สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานพครณะระกาชรรบมัญกญารตักิฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ใหใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความอาญา
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎพีกุทาธศักราช ๒๔ส๗ํา๗นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั อานันทมหิดล
สํานักงานคณะกรรมกคารณกะฤผษู้สฎํากี เารจ็ ราชการแทสนํานพักรงะาอนงคคณ์ ะกรรมการกฤษฎกี า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า (ลตงาวมันสปํทารน่ี ะัก๗กงาามนศนี คปาณรคะะมกธราพรนทุมสธกภศาารกั กผรฤู้แาษทชฎน๒ีกร๔าาษ๗ฎ๗ร) สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี อานุวัตน์จาตรุ นสตํา์นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อาทติ ยท์ ิพอาภา
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงาเนจค้าพณระะกยรรามยกมารรากชฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ตราไว้ ณ วันที่ ๕ มถิ ุนายน พุทธศกั ราช ๒๔๗๘
สาํ นกั งานคณะกรรมการเกปฤ็นษปฎีทีกี่า๒ ในรชั ชกาลสปํานัจกัจงุบาันนคณะกรรมการกฤษฎกี า
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษโดฎยีกทา ี่สภาผู้แทนรสาําษนฎกั งราลนงคมณตะิวก่ารเรปม็นกการากรฤสษมฎคีกวารที่จะประกาสศําในชัก้ปงารนะคมณวละกกรฎรมหกมาารยกฤษฎกี า
วิธีพิจารณาความอาญา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษจฎ่ึงมกี าีพระบรมราชสโอํานงักกงาารนคใหณ้ตะกรรารพมรกะารรากชฤษบฎัญกี ญา ัติข้ึนไว้ โดยสคําํานแักนงะานนคําณแะลกะรยรินมกยาอรมกฤษฎีกา
ของสภาผู้แทนราษฎร ดังตอ่ ไปน้ี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้ให้เรียกว่า “พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมาย
สาํ นักงานวิธคีพณิจะการรรณมากคารวกาฤมษอฎาีกญาา พุทธศักราสชําน๒กั ๔ง๗าน๗ค”ณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นมักางตานรคาณ๒ะ๑กรใรหมใ้กชา้พรกรฤะษรฎาชีกบา ญั ญัตนิ ี้ตั้งแตสว่ํานนั ักปงราะนกคาณศะใกนรรรามชกกาจิรกจฤาษนฎเุ บีกกาษาเป็นตน้ ไป
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษมฎาีกตารา ๓ ให้ใชส้ปํารนะักมงาวนลคกณฎะหกรมรามยกวาิรธกีพฤิจษาฎรีกณา าความอาญสาําตนาักมงาทนี่ตครณาะไกวร้ตร่อมกทา้ารยกฤษฎีกา
พระราชบัญญตั นิ ี้ ต้งั แต่วันท่ี ๑ ตลุ าคม พุทธศักราช ๒๔๗๘ เปน็ ตน้ ไป
สาํ นใักหง้ศานาคลณและกะรเรจม้ากพานรกักฤงษานฎทกี าั้งหลายผู้ดําเนสินํานคักดงีอานาญคณาตะกลรอรดมรกาาชรกอฤาษณฎาีกจาักร ปฏิบัติการ
สํานักงานตคามณบะกทรบรญัมกญารัตกิแฤหษง่ ฎปกี ราะมวลกฎหมาสยํานน้ี ักเวงา้นนแคตณ่ศะากลรซร่งึมมกีวาธิรกีพฤจิ ษาฎรณีกาาพิเศษไว้ต่างสหาํ านกักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
คดีทั้งหลายซึ่งค้างอยู่ในศาลก่อนวันใช้ประมวลกฎหมายนี้ ให้บังคับตามกฎหมาย
ซึ่งใช้อยู่ก่อนวนัสําในชกัป้ งราะนมควณละกกฎรรหมมกาายรนกฤ้ีจษนฎกกีวาา่ คดีนนั้ ๆ จะสถําึงนทักส่ี งดุานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษมฎากีตารา ๔ ภายใสตํา้บนังักคงาับนแคหณ่งะบกทรรบมัญกาญรกัตฤิมษาฎตีกราา ๓ ตั้งแต่วันสาํในชัก้ปงราะนมคณวละกกรฎรหมกมาารยกฤษฎีกา
วิธีพิจารณาความอาญาน้ีสืบไป ให้ยกเลิกมาตรา ๑๔, ๑๖ และมาตรา ๘๗ ถึง ๙๖ ในกฎหมาย
ลักษณะอาญาสพํานรักะงราานชคบณัญะกญรัตรมิวิกธีพาริจกาฤรษณฎาีกคาวามมีโทษสําสหํานรับกั งใาชน้ไคปณพะลการงรกม่อกนารรก.ฤศษ.ฎ๑ีก๑า๕ และบรรดา
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๑ ราชกจิ จานเุ บกษา เลม่ ๕๒/-/หน้า ๕๙๘/๑๐ มิถุนายน ๒๔๗๘
- ๒ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
กฎหมาย กฎและข้อบังคับอื่น ๆ ในส่วนท่ีมีบัญญัติไว้แล้วในประมวลกฎหมายน้ี หรือซึ่งขัดหรือแย้ง
สํานกั กงับานปครณะมะกวรลรกมฎกหารมกาฤยษนฎ้ี กี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สมาํ านตักรงาาน๕ค๒ณะใกหร้ปรมรกะาธรากนฤศษาฎลีกฎาีกา นายกรัฐมสนํานตักรงี ารนัฐคมณนะตกรรีวร่ามกกาารรกกฤระษทฎรีกวางมหาดไทย
และรัฐมนตรวี ่าการกระทรวงยุตธิ รรม รกั ษาการตามพระราชบัญญตั นิ ้ี
สํานักงานคณะกรรมการกใหฤษ้ปฎรีกะาธานศาลฎีกาสมํานีอกัํางนาานจคอณอะกกรขร้อมบกาังรคกับฤษแฎลกี ะานายกรัฐมนตสํารนี ักรังฐามนนคตณระีวก่ารรกมากรารกฤษฎีกา
กกราะรทงารนวงตมาหมาหดนไ้าทสทยาํ น่ีใแหักล้งกาะานรรคัฐดณมํานะเนกตรินรรีวคม่าดกกาีอารารกญกฤรษาะเฎปทีก็นราวไปงยโุตดิธยรเรรียมบมสีอรํา้อํานนยกั างจาทอน้ังอคนณก้ี กะในกฎรสกร่วรมะนกททารร่ีเกกวฤงี่ยษวเฎพขกีื่อ้อาวงากงับรอะําเบนียาบจ
สาํ นกั หงนานา้ คทณขี่ ะอกงรตรนมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
ขอ้ บงั คับหรือกฎกระทรวงนน้ั เมอ่ื ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใชบ้ ังคับได้
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นักงานคณผะ้รู กบั รสรมนกอางรพกรฤะษบฎรีกมาราชโองการ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
นายพันเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นาสยํากนรกั ัฐงมานนคตณระี กรรมการกฤษฎีกา
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒ มาตรา ๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
สาํ นัก(ฉงาบนับคทณ่ี ๒ะ)กพรร.ศม.ก๒า๕รก๔ฤ๘ษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๓ - สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สารบาญ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา ประมวลสกําฎนักหงมาานยควณธิ ะีพกิจรารรมณกาารคกวฤาษมฎอกี าาญา
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานกั งานคณะกภรารคมก๑ารกขฤ้อษคฎวีกามา เบือ้ งตน้ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา มาตรา
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ลักษณะ ๑ หอําลนักาสทจาํ ว่ั นพไกัปนงักานงาคนณสะอกบรรสมวกนาแรกลฤะษศฎาลีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า ๑-๑๕
ลักษณะ ๒
สาํ นกั งานคณะกรรมหกมารวกดฤ๑ษฎหีกลากั ทัว่ ไป สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณ๑ะก๖รรมการกฤษฎกี า
หมวด ๒ อาํ นาจสบื สวนและสอบสวน ๑๗-๒๑
หมวสดาํ น๓ักงอาํานนคาณจะศการลรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี ๒า ๒-๒๗
ลักษณะ ๓ การฟ้องคดอี าญาและคดีแพ่งทเ่ี ก่ยี วเนอ่ื งกับคดอี าญา
สํานกั งานคณะกรรมหกมารวกดฤ๑ษฎกีกาารฟอ้ งคดอี าญสาํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงาน๒ค๘ณ-๓ะก๙รรมการกฤษฎีกา
หมวด ๒ การฟ้องคดีแพง่ ท่เี ก่ียวเนอ่ื งกับคดีอาญา ๔๐-๕๑
ลกั ษณะ ๔ หมาสยําเรนียักกงาแนลคะณหะมการยรอมากญารากฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๑ หมายเรียก ๕๒-๕๖
สํานักงานคณะกรรมหกมารวกดฤ๒ษฎหกี มาายอาญา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สสาํ ว่นนักทงา่ี น๑คหณละกักรทร่วั มไกปารกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีก๕า ๗-๖๕
สว่ นที่ ๒ หมายจบั ๖๖-๖๘
สํานกั งานคณะกรรมการกสฤ่วษนฎทกี ่ี ๓า หมายค้น สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงาน๖ค๙ณ-๗ะก๐รรมการกฤษฎกี า
ส่วนท่ี ๔ หมายขงั หมาย
สจาํ ํานคักุกงาหนมคณายะปกรลรอ่ มยการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี ๗า ๑-๗๖
ลกั ษณะ ๕ จบั ขัง จําคุก ค้น ปล่อยชวั่ คราว
สาํ นกั งานคณะกรรมหกมารวกดฤ๑ษฎจกี ับา ขงั จาํ คุก สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงาน๗ค๗ณ-๙ะก๐รรมการกฤษฎกี า
หมวด ๒ คน้ ๙๑-๑๐๕
หมวสดาํ น๓ักงปานลค่อณยชะก่วั ครรรมากวารกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการ๑กฤ๐ษ๖ฎ-กี๑า๑๙ ทวิ
สํานกั งานคณะกภรารคมก๒ารสกอฤบษสฎวีกนา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
ลักษณะ ๑ หลักสทาํ ัว่ นไกัปงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษ๑ฎ๒ีก๐า -๑๒๙
ลกั ษณะ ๒ การสอบสวน
สํานกั งานคณะกรรมหกมารวกดฤ๑ษฎกีกาารสอบสวนสาสมําญั นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานัก๑ง๓าน๐ค-๑ณ๔ะก๗รรมการกฤษฎีกา
หมวด ๒ การชนั สูตรพลกิ ศพ ๑๔๘-๑๕๖
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
ภาค ๓ วิธพี จิ ารณาในศาลช้ันตน้
สํานกั ลงักานษคณณะะก๑รรมฟกอ้ างรคกดฤีอษาฎญกี าาและไต่สวนมสูลําฟนกัอ้ งงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานัก๑ง๕าน๗ค-๑ณ๗ะก๑รรมการกฤษฎีกา
ลกั ษณะ ๒ การพิจารณา ๑๗๒-๑๘๑
ลักษณะ ๓ คาํ พสพิ ําานกกั ษงาานแคลณะคะกําสรร่ังมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษ๑ฎ๘ีก๒า -๑๙๒
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
- ๔ - สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ภาค ๔ อุทธรณ์และฎกี า
สํานกั ลงักานษคณณะะก๑รรมอกุทาธรรกณฤษ์ ฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๑ หลกั ท่วั ไป ๑๙๓-๒๐๒
หมวสดาํ น๒กั งกาานรคพณจิ ะากรรณรมากคารํากพฤพิ ษาฎกกี ษาา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
และคาํ สั่งช้ันอทุ ธรณ์ ๒๐๓-๒๑๕
สํานกั ลงักานษคณณะะก๒รรมฎกีกาารกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หหมมววสดดาํ น๒๑ักงกหาานลรคักพณทิจว่ัะากไรปรณรมากคารํากพฤิพษาฎกกี ษาา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษ๒ฎ๑ีก๖า -๒๒๔
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎแีกลาะคําสั่งชน้ั ฎกี าสํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานค๒ณ๒ะก๕รรมการกฤษฎีกา
ภาค ๕ พสาํยนาักนงหานลคกั ณฐาะนกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
หมวด ๑ หลักทวั่ ไป ๒๒๖-๒๓๑
สํานกั งานคณะกรรมหกมารวกดฤ๒ษฎพกี ยาานบุคคล สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ส๒าํ ๓นัก๒ง-า๒น๓ค๗ณะตกรรีรมการกฤษฎกี า
หมวด ๓ พยานเอกสาร ๒๓๘-๒๔๐
หมวสดําน๔ักงพานยคานณวะัตกถรรุ มการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษ๒ฎ๔กี ๑า -๒๔๒
หมวด ๕ ผ้เู ช่ียวชาญ ๒๔๓-๒๔๔/๑
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ภาค ๖ กสาํานรบกั งังาคนบั คตณาะมกครํารพมกิพาารกกษฤาษแฎลีกะาคา่ ธรรมเนียมสํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
หมวด ๑ การบังคับตามคาํ พิพากษา ๒๔๕-๒๕๑
สาํ นักงานคณะกรรมหกมารวกดฤ๒ษฎคีก่าาธรรมเนียม สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นัก๒ง๕าน๒ค-๒ณ๕ะก๘รรมการกฤษฎีกา
ภาค ๗ อสภาํ นัยักโทงาษนคเปณละกยี่ รนรโมทกษาหรกนฤักษเฎปีก็นาเบา และลดโทสําษนกั งานคณะกรรมการกฤษ๒ฎ๕ีก๙า -๒๖๗
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
- ๕ - สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
ประมวลกฎหมายวธิ พี ิจารณาความอาญา
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคภณาคะก๑รรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข้อความเบอ้ื งต้น
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงาลนักคษณณะกะรร๑มการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกหาลกั ทั่วไป สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑ ในประมวลกฎหมายนี้ ถ้าคําใดมีคําอธิบายไว้แล้ว ให้ถือตามความหมาย
ดงั ไดอ้ ธบิ ายไว้ เวส้นาํ แนตกั ่ขงาอ้ นคควณาะมกใรนรตมัวกบารทกจฤะษขฎัดกี กาบั คาํ อธิบายนสนั้ ํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎราีกา๒ ในประมวสลํากนฎักหงามนาคยณนะี้ กรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) “ศาล” หมายความถึงศาลยุติธรรมหรือผู้พิพากษา ซึ่งมีอํานาจทําการอัน
เก่ียวกบั คดีอาญาสํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) “ผู้ต้องหา” หมายความถึงบุคคลผู้ถูกหาว่าได้กระทําความผิด แต่ยังมิได้ถูกฟ้อง
สาํ นกั ตงอ่านศคาณละกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ความผดิ ส(าํ๓น)กั “งาจนําคเณลยะก”รรหมมกาายรกคฤวษาฎมกี ถาึงบุคคลซ่ึงถูกสําฟน้อกั งงยานังคศณาละกแรลร้วมโกดายรกขฤ้อษหฎากี วา่าได้กระทํา
สาํ นกั งานคณะกรรมการก(๔ฤ)ษฎ“ผกี าู้เสียหาย” หมสาํายนคกั วงาานมคถณึงบะกุครครลมผกู้ไาดรก้รฤับษคฎวีกาามเสียหายเน่ือสงําจนาักกงกานารคกณระะกทรรํามผกิดารกฤษฎกี า
ฐานใดฐานหนึ่ง รวมท้งั บคุ คลอน่ื ทม่ี ีอาํ นาจจดั การแทนได้ ดังบญั ญตั ไิ วใ้ นมาตรา ๔, ๕ และ ๖
ส(าํ๕น)ัก“งาพนนคักณงะากนรอรมัยกกาารรก”ฤษหฎมีกาายความถึงเจส้าําพนนักักงางนาคนณผะู้มกีหรนรม้ากทา่ีฟรก้อฤงษผฎู้ตกี ้อางหาต่อศาล
ทงั้ น้ี จะเปน็ ข้าราชการในกรมอัยการหรือเจ้าพนกั งานอ่นื ผ้มู อี าํ นาจเชน่ นนั้ ก็ได้
สํานกั งานคณะกรรมการก(๖ฤษ) ฎ“กีพานักงานสอบสสวํานนัก”งาหนมคาณยะคกวรรามมกถาึงรเกจฤ้าษพฎนกี ักางานซึ่งกฎหมสาํายนใักหงา้มนีอคําณนะากจรแรมลกะารกฤษฎีกา
หนา้ ทท่ี าํ การสอบสวน
ส(าํ๗น)กั “งาคนําครณ้อะงกทรุรกมขก์”ารหกมฤษาฎยีกคาวามถึงการทสี่ผําู้เนสกั ียงาหนาคยณไะดก้กรลรม่ากวาหรากตฤ่ษอฎเจีก้าาหน้าท่ีตาม
บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ ว่ามีผู้กระทําความผิดขึ้น จะรู้ตัวผู้กระทําความผิดหรือไม่ก็ตาม
สํานกั ซงึ่งานกครณะทะกํารใรหม้เกกาิดรกคฤวษาฎมกี เาสียหายแก่ผู้เสสําียนหักงาายนคแณละะกกรารมรกกาลร่ากวฤหษฎาเกี ชา่นนั้นได้กล่าวสโําดนักยงมาีเนจคตณนะากจรระมใกหา้ รกฤษฎีกา
ผกู้ ระทําความผิดสไดาํ นร้ ักับงโาทนษคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
(๘) “คํากล่าวโทษ” หมายความถึงการท่ีบุคคลอ่ืนซึ่งไม่ใช่ผู้เสียหายได้กล่าวหาต่อ
สํานักเงจาา้ นหคนณ้าะทกี่ รวรา่ มมกีบาุครกคฤลษรฎตู้ ีกวั าหรือไมก่ ็ดี ไดสก้ ํารนะักทงําาคนวคาณมะผกิดรรอมยก่าางรหกนฤึง่ษขฎนึ้ กี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๙)๓ “หมายอาญา” หมายความถึงหนงั สอื บงการทอี่ อกตามบทบัญญัติแห่งประมวล
กฎหมายนีส้ งั่ ให้เจส้าาํ นหักนงา้ าทน่ีทคณํากะากรรจรมับกขารังกจฤําษคฎุกีกาหรือปล่อยผู้ตส้อํานงหักงาานจําคเณละยกรหรรมือกนาัรกกโทฤษษฎหีการือให้ทําการ
ค้น รวมทั้งสําเนาหมายจับหรือหมายค้นอันได้รับรองว่าถูกต้อง และคําบอกกล่าวทางโทรเลขว่าได้
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓ มาตรา ๒ (๙) แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานกั คงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกบั าทรี่ก๒ฤ๒ษ)ฎพกี .ศา. ๒๕๔๗ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
- ๖ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ออกหมายจับหรือหมายค้นแล้ว ตลอดจนสําเนาหมายจับหรือหมายค้นที่ได้ส่งทางโทรสาร
สํานกั สงื่อานอคิเณล็กะกทรรรอมกนาิกรกสฤ์ หษรฎอื กี สาื่อเทคโนโลยีสสาํานรสกั งนาเนทคศณปะรกะรเรภมทกอารน่ื กฤทษ้งั ฎนกี ี้ าตามทีบ่ ญั ญตั ิไสวาํ ใ้นนักมงาานตคราณะ๗ก๗รรมการกฤษฎกี า
(๑๐) “การสบื สวน” หมายความถึงการแสวงหาข้อเท็จจริงและหลักฐานซ่ึงพนักงาน
ฝ่ายปกครองหรสือําตนําักรงาวนจคไณดะ้ปกฏรริบมัตกิไาปรกตฤาษมฎอีกําานาจและหนส้าําทน่ีกั เงพานื่อครณักะษการรคมวกาามรกสฤงษบฎเรีกียา บร้อยของ
ประชาชน และเพอื่ ที่จะทราบรายละเอียดแหง่ ความผดิ
สํานกั งานคณะกรรมการก(๑ฤ๑ษฎ) กี“าการสอบสวน”สําหนมักงาายนคควณาะมกถรึงรกมากรารรวกบฤรษวฎมีกพายานหลักฐานสแําลนะักกงาานรคดณําเะนกินรรกมากรารกฤษฎกี า
ทท่ีั้กงหลล่าวาหยอาื่นเพตือ่ามทบสี่จาํะทนทบักรัญงาาบญนขคัต้อณิแเะทหกจ็่งรปจรมรริงกะหามรรวกือลฤพกษสิ ฎฎจู หกี นาม์คาวยานมี้ผซิดึ่งแพลนะสักเพํางน่อืากั นจงะสานเออคบาณตสะัววกผนรกู้ไรดรมะ้ทกทาําราํไกปผฤดิเษกมฎี่ยาีกวฟาก้อับงลคงวโาทมษผิด
สาํ นักงานคณะกรรมการก(๑ฤ๒ษฎ) ีก“าการไต่สวนมสูลําฟน้อกั งง”านหคณมาะกยรครวมากมาถรกึงฤกษรฎะบกี าวนไต่สวนของสศาํ นาักลงเาพนื่อควณินะิจกฉรรัยมถกึงารกฤษฎกี า
มูลคดีซึ่งจําเลยต้องหา
ส(าํ๑น๓ัก)งา“นทค่ีรณโะหกฐรารนมก”าหรกมฤาษยฎคีกวาามถึงท่ีต่าง ๆสํานซกัึ่งมงาิในชค่ทณ่ีสะากธรารรมณกาสรถกาฤนษดฎัีกงบา ัญญัติไว้ใน
กฎหมายลกั ษณะอาญา
สาํ นักงานคณะกรรมการก(๑ฤ๔ษฎ) กี“าโจทก”์ หมายสคําวนากั มงถานึงพคณนะกั กงรารนมอกยั ากรกาฤรษหฎรีกอื าผเู้ สียหายซึ่งฟส้อํานงคักดงาีอนาคญณาะตก่อรรศมากลารกฤษฎีกา
หรือท้ังคใู่ นเม่ือพนกั งานอยั การและผูเ้ สียหายเป็นโจทกร์ ว่ มกนั
ส(๑าํ น๕กั )งา“นคคู่คณวะากมร”รมหกมาารยกคฤษวาฎมกี ถางึ โจทก์ฝ่ายหสนําง่ึ นแักลงะานจคําเณละยกอรกี รฝมา่กยารหกนฤ่ึงษฎกี า
(๑๖) “พนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจ” หมายความถึงเจ้าพนักงานซึ่งกฎหมาย
สํานกั ใงหาน้มคีอณํานะการจรแมกลาะรหกนฤษ้าฎทีกี่ราักษาความสงสบํานเรักียงบานรค้อณยะขกอรรงมปกราะรชกาฤชษนฎกี ใาห้รวมท้ังพัศดสีาํ เนจัก้างพานนคักณงะากนรกรมรกมารกฤษฎกี า
สรรพสามติ กรมศสุลํานกักางการนคกณรมะกเจร้ารทมกา่ าพรกนฤกั ษงฎาีกนาตรวจคนเข้าเมสําอื นงกั แงาลนะคเจณา้ ะพกนรรักมงกาานรอกื่นฤษๆฎกีในา เม่ือทําการ
อันเกี่ยวกบั การจบั กมุ ปราบปรามผ้กู ระทาํ ผิดกฎหมาย ซึง่ ตนมีหนา้ ทต่ี อ้ งจับกุมหรือปราบปราม
สํานักงานคณะกรรมการก(๑ฤ๗ษฎ)๔กี า“พนักงานฝ่าสยําปนกกั คงารนอคงณหะรกือรตรมํารกวารจกชฤั้นษผฎู้ใกี หาญ่” หมายควสาํามนถักึงงานเจค้าณพะนกักรรงมากนารกฤษฎีกา
ดังตอ่ ไปนี้
สํานกั งา(นกค) ณปะลกัดรกรรมะกทารรกวฤงษมฎหีกาาดไทย สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ข) รองปลัดกระทรวงมหาดไทย
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีก(คา) ผตู้ รวจราชสกําานรักกงราะนทคณรวะงกมรหรมากดาไรทกยฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฆ) ผชู้ ่วยปลัดกระทรวงมหาดไทย สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สาํ นักงา(นง)คอณธะิบกรดรีกมรกมากรการฤปษกฎคีการอง
(จ) รองอธิบดกี รมการปกครอง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี (ฉา) ผูอ้ าํ นวยกาสรํากนอกั งงกานาครสณอะบกรสรวมนกแาลรกะฤนษิตฎิกกี าาร กรมการปกสคํารนอักงงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นักงา(นชค) ณหวัะกหรนรา้ มฝก่าายรแกลฤะษหฎัวีกหา นา้ งานในกอสงกํานาักรสงาอนบคสณวะนกแรลระมนกติารกิ กาฤรษกฎรกีมาการปกครอง
(ซ) ผตู้ รวจราชการกรมการปกครอง
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีก(ฌา ) ผวู้ ่าราชกาสรําจนงั ักหงวานัดคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ญ) รองผูว้ า่ ราชการจงั หวัด
สํานักงา(นฎค) ณปะลกัดรจรังมหกวารดั กฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
(ฏ) นายอําเภอ
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี (ฐา) ปลดั อําเภอสผํา้เูนปกั ็นงหานวั คหณนะ้ากปรรระมจกําากรกง่ิ ฤอษําเฎภีกอา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๔ มาตรา ๒ (๑๗) แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สาํ นกั คงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกบั าทรี่ก๑ฤ๘ษ)ฎพกี .ศา. ๒๕๓๕ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๗ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ฑ) อธิบดกี รมตาํ รวจ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี (ฒา ) รองอธบิ ดกีสํารนมักตงาํ ารนวคจณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
(ณ) ผชู้ ่วยอธิบดีกรมตํารวจ
สาํ นักงา(นดค) ณผู้บะกญั รชรมากกาารรกตฤําษรฎวจีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ต) รองผู้บัญชาการตํารวจ สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี (ถา) ผ้ชู ว่ ยผบู้ ัญสชําานกักางราตนําครณวะจกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงา((นธท)ค) ณรผอะ้บู งกังผรคู้บรบัมงั กกคาาบั รรกกตาฤํารษรตวฎาํจกี ราวจ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีก(นา ) หัวหน้าตาํ รสวํานจภกั งธู ารนจคงั ณหะวกดั รรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(บ) รองหวั หนา้ ตํารวจภธู รจังหวัด
สาํ นักงา(นปค) ณผะู้กกาํ รกรบั มกกาารรกตฤําษรวฎจกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
(ผ) ผ้กู ํากบั การตาํ รวจภธู รจังหวัดเขต
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีก(ฝา) รองผ้กู ํากับสกําานรักตงาํานรวคจณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
(พ) รองผ้กู ํากบั การตํารวจภูธรจงั หวัดเขต
สาํ นกั งา(นฟค)ณสะากรรวรตั มรกใหารญกฤต่ ษาํ ฎรวกี จา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(ภ) สารวัตรตาํ รวจ สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีก(มา) ผู้บงั คบั กอสงตํานําักรวงาจนคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นักงา(นยค) ณหะัวกหรรนม้ากสาถรกาฤนษีตฎําีกราวจซึ่งมียศตั้งสแําตนกั่ชงั้นานนคาณยระก้อรยรตมํากรารวกจฤตษรฎีหีกราือเทียบเท่า
นายร้อยตาํ รวจตรีข้ึนไป
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีก(รา) หัวหน้ากิ่งสสําถนาักนงีตานํารควณจะซก่ึงรมรมียกศาตรั้งกแฤตษ่ชฎั้นกี านายร้อยตํารวสจําตนรักีงหานรคือณเทะียกรบรเมทก่าารกฤษฎีกา
นายร้อยตาํ รวจตรขี น้ึ ไป
สํานักงาทนั้งคนณี้ หะกมรารยมคกวาารมกรฤวษมฎถกี งึ าผรู้ กั ษาการแทสนํานเจัก้างพานนคกั ณงาะนกดรรงั มกกลาา่ รวกแฤลษว้ ฎแกี ตา ่ผู้รักษาการ
แทนเจ้าพนักงานใน (ม) (ย) และ (ร) ต้องมียศต้ังแต่ชั้นนายร้อยตํารวจตรีหรือเทียบเท่านายร้อย
สาํ นักตงําารนวคจณตะรกีขรนึ้รมไปกดาร้วกยฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑๘) “สิ่งของ” หมายความถึงสังหาริมทรัพย์ใด ซึ่งอาจใช้เป็นพยานหลักฐานใน
คดีอาญาได้ ใหร้ วสมาํ ทนง้ัักจงาดนหคมณาะยกรโทรมรกเลารขกแฤลษะฎเอีกกาสารอย่างอื่นสๆํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑๙) “ถ้อยคําสํานวน” หมายความถึงหนังสือใดที่ศาลจดเป็นหลักฐานแห่ง
สํานกั รงาายนลคะณเอะกยี รดรทม้ังกหารลกาฤยษในฎกีกาารดําเนินคดีอสาําญนกัาใงนานศคาณลนะก้นั รรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
ส(ํา๒น๐ัก)งา“นบคันณทะกึกร”รมหกมาารกยฤคษวฎาีกมาถึงหนังสือใดสทํา่ีพนนักังกางนาคนณฝะ่ากยรปรมกกคารรอกงฤหษรฎือีกตา ํารวจจดไว้
เป็นหลกั ฐานในการสอบสวนความผิดอาญา รวมท้ังบนั ทึกคาํ รอ้ งทกุ ขแ์ ละคาํ กลา่ วโทษดว้ ย
สํานักงานคณะกรรมการก(๒ฤ๑ษฎ) กี“าควบคุม” หมสาํายนคกั วงาามนคถณึงกะากรรครมุมกหารรือกฤกษักฎขีกังผา ู้ถูกจับโดยพนสาํักนงักางนาฝน่าคยณปะกกครรรมอกงารกฤษฎีกา
หรือตํารวจในระหวา่ งสืบสวนและสอบสวน
ส(๒ําน๒ัก)งา“นขคงั ณ”ะหกมรรามยกคาวรากมฤถษงึ ฎกีกาารกักขังจาํ เลยสหํารนือกั ผงาูต้ น้อคงณหะากโดรรยมศกาาลรกฤษฎีกา
สาํ นักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรีกาา๓ บุคคลดสังํารนะกั บงุาในนคมณาะตกรรารม๔ก,าร๕กฤแษลฎะีกา๖ มีอํานาจจสัดํานกักางราตน่อคณไปะกนร้ีแรทมกนารกฤษฎกี า
ผูเ้ สยี หายตามเงือ่ นไขทบี่ ญั ญัติไว้ในมาตรานนั้ ๆ
ส(๑าํ น)ักรง้อานงทคกุณขะ์กรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานกั งานคณะกรรมการก(๒ฤ)ษเฎปีก็นาโจทก์ฟ้องคดสอี ําานญักงาานหครณือเะขกา้ รรร่วมมกเาปรก็นฤโจษทฎกกี ก์า ับพนักงานอยัสกาํ นาักรงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
- ๘ - สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) เป็นโจทก์ฟ้องคดแี พง่ ที่เก่ยี วเนื่องกบั คดีอาญา
สํานกั งานคณะกรรมการก(๔ฤ)ษถฎอกี นา ฟอ้ งคดีอาญสาําหนรกั อื งคานดคีแณพะง่ กทรเี่ รกมยี่ กวาเรนกื่อฤงษกฎบั กี คาดอี าญา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) ยอมความในคดีความผิดต่อส่วนตัว
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
มาตรา ๔ ในคดีอาญาซึ่งผู้เสียหายเป็นหญิงมีสามี หญิงนั้นมีสิทธิฟ้องคดีได้เอง
สํานักโงดายนมคิตณ้อะกงไรดรม้รับกาอรนกุญฤษาฎตกี ขาองสามีก่อน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อนญุ าตโดยชดั แจสภ้งําจานายกั กใงตภาน้บรคิยังณาคับะกแรหรม่งมกาารตกรฤาษ๕ฎกี (า๒) สามีมีสิทธสิฟําน้อักงงคาดนีอคาณญะการแรทมนกภารรกิยฤาษไฎดีก้ ตา่อเม่ือได้รับ
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕ บุคคลเหล่านีจ้ ัดการแทนผเู้ สยี หายได้
ส(าํ๑น)ักผงาู้แนทคนณโะดกยรชรอมกบาธรรกรฤมษหฎรีกือาผู้อนุบาล เฉสพําานะกั แงตาน่ใคนณควะการมรผมิดกซารึ่งกไดฤ้ษกฎระกี ทา ําต่อผู้เยาว์
หรอื ผไู้ ร้ความสามารถซึ่งอยูใ่ นความดูแล
สาํ นกั งานคณะกรรมการก(๒ฤ)ษฎผีกู้บาุพการี ผู้สืบสสันําดนาักนงาสนาคมณีหะกรือรรภมรกิยาารเกฉฤพษาฎะกี แาต่ในความผิดสอาํ านญักงาานซค่ึงณผู้เะสกียรหรมากยารกฤษฎีกา
ถกู ทําร้ายถงึ ตายหรอื บาดเจบ็ จนไม่สามารถจะจดั การเองได้
ส(าํ๓น)ักงผาู้จนัดคณกาะกรรหรรมือกผารู้แกทฤษนฎอีกื่นา ๆ ของนิติบสุําคนคกั ลงานเฉคพณาะกะรครวมากมารผกิดฤซษึ่ฎงกกี าระทําลงแก่
นิติบุคคลนั้น สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมําานตักรงาาน๖คณะใกนรครดมีอกาารญกาฤซษ่ึงฎผกี ู้เาสียหายเป็นผสู้เํายนาักวง์ไามน่มคีผณู้แะกทรนรโมดกยารชกอฤบษธฎรีกราม หรือเป็น
ผู้วิกลจริตหรือคนไร้ความสามารถไม่มีผู้อนุบาล หรือซึ่งผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้อนุบาลไม่สามารถ
สาํ นักจงะานทคํากณาะรกตรารมมกหานร้ากทฤษ่ีโดฎยีกเาหตุหน่ึงเหตุใดสํารนวักมงทาน้ังคมณีผละกปรรระมโกยาชรนกฤ์ขษัดฎกกีันากับผู้เยาว์หรือสคํานนักไรง้คานวคามณสะกามรรามรกถารกฤษฎกี า
น้ัน ๆ ญาตขิ องผูน้ ้นั หรือผูม้ ีประโยชนเ์ กี่ยวขอ้ งอาจร้องต่อศาลขอให้ตง้ั เขาเปน็ ผแู้ ทนเฉพาะคดไี ด้
สเํามนื่อักไงดา้นไตค่สณวะนกรแรลม้วกใาหร้กศฤาษลฎตีก้ังาผู้ร้องหรือบุคสคําลนกัอง่ืนานซคึ่งณยะินกยรรอมมกตาารมกฤทษี่เฎหกี็นาสมควรเป็น
ผแู้ ทนเฉพาะคดี เมื่อไม่มบี ุคคลใดเป็นผู้แทนใหศ้ าลตัง้ พนักงานฝ่ายปกครองเป็นผแู้ ทน
สาํ นกั งานคณะกรรมการกหฤ้าษมฎมีกใิ หา เ้ รียกคา่ ธรรมสเํานนยีักมงาในนคเรณื่อะงกขรอรมตกั้งเาปรกน็ ฤผษแู้ ฎทกี นาเฉพาะคดี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมาํ านตกั รงาาน๗คณใะนกกรรามรกสาอรบกฤสษวนฎีกไาต่สวนมูลฟ้องสหํานรือักงพาิจนาครณณะากครรดมีทก่ีนาริตกิบฤุคษคฎลกี เาป็นผู้ต้องหา
หรือจําเลย ให้ออกหมายเรียกผู้จัดการหรือผู้แทนอื่น ๆ ของนิติบุคคลน้ัน ให้ไปยังพนักงานสอบสวน
สาํ นักหงรานอื คศณาละกแรลรมว้ แกตาร่กกรฤณษีฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สถํา้านผกั ู้จงาัดนกคาณระหกรรือรผมู้แกาทรนกฤขษอฎงนีกาิติบุคคลนั้นไมส่ปํานฏกั ิบงัตานิตคาณมะหกมรารยมเกราียรกกฤจษะฎอีกอา กหมายจับ
ผู้นั้นมาก็ได้ แต่ห้ามมิให้ใช้บทบัญญัติว่าด้วยปล่อยชั่วคราว ขังหรือจําคุกแก่ผู้จัดการหรือผู้แทน
