The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เอกสารประกอบการสอนวิชาวรรณคดีมรดก ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by เจตรินทร์ ขาวนุ้ย, 2022-01-28 10:58:41

เอกสารประกอบการสอนวิชาวรรณคดีมรดก ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕

เอกสารประกอบการสอนวิชาวรรณคดีมรดก ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕

Keywords: เจตรินทร์ ขาวนุ้ย

เอกสารประกอบการเรยี นรายวชิ า ท3220๒ วรรณคดีมรดก
ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 5

กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย โรงเรยี นสตรศี รสี รุ โิ ยทยั PAGE 1

เอกสารประกอบการเรียนรายวิชา ท3220๒ วรรณคดีมรดก
ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5

ตอนที่ ๑
ความร้ทู ั่วไปเก่ียวกับวรรณคดี

วรรณคดี

“วรรณคดี” เป็นคําที่บัญญัติขึ้นเพื่อใช้แทนคํา Literature ในภาษาอังกฤษ ปรากฏครั้งแรกใน
พระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง วรรณคดีสโมสร พ.ศ. ๒๔๕๗ ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการแต่งหนังสือให้ถูกต้องตามหลักภาษาไทย ได้สารประโยชน์ โดยคัดเลือกหนังสือ
ดีที่เป็นตัวอย่างชั้นเลิศในการประพันธ์ประเภทต่าง ๆ ซึ่งต้องเป็นหนังสือดีและแต่งดี วรรณคดีสโมสรจึงจะรับ
ไวพ้ จิ ารณา

__________ + __________ = _______________________
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ ให้คําจํากัดความของวรรณคดีว่า หนังสือที่ได้รับ
ยกยอ่ งวา่ แต่งดี (ได้รับการยกยอ่ งจากวรรณคดีสโมสร)
คณะกรรมการของวรรณคดีสโมสร เป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่ทรงแต่งตั้งขึ้นทําหน้าที่คัดเลือกหนังสือดี
หนังสือที่ได้รับคัดเลือกจะได้รับพระราชทานรางวัล และได้รับพระบรมราชานุญาตให้มีการประทับตรา
พระราชลัญจกรรูปพระคเณศร์ นับเป็นการมอบรางวัลทางวรรณกรรมอย่างเป็นทางการคร้ังแรกใน
ประเทศไทย

หวั ใจของการเปน็ วรรณคดี

เป็นเรื่องที่สมควรซึ่งสาธารณชนจะอ่านได้โดยไม่เสียประโยชน์ คือ ไม่เป็นเรื่องทุภาษิต หรือเป็นเรื่อง
ที่ชักจูงความคิดผู้อ่านไปในทางอันไม่เป็นแก่นสาร ซึ่งจะชวนให้คิดวุ่นวายทางการเมือง อันเกิดเป็นเรื่องรําคาญ
แก่รัฐบาลของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัว

ใช้วิธีเรียบเรียงอย่างใด ๆ ก็ตามแต่ต้องให้เป็นภาษาไทยอันดี ถูกต้องตามเยี่ยงที่ใช้ในโบราณกาลหรือ
ปัจจุบนั กไ็ ด้ ไมใ่ ช้ภาษาซ่ึงเลยี นภาษาตา่ งประเทศหรือใชว้ ิธีผกู ประโยคประธานตามภาษาต่างประเทศ

กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย โรงเรียนสตรีศรสี รุ โิ ยทัย ๑

เอกสารประกอบการเรยี นรายวชิ า ท3220๒ วรรณคดมี รดก
ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 5

ประเภทวรรณคดี ยอดของวรรณคดี
ลลิ ิต
ฉนั ท( เรื่อง
กาพย(

ความเรียงนทิ าน
กลอนสุภาพ
บทละครรำ
บทละครพูด

ความเรยี งอธิบาย
บทละครพูดคำฉันท(

กวนี พิ นธ(
กาพย(เหเ? รอื
กลอนนิทาน
บทละครรอA ง

นริ าศ

กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย โรงเรยี นสตรีศรีสุรโิ ยทยั ๒

เอกสารประกอบการเรยี นรายวิชา ท3220๒ วรรณคดีมรดก
ระดับชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 5

การแบง่ ประเภทของวรรณคดี

แบง่ ตาม แบง่ ตาม แบง่ ตาม
ความมุ่งหมาย ลกั ษณะทแ1ี ต่ง การจดบันทึก

……………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………

ยุคสมยั ทางวรรณคดี

……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทยั ๓

เอกสารประกอบการเรียนรายวชิ า ท3220๒ วรรณคดมี รดก
ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 5

วรรณคดไี ทยท่ไี ด้รับอทิ ธิพลจากตา่ งประเทศ

ซกี โลกตะวนั ตก อาหรบั -เปอรเ์ ซยี

จนี
อนิ เดยี เขมร

ชวา-มลายู

๑. อทิ ธพิ ลจากจนี
____________________________________________________________________________
____________________________________________________________________________
๒. อทิ ธพิ ลจากอนิ เดีย
____________________________________________________________________________
____________________________________________________________________________
๓. อทิ ธิพลจากชวา-มลายู
____________________________________________________________________________
____________________________________________________________________________
๔. อทิ ธิพลจากเขมร
____________________________________________________________________________
____________________________________________________________________________
๕. อิทธพิ ลจากอาหรับเปอรAเซีย
____________________________________________________________________________
____________________________________________________________________________
๖. อทิ ธพิ ลจากโลกตะวนั ตก

๖.๑ วรรณกรรมประเภทรอI ยแกIว
____________________________________________________________________________

๖.๒ วรรณกรรมประเภทรIอยกรอง
____________________________________________________________________________

กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย โรงเรียนสตรีศรสี รุ โิ ยทัย ๔

เอกสารประกอบการเรียนรายวชิ า ท3220๒ วรรณคดมี รดก
ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 5

วรรณคดีมรดก

วรรณคดีมรดก เป็นคำที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดขึ้น เพื่อให้เป็นรายวิชา ท ๐๓๓ ตามหลักสูตร

ภาษาไทย หมายถึง "วรรณคดีที่ได้รับการยกย่องกันมาหลายชั่วอายุคน ในด้านวรรณศิลป์กับในด้าน
ที่แสดงค่านิยม และความเชื่อ ในสมัยของบรรพบุรุษ ส่งเสริมให้เปรียบเทียบชีวิตมนุษย์ ในสมัยของ
บรรพบรุ ษุ กับชีวิตในปจั จบุ ัน"

องค์ประกอบของวรรณคดมี รดก
ในที่นี้จะไม่นำความหมายเชิงวิชาการวรรณคดีสากลมาใช้ เพราะมีความเหลื่อมล้ำกับความหมายตาม

พจนานกุ รมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ส่วนคุณสมบัติของวรรณคดนี ้ัน ท้ังไทยและสากล จะมีคุณสมบตั เิ หมือนกัน
สรุปไดด้ ังน้ี

๑. มเี นื้อหาและรูปแบบท่เี หมาะสม ไม่ว่าจะเป็นนทิ าน นยิ าย บทละคร นวนิยาย ฯลฯ

๒. มศี ิลปะการใชภ้ าษาอยา่ งประณีต
๓. แสดงความนึกคดิ ทเี่ ฉียบแหลมของผ้แู ต่ง สอดแทรกประสบการณ์ชีวติ และให้ความรใู้ นเรอ่ื งสามญั
ของคนที่ไดร้ บั การศกึ ษา

๔. แสดงพัฒนาการทางอารมณข์ องผู้แตง่ อย่างสูง ทั้งด้านความรัก ความทุกข์ ความสุข ความผิดหวัง
๕. มีคุณคา่ ทางประวตั วิ รรณคดี แสดงใหเ้ หน็ การแปรเปล่ยี นตามกาลสมัยของการแตง่ วรรณกรรม
๖. มคี ุณคา่ ทางประวัติภาษา แสดงให้เหน็ การแปรเปลี่ยนตามกาลสมัยของภาษาและการใชภ้ าษา

เรื่อง วรรณคดีมรดก ผูปI ระพนั ธA /ฉบบั
รามเกยี รต์ิ ตอน รัชกาลท่ี ๑
อเิ หนา รัชกาลที่ ๒
ขุนช้างขนุ แผน หนุมานเผากรงุ ลงกา สำนวนครแู จง้
พระอภัยมณี ทา้ วดาหาไปใชบ้ นและบุษบาเสยี่ งเทยี น สุนทรภู่

แต่งงานพระไวยพลายงาม
พระอภัยมณเี รือแตกและสินสมุทรโดยสารเรอื โจรสุหรง่ั

กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทยั ๕

เอกสารประกอบการเรยี นรายวชิ า ท3220๒ วรรณคดีมรดก
ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 5

สะทอ้ นความคิดหลังเรียน

การตระหนกั รูใ7 นตนเอง (self-awareness)

รูอ7 ะไรบา7 ง

อะไรบา7 งทีย่ งั ไมIร7ู

อยากรูอ7 ะไรเพม่ิ ข้นึ

……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………

กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย โรงเรียนสตรศี รีสุริโยทยั ๖

เอกสารประกอบการเรียนรายวิชา ท3220๒ วรรณคดีมรดก
ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5

ตอนที่ ๒
รามเกยี รต์ิ ตอน หนมุ านเผากรงุ ลงกา

ความเปน็ มาของเร่ืองรามเกียรติ์

รามเกียรติ์ มีที่มาจากเรื่อง รามยณะ1 (สันสกฤต: रामायण) ที่ฤษีวาลมิกิ ชาวอินเดีย แต่งข้ึน
เป็นภาษาสันกฤต เมื่อประมาณ ๒,๔๐๐ ปีเศษ มาแล้ว และได้แพร่หลาย จากอินเดียไปยังประเทศใกล้เคียง
และได้มีการเพิ่มเติมรายละเอียด ผิดแผกแตกต่างออกไปจากต้นฉบับเดิมไปไม่น้อย รามยณะเป็นปางหนึ่งใน
สิบปางของการอวตารมาปราบยคุ เขญ็ ของพระนารายณ์ ท่ีมีชอ่ื วา่ รามาวตาร

รามายณะเป็นวรรณคดีที่มีการดัดแปลง เล่าใหม่ และแพร่หลายไปในหลายภูมิภาคของเอเชีย
โดยมีเนื้อหาแตกต่างกันไป และอาจเรียกชื่อแตกต่างกันไปด้วย เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการทำศึกสงคราม
ระหว่างฝ่ายพระรามกับฝ่ายทศกัณฐ์ (อสูร) โดยพระรามจะมาชิงตัวนางสีดา (มเหสีของพระราม) ซึ่งถูก
ทศกัณฑ์ลักพาตัวมา ทางฝ่ายพระรามมีน้องชาย ชื่อพระลักษมณ์และหนุมาน (ลิงเผือก) เป็นทหารเอกช่วย
ในการทำศกึ รบกนั อยู่นานท้ายท่สี ดุ ฝ่ายอสรู กป็ ราชยั
1 รามายณะ (สันสกฤต: रामायण) เป็นวรรณคดีประเภทมหากาพย์ของอินเดีย เชื่อว่าเป็นนิทานที่เล่าสืบ
ต่อกันมายาวนานในหลากหลายพื้นที่ของชมพูทวีป แต่ผู้ได้รวบรวมแต่งให้เป็นระเบียบครั้งแรกคือฤษีวาลมีกิ
เมื่อกว่า 2,400 ปีมาแลว้ โดยประพันธ์ไวเ้ ปน็ บทรอ้ ยกรองประเภทฉนั ทภ์ าษาสันสกฤต เรียกว่า โศลก จำนวน
24,000 โศลกด้วยกนั โดยแบ่งเปน็ 7 ภาค

กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย โรงเรยี นสตรีศรสี รุ โิ ยทยั ๗

เอกสารประกอบการเรียนรายวชิ า ท3220๒ วรรณคดีมรดก
ระดับช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 5

เรื่องรามเกียรติ์ของไทยนั้น มีตั้งแต่สมัยอยุธยา ในสมัยกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี
ได้ทรงพระราชนิพนธ์สำหรับให้ละครหลวงเล่น ปัจจุบันมีอยู่ไม่ครบ ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จ
พระพุทธยอดฟ้าฯ ได้ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นเพื่อรวบรวมเรื่องรามเกียรติ์ ซึ่งมีมาแต่เดิมให้ครบถ้วนสมบูรณ์
ตั้งแต่ต้นจนจบ มาพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล5าฯ ได5ทรงพระราชนิพนธ;เพื่อใช5เล@นละคร จึงมิได5ทรง
พระราชนิพนธ;ใหม@ทั้งเรื่อง ทรงเลือกเฉพาะตอนที่จะนำมาแสดงละครได5เท@านั้น บางตอนทรงพระราชนิพนธ;
เอง บางตอนก็โปรดเกล5าฯ ใหส5 มเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ และกรมหมื่นกวีพจน;สุปรีชา ตรวจชำระ
และจดั พิมพ;

จนในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล5า ทรงพระราชนิพนธ;บทละครเรื่องรามเกียรติ์ โดยดัดแปลง
จากพระราชนิพนธ;ของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล5าฯ เพื่อใช5ในการเล@นโขน รามเกียรติ์เปSนวรรณคดี
ที่สำคัญของไทย เปSนที่รู5จักกันอย@างแพร@หลาย ในเรื่องรามเกียรติ์มีความไพเราะ มีคติสอนและแง@คิด
ในด5านต@าง ๆ อยู@เปSนอันมาก สอดแทรกเอาไว5ตลอดทั้งเรื่อง ตามหลักนิยมของอินเดียในเนื้อเรื่อง และหลัก
นยิ มของไทยในสำนวนกลอน

จุดประสงคก์ ารแตง่ รามเกยี รติ์ ฉบับ รัชกาลที่ ๑

๑. เพื่อใช5เล@นเปนS ละครใน เพอ่ื สร5างความบนั เทงิ ใจแก@ประชาชน ให5ประชาชนไดอ5 า@ น
๒. เพ่อื ให5มเี ร่ืองรามเกยี รต์ฉิ บบั สมบูรณไ; ว5ใช5อา@ น หรือใช5เล@นละครกไ็ ด5
๓. เพ่ือฉลองรชั กาล ดงั ความปรากฏในรามเกยี รติ์ ฉบบั พระราชนิพนธ;ไว5วา@ ….

“...ประโยชน;ฉลอง เฉลมิ เจิมจฑุ าทิพยป; ระสาท
ประกาศยกเอกอา5 ง องคบ; พิตรพระเจ5าชา5 ง เผอื กผู5ครองเมือง...”

ลักษณะคำประพนั ธ์

กลอนบทละคร เป็นคำประพันธช์ นดิ หนงึ่ ซ่ึงแต่งขนึ้ เพอื่ ใช้ในการเลน่ ละคร กลอนบทละครมีลักษณะ
บังคับเช่นเดียวกับกลอนสุภาพ วรรคหนึ่งมี 6 ถึง 9 คำ แต่นิยมใช้เพียง 6 ถึง 7 คำจึงจะเข้าจังหวะร้องและรำ
ทำใหไ้ พเราะยิง่ ขึน้ กลอนบทละครจะมีคำขนึ้ ตน้ ๓ คำได้แก่

เมือ่ น้นั : _____________________________________________________
บัดนนั้ : ______________________________________________________
มาจะกลา่ วบทไป : _______________________________________________

กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย โรงเรยี นสตรีศรีสรุ ิโยทัย ๘

เอกสารประกอบการเรยี นรายวชิ า ท3220๒ วรรณคดมี รดก
ระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5

เรอื่ งยอ่ รามเกยี รติ์

ท้าวทศรถ เป็นกษัตริย์ครองกรุงอโยธยา มีพระมเหสีจำนวน ๓ องค์ คือ นางเกาสุริยา
นางไกยเกษี และ นางสมุทรเทวีวันหนึ่ง ท้าวทศรถไปรบกับยักษ์ ชื่อ ปทูตทันต์ โดยนางไกยเกษี ตามเสด็จไป
ด้วย ขณะรบกันยักษ์แผลงศรไปถูกเพลารถของท้าวทศรถหัก นางไกยเกษีรีบกระโดด ลงจากรถ เอาแขนของ
นางสอดแทนเพลารถ เมื่อท้าวทศรถฆ่ายักษ์ได้แล้ว ได้ทรงทราบถึงความ จงรักภักดีของนางไกยเกษี
จึงประทานพรว่า หากนางปรารถนาสิ่งใด พระองค์ก็จะประทานให้ ท้าวทศรถ ครองราชสมบัติมานานหลายปี
แล้ว แต่ยังไม่มีโอรส จึงทำพิธีกวนข้าวทิพย์ กลิ่นข้าวทิพย ์ หอมไปถึงกรุงลงกา ทศกัณฐ ์จึงใช้ นางยักษ์
กากนาสูร มาขโมย นางแปลงร่างเป็นอีกา โฉบเอาข้าวทิพย์ไปได้เพียงครึ่งก้อน ทศกัณฐ์นำข้าวทิพย์
ให้นางมณโฑ ผู้เป็นมเหสีกิน นางมณโฑ จึงตั้งครรภ์และประสูติพระธิดาออกมา แต่ขณะที่ประสูตินั้นพระธิดา
ร้องว่า "ผลาญราพณ์" ขึ้นสามครั้ง พิเภกและโหรอื่น ๆ ทำนายว่าเป็นกาลีบ้านกาลีเมือง ทศกัณฐ์จึงสั่งให้นำ
พระธิดาผู้นั้นใส่ผอบลอยน้ำไป พระฤษีชนกซึ่งเดิมเป็นราชาแห่งเมืองมิถิลาพบเข้า ก็เก็บไปฝังดินฝากแม่พระ
ธรณีไว้ จนเวลาล่วงไปถึง 16 ปี จึงไปขุดนางขึ้นมา แล้วตั้งชื่อให้ว่า สีดา แล้วกลับไปครองเมืองมิถิลา เช่นเดิม
และได้จัดพิธียกศรเพื่อหาคู่ครองให้นางสีดา พระรามยกศรได้จึงได้อภิเษกกับนางสีดา และพานางกลับไปอยู่
ที่กรุงอโยธยาส่วนข้าวทิพย์ที่เหลือสามก้อนครึ่ง ท้าวทศรถแบ่งให้มเหสีทั้งสาม ซึ่งต่อมานางตั้งครรภ์และให้
กำเนิดโอรส คือ นางเกาสุริยาประสูติ พระราม นางไกยเกษีประสูติ พระพรต นางสมุทรเทวีประสูติ
พระลักษมณ์กบั พระสตั รุด

