The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วีรภัทร ช่วงชาญ รายงานการวิจัยในชั้นเรียน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Anu Kimoji, 2023-02-19 00:37:21

วีรภัทร ช่วงชาญ รายงานการวิจัยในชั้นเรียน

วีรภัทร ช่วงชาญ รายงานการวิจัยในชั้นเรียน

ตัวชี้วัด จุดประสงค์เชิง พฤติกรรม แบบทดสอบเพื่อประเมินการสร้างค ว 2.3 ม.3/14 เขียนแผนภาพ การเคลื่อนที่ของ แสง แสดงการ เกิดภาพจาก กระจกเงา 1. นักเรียนสามารถ อธิบายลักษณะของ ภาพที่เกิดจากแผ่น สะท้อนแสงผิวราบ และผิวโค้งได้ 2. นักเรียนสามารถ สร้างคำอธิบาย เกี่ยวกับการเกิดภาพ จากกระจกได้ 2. จงเขียนแผนภาพการเคลื่อนที่ของแสง โค้งเว้า และจากกระจกโค้งนูน พร้อมทั้งอิ ลักษณะอย่างไร ภาพที่เกิดขึ้นในกระจกเงาราบเป็นภาพเสมื 1. เมื่อลากรังสีของแสงเส้นหนึ่งจา มุมฉากกับระนาบกระจกเงาราบ รังสีของแส 2. เมื่อลากรังสีของแสงอีกเส้นหนึ่ง ทำมุมใด ๆ กับระนาบกระจกเงาราบ รังสีของแสงจะสะท้อนจากกระจกด้วยมุมส 3. เมื่อลากเส้นประต่อแนวของ เส้นประทั้งสองเส้นจะตัดกันที่จุดจุดหนึ่ง ตำแหน่งของภาพเสมือน ภาพที่เกิดขึ้นจึงเป็ 4. การหาตำแหน่งภาพของฐานเที เทียนไขที่เกิดขึ้นในกระจกจึงเป็นภาพเสมือ ภาพเท่ากับระยะวัตถุ ข้อ 2.1


92 คำอธิบายเชิงวิทยาศาสตร์ เรื่อง แสง ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญคน ที่ รวม ค่า IOC สรุปผล 1 2 3 แสดงการเกิดภาพจากกระจกเงาราบ กระจก ธิบายการเกิดภาพจากกระจกแต่ละชนิดว่ามี อน หัวตั้ง ขนาดเท่ากับวัตถุ เพราะว่า ากปลายเปลวเทียนไขให้ตกกระทบกระจก ทำ สงจะสะท้อนออกมาในแนวเดิม งจากปลายเปลวเทียนไขให้ตกกระทบกระจก ะท้อนที่เท่ากับมุมตกกระทบ รังสีสะท้อนทั้งสองเส้นมาด้านหลังกระจก ง จุดที่แนวรังสีสะท้อนเสมือนตัดกันจะเป็น ปนภาพเสมือนของปลายเปลวเทียนไข ยนไข ก็ทำได้ในทำนองเดียวกัน ภาพของ อน หัวตั้ง ขนาดภาพเท่ากับขนาดวัตถุระยะ +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้


ตัวชี้วัด จุดประสงค์เชิง พฤติกรรม แบบทดสอบเพื่อประเมินการสร้างค ภาพที่เกิดขึ้นในกระจกเงาราบเป็นภาพเสมื 1. เมื่อลากรังสีของแสงเส้นหนึ่งจา มุมฉากกับระนาบกระจกเงาราบ รังสีของแส 2. เมื่อลากรังสีของแสงอีกเส้นหนึ่ง ทำมุมใด ๆ กับระนาบกระจกเงาราบ รังสีของแสงจะสะท้อนจากกระจกด้วยมุมส 3. เมื่อลากเส้นประต่อแนวของ เส้นประทั้งสองเส้นจะตัดกันที่จุดจุดหนึ่ง ตำแหน่งของภาพเสมือน ภาพที่เกิดขึ้นจึงเป็ 4. การหาตำแหน่งภาพของฐานเทียนไข ก็ เกิดขึ้นในกระจกจึงเป็นภาพเสมือน หัวตั้ง ระยะวัตถุ ข้อ 2.2


