แผน จ23202 ม.3 (วPA)

๔๒

แบบประเมนิ การอา่ นออกเสียง
ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี ……/…... ภาคเรยี นที่ ……. ปกี ารศกึ ษา………………

เลข เลข ชอ่ื -สกลุ คะแนน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕
ท่ี ประจาตวั
จานวน 1-๒ ๓-๔ ๕-๖ ๗-๘ ๙-1๐ ผล
คา ประเมนิ

1 0 1346 เดก็ ชายกฤติพงศ์ อรรถวิลยั

2 0 1347 เด็กชายกลยทุ ธ์ นาสอ้าน

3 0 1348 เดก็ ชายเกริกกรรชัย แซเ่ ตยี

4 0 1349 เดก็ ชายจิระศักด์ิ สารโิ พธ์ิ

5 0 1350 เด็กชายจริ ายทุ ธ สาริโพธ์ิ

6 0 1351 เดก็ ชายเจษฎา ศรีทะนนท์

7 0 1352 เด็กชายชยุตพงศ์ พลเรอื ง

8 0 1353 เดก็ ชายเตวิด แทนกลาง

9 0 1354 เด็กชายธีรภทั ร นาทันรบี

10 0 1356 เด็กชายนพวิชญ์ ภูลบั ดวง

11 0 1357 เดก็ ชายรชั ชานนท์ ศรีทะนนท์

12 0 1358 เดก็ ชายวีรพงศ์ ชนะบรู ณ์

13 0 1359 เดก็ ชายอนุวฒั น์ นาสมใจ

14 0 1360 เด็กชายอศั วิน โขลา

15 0 1361 เด็กชายอสิ วะ สนิ ธุศิริ

16 0 1363 เด็กหญงิ กนิษฐา นาทันริ

17 0 1365 เด็กหญงิ จีรนนั ท์ อัดโดดดร

18 0 1366 เดก็ หญงิ จฬุ ารัตน์ แก้วลี

19 0 1367 เด็กหญงิ ฉตั รฎาพร ลอื สวุ รรณ์

20 0 1368 เด็กหญงิ นุชรรี ตั น์ วะชุม

21 0 1369 เดก็ หญงิ พรรณิพา นาทองลาย

22 0 1370 เด็กหญงิ วรนชุ มะหาวนั ตงั

23 0 1371 เดก็ หญงิ วริ ัญญา อาภวา

24 0 1403 เด็กหญงิ ณัฐกานต์ รตั นวโิ รดม

25
26

27
28
29
30

ต้องผ่ำนเกณฑร์ อ้ ยละ ๖๐ ขนึ้ ไป หรอื กค็ ือ อ่ำนไดต้ ั้งแต่ ๖ ขอ้ ขน้ึ ไป

๔๓

ควำมคดิ เหน็ ของผบู้ รหิ ำร

 อนุมตั ิ ให้ใช้แผนการจัดการเรียนรู้
 ไม่อนุมัติ ใหใ้ ช้แผนการจดั การเรยี นรู้ เนือ่ งจาก
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………….……………………………………………………………………………………………………..

ลงชือ่ ……………………………………………….
(นางรตกิ รณ์ แสบงบาล)

ผูอ้ านวยการโรงเรียนฆอ้ งชยั วทิ ยาคม
บนั ทกึ ผลกำรสอน

1. ผลการจดั การเรยี นรู้
1.1 ด้านความรู้ (K)

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

1.2 ด้านทักษะและกระบวนการ (P)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

1.3 ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

2. ปัญหาต่าง ๆ ท่ีพบจากการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

3. ข้อเสนอแนะเพื่อปรบั ปรงุ แก้ไขในการจัดการเรียนร้คู ร้งั ตอ่ ไป
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่อื ………………………………………………
(นางสาวพิชญส์ ินี ยงั คง)
ครูผสู้ อน

๔๔

หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑๐
中国人的婚姻
วฒั นธรรมการแต่งงานของชาวจนี

กรอบควำมคดิ กำรจดั

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ ๑๐ 中国人的婚

ชัน้ มัธยมศกึ ษำปที ่ี

เป้ำหมำยของหนว่ ย นกั เรียนสามารถพูดและเขยี นข้อมลู เกย่ี วกบั วัฒนธรรมการแต่งงานของชา

เปำ้ หมำย ผลกำรเรียนรู้ สำระสำคญั ค
(ควำมเขำ้ ใจฝังแนน่ )

เป้ำหมำยของเรื่อง ข้อที่ ๒ ความเปน็ อยขู่ องชาวจีน สม
เรือ่ งท่ี 1 บรรยายเกี่ยวกบั เทศกาล วัน - การแต่งงานตามประเพณจี นี 1.
สาคญั ชวี ิตความเปน็ อยู่ และ ใหถ้ ูกต้องตามบรรพบุรษุ ทไี่ ด้ การ
วฒั นธรรมการแต่งงาน ประเพณีของจนี สบื ทอดกนั มาชา้ นานนน้ั จะ และ
ของชาวจีน ลาดับข้นั ตอนมากมายถึง ๑๔ 2.
ขอ้ ท่ี ๓ ขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ฤกษส์ ู่ขอ การ
เข้ารว่ มหรือจัดกิจกรรมทาง ฤกษ์แต่งงาน ฤกษ์ปนู อน การ 3.
ภาษาและวฒั นธรรมของจีน ดสู มพงษ์ การดดู วงชงระหว่าง การ
ตามความสนใจ พอ่ แม่เจา้ บ่าวและวา่ ทสี่ ะใภ้
คุณ
แตป่ ัจจุบันน้ีการจดั งาน ปร
แตง่ งานพธิ จี ีนได้มกี ารเปลี่ยน 1.
แปลงไปบ้างตามยุคสมัย การ
ทเี่ ปล่ียนไป

- วฒั นธรรมการแตง่ งาน สถา
(双喜 ตวั อกั ษรค)ู่ ๒.
เรีย

ส่งส

กิจก

๔๕

ดกำรเรียนรขู้ องหนว่ ย

婚姻 วัฒนธรรมการแต่งงานของชาวจีน

๓ เวลำ ๒ ชวั่ โมง

าวจีน และสามารถความรทู้ ไ่ี ด้ไปประยกุ ต์ใช้ในสถานการณจ์ ริงหรอื สถานการณจ์ าลองทเ่ี กดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี น

สมรรถนะ/ หลักฐำนแสดงผลกำรเรียนรู้ กระบวนกำรเรยี นรู้ วิธีวดั และประเมินผล
คณุ ลักษณะท่ีเนน้ (ช้นิ งำน/ภำระงำน)

มรรถนะ 1. สมุด 1. กระบวนการเรียนรู้ 1. ตรวจสมดุ
ความสามารถใน 2. แบบฝกึ หดั หลงั เรียน เพื่อการสอ่ื สาร 2. ตรวจแบบฝึกหัด
รส่อื สารด้วยการพูด ๓. กระดาษแดงตัวอกั ษร 双 2. กระบวนการทาง 3. สังเกตพฤติกรรมการ
ะการอา่ น สังคม เรียนรู้ แล้วบนั ทึกผลลง
ความสามารถใน 喜 ใน แบบประเมินการ
รแกป้ ัญหา อ่านออกเสียง
ความสามารถใน ๔. ตรวจช้ินงานกระดาษ
รใช้ทกั ษะชวี ิต แดงตัวอักษร 双喜

ณลกั ษณะอนั พึง
ระสงค์
มวี ินัย มมี ารยาทใน
รอ่านและการฟังใน
านการณ์ต่าง ๆ
มีความมงุ่ ม่ันในการ
ยน รบั ผิดชอบในการ
สมุด หรอื เข้ารว่ ม
กรรม

๔๖

แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ที่ ๗ โรงเรยี นฆอ้ งชัยวทิ ยาคม
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ เวลา ๒ ชั่วโมง
รายวิชา ภาษาจนี เบอ้ื งต้น ๖ รหสั วชิ า จ 2๓20๒
หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑๐ 中国人的婚姻 เวลา ๒ ชัว่ โมง

แผนการจดั การเรยี นรู้ เรอื่ ง วัฒนธรรมการแต่งงานของชาวจีน ภาคเรียนที่ ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔

ผู้สอน : นางสาวพชิ ญ์สินี ยังคง

1. มำตรฐำนกำรเรยี นรู/้ ตัวช้ีวัด/ผลกำรเรยี นรู้
ผลกำรเรียนรู้

ข้อท่ี ๒ บรรยายเก่ยี วกบั เทศกาล วนั สาคัญ ชีวติ ความเปน็ อยู่ และประเพณขี องจนี
ข้อท่ี ๓ เข้าร่วมหรอื จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมของจีนตามความสนใจ

2. สำระสำคญั /ควำมคิดรวบยอด
ในหน่วยนี้นักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องวัฒนธรรมการแต่งงานของชาวจีน การแต่งงานตาม

ประเพณีจีนให้ถูกต้องตามบรรพบุรุษที่ได้สืบทอดกันมาช้านานนั้นจะลาดับข้ันตอนมากมายถึง ๑๔ ขั้นตอน
เริ่มตั้งแต่ฤกษ์สู่ขอ ฤกษ์แต่งงาน ฤกษ์ปูนอน การดูสมพงษ์ การดูดวงชงระหว่างพ่อแม่เจ้าบ่าวและว่าที่สะใภ้
แต่ปัจจุบันน้ีการจัดงานแต่งงานพิธีจีนได้มกี ารเปล่ียนแปลงไปบ้างตามยุคสมัยที่เปล่ียนไป คู่บ่าวมีการจัดงาน
แต่งงานแบบผสมผสานเพ่ืออานวยความสะดวกให้แกต่ นเองมากยง่ิ ขึน้ ตามแต้สถานการณ์

3. จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้
1. สรปุ ใจความของวฒั นธรรมการแตง่ งานของชาวจีนได้ (K)
๒. ทาแบบฝึกหดั หลงั เรียน หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๑๐ 中国人的婚姻 ได้ (P)
๓. รว่ มกิจกรรม “ตดั กระดาษแดงเป็นตัวอักษร 双喜”ได้ (P)
๔. มีวนิ ัย มมี ารยาทในการอ่านและการฟงั ในสถานการณต์ ่าง ๆ (A)
๕. มคี วามมุ่งมนั่ ในการเรียน รับผิดชอบในการส่งสมดุ หรอื เข้ารว่ มกิจกรรม (A)

4. สำระกำรเรยี นรู้ (เนือ้ หำสำระ)
สิง่ ท่เี จำ้ บำ่ วตอ้ งเตรยี ม

โดยครอบครัวเจ้าบา่ วมีหน้าท่ีตอ้ งเตรยี มเคร่อื งขันหมากและสนิ สอดทองหม้ันให้ครบ ดังน้ี

1. ส้มเชง้ จานวนลูกส้มแล้วแต่ฝา่ ยเจา้ สาวเป็นคนกาหนด แตต่ อ้ งเปน็ จานวนคู่เทา่ นน้ั ผลส้มที่นามา
จะตอ้ งมีตวั หนังสือ 双喜 สแี ดงติดไว้ทกุ ผล โดยเชอื่ กันวา่ จะมีความโชคดีเข้ามาในชวี ิต

๔๗

2. กลว้ ย 1 เครือ ต้องใชก้ ล้วยดิบสีเขยี วเครอื ใหญ่ ในหนงึ่ เครือต้องมีจานวนหวีเปน็ เลขคูเ่ พ่ือความ
มงคล กา้ นเครอื พนั ดว้ ยกระดาษสแี ดง สว่ นผลกล้วยให้ตดิ ตวั หนังสือสีแดง 双喜 ไวเ้ ช่นกนั สาเหตุทีต่ อ้ งใช้
กลว้ ยท้ังเครอื เพราะชาวจีนเช่ือวา่ ค่บู ่าวสาวจะมีลกู หลานมากมายสบื เชอ้ื สายสกุล ท่สี าคัญหลังเสร็จส้ินพธิ ี
มงคลสมรสแล้ว เจ้าบ่าวจะต้องนากล้วยเครอื น้ีกลับบา้ นไปดว้ ย

3. ตน้ อ้อย 1 คู่ ด้วยความทน่ี ้าออ้ ยมรี สชาติทีห่ วาน ดังนัน้ ตน้ ออ้ ย 1 คนู่ ี้ จึงแสดงถงึ ความรักของคู่
บา่ วสาวท่ีหวานช่ืน

4. ชุดหมูสด จะต้องจัดเตรียมชุดหมู 3 ถาด โดยชนิ้ ส่วนของหมทู กุ ชนิ้ จะต้องตดิ ตัวหนงั สือ 双喜(
ซรวงส่)ี สีแดง

• ถาดแรก ประกอบไปดว้ ย หวั หมู 1 หวั เทา้ 4 ข้าง และหาง 1 หาง
• ถาดที่สอง ประกอบไปด้วย ขาหมูสด 4 ขา
• ถาดที่สาม ประกอบไปด้วย เน้อื หมูส่วนท้องของแมห่ มู
• เพอ่ื อวยพรใหฝ้ า่ ยเจา้ สาวท้องลูกผู้ชาย

5. ชุดขนมหมัน้ และขนมแตง่ งาน
ทางเจ้าบ่าวจะต้องจัดชนดิ และจานวนชุดขนมหม้ันและขนมแต่งงานตามที่ทางฝา่ ยเจา้ สาวกาหนดมา
ซึ่งในพธิ แี ตง่ งานจะใช้ขนม 5 สี ที่เรยี กวา่ “五色糖” ไดแ้ ก่

• ขนมเปยี๊ ะโรยงา เพือ่ ความสริ มิ งคล
• ขนมถ่วั ตัด อวยพรให้ค่บู ่าวสาวมชี วี ิตที่ดี เจริญงอกงาม
• ขนมขา้ วพองทุบ ขอใหม้ แี ต่ความสุข ความเจริญ
• ขนมเหนียวเคลอื บงา ให้ความรักของค่บู า่ วสาวเหนยี วแนน่ ตัดไม่ขาด
• ขนมโก๋ หมายถึง ความรา่ รวย เงินทองไหลมาเทมา

