การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตสตอเบอร์รี่โยเกิร์ตเพื่อจำหน่าย

การศกึ ษาตน้ ทุนและผลตอบแทนในการผลติ สตอเบอร์ร่ีโยเกิรต์ เพื่อจำหนา่ ย

นางสาวจิราภา ทพิ ไสยาท รหัสประจำตวั 63202011302
นางสาวณฐั ชยา นนทะพฒั น์ รหสั ประจำตัว 63202011306
นางสาวปณาลี นวลแตง รหัสประจำตวั 63202011314

ระดบั ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี
สาขาวิชา การบญั ชี สาขางาน การบัญชี ห้อง 3

ครูท่ปี รึกษา
นางสาวสกาวใจ พัชรพงศศ์ านต์

วทิ ยาลัยเทคนิคพจิ ติ ร อาชวี ศกึ ษาจงั หวดั พจิ ติ ร
สำนักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565

ใบรับรองโครงงาน

รายวชิ า โครงงาน รหัสวิชา 20201-8501 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565

ชอ่ื โครงงาน การศกึ ษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลติ สตอเบอรร์ โี่ ยเกิร์ตเพ่ือจำหนา่ ย

ผูร้ บั ผดิ ชอบโครงงาน 1. นางสาวจิราภา ทพิ ไสยาท รหสั ประจำตวั 63202011302

2. นางสาวณัฐชยา นนทะพัฒน์ รหสั ประจำตวั 63202011306

3. นางสาวปณาลี นวลแตง รหัสประจำตัว 63202011314

ครูท่ีปรกึ ษา นางสาวสกาวใจ พัชรพงศศ์ านต์

ปกี ารศกึ ษา 2565

ได้รับอนุมัติให้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษารายวิชาโครงงาน สาขาวิชา การบัญชี หลักสูตรประกาศ

วชิ าชพี พุทธศกั ราช 2562

คณะกรรมการสอบโครงงาน

ลงชื่อ..............................................ประธาน
(นางสาวจารณุ ี จุลบตุ ร)

ลงช่อื ..............................................กรรมการ
(นางสาวสกาวใจ พชั รพงศศ์ านต์)

ลงชื่อ..............................................กรรมการและเลขานุการ
(นางสาวอรวลญั ช์ นอ้ ยสมวงษ์)

ลงช่อื ..............................................หวั หนา้ แผนกวชิ าการบัญชี
(นางสกาวรตั น์ บุญศลิ ป์ )

ลงชื่อ..............................................รองผ้อู ำนวยการฝ่ายวชิ าการ
(นายอิศรา อยู่ยง่ิ )

ลงชอ่ื ..............................................ผอู้ ำนวยการวทิ ยาลัย
(นายชัยณรงค์ คัชมาตย์)

ช่ือผลงาน : การศึกษาต้นทนุ และผลตอบแทนในการผลติ สตอเบอร์รโ่ี ยเกิร์ตเพื่อจำหน่าย
ผจู้ ัดทำ : นางสาวจริ าภา ทพิ ไสยาท
นางสาวณัฐชยา นนทะพัฒน์
ครทู ปี่ รกึ ษา นางสาวปณาลี นวลแตง
สาขาวิชา : นางสาวสกาวใจ พชั รพงศ์ศานต์
สาขางาน : การบญั ชี
ปีการศึกษา : การบญั ชี
: 2565

บทคดั ย่อ

ในการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย คือ 1. เพื่อศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิต
สตอเบอรร์ ีโ่ ยเกิร์ต 2. เพอื่ ศึกษาค่าใช้จ่ายท่ีประหยัดได้จากการผลิตสตอเบอร์ร่โี ยเกิร์ต 3. เพ่ือศึกษาความ
พงึ พอใจของผู้บรโิ ภคทีม่ ีตอ่ การบริโภคสตอเบอร์รโ่ี ยเกริ ต์

โดยมีสมมติฐานในการวิจัย คือ กลุ่มตัวอย่างท่ีใช้ในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย นักศึกษา แผนก
วชิ าการบญั ชี ทีส่ นใจสตอเบอรร์ โี่ ยเกิรต์

กลุ่มตวั อย่างท่ใี ชใ้ นการวจิ ัยคร้ังน้ีประกอบดว้ ย
เครือ่ งมอื ทใ่ี ช้ในการวจิ ัย ไดแ้ ก่ เป็นแบบสอบถามขอ้ มูลเก่ียวกบั การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนใน
การผลิตสตอเบอร์รี่โยเกิรต์ เพือ่ จำหน่าย ค่าสถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ค่าความถี่ (Frequency) และค่าร้อย
ละ (Percentage)
ผลการวิจัยมดี ังน้ี
1. ต้นทุนในการผลิตสตอเบอร์ร่โี ยเกริ ต์ เฉล่ยี 18.04 บาทต่อแกว้
2. ค่าใช้จ่าย ที่ประหยัดได้จากการผลิตสตอเบอร์รี่โยเกิร์ตต่อแก้ว ในปริมาณ 1 แก้ว ในราคา
5.10 บาท ค่าใชจ้ ่ายในการผลิต 7.61 บาท
3. ความพึงพอใจในการบริโภคสตอเบอรร์ โ่ี ยเกิร์ต ในภาพรวมอยใู่ นระดบั พอใจมากเม่ือพจิ ารณาเป็น
รายขอ้ ขอ้ ทีม่ คี า่ เฉลี่ยสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ 1. ปัจจยั ด้านผลิตภัณฑ์ 2. ปัจจัยดา้ นราคา 3. ปัจจัยด้าน
บุคคลและส่งเสริมการขาย

ก

กิตตกิ รรมประกาศ
การจัดทำโครงงานครั้งน้ี สำเร็จลุล่วงได้เป็นอย่างดีด้วยความอนุเคราะห์ และความกรุณาให้
คำปรึกษา ตั้งแต่ต้นจนเสร็จสมบูรณ์ ตลอดจนให้ความรู้และประสบการณ์ที่ดีแก่ข้าพเจ้า
จากนางสาวอรวลัญช์ น้อยสมวง ครูผู้สอนวิชาโครงงานผู้จัดทำโครงงาน ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง ณ
โอกาสน้ี
ขอกราบขอบพระคุณ นางสาวสกาวใจ พัชรพงศ์ศานต์ ครูที่ปรึกษาโครงงาน ที่ได้กรุณาให้
คำแนะนำ และให้คำปรึกษามาตลอดจนให้ความช่วยเหลือแก่ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ เพื่อให้จัดทำโครงงาน
ฉบับนี้ให้สมบูรณ์ ผู้จัดทำโครงงานขอขอบพระคุณคณะอาจารย์ทุกท่านที่ได้ประสิทธิ์ประสาทวิชา บ่มเพาะ
จนผู้ศึกษาสามารถนำเอาหลักการประยุกต์ใช้และอ้างอิงในการจัดทำโครงงานคร้ังน้ีอีกทั้งบิดา มารดา ญาติ
พีน่ อ้ งและเพอื่ นเพื่อน ๆ ของผจู้ ัดทำโครงงานซ่งึ ใหก้ ำลงั ใจและความช่วยเหลือมาโดยตลอด
คุณค่าอนั พงึ มีจากการศึกษาค้นคว้าวจิ ัยอสิ ระฉบับนี้ ขอมอบเพ่ือบชู าคุณบิดา มารดา ครูอาจารย์
และผู้มีพระคุณทกุ ท่าน

จริ าภา ทิพไสยาท
ณัฐชยา นนทะพัฒน์
ปณาลี นวลแตง

ข

สารบัญ หนา้
ก
บทคดั ย่อ ข
กิตติกรรมประกาศ ค
สารบัญ ง
สารบัญตาราง จ
สารบัญภาพ
บทที่ 1
2
1. บทนำ 2
1.1 ทมี่ าและความสำคัญของปญั หา 2
1.2 วตั ถุประสงคใ์ นการศึกษา
1.3 ขอบเขตการศกึ ษา 3
1.4 นิยามศพั ทเ์ ฉพาะ 8
9
2. เอกสารวจิ ยั ทเ่ี ก่ียวขอ้ ง 11
2.1 หลกั การแนวคิดเกยี่ วกบั ตน้ ทุน
2.2 หลกั การแนวคิดเกี่ยวกับผลตอบแทน 12
2.3 งานวิจยั ทีเ่ กย่ี วขอ้ ง 12
2.4 กรอบแนวคดิ ในการศึกษา 12
13
3. วิธีการดำเนินการศึกษา 13
3.1 กล่มุ เปา้ หมายท่ีใช้ในการศกึ ษา 13
3.2 เครอ่ื งมือทใี่ ชใ้ นการศึกษา
3.3 วธิ ีการดำเนนิ การศกึ ษา
3.4 การเก็บรวบรวมข้อมลู
3.5 การวิเคราะห์ข้อมลู
3.6 สถติ ทิ ่ใี ชใ้ นการวเิ คราะห์ขอ้ มลู

ค

สารบัญ (ต่อ) หนา้

4. ผลการศกึ ษาคน้ ควา้ 14
4.1 ข้อมูลต้นทนุ และผลตอบแทนในการผลติ สตอเบอรร์ โ่ี ยเกริ ์ต 22
4.2 ข้อมลู สภาพทัว่ ไปของผู้ตอบแบบสอบถาม 24
4.3 ขอ้ มูลปจั จยั ท่ีมีพฤติกรรมการบรโิ ภคสตอเบอร์ร่โี ยเกิร์ต 25
4.4 ข้อมูลเกย่ี วกับสตอเบอร์รี่โยเกิร์ต
26
5. สรุปการศึกษา การอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ 27
5.1 สรปุ ผลการศึกษา 28
5.2 อภปิ รายผลการศึกษา 29
5.3ขอ้ เสนอแนะ 30

บรรณานกุ รม 31
ภาคผนวก
35
ภาคผนวก ก เครอื่ งมอื ท่ใี ชใ้ นศกึ ษาแบบสอบถามความคิดเหน็ เกี่ยวกบั
ปจั จัยที่มีต่อการบริโภคสตอเบอรร์ โี่ ยเกริ ต์ 41

ภาคผนวก ข แบบเสนอหวั ข้อและเคา้ โครง โครงงานศกึ ษาต้นทนุ และ 47
ผลตอบแทนในการผลิตสตอเบอรร์ โ่ี ยเกิร์ตเพอ่ื จำหน่าย
62
ภาคผนวก ค แสดงภาพการลงพืน้ ที่การเกบ็ ข้อมูล ความคิดเหน็ เกยี่ วกับ
ปัจจยั ท่ีมผี ลตอ่ พฤตลิ กรรมการบรโิ ภคสตอเบอร์รี่โยเกิร์ต

ภาคผนวก ง บญั ชี การศกึ ษาตน้ ทนุ และผลตอบแทนในการผลิต
สตอเบอร์รโ่ี ยเกิร์ตเพือ่ จำหน่าย

ภาคผนวก จ แสดงภาพการพบครผู ูส้ อนและครูทีป่ รึกษาโครงงานประวตั ิ
สตอเบอรร์ ่ีโยเกิร์ตเพ่ือจำหน่าย

ค

สารบัญตาราง หน้า
ตารางท่ี 15
16
4.1.1 แสดงการแบ่งระเภทต้นทุนทีท่ ำการศึกษา 17
4.1.2 แสดงตน้ ทุนค่าวตั ถดุ ิบในการผลติ สตอเบอร์รีโ่ ยเกิร์ต 17
4.1.3 แสดงตน้ ทนุ และคา่ แรงในการผลติ สตอเบอรร์ ่โี ยเกริ ์ต
4.1.4 แสดงต้นทนุ และค่าน้ำคา่ ไฟฟ้าทีใ่ ช้ในการผลติ สตอเบอร์รี่โยเกริ ต์ 18
4.1.5 แสดงการวเิ คราะห์ขอ้ มลู คา่ รถและค่าเดนิ ทางที่ใช้ในการ 18
19
ผลติ สตอเบอร์รโี่ ยเกิร์ต 19
4.1.6 แสดงข้อมลู สินทรัพย์และค่าเสอื่ มราคาอปุ กรณ์ 20
4.1.7 แสดงขอ้ มูลคา่ ใช้จา่ ยในการผลติ สตอเบอรร์ ีโ่ ยเกิร์ต 20
4.1.8 แสดงข้อมูลตน้ ทนุ ในการผลิตสตอเบอร์รโี่ ยเกริ ต์ 21
4.1.9 แสดงต้นทนุ ของราคาตอ่ ชนิ้ ของผลติ ภัณฑส์ ตอเบอรร์ ่ีโยเกริ ต์ 22
4.1.10 แสดงกำไรขนั้ ต้นทนุ ในการผลิตสตอเบอร์รีโ่ ยเกริ ต์ 22
4.1.11 แสดงการคำนวณหาอตั ราผลตอบแทนในการผลติ สตอเบอรร์ ่ีโยเกริ ต์ 23
4.2.1 แสดงจำนวนและคา่ ร้อยละของสถานภาพทัว่ ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม 23
4.2.2 แสดงจำนวนและคา่ ร้อยละของสถานภาพทั่วไปของผตู้ อบแบบสอบถาม
4.2.3 แสดงจำนวนและคา่ ร้อยละของอายขุ องผตู้ อบแบบสอบถาม 24
4.2.4 แสดงจำนวนและค่าร้อยละของอาชพี ผตู้ อบแบบสอบถาม 25
4.3 แสดงค่าเฉลี่ยและสว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐานความคดิ เหน็ บรโิ ภคเก่ยี วกบั

ปัจจัยท่ีมผี ลต่อการบริโภคสตอเบอร์ร่ีโยเกริ ์ต
4.4 ขอ้ มูลท่เี กย่ี วกบั การผลติ สตอเบอรร์ ่โี ยเกิรต์

ง

สารบญั ภาพ หน้า
ภาพท่ี 32
33
1. ภาพการสง่ เวบ็ ไซตใ์ นการผลิตสตอเบอรร์ ีโ่ ยเกิร์ต 42
2. ภาพการสง่ เวบ็ ไซต์ให้นักศึกษาตอบแบบสอบถามออนไลน์ 42
3. ภาพวสั ดุ อปุ กรณ์ที่ใช้ในการผลิตสตอเบอร์รโ่ี ยเกริ ์ต 43
4. นำนมและโยเกริ ์ตตง้ั ไฟจนเดือด และแช่ตู้เยน็ ไว้ 1 ช่วั โมง 43
5. เทน้ำเช่ือม และสตอเบอร์ร่ีแช่แข็งลงในโถปนั่ 44
6. ปั่นสตอเบอร์รีแ่ ละสว่ นผสมทั้งหมดจนเปน็ เนือ้ ละเอยี ดเดียวกนั 44
7. นำสตอเบอร์ร่ีทปี่ ่นั ไปแช่แขง็ ท้งิ ไว้ 1 คนื 45
8. ตกั เน้อื สตอเบอร์รี่แชง่ แข็งใส่ภาชนะ 45
9. ตกแตง่ เพมิ่ ความนา่ รบั ประทาน 46
10. ภาพสนิ ค้าพร้อมจำหนา่ ย 46
11. ภาพจำหน่ายสินคา้ 63
12. ภาพจำหน่ายสินค้า 63
13. ภาพพบครวู ิชาโครงงาน วันที่ 15 กนั ยายน 2564 64
14. ภาพพบครูวชิ าโครงงาน วันที่ 15 กนั ยายน 2564 64
15. ภาพพบครูทีป่ รกึ ษาโครงงาน วันท่ี 15 กันยายน 2564
16. ภาพพบครูที่ปรึกษาโครงงาน วันที่ 15 กนั ยายน 2564

