การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ ทส ี ่ ่ งผลต ่ อภ ู มอ ิ ากาศและ ทรัพยากรธรรมชาติ 1 ภ ู ม ิ ศาสตร ์ ม. 4–6 หน ่ วยการเร ี ยนร ้ ู ท ี ่ 2 ลักษณะทางกายภาพของโลก
2 แสดงความคิดเห็น ภ ู ม ิ อากาศและทร ั พยากรธรรมชาต ิ มีความส าคัญอย่างไร เพราะเหต ุ ใดจ ึ งเป็ นเช ่ นน ้ ั น
การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่ส่งผลต่อภ ู มอากาศ ิ การเปลย ี ่ นแปลงทางกายภาพมก ั ส ่ งผลต ่ อลก ั ษณะของภ ู มอ ิ ากาศ ในแต ่ ละพ ื น ้ ทอ ี ่ ย ่ ู เสมอ 2. การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพท ี่ส ่ งผลต ่ อภ ู มปิ ระเทศ ภ ู มอ ิ ากาศ และทร ั พยากรธรรมชาติ 2.2 การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่ส่งผลต ่ อภ ู มอ ิ ากาศ 3
2.2.1 ปั จจ ั ยท ี ่ ม ี อท ิ ธ ิ พลต ่ อภ ู มิอากาศ สภาพภ ู ม ิ อากาศในพ ื น ้ ท ี ่ ต ่ าง ๆ ของโลก ม ี ความแตกต ่ างกน ั ขน ึ ้ อย ่ ู กบ ัปัจจัย ควบค ุ มภ ู ม ิ อากาศท ี ่ ส าค ั ญม ี ด ังนี้ 4 2.2 การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่ส่งผลต ่ อภ ู มอ ิ ากาศ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
ทรอปิ กออฟแคนเซอร์ ทรอปิ กออฟแคปริคอร์น 1. ละต ิ จ ู ด บริเวณที่ได้รับความร้อนของรังสีจากดวงอาทิตย์ มากท ี่ส ุ ด ค ื อแนวเส ้ นทรอปิ กออฟแคนเซอร ์ และแนวเส้นทรอปิ กออฟแคปริคอร์น จ ึ งเป็ นบร ิ เวณเขตร ้ อนท ี่ม ี อ ุ ณหภ ู ม ิ ส ู งตลอดเวลา ส่วนต าแหน ่ งท ี่ส ู งข ึ น ้ ไปหร ื อต ่าลงมาจากแนวท ้ ั งสองนี้ มีปริมาณความร ้ อนท ี่ผ ั นแปรไปตามฤด ู ท ี่แตกต ่ างก ั น ต าแหน ่ งละต ิ จ ู ดท ี่แตกต ่ างก ั นท าให ้ ม ุ มตกกระทบของ รังสีจากดวงอาทิตย์มีความแตกต่างกัน และความ ยาวนานของเวลาที่รับรังสีก็มีความแตกต่างกัน ตามไปด้วย 5 2.2การเปลย ี ่ นแปลงทางกายภาพทส ี ่ ่ งผลต ่ อภ ู มอ ิ ากาศ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
2. ลักษณะของพื้นดินและพื้นน ้า พ ื น ้ ด ิ นและพ ื น ้ น ้ าม ี ค ุ ณสมบ ั ต ิ ด ู ดกล ื น และคายความร้อนที่แตกต่างกัน พื้นดิน พื้นน ้า รับและคายความร้อนได้ดีกว่า เก็บกักความร้อนได้ดีกว่า รับ คาย 6 2.2การเปลย ี ่ นแปลงทางกายภาพทส ี ่ ่ งผลต ่ อภ ู มอ ิ ากาศ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
รวมทั้งได้รับความชื้นจากทะเลที่เกิดจากการคายความร้อน ด้วยการระเหยของพ ื น ้ ผ ิ วน ้ าอย ่ ู เสมอ ส ่ งผลท าให ้ ม ีฝนนตกช ุ ก ดังนั้น 7 2.2การเปลย ี ่ นแปลงทางกายภาพทส ี ่ ่ งผลต ่ อภ ู มอ ิ ากาศ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
