29
12. งานพ้นื ผิวปูทางเทา้
ชนดิ ของพื้นผิว ปรมิ าณวสั ดมุ วลรวม/1 ตร.ม.
แผน่ ทางเท้า คอนกรีตหยาบ ทรายหยาบ ทรายละเอยี ด
(แผน่ ) (ลบ.ม.) (ลบ.ม.) (ลบ.ม.)
แผน่ คอนกรตี สำเรจ็ รขู นาด 6.88 0.055 0.075 -
40×40
แผน่ คอนกรตี บลอ็ กรูปคดกรชิ 44 0.055 0.070 0.002
แผ่นคอนกรตี บลอ็ กรปู อัฐศิลา 54 0.055 0.070 0.002
+ จัตรุ ัส
ทม่ี า : กรมบัญชกี ลาง. 2560 : 218 – 220.
2.4 การหาปรมิ าณวัสดุงานพ้ืนผิว
การหาปริมาณวัสดุงานพื้นผิว มีวิธกี ารดังน้ี
1. ศกึ ษาแบบแปลนพน้ื ทขี่ องอาคารแตล่ ะชนั้ โดยแยกตามสญั ลกั ษณ์งานพ้นื ตามท่รี ะบไุ วใ้ น
แปลนพน้ื เช่น ตัวอักษร “พ” หรือตวั อักษร “FL” แล้วตามดว้ ยหมายเลข จากนนั้ นำความกวา้ งคูณ
ด้วยความยาวท่ปี รากฏในแบบแปลนพ้นื ไดห้ น่วยเป็นจำนวนตารางเมตร
2. ศึกษารายการประกอบแบบ เพือ่ ให้ทราบรายละเอียดขอ้ มูลวัสดอุ ปุ กรณง์ านตกแตง่ ผวิ พ้นื
แต่ละรายการ
3. ศกึ ษาหลกั เกณฑก์ ารคำนวณราคางานก่อสรา้ งอาคารของกรมบัญชีกลาง เก่ยี วกับการ
คำนวณปรมิ าณวัสดงุ านพื้นและตกแต่งผวิ พ้นื เพือ่ คำนวณหาราคาตอ่ ตารางเมตร
4. สืบราคาวัสดกุ ่อสร้าง คา่ แรงงานเกี่ยวข้องกบั ค่าวสั ดุ คา่ แรงงานพน้ื และตกแตง่ ผิวพนื้
แต่ละชนดิ จากแหลง่ ข้อมลู ทเ่ี ก่ียวขอ้ ง
5. คำนวณหาราคาวสั ดแุ ละคา่ แรงงานพื้นผวิ แตล่ ะชนดิ
30
ตัวอย่างที่ 2.1 จากแบบก่อสร้างต่อไปน้ี จงคำนวณหาปริมาณวสั ดงุ านพ้นื ผิวตามสญั ลกั ษณ์ FL1
ท้ังหมด กำหนดใหพ้ ืน้ ผิวปกู ระเบ้อื งแกรนิตโตช้ นิดผวิ มันขนาด 24" × 24''
31
วธิ ที ำ
จากแบบแปลนพื้นอาคาร พ้นื ผวิ สญั ลักษณ์ FL1 ไดแ้ ก่ หอ้ งครวั ห้องอาหาร ห้องรับแขก หอ้ งนอน 1
และห้องนอน 2 สามารถหาพื้นผิวสัญลักษณ์ FL1 ทั้งหมดตามแนวแสดงพื้นที่ของแต่ละห้อง ดังรูป
ตอ่ ไปนี้
1. พื้นท่งี านพื้นผิว FL1 ท้ังหมด = พนื้ ท่ี (นอน 1+ นอน 2 + รับแขก + ครวั + อาหาร )
1.1 พ้นื ทหี่ ้องนอน 1
= ความกวา้ ง × ความยาว ตอบ
= 3.20 × 3.50
= 11.20 ตร.ม.
32
1.2 พืน้ ทหี่ ้องนอน 2
= ความกวา้ ง × ความยาว
= 3.00 × 3.50
= 10.50 ตร.ม. ตอบ
1.3 พ้นื ที่หอ้ งรับแขก
= ความกวา้ ง × ความยาว
= 3.50 × 4.00
= 14.00 ตร.ม. ตอบ
1.4 พน้ื ทีห่ ้องครวั และห้องอาหาร
= (ความกวา้ ง × ความยาว) + (ความกวา้ ง × ความยาว)
= (3.50 × 6.50) + (1.10 × 1.50)
= 24.40 ตร.ม. ตอบ
1.5 รวมพน้ื ที่งานพน้ื ผวิ FL1 ทั้งหมด
= 11.20 + 10.50 + 14.00 + 24.40
= 60.10 ตร.ม. ตอบ
2. ปรมิ าณวสั ดุงานปกู ระเบ้ืองท้ังหมด
= พืน้ ทที่ ัง้ หมด × ปรมิ าณวัสดตุ ่อ 1 ตารางเมตร
กระเบ้ือง = 60.10 × 1.13 = 68 ตร.ม. ตอบ
ปูนซเี มนต์ผสม = 60.10 × 21.51 = 1,292.75 กก. ตอบ
ปูนยาแนว = 60.10 × 0.10 = 6.01 กก. ตอบ
ทรายหยาบ = 60.10 × 0.11 = 6.61 ลบ.ม. ตอบ
น้ำ = 60.10 × 10 = 601 ลิตร ตอบ
33
ตัวอย่างที่ 2.2 จากแบบก่อสร้างตามตัวอย่างที่ 2.1 จงคำนวณหาปริมาณวัสดุงานพื้นผิว ตาม
สญั ลกั ษณ์ FL2 ท้ังหมดกำหนดใหป้ ูกระเบ้อื งดนิ เผาเคลือบเซรามิกขนาด 12" × 12'' (ปูด้วยปนู ทราย)
วธิ ีทำ
จากแปลนพื้นอาคาร พื้นผิวสัญลักษณ์ FL2 ได้แก่ ห้องน้ำ ระเบียง และซักล้าง สามารถหาพื้นผิว
สญั ลกั ษณ์ FL2 ทง้ั หมดตามแนวแสดงพน้ื ทข่ี องแต่ละห้อง ดังรูปต่อไปน้ี
1. พน้ื ทง่ี านพื้นผวิ FL2 ทั้งหมด
= พ้นื ท่ี (หอ้ งน้ำ + ระเบียง + ซักล้าง)
1.1 พนื้ ทห่ี อ้ งน้ำ
1.2 พืน้ ทรี่ ะเบยี ง
= ความกว้าง × ความยาว ตอบ
= 2.00 × 3.50
= 7.00 ตร.ม.
34
1.3 พ้ืนที่ซกั ล้าง ตอบ
= ความกวา้ ง × ความยาว ตอบ
= 1.50 × 3.50
= 5.25 ตร.ม.
1.4 รวมพ้ืนทงี่ านพนื้ ผิว FL2 ทัง้ หมด
= 6.20 + 7.00 + 5.25
= 18.45 ตร.ม.
2. 2. ปริมาณวสั ดุงานปกู ระเบอื้ งทงั้ หมด ตอบ
= พื้นทที่ งั้ หมด × ปริมาณวัสดุตอ่ 1 ตารางเมตร ตอบ
ตอบ
กระเบือ้ ง = 18.45 × 1.10 = 20.30 ตร.ม. ตอบ
ปูนซเี มนตผ์ สม = 18.45 × 21.51 = 396.86 กก. ตอบ
ปนู ยาแนว = 18.45 × 0.15 = 2.78 กก.
ทรายหยาบ = 18.45 × 0.11 = 2.03 ลบ.ม.
น้ำ = 18.45 × 10 = 184.50 ลิตร
35
ตัวอยา่ ง 2.3 จากแบบกอ่ สร้างต่อไปน้ี จงคำนวณหาปรมิ าณวสั ดุงานพนื้ ไม้
วธิ ีทำ
1. พ้ืนที่ท้ังหมด
= ความกวา้ ง × ความยาว
= 3.00 × 8.00
= 24.00 ตร.ม. ตอบ
2. คานไมเ้ นอื้ แขง็ 2" × 8''
ความยาวไม้ 1 ทอ่ น = ความกวา้ งของช่วงเสา + 0.50 ม. (เผื่อความยาวไม)้
= 3.00 × 0.50
= 3.50 ม.
จำนวนทอ่ น = 4 ท่อน (นบั จากแปลนพนื้ )
ใช้ไม้ 2" × 8'' × 3.50 ม. จำนวน 4 ทอ่ น ตอบ
3. ตงไมเ้ นอ้ื แข็ง 1 1/2" × 6'' @ 0.50 ม.
3.1 ความยาวของตงระยะจาก A-B (ชว่ งกว้าง 4.00 ม.)
ความยาวไม้ 1 ท่อน = ความกว้างของชว่ งเสา + 0.50 ม. (เผื่อความยาวไม้)
= 4.00 × 0.50
36
= 4.50 ม.
จำนวนท่อน = ความยาวคาน
ระยะห่างของตง
= 3.00
0.50
= 7 ทอ่ น
3.2 ความยาวของตงระยะจาก B-C (ชว่ งกว้าง 4.00 ม.)
ความยาวไม้ 1 ท่อน = ความกวา้ งของชว่ งเสา + 0.50 ม. (เผือ่ ความยาวไม)้
= 4.00 × 0.50
= 4.50 ม.
จำนวนท่อน = ความยาวคาน
ระยะหา่ งของตง
3.00
= 0.50 + 1
= 7 ทอ่ น
ใช้ไม้ 1 1/2" × 6'' × 4.50 ม. จำนวน 14 ทอ่ น ตอบ
4. พ้ืนไมเ้ นือ้ แข็ง 1" × 6''
ความยาวไม้ 1 ทอ่ น = ความกว้างของช่วงเสา + 0.50 ม. (เผือ่ ความยาวไม)้
= 3.00 × 0.50
= 3.50 ม.
ความยาวตง
จำนวนท่อน = ความกวา้ งของพืน้ ไม้
= 8.00
0.15
= 54 ท่อน
ใชไ้ ม้ 1" × 6'' × 3.50 ม. จำนวน 54 ท่อน ตอบ
5. ปริมาณไมท้ ั้งหมด
ปริมาณไม้ = (ความยาวตอ่ ทอ่ น×จำนวนทอ่ น) ×ปริมาตรไมต้ ่อม (ภาคผนวก ก)
5.1 คานไม้ขนาด 2" × 8'' × 3.50 ม. จำนวน 4 ท่อน
ปริมาตรไม้ = (3.50 × 4) × 0.3648
= 5.11 ลบ.ฟ. ตอบ
5.2 ตงไม้ขนาด 1 1/2" × 6'' × 4.50 ม. จำนวน 14 ทอ่ น
ปรมิ าตรไม้ = (4.50 × 14) × 0.2052
= 12.93 ลบ.ฟ. ตอบ
5.3 พ้ืนไม้ขนาด 1" × 6'' × 3.50 ม. จำนวน 54 ทอ่ น 37
ปรมิ าตรไม้ = (3.50 × 54) × 0.1368
= 25.86 ลบ.ฟ. ตอบ
ตอบ
5.4 รวมปรมิ าตรไมท้ ัง้ หมด
= 5.11+ 12.93 + 25.86
= 43.90 ลบ.ฟ.