6. เงนิ สนิ สอดและทอง เงนิ สนิ สอดและทองน้ีขึ้นอยกู่ ับฝา่ ยเจ้าสาวจะเรยี กเทา่ ไหร่ โดยครอบครวั
เจ้าสาวจะเป็นคนรบั สินสอดไว้ สว่ นทองน้ันครอบครัวเจา้ สาวจะให้เจ้าสาวเกบ็ ไวแ้ ละใส่ในพิธแี ต่งงาน ทองท่ีว่า
ไมใ่ ชก่ อ้ นทองคาแตอ่ ยา่ งไร แตห่ มายถงึ ทอง 4 อย่าง ได้แก่ สรอ้ ยทอง กาไลทอง เข็มขดั ทอง และตา่ งหทู อง

7. ของเซ่นไหวบ้ า้ นเจา้ สาว ควรเตรียมไว้ 2 ชดุ สาหรบั ไว้เจ้าทเ่ี จ้าทางและสาหรบั ไหว้บรรพบรุ ษุ
โดยสว่ นมากของเซ่นไหว้จะตอ้ งประกอบไปดว้ ย ของคาว อาหาร 10 อย่าง ขนมหวาน ผลไม้ เหลา้ ธูปเทียน
และดอกไม้

8. เถา้ แก่นาขบวนขันหมาก ควรเรยี นเชิญผใู้ หญท่ ี่น่านบั ถือ และมชี ีวติ ครอบครวั ทีร่ าบรนื่ มแี ต่
ความสุข เพอ่ื ความเป็นสิริมงคล

๔๘

ส่งิ ท่ีเจำ้ สำวตอ้ งเตรียม
ตามธรรมเนยี มจีนแล้ว ฝา่ ยเจ้าสาวท่จี ะต้องไปอยบู่ ้านเจ้าบ่าว จะต้องเตรียมสง่ิ ของเครอื่ งใชต้ า่ ง ๆ ตดิ ตวั ไป
ดว้ ย รวมทั้งส่งิ ของทต่ี ้องใชใ้ นงานพิธี ซึ่งมดี งั นี้

1. เอีย๊ มแตง่ งาน เป็นเอ๊ียมผ้าแพรสีแดง มกี ระเปา๋ เล็ก
2. ตรงอกเสื้อ ปกั คาว่า “白头到老” ซึ่งแปลว่า อยกู่ นิ กนั จนแกเ่ ฒ่า
3. เชอื กแดงผกู เอีย๊ ม ตดิ ตัวหนังสอื สีแดง 双喜 และมีแผ่นหัวใจสีแดงสาหรับติดเคร่ืองประดบั เพชร
หรือทอง
4. หอ่ เมลด็ พชื 5 ชนิด พรอ้ มเสียบปน่ิ ทอง และตน้ ชุงเฉ้า 2 ตน้ ใสไ่ วใ้ นชอ่ งกระเปา๋ เอ๊ยี มแตง่ งาน ซงึ่
เมลด็ พชื น้ี สอ่ื ถงึ ความเจรญิ งอกงามและมีลกู หลานเตม็ บ้านเตม็ เมือง
5. พดั สแี ดง ไว้สาหรบั ใหเ้ จ้าสาวตอนสง่ ตัว
6. กล้วย 1 เครอื ใชก้ ล้วยดบิ สีเขยี วเครือใหญ่ ในหนงึ่ เครือตอ้ งมีจานวนหวีเปน็ เลขค่เู พื่อความมงคล
ก้านเครือพันด้วยกระดาษสแี ดง ส่วนผลกลว้ ยให้ติดตัวหนังสือสีแดง 双喜 ไวเ้ ช่นกนั หลงั เสรจ็ งานพธิ แี ล้วยก
ให้ฝ่ายเจา้ บ่าวนากลบั บา้ น
7. สม้ เช้งเขยี ว ตามจานวนทเี่ ป็นเลขคู่ ตดิ ตวั อกั ษรสีแดง 双喜 ทุกลกู หลังเสร็จส้นิ พธิ ีให้เจา้ บ่าว
นากลับบ้านเชน่ กัน
8. ชุดหมูสด โดยฝา่ ยเจ้าสาวเตรียมแค่ถาดเดียว ภายในถาดประกอบไปดว้ ย หัวใจทั้งยวงท่ีมีทัง้ ปอด
และตับติดไปดว้ ย หลงั เสร็จพธิ ีแต่งงาน ฝ่ายเจ้าสาวจะแบ่งหวั ใจหมคู รงึ่ หน่งึ ให้กับเจ้าบา่ ว เพ่ือนากลบั ไป
ทาอาหาร เพือ่ สือ่ ถงึ คบู่ ่าวสาวมหี วั ใจเปน็ หน่งึ เดียวกัน
9. ของใชส้ ่วนตัว ที่ต้องนาตดิ ตัวไป ได้แก่ ถังนา้ สีแดง 2 ใบ กะลามงั สแี ดง 2 ใบ กระปอ๋ งน้าสแี ดง 2
ใบ กระโถน ถาดสีแดง กรรไกร ด้าย เข็ม และกระจก อย่างละ 1 ชนิ้
10. ชุดเคร่ืองนอน ถ้าเป็นสแี ดงยิง่ ดี ต้องเตรียมไปท้ัง ผา้ ปูที่นอน หมอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม และ
หมอนข้าง อย่างละ 1 ชดุ
11. หวี 4 เลม่ ซึง่ คนจีนเชอ่ื วา่ จะไดม้ ที รัพย์สนิ มากมายมหาศาล
12. กาและถว้ ยนา้ ชา สาหรับทาพิธยี กน้าชา
13. คนรับพานขันหมาก 2 คน
14. คนกนั้ ประตเู งนิ – ประตทู อง จานวนเปน็ คู่
15. คนแจกของชาร่วย
16. คนถอื ตะเกียงนาขบวนรถส่งตวั เจ้าสาว ซึ่งต้องเปน็ ญาติผู้ชาย เพื่อเปน็ เคล็ดใหเ้ จ้าสาวมีบุตรชาย

๔๙

ลำดับพิธีแต่งงำนแบบจนี
1. ดูฤกษแ์ ต่งงำน

คนจนี กเ็ หมือนคนไทย ทกี่ ่อนจะทาการสิ่งใดต้องมกี ารดฤู กษ์ดชู ัย สาหรับคนไทยนัน้ จะมีฤกษม์ งคล
สมรสออกมาทกุ ปี หรือบางครอบครวั อาจจะเอาวัน เดือน ปี เกดิ ของคู่บ่าวสาวไปใหพ้ ระกาหนดฤกษ์ให้ คน
จนี ก็มเี หมอื นกนั กนั แตค่ นจนี จะไมไ่ ด้ไปหาพระนะคะ ปาปา๊ และมาม้าของคู่บา่ วสาวจะนาวัน เดือน ปี เกดิ ไป
ให้ซินแสตรวจ เพอ่ื หาฤกษ์สาหรบั วันจดั พิธีแตง่ งานหรือวนั รับตวั เจ้าสาวค่ะ

2. พธิ หี มัน้ และยกขบวนขันหมำก
ในวนั หมัน้ ทางฝ่ายเจา้ บ่าวจะจดั ขบวนยกขันหมากและสินสอดทองหมั้นมาทบ่ี ้านเจา้ สาว ตรงข้ัน

ตอนนจ้ี ะเหมือนพธิ แี บบไทยเลยคะ่ เจ้าบา่ วจะตอ้ งผา่ นด่านประตเู งนิ – ประตทู องใหไ้ ด้ เพ่ือไปหาเจ้าสาว
หลังจากทเ่ี จา้ บ่าวเจอเจ้าสาวแลว้ จะเข้าสู่ลาดบั พิธกี ารถัดไป พอ่ -แมท่ างฝั่งเจ้าสาวจะเช็คสินสอดทองหมน้ั
เมือ่ เรยี บร้อยแล้ว ฝ่ายเจ้าบ่าวจะสวมแหวนหม้นั ใหก้ ับเจา้ สาว ญาติผู้ใหญ่ต่างแสดงความยนิ ดแี ละอวยพรเพอ่ื
ความเปน็ สิริมงคล ปิดท้ายดว้ ยการกนิ เลย้ี งเปน็ อันเสรจ็ สน้ิ พิธีหม้ัน

แต่ก่อนกลับนนั้ ฝ่ายเจ้าสาวจะเก็บเครื่องขนั หมากไวค้ รงึ่ หนงึ่ ส่วนอีกครง่ึ หนงึ่ จะคืนให้กับเจ้าบา่ ว
รวมทั้งจะนาส่งิ ทีท่ างเจ้าสาวเตรียมไว้มอบใหก้ ับเจ้าบา่ ว นั่นก็คอื เอี๊ยมแต่งงาน หอ่ เมลด็ พชื พร้อมเสยี บปิน่
ทอง กลว้ ย ส้มเชง้ และหัวใจหมู

3. พิธีรำ่ ลำครอบครัวของฝ่ำยเจำ้ สำว
เช้าวนั แตง่ งานและสง่ ตวั เจา้ สาว เจ้าสาวจะแต่งตัวสวยท่ีสดุ ในชุดกเ่ี พ้าสีแดง ปกั ปิน่ เงนิ ปนิ่ ทองและ

ใบทบั ทมิ ทแี่ ม่เจ้าสาวมอบให้ ห้ามใสส่ ีชมพูเดด็ ขาด เพราะคนจนี มองวา่ การที่เจา้ สาวใส่ชดุ กี่เพา้ สีชมพู แสดง
วา่ เจา้ สาวแตง่ งานเปน็ คร้ังท่สี อง หรอื ไปเป็นเมียนอ้ ยเจา้ บา่ วน่นั เอง

หลงั จากแตง่ ตัวเสร็จเรยี บรอ้ ยแล้ว เจ้าสาวจะมาไหวฟ้ ้าดิน ไหว้บรรพบุรษุ และทานอาหารร่วมกบั ครอบครัว
โดยพอ่ หรือแม่จะคีบอาหารมงคลใหเ้ จ้าสาว เพื่อเป็นการอวยพรให้กบั ลูกเปน็ ครัง้ สดุ ทา้ ย อาหารมงคล
ประกอบไปดว้ ย

• เส้นหมี่ อวยพรให้ลกู และคนรักมอี ายุยนื ยาวและรกั กันยาวนานเป็นหมนื่ ๆ ปี
• ปลา ขอใหล้ ูกและคนรักมกี ินมใี ชเ้ หลือเฟอื
• ไก่ ขอให้ลกู และคนรกั มคี วามกล้าหาญและเทยี่ งตรง
• ตับหมู ขอให้ลูกและคนรกั มแี ต่ความเจรญิ ก้าวหนา้
• หวั ใจหมู ขอให้หัวใจของลูกและคนรกั เป็นอนั หนึ่งอันเดียวกนั
• ไส้หมูและกระเพราะหมู ถ้าเจอการเปลีย่ นแปลง กข็ อใหม้ ีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางทด่ี ี
• ปู ขอให้ทั้งคู่มแี ตค่ วามขยัน คลอ่ งแคล่วว่องไว
• เหด็ หอม ขอให้ชวี ิตคูห่ อมหวานเหมอื นด่งั เหด็ หอม
• ผักกุ้ยชา่ ย ขอให้ทั้งค่คู รองคูก่ นั ยาวนานตราบชวั่ นจิ นริ นั ดร์
• ผักเกาฮะไช่ ขอใหล้ กู และคนรกั เปน็ ครู่ กั ทีร่ ักกันมาก

๕๐

4. พธิ สี ง่ ตัวเจำ้ สำว
เมอ่ื ได้ฤกษ์ ทางเจ้าบ่าวจะเดนิ ทางมาทบ่ี า้ นเจ้าสาว เพอื่ รับตวั เจ้าสาว ในระหว่างท่ีเจ้าสาวรอเจา้ บ่าว

มารบั อย่นู ้ัน จะนง่ั ถอื พัดแดงรอเจา้ บา่ วในหอ้ งและให้ญาติๆ เจ้าสาวเป็นผู้ต้อนรับเจ้าบ่าว เมอื่ เจ้าบ่าวเข้ามาถงึ
บ้านเจา้ สาวแล้ว จะต้องไหว้ฟา้ ดนิ ไหวเ้ จา้ ท่ี และไหวบ้ รรพบรุ ุษของเจา้ สาว เพื่อเปน็ การบอกกล่าวว่าตนเอง
และเจา้ สาวเป็นครอบครัวเดียวกัน

จากน้นั เจ้าบา่ วจะเข้าไปรับตวั เจา้ สาว มอบช่อดอกไม้ให้ และนง่ั รับประทานขนมอ๊สี ชี มพดู ว้ ยกัน เมื่อ
ทานขนมเสร็จ ทั้งสองจะกราบลาพ่อแมข่ องเจา้ สาว เพอื่ เดินทางกลบั บ้านของเจ้าบา่ ว ซ่ึงในการเดินทางครัง้ น้ี
เจ้าสาวจะตอ้ งนาส่ิงของท่ีเตรยี มไวน้ าไปด้วย

คุณพอ่ ของเจา้ สาวจะพาเจ้าสาวขน้ึ รถพรอ้ มอวยพร สว่ นญาตทิ างฝั่งเจ้าสาวทเ่ี ปน็ คนถอื ตะเกยี ง
สามารถน่งั รถไปคนเดยี วกบั เจา้ สาวหรือแยกไปคนละคันก็ได้ เมื่อถงึ บา้ นเจ้าบ่าวแล้ว ญาตผิ นู้ ีจ้ ะนาตะเกียงไป
วางไว้หอ้ งนอนของคบู่ า่ วสาว พร้อมจดุ ท้ิงไวท้ ั้งคนื

