แผนการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

2.3 ครูวางบตั รภาพแบบคละใหน้ กั เรยี น กล่มุ ละ 1 ชุด กอ่ นเร่ิมทำกจิ กรรมครูอธิบายคำ
ชีแ้ จงกจิ กรรมให้นักเรยี นฟัง

3. ขั้นอธบิ ายและลงขอ้ สรุป
3.1 นกั เรียนและครสู รปุ ผลการทำกจิ กรรมโดยการตรวจสอบจากผลงานที่ติดไว้บนกระดาน

และช่วยกนั บอกลักษณะของสงิ่ มีชวี ติ และส่ิงไม่มีชีวิตว่ามลี ักษณะแตกต่างกนั อยา่ งไรบา้ งให้นักเรียนยก
มือตอบแสดงความ คดิ เหน็ (แนวตอบ: สงิ่ มีชีวิต ไดแ้ ก่ สุนัข ม้าลาย ปลา ตน้ มะม่วงและสง่ิ มชี วี ิตสามารถ
กนิ อาหารและน้ำได้ ขบั ถ่ายได้หายใจได้ เคล่ือนไหวได้ มีการสืบพันธุแ์ ละสามารถเจรญิ เติบโตได้
ส่งิ ไมม่ ีชวี ติ ได้แก่ บา้ น รถยนต์ มา้ นัง่ อ่างปลา และสงิ่ ไม่มีชวี ิต ไมต่ อ้ งกนิ อาหารและน้ำ ไม่ต้องขบั ถ่าย
ไมห่ ายใจ ไมม่ ีการเคลื่อนไหวร่างกาย ไมม่ กี ารสืบพันธแุ์ ละไม่มีการเจรญิ เติบโต)

3.2 นกั เรยี นและครูร่วมกันสรุปความรู้ท่ไี ดจ้ ากการทำกิจกรรมเพ่ือให้ได้ประเดน็ ดังต่อไปน้ี
“ส่งิ มชี ีวิต และสิ่งไม่มีชีวิตจะมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไปโดยสามารถสงั เกตได้จากลักษณะสำคัญตา่ ง
ๆ เนื่องจาก สิง่ มชี วี ติ ตอ้ งการอากาศ อาหาร และน้ำ เพ่ือการดำรงชีวิต สงิ่ มชี วี ิตมีการการตอบสนองต่อ
ส่งเรา้ ต่าง ๆ ส่งิ มีชีวติ สามารถเคลื่อนทแี่ ละเคล่ือนไหวไดเ้ อง และสิง่ มชี ีวติ มีการสบื พันธ์ุและมีการ
เจริญเตบิ โต”

4. ขน้ั ขยายความรู้
4.1 ครแู จกใบงานที่ 1 เร่อื ง สง่ิ มชี ีวิตและส่งิ ไม่มชี ีวิตให้นกั เรยี นทุกคนโดยให้แตล่ ะคนวาดรูป
สิง่ มชี ีวิตและสิ่งไม่มีชีวิตอยา่ งละ 1 ชนดิ ลงในใบงานและบรรยายลกั ษณะของสง่ิ ท่ีวาดพร้อม ท้งั ตกแตง่ ให้
สวยงาม
4.2 ครูใหน้ กั เรยี นนำผลงานของตนเองมาแลกเปลยี่ นกันกับเพ่อื นอย่างน้อย 3 คนเพื่อ
แลกเปลยี่ น ความคิดและตรวจสอบความถูกต้อง (หมายเหต:ุ ครเู ร่มิ ประเมินนักเรียน โดยใช้แบบสงั เกต
พฤติกรรมการ ทำงานรายบุคคล)
4.3 ครสู ่มุ เลขทน่ี ักเรียน 3-4 คน นำผลงานออกมานำเสนอให้เพ่ือนๆฟงั หน้าชั้นเรียนเพื่อ
แลกเปล่ยี น ความรกู้ ัน
4.4 นกั เรียนและครูรว่ มกันตรวจสอบขอ้ มูล และอภิปรายเกี่ยวกับผลการสังเกตลกั ษณะของ
สิ่งมีชีวติ และส่ิงไม่มีชวี ิตตามผลงานทน่ี ักเรยี นทำ
4.5 ครูให้นักเรยี นดบู ัตรภาพสิ่งมชี ีวติ และสิ่งไม่มชี วี ิต ทีละภาพอีกครัง้ แล้วใหน้ ักเรยี นช่วยกัน
ตอบวา่ ภาพใดเปน็ สิง่ มีชวี ติ และภาพใดเป็นสง่ิ ไม่มชี ีวติ จากนน้ั ครูเฉลยคำตอบ
5. ขั้นประเมิน
5.1 ครปู ระเมินจากการตรวจใบงานที่ 1 เอง สิ่งมชี วี ติ และส่งิ ไม่มชี วี ิต
5.2 ครปู ระเมนิ จากกจิ กรรมจำแนกของสิง่ มชี วี ิตและสง่ิ ไม่มีชวี ติ
5.3 ครปู ระเมนิ นักเรยี นโดยการสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล การแสดงความคิดเหน็
การตอบคำถาม การรว่ มกนั ทำงานกลมุ่ และการออกมานำเสนอผลงานหน้าชนั้ เรยี น

6. ส่อื / แหลง่ เรยี นรู้
1. หนงั สือเรยี นวทิ ยาศาสตร์ สสวท. ป.1
2. แบบบันทึกกจิ กรรม
3. แบบรายงานการสืบคน้ ขอ้ มลู

7. การวดั และประเมนิ ผล

จดุ ประสงค์ วธิ ีการวดั ผล เครื่องมือวดั ผล เกณฑก์ าร
ประเมนิ ผล
บอกลกั ษณะของสงิ่ มีชีวิต การตอบคาถาม แบบสังเกตการตอบ เกณฑ์ร้อยละ 70%
และไมส่ ่ิงไม่มชี ีวิตได้ คาถาม ผ่านเกณฑ์

สงั เกตลกั ษณะของสง่ิ มชี ีวิต ตรวจใบกิจกรรม แบบประเมนิ กิจกรรม เกณฑ์ร้อยละ 70%
และส่ิงไม่มชี วี ติ เร่อื ง สงิ่ มชี วี ิตและ ผา่ นเกณฑ์
สิ่งไมม่ ชี ีวิต
มคี วามสนใจใฝ่เรียนรู้ สังเกตพฤติกรรม เกณฑร์ ะดับ
ปฏิบตั งิ านของ แบบประเมนิ คุณภาพ ด/ี พอใช้/
นกั เรียน คณุ ลกั ษณะอันพงึ ปรับปรุง ผา่ นระดบั
ประสงค์ ดขี ึน้ ไป







แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8

กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 1

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 ตัวเรา สตั ว์ และพืชรอบตัว เวลา 2 ชั่วโมง

เร่อื ง มารู้จักสัตว์กนั ไหม ผสู้ อน นางสาวพรชติ า อาศัยรัตน์

……............................................................................................................................... .......................

