จากรูป รูปใดคือรูปต้นแบบ รูปใดคือภาพที่ได้จากการแปลงทางเรขาคณิต (△ABC เป็นรูปต้นแบบ และ △AB C เป็นภาพที่ได้จากการแปลงทางเรขาคณิต) จากรูป เป็นการแปลงทางเรขาคณิตแบบใด (การเลื่อนขนาน) ถ้าเลื่อนรูปต้นแบบไปทับภาพโดยการเลื่อนขนาน โดยไม่ต้องพลิกรูปจะทับกันได้สนิทหรือไม่ (ทับได้สนิท) จากการเลื่อนขนานข้างต้น มีการเลื่อนอย่างไร (มีการจับคู่ของจุดแต่ละจุดบนรูปต้นแบบและแต่ละจุดบน ภาพไปในทิศทางและระยะทางที่ต้องการในแนวเส้นตรง) จากรูป ส่วนของเส้นตรงที่เชื่อมระหว่างจุดที่สมนัยกันแต่ละคู่จะมีลักษณะอย่างไร (แต่ละคู่จะขนานกันและ ยาวเท่ากันทุกเส้น) จากรูป ส่วนของเส้นตรงบนรูปต้นแบบและภาพมีลักษณะเป็นอย่างไร (จะขนานกันและยาวเท่ากัน) ขั้นการวิเคราะห์และสรุปความรู้ ครูยกตัวอย่างภาพที่ได้จากการเลื่อนขนานให้นักเรียนพิจารณา โดยใช้การถาม-ตอบประกอบการอธิบายตัวอย่าง ดังนี้ ตัวอย่าง กำหนดให้ A B C เป็นภาพที่ได้จากการเลื่อนขนาน ABC ด้วย AAดังรูป จากสิ่งที่กำหนดให้ จะได้ดังนี้ 1. สามารถเลื่อน ABC ไปทับ A B C ได้สนิท โดยไม่ต้องพลิกรูป 2. AA, BB และ CC ขนานกัน และ AA = BB = CC 3. AB ขนานกับ AB และยาวเท่ากัน BC ขนานกับ BC และยาวเท่ากัน CA ขนานกับ CA และยาวเท่ากัน ขั้นแลกเปลี่ยนเรียนรู้และขั้นการฝึกปฏิบัติ
ให้นักเรียนแต่ละคนเขียนแสดงการเลื่อนขนานของรูปเรขาคณิต คนละ 2 รูป ลงในกระดาษกราฟที่ครูแจก พร้อม อธิบายความสัมพันธ์ของรูปเช่นเดียวกับตัวอย่าง จากนั้นคัดเลือกผู้แทนนักเรียน 5 คน ออกมาแสดงการเลื่อนขนานบนกระดาน โดยครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ ให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายและสรุปความรู้ โดยเชื่อมโยงจากตัวอย่าง กิจกรรม และการตอบคำถามข้างต้น ดังนี้ การเลื่อนขนาน (Translation) เป็นการแปลงทางเรขาคณิตที่มีการจับคู่ของจุดแต่ละจุด บนรูปต้นแบบกับจุดแต่ละจุดบนรูปที่ได้จากการเลื่อนขนานไปในทิศทางและระยะทางที่ต้องการ ในแนวเส้นตรง สมบัติการเลื่อนขนาน 1) สามารถเลื่อนรูปต้นแบบทับภาพที่ได้จากการเลื่อนขนานได้สนิท โดยไม่ต้องพลิกรูป 2) ส่วนของเส้นตรงที่เชื่อมระหว่างจุดที่สมนัยกันแต่ละคู่จะขนานกันและยาวเท่ากันทุกเส้น 3) ส่วนของเส้นตรงบนรูปต้นแบบและภาพที่ได้จากการเลื่อนขนานของส่วนของเส้นตรงนั้น จะขนานกัน และยาวเท่ากัน ขั้นการประเมินผลการเรียนรู้ ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยครูถามคำถาม ดังนี้ นักเรียนจะนำความรู้เรื่อง การเลื่อนขนาน ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันของตนเอง ได้อย่างไร สื่อการเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ หนังสือเรียนคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ของหนังสือเรียน พว. ชั้น ม.2 ชิ้นงาน/ภาระรวบยอด นักเรียนทำแบบฝึกหัด 1 ในหนังสือเรียน เป็นรายบุคคล การออกแบบวิธีการและเครื่องมือประเมินผล ตัวชี้วัดจากจุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การให้ คะแนน เกณฑ์ 1. อธิบายเกี่ยวกับการเลื่อนขนาน (K) ตรวจแบบฝึกหัด1 แบบฝึกหัด 1 ประเมินผล ตามสภาพจริง ผ่านเกณฑ์ร้อย ละ 60 2.แสดงการเลื่อนขนานของภาพ จากรูปต้นแบบ (P) ตรวจแบบฝึกหัด1 แบบฝึกหัด1 ประเมินผล ตามสภาพจริง ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 3. ตระหนักและเห็นคุณค่าของการนำ ความรู้เรื่อง การประยุกต์การเลื่อนขนาน ไปประยุกต์ใช้(A) สังเกตพฤติกรรม การทำงาน แบบสังเกต พฤติกรรมการ ทำงาน ประเมินผล ตามสภาพจริง ผ่านเกณฑ์ร้อย ละ 60
