และการใช้ประโยชน์ จากฐานทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิต การให้บร ิการและการบรโิภคเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ การขับเคลื่อนแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๓ ก าหนดให้มีการติดตามและประเมินผล ซึ่งครอบคลุมทั้งการติดตามประเมินผลในระดับของแผนงานและโครงการ โดยเฉพาะแผนงานและ โครงการที่มีความส าคัญในระดับสูงต่อการบรรลุเป้าหมายของแต่ละหมุดหมาย เพื่อส่งข้อมูลย้อนกลับ ให้แก่หน่วยงานและภาคีการพัฒนาที่เกี่ยวข้อง น าไปทบทวนและปรับปรุงแผนและวิธีการด าเนินงาน ให้เป็นไปตามเป้าหมาย รวมไปถึงการวัดผลสัมฤทธิข์องการพัฒนาในภาพรวมของหมุดหมายและ เป้าหมายหลักตามตัวชี้วัดที่ก าหนดไว้ในแผน ทั้งนี้ ในการติดตามและประเมินผลในทุกระดับ ต้องผลักดันให้มีการบูรณาการและการมีส่วนร่วมเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความโปร่งใส โดยการติดตามและประเมินผลการขับเคลื่อนแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๓ ประกอบด้วยการด าเนินงานใน ๓ ส่วน ดังนี้ ๑) การติดตามความก้าวหน้า เป็นการติดตามประเมินผลในระหว่างที่แผนงานโครงการต่าง ๆ อยู่ระหว่างการด าเนินการ เพื่อตรวจติดตามว่าการด าเนินการเป็นไปตามวัตถุประสงค์ เป้าหมาย กรอบ ระยะเวลาและการส ารวจปัญหาอุปสรรคที่อาจส่งผลให้การด าเนินการล่าช้าและไม่สามารถบรรลุ ผลสัมฤทธิ์ตามที่ก าหนด โดยอาศัยกลไกและหน่วยงานในทุกระดับที่มีภารกิจในการติดตามการ ด าเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ อาทิผู้ตรวจราชการในระดับต่าง ๆ ผ่านการบูรณาการการท างาน ร่วมกัน และจัดให้มีการรายงานผลการติดตามและประเมินผลต่อกลไกการบูรณาการแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ ตามรอบระยะเวลาที่เหมาะสม
5 ๒) การประเมินผลสัมฤทธิ์เป็นการประเมินผลว่าแผนงานและโครงการที่ด าเนินการแล้ว เสร็จสามารถบรรลุเป้าหมาย ผลผลิต และผลลัพธ์ตามที่ก าหนดไว้มากน้อยเพียงใด รวมถึงการประเมิน ความส าเร็จตามตัวชี้วัดในระดับของหมุดหมายและเป้าหมายหลักของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๓ ทั้งใน ระหว่างและหลังจากสิ้นสุดระยะเวลาของแผน โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานในส่วนกลางและ หน่วยงานในระดับพื้นที่รายงานความก้าวหน้าและผลสัมฤทธกิ์ารด าเนินงานตามแผนปฏิบัติราชการ ในระบบติดตามและประเมินผลแห่งชาติโดยแสดงผลให้เห็นถึงการบรรลุเป้าหมายตามแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๓ ทั้งโดยตรงและโดยอ้อมเพื่อน าไปสู่กระบวนการประมวลข้อมูล และน าเสนอผลการประเมินผลสัมฤทธิ์ ในภาพรวมของการขับเคลื่อนแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๓ ต่อกลไกการบูรณาการแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ ๓) การประเมินผลกระทบ เป็นการศึกษาวิเคราะห์ถึงการเปลี่ยนแปลงในทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมที่เกิดเนื่องมาจากการด าเนินงานที่ส าคัญภายใต้แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๓ ทั้งการเปลี่ยนแปลง ในระดับมหภาค การเปลี่ยนแปลงในระดับพื้นที่ และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับกลุ่มเป้าหมาย ตลอดจนความสามารถในการสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ ๑.3 ค าแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตร ีต่อรัฐสภา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ ก าหนดนโยบายหลัก ๑๒ ด้าน ด้านที่ ๑ การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตร ิย์ สืบสาน รักษาต่อยอดศาสตร์พระราชาและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชด าร ิ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นหลักส าคัญในการบ าบัดทุกข์และบ ารุงสุขให้ประชาชนและ พัฒนาประเทศ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รวมทั้งส่งเสร ิมการเร ียนรู้หลักการทรงงาน การน ามา ประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติราชการและการพัฒนาประเทศ เพื่อประโยชน์ในวงกว้าง รวมทั้งเผยแพร่ ศาสตร์พระราชาและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่เวทีโลกเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน สร้างความตระหนักรู้ เผยแพร่ และปลูกฝังให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจ ที่ถูกต้อง และเป็นจร ิงเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตร ิย์และพระราชกรณียกิจเพื่อประชาชน ตลอดจน พระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตร ิย์ทุกพระองค์ เพื่อก่อให้เกิดการมีส่วนร่วมอย่างถูกต้องกับการ ปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตร ิย์ทรงเป็นประมุขในบร ิบทของไทย ด้านที่ ๗ การพัฒนาสร้างความเข้มแข็งจากฐานราก ประเด็น สร้างความเข้มแข็งของชุมชน สร้างผู้น าชุมชน ยกย่องปราชญ์ชาวบ้าน เพื่อเป็นผู้น าการเปลี่ยนแปลง เป็น วิทยากรในการขับเคลื่อนและสร้างกลไกการท างานร่วมกันของภาคส่วนต่าง ๆ ในการมีส่วนร่วมในกิจกรรม การพัฒนา กิจกรรมสาธารณประโยชน์ที่ส่งผลต่อการสร้างสังคมที่เข้มแข็ง การปรับเปลี่ยนค่านิยม คนไทยให้เสียสละ มีจิตอาสา จิตสาธารณะ เอื้อเฟื้อแบ่งปันผู้อื่น และเป็นพลังส าคัญในการจัดการปัญหา ความเหลื่อมล้า การพัฒนาตนเองและการจดัการของชุมชนท้องถิ่น
6 สร้างพลังในชุมชน โดยส่งเสร ิมให้เกิดการสร้างพลังทางสังคม ภาคีเคร ือข่าย การรวมตัวของภาคส่วนต่าง ๆ ในชุมชนมาเป็นก าลังในการพัฒนาเพื่อส่วนรวม โดยให้ความส าคัญกับ การสร้างพลังจิตอาสา สร้างพลังแผ่นดินเพื่อพัฒนาศักยภาพและสร้างเอกภาพแก่กลุ่มอาสาสมัครรูปแบบ ต่าง ๆ การสร้างพลังสร้างสรรค์เพื่อส่งเสร ิมกิจกรรมทางสังคมของคนทุกวัยผ่านการสร้างพื้นที่สร้างสรรค์ ในรูปแบบต่าง ๆ และการสร้างพลังภูมิคุ้มกันเพื่อการใช้สื่อออนไลน์อย่างสร้างสรรค์ และประชาชนมีส่วนร่วม ในการเฝ้าระวังและเตือนภัย ๑.๔ แผนปฏิบัติราชการกระทรวงมหาดไทย (พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๗๐) ได้ก าหนดวิสัยทัศน์ไว้ว่า “ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ชุมชนเข้มแข็ง เมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน บนฐานหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง” มีประเด็นยุทธศาสตร์ จ านวน ๔ ประเด็น ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ ๑ การเสร ิมสร้างความสงบเร ียบร้อยและความมั่นคงภายใน ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ ๒ การลดความเหลื่อมล้าทางสังคม สร้างความเข้มแข็งของชุมชน และพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ ๓ การพัฒนาภูมิภาค เมือง และพื้นที่เศรษฐกิจ ให้เติบโตอย่างสมดุล ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ ๔ การพัฒนาองค์กรให้พร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลง ๑.๕ กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการส านักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย พ.ศ. ๒๕๕๓ ข้อ ๑๒ สถาบันด ารงราชานุภาพ มีอ านาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ ๑) ก าหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาข้าราชการของกระทรวง ๒) วิจัยเพื่อพัฒนาการบร ิหารและการปฏิบัติงานของส านักงานปลัดกระทรวงและ กระทรวง ๓) พัฒนาทรัพยากรบุคคลของส านักงานปลัดกระทรวงและกระทรวง ๔) ปฏิบัติงานร่วมกับหร ือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องหร ือที่ ได้รับด้วยหลักการและเหตุผลดังกล่าวข้างต้น สถาบันด ารงราชานุภาพ ส านักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจเกี่ยวกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และบร ิหารจัดการความรู้ เพื่อส่งเสร ิมวัฒนธรรมการเร ียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) และพัฒนาองค์กรไปสู่องค์กรแห่งการเร ียนรู้ จึงจัดท าโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ : ผู้บร ิหารระดับสูง กระทรวงมหาดไทย หลักสูตร “ผู้น านัก ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์น าการเปลี่ยนแปลงสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” ระดับกระทรวง ๒. วัตถุประสงค์ ๒.๑ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมเกี่ยวกับหลักการทรงงานและ การพัฒนาประเทศตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร สามารถน ามาปรับใช้ในการปฏิบัติราชการเพื่อ “บ าบัดทุกข์ บ ารุงสุข” ให้แก่พี่น้องประชาชน
7 ๒.๒ เพื่อปลูกฝังค่านิยมการเป็นผู้น าการเปลี่ยนแปลงแก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรม ซึ่งน าไปสู่การ ขับเคลื่อนและสร้างกลไกการท างานร่วมกันระหว่างภาคีเคร ือข่ายต่าง ๆ สนับสนุน/ส่งเสร ิมการมีส่วนร่วม ในกิจกรรมการพัฒนากิจกรรมสาธารณประโยชน์ที่ส่งผลต่อการสร้างสังคม/ชุมชนที่เข้มแข็ง การปรับเปลี่ยนค่านิยมให้เสียสละ มีจิตอาสา จิตสาธารณะ เอื้อเฟื้อแบ่งปันแก่ผู้อื่น เป็นพลังส าคัญ ในการจัดการกับปัญหาความเหลื่อมล้า การพัฒนาตนเองและการจดัการของชุมชนท้องถิ่น ๒.๓ เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมน าความรู้ความเข้าใจที่ได้รับไปต่อยอด ขยายผล เพื่อการ พัฒนาพื้นที่ตามบร ิบทของภูมิสังคมและยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนอย่างยั่งยืน ๒.๔ เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนเร ียนรู้ซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นประโยชน์ ในการพัฒนาเคร ือข่ายในการท างานเป็นทีม ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจส าคัญส าหรับการท างานร่วมกัน ในปัจจุบัน รวมถึงการสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน ท าให้เกิดพลังในการขับเคลื่อนภารกิจของ กระทรวงมหาดไทย ๓. กลุ่มเป้าหมาย 3.1 หลักสูตร “ผู้น านักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์น าการเปลี่ยนแปลงสู่เป้าหมายการพัฒนา ที่ยั่งยืน” ระดับกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยและผู้ตรวจราชการกรม) กลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยและผู้ตรวจราชการกรมในสังกัดกระทรวงมหาดไทย จ านวน 73 คน 3.2 หลักสูตร “ผู้น านักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์น าการเปลี่ยนแปลงสู่เป้าหมายการพัฒนา ที่ยั่งยืน” ระดับจังหวัด 76 จังหวัด กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย ภาคีเคร ือข่ายการพัฒนาพื้นที่ของ จังหวัดทุกจังหวัด จังหวัดละ 12 คน รวม 912 คน แบ่งเป็น (1) ผู้บร ิหารในราชการส่วนภูมิภาคของ กระทรวงมหาดไทยทุกจังหวัด จังหวัดละ 8 คน ได้แก่ รองผู้ว่าราชการจังหวัด (ที่ผู้ว่าราชการจังหวัด มอบหมายให้ก ากับดูแลงานด้านการพัฒนาพื้นที่ร่วมกับภาคีเคร ือข่ายต่าง ๆ) ปลัดจังหวัด หัวหน้า ส านักงานจังหวัด พัฒนาการจังหวัด เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด โยธาธิการและผังเมืองจังหวัด หัวหน้า ส านักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจงัหวัด และท้องถิ่นจงัหวัด รวม 608 คน (2) ผู้ที่ร่วมเป็นภาคี เคร ือข่ายการพัฒนาพื้นที่ของจังหวัดทุกจังหวัด จังหวัดละ 4 คน ได้แก่ ภาคีเคร ือข่ายด้านการศาสนา จ านวน 1 คน และภาคีเคร ือข่ายการพัฒนาพื้นที่ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาเห็นว่ามีความเหมาะสม สอดคล้องกับบร ิบทการพัฒนาพื้นที่ตามภูมิสังคม จ านวน 3 คน รวม 304 คน 3.3 หลักสูตร “ผู้น านักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์น าการเปลี่ยนแปลงสู่เป้าหมายการพัฒนา ที่ยั่งยืน” ระดับกระทรวง กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย ผู้บร ิหารตลอดจนบุคลากรของส่วนราชการระดับ กรมและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย จ านวน 100 คน