ต่อมาท้าวทศรถคิดจะยกราชสมบัติให้พระรามปกครอง แต่นางไกยเกษีทูลขอเมืองอโยธยาให้พระพรต
โอรสของตน และขอให้พระรามออกเดินป่าเป็นเวลา 14 ปี ท้าวทศรถเคยประทานพร ให้นางไว้ จึงจำต้อง
รักษาวาจาสัตย์ พระรามก็ยินยอมออกจากเมืองโดยดี ซึ่งพระลักษณ์กับ นาง สีดาขอตามเสด็จไปด้วย
ท้าวทศรถเสียพระทยั มากจนกระท่ังสน้ิ พระชนม์

พระราม พระลักษมณ์ และนางสีดา ไปตั้งอาศรมอยู่ในป่า วันหนึ่งนางสำมนักขา น้องสาวของทศกัณฐ์
ออกไปเที่ยวป่า ได้พบพระรามเข้า เห็นพระรามมีรูปโฉมงดงามก็หลงรัก เข้าไปเกี้ยวพาราสีพระรามและทำร้าย
นางสีดา พระลักษณ์โกรธมาก จับนางมาตัดหู จมูก มือ และเท้า แล้ว ปล่อยตัวไป นางกลับไปฟ้องพี่ชาย
ทั้งสาม คือ ทูษณ์ ขร ตรีเศียร ให้ไปรบกับพระราม แต่ก็ถูกพระรามฆ่าตาย นางจึงไปเล่าถึงความงดงามของ
นางสีดาให้ทศกัณฐ์ฟัง ทศกัณฐ์อยากได้นางมาเป็นชายา จึงออกอุบายให้มารีศ แปลงตัวเป็นกวางทองมาล่อ
นางสีดาเห็นกวางทองเข้าก็อยากได้ ขอให้พระรามไปจับมาให้ พอมารีศถูกศรพระรามก็แกล้งทำเสียงพระราม
ร้องใหช้ ่วย นางสดี าจงึ ขอให้พระลักษมณต์ ามไปทศกณั ฐไ์ ด้โอกาสจึงเข้ามาลกั พานางสดี าไปกรงุ ลงกา

พระราม พระลักษมณ์ เสด็จออกติดตามนางด้วยความห่วงใย จนได้พบกับ หนุมาน และ สุครีพ
สุครีพขอให้พระรามฆ่าพาลีผู้เป็นพี่ชายของตนเสียก่อน ตนจึงจะช่วยทำสงครามกับทศกัณฐ์ เนื่องจาก
สุครีพแค้นใจทีครั้งหนึ่งพระอินทร์ฝากผอบใส่นางดารามากับ พาลี เพื่อเป็นรางวัล ให้สุครีพ ที่ยกเขาพระสุเมรุ
ให้ตั้งตรงได้ แต่ถูกพาลีริบไปเป็นของตนและครั้งสุดท้าย พาลีเข้าไปสู้รบกับควาย ชื่อ ทรพี ในถ้ำ แล้วสั่งสุครีพ
ให้คอยดูอยู่ปากถ้ำถ้าเลือดที่ไหลออกมาข้นเป็นเลือดควาย ถ้าเลือดใสเป็นเลือดของตน ให้สุครีพปิดปากถ้ำเสีย
สุครีพเฝ้าดูอยู่เห็นเลือดที่ไหลออกมาใส เพราะน้ำฝนชะจึงคิดว่าพาลีตาย จึงเอาหินปิดปากถ้ำไว้ พาลีเข้าใจว่า
สุครีพคิดฆ่าตนจึงขับไล่สุครีพออกจากเมือง พระรามได้แผลงศรไปฆ่าพาลีตาย สุครีพจึงเกณฑ์ไพร่พลลิงมา
ชว่ ยพระรามรบ

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรยี นสตรศี รีสรุ ิโยทยั ๙

เอกสารประกอบการเรียนรายวชิ า ท3220๒ วรรณคดีมรดก
ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 5

คืนหนึ่ง ทศกัณฐ์ฝันร้าย พิเภก ทำนายทศกัณฐ์ถึงคราวมีเคราะห์ ให้ส่งนางสีดาคืนไปเสีย ทศกัณฐ์
โกรธมากขับไล่พิเภกออกจากเมือง พิเภกจึงเข้าไปสวามิภักดิ์กับพระราม ช่วยให้คำแนะนำ ที่เป็นประโยชน์ใน
การทำสงครามแกพ่ ระรามอยู่เสมอ

พระรามทำสงครามกับทศกัณฐ์อยู่นานหลายปี จนญาติพี่น้องของทศกัณฐ์ตายในสงครามกันหมด
ทศกัณฐ์ต้องออกรบเองพระรามแผลงศรถูกหลายครั้งแต่ทศกัณฐ์ก็ไม่ตาย เพราะถอดดวงใจฝากพระฤษี
โคบุตรไว้หนุมานกับ องคต จึงทูลรับอาสาพระราม ไปหลอกเอากล่องดวงใจมาจนได้ ทศกัณฐ์ออกรบอีกพอ
พระรามแผลงศรไปปักอกทศกัณฐ์ หนุมานก็ขยี้กล่องดวงใจจนแหลกลาญ ทศกัณฐ์จึงสิ้นชีวิต จากนั้นพิเภก
ก็พานางสีดามาคืนให้พระรามและเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธ์ิ นางสีดาจึงขอทำพิธีลุยไฟ ซึ่งนางสีดาสามารถลุยไฟ
ได้อย่างปลอดภัย พระรามตั้งให้พิเภกครองกรุงลงกาแล้วพระรามก็เสด็จกลับอโยธยาพร้อมด้วยนางสีดา
และพระลักษมณ์

ต่อมาปีศาจยักษ์ตนหนึ่งชื่อ นางอดูล ได้แปลงร่างเป็นสาวใช้ของนางสีดา ขอร้องให้นา สีดาวาดรูป
ทศกัณฐ์ให้พอดีพระรามเสด็จมานางสีดาตกใจพยายามลบเท่าไรก็ลบไม่ออก จึงรีบซ่อนไว้ใต้บรรทมทำให้
พระรามบรรทมไม่หลับ ต้องสั่งให้พระลักษมณ์มาค้นดู ก็ได้รูปของทศกัณฐ์ พระรามกริ้วมากหาว่านางสีดามีใจ
รักทศกัณฐ์สั่งให้พระลักษมณ์นำนางไปประหารแต่พระลักษมณ์ปล่อยนางไป นางสีดาไปอาศัยอยู่กับฤษี
จนประสูตโิ อรสองค์หนง่ึ คอื พระมงกฎุ

วันหนึ่ง นางสีดาไปอาบน้ำที่ลำธารเห็นลิงเอาลูกเกาะหน้าเกาะหลังพาไปไหนมาไหนด้วย นางจึงกลับ
ไปอุ้มโอรสที่ฝากพระฤษีเลี้ยงไว้มาด้วยเมื่อพระฤษีลืมตาขึ้นมาจากการบำเพ็ญตบะ ไม่เห็นพระมงกุฎ
จึงชุบกุมารขึ้นอีกองค์หนึ่งชื่อว่า พระลบ นางสีดาจึงมีโอรสสององค์ พระฤษีได้สั่งสอนศิลปวิทยาให้กุมาร
ทง้ั สองจนเกง่ กล้า

พระรามได้ทำพิธีปล่อยม้าอุปการม้าผ่านเข้าไปในป่า พระมงกุฎเห็นเข้าก็จับมาขี่เล่นพระพรต แผลงศร
ไปจับตัวพระมงกุฎได้ พระรามสั่งให้นำตัวไปประจานเจ็ดวัน แล้วให้ประหารเสียแต่พระลบมาช่วยไปได้
พระรามออกรบด้วยตนเองแต่ไม่สามารถเอาชนะกันได้จนกระทั่งรู้ว่าเป็นพ่อลูกกัน พระรามไปอ้อนวอน
นางสดี าให้กลับอยุธยา แตน่ างสีดาไมย่ อมพระรามจึงทำอบุ ายวา่ ส้นิ พระชนม์

นางสีดาตกใจรีบกลับมาเยี่ยมพระศพ พระรามจึงออกมาจากโกศจับนางสีดาไว้ นางสีดารู้ว่าถูกหลอก
จึงอธิษฐานแทรกแผ่นดินหนีไปอยู่เมืองบาดาล พิเภกแนะนำพระรามออกเดินป่า อีกครั้งเพื่อเสดาะเคราะห์
พระรามจึงเสด็จไปพร้อมพระลักษมณ์ ได้ฆ่ายักษ์ตายอีกหลายตน ครั้งสุดท้าย พระรามได้สู้กับท้าวอุณาราช
พระรามถอนต้นกกมาพาดสายยิงไปตรึง ท้าวอุณาราช ไว้กับแผ่นดินแล้วจึงเสด็จกลับเข้ากรุงอยุธยา
พระอิศวร สงสารพระราม จึงช่วยไกล่เกลี่ย ให้นางสีดายอมคืน ดีกับพระราม จากนั้น พระรามกับนางสีดา
ก็กลบั มาครองกรุงอโยธยาอยา่ งมีความสขุ

กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย โรงเรยี นสตรีศรสี รุ โิ ยทยั ๑๐

เอกสารประกอบการเรยี นรายวชิ า ท3220๒ วรรณคดีมรดก
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 5

วงศก์ ษตั รยิ ์

……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………

กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย โรงเรียนสตรีศรสี รุ ิโยทยั ๑๑

เอกสารประกอบการเรียนรายวชิ า ท3220๒ วรรณคดีมรดก
ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5

วงศย์ กั ษ์

……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………

กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย โรงเรียนสตรศี รีสุรโิ ยทัย ๑๒

เอกสารประกอบการเรยี นรายวิชา ท3220๒ วรรณคดมี รดก
ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5

วงศว์ านร

……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………

กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย โรงเรยี นสตรศี รสี รุ โิ ยทัย ๑๓

เอกสารประกอบการเรียนรายวชิ า ท3220๒ วรรณคดมี รดก
ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5

รามเกียรติ์ ตอน หนุมานเผาลงกา

บทประพันธ์
รามเกียรติ์ ตอน หนมุ านเผาลงกา

เมื่อหนุมานลานางสีดาออกมาข5างนอกแล5วจะกลับไปมือเปล@าก็ใช@ที่ ก็อยากรู5ว@ายักษาเมืองนี้มีกำลัง

รีพ้ ลเพยี งไหน เกง@ กลา5 สามารถเพียงใด จะได5รู5 กำลงั ของข5าศกึ ทำนองว@ารู5เขารู5เรา รบรอ5 ยคร้งั ชนะรอ5 ยครั้ง
วันนจ้ี ะลองฤทธิ์ดู ให5ร5ูกำลังยกั ษา
สังหารผลาญเสยี ให5เปลอื งตา สงครามภายหนา5 จะเบาใจ

คิดแล5วสำแดงแผลงฤทธิ์ ทศทศิ กัมปนาทหวาดไหว
โลดโผนโจนจว5 งทะลวงไป เที่ยวหกั ต5นไมเ5 ปนS โกลี
ตลอดจนฆ@าพวกยักษ;ตายย@อยยับทับกัน ที่เหลือตายก็ไปรีบไปทูลสหัสกุมารซึ่งเปSนบุตรทศกัณฐ;

เมื่อทราบเรื่องจึงรีบขึ้นรถมาดู แล5วบอกหนุมานว@าจะจับตัวไปถวายให5ทศกัณฐ; เกิดการสู5รบระหว@างหนุมาน
กับสหัสกุมาร ผลปรากฎว@า หนุมานฆ@าพวกยักษ;ทั้งหลายและสหัสกุมารจำนวนพันองค;ตายหมด ที่เหลือก็หนี
มาทูลทศกณั ฐ; ทศกัณฐ;จึงสง่ั ให5อนิ ทรชติ ไปจดั การ หากว@าจับเปSนได5ก็ใหจ5 บั มา อยากดูนำ้ หนา5 ลิงโอหังตัวน้ีนัก

ครั้นอินทรชิตออกไปสู5รบกับหนุมานเห็นสหัสกุมารตายอยู@กับพื้นก็ให5คุมแค5นเปSนกำลัง จึงสั่งกำลังพล
ที่มาด5วยเข5าต@อตี แต@ด5วยความเก@งกล5าสามารถของหนุมานก็หาได5มียักษ;ตนใด ทำร5ายได5แม5เพียงเล็บข@วน
อนิ ทรชติ เห็นการณเ; ปนS ดงั นี้ สไ5ู ปกเ็ ปลอื งไพร@พลเปล@าเปล@า

คิดแลว5 แผลงศรนาคบาศ อันมอี ำนาจแผ@นดินไว
พาดสายน5าวหน@วงด5วยวอ@ งไว ผาดแผลงไปด5วยกำลังฤทธิ์
กลบั เปนS ภชุ งคต; วั หาญ เล้อื ยเลกิ พงั พานอักนิษฐ;

ตาแดงดงั่ แสงพระอาทติ ย; พน@ พษิ เขา5 ไลร@ าวี
ฝiายหนุมานรู5ว@าหากตนสะบัด นาคก็จะขาดได5โดยง@ายแต@อยากรู5ว@าพวกยักษ;จะทำอย@างไรกับตนจึง
แกล5งนอนนิ่งเสีย อินทรชิตเห็นหนุมานแน@นิ่งไปดังนั้นก็ดีใจ สั่งให5ทหารไปกุมตัวหนุมานไปเข5าเฝjาทศกัณฐ;

ทศกณั ฐส; ่ังให5ประหารชีวิต ทวา@ ทำอยา@ งไรหนมุ านกไ็ ม@ตาย

กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย โรงเรียนสตรศี รีสรุ โิ ยทัย ๑๔

เอกสารประกอบการเรยี นรายวิชา ท3220๒ วรรณคดมี รดก
ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 5

ครัน้ ถงึ จึงช@ายกันผกู มัด รงึ รดั กรกายกระบ่ศี รี
แทงด5วยแหลนหลาวทวนตรี บา5 งตีด5วยกระบองเท@าลำตาล
บา5 งเอาค5อนเหลก็ รมุ รัน บา5 งหม@กู ็ฟนl ด5วยขวาน

บา5 งเอาพะเนนิ ค5อนรอนราญ บ5างประหารดว5 ยง5าววุ@นไป
แต@หนุมานก็ไม@เปSนไร..หนำซ้ำ จัดการหักคอช5างตัวฉกาจของทศกัณฐ; ครั้นพญายักษ;ได5เห็นหน5า
หนุมานก็คิดว@า ลิงตัวนี้เก@งกล5าสามารถนัก เห็นทีจำต5องเลี้ยงไว5เปSนทหาร จึงแกล5งกล@าววาจาว@า ความผิดเอ็งน้ี

มีมากมายนักแต@ครั้นเห็นหน5าก็สงสาร นึกเอ็นดู...เอ็งคิดจะมาเปSนทหารรับใช5ข5าหรือไม@หนุมานได5ฟlงดังนั้นก็
สมใจ คดิ จะเผาเมืองลงกาเสยี ให5วอดวาย แลว5 จงึ ออกอุบายว@าให5เผาตนเองถงึ จะตาย
ซ่งึ จะฆ@าขา5 ด5วยอาวธุ ไหนจะสนิ้ สดุ สังขาร;

จงให5เอานน@ุ สำลีมา กับผ5าชุบนำ้ มนั ยาง
แลว5 จงึ เอาพนั เขา5 ทัง้ ตัว ตลอดแต@หวั ไปจนหาง
ชน้ั นอกน้นั ใหเ5 อาฟาง ทำต@างเชอื กรดั ผกู พัน

แล5วจึ่งเอาไฟจดุ ขา5 เผาใหส5 ิ้นชพี อาสญั
เลอื ดเน้ือกจ็ ะสญู ไปด5วยกนั ไม@ทันทนทุกขเ; วทนา
ทศกัณฐ;หลงเชื่อก็ทำตาม เมื่อไฟติดหนุมานก็วิ่งทั่วกรุงลงกา ไฟไหม5เผาเมืองจนวอดวาย ครั้นเผา

เมืองจนราบเปSนหน5ากลองสมใจแล5ว หนุมานก็กระโดดลงน้ำเพื่อดับไฟ ชำระล5างร@างกาย...แต@ไฟที่หางยังไม@ดับ
ทำยังไงm...ยังไง ก็ไม@ดับจึงกลับไปหาพระนารทnษี เล@าให5ฟlงตามเหตุที่ตนไปก@อมา แล5วก็ถามพระnษีว@าจะทำ
อยา@ งไร กบั ไฟทตี่ ดิ อยป@ู ลายหาง พระนารถnษจี ึงว@า

เอ็งเปนS ทหารพระจกั รกฤษณ; เพลิงนิดเท@านไ้ี ม@ดับได5
น้ำในบอ@ นอ5 ยจะไว5ไย เหตุใดไม@ดบั อคั คี
หนุมานคิดได5ฟlงดังนั้นก็เข5าใจ จึงเอาหางอมใส@ในปากและอัดลมในช@องจมูกแล5วไฟนั้นก็ ดับ ลงทันที

ครั้นแล5วหนุมานก็กราบลาพระนารถnษีเหาะกลับไปยังเขาเหมติรัน เล@าเรื่องทั้งหมดให5องคตและชมพูพานฟlง
รง@ุ เช5าทง้ั กองทพั ลงิ จึงลาพญาสัมพาทเี พื่อกลบั ไปเฝาj พระราม ณ เขาคันมาทนต; @อไป
กล@าวถึงทศกัณฐ;ขณะนั้นได5พานางมณโฑขึ้นบุษบกแก5วและนำบรรดาญาติวงศ; หนีไฟไปอยู@บนยอดเขา

สัตนา ไฟไหม5กรุงลงกาวอดวาย คราวนี้ ลงกาเปSนอันเปSนเมืองที่เทวดาชั้นพรหมสร5างให5พระอัยกา (ปูi)
ของทศกัณฐ; มีความสวยงามดั่งเมืองพระอินทร;มาพินาศลงต@อหน5าต@อตา ทศกัณฐ;จึงให5เปาวนาสูรย; ขึ้นไป
อันเชิญฝงู เทวดา ใหม5 าชว@ ยสรา5 งเมอื งให5ใหม@ ให5งดงามดงั เดมิ

กล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย โรงเรยี นสตรีศรีสรุ ิโยทยั ๑๕

เอกสารประกอบการเรียนรายวิชา ท3220๒ วรรณคดมี รดก
ระดับชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 5

วิเคราะห์คณุ คา่ เรอ่ื ง รามเกยี รติ์

แนวคิดสำคญั ของเร่อื ง

๑. การให้ความทุกข์แก่ผู้อื่นก็ย่อมก่อให้เกิดความทุกข์แก่ตนเอง : ไม่ว่าจะเป็นทศกัณฐ์หรือหนุมาน