บันทึกผลหลังการสอน ผลการจัดการเรียนการสอน - นักเรียนจำนวน.........................................คน - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับดีเยี่ยมจำนวน...........................คน คิดเป็นร้อยละ........................ - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับดีจำนวน...................................คน คิดเป็นร้อยละ........................ - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับพอใช้จำนวน.............................คน คิดเป็นร้อยละ....................... - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับผ่านจำนวน...............................คน คิดเป็นร้อยละ....................... - นักเรียนไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้จำนวน...........................................คน คิดเป็นร้อยละ...................... ได้แก่ (ระบุชื่อ)……………………………………………………………………………..…………………………………….………. เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ 5 ระดับ ดังนี้ ระดับดีเยี่ยม คะแนนร้อยละ 80 - 100 ระดับดี คะแนนร้อยละ 70 - 79 ระดับพอใช้ คะแนนร้อยละ 60 – 69 ระดับผ่าน คะแนนร้อยละ 50 - 59 ระดับไม่ผ่าน คะแนนร้อยละ 0 - 49 ปัญหา/อุปสรรค .......................................................................................................................................................................... แนวทางแก้ไข ........................................................................................................................................................................ ลงชื่อ ผู้สอน (นายอนุรักษ์ โพธิ์โพ้น) วันที่……..../................../................ ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………. ลงชื่อ....................................................... ( นายอนุรักษ์ โพธิ์โพ้น ) หัวหน้ากลุ่มสาระคณิตศาสตร์ ความคิดเห็นของหัวหน้างานวิชาการ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………. ลงชื่อ....................................................... (นางสาวเดือนเพ็ญ วาปีกัง) ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานวิชาการ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 18 แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ รายวิชา คณิตศาสตร์เพิ่มเติม รหัสวิชา ค 22201 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง การประยุกต์ของการแปลงทางเรขาคณิต จำนวน 4 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 18 เรื่อง การเลื่อนขนานบนระนาบพิกัดฉาก เวลา 1 ชั่วโมง ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ผลการเรียนรู้ ใช้ความรู้เกี่ยวกับการเลื่อนขนาน ในการสร้างสรรค์งานศิลปะหรือออกแบบ จุดประสงค์การเรียนรู้/ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายเกี่ยวกับการประยุกต์ของการเลื่อนขนานบนระนาบพิกัดฉาก (K) 2. แสดงการเลื่อนขนานของภาพจากรูปต้นแบบ (P) 3. ตระหนักและเห็นคุณค่าของการนำความรู้เรื่อง การประยุกต์การเลื่อนขนาน ไปประยุกต์ใช้ ในชีวิตประจำวัน (A) สาระการเรียนรู้ การเลื่อนขนานบนระนาบพิกัดฉาก สาระสำคัญ การเลื่อนขนานบนระนาบพิกัดฉาก สามารถเขียนลำดับการเลื่อนโดยใช้สัญลักษณ์ โดยที่ a หมายถึง การเลื่อนในแนวนอน b หมายถึง การเลื่อนในแนวตั้ง และกำหนดการเลื่อนไปทางขวา หรือเลื่อนขึ้นบนมีเครื่องหมายหน้าตัวเลขเป็นบวก และการเลื่อนไปทางซ้าย หรือเลื่อนลงล่างมีเครื่องหมายหน้าตัวเลขเป็นลบ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด คุณลักษณะที่พึงประสงค์ 1) ใฝ่เรียนรู้ 2) มุ่งมั่นในการทำงาน รูปแบบวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning 1) การเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน (Activity-Based Learning)
วิธีการสอนของครู 1) การสอนแบบมีส่วนร่วม บูรณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 1) เงื่อนไขความรู้ บูรณาการคุณค่าพระวรสาร 1) การไตร่ตรอง / ภาวนา (reflection / prayer 2) ความซื่อตรง (honesty) 3) การงาน / หน้าที่ (work / duty) บูรณาการอัตลักษณ์โรงเรียน 1) ซื่อสัตย์ 2) อยู่อย่างพอเพียง กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาทบทวนเกี่ยวกับการเลื่อนขนาน จากนั้นครูยกตัวอย่างภาพแสดงการเลื่อนขนานบน ระนาบพิกัดฉากให้นักเรียนพิจารณา โดยตั้งคำถามกระตุ้นความคิดของนักเรียน ดังนี้ จากรูป