38
2.5 การหาปริมาณวสั ดงุ านบัวเชิงผนัง
บัวเชิงผนังหรืออาจเรียกอีกชื่อว่า ไม้มอบพื้น คือองค์ประกอบตกแต่งเสริมที่ฐานของผนัง
เพื่อป้องกันไม่ให้ผนังสกปรกจากการทำความสะอาดพื้นและช่วยปกปิดรอยต่อระหว่างพื้นกับผนัง
วัสดุที่นำมาใช้ในงานบังเชิงผนังได้แก่ ไม้เนื้อแข็ง ไม้บัวสำเร็จรูป พีวีซี อะลูมิเนียม ฯลฯ การ
คำนวณหาปริมาณงานบังเชิงผนังจะคำนวณแยกเป็นปริมาณของวัสดุที่ทำบัวเชิงผนังแต่ละประเภท
แลว้ คำนวณหาความยาวของวัสดุท่ีใชท้ ำบัวเชงิ ผนงั ของแต่ละประเภทหรืองานโดยวัดระยะความยาว
ของผนังภายในห้องแต่ละหอ้ งตามแบบแปลนพื้น ลบด้วยความกวา้ งของประตูสว่ นไม่มีผนังก้ัน จะได้
ปริมาณ บัวเชงิ ผนงั ท้งั หมดจำนวน เมตร (ม.)
ตัวอยา่ งท่ี 2.4 จากแบบก่อสรา้ งตามตวั อย่างท่ี 2.1 และแบบขยายประตทู ่กี ำหนดใหต้ อ่ ไปนี้ จง
คำนวณหาปริมาณวัสดงุ านบัวเชงิ ผนงั ของหอ้ งรับแขกและห้องนอนทงั้ หมด
วธิ ที ำ
จากแปลนพ้นื อาคาร สามารถหาความยาวของบวั เชงิ ผนงั ท้งั หมดตามของผนงั แต่ละห้อง ดัง
รูปตอ่ ไปน้ี
39
ความยาวของบัวเชงิ ผนังทั้งหมด = ความยาวของผนัง (หอ้ งรับแขก+หอ้ งนอน 1+ห้องนอน 2)
1. ความยาวของบวั เชงิ ผนงั ห้องรบั แขก
= เส้นรอบรปู ของห้อง – ความยาวช่วงท่ไี มม่ ีผนัง
- ความกว้างของประตู D1
= (3.50×4) – 2.00 – 2.80
= 9.20 ม. ตอบ
2. ความยาวของบัวเชงิ ผนังห้องนอน 1
= เสน้ รอบรปู ของหอ้ ง - ความกว้างของประตู D1
= [(3.50+3.20) ×2] – 0.80
= 12.60 ม. ตอบ
3. ความยาวของบวั เชิงผนังห้องนอน 2
= เสน้ รอบรูปของห้อง - ความกวา้ งของประตู D2
= [(3.50+3.00) ×2] – 0.80
= 12.20 ม. ตอบ
4. รวมความยาวของบัวเชิงผนังทงั้ หมด
= 9.02 + 12.60 + 12.20
= 34 ม. ตอบ
40
บทที่ 3
การประมาณราคางานฝ้าเพดาน
ฝา้ เพดาน (Ceiling) เป็นองค์ประกอบที่สำคัญของอาคารทอ่ี อกแบบเพือ่ ประโยชน์ในการช่วย
ปกปิดความไม่เรียบร้อยใหแ้ กโ่ ครงสรา้ งและระบบต่าง ๆ ของอาคาร เช่น ระบบเดนิ ทอ่ รอ้ ยสายไฟฟ้า
ระบบทอ่ ภายในอาคารช่วยป้องกันความรอ้ นจากหลงั คาและพ้นื ที่ใต้หลังคา อกี ทงั้ ยังช่วยป้องกันสัตว์
และแมลงเขา้ ไปในตัวอาคาร ฝา้ เพดานมีหลายรูปแบบ ข้ึนอยกู่ ับความสวยงามและความตอ้ งการของ
เจ้าของอาคาร สัญลักษณ์งานฝ้าเพดานที่ระบุในแบบก่อสร้างจะใช้สัญลักษณ์เป็นอักษร “C” หรือ
“ฝ” แล้วตามด้วยเลขอารบิกเขียนไว้ในรูปทรงเรขาคณิตรูปวงรี เช่น C1, C2 หรือ ฝ1, ฝ2 เป็นต้น
รูปแบบของฝ้าเพดานมีทั้งแบบที่มีระดับเท่ากันทั้งห้อง แบบเล่นระดับ และแบบที่ลาดเอียงไปตาม
องศาของหลังคา ผู้ประมาณราคาต้องศึกษาข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับวัสดุงานฝ้าเพดานแต่ละชนิดให้
ละเอยี ด
3.1 ประเภทของฝ้าเพดาน
ฝ้าเพดานแบ่งออกเปน็ 3 ประเภท ได้แก่
1. ฝ้าเพดานตกแต่ง เป็นฝ้าเพดานที่ใช้วัสดุเฉพาะมาตกแต่ง เน้นความสวยงามเป็นหลัก และ
อาจต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษหลังติดตั้ง เช่น ถ้าฝ้าเป็นไม้ ต้องมีการเคลือบน้ำยาป้องกันปลวก
หรือฝ้ากระจกต้องระวังเรื่องความแข็งแรง เพราะอาจจะแตกหรือตกลงมาได้ นิยมใช้ในห้องนั่งเล่น
ห้องรับแขก หรือบริเวณชายคา เนื่องจากเป็นฝ้าทีต่ ้องพิถีพิถันในการออกแบบและติดตั้ง จึงมีราคา
คอ่ นขา้ งสูง ขึ้นอยกู่ ับความยากง่ายของวัสดุ
2. ฝ้าเพดานแบบฉาบเรียบ เป็นฝ้าเพดานที่ใช้วัสดุแผ่นยิปซั่มมาตัดแต่งและประกอบเข้ากับ
โครงคร่าว สามารถตัดแต่งรูปทรงให้มีเอกลักษณ์ได้ตามลักษณะพื้นที่ที่ติดตั้ง โดยปกติจะเรียก
ฝ้าเพดานแบบฉาบเรียบตามลักษณะการออกแบบ เช่น ฝ้าหลุม ฝ้าระดับ ฝ้าซ่อนไฟ และฝ้าประดับ
เป็นต้น เป็นฝ้าเพดานที่ติดตั้งได้ง่ายกวา่ ฝ้าเพดานตกแต่ง สามารถออกแบบตกแต่งได้หลายรปู แบบ
นิยมใช้กันอย่างแพรห่ ลาย และมีราคาทีไ่ ม่สงู เทา่ กับฝา้ เพดานตกแต่ง
3. ฝ้าเพดานที-บาร์ (T-Bar) เป็นฝ้าเพดานทีม่ ีลกั ษณะเปน็ โครงคร่าวควำ่ เปน็ รปู ตวั T และเป็น
ช่องตารางไว้สำหรับวางแผ่นยิปซั่มปิดทับ โดยแต่ละช่องจะมีขนาดมาตรฐานอยู่ที่ 0.60×0.60 ม. มี
ข้อดีคือ ติดตั้งง่าย ถอดเปล่ียนได้ทันทีหากแผ่นยิปซั่มชำรุด และสามารถเปิดเพื่อตรวจสอบหรือ
ซ่อมแซมงานระบบต่าง ๆ ได้อย่างงา่ ยดาย สามารถเลือกคุณสมบัตติ ามความเหมาะสมในการใช้งาน
ของแตล่ ะหอ้ งได้ จึงเหมาะสำหรบั ทกุ ห้อง
3.2 วสั ดุท่ีใชใ้ นงานตกแต่งฝา้ เพดาน
41
วัสดุใชใ้ นงานตกแตง่ ฝ้าเพดาน มดี ังน้ี
1. ไม้ เปน็ วัสดุธรรมชาติที่ให้ความอบอ่นุ และสวยงาม แต่มีราคาแพงทัง้ ตวั วัสดุและการดูแล
รักษา มีข้อเสียในเรื่องการระบายอากาศและการบิดตัวของไม้ รวมถึงปัญหาเรื่องปลวกและแมลง
รบกวน ไม้ที่นิยมนำมาใช้มีหลากหลาย เช่น ไม้เต็ง ไม้ตะเคียน ไม้แดง ไม้มะค่า และไม้สัก เป็นต้น
การเลือกใช้ฝ้าเพดานไม้ควรทาสีย้อมไม้หรือน้ำยาเคลือบไม้ชนิดใส เพื่อให้ลวดลายและสีสัน
ของไม้เนอื้ จรงิ
2. ไฟเบอร์ซีเมนต์ เป็นเส้นใยไฟเบอร์หรือเซลลูโลสผสมกับซีเมนต์พอร์ตแลนด์ นำมาทำเป็นแผ่น
กะทัดรัด มคี วามกวา้ งยาวและพ้ืนผิวหลากหลาย มีชนดิ ทเ่ี ปน็ ไม้ระแนงหน้ากว้าง 3-4 น้ิว ยาว 3 ม. หนา 8 ม.
สำหรับตีเวน้ รอ่ ง และชนดิ แผ่นที่มีขนาดตั้งแต่ 0.60×0.60 ม., 0.60×1.20 ม., 0.60×2.40 ม., 1.20×2.40
ม. มีความหนา 3.50, 4 และ 6 มม. วัสดุประเภทนี้มีความยืดหยุ่นและมีความเหนียว ทนความชื้น
ไม่มีปัญหาคดงอและบิดตัว อีกทั้งยังทนทานจากปลวกและแมลงอีกด้วย นอกจจากนั้นยังลดการนำ
ความร้อนจากหลังคาเขา้ ส่บู า้ น ช่วยให้บา้ นเย็น สามารถตดิ ตั้งบนโครงครา่ วไมห้ รอื โครงครา่ วเหลก็ ได้
3. แผ่นยิปซัม่ เป็นวัสดุที่ผลิตจากผงแร่ยปิ ซั่มอัดแน่น กรีดตัดง่าย ขนย้ายและติดตั้งได้สะดวก
ตกแต่งทาสีไดง้ า่ ย มีหลสยชนดิ ให้เลือกใช้ เชน่ ชนดิ ธรรมดา ชนดิ ทนความชื้น และชนิดทนความร้อน
นิยมติดตั้งเป็นฝ้าที-บาร์ และแบบฝ้าฉาบเรียบซึ่งสามารถฉาบรอยต่อให้เรียบเนียนสวยงามได้ง่าย
ขนาดโดยมาตรฐาน 0.60×0.60 ม., 0.60×1.20 ม. และขนาด 1.20×2.40 ม. ความหนา 8 มม., 9
มม., 12 มม. และ 16 มม.