จ

บทท่ี 1

บทนำ

1.1 ความเป็นมาและความสำคัญของปญั หา

สตรอว์เบอร์รี่โยเกิร์ตเป็นเครื่องดื่มที่ทำจากผลไม้ ล้วนเป็นเมนูเพิ่มความสดชื่น เมนูน้ี
เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมในช่วงฤดูร้อนหรือในวันที่สภาพอากาศร้อนจัด มีส่วนประกอบ คือ
สตรอว์เบอร์รีโ่ ยเกิร์ต อาจมีการโรยหน้าด้วยเกล็ดช็อกโกแลตหรือขนมต่าง ๆ สตรอว์เบอร์รี่โยเกริ ต์
มรี สชาติ อมเปรีย้ วอมหวานสามารถดับรอ้ นได้เป็นอย่างดี หากเรารับประทานโยเกริ ต์ ทุก ๆ วันเป็น
เวลาติดกันหลายวันโยเกิร์ตสามารถช่วยเรื่อง 1.อาการท้องผูกโยเกิร์ตมีแบคทีเรียที่ดีต่อลำไส้จึง
สามารถช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายให้ดีขึ้นช่วยกระตุ้นภายในลำไส้ทำใ ห้ขับถ่าย
คล่อง ในทกุ ๆ เชา้ แลว้ โยเกิรต์ ยังช่วยแก้อาการท้องเสียการตดิ เชื้อบรเิ วณลำไส้ได้อีกด้วย 2.เช้ือรา
ใน ช่องคลอดในโยเกิร์ตนั้นประกอบไปด้วยจุลินทรีย์ที่สามารถช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์และ
ประกอบไปด้วยสารโปรไบโอติก ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่ช่วยลดการเพิ่มจำนวนของเชื้อราในช่องคลอด
3.ช่วยกระตุ้นการแลคโตบาซิลัสในโยเกิร์ต เป็นจุลินทรีย์ที่ร่างกายต้องการซึ่งจะไปช่วยหยุดการ
เจริญเติบโตของเชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ เอชไพโลไร ที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะลดการอักเสบ ของลำไส้
ทำงานลำไส้และป้องกันโรคกระดูกพรุนโดยเฉพาะกับผู้ใหญ่ทีอ่ ยู่ในวัยกลางคนจนถึงวัยสูงอายุไดเ้ ปน็
อย่างดี

สตรอว์เบอร์รี่อุดมไปด้วยวิตามินซีและธาตุเหล็กทำให้ขับถ่ายคล่องระบบทางเดินอาหาร
ทำงานไดด้ ี ซึง่ ในปัจจบุ ันประเทศไทยมีสภาพอากาศทีร่ ้อนคนสว่ นใหญ่นิยมเลือกเคร่ืองด่ืมที่มีรสชาติ
หวานเย็นสดชื่นและมีประโยชน์ต่อร่างกาย ราคาสามารถจับต้องได้หาซื้อง่ายตามท้องตลาด เรามี
ความคิดที่จะนำสตรอว์เบอร์รี่สดมาแปรรูปเป็นเครื่องดื่ม เช่น นมสดสตรอว์เบอร์รี่ สตรอว์เบอร์ร่ี
โยเกริ ต์ เพอ่ื ตอบสนองความตอ้ งการของผบู้ รโิ ภค โดยเฉพาะกลุ่มวยั รุน่ วยั กลางคน และผูส้ งู อายุ

จากปัญหาดังกล่าวคณะผู้จัดทำมีความสนใจและมองเห็นช่องทางธุรกิจที่จะทำเรื่อง
การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการทำสตรอว์เบอร์รี่โยเกิร์ต เพื่อตอบสนองความต้องการ
ของผู้บริโภค ดังนั้น ในการศึกษาครั้งนี้จึงหวังที่จะศึกษาความเป็นไปได้ของโครงงานเป็นแนวทาง
ในการวางกลยุทธ์ทางการตลาดให้เหมาะสมความพึงพอใจและพฤติกรรมของผู้บริโภคในการศึกษา
ครั้งนี้จะให้ความสำคัญกับปัจจัยเหล่านี้เปน็ หลัก เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผูบ้ ริโภคตัดสินใจ
เลอื กทานอีกด้วย

2

1.2 วตั ถุประสงค์การศกึ ษา

1.2.1 เพ่ือศกึ ษาตน้ ทนุ และผลตอบแทนจากการทำสตรอว์เบอรร์ โ่ี ยเกิร์ต
1.2.2 ทำให้ทราบถึงผลกำไรขาดทนุ จากการทำสตรอวเ์ บอร์ร่โี ยเกริ ์ต
1.2.3 เพือ่ ความพึงพอใจของผบู้ รโิ ภคทีม่ ตี ่อการบรโิ ภคสตรอวเ์ บอร์รีโ่ ยเกริ ต์

1.3 ขอบเขตของการศกึ ษา

1.3.1 ด้านตัวแปร

-
1.3.2 ดา้ นเนือ้ หา

การวิจัยครง้ั นี้ เปน็ การศึกษาตน้ ทุนและผลตอบแทนในการทำสตรอวเ์ บอรร์ ่ีโยเกริ ์ต
เพือ่ จำหนา่ ยท่ผี ้วู จิ ยั ไดศ้ ึกษาการผลิตสตรอวเ์ บอรร์ ่โี ยเกริ ต์

1. ศกึ ษาและทดลองผลิตสตรอวเ์ บอร์ร่ีโยเกิร์ตเพื่อจำหน่าย
2. การวิจัยครง้ั นเ้ี ป็นการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลติ สตรอวเ์ บอร์รี่

โยเกริ ์ต
1.3.3 ด้านเวลา

พฤษภาคม - สงิ หาคม 2565
1.3.4 แบบร่าง (ถ้ามี)

-

1.4 นยิ ามศพั ทเ์ ฉพาะ

ต้นทุน หมายถึง ต้นทุนทั้งสิ้นที่ใช้ในการซื้อวัตถุดิบสตรอว์เบอร์รี่โยเกิร์ต แล้วนำมา
แปรรูปให้เป็นสตรอวเ์ บอร์รโ่ี ยเกริ ์ตพรอ้ มจำหนา่ ย

ผลตอบแทน หมายถึง อัตรากำไรต่อทุน อัตรากำไรต่อยอดขาย อัตราผลตอบแทน
จากเงินลงทุนและอัตราผลตอบแทนจากสนิ ทรพั ย์

บทที่ 2

เอกสารงานวิจยั ทเี่ กย่ี วขอ้ ง

การศกึ ษาในคร้งั น้ี เป็นการศึกษาตน้ ทนุ และผลตอบแทนในการผลติ สตอเบอร์รโ่ี ยเกิร์ต
เพ่อื ทำจำหนา่ ย ผู้จัดทำโครงงานไดศ้ ึกษาหลักการ แนวคิด ทฤษฎี และงานวจิ ยั ท่เี กีย่ วข้องดังน้ี

2.1 หลกั การแนวคดิ ทเ่ี กี่ยวกบั ต้นทุน
2.2 หลักการแนวคิดท่ีเก่ียวกับผลตอบแทน
2.3 งานวิจยั เกีย่ วขอ้ ง
2.4 กรอบแนวคดิ ในการศกึ ษา

2.1 หลักการแนวคดิ ทเี่ กย่ี วกบั ต้นทนุ

ต้นทุน (Cost) หมายถึง มูลค่าของทรัพยากรที่องค์กรใช้ประโยชน์เพื่อให้บรรลุ
วัตถุประสงค์ตามที่ได้กำหนดไว้ เช่น ต้นทุนของวัตถุดิบและแรงงานที่เกิดขึ้นเพื่อผลิตสินค้าหรือ
บริการ และเมื่อต้นทุนได้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจแล้ว ต้นทุนส่วนนั้นจะเปลี่ยนสภาพไปเป็น
คา่ ใชจ้ ่าย (Expense) ซง่ึ จะนำไปหกั จากรายได้ในแต่ละงวดบญั ชี

ต้นทุนการผลิต คือ ต้นทุนที่ทำให้ได้สินค้าสำเร็จรูปใด ๆ ประกอบด้วย วัตถุดิบทาง
ตรงทเ่ี บิกใชใ้ นการผลิต แรงงานทางตรงทเ่ี กีย่ วข้องกบั กระบวนการผลิตและคา่ ใช้จ่ายในการผลิตเมื่อ
ท้ัง 3 สว่ นประกอบ ไดเ้ ข้าส่ขู ้ันตอนต่าง ๆ ของการผลติ ก็จะถูกแปรสภาพเป็นสนิ ค้าสำเร็จรูปต่อไป

การจำแนกประเภทต้นทนุ แบง่ ออกเปน็ 6 ประเภท ไดแ้ ก่
2.1.1 การจำแนกตน้ ทนุ ตามระยะเวลา
2.1.2 การจำแนกตน้ ทุนตามลักษณะการดำเนินงาน
2.1.3 การจำแนกตน้ ทนุ ตามส่วนประกอบของผลติ ภณั ฑ์
2.1.4 การจำแนกต้นทุนตามปรมิ าณกจิ กรรม
2.1.5 การจำแนกต้นทุนตามลักษณะของความรับผิดชอบ
2.1.6 การจำแนกตน้ ทุนเพอ่ื ตัดสนิ ใจ

ซึง่ มีรายละเอียดของการจำแนกต้นทนุ แตล่ ะประเภท ดังตอ่ ไปน้ี

4

2.1.1. การจำแนกตน้ ทุนตามระยะเวลา
เป็นการพิจารณาตน้ ทุนในการจดั หาสินทรัพยแ์ ละบริการต่าง ๆ ซึง่ จะต้องสัมพันธ์

กับระยะเวลาในการดำเนนิ ธุรกจิ ของกจิ การโดยสามารถแบ่งต้นทุนออกไดเ้ ป็น 3 ประเภท คือ
1) ต้นทุนที่เกิดขึ้นในอดีต (Historical Cost) คือต้นทุนที่เกิดขึ้นเมื่อได้มาซึ่ง

สินทรัพย์หรือบริการต่าง ๆ และกิจการได้จ่ายชำรพเงินสดสินทรัพย์อื่นใดหรือรายการเทียบเท่าเงิน
สดโดยปกติจำใช้ต้นทุนประเภทนี้ในการบันทึกบัญชรประกอบกับการจัดทำงบการเงิน แต่ไม่นิยม
นำไปใช้ประกอบการเปล่ียนแปลงไปตามกาลเวลา

2) ต้นทุนทดแทนหรือต้นทุนเปลี่ยนแทน (Replacement Cost) คือต้นทุนที่
จ่ายไปเพื่อใช้ในการจัดการสนิ ทรัพย์มาเปล่ียนแทนหรือทดแทนสินทรัพย์ท่ีจัดหามาน้ันตอ้ งมีลักษณะ
คล้ายคลึงกับสินทรัพย์เดิมเพื่อนำมาเปรียบเทียบต้นทุนประกอบ การตัดสินใจในการเลือกทางเลือก
ต่าง ๆ ว่าควรแทนหรือปรับปรุงสินทรัพย์ที่มีอยู่เดิมหรือควรซื้อสินทรัพย์ใหม่เพื่อทดแทนสินทรัพย์
เพ่ือโดยเปรยี บเทยี บจากราคาตลาดสนิ ทรัพยน์ ั้น ๆ

3) ต้นทุนในอนาคต (Future Cost) คือต้นทนุ ทคี่ าดว่าจะเกิดข้ึนในอนาคตเม่ือ
กิจการต้องตัดสินใจเลือกโครงงานใดหนึ่งในอนาคตซึ่งกิจการต้องพยากรณ์ต้นทุนที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
เพื่อใช้ในการตัดสินใจเลือกลงทุนในโครงงานจากแนวโน้มของต้นทุนจริงในอดีตหรือจากระบบ
งบประมาณของกิจการ

2.1.2 การจำแนกตน้ ทุนตามลกั ษณะการดำเนินงาน
เปน็ การพจิ ราณาตน้ ทนุ ท่เี กดิ จากการดำเนนิ งานหรือปฏิบัตงิ านของธรุ กจิ ซึ่งแบ่ง

ได้ 2 ประเภทใหญ่ ๆ ดงั ตอ่ ไปน้ี
1) ตน้ ทนุ การผลิต (Manufactring Cost) คอื ต้นทุนท่เี กดิ ขน้ึ ท้งั หมดในกระบวน

การผลิตเพอื่ แปรสภาพวัตถุดิบให้เปน็ สนิ ค้าซ่ึงปกติต้นทุนการผลิตจะเกดิ ข้นึ ในธรุ กิจผลติ สินค้าเท่านั้น
เชน่ วัตถุดบิ ทางตรงค่าแรงทางตรงและค่าใชจ้ า่ ยในการผลิตเปน็ ตน้

2) ต้นทุนทีไ่ มเ่ กี่ยวข้องกับการผลิต (Nommaunfacturing Cost) คือต้นทุนอื่น
ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้าซึ่งจำแนกโดยพิจารณาตามหน้าที่หรือลักษณะของการปฏิบัติงาน
ดังนี้

2.1) ต้นทุนในการจัดซื้อสินค้าหรือการจัดหาสินค้า (Merchandise Cost)
ซ่ึงเป็นตน้ ทนุ ในการจดั หาสินค้าเชน่ คา่ ขนส่งขาเขา้ เปน็ ต้น

2.2) ต้นทุนทางการตลาด (Marketing Cost) เป็นต้นทุนที่เกิดจากการ
ส่งเสริมการขายหรือแนะนำผลิตภณั ฑเ์ ข้าสู่ตลาดเช่นค่าโฆษณาประชาสมั พันธเ์ ป็นต้น

2.3) ต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายในการบริหาร (Airministretive Cost of
Expornse) เป็นต้นทุนจากการบรหิ ารงานโดยรวมเช่นเงินเดอื นฝ่ายบริหารค่าใช้จา่ ยแผนกบัญชี

2.4) ตน้ ทุนทางการเงนิ (Financing Cost) คือต้นทุนจากการจัดหาเงินทุน
มาดำเนนิ งานเช่นดอกเบ้ยี คา่ ธรรมเนียมต่าง ๆ เป็นตน้

2.5) ต้นทุนในการว ิจั ย แล ะ พัฒ นาผล ิตภั ณฑ์ (Research and
Development Cost) เป็นต้นทุนจากการวิจัยหาสินค้าใหม่ ๆ หรือพัฒนาสินค้าที่มีอยู่ให้ทันสมัย

