เล่มที่ ๙ คำภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทย

แบบฝึกเสรมิ ทกั ษะทางภาษา
ชุด ร้รู ักษห์ ลักภาษาไทย
เรอ่ื ง

นางละไม ฝั่งชลจิตต์
ตำแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ชำนาญการพเิ ศษ
โรงเรียนวดั พรหมโลก อำเภอพรหมครี ี
สำนกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษานครศรีธรรมราช เขต ๔
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร

แบบฝกึ เสรมิ ทักษะทางภาษา ชดุ ร้รู กั ษ์หลักภาษาไทย
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕

เรอ่ื งท่ี ๙ คำภาษตา่ งประเทศทใี่ ชใ้ นภาษาไทย

นางละไม ฝ่ังชลจิตต์

ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ชำนาญการพิเศษ

โรงเรยี นวดั พรหมโลก อำเภอพรหมคีรี

สำนกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต ๔
สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ก

คำนำ

แบบฝึกเสริมทักษะทางภาษา ชุด รู้รักษ์หลักภาษาไทย เร่ืองท่ี ๙ คำภาษา
ต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทย จัดทำข้ึนเพื่อเป็นเอกสารเสริมการเรียนรู้ ใช้ควบคู่กับส่ือ
ประสมที่เป็นโปรแกรมบทเรียนคอมพิวเตอร์หรือจะปรับใช้เป็นเอกสารประกอบการเรียน
การสอนได้ตามความเหมาะสม ภายในเอกสารให้รายละเอียดเก่ียวกับคำช้แี จงการใช้สำหรับ
นักเรียน แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน แบบฝึกเสริมทักษะจำนวน ๖ ชุด ซ่ึงนักเรียน
สามารถเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะเล่มนไี้ ด้ดว้ ยตนเองทั้งในและนอกเวลาเรียน

ขอขอบคุณผู้เช่ียวชาญ ศึกษานิเทศก์ ผู้อำนวยการโรงเรียนและเพื่อนครูที่ให้
แนวคิด ให้ความร่วมมือในการพัฒนา ขอบใจนักเรียนทุกคนท่ีให้ความร่วมมือในการจัด
กจิ กรรมการเรียนการสอนโดยใชส้ ่อื ประสม ชดุ รูร้ กั ษห์ ลักภาษาไทย

หวังเป็นอยา่ งย่ิงวา่ แบบฝกึ ทักษะทางภาษาเลม่ น้ี จะมีประโยชน์ต่อนักเรียนและ
ครผู สู้ อน ในการนำไปใช้พัฒนาการเรยี นการสอนเพอ่ื พัฒนาคุณภาพผูเ้ รียนต่อไป

ละไม ฝั่งชลจิตต์

ข

สารบัญ หน้า

เร่ือง ก
ข
คำนำ……………………………………………………….……………….………………………….. ๑
สารบญั …………………………………………………….…………….…………………………….. ๒
๓
คำชี้แจงการใช้สำหรับนักเรียน................................................................ ๗
จดุ ประสงคก์ ารเรียนร.ู้ ............................................................................
แบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลงั เรยี น...................................................... ๔๓
ตอนที่ ๑ เน้ือหาสาระ...................................................................................... ๔๖
ตอนท่ี ๒ แบบฝกึ เสรมิ ทกั ษะทางภาษา ส่วนที่ ๑ ๔๗
แบบฝกึ เสริมทักษะชุดท่ี ๑....................................................................... ๔๘
แบบฝกึ เสรมิ ทกั ษะชดุ ท่ี ๒....................................................................... ๔๙
แบบฝึกเสริมทักษะชดุ ท่ี ๓....................................................................... ๕๒
แบบฝกึ เสริมทักษะชุดที่ ๔.......................................................................
แบบฝกึ เสริมทักษะชุดท่ี ๕....................................................................... ๕๕
แบบฝกึ เสริมทักษะชดุ ที่ ๖....................................................................... ๕๘
ตอนที่ ๓ แบบฝึกเสริมทักษะทางภาษา สว่ นที่ ๒
กจิ กรรมที่ ๑ – ๒ ....................................................................................
บรรณานกุ รม.......................................................................................................

๑

คำชีแ้ จงการใชส้ ำหรับนกั เรียน

แบบฝึกเสริมทักษะทางภาษาเล่มน้ี ใช้ควบคู่การเรียนด้วยโปรแกรมบทเรียน
คอมพิวเตอร์ มคี ำชี้แจงการใชส้ ำหรับนักเรียนดังน้ี

๑. อ่านเน้ือหาบทเรียนในแบบฝึกเสริมทักษะทางภาษามาล่วงหน้าก่อนเรียนทุก
คร้งั

๒. เรียนรู้เน้ือหาและทำแบบฝึกเสริมทักษะจากโปรแกรมบทเรียนคอมพิวเตอร์
ใหค้ รบถว้ นดว้ ยความตงั้ ใจในชัว่ โมงเรียน

๓. บันทึกคะแนนที่ได้จากการเรียนด้วยโปรแกรมบทเรียนคอมพิวเตอร์
ลงในตารางบนั ทึกคะแนน (เอกสารภาระงานในการเรยี นรู)้ และนำสง่ ครู

๔. ครูพิจารณาพฤติกรรมการเรียน คะแนนที่ได้จากการเรียนของนักเรียน
แล้วมอบหมายให้นักเรียนทำกิจกรรมเพิ่มเติมในแบบฝึกเสริมทักษะทางภาษา โดยนักเรียน
บางคนอาจจะทำเฉพาะแบบฝึกเสริมทักษะ ส่วนที่ ๒ ในขณะที่นักเรียนบางคนอาจต้องทำ
ทบทวนแบบฝึกเสรมิ ทักษะ สว่ นท่ี ๑ ด้วย

๕. นักเรียนทำแบบฝึกเสริมทักษะทางภาษาท่ีได้รับมอบหมายด้วยความตั้งใจ
๖. หม่ันฝึกฝนเรียนรู้เพ่ิมเติมจากแหล่งเรียนรู้อื่น ๆ เพ่ือพัฒนาทักษะทางภาษาให้
ก้าวหน้าต่อไป

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

หลงั จากจบบทเรียนแลว้ นักเรียนควรมคี วามร้คู วามสามารถดังนี้

๑. บอกความหมายคำภาษาตา่ งประเทศท่ีใชใ้ นภาษาไทยได้ (K)
๒. จำแนกคำภาษาต่างประเทศจากข้อความท่ีอ่านได้ (P)
๓. เขยี นคำภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทยได้ถูกต้อง (P)
๔. เหน็ คณุ ค่าของคำภาษาตา่ งประเทศท่ีใช้ในภาษาไทย

และนำไปใชไ้ ด้ถกู ตอ้ ง (A)

๓

คำชแี้ จง แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน
เรอื่ งที่ ๙ คำภาษาตา่ งประเทศทใี่ ช้ในภาษาไทย

๑. แบบทดสอบมีทั้งหมด ๑๕ ขอ้
๒. เลอื กคำตอบท่ถี ูกต้องท่ีสดุ เพียงคำตอบเดยี ว

แลว้ ทำเครื่องหมาย  ลงในกระดาษคำตอบ

๑. จากภาพหมายถงึ ขอ้ ใด
ก. โสร่ง
ข. สุจหน่ี
ค. กำปนั่
ง. ปัน้ เหน่ง

๒. ขอ้ ใดจับคคู่ ำและความหมายไม่ถูกต้อง
ก. แคปซูล - ยารกั ษาโรค
ข. ไซเรน - เคร่อื งสง่ สญั ญาณเตอื นภยั
ค. ไซโล - ส่งิ ก่อสรา้ งขนาดใหญ่ สำหรับเกบ็ รกั ษาสินคา้
ง. เลนส์ - วตั ถุโปร่งใสซงึ่ มีพน้ื หน้าเป็นผวิ นูนหรือเว้า มักทำดว้ ยแกว้

๓. ข้อใดจับค่คู ำและความหมายไม่ถกู ตอ้ ง
ก. บหุ รง - นก
ข. บุหงนั - ดอกไม้
ค. บหุ งา - ดวงอาทติ ย์
ง. บุหลัน - ดวงจนั ทร์

๔

๔. ข้อใดไม่มคี ำท่มี าจากภาษาตา่ งประเทศ
ก. นอ้ งเลน่ ขิมได้ไพเราะมาก
ข. ลูกเรือตังเกตอ้ งทำงานหนกั
ค. การออกกำลังกายช่วยให้แข็งแรง
ง. ผกั กวางตงุ้ ราคาไม่แพง มีคณุ ค่าทางอาหารสูง

๕. คำทข่ี ดี เส้นใตใ้ นข้อใดเปน็ คำทมี่ าจากภาษาจนี
ก. ฉันช่วยแมข่ นของขน้ึ ซาเล้ง
ข. พ่ใี หบ้ ตั รดูคอนเสริ ์ตแกเ่ พอ่ื น
ค. นักวิจัยพัฒนาเซร่มุ รักษาโรคพิษสุนัขบา้
ง. แม่พาน้องไปหยอดวคั ซีนป้องกันโรคโปลิโอ

๖. ข้อความทกี่ ำหนดให้ มีคำทีม่ าจากภาษาตา่ งประเทศกีค่ ำ
“หา้ งเปิดใหม่ สง่ แค็ตตาล็อกมาให้ลกู คา้ มีท้ัง เส้อื ผ้า เต็นท์ เครอื่ งใช้
โต๊ะ ไมโครเวฟ ฯลฯ”
ก. ๔ คำ
ข. ๕ คำ
ค. ๖ คำ
ง. ๗ คำ

๗. ขอ้ ความตอ่ ไปนี้มีคำจากภาษาญีป่ ุน่ ภาษาจนี และภาษาอังกฤษ อยา่ งละก่คี ำ
“ฉันชอบกินพิซซา เกี๊ยวกงุ้ เทมปรุ ะ ส่วนน้องชอบโอเลีย้ ง เคก้ และซชู ิ”
ก. ภาษาญีป่ นุ่ ๒ คำ ภาษาจนี ๒ คำ ภาษาองั กฤษ ๑ คำ
ข. ภาษาญ่ีปุ่น ๓ คำ ภาษาจีน ๓ คำ ภาษาองั กฤษ ๓ คำ
ค. ภาษาญป่ี ุน่ ๒ คำ ภาษาจีน ๒ คำ ภาษาองั กฤษ ๒ คำ
ง. ภาษาญ่ีปุ่น ๓ คำ ภาษาจีน ๒ คำ ภาษาองั กฤษ ๒ คำ

๕

๘. ขอ้ ใดมีคำภาษาต่างประเทศมากที่สุด
ก. คุณพ่อซอ้ื บะหม่ี เกย๊ี ว กวยจั๊บ
ข. นอ้ งซือ้ ปลก๊ั ฟิล์ม และฟวิ ส์ที่ห้าง
ค. ปรีดาชวนเพ่ือนไปเชยี รก์ อล์ฟ และเทนนิส
ง. ในถว้ ยไอศกรีมมีทั้งเค้กและคกุ กป้ี นกนั อยู่

๙. “____ ____ เป็นกีฬาประเภททีม” จากภาพเขยี นอยา่ งไร
ก. บาสเกต็ บอล – วอลเล่ยบ์ อล
ข. บาสเกตบอล – วอลเลยบ์ อล
ค. บาสเกต็ บอล – วอลเล่ยบ์ อล
ง. บาสเกตบอล – วอลเล่ยบ์ อล

๑๐. ข้อใดใช้คำได้ถกู ตอ้ งเหมาะสม
ก. เธอกนิ ยาพาราแก้ปวดศรี ษะ
ข. เขาใชไ้ มค์เป็นอปุ กรณ์ในการกระจายเสยี ง
ค. คุณพ่อติดตอ่ แบงคเ์ พอ่ื กู้เงินมาขยายกิจการ
ง. น้องชอบรบั ประทานช็อกโกแลต