เม่อื คู่บ่าวสาวเขา้ มาในบา้ นเรียบร้อยแลว้ คู่บา่ วสาวจะคานับฟา้ ดินหนง่ึ คร้งั คานบั บรรพบรุ ษุ หนง่ึ คร้งั
และคานบั กนั เองหน่ึงครงั้ เพ่อื เป็นการบอกกล่าววา่ ทัง้ สองแตง่ งานกันแล้ว ถือเปน็ ครอบครวั เดยี วกัน

5. พธิ ปี เู ตียงเรยี งหมอนแบบจนี
พธิ ปี ูเตยี งเรยี งหมอนแบบจีนน้ัน คล้ายๆกบั พธิ ีปเู ตยี งเรียงหมอนแบบของไทยเลย ต้องใหค้ ู่สามี-

ภรรยาท่มี ีคุณธรรม มลี กู หลานอยู่ครบ เป็นคนทาพธิ ใี ห้เหมอื นกนั ลาดบั พธิ กี ารจะคล้ายๆ กนั แตจ่ ะต่างตรงท่ี
สง่ิ ของใชใ้ นพิธี ประกอบไปด้วย

• ผ้าปทู ่นี อนสีแดง
• หมอนหนุน 2 ใบพร้อมปลอกหมอนสีแดง
• สม้ 4 ผล
• โหงว่ เจ๋งจ้ี ถุงใส่เมลด็ พนั ุธ์ 5 ชนิด พร้อมวางยอดทับทมิ ไว้ดา้ นบน
• แผน่ กระดาษอกั ษรมงคล ไว้สาหรับติดหนา้ บา้ น หนา้ ห้องหอ และหวั เตียง
• ตวั อักษร 双喜 สแี ดงตัวใหญ่ สาหรับติดไว้ตรงหัวเตียงและกระจกโต๊ะเครอ่ื งแป้ง

๕๑

เมื่อทาพิธีปเู ตียงเสร็จเรียบร้อย จะนาส้ม 4 ผลไปวางไวต้ รงมุมเตยี ง 4 ดา้ น และอกี 4 ผลที่เหลือ
วางไว้ในจานทมี่ ีตัวอักษรซงั ฮส้ี แี ดงติดอยู่ จากนน้ั นาไปวางไวก้ ลางเตยี งพรอ้ มกบั โหงวเจ๋งจี๊ แตก่ ระดาษ 双喜
ท่ีติดไว้ตรงหัวเตียงและกระจกโตะ๊ เครอ่ื งแป้งอยา่ งเพิง่ เอาออก ใหเ้ จ้าสาวเปน็ คนแกะออกเมื่อกินเลีย้ งตอนคา่
เสร็จเรียบรอ้ ยแลว้ กลับเข้ามาในหอ้ งหออีกครัง้ สาเหตุที่ตอ้ งทาเช่นนี้ เพราะถือเคล็ดว่า ถา้ ในห้องหอมีกระจก
เงาให้นาตัวอกั ษรสแี ดงมาปดิ ไว้กนั การสะท้อนเงาของหญิงอนื่ เจา้ บ่าวจะตอ้ งมเี จ้าสาวคนเดียวเทา่ นนั้
6. พิธยี กน้ำชำ

พธิ ียกน้าชาหรือพิธีซงั เต๊ ซึง่ ตามพิธีแบบดั่งเดมิ จะจดั ขนึ้ ในวนั รุ่งขน้ึ โดยพธิ นี ี้เปน็ พิธีทแี่ สดงความ
เคารพผูห้ ลกั ผใู้ หญ่ ญาติผใู้ หญท่ ี่เข้ารว่ มพธิ ีจะตอ้ งนั่งเรยี งลาดับตามความอาวุโส โดยญาตฝิ ่ายชายจะอยู่
ซา้ ยมอื และคนท่เี ป็นคู่สามี-ภรรยาจะต้องนง่ั ติดกนั ด้วยกนั

เมือ่ ไดฤ้ กษ์พธิ ี คูบ่ ่าวสาวจะนัง่ คกุ เขา่ รินน้าชาใส่ถ้วยวางบนถาด ใช้สองมือยกถาดขึน้ พรอ้ มกัน และส่ง
ให้ผใู้ หญด่ ื่มจนหมดถ้วย จากน้ันญาติผใู้ หญ่จะอวยพรและใหซ้ องอ่งั เปาเปน็ ของขวัญ ซึ่งทางคู่บ่าวสาวจะให้
ของตอบแทนเป็นของรบั ไหว้ เมอ่ื เสรจ็ พิธยี กนา้ ชาแล้ว คู่บ่าวสาวจะน่ังทานขนมอีแ๊ ละบวั ลอยดว้ ยกนั เพอ่ื เปน็
สัญลกั ษณข์ องความรกั ทห่ี วานชน่ื
7. เยยี่ มบ้ำนเจ้ำสำว

พธิ ีแตง่ งานแบบจนี พธิ ีสดุ ทา้ ย หลังเจ้าบ่าวสาวแต่งงานได้ 7 วัน หรอื 15 วัน จะต้องกลบั มาเยย่ี ม
เยยี นบ้านเจ้าสาว โดยครอบครวั เจา้ สาวจะตอ้ งจัดเตรยี มส้ม 12 ผล และใหญ้ าติผูช้ ายของทางเจ้าสาวมารับคู่
บ่าวสาวกลับไปเยี่ยมบา้ น เมอื่ มาถึง ครอบครวั ฝ่ายเจา้ สาวจะเลยี้ งต้อนรับเจ้าบา่ ว เม่ือรับประทานอาหารเสรจ็
เรียบร้อยแลว้ ทางครอบครวั ฝ่ายเจา้ สาวจะใหบ้ า่ วสาวนาส้ม 12 ผลน้กี ลับไปด้วย ให้นาไปวางไว้บนหวั เตียง
โดยส้มน้ี เจา้ บา่ วเจ้าสาวเปน็ คนรบั ประทานไดเ้ ทา่ นั้น คนอน่ื ห้ามมารบั ประทาน เพราะเชือ่ วา่ ทง้ั คจู่ ะได้มี
ลูกหลานมากมายเหมือนจานวนผลส้ม ถงึ พธิ นี ี้กเ็ ป็นพิธสี ดุ ทา้ ยของพิธีแต่งงานแบบจนี

๕๒

5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (C)
1.  ความสามารถในการสื่อสาร
2.  ความสามารถในการคดิ
3.  ความสามารถในการแก้ปัญหา
4.  ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ

5.  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 5.  อยู่อยา่ งพอเพยี ง
1.  รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 6.  ม่งุ มัน่ ในการทางาน
2.  ซอื่ สัตยส์ ุจริต 7.  รักความเปน็ ไทย
3.  มวี ินัย 8.  มีจิตสาธารณะ
4.  ใฝเ่ รียนรู้

7. ภำระงำน / ชนิ้ งำน

1. สรปุ ใจความของวฒั นธรรมการแตง่ งานของชาวจนี
๒. ทาแบบฝึกหัดหลงั เรยี น หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๑๐ 中国人的婚姻
๓. ตดั กระดาษแดงเป็นตัวอักษร 双喜

8. กระบวนกำรจดั กำรเรยี นรู้
ชว่ั โมงที่ 1
ขน้ั นำเข้ำสู่บทเรยี น
1. ครกู ล่าว 上课(เร่ิมเรยี น) เพื่อเปน็ การกระตนุ้ ให้นกั เรียนไดเ้ ตรยี มตนเองก่อนเรยี น
2. ครูและนกั เรยี นกลา่ วทกั ทายกันและกนั เป็นภาษาจีน “นกั เรียน: 老师好 ครู: 你好”

๓. ครเู ปดิ คลปิ วีดโี องานแต่งงานของชาวจนี
๔. ครูถามนกั เรียนว่าจากการดูคลปิ คลปิ วีดีโองานแต่งงานของชาวจีน นกั เรียนสงั เกตเหน็

หรอื มีขอ้ สงสัยอะไรหรือไม่
ขน้ั สอน

1. ครูเปิดสไลด์ พาวเวอรพ์ ้อย หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๑๐ 中国人的婚姻
2. ครูใชว้ ธิ ีการบรรยาย และอธบิ ายเรื่องราววฒั นธรรมการแตง่ งานของชาวจนี สิง่ ท่เี จ้าบา่ ว

ตอ้ งเตรยี ม สิง่ ทเี่ จ้าสาวตอ้ งเตรยี ม ลาดับพิธแี ตง่ งานแบบจีน โดยเรมิ่ ตง้ั แตก่ าร

1. ดูฤกษแ์ ต่งงาน 2. พธิ ีหมน้ั และยกขบวนขันหมาก 3. พธิ ีรา่ ลาครอบครวั ของฝ่ายเจ้าสาว

4. พธิ ีสง่ ตัวเจ้าสาว 5. พิธปี เู ตยี งเรยี งหมอนแบบจีน 6. พิธยี กนา้ ชา ไปจนถึง 7. การเยย่ี ม

บา้ นเจา้ สาว และในส่วนของพธิ ีที่คนส่วนใหญใ่ หค้ วามสาคัญท่ีสุดจะเป็น “พธิ ียกน้าชา” โดย

พิธนี ้ีเป็นพิธีทีแ่ สดงความเคารพผู้หลักผู้ใหญ่ ซ่งึ ชาวจนี ให้ความสาคัญในสว่ นนม้ี าก

3. ครูเปิดโอกาสให้นักเรยี นไดต้ ง้ั คาถามเก่ยี วกับเนอื้ หาท่เี รยี นไปในช่วั โมงนี้
๔. ครไู ขขอ้ คาถามที่นักเรียนสงสยั พร้อมใหค้ าอธิบายอยา่ งละเอียดแก่นักเรยี น

๕๓

ข้ันฝกึ ฝน
๑. ครเู ปิดสไลด์ พาวเวอร์พอ้ ย แบบฝกึ หดั หลังเรียน หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี ๑๐ 中国人的婚姻
๒. นกั เรียนทาแบบฝึกหัดหลังเรยี นลงในสมดุ
๓. ครูเฉลยคาตอบทถ่ี กู ตอ้ งบนสไลดเ์ พาเวอร์พอยต์

ขนั้ สรุป
๑. ครสู มุ่ ถามนกั เรยี น ๓-๕ คน เกย่ี วกับเร่อื งราววัฒนธรรมการแต่งงานของชาวจนี
๒. ครกู ล่าว 下课(เลกิ เรยี น)
๓. ครแู ละนกั เรียนกล่าวลากนั และกันเปน็ ภาษาจีนวา่ “再见”

เนอื้ หาในสไลด์

๕๔
ช่ัวโมงที่ ๒

ขั้นนำเขำ้ สบู่ ทเรยี น
1. ครูกลา่ ว 上课(เรมิ่ เรียน) เพือ่ เปน็ การกระตุ้นใหน้ ักเรยี นไดเ้ ตรยี มตนเองก่อนเรียน
2. ครูและนักเรยี นกลา่ วทักทายกันและกนั เป็นภาษาจนี “นกั เรียน: 老师好 ครู: 你好”
๓. ครเู ปดิ สไลดภ์ าพตวั อักษร 双喜 ครูให้นักเรยี นบอกครูว่าตวั อกั ษร 双喜 มีความสาคัญ
เก่ียวขอ้ งอย่างไรกบั วฒั นธรรมการแต่งงานของชาวจีน
๔. ครูเปิดคลิปวดี โี อการสอนตัดกระดาษแดงเปน็ ตัวอกั ษร 双喜

ขน้ั กจิ กรรม
1. ครูอธิบายกจิ กรรม “ตดั กระดาษแดงเปน็ ตวั อักษร 双喜” โดยการใหน้ กั เรยี นแตล่ ะคนรบั

กระดาษแดงจากครู เมอื่ รบั กระดาษจากครูแล้ว ให้นกั เรียนพบั กระดาษเปน็ สองทบ
แล้ววาดลายตามตวั อย่างทโดยใช้กรรไกรตัดเอาเฉพาะตรงทเ่ี ปน็ สีขาวออก เมื่อคลกี่ ระดาษ
ออก ก็จะได้ตัวอกั ษรทต่ี อ้ งการ

2. ครูใหน้ กั เรียนจบั กลุม่ กนั ตามทไ่ี ด้นดั หมายไว้ เพอื่ ใชอ้ ปุ กรณท์ ่ีครเู ตรยี มไวใ้ ห้ร่วมกนั
3. ครใู ห้นกั เรียนลงมอื ตดั กระดาษแดง ของตนเอง และพูดเน้นย้าถงึ ความปลอดภัยในการใช้

อปุ กรณ์ของมคี ม และเมือ่ ใชง้ านอปุ กรณ์ตา่ ง ๆ เสรจ็ แล้ว ใหเ้ ก็บส่งครูให้เรยี บรอ้ ย
๔. สง่ ชนิ้ งานตัดกระดาษแดงกับครู ในท้ายชว่ั โมงเรียน
ขัน้ สรุป
๑. ครกู ลา่ วช่นื ชมนักเรียน และให้คาแนะนานกั เรยี นในการทากิจกรรมในคร้งั นี้
๒. ครกู ลา่ ว 下课(เลิกเรยี น)
๓. ครูและนกั เรียนกล่าวลากันและกันเปน็ ภาษาจนี ว่า “再见”

๕๕

9. ส่ือ/แหล่งกำรเรียนรู้
1. สไลด์ พาวเวอรพ์ ้อย หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๑๐ 中国人的婚姻

๒. สไลด์ พาวเวอร์พอ้ ย แบบฝกึ หดั หลังเรียน หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๑๐ 中国人的婚姻
๓. https://www.venuee.co/blog
๔. สมดุ ภาษาจีน

10. กำรวดั และประเมนิ ผล

ควำมกำ้ วหน้ำ วธิ ีวัด เครือ่ งมอื เกณฑ์กำรผ่ำน
ของผู้เรียน - สมุด
ผา่ นเกณฑ์
ด้านความรู้ (K) รอ้ ยละ 60

1. สรุปใจความของวัฒนธรรมการ - ตรวจสมุด

แตง่ งานของชาวจนี ได้

ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) - สมดุ ผ่านเกณฑ์
๒. ทาแบบฝึกหัดหลังเรียน หน่วย - ตรวจสมุด ร้อยละ 60
การเรยี นรูท้ ี่ ๑๐ 中国人的婚姻 ได้

๓. รว่ มกจิ กรรม “ตัดกระดาษแดง - ตรวจชิน้ งาน - ชน้ิ งานกระดาษ ผ่านเกณฑ์
เป็นตวั อักษร 双喜”ได้ กระดาษแดง แดงตัวอักษร 双喜 ร้อยละ 60
ตัวอกั ษร 双喜

ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)

๔. มีวินัย มีมารยาทในการอ่านและ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมิน ผ่านเกณฑ์
คณุ ลกั ษณะอันพงึ - รอ้ ยละ 60
การฟังในสถานการณต์ า่ ง ๆ การเรียนรู้ และการ ประสงค์

๕. มีความมุ่งม่ันในการเรียน รว่ มกิจกรรม

รับผิดชอบในการสง่ สมุด หรือเข้าร่วม

กจิ กรรม

เกณฑ์การผ่านในการตรวจสมดุ /แบบฝึกหดั

差 = 0-20% 不太好 = 20-40% 好 = 50% 很好 = 60%
厉害 = 90% 真了不起 = 100%
非常好 = 70% 真棒 = 80%

๕๖

แบบประเมนิ กำรทำกิจกรรม หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๑๐ 中国人的婚姻
เรอ่ื ง กิจกรรม “ตัดกระดำษแดงเป็นตัวอักษร 双喜”
ภำคเรยี นที.่ ................... ระดับช้ัน ..................