การเลื่อนขนานข้างต้นมีลักษณะอย่างไร (เป็นการเลื่อนขนานบนระนาบพิกัดฉาก) จากรูป ถ้า ABCD เป็นรูปต้นแบบ เมื่อเลื่อนตำแหน่งเป็น A B C D ซึ่งเป็นภาพ ที่ได้จากการเลื่อนขนาน มีลักษณะการเลื่อนอย่างไร (เลื่อนไปทางขวา 9 หน่วย และเลื่อนขึ้นบน 3 หน่วย) นักเรียนสามารถเขียนสัญลักษณ์แสดงการเลื่อนขนานบนระนาบพิกัดฉากได้อย่างไร (เขียนแทนโดย ) สัญลักษณ์แสดงการเลื่อนขนานนี้มีความหมายว่าอย่างไร (เมื่อ โดยที่ a หมายถึง การเลื่อนแนวนอน และ b หมายถึง การเลื่อนในแนวตั้ง โดยกำหนดให้การเลื่อนไปทางขวาหรือขึ้นบน มีเครื่องหมายหน้าตัวเลขเป็นบวก และการเลื่อนไปทางซ้ายหรือเลื่อนลงล่างมีเครื่องหมายหน้าตัวเลข เป็นลบ) a b a b
ขั้นนำเสนอความรู้ใหม่ ครูกำหนดสัญลักษณ์แสดงการเลื่อนขนานบนระนาบพิกัดฉากบนกระดาน 4 ข้อ จากนั้น ให้ผู้แทนนักเรียน 4 คน ออกมาเขียนบอกความหมายของสัญลักษณ์นั้น โดยครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง ดังนี้ จงบอกความหมายของสัญลักษณ์แสดงการเลื่อนขนานบนระนาบพิกัดฉากต่อไปนี้ 1. (หมายถึง การเลื่อนไปทางขวา 3 หน่วย และเลื่อนขึ้นบนอีก 5 หน่วย) 2. (หมายถึง การเลื่อนไปทางซ้าย 3 หน่วย และเลื่อนขึ้นบนอีก 5 หน่วย) 3. (หมายถึง การเลื่อนไปทางขวา 3 หน่วย และเลื่อนลงล่างอีก 5 หน่วย) 4. (หมายถึง การเลื่อนไปทางซ้าย 3 หน่วย และเลื่อนลงล่างอีก 5 หน่วย) ขั้นการวิเคราะห์และสรุปความรู้ ครูยกตัวอย่างโจทย์การเลื่อนขนานบนระนาบพิกัดฉากและการนำความรู้การเลื่อนขนาน ไปประยุกต์ใช้แก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ให้นักเรียนพิจารณา โดยใช้การถาม-ตอบประกอบการอธิบายตัวอย่าง ดังนี้ ตัวอย่างที่ 1 กำหนดรูปสี่เหลี่ยม ABCD มีจุดยอดมุมที่ A(–9,1), B(–3,1), C(–2, 5) และ D(–8, 5) ให้นักเรียนเขียนรูปที่ได้จากการเลื่อนขนานบนระนาบพิกัดฉากของรูปสี่เหลี่ยม ABCD ภายใต้การเลื่อนขนาน 3 5 –3 5 3 –5 –3 –5 9 3
รูปที่ได้จากการเลื่อนขนานบนระนาบพิกัดฉากคือ รูปสี่เหลี่ยม ABCD พิกัดของจุดยอดมุมได้แก่ A(0, 4), B(6, 4), C(7, 8) และ D(1, 8) ขั้นแลกเปลี่ยนเรียนรู้และขั้นการฝึกปฏิบัติ ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน ให้แต่ละกลุ่มสร้างโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับการนำความรู้การเลื่อนขนานไป ประยุกต์ใช้แก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ กลุ่มละ 2 ข้อ พร้อมทั้งแสดงวิธีการหาคำตอบ จากนั้นให้ผู้แทนกลุ่มออกมาเขียน โจทย์บนกระดาน กลุ่มละ 1 ข้อ แล้วให้กลุ่มอื่นส่งผู้แทนนักเรียนออกมาแสดงวิธีการหาคำตอบ โดยครูและนักเรียนกลุ่มอื่น ร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ ให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายและสรุปความรู้ โดยเชื่อมโยงจากตัวอย่าง กิจกรรม และการตอบคำถามข้างต้น ดังนี้ การเลื่อนขนานบนระนาบพิกัดฉาก สามารถเขียนลำดับการเลื่อนโดยใช้สัญลักษณ์ โดยที่ a หมายถึง การเลื่อนในแนวนอน b หมายถึง การเลื่อนในแนวตั้ง และกำหนดการเลื่อนไปทางขวาหรือเลื่อนขึ้นบนมี เครื่องหมายหน้าตัวเลขเป็นบวก และการเลื่อนไปทางซ้าย หรือเลื่อนลงล่างมีเครื่องหมายหน้าตัวเลขเป็นลบ ขั้นการประเมินผลการเรียนรู้ ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยครูถามคำถาม ดังนี้ นักเรียนมีวิธีการอย่างไรในการหาคำตอบของการเลื่อนขนานบนระนาบพิกัดฉากให้ถูกต้อง ได้รวดเร็วขึ้น สื่อการเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ หนังสือเรียนคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ของหนังสือเรียน พว. ชั้น ม.2 ชิ้นงาน/ภาระรวบยอด นักเรียนทำแบบฝึกหัด 2 ในหนังสือเรียน เป็นรายบุคคล การออกแบบวิธีการและเครื่องมือประเมินผล ตัวชี้วัดจากจุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การให้ คะแนน เกณฑ์ 1.อธิบายเกี่ยวกับการประยุกต์ของ การเลื่อนขนานบนระนาบพิกัดฉาก (K) ตรวจแบบฝึกหัด2 แบบฝึกหัด 2 ประเมินผล ตามสภาพจริง ผ่านเกณฑ์ร้อย ละ 60 2.แสดงการเลื่อนขนานของภาพ จากรูปต้นแบบ (P) ตรวจแบบฝึกหัด2 แบบฝึกหัด2 ประเมินผล ตามสภาพจริง ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 3. ตระหนักและเห็นคุณค่าของการ นำความรู้เรื่อง การประยุกต์การ เลื่อนขนาน ไปประยุกต์ใช้ ในชีวิตประจำวัน (A) สังเกตพฤติกรรม การทำงาน แบบสังเกต พฤติกรรมการ ทำงาน ประเมินผล ตามสภาพจริง ผ่านเกณฑ์ร้อย ละ 60 b
