กล่มุ สาระการเรียนรู้ศิลปะ
ทาไมต้องเรยี นศลิ ปะ
กลุ่มสาร ะการเรี ยนรู้ศิลปะเป็นก ลุ่มสาระ ที่ช่วยพั ฒนาให้ผู้เรียนมีความคิดริเร่ิมสร้ างสรร ค์
มจี ินตนาการทางศิลปะ ชืน่ ชมความงาม มีสนุ ทรยี ภาพ ความมคี ณุ ค่า ซึ่งมผี ลตอ่ คุณภาพชวี ติ มนุษย์ กจิ กรรมทางศิลปะ
ช่วยพฒั นาผู้เรียนทัง้ ด้านร่างกายจิตใจ สติปัญญา อารมณ์ สงั คม ตลอดจน การนาไปส่กู ารพฒั นาส่ิงแวดลอ้ ม ส่งเสริมให้
ผู้เรียนมีความเช่ือมน่ั ในตนเอง อันเปน็ พ้นื ฐาน ในการศกึ ษาต่อหรือประกอบอาชีพได้
เรียนรู้อะไรในศลิ ปะ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะมุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดความรู้ความเข้าใจ มีทักษะวิธีการทางศิลปะ
เกิดความซาบซึ้งในคุณค่าของศิลปะเปิดโอกาสให้ผู้เรียนแสดงออกอย่างอิสระในศิลปะแขนงต่าง ๆ ประกอบด้วย
สาระสาคญั คือ
ทัศนศิลป์ มีความรู้ความเข้าใจองค์ประกอบศิลป์ ทัศนธาตุ สร้างและนาเสนอผลงานทางทัศนศิลป์จาก
จินตนาการ โดยสามารถใช้อุปกรณ์ท่ีเหมาะสม รวมทั้งสามารถใช้เทคนิควิธีการของศิลปินในการสร้างงานได้อย่างมี
ประสิทธิภาพวิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างทัศนศิลป์ ประวัติศาสตร์และ
วัฒนธรรม เห็นคุณค่างานศิลปะท่ีเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถ่ิน ภูมิปัญญาไทยและสากล ชื่นชม
ประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจาวัน
ดนตรี มีความรู้ความเข้าใจองค์ประกอบดนตรีแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์
วิจารณ์คุณค่าดนตรี ถ่ายทอดความรู้สึก ทางดนตรีอย่างอิสระ ชื่นชมและประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน
เข้าใจความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งดนตรี ประวตั ศิ าสตร์ และวฒั นธรรม เหน็ คุณค่าดนตรี ทเ่ี ป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญา
ท้องถ่นิ ภมู ิปัญญาไทยและสากล ร้องเพลง และเลน่ ดนตรีในรูปแบบต่าง ๆ แสดงความคิดเห็นเก่ียวกับเสียงดนตรี แสดง
ความรู้สึกท่ีมีต่อดนตรีในเชิงสุนทรียะ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างดนตรีกับประเพณีวัฒนธรรมและเหตุการณ์ใน
ประวัตศิ าสตร์
นาฏศลิ ป์ มีความรู้ความเข้าใจองค์ประกอบนาฏศิลป์ แสดงออกทางนาฏศิลป์อย่าสร้างสรรค์ ใช้ศัพท์
เบ้ืองตน้ ทางนาฏศลิ ป์ วิเคราะหว์ พิ ากษ์ วิจารณ์คณุ ค่านาฏศิลป์ ถา่ ยทอดความรู้สึก ความคิดอย่างอิสระ สร้างสรรค์การ
เคลื่อนไหวในรูปแบบตา่ ง ๆ ประยุกต์ใชน้ าฏศลิ ป์ในชีวิตประจาวันเขา้ ใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์กับประวัติศาสตร์
วฒั นธรรม เหน็ คณุ คา่ ของนาฏศิลปท์ ่เี ปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภูมปิ ัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทยและสากล
แผนการจัดการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ โรงเรียนบุญวาทย์วทิ ยาลยั
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
สาระท่ี 1 ทัศนศิลป์
มาตรฐาน ศ 1.1 สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์
คุณค่างานทัศนศลิ ป์ ถ่ายทอดความรูส้ ึก ความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระ ช่ืนชม และประยกุ ต์ใชใ้ นชีวิตประจาวนั
มาตรฐาน ศ 1.2 เขา้ ใจความสัมพนั ธ์ระหว่างทัศนศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่างานทัศนศิลป์ที่
เป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่ิน ภมู ปิ ัญญาไทย และสากล
สาระท่ี 2 ดนตรี
มาตรฐาน ศ 2.2 เขา้ ใจและแสดงออกทางดนตรีอยา่ งสรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษว์ ิจารณ์คุณคา่ ดนตรีถา่ ยทอด
ความรู้สกึ ความคดิ ตอ่ ดนตรีอย่างอสิ ระ ชน่ื ชม และประยกุ ต์ใช้ ในชีวิตประจาวัน
มาตรฐาน ศ 2.2 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างดนตรี ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของดนตรีท่ี เป็นมรดก
ทางวฒั นธรรม ภมู ิปัญญาทอ้ งถิน่ ภมู ิปญั ญาไทยและสากล
สาระที่ 3 นาฏศลิ ป์
มาตรฐาน ศ 3.1เข้าใจ และแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่านาฏศิลป์
ถ่ายทอดความร้สู กึ ความคดิ อย่างอสิ ระ ชื่นชม และประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจาวัน
มาตรฐาน ศ 3.2เขา้ ใจความสมั พันธ์ระหว่างนาฏศลิ ป์ ประวตั ศิ าสตรแ์ ละวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของนาฏศิลป์ท่ีเป็น
มรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน ภูมปิ ัญญาไทยและสากล
แผนการจัดการเรยี นรู้ สาระการเรยี นร้ศู ิลปะ โรงเรยี นบญุ วาทย์วิทยาลัย
จบชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3
รแู้ ละเขา้ ใจเรื่องทัศนธาตแุ ละหลกั การออกแบบและเทคนิคทีห่ ลากหลายในการ สรา้ งงานทัศนศิลป์ ๒ มิติ
และ ๓ มิติ เพ่ือสื่อความหมายและเร่ืองราวต่าง ๆ ได้อย่างมีคุณภาพ วิเคราะห์รูปแบบเนื้อหาและประเมินคุณค่างาน
ทัศนศิลป์ของตนเองและผู้อื่น สามารถเลือกงานทัศนศิลป์โดยใช้เกณฑ์ท่ีกาหนดขึ้นอย่างเหมาะสม สามารถออกแบบ
รูปภาพ สญั ลกั ษณ์ กราฟกิ ในการนาเสนอขอ้ มูลและมคี วามรู้ ทักษะที่จาเป็นด้านอาชีพท่ีเก่ยี วข้องกันกบั งานทศั นศิลป์
รู้และเข้าใจการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการของงานทัศนศิลป์ของชาติและท้องถ่ิน แต่ละยุคสมัย เห็น
คุณคา่ งานทัศนศลิ ป์ที่สะทอ้ นวัฒนธรรมและสามารถเปรียบเทยี บงานทศั นศลิ ป์ท่มี าจากยคุ สมัยและวัฒนธรรมต่าง ๆ
รู้และเข้าใจถึงความแตกต่างทางด้านเสียง องค์ประกอบ อารมณ์ ความรู้สึก ของบทเพลงจากวัฒนธรรม
ต่าง ๆ มีทักษะในการร้อง บรรเลงเครื่องดนตรี ท้ังเดี่ยวและเป็นวงโดยเน้นเทคนิคการร้องบรรเลงอย่างมีคุณภา พ มี
ทักษะในการสร้างสรรค์บทเพลงอย่างง่าย อ่านเขียนโน้ต ในบันไดเสียงที่มีเคร่ืองหมาย แปลงเสียงเบื้องต้นได้ รู้และ
เขา้ ใจถงึ ปัจจยั ทมี่ ีผลตอ่ รูปแบบของผลงานทางดนตรี องคป์ ระกอบของผลงานด้านดนตรีกับศิลปะแขนงอ่ืน แสดงความ
คดิ เหน็ และบรรยายอารมณ์ความรสู้ ึกที่มีตอ่ บทเพลง สามารถนาเสนอบทเพลงที่ช่นื ชอบได้อย่างมเี หตุผล มีทักษะในการ
ประเมินคุณภาพของบทเพลงและการแสดงดนตรี รู้ถงึ อาชพี ตา่ ง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับดนตรีและบทบาทของดนตรีในธุรกิจ
บันเทิง เขา้ ใจถึงอิทธพิ ลของดนตรที ี่มีต่อบคุ คลและสงั คม
รแู้ ละเข้าใจที่มา ความสมั พนั ธ์ อิทธิพลและบทบาทของดนตรีแต่ละวัฒนธรรมในยุคสมัยต่าง ๆ วิเคราะห์ปัจจัย
ท่ีทาใหง้ านดนตรไี ดร้ ับการยอมรบั
รู้และเข้าใจการใช้นาฏยศัพท์หรือศัพท์ทางการละครในการแปลความและส่ือสารผ่านการแสดง รวมท้ัง
พัฒนารูปแบบการแสดง สามารถใช้เกณฑ์ง่าย ๆ ในการพิจารณาคุณภาพการแสดง วิจารณ์เปรียบเทียบงานนาฏศิลป์
โดยใช้ความรเู้ ร่ืององค์ประกอบทางนาฏศลิ ปร์ ว่ มจดั การแสดง นาแนวคิดของการแสดงไปปรบั ใช้ในชวี ติ ประจาวนั
รแู้ ละเขา้ ใจประเภทละครไทยในแตล่ ะยุคสมยั ปจั จัยที่มีผลต่อการเปล่ยี นแปลงของนาฏศลิ ป์ไทย
นาฏศิลป์พื้นบ้าน ละครไทย และละครพ้ืนบ้าน เปรียบเทียบลักษณะเฉพาะ ของการแสดงนาฏศิลป์จาก
วัฒนธรรมต่าง ๆ รวมทั้งสามารถออกแบบและสร้างสรรค์อุปกรณ์ เคร่ืองแต่งกายในการแสดงนาฏศิลป์และละคร มี
ความเขา้ ใจ ความสาคัญ บทบาทของนาฏศลิ ป์ และละครในชวี ติ ประจาวัน
แผนการจัดการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ศิลปะ โรงเรยี นบญุ วาทย์วิทยาลัย
จบชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6
รู้และเข้าใจเกี่ยวกับทัศนธาตุและหลักการออกแบบในการส่ือความหมาย สามารถใช้ศัพท์ทางทัศนศิลป์
อธบิ ายจุดประสงคแ์ ละเน้ือหาของงานทศั นศิลป์ มีทักษะและเทคนิคในการใช้วัสดุ อุปกรณ์และกระบวนการท่ีสูงข้ึนใน
การสรา้ งงานทัศนศิลป์ วิเคราะห์เน้อื หาและแนวคิด เทคนิควธิ ีการ การแสดงออกของศิลปินท้ังไทยและสากล ตลอดจน
การใชเ้ ทคโนโลยีต่าง ๆ ในการออกแบบสรา้ งสรรค์งานท่ีเหมาะสมกับโอกาส สถานท่ี รวมท้ังแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ
สภาพสังคมด้วยภาพล้อเลียนหรือการ์ตูน ตลอดจนประเมินและวิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ด้วยหลักทฤษฎีวิจารณ์
ศลิ ปะ
วิเคราะห์เปรียบเทียบงานทัศนศิลป์ในรูปแบบตะวันออกและรูปแบบตะวันตกเข้าใจอิทธิพล
ของมรดกทางวัฒนธรรมภมู ิปญั ญาระหวา่ งประเทศท่มี ผี ลต่อการสรา้ งสรรค์ งานทัศนศลิ ปใ์ นสงั คม
รู้และเข้าใจรูปแบบบทเพลงและวงดนตรีแต่ละประเภท และจาแนกรูปแบบ ของว งดนตรีท้ังไทยและ
สากล เข้าใจอิทธิพลของวัฒนธรรมต่อการสร้างสรรค์ดนตรี เปรียบเทียบอารมณ์และความรู้สึกที่ได้รับจากดนตรีท่ีมา
จากวัฒนธรรมต่างกัน อา่ น เขยี น โน้ตดนตรีไทยและสากล ในอตั ราจังหวะตา่ ง ๆ มที ักษะในการรอ้ งเพลงหรอื เล่นดนตรี
เดี่ยวและรวมวงโดยเน้นเทคนิค การแสดงออกและคุณภาพของการแสดง สร้างเกณฑ์สาหรับประเมินคุณภาพการ
ประพนั ธ์ การเลน่ ดนตรีของตนเองและผอู้ ืน่ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม สามารถนาดนตรีไประยกุ ต์ใชใ้ นงานอื่น ๆ
วเิ คราะห์ เปรียบเทียบรูปแบบ ลักษณะเด่นของดนตรีไทยและสากลในวัฒนธรรมต่าง ๆ เข้าใจบทบาทของ
ดนตรีที่สะท้อนแนวความคิดและค่านิยมของคนในสังคม สถานะทางสังคม ของนักดนตรีในวัฒนธรรมต่าง ๆ สร้าง
แนวทางและมีส่วนร่วมในการสง่ เสริมและอนุรักษ์ดนตรี
มีทักษะในการแสดงหลากหลายรูปแบบ มีความคิดริเริ่มในการแสดงนาฏศิลป์เป็นคู่ และเป็นหมู่
สร้างสรรค์ละครส้ันในรูปแบบท่ีชื่นชอบ สามารถวิเคราะห์แก่นของการแสดงนาฏศิลป์และละครที่ต้องการส่ือ
ความหมายในการแสดง อิทธิพลของเครื่องแต่งกาย แสง สี เสียง ฉาก อุปกรณ์ และสถานที่ท่ีมีผลต่อการแสดง
วจิ ารณ์การแสดงนาฏศลิ ปแ์ ละละคร พัฒนาและใช้เกณฑ์การประเมินในการประเมินการแสดง และสามารถวิเคราะห์
ท่าทางการเคลอ่ื นไหวของผูค้ นในชวี ิตประจาวัน และนามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการแสดง
เขา้ ใจวิวัฒนาการของนาฏศิลป์และการแสดงละครไทย และบทบาทของบุคคลสาคัญ ในวงการนาฏศิลป์
และการละครของประเทศไทยในยุคสมัยต่าง ๆ สามารถเปรียบเทียบการนาการแสดงไปใช้ในโอกาสต่าง ๆ และเสนอ
แนวคดิ ในการอนุรักษน์ าฏศิลป์ไทย
แผนการจัดการเรยี นรู้ สาระการเรยี นร้ศู ิลปะ โรงเรยี นบุญวาทย์วทิ ยาลัย
การวิเคราะหห์ ลักสูตร
วิเคราะหม์ าตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วัด
ศิลปศกึ ษา ศ23101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะ
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หน่วยการเรียน
สาระที่ 1 ทัศนศิลป์
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง / ท้องถ่ิน
มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั ความรู/้ สาระแกนกลาง ทกั ษะกระบวนการ คุณลกั ษณะ สมรรถนะที่
สาคัญ
K (Key Concept) ตวั บง่ ชีพ้ ฤตกิ รรม อนั พึงประสงค์
competence
( P) (A) (C)
ศ 1.1 ม.3/1 บรรยายส่งิ แวดล้อม ทัศนธาตุ หลักการ การคดิ เชิงวเิ คราะห์ 2.ซอ่ื สตั ย์สุจรติ 1.การสื่อสาร
และงานทัศนศิลปท์ ่ีเลือกมาโดยใช้ ออกแบบในส่งิ แวดลอ้ ม 4.ใฝุเรยี นรู้
ความรเู้ รอ่ื งทัศนธาตุ และหลักการ และงานทัศนศิลป์ 4.การใช้ทกั ษะ
ออกแบบ การคดิ สร้างสรรค์ 7.รักความเป็น ชีวติ
ไทย 5.การใช้
ศ 1.1 ม.3/3 วเิ คราะห์ และ วิธกี ารใชท้ ัศนธาตแุ ละ เทคโนโลยี
บรรยายวิธีการใช้ทัศนธาตุ และ หลักการออกแบบในการ 2. การคดิ
หลักการออกแบบในการสร้างงาน สร้างงานทศั นศิลป์
ทศั นศิลป์ของตนเอง ใหม้ คี ุณภาพ 3.การ
แกป้ ญั หา
ศ 1.1 ม.3/5 มที ักษะในการ เทคนคิ วิธีการของศิลปนิ การคิดเชงิ วเิ คราะห์ 2.ซอื่ สตั ย์สุจริต
4.ใฝุเรยี นรู้ 2. การคดิ
ผสมผสาน วัสดุต่าง ๆ ในการสรา้ ง ในการสร้างงานทศั นศลิ ป์ การคิดอย่างมี 5.อยู่อย่าง
เหตุผล พอเพียง 4.การใช้ทักษะ
งานทัศนศิลป์โดยใช้หลักการ ชีวติ
2.ซื่อสัตย์
ออกแบบ 5. อยู่อย่าง
พอเพยี ง
ศ 1.1 ม 3/7 สรา้ งสรรค์งาน การประยุกตใ์ ช้ทัศนธาตุ
ทัศนศิลป์สอื่ ความหมาย เปน็ และหลักการ
เรื่องราว โดยประยกุ ต์ใช้ทัศนธาตุ ออกแบบสร้างงาน
และหลกั การออกแบบ ทัศนศิลป์
ศ 1.1 ม 3/8 วเิ คราะห์และ วเิ คราะหร์ ูปแบบ เนอื้ หา วิเคราะห์และ 4.ใฝรุ ้ใู ฝุเรียน
อภิปรายรปู แบบ เน้อื หา และคุณคา่ และคุณคา่ ในงาน อภปิ รายรปู แบบ
ในทัศนศ์ ิลป์ของ ทัศนศิลป์ เนอ้ื หาและคุณคา่ ใน
งานทัศนศิลปข์ อง
ศลิ ปนิ
ศ 1.1 ม.3/9 สร้างสรรค์งาน การใชเ้ ทคนคิ วธิ กี ารที่ ภาพวาดภาพเขยี น 2.ซื่อสัตยส์ จุ รติ
ทศั นศิลป์เพื่อบรรยายเหตกุ ารณ์ หลากหลายสร้างงาน
งานพิมพ์ภาพ
ต่างๆ โดยใช้เทคนิคที่หลากหลาย ทศั นศิลป์เพ่ือส่ือ
ความหมาย
แผนการจดั การเรยี นรู้ สาระการเรียนร้ศู ิลปะ โรงเรยี นบญุ วาทย์วทิ ยาลยั
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง / ท้องถ่ิน
มาตรฐาน/ตัวชว้ี ดั ความรู้/สาระแกนกลาง ทักษะกระบวนการ คุณลักษณะ สมรรถนะท่ี
สาคญั
K (Key Concept) ตวั บ่งช้ีพฤติกรรม อนั พึงประสงค์
competence
( P) (A) (C)
ศ1.1 ม 3/11 เลือกงานทศั นศิลป์ -การจดั นทิ รรศการ -ทักษะกระบวนการ 3ใ.ฝุรใู้ ฝุเรยี น 2.
