The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ผลการใช้ชุดกิจกรรมการรับความรู้สึกทรงตัวและการเคลื่อนไหว

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nsbcm005, 2021-08-11 02:18:02

ผลการใช้ชุดกิจกรรมการรับความรู้สึกทรงตัวและการเคลื่อนไหว

ผลการใช้ชุดกิจกรรมการรับความรู้สึกทรงตัวและการเคลื่อนไหว

Keywords: ผลการใช้ชุดกิจกรรมการรับความรู้สึกทรงตัวและการเคลื่อนไหว

ความเที่ยงตรงด้านเนื้อหาว่าชุดกิจกรรมการรับความรู้สึกทรงตัวและการเคลื่อนไหวที่พัฒนาขึ้นสามารถ

นำไปใช้พัฒนาการใช้กล้ามเน้อื มดั ใหญ่ได้ โดยหาความสอดคล้องระหว่างชดุ กิจกรรมการรับความรู้สึกทรง

ตัวและการเคลื่อนไหวกับทักษะความสามารถในการใช้กล้ามเนือ้ มัดใหญ่ ด้วยวิธีหาคา่ ดชั นคี วามสอดคล้อง

IOC (Item Objective Congruency INDEX) กำหนดเกณฑ์การพิจารณา คอื

เหน็ ว่าสอดคล้อง ใหค้ ะแนน +1

ไมแ่ นใ่ จ ให้คะแนน 0

เหน็ ว่าไม่สอดคล้อง ให้คะแนน -1

ซึ่งกำหนดเกณฑ์การยอมรับคุณภาพในแต่ละข้อ ต้องมากกว่าหรือเท่ากับ 0.50 ในระหว่างขั้นตอนน้ี

ผู้เชี่ยวชาญได้เสนอแนะกิจกรรมเพิ่มจากจำนวน 10 กิจกรรมเป็นจำนวน 12 กิจกรรมให้เหมาะสมกับ

จำนวนรายการการประเมินและทักษะที่ต้องการทดสอบโดยใช้แบบทดสอบกล้ามเนื้อมัดใหญ่ และปรับช่ือ

กจิ กรรม นำขอ้ มูลมาหาค่าดชั นีความสอดคล้องได้เท่ากับ 0.95 (ภาคผนวก ข)

3.2.6 นำชุดกิจกรรมที่ผ่านการหาค่าความเที่ยงตรงด้านเนื้อหามาจัดทำแผนการจัด

ประสบการณ์ จำนวน 12 แผน แลว้ เสนอตอ่ ผูเ้ ชี่ยวชาญจำนวน 5 ทา่ นซง่ึ มีความรู้ ความเช่ียวชาญ ในการจดั

กิจกรรมตามทฤษฎี แนวคิดบูรณาการประสาทความรู้สึกและเคลื่อนไหว และมีประสบการณ์การสอนใน

เดก็ บกพร่องทางการเหน็ ประเมินคณุ ภาพของแผนโดยใชม้ าตราสว่ นประมาณค่า 5 ระดบั มกี ารให้คะแนน

ดงั นี้

เหมาะสมที่สดุ ให้ ให้ 5 คะแนน

เหมาะสมมากให้ ให้ 4 คะแนน

เหมาะสมปานกลาง ให้ 3 คะแนน

เหมาะสมนอ้ ย ให้ 2 คะแนน

เหมาะสมน้อยทสี่ ดุ ให้ 1 คะแนน

นำคะแนนที่ได้ไปคำนวณหาค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยยอมรับคุณภาพแต่ละข้อมี
ค่าเฉล่ยี ไมน่ ้อยกว่า 3.50 และสว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐานไม่เกนิ 1.00 ได้คา่ เฉลยี่ รวม 4.36 และส่วนเบ่ียงเบน
มาตรฐานรวมเฉลี่ยเท่ากับ 5.54 (ภาคผนวก ค) โดยมีคำแนะนำให้ปรับจุดประสงค์ให้ชัดเจนขึ้น และจัด
กิจกรรมตามลำดบั ขนั้ พัฒนาการของร่างกาย

สรปุ ผลการพัฒนาชดุ กิจกรรมการรบั ความรสู้ กึ ทรงตัวและการเคล่อื นไหว มีจำนวน 12 กิจกรรม ดงั นี้
1. กิจกรรมบนอปุ กรณ์ทรงตัว
2. กจิ กรรมนัง่ ขยม่ บอล
3. กิจกรรมไถรถเลอื่ น
4. กิจกรรมหมนุ ในถัง
5. กิจกรรมก้าวยาวๆ
6. กิจกรรมเดินข้ามหมอนกลม
7. กจิ กรรมการเดินบนสะพานทรงตัว
8. กจิ กรรมกระโดดแทรมโพลีน
9. กจิ กรรมกระโดดบนแผน่ โฟมส่เี หลีย่ ม
10. กิจกรรมก้าวข้นี ลงเกา้ อ้ีน่งั ยอง

43

11. กจิ กรรมวง่ิ เก็บผลไม้ใส่ตะกรา้
12. กจิ กรรมกระโดดขาเดยี ว

3.2.7 นำแผนการจัดประสบการณ์ของชดุ กิจกรรมการรบั ความรู้สึกทรงตัวและการเคลื่อนไหว
มาทดลองใช้เป็นรายบุคคล โดยทดลองกับนักเรียนมีอายุระหว่าง 4-12 ปี ซึ่งศึกษาในระดับปฐมวัย
ระดบั ช้ันอนบุ าล 2 ในภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2560 จำนวน 3 คน โรงเรยี นสอนคนตาบอดภาคเหนือ ฯ
ผู้ศึกษาทำการทดลองด้วยตนเอง จากการทดลองใช้และสอบถามความเข้าใจของนักเรียนในขั้นนี้ พบว่า
นักเรียนปฏิบัติตามขั้นสอนการสอนได้ โดยเพิ่มคำบอก คำสั่งให้นักเรียนเข้าใจมากขึ้นและควรพิจารณา
เลือกความเหมาะสมของอุปกรณ์ให้เหมาะกับขนาดของตัวเด็ก และขั้นตอนนี้ยังทำให้ทราบว่า ควรจัด
กิจกรรมไม่เกินเวลา 30 นาที เนื่องจากนักเรียนจะหมดความสนใจและรู้สึกล้า นำข้อมูลมาหาค่า
ประสทิ ธภิ าพของชุดกจิ กรรมได้ E1/E2เท่ากบั 73.60/74.99 (ภาคผนวก ง )

3.2.8 นำแผนการจัดประสบการณ์ของชุดกิจกรรมการรับความรู้สึกทรงตัวและการเคลื่อนไหว
มาทดลองใช้กับกลุ่มเล็ก ซึ่งเป็นนักเรียนระดับชั้นปฐมวัย ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนการศกึ ษาคนตาบอด
ลำปาง ปีการศึกษา 2560 จำนวน 6 คน อายุระหว่าง 4- 12 ปี โดยประสานขอความร่วมมือกับโรงเรียน
การศึกษาคนตาบอดลำปาง ซึ่งมีนักเรียน สถานที่ และอุปกรณ์การฝึกใกล้เคยี งกบั โรงเรียนสอนคนตาบอด
ภาคเหนอื ฯ ทดลองใชก้ ับนกั เรยี นจำนวน 6 คน โดยผู้ศึกษาทำการทดลองร่วมกบั ครูผสู้ อนระดับปฐมวัยใน
โรงเรียน โรงเรียน ผลการทดลองใช้ในขั้นนี้ ทำให้ทราบว่าสามารถปรับเปลี่ยนกิจกรรมขั้นเตรียมความ
พร้อมนักเรียนได้ตามบริบทของโรงเรียน นำข้อมูลมาหาค่าประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมได้ E1/E2 เท่ากบั
81.25/82.63 (ภาคผนวก ง )

3.2.9 นำแผนการจัดประสบการณ์ของชุดกิจกรรมการรับความรู้สึกทรงตัวและการ
เคลือ่ นไหว มาทดลองใชก้ ับกลมุ่ ใหญ่ ซ่ึงเป็นนกั เรียนระดับชั้นปฐมวัย โรงเรยี นการศึกษาคนตาบอดแม่สาย
จงั หวัดเชยี งราย จำนวน 9 คน อายรุ ะหว่าง 4- 12 ปี โดยประสานขอความรว่ มมอื กับโรงเรียนการศึกษาคน
ตาบอดแม่สาย ซึ่งมีนักเรียน สถานที่ และอุปกรณ์การฝึกใกล้เคียงกับโรงเรียนสอนคนตาบอดภาคเหนือ ฯ
นำชดุ กจิ กรรมไปทดลองใช้กับนักเรียนจำนวน 9 คนโดยผศู้ ึกษาทำการทดลองรว่ มกบั ครูผู้สอนระดบั ปฐมวยั
ใน ในขั้นตอนนี้มีการปรับวิธีการสอนได้ตามความถนัดของครูผู้สอน โดยยังคงหลักการตามจุดประสงค์
กิจกรรม นำขอ้ มูลมาหาคา่ ประสิทธิภาพของชดุ กจิ กรรมได้ E1/E2 เทา่ กบั 82.40/81.94 (ภาคผนวก จ )

3.2.10 นำชุดกิจกรรมที่ผ่านการหาประสิทธิภาพตามขั้นตอนแล้ว นำมาใช้กับกลุ่มเป้าหมายจริง
กับนักเรียนระดับปฐมวัยของโรงเรียนสอนคนตาบอดภาคเหนือฯระดับชั้นอนุบาล 1 ภาคเรียนที่ 2
ปกี ารศกึ ษา 2560 จำนวน 3 คน

4. แบบแผนการศึกษา การศึกษาผลการใช้ชุดกิจกรรมการรับความรู้สึกทรงตัวและการเคลื่อนไหวเพื่อ
พัฒนาการใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ในบุคคลที่มีความบกพร่องทางการเห็น ระดับปฐมวัย โรงเรียนสอนคนตา
บอดภาคเหนือในพระบรมราชินูปถัมภ์ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นการศึกษาแบบการทดลองกลุ่มเดียวมีการวัด
ก่อนและหลัง การใช้ (The One Group Comparison Pretest Posttest Design) (เกตุมณี มากมี
,2550) ดงั ตาราง

44

ตารางท่ี แสดงแบบแผนการทดลอง

กลุ่ม สอบก่อน วิธสี อน สอบหลงั

E T1 X T2

เมอ่ื E แทน นกั เรียนท่ีมคี วามบกพรอ่ งทางการเห็น ระดับปฐมวัย ปีการศึกษา 2560
X แทน ชุดกิจกรรมการรับความรสู้ กึ และการเคลือ่ นไหว
T1 แทน ผลการทดสอบทกั ษะการใชก้ ลา้ มเน้อื มัดใหญ่กอ่ นการศึกษา
T2 แทน ผลการทดสอบทักษะการใชก้ ลา้ มเนื้อมดั ใหญ่หลงั การศึกษา

5. วิธีการเก็บรวบรวมขอ้ มูล
5.1 ทดสอบความสามารถในการใชก้ ล้ามเนอ้ื มัดใหญ่ก่อนการฝกึ กบั นักเรยี นกลุม่ เปา้ หมาย
โดยใช้แบบทดสอบทกั ษะกลา้ มเนื้อมดั ใหญท่ ่ีพฒั นาขึ้น
5.2 จัดเตรยี ม สอ่ื อุปกรณ์ ตามแผนการจดั ประสบการณ์
5.3 ดำเนินการจัดกิจกรรมเป็นรายบุคคล คนละ 30 นาที ทุกวัน โดยทุกวันจันทร์ พฤหัสบดี

และวันศุกร์ ฝึกในคาบวิชากิจกรรมบำบัด ตามตารางสอน และวันอังคาร พุธ ฝึกในเวลา 15.00-16.00 น.
ในระหวา่ งภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2560 (15 ม.ค 2561- 2 มีนาคม 2561) รวม 34 คร้งั โดยจัดกิจกรรม
จากกิจกรรมท่ี 1 - 12 เปน็ ชดุ ๆ ตามตารางฝึกกิจกรรม ทำกจิ กรรมจนครบ 7 สปั ดาห์ สปั ดาห์ท่ี 16 ฝึกวัน
ละ 4 กิจกรรม สัปดาหท์ ี่ 7 ฝึกวันละ 6 กิจกรรม (นักเรียนเปน็ เด็กประจำ สามารถชดเชยวนั ทีข่ าดฝึกไดใ้ น
วันหยดุ สุดสปั ดาห)์

5.4. บนั ทกึ ผลการฝึก เกบ็ คะแนนระหว่างฝึกแตล่ ะกจิ กรรมในการฝึกคร้ังท่ี 10
5.5. ทดสอบนักเรียนหลงั เรยี นท้ัง 12 กจิ กรรม
5.6 ทดสอบการใช้กลา้ มเนือ้ มดั ใหญ่เม่ือส้นิ สดุ การฝกึ
5.7. นำขอ้ มลู มาวิเคราะห์ อภปิ รายและสรุปผล

ตารางการฝึก วัน/ เวลา

ชดุ กิจกรรมการรบั ความรสู้ ึกทรงตวั และการเคลื่อนไหว
( Vestibuloproprioceptive activities)

ประเมนิ ความสามารถในการใชก้ ลา้ มเนื้อมัดใหญ่ ครง้ั ที่ 1 10 มกราคม 2561

1. กิจกรรมบนอุปกรณท์ รงตัว สัปดาห์ที่ 1-2
2. กิจกรรมน่ังขย่มบอล สัปดาหท์ ่ี 1-2
3. กิจกรรมไถรถเลื่อน สปั ดาหท์ ี่ 1-2
4. กจิ กรรมหมุนในถงั สัปดาห์ท่ี 1-2
5. กิจกรรมกา้ วยาวๆ สัปดาห์ท่ี 3-4
6. กจิ กรรมเดินขา้ มหมอนกลม สัปดาห์ที่ 3-4
7. กจิ กรรมการเดินบนสะพานทรงตวั สัปดาหท์ ่ี 3-4

45

8. กจิ กรรมกระโดดแทรมโพลนี สัปดาห์ที่ 3-4
9. กจิ กรรมกระโดดบนแผ่นโฟมส่ีเหลย่ี ม สัปดาหท์ ่ี 5-6
10. กจิ กรรมกา้ วขี้นลงเกา้ อีน้ ่งั ยอง สปั ดาหท์ ี่ 5-6
11. กิจกรรมว่งิ เก็บผลไมใ้ ส่ตะกรา้ สปั ดาห์ท่ี 5-6
12. กิจกรรมกระโดดขาเดียว สัปดาห์ที่ 5-6
สปั ดาหท์ ี่ 7
ประเมนิ ความสามารถในการใช้กล้ามเนอ้ื มดั ใหญ่ ครงั้ ที่ 2
2 มีนาคม 2561