๑๑. ข้อใดใช้คำไดถ้ ูกต้องเหมาะสม
ก. รถแทก็ ซคี่ ันน้เี กยี ร์ออโต
ข. ผู้เข้าประชุมเขา้ พกั โฮเตล็ ท่ที างเจา้ ภาพจัดไว้
ค. พอ่ ค้าขนึ้ ราคาลอตเตอร่ีทวี่ างจำหนา่ ยแกล่ กู คา้
ง. ลิปสติกเป็นเครือ่ งสำอางท่ีขาดไม่ได้เม่ือแตง่ หนา้

๖

๑๒. ขอ้ ใดใช้คำได้ถกู ตอ้ งเหมาะสม
ก. คณุ แมป่ ิดแอร์เพ่ือประหยดั ไฟ
ข. เพือ่ นของฉนั เลน่ กีตาร์ได้เก่งมาก
ค. ชาวสวนใช้รถปิคอัพบรรทกุ สินคา้
ง. หล่อนเปน็ คนสุรยุ่ สรุ ่าย ชอบใชส้ นิ ค้าแบรนดด์ งั

๑๓. ขอ้ ใดไม่ควรใช้คำต่างประเทศ
ก. พ่อชอบเล่นกอล์ฟกบั เพ่อื น ๆ
ข. เจ้าของอซู่ ่อมเบรกรถใหก้ ับลูกคา้
ค. พนักงานเช็กขอ้ มลู ลกู ค้าจากบตั ร
ง. ผักและผลไม้ให้วติ ามนิ ทจี่ ำเป็นแก่ร่างกาย

๑๔. ขอ้ ใดจำเป็นต้องใช้คำทบั ศพั ท์ภาษาอังกฤษ
ก. ทหารส่งเสบียงทางเฮลคิ อปเตอร์
ข. คุณครูเปิดเทปให้นกั เรยี นฟงั ดนตรี
ค. เขาจา้ งมอเตอรไ์ ซด์ให้มาส่งท่บี า้ น
ง. เลขานกุ ารสง่ แฟกซเ์ พอ่ื แจ้งขา่ วการประชุม

๑๕. การใช้คำท่มี าจากภาษาต่างประเทศดหี รือไม่ อยา่ งไร
ก. ดี เพราะ ทำใหม้ ีคำใช้อย่างหลากหลายมากขนึ้
ข. ดี เพราะ ทำให้รู้และเขา้ ใจภาษาตา่ งประเทศ
ค. ไม่ดี เพราะ คนไทยก็ควรใช้แต่ภาษาไทย
ง. ขอ้ ก และ ข้อ ข ถกู ต้อง

๗

ตอนที่ ๑ เนอ้ื หาสาระ

ความสำคัญของคำภาษาตา่ งประเทศทใ่ี ช้ในภาษาไทย

ภาษาเป็นเคร่ืองมือที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร ดังน้ันเม่ือแต่ละชาติมี
การติดต่อสัมพันธ์กัน จึงมีการแลกเปล่ียนภาษา หยิบยืมภาษาของชาติอ่ืน
มาใช้ ภาษาไทยก็เช่นเดียวกัน ปัจจุบันพบว่ามีคำจากภาษาต่างประเทศเข้ามา
ปะปนอยู่มากมาย ทำให้มีคำใช้มากขึ้น สามารถสร้างสรรค์คำมาใช้อย่าง
หลากหลาย ทำให้มีคำศัพท์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นตามมา ดังน้ันนักเรียน
จึงจำเป็นจะต้องเรียนรู้ ทำความรู้จักคำดังกล่าวให้เข้าใจ จึงจะสามารถ
เลือกใชค้ ำเพ่อื การสอ่ื สารได้ถูกตอ้ งและมปี ระสทิ ธภิ าพสูงสดุ

๘

สาเหตุการนาคาภาษาตา่ งประเทศเข้าใช้

การนำคำจากภาษาตา่ งประเทศเข้ามาใช้ในภาษาไทย มสี าเหตหุ ลายประการ
สรปุ ไดด้ งั นี้

๑. ดา้ นอาณาเขต

ประเทศไทยมอี าณาเขตตดิ ต่อหรือใกล้เคียงกบั ประเทศตา่ ง ๆ หลายประเทศ
จึงทำใหค้ นไทยท่อี ยูอ่ าศยั บรเิ วณชายแดนมคี วามเก่ียวพันกับชนชาติต่าง ๆ ทำใหภ้ าษา
ของประเทศเหลา่ น้นั เขา้ มาปะปนอยู่ในภาษาไทย

๒. ดา้ นประวตั ศิ าสตร์

ชนชาติไทยเป็นชนชาติที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีการอพยพโยกย้าย
ของคนไทยเข้ามาอยู่ในถ่ินซ่ึงชนชาติอื่นเคยอาศัยอยู่มาก่อน หรือมีการทำศึกสงครามกับ
ชนชาติอ่ืน มีการกวาดต้อนชนชาติอื่นเข้ามาเป็นเชลยศึก หรือชนชาติอื่นอพยพ
เข้ามาอยู่ในแผ่นดินไทย ด้วยเหตุผลต่าง ๆ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้มีคำที่มาจากภาษา
ต่างประเทศเขา้ มาปะปนอยใู่ นภาษาไทย

๓. ดา้ นการคา้

ชนชาติไทยมีการติดต่อค้าขาย แลกเปลี่ยนสินค้ากับชนชาติต่าง ๆ มาเป็น
เวลานาน มีการใช้ภาษาต่างประเทศในวงการธุรกิจการค้ามากขึ้น คำภาษาต่างประเทศ
จึงมโี อกาสเขา้ มาปะปนอยใู่ นภาษาไทย

๙

สาเหตกุ ารนาคาภาษาตา่ งประเทศเขา้ ใช้

๔. ดา้ นศาสนา

คนไทยมีเสรีภาพในการนับถือศาสนา เม่ือยอมรับนับถือศาสนาใด ก็ย่อม
ไดร้ ับถอ้ ยคำ ภาษาท่ีใช้ในคำสอน หรอื คำเรียกชื่อตา่ ง ๆ ของศาสนานน้ั ๆ มาปะปนอยู่ใน
ภาษาไทยด้วย จงึ ทำใหค้ ำภาษาต่างประเทศเขา้ มาปะปนในภาษาไทย

๕. ด้านวัฒนธรรม

เมื่อชนชาติต่าง ๆ เข้ามาสัมพันธ์ติดต่อกับชนชาติไทย หรือเข้ามาตั้งหลัก
แหลง่ อย่ใู นประเทศไทย ย่อมนำเอาวฒั นธรรมและประเพณีท่ีเคยยึดถอื ปฏบิ ัติอยูใ่ นสังคม
เดิมของตนมาประพฤติปฏิบัติในสังคมไทย นาน ๆ เข้าถ้อยคำภาษาที่เกี่ยวข้องกับ
วฒั นธรรมและประเพณีเหล่าน้นั กก็ ลายมาเปน็ ถ้อยคำภาษาที่เก่ียวข้องกับชีวิตประจำวัน
ของคนไทย

๑๐

คาทม่ี าจากภาษาจีน

อาหาร

ท่ี คำ ความหมาย
๑. แฮก่ ๊นึ อาหารจีนชนดิ หน่ึง ใช้เน้ือก้งุ ผสมแปง้ มนั และเคร่อื งปรุงรส บด
๒. ฮอ่ ยจอ๊ หรอื โขลกจนเหนียว แลว้ ห่อดว้ ยฟองเต้าหูเ้ ป็นทอ่ นกลม ๆ
๓. เป๋าฮอื้ อาหารจนี ทีใ่ ช้เนื้อปู มันหมแู ข็งตม้ สุก ผสมกับแป้งและ
๔. เปย๊ี ะ เคร่ืองปรงุ รส บดหรอื โขลกจนเหนียวแลว้ ห่อดว้ ยฟองเต้าหู้
๕. จบั เลยี้ ง หอยทะเลชนดิ หนง่ึ เกาะอยูต่ ามโขดหนิ ในทะเลเนอ้ื กนิ ได้
๖. ซอี วิ้ เปลือกทำเป็นเคร่อื งประดับและของใช้
๗. ซาลาเปา ขนมทรงกลม แบน แป้งหุ้มไสเ้ ค็มไส้หวาน สว่ นใหญ่มสี ีขาว
๘. เฉาก๊วย บนหน้ามีตราสแี ดงประทบั เต็มหนา้
๙. โจ๊ก เปน็ เครอ่ื งด่มื สมนุ ไพรที่มสี ว่ นผสมทัง้ สมนุ ไพรไทยและจนี
๑๐. เจ ดืม่ เพ่ือบรรเทาอาการรอ้ นใน
๑๑. จับฉ่าย เครื่องปรุงรสอย่างนำ้ ปลา ทำดว้ ยถัว่ เหลือง มที ัง้ ซอี วิ๊ ขาว ซอี ๊วิ
ดำ ซอี ิ๊วหวาน
ขนมชนิดหน่ึงของจีน ทำด้วยแป้งสาลีป้ันเป็นลกู กลม
ข้างในใส่ไส้มที ้ังไส้หวานและไสเ้ คม็
ขนมชนิดหนึง่ มสี ีดำ ทำจากเมือกที่ได้จากการตม้ เค่ียวต้น
เฉาก๊วย ใสแ่ ปง้ ลงไปผสมท้ิงไวใ้ หเ้ ย็น กนิ กับน้ำหวาน
ขา้ วต้มชนดิ หนึ่งที่ใชป้ ลายขา้ วตม้ จนเละ
อาหารท่ีปรุงขนึ้ มาจากพชื ผกั ธรรมชาติล้วน ๆ ไม่มเี นอ้ื สตั ว์ปน
และทีส่ ำคัญต้องไมป่ รงุ ดว้ ยผักฉนุ ด้วย
อาหารอย่างจนี ชนิดหน่งึ ทใี่ ส่ผกั หลาย ๆ อย่าง

๑๑

คาทม่ี าจากภาษาจนี

ท่ี คำ ความหมาย

๑๒. เกีย๊ ว ของกนิ ชนิดหนึ่งใชแ้ ผ่นแปง้ สาลี ตดั เปน็ สีเหลี่ยมเล็ก ๆ

หอ่ หมสู บั เป็นต้น

๑๓. เกาเหลา แกงมลี ักษณะอย่างแกงจดื หรือ เป็นชอ่ื เรียกอาหารชนดิ หนง่ึ

ประเภทก๋วยเตยี๋ ว แตไ่ ม่ใสเ่ สน้ ก๋วยเตี๋ยว

๑๔. กว๋ ยเตี๋ยว ของกนิ ชนิดหนึ่ง ทำดว้ ยแปง้ ข้าวเจ้า เปน็ เสน้ ๆ ลวกสุก

แลว้ ปรุงดว้ ยเครอื่ ง มีหมูเป็นต้น

๑๕. กวยจบ๊ั ของกินชนดิ หนึง่ ทำด้วยแปง้ ทใ่ี ช้ทำเสน้ ก๋วยเต๋ยี ว

แต่ห่นั เป็นช้นิ ใหญ่ ๆ ตม้ สุกแลว้ ปรงุ ดว้ ยเครื่องมหี มเู ป็นตน้

๑๖. บะจา่ ง ของกนิ ทท่ี ำจากขา้ วเหนียวใสไ่ สห้ มู กงุ้ แห้ง ไข่แดง ของไขเ่ คม็

เหด็ ถวั่ ลิสง หอ่ ดว้ ยใบไมไ้ ผเ่ ปน็ รปู สามเหล่ยี มแลว้ นำไปน่งึ

๑๗. บะกดุ เต๋ หมตู ุน๋ เครอ่ื งยาจนี รับประทานกับข้าว

๑๘. ติมซำ,ตมิ่ ซำ ของกนิ ชนิดหน่งึ ใช้วิธกี ารน่ึงเปน็ หลัก เป็นของว่างหรอื ของกนิ

