The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอนรายวิชาเศรษฐศาสตร์-ม.2 เทอม 2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

แผนการสอนรายวิชาเศรษฐศาสตร์-ม.2 เทอม 2

แผนการสอนรายวิชาเศรษฐศาสตร์-ม.2 เทอม 2

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชาเศรษฐศาสตร์ รหัสวิชา ส22102 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การผลิตสินค้าและบริการ เวลาเรียน 4 ชั่วโมง เรื่อง หลักการผลิตสินค้าและบริการ เวลาเรียน 1 ชั่วโมง โรงเรียนมัธยมเทศบาล 6 นครอุดรธานี วันที่.................................................... ผู้สอน นายภูริทัต ศรีสุนาครัว --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ส 3.1 เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภคการใช้ ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด ได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมทั้งเข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อการดำรงชีวิตอย่างมีดุลยภาพ 2.สาระสำคัญ การผลิตสินค้าและบริการอย่างมีประสิทธิภาพนั้น ย่อมต้องมีหลักการผลิต ซึ่งมีผลต่อการเพิ่มมูลค่าของ สินค้า 3.ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ตัวชี้วัด ส 3.1 ม.2/2 อธิบายปัจจัยการผลิตสินค้าและบริการ และปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการผลิตสินค้าและ บริการ 3.2 จุดประสงค์การเรียนรู้ - อธิบายหลักการสำคัญในการผลิตสินค้าและบริการได้(K) - สามารถปฎิบัติตามหลักการผลิตสินค้าและบริการได้ (P) - เห็นความสำคัญของการผลิตสินค้าและบริการ (A) 4.สาระการเรียนรู้ 1) สำรวจการผลิตสินค้าในท้องถิ่นว่า มีการผลิตอะไรบ้าง ใช้วิธีการผลิตอย่างไร มีปัญหาด้านใดบ้าง 2) มีการนำเทคโนโลยีอะไรมาใช้ที่มีผลต่อการผลิตสินค้าและบริการ 3) นำหลักการผลิตมาวิเคราะห์การผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่นทั้งด้านเศรษฐกิจสังคมและ สิ่งแวดล้อม


5.สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน - ความสามารถในการสื่อสาร - ความสามารถในการคิด - ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6.คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7.กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนโดยใช้ทักษะ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูให้ตัวแทนกลุ่มนำเสนอข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับลักษณะการผลิตสินค้าและบริการในภาคต่างๆ ของไทย กลุ่ม ละ 1 ภาค 2. ครูช่วยเสนอแนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับลักษณะเด่นของการผลิตสินค้าและบริการของไทยในแต่ละภาค 3. ครูอธิบายเชื่อมโยงให้นักเรียนเห็นว่า สภาพภูมิศาสตร์มีผลสำคัญต่อการผลิตสินค้าและบริการ ดังจะเห็นได้จาก การผลิตสินค้าและบริการที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาคของประเทศไทย ขั้นสอน 1. รวบรวมข่าวสาร ข้อมูล ข้อเท็จจริง ความรู้ และหลักการ 1. นักเรียนกลุ่มเดิม ร่วมกัน ศึกษาความรู้เรื่อง หลักการผลิตสินค้าและบริการอย่างมีประสิทธิภาพ จาก หนังสือเรียน หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม ห้องสมุด หรือแหล่งข้อมูลสารสนเทศ ตามความเหมาะสม 2. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด ข้อ 1 คำถามกระตุ้นความคิด 1. ทำไมผู้ผลิตจึงต้องมีหลักคุณธรรมในการผลิต (เพราะจะทำให้ผู้ผลิตผลิตสินค้าที่มีคุณภาพไม่เอาเปรียบผู้บริโภค รักษาสภาพแวดล้อม ซึ่งจะส่งผลสะท้อนกลับ ให้ผู้ผลิตได้รับความเชื่อมั่นจากผู้บริโภค) 2. ประเมินคุณค่าและประสบการณ์


1. สมาชิกแต่ละกลุ่มช่วยกันทำใบงานที่ 2.3 เรื่อง หลักการผลิตสินค้าและบริการ จากนั้นประเมินคุณค่าและ ประโยชน์ของการปฏิบัติตามหลักการผลิตสินค้าและบริการ 2. ครูและนักเรียนช่วยกันเฉลยคำตอบในใบงานที่ 2.3 และช่วยกันสรุปหลักการสำคัญในการผลิตสินค้าและ บริการ อย่างมีประสิทธิภาพ 3. เลือกและตัดสินใจ 1. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวางแผนสำรวจการผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่นที่นักเรียนมีภูมิลำเนา หรือ ในท้องถิ่นที่เป็นที่ตั้งของโรงเรียนที่นักเรียนศึกษาอยู่ ในหัวข้อต่อไปนี้ 1) ชื่อสินค้าที่ผลิต 2) ปัจจัยในการผลิต 3) หลักการใช้ทรัพยากรในการผลิต 4) คุณธรรมของผู้ผลิต 5) หลักการเพิ่มมูลค่าในการผลิตสินค้าและบริการ 6) การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการผลิตสินค้าและบริการ 7) การวิเคราะห์ผลการผลิตสินค้าที่มีผลทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม 2. สมาชิกแต่ละกลุ่มปรึกษากันเพื่อตัดสินใจในการเลือกสำรวจสินค้าและบริการ แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบใน การสำรวจสินค้าแต่ละชนิด 8.การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 2.3 ใบงานที่ 2.3 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ประเมินการนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์


9.สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน เศรษฐศาสตร์ ม.2 2) หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม 3) ตัวอย่างข่าว 4) ตัวอย่างสินค้าและบริการ 5) ใบงานที่ 2.3 เรื่อง หลักการผลิตสินค้าและบริการ 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องสมุด 2) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชาเศรษฐศาสตร์ รหัสวิชา ส22102 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การผลิตสินค้าและบริการ เวลาเรียน 4 ชั่วโมง เรื่อง หลักการผลิตสินค้าและบริการ(ต่อ) เวลาเรียน 1 ชั่วโมง โรงเรียนมัธยมเทศบาล 6 นครอุดรธานี วันที่.................................................... ผู้สอน นายภูริทัต ศรีสุนาครัว --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ส 3.1 เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภคการใช้ ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด ได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมทั้งเข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อการดำรงชีวิตอย่างมีดุลยภาพ 2.สาระสำคัญ การผลิตสินค้าและบริการอย่างมีประสิทธิภาพนั้นย่อมต้องมีหลักการผลิตซึ่งมีผลต่อการเพิ่มมูลค่าของสินค้า 3.ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ตัวชี้วัด ส 3.1 ม.2/2 อธิบายปัจจัยการผลิตสินค้าและบริการ และปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการผลิตสินค้าและ บริการ 3.2 จุดประสงค์การเรียนรู้ - อธิบายหลักการสำคัญในการผลิตสินค้าและบริการได้(K) - สามารถปฎิบัติตามหลักการผลิตสินค้าและบริการได้ (P) - เห็นความสำคัญของการผลิตสินค้าและบริการ (A) 4.สาระการเรียนรู้ 1) สำรวจการผลิตสินค้าในท้องถิ่นว่า มีการผลิตอะไรบ้าง ใช้วิธีการผลิตอย่างไร มีปัญหาด้านใดบ้าง 2) มีการนำเทคโนโลยีอะไรมาใช้ที่มีผลต่อการผลิตสินค้าและบริการ 3) นำหลักการผลิตมาวิเคราะห์การผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่นทั้งด้านเศรษฐกิจสังคมและ สิ่งแวดล้อม