สํานักนงิตานิบคุคณคะลกรใรนมคกาดรีทกี่นฤษิตฎิบกี ุคาคลนั้นเป็นผสู้ตํา้อนงกั หงาานหครณือะจกาํ รเรลมยการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมาํ านตกั รงาาน๗คณ/๑ะก๕รรผมู้ถกูการจกับฤษหฎรีกือาผู้ต้องหาซึ่งถสูกํานคักวงบานคคุมณหะรกืรอรขมังกมารีสกิทฤธษิแฎจีก้างหรือขอให้
เจ้าพนักงานแจ้งให้ญาติหรือผู้ซึ่งผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหาไว้วางใจทราบถึงการถูกจับกุมและสถานท่ี
สาํ นกั ทงี่ถานูกคคณวะบกครุมรมในกาโรอกกฤาษสฎแกี รากและให้ผู้ถูกสจํานับกั หงราืนอคผณู้ต้อะกงรหรามมกีสาริทกธฤิดษังฎตกี ่อาไปนี้ด้วย สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๕ มาตรา ๗/๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักคงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกบั าทร่ีก๒ฤ๒ษ)ฎพีก.ศา. ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
- ๙ - สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
(๑) พบและปรกึ ษาผู้ซ่งึ จะเปน็ ทนายความเป็นการเฉพาะตัว
สํานกั งานคณะกรรมการก(๒ฤ)ษใฎหกี ้ทานายความหรสือําผน้ซูักง่งึ าตนนคไณว้วะากงรใรจมเกขาา้ รฟกงัฤกษาฎรกี สาอบปากคําตนสไดาํ นใ้ นักงชาน้ั นสคอณบะสกวรรนมการกฤษฎีกา
(๓) ไดร้ บั การเยย่ี มหรือติดตอ่ กบั ญาติไดต้ ามสมควร
ส(๔าํ น)ักไงดาร้นับคกณาะรกรรกั รษมกาพารยกาฤบษาฎลีกโาดยเร็วเมื่อเกดิ สกํานารกั เงจาบ็นปคณ่วยะกรรมการกฤษฎีกา
ใหพ้ นกั งานฝา่ ยปกครองหรือตาํ รวจซง่ึ รบั มอบตวั ผถู้ กู จับหรอื ผู้ตอ้ งหามีหนา้ ท่ีแจ้งให้
สํานกั ผงู้ถานกู คจณบั หะกรรือรผม้ตู ก้อารงกหฤาษนฎั้นกี ทาราบในโอกาสสแํารนกกั ถงางึ นสคทิ ณธะติ การมรวมรกราครหกฤนษงึ่ ฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สมาํ านตกั รงาาน๘ค๖ณะนกบัรรแมตกเ่ าวรลกาฤทษี่ยฎื่นกี ฟาอ้ งแลว้ จําเลสยํามนสีกั ิทงาธนดิ คงั ณตะ่อกไรปรนม้ี การกฤษฎกี า
สํานักงานคณะกรรมการก(๑ฤ)ษไฎดีกร้ าับการพจิ ารณสาําคนดักดีงาว้ นยคคณวะากมรรรวมดกเารรว็ กตฤษอ่ เฎนีกอื่ าง และเปน็ ธรสรํามนักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
(๒) แตง่ ทนายความแกต้ ่างในชนั้ ไตส่ วนมลู ฟอ้ ง หรือพิจารณาในศาลช้ันต้นตลอดจน
ชัน้ ศาลอุทธรณแ์ ลสะาํ นศักางลาฎนีกคาณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ปรกึ ษาทนายความหรือผซู้ ่งึ จะเปน็ ทนายความเปน็ การเฉพาะตวั
สาํ นกั งานคณะกรรมการก(๔ฤ)ษตฎรีกวาจดสู ิ่งท่ียืน่ เปส็นําพนยักงาานนหคลณกั ะฐการนรมแกลาระกคฤัดษสฎําีกเนาาหรือถ่ายรปู สสํางิ่ นนักัน้ งาๆนคณะกรรมการกฤษฎกี า
(๕) ตรวจดสู าํ นวนการไตส่ วนมลู ฟอ้ งหรอื พิจารณาของศาล และคัดสําเนาหรือขอรับ
สาํ เนาทร่ี ับรองวา่ สถําูกนตัก้องางนโดคยณเะสกียรครา่มธกรารรมกฤเนษียฎมกี าเวน้ แตศ่ าลจะสมํานีคกัําสงาัง่ นใหคณย้ กะกเวร้นรมคกา่ าธรรกรฤมษเนฎียกี ามน้นั
(๖) ตรวจหรือคัดสําเนาคําให้การของตนในชั้นสอบสวนหรือเอกสารประกอบ
สาํ นักคงําาในหคก้ ณาะรกขรอรงมตกนารกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สถาํ ้านจักาํ งเาลนยคมณีทะนการยรคมวกาามรกทฤนษาฎยกี คาวามนั้นย่อมมสีสําิทนธกั ิเงชา่นนเคดณียวะกกรบั รจมํากเลารยกดฤังษกฎลีกา่ าวมาแลว้ ด้วย
เมื่อพนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลแล้ว ให้ผู้เสียหายมีสิทธิตามวรรคหนึ่ง (๖)
สาํ นกั เงชา่นนเคดณียะวกกรับรจมาํกเาลรยกดฤว้ษยฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมาํ นาตักงราานค๙ณะกบรันรมทกึการตก้อฤงษรฎะกี บา ุสถานที่ วันสําเนดักืองนานปคีทณี่ทะํการรนมากมารกแฤลษะฎตีกําาแหน่งของ
เจ้าพนักงานผู้ทาํ
สํานักงานคณะกรรมการกเมฤื่ษอฎเจกี ้าาพนักงานทําสบํานันักทงาึกนโคดณยะรกับรรคมํากสาั่งรกจฤาษกฎศีกาาลหรือโดยคําสสาํ นั่งักหงรานือคคณําะขกอรขรมอกงารกฤษฎีกา
เจ้าพนักงานอื่น ให้เจ้าพนักงานนั้นกล่าวไว้ด้วยว่าได้รับคําส่ังหรือคําขอเช่นน้ัน และแสดงด้วยว่าได้
ทําไปอยา่ งใด สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
ให้เจา้ พนกั งานผู้ทาํ บนั ทึกลงลายมือช่อื ของตนในบนั ทกึ นนั้
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมาํ านตักรงาาน๑ค๐ณะกถร้อรยมคกําารสกําฤนษวฎนีกตา้องระบุช่ือศาสลํานสกั ถงาานนทคณ่ี แะลกะรวรมันกเดารือกนฤปษีทฎี่จีกดา ถ้าศาลจด
ถ้อยคําสํานวนตามคําสั่งหรอื ประเดน็ ของศาลอื่น ใหก้ ล่าวเชน่ นน้ั และแสดงดว้ ยว่าไดท้ าํ ไปอย่างใด
สาํ นักงานคณะกรรมการกผฤู้พษพิ ฎากี กาษาท่จี ดถอ้ ยคสาํ ําสนํากั นงาวนนคตณ้อะงกลรงรลมากยามรอืกชฤษ่อื ฎขอีกางตนในถ้อยคาํ สสําาํ นนักวงนานนคัน้ ณะกรรมการกฤษฎีกา
สมําานตกั รงาาน๑ค๑ณะกบรนั รทมึกกาหรรกือฤถษอ้ ฎยกี คาาํ สํานวนนน้ั ใสหําเ้นจัก้างพานนคกั ณงาะนกหรรรมอื กศาารลกอฤ่าษนฎใกี หา้ผู้ให้ถ้อยคํา
ฟัง ถ้ามีข้อความแก้ไข ทักท้วง หรือเพ่ิมเติม ให้แก้ให้ถูกต้องหรือมิฉะน้ันก็ให้บันทึกไว้ และให้ผู้ให้
สํานกั ถง้อานยคคณาํ ละงกลรรามยกมาือรชกอื่ฤรษับฎรกี อางวา่ ถูกต้องแสลํา้วนกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๖ มาตรา ๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สาํ นักคงวาานมคอณาญะการร(ฉมบกับารทกี่ ๒ฤษ๒ฎ) พกี า.ศ. ๒๕๔๗ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
- ๑๐ - สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
ถ้าบุคคลที่ต้องลงลายมือชื่อในบันทึกหรือถ้อยคําสํานวนไม่สามารถหรือไม่ยอมลง
สํานักใงหา้บนนัคณทึกะกหรรรือมรกาายรกงาฤนษเฎหีกตานุ ั้นไว้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมาํ านตกั รงาานค๑ณ๒ะกเรอรมกกสาารรกซฤึ่งษศฎากี ลาหรือเจ้าพนักสํางนาักนงเาปน็นคณผู้ทะกํารครํามรก้อารงกทฤุกษขฎ์ ีกคาํากล่าวโทษ
คําให้การจําเลยหรือคําร้องซ่ึงย่ืนต่อเจ้าพนักงานหรือศาล จักต้องเขียนด้วยนํ้าหมึกหรือพิมพ์ดีดหรือ
สํานักพงิมานพค์ ณถ้าะกมรีผริดมทกี่ใาดรกหฤ้าษมฎมีกิใาห้ลบออก ใหส้เพํานียกังงแาตน่ขคีดณฆะ่ากครรํามผกิดานร้ันกฤแษลฎ้วกีเขาียนใหม่ ผู้พิพสาํากนษักงาานเจค้าณพะนกักรรงมากนารกฤษฎกี า
หรอื บคุ คลผู้แกไ้ ขสถเาํช้อน่นักยนงค้ันาํานตตคอ้ กณงเละตกงิมนรรใามนมกยเาออ่รกกรบัสฤษราอฎรงดกี ไาังวบ้ทรขี่ ร้ายงการยะใดนาสมษําานตกั รงาานนคี้ตณ้อะงกลรรงมนกาามรกยฤ่อษขฎอีกงาผู้พิพากษา
สํานักเงจา้านพคนณักะกงารรนมหกราือรกบฤุคษคฎลีกผาู้ซึ่งตกเติมนั้นสกํานําักกงับาไนวค้ ณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สมาํ านตักงราานค๑ณ๒ะกทรรวมิ๗กาใรนกกฤษาฎรรกี ้าองทุกข์ การสสําอนบักงสาวนนคณกะากรรไรตม่สกาวรนกมฤษูลฎฟีก้อาง และการ
พจิ ารณา ถา้ บทบญั ญัตใิ ดกาํ หนดให้มีนกั จิตวทิ ยาหรอื นักสงั คมสงเคราะห์เข้าร่วมด้วยแล้วนักจิตวิทยา
สํานกั หงรานอื คนณักสะกังรครมมสกงาเรคกรฤาษะฎหีก์ดาังกลา่ วจะตอ้ งสมํานีคกัุณงสานมคบณัตะติ การมรทมี่กกาํารหกนฤดษใฎนีกกาฎกระทรวง สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
ให้นักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์ตามวรรคหนึ่งได้รับค่าตอบแทนตามระเบียบ
ทีก่ ระทรวงยุตธิ รรสมํานกกัาํ งหานนดคโณดะยกไรดร้รมบั กคารวกาฤมษเหฎ็นกี ชา อบจากกระทสรํานวงักกงาานรคคณลงัะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรกีาา๑๓๘ การสอสบํานสกั วงนานไคตณ่สะวกนรมรมูลกฟา้อรกงฤหษรฎือกี พา ิจารณา ให้ใชสํา้ภนาักษงาานไทคยณะแกตร่รถม้ากมาี รกฤษฎีกา
ความจําเป็นต้องสแําปนลักภงาานษคาณไะทกยรทรม้อกงาถร่ินกหฤษรฎือีกภาาษาถ่ินหรือภสาําษนักางตา่านงคปณระะกเรทรศมเกปา็นรกภฤาษษฎากี ไาทยหรือต้อง
แปลภาษาไทยเปน็ ภาษาไทยท้องถิ่นหรือภาษาถนิ่ หรอื ภาษาตา่ งประเทศใหใ้ ช้ล่ามแปล
สาํ นักงานคณะกรรมการกในฤษกฎรณกี าีท่ีผู้เสียหาย ผสู้ตําน้อกั งงหาานคจณําะเลกยรรมหกราือรพกยฤษานฎไีกมา่สามารถพูดหสราํ ือนักเขง้าานใจคภณาะษกรารไมทกยารกฤษฎกี า
หรือสามารถพูดหรือเข้าใจเฉพาะภาษาไทยท้องถ่ินหรือภาษาถ่ิน และไม่มีล่าม ให้พนักงานสอบสวน
พนักงานอัยการหสรําือนศักางลานจคดั ณหะากลรา่ รมมใกหาโ้ รดกยฤมษิชฎักีกชาา้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีท่ีผู้เสียหาย ผู้ต้องหา จําเลย หรือพยานไม่สามารถพูดหรือได้ยิน หรือสื่อ
สํานกั คงวานามคหณมะกายรรไมดก้ แารลกะฤไมษฎม่ กีีลา่ามภาษามือ ใสหําพ้ นนักงกั างนาคนณสะอกบรสรวมนกาพรกนฤักษงฎาีกนาอัยการ หรือศสาาํลนักจงัดาหนาคลณ่าะมกภรรามษกาารกฤษฎีกา
มือให้หรอื จดั ใหถ้ าม ตอบ หรอื สื่อความหมายโดยวธิ อี ่นื ท่ีเห็นสมควร
สเาํมนอ่ื ักมงลีานา่ มคณแปะกลรครํามใกหา้กรากรฤษคฎํากีพายานหรืออน่ื ๆสําลนา่ักมงาตนอ้ คงณแะปกลรใรหม้ถกกู ารตก้อฤงษลฎ่าีกมาตอ้ งสาบาน
หรือปฏญิ าณตนวา่ จะทาํ หนา้ ทโี่ ดยสุจรติ ใจ จะไมเ่ พ่มิ เตมิ หรือตดั ทอนส่งิ ทแ่ี ปล สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานกั งานคณะกรรมการกใหฤ้ลษา่ฎมีกลางลายมอื ช่อื ใสนําคนํากั แงปานลคนณั้นะกรรมการกฤษฎีกา
สใําหน้พักงนาักนงคาณนะสกรอรบมสกาวรนกฤพษนฎัีกกางานอัยการ สหํารนือักศงาานลคสณ่ังะจก่ารยรมคก่าาปร่วกฤยษกฎาีกราค่าพาหนะ
เดินทาง และค่าเช่าท่ีพักแก่ล่ามท่ีจัดหาให้ตามมาตรานี้ ตามระเบียบที่สํานักงานตํารวจแห่งชาติ
สาํ นักกงราะนทครณวะงกมรหรมาดกไาทรกยฤกษรฎะีกทารวงยุติธรรมสสําํานนกั ักงางนานคอณัยะกกรารรมสกูงสารุดกฤหษรฎือกีสาํานักงานศาลยสุตาํ ิธนรักรงมานแคลณ้วะแกตร่กรรมณกาี รกฤษฎกี า
กําหนดโดยได้รับความเหน็ ชอบจากกระทรวงการคลงั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๗ มาตรา ๑๒ ทวิ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับสทําี่ น๒กั๐ง)านพค.ศณ. ะ๒ก๕รร๔ม๒การกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๘ มาตรา ๑๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานกั คงวาานมคอณาะญการร(ฉมบกับารทก่ี ฤ๒ษ๘ฎ) กี พา.ศ. ๒๕๕๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๑ - สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓ ทวิ๙ (ยกเลิก)
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๔ ในระหว่างทําการสอบสวน ไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณา ถ้ามีเหตุควร
เชื่อว่าผู้ต้องหาหสรําือนจกั ํางาเนลคยณเปะ็นกรผรู้วมิกกลารจกรฤิตษแฎลีกะาไม่สามารถตส่อําสนู้คกั งดาีไนดค้ ณใหะก้พรนรัมกกงาารนกสฤอษบฎสกี าวนหรือศาล
แล้วแต่กรณี สั่งให้พนักงานแพทย์ตรวจผู้นั้นเสร็จแล้วให้เรียกพนักงานแพทย์ผู้นั้นมาให้ถ้อยคํา
สาํ นักหงรานือคใหณ้กะการรรวมา่ กตารรวกจฤไษดฎผ้ กีลาประการใด สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไม่สามารถต่อสู้คสดใาํนีไนดกัก้ รใงหณาน้งีทคดี่พณกนาะรกักสรงรอามบนกสสาวรอนกบฤสไษตวฎ่สนกี วหานรมือูลศฟา้อลงเหห็นรือวสพ่าําผนิจู้ตกัางร้อาณงนหาคาไณวหะ้จรกนือรกจรวมํา่ากเลผารู้นยกเ้ันปฤหษ็นาฎผยกีู้ววาิกิกลลจจรริติตแหลรือะ
สํานักสงาานมคาณรถะจกระรตม่อกสารู้คกดฤีไษดฎ้ กีแาละให้มีอํานาสจําสน่งกั ตงัวานผคู้นณ้ันะไกปรยรังมโกรางรพกฤยษาฎบกีาาลโรคจิตหรือมสาํอนบักใงหาน้แคกณ่ผะู้อกนรุบรมากลารกฤษฎกี า
ขา้ หลวงประจาํ จงั หวดั หรอื ผู้อื่นทเี่ ตม็ ใจรับไปดแู ลรักษากไ็ ดต้ ามแต่จะเห็นสมควร
สกาํ รนณกั งีทาี่นศคาลณงะดกกรรามรกไตาร่สกวฤนษมฎูลกี ฟา ้องหรือพิจาสรําณนากั ดงาังนบคัญณญะกัตริไรวม้ใกนาวรรกรฤคษกฎ่อีกนา ศาลจะสั่ง
จําหน่ายคดเี สียชว่ั คราวก็ได้
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๕ วิธีพิจารณาข้อใดซึ่งประมวลกฎหมายนี้มิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะ
ให้นําบทบัญญัติสแําหน่งักปงรานะคมณวละกกรฎรมหกมาารยกวฤิธษีพฎิจีกาารณาความแสพํา่งนมกั างใาชน้บคณังคะกับรเรทม่ากทา่ีพรกอฤจษะฎใีกชา้บังคับได้
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งาลนกัคษณณะกะรร๒มการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานกั งานคณะกรรอมํากนารากจฤพษนฎักีกงาานสอบสวนแสลําะนศักางาลนคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๑
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี หาลักทวั่ ไป สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๖ อํานาจศาล อํานาจผู้พิพากษา อํานาจพนักงานอัยการและอํานาจ
พนักงานฝ่ายปกคสราํ อนงักหงารนือคตณําระวกจรรใมนกการากรทฤษจ่ี ฎะีกปาฏบิ ัติตามบทบสัญํานญกั ัตงาิแนหค่งณปะรกะรมรมวลกากรฎกหฤมษฎายกี นา ี้ต้องเป็นไป
ตามกฎหมายและข้อบังคับทั้งหลายอันว่าด้วยการจัดตั้งศาลยุติธรรม และระบุอํานาจและหน้าท่ี
สํานักขงอานงคผณู้พะิพการกรมษกาารหกรฤือษซฎึ่งกี วา่าด้วยอํานาจสแําลนะักหงานน้าคทณี่ขะอกงรพรมนกักางรากนฤอษัยฎกกี าารหรือพนักงาสนาํ นฝัก่ายงาปนกคคณระอกงรหรมรกือารกฤษฎีกา
ตํารวจนัน้ ๆ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานหคมณวะดกร๒รมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
อาํ นาจสบื สวนและสอบสวน
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎรากี า๑๗ พนักงานสฝําน่าักยงปากนคครณอะงกหรรรมือกตาาํ รรกวฤจษมฎอี กี าํ านาจทําการสบื สสาํ นวนักงคาดนีอคาณญะากไรดร้มการกฤษฎกี า
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๙ มาตรา ๑๓ ทวิ ยกเลิกโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักคงวาานมคอณาะญการร(ฉมบกับารทกี่ ฤ๒ษ๘ฎ) กี พา.ศ. ๒๕๕๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๒ - สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎรีกาา๑๘๑๐ ในจังสหํานวกััดงอา่ืนนคนณอกะกจรารกมจกังารหกวฤัดษพฎรกี ะานครและจังหสวาํ ัดนธักนงาบนุรคี ณพะนกักรรงมากนารกฤษฎกี า
ฝา่ ยปกครองหรอื ตาํ รวจช้ันผู้ใหญ่ ปลัดอาํ เภอ และขา้ ราชการตํารวจซึ่งมียศต้ังแต่ชั้นนายร้อยตํารวจตรี
หรือเทียบเท่านายสรํา้อนยกั งตาํานรควณจตะกรรีขรึ้นมไกปารมกีอฤําษนฎากี จาสอบสวนควาสมํานผกัิดงอาานญคณาซะึ่งกไรดร้เมกกิดารหกรฤือษอฎ้าีกงา หรือเชื่อว่า
ได้เกิดภายในเขตอาํ นาจของตน หรอื ผู้ต้องหามีท่ีอยู่ หรอื ถูกจบั ภายในเขตอาํ นาจของตนได้
สํานักงานคณะกรรมการกสฤําษหฎรกีับาในจังหวัดพรสะํานนคกั รงาแนลคะณจะังกหรวรัดมธกนารบกุรฤีษใฎหีก้ขา้าราชการตํารสวําจนซัก่ึงงมานียคศณตะั้งกแรตร่มชก้ันารกฤษฎกี า
หนราอืยอร้อา้ งยตหํารรอื วเจชต่อื สวรํา่าีหนไรักดือง้เกาเทนิดคียภณบาเะยทกในร่ารนเมขากตยาอรรํา้อกนยฤาษตจฎําขรกี อวางจตตนรีขหึ้นรไือปผู้ตมส้อีอํางํานหนักาางมาจนีทสคี่ออณยบะู่ สหกวรรนรือมคถกวูกาาจรมกับผฤภิดษาอฎยากีใญนา เาขซตึ่งอไําดน้เกาิดจ
สํานักขงอานงตคนณไะดก้ รรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
ภายใต้บังคับแห่งบทบัญญัติในมาตรา ๑๙ มาตรา ๒๐ และมาตรา ๒๑ ความผิด
อาญาได้เกิดในเขสตําอนํากั นงาานจคพณนะักกงรารนมกสาอรบกฤสษวนฎีกคานใด โดยปกตสิใําหน้เกั ปง็นานหคนณ้าะทกี่พรรนมักกงาารนกสฤษอฎบีกสาวนผู้น้ันเป็น
ผู้รับผิดชอบในการสอบสวนความผิดน้ัน ๆ เพื่อดําเนินคดี เว้นแต่เมื่อมีเหตุจําเป็นหรือเพื่อความ
สํานักสงะานดควณกะจกึงรใรหมก้พานรักกฤงษานฎกีสาอบสวนแห่งทส้อํานงทกั งี่ทา่ีนผคู้ตณ้องะกหรารมมีทก่ีอารยกู่ ฤหษรฎือกี ถาูกจับเป็นผู้รับสผาํ ินดักชงอาบนคดณําเะนกินรรกมากรารกฤษฎกี า
สอบสวน สใาํนนเกัขงตาทน้อคณงทะ่ีใกดรมรมีพกนาักรกงฤาษนฎสีกอาบสวนหลายคสนํานกักางราดนําคเณนะินกกรารมรสกาอรบกสฤวษนฎใกี หา้อยู่ในความ
รับผิดชอบของพนกั งานสอบสวนผ้เู ป็นหัวหนา้ ในทอ้ งทีน่ ้นั หรือผรู้ กั ษาการแทน
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมําานตกั รงาาน๑ค๙ณะกในรรกมรกณารดี กงั ฤตษ่อฎไปกี าน้ี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) เป็นการไม่แนว่ ่าการกระทําผิดอาญาได้กระทําในทอ้ งท่ใี ดในระหวา่ งหลายทอ้ งท่ี
สํานกั งานคณะกรรมการก(๒ฤ)ษเฎมีกื่อาความผิดสว่ นสหํานนงึ่กั กงารนะคทณําใะนกทรร้อมงกทา่หีรกนฤึ่งษแฎตกี ่อาีกส่วนหนง่ึ ในสอําีกนทัก้องางนทคีห่ ณนะ่งึ กรรมการกฤษฎีกา
(๓) เมื่อความผิดนั้นเป็นความผิดต่อเนื่องและกระทําต่อเนื่องกันในท้องที่ต่าง ๆ
เกินกว่าท้องท่ีหนส่ึงาํ นขัก้ึนงไาปนคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
(๔) เมอ่ื เปน็ ความผดิ ซ่ึงมีหลายกรรม กระทําลงในท้องทีต่ า่ ง ๆ กนั
สํานกั งานคณะกรรมการก(๕ฤ)ษเฎมกี ่อื าความผดิ เกดิ ขสําึน้ นขกั ณงาะนผคูต้ ณ้อะงกหรารกมํากลาังรเกดฤินษทฎากี งา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๖) เมอ่ื ความผดิ เกิดขึ้นขณะผูเ้ สยี หายกาํ ลงั เดนิ ทาง
สพํานนักักงงาานนคสณอะบกสรวรนมกในารทกอ้ ฤงษทฎ่ีหกี นางึ่ ทอ้ งที่ใดท่เี กสําย่ี นวกัขงอ้ างนมคอีณําะนการจรมสกอาบรสกวฤนษไฎดกี ้ า
ในกรณีขา้ งต้นพนกั งานสอบสวนต่อไปนี้ เป็นผู้รบั ผดิ ชอบในการสอบสวน
สํานกั งานคณะกรรมการก(กฤ)ษถฎา้ ีกจาับผตู้ อ้ งหาไดสแ้ ําลนว้ ักงคาือนพคนณักะงการนรมสกอาบรสกวฤนษฎซึง่กี ทา ้องท่ที ี่จบั ได้อสยําู่ในนักเงขาตนอคําณนะากจรรมการกฤษฎีกา
ส(ําขน)ักถง้าานจคับณผะู้ตก้อรงรหมากยารังกไฤมษ่ไดฎ้ีกคาือพนักงานสอสําบนสกั วงนานซคึ่งณทะ้อกงรทรี่ทมกี่พาบรกกฤาษรฎกกีราะทําผิดก่อน
อยู่ในเขตอาํ นาจ
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๐๑๑ ถา้ ความผิดซึ่งมโี ทษตามกฎหมายไทยไดก้ ระทาํ ลงนอกราชอาณาจักร
ไทย ให้อัยการสูงสสาํ ุดนหกั งราือนผคู้รณักะษการกรมากรแารทกนฤเษปฎ็นกี พา นักงานสอบสสําวนนักผงู้รานับคผณิดะชกอรบรมหกราือรจกะฤมษอฎบีกาหมายหน้าท่ี
น้นั ใหพ้ นักงานอยั การหรือพนักงานสอบสวนคนใดเปน็ ผ้รู บั ผิดชอบทาํ การสอบสวนแทนกไ็ ด้
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๑๐ มาตรา ๑๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับทสี่ ๕ําน) กัพง.ศาน. ๒ค๔ณ๙ะ๖กรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๑๑ มาตรา ๒๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สาํ นักคงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกบั าทรี่ก๒ฤ๙ษ)ฎพีก.ศา. ๒๕๕๑ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
- ๑๓ - สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
ในกรณีทอ่ี ยั การสูงสุดหรือผรู้ ักษาการแทนมอบหมายให้พนักงานสอบสวนคนใดเป็น
สํานักผงู้ราันบคผณิดชะกอรบรทมกําการากรฤสษอฎบกี สาวน อัยการสูงสสํานุดักหงราือนผคู้รณักะษกรารกมากราแรทกนฤษจฎะมีกาอบหมายให้พสนําักนงักางนานอคัยณกาะรกครรนมใกดารกฤษฎกี า
ทาํ การสอบสวนร่วมกบั พนกั งานสอบสวนกไ็ ด้
สใําหน้พักนงากั นงคาณนอะกัยรกรามรกทา่ีรไดก้รฤับษฎมกีอาบหมายให้เป็นสพํานนกั ักงงานานคสณอะบกรสรวมนกผารู้รกับฤผษิดฎชกี อาบหรือให้ทํา
การสอบสวนร่วมกับพนักงานสอบสวนมีอํานาจและหน้าที่ในการสอบสวนเช่นเดียวกับพนักงาน
สาํ นักสงอานบคสณวะนกรบรมรรกดารากอฤําษนฎาีกจาและหน้าท่ีปสรําะนกักางารนอคื่นณทะี่กกฎรรหมมกาารยกบฤัญษฎญกี ัตาิไว้ให้เป็นอํานสาํานจักแงลานะคหณนะ้ากทรี่รขมอกงารกฤษฎกี า
พนักงานอยั การ สใํานนกักรงณานีทค่ีณพนะกักรงรามนกอารัยกกฤาษรฎทกี ําาการสอบสวนสํารน่วกั มงกานับคพณนะักกงรรามนกสาอรกบฤสษวฎนกี าให้พนักงาน
สาํ นกั สงอานบคสณวะนกรปรฏมิกบาัตริกตฤาษมฎคกี ําาสั่งและคําแสนําะนนักงําาขนอคณงพะกนรักรมงากานรอกัฤยษกฎากีราในเร่ืองท่ีเกี่ยสวาํ นกักับงกานาครณระวกบรรรมวกมารกฤษฎกี า
พยานหลกั ฐาน
สใํานนกักรงณานีจคําณเปะก็นรรพมนกัการงกาฤนษสฎอกี บาสวนต่อไปนี้มสีอํานําักนงาาจนสคอณบะกสรวรนมใกนารระกฤหษวฎ่างีกราอคําสั่งจาก
อยั การสูงสุดหรือผรู้ ักษาการแทน
สํานกั งานคณะกรรมการก(๑ฤ)ษพฎกีนากั งานสอบสวนสําซนง่ึ กัผงู้ตาอ้นงคหณาะถกูกรจรมบั กในารเกขฤตษอฎําีกนาาจ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
(๒) พนักงานสอบสวนซ่ึงรัฐบาลประเทศอื่นหรือบุคคลท่ีได้รับความเสียหายได้ร้อง
ฟอ้ งให้ทําโทษผู้ตส้อํางนหกั างานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมอ่ื พนักงานอัยการหรือพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบในการสอบสวน แล้วแต่กรณี
สํานักเงหา็นนคว่ณากะการรรสมอกบารสกวฤนษเฎสีกรา็จแล้ว ให้ทําคสําวนาักมงเาหน็นคณตาะกมรมรามตกราราก๑ฤษ๔ฎ๐กี ามาตรา ๑๔๑สําหนรักืองามนาคตณระาก๑รร๔ม๒การกฤษฎีกา
ส่งพร้อมสาํ นวนไสปํายนังักองัยานกคาณรสะูงกสรุดรมหกราือรผก้รูฤกัษษฎาีกกาารแทน สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎรีกาา๒๑ ในกรณสีทํานี่ไมกั ่แงานน่วค่าณพะนกัรกรงมากนาสรกอฤบษสฎวกี นาคนใดในจังหสวาํัดนเักดงียาวนกคันณคะวกรรรเปมก็นารกฤษฎกี า
พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ให้ข้าหลวงประจําจังหวัดนั้นมีอํานาจชี้ขาด แต่ในจังหวัดพระนคร
และธนบุรี ให้ผู้บสังาํ คนกัับงบานัญคชณาะขกอรงรพมกนาักรกงาฤนษฎสกีอาบสวนซึ่งมีตําสแํานหักนง่งาตนั้งคแณตะ่รกอรรงมอกธาิบรกดฤีกษรฎมกี ตาํารวจขึ้นไป
เป็นผู้ช้ีขาด
สํานักงานคณะกรรมการกในฤกษรฎณกี าีที่ไม่แน่ว่าพนสักํางนากั นงสานอคบณสะวกนรครนมกใดารใกนฤรษะฎหีกวา่างหลายจังหวสัดํานคักวงราเนปค็นณพะนกักรรงมากนารกฤษฎกี า
สอบสวนผูร้ บั ผดิ ชอบ ให้อธิบดีกรมอัยการหรอื ผูท้ ําการแทนเปน็ ผูช้ ้ขี าด
สกําานรกั รงอาคนคาํ ชณีข้ ะากดรนรมัน้ กาไรมกเ่ ปฤษน็ ฎเหกี ตาุให้งดการสอสบําสนวกั นงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สาํ นกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎรกีาา๒๑/๑๑๒ สํสาหํานรักับงกานาครณสอะกบรสรวมนกาซรึ่งกอฤยษู่ใฎนกี คาวามรับผิดชอสบาํ นขักองงาเนจค้าณพะนกักรรงมากนารกฤษฎีกา
ตํารวจ ในกรณีที่ไสมาํ น่แกันง่วา่านพคนณักะงการนรมสกอาบรสกวฤนษคฎนกี าใดในจังหวัดเดสําียนวักกงันานหครณือใะนกกรรอมงกบาัญรกชฤาษกฎาีกราเดียวกันควร
เป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ให้ผู้บัญชาการซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของพนักงานสอบสวนนั้น
สํานักเงปา็นนผคู้ณช้ีขะกาดรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การรอคาํ สัง่ ชขี้ าด ไมเ่ ป็นเหตใุ ห้งดการสอบสวน
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๓ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานกั งาอนาํ คนณาะจกศรารลมการกฤษฎีกา
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๒ มาตรา ๒๑/๑ เพ่ิมโดยประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับท่ี ๑๑๕/๒๕๕๗ เร่ือง
สาํ นกั แงกา้ไนขคเพณม่ิ ะเกตรมิ รปมรกะามรวกลฤกษฎฎหกีมาายวธิ ีพิจารณาคสวําานมกั องาาญนาคลณงะวกนั รทร่ี ม๒ก๑ารกกรฤกษฎาฎคกี มา พทุ ธศักราช ๒ส๕าํ ๕น๗ักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๔ - สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎราีกา๒๒ เม่ือควาสมํานผักิดงเากนิดคขณ้ึนะกอร้ารงมหกราือรกเชฤ่ือษวฎ่าีกไาด้เกิดขึ้นในเขสตําอนําักนงาานจคขณองะกศรารลมใกดารกฤษฎีกา
ให้ชําระท่ีศาลน้ัน แต่ถา้
ส(าํ๑น)ักเงมาื่อนจคําณเะลกยรมรีมทกี่อายรู่กหฤรษือฎถกี ูกาจับในท้องที่หสนํานึ่งกัหงราือนเคมณ่ือะเกจร้ารพมนกัการงกาฤนษทฎําีกกาารสอบสวน
ในทอ้ งทหี่ น่งึ นอกเขตของศาลดังกลา่ วแลว้ จะชําระท่ีศาลซ่ึงทอ้ งที่นนั้ ๆ อยู่ในเขตอาํ นาจกไ็ ด้
สํานกั งานคณะกรรมการก(๒ฤ)ษฎเมีก่ือาความผิดเกิดสขําึ้นนักนงอากนคราณชะอการรณมากจาัรกกรฤไษทฎยีกใหา ้ชําระคดีนั้นทสาํี่ศนาักลงอานาคญณาะถกร้ารกมากรารกฤษฎกี า
สอบสวนได้กระทสาํ าํลนงกั ในงาทนอ้คงณทะหี่ กนรรง่ึ มซกึง่ าอรยก่ใู ฤนษเฎขตีกาของศาลใด ใหสช้ํานํารักะงาทนศี่ คาณละนกั้นรไรดม้ดก้วารยกฤษฎีกา
สํานกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎรากี า๒๓ เม่ือศาลสแํานตกั่สงอางนศคาณละขก้ึนรไรปมกตา่ารงกมฤีอษําฎนีกาาจชําระคดี ถ้าสไําดน้ยักื่นงฟาน้อคงณคะดกีนรั้นรมตก่อารกฤษฎีกา
ศาลหน่ึงซ่ึงตามฟ้องความผิดมิได้เกิดในเขต โจทก์หรือจําเลยจะร้องขอให้โอนคดีไปชําระท่ีศาลอื่นซ่ึง
ความผดิ ไดเ้ กดิ ในสเขํานตกั กง็ไาดน้ คณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลซึ่งความผิดเกิดในเขต แต่ต่อมาความปรากฏแก่โจทก์ว่าการ
สํานักพงิาจนาครณณะากครดรมีจกะาสรกะฤดษวฎกกียาิ่งขึ้นถ้าให้อีกสศําานลกั หงานน่ึงคซณึ่งะมกีอรราํ มนกาาจรชกฤาํ ษระฎคีกาดีได้พิจารณาสคาํ ดนีนักั้นงานโคจณทะกก์จระรยมื่กนารกฤษฎีกา
คําร้องต่อศาลซ่ึงคดีนั้นอยู่ในระหว่างพิจารณาขอโอนคดีไปยังอีกศาลหนึ่งก็ได้ แม้ว่าจําเลยจะคัดค้าน
กต็ าม เม่อื ศาลเหสน็ ําสนมกั คงาวนรคจณะโะอกนรรคมดกีไาปรหกรฤือษยฎกกี คาาํ ร้องเสียกไ็ ดส้ ํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรากี า๒๔ เม่อื ควาสมําผนิดักหงาลนาคยณเระือ่ กงรเรกมย่ี กวาพรกนั ฤกษันฎโีกดายเหตุหน่ึงเหตสุใดาํ นเักปงน็านตค้นณวะ่ากรรมการกฤษฎกี า
ส(าํ๑น)กั ปงารนาคกณฏะวก่ารรคมวกาามรกผฤิดษหฎลีกาายฐานได้กระสทํานําักลงงาโนดคยณผะู้กกรระรมทกําาผริกดฤคษนฎเีกดาียวกัน หรือ
ผู้กระทําผิดหลายคนเกี่ยวพันกันในการกระทําความผิดฐานหน่ึงหรือหลายฐาน จะเป็นตัวการ ผู้สมรู้
สํานักหงรานอื ครบัณขะกอรงรโจมรกการต็ กาฤมษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ปรากฏว่าความผิดหลายฐานได้กระทําลงโดยมีเจตนาอย่างเดียวกัน หรือโดย
ผู้กระทาํ ผิดทง้ั หลสาาํ ยนไักดงค้ าบนคคณิดกะกนั รมรามแกตาร่กก่อฤนษแฎลีก้วา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ปรากฏวา่ ความผดิ ฐานหนงึ่ เกิดข้ึนโดยมีเจตนาช่วยผู้กระทําผิดอ่ืนให้พ้นจากรับโทษ
สาํ นกั ใงนาคนวคาณมะผกิดรอรมยกา่ างรอกืน่ ฤซษึ่งฎเขกี าาไดก้ ระทาํ ไว้ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
ดังน้ีจะฟ้องคดีทุกเรื่อง หรือฟ้องผู้กระทําความผิดทั้งหมดต่อศาลซึ่งมีอํานาจชําระ
ในฐานความผิดซสง่ึ ํามนอี ักัตงรานาโคทณษะสกงูรกรมวกา่ ไาวร้กกฤไ็ ดษ้ ฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
ถ้าความผิดอันเกี่ยวพันกันมีอัตราโทษอย่างสูงเสมอกัน ศาลซ่ึงมีอํานาจชําระ ก็คือ
สํานักศงาาลนซคณึ่งระบั กฟรร้อมงกเราื่อรกงฤหษนฎ่ึงกีเรา่อื งใดในความสผําิดนเกั กงย่ีานวพคณนั กะกนั รนร้ันมกไวา้กรกอ่ ฤนษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๒๕ ศาลซ่ึงรับฟ้องคดเี กย่ี วพนั กันไว้จะพิจารณาพิพากษารวมกนั ไปกไ็ ด้
สาํ นักงานคณะกรรมการกถฤา้ ษศฎาลีกซาง่ึ รบั ฟ้องคดีเสกําี่ยนวักพงาันนกคันณไะวก้ เรหร็นมกวา่ารเปกฤ็นษกฎาีกราสมควรท่ีความสผํานิดักฐงาานนหคนณ่ึงะกครวรรมไกดา้ รกฤษฎีกา
ชําระในศาลซึ่งตามปกติมีอํานาจจะชําระถ้าหากว่าคดีนั้นไม่เกี่ยวกับคดีเกี่ยวพันกัน เมื่อศาลเดิมได้
ตกลงกับอีกศาลหสนาํ น่งึ แักงลาว้ นคจณะสะัง่กใรหรม้ไปกฟาร้อกงฤยษงั ฎศกีาาลอนื่ นัน้ ก็ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรกีาา๒๖๑๓ หากสวํา่านตกั างมานลคักณษะณกะรรขมอกงาครกวฤาษมฎผกีิดา ฐานะของจําสเาํลนยักงจาํานนคณวนะกจรํารเมลกยารกฤษฎกี า