6. การวเิ คราะหข์ ้อมูลและสถติ ทิ ใ่ี ช้
6.1 การวเิ คราะห์ข้อมลู
6.1.1 หาค่าประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการรับความรู้สึกและการเคลื่อนไหวทีใช้กับ

กล่มุ เปา้ หมาย โดยมีเกณฑท์ ี่ต้งั ไว้สำหรับทกั ษะการปฏบิ ัติ คอื E1/E2 :80/80
6.1.2 วิเคราะห์ผลการพัฒนาความสามารถในการใช้กล้ามเมื้อมัดใหญ่ โดยใช้ข้อมูลเชิงปริมาณ

ใชค้ ่าสถิตพิ ้ืนฐาน ได้แก่ คา่ เฉล่ยี และส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐาน
6.1.3 วิเคราะห์ผลการพัฒนาความสามารถในการใช้กล้ามเมื้อมัดใหญ่ ก่อนและหลังการใช้ชุด

กิจกรรมการรับความรู้สึกและการเคลื่อนไหว โดยใช้การหาค่าดัชนีประสิทธิผล ( Effectiveness Index
หรือ EI ) (บุญชม ศรีสะอาด , 2553) เนื่องจากจำนวนเด็กมีเพียง 3 คน จึงไม่สามารถใช้สถิตินอนพราเมตริก
ทดสอบได้

6.2 สถิติที่ใชใ้ นการหาคุณภาพเครื่องมือ

5.2.1 ค่าความตรงตามเนื้อหาของแบบทดสอบทักษะกล้ามเนื้อมัดใหญ่และชุดกิจกรรมการ

รับความรู้สึกทรงตัวและการเคลื่อนไหว โดยการหาค่าดัชนีความสอดคล้อง Item Objective

Congruency INDEX : IOC ) ดงั น้ี R
N
IOC =

R = ผลรวมคะแนนความคดิ เหน็ ของผ้เู ช่ยี วชาญ

N = จำนวนผเู้ ชี่ยวชาญ

โดยคา่ ทีย่ อมรับได้มคี ่าต้งั แต่ 0.5 เป็นตน้ ไป

5.2.2 คา่ ความเที่ยงของแบบทดสอบทักษะกลา้ มเนอ้ื มดั ใหญ่
โดยใช้สตู รสัมประสิทธ์ความสัมพันธ์ของเพียรส์ ัน

  r = n XY −  X Y

n X 2 − ( X )2 . nY 2 − (Y )2

46

โดยค่าทย่ี อมรับไดม้ ีคา่ ตง้ั แต่ 0.7 เปน็ ต้นไป

5.2.3 หาค่าประสิทธิภาพของแผนการจัดประสบการณ์ชุดกิจกรรมการรับความรู้สึกทรงตัว
และการเคลื่อนไหวทีใช้กับกลุ่มเป้าหมาย โดยมีเกณฑ์ที่ตั้งไว้สำหรับทักษะการปฏิบัติ คือ E1/E2 :80/80
ใช้สตู รการหาค่าประสิทธิภาพ ดังน้ี

ประสทิ ธภิ าพของกระบวนการ (E1)

E1 =  pi 100

Np

E1 = ประสิทธภิ าพของกระบวนการ

 p = ผลรวมคะแนนระหวา่ งเรยี น

p = คะแนนเตม็ ระหว่างเรยี น (48 คะแนน)

N = จำนวนผู้เรียน

ประสิทธภิ าพของผลผลิต (E2)

E2 = Oi 100

No

E2 = ประสิทธิภาพของผลผลิต

o = ผลรวมของคะแนนจากการทดสอบหลังเรียนของนักเรียนทกุ คน

O = คะแนนเต็มหลังเรียน (48 คะแนน)
N = จำนวนผเู้ รยี น

6.3 สถิติทใ่ี ชใ้ นการวิเคราะห์ขอ้ มลู

5.3.1 วิเคราะห์ขอ้ มลู เชิงปริมาณ ใชค้ ่าสถติ ิพ้นื ฐาน ได้แก่ รอ้ ยละ คา่ เฉล่ยี และส่วน

เบ่ียงเบนมาตรฐาน โดยใช้สตู ร

คา่ เฉล่ีย

X = X
N
X = คา่ เฉล่ียของคะแนน

 X = ผลรวมของคะแนน
N = จำนวน

47

ส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐาน

S.D. = N x2 − ( x)2

N(N −1)

S.D. = สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน

 (X - X) = ผลรวมของคะแนนลบด้วยคะแนนเฉลี่ย
N=
จำนวน

5.3.2 สถิติที่ใช้ทดสอบสมมติฐาน เพื่อเปรียบเทียบพัฒนาการการใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ก่อนและ
หลงั ใชก้ ารหาค่าดัชนีประสิทธผิ ล ( Effectiveness Index หรอื EI ) (บุญชม ศรีสะอาด , 2553) โดยใชส้ ูตร
ดงั นี้

ผลรวมของคะแนนหลงั เรียนของทุกคน – ผลรวมของคะแนนก่อนเรยี นของทกุ คน
ดัชนปี ระสิทธิผล (EI) =

(จำนวนนกั เรยี น × คะแนนเต็ม) - ผลรวมของคะแนนก่อนเรียนของทกุ คน

โดยค่าท่ยี อมรับได้ คือ E= 50 หรอื ร้อยละ 50 ขนึ้ ไป

48

บทท่ี 4
ผลการศึกษา

การศกึ ษาครั้งน้ีมีวัตถปุ ระสงค์เพื่อรายงานผลการใช้ชุดกจิ กรรมการรบั ความรู้สึกทรงตัวและการ
เคลอ่ื นไหวเพ่ือพฒั นาการใชก้ ล้ามเนอ้ื มดั ใหญใ่ นบุคคลที่มคี วามบกพร่องทางการเห็น ระดบั ปฐมวัย

ตอนที่ 1 ขอ้ มลู ท่ัวไปของกลุ่มเปา้ หมาย
ตอนท่ี 2 ผลการคัดกรองการบรู ณาการประสาทความรสู้ ึกของกลุม่ เปา้ หมาย
ตอนที่ 3 ประสทิ ธภิ าพของชดุ กจิ กรรมการรบั ความรู้สกึ ทรงตวั และการเคลือ่ นไหว
ตอนที่ 4 ผลการพัฒนาการใชก้ ลา้ มเนื้อมดั ใหญข่ องบคุ คลทม่ี คี วามบกพร่องทางการเห็น

กลุม่ เป้าหมาย ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2560

ตอนท่ี 1 ขอ้ มูลทว่ั ไปของนักเรียน

ตารางที่ 4.1 แสดงขอ้ มลู ทว่ั ไปของกลุ่มเปา้ หมาย

กลุ่มเปา้ หมาย เพศ อายุ (นับถึง 5 ม.ค 2561)
ชาย 4 ปี 7 เดอื น
นักเรียน หญิง (คนท่ี 1) 5 ปี 6 เดอื น
ระดบั ชัน้ หญิง (คนท่ี 2) 4 ปี 10 เดือน
อนบุ าล 1 รวมเฉลยี่ อายุ 4 ปี 9 เดือน

จากตารางท่ี 1 สรปุ ไดว้ ่ากลมุ่ เป้าหมาย มีอายเุ ฉล่ียอยทู่ ่ี 4 ปี 9 เดอื น

49

ตอนที่ 2 ผลการคัดกรองการบรู ณาการประสาทความรู้สกึ ของกล่มุ เปา้ หมาย

คนที่ สัดส่วนคะแนนจากการประเมินกบั คะแนนเต็ม

รายการ การ การ การ การ การ มี ความ การ

ประเมนิ ตอบสนอง ตอบสนอง ตอบสนอง ตอบสนอง ลด พลงั งาน ไวตอ่ แปล

ตอ่ สิง่ เรา้ ต่อกลิ่น ตอ่ การ ท่ีน้อยกว่า หรอื น้อย/ไม่ สิ่งเร้า ผล

ทาง หรือรส เคลื่อนไหว ปกต/ิ การ กรอง แข็งแรง ทางหู

ผิวหนัง ของ แสวงหา เสียง ทางตา

อาหาร ส่ิงเรา้ ท่ไี ด้

ยิน

1 30/35 16/20 8/15 21/35 8/30 18/30 19/25

2 25/35 20/20 12/15 25/35 12/30 13/30 25/25

3 34/35 18/20 12/15 23/25 20/30 24/30 16/25

ตารางท่ี 4.2 แสดงผลการคัดกรองการบูรณาการประสาทความรสู้ กึ ของกลุม่ เป้าหมาย

จากตารางที่ 4.2 แสดงผลการคัดกรองการบูรณาการประสาทความรู้สึกระดับปฐมวัยจำนวน 3 คน

พบว่ากลุ่มเป้าหมายทั้ง 3 คน มีความบกพร่องในด้านการตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวและมีพลังงานน้อย

ไม่แข็งแรง ซึ่งเป็นปัญหาพื้นฐานที่ส่งผลต่อความสามารถในการใช้กล้ามเน้ือมัดใหญ่ (รายละเอียด

ภาคผนวก ฌ)

ตอนท่ี 3 ประสทิ ธิภาพของชดุ กจิ กรรมการรับความรสู้ กึ ทรงตวั และการเคลือ่ นไหว

ตารางท่ี 4.3 ผลการวเิ คราะหค์ า่ ประสิทธิภาพของชดุ กิจกรรมการรบั ความรสู้ กึ ทรงตวั และการเคลื่อนไหว
4.3.1. ผลการวเิ คราะห์ค่าประสทิ ธิภาพของชุดกิจกรรมการรับความรสู้ กึ ทรงตัวและการ
เคลอื่ นไหวของกลุ่มทดลอง (รายละเอยี ดในภาคผนวก ง)

รายการ คา่ ประสทิ ธิภาพ E1/E2
การทดลอง 1 : 1 (3 คน) 73.60/74.99
การทดลองกลมุ่ เลก็ (6 คน) 81.25/82.63
การทดลองกลุ่มใหญ่ (9 คน) 82.40/81.94

จากตารางที่ 4.3.1 แสดงคา่ ประสทิ ธภิ าพชุดกิจกรรมการรบั ความร้สู กึ ทรงตัวและการเคลื่อนไหว
สุดทา้ ยไดเ้ ทา่ กบั 82.40/81.94 สูงกว่าเกณฑท์ ก่ี ำหนด (E1/E2: 80/80)

4.3.2. ผลการวิเคราะหค์ า่ ประสทิ ธิภาพของชดุ กจิ กรรมการรับความรสู้ กึ ทรงตวั และการ
เคล่ือนไหวของกลมุ่ เป้าหมาย

50

คะแนนทักษะปฏิบตั ิ คะแนนทดสอบ

นกั เรยี นคนที่ ระหว่างฝึก ร้อยละ หลังฝึก(คะแนนเตม็ ร้อยละ

(คะแนนเต็ม 48) 48)

1 43 89.58 40 83.33

2 45 93.75 46 95.83

3 42 87.50 41 85.42

คา่ ประสทิ ธภิ าพ E1 90.27 E2 88.19

(E1/E2)

จากตารางที่ 4.3.2 แสดงค่าประสิทธิภาพชุดกิจกรรมการรับความรู้สึกทรงตัวและการเคลื่อนไหว

ตามแผนการจัดประสบการณ์ จำนวน 12 แผน ของกลุม่ เป้าหมาย E1/E2 มีค่าเท่ากบั 90.27/88.19 ซึ่งสูง

กวา่ ท่ตี ง้ั เกณฑท์ ี่กำหนด (E1/E2: 80/80)

จากค่าประสิทธิภาพดังกล่าว แสดงว่า ชุดกิจกรรมการรับความรู้สึกทรงตัวและการเคลื่อนไหว

มีประสิทธิภาพในการใช้ฝึกทักษะกล้ามเนื้อมัดใหญ่สำหรับบุคคลที่มีบกพร่องทางการเห็นระดับปฐมวัย

กลมุ่ เปา้ หมายได้

51

ตอนท่ี 4 ผลการพฒั นาการใชก้ ล้ามเน้ือมัดใหญ่ของบุคคลท่มี คี วามบกพรอ่ งทางการเห็น กลมุ่ เปา้ หมาย
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2560

ตารางท่ี 4.4 ผลการพฒั นาการใช้กลา้ มเนอื้ มดั ใหญข่ องกลมุ่ เปา้ หมาย

คะแนนความสามารถใน คะแนนความสามารถใน

การใชก้ ล้ามเนอ้ื การใชก้ ล้ามเนื้อ คะแนน

มัดใหญก่ ่อนการใช้ชดุ มัดใหญห่ ลงั การใช้ชดุ ความกา้ วหนา้ รอ้ ยละ

คนท่ี กจิ กรรม กิจกรรม (ผลตา่ งของ ความ

(คะแนนเตม็ 36) (คะแนนเต็ม 36) คะแนนกอ่ น ก้าวหน้า

Pretest ระดบั Posttest ระดับ และหลัง)
คุณภาพ คุณภาพ

1 8 ปรับปรุง 27 ดี 19 52.77

2 12 ปรับปรงุ 33 ดี 21 58.33

3 9 ปรับปรงุ 30 ดี 21 58.33

รวม 29 - 90 - - 56.47

จากตารางที่ 4.4 แสดงผลการพัฒนาทักษะกล้ามเนื้อมัดใหญ่ของกลุ่มเป้าหมายก่อนและหลังการ
ฝึก พบว่า กลุ่มเป้าหมายมีพัฒนาการใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ก่อนการฝึกโดยใช้ชุดกิจกรรมการรับความรู้สึก
ทรงตัวและการเคลื่อนไหวอยู่ในระดับปรับปรุง 3 คน หลังการพัฒนาทักษะกล้ามเนื้อมัดใหญ่โดยใช้ชุด
กิจกรรมความรู้สึกทรงตัวและการเคลื่อนไหวอยู่ในระดับดีทุกคน โดยมีค่าร้อยละความก้าวหน้าเฉล่ีย
59.47

52

แผนภูมทิ ี่ 1 แสดงผลการพัฒนาการใชก้ ลา้ มเน้ือมดั ใหญข่ องนกั เรยี นปฐมวัย

ผลการพฒั นาการใช้กลา้ มเนือ้ มัดใหญ่ของกลมุ่ เปา้ หมาย

คะแนน 35 33 30 ชุดขอ้ มูล1
30 27 12 9 ก่อนการฝกึ
25 ชุดขอ้ มลู 2
20
15 หลังการฝกึ
10 8

5

0

คนที่ 1 2 3

เมื่อวเิ คราะห์พฒั นาการใช้กล้ามเน้ือมัดใหญข่ องกล่มุ เป้าหมายโดยวิธีหาค่าดชั นีประสิทธิผล (E.I )
โดยใช้สูตร ดงั น้ี

E.I = ผลรวมของคะแนนหลงั เรียนของทุกคน - ผลรวมของคะแนนก่อนเรียนของทุกคน
(จำนวนนกั เรยี น × คะแนนเต็ม) - ผลรวมของคะแนนก่อนเรยี นของทกุ คน
= 90-29
(3*36)-29
= 61/79
= 0.77

