มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแกน
Mahachulalongkornrajavidyalaya University Khon Kaen Campus
ชือ่ ดษุ ฎีนพิ นธ
วิถชี ีวติ ชุมชนชาวพุทธทม่ี ปี ฏสิ มั พนั ธกับ
ปราสาทพนมรงุ อาํ เภอเฉลิมพระเกยี รติ จังหวดั บรุ รี ัมย
ผวู ิจัย
พระมณีพร ขนฺติสาโร
คณะกรรมการ พระมหาดาวสยาม วชิรปฺโญ, ผศ.ดร.,
ควบคุมดษุ ฎีนพิ นธ ป.ธ.6, พธ.บ. (ศาสนา) ,M.A. (Sanskrit),
Ph.D. (Pali & Theravãda)
พระครสู ุธีคัมภีรญาณ, ผศ.ดร.,
ป.ธ.6, พธ.บ. (ภาษาไทย), M.A. (Linguistics),
M.A. (Pali & Buddhist Studies)
หลักสูตรพทุ ธศาสตรดษุ ฎบี ณั ฑติ สาขาวชิ าพระพทุ ธศาสนา
มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั วิทยาเขตขอนแกน
ปท่อี นมุ ตั จิ บการศกึ ษา 2564
หลักสตู รพทุ ธศาสตรดษุ ฎบี ณั ฑติ สาขาวชิ าพระพุทธศาสนา @MCUKK.Phd.Bud
http://www.mcukk.com/phdbudh/
ทมี่ าและความสาํ คัญของงานวิจัย
ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื หรือภาคอีสานประกอบดวยคนหลายกลุม
วัฒนธรรม มีภาษาพูด วิถีชีวิต ขนบธรรมเนียมทั้งที่เปนลักษณะ
เฉพาะถนิ่ เฉพาะเผาพันธุ และท่ีเปนลักษณะรวมกัน บางกลุมวัฒนธรรม
มีภาษาพูดใกลเคียงกับภาษาไทยมาตรฐาน โดยเฉพาะกลุมไทยลาว
ประกอบดวย ไทยยอ ผูไทย ไทยลาว ไทยแสก และไทยโคราช แตบางกลุม
วัฒนธรรมมีภาษาพูดที่แตกตางไปจาก ภาษาไทยมาตรฐานอยางสิ้นเชิง ไดแก
กลุมท่ีพูดภาษามอญ-เขมร เชน ไทยเขมร ไทยสวย-ไทยกูย ซ่ึง พบมากในจังหวัด
สุรินทร ศรีษะเกษ และบุรีรัมย โดยพูดได 2 ภาษา คือ ภาษาชนกลุมนอยหรือภาษาถ่ิน
ของตนและภาษาไทยมาตรฐาน กลมุ วฒั นธรรมในภาคอีสานสามารถแบงออกเปน 3 กลุมใหญ
ไดแก 1. กลุมวัฒนธรรมไทย-ลาว 2. กลุมวัฒนธรรมมอญ-เขมร 3. กลุมวัฒนธรรมไทยโคราช
กลุมวัฒนธรรมหลักท้ัง 3 กลุมนี้มีลักษณะการอยูอาศัยกระจายไปท่ัวพื้นท่ีของบริเวณ ภาคอีสาน
กลุมวัฒนธรรมไทยโคราชพบการกระจายตัวในแถบจังหวัดนครราชสีมา จังหวัดบุรีรัมย กลุมวัฒนธรรม
ไทย-ลาว พบการอาศัยอยูอยางหนาแนนในบริเวณทางตอนบนของภาคและกระจายไป ในทุกจังหวัดท่ัว
ภาคอีสาน กลุมวัฒนธรรมมอญ-เขมร อาศัยอยูบริเวณเขตรอยตอชายแดนไทย-กัมพูชา ตอนลางของภาคอีสาน
โดยเรียกพ้ืนที่บริเวณดังกลาววา “อีสานใต” มี 4 จังหวัด ประกอบดวย จังหวัดสุรินทร บุรีรัมย ศรีสะเกษ และ
นครราชสมี า
@MCUKK.Phd.Bud http://www.mcukk.com/phdbudh/
วิธีดาํ เนินการวจิ ยั
1. ทําการศกึ ษาและรวบรวมขอมูลในเชิงเอกสาร
(Documentary Study) จากแหลง ขอมลู ปฐมภมู ิ (Primary Source)
และศกึ ษาขอ มูลทตุ ยิ ภมู ิ (Secondary Source) ท่มี เี นือ้ หาที่เกย่ี วของ
กบั งานวจิ ัยน้ี และประชากรกลุมตัวอยางท่ศี ึกษา