กอ่ นจานหลกั เชน่ ขนมจีบ ซาลาเปา

๑๙. โอยัวะ กาแฟดำร้อน

๒๐. เต้าฮวย ของหวานชนิดหนึ่ง ทำดว้ ยนำ้ ถ่วั เหลืองท่มี ีลกั ษณะแขง็ ตัว ปรุง

ด้วยนำ้ ขงิ ต้มกบั น้ำตาล

๒๑. โอเลี้ยง กาแฟดำเย็น ท่ีมีส่วนผสมของน้ำเชือ่ มมากกว่ากาแฟ

๑๒

คาทมี่ าจากภาษาจีน

ที่ คำ ความหมาย
๒๒. เยน็ ตาโฟ อาหารอย่างหนง่ึ คล้ายกว๋ ยเตยี๋ ว แตใ่ สผ่ ักบุง้ ปลาหมึก เตา้ หู้
เลือดหมู ลูกชิ้นปลา แมงกะพรนุ และนำ้ เตา้ หูย้ ้หี รือซอส
๒๓. เปาะเปยี๊ ะ อาหารชนิดหนง่ึ ทำโดยการนำแป้งสาลีมาทำให้สกุ เปน็
แผ่นกลม เรยี กว่า แผน่ เปาะเป๊ียะ แล้วห่อถั่วงอกลวก
๒๔. แป๊ะซะ อาหารชนิดหน่ึง ใช้ปลานึ่งจิม้ น้ำส้มกินกับผกั
๒๕. บะหมี่ อาหารชนิดหนึง่ ทำด้วยแป้งสาลี เปน็ เสน้ เลก็ ๆ มีสีเหลอื ง
ลวกสกุ แล้วปรุงด้วยเคร่อื ง มีหมู เปน็ ต้น
๒๖. เตา้ หยู้ ี้ อาหารเคม็ ของจนี ทำด้วยเตา้ หขู้ าวหมกั
๒๗. เต้าหู้ ถั่วเหลอื งท่ีโม่เปน็ แป้งแลว้ ทำเป็นแผ่น ๆ ใช้เป็นอาหาร
มี ๒ ชนิด คือ เตา้ หูข้ าว และเตา้ หเู้ หลอื ง
๒๘. เตา้ ส่วน ของหวานชนดิ หนึ่ง ทำดว้ ยแป้งเปียกกวนกบั ถัว่ เขยี ว
ทีเ่ อาเปลอื กออกแลว้ ราดน้ำกะทิ
๒๙. เตา้ ทึง ของหวานชนดิ หนึ่ง มีถ่ัวแดงกบั ลูกเดือยตม้ แป้งกรอบ
ลูกพลบั แหง้ เปน็ ต้น ใสน่ ำ้ ตาลตม้ ร้อน ๆ
๓๐. เต้าเจี้ยว ถวั่ เหลืองทีห่ มกั เกลือสำหรับปรงุ อาหาร

๑๓

คาทม่ี าจากภาษาจนี

ของใชแ้ ละอน่ื ๆ

ที่ คำ ความหมาย
๑. อง่ั เปา เปน็ ของขวญั ท่ีมกี ารใหแ้ ละรับในวฒั นธรรมจีน ภาษาจนี
หมายถึง ซองสีแดงทม่ี อบใหโ้ ดยมีเงินบรรจอุ ยดู่ า้ นใน
๒. จบั กงั ผ้ทู ่สี ามารถทำงานได้หลายอย่าง แต่มักเน้นงานท่ตี อ้ งใช้
กำลังกาย หรืองานช่าง
๓. กิมจ๊อ ของกินเล่น มกั ทำเปน็ เม็ดเล็ก ๆ เหมอื นยาอม หรือ
เป็นแผ่นบางเล็ก ๆ รสเปรี้ยว เค็ม หวาน ใช้อมช่มุ ปากชุ่มคอ
๔. เปก๊ หน่วยตวงเหล้า ปริมาณจอกเล็กทซ่ี ดทเี ดียวหมด
๕. ลกู เตา๋ ลูกเหลี่ยมมี ๖ หน้า แตล่ ะหน้าเป็นสี่เหลยี่ มจัตรุ สั
มแี ตม้ ใชใ้ นการเลน่ พนนั มีลกู เต๋า สกา และไฮโล เป็นตน้
๖. กยุ เฮง เส้อื แบบจีนชนิดหนงึ่ คอกลม ผ่าอกตลอดตดิ กระดุม
มกี ระเป๋าด้านล่างขา้ งละกระเปา๋
๗. เกา้ อ้ี ท่ีสำหรับน่ัง มขี าและพนกั พงิ มักยกย้ายไปมาไดม้ หี ลายชนดิ
ทั้งเกา้ อน้ี อน เก้าอ้โี ยก มีลักษณนามวา่ ตวั
๘. ตุน๋ การทำให้สกุ ด้วยวิธีเอาของใสภ่ าชนะวางในภาชนะที่มนี ้ำ แลว้
เอาฝาครอบ ตงั้ ไพใหน้ ำ้ เดอื ด เคย่ี วให้เป่อื ย
๙. ตวั๋ บตั รบางอย่างท่แี สดงสิทธขิ องผ้ใู ช้ เช่น ตั๋วรถ ตั๋วหนัง
๑๐. เซยี มซี ใบทำนายโชคชะตาตามศาลเจา้ หรอื วัด มเี ลขหมายเทยี บ
กับเลขหมายบนต้วิ ท่ีเส่ียงได้
๑๑. ตะหลิว เคร่อื งมอื ที่ใชแ้ ซะหรอื ตักของทที่ อดหรือผัดในกระทะ

๑๔

คาทม่ี าจากภาษาจีน

ท่ี คำ ความหมาย
๑๒. ปงุ้ กี๋ เครอ่ื งสานรปู คล้ายเปลอื กหอยแครง ใช้โกยดนิ
๑๓. โพย รายการหรือบัญชีของสิ่งตา่ ง ๆ เปน็ คำท่ีมาจากการเลน่ หวย
๑๔. โตะ๊ สงิ่ ทีท่ ำด้วยไม้ พ้ืนราบ เปน็ รปู ต่าง ๆ มีขา ใช้สำหรับ
เป็นทเี่ ขียนหนังสอื ต้งั เคร่ืองบชู า หรอื วางส่ิงของต่าง ๆ
๑๕. เกยี๊ ะ เกือกไมแ้ บบจีน
๑๖. เกง๋ เรอื นตึกมรี ูปหลงั คาแบบศาลเจา้ จีน
๑๗. กังฟู ศลิ ปะการตอ่ ส้แู บบมือเปล่าแบบมวยจีน
๑๘. ไทเก็ก การบรหิ ารแบบจีน ท่ีชา้ นุม่ นวล กำหนดลมหายใจกลมกลืนกับ
การเคลื่อนไหว เป็นการบริหารทไ่ี มท่ ำใหเ้ หนอื่ ย
๑๙. กอเอยี๊ ะ ยาแผนโบราณใชภ้ ายนอก ตัวยาเหนียว สดี ำกอ้ นแบนกลมเลก็
ๆ พอเหมาะวางบนกระดาษ ใช้ปิดแผลพุพอง หรือฝี
๒๐. แซยดิ การทำกจิ การในวันคล้ายวันเกดิ สำหรับคนไทย
จะเปน็ การทำบุญเม่อื อายุ ๖๐ ปี บริบรู ณ์
๒๑. โพย รายการหรือบัญชขี องสงิ่ ต่าง ๆ เปน็ คำมาจากการเลน่ หวย
๒๒. ก๊ก พวก, หม่,ู เหล่า, โดยปรกติมักใช้เข้าคูก่ นั ว่า เปน็ ก๊กเปน็ พวก
เป็นก๊กเปน็ หมู่ เปน็ ก๊กเปน็ เหลา่
๒๓. กงเต๊ก การทำบญุ ให้แก่ผู้ตายตามพิธีของนกั บวชนกิ ายจนี มีการสวด
และเผากระดาษทีท่ ำเปน็ รูปต่าง ๆ เช่น บา้ นเรอื น คนใช้
๒๔. ห้าง สถานท่ีจำหน่ายสนิ ค้า, สถานทป่ี ระกอบธุรกจิ
๒๕. ฮวงซุย้ ทฝี่ งั ศพของชาวจีน
๒๖. ตังเก เรือต่อชนิดหนึง่ ใชจ้ บั ปลาตามชายฝ่ังทะเล เรือมี ๒ ช้นั
ช้ันลา่ งเปน็ ทต่ี ิดตง้ั เครือ่ งยนต์ ชนั้ บนเปน็ ทีส่ ำหรับผคู้ วบคุม

๑๕

คาทม่ี าจากภาษาจนี

ท่ี คำ ความหมาย
๒๗. อัง้ โล่ เตาไฟดินเผาชนดิ หนง่ึ ของจีน ยกไปไหนมาไหนได้
๒๘. งิว้ ละครจนี แบบโบราณ
๒๙. เขง่ ภาชนะสานขนาดต่าง ๆ หรือชื่อขนมอย่างหนงึ่ ทำดว้ ยแป้งข้าว
เหนยี วกบั น้ำตาล ใส่กระทง น่งึ ให้สกุ เรียกว่าขนมเข่ง
๓๐. แป๊ะเจ๊ียะ การจา่ ยเงินนอกระบบหรือเรียกอกี อย่าง คือ เงนิ กินเปลา่

๑๖

คาทมี่ าจากภาษาจีน

ผักและผลไม้

ท่ี คำ ความหมาย
๑. แปะกว้ ย ไมย้ ืนตน้ เมลด็ รปู รี ห้วยท้ายแหลม เปลอื กแข็งมาก ไส้ในเมล็ดสี
เหลืองกนิ ได้ เชือ่ ว่ามสี ารในใบแปะก้วยช่วยบำรงุ สมอง
๒. คะน้า ผกั ใบเขยี วชนิดหน่ึง มีสารอาหารมากมายท่จี ำเป็นต่อร่างกาย
นยิ มปลกู เพื่อรับประทานเป็นอาหาร
๓. เก้ยี มไฉ่ ผักกาดดองเคม็ อมเปร้ียว
๔. ตงั โอ๋ พืชกนิ ใบ เป็นพนั ธุ์ไม้ลม้ ลุก ให้ความร้อนแกร่ ่างกาย เรียกอกี
อย่างว่า งาไซ แตร่ ู้จกั กันในนามตงั โอม๋ ากกว่า
๕. ขน้ึ ฉ่าย ไมล้ ้มลกุ ชนดิ หนึ่ง ใบคล้ายผักชแี ตโ่ ตกว่า กล่ินฉนุ เปน็ พรรณไม้
ท่ีนำเข้ามาปลูกเพอ่ื เป็นอาหาร
๖. หนำเลยี้ บ ผลของไม้ตน้ ชนิดหนึง่ ผลสุกมสี มี ว่ งดำ นำมาดองเค็มใชเ้ ปน็
อาหาร
๗. ทอ้ ไมผ้ ลทีช่ อบอากาศหนาวเย็น เปน็ ไมพ้ มุ่ ผลัดใบ มีทั้งพนั ธ์ุ
พ้นื เมอื ง ซึ่งมีผลขนาดเล็กและเปรยี้ วกวา่ พนั ธต์ุ ่างประเทศ
๘. ไชเท้า ผกั สวนครวั ทีเ่ ราเอามาทำอาหารได้ทง้ั ดิบและสกุ โดยนำมาปรงุ
เปน็ แกงจดื แกงสม้ และทำเปน็ ผกั ดองหรอื ผักเค็ม
๙. โป๊ยเซยี น ไม้พมุ่ ชนิดหนึง่ ตน้ เป็นเหลย่ี มมหี นามแหลมรอบตน้ มยี าง
สขี าว ดอกมีหลายสี เช่น สีแดง ชมพู ออกดอกเปน็ กระจกุ
๑๐. ปวยเล้ง ไม้ลม้ ลกุ ชนิดหนึง่ ใบเป็นกระจกุ แผน่ ใบรูปไข่ หรอื รปู หัวลกู ศร
โคนใบเป็นพูกลม สีเขยี วแก่หรอื เขยี วอ่อน