แสดงวา่ หลังใช้ ชดุ กจิ กรรมการรบั ความรูส้ ึกทรงตวั และการเคลื่อนไหวตามแผนการจดั ประสบการณ์
กลุม่ เปา้ หมายมพี ัฒนาการเพม่ิ ขึน้ 0.77 คดิ เปน็ ร้อยละ 77

53

บทท่ี 5

อภปิ ราย สรปุ ผล และขอ้ เสนอแนะ

ผลการใช้ชุดกจิ กรรมการรับความรสู้ กึ ทรงตวั และการเคล่ือนไหวเพือ่ พัฒนากล้ามเน้ือมัดใหญ่
ในบคุ คลท่มี คี วามบกพร่องทางการเห็น ระดบั ปฐมวยั ปกี ารศึกษา 2560 โรงเรียนสอนคนตาบอดภาคเหนือ
ในพระบรมราชินูปถัมภ์ จังหวัดเชียงใหม่ จากการศึกษาในกลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนระดับช้ันอนุบาล 1
ปีการศึกษา 2560 จำนวน 3 คน ใช้เวลาในการฝกึ เป็นเวลา 7 สัปดาห์ ในภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2560
เครื่องมือท่ีใช้ในการศึกษา คือ ชุดกิจกรรมการรบั ความรู้สึกทรงตัวและการเคลื่อนไหวจำนวน 12 กิจกรรม
และแบบทดสอบทักษะกล้ามเนื้อมัดใหญ่ที่ผู้ศึกษาพัฒนาขึ้น วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงบรรยาย ได้แก่
คา่ รอ้ ยละ ค่าเฉล่ยี สรปุ ผลการศึกษาไดด้ งั นี้

1. สรุปผลการศกึ ษา
1.1 ชุดกิจกรรมการรับความรู้สึกและการเคลื่อนไหวเมื่อนำมาพัฒนากลุ่มเป้าหมาย มีค่า

ประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 90.27/88.19 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ (E1/E2:80/80) แสดงว่า ชุดกิจกรรม
การรับความรู้สึกทรงตัวและการเคลอ่ื นไหวสามารถนำมาใช้พัฒนาทักษะกลา้ มเน้ือมัดใหญ่ได้

1.2 ผลการการใช้ชุดกิจกรรมการรบั ความรู้สกึ ทรงตัวและการเคลือ่ นไหวเพอื่ พัฒนากล้ามเนื้อ
มัดใหญใ่ นบคุ คลทม่ี คี วามบกพรอ่ งทางการเห็น ระดับปฐมวัย โรงเรียนสอนคนตาบอดภาคเหนือในพระบรม
ราชินูปถมั ภ์ ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2560 พบว่านกั เรียนมีผลการพัฒนาทักษะกลา้ มเน้ือมัดใหญ่ดีขึ้น โดย
มีทักษะกล้ามเนื้อมัดใหญ่ก่อนการพัฒนาอยู่ในระดับปรับปรุง 3 คน หลังการพัฒนา นักเรียนมีทักษะ
กล้ามเนื้อมัดใหญ่อยู่ในระดับดีทั้ง 3 คน โดยมีค่าร้อยละความก้าวหน้าเฉลี่ย และจากค่าดัชนีประสิทธิผล
ของพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดใหญ่ มีค่าเท่ากับ 0.77 คิดเป็นร้อยละ 77 แสดงว่า นักเรียนมีพัฒนาการทักษะ
กล้ามเนื้อมัดใหญห่ ลงั พฒั นาสูงข้นึ

2. การอภิปรายผล
2.1. จากการหาค่าประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการรับความรู้สึกทรงตัวและการเคลื่อนไหว

จำนวน 12 กิจกรรม (12 แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้) ได้ค่าประสิทธิภาพ E1/E2 มีค่าเท่ากับ
90.27/88.19 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด (E1/E2: 80/80) แสดงว่า ชุดกิจกรรมการรับความรู้สึกทรงตัว
และการเคลอื่ นไหว มีประสทิ ธิภาพในการนำมาใช้ฝกึ พฒั นากล้ามเนือ้ มัดใหญ่ได้ เนอื่ งจากชดุ กจิ กรรมการ
รับความรู้สึกทรงตัวและการเคลื่อนไหวนี้สร้างขึ้นตามหลักการการบูรณาการประสาทความรู้สึกและการ
เคล่ือนไหวของแอร์ (Ayre’s sensory integration approach) โดยคดั เลอื กกจิ กรรมท่ตี อ้ งใช้ระบบการรับ
ความรู้สึก คือ ระบบการรับรู้กล้ามเนื้อ เอ็นและข้อต่อ (Proprioceptive system) และระบบเวสติบูล่าร์
(vestibular system) ซึ่งเป็นระบบการรับความรู้สึกทรงตัวและการเคลื่อนไหวที่ส่งผลต่อการการใช้
กลา้ มเน้อื มดั ใหญ่ ร่วมกบั การจดั ประสบการณใ์ นการเคลอื่ นไหวผ่านการมีปฏิสมั พันธก์ บั ส่ิงแวดลอ้ ม
ซึง่ มคี วามสอดคล้องกับความบกพร่องด้านทักษะกล้ามเนอ้ื มัดใหญข่ องบคุ คลทีม่ ีความบกพรอ่ งทางการเห็น

2.2. ผลการใช้ชุดกิจกรรมการรับความรู้สึกทรงตัวและการเคลื่อนไหวเพื่อพัฒนากล้ามเนื้อ
มดั ใหญใ่ นบุคคลทม่ี คี วามบกพร่องทางการเห็น ระดับปฐมวยั โรงเรียนสอนคนตาบอดภาคเหนือในพระบรม
ราชนิ ปู ถัมภ์ ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2560

54

ผลการใชช้ ุดกิจกรรมการรับความรู้สกึ ทรงตวั และการเคลื่อนไหวเพอื่ พัฒนาทกั ษะกลา้ มเน้ือมัดใหญ่
ของบุคคลที่มีความบกพร่องทางการเห็น ระดับปฐมวัย ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 มาจากปัญหา
ด้านการพัฒนาการเคลื่อนไหวซึ่งเป็นปัญหาที่เด่นชัดของบุคคลที่มีความบกพร่องทางการเห็น โดยจากการ
คัดกรองความสามารถด้านการบูรณาการประสาทความรู้สกึ จากตารางที่ 6 พบว่ากลุ่มเป้าหมายจำนวน 3
คน มีความบกพร่องของการบูรณาการประสาทความรู้สกึ ดา้ นความรู้สึกไวต่อการเคลื่อนไหว (Movement
sensitivity) คือ หลีกเลี่ยงที่จะเคลื่อนไหว หรือกลัวการเคลื่อนไหว ส่งผลให้พัฒนาการทักษะกล้ามเนื้อมัด
ใหญ่ล่าช้ากว่าวัย และผลการประเมินความสามารถในการใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ก่อนการพัฒนา โดยใช้
แบบทดสอบทักษะกล้ามเนื้อมัดใหญ่ที่ผู้ศึกษาพัฒนาขึ้น นักเรียนมีความสามารถอยู่ในระดับปรับปรุงท้ัง
3 คน เมื่อกลุ่มเป้าหมายทัง้ 3 คน ได้รับการฝึกพัฒนากลา้ มเนื้อมัดใหญ่โดยใช้ชดุ กิจกรรมการรบั ความรูส้ กึ
ทรงตัวและการเคลือ่ นไหว มีผลการพฒั นากล้ามเนื้อมดั ใหญด่ ีขึน้

ซึ่งอภิปรายได้ว่า การขาดการรับรู้จากการเห็น (visual information) ทำให้นักเรียนขาด
กระบวนการรับส่งข้อมลู จากสิง่ เรา้ มากระตุ้นประสาทสัมผัสให้เกิดการเคล่ือนไหว ซึง่ กจิ กรรมต่างๆ ในชุด
กิจกรรมการรับความรู้สึกและการเคลื่อนไหวเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนได้ใช้ประสาทรับรู้เกี่ยวกับ
การเคลื่อนไหว เนื่องจากพัฒนาการของบุคคลที่มีความบกพร่องทางการเห็นจะเกิดขึ้นผ่านการบูรณาการ
หรือการประสานกันระหว่างประสาทการรับรู้ (sensory) กับระบบการเคลื่อนไหว (motor) การรับ
ความรู้สึกที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวและการทรงท่าของร่างกาย เป็นการรับความรู้สึกของเอ็น ข้อต่อ
และกล้ามเนื้อ (Proprioception system) และทำงานร่วมกับระบบเวสติบูลาร์ (vestibular system)
(Aryes, 2005) การที่นกั เรยี นได้รบั การกระตนุ้ อย่างเพยี งพอผา่ นกจิ กรรมทอ่ี อกแบบมาตามหลักการบรู ณา
การประสาทความรู้สึก จึงทำให้นักเรียนมีพัฒนาการทักษะกล้ามเนื้อมัดใหญ่มากขึ้น โดยชุดกิจกรรมการ
รับความรสู้ กึ และการเคล่ือนไหวทั้ง 12 กิจกรรม ได้สง่ เสรมิ ทกั ษะพ้นื ฐานของการใช้กล้ามเน้ือมัดใหญ่ผ่าน
ระบบการรับรูก้ ารทรงตัว ระบบกลา้ มเนอ้ื เอ็นและข้อ ทำให้เกดิ ทักษะการทรงตวั ทกั ษะสหสมั พันธ์ของ
รา่ งกายทง้ั สองซีก และการใช้รา่ งกายในการเคลื่อนไหว ในการกระโดด การวิ่ง สอดคล้องกบั งานวจิ ัยของ
วรรณิภา เที่ยงธรรม (2556) ซึ่งสรุปการจัดกิจกรรมนอกห้องเรียนโดยใช้ของเล่นพื้นบ้านตามแนวคิดการ
ประมวลความรูส้ ึกทำให้พฒั นาการเคลอ่ื นไหวของเด็กอนบุ าลเพิ่มขน้ึ

และเมื่อเปรียบเทียบผลการพัฒนาทักษะกล้ามเนื้อมัดใหญ่ พบว่า กลุ่มเป้าหมายทั้ง 3 คน
เมือ่ ไดร้ ับการฝึกกล้ามเน้ือมัดใหญ่ โดยใช้ชดุ กจิ กรรมการรบั ความร้สู กึ และการเคล่อื นไหว มผี ลการพัฒนา
ทักษะกล้ามเนื้อมัดใหญ่ดีขึ้น สอดคล้องกับงานวิจัยของ ละไม สีหาอาจ (2551) และ Sheikh M., Safania
M.A. Afshari J. (2001) ซึ่งศึกษาการส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกายของเด็กปฐมวัยโดยการจัดกิจกรรม
เคลื่อนไหวเชิงสร้างสรรค์ ผลการศึกษา พบว่า การจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวเชิงสร้างสรรค์สามารถส่งเสริม
พัฒนาการด้านร่างกายของเด็กปฐมวัยให้เพิ่มขึ้นได้อย่างชัดเจน โดยก่อนและหลังการจัดกิจกรรม
เคลื่อนไหวเชิงสร้างสรรค์เด็กปฐมวัยมีระดับคะแนนพัฒนาการด้านร่างกายแตกต่า งอย่างมีนัยสำคัญทาง
สถติ ทิ ่รี ะดบั .05 ท้ังในภาพรวม และด้านทักษะการยืน ดา้ นทักษะการเดนิ ดา้ นทกั ษะการวงิ่ ดา้ นทักษะการ
กระโดด

นอกจากนี้ เมื่อนักเรียนผ่านการฝึกจากชุดกิจกรรมการรับความรู้สึกทรงตัวและการ
เคลื่อนไหว พฤติกรรมแสดงออกของนักเรียนต่อประสบการณ์การเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันมีการ
พัฒนาการดีขึ้น โดยมีพฤติกรรมการกลัวการเคลื่อนไหวลดลง มีความมั่นใจในการเคลื่อนไหวมากขึ้น
มีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนไหว การเล่นเครื่องเล่นสนาม เดินทางในสิ่งแวดล้อมภายในโรงเรียน ซึ่ง
เป็นไปได้ว่าการที่นักเรียนมีทักษะกล้ามเนื้อมัดใหญ่ดีขึ้น ทำให้สามารถใช้ร่างกายในการเคลื่อนไหว การ

55

เล่น ได้ดีมากขึ้น โดยสามารถรักษาสมดุลของร่างกาย การใช้แขนขาได้ประสานสัมพันธ์กัน จึงทำให้
นักเรียนมีความคล่องแคล่วในการเคลื่อนไหวมากขึ้น และสำรวจสิ่งแวดล้อมได้มากขึ้น (movement
explores) เมื่อกลุ่มเป้าหมายได้ทำกิจกรรมตามชุดกิจกรรมการรับความรู้สึกทรงตัวและการเคลื่อนไหว
ซ้ำๆ ตามลำดับ ทำให้นักเรยี นเกิดการปรบั ตัว และเพิ่มทักษะการเคลื่อนไหวและทักษะกล้ามเน้ือมดั ใหญ่
เนื่องจากการเรียนระดับปฐมวัยหรืออนุบาลเป็นช่วงวัยของการพัฒนาการด้านต่างๆ โดยอายุเฉล่ียของ
ประชากรในการศึกษาน้ี คือ 4 ปี 9 เดือน (ตารางท่ี 5) ซ่ึงเป็นวยั ท่ีต้องการส่งเสรมิ ดา้ นพัฒนาการ 6 ด้าน
ได้แก่ ทักษะกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ทักษะกล้ามเนื้อมัดเล็ก ทักษะด้านภาษา ทักษะทางวิชาการ ทักษะการ
ช่วยเหลือตนเอง และทักษะทางสังคม จึงต้องสร้างเสริมประสบการณ์ในการใช้ประสาทรับรู้การ
เคลื่อนไหว เพื่อพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดใหญ่หรือการใช้ร่างกายเคลื่อนไหว (พรพิไล เลิศวิชา, 2550,
นภเนตร ธรรมบวร,2544 , สิริมา ภิญโญ อนันตพงษ์, 2553) ซึ่งกิจกรรมในชุดกิจกรรมการรับความรู้สกึ
ทรงตัวและการเคลื่อนไหวยังเป็นไปตามแนวทางของทฤษฎีเซลกล่าวคือ เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมพัฒนาการ
ตามลำดับขัน้ พฒั นาการและสง่ เสริมท้งั ทักษะการเคลือ่ นไหวทั้งแบบอยกู่ ับทแี่ ละแบบเคลอื่ นท่ีตามหลักการ
ของหลักสูตรปฐมวัย พุทธศักราช 2546 นอกจากนี้ นักเรียนที่ผ่านการฝึกโดยใช้ชุดกิจกรรมการรับ
ความรสู้ กึ ทรงตัวและการเคลอื่ นไหวยังมีพฤติกรรมการเคลื่อนไหวในสิ่งแวดล้อมดีข้นึ