1. มาตรฐานการเรยี น/ตัวชี้วัด

ว 1.1

ป.1/1 ระบชุ อื่ สัตวแ์ ละพชื ที่อาศัยอย่บู รเิ วณตา่ ง ๆ จากข้อมลู ที่รวบรวมได้

ป.1/2 บอกสภาพแวดล้อมทเี่ หมาะสมกบั การดารงชวี ิตของสัตว์ในบริเวณทีอ่ ยู่อาศยั

2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ (ความร้,ู ทักษะ, เจตคติ)
1. บอกชือ่ และบรรยายลกั ษณะส่วนต่าง ๆ ของสัตว์
2. นกั เรยี นสามารถจาแนกเปรยี บเทยี บรวบรวมข้อมูลและบอกหน้าทขี่ องส่วนต่าง ๆของสตั ว์ได้
3. นกั เรียนมีนยั ใฝเ่ รยี นรู้

3. สาระสาคัญ
สัตว์และพืชรอบตัวเรา ประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ ซงึ่ มลี กั ษณะและหนา้ ที่แตกต่างกนั สตั วแ์ ละพืชอาศยั

อยใู่ นบริเวณตา่ ง ๆ ท่มี ีสภาพแวดลอ้ มทเ่ี หมาะสมกับการดารงชีวติ

4. สาระการเรยี นรู้
ความรู้

ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
ทักษะ/กระบวนการ

1. การสังเกต
2. การลงความเหน็ จากข้อมลู
ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21
1. การสอ่ื สาร
2. ความรว่ มมอื
3. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร
สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. ใฝเ่ รยี นรู้
2. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง

3. มุ่งมั่นในการทางาน
ชนิ้ งานหรือภาระงาน

1. แบบบันทกึ กิจกรรม
2. แบบรายงานการสืบคน้ ข้อมูล

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ โดยเนน้ ผเู้ รียนเปน็ สาคัญ ดาเนนิ การเรยี นการสอน

ดังต่อไปน้ี
- แจง้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ใหน้ ักเรียนทราบ
1. ขนั้ สร้างความสนใจ
1.1 ครูและนกั เรยี นรว่ มสนทนาเกี่ยวกบั สว่ นต่าง ๆ ของสตั ว์โดยใช้คาถามเพ่ือตรวจสอบ

ความรู้เดมิ ดังนี้
- รูปช้างในหนังสอื เรียนหนา้ 46 มีส่วนตา่ ง ๆ อะไรบา้ ง (ขา หู ตาปาก งวง)
- แต่ละส่วนทาหน้าทอี่ ะไร (นักเรยี นตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง)
1.2 ครูเชอื่ มโยงประสบการณ์เดมิ ของนักเรยี นเข้าสกู่ จิ กรรมท่ี 1.1 โดยใช้คาถามว่าสว่ นตา่ ง ๆ

ของสตั ว์มลี ักษณะและหน้าที่อะไรบา้ ง
2. ขน้ั สารวจและค้นหา
2.1 นักเรียนอา่ นทาอยา่ งไร ทลี ะข้อ แล้วร่วมกนั อภปิ รายเพอื่ สรุปลาดับขนั้ ตอนการทา

กิจกรรม โดยครูอาจชว่ ยเขยี นสรุปสนั้ ๆ บนกระดาน และนาอภปิ รายตามแนวคาถามดงั ตอ่ ไปนี้
- นกั เรียนสงั เกตส่วนต่าง ๆ ของสตั ว์แลว้ ต้องทาอย่างไร (วาดรปู และเขียนชื่อสว่ นต่าง ๆ ของ

สัตว์)
- นักเรยี นต้องทาอะไรต่อไป (รวบรวมข้อมูลเกยี่ วกับหน้าท่ีของสว่ นตา่ ง ๆ ของสตั วท์ ี่ตนเอง

วาด)
- นักเรียนจะสบื ค้นข้อมลู ได้อย่างไร (สอบถามจากผู้รู้ ผู้ปกครองค้นควา้ จากหนงั สือท่ีครู

เตรียมไวใ้ ห้ หรอื ครูอาจสอนคาสาคัญท่ีใชส้ บื ค้นจากอนิ เทอร์เน็ต เช่น โครงสร้างของไก่ ส่วนประกอบของ
ไก่สว่ นตา่ ง ๆ ของสุนัข)

3. ขน้ั อธบิ ายและลงขอ้ สรุป
3.1 ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันอภิปรายผลการทากิจกรรมโดยใช้ขอ้ มูลในตารางทเี่ ขียนไว้ โดยใช้
คาถามดังนี้

- สตั ว์ชนดิ ใดบา้ งท่ีมีตา (กระต่าย ปลา สุนขั ฯลฯ)
- ตามลี ักษณะอย่างไร (เช่น ตากระตา่ ยกลม มสี นี ้าตาล ตาปลาก็กลมและมีสีดา)
- ตาของสตั ว์แต่ละชนดิ มีหน้าท่ีเหมือนกันหรือไม่ (เหมอื นกัน)

- ตามีหนา้ ทีอ่ ะไร (ตามีหน้าที่มองดู)ครูใช้คาถามข้อ 6.1-6.4 เพอ่ื ถามเกี่ยวกับสว่ นอน่ื ๆ
ของสตั ว์จนแนใ่ จว่านักเรยี นมีความเขา้ ใจหนา้ ทีข่ องแตล่ ะส่วนเป็นอยา่ งดแี ล้ว

3.2 ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั อภปิ รายจนได้ข้อสรุปว่าสตั วช์ นิดต่าง ๆ มสี ่วนต่าง ๆ หลายส่วน
แตล่ ะส่วนมีลกั ษณะและหนา้ ท่ีแตกตา่ งกัน

3.3 นักเรยี นร่วมกันอภปิ รายคาตอบในฉนั รอู้ ะไร โดยครอู าจใชค้ าถามเพมิ่ เติมในการอภิปราย
เพ่อื ให้ได้แนวคาตอบทถ่ี ูกตอ้ ง

4. ขน้ั ขยายความรู้
4.1 ครูกระตนุ้ ให้นักเรยี นฝกึ ตง้ั คาถามเกี่ยวกับเร่อื งทสี่ งสยั หรืออยากร้เู พิ่มเติมใน อยากรู้อกี
ว่า จากนั้นครอู าจสมุ่ นักเรียน 2-3 คนนาเสนอคาถามของตนเองหน้าชน้ั เรยี น และให้นักเรยี นร่วมกนั
อภปิ รายเก่ียวกับคาถามท่ีนาเสนอ
4.2 ครนู าอภิปรายเพอ่ื ให้นักเรียนทบทวนว่าไดฝ้ กึ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และ
ทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 อะไรบ้างและในข้นั ตอนใดบ้าง
5. ข้ันประเมิน
5.1 ครใู ห้นกั เรียนแตล่ ะคนพิจารณาวา่ จากหวั ขอ้ ที่เรยี นมาและการปฏิบตั ิกจิ กรรม มจี ดุ
ใดบา้ งทีย่ ังไมเ่ ขา้ ใจหรือยังมีข้อสงสัย ถ้ามี ครูช่วยอธิบายเพิ่มเติมใหน้ ักเรียนเขา้ ใจ
5.2 นกั เรยี นรว่ มกันประเมินการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมกล่มุ ว่ามปี ัญหาหรอื อุปสรรคใด และได้มีการ
แกไ้ ขอย่างไรบา้ ง
5.3 ครูและนักเรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกบั ประโยชนท์ ไ่ี ด้รบั จากการปฏิบตั ิ
กิจกรรม และการนาความร้ทู ี่ไดไ้ ปใชป้ ระโยชน์
5.4 นักเรยี นตอบคาถามเก่ยี วกบั การสืบเสาะหาความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์ ในสารวจความรู้
ก่อนเรียน โดยอาจถามว่านกั เรยี นรอู้ ะไรบ้าง เกย่ี วกับการสืบเสาะหาความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์