8 ๔. วิธีด าเนินการ ๔.๑ การบรรยายให้ความรู้ทางวิชาการโดยคณาจารย์/ผู้บร ิหาร/ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูง จากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ๔.๒ การเร ียนรู้แบบหลากหลาย อาทิ การแลกเปลี่ยนความรู้และแสดงความคิดเห็นเพื่อหา ข้อสรุปผ่านกิจกรรมการระดมสมอง (Brainstorming) อภิปรายกลุ่ม (Group Discussion) และการ น าเสนอ (Presentation) การแบ่งกลุ่มฝึกปฏิบัติการ การทัศนศึกษาเชิงประจักษ์และการฝึกปฏิบัติใน ศูนย์การเร ียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๕. ระยะเวลาและสถานที่ด าเนินการ 5.1 หลักสูตร “ผู้น านักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์น าการเปลี่ยนแปลงสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ ยั่งยืน” ระดับกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยและผู้ตรวจราชการกรม) (Inspector – Change Agent for Strategic Transformation) ด าเนินการระหว่างวันที่ 15 – 18 พฤษภาคม 2566 ณ ศูนย์ศึกษา และพัฒนาชุมชนนครนายก จังหวัดนครนายก 5.2 หลักสูตร “ผู้น านักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์น าการเปลี่ยนแปลงสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ ยั่งยืน” ระดับจังหวัด 76 จังหวัด (Province – Change Agent for Strategic Transformation) ด าเนินการระหว่างวันที่ 22 – 25 พฤษภาคม 2566 ณ ศูนย์ศึกศึกษาและพัฒนาชุมชน 11 แห่ง สถาบัน การพัฒนาชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน 5.3 หลักสูตร “ผู้น านักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์น าการเปลี่ยนแปลงสู่เป้าหมายการพัฒนา ที่ยั่งยืน” ระดับกระทรวง (Ministry of Interior – Change Agent for Strategic Transformation) ด าเนินการระหว่างวันที่ 29 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2566 ณ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครนายก จังหวัดนครนายก
9
10
11
12
13 ท าไมต้อง “ INS - CAST ” นายสุทธิพงษ์ จุลเจร ิญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย โครงการประชุมเชิงปฏิบัติการผู้บร ิหารระดับสูงกระทรวงมหาดไทย หลักสูตร ผู้น านักขับเคลื่อน ยุทธศาสตร์น าการเปลี่ยนแปลงสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ระดับกระทรวง ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้อบรมมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเข้ารับการฝึกอบรมตามหลักสูตร และสามารถน าแนวนโยบายของผู้บร ิหารไปใช้เป็นแนวทางการตรวจราชการในพื้นที่เพื่อขับเคลื่อน งานบ าบัดทุกข์ บ ารุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืนในพื้นที่ได้ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจหลักการทรงงาน และหลักการการพัฒนาประเทศตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ตลอดจนแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน อันจะเป็นประโยชน์ ต่อการพัฒนาเคร ือข่ายในการท างานเป็นทีม น าโดยที่ปร ึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทยทั้ง ๒ ท่าน รศ.ดร. วรวรรณ โรจนไพบูลย์ และผศ.พิเชฐ โสวิทยสกุล ท่านผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ผู้ตรวจราชการกรม ที่ได้เสียสละเวลาเข้ารับการอบรมเชิงปฏิบัติการผู้บร ิหารระดับสูงกระทรวงมหาดไทย หลักสูตรผู้น านักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์น าการเปลี่ยนแปลงสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ระดับกระทรวง ของกระทรวงมหาดไทย ขอบพระคุณท่านผู้บร ิหารของกระทรวงมหาดไทยทุกท่าน ที่เข้าร่วมในระบบออนไลน์ zoom cloud meeting และที่ได้เสียสละมาใช้ชีวิตร่วมกันที่ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครนายก ของกรมการ พัฒนาชุมชน เพื่อเป็นการแสดงออกถึงการบูรณาการอีกอย่างหนึ่ง การมาใช้ทรัพยากรของส่วนราชการของ กระทรวงมหาดไทย ที่มีอยู่คือศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครนายก เป็นสถานที่ให้ทุกคนมาใช้ชีวิตร่วมกัน ตลอดระยะเวลาการฝึกอบรม หลังจากที่ได้ฝึกอบรมให้กับท่านผู้บร ิหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด นายอ าเภอ และทีมงาน ซึ่งการฝึกอบรมหลักสูตรนี้เกิดจากการบูรณาการ 2 ประการ คือ 1) เป็นการบูรณาการใช้ทรัพยากรของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทยที่มีอยู่ คือ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครนายกเป็นสถานที่ให้ผู้ตรวจราชการทุกท่านได้ใช้ชีวิตร่วมกันตลอด ระยะเวลาการฝึกอบรม 2) การให้พวกเราทั้งผู้ตรวจราชการกระทรวงและกรม ได้มาสร้างความสนิทสนม คุ้นเคย มาเปิดใจแลกเปลี่ยนพูดคุยกัน ดังค าว่า “มหาดไทย” ที่มาจากค าว่า มหทย อันมีความหมายสะท้อน หัวใจแห่งการมีความรัก ความเมตตาที่ยิ่งใหญ่ที่มีต่อพี่น้องประชาชน ดังสีประจา กระทรวงมหาดไทย คือ “สีด า” ที่เป็นสีแห่งความรักที่เป็นอมตะตามความเชื่อคติทางพราหมณ์ ตรงกับหน้าที่คนมหาดไทยที่รักคนอื่น รักประชาชนมากกว่ารักตัวเอง เพื่อให้เกิดการ Change for Good บ าบัดทุกข์ บ ารุงสุข ให้กับประชาชน ที่ได้ท ามาตลอด 131 ปีที่ผ่านมา
14 การที่พวกเราทั้งกระทรวง ทั้งกรมต่าง ๆ ได้มีโอกาสมาสร้างความสนิทสนมคุ้นเคย การที่จะไป ปฏิบัติราชการของผู้ตรวจราชการ อีกต าแหน่งอื่น ๆ ในอนาคต เวลาแต่ละท่านจะมากจะน้อยไม่ส าคัญ ส าคัญที่แต่ละนาทีแต่ละชวั่ โมงที่เรายังเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจา้อยู่หัว เราจะท าในสิ่งที่ ดีเพื่อให้เกิดประโยชน์สุขกับพี่น้องประชาชน ตามเป้าหมายของพวกเราชาวมหาดไทยที่ตัดสินใจเข้ามา รับราชการก็เพื่อที่จะอยากท าหน้าที่บ าบัดทุกข์บ ารุงสุขให้กับพี่น้องประชาชน ได้มากน้อยขนาดไหน โบราณเขาก็บอกว่า มีเวลาเยอะแต่ปล่อยเวลาไปวันๆ นึง ก็ไร้ค่า มีเวลาน้อยแต่ว่าทุ่มเทท าอย่างเต็มที่ ก็จะเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดคุณค่ามากกว่าคนที่ใชเ้วลามาก ๆ ในการรบัราชการ เพราะฉะนั้นในเบื้องต้นต้อง กราบเร ียน ผมเองไม่ได้ค านึงว่าแต่ละท่านอาจจะมีอายุราชการเหลือกันอยู่คนละเท่าไหร่ แต่ค านึงว่า ในเชิงระบบแล้ว ในเชิงการท างานก็อยากให้พี่ ๆ น้อง ๆ ทุกคน เป็นทั้งพี่เลี้ยง เป็นทั้งครู มีหน้าที่ตรวจ ประเมินให้คะแนนท าการบ้านส่งครูก็ต้องตรวจให้คะแนน เสร็จแล้วผ่านการประเมินผล และหน้าที่ ที่ส าคัญที่เป็นหน้าที่พวกเราก็คือเราต้องให้ค าแนะน าเพื่อให้เขามีโอกาสในการพัฒนาปรับปรุงการ ท างานเพื่อให้เกิดสิ่งที่ดีตามมา ที่พวกเราตั้งใจกันไว้ก็คือท าให้เกิดการไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ในพื้นที่ จากการรู้ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ก็เป็นส่วนหนึ่งซึ่งเป็นอุทาหรณ์เตือนใจได้ว่าบ้านเมืองนี้อยู่ในความรับผิดชอบพวกเราด้วย แม้ว่า กฎหมายจะให้พวกเราเป็นกลางทางการเมือง แต่การเป็นกลางทางการเมืองที่เกี่ยวพันเกี่ยวข้องกับการรณรงค์ หาเสียงเลือกตั้ง แต่ในขณะเดียวกันกฎหมายก็ก าหนดให้เรามีหน้าที่ในฐานะพลเมืองหร ือในฐานะ ประชาชน ในเร ื่องของการที่เราจะต้องมีสิทธิเสร ีภาพมีความอิสระความคิดเห็นทางการเมือง ก็คือเร ื่องของ public interest ผลประโยชน์ของส่วนรวม เราก็ต้องมีสิทธใิ์นการที่จะเสนอนโยบาย มีสิทธใิ์นการที่จะเสนอ กฎหมาย มีสิทธในการที่จะแชร์ความคิดเห็น ิ์ ในเร ื่องที่เป็นสาธารณะ ซึ่งมั่นใจว่าพี่น้องมหาดไทยทุกคน มีความคิดเห็นทางการเมืองที่อยู่บนพื้นฐานที่อยากให้การเมืองนั้น เป็นการเมืองที่ท าให้พี่น้องประชาชน มีความสุข ท าให้ประเทศชาติมีความมั่นคง และสิ่งที่จะท าให้ประเทศชาติมีความมั่นคงพี่น้องประชาชน มีความสุข เร ื่องใหญ่ส าคัญที่สุดก็คือเร ื่องสถาบันหลักของชาติ ศาสนา พระมหากษัตร ิย์ จ าเป็นต้องมี ความเข้มแข็ง ความเข้มแข็งของชาติ ศาสนา สถาบันพระมหากษัตร ิย์นั้น อยู่ในมือของพวกเราทุกคน เพราะเราคือข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจา้อยู่หัวเพราะฉะนั้น สิ่งส าคัญที่สุดก็คือเราต้องท างาน รับใช้พี่น้องประชาชนด้วยความจร ิงใจ ทุ่มเท เสียสละก าลังกายก าลังใจและทุกสิ่งทุกอย่าง ในการที่จะ ทา สิ่งที่ดีให้เกิดขึ้น ทั้งหลายทั้งปวงจะเกิดขึ้นได้อยู่ที่อะไร ? นักวิชาการญี่ปุ่นบอกอยู่ที่ใจ พระพุทธเจ้าท่าน สอนและก็เหมือนกับที่คนไทยเชอื่เพราะคนไทยส่วนใหญ่เราก็นับถือศาสนาพุทธ เราเชอื่กันมาว่าทุกสิ่งทุก อย่างส าเร็จได้ด้วยใจ ท่านบอกว่าคือ passion มันเป็นเหมือน universal คือหลักสากลที่หล่อเลี้ยงชีวิต ถ้าเป็นคนไทยเราก็อาจจะบอกอยู่ที่อุดมการณ์ ถ้าเป็นฝรั่งเขาเร ียก passion ก็คือสิ่งที่กระตุ้นปลูกฝัง เราให้คนมีจติ ใจในการที่จะท าสิ่งที่ดีเชน่เกิดมาฉันอยากเป็นจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่อย่างนี้ไม่ได้เร ียกว่า passion เขาเร ียกว่าความหลงผิด ขอให้เราได้ใช้เวลาทุกนาที ทุกชั่วโมง ในฐานะข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มุ่งมั่นบ าบัดทุกข์บ ารุงสุข ทา สิ่งที่ดีให้เกิดประโยชน์สุขกับพี่น้องประชาชน ไม่ใชว่ ่ามีเวลาเยอะ แต่ปล่อย ไปวันๆ มันก็ไร้ค่า จึงต้องท าให้เวลาที่มีอยู่น้อยเป็นโอกาสที่ต้องทุ่มเทท าอย่างเต็มที่เพื่อก่อให้เกิด คุณค่า พัฒนาประสิทธิภาพการท างานของข้าราชการทุกระดับ ทั้งในเชิงระบบและเชิงการท างาน ดูแล