3. ขอ้ เสนอแนะ
3.1 ขอ้ เสนอแนะการนำไปใช้
1. การใชส้ ื่อ อุปกรณ์ในแต่ละกิจกรรม สามารถจดั หาซือ้ ได้ตามทอ้ งตลาดท่วั ไป ในแผนกกีฬา

แผนกเครื่องเล่นเด็กปฐมวัย และสามารถใช้อุปกรณ์อื่นทดแทนได้ตามความจำเป็น โดยจัดหาตามบริบท
ของแต่ละสถานศึกษา เช่น สามารถใช้ยางรถบรรทุกเก่าแทนอุปกรณ์การกระโดดแทรมโพลีน โดยให้จัด
กจิ กรรมตามลำดับขนั้ จากกจิ กรรมที่ 1 ไปยังกจิ กรรมที่ 12

2. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้ชุดกิจกรรมการรับความรู้สึกทรงตัวและการ
เคลื่อนไหว เป็นทักษะการปฏิบัติ จึงพึงระวังเรื่องความปลอดภัยจากการใช้อุปกรณ์ทรงตัวประเภทต่าง ๆ
ผใู้ ชจ้ งึ ควรทดลองใชอ้ ุปกรณใ์ ห้มีความคนุ้ เคยก่อนใชก้ ับเดก็ กล่มุ ต่างๆ

3.2 ข้อเสนอแนะในการศกึ ษาต่อไป
1. ศึกษาการนำชุดกิจกรรมการรับความรู้สึกทรงตัวและการเคลื่อนไหวไปใช้ฝึกกล้ามเนื้อ

มัดใหญใ่ นบคุ คลทม่ี ีความบกพร่องทางการเห็นในระดับชัน้ ประถมศกึ ษาหรือช้นั ท่สี งู ขึ้น
2. ศึกษาการนำชุดกิจกรรมการรับความรู้สึกทรงตัวและการเคลื่อนไหวไปใช้ฝึกกล้ามเนื้อ

มัดใหญใ่ นบคุ คลทม่ี คี วามบกพรอ่ งประเภทอน่ื ๆ ในระดับปฐมวยั

56

บรรณานุกรม

กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2540).สายตาพิการและการศกึ ษาสำหรับคนตาบอด.
กรุงเทพมหานคร: หนว่ ยศกึ ษานเิ ทศก์ .กรมสามญั ศึกษา

กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2546). หลกั สูตรการศึกษาปฐมวยั พุทธศักราช 2546.
กรงุ เทพมหานคร: คุรุสภาลาดพรา้ ว.

กระทรวงศึกษาธกิ าร (2550). กฎกระทรวงการกำหนดหลกั เกณฑ์และวิธีการให้คนพกิ าร
มีสทิ ธไิ ดร้ ับสง่ิ อำนวยความสะดวก สื่อ บรกิ าร และความช่วยเหลืออืน่ ใดทางการศึกษา พ.ศ.
2550. กรุงเทพ: กระทรวงศกึ ษาธกิ าร.

กระทรวงศกึ ษาธิการ (2551). พระราชบญั ญตั ิการจัดการศึกษาเพ่ือคนพกิ าร พ.ศ.2551.
กรงุ เทพฯ.กระทรวงศึกษาธกิ าร.

กระทรวงศกึ ษาธิการ (2552). ประกาศกำหนดประเภทและหลักเกณฑ์ของคนพกิ าร
ทางการศกึ ษา พ.ศ. 2552. กรุงเทพ: กระทรวงศกึ ษาธิการ.

กระทรวงศึกษาธิการ (2552). ประกาศหลกั เกณฑ์และวธิ กี ารจัดทำแผนการจัดการจดั การศึกษา
เฉพาะบุคคล ระดับการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พ.ศ. 2552. กรงุ เทพ: กระทรวงศึกษาธกิ าร.

กระทรวงศึกษาธกิ าร (2553). นโยบายการปฏริ ปู การศึกษาในศตวรรษท่สี อง. กรงุ เทพ:
กระทรวงศกึ ษาธิการ.

กระทรวงศึกษาธกิ าร ( 2555). UTQ-2125 การศกึ ษาพิเศษ ใบความรู้ที่ 1.1 ความสำคัญของการ
จัดการศกึ ษาพเิ ศษและบรบิ ทท่เี กีย่ วข้อง.โครงการยกระดับคณุ ภาพครูทงั้ ระบบด้วยระบบ
E-training. กระทรวงศกึ ษาธิการ

กระทรวงศึกษาธกิ าร (2556). ประกาศคณะกรรมการพจิ ารณาให้คนพกิ ารได้รบั สทิ ธิชว่ ยเหลือทางการ
ศกึ ษา เรื่อง กำหนด หลกั เกณฑ์ และวธิ ีการ การรบั รองบุคคลของสถานศกึ ษาวา่ เปน็ คนพิการ
พ.ศ. 2556. กรุงเทพ: กระทรวงศกึ ษาธกิ าร.

กรองทอง จุลิรัชนกี ร (2554). การจดั การศกึ ษาสำหรบั เด็กทม่ี คี วามตอ้ งการพิเศษ
ระดับปฐมวัย. กรุงเทพ: จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั .

กมลวรรณ ตงั ธนกานนท์ (2557). การวดั และประเมนิ ทักษะการปฏิบัติ. กรงุ เทพ: สำนกั พิมพจ์ ฬุ าลงกรณ์.

กติ ติมา เฟอ่ื งฟู (2550). การส่งเสรมิ พัฒนาการทางดา้ นร่างกายของเดก็ ปฐมวยั โดยใช้

57

กจิ กรรมเคลอ่ื นไหวเชงิ แอโรบคิ . ปรญิ ญานิพนธ์ กศ.ม. (การศกึ ษาปฐมวยั ).
กรุงเทพฯ: บณั ฑติ วทิ ยาลัย มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ.

เกริก ทา่ มกลาง, จนิ ตนา ทา่ มกลาง (2555). การพัฒนาส่ือและนวตั กรรมทางการศกึ ษาเพือ่
เลือ่ นวทิ ยฐานะ. กรุงเทพ: สถาพรบคุ๊ ส.์

เกวลิน เลขานนท์ (มปป).การตรวจรา่ งกายพื้นฐานทางจักษวุ ทิ ยา.สบื คน้ เมอ่ื 23 มกราคม 2560.

http://med.mahidol.ac.th.eye%20examination.doc

ขวัญใจ วงศกติ ตริ กั ษ์. (2553). การตรวจวินจิ ฉยั ความพกิ ารทางการเหน็ . ใน ดารณี สวุ พันธ์
คู่มอื การตรวจประเมินและวินจิ ฉัยความพิการตามพระราชบัญญตั ิสง่ เสรมิ และพัฒนา
คณุ ภาพชวี ติ คนพิการ. กรุงเทพ. ชมุ นุมสหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย.

ขวญั ใจ วงศกติ ตริ กั ษ์. (2555). สภาวะตาบอด ตาเลือนราง และโรคตาทีเ่ ปน็ ปัญหาสาธารณสุขใน
เดก็ ไทย ปี พ.ศ. 2549-2550. สบื ค้นเม่ือ 23 มกราคม 2560.

http://kb.hsri.or.th/dspace/handle/11228/3795

ชัยยงค์ พรหมวงศ์ (2556). การทดสอบประสทิ ธิภาพสือ่ หรอื ชุดการสอน.
วารสารศลิ ปากรศกึ ษาศาสตรว์ ิจยั . ปที ี่ 5(1) ม.ค-ม.ิ ย.

ชัยยงค์ พรหมวงศ์ (2545). เอกสารการสอนชดุ วชิ าส่อื การสอนระดับประถมศึกษา หนว่ ยท่ี 8-15.
(พมิ พค์ ร้ังท่ี 20). กรงุ เทพฯ : มหาวทิ ยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธริ าช.

นภเนตร ธรรมบวร (2544). การประเมนิ ผลพฒั นาการเดก็ ปฐมวยั . กรุงเทพ:
จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั .

นนั ทณี เสถียรศักดพิ์ งศ์. (2548 ). การประเมนิ องค์ประกอบในการประกอบกิจกรรมการ
เคลือ่ นไหว ใน กจิ กรรมบำบดั ในผู้รบั บรกิ ารเดก็ : การประเมินทางคลินกิ :
ภาคกิจกรรมบำบัด คณะเทคนคิ การแพทย์ มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่.

นนั ทณี เสถยี รศักดพิ์ งศ์ (2549). แบบประเมนิ Short sensory profile ฉบบั ภาษาไทย.
เอกสารอัดสำเนา.

บญุ ชม ศรีสะอาด (2553). การวิจัยสำหรบั ครู. (พมิ พ์ครงั้ ท่ี 3). กรุงเทพ: สวุ รี ียาสาส์น.

ปรมพร ดอนไพรธรรม. (2550). การศกึ ษาความสามารถในการใชก้ ล้ามเนื้อมัดใหญ่
ของเด็กกลมุ่ อาการดาวน์โดยใชก้ ิจกรรมโยคะ. ปริญญานพิ นธ์ กศ.ม.
(การศกึ ษาพิเศษ). กรุงเทพฯ : บณั ฑิตวทิ ยาลัย มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ.

เผชิญ กิจระการ, สมนึก ภัททยิ ธนี (2545). ดัชนปี ระสิทธิผล. วารสารการวดั ผลการศึกษา
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. ปีท่ี 8(1).

58

พงษพ์ ันธ์ พงษโ์ สภา (2544). จติ วิทยาการศกึ ษา. กรงุ เทพ: ธนธัชการพมิ พ์.

พรพิไล เลิศวชิ า (2550). สมองเรียนรู้อยา่ งไร. กรงุ เทพ: ศาลาแดง.

พรใจ สารยศ (2553). ชดุ กิจกรรมพลศกึ ษาสำหรับเดก็ ปฐมวยั . กรุงเทพ: สำนกั พิมพ์แม็ค.

พิศกั ด์ิ ชินชัย (2560). กจิ กรรมบำบัดสำหรับผ้ทู ่ีมปี ัญหาทางระบบประสาท.
ภาควิชากจิ กรรมบำบดั คณะเทคนคิ การแพทย์. เชียงใหม.่ มหาวิทยาลัย.

เมธาพร ยะดอนใจ (2555). การจัดกจิ กรรมการเคลอ่ื นไหวร่วมกับการใช้ประสาทรับรู้
เพื่อสง่ เสริมทกั ษะกลา้ มเน้ือมดั ใหญ่ของเดก็ พกิ ารซอ้ น อายุ 3-5 ป.ี วิทยานพิ นธค์ รุ ศุ าสตร์
บัณฑติ (การศึกษาพิเศษ) กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลยั ราชภฏั สวนดสุ ิต.

รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย(2560). ราชกจิ จานเุ บกษา. หนา้ 1 เลม่ 134 ตอนที่ 40 ก

ระพินทร์ โพธศิ์ รี (2550). การสร้างชดุ กิจกรรมการจัดการเรียนรู้. อตุ รดติ ถ์: คณะครศุ าสตร์.

โรงเรียนสอนคนตาบอดภาคเหนือฯ(2549). คู่มอื จัดทำแผนการศกึ ษาเฉพาะบุคคล. เชยี งใหม่. โรงเรยี น
สอนคนตาบอดภาคเหนอื .

โรงเรยี นสอนคนตาบอดภาคเหนอื ฯ (2554). หลกั สูตรการศกึ ษาระดบั ปฐมวัย พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับ
แกไ้ ขปรบั ปรงุ 2554). เชียงใหม.่ โรงเรยี นสอนคนตาบอดภาคเหนอื ฯ.

ละไม สีหาอาจ. (2551). การสง่ เสรมิ พัฒนาการดา้ นรา่ งกายของเดก็ ปฐมวยั โดยการจัดกจิ กรรม
เคลอื่ นไหวเชงิ สร้างสรรค์. ปรญิ ญานพิ นธ์ กศ.ม. (การศกึ ษาปฐมวัย). กรงุ เทพ: มหาวิทยาลัยศรี
นครนิ ทรวิโรฒ.

ศริ นิ ทร กาญจนั ดา. (2553). การศกึ ษาความสามารถใชก้ ลา้ มเนอื้ ใหญข่ องเด็กที่มคี วาม
บกพรอ่ งทางสตปิ ญั ญาระดับรนุ แรงจากการใชโ้ ปรแกรมกจิ กรรมการฝกึ ทักษะ
กลไกของสเปเชยี ลโอลิมปิคแห่งประเทศไทยรว่ มกับกิจกรรมฝึกสมรรถภาพทางกาย (Physical
Fitness). ปริญญานพิ นธก์ ศ.ม. (การศกึ ษาพิเศษ). กรุงเทพ: มหาวทิ ยาลัยศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ.

ศรยี า นยิ มธรรม (25541). การวดั และประเมนิ ผลทางการศกึ ษาพิเศษ. กรุงเทพ: อาร์ท แอนด์
พรนิ ต้งิ .

ศุภา คงแสงไชย (2557). กลยทุ ธก์ ารกระต้นุ พัฒนาการทางสายตา 0-3 ป.ี นครปฐม:
บุตร-บอส บุ๊คเซ็นเตอร์.

59

สร้อยสดุ า วทิ ยากร (2555). กรอบอ้างองิ การบรู ณาการประสาทความรู้สกึ ทฤษฎี
และการปฏิบัตกิ ารทางคลินิกกจิ กรรมบำบัด. ภาควิชากิจกรรมบำบดั คณะเทคนิคการแพทย์.
เชยี งใหม.่ มหาวิทยาลัย.

สารกิ า แกว้ นำ้ และคณะ (2554).ผลของชดุ กจิ กรรมการเคล่ือนไหวประกอบเพลงท่ีมตี อ่ ทักษะ
กลา้ มเนือ้ มดั ใหญข่ องเดก็ ดาวน์ชนิ โดรมในสถาบนั ราชานกุ ลู .กรุงเทพฯ:สถาบันราชานกุ ลู .

สริ มิ า ภิญโญอนันตพงษ์ (2553). การวดั และประเมินแนวใหม่เดก็ ปฐมวัย.กรงุ เทพ:
ดอกหญา้ วชิ าการ.

สคุ นธ์ สนิ ธพานนท์ (2553). นวัตกรรมการเรยี นการสอนเพื่อพัฒนาคุณภาพของเยาวชน.
กรงุ เทพฯ: เทคนคิ พรน้ิ ตง้ิ .

สภุ าพร ชนิ ชยั . (2555). ความสัมพนั ธ์ของกรอบอา้ งอิงบรู ณาการประสาทความรู่สกึ กบั กรอบ
อา้ งองิ อน่ื ใน สร้อยสดุ า วทิ ยากร (2555). กรอบอา้ งองิ การบรู ณาการประสาท
ความรูส้ กึ ทฤษฎแี ละการปฏบิ ตั กิ ารทางคลินิกกิจกรรมบำบดั . ภาควิชา
กิจกรรมบำบดั คณะเทคนคิ การแพทย์. เชียงใหม:่ มหาวิทยาลัย.