รำยกำรประเมนิ เกณฑก์ ำรตัดสิน
ผำ่ น ไม่ผ่ำน
ลำดบั ชอื่ -สกุล ควำม สนใจ สำมัคคีใน ปฏบิ ตั ิ
พร้อมใน ต้งั ใจ ใน กำรทำ กิจกรรม
1 เดก็ ชายกฤติพงศ์ อรรถวลิ ัย กำรทำ กำรร่วม กิจกรรม เสร็จสิ้น
2 เด็กชายกลยุทธ์ นาสอ้าน
3 เดก็ ชายเกรกิ กรรชยั แซเ่ ตยี กจิ กรรม กิจกรรม ดว้ ยดี
4 เดก็ ชายจริ ะศกั ดิ์ สารโิ พธ์ิ
5 เดก็ ชายจิรายทุ ธ สาริโพธิ์
6 เด็กชายเจษฎา ศรีทะนนท์
7 เด็กชายชยตุ พงศ์ พลเรือง
8 เดก็ ชายเตวิด แทนกลาง
9 เดก็ ชายธีรภทั ร นาทันรีบ
10 เด็กชายนพวชิ ญ์ ภูลบั ดวง
11 เด็กชายรชั ชานนท์ ศรีทะนนท์
12 เด็กชายวีรพงศ์ ชนะบรู ณ์
13 เดก็ ชายอนุวัฒน์ นาสมใจ
14 เด็กชายอศั วิน โขลา
15 เด็กชายอสิ วะ สนิ ธุศริ ิ
16 เดก็ หญิงกนษิ ฐา นาทันริ
17 เด็กหญงิ จีรนนั ท์ อดั โดดดร
18 เด็กหญิงจฬุ ารัตน์ แกว้ ลี
19 เดก็ หญงิ ฉัตรฎาพร ลอื สวุ รรณ์
20 เดก็ หญงิ นุชรรี ตั น์ วะชมุ
21 เดก็ หญงิ พรรณิพา นาทองลาย
22 เด็กหญงิ วรนุช มะหาวันตัง
23 เด็กหญิงวิรญั ญา อาภวา
24 เดก็ หญิงณัฐกานต์ รตั นวโิ รดม

๕๕

ควำมคดิ เหน็ ของผบู้ รหิ ำร
 อนุมัติ ให้ใช้แผนการจัดการเรยี นรู้
 ไม่อนุมัติ ใหใ้ ช้แผนการจัดการเรยี นรู้ เนอ่ื งจาก

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………….……………………………………………………………………………………………………..

ลงชื่อ……………………………………………….
(นางรตกิ รณ์ แสบงบาล)

ผู้อานวยการโรงเรียนฆ้องชัยวทิ ยาคม
บนั ทกึ ผลกำรสอน

1. ผลการจดั การเรียนรู้
1.1 ด้านความรู้ (K)

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

1.2 ด้านทักษะและกระบวนการ (P)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

1.3 ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

2. ปัญหาตา่ ง ๆ ที่พบจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

3. ขอ้ เสนอแนะเพื่อปรบั ปรงุ แกไ้ ขในการจดั การเรียนรู้คร้งั ตอ่ ไป
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่อื ………………………………………………
(นางสาวพิชญ์สินี ยังคง)
ครูผ้สู อน

๕๖

หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑๑
你会游泳吗？
nǐ huì yóuyǒng ma?
คุณสำมำรถว่ำยน้ำไดไ้ หม

กรอบควำมคิดกำรจัด

หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๑๑ 你会游泳

ช้ันมธั ยมศกึ ษำปที ่ี

เป้ำหมำยของหนว่ ย นักเรียนสามารถพดู และเขยี นข้อมูลเก่ยี วกบั ตนเองในความสามารถด้านก

เปำ้ หมำย ผลกำรเรยี นรู้ สำระสำคญั ค
(ควำมเขำ้ ใจฝังแนน่ )

เปำ้ หมำยของเร่ือง ข้อท่ี 1 体育运动 สม
เรือ่ งที่ 1 1.
พูดและเขียนข้อมูลเก่ยี วกับ tǐ yù yùn dòng กฬี า การ
体育运动 กีฬา ตนเอง กิจวตั รประจาวัน และ
ประสบการณส์ ง่ิ แวดล้อมใกลต้ วั 游泳 yóuyǒng วา่ ยน้า 2.
เรื่องท่ี 2 赛跑 sàipǎo วง่ิ แขง่ การ
3.
你会游泳吗？ ขอ้ ท่ี ๔ (打)泰拳 tàiquán การ

ใชภ้ าษาจนี สือ่ สารใน มวยไทย คณุ
ปร
สถานการณ์จรงิ หรือ (踢)藤球 téng qiú เซปกั 1.
การ
สถานการณ์จาลองทีเ่ กิดขึ้นใน ตะกรอ้ สถา
ห้องเรยี น สถานศึกษา ชมุ ชน (踢)足球 zúqiú

ฟตุ บอล

(打)排球 páiqiú

วอลเลย์บอล

(打)地掷球 dì zhì qiú ๒.
เรยี
เปตอง ส่งส
(打)羽毛球 yǔmáoqiú กจิ ก

แบดมนิ ตัน

甲：你会赛跑吗？

乙：我(不)会赛跑。

乙：会/不会。

57

ดกำรเรยี นรูข้ องหนว่ ย

泳吗？คุณสามารถวา่ ยนา้ ไดไ้ หม

๓ เวลำ ๔ ช่ัวโมง

กีฬา และสามารถนาไปประยุกต์ใช้ในสถานการณจ์ ริงหรือสถานการณ์จาลองท่ีเกิดข้นึ ในห้องเรยี นได้

สมรรถนะ/ หลักฐำนแสดงผลกำรเรยี นรู้ กระบวนกำรเรยี นรู้ วิธีวัดและประเมินผล
คณุ ลกั ษณะท่เี นน้ (ชนิ้ งำน/ภำระงำน)

มรรถนะ 1. สมุด 1. กระบวนการเรยี นรู้ 1. ตรวจสมุด
ความสามารถใน เพอ่ื การสอื่ สาร 2. ตรวจแบบฝกึ หัด
รสื่อสารด้วยการพูด 2. แบบฝกึ หดั หลงั เรียน 2. กระบวนการทาง 3. สงั เกตพฤติกรรมการ
ะการอ่าน สงั คม
ความสามารถใน ๓. ทดสอบสนทนาโตต้ อบ เรยี นรู้ แล้วบันทึกผลลง
รแกป้ ญั หา ใน แบบประเมนิ การ
การอ่านออกเสียง อา่ นออกเสยี ง

ความสามารถใน

รใช้ทกั ษะชีวติ

ณลกั ษณะอนั พึง
ระสงค์
มีวินยั มมี ารยาทใน
รอา่ นและการฟังใน
านการณต์ ่าง ๆ
มคี วามมงุ่ ม่นั ในการ
ยน รับผดิ ชอบในการ
สมดุ หรอื เข้าร่วม
กรรม

๕๘

แผนกำรจัดกำรเรยี นรทู้ ่ี ๘ โรงเรยี นฆ้องชยั วิทยาคม
ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๓
กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ เวลา ๔ ชวั่ โมง
รายวิชา ภาษาจนี เบื้องตน้ ๖ รหสั วชิ า จ 2๓20๒
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๑๑ 你会游泳吗？คุณสามารถวา่ ยน้าได้ไหม เวลา ๒ ชั่วโมง

แผนการจัดการเรียนรู้ เร่อื ง 体育运动 กฬี า ภาคเรยี นท่ี ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔

ผู้สอน : นางสาวพชิ ญส์ ินี ยังคง

1. มำตรฐำนกำรเรียนร้/ู ตวั ช้วี ัด/ผลกำรเรียนรู้

ผลกำรเรียนรู้
ข้อที่ 1 พดู และเขียนขอ้ มูลเกยี่ วกับตนเอง กจิ วตั รประจาวัน ประสบการณ์ส่ิงแวดล้อมใกล้ตวั
ข้อที่ ๔ ใช้ภาษาจีนสื่อสารในสถานการณ์จริงหรอื สถานการณจ์ าลองทเ่ี กดิ ขึ้นในห้องเรียน

สถานศกึ ษา ชุมชน

2. สำระสำคญั /ควำมคดิ รวบยอด
นักเรียนสามารถพูดและเขียนข้อมูลเก่ียวกับตนเอง กิจวัตรประจาวันที่เกี่ยวกับการความสามารถใน

การเล่นกฬี าของตนเอง และเรยี นรทู้ จ่ี ะถามถึงความสามารถในการเลน่ กฬี าของผอู้ นื่ ดว้ ยเชน่ กัน โดยใชค้ าศัพท์
เรื่องกีฬาในบทเรียน รวมท้ังรูปประโยคการถามถึงความสามารถในการเล่นกีฬา ไปจนถึงการบอกเล่า หรือ
ตอบรับถึงความสามารถในการเล่นกีฬา และนาความรู้ท่ีได้เรียนในบทเรียน นาไปปรับประยุกต์ใช้ในการ
สื่อสารในสถานการณ์จริงหรือสถานการณ์จาลองท่ีเกิดข้ึนในห้องเรียนหรือนอกห้องเรียน ภายในหรือนอก
สถานศึกษา

3. จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้
1. บอกความหมายของคาศพั ท์กฬี าเปน็ ภาษาจนี ได้ (K)
๒. บอกความสามารถในการเลน่ กีฬาของตนเองเป็นภาษาจีน โดยใชโ้ ครงสรา้ งประโยค
我会...............ลงในสมุดได้ (K)
๓. อ่านออกเสียงคาศัพท์กีฬาเป็นภาษาจนี ได้ (P)
๔. ทาแบบฝกึ หดั หลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๑ 你会游泳吗？............... (P)
๕. มวี ินยั มีมารยาทในการอา่ นและการฟงั ในสถานการณต์ า่ ง ๆ (A)
๖. มคี วามมุ่งมั่นในการเรียน รบั ผดิ ชอบในการสง่ สมุด หรือเข้าร่วมกจิ กรรม (A)

4. สำระกำรเรียนรู้ (เนือ้ หำสำระ)
生词 (คำศัพท์)

ลาดับ 生词 拼音 意思
1 游泳
2 赛跑 yóuyǒng ว่ายนา้
3 泰拳 sàipǎo วิ่งแขง่
4 藤球 tàiquán มวยไทย
5 足球 téng qiú เซปกั ตะกร้อ
zúqiú ฟตุ บอล

๕๙

ลาดบั 生词 拼音 意思
6 排球
7 地掷球 páiqiú วอลเลยบ์ อล
8 羽毛球 dì zhì qiú เปตอง
9打 yǔmáoqiú แบดมนิ ตนั
10 踢 dǎ ตี/ตบ
tī เตะ

โครงสร้ำงประโยคบอกเล่ำ

我 游泳 赛跑 泰拳 藤球
他 足球 排球 地掷球 羽毛球
她

我 + 会 + 打/踢 + 运动

(ฉัน) (สามารถ) (ต/ี เตะ) (กฬี า)
ประธาน คาขยายกรยิ า กรยิ า กรรม

5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น (C)
1.  ความสามารถในการสื่อสาร
2.  ความสามารถในการคิด
3.  ความสามารถในการแก้ปญั หา
4.  ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
5.  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 5.  อยู่อย่างพอเพยี ง
1.  รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ 6.  มุ่งม่ันในการทางาน
2.  ซอื่ สัตยส์ ุจริต
7.  รักความเป็นไทย
3.  มีวนิ ยั 8.  มีจิตสาธารณะ
4.  ใฝเ่ รียนรู้

7. ภำระงำน / ชนิ้ งำน

1. บอกความหมายของคาศัพท์กฬี าเปน็ ภาษาจีน
๒. บอกความสามารถในการเลน่ กฬี าของตนเองเปน็ ภาษาจนี โดยใชโ้ ครงสรา้ งประโยค

我会...............ลงในสมดุ
๓. อ่านออกเสียงคาศัพท์กฬี าเป็นภาษาจนี
๔. ทาแบบฝกึ หดั หลงั เรียน หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๑๑ 你会游泳吗？...............