15 ข้าราชการรุ่นน้องเป็นประดุจดั่งลูกศิษย์ด้วยการ “ติดตาม หนุนเสร ิม ประเมิน” คือ 1) ท าหน้าที่เป็น “ครู” ผู้ให้ความรัก ความเมตตาต่อศิษย์ 2) ให้ค าสอนแก่ศิษย์ 3) ตรวจประเมินให้คะแนน และ 4) เมื่อผ่านการประเมินผลแล้ว เราต้องให้ค าแนะน าเพิ่มเติมเพื่อให้เขามีโอกาสพัฒนาปรบั ปรุง การท างานให้เกิดสิ่งที่ดีตามที่พวกเราตั้งใจท ากันไว้คือ การชว่ยเหลือประชาชนในพื้นที่อย่างสุดก าลัง ความสามารถ ด้วยการหมั่นลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับพี่น้องประชาชน ผู้ตรวจราชการกระทรวงและ ผู้ตรวจราชการกรมต้องให้ความส าคัญกับการจัดท าแผนการตรวจราชการแบบบูรณาการ พร้อมทั้ง ถ่ายทอดแนวทางการท างานและการประพฤติปฏิบัติตนของข้าราชการ ตั้งแต่เร ื่องของ “ใจ” และ “วัตรปฏิบัติโดยทั่วไป” เพื่อพัฒนาท าให้ข้าราชการเป็นผู้รอบรู้และมีประสิทธิภาพการท างาน โดยบูรณา การหน้าที่รับผิดชอบทั้งการตรวจราชการตามภารกิจ (Function - based) ที่เน้นการตรวจราชการของส่วน ราชการหร ือตามภารกิจของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง การตรวจราชการตามพื้นที่หร ือเขตตรวจราชการ (Area - based) ที่เน้นการตรวจราชการเฉพาะในเขตพื้นที่รับผิดชอบ และการตรวจราชการตาม นโยบาย (Agenda - based) ที่เน้นการตรวจราชการในประเด็นส าคัญที่ได้รับมอบหมาย รวมถึงเชิง พื้นที่ คือท าให้คนมหาดไทยทุกคนท าหน้าที่บ าบัดทุกข์ บ ารุงสุขแบบบูรณาการอย่างยั่งยืน ด้วยการเป็นผู้น าต้องท าก่อน น้อมน าพระปฐมบรมราชโองการ “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” ท าให้ทฤษฎีใหม่ที่มีมากกว่า 40 ทฤษฎีใหม่ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และหลักการทรงงาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เกิดขึ้นอย่างเป็น รูปธรรม เพราะฉะนั้นสิ่งส าคัญที่สุดที่ฝากพวกเรา ก็คือพยายามพบปะพูดคุยเพื่อที่จะกระตุ้นปลุกเรา้ ปลูกฝังสิ่งที่เราเรยีกว่าอุดมการณ์หรอื passion ให้กับลูกน้องของเรา ผู้ใต้บังคับบัญชาของเรา หรอืเพื่อนรว่มงานของเรา ยิ่งเมื่อมีข้าราชการมาบรรจุใหม่ย้ายมาใหม่ยิ่งต้องช่วยกันเอาใจใส่ ความส าคัญของการถ่ายทอดที่บอกว่าหน้าที่ ตั้งแต่เร ื่องของใจที่เราต้องปลูกฝังให้เกิดขึ้น กลับไปถึง เรอ่ืงของสิ่งที่เป็นวัตรปฏิบัติโดยทั่วไป อย่าเห็นว่าเป็นเรอ่ืงเล็กน้อย ท าอย่างไรถึงจะให้น้อง ๆ ของเรา ให้เขาเป็นผู้ที่มีความรอบรู้และมีประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่อันนี้เป็นหน้าที่ในฐานะผู้บังคับบัญชา แต่ต าแหน่งของท่านยิ่งหนักกว่านั้นอีก เพราะท่านต้องรบัผิดชอบทั้งเชงิพื้นที่ที่จะต้องให้คนมหาดไทย สามารถท าหน้าที่บ าบัดทุกข์บ ารุงสุขแบบบูรณาการอย่างยั่งยืนให้เกิดขึ้น ท่านยังมีภาระหน้าที่ ในแง่ของ Function หน้าที่ของกระทรวงที่มี Agenda หน้าที่ของกรมก็ซึ่งเป็นทั้ง Function ปกติ และ Agenda ของแต่ละอธิบดี รวมทั้ง Agenda ของปลัดกระทรวงด้วยไปด าเนินการ เพราะฉะนั้น สิ่งส าคัญอันดับแรกทุกคนต้องชว่ยกันปลุกเรา้จติ ใจตัวเองอย่าคิดว่าต าแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นต าแหน่งทางผ่าน ข้าราชการที่ยังเป็นเด็กมาอยู่กับเราก็ต้องช่วยสร้างใจของเขาให้เป็นใจที่ดี คือเร ื่องของ attitude มีความส าคัญที่สุด เพราะว่าถ้าทัศนคติไม่ดีต่อให้คุณมีความรู้ความสามารถ ในการท างานอะไรให้ส าเร็จด้วยเวลารวดเรว็สูงกว่าคนอื่น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือผลรา้ยเป็นลบ ถ้าทัศนคติ ไม่ดีเหมือนที่โบราณบอกว่า คนที่มีทัศนคติที่ไม่ดีต่อความเชื่อในการด ารงชีวิต เช่น เชื่อว่าท าไงก็ได้ ขอให้ฉันมีเงินเยอะ ๆ ฉันจะเป็นโจรหร ือเป็นอะไรก็ได้ เป็นเจ้าของเว็บไซต์พนันออนไลน์ได้เงินเยอะ ไม่ได้ค านึงว่าคนที่เล่นพนันออนไลน์จะท าให้ครอบครัวล่มจมขนาดไหน จะเป็นหนี้เป็นสิน
16 หมดเนื้อหมดตัว หมดกระทั่งที่อยู่อาศัย โดยไม่ได้คิดว่าไม่เกี่ยวกับฉันนะคุณมาเล่นเอง ฉันก็เก็บเงินอย่างเดียว กลายเป็นจอมโจรที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้น ผู้ตรวจกระทรวงจะประสบความส าเรจในการท างานได้ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่ ็ กับผู้ตรวจกระทรวงคนเดียว ยังมีผู้ช่วยผู้ตรวจ ยังมีผู้ตรวจกรมต่างๆ ยังมีคนที่อยู่ในพื้นที่ที่รับการ ตรวจจากพวกเราอีก แต่ค าถามว่าที่เราไปตรวจมีความส าคัญกับความส าเร็จของท่านผู้ตรวจและการ กระทรวงยังไง มีความส าคัญมากที่สุด เราจะรู้ความจร ิงหร ือเปล่าไม่แน่ใจ เช่น ท่านผู้ตรวจราชการเขต พื้นที่พิษณุโลก จะไปตรวจหมู่บ้านยั่งยืน บอกเขาไปก่อนสักหนึ่งสัปดาห์ เขาก็เฮโรกันไปปลูกผักสวนครัว ท่านผู้ตรวจราชการกระทรวงไปตรวจส่วนราชการก็เลยนึกว่าหมู่บ้านยั่งยืนที่นี่ดี มีความร่วมไม้ร่วมมือกัน สร้างความมั่นคงด้านอาหาร ดูแลท าบ้านเร ือนให้สะอาด มีการวางแผน กว่าจะมาท าอย่างนี้ได้เขาคงมี การพูดคุยมีการหาร ือร่วมคิดร่วมพูดปร ึกษาหาร ือร่วมท าแล้วก็ร่วมรับประโยชน์ เหมือนที่ปลัดกระทรวง บอกว่า KPI ต้องมีการร่วมคิด ร่วมพูดคุย ร่วมปร ึกษา เร ื่องท าเสร็จแล้วก็จะได้ร่วมรับประโยชน์ด้วยกัน ก็เป็นภาพลวงตา คนไทยเราเร ียกว่าผักชีโรยหน้า มีเวลาน้อย ยังท าไม่เร ียบร้อย ช่วยกันปลูกผักชีอะไรไว้ ให้ดูเยอะแยะไปหมดก็ดีแล้ว แต่คุณจะเห็นว่ามีความส าคัญกับคนที่อยู่ในพื้นที่ เห็นว่ามีความส าคัญ หลังจากผู้ตรวจไป เขาก็ยังขับเคลื่อนงานอย่างต่อเนื่อง กลับกลายเป็นว่าเขาไปช่วยกันรวมภาคี เครอืข่ายรว่มกันในการที่จะลงไปท างานแบบบูรณาการ แล้วก็ช่วยท าสิ่งที่จ าท าให้พี่น้องประชาชน เกิดความตระหนักรู้ ตื่นตัวในการที่จะดูแลครอบครัวให้มีความสุขอย่างยั่งยืนช่วยกันดูแลชุมชนหมู่บ้าน ให้เป็นหมู่บ้านที่มีความสุข มีสิ่งแวดล้อมมีคุณภาพชีวติของคนในหมู่บ้านที่ดีอย่างยั่งยืน เขาก็ไป ช่วยกันท าอย่างต่อเนื่อง เห็นความส าคัญก็เกิดขึ้น แต่ประเด็นคือถ้าเขาไม่ได้ท า เราในสถานะเป็นครู เราจะท าอย่างไร ผู้ตรวจที่สมเด็จกรมพระยาด ารงราชานุภาพได้พยายามย้าเตือนให้พวกเราออกไปตรวจเยี่ยม ในพื้นที่ ค าว่า “ตรวจเยี่ยมในพื้นที่” ไม่ใช่ไปตรวจตามรูปแบบอย่างเดียว ให้เราคิดให้เราลองพิจารณา ในการที่จะท าให้เราได้ข้อมูลที่แท้จรงิก็จะเป็นสิ่งที่ท าให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีในเชิงคุณภาพ หร ือค าว่ายั่งยืนก็จะเกิดขึ้นในลักษณะที่ “รองเท้าต้องสึกก่อนก้นกางเกงขาด” ตัวอย่าง ที่จังหวัดนครพนม อ าเภอบ้านแพง คืองานผ้าที่จังหวัดนครพนม ช่วงเวลาบ่ายสอง ไปเยี่ยมที่ว่าการอ าเภอบ้านแพง นายอ าเภอพึ่งไปอยู่ ยังไม่ได้พัฒนาที่ว่าการอ าเภอให้สะอาดดูสวยงาม ค าถามท่านจะได้ข้อมูลได้ยังไง ถ้าท่านไปตรวจในเชิงระบบหร ือเชิงทางการ เช่นเดียวกันในการตรวจราชการของทุกท่านเป็นประจ า ต้องรองเท้าสึกก่อนก้นกางเกงขาดในความหมายที่ไม่เป็นทางการด้วยขนาดจะต้องมีการตรวจทุกซอก ทุกมุมแล้วนัดหมายก็มี ส่วนในเชิงที่จะหาข้อมูลเพื่อที่จะท าหน้าที่ของครูในการประเมินผลแล้วก็อบรม สั่งสอนแนะน าผู้ใต้บังคับบัญชาที่เราไปตรวจเยี่ยม ก็จ าเป็นต้องมีเพราะก็เหมือนไปตรวจหมู่บ้านยั่งยืน ที่จังหวัดพิษณุโลก ที่ผู้ตรวจไปตรวจว่าดีแต่เร่งร ีบในการที่ไปช่วยกันปลูกป่า วางแผนจะปลูก ดอกดาวเร ืองท าเป็นกลุ่มอาชีพ จะท าเมนูอะไร ท าอะไร เพราะอะไรเพราะว่ารองเท้าผมก็สึกก่อน กางเกงขาดเหมือนกัน แล้วก็บังเอิญเป็นครั้งแรกที่จังหวัดล าปาง แล้วก็ไปพิษณุโลก ไปมาหลายครั้งก็ เป็นประโยชน์มาก แต่ว่าแล้วต่อไปจะยั่งยืนยังไง ก็ต้องแอบไปดูบ้างเหมือนกันแอบไปเยี่ยมบ้างโดยที่ เขาไม่รู้ตัว เราจะได้ให้คะแนนถูก กลับมาที่อ าเภอบ้านแพง ซึ่งผมไปโดยไม่ได้นัดหมายสิ่งที่เห็นก็คือ สถานที่ของที่ว่าการอ าเภอไม่มีความสง่างามของความเป็นที่ว่าการอ าเภอ หร ือศูนย์กลางท าเนียบ นายกรัฐมนตร ีประจ าอ าเภอ รอบ ๆ ดูรกรุงรัง มีบ้านพักราชการที่ผุพัง ชี้ให้ใครเดินไปใต้ถุนก็ไม่มีใคร กล้าเดินกลัวจะถล่มลงมา เป็นบ้านหลวงที่เป็นบ้านไม้ดูไม่ปลอดภัย เสาวิทยุก็มีเถาวัลย์มีหญ้ารกเลื้อย
17 ขึ้นไปซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบสื่อสารได้ ถังขยะเปียกลดโลกร้อนก็ไม่มีผักสวนครัว ก็ไม่มี ที่ว่าการอ าเภอเงยขึ้นไปเพดานผุพังหมดแล้ว ใต้บันไดเป็นห้องน้าไม่สะอาด เดินออกมาแล้วเลี้ยว ขวาห้องแรกห้องพัฒนาการอ าเภอ มีตู้ 2 - 3 ชั้น เป็นตู้กระจกใส่ OTOP ชั้นบนสุดจะมีหัวฤาษี มีของที่ระลึกของรัชกาลที่ 9 รูปปั้ นเหมือนกันตั้งบูชาไว้ ถัดไปห้องสรรพากร เดินเข้าไปประตูกระจก ออโตเมติก แอร์เย็นเจี๊ยบ มีเฟอร์นิเจอร์โต๊ะรับแขก มีการจัดโต๊ะเก้าอี้ท างานอย่างดี ท่านสรรพากรอ าเภอ ก็แต่งผ้าไทยสวยงาม ผมก็ชมดีจังเลยท่านสรรพากร ห้องท างานเย็น สะอาด เป็นระเบียบเร ียบร้อย ดังห้องเป็นสวรรค์ ท่านสรรพากรก็บอกว่าต้องดูแลบร ิการผู้เสียภาษี จัดสถานที่ให้ดีเพื่อบร ิการลูกค้า เสร็จแล้วก็เดินเลี้ยวขวาเดินออกจากห้องเดินย้อนกลับมาผ่านบันไดเข้าไปเป็นห้องทะเบียน แล้วก็มีห้องสัสดี มีคนลงทะเบียนรอท าบัตร ได้ถามแต่ละคนได้ใช้บัตรประชาชนดิจิตอล ThaID กันบ้างหร ือเปล่า ร้อยละ 99 บอกว่าไม่ได้ใช้หรอก ประเด็นค าถามคือว่า ผมก็บอกกับปลัดทะเบียนต้องช่วยกันรณรงค์ให้เขาใช้ คือสอนเขาใช้ จะได้ใช้ของรัฐบาลจะได้รู้สึกว่าเอาเงินภาษีมาท าแล้วมีคนใช้เยอะๆ มีแค่ QR code อันเดียวกับรู้จักวิธีการก็จบแล้ว สอนจับมือท าให้เขาดูเสร็จเขาก็ได้กลับไปท าผมให้ความส าคัญกับ การส่งเสร ิมให้ใส่ผ้าไทย เพราะเรามีหน้าที่ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้มีคุณภาพ ชีวิตที่ดี เพราะฉะนั้นผ้าไทยแต่ละเมตรกว่าจะได้มาต้องใช้เวลา แล้วเป็นการช่วยท าหน้าที่ของ ข้าราชการในพระบาทสมเด็จเจ้าอยู่หัวที่จ าเป็น ในการที่เราต้องช่วยกันในการพัฒนายกระดับคุณภาพ ชีวิตของพี่น้องประชาชนควบคู่กับการรักษาความเป็นไทยเอาไว้ให้อยู่อย่างยั่งยืนให้ได้เพราะฉะนั้นก็อย่า ไปรังเกียจ แต่จงรังเกียจการใส่เสื้อยืดมาปฏิบัติราชการในส านักงาน ถ้าคุณออกพื้นที่ออกต าบล หมู่บ้านไม่เป็นไร ท