4. อะลูมิเนียม เป็นวัสดุที่นิยมใช้กับงานฝ้าเพดานของอาคารขนาดใหญ่หรือสาธารณะเพราะมี
อายุการใช้งานนาน ใช้ได้ทั้งภายนอกทั้งภายใน ไม่ติดไฟ การติดตั้งง่าย สะดวก รวดเร็ว เนื่องจาก
อุปกรณ์และโครงคร่าวจะเป็นชนิดสำเร็จรูป แต่มีข้อเสียคือ ไม่ทนความร้อน อีกทั้งยังมีรูปแบบให้
เลือกน้อย
3.3 หลักเกณฑ์การประมาณราคางานฝ้าเพดาน
กรมบัญชีกลางได้กำหนดหลักเกณฑ์การคำนวณราคากลางงานก่อสร้างอาคาร เกี่ยวกับ
การประมาณราคางานฝ้าเพดาน ไว้ดงั น้ี
การคำนวณปริมาณงานฝ้าเพดาน ให้คำนวณโดยการหาพืน้ ท่ีตามระยะความกว้างคูณความยาว
ที่กำหนดในแบบแปลน (แบบก่อสร้าง) โดยแยกรายการตามชนิดของฝ้าเพดานชนิดต่าง ๆ เช่น
ฝ้ายิปซั่มบอร์ดหนา 9 มม. ฉาบรอยต่อเรยี บ โครงคร่าวที-บาร์ ขนาด 0.60×0.60 ม. ฝ้ายิปซั่มบอร์ด
หนาขนาด 9 มม. ฉาบรอยตอ่ เรยี บ โครงครา่ วเหลก็ ชุบสงั กะสี ฝ้าอะลมู ิเนียมอบสีรูปตวั ซี ยึดเว้นร่อง
โครงครา่ ว (ตามมาตรฐานผู้ผลติ ) เปน็ ต้น เม่ือรวมพ้นื ที่ฝ้าเพดานทุกชนดิ จะไดเ้ ป็นปริมาณฝ้าเพดาน
ท้ังหมดเป็นจำนวนตารางเมตร (ตร.ม., ม2)
42
3.4 ปริมาณวัสดุมวลรวมงานฝ้าเพดาน
กรมบญั ชกี ลาง กระทรวงการคลัง ไดก้ ำหนดวสั ดมุ วลรวมของงานทำฝา้ เพดานดว้ ยวัสดุสำเร็จ
ตา่ ง ๆ ไวด้ งั น้ี
1. ฝ้าเพดานไม้ชนดิ ตา่ ง ๆ
ชนิดของฝ้าเพดาน ปริมาณวสั ดมุ วลรวม
ฝ้าเพดานไม้ โครงคร่าวไม้ ตะปู
(ลบ.ฟ.) (ลบ.ฟ.) (กก.)
ฝา้ ระแนงไมข้ นาด 1/2" × 4'' ตเี ว้นร่อง 0.50 ซม.
โครงคร่าวไม้เน้อื แขง็ ขนาด 1 1/2" × 3'' @ 0.50 ม. 0.50 0.41 0.15
(ไมท้ กุ ชนิด)
ฝา้ ไมบ้ งั ใบเซาะร่อง V ขนาด 1/2" × 4'' โครงคร่าว 0.59 0.41 0.15
ไม้เน้อื แข็งขนาด 1 1/2" × 3'' @ 0.50 ม.(ไม้ทกุ ชนิด)
ฝ้าไมอ้ ดั ยาง (ทกุ ขนาดและความหนา) โครงคร่าวไม้ 0.40 0.56 0.20
ขนาด 1 1/2" × 3'' @ 0.60×0.60 ม.(ไมท้ ุกชนดิ )
ฝา้ ไม้อดั สกั (ทุกขนาดและความหนา) โครงครา่ วไม้ 0.40 0.56 0.20
ขนาด 1 1/2" × 3'' @ 0.60×0.60 ม.(ไม้ทุกชนดิ )
ท่ีมา : กรมบัญชกี ลาง. 2560 : 150-153.
2. ฝา้ เพดานกระเบ้ืองแผน่ เรียบไฟเบอรซ์ เี มนตช์ นดิ ตา่ ง ๆ โครงครา่ วไมท้ ุกชนิด
ชนดิ ของฝ้าเพดาน ปริมาณวสั ดมุ วลรวม
ฝา้ เพดานไม้ โครงคร่าวไม้ ตะปู
(ลบ.ฟ.) (ลบ.ฟ.) (กก.)
ฝา้ กระเบ้อื งแผน่ เรยี บไฟเบอร์ซเี มนต์ หนา 4 มม. ขนาด
1.20 × 2.40 ม. โครงคร่าวไม้ 0.40 0.56 0.20
ขนาด 1 1/2" × 3'' @ 0.60×0.60 ม.
ฝ้ากระเบือ้ งแผ่นเรียบไฟเบอรซ์ ีเมนต์ หนา 6 มม. ขนาด 0.40 0.56 0.20
1.20 × 2.40 ม. โครงคร่าวไม้
ขนาด 1 1/2" × 3'' @ 0.60×0.60 ม.
ฝ้ากระเบอื้ งแผน่ เรยี บไฟเบอรซ์ ีเมนต์ หนา 9 มม. ขนาด 0.40 0.56 0.20
1.20 × 2.40 ม. โครงคร่าวไม้
ขนาด 1 1/2" × 3'' @ 0.60×0.60 ม.
ทีม่ า : กรมบัญชีกลาง. 2560 : 153-154.
43
3. ฝา้ เพดานยปิ ซมั่ บอร์ดชนดิ ธรรมดา ชนดิ อะลูมเิ นียมฟอยล์ และชนิดทนช้นื โครงคร่าวไม้ทกุ
ชนดิ
ปรมิ าณวัสดุมวลรวม
ชนิดของฝ้าเพดาน ยิปซ่มั บอร์ด โครงคร่าว ตะปู ปนู ฉาบ + ตะปู
(แผน่ ) ไม้ (กก.) ผา้ แถบ เกลียว
(ลบ.ฟ.) (ตร.ม.) (กก.)
ฝา้ แผ่นยิปซัม่ บอรด์ หนา 9 มม.
ขนาด 1.20 × 2.40 ม. โครงคร่าว 0.40 0.56 0.20 1.00 0.11
ไม้
ขนาด 1 1/2" × 3'' @ 0.60×0.60
ม.
ฝ้าแผ่นยปิ ซั่มบอรด์ หนา 12 มม.
ขนาด 1.20 × 2.40 ม. โครงครา่ ว 0.40 0.56 0.20 1.00 0.11
ไม้
ขนาด 1 1/2" × 3'' @ 0.60×0.60
ม.
ทม่ี า : กรมบัญชกี ลาง. 2560 : 154-157.
4. ฝ้าเพดานยปิ ซ่มั บอร์ดชนิดธรรมดา ชนดิ อะลมู เิ นยี มฟอยล์ และชนดิ ทนช้นื โครงคร่าวเหล็กชุบ
สังกะสี
ปรมิ าณวสั ดมุ วลรวม
ชนิดของฝา้ เพดาน ยปิ ซม่ั บอร์ด โครงคร่าว ตะปเู กลยี ว ปูนฉาบ + ผ้าแถบ
(แผน่ ) (ลบ.ม.) (กก.) (ตร.ม.)
ฝา้ แผ่นยปิ ซมั่ บอร์ด หนา 9 มม.
ขนาด 1.20 × 2.40 ม. โครงคร่าว 0.40 1.00 0.11 1.00
เหล็กชุบสงั กะสี @ 0.40×1.00 ม.
ฝา้ แผน่ ยิปซม่ั บอรด์ หนา 12 มม.
ขนาด 1.20 × 2.40 ม. โครงครา่ ว 0.40 1.00 0.11 1.00
เหล็กชบุ สงั กะสี @ 0.40×1.00 ม.
ท่ีมา : กรมบญั ชีกลาง. 2560 : 157-158.
44
3.5 การหาปริมาณวัสดุงานฝา้ เพดาน
การกาปริมาณวัสดงุ านฝ้าเพดาน มีวธิ ีการดังนี้
1. ศึกษาแบบแปลนพื้นของอาคารแต่ละชั้น เพื่อหาฝ้าเพดานภายในอาคาร โดยแยกตาม
สัญลักษณ์ฝ้าเพดานที่ระบุในแบบแปลนพื้น เช่น ตัวอักษร “ฝ” หรือตัวอักษร “C” แล้วตามด้วย
หมายเลข จากนัน้ นำความกว้างคูณความยาวตามระยะที่ระบุในแบบแปลน ไดพ้ ื้นที่ฝ้าเพดานภายใน
อาคารเป็นจำนวนตารางเมตร
2. ศึกษาแบบแปลนพื้นหลงั คา เพื่อหาฝ้าเพดานภายนอกอาคารและความลาดเอียงของหลังคา
จากนั้นนำความกว้างคูณความยาวตามระยะที่ระบุในแบบแปลน ได้พื้นที่ฝ้าเพดานชายหลังคาเป็น
จำนวนตารางเมตร
3. ศึกษารายการประกอบแบบเพื่อให้ทราบรายละเอียดข้อมูลวัสดุอุปกรณ์งานฝ้าเพดานแต่ละ
รายการ
4. แยกรายการวัสดทุ ่ใี ช้ในการก่อสรา้ งแต่ละรายการ
45
ตัวอย่างที่ 3.1 จากแบบก่อสร้างแต่ละรายการประกอบแบบต่อไปนี้ จงคำนวณหาปริมาณวัสดุงาน
ตกแตง่ ฝา้ เพดานภายในอาคารพกั อาศัยทั้งหมด
- C1 ฝา้ เพดานยปิ ซ่ัมบอรด์ หนา 9 มม. ชนดิ อะลูมเิ นยี มฟอยล์ โครงคร่าวที-บาร์
- C2 ฝา้ เพดานกระเบือ้ งแผ่นเรยี บไฟเบอรซ์ เี มนต์ หนา 6 มม. ขนาด 1.20× 2.40 ม. โครงคร่าว
ไม้ ขนาด 1 1/2" × 3'' @ 0.60×0.60 ม.
46
วิธที ำ
1. งานฝ้าเพดาน C1 ทง้ั หมด
จากแบบแปลนพื้นอาคาร ฝ้าเพดานสัญลักษณ์ C1 ไดแ้ ก่ ห้องนอน 1 ห้องนอน หอ้ งรบั แขก
หอ้ งครัว และห้องอาหาร สามารถหาพื้นทฝี่ ้าเพดานแต่ละสญั ลักษณท์ ัง้ หมดจากพน้ื ทห่ี อ้ งดังรูป
ต่อไปน้ี
พนื้ ท่ีฝ้าเพดาน C1 ท้งั หมด = พื้นท่ีหอ้ ง (นอน 1 + นอน 2 + รับแขก + ครวั +
อาหาร)
1.1 พืน้ ทีห่ อ้ งนอน 1 = ความกว้าง × ความยาว ตอบ
= 3.20 × 3.50
1.2 พนื้ ทีห่ ้องนอน 2 = 11.20 ตร.ม.