5.สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน - ความสามารถในการสื่อสาร - ความสามารถในการคิด - ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6.คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7.กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนโดยใช้ทักษะ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ 1. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด ข้อ 3 คำถามกระตุ้นความคิด 3. ในท้องถิ่นที่นักเรียนมีภูมิลำเนามีการผลิตสินค้า ที่สอดคล้องกับหลักการผลิตสินค้าอย่างไรบ้างจง ยกตัวอย่าง 2. สมาชิกแต่ละกลุ่มสำรวจการผลิตสินค้าและบริการตามแผนที่กลุ่มได้ร่วมกันกำหนดและนำมาวิเคราะห์ตาม หัวข้อในใบงานที่ 2.4 เรื่อง สำรวจการผลิตสินค้า เพื่อเตรียมนำเสนอผลงานในชั่วโมงเรียนต่อไป 3. นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน โดยวิธีจับสลาก สมาชิกแต่ละกลุ่มนำเสนอผลงานตามลำดับ หมายเลขที่จับสลากได้ และให้กลุ่มผู้ฟังมีหน้าที่แสดงความคิดเห็น และให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ดังนี้ - กลุ่มหมายเลข 1 นำเสนอผลงาน กลุ่มหมายเลข 2 แสดงความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม - กลุ่มหมายเลข 2 นำเสนอผลงาน กลุ่มหมายเลข 3 แสดงความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม - กลุ่มหมายเลข 3 นำเสนอผลงาน กลุ่มหมายเลข 4 แสดงความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม - กลุ่มหมายเลข 4 นำเสนอผลงาน กลุ่มหมายเลข 5 แสดงความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม - กลุ่มหมายเลข 5 นำเสนอผลงาน กลุ่มหมายเลข 1 แสดงความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม 4. ครูคัดเลือกผลงานกลุ่มที่มีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ดี นำมาจัดป้ายนิเทศแสดงผลงานหน้าชั้นเรียนและประกาศ ชมเชยเพื่อเสริมกำลังใจ ขั้นสรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง หลักการผลิตสินค้าและบริการ หากมีนักเรียนไม่เข้าใจ ครูเป็นผู้ อธิบายให้นักเรียนทุกคนมีความเข้าใจกระจ่างชัดเจน


ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเขียนบทความ เรื่อง การผลิตสินค้าและบริการ โดยให้ครอบคลุม ประเด็น ตามที่กำหนด ดังนี้ 1) การอธิบายปัจจัยการผลิตสินค้าและบริการ 2) การอธิบายหลักการผลิตสินค้าและบริการ 3) การอธิบายปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการผลิตสินค้าและบริการ นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน 8.การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 2.4 ใบงานที่ 2.4 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ประเมินการนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจบทความ เรื่อง การผลิตสินค้าและบริการ แบบประเมินบทความ เรื่อง การผลิตสินค้า และบริการ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 9.สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน เศรษฐศาสตร์ ม.2 2) แบบวัดและบันทึกผลการเรียนรู้ เศรษฐศาสตร์ ม.2 3) หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม 4) ใบงานที่ 2.4 เรื่อง สำรวจการผลิตสินค้า 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องสมุด 2) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ


ชื่อ-สกุล/กลุ่ม...............................................................................................................ชั้น...........เลขที่................ การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินบทความ เรื่อง การผลิตสินค้าและบริการ ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 1 การอธิบายปัจจัยการผลิตสินค้าและบริการ 2 การอธิบายหลักการผลิตสินค้าและบริการ 3 การอธิบายปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการผลิตสินค้าและ บริการ รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน ดีมาก = 4 คะแนน ดี = 3 คะแนน พอใช้ = 2 คะแนน ปรับปรุง = 1 คะแนน เกณฑ์การตดัสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 11 - 12 ดีมาก 9 - 10 ดี 6 - 8 พอใช้ ต ่ากว่า 6 ปรับปรุง


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชาเศรษฐศาสตร์ รหัสวิชา ส22102 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เศรษฐกิจพอเพียงกับผลิต เวลาเรียน 4 ชั่วโมง สินค้าและบริการ เรื่อง หลักการและเป้าหมายของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เวลาเรียน 1 ชั่วโมง โรงเรียนมัธยมเทศบาล 6 นครอุดรธานี วันที่.................................................... ผู้สอน นายภูริทัต ศรีสุนาครัว --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ส 3.1 เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภคการใช้ ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด ได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ารวมทั้งเข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการดำรงชีวิตอย่างมีดุลยภาพ 2.สาระสำคัญ หลักการและเป้าหมายของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีความสำคัญต่อการอยู่ร่วมกันในสังคมไทยอย่างมี ความสุขในทุกระดับ 3.ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ตัวชี้วัด ส 3.1 ม.2/3 เสนอแนวทางการพัฒนาการผลิตในท้องถิ่นตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3.2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) อธิบายหลักการและเป้าหมายของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้(K) 2) สามารถปฏิบัติตนตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้(P) 3) เห็นความสำคัญของเศรษฐกิจพอเพียงกับผลิตสินค้าและบริการ (A) 4.สาระการเรียนรู้ - หลักการและเป้าหมายปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 5.สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน - ความสามารถในการสื่อสาร - ความสามารถในการคิด - ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต


6.คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7.กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการสร้างเจตคติ ขั้นที่ 1 สังเกต 1. ครูเล่าประวัติบุคคลตัวอย่างที่ดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงให้นักเรียนฟัง เช่น - นายดำ ฉิ่งสุวรรณโรจน์ - นายประยงค์ รณรงค์ 2. ครูตั้งคำถามถามนักเรียน ดังนี้ 1) บุคคลดังกล่าวมีการกระทำอย่างไรที่แสดงว่า เขาประสบความสำเร็จในชีวิต 2) บุคคลนั้น มีความสุขในการดำเนินชีวิตอย่างไร ยกตัวอย่าง 3. ครูอธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่า การกระทำของบุคคลที่ครูนำมาเป็นตัวอย่างนั้น สอดคล้องกับหลักการของ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอย่างไร ขั้นที่ 2 วิเคราะห์ 1. ครูให้นักเรียนรวมกลุ่มกันตามความสมัครใจ กลุ่มละ 5-7 คน แล้วให้แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง หลักการและเป้าหมายของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จากหนังสือเรียนและหนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม เพื่อเป็น พื้นฐานในการวิเคราะห์ใบงานที่ 3.1 เรื่อง หลักการและเป้าหมายของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 2. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มทำใบงานที่ 3.1 โดยเขียนข้อความในแผนภูมิเกี่ยวกับหลักการของปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง แล้ววิเคราะห์การกระทำของตนเองที่แสดงว่าได้ปฏิบัติตนสอดคล้องกับเป้าหมายของปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง ตามหัวข้อที่กำหนดให้ 3. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มผลัดกันเล่าผลงานและการวิเคราะห์การกระทำของตนตามปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงให้สมาชิกคนอื่นฟัง โดย


4. ครูให้นักเรียนแต่ละคนทำกิจกรรมฝึกทักษะ : กิจกรรมที่ 1 และกิจกรรมตามตัวชี้วัด : กิจกรรมที่ 3.1 จาก แบบวัดฯ เป็นการบ้าน พร้อมกำหนดวันและเวลาส่ง ขั้นที่ 3 สรุป นักเรียนและครูร่วมกันสรุปหลักการและเป้าหมายของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และแนวทางการนำไป ประยุกต์ใช้ 8.การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 (ประเมินตามสภาพจริง) ตรวจใบงานที่ 3.1 ใบงานที่ 3.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ประเมินการนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 9.สื่อการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน เศรษฐศาสตร์ ม.2 2) แบบวัดและบันทึกผลการเรียนรู้ เศรษฐศาสตร์ ม.2 3) หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม 4) เอกสารประกอบการสอน 5) ใบงานที่ 3.1 เรื่อง หลักการและเป้าหมายของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง


เอกสารประกอบการสอน ตัวอย่างประวัติบุคคลที่ดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง นายดำ ฉิ่งสุวรรณโรจน์ นายดำเป็นคนอำเภอทุ่งตะโก จังหวัดชุมพร ชื่อเต็มว่า นายดำ ฉิ่งสุวรรณโรจน์ ปัจจุบันอายุ 74 ปี เป็นนักพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรที่เป็นแบบอย่างโดยแท้ ท่านเล่าให้ฟังว่าเดิมเป็นลูกจ้างทำทุกอย่าง เป็น ลูกจ้างได้ 10 ปี สามารถเก็บเงินซื้อที่ดินได้ 13 ไร่ จึงเริ่มปลูกเงาะโรงเรียนส่งต่างประเทศ นายดำสามารถ คิดค้นทำให้เงาะออกผลที่กิ่งและลำต้นได้สำเร็จ แทนที่จะออกที่ปลายกิ่งเหมือนกับเงาะทั่วๆ ไป และออก ผลดก เวลาปลูกต้นเงาะลงดินแทนที่จะขุดหลุมลึกๆ แต่จะพูนดินขึ้นมาปลูกให้รากฝอยของกิ่งชำอยู่ใน ระดับพื้นผิวดิน เพราะท่านให้เหตุผลว่า รากพืชที่หาอาหารมาเลี้ยงลำต้นนั้นจะชอนไชอยู่บริเวณใกล้ผิวดิน ซึ่งอุดมสมบูรณ์กว่าดินใต้พื้นดิน เป็นต้น ต่อมาเมื่อเงาะราคาตกต่ำก็หันมาปลูกทุเรียน และทำให้ทุเรียนออกผลที่กิ่งและดกมาก โดยใช้ เทคโนโลยีเช่นเดียวกับปลูกเงาะ เมื่อทุเรียนประสบปัญหาก็ปลูกพืชอื่น เช่น แก้วมังกร และมะละกอ ขณะนี้ นายดำกำลังประสบผลสำเร็จในการปลูกส้มเขียวหวานพันธุ์โชกุนที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่โดยเฉพาะ เขาทำ โรงงานคัดแยกผลตามขนาดและโรงงานทำน้ำส้มโชกุนออกขายเอง โดยไม่ส่งขายที่อื่น นอกจากนี้สวนนายดำยังเป็นแหล่งเรียนรู้ให้โรงเรียนและประชาชนทั่วไปในการปลูกพันธุ์ไม้หายาก พันธุ์ไม้ไทยเกือบทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีปลูกดอกไม้ตามเพลง “อุทยานดอกไม้” ของวงจันทร์ ไพโรจน์ 48 ชนิด อย่างครบถ้วน มีภาพประวัติไม้พร้อมเพลงบันทึกในซีดี โรยโรงเรียนทุ่งตะโกวิทยา ผอ.สุ ชิน บุญเพ็ญ (ในขณะนั้น) ได้เป็นผู้นำจัดทำเผยแพร่เป็นสื่อการเรียนรู้ด้วย


นายประยงค์ รณรงค์ นายประยงค์ รณรงค์ เกิดที่ตำบลไม้เรียง อำเภอฉวาก จังหวัดนครศรีธรรมราช ตลอดเวลาที่ผ่านมา ท่านต้องประสบกับปัญหาสำคัญ ทั้งของตนเอง และชุมชน คือ ปัญหาราคายางตกต่ำ ท่านแก้ปัญหา ดังกล่าวด้วยการตั้งกลุ่มเกษตรกร และบริการจัดการอย่างเป็นระบบโดยใช้วิธีการของสหกรณ์ ทำให้ สามารถขายยางพาราได้ในราคาที่สูงขึ้น ไม่นานหลังจากนั้น ท่านก็ได้เป็นผู้นำในการก่อตั้งโรงงานผลิต ยาง ซึ่งสามารถผลิตยางได้ 3 ตันต่อวัน ชุมชนอื่นๆ ยอมรับในความสำเร็จของตำบลไม้เรียง และในทศวรรษ ที่ 1990 ท่านยังได้ช่วยเหลือชุมชนอื่นๆ อีก 10 ชุมชน ในการบริหารจัดการการผลิตและขายยางพาราในปี 1996 ชุมชนอื่นๆ ในจังหวัดนครศรีธรรมราชได้นำเอาแผนการทำงานของท่าน ไปใช้กับชุมชนของตนอย่าง ได้ผล ท่านจึงนับได้ว่าเป็นปราชญ์ชาวบ้าน และผู้นำเกษตรกรอย่างแท้จริง ท่านได้รับรางวัลแมกไซไซ สาขา ผู้นำชุมชน ในปี 2004 นายประยงค์ได้รับรางวัลและการยกย่องประกาศเกียรติคุณมากมาย เช่น ประกาศเกียรติคุณผู้นำ อาชีพก้าวหน้าโดยคณะกรรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ปี 2537 ประกาศเกียรติคุณคนดีศรี สังคม โดยคณะกรรมการคัดเลือกคนดี ปี 2540 ประกาศเกียรติคุณผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรมโดย สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ปี 2544 ประกาศเกียรติคุณครูภูมิปัญญาไทย รุ่นที่ 1 โดย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ และปี 2546 ได้รับปริญญาศิลปศาสตร์มหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (รัฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง ขณะที่บทบาทและหน้าที่ของคุณลุงประยงค์ในปัจจุบัน เป็นคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อสังคม (SIF) ธนาคารออมสิน เป็นกรรมการบริหารโครงการเกษตรกรรมยั่งยืน เป็นคณะกรรมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ อนุกรรมการประสานงานสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ประธาน คณะกรรมการบริษัทเครือข่ายผลิตภัณฑ์อาหารจำกัด (ธุรกิจชุมชน) ประธานศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนไม้ เรียง วิทยากรกลางด้านการพัฒนาชุมชน แผนแม่บทชุมชน ธุรกิจ-อุตสาหกรรมชุมชนวิสาหกิจ กรรมการบริหารสถาบันส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน กรรมการวิทยาลัยการจัดการทางสังคม ฯลฯ