๑๗

คาทม่ี าจากภาษาจีน

ที่ คำ ความหมาย
๑๑. บ๊วย ไมต้ ้นชนิดหนึ่ง ผลกลม แบน มขี น ผลสกุ สีเหลือง
๑๒. กยุ ช่าย รสเปรี้ยวจดั และขม ดองเกลอื แลว้ กนิ ได้
๑๓. เกก๊ ฮวย ไม้ล้มลุกชนดิ หนงึ่ คล้ายตน้ หอมหรอื กระเทยี ม
ใบแบนกลิ่นฉนุ กินได้ นำเขา้ มาปลูกเพ่อื เป็นอาหาร
๑๔. กวางต้งุ ไมล้ ้มลุก ๒ ชนิดหน่ึง ดอกเลก็ สีเหลอื ง
๑๕. สาลี่ กล่นิ หอม ใช้ดอกตากแห้งชงกบั ใบชา หรอื ต้มกบั นำ้ ตาลใชด้ ืม่ แก้
กระหาย
ผกั เขียวชนิดหน่ึง พบเหน็ บอ่ ยในบะหม่หี มูแดง มีดอกสเี หลอื ง
สดสวย แถมดอกกวางต้งุ ยงั รบั ประทานได้อกี ด้วย
ชนิดหน่ึงผลเนอ้ื กรอบ รสหวานอมเปรย้ี วเลก็ นอ้ ย กลิ่นหอม

๑๘

คาทม่ี าจากภาษามลายู

คำท่วั ไป

ที่ คำ ความหมาย

๑. กะลาสี ลกู เรอื หรือสมาชิกทม่ี หี นา้ ท่ใี นเรอื เดนิ สมทุ ร หรอื เรือขนาดใหญ่

ตามลำนำ้ ตงั้ แตผ่ บู้ งั คับเรือ จนถึงเจา้ หน้าทร่ี ะดบั ลา่ งสดุ

๒. สะเต๊ะ เป็นอาหารอย่างหนง่ึ ซง่ึ ทำจากเนอ้ื ทีห่ ัน่ บาง ๆ หรือห่นั เป็นกอ้ น

อาจจะเป็นเน้ือหมู เน้อื ไก่ เน้อื ววั เนือ้ แกะ เนือ้ แพะ

๓. สลัด บุคคลทปี่ ลน้ หรอื โจรกรรมในทะเล หรอื บางครง้ั ตามชายฝ่ังหรือ

ท่าเรอื ต่าง ๆ

๔. เซปกั ตะกร้อ กีฬาชนิดหนึ่ง แบง่ ผเู้ ลน่ เป็น ๒ ทีม ทำการโต้ตะกร้อ

ข้ามตาขา่ ยเพ่ือให้ลงในแดนของค่ตู อ่ สู้

๕. กระจดู ไมล้ ้มลุกชนิดหน่งึ ลำตน้ กลม ภายในกลวง มีเยือ่ อ่อนหยนุ่

คัน่ เป็นข้อ ๆ ใชส้ านเสอ่ื หรือกระสอบ

๖. ปาเตะ๊ ผา้ โสรง่ ที่ลวดลายเตม็ ผนื และมีลกั ษณะเฉพาะตนเอง

เขียนลวดลายตามกรรมวธิ ีบาตกิ

๗. จบั ป้ิง เคร่ืองปดิ ของลับของเดก็ หญงิ ทำด้วยเงนิ ทองหรอื นาก

๘. กำปั่น เรือเดนิ ทะเลขนาดใหญ่ รูปร่างหัวเรอื เรียวแหลมท้ายเรือมน

มีเสากระโดง ๓ เสา มใี บ เรียกวา่ กำปนั่ ใบ

๙. สุจหนี่ เครอ่ื งปลู าดมีลกั ษณะเปน็ รูปส่ีเหล่ียมผนื ผา้ ทำด้วยผา้ เยียรบับ

ไหมทอง สำหรบั พระมหากษตั รยิ ห์ รือพระราชวงศ์

๑๐. โสร่ง ผ้าน่งุ ชนดิ หนงึ่ มลี วดลายตา่ ง ๆ เวลานุง่ จะนงุ่ เป็นถุงยาว ป้าย

ด้านหน้า อยา่ งชาวชวาและชาวมลายูน่งุ

๑๙

คาทม่ี าจากภาษามลายู

คำทั่วไป

ที่ คำ ความหมาย
๑๑. กะละปงั หา สัตวท์ ะเลไมม่ ีกระดกู สันหลงั ตวั เลก็ มาก รูปร่างทรงกระบอก
หรอื รปู ถว้ ย สรา้ งเปลอื กโครงร่างแขง็ ห้มุ ลำตัว
๑๒. รองเง็ง ศลิ ปะการแสดงแบบหนงึ่ ของชาวไทยมุสลมิ ภาคใตเ้ ป็นการ
เตน้ รำคู่ ชายหญิง และร้องเพลงคลอไปด้วย
๑๓. สลาตัน เรยี กลมท่พี ดั จากทศิ ตะวนั ตกเฉยี งใตไ้ ปทางทศิ
ตะวนั ออกเฉยี งเหนือในปลายฤดูฝนวา่ ลมสลาตัน
๑๔. กะหร่ี แกงชนิดหนง่ึ มสี ีเหลือง ปรุงดว้ ยเคร่ืองแกงกะหรข่ี มน้ิ และ
เครอื่ งเทศอ่ืน ๆ
๑๕. กะลุมพี ปาลม์ ชนดิ หนึง่ ขนึ้ เป็นกอในปา่ พรุและทีช่ น้ื แฉะ
มแี ถบภาคใต้ ผลเปน็ ชอ่ ใหญ่และแนน่ ปลายผลผวิ สีเหลอื ง
เกลีย้ งเปน็ มัน

๒๐

คาทมี่ าจากภาษาชวา

ต้นไม,้ ดอกไม้

ที่ คำ ความหมาย

๑. จนิ ดาหนา ต้นจนั ทน์

๒. ตลงึ ต้นอัญชนั

๓. นนตรา ตน้ กระถิน

๔. มะลารอกนั มะลิซอ้ น

๕. กาลดั สายหยุด

๖. บหุ งารำไป ดอกไมท้ ่ปี รงุ ดว้ ยเครอื่ งหอมแลว้ บรรจุในถงุ ผ้าโปรง่ เลก็ ๆ

ทำเปน็ รูปร่างตา่ ง ๆ มกั เรียกยอ่ วา่ บุหงา

๗. บุหงัน ดอกไม้

๘. การะบุหนิง ดอกแก้ว

๙. บุษบามนิ ตรา ดอกพุทธรักษา

๑๐. วริ งรอง พลับพลงึ

๑๑. ปะหนนั ปาหนนั หมายถึง ดอกลำเจยี ก

๑๒. หุหนิงหงนั ดอกบานไม่รู้โรย

๑๓. มริ นั ตี ดอกดาวเรือง

๑๔. นวาระ กุหลาบ

๑๕. ตาราไต ดอกบัว

๒๑

คาทมี่ าจากภาษาชวา

คำท่ัวไป

ท่ี คำ ความหมาย
๑. ตุนาหงัน หมนั้ ไว้ (ก่อนแตง่ งาน)
๒. บุหลนั ดวงจันทร์
๓. บุหรง นก
๔. มะตาหะรี ดวงอาทิตย์
๕. ป้นั เหนง่ เขม็ ขัด
๖. ดาหงัน ทำสงคราม รบศกึ
๗. สะตาหมัน สวน
๘. ประไหมสุหรี ตำแหนง่ มเหสีที่ ๑
๙. อสัญแดหวา เทวดาต้นตระกูลของกษัตริย์ ๔ นคร
ในบทละครเรือ่ งอิเหนา
๑๐. กุหนงุ ภเู ขาสงู
๑๑. มะลำ, มะลา เวลาค่ำมือ, เวลากลางคนื
๑๒. ซ่าโบะ ผา้ คาดเอวของชวาโบราณ เป็นผ้าคาดของนกั รบพนั เอวได้
หลายรอบเพอ่ื ให้แน่น บางทเี ป็นท่ีกนั อาวธุ ไดด้ ้วย
๑๓. มยิ า โต๊ะวางของ
๑๔. มุสะ มุ้ง
๑๕. ดาลัด แกว้

๒๒

คาทม่ี าจากภาษาญีป่ ่ นุ

อาหาร เครอ่ื งดมื่

ท่ี คำ ความหมาย
๑. ซาชมิ ิ อาหารญป่ี ่นุ ท่ีนยิ มและมีชอื่ เสียง เปน็ อาหารจากทะเลสด ๆ นำ
๒. ยากิโซบะ เนอื้ มาแล่มาห่นั ให้เปน็ ชิ้นบาง ๆ จนไดเ้ ป็น ซาชิมิ
๓. ชาบชู าบู ยากิ คือ การป้งิ ย่าง หรือผดั โซบะ หมายถงึ อาหารประเภท
๔. เทมปรุ ะ เส้นก๋วยเตย๋ี ว หรอื บะหมี่ ยากิโซบะกค็ อื บะหม่ีญี่ปุ่นผัด
๕. ซชู ิ อาหารสุขภาพของญ่ปี นุ่ โดยใชเ้ น้อื ตา่ ง ๆ รับประทาน
๖. ยาคูลท์ กับนำ้ จ้มิ ประเภทเดยี วกับสุกีย้ าก้ี
๗. โดรายากิ อาหารชุบแปง้ ทอดแบบญ่ีปนุ่ มีเอกลกั ษณ์เฉพาะตวั
๘. อุด้ง ท้ังในเรื่องความบางฟูของตัวแปง้ และเทคนิคการทอด
๙. โมจิ ข้าวปน้ั มีหนา้ มสี ่วนผสมของนำ้ ส้มสายชู กินค่กู ับปลาเนือ้
หรอื ของคาวชนดิ ต่าง ๆ
เคร่ืองด่ืมคล้ายโยเกริ ์ตชนดิ หนงึ่ เกดิ จากกระบวนการหมักนม
พร่องมนั เนยกบั น้ำตาลและแบคทีเรยี แลคโตบาซลิ ลสั
ขนมหวานของญี่ปุ่น โดยลักษณะเปน็ แพนเค้กสองช้ินประกบ
กนั สอดไส้ถ่ัวแดงกวน บางครั้งจะเรียกว่า “แป้งทอด”
อาหารท่ีเปน็ ทีน่ ิยม ทำจากแปง้ สาลี ลกั ษณะเป็นเส้นหนายาว
มีสีขาว อดุ ้งนยิ มรบั ประทานทานรอ้ น ๆ ในน้ำซปุ ใส
แปง้ ที่ทำจากขา้ วเหนยี ว สามารถนำไปประยุกตใ์ ชใ้ นการทำ
ขนมไดห้ ลายชนิด รวมท้งั ขนมโมจิดว้ ย

๒๓

คาทม่ี าจากภาษาญป่ี ่ นุ

ที่ คำ ความหมาย
๑๐. โซบะ อาหารญ่ีปุ่นทท่ี ำจากแป้งบัควที มลี ักษณะเปน็ เสน้ ยาวสนี ำ้ ตาล
รบั ประทานทั้งแบบเยน็ จมุ่ กับซอสและแบบร้อน
๑๑. สุกยี้ ากี้ ในนำ้ ซปุ
๑๒. วาซาบิ อาหารทมี่ ีวัตถดุ บิ หลกั คือเน้อื ววั สไลด์ ผกั สด ของสดอ่ืน ๆ ต้ม
ในหม้อเหลก็ ก้นแบนลึก น้ำซปุ รสชาตคิ ่อนขา้ งเขม้ ข้น
๑๓. เบนโต เครือ่ งปรุงทที่ ำมาจากการบดลำต้นของพชื ชนิดหนง่ึ มีกล่ินฉุน
รู้สึกแสบจมูกในระยะสั้น ๆ ก่อนทร่ี สชาตจิ ะเปล่ยี นเป็นความ
๑๔. โชชู กลมกลอ่ ม
๑๕. มิโซะ อาหารป่นิ โตแบบญ่ีปุน่ คนไทยเรียกว่า เบนโตะ หมายถึง
อาหารทจ่ี ดั เตรียมใสก่ ลอ่ งเพอื่ สะดวกต่อการรบั ประทาน
นอกบา้ น
เหล้าชนิดหน่ึงทีก่ ลัน่ จากบารเ์ ลย์ มนั เทศ หรอื ข้าว ปกติมี
ปรมิ าณแอลกอฮอล์ประมาณรอ้ ยละ ๒๕ จึงแรงกว่าเหลา้ สาเก
อาหารที่หมกั จากข้าว ขา้ วบาร์เลย์ หรือถ่ัวเหลืองกับเกลอื
มลี กั ษณะนิม่ รสเคม็ กลิน่ คลา้ ยเนื้อ มีโปรตีนสงู มกั นำมา
ประกอบอาหาร