= ความกว้าง × ความยาว ตอบ
= 3.00 × 3.50
= 10.50 ตร.ม.
47
1.3 พนื้ ทีห่ อ้ งรบั แขก = ความกวา้ ง × ความยาว
= 3.50 × 4.00
= 14.00 ตร.ม. ตอบ
1.4 พน้ื ท่ีหอ้ งครัวและหอ้ งอาหาร = (ความกว้าง × ความยาว) + (ความกว้าง × ความยาว)
= (3.50 × 6.50) + (1.10×1.50)
= 24.40 ตร.ม. ตอบ
1.5 รวมพน้ื ที่งานฝา้ เพดาน C1 ทง้ั หมด = 11.20 + 10.50 + 14.00 + 24.40
= 60.10 ตร.ม. ตอบ
1.6 ปริมาณวสั ดุงานฝ้าเพดาน C1 ทัง้ หมด
ฝา้ เพดานยิปซมั่ บอรด์ หนา 9 มม. ชนดิ อะลูมิเนยี มฟอยล์ โครงคร่าวที-บาร์
= พ้ืนที่ทง้ั หมด × ปรมิ าณวัสดตุ อ่ 1 ตารางเมตร
ยิปซัม่ บอรด์ หนา 9 มม. = 60.10 × 0.38
= 23 แผ่น ตอบ
โครงคร่าวที-บาร์ = 60.10 × 1.10
= 66.11 กก. ตอบ
48
2. ฝา้ เพดาน C2 ทงั้ หมด
จากแบบแปลนพ้ืนอาคาร ฝ้าเพดานสญั ลักษณ์ C2 ได้แก่ หอ้ งน้ำ ระเบียง และซกั ลา้ ง สามารถ
หาพ้ืนทีฝ่ า้ เพดานแต่ละสญั ลกั ษณ์ทงั้ หมดจากพืน้ ทีข่ องแตล่ ะหอ้ งดังรปู ต่อไปนี้
พืน้ ทีฝ่ า้ เพดาน C2 ทั้งหมด = พืน้ ที่ห้อง (หอ้ งน้ำ + ระเบยี ง +ซกั ล้าง)
2.1 พ้นื ท่ีห้องน้ำ
= ความกวา้ ง × ความยาว
2.2 พนื้ ที่ระเบยี ง
= 2.00 × 3.10
= 6.20 ตร.ม. ตอบ
= ความกวา้ ง × ความยาว ตอบ
= 2.00 × 4.00
= 8.00 ตร.ม.
49
2.3 พ้ืนทีซ่ ักล้าง = ความกวา้ ง × ความยาว
= 1.50 × 3.50
= 5.25 ตร.ม. ตอบ
2.4 รวมพ้นื ที่งานฝา้ เพดาน C2 ทั้งหมด = 6.20 + 8.00 + 5.25 ตอบ
= 19.45 ตร.ม.
2.5 ปริมาณวสั ดงุ านฝ้าเพดาน C2 ท้งั หมด
ฝ้าเพดานกระเบ้ืองแผ่นเรยี บไฟเบอรซ์ เี มนต์ หนา 6 มม. ขนาด 1.20 × 2.40 ม. โครงคร่าวไม้
ขนาด 1 1/2" × 3'' @ 0.60×0.60 ม.
= พ้นื ทีท่ ้งั หมด × ปริมาณวัสดตุ อ่ 1 ตารางเมตร
กระเบ้ืองแผ่นเรยี บ = 19.45 × 0.40 = 8 แผน่
โครงครา่ วไม้ = 19.45 × 0.56 = 10.89 ลบ.ฟ.
ตะปู = 19.45 × 0.20 = 3.89 กก.
50
ตวั อย่างท่ี 3.2 จากแบบกอ่ สร้างและขอ้ มลู ที่กำหนดให้ต่อไปนี้ จงคำนวณหาปริมาณวัสดงุ านตกแต่ง
ฝ้าเพดานชายคาหลังคาอาคารพักอาศัย ซงึ่ ติดตง้ั ระดับฝา้ เพดานแบบระดับเท่ากนั ตลอดชายคา
- ฝ้าเพดานภายนอก ฝ้าแผน่ เรียบไฟเบอรซ์ เี มนต์ หนา 6 มม. ขนาด 1.20 × 2.40 ม.
โครงคร่าวไม้เนอื้ แข็ง ขนาด 1 1/2" × 3'' @ 0.60×0.60 ม.
51
วิธีทำ
1. แบ่งพ้นื ท่ีฝา้ เพดานชายคาหลงั คาตามแนวเสาจากแบบแปลนพื้นหลงั คา ไดพ้ ้นื ท่ี 4 พ้นื ท่ี โดยพื้นท่ี
เหมอื นกนั ให้มีหมายเลขเดยี วกนั ดังรปู ต่อไปนี้
2. พน้ื ทห่ี มายเลข 1 จำนวน 2 พื้นที่ = (ความกวา้ ง × ความยาว) × 2
= (1.50 × 11.00) × 2
= 33 ตร.ม. ตอบ
ตอบ
3. พ้ืนทหี่ มายเลข 2 จำนวน 2 พ้นื ที่ = (ความกวา้ ง × ความยาว) × 2 ตอบ
= (1.50 × 8.00) × 2
= 24 ตร.ม.
4. รวมพน้ื ทงี่ านฝา้ เพดานชายคาหลังคาทงั้ หมด = 33 + 24
= 57 ตร.ม.
52
5. ปริมาณวัสดุงานฝ้าเพดานชายคาหลงั คาทั้งหมด
- ฝ้าเพดานกระเบือ้ งแผน่ เรียบไฟเบอร์ซเี มนต์ หนา 6 มม. ขนาด 1.20 × 2.40 ม.
โครงครา่ วไมเ้ นือ้ แขง็ ขนาด 1 1/2" × 3'' @ 0.60×0.60 ม.
= พืน้ ทที่ ั้งหมด × ปรมิ าณวัสดตุ ่อ 1 ตารางเมตร
กระเบอ้ื งแผน่ เรียบ = 57 × 0.40 = 23 แผน่ ตอบ
โครงครา่ วไม้ = 57 × 0.56 = 31.92 ลบ.ฟ. ตอบ
ตะปู = 57 × 0.20 = 11.40 กก. ตอบ
ตัวอย่าง 3.3 จากแบบก่อสรา้ งตัวอย่างที่ 3.2 และข้อมูลทก่ี ำหนดให้ต่อไปน้ี จงคำนวณหาปริมาณ
วัสดุงานตกแตง่ ฝา้ เพดานชายคาหลังคาอาคารพกั อาศยั ซ่ึงติดตง้ั ระดบั ฝา้ เพดานแบบลาดเอยี งตาม
องศาหลงั คา
- ฝ้าระแนงไม้เนอ้ื แขง็ 1/2" × 4'' ตเี วน้ ร่อง 0.50 ซม. โครงคร่าวไมเ้ นือ้ แข็งขนาด
1 1/2" × 3'' @ 0.50 ม.
53
วธิ ที ำ
1. แบ่งพ้นื ผวิ ฝ้าเพดานชายคาหลงั คาตามแนวเสาจากแบบแปลนพน้ื หลงั คาไดพ้ นื้ ที่ 4 พืน้ ที่ ดงั ในรูป
ตอ่ ไปนี้
2. หามมุ ลาดเอยี งหลังคา
จากแบบกอ่ สร้างทีก่ ำหนดมุมลาดเอยี งของหลังคาเท่ากบั 27 องศา ในกรณีที่แบบก่อสร้างไม่ได้
ระบมุ มุ ลาดเอยี งของหลงั คาสามารถหาได้จากรูปตัด ความสงู = 2.05 ม. และระยะของช่วงทเ่ี ปน็
พ้ืนทีร่ ปู สามเหลี่ยม = 4.00 ม. คำนวณหามุมลาดเอียงของหลังคาไดด้ ังนี้
จากทฤษฏตี รโี กณมิติ
tan = ด้านตรงขา้ มมมุ
ดา้ นประชดิ มุม
= tan−1( 2.05) ตอบ
4.00
= 27 องศา
54
3. หาพนื้ ทฝี่ ้าเพดานท้งั หมด
พ้นื ที่ฝ้าเพดานท้งั หมด = พื้นท่ีรูปสเ่ี หลีย่ มผืนผา้ จำนวน 4 รปู
= [ 0.50 × ระยะลาดเอียงของชายคา × ผลบวกของ
ดา้ นคู่ขนาน] × 4
= [ 0.50 × ระยะยืน่ ของชายคา × ผลบวกของดา้ นค่ขู นาน] × 4
cos มุมลาดเอยี ง
= [ 0.50 × 1.50 × ผลบวกของดา้ นคขู่ นาน] × 4
cos 27°
= (0.50 × 1.68 × 19.00) ×4
= 15.96 × 4
= 63.84 ตร.ม. ตอบ
4. ปริมาณวสั ดุงานฝ้าเพดานชายหลงั คาทงั้ หมด
ฝ้าระแนงไมเ้ นือ้ แข็ง 1/2" × 4'' ตีเว้นร่อง 0.50 ซม. โครงคร่าวไมเ้ น้อื แข็งขนาด 1 1/2" × 3''
ตเี วน้ ร่อง 0.50 ซม.
= พื้นที่ทงั้ หมด × ปรมิ าณวัสดุตอ่ 1 ตารางเมตร
ระแนงไมเ้ นื้อแขง็ = 63.84 × 0.50= 31.92 ลบ.ฟ. ตอบ
โครงคร่าวไม้ = 63.84 × 0.41 = 31.92 ลบ.ฟ. ตอบ
ตะปู = 63.84 × 0.15 = 9.58 กก. ตอบ
55
ตัวอย่างท่ี 3.4 จากแบบก่อสร้างและขอ้ มูลทกี่ ำหนดให้ตอ่ ไปนี้ จงคำนวณหาปรมิ าณวสั ดงุ านตกแต่ง
ฝา้ เพดานชายคาหลงั คาเพิงแหงนซง่ึ ติดตง้ั ระดบั ฝ้าเพดานแบบลาดเอยี งตามองศาของหลังคา (มุมลาด
เอียง 6 องศา)
- ฝา้ เพดานฝา้ แผน่ เรียบไฟเบอร์ซีเมนต์ หนา 4 มม. ขนาด 1.20 × 2.40 ม.
โครงคร่าวไม้เนือ้ แขง็ ขนาด 1 1/2" × 3'' @ 0.60×0.60 ม.
