˹§Ñ ÊÍàÊÃÁÔ »ÃÐʺ¡Òó
¡ÅØÁÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃÙÇ·Ô ÂÒÈÒʵÃá ÅÐà·¤â¹âÅÂÕ ªÑ¹é »ÃжÁÈ¡ÉÒ»·Õè 4
àÃÍ×è §
ʵ ÇáÅлÃÐàÀ·¢Í§Êµ Ç
â´Â ¹Ò³°Ñ ¾§È ºØ¤§ ÃËÊÑ 6412440009
ÃÒÂÇªÔ Ò CLM 6608 ¡Òþ²Ñ ¹ÒàÍ¡ÊÒÃËÅ¡Ñ ÊÙµÃáÅÐáËŧ ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙ
คํานํา
4 2560)
2551 (
2551 ( 2560)
คาํ ชี้แจง
คาํ ชแี้ จงสําหรับนกั เรยี น
4
1.
2.
3.
4.
5.
สารบัญ
5
1
4
3
กดฒารดตจฒดั จBําตแตนกดB
ฒตดด. ?
→ รไู้ หมจ๊ะ? ว่า คืออะไร
ฒ า น ฒ ฒaการจดั จาํ แนก คือ ความสามารถในการจัดจาํ แนกหรอื เรยี งลําดับวัตถุ
หรือสิ่งท่ีอยู่ในปรากฏการณ์ตา่ งๆ ออกเปน็ หมวดหมู่
โดยมีเกณฑ์ในการจัดจาํ แนก!ความแตกตา่ ง
อยา่ งหใรดอื อคยวา่ามงหสนมั งึ่ พกนั ไ็ ดธ์้
ฒม ฒ ฏด ฒต ดฐฒตฒ÷ดiคm.iต฿ ด ต ฒi ญ ดฐ gฏความเหมือน
ุ๊ฟุ๋ฑุศุสุดูศูศุ่ฏุตุ่ฅืร่ืตืตุ๋ฉุสู่นู่ด⃝?ู๋ร๊ืณืฉุด⃝?ืย๊ืสุดุดุตืตึณ๋ึสืส๊ืสืสืสืณืส๊ึณืรืสืซืสึสืสึสึส๋ึส๊ึตืสืส๊ืตืตืด๊ืต็ฬืตึฉืณึฉ๋ืส๊ืต๊ึณ
พวกเรามาทาํ ความเข้าใจ กนั เถอะ!! ? 2
หนตู ื่นเต้นมากเลยคะ่
0๏mmฒื๋วันหยดุ น้หี นูจะได้ไปเที่ยวสวนสตั ว์แลว้ !!
แตห่ นกู ก็ ังวล เพราะไมร่ วู้ า่ จะจาํ แนกสัตวเ์ หลา่ น้นั อยา่ งไรดี
ฒนดดฒ นกั เรยี นไม่ต้องกังวลนะคะ เดี๋ยวครูคนสวยจะช่วยนกั เรียนเองคะ่
อนั ดับแรก นกั เรียนสังเกตภาพรวมส่งิ ที่สนใน ทัง้ สิ่งท่เี หมอื นกนั และตา่ งกนั
จากนนั้ กาํ หนดเกณฑ์
แล้วแยกสิ่งที่มลี ักษณะท่ตี า่ งกนั ออกจากกัน
และจัดกล่มุ สงิ่ ทม่ี ีลกั ษณะเหมอื นกันไว้ด้วยกนั
ตามเกณฑท์ ่ีกําหนด
ฒนดดฒ แค่นี้ นักเรียนก็สามารถจาํ แนกสิง่ ทีน่ ักเรียนสนใจได้แลว้ คะ่ ๏มm฿ ๏
หนูเขา้ ใจแลว้ ขอบคุณคณุ ครูมากๆเลยนะคะ
0น ฒ BB งเด็กๆ พอเขา้ ใจขน้ั ตอน
การจดั จาํ แนกหรือยังคะ
[กฌฺเขา้ ใจแลว้ ค่ะ
ืส๋ึส๋ึณ๊ืฏืส่ืตืนืป่ืต๊ืสืสืณืฉืฉึษืส
3
กจิ กรรมที่ 1
โอย๊ ! ๏มm ฒื๊เพ่อื นๆ ช่วย
สัตว์เหล่านี้น่าจะอยปู่ ระเภทไหนนะ?
เหล่านี้ ทีนะจะ๊
มนษุ ย์ หมึก จระเข้ ไสเ้ ดอื นดิน
ฟองน้ํา ปลา กบ ดาวทะเล
ถาเราใชเกณฑก ารมกี ระดูกสันหลงั สัตวเ หลา นีค้ วรอยูป ระเภทไหนดจี ะ ?
สัตวไมม ีกระดสู นั หลงั กับ สัตวมีกระดกู สันหลัง
สัตวไ มมีกระดสู ันหลัง สัตวมีกระดูกสันหลัง
ฬึษ็สุ้
4
น. m ด เพื่อนรูหรอื ไม สตั วไมม กี ระดกู สนั หลงั มคี วามแตกตาง
จากสัตวม กี ระดูกสนั หลังอยางไร ?
•
ลักษณะสําคญั ของสตั วไมม กี ระดกู สนั หลงั ⑧
ฒ็
④ ไมมกี ระดูกสนะหลงั เปนแกนกลางของรางกาย
•
⑧ • • ④ ไมม ีโครงกระดกู ภายในลําตัว ⑧
฿
• ••
ฒ็
• เปนสตั วช น้ั ตา่ํ มกั มีขนาดเลก็ ถามีขาจะมจี าํ นวนขามาก
ฒ็
• •④
•
• • •
•
• ฒ็
ดาวทะเล การเคลื่อนทีแ่ ตกตางกนั
เปนสตั วท ี่มจี ํานวนมากท่สี ดุ ในโลก
V i น ฑื—⑧ ——————————— ลกั ษณะสาํ คญั ของสัตวมกี ระดกู สนั หลงั
④
฿ำ☒ตน• เปน สัตวชนั้ สงู มกี ระดกู สนั หลงั เปน แกนกลางของรางกาย
เนือ้ เยือ่ ของรางกายเจริญเปนอวัยวะ ด
=ป/อวยั วะมกี ารทาํ งานซบั ซอ น เปน ระบบอวัยวะ คต ฒ
วัว
์ขิฐุดุ่ฅ่ฐpฺฑืต็ต่ืฐืดืฮืตืต็ตูญ่ืฐืส๊ัฒ๊ืฏ่ญ็ศ้ืฐุ๊ฑ็ณฺณ็ณ็ณิฏีณีณ็ณืสู๊ห
5
กิจกรรมท่ี 2
เพื่อน ๆ เก่งมากๆเลยจ๊ะ
0๏m*ฒ ดแตเ่ อ๊!แล้วสตั วเ์ หล่านี้ล่ะจะ๊ ? เป็นสัตว์ประเภทใด
i นกแก้ว
i งู i เสอื ดาว
ไสเ้ ดอื นดนิ ำ นกฟลามงิ โก
i. ตอ่ จระเข้ i
i.