5

จากเดิมเพื่อตอบสนองความต้องการของทางการของทางการตลาดของลูกค้า เช่นเงินเดือนนักวิจัย
และผ้เู ช่ยี วชาญ เปน็ ต้น

2.1.3 การจำแนกตน้ ทนุ ตามสว่ นประกอบของผลิตภณั ฑ์
ส่วนประกอบของต้นทุนท่ีใช้ในการผลิตสินค้าหรือผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด (Cost of

a Manufactured Product) จะประกอบด้วยวัตถุดิบทางตรง ค่าแรงทางตรง และค่าใช้จ่ายใน
การผลติ ซง่ึ ถา้ พจิ ารณาในดา้ นทรัพยากรท่ีเปน็ สว่ นประกอบของสนิ คา้ แลว้ ประกอบดว้ ย

1) วัตถุดิบ (Materials) วัตถุดิบนบั ว่าเป็นสว่ นประกอบสำคญั ของการผลิตสนิ คา้
หรือผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปโดยทั่วไป ซึ่งต้นทุนที่เกี่ยวกับการใช้วัตถุดิบในการผลิตสนิ ค้าอาจจะถูกแบง่
ออกเปน็ 2 ลักษณะ คอื

2.1) วัตถุดิบทางตรง (Direct materials) หมายถึง วัตถุดิบหลักที่ใช้ใน
การผลิตและสามารถระบไุ ด้อย่างชัดเจนว่าใช้ในการผลิตสินค้าชนิดใดชนดิ หน่ึงในปริมาณและต้นทนุ
เทา่ ใด รวมทงั้ จดั เป็นวตั ถุดบิ สว่ นใหญ่ท่ีใชใ้ นการผลติ สินคา้ ชนิดนัน้ ๆ เช่น ไมแ้ ปรรปู จัดเป็นวตั ถดุ ิบ
ทางตรงของผลิตเฟอร์นิเจอร์ ผ้าที่ใช้ในอุตสาหกรรมเสื้อผ้า ยางดิบที่ใช้ในการผลิตยางรถยนต์ แร่
เหล็กที่ใชใ้ นอตุ สาหกรรมลงุ เหล็ก กระดาษท่ใี ชธ้ รุ กิจส่งิ พิมพ์ เปน็ ต้น

2.2) วัตถุดิบทางอ้อม (Indirect materials) หมายถึง วัตถุดิบต่าง ๆ ท่ี
เกี่ยวข้องโดยทางอ้อมกับการผลติ สินค้า แต่ไม่ใช่วัตถุดิบหลกั หรือวัตถุดบิ ส่วนใหญ่ เช่น ตะปู กาว
กระดาษทรายที่ใชเ้ ปน็ สว่ นประกอบของการทำเครื่องหนงั หรือเฟอร์นิเจอร์ นำ้ มันหล่อล่ืนเครื่องจักร
เส้นด้ายที่ใช้ในการตัดเย็บเสื้อผ้า เป็นต้น โดยปกติแล้ววัตถุดิบทางอ้อมอาจจะถูกเรียกว่า
“วัสดุโรงงาน” ซงึ่ จะถอื เปน็ ค่าใช้จา่ ยการผลติ ชนิดหน่ึง

2) ค่าแรงงาน (Labor) หมายถึง ค่าจ้างหรือผลตอบแทนที่จ่ายให้แก่ลูกจ้าง
หรือคนงานที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้า โดยปกติแล้วค่าแรงงานจะถูกแบ่งออกเป็น 2
ชนดิ คือ คา่ แรงงานทางตรง (Direct labor) และแรงคา่ แรงงานทางอ้อม (Indirect labor)

2.1) คา่ แรงงานทางตรง (Direct labor) หมายถงึ ค่าแรงานท่ไี ม่เก่ยี วข้อง
กับค่าแรงงานทางตรงที่ใช้ในการผลิตสินค้า เช่น เงินเดือนผู้ควบคุมโรงงาน เงินเดือนพนักงานทำ
ความสะอาดเครื่องจักรและโรงงาน พนักงานตรวจสอบคุณภาพ ช่างซ่อมบำรุง ตลอดจนต้นทุนที่
เกี่ยวข้องกับคนงงาน เช่น ค่าภาษีที่ออกให้แก่ลูกจ้าง สวัสดิการต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งค่าแรงงาน
ทางอ้อมเหล่านี้จะถือเป็นส่วนหนึ่งของค่าใช้จ่ายการผลิตค่าใช้จ่ายผลิต (Manufacturing
Overhead)

2.2) ค่าแรงงานทางอ้อม (Indirect labor) หมายถึง ค่าแรงงานที่ไม่
เกี่ยวข้องกับค่าแรงงานทางตรงที่ใช้ในการผลิตสินค้า เช่น เงินเดือนผู้ควบคุมโรงงาน เงินเดือน
พนักงานทำความสะอาดเครื่องจักร และโรงงาน พนักงานตรวจสอบคุณภาพ ช่างซ่อมบำรุง
ตลอดจนต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับคนงาน เช่น ค่าภาษีที่ออกให้ลูกจ้าง สวัสดิการต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่ง
คา่ แรงงานทางอ้อมเหลา่ นจ้ี ะถือเปน็ สว่ นหน่งึ ของคา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ (Manufacturing Overhead)

3) คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ หมายถึง แหล่งรวบรวมคา่ ใชจ้ ่ายตา่ ง ๆ ท่เี กยี่ วข้องกับการ
ผลิตสินค้าซึ่งนอกเหนือจากวัตถุดิบทางตรง ค่าแรงงานทางตรง เช่น วัตถุดิบทางอ้อม ค่าแรงงาน
ทางอ้อม ค่าใช้จ่ายในการผลิตทางอ้อมอื่น ๆ ได้แก่ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่า ค่าเสื่อมราคา ค่า

6

ประกันภัย ค่าภาษี เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายเหล่านี้ก็จะต้องเป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการ
ดำเนนิ การผลิตในโรงงานเทา่ น้นั ไมร่ วมถงึ เงินเดอื น คา่ เช่า คา่ ไฟฟา้ คา่ เส่อื มราคา ท่เี กิดขน้ึ จาก
การดำเนินงานในสำนักงาน ดังนั้น ค่าใช้จ่ายการผลิตจึงถือเป็นที่รวมของค่าใช้จ่ายในการผลิต
ทางอ้อมต่าง ๆ (Cost pool of indirect manufacturing costs) นอกจากนี้ยังจะพบว่าในบาง
กรณีก็มีการเรียกค่าใช้จ่ายในการผลิต ในชื่ออื่น ๆ เช่น ค่าใช้จ่ายโรงงาน (Factory Overhead)
โสหุ้ยการผลติ (Manufacturing Burden) ต้นทนุ การผลติ ทางอ้อม (Indirect Costs) เป็นตน้

2.1.4 การจำแนกต้นทนุ ตามปริมาณกจิ กรรม
การจำแนกต้นทุนตามปริมาณกิจกรรมเป็นการพิจารณาต้นทุนที่เกิดจากการ

ดำเนินงานหรือปฏิบตั ิงานของหน้าท่ีงานต่าง ๆ โดยปกตแิ ล้วจะสามารถแบ่งหน้าท่ีงานในกิจการต่าง
ๆ ออกเป็น 4 หนา้ ท่งี าน คือ การผลติ การตลาด การบริหาร การเงิน ดงั นนั้ ตน้ ทุนท่ีจะเกิดข้ึน
ในหนา้ ที่งาน ตา่ ง ๆ กค็ อื

1) ต้นทุนที่เกี่ยวกับการผลิต (Manufacturing costs) ได้แก่ต้นทุนที่มี
ความสัมพันธก์ ับการผลิต คอื วตั ถุดบิ ทางทางตรง ค่าแรงงงานทางตรง และคา่ ใช้จ่ายการผลิต

2) ต้นทุนที่เกี่ยวกับการตลาด (Marketing costs) หมายถึง ต้นทุนต่าง ๆ ที่
เกีย่ วกบั การส่งเสรมิ การจำหนา่ ยสนิ คา้ หรือบริการ ค่าโฆษณา คา่ นายหน้าพนกั งานขาย

3) ต้นทนุ ทีเ่ กีย่ วกบั การบริหาร (Administrative costs) ไดแ้ ก่ ตน้ ทุนทเี่ กิดขึ้น
ในลักษณะที่เกี่ยวกับการสั่งการ การควบคุม และการดำเนินงานของกิจการ นอกจากนี้ยังรวมถึง
เงนิ เดอื นของผบู้ รหิ ารและพนกั งานในแผนกต่าง ๆ ท่ีไมเ่ ก่ียวกับแผนกผลติ แผนกขาย

4) ต้นทุนการเงิน (Financial costs) หมายถงึ ตน้ ทุนทีเ่ กดิ ขึ้นอนั เนื่องจากการ
จดั หาเงินทนุ หรอื การบรหิ ารเงินทุนของกจิ การ เชน่ ค่าดอกเบย้ี ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เปน็ ตน้

2.1.5 การจำแนกต้นทุนตามลกั ษณะของความรบั ผดิ ชอบ

1) ต้นทนุ ทค่ี วบคมุ ได้ หมายถึง ตน้ ทุนหรือค่าใชจ้ า่ ยท่สี ามารถระบุไดห้ รือกำหนด
ได้ว่าหน่วยงานใดหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง กล่าวอีกในนึงก็คือ มีอำนาจ
หน้าที่ หรือมีความสามารถที่จำทำให้ต้นทุนจำนวนนั้นเพิ่มขึ้น หรือ ลดลงจากการตัดสินใจของตน
ซึ่งถ้าจะพิจารณาให้มมากขึ้นก็พอที่จะสรุปได้ว่า ต้นทุนที่ควบคุมได้ในหน่วยงานหรือผู้บริหารคนใด
คนหนงึ่ ก็อาจจะเปน็ ตน้ ทนุ ทค่ี วบคุมไมไ่ ดใ้ นอกี หนว่ ยงานหรือผบู้ ริหารอีกคนหน่ึงก็ได้

2) ต้นทุนที่ควบคุมไม่ได้ หมายถึง ต้นทุน หรือค่าใช้จ่ายที่ไม่อยู่ภายใต้อำนาจ
หน้าท่ี ที่หน่วยงานหรือผู้บริหารในระดับนั้น ๆ จะควบคุมไว้ได้นั้นคือไม่สามารถที่จะกำหนดต้นทุน
ประเภทนีใ้ หเ้ พ่ิมข้ึนหรือลดลงได้โดยปกตติ ้นทนุ ท่ีควบคมุ ไม่ได้ของผู้บรหิ ารระดับลา่ งที่มักจะเกิดจาก
การตัดสินใจของผู้บรหิ ารระดบั สูง

2.1.6 การจำแนกตน้ ทุนเพ่อื การตดั สนิ ใจ
ในการดำเนินธุรกิจผู้บรหิ ารมักจะต้องประสบปัญหาตา่ ง ๆ มากมายและท่ีสำคัญก็

คือ ผู้บริหารจะต้องพยายามทำการตัดสินใจแก้ไขปัญหา หรือเลือกทางที่ดีที่สุด ข้อมูลทางด้าน
ต้นทนุ ทเี่ ข้ามามบี ทบาทในการตัดสนิ ใจมักจะถูกจำแนกเป็น

7

1) ต้นทุนจม (Sunk Cost) หมายถึง ต้นทุนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ (Unavoidable
Cost)หรือไม่สามารถที่จะทำการเปลี่ยนแปลงได้ไม่ว่าผู้บริหารจะทำการตัดสินใจอย่างไร ดังนั้น
ตน้ ทุนจมจงึ เป็นต้นทุทีเ่ กดิ ข้ึนจากการตดั สนิ ใจในอดีต ซึ่งจะไม่มีผลกระทบตอ่ การตดั สนิ ใจในปัจจุบัน
เช่น ค่าเช่าที่เป็นสญั ญาเช่าระยะยาว ค่าเสือ่ มราคาสินทรัพยป์ ระจำ เป็นต้น ถึงแม้วา่ ตน้ ทุนจมจะ
ไม่มีผลต่อการตัดสินใจในปัจจุบัน แต่ผู้บริหารก็ควรที่จะทำการตัดสินใจเลือกทางเลือกที่สามารถใช้
ประโยชนจ์ ากต้นทนุ จมให้ได้มากท่ีสดุ เท่าท่ีเป็นไปได้

2) ตน้ ทนุ ทหี่ ลีกเล่ียงได้ (Avoidable Cost) หมายถงึ ตน้ ทนุ ทสี่ ามารถประหยดั
ได้จากการตัดสินใจเลือกทางใดทางหนึ่ง ต้นทุนที่หลีกเลี่ยงได้มักมีบทบาทสำคัญต่อการตัดสินใจของ
ผบู้ รหิ ารเสมอ

3) ตน้ ทนุ เสยี โอกาส (Opportunity Cost) คอื ผลประดยชน์หรือผลตอบแทน
ที่กิจการจะได้รับจากการตัดสินใจเลือกทางเลือกหนึง่ แต่กับต้องสูญเสียไปจากการที่เลือกตัดสินใจใน
อีกทางเลือกหนึ่ง เช่น ถ้ากิจการมีเงินจำนวนหนึ่งและสามารถนำไปฝากธนาคารได้ดอกเบี้ยปีละ
20,000 บาท แต่ถ้ากิจการต้องการนำเงินที่มีอยู่นั้นไปลงทุนทำธุรกิจ การที่กิจการเลือกลงทุนทำ
ธุรกิจทำให้สูญเสียดอกเบี้ยที่จะได้รับ 20,000 บาท ถือว่าถ้ากิจการเลือกทำธุรกิจก็จะมีต้นทุนเสีย
โอกาสเกิดขึ้น 20,000 บาท โดยปกติต้นทุนเสียโอกาสจะไม่มีการบันทึกลงบัญชีของกิจการ
เพราะมไิ ด้เป็นตน้ ทนุ ท่เี กดิ ขน้ึ จริง แตเ่ ป็นต้นทุนทีถ่ ูกสมมตุ ิเพ่ือการตัดสนิ ใจ

4) ต้นทุนส่วนที่แตกต่าง (Differential Cost) หมายถึง ต้นทุนที่เกิดการ
เปลีย่ นแปลงไปจากการตัดสนิ ใจเลือกกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งอาจจะเปล่ียนแปลงในทางเพ่ิมขึ้น
หรือลดลงทีไ่ ด้ (Incremental Cost or Decremental) โดยปกติต้นทุนประเภทน้ีจะเกดิ ก็ต่อเม่ือ
มีการเปลี่ยนแปลงวิธีการปฏิบัติแบบเดิม มาเป็นวิธีการปฏิบัติแบบใหม่ เช่น ถ้าผู้บริหารกำลัง
ตัดสินใจว่าควรที่จะซื้อเครื่องจักรรุ่นใหม่ เข้ามาทำการผลิตแทนเครื่องจักรเก่าที่มีอยู่หรือไม่ทั้งนี้
เครื่องจักรใหม่อาจจะต้องลงทุนสูง แต่ก็สามารถที่จะประหยัดต้นทุนผันแปรต่อหน่วยลงไปได้
ซึ่งผู้บริหารจะต้องทำการตัดสินใจโดยพิจารณาจากต้นทุนส่วนที่แตกต่างรวมสุทธิ (Net Total
Differential Cost)

