รหสั วชิ า ว11101
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ตัวเรา สัตว์ และพืชรอบตัว
นางสาวพรชติ า อาศัยรัตน์
นักศึกษาฝกึ ประสบการณ์วิชาชีพครู
โรงเรยี นหนองบวั วิทยายน
สานกั งานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาหนองบวั ภู เขต1
แผนการจัดการเรยี นรู้
วิชา วิทยาศาสตร์ ว11101
กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 เรอื่ ง ตัวเรา สตั ว์ และพืชรอบตัว
ระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 1 โรงเรียนหนองบัววิทยายน
นางสาวพรชิตา อาศัยรตั น์
รหสั ประจาตัวนกั ศึกษา 61100147109
สาขาวิทยาศาสตร์
การฝึกปฏิบัติการสอนในสถานศกึ ษา 2
รหสั วิชา ED18502 (INTERSHIP IN SCHOOL 2)
คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั อุดรธานี
ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565
คานา
แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว11101 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม 1
จัดทาขนึ้ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรยี นการสอนให้มีประสิทธิภาพ และใหน้ กั เรียนบรรลุตามมาตรฐาน
การเรียนรู้/ตัวชี้วัด ที่กาหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง
2560) ผู้จัดทาจงึ ไดศ้ ึกษาสาระการเรียนรู้ เทคนิค วิธีการสอนการวัดและประเมนิ ผล มาจัดทาแผนการเรยี นรู้
ในครั้งนี้
แผนการจัดการเรียนรู้ในเล่ม 1 นี้ ประกอบไปด้วย ทาไมต้องเรียนวิทยาศาสตร์ เรียนรู้อะไรใน
วิทยาศาสตร์ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ คณุ ภาพผู้เรยี นเมือ่ จบช้นั ประถมศึกษาปีที่ 3 สมรรถนะสาคัญของ
ผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์สาคัญของผู้เรียน ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 1 คาอธิบายรายวชิ า โครงสร้างรายวชิ า แผนการจดั การเรยี นรหู้ นว่ ยที่ 2 เรอื่ ง ตวั เรา สัตว์ และพชื รอบตวั
เพอื่ ใหผ้ ู้เรยี นบรรลุมาตรฐานการเรียนร้ไู ด้เตม็ ศกั ยภาพอย่างแทจ้ ริง
จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแผนการจัดการเรียนรู้ฉบับนี้ จะสามารถนาไปใช้ประกอบการจัดการเรียน
การสอนรายวิชาวิทยาศาสตร์ นาไปสกู่ ารพฒั นาท่ีถูกต้องและเกดิ ผลแก่ผเู้ รยี นเปน็ อยา่ งดี
พรชติ า อาศัยรตั น์
1 ตลุ าคม 2565
หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พ.ศ.2551 (ฉบบั ปรับปรุง 2560)
กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์
ทำไมต้องเรียนวทิ ยาศาสตร์
วิทยาศาสตร์มีบทบาทสำคัญยิ่งในสังคมโลกปัจจุบันและอนาคต เพราะวิทยาศาสตร์เกี่ยวข้องกับทุก
คนทั้งในชีวิตประจำวันและการงานอาชีพต่าง ๆ ตลอดจนเทคโนโลยี เครื่องมือเครื่องใช้และผลผลิตต่าง ๆ
ที่มนุษย์ได้ใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในชีวิตและการทำงาน เหล่านี้ล้วนเป็นผลของความรู้วิทยาศาสตร์
ผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์และศาสตร์อืน่ ๆ วิทยาศาสตร์ช่วยให้มนุษย์ได้พัฒนาวิธีคิด ทั้งความคิดเป็น
เหตุเป็นผล คิดสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์ วิจารณ์ มีทักษะสำคัญในการค้นคว้าหาความรู้ มีความสามารถใน
การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ สามารถตัดสินใจโดยใชข้ ้อมูลที่หลากหลายและมีประจักษ์พยานทีต่ รวจสอบได้
วิทยาศาสตร์เปน็ วฒั นธรรมของโลกสมยั ใหมซ่ ึ่งเป็นสงั คมแหง่ การเรียนรู้ (K knowledge-based society) ดงั นั้นทุก
คนจึงจำเป็นต้องได้รับการพัฒนาให้รู้วิทยาศาสตร์ เพื่อที่จะมีความรู้ความเข้าใจในธรรมชาติและเทคโนโลยีที่
มนุษยส์ รา้ งสรรค์ขึ้น สามารถนำความรไู้ ปใช้อยา่ งมเี หตุผล สรา้ งสรรค์ และมีคณุ ธรรม
เรียนรอู้ ะไรในวิทยาศาสตร์
กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์มุ่งหวังให้ผู้เรยี นไดเ้ รยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ทีเ่ น้นการเชื่อมโยงความรู้กับ
กระบวนการ มีทักษะสำคัญในการค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ โดยใช้กระบวนการในการสืบเสาะหาความรู้
และแก้ปญั หาที่หลากหลาย ให้ผเู้ รยี นมีสว่ นรว่ มในการเรียนรทู้ ุกข้ันตอน มีการทำกิจกรรมดว้ ยการลงมือปฏิบัติ
จริงอยา่ งหลากหลาย เหมาะสมกบั ระดับชน้ั โดยกำหนดสาระสำคัญไว้ 8 สาระ ดงั น้ี
• วิทยาศาสตร์ชีวภาพ เรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตในสิ่งแวดล้อม องค์ประกอบของสิ่งมีชีวิต การดำรงชีวติ
ของมนุษย์และสัตว์ การดำรงชีวิตของพืช พันธุกรรม ความหลากหลายทางชีวภาพและวิวัฒนาการของ
ส่งิ มีชวี ติ
• วิทยาศาสตร์กายภาพ เรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติของสาร การเปลี่ยนแปลงของสาร การเคลื่อนที่
พลงั งาน และคล่ืน
• วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ เรียนรู้เกี่ยวกับโลกในเอกภพ ระบบโลก และมนุษย์กับการ
เปล่ียนแปลงของโลก
• เทคโนโลยี
- การออกแบบและเทคโนโลยี เรียนรู้เกี่ยวกับการพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ความเข้าใจ
เกี่ยวกับเทคโนโลยเี พือ่ ดำรงชีวติ ในสงั คมทมี่ ีการเปล่ยี นแปลงอยา่ งรวดเรว็ ใช้ความรู้และ
ทกั ษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อ่ืน ๆ เพือ่ แก้ปญั หาหรอื พัฒนางาน
อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยี
อยา่ งเหมาะสมโดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบต่อชีวติ สงั คม และสิ่งแวดล้อม
- วิทยาการคำนวณ เรียนรู้เกี่ยวกับการพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะการ
คิด เชิงคำนวณ การคิดวเิ คราะห์ แก้ปัญหาเปน็ ข้ันตอนและเปน็ ระบบ ประยุกตใ์ ชค้ วามรู้
ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการแก้ปัญหาท่ี
พบในชีวติ จรงิ ได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ
คณุ ภาพของผ้เู รยี นวทิ ยาศาสตร์ เมื่อจบชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3
จบชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3
1. เข้าใจลักษณะทั่วไปของสิ่งมีชีวิต และการดารงชีวิตของสิ่งมีชีวิตที่หลากหลายใน
ส่ิงแวดลอ้ มท้องถน่ิ
2. เข้าใจลักษณะที่ปรากฏและการเปลี่ยนแปลงของวัสดุรอบตัว แรงในธรรมชา ติ
รูปของพลงั งาน
3. เขา้ ใจสมบตั ทิ างกายภาพของดิน หนิ นา้ อากาศ ดวงอาทติ ย์ และดวงดาว
4. ตั้งคาถามเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิต วัสดุและสิ่งของ และปรากฏการณ์ต่างๆ รอบตัว สังเกต
สารวจตรวจสอบโดยใช้เคร่อื งมอื อยา่ งง่าย และสือ่ สารสง่ิ ที่เรยี นร้ดู ้วยการเลา่ เรือ่ ง เขยี น หรอื วาดภาพ
5. ใช้ความรูแ้ ละกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ในการดารงชวี ติ การศึกษาหาความรูเ้ พิ่มเติม
ทาโครงงานหรือชน้ิ งานตามทีก่ าหนดให้ หรือตามความสนใจ
6.แสดงความกระตือรือร้น สนใจที่จะเรียนรู้ และแสดงความซาบซึ้งต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัว
แสดงถึงความมเี มตตา ความระมัดระวังตอ่ ส่งิ มีชีวิตอื่น
7. ทางานที่ได้รับมอบหมายด้วยความมุ่งมั่น รอบคอบ ประหยัด ซื่อสัตย์ จนเป็นผลสาเร็จ
และทางานรว่ มกบั ผูอ้ น่ื อยา่ งมีความสุข
ตัวช้วี ดั และสาระการเรยี นรู้แกนกลาง ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา 11101
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 1
สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชวี ภาพ
มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิตกับ
สิ่งมีชีวิต และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่างๆ ในระบบนิเวศการ
ถา่ ยทอดพลังงาน การเปลย่ี นแปลงแทนทีใ่ นระบบนิเวศ ความหมายของประชากร
ปัญหาและผลกระทบที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแนวทางในการ
อนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและการแก้ไขปัญหาส่ิงแวดล้อมรวมท้ังนาความรู้ไปใช้
ประโยชน์
ตวั ช้วี ัด ว 1.1 ป.1/1 ระบุชอื่ พืชและสตั ว์ท่อี าศัยอยบู่ รเิ วณต่างๆ จากข้อมูลที่รวบรวมได้
ตัวชว้ี ัด ว 1.1 ป.1/2 บอกสภาพแวดลอ้ มที่เหมาะสมกับการดารงชีวติ ของสัตว์ในบริเวณที่อาศัยอยู่
มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวติ หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลาเลียงสารเข้าและออก
จากเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่างๆ ของสัตว์และ
มนุษยท์ ี่ทางานสัมพันธ์กนั ความสมั พนั ธข์ องโครงสร้างและหน้าท่ีของอวัยวะต่างๆ
ของพืชท่ที างานสมั พันธก์ ัน รวมทัง้ นาความรู้ไปใช้ประโยชน์
ตวั ชี้วดั ว 1.2 ป.1/1 ระบุชื่อ บรรยายลักษณะและบอกหน้าที่ของส่วนต่างๆ ของร่างกายมนุษย์ สัตว์
และพืชรวมทั้งบรรยายการทาหน้าที่ร่วมกันของส่วนต่างๆ ของร่างกายมนุษย์ใน
การทากจิ กรรมตา่ งๆ จากข้อมลู ท่ีรวบรวมได้
ว 1.2 ป.1/2 ตระหนักถึงความสาคัญของส่วนต่างๆ ของร่างกายตนเอง โดยการดูแลสว่ นต่างๆ
อย่างถูกต้อง ให้ปลอดภยั และรักษาความสะอาดอยเู่ สมอ
มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของ
สสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการ
เปลีย่ นแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมี
ตัวช้วี ดั ว 2.1 ป.1/1 อธิบายสมบัติที่สังเกตได้ของวัสดุที่ใช้ทาวัตถุซึ่งทาจากวัสดุชนิดเดียวหรือหลาย