2. สรางแบบสมั ภาษณจากกรอบเน้ือหาของวัตถปุ ระสงค และนยิ าม
ศัพทท่ีใชในการวจิ ยั เพอ่ื ตอบโจทยก ารวิจัย
3. เสนอรางแบบสมั ภาษณต ออาจารยท ่ปี รึกษา เพ่ือตรวจสอบความถูกตอง
ของเนือ้ หา
4. นาํ แบบสัมภาษณม าปรับปรุงแกไ ขตามทีอ่ าจารยท ปี่ รกึ ษาแนะนํา เสนอตอผูท รง
คุณวฒุ ิ เพือ่ ตรวจสอบความสมบรู ณของเนือ้ หา จํานวน 5 ทาน
5.นําแบบสมั ภาษณไ ปปรับปรุงแกไ ขอกี คร้งั หนงึ่ ตามคาํ แนะนาํ ของผูท รงคณุ วฒุ ิ
6. ทําการสนทนากลมุ (Focus Group) โดยมีผเู ขา รวมสนทนากลมุ รวมกบั คณาจารยท ปี่ รึกษา
ไดแก พระมหามติ ร ฐิตปฺโญ, รศ.ดร., พระครสู ุธคี มั ภีรญาณ ผศ.ดร., พระมหาดาวสยาม วชริ ปฺโญ, ผศ.ดร.,
รว มกบั ผูทรงคณุ วุฒิภายนอกไดแก ผศ.ดร.หอมหวล บวั ระภา, ผศ.ดร.วิเชยี รแสนมี, ผศ.ดร.ธีระพงษ มีไธสงค
และ ผศ.ดร.สุวนิ ทองปน ตลอดทงั้ นสิ ิตพุทธศาสตรดษุ ฎีบัณฑติ รุน 11 ทกุ รูป/คน เพือ่ ใหค วามคดิ เห็นเกีย่ วกบั
วิถชี ีวติ ชมุ ชนชาวพุทธทมี่ ีปฏิสัมพนั ธก ับปราสาทพนมรงุ อาํ เภอเฉลมิ พระเกียรติ จังหวดั บรุ ีรัมย ซง่ึ ไดร ับ
คาํ แนะนาํ จากผูทรงคณุ วุฒิและปรับแกตามคาํ แนะนํา
7. ผูวจิ ยั ติดตอ บัณฑิตศกึ ษา มหาวิทยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลยั วิทยาเขตขอนแกน เพือ่ ขอ
หนงั สอื ความรวมมอื ในการทาํ วจิ ยั ไปยังกลุม เปา หมาย จาํ นวน 40 รูป/คน
8. ผวู จิ ยั นําแบบสมั ภาษณ ไปสัมภาษณเ ชงิ ลึก กลุมเปาหมายผใู หขอ มูลหลัก จํานวน 40 รูป/คน จํานวน
40 ฉบับ และรบั คืนมาดวยตนเองทัง้ หมดแลว ตรวจสอบความถกู ตองสมบูรณ
9. รวบรวมเรียบเรียงขอ มลู ทงั้ ทไ่ี ดจากภาคทฤษฏี และภาคสนามมาวิเคราะห สงั เคราะหและจัด
หมวดหมู นําไปวิเคราะหข อ มลู ตามวตั ถปุ ระสงคในการวิจยั เขยี นรายงานการวิจัย สรุปผลการวจิ ัย และ
ขอเสนอแนะในการทําวิจัยในครงั้ ตอ ไป
10. ทําการประชาพจิ ารณโ ดยมผี ทู รงคุณเขา รวมไดแก พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ, รศ.ดร.,
พระครสู ธุ ีคัมภีรญาณ, ผศ.ดร., พระมหาดาวสยาม วชิรปฺโญ, ผศ.ดร., รว มกับผทู รงคณุ วฒุ ภิ ายนอก ไดแก
ผศ.ดร.หอมหวล บวั ระภา, ผศ.ดร.วิเชียร แสนมี ผลการประชาพจิ ารณ ไดร ับคําแนะนําจากผทู รงคณุ วฒุ นิ าํ มา
ปรบั ปรุง แกไขใหมคี วามสมบรู ณ
@MCUKK.Phd.Bud http://www.mcukk.com/phdbudh/
ผลการวจิ ยั
วิถีชีวิตชุมชนชาวพุทธท่ีมีปฏิสัมพันธกับปราสาท: คือ
1) อารยธรรมของชาวบุรีรัมย เปน เสมือนประตูเปดรับอารยธรรม
ภาษา สิ่งปลูกสราง ประเพณี วัฒนธรรม และความเชื่อ 2) วัฒนธรรม
กับ ปราสาทของชาวบุรีรัมย เปนแหลงอารยธรรมที่เกาแก มีวัฒนธรรม
ประเพณีท่ีดีงาม แหลงโบราณสถาน และ โบราณคดี ท่ีบงบอกถึงความเจริญ