5) ต้นทุนเพิ่มต่อหน่วย (Marginal Cost) หมายถึง ต้นทุนที่จะเพิ่มจากการ
ผลิตเพิ่มขึ้นหนึง่ หน่วย ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกบั ต้นทุนส่วนเพิ่ม (Incremental Cost) แต่ต้นทุน
ส่วนเพิ่มต่อหน่วยเป็นการพิจารณาส่วนที่เพิ่มจากการเพิ่มผลติ เพียง 1 หน่วย ตามที่กล่าวแล้วชว่ ย
ผบู้ รหิ ารตัดสินใจไดเ้ ชน่ กนั

8

2.2 หลกั การแนวคิดเกีย่ วกบั ผลตอบแทน

การวิเคราะห์การลงทุนและผลตอบแทนจากการลงทุนของโครงการใด ๆ โดยเป็นการ
เปรียบเทียบผลตอบแทนและต้นทุนของโครงการนั้นๆซึ่งผลตอบแทนและต้นทุนของโครงการ
จะเกิดขึ้นในเวลาต่าง ๆ กันตลอดอายุของโครงการ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการปรับค่าของเวลาของ
โครงการเพื่อให้ได้มาซึ่งผลตอบแทนที่ได้รับและต้นทุนที่เสียไปในช่วงระยะเวลาที่ต่างกันให้เป็นเวลา
ปัจจุบันก่อนแล้วจึงจะสามารถทำการเปรียบเทียบกันได้อย่างถูกต้องแน่นอนชัดเจนมากยิ่งข้ึน
(เสถียรศรี บุญเรื่อง 2542) การวิเคราะห์ทางดา้ นการเงินเปน็ การวเิ คราะหค์ ่าใช้จ่ายหรือเงินลงทุน
และผลตอบแทนหรือ ผลกำไรทางการเงินของรายงานโครงการ เพื่อวิเคราะห์ว่างโครงการที่จัดทำ
ขึ้นนั้นมีความคุ้มค่ากับการลงทุน หรือไม่โดยทั่วไปแล้วแบางการวิเคราะห์เป็น 2 ประเภท คือ
1) การวิเคราะห์โดยไม่มีการคิดลด (Undiscovered Approach) คือการวัดค่าของต้นทุน และ
ผลตอบแทนจากโครงการ โดยไม่คำนึงถงึ ว่าเงินท่ีไดม้ าหรอื ใช้ไปในช่วงเวลาทตี่ ่างกัน เชน่ เงินสดรับ
ในปีที่ 1 จำนวนหนึ่งกับเงินจำนวนเดียวกันนี้ที่จำได้รับในปีที่ 5 จะถือว่ามีมูลค่าที่เท่ากันการ
วิเคราะห์วิธีนี้ เช่น การหาระยะเวลาคืนทุน (Playback Period) ซึ่งเป็นการคำนวณนับจาก
จุดเริ่มต้นโครงการจะใช้ระยะเวลาอีกเท่าไร จึงจะมีกระแสเงินสดรับสุทธิจากโครงการรวมกัน
เท่ากับ มูลค่าในการลงทุน (Total Investment) 2) วิธีการวิเคราะห์โดยมีการคิดลด
(Discounted Approach) วิธีการวิเคราะห์โดยมีการคิดลดเป็นวิธการวัดค่าของผลตอบแทนและ
ต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายที่เกิดจากโครงการโดยคำนึงถึงค่าเสียโอกาส ผ่านวิธีการคิดลด (Discounted
Method) ซึ่งวิธีที่นิยมใช้ ได้แก่ มูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) อัตราตอบแทนภายในจากการลงทุน
(IRR) วตั ถุประสงคข์ องการวเิ คราะหท์ างการเงนิ โดยท่ัวไปการวเิ คราะห์ทางการเงิน มีวัตถุประสงค์
4 ประเภทดงั น้ี 1)เพ่ือประเมินความเปน็ ไปได้ทางการเงนิ วัตถุประสงค์สำคญั ของการวเิ คราะห์ทาง
การเงิน คือการประเมินความสามารถในการทำโครงการนั้นคือโครงการสามารถก่อให้เกิดรายได้ท่ี
คมุ้ ค่ากบั คา่ ใชจ้ ่ายตา่ ง ๆ และมีอัตราผลตอบแทนทดี่ ี การประเมนิ ส่วนน้จี ะต้องมีการประมาณต้นทุน
และผลตอบแทนท้ังสิ้น เพอื่ ศกึ ษา ผลสทุ ธิของโครงการ 2) เพ่ือประเมนิ แรงจูงใจการวเิ คราะห์ทาง
การเงินจะมีความสำคัญต่อการประเมินแรงจูงใจที่มีต่อเจ้าของโครงการและผู้มีส่วนร่วมกับโครงการ
หรือถ้าเป็นโครงการรัฐวิสาหกิจ ที่รัฐบาลให้การสนับสนุน ก็พิจารณาว่าผลตอบแทนที่ได้รับจะ
เพียงพอต่อการเลีย้ งตัวเอง และบรรลุวัตถุประสงคท์ างการเงินตามที่ต้องการหรือไม่ 3) เพื่อจัดให้มี
แผนการเงินที่ดีเพื่อให้โครงการมีกำไรและผลตอบแทนที่ดีก็จะต้องมีแผนการเงินที่ดีด้วยโดยเฉพาะ
การวางแผนจัดหาเงินทุนเพื่อให้ได้มาซึ่งเงนิ ทุนในจำนวนและในเวลาตามทีต่ ้องการโดยเสียค่าใชจ้ ่าย
ต่ำสุดรวมทั้งเพื่อให้ข้อเสนอแนะถึงวิธีการปรับปรุงความเป็นไปได้ทางการเงินของโครงงาน
โดยเฉพาะความเหมาะสมของอัตรา คา่ บรกิ ารราคา และปรมิ าณการผลิตท่ีคุ้มทุน 4) เพื่อประเมิน
ขีดความสามารถในการบริหารการเงินสำหรับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่มีการบริหารการเงินที่
สลบั ซบั ซอ้ นกจ็ ำเป็นต้องพิจารณาถึงระบบการจัดการด้านการเงนิ และความสามารถของผ้ทู ่ีจะบริหาร
การเงินด้วยในการนี้ก็อาจมีการพิจารณาว่าควรจะมีการปรับปรุง และเปลี่ยนแปลงองค์กรและการ
จัดการอย่างไร ควรจัดให้มีระบบการควบคุมและการตรวจสอบการเงินอย่างไรรวมทั้งการฝึกอบรม
ทกั ษะเฉพาะทางเร่ืองอะไร เพ่ือใหโ้ ครงงานเดินหน้าตอ่ ไป

9

2.3 เอกสารงานวิจยั ทเ่ี กี่ยวขอ้ ง

ผลสตรอว์เบอร์รี่พันธุ์พระราชทาน 80 มีรูปร่าง 7 แบบ ได้แก่ ทรงกลม ทรงกลม
ปลายแผลม ทรงแหลมทรงแหลมยาว ทรงยาวมีคอ ทรงลิ่มยาว และทรงลิ่มโดบพบว่าผลสตรอว์
เบอรร์ ่ีพันธ์พุ ระราชทาน 80 ทัง้ 3 ระยะพฒั นาสีผิวมีรูปร่างแบบทรงแหลม (conic) มากท่ีสุดซึง
มีค่าเท่ากับ 43.33% รองลงมาคือรูปร่างแบบทรงแหลมยาว (long conic) ซึ่งมีค่าเท่ากับ
15.33% สว่ นผลสตรอวเ์ บอรร์ ี่พันธ์ุ 329 พบว่าในทุกระยะการพัฒนาสีผิวผลพบการกระจายตัวของ
ลักษณะ สันนิษฐานวิทยาโดยมีรปู รา่ งทัง้ หมด 7 แบบ ได้แก่ ทรงกลมปลายแหลม ทรงแหลมยาว
ทรงยาวมีคอ ทรงลิ่มยาว และทรงลิม่ สนั้ รปู รา่ งผลแบบทรงลิ่มยาว (long wedge) เป็นลักษณะ
ที่พบมากที่สุด ซึ่งมีค่าเท่ากับ 28.67% รองลงมาคือ มีรูปร่างเป็นแบบทรงลิ่มสั้น อายุการเก็บ
รักษาผล สตรอว์เบอรร์ เ่ี ม่อื เก็บรักษาทอ่ี ณุ หภมู ิ 5 องศาเซลเซยี สผลสตรอวเ์ บอรร์ ่ีพันธ์ุ 329 มีอายุ
การเก็บรักษาเท่ากับ 11.89 วัน นอกจากนี้ผลสตรอว์เบอร์รี่ที่มีระยะการพัฒนาสีผิวเป็นสีแดง
เพิ่มขึ้นมีอายุการเก็บรักษาลดลง โดยระยะการพัฒนาของสีผิว 75% มีผลทำให้อายุการเก็บรักษา
ลดลงมากท่ีสุดและไมพ่ บอิทธิพลรว่ มระหวา่ งพันธ์ุและระยะการพัฒนาสผี ิวตอ่ อายุการเกบ็ รักษาผลสต
รอวเ์ บอร์รี่ (สุภาวดี ศรวี งษเ์ พ็ชร. 2557: 10)

ศึกษาประชากรสตรอว์เบอร์รี่ลูกผสมเพื่อเพิ่มศักยภาพในด้านปริมาณความหวานและ
ความแน่นเนื้อของผลโดยทำการผสมพนั ธส์ุ ตอเบอรร์ ่ี 2 สายพันธ์ุ (พันธพ์ุ ระราชทาน 80 และพันธุ์
329) โดยผสมทั้งเดียวกันและผสมระหว่างพันธุ์ดังนี้ (คู่ผสมที่ 1) : พันธุ์พระราชทาน 80 กับ
พันธุ์ 329 (คู่ผสมท่ี 2) : พนั ธ์ุ 329 กบั พนั ธุ์พระราชทาน 80 (คู่ผสมท่ี 3) : พนั ธ์พุ ระราชทาน
80 กับพันธ์ุพระราชทาน 80 (คู่ท่ี 4) : พันธ์ุ 329 กับพันธ์ุ 329 จากนั้นจึงนำเมล็ดที่มีอัตรา
การรอดชีวิตมาปลูกทดสอบภายในโรงเรือน ปลูกทดลองพบว่าทุกคู่ผสมมีอัตราการรอดชีวิตจำนวน
ทั้งหมด 305 ต้นจากนั้นจึงทำการคัดเลือกต้นที่แข็งแรงที่สุดพบว่าสามารถคัดเลือก สตรอว์เบอร่ี
ลูกผสมที่ศักยภาพในด้านปริมาณความหวานและความแน่นเนื้อของผลซึ่งสูงกว่าสายพันธุ์พ่อแม่ได้
จำนวนทั้งหมด 7 ต้น โดยพบว่า คู่ท่ี 4 LINE-5 มีอัตราส่วนระหว่างปริมาณของแข็งทั้งหมดท่ี
ละลายน้ำได้ตอบวิมานขุดทั้งหมดที่ใช้เทรดมากที่สุดเฉลี่ยเท่ากับ 10.84 และยังพบว่าคู่ผสมท่ี 1
LINE-8 มีความแน่นเนื้อมากที่สุดเฉลี่ยเท่ากับ 0.69 กิโลกรัม และเมื่อเปรียบเทียบในด้านการ
เจริญเติบโตทางด้านลำต้นและการสืบพันธุ์กบั ครูผสมอื่น ๆ พบว่า คู่ผสมดังกล่าวมีการเจริญเติบโต
ในระดับที่ดี ทั้งด้านความกว้างและความสูงทรงพุ่ม ซึ่งมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 30 และ 20 เซนติเมตร
จำนวนดอกเฉลย่ี เทา่ กบั 11 ดอกตอ่ ต้นและจำนวนผลผลิตเฉลี่ยเท่ากบั 7 และ 3 (องั คณา เทียน
กลำ่ . 2560: 11)

ทางการศึกษาในการผลิตผลสดสตรอว์เบอร์ร่ีนอกฤดู พบว่า การให้อุณหภูมิต่ำ 13 °C
และสภาพวันสัน้ (8 ชม.) เพือ่ ชกั นำการเกิดตาดอกแกต่ ้นไหล กอ่ นนำไปปลูกในแปลง สามารถเป็น
แนวทางวิธีการ ปฏิบัติที่จะทำให้ได้ผลผลิตที่เร็วและสูงขึ้นได้ในพันธุ์ Nyoho ต้นไหลที่ใช้นี้ได้จาก
การขยายพันธุ์แบบปกติทั่วไป ตั้งแต่วันท่ี 15 เดือนกันยายน 2541 โดยนำเข้าห้องเย็นท่ีอุณหภูมิ
คงท่ี 13 °C ในชว่ งเวลา 16.00 – 8.00 น. ทกุ วนั จนถึงวันปลกู ลงแปลง สว่ นใน Treatment ท่ี
4 และ 5 นั้นนำต้นไหลวางเรียงไว้กลางแจ้งและคลุมด้วย พลาสติกดำ ในช่วงวันและเวลาเหมือน

10

Treatment ท่ี 2 และ 3 ใน Treatment ท่ี 1 และ 6 วางเรียงตน้ ไหลไว้กลางแจง้ อยา่ งเดียว
พบวา่ ตน้ ไหลในทุก Treatment ไมม่ คี วามแตกต่างทางสถิตเิ มอื่ นำมาเปรียบเทียบกับ control แต่
Treatment ที่ 1 (ให้อุณหภูมิต่ำกับสภาพในวันสั้นก่อนปลูก และใส่เชื้อ Vesicular-arbuscular
mycorrhizae หลังปลูกมีแนวโน้มในภาพรวมทาให้ต้นมีการเจริญเติบโตที่ดีกว่า แสดงว่าพันธุ์
Nyoho ซง่ึ ให้อณุ หภมู ติ ่ำท่ี 13°C และสภาพวนั สนั้ เป็นเวลาสามสัปดาห์ก่อนย้ายปลูกนน้ั มแี นวโน้ม
การเจริญเติบโตและการให้ผลผลิตที่มากกว่า Control หรือการให้สภาพวันสั้นเพียงอย่างเดียว
ต้นไหลใน Control และที่ใส่เชื้อรา (VAM) เพียงอย่างเดียวซึ่งไม่ได้รับสภาพอุณหภูมิต่ำวันสั้น
หรือทั้งสองอย่าง จะมีจำนวนวันที่ดอกแรกบานช้ากว่า ต้นไหลที่ได้รับสภาพดังกล่าวเกือบหนึ่ง
สัปดาห์ ถึงแม้ผลการทดลองจะพบว่าไม่มีความแตกต่างกันก็ตาม ซึ่งเห็นได้ว่าจะมีผลกระทบต่อ
ผลผลิตรวมเมอื่ ส้นิ สุดการทดลอง (ณรงคช์ ัย และคณะ. 2541: 8)