เต่า ปลา กะพรุน พวกเรามาชว่ ยกันเถอะ!!
i
i . i.
ดอกไม้ทะเล
. . . ดาวทะเล . กบ
i ..
.
ฟองน้ํา
i.
สัตวไมมีกระดูสนั หลัง สัตวมีกระดูกสันหลัง
สื
ฐ ดฒื๊ฒ ฒ ฒื๊สตั วไ มมกี ระดกู สันหลงั
สตั วไ มมีกระดกู สันหลัง (Invertebrate) คอื กลมุ สตั วท ่ไี มม ีกระดูกเปน แกนกลางภายในรางกาย
ไมม ไี ขสันหลงั (Spinal Cord) หรอื กระดกู สันหลัง (Vertebrae) ซึ่งทาํ หนา ท่ี พยุงโครงสรา งของรา งกาย
รวมถึงไมส ามารถสรา งและพัฒนากระดูกขึ้นเองได นอกจากนี้ สัตวไ มมกี ระดูกสนั หลังยงั เปน กลมุ สัตวท ีม่ ี
จํานวนชนดิ มากท่ีสดุ ในโลกอกี ดวย คดิ เปน สัดสว นประมาณรอ ยละ 97 ของสัตวทงั้ หมดบนโลก โดยสวน
ใหญจัดอยูในกลุมสตั วขาปลอ ง เชน แมลงมีจาํ นวนชนิดพนั ธมุ ากกวาหนง่ึ ลา นชนิด ขณะท่ีสัตวเ ลยี้ งลูก
ดว ยนมและสตั วปก ในกลุมสัตวม ีกระดูกสันหลังมีเพียง 5,000 และ 10,000 ชนิด เทานนั้
โครงสรา งของสตั วไ มม กี ระดูกสันหลงั
-- .. .
..
• _.
ไมม กี ระดูกสนั หลงั เปนแกนหลักของรา งกาย
หมกึ มเี ปลือกแขง็ หอหุม อยูภายนอกรา งกายหรือทีเ่ รียกวา “ระบบโครง หอย
iรา งแข็งภายนอก” (Exoskeleton) เพอ่ื ปองกันอวยั วะภายใน
_-_
มรี ะบบกลา มเน้อื และชองวา งภายในทีเ่ ต็มไปดว ยของเหลว เรยี กวา
“ระบบโครงรา งของเหลว” (Hydrostatic Skeleton) เปน แกนหลกั
ในการคงรูปรางและบังคับควบคุมการเคลือ่ นไหว
กะพรนุ ••
ฆื๋ . มีระบบประสาทและเซลลป ระสาท (Neuron)
.
..
•
๋ึฬ๋ึฬ๋ึฬึณ่ืสืสืสืฉ๋ึน
7
สตั วท ีไ่ มม ี สัตวที่ไมม กี ระดกู แขง็ เปนแกนกลางภายในรา งกาย มักจะมีขนาด
เลก็ ถามีขาจะมจี าํ นวนขามาก และมกี ารเคลือ่ นที่แตกตา งกนั
ฒึ๊โอโ ห!! สัตวไมมกี ระดกู สนั หลังมตี ง้ั มากมายขนาดนี้
หนูจะจําแนกไดอยา งไรคะ ?
นกั เรยี นสามารถจาํ แนกตามลักษณะทีค่ ลา ยคลึงกนั
สามารถแบง ออกไดเ ปน 7 ประเภท ดังน้ี
สัตวไ์ ม่มีกระดกู สนั หลัง
๏
฿ ฟองนาํ้ ลาํ ตัวกลวง - ลําตวั เปนโพรง
ฒ็
พยาธิและหนอนตัวกลม หมึกและหอย ⑧
ลําตวั เปนปลอง ฿
แตไ มม ขี า
ฒ็
ลาํ ตัวเปน หนาม ฿ ลําตวั เปนปลอง
หรือขรุขระ ฿ มีขาเปนขอ
ฒ็
⑧
ฒ็
๏
แผ•นภาพ การจัดจาํ แนกประเภทของสัตวไฒม็ม ีกระดูกสันหลงั
฿
ฒ็ •
⑧
ฒ็
ณ็ณัณ็ณ็
8
การจดั จําแนกสตั วชวยใหเ ราแยกแยะและสามารถศึกษา
เก่ยี วกบั สัตวต า งๆ ไดง ายขน้ึ
เด็กๆ มาทาํ ความรจู กั กับสตั วไ มม ีกระดกู สันหลังกนั เถอะ
กลุ่มฟองน้ำ
⑨
• , - - _ ลกั ษณะลำตัวมโี พรง
ฒ็ s
สืบพนั ธุไ์ ดท้ ้งั อาศยั เพศ
และไมอ่ าศยั เพศ
i
๏
๏
ฒi็๏ e. มรี ูพรนุ ฒ็
ลกั ษณะสาํ คญั ของฟองนา้ํ n.im ,--........ . . . . .
ระ - ยาง คือ สว่ นท่ยี ืน่ ออกจากส่วน
ญื หลกั ของอวัยวะของสง่ิ มีชีวติ ะ
. . . . . . . . . . . .. . . . .
.