างานอยู่ในห้องทะเบียนแล้วคุณใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ กางเกงวอร์ม ถือว่าไม่ เหมาะสม ตามที่กรมการปกครองมีหนังสือเวียนแจ้งให้มีการแต่งกายให้ถูกกาลเทศะ ดังนั้นหน้าที่ของ ผู้ตรวจจึงไม่ใช่มีแค่เร ื่องของงานในหน้าที่อย่างเดียว ยังมีเร ื่องของความประพฤติความปฏิบัติของคนที่เรา ไปตรวจด้วย ก็ต้องแนะน าเขาให้อยู่ในร่องในรอย ชี้แจงให้เข้าใจวัตถุประสงค์ จะไปที่นั่นที่นี่อย่างเดียว ไม่ได้ “หมู่บ้านยั่งยืน” หากพวกเราไปตรวจราชการแบบเป็นทางการอย่างเดียวอาจจะไม่ได้ความจร ิง ต าบลที่อื่นหร ือที่จังหวัดเดียวกัน ที่อ าเภอเดียวกัน ที่ผมมาเล่าให้ฟังว่าบางทีหน้าที่ที่ส าคัญของเราต้อง มีการ create แต่ถ้าหยุดนิ่งแล้วเหมือนเราไม่มีtraction ไม่มี attitude ที่ดีในการที่เราอยากท า หน้าที่ผู้ตรวจราชการกระทรวงให้ดีแล้วก็ให้ดียิ่งขึ้น ดังนั้นถ้าคิดว่าสิ่งที่ท าผ่านมาแล้ว และที่ท าอยู่นั้นดี ไม่ดียังไงแล้วจะดีขึ้น ค าตอบที่ท ามาดีแล้วจะดีขึ้นกว่าเดิมได้ยังไง การเร ียนรู้ตลอดชีวิตจึงมี ความส าคัญ ถ้าเป็นเร ื่องของฉันหร ือฉันได้ต าแหน่งนี้แล้วก็รอจังหวะเปลี่ยนผ่านต าแหน่งเลื่อนเป็น ต าแหน่งอื่น ลักษณะของน ้ านิ่งแล้วท าให้กลายเป็นน ้ าเน่ามันก็จะเกิดขึ้น แต่ถ้าเราคิดและไม่เคยพอใจ สิ่งที่เป็นอยู่ก็จะมีความพยายามในการที่จะทบทวนระดมสมองกับเพื่อนรว่มงานกับคนที่เราอยู่ด้วยว่า เราอยากจะท าอะไรให้มันดีขึ้นได้ซงึ่แน่นอนการที่จะท าสิ่งที่ดีให้เกิดขึ้นได้ต้องแบบนี้พวกเราต้องมา อยู่ด้วยกัน เพื่อให้สนิทสนมกันแลกเปลี่ยนแนวความคิดในขณะเดียวกันหาบทสรุปที่ดีว่าเราจะมีวิธีการ ในการท างานที่ดีเพิ่มมากขึ้น ให้มีประสิทธภิาพเพิ่มมากขึ้นได้อย่างไร เรอ่ืงใหญ่ก็อยากจะให้มาปลุกจติ ใจ ของพวกเรา เป็นก าลังใจให้กับท่านผู้ตรวจกระทรวงและเป็นก าลังใจและผู้ตรวจกรมอื่น ๆ รวมทั้งกรม เราด้วยซึ่งสิ่งเหล่านี้คนไทยเราหายาก การมาฝึกอบรมมาใช้ชีวิตร่วมกันวัตถุประสงค์ดีหมดแต่ ท้ายที่สุดในความส าเร็จจะไม่เกิดขึ้น เพราะคนไทยเป็นคนปิดกั้นตัวเองเราต้องเปิดใจ ส่วนจะเชื่อ
18 หร ือเปล่าเราต้องไตร่ตรอง บางอย่างเชื่อแต่ว่าแก้ไขไม่ได้ก็ไม่รู้จะท าอย่างไรเป็นสันดาน แต่ถ้าพิจารณา ต่อไปว่าสันดานที่ไม่ค่อยดี กระจกก็จะสะท้อนให้ดูว่าก่อให้เกิดความเสียหายอะไรกับส่วนรวมไหม ถ้าเกิดมัน ต้องพยายามแก้ให้ได้ อย่างผมก็สันดานพูดค าด่าค าซึ่งเป็นสันดาน เพราะฉะนั้นผมไปอยู่ที่ไหนผมก็ ต้องบอกก่อนเสมอ ทุกคนก็คงได้ยินอยู่ตั้งแต่ต้นๆ ตอนนี้ผมมาด ารงต าแหน่งปลัดกระทรวง ผมก็ต้อง บอกก่อน ผมว่าผมชอบเร ื่องของลัทธิมากซ์อยู่อย่างหนึ่ง คือ วิพากษ์ตัวเองก่อน ยินดีให้ทุกคนวิพากษ์ ซึ่งจ าเป็นต้องเปิดใจ มากกว่าการเปิดใจของตัวเราต้องมาจากการที่ทุกคนมีใจที่อยากจะท าทุกอย่างให้ ดีด้วยการเข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นภาคีเคร ือข่ายในการที่จะเสนอแนะก็ดีหร ือในการที่จะเสนออะไรก็ ดีหาข้อสรุปอะไรก็ดีแล้วก็ไปท างานด้วยกัน ซึ่ง KPI ตัวหนึ่งของหมู่บ้านยั่งยืนก าหนดว่าต้องมีการเปิด โอกาส ต้องบังคับเหมือนกันเป็นกฎกติกาบังคับ เหมือนกับบังคับให้ท าในสิ่งที่ดีต้องไปบังคับท าให้เกิด การรวมกลุ่มของคุ้มของหมู่บ้านซึ่งมีอยู่แล้ว แต่สมัยก่อนเราก็มีของคุ้มบ้าน หย่อมบ้านทางภาคเหนือ ซึ่งก็ เพื่อให้คนหันหน้าเข้าหากัน มามีส่วนร่วมแล้วก็ให้เกิด open mind และให้เขามาร่วมพูดคุย ร่วมประชุม ร่วม เสนอแนะ แล้วก็ร่วมกันลงมือท า เพื่อให้เกิดประโยชน์กับส่วนรวมและส่วนตัวด้วย คุ้มมันสวยงามเต็มไป ด้วยพืชผักสวนครัว มีความเป็นระเบียบเร ียบร้อยมีรั้วรอบขอบชิดทุกบ้าน มีความสะอาดสะอ้าน ภาพรวมก็ สวยงาม ไม่ใช่สวยครัวเร ือนเดียว เพราะฉะนั้นถ้า 15 หลังคาเร ือนสะอาด มีพืชผักสวนครัวอยู่ 5 หลังคาเร ือน คุ้มนั้นองค์รวมก็ไม่ได้ผลเพราะอีก 10 หลังคาเร ือนยังสกปรก ยังรกรุงรังด้วยหญ้าด้วยวัชพืช ยังไม่มี ความมั่นคงด้านอาหาร ไม่มีความสะอาด หน้าบ้านได้รับประโยชน์ 15 ครัวเร ือนไม่ได้รับประโยชน์ ภาพรวมมันไม่ดี เขาให้ผูกผ้าพันคอบอกกลุ่มสีเราก็ไม่ถูกอย่างนี้การร่วมรับประโยชน์ในเร ื่องของความ เป็นหมู่บ้านยังอยู่ ระบบที่ไม่เป็นทางการอย่างระบบคุ้ม เราก็ไปให้ความส าคัญให้เข้มแข็งขึ้น แต่ในขณะเดียวกันระบบที่เป็นทางการยิ่งจ าเป็นต้องท าให้เข้มแข็งคือคณะกรรมการหมู่บ้านอันมี ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และกรรมการฝ่ายต่าง ๆ 8 - 10 ฝ่ายต้องเข้มแข็งเพื่ออะไร ต้องดู ภาพรวมของทั้งหมู่บ้านไม่ใช่ให้แต่คนกลุ่มนี้ ต้องอาศัยใจของคนเป็นนายอ าเภอที่เป็นข้าราชการ ผู้รับผิดชอบประจ าต าบลประจ าหมู่บ้านมาก และอีกนัยหนึ่งที่ส าคัญ เดี๋ยวนี้ธรรมเนียมนอกจากเขาจะ ใส่เสื้อยืดนุ่งกางเกงยีนส์กางเกงวอร์มแล้ว เชิญประชุมแล้วก็มี lecture สักชั่วโมงเพื่อให้เขาตระหนัก ทั้งเร ื่องการแต่งกาย เร ื่องวินัย เร ื่องการมีหัวใจที่จะบ าบัดทุกข์บ ารุงสุขให้กับพี่น้องประชาชน เป็นคน มหาดไทยแบบคนเก่าแก่ที่มีความหวังดีที่สุด ค าถาม ค่าตอบแทนเดือนละ 5,000 บาท เป็นเงินที่ทาง ราชการมีวัตถุประสงค์เพื่อให้แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการไปราชการให้กับปลัดอ าเภอที่ท าหน้าที่ ปลัดอ าเภอฝ่ายความมั่นคง อุดมการณ์ที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาด ารงราชานุภาพสอนไว้ ผู้บังคับบัญชาระดับกรม ระดับกระทรวง เชื่อว่าความส าคัญของการท างานบ าบัดทุกข์บ ารุงสุข ต้องเข้าถึงพื้นที่ เข้าถึงใจชาวบ้านได้ ต้องออกแรงจึงจะเข้าถึงใจต้องสนิทสนมคุ้นเคยต้องมีจิต สาธารณะ ผู้บังคับบัญชาที่ดีที่คอยตอกย้าให้ปลัดอ าเภอเขาได้เข้าใจในบทบาทหน้าที่และเข้าใจเบื้องหลัง วัตถุประสงค์ของเงิน ผมอยากจะฝากพวกเราทุกคนต้องช่วยกันท าให้คนของเรามีจิตใจส าคัญที่สุดให้มี ทัศนคติให้ดี ให้รู้จักในการที่จะพัฒนาความรู้ความสามารถและต้องเข้าใจอยู่เสมอว่าความรู้ ความสามารถของแต่ละปัจเจกบุคคลนั้นมีข้อจ ากัด แต่สามารถแสวงหาความรู้ความสามารถได้จากคน จ านวนมากทั้ง 7 ภาคีเคร ือข่าย ดังนั้น เราไม่สามารถท างานด้วยการสั่งการได้อย่างเดียว การท างาน แบบมีส่วนร่วมจะเกิดขึ้นได้ ข้าราชการต้องเปิดใจให้กว้างและแสวงหาแนวร่วมในการเป็นทีมหมู่บ้าน
19 บ าบัดทุกข์บ ารุงสุขแบบบูรณาการอย่างยั่งยืน มาเป็นทีมต าบลบ าบัดทุกข์บ ารุงสุข เช่น ผู้ตรวจราชการ มหาดไทยแบบบูรณาการอย่างยั่งยืน ผู้ตรวจกรมคนหนึ่งอาจจะมีลูกน้อง 2 คน ท่านก็ท างานได้ ในศักยภาพของคน 3 คน แต่ถ้าทุกกรมมารวมกันเนี่ยท่านจะมีคน 18 คน รวม 21 คน ที่แต่ละคนก็มี ภาคีเครอืข่ายก็คือคนรูจ้กัเพื่อน แต่ถ้าคนที่พื้นที่เป็นภาคีเครอืข่ายของเรา ก็ยิ่งงา่ยถ้าคนในพื้นที่เขาท า ตามที่เราในฐานะครูได้แนะน าขอร้องให้ช่วยท าให้จังหวัด อ าเภอ ต าบล หมู่บ้าน ให้ความส าคัญกับทีม บูรณาการที่มาจาก 7 ภาคีเคร ือข่ายอันประกอบไปด้วยภาคราชการ ผู้น าศาสนา ผู้น าวิชาการภาค ประชาสังคม ผู้น าธุรกิจเอกชน ประชาชน และสื่อมวลชน เพราะเรามีหน้าที่เป็นข้าราชการใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ต้องบ าบัดทุกข์บ ารุงสุขให้กับพี่น้องประชาชน ท าตัวเป็นแม่เหล็กดูดเอา โลหะประเภทต่างๆ ให้มารวมอยู่กับเรา แล้วก็ลงไปท างานขับเคลื่อนช่วยเหลือพี่น้องประชาชนไปพร้อมกัน หัวข้อนี้ในเชิงคุณภาพ ต้องเป็น partner ship ต้อง open mind กับทีมพื้นที่ด้วยประการที่ส าคัญที่สุด ก็คือ การท างานไม่ใช่เป็นการท างานที่เป็นหน้าที่ของผู้ตรวจเท่านั้นในการท างานที่จะต้องเป็นพี่ แม้แต่ มวยสากลสมัครเล่นนักมวยคนเดียวมีแค่เทนเนอร์คนเดียวไม่ได้ต้องมีทีมโภชนาการ ต้องมีทีมเร ื่อง ของกายภาพบ าบัด เร ื่องของการฟื้ นฟู ต้องมีทีมจิตวิทยาคุณต้องมีทีมที่คอยดูแลระหว่างการชก เคร ื่องแต่งตัว อุปกรณ์ ต้องมีทีมล่อเป้า สนาม งานบ าบัดทุกข์บ ารุงสุข ในปัจจุบันนี้มีปัญหาที่สลับซับซ้อน มีปัญหาที่เราไม่สามารถน าทรัพยากรที่มีอยู่ไปจัดการกับปัญหาได้ด้วยตัวเราเองได้ แค่งบประมาณเราก็ไม่มี ระบบ ThaiQM ในอ าเภอไปส ารวจคนไม่มีที่อยู่อาศัย ไม่มีบ้านล้านครอบครัว สรุปแล้วเป็นไงหลวงมีเงิน ให้เท่าไหร่ เงินให้หลังนึงก็ไม่พอสร้าง เราไม่มีทรัพยากร เจอคนไม่มีจะกินก็ไม่สามารถจ่ายเงินเลี้ยงดูได้ ทุกวันไปตลอดชีวิต คือใช้การสงเคราะห์ไม่ได้ แต่เรามีให้บางส่วนและมีหน้าที่ในการที่จะต้องไปท าให้ เขามีศักยภาพ หร ือความสามารถในการที่จะเลี้ยงดูตัวเองให้ได้ซึ่งเร ียกว่า ความยั่งยืน กระทรวงมหาดไทย คือหนุมาน เป็นกระโถนท้องพระโรง อยากจะทิ้งอะไรใส่กระโถนก็ต้องทน ภาระหน้าที่ของพวกเรามีปัญหา สารพัดในการที่จะบ าบัดทุกข์บ ารุงสุข เพราะฉะนั้นไปดูใน ThaiQM มีตั้งแต่ 3 - 40 ปัญหาดูตามอ านาจ หน้าที่ตามกฎหมาย ว่าเป็นฟังก์ชั่นของมหาดไทยหร ือเปล่าก็ไม่ใช่ทั้งหมด ถ้าดูตามอ านาจหน้าที่ ตามกฎหมายที่เป็นฟังก์ชัน ต้องดูต่อไปว่ามีที่อยู่อาศัยอยู่ในที่สาธารณะอยู่ในป่าสงวน ในเขตอุทยาน แต่ในฐานะหนุมาน ในฐานะข้าราชการในพระบาทสมเด็จเจ้าอยู่หัวและในฐานะคนมหาดไทยที่มีพันธกิจ ในการที่จะต้องบ าบัดทุกข์อุดมสุขให้พี่น้องประชาชน “ใช่ทุกเร ื่อง” เพราะฉะนั้นโครงสร้างของเชิงอ านาจ สมัยก่อนเขาก็มอบมอบให้อยู่กับเราหมด แต่ตอนหลังบ้านเมืองเปลี่ยนไปเขาก็มีสังกัดใหม่แยกไปเป็น หน้าที่ตามกฎหมาย สิ่งเขายังไม่แก้ก็ยังบอกว่าอ าเภอหนึ่งให้มีนายอ าเภอเป็นหัวหน้าบังคับบัญชา ในจังหวัดหนึ่งเขาก็ยังบอกว่าให้มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้น าเป็นผู้บังคับบัญชาบร ิหารราชการแผ่นดิน เขาก็ยังเมตตาให้อยู่ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย แต่ท่านผู้ตรวจต้องเข้าใจว่าเราต้องไปตอบย้าให้เขา ตระหนักและรู้ว่าค าว่าผู้น าในทางกฎหมายด้วย เพราะฉะนั้นในอ าเภอ ต้องเช็คว่าท าอย่างไรถึงจะท าให้ ท่านเป็นผู้น าได้ การไม่กล้าตัดสินใจไม่กล้าในการที่จะสร้างความสัมพันธ์ระหว่าง 7 ภาคีเคร ือข่าย เขินอายในการที่จะมีทีมเป็นชาวบ้านชาวไร่ชาวนา ยังไม่ออกไปท าให้รองเท้าสึกก่อนก้นกางเกงขาด ยัง ไม่ไปท าให้ชาวบ้านเขารู้จักว่าตัวเองเป็นปลัดอ าเภอ เป็นผู้รับผิดชอบประจ าต าบล เป็นเกษตรต าบล เป็นพัฒนากรต าบล เป็นสาธารณสุขต าบล เป็นสัตวแพทย์ต าบล เป็นรัฐมนตร ีที่ดีของผู้ว่าราชการ จังหวัดให้ได้ เพราะว่าเป็นรัฐมนตร ีที่ดีหร ือเป็นหัวหน้าส่วนที่ดีมันก็อยู่ที่ open mind กับ partnership นึกถึงนิทานเร ื่องแขนงไม้ไผ่ ว่าหลายๆแขนง ถ้ามารวมกันจะแข็งแรงกว่าแขนงเดียว คือตัวเราคนเดียว