มหาสมุทร มหาสมุทร ทวีป ทวีป แต่บริเวณที่มีลมประจ าพัดจากภาคพื้นทวีปออกมายัง ภาคพ ื้นสม ุ ทร ท าให ้ ภายในภาคพ ื้นสม ุ ทรมส ี ภาพแห ้งแล้ง 3. ที่ตั้งและทิศทางลมประจ า บริเวณที่มีลมประจ าพัดจากภาคพื้นสม ุ ทร เข้าไปยังภาคพื้นทวีป ภายในภาคพื้นทวีปก็มีสภาพอากาศช ่ ุ มชื้น ม ีฝนนตกช ุ ก ทวีป 8 2.2การเปลย ี ่ นแปลงทางกายภาพทส ี ่ ่ งผลต ่ อภ ู มอ ิ ากาศ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
นอกจากนี้ บริเวณที่มีแนวเทือกเขาตั้งขวางกั้น ทิศทางของลมประจ าท าให้เกิด สภาพอากาศแบบด้านลมและ ปลายลมขึ้น โดยบริเวณ ด้านต้นลมได้รับลมประจ า อย่างเต็มที่มีอากาศอบอ ่ ุ น และช ่ ุ มช ื ้ นมากกว ่ าด ้ านปลาย ลมท ี่อย ่ ู ด ้ านหล ั งแนวเท ื อกเขาจ ึ งมี อากาศร้อนจัดหรือหนาวจัดและแห้งแล้ง 9 2.2การเปลย ี ่ นแปลงทางกายภาพทส ี ่ ่ งผลต ่ อภ ู มอ ิ ากาศ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
การเคล ื่อนท ี่ของกระแสน ้ าอ ่ ุ นและกระแสน ้ าเย ็ นส ่ งผลต ่ อสภาพอากาศของพ ื น ้ ท ี่ต ่ างๆแม ้ อย ่ ู บนละต ิ จ ู ดเด ี ยวก ั น โดยบร ิ เวณท ี่ม ี กระแสน ้ าอ ่ ุ นไหลผ ่ านม ี อ ุ ณหภ ู มส ิ ู งและอากาศช ่ ุ มช ื ้ นกว่า ส ่ วนบร ิ เวณท ี่ม ี กระแสน ้ าเย ็ นไหลผ ่ านม ี อ ุ ณหภ ู ม ิ ต ่าและอากาศแห ้ งกว ่ า 4. กระแสน ้ าในมหาสม ุ ทร 5. ความกดอากาศ บริเวณภาคพื้นทวีปที่มีอากาศร้อนจัดมักมีความกดอากาศต ่า ส่งผลให้มวลอากาศเคลื่อนที่เข้า ส ่ ู ชายฝนั่งและเก ิ ดฝนนตก ส ่ วนบร ิ เวณท ี่ม ี อากาศหนาวเย ็ นม ี ความกดอากาศส ู ง ท าให้มวลอากาศ เคล ื่อนท ี่ไปส ่ ู ภาคพ ื น ้ สม ุ ทร 10 2.2การเปลย ี ่ นแปลงทางกายภาพทส ี ่ ่ งผลต ่ อภ ู มอ ิ ากาศ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
TROPIC ZONE TEMPERATE ZONE TEMPERATE ZONE POLAR ZONE POLAR ZONE 11 2.2การเปลย ี ่ นแปลงทางกายภาพทส ี ่ ่ งผลต ่ อภ ู มอ ิ ากาศ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
3. เขตภ ู ม ิ อากาศหนาว(polar zone) เป็ นเขตภ ู ม ิ อากาศท ี่ไม ่ ม ี ฤด ู ร้อนเลย พบในเขตละต ิ จ ู ดส ู ง ม ี อ ุ ณหภ ู ม ิ เฉล ี่ยไม ่ เก ิ น 10องศาเซลเซียส การแบ ่ งเขตภ ู ม ิ อากาศของโลกใช ้ อ ุ ณหภ ู ม ิ ท าให ้ได ้3 เขตภ ู ม ิ อากาศ ได้แก่ เขตภ ู ม ิ อากาศร ้ อน (tropic zone) เป็ นเขตท ี่ม ี อ ุ ณหภ ู ม ิ ของอากาศเฉล ี่ยส ู ง เกือบตลอดปี และไม่ต ่ากว่า 18 องศาเซลเซียส 2. เขตภ ู ม ิ อากาศอบอ ่ ุ น (temperate zone) เป็ นเขตท ี่อย ่ ู ในเขตละต ิ จ ู ดกลาง ม ี ฤด ู หนาวและฤด ู ร ้ อนช ั ดเจน ในฤด ู หนาวม ี อ ุ ณหภ ู ม ิ ต ้ ั งแต ่–3 จนถึง 18 องศาเซลเซียส 1 2 3 12 2.2การเปลย ี ่ นแปลงทางกายภาพทส ี ่ ่ งผลต ่ อภ ู มอ ิ ากาศ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