๖๐

8. กระบวนกำรจดั กำรเรียนรู้
ชว่ั โมงที่ 1
ขน้ั นำเขำ้ ส่บู ทเรียน
1. ครกู ลา่ ว 上课(เร่มิ เรยี น) เพื่อเป็นการกระตุน้ ใหน้ กั เรียนได้เตรียมตนเองกอ่ นเรยี น
2. ครแู ละนกั เรียนกลา่ วทกั ทายกันและกันเป็นภาษาจนี “นักเรยี น: 老师好 ครู: 你好”
๓. ครเู ปดิ รปู ถ่ายกีฬาสี พร้อมตง้ั คาถามกับนักเรียนว่า “คดิ วา่ วนั น้ีเราจะเรยี นเรือ่ งอะไรกัน”

ขน้ั สอน
1. ครูเปิดสไลด์ พาวเวอร์พ้อย หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑๑ 你会游泳吗？
2. ครอู ่านออกเสยี ง และอธบิ ายความหมายของคาศพั ท์กฬี าท่ีอยใู่ นสไลด์ แล้วใหน้ กั เรยี น
อ่านออกเสียงคาศัพท์กีฬาตามครู
3. ครูอธิบายพร้อมยกตวั อยา่ งการใช้คากริยา 打/踢 (ตี ตบ/เตะ) รว่ มกนั กบั คาศัพท์กฬี า
แตล่ ะตวั ใหน้ ักเรยี นดู พรอ้ มให้นักเรยี นฝึกอ่านออกเสยี งตาม
๔. นักเรยี นอา่ นออกเสยี งคาศพั ท์ หรอื วลีพรอ้ มกัน แลว้ จดคาศพั ท์กีฬาที่เรยี นไปทั้งหมด
ลงในสมดุ
๕. ครสู ุม่ นักเรียน ๓ - 5 คน อ่านออกเสยี งพรอ้ มบอกความหมายของคาศัพทห์ รือวลีที่เรยี นไป

ขนั้ สรปุ
๑. ครแู ละนักเรียนร่วมกันอา่ นออกเสยี งคาศัพท์ หรือวลีพร้อมกนั อกี ครั้ง
๒. ครกู ลา่ ว 下课(เลกิ เรียน)
๓. ครแู ละนักเรียนกลา่ วลากนั และกนั เป็นภาษาจนี ว่า “再见”

เน้ือหาในสไลด์

๖๑

ช่ัวโมงที่ ๒
ขั้นนำเข้ำสูบ่ ทเรียน
1. ครกู ลา่ ว 上课(เรมิ่ เรียน) เพ่ือเปน็ การกระตุ้นใหน้ ักเรียนได้เตรียมตนเองก่อนเรยี น
2. ครแู ละนักเรียนกลา่ วทกั ทายกนั และกันเป็นภาษาจนี “นักเรียน: 老师好 ครู: 你好”
๓. ครูเปิดรปู ถา่ ยกฬี าสี แลว้ ให้นักเรยี นบอกครูว่า กีฬาทีน่ กั เรยี นเลน่ กนั อยใู่ นแต่ละรปู นนั้ คอื
กีฬาอะไร (บอกกฬี าเปน็ ภาษาจีน)
ขัน้ สอน
1. ครเู ปิดสไลด์ พาวเวอรพ์ อ้ ย หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๑ 你会游泳吗？ (หนา้ โครงสรา้ งประโยค)
2. ครูทบทวนการอา่ นออกเสยี งคาศัพท์กฬี า แลว้ ใหน้ ักเรยี นอา่ นออกเสียงตามครู
3. ครูอธิบายพร้อมยกตวั อย่างการใช้โครงสร้างประโยค 我会............... รว่ มกนั กับคาศัพท์
กีฬาแตล่ ะตวั ใหน้ ักเรียนดู พรอ้ มให้นักเรียนฝกึ พดู ตาม
๔. ครูสุม่ นกั เรยี น ๓ - 5 คน แตง่ ประโยคภาษาจนี ว่า “ฉันสามารถ..............” โดยใชโ้ ครงสรา้ ง
ประโยค 我会............... (เพ่อื น ๆ ในห้องสามารถชว่ ยคนทโ่ี ดนส่มุ แตง่ ประโยคได)้
๔. นกั เรยี นเขยี นคาศัพท์ รวมท้งั รูปประโยคต่าง ๆ ทไ่ี ดเ้ รยี นไปลงในสมดุ
ขัน้ ฝึกฝน
๑. ครเู ปิดสไลด์ พาวเวอร์พ้อย แบบฝึกหัดหลงั เรียน หน่วยการเรียนรูท้ ี่ ๑๑

你会游泳吗？

๒. นักเรียนทาแบบฝกึ หัดหลังเรยี นลงในสมุด
๓. ครูเฉลยแบบฝึกหดั หลังเรียน
ขนั้ สรปุ
๑. ครเู ชค็ ชือ่ นกั เรียน คนท่ีมาให้พดู วา่ “到” ตนท่ไี ม่มาให้เพ่ือนพดู แทนว่า “没来”
๒. ครูกล่าว 下课(เลกิ เรียน)
๓. ครแู ละนักเรียนกลา่ วลากันและกันเป็นภาษาจนี ว่า “再见”

๖๒

9. สอ่ื /แหลง่ กำรเรียนรู้
1. สไลด์ พาวเวอรพ์ ้อย หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๑๑ 你会游泳吗？ (หน้าคาศัพท์กีฬา)

๒. สไลด์ พาวเวอรพ์ อ้ ย หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑๑ 你会游泳吗？ (หน้าโครงสร้างประโยค)
๓. สไลด์ พาวเวอรพ์ ้อย แบบฝึกหดั หลังเรยี น หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑๑ 你会游泳吗？

๔. แบบเรียนภาษาจนี 汉语教程（上）
๕. สมุดภาษาจนี

10. กำรวัดและประเมนิ ผล

ควำมก้ำวหนำ้ วิธวี ัด เครอ่ื งมือ เกณฑ์กำรผ่ำน
ของผ้เู รยี น - สมุด
- สมุด ผ่านเกณฑ์
ด้านความรู้ (K) รอ้ ยละ 60
- แบบประเมนิ การ
1. บอกความหมายของคาศัพท์กีฬา - ตรวจสมุด อ่านออกเสียง ผา่ นเกณฑ์
- สมดุ รอ้ ยละ 60
เป็นภาษาจีนได้ ผา่ นเกณฑ์
รอ้ ยละ 60
๒. บอกความสามารถในการเล่นกฬี า - ตรวจสมุด

ของตนเองเป็นภาษาจนี โดยใช้โครง

สรา้ งประโยค 我会...............ลงใน

สมดุ ได้

ด้านทักษะกระบวนการ (P)

๓. อ่านออกเสียงคาศพั ท์กีฬาเป็น - สังเกตพฤตกิ รรม

ภาษาจีนได้ การเรียนรู้ และการ

ร่วมกจิ กรรม

๔. ทาแบบฝึกหดั หลงั เรียน หน่วย - ตรวจสมุด

การเรยี นร้ทู ี่ ๑๑ 你会游泳吗？

ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)

๖. มีวินัย มีมารยาทในการอ่านและ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมิน ผ่านเกณฑ์
คณุ ลักษณะอันพงึ - รอ้ ยละ 60
การฟังในสถานการณ์ต่าง ๆ การเรยี นรู้ และการ ประสงค์
๗. มีความม่งุ มน่ั ในการเรยี น
รบั ผดิ ชอบในการสง่ สมุด หรอื เข้าร่วม ร่วมกิจกรรม

กิจกรรม

เกณฑ์การผ่านในการตรวจสมดุ /แบบฝึกหัด

差 = 0-20% 不太好 = 20-40% 好 = 50% 很好 = 60%
厉害 = 90% 真了不起 = 100%
非常好 = 70% 真棒 = 80%

๖๓

แบบประเมนิ การอา่ นออกเสียง
ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ……/…... ภาคเรยี นที่ ……. ปกี ารศกึ ษา………………

เลข เลข ชอ่ื -สกุล คะแนน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕
ท่ี ประจาตัว
จานวน 1-๒ ๓-๔ ๕-๖ ๗-๘ ๙-1๐ ผล
คา ประเมนิ

1 0 1346 เดก็ ชายกฤติพงศ์ อรรถวลิ ยั

2 0 1347 เด็กชายกลยทุ ธ์ นาสอา้ น

3 0 1348 เดก็ ชายเกริกกรรชยั แซเ่ ตยี

4 0 1349 เดก็ ชายจิระศักด์ิ สาริโพธ์ิ

5 0 1350 เด็กชายจริ ายทุ ธ สาริโพธ์ิ

6 0 1351 เดก็ ชายเจษฎา ศรีทะนนท์

7 0 1352 เด็กชายชยุตพงศ์ พลเรอื ง

8 0 1353 เดก็ ชายเตวิด แทนกลาง

9 0 1354 เด็กชายธีรภทั ร นาทนั รบี

10 0 1356 เด็กชายนพวิชญ์ ภูลับดวง

11 0 1357 เดก็ ชายรชั ชานนท์ ศรีทะนนท์

12 0 1358 เดก็ ชายวีรพงศ์ ชนะบูรณ์

13 0 1359 เดก็ ชายอนุวฒั น์ นาสมใจ

14 0 1360 เด็กชายอศั วิน โขลา

15 0 1361 เด็กชายอสิ วะ สนิ ธุศิริ

16 0 1363 เด็กหญงิ กนิษฐา นาทันริ

17 0 1365 เด็กหญงิ จีรนนั ท์ อดั โดดดร

18 0 1366 เดก็ หญงิ จฬุ ารัตน์ แก้วลี

19 0 1367 เด็กหญงิ ฉตั รฎาพร ลือสวุ รรณ์

20 0 1368 เด็กหญงิ นุชรรี ตั น์ วะชุม

21 0 1369 เดก็ หญงิ พรรณิพา นาทองลาย

22 0 1370 เด็กหญงิ วรนชุ มะหาวันตงั

23 0 1371 เดก็ หญงิ วริ ัญญา อาภวา

24 0 1403 เด็กหญงิ ณัฐกานต์ รตั นวิโรดม

25
26

27
28
29
30

ต้องผ่ำนเกณฑ์รอ้ ยละ ๖๐ ขนึ้ ไป หรอื กค็ อื อ่ำนไดต้ ั้งแต่ ๖ ขอ้ ขน้ึ ไป

๖๔

ควำมคดิ เหน็ ของผบู้ รหิ ำร

 อนุมตั ิ ให้ใช้แผนการจัดการเรียนรู้
 ไม่อนุมัติ ใหใ้ ช้แผนการจดั การเรยี นรู้ เนือ่ งจาก
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………….……………………………………………………………………………………………………..

ลงชือ่ ……………………………………………….
(นางรตกิ รณ์ แสบงบาล)

ผูอ้ านวยการโรงเรียนฆอ้ งชยั วทิ ยาคม
บนั ทกึ ผลกำรสอน

1. ผลการจดั การเรยี นรู้
1.1 ด้านความรู้ (K)

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

1.2 ด้านทักษะและกระบวนการ (P)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

1.3 ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

2. ปัญหาต่าง ๆ ท่ีพบจากการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

3. ข้อเสนอแนะเพื่อปรบั ปรงุ แก้ไขในการจัดการเรียนร้คู ร้งั ตอ่ ไป
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่อื ………………………………………………
(นางสาวพิชญส์ ินี ยังคง)
ครูผสู้ อน

๖๕

แผนกำรจัดกำรเรยี นรูท้ ี่ ๙ โรงเรยี นฆ้องชัยวิทยาคม
ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๓
กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ เวลา ๔ ชวั่ โมง
รายวิชา ภาษาจีนเบื้องต้น ๖ รหัสวชิ า จ 2๓20๒
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๑๑ 你会游泳吗？คณุ สามารถว่ายนา้ ได้ไหม เวลา ๒ ชวั่ โมง

แผนการจัดการเรียนรู้ เรอ่ื ง 你会游泳吗？ ภาคเรยี นที่ ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๔

ผสู้ อน : นางสาวพิชญ์สินี ยงั คง

1. มำตรฐำนกำรเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ัด/ผลกำรเรียนรู้

ผลกำรเรียนรู้
ขอ้ ที่ 1 พดู และเขยี นข้อมลู เกยี่ วกบั ตนเอง กจิ วัตรประจาวนั ประสบการณ์สง่ิ แวดล้อมใกลต้ วั
ข้อที่ ๔ ใชภ้ าษาจนี สื่อสารในสถานการณ์จริงหรือสถานการณ์จาลองทเ่ี กดิ ขน้ึ ในห้องเรียน

สถานศึกษา ชมุ ชน

2. สำระสำคัญ/ควำมคิดรวบยอด
นักเรียนสามารถพูดและเขียนข้อมูลเก่ียวกับตนเอง กิจวัตรประจาวันท่ีเกี่ยวกับการความสามารถใน

การเลน่ กฬี าของตนเอง และเรยี นรทู้ ่จี ะถามถงึ ความสามารถในการเล่นกฬี าของผู้อน่ื ด้วยเชน่ กัน โดยใช้คาศัพท์
เรื่องกีฬาในบทเรียน รวมท้ังรูปประโยคการถามถึงความสามารถในการเล่นกีฬา ไปจนถึงการบอกเล่า หรือ
ตอบรับถึงความสามารถในการเล่นกีฬา และนาความรู้ท่ีได้เรียนในบทเรียน นาไปปรับประยุกต์ใช้ในการ
สื่อสารในสถานการณ์จริงหรือสถานการณ์จาลองท่ีเกิดขึ้นในห้องเรียนหรือนอกห้องเรียน ภายในหรือนอก
สถานศกึ ษา

3. จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้
1. ต้งั คาถาม โดยใชโ้ ครงสรา้ งประโยค 你会..................吗？ ได้ (K)
2. ตอบคาถาม โดยใชโ้ ครงสร้างประโยค 我会............... ได้ (P)
๓. นกั เรียนทดสอบสนทนาโตต้ อบการอา่ นออกเสียงได้ (P)

๔. มวี นิ ัย มคี วามรบั ผดิ ชอบในการเขา้ รว่ มกิจกรรม หรอื ส่งงาน (A)
๕. มุ่งม่นั ในการทางาน มคี วามพยามในการเข้าร่วมกจิ กรรม หรือทดสอบการอ่านออกเสยี ง (A)

4. สำระกำรเรยี นรู้ (เน้ือหำสำระ)

โครงสรำ้ งประโยคคำถำม

我 游泳 赛跑 泰拳 藤球
他 足球 排球 地掷球 羽毛球
她

你 + 会 + 打/踢 + 运动 + 吗？

(คุณ) (สามารถ) (ตี/เตะ) (กฬี า) (ไหม)
ประธาน คาขยายกรยิ า กริยา กรรม แสดงกำรถำม

๖๖

โครงสร้ำงประโยคบอกเลำ่ หรือประโยคคำตอบ

我他她 游泳 赛跑 泰拳 藤球 足球 排球 地掷球 羽毛球

我 + 会 + 打/踢 + 运动

(ฉัน) (สามารถ) (ต/ี เตะ) (กฬี า)
ประธาน คาขยายกริยา กริยา กรรม

5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น (C)
1.  ความสามารถในการส่อื สาร
2.  ความสามารถในการคิด

3.  ความสามารถในการแกป้ ญั หา
4.  ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
5.  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 5.  อยู่อย่างพอเพยี ง
1.  รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ 6.  มงุ่ ม่นั ในการทางาน
2.  ซื่อสัตยส์ ุจริต
7.  รักความเปน็ ไทย
3.  มีวินัย 8.  มจี ิตสาธารณะ
4.  ใฝเ่ รียนรู้

7. ภำระงำน / ช้ินงำน
1. ตง้ั คาถาม โดยใชโ้ ครงสร้างประโยค 你会..................吗？
2. ตอบคาถาม โดยใชโ้ ครงสร้างประโยค 我会...............