ฟองนํ้า เปน ส่งิ มีชีวติ เกาะอยกู บั ท่ี ไมม ีรยางคหรอื สวนใดยืน่
ออกมาจากลาํ ตวั มรี ูปรางคลา ยแจกัน หรือเปน กอนมรี ปู พรนุ
เล็กๆ กระจายทง้ั ตัว เชน ฟองน้าํ แจกัน ฟองนา้ํ ดอกเหด็
ณ็ณ็
9
กลุ่มลำตัวกลวง - โพรง
_ - -→ f- า
ลกั ษณะลำตวั คล้ายทรง s สืบพนั ธไุ์ ดท้ งั้ อาศัยเพศ
และไมอ่ าศัยเพศ
กระบอกกลวงหรอื คล้ายร่ม
•
s มีเขม็ พิษ
⑧
••
ฒ็ เ• ⑧
⑨
1•
กลางลำตวั เปน็ โพรง ฒ็
••
ปะการงั ดอกไมทะเล
กลั ปงหา
ลักษณะสาํ คญั ของกลมุ ลําตัวกลวง - โพรง
สว นใหญมขี นาดเลก็ มีรูปรา งเปน ทรงกระบอก รูปรา ง
คลา ยตนไม หรือรปู รา งคลายรม เปน สิ่งมีชีวติ ทีม่ ีเนื้อน่ิม
และใส เชน กะพรุน ปะการัง กัลปง หา ดอกไมทะเล
ณ็ณุก็
10
พยาธิและหนอนตวั กลม
- - - ลกั ษณะลำตวั แบนยาว
←
มีปากแต่ไม่มีทวารหนกั
' -
- →
พยาธใิ บไม
i
สบื พันธไุ์ ดท้ ั้งอาศัยเพศและไม่อาศัยเพศ
พยาธิปากขอ พยาธิตัวตืด
พยาธิตวั กลม พยาธิในลําไสค น
ลักษณะสําคัญของกลุม พยาธิและหนอนตวั กลม
ลาํ ตัวยาว ออนนิม่ อาจกลมหรอื แบน ไมมีรยางคซึ่งเปน
สว นท่ยี ื่นออกมาจะอวัยวะหลักของรา งกาย เชน แขน ขา มที งั้
ท่ีอาศยั อยใู นรางกายของมนษุ ยและสตั ว เชน พยาธิใบไม
พยาธติ วั ตดื พยาธเิ สน ดา ย และดํารงชีวิตอสิ ระโดยอยูต ามน้าํ
คร่าํ เชน นอนตวั กลม เปนตน
11
หมกึ และหอย
I สบื พนั ธุแ์ บบอาศยั เพศ
ออกลูกเป็นไข่
มีหวั ใจสูบฉดี เลือด ← _ _ ลักษณะลำตวั นิ่ม
h
- _→
j
เคลื่อนท่ีโดยใช้กลา้ มเนอ้ื
หอย
หมกึ
ลักษณะสาํ คัญของกลุมหมึกและหอย
nni =เคลือ่ นท่โี ดยใชก้ ลา้ มเน้ือ
หมกึ และหอย มลี าํ ตัวนมิ่ ไมเปน ปลอ ง มีเปลือกแข็งหุมลําตัว
เชน หอยชนิดตา งๆ สว นหมึกมลี าํ ตวั นิม่ เชนกัน แตม ีเปลือก
แข็งอยใู นลําตวั
12
ลำตัวเป็นปลอ้ งแตไ่ มม่ ีขา
←- - _
มีระบบหมนุ เวียนเลอื ดแบบปิด
ล f-
_ \
ลกั ษณะลำตวั กลมยาวคล้ายวงแหวน \
ตอ่ กันเป็นปลอ้ ง
ผวิ หนงั เปยี กช้นื
ลักษณะสําคญั ของกลมุ ลาํ ตวั เปนปลอ งแตไมม ีขา
สตั วท ่ีมลี ําตัวเปน กลองแตไ มมีขามีลําตัวกลมยาวรางกาย
มีลกั ษณะเปนปลอ ง แตละปลอ งมเี ดือยใชเคลอ่ื นท่ี เชน ปลงิ
ไสเดือนดิน แมเพรยี ง
13
ลำตวั เป็นปล้องมีขาเปน็ ขอ้
มรี ะบบหมุนเวียนเลือด ลักษณะขาต่อกนั เปน็ ข้อ
t
h
_ ←_ _
-→ *
_
\
r
มีระบบทางเดนิ
อาหารท่สี มบูรณ์ สืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ
ลักษณะสําคญั ของกลุมลําตัวเปนปลอ งมขี าเปน ขอ
สัตวกลมุ นลี้ ําตวั เปนปลอ งยึดติดตอ กนั ขาแบง เปน ขอ ๆ
ลําตวั และขาปกคลุมดวยเปลือกหนาและแขง็ จดั เปน โครงราง
ภายนอก เชน กงุ กั้ง ปู แมลง ตะขาบ กงิ้ กือ เปน ตน
14
ลำตัวเปน็ หนามหรอื ขรุขระ
ลกั ษณะตามผวิ หนังลำตวั หยาบ ← --
_
ขรขุ ระ h _
☒ มีสารจำพวกหินปูนเปน็
องค์ประกอบ
ออกลูกเปน็ ไข่ - - →
-
ร่างกายแยกเปน็ แฉก
ดาวทะเล
เมน ทะเล
ลักษณะสาํ คญั ของกลุมลําตวั เปน หนามหรอื ขรขุ ระ
สัตวในกลมุ นี้พบในทะเลเทา นน้ั มีลกั ษณะสําคัญ คือ
ผวิ หยาบ ขรขุ ระ มรี ูปรา งกลมแบน สสี ันสวยงาม บางชนิดมี
หนามยนื่ ออกมา เชน ดาวทะเล ดาวขนนก พลบั พลงึ ทะเล
อีแปะทะเล เมน ทะเล เปน ตน
ร๋ั
กจิ กรรมท่ี 3 15
คําถามคอื ? : สงิ่ มีชวี ิตเหลา นจ้ี ัดอยใู นกลมุ สัตวมกี ระดกู สนั หลังประเภทใด
เพอื่ นๆ มาชวยกนั หาคาํ ตอบกันเถอะ
1. สตั ว์ชนิดน้ีคือ 2. สตั วช์ นดิ นีค้ ือ 3. สตั วช์ นดิ นี้คอื
เปน็ สตั ว์ไม่มกี ระดูกสันหลงั ประเภท เป็นสัตว์ไม่มกี ระดกู สนั หลงั ประเภท เปน็ สตั วไ์ มม่ กี ระดูกสันหลงั ประเภท
4. สัตว์ชนดิ น้ีคือ 5. สัตวช์ นิดน้คี ือ 6. สตั วช์ นิดน้ีคือ
เป็นสตั วไ์ มม่ ีกระดกู สนั หลงั ประเภท เป็นสัตว์ไม่มกี ระดกู สันหลังประเภท เปน็ สตั วไ์ มม่ กี ระดูกสนั หลงั ประเภท
7. สตั ว์ชนดิ น้คี ือ 8. สัตวช์ นดิ นีค้ ือ 9. สตั ว์ชนดิ นค้ี อื
เปน็ สัตวไ์ มม่ กี ระดกู สนั หลงั ประเภท เป็นสัตวไ์ ม่มกี ระดกู สันหลงั ประเภท เปน็ สัตวไ์ ม่มีกระดกู สนั หลงั ประเภท
สตั วม กี ระดูกสันหลงั
สตั วม กี ระดูกสันหลงั (Vertebrate) เปนสตั วชัน้ สูงท่มี ีเน้ือเยื่อของรางกายเจรญิ เปนอวยั วะ
ที่มกี ารทาํ งานซับซอ น กระดูกสันหลังทําหนาท่ีเปนแกนกลางของรางกาย ชวยใหร า งกายคง
รปู ทแ่ี นน อนอยไู ด สัตวม กี ระดกู สนั หลงั มวี ิวัฒนาการสูงกวา สัตวไ มม ีกระดกู สนั หลงั
โครงสรา งของสัตวม ีกระดกู สนั หลงั สมองของมนุษย
มีระบบกลา มเน้อื (Muscular System) จาํ นวน
มาก ชว ยสง เสรมิ ใหส ตั วมีกระดูกสันหลงั สามารถ
เคลอื่ นไหวอยา งมปี ระสทิ ธิภาพ
สัตวมกี ระดูกสนั หลงั ระบบเนื้อเยือ่ ของ ทําหนา ทเี่ ปน ศูนยค วบคุมระบบประสาท
รา งกายเจริญเปนอวยั วะตางๆที่มกี าร ไดแ ก สมอง และไขสันหลัง
ทาํ งานอยา งสลบั ซบั ซอน ระบบประสาทสว นกลาง (Central Ner vous
System: CNS) ที่สง เสริมใหส ตั วม ีกระดกู สนั
สัตวม กี ระดูกสนั หลงั สวนใหญมแี ขนขา 2 คู หลงั สามารถเคลอื่ นไหวไดห ลากหลายมติ ิ
ซง่ึ รวมไปถงึ ครีบของสตั วจ ําพวกปลา สามารถรบั รคู วามรสู ึก ประมวลผล และปรับ
และปก ในกลุม สตั วปก ตวั กอ ใหเกิดพฤตกิ รรมและการเขาสงั คมท่ี
แตกตา งจากสงิ่ มีชวี ติ หรอื สัตวจ าํ พวกอน่ื
กระดกู สันหลังของมนุษย
17
สตั วทม่ี เี นอื้ เยอื่ ของรา งกายเจรญิ เปน อวยั วะทม่ี กี ารทาํ งานซบั ซอ น สว นใหญ
มขี นาดใหญอาศัยอยูท ั้งในนา้ํ และบนบก จดั วาเปนสัตวชัน้ สงู
สัตวมีกระดกู สนั หลงั มีมากมายหลายชนดิ ท้งั อาศยั อยบู นบกและอาศยั อยใู นน้าํ
หนูและเพ่อื นสามารถจดั จาํ แนกไดอ ยางไรคะ ?
