The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงสร้างแผนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ ระดับชั้น ป. 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2022-05-16 03:57:19

โครงสร้างแผนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ ระดับชั้น ป. 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565

โครงสร้างแผนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ ระดับชั้น ป. 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565

โครงสร้างการสอน วชิ าประวัติศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5
ภาคเรียนที่ …………. ปกี ารศึกษา………………เวลา 20 ช่ัวโมง

ช่อื หน่วย มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั สาระสาคัญ เวลา(ชม.) น้าหนัก
หน่วยท่ี การเรียนรู้ / / สัปดาห์ คะแนน

เร่ือง มาตรฐาน ส 4.1 การสืบค้นความเป็นมาของ 1 35
(ส. 1)
1 วิธกี ารสบื คน้ เข้าใจความหมายความสาคัญของเวลา ท้องถิ่นตามขั้นตอนวิธีการทาง
ความเปน็ มา
ของทอ้ งถ่นิ และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์สามารถ ประวัติศาสตร์ที่รอบคอบและ

ใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์ สืบค้นศึกษาจากหลักฐานทาง

เหตกุ ารณต์ ่างๆ อยา่ งเป็นระบบ ประวัติศาสตร์ที่ปรากฏตาม

แหล่งข้อมูลทาให้สามารถทราบ

ตัวชว้ี ัดท่ี ป.5/1 ข้อเท็จจริงเก่ียวกับความเป็นมา

สืบค้นความเป็นมาของท้องถิ่นโดยใช้ ของท้องถิ่นได้ชัดเจน และตรง

หลกั ฐานทหี่ ลากหลาย กับความเป็นจรงิ

1 หลกั ฐานทาง มาตรฐาน ส 4.1 หลักฐานทางประวัติศาสตร์มี 1

ประวัตศิ าสตร์ เข้าใจความหมายความสาคัญของเวลา หลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อกั ษร (ส. 2)

และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์สามารถ และหลักฐานที่ไม่เป็น ลาย

ใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์ ลักษณ์อักษร เรียกว่าหลักฐาน

เหตกุ ารณ์ต่างๆ อยา่ งเป็นระบบ ชั้นต้น และหลักฐานท่ีบันทึก

เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ใน

ตัวชว้ี ดั ที่ ป.5/1 ภายหลังเรียกว่าหลักฐานชั้น

สืบค้นความเป็นมาของท้องถิ่นโดยใช้ รอง

หลักฐานที่หลากหลาย

โครงสร้างการสอน วชิ าประวตั ิศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5
ภาคเรยี นท่ี …………. ปีการศึกษา………………เวลา 20 ชวั่ โมง

ช่ือหน่วย มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั สาระสาคญั เวลา(ชม.) นา้ หนกั
หน่วยท่ี การเรียนรู้ / / สัปดาห์ คะแนน

เรอื่ ง

1 หลักฐานทาง มาตรฐาน ส 4.1 หลักฐานทางประวัติศาสตร์ท่ี 1

ประวตั ิศาสตร์ เข้าใจความหมายความสาคัญของเวลา ใช้ในการศึกษาท้องถน่ิ ประกอบ (ส. 3)

ท่ีใชใ้ นการ และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์สามารถ ด้วยหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์-

ศึกษาทอ้ งถิน่ ใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์ อักษร และหลักฐานที่ไม่เป็น

เหตุการณต์ ่างๆ อย่างเปน็ ระบบ ลายลกั ษณ์อกั ษร

ตัวชว้ี ดั ท่ี ป.5/2
รวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เพ่ือ
ตอบคาถามทางประวัติศาสตร์อย่างมี
เหตผุ ล

1 การนาเสนอ มาตรฐาน ส 4.1 การนาเสนอขอ้ มูลเปน็ ขั้นตอน 1

ความเปน็ มา เข้าใจความหมายความสาคัญของ สุดท้ายของการสืบค้นความ (ส. 4)

ของท้องถน่ิ เวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ เป็นมาของท้องถิ่น โดยมีการ

โดยอา้ งอิงจาก สามารถใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์มา อ้ า ง อิ ง จ า ก ห ลั ก ฐ า น ท า ง

หลักฐาน วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ อย่างเป็น ประวัติศาสตร์ประกอบการ

ระบบ นาเสนอ

ตัวช้ีวดั ที่ ป.5/1
สืบค้นความเป็นมาของท้องถิ่นโดยใช้

หลักฐานทห่ี ลากหลาย

โครงสรา้ งการสอน วชิ าประวตั ิศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 5
ภาคเรียนที่ …………. ปกี ารศกึ ษา………………เวลา 20 ชั่วโมง

หน่วยท่ี ช่อื หนว่ ย มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด สาระสาคญั เวลา(ชม.) น้าหนัก
การเรยี นรู้ / / สปั ดาห์ คะแนน

เร่อื ง

1 การนาเสนอ มาตรฐาน ส 4.1 การนาเสนอข้อมูลเปน็ ขั้นตอน 1

ความเปน็ มา เข้าใจความหมายความสาคัญของ สุดท้ายของการสืบค้นความ (ส. 5)

ของทอ้ งถิ่น เวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ เป็นมาของท้องถิ่น โดยมีการ

โดยอา้ งอิงจาก สามารถใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์มา อ้ า ง อิ ง จ า ก ห ลั ก ฐ า น ท า ง

หลักฐาน(ต่อ) วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ อย่างเป็น ประวัติศาสตร์ประกอบการ

ระบบ นาเสนอ

ตัวชี้วัดท่ี ป.5/1
สืบค้นความเป็นมาของท้องถิ่นโดยใช้

หลกั ฐานท่หี ลากหลาย

1 กิจกรรมเสรมิ มาตรฐาน ส 4.1 การสืบค้นความเป็นมาของ 1

ทักษะความรู้ เข้าใจความหมายความสาคัญของ ท้องถ่ินประกอบด้วยหลักฐานที่ (ส. 6)

การสบื คน้ เวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ เป็นลายลักษณ์อักษร หลักฐาน

ความเป็นมา สามารถใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์มา ที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษรซึ่ง

ของทอ้ งถนิ่ วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ อย่างเป็น เ ป็ น ห ลั ก ฐ า น ช้ั น ต้ น แ ล ะ

ระบบ หลักฐานท่ีเรียบเรียงบันทึกเป็น

ตาราประวัติศาสตร์เรียกว่า

ตัวชว้ี ัดท่ี ป.5/1 หลักฐานช้ันรอง

สืบค้นความเป็นมาของท้องถ่ินโดยใช้

หลักฐานท่ีหลากหลาย

โครงสร้างการสอน วิชาประวตั ิศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 5
ภาคเรียนที่ …………. ปีการศกึ ษา………………เวลา 20 ชวั่ โมง

หน่วยที่ ช่ือหน่วย มาตรฐาน/ตวั ชวี้ ดั สาระสาคัญ เวลา(ชม.) น้าหนัก
การเรยี นรู้ / / สัปดาห์ คะแนน

เร่ือง

1 การตงั้ คาถาม มาตรฐาน ส 4.1 การตั้งคาถามเป็นข้ันตอน 1
(ส. 7)
ทางประวัติ- เข้าใจความหมายความสาคัญของ แรกของการสืบค้นข้อมูลทาง

ศาสตร์ อยา่ ง เวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และเป็นการ

มีเหตผุ ล สามารถใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์มา นาไปสู่การสืบค้นเพ่ือหาข้อมูล

วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ อย่างเป็น คาตอบที่ต้องการทราบอย่างมี

ระบบ เหตุผล

ตัวช้ีวดั ท่ี ป.5/2
รวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เพ่ือ

ตอบคาถามทางประวัติศาสตร์อย่างมี
เหตผุ ล

1 การตอบ มาตรฐาน ส 4.1 การต้ังคาถามเป็นข้ันตอน 1

คาถามทาง เข้าใจความหมายความสาคัญของ แรกของการสืบค้นข้อมูลทาง (ส. 8)

ประวัตศิ าสตร์ เวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และเป็นการ

อย่างมีเหตุผล สามารถใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์มา นาไปสู่การสืบค้นเพ่ือหาข้อมูล

วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ อย่างเป็น คาตอบที่ต้องการทราบอย่างมี

ระบบ เหตุผล

ตัวช้ีวัดท่ี ป.5/1
รวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เพ่ือ

ตอบคาถามทางประวัติศาสตร์อย่างมี
เหตผุ ล

โครงสร้างการสอน วชิ าประวตั ศิ าตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 5
ภาคเรียนที่ …………. ปีการศกึ ษา………………เวลา 20 ชั่วโมง

ช่อื หน่วย มาตรฐาน/ตัวชว้ี ัด สาระสาคัญ เวลา(ชม.) นา้ หนกั
หน่วยท่ี การเรียนรู้ / / สปั ดาห์ คะแนน

เร่อื ง มาตรฐาน ส 4.1 ความจริงเป็นเหตุการณ์ท่ีมีผู้ 1
(ส. 9)
1 ความจรงิ กับ เข้าใจความหมายความสาคัญของ บันทึกและมีหลักฐานเป็นเครื่อง
ขอ้ เท็จจรงิ
เกยี่ วกบั เวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ยืนยันข้อเท็จจริง คือ คาบอก
เรอ่ื งราวใน
ท้องถิ่น สามารถใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์มา เล่าที่เกดิ จากความคิดความรู้สึก

วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ อย่างเป็น ของผู้เล่าหรือผู้บันทึกเร่ืองราว

ระบบ ทางประวัติศาสตร์

ตัวชว้ี ดั ท่ี ป.5/3
อธิบายความแตกต่างระหว่างความ

จริงกับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเร่ืองราวใน
ทอ้ งถน่ิ

ประเมนิ กลางภาคเรียนท่ี 1 (ส. 10) 10 คะแนน

1 ความจริงกับ มาตรฐาน ส 4.1 ความจริงเป็นเหตุการณ์ท่ีมีผู้ 1 35

ข้อเทจ็ จรงิ เข้าใจความหมายความสาคัญของ บนั ทกึ และมีหลักฐานเป็นเครื่อง (ส. 11)

เกยี่ วกับ เวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ ยืนยันข้อเท็จจริง คือ คาบอก

เร่อื งราวใน สามารถใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์มา เลา่ ทเ่ี กิดจากความคิดความรู้สึก

ท้องถ่นิ (ตอ่ ) วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ อย่างเป็น ของผู้เล่าหรือผู้บันทึกเรื่องราว

ระบบ ทางประวตั ศิ าสตร์

ตวั ช้วี ดั ท่ี ป.5/3
อธิบายความแตกต่างระหวา่ งความ

จริงกบั ขอ้ เท็จจรงิ เกี่ยวกับเร่ืองราวใน
ท้องถ่ิน

โครงสรา้ งการสอน วิชาประวตั ศิ าสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5
ภาคเรียนท่ี …………. ปีการศึกษา………………เวลา 20 ชั่วโมง

หน่วยที่ ชือ่ หน่วย มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด สาระสาคัญ เวลา(ชม.) นา้ หนกั
การเรียนรู้ / / สัปดาห์ คะแนน

เรอื่ ง

1 กิจกรรมเสรมิ มาตรฐาน ส 4.1 การสืบค้นความเป็นมาของ 1

ทักษะความรู้ เข้าใจความหมายความสาคัญของ ท้องถ่ินจะทาให้ทราบข้อมูลท่ี (ส. 12)

ท้ายหนว่ ยการ เวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ เป็นความจริง และข้อเท็จจริง

เรียนรู้ สามารถใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์มา เ กี่ ย ว กั บ ค ว า ม เ ป็ น ม า ข อ ง

วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ อย่างเป็น ท้องถิน่ ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง

ระบบ

ตัวช้ีวัดท่ี ป.5/1
สืบค้นความเป็นมาของท้องถ่ินโดยใช้

หลักฐานท่ีหลากหลาย

ตัวชว้ี ดั ที่ ป.5/2
รวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เพื่อ

ตอบคาถามทางประวัติศาสตร์อย่างมี
เหตผุ ล

ตัวชี้วัดท่ี ป.5/3
อธิบายความแตกต่างระหว่างความ

จริงกับข้อเท็จจริงเก่ียวกับเร่ืองราวใน
ท้องถ่ิน

2 อารยธรรม มาตรฐาน ส 4.2 การเข้ามาของอารยธรรม 1

ตะวนั ออก : เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจาก อินเดียยังดินแดนประเทศไทย (ส. 13)

อารยธรรม อดีตจนถึงปัจจุบัน ในด้านความสัมพนั ธ์ และภูมิภาคเอเชียตะวันออก

อนิ เดีย และการเปล่ียนแปลงของเหตุการณ์ เฉียงใต้มาจากการเดินทางเข้า

อย่างต่อเนื่อง ตระหนักถึงความสาคัญ มาทาการค้าและการเผยแผ่

และสามารถวิเคราะห์ผลกระทบที่ ศาสนา

เกิดขึน้

โครงสรา้ งการสอน วิชาประวตั ศิ าสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5
ภาคเรียนที่ …………. ปกี ารศกึ ษา………………เวลา 20 ชัว่ โมง

หนว่ ยท่ี ชือ่ หน่วย มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด สาระสาคัญ เวลา(ชม.) น้าหนัก
การเรียนรู้ / / สปั ดาห์ คะแนน

เรอื่ ง

ตัวช้วี ัดท่ี ป.5/1
อธิบายอิทธิพลของอารยธรรมอินเดีย

และจีนที่มีต่อไทย และเอเชียตะวันออก
เฉียงใตโ้ ดยสงั เขป

2 อทิ ธิพลของ มาตรฐาน ส 4.2 อารยธรรมอินเดียมีอิทธิพล 1
อารยธรรม (ส. 14)
อนิ เดีย เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจาก ต่อสังคมไทยทางด้าน ศาสนา