ความรู้สึกของประชาชนส่วนมากแห่งท้องถิ่นน้ัน หรือเหตุผลอย่างอื่น อาจมีการขัดขวางต่อการไต่สวน
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๑๓ มาตรา ๒๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานกั คงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกับาทร่ีก๓ฤ๑ษ)ฎพีก.ศา. ๒๕๕๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๕ - สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
มูลฟ้องหรือพิจารณา หรือน่ากลัวว่าจะเกิดความไม่สงบหรือเหตุร้ายอย่างอ่ืนขึ้น หรืออาจเกิด
สํานักผงลานกครณะทะกบรตรม่อกปารระกโฤยษชฎนีก์ทา ี่สําคัญอื่นขอสงํารนัฐกั งเามนื่อคโณจะทกกร์หรมรกือาจรํากเฤลษยฎรกี ้อางขอหรือศาลสทําี่คนดักงีนาั้นนอคณยู่ระะกหรรวม่ากงารกฤษฎกี า
พิจารณาทําความเห็นเสนอต่อประธานศาลฎีกาขอให้โอนคดีไปศาลอื่น ถ้าประธานศาลฎีกาเห็นควร
อนญุ าต ก็ให้ส่ังโอสนํานคักดงีไาปนยคังณศะากลรดรังมทกปี่ารรกะฤธษาฎนกีศาาลฎีการะบุไวส้ ํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
คําสง่ั ของประธานศาลฎกี าใหเ้ ป็นท่สี ดุ
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แห่งประมวลกฎหสมมําานาตยกั รวงาาธิ นพี ๒คจิ ๗ณาระกณผรู้พารคมิพวกาาากมรษกแฤาพใษ่งนฎซศีกงึ่ าาบลญั ใดญซตั ่ึงิไชวําใ้ รนะเรคสอ่ื ําดนงีอนกั าัน้งญากนา็ไคดจณ้ ะะถกูกรรตม้ังกราังรเกกฤียษจฎตีกาามบทบัญญัติ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
ลักษณะ ๓
สํานกั งากนาครณฟะ้อกงรครดมกีอาารญกาฤแษลฎะกี คาดีแพง่ ท่ีเก่ยี วสเนํานือ่ กั งงกาับนคคดณอี ะากญรรามการกฤษฎกี า
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษกฎารกี ฟา ้องคดอี าญาสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมาํ านตกั รงาาน๒ค๘ณะกบรคุ รคมลกเาหรกลฤ่าษนฎมี้ ีกีอาํานาจฟอ้ งคดีอสําานญักางตาน่อคศณาละกรรมการกฤษฎีกา
(๑) พนักงานอัยการ
สํานกั งานคณะกรรมการก(๒ฤ)ษผฎเู้ีกสายี หาย สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สมําานตกั รงาาน๒คณ๙ะกเรมรื่อมผกู้เาสรกียฤหษาฎยกี ไาด้ย่ืนฟ้องแล้วสตําานยกั ลงางนผคู้ณบุพะกกรารรมี กผาู้สรกืบฤสษันฎดีกาาน สามีหรือ
ภรยิ าจะดําเนนิ คดตี ่างผูต้ ายตอ่ ไปก็ได้
สาํ นักงานคณะกรรมการกถฤ้าษผฎู้เสีกาียหายที่ตายนสัํา้นนเกัปง็นานผคู้เณยาะกวร์ รผมู้วกิกาลรกจฤรษิตฎกีหารือผู้ไร้ความสสาํ านมักางารนถคณซึ่งะกผรู้แรทมกนารกฤษฎีกา
โดยชอบธรรม ผู้อนุบาลหรือผู้แทนเฉพาะคดีได้ยื่นฟ้องแทนไว้แล้ว ผู้ฟ้องแทนนั้นจะว่าคดีต่อไป
ก็ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎรีกาา๓๐ คดีอาญสําานใักดงซาึ่งนพคนณักะกงรารนมอกัยารกกาฤรษยฎื่นีกฟา้องต่อศาลแลส้วาํ นผักู้เงสานียคหณาะยกจระรยมืก่นารกฤษฎีกา
คําร้องขอเข้าร่วมสเาํปน็นกั โงจาทนคกณใ์ นะรกะรยรมะกใดารรกะฤหษวฎ่าีกงพา จิ ารณาก่อนสศําานลักชงัน้ านตคน้ ณพะิพการกรษมกาคารดกนี ฤน้ัษกฎไ็ีกดา้
สาํ นกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎรีกาา ๓๑ คดีอสาําญนักางทานี่มคิใณชะ่คกวรารมมกผาิรดกตฤ่อษสฎกี่วานตัวซึ่งผู้เสียสหาํ นาักยงายนื่นคฟณ้อะกงรแรมลก้วารกฤษฎกี า
พนักงานอัยการจะย่ืนคําร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ในระยะใดก่อนคดีเสร็จเด็ดขาดก็ได้
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
มาตรา ๓๒ เม่ือพนักงานอัยการและผู้เสียหายเป็นโจทก์ร่วมกัน ถ้าพนักงานอัยการ
สาํ นกั เงหา็นนควณ่าผะกู้เรสรียมหกาารยกจฤะษกฎรกี าะทําให้คดีขอสงํานอกััยงกานารคเณสะียกหรรามยกาโรดกยฤษกฎรีกะาทําหรือละเวส้นาํ กนักรงะาทนําคกณาะรกใรดรมกๆารกฤษฎีกา
ในกระบวนพิจารณา พนักงานอัยการมีอํานาจร้องต่อศาลให้ส่ังผู้เสียหายกระทําหรือละเว้นกระทํา
การนั้น ๆ ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๖ - สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๓ คดีอาญาเร่ืองเดียวกันซ่ึงทั้งพนักงานอัยการและผู้เสียหายต่างได้ยื่น
สํานกั ฟง้อานงคในณศะากลรรชมั้นกตา้นรกศฤาษลฎเดกี ียาวกันหรือต่างสศํานาลักกงาันนคศณาละกนร้ันรมๆกามรีอกําฤนษาฎจีกสา่ังให้รวมพิจารสณาํ นาักเงปา็นนคคณดีเะดกียรวรมกกันารกฤษฎีกา
เมื่อศาลเหน็ ชอบโดยพลการหรอื โดยโจทกย์ ื่นคําร้องในระยะใดก่อนมคี ําพพิ ากษา
สแาํ ตน่ทกั งวา่านจคะณมะคี กํารสร่งั มเชกา่นรนกัน้ฤษไมฎไ่ กี ดา้ นอกจากจะไสดําร้นบั กั คงาวนาคมณยินะกยรอรมมขกอารงกศฤาษลฎอีกื่นาน้ันกอ่ น
สาํ นักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎราีกา๓๔ คาํ ส่งั ไมส่ฟํา้อนงกั คงดานี หคาณตะดักสรริทมธกผิ า้เู รสกียฤหษาฎยีกฟา้องคดีโดยตนสเอาํ นงไักมง่านคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมําานตักงราานค๓ณ๕ะกรครํามรก้อารงกขฤอษถฎอกี นาฟ้องคดีอาญสาํานจกั ะงยาืน่นคเวณละากใรดรมกก่อานรกมฤีคษําฎพีกิพา ากษาของ
สํานักศงาานลคชณ้ันะตก้นรกรม็ไดก้าศรกาฤลษจฎะกีมาีคําสั่งอนุญาตสหํานรือักงมาิอนนคุณญะากตรใรหม้ถกอารนกกฤ็ไษดฎ้ กีแาล้วแต่ศาลจะเสหาํ ็นนักสงมาคนควรณปะรกะรรกมากรารกฤษฎีกา
ใด ถ้าคําร้องนั้นได้ย่ืนในภายหลังเม่ือจําเลยให้การแก้คดีแล้ว ให้ถามจําเลยว่าจะคัดค้านหรือไม่ แล้ว
ใหศ้ าลจดคําแถลสงขาํ นอักงงจาาํ นเลคณยไะวก้ รใรนมกกราณรกีทฤ่ีจษําฎเลกี ยา คัดค้านการถสอํานนักฟง้อานงคใณหะ้ศการลรยมกกคารํากรฤ้อษงขฎอีกาถอนฟ้องนั้น
เสยี
สํานักงานคณะกรรมการกคฤดษีคฎวกีาามผิดต่อส่วนตสัวํานน้ันกั งาจนะคถณอะนกฟร้อรมงกหารรือกยฤอษมฎคกี าวามในเวลาใดสกํา่อนนักงคาดนีถคึงณทะ่ีสกุดรรกม็ไกดา้ รกฤษฎกี า
แตถ่ ้าจาํ เลยคัดค้าน ให้ศาลยกคํารอ้ งขอถอนฟอ้ งน้นั เสยี
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๓๖ คดอี าญาซ่ึงได้ถอนฟอ้ งไปจากศาลแลว้ จะนาํ มาฟอ้ งอกี หาได้ไม่ เว้นแต่
สาํ นักจงะานเขคา้ ณอะยกใู่ รนรขมอ้ กยารกกเวฤ้นษตฎอ่กี ไาปน้ี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
ส(ํา๑น)ักถงา้านพคนณักะกงารรนมอกัยารกกาฤรษไฎดกี้ยาื่นฟ้องคดีอาญสําานซักึ่งงไามน่ใคชณ่คะวการรมมผกิดาตรก่อฤสษ่วฎนกี ตาัวไว้แล้วได้
ถอนฟ้องคดีน้ันไป การถอนนไ้ี ม่ตัดสิทธผิ เู้ สียหายท่ีจะยน่ื ฟอ้ งคดนี ัน้ ใหม่
สํานกั งานคณะกรรมการก(๒ฤ)ษถฎ้าีกพา นักงานอยั กาสรําถนอักนงาคนดคีซณ่ึงะเปกรน็ รคมวกาามรกผฤิดษตฎอ่ ีกสา่วนตวั ไป โดยมสําิไนดัก้รบังาคนวคาณมะยกินรยรมอกมารกฤษฎีกา
เปน็ หนงั สอื จากผเู้ สยี หาย การถอนนน้ั ไมต่ ดั สิทธผิ ู้เสยี หายท่จี ะยื่นฟ้องคดนี ั้นใหม่
ส(ํา๓น)กั งถา้านผคู้เณสะียกหรรามยกไาดร้กยฤื่นษฟฎ้อีกงาคดีอาญาไวส้แําลน้วกั ไงดาน้ถคอณนะฟกร้อรงมคกดารีนกั้นฤษเสฎียีกาการถอนนี้
ไม่ตัดสิทธิพนักงานอยั การทจ่ี ะย่ืนฟ้องคดีนนั้ ใหม่ เวน้ แต่คดซี ึง่ เป็นความผดิ ต่อส่วนตัว
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
มาตรา ๓๗๑๔ คดีอาญาเลกิ กนั ได้ ดงั ต่อไปนี้
ส(าํ๑น)กั ใงนานคคดณีมีโะทกรษรปมรกับารสกถฤาษนฎเีกดาียว เมื่อผู้กระสทําํานผกั ิดงยานินคยณอะมกเรสรียมคก่าาปรกรฤับษใฎนกีอาัตราอย่างสูง
สําหรับความผิดนั้นแก่พนกั งานเจ้าหนา้ ท่ีก่อนศาลพจิ ารณา
สาํ นกั งานคณะกรรมการก(๒ฤ)ษใฎนกี คาดีความผดิ ที่เสปําน็นลักหงาุโนทคษณหะรกือรครมวกามารผกิดฤทษี่มฎีอกี ัตา ราโทษไม่สูงกสาํวน่าักคงวาานมคผณิดะลกหรรุโทมกษารกฤษฎีกา
หรอื คดีอนื่ ที่มโี ทษสปํานรกัับงสาถนาคนณเะดกียรวรอมยกา่ารงกสฤงู ไษมฎเ่ กีกาินหนึง่ หมนื่ บาสทํานหกั รงือานคควณามะกผริดรตม่อกการฎกหฤมษาฎยกี เาก่ียวกับภาษี
อากรซึ่งมีโทษปรับอย่างสูงไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท เม่ือผู้ต้องหาชําระค่าปรับตามที่พนักงานสอบสวน
สํานักไงดาเ้นปครณยี ะบกเทรรียมบกแารลก้วฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) ในคดีความผดิ ท่เี ปน็ ลหุโทษหรือความผิดที่มีอัตราโทษไม่สูงกว่าความผิดลหุโทษ
หรือคดีที่มีโทษปสราํับนสักถงาานนคเดณียะวกอรรยม่ากงาสรูงกไฤมษ่เกฎินีกาหน่ึงหมื่นบาทสําซน่ึงกั เงกาิดนใคนณกะรกุงรเรทมพกมารหกาฤนษคฎรกี เาม่ือผู้ต้องหา
ชําระค่าปรับตามที่นายตํารวจประจําท้องที่ตั้งแต่ตําแหน่งสารวัตรขึ้นไป หรือนายตํารวจชั้น
สํานกั สงัญานญคาณบะักตรรรผมทู้ กาํ ากรกาฤรใษนฎตกี ําาแหน่งน้นั ๆ ไสดํา้เนปกั รงียานบคเทณยี ะบกรแรลมว้ การกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๔ มาตรา ๓๗ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สาํ นักคงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกับาทรี่ก๑ฤ๖ษ)ฎพกี .ศา. ๒๕๒๙ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
- ๑๗ - สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) ในคดีซ่ึงเปรียบเทียบได้ตามกฎหมายอื่น เมื่อผู้ต้องหาได้ชําระค่าปรับตาม
สํานกั คงาํานเปครณียะบกรเทรมียกบารขกอฤงษพฎนกี ักา งานเจ้าหน้าสทํานี่แกั ลง้วานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สมาํ านตักงราานค๓ณ๘ะกรครมวกาามรผกิดฤษตฎากีมาอนุมาตรา (ส๒ําน) กั (๓งา)นคแณละะกร(ร๔ม)กาแรหก่ฤงมษฎากีตาราก่อน ถ้า
เจ้าพนักงานดังกล่าวในมาตราน้ันเหน็ ว่าผตู้ อ้ งหาไม่ควรได้รับโทษถงึ จําคกุ ให้มีอํานาจเปรยี บเทียบดังนี้
สาํ นักงานคณะกรรมการก(๑ฤษ) ฎใหกี า้กําหนดค่าปรสับํานซัก่ึงงผาู้นตค้อณงหะการจระมพกึางรชกําฤรษะฎกีถา้าผู้ต้องหาแลสะําผนู้เักสงียานหคาณยยะกินรยรมอกมารกฤษฎีกา
แตตาม่ไมน่เั้นกินเมสิบื่อหผู้ตา้ ว้อสันงําแหนลักาว้งไาดคน้ชดคํานีณรัน้ะะกเเปงริรน็นมอคกนั่าาปเรสกรรฤับ็จษตเฎดาีก็ดมาขจาําดนวนที่เจ้าสหํานนัก้างทาี่กนําคหณนะกดรใรหม้ภกาารยกใฤนษเฎวลกี าาอันสมควร
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎถกี้าาผู้ต้องหาไม่ยสินํายนอักงมาตนาคมณทะก่ีเปรรรมียกบารเทกฤียษบฎีกหารือเมื่อยินยอสมาํ แนลักง้วานไคมณ่ชํะากรระรเมงิกนารกฤษฎกี า
คา่ ปรบั ภายในเวลากําหนดในวรรคก่อน ให้ดําเนนิ คดีตอ่ ไป
ส(าํ๒น)กั งใานนคคดณีมะกีคร่ารทมกดาแรทกฤนษฎถกี้าาผู้เสียหายแลสะํานผกัู้ตง้อานงคหณาะยกินรยรมอกมารใหกฤ้เษปฎรกีียาบเทียบ ให้
เจ้าหน้าท่กี ะจํานวนตามท่เี หน็ ควรหรือตามท่คี ู่ความตกลงกัน
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
มาตรา ๓๙ สทิ ธนิ าํ คดอี าญามาฟอ้ งยอ่ มระงบั ไป ดังตอ่ ไปนี้
ส(๑าํ น)กั โงดายนคควณาะมกตรารมยขกาอรงกผฤกู้ ษรฎะกี ทาาํ ผิด สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ในคดีความผิดต่อส่วนตัว เมื่อได้ถอนคําร้องทุกข์ ถอนฟ้องหรือยอมความกัน
สํานกั โงดายนถคูกณตะ้อกรงรตมากมากรฎกฤหษมฎากี ยา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
ส(๓าํ น)ักเงมา่อืนคคดณเี ะลกิกรกรนัมกตาารมกมฤาษตฎรกี าา๓๗ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
(๔) เมอ่ื มคี ําพพิ ากษาเสร็จเดด็ ขาดในความผิดซ่ึงได้ฟอ้ ง
สาํ นกั งานคณะกรรมการก(๕ฤ)ษเฎมกี ่อื ามีกฎหมายออสกํานใชัก้ภงาานยคหณละังกกรารรมกกราะรทกฤําษผิดฎยีกากเลิกความผิดสเชําน่นักนง้ันานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๖) เมอื่ คดขี าดอายคุ วาม
ส(๗ําน)กั เงมาอื่นมคกีณฎะหกรมรามยกยากรกเวฤ้นษโฎทีกษา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานหคมณวะดกร๒รมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การฟ้องคดแี พ่งทเี่ ก่ยี วเนื่องกับคดอี าญา
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรีกาา๔๐ การฟ้อสงําคนดักงีแาพน่งคทณ่ีเะกกี่ยรวรมเนก่ือารงกกฤับษคฎดกี ีอา าญาจะฟ้องสตํา่อนศักางาลนซคึ่งณพะิจการรรณมกาารกฤษฎกี า
คดีอาญาหรือต่อศสําานลกัทงี่มานีอคําณนาะจกรชรํามรกะาครดกีแฤษพฎ่งกีกา็ได้ การพิจารสณําานคักดงาีแนพค่งณตะ้อกงรเรปม็นกไาปรกตฤาษมฎบีกทาบัญญัติแห่ง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๑ ถ้าการพิจารณาคดีแพ่งจักทําให้การพิจารณาคดีอาญาเนิ่นช้าหรือ
ตดิ ขดั ศาลมีอาํ นาสจําสน่งั ักใงหา้แนยคกณคะดกรีแรพมง่ กอาอรกกฤจษากฎคีกาดอี าญา และพสิจํานารักณงาานตค่าณงะหการกรโมดกยาศรกาฤลษทฎ่ีมกีอี าํานาจชาํ ระ
สํานกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎรีกาา๔๒ ในการสพําิจนัการงาณนาคคณดะกีแรพร่งมกถา้ารพกฤยษาฎนกี หาลักฐานที่นําสสืาํบนแักลง้าวนในคณคะดกีอรารญมกาารกฤษฎกี า
ยังไม่เพียงพอ ศาลจะเรยี กพยานหลกั ฐานมาสืบเพ่มิ เตมิ อีกกไ็ ด้
สใํานนกักรงาณนีเคชณ่นะนกรั้นรศมากลารจกะฤพษิพฎีกาากษาคดีอาญสาําไนปกั ทงีาเดนีคยณวะสก่วรรนมคกดารีแกพฤ่งษจฎะีกพา ิพากษาใน
สาํ นกั ภงาานยคหณลงัะกกร็ไดรม้ การกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๑๘ - สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎรกีาา๔๓ คดีลักทสํารนัพกั ยง์าวน่ิงครณาะวกชรริงมทกราัพรกยฤ์ ษปฎลีก้นาทรัพย์ โจรสลสัาํดนักกงรารนโคชณกะกฉร้อรโมกกงารกฤษฎีกา
ยักยอกหรือรับของโจร ถ้าผู้เสียหายมีสิทธิท่ีจะเรียกร้องทรัพย์สินหรือราคาที่เขาสูญเสียไปเน่ืองจาก
การกระทาํ ผดิ คนื สเํามน่อื ักพงนานักคงณานะอกัยรรกมากรายรืน่ กฟฤ้อษงฎคีกดาอี าญา ก็ใหเ้ รสียํากนทักรงพัานยค์สณินะหกรรอื รรมากคาารแกทฤษนฎผกีเู้ สาียหายดว้ ย
สาํ นักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรากี า๔๔ การเรียสกําทนรักัพงายน์สคินณหะรกือรรรมาคกาารคกืนฤตษาฎมกี มาาตราก่อน พนสําักนงักางนาอนัยคกณาะรกจระรมขกอารกฤษฎีกา
รวมไปกบั คดีอาญสคาําหํานพรักอืิพงาจานะกคยษณ่นื าะคใกนาํ รรสร้อม่วงนกใานเรรรกียะฤกยษทะฎรใีกดัพารยะ์สหินวหา่ งรทือคี่ราดคอีสาาําในญหกั า้รงกวาาํนมลคเปงัณพ็นะจิ สการ่วรรนณมหกานาอร่ึงยกแใู่ฤหนษ่งศฎคาีกําลาพชิ้ันพตากน้ ษกไ็าดใน้
สํานักคงดานอี คาณญะากรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สมําานตักรงาาน๔ค๔ณ/ะ๑ก๑ร๕รมกในารคกดฤีทษ่ีพฎนีกาักงานอัยการเสปํา็นนโกั จงทานกค์ ถณ้าะผกู้เรสรียมหกาารยกมฤีสษิทฎธกี ิทาี่จะเรียกเอา
คา่ สินไหมทดแทนเพราะเหตุได้รับอันตรายแก่ชวี ิต รา่ งกาย จิตใจ หรอื ไดร้ ับความเสอื่ มเสียตอ่ เสรภี าพ
สํานกั ใงนารน่าคงณกะากยรชรื่มอกเสารียกงฤหษรฎือีกไาด้รับความเสียสหํานาักยงใานนทคาณงะทกรรัรพมยก์สาินรกอฤันษเฎนกีื่อางมาจากการกสราํ นะทักงําาคนวคาณมะผกิดรรขมอกงารกฤษฎกี า
จาํ เลย ผ้เู สยี หายจะยืน่ คาํ ร้องต่อศาลท่พี จิ ารณาคดอี าญาขอใหบ้ งั คบั จําเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
ตนก็ได้
การยื่นคําร้องตามวรรคหนึ่ง ผู้เสียหายต้องยื่นคําร้องก่อนเริ่มสืบพยาน ในกรณีท่ี
สาํ นักไงมา่มนีคกณาระสกืบรรพมยกาานรกใฤหษ้ยฎื่นีกคาําร้องก่อนศาสลําวนินกั ิจงฉานัยคชณ้ีขะากดรครดมีกแาลรกะฤใหษ้ถฎือกี าว่าคําร้องดังกสลาํ่านวักเปงา็นนคคําณฟะ้อกงรตรมากมารกฤษฎีกา
บทบัญญัติแห่งปรสะาํ นมกัวงลากนฎคหณมะการยรวมิธกีพาิจรกาฤรณษฎากีคาวามแพ่งและสผําู้เนสักียงหาานยคอณยะู่ใกนรฐรมานกาะรโกจฤทษกฎ์ใีกนาคดีส่วนแพ่ง
น้ัน ทั้งนี้ คําร้องดังกล่าวต้องแสดงรายละเอียดตามสมควรเก่ียวกับความเสียหายและจํานวนค่า
สํานกั สงินานไคหณมะทกดรแรมทกนาทรกี่เรฤียษกฎีกร้อา ง หากศาลเสหํา็นนวัก่งาาคนําครณ้อะงกนรั้นรมยกังาขรากดฤสษาฎรกี ะาสําคัญบางเรสื่อํางนักศงาาลนอคาณจะมกีครรํามสกั่งารกฤษฎีกา
ให้ผู้ร้องแก้ไขคาํ ร้องใหช้ ดั เจนกไ็ ด้
สคาํ ํานรกั ้องางนตคาณมะวกรรรรคมหกานรึ่งกจฤษะมฎกีีคาําขอประการสอําื่นนักทงี่มานิใชค่คณําะขกรอรบมังกคารับกใฤหษ้จฎําีกเาลยชดใช้ค่า
สินไหมทดแทนอันเนื่องมาจากการกระทําความผิดของจําเลยในคดีอาญามิได้ และต้องไม่ขัดหรือแย้ง
สาํ นกั กงับานคคําณฟะ้อกงรใรนมคกดารีอกาฤญษาฎทีก่ีพา นักงานอัยกสาํารนเกัปง็นานโจคทณกะ์กแรลรมะกในารกกรฤณษฎีทกี่ีพานักงานอัยกาสรําไนดัก้ดงําาเนนคินณกะากรรตรมากมารกฤษฎีกา
ความในมาตรา ๔๓ แล้ว ผ้เู สียหายจะยืน่ คาํ ร้องตามวรรคหนึง่ เพ่ือเรียกทรัพยส์ นิ หรือราคาทรัพยส์ นิ อกี ไม่ได้
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
มาตรา ๔๔/๒๑๖ เม่ือได้รับคําร้องตามมาตรา ๔๔/๑ ให้ศาลแจ้งให้จําเลยทราบ
สาํ นกั หงาานกคจณําเะลกยรใรหมก้กาารรกปฤรษะฎกกี าารใดหรือไม่ปสรําะนสักงงคา์นจคะณใหะ้กการรรมใหกา้ศรากลฤบษันฎทกี าึกไว้ ถ้าหากจสําาํเนลักยงปารนะคสณงะคก์จระรมทกําารกฤษฎีกา
คาํ ให้การเป็นหนังสสาํ นือักใหงา้ศนาคลณกะํากหรนรมดกราะรยกะฤเษวฎลาีกยา่ืนคําให้การตสาํามนทักี่เงหาน็นคสณมะคกวรรรมแกลาะรเกมฤ่ือษพฎนีกักางานอัยการ
สืบพยานเสร็จ ศาลจะอนุญาตให้ผู้เสียหายนําพยานเข้าสืบถึงค่าสินไหมทดแทนได้เท่าท่ีจําเป็น หรือ
สํานกั ศงาาลนจคะณพะกจิ รารรมณกาาพรกพิ ฤาษกฎษกี าาคดอี าญาไปกส่อํานนแกั ลงา้วนพคจิ ณาะรกณรารพมกพิ าารกกษฤาษคฎดีกีสา่วนแพ่งในภาสยาํ หนลักงังกานไ็ ดค้ณะกรรมการกฤษฎกี า
ถ้าความปรากฏต่อศาลว่าผู้ยื่นคําร้องตามมาตรา ๔๔/๑ เป็นคนยากจนไม่สามารถ
จดั หาทนายความสไาํดนเ้ อกั งงาในหค้ศณาะลกมรีอรมาํ กนาารจกตฤง้ั ษทฎนีกาายความให้แกส่ผําู้นน้ันักงโาดนยคทณนะากยรรคมวกาามรทกี่ไฤดษ้รฎับีกแาต่งตั้งมีสิทธิ
ได้รับเงินรางวลั และค่าใช้จ่ายตามระเบียบทีค่ ณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมกําหนด
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๑๕ มาตรา ๔๔/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับสทาํ่ี น๒กั๔ง)านพค.ศณ. ะ๒ก๕รร๔ม๘การกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๑๖ มาตรา ๔๔/๒ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สาํ นกั คงวาานมคอณาะญการร(มฉกบาับรทก่ีฤ๒ษ๔ฎ)กี พา.ศ. ๒๕๔๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
- ๑๙ - สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎรากี า๔๕ คดีเร่ืองสใําดนถกั ึงงแานมค้วณ่าไะดก้ฟรร้อมงกในารทกาฤงษอฎากี ญาาแล้ว ก็ไม่ตัดสสํานิทักธงิผาู้เนสคียณหะากยรทรมี่จกะารกฤษฎกี า
ฟ้องในทางแพง่ อกี
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๔๖ ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง ศาลจําต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏใน
สํานักคงําาพนคพิ ณากะกษรารคมดกีสารว่ กนฤอษาฎญกี าา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สมําานตักรงาาน๔คณ๗๑ะ๗กรรคมํากพาิพรกาฤกษษฎาีกคาดีส่วนแพ่งต้อสงํานเปัก็นงาไนปคตณาะมกบรทรมบกัญารญกัตฤิแษหฎกี่งกา ฎหมายอัน
สาํ นักวง่าาดนค้วยณคะกวรารมมรกับาผรกิดฤขษอฎงีกบาุคคลในทางแสพําน่งกั โงดายนไคมณ่ตะ้อกงรครมํากนาึงรถกึงฤวษ่าฎจีกําาเลยต้องคําพิพสําานกักษงาานวค่าไณดะ้กกรระรมทกําารกฤษฎีกา
ความผิดหรอื ไม่
สรําานคกั างทานรคัพณยะ์สกินรรทมี่สกั่งาใรหกฤ้จษําฎเลกี ยาใช้แก่ผู้เสียหสาํานยกั ใงหาน้ศคาณละกกํารหรมนกดาตรกาฤมษรฎาีกคาาอันแท้จริง
ส่วนจํานวนเงนิ ค่าสนิ ไหมทดแทนอย่างอ่นื ทผี่ ู้เสียหายจะได้รับน้ัน ให้ศาลกําหนดให้ตามความเสียหาย
สํานักแงตาน่ตค้อณงไะมก่เรกรินมคกาํารขกอฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สมําานตักรงาาน๔คณ๘ะกเรมรื่อมศกาารลกพฤิพษฎากกี าษาให้คืนทรัพสยําน์สักินงาแนตค่ยณังะไกมร่ปรมรากการฏกตฤัวษเฎจีก้าาของ เม่ือใด
ปรากฏตวั เจา้ ของแลว้ ให้เจา้ หน้าทีซ่ ง่ึ รกั ษาของคนื ของน้ันใหแ้ ก่เจ้าของไป
สาํ นักงานคณะกรรมการกในฤกษรฎณีกาีท่ีปรากฏตัวเสจํา้านขกั องงานใคหณ้ศะากลรพริพมกาการษกาฤสษั่งฎใีกหา้เจ้าหน้าท่ีซึ่งรสักําษนักาขงาอนงคคณืนะขกอรงรนมก้ันารกฤษฎีกา
ให้แก่เจา้ ของไป สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
เมื่อมีการโต้แย้งกัน ให้บุคคลที่อ้างว่าเป็นเจ้าของอันแท้จริงในทรัพย์สินนั้น
สาํ นกั ฟง้าอนงคเรณียะกกรรร้อมงกยาังรศกฤาษลฎทีกี่มาีอํานาจชําระสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมาํ านตักรงาาน๔ค๙ณะกแรมร้จมะกไามรก่มฤีฟษ้อฎงกีคาดีส่วนแพ่งก็ตสาํามนักเมงาื่อนพคิพณาะกกษรรามคกดาีสร่วกนฤษอฎาญกี าา ศาลจะสั่ง
ให้คืนทรัพย์สินของกลางแกเ่ จ้าของกไ็ ด้
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
มาตรา ๕๐๑๘ ในกรณีที่ศาลสั่งให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์สิน หรือค่าสินไหมทดแทน
แก่ผู้เสียหายตามสมาํ นาตักงราานค๔ณ๓ะกมรารตมรกาาร๔ก๔ฤษหฎรกี ือา มาตรา ๔๔/ส๑ํานใักหงา้ถนือควณ่าะผกู้เรสรียมหกาายรกนฤั้นษเฎปกี ็นาเจ้าหนี้ตาม
คําพิพากษา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมําานตักงราานค๕ณ๑ะ๑ก๙รรมถก้าาไรมก่มฤีผษู้ใฎดีกฟา ้องทางอาญสาํานสักิทงาธนิขคอณงะผกู้เรสรียมหกาารยกทฤี่จษฎะฟีกา้องทางแพ่ง
เนื่องจากความผิดนั้นย่อมระงับไปตามกําหนดเวลาดังท่ีบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญาเรื่องอายุ
สาํ นกั คงวานามคฟณอ้ะกงครรดมีอกาาญรกาฤแษมฎถ้ีกงึาวา่ ผู้เยาว์หรือสผํานู้วิกกั ลงาจนรคิตณในะกมรารตมรกาาร๑ก๙ฤษ๓ฎ/๒กี า๐ แห่งประมวสลํากนฎักงหามนาคยณแะพก่งรรแมลกะารกฤษฎกี า
พาณชิ ย์จะเปน็ ผู้ฟอ้ งหรือไดฟ้ ้องตา่ งหากจากคดอี าญาก็ตาม
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๑๗ มาตรา ๔๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานกั คงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกบั าทรี่ก๒ฤ๔ษ)ฎพกี .ศา. ๒๕๔๘ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๘ มาตรา ๕๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบบั ทส่ี ๒าํ น๔ัก) งพา.นศค. ๒ณ๕ะ๔กร๘รมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๑๙ มาตรา ๕๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักคงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกบั าทร่ีก๒ฤ๔ษ)ฎพีก.ศา. ๒๕๔๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๐ - สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถา้ คดอี าญาใดได้ฟ้องต่อศาลและได้ตัวผู้กระทําความผิดมายังศาลด้วยแล้ว แต่คดียัง
สํานักไงมาเ่นดค็ดณขะากดรรอมากยาุครวกาฤมษซฎ่งึ ีกผาเู้ สยี หายมีสทิ สธําิจนะักฟง้อานงคคดณีแะพกร่งรยม่อกมาสรกะฤดษุดฎหกี ยาดุ ลงตามมาตรสาําน๙ัก๕งาแนหคณ่งปะรกะรมรมวกลารกฤษฎีกา
กฎหมายอาญา
สถํา้านโกั จงทานกค์ไดณ้ฟะ้อกรงรคมดกีอาารญกฤาษแฎลีกะาศาลพิพากษาสลํางนโักทงษานจคําเณละยกจรนรมคกดาีเรดก็ดฤขษาฎดกี แาล้วก่อนที่ได้
ฟ้องคดีแพ่ง สิทธิของผู้เสียหายที่จะฟ้องคดีแพ่งย่อมมีตามกําหนดอายุความในมาตรา ๑๙๓/๓๒ แห่ง
สาํ นกั ปงรานะคมณวละกกรฎรหมมกาายรกแฤพษง่ ฎแกีลาะพาณชิ ย์ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ก่อนท่ีได้ย่ืนฟ้องคสถดํา้านีแโักพจง่งทานกสค์ิทฟณธ้อะิขงกอครงรดผมีอู้เกสาาญียรกหาฤาแษยลฎจะกีะศาฟา้อลงพคิพดีแากพษ่งยาส่อยํามกนมฟกั ีอง้อาางนยปคุคลณว่อาะกมยรตจรําามมเกลปายรรจกะฤนมษควฎลดกีกีเาดฎ็ดหขมาาดยแแพล้ว่ง
สาํ นกั แงลานะคพณาณะกชิ รยร์มการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี ลาักษณะ ๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
หมายเรียกและหมายอาญา
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหมวด ๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมายเรยี ก สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๒ การท่ีจะให้บุคคลใดมาที่พนักงานสอบสวนหรือมาท่ีพนักงานฝ่าย
สํานกั ปงกานคครณอะงกหรรรือมตกําารรกวฤจษชฎ้ันีกผาู้ใหญ่หรือมาศสาํานลักเงนานื่อคงใณนะกการรรมสกอาบรสกฤวษนฎกีกาารไต่สวนมูลฟส้อํานงกักางารนพคิจณาะรกณรารมคกดาี รกฤษฎีกา
หรือการอย่างอ่ืนตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ จักต้องมีหมายเรียกของพนักงานสอบสวน
หรอื พนักงานฝา่ ยสปาํ กนคกั งราอนงคหณรอืะกตรํารรมวกจาชร้ันกฤผษู้ใหฎญีกาห่ รอื ของศาลสแําลน้วกั แงาตน่กครณณะี กรรมการกฤษฎีกา
แต่ในกรณีที่พนักงานสอบสวนหรือพนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจชั้นผู้ใหญ่ไป
สํานักทงําานกคาณระสกอรบรมสกวานรกดฤ้วษยฎตกี นา เอง ย่อมมสีอําํานนักางาจนทคี่จณะะเกรรียรมกกผาู้ตรก้อฤงษหฎาีกหารือพยานมาสไําดน้โักดงยานไมคณ่ตะ้อกงรอรมอกการกฤษฎกี า
หมายเรียก สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๓ หมายเรยี กต้องทาํ เปน็ หนงั สือและมขี ้อความ ดงั ต่อไปนี้
สํานกั งานคณะกรรมการก(๑ฤ)ษสฎถกี าานทที่ ่ีออกหมสาํายนกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส(๒ําน)กั วงันานเดคอืณนะปกรีทรี่อมอกการหกมฤาษยฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
(๓) ช่ือและตาํ บลทอ่ี ยูข่ องบคุ คลทีอ่ อกหมายเรียกใหม้ า
สํานักงานคณะกรรมการก(๔ฤ)ษเฎหกี ตาุที่ต้องเรียกผูน้สําัน้ นมักางานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
(๕) สถานที่ วันเดอื นปแี ละเวลาทจี่ ะใหผ้ ้นู ั้นไปถงึ
ส(าํ๖น)ักลงาานยคมณือะชกื่อรแรมลกะาปรกระฤษทฎับกี ตาราของศาล หสํารนือักลงาายนมคณือชะกื่อรแรลมะกตารํากแฤหษนฎ่งกี เาจ้าพนักงาน
ผู้ออกหมาย
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
มาตรา ๕๔ ในการกําหนดวันและเวลาที่จะให้มาตามหมายเรียกนั้น ให้พึงระลึกถึง
ระยะทางใกล้ไกลสเําพนื่อักงใหานผ้ คถู้ ณกู ะเรกยีรรกมมกีโาอรกกาฤสษมฎาีกถางึ ตามวันเวลาสกําํานหักนงาดนใคนณหะมการยรมการกฤษฎกี า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
- ๒๑ - สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๕๕ การส่งหมายเรียกแก่ผู้ต้องหา จะส่งให้แก่บุคคลผู้อ่ืนซึ่งมิใช่สามีภริยา
สาํ นกั ญงาานตคิหณระอื กผรปู้ รกมคการรอกงฤขษอฎงีกผารู้ ับหมายรับแสทํานนนักน้ังาไนมคไ่ ดณ้ ะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สมําานตักรงาาน๕ค๕ณ/ะ๑กร๒ร๐มกใานรคกดฤีพษฎนีกักางานอัยการเปส็นํานโจกั ทงากน์ คถณ้าศะกาลรรมมีคกําาสรกั่งใฤหษ้อฎอกี กาหมายเรียก
พยานโจทก์โดยมิได้กําหนดวิธีการส่งไว้ ให้พนักงานอัยการมีหน้าท่ีดําเนินการให้หัวหน้าพนักงาน
สํานักสงอานบคสณวนะกแรหร่งมทก้อารงกทฤ่ีเษปฎ็นกี ผาู้จัดส่งหมายเรสียํากนกัแงกา่พนยคาณนะแกลรระมตกิดาตรกามฤษพฎยกีาานโจทก์มาศาลสตําานมักกงาํานหคนณดะนกัดรรแมลก้วารกฤษฎกี า
ไแมจ่อง้ ผาลจกมาารศสา่งลหไมดาส้หยํารนเืรอักยีเงกกานรไปงควยณ่างั ะจศกะารลเรปมแ็นกลาะกรพากรนฤยษักาฎงกากี นทาอี่จยัะกนาํารพโดยยาเนรสน็วําั้นนหกัมางากาสปนืบคราณตกาะฏมกวรทร่า่ีศมพากยลาารนนกัดโฤจไษวทฎ้ กกีก์มา็ใีเหห้พตนุขักัดงขา้อนง
สาํ นักองยัานกคารณขะอกใรหรมศ้ กาาลรสกืบฤพษยฎากี นานน้ั ไว้ล่วงหนสา้ ําตนากั มงมานาคตณราะก๑ร๗รม๓ก/า๒รกวฤรษรฎคกี สาอง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เจ้าพนักงานผู้ส่งหมายเรียกมีสิทธิได้รับค่าใช้จ่ายตามระเบียบที่กระทรวงยุติธรรม