นักเรียนสามารถจาํ แนกตามลกั ษณะทีค่ ลา ยคลึงกัน
สามารถแบง ออกไดเ ปน 5 ประเภท ดงั น้ี
สัตวม์ ีกระดกู สันหลงั
กลุ่มปลา สัตว์สะเทนิ น้ำ
สะเทนิ บก
กล่มุ นก
สัตวเ์ ล้ือยคลาน
สัตว์เลี้ยงลูก
ด้วยนำ้ นม
แผนภาพ การจัดจาํ แนกประเภทของสัตวมกี ระดูกสันหลัง
18
สตั วมีกระดูกสนั หลงั จดั เปนสัตวช ้ันสงู ทม่ี ีโครงกระดูกเปนเครอ่ื งคํา้ จุนทาํ ให
รา งกายคงรปู อยไู ด แบงเปน 5 ประเภท ดังน้ี
1. กลมุ ปลา ฉลาม
เปน สตั วทหี่ ายใจดวยเหงอื ก มีครีบใชเ คลือ่ นไหวและ
ทรงตัว มีเสนขา งลาํ ตัวเปนสว นรับความรูสกึ สัน่ สะเทือน
☒2. สัตวส ะเทินนา้ํ สะเทนิ บก
สัตวสะเทนิ น้าํ สะเทินบก เปน สัตวท ว่ี างไขในนํ้า ตัวออ นหายใจ
ดว ยเหงือก เรียกวา ลกู ออด เมือ่ โตเตม็ วัยหายใจดว ยปอดและ
ผิวหนงั เพราะอยบู นบก ผวิ หนังเปย กช้ืน ไมม ีเกลด็ และเปนสตั ว
กบ เลือดเย็น เชน กบ คางคก เขยี ด ปาด อ่ึงอาง
๐3B. ลสัตtวาเ ลB้ือดยคงลรารนร
สตั วเล้อื ยคลานสว นมากดาํ รงอยูบนพืน้ ดิน วางไขบ นบก
ผวิ หนงั แหง ลาํ ตัวมเี กลด็ ปกคลุม หายใจดว ยปอดตลอดชีวติ เปน
สัตวเ ลอื ดเย็น อาศัยอยูบนบก เชน กิ้งกา จง้ิ เหลน จ้งิ จก เยอาศัยอยู
ไดท้งั ในนาํ้ และบนบก เชน เตา จระเข
จระเข
ต๋ึ
19
อา4ค. สาัตรวปดก า(กรลาุม คนกา)ร
สตั วปก เปน สตั วเ ลือดอุน มีขนเปน แผงปกคลมุ ตวั ขาคูหนาพัฒนาเปน
ปก ปากเปนจะงอย หายใจดวยปอด มถี งุ ลมชว ยหายใจและระบายความ
รอ น ไมมีกระเพาะปสสาวะ ออกลูกเปนไข เชน ไก เปด สตั วป กทสี่ ามารถบิน
ได คอื นกชนดิ ตางๆ สัตวป ก ทบ่ี นิ ไมได เชน นกกระจอกเทศ เพนกวิน
นกแกว
เพนกวนิ
นกฟลามิงโก
งนsโนด Bตs นBดอง5. สตั วเลยี้ งลูกดว ยนาํ้ นม เสอื ดาว
สตั วเลยี้ งลูกดว ยนาํ้ นม เปน สัตวเ ลอื ดอนุ เพศเมยี มีสรางน้าํ นมสาํ หรับ
เลยี้ งลูกออ น หายใจดว ยปอด มีแขนและขาไมเกิน 2 คู มีตอมเหง่อื ใต
ผิวหนงั มขี นเปน เสนปกคลุมตัว สว นใหญออกลกู เปน ตวั เชน มนษุ ย ชา ง
มา วัว หมี ลิง โลมา วาฬ และออกลูกเปน ไข เชน ตุน ปากเปด
วาฬ
มนุษย
ส๋ึส๊ึ
กจิ กรรมที่ 4 20
คําถามคอื ? : สิง่ มชี ีวติ เหลานจี้ ดั อยใู นกลุมสตั วม กี ระดูกสนั หลังประเภทใด
เพือ่ นๆ มาชวยกนั หาคาํ ตอบกนั เถอะ
1. สตั วช์ นิดนี้คอื 2. สตั ว์ชนดิ นีค้ ือ 3. สตั วช์ นดิ นค้ี ือ
เปน็ สตั วม์ กี ระดูกสนั หลงั ประเภท เป็นสตั ว์มกี ระดกู สันหลังประเภท เปน็ สัตวม์ กี ระดกู สันหลงั ประเภท
4. สัตวช์ นดิ นค้ี ือ 5. สตั วช์ นดิ นค้ี อื 6. สตั วช์ นิดนี้คือ
เป็นสัตวม์ กี ระดกู สนั หลงั ประเภท เป็นสัตว์มีกระดูกสนั หลังประเภท เป็นสัตว์มกี ระดูกสนั หลังประเภท
7. สตั ว์ชนิดนคี้ ือ 8. สตั ว์ชนิดนีค้ ือ 9. สัตวช์ นิดนค้ี ือ
เปน็ สัตว์มีกระดกู สนั หลังประเภท เป็นสตั วม์ ีกระดกู สันหลงั ประเภท เป็นสัตว์มีกระดกู สนั หลงั ประเภท
สัตวม ีกระดกู สนั หลงั
Iฒด ดไ ำได ดอดโ อไ โ ไEึกลมุ ปลา
ออกลูกเปน็ ไข่ อาศัยอยู่ใน
นำ้ ตลอดชีวิต
หายใจด้วยเหงอื ก
→ I
- -
-
_
เป็นสัตวเ์ ลอื ดเยน็ "
\i
มคี รีบ
ลักษณะสําคัญของกลุม ปลา
สัตวกลมุ น้หี ายใจดวยเหงอื ก มีครบี ใชเ คลื่อนไหวและ
ทรงตวั มีเสนขางลําตวั เปน สว นรบั ความรูสึกสน่ั สะเทือน
สามารถแบงออกเปน 2 ชนิด คอื ปลากระดูกออ น เชน ฉลาม
กระเบน และปลากระดูกแขง็ เชน ปลาชอ น ปลานิล ปลา
ตะเพียน
ิ็ริสิด็ริดิดิสิดิิดิสิสิสิร็ส
22
ปลา เปนสตั วทีห่ ายใจดวยเหงอื ก มคี รบี ใชเคล่อื นไหวและ
ทรงตัว มเี สนขา งลาํ ตัวเปนสวนรบั ความรสู ึกสนั่ สะเทอื น
สัตวมีกระดูกสันหลงั กลมุ ปลา