ชนดิ ประกอบกนั โดยใช้หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์
ว 2.1 ป.1/2 ระบชุ นิดของวสั ดุและจดั กลมุ่ วสั ดุตามสมบตั ทิ ี่สงั เกตได้
มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจาวัน ธรรมชาติของ
คลื่นปรากฏ -การณ์ที่เกี่ยวข้องกับเสียง แสง และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ารวมทั้งนา
ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
ตวั ชี้วัด ว 2.3 ป.1/1 บรรยายการเกดิ เสียงและทิศทางการเคล่ือนที่ของเสยี งจากหลกั ฐานเชิงประจักษ์
สาระท่ี 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ
มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ
กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผล
ต่อสงิ่ มีชีวติ และการประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีอวกาศ
ตัวชว้ี ดั ว 3.1 ป.1/1 ระบุดาวทป่ี รากฏบนท้องฟา้ ในเวลากลางวนั และกลางคนื จากข้อมลู ท่ีรวบรวมได้
ว 3.1 ป.1/2 อธบิ ายสาเหตุท่มี องไมเ่ หน็ ดาวส่วนใหญ่ในเวลากลางวันจากหลักฐานเชงิ ประจักษ์
สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน มุง่ ใหผ้ ู้เรยี นเกิดสมรรถนะสาคัญ 5 ประการ ดังน้ี
1. ความสามารถในการส่ือสาร เป็นความสามารถในการรับและสง่ สาร มวี ัฒนธรรมในการใช้
ภาษาถ่ายทอดความคดิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ ความรูส้ ึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปล่ยี นข้อมูลข่าวสารและ
ประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลด
ปัญหาความขัดแย้งตา่ ง ๆ การเลือกรบั หรือไมร่ บั ข้อมลู ข่าวสารดว้ ยหลักเหตผุ ลและความถูกต้อง ตลอดจนการ
เลือกใช้วิธกี ารสอื่ สาร ทม่ี ีประสทิ ธิภาพโดยคานึงถึงผลกระทบทีม่ ีต่อตนเองและสงั คม
2. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด
อย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนาไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือ
สารสนเทศเพอื่ การตดั สนิ ใจเก่ียวกับตนเองและสังคมได้อยา่ งเหมาะสม
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ท่ี
เผชิญได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสมบนพ้ืนฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและขอ้ มูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์
และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและ
แก้ไขปัญหา และมีการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพโดยคานึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น ต่อตนเอง สังคมและ
สิ่งแวดล้อม
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนากระบวนการต่าง ๆ
ไปใช้ในการดาเนินชีวิตประจาวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทางาน และการอยู่
ร่วมกันในสังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบคุ คล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ
อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเลี่ยง
พฤตกิ รรมไม่พึงประสงค์ที่สง่ ผลกระทบต่อตนเองและผู้อน่ื
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้าน
ตา่ ง ๆ และมที กั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพอ่ื การพฒั นาตนเองและสังคม ในด้านการเรยี นรู้ การสื่อสาร
การทางาน การแก้ปัญหาอยา่ งสรา้ งสรรค์ ถกู ต้อง เหมาะสม และมคี ุณธรรม
คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ อยู่ร่วมกับ
หลกั สตู รสถานศึกษา มุง่ พัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ เพื่อใหส้ ามารถ
ผอู้ ่นื ในสังคมอย่างมคี วามสุข ในฐานะเปน็ พลเมืองไทยและพลเมอื งโลก ดังน้ี
1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
2. ซื่อสัตยส์ ุจริต
3. มีวินยั
4. ใฝเ่ รยี นรู้
5. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง
6. ม่งุ มน่ั ในการทำงาน
7. รกั ความเปน็ ไทย
8. มจี ติ สาธารณะ
สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์
สาระที่ 1 สงิ่ มชี วี ิตกบั กระบวนการดารงชีวิต
มาตรฐาน ว 1. 1 เข้าใจหน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของระบบต่างๆ
ของสิ่งมีชีวิตที่ทางานสัมพันธ์กัน มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และ
นาความรไู้ ปใช้ในการดารงชวี ิตของตนเองและดูแลสง่ิ มชี วี ิต
มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจกระบวนการและความสาคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม วิวัฒนาการ
ของสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพ การใช้เทคโนโลยีชีวภาพที่มีผลกระทบต่อ
มนุษย์และสิ่งแวดล้อม มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์ สื่อสาร สิ่งที่
เรยี นรู้ และนาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์
สาระท่ี 2 ชวี ติ กบั สง่ิ แวดลอ้ ม
มาตรฐาน ว 2. 1 เข้าใจสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่น ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งแวดล้อมกับสิ่งมีชีวิต ความสัมพันธ์
ระหว่างสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้และจิตวิทยา
ศาสตรส์ อ่ื สารสง่ิ ท่ีเรียนร้แู ละนาความรู้ไปใช้ประโยชน์
มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจความสาคัญของทรัพยากรธรรมชาติ การใช้ทรัพยากรธรรมชาติในระดับท้องถ่ิน
ประเทศ และโลกนาความรู้ไปใช้ในในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมใน
ท้องถน่ิ อยา่ งยงั่ ยืน
สาระที่ 3 สารและสมบัติของสาร
มาตรฐาน ว 3. 1 เข้าใจสมบัติของสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยว
ระหว่างอนุภาค มีกระบวนการสืบเสาะ หาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้
นาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจหลักการและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสาร การเกิดสารละลาย การ
เกดิ ปฏิกริ ิยา มีกระบวนการสบื เสาะ หาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์ สอื่ สารสงิ่ ทเี่ รียนรู้ และนา
ความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์
สาระท่ี 4 แรงและการเคล่ือนที่
มาตรฐาน ว 4. 1 เข้าใจธรรมชาติของแรงแม่เหล็กไฟฟ้า แรงโน้มถ่วง และแรงนิวเคลียร์ มีกระบวนการสืบ
เสาะหาความรู้ สอื่ สารสิ่งทีเ่ รยี นรู้และนาความรู้ไปใช้ประโยชนอ์ ย่างถูกต้องและมคี ุณธรรม
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจลักษณะการเคลื่อนที่แบบต่างๆ ของวัตถุในธรรมชาติมีกระบวนการสืบเสาะหา
ความร้แู ละจติ วิทยาศาสตร์ ส่อื สารสิ่งท่ีเรยี นร้แู ละนาความรู้ประโยชน์
สาระท่ี 5 พลังงาน
มาตรฐาน ว 5. 1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานกับการดารงชีวิต การเปลี่ยนรูปพลังงาน ปฏิสัมพันธ์
ระหว่างสารและพลังงาน ผลของการใช้พลังงานต่อชีวติ และส่ิงแวดลอ้ ม มีกระบวนการสืบ
เสาะหาความรู้ สอ่ื สารสง่ิ ทีเ่ รยี นรูแ้ ละนาความรู้ไปใช้ประโยชน์
สาระท่ี 6 กระบวนการเปลย่ี นแปลงของโลก
มาตรฐาน ว 6. 1 เข้าใจกระบวนการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนผิวโลกและภายในโลก ความสัมพันธ์ของ
กระบวนการต่าง ๆ ท่ีมีผลต่อการเปลย่ี นแปลงภมู ิอากาศ ภมู ิประเทศ และสัณฐานของโลก
มีกระบวนการสบื เสาะหาความรแู้ ละจติ วทิ ยาศาสตร์ ส่อื สารสงิ่ ทเ่ี รียนรูแ้ ละนาความรไู้ ปใช้
ประโยชน์
สาระท่ี 7 ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ
มาตรฐาน ว 7. 1 เข้าใจวิวัฒนาการของระบบสุริยะ กาแล็กซีและเอกภพการปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะ
และผลต่อสิ่งมีชีวิตบนโลก มีกระบวนการสืบเสาะ หาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์ การ
สอ่ื สารสง่ิ ที่เรยี นรู้และนาความร้ไู ปใช้ประโยชน์
มาตรฐาน ว 7.2 เข้าใจความส าคัญของเทคโนโลยีอวกาศที่น ามาใช้ ในการส ารวจอวกาศและ
ทรพั ยากรธรรมชาติ ด้านการเกษตรและการสื่อสาร มกี ระบวนการสบื เสาะหาความรู้และ
จิตวิทยาศาสตร์ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ประโยชน์อย่างมีคุณธรรมต่อชีวิต
และสิ่งแวดล้อม
สาระที่ 8 ธรรมชาตขิ องวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 8. 1 ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้ การ
แก้ปัญหารู้ว่าปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สามารถ
อธิบายและตรวจสอบได้ ภายใต้ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ในช่วงเวลานั้นๆ เข้าใจว่า
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสงิ่ แวดลอ้ ม มีความเกย่ี วข้องสัมพันธก์ นั
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 1
กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 1
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 ตัวเรา สัตว์ และพืชรอบตัว เวลา 2 ชั่วโมง
เรื่อง อวยั วะภายนอก ผ้สู อน นางสาวพรชติ า อาศัยรตั น์
......................................................................................................................................................................