ในอดีต เชน ปราสาทตา ง ๆ ในจังหวัดบรุ รี ัมย
วิถีชีวิตชุมชนชาวพุทธท่ีมีปฏิสัมพันธกับปราสาทพนมรุง: แบงออกเปน
3 ประเด็น คือ 1) วิถี ชีวิตกับปราสาทพนมรุง การปลุกจิตสํานึก, อารยธรรมดานความ
เชื่อ, ท่ีปรากฏใหเห็นบนตัวปราสาทพนมรุง 2) วัฒนธรรม คือ ความงอกงามในการ
ดํารงชีวิต, ความงอกงามทางดานภาษา, 3) ประเพณีและพิธีกรรม ของชุมชนชาวพุทธท่ีสัมพันธ
กับปราสาทพนมรุง คือ พิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธ์ิ แหงปราสาทพนมรุง, พิธีบวงสรวงบัวแปดกลีบ,
พธิ บี วงสรวงเจาพอปราสาททอง
วิเคราะหวิถีชีวิตชุมชนชาวพุทธที่มีปฏิสัมพันธกับปราสาทพนมรุง อําเภอเฉลิมพระเกียรติ
จังหวัดบุรีรัมย: ไดแสดงคุณคาใหปรากฏในแตดาน คือ 1) ดานพุทธจริยธรรม ทางศาสนากิจ การปกครอง
การเมือง, 2) ดานศิลปกรรม คณุ คา ทางดา นการแกะสลักภาพส่ือความหมาย, 3) ดานวฒั นธรรม คณุ คา ทางการ
แตงกาย การความกตญั กู ตเวทตี อ บุพการีผมู ีพระคณุ ผูลวงลับ, 4) ดานประเพณี ประเพณีฮีต 12 การบูชาพระ
รัตนตรัย, 5) ดานพิธีกรรม สวนใหญจะเก่ียวกับการบวงสรวงบูชา แกบรรพบุรุษผูลวงลับ เปนพิธีกรรมท่ีแสดง
ออกมาจากความกตัญูกตเวที
@MCUKK.Phd.Bud http://www.mcukk.com/phdbudh/
องคความรใู หมท ่ไี ดจ ากการวิจัย
การวจิ ยั เรอื่ งวถิ ชี วี ติ ชมุ ชนชาวพุทธท่ีมปี ฏิสมั พันธก ับ
ปราสาทพนมรุง อําเภอเฉลมิ พระเกียรติ จงั หวัดบรุ ีรมั ย วฒั นธรรม
ประเพณแี ละพธิ กี รรมทางศาสนา (Cultural Ceremony) ทีเ่ กย่ี วกบั
ปราสาทพนมรุงไดสงผานความสงบสนั ตสิ ุข (Peace) ทําใหเ กดิ ขึ้นในชุมชน
วิถีชีวติ ชมุ ชนชาวพทุ ธท่มี ปี ฏิสมั พันธกบั ปราสาทพนมรุง อําเภอเฉลิมพระ-
เกยี รติ จังหวดั บรุ ีรัมย ไดอ ธิบายถงึ ประวัตศิ าสตรท ี่มกี ารสะทอ นวัฒนธรรมและ
อตั ลกั ษณที่กอ ใหเ กดิ มจี ารตี ประเพณปี ฏิบัตสิ บื มาจากคติความเช่ือในพนื้ ทศ่ี ักดส์ิ ิทธ์ิ
ของศาสนสถาน เพื่อเปนเครื่องมือในการสรางความการสรางความศรทั ธาและพลงั ความ
เชอื่ ในพ้ืนท่พี ิธีกรรมมคี วามศกั ดิ์สิทธ์ิขน้ึ ชมุ ชนบา นหนองแหนเปน ชุมชนที่มที ัง้ กลมุ พดู
ภาษาเขมรซงึ่ ยึดถอื ประเพณีตามแบบอีสานใตและกลุม ผพู ดู ตระกูลลาวจะยดึ ถือฮตี 12
หลกั พุทธจริยธรรมทเ่ี กดิ ขนึ้ จากการวิเคราะหแ ละตคี วามจากเร่ืองราวทป่ี รากฏบนปราสาทพนมรงุ
เกดิ องคความรทู างประวัติศาสตรผ า นการถา ยทอดของมุมมองในทศั นคตทิ างศาสนาฮนิ ดแู ละพระพทุ ธ-
ศาสนา คนในชุมชนยอมรับและมคี วามคดิ เห็นรวมกัน ปราสาทพนมรุงไดแ สดงคณุ คาทางดานศลิ ปกรรม
เปนเอกลกั ษณท ่ีโดดเดนของชมุ ชนชาวบรุ ีรัมย เปน ผลงานทางภมู ปิ ญ ญาทางเชงิ ชา งชนั้ สูงท้ังในการแกะสลั