สามารถแบง ออกไดเปน 2 ประเภท ดังนี้
1. ปลากระดกู ออน
ปลาท่ีมีเกล็ดขนาดเล็ก มลี กั ษณะคลา ยฟน ตรงปลายของเกลด็ เปน หนามยื่นไปทางทา ย
ของลําตวั มกี ระดูกเปน กระดกู ออนตลอดชวี ิต เชน ฉลาม กระเบน
กระเบน ฉลาม
1. ปลากระดกู แขง็
ปลาสว นใหญท่มี ีเกล็ด ลักษณะแบนเรยี งซอนกนั คลา ยกบั การวางกระเบอ้ื งมุมหลงั คาบาน
มกี ระดูกเปน กระดกู แข็ง มีท้งั ครบี เดี่ยวและครบี คู เชน ปลาชอน ปลานลิ ปลาตะเพียน
ปลาชอ น
ปลานลิ
กิจกรรมท่ี 5 23
คําถามชวนคดิ ? กับกิจกรรมมหาสนุก
เพื่อนๆ ชวยกนั เตมิ ลักษณะสาํ คญั ของสัตวม กี ระดูกสนั หลงั กลุมปลาใหถ กู ตอ งนะคะ
เพอ่ื นๆ มาชวยกันหาคาํ ตอบกันเถอะ
\^ :
t
ลักษณะสาํ คญั ของ กลมุ ปลา
สัตวมีกระดูกสนั หลงั
* ด Eอฒำน ไก•กลมุ สะเทินนํา้ สะเทนิ บก
ไมม่ เี กลด็ .
' . ผิวหนังเปียกชนื้ ตลอดเวลา
. .
วางไขอ่ ยใู่ นน้ำ
.
. เป็นสตั ว์เลอื ดเย็น
ลกั ษณะสําคัญของกลุม สตั วส ะเทนิ นํ้าสะเทินบก
สัตวสะเทินนาํ้ สะเทินบก เปน สัตวท วี่ างไขในนํ้า ตวั ออน
หายใจดวยเหงือก เรยี กวา ลกู ออ ด เมอื่ โตเต็มวยั หายใจดว ย
ปอดและผวิ หนงั เพราะอยูบนบก ผิวหนังเปยกชน้ื ไมมีเกลด็
และเปน สัตวเลือดเย็น เชน กบ คางคก เขียด ปาด อึ่งอาง
็ฬืต๊ืส๊ืติสืสิส๊ืต๊ืสิส๋ึร็ณ
25
อานเสริมเพิ่มความรู กับวงจรชีวิตกบ
=ไขกบ Eggs
กบเปน สัตวครึ่งบกคร่ึงนาํ้ อาศัยอยใู นบรเิ วณแหลง น้ําตน้ื ๆ หรือแอง น้ําเลก็ ๆ ใชล นิ้ จบั แมลงและสัตวอ ่นื เปน อาหาร
หายใจดว ยปอดและทางผิวหนงั มกี ารผสมพนั ธุภายนอก คอื ตวั เมยี วางไขแ ละตวั ผูปลอยอสุจอิ อกมาผสมกนั ในน้าํ
ในชว งฤดูแลงกบจะอยแู ตใ นรูและไมอ อกหาอาหารชั่วคราว เรยี กวา “ภาวะกบจําศลิ ”
เปนเมด็ กลม มสี ีนํา้ ตาลปนเขียวและมีเมือกไวป อ งกนั อันตรายจากสตั วอ น่ื
ถายเกาะกนั เปนแพรอเตรยี มน้าํ กลุมละประมาณ 50 ถงึ 150 ฟอง
วงจรชวี ิตกบตวั ออนLarva
ไขท่ไี ดรบั การผสมแลว จะเจริญเปล่ยี น
เปนตวั ออน ถามอี ณุ หภูมพิ อเหมาะจะ กบโตเต็มวยั Adult Frog
ฟก เปนตวั ภายใน 3 วนั
ลูกออ ด Tadpoles ไขกบ Eggs ลูกออด Tadpoles
ตวั ออ น Larva
เริ่มมีขาออกมา โดยท่ีขาหลงั จะงอกออก
มากอ น มลี กั ษณะคลายลกู ปลา หวั โต
หางยาวและหายใจดว ยเหงอื ก และมขี า
เมอ่ื ครบ 4 ขา ชวนหา งก็จะหวนสน้ั และ
หายไปใชระยะเวลา 7 เดอื น
กบโตเต็มวัย Adult Frog
กลายเปนกบตวั เลก็ และอาศัยอยบู นบก หายใจดวยปอด มขี า 2 คู คอื ขาหนา 1 คู และขาหลงั 1 คู จะโตเตม็ วยั
เมอ่ื อายไุ ดส ามป
กบมผี ิวหนังขรุขระ ไมมขี นและเกลด็ ที่ผวิ มีตอ มเมอื กและนํ้าใสๆ เพอ่ื ชวยใหผ ิวหนงั มคี วามชุมช้นื อยูเ สมอ กบมีขา
2 คู ขาคหู นามีขนาดเลก็ และส้นั ขาคหู ลังยาวกวามมี ัดกลา มเน้ือ คอยประคองคาํ้ จุนใหก บสามารถกระโดดไปดาน
หนา ไดอ ยางรวดเร็ว ขาคหู นามนี ้วิ ขา งละ 4 น้ิว สวนขาคูหลังมขี า งละ 5 นิ้ว ระหวางน้วิ มพี งั ผดื ใชช วยในการวา ยน้าํ
เรียกวา “ตนี กบ” ปลายนวิ้ ทง้ั หมดมีลกั ษณะตมุ กลมเล็ก
กิจกรรมท่ี 6 26
คําถามชวนคดิ ? กับกจิ กรรมมหาสนกุ
จากภาพทค่ี รกู ําหนดให
ใหเดก็ ๆ ระบายสี • ทับสตั วมกี ระดูกสันหลังกลุมสตั วสะเทินน้ําสะเทนิ บก
สตั วสะเทินน้ําสะเทนิ บก ไดแ ก
สัตวมีกระดูกสนั หลัง
กลมุ สตั วป ก (นก)
หายใจด้วยปอด เป็นสัตวเ์ ลอื ดอุน่
ขาคหู่ น้าพัฒนาไปเป็นปกี มขี นเป็นแผง
ออกลกู เปน็ ไข่
นกแกว
แพนกวิน
ฟลามงิ โก
ลักษณะสาํ คัญของกลุมสัตวปก
สัตวปก เปน สตั วเ ลอื ดอนุ มขี นเปนแผงปกคลมุ ตวั ขาคูหนา
พฒั นาเปน ปก ปากเปน จะงอย หายใจดวยปอด มถี ุงลมชว ย
