2
สมการแรงดนั ไฟฟ้ าชวั่ ขณะ คือ e = Vm cos (ωt + 0) = Vm cos ωt
สมการกระแสไฟฟ้ าชวั่ ขณะ คือ i = Im cos (ωt + 0) = Im cos ωt
สมการเฟสเซอร์ (เขียนดว้ ยค่า rms) คือ
V= ∠0
I= ∠0
51
2
2.1.5 รูปคลน่ื โคไซน์ของแรงดนั ไฟฟ้ าหรือกระแสไฟฟ้ าทเี่ ร่ิมต้นก่อนจดุ ศูนย์
รูปที่ 2.5 แสดงรูปคล่ืนโคไซนข์ องแรงดนั ไฟฟ้ าหรือกระแสไฟฟ้ าที่เริ่มตน้ ก่อนจุดศนู ย์
52
สมการแรงดนั ไฟฟ้ าชวั่ ขณะ คือ e = Vm cos (ωt + θ) 2
สมการกระแสไฟฟ้ าชวั่ ขณะ คือ i = Im cos (ωt + θ)
สมการเฟสเซอร์ (เขียนดว้ ยค่า rms) คือ 53
V= ∠ θ°
I= ∠θ°
2
2.1.6 รูปคลน่ื โคไซน์ของแรงดนั ไฟฟ้ าหรือกระแสไฟฟ้ าทเ่ี ร่ิมต้นหลงั จดุ ศูนย์
รูปที่ 2.6 แสดงรูปคล่ืนโคไซนข์ องแรงดนั ไฟฟ้ าหรือกระแสไฟฟ้ าท่ีเร่ิมตน้ หลงั จุดศนู ย์
54
สมการแรงดนั ไฟฟ้ าชว่ั ขณะ คือ e = Vm cos (ωt - θ) 2
สมการกระแสไฟฟ้ าชว่ั ขณะ คือ i = Im cos (ωt -θ)
สมการเฟสเซอร์ (เขียนดว้ ยคา่ rms) คือ 55
V= ∠-θ°
I= ∠-θ°
2
2.2 มุมเฟส (Phase Angle)
2.2.1 การร่วมเฟสกนั (Inphase)
รูปท่ี 2.7 แสดงกระแสไฟฟ้ าและแรงดนั ไฟฟ้ าร่วมเฟสกนั หรืออินเฟสกนั
56
2
2.2.2 การต่างเฟสกนั (Difference Phase)
รูปท่ี 2.8 แสดงรูปคล่ืนกระแสไฟฟ้ านาหนา้ แรงดนั ไฟฟ้ า เป็นมุม θ1
57
2
รูปที่ 2.9 แสดงรูปคลื่นกระแสไฟฟ้ านาหนา้ แรงดนั ไฟฟ้ า เป็นมุม θ2
58
3
พารามเิ ตอร์ของรูปคลน่ื ไซน์และตวั ต้านทาน
ตวั เหนี่ยวนาตวั เกบ็ ประจุ
สาระการเรียนรู้ พารามเิ ตอร์ จุดประสงค์การเรียนรู้
ของรูปคลนื่ ไซน์
1. พารามิเตอร์ของรูปคลื่นไซน์ และตวั ต้านทาน 1. อธิบายพารามิเตอร์ของรูปคล่ืนไซน์ได้
2. ตวั ตา้ นทานเพียงอยา่ งเดียวในวงจรไฟฟ้ า 2. อธิบายลกั ษณะของวงจรเมื่อมีเฉพาะตวั
กระแสสลบั ตัวเหน่ียวนา
3. ตวั เหน่ียวนาเพียงอยา่ งเดียวในวงจรไฟฟ้ า ตัวเกบ็ ประจุ ตา้ นทานเพยี งอยา่ งเดียวได้
กระแสสลบั 3. อธิบายลกั ษณะของวงจรเมื่อมีเฉพาะตวั
4. ตวั เก็บประจุเพยี งอยา่ งเดียวในวงจรไฟฟ้ า สมสรรมถรนรถะนประะปจราะหจนาห่วนย่วย
กระแสสลบั เหน่ียวนาเพียงอยา่ งเดียวได้
5. การคานวณในรูปปริมาณเชิงซอ้ น 1. มีความรู้เก่ียวกบั พารามิเตอร์ของรูปคล่ืนไซนใ์ น 4. อธิบายลกั ษณะของวงจรเมื่อมีเฉพาะตวั เกบ็