ใน พ.ศ. 2461 ดร.วลาดิเมียร์ เคิปเปน (Wladimir Köppen) ได้จ าแนกระบบการแบ่งเขต ภ ู ม ิ อากาศข ึ ้ นโดยใช ้ อ ุ ณหภ ู ม ิ และปร ิ มาณฝนนเป็ นเกณฑ ์ในการจ าแนก โดยใช ้ ต ัวอักษร ภาษาอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่แบ่งออกเป็ น 5กล ่ ุ ม ได ้ แก ่ A กล ่ ุ มภ ู ม ิ อากาศ ร้อนและชื้น C กล ่ ุ มภ ู ม ิ อากาศ อบอ ่ ุ นและชื้น E กล ่ ุ มภ ู ม ิ อากาศ ขั้วโลก B กล ่ ุ มภ ู ม ิ อากาศ แห้งแล้ง D กล ่ ุ มภ ู ม ิ อากาศ หนาวชื้น 13 2.2การเปลย ี ่ นแปลงทางกายภาพทส ี ่ ่ งผลต ่ อภ ู มอ ิ ากาศ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
แผนท ี่เขตภ ู ม ิ อากาศโลกแบบเค ิปเปิ น 14 2.2การเปลย ี ่ นแปลงทางกายภาพทส ี ่ ่ งผลต ่ อภ ู มอ ิ ากาศ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
อ ุ ณหภ ู ม ิปานกลางส ู งกว ่ า 18องศาเซลเซียส A กล ่ ุ มภ ู มอ ิ ากาศร ้ อนและชื้น A กล ่ ุ มภ ู ม ิ อากาศร ้ อนและชื้นไม่มีฤด ู หนาว มีปริมาณฝนนไม่น้อยกว่า 875 มิลลิเมตรต่อปี 15 2.2การเปลย ี ่ นแปลงทางกายภาพทส ี ่ ่ งผลต ่ อภ ู มอ ิ ากาศ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
B กล ่ ุ มภ ู มภ ิ ู ม ิ อากาศแห ้ งแล ้ ง ม ี อ ั ตราการระเหย น ้ามากกว่าปริมาณฝนนที่ได้รับ B กล ่ ุ มภ ู มอ ิ ากาศแห ้ งแล้ง 16 2.2การเปลย ี ่ นแปลงทางกายภาพทส ี ่ ่ งผลต ่ อภ ู มอ ิ ากาศ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
C กล ่ ุ มภ ู มอ ิ ากาศอบอ ่ ุ นและชื้น อณ ุ หภ ู มข ิ องเด ื อนทห ี ่ นาวทส ี ่ ุ ดอย ่ ู ระหว ่ าง –3องศาเซลเซียส ถึง 18 องศาเซลเซียส มีฤด ู หนาวและฤด ู ร ้ อนเด ่ นช ั ด C กล ่ ม ุ ภ ู มอ ิ ากาศอบอ ่ น ุ และช ื ้ นในเขตละต ิ จ ู ดกลาง ในฤด ู หนาว จะมีอากาศอบอ ่ น ุ ค ่ อนข ้ างเยน ็ 17 2.2การเปลย ี ่ นแปลงทางกายภาพทส ี ่ ่ งผลต ่ อภ ู มอ ิ ากาศ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
D กล ่ ม ุ ภ ู มอ ิ ากาศหนาวช ื ้ นในเขตละต ิ จ ู ดกลางฤด ู หนาวมอ ี ากาศ หนาวจ ั ด อณ ุ หภ ู มเ ิ ด ื อนทห ี่นาวทส ีุ่ ดต ่ากว ่ า –3องศาเซลเซียส เด ื อนทอ ี ่ บอ ่ น ุ ทส ี ่ ุ ดจะมอ ี ณ ุ หภ ู มเ ิ ฉลย ี ่ ส ู งกว ่ า 10 องศาเซลเซียส D กล ่ ุ มภ ู มอ ิ ากาศหนาวช ื ้ นในเขตละตจ ิ ู ดกลาง 18 2.2การเปลย ี ่ นแปลงทางกายภาพทส ี ่ ่ งผลต ่ อภ ู มอ ิ ากาศ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
E กล ่ ุ มภ ู มอ ิ ากาศข ้ ัวโลก E กล ่ ุ มภ ู ม ิ อากาศข ้ ั วโลกไม ่ ม ี ฤด ู ร ้ อน อ ุ ณหภ ู ม ิ เฉล ี่ยในเด ื อนท ี่อบอ ่ ุ นท ี่ส ุ ด ต ่ากว่า 10องศาเซลเซียส 19 2.2การเปลย ี ่ นแปลงทางกายภาพทส ี ่ ่ งผลต ่ อภ ู มอ ิ ากาศ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