บันทึกผลหลังการสอน ผลการจัดการเรียนการสอน - นักเรียนจำนวน.........................................คน - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับดีเยี่ยมจำนวน...........................คน คิดเป็นร้อยละ........................ - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับดีจำนวน...................................คน คิดเป็นร้อยละ........................ - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับพอใช้จำนวน.............................คน คิดเป็นร้อยละ....................... - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับผ่านจำนวน...............................คน คิดเป็นร้อยละ....................... - นักเรียนไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้จำนวน...........................................คน คิดเป็นร้อยละ...................... ได้แก่ (ระบุชื่อ)……………………………………………………………………………..…………………………………….………. เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ 5 ระดับ ดังนี้ ระดับดีเยี่ยม คะแนนร้อยละ 80 - 100 ระดับดี คะแนนร้อยละ 70 - 79 ระดับพอใช้ คะแนนร้อยละ 60 – 69 ระดับผ่าน คะแนนร้อยละ 50 - 59 ระดับไม่ผ่าน คะแนนร้อยละ 0 - 49 ปัญหา/อุปสรรค .......................................................................................................................................................................... แนวทางแก้ไข ........................................................................................................................................................................ ลงชื่อ ผู้สอน (นายอนุรักษ์ โพธิ์โพ้น) วันที่……..../................../................ ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………. ลงชื่อ....................................................... ( นายอนุรักษ์ โพธิ์โพ้น ) หัวหน้ากลุ่มสาระคณิตศาสตร์ ความคิดเห็นของหัวหน้างานวิชาการ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………. ลงชื่อ....................................................... (นางสาวเดือนเพ็ญ วาปีกัง) ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานวิชาการ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 19 แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ รายวิชา คณิตศาสตร์เพิ่มเติม รหัสวิชา ค 22201 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง การประยุกต์ของการแปลงทางเรขาคณิต จำนวน 4 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 19 เรื่อง การสะท้อน เวลา 1 ชั่วโมง ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ผลการเรียนรู้ ใช้ความรู้เกี่ยวกับการสะท้อน ในการสร้างสรรค์งานศิลปะหรือออกแบบ จุดประสงค์การเรียนรู้/ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายเกี่ยวกับการสะท้อน (K) 2. แสดงการสะท้อน (P) 3. ตระหนักและเห็นคุณค่าของการนำความรู้เรื่อง การสะท้อน ไปประยุกต์ใช้แก้ปัญหา (A) สาระการเรียนรู้ การสะท้อน สาระสำคัญ การสะท้อน (Reflection) เป็นการแปลงทางเรขาคณิตที่มีการจับคู่ของจุดแต่ละจุดบนรูปต้นแบบ กับจุดแต่ละจุดบนรูปสะท้อน โดยมีเส้นสะท้อนอยู่กึ่งกลางระหว่างรูปต้นแบบกับภาพที่เกิดจากการสะท้อน ซึ่งภาพที่เกิดจากการสะท้อนจะมีระยะห่างจากเส้นสะท้อนเท่ากับรูปต้นแบบอยู่ห่างจากเส้นสะท้อน ซึ่งเส้นสะท้อนจะแบ่งครึ่ง และตั้งฉากกับแนวของเส้นสะท้อน สมบัติการสะท้อน 1. สามารถเลื่อนรูปต้นแบบทับภาพที่ได้จากการสะท้อนได้สนิท โดยต้องพลิกรูป 2. เส้นสะท้อนแบ่งครึ่งและตั้งฉากกับส่วนของเส้นตรงที่เชื่อมระหว่างจุดที่สมนัยกัน 