อดีตจนถึงปัจจุบนั ในด้านความสัมพันธ์ ภาษา สถาปัตยกรรม และ

และการเปล่ียนแปลงของเหตุการณ์ วรรณกรรม ด้านอาหาร ผสม

อย่างต่อเนื่อง ตระหนักถึงความสาคัญ กลมกลืนเป็นวัฒนธรรมประจา

และสามารถวิเคราะห์ผลกระทบที่ ชาติไทย

เกิดข้ึน

ตัวชีว้ ดั ท่ี ป.5/1
อธิบายอิทธิพลของอารยธรรมอินเดีย

และจีนท่ีมีต่อไทย และเอเชียตะวันออก
เฉียงใตโ้ ดยสังเขป

2 อารยธรรม มาตรฐาน ส 4.2 การเข้ามาของอารยธรรมจีน 1

ตะวนั ออก : เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจาก ยังดินแดนไทย และภูมิภาค (ส. 15)

อารยธรรมจนี อดีตจนถึงปัจจุบัน ในดา้ นความสัมพันธ์ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการ

และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ เข้ามาก่อนสมัยพุทธกาลตาม

อย่างต่อเน่ือง ตระหนักถึงความสาคัญ เส้นทางสายไหม ในรูปการทา

และสามารถวิเคราะห์ผลกระทบที่ การค้าเป็นส่วนใหญ่และนาเอา

เกดิ ขน้ึ วิถีชีวิตความเช่ือทางวัฒนธรรม

เข้ามาเผยแผ่ เช่น ศาสนาพุทธ

ตัวชวี้ ดั ที่ ป.5/1 นิกายมหายาน ลัทธิขงจื๊อ

อธิบายอิทธิพลของอารยธรรมอินเดีย และลัทธเิ ตา๋

และจีนท่ีมีต่อไทย และเอเชียตะวันออก

เฉยี งใต้โดยสังเขป

โครงสรา้ งการสอน วิชาประวตั ศิ าสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 5
ภาคเรียนที่ …………. ปีการศึกษา………………เวลา 20 ชัว่ โมง

ชือ่ หน่วย มาตรฐาน/ตัวช้วี ดั สาระสาคัญ เวลา(ชม.) นา้ หนกั
หน่วยที่ การเรียนรู้ / / สัปดาห์ คะแนน

เรือ่ ง

2 อิทธพิ ลของ มาตรฐาน ส 4.2 อ า ร ย ธ ร ร ม จี น เ ข้ า ม า สู่ 1

อารยธรรมจนี เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจาก สังคมไทย ทางด้านศาสนา (ส. 16)

อดีตจนถึงปัจจุบนั ในด้านความสัมพันธ์ ภาษา สถาปัตยกรรม และ

และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ วรรณกรรม ด้านอาหาร ผสม

อย่างต่อเนื่อง ตระหนักถึงความสาคัญ กลมกลืนอยู่ในวิถีชีวิตของคน

และสามารถวิเคราะห์ผลกระทบท่ี ไทย

เกิดขน้ึ

ตัวช้ีวัดท่ี ป.5/1
อธิบายอิทธิพลของอารยธรรมอินเดีย

และจีนท่ีมีต่อไทย และเอเชียตะวันออก
เฉียงใตโ้ ดยสงั เขป

2 การเข้ามาของ มาตรฐาน ส 4.2 การเขา้ มาของอารยธรรมของ 1

อารยธรรม เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจาก ชาติตะวันตกมาจากการเข้ามา (ส. 17)

ตะวนั ตกใน อดีตจนถึงปัจจุบนั ในดา้ นความสัมพันธ์ ทาการคา้ และการเผยแผ่ศาสนา

ดนิ แดนไทย และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ ซึ่งเข้าสู่ดินแดนไทยประมาณ

และภมู ภิ าค อย่างต่อเนื่อง ตระหนักถึงความสาคัญ พุทธศตวรรษท่ี 22 และการ

เอเชยี ตะวนั และสามารถวิเคราะห์ผลกระทบที่ เ ข้ า ม า ยั ง ภู มิ ภ า ค เ อ เ ชี ย

ออกเฉียงใต้ เกิดขนึ้ ต ะ วั น อ อ ก เ ฉี ย ง ใ ต้ ใ น ฐ า น ะ

อาณานิคมในพุทธศตวรรษท่ี

ตัวช้วี ัดที่ ป.5/2 25

อ ภิ ป ร า ย อิ ท ธิ พ ล ข อ ง วั ฒ น ธ ร ร ม

ต่างชาติท่ีมีต่อสังคมไทยในปัจจุบัน

โดยสังเขป

โครงสรา้ งการสอน วชิ าประวตั ศิ าสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 5
ภาคเรียนที่ …………. ปกี ารศึกษา………………เวลา 20 ชัว่ โมง

หน่วยที่ ชื่อหนว่ ย มาตรฐาน/ตัวชวี้ ัด สาระสาคญั เวลา(ชม.) น้าหนกั
การเรียนรู้ / / สปั ดาห์ คะแนน

เรอ่ื ง

2 อิทธิพลของ มาตรฐาน ส 4.2 อารยธรรมตะวันตกมีอิทธิพล 1
(ส. 18)
อารยธรรม เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจาก ต่อสังคมไทยทางด้านศาสนา

ตะวนั ตก อดีตจนถึงปัจจุบัน ในด้านความสัมพันธ์ ภาษา สถาปัตยกรรม นาฏศิลป์

และการเปล่ียนแปลงของเหตุการณ์ วรรณกรรม การแต่งกายและ

อย่างต่อเนื่อง ตระหนักถึงความสาคัญ ด้านอาหาร ผสมผสานอยู่ในวถิ ี

และสามารถวิเคราะห์ผลกระทบท่ี การดาเนนิ ชวี ติ ของสังคมไทย

เกดิ ขน้ึ

ตวั ช้ีวัดท่ี ป.5/2
อภิปรายอทิ ธพิ ลของวัฒนธรรมต่างชาติ
ท่ีมีตอ่ สังคมไทยในปัจจุบนั โดยสงั เขป

2 กจิ กรรมเสริม มาตรฐาน ส 4.2 อารยธรรมตะวันออกและ 1

ทกั ษะความรู้ เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจาก อารยธรรมตะวันตกมีอิทธิพล (ส. 19)

ทา้ ยหนว่ ยการ อดีตจนถึงปัจจุบัน ในด้านความสัมพันธ์ ต่อสังคมไทยทั้งทางด้านการ

เรยี นรู้ และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ ปกครอง เศรษฐกิจสังคม และ

อย่างต่อเน่ือง ตระหนักถึงความสาคัญ วฒั นธรรม

แ ล ะ ส า ม า ร ถ วิ เ ค ร า ะ ห์ ผ ล ก ร ะ ท บ ที่

เกิดขึน้

ตัวชวี้ ดั ท่ี ป.5/1
อภิปรายอิทธิพลของวฒั นธรรมต่างชาติ
ที่มีต่อสงั คมไทยในปจั จุบันโดยสงั เขป

ตวั ชีว้ ัดท่ี ป.5/2
อภิปร ายอิท ธิพลข องวัฒนธรรม
ต่า ง ชา ติ ท่ี มี ต่ อสั ง ค ม ไ ท ย ปั จจุ บั น
โดยสงั เขป

ประเมนิ ปลายภาคเรียนที่ 1 (ส. 20) 20 คะแนน

สัปดาห์ที่ 1

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ฒั นา
แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรยี นท…ี่ ……..… /…………….. ชอ่ื ผู้สอน……………………………………………………

กล่มุ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม ชั้นประถมศกึ ษาป่ีที่ 5 จานวน 1 คาบ

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ความเป็นมาของทอ้ งถิ่น เรอื่ ง วิธกี ารสบื ค้นความเป็นมาของท้องถ่นิ

1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวช้วี ดั
มาตรฐาน ส 4.1 เข้าใจความหมายความสาคัญของเวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์สามารถใช้วิธีการทาง

ประวัติศาสตร์มาวเิ คราะห์เหตกุ ารณต์ ่างๆ อยา่ งเป็นระบบ

ตัวช้ีวัด ป.5/1 สืบคน้ ความเปน็ มาของทอ้ งถนิ่ โดยใช้หลกั ฐานท่ีหลากหลาย

2. สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอด
การสืบค้นความเป็นมาของท้องถ่ินตามขั้นตอนวิธีการทางประวัติศาสตร์ท่ีรอบคอบและสืบค้นศึกษาจากหลักฐานทาง

ประวัติศาสตร์ท่ีปรากฏตามแหล่งข้อมูลทาให้สามารถทราบข้อเท็จจริงเก่ียวกับความเป็นมาของท้องถ่ินได้ชัดเจน และตรงกับความ
เป็นจรงิ

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. วิเคราะห์วิธีการสบื คน้ ความเปน็ มาของทอ้ งถน่ิ (K)
2. คน้ หาวิธกี ารสืบคน้ ทางประวตั ิศาสตร์ (P)
3. สนใจศึกษาวธิ กี ารสืบค้นข้อมูลทางประวตั ศิ าสตร์ (A)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถิ่น
พจิ ารณาตามหลักสตู รของสถานศึกษา
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
การสบื ค้นความเปน็ มาของทอ้ งถ่ิน

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้

คาบที่ 1

ขั้นนา

ขัน้ กระตนุ้ ความสนใจ

1. ครทู าการทักทายนกั เรียนวา่
1) นกั เรยี นทราบประวตั คิ วามเปน็ มาของทอ้ งถน่ิ ตนเองหรอื ไม่ (ตวั อยา่ งคาตอบ ยงั ไมท่ ราบชดั เจน)
2) ทาอยา่ งไรจึงจะทราบประวตั ิความเปน็ มาของท้องถนิ่ ตนเอง (ตวั อยา่ งคาตอบ ถามผู้รู้ ค้นควา้ จากหนงั สอื )
3) นกั เรยี นตอ้ งการทราบประวตั คิ วามเปน็ มาของทอ้ งถน่ิ ตนเองหรอื ไม่ (ตวั อยา่ งคาตอบ ตอ้ งการทราบครบั /คะ่ )

ขั้นสอน

ขน้ั สารวจค้นหา

2. ครูนาภาพโบราณสถานท่ีเป็นแหล่งข้อมูลในท้องถ่ินให้นักเรียนดู จากน้ันให้นักเรียนร่วมกันศึกษาวิธีการสืบค้น ความ
เปน็ มาของทอ้ งถน่ิ แลว้ ร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี

1) ข้ันตอนวิธีการทางประวัติศาสตร์มีกี่ข้ันตอน อะไรบ้าง (ตัวอย่างคาตอบ มี 4 ข้ันตอน ได้แก่ การต้ังคาถามใน
เร่อื งท่ีสนใจ การรวบรวมขอ้ มลู การเรียบเรียงข้อมลู และการนาเสนอเรือ่ งราว)

ข้ันอธิบายความรู้

3. ครแู ละนักเรียนสรปุ เกยี่ วกับข้ันตอนวธิ ีการทางประวัติศาสตรเ์ ป็นแผนภาพลงบนกระดานพร้อมอธบิ ายประกอบ

ข้นั สรุป

ขนั้ ขยายความเขา้ ใจ

4. ใหน้ ักเรียนแบง่ กลุ่มตามความเหมาะสม รว่ มกันวางแผนข้ันตอนวิธีการทางประวัติศาสตร์ในการศึกษาเหตุการณ์สาคัญที่
เกิดขึ้นในท้องถิ่นของตนเอง โดยออกแบบแผนภาพพร้อมตกแต่งให้สวยงาม เมื่อทุกกลุ่มทาเสร็จแล้วให้ส่งผู้แทนกลุ่มออกมา
นาเสนอแผนภาพให้เพอื่ นดูหน้าชน้ั เรียน

5. ใหน้ ักเรียนและครรู ่วมกันสรปุ ความรู้ ดงั น้ี
1) วิธีการสืบค้นความเป็นมาของท้องถิ่น เริ่มจากการกาหนดหัวข้อการรวบรวมข้อมูลหลักฐาน ตรวจสอบข้อมูล

เรียบเรียงข้อมูล และนาเสนอข้อมูล ตามข้ันตอนวิธีการทางประวัติศาสตร์ ทาให้สามารถทราบข้อเท็จจริงเก่ียวกับความเป็นมา
ของท้องถิ่น ตรงกับความเป็นจรงิ

ขัน้ ตรวจสอบผล

6. ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยครูใช้คาถามท้าทาย ดงั น้ี นักเรียนไดอ้ ะไรจากการศึกษาวิธีการสืบค้นข้อมูล
ความเป็นมาของท้องถ่ิน ครูสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่มและ ตรวจแบบฝึกหดั

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวดั และประเมิน วิธกี ารวดั ผล เครื่องมอื วดั เกณฑก์ ารประเมินผล
จุดประสงค์
1. วเิ คราะห์วธิ ีการสืบค้นความ 1. คาถามกระตุ้นความคิด 70% ขน้ึ ไปถอื วา่ ผ่านเกณฑ์
ความรคู้ วามเข้าใจ (K) เปน็ มาของท้องถ่ิน การประเมิน
2. ค้นหาวธิ กี ารสืบคน้ ทาง 1. แบบฝึกหัด 70% ข้ึนไปถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
ทักษะ / กระบวนการ (P) ประวตั ศิ าสตร์ การประเมนิ
3. สนใจศกึ ษาวธิ กี ารสบื ค้น 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ 70% ขน้ึ ไปถอื วา่ ผ่านเกณฑ์
คุณลกั ษณะนสิ ยั (A) ข้อมลู ทางประวัตศิ าสตร์ เขา้ ร่วมกิจกรรม การประเมนิ

7. สือ่ / แหล่งการเรียนรู้
7.1 ส่อื การเรียนรู้
1) ภาพโบราณสถานของท้องถ่ิน
7.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) หอ้ งสมดุ
2) อินเทอร์เนต็

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................