ก็ตามที่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนก็ต้องได้รับความทุกข์จากการกระทำของตนเองทั้งสิ้น ดังเช่นทศกัณฐ์จับหนุมสนได้
ก็มีความโกรธ สั่งให้ประหารหนุมาน หนุมานจึงคิดกลอุบายเผาเมืองลงกา ทำให้ทศกัณฐ์ได้รับความเดือดร้อน
บ้านเมืองถูกเผาวอดวาย ส่วนหนุมานเผาเมืองลงกาก็ด้วยความพยาบาท ตัวเองก็ได้รับความเดือดร้อนจากการ

เผาเมืองเช่นกัน เพราะหนุมานไม่สามารถดับไฟที่หางของตนเองได้จนต้องไปหาพระนารทฤษีให้ช่วยแนะนำให้
๒. ควรคิดให้รอบคอบก่อนที่จะทำการใดลงไป : ทศกัณฐ์เชื่อคำของหนุมานให้ฆ่าหนุมานด้วยการใช้

ไฟโดยไม่คิดถึงผลเสียหายที่จะตามมาภายหลัง เมื่อหนุมานเผาเมืองลงกาแล้ว ได้กลับไปกราบทูลให้พระราม

ทรงทราบ พระรามกริ้วหนุมานที่ทำเกินบัญชา หนุมานจึงได้รับความเดือดร้อนใจเป็นผลเสียต่อตนเองอีก
เชน่ กนั

คุณค่าด้านตา่ ง ๆ

๑. คณุ คา่ ในด้านเนื้อเร่ือง

บทละครเรื่องรามเกียรติ์พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เป็นบท

พระราชนิพนธ์ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นยอดแห่งเรื่องรามเกียรติ์เพราะมีเนื้อเรื่องสมบูรณ์มากที่สุด ให้ความ

เพลิดเพลิน สนุกสนาน มีทั้งรัก โศก ขบขัน ตื่นเต้น และมีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ จึงเป็นที่ถูกรสนิยมของคนไทย

มาตง้ั แต่สมัยโบราณ นอกจากให้เพลดิ เพลินแล้วยงั นำมาแสดงละครในและโขนอีกด้วย

๒. คณุ คา่ ในด้านวรรณศิลป์ เปน็ คุณค่าทางด้านวธิ ีการแต่ง การใช้ถ้อยคำใหเ้ กดิ ความไพเราะและ

เกิดจินตภาพ

การบรรยายฉาก เหตุการณ์ และตัวละคร พรรณาได้อย่างละเอียด ชัดเจน เช่น ฉากภูมิประเทศ

ขบวนทัพ การรบ ภาพบ้านเมือง การแต่งตัวและการกระทำหรือพฤติกรรมของตัวละคร ตลอดจนเหตุการณ์

ต่าง ๆ

เทา้ ซา้ ยเหยียบเขา่ กระบี่ศรี มือขวาอสรุ เี ง้ือศร

กลอกกลบั พลั วนั ประจญั กร ต่างมฤี ทธิรอนไมล่ ดกนั ฯ

การเสนอเรอ่ื ง เปน็ การบรรยายเรื่องเพอ่ื ใหผ้ ู้อ่านไดต้ ิดตามเรอื่ งทีผ่ ่านมาเป็นระยะด้วยการเล่าเร่อื ง

ย้อนหลงั โดยการใช้การเจรจาของตวั ละครเป็นการเล่าเหตุการณ์

ตวั ขา้ ผูเ้ ดยี วลอบไป แอบอยู่ในสวนยกั ษา

พอทศกัณฐ์มันออกมา เจรจาไหวว้ อนพระเทวี

นางไมม่ จ่ ิตประดิพทั ธ์ เคืองขัดดา่ ว่ายักษี

คร้ังมนั คนื เข้าธานี เทวผี กู ศอจะวายปราณ

ข้าบาทวงิ่ ไปแก้ลง ถวายผา้ ธำรงแลว้ แจ้งสาร

กลุม่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย โรงเรียนสตรศี รีสรุ ิโยทยั ๑๖

เอกสารประกอบการเรยี นรายวิชา ท3220๒ วรรณคดมี รดก
ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 5

ความงามทางด้านภาษา มีการใช้คำเปรียบเทียบและอุปมาอุปไมยที่กินใจ มีการเล่นสัมผัสอักษร
มีการเล่นคำ ทำให้เกิดความหมายและเกิดโวหารต่าง ๆ มีการเลือกใช้คำได้เหมาะสมกับเหตุการณ์อารมณ์และ
ความร้สู กึ ของตัวละคร

เม่อื นน้ั อนิ ทรชิตสิทธศิ ักด์ิยักษา

ไดัฟงั วานรเจรจา โกรธาด่ังไฟบรรลยั กลั ป์

ขบเข้ียวเคย้ี วกรามกระทืบบาท ร้องตวาดผาดเสยี งดงั ฟ้าลั่น

เหม่อา้ ยลิงไพรใจฉกรรจ์ กจู ะหน่ั ให้ยับลงกับกร

๓. คณุ ค่าด้านความรู้

ด้านวฒั นธรรมและประเพณี บทละครเรือ่ งรามเกยี รติต์ อนหนุมานเผากรงุ ลงกา ไดส้ ะท้อนใหเ้ ห็น

วัฒนธรรมขนบธรรมเนยี มประเพณหี ลายประการ เชน่

ประเพณีการเขา้ เฝ้า

ต่างตนน้อมเศรยี รอภวิ าทน์ พระตรภี วู นาถทรงศร

หมอบอย่หู น้าหมู่วานร คอยฟังภธู รบญั ชา

ประเพณกี ารจดั ทัพและการตงั้ ค่าย มีพิธีการจดั กระบวนทัพและการตง้ั คา่ ยเป็นแบบต่าง ๆ

การต้งั ค่ายเป็นสิง่ สำคัญในการสงครามเพราะเป็นท่ีตั้งของกองทพั มกี ารตงั้ ค่ายชัน้ นอก ชั้นใน ตลอดจนท่ี

ประลองอาวธุ

ทพั หน้าเกณฑ์ให้นลิ นน คุมพลสิบสมุทรเปน็ นายใหญ่

ทพั หนนุ องคตฤทธไิ กร คุมพลสิบสมทุ รวานร

เกยี กกายคำแหงหนุมาน คุมทหารสบิ สมทุ รชาญสมร

ทพั หลวงโยธาพลากร ซบั ซ้อนย่สี ิบสมุทรตรา

การแสดงสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของบรรพบุรุษ มีการสะท้อนสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของ

บรรพบุรุษหลายประการ คอื

การใช้อาวธุ ในการสงคราม เชน่ ดาบ โล่ ง้าว ปืน ธนู โตมร เป็นต้น นอกจากนี้กวยี ังได้สอดแทรกให้

เห็นสภาพสงั คมไทยในสมยั น้ันได้อยา่ งชดั เจน เชน่

บดั นั้น ฝ่ายหม่อู สุรานอ้ ยใหญ่

บา้ งกนิ เหล้ากินแกลม้ วุ่นไป เมามายไม่สมประดี

บ้างเตน้ บา้ งรำทำเพลง ตบมอื โฉงเฉงอึงม่ี

อือ้ ฉาวไปทั้งธานี อสรุ ีช่นื ชมปรดี า

ความเขา้ ใจธรรมชาติของมนษุ ย์

ความกลวั

ต่างคนอุ้มลูกจงู หลาน ลม้ ลกุ คลุกคลานแลว้ ร้องให้

ฉวยกระบงุ มงุ้ ม่านหูกไน บา้ งไดเ้ ชงิ กรานก็แบกมา

บ้างข่ีคอพอ่ ตาแมย่ าย ลางคนเมยี หายกเ็ รียกหา

อตุ ลตุ ไปทงั้ พารา พากนั ว่ิงว่นุ เปน็ โกลี

กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย โรงเรียนสตรศี รสี ุรโิ ยทยั ๑๗

เอกสารประกอบการเรยี นรายวชิ า ท3220๒ วรรณคดมี รดก
ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 5

ความดใี จ

เมื่อนนั้ อินทรชติ สทิ ธศิ ักด์ิยกั ษา

เห็นวานรตอ้ งศรก็ปรดี า ตบหตั ถ์สรวลร่าสำราญ

ความโกรธ

ได้ฟงั ดังเอาอคั คี เขา้ มาจุดจกี้ ายา

สบิ ปากตวาดผาดร้อง กกึ กอ้ งนิเวศนย์ กั ษา

ความรกั และความห่วง

เมียเดยี วควรฤใหจ้ ากอก ตกไปในมือปรปักษ์

โหยหวนครวญถึงนงลกั ษณ์ ซบพกั ตรก์ บั เขนยแล้วหลบั ไป

คติธรรมในการดำเนนิ ชวี ิต : แสดงความคิดในแงค่ ติธรรม คิดส่ิงใดใหร้ อบคอบ จะดีหรอื ช่ัวอยู่ท่กี าร

กระทำของตนเอง

ตวั กูทำการครั้งนี้ จงรักภกั ดสี ุจรติ

มิไดอ้ าลยั แก่ชวี ติ ทะนงใจไม่คิดตรกิ าร

เหน็ ผดิ เปน็ ชอบดว้ ยโมหันธ์ ป้มิ สนิ้ ชวี ันสงั ขาร

ใครเลยจะนบั วา่ ชายชาญ อาภพั อปั ระมาณเปน็ พ้นไป

ทง้ั นี้เพราะวาสนาตัว ดชี ั่วจะโทษผู้ใดได้

เสียทที ม่ี ีทธไิ กร นอ้ ยใจเป็นพน้ คณนา

กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย โรงเรยี นสตรีศรีสรุ ิโยทัย ๑๘

เอกสารประกอบการเรยี นรายวชิ า ท3220๒ วรรณคดมี รดก
ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 5

สะทอ้ นความคดิ หลงั เรียน

การตระหนักรูใ7 นตนเอง (self-awareness)

ร7อู ะไรบ7าง

อะไรบา7 งทย่ี งั ไมรI 7ู

อยากร7ูอะไรเพ่ิมขึน้

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

แบบทดสอบ
รามเกยี รต์ิ ตอน หนุมานเผาลงกา

กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย โรงเรียนสตรศี รสี รุ ิโยทัย ๑๙

เอกสารประกอบการเรยี นรายวิชา ท3220๒ วรรณคดมี รดก
ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 5

ตอนท่ี ๓
อเิ หนา ตอน ท้าวดาหาไปใชบ้ นและบุษบาเส่ยี งเทยี น

ความเป็นมาของเรือ่ งอิเหนา

อิเหนา หรือที่เรียกกันว@านิทานปlนหยีนั้น เปSนนิทานที่เล@าแพร@หลายกันมากในชวา เชื่อกันว@าเปSน
นิยายอิงประวัติศาสตร;ของชวา ในสมัยพุทธศตวรรษที่ ๑๖ ปรุงแต@งมาจากพงศาวดารชวา และมีด5วยกันหลาย
สำนวน พงศาวดารเรียกอิเหนาว@า “ปlนจี อินู กรัตปาตี” (Panji Inu Kartapati) แต@ในหมู@ชาวชวามักเรียกกัน
สั้น ๆ ว@า “ปlนหยี” (Panji) ส@วนเรื่องอิเหนาที่เปSนนิทานนั้น น@าจะแต@งขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ ๒๐-๒๑ หรือ
ในยุคเสื่อมของราชวงศ;อิเหนาแห@งอาณาจักรมัชปาหิต และอิสลามเริ่มเข5ามาครอบครอง นิทานปlนหยีของ
ชวานั้น มีด5วยกันหลายฉบับ แต@ฉบับที่ตรงกับอิเหนาของเรานั้น คือ ฉบับมาลัต ใช5ภาษากวีของชวาโบราณ
มาจากเกาะบาหลี

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรยี นสตรศี รสี ุรโิ ยทยั ๒๐

เอกสารประกอบการเรียนรายวิชา ท3220๒ วรรณคดีมรดก
ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5

จดุ ประสงค์การแตง่ เรื่องอิเหนา

พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล5านภาลัย โปรดเรื่องอิเหนามาก ทรงเห็นว@าบทละครอิเหนาของเดิม
ไม@เหมาะกับการเล@นละคร จึงทรงนิพนธ;และปรับปรุงใหม@ ให5เข5ากับท@ารำ ดำเนินเรื่องให5เหมาะสมกับ
การแสดงละคร
๑. เพื่อใช+เล-นละครใน ละครในเป*นละครที่เล.นกันในวัง ใช4ผู4หญิงแสดงล4วน ๆ ท.าทางร.ายรำ
งดงาม อ.อนชอ4 ย เครอื่ งแต.งกายประดบั ตกแต.งอย.างสวยงาม คำรอ4 งและทำนองเพลงไพเราะ
๒. เพือ่ ปอ4 งกันการสญู หาย และรกั ษาไวเ4 ปน* มรดกของชาตสิ ืบไป ดงั ปรากฏในบทนำวา.
“ อันอิเหนาเอามาทำเป*นคำรอ4 ง สำหรบั งานการฉลองกองกุศล
ครั้งกรงุ เกา. เจ4าสตรเี ธอนพิ นธR แต.เรือ่ งตน4 ตกหายพลดั พรายไป
หากพระองคRทรงพภิ พปรารภเล.น ใหร4 ำเตน4 เล.นละครคดิ กลอนใหม.
เตมิ แต4มตอ. ตดิ ประดษิ ฐRไว4 บำรุงใจไพร.ฟVาขา4 แผ.นดิน”

รูปแบบของการประพันธ์

กลอนบทละคร เป็นคำประพนั ธช์ นิดหน่ึง ซึง่ แต่งขน้ึ เพื่อใชใ้ นการเลน่ ละคร กลอนบทละครมลี ักษณะ
บังคับเช่นเดียวกับกลอนสุภาพ วรรคหนึ่งมี 6 ถึง 9 คำ แต่นิยมใช้เพียง 6 ถึง 7 คำจึงจะเข้าจังหวะร้องและรำ
ทำให้ไพเราะย่งิ ขน้ึ กลอนบทละครจะมคี ำขน้ึ ตน้ ๓ คำไดแ้ ก่

เม่ือน้ัน : _____________________________________________________

บดั นั้น : ______________________________________________________

มาจะกลา่ วบทไป : _______________________________________________

กำหนดเพลงหน5าพาทย;และเพลงสำหรับขับร5อง เพลงหน5าพาทย;เปSนเพลงที่ใช5บรรเลงประกอบกิริยา
ท@าทาง และการแสดงอารมณ;ของตัวละคร ได5แก@ เพลงเชิด เชิงฉิ่ง เสมอ กราวรำ ทยอยโอด ส@วนเพลงสำหรับ
ขับร5อง ก็ใช5ทำนองเพลงต@าง ๆ มากมาย ตัวละครจะต5องรำ แสดงท@าทาง และอารมณ;ความรู5สึกให5สอดคล5อง
กบั เนื้อความทมี่ ใี นบทรอ5 ยกรองนั้น
________________________________________________________________________________

________________________________________________________________________________

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย ๒๑

เอกสารประกอบการเรียนรายวชิ า ท3220๒ วรรณคดีมรดก
ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5

เรอื่ งย่อวรรณคดี เรื่อง อิเหนา

เริ่มเรื่องกล@าวถึงกษัตริย;วงศ;เทวา ๔ องค; มีนามตามชื่อกรุงที่ครองราชย; คือ กุเรปSน ดาหา กาหลัง และ
สิงหัดสUาหรี ยังมีนครหมันหยาซึ่งเกี่ยวดองเปSนญาติกันกับนครเหล@านี้ กษัตริย;แห@งวงศ;เทวามีมเหสี ๕ องค;
เรียงลำดับตามตำแหนง@ ดังน้ี ประไหมสหุ รี มะเดหวี มะโต ลกิ ู และเหมาหลาหงี

ต@อมาท5าวกุเรปlนได5โอรสกับมเหสีเอก ท5าวปะตาระกาหลานำกริชวิเศษลงมาให5 พร5อมจารึกชื่อไว5บนกริช
คือ อิเหนา ท5าวหมันหยาได5ธิดากับมเหสีเอกชื่อ จินตะหราวาตี และท5าวดาหาได5ธิดากับมเหสีเอกของตน
เชน@ เดยี วกนั ชอื่ วา@ บุษบา ทา5 วกุเรปนl ได5ขอตนุ าหงัน (หมั้นไว)5 บุษบาใหแ5 ก@อเิ หนา เพือ่ เปSนการสบื ราชประเพณี

ส@วนอิเหนาเติบโตเปSนเจ5าชายรูปงาม ชำนาญการใช5กริช ครั้นเมื่อพระอัยกีเมืองหมันหยาสิ้นพระชนม;
อิเหนาได5ไปในงานปลงพระศพแทนพระบิดาและพระมารดาซึ่งทรงครรภ;แก@ ได5ไปพบนางจินตะหราก็หลงรัก
และได5นางเปSนชายา และได5บอกเลิกตุหนาหงันนางบุษบาเสียเฉยๆ ทำให5ท5าวดาหาขัดเคืองพระทัยมาก ดังน้ัน
พอจรกา มาขอตุนาหงัน ท5าวดาหาก็ยอมรับเพราะแค5นอิเหนา จากนั้นก็มีวิหยาสะกำ โอรสของทIาวกะห
มังกุหนิงมาขอนางบุษบาด5วย แต@ท5าวดาหาทรงปฏิเสธ เพราะได5ยกบุษบาให5จรกาไปแล5ว ท5าวกะหมังกุหนิงจึง
ยกทพั มาตีเมอื งดาหาเพอ่ื ชงิ นาง

ท5าวดาหาแจ5งข@าวให5ท5าวกุเรปlนและจรกายกทัพมาช@วย ท5าวกุเรปlนโปรดให5อิเหนาเปSนแม@ทัพยกไปช@วย
อิเหนาจึงจำใจต5องจากนางจินตะหรายกทัพไปช@วยท5าวดาหารบจนได5ชัยชนะ และฆ@าท5าวกะหมังกุหนิงและวิ
หยาสะกำตาย หลังจากเสร็จศึกแล5ว อิเหนาได5เข5าเฝjาได5ท5าวดาหา และเมื่อได5พบนางบุษบา อิเหนาถึงกับตะลึง
หลงนางบษุ บา

ต@อมา มะเดหวีซึ่งคงจะวุ@นพระทัยว@าบุษบาจะลงเอยประการใด จึงชวนบุษบากับนางกำนัลไปทำพิธีเสี่ยง
เทียนยังวิหาร ใกล5ๆวิหารนั้นพวกอิเหนากำลังตั้งวงเตะตะกร5อ ครั้นพวกสาวใช5มะเดหวีขึ้นมาไล@ ก็พากันวิ่งหนี
กระจายไป แต@อิเหนา สังคามาระตาและประสันตาวิ่งเข5าไปแอบอยู@หลังพระปฏิมาในวิหาร มะเดหวีได5ยิน
ดังนั้น ก็ตื่นเต5นดี พระทัย แต@ไม@ช5าเรื่องก็แตก เพราะอิเหนาต5อนค5างคาวจนเทียนดับ แล5วใช5ความมืดเข5ามา
กอดบุษบา แล5วก็ไม@ยอมปล@อย จนพี่เลี้ยงไปเอาคบเพลิงมา ก็เห็นอิเหนากอดบุษบาไว5แน@น มะเดหวีจะกริ้ว
โกรธอย@างไร ก็เห็นว@าเสียทีอิเหนาเสียแล5ว จึงยอมสัญญาว@าจะหาทางให5อิเหนาได5กับบุษบา อิเหนาจึงยอม
ปล@อย ครั้นไม@เห็นทางได5บุษบาแต@โดยดี อิเหนาก็คิดอุบายที่ร5ายแรงที่สุด คือเผาโรงมโหรสพในพิธีแต@งงานของ
บุษบาและจรกาในเมืองดาหา แล5วลักนางไปไว5 ในถ้ำทอง ซึ่งเตรียมไว5ก@อนแล5วแล5วแปลงกายนางบุษบาให5เปSน
ชายชื่อว@า อุณากรรณ ประทานกริชวิเศษให5 และบอกให5เดินทางเข5าสู@เมืองประมอตัน ต@อจากนี้ก็ถึงบท
มะงุมมะงาหรา (ท@องเที่ยวหา) อิเหนาเปSนฝiายตามหา บุษบาเปSนฝiายหนีเดินทางไปตามเมืองต@าง ๆ ปราบเมือง
นั้น ๆ ไว5ในอำนาจ มีเหตุการณ;สนุกตื่นเต5นสลับซับซ5อน เช@น ธิดาเจ5าเมืองต@าง ๆ เข5าใจว@าอุณากรรณเปSนผู5ชาย
ก็หลงรกั ตอนมะงมุ มะงา หราเปSนเรอื่ งราวสักคร่ึงหน่งึ ของเรือ่ งทง้ั หมด

กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย โรงเรียนสตรศี รสี ุริโยทยั ๒๒

เอกสารประกอบการเรยี นรายวชิ า ท3220๒ วรรณคดมี รดก
ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 5

องค;ปะตาระกาหลากริ้วอิเหนามาก จึงบันดาลให5เกิดพายุใหญ@หอบรถนางบุษบาและพี่เลี้ยงไปตกที่
ชายเมืองประมอตัน เมื่อสิ้นเวรสิ้นกรรมแล5ว กษัตริย;วงศ;เทวาทั้งหมดก็ได5พบกัน อิเหนาได5ปรับความเข5าใจกับ
นางจนิ ตะหราและไดค5 รองเมอื งกเุ รปนl อย@างมคี วามสขุ สืบไป

ผังตัวละครอเิ หนา ตอน ท้าวดาหาไปใชบ้ นและบษุ บาเสีย่ งเทยี น

องค์ปะตาระกาหลา
วงศอ์ สญั แดหวา

ท้าวกุเรปัน ทา้ วดาหา ท้าวกาหลงั ทา้ วสงิ หัดส่าหรี

กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย โรงเรียนสตรศี รสี รุ ิโยทยั ๒๓

เอกสารประกอบการเรียนรายวชิ า ท3220๒ วรรณคดีมรดก
ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 5

สรปุ ………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………….

กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย โรงเรยี นสตรศี รีสุรโิ ยทยั ๒๔

เอกสารประกอบการเรียนรายวิชา ท3220๒ วรรณคดีมรดก
ระดับชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 5

อเิ หนา ตอน ทา้ วดาหาไปใช้บนและบษุ บาเส่ียงเทียน

บทประพนั ธ์
อเิ หนา ตอน ทา้ วดาหาไปใช้บนและบุษบาเส่ียงเทียน

เมอื่ ทาA วดาหาไดรA บั ชัยชนะจากการทำศกึ กะหมงั กุหนิง ทาA วดาหาจึงจดั การบอกไปยงั พนี่ อA ง
ทั้งหลาย แลAวเตรียมตัวไปเขาวิลิศมาหราเพื่อแกAบนที่ไดAขอเอาไวA ทางดAานอิเหนาเมื่อชนะศึกแลAว
ก็ไดAเขAาเฝOาทAาวดาหาและไดAพบกับบุษบา อิเหนาไดAเห็นความงามของบุษบาก็หลงรักและเสียดาย

พยายามหาอุบายอยู?ในเมืองดาหาต?อไป และพยายามหาโอกาสใกลAชิดบุษบา โดยอาศัยสียะตรา
เปSนส่อื รัก อิเหนาพยายามหาวิธีการทกุ ทางเพอ่ื จะไดบA ษุ บาเปนS ของตน
ทางดAานมะเดหวีไดAพาบุษบาไปไหวAพระในวิหารบนเขา แลAวเสี่ยงเทียนดูว?าดวงชะตาของ
นางจะคู?กับอิเหนาหรือจรกา โดยวิธีเสี่ยงทายนั้น ใชAเทียนสามเล?ม เล?มหนึ่งเปSนบุษบา ปTกตรงหนAา

นาง อีกเลม? เปSนอิเหนา ปกT ทางขวา และขาA งซาA ยเปSนจรกา มะเดหวสี อนใหAบุษบากลา? วอธิษฐานวา?
แมนA ...จะไดAขาA งไหนแน? ใหAประจักษ(แทจA งหนักหนา
แมนA จะไดขA Aางระตูจรกา ใหAเทียนพี่ยาน้นั ดับไป
บษุ บาแมจA ะอายใจเตม็ ทีกจ็ ำตAองทำตามมะเดหวี แลAวก็มเี สียงจากปฏิมาว?า

"...อนั นางบษุ บานงเยาวS จะไดแ7 กIอิเหนาเปVนแมนI มัน่
จรกาใชIวงศเS ทวญั แมน7 ได7ครองกนั จักอันตราย"
บุษบาแปลกใจที่พระพุทธรูปพูดไดA อิเหนาเห็นเปSนโอกาสจึงใหAนAองไปเปYาเทียนของจรกา
จนดับ หลังจากนั้นจึงตAอนคAางคาวใหAบินว?อน ทำใหAเทียนดับหมด จนวิหารมืดมิด แลAวก็ออกมา

กอดบุษบา นางตกใจส?งเสียงรAองใหAช?วย มะเดหวีใหAพี่เลี้ยงไปจุดไฟ ก็เห็นอิเหนากำลังกอดบุษบา
อยู? มะเดหวีจึงต?อว?าดAวยความแคAนใจ ที่อิเหนาทอดทิ้งบุษบาซึ่งเปSนคู?หมั้นหมายมาตั้งแต?เด็กอย?า
มาสนใจใยดี เมอ่ื พอ? ของบษุ บายกใหนA างแตง? งานกบั จรกา ใยจงึ มาขม? เหงรังแกเชน? น้ี
อิเหนาก็ว?าหาไดAทอดทิ้งไม? ตัวเขารักบุษบาอย?างสุดหัวใจ เพื่อแสดงความจริงใจจึงถอดแหวน

มอบใหAบุษบา แต?บุษบาไม?รับ มะเดหวจี งึ ถอดกำไลของบุษบาไปแลกกบั แหวนของอเิ หนาแทน

กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย โรงเรยี นสตรศี รสี รุ โิ ยทยั ๒๕

เอกสารประกอบการเรยี นรายวิชา ท3220๒ วรรณคดมี รดก
ระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5

บทสำคัญ ตอน ทา้ วดาหาไปใชบ้ นและบษุ บาเสีย่ งเทยี น

หลังจากจบศึกกะหมังกุหนิงแล5ว ท5าวดาหาตั้งใจจะไปสักการะและบนพระพุทธรูปบนเขาวิลิศมาหรา
จึงใหท5 หารไปแจง5 ต@อพระเชษฐาและพระอนุชาท้งั ๒ พระองค; เพือ่ ให5สง@ พระโอรสมาเปนS ทัพหนา5

๏ เม่ือนั้น พระองค;ทรงพิภพดาหา
จึงตรัสส่ังทัง้ สามเสนา จงไปทลู พระเชษฐาธบิ ดี
กับพระอนชุ ากาหลงั อกี ท้งั สงิ หดั ส@าหรี

จะแตง@ การวิวาหพ; ระบตุ รี จำเริญศรีสวสั ดส์ิ ถาวร
พร@งุ นีจ้ ะยกยาตรา ไปวิลศิ มาหราสิงขร
ใหส5 ามนัดดาฤทธริ อน ยกนิกรเปSนกองหน5าไป

นางกำนัลในเมอื งดาหา ต@างก็ดีใจท่ีจะได5ไปเขาวิลศิ มาหรา ได5ออกมาเตรียมของกนั อยา@ งว@ุนวาน
๏ บัดนนั้ ฝiายฝูงสนมนางสาวสรรค;
ดีใจทจ่ี ะได5จรจรัล ตามเสดจ็ ทรงธรรม;ไปใชบ5 น

ลางนางบา5 งว@าพึ่งมาใหม@ ยังไม@เคยไปแต@สกั หน
วนุ@ วายท้งั วังเปนS กงั วล ตา@ งคนเร@งรัดจัดแจง
บรรดานางกำนัลพนักงาน กต็ รวจตราเครอื่ งอานตามตำแหน@ง

มอบหมายมิใหพ5 ลัดแพลง แลว5 มาจัดแจงเคร่อื งแตง@ ตัว
บ5างเท่ยี วไถข@ องจำนำเขา คราวเสยี แปดเกา5 กบั ชะหวั
ดอกเบี้ยค5างคิดกันพันพัว มใิ ห5องึ ออกตวั กลวั อาย

บ5างไรท5 รัพย;ไมเ@ สง่ียมเจยี มตน อุตสา@ ห;สูซ5 @อนจนขวนขวาย
ไปเช่อื เชา@ เขามาทำกรยุ กราย แตง@ กายประกวดอวดมั่งมี
บา5 งหยบิ ยกเคร่อื งแปงj ออกมาจดั ตะไกรตัดตาดปกl ทำฝกl หวี

ปรุงกระแจะใสต@ ลับลำดับดี ขวดเนยี รคันถศี ิลาทอง
ลางคนบน@ ว@าเปนS ท่สี ุด สงกรานตต; รุษก็หาเหมอื นครั้งนี้ไม@
ยนิ ดปี ระดาจะคลาไคล ท่ัวทุกนางในพระกำนัล ฯ

ในขณะนั้น อิเหนาที่ประทับอยู@กับสียะตรา ก็ได5วางแผนกับสียะตรา เพื่อตนจะได5ใกล5ชิดกับนางบุษบา
ว@าหากถึงขบวนเสด็จ ให5สียะตราประทับกับบุษบา แล5วอิเหนาก็จะไปชวนสียะตรามาขี่มาด5วยกัน หลังจากนั้น
จงึ เขา5 ประทบั กับสังคามารตา และละเมอถึงนางบษุ บา

กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย โรงเรยี นสตรีศรสี รุ โิ ยทัย ๒๖

เอกสารประกอบการเรยี นรายวชิ า ท3220๒ วรรณคดมี รดก
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 5

๏ เม่อื นน้ั พระโฉมยงทรงสวัสดิร์ ศั มี
สถิตเหนือแท@นรตั น;รจู ี ครั้นสน้ิ แสงสุรยิ ;ศรสี นธยา
ใหค5 ิดถึงสียะตราหน่ึงหรดั เคยชมโฉมโสมนสั เสนหา

เชยต@างพีน่ างบุษบา วันนี้อนชุ าจากไป
พระจึงชวนสังคามาระตา เขา5 ทีไ่ สยาพสิ มยั
บรรทมบนแทน@ แกว5 แววไว สองกษตั ริยช; าญชัยก็นิทรา ฯ

๏ เวลาเงียบสงัดกำดดั ดกึ พระรส5ู กึ ขึ้นแล5วกค็ วา5 หา
ประสบองค;สงั คามาระตา พระราชาอมุ5 สะพกั ใส@ตักไว5
กรเกย่ี วเกลียวกลมชมเชย ตามเคยทุกวันไมส@ งสัย

พลางพลอดกอดจูบลบู ไล5 มิไดล5 มื เนตรขึ้นแลดู ฯ
๏ พอได5ยินสรวลขิกกไ็ ดค5 ิด จงึ ลืมเนตรข้นึ พิศอยูเ@ ปนS ครู@
เห็นสงั คะมาระตาโฉมตรู พระอดสูทิง้ ลงเสียฉับพลนั

ให5ขวยเขินสะเทนิ วญิ ญาณ; เอนองค;นิทราผนิ ผัน
คิดละอายฤทัยพระทรงธรรม; ทำบรรทมหลับนิ่งไป ฯ
ขบวนเสดจ็ ของทา5 วดาหา ประไหมสหุ รี มะเดหวี บษุ บาและสยี ะตรา

๏ มาขน้ึ เกยสวุ รรณบรรจง เสดจ็ ทรงรถแก5วมณีศรี
รถประไหมสหุ รีเทวี อกี รถมะเดหวีลำดับกนั
แลว5 รถระเดน@ บุษบา กบั พระนอ5 งสยี ะตราเฉดิ ฉนั

รถสามมเหสเี รียงรนั รถประเทยี บกำนลั นารี
เครอื่ งสงู ชุมสายรายริ้ว ธงทิวปลิวระยบั สลับสี
เสียงประโคมโครมครื้นปถl พี ออกจากบรุ รี บี มา ฯ

อิเหนาตื่นสาย เลยตามขบวนเสด็จไม@ทัน จากนั้นรีบควบมา และระหว@างทางก็ได5เก็บดอกไม5 ให5ประ
สันตานำไปถวายบุษบาและสียะตรา จากนั้นอิเหนาก็ควบม5ามาใกล5รถของบุษบา สียะตราร5องไห5เสียงดัง
อยากจะไปขี่ม5ากับอิเหนา แต@บุษบามิยินยอม องค;ประไหมสุหรี จึงได5ไต@ถามความ ว@าสียะตราร5องทำไม

พอทราบว@า อยากข่มี 5ากับอิเหนา กท็ รงให5อิเหนาไปรบั สยี ะตรามาขมี่ า5 ดว5 ย
๏ เมอื่ นน้ั ระเด@นมนตรเี รืองศรี
ทลู ว@าสียะตราโศกี วอนวา@ จะขี่มโนมัย ฯ

๏ เมอ่ื น้นั องคป; ระไหมสุหรีศรใี ส
จงึ วา@ รบั มาดว5 ยกเ็ ปนS ไร อยา@ ให5นอ5 งรำ่ ไหโ5 ศกา
จงกลับไปรบั มาฉับพลนั ใหห5 ายทกี่ นั แสงหา

ไดข5 ่ีพาชีดว5 ยพี่ยา จะปรดี าผาสุกสำราญใจ ฯ

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย โรงเรียนสตรศี รสี รุ โิ ยทัย ๒๗

เอกสารประกอบการเรยี นรายวิชา ท3220๒ วรรณคดีมรดก
ระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5

ขณะพักรถ อิเหนากับพี่เลี้ยงก็ได5เขียนจดหมายใส@เรือลอยน้ำไปให5บุษบา เมื่อบุษบาเห็นและเป‚ดดูก็ป‚ด
ทันที และส@งให5กับพระมารดา พระมารดาเห็นดังนั้นก็ไม@พอใจ ว@าทำไมใครเขียนมาเกี้ยวพาราสีนางบุษบา
ทกุ คนในน้ันปlกใจเช่อื วา@ เปSนจรกา

๏ เม่ือนั้น มะเดหวเี คอื งขดั อัชฌาสัย
ท้ังนางสาวสรรคก; ำนัลใน กป็ ลงใจวา@ ระตูจรกา
ต@างวา@ เปSนน@าชังนัก รปู ช่วั ตำ่ ศกั ดิแ์ ลว5 มิสา

ทั้งนำ้ ใจกส็ มกบั กายา ดงั ว@าจะมิไดเ5 ปSนคเู@ คลา5
ยงั แต@จะแตง@ ววิ าหใ; ห5 ควรหรอื ทำได5ฉะนเ้ี ลา@
ตรัสแล5วชวนองค;นงเยาว; คนื เขา5 สุวรรณพลับพลา ฯ

ขณะเดนิ ทางก็เปนS บทชมนกชมไม5ตา@ ง ๆ จนถงึ หน5าพระวหิ าร มะเดหวีจงึ ชวนบษุ บา พร5อมดว5 ยนาง
กำนลั ขนึ้ ไปเส่ยี งเทียนหน5าองคพ; ระปฏมิ า เม่อื อิเหนาแอบรู5 กต็ ามเสดจ็ ไปซอ@ นอย@หู ลงั องค;พระปฏมิ า
๏ เมื่อนนั้ ระเดน@ มนตรีศรีใส

จึงขบั โยธาเสนาใน ว่ิงซอกซอนไปตามลำพัง
พระโฉมยงกับองค;อนุชา ประสันตาผ5ูรว@ มฤทยั หวัง
วิ่งเข5าในวหิ ารซ@อนบงั แอบหลงั พระปฏมิ ากร ฯ

มะเดหวแี ละบษุ บาอธษิ ฐาน อธษิ ฐานตามความปรารถนา
๏ ครน้ั ถงึ จึงถวายนมสั การ
แล5วจึงจุดเทยี นมทิ นั ชา5 กัลยาออกนามตามจำนง

เลม@ หนงึ่ เทียนระเดน@ บุษบา ปlกลงตรงหนา5 นวลหง
เล@มหนึ่งเทยี นอิเหนาสุริย;วงศ; ปlกลงเบอ้ื งขวาเทวี
เล@มหนึ่งเทียนท5าวจรกา อยเ@ู บอื้ งซ5ายบุษบามารศรี

เทียนทองท้ังสามเลม@ น้ี ขอจงเปSนทเี่ สี่ยงทาย ฯ
๏ แลว5 มีเสาวนีย;อนั สุนทร ตรัสสอนพระบุตรโี ฉมฉาย
เจา5 อยา@ ขวยเขินสะเทินอาย จงเส่ียงทายอธิษฐานด5วยวาจา

แม5นเจ5าจะได5ข5างไหนแน@ ให5ประจักษท; ักแทจ5 งหนักหนา
แม5นจะได5ข5างระตจู รกา ให5เทียนพ่ียานน้ั ดับไป
แม5นจะได5ข5างอิเหนากุเรปlน ใหร5 ศั มเี พลิงน้นั แจม@ ใส

ให5เทียนจรกาดบั ทนั ใด ขอใหเ5 หน็ ประจักษบ; ัดน้ี ฯ
อเิ หนาทซ่ี @อนตวั อยก@ู ต็ อบกลบั มา คลา5 ยดังวา@ เปนS เสียงตอบของพระปฏมิ า แล5วพระพเี่ ลยี้ งก็ต5อน
ค5างคาวใหด5 ับไฟ แล5วอเิ หนาจึงมาประคองตัวบุษบา

กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย โรงเรยี นสตรศี รสี รุ โิ ยทัย ๒๘

เอกสารประกอบการเรียนรายวชิ า ท3220๒ วรรณคดีมรดก
ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5

๏ เมอ่ื น้นั พระองค;พงศอ; สญั แดหวา
จึงตอบคำไปมิไดช5 า5 จินตะหราใชว@ งศเ; ทวญั
อิเหนากบั บุษบาโฉมยง เปนS วงศเ; ทวากระยาหงนั

วาสนาเขาเคยคกู@ นั ที่จะมริ กั น้ันอยา@ สงกา
บดั นี้ตามมาถงึ คิรี กเ็ พราะมีใจแสนเสนหา
วา@ พลางทางต5อนคา5 งคาวมา ธูปเทยี นชวาลาก็ดบั ไป ฯ

๏ พระจึงย@องมาน่งั ลงขา5 งข5าง กลวั จะผิดตัวนางยงั สงสัย
ตอ@ ได5ยินสุรเสียงทรามวัย พระลูบไล5ประคองต5องกาย ฯ
พระพี่เลี้ยงของบุษบาได5ยินเสียงนางร5อง ก็หาเทียนมาจุดไฟ อิเหนาเห็นดังนั้น ก็เอามืออกจากตัวนาง

มะเดหวีทรงกริ้วมาก บอกว@าอิเหนามีพันธะอยู@ที่เมืองหมันหยาแล5ว ไม@ควรมาทำเช@นนี้กับบุษบา พี่เลี้ยงของ
อเิ หนาจงึ ตอ5 นคา5 งคาวให5ดบั ไฟอีก ติดดับติดกบั อย@สู ามรอบ มะเดหวีจึงสง่ั ให5นางพีเ่ ลี้ยงไปเอาฟ„นจดุ ไฟใหญ@มา
๏ ครัน้ ถงึ จึงเป‚ดอัคคี เหน็ ระเดน@ มนตรอี ยทู@ น่ี ่ัน

บุษบาเคลือ่ นองค;ลงทนั อเิ หนานั้นยังยดุ พระกรไว5 ฯ
มะเดหวีทรงกริ้วอิเหนามาก ตรัสสลับกันไปมากับอิเหนาเปSนเชิงว@าเถียงกัน สุดท5ายด5วยความดื้อดึง
ของอิเหนา จึงทำให5มะเดหวียอมยกบุษบาให5 ซึ่งอิเหนาให5มะเดหวีสาบานต@อหน5าพระปฏิมาด5วยว@าจะยกให5

จริง ๆ และจากนั้นอิเหนาก็ขอเครื่องทรงของบุษบา และอิเหนาเองก็ปลดเปลื้องเครื่องทรงให5กับบุษบา
แม5นางไมเ@ ตม็ ใจรบั แต@มะเดหวีก็รับไว5
๏ เม่อื นั้น ระเดน@ มนตรีเกษมศรี

ดังได5ผา@ นฟาj ดุษฎี จึงทลู พระชนนไี ปทันใด
พระองคไ; ดร5 ับวาจา จะวางนางบษุ บาไปให5
จะขอเปล่ยี นอาภรณบ; ังอรไว5 จะได5ชมพลางต@างกัลยา

วา@ แลว5 จึงเปลือ้ งเคร่อื งทรง ยน่ื ให5แกอ@ งค;ขนษิ ฐา
บษุ บาเบือนเสยี ไมน@ ำพา ยดุ พระมารดาไวม5 ่ันคง ฯ
๏ เมอ่ื นั้น มะเดหวีมีศกั ด์สิ ูงส@ง

จงึ เปล้ืองเครอื่ งพระบุตรีทรง ใหอ5 งค;ระเดน@ มนตรี
รับเอาอาภรณ;ของนัดดา มาทรงให5บุษบาโฉมศรี
เสรจ็ แลว5 จงึ พานางเทวี จรลยี ังสวุ รรณพลับพลา ฯ

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย โรงเรียนสตรีศรีสรุ โิ ยทัย ๒๙

เอกสารประกอบการเรยี นรายวชิ า ท3220๒ วรรณคดมี รดก
ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 5

การวเิ คราะห์คุณคา่ เร่ืองอเิ หนา

แนวคดิ ทีส่ ำคัญของเรือ่ ง

แสดงให้เห็นว่าอนุภาพของความรักทำให้คนขาดสติยั้งคิดสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้ไม่ว่าจะผิดหรือถูก

โดยไม่แสดงให้เห็นว่าอนุภาพของความรักทำให้คนขาดสติยั้งคิดสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้ไม่ว่าจะผิดหรือถูก

โดยไมค่ ำนึงถงึ ผอู้ ืน่

- อิเหนาใชเ้ ลห่ เ์ หลี่ยมเขียนสารถึงบษุ บาเพื่อใหม้ ะเดหวีเขา้ ใจผดิ คิดว่าจรกาเป็นผเู้ ขียน

- อิเหนาใช้กลอบุ ายแอบแฝงอยเู่ บื้องหลังองคพ์ ระปฏมิ า

- ความรกั ระหว่างเครอื ญาติ เปน็ ความรกั ทีบ่ รสิ ุทธแ์ิ ละมีความปรารถนาดีและหวังดตี ่อกนั

- สียะตราตอ้ งการให้อเิ หนาได้อภเิ ษกกบั บุษบา โดยกล่าวเป็นเชิงประชดวา่ “สว่ นตัวเจ้าของสิชิงกัน

สว่ นบหุ งานัน้ สชิ อบใจ”

- ความรกั ของมะเดหวกี ับบษุ บา เปน็ ความรักของแมต่ อ่ ลูก เป็นความรักทเ่ี ตม็ เปยี่ มไปดว้ ยความเมตตา

ปรานี

คุณค่าด้านต่าง ๆ

๑.คุณคUาดาI นเนื้อเรอื่ ง
เปSนฉบับที่สมบูรณ;ที่สุด มีโครงเรื่องสนุก เปSนเรื่องชิงรัก หักสวาท ระหว@างอิเหนากับจรกา
และความรกั ระหว@างอิเหนากบั บุษบา ทำใหเ5 กดิ ปมปญl หาตา@ ง ๆ

การดำเนนิ เรื่องมีความสมั พันธ;กนั ดีระหว@างเหตกุ ารณต; @าง ๆ มีความสอดคลอ5 งกนั
มีลักษณะความเปSนไทยตลอดเรื่อง นอกจากชื่อเมือง ชื่อตัวละคร และศัพท;เท@านั้นที่ใช5ในเรื่องที่เปSน
ภาษาชวา

ชี้ให5เห็นว@าอานุภาพของความรักทำให5มนุษย;ขาดความยั้งคิดทำทุกอย@างได5ไม@ควาการกระทำน้ัน
จะถกู หรอื ผดิ
๒.คุณคUาดาI นวรรณศิลปZ

ความเหมาะสมของเนื้อเรื่องและรูปแบบ บทละครเรื่องอิเหนาเปSนบทละครใน มีจุดมุ@งหมาย
เพื่อแสดงละครใน กลวิธีการดำเนินเรื่องจึงยึดรูปแบบการแต@งบละครอย@างเคร@งคัด มีลีลาในการแสดงศิลปะ
การรำอยา@ งงดงาม ตามแบบแผนของละครใน ภาษาทีใ่ ช5เหมาะสมกบั ตวั ละคร

การบรรยายและพรรณนามีความละเอียดชัดเจน ไม@ว@าจะเปSนภูมิประเทศ เหตุการณ; สภาพ
บ5านเมือง ตลอดจนความรู5สึกและอารมณ;ของตัวละคร ทำให5เกิดจินตภาพ เพราะการใช5โวหารการเรียบเรียง
ถอ5 ยคำอย@างประณตี เรยี บง@าย ไดค5 วามกระจ@างชดั เช@น การ

บรรยายบุคลกิ ภาพของตัวละคร
“ในลักษณน; ั้นวา@ จรกา รูปชว่ั ต่ำช5าทงั้ ศักด์ิศรี
ทรลกั ษณ;พกิ ลอนิ ทรีย; ดไู หนไมม@ จี ำเรญิ ใจ”

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย โรงเรยี นสตรศี รีสรุ ิโยทัย ๓๐

เอกสารประกอบการเรยี นรายวิชา ท3220๒ วรรณคดีมรดก
ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 5

การบรรยายลกั ษณะของศาลเทพารกั ษA
“ศาลน้ันช้นั เชงิ สนกุ นกั ฉลุลกั ลายงามทงั้ สามหลงั
ทองหุ5มซ5มุ ทวารบานบงั มีบัลลังกต; ัง้ รปู อารักษ;ไว5”

การพรรณนาธรรมชาติ วา@ ยแหวกประทุมาอยไ@ู หวไหว
“นำใสไหลเยน็ เห็นตวั ปลา
นลิ บุ ลพ5นนำ้ ขน้ึ รำไร ตมู ต้งั บังใบอรชร”

การเลอื กใชถI อI ยคำดีเดUนและไพเราะกินใจ
การใชIคำอุปมาอุปไมย เปนS การเปรียบเทียบส่งิ หนง่ึ กบั สง่ิ หนงึ่ เชน@
“เสียงแหบแสบสน่ั เปSนพ5นไป รปู รา@ งชา@ งกระไรเหมอื นยกั ษา”

การใชสI ญั ลกั ษณA
“ดงั กากาจชาติชา5 สาธารณ; มาประมาณหมายหงส;พงคพ; ระยา”
การกลาU วเกนิ ความจริง

“ยามกนิ กนิ ทกุ ขค; ่ำเชา5 ดว5 ยมิไดค5 ลึงเคล5าสายสมร”
การใชถI อI ยคำใหเI กดิ เสียงเสนาะ
มที ัง้ สมั ผสั สระและสัมผัสอกั ษร ทำใหก5 ลอนไพเราะทั้งเสยี งและดที ้งั ความ

“พกั ตร;นอ5 งละอองนวลปลัง่ เปลง@ ดงั ดวงจันทรว; ันเพ็งประไพศรี
อรชรออ5 นแอ5นทงั้ อินทรีย; ดังกนิ รีลงสรงคงคาลัย
งามจริงพริง้ พรอ5 มท้ังสรรพางค; ไม@ขดั ขวางเสียงทรงที่ตรงไหน

พิศพลางปฏิพทั ธ;กำหนัดใน จะใคร@ไปโอบอุม5 องคม; า”
คณุ คาI ดา7 นความรู7
๑.สงั คมและวัฒนธรรมไทย
ประเพณีการใชIบน

“คร้นั ถงึ ซง่ึ ศาลเทพารักษ; เรืองฤทธส์ิ ทิ ธิศกั ด์อิ าศัย
แม5นธานมี ีเหตเุ ภทภัย กบ็ วงบนเทพไทยทุกครง้ั ”
ประเพณีการแตงU ตวั

“สอดใส@สนับเพลาพืน้ ตาด ปlกเปนS รูปราชไกรสร”
ภษู าโจงจบี ซับซอ5 น ฉลององคท; รงงอนงามพรงิ้
ชายไหวชายแครงแพลงสะบดั พาหุรัดทองกรกาบกง่ิ

ทับทรวงตาบทิศวจิ ติ รจริง ธำมรงคย; งยงิ่ ลว5 นพลอยเพชร

กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย โรงเรยี นสตรีศรีสรุ ิโยทัย ๓๑

เอกสารประกอบการเรยี นรายวิชา ท3220๒ วรรณคดีมรดก
ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5

ประเพณีการเสด็จของเจIานาย สมัยโบราณเวลาเจ5านายเชื้อพระวงศ;จะเสด็จไปที่ใด จะต5องมี
การเตรียมรับเสด็จ เพื่อรักษาความ ปลอดภัย แม5ในปlจจุบันก็ยังมีประเพณีนี้อยู@แต@วิธีการเปลี่ยนแปลงไป
เช@นตอนท่มี ะเดหวีและบษุ บาไปเส่ยี งเทยี นไหว5พระปฏมิ าในวิหาร

บัดน้นั สาวใช5รบั สง่ั แลว5 ผายผัน
วง่ิ พลางร5องไปว@าใครนัน้ มาเลน@ นนี่ ่นั อยดู@ งั น้ี
พระประเทียบจะเสดจ็ ข้ึนมา อย@าชา5 จงไปเสียจากที่

ชาวไหนมาคิรี สนธยาราตรียังไมไ@ ป
ประเพณกี ารตงั้ พลับพลา
“ตง้ั เปSนเขอื่ นเพชรเขตขนั ธ; รอบนนั้ รายร้ัวขวากหนาม

ทงั้ กรองร5อยคอยตระเวนห5ามปราม ทักถามผคู5 นไปมา”

๒.การแสดงสภาพชีวิตความเปนa อยูขU องบรรพบุรษุ

สภาพชีวิตของนางสนมกำนัลในราชสำนัก ตะไกรตดั ตาดปlกทำฝกl หวี
“บ5างหยบิ ยกเคร่ืองแปงj ออกมาจัด
ปรุงกระแจะใส@ตลบั ลำดบั ดี ขวดเนียรคันถศี ิลาทอง”

การเลUนของเดก็ วัยรUุน
“บ5างต้งั วงเตะตะกร5อเลน@ เพลาเย็นแดดรม@ ลมสงดั
ปะเตะโต5คก@ู นั สันทดั บ5างถนัดเข@าเดาะเปSนน@าดู”

ความเช่อื ในการเสยี่ งทาย
“แมน5 จะได5ขา5 งอเิ หนากเุ รปlน ใหร5 ศั มเี พลิงนัน้ แจ@มใส
ใหเ5 ทยี รจรกาดบั ทนั ใด ขอใหเ5 ห็นประจักษ;บดั น”้ี

๓.การเขาI ใจธรรมชาติของมนุษยA
บทละครเรื่องอิเหนาให5สาระแก@ผู5อ@านทำให5มองเห็นโลกและชีวิตกว5างขึ้น เข5าใจปlญหาของชีวิตดีขึ้น
รู5ว@าความสุข ความทุกข;ความถูกต5องและความผิดพลาดในชีวิตย@อมมีอยู@ในมนุษย;ทุกคน กวีได5จำลองชีวิตของ

มนุษย;ไว5 ตัวละครจึงมีสุข ทุกข; โศกเศร5า ร@าเริงเช@นเดียว กับมนุษย;โดยทั่วไป ดังคำกล@าวที่ว@า “ดูหนังดูละคร
แล5วย5อนดูตัว” ตัวอยUางคติธรรมในการดำเนินชีวิต เช@น ผู5มีอำนาจวาสนายิ่งใหญ@มักลืมตัว ดังเช@นพฤติกรรม
ของท5าวดาหา เมื่อโกรธอิเหนาก็ยกบุษบาให5แก@จรกา โดยไม@คำนึงว@าบุษบาจะได5รับความทุกข;หรือความสุขส@วน

บุคคลที่ขาดประสบการณ;ต@าง ๆ มักไม@เปSนตัวของตัวเอง ขาดความเชื่อมั่นทำให5เปSนคนอ@อนแอ นอกจากนี้ยัง
ได5แสดงคติในการดำเนินชีวิตของมนุษย;ว@าต5องการโอ5อวดและให5ผู5อื่นยกย@องตนในสังคม เช@น ตอนที่กล@าวถึง
นางกำนลั แตง@ กายประกวดประขันอวดมั่งอวดมกี ัน

กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย โรงเรียนสตรีศรีสรุ ิโยทยั ๓๒

เอกสารประกอบการเรยี นรายวชิ า ท3220๒ วรรณคดมี รดก
ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5

ตอนที่ ๔
บทเสภา เร่อื ง ขุนช้างขุนแผน ตอน แต่งงานพระไวย

ความเป็นมาเสภาเรอื่ ง ขนุ ช/างขนุ แผน

เสภาเรื่อง ขุนช/างขุนแผน มีผู/สันนิษฐานว:าเป<นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นสมัยกรุงศรีอยุธยา ในแผ:นดิน
สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ 1 เค/าแล/วมีผู/จดจำเล:าสืบต:อกันมา เนื่องจากเรื่องราวของขุนช/างขุนแผนมีปรากฏ
ในหนังสือคำให/การชาวกรุงเก:า แต:มีการดัดแปลงเพิ่มเติมจนมีลักษณะคล/ายนิทานเพื่อให/เนื้อเรื่องสนุกสนาน
ชวนติดตามยิ่งขึ้น รายละเอียดในการดำเนินเรื่องยังสะท/อนภาพการดำเนินชีวิต ขนบธรรมเนียมประเพณีและ
วัฒนธรรมของชาวสยามในครง้ั อดีตได/อย:างชัดเจนย่ิง จนนกั ภาษาศาสตรUวลิ เลยี ม เกดนยี U กลา: ววา:

"ข#าพเจา# มกั คดิ บ/อย ๆ ว/า หากความรเู# ก่ียวกบั วัฒนธรรมไทยเกิดสญู หายไปหมด
ทุกอย/างอาจจะถูกสรา# งข้ึนมาได#ใหม/ จากขอ# เขียนท่ีอศั จรรยนJ ี้"

1 สมเด็จพระรามาธบิ ดที ี่ ๒ กษัตรยิ อ8 งคท8 ่ี ๑๐ แหง@ กรงุ ศรีอยุธยา พระนามเดมิ "พระเชษฐา" เปนH โอรสในพระบรมไตรโลกนาถ ทรงสมภพท่ี
เมอ่ื ปมP ะโรง พ.ศ.๒๐๑๕ ท่ีเมอื งพิษณุโลก ครองราชย8ยาวนานถงึ ๓๘ ปP นบั เปนH ลำดบั ท่ีสองรองจากพระบรมไตรโลกนาถ พระบิดา

กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย โรงเรยี นสตรศี รีสุรโิ ยทัย ๓๔

เอกสารประกอบการเรียนรายวิชา ท3220๒ วรรณคดมี รดก
ระดับช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 5

เรื่องขุนช/างขุนแผนนี้ ถูกสันนิษฐานว:าเป<นการแต:งขึ้นร/องแบบมุขปาถะ (ปากต:อปาก) เพื่อความ
บันเทิง โดยคงจะเริ่มแต:งต้ังแต:ราวอยุธยาตอนกลาง และมีการเพิ่มเติม หรือตัดทอนเรื่อยมา จนมีรายละเอียด
และความยาวอย:างทีส่ บื ทอดกนั อยู: ในสมัยอยธุ ยาตอนปลาย แตไ: มไ: ด/ถูกบนั ทึกลงไว/เปน< กจิ ลักษณะ

เนื่องจากบุคคลชั้นสูงสมัยนั้นเห็นว:าเป<นกลอนชาวบ/าน ที่มีเนื้อหาบางตอนหยาบโลน และไม:มีการ
ใช/ฉันทลักษณUอย:างวิจิตร ดังนั้นเมื่อกรุงศรีอยุธยาถูกเผาทำลายในป[ พ.ศ. ๒๓๑๐ จึงไม:มีต/นฉบับเรื่องขุนช/าง
ขุนแผนเหลืออยู: แต:เนื่องจากเป<นเรื่องที่มีความนิยมสูงในหมู:ชาวไทย จึงมีผู/ที่จำเนื้อหาได/อยู:มาก และทำให/ถูก
ฟbaนฟกู ลับมาได/ไมย: าก

สำหรับเนื้อหาของขุนช/างขุนแผนในปcจจุบัน พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล/านภาลัยได/โปรดเกล/าฯ
ให/กวีในรัชสมัยของพระองคU ตลอดจนพระองคUเองร:วมกันแต:งและทรงพระราชนิพนธUขี้นเป<นวรรณคดีที่มีค:าทั้ง
ในด/านความไพเราะและในลีลาการแต:ง ตลอดจนเค/าโครงเรื่อง ได/รับการยกย:องตามพระราชบัญญัติวรรณคดี
สโมสรในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล/าเจ/าอยู:หัวว:า “เรื่องขุนช้างขุนแผนนี้ ไม่เพียงแต่เป็นวรรณคดี
สำหรับอ่านกันเล่น เพื่อได้รับรสวรรณคดีเป็นเครื่องบันเทิงใจเท่านั้น หากแต่บางตอนในวรรณคดีเรื่องนี้
ยังเป็นหลักฐานที่ให้ความรู้ในเรื่องราวความเป็นอยู่ของผู้คนและบ้านเมืองในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ สมกับที่
มีคำกล่าวว่า วรรณคดีเป็นกระจกเงาสะท้อนภาพความเป็นไปของบ้านเมืองในยุคนั้น ๆ ให้คนรุ่นหลัง ๆ
ได้ทราบด้วย” และไดร/ บั ประทบั ราชลัญจกรรูปพระคเณศรUไว/เปน< เครอ่ื งหมายของการยกยอ: งนน้ั ด/วย

ลกั ษณะคำประพันธ์

กลอนเสภา ชื่อกลอนชนิดหนึ่ง แต:งอย:างกลอน ๘ นิยมแต:งเรื่องเล:าขนาดยาว ใช/ขับเป<นทำนอง
โดยมีกรับเป<นเครื่องประกอบจังหวะ ต:อมาใช/ป[iพาทยUบรรเลงร:วม ลักษณะพิเศษอีกประการก็คือ ในแต:ละตอน
มกั นิยมขึ้นตน/ ดว/ ยคำวา: "คราน้นั " " จะกลา: วถงึ ”

พฒั นาการของเสภา

นิทาน - นทิ านทรงเคร่ือง - ปพMN าทยJ – เสภาสลับปNMพาทยJ - เสภารำ – ละครเสภา

12 3 4 56

กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย โรงเรยี นสตรศี รีสรุ โิ ยทยั ๓๕

เอกสารประกอบการเรยี นรายวชิ า ท3220๒ วรรณคดีมรดก
ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 5

เรือ่ งย่อ เสภาเร่ือง ขุนช/างขนุ แผน

กล:าวถึงครอบครัวสามครอบครัว คือ ครอบครัวของขุนไกรพลพ:ายรับราชการทหาร มีภรรยาช่ือ
นางทองประศรี มีลูกชายด/วยกันชื่อ พลายแก/ว ครอบครัวของขุนศรีวิชัย เศรษฐีใหญ:ของเมืองสุพรรณบุรี
รับราชการเป<นนายกองกรมช/างนอก ภรรยาชื่อ นางเทพทอง มีลูกชายชื่อ ขุนช/าง ซึ่งหัวล/านมาแต:กำเนิด และ
ครอบครัวของพันศรโยธา เป<นพ:อค/า ภรรยาชื่อ ศรีประจัน มีลูกสาวรูปร:างหน/าตางดงามชื่อ นางพิมพิลาไลย

เมื่อพลายแก/วอายุได/ ๑๕ ป[ ก็บวชเณรเรียนวิชาอยู:ที่วัดส/มใหญ: แล/วย/ายไปเรียนต:อที่วัดปnาเลไลย
ต:อมาที่วัดปnาเลไลยจัดให/มีเทศนUมหาชาติ เณรพลายแก/วเทศนUกัณฑUมัทรี ซึ่งนางพิมพิลาไลยเป<นเจ/าของกัณฑU
เทศนU นางพิมเลื่อมใสมากจนเปลื้องผ/าสไบบูชากัณฑUเทศU ขุนช/างเห็นเช:นนั้นก็เปลื้องผ/าห:มของตนวางเคียง
กับผ/าสไบของนางพิม อธิฐานขอให/ได/นางเป<นภรรยา ทำให/นางพิมโกรธ ต:อมาเณรพลายแก/วก็สึกแล/วให/
นางทองประศรีมาส:ขู อนางพิมและแต:งงานกนั หลงั จากนัน้ พลายแกว/ ก็ไดร/ ับนางลาวทองมาเปน< เมียอกี คน

ส:วนนางพิมพิลาไลย เมื่อสามีจากไปทัพได/ไม:นานก็ปnวยหนัก ขรัวตาจูวัดปnาเลไลยแนะนำให/เปลี่ยน
ชื่อเป<นวันทอง อาการไข/จึงหาย ขุนช/างทำอุบายนำหม/อใหม:ใส:กระดูกไปให/นางศรีประจันกับนางวันทอง
ดูว:าพลายแก/วตายแล/ว และขู:ว:านางวันทองจะต/องถูกคุมตัวไว/เป<นม:ายหลวงตามกฎหมาย นางวันทองไม:เชื่อ
แต:นางศรีประจันคิดว:าจริง ประกอบกับเห็นว:าขุนช/างเป<นเศรษฐีจึงบังคับให/นางวันทองแต:งงานกับขุนช/าง
นางวันทองจำตอ/ งตามใจแม:แต:นางไม:ยอมเข/าหอ ขณะนั้นพลายแก/วกลับมาถึงกรุงศรีอยุธยาและได/บรรดาศักดิ์
เป<น ขุนแผนแสนสะท/าน จากนั้นก็พานางลาวทองกลับสุพรรณบุรีนางวันทองเห็นขุนแผนพาภรรยาใหม:มาด/วย
ก็โกรธด:าทอโต/ตอบกับนางลาวทองและลืมตัวพูดก/าวร/าวขุนแผน ทำให/ขุนแผนโมโหพานางลาวทองไปอยู:
ทกี่ าญจนบรุ ี สว: นนางวันทองก็ตกเปน< ภรรยาของขุนช/างอยา: งจำใจ

ต:อมาขุนช/างและขุนแผนเข/าไปรับราชการอบรมในวังและได/มหาดเล็กเวรทั้งสองคน วันหนึ่งนางทอง
ประศรีให/คนมาส:งข:าวว:า นางลาวทองปnวยหนัก ขุนแผนจึงฝากเวรไว/กับขุนช/างแล/วไปดูอาการของนางลาว
ทอง ตอนเช/าสมเด็จพระพันวษาถามถึงขุนแผน ขุนช/างบอกว:าขุนแผนป[นกำแพงวังหนีไปหาดภรรยา สมเด็จ
พระพันวษาโกรธจึงสั่งให/นำตัวนางลาวทองมากักไว/ในวัง ส:วนขุนแผนให/ไปตระเวนด:านห/ามเข/าวังอีกทำให/
ขุนแผนแค/นขุนช/างมากคิดช:วงชิง นางวันทองกลับคืนมา จึงออกหาของวิเศษ ๓ อย:าง คือ ดาบวิเศษ
กุมารทอง และม/าฝ[เท/าดี ขุนแผนเดินทางไปถึง ซ:องโจรของหมื่นหาญก็สมัครเข/าเป<นสมุน วันหนึ่งได/
ช:วยชีวิตหมื่นหาญให/รอดพ/นจากการถูกวัวแดงขวิดตาย หมื่นหาญจึงยกนางบัวคลี่ลูกสาวของตนให/เป<นภรรยา
ของขุนแผน

กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย โรงเรียนสตรศี รสี ุรโิ ยทยั ๓๖

เอกสารประกอบการเรียนรายวชิ า ท3220๒ วรรณคดีมรดก
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 5

ต:อมาหมื่นหาญเห็นขุนแผนมีวิชาอาคมเหนือกว:าตนก็คิดกำจัด โดยสั่งให/นางบัวคลี่วางยาพิษ
ฆ:าขุนแผน แต:โหงพรายมาบอกให/ขุนแผนรู/ตัว คืนนั้นพอนางบัวคลี่นอนหลับ ขุนแผนก็ผ:าท/องนางควักเอาเด็ก
ไปทำพิธีปลุกเสกเป<นกุมารทอง ต:อจากนั้นก็ทำพิธีตีดาบฟsาฟabนและไปซื้อม/าลักษณะดีได/ตัวหนึ่ง ชื่อ ม/าสีหมอก
แล/วขุนแผนก็ไปที่บ/านของขุนช/างสะกดคนให/หลับหมดแล/วขึ้นไปบนบ/านแต:เข/าห/องผิด จึงพบนางแก/วกิริยา
และได/นางเป<นภรรยา จากนั้นก็ไปปลุกนางวันทองพาขึ้นม/าหนีเข/าปnาไป ขุนช/างไปฟsองสมเด็จพระพันวษา
พระองคUให/ทหารตามจับขุนแผน แต:ถูกขุนแผนฆ:าตายไปหลายคน ขุนแผนกับนางวันทองหลบซ:อนอยู:ในปnา
จนนางตั้งท/องจึงพากันออกมามอบตัวสู/คดีกับขุนช/างจนชนะคดี ขุนแผนนางวันทอง และนางแก/วกิริยาจึงอย:ู
ร:วมกันด/วยความสุข แต:ขุนแผนนึกถึงนางลาวทองจึงขอร/อง จมื่นศรีเสาวรักษUให/ขอตัวนางจากสมเด็จ
พระพันวษาทำให/พระองคUโกรธว:าขุนแผนกำเริบจึงสั่งจำคุกขุนแผนไว/ นางแก/วกิริยาตามไปปรนนิบัติขุนแผน
ด/วย ส:วนนางวันทองพักอยู:ที่บ/านของหมื่นศรี ขุนช/างจึงพาพรรคพวกมาฉุดนางวันทองไปเป<นภรรยาอีก
ต:อมานางก็คลอดลูกชาย แล/วตั้งชื่อให/ว:าพลายงาม ขุนช/างรู/ว:าไม:ใช:ลูกของตนก็เกลียดชัง วันหนึ่งจึงหลอก
พาเข/าไปในปnาทุบตีจนสลบแล/วเอาท:อนไม/ทับไว/ โหงพรายของขุนแผนมาช:วยได/ทัน นางวันทองจึงให/ลูกไปอยู:
กับนางทองประศรีที่กาญจนบุรีพลายงามได/ร่ำเรียนวิชาของพ:อเชี่ยวชาญ ขุนแผนจึงพาไปฝากไว/กับหมื่นศรี
เพอ่ื หาโอกาสใหเ/ ขา/ รับราชการ

ทางฝnายพระเจ/าเชียงอินทรU เจ/าเมืองเชียงใหม: ให/ทหารไปชิงตัวนางสร/อยทองธิดาพระเจ/าล/านช/าง
ระหว:างที่เดินทางไปยังกรุงศรีอยุธยา พลายงามได/โอกาสจึงอาสาออกไปรบ และขอให/ปล:อยขุนแผน
ออกจากคุกด/วย เพื่อจะได/ช:วยกันทำศึก ขุนแผนจึงพ/นโทษ ในขณะที่กำลังเตรียมทัพนางแก/วกิริยาก็คลอดลูก
เป<นชาย ขุนแผนตั้งชื่อว:า พลายชุมพล แล/วขุนแผนกับพลายงามก็คุมทัพมุ:งสู:เชียงใหม: ขุนแผนได/แวะเยี่ยม
พระพิจิตรกับนางบุษบาซึ่งเคยให/ความช:วยเหลือ เมื่อครั้งขุนแผนกับนางวันทองเข/ามอบตัว พลายงามจึงได/พบ
นางศรีมาลาและได/นางเป<นภรรยา จากนั้นก็คุมทัพไปรบกับเชียงใหม:ได/ชัยชนะ ครั้นกลับถึงกรุงศรีอยุธยา
ขุนแผนได/เป<นพระสุรินtไชย เจ/าเมืองกาญจนบุรี พลายงามได/เป<นจมื่นไวยวรนาถ และสมเด็จพระพันวษา
กย็ กนางสรอ/ ยฟาs ธิดาของพระเจ/าเชยี งอินทรใU ห/แต:งงานกบั พระไวยพร/อม ๆ กับนางศรีมาลา

พระไวยอยากให/แม:มาอยู:กับตนและคืนดีกับพ:อ จึงไปลักพานางวันทองมาขุนช/างเคืองมากไปฟsองสมเด็จ
พระพันวษา จึงมีการไต:สวนคดีกันอีกครั้งหนึ่ง ในที่สุดสมเด็จพระพันวษาก็ถามความสมัครใจของนาง
ว:าจะเลือกอยู:กับใคร นางตัดสินใจไม:ได/ สมเด็จพระพันวษาหาว:านางเป<นหญิงสองใจจึงสั่งให/นำตัวไปประหาร
ชวี ติ พระไวยพยายามออ/ นวอนขออภัยโทษได/ แตไ: ปหา/ มการประหารไม:ทนั

ในครอบครัวของพระไวยก็ไม:ราบรื่นนัก เพราะนางสร/อยฟsาไม:พอใจที่พระไวยและนางทองประศรี
รักนางศรีมาลามากกว:า จึงมักจะมีการทะเลาะวิวาทกันอยู:เสมอ นางสร/อยฟsาเจ็บใจจึงให/เถรขวาดทำเสน:หU
ให/พระไวยหลงรักนาง แล/วนางสร/อยฟsาก็หาเรื่องใส:ความให/พระไวยตีนางมาลา พลายชุมพลเข/าไปห/ามก็ถูกตี
ไปด/วย พลายชุมพลน/อยใจจึงหนีออกจากบ/านไปหาพ:อแม:ที่กาญจนบุรีเล:าเรื่องให/ฟcง แล/วหนีต:อไปหายาย
ทีส่ โุ ขทยั ได/บวชเณรและเล:าเรยี นอยท:ู ่นี ้ัน

กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย โรงเรยี นสตรีศรีสุรโิ ยทยั ๓๗

เอกสารประกอบการเรียนรายวชิ า ท3220๒ วรรณคดมี รดก
ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 5

ฝnายขุนแผนรีบไปที่บ/านของพระไวย แล/วเสกกระจกมนตUให/ดูว:าถูกทำเสน:หU แต:พระไวยไม:เชื่อหาว:า
พ:อเล:นกลให/ดู และพูดลำเลิกบุญคุณที่ช:วยพ:อออกมาจากคุกขุนแผนแค/นมากประกาศตัดพ:อตัดลูกแล/วกลับ
กาญจนบุรที นั ที

พลายชุมพลเรียนวิชาสำเร็จแล/วก็นัดหมายกับขุนแผนจแก/แค/นพระไวย โดยพลายชุมพลสึกจากเณร
ปลอมเป<นมอญ ใช/ชื่อ สมิงมัตรา ยกกองทัพหุ:นหญ/าเสกมาถึงสุพรรณบุรี สมเด็จพระพันวษา ให/ขุนแผนยกทัพ
ไปต/านศึก ขุนแผนแกล/งแพ/ให/ถูกจับได/พระไวยจึงต/องยกทัพไปและต:อสู/กับพลายชุมพล ระหว:างที่กำลังต:อสู/
กัน ขุนแผนบอกให/พลายชุมพลจับตัวพระไวยไว/ พระไวยเห็นพ:อก็ตกใจหนีกับไปฟsองสมเด็จพระพันวษา
พระองคUจึงให/นางศรีมาลาไปรับตัวขุนแผนกับพลายชุมพลเข/าวัง พลายชุมพลอาสาจับเสน:หU พลายชุมพลจับตัว
เถรขวาดกับเณรจิ๋วไว/ แล/วขุดรูปปcbนลงอาคมที่ฝciงไส/ใต/ดินขึ้นมาได/เสน:หUจึงคลาย ตกดึกเถรขวาดกับเณรจิ๋ว
สะเดาะโซ:ตรวนหนีไป ในการไต:สวนคดีนางสร/อยฟsา ไม:ยอมรับว:าเป<นคนทำเสน:หU และใส:ร/ายว:านางศรีมาลา
เป<นชู/กับพลายชุมพล พอนางจับได/พลายชุมพลก็หนีไปยุยงขุนแผน ในที่สุดก็มีการพิสูจนUความบริสุทธิ์
โดยการลุยไฟนางสร/อยฟsาแพ/ถูกไฟลวกจนพุพอง ส:วนนางศรีมาลาไม:เป<นอะไรเลย สมเด็จพระพันวษา
สั่งประหารนางสร/อยฟsา แต:นางศรีมาลาช:วยขออภัยโทษให/ จึงเพียงถูกเนรเทศกลับไปอยู:ที่เชียงใหม:เช:นเดิม
นบั จากน้ันเปน< ตน/ มาทกุ คนก็อยกู: ันอย:างมีความสุข

ผงั ตัวละคร เสภาเรอื่ ง ขุนช/างขุนแผน

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย โรงเรยี นสตรีศรสี รุ โิ ยทัย ๓๘

เอกสารประกอบการเรยี นรายวิชา ท3220๒ วรรณคดมี รดก
ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 5

บทเสภา เรือ่ ง ขนุ ชา้ งขนุ แผน ตอน แต่งงานพระไวย

บทประพันธ์
ขุนช้างขนุ แผน ตอน แตง่ งานพระไวย

สมเด็จพระพันวษาได/ตรัสกับขุนแผน ในที่ประชุมขุนนางในวันต:อมาว:า พระองคUมีพระราชประสงคU
จะประทานนางสร/อยฟsาให/แก:พระไวย ให/สมกับที่มีความดีความชอบ ขุนแผนได/ฟcงจึงกราบทูลไปว:า
“เมื่อตอนไปทัพนั้น พระไวยได/กับศรีมาลาลูกสาวพระพิจิตร กำลังจะแต:งงานในเดือนสี่นี้ และได/หมั้นกันแล/ว

ตามประเพณี” คราน้ันจึงพระกาญจนUบุรี อญั ชลกี ราบงามสามหน

จงึ กราบทูลภูวไนยไปบัดดล พระคณุ เป<นพ/นคณนา

แตซ: งึ่ จมนื่ ไวยใช:ตวั เปล:า ขา/ พระพทุ ธเจ/าไม:มุสา
เมอ่ื ไปทพั ไดก/ บั ศรีมาลา ลูกยาพระพิจิตรบรุ ี
แต:รกั ใคร:ยังมิไดท/ ำงานการ เขาผอ: นผัดนัดงานมาเดอื นส่ี

ไดท/ ำหมนั้ กันไวต/ ามประเพณี ขอจงทราบธุลพี ระบาทา ฯ
สมเด็จพระพันวษาได/ฟcงก็ตรัสว:า หมื่นไวยจะมีเมียสักกี่คนก็ได/ แล/วจึงสั่งพระยาราชสีหU ให/มีตรา
หาตัวพระพิจิตร และลูกสาว เพื่อจะให/มาแต:งงานกับพระไวย เมื่อพระพิจิตรได/รับตราราชสีหU ทราบความแล/ว

จึงพาบุตรภรรยาลงเรือมากรุงศรีอยุธยา เข/าพบเจ/าพระยาราชสีหUแล/วไปพบขุนแผน ขุนแผนเล:าเรื่องทั้งหมด
ให/ฟcง จากนั้นก็ไปเตรียมงานแต:งงาน มีการเลือกเพื่อนเจ/าสาวสิบคน เพื่อนเจ/าบ:าวเก/าคน เตรียมสถานที่
และพธิ ีสงฆU

ฝnายนางวันทองอยู:กับขุนช/างที่สุพรรณบุรี ได/ข:าวว:าพลายงามลูกชายมีความชอบ ได/รับประทานนาง
สร/อยฟsาจากพระพันวษา และจะแต:งงานกับนางศรีมาลา ในคราวเดียวกัน จึงไปลาขุนช/างบอกว:าจะไปงาน
แตง: งานพลายงาม แลว/ เตรียมของไปให/

...เลือกทองลมิ่ เอามาสหี่ /าอัน ทองนนั้ จะได/ใหพ/ ระหมื่นไวย
ผา/ ยกอยา: งดีสีชมพู แหวนงูแหวนประดับไปรบั ไหว/
ตามมีตามจนคนละใบ อย:าใหล/ กู สะใภ/เขาเยย/ เยาะ...

กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย โรงเรียนสตรศี รีสุริโยทยั ๓๙

เอกสารประกอบการเรียนรายวิชา ท3220๒ วรรณคดมี รดก
ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 5

แล/วใหบ/ :าวไพรข: นของลงเรือ เดนิ ทางเขา/ กรงุ
...เขา/ ลดั ตดั ทางบางยีห่ น ประเดี๋ยวดน/ ออกบ/านเจ/าเจด็ ได/

ถงึ กรงุ จอดตะพานบา/ นวัดตะไกร ให/บ:าวไพร:ขนของขึน้ ฉับพลนั

ในวันงานตกเวลาบ:าย พระพจิ ิตร นางบษุ บา พรอ/ มนางศรมี าลา และเพอ่ื นเจ/าสาวมาเข/าพธิ ี

...คร้นั ถงึ น/อมน่งั ฟงc พระธรรม พระสดำจับมงคลค:ูใส:
สายสิญจนโU ยงศรมี าลามาพระไวย พร/อมฆ/องใหญ:ห่ึงดังตัง้ ชยันโต
หนม:ุ สาวเคียงคั่งนั่งอดั พระสงฆเU ปดw ตาละปตc รซดั นำ้ โร.: ..

เสร็จพิธีสงฆUแล/ว พวกผู/หญิงต:างลุกเข/าเรือนไป พวกเจ/าบ:าวเข/าไปที่หอนั่งเลี้ยงอาหารกัน
ตกเย็นก็จุดประทีป มีมโหรีบรรเลง วันรุ:งขึ้นก็เตรียมเลี้ยงพระ ฝnายสมเด็จพระพันวษาทรงดำริว:า ควรจะแต:ง

นางสร/อยทองกบั พระไวยในวันเดยี วกนั กับแตง: นางศรมี าลา จงึ มีพระดำรสั สงั่ ใหด/ ำเนนิ การ
...ดำรัสสัง่ คลงั ไปในทันที ใหเ/ บกิ ผา/ มาย่สี ิบสำรบั
หวีกระจกเครือ่ งแปsงแต:งใหค/ รบ แหวนมรกตปนพเก/างูประดบั

พานหมากนากทองสองสำรับ กับเงนิ ห/าชัง่ ทั้งโตะx พาน
มันจะไปใหข/ ่ีวอม:านลาย เจ/าขรวั นายชว: ยไปส:งให/ถึงบ/าน...
เมอื่ ไปถงึ พระกาญจนบU รุ ีออกมารบั แลว/ ต:างกช็ :วยกนั จดั งานเลี้ยงพระเพลจนเสรจ็

ฝnายขุนช/างพอรุ:งขึ้น ก็ขึ้นช/างพร/อมบ:าวไพร: เดินทางเข/ากรุง เมื่อถึงแล/วก็ขึ้นไปหอกลาง อยู:ร:วมกิน
เลี้ยง แล/วเมาทำอาการวิปริตต:าง ๆ เป<นที่น:าอับอาย และได/เกิดทะเลาะกับพระไวย ขุนช/างถูกทำร/ายจนสลบ
นางวนั ทองคดิ วา: ขนุ ชา/ งตาย จงึ รำพนั ถึงความดีของขุนช/าง

...อันจะหาน้ำใจในบรุ ี เห็นส้ินดอี ย:ูเพยี งพ:อโพธ์ทิ อง

แตอ: ย:ูมาเปน< สิบหา/ สิบหกป[ คำน/อยหนง่ึ ไม:มีให/เมียหมอง
เมอื่ คลอดลูกหนนุ หลังนั่งประคอง เห็นเมยี ร/องพอ: กร็ ำ่ พิไรวอน
เมอื่ คราวเมียจับไขไ/ มก: ินขา/ ว พ:อน่ังเฝาs เคียงคอยตะบอยปsอน...

...อนั ชายใดในพืน้ ปถc พี การรักเมยี แลว/ ไมม: ีเสมอเหมือน...

กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย โรงเรียนสตรีศรีสรุ ิโยทัย ๔๐

เอกสารประกอบการเรยี นรายวิชา ท3220๒ วรรณคดมี รดก
ระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5

เมื่อขุนช/างฟabนขึ้นมาก็กล:าวคำอาฆาต แล/วให/เมียกลับสุพรรณ ส:วนตนเองมุ:งเข/าวัง เพื่อฟsองสมเด็จ
พระพันวษา ฝnายพระไวยเมื่อหมดเรื่องวิวาทแล/ว ก็จัดแต:งเรือนให/สร/อยฟsาอยู: แบ:งกันคนละครึ่งเรือนกับ

นางศรีมาลา ทำฝารอบขอบชิดไม:ให/กล้ำกลายกัน เมื่อเสร็จงานแล/ว พระพิจิตรกับนางบุษบาก็ลากลับเมือง
พิจติ ร ได/ฝากฝcงศรมี าลากบั พลายงาม โดยเตือนในเรอ่ื งมีเมยี สอง ขอใหร/ ะวังดง้ั ตนเปน< ตราชใู ห/ดี
ครานนั้ ทา: นยายบุษบา ปลอบลูกสาวว:าอยา: สะอืน้

พ:อแม:กไ็ ดส/ ั่งไว/ย่ังยืน หมอ: มหมนื่ เธอก็รบั ปฏิญาณ
แตใ: จแม:นย้ี ังกรง่ิ อยู:สิง่ หน่ึง กลัวจะหึงกนั วุ:นวายอายชาวบา/ น
อันเมยี สองต/องห/ามตามโบราณ เป<นกับใครก็รำคาญไมเ: วน/ คน

แมส: อนเจ/ามาแต:นอ/ ยกว:าร/อยพัน สดุ สำคญั แตเ: พยี งอดนน้ั เปน< ตน/
อยา: ทำช่ัวเพราะว:าตัวของตวั จน เขาเปรยี บเทยี บจงสู/ทนต/องเกรงกลัว
ใครจะด:าเจาะจงั กช็ งั่ เขา จงอดเอาอยา: สำออยคอยฟsองผวั

อันคนดนี านดอกจงึ ออกตัว ถา/ คนช่วั เขาคงเห็นเป<นไปเอง
ตกดกึ คืนน้นั พระไวยกเ็ ข/าหอ/ งนางศรีมาลา

วเิ คราะหค์ ณุ ค่า ขุนชา้ งขุนแผน ตอน แตง่ งานพระไวย

๑. คุณค่าดา้ นเน้อื หาแนวคดิ สำคัญของเร่อื ง

๑. ขนุ ชา/ งขนุ แผนเปน< เร่ืองเกีย่ วกับชีวติ ของคนธรรมดาสามญั ที่ยังเก่ยี วเนอื่ งกบั พระมหากษตั รยิ U
๒. โครงเรื่องสำคัญเป<นเรื่องของความรักสามเส/า ระหว:างขุนแผน ขุนช/าง วันทอง และพระไวย
ศรีมาลา สร/อยฟาs
๓. เนื้อเร่ืองเกี่ยวข/องกับสงครามระหว:างกรุงศรีอยุธยากบั เมืองเชยี งใหม:

๒. คุณคา่ ด้านวรรณศลิ ป์

๒.๑ การบรรยายและการพรรณนา
การบรรยายธรรมชาตใิ นยามคอ/ นคนื ให/เหน็ ภาพท/องฟsาที่กระจ:างดว/ ยแสงจนั ทรUเสยี งจกั จน่ั และเรไร

คร้ันส้ินแสงสรุ ิยงคUอัสดงดับ ลดลบั เหลย่ี มพระเมรุภผู า
พระจนั ทรจรแจง/ กระจ:างตา ดวงดาราไพโรจนจU ำรสั แพรว
เสยี งเรไรหรง่ิ หริง่ น่ิงนอนวนั เสนาะนักจักจนั่ สนน่ั แจว/
หง่ิ ห/อยพลอยพราวดูวาวแวว อย:ูท่ีแถวไม/กระถางวางเป<นทิว

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย โรงเรียนสตรีศรสี รุ ิโยทยั ๔๑

เอกสารประกอบการเรียนรายวชิ า ท3220๒ วรรณคดีมรดก
ระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5

การบรรยายภาพประเพณกี ารแตง/ งาน และชวี ติ ของคนไทยในอดีตได/อยา: งชัดเจน เชน:

หนม:ุ สาวเคียงคง่ั เขา/ น่งั อดั พระสงฆUเปwดตาลปตc รซดั น้ำโร:
ปรำลงข/างสกี าห/าหกโอ ท:านยายโพสาวนำน้ำเขา/ ตา
อึดอดั ยัดเยียดเบียดกันกลม เอาหนามลม/ แทงทอ/ งรอ/ งอยุ หน:า
ท่ีไมถ: กู เท/ายนั ดันเข/ามา ทา: นยายสาออกมานง่ั บังกนั ไว/

๒.๒ การใชถ# #อยคำ เลือกสรรคำมาใช/ใหก/ ระทบอารมณUผอู/ า: น เช:น

ตอนขุนแผนต/อว/าวันทองด#วยอารมณJโกรธ ใช/ถ/อยคำที่ก:อให/เกิดความเจ็บใจได/ดี ทำให/
ผ/ูอ:านรส/ู กึ เห็นอกเห็นใจวนั ทอง เช:น
ผัวเจ/าดูถกู ลกู ข/า ช:างไมว: :าห/ามปรามกนั สกั หน

เขาทำผัวตวั เต/นเปน< ชักยนตU แตล: กู ชายอายคนนน้ั ทำเนา

ตอนวันทองคร่ำครวญถงึ ความดขี องขนุ ชา# ง ใช/ถ/อยคำไดด/ กี อ: ให/เกดิ อารมณสU ะเทือนใจ
โอพ/ อ: รม: โพธเิ์ ตีย้ ของเมียแกว/ พอ: ตายแลว/ เมยี เหน็ จะเปน< ผี

อันจะหานำ้ ใจในบุรี เหน็ ส้นิ ดอี ย:เู พยี งพอ: โพธ์ทิ อง

๒.๓ การเล/นคำ มีการเลยี นเสยี งธรรมชาติ ทำให/เกดิ เสยี งเสนาะ เกิดความไพเราะของถอ/ ยคำ

ฆอ/ งวงหนง: หนอดสอดเสียงซอ ระนาดตอดลอดล/อมบรรเลงลอย
แสนเสนาะเสียงสน่ันสนุกสนาน วิเวกหวานคร่ำครวญหวนละห/อย
พระไวยฟcงวังเวงเพลงทยอย ระเรงิ ลืมตัวมอ: ยผ็อยหลบั พลนั

กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย โรงเรยี นสตรีศรีสรุ โิ ยทยั ๔๒

เอกสารประกอบการเรยี นรายวชิ า ท3220๒ วรรณคดีมรดก
ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 5

๒.๔ การเปรยี บเทียบ ทำใหเ/ กดิ จินตภาพและอุปมาโวหาร
เหมอื นช/างกล/าปnาเดียวมีสองตัว สองเมยี ร:วมผัวคงคดิ เห็น

ใครเงอะงั่งก็จะน่ังน้ำตากระเดน็ พ:อจงเปน< ตราชดู ใู หด/ ี

๓. คุณค่าดา้ นสงั คมและวฒั นธรรมประเพณี

๓.๑ วัฒนธรรมและประเพณี เสภาเรื่องขุนช/างขุนแผนเป<นขุมทรัพยUของขนบธรรมเนียมประเพณี
ของคนไทยสามารถคน/ หาความร/ไู ด/
ประเพณีการส/งสารตรา

แตง: ตราสง: ให/นายสวสั ดิ์ เอง็ รีบรัดข้นึ ไปพจิ ติ รหวา
นายสวัสดกิ์ ราบกรานรบั สารตรา ลงเรอื กัญญาโยนยาวไป
ประเพณกี ารออกวา/ ราชการ

ครนั้ สุรยิ งคUลงลบั เมรมุ าศ พระจนั ทรUผาดเผน: จำรสั ประภสั สร
ทรงพระแสงเพชรประดบั สำหรบั กร บทจรออกท/องพระโรงคลั
ประเพณกี ารแต/งกาย

ครานัน้ นารีศรีมาลา ไดย/ นิ แมผ: วั วา: ไม:ขัดได/
สำลพี นั ไมส/ อยเช็ดไร สอดใสส: ร/อยทรงกะทัดรดั
ประเพณีการแตง/ งาน

พระนายจดั แจงแต:งคูหา ให/สร/อยฟาs อยค:ู รองนน้ั สองหลงั
มีม:านฉากช้นั กน้ั กำบัง เตียงนอนเตียงนงั่ หอ/ งอาบนำ้
๓.๒ การแสดงภาพชวี ิตความเปน^ อย/ูสมยั บรรพบุรษุ

สภาพชวี ติ ในครอบครัว
จงึ ตรัสว:าอ/ายพลายงามเปน< หม่นื ไวย มีเมยี มากสกั เท:าไรกค็ วรที่
ไดส/ ักสิบคนน้ันมันย่ิงดี จึงสั่งพระยาราชสีหUดว/ ยทนั ใด

การคมนาคม สมัยก:อนมกั จะ เดนิ ทางไปด/วยเรือ ดว/ ยชา/ ง ดว/ ยมา/ ด/วยวอ
“วันทองลงเรือได/ไพร:จำ้ มา โยนยาวฉาวฉา: สนั่นไป”
“ขนุ ชา/ งข่ีคอกรายขอเกราะ ไสช/างเหยาะเหยาะยกั เอวโหยง”

กลุม่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย โรงเรียนสตรีศรสี รุ ิโยทัย ๔๓

เอกสารประกอบการเรียนรายวชิ า ท3220๒ วรรณคดมี รดก
ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 5

คา/ นิยมในการยดึ ถอื ปฏบิ ัติตนในครอบครวั และสังคม จากคำสอนของบษุ บาท่ีว:า
อันเมยี สองตอ/ งห/ามตามโบราณ เป<นกับใครก็รำคาญไมเ: ว/นคน
...........................................
ปรนนิบตั ิอยา: ใหข/ ดั น้ำใจเขา การเรอื นการเหย/าเอาใจใส:
ขา/ วของสารพนั หมน่ั เกบ็ ไว/ ระวังระไวดูแลอย:าแชเชือน

๓.๓ ความเข#าใจธรรมชาติของมนุษยJ ทำให/ผู/อ:านเข/าใจธรรมชาติของมนุษยUดีขึ้น และให/แนวทาง
ในการดำเนินชวี ิตแกผ: ูอ/ า: น จะเห็นไดจ/ ากการกระทำของตวั ละคร

เป^นเร่อื งของมนษุ ยทJ มี่ ที กุ ขJ มสี ุข อิจฉารษิ ยา หงึ หวง มีการกระทำทผี่ ดิ พลาด ดงั เช:น เมอ่ื วนั ทอง
จะไปแต:งงานพระไวย ขนุ ช/างแสดงความใจกว/างใหว/ นั ทองนำของไปช:วย แตก: แ็ สดงความหงึ หวงออกมาดว/ ย
เพราะวนั ทองตอ/ งพบขนุ แผนสามีเกา: ของนาง จึงสง่ั ความเปน< ทำนองหงึ หวงวา:

แม:อยา: ไปมอื เปล:าเอาเงนิ ทอง ขา/ วของไปดว/ ยช:วยเขาบ/าง
ผัวไมน: ง่ิ ไดเ/ จา/ ไปพลาง ตัวพจ่ี ะขช่ี า/ งเขา/ ไปตาม
รอ/ ยช่งั ผัวจะส่ังไปหน:อยนะ ถ/าพบปะอ/ายขนุ แผนมนั ไตถ: าม

อยา: พดู จาปราศรยั ไอ/บา/ กาม ถา/ ลวนลามแลว/ จงดา: ให/สาใจ
สะท#อนใหเ# หน็ ถึงอารมณโJ กรธของตวั ละคร
ขนุ ชา/ งฟงc เมยี ว:าทำตาปรือ ออออื ข/าหาอายไม:

ลกุ ขึ้นเตน/ ตึกตักทำหนกั ไป แมเ: จ/าไวยมาชว: ยเป<นวานรนิ ทรU
....................................................
วนั ทองผลกั ไสพระไวยดา: มาเรียกขา/ วา: เจา/ ไวยอ/ายจองหอง

น่คี ิดอย:ูขา/ งหนึง่ จงึ ลำพอง หาไมก: กู ดคอถองให/แทบตาย
อารมณทJ ีก่ ำลังว#าวุน/ ของวนั ทอง เพราะขา/ งหนึ่งก็ลกู ข/างหนึง่ กส็ ามี
วันทองร/องไห/งอวา: พอ: ไวย อย:าถือใจคนเมาเลยเจา/ คุณ