3. ส่วนของเส้นตรงบนรูปต้นแบบและภาพที่ได้จากการสะท้อนของส่วนของเส้นตรงนั้น ไม่จำเป็นต้องขนานกันทุกคู่ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด คุณลักษณะที่พึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้ 2) มุ่งมั่นในการทำงาน รูปแบบวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning 1) การเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน (Activity-Based Learning) วิธีการสอนของครู 1) การสอนแบบมีส่วนร่วม บูรณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 1) เงื่อนไขความรู้ บูรณาการคุณค่าพระวรสาร 1) การไตร่ตรอง / ภาวนา (reflection / prayer 2) ความซื่อตรง (honesty) 3) การงาน / หน้าที่ (work / duty) บูรณาการอัตลักษณ์โรงเรียน 1) ซื่อสัตย์ 2) อยู่อย่างพอเพียง กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาทบทวนเกี่ยวกับการเลื่อนขนาน จากนั้นตั้งคำถามกระตุ้นความคิดของนักเรียน ดังนี้ การเลื่อนขนานและการเลื่อนขนานบนระนาบพิกัดฉากมีลักษณะอย่างไร (การเลื่อนขนานเป็นการจับคู่แต่ละ จุดบนรูปต้นแบบกับแต่ละจุดบนภาพในทิศทางและระยะทางที่ต้องการในแนวเส้นตรง ส่วนการเลื่อนขนานบนระนาบพิกัด ฉากเป็นการจับคู่แต่ละจุดบนรูปต้นแบบกับแต่ละจุดบนภาพในทิศทางและระยะทางที่ต้องการบนระนาบพิกัดฉาก) สมบัติของการเลื่อนขนานมีอะไรบ้าง (1. สามารถเลื่อนรูปต้นแบบทับภาพที่ได้จากการเลื่อนขนานได้สนิท โดยไม่ต้องพลิกรูป 2.ส่วนของเส้นตรงที่เชื่อมระหว่างจุดที่สมนัยกันแต่ละคู่จะขนานกันและยาวเท่ากันทุกเส้น 3. ส่วนของเส้นตรงบนรูปต้นแบบและภาพที่ได้จากการเลื่อนขนานของส่วนของเส้นตรงนั้น จะขนานกันและยาวเท่ากัน)
ขั้นนำเสนอความรู้ใหม่ ให้นักเรียนพิจารณาภาพแสดงการสะท้อน จากนั้นตั้งคำถามกระตุ้นความคิดของนักเรียน ดังนี้ จากรูป รูปใดคือรูปต้นแบบ รูปใดคือภาพที่ได้จากการแปลงทางเรขาคณิต ( XYZ เป็นรูปต้นแบบ และ X Y Z เป็นภาพที่ได้จากการแปลงทางเรขาคณิต) จากรูป เป็นการแปลงทางเรขาคณิตแบบใด (การสะท้อน) จากรูป เส้นสะท้อนคือเส้นใด (เส้น ) เส้นสะท้อนสัมพันธ์กับรูปต้นแบบกับภาพจากการสะท้อนอย่างไร (อยู่กึ่งกลางระหว่าง รูปทั้งสอง) จากรูป สามารถเลื่อนรูปต้นแบบกับภาพที่ได้จากการสะท้อนทับกันได้สนิท โดยต้องพลิกรูปหรือไม่ (ต้องพลิกรูป) เส้นสะท้อนมีความสัมพันธ์กับส่วนของเส้นตรงที่เชื่อมระหว่างจุดที่สมนัยกันอย่างไร (เส้นสะท้อนแบ่งครึ่งและตั้งฉากกับส่วนของเส้นตรงที่เชื่อมระหว่างจุดที่สมนัยกัน) ขั้นการวิเคราะห์และสรุปความรู้ ครูยกตัวอย่างภาพที่ได้จากการสะท้อนให้นักเรียนพิจารณา โดยใช้การถาม-ตอบประกอบ การอธิบายตัวอย่าง ดังนี้ ตัวอย่าง กำหนดให้ XYZ เป็นภาพที่ได้จากการสะท้อน XYZ ด้วยเส้นสะท้อน ดังรูป A B C
จากสิ่งที่กำหนดให้ จะได้ดังนี้ 1. สามารถพลิก XYZ แล้วเลื่อนไปทับ XYZ ได้สนิท 2. เส้นสะท้อน แบ่งครึ่งและตั้งฉากกับ XX, YY และ ZZ 3. XX, YY และ ZZ ขนานกัน ขั้นแลกเปลี่ยนเรียนรู้และขั้นการฝึกปฏิบัติ ให้นักเรียนแต่ละคนเขียนแสดงการสะท้อนของรูปเรขาคณิต คนละ 2 รูป ลงในกระดาษกราฟ ที่ครูแจก พร้อมอธิบายความสัมพันธ์ของรูปเช่นเดียวกับตัวอย่าง จากนั้นคัดเลือกผู้แทนนักเรียน 5 คน ออกมาแสดงการ สะท้อนบนกระดาน โดยครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ ให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายและสรุปความรู้ โดยเชื่อมโยงจากตัวอย่าง กิจกรรม และการตอบคำถามข้างต้น ดังนี้ การสะท้อน (Reflection) เป็นการแปลงทางเรขาคณิตที่มีการจับคู่ของจุดแต่ละจุดบน รูปต้นแบบกับจุดแต่ละจุดบนรูปสะท้อน โดยมีเส้นสะท้อนอยู่กึ่งกลางระหว่างรูปต้นแบบกับภาพที่เกิด จากการสะท้อน ซึ่งภาพที่เกิดจากการสะท้อนจะมีระยะห่างจากเส้นสะท้อนเท่ากับรูปต้นแบบอยู่ห่างจากเส้นสะท้อน ซึ่งเส้น สะท้อนจะแบ่งครึ่งและตั้งฉากกับแนวของเส้นสะท้อน สมบัติการสะท้อน 1. สามารถเลื่อนรูปต้นแบบทับภาพที่ได้จากการสะท้อนได้สนิท โดยต้องพลิกรูป 2. เส้นสะท้อนแบ่งครึ่งและตั้งฉากกับส่วนของเส้นตรงที่เชื่อมระหว่างจุดที่สมนัยกัน 3. ส่วนของเส้นตรงบนรูปต้นแบบและภาพที่ได้จากการสะท้อนของส่วนของเส้นตรงนั้น ไม่จำเป็นต้องขนานกันทุกคู่