ลงช่ือ………………………………………………………ครูผสู้ อน ลงชอ่ื ………………………………………………………ฝ่ายวชิ าการ
(……………………………………………………) (……………………………………………………)

ลงชื่อ………………………………………………………ผู้บรหิ าร
(……………………………………………………)

สัปดาห์ท่ี 2

โรงเรียนขจรเกียรติพฒั นา
แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรยี นท…่ี ……..… /…………….. ชอ่ื ผู้สอน……………………………………………………

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษาศาสนาและวัฒนธรรม ช้นั ประถมศกึ ษาป่ีที่ 5 จานวน 1 คาบ

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ความเป็นมาของทอ้ งถ่นิ เรอ่ื ง หลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์

1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชีว้ ัด
มาตรฐาน ส 4.1 เข้าใจความหมายความสาคัญของเวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์สามารถใช้วิธีการทาง

ประวตั ศิ าสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณต์ ่างๆ อยา่ งเป็นระบบ

ตวั ชี้วดั ป.5/1 สบื คน้ ความเป็นมาของทอ้ งถ่ินโดยใชห้ ลักฐานทีห่ ลากหลาย

2. สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอด
หลักฐานทางประวัติศาสตรม์ ีหลักฐานทีเ่ ป็นลายลักษณอ์ กั ษรและหลักฐานที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร เรียกวา่ หลกั ฐานช้นั ตน้

และหลักฐานทบี่ ันทกึ เหตุการณ์ทางประวตั ศิ าสตร์ในภายหลังเรยี กวา่ หลักฐานชั้นรอง

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. อธบิ ายความรหู้ ลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ (K)
2. จาแนกหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ (P)
3. มีความสนใจศึกษาเรยี นรเู้ หตกุ ารณท์ างประวัติศาสตร์ เพอื่ พฒั นาความรคู้ วามเขา้ ใจทางประวตั ศิ าสตร์ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง (A)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรูท้ อ้ งถ่นิ
พิจารณาตามหลกั สตู รของสถานศกึ ษา
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
หลกั ฐานทางประวัติศาสตร์

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

คาบที่ 1

ขัน้ นา

ขนั้ กระต้นุ ความสนใจ

1. ครูทักทายนักเรียนก่อนนาเข้าสู่บทเรียน โดยการตั้งคาถามให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นเพ่ือกระตุ้นความคิด ดังนี้
เหตุการณ์เรื่องราวทางประวัติศาสตร์มีความเป็นมาอย่างไรและได้ข้อมูลเหตุการณ์มาจากแหล่งใด โดยครูให้นักเรียนแสดงความ
คิดเห็นทีละคน จากน้ันครูอธิบายเป็นความรู้เพิ่มเติม ว่า “เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์เป็นเหตุการณ์เรื่องราวที่มีการเล่าสืบต่อมา
จากคร้ังอดีตโดยการบนั ทึกเรอื่ งราวต่างๆ ลงในหลักฐานบนั ทกึ เช่น จารึกใบลาน พงศาวดาร หลักศิลาจารึก และการสืบค้นข้อมูล
จากหลกั ฐานทางโบราณคดี เช่น โบราณสถาน โบราณวตั ถุ จงึ ทาให้เราไดท้ ราบเรอื่ งราวเหตกุ ารณ์ในคร้ังอดตี ของบรรพบรุ ุษได้”

ขัน้ สอน

ข้ันสารวจค้นหา

2. ครูให้นักเรียนดูภาพที่เกี่ยวข้องกับหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เช่น ภาพวาดกรุงศรีอยุธยา ภาพศิลาจารึกพ่อขุน
รามคาแหงมหาราช แลว้ ร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครใู ช้คาถาม ดังน้ี

1) สิง่ ที่อยู่ในภาพเป็นของสมยั อดีตหรือปจั จุบัน (ตวั อยา่ งคาตอบ สมยั อดีต)
2) ภาพที่ครูนามาให้ดูแสดงให้เห็นเร่ืองราวทางประวัติศาสตร์อย่างไรบ้าง (ตัวอย่างคาตอบ สภาพสังคม ลักษณะ
การดาเนินชีวิต)
3) ถ้านกั เรียนจะศึกษาเร่ืองราวทางประวตั ิศาสตร์จะศกึ ษาได้จากสงิ่ ใดบา้ ง (ตวั อยา่ งคาตอบ ภาพวาด ศลิ าจารกึ )
4) นักเรียนคิดว่าหลักฐานทางประวัติศาสตร์ท่ีทาให้รู้เรื่องราวความเป็นมาและเหตุการณ์สาคัญทางประวัตศิ าสตร์มี
อะไรบ้าง (ตวั อยา่ งคาตอบ ภาพวาด ศลิ าจารกึ จดหมายเหต)ุ
3. ครทู าบัตรคาเกีย่ วกับหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์

ตัวอยา่ งบตั รคา

โบราณวตั ถุ โบราณสถาน ภาพวาด คาบอกเลา่

จารึกใบลาน พงศาวดาร หลกั ศลิ าจารกึ จดหมายเหตุ

ขน้ั อธิบายความรู้

4. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับหลักฐานประวัติศาสตร์ โดยครูใช้คาถามดังน้ีการศึกษาข้อมูลจากหลักฐาน
ประวตั ิศาสตรม์ ีประโยชน์อย่างไร (ตวั อยา่ งคาตอบ ไดข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ งชดั เจนและตรงตามความเปน็ จรงิ

ขน้ั สรปุ

ขั้นขยายความเข้าใจ

5. ให้นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ ดังน้ีหลักฐานท่ีเป็นลายลักษณ์อักษรและหลักฐานท่ีไม่เป็นลายลักษณ์อักษรทาง
ประวัติศาสตร์ เป็นหลักฐานที่ใช้ในการศึกษาสืบค้นความเป็นมาของท้องถิ่น เพ่ือให้ทราบข้อเท็จจริงเก่ียวกับท้องถ่ินตาม
ขอ้ เทจ็ จริง

ข้ันตรวจสอบผล

6. ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นโดยครูใช้คาถามท้าทาย ดังน้ีหลักฐานทางประวตั ิศาสตร์มีความสาคัญต่อท้องถิ่น
อย่างไรครูสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่มและ ตรวจแบบฝึกหดั

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวัดและประเมิน วิธกี ารวดั ผล เครือ่ งมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ ผล
จุดประสงค์
1. อธิบายความรหู้ ลกั ฐานทาง 1. คาถามกระตนุ้ ความคดิ 70% ข้นึ ไปถอื ว่าผา่ นเกณฑ์
ความรู้ความเข้าใจ (K) ประวตั ิศาสตร์ การประเมนิ
2. จาแนกหลักฐานทาง 1. แบบฝึกหัด 70% ขึน้ ไปถอื ว่าผ่านเกณฑ์
ทกั ษะ / กระบวนการ (P) ประวัตศิ าสตร์ การประเมิน
3. มคี วามสนใจศึกษาเรียนรู้ 1. แบบสงั เกตพฤติกรรมการ 70% ขึ้นไปถอื ว่าผ่านเกณฑ์
คุณลกั ษณะนสิ ัย (A) เหตกุ ารณ์ทางประวตั ศิ าสตร์ เขา้ ร่วมกิจกรรม การประเมนิ
เพือ่ พัฒนาความร้คู วามเขา้ ใจ
ทางประวัติศาสตร์ได้อยา่ ง
ถูกต้อง

7. ส่ือ / แหล่งการเรยี นรู้
7.1 ส่ือการเรยี นรู้
1) ภาพตวั อยา่ งหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์
2) บตั รคา หลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์
7.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) ห้องสมุด
2) อินเทอรเ์ น็ต

8. กิจกรรมเสนอแนะ
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ………………………………………………………ครผู ูส้ อน ลงชอ่ื ………………………………………………………ฝ่ายวชิ าการ
(……………………………………………………) (……………………………………………………)

ลงชอื่ ………………………………………………………ผู้บรหิ าร
(……………………………………………………)

สปั ดาห์ท่ี 3

โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ฒั นา
แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรยี นท…ี่ ……..… /…………….. ชือ่ ผสู้ อน……………………………………………………

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สังคมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ ี่ 5 จานวน 1 คาบ

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 1 ความเปน็ มาของทอ้ งถิ่น

เรอ่ื ง หลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตรท์ ี่ใชใ้ นการศกึ ษาทอ้ งถิน่

1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชี้วดั
มาตรฐาน ส 4.1 เข้าใจความหมายความสาคัญของเวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์สามารถใช้วิธีการทาง

ประวัติศาสตร์มาวเิ คราะหเ์ หตกุ ารณต์ า่ งๆ อย่างเปน็ ระบบ

ตัวชว้ี ัด ป.5/2 รวบรวมข้อมลู จากแหล่งต่าง ๆ เพ่ือตอบคาถามทางประวตั ิศาสตร์อยา่ งมเี หตุผล

2. สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอด
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ใช้ในการศึกษาท้องถิ่นประกอบด้วยหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์-อักษร และหลักฐานที่ไม่เป็น

ลายลักษณอ์ ักษร

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. ระบหุ ลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตรท์ ใี่ ชใ้ นการศกึ ษาทอ้ งถน่ิ (K)
2. จาแนกหลักฐานทางประวตั ศิ าสตรท์ ่ใี ชเ้ พื่อการศึกษาประวัติความเป็นมาของท้องถิ่น (P)
3. สนใจศึกษาหลกั ฐานทางประวัตศิ าสตรข์ องทอ้ งถน่ิ ตนเอง (A)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่นิ
พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศกึ ษา
สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
หลักฐานทางประวัติศาสตรท์ ใ่ี ช้ในการศกึ ษาทอ้ งถน่ิ

5. กจิ กรรมการเรียนรู้

คาบที่ 1

ขน้ั นา

ขน้ั กระตนุ้ ความสนใจ

1. ครูให้นักเรียนดูภาพที่เกี่ยวข้องกับหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เช่น ภาพวาดกรุงศรีอยุธยา ภาพศิลาจารึกพ่อขุน
รามคาแหงมหาราช แลว้ ร่วมกันแสดงความคดิ เห็น โดยครใู ช้คาถาม ดังน้ี

1) ส่งิ ท่ีอยู่ในภาพเปน็ ของสมยั อดตี หรอื ปจั จุบนั (ตวั อยา่ งคาตอบ สมยั อดีต)
2) ภาพท่ีครูนามาให้ดูแสดงให้เห็นเร่ืองราวทางประวัติศาสตร์อย่างไรบ้าง (ตัวอย่างคาตอบ สภาพสังคม ลักษณะ
การดาเนินชวี ติ )

3) ถา้ นักเรยี นจะศกึ ษาเร่อื งราวทางประวตั ศิ าสตร์จะศกึ ษาได้จากสงิ่ ใดบ้าง (ตวั อยา่ งคาตอบ ภาพวาด ศลิ าจารกึ )
4) นักเรียนคิดวา่ หลักฐานทางประวตั ิศาสตร์ที่ทาให้รู้เรื่องราวความเป็นมาและเหตุการณ์สาคัญทางประวัติศาสตร์มี
อะไรบา้ ง (ตวั อยา่ งคาตอบ ภาพวาด ศลิ าจารกึ จดหมายเหต)ุ

ขั้นสอน

ขนั้ สารวจคน้ หา

2. ให้นักเรียนอา่ นเน้ือหาเกี่ยวกับหลักฐานท่ีใช้ในการศึกษาเร่ืองราวในอดีตของท้องถ่ินในหนังสือเรียนหรือในชุดกิจกรรม
แลว้ แสดงความคิดเห็น

3. ครูให้นักเรียนร่วมกันยกตัวอย่างหลักฐานทางประวัตศิ าสตร์ โดยครูผู้สอนเป็นผู้จดชื่อหลักฐานทางประวัติศาสตร์ลงบน
กระดาน

ตัวอยา่ งแผนภาพ

บนั ทึก จดหมายเหตุ

คาบอกเลา่ หลกั ฐานทาง แผนที่
ภาพวาด ประวตั ิศาสตร์ หนังสือ

โบราณวัตถุ โบราณสถาน

ขั้นอธิบายความรู้

4. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกีย่ วกบั กลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน ดงั น้ี
ประเทศไทยคน้ พบจารึกจิตรเสนที่แสดงถึงการเผยแพร่กระจายวฒั นธรรม “เจนละ” หรอื วัฒนธรรมสมัยกอ่ นเมอื งพระนคร
ราวพุทธศตวรรษท่ี 12-14 และจารึกของไทยมีความสอดคล้องกับจารึกท่ีพบในประเทศกัมพูชา และจดหมายเหตุจีน ที่แสดงว่า
เม่ือใดที่กษัตริย์ที่ทรงอนุภาพ ข้ึนครองราชอาณาจักรขอมแล้ว มักจะแผ่พระเดชานุภาพ เข้าไปในดินแดนใกล้เคียง รวมถึง
ประเทศไทย โดยหลักฐานที่พบเชอ่ื วา่ อาณาจักรเจนละ อย่ใู นลุม่ นา้ โขงตอนกลาง เขตเมอื งจาปาศกั ดิป์ ระเทศลาวปัจจบุ นั
พระเจ้าจิตรเสน หลังจากข้ึนครองราชย์ ทรงพระนามว่า พระเจ้ามเหนทรวรมัน เป็นกษัตริย์องค์สาคัญของเจนละท่ีเรือง
อานาจมาก หลักฐานเกี่ยวกับอานาจของพระองค์นั้น พบอยู่เป็นจานวนมาก ในดินแดนภาคใต้ของประเทศลาว และบริเวณ
ภาคเหนือของประเทศกมั พูชาปจั จุบนั แตท่ พ่ี บมากทสี่ ุด ไดแ้ ก่ บริเวณล่มุ แมน่ ้ามลู ในภาคตะวันออกเฉยี งเหนือของประเทศไทย
พระเจ้าจิตรเสน ทรงมีความเช่ียวชาญการศึกสงคราม จดหมายเหตจุ ีนสมัยราชวงศ์ซุย เม่ือประมาณ พ.ศ. 1132-1161 ได้
บันทึกไว้ว่า “พระเจ้าจิตรเสนพระองค์น้ีน่าจะได้เผชิญศึกสงคราม ควบคู่ไปกับพระเชษฐาของพระองค์ คือ พระเจ้าภววรมันท่ี 1
เจ้าชายทั้ง 2 พระองค์ ทรงเป็นนักรบ ได้ร่วมแรงร่วมใจกัน ก่อตั้งอาณาจักรเจนละขึ้น โดยยกกองทัพต่อต้านอาณาจักรฟูนันจน
ประสบชยั ชนะ” ทุกคร้ังท่ีพระเจ้าจิตรเสนได้รับชัยชนะ ก็จะสร้างศาสนานุสาวรีย์ พร้อมทั้งจารึก ประกาศพระราชประสงค์ท่ีสร้าง