สำนักบรหิ ารงานการศึกษาพเิ ศษ (2551). คู่มือการช่วยเหลือระยะแรกเรมิ่ (Early Intervention: EI)
เด็กพิการสำหรบั โรงเรียนเฉพาะความพิการและศูนยก์ ารศึกษาพิเศษ: กระทรวงศกึ ษาธกิ าร.

สำนักบริหารงานการศกึ ษาพเิ ศษ (2559). แนวทางความรว่ มมือดา้ นการจดั การศกึ ษาสำหรบั บุคคลท่มี ี
ความต้องการจำเปน็ พิเศษ: กระทรวงศกึ ษาธิการ.

วรรณภิ า เทยี่ งธรรม (2557). ผลของการจดั กิจกรรมนอกหอ้ งเรยี นโดยใช้ของเล่นพื้นบ้านตามแนวคิด
การประมวลขอ้ มูลการรบั ความรสู้ กึ เพื่อส่งเสรมิ ทกั ษะการเคล่ือนไหวของเดก็ อนบุ าล. วารสาร
อิเล็กทรอนิกสท์ างการศกึ ษา. ฉบบั ที่ 9(1): 472-486

วารี ถิระจติ ร. (2545). การศึกษาสำหรบั เดก็ พเิ ศษ. (พิมพ์คร้ังท่ี 3 ). กรุงเทพ:
จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั .

วชิ ติ า เกศะรกั ษ์ (2557). คู่มือปฏบิ ัติงานกิจกรรมบำบัดสำหรบั เดก็ บกพร่องทางการเห็น.
เชยี งใหม.่ โรงเรียนสอนคนตาบอดภาคเหนือ.

อารี สณั หฉวี (2554). ทฤษฎีการเรยี นรขู้ องสมองสำหรับพ่อแม่ ครู และผู้บริหาร. กรงุ เทพ:
สวุ ีริยาสาสน์ .

60

Abdullah M.N. Parnabas V. (2014). Assessing Gross motor Skill Development
among children with visual impairment. IJERN Feb; 2 (2): 1-6

Ayres, A.J. (1989). Sensory integration and the child. (9nd ed). Los Angeles:
Western Psychological Services.

Aryes, A.J. (2005). Sensory Integration and the child: Understanding Hidden
Sensory Challenges: Los Angeles: Western Psychological services.

Brambring M. (2006). Divergent Development of Gross. Motor Skills in Children
Who Are Blind or Sighted. JVIB Journal Oct; 100 (10) 1-22

Bundy C.A ,Lane J.S, Murray A.E. (2002). Sensory integration Theory and Practice.
(2nd ed). Philadelphia: Davis Company.

Degangi A. G. (1994). Documenting sensorimotor progress: A therapist's guide. Tucson,
AZ: Therapy Skill Builders.

Haegele, J.A., Brian, A. & Goodway, (2015) Fundamental Motor Skills and School-Aged
Individuals with Visual Impairments: a Review J. Rev J Autism Dev Disorder Sep2:
320

Huebner, R. A. and Dunn, W. (2001). Introduction and Basic Concepts. in R.A.Heubner.
(Ed.), Autism: A Sensorimotor Approach to management. (pp. 3-40),
Gaithersburg: Aspen Publishers.

Houwen et al. (2008). Motor skill performance of school-age children
with visual impairment. Dev Med Child Neurol. Feb; 50(2): 139-45

Houwen, S., Visscher, C., Lemmink, K. A. P. M., & Hartman, E. (2009). Motor Skill
Performance of Children and Adolescents With Visual Impairments: A Review.
Exceptional children, 75(4), 464-492.

Lechelt C.E., Hall L.D. (2001). The impact of vision loss on the development of
children from birth to 12 years: A literature review: The Canadian Institute for
the blind.

61

Prechtl FR.H. (2001). Role of vision on early motor development: Lessons from
the Blind. Developmental Medicine & Child Neurology. 43: 198-201

Miller J. L, Anzalone E.M, Lane J .S, Cermark A.S, Osten T.E (2007). Concept Evolution in
Sensory Integration: A Proposed Nosology for Diagnosis. American journal of
Occupational Therapy. 61, 135-140.

Murphy V. (2009). Effect of sensory integration on motor development in K-3
student with autism. Online. Available: fttp://scholarworks.sjsu.edu/etd_theses.

Roley, SS., Blanche, E.I., Schaaf, R.C. (2001). Understanding the nature of sensory
integration with Diverse population: A Harcourt Health Sciences Company.

Ruth A. Huebner (2001). Autism: sensorimotor approach to Management.
Gaithersburg: Aspen Publisher.

Rydeen, K. (2001). Integration of Sensorimotor and Neurodevelopmental Approach.
in R.A. Heubner. (Ed.), Autism: A Sensorimotor Approach to management.
(pp.247-261), Gaithersburg: Aspen Publishers.

Schneck, C. M. (2001). The Efficacy of a Sensorimotor Treatment Approach by
Occupational Therapist. in R.A. Heubner. (Ed.), Autism: A Sensorimotor Approach
to management. (pp.139-178), Gaithersburg: Aspen Publishers.

Sheikh M, Safania M.A. Afshari J. (2011). Effect of selected motor skills on motor
development of both gender aged 5 and 6 years old. Procidia social and
behavioral sciences. (15):1723- 1725. Online. Available: http://www.
scienedirect.com.

Smith, M., and Levack, N. (2007). Teaching Students with Visual and Multiple
Impairments. Austin, TX: Texas School for the Blind and Visually Impaired.

Strickling, C. (1998). Impact of vision loss on motor development: Taxas school of
the blind and visually impaired.

Warren H.D. (1994). Blindness and Children: An Individual Differences Approach.
USA: Cambridge University Press.

62

WHO. (2003). Consultation on Development of standards for characterization of
vision loss and visual functioning : Geneva, 4-5 September 2003. Retrieved by
January 23, from http://www.who.int/iris/handle/10665/68601

WHO. (2014). Visual impairment and blindness. Retrieved by January 23, from
http://www.who.int/mediacentre/factsheets/fs282/en/

Willbarger J., Willbarger P.2002:339. clinical application of the sensory diet. In Bundy C.A ,
Lane J.S, Murray A.E (2002). Sensory integration Theory and Practice.
( 2nd ed). Philadelphia. Davis Company.

Yack, E., Sutton, S., & Aquilla, P. (1998). Building Bridges through Sensory
Integration. Weston: Authors.

63

ภาคผนวก ก

รายนามผู้เช่ยี วชาญ

64

รายนามผูเ้ ชย่ี วชาญ
1. ชอ่ื สกุล รองศาสตราจารย์ ดร.นนั ทณี เสถยี รศักดพิ์ งศ์

ตำแหนง่ อาจารย์ประจำภาควิชากจิ กรรมบำบัด
ทท่ี ำงาน คณะเทคนคิ การแพทย์ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่
2. ช่ือ สกุล ผชู้ ว่ ยศาสตราจารยศ์ ศธิ ร สังข์อู๋
ตำแหนง่ อาจารยป์ ระจำภาควชิ ากจิ กรรมบำบดั
ทท่ี ำงาน คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่
3. ช่อื สกลุ รองศาสตราจารย์ ดร.ธญั ลกั ษณ์ ศรีบุญเรือง
ตำแหนง่ อาจารยป์ ระจำภาควิชากายภาพบำบดั
ท่ที ำงาน คณะเทคนคิ การแพทย์ มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่
4. ช่อื สกุล นายประมวล พลอยกมลชณุ ห์
ตำแหน่ง ผู้อำนวยการเชย่ี วชาญ
ทท่ี ำงาน โรงเรยี นสอนคนตาบอดภาคเหนือในพระบรมราชินูปถมั ภ์ จงั หวัดเชียงใหม่
5. ชื่อ สกุล นางมธฤุ ดี ชยั ชนะ
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ชำนาญการพิเศษ หวั หนา้ ระดับชั้นปฐมวยั
ทท่ี ำงาน โรงเรียนสอนคนตาบอดภาคเหนือในพระบรมราชินูปถัมภ์ จงั หวัดเชียงใหม่

65

ภาคผนวก ข

ตาราแสดงค่า IOC ชุดกจิ กรรมการรบั ความรสู้ กึ ทรงตวั และการเคลื่อนไหว

66

รายการ ชดุ กิจกรรมการรับความรูส้ ึก เฉลีย่
ประเมิน
ทกั ษะ ทรงตวั และการเคล่ือนไหว ความเหน็ ของผเู้ ช่ียวชาญ ค่า

Vestibuloproprioceptive คนท่ี 1 คนท่ี 2 คนที่ 3 คนที่ 4 คนที่ 5 IOC สรปุ ผล

activities

1.การยืนเทา้ 1. กจิ กรรมยืนบนกระดานทรงตวั

ชดิ 2. กิจกรรมหมุนในถงั ใช้ได้

3. กจิ กรรมนัง่ ขยม่ บอล 1 1 1 1 11

4. กจิ กรรมไถรถเล่อื น

2.การยนื ขา 1. กิจกรรมยืนบนกระดานทรงตวั

เดยี ว 2. กิจกรรมหมุนในถัง

3. กจิ กรรมน่งั ขยม่ บอล 1 1 1 1 1 1 ใช้ได้

4.กิจกรรมไถรถเลอ่ื น

3.การเดินตรง 1. กิจกรรมบนกระดานทรงตวั

ไปขา้ งหน้า 2. กจิ กรรมหมุนในถัง

(บนเส้นที่ 3. กิจกรรมนง่ั ขยม่ บอล 1 1 1 1 1 1 ใชไ้ ด้

กำหนด) 4. กิจกรรมก้าวยาวๆ

5. กิจกรรมเดนิ บนสะพาน

ทรงตัว

4.การเดิน 1. กจิ กรรมบนกระดานทรงตัว

บนไมก้ ระดาน 2. กจิ กรรมหมุนในถงั

3. กิจกรรมนงั่ ขย่มบอล 1 0 1 1 1 0.8 ใช้ได้

4. กจิ กรรมกา้ วยาวๆ

5. กจิ กรรมเดินบนสะพาน

ทรงตัว

5.การเดนิ ถอย 1. กิจกรรมบนกระดานทรงตวั

หลงั 2. กิจกรรมหมุนในถัง

(บนเส้นที่ 3. กจิ กรรมนงั่ ขย่มบอล 1 0 1 0 1 0.6 ใช้ได้

กำหนด) 4. กิจกรรมก้าวยาวๆ

6.การเดินข้ึน- 1.กจิ กรรมกา้ วข้นึ ลงเกา้ อ้นี ่งั ยอง

ลงบันไดสอง 2.กจิ กรรมเดินข้ามหมอนกลม 1 1 1 1 1 1 ใชไ้ ด้
ทาง 3.กจิ กรรมก้าวยาวๆ

4.กิจกรรมเดนิ บนสะพานทรง

ตวั

ตารางแสดงค่า IOC ของทักษะกลา้ มเน้อื มดั ใหญ่กบั ชดุ กิจกรรมการรับความรูส้ กึ ทรงตัวและการเคล่อื นไหว

67

รายการ กิจกรรมการรบั ความรู้สกึ คนที่ 1 ความเห็นของผเู้ ชย่ี วชาญ เฉล่ยี สรปุ ผล
ประเมนิ ทรงตัวและการเคล่อื นไหว 1 คนที่ 2 คนท่ี 3 คนที่ 4 ค่า IOC ใชไ้ ด้
ทักษะ คนท่ี 5
Vestibuloproprioceptive 1 111 11 ใช้ได้
7.การวงิ่ ตรง activities
ไปข้างหนา้ 111 11
1. กิจกรรมบนกระดานทรงตัว
8.กระโดด 2. กจิ กรรมหมุนในถงั
สองเท้าขน้ึ 3. กจิ กรรมน่ังขยม่ บอล
ลงอยู่กับท่ี 4. กจิ กรรมกา้ วยาวๆ
5. กจิ กรรมวง่ิ เก็บผลไม้

ใส่ตะกร้า

1. กิจกรรมกระโดดแทรมโพลนี
2. กิจกรรมกระโดดบนแผ่นโฟม

สเ่ี หลี่ยม
3. กิจกรรมกระโดดขาเดยี ว
4. กจิ กรรมกา้ วขึน้ ลงต่างระดับ
5. กิจกรรมเดินขา้ มหมอนกลม

9.กระโดดลง 1. กิจกรรมกระโดดแทรมโพลีน

จากท่ีสงู 10 2. กิจกรรมกระโดดบนแผน่ โฟม

ซม. สี่เหล่ยี ม 1 1 1 1 1 1 ใชไ้ ด้

3. กจิ กรรมกระโดดขาเดียว

10.กระโดด 1. กจิ กรรมกระโดดแทรมโพลนี

สองเท้าขนึ้ 2. กจิ กรรมกระโดดบนแผ่นโฟม

ลงอยูก่ บั ท่ี สีเ่ หลี่ยม 1 1 1 1 1 1 ใชไ้ ด้

3. กจิ กรรมกระโดดขาเดยี ว

11.กระโดด 1. กิจกรรมกระโดดแทรมโพลนี

ลงจากที่สงู 2. กิจกรรมกระโดดบนแผน่ โฟม

10 ซม. สี่เหลยี่ ม 1 1 1 1 1 1 ใชไ้ ด้

3. กิจกรรมกระโดดขาเดียว

12.กระโดด 1. กิจกรรมกระโดดแทรมโพลีน

สองเท้าไป 2. กจิ กรรมกระโดดบนแผน่ โฟม

ขา้ งหน้า สเี่ หลยี่ ม 1 1 1 1 1 1 ใช้ได้

3. กจิ กรรมกระโดดขาเดยี ว

รวมค่าเฉลยี่ IOC 0.95

68

ภาคผนวก ค
1. ตารางวเิ คราะหแ์ บบประเมนิ ชดุ กิจกรรมการรบั ความรูส้ กึ ทรงตวั และการเคล่อื นไหว
2. ตารางวิเคราะหแ์ บบประเมนิ แผนการจดั การเรียนรู้ กจิ กรรมการรบั ความรู้สกึ ทรงตวั

และการเคล่อื นไหว โดยผู้เชีย่ วชาญจำนวน 5 คน

69

แบบประเมินชุดกิจกรรมการรับความรสู้ กึ ทรงตวั และการเคลื่อนไหว โดยผเู้ ช่ียวชาญ

คำชีแ้ จง

1. แบบประเมินชุดกิจกรรมฉบับนี้ จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการประเมินคุณภาพของชุดกิจกรรมการรับ

ความร้สู ึกทรงตวั และการเคลอ่ื นไหว เพื่อพัฒนาทกั ษะการใช้กล้ามเนอื้ มัดใหญ่ สำหรับนักเรียนที่มี