8. กระบวนกำรจัดกำรเรยี นรู้
ชั่วโมงที่ 1
ขั้นนำเข้ำสูบ่ ทเรยี น
1. ครูกล่าว 上课(เร่ิมเรียน) เพือ่ เป็นการกระตนุ้ ให้นกั เรียนไดเ้ ตรยี มตนเองก่อนเรยี น
2. ครแู ละนกั เรียนกลา่ วทกั ทายกันและกันเปน็ ภาษาจนี “นกั เรียน: 老师好 ครู: 你好”

๓. ครเู ปิดสไลด์ภาพการเล่นกีฬาแบบตา่ ง ๆ แลว้ ใหน้ ักเรยี นบอกว่าคนในภาพเขาสามารถเล่นกีฬา
อะไรได้ โดยใชโ้ ครงสรา้ งประโยค 他/她会...............

ขั้นสอน
1. ครเู ปดิ สไลด์ พาวเวอร์ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๑๑ 你会游泳吗？
(หน้าโครงสร้างประโยค และการถามตอบ)
2. ครูอธบิ าย และยกตัวอยา่ งการใชโ้ ครงสร้างประโยค 你会..................吗？
3. ครเู ปดิ สไลดรปู ภาพ ให้นกั เรียนดูรูปแล้วตั้งคาถาม โดยใช้โครงสรา้ งประโยค
你会..................吗？ให้สอดคล้องกับรูปภาพ แลว้ เขยี นคาถามน้ันลงในสมุด
พร้อมเว้นช่องวา่ งไว้ ๑ บรรทดั เพื่อไวใ้ ช้เขยี นตอบ

๖๗

๔. ครูสารวจดูความถกู ต้องในการต้ังคาถามของนักเรยี น โดยการเดินสารวจตามโตะ๊ ของนักเรยี น
๔. ครูเฉลยประโยคคาถามบนหน้าสไลด์ ใหน้ ักเรียนตรวจดวู า่ ตรงกับครูหรอื ไม่

ขัน้ ฝกึ ฝน
๑. นักเรยี นตอบคาถาม โดยใช้โครงสรา้ งประโยค 我会............... ลงในชอ่ งวา่ ง ๑ บรรทัด
ท่ีเว้นไว้ในสมดุ ในตอนแรก
๒. ครเู ฉลยคาตอบบนหน้าสไลด์ ให้นกั เรียนตรวจดูวา่ ตรงกับครูหรือไม่

ขั้นสรปุ
๑. ครูเช็คช่ือนกั เรียน คนท่มี าใหพ้ ดู วา่ “到” ตนที่ไม่มาใหเ้ พอ่ื นพูดแทนวา่ “没来”
2. ครูกล่าว 下课(เลกิ เรียน)
๓. ครูและนักเรียนกล่าวลากันและกันเป็นภาษาจีนว่า “再见”

เนอ้ื หำสไลด์

๖๘

ช่วั โมงที่ 2
ขน้ั นำเขำ้ สบู่ ทเรียน
1. ครกู ล่าว 上课(เร่ิมเรียน) เพ่อื เป็นการกระตนุ้ ให้นกั เรียนได้เตรียมตนเองก่อนเรยี น
2. ครูและนักเรียนกล่าวทกั ทายกนั และกนั เปน็ ภาษาจีน “นกั เรยี น: 老师好 ครู: 你好”
๓. ครเู ปิดสไลดภ์ าพการเล่นกฬี าแบบตา่ ง ๆ แลว้ ใหน้ ักเรียนบอกวา่ คนในภาพเขาสามารถเล่นกีฬา
อะไรได้ โดยใชโ้ ครงสร้างประโยค 他/她会...............

ขั้นกจิ กรรม
1. ครูสุ่มนกั เรียนอา่ นออกเสียงประโยค ทนี่ ักเรียนเขียนตอบคาถามลงในสมดุ ของในชัว่ โมงทีแ่ ลว้
2. ครูให้นักเรยี นจับคกู่ ัน เพอ่ื ทาการทดสอบสนทนาโต้ตอบการอา่ นออกเสียง
เร่ือง 你会..................吗？
3. ครูใหเ้ วลานกั เรียนแต่ละคู่ 10 นาที ในการฝกึ ซอ้ มการสนทนาโตต้ อบการอ่านออกเสยี ง
เรื่อง 你会..................吗？
4. ครูใหต้ ัวแทนนกั เรียนแตล่ ะคจู่ บั ฉลาก เพอื่ เรยี งลาดบั การทดสอบสนทนาโต้ตอบการอ่าน
ออกเสยี ง
5. ครใู ห้นกั เรียนแตล่ ะคทู่ าการทดสอบสนทนาโตต้ อบการอ่านออกเสยี ง 你会..................吗？
ตามลาดับทคี่ ตู่ นเองจับฉลากได้ พรอ้ มส่งสมุดให้ครตู รวจความถูกต้อง

ขั้นสรุป
1. ครูกล่าวชื่นชมนักเรยี นทุกคนที่ทาการทดสอบสนทนาโต้ตอบการอา่ นออกเสยี ง
เรื่อง 你会..................吗？เรยี บร้อยแลว้
2. ครูกล่าวถงึ จดุ แขง็ และจดุ ออ่ นของนักเรียนในการทาการทดสอบสนทนาโตต้ อบในคร้งั นี้
๓. ครูเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนถามคาถามเกี่ยวกบั เนอื้ เรอื่ งท่เี รยี น
๔. ครูทาการเช็คชื่อนักเรียน นักเรียนที่เข้าเรียนให้พูดว่า 到(ต้าว) นักเรียนที่ไม่ได้เข้าเรียน ให้
คนท่ีเข้าเรียนพูดแทนเพื่อนว่า 没来(เหมยหลาย) พร้อมแจ้งสาเหตุของการที่ไม่ได้เข้าเรียน
5. ครูและนักเรียนกล่าวลากันและกันเป็นภาษาจีนว่า “再见”

9. ส่อื /แหลง่ กำรเรยี นรู้
๑. สไลด์ พาวเวอรพ์ ้อย หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑๑ 你会游泳吗？(หนา้ โครงสรา้ งประโยค)
๒. แบบเรยี นภาษาจนี 汉语教程（上）
๓. สมดุ ภาษาจีน

10. กำรวดั และประเมนิ ผล วิธวี ัด เครอ่ื งมอื ๖๙
- ตรวจสมุด - สมุด
ควำมกำ้ วหน้ำ เกณฑ์กำรผ่ำน
ของผเู้ รียน ผา่ นเกณฑ์
ดา้ นความรู้ (K) ร้อยละ 60
1. ตั้งคาถาม โดยใช้โครงสร้าง
ประโยค 你会..................吗？ ได้ ผ่านเกณฑ์
รอ้ ยละ 60
ด้านทักษะกระบวนการ (P) - สมดุ
2. ตอบคาถาม โดยใช้โครงสร้าง - ตรวจสมุด ผ่านเกณฑ์
ประโยค 我会............... ได้ ร้อยละ 60

๓. นกั เรียนทดสอบสนทนาโตต้ อบ - แบบประเมิน
คณุ ลักษณะอนั พึง-
การอ่านออกเสยี ง ประสงค์
ด้านคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
๔. มีวินัย มีความรับผิดชอบในการ - สังเกตพฤติกรรม
เข้ารว่ มกจิ กรรม หรือส่งงาน (A) การเรยี นรู้ และการ

ร่วมกิจกรรม
๕. มงุ่ ม่ันในการทางาน มคี วามพยาม
ในการเข้าร่วมกิจกรรม หรือทดสอบ
การอา่ นออกเสียง (A)

เกณฑ์การผ่านในการตรวจสมุด/แบบฝึกหัด

差 = 0-20% 不太好 = 20-40% 好 = 50% 很好 = 60%
厉害 = 90% 真了不起 = 100%
非常好 = 70% 真棒 = 80%

๗๐

แบบประเมนิ การอ่านออกเสยี ง
ระดับช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ……/…... ภาคเรยี นที่ ……. ปีการศึกษา………………

เลข เลข ช่อื -สกุล คะแนน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕
ที่ ประจาตวั
จานวน 1-๒ ๓-๔ ๕-๖ ๗-๘ ๙-1๐ ผล
ประโยค ประเมนิ

1 0 1346 เด็กชายกฤติพงศ์ อรรถวลิ ัย

2 0 1347 เดก็ ชายกลยุทธ์ นาสอา้ น

3 0 1348 เด็กชายเกริกกรรชยั แซ่เตยี

4 0 1349 เด็กชายจริ ะศกั ด์ิ สารโิ พธ์ิ

5 0 1350 เด็กชายจิรายุทธ สารโิ พธิ์

6 0 1351 เดก็ ชายเจษฎา ศรีทะนนท์

7 0 1352 เด็กชายชยุตพงศ์ พลเรอื ง

8 0 1353 เดก็ ชายเตวดิ แทนกลาง

9 0 1354 เด็กชายธรี ภทั ร นาทนั รบี

10 0 1356 เดก็ ชายนพวชิ ญ์ ภลู บั ดวง

11 0 1357 เดก็ ชายรชั ชานนท์ ศรีทะนนท์

12 0 1358 เด็กชายวีรพงศ์ ชนะบูรณ์

13 0 1359 เด็กชายอนุวฒั น์ นาสมใจ

14 0 1360 เด็กชายอศั วนิ โขลา

15 0 1361 เดก็ ชายอิสวะ สนิ ธุศิริ

16 0 1363 เดก็ หญิงกนิษฐา นาทันริ

17 0 1365 เดก็ หญิงจรี นันท์ อดั โดดดร

18 0 1366 เด็กหญิงจุฬารตั น์ แกว้ ลี

19 0 1367 เด็กหญงิ ฉัตรฎาพร ลือสวุ รรณ์

20 0 1368 เด็กหญิงนุชรรี ตั น์ วะชมุ

21 0 1369 เดก็ หญิงพรรณพิ า นาทองลาย

22 0 1370 เดก็ หญิงวรนุช มะหาวนั ตงั

23 0 1371 เดก็ หญงิ วริ ญั ญา อาภวา

24 0 1403 เด็กหญงิ ณฐั กานต์ รัตนวโิ รดม

25
26

27
28
29
30

ต้องผำ่ นเกณฑร์ อ้ ยละ ๖๐ ขึ้นไป หรอื กค็ ือ อำ่ นไดต้ งั้ แต่ ๖ ประโยคข้ึนไป

๗๑

ควำมคดิ เหน็ ของผบู้ รหิ ำร

 อนุมตั ิ ให้ใช้แผนการจัดการเรยี นรู้
 ไม่อนุมัติ ใหใ้ ช้แผนการจดั การเรียนรู้ เน่อื งจาก
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………….……………………………………………………………………………………………………..

ลงชอ่ื ……………………………………………….
(นางรตกิ รณ์ แสบงบาล)

ผู้อานวยการโรงเรียนฆอ้ งชยั วิทยาคม
บนั ทกึ ผลกำรสอน

1. ผลการจดั การเรยี นรู้
1.1 ด้านความรู้ (K)

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

1.2 ด้านทักษะและกระบวนการ (P)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

1.3 ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

2. ปัญหาต่าง ๆ ท่ีพบจากการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

3. ข้อเสนอแนะเพื่อปรบั ปรงุ แกไ้ ขในการจัดการเรยี นรคู้ ร้งั ตอ่ ไป
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงชอื่ ………………………………………………
(นางสาวพิชญส์ ินี ยงั คง)
ครผู สู้ อน

๗๒

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๑๒

บูรณำกำรตำมหลกั ปรัชญำเศรษฐกจิ พอเพียง ๒
(โคมแดงเทศกาลตรษุ จีน จากขวดนา้ พลาสตกิ ใส)

กรอบควำมคดิ กำรจัด

หน่วยกำรเรียนรูท้ ่ี ๑๒ เพ่อื เสรมิ สร

ชนั้ มธั ยมศึกษำปที ่ี
เปำ้ หมำยของหนว่ ย นักเรียนสามารถพดู และเขยี นข้อมูล บอกถึงแนวทางการปฏบิ ัติ แนวความ

เปำ้ หมำย ผลกำรเรียนรู้ สำระสำคญั ค
(ควำมเขำ้ ใจฝงั แนน่ )
ขอ้ ที่ ๒ 春节 chūnjié เทศกาล สม
เป้ำหมำยของเรื่อง บรรยายเก่ยี วกับเทศกาล วนั ตรุษจีน
เร่อื งที่ 1 สาคัญ ชีวิตความเปน็ อยู่ และ 1.
ประเพณขี องจีน
เทศกาลตรษุ จนี การ
ข้อที่ ๓
เรอื่ งท่ี 2 เข้ารว่ มหรือจดั กจิ กรรมทาง - ประวิตคิ วามเป็นมา และ
ภาษาและวัฒนธรรมของจนี 2.
โคมแดงจากขวดนา้ ตามความสนใจ - อาหาร การ
- ความเชอื่ 3.
-剪纸 ตัดกระดาษ การ
ตัวอักษรมงคล

- 布置 การประดับตกแตง่ คุณ
- การประดิษฐ์โคมแดงจีน ปร
จากขวดนา้ ทไ่ี มใ่ ช้แล้ว 1.