6. ส่ือ / แหล่งเรียนรู้
1. หนังสอื เรยี นวิทยาศาสตร์ สสวท. ป.1
2. แบบบนั ทกึ กิจกรรม
3. แบบรายงานการสืบค้นข้อมลู

7. การวดั และประเมนิ ผล

จุดประสงค์ วิธกี ารวดั ผล เครอ่ื งมอื วัดผล เกณฑก์ าร
ประเมินผล
บอกชือ่ และบรรยายลกั ษณะ การตอบคาถาม แบบสังเกตการตอบ เกณฑ์ร้อยละ 70%
ส่วนต่าง ๆ ของสตั ว์ คาถาม ผา่ นเกณฑ์

จาแนกเปรยี บเทยี บรวบรวม แบบประเมนิ กจิ กรรม เกณฑ์ร้อยละ 70%
ข้อมูลและบอกหน้าที่ของ ตรวจใบกิจกรรม เรอ่ื ง หน้าทข่ี องส่วน ผา่ นเกณฑ์
ส่วนตา่ ง ๆของสตั ว์ได้ ต่าง ๆของสตั ว์ได้
เกณฑร์ ะดบั
มคี วามสนใจใฝ่เรยี นรู้ สังเกตพฤตกิ รรม แบบประเมิน คุณภาพ ดี/พอใช/้
ปฏิบัติงานของ คณุ ลักษณะอันพงึ ปรบั ปรงุ ผ่านระดับ
นักเรียน ประสงค์ ดีขนึ้ ไป









แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9

กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 1

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 ตัวเรา สัตว์ และพืชรอบตัว เวลา 2 ช่ัวโมง

เรื่อง มารู้จักพชื กนั ไหม ผู้สอน นางสาวพรชติ า อาศยั รตั น์

……......................................................................................................................................................

1. มาตรฐานการเรียน/ตวั ชี้วัด

ว 1.1

ป.1/1 ระบุชื่อสัตวแ์ ละพชื ท่ีอาศัยอยูบ่ รเิ วณตา่ ง ๆ จากข้อมูลทีร่ วบรวมได้

ป.1/2 บอกสภาพแวดล้อมท่เี หมาะสมกับการดารงชวี ิตของสตั วใ์ นบริเวณทอ่ี ยู่อาศัย

2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ (ความร,ู้ ทักษะ, เจตคติ)
1. สังเกต บอกลักษณะและชอ่ื สว่ นต่าง ๆ ของพชื
2. รวบรวมข้อมูลและบอกหน้าทส่ี ว่ นต่าง ๆ ของพชื
3. มีความม่งุ มนั่ ในการทำงาน

3. สาระสาคญั
สัตว์และพชื รอบตวั เรา ประกอบดว้ ยสว่ นต่าง ๆ ซ่งึ มลี ักษณะและหนา้ ที่แตกต่างกนั สัตวแ์ ละพชื อาศัย

อยใู่ นบริเวณต่าง ๆ ทมี่ สี ภาพแวดล้อมทีเ่ หมาะสมกับการดารงชวี ิต

4. สาระการเรยี นรู้
ความรู้

ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ทักษะ/กระบวนการ

1. การสงั เกต
2. การลงความเหน็ จากข้อมลู
ทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21
1. การสอื่ สาร
2. ความร่วมมือ
3. การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร
สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด
คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
1. ใฝ่เรียนรู้

2. อยู่อย่างพอเพยี ง
3. ม่งุ ม่ันในการทางาน
ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน
1. แบบบันทึกกจิ กรรม
2. แบบรายงานการสืบค้นข้อมลู

5. กิจกรรมการเรียนรู้
กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ โดยเนน้ ผู้เรียนเปน็ สาคญั ดาเนินการเรียนการสอน

ดงั ต่อไปน้ี
- แจง้ จุดประสงค์การเรียนรใู้ ห้นักเรียนทราบ
1. ขนั้ สรา้ งความสนใจ
1.1 นาเข้าสูบ่ ทเรียน ครแู จกแผน่ กระดาษ A4 ที่มีตน้ พืชใหก้ ับนกั เรียนแต่ละกลุ่ม เพ่ือ

ตรวจสอบความร้เู ดิมของนักเรยี นเกีย่ วกับช่ือสว่ นตา่ ง ๆ ของพืช นักเรียนรว่ มกนั สงั เกตและเขยี นระบชุ ื่อ
สว่ นตา่ ง ๆ ของพชื จากนัน้ นาผลงานไปตดิ ทผี่ นังห้อง ครูใหเ้ วลานักเรียน 5 นาที เพ่ือเดินชมผลงานของ
เพอื่ นกลุ่มอืน่ ๆ

2. ข้นั สารวจและค้นหา
ใหน้ กั เรยี นทากจิ กรรมต่าง ๆ เพือ่ ให้เกิดประสบการณ์ตรง ดังน้ี
2.1 ครูเชอ่ื มโยงประสบการณ์เดมิ ของนักเรยี นเข้าสกู่ ิจกรรมที่ 1.2 โดยชักชวน
ใหน้ ักเรียนรว่ มกนั สงั เกตลักษณะและหนา้ ที่ของสว่ นตา่ ง ๆ ของพชื
2.2 นักเรยี นอา่ นชอื่ กิจกรรม และทาเป็นคิดเปน็ โดยรว่ มกันอภปิ ราย เพ่อื ตรวจสอบความ
เข้าใจเกีย่ วกับจดุ ประสงค์ ในการทากิจกรรมโดยใชค้ าถาม ดังนี้

- นักเรยี นจะไดเ้ รียนร้เู รื่องน้ีด้วยวธิ ใี ด (การสังเกตและรวบรวมข้อมลู )
- เมอ่ื เรียนรแู้ ลว้ นกั เรยี นจะต้องทาอะไรบ้าง (บอกลกั ษณะ ชื่อ และหนา้ ทข่ี องสว่ นตา่ ง ๆ
ของพืช)
3. ข้ันอธิบายและลงข้อสรุป
3.1 ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั อภิปรายผลการทากจิ กรรม โดยใช้คาถาม ดังนี้
- ส่วนต่าง ๆ ของพืช มีอะไรบ้าง (ราก ลาตน้ ใบ ดอก ผล ภายในผลมีเมล็ด)
- เคยพบพืชอืน่ มีส่วนอน่ื นอกเหนอื จากที่กลา่ วมาหรือไม่ (เชน่ หนวด หนาม)ครใู ห้ความรู้
เพมิ่ เติมว่า หนวด คือ มือเกาะ เปน็ ส่วนของลาต้นทีไ่ ว้ใช้ยึดกับวัตถุเพ่ือไต่ข้ึนทส่ี งู หรือช่วยใหท้ รงตวั อยไู่ ด้
หนาม เป็นส่วนของลาตน้ ทาหน้าที่ปอ้ งกนั อนั ตรายต่าง ๆ ใหก้ ับตน้ พชื
- พชื ชนดิ ใดมรี ากบา้ ง (ผักตบชวา ตน้ กุหลาบ ต้นมะม่วง ฯลฯ)
- รากมลี กั ษณะอย่างไร (รากของพชื บางชนิดมลี กั ษณะเป็นฝอย ๆสีขาว)
- รากทาหนา้ ท่ีอะไร (ดดู นา้ และธาตุอาหาร และยดึ ลาต้น)

- รากของพืชแต่ละชนิดทาหน้าทเี่ หมือนกันหรือไม่ (เหมอื นกนั )ครูใชค้ าถามข้อ 7.3-7.6
เพอ่ื ถามเก่ียวกับสว่ นอื่น ๆ ของพชื จนแนใ่ จวา่ นักเรยี นมคี วามเข้าใจเกย่ี วกับลักษณะและหนา้ ที่ของแต่
ละสว่ นของพชื เป็นอยา่ งดีแลว้

3.2 ครูและนกั เรยี นร่วมกนั อภปิ รายจนได้ขอ้ สรปุ ว่าพชื มสี ่วนตา่ ง ๆ หลายสว่ น และแต่ละ
สว่ นมีลกั ษณะและหน้าที่แตกต่างกัน

4. ขน้ั ขยายความรู้
4.1 ครูกระตุ้นใหน้ ักเรียนตั้งคาถามในอยากรอู้ ีกวา่ จากน้ันครสู มุ่ นกั เรยี น 2-3 คนนาเสนอ
คาถามของตนเองหน้าช้นั เรยี น และให้นักเรยี นร่วมกันอภปิ รายเกีย่ วกับคาถามที่นาเสนอ
4.2 ครนู าอภปิ รายเพือ่ ให้นักเรยี นทบทวนวา่ ไดฝ้ กึ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละ
ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 อะไรบ้างและในข้นั ตอนใด
4.3 ครูชักชวนนักเรียนรว่ มกันอภปิ รายคาถามในชวนคดิ ในหนังสือเรียนหนา้ 50 โดยอาจให้
นักเรียนไปสืบค้นข้อมลู เพ่ือหาคาตอบ
5. ข้ันประเมิน
5.1 ครใู ห้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาวา่ จากหัวข้อทเ่ี รียนมาและการปฏิบัติกจิ กรรม มีจุด
ใดบา้ งที่ยงั ไม่เข้าใจหรือยงั มขี ้อสงสัย ถ้ามี ครูช่วยอธิบายเพ่ิมเตมิ ให้นักเรียนเข้าใจ
5.2 นักเรยี นรว่ มกนั ประเมินการปฏิบตั กิ ิจกรรมกลุ่มว่ามปี ัญหาหรืออุปสรรคใด และไดม้ ีการ
แก้ไขอยา่ งไรบา้ ง
5.3 ครูและนักเรียนรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกับประโยชน์ทไ่ี ด้รบั จากการปฏบิ ตั ิ
กจิ กรรม และการนำความรูท้ ี่ไดไ้ ปใช้ประโยชน์
5.4 นักเรียนตอบคำถามเกี่ยวกับการสืบเสาะหาความรูท้ างวิทยาศาสตร์ ในสำรวจความรู้
กอ่ นเรยี น โดยอาจถามว่านกั เรียนรู้อะไรบา้ ง เก่ียวกับการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์

6. สอื่ / แหลง่ เรียนรู้
1. หนงั สือเรยี นวิทยาศาสตร์ สสวท. ป.1
2. แบบบนั ทึกกิจกรรม
3. แบบรายงานการสบื ค้นข้อมลู

7. การวดั และประเมินผล

จุดประสงค์ วธิ กี ารวัดผล เคร่อื งมอื วดั ผล เกณฑก์ าร
ประเมนิ ผล
สังเกต บอกลักษณะและชื่อ การตอบคาถาม แบบสังเกตการตอบ เกณฑ์ร้อยละ 70%
ส่วนตา่ ง ๆ ของพืช คาถาม ผ่านเกณฑ์

รวบรวมข้อมลู และบอก ตรวจใบกิจกรรม แบบประเมนิ กจิ กรรม เกณฑร์ ้อยละ 70%
หน้าท่สี ่วนต่าง ๆ ของพชื เรื่อง หน้าที่ส่วนตา่ ง ๆ ผา่ นเกณฑ์
ของพชื

มคี วามสนใจใฝ่เรยี นรู้ สังเกตพฤตกิ รรม แบบประเมนิ เกณฑร์ ะดบั
ปฏิบตั ิงานของ คณุ ลักษณะอนั พงึ คุณภาพ ดี/พอใช้/
นกั เรยี น ประสงค์ ปรบั ปรุง ผา่ นระดับ
ดีขน้ึ ไป









แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 10

กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 1

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 ตัวเรา สัตว์ และพืชรอบตัว เวลา 2 ชั่วโมง

เรอ่ื ง บริเวณท่ีสตั วแ์ ละพืชอาศยั อยู่ ผ้สู อน นางสาวพรชิตา อาศยั รตั น์

……............................................................................................................................... .......................

1. มาตรฐานการเรียน/ตัวชี้วัด

ว 1.1

ป.1/1 ระบุชือ่ สตั วแ์ ละพืช ที่อาศยั อยู่บรเิ วณต่าง ๆ จากข้อมลู ที่รวบรวมได้

ป.1/2 บอกสภาพแวดล้อมทเี่ หมาะสมกบั การดารงชวี ติ ของสัตวใ์ นบริเวณที่อยู่อาศยั

2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ (ความร,ู้ ทักษะ, เจตคต)ิ
1. สังเกต และบอกชนิดของสัตวแ์ ละพชื ที่อาศยั อยู่ในบรเิ วณตา่ ง ๆ
2. รวบรวมข้อมลู จากสภาพแวดลอ้ มทเี่ หมาะต่อการดำรงชีวติ ของสัตวแ์ ละพืชในแตล่ ะบรเิ วณ
3. มคี วามมุ่งมั่นในการทำงาน

3. สาระสาคัญ
สัตว์และพชื รอบตัวเรา ประกอบด้วยส่วนตา่ ง ๆ ซ่งึ มีลักษณะและหน้าทแ่ี ตกตา่ งกัน สตั ว์และพืชอาศยั

อยู่ในบรเิ วณต่าง ๆ ท่ีมสี ภาพแวดลอ้ มที่เหมาะสมกบั การดารงชีวิต

4. สาระการเรยี นรู้
ความรู้

ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
ทักษะ/กระบวนการ

1. การสงั เกต
2. การลงความเห็นจากข้อมลู
ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21
1. การสือ่ สาร
2. ความร่วมมือ
3. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร
สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด
คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. ใฝเ่ รยี นรู้
2. อยอู่ ย่างพอเพยี ง

3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน
ชิ้นงานหรอื ภาระงาน

1. แบบบันทึกกจิ กรรม
2. แบบรายงานการสืบคน้ ข้อมลู

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ โดยเน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั ดาเนนิ การเรยี นการสอน

ดงั ตอ่ ไปนี้
- แจง้ จดุ ประสงค์การเรียนรูใ้ หน้ กั เรยี นทราบ
1. ขั้นสรา้ งความสนใจ
1.1 ครูตรวจสอบความรู้เดมิ เกี่ยวกบั ชนดิ ของสัตว์และพืชที่อาศัยอยใู่ นบริเวณตา่ ง ๆ โดย