1. มาตรฐานการเรียน/ตวั ช้ีวัด
ว 1.2
ป.1/1 ระบุชอื่ และบอกหนา้ ท่ีของส่วนต่าง ๆของร่างกายมนุษย์ สัตว์และพืช รวมท้ังบรรยาย
การทำหน้าทร่ี ่วมกนั ของสว่ นต่าง ๆ ของร่างกายมนุษยใ์ นการทำกจิ กรรมต่าง ๆ จากข้อมูล ที่รวบรวมได้
ป.1/2 ตระหนกั ถึงความสำคัญของส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกายตนเองโดยการดูแลสว่ นต่าง ๆ อยา่ ง
ถูกต้อ ง ให้ปลอดภยั และรักษาความสะอาดอยูเ่ สมอ
2. จุดประสงค์การเรียนรู้ (ความรู,้ ทักษะ, เจตคติ)
1. บอกความหมายและลกั ษณะของอวยั วะภายนอกรา่ งกาย
2. ตรวจสอบร่างกายและระบชุ ื่ออวยั วะภายนอกร่างกาย
3. มีความสนใจใฝ่เรยี นรู้
3. สาระสำคัญ
ร่างกายของเรา ประกอบด้วยส่วนตา่ ง ๆ ท่มี ีลกั ษณะและหน้าทีแ่ ตกต่างกัน แตอ่ าจทำหนา้ ท่ี
ร่วมกัน เราควรดแู ลรักษาส่วนต่าง ๆ ของร่างกายอยา่ งถูกตอ้ ง สะอาดและปลอดภยั อยูเ่ สมอ เพื่อใหท้ ำ
หนา้ ทต่ี ่อไปได้
4. สาระการเรียนรู้
ความรู้
ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ทักษะ/กระบวนการ
1. การสงั เกต
2. การลงความเห็นจากข้อมลู
ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21
1. การส่อื สาร
2. ความร่วมมอื
3. การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร
สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. ใฝ่เรยี นรู้
2. อย่อู ย่างพอเพียง
3. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน
ช้ินงานหรอื ภาระงาน
1. แบบบันทกึ กจิ กรรม
2. แบบรายงานการสืบคน้ ข้อมลู
5. กจิ กรรมการเรียนรู้
กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ โดยเน้นผ้เู รยี นเป็นสำคัญ ดำเนินการเรียนการสอน
ดังตอ่ ไปน้ี
- แจง้ จุดประสงค์การเรียนรใู้ ห้นักเรยี นทราบ
1. ข้นั สรา้ งความสนใจ
1.1 เลน่ กิจกรรมรอ้ ง ตา หู จมูก ปาก ตา และจับอวยั วะตามเพลงท่ีร้อง
1.2 ตรวจสอบความรเู้ ดิมของนักเรยี น โดยสมุ่ นกั เรยี นออกมาหนา้ ชนั้ เรยี น 2-3 คน ครูบอก
ช่ือส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกาย โดยให้นกั เรียนชใี้ หถ้ กู ตอ้ ง นักเรียนคนอน่ื ช่วยตรวจสอบวา่ เพื่อนชีส้ ว่ นต่าง ๆ
ของรา่ งกายถูกต้องหรือไม่ จากนั้นครูใช้คำถามดังตอ่ ไปน้ี
- ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายท่คี รูบอกให้เพ่ือนชี้ มีอะไรบ้าง(นกั เรยี นตอบตามช่ือทีค่ รบู อก)
- เพอื่ นที่ออกมาหน้าช้ันเรียน ชสี้ ว่ นตา่ ง ๆ ของร่างกายได้ถูกตอ้ งหรือไม่ อยา่ งไร
1.3 นกั เรยี นร่วมกนั อภิปรายและตอบคำถามตามความเข้าใจของตนเอง ซ่ึงอาจถูกต้อง
หรือไม่ถูกต้องก็ได้ ครถู ามเหตุผลและจดคำตอบของนักเรียนไว้ เพอื่ ใชใ้ นการกลับมาทบทวน อภิปราย
และแก้ไขแนวคิดคลาดเคล่อื นของนักเรียนหลงั จากจบบทเรียนแลว้
2. ขน้ั สำรวจและคน้ หา
ให้นักเรียนทำกิจกรรมต่าง ๆ เพ่อื ให้เกิดประสบการณ์ตรง ดงั นี้
2.1 ครูชกั ชวนนักเรยี นตอบคำถามเก่ียวกับสว่ นต่าง ๆ ของรา่ งกายในสำรวจความรู้ก่อนเรียน
โดยอาจถามว่านักเรียนรู้อะไรบา้ งเกยี่ วกับสว่ นตา่ ง ๆ ของร่างกาย
2.2 นักเรียนทำสำรวจความรู้ก่อนเรยี น ในแบบบนั ทึกกิจกรรม หนา้ 30-32 โดยอา่ น ชอื่
หน่วย ชอื่ บท
2.3 นกั เรียนเขยี นความหมายและเขียนบอกชื่อของอวยั วะภายนอก
3. ขั้นอธิบายและลงขอ้ สรุป
3.1 ครูสังเกตการตอบคำถามของนักเรยี นเพื่อตรวจสอบว่านกั เรียนมแี นวคิดเกี่ยวกบั ร่างกาย
อยา่ งไรบ้าง โดยครูยังไมเ่ ฉลยคำตอบ แตจ่ ะให้นักเรยี นยอ้ นกลับมาตรวจสอบอกี ครั้งหลงั เรียนจบบทนี้
แลว้ ทง้ั นค้ี รอู าจบันทึกแนวคดิ คลาดเคล่ือนหรือแนวคดิ ทนี่ า่ สนใจของนักเรียน แล้วนำมาออกแบบการ
จัดการเรียนการสอนเพ่ือแก้ไขแนวคิดให้ถูกต้อง
4. ข้นั ขยายความรู้
4.1 ครูตรวจสอบความรู้ที่ได้จากการทำกจิ กรรม และเน้นย้ำถงึ ประโยชนข์ องส่วนตา่ ง ๆ
ของร่างกายใน
4.2 ครูนำอภปิ รายใหน้ ักเรียนทบทวนว่าได้ฝกึ ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และทักษะ
แหง่ ศตวรรษท่ี 21 อะไรบ้างและในข้ันตอนใดบ้าง
5. ขนั้ ประเมิน
5.1 นกั เรียนนำความรทู้ ี่ได้จากการเรยี นรู้เร่ืองน้ี ไปปรับใช้ในการดำรงชวี ติ
5.2 ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั ประเมินกจิ กรรมในแบบรายงาน เก็บในแฟ้มสะสมงานนกั เรียน
จากนนั้ ครนู ดั หมายการเรียนในครง้ั ต่อไป
6. ส่อื / แหลง่ เรยี นรู้
1. หนงั สือเรียนวิทยาศาสตร์ สสวท. ป.1
2. แบบบนั ทกึ กิจกรรม
3. แบบรายงานการสืบค้นข้อมลู
7. การวัดและประเมนิ ผล
จุดประสงค์ วธิ ีการวดั ผล เคร่ืองมือวัดผล เกณฑก์ าร
ประเมนิ ผล
บอกความหมายและ แบบสังเกตการตอบ
ลักษณะของอวยั วะภายนอก การตอบคาถาม คาถาม เกณฑร์ ้อยละ 70%
ร่างกาย ผา่ นเกณฑ์
ตรวจสอบรา่ งกายและระบุ ตรวจใบกจิ กรรม แบบประเมินกจิ กรรม เกณฑร์ ้อยละ 70%
ชือ่ อวัยวะภายนอกรา่ งกาย เรอื่ ง อวยั วะภายนอก ผา่ นเกณฑ์
ร่างกาย
มีความสนใจใฝเ่ รียนรู้ สังเกตพฤติกรรม แบบประเมนิ เกณฑร์ ะดับ
ปฏบิ ตั งิ านของ คุณลักษณะอนั พึง คณุ ภาพ ด/ี พอใช/้
นกั เรียน ประสงค์ ปรับปรงุ ผา่ นระดับ
ดขี นึ้ ไป
แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 2
กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 1
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 ตัวเรา สัตว์ และพืชรอบตัว เวลา 1 ชั่วโมง
เรื่อง หนา้ ที่อวัยวะภายนอก ผู้สอน นางสาวพรชิตา อาศยั รตั น์
......................................................................................................................................................................
