การศกึ ษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตไข่เค็มเพอ่ื จำหน่าย
นางสาวกัญจนพร ตน้ จันทร์ รหสั ประจำตวั 63202011201
นางสาวณชิ าภทั ร แตงณรงค์ รหสั ประจำตวั 63202011217
นางสาวธนภรณ์ มัทธุจดั รหัสประจำตัว 63202011218
ระดบั ประกาศนยี บัตรวชิ าชพี
สาขาวิชา การบญั ชี สาขางาน การบญั ชี ห้อง 2
ครทู ป่ี รึกษา
นางสาวนิศารตั น์ ไมส้ นธิ์
วทิ ยาลัยเทคนิคพจิ ติ ร อาชีวศึกษาจงั หวดั พจิ ติ ร
สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา กระทรวงศึกษาธกิ าร
ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565
ใบรบั รองโครงงาน
รายวิชา โครงงาน รหัสวิชา 20201-8501 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565
ช่อื โครงงาน การศึกษาตน้ ทุนและผลตอบแทนในการผลิตไขเ่ ค็มเพ่ือจำหนา่ ย
ผู้รบั ผดิ ชอบโครงงาน 1. นางสาวกญั จนพร ตน้ จันทร์ รหสั ประจำตวั 63202011201
2. นางสาวณชิ าภทั ร แตงณรงค์ รหสั ประจำตัว 63202011217
3. นางสาวธนภรณ์ มัทธุจัด รหัสประจำตวั 63202011218
ครูท่ปี รกึ ษา นางสาวนิศารตั น์ ไม้สนธิ์
ปีการศกึ ษา 2565
ไดร้ บั อนุมัตใิ หเ้ ป็นส่วนหนง่ึ ของการศึกษารายวิชาโครงงาน สาขาวิชา การบัญชี
หลักสตู รประกาศวชิ าชีพ พุทธศักราช 2562
คณะกรรมการสอบโครงงาน
ลงชื่อ..............................................ประธาน
(นางสาวจารุณี จุลบตุ ร)
ลงชอ่ื ..............................................กรรมการ
(นางสาวนศิ ารตั น์ ไม้สนธ์ิ)
ลงชื่อ..............................................กรรมการและเลขานุการ
(นางสาวอรวลญั ช์ น้อยสมวงษ์)
ลงช่อื ..............................................หวั หน้าแผนกวชิ าการบญั ชี
(นางสกาวรัตน์ บุญศิลป์)
ลงช่ือ..............................................รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ
(นายอศิ รา อยยู่ งิ่ )
ลงชื่อ..............................................ผ้อู ำนวยการวทิ ยาลัย
(นายชยั ณรงค์ คชั มาตย์)
ชอื่ ผลงาน : การศกึ ษาตน้ ทุนและผลตอบแทนในการผลติ ไขเ่ ค็มเพือ่ จำหน่าย
ผู้จดั ทำ
: 1. นางสาวกัญจนพร ต้นจันทร์ รหัสประจำตวั 63202011201
2. นางสาวณชิ าภทั ร แตงณรงค์ รหสั ประจำตวั 63202011217
3. นางสาวธนภรณ์ มัทธุจดั รหสั ประจำตัว 63202011218
ครูทีป่ รึกษา : นางสาวนศิ ารตั น์ ไมส้ นธิ์
สาขาวิชา : การบญั ชี
สาขางาน : การบัญชี
ปีการศึกษา : 2565
บทคดั ยอ่
ในการวิจัยครั้งน้ีมีวัตถุประสงค์ของการวิจัย คือ 1. เพื่อศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการ
ผลิตไข่เค็ม 2. เพื่อศึกษาค่าใช้จ่ายที่ประหยัดได้จากการผลิตไข่เค็ม 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของ
ผบู้ รโิ ภคท่มี ีผลต่อการบรโิ ภคไข่เค็ม
โดยมีสมมติฐานในการวิจัย คือ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย นักศึกษา
แผนกวิชาการบญั ชจี ำนวน 30 คน ทส่ี นใจไข่เค็ม
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามระดับความพึงพอใจโดยใช้แบบมาตราส่วน
ประมาณค่า 5 ลำดับ และนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ ค่าสถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ สถิติพื้นฐาน
การแจกแจงความถ่ี และค่าร้อยละ
ผลการวิจัยมีดงั นี้
1. ตน้ ทุนในการผลติ ไข่เคม็ เฉลีย่ 23.31 บาทต่อกล่อง
2. ค่าใช้จ่ายที่ประหยัดได้จากการผลิตไข่เค็มต่อกล่อง ในปริมาณ 1 ชิ้น ในราคา
1.69 บาท ค่าใชจ้ า่ ยใช้จา่ ยในการผลติ 7.48 บาท
3. ความพงึ พอใจในการบรโิ ภคบราวน่ี ในภาพรวมอยู่ในระดับพอใจมากและเมื่อพิจารณาเป็น
รายข้อ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่ 1. ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ 2. ปัจจัยด้านบุคคลและ
สง่ เสริมการขาย 3. ปัจจยั ดา้ นราคา
ก
กติ ติกรรมประกาศ
การจัดทำโครงงานคร้ังนี้ สำเร็จลุล่วงได้เป็นอย่างดีด้วยความอนุเคราะห์ และความกรุณาให้
คำปรึกษา ต้ังแต่ต้นจนเสร็จสมบูรณ์ ตลอดจนให้ความรู้และประสบการณ์ท่ีดีแก่ข้าพเจ้าจาก
นางสาวอรวลัญช์ น้อยสมวงษ์ ครูผู้สอนวิชาโครงงาน ผู้จัดทำโครงงานขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงมา
ณ โอกาสนี้
ขอกราบขอบพระคุณ นางสาวนิศารัตน์ ไม้สนธิ์ ครูท่ีปรึกษาโครงงาน ท่ีได้กรุณาให้
คำแนะนำและให้คำปรึกษามาตลอดจนให้ความช่วยเหลือแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ เพ่ือให้จัดทำโครงงาน
ฉบับนี้ให้มีความสมบูรณ์ผู้จัดทำโครงงานขอขอบพระคุณคณะอาจารย์ทุกท่านที่ได้ประสิทธ์ิประสาทวิชา
บ่มเพราะจนผู้ศึกษาสามารถนำเอาหลักการมาประยุกต์ใช้และอ้างอิงในการจัดทำโครงงานคร้ังนี้ อีกท้ัง
บิดามารดา ญาติ พ่ีน้องและเพื่อน ๆ ของผู้จัดทำโครงงาน ซึ่งให้ให้กำลังและความช่วยเหลือมาโดย
ตลอด
คุณค่าอันพึงมีจากการศึกษาค้นคว้าวิจัยอิสระฉบับนี้ ขอมอบเพื่อบูชาคุณบิดามารดา
ครูอาจารย์ และผู้มพี ระคุณทุกทา่ น
กญั จนพร ตน้ จันทร์
ณชิ าภัทร แตงณรงค์
ธนภรณ์ มทั ธุจัด
ข
สารบัญ
บทคัดย่อ
กิตติกรรมประกาศ
สารบัญ
สารบัญตาราง
สารบัญภาพ
บทที่
1. บทนา
1.1 ความเป็นมาและความสาคัญ
1.2 จุดประสงค์ของโครงงาน
1.3 ขอบเขตของโครงงาน
1.4 นิยามศัพย์เฉพาะ
2. เอกสารงานวิจัยที่เก่ียวข้อง
2.1 หลักการแนวคิดทีเ่ ก่ียวกับต้นทุน
2.2 หลักการแนวคิดเกี่ยวกับผลตอบแทน
2.3 เอกสารงานวิจัยทเ่ี กี่ยวข้อง
2.4 กรอบแนวคิดในการจัดทาโครงงาน
3. วิธีการดาเนินงาน
3.1 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษา
3.2 เคร่ืองมือทใ่ี ช้ในการศึกษา
3.3 วิธีดาเนินการศึกษา
3.4 การเก็บรวบรวมข้อมูล
3.5 การวิเคราะห์ข้อมูล
3.6 สถิติทใ่ี ช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
4. ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
4.1 ข้อมูลต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตไข่เค็ม
4.2 ข้อมูลสภาพท่ัวไปของผู้ตอบแบบสอบถาม
4.3 ข้อมูลปัจจัยท่ีมีผลต่อพฤติกรรมการบริโภคไข่เค็ม
4.4 ข้อมูลท่เี ก่ียวข้องกับการผลิตไข่เค็ม
ค
สารบัญ (ต่อ)
5. สรุป อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ
5.1 สรุปผลการศึกษา
5.2 อภิปรายผล
บรรณานุกรม
ภาคผนวก
ภาคผนวก ก เครื่องมือท่ีใช้ในการศึกษาแบบสอบถามความคิดเห็น
เก่ียวกับปัจจัยท่มี ีผลต่อการผลิตไข่เค็ม
ภาคผนวก ข แบบเสนอหัวข้อและเค้าโครง โครงงานการศึกษาต้นทุน
และผลตอบแทนในการผลิตไข่เค็มเพอ่ื จาหน่าย
ภาคผนวก ค แสดงภาพการลงพน้ื ทกี่ ารเก็บข้อมูล ความคิดเห็นเกี่ยวกับ
ปัจจัยทมี่ ีผลต่อพฤติกรรมการบริโภคไข่เค็ม
ภาคผนวก ง บัญชี การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการ
ผลิตไข่เค็มเพ่อื จาหน่วย
ภาคผนวก จ แสดงภาพการพบครูผู้สอนและครูปรึกษาโครงงาน
ค
สารบัญตาราง
ตารางท่ี
4.1.1 แสดงการแบ่งประเภทต้นทุนทที่ าการศึกษา
4.1.2 แสดงต้นทุนค่าวัตถุดิบในการผลิตไข่เค็ม
4.1.3 แสดงต้นทุนค่าแรงงานในการผลิตไข่เค็ม
4.1.4 แสดงต้นทุนค่าน้าท่ใี ช้ในการผลิตไข่เค็ม
4.1.5 แสดงการวิเคราะห์ข้อมูลค่ารถและค่าเดินทางที่ใช้ในการผลิตไข่เค็ม
4.1.6 แสดงข้อมูลสินทรัพย์และค่าเส่ือมราคาอุปกรณ์
4.1.7 แสดงข้อมูลต้นทุนค่าใช้จ่ายในการผลิตไข่เค็ม
4.1.8 แสดงข้อมูลต้นทุนในการผลิตไข่เค็ม
4.1.9 แสดงต้นทุนของราคาขายต่อกล่อง ของผลิตภัณฑไ์ ข่เค็ม
4.1.10 แสดงกาไรข้ันต้นจากการผลิตไข่เค็มต่อกล่อง
4.1.11 แสดงการคานวณหาอัตราผลตอบแทนในการผลิตไข่เค็ม
4.2.1 แสดงจานวนและค่าร้อยละของสถานภาพทั่วไปของผู้ตอบ
แบบสอบถาม
4.2.2 แสดงจานวนและค่าร้อยละของสถานภาพทัว่ ไปของผู้ตอบ
แบบสอบถาม
4.2.3 แสดงจานวนและค่าร้อยละของอายุของผู้ตอบแบบสอบถาม
4.2.4 แสดงจานวนและค่าร้อยละของอายุของผู้ตอบแบบสอบถาม
4.3 แสดงค่าเฉล่ียและส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานความคิดเห็นบริโภค
เกี่ยวกับปัจจัยทีม่ ีผลต่อการบริโภคไข่เค็ม
4.4 ข้อมูลที่เก่ียวกับการผลิตไข่เค็ม
ง
สารบัญภาพ
ตารางท่ี
1. วัตถุดิบท่ใี ช้ในการผลิตไข่เค็ม
2. อุปกรณท์ ใี่ ช้ในการผลิตไข่เค็ม
3. อุปกรณ์ทใี่ ช้ในการผลิตไข่เค็ม
4. อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตไข่เค็ม
5. อุปกรณท์ ี่ใช้ในการผลิตไข่เค็ม
6. อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตไข่เค็ม
7. นาไข่มาล้างให้สะอาด
8. เติมน้าลงในภาชนะ
9. เติมเกลือลงในภาชนะ
10. นาไข่ทลี่ ้างใส่ลงภาชนะ
11. นาไข่ไปดอง 2 สัปดาห์
12. นาไข่ที่ดองไปต้มให้สุก
13. พับบรรจุภัณฑ์
14. นากระดาษรองฐาน
15. นาไข่ใส่บรรจุภัณฑ์
16. ภาพไข่เค็ม
17. การจาหน่ายสินค้า
18. การจาหน่ายสินค้า
19. การจาหน่ายสินค้า
20. การจาหน่ายสินค้า
จ
หน้า
ก
ข
ค
ง
จ
1
2
2
2
3
7
8
11
12
12
13
13
13
13
14
19
21
22
หน้า
23
24
25
27
31
38
49
61
หน้า
15
15
16
16
16
17
17
17
18
18
18
19
19
20
20
21
22
หน้า
39
39
40
40
41
41
42
42
43
43
44
44
45
45
46
46
47
47
48
48
บทท่ี 1
บทนำ
1.1 ความเปน็ มาและความสำคญั
ไข่เค็มเป็นกระบวนการถนอมอาหารชนิดหนึ่งเพ่ือเก็บไว้รับประทานได้นาน ๆ ในสมัย
โบราณผู้คนสว่ นใหญ่ทำอาชีพทำนาเกอื บทกุ ครัวเรอื นมักจะเลยี้ งเป็ดและเลีย้ งไก่ไว้เพ่ือรับประทานไข่
การเล้ียงเป็ดส่วนใหญ่เล้ียงแบบปล่อยทุ่ง เป็ดจะหาอาหารตามทุ่งนากินและชาวบ้านจะให้อาหาร
เสริมแก่เป็ดด้วยข้าวเปลือก จึงทำให้ไข่เป็ดไม่มีกลิ่นคาวจากนั้นเมื่อเป็ดออกไข่คนก็จะนำมาทำเป็น
อาหารในครัวเรือน เนื่องจากชาวบ้านเล้ียงเป็ดเกือบทุกหลังคาเรือน ทำให้ไข่เป็ดเหลือจึงมีการคิด
กระบวนการถนอมอาหารโดยการนำไข่เป็ดมาดองกลายเป็นไข่เค็ม ไข่เค็มส่วนมากมักจะใช้ไข่เป็ด
แล้วนำไปแช่ในน้ำเกลือหรือนำไปพอกด้วยวัสดุท่ีผสมเกลือเพื่อสามารถเก็บไข่ไว้ได้นานขึ้น ไข่เป็ดที่
ผลิตจากการแช่น้ำเกลือจะมีกลิ่นน้ำเกลือ ไข่ขาวจะแน่น เนียนในขณะท่ีไข่แดงจะมีสีออกส้มแดงแต่
ถ้าใช้ไข่ไก่จะมีรสชาติท่ีแตกต่างออกไปและไข่แดงจะเข้มข้นน้อยกว่าไข่เป็ด ไข่เค็มสามารถนำมาใช้
ประกอบอาหารหลังจากท่ีผ่านการต้มหรือน่ึง สามารถเอามาใส่โจ๊ก ข้าวต้มหรือจะนำไปทอดเป็น
ไข่ดาวก็ได้ นอกจากนี้ไข่แดงเค็มมักจะถูกนำไปเป็นไส้ของขนมไหว้พระจันทร์ ปัจจุบันไข่เค็มเป็น
อาหารที่ได้ความนิยมอย่างแพร่หลาย ทำให้เกิดการขยายตัวและแข่งขันในทางเศรษฐกิจ ทำให้
ไข่เค็มจากอดีตท่ีจำกัดอยู่ในวงแคบ ๆ ในครัวเรือนได้เข้าสู่ระบบการค้าเชิงพาณิชย์มากข้ึน โดยมี
การจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ หรือมีการส่งออกเพื่อจำหน่ายไปต่างประเทศ แหล่ง
จำหน่ายไข่เค็มท่ีมีชื่อเสียงในประเทศไทยอย่างแพร่หลายคือ ไข่เค็มไชยา จังหวดั สุราษฎรธ์ านี ซ่ึงมี
กระบวนการถนอมอาหารท่ีแตกต่างจากท่ีอื่นคือนำไข่เป็ดไปฝั่งดินเค็มริมทะเลประมาณ 15 วัน
แลว้ นำมาลา้ งตม้ รับประทาน
ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าคนไทยนิยมนำอาหารมาแปรรูปอย่างแพร่หลาย ในอดีตคนส่วนใหญ่
มักจะเลี้ยงเป็ดหรือไก่เพ่ือนำมาบริโภค เน่ืองจากประเทศไทยเป็นเมืองร้อนจึงทำให้เกิดการเน่าเสีย
ของเน้ือสัตว์และไข่จำนวนมากจึงทำให้ไม่สามารถเก็บไว้ได้นาน โดยการนำไข่มาแปรรูปเป็นไข่เค็ม
เพื่อถนอมอาหาร ทำให้ไข่สามารถเก็บไว้ได้เป็นเวลานาน ไข่เค็มถือได้ว่าเป็นอาหารที่รับความนิยม
อย่างมากและยงั เป็นมรดกทางปัญญาของชาวบ้าน คณะผู้จัดทำไดม้ ีความสนใจในการศึกษาเกี่ยวกับ
การแปรรูปไข่เค็มเน่ืองด้วยไข่เค็มสามารถรับประทานกับอาหารได้หลากหลายชนิด อีกท้ังยังแปรรูป
มาเป็นไส้ขนมได้อีกด้วยและเป็นท่ีนิยมกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันจึงทำให้เกิดแนวคิดท่ีจะศึกษา
ตน้ ทนุ ในการทำไข่เค็มใหม้ คี ณุ ภาพและมีราคาทีเ่ หมาะสมและสามารถรับประทานได้ทกุ เพศทุกวยั
จ าก ปั ญ ห า ดั งก ล่ าว ค ณ ะผู้ จั ด ท ำมี ค ว าม ส น ใจ แ ล ะ ม อ งเห็ น ช่ อ งท างธุ ร กิ จ ท่ี จ ะ ท ำเร่ื อ ง
การศึกษาต้นทนุ และผลตอบแทนในการทำไข่เค็มเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ดังน้ันใน
การศึกษาคร้ังน้ีจึงมุ่งหวังที่จะศึกษาความเป็นไปได้ของโครงงานเป็นแนวทางในการวางกลยุทธ์ทาง
การตลาดให้เหมาะสมความพึงพอใจและพฤติกรรมของผู้บริโภคในการศึกษาคร้ังน้ีจะให้ความสำคัญ
กับปจั จยั เหล่านเี้ ป็นหลัก เพราะเปน็ ปัจจัยสำคัญท่ีจะทำให้ผ้บู ริโภคตดั สนิ ใจเลือกทานอีกด้วย
1.2 จุดประสงคข์ องโครงงาน
1.2.1 เพ่อื ศึกษาตน้ ทนุ และผลตอบแทนจากการทำไขเ่ ค็ม
1.2.2 ทำให้ทราบถงึ ผลกำไรขาดทุนจากการทำไข่เคม็
1.2.3 เพอ่ื ศกึ ษาความพึงพอใจของผู้บริโภคที่มตี ่อการบรโิ ภคไข่เค็ม
1.3 ขอบเขตของโครงงาน
1.3.1 ดา้ นตัวแปร
-
1.3.2 ด้านเนอ้ื หา
การวิจัยครั้งนีเ้ ป็นการศึกษาต้นทนุ และผลตอบแทนในการทำไข่เคม็ ดงั น้ี
1) ศึกษาต้นทุนการผลิตไข่เค็มตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมการทำจนไปถึงข้ันตอน
จัดจำหน่าย และวิเคราะห์โครงสรา้ งต้นทุนในการทำไขเ่ ค็ม
2) ศกึ ษาผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทนุ ทำไขเ่ ค็ม
1.3.3 ดา้ นเวลา
พฤษภาคม – สงิ หาคม 2565
1.4 นิยามศพั ทเ์ ฉพาะ
ตน้ ทุน หมายถงึ ต้นทนุ ท้ังส้นิ ที่ใช้ในการซ้ือไข่เปด็ เกลอื และโหลแก้ว แล้วแปรรปู ใหเ้ ป็น
ไขเ่ คม็ พรอ้ มจำหน่าย
ผลตอบแทน หมายถึง อัตรากำไรต่อทุน อัตรากำไรต่อยอดขาย อัตราผลตอบแทนจาก
เงินลงทนุ และอตั ราผลตอบแทนจากสนิ ทรัพย์
บทที่ 2
เอกสารงานวจิ ัยทีเ่ กี่ยวขอ้ ง
การศึกษาในครั้งนี้ เป็นการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตไข่เค็มเพื่อจำหน่าย
ผ้จู ดั ทำโครงงานได้ศึกษาหลกั การ แนวคดิ ทฤษฎี และงานวจิ ยั ท่เี กี่ยวข้องดงั น้ี
2.1 หลกั การแนวคดิ เก่ยี วกบั ตน้ ทุน
2.2 หลกั การแนวคิดเกยี่ วกบั ผลตอบแทน
2.3 งานวจิ ัยทเ่ี กยี่ วขอ้ ง
2.4 กรอบแนวคิดในการศึกษา
2.1 หลักการแนวคดิ เกยี่ วกบั ต้นทุน
ต้นทุน (Cost) หมายถึง มูลค่าของทรัพยากรที่องค์กรใช้ประโยชน์เพื่อให้บรรลุ
วัตถุประสงค์ตามที่ได้กำหนดไว้ เช่น ต้นทุนของวัตถุดิบและแรงงานที่เกิดขึ้นเพื่อผลิตสินค้าหรือ
บริการ และเมื่อต้นทุนได้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจแล้ว ต้นทุนส่วนนั้นเปลี่ยนสภาพไปเป็น
คา่ ใช้จา่ ย (Expense) ซง่ึ จะนำไปหักจากรายไดใ้ นแต่ละงวดบญั ชี
ต้นทนุ การผลติ คือ ตน้ ทุนทที่ ำให้ไดส้ นิ ค้าสำเร็จรปู ใดๆ ประกอบด้วย วัตถดุ ิบทางตรงท่ี
เบกิ ใชใ้ นการผลิต แรงงานทางตรงท่ีเกีย่ วข้องกับกระบวนการผลิตและค่าใช้จ่ายในการผลติ เมื่อทงั้ 3
ส่วนประกอบ ได้เข้าสขู่ ั้นตอนต่าง ๆ ของการผลติ ก็จะถกู แปรสภาพเปน็ สินคา้ สำเร็จรูปตอ่ ไป
การจำแนกประเภทตน้ ทนุ แบ่งออกเปน็ 6 ประเภท ได้แก่
2.1.1 การจำแนกต้นทนุ ตามระยะเวลา
2.1.2 การจำแนกตน้ ทุนตามลกั ษณะการดำเนินงาน
2.1.3 การจำแนกตน้ ทุนตามสว่ นประกอบผลติ ภัณฑ์
2.1.4 การจำแนกตน้ ทุนตามปรมิ าณกจิ กรรม
2.1.5 การจำแนกต้นทนุ เพื่อการควบคุมและวดั ผลการปฏบิ ัตงิ าน
2.1.6 การจำแนกตน้ ทนุ เพือ่ การตัดสินใจ
ซ่ึงมรี ายละเอียดของการจำแนกตน้ ทนุ แต่ละประเภท ดังตอ่ ไปน้ี
4
2.1.1 การจำแนกต้นทุนตามระยะเวลา
เปน็ การพจิ ารณาต้นทุนในการจัดหาสินทรัพย์และบริการต่าง ๆ ซ่ึงจะต้องสัมพันธ์
กบั ระยะเวลาในการคา้ ดำเนนิ ธุรกจิ ของกจิ การ โดยสามารถแบง่ ตน้ ทุนออกไดเ้ ปน็ 3 ประเภท คอื
1) ต้นทุนที่เกิดขึ้นในอดีต (Historical Cost) คือต้นทุนที่เกิดขึ้นเมื่อได้มาซึ่ง
สินทรัพย์หรือบริการต่าง ๆ และกิจการได้จากชำระเงินสด สินทรัพย์อื่นใดหรือรายการ เทียบเท่า
เงินสดโดยปกติจะใช้ต้นทุนประเภทนี้ในการบนั ทึกบัญชีประกอบกับการจดั ทำงบการเงิน แต่ไม่นิยม
นำไปใช้ประกอบการตัดสินใจปัญหาหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ในอนาคต เนื่องจากสภาพแวดล้อมทาง
เศรษฐกจิ มกี ารเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
2) ต้นทุนทดแทนหรือต้นทุนเปลี่ยนแทน (Replacement Cost) คือต้นทุนที่
จ่ายไปเพื่อใช้ในการจัดหาสินทรัพย์มาเปลี่ยนแทนหรอื ทดแทนสินทรัพย์เดิม ซึ่งสินทรัพย์ที่จัดหามา
นนั้ ต้องมลี กั ษณะคล้ายคลึงกับสินทรัพยเ์ ดิมเพ่ือนำมาเปรียบเทยี บต้นทนุ ประกอบการตักสินใจในการ
เลือกทางเลือกต่าง ๆ ว่าควรเปลี่ยนแทนหรือปรับปรุงสินทรัพย์ที่มีอยู่เดิมหรือควรซื้อสินทรัพย์ใหม่
เพือ่ ทดแทนสนิ ทรัพย์เดมิ โดยเปรยี บเทยี บจากราค่าตลาดของสินทรัพย์
3) ต้นทุนในอนาคต (Future Cost) คือต้นทุนที่คาดว่าจะเกิดข้ึนในอนาคตเม่ือ
กิจการต้องตัดสินใจเลือกโครงงานใดโครงงานหนึ่งในอนาคต ซึ่งกิจการต้องพยากรณ์ต้นทุนที่คาดวา่