ความบกพร่องทางการเหน็ ระดบั ปฐมวยั

2. ให้ผู้เชี่ยวชาญทำเครื่องหมาย / ลงในช่องระดับคุณภาพของการประเมินตามระดับคุณภาพ

ดงั ตอ่ ไปนี้

ระดับคณุ ภาพ

เหมาะสมที่สดุ ให้ 5 คะแนน

เหมาะสมมาก ให้ 4 คะแนน

เหมาะสมปานกลาง ให้ 3 คะแนน

เหมาะสมน้อย ให้ 2 คะแนน

เหมาะสมนอ้ ยที่สุด ให้ 1 คะแนน

ลำดบั รายการ ระดบั คะแนนประเมิน คา่ เฉลย่ี S.D
ที่ 5 4 3 2 1 (x)

1. ความเหมาะสมของกิจกรรมกับเนื้อหา 2 3 4.4 5.43

หลกั สูตร

2. ความถูกต้องของการออกแบบกิจกรรม 3 2 4.6 6.05

ตามหลักวิชาการ

3. ค ว า ม ส อ ด ค ล ้ อ ง ข อ ง ก ิ จ ก ร ร ม กั บ 2 2 1 4.2 4.12

จดุ ประสงค์

4. สื่อการเรียนการสอนสอดคล้องกับ 2 3 4.4 5.43

กจิ กรรม

5. กิจกรรมเหมาะสมกบั เวลาในการปฏิบัติ 1 4 4.2 6.21

6. ก ิ จ ก ร ร ม เ ห ม า ะ ส ม ก ั บ ว ั ย แ ล ะ 2 3 4.4 5.43

ความสามารถของผู้เรียน

7. กิจกรรมเรียงลำดับจากงา่ ยไปหายาก 1 3 1 4.0 4.43

8. เกณฑ์การประเมินผลมีความชัดเจน 1 4 4.2 6.21

9. ภาษาท่ีใช้เหมาะสมกบั ผูเ้ รยี น 42 4.6 6.05

10. เปน็ ประโยชน์ตอ่ ผเู้ รียนและผสู้ อน 32 4.6 6.05

รวมคะแนน 4.36 5.54

ตารางวเิ คราะหแ์ บบประเมนิ แผนการจดั การเรยี นรู้

กิจกรรมการรับความรสู้ กึ ทรงตวั และการเคลื่อนไหว โดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 คน

70

ขอ้ ท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนนการประเมนิ ค่าเฉลย่ี S.D
1 2 3 45 (x) 6.05
4.6 5.69
1 แผนการจดั กิจกรรมมีองค์ประกอบ 23 6.05
สำคญั ครบถว้ นสัมพนั ธ์กนั 4.4 5.43
4.6 6.05
2 จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรมมีความชดั เจน 1 13 4.4 6.05
ครอบคลุมเนื้อหาสาระ 6.05
4.6 6.05
3 การเขียนเน้ือหาสาระเหมาะสมกับเวลา 23 4.6 6.05

4 จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมพฒั นานกั เรยี น 32 4.6 5.43
ดา้ นความรู้ทกั ษะปฏบิ ตั ิตามต้องการ 4.4 5.43
5.43
5 การกำหนดเนอ้ื หาสาระเหมาะสมกับ 23 4.4 5.43
เวลา 6.21
4.4 6.21
6 กิจกรรมการเรียนรสู้ อดคลอ้ งกับ 23 5.57
จดุ ประสงคแ์ ละเนือ้ หาสาระ 4.4

7 กิจกรรมการเรยี นรเู้ หมาะสมกับเน้ือหา 23 4.4
สาระและระดับชนั้ ของนักเรยี น 4.4

8 กจิ กรรมการเรียนรมู้ ีความหลากหลาย 32 4.2
และสามารถปฏิบัติได้จรงิ 4.2
4.41
กิจกรรมการเรียนร้เู ปน็ กจิ กรรมท่ี 32

9 ส่งเสรมิ ทักษะการทำงานของกลา้ มเนอ้ื

มัดใหญ่

10 กิจกรรมเนน้ ใหน้ กั เรียนรจู้ ากการปฏบิ ตั ิ 32
จรงิ

11 กจิ กรรมการเรยี นรู้เรียงลำดับจากงา่ ยไป 32
ยาก

12 วสั ดุ อุปกรณ์ สือ่ การเรียนการสอนมี 32
ความหลากหลาย

13 สือ่ การเรยี นการสอนสอดคลอ้ ง 32
เหมาะสมกบั เน้ือหาสาระ

14 นักเรียนได้ใชส้ ่อื การเรียนรูด้ ้วยตนเอง 41

15 มกี ารวัดและประเมนิ ผลทส่ี อดคล้องกับ 41
จดุ ประสงค์

รวมคะแนน

71

ภาคผนวก ง

ตารางแสดงการหาคา่ ประสิทธภิ าพของกลุ่มทดลอง

72

คา่ ประสิทธิภาพของชุดกจิ กรรมการรับความรู้สกึ ทรงตัวและการเคลือ่ นไหว การทดลอง 1:1
โรงเรียนสอนคนตาบอดภาคเหนือในพระบรมราชินปู ถมั ภ์ จงั หวดั เชียงใหม่

นกั เรียนคนที่ ช่อื นกั เรยี น คะแนน คะแนน ร้อยละ
ระหว่างเรียน หลังเรยี น
1 ด.ช ต่อตระกูล เช้อื อนิ ทร์ รอ้ ยละ (คะแนน 72.91
2 ด.ช. วรดล เนตรทพิ ย์ (คะแนน เต็ม 48 ) 72.90
3 ด.ญ.ณฐั นชิ า บตุ รดา เต็ม 48) 68.75 35 79.16
คา่ 72.91 25
ประสิทธิภาพ 33 79.16 38 74.99
(E1/E2) 35
73.60 E2
38

E1

คา่ ประสิทธภิ าพของชดุ กจิ กรรมการรบั ความรสู้ กึ ทรงตวั และการเคลื่อนไหว การทดลองกลุ่มเลก็
โรงเรียนการศกึ ษาคนตาบอดลำปาง จงั หวดั ลำปาง

นักเรียนคนที่ ชอ่ื นกั เรียน คะแนน รอ้ ยละ คะแนน ร้อยละ
ระหวา่ งเรยี น หลงั เรยี น
1 ด.ช. ธนกร แผลงศร 91.67 (คะแนน 87.50
2 ด.ช.ศภุ กิจ แกว่นกสกิ รรม (คะแนน 87.50 เตม็ 48 ) 87.50
เตม็ 48) 68.75 72.92
3 ด.ญ. ประภาศรี อ้นแดง 72.92 42 72.92
4 ด.ช.สนธยา แสงหลา้ 44 79.17 42 87.50
5 ด.ญ.อโรชา วงศเื ตม็ 42 87.50 35 87.50
6 ด.ญ. เนตรนภา พมิ ทอง 33 35
คา่ 35 81.25 38 82.63
ประสทิ ธิภาพ 38 42
(E1/E2) 42
E2
E1

73

ค่าประสิทธิภาพของชดุ กิจกรรมการรบั ความรูส้ ึกทรงตวั และการเคล่ือนไหว
การทดลองกลุ่มใหญ่ โรงเรยี นการศกึ ษาคนตาบอดแมส่ าย จงั หวัดเชียงราย

นักเรียน ชอ่ื นกั เรยี น คะแนน ร้อยละ คะแนน ร้อยละ
คนที่ ระหว่างเรียน หลังเรยี น
87.50 (คะแนน 91.67
1 ด.ช ทรงเกียรติ นนั เมือง (คะแนน 72.91 เต็ม 48 ) 72.92
2 ด.ช.สุรเชษฐ์ มนตรพี ริ ิยา เต็ม 48) 79.17 79.17
79.17 44 72.92
3 ด.ช พดั ลงุ ดำ 42 79.17 35 79.17
4 ด.ช.ไกรสร บญุ ศรี 35 87.50 87.50
5 ดช.กัมพล อตุ มท์ อง 91.67 38 87.50
6 ด.ญ.หอม 38 91.67 35 87.50
7 ด.ช.นนทพงษ์ จักรแกว้ 38 72.92 38 79.17
8 ด.ญ.มารีย์ เชอหมื่อ 38 42
9 ด.ช.จริ ายุ แซ่ยา่ ง 42 82.40 42 81.94
ค่า 44 42
ประสิทธิภาพ 44 38
(E1/E2) 35

74

ภาพตวั อยา่ งการทดลองกลุ่มการทดลอง 1:1
โรงเรยี นสอนคนตาบอดภาคเหนอื ในพระบรมราชินปู ถมั ภ์ จงั หวดั เชยี งใหม่

75

ภาพตวั อยา่ งการทดลองกลมุ่ เลก็ โรงเรียนการศกึ ษาคนตาบอดลำปาง จงั หวดั ลำปาง
76

77

ภาพตัวอย่าง การทดลองกลุม่ ใหญ่
โรงเรยี นการศึกษาคนตาบอดแมส่ าย จังหวดั เชยี งราย

78

79

ภาคผนวก จ

คูม่ อื การใช้แบบทดสอบทกั ษะกล้ามเน้อื มดั ใหญ่

80

ลักษณะทว่ั ไปของแบบทดสอบ
แบบทดสอบนี้พัฒนาขึ้น เพื่อใช้ทดสอบความสามารถในการใช้ทักษะกล้ามเนื้อมัดใหญ่ในบุคคลที่มี

ความบกพรอ่ งทางการเห็น ระดับปฐมวยั โรงเรยี นสอนคนตาบอดภาคเหนือในพระบรมราชนิ ูปถมั ภ์

เกณฑก์ ารให้คะแนน
เกณฑ์การให้คะแนน ได้กำหนดเกณฑ์การให้คะแนนตามหลักการพัฒนาการตามวัยและ

คุณภาพของการเคลื่อนไหว 3 ด้าน คือ การทรงตัว ความคล่องแคล่ว และสหสัมพันธ์ของร่างกาย ซึ่งจะ
แตกตา่ งกันในแตล่ ะหวั ข้อ

เวลาทใ่ี ช้ทดสอบ
แบบทดสอบนเ้ี ปน็ การลงมือปฏิบัติจริง ใช้เวลาข้อละ 3 นาที

เครอ่ื งมอื ประเมนิ
1. ไมก้ ระดานสำหรับทรงตัว
2. หมอนกลมสำหรับเป็นสิ่งกดี ขวาง
3. นาฬิกาจับเวลา
4. บนั ไดสองทาง

วิธีการทดสอบ
1.เตรียมความพร้อมเด็กกอ่ นทำการประเมิน
2.อธบิ ายการทดสอบตา่ งๆพรอ้ มกบั ใหเ้ ด็กสัมผสั อปุ กรณ์
3.ใหเ้ ด็กทดลองปฏบิ ัติกอ่ นประเมินจรงิ 2-3 ครง้ั ตามความพร้อมของเด็กแตล่ ะคน
4.ทำการทดสอบในบริเวณทส่ี งบ มีอุปกรณพ์ ร้อม
5.บนั ทกึ การทดสอบในแบบประเมิน

เกณฑ์การตดั สนิ
ให้บันทึกคะแนนลงในช่องบันทึกคะแนนของแบบทดสอบ ผลรวมของคะแนนทั้งหมด 12 ข้อ

เท่ากบั 36 คะแนน

ระดับคะแนน การแปลความหมาย

0-12 คะแนน มคี วามสามารถในการใช้กล้ามเน้อื มัดใหญใ่ นระดับปรบั ปรงุ

12.01-24.00 คะแนน มีความสามารถในการใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ในระดับพอใช้

24.01-36.00 คะแนน มคี วามสามารถในการใช้กล้ามเน้อื มดั ใหญ่ในระดบั ดี

แบบทดสอบทักษะกล้ามเน้ือมัดใหญ่ สำหรับบคุ คลท่ีมีความบกพรอ่ งทางการเหน็ ระดับปฐมวัย

โรงเรยี นสอนคนตาบอดภาคเหนอื ในพระบรมราชนิ ูปถัมภ์ จ.เชยี งใหม่

81

คำสัง่ ใหบ้ นั ทกึ คะแนนลงในชอ่ งบันทึกคะแนนของแบบประเมนิ ตามเกณฑ์ของแตล่ ะข้อ ดงั นี้
ชือ่ นกั เรยี น................................................ วันที่ประเมนิ ...................................................

ข้อท่ี รายการ วิธกี ารทดสอบ ตัวอย่างการทดสอบ เกณฑ์การบนั ทึกคะแนน
ประเมิน
1.ใหเ้ ด็กยืนตัวตรงแขนแนบ 0 = ทำไมไ่ ด้เลย
1 การยืนเทา้ ชิด ลำตวั ใหเ้ ทา้ ชิดกนั ท้ังสอง 1 = ยนื ตวั ตรงแตเ่ ทา้ ไม่ชดิ แขนกาง
ข้าง 2 = ยืนตวั ตรงเท้าไม่ชดิ ไม่กางแขน ได้ 10
วินาที
3 = ยนื ตวั ตรงเทา้ ชดิ ไม่กางแขน ได้ 20
วนิ าที

2 การยืนขาเดยี ว 1.ใหเ้ ด็กยืนตวั ตรงแขนแนบ 0 = ทำไม่ไดเ้ ลย
ลำตัว 1 = ยกขาขึน้ หน่ึงขา้ ง แต่ลำตวั เซ ไม่ม่ันคง
2.ใหย้ นื บนขาข้างใดข้างหนึ่ง 2 = ยกขาขึ้นหนงึ่ ข้าง ทรงท่า ได้ 10 วนิ าที
3 = ยกขาขนึ้ หนงึ่ ขา้ ง ทรงทา่ ได้ 20 วินาที

การเดนิ ตรงไป 1.ตดิ เทปแลคซนี ขนาดกวา้ ง 0 = ทำไมไ่ ด้เลย
1 = เดินตรงไปข้างหนา้ แต่ไม่สลบั เท้า
3 ข้างหนา้ 2 น้ิวบนพ้นื ยาว 2 เมตร 2 = เดนิ ตรงไปขา้ งหนา้ แบบสลบั เท้า แต่
ลำตวั เซ หรอื เสยี การทรงตัว ได้ 1 เมตร
(บนเสน้ ที่ 2.ใหเ้ ดก็ ยืนลำตวั ตรงใน 3= เดินตรงไปข้างหนา้ แบบสลบั เทา้ โดย
ลำตัวตรง ไม่เสียการทรงตวั ได้ 1 เมตร
กำหนด) จุดเรมิ่ ตน้ ท่ีกำหนด