93 คำอธิบายเชิงวิทยาศาสตร์ เรื่อง แสง ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญคน ที่ รวม ค่า IOC สรุปผล 1 2 3 อน หัวตั้ง ขนาดเท่ากับวัตถุ เพราะว่า ากปลายเปลวเทียนไขให้ตกกระทบกระจก ทำ สงจะสะท้อนออกมาในแนวเดิม งจากปลายเปลวเทียนไขให้ตกกระทบกระจก ะท้อนที่เท่ากับมุมตกกระทบ รังสีสะท้อนทั้งสองเส้นมาด้านหลังกระจก ง จุดที่แนวรังสีสะท้อนเสมือนตัดกันจะเป็น ปนภาพเสมือนของปลายเปลวเทียนไข ก็ทำได้ในทำนองเดียวกัน ภาพของเทียนไขที่ ขนาดภาพเท่ากับขนาดวัตถุระยะภาพเท่ากับ


ตัวชี้วัด จุดประสงค์เชิง พฤติกรรม แบบทดสอบเพื่อประเมินการสร้างค เกิดภาพเสมือน หัวตั้ง ขนาดใหญ่กว่าวัตถุ 1. เมื่อลากเส้นรังสีตกกระทบจากป แกนมุขสำคัญ จะได้รังสีสะท้อนจากผิวกระ 2. เมื่อลากเส้นรังสีตกกระทบจากป โค้ง (C) ถึงผิวกระจก จะได้รังสีสะท้อนจากผิ 3. ต่อแนวรังสีสะท้อนโดยใช้เส้น เสมือนตัดกัน จุดนั้นจะเป็นจุดที่เกิดภาพ ซึ่ ข้อ 2.3


94 คำอธิบายเชิงวิทยาศาสตร์ เรื่อง แสง ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญคน ที่ รวม ค่า IOC สรุปผล 1 2 3 เพราะว่า ปลายวัตถุถึงผิวกระจก โดยให้ขนานกับเส้น จกผ่านไปยังจุดโฟกัส (F) ปลายวัตถุอีกหนึ่งรังสีผ่านจุดศูนย์กลางความ ผิวกระจกย้อนกลับไปยังทิศทางเดิม นประให้ตัดกัน ตำแหน่งที่แนวรังสีสะท้อน งเกิดภาพเสมือน หัวตั้ง ขนาดใหญ่กว่าวัตถุ


ตัวชี้วัด จุดประสงค์เชิง พฤติกรรม แบบทดสอบเพื่อประเมินการสร้างค เกิดภาพเสมือน หัวตั้ง ขนาดเล็กกว่าวัตถุ เพ 1. เมื่อลากเส้นรังสีตกกระทบจากป แกนมุขสำคัญ จะได้รังสีสะท้อนจากผิวกระ 2. เมื่อลากเส้นรังสีตกกระทบจากป โค้ง (C) ถึงผิวกระจก จะได้รังสีสะท้อนจากผิ 3. ต่อแนวรังสีสะท้อนโดยใช้เส้นป เสมือนตัดกัน จุดนั้นจะเป็นจุดที่เกิดภาพ ซึ่ ข้อ 2.4


95 คำอธิบายเชิงวิทยาศาสตร์ เรื่อง แสง ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญคน ที่ รวม ค่า IOC สรุปผล 1 2 3 พราะว่า ปลายวัตถุถึงผิวกระจก โดยให้ขนานกับเส้น จกผ่านไปยังจุดโฟกัส (F) ปลายวัตถุอีกหนึ่งรังสีผ่านจุดศูนย์กลางความ ผิวกระจกย้อนกลับไปยังทิศทางเดิม ระให้ตัดกัน ตำแหน่งที่แนวรังสีสะท้อน งเกิดภาพเสมือน หัวตั้ง ขนาดเล็กกว่าวัตถุ