หายใจและระบายความรอ น ไมมีกระเพาะปสสาวะ ออกลูกเปน ไข
เชน ไก เปด สตั วป ก ทส่ี ามารถบินได คือ นกชนิดตางๆ สตั วปก ท่ี
บนิ ไมไ ด เชน นกกระจอกเทศ เพนกวิน
อานเสรมิ เพิ่มความรู กบั สัตวปกนา รู 28
-
โครงกระดูกสัตวปก จะเบามาก เน่อื งจากกระดกู หลายชน้ิ มีชอ งกลางและมีโครงสรา ง
แบบรงั ผง้ึ ที่แข็งแรงอยูภ ายใน สัตวก ลุมนม้ี ีถงุ ลมติดกับปอด โดยหายใจเอาอากาศ
เขาออกจากถงุ ลม ซ่ึงกระจายอยใู นรางกายเหนือปอด โดยอากาศจะไหลผา นปอดไป
ดวยและความสาํ คญั ของอวยั วะตา ง ๆ แยกเปน ดังน้ี
• ปก ใชบ ิน ตา จมูก
• ปาก ใชก นิ อาหาร หู ปาก
• ตา ใชใ นการมองเหน็
• ห ู ใชร บั ฟง เสียงและการทรงตวั ปก
• จมูก ใชดมกลน่ิ
• ขาและเทา ใชใ นการทรงตวั และเคลื่อนที่
การสบื พนั ธขุ องสัตวปก สบื พนั ธแุ บบอาศัย ขาและเทา
เพศ มีการปฏิสนธภิ ายใน โดยออกลูกเปนไข
วางไขบ นบก ไขม จี าํ นวนไมมากนกั ไขมี
เปลอื กแขง็ หุม
การแบงประเภทสัตวป ก สามารถแบงสัตวกลุมนตี้ ามลกั ษณะการบนิ ได 2 พวก คือ
1 สตั วปก จําพวกบนิ ได สามารถใชป กในการบนิ ไปมาในอากาศไดอ ยา งรวดเรว็
แตมบี างพวกปรบั โครงสรา งของรา งกาย ใหเ หมาะสมกบั สถานท่อี ยอู าศยั จึง
บนิ ไดต าํ่ เชน ไก เปด นกชนิดตาง ๆ
2 สัตวป ก จําพวกบินไมไ ด สวนใหญจ ะมปี กขนาดเลก็ มากเมือ่ เปรยี บเทียบกับ
ขนาดของลาํ ตวั จึงไมสามารถบนิ ได การเคล่ือนท่จี ะอาศยั ขาเดิน และว่ิงอยา ง
รวดเร็ว นกทบ่ี ินไมไ ด โดยธรรมชาติเทา ท่มี เี หลอื อยใู นโลกปจจุบนั น้ี ไดแ ก
นกกระจกเทศ นกอีมู นกคาสโซวาร่ี นกเรยี นกเพนกวนิ สายพันธตุ า งๆ
กิจกรรมท่ี 7 29
คําถามชวนคิด? กับกิจกรรมมหาสนกุ
ใหนักเรยี นเติมคาํ ลงในชอ งวา ง
พรอ มระบุหนา ทข่ี องอวัยวะตางๆ ใหถูกตอง
๓ตา ฒจมืูก๊ ทําหนาท่ี
•หู
ทาํ หนาที่ ฒปาึก๊
ทําหนา ท่ี
ทาํ หนา ท่ี
๓ปก
ทาํ หนา ท่ี
ตขาดแฒละฒเทนา
ทาํ หนาท่ี
สัตวมกี ระดูกสันหลัง
กลุมสัตวเลอ้ื ยคลาน
เป็นสัตว์เลอื ดเยน็
ผวิ หนังแหง้ มีเกลด็ ปกคลมุ ร่างกาย
วางไข่บนบก
หายใจดว้ ยปอด
ลกั ษณะสาํ คญั ของกลมุ สตั วเ ลอ้ื ยคลาน
สัตวเลือ้ ยคลานสวนมากดํารงอยูบนพ้นื ดนิ วางไขบนบก
ผิวหนังแหง ลาํ ตัวมเี กลด็ ปกคลมุ หายใจดว ยปอดตลอดชวี ิต
เปนสัตวเ ลอื ดเย็น อาศยั อยูบนบก เชน ก้งิ กา จิ้งเหลน จ้ิงจก เย
อาศยั อยูไ ดทั้งในนา้ํ และบนบก เชน เตา จระเข
31
สัตวเล้ือยคลาน
อา นเสรมิ เพม่ิ ความรู กับ
-
บัญชีสตั วเล้ือยคลานในประเทศไทย
การรวบรวมบญั ชรี ายชื่อสตั วเ ลอ้ื ยคลานในประเทศไทยนน้ั ไดม ผี ูจ ดั ทาํ ข้นึ ไวเ ปนระยะๆ แตมกั ยังไมส มบรู ณแ ละครอบคลุม
ทั้งนอี้ าจมาจากสาเหตหุ ลยปจ จยั ดวยกัน สําหรบั การรวบรวมใน "บญั ชรี ายการทรัพยากรชีวภาพสัตวเ ลอื้ ยคลาน" น้ี พบวา
ประเทศไทยมีรายงานสตั วเลื้อยคลานจํานวน 418 ชนิด โดยสามารถสรุปไดดงั น้ี
สัตวเลอื้ ยคลานปรากฏคร้ังแรก ในยุค“คารบ อนิเฟอรสั ”เมอ่ื ประมาณ 315 ลา นปท แี่ ลว สามารถปรบั ตวั
ใหอ ยใู นพนื้ ที่แหงไดด ี สัตวกลุมนีม้ เี กลด็ หุมลําตวั หายใจดว ยปอดอยางสมบูรณ และออกไขท ่ีมีเลือกหุม
สตั วเล้ือยคลาน แบง ออกไดเปน 3 อันดบั ไดแก
กจิ กรรมท่ี 8 32
กระตุกตอ มคิด กับ กิจกรรมแสนสนุก
- -
เพื่อนๆ ลองชว ยกันทายนะจะ ขอ ใดถูกตอ งเก่ียวกับสตั วเล้ือยคลาน
ใหเพือ่ นๆ ลงในขอ ทถ่ี ูกตองนะจะ
กวาง จระเข ยรี าฟ
งู ปลาปกเปา นกแกว
ปลาการต นู ววั เตา
สัตวมกี ระดกู สันหลัง
* ด Eอฒำน ไก•กลมุ เลย้ี งลูกดว ยนาํ้ นม
หายใจด้วยปอด เปน็ สัตวเ์ ลือดอุ่น
I
i. →
ผวิ หนงั เรียบ
มขี นแบบเสน้ E !