วงจรไฟฟ้ ากระแสสลบั
2. เขา้ ใจผลการตอ่ ตวั ตา้ นทาน ตวั เหนี่ยวนา และตวั เก็บ ประจุเพียงอยา่ งเดียวได้
ประจุ อยา่ งใดอยา่ งหน่ึงเขา้ กบั วงจรไฟฟ้ า 5. คานวณวงจรไฟฟ้ ากระแสสลบั ที่มีตวั
กระแสสลบั
ตา้ นทานเพียงอยา่ งเดียว หรือตวั เหน่ียวนา
เพยี งอยา่ งเดียวหรือตวั เกบ็ ประจุเพียงอยา่ ง
เดียวได้
6. บอกวธิ ีการคานวณในรูปปริมาณเชิงซอ้ นได้
59
3
พารามเิ ตอร์ของรูปคลนื่ ไซน์และตวั ต้านทาน
ตวั เหนี่ยวนาตวั เกบ็ ประจุ
1. พารามิเตอร์ของรูปคลนื่ ไซน์
1.1 ความต้านทาน (Resistance)
R=0
60
1.2 ความนาไฟฟ้ า (Conductance) 3
G = 0= 0 61
1.3 อมิ พแี ดนซ์ (Impedance)
Z=0
1.4 โหลดหรือภาระ (Load) 3
1.4.1 โหลดประเภทตวั ตา้ นทาน (Resistor; R) 62
1.4.2 โหลดประเภทตวั เหนี่ยวนา (Inductor; L)
1.4.3 โหลดประเภทตวั เกบ็ ประจุ (Capacitor; C)
1.5 แอดมติ แตนซ์ (Admittance) 3
Y= 63
หรือ Y =
3
1.6 รีแอกแตนซ์ (Reactance)
1.6.1 อินดักทฟี รีแอกเเตนซ์ (Inductive Reactance) เขียนแทนดว้ ยตวั อกั ษร XL
XL = ωL = 2pfL
เม่ือ XL = อินดกั ทีฟรีแอกแตนซ์ มีหน่วยเป็นโอห์ม (Ω)
ω = ความเร็วเชิงมุม มีหน่วยเป็นเรเดียน/วนิ าที (rad/s)
2p = การเปลี่ยนแปลงครบ 1 รอบ มีหน่วยเป็น
เรเดียน และ p เป็นคา่ คงท่ี เท่ากบั หรือ 3.14
f = ความถ่ี มีหน่วยเป็นเฮิรตซ์ (Hertz; Hz)
L = คา่ ความเหนี่ยวนา มีหน่วยเป็นเฮนรี (Henry; H)
64
3
1.6.2 คาปาซิทฟี รีแอกเเตนซ์ (Capacitive Reactance) เขียนแทนดว้ ยตวั อกั ษร XC
XC = =
XC = คาปาซิทีฟรีแอกแตนซ์ มีหน่วยเป็นโอห์ม (Ω)
C = ค่าความจุของตวั เกบ็ ประจุ มีหน่วยเป็นฟารัด
(Farad; F)
65
1.7 ซัซเซพแตนซ์ (Susceptance) 3
1.7.1 อินดักทฟี ซัซเซพแตนซ์ (Inductive Susceptance) 66
BL = =
=
= BL ∠-90° = 0 - j BL
= -j BL
3
1.7.2 คาปาซิทฟี ซัซเซพแตนซ์ (Capacitive Susceptance)
BC = =
=
= BC ∠-90° = 0 + j BC
= j BC
67
3
2. ตัวต้านทานเพยี งอย่างเดยี วในวงจรไฟฟ้ ากระแสสลบั
รูปที่ 3.1 แสดงวงจรไฟฟ้ ากระแสสลบั ที่ประกอบดว้ ยตวั ตา้ นทานเพยี งอยา่ งเดียว
68
3
2.1 อมิ พแี ดนซ์มคี ่าเท่ากบั ค่าความต้านทาน คอื Z = R มีหน่วยเป็น
โอห์ม
2.2 กระแสไฟฟ้ าและแรงดนั ไฟฟ้ าเกดิ ขนึ้ พร้อมกนั มุมเฟสจึงมีค่าเป็น