โดยใช้เกณฑท์ ก่ี าหนดขน้ึ อย่าง นาความรูไ้ ปใช้ 7.มุ่งม่นั ในการ ความสามารถ
เหมาะสม และนาไปจัดนิทรรศการ ในการคิด
ทางาน
สาระที่ 2 ดนตรี
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง / ทอ้ งถิน่
มาตรฐาน/ตวั ชวี้ ัด ความร/ู้ สาระแกนกลาง ทกั ษะกระบวนการ คณุ ลักษณะ สมรรถนะที่
สาคญั
ศ2.1 ม.3/1 เปรียบเทียบ K (Key Concept) ตวั บง่ ชี้พฤตกิ รรม อันพงึ ประสงค์
องค์ประกอบทใี่ ช้ในงานดนตรแี ละ competence
งานศลิ ปะอ่ืน ( P) (A) (C)
ศ2.1 ม.3/3 แตง่ เพลงส้นั ๆ การเปรียบเทียบ - ทักษะการ 4. ใฝุเรยี นรู้ 2.
จังหวะง่ายๆ ความสามารถ
องค์ประกอบในงานศิลปะ เปรียบเทียบ ในการคดิ
- การใชอ้ งคป์ ระกอบ - ทักษะการรวบรวม 2.
ความสามารถ
ในการสรา้ งสรรค์งาน ข้อมลู ในการคิด
4.
ดนตรแี ละศลิ ปะแขนงอ่นื ความสามารถ
ในการใชท้ กั ษะ
- เทคนคิ ที่ใชใ้ นการ ชีวิต
สรา้ งสรรค์งานดนตรี
และศลิ ปะแขนงอื่น
-องคป์ ระกอบของบท -ทักษะการนา 7 . รักความ
เพลง
ความรไู้ ปใช้ เปน็ ไทย
-อตั ราจงั หวะ 2 และ 4 -ทักษะกระบวนการ
4 4 คิดสร้างสรรค์
- การประพนั ธ์เพลงในอัตรา
จงั หวะ 2 และ 4
44
-การขับร้องประสานเสียง
แผนการจัดการเรยี นรู้ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลยั
สาระการเรียนร้แู กนกลาง / ทอ้ งถน่ิ
มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั ความร้/ู สาระแกนกลาง ทักษะกระบวนการ คุณลักษณะ สมรรถนะท่ี
ศ2.1 ม.3/4 อธบิ ายเหตุผลใน K (Key Concept) ตวั บง่ ชี้พฤติกรรม อันพงึ ประสงค์ สาคญั
การเลือกใชอ้ งค์ประกอบดนตรีใน
การสรา้ งสรรคง์ านดนตรี ( P) (A) competence
ของตนเอง
(C)
การเลือกใช้องคป์ ระกอบ 1. ทักษะการ 6. มงุ่ มน่ั ในการ 4.ความสามารถ
ในการสร้างสรรค์บทเพลง รวบรวมขอ้ มูล ทางาน ในการส่อื สาร
- องค์ประกอบของ 2. ทักษะการให้
ดนตรี เหตุผล
- การเลือกจังหวะเพ่อื 3. ทกั ษะการนา
สร้างสรรคบ์ ทเพลง ความรไู้ ปใช้
- การเรียบเรยี ง
ทานองเพลง
ศ2.1 ม.3/6 อธิบายเก่ียวกบั อทิ ธพิ ลของดนตรี 1.ทักษะการ 6. มุ่งมั่นในการ 4.ความสามารถ
อทิ ธิพลของดนตรี ท่มี ีต่อบุคคล - อทิ ธพิ ลของดนตรตี ่อ วเิ คราะห์ ทางาน ในการใช้
และสังคม บคุ คล 2.ทกั ษะการให้
- อทิ ธพิ ลของดนตรตี อ่ เหตุผล เทคโนโลยี
ศ2.2 ม.3/1 บรรยายววิ ฒั นาการ สังคม
ของดนตรแี ต่ละยุคสมัย 1.ทกั ษะการสารวจ 7. รักความเปน็ 2.ความสามารถ
- ประวตั ดิ นตรีไทยในยคุ 2.ทกั ษะการ ไทย ในการคิด
ศ2.2 ม.3/2 อภปิ รายลักษณะ สมยั ต่าง รวบรวมขอ้ มูล
เดน่ ทท่ี าให้งานดนตรนี ้ันได้รบั การ 7. รักความเป็น 2.ความสามารถ
ยอมรับ - ลักษณะเด่นท่ีทาให้งาน 1.ทักษะการสารวจ ไทย ในการคดิ
ดนตรนี ้ันไดร้ บั การ 2.ทกั ษะการ
ยอมรับ รวบรวมข้อมลู
3.ทักษะการสรุป
ปจั จัยที่ทาใหง้ านดนตรี อา้ งองิ
ไทยได้รบั การยอมรบั
แผนการจัดการเรียนรู้ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ โรงเรียนบญุ วาทย์วทิ ยาลยั
สาระที่ 3 นาฏศิลป์ สาระการเรียนรู้แกนกลาง / ทอ้ งถิน่
มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ดั
ความร้/ู สาระแกนกลาง ทกั ษะกระบวนการ คุณลกั ษณะ สมรรถนะท่ี
สาคัญ
K (Key Concept) ตัวบ่งชพ้ี ฤติกรรม อันพึงประสงค์
competence
( P) (A) (C)
ศ 3.1 ม.3/2 ใชน้ าฏยศัพท์ หรอื ภาษานาฏศลิ ปท์ มี่ าจาก การคิดเชิง 2. ซอ่ื สัตย์ การคิด
ศัพท์ ทางการละคร ท่เี หมาะสม ธรรมชาตแิ ละจากการ วิเคราะห์ สุจรติ
บรรยาย เปรยี บเทยี บ การแสดง ประดิษฐ์ การแก้ปัญหา
อากปั กริ ยิ าของผู้คนในชีวติ ประจาวัน การคดิ สรา้ งสรรค์ 4. ใฝเุ รยี นรู้
และในการแสดง รปู แบบการแสดง ไดแ้ ก่ การสอื่ สาร
การแสดงเปน็ หมู่ เดยี่ ว การ
ศ 3.1 ม.3/3 มที ักษะการใช้ แสดงละครและการแสดง การใชท้ กั ษะ
ความคิดในการ พฒั นารูปแบบ เป็นชุดเปน็ ตอน ชีวิต
การแสดง
ศ 3.1 ม.3/4 มที กั ษะ ในการ การประดษิ ฐท์ ่าราท่าทาง
แปล ความและ การสอื่ สาร ผ่าน ประกอบเพลง
การแสดง
ศ 3.1 ม.3/5 วิจารณเ์ ปรียบเทยี บ องค์ประกอบนาฏศลิ ป์ได้แก่ การคิดเชิง 5. อยู่อย่าง
งานนาฏศลิ ป์ ท่ีมคี วาม แตกตา่ ง จังหวะ ทานอง การ วเิ คราะห์ พอเพียง
กนั โดยใช้ความรู้ เรื่อง องค์ประกอบ เคลอ่ื นไหว อารมณ์และ
นาฏศิลป์ ความรู้สกึ ภาษาทา่ นาฏย
ศัพท์ รปู แบบของการแสดง
และการแต่งกาย
ศ 3.2 ม.3/3 แสดงความ คดิ เห็นใน หลักการอนุรกั ษ์นาฏศลิ ป์ การคดิ อย่างมีเหตุผล 7. รกั ความ
การ อนรุ กั ษ์ ไทยและการเหน็ คุณค่าของ เปน็ ไทย
นาฏศิลป์
แผนการจดั การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ โรงเรียนบุญวาทย์วทิ ยาลยั
คาอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน
ศ๒3๑๐1 ศิลปศึกษา เวลา ๔๐ ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรยี นรศู้ ิลปะ
ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 จานวน ๑.๐ หน่วยการเรียน
ศกึ ษาเกี่ยวกับทัศนธาตุในงานทัศนศิลป์ท่ีมีอยู่ในธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม แนวทางการถ่ายทอดสร้างสรรค์ผลงาน
ถูกต้องตามหลักการสร้างสรรค์ เรียนรู้เทคนิควิธีการต่างๆที่หลากหลาย การเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์อย่างเหมาะสม
การถ่ายทอดแนวคิด เรื่องราวการสื่อความหมายในงานทัศนศิลป์ เรียนรู้ข้ันตอนการนาผลงานไปประยุกต์ใช้ให้เกิด
ประโยชน์ เช่น การรณรงค์เผยแพร่ต่างๆ
ศึกษาองค์ประกอบที่ใช้ในงานดนตรีและงานศิลปะอ่ืนการร้องเพลงเล่นดนตรีและการรวมวงโดยเน้นเทคนิค
การร้อง การเล่น การแสดงออกและคุณภาพเสียงแต่งเพลงสั้นๆจังหวะง่ายๆอธิบายเก่ียวกับอิทธิพลของดนตรีที่มีต่อ
บคุ คลและสงั คมบรรยายววิ ัฒนาการของดนตรแี ต่ละยคุ สมัย
ศึกษาภาษานาฏศิลป์ท่ีได้จากธรรมชาติและการประดิษฐ์ รูปแบบการแสดง หลักการประดิษฐ์ท่าราและท่าทาง
ประกอบการแสดงองค์ประกอบของนาฏศลิ ป์และหลกั การอนุรกั ษน์ าฏศิลป์ไทยและเหน็ คุณค่าของนาฏศิลป์
โดยกระบวนการสร้างองค์ความรู้ ด้วยทักษะการจัดกลุ่ม การวิเคราะห์ จาแนกประเภท การเปรียบเทียบ
การต้ังหลักเกณฑ์ การประเมิน การนาความรู้ไปใช้การสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ ดนตรีและนาฏศิลป์ ตามจินตนาการ
และความคดิ สรา้ งสรรคว์ ิพากษ์ วิจารณค์ ณุ คา่ งานและบรู ณาการสรา้ งสรรค์กับกลุ่มสาระการเรยี นรู้อน่ื ๆ
เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ความเขา้ ใจในงานทัศนศิลป์ ดนตรีและนาฏศิลป์ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถ่ิน
ภูมิปัญญาไทยและสากล มีความคิดต่องานงานทัศนศิลป์ ดนตรีและนาฏศิลป์อย่างอิสระ ชื่นชม เห็นคุณค่า
มีสุนทรยี ภาพมคี วามคิดสร้างสรรค์ มีคุณธรรมจริยธรรม มีวินัย มคี วามซื่อสตั ยส์ ุจรติ มุ่งม่ันในการทางานมีจิตสาธารณะ
รกั ความเป็นไทย และรหู้ ลักในการดาเนนิ ชีวิตอยู่อย่างพอเพยี ง
รหัสตัวชี้วัด
สาระท่ี ๑: ทัศนศิลป์
ศ 1.1 ม.3/1 บรรยายสงิ่ แวดล้อมและงานทศั นศิลป์ที่เลือกมาโดยใชค้ วามรู้เรอื่ งทัศนธาตุและหลักการออกแบบ
ศ 1.1 ม.3/3 วิเคราะห์ และบรรยายวิธีการใช้ ทัศนธาตุ และหลักการออกแบบในการสร้างงานทัศนศิลป์
ของตนเองให้มคี ุณภาพ
ศ 1.1 ม.3/5 มีทกั ษะในการผสมผสานวัสดตุ ่าง ๆ ในการสร้างงานทศั นศิลปโ์ ดยใช้หลักการออกแบบ
ศ 1.1 ม.3/7 สรา้ งสรรคง์ านทศั นศลิ ป์ส่ือความหมายเปน็ เร่อื งราวโดยประยกุ ต์ใช้ทัศนธาตุและหลกั การออกแบบ
ศ 1.1 ม.3/8 วเิ คราะหแ์ ละอภิปรายรปู แบบ เน้ือหาและคุณค่าในงานทัศนศิลปข์ องตนเอง และผอู้ น่ื หรือของศิลปิน
ศ 1.1 ม.3/9 สรา้ งสรรค์งานทัศนศลิ ป์เพ่อื บรรยายเหตกุ ารณ์ตา่ ง ๆ โดยใช้เทคนิคท่หี ลากหลาย
ศ 1.1 ม.3/11 เลือกงานทศั นศลิ ป์โดยใช้เกณฑ์ท่กี าหนดขน้ึ อย่างเหมาะสม และนาไปจัดนทิ รรศการ
แผนการจดั การเรียนรู้ สาระการเรยี นรศู้ ิลปะ โรงเรียนบุญวาทย์วทิ ยาลัย
สาระที่ ๒ : ดนตรี
ศ ๒.๑ ม.3/๑ เปรยี บเทียบองค์ประกอบทใ่ี ช้ในงานดนตรีและงานศิลปะอ่นื
ศ ๒.๑ ม.3/๓ แต่งเพลงส้นั ๆ จงั หวะง่าย ๆ
ศ ๒.๑ ม.3/๔ อธบิ ายเหตผุ ลในการเลอื กใช้องค์ประกอบดนตรใี นการสรา้ งสรรค์งานดนตรีของตนเอง
ศ ๒.๑ ม.3/6 อธิบายเก่ยี วกับอิทธพิ ลของดนตรที ีม่ ีต่อบคุ คลและสังคม
ศ ๒.2 ม.3/1 บรรยายววิ ฒั นาการของดนตรแี ตล่ ะยุคสมยั
ศ ๒.2 ม.3/2. อภปิ รายลักษณะเดน่ ที่ทาให้งานดนตรนี ้นั ได้รับการยอมรับ
สาระที่ ๓ : นาฏศิลป์
ศ ๓.๑ ม.3/2 ใช้นาฏยศัพท์หรือศัพท์ทางการละคร ที่เหมาะสมบรรยายเปรียบเทียบการแสดงอากัปกิริยา
ของผู้คนในชีวิตประจาวันและในการแสดง
ศ 3.๑ ม.3/3 มีทักษะในการใชค้ วามคิดในการพฒั นารปู แบบการแสดง
ศ 3.1 ม.3/4 มีทกั ษะในการแปลความและการสือ่ สารผ่านการแสดง
ศ 3.1 ม.3/5 วจิ ารณ์เปรยี บเทียบงานนาฏศิลป์ ท่มี ีความแตกต่างกนั โดยใช้ความรู้เรื่ององค์ประกอบนาฏศิลป์
ศ 3.2 ม.3/3 แสดงความคดิ เหน็ ในการอนุรักษ์
รวมทั้งหมด ๑8 ตัวชี้วัด
แผนการจัดการเรียนรู้ สาระการเรยี นรูศ้ ิลปะ โรงเรยี นบุญวาทย์วทิ ยาลัย
การจดั กลุ่มหรอื บูรณาการตัวชว้ี ัดในหน่วยการเรียนรู้
(เพื่อเพ่ิมประสิทธภิ าพการสรา้ งข้อสอบแบบบรู ณาการตัวชว้ี ัดของครู)
หนว่ ยท่ี ตวั ช้ีวัด บูรณาการตัวชว้ี ดั
-ออกแบบเครอื่ งประดับจากแนวคิด
1 ศ1.1 ม.3/7 สร้างสรรคง์ านทัศนศิลปส์ ่ือ ความหมาย ตน้ งาข้มี อ่ น
ทศั นศิลป์ เป็นเรือ่ งราว โดยประยกุ ตใ์ ช้ทัศนธาตุ และหลักการ -วิเคราะหอ์ งคป์ ระกอบของบทเพลง
แตง่ เพลงทานองส้นั ๆ จงั หวะงา่ ยๆ
ออกแบบ เนอื้ หาเกี่ยวกับงาขีม้ อ่ น และการขบั
รอ้ งหมู่ในบทเพลงงาขม้ี อ่ น
2 ศ2.1 ม.3/3 แตง่ เพลงสัน้ ๆ จังหวะงา่ ยๆ
ดนตรี
3 ศ3.1 ม.3/3 มที ักษะในการใช้ ความคดิ ในการพฒั นา -นาเสนอการแสดงราวงในกิจกรรม
“มาราวงกนั เถอะ”
นาฏศลิ ป์ รูปแบบ การแสดง
ศ3.1 ม.3/4 มีทักษะในการแปลความและการสื่อสาร
ผา่ นการแสดง
แผนการจัดการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ โรงเรียนบญุ วาทย์วทิ ยาลยั
โครงสรา้ งรายวิชา
ศลิ ปศกึ ษา ศ23101 กลุม่ สาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ
ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลาเรยี น 40 ชว่ั โมง จานวน 1.0 หน่วยกติ
หน่วยท่ี รหัสตัวช้ีวดั แผนการเรยี นรูท้ .ี่ ..เรอื่ ง สัปดาหท์ ี่ เวลาเรยี น/ น้าหนัก
ชม. คะแนน
1 ศ 1.1 ม.3/1 ทัศนธาตแุ ละหลักการออกแบบ 1 2
ทัศนศลิ ป์ ในสิ่งแวดลอ้ มและงานทัศนศิลป์ 5
2-4 8
2 ศ 1.1 ม.3/3 26
ดนตรี 5 2
ศ 1.1 ม.3/5 เทคนิคการสร้างงานทัศนศลิ ป์ 6 2 5
3 ศ 1.1 ม 3/7 1 2 4
นาฏศิลป์ 2-3 4 5
ศ 1.1 ม 3/9 4 2 10
5 2 5
ศ 1.1 ม 3/8 การวิเคราะหผ์ ลงานทศั นศิลป์ 6 2 5
5
ศ 1.1 ม.3/11 การจัดนิทรรศการทางทศั นศิลป์ 1-2 4
10
ศ2.1 ม 3/1 1. องคป์ ระกอบของงานศิลปะและ 3-4 4
5 10
งานดนตรี 6 2
20 2 5
ศ2.1 ม 3/3 2. สร้างสรรคบ์ ทเพลง 5
40
ศ2.1 ม 3/4 3. องคป์ ระกอบของดนตรีกับการ 100
สร้างสรรค์งานดนตรี
ศ2.1 ม 3/6 4. อิทธพิ ลของดนตรีที่มีตอ่ บุคคล
และสังคม
ศ2.2 ม 3/1 5. วิวฒั นาการของดนตรไี ทยยคุ สมัย
ศ2.2 ม 3/2 ต่างๆปจั จยั ที่ทาใหง้ านดนตรนี นั้
ได้รับการยอมรบั
ศ 3.1 ม.3/2 แสดงราวงมาตรฐาน
- เพลงดวงจันทรว์ นั เพ็ญ
- เพลงยอดชายใจหาญ
- เพลงบชู านักรบ
ศ 3.1 ม.3/3 การแสดงราวงในกจิ กรรม
ศ 3.1 ม.3/4 “มาราวงกันเถอะ”
ศ 3.1 ม.3/5 องคป์ ระกอบของนาฏศลิ ป์
ศ 3.2 ม.3/3 หลักการอนุรักษ์นาฏศิลป์ไทยและ
การเหน็ คณุ ค่าของนาฏศิลป์
รวมท้งั หมด 3 สาระ (ทัศนศลิ ป์ ดนตรี นาฏศิลป)์
(หมายเหตุ) key concept = Core Content
แผนการจดั การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ศิลปะ โรงเรยี นบุญวาทย์วิทยาลัย
การวิเคราะหต์ ัวชว้ี ัดเพ่อื กาหนดภาระงานและการวัดผลการออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้
สาระพื้นฐาน ศิลปศึกษา ศ23101 กล่มุ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นที่ 1 เวลาเรียน 40 ชว่ั โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ทัศนศิลป์
ตวั ช้วี ดั ช่อื แผนการเรียนรู้/ หลักฐานช้ินงาน/ รายบุคคล/ กระบวนการจัดการเรียนรู้
กจิ กรรม ภาระงานท่ีสาคัญ กลมุ่ / CIP (Community
ศ 1.1 ม.3/1
Innovation Project)
ศ 1.1 ม.3/3
ศ 1.1 ม.3/5 ข้ันท่ี เทคนคิ และเครือ่ งมอื
ศ 1.1 ม 3/7
ศ 1.1 ม 3/9 บุคคล 1.ประเมินระดับ EPoC Test
ศ 1.1 ม 3/8 กล่มุ
ศ 1.1 ม.3/11 ทศั นธาตุและ ความคดิ ของ
หลกั การออกแบบ 1.1ทดสอบทกั ษะ ผ้เู รียน
ในสง่ิ แวดลอ้ มและ การคิดสรา้ งสรรค์
1.2ใบกิจกรรม บุคคล
งานทศั นศลิ ป์
กลุ่ม
บุคคล 2.สร้างแรงบนั ดาล -Forced
กลมุ่ ใจ
connection
-Linear
2.1 นักเรียน บุคคล 3.วางแผนพัฒนา Pedagogy and
วางแผนสรา้ งงานวาด กล่มุ ตนเองร่วมกัน Rubric Form
เสน้ 3Dของตนเอง
2.2ผลงาน 4.เรียนรู้ผ่านการ High Functioning
สรา้ งสรรคศ์ ลิ ปะบน ปฏิบตั ิ Class Room
เทคนคิ การสร้าง กระดาษ
งานทัศนศิลป์ 2.3 นกั เรยี นร่วมกนั 3.วางแผนพัฒนา Pedagogy and
แสดงความคิดเหน็ ใน ตนเองรว่ มกนั Rubric Form
ผลงานของเพื่อนรว่ มชน้ั
2.4ผลงาน 4.เรยี นรู้ผ่านการ High Functioning
สรา้ งสรรคศ์ ิลปะบน ปฏิบัติ Class Room
กระดาษภาพ3D