จะเกิดขึ้นเพื่อใช้ในการตัดสินใจเลือกลงทุนในโครงงานจากแนวโน้มของต้นทุนจริงในอดีตหรือจาก
ระบบงบประมาณของกิจการ
2.1.2 การจำแนกต้นทนุ ตามลกั ษณะการดำเนนิ งาน
เป็นการพิจารณาต้นทุนท่ีเกดิ จากการดำเนินงานหรือปฏิบัตงิ านของธุรกิจซึ่งแบ่งได้
2 ประเภท ดังต่อไปน้ี
1) ต้นทุนการผลิต (Manufacturing Cost) คือต้นทุนที่เกิดขึ้นทั้งหมดใน
กระบวนการผลิตเพื่อแปรสภาพวัตถุดิบให้เป็นสินค้า ซึ่งปกติต้นทุนการผลิตจะเกิดขึ้นในธุรกิจผลิต
สนิ ค้าเทา่ นน้ั เชน่ วัตถุดบิ ทางตรง คา่ แรงงานทางตรง และคา่ ใช้จา่ ยในการผลติ เปน็ ต้น
2) ต้นทุนทไ่ี มเ่ ก่ียวข้องกับการผลิต (Nonmanufacturing Cost) คือ ต้นทุนอื่น
ทีไ่ มเ่ ก่ยี วข้องกับการผลิตสินค้า ซึ่งจะจำแนกต้นทนุ โดยการพจิ ารณาหรือลักษณะของการปฏิบัติงาน
ดังนี้
2.1) ต้นทุนในการจัดซื้อหรือจัดหาสินค้า (Merchandise Cost) ซึ่งเป็น
ตน้ ทนุ ในการจดั หาสินคา้ เช่น คา่ ขนสง่ เขา้ เป็นต้น
2.2) ต้นทุนทางการตลาด (Marketing Cost) เป็นต้นทุนที่เกิดจากการ
ส่งเสรมิ การขาย หรือแนะนำผลติ ภัณฑ์เขา้ ส่ตู ลาด เช่น คา่ โฆษณาประชาสัมพันธ์ เปน็ ตน้
2.3) ต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายในการบริหาร (Administrative Cost of
Expense) เป็นตน้ ทนุ จากการบริหารงานโดยรว่ ม เชน่ เงินเดอื นฝา่ ยบรหิ าร ค่าใชจ้ า่ ยแผนกบญั ชี
2.4) ต้นทนุ ทางการเงิน (Financing Cost) คือ ตน้ ทนุ จากการจัดหาเงินทุน
มาดำเนินงาน เช่น ดอกเบ้ีย คา่ ธรรมเนยี มตา่ ง ๆ เป็นต้น
5
2.5) ต้นทนุ ในการวิจยั และพัฒนาผลติ ภัณฑ์ (Research and Development
Cost) เป็นต้น ทุนจากการวิจัยหาสินค้าใหม่ ๆ หรือพัฒนาสินค้าที่มีอยู่ให้ทันสมัยจากเดิมเพ่ือ
ตอบสนองความต้องการของทางการตลาดของลูกค้า เช่น เงินเดือนนกั วจิ ยั และผู้เช่ียวชาญ เป็นต้น
2.1.3 การจำแนกต้นทุนตามสว่ นประกอบของผลิตภณั ฑ์
ส ่ ว น ป ร ะกอบ ข อ งต ้ น ท ุ น ที ่ ใช ้ ใน กา ร ผ ลิ ต ส ิ น ค้ าห ร ื อ ผ ล ิ ต ภ ั ณ ฑ ์ แ ต ่ ล ะช น ิ ด จ ะ
ประกอบด้วยวัตถุดิบทางตรง ค่าแรงงานทางตรง และค่าใช้จ่ายในการผลิต ซึ่งถ้าเราพิจารณาใน
ด้านทรัพยากรที่เป็นส่วนประกอบของสินค้าแล้วจะประกอบด้วยวัตถุดิบ ถือว่าเป็นส่วนประกอบที่
สำคัญสำหรบั ผลิตสนิ ค้าตน้ ทนุ ทเี่ กี่ยวกับใช้วัตถุดบิ ในการผลติ สนิ คา้ สามารถแบ่งออกเปน็ 2 ลกั ษณะ
คือ วัตถุดิบทางตรงหมายถึง วัตถุดิบหลักที่ใช้ในการผลิต และสามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าใช้ใน
การผลิตสินค้าชนิดใดชนิดหน่ึงในปริมาณเท่าใด ต้นทุนเท่าใด รวมทั้งจดั เปน็ วัตถุดิบ ส่วนใหญ่ที่ใช้
ในการผลิตสินค้าชนิดนั้น ๆ วัตถุดิบทางอ้อม หมายถึง วัตถุดิบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องโดยทางอ้อมกับ
การผลิตสินค้า แต่ไม่ใช้วัตถุดิบหลักหรอื วัตถดุ ิบส่วนใหญ่ ค่าแรงงาน คือค่าจ้างหรือผลตอบแทนที่
จา่ ยใหแ้ ก่ลูกจ้างหรือคนงานที่ทำหน้าท่ีในการผลิตสินคา้ ซ่ึงคา่ แรงนั้นสามารถแบ่งได้ 2 ชนิด ดังนี้
ค่าแรงงานทางตรง คือค่าแรงงานต่าง ๆ ที่จ่ายให้แก่คนงานหรือลกู จ้างทีท่ ำหน้าท่ีในการผลิตสินคา้
สำเร็จรูปโดยตรง ซึ่งเป็นค่าแรงงานที่มีในการแปรรูปวัตถุดิบให้เป็นสินค้าสำเร็จรูป ค่าแรงงาน
ทางอ้อม หมายถึง ค่าแรงงานที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้าซึ่งนอกเหนือจากวัตถุดิบทางตรง
ค่าแรงงานทางตรง เช่น วัตถุดิบทางอ้อม ค่าแรงงานทางอ้อม ค่าใช้จ่ายในการผลิตทางอ้อม อื่น ๆ
ไดแ้ ก่ ค่านำ้ คา่ ไฟ ค่าเช่า ค่าเส่อื มราคา คา่ ประกนั ภัย คา่ ภาษี เป็นต้น
2.1.4 การจำแนกต้นทนุ ตามปรมิ าณกิจกรรม
การจำแนกต้นทุนตามปริมาณกิจกรรมมักจะมีลักษณะแตกต่างกันไปตามลักษณะ
กจิ กรรมของต้นทนุ กลา่ วคอื ตน้ ทนุ จะเปล่ียนแปลงหรือไมข่ ้ึนอยู่กับระดับปริมาณกจิ กรรม จำนวน
ช่วั โมงงาน จำนวนช่ังโมงเคร่อื งจักรหรือฝ่ายบรหิ ารท่ีใชป้ ระโยชนใ์ นการวางแผนควบคุมการสรา้ งการ
จูงใจ การตัดสินใจ ซึ่งผู้บริหารจะต้องทำการประมาณต้นทุนต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นโดยวิธีการ
ประมาณต้นทนุ ตอ้ งเข้าใจพฤติกรรมของต้นทุนและเทคนคิ ในการประมาณต้นทุนวิธีการจดประเภท
ตน้ ทุนตามความสัมพนั ธร์ ะหว่างต้นทุนและระดับกจิ กรรม โดยแสดงใหเ้ หน็ การเปลย่ี นแปลงในระดับ
กิจกรรมที่มีต่อต้นทุน จำนวนการขาย ปริมาณการผลิต ซึ่งมีผลกระทบต่อการตัดสินใจด้านต่าง ๆ
ของผบู้ ริหาร
2.1.5 การจำแนกต้นทนุ เพอ่ื การคาบคุมและวดั ผลการปฏิบัตงิ าน
เป็นการควบคุมต้นทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เป็นหน้าที่ที่สำคัญของ
ผู้บริหารซึ่งจะต้องกำหนดหน่วยงานที่ต้องการควบคุมต้นทุนแล้ววางแผนการควบคุม ตลอดจนการ
ลงมือปฏิบัติและการวัดผลการปฏิบัติการควบคุมดังกล่าว ว่าเป็นไปตามแผนที่วางไว้หรือไม่ ซึ่งใน
การควบคุมตน้ ทุนนัน้ สามารถจำแนกได้เปน็ 2 ประเภท ดังนี้
1) ต้นทุนที่ควบคุมได้ คือ ต้นทุนที่ผู้จัดการหรือหัวหน้างานสามารถสั่งการหรือ
ควบคมุ ได้ เช่น คา่ ลว่ งเวลา ค่าวัสดุสน้ิ เปลือง เปน็ ต้น
6
2) ตน้ ทุนทค่ี วบคมุ ไม่ได้ คือ ต้นทนุ ท่ีผู้จดั การหรือหวั หนา้ งานมาสามารถควบคุม
ได้เพราะอยู่ในอำนาจการตัดสินใจของผู้บริหารหรือได้รับการปันส่วนมาจากส่วนกลางไม่สามารถ
หลีกเล่ยี งได้ เชน่ ค่าเสื่อมราคาโรงงาน ค่าสาธารณูปโภค เป็นต้น
2.1.6 การจำแนกต้นทุนเพอ่ื การตดั สนิ ใจ
ตน้ ทุนประเภทนส้ี ามารถแยกได้เปน็ 2 ประเภทใหญ่ ดังนี้
1) ตน้ ทุนทเ่ี ก่ยี วข้องกับการตัดสินใจ คือ ตน้ ทนุ ท่มี คี วามสมั พันธ์กบั การตัดสินใจ
ของผู้บริหารเพื่อใช้ในการประเมินทางเลือก ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการเปรียบเทียบต้นทุนในอดีตหรือ
บริการพยากรณ์โดยอาศัยเทคนิคทางสถติ ิ ซึง่ สามารถจำแนกประเภทได้ ดังนี้
1.1) ต้นทุนส่วนต่าง คือ ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงจากการเปลี่ยนแปลง
วิธีการปฏิบัติเดิมให้เป็นวิธีการปฏิบัติใหม่ เช่น กำลังการผลิต 100 หน่วย ต้นทุนต่อหน่วย 2
บาท ถา้ เพิ่มกำลงั การผลิตเป็น 150 หน่วย ตน้ ทุนต่อหนว่ ยเป็น 1.80 บาท ทำให้เกิดต้นทุนส่วน
ต่างท่ีลดลง จากเดมิ เม่ือเทียบเทา่ กบั กำลังการผลิตเดิมอยู่ 0.20 บาท
1.2) ต้นทนุ ท่ีเลี่ยงได้ คือ ตน้ ทุนทสี่ ามารถประหยัดไดจ้ ากการตัดสินใจเลือก
เช่น การยบุ สาขาท่ไี ด้กำไรนอ้ ยหรือขาดทนุ จะช่วยลดต้นทนุ ไดล้ งจากเดมิ
1.3) ต้นทุนค่าเสียโอกาส คือ ผลตอบแทนที่กิจการได้รับจากการตัดสินใจ
เลือกทางเลือกใดทางเลือกหนึง่ แตก่ จิ การตอ้ งสูญเสยี ผลตอบแทนจากทางเลอื กท่ีไม่มที างเลือก เช่น
มีเงินอยู่ 10,000 บาท ถ้าฝากเงินมัดจำได้ดอกเบี้ย 200 บาทต่อปี แต่ถ้าปล่อยเงินกู้จะได้
ดอกเบี้ย 500 บาทต่อปี ซึ่งถ้าเลือกปล่อยเงินกู้จะทำให้เสียโอกาสได้รับดอกเบี้ยจากการฝากเงิน
เปน็ จำนวน 200 บาท
2) ต้นทุนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ คือ ต้นทุนที่ไม่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้อง
กับการตัดสนิ ใจ ไมว่ ่าผู้บรหิ ารจะเลือกทางเลอื กใดกต็ าม ซงึ่ สามารถจำแนกได้ดงั นี้
2.1) ต้นทุนจม คือ ต้นทุนที่เกิดขึ้นในอดีตไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้
เช่น ซื้อเครื่องจักรมาในราคา 20,000 บาท เป็นเวลา 2 ปี ไม่ว่ากิจการจะขายหรือไม่ขายต้นทนุ
ดังกล่าวกไ็ ดเ้ กิดขึน้ แลว้ จากการซือ้ เครื่องจักร
2.2) ต้นทุนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ ต้นทุนที่ยังคงมีอยู่ไม่ว่ากิจการจะ
เปลีย่ นแปลงไปจากเดมิ หรือไม่ เช่น คา่ ภาษที รัพยส์ ินของโรงงาน เป็นตน้
7
2.2 หลักการแนวคดิ เกีย่ วกบั ผลตอบแทน
การวิเคราะห์การลงทุนและผลตอบแทนจากการลงทุนของโครงงานใด ๆ โดยเป็นการ
เปรียบเทียบผลตอบแทนและต้นทุนของโครงงานนั้น ๆ ซึ่งผลตอบแทนและต้นทุนของโครงงานจะ
เกิดขึ้นในระยะเวลาต่างกันตลอดอายุโครงงาน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการปรับค่าของเวลาของ
โครงงานเพอื่ ให้ไดม้ าซึง่ ผลตอบแทนที่ได้รับและต้นทนุ ทเ่ี สยี ไปชว่ งในระยะเวลาที่ต่างกัน ให้เป็นเวลา
ปัจจุบันก่อนแล้วจึงสามารถทำการเปรียบเทียบกันได้อย่างถูกต้องแน่นอนชัดเจนมากยิ่งขึ้น การ