๒๔

คาทมี่ าจากภาษาญ่ีป่ นุ

กีฬา และอืน่ ๆ

ท่ี คำ ความหมาย
๑. ฮาราคีรี การปลดิ ชีพตวั เองด้วยการควา้ นท้องดว้ ยดาบส้ัน
๒. ยากูซา่ โดยตดั แผลเปน็ กากบาท ถอื เป็นการกระทำท่ีมเี กียรติ
๓. เกอิชา กล่มุ อาชญากรชาวญป่ี ุ่น ค้าขายผูห้ ญงิ มักมีรอยสักวจิ ิตร
๔. ไฮกุ พิสดารเตม็ หลงั
๕. คาราโอเกะ อาชีพหน่งึ ของสตรญี ี่ปุ่นในสมยั กอ่ น เป็นผ้ทู ี่ชำนาญทางศิลปะ
๖. ยโู ด ใหค้ วามบนั เทิงใจ เป็นผ้คู อยต้อนรับและปรนนิบัติแขก
๗. คาราเต้ บทกลอนญปี่ ุ่นทเี่ รียบงา่ ยและดงั้ เดมิ ไม่ยึดตดิ กบั แบบแผน ไม่มี
ขอ้ จำกัด ไหลเร่อื ยตามธรรมชาติ สั้น กระชับ ตรง
๘. ซโู ม ความบนั เทงิ ชนดิ หนงึ่ ท่ีอยใู่ นรูปแบบของเพลงทีไ่ ม่มเี สียงรอ้ ง
ของศลิ ปิน แต่มีเนื้อเพลงข้นึ มาแสดง
วชิ าการต่อสทู้ ม่ี ีใช้มือเปล่าเปน็ อาวุธ ทำลายจุดออ่ นของ
คู่ต่อสู้ ในประเทศไทยก็มกี ารเล่นกนั อยา่ งแพร่หลาย
ศิลปะการตอ่ สูท้ ีใ่ ชอ้ วัยวะตา่ ง ๆ ในร่างกาย เช่น กำปัน้ เท้า สัน
มอื นิว้ ศอก แต่เมือ่ ถกู ดัดแปลงเปน็ กฬี าแลว้ เหลือเพยี งมอื และ
เทา้
กฬี าประจำชาติญ่ปี ุ่น เป็นมรดกทางวฒั นธรรมท่ยี ิ่งใหญ่
ซงึ่ หล่อหลอมการต่อสู้ทม่ี ีหลักปรัชญาทางศาสนาและความ
ยุติธรรมรวมไว้

๒๕

คาทมี่ าจากภาษาญ่ปี ่ นุ

ท่ี คำ ความหมาย
๙. เคนโด้ ศลิ ปะการต่อส้ปู ้องกันตัว เคนโด้ มีความหมายว่า
“วิธีแห่งดาบ” เป็นวิชาท่ใี ชด้ าบไมไ้ ผ่ ในการฝกึ การต่อสู้ที่
๑๐. กิโมโน รวดเร็ว เดด็ ขาด และตอ่ เนื่อง
๑๑. เซน เปน็ ชดุ แต่งกายประจำชาตขิ องประเทศญ่ีปนุ่
นิกายหน่ึงในพระพุทธศาสนาฝา่ ยมหายาน เปน็ การปฏิบตั ิธรรม
๑๒. ซามูไร เพื่อใหบ้ รรลุความร้แู จง้ อย่างฉบั พลัน โดยการทำสมาธแิ ละใช้
ปัญญา
๑๓. สึนามิ ทหารประเภทหนึง่ ทีเ่ ป็นที่ร้จู กั กนั ดใี นยคุ กอ่ น คำว่า “ซามูไร”
๑๔. ซากรุ ะ ความหมายว่า “รับใช”้ ฉะนั้น ซามไู ร ก็คือผู้รับใชแ้ ก่เจ้านาย ขา้
แผน่ ดนิ
๑๕. ชนิ โต กลุ่มคลื่นท่ีมีจุดกำเนดิ อยู่ในเขตทะเลลึก เกิดหลังแผน่ ดนิ ไหวใต้
ทะเล ทำใหเ้ กิดการสญู เสียทั้งชีวติ และทรพั ยส์ ินได้
ดอกไม้ประจำชาตขิ องญ่ีปนุ่ ลกั ษณะเดน่ คอื เม่ือร่วงจะรว่ ง
พร้อมกันหมด ซากุระจึงเปน็ เอกลกั ษณข์ องเลอื ดทหารและ
ซามูไรญีป่ ่นุ
ลทั ธิตามความเชอื่ เดมิ ของชาวญป่ี ุ่น คำว่า ชนิ โต หมายถงึ
ศาสตรแ์ ห่งเทพเจา้ หรือวิธแี ห่งเทพเจ้า

๒๖

คาทมี่ าจากภาษาอังกฤษ

กฬี า และอืน่ ๆ

ท่ี คำ ความหมาย

๑. สกี กฬี า ที่ใช้ไม้สองอนั ชว่ ยยนั เท้าทง้ั สองข้างใหเ้ ลื่อนไปตามทีล่ าด

ชันทมี่ หี ิมะปกคลุม

๒. สนุกเกอร์ กฬี าในร่ม แขง่ คร้ังละสองคน เล่นบนโตะ๊ สเ่ี หลย่ี มผืนผ้าปู

กำมะหยสี่ เี ขยี ว ใชไ้ ม้ควิ แทงลกู

๓. โบวล์ งิ กีฬาในร่ม เลน่ โดยการโยนลูกกลมไปตามรางเพอื่ กระทบพนิ

ที่ปลายทาง

๔. เบสบอล กฬี ายอดนิยมของอเมรกิ ัน แข่งขนั กนั สองทมี

เล่นโดยการตลี ูกบอลด้วยไมก้ ลมยาว

๕. ยิมนาสติก กีฬาชนดิ หนงึ่ แข่งขันกนั โดยผเู้ ลน่ ต้องแสดงทา่ ตา่ ง ๆ

ที่มีท้ังท่าบังคับและทา่ สมคั ร ให้เขา้ กับอปุ กรณแ์ ตล่ ะอยา่ ง

๖. กอล์ฟ กีฬาชนิดหนง่ึ ใช้ไม้ตลี กู กลมผา่ นพน้ื ที่ขวางกน้ั ที่เตรียมไว้

ใหไ้ ปลงหลมุ ทกี่ ำหนด

๗. บาสเกตบอล กีฬาชนิดหนง่ึ แบง่ เปน็ ๒ ฝ่าย ฝ่ายละ ๕ คน ผู้เล่นแตล่ ะฝา่ ย

ต้องพยายามโยนลกู บอลลงในห่วงตาข่ายฝ่ายตรงข้าม

๘. แบดมินตนั กฬี าชนดิ หน่งึ ผู้เล่นใช้แร็กเกต็ ตลี กู ขนไก่ข้ามตาขา่ ย

โตก้ ันไปมา

๙. ปิงปอง กฬี าทม่ี ีทั้งประเภทเดย่ี วและคู่ ทีผ่ ู้เล่นใช้ไม้แบนตีลูกปงิ ปอง

ข้ามตาข่ายทขี่ งึ อย่บู นโตะ๊ ส่ีเหล่ียมโตก้ นั ไปมา

๒๗

คาทมี่ าจากภาษาอังกฤษ

ที่ คำ ความหมาย

๑๐. ฟุตบอล กีฬาท่แี บ่งผเู้ ล่นเป็น ๒ ฝา่ ย ฝ่ายละ ๑๑ คน ผู้เลน่ แต่ละฝ่าย

ตอ้ งเตะลูกบอลให้เขา้ ประตขู องฝา่ ยตรงขา้ ม

๑๑. รกั บี้ กฬี าที่แบ่งผูเ้ ลน่ เป็น ๒ ฝา่ ย แต่ละฝา่ ยต้องแยง่ ลูกรักบี้ไปวางพน้

แนวประตฝู ่ายตรงข้าม แล้วนำมาเตะ ณ แนวจดุ เตะ

๑๒. วอลเลยบ์ อล กฬี าทแ่ี ข่งขนั กนั ระหว่าง ๒ ทมี ทีมละ ๖ คน แบ่งเขตกัน

ด้วยเนต็ สงู ทำคะแนนจากลูกบอลท่ีตกในเขตฝ่ายตรงกนั ขา้ ม

๑๓. แฮนดบ์ อล กฬี าทีค่ ล้ายฟุตบอล แบ่งผู้เล่นเปน็ ๒ ฝา่ ย ฝา่ ยละ ๗ คน

ผู้เลน่ แตล่ ะฝา่ ยใชว้ ิธีขว้างหรอื ปาลูกบอลแทนการเตะ

๑๔. เทนนสิ กฬี าท่ผี เู้ ลน่ ใชไ้ ม้แร็กเกตตีลูกยางกลมหุ้มสกั หลาดขา้ มตาข่ายโต้

กนั ไปมา, เรยี กลูกยางทีใ่ ชเ้ ลน่ วา่ ลกู เทนนสิ

๑๕. บิลเลียด กีฬาในรม่ ทเ่ี ลน่ บนโต๊ะรูปส่ีเหลี่ยมผนื ผ้าปสู กั หลาด ผู้เลน่ ใชไ้ ม้

ยาวซง่ึ เรียกวา่ คิว แทงลูกกลมใหไ้ ด้แตม้ ตามกตกิ า

๒๘

คาทมี่ าจากภาษาอังกฤษ

ผกั และผลไม้

ที่ คำ ความหมาย
๑. พืช ผลไม้เมอื งหนาว ผลกลม เปลอื กสเี หลืองเร่ือแดง
มีขนสนั้ ๆ เนอ้ื นมิ่ สีเหลือง เมล็ดโตขรขุ ระ มีกลิ่นหอม
๒. สตรอเบอรร์ ี ผลไม้ชนิดหน่งึ มีรสหวานจนถงึ เปรี้ยว สตรอเบอร์รีเปน็ ผลไม้
ทางการคา้ ทสี่ ำคญั มปี ลูกกนั เป็นวงกว้างทัว่ โลก
๓. แอปเปิล ผลไมท้ ีน่ ยิ ม มเี ปลือก สีแดง เขียว และเหลอื ง เน้ือในเป็นเหมอื น
ทรายละเอียดสเี หลอื งนวล นำมารบั ประทานสด
๔. บรอกโคลี ผกั ตระกลู กะหลำ่ บรโิ ภคสว่ นของดอกอ่อนและกา้ น ดอกมสี ี
เขยี วรวมกันแตไ่ ม่อดั ตัวกนั แนน่ เหมอื นดอกกะหลำ่
๕. แคนตาลปู แตงเมืองหนาว เนื้อมีท้ังสสี ้มและสีเขยี ว นำมารับประทานสด
๖. เชอรร์ ่ี ผลไมช้ นดิ หน่งึ มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว
๗. พรนุ ผลไมท้ ่อี ดุ มไปด้วยเสน้ ใย ธาตุเหล็กสงู นอกจากนีย้ ังมีวติ ามนิ
และแรธ่ าตุหลายชนิด
๘. บลูเบอร์รี ผลไม้ตระกูลเบอร์รีทีม่ ผี ิวสีน้ำเงินเข้ม คนไทยไมค่ อ่ ยนิยมเพราะ
เปน็ ผลไมใ้ นเมอื งหนาว
๙. แครอท พชื กินหัวชนิดหนง่ึ มีลกั ษณะยาว แครอทมีหลายสี
เช่น เหลอื ง มว่ ง สม้ แต่ที่นยิ มรับประทานในปจั จุบันคือสีสม้
๑๐. อโวกาโด ผลไมท้ ี่ปลูกมากในอเมริกา ผลอดุ มสมบรู ณ์ไปด้วยวิตามินต่าง
ๆ ทงั้ วติ ามนิ เอ ดี และอี รวมทงั้ แร่ธาตุต่าง ๆ
๑๑. บีทรูท พืชใช้กินหวั ปลูกง่าย ชอบดนิ รว่ น ปลกู ได้ตลอดปี เปน็ พชื ที่มี
คุณค่าทางอาหารสูง รองมาจากมนั ฝรง่ั