ทางการศกึ ษาจุลนิ ทรียแ์ ลคติกยงั สามารถมชี วี ติ อยู่ไดห้ ลังจากการหมกั (ยกเว้นโยเกิร์ตท่ีมี
การ พาสเจอร์ไรซ์หรือสเตอริไรซ์เพื่อยืดอายุการเก็บรักษา) และยังสามารถทาหน้าที่ได้ในสภาวะที่
เหมาะสม ประกอบกับสายพันธุ์ที่มีคุณสมบัติในการส่งเสริมสุขภาพ จุลินทรีย์เหล่านี้จะถูกนำมาใช้
เป็นโปรไบโอติกใน ผลิตภัณฑ์นมหมักอีกหลายชนิดรวมทั้งโยเกิร์ตอีกด้วย จึงก่อให้เกิดผลแก่
ผู้บริโภครวมถึงผู้ที่มีสุขภาพดีอยู่ แล้วเพื่อยังคงมีสุขภาพดีต่อไป ตลอดจนผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อโรค
เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารหรือ แม้กระทั่งผู้บริโภคที่เป็นโรคแพ้น้ำตาลนม (จารุวรรณ. 2543:
11)

ทางการศึกษาผลิตภัณฑ์อาหารหมักที่ได้จากนมหมักโดยเชื้อจุลินทรีย์โดยน้ำนมท่ี ใช้อาจ
เป็นนมสด นมพร่องมันเนย นมคืนรูปจากนมพร่องมันเนย จุลินทรีย์ที่นิยมใช้กันแพร่หลาย คือ เชื้อ
ผ ส ม ข อ ง Lactic acid bacteria ไ ด ้ แ ก ่ Lactobacillus bulgaricus กั บ Streptococus
thermophiles จลุ นิ ทรีย์จะทำหนา้ ท่ีในการเปลี่ยนน้ำตาลท่ีอยู่ในนม คือแลคโตสให้เปน็ กรดแลคติก
(Lactic acid) ซึ่งมีผลทำให้โปรตีนตกตะกอนมีลักษณะเป็นลิ่มค่อนข้างนุ่ม มีเนื้อสัมผัสกึ่งแข็งก่ึง
เหลวโดยทั่วไปมีสขี าวถึงขาวนวลมีกลนิ่ หอมอ่อนๆเฉพาะตัวรสชาติเปร้ียวเนื่องจากมีกรดค่อน ขา้ งสูง
และมีจุลินทรีย์ที่มีชีวิตอยู่ปริมาณมาก นอกจากน้ียังมีสารประกอบอื่น ๆ เกิดขึ้นอีกด้วยแต่มักจะมี
ในปริมาณน้อยได้แก่ สารประกอบที่ระเหยได้ (volatite compound) หรือสารประกอบอะโร
มาติก (aromatic compound) ซ่ึงพบว่าสารประกอบเหล่าน้ีทำให้เกิดคุณสมบัติเฉพาะตัวของ
ผลติ ภณั ฑ์ เช่น กล่นิ รสชาติและเน้ือสัมผัสท่แี ตกตา่ งออกไป (นฐั นนั ท.ิ 2558: 2)

11

2.4 กรอบแนวคิดในการจดั ทำโครงงาน

ตน้ ทนุ ต้นทุนตามส่วนประกอบของการ
ผลตอบแทน ผลิตสตอเบอร์รี่โยเกิรต์

1. คา่ วัตถุดิบ

2. คา่ แรงงาน

3. คา่ ใชจ้ ่ายในการผลิต

กำไร (ขาดทนุ ) จากการทำสตอ
เบอร์ร่โี ยเกิรต์

รายได้จากการขาย

หัก ตน้ ทุนในการทำสตอเบอรร์ ่โี ย
เกิร์ต

กำไรขัน้ ตน้

การวเิ คราะห์
ตน้ ทนุ และผลตอบแทน

โครงสรา้ งตน้ ทนุ การผลิต อัตราผลตอบแทน
สตอเบอรร์ โี่ ยเกริ ต์ 1. อัตรากำไรขน้ั ต้นต่อต้นทุน
2. อัตรากำไรข้ันตน้ ต่อยอดขาย

ภาพท่ี 1 แสดงแนวคดิ ในการจัดทำโครงงาน

บทท่ี 3

วธิ ดี ำเนินงาน

การศึกษาดำเนินการศึกษาครั้งนี้ เป็นการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิต
สตอเบอร์รี่โยเกิร์ตเพื่อจำหน่ายของนักเรียน นักศึกษา แผนกวิชาการบัญชี วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร
ผจู้ ดั ทำโครงงานไดด้ ำเนนิ การตามลำดบั ข้นั ตอน ดงั นี้

3.1 กลมุ่ เปา้ หมายท่ีใชใ้ นการศกึ ษา
3.2 เคร่อื งมือทใี่ ช้ในการศึกษา
3.3 วิธีใช้ในการศกึ ษา
3.4 การเกบ็ รวบรวมข้อมลู
3.5 การวเิ คราะหข์ ้อมูล
3.6 สถติ ทิ ่ใี ช้ในการวิเคราะห์ขอ้ มูล

3.1 กลุ่มเป้าหมายท่ใี ชใ้ นการศึกษา

กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในโครงงานศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตสตอเบอร์รี่
โยเกิร์ตเพื่อจำหน่วย ได้แก่ นักเรียน นักศึกษา แผนกวิชาการบัญชี วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร
จำนวน 30 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจงจากนักศกึ ษาทสี่ นใจ

3.2 เครื่องมอื ทใ่ี ชใ้ นการศึกษา

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้สนใจบริโภค
สตอเบอร์รี่โยเกริ ์ต

3.3 วิธกี ารดำเนนิ การศึกษา

ผู้จัดทำโครงงาน ได้ดำเนินการศึกษาตามขั้นตอนต่าง ๆ ซึ่งมีรายละเอียดการสร้าง
แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้สนใจบริโภคสตอเบอร์รี่โยเกิร์ต ของนักเรียน นักศึกษา
แผนกวชิ าการบญั ชี วิทยาลยั เทคนิคพจิ ติ ร ดำเนินการ ดังน้ี

3.3.1 ศึกษาแนวคิดทฤษฎีจากเอกสาร ตำรา สืบค้นข้อมูลและงานวจิ ยั ที่เกีย่ วข้องกับ
การศกึ ษาทุนและผลตอบแทนเพือ่ สร้างและพัฒนาแบบสอบถาม โดยแบ่งเปน็ 3 ตอน

ตอนที่ 1 สอบถามสถานภาพและข้อมูลทวั่ ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม
ตอนที่ 2 สอบถามขอ้ มลู ท่เี ก่ยี วกบั การทำสตอเบอร์รี่โยเกริ ์ต
ตอนท่ี 3 สอบถามข้อมูลเก่ียวกับต้นทุนและผลตอบแทนการผลิต

สตอเบอร์รโ่ี ยเกริ ต์

13

3.3.2 นำร่างแบบสอบถามเสนอต่อครูที่ปรึกษาโครงงานเพื่อขอคำปรึกษา และ
ตราจสอบคำถามเพอื่ ใหไ้ ด้แบบสอบถามและแบบสมั ภาษณ์ท่ีถูกต้องตามเหมาะสม

3.3.3 นำแบบสอบถามที่ปรับปรุง แล้วเสนอต่อครูที่ปรึกษาโครงงานอีกครั้งก่อน
นำไปใชใ้ นการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู

3.4 การเก็บรวบรวมขอ้ มูล
ผจู้ ดั ทำโครงงานไดด้ ำเนนิ การเก็บรวบรวมข้อมลู โดยการดำเนนิ การตามขัน้ ตอน ดงั น้ี
3.4.1 นำแบบสอบถามไปเก็บข้อมูลจาก นักเรียน นักศึกษา แผนกวิชาการบัญชี

วทิ ยาลยั เทคนิคพิจติ ร ซึง่ เปน็ กลมุ่ เป้าหมายที่ใชใ้ นการศึกษา
3.4.2 นำเสนอขอ้ มลู ทไี่ ดม้ าทำการวเิ คราะห์

3.5 การวเิ คราะห์ขอ้ มลู ได้ดำเนนิ การวิเคราะหข์ ้อมูลตามลำดบั ดงั นี้
ได้ดำเนินการวเิ คราะห์ข้อมลู ตามลำดบั ดงั นี้
3.5.1 การวเิ คราะหข์ ้อมลู เชิงประมาณ โดยเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู มาทำประมวลผล
3.5.2 การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ในการวิเคราะห์เนื้อหา ประกอบด้วย

4 ขั้นตอน ได้แก่ การตีข้อมูล (Interpretation) การเปรียบเทียบข้อมูล (Constant
Comparison) การสังเคราะหข์ อ้ มูล (Data Synthesis) และการสรปุ ผล (Generalization)

3.6 สถิตทิ ีใ่ ชใ้ นการวิเคราะห์ข้อมลู การวิเคราะห์ขอ้ มูล
การวิเคราะห์ข้อมลู ผูร้ ายงายได้ใชส้ ถติ วิ ิเคราะหข์ ้อมูลต่าง ๆ ดังนี้
3.6.1 คา่ ความถ่ี (frequency)
3.6.2 คา่ ร้อยละ (Percentage)
3.6.3 หาคา่ เฉล่ีย (Mean)

บทท่ี 4

ผลวิเคราะห์ขอ้ มลู

การดำเนินการศึกษาครั้งนี้ เป็นการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตสตอเบอร์ร่ี
โยเกิร์ตเพื่อจำหน่าย เป็นการศึกษาและรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบบันทึกต้นทุนและแบบสอบถาม
ผศู้ ึกษานำเสนอผลวิเคราะหต์ ามลำดบั ดงั น้ี

4.1 ข้อมลู ต้นทนุ และผลตอบแทนในการผลิตสตอเบอร์รีโ่ ยเกริ ์ต
4.2 ข้อมูลสภาพทวั่ ไปของผ้ตู อบแบบสอบถาม
4.3 ขอ้ มลู ปัจจัยที่มผี ลตอ่ พฤติกรรมการบริโภคสตอเบอร์รโ่ี ยเกิร์ต
4.4 ข้อมูลเกย่ี วกับการผลิตสตอเบอร์รี่โยเกริ ต์

4.1 ข้อมูลต้นทนุ และผลตอบแทนในการผลิตสตอเบอร์รโี่ ยเกริ ์ต

4.1.1 ข้อมูลเกย่ี วกับต้นทนุ ในการผลิตสตอเบอรร์ ี่โยเกริ ต์
การศึกษาครั้งน้ีเป็นการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตสตอเบอร์รี่โยเกิร์ต

เพื่อจำหน่าย โดยต้นทุนในการผลิตสตอเบอร์รี่โยเกิร์ตแบ่งตามส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ประกอบด้วย
ค่าวตั ถดุ ิบ ค่าแรงงานและคา่ ใช้จ่ายในการผลติ ดงั ตารางท่ี 4.1.1 - 4.1.8

15

ตารางที่ 4.1.1 แสดงการแบง่ ประเภทตน้ ทนุ ที่ทำการศึกษา

ค่าวตั ถุดบิ ค่าแรงงาน ค่าใช้จา่ ยในการผลิต
1. ค่าแรงงานตนเอง
1. สตอเบอร์ร่แี ช่แข็ง 1. คา่ บรรจุภณั ฑ์
2. โยเกิรต์ 2. คา่ นำ้ ประปา
3. น้ำเชอื่ ม 3. ค่ารถ/ค่าเดนิ ทาง
4. นมขน้ หวาน 4. ค่าไฟฟา้
5. น้ำแขง็ ป่น 5. ค่าเส่ือมราคาอปุ กรณ์
6. ของตกแตง่
7. แก้วพลาสตกิ
8. ชอ้ นพลาสติก

16

ตารางท่ี 4.1.2 แสดงต้นทุนค่าวัตถุดิบในการผลิตสตอเบอรร์ ี่โยเกิร์ต (จำนวนการผลติ สตอเบอร์รี่
โยเกริ ์ต จำนวน 102 แกว้ )

ผลติ ภัณฑ์ วัตถดุ บิ จำนวน (หน่วย) ราคา (บาท)
ผลติ สตอเบอร์รโ่ี ยเกิร์ต
1. สตอเบอร์ร่แี ชแ่ ข็ง 3 ถงุ 267.00 บาท
2. โยเกิรต์ 24 ถ้วย 288.00 บาท
3. นำ้ เช่อื ม 1 ถงุ 35.00 บาท
4. น้ำแขง็ ป่น 3 ถุง 60.00 บาท
5. นมขน้ หวาน 2 กระปอ๋ ง 42.00 บาท
6. เยลลแ่ี ดง 2 ถงุ 70.00 บาท
7. มารแ์ มลโลว์ 1 ถุง 20.00 บาท
8. เกรด็ นำ้ ตาล 2 กระปกุ 50.00 บาท
9. แก้วพลาสตกิ 2 แถว 188.00 บาท
10. ชอ้ นพลาสติก 1 แพค็ 12.00 บาท

รวมท้ังสิ้น 1,032.00 บาท

ต้นทนุ เฉล่ียตอ่ แก้ว 10.00 บาท

จากตารางที่ 4.1.2 แสดงต้นทุนค่าวัตถุดิบในการผลิตสตอเบอร์รี่โยเกิร์ต (สำหรับสตอเบอร์รี่
โยเกิร์ต 102 แก้ว) พบว่าอันดับแรกคือ สตอเบอร์รี่แช่แข็ง จำนวน 3 ถุง ในราคา 267 บาท
รองลงมาคอื โยเกิร์ต 24 ถ้วย ในราคา 288 บาท น้ำเชื่อม จำนวน 1 ถุง ในราคา 35 บาท นำ้ แขง็ ป่น
3 ถงุ จำนวน 60 บาท นมข้นหวาน จำนวน 2 กระป๋อง ในราคา 42 บาท เยลล่ีแดง จำนวน 2 ถุง
ในราคา 70 บาท มาร์แมลโลว์ จำนวน 1 ถุง ในราคา 20 บาท เกร็ดน้ำตาล จำนวน 2 กระปุก
ในราคา 50 บาท แก้วพลาสติก จำนวน 2 แถว ในราคา 188 บาท ช้อนพลาสติก จำนวน
1 แพ็ค ในราคา 12 บาท รวมท้งั ส้ิน 1,032 บาท จึงทำใหม้ ีตน้ ทุนเฉลี่ย 10 บาทต่อช้ิน

17

ตารางที่ 4.1.3 แสดงตน้ ทนุ คา่ แรงงานในการผลติ สตอเบอร์รโ่ี ยเกิรต์ (จำนวน 102 แกว้ )

ลำดับที่ รายการ จำนวน (บาท/วัน)
1. คา่ แรงงานตนเอง 300.00
ค่าแรงงานเฉล่ยี ตอ่ แกว้ 2.94

จากตารางที่ 4.1.3 พบว่าผลการวิเคราะห์ต้นทุนค่าแรงงานในการผลิตสตอเบอร์รี่โยเกิร์ต
เฉลย่ี ตอ่ แกว้ 2.94 บาท คิดเปน็ ค่าแรงงานต่อการผลิต 3 ครั้ง เป็นเงิน 300 บาท