ประทานโทษโปรดเถดิ พ:อทูนหวั ไมร: ูต/ วั เตม็ ประดาจงึ ว/าว:นุ
พ:อเงอื ดงดอดใจจะไดบ/ ุญ จงอยา: หุนหนั เหน็ แกม: ารดา

กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย โรงเรยี นสตรศี รสี รุ โิ ยทยั ๔๔

เอกสารประกอบการเรียนรายวิชา ท3220๒ วรรณคดีมรดก
ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 5

อารมณโJ ศกเศร#าของวนั ทอง พ:อกอดกกใหน/ อนซ/อนผา/ ห:ม
เห็นเมียหนาวหนาวแลน: ตลอดอก ใหอ/ ยร:ู :มปดw รอบหน/าตา: งเรือน
การรักเมียแลว/ ไมม: เี สมอเหมือน
ครน้ั หน/าฝนฝนปรอยลงพลอยพรม นีก่ รรมเตอื นใหต/ ามเมียมาตาย
อนั ชายใดในพ้นื ปถc พี กลบั ไปเรือนแตต: วั ดูผัวหาย
อนั รูปชวั่ ใจช:วงดงั ดวงเดือน ดงั จะวายชวี ังไปทัง้ เปน<
อนจิ จาเมื่อมาผวั เปน< เพือ่ น
รำ่ พลางกลิ้งเกลอื กลงเสอื กกาย

กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย โรงเรยี นสตรีศรีสุรโิ ยทัย ๔๕

เอกสารประกอบการเรียนรายวชิ า ท3220๒ วรรณคดมี รดก
ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 5

บทวิเคราะหภ์ าพสะท้อนของภูมิปญั ญาจากวรรณกรรม

วรรณกรรม ขุนช#างขุนแผน ให/คุณค:าทางสติปcญญา หรือ ความรู/ ความคิด ภูมิปcญญาในด/านต:าง ๆ
มากมาย เช:น ให/ความรู/เกี่ยวกับวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณี ความเชื่อและสภาพสังคมไทยในสมัย
กรุงศรีอยุธยาและรัตนโกสินทรUตอนต/น ตลอดจนสำนวนโวหารที่ไพเราะ และเรื่องที่เกี่ยวกับวิถีชีวิต ค:านิยม
ขนบธรรมเนียมประเพณี

วรรณกรรมเรื่องนี้สะท/อนให/เห็นภูมิปcญญาท/องถิ่นจากประเพณีต:าง ๆ ทั้งจากประเพณีที่เกี่ยวกับ
ชวี ิตต้ังแต:เกดิ จนถงึ ตาย ประเพณที เ่ี ก่ยี วกับศาสนาและประเพณที ่เี กีย่ วเนือ่ งกับเทศกาลต:าง ๆ ไว/ ดงั นี้

ขุนช/างขุนแผน ได/สะท/อนสภาพชีวิตความเป<นอยู: วิถีชีวิตตั้งแต:อ/อนออกสู:ความเป<นหนุ:มสาว ทั้งชาว
วัด ชาววัง และชาวบ/าน หมายรวมถึงวิถีชีวิตเจ/ากับไพร: คติ ความเชื่อ ค:านิยมของคนในสังคม วัฒนธรรม
ประเพณีภูมิปญc ญาของชาวบา/ นในสมัยนัน้ ไดต/ รงตามสภาพท่ีเป<นจรงิ มาก

บทวเิ คราะหภ์ าพสะทอ้ นของภมู ปิ ญั ญาจากวรรณกรรม : ด้านคา่ นยิ ม

๑.ความซอ่ื สัตยตC อD พระมหากษตั ริยC

ในวรรรณกรรมได/กล:าวถึงระบบศักดินาที่ใช/ในการปกครองสมัยก:อน เพราะแม/กระทั่ง
ชื่อเรื่องก็สื่อให/เห็นถึงระบบศักดินาอย:างชัดเจน การถวายตัวในราชสำนัก เพื่อรับใช/และแสดงความซื่อสัตยUต:อ
พระมหากษัตริยU ดังเช:น เมื่อพลายงามโตขึ้นได/ถวายตัวเพื่อรับใช/ในราชการสนองพระมหากรุณาธิคุณ สะท/อน
ให/เห็นโลกทัศนUของครอบครัวขุนนางในสมัยกรุงศรีอยุธยาที่มีความจงรักภักดีต:อพระมหากษัตริยUมาก
พระมหากษตั รยิ ตU รัสสิ่งใดกจ็ ะเช่อื ฟcง ตอนท่ี พลายงามถวายตัวแดส: มเดจ็ พระพันวษา

บทเสภา : พลายงามถวายตวั
ขอเดชะพระกรุณาฝาn ละออง ดอกไมธ/ ปู เทยี นทองของพลายงาม
จงไปดมี าดีศรสี วัสด์ิ พ/นพิบตั ิเส้ยี นหนามความเจบ็ ไข/

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย ๔๖

เอกสารประกอบการเรียนรายวิชา ท3220๒ วรรณคดมี รดก
ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5

บทเสภา : พลายงามอาสาทำศกึ เมืองเชยี งใหม/
จะขอรองมลุ ิกาพยายาม พลางกราบสามทีสดับตรบั โองการ

ให/ศตั รพู :ายแพ/แก:ฤทธิไกร มชี ยั ไดเ/ วียงเชยี งใหม:มา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๒. การบา/ นการเรอื นของลูกผ/ูหญงิ
ลูกผู/หญิงจะต/องได/รับการฝ{กฝนการบ/านการเรือน เพื่อให/เป<นกุลสตรีที่เพรียบพร/อม ดังตัวอย:างจาก
บทเสภา ตอนท่ี พระเจา/ กรุงไกรและองครU าชินีสอนพระธดิ า ความวา:

อีกอยา: งการงานคร/านทัง้ น้นั ทน่ั วา: เมยี อุบาทวUชาตกิ าลี
อันหญิงดีทเี่ ป<นภรรยา กำหนดไว/ในตำราว:าเป<นสี่
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๓. การศกึ ษาเลDาเรียนของลกู ผช/ู าย
ลูกผู/ชายจะต/องเรียนวิชาภาษาไทย ภาษาบาลี คาถาอาคม อันเป<นประโยชนUตามความนิยมใน
สงั คมไทยสมยั กอ: น ยายทองประศรบี อกกับพลายงาม ความว:า

“ท้งั ขอมไทยไดส/ ้นิ ก็ยินดี เรียนคมั ภรี พU ทุ ธเพทพระเวทมนตร”U
“หนึง่ ไดศ/ กึ ษาวชิ าชาญ เป<นแกน: สารคอื คณุ อดุ หนนุ ตวั ”
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๔. การเคารพผ/ูใหญD

สมัยก:อนการทำความเคารพผ/ูใหญ:เปน< เรอื่ งสำคัญ เพราะจะทำใหผ/ ใ/ู หญเ: อ็นดู การทำความ
เคารพจึง สบื ทอดมาจนถงึ ปcจจุบัน ดงั เสภาวา:

“เจ/าออแกว/ ประนมก/มกราบไหว/ ทา: นผูใ/ หญ:ลบู หลังแลว/ สัง่ สอน”
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย โรงเรียนสตรศี รสี รุ ิโยทัย ๔๗

เอกสารประกอบการเรยี นรายวิชา ท3220๒ วรรณคดมี รดก
ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5

บทวเิ คราะหภ์ าพสะท้อนของภูมปิ ญั ญาจากวรรณกรรม : ด้านประเพณี
๑.ประเพณีเก่ยี วกับชวี ติ

ประเพณีเกี่ยวกับชีวิต หมายถึง ประเพณีที่เกี่ยวข/องกับชีวิตของบุคคลตั้งแต:แรกเกิดจนตาย
ประเพณีเหล:านี้ล/วนจัดกระทำขึ้นในแต:ละช:วงของชีวิตที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญๆ ทั้งสิ้น นับตั้งแต:
การเตรยี มการเกดิ การโกนจุด การบวช การแต:งงาน การตาย และการทำศพ

ประเพณีการเกิด

ในสมัยโบราณวิทยาการด/านการแพทยUยังไม:เจริญเหมือนปcจจุบัน ฉะนั้นอันตรายจากการเกิดจึงมี
มาก ด/วยเหตนุ ้ีจงึ เกดิ ประเพณแี ละความเชอ่ื กันมากมายเพื่อปอs งกนั เหตุรา/ ยอัน อาจเกิดมีขึ้นแก:หญิงมีครรภU
จึงมีหมอตำแยเพื่อช:วยทำคลอด เช:น เมื่อจวนใกล/จะคลอดต/องตามหมอตำแยมาช:วยทำการคลอด เมื่อเด็ก

คลอดออกมาถึงพื้นเรียกว:า “ตกฟาก” ต/องจด เวลาของเด็กไว/เพราะเชื่อตามหลักโหราศาสตรUว:าเวลาตกฟาก
มคี วามสำคัญตอ: ต้งั ช่ือการทำนายเรอ่ื งโชคชะตาในชวี ิตของเดก็ ดัง ตัวอย:าง
จากบทเสภา ตอนที่ ทองประศรคี ลอดพลายแก#วแลว# ตั้งช่อื ตามเวลาตกฟาก

ปข[ าลวันอาคารเดือนห/า ตกฟากเวลาสามช้ันฉาย
กรุงจีนเอาแก/วอันแพรวพราย มาถวายพระเจ/ากรงุ อยุธยา
ให/ใสย: อดพระเจดยี Uใหญ: สรา/ งไวแ/ ต:เมื่อครั้งกรุงหงสา

เรียกวดั เจา/ พระยาไทยแตไ: รมา ให/ชื่อวา: พลายแก/วผแ/ู ววไว
สว/ นแมข/ องเดก็ นนั้ เมื่อคลอดแลว# ต#อง “นอนไฟ หรือ อยูไ/ ฟ” เพื่อรกั ษาตวั ดังเสภา ว/า
เอาขึน้ ใสอ: ู:แลว/ แกว:งไกว แมเ: ขา/ นอนไฟใหร/ /อนทัว่

เดือนนงึ ออกไฟไม:หมองมวั ขม้ินแปsงแต:ตัวน:าเอน็ ดู
ประเพณกี ารทำขวัญ
การจัดพิธีทำขวัญเด็ก พ:อแม:จะจัดบายศรีและเครื่องบัตรพลีสำหรับสังเวยพระภูมิเจ/าที่ เสร็จแล/วก็

ทำขวัญ แล/วเอาสายสิญจนUมาเสกผูกข/อมือเด็กทั้ง ๒ ข/าง เรียกว:า “ผูกขวัญ” แล/วให/ศีลให/พรตามประเพณี
เพื่อเป<นการปsองกันโรคภัยไข/เจ็บ อีกทั้งเป<นการแนะนำสมาชิกใหม:ของครอบครัวให/วงศาคณาญาติรู/จักในเสภา
กล:าวถึง ตอนทำขวัญพลายแกว/ ไว/ว:า

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย โรงเรยี นสตรีศรีสรุ ิโยทัย ๔๘

เอกสารประกอบการเรียนรายวิชา ท3220๒ วรรณคดีมรดก
ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 5

จดั แจกแขกน่ังเปน< วงกลม พงศพU นั ธUุพร/อมอย:ทู ั้งปูยn :า
ยกบายศรีแลว/ โหข: ้นึ สามลา เวียนแว:นไปมาโห:เอาชัย

ศรีศรีวนั นฤ้ี กษUดีแล/ว เชญิ ขวญั พลายแก/วอย:าไปไหน
ขวญั มาอยูส: :ูกายใหส/ บายใจ ชมชา/ งมา/ ข/าไททง้ั เงินทอง
ประเพณีการโกนจุก

เมื่อเด็กอายุเข/าสู:วัยรุ:น คือ ชายอายุ ๑๓ ป[ หญิงอายุ ๑๑ ป[ พ:อแม:ก็จะจัดพิธีโกนจุก เพื่อเป<นการ
ปsองกันโรคภัยไข/เจ็บ และเป<นการแสดงว:าเข/าสู:วัยรุ:นขุนช/างขุนแผนกล:าวถึงโกนจุกพลายงาม ตอนที่
ทองประศรที ำพธิ โี กนจกุ พลายแก/วไว/ดังน้ี

ทองประศรีดใี จไดฤ/ กษยU าม ได/สบิ สามปแ[ ลว/ หลานแก/วกู
จะโกนจุกสกุ ดบิ ขน้ึ สิบคำ่ แกทำนำ้ ยาจีนตม/ ตน/ หมู
ประเพณกี ารบวช

สำหรับเด็กผู/ชายพ:อแม:อาจจะให/ไปศึกษาหาความรู/กับพระที่วัดด/วยการนำตัวไปบรรพชา
เป<นสามเณร จนมีอายุครบ ๒๐ ป[บริบูรณU จึงจะจัดประเพณกี ารบวช หรืออปุ สมบทเป<นพระภิกษุ คนไทยถอื ว:า
การบวชเป<นการอบรมบ:มนิสัย ฉะนั้นผู/ที่บวชเป<นพระแล/วจึงได/รับการยกย:องว:าเป<นบัณฑิตหรือเป<นคนสุก

ที่ได/รับการบ:มเพาะด/วยหลักธรรมของพระพุทธเจ/าแล/ว ก:อนบวชมีการลาอุปสมบทเพื่อให/ญาติมิตรมีโอกาส
อนุโมทนาส:วนบุญและได/กุศล คือได/แสดงความชื่นชมยินดีในการทำบุญของผู/อื่น นอกจากนี้ยังให/ผู/บวชได/มี
โอกาสขอขมาโทษผู/อื่นที่ตนเคยล:วงเกินไว/ให/อโหสิกรรมด/วย สำหรับเรื่องขุนช/างขุนแผนในตอนที่ทองประศรี

บวชเณรพลายแกว/ ท่ีวดั สม/ ใหญ: กวไี ดก/ ลา: วไว/วา: ตอนท่ี ทองประศรีพาพลายแกว/ มาบวชทวี่ ดั ส/มใหญ: ความวา:

ทา: นเจา/ ขาฉันพาลกู มาบวช ช:วยเสกสวดสอนใหเ/ ป<นแก:นสาร
ด/วยขนุ ไกรบดิ ามาถึงกาล จะไดอ/ ธษิ ฐานให/สว: นบุญ

ประเพณีการแตง/ งาน
การแต:งงานถือเป<นการตั้งวงศUตระกูลและสืบต:อให/รุ:งเรืองสืบไป ปcจจุบันยังคงประกอบพิธีตาม
ขั้นตอน ในเสภาพิธีเริ่มตั้งแต:การเริ่มต/นสู:ขอ ตอนเรียกสินสอดทองหมั้น ตอนปลูกเรือนหอ ตอนยกขันหมาก
ตอนพธิ ีสวดมนตซU ัดน้ำ และตอนสง: ตวั ดังกวีกล:าวไว/วา: ตอน นางศรีประจันเรียกสินสอดเสภาว:า

“ขา/ จะใหล/ ูกขา/ สบิ หา/ ชัง่ ขันหมากม่งั น/อยมากไมจ: จู/ ี้
ผ/าไหว/สำรับหน่งึ พอดี หอมีห/าห/องฝากระดาน”

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย โรงเรยี นสตรศี รีสุริโยทยั ๔๙

เอกสารประกอบการเรยี นรายวชิ า ท3220๒ วรรณคดีมรดก
ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5

ประเพณีการตาย
การอาบน้ำศพ เชื่อกันว:าเพื่อชำระสิ่งสกปรกให/ผู/ตายนำวิญญาณที่บริสุทธิ์ไปสู:สุคติ โบราณมี

การอาบน้ำศพเพื่อให/สะอาดอย:างแท/จริง แต:ปcจจุบันจัดทำเพียงรดน้ำที่มือของผู/ตายเท:านั้น นอกจากนี้ในปาก
ผู/ตายนิยมใส:เงินไว/โดยมีความเชื่อความคติโบราณว:าเพื่อให/ ผู/ตายนำไปให/ผู/รักษาประตูของภพอื่น หรือให/เป<น
ขอ/ คดิ วา: ตอนมีชวี ติ อยู:ตอ/ งดนิ้ รนแสวงหาทรพั ยU ตายไปแลว/ เอาอะไรไปไม:ได/เลย เป<นข/อควรพิจารณาเพื่อขจัด

ความโลภ การตัง้ ศพสวดพระอภิธรรม การทำบญุ เลี้ยงพระ

พิธีเผาศพ เมื่อเผาเสร็จมีการเก็บอัฐิเพื่อบรรจุไว/ในเจดียUหรือนำไปลอยน้ำ เช:น ตอนทำศพ

นางวันทอง เสภา ว:า เกือบจะบา: ยชายแสงสุริยนั ขุดศพน้นั อาบน้ำและชำระ

ยกศพใส:หีบพระราชทาน เครอ่ื งอานแตง: ตั้งเป<นจงั หวะ

ป[iชวาร่ำรอ/ งกลองชนะ นิมนตพU ระใหน/ ำพระธรรมไป
พลายชมุ พลน:ุงขาวใสล: อมพอก โปรยขา/ วตอกออหน/าหาช/าไม:
๒.ประเพณเี ก่ียวกบั เทศกาล
เรื่องขุนช/างขุนแผนกล:าวถึงประเพณีเกี่ยวกับเทศกาลไว/ ๒ อย:าง คือ ประเพณีในเทศกาล

สงกรานตแU ละสารทไทย ดังนี้
เทศกาลสงกรานตJ
ในสมัยก:อนเราถือเอาวันสงกรานตUเป<นวันป[ใหม: ซึ่งตรงกับวันที่ ๑๓-๑๔-๑๕ เมษายนของ

ทุกป[ตอนเช/าจะมีการทำบุญที่วัด ตอนบ:ายอาจมีการก:อพระทราย และการรดน้ำขอพรผู/ใหญ: เพื่อให/เกิดสิริ
มงคลแก:ตนเองและเป<นการทำบุญร:วมกันตามความเชื่อที่ตนมีต:อศาสนาและพร/อมกะนนี้ก็มักจะจัดให/มีการ
สนุกสนานรนื่ เรงิ ใจควบค:ูกบั ไปดว/ ย ดังความในคำกลอนท่วี :า

ทีนจี้ ะกลา: วถงึ เรอ่ื งเมอื งสุพรรณ ยามสงกรานตคU นน้นั ก็พรอ/ มหนา/
จะทำบญุ ใหท/ านการศรัทธา ตา: งมาทว่ี ดั ปาn เลไลยกU
หญงิ ชายน/อยใหญไ: ปแออดั ขนทรายเขา/ วดั อยข:ู วกั ไขว:

ก:อพระเจดยี ทU รายเรย่ี รายไป จะเลี้ยงพระกะไวใ/ นพร:ุงน้ี

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนสตรีศรสี ุรโิ ยทยั ๕๐


Click to View FlipBook Version