๒๙

คาทม่ี าจากภาษาอังกฤษ

เคร่ืองดนตรี

ที่ คำ ความหมาย
๑. ทิมปานี กลองที่มีลกั ษณะเหมือนกระทะ ตวั กลองทำด้วยโลหะตั้งอยู่บน
ขาหย่ัง มีระดบั เสยี งแนน่ อน มีเทา้ เหยยี บเพื่อเปลี่ยนเสียง
๒. กตี าร์ ดนตรีชนิดหนง่ึ รูปคล้ายซอฝรั่ง มี ๖ สาย ใช้มือดีด
๓. แซ็กโซโฟน เครอื่ งดนตรีในตระกลู เคร่ืองลมไม้ ใชล้ ้นิ เด่ียว ตวั เครอ่ื งมกั จะทำ
ด้วยโลหะ แต่เสยี งก็กระเดียดมาทางเคร่อื งลมไม้
๔. ทรมั เปต็ ชือ่ แตรประเภทหน่งึ มีเสียงแหลม ใช้ลักษณะนามว่าตวั
๕. อิเลก็ โทน เครือ่ งดนตรีไฟฟ้าชนิดหนึ่ง สามารถทำเสียงเครือ่ งดนตรีหลาย
ชนิดได้ในเวลาเดียวกนั
๖. ไวโอลิน เคร่ืองดนตรีจำพวกซอฝรงั่ อยา่ งเล็ก มี ๔ สาย และมคี นั ชัก
สำหรับสี
๗. ฟลตุ เคร่อื งดนตรอี ยู่ในกลมุ่ เครื่องลมไม้ ฟลตุ มที อ่ กลวง เกดิ เสยี งโดย
การเป่าลมผา่ นชอ่ งลมของปากเป่า
๘. เปยี โน เครอ่ื งดนตรีชนดิ เคร่อื งดีด มคี ยี เ์ สียงต่าง ๆ ใช้เลน่ ประสาน
ใหเ้ ปน็ เพลง
๙. คยี บ์ อร์ด เครื่องดนตรีทใ่ี ช้นิ้วมอื กดล่ิมคีย์หรอื แปน้ คีย์ ให้กำเนดิ
เสียงดนตรีตามบันไดเสยี งของโนต้ ดนตรสี ากล ๑๒ ขั้นเสยี ง
๑๐. ไซโลโฟน เครือ่ งดนตรที ม่ี รี ะดับเสียงแน่นอน เป็นระนาดไม้ ลูกระนาดทำ
ด้วยไมเ้ นื้อแขง็
๑๑. เมโลเด้ียน เครอื่ งดนตรีประเภทคยี บ์ อรด์ ทำใหเ้ กิดเสียงโดยการเปล่าและ
ใช้นว้ิ มอื กดทล่ี ิม่ นิว้ ปจั จุบันทำด้วยพลาสติก

๓๐

คาทมี่ าจากภาษาองั กฤษ

อาหาร

ท่ี คำ ความหมาย
๑. เยลลี ขนมแบบวุน้ เนื้อเด้งหยนุ่ เหนยี วกว่าวุ้นไทย รสอมเปรย้ี ว
อมหวาน สที นี่ ยิ มคือสแี ดง
๒. ฟรุตสลดั ผลไมร้ วมหั่นขนาดลกู เต๋า มีท้งั ที่เปน็ ผลไม้กระปอ๋ งและเปน็
ผลไม้สด รับประทานเป็นของหวาน
๓. พันช์ เครอ่ื งดมื่ ผสมน้ำผลไมห้ ลายอย่าง มีสีสดใสมที ง้ั ใส่เหล้าและไม่
ใส่เหล้า
๔. แพนเคก้ ของกินของฝรง่ั เปน็ ได้ทั้งของคาวของหวาน แผน่ แปง้ กลม
ทอด นุ่ม หนาพอประมาณ
๕. ซอส เครอื่ งปรงุ รส มีลักษณะเหลวหรอื คอ่ นขา้ งขน้ ใช้จ้มิ หรอื
ปรงุ อาหารเพอ่ื ใหม้ รี สชาติดีข้นึ
๖. ทอฟฟี่ ของหวานแบบฝร่ัง ใชอ้ ม ทำด้วยน้ำตาลกวนกับนม
หรือเนย มกั ปน้ั เป็นกอ้ น หอ่ กระดาษแก้ว บดิ หัวทา้ ย
๗. บร่นั ดี ช่อื สรุ าชนดิ หน่ึงกลัน่ จากเหลา้ องนุ่
๘. พาย ของวา่ งของฝร่งั แป้งรองและเปน็ ฝาปิดหุ้มไส้ในพิมพ์ทรงกลม
มีทั้งไสเ้ น้ือสตั ว์และไส้ผลไม้
๙. ชีส ผลิตภัณฑ์จากนมซ่งึ สามารถผลิตได้จากนมวัวหรอื แพะ
ที่ผา่ นกระบวนการคัดแยกโปรตนี เปน็ ส่วนประกอบในการ
ทำอาหาร

๓๑

คาทม่ี าจากภาษาอังกฤษ

ที่ คำ ความหมาย
๑๐. ชอ็ กโกแลต, ขนมหวานทำจากเมล็ดโกโกแ้ ละน้ำตาล
บางชนดิ กม็ ไี สห้ วาน
ช็อกโกเลต อาหารน้ำชนดิ หนงึ่ ตม้ ด้วยเน้อื สตั ว์หรือผกั
๑๑. ซปุ น้ำเมาอยา่ งหน่งึ เป็นชนดิ เมรัย
๑๒. เบียร์ อาหารอติ าเลียนและฟาสต์ฟู้ดประเภทหน่ึง มลี ักษณะเป็น
๑๓. พซิ ซา แปง้ แผน่ กลมแบน ราดด้วยซอสมะเขือเทศ
เครอ่ื งปรุงรสชนดิ หนึง่ ทำจากเมลด็ ของพชื ลม้ ลุกหลายชนดิ มี
๑๔. มัสตารด์ สีเหลอื ง รสเผ็ด
อาหารมีรสหวาน ทำโดยการเคีย่ วผลไม้กบั น้ำตาลจนขน้ มัก
๑๕. แยม ใชท้ าขนมปงั
เชอื้ ราเกิดในของหมัก เชอ้ื หมักไวนแ์ ละเบียร์ เชื้อฟูใชผ้ สมให้
๑๖. ยีสต์ ขนมปงั ขึ้นฟู
สารประกอบอนิ ทรยี ์รปู ผลึกสีขาว สกดั จากน้ำมันมนิ ต์
๑๗. เมนทอล ให้กลนิ่ หอมและความเยน็ ซ่า สดชน่ื ใช้เป็นนำ้ มนั หอม
ขนมอบชนดิ หน่งึ ของฝรั่ง มกั ทำใสถ่ ้วยเล็ก ๆ เน้อื แบบเค้ก
๑๘. มัฟฟนิ เมือ่ รับประทานมักใชเ้ นยสดวางบนหน้าอบใหร้ อ้ น
เมล็ดข้าวบารเ์ ลย์แชจ่ นอมิ่ นำ้ แล้วตากแหง้ ใช้หมักกับเบียร์
๑๙. มอลต์ ทำวิสกี้ หรือผสมในเครือ่ งด่มื สำหรับชง เช่น ในนม
อาหารท่ีลักษณะเหนียวข้น เป็นส่วนประกอบในการทำอาหาร
๒๐. ครีม หลายชนดิ เช่น แต่งหน้าเคก้ เปน็ ตน้
เหล้าอง่นุ
๒๑. ไวน์

๓๒

คาทม่ี าจากภาษาอังกฤษ

ที่ คำ ความหมาย
๒๒. สเตก๊ อาหารคาวชนดิ หน่งึ ทำด้วยเน้อื สันหรือปลาห่ันชิน้ ใหญ่ ๆ
ปรงุ รส แล้วนำไปยา่ งหรอื ทอดกนิ กับมนั ฝรั่ง
๒๓. ค็อกเทล เครื่องดม่ื ชนดิ หนงึ่ ใช้เหล้าชนิดตา่ ง ๆ ผสมกัน ใสน่ ้ำแข็งแล้ว
เขย่า อาจใส่น้ำผลไมห้ รอื ชิ้นผลไม้ เพอื่ เพมิ่ สีหรือรส

๒๔. เคก้ ขนมฝรงั่ ชนิดหน่งึ ทำดว้ ยแปง้ สาลผี สมไข่ เนย น้ำตาล

แล้วผงิ หรอื อบใหส้ ุก

๒๕. คุกก้ี ขนมชนดิ หนึ่ง ทำด้วยแปง้ สาลี ไข่ เนย นำ้ ตาล เปน็ ต้น

ทำเป็นช้ินเลก็ ๆ แลว้ อบใหก้ รอบ

๒๖. แฮมเบอรเ์ กอร์ อาหารประเภทเดยี วกบั แซนวิช ประกอบด้วยเน้ือสตั วป์ รงุ

แลว้ มีลกั ษณะเปน็ แผน่ สอดไสอ้ ย่ตู รงกลาง

ประกบด้วยขนมปงั

๒๗. แซนดว์ ชิ ขนมปังหั่นแบบคหู่ นึง่ ประกบกัน ตรงกลางมกั มีหมแู ฮม

ชีส ไข่ดาว แตงกวาดอง ทามายองเนส มัสตาร์ด หรือแยม

๒๘. โยเกิรต์ ผลติ ภัณฑ์ทท่ี ำจากนมชนดิ ตา่ ง ๆ ไมว่ ่าจะเปน็ นมสด นม

พรอ่ งมันเนย ใช้แบคทีเรียใส่ลงไปหมกั ในข้ันตอนการผลิต

๒๙. สปาเก็ตตี อาหารชนดิ หน่งึ ทำจากแปง้ สาลี เป็นเส้นกลมตัน

คล้ายเส้นขนมจีน แตโ่ ตกวา่ เล็กนอ้ ย

๓๐. มะกะโรน,ี อาหารชนิดหน่งึ ทำจากแป้งสาลีเป็นเส้นกลวงยาวหรอื เปน็ รูป

มกั กะโรนี อ่ืน ๆ เวลาจะนำมาปรุงต้องตม้ ใหส้ กุ มักใช้ผัดหรือทำแกงจดื

๓๓

คาทม่ี าจากภาษาองั กฤษ

ยา และโรค

ท่ี คำ ความหมาย
๑. อลั ไซเมอร์ โรคทีม่ กั เป็นในผูส้ งู อายุ ทำใหส้ มองเส่อื ม สญู เสยี ความจำ และ
๒. โปลิโอ ความสามารถอน่ื ๆ ในการใช้ชวี ิตประจำวัน
โรคกล้ามเน้ือลีบ ออ่ นแรงหรือเปน็ อัมพาต เพราะประสาท
๓. ทอนซลิ ไขสันหลงั อกั เสบ เนือ่ งจากเชอื้ ไวรสั ประเภทหน่ึง
๔. พาราเซตา ซ่งึ เรียกว่า โปลโิ อ
ปุ่มเนือ้ เย่ือน้ำเหลือง อยู่ในบริเวณลำคอ ข้างละปมุ่ มหี นา้ ทช่ี ว่ ย
มอล ป้องกนั การแผก่ ระจายของแบคทีเรียทเ่ี ข้าสู่ร่างกาย
๕. วัคซนี ยาแก้ปวด ลดไข้ เรยี กสน้ั ๆ ว่า ยาพารา

๖. ทิงเจอร์ ผลติ ผลทีป่ ระกอบด้วยเช้ือไวรัสหรือแบคทเี รยี ที่ถกู ฆา่ หรือทำให้
๗. เซร่มุ มฤี ทธ์อิ อ่ นแรงจนไมเ่ ป็นอันตราย ฉดี กระตนุ้ ให้เกดิ ภมู ิคมุ้ กนั
๘. แอสไพริน โรค
สารละลายทใี่ ช้เอทลิ แอลกอฮอลเ์ ป็นตัวทำละลาย เช่น ทงิ เจอร์
ไอโอดนี นำมาใช้ในการรกั ษาโรค
ของเหลวสีเหลืองใสที่สกดั จากเลอื ดสัตว์ เช่น มา้ กระต่าย
ซ่ึงทำให้เกดิ ภูมิต้านทานเชอ้ื โรค เช่น ใช้รกั ษาคนทีถ่ ูกงกู ัด
สารประกอบอนิ ทรีย์ชนดิ หน่งึ มีลกั ษณะเปน็ ของแข็งสขี าว
ใช้ในทางการแพทย์ เปน็ ยาลดไข้และระงับปวด

๓๔

คาทมี่ าจากภาษาอังกฤษ

ที่ คำ ความหมาย
๙. แอมโมเนีย สารประกอบอนนิ ทรยี ์ชนิดหนง่ึ มีลักษณะเป็นแก๊ส ไมม่ ีสี กลน่ิ
๑๐. มอร์ฟีน ฉุน ละลายน้ำไดด้ ี ใชป้ ระโยชนไ์ ด้มากมายในทางอุตสาหกรรม
๑๑. แอลกอฮอล์ สารประกอบอินทรีย์ มลี ักษณะเปน็ ผลึกสขี าว มใี นฝิ่น
๑๒. โลชัน เปน็ ยาเสพยต์ ดิ อย่างแรง ทางแพทยใ์ ช้เป็นยาระงับความปวด
๑๓. วิตามนิ สารอนิ ทรยี ์ชนดิ หน่งึ มีลกั ษณะเปน็ ของเหลวใส กล่นิ ฉนุ ระเหย
ได้งา่ ย เม่ือด่ืมเขา้ ไปจะออกฤทธ์ิทำใหม้ อี าหารมึนเมา
๑๔. บลชั ออน ส่งิ ปรุงท่มี ีลกั ษณะเป็นของเหลว สำหรับใชภ้ ายนอกเฉพาะท่ี
๑๕. อายแชโดว์ อาจเป็นสารละลายใส
กลุ่มสารอินทรียซ์ ึ่งเปน็ สารอาหารจำเป็นที่ร่างกายต้องการและ
จะขาดไมไ่ ด้ หากขาดจะทำใหอ้ วยั วะในร่างกายทำงาน
ผิดปรกติ
เครอื่ งสำอางชนิดหนึง่ ใช้แต่งสแี ก้ม
เครอ่ื งสำอางชนิดหนง่ึ ใช้แตง่ แตม้ สีเปลอื กตา

๓๕

คาทมี่ าจากภาษาอังกฤษ

เครื่องใช้

ที่ คำ ความหมาย
๑. แจก๊ เก็ต เส้ือตวั นอกใชส้ วมทับ หมายรวมทั้งเสอื้ สทู และแจ๊กเกต็ แบบ
สปอร์ต
๒. คูเลอร์ ถงั เก็บนำ้ เยน็ มฝี าปิด มีก๊อกไขนำ้ ใส่แกว้
๓. คตั เตอร์ มดี ใบบางคมมาก ส่วนใหญ่ใช้เฉพาะส่วนปลาย
หักส่วนที่ใชแ้ ล้วทิ้งได้
๔. คลัตซ์ อปุ กรณใ์ นรถยนต์ ใชเ้ มอ่ื จะเปล่ียนระดบั เกียรข์ ณะขับรถ
ตามปกติบงั คับดว้ ยเทา้
๕. เชค็ หนงั สือตราสารซ่ึงบุคคล “ผสู้ งั่ จา่ ย” ส่งั “ธนาคาร”
ใหใ้ ช้เงนิ แก่บุคคลอีกคนหนึง่ เรียกวา่ “ผ้รู ับเงิน”
๖. กอ๊ ก เครอื่ งเปดิ ปดิ น้ำจากทอ่ หรือภาชนะ
๗. ก๊อซ ผ้าบาง โปรง่ ทีใ่ ช้ปดิ แปลหรอื พันแผล
๘. เกยี ร์ สว่ นหน่ึงของรถยนต์ เรอื ยนตต์ ่อจากคลัตช์ ทำหน้าทีเ่ ปลีย่ น
อัตราสว่ นการทดรอบ ระหว่างเคร่ืองยนตก์ บั ล้อ
๙. แกป๊ ชอื่ หมวกของทหารตำรวจ หรอื ขา้ ราชการพลเรือนที่มีกะบงั
หนา้
๑๐. แคต็ ตาลอ็ ก สง่ิ พิมพ์เป็นเลม่ มีสารบญั บทนำ เน้อื หาเปน็ รายละเอียดของ
สินค้า บรกิ ารตา่ ง ๆ และบทความแนะนำโฆษณาสนิ ค้า
๑๑. เชต้ิ เสอ้ื คอปกชนิดหน่งึ

๓๖

คาทม่ี าจากภาษาองั กฤษ

ท่ี คำ ความหมาย
๑๒. ไซเรน เครื่องสง่ สัญญาณเสียงเพ่ือเตอื นภยั บอกหมดภัยหรือเตอื นให้
ยวดยานอืน่ หลกี ทางให้

๑๓. เทอรโ์ มมิเตอร์ เครื่องมือสำหรับวัดระดบั ความรอ้ นหรืออุณหภูมิ
๑๔. เบนซนิ เป็นของเหลว ระเหยได้เร็ว ละลายได้เล็กน้อย ไวไฟมาก เกดิ ได้
ทงั้ จากการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาตแิ ละกระบวนการผลิต
๑๕. แบตเตอรี่ อปุ กรณอ์ ย่างหนง่ึ ทีใ่ ชเ้ ก็บพลังงาน และนำมาใชไ้ ดใ้ นรปู ของ
ไฟฟา้
๑๖. บลั ลาสต์ อุปกรณ์ควบคมุ กระแสไฟฟา้ ใช้กับหลอดฟลูออเรสเซนต์
๑๗. เน็คไท แถบผกู คอเสอ้ื ผกู แลว้ ปล่อยห้อยยาวถงึ ประมาณเลยขอบเอว
นิดหน่อย เปน็ ส่วนหนงึ่ ในเคร่ืองแต่งกายผ้ชู าย
๑๘. เต็นท์ ที่พกั หรือที่อาศยั ย้ายไปได้ โดยมากทำด้วยผ้าใบ ขึงกับเสา
หรือหลกั
๑๙. ชอล์ก เครอ่ื งเขยี นกระดานดำ มีสขี าว ทำจากยิปซมั ผสมน้ำทีม่ ี
สอี ่นื ๆ ผสมดว้ ยดนิ สหี รอื สสี ำเร็จรปู เรียก ชอลก์ สี
๒๐. ฟลุ สแก๊ป กระดาษสขี าว มเี ส้นบรรทัด ขนาดประมาณ ๔๓ x ๓๔
เซนติเมตร ใชส้ ำหรบั เขยี นหนงั สือเป็นตน้
๒๑. ปลั๊ก อปุ กรณ์ทใี่ ช้เชอื่ มต่อวงจรไฟฟา้ ทตี่ ่อกบั สายไฟเป็นวงจร เปดิ
ไว้ และจะครบวงจรก็ตอ่ เมอ่ื เขา้ กบั เคร่ืองใช้ไฟฟ้า
๒๒. โปสต์การด์ แผ่นกระดาษหนาพอประมาณสำหรบั เขยี นข้อความ
หรือเรียกภาพถา่ ยทมี่ ีความกวา้ งยาวประมาณ “๓ x ๕”
วา่ ขนาดโปสต์การด์

๓๗

คาทม่ี าจากภาษาอังกฤษ

ที่ คำ ความหมาย
๒๓. พลาสตกิ สารประกอบอินทรยี ท์ ีส่ งั เคราะหข์ ้นึ ใชแ้ ทนวสั ดธุ รรมชาติ บาง
๒๔. ฟิล์ม ชนิดเมือ่ เยน็ กแ็ ขง็ ตวั เม่ือถูกความรอ้ นก็อ่อนตัว
๒๕. ฟวิ ส์ แผน่ วัตถบุ างประเภทพลาสตกิ ชนิดหน่ึง ฉาบผิด้วยสารเคมี
๒๖. ไมโครโฟน ท่ไี วตอ่ แสง ใช้สำหรบั ถา่ ยรูป ถ่ายภาพยนตร์
๒๗. ยนี โลหะเจือทม่ี ขี ีดหลอมตวั ตำ่ ใช้ตอ่ เขา้ กบั วงจรไฟฟา้ เพ่ือปอ้ งกัน
๒๘. ลิปสตกิ มใิ หก้ ระแสไฟฟา้ ที่มีขนาดเกนิ กำหนด เคลอื่ นท่ีเขา้ วงจรไฟฟา้
๒๙. เลนส์ เคร่ืองทใ่ี ช้สำหรบั ขยายเสียงใหด้ งั ข้ึน เปลี่ยนคลืน่ เสียงใหเ้ ปน็
๓๐. ไมโครเวฟ คลืน่ แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ มกั เรียกกนั ส้ัน ๆ วา่ ไมค์
ผา้ ฝา้ ยเนือ้ หนาหยาบ มักยอ้ มสีน้ำเงนิ (กางเกงที่ตดั ดว้ ยผา้ ยีน
จะเขยี นว่า ยีนส)์
เครอ่ื งสำอางชนิดหนง่ึ สำหรบั ทารมิ ฝปี ากใหเ้ ป็นสีต่าง ๆ
มกั เปน็ สแี ดงหรือชมพู โดยมากทำเป็นแท่งเล็ก ๆ
วตั ถุโปร่งใสซึ่งมีพื้นหนา้ เป็นผิวนนู หรอื เวา้ โดยท่ัวไปมกั ทำด้วย
แก้ว มสี มบตั ิหกั ลำแสงที่ผา่ นไปให้ลเู่ ขา้ หรือถา่ งออกได้
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าทีม่ ีความยาวช่วงคลน่ื สน้ั มาก
เรียกเตาอบท่ใี ชไ้ มโครเวฟทำใหร้ ้อนกว่า เตาไมโครเวฟ