การ

สถา

๒.

เรีย

งาน

ได้ร

73

ดกำรเรียนร้ขู องหนว่ ย

ร้ำงคุณลกั ษณะอยูอ่ ย่ำงพอเพียง ๒

๓ เวลำ ๓ ชัว่ โมง
มเชอ่ื หรือแนวคดิ ของชาวจีนทม่ี ตี ่อเทศกาลตรุษจนี ได้

สมรรถนะ/ หลกั ฐำนแสดงผลกำรเรียนรู้ กระบวนกำรเรียนรู้ วิธีวดั และประเมนิ ผล

คุณลักษณะท่ีเน้น (ชิน้ งำน/ภำระงำน)

มรรถนะ 1. สมดุ 1. กระบวนการเรยี นรู้ 1. ตรวจสมุด
ความสามารถใน เพ่ือการสอื่ สาร 2. ตรวจแบบฝึกหัด
รสื่อสารด้วยการพดู 2. แบบฝึกหดั หลังเรยี น 2. กระบวนการทาง 3. สงั เกตพฤตกิ รรมการ
ะการอา่ น สังคม เรยี นรู้ แล้วบันทึกผลลง
ความสามารถใน ๓. การประดษิ ฐโ์ คมแดงจีน ใน แบบประเมนิ การ

จากขวดนา้ ทไ่ี ม่ใช้แล้ว อา่ นออกเสียง
๔. ตรวจช้นิ งาน
รแก้ปัญหา ประดษิ ฐโ์ คมแดงจีน
จากขวดนา้ ท่ีไม่ใชแ้ ล้ว
ความสามารถใน

รใชท้ ักษะชวี ติ

ณลกั ษณะอันพงึ
ระสงค์
มีวินยั มมี ารยาทใน
รอ่านและการฟงั ใน
านการณ์ตา่ ง ๆ
มีความม่งุ มน่ั ในการ
ยน รับผิดชอบในการ
น ทาตามหน้าท่ีที่
รับมอบหมาย

๗๔

แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๑๐ โรงเรยี นฆ้องชยั วิทยาคม
ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี ๓
กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ เวลา ๒ ชั่วโมง
รายวิชา ภาษาจีนเบ้ืองต้น ๖ รหสั วชิ า จ 2๓20๒
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๑๒ เพอื่ เสรมิ สร้างคุณลักษณะอยอู่ ยา่ งพอเพียง ๒ เวลา ๒ ชวั่ โมง

แผนการจัดการเรยี นรู้ เรื่อง เทศกาลตรุษจนี ภาคเรยี นที่ ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๔

ผู้สอน : นางสาวพชิ ญ์สินี ยังคง

1. มำตรฐำนกำรเรียนรู/้ ตัวช้วี ัด/ผลกำรเรยี นรู้
ผลกำรเรยี นรู้

ข้อที่ ๒ บรรยายเก่ยี วกับเทศกาล วนั สาคัญ ชวี ิตความเป็นอยู่ และประเพณีของจนี
ข้อที่ ๓ เข้ารว่ มหรือจดั กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมของจีนตามความสนใจ

2. สำระสำคัญ/ควำมคดิ รวบยอด
ในหนว่ ยนี้นกั เรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับเร่ือง เทศกาลตรุษจีน เทศกาลตรษุ จีนตรงกับวันท่ี 1 เดือน 1

ซ่ึงถือเป็นปีใหม่ตามปฏิทินจันทรคติของจีนและเป็นประเพณีท่ีสืบทอดกันมาต้ังแต่อดีต เทศกาลตรุษจีนเป็น
ประเพณีที่สาคัญที่สุดเพราะว่าการฉลองเทศกาลปีใหม่ของจีนตรงกับช่วงปลายฤดูหนาวต้นฤดูใบไม้ผลิดังนนั้
ผคู้ นจึงเรยี กเทศกาลน้วี า่ เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ ไมก่ ีท่ ศวรรษมานป้ี ระเพณนี ิยมได้เปล่ยี นแปลงไปอยา่ งมาก แต่ว่า
ในหัวใจของชาวจนี และญาติพนี่ อ้ งชาวจนี ทุก ๆ คนในโลกนี้ ตา่ งรสู้ ึกว่าการจดุ ประทัดและทานเก๊ียว ทั้งสองส่ิง
นี้เปน็ สิง่ สาคญั ทีส่ ดุ ของเทศกาล

3. จุดประสงค์กำรเรยี นรู้
1. สรปุ ใจความของเร่ือง เทศกาลตรษุ จนี ได้ (K)
๒. ทาแบบฝึกหดั หลงั เรียนที่ ๑ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๑๒ เพือ่ เสรมิ สรา้ งคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพยี ง ๒
เร่อื ง เทศกาลตรุษจีนได้ (P)
๓. ทาแบบฝกึ หัดหลังเรียนที่ ๒ หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ ๑๒ เพ่ือเสริมสรา้ งคณุ ลักษณะอยู่อย่างพอเพียง ๒
เรื่อง เทศกาลตรุษจีนได้ (P)
๔. มวี ินยั มมี ารยาทในการอา่ นและการฟงั ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ (A)
๕. มีความมงุ่ มนั่ ในการเรียน รบั ผิดชอบในการงาน ทาตามหน้าท่ีท่ีได้รับมอบหมาย (A)

4. สำระกำรเรียนรู้ (เนอื้ หำสำระ)

๗๕

๗๖

๗๗

5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (C)
1.  ความสามารถในการส่ือสาร
2.  ความสามารถในการคิด
3.  ความสามารถในการแก้ปญั หา
4.  ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ

5.  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 5.  อยู่อยา่ งพอเพยี ง
1.  รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ 6.  มุง่ มั่นในการทางาน
2.  ซ่ือสัตย์สุจริต 7.  รักความเปน็ ไทย
3.  มีวนิ ัย 8.  มจี ิตสาธารณะ
4.  ใฝเ่ รียนรู้

7. ภำระงำน / ชิน้ งำน

1. สรุปใจความของเรื่อง เทศกาลตรุษจีน
๒. ทาแบบฝกึ หัดหลังเรยี นที่ ๑ หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๑๒ เพ่ือเสรมิ สรา้ งคณุ ลักษณะอยู่อย่างพอเพยี ง ๒

เร่ือง เทศกาลตรษุ จีน
๓. ทาแบบฝกึ หดั หลงั เรยี นท่ี ๒ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๑๒ เพ่อื เสริมสร้างคณุ ลกั ษณะอยอู่ ยา่ งพอเพยี ง ๒

เร่ือง เทศกาลตรษุ จีน

8. กระบวนกำรจดั กำรเรยี นรู้
ชัว่ โมงท่ี 1
ขนั้ นำเข้ำสบู่ ทเรียน
1. ครกู ลา่ ว 上课(เรม่ิ เรยี น) เพื่อเป็นการกระตุน้ ให้นกั เรยี นไดเ้ ตรยี มตนเองก่อนเรียน
2. ครแู ละนกั เรยี นกล่าวทกั ทายกันและกนั เป็นภาษาจีน “นกั เรยี น: 老师好 ครู: 你好”

๓. ครเู ปดิ คลปิ วีดโี อเทศกาลตรษุ จีนให้นักเรยี นดู
๔. ครูถามนักเรียนวา่ จากการดูคลิปคลิปวีดโี อเทศกาลตรุษจนี แล้วนนั้ นกั เรียนสงั เกตเหน็

หรือมีข้อสงสัยอะไรหรือไม่
ข้ันสอน

1. ครเู ปดิ สไลด์ พาวเวอรพ์ อ้ ย หน่วยการเรียนรูท้ ี่ ๑๒ เพ่ือเสรมิ สรา้ งคณุ ลักษณะอย่อู ยา่ งพอเพยี ง
๒ เรอ่ื ง เทศกาลตรุษจีน

2. ครูใชว้ ิธกี ารบรรยาย และอธบิ ายเรอ่ื งราวของเทศกาลตรษุ จนี โดยเริ่มตั้งแต่การ
เฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ของชาวจีนมกี จิ กรรมมากมาย โดยเร่ิมจากวันที่ 23 เดือน 12

ชาวจีนมีการเตรยี มตวั ในการฉลองเทศกาลตรุษจนี ในชว่ งเวลาน้ี ทกุ คนทกุ ๆ คนในครอบครวั

จะปัดกวาดเชด็ ถบู ้านซื้อของไวส้ าหรบั วนั ขนึ้ ปีใหม่ ตดั กระดาษตดิ ประดบั หน้าต่าง แขวน

รปู ภาพปีใหม่ เขยี นคาอวยพรปใี หม่ซ้อื ขนมสาหรับวันปีใหม่ ในคืนก่อนวนั ปใี หม่ ในคืนวนั

สง่ ทา้ ยปีเก่าต้อนรับปีใหม่น้ีทุกคนในบ้านจะอยูก่ ันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาและ

ร่วมกินข้าวดว้ ยกนั ท่บี ้าน เม่อื ผ่านคนื วันส่งทา้ ยปเี ก่ามาแล้วก็จะเป็นวนั ปใี หม่ ในวนั ปีใหม่นี้

ทกุ คนจะพากนั ไปสวัสดปี ีใหมไ่ ปเยยี่ มญาตสิ นทิ มติ รสหาย

๗๘

3. ครเู ปิดโอกาสให้นกั เรียนได้ต้ังคาถามเก่ียวกบั เนอื้ หาท่เี รียนไปในช่ัวโมงน้ี
๔. ครไู ขขอ้ คาถามทน่ี กั เรียนสงสยั พร้อมให้คาอธิบายอยา่ งละเอยี ดแก่นักเรียน

ขั้นฝกึ ฝน
๑. ครูเปดิ สไลด์ พาวเวอรพ์ ้อย แบบฝกึ หัดหลังเรยี นที่ ๑ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๑๒
เพอื่ เสรมิ สร้างคุณลักษณะอยูอ่ ย่างพอเพียง ๒ เร่อื ง เทศกาลตรุษจีน
๒. นกั เรยี นทาแบบฝกึ หดั หลังเรียนลงในสมดุ
๓. ครูเฉลยคาตอบทีถ่ ูกต้องบนสไลดเ์ พาเวอร์พอยต์
๔. นักกเรยี นส่งสมุดกบั ครู

ขน้ั สรุป
๑. ครูสมุ่ ถามนกั เรียน ๓-๕ คน เก่ยี วกบั เรือ่ งราวเทศกาลตรษุ จนี ของชาวจีนที่เรยี นในช่ัวโมงน้ี
๒. ครูทาการเช็คชื่อนักเรียน นักเรียนที่เข้าเรียนให้พูดว่า 到(ต้าว) นักเรียนท่ีไม่ได้เข้าเรียน ให้
คนที่เข้าเรียนพูดแทนเพ่ือนว่า 没来(เหมยหลาย) พร้อมแจ้งสาเหตุของการท่ีไม่ได้เข้าเรียน
๓. ครกู ลา่ ว 下课(เลิกเรยี น)
๔. ครูและนักเรยี นกล่าวลากันและกนั เปน็ ภาษาจนี วา่ “再见”

เนือ้ หาในสไลด์

๗๙

ช่ัวโมงท่ี ๒
ขั้นนำเขำ้ สูบ่ ทเรยี น
1. ครูกล่าว 上课(เริ่มเรยี น) เพ่อื เป็นการกระตุ้นใหน้ ักเรยี นได้เตรียมตนเองกอ่ นเรยี น
2. ครูและนักเรียนกลา่ วทกั ทายกนั และกันเปน็ ภาษาจนี “นักเรียน: 老师好 ครู: 你好”

๓. ครเู ปิดคลิปวีดีโอเทศกาลตรษุ จีนให้นักเรียนดู
๔. ครูถามนกั เรียนวา่ จากการดูคลิปคลิปวีดีโอเทศกาลตรุษจนี แลว้ นน้ั นกั เรียนสังเกตเหน็

หรือมีข้อสงสยั อะไรหรอื ไม่
ขั้นสอน

1. ครูเปิดสไลด์ พาวเวอรพ์ ้อย หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑๒ เพอ่ื เสริมสรา้ งคณุ ลักษณะอยอู่ ย่างพอเพยี ง
๒ เรอ่ื ง เทศกาลตรุษจีน