การวิเคราะห์ 3.1 นักเรียน บคุ คล 5.ผูเ้ รยี นประเมิน -Spidergream
ผลงานทัศนศิลป์ ประเมนิ ตนเอง กลุ่ม ตนเอง
-Linear
การจดั นิทรรศการ 3.2นักเรยี นการจัด บุคคล 6.คิดต่อยอด -Reminding Quest
ทางทศั นศิลป์ แสดงงานศิลปะ
กลมุ่
แผนการจดั การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ โรงเรียนบญุ วาทย์วิทยาลัย
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 ดนตรี
ตวั ชวี้ ัด ชื่อแผนการเรียนรู้/ หลักฐานชิน้ งาน/ รายบคุ คล/ กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ศ2.1 ม.3/1 กิจกรรม ภาระงานที่สาคัญ กลุม่ /
CIP (Community
ศ2.1 ม.3/3 Innovation Project)
ศ2.1 ม.3/4
ศ2.1 ม.3/6 ขนั้ ที่ เทคนคิ และเคร่ืองมอื
ศ2.2 ม.3/1
ศ2.2 ม.3/2 2.1 องคป์ ระกอบ 2.1ทดสอบทักษะ บุคคล 1.ประเมินระดับ EPoC Test
ของงานศลิ ปะและ การคดิ เชงิ วเิ คราะห์ กลุ่ม ความคิดของ
งานดนตรี ผ้เู รียน
2.2 เปรียบเทียบงาน บคุ คล 2.สรา้ งแรงบันดาล -แบบประเมินตาราง
ดนตรีและงานศิลปะ กลมุ่ ใจ
การเปรยี บเทยี บงาน
อื่น ดนตรีและงานศิลปะ
อื่น
2.2 สรา้ งสรรค์บท 2.3 แต่งเพลงส้นั ๆ 3. วางแผนพัฒนา
เพลง จังหวะงา่ ย ๆ ตนเองรว่ มกนั
บคุ คล 4. เรียนรู้ผา่ นการ ประเมนิ การปฏิบตั ิ
กลมุ่ ปฏิบตั ิ
กิจกรรม
3. องคป์ ระกอบ 2.4รายงานเร่ือง บคุ คล 5. ผเู้ รียนประเมิน แบบประเมิน
ของดนตรกี ับการ องค์ประกอบดนตรีใน กล่มุ ตนเอง
ผงั มโนทศั น์
สรา้ งสรรค์งาน การสร้างสรรค์บท
ดนตรี เพลง
4. อทิ ธิพลของ 2.5 รายงานอทิ ธพิ ล บคุ คล 6. คิดต่อยอด แบบประเมินการ
ดนตรีทมี่ ตี อ่ บคุ คล ของดนตรีท่ีมีต่อ เขียนสรปุ
กลมุ่
และสังคม บุคคลและสงั คม
5. วิวฒั นาการของ 2.6 รายงาน บุคคล ประเมิน แบบประเมิน
ดนตรีไทยยคุ สมยั ววิ ัฒนาการของดนตรี กลมุ่ ผงั มโนทศั น์ ผงั มโนทัศน์
ตา่ งๆปจั จยั ท่ีทาให้ แต่ละยุคสมัยและ
งานดนตรีนน้ั ไดร้ บั ปัจจัยที่ทาให้งาน
การยอมรบั ดนตรีนัน้ ไดร้ ับการ
ยอมรับ
แผนการจดั การเรียนรู้ สาระการเรียนรูศ้ ิลปะ โรงเรยี นบญุ วาทย์วทิ ยาลัย
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 นาฎศิลป์
ตัวช้ีวัด ชอ่ื แผนการ หลกั ฐานช้ินงาน/ รายบคุ คล/ กระบวนการจัดการเรียนรู้
ศ 3.1 ม.3/2 เรยี นร/ู้ กิจกรรม ภาระงานท่ีสาคัญ กลุ่ม/ CIP (Community
Innovation Project)
ศ 3.1 ม.3/3 3.1 แสดงราวง
ศ 3.1 ม.3/4 มาตรฐาน ข้นั ที่ เทคนคิ และเครอื่ งมอื
ศ 3.1 ม.3/5
ศ 3.2 ม.3/3 - เพลงดวง แสดงราวงมาตรฐาน บคุ คล 1.ประเมินระดับ -EPoC Test
จันทรว์ นั เพ็ญ -เพลงดวงจนั ทร์วนั เพ็ญ กลมุ่ ความคดิ ของผู้เรยี น
- เพลงยอด 2.สรา้ งแรงบนั ดาลใจ -Forced connection
ชายใจหาญ
- เพลงยอดชายใจหาญ
- เพลงบชู า -เพลงบชู านักรบ
นักรบ
3.2 การแสดงรา นาเสนอการแสดง บุคคล 3.วางแผนพัฒนา - FILA Mapping
วงในกิจกรรม ร า ว ง ใ น กิ จกรรม กลมุ่ ตนเองร่วมกนั - High Functioning
“มาราวงกนั เถอะ” “มาราวงกันเถอะ”
4.เรียนรู้ผา่ นการ Class Room
3.3 ใบงานที่ 1
องคป์ ระกอบของ องคป์ ระกอบของ ปฏิบตั ิ
นาฏศลิ ป์ นาฏศิลป์
3.4 หลักการ ใบงานที่ 2 หลักการ บคุ คล 5.ผู้เรยี นประเมิน -Spidergream/Linear
อนรุ กั ษน์ าฏศิลป์ อนุรักษ์นาฏศิลป์ไทย กลมุ่
ไทยและการเห็น และการเห็ นคุ ณค่ า ตนเอง
คณุ ค่าของ ของนาฏศิลป์
นาฏศิลป์ บุคคล -Reminding Quest
กลมุ่
6.คดิ ต่อยอด
แผนการจดั การเรยี นรู้ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย
การประเมนิ ผลรายวิชา ศลิ ปศกึ ษา ศ23101
สาระพน้ื ฐาน ศิลปศึกษา ศ23101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลาเรยี น 40 ชวั่ โมง จานวน 1.0 หน่วยกติ
อตั ราสว่ นคะแนน ระหวา่ งกลางภาคเรยี น : ต่อปลายภาคเรียน 80. : .20
ห ่นวยท่ี คะแนนหนว่ ย กลางภาค ปลายภาค รวมคะแนนแต่ละด้าน
่ัชวโมง
หน่วยการเรยี น ตัวช้ีวัด K P A รวม K P รวม K P รวม K P A รวม
1 ทศั นศลิ ป์ ศ1.1 ม 3/1 2 1 1 1 3 - - - 2 - 2 1 1 1 3
ศ1.1 ม 3/3 2 1 1 - 2 - - - 2 - 2 1 1 - 2
ศ1.1 ม 3/5 2 1 3 1 5 - - - - - - 1 3 1 5
ศ1.1 ม 3/7 2 1 3 1 5 - - - - - - 1 3 1 5
ศ1.1 ม 3/8 2 2 2 1 5 - - - - - - 2 2 1 5
ศ1.1 ม 3/9 2 2 6 2 10 - - - 2 - 2 2 6 2 10
ศ1.1 ม 3/11 2 1 1 - 2 - - - 2 - 2 1 1 - 2
รวมทศั นศลิ ป์ 12 9 17 6 32 8 8 17 17 6 40
2 ดนตรี ศ2.1 ม.3/1 2 1 2 1 4 - - - 1 - 1 2 2 1 5
ศ2.1 ม.3/3 4 2 4 2 8 - - - 2 - 2 4 6 2 10
ศ2.1 ม.3/4 2 1 2 1 4 - - - 1 - 1 2 2 1 5
ศ2.1 ม.3/6 2 1 2 1 4 - - - 1 - 1 2 2 1 5
ศ2.2 ม.3/1 1 1 2 1 4 - - - 1 - 1 2 2 1 5
ศ2.2 ม.3/2
รวมดนตรี 12 6 12 6 24 - - - 6 - 6 12 12 6 30
3 นาฏศลิ ป์ ศ 3.1 ม.3/2 4 2 4 2 8 - - - 2 - 2 4 4 2 10
ศ 3.1 ม.3/3 4 2 5 2 9 - - - 1 - 1 3 5 2 10
ศ 3.1 ม.3/4 2 3-14 - - - 1 - 14- 1 5
ศ 3.1 ม.3/5
ศ 3.2 ม.3/3 2 2 - 1 3 - - - 2 - 2 4 - 1 5
รวมนาฏศลิ ป์ 12 9 9 6 24 - - - 6 - 6 15 9 6 30
รวม
36 24 38 18 80 20 20 44 38 18 100
แผนการจดั การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ โรงเรียนบญุ วาทย์วทิ ยาลยั
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๓ การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ เวลา ๑๒ ช่ัวโมง
รายวิชา ศ23101 เรอื่ ง นาฏศลิ ป์ จานวน ๑.๐ หนว่ ยกิต
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 ผู้สอน นางสาววาสนา งามสขุ
รายวชิ า ศิลปศึกษา
ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา ๒๕๖5
สาหรบั รายวชิ าพน้ื ฐาน
1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วัด
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐานศ.3.1 เข้าใจ และแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์
วิพากษ์วิจารณ์คุณค่านาฏศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ใน
ชวี ติ ประจาวัน
มาตรฐาน ศ3.2 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
เห็นคุณคา่ ของนาฏศลิ ปท์ ี่เปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภมู ปิ ัญญาท้องถิ่น ภมู ปิ ญั ญาไทยและสากล
ตัวชว้ี ัด
ศ ๓.๑ ม.3/2 ใช้นาฏยศัพท์หรือศัพท์ทางการละคร ท่ีเหมาะสมบรรยายเปรียบเทียบการแสดง
อากปั กิรยิ าของผ้คู นในชีวิตประจาวนั และในการแสดง
ศ 3.๑ ม.3/3 มที ักษะในการใช้ความคิดในการพัฒนารูปแบบการแสดง
ศ 3.1 ม.3/4 มีทกั ษะในการแปลความและการส่อื สารผ่านการแสดง
ศ 3.1 ม.3/5 วิจารณ์เปรียบเทยี บงานนาฏศลิ ป์ ที่มีความแตกตา่ งกันโดยใช้ความรเู้ รื่ององค์ประกอบนาฏศลิ ป์
ศ 3.2 ม.3/3 แสดงความคดิ เหน็ ในการอนรุ กั ษ์
2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
ผเู้ รยี นสามารถใชน้ าฏศะพท์หรอื ศัพท์ทางการละครท่ีเหมาะสมบรรยายเปรียบเทียบการแสดงอากัปกิริยาของ
ผคู้ นในชวี ติ ประจาวันในการแสดง มที กั ษะในการใชค้ วามคดิ ในการพฒั นารูปแบบการแสดง มีทักษะในการแปลความ
การสื่อสารผ่านการแสดง วิจารณ์เปรียบเทียบงานนาฏศิลป์ท่ีมีความแตกต่างกันโดยใช้ความรู้เร่ือง องค์ประกอบ
นาฏศิลป์ และแสดงความคดิ เห็นในการอนุรักษน์ าฏศลิ ป์
3. สาระการเรียนรู้
ดา้ นความรู้ ( Knowledge)
ภาษานาฏศลิ ป์ทีไ่ ดม้ าจากธรรมชาติและการประดิษฐ์ รูปแบบการแสดง หลกั การประดษิ ฐท์ า่ ราและ
ทา่ ทางประกอบการแสดง องค์ประกอบของนาฏศลิ ปห์ ลักการอนรุ ักษน์ าฏศิลปไ์ ทยและการเหน็ คุณค่าของนาฏศิลป์
แผนการจัดการเรยี นรู้ สาระการเรียนรูศ้ ลิ ปะ โรงเรียนบญุ วาทย์วทิ ยาลัย
ด้านทกั ษะกระบวนการ ( Process)
- การแปลความ
- กระบวนการคิดสร้างสรรค์
- การนาความรไู้ ปใช้
- การเปรียบเทียบ
4. ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค(์ Attributes ) (รอ้ ยละ 80 ยังเขา้ ใจวา่ A คือ Attitude)
- คุณลักษณะอนั พึงประสงคต์ ามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พ.ศ. ๒๕๕๑
รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซื่อสัตยส์ ุจริต มวี นิ ัย ใฝุเรียนรู้
อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมน่ั ในการทางาน รกั ความเปน็ ไทย มีจิตสาธารณะ
- ดา้ นการ อ่าน คิดวเิ คราะห์และเขยี น
การอา่ น
: ใชก้ ารอา่ นเพ่อื การค้นควา้ จาแหลง่ เรยี นรู้ตา่ ง ๆ ไดอ้ ย่างเหมาะสม
การคิดวเิ คราะห์ : แสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกับเรอื่ งที่อ่านได้
การเขียน : เขียนชี้แจง อธิบาย เขียนแสดงความคิดเห็นและเขียนรายงานการศกึ ษาคน้ คว้าได้
5. ด้านสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน : ใช้ภาษาถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ ความคดิ ความรู้สึก
ความสามารถในการสือ่ สาร และทัศนะของตนเอง ด้วยการพดู และการเขียน
: การคดิ ขัน้ สงู (การคดิ คิดสร้างสรรค์ คิดอย่างมวี ิจารณญาณ)
ความสามารถในการคิด : ผลลัพธ์ท่ีเกดิ จากปัญหา
ความสามารถในการแก้ปัญหา : ทางานและอยู่ร่วมกนั ในสังคมอยา่ งมีความสขุ
ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ : เรยี นรู้ด้วยตวั เองอยา่ งต่อเน่อื ง
: เลือกและใชเ้ ทคโนโลยเี พือ่ พัฒนาตนเองและสงั คม
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. ชนิ้ งาน/ภาระงาน
๑. แสดงราวงมาตรฐาน
- เพลงดวงจันทรว์ นั เพญ็
- เพลงยอดชายใจหาญ
- เพลงบูชานักรบ
๒. นาเสนอการแสดงราวงในกิจกรรม “มาราวงกนั เถอะ”
๓. ใบงานที่ 1 เรือ่ ง องค์ประกอบของนาฏศลิ ป์
๔. ใบงานที่ 2 เร่อื ง หลักการอนรุ กั ษน์ าฏศิลป์ไทยและการเหน็ คุณค่าของนาฏศิลป์
แผนการจัดการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ โรงเรยี นบญุ วาทย์วิทยาลยั
7. การวดั และประเมนิ ผล หลักฐานการเรยี นรู้ เครือ่ งมือ เกณฑ์ผ่านมากกวา่ รอ้ ยละ ๖๐
(ช้ินงาน/ภาระงาน)
ตัวชีว้ ัด/ผลการเรยี นรู้ 1.การนาความร้ไู ปใช้ 1. นกั เรียนทุกคนนาความร้ไู ป
1. แสดงราวงมาตรฐาน (ในการแสดงรา) ใชร้ ้อยละ ๖๐ ขึน้ ไป
ดา้ นความรู้ (K) -เพลงดวงจนั ทรว์ นั เพ็ญ
1. ภาษานาฏศิลปท์ ี่ได้มาจากธรรมชาติ -เพลงยอดชายใจหาญ
และการประดิษฐ์ -เพลงบชู านักรบ
2.รปู แบบการแสดง 2.นาเสนอการแสดงราวงใน 2. แบบประเมนิ กระบวนการ 2.นกั เรยี นทุกคนสร้างสรรค์ ผลงาน
กิจกรรม “มาราวงกนั เถอะ”
3. หลกั การประดิษฐ์ทา่ ราและท่าทาง 3.นาเสนอการแสดงราวงใน คิดสรา้ งสรรค์ การแสดงได้ร้อยละ ๖๐ ข้ึนไป
ประกอบการแสดง กจิ กรรม “มาราวงกนั เถอะ”
4. องคป์ ระกอบของนาฏศลิ ป์ 4. ใบงาน เร่ือง องค์ประกอบ 3.การนาความรไู้ ปใช้ 3.นกั เรียนทกุ คนแปลความผลงานการ
ของนาฏศิลป์
5.หลักการอนรุ กั ษ์นาฏศิลปไ์ ทยและการ 5. ใบงาน เรื่อง หลกั การ (ในการแสดงรา) แสดงได้ร้อยละ๖๐ขึน้ ไป
เหน็ คุณค่าของนาฏศลิ ป์ อนรุ ักษ์นาฏศิลป์ไทยและการ
เห็นคุณค่าของนาฏศิลป์ 4. แบบประเมนิ ใบงาน 4.นักเรยี นทุกคนนาความรูไ้ ปใช้
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)
- การนาความรไู้ ปใช้ 1. แบบประเมินการนา ในการแสดงได้รอ้ ยละ ๖๐ ข้นึ ไป
- กระบวนการคดิ สรา้ งสรรค์ ความรู้ไปใช้
- การแปลความ 2.ประเมนิ กระบวนคดิ 5. แบบประเมนิ ใบงาน 5.นกั เรยี นทุกคนทาแบบทดสอบของ
- การเปรียบเทียบ สรา้ งสรรค์
- การนาความรู้ไปใช้ 3.ประเมินการแปลความ ใบงานได้รอ้ ยละ ๖๐ ขึน้ ไป
ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 4.ทาแบบทดสอบ 1. แบบประเมนิ ทกั ษะการ 1.นักเรียนมที กั ษะอยู่ในระดบั
ม่งุ ม่นั ในการทางาน นาความรู้ไปใช้ (การแสดง) คณุ ดีข้ึนไป
รักความเปน็ ไทย 5.ทาแบบทดสอบ 2.แบบประเมินทกั ษะคิด 2.นกั เรยี นมีทักษะอยู่ในระดบั
ใฝุเรียนรู้ สรา้ งสรรค์ คุณดขี ้นึ ไป
สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน (C ) ประเมินจากคณุ ลักษณะอัน 3. แบบประเมิน 3.นกั เรียนทุกคนทาแบบทดสอบ
-ความสามารถในการส่ือสาร พึงประสงค์ กระบวนการแปลความ ปลายภาคเรียนได้รอ้ ยละ๖๐ขึ้นไป
- ความสามารถในการคิด 4.แบบทดสอบ 4.นักเรยี นทกุ คนทาแบบทดสอบใบ
-ความสามารถในการ แกป้ ญั หา ประเมินสมรรถนะสาคญั ของ งานท่ี 1 เร่ือง องค์ประกอบ
- ความสามารถ ในการใชท้ ักษะชวี ิต ผู้เรียน 5.แบบทดสอบ
- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี นาฏศลิ ป์ได้รอ้ ยละ๖๐ข้ึนไป
5.นักเรยี นทกุ คนทาแบบทดสอบ
ของใบงานที่ 2เรื่องหลกั การอนรุ ัก
นาฏศิลป์และการเห็นคณุ คา่ ของ
นาฏศลิ ป์ ไดร้ ้อยละ๖๐ขึ้นไป
ประเมิน คณุ ลกั ษณะอัน นักเรียนมีคุณลักษณะอันพงึ
พึงประสงค์ ประสงคอ์ ยูใ่ นระดบั ดขี ้ึนไป
ร้อยละ๘๐
แบบประเมนิ สมรรถนะ นกั เรยี นมสี มรรถนะสาคญั
สาคญั ของผเู้ รยี น ของผู้เรียนอยู่ในระดับดีข้นึ ไป
ร้อยละ๘๐
แผนการจดั การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ โรงเรยี นบญุ วาทย์วิทยาลยั
8. กจิ กรรมการเรียนรู้ เรอื่ งภาษาทา่ หรอื ภาษาทา่ ราทีม่ าจากธรรมชาติ ใช้วิธกี ารสอนการเรียนรู้แบบการสาธิต,
๑. แผนจัดการเรียนรูท้ ี่ ๑ กระบวนการปฏิบัติ
เร่ืองรูปแบบการแสดงและหลักการประดิษฐ์ท่ารา ใช้วิธีการสอนการการบูรณาการ
๒. แผนจัดการเรยี นรู้ที่ ๒ ความรู้กับการปฏิบัติ, กระบวนการกลุ่ม ใช้วิธีการสอนการจัดการเรียนรู้แบบการเรียนรู้