๓๘

คาทม่ี าจากภาษาอังกฤษ

สถานท่ี

ที่ คำ ความหมาย
๑. อพาร์ตเมนต์ ที่อยอู่ าศยั แบ่งเป็นหอ้ งชดุ อยใู่ นอาคารรวม
๒. เซฟเฮาส์ สถานทลี่ บั ที่เก็บตัวเพอื่ ความปลอดภัย ใช้กับท้งั คนดี
และคนรา้ ย
๓. คอนโดมิเนียม อาคารชุดซึ่งเจา้ ของหอ้ งมีสทิ ธิครอบครองในพ้นื ทีห่ ้อง
ของตน และพ้ืนทที่ ่รี ะบุ เชน่ ทีจ่ อดรถ
๔. โชว์รมู ห้องแสดงสินค้า เชน่ โชว์รูมรถยนต์
๕. บงั กะโล บ้านยกพน้ื ช้ันเดียว มีระเบียงกวา้ ง มกั ปลูกสร้าง
เพอื่ ใชเ้ ปน็ สถานที่พกั ผอ่ น ตากอากาศ
๖. แทก็ ซ่ี รถยนต์รับจา้ งสาธารณะ โดยสารไดไ้ มเ่ กิด ๗ คน
๗. แทรกเตอร์ ยานท่ีใช้เปน็ เคร่อื งทุ่นแรง เปน็ ตัวตน้ กำลงั ในการทำการเกษตร
เริ่มจากการเตรียมดิน การปลกู จนถึงการเก็บเกี่ยว
๘. เฮลคิ อปเตอร์ อากาศยานปีกหมนุ ซ่งึ การเคลื่อนทไี่ ปทางระดบั
ขึน้ อยกู่ บั จดุ ปกี หมุนเปน็ สำคญั ขบั เคลื่อนโดยเคร่อื งยนต์
๙. เคาน์เตอร์ โตะ๊ สำหรบั รบั จ่ายเงินหรอื แสดงสนิ ค้าตามรา้ นคา้ หรือ
สำนกั งาน มักมีลักษณะยาวและสงู กวา่ โตะ๊ ธรรมดา
๑๐. ไซโล ส่ิงกอ่ สรา้ งขนาดใหญ่ มีความแข็งแรง มรี ะบบกันความชื้นและ
ระบายอากาศ ใช้เก็บผลติ ผลทางเกษตรก่อนสง่ ออก
๑๑. บาร์ รา้ นขายเคร่อื งด่ืมประเภทมีแอลกอฮอล์ มกั มีดนตรีและ
ท่ีใหล้ ูกค้าเตน้ รำด้วย สถานบริการเหลา้ หรือเคร่อื งด่ืม

๓๙

คาทม่ี าจากภาษาอังกฤษ

ท่ี คำ ความหมาย
๑๒. แบงก์ ธนาคาร สถานที่ใหบ้ ริการลกู คา้ เกีย่ วกบั การเงินและ
บริการสนิ เชือ่ ต่าง ๆ
๑๓. แฟลต ห้องชุด ประกอบดว้ ยห้องนอน ห้องรบั แขก ห้องครวั หอ้ งน้ำ
อย่ใู นชัน้ เดยี วกันและรวมอยใู่ นตกึ หลงั ใหญ่
๑๔. ลิฟต์ ห้องเล็ก ๆ แขวนอยกู่ บั ลวดสลิง เคล่ือนทดี่ ว้ ยพลงั ไฟฟ้า
สำหรบั นำคนหรอื ของขึ้นลงในอาคารสูง ๆ
๑๕. ออฟฟิศ สำนกั งาน เป็นทีร่ วมของการปฏิบตั งิ านตา่ ง ๆ ท่ีตอ้ งใช้
เอกสาร การสอ่ื สารติดต่อขอ้ มลู และสารสนเทศของหน่วยงาน

๔๐

คาทม่ี าจากภาษาอังกฤษ

สตั ว์ คำกรยิ า

ที่ คำ ความหมาย
๑. ดีไซน์
๒. แช็ต ออกแบบ งานออกแบบ
๓. เช็กเอาต์
การพดู คยุ ทางคอมพวิ เตอร์ โดยผ่านระบบอนิ เตอรเ์ นต็
๔. เช็ก
แจง้ คนื หอ้ งพกั โรงแรมและชำระเงินหลังจากพักแล้วสว่ น เช็ก
๕. ช็อก
อิน เป็นการลงทะเบียนเข้าพักโรงแรม
๖. กอรลิ ลา
ตรวจความเรยี บรอ้ ย เช่น ตรวจน้ำมนั เครอ่ื ง ตรวจรายชื่อ เช่น
๗. ชิมแปนซี
เช็กชือ่
๘. ไดโนเสาร์
การตกใจอย่างกะทนั หัน การหมดสติเฉยี บพลนั
๙. ยรี าฟ
เนอ่ื งจากความตกใจหรอื สะเทือนใจ
๑๐. ฮิปโปโปเตมัส
ลิงไมม่ หี าง มขี นาดใหญ่ ตัวสงู ขนาดคนแต่ล่ำสันและแขง็ แรง

กวา่ มาก มีถิ่นกำเนดิ ในทวีปแอฟริกา

ลงิ ไมม่ หี าง ขนสีดำหรือน้ำตาลดำ มีลักษณะคล้ายคนมเี ชาวน์

ปัญญาสูง นำมาฝึกหัดให้เลยี นท่าทางของคนได้

สตั วเ์ ล้ือยคลานยคุ ก่อนประวตั ิศาสตร์ รปู ร่างคล้ายก้ิงก่ายักษ์

แต่ขนาดใหญก่ ว่ามาก มีหลายชนิด

สตั วเ์ ลยี้ งลูกดว้ ยนม คอยาว ตวั สนี ้ำตาลอมเหลือง มี

ลายสีน้ำตาลเขม้ ลกั ษณะเปน็ ดอก อยู่รวมกนั เป็นฝงู

สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ใชช้ วี ิตส่วนใหญ่อยใู่ นน้ำมากกว่า

บนบก หนังหนาสนี ้ำตาล จมูก หู และตาอยตู่ อนบนของหัว

๔๑

คาทม่ี าจากภาษาองั กฤษ

ท่ี คำ ความหมาย
๑๑. ฟาล์ว การทำผิดกตกิ า ซงึ่ เกดิ จากการกระทำอนั เปน็ เหตุรบกวนหรอื
ทำให้การเลน่ หรือการแข่งขันตอ้ งหยุดชะงัก
๑๒. โชว์ เปิดอวดให้ดู แสดงใหค้ นท่วั ไปไดด้ ไู ดช้ ม เชน่ โชวส์ นิ ค้า
๑๓. เชยี ร์ ให้กำลังใจด้วยการตะโกนโห่ร้อง ใช้ในการแข่งขัน
๑๔. เบรก เคร่ืองห้ามล้อ หรอื หา้ มล้อ, การพดู สวนทีท่ ำให้คนอื่นขาย
หนา้ ต่อหน้าธารกำนลั
๑๕. เอกซเรย์ รงั สีแม่เหลก็ ไฟฟ้า, การรกั ษาโรคบางประเภท โดยใช้เอกซเรย์
ทม่ี ชี ่วงคลน่ื สน้ั กว่าถ่ายภาพวา่ การฉายเอกซเรย์

๔๒

ตอนท่ี ๒
แบบฝึกเสรมิ ทักษะทางภาษา ส่วนที่ ๑

๔๓

แบบฝกึ เสรมิ ทักษะชุดที่ ๑

คำสง่ั นำคำท่กี ำหนดให้ เตมิ ในช่องว่างหน้าความหมายให้ถกู ต้อง

ก. รองเง็ง ข. จบั ปิ้ง ค. แป๊ ะเจี๊ยะ ง. กะหรี่ จ. อง้ั โล่

๑. เตาไฟดินเผาชนิดหน่ึงของจนี
๒. การจา่ ยเงินนอกระบบหรือเรยี กวา่ เงนิ กินเปลา่
๓. เครอื่ งปิดของลบั ของเด็กหญิง มีใช้ในสมัยโบราณ
๔. ศิลปะการแสดงของชาวไทยมุสลิมภาคใต้
๕. แกงชนดิ หนึ่งมสี เี หลอื ง ปรงุ ดว้ ยเคร่ืองแกงกะหรี่

ก. สลาตนั ข. วิรงรอง ค. กยุ เฮง ง. กาป่ัน จ. บหุ ลนั

๖. เสอ้ื แบบจีน คอกลม ผ่าอกตลอด ติดกระดุมหน้า
๗. เรอื เดนิ ทะเลขนาดใหญ่ หัวเรือเรียวแหลม
๘. ลมแรง หรอื ลมพายุ ท่ีพัดชว่ งปลายฤดฝู น
๙. เดอื น, ดวงเดือน, พระจันทร์
๑๐.พลับพลงึ

๔๔

ก. ออฟฟิศ ข. ไซโล ค. แฟลต ง. บงั กะโล จ. ลฟิ ต์
๑๑. ห้องเล็ก ๆ ทใี่ ชน้ ำคน ของ ขึ้นลงในอาคารสงู ๆ
๑๒. สิ่งก่อสรา้ งขนาดใหญ่ ใช้เกบ็ ผลิตผลทางเกษตร
๑๓. สำนกั งาน เปน็ ทีร่ วมของการปฏบิ ตั งิ านตา่ ง ๆ
๑๔. ห้องชุด ทม่ี ีห้องนอน ห้องรบั แขก และห้องอนื่ ๆ
๑๕. บา้ นยกพ้นื ชั้นเดียว มีระเบยี งกวา้ ง

ก. วคั ซนี ข. เกี๊ยะ ค. สเตก๊ ง. จบั กงั จ. เลนส์
๑๖. อาหารคาวแบบตะวนั ตก ทำดว้ ยเนอื้ สันหรอื ปลา
๑๗. ใชฉ้ ีดเขา้ สู่ร่างกายเพ่ือกระต้นุ ใหเ้ กดิ ภูมิคมุ้ กนั
๑๘. วัตถุโปร่งใสซ่ึงมพี น้ื หนา้ เปน็ ผิวนูนหรือเวา้
๑๙. เกอื กไมแ้ บบจนี
๒๐. กรรมกร, ผู้ใชแ้ รงงาน, ผู้รับจ้างทำงานตา่ ง ๆ

๔๕

ก. ปาเต๊ะ ข. กระจดู ค. กะลมุ พี ง. สจุ หน่ี จ. กะละปังหา
๒๑. ช่อื ผา้ โสร่งชนิดหน่งึ สำหรับผหู้ ญงิ นงุ่
๒๒. เคร่ืองปูลาด สำหรับทอดถวายพระมหากษตั ริย์
๒๓. ชอ่ื สัตวท์ ะเลไมม่ ีกระดกู สันหลังแตล่ ะตวั เลก็ มาก
๒๔. ปาล์มชนดิ หน่ึง ขึ้นเป็นกอ่ ในปา่ พรแุ ละทช่ี ่ืนแฉะ
๒๕. ชือ่ ไมล้ ม้ ลกุ ลำตน้ กลม กลวง และมีเย่อื อ่อนหยุ่น

๔๖

แบบฝึกเสรมิ ทกั ษะชดุ ที่ ๒

คำสง่ั วงกลมรูป  ถ้าข้อความทีใ่ ห้มามคี ำทม่ี าจากภาษาต่างประเทศ
วงกลมรูป  ถา้ ข้อความทใี่ ห้มาไมม่ ีคำท่มี าจากภาษาตา่ งประเทศ

ตัวอยา่ ง   ข้อ ๐. ฉันชอบเลน่ ฟุตบอล
วิธที ำ   ขอ้ ๐. ฉันชอบเลน่ ฟตุ บอล

  ๑. คุณแม่พาน้องไปซอื้ ยาทคี่ ลนิ กิ
  ๒. นักเรียนไปโรงเรียนแตเ่ ช้า
  ๓. เฉาก๊วย รับประทานแก้ร้อนในได้
  ๔. ชาวเลใช้เรอื ตังเกในการหาปลา
  ๕. เดก็ ดีมีนำ้ ใจ เป็นผู้ให้ ใส่ใจคนรอบข้าง
  ๖. นกั เรียนเขยี นกราฟแสดงข้อมูลรายรับรายจ่าย
  ๗. ครอบครัวอบอ่นุ สังคมเข้มแขง็
  ๘. คุณพ่อขนหญา้ และดนิ ด้วยปงุ้ กี๋
  ๙. รู้รักภาษาไทย รว่ มใจใช้ภาษาใหถ้ ูกตอ้ ง
  ๑๐. เทคโนโลยีสมัยใหม่ เสรมิ สังคมไทยใหก้ ้าวหนา้