ตารางที่ 4.1.4 แสดงต้นทุนค่าน้ำและค่าไฟฟ้าที่ใช้ในการผลิตสตอเบอร์รี่โยเกิร์ต
(จำนวน 102 แกว้ )

รายการ ระยะเวลา จำนวน ราคาต่อหนว่ ย จำนวน (บาท)

คา่ ไฟฟา้ 1 เดอื น 7 หนว่ ย 14.75 103.25
8.00 40.00
คา่ น้ำประปา 1 เดือน 5 หนว่ ย
143.25
รวมต้นทุนค่าน้ำประปาและคา่ ไฟฟา้
1.36
คา่ น้ำประปาและคา่ ไฟฟา้ ตน้ ทนุ เฉลี่ย

จากตารางที่ 4.1.4 แสดงการวิเคราะห์ข้อมูลค่าน้ำประปาและค่าไฟฟ้าใช้ในการผลิต
สตอเบอร์รี่โยเกิร์ต พบว่า ค่าไฟฟ้าคิด จำนวน 7 หน่วย คิดเป็น 103.25 บาท รองลงมาคือ
ค่าน้ำประปา จำนวน 5 หน่วย คิดเป็น 40 บาท จึงทำให้มีค่าน้ำประปาและค่าไฟฟ้าเฉลี่ย 1.36
บาทตอ่ แกว้

18

ตารางที่ 4.1.5 แสดงต้นทุนค่ารถและค่าเดินทางที่ใช้ในการผลิตสตอเบอร์รี่โยเกิร์ต
(จำนวน 102 แกว้ )

รายการ ระยะเวลา จำนวน ราคาตอ่ หนว่ ย จำนวน (บาท)
2 ลติ ร 44.00 88.00
คา่ รถ/ค่าเดินทาง 1 เดอื น 1.19

ค่ารถ/คา่ เดินทางเฉลย่ี ต่อแก้ว

จากตารางที่ 4.1.5 แสดงการวิเคราะห์ข้อมูลค่ารถและค่าเดินทางที่ใช้ในการผลิตสตอเบอร์ร่ี
โยเกิร์ต คือค่ารถ/ค่าเดินทาง น้ำมันจำนวน 2 ลิตร คิดเป็น 88 บาท จึงทำให้ค่ารถ/ค่าเดินทาง
มตี น้ ทนุ เฉลี่ย 1.19 บาทตอ่ แกว้

ตารางที่ 4.1.6 แสดงข้อมูลสินทรัพย์และค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์ (จำนวนการผลิต
สตอเบอร์รี่โยเกิรต์ จำนวน 102 แกว้ )

รายการ อายุ (ปี) ราคา (บาท) ค่าเส่ือมราคา (บาท)
อุปกรณ์ 2 300.00 135.00
ค่าเสื่อมราคาต่อแก้ว 1.32

จากตารางที่ 4.1.6 แสดงข้อมูลสินทรัพย์และค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์ มีค่าเสื่อมราคา
135 บาท จงึ ทำใหค้ ่าเสื่อมราคาอปุ กรณ์มีตน้ ทุนเฉลย่ี 1.32 บาทตอ่ แกว้

19

ตารางท่ี 4.1.7 แสดงข้อมลู ตน้ ทนุ และค่าใชจ้ า่ ยในการผลติ สตอเบอร์รโ่ี ยเกิร์ต

ลำดับ รายการ ราคา (บาท) รอ้ ยละ

1. คา่ น้ำประปาและค่าไฟฟ้า 1.36 37.40
21.66
2. คา่ บรรจุภณั ฑ์ 1.23 23.62
17.32
3. ค่ารถ/ค่าเดินทาง 1.19
100.00
4. ค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์ 1.32

คา่ ใช้จ่ายในการผลิตรวม 5.10

จากตารางที่ 4.1.7 แสดงผลการวเิ คราะห์ข้อมูลต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการผลิตสตอเบอร์ร่โี ยเกิร์ต
พบว่าอันดับแรกคือ ค่าน้ำประปาและค่าไฟฟ้า 1.36 บาท คิดเป็นร้อยละ 37.40 รองลงมาคือค่า
บรรจภุ ณั ฑ์ 1.23 บาท คดิ เปน็ ร้อยละ 21.66 คา่ รถและค่าเดนิ ทาง 1.19 บาท คดิ เปน็ ร้อยละ 23.62
และมีค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์ 1.32 บาท คิดเป็นร้อยละ 17.32 จึงทำให้มีต้นทุนการผลิตเฉล่ีย
7.61 บาทตอ่ แก้ว

ตารางท่ี 4.1.8 แสดงขอ้ มลู ตน้ ทุนในการผลติ สตอเบอร์รโี่ ยเกริ ์ต

ลำดับท่ี รายการ ตน้ ทุนเฉลยี่ ตอ่ แก้ว ร้อยละ

1. คา่ วตั ถุดิบ 10.00 48.66

2. ค่าแรงงาน 2.94 14.31

3. คา่ ใช้จ่ายในการผลิต 5.10 37.03

ต้นทุนในการผลิตรวม 18.04 100.00

จากตารางที่ 4.1.8 แสดงผลการวิเคราะห์ข้อมูลในการผลิตสตอเบอร์รี่โยเกิร์ต พบว่าอันดับ
แรกคือ ค่าวัตถุดิบ 10.00 บาท คดิ เป็นร้อยละ 48.66 รองลงมาคือ ค่าแรงงาน 2.94 บาท คิดเปน็
ร้อยละ 14.31 และค่าใช้จ่ายในการผลิต 5.10 บาท คิดเป็นร้อยละ 37.03 จึงทำให้มีต้นทุนในการ
ผลติ เฉลี่ย 18.04 บาทตอ่ แกว้

20

4.1.9 ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ผลตอบแทนในการผลติ สตอเบอรร์ ี่โยเกิรต์
การศึกษาผลตอบแทนจากการผลิตสตอเบอร์รี่โยเกิร์ต ผู้ศึกษาได้ทำการศึกษาจาก

ราคาขาย กำไรขั้นต้น อตั รากำไรตอ่ ทุน และอตั รากำไรต่อยอดขาย ดงั แสดงในตารางที่ 4.1.9 - 4.1.11
ตารางท่ี 4.1.9 แสดงตน้ ทุนของราคาขายตอ่ ชิ้น ของผลติ ภัณฑส์ ตอเบอรร์ ่โี ยเกริ ์ต

ช่ือผลิตภณั ฑ์ ราคาต่อแกว้ (บาท)
สตอเบอรร์ ี่โยเกิร์ต 25.00

จากตารางที่ 4.1.9 แสดงต้นทุนของราคาขายต่อแก้ว พบว่า สตอเบอร์รี่โยเกิร์ต
มีราคาขาย 25 บาทตอ่ แก้ว

ตารางท่ี 4.1.10 แสดงกำไรข้ันตน้ การผลิตสตอเบอร์รโ่ี ยเกิรต์

รายการ จำนวน (บาท)

รายการจากการขายสตอเบอร์รโี่ ยเกิร์ต 25.00

หกั ต้นทนุ ขา

คา่ วัตถุดบิ 10.00

ค่าแรงงาน 2.94

คา่ ใชจ้ ่ายในการผลิต 5.10 18.04

กำไรข้ันต้น 6.96

จากตารางที่ 4.1.10 แสดงผลการวิเคราะห์กำไรขั้นต้น พบว่า มีรายได้จากผลิต
สตอเบอร์รี่โยเกิร์ต 25 บาทต่อแก้ว มีต้นทุนขาย อันดับแรกคือ ค่าวัตถุดิบ 10.00 บาท รองลงมา
คือค่าแรงงาน 2.94 บาท และค่าใช้จ่ายในการผลิต 5.10 บาท จึงทำให้มีกำไรขั้นต้น 6.96 บาท
ต่อแกว้

21

ตารางท่ี 4.1.11 แสดงการคำนวณหาอตั ราผลตอบแทนในการผลิตสตอเบอร์รี่โยเกิร์ต

อัตราส่วน สตู รการคำนวณ แทนค่า ผลการคำนวณ
อตั ราส่วนกำไรตอ่ ทุน 38.58 %
กำไรขน้ั ต้น 6.96 x 100
อัตรากำไรตอ่ ยอดขาย ต้นทนุ 18.04 27.84 %
กำไรขั้นตน้
ราคาขาย 6.96 x 100
25

จากตารางที่ 4.1.11 แสดงการวิเคราะห์อัตราผลตอบแทนจากการผลิตสตอเบอร์รี่โยเกิร์ต
เฉลยี่ ตอ่ แกว้ พบว่าอตั รากำไรต่อทนุ 38.58 % และมีอัตรากำไรต่อยอดขาย 27.84 %

22

4.2 ข้อมลู สภาพท่ัวไปของผู้ตอบแบบสอบถาม

การศึกษาครั้งนี้ ผู้ศึกษาได้เก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างที่สนใจสตอเบอร์รี่โยเกิร์ต
กำหนดกลุ่มตัวอย่างโดยเลือกจากนักเรียน นักศึกษา วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร ที่สนใจ
สตอเบอร์รี่โยเกิร์ต จำนวน 40 คน ซึ่งผู้ศึกษาได้นำมาวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม
เก่ียวกับเพศ อายุ และสถานภาพ ดังแสดงในตารางที่ 4.2.1 – 4.2.4

ตารางท่ี 4.2.1 แสดงจำนวนและค่ารอ้ ยละของสถานภาพทว่ั ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม

รายการ จำนวน ร้อยละ

มธั ยมศึกษา 17 42.50
ปวช. 18 45.00
ปวส. 5 12.50
อ่นื ๆ 0
0
รวม 40
100.00

จากตารางที่ 4.2.1 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามอันดับแรกคือ มัธยมศึกษา จำนวน 17 คน
คิดเป็นร้อยละ 42.50 รองลงมาคือ ปวช. จำนวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ 45.00 ปวส. จำนวน 5 คน
คดิ เป็นร้อยละ 12.50 ตามลำดบั

ตารางที่ 4.2.2 แสดงจำนวนและค่ารอ้ ยละของสถานภาพทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม

รายการ จำนวน รอ้ ยละ

ชาย 10 25.00
75.00
หญิง 30
100.00
รวม 40

จากตารางที่ 4.2.2 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามอันดับแรกเป็นเพศชาย จำนวน 10 คน
คิดเปน็ ร้อยละ 25.00 รองลงมาเปน็ เพศหญิง 30 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 75.00 ตามลำดับ

23

ตารางที่ 4.2.3 แสดงจำนวนและค่าร้อยละของสถานภาพทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม

รายการ จำนวน ร้อยละ

ตำ่ กว่า 15 ปี 0 00.00
15 - 20 40 100.00
20 ปขี ึน้ ไป 0 00.00

รวม 40 100.00

จากตารางที่ 4.2.3 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามอันดับแรก คือ อายุ 15-20 ปี จำนวน 40
คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 100.00

ตารางที่ 4.2.4 แสดงจำนวนและคา่ ร้อยละของสถานภาพท่วั ไปของผู้ตอบแบบสอบถาม

รายการ จำนวน ร้อยละ

นักเรยี น/นกั ศึกษา 40 100.00
ครูและบคุ ลากร 0 00.00
อ่ืน ๆ 0 00.00

รวม 40 100.00

จากตารางที่ 4.2.4 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดเป็น นักเรียน นักศึกษา
จำนวน 40 คน คดิ เป็นร้อยละ 100.00

24

4.3 ข้อมูลปจั จยั ทม่ี ีผลต่อพฤติกรรมการบริโภคสตอเบอร์รโี่ ยเกิร์ต
ผลการการวิเคราะหร์ ะดบั ความคิดเห็นของผบู้ ริโภคสตอเบอร์รโี่ ยเกิรต์ ท่ีเกยี่ วกับปัจจัยท่ีมีผล

ตอ่ พฤตกิ รรมการบรโิ ภคสตอเบอรร์ ี่โยเกิรต์ ดงั แสดงในตาราง 4.3

ตารางที่ 4.3 แสดงคา่ เฉลีย่ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานความคิดเห็นบรโิ ภคเก่ยี วกบั ปัจจัยที่มี
ผลตอ่ การบรโิ ภคสตอเบอรร์ ี่โยเกิรต์

รายการ ผลการวเิ คราะห์ ระดบั
ความคดิ เหน็
ปจั จัยดา้ นผลติ ภณั ฑ์ ̅ S.D
1. รสชาตขิ องสตอเบอร์รโ่ี ยเกริ ต์ มากท่ีสดุ
2. คณุ ภาพของวตั ถุดิบ 4.71 0.64 มากทส่ี ดุ
3. ความสะอาดของบรรจุภัณฑ์ 4.70 0.64 มากท่ีสดุ
4. ขนาดและรูปแบบของบรรจภุ ณั ฑ์ 4.70 0.64 มากทสี่ ุด
4.73 0.63 มากทีส่ ุด
ปัจจัยดา้ นราคา 4.72 0.62 มากท่ีสดุ
1. ราคาเหมาะสมกับคุณภาพและปรมิ าณ 4.65 0.65 มากทสี่ ุด
4.65 0.65 มากที่สุด
ปจั จยั ดา้ นบคุ คลและสง่ เสริมการขาย 4.75 0.52 มากทีส่ ดุ
1. การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ 4.78 0.42 มากทีส่ ดุ
2. ความน่าเชอ่ื ถือในการชำระเงนิ 4.85 0.36 มากทส่ี ดุ
3. อัธยาศยั และการให้บริการของผู้ขาย 4.83 0.38
มากท่ีสุด
4.73 0.56

จากตารางที่ 4.3 ผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเหน็ ว่าปัจจัยท่ีมีผลต่อพฤติกรรมการบริโภค
สตอเบอร์รี่โยเกิร์ตด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 อันดับแรก คือ ปัจจัยด้านบุคคลและส่งเสริมการขาย

( ̅=4.75,S.D=0.52) รองลงมาคือ ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ( ̅=4.71,S.D=0.64) และปัจจัยด้านราคา

( ̅=4.65,S.D=0.65) ตามลำดบั

25

ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ค่าเฉลี่ยสูงสุดอันดับแรกคือ ความสะอาดของบรรจุภัณฑ์

( ̅=4.73,S.D=0.63) รองลงมาคือ ขนาดและรูปแบบของบรรจุภัณฑ์ ( ̅=4.72,S.D=0.62) คุณภาพ

ของวตั ถุดบิ ( ̅=4.70,S.D=0.64) และรสชาติของสตอเบอรร์ ่ีโยเกริ ต์ ( ̅=4.70,S.D=0.64) ตามลำดบั
ปัจจัยด้านบุคคลและส่งเสริมการขาย ค่าเฉลี่ยสูงสุดอันดับแรกคือ ความน่าเชื่อถือในการ

ชำระเงนิ ( ̅=4.85,S.D=0.36) รองลงมาคือ อัธยาศยั และการให้บริการของผขู้ าย ( ̅=4.83,S.D=0.38)