ยกตัวอยา่ งสถานที่ เช่น ป่าชายเลน แลว้ ใหน้ ักเรียนร่วมกันอภิปราย โดยใช้คำถามดังน้ี
-นกั เรยี นเคยไปเท่ยี วป่าชายเลนหรือไม่ (นักเรยี นอาจจะตอบวา่ เคยหรือไม่เคย)
- ในป่าชายเลน เราจะพบสตั วห์ รือพชื ชนิดใดบา้ ง (ตน้ โกงกาง ตน้ แสม ปแู สม ปลาตีน

ฯลฯ)
- สตั วแ์ ละพชื เหลา่ น้ันสามารถอาศยั ใน ป่าชายเลนได้อยา่ งไร(นักเรยี นตอบตามความ

เขา้ ใจของตนเอง เช่น ตน้ โกงกางมดี นิ มนี ้ำไวใ้ หเ้ จริญเติบโต ปูแสมมอี าหารสำหรับการดำรงชีวติ )
2. ข้นั สำรวจและคน้ หา
ใหน้ กั เรียนทำกิจกรรมต่าง ๆ เพอื่ ให้เกดิ ประสบการณ์ตรง ดังน้ี
2.1 ครเู ชือ่ มโยงนกั เรยี นอา่ นช่ือเร่อื งและคิดก่อนอา่ น ในหนังสือเรียนหน้า 53 แล้วร่วมกัน

อภปิ รายในกลมุ่ เพื่อตอบคำถามในคิดก่อนอ่าน ครบู ันทกึ คำตอบของนักเรียนบนกระดานเพ่ือใช้
เปรียบเทียบกบั คำตอบหลังการอา่ นเน้อื เรอื่ ง

2.2 นักเรียนอา่ นคำใน คำสำคัญ ทัง้ ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (หากนักเรยี นอ่านไม่ได้ ครู
ควรสอนการอา่ นให้ถูกต้อง) จากนน้ั นกั เรยี นอธิบายความหมายของคำตามความเข้าใจ ครูชกั ชวนใหห้ า
ความหมายของคำหลังจากการอา่ นเนอื้ เรื่อง

3. ขนั้ อธบิ ายและลงข้อสรุป
3.1 ครแู ละนักเรียนร่วมกนั อภิปรายเพ่อื ให้ได้ข้อสรุปวา่ นกเงือกอาศยั อยใู่ นป่าท่มี ตี ้นไม้ใหญ่
โพรงของต้นไมใ้ หญเ่ ป็นท้ังท่ีอยอู่ าศัย ทีห่ ลบภยั ที่วางไขแ่ ละเล้ยี งลกู อ่อน สภาพแวดล้อมในปา่ เช่น
ตน้ ไม้ สตั ว์ และผลไม้ชว่ ยให้นกเงอื กดำรงชวี ิตอยู่ได้
3.2 นกั เรียนตอบคำถามจากเรื่องท่ีอ่านในรู้หรือยัง และฝึกเขียนคำในเขยี นเป็นในแบบบันทกึ
กจิ กรรมหน้า 61

4. ขัน้ ขยายความรู้
4.1 ครชู กั ชวนนกั เรียนลองตอบคำถามท้ายเรอ่ื งทอ่ี า่ น ได้แก่ สัตว์และพชื ชนดิ อ่ืน ๆ
ดำรงชวี ติ ในบรเิ วณใดบา้ ง บริเวณที่สัตวแ์ ละพชื อาศยั อยมู่ ีสภาพแวดลอ้ มเป็นอย่างไร จึงทำให้สัตวแ์ ละ
พชื ดำรงชีวติ อย่ไู ด้
5. ขั้นประเมนิ
5.1 ครใู ห้นักเรยี นแตล่ ะคนพิจารณาว่า จากหวั ข้อทเ่ี รยี นมาและการปฏิบัติกจิ กรรม มจี ดุ
ใดบา้ งท่ยี ังไมเ่ ขา้ ใจหรือยงั มขี ้อสงสัย ถา้ มี ครูช่วยอธบิ ายเพิ่มเตมิ ให้นักเรยี นเขา้ ใจ
5.2 นักเรียนร่วมกนั ประเมนิ การปฏิบัตกิ จิ กรรมกลุ่มว่ามปี ัญหาหรอื อุปสรรคใด และได้มีการ
แก้ไขอยา่ งไรบ้าง
5.3 ครแู ละนกั เรียนร่วมกันแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกับประโยชน์ทีไ่ ดร้ ับจากการปฏบิ ตั ิ
กจิ กรรม และการนำความรทู้ ่ีไดไ้ ปใชป้ ระโยชน์
5.4 นักเรียนตอบคำถามเกย่ี วกบั การสืบเสาะหาความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์ ในสำรวจความรู้
กอ่ นเรียน โดยอาจถามว่านกั เรียนรอู้ ะไรบ้าง เกีย่ วกับการสืบเสาะหาความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์

6. สือ่ / แหลง่ เรียนรู้
1. หนงั สอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์ สสวท. ป.1
2. แบบบนั ทึกกิจกรรม
3. แบบรายงานการสบื คน้ ข้อมลู

7. การวัดและประเมนิ ผล

จุดประสงค์ วธิ กี ารวัดผล เครื่องมอื วดั ผล เกณฑก์ าร
ประเมนิ ผล

สงั เกต และบอกชนดิ ของ การตอบคาถาม แบบสังเกตการตอบ เกณฑ์ร้อยละ 70%
สัตวแ์ ละพืชทอี่ าศยั อย่ใู น ตรวจใบกิจกรรม คาถาม ผา่ นเกณฑ์
บริเวณตา่ ง ๆ
รวบรวมข้อมูลจาก แบบประเมินกิจกรรม เกณฑ์ร้อยละ 70%
สภาพแวดล้อมท่เี หมาะตอ่ เรือ่ ง สภาพแวดลอ้ มที่ ผ่านเกณฑ์
การดารงชีวิตของสตั วแ์ ละ เหมาะต่อการดารงชีวติ
พชื ในแต่ละบริเวณ ของสตั วแ์ ละพชื เกณฑร์ ะดับ
คณุ ภาพ ดี/พอใช/้
3. มีความมงุ่ มนั่ ในการ สังเกตพฤติกรรม แบบประเมนิ ปรับปรุง ผ่านระดับ
ทางาน ปฏิบตั ิงานของ คุณลักษณะอนั พึง ดีข้ึนไป
นกั เรยี น ประสงค์









ไแผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 11

กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 1

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 ตัวเรา สตั ว์ และพืชรอบตัว เวลา 2 ชั่วโมง

เรอ่ื ง สัตวแ์ ละพืชอยู่ที่ใดบ้าง ผสู้ อน นางสาวพรชิตา อาศยั รตั น์

……............................................................................................................................... .......................