วิเคราะห์ทางด้านการเงินเป็นการวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายหรือเงินลงทุนและผลตอบแทนและผลกำ ไรทาง
การเงินของรายการโครงงานเพื่อวิเคราะห์ว่าโครงงานที่จัดทำขึ้นนั้นมีความคุ้มค่ากับการลงทุน
หรือไม่โดยทัว่ ไปแล้วแบ่งการวิเคราะห์เป็น 2 ประเภท คือ 1) วิธีการวเิ คราะห์โดยไม่มกี ารคิดลด
(Undiscounted Approach) คือ การวัดค่าของต้นทุนและผลตอบแทนจากโครงงาน โดยไม่
คำนึงถึงว่าเงินที่ได้มาหรือใช้ไปในช่วงเวลาที่ต่างกัน เช่น เงินสดรับ ในปีที่ 1 จำนวนหนึ่งกับ
จำนวนเดียวกันนี้จะได้รับในปีที่ 5 จะถือว่ามีมูลค่าที่เท่ากันการวิเคราะห์วิธีนี้ เช่น การหา
ระยะเวลาคืนทุน (Playback Period) ซึ่งเป็นการคำนวณว่านับจาก จุดเริ่มต้นโครงการจะใช้
ระยะเวลาอีกเท่าไร จึงจะมีกระแสเงินสดรับสุทธิจากโครงงานรวมกันเท่ากับ มูลค่าในการลงทุน
(Total Capital Investment) 2) วิธีการวิเคราะห์โดยมีการคิดลด (Discounted Approach)
วิธีการวิเคราะห์โดยมีการคิดลดเป็นวิธีการวัดค่าของผลตอบแทนและต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายที่เกิดจาก
โครงการโดยคำนึงถึงค่าเสียโอกาสผ่านวิธีการคิด (Discounted Method) ซึ่งวิธีที่นิยมใช้ ได้แก่
มูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) อัตราตอบแทนภายในจากการลงทุน (IRR) วัตถุประสงค์ของการ
วิเคราะห์ทางการเงนิ โดยทวั่ ไปการวิเคราะหท์ างการเงินมีวตั ถปุ ระสงค์ 4 ประการดงั น้ี
1) เพื่อประเมินความเป็นไปได้ทางการเงิน วัตถุประสงค์สำคัญของการวิเคราะห์
ทางการเงิน คือ การประเมนิ ความสามารถในทางโครงงานน้ันคือโครงงานสามารถก่อใหเ้ กิดรายได้ท่ี
คุ้มคา่ กบั ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และมีอัตราผลตอบแทนที่ดีการประเมินส่วนนี้จะต้องมีการประมาณ
ต้นทุนและผลตอบแทนท้ังส้ิน เพื่อศึกษาหาผลตอบแทนสุทธิของโครงงาน
2) เพื่อประเมินแรงจูงใจการวิเคราะห์ทางการเงินจะมีความสำคัญต่อการ
ประเมินแรงจูงใจที่มีต่อเจ้าของโครงงานและผู้ที่มีส่วนร่วมกับโครงงานหรือถ้าเป็นโครงงาน
รัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลให้การสนับสนุน ก็พิจารณาว่าผลตอบแทนที่ได้รับจะเพียงพอต่อการ
เลี้ยงตัวเอง และบรรลุวัตถุประสงค์ ทางการเงินตามท่ีต้องการหรือไม่
3) เพื่อจัดให้มีแผนการเงินที่ดีเพื่อให้โครงงานมีกำไรและผลตอบแทนที่ดีก็
จะต้องมีแผนการเงินที่ดีด้วยโดยเฉพาะการวางแผนจัดหาเงินทุน เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินทุนใน
จำนวนและในเวลาตามท่ีต้องการโดยเสียค่าใช้จ่ายต่ำสุดรวมทั้งเพื่อให้ข้อเสนอแนะถึงวิธีการ
ปรับปรุงความเป็นไปได้ทางการเงินของโครงงาน โดยเฉพาะความเหมาะสมของอัตรา
ค่าบริการราคา และปริมาณการผลิตท่ีคุ้มค่า
4) เพื่อประเมินขีดความสามารถในการบริหารการเงินสำหรับโครงงานลงทุน
ขนาดใหญ่ที่มีการบริหารทางการเงินที่สลับซับซ้อน ก็จำเป็นต้องพิจารณาถึงระบบการจัดการ
ด้านการเงินและความสามารถของผู้ท่ีจะบริหารการเงินในการนี้ก็อาจมีการพิจารณาว่าควรจะ
8
มีการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงองค์กรและการจัดการอย่างไร ควรจัดให้มีระบบการควบคุม
และการตรวจสอบการเงินอย่างไร รวมทั้งการฝึกอบรมทักษะเฉพาะทางเรื่อง อะไร เพื่อให้
โครงงานเดินหน้าไปตาม
2.3 เอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
นันทวรรณช่างคิด (2550,หน้า 17) การพัฒนาผลิตภัณฑ์ไข่เค็มมหาวิทยาลัย
ราชภัฎสุราษฎร์ธานีสำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ. จัดทำโดยมหาวิทยาลัย
ราชภัฏสุราษฎร์ธานี2550-01-15. มีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไข่เค็มตามความ
ต้องการของผู้ซื้อเพื่ออธิบายปัจจัยการผลิตที่สำคัญและเพื่อศึกษาราคาปัจจัยการผลิตแต่ละ
ชนิดที่ใช้ในการผลิตไข่เค็มและพยายามลดต้นทุนการผลิตโดยมีคำถามการวิจัยดังนี้ ประการ
ที่ 1 ปัจจัยการผลิตใดที่มีผลต่อการทำไข่เค็มมากน้อยตามลำดับและราคาปัจจัยการผลิต
เหล่านั้นสูงต่ำอย่างไร ประการที่ 2 กระบวนการจัดการพัฒนาการผลิตไข่เค็มควร
ป ร ะก อบ ด้ ว ย กิ จ กร ร ม ด้ าน ใ ด บ้ า ง แ ละคว ร ท ำ อย่ า ง ไร ผล ส ำ เ ร็ จ ของ กา ร วิจั ยที่คา ด ว่ า จ ะได้รับ
จากการวิจัยคือผู้วิจัยและคณะวิทยาการจัดการมหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานีได้พัฒนา
เรียนรู้ด้วยงานวิจัยได้สัมพันธภาพที่ดีกับท้องถิ่นชาวตำบลเลม็ดและได้บริการวิชาการแก่
ชุมชนนักศึกษาได้ร่ว มเรียนรู้ด้ว ยกระบว นการในงานวิจัยอ ำนาจมาเป็นข้อมูล ประสบกา ร ณ์ ใน
การศึกษารายวิชาต่างๆและชาวตำบลเลม็ดได้เรียนรู้เรื่องการทำไ ข่ เ ค็ ม ระหว่างผู้ผลิต
ด้วยกันโดยเฉพาะการพยายามลดต้นทุนการผลิต นำไปสู่การพัฒนาชุมชนในภาพรวมของ
ตำบลเลม็ด ทำให้ช่วยกระจ่ายโอกาสการมีงานทำเพื่อเพิ่มพูนรายได้แก่ชาวตำบลเลม็ด
สำหรับวิธีการศึกษาจะรวบรวมข้อมูล แหล่งข้อมูลแบ่งเป็นข้อมูลทุติ ยภูมิและข้อมูลปฐมภูมิ
โดยข้อมูลปฐมภูมิ แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 เพ่ือทราบแนวทางการพัฒนาไข่เค็มตามความ
ต้องการของผู้ซื้อจึงเก็บข้อมูลความพึงพอใจชองผู้ซื้อไข่เค็มจำนวน 20 ชุด รายละเอียดการ
จัดเก็บรวบรวมข้อมูลจะกล่าวในบทที่ 3 ส่วนที่ 2 เพื่ออธิบายปัจจัยการผลิตที่สำคัญใน
การผลิตไข่เค็มและลดต้นทุนการผลิตจึงเก็บข้อมูลจากผู้ผลิตไข่เค็มในการวิเคราะห์ข้อมูลที่
รวบรวมมาแยกวิเคราะห์ 2 ด้าน ด้านที่ 1 ข้อมูลจากผู้บริโภคไข่เค็มสรุปได้ดังนี้คือ
ผู้บริโภคส่วนใหญ่มีความตั้งใจในการซื้อไข่เค็ม และผู้ซื้อพอใจในรสชาติ ไข่เค็มยังมี
ความเห็นว่าไข่เค็มเป็นไข่เค็มที่มีคุณภาพซึ่งสามารถเก็บไว้ได้นานโดยไม่เสียคุณภาพทาง
โภชนาการผู้ซื้ อพ อใ จใ น ควา มซื่ อตร ง แล ะวั ตถุดิบ ทุ กช นิ ด ที่ ใช่ ใน ก ารผ ลิ ต ไข่เ ค็ ม มี คุ ณภ า พ ที่ ดี
พิจารณาจากส่วนประสมทางการตลาดอีก 3 ส่วนท่ีเหลือนอกจากด้านผลผลิตสรุปได้ดังนี้ 1
ด้านราคาผู้ซื้อเห็นว่าราคาเหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันไม่สูงนักผู้ซื้อส่วนใหญ่พอใจที่
จะซื้อไข่เค็มในราคานี้ 2 ความเห็นต่อช่องทางจัดจำหน่ายผู้ซื้อพอใจอย่างมากในการจัด
สถานที่จำหน่ายท่ีเหมาะสมสะดวกต่อการซ้ือนอกจากบริเวณแหล่งผลิตแล้วไข่เคม็ วางจำหน่าย
ที่อ่ืนน้อยและหาซื้อได้ยากไม่สะดวกด้านที่ 2 วิเคราะห์ข้อมูลจากผู้ผลิตไข่เค็มสรุปผลสำคัญ
ได้ว่าต้นทุนราคาไข่เค็ม นี้ คว ามส ำคัญต่อรายได้จ าการผ ลิต ไ ข่ เ ค็ ม อันดับส องรองจ าก ค่าจ้ า ง
แรงงานโดยมีค่าสัมประสิทธ์ของตัวแปรเท่ากับ 0.50 ส่วนต้นทุนค่าวัสดุและทุนอื่น ๆ มีผล
9
ต่อรายได้จากการไข่เค็ม น้อยกว่าต้นทุนแรงงานและราคาไข่ดิบ สำหรับค่าจ้างแรงงานมีผล
ต่อการผลิตไข่เค็มไชยาน้อยท่ีสุดโดยมีค่าสัมประสิทธ์ของตัวแปรเท่ากับ 0.06 ร่วมค่าสัมประ
สิทธ์ตัวแปรเท่ากับ 1 แสดงว่าการผลิตไข่เค็มอยู่ในขั้นผลได้ต่อขนาดคงที่จากข้อมูลทั้ง 2
ส่วนสรุปได้ว่ า ใน กา ร พั ฒน า ผลิ ตภั ณฑ์ ไข่ เ ค็ ม มีทุ นท า ง เ ศร ษฐ กิ จ แล ะสั ง คมสู งคื อ ผู้ผลิ ต ไข่ เ ค็ ม
ส่วนใหญ่มีความพร้อมด้านการเงินลงทุนในด้านสังคมมีความ ชำนาญและทักษะในการผลิตไข่
เค็มที่มีคุณภาพเป็นที่นิยมของผู้บริโภคจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของไข่เค็มข้อเสนอแนะจาก
งานวิจัยคือผู้บริโภคพอใจในคุณภาพของไข่เค็ม ผู้ผลิตจึงควรรักษามาตรฐานคุณภาพผลผลิต
โดยไม่จำเป็นต้องเปล่ียนแปลงรูปแบบผลิตให้หลากหลายการผลิตไข่เค็มโดยการดองน้ำเกลือ
ก็ตรงกับความต้องการของผู้ซ้ือไข่เค็มอยู่แล้วและผู้ผลิตควรหาวิธีการจัดซื้อไข่ดิบให้ได้ในราคา
ต่ำ เนื่องจากไข่ดิบเป็นวัตถุดิบท่ีสำคัญที่สุด วิธีหน่ึงที่ทำได้คือการเพ่ิมจำนวนฟาร์มเลี้ยงเป็ด
ในท้องถิ่นและการซื้อตู้ปรับอุณหภูมิเพ่ือรักษาคุณภาพไข่ดิบให้คงอยู่ได้นานข้ึน
ชมภู่ ยิ้มโต (2543,หน้า 121) การพัฒนาไข่เค็มพอกด้วยเยื่อฟางข้าวพบว่า
ไข่เค็มทั้งฟองมีปริมาณโซเดียมอิออน 510.02 มิลลิกรัม โปแตสเซียมอิออน 601.16
มิลลิกรัม คลอไรด์อิออน 1903.03 มิลลิกรัม สารไอโอดีนร้อยละ 353.44 ไมโครกรัม
ปริมาณจุลินทรีย์ทั้งหมด 1.0+102 โคโลนีต่อกรัม ผู้บริโภคมีความชอบระดับปานกลาง
และยอมรับผลิตภัณฑ์ร้อยละ 78 และกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรยอมรับกรรมวิธีการผลิตไข่เค็ม