มตี ่อมน้ำนมสำหรับสร้างนำ้ นม
ใหต้ วั อ่อน
ลกั ษณะสําคัญของกลมุ สตั วเล้ยี งลูกดวยน้าํ นม
สตั วเ ล้ียงลกู ดวยน้ํานม เปน สัตวเลอื ดอุน เพศเมยี มีสราง
นํ้านมสําหรบั เลยี้ งลูกออน หายใจดวยปอด มแี ขนและขาไม
เกิน 2 คู มีตอ มเหงื่อใตผ ิวหนงั มขี นเปนเสน ปกคลมุ ตัว สวน
ใหญอ อกลูกเปน ตวั เชน มนษุ ย ชาง มา วัว หมี ลงิ โลมา วาฬ
และออกลกู เปน ไข เชน ตุนปากเปด
้ํศ๋ัร็ฬืด๊ืด๊ืติสืส้ืส๊ืต๊ืสิส๋ึร๊ืณ
34
เร่ืองไมล บั ของสตั วเ ลย้ี งลกู ดวยนม
๏
สตั วเลี้ยงลูกดวยนมเปน สัตวเ ลือดอนุ มผี มหรือขน หายใจดวยปอด มีกระดกู สันหลังและโครง
กระดกู และกินนมจากแมเปนอาหารตอนท่ยี งั เปน ทารก โดยมนุษยก็เปน สัตวเลี้ยงลูกดว ยนม
ชนดิ หนึ่ง แตน อกจากมนษุ ยแ ลวยงั มสี ัตวเล้ียงลูกดว ยนมชนิดอ่นื ๆ ดว ย เชน สุนัข แมว วัว
เสอื และแตละชนิดกม็ ีความนา สนใจทแ่ี ตกตางกันไป
1. มีสตั วเ ลี้ยงลูกดวยนมเพียง 2 ชนดิ ท่ีออกลูกเปนไข ไดแ ก ตุนปากเปด และตวั กินมด
หนาม ซ่ึงพบไดในประเทศออสเตรเลยี
ตุนปากเปด
หู i
nt2. ในบรรดาสง่ิ มีชวี ิตในโลก สตั วเลี้ยงลกู ดว ยนมเปน เพียงสตั วชนดิ เดยี วที่มหี ูอยูนอกตัว โดย
--
ภายในหชู ัน้ กลางของพวกมันจะประกอบไปดวยกระดู 3 ชน้ิ เพื่อสง ตอ เสียงไปยงั หชู ้ันใน
3. สตั วเลีย้ งลูกดวยนมทุกชนดิ ลวนมขี น แมแตว าฬหรอื โลมา
กม็ ีขนเชน กัน โดยขนของมันจะอยูบ ริเวณใบหนา และเปนชว ง
โลมา ท่มี นั อยใู นทองของแมเทาน้นั ขนเหลานี้จะหายไปหลังจากที่
มันเกิด
4. มนุษยเ ปน สัตวเล้ยี งลกู ดวยนมท่มี คี วามฉลาด ลงิ ชมิ แปนซี
แตน อกจากมนุษยแลว โลมา ชาง ลงิ ชมิ แปนซี
รวมถงึ หมู ก็มีความฉลาดไมแพก ัน
กจิ กรรมที่ 9 35
คําถามชวนคิด? กับกจิ กรรมมหาสนกุ
เพ่อื นๆ ชว ยกันเติมลักษณะสําคัญของสตั วเลยี้ งลกู ดวยน้ํานมใหถกู ตอ งนะคะ
เพื่อนๆ มาชวยกันหาคาํ ตอบกนั เถอะ
ตผวิ รหนางั เรียบง
BBหOาDยTใAจEtดrtsว้ sยssปsoอsด.no sเnปpsน็sfsสsrsตั sreวn์เsลsrsือosดtosอttุ่นttttfst
ตมTขีาLนSแาาบeบrsเsสroน้ER
oiszมsanีตsg่อgppมgspนsrnำ้ seนtstoมt zสsceำoreหrstรtlsบัcepสzepgรogา้roงonoนteำ้srsนtstมt nใstหtan้ตotsวัessอsrs่อooeนono
ลักษณะสําคญั ของ กลุมสตั วเล้ียงลูกดวยน้ํานม
สั
36
แบบทดสอบ
5.
3 4/3)
.
37
. 1. A
P B
P A
B
AB
38
เฉลยกจิ กรรมที่ 1
โอ๊ย! ๏มm ฒื๊เพ่อื นๆ ช่วย
สัตวเ์ หล่านีน้ ่าจะอยู่ประเภทไหนนะ?
เหล่าน้ี ทีนะจะ๊
มนษุ ย์ หมึก จระเข้ ไสเ้ ดอื นดิน
ฟองนํา้ ปลา กบ ดาวทะเล
ถาเราใชเ กณฑก ารมีกระดูกสนั หลัง สตั วเหลา นคี้ วรอยูป ระเภทไหนดีจะ ?
สตั วไมม ีกระดูสนั หลัง กับ สัตวม กี ระดูกสันหลงั
สัตวไมม กี ระดสู ันหลงั สัตวม กี ระดูกสันหลัง
หมึก ไสเดือนดนิ มนุษย จระเข
ฟองนํ้า ดาวทะเล ปลา กบ
ฬึษ็สุ้
39
เฉลยกิจกรรมที่ 2
เพอื่ น ๆ เกง่ มากๆเลยจะ๊
0๏m*ฒ ดแตเ่ อ๊!แล้วสัตวเ์ หลา่ น้ีละ่ จ๊ะ? เป็นสตั ว์ประเภทใด
i นกแกว้
i งู i เสอื ดาว
ไส้เดอื นดิน ำ นกฟลามิงโก
i. ต่อ จระเข้ i
i.
เต่า ปลา กะพรนุ พวกเรามาช่วยกนั เถอะ!!
i
i . i.
ดอกไมท้ ะเล
. . . ดาวทะเล . กบ
i ..