1. มาตรฐานการเรียน/ตัวช้ีวัด
ว 1.2
ป.1/1 ระบชุ ่อื และบอกหนา้ ท่ีของส่วนต่าง ๆของรา่ งกายมนษุ ย์ สตั ว์และพืช รวมท้งั บรรยาย
การทำหน้าทร่ี ว่ มกนั ของส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกายมนษุ ย์ในการทำกิจกรรมตา่ ง ๆ จากข้อมูล ท่ีรวบรวมได้
ป.1/2 ตระหนักถึงความสำคัญของส่วนต่าง ๆ ของร่างกายตนเองโดยการดูแลส่วนต่าง ๆ อยา่ ง
ถกู ต้อง ให้ปลอดภัย และรักษาความสะอาดอยูเ่ สมอ
2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (ความร,ู้ ทักษะ, เจตคต)ิ
1. บอกความหมายและลกั ษณะของอวยั วะภายนอกรา่ งกาย
2. ระบชุ อ่ื และหนา้ ทขี่ องอวัยวะภายนอกร่างกาย
3. มคี วามสนใจใฝ่เรยี นรู้
3. สาระสำคัญ
ร่างกายของเรา ประกอบดว้ ยสว่ นตา่ ง ๆ ท่ีมลี ักษณะและหนา้ ที่แตกต่างกนั แต่อาจทำหน้าท่ี
รว่ มกนั เราควรดูแลรกั ษาส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกายอยา่ งถูกต้อง สะอาดและปลอดภัยอยเู่ สมอ เพ่ือให้ทำ
หน้าที่ต่อไปได้
4. สาระการเรยี นรู้
ความรู้
ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
ทักษะ/กระบวนการ
1. การสงั เกต
2. การลงความเหน็ จากข้อมูล
ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21
1. การส่อื สาร
2. ความรว่ มมือ
3. การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร
สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ใฝเ่ รยี นรู้
2. อย่อู ยา่ งพอเพยี ง
3. มงุ่ มั่นในการทำงาน
ชน้ิ งานหรือภาระงาน
1. แบบบนั ทกึ กิจกรรม
2. แบบรายงานการสบื ค้นข้อมลู
5. กจิ กรรมการเรียนรู้
กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ โดยเน้นผ้เู รียนเป็นสำคญั ดำเนินการเรียนการสอน
ดังตอ่ ไปนี้
- แจง้ จุดประสงค์การเรยี นร้ใู ห้นักเรยี นทราบ
1. ขน้ั สร้างความสนใจ
1.1 ให้นักเรียนดวู ดี ีทัศน์ เพลงอวัยวะภายนอก และร่วมกิจกรรมเต้นประกอบเพลง
1.2 ตรวจสอบความรู้เดมิ ของนกั เรยี น โดยสุ่มนกั เรยี นออกมาหนา้ ช้นั เรียน 2-3 คน ครูบอก
ชื่ออวัยวะภายนอกของร่างกาย จากนน้ั ครใู ช้คำถามดังตอ่ ไปนี้
- นกั เรยี นมองเหน็ อวัยวะทเ่ี พ่ือนบอกหรอื ไม่
- นกั เรียนรจู้ กั หนา้ ทีอ่ วยั วะเพื่อนที่ออกมาหน้าชั้นเรยี นบอกหรือไม่
- นักเรยี นคิดว่าเพื่อนชีอ้ วยั วะถูกหรือไม่
1.3 นักเรยี นร่วมกันอภิปรายและตอบคำถามตามความเข้าใจของตนเอง ซึ่งอาจถกู ต้อง
หรอื ไม่ถกู ต้องกไ็ ด้ ครูถามเหตผุ ลและจดคำตอบของนักเรียนไว้ เพ่อื ใช้ในการกลับมาทบทวน อภปิ ราย
และแก้ไขแนวคดิ คลาดเคล่ือนของนักเรยี นหลังจากจบบทเรียนแล้ว
2. ขน้ั สำรวจและค้นหา
ใหน้ กั เรยี นทำกิจกรรมต่าง ๆ เพ่ือใหเ้ กดิ ประสบการณ์ตรง ดงั น้ี
2.1 ครูให้นกั เรยี นทำกจิ กรรม ตา หู จมูก ปาก ตา และร่วมรองเพลง เต้นไปพร้อมๆกนั
จากนัน้ รว่ มกันอภิปรายใจความสำคญั โดยใช้คำถามดงั นี้
- นกั เรยี นจบั อวัยวะใดบ้าง ตา หู จมูก ปาก ตา
- นกั เรยี นจบั ส่วนตา่ ง ๆ ของรา่ งกายอยู่ที่ใด (อยู่ภายนอก)
- แตล่ ะสว่ นของร่างกายทำหน้าทอี่ ะไร (นักเรียนตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง เช่น ตาทำ
หน้าทม่ี องดู หทู ำหน้าที่ฟังเสียง)
- เมื่อเราเลน่ หรอื ทำกิจกรรมต่าง ๆ เราใช้สว่ นใดของร่างกายบ้าง(นักเรียนตอบตามความ
เขา้ ใจของตนเอง เชน่ ใช้มือจับตา จบั จมกู ใชห้ ูฟงั เพลง ใช้ปากรอ้ งเพลง ใช้เท้าในการเตน้ )
3. ข้นั อธบิ ายและลงข้อสรุป
3.1 ครแู ละนักเรยี นร่วมกันอภปิ รายเพอื่ ให้ได้ข้อสรุปอวยั วะภายนอกทีน่ กั เรยี นสักเกตเห็น
ดว้ ยตาเปล่าทำหนา้ ท่ีอะไร
3.2 ครแู ละนักเรยี นร่วมกันอภิปรายเพือ่ เปรียบเทยี บคำตอบของนักเรยี นในรหู้ รือยังกบั
คำตอบทีเ่ คยตอบในคดิ ก่อนอ่าน ซง่ึ ครบู นั ทึกไวบ้ นกระดาน
4. ขน้ั ขยายความรู้
4.1 ครตู รวจสอบความร้ทู ี่ได้จากการทำกจิ กรรม และเน้นย้ำถงึ ประโยชน์ของสว่ นตา่ ง ๆ
ของอวัยวะภายนอกร่างกาย
4.2 ครูนำอภิปรายใหน้ ักเรียนทบทวนว่าไดฝ้ ึกทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละทักษะ
แห่งศตวรรษท่ี 21 อะไรบา้ งและในขน้ั ตอนใดบา้ ง
5. ข้นั ประเมิน
5.1 นกั เรียนนำความรทู้ ่ีไดจ้ ากการเรียนรู้เร่ืองนี้ ไปปรบั ใช้ในการดำรงชวี ิต
5.2 ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั ประเมนิ กิจกรรมในแบบรายงาน เก็บในแฟ้มสะสมงานนักเรียน
จากนนั้ ครนู ัดหมายการเรยี นในครัง้ ต่อไป
6. ส่อื / แหลง่ เรียนรู้
1. หนงั สือเรยี นวิทยาศาสตร์ สสวท. ป.1
2. แบบบนั ทึกกิจกรรม
3. แบบรายงานการสืบค้นข้อมลู
7. การวดั และประเมนิ ผล
จดุ ประสงค์ วธิ ีการวัดผล เคร่ืองมือวดั ผล เกณฑ์การ
ประเมินผล
บอกความหมายและ แบบสังเกตการตอบ
ลักษณะของอวยั วะภายนอก การตอบคาถาม คาถาม เกณฑร์ ้อยละ 70%
ร่างกาย ผ่านเกณฑ์
ระบุชื่อและหนา้ ทข่ี อง ตรวจใบกิจกรรม แบบประเมินกิจกรรม เกณฑร์ ้อยละ 70%
อวยั วะภายนอกร่างกาย เรื่อง หน้าที่ของอวยั วะ ผ่านเกณฑ์
ภายนอกรา่ งกาย
มีความสนใจใฝ่เรียนรู้ สงั เกตพฤติกรรม แบบประเมนิ เกณฑร์ ะดับ
ปฏิบตั ิงานของ คุณลักษณะอนั พงึ คณุ ภาพ ด/ี พอใช/้
นกั เรยี น ประสงค์ ปรบั ปรุง ผ่านระดับ
ดขี ้ึนไป
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 3
กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 1
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ตัวเรา สตั ว์ และพืชรอบตัว เวลา 2 ช่ัวโมง
เรื่อง อวยั วะภายใน ผู้สอน นางสาวพรชติ า อาศัยรัตน์
............................................................................................................................. .........................................
1. มาตรฐานการเรียน/ตัวช้ีวัด
ว 1.2
ป.1/1 ระบชุ อ่ื และบอกหนา้ ทข่ี องสว่ นต่าง ๆของร่างกายมนุษย์ สตั ว์และพืช รวมทง้ั บรรยาย
การทำหน้าที่รว่ มกนั ของสว่ นตา่ ง ๆ ของร่างกายมนษุ ย์ในการทำกิจกรรมตา่ ง ๆ จากขอ้ มูล ที่รวบรวมได้
ป.1/2 ตระหนักถึงความสำคัญของส่วนตา่ ง ๆ ของรา่ งกายตนเองโดยการดูแลสว่ นต่าง ๆ อยา่ ง
ถกู ต้อง ใหป้ ลอดภยั และรักษาความสะอาดอยู่เสมอ
2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (ความร,ู้ ทักษะ, เจตคติ)
1. บอกความหมายและลกั ษณะของอวัยวะภายในร่างกาย
2. วาดและเขียนระบุชือ่ ของอวยั วะภายในร่างกาย
3. มีความสนใจใฝ่เรียนรู้
3. สาระสำคัญ
ร่างกายของเรา ประกอบดว้ ยสว่ นต่าง ๆ ที่มีลกั ษณะและหน้าทแ่ี ตกต่างกัน แตอ่ าจทำหนา้ ที่
ร่วมกนั เราควรดูแลรักษาส่วนต่าง ๆ ของร่างกายอยา่ งถกู ต้อง สะอาดและปลอดภัยอยเู่ สมอ เพื่อใหท้ ำ
หนา้ ที่ตอ่ ไปได้
4. สาระการเรยี นรู้
ความรู้
ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
ทกั ษะ/กระบวนการ
1. การสงั เกต
2. การลงความเหน็ จากข้อมลู
ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21
1. การสือ่ สาร
2. ความร่วมมือ
3. การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สาร
สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. ใฝ่เรยี นรู้
2. อยู่อยา่ งพอเพยี ง
3. มงุ่ มั่นในการทำงาน
ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน
1. แบบบันทกึ กิจกรรม
2. แบบรายงานการสบื คน้ ข้อมูล
5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ โดยเน้นผู้เรยี นเปน็ สำคัญ ดำเนินการเรยี นการสอน
ดงั ตอ่ ไปนี้
- แจ้งจุดประสงคก์ ารเรยี นร้ใู ห้นกั เรยี นทราบ
1. ขั้นสร้างความสนใจ
1.1 ให้นกั เรยี นดวู ีดีทัศน์ เพลงอวัยวะภายใน และรว่ มกิจกรรมเต้นประกอบเพลง
1.2 ครตู รวจสอบความรูเ้ ดิมเก่ียวกับรา่ งกายของเรา และชักชวนนกั เรยี นอภิปราย ดงั น้ี
- นักเรียนรู้จกั อวัยวะภายในหรือไม่
- อวยั วะใดของร่างกายที่อยภู่ ายใน
(นกั เรียนตอบได้ตามความเขา้ ใจของตนเอง ครบู นั ทึกคำตอบของนักเรียนบนกระดาน)
2. ขั้นสำรวจและคน้ หา
ใหน้ ักเรยี นทำกิจกรรมต่าง ๆ เพอื่ ให้เกดิ ประสบการณ์ตรง ดงั นี้
2.1 ครูชักชวนนักเรียนตอบคำถามเกีย่ วกับอวยั วะภายในของร่างกาย โดยสมุ่ นักเรียนออกมา
หน้าชั้นเรยี น 2-3 คน ครบู อกช่ืออวยั วะภายในของร่างกาย จากนน้ั ครูใชค้ ำถามดังตอ่ ไปนี้
- นักเรยี นมองเห็นอวยั วะท่เี พื่อนบอกหรือไม่
- นกั เรยี นร้จู ักอวัยวะเพือ่ นที่ออกมาหนา้ ชั้นเรียนบอกหรือไม่
2.2 ใหน้ กั เรียนดูวีดที ัศน์ เพลงอวัยวะภายใน และรว่ มกิจกรรมเต้นประกอบเพลง และให้
นักเรยี นเขยี นความหมายและวาดพรอ้ มระบุช่ืออวบั วะภายในลงในใบกิจกรรม
3. ขัน้ อธิบายและลงขอ้ สรุป
3.1 ครสู งั เกตการตอบคำถามของนักเรียนเพื่อตรวจสอบว่านกั เรียนมคี วามรเู้ ก่ยี วกับอวยั วะ
ภายในของรา่ งกาย โดยครูยงั ไมเ่ ฉลยคำตอบ แต่จะใหน้ ักเรียนย้อนกลบั มาตรวจสอบอีกครง้ั หลงั เรียนจบ
บทนีแ้ ล้วทงั้ นีค้ รูอาจบันทึกแนวคิดคลาดเคลื่อนหรอื แนวคิดท่นี ่าสนใจของนกั เรยี น แลว้ นำมาออกแบบ
การจดั การเรยี นการสอนเพือ่ แก้ไขแนวคดิ ให้ถูกต้อง
4. ขัน้ ขยายความรู้
4.1 ครูตรวจสอบความรทู้ ี่ได้จากการทำกจิ กรรม และเน้นย้ำถึงประโยชนข์ องส่วนต่าง ๆ
ของอวัยวะภายในร่างกาย
4.2 ครูนำอภปิ รายใหน้ ักเรยี นทบทวนว่าไดฝ้ ึกทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละทกั ษะ
แหง่ ศตวรรษที่ 21 อะไรบา้ งและในขั้นตอนใดบ้าง
5. ขน้ั ประเมิน
5.1 นกั เรยี นนำความรทู้ ี่ไดจ้ ากการเรยี นรเู้ รื่องนี้ ไปปรับใช้ในการดำรงชวี ิต
5.2 ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั ประเมนิ กจิ กรรมในแบบรายงาน เก็บในแฟ้มสะสมงานนกั เรียน
จากนัน้ ครนู ดั หมายการเรียนในครั้งต่อไป
6. สือ่ / แหลง่ เรียนรู้
1. หนงั สือเรยี นวทิ ยาศาสตร์ สสวท. ป.1
2. แบบบนั ทกึ กิจกรรม
3. แบบรายงานการสบื คน้ ข้อมูล
7. การวัดและประเมินผล
จุดประสงค์ วิธกี ารวดั ผล เคร่อื งมอื วดั ผล เกณฑ์การ
ประเมนิ ผล
บอกความหมายและ การตอบคาถาม แบบสังเกตการตอบ
ลักษณะของอวยั วะภายใน คาถาม เกณฑ์ร้อยละ 70%
ร่างกาย ผา่ นเกณฑ์
วาดและเขียนระบุชื่อของ ตรวจใบกจิ กรรม แบบประเมนิ กิจกรรม เกณฑ์ร้อยละ 70%
อวยั วะภายในรา่ งกาย เร่ือง อวัยวะภายใน ผ่านเกณฑ์
ร่างกาย
มีความสนใจใฝเ่ รยี นรู้ สงั เกตพฤตกิ รรม แบบประเมิน เกณฑ์ระดบั
ปฏิบัติงานของ คุณลกั ษณะอันพงึ คุณภาพ ดี/พอใช้/
นักเรยี น ประสงค์ ปรับปรงุ ผา่ นระดบั
ดีขึน้ ไป
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 4
กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 1
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 ตัวเรา สัตว์ และพืชรอบตัว เวลา 2 ชั่วโมง
เรอื่ ง หนา้ ท่ีอวัยวะภายใน ผู้สอน นางสาวพรชิตา อาศยั รตั น์
......................................................................................................................................................................
1. มาตรฐานการเรียน/ตวั ชี้วัด
ว 1.2
ป.1/1 ระบชุ ่ือ และบอกหน้าท่ีของสว่ นต่าง ๆของร่างกายมนุษย์ สตั ว์และพชื รวมท้งั บรรยาย
การทำหนา้ ทีร่ ว่ มกันของสว่ นตา่ ง ๆ ของร่างกายมนษุ ยใ์ นการทำกจิ กรรมตา่ ง ๆ จากขอ้ มูล ท่ีรวบรวมได้
ป.1/2 ตระหนกั ถึงความสำคัญของสว่ นตา่ ง ๆ ของร่างกายตนเองโดยการดูแลส่วนต่าง ๆ อย่าง
ถูกต้อง ใหป้ ลอดภัย และรกั ษาความสะอาดอยู่เสมอ
2. จุดประสงค์การเรียนรู้ (ความรู้, ทักษะ, เจตคติ)
1. บอกความหมายและลักษณะของอวยั วะภายในรา่ งกาย
2. ระบชุ ่ือและหนา้ ท่ขี องอวยั วะภายในร่างกาย
3. มคี วามสนใจใฝ่เรยี นรู้
3. สาระสำคญั
ร่างกายของเรา ประกอบดว้ ยสว่ นตา่ ง ๆ ทีม่ ีลกั ษณะและหน้าที่แตกต่างกนั แตอ่ าจทำหนา้ ที่
รว่ มกัน เราควรดูแลรักษาสว่ นต่าง ๆ ของร่างกายอย่างถูกตอ้ ง สะอาดและปลอดภยั อยูเ่ สมอ เพ่ือใหท้ ำ
หนา้ ท่ตี อ่ ไปได้
4. สาระการเรียนรู้
ความรู้
ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
ทักษะ/กระบวนการ
1. การสังเกต
2. การลงความเหน็ จากข้อมลู
ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21
1. การสอ่ื สาร
2. ความรว่ มมอื
3. การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร
สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. ใฝ่เรียนรู้
2. อยู่อยา่ งพอเพยี ง
3. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน
ชน้ิ งานหรือภาระงาน
1. แบบบันทกึ กจิ กรรม
2. แบบรายงานการสบื ค้นข้อมูล
5. กิจกรรมการเรยี นรู้
กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ โดยเนน้ ผเู้ รียนเป็นสำคญั ดำเนินการเรยี นการสอน
ดังต่อไปน้ี
- แจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ใหน้ กั เรียนทราบ
1. ข้ันสร้างความสนใจ
1.1 ใหน้ ักเรียนดวู ดี ที ศั น์ เพลงอวัยวะภายใน และร่วมกจิ กรรมเตน้ ประกอบเพลง
1.2 ตรวจสอบความร้เู ดิมของนกั เรยี น โดยสุม่ นักเรียนออกมาหนา้ ช้นั เรียน 2-3 คน ครูบอก
ช่อื อวัยวะภายในของร่างกาย จากนั้นครูใชค้ ำถามดังตอ่ ไปนี้
- นักเรียนมองเห็นอวยั วะทเี่ พ่ือนบอกหรือไม่
- นกั เรียนรจู้ ักหนา้ ที่อวัยวะเพื่อนท่ีออกมาหนา้ ชัน้ เรียนบอกหรอื ไม่
1.2 นกั เรยี นรว่ มกันอภปิ รายและตอบคำถามตามความเข้าใจของตนเอง ซ่ึงอาจถูกต้อง
หรือไม่ถกู ต้องกไ็ ด้ ครูถามเหตผุ ลและจดคำตอบของนักเรียนไว้ เพอื่ ใช้ในการกลับมาทบทวน อภปิ ราย
และแก้ไขแนวคดิ คลาดเคลื่อนของนักเรยี นหลังจากจบบทเรยี นแลว้
2. ขน้ั สำรวจและค้นหา
ใหน้ ักเรยี นทำกจิ กรรมต่าง ๆ เพื่อให้เกิดประสบการณ์ตรง ดังนี้
2.1 ครชู กั ชวนนักเรยี นตอบคำถามเก่ียวกับอวัยวะภายในของร่างกาย สำรวจความร้กู ่อน
เรียน โดยอาจถามว่านกั เรยี นรู้อะไรบ้างเกีย่ วกบั อวัยวะภายในของร่างกาย
2.2 นักเรยี นเขียนชอ่ื และบอกหน้าทล่ี งในใบกจิ กรรม
3. ข้นั อธบิ ายและลงขอ้ สรุป
3.1 ครูสังเกตการตอบคำถามของนกั เรียนเพือ่ ตรวจสอบว่านักเรยี นมคี วามรู้เกีย่ วกบั อวยั วะ
ภายในของร่างกาย โดยครยู งั ไมเ่ ฉลยคำตอบ แต่จะให้นักเรียนยอ้ นกลับมาตรวจสอบอีกคร้งั หลงั เรยี นจบ
บทน้ีแล้วทั้งนีค้ รูอาจบนั ทึกแนวคดิ คลาดเคล่ือนหรอื แนวคิดท่ีนา่ สนใจของนักเรยี น แลว้ นำมาออกแบบ
การจดั การเรียนการสอนเพื่อแก้ไขแนวคิดให้ถกู ต้อง
4. ขน้ั ขยายความรู้
4.1 ครูตรวจสอบความรูท้ ี่ได้จากการทำกิจกรรม และเน้นยำ้ ถึงประโยชน์ของส่วนตา่ ง ๆ
ของอวัยวะภายในร่างกาย
4.2 ครนู ำอภปิ รายให้นักเรียนทบทวนว่าไดฝ้ ึกทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และทกั ษะ
แห่งศตวรรษที่ 21 อะไรบ้างและในขน้ั ตอนใดบา้ ง
5. ข้นั ประเมนิ
5.1 นักเรยี นนำความรู้ท่ีได้จากการเรียนรเู้ รื่องน้ี ไปปรับใชใ้ นการดำรงชีวติ
5.2 ครูและนักเรยี นร่วมกันประเมินกิจกรรมในแบบรายงาน เกบ็ ในแฟ้มสะสมงานนกั เรียน
จากน้นั ครูนดั หมายการเรยี นในครั้งต่อไป
6. สือ่ / แหล่งเรียนรู้
1. หนังสอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์ สสวท. ป.1
2. แบบบันทึกกจิ กรรม
3. แบบรายงานการสบื ค้นข้อมลู
7. การวัดและประเมนิ ผล
จุดประสงค์ วิธีการวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การ
ประเมนิ ผล
บอกความหมายและ การตอบคาถาม แบบสังเกตการตอบ
ลกั ษณะของอวัยวะภายใน คาถาม เกณฑ์ร้อยละ 70%
ร่างกาย ผ่านเกณฑ์
ระบุชอื่ และหน้าที่ของ ตรวจใบกิจกรรม แบบประเมนิ กิจกรรม เกณฑ์ร้อยละ 70%
อวยั วะภายในร่างกาย เรื่อง หนา้ ที่อวัยวะ ผ่านเกณฑ์
ภายในรา่ งกาย
มคี วามสนใจใฝเ่ รยี นรู้ สงั เกตพฤตกิ รรม แบบประเมิน เกณฑ์ระดับ
ปฏิบัติงานของ คุณลักษณะอนั พึง คุณภาพ ด/ี พอใช้/
นักเรียน ประสงค์ ปรับปรงุ ผ่านระดบั
ดขี ึ้นไป
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 5
กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ตัวเรา สัตว์ และพืชรอบตัว เวลา 2 ชั่วโมง
เรื่อง หนา้ ทข่ี องอวยั วะที่ทำงานรว่ มกัน ผู้สอน นางสาวพรชิตา อาศัยรัตน์
……............................................................................................................................... .................................
1. มาตรฐานการเรยี น/ตัวช้ีวัด
ว 1.2
ป.1/1 ระบชุ ือ่ และบอกหนา้ ทข่ี องส่วนต่าง ๆของรา่ งกายมนุษย์ สตั วแ์ ละพืช รวมท้ังบรรยาย
การทำหนา้ ท่รี ว่ มกันของสว่ นตา่ ง ๆ ของร่างกายมนุษย์ในการทำกจิ กรรมต่าง ๆ จากขอ้ มูล ท่ีรวบรวมได้
ป.1/2 ตระหนกั ถึงความสำคัญของสว่ นต่าง ๆ ของร่างกายตนเองโดยการดูแลสว่ นตา่ ง ๆ อย่าง
ถกู ต้อง ใหป้ ลอดภัย และรักษาความสะอาดอยเู่ สมอ
2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ (ความรู,้ ทักษะ, เจตคติ)
1. บอกความหมายและลกั ษณะภายนอกและภายใน
2. ระบหุ น้าที่ของอวัยวะภายนอกและภายในท่ีทำงานรว่ มกนั
3. มคี วามสนใจใฝ่เรียนรู้
3. สาระสำคัญ
ร่างกายของเรา ประกอบด้วยส่วนตา่ ง ๆ ทีม่ ีลักษณะและหนา้ ทแ่ี ตกต่างกนั แตอ่ าจทำหนา้ ที่
ร่วมกนั เราควรดแู ลรักษาส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกายอย่างถกู ตอ้ ง สะอาดและปลอดภยั อยู่เสมอ เพ่ือให้ทำ
หนา้ ทต่ี อ่ ไปได้
4. สาระการเรยี นรู้
ความรู้
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ทกั ษะ/กระบวนการ
1. การสังเกต
2. การลงความเห็นจากข้อมูล
ทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21
1. การส่ือสาร
2. ความร่วมมือ
3. การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร
สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. ใฝเ่ รียนรู้
2. อย่อู ยา่ งพอเพียง
3. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน
ช้ินงานหรือภาระงาน
1. แบบบนั ทึกกิจกรรม
2. แบบรายงานการสืบค้นข้อมูล
5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ โดยเนน้ ผเู้ รียนเป็นสำคญั ดำเนนิ การเรียนการสอน
ดงั ต่อไปนี้
- แจง้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ให้นกั เรยี นทราบ
1. ขน้ั สร้างความสนใจ
1.1 ครตู รวจสอบความรเู้ ดิม โดยนกั เรียนร่วมสนทนาเกี่ยวกับกิจกรรมที่ทำในชว่ งเชา้ ก่อนมา
โรงเรยี น และการทำกิจกรรมเหล่าน้ันนักเรียนใช้ร่างกายส่วนใดในการทำกจิ กรรม (ตัวอย่างคำตอบเช่น
กนิ ขา้ ว ใชป้ ากกินขา้ ว ใชม้ อื จับช้อน เดนิ ไปโรงเรยี นโดยใช้ขา มือถือกระเป๋านกั เรียน ฯลฯ)
2. ขัน้ สำรวจและค้นหา
2.1 ใหน้ ักเรยี นทำกิจกรรม เช่น อา่ นหนงั สือ กวาดห้อง โดยครูใชค้ ำถามดังนี้
- นักเรยี นคดิ วา่ เราใช้อวยั วะส่วนใดบา้ งในการอ่านหนังสือ กวาดหอ้ ง
- นักเรยี นคิดว่าถา้ หากเราไมใ่ ช้อวัยวะใดอวัยหนึ่งในการทำกิจกรรมดงั กลา่ ว จะเกิดผล
อยา่ งไร
3. ขัน้ อธิบายและลงข้อสรุป
3.1 ครแู ละรว่ มกนั อภิปรายเพ่อื สรุปลำดบั ขั้นตอนการทำกิจกรรม โดยครชู ่วยเขยี นสรุปสัน้
ๆ บนกระดาน แลว้ นำอภิปรายโดยใชค้ ำถามดังน้ี
- นักเรยี นต้องสงั เกตอะไร (สังเกตวา่ ตนเองและเพ่ือนใชส้ ่วนใดของรา่ งกายขณะทำกิจกรรม)
- นกั เรยี นต้องรวบรวมข้อมูลจากการสงั เกตการใชส้ ่วนตา่ ง ๆ ของร่างกาย ขณะทำ กิจกรรม
อะไรบ้าง (อ่านหนังสือ กนิ อาหารดมดอกไม้ และเต้นตามเพลง)
3.2 ครูและนกั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายหลงั จากนักเรียนร่วมกันอภปิ รายผลการทำกิจกรรมแลว้
ครูนำรูปขยายตารางการใชส้ ่วนตา่ ง ๆ ของร่างกายและหนา้ ท่ขี องแต่ละส่วนในการทำกจิ กรรมตา่ ง ๆ มา
ติดบนกระดาน และถามคำถามต่อไปนี้
-กจิ กรรมใดบ้างทใี่ ชต้ า (อา่ นหนงั สือ กินอาหาร ดมดอกไม้ และเต้นตามเพลง)
- ตาทำหนา้ ทีอ่ ะไร (มองดูสิ่งตา่ ง ๆ เช่น มองดหู นังสือ)
-กจิ กรรมใดบ้างท่ีใชห้ ู (เต้นตามเพลง)
- หทู ำหนา้ ที่อะไร (ฟังเสียง)
- กิจกรรมใดบา้ งทใี่ ชจ้ มูก (ดมดอกไม้)
- จมกู ทำหน้าที่อะไร (ดมกลน่ิ )
- กจิ กรรมใดบ้างที่ใชป้ ากและฟนั (กนิ อาหาร)
- ปากและฟนั ทำหนา้ ท่ีอะไร (พดู เค้ียวอาหาร และร้องเพลง)
- กิจกรรมใดบา้ งทใ่ี ชแ้ ขนและมือ (อ่านหนงั สอื กนิ อาหารดมดอกไม้ และเต้นตามเพลง)
- แขนและมือทำหนา้ ทอ่ี ะไร (หยบิ จบั )
- กิจกรรมใดบ้างท่ีใชข้ าและเท้า (เตน้ ตามเพลง)
- ขาและเทา้ ทำหนา้ ท่ีอะไร (ยืน เดิน เต้น)
- มีกิจกรรมใดบ้างท่ใี ช้ร่างกายเพยี งสว่ นใดสว่ นหน่ึง (ไม่ม)ี
- จากกจิ กรรมนักเรยี นสรปุ ได้วา่ อยา่ งไร (สว่ นตา่ ง ๆ ของร่างกายทำหน้าทแี่ ตกตา่ งกนั
โดยเมือ่ ทำกิจกรรมใดกจิ กรรมหน่ึงเราตอ้ งใช้ส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกายมากกวา่ หนึ่งสว่ น)
4. ข้นั ขยายความรู้
4.1 ครถู ามคำถามนักเรียนว่า ในการทำกจิ กรรมหนึง่ ๆ ถ้าขาดส่วนใดส่วนหนง่ึ ของรา่ งกาย
เราจะยังคงทำกิจกรรมนน้ั ได้เหมือนเดมิ หรือไม่ และชกั ชวนนกั เรียนแต่ละกลุ่ม (กลุ่มละ 4 คน) เลน่ เกม
หวั บอดทา้ ยใบ้ เพอ่ื เก็บลกู บอลหรือของให้ได้มากทส่ี ุดในเวลา 3 นาที โดย 3 คนแรกมีผ้าปิดตายนื เรียง
แถว สว่ นคนท่ี 4 เปน็ คนใบ้อยทู่ ้ายแถว ทกุ คนหา้ มออกเสียงแต่ให้สญั ญาณเพื่อนขา้ งหนา้ ได้ เช่น ตบไหล่
บีบไหล่ ครูใหเ้ วลานักเรยี นซักซอ้ มการเลน่ ก่อนเริม่ แข่งขัน หลังจากนกั เรยี นเลน่ เกมแลว้ ใหน้ ักเรียนตอบ
คำถามดังตอ่ ไปนี้
- จากเกม เราใชส้ ว่ นตา่ ง ๆ ของรา่ งกายอะไรบ้าง (3 คนแรก ใชม้ อื และขา คนที่ 4 ใชต้ า
มือและขา)
- สว่ นตา่ ง ๆ ของรา่ งกายสว่ นใดทำหนา้ ที่สัมพันธ์กนั (ตา มือ ขา)
- ถา้ ขาดอวัยวะใดอวยั วะหนึ่ง เราจะเกบ็ ลกู บอลหรอื ของได้สำเรจ็ หรอื ไม่ อยา่ งไร (ได้
เพราะเมื่อไม่มีตา มือก็สง่ สญั ญาณได้ หรือขาดปากกใ็ ชม้ อื สง่ สัญญาณ ใชข้ าเดินไปเก็บของได้)
- คนตาบอดที่ตอ้ งการเก็บของ จะทำไดส้ ำเรจ็ หรือไม่ (อาจทำสำเร็จหรือไม่สำเร็จก็ได้ แต่
ถา้ ทำสำเร็จอาจต้องใช้เวลานาน)
- นกั เรียนสรุปสิ่งท่ีได้เรยี นรู้จากเกมน้ีวา่ อย่างไร (การทำกิจกรรมแต่ละกิจกรรมตอ้ งใช้
สว่ นต่าง ๆ ของรา่ งกายร่วมกันมากกวา่ หนึ่งอย่างถา้ ขาดสว่ นใดส่วนหนง่ึ อาจทำกจิ กรรมน้ันไดไ้ ม่ดีหรอื ทำ
ไม่ได้)
4.2 ครนู ำนักเรียนรอ้ งเพลงสองตา สองหู โดยมีเน้ือร้องดงั นี้
“ตาสองตาไวด้ ู หูสองหูไวฟ้ ัง สองขายนื แลว้ นั่ง สองหฟู ัง สองตาดู มือสองมือของเรา เท้าของ
เราไว้เดิน ปากร้องเพลงเพลินเพลิน สองเท้าเดินสองตาด”ู
จากนนั้ ครูและนกั เรยี นร่วมกันอภปิ รายและลงข้อสรุปรว่ มกนั วา่ ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายทำ
หน้าท่ีแตกต่างกัน เชน่ ตาทำหนา้ ทมี่ องดูจมูกทำหนา้ ทดี่ มกลนิ่ ฯลฯ และในการทำกิจกรรมบางอย่างตอ้ ง
ใช้สว่ นต่าง ๆ ของร่างกายมากกวา่ 1 สว่ น ทำหนา้ ทรี่ ว่ มกัน ถ้าขาดส่วนใดส่วนหนง่ึ อาจทำใหท้ ำกจิ กรรม
นั้นได้ไมด่ ี หรอื ทำไม่ได้ จากน้ันครูเน้นย้ำนกั เรียนในหวั ข้อเรียนรอู้ ย่างปลอดภยั วา่ เราควรใชส้ ่วนต่าง ๆ
ของรา่ งกายทำกจิ กรรมในชวี ติ ประจำวนั อย่างเหมาะสม
4.3 ครอู าจเปิดโปรแกรมประยกุ ตห์ รอื application เกี่ยวกับร่างกายมนษุ ย์เป็นส่ือเพิ่มเตมิ
เพ่ือให้นักเรียนทบทวนสว่ นตา่ ง ๆ ของรา่ งกายหลงั จากเรยี นจบกิจกรรมนี้แล้ว
6. สอื่ / แหล่งเรยี นรู้
1. หนังสือเรียนวทิ ยาศาสตร์ สสวท. ป.1
2. แบบบันทกึ กจิ กรรม
3. แบบรายงานการสบื ค้นข้อมลู
7. การวัดและประเมินผล
จุดประสงค์ วธิ ีการวดั ผล เครอ่ื งมือวัดผล เกณฑ์การ
ประเมนิ ผล
บอกความหมายและ การตอบคาถาม แบบสงั เกตการตอบ เกณฑ์ร้อยละ 70%
ลกั ษณะภายนอกและภายใน คาถาม ผา่ นเกณฑ์
แบบประเมินกิจกรรม
ระบุหน้าทีข่ องอวยั วะ ตรวจใบกิจกรรม เร่ือง หนา้ ทข่ี องอวัยวะ เกณฑร์ ้อยละ 70%
ภายนอกและภายในที่ ภายนอกและภายในที่ ผา่ นเกณฑ์
ทางานรว่ มกนั ทางานร่วมกนั
เกณฑ์ระดบั
มคี วามสนใจใฝเ่ รยี นรู้ สังเกตพฤตกิ รรม แบบประเมิน คุณภาพ ดี/พอใช/้
ปฏบิ ัติงานของ คณุ ลักษณะอนั พึง ปรบั ปรุง ผา่ นระดับ
นักเรียน ประสงค์ ดีขึ้นไป
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 6
กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 1
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 2 ตัวเรา สตั ว์ และพืชรอบตัว เวลา 2 ช่ัวโมง
เร่อื ง การดูแลรกั ษาส่วนตา่ ง ๆ ของรา่ งกาย ผสู้ อน นางสาวพรชิตา อาศัยรตั น์
……............................................................................................................................... .................................
1. มาตรฐานการเรียน/ตวั ช้ีวัด
ว 1.2
ป.1/1 ระบุชอื่ และบอกหน้าทข่ี องสว่ นตา่ ง ๆของรา่ งกายมนุษย์ สัตวแ์ ละพืช รวมทงั้ บรรยาย
การทำหน้าที่รว่ มกนั ของสว่ นตา่ ง ๆ ของร่างกายมนุษยใ์ นการทำกิจกรรมต่าง ๆ จากขอ้ มูล ทร่ี วบรวมได้
ป.1/2 ตระหนักถึงความสำคัญของสว่ นตา่ ง ๆ ของรา่ งกายตนเองโดยการดูแลสว่ นตา่ ง ๆ อย่าง
ถกู ต้อง ให้ปลอดภยั และรกั ษาความสะอาดอยู่เสมอ
2. จุดประสงค์การเรียนรู้ (ความรู,้ ทักษะ, เจตคต)ิ
1. บอกประโยชนข์ องการดูแลรักษาส่วนตา่ ง ๆ ของรา่ งกาย
2. ใชป้ ระโยชน์ของการดูแลรกั ษาส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกายในชวี ติ ประจำวนั
3. มคี วามสนใจใฝเ่ รยี นรู้
3. สาระสำคญั
ร่างกายของเรา ประกอบดว้ ยส่วนตา่ ง ๆ ท่มี ีลักษณะและหน้าทแ่ี ตกต่างกัน แตอ่ าจทำหนา้ ที่
รว่ มกัน เราควรดแู ลรักษาสว่ นต่าง ๆ ของร่างกายอยา่ งถูกต้อง สะอาดและปลอดภยั อย่เู สมอ เพื่อให้ทำ
หน้าท่ีต่อไปได้
4. สาระการเรียนรู้
ความรู้
ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
ทักษะ/กระบวนการ
1. การสงั เกต
2. การลงความเห็นจากข้อมูล
ทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21
1. การสื่อสาร
2. ความร่วมมือ
3. การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร
สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. ใฝเ่ รยี นรู้
2. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง
3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
ช้นิ งานหรอื ภาระงาน
1. แบบบันทึกกิจกรรม
2. แบบรายงานการสบื คน้ ข้อมลู
5. กิจกรรมการเรยี นรู้
กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ โดยเน้นผ้เู รียนเป็นสำคัญ ดำเนนิ การเรยี นการสอน
ดังต่อไปน้ี
- แจ้งจดุ ประสงค์การเรียนรู้ให้นกั เรียนทราบ
1. ขั้นสรา้ งความสนใจ