20 แล้วก็ช่วยกันท าให้เกิดขึ้นที่ระดับหมู่บ้าน ต าบล อ าเภอ จังหวัด ระดับประเทศจะเกิดขึ้นเอง หน้าที่ของ พวกเราที่จะไปท าให้เกิดการรวมกลุ่มรวมตัวกันตั้งแต่ระดับปัจเจกรายครอบครัว รายกลุ่มบ้านหร ือคุ้ม รายหมู่บ้าน รายต าบล จะดีได้ เราไม่ได้ต้องการให้ท าแค่ 7,255 หมู่บ้าน แต่เรารู้ว่าข้อจ ากัดของพวกเรา มีในห้วงระยะ 1 ปี หร ือ 5 - 6 เดือน เบื้องต้นใน 878 อ าเภอ มี 7,255 ต าบล ไปช่วยท าหมู่บ้านให้ดี เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในระบบบูรณาการ ทีมบูรณาการ ฟังก์ชั่นการท างานที่เข้าใจ เข้าถึงและพัฒนา ตามแนวพระราชาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ซึ่งก็คือรองเท้าสึกตอนก้นกางเกงขาด เรม่ิตั้งแต่จงัหวัดละ 1 อ าเภอน าร่อง การมีจิตใจมีจิตอาสาอยากช่วยเพราะเชื่อมั่นว่าคนมหาดไทยจะเป็น คนที่ก่อให้เกิดสิ่งที่ดีได้หรอืเป็น change agent ที่ดีได้เพราะเขารู้ว่าสังคมนี้คนมหาดไทยเป็นผู้น าใน การพาทีมขับเคลื่อนงานบ าบัดทุกข์บ ารุงสุขให้เกิดผลดีกับพี่น้องประชาชน มาร่วมมาช่วยกันอย่างเต็มที่ เราก็จะช่วยกัน Change for good ให้เกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะฉะนั้นโดยสรุปอยากเห็นทุกท่านเป็น ต้นแบบในการเป็นผู้น าในการขับเคลื่อนเหมือนที่ผมได้กราบเร ียนมาแล้วว่า ท่านต้องเป็นผู้น าในการ ท างานแบบบูรณาการอย่างยั่งยืนเสียก่อน เพราะฉะนั้นการมาใช้ชีวิตร่วมกันที่นี่ ก็อย่าให้เสียเปล่า เป็นตัวอย่างให้น้อง ๆ ที่เขาคอยดูแลพวกเราในฐานะเจ้าหน้าที่โครงการที่มาจากส านักงาน ปลัดกระทรวง มาจากกรมการพัฒนาชุมชน มาคุยกันมาพูดคุยรักกันมาหาร ือกัน เพื่อที่จะวางแผน เกี่ยวกับเร ื่องการฝึกอบรมก็ดี เกี่ยวกับเร ื่องหลังจากการฝึกอบรมก็ดี การที่จะไปท าหน้าที่ของคน มหาดไทย โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด นายอ าเภอ แล้วก็หัวหน้าส่วนราชการที่จังหวัด ว่าภารกิจหน้าที่ ของพวกเราทุกคนคือบ าบัดทุกข์บ ารุงสุข แม้ว่าฟังก์ชั่นจะแตกต่างกันแต่ถ้าเราท างานเป็นทีมฟังก์ชั่น ที่แตกต่าง จะช่วยเกื้อหนุนท าให้พันธกิจ เป้าหมายในการที่เราจะบ าบัดทุกข์บ ารุงสุขนั้นส าเร็จได้ หมายความว่าผู้ตรวจกรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ใช่หร ือว่าหน้าหนาวเอาผ้าห่มไปแจก พอใจหร ือไม่ ส่วนหน้าแล้งเอาน้าไปแจกท่านพอใจเหรอไม่ หน้าฝนเอากระสอบทราย เอาถุงยังชีพ ไปแจกทุกปีในพื้นที่เดิมๆ เพราะมีใครหรอืมีพื้นที่ใหม่เพิ่มมาเรอ่ืย มาเพื่อช่วยดับไฟป่า ท่านพอใจ หร ือไม่ เวลาเทศกาลวันหยุดยาวก็ตั้งด่านตรวจแล้วรายงานมีอุบัติเหตุวันนี้กี่คนตาย กี่คนเจ็บ กี่คน ไม่ยั่งยืน ไม่ใชง่านป้องกัน เป็นแค่งานบรรเทาสาธารณภัย อาจจะอยู่ที่กรมส่งเสรมิการปกครองท้องถิ่นก็ได้ เช่น หมู่บ้านที่อยู่ตีนเขาหน้าฝนน้าท่วมไหลหลากเป็นประจ าทุกปี ผู้ตรวจกรมส่งเสร ิมให้ส านักงาน อบต. ขอความร่วมมือ อบจ. เอารถแม็คโครไปขุดท าธนาคารน้าใต้ดินระบบปิดขวางทางน้าก่อนที่น้า จะไหลมาถึงหมู่บ้าน กระทรวงทรพัยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บอกเสรมิเรอ่ืงนี้เข้าไปด้วย บนเขามีต้นไม้น้อย ก็เชิญปลูกต้นไม้บนยอดเขา มาถึงหมู่บ้านก็จะมีล าห้วยล าธาร ดังนั้นความยั่งยืนก็มี อนาคตการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยก็จะได้ผลดีแต่ทุกวันนี้ไม่ใช่กระบวนการ เข้าใจเฉพาะเวลา มีปัญหา แผลปะทุมีหนองไหลออกมา เมื่อตอนน้าท่วมก็จะเห็นชัดเจน แต่ก่อนที่จะทะลักออกมาเรา ไม่ได้ไปท าอะไรมัน เราไม่ได้ไปช่วยป้องกันไม่ให้เขาถูกยุงกัดอะไรอย่างนี้ เราไม่ได้ไปช่วยกัน ดังนั้นค าที่ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 บอก “เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา” ก็สอดรับกับรองเท้าเราต้องสึกก่อนก้นกางเกงขาด และเราต้องมีทีมมีบูรณาการ ที่ผมยกตัวอย่าง ดังนั้นที่บอกว่า Open mind ภารกิจหน้าที่ของคน มหาดไทยจึงต้องสร้างไปสู่ค าว่าบ าบัดทุกข์บ ารุงสุขให้ได้ คนมหาดไทยทุกคนต้องมีจิตอาสาให้ได้ ไม่แบ่งแยกว่างานนี้เป็นงานของกรมชลประทาน ฉันอยู่โยธาไม่เกี่ยว ต้องเข้าใจว่างานทุกงานเป็นงาน ของคนมหาดไทย เพราะงานทุกงานเกี่ยวพันกับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ซึ่งคือหัวใจใน การท างานของคนมหาดไทยในลักษณะเป็นทีมมันก็จะเกิดขึ้นและการงานก็จะตามมาผลดีก็จะเป็นของ
21 ชาวบ้าน ก็ต้องฝากพวกเราด้วยขอให้ช่วยกัน เพราะฉะนั้นถ้าเรามี 76 จังหวัด/อ าเภอ ที่มาเป็นทีมแบบนี้ มีคุณภาพบ้าง ไม่มีคุณภาพบ้าง ถามว่าไม่มีคุณภาพคือไม่ได้เลือกมาจาก 7 ภาคีเคร ือข่ายอย่างแท้จร ิง หร ือเลือกจากก านันผู้ใหญ่บ้าน เลือกมาจากกองทุนพัฒนาบทบาทสตร ี เลือกมาจาก OTOP เลือกมาจาก ครูโรงเร ียน แล้วก็ถึงมีความส าเร็จที่เราประเมินได้ที่อ าเภอวังเจ้า จังหวัดตาก ท่านผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทยทุกคนมีโอกาสก็จัดทัศนศึกษา ที่อ าเภอบ าบัดทุกข์บ ารุงสุขแบบบูรณาการ อย่างยั่งยืนนี้เป็นนายอ าเภอต้นแบบ อีกอ าเภอนึงที่เราให้รางวัล จากเหนืออ าเภอวังเจ้า ลงใต้คือ อ าเภอเทพา จังหวัดสงขลา ถ้ามีโอกาสก็อยากให้ไปอยู่ที่พะเยา อ าเภอแม่ใจ โครงการแรกเรม่ิ หมายความว่าเราท าจากจุดเล็กขึ้นมาแล้วเราก็คูณสอง เราก็น า 878 อ าเภอ มาฝึกอบรมทั่วประเทศที่นี่คือ บ้านของพวกเราทุกคน ก่อนจะขึ้นมาที่อาคารนี้จะมองเห็นพระบรมรูปของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาด ารงราชานุภาพ เราก็มั่นใจเพิ่มขึ้น ที่นี่เป็นพื้นที่เราคนมหาดไทยซื้อไว้ไม่ใช่ที่หลวง เขาเร ียกว่าบ้าน ศร ียานนท์เร ือนไม้ที่อยู่เมื่อก่อนเป็นที่ลีลาศ เป็นที่พักของคนตระกูลศร ียานนท์ จากนั้นเราก็อบรมทั้ง 878 อ าเภอ ก็มีลักษณะเดิมเหมือนกันคัดเลือกอย่างจร ิงจังเพราะเร ื่องส าคัญก็ต้องคัดเลือกคนที่มี ใจก่อน บางคนที่มี passion อยากท าประโยชน์ให้ส่วนรวม ไม่ใช่ไปคัดเลือกคนที่มีต าแหน่งมาเป็น 7 ภาคี เราจะเอาอะไรร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ล าบาก ต้องค่อย ๆ เป็นค่อยไป เพราะฉะนั้นหลังจากนี้ต้องเชิญ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเข้ามาอบรม หัวใจของความส าเร็จเราต้องเอาคนที่มีลักษณะความเป็นครู ที่มีความรักความเมตตาต่อศิษย์เป็นที่ตั้ง มีหน้าที่ในการที่จะต้องให้ค าแนะน าตรวจติดตามประเมินผล มาเข้าใจเร ื่องนี้ที่ส าคัญที่สุด คือการที่ท่านผู้ตรวจกรมต่าง ๆ มาพร้อมกับท่านผู้ตรวจราชการกระทรวง จะเป็นประโยชน์กับทุกๆ ท่าน ในการที่ท่านจะเติบใหญ่ต่อไปแล้วกลับไปท างานที่กรมหร ือเติบใหญ่ เป็นผู้บร ิหารของกระทรวงต่อไปในอนาคต แต่ที่ส าคัญที่สุดก็คือ ผมได้ท าหน้าที่ปลัดกระทรวง มหาดไทยที่จะพยายามร ื้อฟ้ืนสิ่งที่เราเรยีกว่าศักดิ์ศรขีองความเป็นคนมหาดไทยกลับมาให้คนไทยได้ให้ ความส าคัญได้ครบ เรม่ิตั้งแต่นายอ าเภอ ผู้ว่าราชการจงัหวัด ผู้ตรวจราชการกรม ผู้บรหิารทุกคน ได้มาเปิดใจ รบัรูส้ ิ่งที่ผู้บรหิารกระทรวงมหาดไทย ผมคิดว่ามันมีความจา เป็นที่เราต้องน ากลับมาสู่คนมหาดไทยได้ อย่างเท่าเทียมกัน ส่วนเมื่อรับรู้แล้วจะคิดเห็นเป็นประการใด ก็อย่างที่ผมได้กราบเร ียน ผมก็บอกแล้วว่า ไม้แก่ดัดยาก ทุกคนก็มีตัวตนแต่ตัวตนของทุกคนผมมั่นใจว่าคือตัวตนที่มีหัวใจเหมือนชื่อมหาดไทยที่ แปลว่าหัวใจที่มีความรกัความเมตตาอันยิ่งใหญ่ต่อพี่น้องประชาชน สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรม พระยาด ารงราชานุภาพ เมื่อ 2435 กระทรวงมหาดไทยในการบร ิหารราชการแผ่นดินโดย สมเด็จพระปิยมหาราช ทรงปฏิรูปการปกครองครั้งใหญ่จากจตุสดมภ์ตั้งกระทรวงขึ้นมา 12 กระทรวง ได้เปิดโอกาสให้เลือกสีประจ ากระทรวง ทรงเห็นความส าคัญของกระทรวงมหาดไทย ทรงเลือกสีด า เป็นสีประจ ากระทรวงมหาดไทย โดยให้ความหมายว่าตามคติความเชื่อของพราหมณ์ เชื่อว่าพระศิวะ เป็นสีด า พระศิวะทรงรกัมวลมนุษยชาติสรรพสัตว์สิ่งมีชวีติที่อยู่บนโลกใบนี้แล้วก็คติทางฮินดูเชอื่ว่า สีด าเป็นสีแห่งความรักที่เป็นอมตะเป็นความรักที่ไม่ใช่รักตัวเอง ตรงกับหน้าที่ตรงกับอ านาจหน้าที่ของ คนมหาดไทยที่ต้องรักคนอื่นมากกว่ารักตัวเอง ต้องอยากเห็นพี่น้องประชาชนถูกปลดเปลื้องจากความทุกข์ ให้หมดไปแล้วก็มีความสุขมากยิ่งขึ้นๆ ดังนั้น 131 ปีผ่านมา สิ่งที่สมเด็จกรมพระยาด ารงราชานุภาพ ทรงสรุปว่า เป็นหน้าที่ของคนมหาดไทยคือหน้าที่ การบ าบัดทุกข์บ ารุงสุขจึงตกทอดมาถึงพวกเราทุกวันนี้ เพียงแต่วันนี้หน้าที่ในการบ าบัดทุกข์บ ารุงสุขนั้นจ าเป็นต้องอาศัยพลังกายพลังใจจากพี่ๆน้องๆ ทุกคน ณ ที่นี้ ไปช่วยกันสร้างความเชื่อมั่นและก็ไปสร้างพลังใจให้คนมหาดไทยที่อยู่ในต าบลหมู่บ้านอันได้แก่
22 ก านันผู้ใหญ่บ้าน ผู้น าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ท่านนายอ าเภอ และข้าราชการที่ปฏิบัติราชการอยู่ที่ ที่ว่าการอ าเภอ ได้ไปปลุกฟื้ นพลังใจของคนมหาดไทยที่อยู่ที่จังหวัด ลุกขึ้นมาเป็นผู้น าหร ือท าตัวเป็น แม่เหล็กเพื่อจะดูดเอาความสามารถเอาความร่วมไม้ร่วมมือของ 7 ภาคีเคร ือข่ายลงไปท างานขับเคลื่อน เพื่อท าหน้าที่ในการเป็นผู้น าการพัฒนา น าการเปลี่ยนแปลงในการที่จะท าให้พี่น้องคนไทยทุกต าบล หมู่บ้านลุกขึ้นมาช่วยกันดูแลครอบครัวของตนเอง ดูแลหมู่บ้านชุมชนต าบลของตัวเองให้เป็นครอบครัว ที่มีความสุขอย่างยั่งยืน ให้เป็นคุ้มที่มีความสุขอย่างยั่งยืน ให้เป็นหมู่บ้านที่มีความสุขอย่างยั่งยืน ให้เป็น ต าบลมีความสุขอย่างยั่งยืน เมื่อทุกครัวเร ือนมีความสุขอย่างยั่งยืน ทุกหมู่บ้านมีความสุขอย่างยั่งยืน ทุกต าบลก็มีความสุขอย่างยั่งยืนใน 878 อ าเภอ คนทั้ง 878 อ าเภอ มีความสุขอย่างยั่งยืน ก็หมายความว่าคนทั้ง 76 จังหวัดก็จะมีความสุขอย่างยั่งยืน คนทั้ง 76 จังหวัดมีความสุขอย่างยั่งยืน ประเทศนี้ก็น่าจะมีความสุขอย่างยั่งยืนได้ แนวทางวิธีการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานแล้ว ในหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งแนวทางวิธีการในการท างานที่ให้ เข้าใจ เข้าถึง แล้วก็พัฒนาร่วมกับหลักบวร หร ือร่วมกับทุกภาคีเคร ือข่ายเป็นสูตรส าเร็จที่ไม่มีวันเชย แล้วก็เป็นเร ื่องที่จร ิงแท้แน่นอน ขาดแต่ก าลังใจในการลุกขึ้นมาท าหน้าที่การเป็นผู้น าของจังหวัดของ อ าเภอเพื่อไปกระตุ้นปลุกเร้าให้ผู้น าตามธรรมชาติ ผู้น าที่หมู่บ้านที่ต าบล ไปช่วยกันในการที่จะสานฝัน งานบ าบัดทุกข์บ ารุงสุขอย่างยั่งยืนให้เกิดขึ้น โดยยึดค าว่าบูรณาการทั้งคนทั้งงานอย่าให้ภารกิจหน้าที่ของ แต่ละกระทรวงมาเป็นพรมแดนก าแพงเมืองจีนกีดกั้นท