แบบมีสว่ นร่วม
๓. แผนจดั การเรียนรู้ที่ ๓ เรื่ององค์ประกอบนาฏศลิ ป์ ใชว้ ธิ ีการสอนการจัดการเรยี นรแู้ บบมีสว่ นร่วมการแบบวเิ คราะห์
4. แผนจดั การเรียนร้ทู ่ี ๔ เรอื่ งการอนุรักษน์ าฏศิลป์ ใช้วธิ ีการสอนการจัดการเรยี นร้แู บบการเรยี นรแู้ บบมีสว่ นรว่ ม
9. ส่ือและแหลง่ เรียนรู้
๑. หนงั สือเรียน
2.ใบความรู้ที่ 3 เรื่อง ราวงมาตรฐาน
3. ใบงานองคป์ ระกอบของนาฏศลิ ป์
4. ไฟส์เพลงราวงมาตรฐาน
5. ไฟส์การแสดงมาราวงกนั เถอะ
6. ห้องสมดุ
7. แหล่งข้อมูลสารสนเทศ
แผนการจดั การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ โรงเรยี นบญุ วาทย์วิทยาลยั
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 1
รายวชิ า ศ23101 รายวชิ า ศิลปศกึ ษา หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 เรอื่ ง ภาษาท่าหรือภาษาท่าราท่ีมาจากธรรมชาติ
เวลา 2 ช่ัวโมง
ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5
รายวิชาพ้นื ฐาน
๑. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชี้วัด
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐานศ.3.1 เขา้ ใจ และแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์วิพากษ์วิจารณ์คุณค่านาฏศิลป์
ถ่ายทอดความรสู้ กึ ความคดิ อย่างอิสระ ชืน่ ชมและประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจาวัน
ตัวชี้วัด ใช้นาฏยศัพท์หรือศัพท์ทางการละคร ที่เหมาะสมบรรยายเปรียบเทียบการแสดง
ศ ๓.๑ ม.3/2 อากปั กริ ยิ าของผูค้ นในชีวิตประจาวันและในการแสดง
๒. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
ภาษาทา่ หรอื ภาษาทา่ ราทมี่ นุษยป์ ระดิษฐข์ น้ึ มาจากทา่ ธรรมชาติ และมีการสรา้ งสรรค์ขึ้นเป็นท่าใหม่เพื่อ
กาหนดเปน็ แมท่ ่าหรอื ท่าแม่บท
๓. สาระการเรียนรู้
ภาษาทา่ ทม่ี าจากธรรมชาติและการประดษิ ฐ์
๔. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
ดา้ นความรู้ ( Knowledge)
ภาษาท่าทม่ี าจากธรรมชาตแิ ละการประดษิ ฐ์
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ( Process)
- การนาความรู้ไปใช้
ด้านคณุ ลักษณะ(Attribute)
- มงุ่ ม่ันในการทางาน
๕. มาตรฐานด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (Attributes )
- คุณลักษณะอนั พึงประสงคต์ ามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ อยอู่ ย่างพอเพยี ง ซือ่ สัตย์สุจริต มุง่ มน่ั ในการทางาน
มีวนิ ัย รักความเปน็ ไทย ใฝุเรยี นรู้ มีจิตสาธารณะ
แผนการจดั การเรยี นรู้ สาระการเรียนร้ศู ลิ ปะ โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย
๖.มาตรฐานดา้ นการ อ่าน คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขียน
การอา่ น
: ใช้การอ่านเพื่อการคน้ คว้าจาแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
การคิดวเิ คราะห์ : แสดงความคิดเหน็ เกีย่ วกบั เร่อื งทีอ่ า่ นได้
การเขียน : เขียนชแี้ จง อธบิ าย เขยี นแสดงความคดิ เหน็ และเขียนรายงานการศึกษาคน้ คว้าได้
๗.ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น ใชภ้ าษาถา่ ยทอดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ ความคิด ความรู้สึก
ความสามารถในการสื่อสาร : และทัศนะของตนเอง ดว้ ยการพูดและการเขียน
การคิดข้นั สงู (การคิด คิดสรา้ งสรรค์ คดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ)
ความสามารถในการคดิ :
ความสามารถในการแก้ปัญหา : ผลลัพธ์ที่เกิดจากปญั หา
ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต : เรียนร้ดู ้วยตัวเองอย่างตอ่ เนอื่ ง
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี : เลือกและใช้เทคโนโลยเี พอื่ พฒั นาตนเองและสังคม
๘. การบูรณาการ
แสดงนาฏศิลป์และละครในรูปแบบงา่ ยๆบูรณาการกับอาเซียน
๙. ช้ินงาน ภาระงานเพ่ือการวดั และประเมนิ ผล
หลกั ฐานการเรยี นรู้ วธิ กี าร เคร่ืองมือ เกณฑ์
(ช้ินงาน/ภาระงาน)
การนาความร้ไู ปใช(้ ในการ แบบประเมนิ ทกั ษะ -นกั เรยี นมที ักษะอยู่
แสดงราวงมาตรฐาน
-เพลงดวงจันทรว์ ันเพ็ญ แสดงรา) การนาความรูไ้ ปใช้ ในระดบั คณุ ดีข้นึ ไป
-เพลงยอดชายใจหาญ
-เพลงบชู านกั รบ (การแสดง)
๑๐.กิจกรรมการเรียนรู้
ขัน้ นา/ขน้ั ทบทวนประสบการณเ์ ดิม/ข้ันกระต้นุ ให้เกิดความสนใจ
๑.ครูแจ้งจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ และช้แี จงขั้นตอนกิจกรรมการเรยี นรู้ ผา่ นโปรแกรมline
๒.ครูทบทวนความรู้เดิมเก่ยี วกับอิทธิพลของนักแสดงชือ่ ดังท่มี ผี ลต่อการโนน้ น้าวอารมณห์ รือความคิดของผชู้ ม
ข้ันกิจกรรมการเรยี นการสอน
1. ครูให้ความรเู้ กย่ี วกับประวตั ริ าวงมาตรฐาน
2. ครเู ปดิ CD เพลงราวงมาตรฐานใหน้ กั เรยี นฟังเพลงราวงมาตรฐานและใหน้ ักเรียนร่วมกนั ร้องเพลงราวงมาตรฐาน
พร้อมกบั ครู
แผนการจดั การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ศิลปะ โรงเรียนบญุ วาทย์วทิ ยาลยั
3.ครูสาธติ ทา่ ราเพลงราวงมาตรฐานให้นกั เรียนปฏิบตั ติ ามท่ีละท่า โดยนักเรียนชว่ ยกันรอ้ งเพลงเองประกอบการรา
วงมาตรฐานด้วยตนเอง
4. ครใู หน้ กั เรียนปฏบิ ัตทิ า่ ราเพลงราวงมาตรฐาน โดยครูดูแลและใหค้ าแนะนาตลอดระยะเวลาท่ฝี กึ ปฏิบัติ
5. ครใู ห้นกั เรียนปฏบิ ตั ิท่าราเพลงราวงมาตรฐาน ประกอบกับเปดิ เพลงราวงมาตรฐาน
ขั้นสรุป(ความคิดรวบยอด/สาระสาคญั )
1. ครปู ระเมินการปฏบิ ตั ิการราเพลงราวงมาตรฐานของนกั เรียน
2. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั สรุปความรเู้ กยี่ วกับนาฏยศพั ท์หรอื ศัพท์ทางการละครและราวงมาตรฐาน
๑๑.สอ่ื วัสดุ อปุ กรณ์ /แหล่งการเรียนรู้
๑. หนังสอื เรียน
๒. เพลงราวงมาตรฐาน
๓. ภาพการแตง่ กายราวงมาตรฐาน
๔. หอ้ งสมดุ
๕. แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ
๑๒. เกณฑก์ ารประเมนิ ความร/ู้ ทักษะกระบวนการ/คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค/์ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
คาอธิบายคณุ ภาพ (Rubric)
รายการประเมิน ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรงุ
( ๓คะแนน) (๒ คะแนน) (๑คะแนน) (๐ คะแนน)
ความรู้ (K) สามารถอธบิ ายอิทธพิ ลของ สามารถอธบิ ายอทิ ธิพลของ สามารถการอธบิ ายอิทธิพล ไม่สามารถอธิบายอทิ ธพิ ล
อธบิ ายอทิ ธิพลของนกั แสดงชือ่ นักแสดงชอื่ ดังท่ีมผี ลตอ่ การโนม้ นักแสดงชอื่ ดัง ท่ีมผี ลต่อการ ของนักแสดงชื่อดังที่มผี ลตอ่ ของนักแสดงช่อื ดงั ทมี่ ีผลต่อ
นา้ วอารมณห์ รือความคดิ ของ โนม้ นา้ วอารมณห์ รอื การโนม้ น้าวอารมณ์หรือ การโน้มนา้ วอารมณห์ รอื
ดัง ที่มีผลต่อการโนม้ น้าว ผู้ชมไดถ้ ูกต้อง
อารมณห์ รอื ความคิดขอผชู้ ม ความคิดของผู้ชมไดค้ อ่ นข้าง ความคดิ ของผู้ชมโดยอาศยั คา ความคิดของผูช้ มได้
ถกู ต้อง ชี้แนะ
ทกั ษะ /กระบวนการ(P) สามารถคิดวเิ คราะห์อยา่ งมี สามารถคิดวิเคราะห์อย่างมี สามารถคิดวเิ คราะหอ์ ย่างมี ไม่สามารถคดิ วิเคราะหอ์ ย่าง
สามารถคดิ วิเคราะห์
วจิ ารณญาณส่ือสารกบั ผ้อู ื่นได้ วิจารณญาณสอ่ื สารกับผู้อืน่ วิจารณญาณส่ือสารกับผู้อ่ืนได้ มวี ิจารณญาณสือ่ สารกับ
กระจา่ งชัด ไดค้ อ่ นขา้ งชดั เจน แตไ่ มช่ ัดเจน ผูอ้ ื่นได้
คุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ (A) สง่ งานท่ไี ดร้ บั มอบหมายตรงตาม ส่งงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมายตรง ส่งงานทไ่ี ด้รับมอบหมายไม่ ไมส่ ่งงานตามท่ีได้รบั
เวลาทก่ี าหนดและงานมคี วาม ตามเวลาท่ีกาหนด แต่งาน ตรงตามเวลาทก่ี าหนด แต่งาน มอบหมาย
ความรับผิดชอบ
สมบูรณค์ รบถว้ น บางส่วนไม่ ครบถ้วน มีความ ครบถว้ น
สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น (C)
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1.1 พูดถ่ายทอดความรู้ ความ 1.1 พูดถ่ายทอดความรู้ 1.1 พูดถา่ ยทอดความรู้ 1.1 ไม่สามารถพดู ถา่ ยทอด
เขา้ ใจจากสารท่อี ่าน ฟงั ดดู ว้ ย
๑.1 พูดถ่ายทอดความรู้ ภาษาของตนเองไดอ้ ยา่ ง ความเข้าใจจากสาร ที่อ่าน ความเข้าใจ จากสารทีอ่ า่ น ฟัง ความรู้ ความเขา้ ใจจากสาร
ความเข้าใจจากสารที่อ่านฟงั คล่องแคล่วชัดเจน
หรือดดู ้วยภาษาของตนเองได้ ฟงั หรอื ดูดว้ ยภาษาของ หรอื ดดู ว้ ยภาษาของตนเองได้ ทอี่ า่ น ฟัง หรอื ดู ด้วยภาษา
ตนเองได้อยา่ งชัดเจนแตข่ าด บา้ ง ของตนเองได้
ความคล่องแคลว่
แผนการจดั การเรยี นรู้ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ โรงเรยี นบุญวาทย์วิทยาลัย
1.๒พดู ถ่ายทอดความคดิ 1.2 พูดถา่ ยทอดความคิด ความ 1.2 พูดถา่ ยทอดความคิด 1.2 พดู ถ่ายทอดความคดิ 1.25 พูดถา่ ยทอดความคิด
ความรู้สกึ และทศั นะของตนเอง รู้สึกและทัศนะ จากสารท่ีอา่ น ความร้สู ึก และทัศนะจาก ความรู้สึก และทัศนะจากสาร ความรสู้ กึ และทัศนะจากสาร
ฟงั หรอื ดู ตามที่กาหนดไดอ้ ยา่ ง สารทอี่ ่าน ฟงั หรือดู ตามที่ ท่ีอา่ น ฟงั หรือดู ด้วยภาษา ท่อี า่ นฟัง หรอื ดู ตามแบบ
จากสารที่อ่าน ฟังหรอื ดูดว้ ย สมเหตสุ มผล คลอ่ ง แคล่ว กาหนดไดอ้ ยา่ งมีเหตผุ ล ของตนเองไดบ้ ้าง และมี
ภาษาของตนเองได้ ชดั เจนดว้ ยภาษาของตนเองได้ ดว้ ยภาษาของตนเองได้ เหตผุ ลไม่เพยี งพอ
1.3. เขียนถ่ายทอดความรู้ 1.3 เขยี นถ่ายทอดความรู้ความ 1.3 เขยี นถ่ายทอดความรู้ 1.3 เขียนถ่ายทอดความรู้ 1.3 เขยี นถ่ายทอดความรู้
เขา้ ใจจากสารท่อี ่านฟงั ดดู ้วย ความเข้าใจจากสารทีอ่ า่ นฟงั ความเขา้ ใจจากสารท่อี ่านฟงั ดู ความเขา้ ใจจากสารท่อี า่ นฟัง
ความเขา้ ใจจากสารทอี่ ่าน ฟัง ภาษาของตน เองได้ใจความ ดูด้วยภาษาของตนเองได้ ดว้ ยภาษาของตนเองได้ หรือดูตามแบบ
หรือดูด้วยภาษาของตนเองได้ ครอบ คลมุ ครบถว้ นและถกู ตอ้ ง ใจความสาคัญเปน็ ส่วนใหญ่ ใจความสาคัญเปน็ บางส่วน
ตามหลักการใช้ภาษา แตไ่ ม่ครบถ้วนสมบูรณ์ และ และมขี ้อบกพรอ่ งในการใช้
มีขอ้ บกพรอ่ งในการใชภ้ าษา ภาษา วรรคตอน และการ
วรรคตอนและการเขยี นคา เขยี นคาตั้งแต่ ๓แห่ง แตไ่ ม่
ไมเ่ กนิ ๒แหง่ เกนิ ๕แห่ง
1.4 เขยี นถ่ายทอดความคิด 1.4 เขียนถ่ายทอดความคดิ 1.4 เขียนถ่ายทอดความคดิ 1.4 เขยี นถ่ายทอดความคดิ
1.๔เขียนถา่ ยทอดความคดิ ความรสู้ กึ และทัศนะของตนเอง ความ รสู้ ึกและทศั นะของ ความรู้สึกและทศั นะของ ความรู้สึกและทศั นะของ
ความรสู้ กึ และทัศนะของตนเอง จากสารทีอ่ า่ น ฟงั หรอื ดดู ว้ ย ตนเองจากสารทอี่ ่านฟงั หรอื ดู ตนเองจากสารทอ่ี า่ น ฟงั หรอื ตนเองจากสารทอี่ า่ น ฟงั
ภาษาของตนเองไดใ้ จความ ด้วยภาษา ของตนเองได้ ดูด้วยภาษาของตนเอง ได้ใจ หรือดูตามแบบ
จากสารท่ีอา่ น ฟงั หรือดดู ว้ ย
ภาษาของตนเอง ครอบคลุมครบถว้ น ใจความสาคัญเปน็ สว่ นใหญ่ ความสาคัญเป็นบาง สว่ นและ
และถูกต้องตามหลกั การใช้ภาษา แตไ่ ม่ครบ ถว้ นสมบรู ณแ์ ละมี มีขอ้ บกพรอ่ งในการใชภ้ าษา
ขอ้ บกพร่องในการใช้ภาษา วรรคตอน และการเขยี นคา
วรรคตอนและการเขยี นคาไม่ ตง้ั แต่ ๓แหง่ แต่ไม่เกิน ๕แห่ง
เกนิ ๒แห่ง
คาอธบิ ายคณุ ภาพ (Rubric)
รายการประเมนิ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรงุ
2.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี (๐ คะแนน)
2.๑ เลือกและใช้เทคโนโลยีในการ ( ๓คะแนน) (๒ คะแนน) (๑คะแนน)
เรียนรอู้ ยา่ งสรา้ งสรรคแ์ ละมี เลือกและใชเ้ ทคโนโลยีใน
คุณธรรม เลือกและใชเ้ ทคโนโลยีท่ี เลือกและใชเ้ ทคโนโลยีท่ี เลอื กและใช้เทคโนโลยีใน การสืบคน้ ค้นคว้า
เหมาะสมในการสบื คน้ เหมาะสมในการสืบค้น การสบื คน้ ค้นควา้ รวบรวม และสรปุ ความรู้
๒.2 เลือกและใชเ้ ทคโนโลยีในการ คน้ ควา้ รวบรวม และสรปุ ค้นควา้ รวบรวม และสรปุ รวบรวม และสรปุ ความรู้ ด้วยตนเองไดแ้ ตต่ ้องอาศยั
สือ่ สารอยา่ งสร้างสรรคแ์ ละมี ความรดู้ ว้ ยตนเองได้อยา่ ง ความรู้ดว้ ยตนเองไดอ้ ยา่ ง ดว้ ยตนเองได้อยา่ งถกู ตอ้ ง ผแู้ นะนา
คณุ ธรรม ถูก ตอ้ ง มคี วามหลากหลาย ถกู ต้อง มคี วาม และเปน็
แปลกใหม่และเป็นประโยชน์ หลากหลายแปลกใหม่และ ประโยชน์ตอ่ ตนเองหรือ เลอื กและใชเ้ ทคโนโลยใี ห้
ตอ่ ตนเองและสังคม โดย เป็นประโยชน์ต่อตนเอง สังคม ผู้อ่นื เขา้ ใจได้อยา่ งถูกต้อง
สามารถแนะนาผอู้ น่ื ได้ หรือสังคม แต่ไมค่ านงึ ถงึ ผลกระทบ
ตอ่ ผู้อ่นื
เลอื กและใช้เทคโนโลยที ี่ เลือกและใชเ้ ทคโนโลยีท่ี เลือกและใชเ้ ทคโนโลยีใน
เหมาะสมในการรบั และสง่ เหมาะสมในการรับและ การรับและส่งสารให้ผูอ้ ่นื
สารให้ผ้อู ืน่ เขา้ ใจไดอ้ ย่าง สง่ สารให้ผู้อน่ื เขา้ ใจได้
ถกู ต้องและมคี วาม อย่างถกู ต้อง และมีความ เขา้ ใจได้อยา่ งถกู ต้อง โดย
หลากหลายแปลกใหม่ โดย หลากหลายแปลกใหม่ ไม่ทาใหผ้ ูอ้ ่ืนเดอื ดร้อน
ไม่ทาใหผ้ ูอ้ น่ื เดือดร้อน และ โดยไมท่ าให้ผ้อู ่ืนเดอื ดร้อน
สามารถแนะนาผู้อน่ื ได้
แผนการจดั การเรยี นรู้ สาระการเรียนรูศ้ ิลปะ โรงเรยี นบุญวาทย์วทิ ยาลยั
บันทึกหลังการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ( เพ่ือการวจิ ัยในชั้นเรียน )
๑. ผลการจัดกิจกรรม
การประเมินด้านความรู้ ( Knowledge) พบวา่
นักเรยี นผ่านเกณฑ์ประเมนิ จานวน ............. คน คิดเป็นรอ้ ยละ……………….……….
นักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ประเมินจานวน .......... คน คดิ เปน็ ร้อยละ …………………..…….
การประเมนิ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ( Process) พบว่า
นกั เรียนผา่ นเกณฑป์ ระเมินจานวน ............. คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ……………….……….
นกั เรยี นไมผ่ ่านเกณฑ์ประเมนิ จานวน .......... คน คดิ เป็นร้อยละ …………………..…….
การประเมินด้านคุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ ( Attribute) พบวา่
นักเรียนผา่ นเกณฑป์ ระเมินจานวน ............. คน คิดเป็นรอ้ ยละ ……………….……….
นกั เรียนไม่ผ่านเกณฑ์ประเมนิ จานวน .......... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ …………………..…….
การประเมินด้านการ อ่าน คดิ วิเคราะห์และเขียน พบว่า
-การอ่าน
นกั เรียนผา่ นเกณฑป์ ระเมิน จานวน ............. คน คิดเปน็ ร้อยละ ……………….……….
นักเรียนไมผ่ า่ นเกณฑป์ ระเมนิ จานวน .......... คน คดิ เปน็ ร้อยละ …………………..…….
- การคดิ วเิ คราะห์
นักเรยี นผา่ นเกณฑ์ประเมนิ จานวน ............. คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ……………….……….
นักเรยี นไมผ่ ่านเกณฑ์ประเมินจานวน .......... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ …………………..…….
- การเขยี น
นักเรยี นผ่านเกณฑป์ ระเมิน จานวน ............. คน คิดเป็นร้อยละ ……………….……….
นกั เรียนไม่ผ่านเกณฑป์ ระเมนิ จานวน .......... คน คิดเปน็ ร้อยละ …………………..…….
การประเมนิ ด้านสมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน พบว่า
- ความสามารถในการสื่อสาร
นกั เรียนผา่ นเกณฑ์ประเมนิ จานวน ............. คน คดิ เปน็ ร้อยละ ……………….……….
นกั เรียนไม่ผ่านเกณฑป์ ระเมนิ จานวน .......... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ …………………..…….
- ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์ประเมนิ จานวน ............. คน คดิ เป็นร้อยละ ……………….……….
นักเรียนไม่ผ่านเกณฑป์ ระเมินจานวน .......... คน คิดเปน็ ร้อยละ …………………..…….
๒. ปญั หาท่ีพบ
- นกั เรยี นไม่ผ่านเกณฑป์ ระเมินด้านความรู้ ( Knowledge) เป็นเพราะ
.............................................................................................................................................................
- นกั เรยี นไมผ่ ่านเกณฑป์ ระเมินด้านทักษะกระบวนการ ( Process) เป็นเพราะ
.............................................................................................................................................................
แผนการจดั การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ โรงเรยี นบุญวาทย์วิทยาลยั
- นักเรียนไมผ่ า่ นเกณฑป์ ระเมนิ ดา้ นการ อา่ น คดิ วิเคราะห์และเขยี น เป็นเพราะ
.............................................................................................................................................................
- นกั เรยี นไม่ผา่ นเกณฑป์ ระเมินดา้ นสมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน เปน็ เพราะ
.............................................................................................................................................................
๓. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ไข
- นักเรยี นไม่ผ่านเกณฑ์ประเมินด้านความรู้ ( Knowledge)
.............................................................................................................................................................
- นักเรยี นไม่ผา่ นเกณฑ์ประเมนิ ด้านทกั ษะกระบวนการ ( Process)
.............................................................................................................................................................
- นกั เรยี นไมผ่ า่ นเกณฑ์ประเมนิ ดา้ นการ อา่ น คดิ วิเคราะหแ์ ละเขียน
.............................................................................................................................................................
- นักเรยี นไมผ่ า่ นเกณฑ์ประเมนิ ด้านสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
.............................................................................................................................................................
ลงชอ่ื …………………………………… ผู้สอน
( นางสาววาสนา งามสุข )
ตาแหน่ง ครูผชู้ ว่ ย
แผนการจดั การเรยี นรู้ สาระการเรียนร้ศู ิลปะ โรงเรยี นบุญวาทย์วทิ ยาลัย
ความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะของหวั หน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้
เป็นแผนการสอนฯท่ีมอี งค์ประกอบของแผนครบถว้ น นาไปใช้จดั การเรยี นการสอนเพอ่ื พฒั นา
คุณภาพนกั เรียน ต่อไปได้
เปน็ แผนการสอนฯที่มุ่งเนน้ มาตรฐานการคิด วิเคราะห์และเขียน มกี จิ กรรมทเี่ น้นให้นักเรยี นใชท้ ักษะ
การคิด วเิ คราะห์และเขยี น
เป็นแผนการสอนทม่ี ีกิจกรรมสอดคล้องกับภาระงานและการวัดประเมินผล ส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียน
ตามตวั ชี้วดั /ผลการเรยี นรู้ นาไปสู่การวิจัยในชนั้ เรียน
เปน็ แผนการสอนท่ีม่งุ เนน้ ใหน้ กั เรยี นได้ใชท้ ักษะกระบวนการเรยี นรู้ จากการปฏิบตั ิจรงิ
เปน็ แผนการสอนท่ีใหน้ ักเรียนมีส่วนรว่ มในกจิ กรรมการเรยี นการสอน และการวดั ประเมินผล
อนญุ าตให้นาไปใชส้ อนได้
เปน็ แผนการสอนท่มี ีกจิ กรรมสอดคล้องกับภาระงานและการวัดประเมินผล ส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียน
ตามตัวชี้วดั /ผลการเรยี นรู้ นาไปสู่การวิจัยในชน้ั เรียน
เปน็ แผนการสอนท่ีมุ่งเน้นให้นักเรียนได้ใชท้ ักษะกระบวนการเรยี นรู้ จากการปฏิบตั ิจรงิ
เป็นแผนการสอนทีใ่ หน้ กั เรยี นมีสว่ นร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอน และการวัดประเมินผล
อนุญาตใหน้ าไปใชส้ อนได้
ลงช่ือ.................................................................
( นางอรชร พรศริ ิ )
หัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรศู้ ิลปะ
แผนการจัดการเรียนรู้ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ โรงเรยี นบญุ วาทย์วทิ ยาลยั
แผนจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๒
รายวิชา ศ23101 รายวิชา ศิลปศกึ ษา หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เรื่อง รูปแบบการแสดงและหลักการประดิษฐ์ท่ารา
เวลา 2 ชัว่ โมง
ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 3 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖5
รายวชิ าพื้นฐาน
๑. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ช้วี ัด
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐานศ.3.1 เข้าใจ และแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์วิพากษ์วิจารณ์คุณค่านาฏศิลป์
ถา่ ยทอดความรูส้ กึ ความคดิ อย่างอสิ ระ ชืน่ ชมและประยกุ ต์ใช้ในชีวติ ประจาวนั
๒ปจาร.สกะากรอกะบสากเราพตศศาเควัรลค๓3ัญปชงล..รว้ี/่ื๑1อคะัดนดวมมไิษา..ห33มฐว//ค์ส34รริด่า้ารงงวกสบารยยรคอใ์ทดช่า้ภรามมาษเทีีทปาักกั น็ ทษษก่าะะาทใใรนนานกกงาเาาคพรรวใแื่อาชปมสค้ ล่ืรอวคู้จคาวามวกาคามกมิดแาใหรลนฝมะกึกกาาหยารรัดพสแนัฒ่อืลานสะฏาาใศรรชิลผปู้ทปา่แ่าน์ไบททกบาายกงรมแาแารทสใแชดนส้ใงคดนางกพาูดรปหรระือดใชิษ้ภฐ์ทาษ่าราานาโดฏยศเิลริ่มป์
2. สาระการเรยี นรู้
การประดิษฐ์ท่าราและทา่ ทางประกอบการแสดง
3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
ด้านความรู้ ( Knowledge)
การประดิษฐท์ ่าราและท่าทางประกอบการแสดง
ด้านทักษะกระบวนการ ( Process)
- กระบวนการคิดสรา้ งสรรค์
- การแปลความ
ด้านคุณลักษณะ(Attribute)
- มีวนิ ัย
- ใฝุเรียนรู้
4. มาตรฐานด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (Attributes )
- คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงคต์ ามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ อยู่อย่างพอเพียง ซือ่ สตั ยส์ ุจริต ม่งุ มั่นในการทางาน
มีวินัย รกั ความเป็นไทย ใฝุเรยี นรู้ มีจติ สาธารณะ
5. มาตรฐานดา้ นการ อ่าน คดิ วเิ คราะห์และเขียน
การอา่ น
: ใช้การอา่ นเพือ่ การคน้ คว้าจาแหลง่ เรียนร้ตู ่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
การคดิ วเิ คราะห์ : แสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกับเร่ืองท่อี า่ นได้
การเขยี น : เขียนชีแ้ จง อธิบาย เขียนแสดงความคิดเห็นและเขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าได้
แผนการจดั การเรยี นรู้ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ โรงเรียนบญุ วาทย์วิทยาลยั
6. ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน ใช้ภาษาถา่ ยทอดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ ความคิด ความร้สู กึ
ความสามารถในการสื่อสาร :
และทศั นะของตนเอง ดว้ ยการพดู และการเขยี น.
ความสามารถในการแกป้ ัญหา : ผลลพั ธท์ ี่เกดิ จากปญั หา
ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต : เรียนรู้ดว้ ยตวั เองอย่างตอ่ เน่ือง
ทางานและอย่รู ว่ มกนั ในสงั คมอยา่ งมีความสุข
ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ :
: เรยี นรดู้ ้วยตวั เองอยา่ งต่อเน่ือง
เลือกและใช้เทคโนโลยีเพื่อพฒั นาตนเองและสังคม
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี :
7. ชิน้ งาน ภาระงานเพอื่ การวัดและประเมนิ ผล
หลักฐานการเรยี นรู้ วิธีการ เคร่อื งมือ เกณฑ์
(ช้ินงาน/ภาระงาน)
นาเสนอการแสดงราวงอย่างงา่ ย กระบวนการคดิ แบบปร ะ เมิ น ทั ก ษะ -นกั เรียนมที ักษะอยู่ในระดบั
สรา้ งสรรค์ กระบวนการคดิ สร้างสรรค์ คุณดีข้นึ ไป
8. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั นา/ข้นั ทบทวนประสบการณเ์ ดมิ /ข้ันกระตนุ้ ใหเ้ กิดความสนใจ
๑.ครแู จง้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ และชีแ้ จงข้นั ตอนกจิ กรรมการเรียนรู้ ผา่ นโปรแกรมline
๒.ครทู บทวนความรู้เดมิ เกีย่ วกับการแสดงนาฏศลิ ป์
ขัน้ กจิ กรรมการเรยี นการสอน
1.ครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ ใหน้ ักเรียนเขา้ ใจถึงการแสดงนาฏศลิ ปท์ ี่มีท่าราประกอบการแสดง
๒ ครจู ัดกิจกรรม มาราวงกันเถอะ และแจกใบงานกจิ กรรม
๓. ครูและนักเรยี นร่วมกนั กาหนดระยะเวลาในการนาเสนอผลงาน
4.นักเรยี นลงมือปฏบิ ัติการ แลกเปลีย่ นความคิดเหน็ ฝกึ ซ้อมทา่ จนเกิดความชานาญ โดยครูดูแลนกั เรียน
อยา่ งใกล้ชดิ และให้คาแนะนาตลอดเวลาปฏิบตั ิ
ข้นั สรปุ (ความคดิ รวบยอด/สาระสาคญั )
๑.ครูเปิดโอกาสใหน้ กั เรียนได้มีโอกาสแบ่งปนั ความรทู้ ่ไี ด้จากการค้นควา้ หรอื ลงมือกระทากบั เพอ่ื นๆ
๒. ครตู รวจคาตอบ โดยให้นักเรียนผลัดกันตรวจคาตอบ โดยมีแนวเฉลยคาตอบ
๓. ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรุปความรู้เกย่ี วกบั รปู แบบการแสดง หลักการประดิษฐ์ทา่ ราและท่าทางประกอบการแสดง
9. สอ่ื วสั ดุ อุปกรณ์ /แหล่งการเรียนรู้
๑. หนงั สือเรยี น
2. แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ
แผนการจัดการเรียนรู้ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ โรงเรยี นบุญวาทย์วิทยาลัย
๑0. เกณฑ์การประเมินความร/ู้ ทักษะกระบวนการ/คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค/์ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น
คาอธบิ ายคุณภาพ (Rubric)
รายการประเมิน ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรับปรงุ
( ๓คะแนน) (๒ คะแนน) (๑คะแนน) (๐ คะแนน)
ความรู้ (K) สามารถระบุแสดงตี สามารถระบุแสดงตี สามารถระบแุ สดงตี ไมส่ ามารถระบุแสดงตี
บทที่ส่อื อารมณ์และ บทท่ีสื่ออารมณแ์ ละ บทที่ส่ืออารมณ์และ บทที่สือ่ อารมณ์และ
การแสดงตบี ทท่สี ือ่ อารมณ์ ความรู้สกึ ได้ถกู ตอ้ ง ความรู้สึกได้คอ่ นขา้ ง ความรสู้ กึ โดยอาศยั คา ความร้สู ึกได้
และความรู้สกึ
ถูกตอ้ ง ชแ้ี นะ
ทกั ษะ /กระบวนการ(P) สามารถใช้ สามารถใช้ สามารถใช้ ไม่สามารถใช้
สามารถใช้กระบวนการคดิ กระบวนการคดิ กระบวนการคิด กระบวนการคดิ กระบวนการคิด
สร้างสรรค์ได้ สรา้ งสรรค์ได้ สร้างสรรคไ์ ดค้ อ่ นข้าง สรา้ งสรรค์ได้แตไ่ ม่ สร้างสรรคไ์ ด้
กระจ่างชัด ชัดเจน ชัดเจน
คุณลักษณะทพี่ งึ ประสงค์ (A) ส่งงานท่ีไดร้ ับ ส่งงานที่ได้รับ สง่ งานที่ไดร้ ับ ไมส่ ง่ งานตามทไี่ ดร้ บั
ความรับผิดชอบ มอบหมายตรงตาม มอบหมายตรงตาม มอบหมายไมต่ รงตาม มอบหมาย
เวลาทกี่ าหนดและ เวลาทีก่ าหนด แตง่ าน เวลาทีก่ าหนด แต่
งานมคี วามสมบรู ณ์ บางส่วนไม่ ครบถ้วน งานมีความ ครบถ้วน
ครบถว้ น
คาอธบิ ายคุณภาพ (Rubric)
รายการประเมิน ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง
( ๓คะแนน) (๒ คะแนน) (๑คะแนน) (๐ คะแนน)
สมรรถนะสาคัญของ
ผู้เรียน (C )
๑.ความสามารถใน ๑.๑รวบรวมขอ้ มูล จัดกระทาข้อมลู และนา ๑.๑รวบรวม ๑.๑รวบรวม ๑.๑รวบรวม
การคิด ข้อมูลท่เี กี่ยว ขอ้ งมาหลอมรวม สรุปเปน็ ข้อมลู จัดกระทา ข้อมลู จัด ข้อมลู จัด
๑.๑ คดิ สงั เคราะห์ องค์ความรู้ หรอื สารสนเทศเพ่อื ข้อมลู และนาข้อมลู กระทาข้อมูล กระทาข้อมูล
เพ่อื นาไปสู่การ ประกอบการวางแผนตดั สนิ ใจท่เี กีย่ วกบั ที่เก่ยี วขอ้ งมาหลอม และนาขอ้ มูลท่ี และนาขอ้ มลู
วางแผน ออก แบบ การสรา้ งผลงานของตนเองและสังคมได้ รวมสรปุ เปน็ องค์ เกี่ยวขอ้ งมา ทีเ่ กย่ี วข้องมา
คาดการณ์กาหนด ความรู้ หรอื หลอมรวมกัน หลอมรวมกนั
เป็นเปูาหมายใน สารสนเทศเพือ่ ระ ไดเ้ ปน็ ผลงาน ไม่ได้
อนาคต เพ่ือประกอบ กอบการวางแผน
การตัดสินใจตอ่ ตัดสินใจทีเ่ ก่ียวกับ
ตนเองและสังคม การสร้างผลงานของ
ตนเองหรือสงั คมได้
แผนการจดั การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ศิลปะ โรงเรียนบุญวาทย์วทิ ยาลยั
คาอธบิ ายคณุ ภาพ (Rubric)
รายการประเมนิ ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง
( ๓คะแนน) (๐ คะแนน)
(๒ คะแนน) (๑คะแนน)
๑.๒ คิดสรา้ งสรรค์มีจินตนาการ ๑.๒ ใชจ้ นิ ตนาการ ๑.๒ ใชจ้ ินตนาการ ๑.๒ ใชจ้ นิ ตนาการ ๑.๒ ใชจ้ นิ ตนาการ
เชิงบวกในการ เชิงบวกในการ เชิงบวกในการ
คดิ ในทางบวกและสามารถประยกุ ต์ เชิงบวกใน การ สร้างสรรคส์ ิ่งแปลก สร้างสรรคส์ ิง่ แปลก สร้างสรรค์สง่ิ แปลก
สรา้ งสรรคส์ ่ิงใหม่ เพ่ือประโยชน์ สร้างสรรคส์ ง่ิ แปลก ใหมแ่ ละหรอื ใหม่ และหรือ ใหม่ และหรือ
ประยุกต์สร้างส่ิง ประยกุ ตส์ ร้างสิง่ ประยุกต์สร้างสิง่
ต่อตนเองและสังคม ใหม่ และหรอื
ใหมไ่ ดอ้ ยา่ งมี ใหม่ได้ ใหมไ่ ม่
ประยุกต์สรา้ งสิ่งใหม่ ประสทิ ธิภาพ ต่อ
ตนเอง หรอื สงั คม
ได้อย่างมี
ประสิทธภิ าพ ต่อ
ตนเองและสังคม
๑.๓ คดิ อยา่ งมีวจิ ารญาณเพ่อื ๑.๓ คิดแบบองคร์ วม ๑.๓ คิดแบบองค์ ๑.๓ คดิ แบบองค์ ๑.๓ คิดแบบองค์
รอบด้านมเี หตผุ ลเชิง รวมรอบดา้ นมีเหตุผล รวม รอบด้านมี รวมรอบด้านมี
ตดั สนิ ใจเลอื กทางเลอื กท่ี
หลากหลายโดยใชเ้ กณฑ์ทเ่ี หมาะสม ตรรกะตดั สนิ ใจเลอื ก เชิงตรรกะตดั สินใจ เหตุผลเชิงตรรกะ เหตุผลเชงิ ตรรกะ
บนพื้นฐานของข้อมูลท่ี เลือกบนพ้นื ฐานของ ตัดสินใจเลือกบน และตัดสนิ ใจเลอื ก
น่าเชอ่ื ถอื โดยใชเ้ กณฑ์ ข้อมลู ที่น่าเชือ่ ถือโดย พ้นื ฐานของข้อมลู ท่ี บนพ้นื ฐานของ
ท่ถี กู ต้องเหมาะสมต่อ ใช้เกณฑ์ทีถ่ กู ต้อง น่าเชือ่ ถือ โดยใช้ ข้อมลู ท่นี ่าเชื่อถอื
ตนเองและสงั คม เหมาะสมตอ่ ตนเอง เกณฑ์ทีถ่ ูกตอ้ งได้ โดยใชเ้ กณฑ์ท่ี
หรือสงั คม ถูกต้องไม่ได้
๒.ความสามารถในการแก้ปญั หา
2.1 คณุ ภาพของผลงาน/การ ๒.๑ผลงาน/ช้ินงานท่ี ๒.๑ผลงาน/ช้นิ งานที่ ๒.๑ผลงาน/ชิ้นงานท่ี ๒.๑ผลงาน/ช้ินงานที่
แกป้ ัญหา
เกดิ จากการแก้ปญั หามี เกิดจากการแก้ปญั หา เกิดจากการแกป้ ัญหา เกดิ จากการแก้ปัญหา
ความถูกตอ้ งตาม มีความถูกต้องตาม มีความถกู ตอ้ งตาม ไมถ่ กู ตอ้ งตามหลกั การ
หลักการเหตุผลและเกดิ หลักการเหตุผลแต่ หลกั การเหตุผลแต่ เหตุผลและไม่ไดเ้ กดิ
จากการดาเนนิ งานตาม ไม่ไดเ้ กิดจากการ การแกป้ ัญหาไม่ จากการดาเนนิ งานตาม
ขน้ั ตอนทก่ี าหนดอย่าง ดาเนินงานตามขนั้ ตอน เปน็ ไปตามขนั้ ตอนท่ี ข้ันตอนท่ีกาหนด
ชดั เจน ท่ีกาหนดไว้ทัง้ หมด กาหนด
2.2 นาไปประยุกต์ใช้ ๒.๒นาข้อคน้ พบจาก ๒.๒นาข้อคน้ พบจาก ๒.๒นาข้อคน้ พบจาก ๒.๒ไมม่ กี ารนาข้อ
ผลงาน/ชิ้นงานไป ผลงาน/ชิน้ งานไป ผลงาน/ชิน้ งานไป คน้ พบจากผลงาน/
ประยกุ ต์ใช้ในการ ประยุกต์ใช้ในการ ประยุกตใ์ ชใ้ นการ ชิน้ งานไปประยุกต์ใช้
ปูองกันและแกป้ ญั หาใน ปูองกันและแกป้ ัญหา ปอู งกนั และแกป้ ัญหา ในการปูองกนั และ
สถานการณ์อื่นๆไดอ้ ย่าง ในสถานการณ์อืน่ ๆได้ ในสถานการณ์อนื่ แกป้ ญั หาใน
สอดคล้องตามหลัก อย่างสมเหตุสมผล สถานการณ์อ่นื
เหตผุ ลและคุณธรรม
แผนการจัดการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลยั
บนั ทกึ หลังการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ( เพอ่ื การวิจยั ในช้นั เรียน )
๑. ผลการจัดกิจกรรม
การประเมินด้านความรู้ ( Knowledge) พบวา่
นักเรียนผ่านเกณฑ์ประเมิน จานวน ............. คน คิดเปน็ รอ้ ยละ……………….……….