56
57
วธิ ที ำ
1. แบ่งพืน้ ทีฝ่ ้าเพดานชายคาหลังคาตามแนวเสาจากแบบแปลนพื้นหลงั คาไดจ้ ำนวน 4 พน้ื ท่ี โดย
พนื้ ที่เทา่ กนั กำหนดให้มีหมายเลขเดยี วกัน ดังในรปู ต่อไปน้ี
58
2. หาพืน้ ที่ฝา้ เพดานทั้งหมด
2.1 พน้ื ที่หมายเลข 1 จำนวน 2 พน้ื ท่ี
= ระยะลาดเอยี งของชายคา × ความยาวของชายคา × 2
= ระยะยื่นของชายคา × ความยาวของชายคา × 2
cos มมุ ลาดเอียง
= 1.50 × 11.60 × 2
cos 6°
= 1.51 × 11.60 × 2
= 35.03 ตร.ม. ตอบ
2.2 พ้นื ทีห่ มายเลข 2 จำนวน 2 พื้นที่
= ระยะลาดเอยี งของชายคา × ความยาวของชายคา × 2
= ระยะยน่ื ของชายคา × ความยาวของชายคา × 2
cos มุมลาดเอียง
59
= 1.30 × 9.60 × 2
cos 6°
= 1.31 × 9.60 × 2
= 25.15 ตร.ม. ตอบ
2.3 รวมพ้ืนท่ฝี า้ เพดานทัง้ หมด
= พ้นื ที่ 1 + พ้ืนที่ 2
= 35.03 + 25.15
= 60.18 ตร.ม. ตอบ
3. ปริมาณวสั ดุงานฝ้าเพดานชายคาหลงั คาท้งั หมด
ฝ้าเพดานกระเบอื้ งแผน่ เรียบไฟเบอร์ซีเมนต์ หนา 4 มม. ขนาด 1.20 × 2.40 ม.
โครงครา่ วไม้เนอ้ื แขง็ ขนาด 1 1/2" × 3'' @ 0.60×0.60 ม.
= พน้ื ท่ีทั้งหมด × ปริมาณวัสดุตอ่ 1 ตารางเมตร
ระแนงไมเ้ น้อื แขง็ = 60.18 × 0.40 = 25 แผ่น ตอบ
โครงคร่าวไม้ = 60.18 × 0.56 = 33.70 ลบ.ฟ. ตอบ
ตะปู = 60.18 × 0.20 = 12.04 กก. ตอบ
60
3.6 การหาปริมาณวัสดุงานไมม้ อบฝา้ เพดาน
ไม้มอบฝ้าเพดาน คือองค์ประกอบตกแต่งเสริมบริเวณขอบฝ้าเพดานทุกด้าน เพื่อช่วยปกปิด
รอยต่อระหวา่ งพื้นกับผนังหรอื เสากับฝ้าเพดาน รวมถงึ ปลายเชงิ ชายกับฝ้าเพดานชายคาและป้องกัน
สัตว์เลก็ และแมลงเขา้ ไปภายในอาคาร วสั ดทุ น่ี ิยมนำมาใชใ้ นงานไม้มอบฝา้ เพดาน ไดแ้ ก่ ไมเ้ น้ือแข็ง
ไม้สงั เคราะห์ พีวีซี อะลูมเิ นยี ม ฯลฯ การคำนวณหาปรมิ าณงานไมม้ อบฝ้าเพดาน จพะคำนวณหาความ
ยาวของวสั ดุแตล่ ะประเภท โดยวัดระยะความยาวของผนงั ภายในห้องแต่ละหอ้ งตามแบบแปลนหลังคา
จะไดป้ ริมาณไมฝ้ ้าเพดานท้งั หมดเปน็ จำนวนเมตร (ม.)
ตัวอย่างที่ 3.5 จากแบบก่อสร้างตามตัวอย่างที่ 3.4 จงคำนวณหาปริมาณวัสดุงานไม้มอบฝ้าเพดาน
ชายคาทงั้ หมด
วธิ ีทำ
จากแบบแปลนชายคาหลังคา สามารถหาความยาวของไม้มอบฝ้าเพดานทั้งหมดจามเส้นรอบรปู
ของฝา้ เพดานชายคาทั้งหมดดงั รูปต่อไปน้ี
61
ความยาวของไม้มอบฝ้าเพดานท้ังหมด = เส้นรอบรูปชายคาภายนอก + เสน้ รอบรปู ชายคาภายใน
1. เสน้ รอบรปู ชายคาภายนอก = (ความกว้าง + ความยาว ) ×2
= (11.00 + 12.60 ) × 2
= 48.40 ม. ตอบ
2. เสน้ รอบรูปชายคาภายใน = (ความกวา้ ง + ความยาว ) ×2
= (9.00 + 9.60 ) × 2
= 37.20 ม. ตอบ
3. รวมความยาวของไม้มอบฝา้ เพดานท้งั หมด = 48.40 + 37.20
= 85.60
ตอบ
62
บทที่ 4
งานประตแู ละหน้าต่าง
ประตู (Door) เปน็ ชอ่ งเปดิ บนผนัง ใช้ปดิ กนั้ และเป็นทางเขา้ ไปยงั พื้นทีส่ ว่ นต่าง ๆ ของอาคารที่ถูก
ปิดไว้ สัญลักษณ์ทร่ี ะบุในรูปแบบก่อสร้างใช้ตวั อักษร “D” หรือ “ป” แล้วตามดว้ ยตัวเลขฮินดูอารบิก
เขยี นไว้ในรูปวงกลม เช่น D1, D2 หรือ ป1, ป2 เป็นตน้ สว่ นหน้าตา่ ง (Window) เปน็ ช่องเปิดบนผนงั
ที่ใช้ประโยชน์หลักด้านการยอมให้แสง ลม หรือเสียงผ่านเข้ามาในตัวอาคารสัญลักษณ์ที่ระบุใน
รูปแบบก่อสร้างใช้ตัวอักษร “W” หรือ “น” เขียนไว้ในรูปหกเหลี่ยม ผู้ประมาณราคาต้องศึกษา
องค์ประกอบหลักของงานประตูและหน้าต่างคือ วงกบ กรอบบาน ลูกฟัก และอุปกรณ์สำหรับการ
ตดิ ตัง้ งานประตูและหนา้ ต่าง เพอ่ื แยกรายการวัสดุท่ใี ชใ้ นการกอ่ สร้างแต่ละชนิด
4.1 ประเภทของประตแู ละหน้าต่าง
ประตแู ละหน้าต่าง สามารถแบ่งประเภทตามลักษณะการเปดิ ปดิ ได้ดงั นี้
4.1.1 ประเภทของประตู
1. ประตบู านเปิด คอื ประตูท่ีสามารถเปดิ ได้กว้างถงึ 180 องศา โดยเลอื กเปดิ เข้าหรอื ออกที่ฝัง่ ใด
ฝั่งหนึ่งของผนัง ประกอบด้วยแบบบานเปิดเดี่ยวและแบบบานเปิดคู่ ประตูลักษณะนี้จะกินเนื้อท่ี
บริเวณท่ีประตูเปิดออกไป นยิ มใช้งานประตทู างเข้าอาคารหรือประตภู ายในอาคารที่เปิดเข้าสู่ห้องแต่
ละห้อง รวมถึงประตหู ้องน้ำ
2. ประตูบานสวงิ คือประตทู ีม่ ีลกั ษณะคลา้ ยกบั ประตบู านเปิด แตแ่ ตกต่างกันที่สามารถเปดิ ได้
ท้งั สองฝง่ั ของผนงั โดยการผลกั หรอื ดึง เม่อื เปิดแล้วบานประตจู ะดีดตวั กลับอตั โนมตั ิ
3. ประตูบานเฟี้ยม คือประตูที่นำประตูบานเล็ก ๆ มาต่อกันด้วยบานพับ โดยพับทบสลับกันไป
รวมที่ดา้ นใดด้านหนึง่ หรอื ท้งั สองดา้ น ทำใหเ้ ปิดได้กว้างและใช้เนอื้ ทน่ี อ้ ย นิยมนำมาใช้แบ่งพน้ื ทหี่ รือ
เป็นฉากกัน้ ห้อง
4. ประตูบานหมุน คือประตูที่ติดตั้งจุดหมุนไว้กลางบาน หากมีการติดตั้งบานเดียวจะเหลือช่อง
ประตูสามารถใช้งานเข้าออกไดแ้ ค่ครึ่งเดยี ว เป็นประตูที่เหมาะสำหรับการกั้นแบ่งพื้นทภ่ี ายในบ้าน
5. ประตบู านเล่ือน คอื ประตูท่มี ีลกั ษณะเป็นบานเลอ่ื นไปทางด้านข้างตามแนวผนัง เพ่ือประหยัด
พื้นท่ี ประกอบด้วยแบบใช้รางเลื่อนด้านล่าง และแบบใช้รางเลื่อนบน มีทั้งแบบบานเลื่อนเดีย่ วและ
บานเล่ือนคู่
63
4.1.2 ประเภทของหน้าตา่ ง
1. หน้าต่างบานเปิด คอื หน้าต่างท่ีมีลักษณะเปน็ บานเปิดออกจากตัวอาคาร สามารถรับแสงและ
ลมได้เต็มท่ที กุ บาน แตเ่ มอื่ เปิดจะกนิ พืน้ ทบ่ี รเิ วณนอกบ้าน
2. หน้าต่างบานเลื่อน คือหน้าต่างที่มีลักษณะเป็นบานเลื่อนไปตามแนวของผนัง เมื่อเลื่อนบาน
เปิดจะไดพ้ นื้ ทร่ี บั ลมลดลงเหลือเพียงหนงึ่ ชอ่ ง เนอื่ งจากต้องมพี ื้นท่ีสำหรบั บานเลือ่ นไปทับซ้อนกัน
3. หน้าต่างบานยก คือหน้าต่างที่มีลักษณะคล้ายหน้าต่างบานเลื่อน แตกต่างกันเพียงการ
ออกแบบให้ติดตัง้ อุปกรณ์บดิ ลอ็ คเพื่อเปิดหนา้ ต่างค้างไวแ้ ละยกบานลงเพื่อปิด สามารถเปดิ รับอากาศ
ภายนอกไดค้ รึ่งนงึ ของพ้ืนท่ีหน้าตา่ ง
4. หน้าต่างบานกระทุ้ง คือหน้าต่างที่มีบานพับชนิดปรับมุมติดอยู่ 2 ด้าน ใช้วิธีเปิดโดยการดัน
บานหน้าต่างจากด้านล่างออกไป เมื่อเปิดแล้วบานหน้าต่างจะทำหน้าที่เป็นกันสาดได้ด้วย เหมาะ
สำหรับใชใ้ นบรเิ วณที่ห่างจากทางสญั จรของคนทว่ั ไปหรือในระดบั เหนอื ศรี ษะ
5. หน้าต่างบานพลิก คือหน้าต่างที่มีเดอื ยเป็นจดุ ศูนย์กลางของการหมุนอยู่ระหว่างกลางของวง
กบ ใช้วิธีเปิดโดยการผลกั ให้บานหน้าตา่ งพลิกไปมา มที ง้ั แบบแนวตง้ั และแนวนอน แต่ขณะเปิดจะกิน
พ้นื ท่ีทงั้ ภายในและภายนอกอย่างละคร่ึงบาน ซง่ึ อาจทำให้กดี ขวางเนื้อทีใ่ ชส้ อยภายในอาคาร