าให้เราไม่ลงไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน แต่ถ้าเราเน้นไปที่การท าให้พี่น้องประชาชนได้รับการพัฒนามีความรู้ ความสามารถในการที่จะน้อมน า เอาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอพอเพียง เป็นหลักของทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคกหนองนา รัฐบาลเขาก็พร้อม จะให้งบพวกเรา ผมขอยกตัวอย่าง กระทรวงเกษตร ถือว่าอยู่นอก Paradigm เขาคือเกษตรแปลงใหญ่ แต่ของเราคือการพึ่งพาตนเองตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเราก็ไม่ได้ว่าใครถูกใครผิด แต่เป้าหมายเราคือบ าบัดทุกข์บ ารุงสุขให้พี่น้องประชาชน แล้วเราเชื่อว่าความสุขอย่างยั่งยืนจะเกิดขึ้นได้ พี่น้องประชาชนต้องน้อมน าเอาทฤษฎีใหม่ไปประยุกต์สู่โคกหนองนา ส าหรับเกษตรทฤษฎีใหม่ คือ 1 ใน 40 กว่าทฤษฎีใหม่ของพระเจ้าอยู่หัว อันนั้นเราก็ต้องมีเทคนิคในการที่เราจะท าสิ่งที่ดีให้เกิดขึ้น แต่สิ่งที่ดีที่เกิดขึ้นจากค าว่าอย่างยั่งยืนได้ผ้าไทยก่อนเราก็ไม่ซื้อมาสวมใส่ถ้าให้เราซื้อมาสวมใส่ โดยเรานึกว่ามันเป็นแฟชั่น คนยุคนี้ก็คงชอบแตกต่างกันไปชอบท้าทาย หากเราใส่เพราะเราบอกความ เป็นแฟชั่นแล้วไม่ได้ใส่เพื่อความชอบ แต่เราใส่เพราะเรารู้เป้าหมายว่าหนึ่งความเป็นชาติคือต้องมีอัตลักษณ์ มีเอกลักษณ์ของความเป็นชาตินิยม สมเด็จพระพันปีหลวงทรงเติบโตอยู่ที่เมืองนอกแต่พระองค์ท่าน รู้ว่าเป็นวิธีการท าให้ชาวบ้านมีรายได้นอกเหนือจากท าไร่ท านา รับจ้าง เอาความเป็นชาติใส่ผ้าไทย ไปไหนคนก็รู้ว่านี่คือผ้าไทย และสุดท้ายที่สุดกระทรวงมหาดไทยในฐานะกระทรวงความมั่นคง แม้จะเป็นความมั่นคงภายในแต่ส าคัญไม่น้อยกว่าความมั่นคงระหว่างประเทศ แต่ถ้าระหว่างประเทศ เรามั่นคง ดั่งเชน่สมัยจนิ๋ซฮี ่องเต้สรา้งก าแพงเมืองจนี ใหญ่โต ท้ายสุดเหมือนกันอะไรไม่ได้เพราะความ ทุกข์ยากอยู่ในก าแพงเมืองจีนผู้คนล าบากยากแค้นมาอยู่ในก าแพงเมืองจีน เสื้อผ้าเคร ื่องนุ่งห่มเป็น ความมั่นคง เป็นอีกหนึ่งในปัจจัย 4 ที่ต้องรักษาความมั่นคงไว้ให้ได้ ค าว่าความมั่นคงถ้าดูผิวเผินดูไม่ออก แต่ถ้าคนมหาดไทยจะนึกออกว่าถ้าเกิดศึกสงคราม เกิดการแพร่ของโรคระบาดโควิด 19 เคร ื่องจักร เราก็ต้องน าเข้าเส้นใยฝ้าย อะไรเราก็ต้องน าเข้าเส้นใยทอผ้าทั้งหลายน าเข้าไม่ได้ก็ความหมายคุณอาจจะไม่มี แต่ถ้าในขณะที่คุณขาดแคลนแล้วคุณท ามือได้คุณก็ยังพอมีไม่ถึงกับหมดไป กับวิชาลูกเสือสามารถจุด
23 ไฟด้วยไม้ขีด 3 ก้าน ด้วยหินด้วยอะไรก็ได้ ถ้าไม่มีไม้ขีด คุณต้องสามารถหาอาหารในป่าได้ คุณต้อง สามารถปฐมพยาบาลได้ คุณต้องสามารถสร้างที่อยู่อาศัยได้ คุณต้องมัดเงื่อนได้ คุณต้องท าเป็นชีวิต จร ิงอาจจะไม่ได้ใช้แต่ยามฉุกเฉินต้องใช้ คุณท าได้คุณก็เอาชีวิตรอดได้นี่แหละเขาเร ียกว่าความมั่นคง อย่างยั่งยืน ทั้งหลายทั้งปวงที่เชิญพวกเรามาก็เป็นเร ื่องที่ผมค านึงถึงคุณค่าของความเป็นคนมาไทย ที่หัวใจของเราปรารถนาอยากจะท าหน้าที่บ าบัดทุกข์บ ารุงสุขให้กับพี่น้องประชาชน และเราก็รู้กันดีว่า ในยุคปัจจุบันก าลังจิตก าลังใจของคนมาไทยอาจจะไขว้เขว อาจจะไม่เข้าใจอาจจะไม่รู้ถึงความส าคัญ ของศักดิ์ศรขีองความเป็นคนมาไทยเพราะพวกเราไปปล่อยปะละเลยไม่ได้อบรมดูแลสั่งสอนแนะน าให้ น้อง ๆ นายอ าเภอก็ไม่ได้สอนปลัดอ าเภอหาเวลาขวนขวายเร ียนรู้เร ื่องคุณค่านิยมของความเป็นคน มหาดไทย และการท าหน้าที่ที่บรรพบุรุษเราเคยท ามา เพราะฉะนั้นจึงเชิญมาเพื่อที่จะให้ท่านเป็นผู้น าไป ช่วยกระตุ้นท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปกระตุ้นท่านนายอ าเภอ และในขณะเดียวกันก็อยากให้ทุกท่านได้ ช่วยกันท างานแบบบูรณาการอย่างยั่งยืน ก็คือปรับกระบวนทัศน์ในการท างานของผู้ตรวจราชการ กระทรวง ผู้ตรวจราชการกรม ให้มีทั้งในและนอกรูปแบบเพิ่มเติมมากขึ้น แล้วก็ให้ชว่ยกันท าให้ศักดิ์ศรี และคุณค่าของความเป็นคนมหาดไทยของเราได้พลิกฟื้ นกลับมาเป็นที่ยอมรับนับถือของพี่น้องประชาชน ในวงกว้างว่าพวกเราเป็นที่พึ่งของพี่น้องประชาชน พวกเราเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวที่ดี กระผมขอเปิดการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการผู้บร ิหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย หลักสูตรผู้น านักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์น าการเปลี่ยนแปลงสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับ กระทรวง ณ บัดนี้ ขอให้ทุกท่านมีความสุขในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันและก็เดินทางกลับที่ตั้งด้วยความ ปลอดภัย ขอบคุณครับ...
24
25
26 ท าไมต้อง “P - CAST” นายสุทธิพงษ์ จุลเจร ิญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กราบนมัสการขอบพระคุณพระคุณเจ้าทุกรูปที่เป็นภาคีเคร ือข่ายมาร่วมรับการอบรมหลักสูตร ของกระทรวงมหาดไทย และขอขอบคุณภาคีเคร ือข่ายวิชาการ ซึ่งวันนี้มี รศ.สุตเขตต์ นาคะเสถียร เป็นผู้แทนที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) และผู้แทนมหาวิทยาลัยจากทั่วประเทศ รวม 84 ท่าน ผู้มีหัวใจที่รุกรบ แสดงออกถึงแรงปรารถนา (Passion) อย่างสุดซึ้งในการด าเนินงาน ของกระทรวงมหาดไทย ที่ให้เกียรติร่วมรับฟังการอบรมพร้อมกับผู้เข้ารับการอบรมทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค โดยมี รศ.วรวรรณ โรจนไพบูลย์ และ ผศ.พิเชฐ โสวิทยสกุล ที่ปร ึกษาปลัดกระทรวง มหาดไทย และ ศ.ดร. สุร ินทร์ ค าฝอย เป็นผู้ประสานงาน และร่วมเป็นวิทยากร การท างานของ กระทรวง ได้เน้นย้าการสร้างความร่วมมือกับภาคีภาคส่วนต่าง ๆ เช่นที่ผ่านมาเราได้รับเกียรติจาก ผู้แทนภาคธุรกิจเอกชน และภาคประชาสังคม คือ คุณชยดิฐ หุตานุวัชร์ นายกสมาคมสถาบันทิวา คุณสัณหจุฑา จิราธิวัฒน์ ประธานมูลนิธิรักษ์ดินรักษ์น้า (Earth Safe) หร ือภาคเอกชน อย่างบร ิษัท ไทยเบฟเวอเรจ จ ากัด (มหาชน) โดย คุณฐาปน สิร ิวัฒนภักดี ร่วมสนับสนุนด้านต่าง ๆ ด้วย ตลอดจน ภาคีภาคส่วนอื่น ๆ ที่ช่วยกันท างานเพื่อสังคม รูส้ ึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นภาพบรรยากาศพลัง ความร่วมมืออย่างอบอุ่นของพวกเราที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเดินหน้าท าให้การฝึกอบรมเกิด ความพร้อมเพร ียงอันจะน าไปสู่เป้าหมายที่ส าคัญ คือ “การมีทีมจังหวัด” อันประกอบด้วย รองผู้ว่า ราชการจังหวัดที่ได้รับมอบหมายจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด หัวหน้าส านักงานจังหวัด พัฒนาการจังหวัด เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด โยธาธิการและผังเมืองจังหวัด หัวหน้าส านักงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ท้องถิ่นจังหวัด ผู้แทนภาคีเครอืข่ายด้านการศาสนา ผู้แทนภาคี เคร ือข่ายด้านวิชาการ และผู้แทนภาคีเคร ือข่ายการพัฒนาพื้นที่ ที่จะคอยประสานและสนับสนุน การขับเคลื่อนแผนงานที่สะท้อนจากความต้องการของพี่น้องประชาชน ตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน/ชุมชน ระดับต าบล ระดับอ าเภอ สู่ “แผนพัฒนาจังหวัดที่สอดคล้องตามบร ิบทของภูมิสังคม” อันจะท าให้เกิด พลังที่เข้มแข็งในการ “บ าบัดทุกข์ บ ารุงสุข แบบบูรณาการ” เดินหน้ารวมพลังพัฒนาและแก้ไขปัญหา ความเดือดร้อน และความต้องการของพี่น้องประชาชนอย่างมีส่วนร่วมอย่างแท้จร ิง ปัจจุบันเราอยู่ในโลกของการเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่ง อันนับเป็นความท้าทายส าคัญของประเทศไทย ที่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว แต่ทว่าก็เป็นโชคดีของพวกเราทุกคนที่เมื่อปี พ.ศ. 2547 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทาน ส.ค.ส. ให้แก่ประชาชนชาวไทย มีภาพแผนที่ประเทศไทยที่รอบ ๆ มีระเบิดอยู่ 4 ลูก มีความหมายว่า
27 ประเทศไทยอยู่ท่ามกลางความเสี่ยงของภัยพิบัติธรรมชาติ โรคระบาด วิกฤตเศรษฐกิจ และสงคราม และใน ส.ค.ส. พระราชทาน ได้เขียนตัวอักษรบนแผนที่ประเทศไทย “สามัคคีเป็นพลัง ค้าจุนแผ่นดินไทย” ซึ่งพระองค์ท่านทรงเตือนสติพวกเราประชาชนชาวไทยมากกว่า 19 ปีแล้ว และพบว่าหลายปีผ่านไป ประเทศไทยก็ได้เผชญิ ปัญหาดังกล่าวมาแล้วทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นสภาวะโลกรอ้น สถานการณ์โรคระบาด ไวรัสโคโรนา 2019 วิกฤตเศรษฐกิจต้มย ากุ้ง หร ือสงครามรัสเซีย-ยูเครน รวมไปถึง ความขัดแย้งทางสังคมของผู้เห็นต่างอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านกายภาพและ ทางโครงสร้างของสังคม ท าให้เกิดผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจ าวันของมนุษย์ทุกคน และด้วยพระ ปร ีชาญาณและพระปร ีชาสามารถของพระองค์ท่านที่ทรงเตือนให้พวกเราไม่ประมาท หร ือเร ียกว่า “แม้หวังตั้งสงบ จงเตร ียมรบให้พร้อมสรรพ” โดยพระราชทานหลักการพึ่งพาตนเอง 100% ครอบคลุม ปัจจัย 4 ของชีวิตด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ที่มีมากกว่า 40 ทฤษฎี 4,741 โครงการ ซึ่งกระทรวงมหาดไทย ได้น้อมน าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ ในพื้นที่และพัฒนาคุณภาพชีวติด้วยการใช้ทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา” แต่สิ่งที่ส าคัญ ของการฝ่าวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ได้ตามที่พระราชทานมานั้น คือ “หลักความสามัคคี” การท างานร่วมกับ คนอื่น รวมถึงภาคีเคร ือข่าย ตามหลัก “บวร” ซึ่งเป็นหัวใจส าคัญในการประสบความส าเร็จที่สอดคล้อง กับแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน (UN SDGs) เป้าหมายที่ 17 คือ การเป็นหุ้นส่วน (Partnership) โดยกระทรวงมหาดไทยได้พยายามขับเคลื่อนพลังภาคีเคร ือข่ายร่วมกับองค์การสหประชาชาติ มหาวิทยาลัย รวมทั้งมหาเถรสมาคม โดยเจ้าพระคุณ สมเด็จพระอร ิยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปร ิณายก ได้โปรดเมตตาประทาน 2 สมเด็จพระราชาคณะ ผู้เป็นหลักชัย ได้แก่ ฝ่ายสาธารณูปการ โดยเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์และฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ โดยเจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาธีราจารย์เพื่อรวมพลังของวัดที่เคยเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยในอดีต ให้ด ารง คงอยู่เป็นสถานที่ที่สะอาด เป็นสัปปายะสถาน ศูนย์กลางสรรพวิทยา คือ เป็นครู คลัง ช่าง หมอ และเป็นก าลังส าคัญร่วมกับทางราชการในการช่วยสงเคราะห์ประชาชน สนองพระราชปณิธาน ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมุ่งมั่นในการสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชด าร ิของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ความส าเร็จอย่างยั่งยืน จะเกิดขึ้นได้ต้องมีองค์ประกอบจาก Partnership ทั้ง 7 ภาคี เคร ือข่าย” ได้แก่ ภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคผู้น าศาสนา ภาคเอกชน ภาคประชาชน ภาคประชาสังคม และภาคสื่อมวลชน ซึ่งมีความส าคัญอย่างยิ่งต่อการ Change for Good ท าสิ่งที่ดีให้กับพี่น้อง ประชาชน จึงเป็นที่มาของการจัดอบรมหลักสูตรนี้ให้กับผู้บร ิหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ให้ได้มาใช้ชีวิตร่วมกับภาคีเคร ือข่าย ซึ่งได้ด าเนินการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่โครงการ “อ าเภอน าร่อง บ าบัดทุกข์ บ ารุงสุข บูรณาการสร้างนักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์น าการเปลี่ยนแปลง” มาสู่โครงการ “อ าเภอบ าบัดทุกข์ บ ารุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน” การอบรมผู้ว่าราชการจังหวัด อธิบดี รองอธิบดี ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย และล่าสุด คือ การอบรมผู้ตรวจราชการกระทรวง กรม ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย และในวันนี้ คือ หลักสูตร “ผู้น านักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์น าการ เปลี่ยนแปลงสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับจังหวัด (P - CAST)” โดยมีวัตถุประสงค์ส าคัญ คือ ท าให้ทุกท่านเป็นผู้ผลักดันร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ในการสร้างทีมภาคีเคร ือข่ายอย่างจร ิงจัง
28 และช่วยผลักดันให้นายอ าเภอในพื้นที่ท างานอย่างเป็นทีม มีเป้าหมายสูงสุดคือ การบ าบัดทุกข์ บ ารุง สุขให้พี่น้องประชาชนอย่างยั่งยืน มีปัจจัยส าคัญ คือ “คนที่มาจากทุกภาคส่วน” ซึ่งเป็นทีมที่เต็มพร้อม ไปด้วยใจปรารถนา (Passion) ที่จะท าเพื่อพี่น้องประชาชน เพื่อส่วนรวมให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน พวกเราชาวมหาดไทยทุกคนจึงต้องท าหน้าที่ข้าราชการที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นแม่เหล็กและโซ่ข้อกลาง ที่จะน าภาคีเคร ือข่ายไปลงพื้นที่เพื่อบ าบัดทุกข์ บ ารุงสุขให้แก่พี่น้อง ประชาชน ซึ่งล าดับแรกคือ “การคัดเลือกคน คัดเลือกทีม” ให้เหมาะสมกับงาน และเมื่อได้ทีมแล้ว ร่วมด้วยช่วยกันท า 4 ประการ ได้แก่ 1) “ร่วมพบปะพูดคุย" ที่ต้องเป็นประจ าอย่างสม่าเสมอและ ยาวนานต่อเนื่อง โดยมีวาระก าหนดการอย่างชัดเจน เช่น การประชุมเป็นประจ าทุกเดือน 2) “ร่วมคิด” ต้องมีเวทีที่เปิดโอกาสให้ทุกคนที่มาร่วมได้พูดคุยแลกเปลี่ยน แสดงความคิดเห็นและเสนอแนะ มีเป้าหมายเพื่อพี่น้องประชาชน 3) “ร่วมท า” ทุกคนที่ประชุมหาร ือ ต้องช่วยกันท า แบ่งงานกันท า และ 4) “ร่วมรับประโยชน์” ร่วมรับความสุขใจที่ได้ท าเพื่อส่วนรวมและร่วมรับความเจร ิญที่จะเกิดขึ้น ในพื้นที่” เพราะ “คน (Human)” เป็นปัจจัย ส าคัญ Key success ของทุกการท างาน ดังที่ ดร.คาซูโอะ อินาโมร ิ(Kazuo Inamori) สอน ว่าการมีทัศนคติที่ดี และแรงปรารถนา แม้ ความรู้จะน้อยแต่มี Passion จะเป็นตัว ขับเคลื่อน Attitude ให้เกิดขึ้น คือ เรายอม เหนื่อยไปเชื้อเชิญคนในพื้นที่มาเป็นทีม มีภาคี เคร ือข่ายมาเติมเต็มความรู้ความสามารถ ท าให้ทีมเข้มแข็งเช่นเดียวกับทุกท่านที่มาอบรมในวันนี้ เพราะทุกท่านมีทัศนคติ มีแรงปรารถนาที่จะ
29 บ าบัดทุกข์บ ารุงสุขให้พี่น้องประชาชน และท าสิ่งที่ดีในการชว่ยกัน Change for Good ให้เกิดขึ้นใน จังหวัดบ้านเกิดเมืองนอนและประเทศชาติด้วยการช่วยกันท าให้เกิด การมีส่วนร่วมดังที่ได้กล่าวไป ทั้ง 4 ประการ ซึ่งพวกเราต้องเปิดใจให้กว้างและช่วยกันมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน ดังนั้นการจับมือร่วมกัน บนพื้นฐานมิตรภาพในการท าสิ่งที่ดีและการเป็น Active Member ช่วยกันท าสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้ เกิดขึ้นได้ ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ผู้บรหิารกระทรวงมหาดไทยผลักดันให้เกิดขึ้นกับพวกเราชาวมหาดไทย ไม่ว่า จะเป็นการค้นหาผู้เดือดร้อนที่ประสบ ปัญหาครัวเร ือนตามค้นหาแบบพุ่งเป้า TPMAP และ ThaiQM ด้วยการท าให้ คนเหล่ า นั้ นมี ชีวิต ที่ ดี ขึ้ น ทั้ ง ก า ร ช่วยเหลือแบบ Quick Win หร ือยาฝรั่ง เพื่อให้ผ่านพ้นไปก่อน และต้องมียา ไทยที่จะช่วยให้ช่วยเหลือและพึ่งพา ตัวเองได้ นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทย ได้น้อมน าแนวพระราชด าร ิสมเด็จ พระ เจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิร ิวัณณวร ี นาร ีรัตนราชกัญญา มาขับเคลื่อนให้ทุก ครัวเร ือนทั่วประเทศเกิดหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) ด้วยการสร้าง ความมั่นคงทางอาหาร สร้างการพึ่งพา ตนเอง ซึ่งการส่งเสร ิมผ้าไทยก็นับเป็น ส่วนหนึ่ง เป็น Know - how ในส่งเสร ิม เคร ื่องนุ่งห่ม เพื่อให้ประชาชนพึ่งพา ตนเองได้ในยามวิกฤต ยามเกิดภัยคุกคาม หากประชาชนมีความรู้ สามารถท าได้โดยไม่ต้องอาศัย เคร ื่องจักร เป็นความมั่นคงด้านเสื้อผ้าและเคร ื่องนุ่งห่มอย่างยั่งยืน “เป้าหมายส าคัญของการอบรมในครั้งนี้ คือ การบูรณาการงานพัฒนาคุณภาพชีวิตในทุกมิติ รวมถึงการพัฒนาจากเศรษฐกิจฐานรากสู่การพัฒนา คุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน ด้วยแนวทางตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ประยุกต์ ที่สามารถท าได้ทุกระดับตามหลักการพัฒนาแบบ “บวร” ที่ค านึงถึงภูมิสังคม ตลอดจนการร่วมคิด ร่วม เร ียนรู้ ฝึกปฏิบัติการ และจัดท าแผนงานจาก Project brief ระดับอ าเภอที่ส่งต่อมาสู่แผนระดับ จังหวัดซึ่งสอดคล้องกับแผนระดับสากล คือ “เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (UN SDGs) เพื่อท าให้ พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน”
30
31
32 โครงการประชุมเชิงปฏิบัติการผู้บร ิหารระดับสูงกระทรวงมหาดไทย หลักสูตร ผู้น านัก ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์น าการเปลี่ยนแปลงสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ระดับกระทรวง ประจ าปี งบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมเกี่ยวกับ หลักการทรงงาน และการพัฒนาประเทศตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อสร้างนักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ น าการเปลี่ยนแปลง ซึ่งน าไปสู่การขับเคลื่อนและสร้างกลไกการท างานร่วมกันของภาคีเคร ือข่ายต่าง ๆ เพื่อการพัฒนาพื้นที่ ตลอดจนแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา เคร ือข่ายในการท างานเป็นทีม น าโดยที่ปร ึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทยทั้ง ๒ ท่าน รศ.ดร.วรวรรณ โรจนไพบูลย์ ผศ.พิเชฐ โสวิทยสกุล อธิบดีกรมการปกครอง อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กรมส่งเสร ิมการปกครอง ท้องถิ่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชยีงใหม่ นายกองค์การบร ิหาร ส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นายกเทศมนตร ีนครเชียงใหม่ และพี่น้องผู้บร ิหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ที่ได้เสียสละเวลาเข้ารับการอบรมเชิงปฏิบัติการผู้บร ิหารระดับสูงกระทรวงมหาดไทย : หลักสูตรผู้น า นักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์น าการเปลี่ยนแปลงสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ระดับกระทรวงของ กระทรวงมหาดไทย ก่อนอื่นขอขอบคุณที่ปร ึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทยทั้ง ๒ ท่าน ในความกรุณาเหน็ดเหนื่อย และผู้บร ิหารของกรมภายในสังกัดกระทรวงมหาดไทย รัฐวิสาหกิจ เปี่ ยมล้นด้วยความหวังปลุกเอา ความคิด จิตวิญญาณของชาวมหาดไทยที่ปรารถนา “บ าบัดทุกข์ บ ารุงสุข” ให้แก่พี่น้องประชาชน โดยขับเคลื่อนสู่ความส าเร็จด้วยการบูรณาการ ๗ ภาคีเคร ือข่าย อาทิ ภาครัฐ ได้แก่ กระทรวง ทบวง กรม ต่าง ๆ ผู้น าท้องถิ่น ผู้น าท้องที่ภาคศาสนา ได้แก่ผู้น าศาสนา ภาควชิาการ ได้แก่ผู้น าด้านวชิาการ ภาคธุรกิจเอกชน ภาคประชาสังคม ภาคสื่อสารมวลชน ตลอดจนพี่น้องประชาชน รว่มใจสรา้งสิ่งที่เรา เร ียกว่า อุดมการณ์ (Passion) ให้เกิดขึ้นในทีมงานของตน ซึ่งหมายถึงผู้เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตร ในคราวนี้ ท าไมต้อง MOI – CAST นายสุทธิพงษ์ จุลเจร ิญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย
33 ค าสอนของพระพุทธเจ้า ตรัสว่า ชีวิตของเรามีความสัมพันธ์กับคน แปดทิศ ความหมายของคน ๘ ทิศ ในที่นี้ คือ ทีมงาน ความส าคัญของ ที ม ง า น ห ร ือ ผู้ น า แ ต่ ล ะ ทิ ศ มี ความส าคัญคือ เราต้องคัดเลือกคน ที่มี ทัศนคติที่ดี(Attitude) เพื่อ ช่ ว ย เ ห ลื อ สั ง ค ม ช่ ว ย เ ห ลื อ ครอบครัว ช่วยเหลือชุมชน หมู่บ้าน ต าบล ช่วยเหลือเพื่อนบ้าน ซึ่งการมีAttitude หร ือทัศนคติที่ดีมีส่วนช่วยในการดึงศักยภาพ ความรู้ ความสามารถของตนเอง และทีมงาน ในการช่วยเหลือกัน ช่วยผลักดันขับเคลื่อนงานให้ส าเร็จลุล่วงไป ได้ด้วยดี ค าว่า Attitude ของคนที่มี Passion ที่ดีเป็นสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเพียร พยามกระตุ้นประชาชนภายในสังคม ได้ตระหนักรู้ถึงความส าคัญ ดังตัวอย่าง โครงการจิตอาสา พระราชทาน “เราท าความ ดีด้วยหัวใจ” ภาคส่วนราชการ ผู้น าท้องถิ่น น าไปขยายผลให้เกิดเป็น รูปธรรม เป็นที่รูก้ ันดีว่าจติอาสาในเชงิปรมิาณมีจา นวนมาก แต่สิ่งที่ท าให้สังคมมีความสุข เมื่อทุกคน มีน้าใจ มีความเสียสละ มีเมตตากรุณาต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ซึ่งคือเชิงคุณภาพ ที่เราต้องท าควบคู่กับการ “บ าบัดทุกข์ บ ารุงสุข” ต่อไป ดร.คาซูโอะ อินาโมร ิ (Kazuo Inamori) ผู้ก่อตั้งบร ิษัทเคียวเซร่า กล่าวไว้ว่า ความส าเร็จ เกิดขึ้นได้จากการมีทัศนคติที่ดี เป็นบวก เปร ียบเหมือนจิตอาสา ที่จิตใจคิดถึงส่วนรวม ผู้ที่ประสบ ความส าเร็จส่วนมากมาจากคนที่มีทัศนคติที่ดี (Attitude) ส่วนความรู้ (Knowledge) และ ความสามารถ (Ability) นั้นเป็นสิ่งที่แต่ละบุคคลมีไม่เท่ากัน แต่หากว่าบุคคลใดมีความรู้ (Knowledge) และความสามารถ (Ability) สูงย่อมเป็นสิ่งที่ดีในการพัฒนางาน ซงึ่ ไม่ใชส่าระส าคัญ เพราะการด าเนินงานล้วนอาศัยความส าคัญของทีมงาน มาประกอบกันเหมือนโซ่ข้อกลาง เพื่อสร้าง กลไกการขับเคลื่อนงานผ่านส่วนผสมที่มีลักษณะเด่น แตกต่างกันไป เพียงแค่มีทัศนคติที่ดี เป็นไปใน ทิศทางเดียวกัน เพียงเท่านี้การขับเคลื่อนงานภายใต้ปณิธาน บ าบัดทุกข์ บ ารุงสุข ให้แก่ประชาชนของ กระทรวงมหาดไทย ย่อมส าเร็จลุล่วงด้วยดี ส่วนส าคัญในโครงการประเชิงปฏิบัติการผู้บร ิหารระดับสูงกระทรวงมหาดไทย หลักสูตรผู้น า นักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์น าการเปลี่ยนแปลงสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ระดับกระทรวง ในระยะเวลาการฝึกอบรม ๔ วัน ๓ คืน อยากเห็นผู้บร ิหารระดับสูงทุกท่านเข้าร่วมการฝึกอบรม ตั้งใจ สนใจ (Concentrated) ให้สูงกว่านายอ าเภอ เพราะหัวใจนักปราชญ์ของผู้บร ิหารระดับสูงทุกท่าน ต้องคิดและต้องท าความเข้าใจภายในห้องเร ียน เพื่อน าไปขยายผลองค์ความรู้ในเชิงลึก และเชิงกว้าง เพื่อน าไปเจียระไนในการสร้างทีมภายในกรม รัฐวิสาหกิจ สังกัดของท่าน น าไปสู่การขยายผลกระตุ้น ปลุกเร้าคนภายในองค์กรและพี่น้องประชาชนภายในท้องถิ่น และภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อรว่มด้วยชว่ยกัน Change For Good รูปแบบของการท างานให้เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น เพื่อช่วยผลักดันขับเคลื่อนเชิง นโยบายต่อไป