รปู เคารพขน้ึ เปน็ การอุทิศถวายแด่พระศิวะเทพเจา้ โดยมีพระประสงค์จะให้เป็นที่สักการบูชาของปวงชน ณ อาณาบริเวณน้ัน ๆ อีก
ท้งั เพอื่ เปน็ การเฉลมิ ฉลอง และเป็นที่ระลึกแห่งชัยชนะของพระองค์

หลกั ฐานเก่าท่สี ดุ ทพี่ บในประเทศไทย ไดแ้ ก่ ศิลาจารึกที่ระบุพระนามของพระเจ้าจิตรเสน หรือพระเจ้ามเหนทรวรมัน ปจั จุบันนี้
พบแล้ว จานวน 10 หลัก มีทั้งจารึกอยู่บนแท่งหิน ที่ทาข้ึนโดยเฉพาะ บนฐานประติมากรรม และบนผนังถ้า จารึกไว้ด้วยภาษา
สันสกฤตเหมอื นกนั ทุกหลัก ถงึ แม้จะไม่ปรากฏศักราช แต่เมื่อศึกษาวิเคราะห์รูปอักษรในจารึกแล้ว ทราบวา่ เป็นรูปอักษรปัลลวะ ใน
ระหวา่ งพุทธศตวรรษท่ี 12 จารึกเหล่าน้ี พบอยทู่ ีจ่ ังหวัดอบุ ลราชธานี จานวน 5 หลัก ไดแ้ ก่ จารึกปากแม่น้ามูล 1 และ 2 จารึกปาก
โดมน้อย จารึกวัดสุปัฏนาราม และจารึกถ้าภูหมาไน จารึกถ้าเป็ดทอง 3 หลัก ที่อาเภอปะคา จังหวัดบุรีรัมย์ บริเวณลุ่มแม่น้าชี
ตอนบน พบจารึกวัดศรีเมืองแอม ที่อาเภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น ในภาคตะวันออก พบจารึกช่องสระแจง ที่อาเภอตาพระ
ยา จังหวัดสระแก้ว

ขอ้ ความในจารึกทง้ั หมด แบง่ ออกเปน็ 4 กลุม่ คือ
1. กลา่ วถงึ พระนามพระเจ้าจติ รเสน ไมไ่ ดก้ ลา่ วถงึ พระนามพระเจ้ามเหนทรวรมนั แสดงว่ามกี ารจารึกในสมัยทพ่ี ระองคย์ ัง
เป็นพระเจ้าจิตรเสนทรงนับถอื ศาสนาพราหมณ์ ลทั ธิไศวนิกาย
ตามบรรพบรุ ษุ เม่อื ทาสงครามชนะขา้ ศกึ แล้วพระองคไ์ ดส้ รา้ งศวิ ลงึ ค์ ด้วยความภกั ดีตามคาส่ังของพระบดิ าและพระมารดา
2. กล่าวถงึ พระประวัตพิ ระเจา้ มเหนทรวรมนั และการสร้างศวิ ลึงค์ ไว้เป็นเครอ่ื งหมายแห่งชัยชนะของพระองค์ ไดแ้ ก่ จารกึ
ปากแมน่ ้ามลู 1 และ 2 จารกึ วัดสปุ ัฏนาราม และจารึกปากโดมน้อย
3. กลา่ วถึงพระประวตั ิ พรเจ้ามเหนทรวรมนั เหมือนกลุ่มท่ี 2 แต่ตอนทา้ ยต่างกัน คือ ใหส้ รา้ งโคอสุ ภะ ไวเ้ ป็นสวัสดมิ งคล แก่
ชัยชนะของพระองค์ ไดแ้ ก่ จารกึ ถ้าภหู มาไน และจารกึ วดั ศรเี มืองแอม
4. กลา่ วถงึ การสรา้ งบอ่ น้าไวใ้ ห้แก่ประชาชน ในจารกึ ชอ่ งสระแจง
จึงเชื่อว่าจารึกท่ีแสดงพระนามของกษัตริย์ขอม ปรากฏอยู่ ณ ที่ใด ก็อาจจะแสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างราชอาณาจักรขอม
กับดนิ แดนนั้น ๆ จากจารกึ ท่ีพบแล้วในปจั จุบัน ทาให้ทราบถงึ ร่องรอยความยง่ิ ใหญ่ของอาณาจักรเจนละ ในรัชกาลพระเจ้ามเหนทรวร
มัน มอี าณาเขตครอบคลมุ ลาน้าโขง ตงั้ แตเ่ มอื งภวปุระ ซ่งึ เปน็ เมืองราชธานีในเขตประเทศกมั พูชา ผา่ นเมอื งจาปาศักดิ์ เขตประเทศ
ลาว เข้าสู่ดินแดนทิศตะวันตกเขตประเทศไทย ที่ปากแม่น้ามูล จังหวัดอุบลราชธานี ล่องตามลาน้าเข้ามาถึงบริเวณจังหวัดบุรีรัมย์
และขึ้นมาตามลาน้าท่ีจังหวัดขอนแก่น ส่วนดินแดนตอนใต้นั้นเข้าไปถึงบริเวณเทือกเขาดงรัก ท่ีจังหวัดสระแก้ว ซ่ึงอยู่ในลุ่มแม่น้า
บางปะกง และบางทีอาจจะเลยเขา้ ไปถงึ ลมุ่ แม่นา้ ปา่ สกั ทจี่ งั หวัดเพชรบูรณ์อกี ดว้ ย

หลักฐานจากจารึกที่กล่าวมาข้างต้นเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์รุ่นแรกสุดท่ีพบ แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์
ระหวา่ งชุมชนโบราณในแถบอีสาน กับอาณาจักรเจนละท้ังด้านการปกครอง และศาสนาระยะแรกเริ่ม โดยเฉพาะศาสนาพราหมณ์
ลทั ธไิ ศวนิกาย

ข้ันสรุป

ขัน้ ขยายความเขา้ ใจ

5. จากนั้นแบ่งกลุ่มนักเรียน 2 กลุ่มตามความเหมาะสม แล้วให้แตล่ ะกลุ่มส่งผู้แทนออกมาติดบัตรคาลงบนกระดาน ซึ่งครู
แบ่งกระดานเป็น 2 ด้าน คือ ด้านที่ 1 หลักฐานท่ีเป็นลายลักษณ์อักษร ด้านที่ 2 หลักฐานท่ีไม่เป็นลายลักษณ์อักษร โดยครูคอย
ตรวจสอบความถูกตอ้ งและใหค้ าแนะนาเพ่มิ เติมพร้อมอธิบาย

6. ครใู หน้ ักเรยี นร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี
1) หลักฐานท่ีเป็นลายลักษณ์อักษรและหลักฐานท่ีไม่เป็นลายลักษณ์อักษรทางประวัติศาสตร์ เป็นหลักฐานท่ีใช้ใน

การศึกษาสืบค้นความเป็นมาของท้องถ่ิน เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับท้องถ่ินตามข้อเท็จจริง นักเรียนทาแบบฝึกหัดวิชา
ประวตั ิศาสตร์

ขนั้ ตรวจสอบผล

7. ครูตรวจแบบฝกึ หัดและสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเข้ารว่ มกจิ กรรม

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวัดและประเมิน วิธีการวัดผล เคร่ืองมือวัด เกณฑก์ ารประเมินผล
จุดประสงค์ 1. คาถามกระตุ้นความคิด
1. ระบหุ ลักฐานทาง 70% ข้ึนไปถอื วา่ ผ่านเกณฑ์
ความรู้ความเขา้ ใจ (K) ประวตั ิศาสตร์ท่ใี ช้ในการศกึ ษา 1. แบบฝกึ หัด การประเมิน
ท้องถ่ิน
ทักษะ / กระบวนการ (P) 2. จาแนกหลกั ฐานทาง 1. แบบสงั เกตพฤติกรรมการ 70% ข้นึ ไปถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
ประวตั ศิ าสตร์ท่ใี ชเ้ พ่อื เข้าร่วมกจิ กรรม การประเมนิ
คุณลักษณะนสิ ัย (A) การศึกษาประวัตคิ วามเปน็ มา
ของท้องถน่ิ 70% ขึน้ ไปถือว่าผา่ นเกณฑ์
3. สนใจศกึ ษาหลกั ฐานทาง การประเมิน
ประวัติศาสตร์ของทอ้ งถิน่
ตนเอง

7. ส่ือ / แหลง่ การเรียนรู้
7.1 สอ่ื การเรียนรู้
1) ภาพตัวอยา่ งหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์
7.2 แหล่งการเรียนรู้
1) หอ้ งสมดุ
2) อนิ เทอรเ์ น็ต

8. กิจกรรมเสนอแนะ
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................

ลงช่ือ………………………………………………………ครผู ้สู อน ลงชอ่ื ………………………………………………………ฝา่ ยวชิ าการ
(……………………………………………………) (……………………………………………………)

ลงชื่อ………………………………………………………ผู้บรหิ าร
(……………………………………………………)

สัปดาหท์ ่ี 4

โรงเรยี นขจรเกยี รติพฒั นา
แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรียนท…ี่ ……..… /…………….. ชอ่ื ผสู้ อน……………………………………………………

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม ชัน้ ประถมศกึ ษาป่ที ่ี 5 จานวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 ความเปน็ มาของทอ้ งถนิ่

เรอ่ื ง การนาเสนอความเปน็ มาของท้องถิ่นโดยอ้างองิ จากหลกั ฐาน

1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชีว้ ดั
มาตรฐาน ส 4.1 เข้าใจความหมายความสาคัญของเวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์สามารถใช้วิธีการทาง

ประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์เหตกุ ารณต์ ่างๆ อย่างเป็นระบบ

ตัวชี้วดั ป.5/1 สืบค้นความเปน็ มาของท้องถิ่นโดยใชห้ ลักฐานทีห่ ลากหลาย

2. สาระสาคญั / ความคิดรวบยอด
การนาเสนอข้อมูลเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการสืบค้นความเป็นมาของท้องถิ่น โดยมีการอ้างอิงจากหลักฐานทาง

ประวัตศิ าสตรป์ ระกอบการนาเสนอ

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. นาเสนอเร่อื งราวความเป็นมาของทอ้ งถิ่นตนเอง (K)
2. ค้นหาขอ้ มลู เรอื่ งราวความเป็นมาของทอ้ งถน่ิ เพอื่ นาเสนอขอ้ มูล (P)
3. สนใจศกึ ษาเรยี นรปู้ ระวัติศาสตร์ในทอ้ งถนิ่ ของตนเอง (A)

4. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถนิ่

การศกึ ษาการนาเสนอความเป็นมาของท้องถน่ิ โดย พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา

อา้ งองิ จากหลกั ฐาน

5. กิจกรรมการเรยี นรู้ คาบที่ 1
ข้ันนา

ข้นั กระตุน้ ความสนใจ

1. ครนู าตวั อย่างการนาเสนอความเป็นมาของท้องถ่ิน โดยการเล่าเรื่อง ครูให้ผู้แทนนักเรียนออกมาอ่านให้เพื่อนฟงั และ
ใช้คาถามใหน้ กั เรียนรว่ มกนั สนทนา ดังนี้

ตวั อยา่ งการนาเสนอความเปน็ มาของท้องถิ่น

ฉนั อาศยั อยู่ทอี่ าเภอกันทรลักษณ์ จงั หวัดศรีสะเกษ จังหวัดทฉ่ี นั อาศัยอยู่เดมิ เรียก เมืองขขุ ันธ์ นกั โบราณคดี
สนั นษิ ฐานวา่ ขอมเคยมอี านาจอยู่ในบริเวณนี้ เพราะปรากฏหลักฐานในพื้นท่ี ซ่ึงเปน็ โบราณสถานและโบราณวัตถุของ
ขอมหลายอย่าง เช่น ปราสาทโดนตวล ปราสาทพระวิหาร เป็นต้น ในพุทธศตวรรษท่ี 25 ฝร่ังเศส ได้ขยาย
อานาจเข้ามาครอบครองกัมพูชา และอ้างสิทธิเหนือปราสาทพระวิหารจนกระท่ังศาลโลกตัดสินให้ปราสาทพระวิหาร
อยภู่ ายใตอ้ ธปิ ไตยของกมั พชู า เม่ือวันท่ี 15 มถิ นุ ายน พ.ศ. 2505

การนาเสนอข้อมูลดังกล่าว ฉันใช้หลักฐาน ดังนี้ รูปภาพปราสาทพระวิหาร ปราสาทโดนตวลซึ่งแสดงให้เห็น
ถึงสถาปัตยกรรมของขอมคาพิพากษาของศาลโลกที่ตัดสินให้ปราสาท-พระวิหารอยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา เม่ือ
พ.ศ. 2505 หนังสอื ทเ่ี กยี่ วข้องกบั จงั หวดั ศรีสะเกษ และปราสาทพระวหิ าร

ปราสาทพระวหิ าร
1) การนาเสนอข้อมูลตามตวั อย่างมีหลักฐานใดท่ีใชอ้ ้างอิง (ตัวอย่างคาตอบ รูปภาพปราสาทพระวิหาร ปราสาท
โดนตวล หนังสอื ท่เี กีย่ วข้องกับจงั หวัดศรสี ะเกษ)

ข้ันสอน

ข้ันสารวจคน้ หา
2. ครูอธิบายเพ่ิมเติมว่า “การนาเสนอข้อมูล ต้องนาเสนอข้อมูลตามความเป็นจริง หลีกเลี่ยงการใช้อคติและความรู้สึก

ส่วนตวั ในการนาเสนอ และนาเสนอขอ้ มลู ให้มีความนา่ สนใจเพือ่ ไม่ให้ผู้ฟงั หรือผู้อา่ นเกดิ ความเบอ่ื หนา่ ย การนาเสนอข้อมูลนอกจาก
การเล่าเรอ่ื งแล้ว ยังมีการเขียนอยา่ งงา่ ย ๆ และการจดั นทิ รรศการ เปน็ ตน้

3. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน ร่วมกันศึกษาข้อมูลประวัติศาสตร์ของท้องถ่ินของตนเองจากแหล่งข้อมูลตา่ ง ๆ
เช่น ห้องสมุด พพิ ิธภัณฑ์ในจงั หวดั
ขน้ั อธิบายความรู้

4. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งผู้แทนออกมานาเสนอผลการศึกษาข้อมูลเก่ียวกับประวัติศาสตร์ของท้องถิ่นตนเองมาเล่าให้
เพ่ือนฟงั พรอ้ มบอกแหล่งท่มี าของข้อมูลทตี่ นไปศกึ ษาคน้ คว้ามา

ข้ันสรุป

ขนั้ ขยายความเขา้ ใจ

5. ครูนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ ดังน้ี การนาเสนอความเป็นมาของท้องถ่ิน สามารถนาเสนอในรูปแบบการเล่าเรื่อง การ
เขยี น การจัดนทิ รรศการโดยสบื ค้นจากหลกั ฐานทางประวัตศิ าสตรท์ ี่มีปรากฏในหอ้ งสมดุ พิพิธภัณฑ์ และโบราณสถานของทอ้ งถ่ิน

ขัน้ ตรวจสอบผล

6. ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นโดยครูใช้คาถามท้าทาย ดังนี้ นักเรียนมีรูปแบบการนาเสนอเรื่องราวของท้องถ่ิน
ตนเองให้น่าสนใจไดอ้ ยา่ งไรครูสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเข้ารว่ มกจิ กรรมกล่มุ และ ตรวจแบบฝึกหัด

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวดั และประเมนิ วิธีการวดั ผล เคร่ืองมอื วัด เกณฑก์ ารประเมินผล
จดุ ประสงค์ 1. คาถามกระตุ้นความคดิ
1. นาเสนอเรอ่ื งราวความ 1. แบบฝึกหัด 70% ขนึ้ ไปถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์
ความรคู้ วามเข้าใจ (K) เปน็ มาของทอ้ งถนิ่ ตนเอง การประเมนิ
2. คน้ หาข้อมลู เรอื่ งราวความ 1. แบบสังเกตพฤติกรรมการ 70% ข้ึนไปถอื ว่าผา่ นเกณฑ์
ทักษะ / กระบวนการ (P) เปน็ มาของท้องถิ่นเพอ่ื นาเสนอ เขา้ ร่วมกิจกรรม การประเมิน
ข้อมลู
คุณลักษณะนสิ ยั (A) 3. สนใจศึกษาเรียนรู้ 70% ขึน้ ไปถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
ประวัติศาสตร์ในท้องถิน่ ของ การประเมิน
ตนเอง

7. สอ่ื / แหลง่ การเรียนรู้
7.1 สือ่ การเรยี นรู้
1) ตวั อยา่ ง การนาเสนอเร่อื งเลา่ ทางประวัตศิ าสตร์
7.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) ห้องสมุด
2) อินเทอร์เนต็

8. กิจกรรมเสนอแนะ
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................

ลงช่อื ………………………………………………………ครผู สู้ อน ลงชื่อ………………………………………………………ฝา่ ยวชิ าการ
(……………………………………………………) (……………………………………………………)

ลงชอื่ ………………………………………………………ผู้บรหิ าร
(……………………………………………………)

สปั ดาหท์ ่ี 5

โรงเรยี นขจรเกยี รติพฒั นา
แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรียนท…ี่ ……..… /…………….. ช่อื ผู้สอน……………………………………………………

กลุม่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศกึ ษาป่ที ่ี 5 จานวน 1 คาบ

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ความเปน็ มาของท้องถน่ิ

เรอื่ ง การนาเสนอความเป็นมาของท้องถน่ิ โดยอ้างองิ จากหลกั ฐาน (ต่อ)

1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ช้ีวดั
มาตรฐาน ส 4.1 เข้าใจความหมายความสาคัญของเวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์สามารถใช้วิธีการทาง

ประวัตศิ าสตร์มาวเิ คราะห์เหตกุ ารณ์ต่างๆ อย่างเป็นระบบ

ตวั ช้ีวดั ป.5/1 สบื คน้ ความเป็นมาของทอ้ งถนิ่ โดยใชห้ ลกั ฐานที่หลากหลาย

2. สาระสาคัญ / ความคิดรวบยอด
การนาเสนอข้อมูลเป็นข้ันตอนสุดท้ายของการสืบค้นความเป็นมาของท้องถ่ิน โดยมีการอ้างอิงจากหลักฐานทาง

ประวัตศิ าสตร์ประกอบการนาเสนอ

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. นาเสนอเร่ืองราวความเป็นมาของท้องถ่ินตนเอง (K)
2. คน้ หาข้อมลู เรื่องราวความเปน็ มาของท้องถิ่นเพอื่ นาเสนอขอ้ มูล (P)
3. สนใจศกึ ษาเรียนร้ปู ระวตั ิศาสตร์ในทอ้ งถ่ินของตนเอง (A)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถนิ่

การศกึ ษาการนาเสนอความเปน็ มาของท้องถน่ิ โดย พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา

อ้างองิ จากหลักฐาน

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้

คาบที่ 1

ขัน้ นา
ขนั้ กระตนุ้ ความสนใจ

1. ให้นักเรียนอ่านเน้ือหาเกี่ยวกับแหล่งข้อมูลประวัติศาสตร์ในท้องถ่ิน จากนั้นร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยครูใช้
คาถาม ดังนี้ แหล่งข้อมูลประวัติศาสตร์ในจังหวัดที่ง่ายต่อการศึกษาของนักเรียนได้แก่ท่ีใดบ้าง (ตัวอย่างคาตอบ ห้องสมุด
พิพธิ ภัณฑ์ โบราณสถาน)

ขน้ั สอน ห้องสมดุ
ขัน้ สารวจค้นหา โบราณสถาน
พพิ ธิ ภณั ฑ์
2. ครเู ตรยี มขอ้ มลู เก่ียวกบั แหล่งขอ้ มูลแต่ละแหล่งในท้องถิน่ ของตนเอง
ตวั อยา่ ง

สถานทรี่ วบรวมหนังสือ วารสาร
หนังสือพมิ พ์ทมี่ เี ร่อื งราวประวตั ศิ าสตร์

สถานที่สาคญั ทางประวตั ิศาสตร์ เชน่ วัด
โบสถ์ มสั ยดิ ศาลเจ้า

สถานทีเ่ ก็บรวบรวมโบราณวัตถุ เช่น
พระพทุ ธรปู ภาพถ่าย เคร่อื งมือเครอ่ื งใช้

ข้ันอธบิ ายความรู้

3. ครใู ห้นักเรียนกลมุ่ เดิมร่วมกนั บอกว่าขอ้ มูลท่ีครูบอกเป็นลกั ษณะของข้อมูลท่ไี ด้จากแหล่งใด
4. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรุปความร้เู กีย่ วกับแหลง่ ขอ้ มูลประวตั ศิ าสตรเ์ ป็นแผนภาพลงบนกระดาน

ขั้นสรปุ

ขน้ั ขยายความเข้าใจ

4. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สรปุ ความรู้ ดังน้ี
1) การนาเสนอความเป็นมาของท้องถ่ิน สามารถนาเสนอในรูปแบบการเล่าเร่ือง การเขียน การจัดนิทรรศการโดย

สบื คน้ จากหลักฐานทางประวัติศาสตรท์ ี่มปี รากฏในหอ้ งสมดุ พพิ ิธภัณฑ์ และโบราณสถานของท้องถ่ิน

5. ครใู ห้นกั เรียนทาใบงานที่ 1 การสืบค้นความเปน็ มาของท้องถิน่

ข้ันตรวจสอบผล

6. ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นโดยครูใช้คาถามท้าทาย ดังนี้ ครูสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเข้าร่วม
กิจกรรมกลุ่มและตรวจใบงานที่ 1 การสบื ค้นความเปน็ มาของท้องถ่ิน

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวดั และประเมิน วธิ กี ารวัดผล เครอ่ื งมือวดั เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
จดุ ประสงค์
1. นาเสนอเรื่องราวความ 1. คาถามกระตุน้ ความคิด 70% ขน้ึ ไปถอื วา่ ผ่านเกณฑ์
ความรู้ความเข้าใจ (K) เป็นมาของท้องถ่นิ ตนเอง การประเมนิ
2. ค้นหาขอ้ มลู เรือ่ งราวความ ใบงานท่ี 1 การสืบค้นความ 70% ข้นึ ไปถอื ว่าผา่ นเกณฑ์
ทกั ษะ / กระบวนการ (P) เป็นมาของท้องถน่ิ เพ่อื นาเสนอ เปน็ มาของทอ้ งถิ่น การประเมิน
ข้อมูล
คุณลกั ษณะนสิ ยั (A) 3. สนใจศกึ ษาเรยี นรู้ 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ 70% ขน้ึ ไปถือวา่ ผ่านเกณฑ์
ประวัติศาสตร์ในทอ้ งถิ่นของ เข้าร่วมกิจกรรม การประเมิน
ตนเอง

7. สือ่ / แหลง่ การเรียนรู้
7.1 ส่อื การเรียนรู้
1) ตัวอยา่ ง แหลง่ ข้อมลู ในทอ้ งถ่ิน
7.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) หอ้ งสมุด
2) อนิ เทอร์เน็ต

8. กิจกรรมเสนอแนะ
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................

ลงช่อื ………………………………………………………ครูผู้สอน ลงชอื่ ………………………………………………………ฝ่ายวชิ าการ
(……………………………………………………) (……………………………………………………)

ลงชอื่ ………………………………………………………ผู้บรหิ าร
(……………………………………………………)

ใบงานท่ี 1

เร่ือง การสบื ค้นความเปน็ มาของท้องถิ่น

คาสงั่ ใหน้ ักเรยี นแบ่งกลุ่มสบื ค้นความเป็นมาของทอ้ งถ่ินของตนเอง และออกมานาเสนอหนา้ ชนั้
เรียนแล้วบันทึกผลลงในแบบบนั ทกึ

แบบบนั ทึกการสืบค้นความเป็นมาของ
ทอ้ งถ่นิ

ทอ้ งถิ่นท่ีฉันอาศยั อยู่ คือ
………………………………………………….……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
หัวข้อท่ีสนใจศกึ ษา (ตงั้ คาถาม 1 คาถาม)
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
หลกั ฐานท่ใี ช้ในการสืบคน้
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
การตรวจสอบขอ้ มลู
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
วธิ กี ารนาเสนอขอ้ มูล
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

สปั ดาห์ที่ 6

โรงเรียนขจรเกยี รติพฒั นา
แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรียนท…่ี ……..… /…………….. ช่อื ผสู้ อน……………………………………………………

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศกึ ษาป่ที ่ี 5 จานวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 ความเปน็ มาของท้องถ่ิน

เรอื่ ง กจิ กรรมเสรมิ ทักษะความรกู้ ารสบื คน้ ความเปน็ มาของท้องถนิ่

1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชว้ี ดั
มาตรฐาน ส 4.1 เข้าใจความหมายความสาคัญของเวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์สามารถใช้วิธีการทาง

ประวัติศาสตร์มาวเิ คราะห์เหตกุ ารณต์ ่างๆ อยา่ งเป็นระบบ

ตวั ชี้วดั ป.5/1 สืบค้นความเป็นมาของทอ้ งถน่ิ โดยใชห้ ลกั ฐานทห่ี ลากหลาย

2. สาระสาคัญ / ความคิดรวบยอด
การสืบค้นความเป็นมาของท้องถ่ินประกอบด้วยหลักฐานที่เปน็ ลายลักษณ์อกั ษร หลักฐานที่ไม่เปน็ ลายลักษณ์อกั ษรซ่ึงเป็น

หลักฐานช้นั ตน้ และหลักฐานท่เี รยี บเรยี งบันทกึ เปน็ ตาราประวัตศิ าสตรเ์ รียกวา่ หลักฐานชน้ั รอง

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. อธบิ ายและสรุปความรกู้ ารสบื ค้นความเปน็ มาของทอ้ งถน่ิ ลงในแบบกจิ กรรม (K)
2. จาแนกและสรปุ ความร้กู ารสืบค้นความเปน็ มาของท้องถิน่ ลงในแบบกจิ กรรม (P)
3. เหน็ ความสาคัญในการฝกึ ทกั ษะการเรียนร้แู ละทากิจกรรมระหว่างเรียน (A)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรทู้ ้องถ่นิ
พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
กจิ กรรมการสืบคน้ ความเปน็ มาของท้องถนิ่

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

คาบท่ี 1

ขั้นนา
ขน้ั กระตุ้นความสนใจ

1. ครูนาแบบกิจกรรม แบบฝกึ หัดหรือครูสร้างแบบกิจกรรมเพื่อนามาทดสอบความร้พู ฒั นาเสริมทักษะระหว่างเรียน (แบบ
กิจกรรมใหข้ ึ้นอยกู่ ับดลุ ยพินิจของครู) ดังนี้

ตัวอยา่ งกิจกรรม

ให้นกั เรียนนาหลกั ฐานทางประวัตศิ าสตร์ท่ีกาหนดใหจ้ าแนกลงในแผนภาพใหถ้ ูกตอ้ ง

บันทึกส่วนตวั พระพุทธรปู คาบอกเลา่ แผนท่ี

โปสเตอร์ โบราณสถาน หนังสือพิมพ์

แถบบันทึกเสียง เอกสารราชการ เครอื่ งสงั คโลก

หลกั ฐานทเ่ี ปน็ ลายลักษณ์อกั ษร หลักฐานท่ไี ม่เปน็ ลายลกั ษณอ์ ักษร

ข้นั สอน

ข้นั สารวจคน้ หา
2. ใหน้ ักเรียนสารวจหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ที่มใี นจงั หวดั ของนกั เรยี นมา 3 อย่าง จากนนั้ บันทึกข้อมูลลงในแบบบนั ทกึ