6. หน้าต่างบานเกล็ด คือหน้าต่างที่ไม่มีบานปิดเปิดสู่ภายในหรือภายนอก แต่มีช่องเปิดสำหรับ
ระบายอากาศ รบั ลมและแสงสวา่ งจากภายนอก โดยการหมุนปรบั องศาของบานเกลด็
4.2 วสั ดุท่ีใช้ในงานประตูและหนา้ ต่าง
วัสดุทีใ่ ช้ในการกอ่ สรา้ งงานประตูและหน้าต่าง มดี ังน้ี
1. ไม้เนื้อแข็ง เป็นวัสดุที่มีความสวยงามตามธรรมชาติจากสีและลายของไม้ มีความทนทาน ใช้
งานได้นาน แต่เป็นวสั ดุทีป่ จั จุบันหาไดย้ าก
2. เหล็ก เป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทาน เหมาะสำหรับนำมาประกอบเป็นประตูและหน้าต่าง
ของอาคารทีต่ ้องการความแข็งแรงเปน็ พเิ ศษ เชน่ ในโรงงาน โรงรถ หอ้ งเก็บของ โกดงั แต่เป็นวัสดุท่ี
มกั มีปัญหาดา้ นการเกิดสนมิ การผุกรอ่ น และมนี ำ้ หนกั มาก
3. อะลูมิเนียม เป็นวัสดุที่นิยมนำมาใช้เป็นประตูและหน้าต่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากมีสีให้
เลือกใช้หลายสี เช่น สีชา สีน้ำตาลเข้ม สีขาว สีดำ หรือสีธรรมชาติ หาซื้อได้ง่าย ราคาไม่แพง แต่ไม่
เหมาะสำหรับใช้กับงานประตูและหน้าตา่ งภายนอกอาคาร เนื่องจากรอยต่อมุมวงกบและบานกรอบ
เปน็ การต่อชน ไม่เชอื่ มตดิ กนั ซึ่งอาจทำให้เกิดช่องว่างใหน้ ำ้ ซึมเขา้ มาในตัวอาคาร
64
4. ไวนิลหรือยูพีวีซี เป็นวัสดุนวัตกรรมใหม่ ซึ่งมีคุณสมบัติที่ดีในการใช้สำหรับงานประตูและ
หน้าต่างภายนอกอาคาร เนื่องจากทนต่อสภาพอากาศและแรงกระแทกได้ดี จึงเป็นตัวเลือกที่
เหมาะสมกับพน้ื ทีต่ ดิ ทะเล
5. กระจก เปน็ วัสดทุ ี่นำมาใช้ในสว่ นของลูกฟักประตแู ละหน้าต่าง สามารถเลือกขนาดของกระจก
ได้ตามความต้องการ
4.3 หลักเกณฑ์การประมาณราคางานประตแู ละหน้าต่าง
กรมบัญชีกลางได้กำหนดหลักเกณฑ์การคำนวณราคากลางงานก่อสร้างอาคาร เกี่ยวกับการ
ประมาณราคางานประตูและหน้าตา่ งไวด้ ังนี้
1. ปริมาณหรือจำนวนของประตูและหน้าต่างมีหน่วยเป็นชุดในการคำนวณปริมาณ ให้คำนวณ
หรือนบั แยกเป็นปรมิ าณของประตูและหน้าตา่ งแต่ละชนดิ หรือแตล่ ะแบบตามสญั ลกั ษณ์ที่กำหนดใน
แบบแปลน (แบบกอ่ สรา้ ง) หรอื แบบขยายงานประตูและหนา้ ตา่ ง เชน่ ป1, ป2, ป3, ป4, น1, น2, น3,
น4 เป็นต้น เมื่อรวมจำนวนที่นับได้ของทุกชนิดหรือทุกแบบจะได้ปริมาณงานหรือจำนวนของประตู
และหนา้ ต่างท้ังหมดเป็นจำนวนชดุ
2. สำหรับรายละเอียดประกอบการถอดแบบเพื่อคำนวณปริมาณและราคาสำหรับวัสดุอุปกรณ์
หรอื ส่วนประกอบของงานประตหู น้าตา่ งมีดังน้ี
(1) วงกบประตูและหนา้ ต่าง ใหค้ ำนวณปริมาณเปน็ จำนวนชุด และสามารถแยกรายการวัสดุ
ที่ใช้ทำวงกบประตูและหน้าต่างได้ตามรูปแบบที่ต้องการ หรือจะใช้วิธีสืบจากผู้ผลิตหรือสืบใน
ท้องตลาดตามความเหมาะสมและสอดคล้องขอ้ เทจ็ จรงิ
(2) บานประตแู ละหนา้ ตา่ ง ใหค้ ำนวณปริมาณเป็นจำนวนบาน และสามารถแยกรายการวัสดุ
ใช้ทำบานประตูและหน้าต่างได้ตามรูปแบบที่ต้องการ หรือจะใช้วิธีสืบจากผู้ผลิตในท้องตลาดตาม
ความเหมาะสมและสอดคล้องขอ้ เท็จจริง
(3) อุปกรณ์ประตูและหน้าต่าง ให้คำนวณปริมาณเป็นชุดหรืออัน แล้วแต่วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้
โดยคำนวณแยกอุปกรณ์ประตูและหน้าต่างตามที่กำหนดตามรูปแบบรายการ (แบบก่อสร้าง) เมื่อ
รวมกันท้ังหมดแลว้ ได้เปน็ จำนวนชุดหรอื อัน
(4) การคำนวณปริมาณงานกระจกประตูและหน้าต่างมีหน่วยเป็นตารางฟุต โดยให้คำนวณ
แยกปรมิ าณงานตามชนดิ และความหนา เช่น กระจกใสหนา 2 หุน, หระจกฝา้ หนา 1-1/2 หุน เป็นต้น
เม่ือรวมกนั ทงั้ หมดแล้ว ไดเ้ ป็นจำนวตารางฟุต (ตร.ฟ., ฟ3)
65
(5) อุปกรณ์พิเศษอื่น ๆ เช่น ระบบเปิดปิดอัตโนมัติ ระบบคีย์การ์ด หรือ อื่น ๆ ให้คำนวณ
แยกปริมาณงานตามอปุ กรณต์ ามท่ีกำหนดรปู แบบรายการ ซึ่งเม่อื รวมกนั แลว้ จะได้เป็นจำนวนชดุ หรือ
อัน
4.4 การหาปริมาณวัสดุงานประตแู ละหน้าตา่ ง
กาประมาณราคางานประตูและหนา้ ตา่ ง มีวธิ กี ารดงั นี้
1. ศึกษาแบบแปลนพื้นหือผังพื้นของอาคารแต่ละชั้นและนับจำนวนประตูและหน้าต่างแยกตาม
สัญลกั ษณ์ เชน่ ป1, ป2, ป3, น1, น2, น3 ไดห้ น่วยเปน็ จำนวนชุด
2. ศกึ ษาแบบขยายประตแู ละหน้าต่าง เพอ่ื ใหท้ ราบขนาดและชนดิ ของวัสดุที่ใช้เป็นส่วนประกอบ
ของประตแู ละหน้าต่าง และรายการประกอบแบบ
3. แยกรายการวัสดุ เช่น วงกบ กรอบบาน ลูกฟักกระจก และอุปกรณ์ตา่ ง ๆ แต่ละชนิดที่ระบใุ น
แบบขยายประตูและหน้าตา่ ง และรายการประกอบแบบ ตามหลักเกณ์และข้อมูลราคาวัสดุก่อสร้าง
แต่ละชนดิ
66
ตัวอย่างท่ี 4.1 จากแบบก่อสร้างตอ่ ไปน้ี จงหาปรมิ าณวัสดุงานประตแู ละหนา้ ต่างทั้งหมดของ
บา้ นพกั อาศัยชน้ั เดยี ว
67
68
รายการประกอบแบบประตูและหน้าต่าง
1 วงกบประตูไม้เนอ้ื แข็ง ขนาด 2" × 4'' 7 มือจับหน้าตา่ งสแตนเลส
2 ประตูบานเปิดไมเ้ นือ้ แข็งกลึงลาย 8 วงกบอะลูมเิ นยี มสีอบขาว ขนาด 2" × 4''
3 ประตบู านเปิดไม้เนือ้ ลูกฟักกระจกตดิ 9 ประตบู านเลือ่ นอะลูมิเนยี มสอี บขาว
ตาย ลกู ฟักกระจกใส
4 ลกู บิดประตสู แตนเลส 10 บานเกล็ดกระจกใส พรอ้ มอปุ กรณ์มือ
หมุน
5 บานกระจกฝา้ หนา 5 มม. 11 หน้าตา่ งบานเปดิ อะลูมเิ นียมสีอบขาว
ลกู ฟักกระจกใส
6 บานกระจกใส หนา 6 มม. 12 หน้าตา่ งบานกระทุง้ อะลมู ิเนยี มสีอบขาว
ลกู ฟักกระจกฝา้
วธิ ที ำ
1. งานประตู (นบั จำนวนชดุ จากแบบแปลนพ้ืนตามสัญลกั ษณ์)
D1 = 1 ชุด
D1 = 3 ชุด
D1 = 1 ชุด
2. งานหน้าตา่ ง (นบั จำนวนชดุ จากแบบแปลนพน้ื ตามสัญลกั ษณ์)
W1 = 4 ชดุ
W1 = 1 ชดุ
W1 = 1 ชดุ
W1 = 1 ชุด
W1 = 2 ชุด
69
ตัวอย่างที่ 4.2 จากแบบกอ่ สรา้ งตามตัวอยา่ งท่ี 4.1 จงแยกรายการวสั ดุงานประตูของอาคารพักอาศัย
ท้ังหมด
วธิ ที ำ
1. ประตู D1
1.1 นับจำนวนประตูจากแบบแปลนพ้ืน
จำนวนประตู D1 = 1 ชุด
1.2 แยกรายการวสั ดุวสั ดงุ านประตู D1 ตามรายการประกอบแบบ
- กระจกใส หนา 6 มม.
ปริมาณกระจกใส = พ้ืนทีป่ ระตู 1 ชุด (ไม่รวมวงกบ) × จำนวนชุด
= (2.80 × 2.00) × 1
= 5.60 ตร.ม.
1 ตร.ม. = 10.76 ตร.ฟ.
= 5.60 × 10.76
ปริมาณกระจกใส หนา 6 มม. ทั้งหมด = 60.26 ตร.ฟ.
ตอบ
- วงกบอะลมู ิเนยี มสีอบขาว
= ความยาวของวงกบประตู 1 ชุด × จำนวนชุด
= [(2.00 × 0.05) × 2] + [(2.80 + (0.05 × 2 ) ×1)
= (4.10 + 2.90) × 1
ความยาววงกบอะลมู ิเนียมท้ังหมด = 7.00 ม.