ขั้นการประเมินผลการเรียนรู้ ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยครูถามคำถาม ดังนี้ นักเรียนจะนำความรู้เรื่อง การสะท้อน ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันของตนเอง ได้อย่างไร สื่อการเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ หนังสือเรียนคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ของหนังสือเรียน พว. ชั้น ม.2 ชิ้นงาน/ภาระรวบยอด นักเรียนทำแบบฝึกหัด 3 ในหนังสือเรียน เป็นรายบุคคล การออกแบบวิธีการและเครื่องมือประเมินผล ตัวชี้วัดจากจุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การให้ คะแนน เกณฑ์ 1. อธิบายเกี่ยวกับการสะท้อน (K) ตรวจแบบฝึกหัด3 แบบฝึกหัด 3 ประเมินผล ตามสภาพจริง ผ่านเกณฑ์ร้อย ละ 60 2.แสดงการสะท้อน (P) ตรวจแบบฝึกหัด3 แบบฝึกหัด3 ประเมินผล ตามสภาพจริง ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 3. ตระหนักและเห็นคุณค่าของการ นำความรู้เรื่อง การสะท้อน ไป ประยุกต์ใช้แก้ปัญหา (A) สังเกตพฤติกรรม การทำงาน แบบสังเกต พฤติกรรมการ ทำงาน ประเมินผล ตามสภาพจริง ผ่านเกณฑ์ร้อย ละ 60
บันทึกผลหลังการสอน ผลการจัดการเรียนการสอน - นักเรียนจำนวน.........................................คน - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับดีเยี่ยมจำนวน...........................คน คิดเป็นร้อยละ........................ - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับดีจำนวน...................................คน คิดเป็นร้อยละ........................ - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับพอใช้จำนวน.............................คน คิดเป็นร้อยละ....................... - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับผ่านจำนวน...............................คน คิดเป็นร้อยละ....................... - นักเรียนไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้จำนวน...........................................คน คิดเป็นร้อยละ...................... ได้แก่ (ระบุชื่อ)……………………………………………………………………………..…………………………………….………. เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ 5 ระดับ ดังนี้ ระดับดีเยี่ยม คะแนนร้อยละ 80 - 100 ระดับดี คะแนนร้อยละ 70 - 79 ระดับพอใช้ คะแนนร้อยละ 60 – 69 ระดับผ่าน คะแนนร้อยละ 50 - 59 ระดับไม่ผ่าน คะแนนร้อยละ 0 - 49 ปัญหา/อุปสรรค .......................................................................................................................................................................... แนวทางแก้ไข ........................................................................................................................................................................ ลงชื่อ ผู้สอน (นายอนุรักษ์ โพธิ์โพ้น) วันที่……..../................../................ ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………. ลงชื่อ....................................................... ( นายอนุรักษ์ โพธิ์โพ้น ) หัวหน้ากลุ่มสาระคณิตศาสตร์ ความคิดเห็นของหัวหน้างานวิชาการ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………. ลงชื่อ....................................................... (นางสาวเดือนเพ็ญ วาปีกัง) ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานวิชาการ
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 20 แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ รายวิชา คณิตศาสตร์เพิ่มเติม รหัสวิชา ค 22201 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง การประยุกต์ของการแปลงทางเรขาคณิต จำนวน 4 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 20 เรื่อง การหมุน เวลา 1 ชั่วโมง ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ผลการเรียนรู้ ใช้ความรู้เกี่ยวกับการหมุน ในการสร้างสรรค์งานศิลปะหรือออกแบบ จุดประสงค์การเรียนรู้/ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายเกี่ยวกับการหมุน (K) 2. แสดงการหมุนทวนเข็มนาฬิกาและหมุนตามเข็มนาฬิกา (P) 3. ตระหนักและเห็นคุณค่าของการนำความรู้เกี่ยวกับการหมุนไปประยุกต์ใช้แก้ปัญหา (A) สาระการเรียนรู้ การหมุน สาระสำคัญ การหมุน (Rotation) เป็นการแปลงที่เกิดจากการจับคู่ของจุดแต่ละจุดระหว่างรูปต้นแบบกับภาพที่ได้จากการหมุน โดย หมุนรอบจุดคงที่จุดหนึ่ง ซึ่งเรียกว่า จุดหมุน และหมุนไปในทิศทางและขนาดของมุมที่ต้องการ ทิศทางของการหมุนมี2 ทิศทาง คือ หมุนทวนเข็มนาฬิกาและหมุนตามเข็มนาฬิกา การหมุนถ้าไม่บอกทิศทางการหมุนให้ถือ ว่าเป็นการหมุนทวนเข็มนาฬิกา สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1) ความสามารถในการสื่อสาร 2) ความสามารถในการคิด คุณลักษณะที่พึงประสงค์ 1) ใฝ่เรียนรู้ 2) มุ่งมั่นในการทำงาน รูปแบบวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning 1) การเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน (Activity-Based Learning) วิธีการสอนของครู 1) การสอนแบบมีส่วนร่วม
บูรณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 1) เงื่อนไขความรู้ บูรณาการคุณค่าพระวรสาร 1) การไตร่ตรอง / ภาวนา (reflection / prayer 2) ความซื่อตรง (honesty) 3) การงาน / หน้าที่ (work / duty) บูรณาการอัตลักษณ์โรงเรียน 1) ซื่อสัตย์ 2) อยู่อย่างพอเพียง กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาทบทวนเกี่ยวกับการหมุน จากนั้นตั้งคำถามกระตุ้นความคิดของนักเรียน ดังนี้ การหมุนมีลักษณะอย่างไร (การหมุนเป็นการแปลงที่เกิดจากการจับคู่ของจุดแต่ละจุดระหว่างรูปต้นแบบ กับภาพที่ได้จากการหมุน โดยหมุนรอบจุดคงที่จุดหนึ่ง) จุดคงที่ที่ใช้ในการหมุนเรียกว่าอะไร (จุดหมุน) ขั้นนำเสนอความรู้ใหม่ ให้นักเรียนพิจารณาตัวอย่างภาพแสดงการหมุน โดยหมุนทวนเข็มนาฬิกาพร้อมกับวิธีสร้างโดยใช้การถาม-ตอบประกอบการ อธิบายตัวอย่าง จากนั้นตั้งคำถามกระตุ้นความคิดของนักเรียน ดังนี้ ตัวอย่าง จงเขียนภาพที่เกิดจากการหมุนรูปสามเหลี่ยม XOY รอบจุด O โดยหมุนทวนเข็มนาฬิกา เป็นมุม 90 องศา
วิธีสร้าง 1. ลากเส้นตรง 1 ผ่านจุด O และตั้งฉากกับ OX 2. ใช้O เป็นจุดศูนย์กลาง รัศมีเท่ากับ OX เขียนส่วนโค้งตัดเส้นตรง 1 ที่ X ทำให้OX = OX 3. ลากเส้นตรง 2 ผ่านจุด O และตั้งฉากกับ OY 4. ใช้O เป็นจุดศูนย์กลาง รัศมีเท่ากับ OY เขียนส่วนโค้งตัดเส้นตรง 2 ที่ Y ทำให้OY = OY 5. ลาก OX, OY และ XY ทำให้เกิดรูปสามเหลี่ยม XOY ดังนั้น รูปสามเหลี่ยม XOY เป็นภาพที่เกิดจากการหมุนรูปสามเหลี่ยม XOY ทวนเข็มนาฬิกาเป็นมุม 90 องศา จากตัวอย่าง การหมุนนี้เป็นการหมุนที่มีทิศทางอย่างไร (เป็นการหมุนทวนเข็มนาฬิกา) นักเรียนคิดว่าสามารถสร้างการหมุนตามเข็มนาฬิกาได้หรือไม่ (ได้) จากตัวอย่างนักเรียนสามารถเลื่อนรูปต้นแบบไปทับภาพที่ได้จากการหมุนได้สนิท โดยไม่ต้อง พลิกรูปได้หรือไม่ (ได้) จุดบนรูปต้นแบบและภาพที่ได้จากการหมุนจุดนั้นแต่ละคู่จะมีลักษณะอย่างไร (แต่ละคู่ จะอยู่บนวงกลมที่มีจุดหมุนเป็นจุดศูนย์กลางเดียวกัน) วงกลมที่ได้เหล่านี้มีรัศมียาวเท่ากันหรือไม่ (ไม่จำเป็นต้องมีรัศมียาวเท่ากัน) ส่วนของเส้นตรงบนรูปต้นแบบและภาพที่ได้จากการหมุนมีลักษณะอย่างไร (ส่วนของเส้นตรงนั้นไม่จำเป็นต้อง ขนานกันทุกคู่) ขั้นการวิเคราะห์และสรุปความรู้ ให้นักเรียนแต่ละคนสร้างภาพที่เกิดจากการหมุน โดยครูกำหนดให้ใช้ขนาดของมุมเป็น 60 ํ โดยใช้ทั้งการหมุนทวนเข็มนาฬิกาและการหมุนตามเข็มนาฬิกา คนละ 2 ข้อ ลงในกระดาษกราฟที่ครูแจก ครูเลือกผู้แทน นักเรียน 5 คน ออกมาแสดงการสร้างภาพที่เกิดจากการหมุน โดยครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง ขั้นแลกเปลี่ยนเรียนรู้และขั้นการฝึกปฏิบัติ ให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายและสรุปความรู้ โดยเชื่อมโยงจากตัวอย่าง กิจกรรม และการตอบคำถามข้างต้น ดังนี้ การหมุน (Rotation) เป็นการแปลงที่เกิดจากการจับคู่ของจุดแต่ละจุดระหว่างรูปต้นแบบกับภาพ ที่ได้จากการหมุน โดย หมุนรอบจุดคงที่จุดหนึ่ง ซึ่งเรียกว่า จุดหมุน และหมุนไปในทิศทางและขนาด ของมุมที่ต้องการ ทิศทางของการหมุนมี2 ทิศทาง คือ หมุนทวนเข็มนาฬิกาและหมุนตามเข็มนาฬิกา การหมุน ถ้าไม่บอกทิศทางการหมุนให้ถือว่าเป็นการหมุนทวนเข็มนาฬิกา ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยครูถามคำถาม ดังนี้ นักเรียนจะนำความรู้เรื่อง การหมุน ไปประยุกต์ใช้แก้ปัญหาในชีวิตประจำวันของตนเอง ได้อย่างไร