แบบบนั ทกึ หลกั ฐานทางประวัตศิ าสตร์

จงั หวดั _____________________________________________

ลาดบั ที่ หลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์

1. _____________________________________________
2. _____________________________________________
3. _____________________________________________

ขัน้ อธบิ ายความรู้
3. ครูให้นักเรียนอ่านข้อความท่ีกาหนดให้ แล้วนาตัวอักษรหน้าข้อความมาเรียงลาดับข้ันตอนการสืบค้นความเป็นมาของ

ท้องถิ่นลงในแผนภาพให้ถูกต้อง
ก. นาขอ้ มลู ของสมาชกิ มาจัดเรียงลาดบั เหตกุ ารณก์ ารตงั้ ถ่ินฐานของคนในจงั หวัดต้ังแตอ่ ดีตจนถงึ ปจั จบุ ัน
ข. จัดตงั้ โครงการศกึ ษาประวตั กิ ารตง้ั ถิ่นฐานในจังหวัดของตนเอง
ค. สมาชกิ ในโครงการนาเหตุการณ์เกี่ยวกบั การตง้ั ถิน่ ฐานในจงั หวัดมาจดั ปา้ ยนเิ ทศแสดงผลงานให้ความร้แู กน่ ักเรยี นในโรงเรียน
ง. คน้ ควา้ ข้อมูลหลกั ฐานทางประวัติศาสตรเ์ ก่ียวกบั การตั้งถ่นิ ฐานในจังหวัดจากหอ้ งสมดุ และพพิ ิธภัณฑใ์ นจงั หวดั

ขนั้ ตอนการสบื คน้ ความเปน็ มาของท้องถ่ิน

ขั้นสรุป

ขั้นขยายความเข้าใจ
4. ครูใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั สรปุ ความรู้ ดังนี้ การสืบค้นความเป็นมาของท้องถ่นิ ประกอบด้วยหลักฐานท่ีเป็นลายลักษณ์อักษร

หลักฐานท่ไี มเ่ ป็นลายลักษณ์อกั ษรซึ่งเป็นหลกั ฐานชนั้ ต้น และหลักฐานท่เี รียบเรียงบนั ทกึ เป็นตาราประวตั ศิ าสตรเ์ รียกว่าหลักฐานชัน้
รอง
ข้ันตรวจสอบผล

5. ครูตรวจและเฉลยแบบกจิ กรรมของนักเรยี นพร้อมอธิบายสรุปความรู้เพิ่มเติมใหน้ กั เรยี นร่วมกันแสดงความคิดเห็นโดยครู
ใช้คาถามท้าทาย ดังนี้ นักเรียนไดร้ ับความรู้อะไรจากการสืบค้นความเป็นมาของท้องถ่ินตนเอง ครูสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนใน
การเข้าร่วมกจิ กรรมและตรวจแบบฝึกหดั

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวัดและประเมนิ วิธีการวัดผล เครอ่ื งมือวดั เกณฑก์ ารประเมินผล
จุดประสงค์ 1. คาถามกระตุ้นความคิด
1. อธบิ ายและสรุปความร้กู าร 70% ขน้ึ ไปถือว่าผา่ นเกณฑ์
ความรู้ความเข้าใจ (K) สบื คน้ ความเปน็ มาของท้องถิ่น 1. แบบฝึกหัด การประเมนิ
ลงในแบบกจิ กรรม
ทกั ษะ / กระบวนการ (P) 2. จาแนกและสรุปความร้กู าร 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ 70% ขน้ึ ไปถือวา่ ผ่านเกณฑ์
สืบคน้ ความเป็นมาของทอ้ งถ่นิ เขา้ ร่วมกิจกรรม การประเมนิ
คณุ ลักษณะนสิ ยั (A) ลงในแบบกิจกรรม
3. เหน็ ความสาคัญในการฝกึ 70% ขนึ้ ไปถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
ทกั ษะการเรียนรแู้ ละทา การประเมนิ
กจิ กรรมระหวา่ งเรยี น

7. สือ่ / แหล่งการเรยี นรู้
7.1 ส่ือการเรยี นรู้
1) แบบกิจกรรมเสริมทักษะความร้กู ารสบื คน้ ความเปน็ มาของทอ้ งถนิ่
7.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) ห้องสมุด
2) อินเทอร์เน็ต

8. กิจกรรมเสนอแนะ
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ………………………………………………………ครผู สู้ อน ลงช่อื ………………………………………………………ฝ่ายวชิ าการ
(……………………………………………………) (……………………………………………………)

ลงชือ่ ………………………………………………………ผู้บรหิ าร
(……………………………………………………)

สัปดาหท์ ี่ 7

โรงเรียนขจรเกียรตพิ ฒั นา
แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรียนท…ี่ ……..… /…………….. ชอื่ ผูส้ อน……………………………………………………
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษาศาสนาและวัฒนธรรม ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ ่ี 5 จานวน 1 คาบ
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 ความเป็นมาของท้องถิ่น
เร่อื ง การตัง้ คาถามทางประวตั ศิ าสตร์ อย่างมีเหตุผล

1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชว้ี ัด
มาตรฐาน ส 4.1 เข้าใจความหมายความสาคัญของเวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์สามารถใช้วิธีการทาง

ประวัติศาสตรม์ าวิเคราะห์เหตกุ ารณต์ า่ งๆ อย่างเป็นระบบ

ตวั ชีว้ ดั ป.5/2 รวบรวมขอ้ มลู จากแหลง่ ตา่ ง ๆ เพือ่ ตอบคาถามทางประวตั ิศาสตรอ์ ย่างมเี หตผุ ล

2. สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอด
การตั้งคาถามเป็นข้ันตอนแรกของการสืบค้นข้อมูลทางประวัติศาสตร์ และเป็นการนาไปสู่การสืบค้นเพ่ือหาข้อมูลคาตอบท่ี

ตอ้ งการทราบอยา่ งมีเหตุผล

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. ยกตัวอย่างการตงั้ คาถามทางประวตั ศิ าสตร์อย่างมเี หตผุ ล (K)
2. ศกึ ษาและคน้ หาการตัง้ คาถามทางประวัตศิ าสตรอ์ ยา่ งมีเหตผุ ล (P)
3. สนใจศกึ ษาขอ้ มูลหลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์เพอื่ ใช้ตง้ั คาถามและตอบคาถามอย่างมีเหตุผล (A)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ท้องถนิ่
พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศกึ ษา
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
การใช้ขอ้ มูลเพอื่ ตัง้ คาถามอยา่ งมเี หตผุ ล

5. กิจกรรมการเรียนรู้ คาบที่ 1

ขนั้ นา
ข้นั กระตนุ้ ความสนใจ

1. ครูนาเร่อื งราวตวั อยา่ ง ปราสาทพระวหิ ารมาให้นกั เรียนฟัง โดยคัดผแู้ ทนนกั เรยี นมาอ่านให้เพื่อนฟงั จากน้ันครู
ใชค้ าถามใหน้ กั เรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เห็น ดังนี้ คาตอบ ต้ังคาถามเกี่ยวกับเรื่องราวของปราสาทพระวิหาร)

เร่ืองราว ปราสาทพระวิหาร

ฝรั่งเศสได้เข้าครอบครองอินโดจีน และได้ทาสนธิสัญญาปักปันเขตแดนกับราชอาณาจักรสยาม (ประเทศไทย)
เม่อื พ.ศ. 2447 โดยระบใุ ห้ใชส้ ันปนั นา้ เป็นเส้นแบง่ พรมแดน ซึ่งมีผลให้ปราสาทพระวิหารอยู่ในดินแดนไทย ต่อมาใน
พ.ศ. 2451 ฝร่ังเศสไดจ้ ัดทาแผนท่ีขึ้นฝ่ายเดียว แผนท่ีแผ่นหน่ึง คือ แผ่นดงรัก ซ่ึงครอบคลุมพ้ืนท่ีปราสาทพระวิหาร
ไม่ไดใ้ ช้แนวสันปันน้า เป็นเส้นแบ่งพรมแดนทาให้ปราสาทพระวิหารในแผนท่ีอยู่ในเขตแดนของกัมพูชา โดยรัฐบาลไทย
ในขณะน้ันไม่ได้ยอมรับแผนที่ดังกล่าว แตก่ ็ไม่ไดท้ ักท้วง เม่ือ พ.ศ. 2484 เกิดสงครามพิพาทอนิ โดจีนระหว่างไทยกับ
ฝรั่งเศสข้ึน ประเทศไทยได้รับชัยชนะในการรบไทยจึงได้เขาพระวิหารกลับคืนมา ต่อมาเกิดสงคร ามโลกครั้งที่ 2
ประเทศไทยต้องรักษาสถานะเพื่อไม่ให้ตกเป็นฝ่ายแพ้สงครามตามญี่ปุ่น จึงได้คืนปราสาทพระวิหารกลับไปอยู่บริเวณ
ชายแดนของกัมพูชา ตอ่ มาเวียดนามทาสงครามชนะฝร่ังเศสจึงต้องถอนทหารออกไป ไทยจึงได้กลับเข้าไปรักษาการณ์
บริเวณปราสาทพระวิหาร อีกครั้ง

ภายหลังกัมพูชาได้รับเอกราช เจ้านโรดมสีหนุได้เรียกร้องให้ไทยคืนปราสาทพระวิหารและให้ศาลชี้ขาดว่า
อธิปไตยเหนือเขาพระวิหารเป็นของกัมพูชา โดยยื่นฟ้องร้องต่อศาลโลก ศาลโลกไดต้ ัดสินให้ปราสาทพระวหิ ารเป็นของ
กมั พูชาดว้ 1ย)เสกยี่องนท9น่ี ตักอ่ เรียนจะทาการสบื คน้ เรื่องราวของปราสาทพระวิหารนักเรยี นจะต้องปฏิบตั อิ ยา่ งไรกอ่ น (ตวั อยา่ ง

2) ตัง้ คาถามเพ่ืออะไร (ตัวอย่างคาตอบ เพื่อทาการสืบค้นข้อมลู หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สามารถให้คาตอบ
ทต่ี นเองตอ้ งการทราบได)้

3) นกั เรยี นจะตง้ั คาถามเพอ่ื ทาการสืบคน้ เรื่องราวปราสาทพระวิหารว่าอยา่ งไรจึงจะมเี หตุผล

ข้นั สอน

ขั้นสารวจคน้ หา

2. ครูให้นักเรียนทกุ คนต้งั คาถามมาคนละ 1 คาถาม ตวั อยา่ งคาถาม เพราะเหตใุ ดบนั ไดทางข้ึนปราสาทพระวิหารอย่เู ขต
ฝัง่ ไทยแต่ตวั ปราสาท พระวหิ ารเป็นของกัมพชู า

3. ครูให้นักเรียนร่วมกันค้นคว้าว่า “การต้ังคาถามทางประวัติศาสตร์เพื่อหาคาตอบทางประวัติศาสตร์จะต้องศึกษาจาก
แหลง่ ขอ้ มูลใดบา้ ง”

ข้ันอธิบายความรู้

4. ครใู ห้นักเรียนช่วยกันหาคาตอบ จากนัน้ ครูสรุปคาตอบของนักเรียนเปน็ แผนภาพบนกระดาน

ตัวอยา่ ง ห้องสมดุ
หอสมุดแห่งชาติ
การใช้ขอ้ มลู และ สถานที่ทางประวตั ศิ าสตร์และบริเวณใกล้เคยี ง
หลักฐานทาง คาบอกเล่าของผรู้ ู้ทมี่ ีประสบการณต์ รง
ประวัตศิ าสตร์

ขนั้ สรปุ

ข้ันขยายความเข้าใจ

5. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ ดงั นี้ การสืบค้นข้อมูลทางประวัติศาสตร์เร่ิมต้นจากการต้ังคาถาม เพอื่ นาไปสู่การ
รวบรวมขอ้ มูล ตรวจสอบขอ้ มูล และสรุปเรยี บเรียงข้อมูลเปน็ คาตอบทางประวัติศาสตรอ์ ยา่ งมีเหตมุ ผี ล

ขนั้ ตรวจสอบผล

6. ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นโดยครูใชค้ าถามท้าทาย ดังนี้นักเรียนจะต้ังคาถามทางประวัตศิ าสตร์ในท้องถ่ินของ
ตนเองอย่างมีเหตุผลได้อย่างไร ครูให่นักเรียนทาแบบฝึกหัด ครูตวจแบบฝึกหัดและสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเข้าร่วม
กจิ กรรม

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวดั และประเมิน วธิ กี ารวดั ผล เครื่องมอื วัด เกณฑก์ ารประเมินผล
จุดประสงค์
1. ยกตัวอย่างการตั้งคาถามทาง 1. คาถามกระตนุ้ ความคดิ 70% ขน้ึ ไปถอื ว่าผา่ นเกณฑ์
ความรคู้ วามเข้าใจ (K) ประวัตศิ าสตร์อยา่ งมเี หตผุ ล การประเมิน
70% ขึน้ ไปถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์
ทกั ษะ / กระบวนการ (P) 2. ศึกษาและคน้ หาการตั้ง 1. แบบฝกึ หัด การประเมนิ
คาถามทางประวตั ศิ าสตร์อย่าง
คุณลักษณะนสิ ัย (A) มีเหตผุ ล 70% ขนึ้ ไปถือว่าผ่านเกณฑ์
การประเมนิ
3. สนใจศึกษาขอ้ มูลหลักฐาน 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ
ทางประวัตศิ าสตรเ์ พอ่ื ใช้ตงั้ เขา้ รว่ มกิจกรรม
คาถามและตอบคาถามอยา่ งมี
เหตผุ ล

7. ส่อื / แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 ส่ือการเรียนรู้
1) ประวัตเิ รื่องราว ปราสาทพระวหิ าร
7.2 แหล่งการเรียนรู้
1) หอ้ งสมดุ
2) อินเทอร์เน็ต

8. กิจกรรมเสนอแนะ
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................