และการโฆษณาประชาสมั พันธ์ ( ̅=4.78,S.D=0.42) ตามลำดบั
และปัจจัยด้านราคา ค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ราคาเหมาะสมกับคุณภาพและปริมาณ

( ̅=4.65,S.D=0.65)

4.4 ขอ้ มูลเกย่ี วกับการผลิตสตอเบอรร์ ่ีโยเกิร์ต

ตารางที่ 4.4 ข้อมลู เกี่ยวกบั การผลติ สตอเบอร์รโ่ี ยเกริ ์ต

รายการ ข้อมลู

วธิ กี ารจำหน่าย ขายปลีก
ปริมาณการผลิตตอ่ เดอื น 102
จำนวนคนผลติ
3

จากตารางที่ 4.4 แสดงข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตสตอเบอร์รี่โยเกิร์ต พบว่า วิธีการจำหน่าย
สตอเบอร์รีโ่ ยเกริ ต์ คือ วิธกี ารขายปลีก ปรมิ าณการผลิตสตอเบอร์ร่โี ยเกิรต์ ตอ่ เดอื น จำนวน 102 แกว้
คนผลติ สตอเบอร์รโ่ี ยเกิร์ต จำนวน 3 คน

บทท่ี 5

สรปุ การศึกษา การอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ

การดำเนินการศึกษาครั้งนี้ เป็นการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตสตอเบอร์รี่
โยเกิรต์ เพอ่ื จำหน่าย มวี ัตถุประสงค์

1. เพอื่ ศึกษาต้นทนุ และผลตอบแทนในการผลิตสตอเบอรร์ โ่ี ยเกิรต์
2. เพอ่ื ศกึ ษาค่าใชจ้ ่ายที่ประหยัดไดจ้ ากการผลติ สตอเบอร์รี่โยเกิรต์
3. เพอื่ ศึกษาความพงึ พอใจของผบู้ รโิ ภคสตอเบอรร์ ่โี ยเกิร์ต
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียน นักศึกษา แผนกวิชาการบัญชี
วทิ ยาลยั เทคนคิ พจิ ติ ร จำนวน 50 คน ไดม้ าโดยการเลอื กแบบเจาะจง
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีผลต่อการบริโภคสตอ
เบอร์รี่โยเกิร์ตและแบบบันทึกต้นทุนจากการผลิตสตอเบอร์รี่โยเกิร์ต แผนกวิชาการบัญชี
วทิ ยาลัยเทคนคิ พิจติ ร
ในการเก็บรวบรวมข้อมูลผู้ศึกษาได้ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง โดยนำ
แบบสอบถามที่สร้างเสร็จแล้วปทำการเก็บข้อมูลด้วยตนเอง จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 50 รวบรวม
แบบสอบถามที่ได้มาทำการวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้สถิติพื้นฐานการแจกแจงความถี่และค่าร้อยละ
และใช้ผลตอบแทนโดนใช้อตั ราส่วนทางการเงิน

5.1 สรปุ ผลการศึกษา

จากผลวิเคราะห์ข้อมูล สรุปผลการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตสตอเบอร์รี่
โยเกิร์ตเพ่ือจำหนา่ ย ดงั น้ี

5.1.1 ต้นทนุ ในการผลิตสตอเบอรร์ ี่โยเกิรต์ เฉล่ียตอ่ แก้ว
จากผลการศึกษา พบว่าในการผลติ สตอเบอรร์ ่ีโยเกริ ์ต มตี น้ ทนุ เฉลี่ย 18.04

บาท ต่อแกว้ ประกอบด้วย ค่าวตั ถดุ ิบ 10 บาทต่อแกว้ คา่ แรงงาน 2.94 บาทต่อแกว้ และ
คา่ ใชจ้ ่ายในการผลติ 5.10 บาทตอ่ แกว้

5.1.2 สถานภาพและขอ้ มลู ทัว่ ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม
จากผลการศึกษา พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามเป็นระดับชั้นอันดับแรกคือ ปวช.

จำนวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ 45.00 รองลงมาคือ มัธยมศึกษา จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อย
ละ 42.50 ตามลำดับ

เพศของผู้ตอบแบบสอบถามอันดับแรกคอื เพศหญงิ จำนวน 30 คน คิดเป็นร้อย
ละ 75.00 รองลงมาเป็นเพศชาย 10 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 25.00 ตามลำดับ

27

อายุของผู้ตอบแบบสอบถามอันดับแรก คือ อายุ 15-20 ปี จำนวน 40 คน
คิดเป็นรอ้ ยละ 100.00

ส่วนมากเปน็ นักเรยี น นักศกึ ษา จำนวน 40 คน คดิ เป็นร้อยละ 100.00
5.1.3 ปัจจยั ที่มีผลต่อพฤติกรรมการบรโิ ภคสตอเบอร์ร่โี ยเกิร์ต

จากการศึกษา พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเห็นว่าปัจจัยที่มีผลต่อ
พฤติกรรมการบริโภคสตอเบอร์รี่โยเกิร์ตที่มีค่าเฉลี่ย 3 ลำดับ ได้แก่ 1. ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ 2.
ปจั จยั ด้านราคา 3. ปัจจยั ด้านบุคคลและส่งเสรมิ การขาย

5.2 อภปิ รายผลการศกึ ษา

จากการสรปุ ผลการศึกษา มปี ระเด็นสำคญั ท่ีควรนำมาอภิปรายผล ดงั นี้
5.2.1 ต้นทนุ การผลติ สตอเบอรร์ ่โี ยเกิรต์ ประกอบด้วย 3 สว่ น ได้แก่ ค่าวัตถุดิบร้อยละ
48.66 รองลงมาคอื ค่าใชจ้ ่ายในการผลติ รอ้ ยละ 37.03 และค่าแรงงานร้อยละ 14.31 เห็นได้วา่ ใน
การผลิตสตอเบอร์รี่โยเกิร์ตมีสัดสว่ นของวัตถุดบิ มากที่สุด ทั้งนี้เนื่องจากการผลิตสตอเบอร์รี่โยเกิร์ต
ใช้วัตถุดบิ หลักคอื สตอเบอรร์ ม่ี ากท่สี ุด
5.2.2 การศึกษาต้นทุนความคิดเห็นและพฤติกรรมการผลิตสตอเบอร์รี่โยเกิร์ตของผู้ผลิต
ทุกปัจจัยมีผลต่อการตัดสินใจของผู้ผลิตในการเลือกซื้อสตอเบอร์รี่โยเกิร์ต ทั้งปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์
ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ปัจจัยด้านราคา ปัจจัยด้านบุคคลและส่งเสริมการขาย ดังนั้นเนี่ยในการ
ตัดสนิ ใจประกอบกจิ การสตอเบอร์ร่ีโยเกริ ์ตให้ความสำคัญกับทุกปัจจยั ซ่ึงมีผลต่อกำไรสงู

28

5.3 ขอ้ เสนอแนะ

5.3.1 ข้อเสนอแนะในศกึ ษาคร้ังนี้
ในการผลิตสตอเบอร์รี่โยเกิร์ตมีต้นทุนในการผลิตที่ต่ำกว่าตามท้องตลาดจึงควร

พจิ ารณาหาแนวทางในการเพิ่มประสิทธภิ าพในการผลิตให้ สตอเบอร์รี่โยเกิรต์ ทม่ี ีคณุ ภาพและต้นทุน
ต่ำลง

5.3.2 ขอ้ เสนอแนะในการศึกษาครั้งต่อไป
ควรศึกษาแนวทางพัฒนาคุณภาพรูปแบบของสตอเบอร์รี่โยเกิร์ต เพื่อเพิ่มปริมาณ

การผลิตครั้งต่อไปและเพิ่มยอดขายให้สูงขึ้น เช่น รสชาติที่แตกต่างออกไปจากเดิม แล้วนำมา
เปรียบเทียบตน้ ทุนของผลิตภัณฑ์เดิม

29

บรรณานุกรม

(ดนัย และนิธิยา, 2548) “การใช้แคลเซียมคลอไรด์เพื่อช่วยรักษาความแน่นเนื้อของผลไม้” ,
[ออนไลน์]เข้าถงึ ไดจ้ าก

:https://archive.lib.cmu.ac.th/full/T/2554/food31054sp_ch2.pdf [สืบคน้ เม่อื
31 กรกฎาคม]

(อุษา ภคู ัสมาส, 2558) “ผลติ ภณั ฑน์ มหมกั ” , [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก
:https://library.coj.go.th/th/news/news-740.html [สบื คน้ เม่อื 31 กรกฎาคม]

(ณชิ าภัทร, 2556) “สารใหค้ วามหวาน” , [ออนไลน์] เข้าถงึ ได้จาก
:http://cmuir.cmu.ac.th/bitstream/6653943832/7902/5/food0251rs_ch2.pd

f [สืบค้นเม่อื 31 กรกฎาคม]

(วฒุ กิ รและคณะ 2558) “สตู รการผลิตโยเกริ ์ตโฮมเมด” , [ออนไลน์] เข้าถงึ ไดจ้ าก
:https://www.agi.nu.ac.th/conference/agiscijournal_vol49_no3(suppl)/agro

/OF4_118-124.pdf [สบื คน้ เมื่อ 31 กรกฎาคม]

(สภุ าณ,ี 2555) “จลุ ินทรีย์ท่ใี ช้ในกระบวนการหมักโยเกิรต์ ” , [ออนไลน์] เขา้ ถงึ ไดจ้ าก
:http://biology.ipst.ac.th/?p=987 [สบื ค้นเมอื่ 31 กรกฎาคม]

ภาคผนวก

ภาคผนวก ก

เครอื่ งมอื ทีใ่ ช้ในการศึกษา
แบบสอบถามความคดิ เหน็ เกีย่ วกับปจั จัยทมี่ ีตอ่ การบรโิ ภคสตอเบอรร์ ่โี ยเกิร์ต

32

แบบสอบถามฉบับนี้จัดทำโดย นักศึกษากลุ่มโครงงานการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนใน
การผลิตสตอเบอร์รี่โยเกิร์ตเพื่อจำหน่าย มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับการ
ผลติ ภัณฑ์ทผ่ี ลติ ขึน้ วา่ มขี อ้ ผดิ พลาดหรอื ขอ้ บกพร่องประการใดบ้าง

ทำแสกน QR-CODE ทางด้านบนเพอ่ื เข้าสู้เว็บไซตต์ อบแบบสอบถาม
หรอื เขา้ ไปทีเ่ ว็บไซต์ https://forms.gle/aF2TF6R5XQ22CSXt5

33
ภาพท่ี 1 การส่งเวบ็ ไซต์ใหน้ กั ศกึ ษาตอบแบบสอบถามออนไลน์
ภาพท่ี 2 การส่งเว็บไซตใ์ ห้นกั ศกึ ษาตอบแบบสอบถามออนไลน์

ประทบั เวลา เพศ อายุ ระดบั การศึกษา อาชพี ปจ จยั ดา นผลิตภณั ฑ [รสชาติ]ปจ จัยดา นผลติ ภณั ฑ [คณุ
1/8/2022, 10:29:56 หญงิ 15 - 20 ป 5
1/8/2022, 20:21:06 หญงิ 15 - 20 ป ประกาศนยี บตั รวิชาชีพ (ปวช.) นกั เรียน - นกั ศกึ ษา 5
6/8/2022, 19:26:16 หญิง 15 - 20 ป 5
14/8/2022, 19:46:44 หญิง 15 - 20 ป ประกาศนียบตั รวชิ าชีพ (ปวช.) นักเรียน - นักศึกษา 5
14/8/2022, 20:03:10 หญิง 15 - 20 ป 4
15/8/2022, 16:41:40 หญงิ 15 - 20 ป มัธยมศึกษา นกั เรยี น - นกั ศึกษา 5
15/8/2022, 16:43:31 หญิง 15 - 20 ป 5
15/8/2022, 16:58:44 หญิง 15 - 20 ป ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ (ปวช.) นักเรยี น - นักศึกษา 5
15/8/2022, 16:59:57 หญงิ 15 - 20 ป 5
15/8/2022, 17:00:37 หญงิ 15 - 20 ป ประกาศนยี บัตรวิชาชีพ (ปวช.) นกั เรยี น - นักศึกษา 5
15/8/2022, 17:01:29 ชาย 15 - 20 ป 4
15/8/2022, 17:01:41 หญิง 15 - 20 ป ประกาศนียบตั รวิชาชีพ (ปวช.) นักเรยี น - นกั ศกึ ษา 5
15/8/2022, 17:01:50 หญงิ 15 - 20 ป 5
15/8/2022, 17:06:03 หญิง 15 - 20 ป ประกาศนียบัตรวชิ าชีพ (ปวช.) นักเรียน - นักศึกษา 5
15/8/2022, 17:27:33 หญงิ 15 - 20 ป 5
15/8/2022, 17:28:21 หญิง 15 - 20 ป ประกาศนียบัตรวิชาชพี (ปวช.) นักเรยี น - นกั ศกึ ษา 5
15/8/2022, 17:31:36 หญงิ 15 - 20 ป 5
15/8/2022, 17:32:34 หญิง 15 - 20 ป ประกาศนียบัตรวชิ าชีพ (ปวช.) นักเรยี น - นักศึกษา 5
15/8/2022, 17:34:45 หญิง 15 - 20 ป 5
15/8/2022, 17:48:41 หญงิ 15 - 20 ป ประกาศนียบัตรวชิ าชีพ (ปวช.) นักเรียน - นกั ศกึ ษา 5
16/8/2022, 17:32:46 หญงิ 15 - 20 ป 5
16/8/2022, 17:10:45 หญงิ 15 - 20 ป ประกาศนียบัตรวิชาชพี (ปวช.) นกั เรียน - นักศึกษา 5
16/8/2022, 17:11:32 ชาย 15 - 20 ป 5
16/8/2022, 17:16:12 หญิง 15 - 20 ป ประกาศนยี บัตรวิชาชพี (ปวช.) นักเรยี น - นกั ศึกษา 5
16/8/2022, 17:13:51 หญิง 15 - 20 ป 5
16/8/2022, 17:14:25 ชาย 15 - 20 ป ประกาศนียบัตรวชิ าชพี (ปวช.) นกั เรยี น - นักศกึ ษา 5
16/8/2022, 17:15:04 หญิง 15 - 20 ป 5
16/8/2022, 17:15:58 หญิง 15 - 20 ป ประกาศนยี บตั รวิชาชีพ (ปวช.) นักเรียน - นักศึกษา 5
16/8/2022, 17:18:06 ชาย 15 - 20 ป 4
16/8/2022, 17:19:26 หญงิ 15 - 20 ป ประกาศนียบตั รวิชาชีพ (ปวช.) นกั เรยี น - นกั ศึกษา 5
16/8/2022, 17:36:55 ชาย 15 - 20 ป 5
16/8/2022, 17:02:01 หญิง 15 - 20 ป มัธยมศกึ ษา นกั เรียน - นกั ศกึ ษา 5
16/8/2022, 17:23:21 หญงิ 15 - 20 ป 5
18/8/2022, 13:01:56 ชาย 15 - 20 ป มัธยมศึกษา นกั เรยี น - นักศึกษา 4
18/8/2022, 15:29:08 หญงิ 15 - 20 ป 5
18/8/2022, 17:02:19 หญิง 15 - 20 ป มัธยมศกึ ษา นกั เรยี น - นกั ศึกษา 5
18/8/2022, 10:25:29 ชาย 15 - 20 ป 3
18/8/2022, 10:26:01 ชาย 15 - 20 ป มธั ยมศึกษา นกั เรียน - นักศึกษา 3
18/8/2022, 10:26:23 ชาย 15 - 20 ป 3
18/8/2022, 10:26:47 ชาย 15 - 20 ป มัธยมศกึ ษา นกั เรยี น - นกั ศกึ ษา 3
18/8/2022, 19:07:34 หญงิ 15 - 20 ป 5
18/8/2022, 19:08:20 หญิง 15 - 20 ป มัธยมศึกษา นักเรยี น - นักศกึ ษา 5
18/8/2022, 19:10:28 ชาย 20 - 30 ป 5
ประกาศนยี บัตรวชิ าชพี (ปวช.) นกั เรียน - นักศกึ ษา