3.ให้เดก็ เดินตรงมาขา้ งหนา้

แบบเดินสลบั เทา้ บนเส้นที่

ตดิ ไวบ้ นพืน้ เม่ือไดย้ นิ เสียง

สัญญาณจากครใู ห้ถึงจดุ ที่

กำหนดภายในระยะ 1 เมตร

ขอ้ ที่ รายการ วธิ ีการทดสอบ ตวั อย่างการทดสอบ เกณฑ์การบันทึกคะแนน
ประเมิน
1.ใหเ้ ด็กยืนบนไมก้ ระดาน
4 การเดินบนไม้ กว้าง 4.5 นว้ิ ความยาว 2 0 = ทำไม่ได้เลย
กระดาน เมตร 1 = เดินตรงไปข้างหนา้ บนไมก้ ระดานแตไ่ ม่
2.กา้ วเทา้ ไปข้างหนา้ แบบ สลบั เทา้ โดยไมต่ กจากกระดาน
สลบั เท้าบนบนไม้กระดาน 2 =เดินตรงไปข้างหน้าบนไม้กระดานแบบ
จนสุดระยะทาง 1 เมตร สลบั เทา้ แตเ่ สยี การทรงตัว และตกกระดาน

82

3= เดนิ ตรงไปข้างหน้าแบบสลับเท้า บนไม้
กระดานโดยลำตวั ตรง โดยไม่ตกจาก
กระดาน ในระยะทาง 1 เมตร

5 การเดินถอย 1.ให้เด็กยนื ลำตัวตรงใน 0 = ทำไม่ไดเ้ ลย
หลัง จุดเรม่ิ ตน้ ท่ีกำหนด 1 = เดินถอยหลงั ได้ แตล่ ำตวั เซ ไม่ม่นั คง
(บนเส้นท่ี 2.ใหเ้ ดก็ ยนื ตวั ตรง แขนแนบ 2 = เดนิ ถอยหลงั ไปได้ 1-2 กา้ ว โดยไม่ลม้
กำหนด) ลำตวั 3 = เดินถอยหลงั ไปได้ 3-5 ก้าวโดยไม่ล้ม
2.ก้าวเทา้ ซ้ายไปข้างหลัง
และ.ก้าวเทา้ ขวาตามมาข้าง 0 = ทำไมไ่ ด้เลย
หลงั 1 = เดินขึ้น ลงบันไดเ้ กาะราวแต่ยงั ไม่สลับ
3.เดนิ ถอยหลงั ทลี ะกา้ ว เท้า
สลบั กนั 3- 5 กา้ ว 2 = เดินขึ้น ลงบนั ไดเกาะราวแต่สลับเทา้ ได้
3 = เดินขึ้นลงบันไดไดโ้ ดยไม่เกาะราวและ
6 การเดินขึน้ -ลง 1.ให้เด็กยืนตรงหนา้ บนั ได สามารถสลบั เท้าได้
บนั ไดสองทาง 2.มอื ข้างหนึ่งจบั ราวบันได
3.กา้ วเท้าขนึ้ บันไดโดยกา้ ว 0 = ทำไม่ไดเ้ ลย
1 = เดินกา้ วขา้ มไปไดแ้ ต่ชนส่งิ กีดขวาง
เทา้ ข้างหนง่ึ ตามมาพักเท้า 2 = เดนิ ก้าวข้ามไปได้โดยไม่ชนสิ่งกดี ขวาง
ในบนั ไดขนั้ เดยี วกนั แต่ตวั เซไม่ม่นั คง
4.ใชว้ ธิ เี ดยี วกันลงบนั ได 3 = เดนิ ก้าวขา้ มไปไดโ้ ดยไม่ชนสง่ิ กดี ขวาง
5.ก้าวข้นึ และลงบนั ได 2 และไม่เสียการทรงตวั
รอบ

7 เดนิ ขา้ มสง่ิ กีด 1.ให้เด็กยนื ลำตวั ตรงในจุดที่
ขวาง กำหนด
2.วางหมอนกลมสงู 10 ซม.
ไวด้ ้านหนา้ เด็ก
3.ให้เด็กเดนิ ข้ามหมอนกลม
ทีใ่ ชเ้ ป็นเคร่ืองกีดขวาง

ข้อที่ รายการ วิธีการทดสอบ ตวั อยา่ งการทดสอบ เกณฑ์การบนั ทกึ คะแนน
ประเมนิ

83

8 การวิง่ อย่กู บั ที่ 1.เด็กยนื ตวั ตรง เท้าแยก 0 = ทำไมไ่ ด้เลย
จากกนั เลก็ นอ้ ย 1 = วิง่ ได้ 1-10 วนิ าทีแต่ไมแ่ กว่งแขน ตัวเซ
2.ใหเ้ ด็กยกเท้าขวาให้พน้ พนื้ หรือลม้
พรอ้ มแขนซา้ ยและยกเทา้ 2= วง่ิ พรอ้ มแกวง่ แขนได้ 10-15 วนิ าที
ซา้ ยพร้อมแขนขวา 3 = ว่งิ พร้อมแกว่งแขนได้ 30 วินาที
3.ใหว้ ิง่ อยูก่ บั ทีต่ ดิ ต่อกนั 30
วินาที

9 การว่ิงตรงไป 1.เด็กยืนตวั ตรง เท้าแยก 0 = ทำไมไ่ ด้เลย
1 = วง่ิ ตรงไปข้างหน้าได้ 1 เมตร
ข้างหนา้ จากกนั เล็กนอ้ ย 2 = วง่ิ ตรงไปขา้ งหน้าได้ 2 เมตร
3 = ว่งิ ตรงไปข้างหนา้ ได้ 3 เมตร
2.ใหเ้ ด็กวิง่ เมือ่ ครูบอกวา่
0 = ทำไม่ได้เลย
“ไป” 1 = ทำท่ากระโดดแตเ่ ท้าไม่พ้นพนื้ หรือเสีย
การทรงตัว
3.ใหว้ ่ิงตรงมาขา้ งหน้าจนถงึ 2 =กระโดดเท้าพน้ พ้นื ได้ 1 ครงั้ โดยไมเ่ สีย
การทรงตวั และเทา้ ลงพร้อมกัน
จดุ ทกี่ ำหนด (เสน้ ชัย) โดย 3 = กระโดดเท้าเทา้ พ้นพืน้ ไดต้ ่อเนอ่ื ง 2
ครงั้ ข้ึนไป และเทา้ ลงพรอ้ มกนั โดยไมเ่ สีย
ครูใช้กระดงิ่ บอกตลอด การทรงตัว

เส้นทาง 3 เมตร

10 กระโดดสองเท้า 1.ให้เด็กยนื ตวั ตรงเทา้ แยก
ขึ้นลงอยู่กบั ท่ี จากกนั เล็กนอ้ ย
2.โนม้ ตัวไปข้างหนา้ ยกสน้
เท้าขึน้ เลก็ น้อย
3.กระโดดขึน้ ลง ให้เทา้ ลอย
จากพ้นื อยา่ งนอ้ ย 1 น้ิว
4.เท้าสองขา้ งลงพื้นพรอ้ ม
กนั
5.กระโดดตอ่ เน่อื ง 3-5 คร้งั

ขอ้ ที่ รายการ วธิ กี ารทดสอบ ตัวอยา่ งการทดสอบ เกณฑก์ ารบันทึกคะแนน
ประเมิน
0 = ทำไม่ได้เลย
11 กระโดดลงจาก 1.ยืนบนเก้าอี้หรอื แทน่ ไมท้ ่ี 1 = กระโดดลงพืน้ โดยขาลงไม่พรอ้ มกนั
2 = กระโดดลงพนื้ โดยเท้าลงพรอ้ มกันแต่
ทสี่ งู 10 ซม. มน่ั คงสูง 10ซ.ม. เสียการทรงตัว
3 = กระโดดลงพ้ืนโดยเท้าทง้ั สองลงพ้นื
2.กระโดดลงมาในทา่ ย่อตวั พรอ้ มกนั และไม่เสยี การทรงตวั

เทา้ สองข้างลงพื้นพรอ้ มกนั

3.ยดื ตัวตรง โดยไม่ล้ม

84

12 กระโดดสองเท้า 1.ให้เดก็ ยืนตรง แยกเทา้ 0 = ทำไมไ่ ดเ้ ลย
ไปขา้ งหน้า จากกนั เท่ากับความกว้าง 1 = กระโดดไปข้างหน้าได้ 1 ครัง้ แต่เสีย
ของไหล่ มือท้งั สองขา้ งจับ การทรงตัว
เอว 2 =กระโดดไปข้างหน้าได้ต่อเน่อื ง 2 คร้งั แต่
2.ใหเ้ ด็กยอ่ ตวั งอเข่า เสียการทรงตวั
เตรยี มพรอ้ มกระโดด 3 = กระโดดไปข้างหน้าได้ต่อเนือ่ ง 2- 3
3.กระโดดไปข้างหนา้ เม่อื ครู คร้ังโดยไมเ่ สียการทรงตวั
บอกวา่ “ไป”
4.กระโดดไปข้างหนา้
ตอ่ เนื่อง 3 ครัง้

85

แบบทดสอบทักษะกล้ามเนอ้ื มัดใหญ่ สำหรบั บคุ คลท่มี ีความบกพร่องทางการเหน็ ระดับปฐมวัย
โรงเรียนสอนคนตาบอดภาคเหนือในพระบรมราชินปู ถัมภ์ จ.เชยี งใหม่

ช่ือนักเรียน................................................ วันทปี่ ระเมนิ ...................................................
คำส่งั ให้บนั ทกึ คะแนนลงในช่องบันทกึ คะแนนของแบบประเมนิ ตามเกณฑ์ของแตล่ ะข้อ ดงั น้ี

ข้อท่ี รายการประเมิน วิธีการทดสอบ เกณฑก์ ารบันทกึ คะแนน Pre- Post-

1 การยนื เท้าชดิ 1.ให้เดก็ ยนื ตัวตรงแขนแนบลำตัวให้ test test
เท้าชิดกนั ทงั้ สองขา้ ง
0 = ทำไม่ได้เลย

1 = ยนื ตวั ตรงแตเ่ ท้าไมช่ ิด แขนกาง

2 = ยนื ตวั ตรงเท้าไม่ชิด ไม่กางแขน ได้ 10 วินาที

3 = ยืนตวั ตรงเท้าชดิ ไม่กางแขน ได้ 20 วนิ าที

2 การยืนขาเดยี ว 1.ให้เดก็ ยืนตัวตรงแขนแนบลำตวั 0 = ทำไม่ไดเ้ ลย
2.ใหย้ นื บนขาข้างใดข้างหนึง่ 1 = ยกขาขน้ึ หนงึ่ ขา้ ง แตล่ ำตัวเซ ไม่มนั่ คง
2 = ยกขาข้ึนหนง่ึ ข้าง ทรงท่า ได้ 10 วินาที
3 = ยกขาขน้ึ หน่ึงข้าง ทรงท่าได้ 20 วนิ าที

การเดินตรงไปขา้ งหน้า 1.ติดเทปแลคซนี ขนาดกว้าง 2 น้วิ บน 0 = ทำไมไ่ ดเ้ ลย

3 (บนเสน้ ทกี่ ำหนด) พืน้ ยาว 2 เมตร 1 = เดนิ ตรงไปขา้ งหน้าแต่ไม่สลับเท้า

2.ให้เดก็ ยืนลำตัวตรงในจุดเรม่ิ ตน้ ท่ี 2 = เดนิ ตรงไปขา้ งหน้าแบบสลบั เทา้ แต่ลำตวั เซ

กำหนด หรือเสยี การทรงตัว ได้ 1 เมตร

3.ใหเ้ ด็กเดนิ ตรงมาข้างหนา้ แบบเดนิ 3= เดินตรงไปข้างหน้าแบบสลบั เท้า โดยลำตวั ตรง

สลบั เทา้ บนเส้นทีต่ ดิ ไวบ้ นพ้นื เม่ือได้ ไมเ่ สยี การทรงตวั ได้ 1 เมตร

ยินเสียงสัญญาณจากครูให้ถึงจดุ ท่ี

กำหนดภายในระยะ 1 เมตร

4 การเดินบนไมก้ ระดาน 1.ใหเ้ ด็กยืนบนไม้กระดานกว้าง 4.5 0 = ทำไมไ่ ด้เลย

นิ้ว ความยาว 2 เมตร 1 = เดนิ ตรงไปข้างหน้าบนไม้กระดานแต่ไม่สลบั

2.กา้ วเท้าไปขา้ งหนา้ แบบสลบั เท้าบน เท้า โดยไม่ตกจากกระดาน

บนไม้กระดานจนสดุ ระยะทาง 1 เมตร 2 =เดินตรงไปขา้ งหน้าบนไม้กระดานแบบสลับเทา้

แต่เสยี การทรงตวั และตกกระดาน

3= เดนิ ตรงไปข้างหน้าแบบสลบั เทา้ บนไม้

กระดานโดยลำตวั ตรง โดยไม่ตกจากกระดาน ใน

ระยะทาง 1 เมตร

ข้อที่ รายการประเมนิ วธิ กี ารทดสอบ เกณฑ์การบันทึกคะแนน Pre- Post-
test test

5 การเดนิ ถอยหลัง 1.ให้เดก็ ยนื ลำตวั ตรงในจุดเริม่ ต้นที่ 0 = ทำไมไ่ ด้เลย
(บนเสน้ ทก่ี ำหนด) กำหนด 1 = เดนิ ถอยหลังได้ แต่ลำตวั เซ ไมม่ น่ั คง
2.ใหเ้ ด็กยนื ตวั ตรง แขนแนบลำตวั 2 = เดินถอยหลังไปได้ 1-2 ก้าว โดยไมล่ ้ม
2.ก้าวเท้าซา้ ยไปขา้ งหลังและ.ก้าวเทา้ 3 = เดนิ ถอยหลงั ไปได้ 3-5 กา้ วโดยไม่ล้ม
ขวาตามมาขา้ งหลัง

86

3.เดนิ ถอยหลงั ทลี ะก้าวสลับกนั 3- 5
กา้ ว

6 การเดินขน้ึ -ลงบันไดสอง 1.ให้เด็กยนื ตรงหน้าบันได 0 = ทำไมไ่ ดเ้ ลย

ทาง 2.มอื ขา้ งหนง่ึ จับราวบนั ได 1 = เดนิ ขนึ้ ลงบันได้เกาะราวแต่ยังไมส่ ลบั เทา้