ขั้นการประเมินผลการเรียนรู้ ให้นักเรียนได้เข้าร่วมกิจกรรม ตอบคำถามและแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลายตามประสบการณ์การเรียนรู้ของ ตนเองโดยมีครูคอยชี้แนะและอธิบายเพิ่มเติม สื่อการเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ หนังสือเรียนคณิตศาสตร์เพิ่มเติม ของหนังสือเรียน พว. ชั้น ม.2 ชิ้นงาน/ภาระรวบยอด นักเรียนทำแบบฝึกหัด 4 ในหนังสือเรียน เป็นรายบุคคล การออกแบบวิธีการและเครื่องมือประเมินผล ตัวชี้วัดจากจุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การให้ คะแนน เกณฑ์ 1. อธิบายเกี่ยวกับการหมุน (K) ตรวจแบบฝึกหัด4 แบบฝึกหัด 4 ประเมินผล ตามสภาพจริง ผ่านเกณฑ์ร้อย ละ 60 2.แสดงการหมุนทวนเข็มนาฬิกา และหมุนตามเข็มนาฬิกา (P) ตรวจแบบฝึกหัด4 แบบฝึกหัด4 ประเมินผล ตามสภาพจริง ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 3. ตระหนักและเห็นคุณค่าของการ นำความรู้เกี่ยวกับการหมุนไป ประยุกต์ใช้แก้ปัญหา (A) สังเกตพฤติกรรม การทำงาน แบบสังเกต พฤติกรรมการ ทำงาน ประเมินผล ตามสภาพจริง ผ่านเกณฑ์ร้อย ละ 60
บันทึกผลหลังการสอน ผลการจัดการเรียนการสอน - นักเรียนจำนวน.........................................คน - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับดีเยี่ยมจำนวน...........................คน คิดเป็นร้อยละ........................ - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับดีจำนวน...................................คน คิดเป็นร้อยละ........................ - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับพอใช้จำนวน.............................คน คิดเป็นร้อยละ....................... - นักเรียนผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ระดับผ่านจำนวน...............................คน คิดเป็นร้อยละ....................... - นักเรียนไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้จำนวน...........................................คน คิดเป็นร้อยละ...................... ได้แก่ (ระบุชื่อ)……………………………………………………………………………..…………………………………….………. เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ 5 ระดับ ดังนี้ ระดับดีเยี่ยม คะแนนร้อยละ 80 - 100 ระดับดี คะแนนร้อยละ 70 - 79 ระดับพอใช้ คะแนนร้อยละ 60 – 69 ระดับผ่าน คะแนนร้อยละ 50 - 59 ระดับไม่ผ่าน คะแนนร้อยละ 0 - 49 ปัญหา/อุปสรรค .......................................................................................................................................................................... แนวทางแก้ไข ........................................................................................................................................................................ ลงชื่อ ผู้สอน (นายอนุรักษ์ โพธิ์โพ้น) วันที่……..../................../................ ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………. ลงชื่อ....................................................... ( นายอนุรักษ์ โพธิ์โพ้น ) หัวหน้ากลุ่มสาระคณิตศาสตร์ ความคิดเห็นของหัวหน้างานวิชาการ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………. ลงชื่อ....................................................... (นางสาวเดือนเพ็ญ วาปีกัง) ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานวิชาการ