สว่ นท่ี 1 ข้อมูลสว่ นบคุ คลของผู้ตอบแบบสอบถาม จำนวน (คน) รอ้ ยละ
ตารางที่ 2 ข้อมูลส่วนบุคคลของผ้ตู อบแบบสอบถาม (N=53)
11 20.75
ข้อมูลทั่วไป 42 79.25
เพศ
21 39.62
- ชาย 24 45.28
- หญิง 7 13.21
1 1.89
อายุ
- 20-29 ปี 35 66.03
- 30-39 ปี 17 32.08
- 40-49 ปี 1 1.89
- 50-59 ปี
31 58.49
อายุเฉลีย่ เทา่ กบั 34 ปี 1 เดือน 22 41.51
อายุน้อยท่สี ดุ เท่ากบั 23 ปี
อายุมากทสี่ ดุ เท่ากับ 55 ปี
วฒุ ิการศกึ ษาสูงสดุ
- ปริญญาตรี
- ปรญิ ญาโท
- ปริญญาเอก
ประกาศนียบตั รวิชาชพี ครู
- มี
- ไมม่ ี
43
ตารางที่ 2 ข้อมลู สว่ นบคุ คลของผตู้ อบแบบสอบถาม (N=53) (ต่อ) จำนวน (คน) ร้อยละ
ข้อมูลท่ัวไป
2 3.77
ประสบการณ์ในการเปน็ นักกจิ กรรมบำบดั ในสถานศึกษา 29 54.72
- 6 เดือน 12 22.64
- 1-5 ปี 6 11.32
- 6-10 ปี 3 5.66
- 11-15 ปี 1 1.89
- 16-20 ปี
- 21-25 ปี 43 81.13
10 18.87
ประสบการณ์เฉลีย่ เท่ากบั 6 ปี 2 เดือน 34 64.15
ประสบการณน์ ้อยทส่ี ุดเทา่ กับ 5 เดอื น 19 35.85
ประสบการณ์มากทีส่ ดุ เทา่ กับ 25 ปี
ประสบการณ์ในการบำบดั เด็กออทิสติก
- ปัจจุบันทำการบำบัดเด็กออทิสติก
- ให้การบำบัดเดก็ ออทิสติกในอดีต
- ให้การบำบัดเดก็ ออทิสติกเต็มเวลา (Full-time)
- ให้การบำบดั เด็กออทสิ ติกบางเวลา (Part-time)
44
ตารางท่ี 2 ขอ้ มลู ส่วนบคุ คลของผูต้ อบแบบสอบถาม (N=53) (ตอ่ ) จำนวน (คน) ร้อยละ
ขอ้ มูลทั่วไป
27 49.06
การอบรมเฉพาะอนื่ ๆ ท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั การบำบัดเดก็ ออทิสตกิ 4 7.55
เพิ่มเตมิ 5 9.43
1 1.89
- มีการอบรมเพิ่มเตมิ ดังนี้ 2 3.77
(1) การปรบั พฤติกรรมเดก็ ออทสิ ติก 2 3.77
(2) Sensory Integration (SI) 1 1.89
(3) อบรมแบบประเมนิ แนวทางการกระตนุ้ ทางวอดอฟ 1 1.89
(4) TEACCH 2 3.77
(5) PECS 1 1.89
(6) BIP 4 7.55
(7) การจดั การเรียนการสอนแบบ structure teaching 2 3.77
(8) การเสรมิ ศักยภาพเด็กออทสิ ตกิ 1 1.89
(9) Snoezelen 2 3.77
(10) DIRs Floor times 1 1.89
(11) อบรมดา้ นการสอนคนพิการ,เดก็ ออทิสตกิ 1 1.89
(12) การใหบ้ รกิ ารช่วยเหลือระยะแรกเรมิ่ 27 50.94
(13) Neurofeedback
(14) การคดั กรอง
(15) DOTCA-CH
- ไมม่ กี ารอบรมเพ่ิมเติม
จากตารางท่ี 2 พบว่าประชากรส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงในช่วงอายุ 30-39 ปี วุฒิการศึกษา
สูงสุดส่วนใหญ่จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี รองลงมาคือปริญญาโท และปริญญาเอก
มีประสบการณ์ในการเป็นนักกิจกรรมบำบัดในสถานศึกษาเฉลี่ย 6 ปี 2 เดือน โดยส่วนใหญ่มี
ประกาศนียบัตรวิชาชีพครู ซึ่งทุกคนเคยมีประสบการณ์ในการให้การบำบัดเด็กออทิสติกแต่มี
นักกิจกรรมบำบัดบางส่วนท่ีไม่ได้ให้การบำบัดเด็กออทิสติกในปัจจุบัน นอกจากนี้นักกิจกรรมบำบัด
45
ได้รับการอบรมเฉพาะอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบำบัดเด็กออทิสติกเพิ่มเติมในด้าน Sensory
Integration (SI) มากท่ีสดุ
ส่วนที่ 2 แนวทางการบำบดั เดก็ ออทิสตกิ ของนักกิจกรรมบำบัดในสถานศึกษา
ตารางที่ 3 จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน แนวทางการบำบัดแบบ Top-down
approach ในเด็กออทิสตกิ ของนักกิจกรรมบำบัดในสถานศึกษา (N=53)
แนวทางการบำบดั จำนวน (รอ้ ยละ)
แบบ Top-down approach
ความถี่ของการใช้ ระดบั ของการใช้
บ่อย บางครงั้ นอ้ ย ไมใ่ ช้ S.D แปลผล
1. Cognitive Orientation to Occupational Performance (CO-OP)
ให้การบำบัดโดยยึดเด็กเป็นศูนย์ 0.27 บอ่ ย
กลาง (child-centered) เพื่อให้ผล 49 4 0 0
1.1 การบำบัดตรงตามปัญหาหรือความ (92.45) (7.55) (0.00) (0.00) 2.92
ตอ้ งการของเดก็
ร่วมกำหนดเป้าประสงค์การบำบัด
ร่วมกับผู้ปกครอง เพื่อค้นหากิจกรรม 36 16 1 0
1.2 หรือความต้องการที่เด็กต้องการทำให้ (67.92) (30.19) (1.89) (0.00) 2.66 0.52 บ่อย
สำเรจ็
2. Cognitive Strategies
สอนให้เดก็ ใช้กลยุทธ์ทางปัญญาต่าง ๆ
เช่น ให้เด็กพูดทวนขั้นตอนการทำ 27 22 3 1 2.41 0.69 บ่อย
2.1 กิจกรรมซ้ำ ๆ เพื่อให้เด็กสามารถ (50.94) (41.51) (5.66) (1.89)
จดจำขนั้ ตอนในการทำกจิ กรรมได้
ใช้กลยุทธ์ทางปัญญาต่าง ๆ หรือ
2.2 แนะนำผู้ปกครองหรือครูใช้ เช่น ใช้ 26 22 5 0 2.39 0.66 บอ่ ย
ตารางภาพกิจกรรมให้เด็กเห็นเพื่อให้ (49.06) (41.51) (9.43) (0.00)
เด็กสามารถเรียนรู้และทำตามลำดับ
ของกจิ กรรมในชวี ิตประจำวนั
46
ตารางที่ 3 จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน แนวทางการบำบัดแบบ Top-down
approach ในเด็กออทสิ ตกิ ของนกั กจิ กรรมบำบัดในสถานศึกษา (N=53) (ตอ่ )
แนวทางการบำบัด จำนวน (ร้อยละ)
แบบ Top-down approach
ความถข่ี องการใช้ ระดบั ของการใช้
บอ่ ย บางคร้ัง นอ้ ย ไม่ใช้ S.D แปลผล
3. Behavioral Modification
ใ ช ้ ห ล ั ก ก า ร ใ ห ้ แ ร ง เ ส ร ิ ม เ พ ื ่ อ ป รั บ
3.1 พฤติกรรมของเด็กให้มีพฤติกรรมที่พึง 48 5 0 0 2.91 0.30 บ่อย
ประสงค์หรือเกิดพฤติกรรมที่ต้องการ (90.57) (9.43) (0.00) (0.00)
เช่น การให้ขนม คำชม ของเล่น หรือ
กิจกรรมที่เด็กชอบ
ใช้การลงโทษเพื่อลดพฤติกรรมที่ไม่พึง 19 24 10 0 2.17 0.73 บอ่ ย
3.2 ประสงค์ของเด็ก เช่น การให้เด็กเข้ามุม (45.28) (18.87) (0.00)
(35.85)
การงดกิจกรรมที่เดก็ ชอบ
4. Assistive Technology
แนะนำหรือสอนวิธีการใช้อุปกรณ์ช่วย
ต่าง ๆ แก่เด็กหรือผู้ปกครอง เช่น หูฟัง 13 15 17 8 1.62 1.02 บางคร้งั
4.1 ตัดเสียงรบกวน (talk light) ในเด็กที่มี (24.53) (28.30) (32.08) (15.09)
ความไวตอ่ เสียง
สอนหรือแนะนำเด็กหรือผู้ปกครองใน 22 23 6 1.38 0.74 บางคร้งั
4.2 การใช้แอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนหรือ 2 (41.51) (43.40) (11.32)
แทปเล็ตเพื่อช่วยในการสื่อสารของเด็กที่ (3.77)
ปัญหาการสอ่ื สาร
47
ตารางที่ 3 จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน แนวทางการบำบัดแบบ Top-down
approach ในเดก็ ออทิสติกของนักกิจกรรมบำบัดในสถานศึกษา (N=53) (ตอ่ )
แนวทางการบำบัด จำนวน (รอ้ ยละ)
แบบ Top-down approach
ความถี่ของการใช้ ระดบั ของการใช้
บอ่ ย บางคร้งั น้อย ไม่ใช้ S.D แปลผล
5. Peer-Mediated Intervention (PMI)
จับคู่เดก็ ทมี่ ที ักษะการเข้าสงั คมทด่ี ีกบั 14 32 6 1 2.11 0.67 บ่อย
เด็ก ออทิสตกิ เพื่อใหเ้ ปน็ แบบอย่างใน (26.42) (60.38) (11.32) (1.89)
5.1 การทำกจิ กรรมและการเข้าสังคมของ
เด็กออทสิ ตกิ
จดั กลุ่มเลก็ ๆ โดยมีเพอ่ื นในกลมุ่ เป็น
5.2 แบบอย่างให้แก่เด็กออทสิ ติกเพื่อส่งเสริม 32 20 1 0 0.53 บอ่ ย
(37.74) (1.89) 2.58
และเป็นแบบอยา่ งในการทำกิจกรรม (60.38)
ตามกตกิ าและการเลน่ รว่ มกับผอู้ น่ื (0.00)
6. Environmental Modification 34 17 2 0 0.57 บอ่ ย
(64.15) (32.08) (3.77) 2.60
ให้คำแนะนำแกค่ รูเพ่อื จดั ตำแหน่งท่ีนงั่
ในหอ้ งเรยี นท่เี หมาะสมให้แกเ่ ด็กออทิ (0.00)
6.1 สตกิ เพอ่ื ใหเ้ ด็กมสี มาธใิ นการเรยี นหรือมี
พฤตกิ รรมทีเ่ หมาะสมมากขึ้น
จดั หรอื ปรับส่ิงแวดล้อมในห้องฝกึ หรือ 43 8 2 0 0.51 บอ่ ย
หอ้ งเรียนให้เหมาะสมกับเดก็ เชน่ บผุ นงั (81.13) (15.09) (3.77) 2.77
6.2 ดว้ ยเบาะหรือมเี บาะรองพน้ื เพือ่ ความ
ปลอดภัย (0.00)
48
ตารางที่ 3 จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน แนวทางการบำบัดแบบ Top-down
approach ในเด็กออทิสติกของนกั กจิ กรรมบำบัดในสถานศึกษา (N=53) (ตอ่ )
แนวทางการบำบดั จำนวน (ร้อยละ)
แบบ Top-down approach
ความถ่ีของการใช้ ระดบั ของการใช้
บ่อย บางครงั้ น้อย ไม่ใช้ S.D แปลผล
7. Picture Exchange Communication System (PECS)
ฝึกสอนให้เด็กหยบิ ภาพใหผ้ ้รู ่วมสนทนา 23 21 9 0 2.26 0.74 บ่อย
7.1 เพ่อื สอ่ื สารถงึ สงิ่ ท่ตี อ้ งการ (43.40) (39.62) (16.98) (0.00)
สอนใหเ้ ดก็ สอื่ สารกบั ผ้อู ืน่ ผา่ นทางสมดุ
ภาพเพอ่ื การสอ่ื สาร เชน่ เมือ่ เด็ก 18 23 10 2 2.08 0.83 บ่อย
7.2 ต้องการกนิ คุกก้ี ท่านสอนใหเ้ ด็กหยบิ (33.96) (43.40) (18.87) (3.77)
ภาพคุกก้ี ย่ืน และวางบนมือผูฝ้ กึ
จากตารางที่ 3 พบว่าหลักการหรือวิธีการตามแนวทางการบำบัดแบบ Top-down
approach ท่ีนักกิจกรรมบำบัดส่วนใหญ่ใช้ในการบำบัดเด็กออทิสติกโดยพิจารณาตามคะแนนเฉล่ีย
รายข้อ คือ Cognitive Orientation to Occupational Performance (CO-OP) โดยยึดเด็กเป็น
ศูนย์กลาง (child-centered) เพื่อให้ผลการบำบัดตรงตามปัญหาหรือความต้องการของเด็กมากทีส่ ดุ
รองลงมาคอื หลกั การของ Behavioral Modification โดยการให้แรงเสริมเพื่อปรบั พฤตกิ รรมของเด็ก
ให้มีพฤติกรรมที่พึงประสงค์หรือเกิดพฤติกรรมที่ต้องการ นอกจากนี้พบว่านักกิจกรรมบำบัดใช้
Assistive Technology นอ้ ยทส่ี ุด โดยมกี ารใช้เพียงบางครงั้
49
ตารางท่ี 4 จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน แนวทางการบำบัดแบบ Bottom-up
approach ในเดก็ ออทิสตกิ ของนักกจิ กรรมบำบัดในสถานศึกษา (N=53)
แนวทางการบำบัด จำนวน (รอ้ ยละ)
แบบ Bottom-up approach
ความถี่ของการใช้ ระดับของการใช้
บ่อย บางครั้ง นอ้ ย ไม่ใช้ S.D แปลผล
1. Sensory Integration Intervention
ใช้กิจกรรมทีม่ กี ารบูรณาการประสาท
ความรสู้ กึ เพื่อบำบัดฟน้ื ฟคู วามสามารถ
ในการทำกิจกรรมของเดก็ เชน่ ใช้ 51 2 0 0 2.96 0.19 บ่อย
1.1 กจิ กรรมเพ่ือปรบั สมดลุ ของ 3 ระบบ คอื (96.23) (3.77) (0.00) (0.00)
vestibular, proprioceptive และ
tactile
แนะนำการจดั กิจกรรมบรู ณาการ 39 12 2 0 0.54 บอ่ ย
ประสาทความรูส้ กึ แก่ผปู้ กครอง เพ่อื ให้ (73.58) (22.64) (3.77) (0.00) 2.70
ผปู้ กครองสามารถปรบั สมดลุ ของระบบ
1.2 ประสาทความรู้สึกของเดก็ ผา่ นกจิ กรรม
พืน้ ฐานทีบ่ า้ นได้
2. Table Top Activities
บำบดั เด็กผา่ นกิจกรรมเกมคอมพิวเตอร์ 4 18 24 7 1.36 0.81 บางครั้ง
2.1 เชน่ การเปดิ ภาพจบั ค่ฝู ึกความจำ (7.55) (33.96) (45.28) (13.21)
บำบดั เด็กผา่ นกจิ กรรมท่อี ยู่ในรปู แบบ
2.2 แบบฝึกหดั หรือกจิ กรรมเกม เช่น 38 12 3 0 2.66 0.59 บอ่ ย
กจิ กรรมลากเส้นต่อจุด ตอ่ จกิ๊ ซอว์ รอ้ ย (71.70) (22.64) (5.66) (0.00)
ลูกปดั ฯลฯ
50
ตารางที่ 4 จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน แนวทางการบำบัดแบบ Bottom-up
approach ในเดก็ ออทิสตกิ ของนกั กจิ กรรมบำบัดในสถานศึกษา (N=53)
แนวทางการบำบัด จำนวน (ร้อยละ)
แบบ Bottom-up approach
ความถ่ีของการใช้ ระดบั ของการใช้
บอ่ ย บางครง้ั นอ้ ย ไมใ่ ช้ S.D แปลผล
3. Animal-Assisted Service
พาเด็กไปเขา้ รว่ มโครงการ หรอื กิจกรรม 5 20 20 8 1.42 0.86 บางครั้ง
3.1 พเิ ศษ ที่ใช้สตั วใ์ นการบำบัด (9.43) (37.74) (37.74) (15.09)
ให้การบำบดั เด็กออทสิ ตกิ โดยใชส้ ตั วใ์ น 8 13 20 12 1.32 0.96 บางคร้งั
3.2 การบำบดั เช่น ชา้ ง มา้ สนุ ขั ฯลฯ (15.09) (24.53) (37.74) (22.64)
จากตารางที่ 4 พบว่าหลักการหรือวิธีการตามแนวทางการบำบัดแบบ Bottom-up
approach ที่นักกิจกรรมบำบัดส่วนใหญ่ใช้ในการบำบัดเด็กออทิสติกโดยพิจารณาตามคะแนนเฉล่ีย
รายข้อคือ Sensory Integration Intervention โดยใชก้ จิ กรรมทมี่ กี ารบรู ณาการประสาทความรู้สึก
เพื่อบำบัดฟื้นฟูความสามารถในการทำกิจกรรมของเด็กมากที่สุด รวมถึงการแนะนำการจัดกิจกรรม
บูรณาการประสาทความรู้สึกแก่ผู้ปกครอง เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถปรับสมดุลของระบบประสาท
ความรู้สึกของเด็กผ่านกิจกรรมพ้ืนฐานท่ีบ้านได้ รองลงมาคือ การใช้ Table Top Activities โดยการ
บำบดั เด็กผ่านกิจกรรมทอ่ี ยู่ในรปู แบบแบบฝึกหัดหรอื กจิ กรรมเกม
51
บทวิจารณ์
การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจแนวทางการบำบัดเด็กออทิสติกของ
นักกิจกรรมบำบัดในสถานศึกษา สังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ กระทรวงศึกษาธิการ
ประกอบดว้ ย โรงเรียนเฉพาะความพกิ าร ศูนย์การศึกษาพเิ ศษประจำเขต ศนู ยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษประจำ
จังหวัด โดยใช้แบบสอบถามแนวทางการบำบัดเด็กออทิสติกของนักกิจกรรมบำบัดในสถานศึกษา
ซง่ึ ผลการศึกษาสามารถอภิปรายไดด้ งั นี้
จากการศึกษาพบว่า นักกิจกรรมบำบัดส่วนใหญ่มีประสบการณ์ในการทำงานในสถานศึกษา
1-5 ปี ร้อยละ 54.72 ส่วนใหญ่มีประสบการณ์ในการบำบัดเด็กออทิสติกแบบเต็มเวลา คิดเป็น
ร้อยละ 64.15 และไม่ได้เข้ารว่ มการอบรมเฉพาะอนื่ ๆ ท่เี กีย่ วข้องกับการบำบัดเด็กออทิสติกเพ่ิมเติม
ร้อยละ 50.94 (ตารางที่ 2) สอดคล้องกับผลการศึกษาของภานุชนาฏ ภูวนารถ (2561) ซึ่งได้สำรวจ
ขอบเขตการทำงานของนักกิจกรรมบำบัดในสถานศึกษา พบว่านกั กจิ กรรมบำบัดมขี อบเขตการทำงาน
ด้านวิชาการน้อยที่สดุ โดยการเข้ารบั การอบรมส่วนใหญ่เป็นการอบรมเพือ่ เพิ่มความรู้ดา้ นวิชาชีพครู
รองลงมาคือการทำงานวิจัย และการอบรมวิชาการเพื่อเพิ่มความรู้ทางวิชาชีพกิจกรรมบำบัด
ตามลำดับ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวอาจมีผลต่อการเลือกใช้วิธีการในการให้การบำบัดเด็กออทิสติกได้
เนื่องจากหากนักกิจกรรมบำบัดมีโอกาสเข้าร่วมอบรมเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับความรู้ด้านวิชาชีพ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคนิคที่ใช้ในการบำบัดช่วยเหลือเด็กออทิสติก อาจทำให้นักกิจกรรมบำบัดมี
โอกาสเรยี นรู้เพิม่ เติมและมีทางเลอื กในการให้การบำบัดเด็กออทสิ ติกทห่ี ลากหลายมากข้ึน นอกจากนี้
จากขอ้ มลู ส่วนบุคคล (ตารางท่ี 2) ยังพบว่ามีนกั กจิ กรรมบำบัดบางส่วนเคยให้การบำบัดเด็กออทิสติก
ในอดีต (ร้อยละ 18.87) โดยปัจจุบันไม่ได้ให้การบำบัดเด็กกลุ่มนี้แล้ว อาจส่งผลต่อการเลือกใช้
หลักการหรือวิธีการตามแนวทางการบำบัดทั้ง 2 แนวทาง โดยเลือกใช้ตามประสบการณ์ที่ตนมีเป็น
หลัก
จากผลการศึกษาแนวทางการบำบัดแบบ Top-down approach ในเด็กออทิสติกของ
นักกิจกรรมบำบัดในสถานศึกษา (ตารางที่ 3) พบว่านักกิจกรรมบำบัดส่วนใหญ่ใช้หลักการของ
Cognitive Orientation to Occupational Performance (CO-OP) โดยการยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง
(child-centered) เพื่อให้ผลการบำบัดตรงตามปัญหาหรือความต้องการของเด็กมากที่สุด ในการให้
การบำบัดเด็กออทิสติก คิดเป็นร้อยละ 92.45 นอกจากนี้ยังมีการร่วมกำหนดเป้าประสงค์การบำบัด
ร่วมกับผู้ปกครอง เพื่อค้นหากิจกรรมหรือความต้องการที่เด็กต้องการทำให้สำเร็จ ร้อยละ 67.92
52
สอดคล้องกับผลการศึกษาของ Wilson, Mandich, Magalhaes, and Gain (2018) ที่ทำการศึกษา
มมุ มองของวยั รนุ่ ออทิสติก 10 คน เพอ่ื พฒั นาเปา้ ประสงค์การบำบดั ใหม้ ีความหมายและตรงกับความ
ต้องการของผู้รับบริการมากขึ้น โดยใช้ concept mapping ร่วมกับหลักการของ CO-OP ทำให้ได้
ผลการวิจัยออกมาเป็นเป้าประสงค์การบำบัดที่วัยรุ่นออทิสติกต้องการทั้งหมด 5 เป้าประสงค์
ซึ่งตรงตามบทบาทของนักกิจกรรมบำบัดท่ี AOTA (2016) และ AOTA (2018) ได้กล่าวไว้คือ
นกั กจิ กรรมบำบัดมีหน้าท่ีในการสนับสนุนส่งเสริมความสามารถของเด็กในการทำกจิ กรรมการดำเนิน
ชีวิตให้สอดคล้องกับความต้องการของเด็กและข้อจำกัดของเด็กแต่ละคน นอกจากนี้ยังมีบทบาทใน
การทำงานร่วมกับผู้ปกครองหรือผู้ดูแลในการให้คำแนะนำ หรือให้คำปรึกษาเพื่อร่วมกันกำหนด
เป้าหมายและดำเนนิ การให้เกดิ ประสิทธภิ าพในการให้การบำบดั มากทส่ี ดุ
นอกจากการเลือกใช้หลักการตาม CO-OP แล้ว ยังพบว่านักกิจกรรมบำบัดส่วนใหญ่
ใช้หลักการ Behavioral Modification บ่อยครั้ง โดยใช้การให้แรงเสริมเพื่อปรับพฤติกรรมของเด็ก
ให้มีพฤติกรรมที่พึงประสงค์หรือเกิดพฤติกรรมที่ต้องการ คิดเป็นร้อยละ 90.57 (ตารางที่ 3)
อาจเนื่องมาจากอาการแสดงหรือความบกพร่องของเด็กออทิสติกตาม American Psychiatric
Association (2013) ที่กล่าวไว้ว่าเด็กออทิสติกมีความบกพร่องด้านการสื่อสารทางสังคม การ
แสดงออกทางอารมณ์ความรู้สึก มีความล่าช้าด้านภาษา มีแบบแผนพฤติกรรม ความสนใจหรือ
กิจกรรมที่จำกัดซ้ำ ๆ รวมถึงมีการรับสัมผัสที่ไวเกินไปหรือเฉื่อยเกินไป จากความบกพร่องดังกล่าว
อาจส่งผลให้เด็กแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมออกมาได้ ดังนั้นนักกิจกรรมบำบัดจึงมีบทบาทในการ
ให้ความช่วยเหลือ โดยการประยุกต์หลักการในการปรับพฤติกรรมได้แก่ การให้แรงเสริมเพื่อเพิ่ม
ความถี่ของพฤตกิ รรมทีพ่ ึงประสงค์หรือการลงโทษเพื่อลดหรอื หยุดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงคข์ องเดก็
(Miller-Kuhaneck, 2004; Foundations Recovery Network, 2109)
จากผลการศกึ ษาด้านการใช้หลักการ Environmental Modification ของนักกจิ กรรมบำบัด
พบว่านักกิจกรรมบำบัดใช้การจัดหรือปรับสิ่งแวดล้อมในห้องฝึกหรือห้องเรียนให้เหมาะสมกับเด็ก
เช่น บุผนังด้วยเบาะหรือมีเบาะรองพื้นเพื่อความปลอดภัย คิดเป็นร้อยละ 81.13 (ตารางที่ 3) ทั้งน้ี
อาจเนื่องมาจากหนึ่งในอาการแสดงของเด็กออทิสติกดังที่ American Psychiatric Association
(2013) ได้ระบุไว้คือ เด็กออทิสติกมักมีการตอบสนองต่อระบบสัมผัสที่ไวเกินไปหรือเฉื่อยเกินไป
หรือสนใจในสิ่งเร้าที่กระตุ้นการรับความรู้สึกที่ไม่เหมาะสม สอดคล้องกับ Autism Speaks (2019)
ซึ่งกล่าวถึงพฤติกรรมที่มกั พบในเดก็ ออทิสติก ได้แก่ ไม่สนใจต่อความเจ็บปวดหรืออุณหภูมิทีผ่ ดิ ปกติ
53
มีการตอบสนองที่ไม่พึงประสงค์ต่อผวิ สมั ผัสหรอื เสยี งเฉพาะ มกี ารดมกล่ินหรอื การสัมผัสส่ิงของท่ีมาก
เกินไป มีความหลงใหลทางสายตาดว้ ยแสงไฟหรือการเคลื่อนไหว ส่งผลให้เด็กออมิสติกมีพฤติกรรมท่ี
หันเหความสนใจง่าย ไม่สามารถคงช่วงความสนใจได้นาน ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อสมาธิ
การเรียนรหู้ รือการทำกิจกรรมและความปลอดภัยของเด็ก ดงั น้ันนักกิจกรรมบำบดั จึงใช้เทคนิคในการ
ปรับสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมต่อการเรียนรู้และการทำกิจกรรม เพื่อช่วยให้เด็กสามารถทำกิจกรรมได้
ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมในการเรียนรู้และปลอดภัย มีสมาธิในการเรียนหรือมีพฤติกรรมท่ี
เหมาะสมมากขนึ้ (คณะกรรมการวิชาชพี สาขากิจกรรมบำบัด, 2557; Autism speaks, 2018)
นอกจากนีผ้ ลการศึกษายังพบว่านกั กิจกรรมบำบดั สว่ นใหญ่ใช้ Assistive Technology น้อย
ที่สุด อาจเนื่องจากข้อมูลเทคโนโลยี สิ่งอำนวยความสะดวกที่ผู้วิจัยระบุไว้ในแบบสอบถาม คือ หูฟัง
ตัดเสียงรบกวน (talk light) สมาร์ทโฟน และแทปเล็ตนั้นไม่รวมอยู่ใน รายการตามที่ได้ระบุไว้ใน
กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการให้คนพิการมีสิทธไิ ด้รับสิ่งอํานวยความสะดวก สื่อ บริการ
และความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษา (กระทรวงศึกษาธิการ, 2550) ซึ่งสถานศึกษาภายใต้สังกัด
สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษใช้ในการอ้างอิงเพื่อจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวก สื่อ บริการ และ
ความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษา ในการให้บริการแก่เด็กท่ีมีความต้องการพิเศษทุกประเภทรวมถึง
เดก็ ออทสิ ตกิ ด้วยเช่นกนั ดังนั้นอาจเป็นประเด็นท่ีสง่ ผลต่อการเลือกตอบข้อ Assistive Technology
ในแบบสอบถามในคร้ังนี้
จากผลการศึกษาแนวทางการบำบัดแบบ Bottom-up approach ในเด็กออทิสติกของ
นักกิจกรรมบำบัดในสถานศึกษา (ตารางที่ 4) พบว่านักกิจกรรมบำบัดส่วนใหญ่ใช้หลักการ Sensory
Integration Intervention ในการบำบัดเด็กออทิสติกโดยการใช้กิจกรรมที่มีการบูรณาการประสาท
ความรู้สึกเพื่อบำบัดฟื้นฟูความสามารถในการทำกิจกรรมของเด็กมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 96.23
นอกจากนี้ยังพบว่า นกั กจิ กรรมบำบัดมีการให้คำแนะนำการจดั กิจกรรมบูรณาการประสาทความรู้สึก
แก่ผู้ปกครอง เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถปรับสมดุลของระบบประสาทความรู้สึกของเด็กผ่านกิจกรรม
พื้นฐานที่บ้านได้ คิดเป็นร้อยละ 73.58 ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาของนภสินธ์ จันทาพูน (2561)
ที่พบว่า นักกิจกรรมบำบัดในสถานศึกษาเลือกใช้ Sensory Integration Frame of Reference ใน
เด็กออทิสติกมากท่สี ดุ และสอดคลอ้ งกับผลการศึกษาของ Novak and Honan (2019) ที่ได้กล่าวถึง
แนวทางการบำบดั แบบ Bottom-up approach ทน่ี กั กจิ กรรมบำบัดใชใ้ นเด็กที่มีความตอ้ งการพิเศษ
ว่า หนึ่งในเทคนิควิธีการที่นักกิจกรรมบำบัดใช้อย่างแพร่หลายคือ Sensory Integration เนื่องจาก
54
เป็นทฤษฎีหรือหลักการทางกิจกรรมบำบัดที่มีมาอย่างยาวนาน และมีการใช้บำบัดเด็กที่มีความ
ต้องการพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กออทิสติกอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ซึ่งสอดคล้องกับอาการ
แสดงหรอื ความบกพร่องของเด็กออทิสติกที่เกีย่ วข้องกับการตอบสนองต่อระบบการรบั สัมผัสท่ีไวหรือ
เฉื่อยเกินไปประกอบด้วย การมองเห็น (visual) การได้ยิน (auditory) การสัมผัส (tactile) การรับ
ความรู้สึกกล้ามเนื้อ เอ็น และข้อต่อ (proprioception) และระบบเวสติบูลาร์ (vestibular) ผ่าน
กระบวนการเลือก แปลผล จัดระเบียบ เชื่อมโยงประสบการณ์เดิม ซึ่งส่งผลต่อการบอกตำแหน่ง
แยกแยะและตอบสนองต่อข้อมูลความรู้สึก โดยจะแสดงออกในรูปแบบของพฤติกรรมที่ผิดปกติ เช่น
อยู่ไม่นิ่ง ชอบมองของหมุน สะบัดมือ เดินเขย่งเท้า ไม่ตอบสนองต่อเสียงเรียก กัดเสื้อผ้าหรือวัตถุอน่ื
(American Psychiatric Association, 2013; คณะกรรมการวิชาชีพสาขากิจกรรมบำบัด, 2557)
ซึ่งพฤติกรรมเหล่านีส้ ่งผลต่อความสามารถในการทำกิจกรรมของเด็กในบรบิ ทตา่ ง ๆ โดยหนึ่งในแนว
ทางการให้บริการทางกิจกรรมกรรมบำบัดสำหรับเด็กออทิสติก คือการเสริมสร้างประสิทธิภาพของ
กระบวนการบูรณาการประสาทรับความรู้สกึ ทเี่ หมาะสมเพ่ือใหเ้ ด็กสามารถทำกิจกรรมการดำเนินชีวิต
ไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพ (คณะกรรมการวิชาชีพสาขากจิ กรรมบำบัด, 2557)
ท้ังนพี้ บขอ้ มูลการใช้วธิ กี ารบำบัด Animal-assisted ของนักกจิ กรรมบำบัดในสถานศึกษาอยู่
ในระดับน้อย คิดเป็นร้อยละ 37.74 อาจเนื่องมาจากสถานที่ที่ให้บริการในเรื่องของสัตว์บำบัดใน
ประเทศไทยไม่ได้มีในทุกสถานศึกษา ซึ่งทำให้บางสถานศึกษาไม่สามารถเข้าถึงหรือเข้าถึงได้ยาก
นอกจากนี้อาจมีปัจจยั ในเร่ืองของอาการและความรนุ แรงของโรคของเดก็ แต่ละคนท่ีอาจมีผลต่อความ
จำเปน็ หรือความสามารถในการใช้วธิ ีการบำบัดน้ี
จากผลการศึกษาโดยรวมสะท้อนให้เห็นว่านักกิจกรรมบำบัดมีการใช้แนวทางการบำบัด
ทั้งแบบ Bottom-up approach และ Top-down approach ในการให้การบำบัดเด็กออทิสติก
ในหลากหลายรูปแบบ หลากหลายเทคนิควธิ กี าร ไม่ได้จำกัดเพียงแนวทางใดแนวทางหนึ่งแต่มีการใช้
ในระดับมากน้อยแตกต่างกันตามความรู้ ความเหมาะสม และประสบการณ์ของนักกิจกรรมบำบัด
แต่ละคน ประเด็นสำคัญในการเลือกใช้แนวทางการบำบัดเด็กตามที่ Brown and Chien (2010)
และ Kennedy, Brown, and Stagnitti (2012) ได้กล่าวถึงคือ นักกิจกรรมบำบัดควรเลือกใช้หรือ
ผสมผสานแนวทางการบำบัดทง้ั ในรูปแบบ Bottom-up approach และ Top-down approach ให้
เหมาะสมกับแต่ละปัญหาของเด็กหรือผู้รับบริการแต่ละคน เพื่อให้ผู้รับบริการได้รับการประเมินและ
การบำบัดทตี่ รงจุด และครอบคลมุ ท่ัวถงึ ทกุ ปัญหาและได้รบั ประโยชน์ในการบัดบัดอยา่ งสูงสดุ
55
ข้อจำกัด
เนื่องด้วยการศึกษาครั้งน้ี ผู้วจิ ยั ได้รับการตอบกลบั ข้อมูลจากแบบสอบถามเพียง 56 คนและ
มีแบบสอบถามที่ครบถ้วนผ่านตามเกณฑ์จำนวน 53 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 66.25 ซึ่งมีจำนวนที่น้อย
กว่าร้อยละ 80 สง่ ผลให้ขอ้ มลู ผลการศึกษาไมส่ ามารถอ้างองิ ไปยังกลุ่มประชากรได้
ประโยชนท์ ี่ไดร้ บั
1. ทราบถงึ แนวทางการบำบัดเด็กออทสิ ตกิ ของนกั กจิ กรรมบำบัดในสถานศึกษา
2. เป็นข้อมูลด้านแนวทางการบำบัดเด็กออทิสติกนำไปสู่การเลือกใช้แนวทางการบำบัดเด็กออทิสตกิ
สำหรับนกั กจิ กรรมบำบดั ตอ่ ไป
56
บทสรปุ
การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจแนวทางการบำบัดเด็กออทิสติกของ
นักกิจกรรมบำบัดในสถานศึกษา โดยประชากรที่ใช้ในการศึกษาในครั้งนี้ คือ นักกิจกรรมบำบัดที่
ปฏิบัติงานในสถานศึกษา สังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ กระทรวงศึกษาธิการ สรุปผล
การศกึ ษาได้ ดงั นี้
หลกั การหรือวธิ ีการตามแนวทางการบำบัดแบบ Top-down approach ทีน่ กั กิจกรรมบำบัด
สว่ นใหญ่ใชใ้ นการบำบดั เดก็ ออทสิ ติก คอื Cognitive Orientation to Occupational Performance
(CO-OP) โดยยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง (child-centered) เพื่อให้ผลการบำบัดตรงตามปัญหาหรือความ
ต้องการของเด็กมากที่สุด รองลงมาคือหลักการของ Behavioral Modification โดยการให้แรงเสริม
เพื่อปรับพฤติกรรมของเด็กให้มีพฤติกรรมที่พึงประสงคห์ รือเกดิ พฤติกรรมท่ตี ้องการ นอกจากน้ีพบว่า
นักกิจกรรมบำบัดใช้ Assistive Technology น้อยที่สุด โดยมีการใช้เพียงบางครั้ง ในส่วนของ
แนวทางการบำบัดแบบ Bottom-up approach น้ันหลกั การหรือวธิ ีการทน่ี ักกิจกรรมบำบดั ส่วนใหญ่
ใช้ในการบำบัดเด็กออทิสติกคือ Sensory Integration Intervention โดยใช้กิจกรรมที่มีการ
บรู ณาการประสาทความรู้สึกเพื่อบำบัดฟื้นฟคู วามสามารถในการทำกิจกรรมของเด็กมากที่สดุ รวมถึง
การแนะนำการจัดกิจกรรมบูรณาการประสาทความรู้สึกแก่ผู้ปกครอง เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถปรับ
สมดุลของระบบประสาทความรู้สึกของเดก็ ผ่านกิจกรรมพืน้ ฐานที่บ้านได้ รองลงมาคือ การใช้ Table
Top Activities โดยการบำบัดเด็กผ่านกจิ กรรมท่ีอยูใ่ นรูปแบบแบบฝกึ หัดหรอื กิจกรรมเกม
57
ข้อเสนอแนะ
ขอ้ เสนอแนะในการนำไปใช้
การศึกษาวิจัยในครั้งนี้ทำให้ทราบข้อมูลการใช้แนวทางการบำบัดเด็กออทิสติกของ
นักกิจกรรมบำบัดในสถานศึกษา สามารถใช้เป็นข้อมูลประกอบการเลือกใช้แนวทางการบำบัดเด็ก
ออทสิ ตกิ ของนกั กิจกรรมบำบดั ในการให้การบำบดั ฟื้นฟแู กเ่ ด็กออทิสติกตอ่ ไป
ข้อเสนอแนะในการศกึ ษาครง้ั ต่อไป
1. ควรศึกษาข้อมูลเชิงลึกเชิงคุณภาพเกี่ยวกับมุมมอง และประสบการณ์ หรือเหตุผลในการ
เลอื กใช้แนวทางในการใหก้ ารบำบดั เดก็ ออทสิ ตกิ ของนักกจิ กรรมบำบดั
2. ควรทำการศึกษาการเลือกใช้แนวทางการบำบัดเด็กออทิสติกของนักกิจกรรมบำบัดใน
หลากหลายบริบทและสถานท่ี เช่น โรงพยาบาล หรอื ชุมชน
3. ควรศึกษาประสิทธิภาพของการให้การบำบัดโดยใช้แนวทางการบำบัดแบบ Top-down
approach และ Bottom-up approach
58
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2550). กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการให้คนพิการมีสิทธิได้รับส่ิง
อํานวยความสะดวก สอื่ บรกิ าร และความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษา พ.ศ. 2550. ฉบับท่ี
2 เล่มท่ี 124 ตอนท่ี 71 ก, 19 ตลุ าคม 2550.
คณะกรรมการวชิ าชีพสาขากิจกรรมบำบัด. (2557). แนวปฏิบัตทิ างคลินกิ กิจกรรมบำบัดสำหรบั บุคคล
ออทิสติกสเปคตรัม (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพฯ: สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรค
ศลิ ปะ กรมสนบั สนนุ บริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสขุ .
ทวีศักดิ์ สิริรัตน์เรขา, พนิดา รัตนไพโรจน์, จารุวรรณ ประดา, ศิโรรัตน์ นาคทองแก้ว และจันทนี
มุง่ เขตกลาง. (2557). ออทิสติก. สืบค้นเมอ่ื 10 กันยายน 2562, จาก https://th.rajanukul.
go.th/preview-4005.html.
ธนกฤต ประภา. (2561). การสำรวจการเลอื กใช้กลยุทธ์ทางปัญญากับเด็กท่ีมีความต้องการพิเศษของ
นกั กิจกรรมบำบัดในสถานศึกษา (รายงานการวิจัย). เชียงใหม่: คณะเทคนคิ การแพทย์.
นภสินธุ์ จันทาพูน. (2561). การสำรวจการใช้กรอบอ้างอิงของนักกิจกรรมบำบัดในสถานศึกษา
(รายงานการวจิ ยั ). เชียงใหม่: คณะเทคนิคการแพทย์.
บุญใจ ศรีสถิตนรากูร. (2550). ระเบียบวิธีการวิจัยทางพยาบาลศาสตร์ (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ:
คณะพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั .
ปราณี หลำเบญ็ สะ. (2559). การหาคุณภาพของเครื่องมอื วัดและประเมนิ ผล. สืบค้น 26 กนั ยายน
2562, จาก http://edu.yru.ac.th.
พนิดา รัตนไพโรจน์, ทิพวัน ค่ายสงคราม, และอุดมลักษณ์ หารท่าค้อ. (2553). ผลการใช้โปรแกรม
ARS ตอ่ ความพร้อมในการเข้าสู่ระบบการศึกษาของเด็กออทิสติกปฐมวัย สถาบันราชานกุ ูล.
สืบค้นเมื่อ 22 สิงหาคม 2562, จาก http://rajanukul.go.th/new/_admin/download
/review0002283.pdf.
พิศกั ดิ์ ชินชัย, ปิยวฒั น์ ตรวี ิทยา, ทศพร บรรยมาก, จนญั ญา ปญั ญามี ทิพย์พยอม, และพรี ยา มั่นเขต
วิทย์. (2560). การประเมินทางกิจกรรมบำบัดสำหรับผู้หย่อนสมรรถภาพทางกาย (พิมพ์ครั้ง
ที่ 2).เชียงใหม่: บริษัท สยามพมิ พน์ านา จำกดั .
59
ศิริพร หอมคำวะ. (2554). ประสิทธิผลของการใช้โปรแกรมแลกเปลี่ยนภาพเพื่อการสื่อสารในเด็ก
ออทิสติก สถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์ จังหวัดเชียงใหม่ (วิทยานิพนธ์). เชียงใหม่:
บัณฑิตวิทยาลัย มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่.
ศุภัทติกร ยศชูเกียรติ. (2552). ผลของการใช้ม้าช่วยบำบัดต่อเวลาปฏิกิริยาตอบสนองและช่วงความ
สนใจของเยาวชนกลุ่มออทิสติกสเปคตรัม (วิทยานิพนธ์). เชียงใหม่: บัณฑิตวิทยาลัย
มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่.
สมภพ เรืองตระกูล. (2545). ตำราจติ เวชเด็กและวัยรุ่น. กรงุ เทพฯ: โรงพิมพเ์ รอื นแกว้ .
สินีนาฏ บุญมี. (2558). ผลของการใช้ม้าช่วยบำบัดพฤติกรรมทางสังคมและพฤติกรรมไม่พึงประสงค์
ของเยาวชนกลุ่มออทิสติกสเปคตรัม (วิทยานิพนธ์). เชียงใหม่: บัณฑิตวิทยาลัย
มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่.
สุจิตรพร เลอศิลป์. (2561). เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการเรียนรู้สำหรับเด็กในชุมชน
(พิมพค์ ร้ังท่ี 1). กรงุ เทพมหานคร: โอ. เอส. พร้ินต้งิ เฮา้ ส์ จำกัด.
Abikoff, H. (1991). Cognitive training in ADHD children: Less to it than meets the eye.
Journal of Learning Disabilities, 24(4), 205-209. doi:10.1177/002221949102400
404.
American Occupational Therapy Association [AOTA]. (2016). Occupational Therapy
in School Settings. Retrieved August 17, 2019, from https://www.aota.org/~/
media/Corporate/Files/AboutOT/Professionals/WhatIsOT/CY/Fact-Sheets/Scho
ol%20 Settings%20fact%20\sheet.pdf.
American Occupational Therapy Association [AOTA]. (2018). Occupational Therapy’s
Role with Autism. Retrieved September 10, 2019, from https://www.aota.org/-
/media/corporate/files/aboutot/professionals/whatisot/cy/factsheet
s/autism%20fact%20sheet.pdf.
American Psychiatric Association. (2013). Diagnostic and Statistical Manual of Mental
Disorder: DSM-5 (fifth edition). Washington, DC & London, England.
Autism Speaks. (2018). How technology can help. Retrieves April 3, 2020, from
https://www.autismspeaks.org/tool-kit-excerpt/how-technology-can-help.
60
Autism Speaks. (2019). What are the symptoms of Autism?. Retrieved September 15,
2019, from https://www.autismspeaks.org/what-are-symptoms-autism.
Bennett, S., Khalili-Mahani, N., & Hochhauser, M. (2018). Computerized Cognitive
Training in Children With Autism and Intellectual Disabilities: Feasibility and
Satisfaction Study. JMIR Mental Health, 5(2). doi:10.2196/mental.9564.
Brown, T., & Chien, C., W. (2010). Top-down or bottom-up occupational therapy
assessment: which way do we go. British Journal of occupational Therapy, 73(3)
,95. doi:10.4276/030802210X12682330090334.
Bumin, G., Huri, M., Salar, S., & Kayihan, H. (2015). Occupational Therapy in Autism.
IntechOpen, Retrieved August 14, 2019, from https://www.intechopen.com/bo
ok/autism-spectrum-disorder-recent-advances/occupational-therapy-in-autism.
Centers for Disease Control and Prevention. (2018). Prevalence of Autism Spectrum
Disorder Among Children Aged 8 Years-Autism and Developmental Disabilities
Monitoring Network, 11 sites, Unites States, 2014. Morbidity and Mortality Week
ly Report [MMWR], 67(6), 1-23. doi:10.15585/mmwr.ss6706a1.
Cook, R. E., Richardson-Gibbs, A. M., & Dotson, L. N. (2018). Strategies for Including
Children with Special Needs in Early Childhoods Settings (2nd. Ed. ). USA.
Coster, W. (1998). Occupation-centered Assessment of Children. American Journal of
Occupational Therapy, 52, 337-344. doi:10.5014/ajot.52.5.337.
Cramm, H., Egan, M. (2015). Practice Patterns of School-base Occupational Therapists
Targeting Handwriting: A Knowledge-to-Practice Gap. Journal of Occupational
Therapy, Schools, & Early Intervention, 8, 170-179. doi:10.1080/19411243.2015.
1040942.
Gabriels R. L., Agnew J. A., Holt K. D., Shoffner A., Zhaoxing P., & Ruzzano S., et al.
(2012). Pilot study measuring the effects of therapeutic horseback riding on
school-age children and adolescents with autism spectrum disorders. Research
in Autism Spectrum Disorders, 6(2), 578-588. doi:10.1016/j.rasd.2011.09.007.
61
Gee, B., M., Nwora, A. & Peterson, T., W. (2018). Occupational Therapy’s Role in
Treatment of Children with Autism Spectrum Disorders. Retrieved August 14,
2019, from https://www.intechopen.com/books/occupational-therapy-therape
utic-and-creative-use-of-activity/occupational-therapy-s-role-in-the-treatment-
of-children-with-autism-spectrum-disorders.
Hocking, C. (2001). Implementing Occupation-base assessment. American Journal of
Occupational Therapy, 55, 463-469. doi:10.5014/ajot.55.4.463.
Holloway, J., Healy, O., Dwyer, M., & Lydon, S. (2014). Social Skills Deficits in Children
with Autism Spectrum Disorders: Evidence Based Interventions. In B. V. Patel, R.
V. Preedy, & R. C. Martin (Eds.), Comprehensive Guide to Autism (pp.1133-
1158). New York, NY: Springer New York.
Kennedy, J., Brown, T., & Stagnitti, K. (2012). Top-down and bottom-up approaches to
motor skill assessment of children: Are child-report and parent-report percep
tion predictive of children’s performance-based assessment results. Scandina
vian Journal of Occupational Therapy, 20(1), 45-53. doi:10.3109/11038128.2012
.693944.
Miller-Kuhaneck, H. (2004). Autism: A Comprehensive Occupational Therapy Approach
(2 Edition). Richmond: Carter Printing.
Missiuna, C., Mandich, A.D., Polatajko, H.J., & Malloy-Miller, T. (2009). Cognitive Orienta
tion to Daily Occupational Performance (CO-OP): Part I Theoretical foundations.
Journal Physical and occupational therapy in pediatrics, 20(2), 69-81. doi:10.10
80/J006v20n02_05.
National Association of Special Education Teachers (naset). Assistive Technology for
students with Autism Spectrum Disorders. Retrieved April 3, 2020, from
https://www.naset.org/fileadmin/user_upload/Autism_Series/Assist_tech/Assist
iveTech_for_Students_W_Autism.pdf.
62
National Professional Development Center on Autism Spectrum Disorders. (2010).
Overview of Peer-Mediated Instruction and Intervention. Retrieved September
16, 2019, from https://autismpdc.fpg.unc.edu/sites/autismpdc.fpg.unc.edu/files
/PMII_Overview.pdf.
Novak, I., & Honan, I. (2019). Effectiveness of paediatric occupational therapy for
children with disabilities: A systematic review. Australian Occupational Therapy
Journal, 66(3), 258-273. doi:10.1111/1440-1630.12573.
Payne, S., & Howell, C. (2005). An Evaluation of Clinical Use of the Assessment of Motor
and Process Skills with Children. British Journal of occupational Therapy, 68(6).
doi:10.1177/030802260506800606.
Rerksuppaphol, L., Rerksuppaphol, S. (2011). Autism: An overview. Journal of Medicine
and Health Sciences, 18(3). Retrieved September 7, 2019, from https://www.tci-
thaijo.org/index.php/jmhs/article/view/59741.
The International CO-OP Academy. (2019). The CO-OP Approach. Retrieved September
1, 2019, from http://co-opacademy.ca/about-co-op/the-co-op-approach/.
Thompson-Hodgetts, S., Magill-Evans, J. (2018). Sensory-Based Approaches in Interven
tion for Children with Autism Spectrum Disorder: Influences on Occupational
Therapist’s Recommendations and Perceived Benefits. American Journal of
Occupational Therapy, 72(3). doi:10.5014/ajot.2018.024729.
Thornton, A., Licari, M., Reid, S., Armstrong, J., Fallows, R., & Elliott, C. (2015). Cognitive
Orientation to (Daily) Occupational Performance intervention leads to improve
ments in impairments, activity and participation in children with Developmental
Coordination Disorder. Disability and Rehabilitation, 38(10), 979-986. doi:10.31
09/09638288.2015.107029.
Toglia, J. P., Rodger, S. A., & Polatajko, H. j. (2012). Anatomy of Cognitive Strategies:
A Therapist’s Primer for Enabling Occupational Therapy. Canadian Journal of
Occupational Therapy, 79(4), 225-236. doi:10.2182/cjot.2012.79.4.4.
63
Tomcheck, S., Koenig, K., P., Arbesman M., & Lieberman, D. (2017). Evidence Connection
Occupational Therapy Interventions for Adolescents with Autism Spectrum
Disorder. American Journal of Occupational Therapy, 71(1). doi:10.5014/ajot.20
17.711003.
Trombly, C. (1993). Anticipating the Future: Assessment of Occupational Function.
American Journal of Occupational Therapy, 47(3), 253-257. doi:10.5014/ajot.47.
3.253.
Weinstock-Zlotnick, G., & Hinojosa, J. (2004). Bottom-Up or Top-Down Evaluation Is
One Better Than the Other?. American Journal of Occupational Therapy, 58(5),
594-599. doi:10.5014/ajot.58.5.594.
Wilson, J., Mandich, A., Magalhaes, L., & Gain, K. (2018). Concept Mapping and the
CO-OP Approach with Adolescents with Autism Spectrum Disorder: Exploring
Participant Experience. The Open Journal of Occupational Therapy, 6(4). doi:
10.15453/2168-6408.1455.
World Health Organization. (2007). International Classification of Functioning, Disability
and Health Children & Youth Version: ICF-CY. Retrieved August 17, 2019, from
https://apps.who.int/iris/bitstream/handle/10665/43737/9789241547321_eng.
pdf?sequence=1&isAllowed=y&fbclid=IwAR2l7odMUrTpp4oFIctuuzrnvw7rBJAB
cSRRfyOUPhjVYl5_AYcBOR2Ow44.
World Health Organization. (2016). International Statistical Classification of Diseases
and Related Health Problems 10 th Revision [ICD-10]. Retrieved September 10,
2019, from https://icd.who.int/browse10/2016/en?fbclid=IwAR2UCov88qQMLH
PzdL4-gy3gN3Cs_zLWNhyCUZOk0d2vP-Z-lFwLhF4Hbqo#/F84.0.
64
ภาคผนวก
65
ภาคผนวก ก
เอกสารรบั รองโครงการวิจยั ในมนษุ ย์
66
67
68
69
ภาคผนวก ข
รายนามผู้ทรงคุณวฒุ ิในการตรวจสอบเครอ่ื งมอื
70
รายนามผ้ทู รงคณุ วุฒิในการตรวจสอบเคร่อื งมือ
รายนามผูท้ รงคุณวุฒิท่ีพิจารณาตรวจสอบความเทย่ี งตรงเชงิ เน้อื หา (content validity)
ของแบบสอบถามสำรวจแนวทางการบำบัดเด็กออทิสตกิ ของนักกจิ กรรมบำบัดในสถานศกึ ษา ดังนี้
1. คุณพลิ าศิณี สุวรรณ
ตำแหน่ง หวั หน้าคลินกิ กิจกรรมบำบัด
สงั กดั ศูนยบ์ รกิ ารเทคนคิ การแพทย์คลนิ ิก คณะเทคนคิ การแพทย์ มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่
2. คุณพรรณิภา สภาวจิตร
ตำแหนง่ นักกิจกรรมบำบดั
สังกัด ศนู ยบ์ ริการเทคนิคการแพทย์คลนิ กิ คณะเทคนคิ การแพทย์ มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่
3. คุณปยิ วรรณ เตม็ เขียว
ตำแหน่ง นกั กิจกรรมบำบัด
สงั กัด โรงเรียนดาราวิทยาลัย จังหวดั เชยี งใหม่
4. คุณจันทิรา อุสุยะ
ตำแหนง่ นกั กิจกรรมบำบดั
สงั กัด ภาควิชาจติ เวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่
5. คุณสดุ ธิดา ติณะมาศ
ตำแหนง่ ครูชำนาญการ (กิจกรรมบำบัด)
สังกัด โรงเรียนกาวลิ ะอนกุ ูล จังหวัดเชยี งใหม่
71
ภาคผนวก ค
แบบสอบถามแนวทางการบำบัดเดก็ ออทสิ ตกิ
ของนักกิจกรรมบำบดั ในสถานศึกษา
72
แบบสอบถาม
เรอื่ ง แนวทางการบำบัดเดก็ ออทสิ ติกของนักกิจกรรมบำบดั ในสถานศึกษา
แบบสอบถามชุดน้ีมี 2 สว่ น คอื
ส่วนท่ี 1 ขอ้ มลู สว่ นบุคคลของผตู้ อบแบบสอบถาม
สว่ นท่ี 2 แนวทางการบำบดั เด็กออทสิ ติกของนักกิจกรรมบำบดั ในสถานศึกษา
คำชแ้ี จง
แบบสอบถามนี้สร้างขึ้นเพื่อสำรวจแนวทางการบำบัดเด็กออทิสติกของนักกิจกรรมบำบัดใน
สถานศึกษา โดยคำตอบที่ได้จากท่านจะเป็นการสำรวจว่านักกิจกรรมบำบัดในสถานศึกษาใช้
แนวทางการบำบัดใดในเด็กออทิสติกมากที่สุด จงึ ขอความรว่ มมือในการตอบแบบสอบถามให้ครบทุก
ข้อ และตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งคำตอบจากท่านจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการเป็นข้อมูล
ด้านมมุ มองนำไปสกู่ ารเลือกใช้แนวทางการบำบัดเด็กออทิสติกของนักกิจกรรมบำบัดท่านอน่ื ๆ ตอ่ ไป
73
สว่ นท่ี 1
ขอ้ มูลส่วนบคุ คลของผู้ตอบแบบสอบถาม
คำชแี้ จง โปรดตอบคำถามโดยทำเคร่อื งหมาย () ทีต่ รงกับความเป็นจริงของท่าน
1. เพศ ( ) ชาย ( ) หญงิ
2. อายุ ……………………………………
3. วุฒกิ ารศกึ ษาสงู สดุ
( ) ปริญญาตรี
( ) ปรญิ ญาโท โปรดระบุสาขาวชิ า...........................................
( ) สูงกวา่ ปริญญาโท โปรดระบุสาขาวชิ า...........................................
4. ประกาศนียบัตรวิชาชพี ครู
( ) มี ( ) ไมม่ ี
5. ระยะเวลาในการเป็นนักกิจกรรมบำบัดในสถานศึกษา .............ป.ี .................เดือน
6. ประสบการณ์ในการให้การบำบดั เด็กออทิสตกิ
( ) เคย
( ) ปจั จบุ นั
( ) เตม็ เวลา (full-time) ( ) บางเวลา (part-time)
( ) อดีต ....................... ปี
( ) เตม็ เวลา (full-time) ( ) บางเวลา (part-time)
( ) ไมเ่ คย
7. การอบรมเฉพาะอน่ื ๆ ทเี่ ก่ียวขอ้ งกับการบำบดั เดก็ ออทิสตกิ เพ่ิมเตมิ
โปรดระบุ
............................................................................................................................. .............
74
ส่วนที่ 2
แนวทางการบำบัดในเด็กออทิสตกิ ของนักกิจกรรมบำบัดในสถานศกึ ษา
คำชแ้ี จง โปรดตอบแบบสอบถาม โดยการโดยทำเครอ่ื งหมาย () ท่ีตรงกบั ประสบการณจ์ รงิ ด้านแนวทางการ
บำบัดในเด็กออทิสติกของท่านมากทสี่ ุด
โดยมีเกณฑ์ของระดบั ความถ่ีในการใช้หลกั การหรอื วธิ กี ารบำบัด ดงั นี้
ไมใ่ ช้ หมายถงึ ท่านไมม่ ปี ระสบการณใ์ นการใช้หลกั การหรอื วธิ กี ารบำบัดนนั้
น้อย หมายถงึ ท่านมรี ะดับความถีข่ องการใช้หลักการหรือวิธกี ารบำบัดน้นั น้อย
บางครั้ง หมายถงึ ทา่ นมีระดบั ความถข่ี องการใช้หลกั การหรือวธิ กี ารบำบดั นั้นบางครั้ง
บ่อย หมายถงึ ทา่ นมรี ะดบั ความถีข่ องการใช้หลักการหรอื วิธีการบำบัดนั้นบ่อย
แนวทางการบำบัด บอ่ ย ความถีใ่ นการใช้ ไมใ่ ช้
ใช้
1. ท่านให้การบำบัดโดยยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง (child-centered) เพ่ือ บางครง้ั นอ้ ย
ใหผ้ ลการบำบัดตรงตามปัญหาหรอื ความตอ้ งการของเดก็
2. ทา่ นใชก้ ารลงโทษเพื่อลดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงคข์ องเดก็ เช่น การ
ใหเ้ ดก็ เขา้ มมุ การงดกิจกรรมท่ีเดก็ ชอบ
3. ท่านสอนให้เด็กใช้กลยุทธ์ทางปัญญาต่าง ๆ เช่น ให้เด็กพูดทวน
ขั้นตอนการทำกิจกรรมซ้ำ ๆ เพื่อให้เดก็ สามารถจดจำขั้นตอนในการทำ
กิจกรรมได้
4. ท่านแนะนำหรือสอนวิธีการใช้อุปกรณ์ช่วยต่าง ๆ แก่เด็กหรือ
ผู้ปกครอง เช่น หูฟังตัดเสียงรบกวน(talk light) ในเด็กที่มีความไวต่อ
เสยี ง
5. ท่านร่วมกำหนดเป้าประสงค์การบำบัดร่วมกับผู้ปกครอง เพื่อค้นหา
กิจกรรมหรือความต้องการทีเ่ ดก็ ต้องการทำใหส้ ำเร็จ
6. ท่านสอนหรือแนะนำเด็กหรือผู้ปกครองในการใช้แอพพลิเคชั่นใน
สมาร์ทโฟนหรือแทปแล็ตเพื่อช่วยในการสื่อสารของเด็กที่ปัญหาการ
ส่ือสาร
75
แนวทางการบำบัด บอ่ ย ความถ่ใี นการใช้ ไม่ใช้
ใช้
7. ท่านจับคู่เด็กที่มีทักษะการเข้าสังคมที่ดีกับเด็กออทิสติกเพื่อให้เป็น บางครงั้ นอ้ ย
แบบอยา่ งในการทำกจิ กรรมและการเขา้ สงั คมของเดก็ ออทสิ ติก
8. ทา่ นใช้กลยทุ ธท์ างปญั ญาตา่ ง ๆ หรอื แนะนำผปู้ กครองหรือครูใช้ เช่น
ใช้ตารางภาพกิจกรรมให้เด็กเห็นเพื่อให้เด็กสามารถเรียนรู้และทำ
ตามลำดับของกิจกรรมในชวี ติ ประจำวนั
9. ท่านใชห้ ลกั การใหแ้ รงเสริมเพื่อปรับพฤตกิ รรมของเดก็ ให้มีพฤติกรรม
ที่พึงประสงค์หรือเกิดพฤติกรรมที่ต้องการ เช่น การให้ขนม คำชม ของ
เล่น หรอื กจิ กรรมทเี่ ด็กชอบ
10. ท่านจดั กลมุ่ เล็ก ๆ โดยมีเพื่อนในกลุ่มเป็นแบบอยา่ งใหแ้ ก่เด็กออทิ
สตกิ เพ่อื สง่ เสรมิ และเป็นแบบอยา่ งในการทำกิจกรรมตามกตกิ าและการ
เล่นรว่ มกับผอู้ ื่น
11. ทา่ นสอนให้เดก็ ส่อื สารกบั ผ้อู ืน่ ผ่านทางสมดุ ภาพเพื่อการสอื่ สาร เช่น
เมื่อเด็กต้องการกินคุกกี้ ท่านสอนใหเ้ ด็กหยิบภาพคุกกี้ ยื่น และวางบน
มอื ผูฝ้ ึก
12. ทา่ นจดั หรอื ปรับสิ่งแวดล้อมในห้องฝึกหรอื หอ้ งเรยี นใหเ้ หมาะสมกบั
เดก็ เช่น บุผนงั ด้วยเบาะหรอื มีเบาะรองพื้นเพอ่ื ความปลอดภัย
13. ท่านฝึกสอนให้เด็กหยิบภาพให้ผู้ร่วมสนทนา เพื่อสื่อสารถึงสิ่งที่
ตอ้ งการ
14. ท่านให้คำแนะนำแก่ครูเพื่อจัดตำแหน่งที่นั่งในห้องเรียนที่
เหมาะสมให้แก่เด็กออทิสติกเพื่อให้เดก็ มีสมาธิในการเรียนหรอื
มีพฤตกิ รรมท่เี หมาะสมมากขึน้
15. ท่านให้การบำบัดเด็กออทสิ ติกโดยใชส้ ตั ว์ในการบำบดั เช่น
ชา้ ง มา้ สุนขั ฯลฯ
76
แนวทางการบำบดั บอ่ ย ความถใ่ี นการใช้ ไม่ใช้
ใช้
16. ท่านบำบัดเด็กผ่านกิจกรรมเกมคอมพวิ เตอร์ เช่น การเปิดภาพจับคู่
ฝกึ ความจำ บางครัง้ นอ้ ย
17. ท่านพาเด็กไปเข้าร่วมโครงการ หรือกิจกรรมพิเศษ ที่ใช้สัตว์ในการ
บำบดั
18. ท่านแนะนำการจัดกิจกรรมบูรณาการประสาทความรู้สึกแก่
ผู้ปกครอง เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถปรับสมดุลของระบบประสาท
ความรสู้ กึ ของเด็กผา่ นกิจกรรมพื้นฐานทบี่ ้านได้
19. ท่านบำบัดเดก็ ผา่ นกจิ กรรมทอี่ ย่ใู นรูปแบบแบบฝึกหดั หรือกจิ กรรม
เกม เช่น กจิ กรรมลากเส้นตอ่ จดุ ต่อจก๊ิ ซอว์ รอ้ ยลกู ปดั ฯลฯ
20. ทา่ นใช้กจิ กรรมทม่ี ีการบรู ณาการประสาทความรู้สึกเพ่ือบำบัดฟื้นฟู
ความสามารถในการทำกจิ กรรมของเด็ก เช่น ใช้กิจกรรมเพ่อื ปรับสมดุล
ของ 3 ระบบ คือvestibular, proprioceptive และ tactile
77
ภาคผนวก ง
แบบสอบถามแนวทางการบำบดั ของนกั กิจกรรมบำบดั
ในสถานศกึ ษาในรูปแบบ Google Form
78
79
80
81
82
83
ภาคผนวก จ
ค่าความเทย่ี งตรงเชิงเนอ้ื หาของแบบสอบถามสำรวจแนวทางการบำบดั เดก็
ออทสิ ตกิ ของนักกิจกรรมบำบัดในสถานศึกษา ครั้งที่ 1
84
ตารางแสดงค่า IOC ของแบบสอบถามสำรวจแนวทางการบำบดั เดก็ ออทสิ ติกของ
นักกจิ กรรมบำบดั ในสถานศึกษา คร้ังที่ 1
หวั ขอ้ ประเมนิ ระดบั ความสอดคล้อง คา่ แปลผล หมายเหตุ
ของผ้เู ชยี่ วชาญคนที่ IOC
1234 5
Top-down approach
CO-OP
1. ท่านร่วมกำหนดเป้าประสงค์การบำบดั - เนอื่ งจากเด็กออทิสตกิ ส่วนใหญ่
ร่วมกับเด็กเพื่อค้นหากิจกรรมหรือความ +1 0 -1 +1 +1 0.4 นำไปใช้ไมไ่ ด้ มีความบกพรอ่ งทางดา้ นการ
ต้องการทีเ่ ดก็ ต้องการทำใหส้ ำเรจ็ (ควรแก้ไข) สอ่ื สาร
2. ท่านร่วมกำหนดเป้าประสงค์การบำบัด ทำแผน IEP ปลี ะ 1 คร้ัง
ร่วมกับผู้ปกครอง เพื่อค้นหากิจกรรมหรือ
ความต้องการท่เี ด็กต้องการทำให้สำเร็จ +1 +1 +1 +1 0 0.8 นำไปใชไ้ ด้
Cognitive Strategies 1 นำไปใชไ้ ด้
3. ท่านสอนให้เด็กใช้กลยุทธ์ทางปัญญา
ต่าง ๆ เช่น ให้เด็กพูดทวนขั้นตอนการทำ
กิจกรรมซ้ำ ๆ เพื่อให้เด็กสามารถจดจำ +1 +1 +1 +1 +1
ขน้ั ตอนในการทำกจิ กรรมได้
4. ท่านใช้หรือแนะนำผู้ปกครองหรือครูใช้ +1 0 +1 +1 +1 0.8 นำไปใชไ้ ด้ ทา่ นใชก้ ลยุทธท์ างปัญญาตา่ ง ๆ
กลยุทธ์ทางปัญญาต่าง ๆ เช่น ใช้ตาราง หรือแนะนำผปู้ กครองหรือครูใช้
ภาพกิจกรรมให้เด็กเหน็ เพอื่ ให้เดก็ สามารถ เชน่ .....
เรียนรู้และทำตามลำดับของกิจกรรมใน
ชวี ิตประจำวนั
85
ตารางแสดงค่า IOC ของแบบสอบถามสำรวจแนวทางการบำบัดเดก็ ออทิสติกของ
นักกจิ กรรมบำบดั ในสถานศึกษา ครง้ั ท่ี 1 (ต่อ)
หวั ข้อประเมิน ระดับความสอดคลอ้ ง คา่ แปลผล หมายเหตุ
ของผูเ้ ชีย่ วชาญคนท่ี IOC นำไปใชไ้ ด้
Behavioral Modification 1 234 5
5. ท่านใช้หลักการให้แรงเสริมเพื่อปรับ 1
พฤติกรรมของเด็กให้มีพฤติกรรมที่พึง +1 +1 +1 +1 +1
ประสงค์หรอื เกิดพฤตกิ รรมทีต่ อ้ งการ เช่น
การให้ขนม คำชม ของเล่น หรือกิจกรรม
ทเ่ี ด็กชอบ
6. ท่านใช้การลงโทษเพื่อลดพฤติกรรมท่ี - การยกตวั อยา่ งเงอ่ื นไขคอ่ นข้าง
เป็นในทางลบมากเกินไปอาจจะ
ไม่พึงประสงค์ของเด็ก เช่น การดุหรือ เพิ่มเงอ่ื นไขที่เป็นกลาง ๆ เชน่
งดเล่นหน่ึงรอบ หยดุ เลน่ หนง่ึ ตา
ตำหนิ การให้เดก็ เข้ามุม +1 0 +1 +1 +1 0.8 นำไปใชไ้ ด้ หากมีพฤตกิ รรมไม่เหมาะสม
Assistive technology 1 - ไมค่ อ่ ยไดใ้ ชอ้ ุปกรณ์ช่วย
นำไปใช้ได้
7. ทา่ นแนะนำหรือสอนวธิ กี ารใชอ้ ปุ กรณ์
ช่วยต่าง ๆ แกเ่ ดก็ เช่น หฟู ังตดั เสยี ง
รบกวน(talk light) ในเดก็ ทีม่ คี วามไวต่อ +1 +1 +1 +1 +1
เสียง
8. ทา่ นสอนหรือแนะนำการใช้ นำไปใช้ได้
แอพพลเิ คช่นั ในสมาร์ทโฟนหรือแทปแล็ต
เพ่ือชว่ ยในการสื่อสารของเด็กทป่ี ญั หา +1 +1 +1 0 +1 0.8
การสือ่ สาร
86
ตารางแสดงคา่ IOC ของแบบสอบถามสำรวจแนวทางการบำบัดเดก็ ออทสิ ตกิ ของ
นกั กจิ กรรมบำบดั ในสถานศกึ ษา ครง้ั ที่ 1 (ต่อ)
หัวข้อประเมนิ ระดับความสอดคล้อง คา่ แปลผล หมายเหตุ