ตัวชี้วัด จุดประสงค์เชิง พฤติกรรม แบบทดสอบเพื่อประเมินการสร้างค เกิดภาพเสมือน หัวตั้ง ขนาดเล็กกว่าวัตถุ เพ 1. เมื่อลากเส้นรังสีตกกระทบจากป แกนมุขสำคัญ จะได้รังสีสะท้อนจากผิวกระ 2. เมื่อลากเส้นรังสีตกกระทบจากป โค้ง (C) ถึงผิวกระจก จะได้รังสีสะท้อนจากผิ 3. ต่อแนวรังสีสะท้อนโดยใช้เส้นป เสมือนตัดกัน จุดนั้นจะเป็นจุดที่เกิดภาพ ซึ่ ข้อ 2.5


96 คำอธิบายเชิงวิทยาศาสตร์ เรื่อง แสง ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญคน ที่ รวม ค่า IOC สรุปผล 1 2 3 พราะว่า ปลายวัตถุถึงผิวกระจก โดยให้ขนานกับเส้น จกผ่านไปยังจุดโฟกัส (F) ปลายวัตถุอีกหนึ่งรังสีผ่านจุดศูนย์กลางความ ผิวกระจกย้อนกลับไปยังทิศทางเดิม ระให้ตัดกัน ตำแหน่งที่แนวรังสีสะท้อน งเกิดภาพเสมือน หัวตั้ง ขนาดเล็กกว่าวัตถุ


ตัวชี้วัด จุดประสงค์เชิง พฤติกรรม แบบทดสอบเพื่อประเมินการสร้างค ว 2.3 ม.3/15 อธิบายการหักเห ของแสงเมื่อผ่าน ตัวกลางโปร่งใส ที่แตกต่างกัน จากหลักฐานเชิง ประจักษ์ 1. นักเรียนสามารถ สร้างคำอธิบาย เกี่ยวกับการหักเหของ แสงได้ 3. จากภาพ ปลาจะมองเห็นผีเสื้อที่บินอยู่เห อย่างไร เขียนแผนภาพรังสีของแสงเพื่ออธิบ ปลาจะมองเห็นผีเสื้อได้ต้องมีแสงจากผีเสื้อ แสงจากผีเสื้อเข้าสู่น้ำจะเกิดการหักเหโดยรั แนวรังสีหักเหให้ตัดกัน จะเกิดภาพของผีเสื้ ให้ปลามองเห็นผีเสื้ออยู่สูงกว่าความจริง ข้อคำถามที่มีค่า IOC ตั้งแต่ 0.50 – 1.00 ถือว่า มีความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา สามาร


97 คำอธิบายเชิงวิทยาศาสตร์ เรื่อง แสง ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญคน ที่ รวม ค่า IOC สรุปผล 1 2 3 หนือน้ำมีตำแหน่งเปลี่ยนไปจากตำแหน่งจริง บายการมองเห็นภาพผีเสื้อของปลา ผ่านอากาศเข้าสู่น้ำแล้วเข้าสู่ตาของปลา เมื่อ รังสีหักเหจะเบนเข้าหาเส้นแนวฉาก ถ้าต่อ ้อที่ตำแหน่งสูงกว่าตำแหน่งจริง ดังภาพ ทำ +1 +1 +1 3 1 ใช้ได้ รถนำไปใช้ได้


98 หลักฐานการประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย จากผู้เชี่ยวชาญทั้ง 3 ท่าน


99


100


101


102


103


104


105


106


107


108


109


110


111


112


113


114


115


116


117


118


ภาคผนวก ง - แบบทดสอบเพื่อประเมินคำอธิบายเชิงวิทยาศาสตร์ - แบบประเมินการโต้แย้งเชิงวิทยาศาสตร์