1. มาตรฐานการเรียน/ตัวช้ีวัด

ว 1.1

ป.1/1 ระบชุ ่ือสตั ว์และพืช ท่ีอาศยั อย่บู ริเวณต่าง ๆ จากข้อมูลทร่ี วบรวมได้

ป.1/2 บอกสภาพแวดล้อมท่เี หมาะสมกับการดารงชีวิตของสัตวใ์ นบริเวณท่ีอยู่อาศัย

2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ (ความรู้, ทักษะ, เจตคต)ิ
1. สังเกต และบอกชนิดของสัตวแ์ ละพชื ที่อาศัยอยู่ในบรเิ วณตา่ ง ๆ
2. รวบรวมขอ้ มูลสภาพแวดล้อมท่ีเหมาะสมตอ่ การดำรงชีวิตของสัตวแ์ ละพืชในแตล่ ะบรเิ วณ
3. มีความมงุ่ มัน่ ในการทำงาน

3. สาระสาคัญ
สัตว์และพืชรอบตวั เรา ประกอบดว้ ยสว่ นต่าง ๆ ซ่งึ มีลักษณะและหนา้ ท่ีแตกตา่ งกนั สตั ว์และพืชอาศัย

อยู่ในบรเิ วณต่าง ๆ ทีม่ สี ภาพแวดลอ้ มท่เี หมาะสมกบั การดารงชวี ติ

4. สาระการเรยี นรู้
ความรู้

ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ทกั ษะ/กระบวนการ

1. การสังเกต
2. การลงความเหน็ จากข้อมลู
ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21
1. การสอ่ื สาร
2. ความร่วมมอื
3. การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร
สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคดิ
คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ใฝ่เรียนรู้
2. อยู่อย่างพอเพยี ง

3. มุ่งมน่ั ในการทางาน
ชิน้ งานหรอื ภาระงาน

1. แบบบนั ทกึ กจิ กรรม
2. แบบรายงานการสืบค้นข้อมูล

5. กจิ กรรมการเรียนรู้
กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ โดยเนน้ ผูเ้ รียนเปน็ สาคญั ดาเนินการเรียนการสอน

ดงั ตอ่ ไปน้ี
- แจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ใหน้ กั เรยี นทราบ
1. ขนั้ สร้างความสนใจ
1.1 ครนู ำเข้าส่บู ทเรยี น โดยให้นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ ชว่ ยกนั นำรูปสงิ่ มีชีวิตประกอบลงในรูป

แหล่งท่อี ยเู่ พ่อื ตรวจสอบความรูเ้ ดมิ จากนน้ั ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั อภปิ ราย โดยใชค้ ำถามดังนี้
- บรเิ วณใดทพี่ บสัตวแ์ ละพืช (คำตอบพิจารณาตามรปู แหลง่ ที่อยู่ท่ีครนู ำมาทำกิจกรรม

เช่น แหลง่ น้ำ ทะเล ปา่ ไม้ ฯลฯ)
- สตั วแ์ ละพชื ทีพ่ บในแหล่งน้ำมีอะไรบ้าง (นักเรียนตอบตามท่ีได้ทำกจิ กรรม เชน่ ปลา

พชื น้ำ)
- สัตวแ์ ละพชื สามารถอาศัยอยใู่ นแหล่งน้ำนไี้ ด้เพราะเหตใุ ด (นกั เรยี นตอบตามความ

เข้าใจของตนเอง ตวั อย่างคำตอบ เชน่ ปลาและพืชน้ำอยใู่ นน้ำเพราะเปน็ ที่อยู่อาศยั ถ้าไม่มนี ้ำ ปลาและ
พชื น้ำจะตาย)

1.2 เพอื่ ถามเก่ยี วกบั แหลง่ ที่อยู่อาศัยแบบอ่ืนซ่ึงนักเรยี นได้นำรูปสตั ว์และพืชประกอบลงใน
แหลง่ ทอี่ ยู่น้ัน เพื่อยำ้ ความเข้าใจของนักเรยี น

2. ข้ันสำรวจและคน้ หา
ให้นกั เรยี นทำกจิ กรรมต่าง ๆ เพอื่ ให้เกิดประสบการณ์ตรง ดงั นี้
2.1 ครชู กั ชวนให้นกั เรยี นทำกิจกรรมที่ 2 สัตวแ์ ละพืชอย่ทู ่ีใดบ้าง โดยใชค้ ำถามวา่ เราจะพบ
สัตว์และพชื ที่บรเิ วณใดบา้ ง และสภาพแวดลอ้ มในบรเิ วณที่สัตว์และพชื อาศัยอยู่มคี วามเหมาะสมต่อการ
ดำรงชวี ิตหรอื ไม่
2.2 นักเรียนอา่ นชือ่ กจิ กรรม ครตู รวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี น โดยใชค้ ำถามดงั นี้
- กิจกรรมนี้นักเรียนะได้เรียนรเู้ กี่ยวกับเรอื่ งอะไร (ชนิดของสตั วแ์ ละพืชทอ่ี าศยั อยู่ในบริเวณ
ต่าง ๆ และสภาพแวดล้อมท่เี หมาะสมต่อการดำรงชวี ติ ของสตั ว์และพชื )
- นักเรียนจะได้เรยี นรู้เร่ืองนดี้ ้วยวิธใี ด (การสังเกตและรวบรวมข้อมูล)
2.3 นกั เรียนอ่านทำอย่างไร ในหนังสอื เรียนหน้า 54 (โดยเลือกใช้วธิ ีการฝึกการอ่านที่
เหมาะสม) จากนน้ั รว่ มกนั อภิปรายเพอื่ สรปุ ลำดบั ขนั้ ตอนการทำกจิ กรรม โดยครูชว่ ยเขยี นสรุปส้ัน ๆ บน
กระดาน และนำอภิปรายโดยใช้คำถามดังนี้

- เมอื่ ชมสารคดจี บแล้วนักเรยี นจะตอ้ งทำอะไร (บอกชนดิ ของสัตว์และพืชและอภปิ รายถึง
ความเหมาะสมของสภาพแวดลอ้ มท่มี ีตอ่ การดำรงชีวิตของสัตว์และพชื บันทึกผลในแบบบันทกึ กิจกรรม
หน้า62-63)

- นกั เรยี นต้องทำอะไรต่อไป (เลอื กสตั วห์ รอื พชื ท่ีชอบ 1 ชนิด แลว้ สร้างแบบจำลองท่ีอยู่ที่
มีสภาพแวดลอ้ มเหมาะสมกบั การดำรงชวี ติ ของสัตวห์ รอื พืชที่เลือก)

3. ข้ันอธบิ ายและลงขอ้ สรุป
3.1 ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันอภิปรายผลการทำกิจกรรม โดยใช้คำถามดังนี้

- ที่อยขู่ องสตั ว์ที่นกั เรยี นเลือก มีสภาพแวดล้อมอย่างไร (นักเรียนตอบตามผลการทำ
กจิ กรรมของตนเอง เชน่ นกั เรยี นเลือกนกสภาพแวดล้อมของนกคอื ตน้ ไม้ใหญ่มรี งั นกเพื่อเป็นที่อยู่อาศยั
ที่วางไข่ เล้ยี งลกู อ่อน)

- ทอ่ี ยู่ของพืชทน่ี ักเรียนเลอื ก มีสภาพแวดล้อมอย่างไร (นักเรียนตอบตามผลการทำ
กิจกรรมของตนเอง เช่น นักเรียนเลอื กกาฝากสภาพแวดล้อมของกาฝากคอื เกาะบนต้นไม้ใหญ่ เพื่อเปน็ ท่ี
อยอู่ าศัยและแหลง่ อาหาร)

3.2 ครแู ละนกั เรียนร่วมกันอภปิ รายจนไดข้ อ้ สรปุ ว่าในแต่ละบรเิ วณจะพบสัตว์และพชื ชนิด
ตา่ ง ๆ อาศยั อยู่ และบรเิ วณนั้นจะมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกบั การดำรงชวี ติ ของสตั ว์และพชื น้ัน เช่น
มที อี่ ยู่อาศัย ที่หลบภยั มแี หล่งอาหาร ที่วางไขแ่ ละเลย้ี งดูลูกอ่อน

4. ขั้นขยายความรู้
4.1 ครกู ระตุ้นให้นักเรยี นฝึกตง้ั คำถามเก่ียวกับเรอ่ื งที่สงสยั หรอื อยากร้เู พ่ิมเติมใน อยากรู้อกี
วา่ จากนน้ั ครอู าจสมุ่ นักเรียน 2-3 คน นำเสนอคำถามของตนเองหนา้ ชั้นเรยี น และใหน้ ักเรยี นร่วมกัน
อภปิ รายเก่ียวกับคำถามทีน่ ำเสนอ
4.2 ครนู ำอภปิ รายเพือ่ ใหน้ ักเรยี นทบทวนวา่ ไดฝ้ กึ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละ
ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 อะไรบา้ งและในขัน้ ตอนใดบ้าง
5. ข้ันประเมิน
5.1 ครใู หน้ กั เรยี นแตล่ ะคนพิจารณาว่า จากหวั ขอ้ ที่เรยี นมาและการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม มจี ุด
ใดบา้ งทีย่ งั ไม่เขา้ ใจหรือยังมีข้อสงสยั ถ้ามี ครูชว่ ยอธิบายเพ่ิมเตมิ ใหน้ ักเรยี นเข้าใจ
5.2 นกั เรยี นรว่ มกันประเมินการปฏิบตั กิ ิจกรรมกลมุ่ วา่ มปี ัญหาหรอื อปุ สรรคใด และได้มีการ
แก้ไขอย่างไรบ้าง
5.3 ครูและนักเรียนรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกับประโยชน์ที่ไดร้ บั จากการปฏบิ ัติ
กจิ กรรม และการนำความรทู้ ี่ได้ไปใชป้ ระโยชน์
5.4 นกั เรยี นตอบคำถามเกี่ยวกับการสบื เสาะหาความรูท้ างวิทยาศาสตร์ ในสำรวจความรู้
ก่อนเรยี น โดยอาจถามวา่ นักเรยี นรู้อะไรบ้าง เก่ยี วกับการสืบเสาะหาความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์
6. สอ่ื / แหลง่ เรยี นรู้
1. หนงั สือเรียนวิทยาศาสตร์ สสวท. ป.1

2. แบบบนั ทกึ กิจกรรม
3. แบบรายงานการสืบคน้ ข้อมลู

7. การวดั และประเมินผล

จดุ ประสงค์ วิธกี ารวัดผล เครอื่ งมือวัดผล เกณฑ์การ
ประเมินผล

สังเกต และบอกชนดิ ของ การตอบคาถาม แบบสังเกตการตอบ เกณฑร์ ้อยละ 70%
สัตวแ์ ละพชื ทีอ่ าศยั อยใู่ น คาถาม ผา่ นเกณฑ์
บรเิ วณต่าง ๆ

รวบรวมขอ้ มลู ตรวจใบกิจกรรม แบบประเมนิ กจิ กรรม เกณฑ์ร้อยละ 70%
สภาพแวดลอ้ มทเ่ี หมาะสม เรือ่ ง สภาพแวดล้อมที่ ผ่านเกณฑ์
ตอ่ การดารงชวี ติ ของสตั ว์ เหมาะต่อการดารงชีวติ
และพืชในแต่ละบริเวณ ของสัตวแ์ ละพชื ในแต่ เกณฑ์ระดบั
ละบริเวณ คุณภาพ ด/ี พอใช/้
มคี วามมงุ่ มน่ั ในการทางาน สงั เกตพฤตกิ รรม ปรับปรุง ผา่ นระดับ
ปฏิบตั งิ านของ แบบประเมิน ดขี ึน้ ไป
นักเรยี น คณุ ลักษณะอันพึง
ประสงค์









แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 12

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 1

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2 ตัวเรา สตั ว์ และพืชรอบตัว เวลา 2 ช่ัวโมง

เรื่อง สตั วแ์ ละพืชรอบตัวเรา ผสู้ อน นางสาวพรชิตา อาศยั รตั น์

......................................................................................................................................................................

1. มาตรฐานการเรียน/ตวั ชี้วัด

ว 1.1

ป.1/1 ระบุชือ่ สัตว์และพชื ท่ีอาศัยอยูบ่ รเิ วณตา่ ง ๆ จากข้อมลู ทร่ี วบรวมได้

ป.1/2 บอกสภาพแวดลอ้ มทเี่ หมาะสมกบั การดารงชวี ิตของสตั วใ์ นบริเวณทีอ่ ยู่อาศยั

2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ (ความรู้, ทักษะ, เจตคต)ิ
1. สงั เกต และบอกชนิดของสัตว์และพืชที่อาศยั อย่ใู นบริเวณตา่ ง ๆ
2. รวบรวมขอ้ มลู สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมตอ่ การดารงชวี ิตของสตั ว์และพชื ในแต่ละบรเิ วณ
3. มีความม่งุ มั่นในการทางาน

3. สาระสาคญั
สัตวแ์ ละพืชรอบตวั เรา ประกอบดว้ ยสว่ นตา่ ง ๆ ซึ่งมลี กั ษณะและหน้าทแี่ ตกต่างกนั สัตวแ์ ละพชื อาศยั

อย่ใู นบรเิ วณต่าง ๆ ท่ีมสี ภาพแวดล้อมท่เี หมาะสมกบั การดารงชวี ิต

4. สาระการเรียนรู้
ความรู้

ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
ทักษะ/กระบวนการ

1. การสังเกต
2. การลงความเห็นจากข้อมลู
ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21
1. การสอื่ สาร
2. ความร่วมมอื
3. การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร
สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคดิ
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. ใฝ่เรยี นรู้
2. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง

3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน
ชนิ้ งานหรอื ภาระงาน

1. แบบบันทึกกจิ กรรม
2. แบบรายงานการสบื ค้นข้อมูล

5. กิจกรรมการเรยี นรู้
กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ โดยเนน้ ผ้เู รียนเปน็ สาคัญ ดาเนินการเรยี นการสอน

ดังต่อไปนี้
- แจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรยี นร้ใู หน้ ักเรยี นทราบ
1. ข้ันสร้างความสนใจ
ครนู าเขา้ สูบ่ ทเรยี น โดยใหน้ ักเรียนแตล่ ะกล่มุ ชว่ ยกันนารปู สิ่งมชี ีวิตประกอบลงในรูปแหลง่ ที่

อยู่เพ่ือตรวจสอบความรเู้ ดมิ จากนนั้ ครูให้นักเรียนรว่ มกันอภปิ ราย โดยใช้คาถามดังนี้
- บรเิ วณใดทพ่ี บสัตว์และพืช (คาตอบพิจารณาตามรูปแหลง่ ท่ีอยทู่ ่ีครูนามาทากิจกรรม

เชน่ แหล่งนา้ ทะเล ป่าไม้ ฯลฯ)
- สตั ว์และพชื ที่พบในแหลง่ นา้ มีอะไรบ้าง (นักเรียนตอบตามที่ได้ทากจิ กรรม เชน่ ปลา

พืชน้า)
- สตั วแ์ ละพชื สามารถอาศัยอยใู่ นแหล่งน้าน้ีได้เพราะเหตใุ ด (นกั เรยี นตอบตามความ

เขา้ ใจของตนเอง ตัวอยา่ งคาตอบ เช่น ปลาและพชื น้าอยใู่ นน้าเพราะเป็นท่ีอยู่อาศยั ถา้ ไม่มนี ้า ปลาและ
พชื น้าจะตาย)

2. ขนั้ สารวจและค้นหา
ใหน้ กั เรียนทากจิ กรรมต่าง ๆ เพอื่ ให้เกดิ ประสบการณ์ตรง ดังน้ี
2.1 นักเรียนกลับไปตรวจสอบคาตอบของตนเองในสารวจความร้กู ่อนเรยี น ดงั น้ี “ป่าชายเลน
มีสตั ว์และพืชหลายชนดิ อาศัยอย่ดู ว้ ยกนั สัตว์และพืชในรูปเหลา่ นปี้ ระกอบดว้ ยส่วนตา่ ง ๆ เหมอื นคน
หรือไม่ และป่าชายเลนนีช้ ่วยให้สตั ว์และพืชมชี วี ติ อยู่ได้อย่างไร” ครูและนักเรยี นร่วมกันอภิปรายเพ่ือตอบ
คาถาม เช่น สตั วแ์ ละพชื ในป่าชายเลนเปน็ ส่ิงมชี ีวิตเช่นเดียวกับคน ซึง่ มรี ูปร่าง ลักษณะ และส่วนต่าง ๆ
แตกต่างกัน สตั ว์และพชื เหล่าน้มี ีรูปร่าง ลกั ษณะที่เหมาะสมกับปา่ ชายเลน เชน่ ต้นโกงกางมีรากคา้ จุนที่
ช่วยยดึ ลาตน้ ใหต้ ้ังตรงในดินเลน จงึ ทาให้ดารงอยู่ในป่าชายเลนได้ นักเรยี นอาจมีคาตอบทแ่ี ตกตา่ งจากน้ี
ครูควรเนน้ ให้นักเรียนตอบคาถามพร้อมอธบิ ายเหตุผลประกอบ
2.2 นกั เรียนทาใบกิจกรรม สัตวแ์ ละพืชรอบตัวเรา นาเสนอคาตอบหนา้ ชน้ั เรียน ถ้าคาตอบ
ยังไม่ถูกต้องครูนาอภปิ รายหรือใหส้ ถานการณเ์ พ่มิ เติมเพ่ือแก้ไขแนวคดิ คลาดเคลื่อนใหถ้ กู ต้อง
3. ข้นั อธบิ ายและลงข้อสรุป
3.1 นักเรยี นร่วมกนั ทากิจกรรมรว่ มคดิ รว่ มทา โดยปัน้ ดนิ น้ามนั เป็นสัตว์ท่มี สี ว่ นตา่ ง ๆ ตาม
จนิ ตนาการ พร้อมบอกหน้าที่ของแต่ละสว่ น และนาเสนอ

3.2 นกั เรียนอา่ นและอภิปรายเนอื้ เร่ืองในหวั ขอ้ วิทย์ใกล้ตัว ครกู ระตุ้นให้นกั เรียนตระหนักถงึ
ความสาคัญของความรู้จากสงิ่ ทไี่ ด้เรยี นรใู้ นหนว่ ยน้วี า่ สามารถนาไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวนั ได้ โดย
ใชค้ าถามในการอภิปรายดงั ต่อไปนี้

- ใครเคยเป็นไข้หวัดบ้าง มีอาการเปน็ อยา่ งไร (มไี ข้ มีน้ามูก ไอ)
- ไขห้ วัดสามารถตดิ ต่อไปยงั คนรอบขา้ งได้หรือไม่ อยา่ งไร (ได้เพราะเม่ือไอหรือจามทาให้
เช้ือโรคแพร่กระจายออกมากับนา้ มูกหรือน้าลาย ทาใหเ้ ชื้อโรคเขา้ สู่ร่างกายคนรอบข้าง จึงทาใหค้ นรอบ
ขา้ งเป็นไข้หวดั ได้)
- เด็ก ๆ ควรดูแลร่างกายอยา่ งไรไมใ่ หเ้ ปน็ หวดั (ลา้ งมือบ่อย ๆ ไมอ่ ยู่ใกล้กบั คนทเี่ ป็น
ไขห้ วดั )
- เมื่อเราเปน็ ไข้หวัด ตอ้ งปฏิบัติตนอย่างไรไม่ให้คนรอบข้างติดไข้หวดั (สวมหน้ากาก
อนามยั ปิดปากเวลาไอหรอื จาม)
4. ขัน้ ขยายความรู้
4.1 ครกู ระตุ้นให้นักเรยี นทาแบบทดสอบท้ายเล่ม เพ่ือเป็นการประเมินการเรยี นร้ขู อง
นกั เรียนตลอดภาคเรยี น หากนักเรยี นยงั มีแนวคิดคลาดเคลื่อน ครแู ละนักเรยี นอาจรว่ มกันอภิปราย
คาตอบเพื่อช่วยใหน้ กั เรียนมีแนวคดิ ทถ่ี ูกต้อง
5. ข้นั ประเมนิ
5.1นักเรียนนาความรูท้ ไี่ ด้จากการเรียนรู้เรอื่ งน้ี ไปปรบั ใชใ้ นการดารงชีวติ อยอู่ ยา่ งพอเพยี งได้
5.2 ครแู ละนักเรียนร่วมกนั ประเมินกจิ กรรมในแบบรายงาน เกบ็ ในแฟ้มสะสมงานนกั เรียน
จากนั้นครูนดั หมายการเรยี นในครง้ั ตอ่ ไป

6. สอ่ื / แหล่งเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรียนวิทยาศาสตร์ สสวท. ป.1
2. แบบบนั ทกึ กจิ กรรม
3. แบบรายงานการสืบค้นข้อมูล

7. การวดั และประเมนิ ผล วิธกี ารวดั ผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การ
การตอบคาถาม ประเมินผล
จุดประสงค์ แบบสงั เกตการตอบ
คาถาม เกณฑ์ร้อยละ 70%
สงั เกต และบอกชนิดของ ผ่านเกณฑ์
สัตวแ์ ละพชื ที่อาศยั อย่ใู น
บรเิ วณต่าง ๆ

รวบรวมขอ้ มูล ตรวจใบกิจกรรม แบบประเมนิ กิจกรรม เกณฑ์ร้อยละ 70%
สภาพแวดลอ้ มท่ีเหมาะสม เร่อื ง สตั วแ์ ละพืช ผา่ นเกณฑ์
ตอ่ การดารงชวี ิตของสัตว์ รอบตวั เรา
และพืชในแต่ละบริเวณ

มีความมงุ่ ม่นั ในการทางาน สงั เกตพฤตกิ รรม แบบประเมิน เกณฑร์ ะดบั
ปฏบิ ัตงิ านของ คุณลกั ษณะอนั พึง คณุ ภาพ ดี/พอใช้/
นกั เรยี น ประสงค์ ปรบั ปรุง ผา่ นระดับ
ดขี ึน้ ไป