.
ฟองนาํ้
i.
สัตวไ มมีกระดูสนั หลงั สัตวม กี ระดกู สนั หลัง
ดาวทะเล ดอกไมท ะเล กบ ปลา เตา
ฟองนา้ํ กะพรุน จระเข นกฟลามงิ โก
ตอ ไสเ ดอื นดนิ เสอื ดาว งู นกแกว
สื
เฉลยกจิ กรรมที่ 3 40
คําถามคือ? : สิง่ มชี ีวิตเหลา น้จี ดั อยใู นกลมุ สัตวม กี ระดูกสันหลงั ประเภทใด
เพื่อนๆ มาชวยกันหาคําตอบกันเถอะ
1. สัตว์ชนิดนี้คือ พยาธิ 2. สตั วช์ นิดน้คี ือ กระพรุน 3. สตั วช์ นดิ นค้ี อื ดาวทะเล
เปน็ สตั ว์ไม่มีกระดูกสนั หลงั ประเภท เปน็ สัตว์ไม่มกี ระดกู สนั หลังประเภท เปน็ สัตว์ไมม่ ีกระดูกสนั หลงั ประเภท
พยาธิและหนอนตวั กลม ลาํ ตัวกลวง - ลาํ ตวั เปนโพรง ลําตวั เปน หนามหรอื ขรุขระ
4. สตั ว์ชนิดนี้คอื กุง 5. สัตวช์ นิดน้ีคอื หมกึ 6. สัตว์ชนิดนีค้ ือ ผงึ้
เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสนั หลงั ประเภท เป็นสตั วไ์ มม่ กี ระดกู สนั หลังประเภท เป็นสตั ว์ไม่มีกระดูกสนั หลังประเภท
ลําตวั เปนปลอ งมีขาเปนขอ หมึกและหอย ลําตวั เปน ปลอ งมขี าเปน ขอ
7. สัตว์ชนดิ น้คี ือ หอย 8. สัตว์ชนิดน้คี อื ดอกไมท ะเล 9. สัตวช์ นดิ นีค้ ือ ไสเ ดอื นดนิ
เป็นสัตวไ์ มม่ ีกระดกู สันหลงั ประเภท เปน็ สตั วไ์ มม่ ีกระดกู สนั หลังประเภท เปน็ สัตวไ์ มม่ ีกระดกู สันหลงั ประเภท
หมึกและหอย ลาํ ตวั กลวง - ลาํ ตวั เปน โพรง ลาํ ตัวเปนปลองแตไ มม ีขา
เฉลยกจิ กรรมที่ 4 41
คาํ ถามคอื ? : ส่งิ มชี วี ิตเหลา นี้จดั อยูใ นกลมุ สัตวม ีกระดูกสันหลงั ประเภทใด
เพอื่ นๆ มาชว ยกนั หาคาํ ตอบกนั เถอะ
1. สัตว์ชนิดน้ีคือ สงิ โต 2. สตั ว์ชนิดนคี้ อื กบ 3. สัตวช์ นิดน้ีคอื จระเข
เป็นสตั วม์ กี ระดูกสันหลังประเภท เปน็ สตั ว์มีกระดกู สนั หลังประเภท เปน็ สตั ว์มกี ระดกู สนั หลงั ประเภท
สัตวเล้ียงลูกดวยนา้ํ นม สตั วส ะเทินนํา้ สะเทนิ บก สัตวเล้ือยคลาน
4. สัตวช์ นิดน้ีคือ วาฬ 5. สตั ว์ชนิดนคี้ อื มา นา้ํ 6. สตั ว์ชนดิ นค้ี ือ ปลา
เปน็ สตั วม์ ีกระดูกสนั หลังประเภท เปน็ สตั ว์มีกระดกู สันหลงั ประเภท เป็นสัตวม์ กี ระดกู สนั หลงั ประเภท
สตั วเล้ยี งลูกดว ยนํา้ นม กลุมปลา กลุม ปลา
7. สัตว์ชนิดนคี้ อื 8. สัตว์ชนดิ น้คี ือ นก 9. สัตว์ชนิดนี้คอื
เป็นสตั วม์ กี ระดกู สันหลงั ประเภท เปน็ สัตวม์ ีกระดูกสนั หลังประเภท
เปน็ สตั วม์ ีกระดูกสันหลงั ประเภท
สัตวเลี้ยงลกู ดวยนํา้ นม สตั วป ก
สัตวเล้อื ยคลาน
เฉลยกจิ กรรมท่ี 5 42
คาํ ถามชวนคดิ ? กบั กจิ กรรมมหาสนุก
เพอ่ื นๆ ชวยกนั เติมลกั ษณะสาํ คญั ของสัตวมีกระดกู สนั หลังกลมุ ปลาใหถูกตองนะคะ
เพอื่ นๆ มาชว ยกันหาคําตอบกันเถอะ
ออกลกู เป็นไข่ อาศัยอยูใ่ นนำ้ ตลอดชีวติ เปน็ สัตว์เลอื ดเย็น
\^ :
t หายใจดว้ ยเหงอื ก
มีครบี
ลกั ษณะสาํ คญั ของ กลุม ปลา
เฉลยกจิ กรรมที่ 6 43
คาํ ถามชวนคดิ ? กับกิจกรรมมหาสนกุ
จากภาพท่ีครกู ําหนดให
ใหเดก็ ๆ ระบายสี • ทับสัตวมีกระดูกสนั หลังกลมุ สตั วสะเทนิ น้าํ สะเทินบก
••
•
สัตวส ะเทินนํ้าสะเทินบก ไดแก
กบ คางคก เขยี ด อง่ึ อาง ปาด
เฉลยกิจกรรมที่ 7 44
คาํ ถามชวนคดิ ? กบั กจิ กรรมมหาสนุก
ใหน กั เรียนเตมิ คาํ ลงในชองวาง
พรอมระบหุ นาทข่ี องอวัยวะตา งๆ ใหถ กู ตอ ง
ตา จมกู ทาํ หนาที่ ดมกลิ่น
ทาํ หนาท่ี มองเหน็
หู y ปาก
ทาํ หนาท่ี รับฟงเสียงและการทรงตวั ทาํ หนา ท่ี กนิ อาหาร
ปก
ทําหนา ที่ บินและเคลือ่ นที่
ขาและเทา
อโมโค
ทําหนาท่ี ใชในการทรงตวั และเคลือ่ นท่ี
เฉลยกิจกรรมที่ 8 45
กระตุกตอมคดิ กบั กจิ กรรมแสนสนกุ
- -
เพอ่ื นๆ ลองชวยกนั ทายนะจะ ขอ ใดถกู ตองเกย่ี วกบั สตั วเ ล้ือยคลาน
ใหเพ่อื นๆ ลงในขอ ที่ถูกตองนะจะ
กวาง จระเข ยีราฟ
งู ปลาปก เปา นกแกว
ปลาการตูน ววั เตา