ชนิดโซเดียมพอกด้วยเยื่อฟาง
รุ่งโรจน์ แสงดารารัตน์ และคณะผู้จัดทำ (2547,หน้า 95) การผลิตไข่เค็มด้วย
นวัตกรรมใหม่ในการผลิตไข่เค็มผสมผสานกรรมวิธีแบบดั้งเดิม โดยนำข้อดีแบบดั้งเดิมมา
รวมเข้าด้วยกันกับการใช้เทคโนโลยีด้านความดัน ซึ่งเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา พบว่า
ทำให้ได้ผลผลิตที่มีความสม่ำเสมอของความเค็มของไข่ในแต่ละชุด ใช้เวลา 2-3 วัน
สามารถนำน้ำเกลือท่ีใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ได้อีก ลดต้นทุนและวัตถุดิบท่ีใช้ในการผลิต ได้ไข่
เค็มที่สะอาด ถูกสุขลักษณะมีคุณภาพ มีความสม่ำเสมอดีกว่าไข่เค็มที่จำหน่ายทั่วไปใน
ท้องตลาด
สุชาดา งามประภาวัฒน์ (2533,หน้า 69) ได้ทำการศึกษาวิธีการผลิตไข่เค็มหลอดจาก
ไข่เป็ด และอายุการเก็บรักษา พบว่า วิธีที่เหมาะสมสำหรับการผลิต คือ นำไข่แดงบรรจุในไส้
คอลลาเจน แล้วหมักเกลือ 24 ชั่วโมง แล้วนำมาดองในน้ำเกลอื เข้มข้น ร้อยละ 5 เป็นเวลา 4
ช่วั โมง น่ึงใหส้ กุ นาน 5 นาที ลักษณะของไขเ่ ค็มหลอดท่ีได้มีสเี ข้ม มกี ลิ่นดี ลกั ษณะเนอ้ื ค่อนข้าง
แน่น มีมันเยิ้ม มีเกลือร้อยละ 2.93 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ฃใกล้เคียงกับไข่แดงที่จำหน่ายในท้องตลาดไข่
เปด็ ทีเ่ หมาะสมสำหรับผลิตไข่เค็มหลอด ควรมอี ายุไม่เกิน 10 วัน อายกุ ารเกบ็ รักษาไข่เค็มหลอดท่ี
บรรจุในถงุ สุญญากาศ มีอายุการเก็บนานที่สุดกว่า 90 วัน ในอุณหภูมิ 15 องศาเซลเซียส
และ 30 องศาเซลเซียส
10
ทองใบ เศรษฐีธร (2537,หน้า 3) เป็นการป้องกันไม่ให้อาหารเน่าเสียเท่านั้น ยังต้อง
พยายามให้อาหารมีสี กลิ่น รส และเนื้อสัมผัสเหมือนอาหารสดมากที่สุดยกเว้นจะเจาะจง
ให้อาหารนั้นมีรส กล่ิน แปลกออกไป เช่น ผักดองต่าง ๆ ผลไม้แช่อิ่ม เป็นต้น นอกจากนี้
การถนอมอาหารยังต้องคำนึงถึงเรื่องของคุณค่าทางโภชนาการของอาหารด้วย วิธีถนอม
อาหารที่เลือกใช้ต้องรักษาคุณค่าทางโภชนาการไว้ให้มากที่สุด ส่วนต้นทุนในการถนอม
อาหารก็เป็นสิ่งสำคัญ ควรจะเลือกใช้วิธีที่ต้นทุนน้อยได้อาหารที่ถนอมแล้วคุ้มค่าเงิน
แรงงานและเวลาท่ีลงทุนไป
11
2.4 กรอบแนวคิดในการจัดทำโครงงาน
ตน้ ทนุ ตน้ ทุนตามส่วนประกอบของการผลิตไข่เคม็
ค่า 1. คา่ วตั ถดุ ิบ
2. คา่ แรงงาน
ผลตอบแทน 3. ค่าใช้จ่ายในการผลติ
กำไร (ขาดทุน) จากการผลติ ไขเ่ คม็
รายไดจ้ ากการขาย
หกั ตน้ ทุนในการผลิตไข่เคม็
กำไรขน้ั ตน้
การวเิ คราะห์
ตน้ ทนุ และผลตอบแทน
โครงสรา้ งตน้ ทนุ ในการผลิต อัตราผลตอบแทน
ไข่เค็ม 1 อตั รากำไรขนั้ ตน้ ต่อต้นทนุ
2 อัตรากำไรขนั้ ตน้ ต่อยอดขาย
ภาพท่ี 1 แสดงแนวคิดในการจัดทำโครงงาน
บทที่ 3
วิธกี ารดำเนนิ งาน
การศึกษาดำเนินการศกึ ษาครั้งน้ี เป็นการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลติ ไข่เคม็
เพื่อจำหนา่ ยของนักเรยี น นกั ศึกษา แผนกวชิ าการบญั ชี วทิ ยาลยั เทคนิคพจิ ิตร ผู้จัดทำโครงงานได้
ดำเนินงานตามลำดบั ขัน้ ตอน ดงั น้ี
3.1 กลมุ่ เปา้ หมายทใ่ี ช้ในการศกึ ษา
3.2 เครอ่ื งมือที่ใชใ้ นการศึกษา
3.3 วธิ กี ารดำเนินการศึกษา
3.4 การเกบ็ รวบรวมข้อมูล
3.5 การวเิ คราะหข์ ้อมูล
3.6 สถิตทิ ่ีใชใ้ นการวเิ คราะห์ข้อมลู
3.1 กลมุ่ เป้าหมายทใ่ี ชใ้ นการศกึ ษา
กลุ่มเป้าหมายท่ีใช้ในโครงงานการผลิตไข่เค็มเพื่อจำหน่าย ได้แก่ นักเรียน นักศึกษา
แผนกวิชาการบัญชี วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร จำนวน 30 คน กำหนดกลุ่มตัวอย่าง โดยเลือกจาก
นักเรียนนกั ศึกษาทีส่ นใจไข่เคม็
3.2 เครอ่ื งมือทใ่ี ชใ้ นการศกึ ษา
เคร่อื งมือทีใ่ ชใ้ นการศกึ ษา
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อ
พฤตกิ รรมการบรโิ ภคไขเ่ คม็ ของผู้ผลิต
13
3.3 วิธกี ารดำเนนิ การศึกษา
ผู้จัดทำโครงงาน ได้ดำเนินการศึกษาตามขั้นตอนต่าง ๆ ซึ่งมีรายละเอียดสร้าง
แบบสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนผลิตไข่เค็ม นักศึกษา แผนกวิชาการบัญชี วิทยาลัยเทคนิค
พิจิตรดำเนินการ ดงั น้ี
3.3.1 ศึกษาแนวคิดทฤษฎีจากเอกสาร ตำรา สืบค้นข้อมูลและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ
การศึกษาต้นทนุ และผลตอบแทนเพอ่ื สรา้ งและพัฒนาแบบสอบถาม โดยแบง่ เปน็ 3 ตอน
ตอนที่ 1 สอบถามสถานภาพและข้อมลู ทวั่ ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม
ตอนที่ 2 สอบถามขอ้ มูลเกย่ี วกับการผลติ ไขเ่ ค็ม
ตอนท่ี 3 สอบถามข้อมูลเก่ียวกับตน้ ทุนและผลตอบแทนของการผลติ ไขเ่ ค็ม
3.3.2 นำร่างแบสอบถามเสนอต่อครูที่ปรึกษาโครงงาน เพื่อขอคำปรึกษาและผล
ตรวจสอบคำถามเพ่อื ให้ได้แบบสอบถาม และแบบสัมภาษณท์ ี่ถกู ต้องและเหมาสม
3.3.3 นำแบบสอบถามที่ปรบั ปรุงแล้ว เสนอต่อครูที่ปรึกษาโครงงานอีกครั้งก่อนนำไปใช้
ในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล
3.4 การเกบ็ รวบรวมข้อมลู
ผ้จู ดั ทำโครงงานไดด้ ำเนนิ การเก็บรวบรวมขอ้ มลู โดยการดำเนนิ การตามขัน้ ตอน ดังน้ี
3.4.1 นำแบบสอบถามไปเก็บข้อมูลจากนักเรียน นักศึกษา แผนกวิชาการบัญชี
วทิ ยาลัยเทคนิคพิจิตร ซึ่งเปน็ กล่มุ เป้าหมายทใี่ ช้ในการศึกษา
3.4.2 นำเสนอขอ้ มลู ท่ไี ด้มาทำการวเิ คราะห์
3.5 การวิเคราะห์ข้อมลู
ได้นำเนนิ การวิเคราะห์ขอ้ มลู ตามลำดบั ดังนี้
3.5.1 การวิเคราะหข์ ้อมูลปริมาณ โดยเกบ็ รวบรวมข้อมลู มาทำการประมวลผล
3.5.2 การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ในการวิเคราะห์เนื้อหาประกอบด้วย 4 ขั้นตอน
ได้แก่ การตีข้อมูล (Interpretation) การเปรียบเทียบข้อมูล (Constant Comparison) การ
สังเคราะหข์ อ้ มลู (Data Synthesis) และการสรปุ ผล (Generalization)
3.6 สถติ ิทใี่ ชใ้ นการวเิ คราะหข์ ้อมูล
การวเิ คราะหข์ ้อมลู ผู้รายงานไดใ้ ชส้ ถิตวิ เิ คราะหข์ อ้ มลู ต่าง ๆ ดังน้ี
3.6.1 ค่าความถี่ (Frequency)
3.6.2 คา่ รอ้ ยละ (Percentage)
3.6.3 หาค่าเฉลีย่ (Mean)
บทที่ 4
ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูล
การดำเนินการศึกษาครั้งนี้ เป็นการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตไข่เค็มเพ่ือ
จำหน่าย เป็นการศึกษาและเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบบันทึกต้นทุนและและสอบถาม ผู้ศึกษา
นำเสนอผลวิเคราะห์ตามลำดับ ดงั น้ี
4.1 ข้อมูลต้นทนุ และผลตอบแทนในการผลติ ไขเ่ ค็ม
4.2 ขอ้ มูลสภาพท่วั ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม
4.3 ขอ้ มูลปัจจัยท่ีมีผลตอ่ พฤติกรรมการบริโภคไขเ่ ค็ม
4.4 ข้อมลู ทเ่ี กีย่ วข้องกับการผลิตไข่เค็ม
4.1 ข้อมลู ต้นทนุ และผลตอบแทนในการผลิตไข่เคม็
4.1.1 ขอ้ มูลเก่ยี วกับต้นทุนในการทำไข่เคม็
การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตไข่เค็มเพื่อ
จำหน่ายโดยตน้ ทุนในการผลิตไข่เค็มแบ่งตอบส่วนประกอบของผลิตภณั ฑ์ ประกอบด้วย ค่าวัตถดุ ิบ
คา่ แรงงานและคา่ ใช้จา่ ยในการผลิต ดงั ตารางที่ 4.1.1 - 4.1.8
15
ตารางที่ 4.1.1 แสดงการแบ่งประเภทต้นทนุ ท่ีทำการศึกษา
คา่ วตั ถดุ บิ คา่ แรงงาน ค่าใช้จ่ายในการผลติ
1. คา่ แรงงานตนเอง
1. ไข่ไก่ 1. คา่ บรรจภุ ณั ฑ์
2. เกลอื 2. ค่าน้ำประปา
3. น้ำสะอาด 3. ค่ารถและค่าเดนิ ทาง
4. ค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์
5. คา่ แกส๊ หุงตม้
ตารางที่ 4.1.2 แสดงต้นทุนคา่ วัตถุดบิ ในการผลติ ไข่เค็ม (จำนวนการผลติ ไขเ่ คม็ 30
กล่อง)
ผลิตภัณฑ์ วตั ถดุ ิบ จำนวน (หนว่ ย) ราคา (บาท)
ไข่เคม็
1. ไข่ไก่ 90 ฟอง 300.00
2. เกลอื 3 ถุง 60.00
3. นำ้ สะอาด 18 ลิตร 15.00
รวม 375.00
ตน้ ทนุ เฉลีย่ ตอ่ กล่อง 12.50
จากตารางที่ 4.1.2 แสดงตน้ ทนุ ค่าวัตถุดิบในการผลติ ไขเ่ ค็ม (สำหรบั ไขเ่ คม็ 30 กล่อง)
พบว่า อันดับแรกคือ ไข่ไก่ จำนวน 90 ฟอง ในราคา 300.00 บาท รองลงมาคือ เกลือ
จำนวน 3 ถงุ ในราคา 60 บาท นำ้ สะอาด จำนวน 18 ลิตร ในราคา 15.00 บาท จึงทำให้
มีต้นทุนเฉลี่ย 12.50 บาทตอ่ กลอ่ ง
16
ตารางท่ี 4.1.3 แสดงต้นทุนค่าแรงในการผลิตไข่เค็ม (จำนวนการผลิตไข่เค็ม 30
กลอ่ ง)
ท่ี รายการ จำนวน (บาท/วัน)
1. คา่ แรงงานตนเอง 100.00
ค่าแรงงานเฉลยี่ ต่อกล่อง 3.33
จากตารางที่ 4.1.3 พบว่าการวิเคราะหต์ ้นทนุ คา่ แรงงานในการผลติ ไข่เคม็ เฉลยี่ ต่อกล่อง
3.33 บาท คิดเปน็ คา่ แรงงานต่อการผลติ 1 ครง้ั 100 บาท