กาํ หนดโดยได้รับคสําวนากัมงเาหนน็ คชณอะบกจรารกมกระารทกรฤวษงฎกีการาคลัง สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สาํ นักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรกีาา๕๖ เม่ือบุคสคํานลกัทง่ีราับนคหณมะากยรเรรมียกกาอรกยฤู่ตษ่าฎงีกทา้องท่ีกับท้องทส่ีซาํ นึ่งักองอากนหคณมาะกยรรเปมก็นารกฤษฎกี า
หมายศาลก็ให้ส่งไปศาล เป็นหมายพนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจให้ส่งยังพนักงานฝ่ายปกครอง
หรือตํารวจท่ีมีอําสนาํ านจักองอานกคหณมะากยรเรรมียกกาซร่ึงกผฤู้ถษูกฎเีกราียกอยู่ในท้องสทํา่ี นเมกั ื่องาศนาคลณหะรกือรพรมนกักางรากนฤฝษ่าฎยีกปากครองหรือ
ตํารวจไดร้ ับหมายเชน่ น้ันแลว้ ก็ให้สลักหลงั หมายแล้วจดั การส่งแกผ่ ู้รับต่อไป สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี าหมวด ๒ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
หมายอาญา
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาส่วนที่ ๑ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
หลักทว่ั ไป
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมําานตักรงาาน๕คณ๗ะ๒ก๑รรภมากยาใรตก้ฤบษังฎคกีับาแห่งบทบัญญสัตํานิในักมงาานตครณาะ๗กร๘รมมกาาตรกรฤาษ๗ฎ๙ีกามาตรา ๘๐
มาตรา ๙๒ และมาตรา ๙๔ แห่งประมวลกฎหมายนี้ จะจับ ขัง จําคุก หรือค้นในท่ีรโหฐานหาตัวคน
สาํ นกั หงรานอื คสณิง่ ขะอกงรตรมอ้ กงามรีคกําฤสษ่งั ฎหีกราือหมายของศสาําลนสักาํ งหานรบัคณกาะรกนรรน้ั มการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สบําุคนคักงลาซนึง่ คตณอ้ ะงกขรงั รหมรกอื าจรกาํ คฤษุกฎตกีามา หมายศาล จสะําปนลกั อ่งายนไคปณไดะ้กกรเ็ มรมื่อกมาหี รมกาฤยษปฎลกี อ่า ยของศาล
สาํ นกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎรกีาา๕๘๒๒ ศาลสมําีอนํากั นงาานจคอณอะกกครํารมสก่ังหารรกือฤหษมฎกีายา อาญาได้ภายสําในนักเขงาตนอคําณนะากจรตรมากมารกฤษฎีกา
หลักเกณฑ์และวิธกี ารที่กาํ หนดในขอ้ บังคบั ของประธานศาลฎีกา
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๒๐ มาตรา ๕๕/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานกั คงวาานมคอณาะญการร(มฉกบาับรทกี่ฤ๒ษ๒ฎ)กี พา.ศ. ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๑ มาตรา ๕๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบบั ทส่ี ๒ําน๒ัก) งพา.นศค. ๒ณ๕ะ๔กร๗รมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๒๒ มาตรา ๕๘ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานกั คงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกับาทร่ีก๒ฤ๒ษ)ฎพกี .ศา. ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๒ - สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรีกาา๕๙๒๓ ศาลจสะํานอกัองกาคนคําสณ่ังะหกรรรือมหกมารากยฤจษับฎหีกามายค้น หรือหสํามนาักยงขานังคตณาะมกทร่ีรศมากลารกฤษฎีกา
เห็นสมควรหรอื โดยมีผูร้ ้องขอกไ็ ด้
สใาํนนกกั รงาณนีทคณี่ผู้ะรก้อรงรขมอกเาปรก็นฤพษนฎัีกกางานฝ่ายปกคสรําอนกังงหารนือคตณําะรกวรรจมกตา้อรงกเฤปษ็นฎพีกานักงานฝ่าย
ปกครองตัง้ แตร่ ะดบั สามหรอื ตาํ รวจซึง่ มยี ศตั้งแตช่ ั้นร้อยตาํ รวจตรีหรือเทยี บเทา่ ขึ้นไป
สาํ นกั งานคณะกรรมการกในฤกษรฎณีกาีจําเป็นเร่งด่วสนําซน่ึงักมงีเาหนตคุอณันะคกรวรรมโดกายรผกู้รฤ้อษงฎขีกอาไม่อาจไปพบศสาํานลักไดงา้ นผคู้ร้อณงะขกอรรอมากจารกฤษฎีกา
รเห้อมงาขะอสตม่อเศพาื่อลขทอาใสหงาํ โน้ศทัการลงศาอนัพอคทกณห์ โะมทการรยรสมจากบั ราหรสรก่ือือฤอหษิเมฎลกีา็กยาทครน้ อกน็ไดิก้สใ์นหกรสรือณําสนเี่ือักชงเ่นทาวนค่าคโนณน้เี ะโมลกอ่ื รยศรีสามาลกรสาสรอกนบฤเถทษาฎศมีกปจารนะปเภราทกอฏ่ืนวท่าี่
สํานกั มงีเาหนตคุทณี่จะกะรอรอมกกหารมกาฤยษจฎับกี หารือหมายค้นไสดํา้ตนากั มงามนาคตณระาก๕รร๙ม/ก๑ารแกลฤะษมฎีคีกําาส่ังให้ออกหมสาาํ ยนนักั้นงาแนลค้วณใะหก้จรรัดมสก่งารกฤษฎกี า
สําเนาหมายเช่นว่านี้ไปยังผู้ร้องขอโดยทางโทรสาร สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ
ประเภทอ่นื ท้ังนส้ี าํตนากั มงหานลคักณเกะณกรฑร์แมลกะารวกธิ ฤีกษาฎรทกี าี่กําหนดในขอ้ บสํางั นคกั ับงขานอคงปณระะกธรารมนกศาารลกฎฤีกษาฎกี า
เมื่อได้มีการออกหมายตามวรรคสามแล้ว ให้ศาลดําเนินการให้ผู้ท่ีเก่ียวข้องกับการ
สํานกั ขงอานหคมณายะกมรารพมบกาศรากลฤเษพฎื่อีกสาาบานตัวโดยไสมําน่ชกัักงชา้านคโดณยะจกดรรบมันกทารึกกถฤ้อษยฎคีกําาของบุคคลดังสกาํลน่าักวงแาลนะคลณงะลการยรมมกือารกฤษฎีกา
ชื่อของศาลผู้ออกหมายไว้ หรือจะใช้เครื่องบันทึกเสียงก็ได้โดยจัดให้มีการถอดเสียงเป็นหนังสือ
และลงลายมือชื่อสขาํ นอักงงศาานลคผณู้อะอกกรรหมมกาายรกบฤษันฎทกี ึกาที่มีการลงลาสยํามนือักงชาื่อนรคับณระอกงรดรมังกกาลร่ากวฤแษลฎ้วีกาให้เก็บไว้ใน
สารบบของศาล หากความปรากฏต่อศาลในภายหลังว่าได้มีการออกหมายไปโดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติ
สาํ นักแงหาน่งคกณฎะหกมรารยมกศารากลฤอษาฎจีกมาีคําส่ังให้เพิกถสอํานนักหงรานือคแณก้ะไขกรเปรมลก่ียานรกแฤปษลฎงกีหามายเช่นว่าน้ันสไําดน้ักงทาน้ังนค้ีณศะากลรจรมะกมาี รกฤษฎีกา
คําสั่งให้ผู้ร้องขอจสัดาํ นกกัางราแนกค้ไณขเะพกื่อรรเมยกียาวรยกาฤคษวฎาีกมาเสียหายที่เกิดสขํา้ึนนกัแงกา่บนุคคคณละทกรี่เกรม่ียกวาขร้อกงฤตษาฎมีกทาี่เห็นสมควร
ก็ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
มาตรา ๕๙/๑๒๔ ก่อนออกหมาย จะต้องปรากฏพยานหลักฐานตามสมควรท่ีทําให้
ศาลเชอื่ ได้วา่ มีเหสตําทุ น่จี ักะงอานอคกณหะมการยรตมากมารมกาฤตษรฎากี ๖า๖ มาตรา ๖๙สําหนักรอืงามนาคตณระาก๗รร๑มการกฤษฎกี า
คําสงั่ ศาลให้ออกหมายหรือยกคําร้อง จะตอ้ งระบุเหตุผลของคาํ ส่งั น้ันดว้ ย
สาํ นักงานคณะกรรมการกหฤลษักฎเีกกาณฑ์ในการย่ืนสคํานําักรง้อางนขคอณะกการรรพมิจกาารรกณฤาษฎรกีวามท้ังการออกสคําํานสักั่งงใาหน้เคปณ็นะไกปรตรมากมารกฤษฎกี า
หลักเกณฑ์และวธิ กี ารที่กําหนดในข้อบงั คับของประธานศาลฎกี า
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๐๒๕ หมายจับ หมายค้น หมายขัง หมายจําคุก หรือหมายปล่อย ต้องทํา
สาํ นกั เงปา็นนหคณนังะสกือรรแมลกะามรกีขฤ้อษคฎวกีามา ดงั ตอ่ ไปน้ี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
ส(๑าํ น)ักสงถานาคนณทะี่ทกีอ่ รอรกมหกามรากยฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
(๒) วนั เดือนปที ่ีออกหมาย
สาํ นกั งานคณะกรรมการก(๓ฤ)ษเฎหีกตาทุ ี่ต้องออกหมสาํานยักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) (ก) ในกรณอี อกหมายจบั ตอ้ งระบุชื่อหรือรูปพรรณของบคุ คลที่จะถกู จบั
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๒๓ มาตรา ๕๙ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สาํ นักคงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกบั าทร่ีก๒ฤ๒ษ)ฎพีก.ศา. ๒๕๔๗ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๒๔ มาตรา ๕๙/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับสทําี่ น๒ัก๒ง)านพค.ศณ. ะ๒ก๕รร๔ม๗การกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๕ มาตรา ๖๐ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักคงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกบั าทร่ีก๒ฤ๒ษ)ฎพีก.ศา. ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
- ๒๓ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
(ข) ในกรณีออกหมายขัง หมายจําคุก หรือหมายปล่อย ต้องระบุช่ือบุคคลที่จะ
สํานกั ถงูกานขคงั ณจะํากครุกรมหกราือรปกฤลษ่อฎยกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
(ค) ในกรณีออกหมายค้น ให้ระบุสถานท่ีท่ีจะค้น และชื่อหรือรูปพรรณบุคคล
หรอื ลกั ษณะสิง่ ขอสงํานทกั่ีตง้อางนกคาณระคก้นรรกมํากหารนกดฤวษันฎเีกวลา าท่ีจะทําการสคําน้นกั แงาลนะคชณื่อะกกับรตรมํากแาหรนกฤ่งขษอฎงีกเาจ้าพนักงาน
ผู้จะทําการคน้ นน้ั
สาํ นักงานคณะกรรมการก(๕ฤ)ษฎ(กกี )าในกรณีออกสหํามนาักยงาจนับคณหะมการยรขมังกาหรกรฤือษหฎมีกาายค้นให้ระบุคสวาํ านมักผงิดานหคณรือะกวิรธรีกมากรารกฤษฎกี า
เพอื่ ความปลอดภสัยํานัก(งขา)นใคนณกะรกณรรีอมอกกาหรกมฤาษยฎจีกาํ คา ุก ใหร้ ะบคุ วสาํามนผกั ดิ งแานลคะณกาํะหกรนรดมโกทาษรกตฤาษมฎคกีาํ าพพิ ากษา
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษ(ฎคีก)าในกรณอี อกหสมํานาักยงขาังนหครณอื ะหกมรารมยจกาํารคกกุ ฤษใหฎร้ีกะาบุสถานทที่ ี่จะสใาํ หนข้ักงังหานรคือณจาํะกครุกรมการกฤษฎีกา
(ง) ในกรณีออกหมายปลอ่ ย ใหร้ ะบเุ หตุท่ีให้ปลอ่ ย
ส(๖าํ น)กั ลงาานยคมณอื ชะกอ่ื รแรลมะกปารรกะฤทษบั ฎตีกราาของศาล สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สาํ นักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรีกาา๖๑๒๖ ภายสใําตน้บกั ังงาคนับคแณหะ่งกมรรามตกราารก๙ฤษ๗ฎพีกานักงานฝ่ายปสกาํ คนัรกองางนหครณือะตกํารรรมวกจารกฤษฎกี า
มีอาํ นาจหนา้ ทจี่ ดั การใหเ้ ปน็ ไปตามหมายอาญา ซึง่ ไดม้ อบหรือส่งมาให้จัดการภายในอาํ นาจของเขา
สหํามนักายงาอนาคญณาะใกดรซร่ึงมศกาาลรกไดฤษ้อฎอกีกาจะมอบหรือสสํา่งนไปักงยาังนพคนณักะงการนรมฝก่าายรปกกฤคษรฎอกี งาหรือตํารวจ
ซ่ึงอยู่ภายในเขตอํานาจของศาลดังระบุในหมาย หรือแก่หัวหน้าพนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจ
สํานกั ปงรานะคจําณจะังกหรวรมดั กอารํากเภฤอษฎกีกง่ิ าอาํ เภอ หรือตสําําบนลักงซาง่ึนจคะณใหะก้จรัดรกมากราใรหกฤ้เปษ็นฎไีกปาตามหมายน้ันสกํา็ไนดัก้ งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สใํานนกกั รงณานีหคลณังะเกจร้ารพมกนาักรงกาฤนษผฎู้ีกไดา้รับหมายต้อสงํารนับกั ผงาิดนชคอณบะใกนรกรมากราจรัดกกฤาษรฎตกี าามหมายนั้น
จะจัดการเองหรอื สงั่ ใหเ้ จ้าพนกั งานรองลงไปจัดการให้ก็ได้ หรือจะมอบหรือส่งสําเนาหมายอันรับรอง
สาํ นกั วง่าาถนูกคตณ้อะงกใรหรแ้มกกา่พรนกักฤงษาฎนกี ฝาา่ ยปกครองหสรําือนตกั ํางรานวจคคณนะกอร่ืนรซมึ่งกมารีหกนฤ้าษทฎี่จกี ัดาการตามหมาสยาํซน่ึงักตงนานไดค้รณับะนก้ันรรกม็ไกดา้ รกฤษฎีกา
ถ้าหมายนน้ั ไดม้ อบหรอื ส่งให้แก่เจ้าพนักงานตั้งแต่สองนายขึ้นไป เจ้าพนักงานจะจัดการตามหมายน้ัน
แยกกันหรอื รว่ มกสันํากนไ็ักดง้านคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สาํ นักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรกีาา๖๒ ภายใต้บสําังนคกั ับงแานหค่งณบะทกบรัรญมญกาัตริทก้ังฤหษลฎาีกยาในประมวลกสฎาํ นหักมงาายนนคณี้ซ่ึงะวก่ารดรม้วกยารกฤษฎกี า
การจับและค้น เจ้าพนักงานผู้จัดการตามหมายน้ันต้องแจ้งข้อความในหมายให้แก่ผู้เก่ียวข้องทราบ
และถา้ มีคาํ ขอร้อสงําในหักส้ งง่านหคมณายะกนรั้นรใมหกเ้ าขรากตฤรษวฎจีกดาู สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
การแจ้งข้อความในหมาย การส่งหมายให้ตรวจดูและวันเดือนปีที่จัดการเช่นนั้น
สํานกั ใงหา้บนคันณทะึกกไรวร้ใมนกหามรกาฤยษนฎั้นกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สมําานตักรงาาน๖ค๓ณ๒ะ๗กรเรมมอ่ืกเาจรา้กพฤษนฎักีกงาานไดจ้ ดั การตสาํามนหักมงาานยคอณาญะการแรลม้วกาใรหก้บฤันษทฎีกึการายละเอียด
สํานกั ใงนากนาครณจะัดกกรรามรกนา้ันรกถฤ้าษจฎัดกี กาารตามหมายสไํามน่ไักดง้ าในหค้บณันะทกึกรรพมฤกตาริกกาฤรษณฎ์ไีกวา้ แล้วให้ส่งบันสทํานึกักนงั้นานไปคยณังะศการรลมซกึ่งารกฤษฎกี า
ออกหมายโดยเร็ว
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๖ มาตรา ๖๑ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบบั ทส่ี ๒ําน๒ัก) งพา.นศค. ๒ณ๕ะ๔กร๗รมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๒๗ มาตรา ๖๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สาํ นกั คงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกบั าทรี่ก๒ฤ๒ษ)ฎพีก.ศา. ๒๕๔๗ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๔ - สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
มาตรา ๖๔๒๘ ถ้าบุคคลท่ีมีชื่อในหมายอาญาถูกจับ หรือบุคคลหรือส่ิงของท่ีมีหมาย
สํานกั ใงหา้คน้คนณไดะ้คก้รนรพมบกาแรลก้วฤษถฎ้ากีสาามารถจะทําสไดําน้กัก็ใหงา้สน่งคบณุคะคกลรรหมรกือาสรกิ่งฤขษอฎงนกี า้ันโดยด่วนไปยสังาํ ศนาักลงาซน่ึงคอณอะกกหรรมมากยารกฤษฎีกา
หรือเจา้ พนักงานตามทกี่ ําหนดไวใ้ นหมาย แล้วแตก่ รณี เว้นแต่จะมีคาํ สง่ั เป็นอยา่ งอื่น
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๕ ถา้ บุคคลที่ถูกจับตามหมายหลบหนีหรือมีผู้ช่วยให้หนีไปได้เจ้าพนักงาน
สํานกั ผง้จูานับคมณีอะาํ กนรารจมตกิดาตรกาฤมษจฎบั ีกกาุมผู้น้นั โดยไม่ตสํา้อนงักมงหี ามนาคยณอะีกกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี าสว่ นท่ี ๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานหคมณาะยกจรับรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๖๖๒๙ เหตุท่ีจะออกหมายจบั ได้มีดังต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการก(๑ฤ)ษฎเมีก่ือามีหลักฐานตสาํามนสกั มงคานวครณว่าะบกรุครคมลกใาดรกนฤ่าษจฎะีกไดา้กระทําความสผาํ ินดักองาาญนคาซณึ่งะมกีอรรัตมรกาารกฤษฎกี า
โทษจาํ คุกอย่างสงู เกนิ สามปี หรือ
ส(าํ๒น)ักเงมา่ืนอคมณีหะลกักรฐรามนกตารากมฤสษมฎคกี วารว่าบุคคลใดสนํา่านจกั ะงาไนดค้กณระะกทรํารคมวกาามรกผฤิดษอฎาีกญาาและมีเหตุ
อนั ควรเช่ือวา่ จะหลบหนี หรอื จะไปยุ่งเหยงิ กบั พยานหลักฐาน หรือกอ่ เหตุอนั ตรายประการอน่ื
สาํ นกั งานคณะกรรมการกถฤ้าษบฎุคีกคาลนั้นไม่มีท่ีอยสู่เําปน็นกั งหาลนักคแณหะกลร่งรหมกราือรไกมฤ่มษาฎตกี าามหมายเรียกหสาํรนือักตงาามนนคณัดโะดกยรรไมมก่มาี รกฤษฎีกา
ข้อแก้ตวั อนั ควร ใสหาํ น้สกัันงนาิษนคฐณานะวก่ารบรมุคกคาลรกนฤัน้ ษจฎะกีหาลบหนี สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สาํ นกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎรากี า๖๗ จะออกหสมํานากัยงจาับนบคณคุ คะกลรทรย่ีมังกไามร่รก้จูฤักษชฎือ่ กี กาไ็ ด้แตต่ ้องบอสกาํ รนูปักพงารนรคณณขะอกงรผรู้นมก้ันารกฤษฎกี า
ใหล้ ะเอียดเท่าทจ่ี ะทาํ ได้
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
มาตรา ๖๘๓๐ หมายจับคงใช้ได้อยู่จนกว่าจะจับได้ เว้นแต่ความผิดอาญาตามหมาย
สาํ นกั นง้ันานขคาณดอะการยรคุ มวกาามรหกฤรษอื ฎศีกาลาซ่งึ ออกหมายสนําน้นั กั ไงดา้ถนอคนณหะมการรยมคกืนารกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี าสว่ นท่ี ๓ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า หมายคน้ สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
มาตรา ๖๙ เหตทุ ี่จะออกหมายค้นไดม้ ีดงั ต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการก(๑ฤ)ษฎเพกี ื่อา พบและยึดสสิ่งําขนอกั งงาซนึ่งคจณะเะปกร็นรพมยกาารนกหฤลษักฎฐีกาานประกอบกาสราํ นสักองบานสควณนะไกตร่สรมวกนารกฤษฎกี า
มูลฟ้องหรือพจิ ารณา
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๒๘ มาตรา ๖๔ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานกั คงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกับาทร่ีก๒ฤ๒ษ)ฎพีก.ศา. ๒๕๔๗ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๒๙ มาตรา ๖๖ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับทสี่ ๒าํ น๒ัก) งพา.นศค. ๒ณ๕ะ๔กร๗รมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๓๐ มาตรา ๖๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สาํ นักคงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกบั าทรี่ก๒ฤ๒ษ)ฎพกี .ศา. ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๕ - สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) เพื่อพบและยึดสิ่งของซึ่งมีไว้เป็นความผิด หรือได้มาโดยผิดกฎหมาย หรือมีเหตุ
สํานกั องนัานคควณรสะงกสรรยั มวก่าาไรดกใ้ ชฤษห้ ฎรอืีกาตัง้ ใจจะใชใ้ นกสาํารนกกั รงะานทคําณควะกามรรผมดิ การกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
(๓) เพ่ือพบและชว่ ยบคุ คลซึง่ ได้ถกู หนว่ งเหน่ยี วหรือกักขังโดยมชิ อบดว้ ยกฎหมาย
ส(๔าํ น)กั เงพาือ่นพคณบบะกุครครลมซกา่งึ รมกหี ฤมษาฎยกี ใาห้จับ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) เพ่ือพบและยึดสิ่งของตามคําพิพากษาหรือตามคําส่ังศาล ในกรณีท่ีจะพบหรือ
สาํ นักจงะานยดึคณโดะยกวรธิรีอม่นืกาไรมกไ่ ฤดษ้แฎลกีว้ า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สมาํ านตกั รงาาน๗คณ๐ะกหรรมมากยาครก้นฤซษ่ึงฎอกี อากเพื่อพบแลสะําจนับักบงาุคนคคลณนะ้ันกรหร้ามมกมาริใกหฤ้อษอฎกกี าเว้นแต่จะมี
สํานกั หงมานาคยณจับะกบรุครคมลกนาร้นั กดฤว้ษยฎีกแาละเจ้าพนกั งาสนําซน่งึกั จงาะนจคดั ณกะากรรตรามมกหามรกาฤยษคฎน้ กีนาั้นต้องมที ้งั หมสาํายนคัก้นงแานลคะณหมะการยรจมบั การกฤษฎีกา
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี าส่วนท่ี ๔ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
หมายขงั หมายจาํ คุก หมายปล่อย
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมําานตักรงาาน๗คณ๑ะ๓ก๑รรเมมกื่อาไรดก้ตฤษัวผฎู้ีกตา้องหาหรือจําสเลํานยกัมงาาแนลค้วณะใกนรรระมยกะารใกดฤรษะฎหีกวา่างสอบสวน
ไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณา ศาลจะออกหมายขังผู้ต้องหาหรือจําเลยไว้ตามมาตรา ๘๗ หรือมาตรา ๘๘
สํานกั กงไ็าดน้คแณละะกใหรรน้ มํากบาทรกบฤญั ษญฎกี ตั าใิ นมาตรา ๖๖สํามนาักใงชา้บนังคคณับะโกดรยรอมนกาุโรลกมฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สหาํ มนาักยงขานงั คคงณใชะไ้กดร้อรยมจู่กนารกกวฤา่ ษศาฎลกี จาะไดเ้ พกิ ถอน โสดํายนอักองกาหนมคาณยะปกลร่อรยมหกราือรกอฤอษกหฎมีกาายจาํ คกุ แทน
ถ้าความปรากฏแก่ศาลว่าผู้ต้องหาหรือจําเลยนั้นมีอายุไม่ถึงสิบแปดปีหรือเป็น
สาํ นักหงญานิงคมณีคะรกรรภรม์หกราือรกเพฤิ่งษคฎลีกอา ดบุตรมาไมส่ถําึงนสกั างมานเดคือณนะกหรรรมือกเจาร็บกปฤ่วษยฎซกี ึา่งถ้าต้องขังจะสถําึงนอักันงาตนรคาณยะแกกร่ชรมีวกิตารกฤษฎีกา
ศาลจะไม่ออกหมายขังหรือจะออกหมายปล่อยผู้ต้องหาหรือจําเลยซึ่งถูกขังอยู่นั้นก็ได้ แต่ทั้งนี้
ไม่ห้ามศาลที่จะมสีคาํ นําักสงั่งาในหค้ผณู้นะั้นกอรรยมู่ใกนาครวกาฤมษดฎูแกี าลของเจ้าพนักสงําานนกั งหารนือคบณุคะคกรลรทมี่ยกินารยกอฤมษรฎับกี ผาู้น้ันไว้ หรือ
กําหนดวธิ ีการอยา่ งหนึ่งอยา่ งใดเพื่อปอ้ งกันการหลบหนหี รือความเสยี หายท่อี าจเกิดข้นึ ถ้าศาลมีคําส่ัง
สาํ นกั เงชา่นนวค่าณนะ้ีใกนรรระมหกาวร่ากงฤสษอฎบีกสาวน ให้ใช้ได้ไสมํา่เนกักินงหานกคเดณือะนกนรรับมแกตาร่วกันฤมษีคฎําีกสาั่ง แต่ถ้ามีคําสส่ังาํ ในนักรงะานหควณ่างะไกตร่สรมวกนารกฤษฎกี า
มูลฟ้องหรือระหว่างพิจารณา ให้ใช้ได้จนกว่าจะเสร็จการพิจารณา หากภายหลังท่ีศาลมีคําส่ัง
ผู้ต้องหาหรือจําเสลาํ ยนักนงั้นานไมค่ปณฏะกิบรัตรมิตกาามรวกิธฤีกษาฎรีกทา่ีกําหนดหรือสพํานฤักตงิกานาครณณะ์ไกดร้เรปมลก่ียารนกแฤปษลฎงีกไาป ให้ศาลมี
อาํ นาจเปลี่ยนแปลงคําสัง่ หรือพจิ ารณาออกหมายขงั ได้ตามทเ่ี ห็นสมควร สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมําานตกั รงาาน๗คณ๒ะกหรรมมากยาปรกลฤ่อษยฎผกี ู้ตา้องหาหรือจําสเําลนยักซงาึ่งนตค้อณงขะกังรอรยมู่ตกาารมกหฤมษาฎยีกศาาล ให้ออก
ในกรณีต่อไปน้ี
สํานักงานคณะกรรมการก(๑ฤ)ษเฎมีกอ่ื าศาลสัง่ ปลอ่ ยสชําัว่ นคกั รงาาวนคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
(๒) เมื่อพนักงานอัยการหรือพนักงานสอบสวนขอให้ศาลปล่อย โดยเห็นว่า
ไม่จาํ เป็นต้องขังสไําวน้รกั ะงหานวค่างณสะอกบรรสมวกนารกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
(๓) เมื่อพนักงานอัยการร้องต่อศาลว่าได้ยุติการสอบสวนแล้ว โดยคําสั่งไม่ฟ้อง
สํานักผงตู้ าน้อคงหณาะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓๑ มาตรา ๗๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สาํ นกั คงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกบั าทร่ีก๒ฤ๒ษ)ฎพกี .ศา. ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๖ - สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) เมอ่ื พนักงานอยั การไม่ฟ้องผู้ต้องหาในเวลาทีศ่ าลกาํ หนด
สํานักงานคณะกรรมการก(๕ฤ)ษฎเมกี ื่อาศาลไต่สวนมสูลําฟนัก้องงาแนลค้วณเหะก็นรวร่ามคกดารีไกมฤ่มษีมฎูลกี แาละสั่งให้ยกฟส้อํางนเักวง้นานแคตณ่เมะ่ือกโรจรมทกกา์ รกฤษฎกี า
ร้องขอและศาลเหน็ สมควรให้ขังจําเลยไวร้ ะหวา่ งอทุ ธรณฎ์ กี า
ส(าํ๖น)กั เงมาื่นอคโจณทะกก์รถรอมนกฟาร้อกงฤหษรฎือีกมาีการยอมควาสมําในนกั คงาดนีคควณาะมกผริดรมตก่อาสร่วกนฤษตฎัวกี หารือเมื่อศาล
พจิ ารณาแลว้ พพิ ากษาหรือมีคําส่งั ใหย้ กฟอ้ ง เว้นแตศ่ าลเห็นสมควรใหข้ ังจาํ เลยไว้ระหว่างอุทธรณฎ์ ีกา
สํานกั งานคณะกรรมการก(๗ฤ)ษฎเมีก่ือาศาลพิพากษสาําในหกั้ลงงาโนทคษณจะํากเรลรยมอกยาร่ากงอฤษ่ืนฎซกี่ึงาไม่ใช่โทษประสหําานรักชงีวานิตคจณําะคกุกรหรมรกือารกฤษฎกี า
ใใหห้ปอ้ ยลู่ภอ่ ายยชใ่ัวนคเรขาตวทโสด่ีอาํ ยนนั มกัมงกี กี าาํ ํานหหคนนณดดะวกถันรา้รเพโมทือ่กษาใรหอกจ้ยฤาํ่าษเงลฎอยกีื่นหานาั้นเงเินปค็น่าโปทรษับปสมรําาับนชเกั ํามงรื่อาะนจตคํา่อเณลศะยากไลรดร้เมสกียาคร่ากปฤษรับฎแีกลา ้ว หรือศาล
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๓ คดีใดอยู่ระหว่างอุทธรณ์ฎีกา ถ้าจําเลยต้องควบคุมหรือขังมาแล้ว
เท่ากับหรือเกินกสวํา่านกกั ํางาหนนคดณจะํากครรุกมหกราือรกกฤําษหฎนกี ดาจําคุกแทนตสาํามนคักํางพานิพคาณกะษกรารใมหก้ศารากลฤอษอฎกีกหา มายปล่อย
จําเลย เวน้ แตจ่ ะเหน็ สมควรเปน็ อย่างอน่ื ในกรณที โี่ จทก์อทุ ธรณฎ์ ีกาในทํานองขอใหเ้ พิม่ โทษ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
มาตรา ๗๔ ภายใต้บังคับแห่งมาตรา ๗๓ และ ๑๘๕ วรรค ๒ เมื่อผู้ใดต้อง
คําพิพากษาใหจ้ สําคํานกุ กั หงราอืนปคณระะหกรารรมชกวี าิตรหกรฤือษจฎะกี ตาอ้ งจาํ คุกแทนสคําน่าปักงราบั นคใหณ้ศะากลรรอมอกกาหรกมฤาษยฎจาํีกคากุ ผู้น้ันไว้
สาํ นักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรกี าา ๗๕ เมื่อผู้ตสํา้อนงักคงําานพคิพณาะกกษรรามใกหา้จรกําฤคษุกฎถีกูกาจําครบกําหสนําดนแักงลา้วนคหณระือกไรดรม้รักบารกฤษฎกี า
พระราชทานอภัยสโาํ ทนักษงใาหน้ปคลณ่อะกยรหรมรกือามรีกคฤําษวินฎีกิจาฉัยให้ปล่อยตสัวําไนปกั โงดายนมคีณเงะื่อกนรไรขมกหารรกือฤมษีกฎฎกี หามายยกเว้น
โทษหรอื โทษจําคกุ นั้นหมดไปโดยเหตุอนื่ ใหศ้ าลออกหมายปล่อยผนู้ ัน้ ไป
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๗๖ หมายขงั หมายจาํ คุก หรือหมายปลอ่ ย ต้องจดั การตามนนั้ โดยพลนั
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
ลักษณะ ๕
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า จบั สขํางั นกัจงําาคนกุ คณค้นะกปรรลม่อกยาชรกั่วคฤษราฎวีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา หมวด ๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานกั งจานบั คขณงั ะกจรํารคมุกการกฤษฎกี า
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎราีกา๗๗๓๒ หมายสจําับนใักหง้ใาชนไ้คดณ้ทะ่ัวกรรารชมอกาารณกาฤจษักฎรีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การจัดการตามหมายจับนั้นจะจัดการตามเอกสารหรือหลักฐานอย่างหน่ึงอย่างใด
ดังตอ่ ไปน้ีกไ็ ด้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
(๑) สําเนาหมายอันรับรองวา่ ถกู ต้องแลว้
สาํ นักงานคณะกรรมการก(๒ฤ)ษโฎทีกราเลขแจ้งวา่ ไดส้อําอนกกั หงามนาคยณแะลก้วรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓๒ มาตรา ๗๗ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สาํ นกั คงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกบั าทรี่ก๒ฤ๒ษ)ฎพีก.ศา. ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๗ - สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) สําเนาหมายที่ส่งทางโทรสาร สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือส่ือเทคโนโลยีสารสนเทศ
สํานกั ปงรานะคเภณทะอกนื่รรมทกงั้านรก้ี ตฤาษมฎหีกลา ักเกณฑ์และสวําิธนีกักางราทนีก่ คําณหะนกดรรในมกขา้อรบกงัฤคษับฎขกี อางประธานศาลสาํฎนกี ักางานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การจัดการตาม (๒) และ (๓) ใหส้ ่งหมายหรือสาํ เนาอันรับรองแล้วไปยังเจ้าพนักงาน
ผู้จดั การตามหมาสยาํโนดกัยงพานลคนั ณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรกีาา๗๘๓๓ พนักสงําานนักฝงา่านยคปณกะคกรรอรมงหการรือกตฤําษรฎวีกจาจะจับผู้ใดโดสยาํ ไนมัก่มงีหานมคาณยะจกับรหรมรกือารกฤษฎกี า
คําส่ังของศาลน้นั สไ(ม๑ํานไ่ )ดกั เ้งมเาว่ือน้นบคแุคณตคะ่ กลรนรั้นมไกดาก้รกระฤทษฎาํ คีกวาามผิดซงึ่ หน้าสดําังนไักดงบ้านญั คญณัตะไิกวร้ใรนมมกาาตรกรฤาษ๘ฎ๐กี า
สํานักงานคณะกรรมการก(๒ฤษ) ฎเมกี ื่าอพบบุคคลโดสํยานมักีพงาฤนตคิกณาะรกณรร์อมันกคารวกรฤสษงฎสกี ัยาว่าผู้น้ันน่าจะสาํกน่อักเงหาตนคุร้ณายะใกหรร้เมกกิดารกฤษฎีกา
ภยันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อ่ืนโดยมีเครื่องมือ อาวุธ หรือวัตถุอย่างอ่ืนอันสามารถอาจใช้
ในการกระทําควาสมําผนดิักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
(๓) เม่ือมีเหตุท่ีจะออกหมายจับบุคคลน้ันตามมาตรา ๖๖ (๒) แต่มีความจําเป็น
สาํ นกั เงรา่งนดค่วณนะทกีไ่ รมร่อมากจาขรกอฤใหษ้ศฎาีกลาออกหมายจับสําบนุคักคงลานนค้ันณไดะก้ รรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๔) เป็นการจับผู้ต้องหาหรือจําเลยท่ีหนีหรือจะหลบหนีในระหว่างถูกปล่อยชั่วคราว
ตามมาตรา ๑๑๗สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สาํ นกั งานคณะกรรมการมกาฤตษรฎาีกา๗๙ ราษฎรจสะํานจักับงผานู้อคื่นณไมะก่ไดรร้เวม้นกแารตก่จฤะษเฎขีก้าาอยู่ในเกณฑ์แสหํา่งนมักางตานรคาณ๘ะ๒กรหรมรกือารกฤษฎกี า
เมอ่ื ผ้นู ้นั กระทาํ คสวาํานมกั ผงดิ านซคึ่งหณนะก้ารแรลมะกคารวกาฤมษผฎิดีกนา้ันได้ระบุไวใ้ นสบํานัญักชงที าน้ายคปณระะกมรรวมลกกาฎรกหฤมษาฎยีกนาีด้ ว้ ย
สํานักงานคณะกรรมการมกาฤตษฎรกีาา๘๐ ที่เรียกสวําน่าักคงวาานมคผณิดะกซรึ่งรหมนกา้ารนกั้นฤษไฎดกี ้แา ก่ความผิดซสึ่งาํ เนหัก็นงากนําคลณังะกกรระรมทกําารกฤษฎกี า
หรือพบในอาการใดซึ่งแทบจะไม่มีความสงสัยเลยวา่ เขาไดก้ ระทาํ ผิดมาแล้วสด ๆ
สอาํ ยน่ากั งงไารนกค็ดณี ะคกวรรามมกผาิรดกอฤาษญฎากี ดา ังระบุไว้ในบสําัญนชักงีทา้านยคณประกะรมรวมลกากรฎกฤหษมฎากี ยานี้ ให้ถือว่า
ความผิดน้นั เป็นความผิดซึ่งหน้าในกรณดี งั น้ี
สํานักงานคณะกรรมการ(ก๑ฤ)ษเฎมกี่อื าบคุ คลหนงึ่ ถกู สไําลนจ่ ักบั งดานังผคณ้กู ระะกทรรํามโดกายรมกีเฤสษียฎงรีกอ้างเอะอะ สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
(๒) เม่ือพบบุคคลหน่ึงแทบจะทันทีทันใดหลังจากการกระทําผิดในถ่ินแถวใกล้เคียง
กับท่ีเกิดเหตุนั้นแสลาํ นะักมงีสาน่ิงขคอณงะทกร่ีไรดม้มกาาจรากกฤกษฎารกี การะทําผิด หรสือํานมักีเคงารนื่อคงณมะือกรอรามวกุธาหรกรฤือษวฎัตกีถาุอย่างอ่ืนอัน