3.กา้ วเท้าขน้ึ บันไดโดยก้าวเท้าข้าง 2 = เดินข้ึน ลงบันไดเกาะราวแตส่ ลบั เท้าได้

หนง่ึ ตามมาพกั เทา้ ในบันไดขนั้ เดียวกนั 3 = เดินขึ้นลงบันไดได้โดยไม่เกาะราวและ

4.ใชว้ ิธเี ดียวกนั ลงบนั ได สามารถสลบั เทา้ ได้

5.กา้ วขึ้นและลงบันได 2 รอบ

7 เดินข้ามส่งิ กีดขวาง 1.ใหเ้ ดก็ ยนื ลำตวั ตรงในจุดท่กี ำหนด 0 = ทำไมไ่ ด้เลย

2.วางหมอนกลมสงู 10 ซม.ไว้ 1 = เดินกา้ วข้ามไปไดแ้ ต่ชนสง่ิ กดี ขวาง

ด้านหน้าเดก็ 2 = เดนิ ก้าวขา้ มไปไดโ้ ดยไม่ชนสิง่ กดี ขวางแต่ตัว

3.ใหเ้ ด็กเดนิ ข้ามหมอนกลมทใ่ี ช้เป็น เซไมม่ น่ั คง

เคร่ืองกดี ขวาง 3 = เดินกา้ วข้ามไปไดโ้ ดยไมช่ นสง่ิ กดี ขวางและไม่

เสียการทรงตัว

8 การวิง่ อยู่กบั ท่ี 1.เดก็ ยนื ตวั ตรง เทา้ แยกจากกัน 0 = ทำไมไ่ ด้เลย

เลก็ น้อย 1 = วิ่งได้ 1-10 วินาทแี ต่ไมแ่ กวง่ แขน ตวั เซหรอื

2.ให้เดก็ ยกเท้าขวาให้พน้ พน้ื ล้ม

พร้อมแขนซ้ายและยกเท้าซา้ ยพร้อม 2= ว่งิ พร้อมแกวง่ แขนได้ 10-15 วินาที

แขนขวา 3 = วง่ิ พร้อมแกว่งแขนได้ 30 วินาที

3.ให้ว่งิ อยกู่ ับทตี่ ดิ ตอ่ กนั 30 วินาที

9 การว่ิงตรงไปข้างหนา้ 1.เดก็ ยืนตวั ตรง เทา้ แยกจากกัน 0 = ทำไม่ได้เลย

เล็กน้อย 1 = ว่งิ ตรงไปข้างหน้าได้ 1 เมตร

2.ใหเ้ ด็กวิ่งเม่ือครบู อกวา่ “ไป” 2 = วิ่งตรงไปขา้ งหน้าได้ 2 เมตร

3.ใหว้ ิง่ ตรงมาข้างหน้าจนถงึ จดุ ที่ 3 = วิ่งตรงไปข้างหนา้ ได้ 3 เมตร

กำหนด (เส้นชยั ) โดยครใู ช้กระด่ิงบอก

ตลอดเสน้ ทาง 3 เมตร

ข้อท่ี รายการประเมิน วิธกี ารทดสอบ เกณฑ์การบนั ทึกคะแนน Pre- Post-
test test
10 กระโดดสองเท้าขึ้นลง 1.ให้เดก็ ยนื ตวั ตรงเท้าแยกจากกนั 0 = ทำไมไ่ ดเ้ ลย
อย่กู ับท่ี เลก็ นอ้ ย 1 = ทำท่ากระโดดแตเ่ ทา้ ไม่พ้นพืน้ หรือเสยี การ
2.โนม้ ตวั ไปข้างหนา้ ยกสน้ เท้าขึ้น ทรงตวั
เล็กน้อย 2 =กระโดดเท้าพน้ พื้นได้ 1 ครัง้ โดยไมเ่ สยี การ
3.กระโดดขน้ึ ลง ใหเ้ ท้าลอยจากพนื้ ทรงตวั และเทา้ ลงพรอ้ มกนั
อย่างน้อย 1 นิว้ 3 = กระโดดเทา้ เทา้ พ้นพืน้ ไดต้ ่อเนอ่ื ง 2 คร้งั
4.เทา้ สองข้างลงพนื้ พร้อมกนั ขึน้ ไป และเท้าลงพรอ้ มกันโดยไมเ่ สยี การทรงตัว
5.กระโดดต่อเนอ่ื ง 3-5 คร้ัง

87

11 กระโดดลงจากท่ีสูง 1.ยนื บนเกา้ อีห้ รือแทน่ ไม้ท่ีมนั่ คงสูง 0 = ทำไมไ่ ด้เลย
10 ซม. 10ซ.ม. 1 = กระโดดลงพ้นื โดยขาลงไม่พร้อมกนั
2.กระโดดลงมาในทา่ ย่อตวั เทา้ สอง 2 = กระโดดลงพื้นโดยเทา้ ลงพรอ้ มกนั แต่เสยี
12 กระโดดสองเท้าไป ข้างลงพื้นพร้อมกัน การทรงตวั
ขา้ งหน้า 3.ยืดตัวตรง โดยไม่ลม้ 3 = กระโดดลงพนื้ โดยเทา้ ทั้งสองลงพื้นพร้อมกนั
และไม่เสยี การทรงตวั
1.ให้เด็กยนื ตรง แยกเทา้ จากกนั
เท่ากบั ความกวา้ งของไหล่ มือทง้ั สอง 0 = ทำไมไ่ ด้เลย
ข้างจบั เอว 1 = กระโดดไปข้างหนา้ ได้ 1 คร้งั แต่เสียการ
2.ใหเ้ ด็กย่อตัว งอเขา่ เตรยี มพร้อม ทรงตวั
กระโดด 2 =กระโดดไปข้างหนา้ ไดต้ อ่ เนื่อง 2 ครัง้ แต่
3.กระโดดไปข้างหน้าเมือ่ ครบู อกวา่ เสียการทรงตวั
“ไป” 3 = กระโดดไปข้างหนา้ ไดต้ อ่ เนื่อง 2- 3 ครง้ั
4.กระโดดไปขา้ งหนา้ ตอ่ เนือ่ ง 3 ครงั้ โดยไม่เสียการทรงตวั

88

ภาคผนวก ฉ

ตารางวเิ คราะหค์ วามตรงของแบบทดสอบทกั ษะกลา้ มเนอ้ื มดั ใหญ่ (ค่า IOC )
ตารางแสดงค่าความเท่ียงของแบบทดสอบ (สัมประสทิ ธิ์สหสัมพนั ธข์ องเพยี ร์สนั คา่ r)

89

ตารางวเิ คราะห์ความรงของแบบทดสอบทกั ษะกลา้ มเนือ้ มดั ใหญ่ (คา่ IOC )

ขอ้ รายการ เกณฑ์การบนั ทึก คนท่ี การ
ท่ี ประเมนิ คะแนน
วธิ ีการทดสอบ 1 2 3 4 5 คา่ แปล
IOC ผล

1 การยืนเทา้ ชิด 1. ใหเ้ ด็กยนื ตัวตรงแขน 0 = ทำไมไ่ ดเ้ ลย + 1 + 1 + 1 + 1 +1 + 1 ใชไ้ ด้

แนบลำตวั ใหเ้ ท้าชิด 1 = ยืนตัวตรงแตเ่ ทา้ ไม่ชดิ

กันท้งั สองขา้ ง แขนกาง

2 = ยืนตวั ตรงเท้าไม่ชดิ ไม่

กางแขน ได้ 10 วินาที

3 = ยนื ตวั ตรงเทา้ ชิด ไม่กาง

แขน ได้ 20 วนิ าที

2 การยนื ขา 1. ใหเ้ ดก็ ยนื ตวั ตรง 0 = ทำไมไ่ ดเ้ ลย + 1 + 1 + 1 + 1 +1 + 1 ใชไ้ ด้

เดยี ว แขนแนบลำตวั 1 = ยกขาขน้ึ หนึง่ ข้าง

2. ให้ยืนบนขาขา้ งใด แต่ลำตัวเซ ไม่มน่ั คง

ขา้ งหนึ่ง 2 = ยกขาขึน้ หนึง่ ขา้ ง

ทรงท่า ได้ 10 วนิ าที

3 = ยกขาข้ึนหน่งึ ขา้ ง

ทรงท่าได้ 20 วนิ าที

การเดนิ ตรง 1. ตดิ เทปแลคซนี ข 0 = ทำไม่ได้เลย + 1 0 + 1 + 1 +1 0.8 ใช้ได้

3 ไปข้างหน้า นาดกวา้ ง 2 นวิ้ บน 1 = เดินตรงไปข้างหน้า

(บนเส้นท่ี พืน้ ยาว 2 เมตร แตไ่ มส่ ลับเทา้

กำหนด) 2. ให้เด็กยนื ลำตวั ตรง 2 = เดนิ ตรงไปข้างหน้า

ในจุดเริม่ ต้นที่ แบบสลับเท้า แต่

กำหนด ลำตัวเซ หรือเสียการ

3. ให้เด็กเดนิ ตรงมา ทรงตัว ได้ 1 เมตร

ข้างหน้าแบบเดิน 3= เดนิ ตรงไปขา้ งหนา้

สลับเท้าบนเส้นที่ติด แบบสลับเท้า โดย

ไวบ้ นพื้นเมื่อได้ยนิ ลำตวั ตรง ไมเ่ สยี การ

เสยี งสญั ญาณจาก ทรงตัวได้ 1 เมตร

ครูให้ถงึ จุดทีก่ ำหนด

ภายในระยะ 1

เมตร

ข้อ รายการ เกณฑก์ ารบันทึก คนที่ การ
ท่ี ประเมนิ คะแนน
วธิ กี ารทดสอบ 1 2 3 4 5 ค่า แปล
IOC ผล

90

4 การเดนิ บนไม้ 1. ใหเ้ ดก็ ยืนบนไม้ 0 = ทำไมไ่ ด้เลย + 1 + 1 + 1 + 1 +1 + 1 ใช้ได้

กระดาน กระดานกวา้ ง 4.5 นิ้ว 1 = เดนิ ตรงไปขา้ งหนา้ บน

ความยาว 2 เมตร ไม้กระดานแต่ไมส่ ลบั

2. ก้าวเทา้ ไปข้างหน้า เทา้ โดยไมต่ กจาก

แบบสลบั เทา้ บนบน กระดาน

ไม้กระดานจนสดุ 2 =เดนิ ตรงไปข้างหน้าบนไม้

ระยะทาง 1 เมตร กระดานแบบสลับเทา้

แตเ่ สยี การทรงตัวและ

ตกกระดาน

3= เดนิ ตรงไปข้างหนา้ แบบ

สลับเทา้ บนไมก้ ระดาน

โดยลำตัวตรง โดยไม่ตก

จากกรกระดาน ใน

ระยะทาง 1 เมตร

5 การเดินถอย 1. ใหเ้ ด็กยืนลำตวั ตรงใน 0 = ทำไม่ได้เลย + 1 +1 + 1 + 1 +1 + 1 ใช้ได้

หลงั จุดเริม่ ต้นทก่ี ำหนด 1 = เดินถอยหลงั ได้ แต่

(บนเส้นที่ 2. ใหเ้ ดก็ ยืนตวั ตรง แขน ลำตวั เซ ไมม่ ั่นคง

กำหนด) แนบลำตัว 2 = เดินถอยหลงั ไปได้ 1-2

3. ก้าวเท้าซ้ายไปขา้ งหลัง ก้าว โดยไมล่ ้ม

และ.กา้ วเทา้ ขวา 3 = เดินถอยหลังไปได้ 3-5

ตามมาขา้ งหลงั ก้าวโดยไมล่ ้ม

4. เดินถอยหลงั ทีละก้าว

สลับกัน 3- 5 ก้าว

6 การเดนิ ข้นึ -ลง 1. ใหเ้ ดก็ ยนื ตรงหนา้ 0 = ทำไม่ได้เลย + 1 + 1 + 1 + 1 +1 + 1 ใชไ้ ด้

บนั ไดสองทาง บันได 1 = เดนิ ขน้ึ ลงบันได้เกาะ

2. มอื ขา้ งหนึ่งจบั ราว ราวแต่ยังไมส่ ลับเท้า

บนั ได 2 = เดินขึน้ ลงบนั ไดเกาะ

3. ก้าวเท้าข้ึนบันไดโดย ราวแตส่ ลบั เท้าได้

ก้าวเท้าขา้ งหนึ่งตามมา 3 = เดนิ ขึ้นลงบนั ไดได้โดย

พักเท้าในบนั ไดขน้ั ไม่เกาะราวและสามารถ

เดียวกนั สลับเทา้ ได้

4. ใช้วธิ ีเดยี วกันลงบันได

5. กา้ วขน้ึ และลงบันได 2

รอบ

91

ข้อ รายการ คนที่ การ
ท่ี ประเมนิ
วิธกี ารทดสอบ เกณฑ์การบนั ทกึ คะแนน 1 2 3 4 5 ค่า แปล
IOC ผล

7 เดินข้ามส่งิ กดี 1. ให้เดก็ ยืนลำตวั ตรงใน 0 = ทำไมไ่ ด้เลย + 1 + 1 + 1 0 +1 0.8 ใชไ้ ด้

ขวาง จุดทกี่ ำหนด 1 = เดนิ ก้าวขา้ มไปไดแ้ ต่ชน

2. วางหมอนกลมสงู 10 สิ่งกดี ขวาง

ซม.ไว้ดา้ นหน้าเดก็ 2 = เดนิ ก้าวข้ามไปไดโ้ ดยไม่

3. ใหเ้ ดก็ เดินขา้ มหมอน ชนสง่ิ กีดขวางแต่ตวั เซ

กลมท่ีใชเ้ ปน็ เครือ่ งกีด ไมม่ ่ันคง

ขวาง 3 = เดินกา้ วข้ามไปไดโ้ ดยไม่

ชนสง่ิ กีดขวางและไม่

เสียการทรงตวั

8 กาวิ่งอยู่กบั ท่ี 1. เด็กยนื ตวั ตรง เท้าแยก 0 = ทำไมไ่ ดเ้ ลย + 1 + 1 + 1 + 1 +1 + 1 ใชไ้ ด้

จากกันเลก็ นอ้ ย 1 = วง่ิ ได้ 1-10 วินาทีแตไ่ ม่

2. ให้เด็กยกเทา้ ขวาให้พ้น แกว่งแขน ตัวเซหรือลม้

พ้นื 2= วง่ิ พรอ้ มแกวง่ แขนได้

พรอ้ มแขนซา้ ยและยก 10-15 วนิ าที

เท้าซ้ายพรอ้ มแขนขวา 3 = วิ่งพร้อมแกวง่ แขนได้

1. ใหว้ ่ิงอย่กู บั ทตี่ ิดตอ่ กัน 30 วนิ าที

30 วนิ าที

9 การวง่ิ ตรงไป 1. เด็กยนื ตัวตรง เท้าแยก 0 = ทำไมไ่ ด้เลย + 1 + 1 + 1 + 1 +1 + 1 ใชไ้ ด้

ขา้ งหน้า จากกนั เล็กนอ้ ย 1 = วง่ิ ตรงไปขา้ งหนา้ ได้ 1

2. ให้เดก็ วิ่งเมอื่ ครบู อกวา่ เมตร

“ไป” 2 = ว่งิ ตรงไปขา้ งหน้าได้ 2

3. ให้วง่ิ ตรงมาข้างหนา้ เมตร

จนถงึ จุดทกี่ ำหนด 3 = วง่ิ ตรงไปข้างหนา้ ได้ 3

(เสน้ ชัย) โดยครูใช้ เมตร

กระด่ิงบอกตลอด

เส้นทาง 3 เมตร

92


Click to View FlipBook Version