“หมอชนบท” ชีวิตเลือกได้ เมื่อเอ่ยถึงอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ให้เป็นกอบเป็นกำ การเป็นแพทย์คงถูกบรรจุลงในนั้นด้วย แต่ นั่นคงต้องตีกรองไว้ด้วยว่าเป็นแพทย์ที่ประกอบอาชีพตามเมืองใหญ่ๆ กลับกันกับสองสามีภรรยา “นพ. อภิสิทธิ์ และพญ.ทานทิพย์ ธำรงวรางกูร” ที่หลงเสน่ห์ท้องทุ่งชนบทจนตั้งหลักปักฐานเป็นหมอชนบท ทั้งที่ พื้นเพเป็นคนกรุงเทพฯ โดยกำเนิด กระทั่งปัจจุบันได้ใช้ชีวิตเป็นคนของชุมชนมาแล้วกว่า 21 ปี พญ.ทานทิพย์ เล่าให้ฟังว่า ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาทั้งตนเองและสามีต้องมาทำงาน รับใช้ทุนเป็นเวลา 3 ปี ที่อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เพราะอยากมาหาประสบการณ์ แต่หลังจากนั้นก็ เกิดติดใจกับชีวิตที่แสนจะเรียบง่ายและความมีน้ำใจไมตรีของคนในชุมชน เลยตัดสินใจอยู่เป็นหมอของ โรงพยาบาลอุบลรัตน์ต่อ อย่างไรก็ตาม ไม่นานนักคุณหมอทานทิพย์ก็ตัดสินใจลาออกจากราชการเพื่อมาดูแลครอบครัว แต่ถ้า มีเวลาเหลือก็เข้าไปช่วยบ้างเมื่อโรงพยาบาลขาดบุคลากร รวมทั้งจะได้ขยายงานคือการทำมูลนิธิที่ใช้ชื่อว่า “มูลนิธิพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน จังหวัดขอนแก่น” ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภออุบลรัตน์โดยใช้ที่ดินของชาวบ้านที่ บริจาคให้ภายใต้ชื่อ “ค้ำคูณ” เป็นสถานที่ทำการมูลนิธิ สำหรับที่ค้ำคูณนี้จะทำเกี่ยวกับเรื่องการแพทย์ทางเลือกและทางเลือกของผู้ติดเชื้อเอดส์ รวมทั้งเป็น ตัวอย่างธุรกิจชุมชนที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้านได้อย่างพอเพียง ทั้งนี้ ครอบครัวของเธอก็เป็น ตัวอย่างของความพอเพียงเช่นกัน ซึ่งการใช้ชีวิตในทุกๆ ด้านไม่ได้แตกต่างจากชาวบ้านทั่วไป ลูกทั้ง 2 คน จบการศึกษาจากโรงเรียนละแวกบ้านและเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาของมหาวิทยาลัยในตัวจังหวัด “แม้เป็นหมอจะสร้างรายได้ให้มากก็จริงแต่มีมากก็ใช้มาก โดยเฉพาะคนในเมืองใหญ่ เห็นเพื่อนๆ หลายคนเป็นตัวอย่าง ค่าใช้จ่ายเยอะ ลูกเขาก็มีค่าเล่าเรียนเป็นไปตามกระแส แต่ถ้าเราอยู่ที่นี่เราได้ใช้ชีวิต อย่างพอเพียง นั่นคือ ทุกอย่างที่ควรมีเราก็มี อีกอย่างที่นี่ลูกได้เรียนโรงเรียงของรัฐบาลซึ่งดีมากๆ เงินซึ่ง แทนที่จะนำมาเสียค่าเรียนพิเศษหรือค่าเรียนแพงๆ ในโรงเรียนเอกชนก็เอาไปบริจาคให้โรงเรียนของลูกให้ ซื้อโต๊ะ เก้าอี้ สื่อการสอนที่ทันสมัยให้ลูกเราเรียนรวมทั้งเด็กคนอื่นๆ ก็พลอยได้อานิสงส์ เราก็ได้บุญด้วย ชีวิตทุกวันนี้มันคือความพอเพียง มันคือวิถีชีวิต”


จากเจ้าแม่แบรนด์เนมสู่ผู้หญิงที่มีแต่ความเพียงพอ “พรอพากันดา” (Propaganda) ชื่อนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักโดยเฉพาะในวงสังคมไฮโซที่ส่งสินค้า หลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า รองเท้า ฯลฯ สารพัดดีไซน์ออกมาวางตลาดให้หลายคนต้องเท กระเป๋าจับจองเป็นเจ้าของมาแล้วด้วยราคาที่แสนจะแพงลิบลิ่ว และนั่นเป็นแบรนด์ดังภายใต้การบุกเบิกของผู้หญิงที่ชื่อว่า “เมตตา สุดสวาท” ที่ขณะนี้ออกมาเปิด อกกับสังคมว่าขอวางมือจากวงการมาเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่งที่หลงใหลศิลปะ เธอเล่าว่าช่วงชีวิต ที่ผ่านมาเสมือนจะรู้ตัวมาโดยตลอดว่า ไม่ได้เหมาะกับการเป็นนักธุรกิจเอาเสียเลย แม้ภาพลักษณ์ของการ เป็นนักธุรกิจจะดูโดดเด่นอีกทั้งยังประสบความสำเร็จสูง สิ่งเหล่านั้นกลับไม่ได้สร้างความสุขให้กับชีวิตแม้ เพียงน้อย ที่มีอยู่ทุกวันคือกิเลสที่ก่อตัวไม่หยุดหย่อน กระทั่งกับแม่ของตนเอง การจะหยิบยื่นเงินให้ใช้สอย ยังอดที่จะตระหนี่ไม่ได้ จนที่สุดก็เกิดจุดหักเหของชีวิต... เมตตาบอกว่าครั้งหนึ่งเคยได้เดินทางไปเที่ยวแล้วบังเอิญลืมนำกล้องไปด้วย แต่สิ่งที่มีอยู่คือกล่องสี ธรรมดาๆ เลยนึกสนุกจับสิ่งของเหล่านั้นมาละเลงวาดรูปโดยไม่มีพื้นฐานมาก่อน หลังจากนั้นพอนำภาพวาด ออกมาดูอีกครั้งกลับพบกับความประทับใจและหลงเสน่ห์ชนิดที่ว่าถอนตัวไม่ขึ้นจึงไปเรียนวาดภาพต่อและ ผลพวงจากตอนนั้นนั่นเองทำให้เธอพบกับความสุขที่แท้จริงของชีวิต จากนั้นก็ได้สละธุรกิจที่สร้างมากับมือ ให้น้องสาวเป็นคนดูแลตนเองก็ผันมาเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่รักการวาดภาพประกอบกับการเขียนหนังสือซึ่ง เป็นสิ่งที่ค้นพบไปพร้อมๆ กัน ปัจจุบันเมตตาออกพ็อกเกตบุ๊กมาแล้ว 2 เล่ม และทำให้รู้ว่าเงินไม่ใช่สิ่งสำคัญไปเสียทุกอย่าง ซึ่งไป พ้องกับหลักเศรษฐกิจพอเพียงเช่นกัน “การที่เราหันมาใช้ชีวิตอย่างนี้ไม่ใช่ว่าเราจะตัดตัวเองออกจากสังคมไปเลยเพียงแต่ค่อยๆ ตัดสิ่งที่ไม่ จำเป็นออกจากชีวิตไปโดยไม่ได้ทำให้ตัวเราลำบาก นั่นก็อยู่ในข่ายเศรษฐกิจพอเพียงเช่นกันเพราะเศรษฐกิจ พอเพียงต้องมาจากความเข้าใจว่าตัวเรามีกำลังแค่ไหน ใช้ชีวิตให้มีประโยชน์สูงสุดตามอัตภาพของมันเป็น อย่าใช้จ่ายหรือบริโภคจนเกินตัวกำหนดให้มันพอ ไม่ไปเปรียบเทียบกับคนอื่นให้ประเมินศักยภาพของเรา เอง” เมตตากล่าวทิ้งท้าย