120 แบบทดสอบเพื่อประเมินคำอธิบายเชิงวิทยาศาสตร์ เรื่อง แสง วิชา วิทยาศาสตร์ ว23101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2565 1. เมื่อฉายลำแสงเล็ก ๆ ให้ตกกระทบกระจกเงาราบ โดยรังสีตกกระทบทำมุมกับกระจกเงาราบ ดังภาพ จะเขียนเส้นแนวฉากและรังสีสะท้อนเมื่อแสงกระทบกระจกแต่ละบานได้อย่างไร และมุมตกกระทบ และ มุมสะท้อนของกระจกแต่ละบานมีค่าเท่าใด จากภาพ มุมตกกระทบกระจกเงาราบบานที่ 1 เท่ากับ 20 องศา มุมสะท้อนกระจกเงาราบบานที่ 1 เท่ากับ 20 องศา จากนั้นรังสีสะท้อนจากกระจกเงาราบบานที่ 1 จะตกกระทบกระจกเงาราบบานที่ 2 พิจารณา กระจกเงาราบบานที่ 2 มุมที่ 1 หาได้จาก มุมภายในของรูปสามเหลี่ยมรวมกันได้ 180 องศา ดังนั้น มุมที่ 1 เท่ากับ 180 – 45 - 70 = 65องศา มุมที่ 2 ซึ่งเป็นมุมตกกระทบของกระจกเงาราบบานที่ 2 เท่ากับ 90 -65 = 25องศา ดังนั้น มุมตกกระทบกระจกบานที่ 2 เท่ากับ 25 องศา มุมสะท้อนกระจกบานที่ 2 เท่ากับ 25 องศา 1 2


121 2. จงเขียนแผนภาพการเคลื่อนที่ของแสง แสดงการเกิดภาพจากกระจกเงาราบ กระจกโค้งเว้า และจากกระจก โค้งนูน พร้อมทั้งอธิบายการเกิดภาพจากกระจกแต่ละชนิดว่ามีลักษณะอย่างไร ภาพที่เกิดขึ้นในกระจกเงาราบเป็นภาพเสมือน หัวตั้ง ขนาดเท่ากับวัตถุ เพราะว่า 1. เมื่อลากรังสีของแสงเส้นหนึ่งจากปลายเปลวเทียนไขให้ตกกระทบกระจก ทำมุมฉากกับระนาบกระจกเงาราบ รังสี ของแสงจะสะท้อนออกมาในแนวเดิม 2. เมื่อลากรังสีของแสงอีกเส้นหนึ่งจากปลายเปลวเทียนไขให้ตกกระทบกระจก ทำมุมใด ๆ กับระนาบกระจกเงาราบ รังสีของแสงจะสะท้อนจากกระจกด้วยมุมสะท้อนที่เท่ากับมุมตกกระทบ 3. เมื่อลากเส้นประต่อแนวของรังสีสะท้อนทั้งสองเส้นมาด้านหลังกระจก เส้นประทั้งสองเส้นจะตัดกันที่จุดจุดหนึ่ง จุดที่แนวรังสีสะท้อนเสมือนตัดกันจะเป็นตำแหน่งของภาพเสมือน ภาพที่เกิดขึ้นจึงเป็นภาพเสมือนของปลายเปลวเทียนไข 4. การหาตำแหน่งภาพของฐานเทียนไข ก็ทำได้ในทำนองเดียวกัน ภาพของเทียนไขที่เกิดขึ้นในกระจกจึงเป็น ภาพเสมือน หัวตั้ง ขนาดภาพเท่ากับขนาดวัตถุระยะภาพเท่ากับระยะวัตถุ เกิดภาพจริง หัวกลับ ขนาดใหญ่กว่าวัตถุ เพราะว่า 1. เมื่อลากเส้นรังสีตกกระทบจากปลายวัตถุถึงผิวกระจก โดยให้ขนานกับเส้นแกนมุขสำคัญ จะได้รังสีสะท้อนจากผิว กระจกผ่านไปยังจุดโฟกัส (F) 2. เมื่อลากเส้นรังสีตกกระทบจากปลายวัตถุอีกหนึ่งรังสีผ่านจุดโฟกัส (F) ถึงผิวกระจก จะได้รังสีสะท้อนจากผิว กระจก ซึ่งขนานกับเส้นแกนมุขสำคัญ 3. ตำแหน่งที่แนวรังสีสะท้อนทั้งสองตัดกัน จุดนั้นจะเป็นจุดที่เกิดภาพ ซึ่งเกิดภาพจริง หัวกลับ ขนาดใหญ่กว่าวัตถุ