34 ๑๓๐ ปี กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาด ารงเดชานุ ภาพ โครงสรา้งการท างานประกอบด้วย ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น มีพี่น้องประชาชน ซงึ่ ท่านให้ความส าคัญกับท่านที่เป็นผู้น า ผู้ซึ่งเป็นโซ่ข้อกลางระหว่างส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และพี่น้อง ประชาชน มัดรวมกันอย่างเหนียวแน่น เพื่อบ าบัดทุกข์ บ ารุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน ผมพูดเน้น ย้าหลายครั้ง เนื่องจากมี ๒ นัยยะส าคัญของความหมายของค าว่า “บูรณาการ” ประการที่หนึ่ง คือ การ สนธิก าลัง หมายถึง การบรรจบพบกัน เป็นก าลังที่เดินไปด้วยกันหมายถึง ๗ ภาคีเคร ือข่าย ประการที่ สอง การสนธิภารกิจ (Function) คือการบูรณาการภารกิจของแต่ละหน่วยงานซึ่งกันและกัน อาทิ การ ไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มีหน้าที่การให้บร ิการไฟฟ้า การประปาส่วนภูมิภาค มีหน้าที่บร ิการน้าดื่ม น้าสะอาด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มีหน้าที่ ช่วยเหลือป้องกันไม่ให้เกิดสาธารณภัย หากเกิดปัญหาสา ธารณภัย ยกตัวอย่าง อุทกภัย หน่วยงานที่กล่าวมาต้องบูรณาการกันในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ผู้น า มีความส าคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากสังคมไทยถือปฏิบัติยึดผู้น าเป็นต้นแบบ ตัวอย่าง การด าเนินงาน รวมถึงข้ออ้าง ดังนั้นผู้น าต้องประพฤติเป็นตัวอย่างที่ดี ไม่ทะเลาะวิวาท ไม่สูบบุหร ี่ ไม่ ดื่มเครอ่ืงดื่มแอลกอฮอล์ฯลฯ เป็นต้น พึงสอนสิ่งที่ดีสิ่งที่ควรปฏิบัติเพื่อไม่ให้เกิดการต่อต้าน ซงึ่เป็น สิ่งที่ส าคัญอย่างยิ่ง โดยผู้น าต้องยึดถือหลักค าสอนของพระพุทธศาสนาที่ว่า “ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว” หมายถึงผู้น าที่คิดดีย่อมแสดงออกมาในทางดี ผู้น านักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์น าการเปลี่ยนแปลง Change For Good ให้แก่ประชาชนซึ่งสิ่งหนึ่งที่อยากรอ้งขอคือ รอ้งขอจิตวญิญาณชาวมหาดไทย ท างานใกล้ชิดเคียงข้างประชาชน รูปแบบการท างานของเราไม่ใช่ลักษณะการท างานแบบออฟฟิศ (Officer) แต่เป็นลักษณะงานที่มีเกียรติ ดั่งแม่ทัพหร ือขุนพลในสนามรบ เหมือนดังค าสอนของสมเด็จ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาด ารงเดชานุภาพ ที่ว่า “เราต้องรองเท้าสึก ก่อนกางเกงขาด”
35 ใช้ชีวิตร่วมกับประชาชน เพื่อทราบถึง สาเหตุของปัญหา น าไปสู่การยกระดับ คุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน และ สิ่ง ที่ส า คัญ ไ ม่แพ้กัน อ ย่า ง ยิ่ง คือ จิตวิญญาณ จิตวิญญาณของจิตอาสา ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเพียรพยามอยากให้เกิดขึ้นภายใน สั ง คม ไ ท ย เอ า ใ จ เข า ม า ใ ส่ ใ จเรา เห็นความทุกข์ยากของประชาชนเป็นหลัก ไม่เพียงคิดว่างานเป็นของใคร หน่วยงานใด แต่ต้องเห็นถึง ความส าคัญของประชาชนเป็นหลัก ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่หน้าที่ของตนก็ตาม การขับเคลื่อนงานจึงจะส าเร็จ พี่น้องประชาชนได้รบัการบ าบัดทุกข์บ ารุงสุข ช่วยกันน าเอาสิ่งที่ดีแสดงออกถึงความจงรักภักดี มาเป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนแผน นโยบาย โครงการ เพื่อให้เกิดสิ่งที่ดีงามผ่านการบูรณาการ ๗ ภาคีเคร ือข่าย สู่พี่น้องประชาชน ซึ่งในทางศาสนาพุทธมีค ากล่าวว่า “ปฏิบัติบูชา” การบูชาเทิดทูน ชาติ ศาสนา สถาบันพระมหากษัตร ิย์ ซึ่งเป็นผู้มีพระมหากรุณาธิคุณปกเกล้าปกกระหม่อม ดูแลประเทศชาตินี้มีเอกราช มีความมั่นคง ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี มาอย่างยาวนาน หลักการท างานของผู้น า คือ RER ผู้ น า ต้ อ ง ต ร ะ ห นั ก เ ส ม อ ว่ า การท างานไม่ได้มีเพียงแค่งานประจ า งานในหน้าที่ (Routine Jobs) เพียงแค่ ท างานในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จ ท าให้ดี และพัฒนางานให้ดีขึ้นอย่าง ส ม่ า เ ส ม อ ซึ่ ง เ ท่ า นั้ น ไ ม่ เ พี ย ง พ อ งานพิเศษ งานส าคัญ (Extra Jobs) งานที่ท าด้วยความคิดสร้างสรรค์ (Create) ขึ้นด้วยจิตอาสา หร ือความปรารถนาอันแรงกล้า (Passion) ด้วยหัวใจที่รเิรม่ิภารกิจการบ าบัดทุกข์บ ารุงสุข ให้พี่น้องประชาชน มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ความสุขเพิ่มขึ้น ความทุกข์น้อยลง ดังนั้นการใชห้ลักการท างาน RER ให้เป็นสิ่งที่ส าคัญยิ่ง ยกตัวอย่าง เช่น การจดทะเบียนสมรส งานประจ า งานในหน้าที่ (Routine Jobs) คือ การจดข้อมูลทรัพย์สินของคู่ สมรส เงื่อนไขการสมรส เป็นต้น หากเรามี งานพิเศษ งานส าคัญ (Extra Jobs) ซึ่งคือแรงความ ปรารถนาอันแรงกล้านั้น คือ การแนะน าหนังสือตั้งชื่อบุตร การตรวจสุขภาพ หร ือคู่มือส าหรับข้าวใหม่ ปลามัน เป็นต้น การปฏิบัติเช่นนี้เป็นการท างานด้วยใจรัก เพื่อมอบความสุขให้แก่ประชาชน ส่วนสุดท้าย การรายงาน (Report) การสื่อสารสร้างการรับรู้ การสื่อสารมีหลากหลายรูปแบบ ระหว่าง ผู้น ากับหน่วยงานต้องสื่อสารให้เกิดความชัดเจน ผู้น าบางคนเก่งในเร ื่องการสื่อสารอาจสื่อสารใน การท า Morning Talk สื่อสารในเชิงบวก การตั้งโต๊ะแถลงข่าว ตลอดจนผู้น าทันยุคสมัยกระตุ้นผ่าน การใช้สื่อโซเชียลมีเดีย
36 การสื่อสารในสังคมปัจจุบันมีการสื่อสาร ที่ท าให้เกิดความเข้าใจผิด ทั้งที่เจตนา และไม่เจตนา ฉะนั้นผู้น าต้องสื่อสาร ชัดเจน ตรงประเด็นเกิดความเข้าใจ ตรงกัน ตามหลักของพระพุทธศาสนา “ โยนิโสมนสิการ” คิดจากเหตุไปหาผล คิดจากผลไปหาเหตุ การสื่อสารไม่ได้มี เ พี ย ง นั ย ย ะ เ พื่ อ ใ ห้ ค น ทั้ ง สั ง ค ม ภายในประเทศรับรู้ว่า เราได้ท าอะไรบ้าง แต่การสื่อสารมองให้เห็นถึงหลักของวิถีคิดของผู้นั้นว่าเป็นเช่นไรการน้อมน าพระปฐมบรมราชโองการ ของในหลวง รัชกาลที่ 10 ยกตัวอย่างเช่น การแก้ไขปัญหาน้าเสียคลองแม่ข่า ของพระองค์ท่าน เพื่อแก้ไขในสิ่งที่ผิด ยกระดับคุณภาพชีวติของประชาชน ชีวติความเป็นอยู่สิ่งแวดล้อมชุมชนเมือง ให้มีสภาวะที่ดี เหมาะสมกับการเป็นที่อยู่อาศัย เหมาะสมกับการเป็นแหล่งน้าธรรมชาติที่ไม่เป็นต้นเหตุ ท าให้เกิดโรคระบาด ผลส าเร็จที่เกิดขึ้นล้วนเกิดจากการขับเคลื่อนงานผ่านหลักการทรงงานของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้พระราชทาน คือ บวร บรม ครบ ซึ่งเป็นหลักการท างานที่ชาวมหาดไทย ยึดถือตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นการท างานร่วมกันสร้างสัมพันธภาพอันดี “เพราะอ านาจไม่ได้อยู่ ที่ศาสตราวุธ แต่อ านาจอยู่ที่ประชาชน” จากการที่กล่าวเมื่อข้างต้นจึงเป็นที่มาของโครงการ MOI - CAST ผู้บร ิหารระดับสูงมาใช้ชีวิต ร่วมกัน จากที่ผ่านมาเรามีโครงการ D - CAST, P - CAST, INS - CAST เพื่อเป้าหมายนอกจากการ “บ าบัดทุกข์ บ ารุงสุข” แก่พี่น้องประชาชน มากไปกว่านั้นคือการขับเคลื่อนหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) ในฐานะของผู้น าระดับกระทรวง ต้องเร่งสร้างทีมผู้น าประจ าอ าเภอ ทีมผู้น าประจ าจังหวัด ให้เข้มแข็งเพื่อสามารถถ่ายทอดความเข้มแข็งแก่ทีมต าบลประจ าจังหวัด และทีมหมู่บ้าน ดังนั้นทีมงาน ชาวมหาดไทยต้องแสดงให้เห็น (Show off) ถึงแรงปรารถนาอันแรงกล้าที่อยากจะช่วยเหลือพี่น้อง ประชาชน ปลุกเร้าไฟอันแรงกล้าแห่งความ ต้องการช่วยบ าบัดทุกข์ บ ารุงสุข เพื่อท า หน้าที่ของจิตอาสาภาคราชการ ที่อยากสร้าง สิ่งที่ดีให้เกิดขึ้นกับสังคม การระดมสมองทาง ความคิดจากหลากหลายหน่วยงานนั้นย่อม เปลี่ยนสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ (Impossible) ให้เป็นสิ่งที่สามารถท าได้ (I’m Possible) ผนึกก าลัง ช่วยเหลือซึ่งกันและกันด้วยการ เปิดใจ (Open Mind) และการมีส่วนร่วม (Participation) ยอมรับความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ดึงจุดเด่นเคารพจุดด้อย เพื่อแลกเปลี่ยนเร ียนรู้ประสบการณ์ซึ่งกันและกัน
37 โครงการในครั้งนี้คัดเลือกผู้เข้าร่วม โครงการ โดยหวังว่าผู้เข้าร่วมครั้งนี้ จะมีโอกาสก าหนดทิศทางขององค์กร ให้เติบใหญ่ เชื่อมโยงการแก้ปัญหา ต่าง ๆ สู่การจัดท าแผนพัฒนาจังหวัด อย่ามองข้ามปัญหาเพียงเล็กน้อย เพราะปัญหาอันเล็กน้อยน าไปสู่ ปัญหาที่มีความซับซ้อนหร ือสร้าง ป ร า ก ฎ ก า ร ณ์ ที่ ไ ม่ ค า ด ฝั น ไ ด้ (Butterfly Effect)ขอให้ใคร่ครวญอย่างรอบคอบถึง “สาเหตุของปัญหา” เพื่อให้เกิดความยั่งยืนทั้ง ๔ ส่วน กล่าวคือ ร่วมพูดคุย ร่วมกันคิด ร่วมท า ร่วมรับผลประโยชน์ น้อมน าโครงการพระราชด าร ิของ สมเด็จพระกนิษฐาฯ อาทิ โครงการบ้านนี้มีรัก การท าถังขยะเปียกลดโลกร้อน มีรูปแบบการบร ิหาร หมู่บ้านตามภูมิภาค อาทิ คุ้ม ป๊อก หย่อมบ้าน ตลอดจนการถ่ายทอดภูมิปัญญาและองค์ความรู้ที่ดี น าสู่หมู่บ้านยั่งยืน ช่วยกันค้นหาเป้าหมายการท างาน อย่าเกษียณจากการท าความดี ช่วยกันท าให้ แขนงไม้ไผ่ ประกอบด้วย ๖ กรม ๑ ส านักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย๖ รัฐวิสาหกิจ และ ๗ ภาคี เคร ือข่าย เพื่อมัดรวมกันสร้างกลไกการขับเคลื่อนงานรูปแบบ “Action Now” ให้เกิดแต่สิ่งที่ดีสู่ เป้าหมายสูงสุด คือ การพัฒนาที่ยั่งยืน
38
39
40