ศนู ย์ เพาเวอร์แฟกเตอร์จึงมีค่าเท่ากบั 1 (เพราะ cos 0° = 1)
2.3 ค่าแอดมิตแตนซ์จะมีค่าเท่ากบั ค่าความนา คอื Y = G มีหน่วยเป็นซี
เมนส์ (Siemens; S)
2.4 กาลงั ไฟฟ้ าจะเป็ นกาลงั ไฟฟ้ าเฉลย่ี (Average Power) เขียนแทนดว้ ย
อกั ษรตวั P มีค่าเท่ากบั I2R หรือ VI หรือ
69
3
การคานวณหาค่าความต้านทานรวมในวงจรไฟฟ้ ากระแสสลบั
รูปท่ี 3.2 แสดงวงจรไฟฟ้ ากระแสสลบั ที่ประกอบดว้ ยตวั ตา้ นทานเพยี งอยา่ งเดียว
70
รูป ก ZAB = R1 + R2 3
รูป ข ZCD = R1//R2 = (R1R2)/(R1 + R2)
รูป ค ZEF = R3 + R1//R2 71
R3 + (R1R2)/(R1 + R2)
=
3
3. ตวั เหนี่ยวนาเพยี งอย่างเดยี วในวงจรไฟฟ้ ากระแสสลบั
รูปท่ี 3.3 แสดงวงจรไฟฟ้ ากระแสสลบั ท่ีประกอบดว้ ยตวั เหนี่ยวนาเพยี งอยา่ งเดียว
72
3
3.1 อมิ พแี ดนซ์มคี ่าเท่ากบั ค่าอนิ ดกั ทฟี รีแอกแตนซ์ คือ Z = XL = ωL
= 2πfL หน่วยเป็นโอห์ม
3.2 กระแสไฟฟ้ าเกดิ ล้าหลงั แรงดนั ไฟฟ้ าเป็ นมุม 90 องศา หรือ
เรเดียน
3.3 ค่าแอดมิตแตนซ์จะมคี ่าเท่ากบั ค่าอนิ ดกั ทฟี ซัซเซพแตนซ์ คือ Y =
BL = หน่วยเป็น ซีเมนส์ (S)
3.4 กาลงั ไฟฟ้ ามีค่าเป็ นศูนย์ (P = 0)
73
3
การคานวณหาค่าความเหน่ียวนารวม (LT)
รูปท่ี 3.3 แสดงค่าความเหนี่ยวนารวม
74
3
รูป ก LAB = L1 + L2
รูป ข LCD =
รูป ค LEF = L1//L2 = (L1L2)/(L1 + L2)
= L3 + L1//L2
L3 + (L1L2)/(L1 +L2)
75
3
4. ตวั เกบ็ ประจุเพยี งอย่างเดยี วในวงจรไฟฟ้ ากระแสสลบั
รูปที่ 3.5 แสดงวงจรไฟฟ้ ากระแสสลบั ท่ีประกอบดว้ ยตวั เกบ็ ประจุเพยี งอยา่ งเดียว
76
3
4.1 อมิ พแี ดนซ์มคี ่าเท่ากบั ค่าคาปาซิทฟี รีแอกแตนซ์ คือ Z = XC =
= หน่วยเป็นโอห์ม
4.2 กระแสไฟฟ้ าเกดิ ขึน้ ก่อนแรงดัน หรือกระแสไฟฟ้ านาหน้า
แรงดนั ไฟฟ้ าเป็ นมุม 90 องศา หรือ เรเดียน
4.3 ค่าแอดมติ แตนซ์จะมีค่าเท่ากบั ค่าคาปาซิทฟี ซัซเซพแตนซ์ คือ
Y = BC = หน่วยเป็นซีเมนส์ (S)
4.4 กาลงั ไฟฟ้ ามีค่าเป็ นศูนย์ (P = 0)
77
3
การคานวณหาค่าความจุรวมของตวั เกบ็ ประจุ (CT)
รูปที่ 3.6 แสดงค่าความจุรวมของตวั เกบ็ ประจุ
78
3
รูป ก CAB = C1//C2 = (C1C2)/(C1 +C2)
รูป ข CCD =
รูป ค CEF = C1 + C2
= C3//(C1 + C2)
C3(C1 + C2)/(C1 + C2) + C3
79