ตารางที่ 4.1.4 แสดงต้นทุนค่าน้ำที่ใช้ในการผลิตไข่เค็ม (จำนวนการผลิตไข่เค็ม 30
กล่อง)
รายการ ระยะเวลา จำนวน ราคาตอ่ หน่วย จำนวน (บาท)
21.25
คา่ น้ำประปา 1 เดอื น 5 หนว่ ย 4.25 50.00
- 50.00 71.25
ค่าแก๊สหงุ ต้ม 1 เดือน
2.38
รวมตน้ ทนุ คา่ นำ้ ประปาและแก๊สหุงตม้
ค่าน้ำและคา่ แกส๊ หงุ ตม้ เฉลีย่ ต่อกล่อง
จากตารางที่ 4.1.4 แสดงการวิเคราะห์ข้อมูลค่าน้ำประปาที่ใช้ในการผลิตไข่เค็ม พบว่า
คา่ น้ำประปา จำนวน 5 หน่วย คิดเป็น 21.25 บาท และแก๊สหงุ ต้ม คดิ เปน็ 50 บาท จงึ ทำให้
นำ้ ประปามตี ้นทุนเฉล่ยี 2.38 บาทต่อกล่อง
ตารางที่ 4.1.5 แสดงการวิเคราะห์ข้อมูลค่ารถและค่าเดินทางที่ใช้ในการผลิตไข่เค็ม
(จำนวนการผลติ ไขเ่ คม็ 30 กลอ่ ง)
รายการ ระยะเวลา จำนวน ราคาตอ่ หนว่ ย จำนวน (บาท)
45.00 45.00
ค่ารถและคา่ เดินทาง 1 เดอื น 1 ลิตร 1.50
ค่ารถและค่าเดินทางเฉลยี่ ต่อกลอ่ ง
จากตารางที่ 4.1.5 แสดงการวิเคราะห์ข้อมูลค่ารถและค่าเดินทางที่ใช้ในการผลิตไข่เค็ม
คือค่ารถและค่าเดินทาง 1 ลิตร คิดเป็น 45.00 บาท จึงได้ทำให้ค่ารถและค่าเดินทางมีต้นทุน
เฉลี่ย 1.50 บาทต่อกล่อง
17
ตารางที่ 4.1.6 แสดงข้อมูลสินทรัพยแ์ ละค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์ (จำนวนการผลิตไข่เค็ม
30 กล่อง)
รายการ อายุ (ปี) ราคา (บาท) จำนวน (บาท)
อุปกรณ์ 1 120 10.00
คา่ เสื่อมราคาตอ่ กลอ่ ง 0.30
จากตารางที่ 4.1.6 แสดงข้อมูลสินทรัพย์และค่าเสื่อมอุปกรณ์ มีค่าเสื่อมราคา 120
บาท จึงทำใหค้ ่าเสอื่ มราคาอุปกรณม์ ตี น้ ทนุ เฉลยี่ 0.3 บาทตอ่ กลอ่ ง
ตารางที่ 4.1.7 แสดงข้อมูลต้นทนุ คา่ ใช้จ่ายในการผลิตไขเ่ คม็
ที่ รายการ ราคา (บาท) ร้อยละ
1. ค่านำ้ ประปาและค่าแก๊สหุงตม้ 2.38 31.82
2. ค่าเส่อื มราคาอุปกรณ์ 0.30 4.01
3. ค่าบรรจุภัณฑ์ 3.30 44.12
4. คา่ รถและคา่ เดนิ ทาง 1.50 20.05
ค่าใชจ้ า่ ยในการผลิตรวม 7.48 100.00
จากตารางที่ 4.1.7 แสดงผลการวิเคราะห์ข้อมูลต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการผลิตไข่เค็ม
พบว่าอนั ดับแรกคือ คา่ บรรจภุ ณั ฑ์ 3.30 บาท คดิ เปน็ รอ้ ยละ 44.12 รองลงมาคอื คา่ น้ำประปา
และค่าแก๊สหุงต้ม 2.38 บาท คิดเป็นร้อยละ 31.82 ค่ารถและค่าเดินทาง 1.50 บาท คิดเป็น
ร้อยละ 20.05 และค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์ 0.30 บาท คิดเป็นร้อยละ 4.01 จึงทำให้มีต้นทุน
ในการผลติ เฉลีย่ 7.48 บาทตอ่ กล่อง
ตารางที่ 4.1.8 แสดงข้อมูลตน้ ทนุ ในการผลิตไข่เค็ม
ที่ รายการ ต้นทุนเฉลยี่ ต่อกลอ่ ง ร้อยละ
1. ค่าวัตถุดิบ 12.50 53.62
2. คา่ ใชจ้ ่ายในการผลติ 7.48 32.09
3. ค่าแรงงาน 3.33 14.29
23.31 100.00
ตน้ ทนุ ในการผลติ รวม
จากตารางท่ี 4.1.8 แสดงผลการวเิ คราะห์ข้อมูลในการผลิตไขเ่ ค็ม พบวา่ อันดับแรกคือ
ค่าวัตถุดิบ 12.50 บาท คิดเป็นร้อยละ 53.62 รองลงมาคือ ค่าใช้จ่ายในการผลิต 7.48 บาท
คิดเป็นร้อยละ 32.09 และค่าแรงงาน 3.33 บาท คิดเป็นรอ้ ยละ 14.29 จึงทำให้มีต้นทุนในการ
ผลิตเฉลีย่ 23.31 บาทตอ่ กล่อง
18
4.1.9 ข้อมลู เกยี่ วกับผลตอบแทนในการผลิตไข่เคม็
การศึกษาผลตอบแทนจากการผลิตไข่เค็ม ผู้ศึกษาได้ทำการศึกษาจากราคาขาย
กำไรขน้ั ตน้ อัตรากำไรต่อทนุ และอตั รากำไรต่อยอดขาย ดังแสดงในตารางท่ี 4.1.9 - 4.1.11
ตารางที่ 4.1.9 แสดงตน้ ทนุ ของราคาขายตอ่ กลอ่ ง ของผลิตภณั ฑ์ไข่เค็ม
ชอื่ ผลิตภัณฑ์ ราคาขายตอ่ กล่อง (บาท)
ไข่เคม็ 25.00
จากตารางที่ 4.1.9 แสดงต้นทุนของราคาขายตอ่ กล่อง พบว่า ไข่เคม็ มีราคา 25.00
บาทตอ่ กล่อง
ตารางท่ี 4.1.10 แสดงกำไรข้ันต้นจากการผลิตไขเ่ คม็ ต่อกล่อง
รายการ 12.50 จำนวน (บาท)
7.48 25.00
รายการจากการขายไขเ่ ค็ม 3.33
หกั ตน้ ทุนขาย 23.31
1.69
ค่าวตั ถุดบิ
ค่าใชจ้ ่ายในการผลิต
ค่าแรงงาน
กำไรขน้ั ต้น
จากการตารางที่ 4.1.10 แสดงผลวเิ คราะหก์ ำไรข้นั ต้น พบว่า มีรายการผลติ ไขเ่ คม็
25.00 บาทต่อกล่อง มตี น้ ทุนขาย อันดับแรกคือคา่ วัตถุดิบ 12.50 บาท รองลงมาคือคา่ ใชจ้ า่ ย
ในการผลติ 7.48 บาท และค่าแรงงาน 3.33 บาท จึงทำใหม้ กี ำไรขั้นต้น 1.69 บาทต่อกล่อง
ตารางที่ 4.1.11 แสดงการคำนวณหาอัตราผลตอบแทนในการผลิตไข่เค็ม
อตั ราส่วน สตู รการคำนวณ แทนคา่ ผลการคำนวณ
อตั รากำไรต่อทนุ 7.25%
กำไรข้ันตน้ 1.69 x 100
อตั รากำไรต่อยอดขาย ต้นทนุ 23.31 6.76%
กำไรขั้นต้น
1.69 x 100
ราคาขาย
25.00
จากตารางที่ 4.1.11 แสดงผลการวิเคราะห์อัตราผลตอบแทนจากการผลิตไข่เค็มเฉลี่ย
ต่อกลอ่ ง พบว่ามีอัตรากำไรต่อทุน 7.25% และมีอัตรากำไรต่อยอดขาย 6.76%
19
4.2 ข้อมูลสภาพท่ัวไปของผูต้ อบแบบสอบถาม
การศึกษาคร้ังน้ี ผู้ศกึ ษาได้เก็บรวบรวมข้อมลู จากกลุ่มตวั อยา่ งท่สี นใจไขเ่ ค็ม กำหนดกลุ่ม
ตัวอย่างโดยเลือกจากนักเรียน นักศึกษาแผนกวิชาการบัญชี วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร ที่สนใจไข่เค็ม
จำนวน 30 คน ซึ่งผู้ศึกษาได้นำมาวิเคราะห์ขอ้ มูลท่ัวไปของผู้ตอบแทนสอบถามเกี่ยวกับเพศ อายุ
และสถานภาพ ดงั แสดงในตารางท่ี 4.2.1 - 4.2.4
ตารางท่ี 4.2.1 แสดงจำนวนและค่ารอ้ ยละของสถานภาพทวั่ ไปของผูต้ อบแบบสอบถาม
รายการ จำนวน รอ้ ยละ
ประถมศึกษา 0 0.00
มัธยมศกึ ษา 6 20.00
ปวช. 23 76.68
ปวส. 1 3.33
รวม 30 100.00
จากตารางที่ 4.2.1 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามอันดับแรกอยู่ในระดับชน้ั ปวช. จำนวน
23 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 76.68 รองลงมาเปน็ ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษา จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ
20.00 และระดบั ชั้น ปวส. จำนวน 1 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 3.33 ตามลำดับ
ตารางที่ 4.2.2 แสดงจำนวนและค่าร้อยละของสถานภาพทัว่ ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม
รายการ จำนวน รอ้ ยละ
ชาย 7 23.33
หญงิ 23 76.67
รวม 30 100.00
จากตารางที่ 4.2.2 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามอันดับแรกเป็นเพศหญิง จำนวน 23
คน คิดเป็นร้อยละ 76.67 รองลงมาเป็นเพศชาย จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 23.33
ตามลำดบั
20
ตารางท่ี 4.2.3 แสดงจำนวนและคา่ ร้อยละของอายุของผู้ตอบแบบสอบถาม
รายการ จำนวน รอ้ ยละ
ต่ำกว่า 15 ปี 0 0.00
15 – 20 ปี 28 93.33
20 – 30 ปี 2 6.67
30 ปี ขึ้นไป 0 0.00
รวม 30 100.00
จากตารางที่ 4.2.3 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามอันดับแรกมีอายุ 15 - 20 ปี จำนวน
28 คน คิดเป็นร้อยละ 93.33 รองลงมาคือ ผู้ตอบแบบสอบถามมีอายุ 20 - 30 ปี จำนวน
2 คน คดิ เป็นร้อยละ 6.67 ตามลำดบั
ตารางที่ 4.2.4 แสดงจำนวนและคา่ ร้อยละของอาชีพผู้ตอบแบบสอบถาม
รายการ จำนวน ร้อยละ
นกั เรยี น/นกั ศกึ ษา 28 93.33
ครูและบุคลากร 0 0.00
อ่นื ๆ 2 6.67
รวม 30 100.00
จากตารางที่ 4.2.4 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามลำดับแรกเป็น นักเรียน/นักศึกษา
จำนวน 28 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 93.33 อ่นื ๆ จำนวน 2 คน คิดเปน็ ร้อยละ 6.67 ตามลำดบั
21
4.3 ข้อมูลปัจจัยท่ีมีผลต่อพฤติกรรมการบรโิ ภคไขเ่ คม็
ผลการวิเคราะหร์ ะดับความคิดเห็นของผู้บรโิ ภคไขเ่ ค็ม ท่ีเกยี่ วกบั ปัจจัยทีม่ ผี ลต่อ
พฤติกรรมการบรโิ ภคไขเ่ ค็ม ดังตารางที่ 4.3
ตารางท่ี 4.3 แสดงค่าเฉลี่ยและส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐานความคดิ เห็นบรโิ ภคเก่ยี วกับ
ปจั จัยทม่ี ีผลต่อการบริโภคไข่เค็ม
รายการ ผลการวิเคราะห์ ระดบั
ปจั จยั ดา้ นผลิตภณั ฑ์ ̅ S.D ความคิดเห็น
1. รสชาติของไขเ่ ค็ม 4.64 0.58 มากทีส่ ุด
2. คณุ ภาพของวัตถุดิบ 4.46 0.65 มากทส่ี ดุ
3. ความสะอาดของบรรจภุ ัณฑ์ 4.62 0.64 มากทส่ี ุด
4. ขนาดและรปู แบบของบรรจุภณั ฑ์ 4.81 0.40 มากทส่ี ุด
ปัจจัยด้านราคา 4.65 0.63 มากทส่ี ุด
1. ราคาเหมาะกับคุณภาพและปรมิ าณ 4.54 0.71 มากทีส่ ดุ
ปจั จัยด้านบคุ คลและส่งเสริมการขาย 4.54 0.71 มากท่สี ดุ
1. การโฆษณาประชาสัมพันธ์ 4.60 0.75 มากทีส่ ุด
2. ความนา่ เช่ือถือในการชำระเงนิ 4.42 0.90 มากทสี่ ุด
3. อัธยาศยั และการให้บริการของผู้ขาย 4.65 0.69 มากทีส่ ุด