2. ครูใช้วิธีการบรรยาย และอธบิ ายเรื่องราวของเทศกาลตรุษจีนเพมิ่ เติมตอ่ จากช่วั โมงท่แี ล้ว โดย
เป็นเรื่องราวการจุดประทัดในเทศกาลตรุษจีน นี่เปน็ กิจกรรมท่ีเด็ก ๆ ชน่ื ชอบเปน็ พิเศษ
มีเร่ืองเล่าวา่ การจดุ ประทัดเป็นการขับไลภ่ ตู ผปี ีศาจ ดงั น้นั ทุกคนจะพากนั จดุ ประทดั เสียงดัง
ติดต่อกนั ไปเรือ่ ย ๆ จนกว่าควนั จะฟุ้งกระจาย เสยี งประทดั ดงั เปรย้ี งป้างเป็นการเพม่ิ
บรรยากาศให้สนุกสนานยิ่งข้ึน เทศกาลตรุษจนี ตามที่ต่าง ๆ กจ็ ะมีการจดั งานวัดขน้ึ ในงานวัด
จะมีการแสดงเชดิ มังกร เชดิ สงิ โต มสี นิ คา้ อาหารการกินต่าง ๆ มากมายเปน็ สิ่งดึงดูดผู้คน
ใหม้ ารว่ มกันฉลองด้วย

3. ครเู ปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นไดต้ ั้งคาถามเกย่ี วกบั เน้อื หาทเี่ รียนไปในช่วั โมงน้ี
๔. ครไู ขข้อคาถามทีน่ ักเรยี นสงสยั พรอ้ มให้คาอธิบายอยา่ งละเอยี ดแก่นักเรียน

ขน้ั ฝึกฝน
๑. ครูเปิดสไลด์ พาวเวอรพ์ ้อย แบบฝกึ หดั หลังเรียนที่ ๒ หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ๑๒
เพือ่ เสรมิ สร้างคุณลกั ษณะอยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง ๒ เรือ่ ง เทศกาลตรษุ จีน
๒. นักเรยี นทาแบบฝึกหดั หลงั เรยี นลงในสมดุ
๓. ครเู ฉลยคาตอบท่ถี กู ตอ้ งบนสไลดเ์ พาเวอร์พอยต์
๔. นักกเรียนสง่ สมุดกับครู

ขั้นสรุป
๑. ครสู ุ่มถามนักเรียน ๓-๕ คน เกย่ี วกบั เรื่องราวเทศกาลตรษุ จีนของชาวจีนทเี่ รียนในชัว่ โมงน้ี
๒. ครูทาการเช็คชื่อนักเรียน นักเรียนท่ีเข้าเรียนให้พูดว่า 到(ต้าว) นักเรียนที่ไม่ได้เข้าเรียน ให้
คนท่ีเข้าเรียนพูดแทนเพ่ือนว่า 没来(เหมยหลาย) พร้อมแจ้งสาเหตุของการที่ไม่ได้เข้าเรียน
๓. ครูให้นักเรียนทุกคนเตรียมขวดน้าพลาสติกใสท่ีไม่ใช้แล้วมาคนล่ะ ๑ ขวด ในชั่วโมงถัดไป
๔. ครกู ล่าว 下课(เลกิ เรียน)
๕. ครแู ละนักเรยี นกลา่ วลากนั และกนั เป็นภาษาจีนว่า “再见”

๘๐

เนื้อหาในสไลด์

9. ส่อื /แหล่งกำรเรียนรู้
1. สไลด์ พาวเวอร์พ้อย หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑๐ 中国人的婚姻
๒. สไลด์ พาวเวอรพ์ อ้ ย แบบฝึกหดั หลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๑๐ 中国人的婚姻
๓. https://www.venuee.co/blog

๔. สมุดภาษาจีน

10. กำรวัดและประเมินผล วธิ ีวัด เคร่ืองมือ ๘๑
- ตรวจสมุด - สมดุ
ควำมก้ำวหน้ำ เกณฑก์ ำรผำ่ น
ของผูเ้ รียน ผ่านเกณฑ์
ดา้ นความรู้ (K) ร้อยละ 60
1. สรุปใจความของเร่ือง เทศกาล
ตรษุ จนี ได้ ผ่านเกณฑ์
รอ้ ยละ 60
ด้านทักษะกระบวนการ (P) - ตรวจสมุด - สมดุ
๒. ทาแบบฝึกหดั หลังเรยี นที่ ๑ ผา่ นเกณฑ์
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ ๑๒ เพื่อเสรมิ สร้าง รอ้ ยละ 60
คุณลักษณะอย่อู ยา่ งพอเพยี ง ๒
เรื่อง เทศกาลตรุษจนี ได้ ผา่ นเกณฑ์
ร้อยละ 60
๓. ทาแบบฝึกหดั หลงั เรยี นที่ ๒ - ตรวจสมุด - สมุด
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๑๒ เพ่อื เสริมสรา้ ง

คณุ ลักษณะอยู่อยา่ งพอเพยี ง ๒ เรอ่ื ง
เทศกาลตรุษจนี ได้

ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (A)

๔. มีวินัย มีมารยาทในการอ่านและ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมิน
คุณลกั ษณะอันพึง-
การฟงั ในสถานการณต์ ่าง ๆ การเรียนรู้ และการ ประสงค์

๕ . มี ค ว า ม มุ่ ง มั่ น ใ น ก า ร เ รี ย น ร่วมกิจกรรม

รับผิดชอบในการงาน ทาตามหน้าท่ีท่ี

ได้รับมอบหมาย

เกณฑก์ ารผ่านในการตรวจสมดุ /แบบฝึกหัด

差 = 0-20% 不太好 = 20-40% 好 = 50% 很好 = 60%
厉害 = 90% 真了不起 = 100%
非常好 = 70% 真棒 = 80%

๘๒

ควำมคดิ เหน็ ของผบู้ รหิ ำร
 อนุมตั ิ ให้ใช้แผนการจัดการเรียนรู้
 ไม่อนุมัติ ใหใ้ ช้แผนการจดั การเรยี นรู้ เนือ่ งจาก

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………….……………………………………………………………………………………………………..

ลงชือ่ ……………………………………………….
(นางรตกิ รณ์ แสบงบาล)

ผูอ้ านวยการโรงเรียนฆอ้ งชยั วทิ ยาคม
บนั ทกึ ผลกำรสอน

1. ผลการจดั การเรยี นรู้
1.1 ด้านความรู้ (K)

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

1.2 ด้านทักษะและกระบวนการ (P)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

1.3 ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

2. ปัญหาต่าง ๆ ท่ีพบจากการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

3. ข้อเสนอแนะเพื่อปรบั ปรงุ แก้ไขในการจัดการเรียนร้คู ร้งั ตอ่ ไป
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ลงช่อื ………………………………………………
(นางสาวพิชญส์ ินี ยงั คง)
ครูผสู้ อน

๘๓

แผนกำรจดั กำรเรียนรูท้ ่ี ๑๑ โรงเรยี นฆอ้ งชยั วิทยาคม
กลุม่ สาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ ๓
เวลา ๒ ชว่ั โมง
รายวิชา ภาษาจีนเบ้ืองตน้ ๖ รหสั วิชา จ 2๓20๒ เวลา ๑ ชั่วโมง
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑๒ เพอื่ เสรมิ สร้างคณุ ลกั ษณะอยูอ่ ยา่ งพอเพียง ๒ ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๔

แผนการจดั การเรียนรู้ เรอ่ื ง โคมแดงจากขวดน้าพลาสตกิ ใส
ผสู้ อน : นางสาวพชิ ญ์สินี ยังคง

1. มำตรฐำนกำรเรียนรู/้ ตวั ชี้วัด/ผลกำรเรียนรู้
ผลกำรเรยี นรู้

ขอ้ ท่ี ๒ บรรยายเกี่ยวกบั เทศกาล วันสาคัญ ชวี ติ ความเป็นอยู่ และประเพณีของจนี
ข้อท่ี ๓ เข้ารว่ มหรอื จัดกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมของจีนตามความสนใจ

2. สำระสำคญั /ควำมคิดรวบยอด
ในหน่วยน้ีนกั เรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่อง เทศกาลตรุษจีน เทศกาลตรุษจีนตรงกับวนั ที่ 1 เดือน 1

ซ่ึงถือเป็นปีใหม่ตามปฏิทินจันทรคติของจีนและเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาต้ังแต่อดีต เทศกาลตรุษจีนเป็น
ประเพณีท่ีสาคัญที่สุดเพราะวา่ การฉลองเทศกาลปีใหม่ของจีนตรงกับช่วงปลายฤดูหนาวต้นฤดูใบไม้ผลิดังนั้น
ผู้คนจึงเรียกเทศกาลนีว้ า่ เทศกาลฤดใู บไม้ผลิ ไม่กีท่ ศวรรษมานีป้ ระเพณนี ยิ มได้เปลีย่ นแปลงไปอย่างมาก แตว่ า่
ในหวั ใจของชาวจนี และญาติพ่นี อ้ งชาวจนี ทกุ ๆ คนในโลกน้ี ต่างรูส้ กึ วา่ การจดุ ประทัดและทานเกยี๊ ว ทั้งสองสงิ่
น้ีเป็นสงิ่ สาคญั ที่สุดของเทศกาล และทสี่ ่งิ สาคัญทีเ่ ปน็ เอกลักษณ์ของเทศกาลน้อี ย่าง “โคมแดง” ทนี่ ิยมในการ
ใช้ประดับตกแต่งเป็นอย่างมากนัน้ ก็เปน็ ส่ิงที่จะไปไม่ได้อีกเช่นกัน ด้วยเหตุนี้นักเรียนจึงจะได้เรยี นรู้การแปลง
รปู ส่ิงของจากวัสดทุ ่ีไมใ่ ชแ้ ล้วอย่างขวดน้าพลาสตกิ ใสให้กลายเป็นโคมแดงท่มี มี ูลคา่ มากยิ่งขนึ้

3. จุดประสงค์กำรเรยี นรู้
1. สรุปใจความสาคญั ของการนาสงิ่ ของจากวัสดุทีไ่ มใ่ ช้แลว้ อยา่ งขวดน้าพลาสติกใส
มาใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชนใ์ นบทเรยี นนีไ้ ด้อยา่ งไร (K)
๒. ตระหนักถงึ คุณค่าของสิ่งของ โดยการนาขวดนา้ พลาสติกมาแปลงรปู เป็นโคมแดง
ท่มี มี ลู ค่ามากย่งิ ข้นึ (P)
๓. มีวนิ ยั มีมารยาทในการอ่านและการฟังในสถานการณ์ตา่ ง ๆ (A)
๔. มีความม่งุ มั่นในการเรียน รับผดิ ชอบในการงาน ทาตามหนา้ ท่ีทีไ่ ด้รับมอบหมาย (A)

4. สำระกำรเรียนรู้ (เน้ือหำสำระ)

๘๔

๘๕

๘๖

5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น (C)
1.  ความสามารถในการส่อื สาร
2.  ความสามารถในการคิด
3.  ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4.  ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต

5.  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.  อยู่อย่างพอเพียง
1.  รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ 6.  มงุ่ มนั่ ในการทางาน
2.  ซื่อสัตยส์ ุจริต 7.  รกั ความเปน็ ไทย
3.  มีวินัย 8.  มจี ิตสาธารณะ
4.  ใฝ่เรียนรู้

7. ภำระงำน / ช้ินงำน

1. สรปุ ใจความสาคญั ของการนาสง่ิ ของจากวัสดทุ ี่ไม่ใช้แล้วอย่างขวดน้าพลาสตกิ ใส
มาใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์ในบทเรยี นนี้ไดอ้ ย่างไร

๒. ตระหนักถึงคุณคา่ ของสิ่งของ โดยการนาขวดน้าพลาสตกิ มาแปลงรปู เปน็ โคมแดง
ทีม่ ีมูลค่ามากยงิ่ ขึ้น

8. กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้
ช่วั โมงท่ี 1
ขน้ั นำเข้ำสู่บทเรยี น
1. ครกู ลา่ ว 上课(เร่ิมเรียน) เพอ่ื เป็นการกระตุ้นให้นักเรยี นได้เตรียมตนเองก่อนเรยี น
2. ครูและนักเรียนกลา่ วทักทายกันและกันเปน็ ภาษาจีน “นกั เรยี น: 老师好 ครู: 你好”

๓. ครูเปดิ คลปิ วดี ีโอการนาขวดน้าพลาสติกใสมาแปลงรูปเป็นโคมแดงให้นกั เรียนดู
๔. ครูพูดทบทวนข้ันตอนการนาขวดนา้ พลาสติกใสมาแปลงรปู เปน็ โคมแดงใหน้ กั เรียนฟังอีกครง้ั

ขั้นกิจกรรม
1. ครูอธบิ ายกิจกรรม “การนาขวดน้าพลาสตกิ ใสมาแปลงรูปเป็นโคมแดง” โดยการให้
นกั เรยี นแตล่ ะคนนาขวดนา้ พลาสตกิ ใสที่ไมใ่ ชแ้ ลว้ ในครวั เรื่อน มาประดิษฐ์เปน็ โคมแดงตาม

ในคลปิ วีดีโอ หรอื ตามที่ครูอธบิ ายไปในตอนต้นของชั่วโมง แล้วตกแตง่ ให้สวยงามตามตนเอง
ชอบ และใหน้ าเสนอหนา้ ช้นั เรียนในตอนท้ายของชวั่ โมงว่าตนเองได้รบั อะไรจากการประดษิ ฐ์
ของในช่ัวโมงนี้

2. ครใู ห้นกั เรียนจับกลุ่มกนั ตามท่ไี ด้นดั หมายไว้ เพอ่ื ใช้อุปกรณท์ ่ีครูเตรียมไวใ้ หร้ ่วมกนั
3. ครใู ห้นักเรยี นลงมอื ทาสิ่งประดษิ ฐ์ของตนเอง และพูดเนน้ ย้าถงึ ความปลอดภัยในการใช้

อุปกรณข์ องมคี ม และเมื่อใชง้ านอปุ กรณต์ ่าง ๆ เสรจ็ แล้ว ใหเ้ ก็บสง่ ครใู หเ้ รียบรอ้ ย
๔. นกั เรยี นคนทท่ี าเสร็จคนแรก และคนถดั ไป เตรียมนาเสนอหนา้ ชัน้ เรียน
๕. ปรบมอื แสดงความชนื่ ชมให้กบั นักเรยี นทน่ี าเสนองานประดษิ ฐ์ทกุ คน