ตอบ
70
- กรอบบานอะลมู ิเนยี มเคลอื บขาว = ความยาวของกรอบบาน 1 บาน × จำนวน
ความยาวของกรอบบานทง้ั หมด
บาน × จำนวนชดุ
= (ความสงู + ความกวา้ ง) × 2
ความยาวของกรอบบาน 1 บาน = [ 2.00 + (1.40/2)] × 2
= 2.70 × 2
จำนวนบาน = 5.40 ม.
จำนวนชดุ = 4 บาน (ดูจากแบบขยายประต)ู
ความยาวของกรอบบานทง้ั หมด = 1 ชุด (ดจู ากแบบแปลนพื้น)
= 5.40 × 4× 1
2. ประตู D2 = 21.60 ม.
2.นบั จำนวนประตูจากแบบแปลนพนื้
จำนวนประตู D2 = 3 ชุด
2.2 แยกรายการวัสดงุ านประตู D2 ตามรายการประกอบแบบ
- วงกบประตู
วงกบประตูไมเ้ นือ้ แข็ง ขนาด 2" × 4'' = 3 ชุด
ปรมิ าตรไม้ท้ังหมด = ความยาววงกบประตูทัง้ หมด × ปรมิ าตรไมต้ อ่ เมตร
(ภาคผนวก ง)
71
ความยาวของวงกบประตูท้ังหมด = [(ความสงู × 2)+ ความกว้าง] × จำนวชดุ
= [(2.05×2) + 0.90] ×3
= 15 ม.
ปรมิ าตรไมท้ ั้งหมด = 15 × 0.1824
= 2.736 ลบ.ฟ. ตอบ
- บานประตู
บานประตไู ม้เน้อื แขง็ กลงึ ลาย ขนาด 0.80 × 2.00 มม. = 3 บาน ตอบ
- ลกู บดิ ประตู
ลูกบดิ ประตูสแตนเลส = 3 ชุด ตอบ
3. ประตู D 3
3.1 นบั จำนวนประตจู ากแบบแปลนพ้ืน
จำนวนประตู D3 = 1 ชดุ
3.2 แยกรายการวสั ดุงานประตู D3 ตามรายการประกอบแบบ
- วงกบประตู
วงกบไมเ้ นอ้ื แขง็ ขนาด 2" × 4'' = 1 ชุด
ปรมิ าตรไมท้ งั้ หมด = ความยาวของวงกบประตูท้ังหมด × ปรมิ าตร
ไมต้ ่อเมตร (ภาคผนวก ง)
ความยาวของวงกบประตูทั้งหมด = [(ความสงู × 2)+ ความกวา้ ง] × จำนวชดุ
= [(1.85×2) + 0.80] ×1
= 4.50 ม.
72
ปริมาตรไมท้ ง้ั หมด = 4.50 × 0.1824 ตอบ
- บานประตู = 0.82 ลบ.ฟ. ตอบ
ตอบ
บานประตูไม้เนื้อแขง็ กลงึ ลาย ขนาด 0.70 × 1.80 มม. = 1 บาน
- ลกู บิดประตู
ลกู บิดประตูสแตนเลส = 1 ชุด
73
ตวั อยา่ งท่ี 4.3 จากแบบกอ่ สรา้ งตามตวั อยา่ งท่ี 4.1 จงแยกรายการวัสดุงานหนา้ ตา่ ง W1
วธิ ีทำ
1. หน้าตา่ ง W1
1.1 นบั จำนวนหน้าตา่ งจากแบบแปลนพน้ื
จำนวนหน้าตา่ ง W1 = 4 ชุด
1.2 แยกรายการวัสดงุ านหน้าตา่ ง W1 ตามรายการประกอบแบบ
- กระจกใส หนา 6 มม.
ปริมาณกระจกใส= พื้นท่ีหนา้ ต่าง 1 ชุด(ไมร่ วมวงกบ) ×จำนวนชุด
= (0.60×1.20×3) ×4
= 8.64 ตร.ม.
1 ตร.ม. = 10.76 ตร.ฟ.
= 8.64 × 10.76
ปริมาณกระจกใส หนา 6 มม.ทง้ั หมด = 92.96 ตร.ฟ. ตอบ
- มอื จับหน้าตา่ งสแตนเลส
มือจับหนา้ ตา่ งสแตนเลส = (จำนวนอัน × จำนวนชุด)
=3×4
= 12 ตอบ
74
- วงกบอะลูมเิ นียมสีอบขาว
= ความยาวของวงกบหนา้ ตา่ ง 1 ชุด×จำนวนชุด
= [(1.20+(0.05×2) ×4)]+[(0.60×3)+(0.05×4) ×2]×4
= (1.30×4) + (2.00×2) ×4
= (5.20 + 4.00) ×4
ความยาววงกบอะลมู ิเนียมท้งั หมด = 36.80 ม. ตอบ
- กรอบบานอะลมู ิเนียมเคลือบขาว
ความยาวของกรอบบานทั้งหมด = ความยาวของกรอบบาน 1 บาน × จำนวนบาน
× จำนวนชดุ
ความยาวของกรอบบาน 1 บาน = (ความสูง + ความกวา้ ง) × 2
= 1.80 × 2
= 3.60 เมตร
จำนวนบาน = 3 บาน (ดูจากแบบขยายประต)ู
จำนวนชุด = 4 ชุด (ดจู ากแบบแปลนพ้นื )
ความยาวของกรอบบานทง้ั หมด = 3.60 ×3×4
= 43.20 ม. ตอบ
75
บทที่ 5
การประมาณราคางานผนังและตกแตง่ ผิวผนัง
ผนงั ของอาคาร แบง่ ออกเป็น 2 ส่วนคอื ผนงั ภายนอกที่ทำหน้าทป่ี กปอ้ งตัวอาคารจากความ
เปลยี่ นแปลงของส่ิงแวดล้อมภายนอก และผนังภายในท่ที ำหนา้ ท่ีแบง่ สว่ นใช้สอยตา่ ง ๆ ของอาคารให้
เป็นสัดส่วน วัสดทุ ีน่ ำมาใช้ในการก่อสร้างผนงั มีหลากหลายชนดิ ตามวตั ถุประสงค์ของการใช้งาน เช่น
ผนังกอ่ อิฐ ฉาบปนู ผนังเบาทีท่ ำจากวัสดุแผ่นใหญ่ชนิดตา่ ง ๆ และผนังกระจกเป็นต้น
5.1 วัสดุทใ่ี ชใ้ นงานก่อผนัง
วัสดทุ ใี่ ช้ในการกอ่ สรา้ งงานกอ่ ผนัง มีดังน้ี
1. อิฐมอญหรืออิฐดินเผา เป็นวัสดุก่อที่มีลักษณะเป็นสีส้มแดง ทำจากดินเหนียวผสมกับแกลบ
หรือวัสดุอื่น ๆ นวดให้เป็นเนื้อเดียวกัน ใส่ในแม่พิมพ์ ตัดทำเป็นแผ่น ผึ่งให้แห้งหรือพอหมาดแล้ว
นำเขา้ เดาผา อฐิ ชนดิ นม้ี ีขนดและสดั ส่วนไม่ตายตัว ข้นึ อยกู่ ับรูปแบบและแหล่งผลิต มที ้งั ประเภทก้อน
ดนั และมรี ตู รงกลาง แตโ่ ดยทั่วไปมี 4 ขนาดตามมาตรฐาน มอก. 77-2545 ไดแ้ ก่ ขนาด 6.5 × 14 ×
4 ชม. 9 × 19 × 4 ซม. 9 × 19 6.5 ซม. และ 9 × 19 × 9 ซม.
2. อิฐบล็อกหรือคอนกรีตบล็อก เป็นวัสดุก่อที่ทำจกส่วนผสมระหว่างปูนซีเมนต์ ทรายหยาบ หิน
เกล็ด และน้ำ ซึ่งมีน้ำหนักมาก จึงออกแบบให้มีรูกลวงเพื่อลดน้ำหนักลง นิยมใช้ในงานก่อสร้าง
เช่นเดียวกับอิฐมอญ แต่มีราดาถูกและก่อสร้างได้รวดเร็วกว่า เหมาะกับงานที่ต้องควบคุมค่าใช้จ่าย
อาจมีความแข็งแรงไม่เท่าอิฐมอญ เพราะวัสดุรพู รุนมากกว่า มีขนาดมาตรฐานโดยทั่วไป หนา 7 ซม.
กวา้ ง 19 ซม. และยาว 39 ซม.
3. อฐิ มวลเบาหรือบล็อกมวลบา เปน็ วสั ดุกอ่ ทผ่ี ลติ จากปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ผสมกับทรายละเอยี ด
ปูนขาว ผงอะลูมินียม น้ำ และสารเพิม่ ฟองอากาศ ใช้เครือ่ งจกั รและกระบวนการผลิตท่ีทันสมัยขนาด
ก้อนจึงได้มาตรฐาน น้ำหนักเบา มีขนาดมาตรฐาน กว้าง 20 × 60 ซม. และมีความหนาตั้งแต่ 7.5,
10, 12.5, 15, 20, 25 ซม.
4. อิฐแกว้ หรอื บล็อกแก้ว เป็นวัสดุก่อที่ผลิตขึน้ มาจากแก้ว เพื่อใช้สำหรบั งานตกแต่งผนังที่ต้องการ
แสงสว่างเพียงอย่างเดียว ไม่ต้องการให้ลมหรือเสียงเล็ดลอดเข้ามา ใช้ได้ทั้งผนังภายในและผนัง
ภายนอก ขนาดโดยท่วั ไปมคี วามหนา 8 ชม. กวา้ ง 10 ชม, และยาว 19 ชม.
5. อิฐประสานหรอื บล็อกประสาน เป็นวัสดุก่อที่พฒั นารูปแบบให้มีรูและเดือยบนตัวบล็อก เพื่อให้
สะดวกในการก่อสร้าง ผลิตจากดินลูกรัง หินฝุ่น และทราย นำมาผสมกับปูนซีเมนต์และน้ำ อัดเป็น
ก้อนด้วยเครื่องอัด แล้วนำมาบ่มให้บล็อกแข็งตัวประมาณ 10 วัน จะได้คอนกรีตบล็อกที่ความ
76
แขง็ แกร่งมีรปู ลกั ษณะพิเศษ สามารถใช้ในการก่อสร้างอาคารต่าง ๆ มหี ลายรปู แบบและหลายขนาด
เชน่ แบบกอ่ ตรง มีความกว้าง 12.5 ชม. ยาว 25 ซม. สงู 10 ชม.