นกั เรียนไมผ่ า่ นเกณฑป์ ระเมนิ จานวน .......... คน คิดเปน็ ร้อยละ …………………..…….
การประเมนิ ด้านทกั ษะกระบวนการ ( Process) พบว่า
นกั เรียนผ่านเกณฑ์ประเมินจานวน ............. คน คิดเปน็ ร้อยละ ……………….……….
นักเรยี นไมผ่ ่านเกณฑป์ ระเมินจานวน .......... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ …………………..…….
การประเมินด้านคุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ ( Attribute) พบวา่
นกั เรียนผา่ นเกณฑ์ประเมินจานวน ............. คน คิดเป็นร้อยละ ……………….……….
นักเรียนไม่ผ่านเกณฑป์ ระเมินจานวน .......... คน คิดเป็นร้อยละ …………………..…….
การประเมินดา้ นการ อา่ น คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขียน พบว่า
-การอ่าน
นักเรยี นผ่านเกณฑป์ ระเมิน จานวน ............. คน คิดเป็นรอ้ ยละ ……………….……….
นกั เรียนไมผ่ า่ นเกณฑ์ประเมนิ จานวน .......... คน คิดเป็นรอ้ ยละ …………………..…….
- การคดิ วิเคราะห์
นักเรียนผา่ นเกณฑป์ ระเมิน จานวน ............. คน คดิ เปน็ ร้อยละ ……………….……….
นักเรยี นไม่ผา่ นเกณฑป์ ระเมนิ จานวน .......... คน คดิ เป็นร้อยละ …………………..…….
- การเขยี น
นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์ประเมนิ จานวน ............. คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ……………….……….
นกั เรยี นไมผ่ า่ นเกณฑป์ ระเมินจานวน .......... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ …………………..…….
การประเมนิ ด้านสมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น พบว่า
- ความสามารถในการแก้ปัญหา
นักเรยี นผา่ นเกณฑ์ประเมนิ จานวน ............. คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ……………….……….
นักเรยี นไมผ่ ่านเกณฑป์ ระเมินจานวน .......... คน คิดเป็นรอ้ ยละ …………………..…….
- ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
นักเรียนผ่านเกณฑ์ประเมิน จานวน ............. คน คดิ เปน็ ร้อยละ ……………….……….
นกั เรียนไม่ผ่านเกณฑ์ประเมินจานวน .......... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ …………………..…….
๒. ปญั หาท่ีพบ
- นักเรียนไม่ผ่านเกณฑป์ ระเมนิ ด้านความรู้ ( Knowledge) เปน็ เพราะ
.............................................................................................................................................................
- นกั เรยี นไมผ่ ่านเกณฑป์ ระเมินดา้ นทักษะกระบวนการ ( Process) เปน็ เพราะ
.............................................................................................................................................................
แผนการจดั การเรียนรู้ สาระการเรียนร้ศู ลิ ปะ โรงเรยี นบุญวาทย์วิทยาลยั
- นักเรยี นไม่ผา่ นเกณฑ์ประเมนิ ดา้ นการ อ่าน คดิ วเิ คราะห์และเขยี น เปน็ เพราะ
.............................................................................................................................................................
- นักเรยี นไม่ผ่านเกณฑป์ ระเมนิ ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน เปน็ เพราะ
.............................................................................................................................................................
๓. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ไข
- นกั เรียนไม่ผ่านเกณฑป์ ระเมนิ ด้านความรู้ ( Knowledge)
.............................................................................................................................................................
- นกั เรยี นไมผ่ า่ นเกณฑ์ประเมนิ ดา้ นทักษะกระบวนการ ( Process)
.............................................................................................................................................................
- นักเรยี นไม่ผา่ นเกณฑ์ประเมินดา้ นการ อา่ น คิดวิเคราะห์และเขียน
.............................................................................................................................................................
- นักเรยี นไมผ่ า่ นเกณฑ์ประเมนิ ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น
.............................................................................................................................................................
ลงชื่อ…………………………………… ผู้สอน
( นางสาววาสนา งามสุข )
ตาแหน่ง ครูผชู้ ่วย
แผนการจัดการเรยี นรู้ สาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ โรงเรยี นบุญวาทย์วิทยาลยั
ความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะของหวั หน้ากลุม่ สาระการเรยี นรู้
เป็นแผนการสอนฯท่มี ีองคป์ ระกอบของแผนครบถว้ น นาไปใชจ้ ัดการเรียนการสอนเพ่ือพัฒนา
นักเรียน ตอ่ ไปไดค้ ณุ ภาพ
เป็นแผนการสอนฯที่มุ่งเน้นมาตรฐานการคิด วิเคราะห์และเขียน มีกิจกรรมที่เน้นให้นักเรียนใช้ทักษะ
การคิด วเิ คราะหแ์ ละเขียน
เป็นแผนการสอนทม่ี ีกิจกรรมสอดคล้องกบั ภาระงานและการวัดประเมินผล สง่ เสรมิ การเรยี นรขู้ อง
ผเู้ รียนตามตัวช้ีวัด /ผลการเรยี นรู้ นาไปสู่การวจิ ยั ในชน้ั เรยี น
เปน็ แผนการสอนทม่ี งุ่ เนน้ ใหน้ กั เรียนไดใ้ ชท้ ักษะกระบวนการเรยี นรู้ จากการปฏบิ ตั จิ ริง
เปน็ แผนการสอนท่ีใหน้ ักเรยี นมสี ่วนร่วมในกิจกรรมการเรยี นการสอน และการวดั ประเมินผลอนญุ าต
ใหน้ าไปใชส้ อนได้
เปน็ แผนการสอนที่มีกิจกรรมสอดคลอ้ งกับภาระงานและการวดั ประเมนิ ผล ส่งเสรมิ การเรยี นรู้ของ
ผเู้ รียนตามตวั ชว้ี ดั /ผลการเรยี นรู้ นาไปสู่การวจิ ัยในชั้นเรียน
เป็นแผนการสอนที่ม่งุ เน้นให้นักเรยี นได้ใชท้ ักษะกระบวนการเรียนรู้ จากการปฏิบตั ิจรงิ
เปน็ แผนการสอนที่ใหน้ ักเรียนมีส่วนรว่ มในกจิ กรรมการเรยี นการสอน และการวัดประเมนิ ผล
อนุญาตให้นาไปใชส้ อนได้
ลงชอื่ .................................................................
( นางอรชร พรศริ ิ )
หัวหน้ากลุม่ สาระการเรียนรู้ศิลปะ
แผนการจัดการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ศิลปะ โรงเรยี นบญุ วาทย์วทิ ยาลยั
แผนจัดการเรียนรทู้ ่ี 3
รายวชิ า ศ23101 รายวิชา ศิลปศกึ ษา หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 เร่อื ง องค์ประกอบนาฏศิลป์
เวลา 2 ชัว่ โมง ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา ๒๕๖5
รายวชิ าพน้ื ฐาน
๑. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ัด
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐานศ.3.1 เขา้ ใจ และแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์วิพากษ์วิจารณ์คุณค่านาฏศิลป์
ถา่ ยทอดความรสู้ ึก ความคดิ อย่างอสิ ระ ช่ืนชมและประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจาวัน
ตัวชีว้ ัด วิจารณ์เปรียบเทียบงานนาฏศิลป์ ท่ีมีความแตกต่างกันโดยใช้ความรู้เร่ือง
ศ ๓.๑ ม.3/5 องคป์ ระกอบนาฏศิลป์
๒.สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การวจิ ารณง์ านนาฏศลิ ปไ์ ทยท่ีมคี วามแตกตา่ งกันตามหลกั การวจิ ารณ์เปรียบเทยี บจะตอ้ งบอกประเภทของการแสดง
บอกประโยชน์และคุณคา่ ของการแสดงนาฏศิลป์ไทย และบอกกระบวนท่าราของผู้แสดงได้แสดงนาฏศิลป์และละครใน
รปู แบบง่ายๆ
๓.สาระการเรยี นรู้
องคป์ ระกอบนาฏศลิ ป์
๔.จุดประสงค์การเรยี นรู้
ดา้ นความรู้ ( Knowledge)
องค์ประกอบนาฏศิลป์
ด้านทักษะกระบวนการ ( Process)
- การเปรยี บเทยี บ
ดา้ นคุณลักษณะ(Attribute)
- มุง่ ม่นั การทางาน
๕. มาตรฐานดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (Attributes
- คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงคต์ ามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อยู่อย่างพอเพียง ซ่ือสัตย์สจุ รติ ม่งุ ม่ันในการทางาน
มวี ินยั รักความเป็นไทย ใฝุเรียนรู้ มจี ิตสาธารณะ
- ๖.มาตรฐานด้านการ อ่าน คิดวเิ คราะหแ์ ละเขยี น
การอา่ น : ใชก้ ารอา่ นเพื่อการค้นคว้าจาแหลง่ เรียนรตู้ ่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
การคดิ วเิ คราะห์ : แสดงความคิดเห็นเกีย่ วกับเรือ่ งที่อ่านได้
การเขียน : เขยี นชี้แจง อธิบาย เขียนแสดงความคดิ เห็นและเขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าได้
แผนการจดั การเรียนรู้ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ โรงเรียนบญุ วาทย์วิทยาลยั
๗.ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน ใชภ้ าษาถา่ ยทอดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ ความคิด ความรสู้ กึ
ความสามารถในการสือ่ สาร : และทศั นะของตนเอง ดว้ ยการพดู และการเขียน
การคดิ ข้ันสงู ( การคิดคิดสรา้ งสรรค์ คิดอย่างมวี จิ ารณญาณ )
ความสามารถในการคดิ :
ความสามารถในการแกป้ ัญหา : ผลลพั ธ์ที่เกิดจากปญั หา
ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ : เรยี นรดู้ ้วยตัวเองอย่างตอ่ เน่อื ง
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี : เลอื กและใช้เทคโนโลยีเพอื่ พฒั นาตนเองและสังคม
๘.การบูรณาการ
บูรณาการงานประชาธิปไตยในโรงเรยี น
การทางานเปน็ ทีมด้วยหลักความเสมอภาคหลักสทิ ธิเสรภี าพ หลักเสยี งข้างมาก ไม่ละเมิดสิทธเิ สยี งขา้ งน้อย
มกี ารอภิปราย ถกเถยี งแสดงเหตผุ ลด้วยขอ้ มลู ท่ถี ูกต้องแตกตา่ งไม่แตกแยกรว่ มมอื กนั หาข้อสรุปด้วยหลัก
สนั ตวิ ิถี
๙. ช้นิ งาน ภาระงานเพื่อการวดั และประเมนิ ผล
หลกั ฐานการเรียนรู้ วิธีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์
(ชน้ิ งาน/ภาระงาน)
ทาแบบทดสอบ ทาแบบทดสอบ นั ก เ รี ย น ทุ ก ค น ท า
ใบงานที่ 1 เร่อื ง องคป์ ระกอบ แบบทดสอบใบงานที่ 1เรื่อง
นาฏศลิ ป์ องค์ประกอบนาฏศิลป์ได้
ร้อยละ๖๐ขึ้นไป
๑๐.กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนา/ข้ันทบทวนประสบการณเ์ ดมิ /ขัน้ กระตุ้นให้เกดิ ความสนใจ
๑.ครูแจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ และชีแ้ จงขั้นตอนกจิ กรรมการเรยี นรผู้ ่านโปรแกรมline
๒.ครูทบทวนความรู้เดิมเก่ียวกับหลักการประดษิ ฐ์ท่ารา
ขนั้ กจิ กรรมการเรยี นการสอน
1.ครใู ห้ความรูเ้ กยี่ วกบั องคป์ ระกอบของนาฏศลิ ป์
๒.ครูอธบิ ายความแตกต่างขององค์ประกอบนาฏศลิ ป์
๓. ครกู าหนดหัวขอ้ นาฏศิลปท์ ีม่ ีความแตกตา่ งกนั
๔. นักเรยี นรว่ มกันอภปิ ราย วิจารณเ์ ปรียบเทียบความแตกต่างขององคป์ ระกอบนาฏศิลป์
ขัน้ สรปุ (ความคิดรวบยอด/สาระสาคัญ)
1.ครูให้นักเรยี น ออกมานาเสนอผลการสรุปหนา้ ช้นั เรียน ครูชว่ ยแนะนาเพ่ิมเติมในสว่ นทบ่ี กพรอ่ ง
2.ครแู ละนักเรียนช่วยกนั สรุปความรูเ้ ก่ยี วกบั องค์ประกอบของนาฏศลิ ป์
แผนการจดั การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ศิลปะ โรงเรียนบญุ วาทย์วิทยาลยั
๑๑.สอ่ื วัสดุ อุปกรณ์ /แหล่งการเรียนรู้
๑. หนังสือเรียน
๒ .ใบงานท่ี 1 เรอ่ื ง องค์ประกอบนาฏศิลป์
3. หอ้ งสมดุ
4.แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ
๑๒. เกณฑ์การประเมินความรู้/ทกั ษะกระบวนการ/คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
คาอธิบายคณุ ภาพ (Rubric)
รายการประเมิน ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรงุ
(๐ คะแนน)
( ๓คะแนน) (๒ คะแนน) (๑คะแนน)
ไม่สามารถระบุแสดง
ความรู้ (K) นาฏศิลป์และละครใน
รูปแบบงา่ ย ๆได้
แสดงนาฏศิลป์และละครใน สามารถระบุแสดง สามารถระบแุ สดง สามารถระบุแสดง
รปู แบบง่าย ๆ นาฏศิลป์และละครใน นาฏศิลปแ์ ละละครใน นาฏศิลป์และละครใน
รปู แบบง่าย ๆไดถ้ ูกตอ้ ง รูปแบบงา่ ย ๆ รูปแบบง่าย ๆ
ไดค้ ่อนข้างถกู ต้อง โดยอาศัยคาช้แี นะ
ทักษะ /กระบวนการ(P) สามารถใชก้ ารนาความรู้ สามารถใช้การนา สามารถใช้การนา ไมส่ ามารถใช้การนา
สามารถใช้การนาความรู้ไป ความร้ไู ปใช้ได้
ไปใชไ้ ด้กระจ่างชดั ความรไู้ ปใช้ได้ค่อนขา้ ง ความรู้ไปใชไ้ ด้แตไ่ ม่
ใช้ ชดั เจน ชดั เจน
คณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ (A)
ความรบั ผิดชอบ สง่ งานที่ไดร้ บั มอบหมาย ส่งงานทไี่ ดร้ ับ ส่งงานท่ไี ดร้ ับ ไมส่ ่งงานตามที่ไดร้ บั
ตรงตามเวลาท่กี าหนด มอบหมายตรงตามเวลา มอบหมายไม่ตรงตาม มอบหมาย
และงานมีความสมบูรณ์ ทกี่ าหนด แต่งาน เวลาที่กาหนด แต่งานมี
ครบถ้วน บางส่วนไม่ ครบถ้วน ความ ครบถว้ น
แผนการจดั การเรียนรู้ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ โรงเรียนบญุ วาทย์วิทยาลัย
คาอธบิ ายคุณภาพ (Rubric)
รายการประเมนิ ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง
( ๓คะแนน) (๒ คะแนน) (๑คะแนน) (๐ คะแนน)
สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น (C )
ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต 1. สบื ค้นความรู้ ขอ้ มูล ขา่ วสาร 1. สืบค้นความรู้ขอ้ มลู ขา่ วสาร 1. สบื ค้นความรู้ ขอ้ มลู ขา่ ว 1. คดั ลอก ข้อมูล ข่าวสาร
จากแหลง่ เรยี นร้ตู า่ ง ๆ หรอื จากแหลง่ เรยี นรู้ตา่ ง ๆ หรอื สารจากแหลง่ เรยี นรู้ หรอื แหลง่ ผอู้ น่ื โดยไมม่ กี ารสบื ค้น
๑. มีทักษะในการแสวงหาความรู้ แหล่งอา้ งองิ ทห่ี ลากหลายโดย แหล่งอา้ งองิ ท่ีหลาก หลายโดย อ้างอิงที่ไมห่ ลากหลาย
ข้อมูล ขา่ วสาร
๒. สามารถเชอื่ มโยงความรู้ ปฏิบตั ิทุกคร้ัง ปฏบิ ัตเิ ปน็ บางครง้ั
2. สงั เคราะหค์ วามรู้ ขอ้ มลู ขา่ ว 2. สังเคราะห์ความรู้ ข้อมูล 2. จัดกลุ่มความรู้ ขอ้ มลู 2. จัดกลุ่มความรู้ ขอ้ มลู
สารที่ได้รบั และสามารถนาเสนอ ขา่ วสารที่ไดร้ บั และสามารถ ข่าวสารท่ีไดร้ ับและสามารถ ข่าวสารทไี่ ด้รบั ไม่ได้หรอื
ประเดน็ ที่เปน็ แกน่ สาระสาคัญ นาเสนอประเดน็ ที่เป็นแกน่ นาเสนอประเด็นทีเ่ ปน็ แก่น นาเสนอประเด็นท่ีเปน็ แกน่
ครบถ้วนหรอื เปรียบเทียบกบั สาระสาคัญได้เป็นบางส่วนหรอื สาระสาคัญได้ สาระสาคัญโดยเปรียบเทียบ
หลักการทฤษฎไี ดอ้ ยา่ งสอดคลอ้ ง เปรียบ เทียบกบั หลักการทฤษฎี หลกั การทฤษฎไี ม่สอดคล้อง
๓.มวี ิธีการในการศึกษา ความรู้ นา่ เชอื่ ถอื ทุกประเด็น ไดอ้ ยา่ งสอดคลอ้ งนา่ เช่ือถือ มีวธิ ีการในการศกึ ษาคน้ คว้า หรือไม่น่าเชือ่ ถอื
เพ่มิ เติมเพอื่ ขยายประสบการณ์ มวี ิธีการท่หี ลากหลายในการ เปน็ บางประเดน็ มวี ิธีการในการศึกษาคน้ คว้า
มีวิธีการที่หลากหลายใน
ไปสู่การเรียนรูส้ ิ่งใหม่ และสรา้ ง ศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มลู ขา่ ว สาร การศกึ ษาคน้ คว้า ขอ้ มลู ข้อมูล ข่าวสารท่ไี มห่ ลากหลาย ขอ้ มูล ขา่ วสาร แตไ่ ม่
องคค์ วามรู้ตามความสนใจอย่าง เพ่อื สรา้ งประเดน็ การเรียนรู้ ข่าวสารเพ่อื สร้างประเด็นการ เพอื่ สรา้ งประเดน็ การเรียนรู้ สามารถสรา้ ง ประเด็นการ
ใหม่ๆ ทเี่ ป็นประโยชน์ ตามความ เรียนรู้ใหมๆ่ ทีเ่ ปน็ ประโยชน์ ใหม่ ๆ ที่เปน็ ประโยชนต์ าม เรียนร้ใู หม่ๆ
ตอ่ เน่ือง
สนใจอยา่ งตอ่ เนือ่ ง ตามความสนใจได้ ความสนใจ
แผนการจัดการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ศิลปะ โรงเรียนบญุ วาทย์วทิ ยาลัย
บันทกึ หลังการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ( เพือ่ การวจิ ัยในช้นั เรียน )
๑. ผลการจัดกจิ กรรม
การประเมินดา้ นความรู้ ( Knowledge) พบว่า
นกั เรียนผา่ นเกณฑ์ประเมิน จานวน ............. คน คิดเป็นรอ้ ยละ……………….……….
นกั เรียนไมผ่ า่ นเกณฑป์ ระเมนิ จานวน .......... คน คดิ เป็นร้อยละ …………………..…….
การประเมินด้านทักษะกระบวนการ ( Process) พบวา่
นกั เรยี นผ่านเกณฑ์ประเมินจานวน ............. คน คดิ เป็นร้อยละ ……………….……….
นกั เรียนไม่ผ่านเกณฑป์ ระเมนิ จานวน .......... คน คิดเป็นรอ้ ยละ …………………..…….
การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ( Attribute) พบวา่
นักเรียนผ่านเกณฑป์ ระเมินจานวน ............. คน คดิ เป็นร้อยละ ……………….……….
นักเรียนไม่ผ่านเกณฑป์ ระเมินจานวน .......... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ …………………..…….
การประเมินดา้ นการ อ่าน คิดวเิ คราะหแ์ ละเขียน พบวา่
-การอา่ น
นักเรียนผา่ นเกณฑ์ประเมิน จานวน ............. คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ……………….……….
นักเรยี นไม่ผ่านเกณฑ์ประเมนิ จานวน .......... คน คดิ เปน็ ร้อยละ …………………..…….
- การคิดวเิ คราะห์
นักเรยี นผา่ นเกณฑป์ ระเมิน จานวน ............. คน คดิ เป็นร้อยละ ……………….……….
นกั เรียนไม่ผา่ นเกณฑ์ประเมนิ จานวน .......... คน คิดเปน็ ร้อยละ …………………..…….
- การเขยี น
นกั เรียนผ่านเกณฑ์ประเมนิ จานวน ............. คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ……………….……….
นกั เรียนไมผ่ า่ นเกณฑป์ ระเมนิ จานวน .......... คน คิดเป็นรอ้ ยละ …………………..…….
การประเมินด้านสมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น พบวา่
- ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
นกั เรียนผา่ นเกณฑป์ ระเมนิ จานวน ............. คน คิดเปน็ ร้อยละ ……………….……….
นักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ประเมินจานวน .......... คน คดิ เป็นร้อยละ …………………..…….
- การบรู ณาการ
- การประเมินบูรณาการกับอาเซยี นศึกษาพบวา่
นักเรียนผา่ นเกณฑ์ประเมิน จานวน ............. คน คดิ เป็นร้อยละ ……………….……….
นกั เรียนไมผ่ า่ นเกณฑ์ประเมนิ จานวน .......... คน คิดเปน็ ร้อยละ …………………..…….
๒. ปญั หาทพี่ บ
- นักเรยี นไมผ่ า่ นเกณฑป์ ระเมนิ ด้านความรู้ ( Knowledge) เปน็ เพราะ
.............................................................................................................................................................
- นกั เรยี นไม่ผา่ นเกณฑ์ประเมินด้านทักษะกระบวนการ ( Process) เปน็ เพราะ
.............................................................................................................................................................
แผนการจัดการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ โรงเรยี นบญุ วาทย์วิทยาลยั
- นกั เรียนไม่ผา่ นเกณฑป์ ระเมินด้านการ อา่ น คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขยี น เปน็ เพราะ
.............................................................................................................................................................
- นักเรยี นไมผ่ ่านเกณฑ์ประเมนิ ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน เป็นเพราะ
.............................................................................................................................................................
การบูรณาการ
-นกั เรยี นไมผ่ ่านเกณฑ์ประเมนิ อาเซียนศกึ ษา เป็นเพราะ
.............................................................................................................................................................
๓. ข้อเสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข
- นกั เรียนไมผ่ า่ นเกณฑป์ ระเมนิ ดา้ นความรู้ ( Knowledge)
.............................................................................................................................................................
- นกั เรยี นไมผ่ ่านเกณฑป์ ระเมินด้านทักษะกระบวนการ ( Process)
.............................................................................................................................................................
- นักเรียนไมผ่ า่ นเกณฑป์ ระเมนิ ด้านการ อ่าน คดิ วิเคราะหแ์ ละเขยี น
.............................................................................................................................................................
- นกั เรียนไมผ่ า่ นเกณฑป์ ระเมนิ ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น
.............................................................................................................................................................
ลงชือ่ …………………………………… ผสู้ อน
( นางสาววาสนา งามสุข )
ตาแหนง่ ครูผู้ช่วย
แผนการจัดการเรยี นรู้ สาระการเรียนรูศ้ ิลปะ โรงเรยี นบญุ วาทย์วทิ ยาลัย
ความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะของหวั หน้ากลุม่ สาระการเรยี นรู้
เป็นแผนการสอนฯท่มี ีองคป์ ระกอบของแผนครบถว้ น นาไปใชจ้ ัดการเรียนการสอนเพ่ือพัฒนา
นักเรียน ตอ่ ไปไดค้ ณุ ภาพ
เป็นแผนการสอนฯที่มุ่งเน้นมาตรฐานการคิด วิเคราะห์และเขียน มีกิจกรรมที่เน้นให้นักเรียนใช้ทักษะ
การคิด วเิ คราะหแ์ ละเขียน
เป็นแผนการสอนทม่ี ีกิจกรรมสอดคล้องกบั ภาระงานและการวัดประเมินผล สง่ เสรมิ การเรยี นรขู้ อง
ผเู้ รียนตามตัวช้ีวัด /ผลการเรยี นรู้ นาไปสู่การวจิ ยั ในชน้ั เรยี น
เปน็ แผนการสอนทม่ี งุ่ เนน้ ใหน้ กั เรียนไดใ้ ชท้ ักษะกระบวนการเรยี นรู้ จากการปฏบิ ตั จิ ริง
เปน็ แผนการสอนท่ีใหน้ ักเรยี นมสี ่วนร่วมในกิจกรรมการเรยี นการสอน และการวดั ประเมินผลอนญุ าต
ใหน้ าไปใชส้ อนได้
เปน็ แผนการสอนที่มีกิจกรรมสอดคลอ้ งกับภาระงานและการวดั ประเมนิ ผล ส่งเสรมิ การเรยี นรู้ของ
ผเู้ รียนตามตวั ชว้ี ดั /ผลการเรยี นรู้ นาไปสู่การวจิ ัยในชั้นเรียน
เป็นแผนการสอนที่ม่งุ เน้นให้นักเรยี นได้ใชท้ ักษะกระบวนการเรียนรู้ จากการปฏิบตั ิจรงิ
เปน็ แผนการสอนที่ใหน้ ักเรียนมีส่วนรว่ มในกจิ กรรมการเรยี นการสอน และการวัดประเมนิ ผล
อนุญาตให้นาไปใชส้ อนได้
ลงชอื่ .................................................................
( นางอรชร พรศริ ิ )
หัวหน้ากลุม่ สาระการเรียนรู้ศิลปะ
แผนการจัดการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ศิลปะ โรงเรยี นบญุ วาทย์วทิ ยาลยั
แผนจัดการเรียนร้ทู ่ี ๔
รายวิชา ศ2310 รายวิชา ศิลปศึกษา หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 เรือ่ งหลกั การอนรุ กั ษ์นาฏศลิ ปไ์ ทยและการเห็นคณุ ค่าของนาฏศิลป์
เวลา 2 ชว่ั โมง
ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา ๒๕๖5
รายวชิ าพ้นื ฐาน
๑. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ัด
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐานศ.3.2 เขา้ ใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศลิ ป์ ประวัติศาสตรแ์ ละวัฒนธรรม เห็นคณุ คา่ ของ
นาฏศิลปท์ เ่ี ป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปญั ญาทอ้ งถ่นิ ภูมิปญั ญาไทยและสากล
ตวั ช้ีวัด แสดงความคดิ เหน็ ในการอนุรักษ์
ศ ๓.2 ม.3/3
๒.สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
ผู้เรยี นสามารถแสดงความคดิ เห็นในการอนรุ ักษน์ าฏศิลป์
๓.สาระการเรยี นรู้
หลกั การอนุรกั ษ์นาฏศิลปไ์ ทยและการเหน็ คุณคา่ ของนาฏศิลป์
๔.จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
ดา้ นความรู้ ( Knowledge)
หลกั การอนุรักษ์นาฏศลิ ป์ไทยและการเหน็ คุณค่าของนาฏศลิ ป์
ด้านทกั ษะกระบวนการ ( Process)
- การนาความรู้ไปใช้
ดา้ นคุณลักษณะ(Attribute)
- มจี ิตสาธารณะ
- ซ่ือสตั ย์สุจริต
๕. มาตรฐานดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (Attributes )
- คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑
รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ อยอู่ ย่างพอเพยี ง ซือ่ สัตยส์ จุ รติ มงุ่ ม่นั ในการทางาน
มีวนิ ัย รกั ความเป็นไทย ใฝุเรียนรู้ มีจิตสาธารณะ
๖.มาตรฐานดา้ นการ อ่าน คิดวเิ คราะห์และเขยี น
การอา่ น : ใช้การอา่ นเพื่อการค้นคว้าจาแหล่งเรียนรตู้ า่ ง ๆ ได้อยา่ งเหมาะสม
การคดิ วิเคราะห์ : แสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกบั เร่ืองทอ่ี ่านได้
การเขยี น : เขยี นช้ีแจง อธบิ าย เขียนแสดงความคิดเหน็ และเขียนรายงานการศกึ ษาค้นคว้าได้
แผนการจดั การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ศิลปะ โรงเรยี นบญุ วาทย์วทิ ยาลัย
๗.ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น ใชภ้ าษาถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ ความคิด ความรสู้ กึ
ความสามารถในการสื่อสาร : และทัศนะของตนเอง ด้วยการพดู และการเขยี น
การคดิ ข้ันสงู ( การคิดคดิ สร้างสรรค์ คิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ)
ความสามารถในการคิด :
ความสามารถในการแก้ปญั หา : ผลลพั ธ์ที่เกดิ จากปัญหา
ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต :
ทางานและอยู่ร่วมกันในสังคมอยา่ งมคี วามสขุ
:
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี : เรียนรูด้ ้วยตัวเองอยา่ งต่อเนอ่ื ง
เลอื กและใชเ้ ทคโนโลยเี พอ่ื พัฒนาตนเองและสงั คม
๙. ชนิ้ งาน ภาระงานเพ่ือการวัดและประเมนิ ผล
หลกั ฐานการเรยี นรู้ วิธีการ เครอื่ งมอื เกณฑ์
(ชนิ้ งาน/ภาระงาน)
ทาแบบทดสอบ ทาแบบทดสอบ - .นักเรยี นทุกคนทาแบบทดสอบ
ใบงานที่ 2เรอื่ ง เร่ืองหลกั การ
อนุรกั นาฏศิลปแ์ ละการเห็นคุณค่า ของใบงานที่ 2เรอ่ื งหลักการอนรุ ัก
ของนาฏศิลป์ นาฏศิลปแ์ ละการเหน็ คณุ คา่ ของ
นาฏศิลป์ ได้ร้อยละ๖๐ขน้ึ ไป
๑๐.กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้ันนา/ขน้ั ทบทวนประสบการณเ์ ดิม/ข้ันกระต้นุ ให้เกดิ ความสนใจ
๑.ครแู จ้งจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ และชี้แจงขัน้ ตอนกจิ กรรมการเรียนรผู้ า่ นโปรแกรม line
๒.ครทู บทวนความรูเ้ ดมิ เกยี่ วกบั องคป์ ระกอบนาฏศิลป์
ขั้นกจิ กรรมการเรียนการสอน
๑. ครูให้ความรู้เกย่ี วกับหลักการอนรุ กั ษน์ าฏศิลปไ์ ทย
๒. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันระบุประเด็น ประมวลผลวิเคราะห์ พิจารณาทางเลอื กและตดั สนิ ใจเก่ียวกับความสาคญั
และบทบาทของนาฏศลิ ป์ การละครในชีวติ ประจาวนั
๓. ครูให้นักเรยี นศึกษาและรวบรวมขอ้ มลู การอนุรกั ษ์นาฏศิลป์
๔. ให้นกั เรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ ในการอนุรักษ์พฒั นางานด้วยนาฏศิลป์ของไทย
ขัน้ สรปุ (ความคดิ รวบยอด/สาระสาคญั )
๑. ครปู ระเมนิ การนาเสนอของนกั เรียนนิทรรศการอนุรกั ษน์ าฏศิลป์ไทย
๒. ครแู ละนกั เรียนช่วยกันสรุปความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษน์ าฏศลิ ปไ์ ทย
๑๑. สอ่ื วสั ดุ อปุ กรณ์ /แหล่งการเรียนรู้
๑. หนงั สอื เรียน
๒. ใบงานท่ี 2 เรือ่ ง หลักการอนุรักนาฏศลิ ป์และการเห็นคณุ ค่าของนาฏศิลป์
๓. ห้องสมุด
๔ .แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ
แผนการจัดการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลยั
๑๒. เกณฑก์ ารประเมินความร้/ู ทกั ษะกระบวนการ/คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
คาอธบิ ายคุณภาพ (Rubric)
รายการประเมนิ ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง
( ๓คะแนน) (๒ คะแนน) (๑คะแนน) (๐ คะแนน)
ความรู้ (K) สามารถระบปุ ัจจัยที่มีสามารถระบุปัจจัยทีม่ ีผล สามารถระบกุ ารปัจจยั ทมี่ ี ไม่สามารถระบุปัจจัยท่ีมี
ปัจจยั ทมี่ ีผลตอ่ การ ผลต่อการเปลยี่ นแปลงตอ่ การเปลยี่ นแปลงของ ผลต่อการเปล่ียนแปลง ผลต่อการเปล่ียนแปลง
เปลย่ี นแปลง ของนาฏศิลป์ ของนาฏศลิ ป์พ้นื บา้ น นาฏศิลป์พื้นบา้ น ละคร ของนาฏศลิ ปพ์ ืน้ บ้าน นาฏศิลป์พื้นบ้าน ละคร
นาฏศลิ ปพ์ ื้นบา้ น ละครไทย ละครไทยและละคร ไทยและละครพ้ืนบา้ นได้ ละครไทยและละคร ไทยและละครพ้ืนบา้ นได้
และละครพน้ื บ้าน พน้ื บ้านได้ถูกตอ้ ง ค่อนข้างถกู ตอ้ ง พ้นื บา้ นโดยอาศยั คา
ชแ้ี นะ
ทกั ษะ /กระบวนการ(P) สามารถทกั ษะการ สามารถทกั ษะการ สามารถทกั ษะการ ไมส่ ามารถทกั ษะการ
สามารถใชท้ กั ษะการ เปรียบเทียบ สรา้ ง เปรยี บเทียบ สรา้ งองค์ เปรยี บเทยี บ สรา้ งองค์ เปรียบเทียบ สร้างองค์
เปรียบเทียบ สรา้ งองค์ความรู้ องคค์ วามร้สู ่อื สาร ความรู้ส่ือสารกบั ผอู้ ่นื ความรสู้ ่อื สารกบั ผู้อน่ื ได้ ความร้สู ่อื สารกบั ผู้อน่ื
สื่อสาร แลกเปลีย่ นความ กับผูอ้ ่นื ได้กระจา่ ง ไดค้ อ่ นข้างชัดเจน แต่ไม่ชดั เจน ได้
คดิ เห็น ชัด
คณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ (A) สง่ งานที่ไดร้ บั ส่งงานทไ่ี ด้รับ ส่งงานทไ่ี ด้รับมอบหมาย ไมส่ ่งงานตามทไี่ ดร้ บั
ความรับผิดชอบ มอบหมายตรงตาม มอบหมายตรงตามเวลา ไม่ตรงตามเวลาทีก่ าหนด มอบหมาย
เวลาทกี่ าหนดและ ท่กี าหนด แต่งาน แตง่ านมคี วาม ครบถว้ น
งานมคี วามสมบูรณ์ บางส่วนไม่ ครบถ้วน
ครบถว้ น
สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
(C)
1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1.1 พูดถา่ ยทอด 1.1 พดู ถ่ายทอด 1.1 พูดถ่ายทอดความรู้ 1.1 ไม่สามารถพดู
๑.1 พูดถา่ ยทอดความรู้ ความรู้ ความเข้าใจ ความรูค้ วามเข้าใจจาก ความเข้าใจ จากสารที่ ถ่ายทอดความรู้ ความ