5. การคานวณในรูปปริมาณเชิงซ้อน 3
5.1 ตวั ต้านทานเพยี งอย่างเดียวในวงจรไฟฟ้ ากระแสสลบั 80
5.2 ตวั เหน่ียวนาเพยี งอย่างเดียวในวงจรไฟฟ้ ากระแสสลบั
1) มมุ ของค่าอนิ ดกั ทฟี รีแอกแตนซ์ มีค่าเป็ นบวก คือ
XL = j ωL = j 2πfL
= XL ∠90° = j XL
2) มุมของกระแสไฟฟ้ าจะล้าหลงั แรงดนั ไฟฟ้ า 90 องศา ซึ่งมคี ่าเป็ นลบ 3
I = I ∠-90° 81
3) อินดกั ทฟี ซัซเซพแตนซ์ มคี ่ามุมเป็ นลบ คอื -90 องศา
BL = = BL ∠-90°
= =
= -j BL
3
5.3 ตวั เกบ็ ประจุเพยี งอย่างเดยี วในวงจรไฟฟ้ ากระแสสลบั
1) มมุ ของค่าคาปาซิทฟี รีแอกแตนซ์ มีค่าเป็ นลบ คือ
XC = -j = -j
= XC ∠90° = j XC
2) มุมของกระแสไฟฟ้ าจะนาหน้าแรงดนั ไฟฟ้ า 90 องศา จึงมคี ่าเป็ นบวก
I = I ∠90°
82
3) คาปาซิทฟี ซัซเซพแตนซ์ มคี ่ามมุ เป็ นบวก คอื 90 องศา 3
BC = = 83
= = BC ∠90°
= j BC
4
วงจร RLC อนุกรม
สาระการเรียนรู้ วงจร RLC จุดประสงค์การเรียนรู้
อนุกรม
1. วงจร RL อนุกรม 1. อธิบายวงจรตวั ตา้ นทานและตวั เหนี่ยวนา
2. วงจร RC อนุกรม สมสรรมถรนรถะนประะปจราะหจนาห่วนย่วย ต่อแบบอนุกรมได้
3. วงจร RLC อนุกรม
4. การคานวณในรูปปริมาณเชิงซอ้ น 1. มีความรู้เก่ียวกบั การนาตวั ตา้ นทาน ตวั เหน่ียวนา และ 2. อธิบายวงจรตวั ตา้ นทานและตวั เกบ็ ประจุ
ตวั เก็บประจุที่ตอ่ แบบอนุกรมในวงจรไฟฟ้ า ต่อแบบอนุกรมได้
กระแสสลบั
2. เขา้ ใจวธิ ีการคานวณตวั ตา้ นทาน ตวั เหน่ียวนา และตวั 3. อธิบายวงจรตวั ตา้ นทาน ตวั เหน่ียวนา และ
เกบ็ ประจุที่ตอ่ แบบอนุกรมในวงจรไฟฟ้ ากระแสสลบั ตวั เก็บประจุต่อแบบอนุกรมได้
4. อธิบายวธิ ีการคานวณในรูปปริมาณเชิงซอ้ น
ได้
84
4
วงจร RLC อนุกรม
1. วงจร RL อนุกรม
รูปที่ 4.1 แสดงวงจร RL อนุกรม
85
V2 = 4
V= .....(4.1)
จาก V = IZ 86
VR = IR
VL = IXL
4
เม่ือแทนลงในสมการ (4.1) เพอื่ หาคา่ อิมพีแดนซ์ (Z) จะได้
(IZ)2 = (IR)2 + (IXL)2
Z2 =
Z= .....(4.2)
87
4
จากรูปท่ี 4.1 ข จะเห็นวา่ กระแสไฟฟ้ า (I) ลา้ หลงั แรงดนั ไฟฟ้ า (V) เป็นมุม θ
โดยมีความสัมพนั ธ์กบั รูปท่ี 4.1 ค นน่ั คือ
tan θ = = =
.....(4.3)
มุม θ = tan-1
และเมื่อพิจารณาฟังกช์ นั cos จะพบวา่
cos θ = =
88
4
แต่เนื่องจาก คา่ cos θ คือ คา่ เพาเวอร์แฟกเตอร์ (Power Factor; pf) ดงั น้นั ใน