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชาเศรษฐศาสตร์ รหัสวิชา ส22102 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เศรษฐกิจพอเพียงกับผลิต เวลาเรียน 4 ชั่วโมง สินค้าและบริการ เรื่อง การผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่น เวลาเรียน 1 ชั่วโมง โรงเรียนมัธยมเทศบาล 6 นครอุดรธานี วันที่.................................................... ผู้สอน นายภูริทัต ศรีสุนาครัว --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ส 3.1 เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภคการใช้ ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด ได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ารวมทั้งเข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการดำรงชีวิตอย่างมีดุลยภาพ 2.สาระสำคัญ การผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่นย่อมมีปัญหาหลายประการซึ่งควรใช้แนวทางการแก้ไขปัญหาและพัฒนา ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3.ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ตัวชี้วัด ส 3.1 ม.2/3 เสนอแนวทางการพัฒนาการผลิตในท้องถิ่นตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3.2 จุดประสงค์การเรียนรู้ - วิเคราะห์รูปแบบของการผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่นได้(K) - สามารถเขียนการผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่น (P) - เห็นความสำคัญของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่น (A) 4.สาระการเรียนรู้ 1) สำรวจและวิเคราะห์ปัญหาการผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่น 2) ประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่น


5.สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน - ความสามารถในการสื่อสาร - ความสามารถในการคิด - ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6.คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7.กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการเรียนความรู้ความเข้าใจ ขั้นที่ 1 สังเกต ตระหนัก 1. ครูให้นักเรียนเล่าถึงสินค้าและบริการในท้องถิ่นที่นักเรียนมีภูมิลำเนาหรือในท้องถิ่นที่สถานศึกษาตั้งอยู่ ซึ่ง นักเรียนสามารถบอกได้อย่างหลากหลาย 2. ครูอธิบายเชื่อมโยงให้นักเรียนเข้าใจว่า การผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่นนั้น มีรูปแบบต่างๆ เช่น 1) การผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่น ได้แก่ - การผลิตในครัวเรือน - การรวมกลุ่มผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่น 2) การผลิตขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SME ขั้นที่ 2 วางแผนปฏิบัติ 1.ครูให้นักเรียนกลุ่มเดิม ร่วมมือกันวางแผนศึกษาหาความรู้เรื่อง การผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่น โดยจับคู่กัน ศึกษาความรู้ คู่ละ 1 หัวข้อ ดังนี้ 1) รูปแบบการผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่น 2) การผลิตขนาดกลางหรือขนาดย่อม หรือ SMEs 2.นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด คำถามกระตุ้นความคิด - ปัญหาการผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่นมีสาเหตุจากสิ่งใด 1. การขาดแคลนเงินทุน 2. ขาดบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ


3. ใช้เทคโนโลยีในการผลิต 4. ขาดการสนับสนุนจากรัฐ) ขั้นที่ 3 ลงมือปฏิบัต 1. สมาชิกแต่ละคู่สืบค้นความรู้ตามหัวข้อที่ได้รับมอบหมายคู่ละ 1 หัวข้อ โดยสืบค้นจากหนังสือเรียน หนังสือ ค้นคว้าเพิ่มเติมและแหล่งข้อมูลสารสนเทศ แล้วบันทึกความรู้ที่ได้ลงในแบบบันทึกการอ่าน 2. สมาชิกแต่ละคู่ภายในกลุ่มผลัดกันนำความรู้ที่สืบค้นมาเล่า ให้สมาชิกอีกคู่หนึ่งฟัง 3. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด คำถามกระตุ้นความคิด - ถ้ามีการรวมกลุ่มในการผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่น จะมีผลดีอย่างไร (มีความเข้มแข็งในการผลิต สามารถต่อรองราคาในตลาดได้) ขั้นที่ 4 พัฒนาความรู้ ความเข้าใจ 1.สมาชิกแต่ละกลุ่มร่วมมือกันทำใบงานที่ 3.2 เรื่อง รูปแบบการผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่น โดยนำความรู้ที่ได้ จากการศึกษาค้นคว้ามาเป็นพื้นฐานในการวิเคราะห์ตามหัวข้อที่กำหนด 2. ครูเฉลยคำตอบในใบงานที่ 3.2 โดยให้สมาชิกแต่ละกลุ่มตรวจสอบความถูกต้องในใบงานของกลุ่ม 3. ครูให้นักเรียนแต่ละคนทำกิจกรรมตามตัวชี้วัด : กิจกรรมที่ 3.3-3.4 จากแบบวัดฯ เป็นการบ้าน พร้อมกำหนด วันและเวลาส่ง ขั้นที่ 5 สรุป นักเรียนทุกคนร่วมกันสรุปสาระสำคัญของรูปแบบการผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่น การผลิตขนาดกลาง และขนาดย่อม SMEs 8.การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 3.2 ใบงานที่ 2.2 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจแบบบันทึกการอ่าน แบบบันทึกการอ่าน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์


9.สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน เศรษฐศาสตร์ ม.2 2) แบบวัดและบันทึกผลการเรียนรู้ เศรษฐศาสตร์ ม.2 3) หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม 4) ใบงานที่ 3.2 เรื่อง รูปแบบการผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่น 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชาเศรษฐศาสตร์ รหัสวิชา ส22102 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เศรษฐกิจพอเพียงกับผลิต เวลาเรียน 4 ชั่วโมง สินค้าและบริการ เรื่อง 3 เศรษฐกิจพอเพียงกับการผลิตสินค้าและ เวลาเรียน 1 ชั่วโมง บริการในท้องถิ่น โรงเรียนมัธยมเทศบาล 6 นครอุดรธานี วันที่.................................................... ผู้สอน นายภูริทัต ศรีสุนาครัว -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ส 3.1 เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภคการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด ได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ารวมทั้งเข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการดำรงชีวิตอย่างมีดุลยภาพ 2.สาระสำคัญ การนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่นย่อมส่งผลต่อความ มั่นคงทางเศรษฐกิจของคนในชุมชน 3.ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ตัวชี้วัด ส 3.1 ม.2/3 เสนอแนวทางการพัฒนาการผลิตในท้องถิ่นตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3.2 จุดประสงค์การเรียนรู้ - เสนอแนวทางการผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่นตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้(K) - ปฎิบัติตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงได้ (P) - เห็นความสำคัญของเศรษฐกิจพอเพียงกับการผลิตสินค้าและในท้องถิ่น (A) 4.สาระการเรียนรู้ 1) สำรวจและวิเคราะห์ปัญหาการผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่น 2) ประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่น 5.สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน


- ความสามารถในการสื่อสาร - ความสามารถในการคิด - ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6.คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7.กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนแบบ ธรรมสากัจฉา ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูให้สมาชิกกลุ่มเดิมร่วมกันอภิปรายในหัวข้อต่อไปนี้ 1) การผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่นที่นักเรียนมีภูมิลำเนามีอะไรบ้าง 2) ปัญหาสำคัญของการผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่นของนักเรียนได้แก่อะไรบ้าง 2. ตัวแทนกลุ่มนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนครูอธิบายเชื่อมโยงให้นักเรียนตระหนักถึงปัญหาการผลิตสินค้าและ บริการที่มีผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในชุมชน ขั้นสอน 1. แสวงหาความรู้ นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมมือกันค้นคว้าความรู้จากหนังสือเรียนหนังสือค้นคว้าเพิ่มเติมห้องสมุดและ แหล่งข้อมูลสารสนเทศตามความเหมาะสม ในหัวข้อต่อไปนี้ 1) ปัญหาของการผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่น 2) การประยุกต์ใช้เศรษฐกิจพอเพียงในการผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่น 2. ค้นพบความรู้ สมาชิกแต่ละกลุ่มนำความรู้ที่ได้จากการสืบค้นมาสนทนาแลกเปลี่ยนกันในประเด็นสำคัญ โดยผลัดกัน อภิปรายทีละคน 3. วิเคราะห์และประเมินค่าความรู้ 1. สมาชิกในแต่ละกลุ่มร่วมมือกันวิเคราะห์กรณีศึกษาแล้วตอบคำถามตามที่กำหนดในใบงานที่ 3.3 เรื่อง ปัญหา ของการผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่น และแนวทางแก้ไข 2. ตัวแทนกลุ่มนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน ครูตรวจสอบความถูกต้องและให้ข้อเสนอแนะ


3. ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มสำรวจการผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่น กลุ่มละ 2 ชนิด มาล่วงหน้า เพื่อทำ กิจกรรมในชั่วโมงเรียนต่อไป 8.การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 3.3 ใบงานที่ 3.3 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ประเมินการนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 9.สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน เศรษฐศาสตร์ ม.2 2) หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม 3) ใบงานที่ 3.3 เรื่อง ปัญหาของการผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่น และแนวทางแก้ไข 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องสมุด 2) มชนที่นักเรียนอาศัยอยู่ หรือชุมชนที่สถานศึกษาตั้งอยู่ 3) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ 4) แหล่งเรียนรู้จากอินเทอร์เน็ต


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 12 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชาเศรษฐศาสตร์ รหัสวิชา ส22102 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เศรษฐกิจพอเพียงกับผลิต เวลาเรียน 4 ชั่วโมง สินค้าและบริการ เรื่อง 3 เศรษฐกิจพอเพียงกับการผลิตสินค้าและ เวลาเรียน 1 ชั่วโมง บริการในท้องถิ่น (ต่อ) โรงเรียนมัธยมเทศบาล 6 นครอุดรธานี วันที่.................................................... ผู้สอน นายภูริทัต ศรีสุนาครัว -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ส 3.1 เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภคการใช้ ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด ได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ารวมทั้งเข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการดำรงชีวิตอย่างมีดุลยภาพ 2.สาระสำคัญ การนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่นย่อมส่งผลต่อความ มั่นคงทางเศรษฐกิจของคนในชุมชน 3.ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ตัวชี้วัด ส 3.1 ม.2/3 เสนอแนวทางการพัฒนาการผลิตในท้องถิ่นตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3.2 จุดประสงค์การเรียนรู้ - เสนอแนวทางการผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่นตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้(K) - ปฎิบัติตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงได้ (P) - เห็นความสำคัญของเศรษฐกิจพอเพียงกับการผลิตสินค้าและในท้องถิ่น (A) 4.สาระการเรียนรู้ 1) สำรวจและวิเคราะห์ปัญหาการผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่น 2) ประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่น


5.สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน - ความสามารถในการสื่อสาร - ความสามารถในการคิด - ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6.คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7.กิจกรรมการเรียนรู้วิธีสอนแบบ ธรรมสากัจฉา ขั้นสอน 1.สมาชิกในกลุ่มนำเสนอชื่อสินค้าและบริการ พร้อมลักษณะ เด่นของสินค้าและบริการให้สมาชิกในกลุ่มฟัง 2. สมาชิกในกลุ่มช่วยกันเลือกสินค้าและบริการในท้องถิ่นที่กลุ่มสนใจ มาร่วมกันวิเคราะห์แล้วตอบคำถามในใบ งาน ที่ 3.4 เรื่อง การผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่น 3.ตัวแทนกลุ่มนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนโดยให้กลุ่มอื่นช่วยกันแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม ดังนี้ - กลุ่มที่ 1 นำเสนอผลงาน กลุ่มที่ 2 แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม - กลุ่มที่ 2 นำเสนอผลงาน กลุ่มที่ 3 แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม - กลุ่มที่ 3 นำเสนอผลงาน กลุ่มที่ 4 แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม - กลุ่มที่ 4 นำเสนอผลงาน กลุ่มที่ 5 แสดงความคิดเห็น เพิ่มเติม - กลุ่มที่ 5 นำเสนอผลงาน กลุ่มที่ 1 แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม 4.ครูตรวจสอบความถูกต้องเหมาะสมของการนำเสนอผลงานในแต่ละกลุ่ม พร้อมให้คำแนะนำเพิ่มเติม ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มจัดทำป้ายนิเทศ เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียงกับการผลิตสินค้าและบริการ โดยให้ครอบคลุมประเด็นตามที่กำหนด ดังนี้ 1) การอธิบายหลักการและเป้าหมายของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 2) การวิเคราะห์ปัญหาการผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่น 3) การเสนอแนวทางการพัฒนาการผลิตในท้องถิ่นตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง


ขั้นสรุป นักเรียนร่วมกันสรุปความสำคัญของการนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาและ พัฒนาการผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่น นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน 8.การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 3.4 ใบงานที่ 3.4 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ประเมินการนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจป้ายนิเทศ เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียงกับการผลิต สินค้าและบริการ แบบประเมินป้ายนิเทศ เรื่อง เศรษฐกิจ พอเพียงกับการผลิตสินค้าและบริการ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน เศรษฐศาสตร์ ม.2 2) หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม 3) ใบงานที่ 3.4 เรื่อง การผลิตสินค้าและบริการในท้องถิ่น 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องสมุด 2) ชุมชนที่นักเรียนอาศัยอยู่ หรือชุมชนที่สถานศึกษาตั้งอยู่ 3) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ


ชื่อ-สกุล/กลุ่ม...................................................................ชั้น........เลขที่............. การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินป้ายนิเทศ เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียงกับการผลิตสินค้าและบริการ ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 1 การอธิบายหลักการและเป้าหมายของปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง 2 การวิเคราะห์ปัญหาการผลิตสินค้าและบริการใน ท้องถิ่น 3 การเสนอแนวทางการพัฒนาการผลิตในท้องถิ่น ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน ดีมาก = 4 คะแนน ดี = 3 คะแนน พอใช้ = 2 คะแนน ปรับปรุง = 1 คะแนน เกณฑ์การตดัสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 11 - 12 ดีมาก 9 - 10 ดี 6 - 8 พอใช้ ต ่ากว่า 6 ปรับปรุง


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 13 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชาเศรษฐศาสตร์ รหัสวิชา ส22102 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การคุ้มครองผู้บริโภค เวลาเรียน 4 ชั่วโมง เรื่อง สิทธิผู้บริโภค เวลาเรียน 1 ชั่วโมง โรงเรียนมัธยมเทศบาล 6 นครอุดรธานี วันที่.................................................... ผู้สอน นายภูริทัต ศรีสุนาครัว --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ส 3.1 เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภคการใช้ ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด ได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ารวมทั้งเข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการดำรงชีวิตอย่างมีดุลยภาพ 2.สาระสำคัญ การคุ้มครองสิทธิของตนเองในฐานะผู้บริโภคนั้น จะต้องร่วมมือกันดำเนินการภายในขอบเขตของกฎหมายที่ เกี่ยวข้องกับสิทธิผู้บริโภค 3.ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ตัวชี้วัด ส 3.1 ม.2/4 อภิปรายแนวทางการคุ้มครองสิทธิของตนเองในฐานะผู้บริโภค 3.2 จุดประสงค์การเรียนรู้ - อธิบายแนวทางการรักษาและคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้บริโภคได้(K) - ปฎิบัติตามระเบียบสิทธิผู้บริโภคได้(P) - เห็นความสำคัญของสิทธิผู้บริโภค (A) 4.สาระการเรียนรู้ - การรักษาและคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้บริโภค 5.สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน - ความสามารถในการสื่อสาร - ความสามารถในการคิด - ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต


6.คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7.กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนแบบ บรรยาย ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1.ครูให้นักเรียนดูภาพ แล้วให้ช่วยกันวิเคราะห์ว่า ภาพดังกล่าวแสดงถึงผลดีต่อผู้บริโภคหรือผู้ซื้ออย่างไรบ้าง - ภาพโฆษณาสินค้าประเภทต่างๆ - ภาพประชาชนเดินเลือกซื้อสินค้าในร้าน หรือห้างสรรพสินค้า - ภาพคำอธิบายสินค้าหน้ากล่องสินค้า หน้าขวด หรือหน้าซองบรรจุสินค้า 2.ครูอธิบายเชื่อมโยงให้นักเรียนเข้าใจว่าผู้บริโภคทุกคนจะต้องรู้จักตรวจสอบคุณภาพสินค้าให้เป็นไปตามสิทธิของ ผู้บริโภค ขั้นสอน 1. ครูอธิบายให้นักเรียนเข้าใจถึงสิทธิของผู้บริโภค พร้อมยกตัวอย่างประกอบ ในหัวข้อต่อไปนี้ 1) สิทธิที่จะได้รับข้อมูลข่าวสาร สรรพคุณที่บรรยายถึงสินค้าและบริการอย่างถูกต้อง 2) สิทธิที่จะมีอิสระในการเลือกซื้อสินค้าและบริการ 3) สิทธิที่จะได้รับความปลอดภัยจากการใช้สินค้าและบริการ 4) สิทธิได้รับความเป็นธรรมในการทำสัญญา 5) สิทธิได้รับการพิจารณาและชดเชยความเสียหาย 2. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 6 คน คละกันตามความสามารถความสามารถคือ เก่ง ปานกลางค่อนข้างเก่ง ปานกลางค่อนข้างอ่อน และอ่อน 3. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมมือกันศึกษาความรู้เรื่องสิทธิผู้บริโภคจากหนังสือเรียนหนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม ห้องสมุด หรือแหล่งข้อมูลสารสนเทศ ตามความเหมาะสม แล้วผลัดกันสรุปสาระสำคัญ 4. สมาชิกแต่ละกลุ่มจับคู่กันเป็น 3 คู่ แล้วให้แต่ละคู่ช่วยกันทำใบงานที่ 4.1 เรื่อง สิทธิผู้บริโภค 5. สมาชิกแต่ละคู่ในกลุ่มผลัดกันเล่าผลงานสู่กันฟังทีละข้อ แล้วช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องและแก้ไขในกรณีที่ ผลงานยังไม่สมบูรณ์ เพื่อสรุปเป็นผลงานของกลุ่ม ในกรณีที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกันให้รับฟังการแสดงความคิดเห็น ระหว่างกันอย่างมีเหตุผล


6. ครูและนักเรียนช่วยกันเฉลยคำตอบในใบงานที่ 4.1 สมาชิก แต่ละกลุ่มช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องในผลงาน ของกลุ่ม จากนั้นครูอธิบายความรู้เพิ่มเติม พร้อมยกตัวอย่างให้นักเรียนเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของการคุ้มครอง ผู้บริโภค และเป้าหมายในการคุ้มครองผู้บริโภค 7. ครูให้นักเรียนแต่ละคนทำกิจกรรมฝึกทักษะ : กิจกรรมที่ 1 และกิจกรรมตามตัวชี้วัด : กิจกรรมที่ 4.1 จากแบบ วัดฯ เป็นการบ้านพร้อมกำหนดวันและเวลาส่ง ขั้นสรุป นักเรียนช่วยกันสรุปสาระสำคัญของสิทธิของผู้บริโภคตามบทบัญญัติของกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ครูช่วย เสนอแนะเพิ่มเติม 8.การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 (ประเมินตามสภาพจริง) ตรวจใบงานที่ 4.1 ใบงานที่ 4.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 9.สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน เศรษฐศาสตร์ ม.2 2) แบบวัดและบันทึกผลการเรียนรู้ เศรษฐศาสตร์ ม.2 3) หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม 4) บัตรภาพ 5) ใบงานที่ 4.1 เรื่อง สิทธิผู้บริโภค 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องสมุด 2) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ


บัตรภาพ ภาพโฆษณาสินค้าประเภทต่างๆ ภาพประชาชนเดินเลือกซื้อสินค้า ในห้างสรรพสินค้า ภาพคำอธิบายสินค้า



แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 14 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชาเศรษฐศาสตร์ รหัสวิชา ส22102 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การคุ้มครองผู้บริโภค เวลาเรียน 4 ชั่วโมง เรื่อง กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค เวลาเรียน 1 ชั่วโมง โรงเรียนมัธยมเทศบาล 6 นครอุดรธานี วันที่.................................................... ผู้สอน นายภูริทัต ศรีสุนาครัว --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ส 3.1 เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภคการใช้ ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด ได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ารวมทั้งเข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการดำรงชีวิตอย่างมีดุลยภาพ 2.สาระสำคัญ การคุ้มครองสิทธิของตนเองในฐานะผู้บริโภคนั้น จะต้องร่วมมือกันดำเนินการภายใต้ขอบเขตของกฎหมายที่ เกี่ยวข้องกับสิทธิผู้บริโภค 3.ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ตัวชี้วัด ส 3.1 ม.2/4 อภิปรายแนวทางการคุ้มครองสิทธิของตนเองในฐานะผู้บริโภค 3.2 จุดประสงค์การเรียนรู้ - วิเคราะห์ความสำคัญของกฎหมายคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคได้(K) - ปฎิบัติตามระเบียบกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคได้(P) - เห็นความสำคัญของกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค (A) 4.สาระการเรียนรู้ - กฎหมายคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 5.สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน - ความสามารถในการสื่อสาร - ความสามารถในการคิด - ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต


6.คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 7.กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ : เทคนิคเล่าเรื่องรอบวง ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูนำข่าวเกี่ยวกับประชาชนร้องเรียนสื่อมวลชน หรือแจ้งความต่อสถานีตำรวจเรื่องที่ผู้บริโภคได้รับความ เดือดร้อน หรือได้รับความเสียหาย ตัวอย่างเช่น - ปลากระป๋องมีเศษวัสดุปนเปื้อน - น้ำปลา หรือซอสปรุงรสไม่ได้มาตรฐาน - ร้านค้านำสินค้าหมดอายุแล้วมาวางจำหน่าย - แม่ค้าโกงตาชั่ง ผู้ซื้อได้สินค้าไปไม่ครบ 2. ครูให้นักเรียนช่วยกันอภิปรายแสดงความคิดเห็นว่าข่าวนั้นมีผลเสียต่อผู้บริโภคอย่างไร และสามารถป้องกัน แก้ไขได้อย่างไรบ้างครูช่วยเสนอแนะเพิ่มเติม ขั้นสอน สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ : 1. หนังสือเรียน เศรษฐศาสตร์ ม.2 2. แบบวัดฯ 3. หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม 4. ใบงานที่ 4.2 5. ห้องสมุด 6. แหล่งข้อมูลสารสนเทศ 1. นักเรียนรวมกลุ่มเดิม แล้วเลือกหมายเลขประจำตัวตั้งแต่หมายเลข 1-6 ตามลำดับ แล้วให้สมาชิกแต่ละ หมายเลขศึกษาความรู้ จากหนังสือเรียน หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม ห้องสมุด หรือแหล่งข้อมูลสารสนเทศ ตามความ เหมาะสม ในหัวข้อต่อไปนี้ - สมาชิกหมายเลข 1 ศึกษาความรู้เรื่อง พระราชบัญญัติ คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 - สมาชิกหมายเลข 2 ศึกษาความรู้เรื่อง พระราชบัญญัติราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 - สมาชิกหมายเลข 3 ศึกษาความรู้เรื่อง พระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2542 - สมาชิกหมายเลข 4 ศึกษาความรู้เรื่อง พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 - สมาชิกหมายเลข 5 ศึกษาความรู้เรื่อง พระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 - สมาชิกหมายเลข 6 ศึกษาความรู้เรื่อง พระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2535


2. สมาชิกแต่ละหมายเลขสรุปประเด็นสาระสำคัญของพระราชบัญญัติที่ศึกษาว่า มีเป้าหมายสำคัญอย่างไร เพื่อ นำไปเล่าให้เพื่อนสมาชิกในกลุ่มฟัง และบันทึกความรู้ ที่ได้ลงในแบบบันทึกการอ่าน 3. สมาชิกแต่ละหมายเลขผลัดกันเล่าประเด็นสำคัญ เป้าหมายของพระราชบัญญัติที่ตนศึกษาให้สมาชิกในกลุ่มฟัง โดยเรียงตามลำดับหมายเลข 1-6 สมาชิกคนอื่นซักถามข้อสงสัยจนมีความเข้าใจชัดเจน 4. สมาชิกแต่ละกลุ่มช่วยกันทำใบงานที่ 4.2 เรื่อง กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค 5. ครูเฉลยคำตอบในใบงานที่ 4.2 สมาชิกแต่ละกลุ่มช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง 6. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด ข้อ 1-2 คำถามกระตุ้นความคิด 1.ถ้าไม่มีกฎหมายควบคุมเกี่ยวกับการโฆษณาจะเกิดผลเสียต่อผู้บริโภคอย่างไรบ้าง (การโฆษณาอาจใช้ข้อความที่เกิดผลเสียต่อผู้บริโภคและสังคมส่วนรวม) 2. การที่มีบทบัญญัติของกฎหมายควบคุมฉลากสินค้า จะส่งผลดีต่อผู้บริโภคอย่างไรบ้าง (ผู้บริโภคได้รับทราบข้อเท็จจริงของสินค้านั้น) 7. ครูให้นักเรียนแต่ละคนทำกิจกรรมตามตัวชี้วัด : กิจกรรมที่ 4.7-4.8 จากแบบวัดฯ เป็นการบ้าน พร้อมกำหนด วันและเวลาส่ง ขั้นสรุป นักเรียนช่วยกันสรุปความรู้เรื่อง เป้าหมายสำคัญของพระราชบัญญัติเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ครู ตรวจสอบความถูกต้องและให้คำแนะนำเพิ่มเติม 8.การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 4.2 ใบงานที่ 4.2 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจแบบบันทึกการอ่าน แบบบันทึกการอ่าน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ประเมินการนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์


9.สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 9.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน เศรษฐศาสตร์ ม.2 2) แบบวัดและบันทึกผลการเรียนรู้ เศรษฐศาสตร์ ม.2 3) หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม 4) ตัวอย่างข่าว 5) ใบงานที่ 4.2 เรื่อง กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องสมุด 2) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ


ตัวอย่างข่าว สธ.เก็บปลากระป๋องบริจาคที่พัทลุง ส่งตรวจสารปนเปื้อน จากกรณีที่ชาวบ้านที่ตำบลชัยบุรี จังหวัดพัทลุง ได้รับบริจาคอาหารช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำ ท่วม ซึ่งภายในถุงบรรจุปลากระป๋อง ข้าวสาร บะหมี่สำเร็จรูป และของใช้ประจำวัน เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2552 ที่ผ่านมาหลังจากนั้นได้เปิดปลากระป๋องดังกล่าวบริโภค พบว่า มีกลิ่นเหม็นเน่า เนื้อ ปลาเละ เมื่อลองชิม เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน จึงได้นำปลากระป๋องทั้งหมดไปส่งคืนที่ผู้ใหญ่บ้าน ความคืบหน้าล่าสุด นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพัทลุง เก็บปลากระป๋องบริจาคคือ ยี่ห้อชาวดอย ซึ่งผลิตจากบริษัททองกิ่งแก้วฟู้ดส์ เลขที่ 17/1 หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จำหน่ายโดยบริษัท ไทย เอดี ฟู้ดส์ เลขที่ 5/145 หมู่ 1 ถนน พระรามที่ 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. ผลิตวันที่ 24 ธันวาคม 2551 หมดอายุ วันที่ 24 ธันวาคม 2554 เลขที่ อย. 74-07040-1-0050 ล็อตการผลิต TSE 77 ออกจากหมู่บ้านทั้งหมด และ ให้ส่งตรวจวิเคราะห์ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ จ.ตรัง เป็นการด่วนแล้ว คาดว่า จะทราบผลในวัน พรุ่งนี้ (15 ม.ค.) ขณะเดียวกันได้สั่งการสำนักงานสาธารณสุขทั้งหมด เก็บปลากระป๋องยี่ห้อ ดังกล่าวและผลิตในล็อตเดียวกันออกจากท้องตลาดทั้งหมด รวมทั้งในเขต กทม. ด้วย เพื่อความ ปลอดภัยของประชาชน นพ.สุพรรณ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ หากพบว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่ได้มาตรฐาน ถือเป็นอาหารผิดมาตรฐาน ตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 มาตรา 28 มีโทษปรับไม่เกิน 5 หมื่น บาท หรือหากพบสิ่งปนเปื้อนอันตรายเจือปนอยู่ ถือว่าเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ ผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือ ผู้จำหน่ายมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาทหรือทั้งจำ ทั้งปรับ และได้สั่งการให้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบที่โรงงานผลิตเป็นการ ด่วนว่าได้ตามมาตรฐาน จีเอ็มพีหรือไม่ และสืบหาสาเหตุการเน่าเสียด้วย


สธ.แถลง ผลการจับกุมน้ำปลาไม่ได้มาตรฐาน นายจุรินทร์ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับกองบังคับการ ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค แถลงข่าวการจับกุมผู้ผลิตน้ำปลาปลอมที่ ไม่ได้มาตรฐาน สำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องมาจาก คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้รับ เรื่องร้องเรียนว่าพบน้ำปลาที่เข้าข่ายผลิตไม่ได้มาตรฐาน จึงเข้าตรวจสอบพบว่า โรงงานดังกล่าวอยู่ ที่จังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งสำนักงาน อย. ของจังหวัด เคยนำตัวอย่างไปตรวจสอบพบว่า ผลิตไม่ได้ มาตรฐานจริงอีกทั้งยังมีส่วนประกอบของสารกันบูดในปริมาณมาก จึงได้ส่งเรื่องดำเนินคดีหลาย ครั้งแต่โรงงานก็ยังดำเนินกิจการต่อ ทางกระทรวงสาธารณสุข จึงได้เข้าจับกุม โดยมีการสั่งปิด กิจการอีกทั้งอายัดของกลางและเครื่องจักรที่ผลิตได้รวมมูลค่ากว่า7,000,000 บาทขณะที่นายจุรินทร์ กล่าวว่าขอให้ผู้บริโภค ระมัดระวังในเรื่องการเลือกซื้อน้ำปลา เพราะหากได้น้ำปลาที่คล้ายกับ ลักษณะที่ถูกจับกุมจะเป็นอันตรายต่อไปได้สำหรับ ผู้บริโภคที่พบการจำหน่ายอาหาร ที่เข้าข่ายไม่ได้ มาตรฐานของทาง อย. สามารถโทรศัพท์มาร้องเรียนได้ที่ สายด่วน อย. 1556


Click to View FlipBook Version