ประกาศนียบัตรวิชาชพี (ปวช.) นักเรยี น - นกั ศกึ ษา

มธั ยมศกึ ษา นกั เรยี น - นักศึกษา

มัธยมศกึ ษา นกั เรียน - นักศึกษา

ประกาศนยี บตั รวิชาชพี (ปวช.) นักเรียน - นักศกึ ษา

มธั ยมศึกษา นกั เรยี น - นักศึกษา

มธั ยมศึกษา นกั เรียน - นกั ศึกษา

มัธยมศกึ ษา นักเรยี น - นักศกึ ษา

มัธยมศกึ ษา นักเรยี น - นักศึกษา

ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพชน้ั สูง (ปวส.) นกั เรียน - นกั ศึกษา

มธั ยมศึกษา นักเรียน - นกั ศึกษา

มธั ยมศกึ ษา นักเรียน - นักศึกษา

ประกาศนยี บตั รวิชาชพี (ปวช.) นักเรียน - นักศึกษา

มัธยมศกึ ษา นกั เรียน - นักศกึ ษา

มัธยมศกึ ษา นักเรยี น - นกั ศกึ ษา

ประกาศนียบัตรวชิ าชีพชั้นสงู (ปวส.) นักเรยี น - นกั ศกึ ษา

ประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสงู (ปวส.) นักเรยี น - นักศึกษา

ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ชนั้ สงู (ปวส.) นกั เรียน - นักศกึ ษา

ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ชนั้ สูง (ปวส.) นักเรยี น - นกั ศึกษา

มธั ยมศึกษา นกั เรียน - นกั ศึกษา

มัธยมศึกษา นกั เรยี น - นักศกึ ษา

ประกาศนียบัตรวิชาชพี (ปวช.) นักเรยี น - นักศึกษา

ณภาพปขจอจงัยวดตั าถนุดผบิ ล]ติ ภณั ฑ [ความสะปอจาจดยั ขดอางนบผรลรติจภุ ณั ฑ][ขนาดแปลจะรจปู ยั แดบา บนบรารครจาภุ [รณั าฑคา] เหมาะกปบั จ คจณุ ยั ดภา นพบแุคลคะปลรแิมลาะณสง ]เสรมิ กปารจขจายั ยดา[กนาบรคุ โคฆลษแณละาสปงรเะสชรามิ สกัมปาพรจ ขันจาธัยย]ดา [คนวบาุคมคนลา แเชละอ่ื สถง ือเใสนรมิกการตาชรอขาํนราทะยี่ เ3ง[อนิ ขธั ]อยเาสศนัยอแแลนะะกอานื่ รใๆหบ รกิ ารของผขู าย]
5555555
5555555
5555555
5555555
4555555
5454454
5555555
5555555
5555555
5555555
4444455
5555555
5555555
5555555
5555555
5555555
5555555
5555555
5555555
5555555
5555555
5555555
4555455
5555555
5555555
5555444
5555555
5555555
5445545
5544555
5555555
5555555
5555555
4554454
5554555
5554555
3333444
3333444
3333444
3333444
5555555
5555555
5555555

ภาคผนวก ข

แบบเสนอหัวข้อและเคา้ โครง
โครงงานการศกึ ษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตสตอเบอร์ร่โี ยเกิรต์ เพ่อื จำหนา่ ย

36

แบบเสนอโครงงาน

1. ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการผลติ สตรอวเ์ บอร์ร่โี ยเกริ ต์
เพ่ือจำหนา่ ย

ชอ่ื โครงงาน (ภาษาองั กฤษ) Cost and Return Study of Strawberry Yogurt
Production for Sale

2. ประเภทของโครงงาน
 ส่งิ ประดิษฐ/์ นวตั กรรม
 ศึกษาทฤษฎีและหลักการ
 ศกึ ษาคน้ ควา้ ทดลอง
 สำรวจรวบรวมขอ้ มลู

3. รายชื่อผู้จดั ทำโครงงาน ทิพไสยาท รหสั นกั ศึกษา 63202011302
3.1 นางสาวจริ าภา นนทะพฒั น์ รหสั นกั ศึกษา 63202011306
3.2 นางสาวณัฐชยา นวลแตง รหสั นกั ศึกษา 63202011314
3.3 นางสาวปณาลี

4. ครูท่ีปรกึ ษาโครงงาน
นางสาวสกาวใจ พชั รพงศ์ศานต์

5. ความสำคญั ของโครงงาน/หลกั การและเหตผุ ล
สตรอว์เบอร์รีโ่ ยเกริ ์ตเป็นเครือ่ งด่ืมที่ทำจากผลไม้ ล้วนเป็นเมนูเพ่ิมความสดชื่น เมนูนี้เป็น

เครอ่ื งดื่มยอดนิยมในชว่ งฤดรู ้อนหรือในวันทสี่ ภาพอากาศร้อนจัด มีสว่ นประกอบ คอื สตรอว์เบอร์รี่
โยเกิร์ต อาจมีการโรยหน้าด้วยเกล็ดช็อกโกแลตหรือขนมต่าง ๆ สตรอว์เบอร์รี่โยเกิร์ตมีรสชาติ
อมเปรี้ยวอมหวานสามารถดับร้อนได้เป็นอย่างดี หากเรารับประทานโยเกิร์ตทุก ๆ วันเป็นเวลา
ติดกันหลายวันโยเกิร์ตสามารถช่วยเรื่อง 1.อาการท้องผูกโยเกิร์ตมีแบคทีเรียที่ดีต่อลำไส้จึงสามารถ
ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายให้ดีขึ้นช่วยกระตุ้นภายในลำไส้ทำให้ขับถ่ายคล่อง
ในทุก ๆ เช้าแล้วโยเกิร์ตยังช่วยแก้อาการท้องเสียการติดเชื้อบริเวณลำไส้ได้อีกด้วย 2.เชื้อราใน
ช่องคลอดในโยเกิร์ตนั้นประกอบปึด้วยจุลินทรีย์ที่สามารถช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์และประกอบไป

37

ด้วยสารโปรไบโอติกซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่ช่วยลดการเพิ่มจำนวนของเชื้อราในช่องคลอด 3.ช่วยกระตุ้น
การแลคโตบาซิลสั ในโยเกิร์ตเป็นจุลินทรยี ์ที่ร่างกายต้องการซึ่งจะไปชว่ ยหยุดการเจริญเติบโตของเช้ือ
เฮลิโคแบคเตอร์ เอชไพโลไร ที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะลดการอักเสบของลำไส้ทำงานลำไส้และ
ปอ้ งกนั โรคกระดูกพรนุ โดยเฉพาะกบั ผใู้ หญ่ท่อี ยู่ในวยั กลางคนจนถึงวัยสงู อายุไดเ้ ปน็ อย่างดี

สตรอว์เบอร์รี่อุดมไปด้วยวิตามินซีและธาตุเหล็กทำให้ขับถ่ายคล่องระบบทางเดินอาหาร
ทำงานได้ดี ซง่ึ ในปัจจบุ นั ประเทศไทยมีสภาพอากาศท่ีร้อนคนสว่ นใหญ่นิยมเลือกเครื่องดื่มท่ีมีรสชาติ
หวานเย็นสดช่ืนและมีประโยชน์ต่อร่างกาย ราคาสามารถจับต้องได้หาซื้อง่ายตามท้องตลาด เรามี
ความคิดที่จะนำสตรอว์เบอร์ร่ีสดมาแปรรูปเป็นเครื่องดื่ม เช่น นมสดสตรอว์เบอร์รี่ สตรอว์เบอร์ร่ี
โยเกิร์ต เพื่อตอบสนองความตอ้ งการของผู้บริโภค โดยเฉพาะกลมุ่ วยั รุ่น วยั กลางคน และผู้สงู อายุ

จากปัญหาดังกล่าวคณะผู้จัดทำมีความสนใจและมองเห็นช่องทางธุรกิจที่จะทำเรื่อง
การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนในการทำสตรอว์เบอร์รี่โยเกิร์ต เพื่อตอบสนองความต้องการ
ของผู้บริโภค ดังน้ัน ในการศึกษาครั้งนี้จึงหวังที่จะศึกษาความเป็นไปได้ของโครงงานเป็นแนวทาง
ในการวางกลยุทธ์ทางการตลาดให้เหมาะสมความพึงพอใจและพฤติกรรมของผู้บริโภคในการศึกษา
ครั้งนี้จะให้ความสำคัญกับปัจจัยเหล่าน้ีเป็นหลัก เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผูบ้ ริโภคตัดสินใจ
เลือกทานอีกด้วย

6. วตั ถุประสงค์ของโครงงาน
6.1 เพอื่ ศึกษาต้นทนุ และผลตอบแทนจากการทำสตรอวเ์ บอร์ร่โี ยเกริ ต์
6.2 ทำใหท้ ราบถึงผลกำไรขาดทนุ จากการทำสตรอว์เบอรร์ ี่โยเกิร์ต
6.3 เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผูบ้ รโิ ภคท่มี ีตอ่ การบริโภคสตรอว์เบอร์รโี่ ยเกริ ์ต

7. ขอบเขตของโครงงาน
7.1 ด้านตวั แปร
-
7.2 ดา้ นเนือ้ หา

การวจิ ยั คร้ังน้เี ป็นการศึกษาตน้ ทุนและผลตอบแทนในการทำสตรอวเ์ บอรร์ ี่โยเกริ ์ต
7.2.1 ศึกษาต้นทุนการผลติ สตรอว์เบอรร์ โี่ ยเกิร์ต ต้งั แต่ขั้นตอนการเตรยี มการทำ
จนไปถึงขนั้ ตอนการจัดจำหน่าย และวเิ คราะห์โครงสร้างต้นทุนในการทำสตรอว์
เบอรร์ โ่ี ยเกิรต์
7.2.2 ศึกษาผลตอบแทนทีไ่ ด้รบั จากการลงทุนทำสตรอว์เบอรร์ ี่โยเกริ ์ต

7.3 ด้านเวลา

พฤษภาคม - สงิ หาคม 2565

38

7.4 แบบรา่ ง (ถา้ ม)ี
-

8. วธิ ีการดำเนนิ งาน

กจิ กรรม/ขนั้ ตอน ระยะเวลาดำเนินงาน (สปั ดาหท์ )่ี หมายเหตุ
ดำเนินงาน
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18

ขัน้ เตรียมการ

เสนอหวั ขอ้ โครงงาน
และจดั ทำแบบเสนอ
ขออนุมตั ิโครงงาน
ศึกษาข้อมูลข้นั ตอน
การผลิตสตอเบอว์รี่
โยเกิรต์

ขัน้ ดำเนนิ การ

ทำการผลิตสตอเบอร์
ร่ีโยเกริ ์ตเพอ่ื จำหน่าย

ทำการจำหนา่ ย
สตอเบอว์รโี่ ยเกิรต์
ใหแ้ ก่กลุ่มนกั ศึกษา
ทีส่ นใจ

ข้นั สรปุ และประเมนิ ผล

สรุปผลการ
ดำเนนิ งาน

จดั ทำรายงานเพ่อื
นำเสนอครผู สู้ อนและ
ครทู ี่ปรกึ ษาโครงงาน

39

9. รายการวัสดุและแหล่งท่ีมาของงบประมาณในการดำเนินโครงงาน

9.1 รายการวัสดุ

ที่ รายการ จำนวน ราคาหนว่ ยละ จำนวนเงิน หมายเหตุ
2 ชุด 348 บาท 696 บาท
1 วัตถดุ บิ ในการทำสตรอว์เบอร์ร่ี
โยเกิรต์ 1 ชุด 400 บาท 400 บาท

2 อปุ กรณ์ในการทำสตรอว์เบอร์ร่ี 2 เล่ม 300 บาท 600 บาท
โยเกิรต์ 1,696 บาท

3 คา่ เอกสารรปู เล่ม

รวมทง้ั สิ้น

9.2 แหล่งที่มาของงบประมาณ
ทุนส่วนตวั นักเรียน

10. ผลทคี่ าดวา่ จะไดร้ ับจากการทำโครงงาน

10.1 ทำใหท้ ราบต้นทุนในการผลติ สตรอวเ์ บอร์ร่โี ยเกริ ต์
10.2 ทำให้ทราบถงึ ผลกำไรขาดทนุ การทำสตรอวเ์ บอร์รโี่ ยเกิร์ต
10.3 เพอื่ ใหท้ ราบความพึงพอใจของผบู้ ริโภคทีม่ ตี ่อการบริโภคสตรอว์เบอรร์ โ่ี ยเกริ ต์

11. การติดตามและประเมินผลโครงงาน
เคร่ืองมือที่ใช้ในการติดตามประเมินผลโครงงาน ได้แก่ แบบสอบถาม

40

ลงชื่อ.....................................................ผเู้ สนอโครงงาน
(นางสาวณัฐชยา นนทะพฒั น์)

ลงชอ่ื ......................................ครูประจำวิชา ลงชือ่ .....................................ครูท่ีปรึกษาโครงงาน

(นางสาวอรวลัญช์ นอ้ ยสมวงษ์) (นางสาวสกาวใจ พัชรพงศ์ศานต์)

ความคดิ เหน็ ............................................. ความคดิ เห็น...............................................

ลงชอื่ ..............................หัวหน้าแผนกวชิ า ลงชอื่ ....................................รองผู้อำนวยการ
(นางสกาวรตั น์ บญุ ศลิ ป์) (นายอิศรา อยยู่ งิ่ )

.............../................................/.................

การพจิ ารณาของผู้อำนวยการ/ลงนาม
 อนมุ ตั ิ  ไม่อนุมัติ

ลงช่อื ........................................................
ผ้อู ำนวยการ

(นายชัยณรงค์ คชั มาตย)์

.............../................................/................

ภาคผนวก ค
แสดงภาพการลงพื้นทก่ี ารเกบ็ ขอ้ มลู ความคดิ เห็นเกย่ี วกบั ปจั จยั ที่มผี ลตอ่ พฤตกิ รรม

การบริโภคสตอเบอรร์ ่ีโยเกริ ์ต