ของผู้เชีย่ วชาญคนท่ี IOC นำไปใช้ได้
Peer- Mediated Intervention 1 234 5
9. ทา่ นจบั คเู่ ดก็ ทีม่ ีทักษะการเขา้ สงั คมท่ดี ี 1
กบั เด็ก ออทสิ ติกเพ่อื ใหเ้ ป็นแบบอยา่ งใน +1 +1 +1 +1 +1
การทำกิจกรรมและการเขา้ สงั คมของเด็ก
ออทสิ ตกิ
10. ท่านจัดกลมุ่ เล็ก ๆ โดยมีเพอื่ นในกลุม่
เป็นแบบอยา่ งให้แก่เดก็ ออทสิ ติกเพอื่
สง่ เสรมิ และเปน็ แบบอยา่ งในการทำ +1 +1 +1 +1 +1 1 นำไปใชไ้ ด้
กจิ กรรมตามกติกาและการเลน่ รว่ มกับ
ผ้อู น่ื
Environmental Modification
11. ท่านใหค้ ำแนะนำแก่ครเู พ่ือจดั
ตำแหน่งท่ีน่ังในห้องเรียนท่เี หมาะสม
ใหแ้ ก่เดก็ ออทสิ ตกิ เพอ่ื ใหเ้ ดก็ มสี มาธใิ น +1 +1 +1 0 +1 0.8 นำไปใชไ้ ด้
การเรยี นหรอื มีพฤตกิ รรมทเ่ี หมาะสมมาก
ข้ึน
12. ทา่ นจัดหรอื ปรับส่งิ แวดลอ้ มในห้อง +1 +1 +1 +1 +1 1 นำไปใชไ้ ด้
ฝึกหรอื หอ้ งเรยี นให้เหมาะสมกบั เด็ก เชน่
บุผนังดว้ ยเบาะหรือมเี บาะรองพ้นื เพือ่
ความปลอดภัย
87
ตารางแสดงค่า IOC ของแบบสอบถามสำรวจแนวทางการบำบัดเด็กออทสิ ติกของ
นักกิจกรรมบำบดั ในสถานศึกษา ครง้ั ที่ 1 (ต่อ)
ระดบั ความสอดคลอ้ ง คา่
IOC
หัวข้อประเมนิ ของผู้เช่ยี วชาญคนที่ แปลผล หมายเหตุ
1 นำไปใช้ได้
1 234 5 นำไปใชไ้ ด้ - อันนี้เป็นการฝึก PECS ขั้นที่ 4
แก้ไขเป็น ท่านฝึกสอนให้เด็ก
Picture Exchange Communication System (PECS) นำไปใช้ได้ หยิบภาพให้ผู้ร่วมสนทนาเพ่ือ
สื่อสารถงึ ส่ิงทต่ี ้องการ
13. ท่านฝกึ สอนให้เดก็ เลือกใช้หรอื หยบิ - ต ั ว อ ย ่ า ง น ี ้ เ ป ็ น visual
strategies ยกตัวอย่างผิด ให้
ภาพหรือคำที่ตรงกับความต้องการของ เปลี่ยนเป็น เมื่อเด็กต้องการกิน
คุกกี้ ท่านสอนให้เด็กหยิบภาพ
ตนเองมาติดลงบนสมุดภาพเพ่อื การ +1 +1 +1 +1 +1 คุกกี้ ยนื่ และวางบนมือผฝู้ กึ
ส่ือสาร - เปล่ียนคำ “การกระตุ้น” ทำให้
ผอู้ ่านมคี วามรู้สึกเหมือนตอ้ งทำ
14. ท่านสอนให้เด็กสอ่ื สารกับผู้อน่ื ผ่าน ให้มีมากขึ้น เพราะบางครง้ั อาจ
ตอ้ งใชก้ าร inhibit ในบาง
ทางสมดุ ภาพเพ่ือการสื่อสาร เชน่ นกั sense แล้วแต่ตัวเดก็
กิจกรรมบำบัดเลือกภาพหรอื คำแปะลง +1 +1 +1 +1 +1 1
บนสมุดภาพเพือ่ ให้เด็กทำตามคำสง่ั อย่าง
ถูกต้อง
Bottom-up approach +1 +1 +1 +1 +1 1
Sensory Integration Intervention
15. ท่านใชก้ ิจกรรมทีม่ ีการบูรณาการ
ประสาทความรสู้ กึ เพอ่ื บำบัดฟ้นื ฟู
ความสามารถในการทำกิจกรรมของเดก็
เช่น ใชก้ ิจกรรมกระตุ้น 3 ระบบ คือ
vestibular, proprioceptive และ
tactile
16. ทา่ นแนะนำการจัดกจิ กรรมบรู ณา +1 +1 +1 0 +1 0.8 นำไปใชไ้ ด้
การประสาทความรูส้ กึ แกผ่ ปู้ กครอง
เพือ่ ใหผ้ ู้ปกครองสามารถกระตนุ้ ผา่ น
กจิ กรรมพื้นฐานท่ีบา้ นได้
88
ตารางแสดงคา่ IOC ของแบบสอบถามสำรวจแนวทางการบำบดั เด็กออทิสตกิ ของ
นักกจิ กรรมบำบัดในสถานศกึ ษา ครั้งที่ 1 (ต่อ)
หัวข้อประเมิน ระดบั ความสอดคล้อง ค่า แปลผล หมายเหตุ
ของผเู้ ชย่ี วชาญคนที่ IOC นำไปใช้ได้
Table Top activities 1 234 5 นำไปใช้ได้ - การยกตัวอย่างขอ้ 17 กับ 18
17. ท่านกระต้นุ หรอื บำบดั เดก็ ผ่าน ไมค่ ่อยสดคล้องกนั ขอ้ 17 เปน็
กจิ กรรมเกมคอมพวิ เตอร์ เชน่ การเพ่ิม +1 +1 +1 +1 +1 1 วตั ถปุ ระสงค์/เป้าประสงค์ของ
สมาธิ เกม แต่ข้อ 18 เปน็ การ
ยกตวั อย่างเป็นกิจกรรม
18. ทา่ นกระตุ้น หรือบำบัดเด็กผา่ น - ปรบั คำวา่ “กระตุ้น”
กจิ กรรมท่ีอยู่ในรปู แบบแบบฝกึ หดั หรือ
กิจกรรมเกม เชน่ กจิ กรรมลากเสน้ ตอ่ จุด +1 +1 +1 +1 +1 1
ต่อจิ๊กซอว์ รอ้ ยลูกปัด ฯลฯ
Animal-assisted service +1 +1 +1 +1 +1 1 - อาชาบำบัด อาทิตย์ละ 1 ครั้ง
19. ท่านพาเดก็ ไปเขา้ ร่วมโครงการ หรอื นำไปใช้ได้
กิจกรรมพเิ ศษ ที่ใช้สัตว์ในการบำบัด
20. ทา่ นให้การบำบดั เดก็ ออทิสตกิ โดยใช้ - อาชาบำบดั
สตั ว์ในการบำบดั เช่น ช้าง ม้า สุนัข ฯลฯ +1 +1 +1 +1 +1 1 นำไปใชไ้ ด้
รวม 0.91
89
ภาคผนวก ฉ
ค่าความเทย่ี งตรงเชิงเนอ้ื หาของแบบสอบถามสำรวจแนวทางการบำบดั เดก็
ออทสิ ตกิ ของนักกิจกรรมบำบัดในสถานศึกษา ครั้งที่ 2
90
ตารางแสดงค่า IOC ของแบบสอบถามสำรวจแนวทางการบำบดั เดก็ ออทิสติกของ
นกั กิจกรรมบำบดั ในสถานศึกษา คร้ังที่ 2
หวั ข้อประเมนิ ระดับความสอดคล้อง คา่ IOC แปลผล หมายเหตุ
ของผู้เชีย่ วชาญคนที่ 1 นำไปใช้ไได้
Top-down approach 12345
CO-OP
1. ท่านให้การบำบัดโดยยึดเด็กเป็น +1 +1 +1 +1 +1
ศูนย์กลาง (child-centered) เพื่อให้ผล
การบำบัดตรงตามปัญหาหรือความ
ตอ้ งการของเด็ก
2. ท่านร่วมกำหนดเป้าประสงค์การ
บำบัดร่วมกับผู้ปกครอง เพื่อค้นหา
กิจกรรมหรือความต้องการที่เด็กต้องการ +1 +1 +1 +1 +1 1 นำไปใชไ้ ด้
ทำให้สำเรจ็
Cognitive Strategies
3. ท่านสอนให้เด็กใช้กลยุทธ์ทางปัญญา
ต่าง ๆ เชน่ ให้เดก็ พดู ทวนข้นั ตอนการทำ
กิจกรรมซ้ำ ๆ เพื่อให้เด็กสามารถจดจำ +1 +1 +1 +1 +1 1 นำไปใชไ้ ด้
ขัน้ ตอนในการทำกิจกรรมได้
4. ท่านใช้กลยุทธ์ทางปัญญาต่าง ๆ หรือ
แนะนำผู้ปกครองหรือครูใช้ เช่น ใช้
ตารางภาพกิจกรรมให้เดก็ เห็นเพื่อให้เด็ก +1 +1 +1 +1 +1 1 นำไปใช้ได้
สามารถเรียนรู้และทำตามลำดับของ
กจิ กรรมในชวี ติ ประจำวนั
91
ตารางแสดงค่า IOC ของแบบสอบถามสำรวจแนวทางการบำบัดเดก็ ออทสิ ติกของ
นกั กจิ กรรมบำบดั ในสถานศกึ ษา คร้งั ที่ 2 (ต่อ)
หัวข้อประเมนิ ระดบั ความสอดคล้อง คา่ IOC แปลผล หมายเหตุ
ของผู้เชยี่ วชาญคนที่ 1 นำไปใชไ้ ด้
Behavioral Modification 12345
5. ท่านใช้หลักการให้แรงเสริมเพื่อปรับ
พฤติกรรมของเด็กให้มีพฤติกรรมที่พึง +1 +1 +1 +1 +1
ประสงค์หรือเกิดพฤติกรรมที่ต้องการ
เช่น การให้ขนม คำชม ของเล่น หรือ
กจิ กรรมท่เี ด็กชอบ
6. ท่านใช้การลงโทษเพื่อลดพฤติกรรมท่ี
ไม่พึงประสงค์ของเด็ก เช่น การให้เด็ก 0 +1 +1 +1 +1 0.8 นำไปใชไ้ ด้
เข้ามมุ การงดกจิ กรรมท่ีเด็กชอบ
Assistive technology
7. ท่านแนะนำหรือสอนวิธกี ารใชอ้ ุปกรณ์
ชว่ ยตา่ ง ๆ แก่เดก็ หรือผปู้ กครอง เชน่ หู
ฟงั ตัดเสียงรบกวน(talk light) ในเดก็ ท่มี ี +1 +1 +1 +1 +1 1 นำไปใช้ได้
ความไวต่อเสยี ง
8. ท่านสอนหรอื แนะนำเด็กหรอื
ผู้ปกครองในการใช้แอพพลิเคช่นั ใน
สมาร์ทโฟนหรอื แทปแลต็ เพอื่ ชว่ ยในการ +1 +1 0 +1 +1 0.8 นำไปใช้ได้
สอ่ื สารของเด็กท่ีปัญหาการส่ือสาร
92