1.1 ให้นักเรยี นดูวีดที ศั น์การดูแลอวยั วะสว่ นตา่ ง ๆ ของร่างกาย โดยใชป้ ระเด็นคำถามเพ่ือ
สรา้ งความสนใจดังน้ี
- จากคลิป เขากำลังทำอะไรบา้ ง
- เขาดแู ลอวยั วะสว่ นไหนบา้ ง
- เขาดูแลอวยั วะสว่ นต่าง ๆ อยา่ งไรบา้ ง
2. ขั้นสำรวจและคน้ หา
2.1 ครสู ุ่ม 3-5 คน ออกมาแสดงวิธีการดูแลรักษาส่วนตา่ ง ๆ ของร่ายกาย ที่ตนเองรูจ้ ัก
พร้อมทงั้ ทำทา่ ทางประกอบ พร้อมทั้งใชค้ ำถามดงั น้ี
2.2 ครูแบง่ กลมุ่ นักเรยี นเพื่อให้นกั เรียนทำกิจกรรมการดูแลรกั ษาอวัยวะสว่ นตา่ ง ๆ ของ
รา่ งกาย โดยใหต้ วั แทนกลมุ่ ออกมาแสดงทา่ ทางบอกใบ้ว่าเป็นการดแู ลรกั ษาอวยั วะส่วนใด โดยครใู ช้
คำถามเพ่ือสำรวจความเขา้ ใจดังนี้
- ทำไมนกั เรยี นถงึ คิดว่าเปน็ การดแู ลรักษาอวัยวะสว่ นนี้
3. ขน้ั อธบิ ายและลงขอ้ สรุป
3.1 นกั เรยี นและครรู ่วมกนั อธิบายกจิ กรรมพร้อมท้งั สรปุ ประโยชน์ของการดูแลรักษาอวยั วะ
สว่ นตา่ ง ๆ ของรา่ งกาย
3.2 ใหน้ ักเรียนทำใบกิจกรรม บอกวิธดี แู ลรกั ษาและทั้งระบุประโยชนข์ องสว่ นตา่ ง ๆของ
ร่างกาย
4. ขั้นขยายความรู้
4.1 ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั ประโยชนท์ ี่ไดร้ ับจากการปฏิบัติ
กจิ กรรม และการนำความรู้ท่ีได้ไปใช้ประโยชน์
5. ขน้ั ประเมนิ
5.1 ครูใหน้ กั เรียนแต่ละคนพิจารณาวา่ จากหัวข้อทเ่ี รยี นมาและการปฏิบัติกจิ กรรม มจี ุด
ใดบ้างทีย่ งั ไมเ่ ข้าใจหรือยังมขี ้อสงสัย ถา้ มี ครูชว่ ยอธบิ ายเพ่ิมเติมให้นักเรียนเขา้ ใจ
5.2 นักเรยี นรว่ มกันประเมินการปฏิบัติกจิ กรรมกลมุ่ ว่ามีปญั หาหรืออปุ สรรคใด และได้มีการ
แกไ้ ขอย่างไรบ้าง
6. สอื่ / แหลง่ เรียนรู้
1. หนงั สือเรียนวิทยาศาสตร์ สสวท. ป.1
2. แบบบันทกึ กจิ กรรม
3. แบบรายงานการสบื คน้ ข้อมลู
7. การวดั และประเมนิ ผล
จดุ ประสงค์ วธิ ีการวัดผล เครอ่ื งมอื วดั ผล เกณฑก์ าร
ประเมนิ ผล
บอกประโยชนข์ องการดแู ล แบบสังเกตการตอบ
รกั ษาส่วนต่าง ๆ ของ การตอบคาถาม คาถาม เกณฑ์ร้อยละ 70%
ร่างกาย ผ่านเกณฑ์
ใชป้ ระโยชน์ของการดแู ล ตรวจใบกิจกรรม แบบประเมนิ กิจกรรม เกณฑร์ ้อยละ 70%
รักษาส่วนต่าง ๆ ของ เรื่อง ประโยชน์ของการ ผ่านเกณฑ์
รา่ งกายในชวี ิตประจาวัน ดูแลรกั ษาส่วนตา่ ง ๆ
มีความสนใจใฝ่เรียนรู้ สังเกตพฤติกรรม แบบประเมนิ เกณฑ์ระดับ
ปฏิบตั งิ านของ คณุ ลกั ษณะอนั พึง คณุ ภาพ ด/ี พอใช้/
นักเรยี น ประสงค์ ปรับปรงุ ผา่ นระดับ
ดีขนึ้ ไป
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 7
กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 1
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ตัวเรา สตั ว์ และพืชรอบตัว เวลา 2 ช่ัวโมง
เรือ่ ง สิง่ มีชีวิตและสิ่งไม่มชี ีวติ ผู้สอน นางสาวพรชติ า อาศยั รัตน์
……............................................................................................................................... .......................
1. มาตรฐานการเรียน/ตัวช้ีวัด
ว 1.1
ป.1/1 ระบชุ ือ่ สัตว์และพชื ที่อาศยั อยบู่ ริเวณต่าง ๆ จากข้อมลู ที่รวบรวมได้
ป.1/2 บอกสภาพแวดล้อมท่ีเหมาะสมกบั การดำรงชีวิตของสัตว์ในบริเวณทอ่ี ยู่อาศัย
2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ (ความร,ู้ ทักษะ, เจตคต)ิ
1. บอกลักษณะของสง่ิ มชี วี ิตและไมส่ ง่ิ ไมม่ ีชวี ติ ได้
2. สังเกตลักษณะของสงิ่ มชี วี ติ และส่ิงไมม่ ีชวี ติ
3. มีความมุ่งมน่ั ในการทำงาน
3. สาระสำคัญ
ส่งิ ท่อี ยรู่ อบตัวเรามีทง้ั ท่ีเปน็ สิ่งมีชวี ติ และส่งิ ไมม่ ีชีวติ สงิ่ มีชีวิตต้องการอาหาร มีการหายใจ
เจริญเติบโตขับถ่าย เคล่ือนไหว ตอบสนองต่อสิง่ เร้าและสบื พันธไ์ ดล้ กู ท่ีมลี ักษณะคลา้ ยคลงึ กบั พ่อแม่ สว่ น
สิ่งไม่มีชวี ิตจะไมม่ ีลักษณะดงั กลา่ ว
4. สาระการเรียนรู้
ความรู้
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ทักษะ/กระบวนการ
1. การสงั เกต
2. การลงความเห็นจากข้อมูล
ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21
1. การส่ือสาร
2. ความรว่ มมอื
3. การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร
สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด
คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. ใฝเ่ รียนรู้
2. อยู่อยา่ งพอเพียง
3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
ช้ินงานหรอื ภาระงาน
1. แบบบนั ทกึ กิจกรรม
แบบรายงานการสืบค้นข้อมลู
5. กิจกรรมการเรยี นรู้
กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ โดยเน้นผู้เรยี นเป็นสำคญั ดำเนินการเรียนการสอน
ดังตอ่ ไปน้ี
- แจ้งจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ใหน้ ักเรยี นทราบ
1. ขัน้ สรา้ งความสนใจ
1.1 ครกู ระตุน้ ความสนใจของนกั เรยี นก่อนจะเร่ิมเรียนในวันนี้โดยการอา่ นเรื่องเด็กหญงิ มะลิ
กับเดก็ ชาย ก้องให้นักเรยี นฟังดังนี้ “เดก็ หญิงมะลเิ ป็นคนรักสตั ว์มาก วนั หน่งึ เธอเดนิ ผา่ นสนามหญา้ หน้า
บา้ น เธอพบลูก กระรอก 2 ตัวตกลงมาจากตน้ ไม้ เธอจึงเก็บมนั มาเล้ียงสว่ นเดก็ ชายก้องเกบ็ ก้อนหินสอง
กอ้ นมาจากใต้ต้นไม้ มะลิและเดก็ ชายก้องป้อนอาหารและน้ำใหก้ ระรอกกบั ก้อนหินทุกวนั เมอื่ เวลาผา่ น
ไปลกู กระรอกเจริญเติบโต และแขง็ แรงข้ึนมะลจิ ึงนำกระรอกกลับไปปล่อยท่ีต้นไม้เดิมมะลิยืนมอง
กระรอกวง่ิ และปีนปา่ ยขึน้ ไปบนต้นไม้ เพอ่ื กลบั ไปที่รังของมันสว่ นเดก็ ชายกอ้ งยงั เกบ็ ก้อนหนิ ไวท้ ี่บา้ น
เชน่ เคย”
1.2 จากนนั้ ครูถามคำถามกระต้นุ ความคิดของนักเรียนจากการฟงั ดังนี้
- จากเรื่องราว นกั เรียนคิดว่า กระรอกเป็นส่ิงมชี วี ติ ใช่หรือไม่ เพราะเหตใุ ด (แนวการตอบ:
กระรอกเปน็ ส่งิ มีชีวิตเพราะกระรอกมกี าร เจรญิ เติบโตกระรอกกินอาหารไดเ้ คล่ือนไหวได้ เปน็ ต้น)
- นกั เรยี นคดิ ว่า กระรอกกับก้อนหนิ แตกต่างกนั อย่างไร (แนวการตอบ: กระรอกเป็น
สิง่ มีชีวติ ส่วน กอ้ นหนิ เป็นสง่ิ ไม่มีชวี ิต)
- นักเรยี นคดิ วา่ มีสิง่ ใดอีกบ้างทม่ี ีลักษณะเหมือนกระรอก (ใหน้ ักเรียนร่วมกนั แสดงความ
คดิ เหน็ ) (หมายเหต:ุ ครูเรม่ิ ประเมนิ นกั เรยี น โดยใชแ้ บบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล)
2. ขั้นสำรวจและคน้ หา
ใหน้ กั เรยี นทำกิจกรรมต่าง ๆ เพ่ือใหเ้ กดิ ประสบการณ์ตรง ดงั น้ี
2.1 ครูนำบัตรภาพส่ิงมีชีวิตและสิ่งไม่มีชวี ิต มาให้นักเรยี นดู จากนนั้ นักเรยี นรว่ มกนั สนทนา
เกยี่ วกับภาพวา่ เปน็ ภาพส่ิงมีชีวติ และภาพใดเป็นส่ิงไม่มชี ีวิต (บัตรภาพจะเก่ียวกบั สงิ่ รอบตัวเช่น แมน่ ำ้
สัตว์ ตน้ ไม้ รถ)
2.2 นกั เรยี นแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ทำกิจกรรมจำแนกสง่ิ มีชีวติ และสิ่งไม่มชี ีวติ โดยครูตดิ คำไว้
ท่กี ระดาน 2 ชดุ เพ่ือทำกิจกรรมจำแนกสิ่งมชี วี ติ และสงิ่ ไม่มีชวี ิต