วงจร RL อนุกรมเพาเวอร์แฟกเตอร์มีคา่ เท่ากบั
cos θ = = .....(4.4)
สาหรับการคานวณหาค่ากาลงั ไฟฟ้ า (PT) จะพจิ ารณาจากกาลงั ไฟฟ้ าท่ีเกิดจาก
ผลคูณระหวา่ งแรงดนั กบั กระแสไฟฟ้ าท่ีมีเฟสร่วมกนั เท่าน้นั
PT = VI cos θ .....(4.5)
.....(4.6)
หรือ PT = I2R
89
เม่ือ PT = 4
V=
I= กาลงั ไฟฟ้ า มีหน่วยเป็นวตั ต์ (W)
θ= แรงดนั ไฟฟ้ า มีหน่วยเป็นโวลต์ (V)
I cos θ = กระแสไฟฟ้ าที่ไหลในวงจร มีหน่วยเป็น
R= แอมแปร์ (A)
มุมเฟสระหวา่ งกระแสไฟฟ้ ากบั แรงดนั ไฟฟ้ า
มีหน่วยเป็ นองศา
กระแสไฟฟ้ าท่ีมีเฟสร่วมกบั แรงดนั ไฟฟ้ า
ความตา้ นทาน ซ่ึงทาใหก้ ระแสไฟฟ้ าร่วมเฟส
กบั แรงดนั ไฟฟ้ า
90
4
2. วงจร RC อนุกรม
รูปท่ี 4.2 แสดงวงจร RC อนุกรม
91
4
V2 =
V= .....(4.7)
.....(4.8)
เมื่อพจิ ารณาตามหลกั เกณฑว์ งจร RL อนุกรมท่ีผา่ นมา จะได้
Z=
tan θ = ==
92
มุม θ = tan-1 4
PT = VI cos θ
หรือ PT = I2R .....(4.9)
.....(4.10)
.....(4.11)
93
4
3. วงจร RLC อนุกรม
รูปท่ี 4.3 แสดงวงจร RLC อนุกรม
94
3.1 ถ้าแรงดนั ไฟฟ้ า VL มากกว่า VC วงจรจะแสดงคุณลกั ษณะ 4
เหมือนกบั วงจร RL อนุกรม
95
VX = VL - VC (เม่ือ VL มากกวา่ VC)
จากรูปท่ี 4.3 ข จะได้
V2 = =
V=
4
จาก V = IZ
VR = IR
VL = IXL
VC = IXC
เมื่อแทนลงในสมการ V2 = เพอ่ื หาคา่ อิมพีแดนซ์ (Z) จะได้
(IZ)2 = (IR)2 + (IXL - IXC)2
96
4
Z2 = R2 + (XL - XC)2
Z=
.....(4.12)
เพาเวอร์แฟกเตอร์ (pf) หรือ cos θ จะมีคา่ เท่ากบั วงจร RL อนุกรม นน่ั คือ
cos θ = = .....(4.13)
97
4
3.2 ถ้าแรงดนั ไฟฟ้ า VC มากกว่า VL วงจรจะแสดงคุณลกั ษณะ
เหมือนกบั วงจร RC อนุกรม เขียนเฟสเซอร์ไดอะแกรมไดด้ งั รูปท่ี 4.3 ค
VX = VC - VL (เมื่อ VC มากกวา่ VL)
และ V2 = =
V= .....(4.14)
98
ทานองเดียวกบั ที่แรงดนั ไฟฟ้ า VL มากกวา่ VC จะได้ 4
Z= = .....(4.15)
.....(4.16)
และคา่ เพาเวอร์แฟกเตอร์จะมีค่าเท่าเดิม คือ
cos θ = =
99
4
4. การคานวณในรูปปริมาณเชิงซ้อน
4.1 วงจรตัวต้านทานและตวั เหนี่ยวนาต่อแบบอนุกรม วงจร RL อนุกรม
VR = VR ∠0° V = VR + j 0
VL = VL ∠90° V = 0 + j VL
และ V = VR + VL = (VR + j 0) + (0 + j VL)
V = VR + j VL
.....(4.17)
100