4.73 0.67 มากทส่ี ดุ
รวม 4.59 0.68 มากที่สุด
จากตารางที่ 4.3 ผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเห็นว่าปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการ
บริโภคไข่เค็มที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 อันดับแรกคือ ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ( ̅=4.64,S.D=0.58)
รองลงมาคือ ปัจจัยด้านบุคคลและส่งเสริมการขาย ( ̅=4.60,S.D=0.75) และปัจจัยด้านราคา
( ̅=4.54,S.D=0.71) ตามลำดบั
ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ค่าเฉลี่ยสูงสุดอันดับแรกคือ ความสะอาดของบรรจุภัณฑ์
( ̅=4.81,S.D=0.40) รองลงมาคือ ขนาดและรูปแบบของบรรจุภัณฑ์ ( ̅=4.65,S.D=0.63)
คณุ ภาพของวตั ถดุ ิบ ( ̅=4.62,S.D=0.64) และรสชาติของไข่เค็ม ( ̅=4.46,S.D=0.65) ตามลำดบั
ปัจจัยด้านบุคคลและส่งเริมการขาย ค่าเฉลี่ยสูงสุดอันดับแรกคือ อัธยาศัยและการ
ให้บริการของผู้ขาย ( ̅=4.73,S.D=0.67) รองลงมาคือ ความน่าเชื่อถือในการชำระเงิน
( ̅=4.65,S.D=0.69) และการโฆษณาประชาสัมพนั ธ์ ( ̅=4.42,S.D=0.90) ตามลำดับ
และปัจจัยด้านราคา ค่าเฉลี่ยที่สูงสุดคือ ราคาเหมาะสมกับคุณภาพและปริมาณ
( ̅=4.78,S.D=0.42)
22
4.4 ขอ้ มูลท่เี ก่ียวขอ้ งกับการผลิตไข่เค็ม
ตารางที่ 4.4 ข้อมลู ทเ่ี กีย่ วกับการผลติ ไขเ่ ค็ม
รายการ ข้อมลู
วิธีการจำหนา่ ย ขายปลกี
ปริมาณการผลิตต่อเดือน
จำนวนคนผลิต 30
3
จากตารางที่ 4.4 แสดงขอ้ มูลเก่ยี วกบั การผลิตไข่เค็ม พบวา่ วธิ จี ำหน่ายไขเ่ คม็ คอื วิธี
ขายปลกี ปรมิ าณการผลิตไข่เค็มต่อเดอื น 30 กลอ่ ง คนผลติ ไข่เคม็ จำนวน 3 คน
บทท่ี 5
สรปุ อภปิ รายผลและข้อเสนอแนะ
การดำเนินการศึกษาครั้งนี้ เป็นการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตไข่เค็ม
เพอ่ื จำหน่ายมวี ัตถุประสงค์ ดงั นี้
1. เพอ่ื ศึกษาต้นทนุ และผลตอบแทนในการผลติ ไข่เคม็
2. เพอื่ ศกึ ษาคา่ ใช้จ่ายทีป่ ระหยดั ได้จากการผลติ ไขเ่ ค็ม
3. เพือ่ ศกึ ษาความพงึ พอใจของผบู้ ริโภคทีม่ ตี ่อการบรโิ ภคไขเ่ ค็ม
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียน นักศึกษา แผนกวิชาการบัญชี วิทยาลัยเทคนิค
พจิ ิตร จำนวน 30 คน ได้มาโดยการเลอื กแบบเจาะจง
เครอ่ื งมอื ท่ใี ช้ในการศึกษา ไดแ้ ก่ แบบสอบถามความพึงพอใจท่ีมผี ลต่อการบริโภคไข่เค็ม
และบนั ทึกต้นทุนจากการผลติ ไขเ่ ค็ม
ในการเก็บรวบรวมข้อมูลผู้ศึกษาได้ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง โดยนำ
แบบสอบถามที่สร้างเสร็จแล้วไปทำการเก็บข้อมูลด้วยตนเอง จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 30 คน
รวบรวมแบบสอบถามที่ได้มาจากทำการวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้สถิติพื้นฐานการแจกแจงความถี่และ
ค่าร้อยละ และใช้ผลตอบแทนโดยใช้อตั ราสว่ นทางการเงนิ
5.1 สรปุ ผลการศึกษา
จากผลวิเคราะห์ข้อมูล สรุปผลการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตไข่เค็มเพื่อ
จำหน่าย ดงั น้ี
5.1.1 ต้นทุนในการผลติ ไขเ่ ค็มเฉลี่ยต่อกลอ่ ง
จากการศกึ ษา พบวา่ ในการผลติ ไขเ่ คม็ มตี ้นทนุ ขายเฉล่ีย 23.31 บาทต่อกล่อง
ประกอบด้วย ค่าวัตถุดิบ 12.50 บาทต่อกล่อง ค่าใช้จ่ายในการผลิต 7.48 บาทต่อกล่อง และ
ค่าแรงงาน 3.33 บาทตอ่ กลอ่ ง
24
5.1.2 อาชพี และข้อมลู ทว่ั ไปของผู้ตอบแบบสอบถาม
จากผลการศึกษาพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด อันดับแรกคือ ระดับช้ัน
ปวช. จำนวน 23 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 76.68 รองลงมาคือ ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษา จำนวน 6 คน
คดิ เป็นร้อยละ 20.00 และระดับชั้น ปวส. จำนวน 1 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 3.33 ตามลำดับ
เพศหญิง จำนวน 23 คน คิดเป็นร้อยละ 76.67 รองลงมาคือ เพศชาย
จำนวน 7 คน คิดเปน็ ร้อยละ 23.33 ตามลำดบั
อายุ 15-20 ปี จำนวน 28 คน คิดเป็นร้อยละ 93.33 และ อายุ 20-30 ปี
จำนวน 2 คน คิดเปน็ ร้อยละ 6.67 ตามลำดับ
ส่วนมากเป็นนักเรียน/นักศึกษา จำนวน 28 คน คิดเป็นร้อยละ 93.33 และ
อ่นื ๆ จำนวน 2 คน คดิ เป้นรอ้ ยละ 6.67 ตามลำดบั
5.1.3 ปัจจัยที่มผี ลตอ่ พฤตกิ รรมการบริโภคไขเ่ ค็ม
จากการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเห็นว่าปัจจัยที่มีผลต่อ
พฤติกรรมการบริโภคไข่เค็มที่มีค่าเฉลี่ย 3 อันดับ 1. ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ 2. ปัจจัยด้านบุคคล
และส่งเสรมิ การขาย และ 3. ปัจจยั ด้านราคา ตามลำดบั
5.2 อภิปรายผลการศึกษา
จากการสรปุ ผลการศึกษา มีประเดน็ สำคญั ทคี่ วรนำมาอภิปรายผล ดงั น้ี
5.2.1 ต้นทุนการผลิตไข่เค็มประกอบไปด้วย 3 ส่วนที่สำคัญ ได้แก่ ค่าวัตถุดิบ ร้อยละ
53.62 ค่าใช้จ่ายในการผลิต ร้อยละ 32.09 และค่าแรงงาน ร้อยละ 14.29 จะเห็นได้ว่าในการ
ผลิตไข่เค็มมีสัดส่วนของวัตถุดิบมากที่สุด ทั้งนี้เนี่องจากการผลิตไข่เค็มใช้วัตถุดิบหลักคือ ไข่เป็ด
มากท่ีสดุ
5.2.2 การศึกษาต้นทนุ ความคิดเหน็ และพฤติกรรมการบรโิ ภคไขเ่ ค็มผู้บริโภคทุกปัจจัยมีผล
ต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคในการเลือกซ้ือไข่เค็มทั้งปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ปัจจัยด้านราคา ปัจจัย
ด้านบุคคลและส่งเสรมิ การขาย ดังนั้นในการตัดสินใจประกอบกิจการไข่เคม็ ให้ความสำคัญกบั ปัจจยั
ซง่ึ มีผลต่อกำไรและคู่แขง่ ขันได้
25
บรรณานกุ รม
นางเปรมฤดี ศรีถาพร. “ประวตั คิ วามเปน็ มาของไขเ่ คม็ ”, [ออนไลน์] เขา้ ถึงได้จาก:
: https://citly.me/lQSkc, [สบื คน้ เมื่อ 12 พฤษภาคม 2565]
กรมทรัพย์สินทางปัญญา. “มรดกภมู ิปญั ญาอาหารการกินทีเ่ ป็นส่ิงบง่ ช้ีทางภมู ิศาสตรไ์ ทย
ไขเ่ ค็มไชยา”, [ออนไลน์] เข้าถงึ ได้จาก:
: https://citly.me/Cen0d, [สืบคน้ เมื่อ 18 พฤษภาคม 2565]
ผศ.ดร.สจุ ติ กัลยา มฤครฐั อินแปลง. “การพัฒนาผลิตภณั ฑ์ไข่เคม็ ”, [ออนไลน์] เขา้ ถึงได้จาก:
: https://citly.me/G5vJW, [สบื คน้ เม่อื 8 มถิ ุนายน 2565]
ชมภู่ ยิม้ โต. “การพฒั นาไขเ่ ค็มพอกดว้ ยเย่อื ฟางข้าว”, [ออนไลน์] เขา้ ถงึ ได้จาก:
: https://rdi.aru.ac.th/hom.php, [สบื คน้ เมื่อ 8 มิถุนายน 2565]
ภาพผนวก
ภาคผนวก ก
เครอ่ื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการศกึ ษา
แบบสอบถามความคดิ เหน็ เกยี่ วกับปจั จยั ท่มี ีผลตอ่ การผลติ ไขเ่ คม็
29
แบบสอบถามฉบบั บนี้จดั ทำข้ึนโดย นกั ศึกษากลุ่มโครงงานการศึกษาต้นทนุ และผลผลติ แทนในการ
ผลติ ไข่เค็มเพื่อจำหน่าย มีวัตถปุ ระสงค์เพ่ือตอ้ งการทราบข้อมลู เกยี่ วกบั ผลิตภณั ฑท์ ่ีผลิตขึ้น
ทำการสแกน QR-CODE ทางด้านบนเพือ่ เขา้ สเู่ ว็บไซตต์ อบแบบสอบถาม
หรือเขา้ ท่เี ว็บไซต์ https://shorturl.asia/MZY8P
30
ภาพที่ 1 ภาพการสง่ เวบ็ ไซต์ใหน้ ักศึกษาตอบแบบสอบถามออนไลน์
ภาพที่ 2 ภาพการส่งเวบ็ ไซต์ใหน้ กั ศึกษาตอบแบบสอบถามออนไลน์
31
ภาพที่ 3 ภาพการส่งเว็บไซต์ให้นักศึกษาตอบแบบสอบถามออนไลน์
ภาพที่ 4 ภาพการสง่ เวบ็ ไซต์ใหน้ ักศึกษาตอบแบบสอบถามออนไลน์
ประทับเวลา เพศ อายุ ระดบั การศึกษา อาชีพ ปจจยั ดานผลติ ภัณฑ [รสชาตขิปอจ งจไยั ขดเาคนม็ ผ] ลติ ภัณฑ [คณุ ภาพปขจอจงยั วดตั าถนดุ ผบิ ล]ติ ภัณฑ [ความสะปอจาจดัยขดอา งนบผรลริตจภุ ัณฑ][ขนาดแปลจะรจูปัยแดบาบนขราอคงบา ร[ราจคุภาัณเหฑม]าะกปบั จ คจุณยั ดภา นพบแคุลคะปลรแิมลาะณสง]เสริมกปารจขจายั ยดา [กนาบรคุ โคฆลษแณละาสปงรเะสชราิมสกมั ปาพรจขนั จาธัยย]ดา[คนวบาคุ มคนลา แเชละื่อสถงอื เใสนริมกการาชรขําราะยเง[อินัธ] ยาศยั และการใหบ รกิ ารของผขู าย]
15-20 ป 55555555
13/7/2022, 13:48:38 หญงิ 20-30 ป ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวชน.)ักเรียน-นกั ศกึ ษา 45554455
20-30 ป 4 4 4 4 4 4 4 4 โอเคแลวกับรสชาติไขเ ค็ม
13/7/2022, 13:53:59 หญงิ 15-20 ป ประกาศนยี บัตรวิชาชีพชัน้ สงู พ(นปักวงสา.)นเอกชน 55555455
15-20 ป 5 5 5 5 5 5 5 5-
13/7/2022, 14:09:36 หญิง 15-20 ป มัธยมศกึ ษา รบั จาง 44444444
15-20 ป 33454445
13/7/2022, 15:34:30 หญงิ 15-20 ป ประกาศนยี บัตรวิชาชีพ (ปวชน.)กั เรยี น-นกั ศกึ ษา 44545445
15-20 ป 44554445
13/7/2022, 15:36:19 หญงิ 15-20 ป มัธยมศกึ ษา นกั เรียน-นกั ศกึ ษา 55555555