ลงช่อื ………………………………………………………ครผู สู้ อน ลงชื่อ………………………………………………………ฝา่ ยวชิ าการ
(……………………………………………………) (……………………………………………………)

ลงชอื่ ………………………………………………………ผู้บรหิ าร
(……………………………………………………)

สปั ดาห์ท่ี 8

โรงเรยี นขจรเกียรตพิ ฒั นา
แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรียนท…ี่ ……..… /…………….. ชอ่ื ผ้สู อน……………………………………………………
กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม ชนั้ ประถมศกึ ษาป่ีที่ 5 จานวน 1 คาบ
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 1 ความเปน็ มาของท้องถ่ิน
เร่อื ง การตอบคาถามทางประวัติศาสตรอ์ ยา่ งมีเหตุผล

1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชีว้ ดั
มาตรฐาน ส 4.1 เข้าใจความหมายความสาคัญของเวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์สามารถใช้วิธีการทาง

ประวัตศิ าสตร์มาวิเคราะห์เหตกุ ารณต์ า่ งๆ อยา่ งเปน็ ระบบ

ตัวชว้ี ัด ป.5/2 รวบรวมขอ้ มูลจากแหล่งตา่ ง ๆ เพ่ือตอบคาถามทางประวัตศิ าสตรอ์ ย่างมเี หตุผล

2. สาระสาคัญ / ความคดิ รวบยอด
การต้งั คาถามเป็นขั้นตอนแรกของการสืบค้นข้อมูลทางประวัตศิ าสตร์ และเปน็ การนาไปสู่การสืบค้นเพื่อหาข้อมูลคาตอบท่ี

ตอ้ งการทราบอยา่ งมีเหตผุ ล

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. อธบิ ายการตอบคาถามทางประวตั ิศาสตร์อยา่ งมีเหตผุ ล (K)
2. คน้ หาคาตอบจากการตง้ั คาถามทางประวัติศาสตรอ์ ยา่ งมีเหตุผล (P)
3. สนใจศกึ ษาข้อมูลหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตรเ์ พือ่ ใช้ต้ังคาถามและตอบคาถามอยา่ งมเี หตผุ ล (A)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรียนร้ทู ้องถน่ิ

การใชข้ อ้ มลู เพื่อตอบคาถามอย่างมีเหตผุ ล พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศึกษา

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

คาบท่ี 1

ขั้นนา

ขนั้ กระตนุ้ ความสนใจ

1. ครูให้นักเรียนร่วมกันศึกษา การใช้ข้อมูลและหลักฐานทางประวัติศาสตร์เพื่อตอบคาถามอย่างมีเหตุผล โดยครูใช้
คาถามให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น ดังนี้ การตอบคาถามอย่างมีเหตุผลทางประวัติศาสตร์จะต้องมีองค์ประกอบอย่างไร
บา้ ง ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรุปคาตอบเปน็ แผนภาพลงบนกระดาน

ตวั อยา่ งแผนภาพ ตรวจสอบวิเคราะหข์ อ้ มลู หลักฐาน
ทาการสบื ค้นขอ้ มลู หลกั ฐาน

ตง้ั คาถามทางประวัตศิ าสตร์ สรุปเรยี บเรียงขอ้ มูล

สามารถตอบคาถามได้อยา่ งมีเหตุผลตามขอ้ มูลหลักฐาน

ข้ันสอน

ขั้นสารวจคน้ หา
2. ครแู บง่ กลมุ่ นกั เรยี นออกเปน็ 2 กลุม่ กลมุ่ ละเท่าๆ กนั จากนั้นให้แตล่ ะกล่มุ ตง้ั คาถามทางประวัติศาสตรข์ องทอ้ งถน่ิ ตนเอง

แล้วร่วมกนั หาคาตอบใหก้ บั กลมุ่ ของตนเองอยา่ งมีเหตผุ ล โดยการสืบคน้ ขอ้ มูลทางประวัติศาสตร์
ขั้นอธบิ ายความรู้

3. ครใู หน้ ักเรียนแต่ละกลมุ่ ส่งตวั แทนออกนาเสนอหนา้ ชนั้ เรียน และครตู รวจสอบความถกู ต้องพรอ้ มอธบิ ายเพมิ่ เตมิ ตอบ
คาถาม

แผนภาพท่คี รูยกตวั อยา่ ง

เริ่ม ตัง้ คาถาม ศกึ ษารวบรวมข้อมลู หลักฐาน ตรวจสอบข้อมลู

ขัน้ สรปุ จบ นาเสนอเปน็ คาตอบ บนั ทกึ เรยี บเรียงข้อมลู

ขนั้ ขยายความเข้าใจ

4. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ ดังน้ี การสืบค้นข้อมูลทางประวัติศาสตร์เร่ิมต้นจากการตั้งคาถาม เพื่อนาไปสู่การ
รวบรวมข้อมูล ตรวจสอบข้อมูล และสรปุ เรียบเรยี งข้อมลู เป็นคาตอบทางประวัตศิ าสตรอ์ ย่างมเี หตุมผี ล

ขั้นตรวจสอบผล

5. ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นโดยครูใชค้ าถามท้าทาย ดังนี้ นักเรียนจะตอบคาถามทางประวัตศิ าสตร์ในท้องถ่ิน
ของตนเองอย่างมีเหตุผลได้อย่างไรให้นักเรียนทาใบงานที่ 2 เร่ือง การต้ังคาถามและการตอบคาถามทางประวัติศาสตร์อย่างมี
เหตผุ ล

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวดั และประเมนิ วธิ กี ารวดั ผล เครอ่ื งมือวดั เกณฑ์การประเมนิ ผล
จดุ ประสงค์
1. ยกตวั อยา่ งการตงั้ คาถามทาง 1. คาถามกระต้นุ ความคดิ 70% ข้นึ ไปถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
ความรู้ความเขา้ ใจ (K) ประวัติศาสตร์อย่างมเี หตผุ ล การประเมนิ
70% ข้นึ ไปถอื วา่ ผ่านเกณฑ์
ทกั ษะ / กระบวนการ (P) 2. ศึกษาและคน้ หาการตงั้ 1. แบบฝกึ หัด การประเมนิ
คาถามทางประวัตศิ าสตรอ์ ยา่ ง
คณุ ลกั ษณะนสิ ยั (A) มีเหตุผล 70% ขน้ึ ไปถือว่าผา่ นเกณฑ์
การประเมนิ
3. สนใจศึกษาข้อมูลหลักฐาน 1. แบบสังเกตพฤติกรรมการ
ทางประวตั ศิ าสตรเ์ พือ่ ใชต้ ัง้ เข้าร่วมกจิ กรรม
คาถามและตอบคาถามอย่างมี
เหตุผล

7. สือ่ / แหล่งการเรยี นรู้
7.1 สอ่ื การเรียนรู้
1) ประวัตเิ รื่องราว ปราสาทพระวหิ าร
7.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) หอ้ งสมดุ
2) อนิ เทอร์เน็ต

8. กิจกรรมเสนอแนะ
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................

ลงช่อื ………………………………………………………ครผู สู้ อน ลงชื่อ………………………………………………………ฝา่ ยวชิ าการ
(……………………………………………………) (……………………………………………………)

ลงชอื่ ………………………………………………………ผู้บรหิ าร
(……………………………………………………)

ใบงานที่ 2

เรอ่ื ง การต้ังคาถามและการตอบคาถามทางประวตั ศิ าสตร์อยา่ งมี
เหตผุ ล

คาสัง่ ใหน้ ักเรยี นฝกึ ตั้งคาถามและตอบคาถามทางประวตั ิศาสตรเ์ กย่ี วกบั ท้องถิ่นของตนเองแล้วบันทกึ ผล
ลงในแบบบันทกึ

แบบบันทึกการตั้งคาถามและตอบคาถามทางประวตั ศิ าสตร์เกี่ยวกบั ท้องถ่ินของ
ตนเอง

คาถามเก่ียวกับทอ้ งถิน่
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

แหลง่ ข้อมูลท่ีใช้ในการหาคาตอบ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

คาตอบทไ่ี ด้ คอื
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สัปดาห์ท่ี 9

โรงเรยี นขจรเกียรติพฒั นา
แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรียนท…่ี ……..… /…………….. ชอื่ ผู้สอน……………………………………………………
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม ชัน้ ประถมศกึ ษาปี่ที่ 5 จานวน 1 คาบ
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 ความเป็นมาของทอ้ งถน่ิ
เรอื่ ง ความจริงกับข้อเท็จจริงเก่ียวกบั เรือ่ งราวในทอ้ งถิน่

1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชว้ี ดั
มาตรฐาน ส 4.1 เข้าใจความหมายความสาคัญของเวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์สามารถใช้วิธีการทาง

ประวตั ิศาสตรม์ าวิเคราะห์เหตกุ ารณ์ตา่ งๆ อย่างเป็นระบบ

ตัวชว้ี ดั ป.5/3 อธบิ ายความแตกตา่ งระหวา่ งความจรงิ กบั ขอ้ เทจ็ จรงิ เก่ยี วกบั เรื่องราวในท้องถ่ิน

2. สาระสาคัญ / ความคิดรวบยอด
ความจริงเป็นเหตุการณ์ท่ีมีผู้บันทึกและมีหลักฐานเป็นเครื่องยืนยันข้อเท็จจริง คือ คาบอกเล่าท่ีเกิดจากความคิดความรู้สึก

ของผูเ้ ลา่ หรอื ผ้บู ันทึกเร่อื งราวทางประวตั ศิ าสตร์

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. เปรยี บเทียบความจรงิ กับข้อเท็จจรงิ เก่ียวกบั ข้อมูลประวัติศาสตรใ์ นทอ้ งถ่นิ (K)
2. จาแนกขอ้ มลู ที่เป็นความจริงกับข้อเทจ็ จริงในทอ้ งถนิ่ (P)
3. วจิ ารณ์ความจริงกับขอ้ เทจ็ จรงิ เกี่ยวกับเรือ่ งราวในทอ้ งถิน่ (A)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถนิ่

ความจริงกบั ขอ้ เทจ็ จรงิ เก่ียวกบั เร่อื งราวในทอ้ งถ่นิ พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา

5. กิจกรรมการเรียนรู้

คาบท่ี 1

ขัน้ นา
ขน้ั กระต้นุ ความสนใจ

1. ครใู หค้ ดั เลอื กผู้แทนออกมาเล่าประวตั ขิ องตนเองให้เพือ่ นฟงั จบแล้วครูใช้คาถามให้นกั เรียนร่วมกัน แสดงความคดิ เหน็ ดงั นี้
อะไรคือความจริงทีเ่ ปน็ ประวตั ขิ องเพือ่ นท่ีเลา่ ให้นักเรยี นฟังและมีอะไรยืนยนั (ตวั อย่างคาตอบ วัน เดือน ปี เกิด ชอ่ื บดิ า มารดา
สถานทเี่ กิด หลักฐานยนื ยนั ความจริง คอื ใบสตู บิ ตั ร สาเนาทะเบยี นบา้ น)

ข้นั สอน

ขั้นสารวจค้นหา

2. จากน้ันครูถามนักเรียนที่ออกมาเล่าประวัติให้เพื่อนฟังต่อว่าเพราะเหตุใดรูปร่างของเธอ (นักเรียนที่เล่าประวัติ) จึงดู
สมบูรณ์แขง็ แรง (ตวั อยา่ งคาตอบ เพราะวา่ ด่ืมนมทกุ วนั ) นกั เรยี นคิดวา่ จรงิ ทเ่ี พอ่ื นบอกหรอื ไม่ (ตวั อยา่ งคาตอบ อาจจะจรงิ )

3. จากนั้นครูอธิบายเพิ่มเติมว่า “การท่ีเพ่ือนดรู ูปร่างแข็งแรง อาจจะมีสาเหตมุ าจากอย่างอนื่ ดว้ ย นอกจากจะด่ืมนมแล้ว
ยงั ทานอาหารครบ 5 หมู่ ออกกาลังกายสม่าเสมอ ต่นื นอนเปน็ เวลา ความรสู้ ึกที่เพอ่ื นบอกว่าตนเองแขง็ แรงเพราะดืม่ นมทุกวัน เขา
เรยี กวา่ ขอ้ เทจ็ จริง คืออาจไม่ใช่ความจริงทงั้ หมด อาจมาจากสาเหตุอยา่ งอ่นื ด้วย”

ขน้ั อธบิ ายความรู้

4. ครใู ห้นกั เรียนร่วมกนั ศกึ ษา ความจริงกบั ขอ้ เทจ็ จรงิ เก่ียวกับเรอ่ื งราวในทอ้ งถิ่น โดยครใู ชค้ าถามให้นักเรียนร่วมกันแสดง
ความคิดเห็น ดังน้ี ความจริงกบั ข้อเทจ็ จริงมีความแตกต่างกนั อย่างไร (ครแู ละนกั เรียนสรุปคาตอบเป็นแผนภาพลงบนกระดาน)

ขนั้ สรปุ

ขน้ั ขยายความเขา้ ใจ

5. จากนัน้ ใหค้ รูอธบิ ายสรุปความร้จู ากแผนภาพเพ่ิมเติม ครูใหน้ ักเรียนรว่ มกันสรุปความรู้ ดังนี้
1) ความจรงิ เป็นเหตกุ ารณ์ท่ีมผี ู้บนั ทึกเรื่องราว และมีหลักฐานประกอบยืนยันข้อเท็จจริง คือ เรื่องราวที่มีการขยาย

ความจากความคิด การวเิ คราะห์และความร้สู ึกทีม่ ีการเขียนหรอื บอกเล่าเรื่องราวข้อมลู ในท้องถนิ่

ขัน้ ตรวจสอบผล

6. ใหน้ ักเรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นโดยครใู ชค้ าถามทา้ ทาย ดงั นี้ นกั เรียนมแี นวทางการศกึ ษาความจริงกับข้อเท็จจริง
ทเ่ี กย่ี วกบั เร่อื งราวในท้องถ่ินอย่างไรนกั เรยี นทาแบบฝึกหัดและตรวจแบบฝึกหดั ในขณะทีน่ กั เรยี นทาแบบฝึกหัดครูสังเกตพฤตกิ รรม
ของนกั เรยี นในการเข้าร่วมกิจกรรม