ความเขา้ ใจจากสารทอ่ี ่านฟงั จากสารทอ่ี ่าน ฟงั ดู สาร ท่อี า่ น ฟงั หรอื ดู อา่ น ฟังหรอื ดูด้วยภาษา เข้าใจจากสารที่อา่ น
หรอื ดูดว้ ยภาษาของตนเองได้ ด้วยภาษาของ ด้วยภาษาของตนเองได้ ของตนเองไดบ้ ้าง ฟัง หรอื ดู ดว้ ยภาษา
ตนเองได้อย่าง อย่างชดั เจนแตข่ าด ของตนเองได้
คล่องแคลว่ ชดั เจน ความคล่องแคล่ว
1.๒พดู ถ่ายทอดความคิด 1.2พูดถ่ายทอด 1.2 พูดถ่ายทอด 1.2 พดู ถา่ ยทอดความคิด 1.25 พูดถา่ ยทอด
ความรู้สกึ และทัศนะของ ความคิดความรู้สกึ และ ความคดิ ความรู้สึก ความร้สู กึ และทัศนะจาก ความคิด ความรู้สึก
ตนเองจากสารท่อี ่าน ฟงั หรอื ทศั นะจากสารทอี่ า่ น และทศั นะจากสารที่ สารท่อี ่าน ฟงั หรือดู ดว้ ย และทัศนะจากสารที่
ดูด้วยภาษาของตนเองได้ ฟงั หรอื ดู ตามทก่ี าหนด อ่าน ฟัง หรือดู ตามที่ ภาษาของตนเองได้บา้ ง อ่านฟัง หรอื ดู ตาม
ได้อยา่ สมเหตุสมผล กาหนดไดอ้ ย่างมี และมีเหตผุ ลไมเ่ พยี งพอ แบบ
คล่องแคลว่ ชัดเจนด้วย เหตุผล ด้วยภาษาของ
ภาษาของตนเองได้ ตนเองได้
แผนการจัดการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ศิลปะ โรงเรยี นบุญวาทย์วิทยาลยั
1.3. เขยี นถ่ายทอดความรู้ 1.3 เขียนถ่ายทอด 1.3 เขยี นถ่ายทอด 1.3 เขียนถา่ ยทอด 1.3 เขยี นถ่ายทอด
ความเขา้ ใจจากสารทีอ่ ่าน ฟงั ความรคู้ วาม เข้าใจ ความรู้ ความรู้ ความรู้
หรือดูดว้ ยภาษาของตนเองได้ จากสารท่อี ่านฟงั ดู ความเข้าใจจากสารที่ ความเขา้ ใจจากสารที่อ่าน ความเขา้ ใจจากสารท่ี
ดว้ ยภาษาของตน อา่ นฟังดูด้วยภาษาของ ฟังดดู ว้ ยภาษาของตนเอง อา่ นฟงั หรอื ดูตามแบบ
เองได้ใจความครอบ ตนเองไดใ้ จความสาคญั ได้ใจความสาคญั เปน็
คลุมครบถ้วนและ เปน็ สว่ นใหญแ่ ต่ไม่ บางสว่ นและมี
ถูกตอ้ งตามหลักการ ครบถ้วนสมบรู ณ์ และมี ข้อบกพร่องในการใช้
ใช้ภาษา ข้อบกพรอ่ งในการใช้ ภาษา วรรคตอน และการ
ภาษาวรรคตอนและ เขยี นคาต้ังแต่ ๓แหง่ แต่
การเขยี นคาไม่เกนิ ๒ ไมเ่ กนิ ๕แห่ง
แหง่
1.๔ เขียนถ่ายทอดความคิด 1.4 เขยี นถ่ายทอด 1.4 เขยี นถา่ ยทอด 1.4 เขยี นถ่ายทอด 1.4 เขียนถ่ายทอด
ความรสู้ กึ และทัศนะของ ความคิด ความรสู้ กึ ความคดิ ความ รู้สกึ ความคิด ความรู้สึกและ ความคดิ ความรสู้ กึ
ตนเองจากสารทีอ่ า่ น ฟงั หรือ และทัศนะของ และทศั นะของตนเอง ทศั นะของตนเองจากสาร และทศั นะของตนเอง
ดูดว้ ยภาษาของตนเอง ตนเองจากสารท่ี จากสารที่อ่านฟงั หรอื ดู ทอ่ี า่ น ฟัง หรอื ดดู ้วย จากสารทอ่ี ่าน ฟังหรอื
อา่ น ฟัง หรือดดู ว้ ย ดว้ ยภาษา ของตนเองได้ ภาษาของตนเอง ไดใ้ จ ดูตามแบบ
ภาษาของตนเองได้ ใจความสาคญั เป็นส่วน ความสาคญั เปน็ บาง สว่ น
ใจความครอบคลมุ ใหญ่แต่ไม่ครบ ถว้ น และมีขอ้ บกพร่องในการ
ครบถว้ นและถกู ต้อง สมบรู ณ์และมีขอ้ ใช้ภาษาวรรคตอน และ
ตามหลักการใช้ บกพร่องในการใช้ภาษา การเขียนคาตั้งแต่ ๓ แห่ง
ภาษา วรรคตอนและการเขียน แตไ่ ม่เกนิ ๕ แหง่
คาไม่เกนิ ๒ แหง่
คาอธิบายคณุ ภาพ (Rubric)
รายการประเมิน ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรงุ
( ๓คะแนน) (๒ คะแนน) (๑คะแนน) (๐ คะแนน)
๒.ความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี
๒.๑ เลอื กและใช้เทคโนโลยใี น ๒.๑เลือกและใช้เทคโนโลยี 2.1เลือกและใช้เทคโนโลยี 2.1เลอื กและใช้เทคโนโลยีใน 2.1เลือกและใช้
การเรยี นรอู้ ยา่ งสรา้ งสรรค์ ที่เหมาะสมในการสบื ค้น ที่เหมาะสมในการสืบคน้ การสบื ค้นคน้ คว้ารวบรวม เทคโนโลยีในการสืบคน้
ค้นควา้ รวบรวมและสรุป คน้ คว้ารวบรวมและสรปุ และสรปุ ความรู้ดว้ ยตนเองได้ ค้นควา้ รวบรวมและสรุป
และมคี ุณธรรม ความรู้ด้วยตนเองไดอ้ ย่าง
ถูก ต้อง มีความหลากหลาย
แปลกใหมแ่ ละเป็นประโยชน์ ความรดู้ ้วยตนเองได้อยา่ ง อยา่ งถกู ต้องและเป็น ความรดู้ ว้ ยตนเองไดแ้ ต่
ตอ่ ตนเองและสังคมโดย ถกู ต้องมคี วามหลากหลาย ประโยชน์ต่อตนเองหรือสงั คม ต้องอาศยั ผูแ้ นะนา
แปลกใหมแ่ ละเปน็
สามารถแนะนาผอู้ ืน่ ได้ ประโยชนต์ ่อตนเองหรอื
สงั คม
แผนการจัดการเรยี นรู้ สาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ โรงเรียนบุญวาทย์วทิ ยาลัย
๒.๒ เลอื กและใชเ้ ทคโนโลยีใน ๒.๒เลอื กและใช้ ๒.๒เลือกและใช้เทคโนโลยี ๒.๒เลือกและใช้เทคโนโลยีใน ๒.๒เลอื กและใช้
การส่อื สารอย่างสรา้ งสรรค์ เทคโนโลยีที่เหมาะสมใน ทเ่ี หมาะสมในการรับและ การรับและส่งสารให้ผู้อน่ื เทคโนโลยใี หผ้ ู้อืน่ เข้าใจได้
การรบั และส่งสารให้ ส่งสารให้ผอู้ ื่นเขา้ ใจได้ เข้าใจไดอ้ ย่างถูกตอ้ งโดยไม่ อยา่ งถูกต้องแต่ไม่
และมคี ุณธรรม
ผอู้ น่ื เข้าใจได้อย่าง อย่างถกู ตอ้ งและมคี วาม ทาให้ผอู้ ืน่ เดอื ดรอ้ น คานึงถึงผลกระทบตอ่
ถกู ต้องและมคี วาม หลากหลายแปลกใหม่ ผูอ้ ่นื
หลากหลายแปลกใหม่ โดยไมท่ าใหผ้ ้อู ืน่ เดือดรอ้ น
โดยไมท่ าใหผ้ อู้ นื่
เดอื ดร้อนและสามารถ
แนะนาผู้อนื่ ได้
แผนการจัดการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ โรงเรียนบญุ วาทย์วทิ ยาลยั
บนั ทกึ หลงั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ( เพอ่ื การวิจัยในชนั้ เรยี น )
๑. ผลการจัดกจิ กรรม
การประเมินดา้ นความรู้ ( Knowledge) พบว่า
นกั เรยี นผ่านเกณฑป์ ระเมิน จานวน ............. คน คิดเปน็ รอ้ ยละ……………….……….
นักเรียนไม่ผา่ นเกณฑป์ ระเมินจานวน .......... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ …………………..…….
การประเมินดา้ นทกั ษะกระบวนการ ( Process) พบว่า
นกั เรียนผา่ นเกณฑ์ประเมนิ จานวน ............. คน คิดเป็นร้อยละ ……………….……….
นักเรยี นไมผ่ ่านเกณฑป์ ระเมินจานวน .......... คน คิดเป็นร้อยละ …………………..…….
การประเมนิ ด้านคุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ ( Attribute) พบวา่
นกั เรียนผา่ นเกณฑป์ ระเมินจานวน ............. คน คิดเป็นร้อยละ ……………….……….
นกั เรยี นไม่ผ่านเกณฑ์ประเมินจานวน .......... คน คดิ เปน็ ร้อยละ …………………..…….
การประเมนิ ด้านการ อ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน พบว่า
-การอา่ น
นกั เรียนผา่ นเกณฑ์ประเมิน จานวน ............. คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ……………….……….
นักเรยี นไม่ผ่านเกณฑ์ประเมินจานวน .......... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ …………………..…….
- การคดิ วเิ คราะห์
นักเรยี นผ่านเกณฑ์ประเมิน จานวน ............. คน คดิ เป็นร้อยละ ……………….……….
นกั เรยี นไมผ่ า่ นเกณฑป์ ระเมนิ จานวน .......... คน คดิ เปน็ ร้อยละ …………………..…….
- การเขยี น
นักเรยี นผา่ นเกณฑป์ ระเมนิ จานวน ............. คน คิดเปน็ ร้อยละ ……………….……….
นักเรยี นไมผ่ า่ นเกณฑ์ประเมินจานวน .......... คน คิดเปน็ ร้อยละ …………………..…….
การประเมนิ ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน พบวา่
- ความสามารถในการส่อื สาร
นักเรยี นผา่ นเกณฑป์ ระเมนิ จานวน ............. คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ……………….……….
นกั เรียนไม่ผ่านเกณฑป์ ระเมินจานวน .......... คน คิดเปน็ ร้อยละ …………………..…….
- ความสามารถการใชเ้ ทคโนโลยี พบวา่
นักเรยี นผา่ นเกณฑ์ประเมนิ จานวน ............. คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ……………….……….
นกั เรยี นไม่ผา่ นเกณฑป์ ระเมนิ จานวน .......... คน คดิ เป็นร้อยละ …………………..…….
๒. ปญั หาท่ีพบ
- นกั เรยี นไมผ่ ่านเกณฑ์ประเมินดา้ นความรู้ ( Knowledge) เปน็ เพราะ
.............................................................................................................................................................
- นักเรยี นไม่ผ่านเกณฑป์ ระเมนิ ดา้ นทักษะกระบวนการ ( Process) เปน็ เพราะ
.............................................................................................................................................................
แผนการจัดการเรยี นรู้ สาระการเรียนรูศ้ ลิ ปะ โรงเรยี นบญุ วาทย์วิทยาลยั
- นกั เรียนไมผ่ ่านเกณฑป์ ระเมินดา้ นการ อ่าน คิดวเิ คราะห์และเขียน เป็นเพราะ
.............................................................................................................................................................
- นักเรียนไมผ่ า่ นเกณฑ์ประเมนิ ด้านสมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน เปน็ เพราะ
.............................................................................................................................................................
การบูรณาการ
-นกั เรยี นไม่ผ่านเกณฑป์ ระเมนิ อาเซียนศกึ ษา เป็นเพราะ
.............................................................................................................................................................
๓. ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข
- นกั เรียนไมผ่ ่านเกณฑ์ประเมนิ ด้านความรู้ ( Knowledge)
.............................................................................................................................................................
- นกั เรยี นไมผ่ ่านเกณฑป์ ระเมนิ ด้านทกั ษะกระบวนการ ( Process)
.............................................................................................................................................................
- นักเรยี นไมผ่ า่ นเกณฑป์ ระเมนิ ดา้ นการ อา่ น คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขยี น
.............................................................................................................................................................
- นกั เรียนไมผ่ ่านเกณฑ์ประเมนิ ด้านสมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น
.............................................................................................................................................................
ลงช่ือ…………………………………… ผู้สอน
( นางสาววาสนา งามสุข )
ตาแหน่ง ครผู ้ชู ว่ ย
แผนการจัดการเรียนรู้ สาระการเรยี นรูศ้ ลิ ปะ โรงเรยี นบุญวาทย์วิทยาลยั
ความคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะของหัวหน้ากลุม่ สาระการเรียนรู้
เป็นแผนการสอนฯทม่ี อี งค์ประกอบของแผนครบถ้วน นาไปใช้จัดการเรียนการสอนเพอ่ื พัฒนา
นักเรียน ตอ่ ไปไดค้ ุณภาพ
เป็นแผนการสอนฯที่มุ่งเน้นมาตรฐานการคิด วิเคราะห์และเขียน มีกิจกรรมที่เน้นให้นัก เรียนใช้ทักษะ
การคิด วเิ คราะหแ์ ละเขยี น
เป็นแผนการสอนทีม่ กี จิ กรรมสอดคล้องกับภาระงานและการวดั ประเมนิ ผล ส่งเสรมิ การเรียนรู้ของ
ผู้เรียนตามตัวช้ีวดั /ผลการเรียนรู้ นาไปสกู่ ารวจิ ัยในชั้นเรียน
เปน็ แผนการสอนที่มงุ่ เน้นใหน้ กั เรยี นได้ใชท้ กั ษะกระบวนการเรียนรู้ จากการปฏิบตั ิจรงิ
เปน็ แผนการสอนทีใ่ หน้ กั เรียนมสี ว่ นร่วมในกิจกรรมการเรยี นการสอน และการวัดประเมนิ ผลอนุญาต
ให้นาไปใชส้ อนได้
เป็นแผนการสอนทีม่ ีกจิ กรรมสอดคล้องกบั ภาระงานและการวดั ประเมนิ ผล ส่งเสริมการเรียนรขู้ อง
ผู้เรียนตามตัวชว้ี ัด /ผลการเรยี นรู้ นาไปสูก่ ารวิจยั ในชน้ั เรียน
เป็นแผนการสอนที่มงุ่ เน้นให้นักเรยี นได้ใช้ทกั ษะกระบวนการเรยี นรู้ จากการปฏิบัติจริง
เป็นแผนการสอนท่ใี ห้นกั เรียนมสี ่วนรว่ มในกิจกรรมการเรยี นการสอน และการวัดประเมนิ ผล
อนุญาตใหน้ าไปใชส้ อนได้
ลงช่อื .................................................................
( นางอรชร พรศิริ )
หัวหนา้ กลุม่ สาระการเรยี นรศู้ ิลปะ
แผนการจัดการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ศิลปะ โรงเรียนบญุ วาทย์วิทยาลยั
การประกนั คุณภาพการจัดการเรียนรู้หรือผลการเรียนรู้
สรปุ ผลการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๓ เรื่องนาฏศิลป์
รายวชิ า ศ23101 ศลิ ปศกึ ษา กล่มุ สาระการเรียนรู้ ศลิ ปะ
ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา ๒๕๖5 เวลาเรียน 12 ช่วั โมง
ด้านผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน
รายบุคคล ผู้เรียนมผี ลการเรยี นรู้ อยใู่ นระดับคณุ ภาพ พอใชข้ ึ้นไปถอื วา่ ผ่าน
รายกลมุ่ รอ้ ยละ ๘๐ของจานวนผูเ้ รยี น มผี ลการเรียนรรู้ ะดบั ดีขนึ้ ไปถอื ว่าการจัดการเรียนรปู้ ระสบผลสาเรจ็
เกณฑร์ ะดับคณุ ภาพรายผลการเรยี นรู้
คุณภาพ ระดับคณุ ภาพ ช่วงคะแนน
ดมี าก ๔ ๙-๑๐
๓ ๗-๘
ดี ๒ ๕-๖
พอใช้
ตารางสรปุ ผลการประเมิน
ระดับคณุ ภาพ จานวนนักเรียน คิดเปน็ รอ้ ยละ ผ่าน/ไมผ่ า่ น การประกัน
ดมี าก (๔)
ดี (๓)
พอใช้ (๒)
ปรับปรงุ (๑)
สรุปผลการประกันการจัดการเรยี นรู้
รายบุคคลผเู้ รยี นมผี ลการเรยี นรู้ ในระดับคณุ ภาพ พอใชข้ ้ึนไปมาก/น้อยกวา่ เกณฑ์ ................ คน
รายกลุม่ ผูเ้ รียนมีผลการเรียนรู้ ในระดับคณุ ภาพ ดขี ้ึนไป มาก/นอ้ ยกวา่ เกณฑ์ รอ้ ยละ ...............
แนวทางการพัฒนา นกั เรียนทย่ี งั ไม่ผ่านการประเมนิ และการประกัน
แนวทางแกป้ ัญหา ปกติ วจิ ยั ในชัน้ เรียน
ผลการพฒั นา.........................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................................
ขอ้ สังเกต / ขอ้ คน้ พบ
............................................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................................
ลงชื่อ ....................................................
( นางสาววาสนา งามสขุ )
ตาแหน่ง ครูผู้ชว่ ย
แผนการจดั การเรียนรู้ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ โรงเรียนบุญวาทย์วทิ ยาลยั