สันนิษฐานไดว้ ่าได้ใชใ้ นการกระทําผดิ หรอื มรี อ่ งรอยพิรุธเห็นประจกั ษ์ทีเ่ ส้อื ผ้าหรอื เนอ้ื ตัวของผู้นั้น
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สมําานตักรงาาน๘ค๑ณ๓ะ๔กรไรมม่วก่าาจรกะฤมษีหฎมกี าายจับหรือไม่ก็ตสาํานมักหงา้านมคมณิใหะก้จรับรใมนกทารี่รกโหฤฐษาฎนีกาเว้นแต่จะได้
ทําตามบทบญั ญัตใิ นประมวลกฎหมายนอี้ ันว่าด้วยการค้นในทรี่ โหฐาน
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓๓ มาตรา ๗๘ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับทส่ี ๒ําน๒ัก) งพา.นศค. ๒ณ๕ะ๔กร๗รมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓๔ มาตรา ๘๑ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักคงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกับาทร่ีก๒ฤ๒ษ)ฎพกี .ศา. ๒๕๔๗ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๒๘ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๑/๑๓๕ ไม่ว่าจะมีหมายจับหรือไม่ก็ตาม ห้ามมิให้จับในพระบรมมหาราชวัง
สํานักพงารนะครณาชะกวรังรมวังกขารอกงฤพษรฎะีกราัชทายาทหรือสําขนอักงงพานรคะณบะรกมรวรงมศก์ตารั้งกแฤตษ่สฎมกี เาด็จเจ้าฟ้าขึ้นสไปํานักพงราะนรคาณชะนกิเรวรศมกนา์ รกฤษฎกี า
พระตําหนัก หรือในที่ซึ่งพระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท พระบรมวงศ์ตั้งแต่สมเด็จเจ้าฟ้า
ขึ้นไป หรือผสู้ ําเรส็จาํ รนากัชงกาานรคแณทะนกพรรรมะกอางรคก์ฤปษรฎะกี ทาับหรอื พํานกั สเวํานน้ กัแงตา่นคณะกรรมการกฤษฎกี า
(๑) นายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีซ่ึงนายกรัฐมนตรีมอบหมาย อนุญาตให้จับ และได้
สาํ นักแงจานง้ เคลณขะากธรกิ รามรกพารระกรฤาษชฎวกี ังาหรอื สมหุ ราชสอํานงคกั รงากั นษคร์ ณบั ะทกรรารบมกแาลรว้ กฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พระรัชทายาท พส(าํ๒รนะ)กั บงเจรานม้าควพณงนศะัก์กตงร้ังราแมนตกผ่สาู้ถมรกวเดฤา็จษยเฎหจีก้ราาฟือ้ใาหขึ้น้คไวปามหปรลสือําอผนู้สดกั ําภงเาัยรน็จแครดณา่พะชกรกระารมรมแหกทาารนกกพษฤรษัตะฎรอกีิยงา์ คพ์ รเปะ็นราผชู้จินับี
สาํ นักตงาามนคกณฎหะกมรารยมวกา่ าดรก้วยฤษราฎชีกอางครกั ษ์ หรือสตําานมกั กงฎานหคมณายะกกรรฎมหการรือกรฤะษเบฎีกียาบเกี่ยวกบั การสใหํานค้ ักวงาามนปคลณอะดกภรรัยมการกฤษฎกี า
สมําานตักรงาาน๘คณ๒ะกเรจร้ามพกนารักกงฤาษนฎผกี ู้จาัดการตามหมสําานยักจงับานจคะณขะอกครรวมากมาชรก่วฤยษเหฎลกี ืาอจากบุคคล
ใกลเ้ คยี งเพ่ือจดั การตามหมายน้นั ก็ได้ แต่จะบังคบั ใหผ้ ู้ใดชว่ ยโดยอาจเกดิ อนั ตรายแกเ่ ขานนั้ ไมไ่ ด้
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๓๓๖ ในการจับนั้น เจ้าพนักงานหรือราษฎรซ่ึงทําการจับต้องแจ้งแก่ผู้ท่ีจะ
ถูกจับน้ันว่าเขาตส้อํางนถกั ูกงาจนับคณและก้วรสรั่งมใกหา้ผรู้กถฤูกษจฎับกี ไาปยังที่ทําการสขําอนงกั พงนานักคงณานะกสรอรบมสกาวรนกแฤหษ่งฎทกี ้อา งที่ที่ถูกจับ
พร้อมด้วยผู้จับ เว้นแต่สามารถนําไปที่ทําการของพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบได้ในขณะนั้น
สาํ นักใงหา้นนคําณไปะทกร่ที รํามกกาารรขกอฤงษพฎนกี ากั งานสอบสวนสผํานรู้ ักับงผาิดนชคอณบะกดรังรกมลก่าาวรกแฤตษถ่ ฎา้ กีจาําเป็นกใ็ หจ้ บั ตสวั ําไนปักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สใํานนกกั รงณานีทค่ีเณจ้าะกพรนรักมงกาานรกเปฤษ็นฎผีกู้จาับ ต้องแจ้งข้อสกําลน่ากั วงาหนาคใณห้ผะกู้ถรูกรจมับกทารรกาฤบษฎหีกาากมีหมายจับ
ให้แสดงต่อผู้ถูกจับ พร้อมทั้งแจ้งด้วยว่า ผู้ถูกจับมีสิทธิที่จะไม่ให้การหรือให้การก็ได้และถ้อยคํา
สาํ นกั ขงอานงผคณู้ถูกะกจรับรนม้ันกาอรากจฤใษชฎ้เปกี า็นพยานหลักฐสาํานนใักนงกานาครพณิจะการรรณมากคารดกีไฤดษ้แฎลีกะาผู้ถูกจับมีสิทธสิทาํ ี่จนะักพงาบนแคลณะะปกรรึกรมษกาารกฤษฎกี า
ทนายความ หรือผู้ซึ่งจะเป็นทนายความ ถ้าผู้ถูกจับประสงค์จะแจ้งให้ญาติหรือผู้ซ่ึงตนไว้วางใจทราบ
ถึงการจับกมุ ทสี่ าสมําานรกั ถงดาาํนเคนณนิ ะกการรรไมดก้โาดรยกสฤะษดฎวกี กาและไมเ่ ปน็ กสารํานขกััดงขาวนาคงณกะากรรจรับมหกราือรกกฤาษรฎคีกวบา คุมผู้ถูกจับ
หรือทําให้เกิดความไม่ปลอดภัยแก่บุคคลหนึ่งบุคคลใด ก็ให้เจ้าพนักงานอนุญาตให้ผู้ถูกจับดําเนินการ
สํานักไงดาต้นาคมณสะมกครรวมรกแากร่กกรฤณษฎี ใกีนาการนใ้ี ห้เจ้าพสนําักนงกั างนานผคจู้ ณบั ะนกน้ั รบรมันกทาึกรกกฤาษรจฎบัีกาดงั กล่าวไว้ดว้ ยสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าบุคคลซึ่งจะถูกจับขัดขวางหรือจะขัดขวางการจับ หรือหลบหนีหรือพยายามจะ
หลบหนี ผู้ทําการสจาํ ับนักมงีอาํานนคาณจะใกชร้วริธมีหกราืรอกกฤาษรฎปีก้อางกันทั้งหลายสเทําน่าักทง่ีเาหนมคาณะะสกมรแรมกก่พาฤรกตฤิกษาฎรณกี า์แห่งเร่ืองใน
การจับนนั้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมําานตกั รงาาน๘ค๔ณ๓ะ๗กรรเจม้ากพารนกักฤงษาฎนีกหารือราษฎรผู้ทสําํากนาักรงจานับคตณ้อะงกเอรรามตกัวาผรู้ถกูกฤจษับฎไกี ปายังท่ีทําการ
ของพนักงานสอบสวนตามมาตรา ๘๓ โดยทันที และเมื่อถึงที่นั้นแล้ว ให้ส่งตัวผู้ถูกจับแก่พนักงาน
สาํ นกั ฝง่าานยคปณกคะกรรอรงมหกราอืรกตฤําษรวฎจีกขาองทที่ าํ การขสอํางนพักนงากั นงคาณนสะกอรบรสมวกนารดกังฤกษลฎ่ากีวาเพ่อื ดาํ เนนิ กาสรําดนงัักตงอ่านไปคณนี้ะกรรมการกฤษฎกี า
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓๕ มาตรา ๘๑/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สาํ นกั คงวาานมคอณาะญการร(มฉกบาับรทก่ีฤ๒ษ๒ฎ)กี พา.ศ. ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๓๖ มาตรา ๘๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบบั ทสี่ ๒ําน๒กั) งพา.นศค. ๒ณ๕ะ๔กร๗รมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๓๗ มาตรา ๘๔ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานกั คงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกบั าทร่ีก๒ฤ๒ษ)ฎพีก.ศา. ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
- ๒๙ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
(๑) ในกรณีที่เจ้าพนักงานเป็นผู้จับให้เจ้าพนักงานผู้จับนั้นแจ้งข้อกล่าวหา และ
สาํ นักรงาายนลคะณเะอกียรดรเมกก่ียาวรกกฤับษเหฎตีกุแา ห่งการจับใหส้ผําู้ถนูกกั งจาับนทครณาะบกรถร้ามมกีหารมกาฤยษจฎับกี ใาห้แจ้งให้ผู้ถูกจสับาํ นทักรงาาบนแคลณะะอก่ารรนมใกหา้ รกฤษฎีกา
ฟงั และมอบสาํ เนาบันทึกการจับแกผ่ ้ถู กู จับน้นั
ส(ํา๒น)กั ใงนานกครณณะีทกรี่รรามษกฎารรกเปฤษ็นฎผกี ู้จาับ ให้พนักงาสนําฝน่ากั ยงาปนกคคณระอกงรรหมรกือาตรกําฤรษวจฎซีกาึ่งรับมอบตัว
บันทึกชื่อ อาชีพ ท่ีอยู่ของผู้จับ อีกท้ังข้อความและพฤติการณ์แห่งการจับนั้นไว้ และให้ผู้จับลงลายมือ
สาํ นักชงื่อานกคําณกับะกไวร้รเปม็นกาสรํากคฤัญษฎเพกี ื่อาดําเนินการแสจํา้งนขกั ้องกานลค่าวณหะากแรรลมะกราารยกลฤะษเฎอกีียาดแห่งการจับใสหาํ ้ผนู้ถักูกงาจนับคทณระากบรแรมลกะารกฤษฎีกา
เแปจน็ ้งพใหย้ผาู้ถนูกหจลับกั ทฐราสานาํบในนดักก้วงายานรวพค่าณผิจู้ถาะรูกกณรจรับามคมกดีสาไีริทดกธ้ฤิทษ่ีจฎะกี ไาม่ให้การหรือใสหําน้กัการงากน็ไคดณ้ แะลกะรรถม้อกยาครํากขฤอษงฎผีกู้ถาูกจับอาจใช้
สาํ นักงานคณะกรรมการกเมฤื่อษไฎดีก้ดาําเนินการตาสมําวนรักรงคานหคนณึ่งแะกลร้วรใมหก้พารนกักฤงษาฎนกี ฝา่ายปกครองหสรําือนตักํางรานวคจณซะึ่งกมรีผรมู้นกําารกฤษฎกี า
ผู้ถูกจับมาส่งแจ้งให้ผู้ถูกจับทราบถึงสิทธิตามที่กําหนดไว้ในมาตรา ๗/๑ รวมทั้งจัดให้ผู้ถูกจับสามารถ
ติดต่อกับญาติหรสือําผนู้ซกั ง่ึงาผนู้ถคูกณจะับกไรวร้วมากงาใรจกเฤพษ่ือฎแกี จา้งให้ทราบถึงสกําานรกั จงัาบนกคุมณแะลกะรสรมถกาานรทกฤี่ทษ่ีถฎูกกี คาวบคุมได้ใน
โอกาสแรกเม่ือผู้ถูกจับมาถึงท่ีทําการของพนักงานสอบสวนตามวรรคหน่ึง หรือถ้ากรณีผู้ถูกจับร้อง
สํานักขงอานใคหณ้พะนกักรรงมากนาฝร่กายฤษปฎกกี คารองหรือตํารสวํานจักเปงา็นนผคู้แณจะ้กงรกรม็ใหกา้จรัดกกฤษาฎรตีกาามคําร้องขอสนาํ ั้นนโักดงายนเคร็วณะแกลรระมใกหา้ รกฤษฎกี า
พนักงานฝา่ ยปกครองหรือตํารวจบันทึกไว้ ในการน้ีมใิ ห้เรยี กค่าใช้จา่ ยใด ๆ จากผูถ้ ูกจับ
สใาํนนกักรงณานีทคี่จณําะเกปร็นรมเกจา้ารพกฤนษักฎงกี าานหรือราษฎรสซํา่ึนงทักงําากนาครณจะับกจระรมจกัดากรากรฤพษฎยกีาบา าลผู้ถูกจับ
เสียก่อนนาํ ตวั ไปส่งตามมาตรานกี้ ็ได้
สาํ นักงานคณะกรรมการกถฤ้อษยฎคกี ําาใด ๆ ที่ผู้ถูกจสัําบนใกัหง้ไาวน้ตค่อณเะจก้ารพรมนกักางรากนฤษผฎู้จีกับา หรือพนักงาสนาํ ฝน่าักยงาปนกคคณระอกงรหรมรกือารกฤษฎกี า
ตํารวจในชั้นจบั กสุมําหนรกั ืองรานบั คมณอบะกตรัวรผมู้ถกูการจกับฤษถฎ้าีกถา้อยคําน้ันเป็นสคําํานรกัับงสาานรคภณาะพกขรรอมงกผาู้ถรูกกจฤับษวฎ่าีกตานได้กระทํา
ความผิดห้ามมิให้รับฟังเป็นพยานหลักฐาน แต่ถ้าเป็นถ้อยคําอื่น จะรับฟังเป็นพยานหลักฐานในการ
สํานักพงิสานูจคนณ์คะวการมรผมิดกาขรอกงฤผษู้ถฎูกกี จาับได้ต่อเมื่อไสดํา้มนีกักางรานแคจณ้งสะิทกรธริตมากมาวรกรฤรษคฎหกีนา่ึง หรือตามมาสตํานราักง๘าน๓คณวระรกครรสมอกงารกฤษฎกี า
แก่ผถู้ กู จับแล้วแตก่ รณี
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๔/๑๓๘ พนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจซ่ึงมีผู้นําผู้ถูกจับมาส่งนั้น จะ
สํานักปงาลน่อคยณผะู้ถกูกรรจมับกชารั่วกคฤรษาฎวกี หา รือควบคุมผสู้ถํานูกกั จงับานไควณ้ก็ะไกดร้ รแมตก่ถาร้ากเฤปษ็นฎกกี าารจับโดยมีหสมําานยักขงาอนงคศณาะลกใรหร้มรีกบารกฤษฎีกา
ดําเนินการตามมาตรา ๖๔ และในกรณีที่ต้องส่งผู้ถูกจับไปยังศาล แต่ไม่อาจส่งไปได้ในขณะน้ัน
เน่ืองจากเป็นเวลสาําทน่ีศกั างลานปคิดณหะรกือรใรกมลก้จาะรกปฤิดษทฎําีกกาาร ให้พนักงาสนําฝน่ากั ยงาปนกคคณระอกงรหรรมือกตารํากรฤวษจฎทีก่ีราับตัวผู้ถูกจับ
ไว้มีอาํ นาจปลอ่ ยผูถ้ ูกจบั ชั่วคราวหรือควบคุมผู้ถูกจับไว้ได้จนกวา่ จะถึงเวลาศาลเปิดทาํ การ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สมําานตักรงาาน๘ค๕ณะกเจรร้ามพกนาักรกงฤานษฎผกีู้จาับหรือรับตัวผสู้ถําูกนจักับงาไนว้คมณีอะํากนรารมจกคา้นรตกัวฤผษู้ตฎ้อกี างหา และยึด
สง่ิ ของตา่ ง ๆ ทอี่ าจใช้เป็นพยานหลักฐานได้
สาํ นักงานคณะกรรมการกกฤาษรคฎน้กี านั้นจกั ต้องทําโสดํานยสักงุภาานพคณถะา้ กครน้ รผมู้หกาญรงิกตฤอ้ษงฎใกีหาห้ ญงิ อน่ื เปน็ ผสคู้ ํา้นนักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สิ่งของใดที่ยึดไว้เจ้าพนักงานมีอํานาจยึดไว้จนกว่าคดีถึงที่สุด เม่ือเสร็จคดีแล้วก็ให้
คืนแก่ผ้ตู ้องหาหรสือําแนกกั ่ผงา้อู นื่นคณซะึ่งกมรสี รทิ มธกเิ ารรยี กกฤรษ้อฎงีกขาอคืนสิง่ ของนสนั้ ํานเวกั น้ งาแนตคศ่ ณาะลกจระรสมง่ั กเาปร็นกอฤยษ่าฎงกี อา่ืน
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๓๘ มาตรา ๘๔/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานกั คงวาานมคอณาะญการร(มฉกบาับรทก่ีฤ๒ษ๒ฎ)ีกพา.ศ. ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๓๐ - สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
มาตรา ๘๕/๑๓๙ ในระหว่างสอบสวน ส่ิงของท่ีเจ้าพนักงานได้ยึดไว้ซ่ึงมิใช่ทรัพย์สิน
สํานักทง่ีกานฎคหณมะากยรบรมัญกญารัตกิไฤวษ้วฎ่าผีกู้าใดทําหรือมีไวส้เปําน็นักคงวานามคณผิดะกถรร้ามยกังไามรก่ไดฤษ้นฎําสีกาืบหรือแสดงเปส็นาํ นพักยงาานนหคลณักะกฐรารนมใกนารกฤษฎีกา
การพิจารณาคดี เจ้าของหรือผู้ซ่ึงมีสิทธิเรียกร้องขอคืนส่ิงของท่ีเจ้าพนักงานยึดไว้ อาจย่ืนคําร้องต่อ
พนักงานสอบสวสนํานหักรงือานพคนณักะงการนรมอกัยากรกาฤรษแฎีกลา้วแต่กรณี เพสื่อํานขักองราับนคสณ่ิงขะกอรงรนม้ันกาไรปกดฤูแษลฎกีรัากษาหรือใช้
ประโยชน์โดยไมม่ ีประกัน หรือมีประกัน หรือมปี ระกนั และหลักประกันก็ได้
สาํ นักงานคณะกรรมการกกฤาษรฎสกี ่ังาคืนสิ่งของตสาํานมกัวงรารนคคณหะนก่ึงรรจมะกตา้รอกงฤไษมฎ่กกี ราะทบถึงการสใาํ ชน้สักิ่งงาขนอคณงนะกั้นรเรปม็กนารกฤษฎีกา
คพํายสาั่งนโหดยลมักิชฐักานช้เาพสโ่ือาํดนพยกั ิสองูจาานจนคเ์ขรณ้อียะเกกทปร็จรรจมะรกกิงาันใรจนกาฤภกษาผฎยู้ยีกหื่นาลคังํารท้อั้งงนหี้รใือหกส้พําํานหนักนักงงดาาเนนงค่ือสณนอะไบขกสรอวรยมน่ากหงาหรรืนอกฤพ่ึงอษนยฎัก่ากี งงาาในดใอหัย้บกุคาครมลี
สาํ นักนง้ันานปคฏณิบะัตกิรแรลมะกหารากกฤไษมฎ่ปีกฏาิบัติตามเงื่อนสไําขนหกั รงือานบคุคณคะลกดรังรกมลก่าาวรกไมฤ่ยษอฎมกี าคืนสิ่งของนั้นเสมาํ ่ือนมักีงคาํานสคั่งณใหะก้ครืนรมใกหา้ รกฤษฎีกา
พนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการ แล้วแต่กรณี มีอํานาจยึดสิ่งของนั้นกลับคืนและบังคับตาม
สัญญาประกันเชส่นาํ นว่กัางนา้ันนไคดณ้ ะวกิธรีกรามรกยารื่นกคฤําษรฎ้อีกงา เง่ือนไขและสํากนากั รงอานนคุญณาะตกใรหรม้เปก็นารไกปฤตษาฎมกี ทา ่ีกําหนดใน
กฎกระทรวง
สํานกั งานคณะกรรมการกในฤกษรฎณกี าีที่พนักงานสอสบําสนวักนงาหนรคือณพะนกักรรงมากนาอรัยกกฤษารฎมกี ีคาําสั่งไม่อนุญาสตาํ นผักู้ยง่ืนานคคํารณ้อะงกมรีสรมิทกธาิ รกฤษฎีกา
ย่ืนคําร้องอุทธรณ์คําส่ังต่อศาลชั้นต้นท่ีมีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญาดังกล่าวได้ภายในสามสิบ
วันนับแต่วันท่ีได้รสับํานแกั จง้งากนาครณไะมก่อรนรมุญกาาตรกแฤลษะฎใหีก้ศา าลพิจารณาสใหําน้แักลง้วานเสครณ็จะภการยรมในกสารากมฤสษิบฎวกี ันานับแต่วันที่
ได้รับอุทธรณ์ ในกรณีที่ศาลมีคําสั่งอนุญาต ศาลอาจเรียกประกันหรือกําหนดเงื่อนไขอย่างหนึ่ง
สาํ นกั องยาน่าคงใณดะไกดร้ตรามมกทาร่เี กหฤ็นษสฎมกี คาวร คําสง่ั ของสศําานลกั ใงหา้เนปค็นณทะ่ีสกุดรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๖ ห้ามมิให้ใช้วิธีควบคุมผู้ถูกจับเกินกว่าที่จําเป็นเพื่อป้องกันมิให้เขาหนี
สํานกั เงทา่านนคัน้ ณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมาํ านตกั รงาาน๘ค๗ณ๔ะ๐กรหรมา้ กมามริใกหฤ้คษวฎบีกคามุ ผู้ถกู จบั ไว้เสกํานิ นกักวงา่าจนาํคเณปะน็ กตรารมมพกาฤรตกกิฤาษรฎณกี ์แา ห่งคดี
ในกรณคี วามผิดลหุโทษ จะควบคมุ ผถู้ กู จับไวไ้ ดเ้ ทา่ เวลาทจี่ ะถามคาํ ใหก้ าร และที่จะ
สํานกั รงตู้ าัวนวค่าณเปะก็นรใรคมรกแาลระกทฤษี่อฎยกีู่ขาองเขาอยทู่ ีไ่ หสนําเนทัก่างนาั้นนคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
ในกรณีท่ีผู้ถูกจับไม่ได้รับการปล่อยช่ัวคราว และมีเหตุจําเป็นเพ่ือทําการสอบสวน
หรือการฟ้องคดีสใาํหน้นกั ํางาตนัวคผณู้ถะูกกจรับรมไปกาศรากลฤภษาฎยกี ใานสี่สิบแปดชสั่วําโนมกั งงนานับคแณตะ่เวกลรรามทกี่ผาู้ถรกูกฤจษับฎถีกูกานําตัวไปถึง
ท่ีทาํ การของพนักงานสอบสวนตามมาตรา ๘๓ เวน้ แตม่ เี หตสุ ดุ วิสัยหรือมีเหตุจําเป็นอย่างอื่นอันมิอาจ
สํานกั กงา้าวนลค่วณงะเกสรียรไมดก้ โาดรกยฤใหษฎ้พกีนาักงานสอบสวสนําหนรกั ืองาพนนคักณงะากนรอรัยมกกาารรกยฤ่ืนษคฎําีกรา้องต่อศาลขอหสมาํ นาักยงขาังนผคู้ตณ้อะงกหรารนมก้ันารกฤษฎีกา
ไว้ ให้ศาลสอบถาสมําผนู้ักตง้อางนหคาณวะ่ากจระรมมีขก้อารคกัดฤคษ้าฎนกี ปาระการใดหรสือําไนมกั ่ แงาลนะคศณาะลกอรารจมเกราียรกกพฤษนฎักกี งาานสอบสวน
หรอื พนักงานอยั การมาช้แี จงเหตจุ ําเป็น หรอื อาจเรียกพยานหลกั ฐานมาเพ่อื ประกอบการพจิ ารณากไ็ ด้
สาํ นกั งานคณะกรรมการกในฤษกฎรณีกาีความผิดอาญสาําทนักี่ไดงา้กนรคะณทะํากลรงรมมีอกัตารรกาฤโทษฎษีกจาําคุกอย่างสูงไสมาํ ่เนกักินงหานกคเดณือะนกรหรมรกือารกฤษฎีกา
ปรับไมเ่ กนิ หา้ รอ้ ยบาท หรอื ท้ังจาํ ท้ังปรบั ศาลมอี าํ นาจส่งั ขังได้คร้งั เดียว มกี าํ หนดไม่เกนิ เจด็ วนั
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๓๙ มาตรา ๘๕/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับสทาํี่ น๒ัก๗ง)านพค.ศณ. ะ๒ก๕รร๕ม๐การกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๔๐ มาตรา ๘๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สาํ นักคงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกบั าทรี่ก๒ฤ๒ษ)ฎพีก.ศา. ๒๕๔๗ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๓๑ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีความผิดอาญาท่ีมีอัตราโทษจําคุกอย่างสูงเกินกว่าหกเดือนแต่ไม่ถึงสิบปี
สาํ นกั หงรานือคปณรับะกเกรรินมกกวา่ารหกฤ้ารษ้อฎยีกบา าท หรือทั้งจสําําทน้ังักปงารนับคณศาะลกรมรีอมํากนาารจกฤสษ่ังขฎังีกหาลายคร้ังติด ๆสาํ กนันักงไดาน้ แคตณ่คะรกั้งรหรมนก่ึงารกฤษฎกี า
ต้องไม่เกินสิบสองวนั และรวมกนั ทง้ั หมดตอ้ งไม่เกินสีส่ ิบแปดวนั
สใาํนนกักรงณานคี ควณามะกผริดรอมากญารากทฤีม่ษอีฎัตกี ราาโทษจาํ คุกอสยํา่านงักสงงู าตนัง้ คแณตะ่สกบิ รปรมขี กึ้นาไรปกฤจษะฎมกี ีโาทษปรับด้วย
หรือไม่ก็ตาม ศาลมีอํานาจสั่งขังหลายครั้งติด ๆ กันได้ แต่ครั้งหน่ึงต้องไม่เกินสิบสองวัน และรวมกัน
สาํ นักทงง้ัานหคมณดตะกอ้ รงรไมมก่เการนิ กแฤปษดฎสกี ิบาสีว่ นั สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พนักงานสอบสวสในาํ นนยกัก่ืนรงคณาาํนีตรค้าอณมงะวตกร่อรรรศคมากหลากเรพเกมฤ่ือ่ือษขศฎอาีกขลาังสตั่ง่อขไังปคอรบีกสโดี่สสยิบําอนแ้ักาปงงดาเนหวคันตณแุจละําก้วเรปรห็นมากกศาพรากลนฤจักษะงฎาสกี นั่งาอขััยงตก่อารไหปรไดือ้
สาํ นกั กง็ตาน่อคเมณือ่ ะพกรนรกัมงกาานรกอฤัยษกฎาีกรหา รือพนกั งานสสํอานบกั สงวานนคไดณแ้ ะสกดรรงมถกึงเาหรกตฤุจษําฎเปกี ็นา และนาํ พยานสําหนลักักงฐานานคณมาะใกหรร้ศมากลารกฤษฎกี า
ไตส่ วนจนเปน็ ท่ีพอใจแก่ศาล
สใาํนนกกั างราไนตค่สณวะนกตรรามมกวารรรกคฤสษาฎมีกแาละวรรคเจ็ดสผําู้ตน้อักงงาหนาคมณีสะิทกธริแรมตก่งาทรนกาฤยษคฎวีกาามเพ่ือแถลง
ข้อคัดค้านและซักถามพยาน ถ้าผู้ต้องหาไม่มีทนายความเนื่องจากยังไม่ได้มีการปฏิบัติตามมาตรา
สํานัก๑งา๓น๔ค/ณ๑ะกแรลระมผกู้ตาร้อกงฤหษาฎรีก้อางขอ ให้ศาลตสั้งําทนนักงาายนคควณาะมกใรหร้ มโดกายรทกนฤษายฎคกี วาามน้ันมีสิทธิไสดาํ น้รับักงเงานินครณางะวกัลรแรมลกะารกฤษฎกี า
คา่ ใช้จา่ ยตามทก่ี ําหนดไวใ้ นมาตรา ๑๓๔/๑ วรรคสาม โดยอนุโลม
สถาํ ้านพักนงาักนงคาณนะสกอรบรมสกวานรตก้อฤงษไฎปีกทาําการสอบสวสนําในนักทงา้อนงคทณ่ีอะ่ืนกนรอรมกกเขารตกขฤอษงฎศีกาาลซึ่งได้ส่ังขัง
ผู้ต้องหาไว้ พนักงานสอบสวนจะย่ืนคําร้องขอให้โอนการขังไปยังศาลในท้องท่ีท่ีจะต้องไปทําการ
สํานกั สงอานบคสณวนะกนรัน้ รกม็ไกดาร้ เกมฤอ่ื ษศฎากี ลาทีส่ ั่งขงั ไว้เห็นสเปําน็นกั กงาานรสคมณคะวกรรกรม็ใหกา้สรงั่ กโฤอษนฎไปกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สมาํ านตกั รงาาน๘คณ๗ะ/ก๑ร๔ร๑มกเามรื่อกฤพษนฎักีกงาานอัยการหรสือําพนกันงักางนาคนณสะอกบรรสมวกนารรก้อฤงษขฎอกีแาละผู้ต้องหา
สํานักมงิไาดน้คคัดณคะก้ารนรมหกาากรศกาฤลษเฎหกี ็นาสมควร ศาลสอําานจกั องนานุญคาณตะใกหร้นรมําผกาู้ตร้อกงฤหษาฎหีกราือพยานหลักฐสาํานนักไปงายนังคสณถะากนรทรมี่ทกําารกฤษฎีกา
การของทางราชการ หรือสถานที่แห่งอื่นที่ศาลเห็นสมควรซึ่งสามารถสอบถามผู้ต้องหาหรือทําการ
ไต่สวน โดยจัดใหส้มาํ นีกักางราถน่าคยณทะอกดรรภมากพารแกลฤะษเสฎียกี างในลักษณะกสาํารนปกั รงะานชคุมณทะากงรจรอมภกาารพกไฤดษ้ ฎกีการาดําเนินการ
ดังกลา่ วใหเ้ ป็นไปตามข้อบงั คบั ของประธานศาลฎีกาโดยความเหน็ ชอบจากทป่ี ระชุมใหญ่ของศาลฎีกา
สํานกั แงลานะคปณระะกกรารศมใกนารรากชฤกษิจฎจีกาานุเบกษาแล้วสใหําน้ใกัชง้บาังนคคับณไะดก้ รทรม้ังกนา้ี รใกหฤ้รษะฎบกีุวาิธีการสอบถามสแํานลักะงไตาน่สควณนะรกวรมรมทก้ังารกฤษฎกี า
สักขีพยานในการนน้ั ด้วย
สกําานรักไงตาน่สควณนะตการรมมวกรารรคกฤหษนฎึ่งกี ใาห้ถือเสมือนวส่าํานเปกั ง็นากนคาณรไะตก่สรรวมนกใานรกหฤ้อษงฎพกี ิจา ารณาของ
ศาล สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมาํ านตักรงาาน๘คณ๘ะ๔ก๒รรคมดกีทารี่รกาฤษษฎฎรกี เาป็นโจทก์ เมื่อสศํานาลกั งปารนะคทณับะฟกร้อรงมแกลาะรกไดฤษ้ตฎัวจกี ําาเลยมาศาล
แล้ว หรือคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ เมื่อได้ยื่นฟ้องต่อศาลแล้ว ศาลจะสั่งขังจําเลยไว้หรือ
สาํ นักปงลาน่อคยณชะ่ัวกครรรามวกกาไ็รดก้ฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๔๑ มาตรา ๘๗/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับสทาํ่ี น๒กั๘ง)านพค.ศณ. ะ๒ก๕รร๕ม๑การกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๔๒ มาตรา ๘๘ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สาํ นักคงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกับาทรี่ก๒ฤ๒ษ)ฎพกี .ศา. ๒๕๔๗ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
- ๓๒ - สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๘๙๔๓ หมายขังหรือหมายจําคุกต้องจัดการให้เป็นไปตามน้ันในเขตของศาล
สํานักซงึ่งาอนอคกณหะกมรารยมกเวาน้รกแฤตษ่บฎญั ีกญา ัตไิ ว้เปน็ อยา่ สงําอน่นื กั ใงนาปนคระณมะวกลรรกมฎกหามรกาฤยษนฎ้ีหีกราือกฎหมายอน่ื สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สมําานตักรงาาน๘ค๙ณ/ะ๑ก๔ร๔รมกในารกกรฤณษทีฎม่ีกี าีเหตุจาํ เปน็ ระสหําวนา่ ักงงสาอนบคสณวะนกหรรรมือกพาิจรการฤณษฎากี เาม่ือพนักงาน
สอบสวน พนักงานอัยการ ผู้บัญชาการเรือนจํา หรือเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่จัดการตามหมายขังร้องขอ
สาํ นักหงรานือคเมณื่อะศการรลมเหกา็นรสกมฤคษวฎรีกาศาลจะมีคําสสั่งําในหัก้ขงังาผนู้ตค้อณงะหการหรมรกือาจรํากเฤลษยฎไวกี ้ใานสถานท่ีอื่นตสาํามนทักง่ีบาุคนคคณลดะกังกรรลม่ากวารกฤษฎีกา
เรจ้อา้ งพขนอกั หงารนือตตาามมทสทาํ่ศี่ีศนาากัลลงกเาหาํนห็นคนณสดมะกคใรนวรรกมนากรอานรกกี้จศฤาาษกลฎเจรกี ะือากนําจหํานกด็ไดร้ะโยดะยสเใําวหนลัก้อางตยาาู่ในนมคคทณวี่ศะาากมลรคเรหมวน็กบสาครมุมกคฤขวษอรฎงกผกี ็ไู้ราด้อ้ งขอ หรือ
สาํ นกั งานคณะกรรมการกในฤกษาฎรีกพาิจารณาเพ่ือมสีคําํานสัก่ังงตานาคมณวระรกครรหมนกึ่งารศกาฤลษจฎะกี ดาําเนินการไต่สสวํานนหักรงืาอนใหคณ้ผู้เะสกียรหรมากยารกฤษฎีกา
หรอื เจา้ พนกั งานท่เี กยี่ วข้องตามหมายขังคดั ค้านกอ่ นมคี าํ สัง่ ก็ได้
สสําถนาักนงาทน่ีอค่ืนณตะการมรวมรกราครกหฤนษ่ึงฎตกี ้อางมิใช่สถานีตสําํารนวักจงานหครณือะสกถรารนมทกา่ีครวกบฤษคฎุมกี ผาู้ต้องหาของ
พนักงานสอบสวน โดยมีลักษณะตามท่ีกําหนดในกฎกระทรวงซึ่งต้องกําหนดวิธีการควบคุมและ
สาํ นกั มงาาตนครกณาะรกเรพรอ่ืมปกอ้ารงกกฤนั ษกฎากี ราหลบหนหี รอื คสวํานามักเงสานยี คหณายะกทรอี่ รามจกเากรดิ กขฤึน้ษดฎว้ีกยา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
เม่ือศาลมีคําส่ังตามวรรคหน่ึงแล้ว หากภายหลังผู้ต้องหาหรือจําเลยไม่ปฏิบัติตาม
วิธีการหรือมาตรสกาํ านรกั ตงาานมควณรระคกรสรามมกหารรกือฤพษฤฎตกี ิกาารณ์ได้เปลี่ยสนํานแกัปงลางนไคปณะใหกร้ศรามลกมารีอกําฤนษาฎจกี เปา ลี่ยนแปลง
คําสั่งหรือใหด้ ําเนนิ การตามหมายขงั ได้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมาํ านตกั รงาาน๘คณ๙ะ/ก๒ร๔ร๕มกใานรกกฤรษณฎีทกี ี่มาีเหตุจําเป็น เสมําื่อนพักงนาักนคงาณนะอกัยรรกมากรารผกู้บฤัญษฎชีกาาการเรือนจํา
หรือเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่จัดการตามหมายจําคุกร้องขอ หรือเมื่อศาลเห็นสมควร ศาลจะมีคําส่ังให้
สาํ นักจงําานคคุกณผะู้ซก่ึงรตร้อมงกจารํากคฤุกษตฎาีกมาคําพิพากษาสถําึงนทกั ่ีงสาุดนทค่ีณไดะ้รกับรรโมทกษาจรกําฤคษุกฎมีกาาแล้วไม่น้อยกสวาํ ่านหักงนา่ึงนใคนณสะากมรรขมอกงารกฤษฎกี า
กําหนดโทษตามท่ีระบไุ วใ้ นหมายศาลท่อี อกตามคาํ พพิ ากษานนั้ หรอื ไมน่ อ้ ยกว่าสิบปี ในกรณีต้องโทษ
จาํ คกุ เกนิ สามสบิ สปําีขนึน้ ักไงปานหครณือะจกาํ รครมุกกตาลรอกดฤชษีวฎติ ีกาโดยวธิ กี ารอยสา่ ํางนหกั นงง่ึานอคยณ่างะใกดรรดมงั กตา่อรไกปฤนษ้กีฎไ็กี ดา้
(๑) ให้จําคุกไว้ในสถานท่ีอื่นตามที่บุคคลดังกล่าวร้องขอหรือตามท่ีศาลเห็นสมควร
สํานักนงอานกคจณากะกเรรือรมนกจาํารหกรฤือษสฎถกี าานที่ท่ีกําหนดสไําวน้ใักนงหานมคาณยจะํกาครรุกมกทาร้ังกนฤี้ ษลฎักีกษาณะของสถานสทาํ ี่ดนังักกงาลน่าควณใหะก้เปรร็นมไกปารกฤษฎกี า
ตามท่ีกําหนดในกฎกระทรวงซ่ึงต้องกําหนดวิธีการควบคุมและมาตรการเพ่ือป้องกันการหลบหนีหรือ
ความเสยี หายทอ่ี าสจาํ นเกกั ดิงาขนน้ึ คดณ้วะยกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
(๒) ให้จําคุกไว้ในเรือนจําหรือสถานที่ที่กําหนดไว้ในหมายจําคุกหรือสถานที่อื่น
สํานักตงาานมค(ณ๑ะ)กเรฉรพมากะาวรกนั ฤทษกี่ ฎําีกหานดตามหลักเสกําณนฑักงแ์ าลนะควณิธะกี การรรทมี่กกาํารหกนฤดษใฎนีกกาฎกระทรวง สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
ส(าํ๓น)ักใงหาน้จคําณคุกะกโรดรยมวกิธาีกรกาฤรษอฎื่นกีทาี่สามารถจํากสัดํากนากั รงเาดนินคณทะากงรแรลมะกอารากณฤาษเฎขีกตาของผู้นั้นได้
ตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารทกี่ าํ หนดในกฎกระทรวง
สํานกั งานคณะกรรมการกในฤกษาฎรกี พาิจารณาของศสาําลนตกั งาามนวครณรคะกหรนรมึ่งกใาหร้ศกาฤลษคฎําีกนาึงถึงฐานความสําผนิดักงคาวนาคมณปะรกะรพรมฤกตาิ รกฤษฎีกา
สวัสดิภาพของผู้ซ่ึงต้องจําคุก ตลอดจนสวัสดิภาพและความปลอดภัยของผู้เสียหายและสังคมด้วย
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๔๓ มาตรา ๘๙ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานกั คงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกบั าทรี่ก๒ฤ๕ษ)ฎพีก.ศา. ๒๕๕๐ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๔๔ มาตรา ๘๙/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับสทําี่ น๒ัก๕ง)านพค.ศณ. ะ๒ก๕รร๕ม๐การกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๔๕ มาตรา ๘๙/๒ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สาํ นักคงวาานมคอณาะญการร(มฉกบาับรทก่ีฤ๒ษ๕ฎ)กี พา.ศ. ๒๕๕๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๓๓ - สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ท้ังนี้ ให้ศาลดําเนินการไต่สวนหรือสอบถามผู้เสียหาย เจ้าพนักงานที่เกี่ยวข้องตามหมายจําคุก
สํานักพงนานักคงณานะกฝรา่ รยมปกกาครกรฤอษงฎหกี ราือตาํ รวจในทอ้สํางนทักีน่ ง้ันานหครณือะผก้ซูรรงึ่ มศกาลารเกหฤน็ ษวฎา่ กีมาีส่วนเกีย่ วข้องสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
คําสั่งของศาลตามวรรคหนึ่ง ให้ศาลกําหนดให้เจ้าพนักงานผู้มีหน้าท่ีจัดการตาม
หมายน้ัน เป็นผู้มสีหํานนกั้างทา่ีแนลคะณระับกผรริดมชกอาบรกใฤนษกฎาีกราดําเนินการตาสมําคนํากั สงา่ังนแคลณะะใกหรร้นมํากคาวรากมฤใษนฎมีกาาตรา ๘๙/๑
วรรคส่ี มาใช้บังคบั โดยอนโุ ลม สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
โดยมิชอบดว้ ยกฎสมหาํ ามนตาักรยงาานบ๙คุค๐ณค๔ะล๖กเหรรเลมม่ากื่อนาม้ีมรีกกีสาฤิทรษธอฎิย้าีก่ืนงาวค่าําบร้อุคงคตล่อใศดาตลส้อทํางนถ้อกั ูกงงทคานี่ทุมค่ีมขณัีองใะํานกนครารดจมีอพกาิจาญรากราฤณหษราฎือคีกใดานีอการญณาีอข่ืนอใใหด้
สํานักปงลานอ่ คยณคะอืกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ผูถ้ ูกคมุ ขังเอง
ส(๒ําน)กั พงานนกั คงณานะกอรัยรกมากรารกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
(๓) พนักงานสอบสวน
สํานักงานคณะกรรมการก(๔ฤ)ษผฎ้บูกี าญั ชาการเรอื นสจําาํนหกั รงือานพคัศณดะี กรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
(๕) สามี ภริยา หรอื ญาติของผู้นั้น หรอื บคุ คลอ่ืนใดเพือ่ ประโยชนข์ องผถู้ ูกคุมขงั
สเาํมนื่อักไงดา้รนับคณคําะรก้อรรงมดกังานรั้นกฤใษหฎ้ศกี าาลดําเนินการสไําตน่สักวงนานฝค่าณยะเดกรียรวมโกดายรดก่วฤนษฎถีก้าาศาลเห็นว่า
คําร้องนั้นมีมูล ศาลมีอํานาจสั่งผู้คุมขังให้นําตัวผู้ถูกคุมขังมาศาลโดยพลัน และถ้าผู้คุมขังแสดงให้
สํานกั เงปาน็นทคณ่พี อะกใจรรแมกกศ่ าารลกไฤมษไ่ ฎดีกว้ า่าการคมุ ขงั เปส็นํากนากั รงชานอคบณด้วะกยรกรฎมหกมารากยฤษใหฎศ้ ีกาาลสั่งปล่อยตัวสผําูถ้ นกู ักคงมุานขคังณไปะทกรันรทมี การกฤษฎกี า
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
หมวด ๒
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณคะ้นกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๑๔๗ ใหน้ ําบทบัญญตั ิในมาตรา ๘๑/๑ มาบงั คบั ในเรอื่ งคน้ โดยอนุโลม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
มาตรา ๙๒๔๘ ห้ามมิให้ค้นในท่ีรโหฐานโดยไม่มีหมายค้นหรือคําสั่งของศาล เว้นแต่
พนกั งานฝา่ ยปกคสราํ อนงักหงารนือคตณําระวกจรรเปมน็กาผรคู้ ก้นฤษแฎลีกะาในกรณีดงั ตอ่ สไําปนนกั ี้ งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
(๑) เมื่อมีเสียงร้องให้ช่วยมาจากข้างในท่ีรโหฐาน หรือมีเสียงหรือพฤติการณ์อ่ืนใด
สาํ นักองันานแคสณดะงกไดรว้รม่ามกาเี หรกตฤรุ ษ้าฎยเีกกาิดขน้ึ ในท่รี โหสฐําานนักนงนั้านคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
ส(๒ําน)กั เงมา่อืนปครณาะกกฏรรคมวกาามรผกดิ ฤซษง่ึฎหกี นา้ากําลงั กระทสําําลนงกัในงาทนีร่ คโณหะฐการนรมการกฤษฎีกา
(๓) เมื่อบุคคลที่ได้กระทําความผิดซึ่งหน้า ขณะที่ถูกไล่จับหนีเข้าไปหรือมีเหตุ
สํานกั องันานแคนณ่นะแกฟรร้นมคกวารรกสฤงษสฎัยวกี า่าได้เขา้ ไปซุกซส่อํานนกัตงัวาอนยคูใ่ ณนะทก่รี รโรหมฐกาานรกนฤ้ันษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๔๖ มาตรา ๙๐ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สาํ นกั คงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกับาทรี่ก๒ฤ๒ษ)ฎพกี .ศา. ๒๕๔๗ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๔๗ มาตรา ๙๑ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับทสี่ ๒าํ น๒กั) งพา.นศค. ๒ณ๕ะ๔กร๗รมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๔๘ มาตรา ๙๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สาํ นักคงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกับาทรี่ก๒ฤ๒ษ)ฎพีก.ศา. ๒๕๔๗ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
- ๓๔ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
(๔) เม่ือมีพยานหลักฐานตามสมควรว่าส่ิงของท่ีมีไว้เป็นความผิดหรือได้มาโดยการ
สํานกั กงรานะทคณําคะวการรมมผกิดาหรกรฤือษไดฎ้ใกี ชา้หรือมีไว้เพ่ือจสะํานใชกั ้ใงนานกคาณรกะกรระรทมํากคาวรากมฤษผฎิดีกหารืออาจเป็นพสยาํ านนักหงาลนักคฐณาะนกพริสรมูจกนา์ รกฤษฎีกา
การกระทําความผิดได้ซ่อนหรืออยู่ในนั้น ประกอบทั้งต้องมีเหตุอันควรเชื่อว่าเนื่องจากการเนิ่นช้ากว่า
จะเอาหมายคน้ มสาไําดนส้ักง่ิงาขนอคงณนน้ัะกจระรถมูกกโายรกกฤยษา้ ยฎหีการือทาํ ลายเสยี สกํา่อนนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๕) เม่ือที่รโหฐานน้ันผู้จะต้องถูกจับเป็นเจ้าบ้าน และการจับนั้นมีหมายจับหรือจับ
สํานกั ตงาามนคมณาตะรการร๗ม๘การกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
การตรวจค้นและสกบําาัญนรักชใงชีทาอ้ นราํ คัพนณยาะ์ทจกี่ไตรดาร้จมมาก(กา๔รก)กาใฤรหษตพ้ ฎรนกี วาักจงคา้นนฝรว่ายมปทกั้งจคสัดรํานอทกั งําหงบารนันือคทตณึกําะรแกวสรจดรผมงู้คเกห้นารตสกุผ่งฤมลษอทฎบี่ทีกสําาําใหเน้สาาบมันาทรถึก
สาํ นกั เงขา้านคค้นณไะดก้เรปร็นมหกนารังกสฤือษใฎหีก้ไาว้แก่ผู้ครอบคสรําอนงกั สงถานาคนณทะี่ทกี่ถรูรกมตกราวรจกคฤ้นษฎแีกตา่ถ้าไม่มีผู้ครอสบาํ คนัรกองางนอคยณู่ ณะกรทรี่นมัก้นารกฤษฎกี า
ให้ส่งมอบหนังสือดังกล่าวแก่บุคคลเช่นว่านั้นในทันทีท่ีกระทําได้ และรีบรายงานเหตุผลและผลการ
ตรวจคน้ เป็นหนังสสาํ ือนตักอ่ งผานบู้ คังณคับะกบรญัรมชกาาเรหกนฤือษขฎ้ึนีกไาป สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรีกาา ๙๓ ห้ามมสิใําหน้ทกั ํางากนาครณคะ้นกบรรุคมคกลารใกดฤใษนฎทกี ี่สาาธารณสถาสนํานเวัก้งนาแนตคณ่พะนกักรงรมากนารกฤษฎกี า
ฝ่ายปกครองหรือตํารวจเป็นผู้ค้นในเม่ือมีเหตุอันควรสงสัยว่าบุคคลน้ันมีสิ่งของในความครอบครอง
เพ่อื จะใชใ้ นการกสราํะนทกั ํางคานวาคมณผะดิกรหรมรอืกาซรึ่งกไฤดษม้ ฎาโกี ดายการกระทาํ สคําวนากัมงผาดินหคณรอื ะซกร่ึงรมมีไวก้เาปรก็นฤคษวฎากีมาผิด
สํานักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎราีกา๙๔ ให้พนกั งสาํานนฝักงา่ ายนปคกณคะรกอรงรหมรกอืารตกาํ ฤรษวฎจทกี าีท่ าํ การค้นในทส่รี าํ โนหักฐงาานนคสณ่ังะเกจร้ารขมอกงารกฤษฎีกา
หรือคนอยู่ในนั้นสหาํ รนือกั ผงู้รานักคษณาะสกถรารนมทกา่ีซร่ึงกจฤะษคฎ้นีกาให้ยอมให้เข้าสไําปนกัโดงายนมคิหณวะงกหร้ารมมกอารีกกทฤ้ังษใฎหีก้คาวามสะดวก
ตามสมควรทุกประการในอันที่จะจัดการตามหมาย ทั้งน้ี ให้พนักงานผู้นั้นแสดงหมายหรือถ้าค้นได้
สาํ นกั โงดายนไคมณต่ ะ้อกงรมรีหมมกาารยกกฤใ็ ษหฎแ้ กี สาดงนามและตสาํ แํานหกั นง่งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถ้าบุคคลดังกล่าวในวรรคต้นมิยอมให้เข้าไป เจ้าพนักงานมีอํานาจใช้กําลังเพ่ือเข้าไป
ในกรณีจําเป็นจะสเําปนิดักหงารนือคทณําะลการยรปมรกะารตกูบฤ้าษนฎกีปาระตูเรือน หนส้าําตน่กัางงารนั้วคหณระือกสรริ่งมกกีดาขรวกาฤงษอฎยีก่าางอ่ืนทํานอง
เดียวกันนั้นกไ็ ด้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๕ ในกรณีค้นหาสิ่งของท่ีหาย ถ้าพอทําได้ จะให้เจ้าของหรือผู้ครอบครอง
ส่งิ ของนน้ั หรอื ผแู้ สทาํ นนขกั องางนเขคาณไะปกกรับรมเจก้าาพรกนฤกั ษงฎาีกนาในการคน้ น้นั ดสําว้ นยกั กง็ไาดน้ คณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรีกาา๙๖๔๙ การสคํา้นนกัในงาทนี่รคโณหะฐการรนมตก้อารงกกฤรษะฎทกี ําาระหว่างพระสอําานทักงิตายน์ขคึ้ณนแะกลระรตมกการกฤษฎีกา
มีข้อยกเว้นดังน้ี สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
(๑) เมอื่ ลงมือคน้ แต่ในเวลากลางวัน ถ้ายังไมเ่ สรจ็ จะคน้ ต่อไปในเวลากลางคืนกไ็ ด้
สาํ นักงานคณะกรรมการก(๒ฤ)ษฎในกี กา รณีฉุกเฉินอสยํา่านงักยง่ิงานหครณือะซกึ่งรมรมีกกฎาหรกมฤาษยฎอีก่ืนาบัญญัติให้ค้นสไาํดน้เักปง็นาพนคิเศณษะกจระรมทกําารกฤษฎีกา
การค้นในเวลากลางคนื กไ็ ด้
ส(ํา๓น)กั กงาานรคคณ้นะเพกร่ือรจมับกผารู้ดกุรฤ้าษยฎหกี ราือผู้ร้ายสําคัญสจํานะกัทงําาในนคเณวละการกรลมากงาครืนกฤกษ็ไดฎ้ีกแาต่ต้องได้รับ
อนุญาตพิเศษจากศาลตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการทก่ี ําหนดในขอ้ บังคบั ของประธานศาลฎกี า
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๔๙ มาตรา ๙๖ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานกั คงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกับาทร่ีก๒ฤ๒ษ)ฎพีก.ศา. ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
- ๓๕ - สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๙๗๕๐ ในกรณีท่ีค้นโดยมีหมาย เจา้ พนักงานผมู้ ชี อื่ ในหมายค้นหรือผู้รักษาการ
สาํ นักแงทานนคซณ่ึงตะก้อรงรเมปก็นาพรกนฤักษงฎานกี าฝ่ายปกครองตสํา้ังนแักตง่ราะนดคับณสะากมรรหมรกือาตรํากรฤวษจฎซีก่ึงามียศตั้งแต่ชั้นสราํ้อนยักตงําานรวคจณตะรกีขรร้ึนมไกปารกฤษฎีกา
เทา่ นน้ั มอี ํานาจเป็นหวั หนา้ ไปจัดการใหเ้ ป็นไปตามหมายนน้ั
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
มาตรา ๙๘ การค้นในที่รโหฐานน้ันจะค้นได้แต่เฉพาะเพ่ือหาตัวคนหรือส่ิงของท่ี
สํานกั ตง้อานงกคาณระคก้นรรเทม่ากนาร้ันกฤแษตฎม่ กี ขี าอ้ ยกเวน้ ดังน้ีสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
ซึง่ นา่ จะใช้เปน็ พยส(าํา๑นน)ักหใงลนากันกฐคราณณนะีทเกพ่ีครื่อ้นรเมหปกา็นาสรป่ิงกรขฤะอษโงยฎโชกีดนายห์ ไมรือ่จยํากนั ัดผส้ตู ิ่ง้อสงเําหจน้าากัพหงนราือนักจคงาําณเนะลผกยรู้คร้นมมกีอารํากนฤาษจฎยีกึดาส่ิงของใด ๆ
สาํ นกั งานคณะกรรมการก(๒ฤษ) ฎเีกจา้าพนักงานซึ่งสทํานํากั กงาานรคคณ้นะมกีอรํารมนกาาจรจกฤับษบฎุคกี คา ลหรือสิ่งขอสงาํ อนื่นักงใานนทคี่คณ้นะกนรั้นรมไกดา้ รกฤษฎกี า
เมื่อมีหมายอีกต่างหาก หรือในกรณีความผิดซึ่งหน้า
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
มาตรา ๙๙ ในการค้นนั้น เจ้าพนักงานต้องพยายามมิให้มีการเสียหายและกระจัด
สํานกั กงราะนจคาณยะเกทร่ารทมี่จกะารทกาํ ฤไษดฎ้ ีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สมําานตกั งราานค๑ณ๐ะก๐รรมถก้าามรกีเหฤษตฎุอีกันาควรสงสัยวส่าําบนุคักงคาลนซคึณ่งอะกยรู่ใรนมทกีา่ซรึ่งกคฤ้ษนฎหีกราือจะถูกค้น
จะขัดขวางถึงกับทําให้การค้นไร้ผล เจ้าพนักงานผู้ค้นมีอํานาจเอาตัวผู้นั้นควบคุมไว้หรือให้อยู่ใน
สาํ นักคงวาานมคดณแู ะลกขรรอมงเกจาา้รพกฤนษกั ฎงาีกนาในขณะท่ที าํ กสาํานรคัก้นงาเนทค่าณทจี่ะกาํ เรปรม็นกเาพร่ือกฤมษิใหฎ้ขกี ดัาขวางถงึ กบั ทาํสใาํ หน้กักางรานคคน้ ณนะนั้ กไรรร้ผมลการกฤษฎกี า
สถํา้านมักีเงหานตคุอณันะคกวรรรมสกงาสรัยกฤวษ่าบฎีกุคาคลนั้นได้เอาสสําิ่งนขกั องางนทคี่ตณ้อะงกกรารมรพกาบรกซฤุกษซฎ่อกี นาในร่างกาย
เจ้าพนักงานผู้ค้นมีอาํ นาจคน้ ตวั ผูน้ ัน้ ได้ดงั บัญญัติไว้ตามมาตรา ๘๕
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๑ สิ่งของซ่ึงยึดได้ในการค้น ให้ห่อหรือบรรจุหีบห่อตีตราไว้หรือให้ทํา
เครื่องหมายไว้เป็นสาํสนําักคงัญานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎราีกา๑๐๒ การค้นสําในนกัทง่ีราโนหคฐณาะนกนรั้นรมกก่อารนกลฤงษมฎือีกคา้นให้เจ้าพนักสงาํานนักผงู้คา้นนแคสณดะกงครรวมากมารกฤษฎกี า
บริสุทธิ์เสียก่อน และเท่าที่สามารถจะทําได้ให้ค้นต่อหน้าผู้ครอบครองสถานที่หรือบุคคลในครอบครัว
ของผู้นั้น หรอื ถา้ หสาํานบักุคงคานลคเชณ่นะกกลรร่ามวกนาน้ั รไกมฤ่ไษดฎ้ กกี ็ใาห้คน้ ต่อหนา้ บสําคุ นคกั ลงอานน่ื คอณยะ่ากงนรร้อมยกสาอรกงคฤษนฎซกีึ่งเาจ้าพนักงาน
ได้ขอร้องมาเปน็ พยาน
สาํ นักงานคณะกรรมการกกฤาษรคฎ้นีกาท่ีอยู่หรือสํานสักํางนากั นงาขนอคงณผู้ตะก้อรงรหมากหารรกือฤจษําฎเลีกยาซึ่งถูกควบคุมสหํานรักืองขาังนอคยณู่ใะหก้ทรรํามตก่อารกฤษฎีกา
หน้าผู้น้ัน ถ้าผู้น้ันสไํามน่กัสงาามนาครณถะหกรรือรมไมก่ตาริดกใฤจษมฎาีกกาํากับจะตั้งผู้แสทํานนักหงารนือคใณห้พะกยรารนมมกาารกกําฤกษับฎกกี ็ไาด้ ถ้าผู้แทน
หรอื พยานไมม่ ี ใหค้ น้ ตอ่ หนา้ บคุ คลในครอบครัวหรือต่อหน้าพยานดงั กลา่ วในวรรคก่อน
สํานกั งานคณะกรรมการกสฤิ่งษขฎอีกงใาดท่ียึดได้ต้องสใําหน้ผกั ู้งคารนอคบณคะรกอรรงมสกถาารนกทฤษ่ี บฎุคกี าคลในครอบคสรัําวนผักู้ตงา้อนงคหณาะกจรํารเมลกยารกฤษฎีกา
ผู้แทนหรือพยานดเู พอื่ ใหร้ บั รองว่าถกู ตอ้ ง ถา้ บคุ คลเช่นกลา่ วน้ันรบั รองหรือไมย่ อมรบั รองกใ็ หบ้ ันทึกไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
มาตรา ๑๐๓ ให้เจา้ พนักงานผ้คู น้ บนั ทกึ รายละเอียดแหง่ การคน้ และสง่ิ ของท่ีค้นได้
สาํ นกั นงั้นานตคอ้ ณงมะกบี รัญรมชกีราารยกลฤะษเฎอกียี าดไว้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๕๐ มาตรา ๙๗ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานกั คงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกับาทร่ีก๒ฤ๒ษ)ฎพกี .ศา. ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๓๖ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บันทกึ การคน้ และบัญชีส่ิงของน้ันให้อ่านให้ผู้ครอบครองสถานที่ บุคคลในครอบครัว
สํานักผงตู้าน้อคงหณาะกจรํารเมลกยารผกูแ้ ฤทษนฎหกี ราือพยานฟงั แสลําว้นแักตงาก่ นรคณณี แะกลร้วรใมหก้ผาู้นรกั้นฤลษงฎลีกายามอื ช่อื รบั รองสไําวน้ ักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สมําานตกั รงาาน๑คณ๐ะ๔กรเรจม้ากพารนกักฤงษาฎนีกทา่ีค้นโดยมีหมสาํายนตกั ง้อางนรคีบณสะ่งกบรันรมทกึกาแรกลฤะษบฎัญกี ชาีดังกล่าวใน
มาตราก่อนพร้อมด้วยส่ิงของที่ยึดมา ถ้าพอจะส่งได้ ไปยังผู้ออกหมายหรือเจ้าพนักงานอื่นตามที่
สาํ นักกงําาหนคนณดไะวก้ใรนรหมกมาารยกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
บนั ทึก บญั ชีและสสใําิง่นนขกกัอรงงาณไนปีทคยณี่คงั พ้นะกนโรดักรยงมาไกนมา่สรมกอีหฤบมษสาฎวยกี นโาหดรยือเจเจ้า้าพหนนักา้ งทสาําีใ่ นดนซักองงึ่ื่นาตนซอ้ ค่ึงงไณกมะา่ใกรชรส่พร่งิ มเนหกักลารง่ากานฤนั้นษสฎอกี บาสวน ให้ส่ง
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
มาตรา ๑๐๕ จดหมาย ไปรษณียบัตร โทรเลข ส่ิงพิมพ์หรือเอกสารอ่ืนซึ่งส่งทาง
ไปรษณีย์และโทสรําเนลกั ขงาจนาคกณหะกรรือรถมึงกผารู้ตก้อฤงษหฎาีกหารือจําเลย แสลําะนยักังงามนิไคดณ้สะ่งกรถร้ามเกจา้ารหกฤนษ้าฎทกี ่ีตา้องการเพื่อ
ประโยชน์แห่งการสอบสวน ไต่สวนมูลฟ้อง พิจารณาหรือการกระทําอย่างอ่ืนตามประมวลกฎหมายนี้
สาํ นักใงหาข้นอคคณาํ ะสกัง่รจรมากกศารากลฤถษึงฎเจกี า้ าหน้าที่ไปรษณสํียาน์โทักงราเนลคขณใหะ้สก่งรเรอมกกสารากรฤนษั้นฎมีกาา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
ถา้ อธิบดีกรมตํารวจหรือข้าหลวงประจําจังหวัดเห็นว่าเอกสารนั้นต้องการใช้เพ่ือการ
ดังกลา่ วแล้ว ระหวสา่ ํางนทักีข่ งอานคคําสณัง่ ะตก่อรศรมาลกมารีอกาํ ฤนษาฎจีกขอาให้เจ้าหนา้ ทฝ่ีส่าํานยไักปงราษนคณณยี ะโ์ กทรรรเลมขกเากรบ็กเฤอษกฎสีกาารนนั้ ไวก้ อ่ น
บทบัญญัติแห่งมาตรานี้ไม่ใช้ถึงเอกสารโต้ตอบระหว่างผู้ต้องหาหรือจําเลยกับ
สาํ นักทงนานาคยณควะกามรรขมอกงาผร้นูกฤน้ั ษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
หมวด ๓
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงปาลน่อคยณชะวั่กครรรมาวการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๐๖๕๑ คําร้องขอให้ปล่อยผู้ต้องหาหรือจําเลยชั่วคราวโดยไม่ต้องมีประกัน
สํานกั หงรานือคมณีปะรกะรกรันมกหารรกือฤมษีปฎรกี ะากันและหลักปสรํานะกักงันานไคมณ่ว่าะผกู้รนร้ันมตก้อารงกคฤวษบฎคกี ุมาหรือขังตามหสมําานยักศงาานลคยณ่อะมกยรรื่นมไกดา้ รกฤษฎีกา
โดยผตู้ อ้ งหา จาํ เลย หรือผมู้ ปี ระโยชนเ์ กี่ยวขอ้ ง ดงั นี้
ส(๑าํ น)กั เงมาอ่ืนผคู้ตณ้อะงกหรรามถกกู าครวกบฤคษมุฎอีกยา แู่ ละยงั มิไดถ้ สูกําฟน้อักงงาตน่อคศณาะลกรใหรม้ยก่ืนาตรก่อฤพษนฎักีกงาานสอบสวน
หรือพนกั งานอยั การ แลว้ แตก่ รณี
สํานักงานคณะกรรมการก(๒ฤ)ษเฎมกี ่อื าผ้ตู ้องหาตอ้ งสขํางั นตกั างมาหนมคณายะศการรลมแกลาะรยกังฤมษิไฎดีกถ้ ากู ฟ้องต่อศาลสใาํ หนย้ ักื่นงาตน่อคศณาะลกนรนั้รมการกฤษฎีกา
ส((๓ํา๔น))ัก๕เ๒งมาอื่เนมผค่ือตู้ณศอ้ ะางกหลรรอามถ่ากูกนาฟคร้อํกาพงฤแษิพลฎาว้ กี กาใษหา้ยศนื่ าตลอ่ ชศ้ันาตล้นชสหําน้ั นรตักือ้นงศทานา่ชี คลาํ ณอระุทะกคธรดรรนีณม้ันก์แาลร้วกฤแษมฎ้ยกี ังาไม่มีการย่ืน
สํานกั องุทานธครณณะ์หกรรือรมฎกีกาารกหฤรษือฎมกี ีกาารย่ืนอุทธรณสํา์หนรักืองฎานีกคาณแะลก้วรแรตม่ยกังารไมกฤ่ไดษ้สฎ่งีกสาํานวนไปยังศสาําลนอักุทงาธนรคณณ์หะรกือรรศมากลารกฤษฎีกา
ฎีกา ให้ยนื่ ต่อศาลชน้ั ตน้ ที่ชาํ ระคดนี ้นั
สาํ นกั ใงนานกครณณะีทก่ีรศรามลกชารั้นกตฤ้นษฎเหกี ็นา สมควรให้ปสลําน่อกัยงชาั่นวคคณราะกวรใรหมก้ศาารลกฤชษั้นฎตีก้นาส่ังอนุญาต
มฉิ ะนั้นให้รีบสง่ คาํ ร้องพร้อมสํานวนไปให้ศาลอทุ ธรณ์หรือศาลฎกี าเพือ่ ส่งั แล้วแต่กรณี
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๕๑ มาตรา ๑๐๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบบั ทสี่ ๑าํ น๐กั) งพา.นศค. ๒ณ๕ะ๒กร๒รมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๕๒ มาตรา ๑๐๖ (๔) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
สาํ นกั วงิธาีพนิจคาณระณการครมวากมารอกาฤญษาฎ(กี ฉาบับที่ ๑๓) พ.สศํา. น๒ัก๕ง๒าน๕คณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
- ๓๗ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
(๕) เม่ือศาลส่งสํานวนไปยังศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาแล้ว จะย่ืนต่อศาลชั้นต้นท่ี
สํานกั ชงาํารนะคคณดะนีกั้นรรมหกราือรจกะฤยษ่ืนฎตีกอ่าศาลอทุ ธรณ์หสํารนอื กั ศงาาลนฎคณีกาะกแรลร้วมแกตาร่กกรฤณษกีฎ็ไีกดา้ สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่ย่ืนต่อศาลชั้นต้น ให้ศาลช้ันต้นรีบส่งคําร้องไปยังศาลอุทธรณ์หรือศาล
ฎกี าเพอ่ื ส่ัง แลว้ แสตาํ ก่นรักณงาีนคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรีกาา๑๐๗๕๓ เมื่อสไําดน้รกั ับงาคนําครณ้อะงกใรหร้ปมกลา่อรยกชฤั่วษคฎรกี าาว ให้เจ้าพนักสงําานนักงหารนือคศณาะลกรรีบรมสกั่งารกฤษฎีกา
อตายม่าทงร่ีบวัญดญเรัต็วิไแวล้ใะนสผมํานู้ตาตกั้องรงาาหนา๑คหณ๐ร๘ะือกจมรรําามเตลกรยาารทก๑ุกฤ๐คษ๘นฎ/พีก๑าึงไมดา้รตับรอาน๑ุญ๐า๙สตํามในหากั ต้ปงราลนา่อค๑ยณช๑ะั่ว๐กครมรรามาวตกราโราดก๑ยฤอ๑ษาฎ๑ศีกัยมาหาตลรักาเก๑ณ๑ฑ๒์
สํานกั มงาานตคราณะ๑ก๑ร๓รมแกลาระกมฤาษตฎรีกาา๑๑๓/๑ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
คําสั่งให้ปล่อยชั่วคราวตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้เกี่ยวข้องดําเนินการตามคําสั่งดังกล่าว
โดยทันที สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สาํ นักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรกีาา๑๐๘๕๔ ในกสาํานรวกั ินงาิจนฉคัยณคะํากรร้อรมงขกอารใกหฤ้ปษลฎ่อีกยาช่ัวคราว ต้องสพาํ นิจักางราณนคาขณ้อะเกหรลรม่ากนา้ี รกฤษฎีกา
ประกอบ ส(๑ําน)ักคงวานามคณหนะกกั รเรบมากแาหร่งกขฤอ้ษหฎาีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) พยานหลกั ฐานท่ปี รากฏแล้วมีเพียงใด สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สาํ นักงานคณะกรรมการก(๓ฤ)ษพฎีกฤาติการณต์ า่ ง ๆสําแนหักง่ งคานดคเี ปณน็ ะอกยรร่ามงไกรารกฤษฎีกา
ส(๔ําน)ักเงชา่ือนถคือณผะู้รกอ้ รงรขมอกปารรกะฤกษนั ฎหกี ราือหลักประกันสไําดนเ้ักพงยีานงคใดณะกรรมการกฤษฎกี า
(๕) ผูต้ อ้ งหาหรอื จําเลยนา่ จะหลบหนีหรอื ไม่
สํานกั งานคณะกรรมการก(๖ฤ)ษภฎกียั าอันตรายหรือคสวํานามักงเสานียคหณายะกทรี่จระมเกกาิดรจกาฤกษกฎาีกราปลอ่ ยชว่ั คราวสมํานีเพักงยี างนใคดณหระกือรไมรม่ การกฤษฎีกา
(๗) ในกรณีท่ีผู้ต้องหาหรือจําเลยต้องขังตามหมายศาล ถ้ามีคําคัดค้านของพนักงาน
สอบสวน พนักงาสนาํ อนัยกั กงาานรคโณจทะกกร์ รหมรกอื าผรกเู้ สฤียษหฎาีกยา แล้วแต่กรณสี ํศานากัลงพานึงรคบั ณปะรกะรกรมอกบากรากรฤวษนิ ฎิจีกฉายั ได้
เพื่อประโยชน์ในการดําเนินการตามวรรคหน่ึง เจ้าพนักงานซึ่งมีอํานาจส่ังให้ปล่อย
สาํ นกั ชงั่วาคนคราณวะหกรรอืรมศกาาลรอกาฤจษรฎับกี ฟาังข้อเท็จจริง สรําานยักงงาานนหครณือะคกวรรามมกเหาร็นกขฤอษงฎเจีกา้าพนักงานซ่ึงกสฎาํ หนักมงาายนกคําณหะนกดรรใหมก้มาี รกฤษฎกี า
อํานาจหน้าท่ีที่เกย่ี วกับการนนั้ เพอ่ื ประกอบการพิจารณาสัง่ คําร้องด้วยกไ็ ด้
สใาํนนกักางรานอคนณุญะากตรใรหมก้ปาลร่อกฤยษชฎ่ัวีกคาราว เจ้าพนักสงําานนกั ซงึ่างนมคีอณํานะการจรสมั่งกใาหรก้ปฤลษ่อฎยกี ชา่ัวคราวหรือ
ศาลจะกําหนดเง่ือนไขเก่ียวกับที่อยู่หรือเง่ือนไขอื่นใดให้ผู้ถูกปล่อยชั่วคราวปฏิบัติ หรือในกรณีที่ผู้นั้น
สํานักยงินานยคอณมะจกะรสรม่ังใกหาร้ใกชฤ้อษุปฎกกี ราณ์อิเล็กทรอสนําิกนสัก์หงารนือคอณุปะกกรรรณม์อก่ืานรใกดฤทษี่สฎาีกมาารถใช้ตรวจสสาํ อนบักหงารนือคจณําะกกัดรรกมากรารกฤษฎกี า
เดินทางของผู้ถูกสปํานลัก่องยานชค่ัวณคะรการวรกม็ไกดา้รกทฤ้ังษนฎี้ กี เาพื่อป้องกันกสาํารนหักลงบานหคนณี ะหกรรือรมภกัยาอรกันฤตษรฎากี ยา หรือความ
เสียหายที่อาจเกิดขึ้น แต่ถ้าผู้ถูกปล่อยช่ัวคราวมีอายุไม่ถึงสิบแปดปีบริบูรณ์ แม้ผู้นั้นยินยอม จะสั่งให้
สํานักใงชา้อนุปคณกระกณร์ดรมังกกาลร่ากวฤไษดฎ้ตีก่อาเมื่อผู้น้ันมีพสฤําตนิกกั งาารนณค์ทณี่อะการจรเมปก็นารภกัยฤตษ่อฎบีกุาคคลอื่นอย่างสราํ้านยักแงรานงคหณระือกมรรีเหมกตาุ รกฤษฎกี า
สมควรประการอื่น๕๕
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๕๓ มาตรา ๑๐๗ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สาํ นักคงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกบั าทร่ีก๒ฤ๒ษ)ฎพกี .ศา. ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๕๔ มาตรา ๑๐๘ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับทสี่ ๒าํ น๒ัก) งพา.นศค. ๒ณ๕ะ๔กร๗รมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๕๕ มาตรา ๑๐๘ วรรคสาม แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
สํานักวงิธาีพนิจคาณรณะการครวมากมาอรากญฤาษฎ(ฉีกบาับที่ ๓๐) พ.ศ.ส๒ํา๕น๕กั ง๘านคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
- ๓๘ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎรากี า๑๐๘/๑๕๖ กสาํารนสัก่ังงไามน่ใคหณ้ปะลก่รอรยมชก่ัวาครกราฤวษฎจกี ะากระทําได้ต่อเสมาํ ่ือนมักีเงหานตคุอณันะคกวรรรเมชกื่อารกฤษฎีกา
เหตุใดเหตุหน่งึ ดงั ต่อไปน้ี
ส(๑าํ น)กั ผง้ตูาน้อคงณหาะหกรรรือมจกาํ าเรลกยฤจษะฎหกี ลาบหนี สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
(๒) ผตู้ ้องหาหรือจําเลยจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลกั ฐาน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการก(๓ฤ)ษผฎู้ตีกอ้า งหาหรือจาํ เสลํายนจกั ะงไาปนกคอ่ณเะหกตรุอรนัมกตารรากยฤปษรฎะกี กาารอื่น
ส((๔าํ๕น))ักผกงรู้าาน้อรคปงขณลอ่อะปกยรรชระั่วมกคกนั ราหรากวรฤือจษะหฎเลปกีัก็นาปอรุปะสกรันรไคมห่นรา่ ืเอสชําก่ือน่อถกั ใอืงหา้เนกคิดณคะวการมรเมสกียาหรกาฤยษตฎ่อกี กาารสอบสวน
สํานกั ขงอานงเคจณา้ พะกนรักรมงากนารหกรฤอื ษกฎาีกราดําเนินคดใี นศสาําลนกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คําสั่งไม่ให้ปล่อยชั่วคราวต้องแสดงเหตุผล และต้องแจ้งเหตุดังกล่าวให้ผู้ต้องหาหรือ
จาํ เลยและผูย้ ื่นคาํสรําน้อักงขงาอนใคหณป้ ะลก่อรยรชมั่วกคารรกาฤวษทฎราีกบา เปน็ หนงั สือโสดํายนเักรงว็ านคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรากี า๑๐๘/๒๕๗ ใสนํากนรักณงาีทนค่ีพณยาะกนรสรํามคกัญารใกนฤคษดฎีอีกาาจได้รับภัยอันสตาํ รนาักยงอานันคเนณ่ือะงกมรรามแกตา่ รกฤษฎกี า
การปลอ่ ยช่วั คราวผตู้ อ้ งหาหรือจําเลย พยานนนั้ อาจคดั คา้ นการปลอ่ ยช่ัวคราวนั้นได้ โดยย่ืนคําร้องต่อ
พนักงานสอบสวนสาํ พนนกั งักางนาคนณอะยั กกรารรมกหารรอื กศฤาษลฎีกแาล้วแตก่ รณี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
ถ้ามีคําคัดค้านการปล่อยชั่วคราวตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงานสอบสวน พนักงาน
สาํ นกั องัยานกคาณรหะกรรือรศมากลารกแฤลษ้วฎแีกตา่กรณี พิจารณสําานคักํางคานัดคคณ้านะกดรังรกมลก่าารวกทฤันษทฎีีกโาดยให้มีอํานาสจาํเนรัีกยงกาผนู้ทคณี่เกะี่ยกวรรขม้อกงารกฤษฎีกา
ท้ังสองฝ่ายมาสอสบาํ ถนาักมงเาพน่อืคปณระะกกรรอมบกกาารรกพฤษิจฎารกี ณา าและมคี าํ สั่งสตํานามักทงาเี่ นหค็นณสะมกครวรรมการกฤษฎีกา
สํานกั งานคณะกรรมการกมฤาษตฎรากี า๑๐๙๕๘ ในกสรําณนกัีทงี่ผานู้ตค้อณงหะกาหรรรมือกจาํารเกลฤยษตฎ้อกี งาหาหรือถูกฟ้อสงาํในนักคงวาานมคผณิดะมกีอรรัตมรกาารกฤษฎกี า
โทษจําคุกอย่างสูงเกินสิบปี ถ้ามีคําร้องขอให้ปล่อยช่ัวคราว ในระหว่างสอบสวนหรือระหว่างการ
พิจารณาของศาลสชําน้ันกัตง้นานศคาณละจกะรตรม้อกงาถรากมฤพษนฎักกี างานสอบสวนสพํานนกั ักงงาานนคอณัยะกกรารรมหการรือกโฤจษทฎกกี ์วา่าจะคัดค้าน
ประการใดหรือไม่ ถา้ ไม่อาจถามไดโ้ ดยมีเหตอุ นั ควรศาลจะงดการถามเสียก็ได้แตต่ ้องบันทึกเหตุน้ันไว้
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
มาตรา ๑๑๐๕๙ ในคดีมีอตั ราโทษจําคุกอย่างสูงเกินห้าปีขึ้นไป ผู้ที่ถูกปล่อยช่ัวคราว
ตอ้ งมีประกนั และสจําะนมักหีงาลนักคปณระะกกรนัรมดกว้ ายรหกรฤือษไฎมกี ่กาไ็ ด้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
ในคดีอย่างอนื่ จะปลอ่ ยชัว่ คราวโดยไมม่ ีประกนั เลย หรือมีประกัน หรือมีประกันและ
สาํ นกั หงลานกั คปณระะกกรนั รดม้วกยารกกไ็ ฤดษ้ ฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สกาํ านรักเงราียนกคปณระะกกรนั รมหกราือรหกลฤักษปฎกีระา กันตามวรรคสหํานนกั ่ึงงหารนือควณระรกครสรอมงกจาระกเรฤียษกฎจีกนาเกินควรแก่
กรณีมิได้ และต้องคํานึงถึงเง่ือนไขและมาตรการป้องกันต่าง ๆ ท่ีได้ใช้กับผู้ถูกปล่อยชั่วคราว
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๕๖ มาตรา ๑๐๘/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ
อาญา (ฉบับที่ ๒๒)สพํา.นศกั. ๒งา๕น๔ค๗ณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๕๗ มาตรา ๑๐๘/๒ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานกั คงวาานมคอณาะญการร(มฉกบาับรทก่ีฤ๒ษ๘ฎ)กี พา.ศ. ๒๕๕๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๕๘ มาตรา ๑๐๙ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับทส่ี ๑ําน๐ัก) งพา.นศค. ๒ณ๕ะ๒กร๒รมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๕๙ มาตรา ๑๑๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานกั คงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกบั าทร่ีก๒ฤ๒ษ)ฎพีก.ศา. ๒๕๔๗ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
- ๓๙ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประกอบด้วย ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขท่ีกําหนดในกฎกระทรวง หรือ
สาํ นกั ขงอ้านบคังณคบัะกขรอรงมปกราะรธกาฤนษศฎากี ลาฎกี า แล้วแตสก่ ํารนณกั ี๖ง๐านคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมาํ านตกั งราานค๑ณ๑ะก๑รรมเมกาื่อรจกฤะษปฎลีก่อายชั่วคราวโดสํายนไกัมง่มานีปครณะะกกันรรเมลกยารกก่อฤษนฎทีกี่จาะปล่อยไป
ให้ผู้ต้องหาหรือจาํ เลยสาบานหรือปฏิญาณตนว่าจะมาตามนัดหรือหมายเรียก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สมาํ านตกั รงาาน๑คณ๑ะ๒กรรเมมก่ือาจระกปฤษลฎ่อีกยาชั่วคราวโดยมสีําปนรักะงกานันคหณระืกอรมรีปมรกะารกกันฤแษลฎะกี หา ลักประกัน
ก่อนปลอ่ ยไปให้ผู้ประกันหรอื ผู้เป็นหลักประกันลงลายมอื ชื่อในสัญญาประกันน้นั
สํานกั งานคณะกรรมการกในฤสษัญฎกี ญาาประกันนอกสจํานากกั ขงา้อนคควณาะมกอรยร่ามงกอานื่รกอฤันษพฎึงีกมาี ต้องมีข้อควาสมําดนงัักนงาีด้ นว้ คยณะกรรมการกฤษฎกี า
(๑) ผู้ถูกปล่อยช่ัวคราวหรือผู้ประกัน แล้วแต่กรณี จะปฏิบัติตามนัดหรือหมายเรียก
ของเจา้ พนกั งานหสรํานือกัศงาาลนคซณง่ึ ใะหกป้รรลมอ่ กยาชรัว่กคฤษราฎวีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
(๒) เมอ่ื ผิดสญั ญาจะใชเ้ งนิ จํานวนท่ีระบุไว้
สาํ นกั งานคณะกรรมการกในฤษสฎัญกี ญา าประกันจะสกําํานหักงนาดนภคณาระกะรหรนม้ากทาร่ีหกรฤือษเฎงีกื่อานไขให้ผู้ถูกปสลําน่อักยงชาั่นวคคณราะวกรหรมรกือารกฤษฎีกา
ผปู้ ระกันต้องปฏิบตั ิเกินความจําเปน็ แก่กรณมี ิได๖้ ๑
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานกั จงะานมคีปณระะกกรันรหมรกือารมกมีปฤารษตะฎรกกีาันา๑แล๑ะ๓ห๖ล๒ักปเมรื่อะสพกํานันนกั หักงงราาือนนคไมสณ่อะกบการสรรปวมนลก่หอารยรกืชอฤั่วพษคนฎรักกี างาวานนั้นอใัยหก้ใชาร้ไดส้รั่งสะปําหลนว่อัก่ายงงาชกนั่วาคครณสระาอกวบรไสรมมว่วกน่าารกฤษฎีกา
หรือจนกว่าผู้ต้องสหํานาถักูงกาศนาคลณสะั่งกขรังรรมะกหารวก่าฤงษสฎอกีบาสวนหรือจนถสึงําศนากั ลงาปนรคะณทะับกฟรร้อมงกาแรตก่มฤิใษหฎ้เกี กาินสามเดือน
นับแต่วันแรกท่ีมีการปล่อยชั่วคราว ไม่ว่าเป็นการปล่อยช่ัวคราวโดยพนักงานสอบสวนหรือพนักงาน
สํานกั องัยานกคาณร ะใกนรกรรมณกาีทร่ีมกีเฤหษตฎุจกี ําาเป็นทําให้ไม่อสาํานจกัทงําากนาครณสะอกบรสรมวกนาไรดก้เฤสษรฎ็จภกี าายในกําหนดสสาาํ มนัเกดงือานนคจณะะยกืดรเรวมลกาารกฤษฎกี า
การปลอ่ ยชัว่ คราวใหเ้ กินสามเดอื นก็ได้ แตม่ ใิ ห้เกนิ หกเดือน
สเาํมน่ือกั กงาานรคปณละ่อกยรชรมั่วกคารรากวฤสษิ้นฎสีกุาดลงตามวรรคสําหนนัก่ึงงแานลค้วณถะ้การยรังมมกีคาวรกาฤมษจฎําีกเปา ็นที่จะต้อง
ควบคุมผู้ต้องหาไว้ต่อไปให้ส่งผู้ต้องหามาศาล และให้นําบทบัญญัติมาตรา ๘๗ วรรคสี่ ถึงวรรคเก้า
สํานักมงาานใชค้บณังะคกับรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สมําานตักรงาาน๑ค๑ณ๓ะก/ร๑ร๖ม๓กาใรนกฤกษรฎณกี ีทาี่มีการปล่อยชส่ัวํานคกัรงาาวนผคู้ตณ้อะงกหรารใมนกชารั้นกสฤอษบฎสีกวานโดยมีการ
สาํ นกั วงาางนเคงินณสะกดรหรรมือกหารลกักฤทษรฎัพีกยา์อ่ืนเป็นประกสันํานไมกั ง่วา่านตค่อณพะนกักรรงมากนาสรอกบฤษสฎวนีกาหรือพนักงานสอาํัยนกักางรานแคลณะะยกังรไรมม่ไกดา้ รกฤษฎกี า
รับคืน หากผู้ต้องหาหรือจําเลยประสงค์จะขอปล่อยช่ัวคราวต่อไป ผู้ต้องหาหรือจําเลยหรือผู้มี
ประโยชน์เกี่ยวข้อสงาํ อนักาจงายนื่นคคณําะรก้อรงรตม่อกพารนกักฤงษาฎนีกอาัยการหรือศาสลํานแกั ลง้วาแนตค่กณระณกรี รโมดกยาขรอกใฤหษ้ถฎือีกเาอาทรัพย์สิน
ดังกลา่ วเป็นหลกั ประกันต่อไปก็ได้ เม่ือพนักงานอัยการหรือศาลเห็นสมควรแล้วอาจมีคําส่ังอนุญาตให้
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๖๐ มาตรา ๑๑๐ วรรคสาม แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
วิธีพิจารณาความอสาญํานากั (งฉาบนับคทณ่ี ะ๓ก๐ร)รพม.กศา.ร๒ก๕ฤษ๕ฎ๘กี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๖๑ มาตรา ๑๑๒ วรรคสาม เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักคงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกบั าทรี่ก๒ฤ๒ษ)ฎพีก.ศา. ๒๕๔๗ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๖๒ มาตรา ๑๑๓ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบบั ทสี่ ๑าํ น๗ัก) งพา.นศค. ๒ณ๕ะ๓กร๒รมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๖๓ มาตรา ๑๑๓/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สาํ นกั คงวาานมคอณาะญการร(ฉมบกับารทกี่ ฤ๒ษ๒ฎ) กี พา.ศ. ๒๕๔๗ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
- ๔๐ - สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ปล่อยช่ัวคราว โดยถือว่าเงินสดหรือหลักทรัพย์ดังกล่าวน้ันเป็นหลักประกันในช้ันพนักงานอัยการหรือ
สาํ นักศงาานลคแณละ้วกแรรตม่กกราณรกีกฤ็ไษดฎ้ กีใาห้พนักงานอัยสกํานาักรงหารนือคศณาะลกนรร้ันมแกจาร้งกพฤนษักฎงกี าานสอบสวนหสราํือนพักนงาักนงคาณนะอกัยรรกมากรารกฤษฎีกา
แล้วแต่กรณี ให้ส่งหลักประกันเช่นว่านั้นต่อพนักงานอัยการหรือศาลภายในระยะเวลาที่พนักงาน
อยั การหรอื ศาลเหสน็าํ นสกั มงคานวรคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
ในกรณปี ลอ่ ยชว่ั คราว โดยมบี ุคคลเปน็ ประกันหรือหลักประกันต่อพนักงานสอบสวน
สํานักหงรานือคพณนะักกงรารนมอกัายรกกาฤรษฎหีกาากบุคคลเช่นวส่าํานน้ันักรง้อานงขคณอะพกนรรักมงกาานรอกฤัยษกฎากีรหา รือศาลอาจถสือาํ นเอักางบานุคคคณละนกั้นรรเปมก็นารกฤษฎกี า
ใปหร้พะกนนั ักหงราือนหสลอักบปสสราํ นวะักกนงนัหาในรนืคอกณพาะรนกปักรลรง่อมายกนชาอร่ัวักยคฤกรษาาฎรวกีตแา่อลไป้วกแ็ไตด่ก้ กรรณณีสสีเําช่นง่นเกั อวง่ากานนสคี้ าพณรนะเกกักร่ีงยราวมนกกอับาัยรกกกาฤารรษปหฎรรีกือะาศกาันลภจาะยแใจน้ง
สาํ นกั รงะายนะคเณวละการทร่ีเมหกน็ าสรกมฤคษวฎรกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมาํ นาตักงราานค๑ณ๑ะก๔รรมเกมาื่อรกจฤะษปฎลกี ่าอยชั่วคราวโสดํานยกัใงหา้มนคีปณระะกกรัรนมแกลาระกหฤลษัฎกีกปาระกันด้วย
ก่อนปล่อยตัวไป ให้ผู้ร้องขอประกันจัดหาหลักประกันมาดังต้องการ
สาํ นกั งานคณะกรรมการกหฤลษักฎปีกราะกันมี ๓ ชนดิสําคนือักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) มีเงนิ สดมาวาง สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ส(๒ําน)ักมงีหานลคักณทะรกัพรยรมอ์ ก่ืนามรากวฤาษงฎีกา
(๓) มีบคุ คลมาเป็นหลักประกนั โดยแสดงหลกั ทรพั ย์
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมําานตักงราานค๑ณ๑ะ๕กร๖ร๔มกโาดรกยฤคษวฎากี มาปรากฏต่อมสาํานหกั รงาือนเคนณื่อะงกจรารมกกกาลรกฉฤ้อษฉฎลีกหารือผิดหลง
ปรากฏว่าสัญญาประกันตํ่าไปหรือหลักประกันไม่เพียงพอ หรือเงื่อนไขที่กําหนดไว้ไม่เหมาะสม
สํานกั ใงหา้เนจค้าณพะนกักรรงมานกาหรรกือฤศษาฎลีกมา ีอํานาจส่ังเปสลํา่ียนนักงสาัญนคญณาะปกรระรกมันกาใรหก้จฤําษนฎวีกนาเงินสูงข้ึน หรสือํานเรักียงกานหคลณักะปกรระรมกกันารกฤษฎกี า
เพ่มิ หรือให้ดกี วา่ เดิม หรือเปลี่ยนแปลงเงอื่ นไขทกี่ าํ หนดไว้ใหม้ ีความเหมาะสมยง่ิ ข้ึน
สภาํ นายักงหาลนัคงทณี่มะกีครํารสมั่กงาปรลก่ฤอษยฎชีกั่วาคราวแล้ว หสาํากนกัพงฤานตคิกณาะรกณรร์แมหก่งารคกดฤีเษปฎลกี ี่ยานแปลงไป
ให้เจ้าพนักงานหรือศาลมีอํานาจส่ังลดหลักประกันได้ตามท่ีเห็นสมควร
สาํ นกั งานคณะกรรมการกในฤษกฎรีกณา ีท่ีศาลปล่อสยํานชัก่ัวงคานรคาณวแะกลระรมคกดาีขรกึ้นฤไษปฎสีกู่าศาลสูง ศาลสสําูนงมักงีอาํนาคนณาะจกแรกรม้ไกขารกฤษฎีกา
เปล่ียนแปลงจํานวนเงนิ ตามสญั ญาประกนั หรือเงอื่ นไขท่ีศาลล่างกําหนดไวไ้ ด้ตามทเ่ี หน็ สมควร
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๖ การขอถอนสัญญาประกันหรือขอถอนหลักประกัน ย่อมทําได้เมื่อ
สํานักผงู้ทานาํ คสณัญะญกรารมมอกบารตกัวฤผษู้ตฎ้อกี งาหาหรือจาํ เลยสคํานืนกั ตง่อานเจค้าณพะนกักรรงมากนาหรรกือฤษศฎาลกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมาํ านตกั งราานค๑ณ๑ะ๗กร๖ร๕มกเามรื่กอฤผษู้ตฎ้อีกงาหา หรือจํ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ก งา น ฝ่ า ย
าเลยหนีหรือจะหลบหนี ให้พนั
สาํ นกั ปงกานคครณองะหกรรรือมตกําารรวกจฤทษ่ีพฎีกบาการกระทําดังสกํานลัก่าวงามนีอคําณนะากจรจรับมผกาู้ตร้อกงฤหษาฎหกี ราือจําเลยนั้นไดส้ ําแนตัก่ใงนากนรคณณะีทกี่บรุครมคกลารกฤษฎกี า
ซึ่งทําสัญญาประกันหรือเป็นหลักประกันเป็นผู้พบเห็นการกระทําดังกล่าว อาจขอให้พนักงานฝ่าย
ปกครองหรือตําสรําวนจกั ทงาี่ในกคลณ้ทะี่สกุดรรจมับกผารู้ตก้อฤงษหฎาีกหา รือจําเลยไดส้ ําถน้าักไงมาน่สคาณมะากรรถรขมกอาครวกาฤมษฎชกี่วายเหลือจาก
เจ้าพนักงานได้ทันท่วงที ก็ให้มีอํานาจจับผู้ต้องหาหรือจําเลยได้เอง แล้วส่งไปยังพนักงานฝ่าย
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๖๔ มาตรา ๑๑๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับทส่ี ๒ําน๒กั) งพา.นศค. ๒ณ๕ะ๔กร๗รมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๖๕ มาตรา ๑๑๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สาํ นักคงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกับาทรี่ก๒ฤ๒ษ)ฎพกี .ศา. ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๔๑ - สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
ปกครองหรือตํารวจท่ีใกล้ท่ีสุด และให้เจ้าพนักงานนั้นรีบจัดส่งผู้ต้องหาหรือจําเลยไปยังเจ้าพนักงาน
สํานักหงรานอื คศณาละกโรดรยมคกดิารคกา่ ฤพษาฎหกี นาะจากบุคคลซสง่ึ ําทนําักสงาญั นญคณาปะรกะรรกมันกหารรกอื ฤเปษน็ฎหกี าลกั ประกันนัน้ สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีท่ีมีคําสั่งให้ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรืออุปกรณ์อื่นใดตามมาตรา ๑๐๘
วรรคสาม กับผู้ตส้อาํ งนหกั างาหนรคือณจะํากเลรรยมใกดารถก้าฤปษรฎาีกกาฏว่าอุปกรณส์ดําังนกักลง่าานวถคูณกทะกํารลรามยกหารรกือฤทษําฎใีกหา้ใช้การไม่ได้
ไม่ว่าโดยวิธีใด ให้สันนษิ ฐานว่าผ้ตู อ้ งหาหรือจําเลยนัน้ หนีหรอื จะหลบหนี๖๖
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมําานตกั รงาาน๑ค๑ณ๘ะกรเรมมื่อกคารดกีถฤึงษทฎี่สีกุดาหรือความรับสผําิดนตกั งาามนสคัญณญะการปรรมะกการันกหฤมษดฎไีกปาตามมาตรา
๑๑๖ หรือโดยเหตอุ นื่ ใหค้ นื หลักประกันแกผ่ ทู้ ค่ี วรรับไป
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๙๖๗ ในกรณีผิดสัญญาประกันต่อศาล ศาลมีอํานาจส่ังบังคับตามสัญญา
ประกันหรือตามทสศ่ี ํานาลักเงหานน็ คสณมะคกวรรรโมดกยามรติกฤ้อษงฟฎ้อกี าง ทัง้ น้ี ศาลอสาําจนสักง่ั งงาดนกคาณระบกังรครบัมกตาารมกสฤญัษฎญีกาาประกันหรือ
ลดจํานวนเงินที่ต้องใช้ตามสัญญาประกันก็ได้ โดยคํานึงถึงความพยายามของผู้ประกันในการติดตาม
สํานักตงัวานผคู้ตณ้อะงกหรารหมรกือารจกําฤเษลฎยีกทา่ีหลบหนี รวมสทํานั้งกัคงวาานมคเณสะียกหรารยมทกา่ีเรกกิดฤขษ้ึนฎวีก่าามีมากน้อยเพสียํานงใักดงปานรคะณกะอกบรดรม้วกยารกฤษฎกี า
และเม่ือศาลสั่งประการใดแล้วฝ่ายผู้ถูกบังคับตามสัญญาประกันหรือพนักงานอัยการมีอํานาจอุทธรณ์
ได้ คาํ วินจิ ฉยั ของสศาํ านลักองาุทนธครณณะใ์ กหรเ้ รปม็นกทารีส่ กดุ ฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานกั ไงมา่อนยคใู่ณนะขกา่ รยรทมกจี่ าะรถกเูกงฤินยษึดสฎหดกี รหาือรอือาหยลัดักเพทื่อรัพชสาํยําร์อนะ่ืนักหงทนาี่นนี้ใหําคมแ้ณกาะวเ่กจารา้งรหตมน่อกา้ีอศร่นืากลจฤเนษพกฎื่อวกี เ่าาปค็นวหามลรักบั ปผรดิ ะตกสาันาํมนตสักาญั มงาญมนาาคตปณรระาะกกร๑ันร๑มจก๔ะารกฤษฎกี า
ระงับส้ินไป เว้นแสาํตน่ศักางลานเหค็นณวะ่กาหรรนม้ีขกอารงกเฤจษ้าหฎกีนา้ีนั้นมิได้เกิดจสาํากนกกั างรานฉค้อณฉะลกแรลรมะกมาีครํากสฤ่ัษงใฎหกี ้ปาล่อยทรัพย์
ดงั กลา่ ว
สํานกั งานคณะกรรมการกในฤกษรฎณกี าีท่ีจําเป็นต้องสมําีกนากั รงบานังคคับณคะกดรีเรพมรกาาะรผกิดฤสษัญฎีกญาาประกันตามสวํารนรักคงหานนคึ่งณใะหก้ศรรามลกมาี รกฤษฎีกา
อํานาจออกหมายบังคับคดีหรือคําส่ังอ่ืนใดเพื่อบังคับเอาแก่ทรัพย์สินของบุคคลซ่ึงต้องรับผิดตาม
สัญญาประกันไดส้เําสนมักืองานนวค่าณเปะก็นรลรูกมกหานรี้กตฤาษมฎคีกําาพิพากษา โดสยําในหัก้เงจา้านพคนณักะกงรารนมศกาาลรกทฤี่ไษดฎ้รกีับาแต่งตั้งและ
พนักงานอัยการเป็นผู้มีอํานาจหน้าที่ในการบังคับตามสัญญาประกัน และให้เจ้าพนักงานบังคับคดี
สาํ นักกงรานมคบณังคะกับรครดมีกมาีอรกําฤนษาฎจกีหาน้าท่ียึดหรืออสาํายนัดักทงารนัพคยณ์สะินกขรรอมงกผาู้ปรกระฤกษัฎนีกแาละขายทอดตสลําานดักตงาามนทคณ่ีไดะ้รกับรรแมจก้งารกฤษฎีกา
จากศาล หรือพนักงานอยั การ และถ้าจะต้องขายทรัพย์สินที่วางเป็นหลักประกันไว้ต่อศาล เม่ือศาลส่ง
ทรัพย์สินหรอื หนสงั สํานือกัสงําาคนัญคณสําะหกรรรบั มทกราัพรกยฤส์ ษนิ ฎนกี นั้ าไปยังเจา้ พนกัสงํานานกั งบางันคคับณคะดกีรกรรมมกบารังกคฤบั ษคฎดีกี าให้ถือว่าได้มี
สาํ นักกงาานรยคึดณทะกรรัพรยม์สกินารดกังฤกษลฎ่าีกวาแล้ว ทั้งน้ี มสิใําหน้หกั นงา่วนยคงณาะนกขรอรมงรกัฐารเรกียฤกษคฎ่าีกฤาชาธรรมเนียมสําหนรักืองคาน่าคใชณ้จะ่ากยรรจมากการกฤษฎีกา
ผู้ดําเนนิ การบงั คับคดี
สกําานรักบงาังนคคับณคะดกีตรรามมกมาารตกฤรษานฎี้ีกใาห้ปฏิบัติตามสปํารนะักมงาวนลคกณฎะหกมรรามยกวาิธรีพกฤิจษาฎรณีกาาความแพ่ง
โดยอนุโลม เว้นแต่ประธานศาลฎีกาโดยความเห็นชอบของท่ีประชุมใหญ่ศาลฎีกาจะออกข้อบังคับ
สํานกั กงาําหนคนณดไะวกเ้รปรน็มกอายร่ากงฤอษ่นื ฎขกี า้อบังคับน้ันเมอ่ืสปํานรกัะงกาานศคใณนะรการชรกมจิ กจาารกนฤุเบษกฎษกี าาแลว้ ใหใ้ ชบ้ งั คสบัาํ นไักดง้ านคณะกรรมการกฤษฎกี า
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๖๖ มาตรา ๑๑๗ วรรคสอง เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับทส่ี ๓ําน๐ัก) งพา.นศค. ๒ณ๕ะ๕กร๘รมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๖๗ มาตรา ๑๑๙ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สาํ นกั คงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกับาทรี่ก๓ฤ๐ษ)ฎพีก.ศา. ๒๕๕๘ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๔๒ - สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
มาตรา ๑๑๙ ทวิ๖๘ ในกรณีท่ีศาลส่ังไม่อนุญาตให้ปล่อยช่ัวคราว ผู้ร้องขอมีสิทธิยื่น
สํานักคงําารนอ้คงณอะุทกธรรรมณก์คาาํรสก่ังฤนษนั้ฎไีกดา้ ดังตอ่ ไปน้ี สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) คําสงั่ ของศาลชน้ั ตน้ ใหอ้ ทุ ธรณไ์ ปยังศาลอทุ ธรณ์
ส(๒าํ น)ักคงําานสคัง่ ขณอะงกศรารมลกอาุทรธกรฤณษฎ์ ใกีหา้อทุ ธรณ์ไปยังสศําานลกั ฎงกีานาคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้ศาลช้ันต้นที่รับคําร้องอุทธรณ์คําส่ังรีบส่งคําร้องดังกล่าวพร้อมด้วยสํานวนความ
สาํ นกั หงรานือคสณําเะนการสรมํานกาวรนกคฤวษาฎมีกเาท่าท่ีจําเป็นไปสยํานังศักางาลนอคุทณธะรกณรร์หมรกือาศรากลฤฎษฎีกกีาาแล้วแต่กรณี สเพาํ นื่อักพงิจานารคณณาะกแรลรมะกมาี รกฤษฎกี า
คําสั่งโดยเรว็ สคําํานสัก่ังงขานอคงณศะากลรอรุทมธกรารณก์ทฤษ่ีไมฎ่อีกานุญาตให้ปล่อสยํานชัก่ัวงคารนาควณยะืนกตรรามมกศาารลกชฤั้ษนฎตีก้นาให้เป็นที่สุด
สาํ นักแงตาน่ทคง้ั ณนี้ะไกมร่ตรดัมสกาทิ รธกทิ ฤี่จษะฎยีก่ืนาคาํ ร้องให้ปลสอ่ ํายนชักั่วงคานรคาวณใะหกมร่รมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกาภาค ๒ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สอบสวน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี ลาักษณะ ๑ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า หลกั ทัว่ ไป สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๐ ห้ามมิให้พนักงานอัยการย่ืนฟ้องคดีใดต่อศาล โดยมิได้มีการสอบสวน
สาํ นักใงนาคนวคาณมะผกดิ รนรมนั้ กกาอ่รกนฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สมําานตักรงาาน๑ค๒ณ๑ะกรพรนมกกั างรากนฤสษอฎบกี สาวนมอี ํานาจสสอําบนสักงวานนคคดณีอะากญรรามทก้ังาปรวกงฤษฎกี า
แต่ถ้าเป็นคดีความผิดต่อส่วนตัว ห้ามมิให้ทําการสอบสวนเว้นแต่จะมีคําร้องทุกข์
สาํ นกั ตงาามนคระณเะบกยี รบรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมาํ านตักรงาาน๑ค๒ณ๒ะกรพรนมกกั างรากนฤสษอฎบกี สาวนจะไม่ทาํ กสาํารนสักองบานสควณนใะนกกรรรมณกตี ารอ่ กไฤปษนฎีก้ กี็ไดา ้
(๑) เม่ือผเู้ สียหายขอความชว่ ยเหลอื แต่ไม่ยอมร้องทกุ ขต์ ามระเบยี บ
สาํ นักงานคณะกรรมการก(๒ฤ)ษเฎมีก่ือาผู้เสียหายฟอ้ สงําคนดักีเงสายี นเคอณงโะดกยรมรมิไดกร้าร้อกงฤทษุกฎขกีก์ าอ่ น สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
ส(ํา๓น)กั งเามนื่อคมณีหะกนรังรสมือกากรลก่าฤวษโฎทีกษา เป็นบัตรสนสําเนทกั่หง์ าหนครืณอบะกุครครมลกทาี่รกกลฤ่าษวฎโีกทาษด้วยปาก
ไม่ยอมบอกว่าเขาคือใคร หรือไมย่ อมลงลายมือชือ่ ในคาํ กล่าวโทษหรอื บนั ทึกคํากลา่ วโทษ
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
มาตรา ๑๒๓ ผเู้ สยี หายอาจร้องทกุ ข์ตอ่ พนกั งานสอบสวนได้
สคาํ ํานรัก้องางนทคุกณขะ์กนรั้นรมตก้อางรปกฤรษาฎกกี ฏาช่ือและที่อยสู่ขํานอกั งงผาู้นร้อคณงทะกุกรขร์มลกัการษกณฤษะฎแกี หา่งความผิด
พฤติการณ์ต่าง ๆ ที่ความผิดน้ันได้กระทําลง ความเสียหายท่ีได้รับและช่ือหรือรูปพรรณของผู้กระทํา
สํานักผงดิานเทคา่ณทะีจ่กะรบรมอกกาไรดก้ ฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
คําร้องทุกข์น้ีจะทําเป็นหนังสือหรือร้องด้วยปากก็ได้ ถ้าเป็นหนังสือต้องมีวันเดือนปี
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๖๘ มาตรา ๑๑๙ ทวิ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักคงวาานมคอณาญะการร(ฉมบกับารทกี่ ๑ฤษ๕ฎ) พกี า.ศ. ๒๕๒๗ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๔๓ - สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
และลายมือชื่อของผู้ร้องทุกข์ ถ้าร้องด้วยปาก ให้พนักงานสอบสวนบันทึกไว้ ลงวันเดือนปีและ
สํานักลงงานลคาณยมะกือรชร่ือมผกาู้บรนั กทฤษกึ ฎกับีกาผู้ร้องทุกข์ในบสนัํานทักึกงนานัน้ คณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมําานตักงราานค๑ณ๒ะ๔กรรผมู้เกสาียรกหฤาษยฎจีกะาร้องทุกข์ต่อสพํานนักักงงาานนคฝณ่าะยกปรรกมคกรารอกงฤหษรฎือกี ตาํารวจ ซึ่งมี
ตําแหน่งหน้าที่รองหรือเหนือพนักงานสอบสวน และเป็นผู้ซ่ึงมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยตาม
สํานักกงฎานหคมณายะกกร็ไรดม้ การกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
พนกั งานสอบสวนสเาํมแนื่อลักะมงจาีหนะนคจัณงดสหะืกอมรราร้อยมเงกหทาตรุกุอกขฤะ์ยษไร่ืนฎไกีปตา่บอ้าเจงเ้าพพอื่ นปักระงาโสยนําชนเนชกั ข์่นงาอกนงลคพ่ณานวะักแกงรลารน้วมสกใอาหรบ้รกสีฤบวษจนฎัดกีกกไ็ าดา้ รส่งไปยัง
สาํ นักงานคณะกรรมการกเมฤื่อษมฎีคกี ําาร้องทุกข์ด้วยสปํานาักกงใาหน้รคีบณจะัดกกรรามรกใหาร้ผกู้เฤสษียฎหีกาายไปพบกับพนสักาํ นงาักนงาสนอคบณสะวกนรรเพมก่ือารกฤษฎกี า
จดบันทึกคาํ ร้องทุกข์น้ันดังบัญญัติในมาตราก่อน ในกรณีเร่งร้อนเจ้าพนักงานนั้นจะจดบันทึกเสียเอง
ก็ได้ แต่แล้วให้รสีบาํ สน่งักไงปานยคังณพะนกักรรงมานกาสรอกบฤษสฎวกีนา และจะจดหสมํานายักงเหานตคุอณะะไกรรไรปมบก้าารงกเพฤษื่อฎปีกราะโยชน์ของ
พนักงานสอบสวนกไ็ ด้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สาํ นักงานคณะกรรมการกวฤรรษคฎสีก่ี๖า๙ (ยกเลกิ ) สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมําานตกั รงาาน๑ค๒ณ๔ะก/ร๑ร๗ม๐การใหกฤ้นษําฎบกี ทาบัญญัติในมาสตํารนาักง๑า๓นค๓ณทะกวิรวรรมรกคารหกนฤึ่งษฎวีกรราคสอง และ
วรรคสามมาใช้บังคับโดยอนุโลมแก่การจดบันทึกคําร้องทุกข์ในคดีที่ผู้เสียหายเป็นเด็กอายุไม่เกิน
สาํ นกั สงิบานแคปณดะปกี รเวรม้นกแาตร่มกีเฤหษตฎุจกี ําาเป็น ไม่อาจหสาําหนรกั ืองรานอคนณักะจกิตรวริทมยกาาหรกรฤือษนฎักีกสาังคมสงเคราะหสาํ์บนุคักคงาลนทคี่เดณ็กะกร้อรรงมขกอารกฤษฎกี า
และพนักงานอัยกสําานรกัไดงา้ นแคลณะเะดก็กรรไมมก่ปารระกสฤงษคฎ์จีกะาให้มีหรือรอบสุคํานคกั ลงดานังกคลณ่าะวกตรร่อมไกปารกทฤั้งษนฎ้ี ใกี หา้ผู้รับคําร้อง
ทุกข์ ตามมาตรา ๑๒๓ หรือมาตรา ๑๒๔ แล้วแต่กรณี บนั ทกึ เหตุดังกล่าวไว้ในบันทึกคําร้องทุกขด์ ว้ ย
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
มาตรา ๑๒๕ เมื่อพนักงานสอบสวน หรือพนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจได้
กระทําการสืบสวนสาํหนรกั ืองสานอคบณสวะกนรไรปมทก้ังาหรกมฤดษหฎรกีือาแต่ส่วนหนึ่งสส่วํานนใกัดงตาานมคคณําะขกอรรรม้อกงใาหรก้ชฤ่วษยฎเหกี ลาือให้ตกเป็น
หนา้ ที่ของพนกั งานน้ันจัดการใหม้ ีคํารอ้ งทุกขต์ ามระเบยี บ ตามบทบญั ญัตแิ ห่งมาตรา ๑๒๓ และ ๑๒๔
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
มาตรา ๑๒๖ ผู้ร้องทุกข์จะแก้คําร้องทุกข์ระยะใด หรือจะถอนคําร้องทุกข์เสีย
เมือ่ ใดก็ได้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
ในคดีซ่ึงมิใช่ความผิดต่อส่วนตัว การถอนคําร้องทุกข์เช่นนั้นย่อมไม่ตัดอํานาจ
สํานกั พงนานักคงณานะกสรอรบมสกวารนกทฤีจ่ ษะฎสกี อาบสวน หรือพสนําักนงกั างนานอคยั ณกะากรรทรจ่ี มะกฟาร้อกงฤคษดฎีนีกน้ั า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๒๗ ใหน้ าํ บทบญั ญตั ใิ นมาตรา ๑๒๓ ถึง ๑๒๖ มาบังคบั โดยอนุโลมในเรอื่ ง
สํานกั คงําากนลคณ่าวะโกทรษรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เจา้ พนักงานผ้มู ีหนา้ ทีร่ บั คาํ กลา่ วโทษจะไม่บนั ทึกคํากลา่ วโทษในกรณตี อ่ ไปน้กี ไ็ ด้
ส(๑ําน)กั เงมาอ่ืนผคูก้ณละา่กวรโรทมษกาไมรก่ยฤอษมฎแีกจา้งวา่ เขาคือใครสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) เมอ่ื คาํ กล่าวโทษเป็นบัตรสนเท่ห์
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๖๙ มาตรา ๑๒๔ วรรคสี่ ยกเลิกโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบบั ทสี่ ๒าํ น๖ัก) งพา.นศค. ๒ณ๕ะ๕กร๐รมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๗๐ มาตรา ๑๒๔/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานกั คงวาานมคอณาะญการร(ฉมบกับารทก่ี ฤ๒ษ๖ฎ) ีกพา.ศ. ๒๕๕๐ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
- ๔๔ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คํากล่าวโทษซึ่งบันทึกแล้วแต่ผู้กล่าวโทษไม่ยอมลงลายมือชื่อ เจ้าพนักงาน
สาํ นกั ผงู้รานับคคณําะกกลร่ารมวกโทารษกฤจษะฎไมกี จ่ าัดการแก่คาํ กสลํา่านวักโงทาษนนคณ้นั กะก็ไดรร้ มการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมาํ านตักรงาาน๑ค๒ณ๘ะกรพรนมกักางรากนฤสษอฎบกี สาวนมอี ํานาจใสหําเ้ นจักา้ งพานนักคงณาะนกอรืน่รมทกาํ ากรากรฤแษทฎนีกาดงั ต่อไปนี้
(๑) การใดในการสอบสวนอยู่นอกเขตอํานาจของตน มีอํานาจส่งประเด็นไปให้
สํานักพงนานักคงณานะกสรอรบมสกวารนกฤซษึ่งมฎีอกี าํานาจทําการนส้ันําจนดัักกงาานรคไดณ้ ะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หรือจัดการตามปส(ราํ๒ะน)เกัดกง็นาานรมคใีอดณําเะปนก็นารจรสมสิ่งกั่งเลใาหร็กก้ผนฤู้อ้อษยยฎู่ใใตีกนา้บกังาครับสบอัญบสชวานทสําําซแน่ึงทกั องนยาไนู่ใดนค้ เณแขตะตก่ทอรั้งํารนมน้ีเกามาจ่ือรขกปอฤรงษะตฎมนีกวาลไกมฎ่ว่าหทมําาเยอนง้ี
สาํ นักหงรานอื คกณฎหะกมรารยมอกืน่ารมกิไฤดษ้เจฎากี ะาจงใหท้ ําดว้ ยตสํานนเอักงงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมาํ านตกั รงาาน๑คณ๒ะ๙กรรใมหก้ทาํารกกฤาษรสฎอีกาบสวนรวมทั้งสกําานรักชงันานสคูตณระพกลริกรมศกพารใกนฤกษรฎณกี าีที่ความตาย
เป็นผลแห่งการกระทําผิดอาญา ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายนี้อันว่าด้วยการชันสูตรพลิกศพ
สํานักถง้าากนาครณชะันกสรรูตมรกพาลรกิกฤศษพฎยีกงั าไมเ่ สรจ็ ห้ามมสิใําหนฟ้ักง้อางนผคตู้ ณ้อะงกหรารยมงั กศาารลกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี ลาักษณะ ๒ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา การสอบสวน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หมวด ๑
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกกั างราสนอคบณสะวกนรรสมากมาัญรกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
มาตรา ๑๓๐ ให้เริ่มการสอบสวนโดยมิชักช้า จะทําการในท่ีใด เวลาใด แล้วแต่จะ
สํานักเงหา็นนสคมณคะวกรรรโมดกยาผรก้ตู ฤ้อษงหฎีกาไามจ่ าํ ตอ้ งอยดู่ สว้ ํายนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมาํ านตักรงาาน๑ค๓ณ๑ะก๗ร๑รมใกหา้พรกนฤักษงฎานกี าสอบสวนรวบสรําวนมกั หงลานักคฐณานะกทรุกรชมนกิดารกเทฤ่าษทฎ่ีสีกาามารถจะทํา
ได้ เพ่ือประสงค์จะทราบข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ต่าง ๆ อันเก่ียวกับความผิดที่ถูกกล่าวหา เพ่ือจะ
สาํ นกั รงตู้ าวันผคกู้ณระะกทรรํามผกดิ าแรลกะฤพษฎสิ ูจกี านใ์ ห้เห็นความสผําิดนหักงราอื นคควณามะกบรรริสมทุกธาริ์ขกอฤงษผฎตู้ กี ้อางหา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สมําานตกั งราานค๑ณ๓ะก๑ร/ร๑มก๗๒ารกใฤนษกฎรีกณา ีที่จํา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ยาศ า ส ตร์
เป็นต้องใช้พยานหลักฐานทางวิท
สํานักเงพาื่นอคพณิสะูจกนร์รขม้อกเาทร็จกฤจษรฎิงตีกาามมาตรา ๑ส๓ํา๑นักใงหาน้พคนณักะงการนรสมอกาบรสกวฤนษมฎีอีกําานาจให้ทํากาสรําตนรักวงจานพคิสณูจะนก์บรุครมคกลารกฤษฎีกา
วัตถุ หรือเอกสารใด ๆ โดยวิธีการทางวิทยาศาสตรไ์ ด้
สใาํ นนกักรงณานีคควณาะมกผรริดมอกาาญรกาฤทษ่ีมฎีอีกัตาราโทษจําคุกสอํานยัก่างงาสนูงคเกณินะกสรารมมปกี าหรกาฤกษกฎาีกราตรวจพิสูจน์
ตามวรรคหน่ึง จําเป็นต้องตรวจเก็บตัวอย่างเลือด เนื้อเยื่อ ผิวหนัง เส้นผมหรือขน นํ้าลาย ปัสสาวะ
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๗๑ มาตรา ๑๓๑ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบบั ทส่ี ๒ําน๒กั) งพา.นศค. ๒ณ๕ะ๔กร๗รมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๗๒ มาตรา ๑๓๑/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สาํ นักคงวาานมคอณาะญการร(ฉมบกับารทก่ี ฤ๒ษ๘ฎ) กี พา.ศ. ๒๕๕๑ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๔๕ - สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อุจจาระ สารคัดหลง่ั สารพันธุกรรมหรือส่วนประกอบของร่างกายจากผู้ต้องหา ผู้เสียหายหรือบุคคลท่ี
สํานักเงกาย่ี นวคขณ้อะงกใรหรม้พกนากัรกงาฤนษสฎอกี บา สวนผู้รับผิดสชําอนบักมงาีอนําคนณาจะกใหรร้แมพกทารยก์หฤรษือฎผกี ู้เาชี่ยวชาญดําเนสินํากนาักรงาตนรควณจดะกังกรรลม่ากวารกฤษฎีกา
ได้ แต่ต้องกระทําเพียงเท่าที่จําเป็นและสมควรโดยใช้วิธีการที่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดน้อยที่สุดเท่าที่
จะกระทําได้ ทั้งจสะํานตัก้องงาไนมค่เปณ็นะกอรันรตมรกาายรกตฤ่อษรฎ่ากีงกา ายหรืออนามสําัยนขกั องงาบนุคคณคละกนร้ันรมแกลาะรกผฤู้ตษ้อฎงกีหาา ผู้เสียหาย
หรือบุคคลที่เก่ียวข้องต้องให้ความยินยอม หากผู้ต้องหาหรือผู้เสียหายไม่ยินยอมโดยไม่มีเหตุอัน
สาํ นกั สงมานคควณรหะกรรือรผมู้ตก้อารงกหฤาษหฎรีกือาผู้เสียหายกรสะําทนํากั กงาานรปคณ้องะปกรัดรขมัดกขารวกาฤงษมฎิใหีก้บา ุคคลท่ีเกี่ยวขส้อาํ นงใักหงา้คนวคาณมะยกินรยรมอกมารกฤษฎีกา
ตโดรยวไจมพ่มสิ ีเจูหนต์แุอลันว้ สจสมะําคเนปวกั น็รงผาในลหคเ้สสณันยี ะนตกอ่ิษรผรฐมตู้ากน้อางไรวหก้เาฤบหษื้อรฎงือีกตผา้น้เู สวยี่าขห้อายเทน็จั้นจรแสิงําลเนว้ปกัแ็นงตาไ่กนปรคตณณามีะกผรลรกมากราตรกรฤวษจฎพกีิสาูจน์ท่ีหากได้
สํานักงานคณะกรรมการกคฤ่าษใชฎ้จีก่าายในการตรวสจําพนิสกั ูจงานน์ตคาณมะมการตรมรากนารี้ กใหฤษ้สฎั่งจกี ่าายจากงบประสมาํ านณักงตาานมครณะะเกบรียรบมกทาี่ รกฤษฎกี า
สํานักงานตํารวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม หรือสํานักงานอัยการสูงสุด
แล้วแต่กรณี กาํ หสนํานดักโดงายนไคดณ้รบัะกครวรามมกเาหร็นกชฤอษบฎีกจาากกระทรวงกสาํารนคักลงังานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สาํ นักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎราีกา๑๓๒ เพ่ือปรสะําโนยกั ชงนาน์แคหณ่งกะการรรรมวกบารรวกมฤหษลฎักีกฐาาน ให้พนักงาสนาํ นสักองบาสนวคนณมะีอกรํารนมากจารกฤษฎีกา
ดังต่อไปนี้ ส(๑ําน)กั ตงรานวคจณตัวะผกรู้เสรมียกหาารยกเฤมษ่ือฎผีกู้นา้ันยินยอม หรสือําตนรักวงาจนตคัวณผะู้ตก้อรงรหมากาหรรกือฤตษรฎวีกจาสิ่งของหรือ
ที่ทางอันสามารถอาจใช้เป็นพยานหลักฐานได้ ให้รวมทั้งทําภาพถ่าย แผนที่ หรือภาพวาดจําลอง
สาํ นักหงรานือคพณิมะพก์ลรรามยกนาิ้วรกมฤือษฎลีกาายมือหรือลายสเําทน้ากั งกาับนคใหณ้บะกันรทรมึกกราารยกลฤะษเฎอีกียาดทั้งหลายซึ่งสนํา่านจักะงากนรคะณทะํากใรหร้มคกดาี รกฤษฎกี า
แจ่มกระจ่างข้ึน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในการตรวจตัวผู้เสียหายหรือผู้ต้องหาตามวรรคหนึ่ง หากผู้เสียหายหรือ
สาํ นักผงู้ตาน้อคงณหะากเปรร็นมหกญาริงกฤใษหฎ้จีกัดาให้เจ้าพนักงสาํานนซกั ึ่งงเาปน็นคหณญะกิงรหรมรือกาหรญกฤิงษอฎื่นกี เาป็นผู้ตรวจ ทสั้งาํ นนี้ักใงนานกครณณะีทกี่มรรีเหมกตาุ รกฤษฎีกา
อันสมควร ผเู้ สยี หายหรอื ผูต้ ้องหาจะขอนาํ บคุ คลใดมาอยู่ร่วมในการตรวจนนั้ ดว้ ยก็ได้๗๓
ส(าํ๒น)ักคงา้นนเคพณ่ือะพกบรรสม่ิงกขาอรงกฤซษ่ึงฎมีกีไาว้เป็นความผิดสําหนักรืงอาไนดค้มณาะโกดรยรกมากรากรกรฤะษทฎําีกผาิด หรือได้ใช้
หรือสงสัยว่าได้ใช้ในการกระทําผิด หรือซึ่งอาจใช้เป็นพยานหลักฐานได้ แต่ต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติ
สํานกั แงหาน่งปคณระะมกรวรลมกกฎาหรกมฤาษยฎนกี วี้ าา่ ดว้ ยคน้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
(๓) หมายเรียกบุคคลซ่ึงครอบครองส่ิงของ ซึ่งอาจใช้เป็นพยานหลักฐานได้ แต่บุคคล
ทถี่ ูกหมายเรียกไมส่จาํ ํานตกั ้องางนมคาเณอะงกเรมรอื่มจกัดารสก่งฤสษิ่งขฎอีกงามาตามหมายสแําลนว้ กั ใงหาน้ถคอื ณเสะมกือรรนมวกา่ าไรดกป้ ฤฏษบิ ฎตั กี ิตาามหมาย
(๔) ยดึ ไว้ซึ่งสิ่งของทคี่ น้ พบหรือส่งมาดงั กล่าวไว้ในอนุมาตรา (๒) และ (๓)
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สมําานตักรงาาน๑ค๓ณ๓ะกรพรนมกักางรากนฤสษอฎบกี สาวนมีอาํ นาจอสอํากนหกั งมาานยคเณรียะกกรผรู้เสมียกาหรากยฤหษรฎือีกบาุคคลใดซึ่งมี
เหตุอันควรเชื่อว่าถ้อยคําของเขาอาจเป็นประโยชน์แก่คดีให้มาตามเวลาและสถานที่ในหมาย
สํานกั แงลาน้วใคหณถ้ ะากมรปรมากกาครํากบฤคุษคฎลกี นา ้ันไว้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
การถามปากคํานั้นพนักงานสอบสวนจะให้ผู้ให้ถ้อยคําสาบานหรือปฏิญาณตัว
เสียกอ่ นก็ได้ และสตําอ้นงกั ปงาฏนบิ คัตณติ ะากมรบรมทกบาัญรกญฤตัษิแฎหกี าง่ ประมวลกฎหสํามนากัยงนาีว้นา่คดณว้ ะยกพรรยมากนาบรุคกฤคษลฎกี า
ห้ามมิให้พนักงานสอบสวนตักเตือน พูดให้ท้อใจหรือใช้กลอุบายอื่นเพ่ือป้องกันมิให้
สํานักบงคุานคคลณใดะใกหรรถ้ ม้อกยาคราํกฤซษงึ่ ฎอกียาากจะใหด้ ้วยคสวําานมักเงตานม็ คใจณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๗๓ มาตรา ๑๓๒ (๑) วรรคสอง เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
สาํ นกั วงิธาีพนิจคาณระณการครมวากมารอกาฤญษาฎ(ีกฉาบับท่ี ๒๘) พ.ศส.ําน๒กั๕ง๕าน๑คณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
- ๔๖ - สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
ในคดีความผิดเกี่ยวกับเพศ การถามปากคําผู้เสียหายซ่ึงเป็นหญิง ให้พนักงาน
สํานักสงอานบคสณวะนกซรรึ่งมเปก็านรหกฤญษิงฎเปีกา็นผู้สอบสวนสเําวน้นกั แงาตน่ผคู้เณสะียกหรารมยกนาั้นรกยฤินษยฎอกี มาหรือมีเหตุจําสเาํ ปน็นักงอายน่าคงณอะื่นกรแรมลกะารกฤษฎีกา
ให้บันทึกความยินยอมหรือเหตุจําเป็นนั้นไว้ ท้ังน้ี ผู้เสียหายจะขอให้บุคคลใดอยู่ร่วมในการถาม
ปากคาํ น้นั ด้วยกไ็ สดํา้๗น๔ักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีที่มีความจําเป็นต้องจัดให้ผู้เสียหายหรือพยานยืนยันตัวผู้กระทําความผิด
สํานกั ใงนาชน้ันคณจับะกกรุมรหมรกอืารชกต้ี ฤัวษผฎตู้ ีกอ้ างหาในคดอี าญสําานกัใหงา้พนนคักณงะากนรฝรม่ายกปารกกคฤรษอฎงีกหารือตํารวจ หรสือําพนนักงักางนาคนณสะอกบรสรมวกนารกฤษฎกี า
มจัดิใหให้ผ้มู้กีกราะรทยําืนคยวันาสตมาํ ัวนผผักิดู้กงหารรนะือคทผณําู้ตคะก้อวรงารหมมผากเิดาหรห็นกรฤตือษัวชฎผี้ตกีู้เัวสาผียู้ตห้อางยหหาใรนือสพถสยําาานนนักทงี่ทโาดน่ีเหยคมใณหาะ้คะกสํารรนมมึงกแถาลึงระคกสวฤาาษมมฎาปีกราลถอจดะภปั้อยงขกอันง
สํานักผแงลู้เาสนะียคใหหณบ้าะยันกหรทรรกึ มือคกพวารายกมาฤยนษินเฎทยีก่าอาทม่ีเนหนั้ มไาวะ้๗๕สมแสกํา่พนฤักงตาิกนาครณณะ์แกรหร่งมกกราณรกี ฤเวษ้นฎแีกตา ่ผู้เสียหายหรสือํานพักยงาานนคนณั้นะยกินรยรมอกมารกฤษฎีกา
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๓ ทวิ๗๖ ในคดีความผิดเก่ียวกับเพศ ความผิดเก่ียวกับชีวิตและร่างกาย
สาํ นักองันานมคิใณช่คะกวรารมมผกิดารทก่ีเฤกษิดฎจีกาากการชุลมุนตส่อําสนู้กั คงวานาคมณผิดะกเกรรี่ยมวกกาับรกเสฤรษีภฎากี พา ความผิดฐาสนาํ กนรักรงโาชนกคณชะิงกทรรรัพมกยา์ รกฤษฎกี า
และปลน้ ทรัพยต์ ามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม
การคา้ ประเวณี คสวาํ านมกั ผงดิานตคาณมะกกฎรหรมมกาายรวก่าฤดษ้วฎยีกมาาตรการในกาสรําปน้อกั งงากนันคแณละะกปรรรามบกปารรกาฤมษกฎาีกราค้าหญิงและ
เด็ก ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ หรือคดีความผิดอื่นท่ีมีอัตราโทษจําคุก ซ่ึงผู้เสียหาย
สํานกั หงรานือคพณยะากนรทรมี่เปก็นารเกดฤ็กษอฎากี ยาุไม่เกินสิบแปสดําปนีรัก้องางนขคอณกะการรรถมากมาปรกาฤกษคฎํากีผาู้เสียหายหรือพสยาํ นาักนงทานี่เปค็นณเะดก็กรรอมากยาุ รกฤษฎกี า
ไม่เกินสิบแปดปี สใหาํ น้พักนงักานงคาณนสะกอรบรสมวกนารแกยฤกษกฎรกี ะาทําเป็นส่วนสสัดํานในักสงาถนาคนณทะ่ีทก่ีเรหรมมกาาะรสกมฤสษําฎหกี ราับเด็ก และ
ให้มีนักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์ บุคคลที่เด็กร้องขอ และพนักงานอัยการร่วมอยู่ด้วยในการ
สํานักถงาามนคปณากะกครํารเดม็กกานรั้นกฤแษลฎะกี ใานกรณีท่ีนักจิตสําวนิทกั ยงาาหนรคือณนะักกรสรังมคกมาสรกงเฤคษรฎาีกะาห์เห็นว่าการถสาาํ มนปักางกานคคําณเดะ็กกครรนมใกดารกฤษฎกี า
หรือคําถามใด อาจจะมีผลกระทบกระเทือนต่อจิตใจเด็กอย่างรุนแรง ให้พนักงานสอบสวนถามผ่าน
นักจติ วิทยาหรือนสักํานสกังั คงามนสคงณเคะรการะรหมก์เปารน็ กกฤาษรฎเฉกี พา าะตามประเสดํา็นนคกั าํ งถานามคณขอะกงพรรนมักกงาารนกฤสษอฎบีกสาวน โดยมิให้
เด็กได้ยินคําถามของพนักงานสอบสวนและห้ามมิให้ถามเด็กซ้ําซ้อนหลายคร้ังโดยไม่มีเหตุอัน
สาํ นกั สงมานคควณร๗ะ๗กรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้เป็นหน้าท่ีของพนักงานสอบสวนที่จะต้องแจ้งให้นักจิตวิทยาหรือนักสังคม
สงเคราะห์ บคุ คลสทาํ ีเ่นดกั ็กงราน้อคงขณอะกแรลระมพกานรกั กงฤาษนฎอีกยั าการทราบ รวสมําทนักง้ั แงาจน้งคใหณ้ผะู้เกสรยีรมหกาายรหกรฤือษพฎยกี าานที่เป็นเด็ก
ทราบถงึ สทิ ธติ ามวรรคหนงึ่ ด้วย๗๘
สํานกั งานคณะกรรมการกนฤักษจฎิตีกวาิทยาหรือนักสสําังนคักมงาสนงคเณคะรการะรหม์กหารรกือฤพษนฎักีกางานอัยการท่ีสเขาํ น้าักร่งวามนใคนณกะากรรถรมากมารกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๗๔ มาตรา ๑๓๓ วรรคสี่ เพ่ิมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สาํ นักคงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกับาทร่ีก๒ฤ๘ษ)ฎพีก.ศา. ๒๕๕๑ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๗๕ มาตรา ๑๓๓ วรรคห้า เพ่ิมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบบั ทสี่ ๒าํ น๘กั) งพา.นศค. ๒ณ๕ะ๕กร๑รมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๗๖ มาตรา ๑๓๓ ทวิ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สาํ นกั คงวาานมคอณาะญการร(ฉมบกับารทก่ี ฤ๒ษ๐ฎ) กี พา.ศ. ๒๕๔๒ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๗๗ มาตรา ๑๓๓ ทวิ วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวล
กฎหมายวิธพี จิ ารณสาคํานวากั มงอานาญคาณ(ะฉกบรับรทมี่ก๒า๖รก) ฤพษ.ศฎ.ีก๒า๕๕๐ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๗๘ มาตรา ๑๓๓ ทวิ วรรคสอง แกไ้ ขเพมิ่ เติมโดยพระราชบญั ญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
สาํ นักวงิธาีพนจิ คาณรณะการครวมามกอารากญฤาษ(ฎฉบีกบัาที่ ๒๖) พ.ศ. ๒ส๕ํา๕น๐กั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๔๗ - สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
ปากคําอาจถกู ผู้เสียหายหรือพยานซ่งึ เปน็ เด็กตง้ั รงั เกียจได้ หากมกี รณีดงั กลา่ วให้เปล่ยี นตวั ผ้นู ัน้
สํานักงานคณะกรรมการกภฤาษยฎใีกตา้บังคับแห่งมาสตํานรักางา๑น๓คณ๙ะกกรารรมถกาามรกปฤาษกฎคีกําาเด็กตามวรรสคาํ หนนักง่ึงานใคหณ้พะนกักรรงมากนารกฤษฎกี า
สอบสวนจัดให้มีการบันทึกภาพและเสียงการถามปากคําดังกล่าวซึ่งสามารถนําออกถ่ายทอดได้อย่าง
ต่อเนอ่ื งไว้เปน็ พยสาํานนกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีจําเป็นเร่งด่วนอย่างย่ิงซึ่งมีเหตุอันควรไม่อาจรอนักจิตวิทยาหรือนักสังคม
สาํ นกั สงงาเนคครณาะะกหร์ รบมคุ กคาลรกทฤ่เี ดษก็ฎรีกอ้างขอ และพนสักํางนากั นงอานยั คกณาระเกขร้ารรม่วกมาใรนกกฤษารฎถีกาามปากคําพร้อสมํากนันักไงดาน้ ใคหณ้พะนกักรรงมากนารกฤษฎีกา
สไมออ่ บาสจวรนอถบาุคมคปลาอกส่ืนคาํ ไนําวกัเใ้ ดนงา็กสนโําคดนณยวมะนกีบกรุคารรคมสกลอาใรดบกบสฤวุคษนคฎลกีแหาลนะ่ึงมตใิ หาม้ถวอื รวร่าคกสหาํารนนถกัึ่งางอมายนปู่รคา่วณกมคะดกาํ ้วรผยรเู้ มกสก็ไียดาหร้ าแกยฤตหษ่ตรฎ้ออื ีกงพาบยันาทนึกซเ่งึหเปตุทน็ ี่
สาํ นกั เงดา็กนใคนณกะรกณรรดี มังกกาลรา่ กวฤทษไ่ี ฎดีกก้ าระทําไปแล้วไสมําช่นอกั บงาดน้วคยณกะฎกหรรมมากยารกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมาํ านตกั รงาาน๑คณ๓๓ะกรตรรมี๗ก๙ารใกนฤกษรฎณีกาีท่ีพนักงานสอสบํานสักวงนามนีคคณวาะมกรจรํามเปกา็นรตก้อฤษงจฎัดกี ใาห้ผู้เสียหาย
หรือพยานท่ีเป็นเด็กอายุไม่เกินสิบแปดปีช้ีตัวบุคคลใด ให้พนักงานสอบสวนจัดให้มีการช้ีตัวบุคคลใน
สาํ นักสงถานาคนณทะ่ีทก่ีเรหรมมากะารสกมฤสษําฎหกี ราับเด็กและสาสมํานาักรงถาปน้อคงณกะันกมรริใมหก้บาุครกคฤลษซฎ่ึงีกจาะถูกชี้ตัวนั้นเสหาํ ็นนตักงัวาเนดค็กณโะดกยรรใหมก้มาี รกฤษฎกี า
นักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์ บุคคลที่เด็กร้องขอ และพนักงานอัยการร่วมอยู่ด้วยในการชี้ตัว
บุคคลน้ัน เว้นแตส่มําีเนหกั ตงุจานําคเปณ็นะไกมร่อรมากจาหรากหฤษรือฎรกี อาบุคคลใดบุคสคําลนหักนงาึ่งนไดค้แณละกะรเดรม็กกไมาร่ปกรฤะษสฎงีกคา์จะให้มีหรือ
รอบคุ คลดังกล่าวตอ่ ไป ทัง้ นี้ ใหพ้ นกั งานสอบสวนบนั ทึกเหตดุ งั กลา่ วไวใ้ นสํานวนการสอบสวนด้วย
สํานกั งานคณะกรรมการกในฤกษรฎณีกาีการช้ีตัวผู้ต้อสงหํานากัทง่ีเาปน็นคเณดะ็กกอรารยมุไกมา่เรกกินฤสษิบฎกีแาปดปี ให้พนักงสาาํ นนสักงอาบนสควณนะจกัดรรใหมก้มาี รกฤษฎีกา
การช้ีตัวในสถานทสาํี่ทนี่เกัหงมานาะคสณมะสกรํารหมรกับาเรดก็กฤแษลฎะีกสาามารถป้องกสันํามนกัิใหงา้ผนู้ตค้อณงะหการทรม่ีเปก็นารเดกฤ็กษนฎ้ันกี เหา ็นตัวบุคคล
ที่จะทาํ การชต้ี วั
สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
มาตรา ๑๓๔๘๐ เมื่อผู้ต้องหาถูกเรียก หรือส่งตัวมา หรือเข้าหาพนักงานสอบสวน
เอง หรือปรากฏวส่าําผนู้ใกั ดงซานึ่งคมณาอะยกรู่ตร่อมหกนาร้ากพฤนษักฎงีกาานสอบสวนเปส็นํานผกัู้ตง้อางนหคาณะใหกร้ถรามมกชาื่อรกตฤัวษชฎ่ือีกราอง ชื่อสกุล
สัญชาติ บิดามารดา อายุ อาชีพ ท่ีอยู่ ที่เกิด และแจ้งให้ทราบถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทําท่ี
สาํ นักกงลาน่าวคหณาะวกา่ รผรม้ตู กอ้ างรหกาฤไษดฎ้กีกราะทาํ ผดิ แลว้ จสึงําแนจกั ง้ งขา้อนหคณาใะหก้ทรรรมาบการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
การแจง้ ขอ้ หาตามวรรคหน่งึ จะต้องมหี ลักฐานตามสมควรว่าผู้น้ันน่าจะได้กระทําผิด
ตามขอ้ หานัน้ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ผตู้ อ้ งหามีสิทธไิ ด้รับการสอบสวนด้วยความรวดเรว็ ตอ่ เน่ือง และเปน็ ธรรม
สํานักงานคณะกรรมการกพฤนษักฎงีกาานสอบสวนตส้อํางนใกัหง้โาอนกคาณสะผกู้ตรร้อมงกหาารกทฤี่จษะฎแกี กา้ข้อหาและที่จสะาํ นแักสงดานงขคณ้อเะทก็จรรจมรกิงารกฤษฎีกา
อันเป็นประโยชนส์แาํ กน่ตกั งนาไนดค้ ณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
เม่ือได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ถ้าผู้ต้องหาไม่ใช่ผู้ถูกจับและยังไม่ได้มีการออก
สาํ นักหงามนาคยณจะับกรแรตม่กพานรกักฤงษาฎนกี สาอบสวนเห็นวส่ําานมักีเงหาตนุทคณ่ีจะะกอรอรมกกหามรกาฤยษขฎังีกผาู้นั้นได้ตามมาสตํารนาักง๗าน๑คณพะนกักรรงมากนารกฤษฎีกา
สอบสวนมีอํานาจสั่งให้ผู้ต้องหาไปศาลเพื่อขอออกหมายขังโดยทันที แต่ถ้าขณะนั้นเป็นเวลาท่ีศาลปิด
หรือใกล้จะปิดทสําํากนาักรงาในหค้พณนะกักรงรามนกสารอกบฤสษวฎนกี สา ั่งให้ผู้ต้องหสาําไนปักศงาานลคในณโะอกกรรามสกแารรกกฤทษี่ศฎากี ลาเปิดทําการ
กรณีเช่นว่านี้ให้นํามาตรา ๘๗ มาใช้บังคับแก่การพิจารณาออกหมายขังโดยอนุโลม หากผู้ต้องหา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๗๙ มาตรา ๑๓๓ ตรี แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
วิธีพิจารณาความอสาําญนักาง(าฉนบคับณทะี่ ก๒ร๖รม) กพา.รศก.ฤ๒ษ๕ฎ๕กี ๐า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๘๐ มาตรา ๑๓๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานกั คงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกบั าทร่ีก๒ฤ๒ษ)ฎพีก.ศา. ๒๕๔๗ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
- ๔๘ - สาํ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของพนักงานสอบสวนดังกล่าว ให้พนักงานสอบสวนมีอํานาจจับผู้ต้องหานั้นได้
สาํ นกั โงดายนถคือณวะ่ากเรปร็นมกกราณรกีจฤาํษเฎปกีน็ าเร่งดว่ นที่จะจสับําผนู้ตกั งอ้ างนหคาณไดะกโ้ ดรรยมไมกม่ารีหกมฤาษยฎจกี บั า และมีอํานาจสปาํ นลัก่องยานชค่ัวณคระากวรหรมรกือารกฤษฎีกา
ควบคุมตัวผตู้ ้องหานน้ั ไว้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
มาตรา ๑๓๔/๑๘๑ ในคดีที่มีอัตราโทษประหารชีวิต หรือในคดีที่ผู้ต้องหามีอายุ
สาํ นกั ไงมา่เนกคินณสะิบกรแรปมดกปารีใกนฤวษันฎทกี ี่พา นักงานสอบสสําวนนักแงจาน้งขค้อณหะการกรม่อกนาเรรก่ิมฤถษาฎมีกคาําให้การให้พนสักาํ นงาักนงาสนอคบณสะวกนรรถมากมารกฤษฎีกา
ผตู้ อ้ งหาวา่ มที นาสยใํานคนควกั าดงมทีานหีม่ ครอี อืณตั ไะรมกา่ รโถรทา้มษไกมจาม่ ํารใีคกหฤกุ ้รษฐักฎจ่อีกดันาหเราิ่มทถนาามยคคําวใาหสม้กําในาหักร้ งใหาน้พคนณักะงการนรมสกอาบรสกวฤนษถฎาีกมาผู้ต้องหาว่า
สํานักมงทีานนคาณยคะกวรารมมหกราอืรกไมฤ่ษถฎา้ กี ไมา ่มแี ละผู้ต้องหสําานตกั้องงากนาครณทะนการยรคมวกาารมกใฤหษร้ฎัฐีกจาดั หาทนายควสาาํมนใักหง้ านคณะกรรมการกฤษฎกี า
การจัดหาทนายความตามวรรคหน่ึงหรือวรรคสอง ให้พนักงานสอบสวนปฏิบัติตาม
หลักเกณฑ์ วิธีกาสรํานแักลงะานเงค่ือณนะไกขรทรม่ีกกําาหรนกฤดษในฎีกกาฎกระทรวง แสลํานะักใหงา้ทนนคาณยะคกรวรามมกทา่ีรรักฐฤจษัดฎหีกาาให้ได้รับเงิน
รางวัลและค่าใช้จ่ายตามระเบียบที่กระทรวงยุติธรรมกําหนดโดยได้รับความเห็นชอบจาก
สํานักกงราะนทคณรวะงกกรารรมคกลารงั กฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เม่ือได้จัดหาทนายความให้แก่ผู้ต้องหาตามวรรคหน่ึง วรรคสอง หรือวรรคสามแล้ว
ในกรณีจําเป็นเรส่งดาํ น่วักนงาหนาคกณทะนกรารยมคกวาารกมฤไมษ่ฎอกีาจา มาพบผู้ต้องสหําานไักดง้าโนดคยณไะมก่แรจร้งมเกหาตรกุขฤัดษขฎ้อกี งาให้พนักงาน
สอบสวนทราบหรือแจ้งแต่ไม่มาพบผู้ต้องหาภายในเวลาอันสมควร ให้พนักงานสอบสวนทําการ
สาํ นกั สงอานบคสณวนะกผรู้ตร้อมงกหารากไฤปษไดฎ้โีกดายไม่ต้องรอทสนําานยกั คงวานาคมณแะตก่พรรนมักกงาารนกฤสษอฎบกีสาวนต้องบันทึกสเหาํ นตักุนงั้นานไวค้ใณนะสกํารนรมวกนารกฤษฎีกา
การสอบสวนด้วยสาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สํานักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรกีาา๑๓๔/๒๘๒ ใสหําน้นักํางบาทนคบณัญะญกรัตริใมนกมาารตกฤรษาฎ๑ีก๓า๓ ทวิ มาใช้บสังํานคักับงโาดนยคอณนะุโกลรมรมแกกา่ รกฤษฎกี า
การสอบสวนผ้ตู อ้ งหาท่ีเปน็ เดก็ อายไุ มเ่ กินสบิ แปดปี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๓๔/๓๘๓ ผู้ต้องหามีสิทธิให้ทนายความหรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจเข้าฟังการ
สํานกั สงอานบคปณากะกครํารตมนกไาดรก้ ฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมําานตักงราานค๑ณ๓ะ๔กร/ร๔ม๘ก๔ารกในฤษกฎากีราถามคําให้กาสรําผนู้ตัก้องางนหคาณใะหกร้พรนมักกางรากนฤสษอฎกีบาสวนแจ้งให้
ผูต้ ้องหาทราบก่อนว่า
สํานักงานคณะกรรมการก(๑ฤษ) ฎผีกู้ตา้องหามีสิทธิทส่ีําจนะกั ใงหา้กนคารณหะกรืรอรไมมก่กา็ไรดก้ฤถษ้าฎผีกู้ตา้องหาให้การสาํถน้อักยงคานําคทณี่ผะู้ตก้อรรงมหกาารกฤษฎกี า
ให้การน้ันอาจใชส้เปํานน็ ักพงยานานคณหละกักรฐรามนกใานรกกฤารษพฎิจกี าารณาคดีได้ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๒) ผ้ตู อ้ งหามสี ทิ ธิใหท้ นายความหรอื ผู้ซึ่งตนไวว้ างใจเขา้ ฟังการสอบปากคําตนได้
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๘๑ มาตรา ๑๓๔/๑ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธี
พิจารณาความอาญสาาํ (นฉบกั บังาทน่ี ค๒ณ๒)ะกพร.ศร.ม๒ก๕าร๔ก๗ฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๘๒ มาตรา ๑๓๔/๒ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธี
สํานกั พงิจาานรคณณาะคกวรารมมอกาญาราก(ฤฉษบฎบั ีกทา่ี ๒๖) พ.ศ. ๒๕ส๕ํา๐นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๘๓ มาตรา ๑๓๔/๓ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับทสี่าํ ๒น๒กั ง) าพน.คศณ. ๒ะก๕ร๔ร๗มการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๘๔ มาตรา ๑๓๔/๔ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักคงวาานมคอณาะญการร(ฉมบกับารทก่ี ฤ๒ษ๒ฎ) กี พา.ศ. ๒๕๔๗ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๔๙ - สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เมอื่ ผูต้ ้องหาเตม็ ใจให้การอย่างใดก็ให้จดคําให้การไว้ ถ้าผู้ต้องหาไม่เต็มใจให้การเลย
สํานักกงใ็าหนบ้คณันทะกกึ รไรวม้ การกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
ถ้อยคําใด ๆ ท่ีผู้ต้องหาให้ไว้ต่อพนักงานสอบสวนก่อนมีการแจ้งสิทธิตามวรรคหนึ่ง
หรือก่อนท่ีจะดําสเนาํ นินกั กงาานรคตณามะกมรารตมรกาาร๑กฤ๓ษ๔ฎ/ีก๑า มาตรา ๑๓ส๔ํา/น๒กั งแานลคะณมะากตรรรามก๑า๓รก๔ฤ/ษ๓ฎีกจาะรับฟังเป็น
พยานหลักฐานในการพิสูจน์ความผิดของผู้นนั้ ไม่ได้
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จัดให้ทําการใด ๆสมําซานตึ่งกั เรงปาาน็น๑คกณ๓าระ๕ใก๘หร๕ร้คมําใกมนาั่นกรกสาฤรัญษถญฎามีกาาคขําู่เใขห็ญ้กาหรลผอู้ตก้อสลงํานวหงกัางทาหนร้าคมมณามนะิใกหใร้พชรม้กนกําักาลงรังากบนฤังสษคอฎับบีกาสหวรนือทกํารหะทรือํา
สาํ นักโงดายนมคิชณอะบกรปรรมะกกาารกรใฤดษฎๆีกเาพือ่ จงู ใจใหเ้ ขสาําในหกั้กงาารนอคยณา่ ะงกใดรรๆมกใานรเกรฤือ่ ษงฎทีกต่ี าอ้ งหาน้ัน สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สมาํ านตักรงาาน๑ค๓ณ๖ะก๘๖รรม(ยกการเกลฤิกษ) ฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรีกาา๑๓๗ พนักงสาํานนกัสงอาบนคสณวนะกขรณรมะกทาํารกกฤาษรอฎยีกู่ใานบ้านเรือนหสราํ ือนใักนงาสนถคาณนะทกี่อรรื่นมกๆารกฤษฎีกา
มีอาํ นาจส่ังมิให้ผู้ใดออกไปจากท่ีน้ัน ๆ ช่ัวเวลาเท่าท่ีจาํ เป็น
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
มาตรา ๑๓๘ พนักงานสอบสวนมีอํานาจสอบสวนเองหรือส่งประเด็นไปสอบสวน
สาํ นักเงพา่ือนทคณราะบกครรวมากมาเรปก็นฤมษาฎแกี หา่งชีวิตและควสาํามนปกั งราะนพคฤณตะิอกันรรเปมก็นาอรากจฤิณษฎขกีอางผู้ต้องหา แตส่ตาํ ้อนงักแงจาน้งคใหณ้ผะู้ตก้อรรงมหกาารกฤษฎกี า
ทราบขอ้ ความทกุ สขําอ้นทกั งไี่ ดาน้มคาณะกรรมการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรกีาา๑๓๙ ให้พนสักํานงาักนงาสนอคบณสะวกนรรบมันกทารึกกกฤาษรฎสกี อาบสวนตามหลสักํานทัก่ัวงไาปนใคนณปะรกะรมรมวกลารกฤษฎกี า
กฎหมายนี้อันว่าด้วยการสอบสวนและให้เอาบันทึก เอกสารอ่ืนซึ่งได้มา อีกท้ังบันทึกเอกสารท้ังหลาย
ซ่ึงเจา้ พนกั งานอ่ืนสผําน้สู ักองบานสวคนณคะกดรเี ดรมียกวากรนั กนฤั้นษฎสง่ีกมาารวมเข้าสาํ นสวํานนกัไวง้านคณะกรรมการกฤษฎีกา
เอกสารท่ีย่ืนเป็นพยานให้รวมเข้าสํานวน ถ้าเป็นสิ่งของอย่างอื่นให้ทําบัญชี
สาํ นักรงาายนลคะณเอะกยี รดรรมวกมาเรขกา้ฤสษาํ ฎนกี วานไว้ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เพ่ือประโยชน์ในการติดตามพยานให้ไปตามกําหนดนัดของศาล ให้พนักงาน
สอบสวนบันทึกรสาํายนชัก่ืองขานอคงพณยะการนรบมุคกคารลกทฤั้งษหฎมกี ดาพร้อมที่อยู่หสรําือนสกั ถงาานนคทณ่ีตะิดกตรร่อมหกามรากยฤเษลฎขีกโทา รศัพท์หรือ
ชอ่ งทางอ่ืนที่ใชใ้ นการตดิ ต่อพยานเหลา่ นัน้ เก็บไว้ ณ ทที่ ําการของพนักงานสอบสวน๘๗
สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สมําานตกั งราานค๑ณ๔ะ๐กรรเมมกื่อารพกนฤัษกฎงากี นา สอบสวนผู้สรัําบนผักิดงาชนอคบณใะนกกรรามรกสาอรกบฤสษวฎนีกาเห็นว่าการ
สอบสวนเสรจ็ แล้ว ใหจ้ ดั การอย่างหนง่ึ อยา่ งใด ดงั ตอ่ ไปน้ี
สํานกั งานคณะกรรมการก(๑ฤษ) ฎถีก้าาไม่ปรากฏว่าสผําู้ในดักเงปา็นนคผณู้กะรกะรทรํามคกวารากมฤผษิดฎแกี ลา ะความผิดนสั้นาํ มนีอักัตงารนาคโณทะษกจรํารมคกุการกฤษฎีกา
อย่างสูงไม่เกินสามปี ให้พนกั งานสอบสวนงดการสอบสวน และบันทึกเหตุที่งดน้ันไว้ แล้วให้ส่งบันทึก
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๘๕ มาตรา ๑๓๕ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สํานักคงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกับาทร่ีก๒ฤ๒ษ)ฎพกี .ศา. ๒๕๔๗ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๘๖ มาตรา ๑๓๖ ยกเลิกโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา (ฉบับทสี่ํา๒น๒กั ง) าพน.คศณ. ๒ะก๕ร๔ร๗มการกฤษฎีกา สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๘๗ มาตรา ๑๓๙ วรรคสาม เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สาํ นักคงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกบั าทร่ีก๒ฤ๒ษ)ฎพีก.ศา. ๒๕๔๗ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
- ๕๐ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
พรอ้ มกบั สํานวนไปยังพนกั งานอยั การ
สํานกั งานคณะกรรมการกฤษถฎ้กีาาอัตราโทษอยส่าํานงสกั ูงงาเนกคินณกะวก่ารสรมากมาปรกี ใฤหษ้ฎพกี นาักงานสอบสสวาํนนสัก่งงสานําคนณวะนกไรปรมยกังารกฤษฎกี า
พนกั งานอยั การพร้อมทงั้ ความเห็นที่ควรให้งดการสอบสวน
สาํ นกั ถง้าานพคนณักะงการนรอมัยกการากรฤสษั่งฎใหีก้งาด หรือให้ทําสกําานรักสงอานบคสณวะนกตร่อรมไปกาใรหก้พฤษนฎักีกงาานสอบสวน
ปฏบิ ัติตามนั้น
สํานกั งานคณะกรรมการก(๒ฤ)ษถฎ้ากี ราู้ตัวผ้กู ระทําผสดิ ํานใหักงใ้ าชนบ้ คทณบะัญกรญรัตมกใิ นารสกีม่ ฤาษตฎรกีาาตอ่ ไปน้ี สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมําานตกั รงาาน๑ค๔ณ๑ะกรถร้ามรกู้ตารัวกผฤู้กษรฎะีกทาําความผิด แตส่เํารนียักกงหานรคือณจับะกตรัวรยมังกไามร่ไกดฤ้ ษเมฎ่ือีกไาด้ความตาม
สํานักทงาานงสคอณบะกสรวรนมอกยาร่ากงฤใดษฎใกีหา้ทําความเห็นสวํา่านคกั วงราสน่ังคฟณ้อะงกหรรรมือกสาั่งรไกมฤ่ฟษ้อฎงีกสา่งไปพร้อมกับสสําํนานักงวานนยคังณพะนกักรรงมากนารกฤษฎีกา
อัยการ
สถาํ ้านพักนงาักนงคาณนะอกัยรกรมากรเาหรก็นฤชษอฎบกี ดา้วยว่าควรส่ังสไมําน่ฟัก้องงานใคหณ้ยะุตกิกรารมรสกาอรบกสฤวษนฎโีกดายสั่งไม่ฟ้อง
และให้แจง้ คําสั่งน้ีใหพ้ นักงานสอบสวนทราบ
สาํ นักงานคณะกรรมการกถฤ้าษพฎนกีักางานอัยการเหส็นําวน่ากั คงวานรสคอณบะกสรวรนมตก่อารไปกฤกษ็ใฎหกี ส้ า่งั พนกั งานสอสบําสนวักนงปานฏคิบณตั ะเิ กชรน่ รนม้ันการกฤษฎกี า
ถ้าพนักงานอัยการเห็นว่าควรส่ังฟ้อง ก็ให้จัดการอย่างหนึ่งอย่างใดเพ่ือให้ได้ตัว
ผตู้ อ้ งหามา ถา้ ผ้ตู ส้อํานงหักงาาอนยคตู่ ณา่ ะงกปรรระมเกทาศรกใฤหษ้พฎนกี กั างานอัยการจัดสํกานากัรงเพานื่อคขณอะใกหร้สรง่ มตกัวาขรา้กมฤแษดฎนกี ามา
สํานักงานคณะกรรมการกมฤาษตฎรีกาา๑๔๒ ถ้ารู้ตสัวําผนู้กกั รงะานทคําณคะวการมรผมิดกแารลกะฤผษู้นฎั้นกี ถาูกควบคุม หรสือํานขักังงอายนู่ คหณระือกปรลรม่อกยารกฤษฎีกา
ช่ัวคราวหรือเชื่อวส่าําคนักงไงดาน้ตคัวณมาะกเมรื่อรมอกอากรหกฤมษาฎยีกเราียก ให้พนักงสาํานนสักองบานสควณนะทกํารครมวากมารเกหฤ็นษตฎาีกมาท้องสํานวน
การสอบสวน วา่ ควรสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องส่งไปยังพนักงานอัยการพรอ้ มด้วยสาํ นวน
สาํ นกั งานคณะกรรมการกในฤษกฎรณีกาีท่ีเสนอความสเําหน็นักคงาวนรคสณั่งไะมกร่ฟร้อมงกาใรหก้สฤ่งษแฎตกี ่สาํานวนพร้อมสดํา้วนยักคงวานามคณเหะ็นกรไปรมยกังารกฤษฎีกา
พนักงานอัยการ ส่วนตัวผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวนมีอํานาจปล่อยหรือปล่อยชั่วคราวถ้าผู้ต้องหา
ถูกขังอยู่ ใหข้ อเอสงําหนรกั อื งขานอคใหณ้พะกนรกั รงมากนาอรกัยฤกษาฎรขีกอา ตอ่ ศาลใหป้ ลสอ่ํานยักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในกรณีท่ีเสนอความเห็นควรสั่งฟ้อง ให้พนักงานสอบสวนส่งสํานวนพร้อมกับ
สํานักผงู้ตาน้อคงณหะากไรปรยมักงาพรนกฤักษงฎากีนาอัยการ เว้นแสําตน่ผักู้ตงา้อนงคหณาะนกั้นรรถมูกกขารังกอฤยษู่แฎลกี ้วา หรือผู้ต้องหสาํานซักึ่งงถานูกคแณจะ้งกขร้อรมหกาารกฤษฎกี า
ได้หลบหนีไป๘๘
สแําตน่ถกั ง้าาเนปค็นณคะวการมรมผกิดารซกึ่งฤพษฎนกีักางานสอบสวนสเําปนักรีงยาบนเคทณียะบกรไรดม้ กแาลระกผฤู้ษกฎระกี าทําความผิด
ได้ปฏิบัติตามเปรียบเทียบนั้นแล้ว ให้บันทึกการเปรียบเทียบนั้นไว้ แล้วส่งไปให้พนักงานอัยการ
สาํ นักพงราน้อคมณดว้ะกยรสรํามนกวานรกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
สมาํ านตักรงาาน๑คณ๔ะ๓ก๘ร๙รมเกมาื่อรกไดฤ้ษรับฎคีกาวามเห็นและสสําํานนักวงนานจคากณพะกนรักรงมากนารสกอฤบษสฎวกี นาดังกล่าวใน
สํานกั มงาานตคราณกะอ่ กนรรใมหก้พารนกักฤงษาฎนกี อายั การปฏบิ ัตดิ สังําตน่อกั ไงปานนคี้ ณะกรรมการกฤษฎกี า สาํ นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ในกรณีท่ีมีความเห็นควรสั่งไม่ฟ้อง ให้ออกคําสั่งไม่ฟ้อง แต่ถ้าไม่เห็นชอบด้วย
ก็ให้สั่งฟ้องและแสจาํ ง้นใักหงพ้ านนคกั ณงาะนกรสรอมบกสาวรกนฤสษง่ ฎผีกูต้ า้องหามาเพอ่ื ฟส้อํานงตัก่องาไนปคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาํ นกั งานคณะกรรมการก๘๘ฤษมฎาตีการา ๑๔๒ วรรคสสําานมักแงากน้ไคขเณพะิ่มกเรตริมมโกดายรปกรฤะษกฎากีศาคณะรักษาควาสมาํสนงักบงแาหน่งคชณาตะกิ ฉรบรมับกทา่ี รกฤษฎีกา
๑๑๕/๒๕๕๗ เร่ือง แก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ลงวันท่ี ๒๑ กรกฎาคม พุทธศักราช
๒๕๕๗ สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า สํานกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๘๙ มาตรา ๑๔๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สาํ นกั คงวาานมคอณาญะการ(รฉมบกับาทรี่ก๖ฤ)ษพฎ.ศกี .า๒๔๙๙ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า