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวัดและประเมนิ วิธีการวดั ผล เคร่อื งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
จดุ ประสงค์
1. เปรยี บเทียบความจรงิ กับ 1. คาถามกระต้นุ ความคิด 70% ขน้ึ ไปถอื ว่าผา่ นเกณฑ์
ความรู้ความเขา้ ใจ (K) การประเมนิ
ขอ้ เท็จจริงเกยี่ วกับข้อมลู
ทกั ษะ / กระบวนการ (P) 70% ขึ้นไปถือว่าผา่ นเกณฑ์
ประวตั ศิ าสตร์ในทอ้ งถ่นิ การประเมิน
คุณลักษณะนสิ ยั (A) 70% ขึ้นไปถอื ว่าผา่ นเกณฑ์
2. จาแนกข้อมลู ท่เี ปน็ ความจริง 1. แบบฝึกหัด การประเมิน

กับขอ้ เทจ็ จรงิ ในทอ้ งถิ่น

3. วจิ ารณ์ความจรงิ กบั 1. แบบสงั เกตพฤติกรรมการ

ข้อเทจ็ จรงิ เกย่ี วกบั เรือ่ งราวใน เข้าร่วมกจิ กรรม

7. สอ่ื / แหล่งการเรยี นรู้
7.1 ส่อื การเรียนรู้
1) การเล่าประวตั ขิ องตนเอง เพ่อื เปรยี บเทยี บความจริงกบั ข้อเทจ็ จริง
7.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องสมดุ
2) อินเทอรเ์ น็ต

8. กิจกรรมเสนอแนะ
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ………………………………………………………ครูผสู้ อน ลงชื่อ………………………………………………………ฝ่ายวชิ าการ
(……………………………………………………) (……………………………………………………)

ลงช่อื ………………………………………………………ผู้บริหาร
(……………………………………………………)

สปั ดาหท์ ี่ 11

โรงเรยี นขจรเกยี รติพฒั นา
แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรยี นท…ี่ ……..… /…………….. ช่ือผสู้ อน……………………………………………………

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม ชน้ั ประถมศกึ ษาป่ีท่ี 5 จานวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 1 ความเป็นมาของท้องถิน่

เรือ่ ง ความจริงกบั ข้อเท็จจรงิ เกยี่ วกบั เร่อื งราวในทอ้ งถน่ิ (ตอ่ )

1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชวี้ ัด
มาตรฐาน ส 4.1 เข้าใจความหมายความสาคัญของเวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์สามารถใช้วิธีการทาง

ประวตั ศิ าสตร์มาวิเคราะห์เหตกุ ารณต์ ่างๆ อย่างเป็นระบบ

ตัวชีว้ ัด ป.5/3 อธบิ ายความแตกตา่ งระหวา่ งความจรงิ กบั ขอ้ เท็จจรงิ เกยี่ วกบั เรอ่ื งราวในทอ้ งถิ่น

2. สาระสาคัญ / ความคิดรวบยอด
ความจริงเป็นเหตุการณ์ท่ีมีผู้บันทึกและมีหลักฐานเป็นเครื่องยืนยันข้อเท็จจริง คือ คาบอกเล่าที่เกิดจากความคิดความรู้สึก

ของผู้เล่าหรอื ผูบ้ ันทึกเร่ืองราวทางประวตั ศิ าสตร์

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. เปรยี บเทยี บความจรงิ กบั ขอ้ เท็จจริงเก่ียวกบั ขอ้ มลู ประวัตศิ าสตร์ในทอ้ งถิ่น (K)
2. จาแนกข้อมลู ที่เป็นความจริงกบั ขอ้ เท็จจริงในท้องถิ่น (P)
3. วิจารณค์ วามจริงกับข้อเทจ็ จริงเกีย่ วกบั เรื่องราวในท้องถ่นิ (A)

4. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น

ความจรงิ กับขอ้ เทจ็ จริงเก่ียวกบั เรอ่ื งราวในทอ้ งถิ่น พจิ ารณาตามหลักสตู รของสถานศึกษา

5. กิจกรรมการเรียนรู้

คาบท่ี 1

ขั้นนา
ขั้นกระตุ้นความสนใจ

1. ครนู าเรือ่ งราวตัวอย่างข้อมูลจากหลักฐานทางประวัตศิ าสตร์ท่ีแสดงความจริงกับข้อเท็จจริง มาอ่านให้นักเรียนฟงั โดย
ใหผ้ แู้ ทนนักเรียนอา่ นใหเ้ พ่ือนฟงั หนา้ ช้นั เรียน จากนน้ั ใหน้ ักเรียนรว่ มกันตอบคาถาม ดงั นี้

ตัวอยา่ งข้อมูลหลักฐานทางประวัตศิ าสตร์

ประวตั ิพระนางจามเทวี

พระนางจามเทวี เป็นปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรหริภุญไชย ในตานานจามเทวีวงศ์ ได้บันทึกเร่ืองราวของพระ
นางจามเทวโี ดยสรปุ ได้ ดงั นี้

เม่อื ประมาณพทุ ธศตวรรษท่ี 13 มีพระฤๅษีองค์หน่ึงไดส้ ่งสาส์นมาถวายกษัตริย์ละโว้ เพื่ออัญเชิญพระธิดา ชื่อ
จามเทวี ซงึ่ เป็นผทู้ ี่มคี วามสามารถขึ้นปกครองอาณาจักรหรภิ ุญไชย เมอ่ื พระ นางจามเทวีขึ้นปกครองเมอื งแล้วทรงโปรด
ให้วางระเบียบการปกครองและเผยแผ่พระพุทธศาสนา โดยโปรดให้สร้างวัดกู่กุด (วัดจามเทวี) สร้างอารามวัดมหาวั น
เปน็ ต้น สง่ ผลให้อาณาจักรหริภญุ ไชย มคี วามสงบร่มเยน็ สบื ต่อมา

1) อะไรคือข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่เป็นความจริง เกี่ยวกับประวัติพระนางจามเทวี (ตัวอย่างคาตอบ หลักฐานท่ี
ปรากฏทางประวตั ศิ าสตร์ เช่น พงศาวดารเมอื งลาพนู โบราณสถาน วดั กกู่ ดุ )

2) อะไรเป็นข้อเท็จจริงเก่ียวกับประวัติของพระนางจามเทวี (ตัวอย่างคาตอบ ความสามารถในการปกครอง
อาณาจกั รหรภิ ุญไชย การวางระเบียบการปกครองและการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนา ของพระนางจามเทว)ี

ข้ันสอน

ขน้ั สารวจคน้ หา

2. ครแู บง่ กลุม่ นกั เรยี นสบื ค้นเร่ืองราวเก่ียวกับท้องถิ่นของตนเองท่ีแสดงความจริงกับข้อเท็จจริง แล้วบันทึกการศึกษาออก
นาเสนอหน้าช้ันเรียน จบการนาเสนอ ครูและนักเรียนสรุปประเด็นสาคัญเกี่ยวกับการศึกษาข้อมูลในท้องถิ่นเป็นแผนภาพลงบน
กระดาน ดงั น้ี

ตรวจสอบความน่าเชอื่ ถือของขอ้ มลู

ควรศกึ ษาจากข้อมูลทีห่ ลากหลาย หลักฐานจากการบอกเล่าอาจไมใ่ ชค่ วามจรงิ

ควรวเิ คราะห์ควบค่กู ับหลักฐานทมี่ ี

อาจมีการเพม่ิ เติมขอ้ มลู ใหมเ่ ขา้ มา

ความจริงกบั ขอ้ เทจ็ จรงิ มกั ปะปนกนั

ผู้สบื ค้นข้อมลู ควรตรวจสอบข้อมลู กอ่ นนามาใช้

ข้ันอธิบายความรู้

3. ครูให้นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ ดังนี้ ความจริงเป็นเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกเรื่องราว และมีหลักฐานประกอบยืนยัน
ข้อเท็จจริง คือ เร่ืองราวที่มีการขยายความจากความคิด การวิเคราะห์และความรู้สึกที่มีการเขียนหรือบอกเล่าเรื่องราวข้อมูลใน
ทอ้ งถ่นิ

ขัน้ สรปุ

ข้ันขยายความเขา้ ใจ

4. ให้นกั เรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เห็นโดยครูใชค้ าถามท้าทาย ดังนี้ นกั เรยี นจะนาความรู้จากการศกึ ษา ความจรงิ กบั
ข้อเทจ็ จริงเกยี่ วกบั เรอ่ื งราวในท้องถ่นิ ไปใชป้ ระโยชนไ์ ดอ้ ยา่ งไร

ข้ันตรวจสอบผล

5. ให้นักเรียนทาใบงานที่ 3 เร่ือง ความจริงกับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องราวในท้องถิ่น นักเรียนทาแบบฝึกหัดและครูตรวจ
แบบฝกึ หัด ในขณะท่นี กั เรยี นทาแบบฝกึ หดั ครูสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเขา้ ร่วมกิจกรรม

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวัดและประเมิน วธิ กี ารวดั ผล เครอื่ งมือวดั เกณฑ์การประเมินผล
จดุ ประสงค์
1. เปรียบเทียบความจรงิ กับ 1. คาถามกระตุ้นความคิด 70% ขึน้ ไปถือว่าผ่านเกณฑ์
ความรู้ความเข้าใจ (K) การประเมนิ
ขอ้ เทจ็ จริงเก่ยี วกับข้อมลู
ทักษะ / กระบวนการ (P) 70% ข้นึ ไปถือว่าผ่านเกณฑ์
ประวตั ศิ าสตร์ในท้องถน่ิ การประเมิน
คุณลักษณะนสิ ัย (A)
2. จาแนกขอ้ มลู ทเี่ ป็นความจรงิ 1. ใบงานที่ 3 เรอื่ ง ความ 70% ขนึ้ ไปถอื ว่าผา่ นเกณฑ์
การประเมนิ
กบั ขอ้ เท็จจรงิ ในท้องถ่นิ จรงิ กบั ข้อเท็จจริงเก่ียวกับ

เรือ่ งราวในท้องถ่นิ

3. วจิ ารณ์ความจริงกับ 1. แบบสงั เกตพฤติกรรมการ

ข้อเทจ็ จรงิ เก่ียวกบั เรือ่ งราวใน เขา้ รว่ มกิจกรรม

ท้องถิน่

7. สือ่ / แหล่งการเรยี นรู้
7.1 ส่อื การเรยี นรู้
1) ประวตั พิ ระนางจามเทวี
7.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) หอ้ งสมดุ
2) อินเทอรเ์ น็ต

8. กิจกรรมเสนอแนะ
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................

ลงช่อื ………………………………………………………ครผู สู้ อน ลงชื่อ………………………………………………………ฝา่ ยวชิ าการ
(……………………………………………………) (……………………………………………………)

ลงชอื่ ………………………………………………………ผู้บรหิ าร
(……………………………………………………)

ใบงานที่ 3

เร่ือง ความจริงกับขอ้ เทจ็ จรงิ เก่ยี วกับเรอื่ งราวในท้องถน่ิ

คาสงั่ ให้นกั เรียนแบง่ กล่มุ สืบค้นเรอ่ื งราวเกย่ี วกบั ท้องถิ่นของตนเองทแี่ สดงความจริงกับขอ้ เท็จจริง
แลว้ บนั ทึกผลลงในแบบบนั ทึก

แบบบันทึกเร่อื งราวเกีย่ วกบั ท้องถ่ินทีแ่ สดงความจรงิ กบั
ขอ้ เท็จจรงิ

เรอ่ื งราวเกย่ี วกบั ท้องถน่ิ ท่ีนกั เรียนสนใจ คอื
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ความจริง คอื
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ข้อเทจ็ จริง คอื
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สัปดาหท์ ี่ 12

โรงเรียนขจรเกียรติพฒั นา
แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรียนท…ี่ ……..… /…………….. ชอ่ื ผู้สอน……………………………………………………
กลุม่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม ชัน้ ประถมศกึ ษาปี่ที่ 5 จานวน 1 คาบ
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 ความเป็นมาของทอ้ งถิน่
เรอ่ื ง กิจกรรมเสริมทกั ษะความรทู้ ้ายหนว่ ยการเรยี นรู้

1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวช้วี ัด
มาตรฐาน ส 4.1 เข้าใจความหมายความสาคัญของเวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตร์สามารถใช้วิธีการทาง

ประวตั ิศาสตร์มาวเิ คราะห์เหตุการณ์ตา่ งๆ อยา่ งเปน็ ระบบ
ตัวชี้วัด ป.5/1 สืบคน้ ความเปน็ มาของท้องถ่นิ โดยใช้หลักฐานทห่ี ลากหลาย
ตวั ช้วี ัด ป.5/2 รวบรวมขอ้ มลู จากแหล่งต่าง ๆ เพอ่ื ตอบคาถามทางประวตั ิศาสตรอ์ ยา่ งมีเหตุผล
ตัวช้ีวัด ป.5/3 อธบิ ายความแตกตา่ งระหวา่ งความจริงกบั ข้อเท็จจริงเกีย่ วกบั เร่ืองราวในท้องถนิ่

2. สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอด
การสืบค้นความเป็นมาของท้องถิ่นจะทาให้ทราบข้อมูลท่ีเป็นความจริง และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความเป็นมาของท้องถ่ินได้

อย่างถกู ต้อง

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายสรปุ ความรู้ ความเป็นมาของทอ้ งถนิ่ ลงในแบบกจิ กรรม (K)
2. จาแนกและสรุปความรู้ความจรงิ กบั ขอ้ เทจ็ จรงิ ความเปน็ มาของทอ้ งถ่ินลงในแบบกจิ กรรม (P)
3. เห็นความสาคัญในการพฒั นาทักษะการเรยี นรแู้ ละทากิจกรรมในระหวา่ งเรียน (A)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่นิ

กิจกรรมเสริมทักษะความรคู้ วามเปน็ มาของท้องถิน่ พจิ ารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา

5. กิจกรรมการเรียนรู้

คาบที่ 1

ขน้ั นา
ขน้ั กระตุ้นความสนใจ

1. ครูนาแบบกจิ กรรมแบบฝึกหดั หรอื สร้างแบบกจิ กรรมเพอื่ ทดสอบประเมินผลการเรยี นร้ขู องนักเรียนดงั น้ี


Click to View FlipBook Version