5.2 วสั ดทุ ่ีใช้ในงานกอ่ สรา้ งผนงั เบา
ผนังเบา คือผนังที่ก่อสรา้ งดว้ ยการติดตั้งวัสดุแผ่นใหญ่เข้ากับโครงคร่าว ทำให้มีน้ำหนักน้อยกวา่
ผนังที่ก่อด้วยอิฐชนิดต่าง ๆ หรือผนังคอนกรีตเสริมเหล็ก จึงเรียกชื่อว่า "ผนังเบา"สำหรับวัสดุแผ่น
ใหญ่ท่นี ยิ มใชท้ ำผนังเบา มีดังน้ี
1. ไม้ เป็นวัสดุงานก่อสร้างผนังที่มีลักษณะเป็นแผ่นบางขนาดประมาณ 1/2" × 6" ติดตั้งได้ 2
รูปแบบคือ แบบตีซ้อนเกล็ดแนวนอนและตีซ้อนเกล็ดแนวตั้ง ทับบนโครงคร่าวที่เว้นระยะห่าง
ประมาณ 50 - 60 ซม. มคี ณุ สมบัตสิ ามารถกอ่ สรา้ งไดง้ า่ ย ไม่อมความร้อน ทำให้ภายในหอ้ งเย็น
2. ไฟเบอรซ์ ีมนต์ เปน็ วัสดงุ านกอ่ สร้างผนังทอี่ อกแบบใหม้ ีความสวยงามเหมือนไมเ้ พื่อทดแทนไม้
ที่มีราคาแพงและหายากในปจั จุบัน มีความยืดหยุ่นและมีความเหนียว ทนความชื้น ไม่มีปัญหาคดงอ
หรือบดิ ตัว อกี ท้งั ยงั ทนทานจากปลวกและแมลงอีกสามารถติดตัง้ บนโครงครา่ วไมห้ รอื โครงคร่าวเหล็ก
ได้ ใชไ้ ด้ท้งั ผนงั ภายในและภายนอกอาคาร
3. แผ่นยิปซัมบอรด์ เป็นวัสดุท่ีผลติ จากผงแร่ยิปชั่มอดั แน่นแลว้ ยึดด้วยกระดาษเหนียวชนิดพิเศษ
ทั้งสองหน้า ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นฉนวนป้องกันความร้อน มีน้ำหนักเบา ขนย้ายและติดตั้งได้สะดวก
ขนาดกว้าง 1.20 ม. ยาว 2.40 ม. หนา 9, 12, และ 15 มม. เหมาะสำหรับงานผนังภายในเทา่ นนั้ ไม่
ควรติดตง้ั ในบริเวณทีค่ วามเปยี กช้นื ซมึ ถึง เพราะจะทำใหแ้ ร่ยปิ ซมั เป่อื ยยุ่ยและหลดุ ร่วงได้
4. กระเบอื้ งแผน่ เรียบ เปน็ วัสดุที่กอ่ สรา้ งผนงั ที่ผลิตจากส่วนผสมของปูนซีเมนด์ปอร์ตแลนด์กับแร่
ใยหินและน้ำ มีคุณสมบัติในการรับแรงดึงและแรงบิดงอได้ดี ไว้ได้ทั้งภายในและภายนอก มีความ
แขง็ แรง ทนทานตอ่ แดด ฝน ตดิ ตัง้ งา่ ย สะดวกรวดเร็ว ขนาดมาตรฐานทัว่ ไป กว้าง 1.20 ม, ยาว 2.40
ม, ความหนา 4 มม., 6 มม. และ 8 มม.
5.3 หลกั เกณฑ์การประมาณราคางานผนงั และตกแตง่ ผวิ ผนงั
กรมบัญชีกลาง ได้กำหนดหลักเกณฑ์การคำนวณราคากลางงานก่อสร้างอาคารเกี่ยวกับการ
ประมาณราคางานผนังและตกแต่งผิวผนังไวด้ ังน้ี
1. งานผนัง การคำนวณปรมิ าณงานผนัง หมายถึงการคำนวณหาพืน้ ทีข่ องผนงั ที่เป็นวัสดกุ ่อหรอื
วัสดุชนิแผ่นตียึดพร้อมโครงคราวชนิดต่าง ๆ เช่น ผนังไม้อัดซีเมนต์ ผนังไฟเบอร์เมนต์ ผนังยิปชั่ม
บอร์ด ผนังไม้ฝาสำเร็จรูป ผนังก่ออิฐ ผนังก่ออิฐมวลเบา และผนังกระเบื้องแผ่นเรียบ เป็นต้น ให้
คำนวณโดยการคำนวณหาพน้ื ทตี่ ามระยะท่ีกำหนดในแบบแปลน (แบบกอ่ สร้าง) หรือระยะทวี่ ัดไดจ้ รงิ
แลว้ รวมงานผนงั แตล่ ะชนิด จำนวนเปน็ ตารางเมตร (ตร.ม.ม2.)
77
2. งานฉาบปูน การคำนวณหาปรมิ าณงานฉาบปูนมีหนว่ ยเปน็ ตารางเมตร โดยให้คำนวณหาพ้ืนที่
ของงานฉาบปนู แต่ละประเภท แต่ละงาน หรอื แตล่ ะส่วน ตามระยะท่ีกำหนดในแบบแปลนหรือระยะ
ท่ีวดั ได้จรงิ เช่น งานผนังฉาบปนู เรยี บ งานฉาบปูนเพดาน และงานฉาบปูนโครงสรา้ ง เป็นตนั รวมงาน
ฉาบแต่ละชนิดจำนวนเปน็ ตารางเมตร (ตร.ม, ม2.)
3. งานวัสดุตกแต่งผิวผนัง การคำนวณหาปริมาณงานมีหน่วยเป็นตารางเมตร โดยคำนวณแยก
เป็นปรมิ าณของวสั ดุบุผนังแต่ละชนิดหรอื แตล่ ะแบบ ตามขนาด ชนิด หรือคณุ ลกั ษณะท่ีตา่ งกนั ตามท่ี
กำหนดในแบบแปลนหรอื รายการประกอบแบบ เชน่ ผนงั บุกระเบ้ืองดินเผาเคลอื บเซรามิก ขนาด
8" × 8", 8" × 10" ผนังบุหินอ่อนนาด 0.30 × 0.60 ม. และผนังทำผิวหินทรายล้าง เป็นตัน เม่ือ
คำนวณหาพื้นที่ของงานแต่ละชนิดหรือแต่ละแบบแล้วให้รวมงานตกแต่งผิวแต่ละชนิด จำนวนเป็น
ตารางเมตร (ตร.ม., ม2. )
5.4 วิธกี ารประมาณราคางานผนัง
การประมาณราคางานผนังและตกแตง่ ผนัง มวี ธิ กี ารดังน้ี
1. ศึกษาแบบแปลนพื้นของอคารแตล่ ะชั้น หาดวามยาวของผนังแต่ละสญั ลักษณ์ตามแบบแปลน
โดยสัญลักษณ์งานผนังจะใช้หมายเลขหรือตัวอักษร "ผ" แล้วตามด้วยตัวเลขอยู่ภายในกรอบรูป
สามเหลี่ยม เมือ่ รวมความยาวของผนังแยกตามสัญลกั ษณ์ท่ีระบใุ นแบบแปลนพ้นื ได้หนว่ ยเปน็ จำนวน
เมตร
2. ศึกษาความสูงของผนังจากรูปตัดอาคาร จากนั้นคำนวณหาพื้นที่ของผนังทั้งหมดแยกตาม
สัญลักษณ์ โดยนำความยาวของผนังคูณด้วยความสูงของผนัง ได้พื้นที่ผนังรวมทั้งหมด หน่วยเป็น
จำนวนตารางเมตร
3. นับจำนวนประตูและหน้าต่างจากแบบแปลนพ้ืนหรือผังพื้นของอาคารแต่ละชั้น โดยแยกตาม
สญั ลกั ษณ์ท่รี ะบใุ นแบบแปลนพน้ื ไดเ้ ปน็ จำนวนชดุ
4. ศึกษาแบบขยายประตูและหนต่าง เพื่อให้ทราบขนาดของช่องประตูและหน้าต่างแต่ละ
สัญลักษณ์ จากนั้นคำนวณหาพื้นที่ช่องประตูและหน้าต่างทั้งหมด โดยนำความกว้างคูณความยาว
(รวมวงกบ) แล้วคูณด้วยจำนวนชุดของประตูและหน้าต่างแต่ละสัญลักษณ์ ได้พื้นท่ีช่องประตูและ
หนา้ ตา่ งท่ีตอ้ งหกั ออก หน่วยเปน็ จำนวนตารางเมตร
5. นำพน้ื ทผ่ี นังรวมท้งั หมดลบดว้ ยพ้ืนทชี่ อ่ งประตูและหน้าต่างที่ตอ้ งหกั ออก ไดพ้ นื้ ท่สี ุทธิของผนัง
หน่วยเปน็ จำนวนตารางเมตร
6. แยกรายการวสั ดทุ ่ีใช้ในการกอ่ สรา้ งแตล่ ะรายการ
78
5.5 การหาปริมาณวสั ดงุ านผนังกอ่ อิฐ
กรมบัญชีกลาง กรทรวงการคลัง ได้กำหนดวัสดมุ วลรวมของงานก่อผนงั วสั ดุชนิดตา่ ง ๆ ไว้ดงั นี้
1. งานผนังก่ออิฐมอญและคอนกรตี บลอ็ ก
ปริมาณวัสดมุ วลรวม/1 ตร.ม.
งานผนังก่ออิฐชนิดต่าง ๆ อฐิ ปูนซีเมนต์ นำ้ ยาปูนผสม ทรายหยาบ น้ำ
(กอ้ น) ผสม ปูนกอ่ (ลบ.ม.) (ลติ ร)
(กก.) (ลิตร)
ผนังกอ่ อฐิ มอญ (ก่อครงึ่ แผ่น) 138 16.01 0.40 0.05 10
ผนังกอ่ อิฐมอญ (ก่อเตม็ แผน่ ) 276 34.00 0.80 0.12 20
ผนังกอ่ อฐิ กลวงไม่รับน้ำหนกั 37 5.48 0.15 0.03 4
(ก่อครึ่งแผ่น)
ผนังก่ออฐิ กลวงไมร่ บั น้ำหนัก 74 10.96 0.30 0.06 8.36
(ก่อครงึ่ แผน่ )
ผนังก่ออิฐดินเผาชนิดทนไฟ 53 5.50 0.15 0.03 4.15
(ก่อครง่ึ แผ่น)
ปรมิ าณวสั ดมุ วลรวม/1 ตร.ม.
งานผนงั ก่ออฐิ ชนดิ ตา่ ง ๆ อฐิ ปนู ซีเมนต์ นำ้ ยาปูนผสม ทรายหยาบ นำ้
ผนังกอ่ คอนกรีตบล็อก (ก้อน) ผสม ปูนก่อ (ลบ.ม.) (ลติ ร)
(กก.) (ลติ ร) 5
13 6.75 0.18 0.03
ขนาด 19 × 39 × 7 ซม.
ผนงั กอ่ คอนกรตี บลอ็ ก 13 9.47 0.25 0.4 7
ขนาด 19 × 39 × 9 ซม.
ผนังก่อคอนกรีตบล็อกชนดิ ช่อง 13 9.47 0.25 0.04 7
ลม ขนาด 19 × 39 × 9 ซม.
ผนังกอ่ คอนกรีตบล็อกชนดิ กนั 13 9.47 0.25 0.04 7
ฝนลน้ิ คู่ ขนาด 19 × 39 × 9
ซม.
ทม่ี า : กรมบัญชีกลาง. 2560 : 159 – 161.