15-20 ป 5 5 5 5 5 5 5 5-
13/7/2022, 15:37:09 หญิง 15-20 ป ประกาศนียบัตรวชิ าชีพ (ปวชน.)กั เรียน-นักศกึ ษา 5 4 5 5 4 4 5 5-
15-20 ป 55554555
13/7/2022, 15:41:35 หญงิ 15-20 ป ประกาศนียบัตรวชิ าชพี (ปวชน.)ักเรียน-นกั ศกึ ษา 5 5 5 5 5 5 5 5 ไมมีครบั
15-20 ป 45545555
13/7/2022, 15:50:09 หญิง 15-20 ป มัธยมศึกษา นักเรยี น-นกั ศกึ ษา 55555555
15-20 ป 45555555
13/7/2022, 16:06:48 ชาย 15-20 ป มัธยมศกึ ษา นักเรยี น-นกั ศึกษา 45555455
15-20 ป 55545554
14/7/2022, 18:37:51 หญงิ 15-20 ป ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวชน.)ักเรียน-นกั ศึกษา 45555555
15-20 ป 45555555
14/7/2022, 18:45:53 หญงิ 15-20 ป มัธยมศึกษา นักเรียน-นักศกึ ษา 55555555
15-20 ป 55555555
14/7/2022, 18:46:13 หญงิ 15-20 ป มธั ยมศกึ ษา นักเรียน-นักศกึ ษา 53432122
15-20 ป 55555555
14/7/2022, 18:54:10 ชาย 15-20 ป ประกาศนียบตั รวชิ าชพี (ปวชน.)กั เรยี น-นักศกึ ษา 54445554
15-20 ป 55555555
14/7/2022, 19:08:40 ชาย 15-20 ป ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวชน.)กั เรียน-นักศึกษา 55544555
15-20 ป 55555555
15/7/2022, 16:57:04 หญงิ 15-20 ป ประกาศนียบัตรวิชาชพี (ปวชน.)ักเรียน-นกั ศกึ ษา 34434344
17/7/2022, 14:56:06 หญิง ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี (ปวชน.)ักเรยี น-นกั ศึกษา
18/7/2022, 20:51:26 หญิง ประกาศนียบัตรวชิ าชพี (ปวชน.)ักเรียน-นกั ศึกษา
18/7/2022, 20:52:55 หญิง ประกาศนียบตั รวชิ าชพี (ปวชน.)ักเรียน-นักศึกษา
18/7/2022, 20:53:57 ชาย ประกาศนยี บัตรวิชาชพี (ปวชน.)กั เรยี น-นักศกึ ษา
18/7/2022, 20:59:20 หญงิ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวชน.)กั เรยี น-นกั ศกึ ษา
18/7/2022, 21:00:22 หญงิ ประกาศนยี บัตรวิชาชพี (ปวชน.)กั เรียน-นักศกึ ษา
18/7/2022, 21:02:08 ชาย ประกาศนยี บัตรวิชาชพี (ปวชน.)กั เรยี น-นกั ศกึ ษา
18/7/2022, 21:06:38 หญงิ ประกาศนยี บัตรวชิ าชพี (ปวชน.)กั เรยี น-นกั ศกึ ษา
19/7/2022, 11:24:39 ชาย ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวชน.)ักเรยี น-นักศึกษา
23/7/2022, 11:43:30 หญิง ประกาศนยี บัตรวิชาชีพ (ปวชน.)ักเรียน-นกั ศกึ ษา
3/8/2022, 9:18:12 หญงิ ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี (ปวชน.)ักเรยี น-นกั ศึกษา
3/8/2022, 9:18:23 หญิง ประกาศนียบัตรวิชาชพี (ปวชน.)ักเรยี น-นกั ศึกษา
3/8/2022, 9:18:24 หญงิ ประกาศนียบตั รวิชาชีพ (ปวชน.)ักเรียน-นกั ศกึ ษา
3/8/2022, 9:21:32 หญิง ประกาศนยี บัตรวิชาชพี (ปวชน.)กั เรยี น-นกั ศกึ ษา
6/8/2022, 9:34:50 ชาย ประกาศนียบตั รวชิ าชพี (ปวชน.)ักเรยี น-นกั ศกึ ษา
ภาคผนวก ข
แบบเสนอหัวข้อและเค้าโครง
โครงงานการศกึ ษาตน้ ทนุ และผลตอบแทนในการผลติ ไข่เคม็ เพ่อื จำหนา่ ย
32
แบบเสนอโครงงาน
1. ชอ่ื โครงงาน (ภาษาไทย) การศกึ ษาตน้ ทุนและผลตอบแทนในการผลิตไข่เคม็ เพือ่ จำหนา่ ย
ช่ือโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) Cost and Return Study on Production Salted egg for sale
2. ประเภทของโครงงาน
ส่ิงประดิษฐ/์ นวตั กรรม
ศึกษาทฤษฎีและหลักการ
ศึกษาค้นคว้าทดลอง
สำรวจรวบรวมขอ้ มูล
3. รายชื่อผจู้ ดั ทำโครงงาน
3.1 นางสาวกัญจนพร ต้นจนั ทร์ รหสั นกั ศกึ ษา 63202011201
3.2 นางสาวณิชาภัทร แตงณรงค์ รหัสนกั ศึกษา 63202011217
3.3 นางสาวธนภรณ์ มัทธุจัด รหสั นกั ศกึ ษา 63202011218
4. ครทู ี่ปรกึ ษาโครงงาน
นางสาวนิศารัตน์ ไม้สนธ์ิ
5. ความสำคญั ของโครงงาน/หลกั การและเหตผุ ล
ไข่เค็มเป็นกระบวนการถนอมอาหารชนิดหนึ่งเพื่อเก็บไว้รับประทานได้นาน ๆ ในสมัย
โบราณผู้คนส่วนใหญ่ทำอาชีพทำนาเกือบทุกครวั เรือนมกั จะเลีย้ งเป็ดและเลยี้ งไก่ไวเ้ พื่อรับประทานไข่
การเลี้ยงเป็ดส่วนใหญ่เลี้ยงแบบปล่อยทุ่ง เป็ดจะหาอาหารตามทุ่งนากินและชาวบ้านจะให้อาหาร
เสริมแก่เป็ดด้วยข้าวเปลือก จึงทำให้ไข่เป็ดไม่มีกลิ่นคาวจากนั้นเมื่อเป็ดออกไข่คนก็จะนำมาทำเป็น
อาหารในครัวเรือน เนื่องจากชาวบ้านเลี้ยงเป็ดเกือบทุกหลังคาเรือน ทำให้ไข่เป็ดเหลือจึงมีการคิด
กระบวนการถนอมอาหารโดยการนำไข่เป็ดมาดองกลายเป็นไข่เค็ม ไข่เค็มส่วนมากมักจะใช้ไข่เป็ด
แล้วนำไปแช่ในน้ำเกลือหรือนำไปพอกด้วยวัสดุที่ผสมเกลือเพื่อสามารถเก็บไข่ไว้ได้นานขึ้น ไข่เป็ดท่ี
ผลติ จากการแชน่ ้ำเกลือจะมีกลิ่นน้ำเกลือ ไขข่ าวจะแน่น เนียนในขณะท่ีไข่แดงจะมีสีออกส้มแดงแต่
ถ้าใช้ไข่ไก่จะมีรสชาติที่แตกต่างออกไปและไข่แดงจะเข้มข้นน้อยกว่าไข่เป็ด ไข่เค็มสามารถนำมาใช้
ประกอบอาหารหลังจากที่ผ่านการต้มหรือนึ่ง สามารถเอามาใส่โจ๊ก ข้าวต้มหรือจะนำไปทอดเป็น
33
ไข่ดาวก็ได้ นอกจากนี้ไข่แดงเค็มมักจะถูกนำไปเป็นไส้ของขนมไหว้พระจันทร์ ปัจจุบันไข่เค็มเป็น
อาหารที่ได้ความนิยมอย่างแพร่หลาย ทำให้เกิดการขยายตัวและแข่งขันในทางเศรษฐกิจ ทำให้ไข่
เค็มจากอดีตที่จำกัดอยู่ในวงแคบ ๆ ในครัวเรือนได้เข้าสู่ระบบการค้าเชิงพาณิชย์มากขึ้น โดยมีการ
จำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ หรือมีการส่งออกเพื่อจำหน่ายไปต่างประเทศ แหล่ง
จำหน่ายไขเ่ ค็มที่มชี ่ือเสียงในประเทศไทยอย่างแพร่หลายคือ ไขเ่ คม็ ไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซ่ึงมี
กระบวนการถนอมอาหารที่แตกต่างจากที่อื่นคือนำไข่เป็ดไปฝั่งดินเค็มริมทะเลประมาณ 15 วัน
แลว้ นำมาลา้ งตม้ รับประทาน
ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าคนไทยนิยมนำอาหารมาแปรรูปอย่างแพร่หลาย ในอดีตคนส่วนใหญ่
มักจะเลี้ยงเป็ดหรือไก่เพื่อนำมาบริโภค เนื่องจากประเทศไทยเป็นเมืองร้อนจึงทำให้เกิดการเน่าเสีย
ของเนื้อสัตว์และไข่จำนวนมากจึงทำให้ไม่สามารถเก็บไว้ได้นาน โดยการนำไข่มาแปรรูปเป็นไข่เค็ม
เพื่อถนอมอาหาร ทำให้ไข่สามารถเก็บไว้ได้เป็นเวลานาน ไข่เค็มถือได้ว่าเป็นอาหารที่รับความนิยม
อยา่ งมากและยงั เป็นมรดกทางปัญญาของชาวบ้าน คณะผูจ้ ดั ทำได้มีความสนใจในการศึกษาเก่ียวกับ
การแปรรูปไข่เคม็ เนือ่ งด้วยไขเ่ ค็มสามารถรับประทานกับอาหารได้หลากหลายชนิด อีกทั้งยังแปรรูป
มาเป็นไส้ขนมได้อีกด้วยและเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันจึงทำให้เกิดแนวคิดที่จะศึกษา
ต้นทุนในการทำไขเ่ คม็ ให้มีคณุ ภาพและมีราคาท่เี หมาะสมและสามารถรบั ประทานได้ทกุ เพศทกุ วยั
จากปัญหาดังกล่าวคณะผู้จัดทำมีความสนใจและมองเห็นช่องทางธุรกิจที่จะทำเรื่อง
การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการทำไขเ่ ค็มเพื่อตอบสนองความต้องการของผ้บู ริโภค ดังนั้นใน
การศึกษาครั้งนี้จึงมุ่งหวังที่จะศึกษาความเป็นไปได้ของโครงงานเป็นแนวทางในการวางกลยุทธ์ทาง
การตลาดให้เหมาะสมความพึงพอใจและพฤติกรรมของผู้บริโภคในการศึกษาครั้งนี้จะให้ความสำคัญ
กบั ปจั จยั เหลา่ นเ้ี ป็นหลัก เพราะเปน็ ปัจจัยสำคัญที่จะทำใหผ้ ู้บรโิ ภคตดั สินใจเลือกทานอกี ด้วย
6. วตั ถุประสงค์ของโครงงาน
6.1 เพ่อื ศึกษาตน้ ทุนและผลตอบแทนจากการทำไข่เค็ม
6.2 ทำให้ทราบถึงผลกำไรขาดทุนจากการทำไขเ่ ค็ม
6.3 เพ่ือศึกษาความพึงพอใจของผบู้ รโิ ภคทีม่ ีต่อการบรโิ ภคไขเ่ คม็
34
7. ขอบเขตของโครงงาน
7.1 ด้านตวั แปร
-
7.2 ด้านเน้ือหา
การวจิ ยั ครัง้ นีเ้ ป็นการศึกษาต้นทนุ และผลตอบแทนในการทำไขเ่ คม็ ดังนี้
7.2.1 ศึกษาตน้ ทุนการผลติ ไขเ่ คม็ ต้ังแต่ขน้ั ตอนการเตรยี มการทำจนไปถึงขั้นตอน
การจดั จำหนา่ ย และวเิ คราะห์โครงสร้างตน้ ทุนในการทำไขเ่ คม็
7.2.2 ศึกษาผลตอบแทนท่ไี ด้รับจากการลงทุนทำไขเ่ คม็
7.3 ดา้ นเวลา
พฤษภาคม - สิงหาคม 2565
7.4 แบบร่าง (ถา้ มี)
-
35
8. วิธีการดำเนนิ งาน
ระยะเวลาดำเนินงาน (สปั ดาห์ท่ี) หมายเหตุ
กิจกรรม/ข้ันตอน
ดำเนินงาน
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18
ขน้ั เตรียมการ
เสนอหวั ขอ้ โครงงาน
และจดั ทำแบบเสนอ
ขออนมุ ตั ิโครงงาน
ศึกษาขอ้ มูลข้นั ตอน
การผลิต
ขั้นดำเนนิ การ
ทำการผลิตไขเ่ ค็มเพื่อ
จำหน่าย
ทำการจำหน่าย
ไขเ่ ค็มใหแ้ กก่ ลมุ่
นกั ศึกษาท่ีสนใจ
ขน้ั สรุปและประเมินผล
สรุปผลการ
ดำเนนิ งาน
จัดทำรายงานเพอื่
นำเสนอครผู ูส้ อนและ
ครทู ่ปี รกึ ษาโครงงาน