กภาพสอ่ื ความหมาย และวัฒนธรรมทางภาษาทถี่ า ยทอดอักษรที่บง บอกถงึ ยุคสมยั ทางประวตั ศิ าสตรของชาตไิ ด
เปนสังคมทีร่ งุ เรอ่ื งทางวฒั นธรรมทางดา นศลิ ปะ รสนยิ มที่ถายทอดมาจากความเชื่อและความศรทั ธาทางศาสนา
ฮินดแู ละพระพทุ ธศาสนา เปนคณุ คา ทส่ี ําคัญย่งิ ที่ทาํ ใหผลงานศิลปกรรมเหลา นยี้ งั คงไดรบั ความสาํ คญั และชมุ ชน
ไดร กั ษาให สืบทอดใหคงอยสู ืบไป
@MCUKK.Phd.Bud http://www.mcukk.com/phdbudh/
จดุ เดนของงานวิจัย
วิถีชีวิตชุมชนไมวาจะชาวพุทธหรือชาวฮินดูก็จะมีปฏิสัมพันธกับ
ปราสาทพนมรุงซึ่งสามารถ แบงออกเปน 3 ประเด็น 1) วิถีชีวิตกับ
ปราสาทพนมรุง อารยธรรมความเชื่อ 2) วัฒนธรรมคือความงอกงามใน
การดํารงชีวิต ความงามทางภาษา 3) ประเพณีและพิธีกรรมของชุมชน
ชาวพุทธที่มีปฏิสัมพันธกับปราสาทพนมรุง คือ การบวงสรวงส่ิงศักด์ิสิทธ์ิแหง
ปราสาทพนมรุง พิธีบวงสรวงบัวแปดกลีบ พิธีบวงสรวงเจาพอปราสาททอง
ซึ่งกิจกรรมเหลาน้ีมักมีปฏิสัมพันธกับปราสาทพนมรุง ท่ีไดแสดงถึงคุณคาท่ีปรากฎ
ในแตล ะดา น ดงั น้ี 1) ดานพุทธจริยธรรม 2) ดานศิลปกรรม 3) ดานวัฒนธรรม 4) ดาน
ประเพณี ฮีต 12 และ5) ดานพิธีกรรม การปฏิสัมพันธเหลาน้ีผานพิธีกรรมไดการสะทอน
ใหเห็นถึงวัฒนธรรมและอัตลักษณของคนพ้ืนเมืองท่ีไดหยิบยกเรื่องราวทางประวัติศาสตรใน
อดีตมาถายทอดผานการแสดงในรูปแบบขบวนแหอยางสรางสรรค เปนการสรางความศรัทธาและ
พลัง ความเชื่อในพื้นที่พิธีกรรมมีความศักดิ์สิทธิ์ และยังสามารถเชื่อมโยงใหพ้ืนท่ี พิธีกรรมเปนพ้ืนท่ี
แหง ความทรงจําสะทอนใหเห็นถึงแนวคิดในการนําหลักฐานทางประวัติศาสตรมาประกอบจนกอใหเกิดมี
จารีตประเพณีปฏิบัติสืบมาจากคติความเช่ือการสรางความนาเชื่อถือและความศักดิ์สิทธิ์ของงานประเพณี
ใหสาธารณะชนไดรับรู จนกลายเปนที่นิยมแกนักทองเที่ยว ปราสาทพนมรุงมีการพัฒนาจากประเพณีทองถ่ิน
ของชาวบานสูประเพณีของรัฐท่ีมีเรื่องราวมาจากประวัติศาสตรการเปลี่ยนแปลง และการประกอบสรางขึ้นโดย
มีทง้ั แบบเกา ดัง้ เดิม แบบพฒั นาขน้ึ ใหม
วารสารที่เผยแพรข อมลู วจิ ยั ท่ีใชใ นการสืบคน
วารสารวิชาการระดับนานาชาติ International Journal of Special Education is a
SCOPUS Indexed Q 3 and web of science Indexed Journal.
https://internationaljournalofspecialeducation.com/submission/index.php/ijse/
article/view/971
@MCUKK.Phd.Bud http://www.mcukk.com/phdbudh/
หลกั สูตรพทุ ธศาสตรดษุ ฎีบัณฑติ สาขาวชิ าพระพุทธศาสนา
มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั วทิ ยาเขตขอนแกน
เลขที่ 30 หมทู ี่ 1 ถนนขอนแกน -นํา้ พอง ตําบลโคกสี
อาํ เภอเมอื งขอนแกน จังหวดั ขอนแกน