122 เกิดภาพเสมือน หัวตั้ง ขนาดใหญ่กว่าวัตถุ เพราะว่า 1. เมื่อลากเส้นรังสีตกกระทบจากปลายวัตถุถึงผิวกระจก โดยให้ขนานกับเส้นแกนมุขสำคัญ จะได้รังสีสะท้อนจากผิว กระจกผ่านไปยังจุดโฟกัส (F) 2. เมื่อลากเส้นรังสีตกกระทบจากปลายวัตถุอีกหนึ่งรังสีผ่านจุดศูนย์กลางความโค้ง (C) ถึงผิวกระจก จะได้รังสี สะท้อนจากผิวกระจกย้อนกลับไปยังทิศทางเดิม 3. ต่อแนวรังสีสะท้อนโดยใช้เส้นประให้ตัดกัน ตำแหน่งที่แนวรังสีสะท้อนเสมือนตัดกัน จุดนั้นจะเป็นจุดที่เกิดภาพ ซึ่งเกิดภาพเสมือน หัวตั้ง ขนาดใหญ่กว่าวัตถุ เกิดภาพเสมือน หัวตั้ง ขนาดเล็กกว่าวัตถุ เพราะว่า 1. เมื่อลากเส้นรังสีตกกระทบจากปลายวัตถุถึงผิวกระจก โดยให้ขนานกับเส้นแกนมุขสำคัญ จะได้รังสีสะท้อนจากผิว กระจกผ่านไปยังจุดโฟกัส (F) 2. เมื่อลากเส้นรังสีตกกระทบจากปลายวัตถุอีกหนึ่งรังสีผ่านจุดศูนย์กลางความโค้ง (C) ถึงผิวกระจก จะได้รังสี สะท้อนจากผิวกระจกย้อนกลับไปยังทิศทางเดิม 3. ต่อแนวรังสีสะท้อนโดยใช้เส้นประให้ตัดกัน ตำแหน่งที่แนวรังสีสะท้อนเสมือนตัดกัน จุดนั้นจะเป็นจุดที่เกิดภาพ ซึ่งเกิดภาพเสมือน หัวตั้ง ขนาดเล็กกว่าวัตถุ


123 เกิดภาพเสมือน หัวตั้ง ขนาดเล็กกว่าวัตถุ เพราะว่า 1. เมื่อลากเส้นรังสีตกกระทบจากปลายวัตถุถึงผิวกระจก โดยให้ขนานกับเส้นแกนมุขสำคัญ จะได้รังสีสะท้อนจากผิว กระจกผ่านไปยังจุดโฟกัส (F) 2. เมื่อลากเส้นรังสีตกกระทบจากปลายวัตถุอีกหนึ่งรังสีผ่านจุดศูนย์กลางความโค้ง (C) ถึงผิวกระจก จะได้รังสี สะท้อนจากผิวกระจกย้อนกลับไปยังทิศทางเดิม 3. ต่อแนวรังสีสะท้อนโดยใช้เส้นประให้ตัดกัน ตำแหน่งที่แนวรังสีสะท้อนเสมือนตัดกัน จุดนั้นจะเป็นจุดที่เกิดภาพ ซึ่งเกิด ภาพเสมือน หัวตั้ง ขนาดเล็กกว่าวัตถุ 3. จากภาพ ปลาจะมองเห็นผีเสื้อที่บินอยู่เหนือน้ำมีตำแหน่งเปลี่ยนไปจากตำแหน่งจริงอย่างไร เขียนแผนภาพ รังสีของแสงเพื่ออธิบายการมองเห็นภาพผีเสื้อของปลา ปลาจะมองเห็นผีเสื้อได้ต้องมีแสงจากผีเสื้อผ่านอากาศเข้าสู่น้ำแล้วเข้าสู่ตาของปลา เมื่อแสงจากผีเสื้อเข้าสู่น้ำ จะเกิดการหักเหโดยรังสีหักเหจะเบนเข้าหาเส้นแนวฉาก ถ้าต่อแนวรังสีหักเหให้ตัดกัน จะเกิดภาพของผีเสื้อที่ ตำแหน่งสูงกว่าตำแหน่งจริง ดังภาพ ทำให้ปลามองเห็นผีเสื้ออยู่สูงกว่าความจริง


Click to View FlipBook Version