แต ่ ละเขตในเขตภ ู ม ิ อากาศโลกท ้ ั ง5กล ่ ุ มน ี แ ้ บ ่ งย ่ อยได ้ เป็ นหลายเขต โดยใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวพิมพ์เล็กมาประกอบกับตัวพิมพ์ใหญ่ ดังนี้ กล ่ ุ มภ ู ม ิ อากาศ เขตภ ู ม ิ อากาศ ลักษณะ 1. กล ุ่มภูมอ ิ ากาศ ร้อนและชื้น (A) ภูมอ ิ ากาศร ้ อนช ื้น (AF) มปี ร ิ มาณฝนนมาก ปร ิ มาณฝนนเด ื อนท ี่น ้ อยท ี่สุดมากกว่า 60 มิลลิเมตร ภูมอ ิ ากาศแบบมรสุม (Am) มปี ร ิ มาณฝนนค ่ อนข ้ างสูง โดยเฉพาะในช่วงที่ได้รับ อท ิ ธ ิ พลจากลมมรสุม แต ่ มปี ร ิ มาณ 3 เดือนที่มีปริมาณ ฝนนน้อยกว่า 60 มิลลิเมตร ภ ู ม ิ อากาศแบบสะวน ั นา (Aw) ม ีฝนนตกในฤด ู ร ้ อนและแห ้ งแล ้ งในฤด ู หนาว มีเวลา หลายเดือนที่มีปริมาณฝนนน้อยกว่า 60 มิลลิเมตร 20 2.2การเปลย ี ่ นแปลงทางกายภาพทส ี ่ ่ งผลต ่ อภ ู มอ ิ ากาศ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
กล ่ ุ มภ ู ม ิ อากาศ เขตภ ู ม ิ อากาศ ลักษณะ 2. กล ุ่มภูมอ ิ ากาศ แห้งแล้ง (B) ภูมอ ิ ากาศกง ึ่ทะเลทราย (BS) ปร ิ มาณฝนนอย ู่ระหว ่ าง 250 –750 มิลลิเมตรต่อปี แบ ่ งย ่ อยออกไปตามพ ื น้ท ี่ท ี่อย ู่โดยรอบทะเลทราย คือ อย ู่รอบทะเลทรายเขตร ้ อน (BSh) และอย ู่รอบ ทะเลทรายเขตอบอ ุ่น (BSk) ภูมอ ิ ากาศแบบทะเลทราย (BW) มีปริมาณฝนนน้อยกว่า 250 มิลลิเมตรต่อปี ส่วนมากพบ อย ู่ทางตอนในของภาคพ ื น้ทวปี แบ ่ งย ่ อยออกเป็ น ภูมอ ิ ากาศแบบทะเลทรายเขตร ้ อน (BWh) และ ภูมอ ิ ากาศแบบทะเลทรายเขตอบอ ุ่น (BWk) 21 2.2การเปลย ี ่ นแปลงทางกายภาพทส ี ่ ่ งผลต ่ อภ ู มอ ิ ากาศ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
กล ่ ุ มภ ู ม ิ อากาศ เขตภ ู ม ิ อากาศ ลักษณะ 3. กล ุ่มภูมอ ิ ากาศ แห้งแล้ง (B) ภูมอ ิ ากาศอบอ ุ่นช ื้นตลอด ปี (Cfa) มีฝนนตกกระจายตลอดปีเด ื อนท ี่ฝนนตกน ้ อยท ี่สุดมี ปริมาณฝนนมากกว่า 30 มล ิ ลเ ิ มตร มอ ีุณหภูมข ิ อง อากาศบางเดือนที่แตกต่างกัน ภูมอ ิ ากาศอบอ ุ่นช ื้นชายฝนั่ง ตะวันตก(Cfb) ปร ิ มาณฝนนสูงในฤดูร ้ อน ประมาณ 1,000–2,000 มล ิ ลเ ิ มตรต ่ อปี มห ีิ มะตกในฤดูหนาว และอุณหภูมใิ น เด ื อนท ี่ร ้ อนท ี่สุดตา ่กว ่ า 22 องศาเซลเซียส ภูมอ ิ ากาศแบบ เมดิเตอร์เรเรียน (Cs) มปี ร ิ มาณฝนนสูงในฤดูหนาว มอ ีุณหภูมข ิ องอากาศบาง เดือนที่แตกต่างกัน 22 2.2การเปลย ี ่ นแปลงทางกายภาพทส ี ่ ่ งผลต ่ อภ ู มอ ิ ากาศ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
กล ่ ุ มภ ู ม ิ อากาศ เขตภ ู ม ิ อากาศ ลักษณะ 4. กล ุ่มภูมอ ิ ากาศ หนาวชื้นใน เขตละตจ ิูด กลาง (D) ภูมอ ิ ากาศช ื้นภาคพ ืนทวีป้ (Df) มีฝนนตกกระจายตลอดปีมอ ีุณหภูมข ิ องอากาศบาง เดือนที่แตกต่างกัน แบ่งย่อยเป็ น Dfa, Dfb, Dfc, และ Dfd ภูมอ ิ ากาศกง ึ่อาร ์ กตก ิ (Dw) มอ ีุณหภูมข ิ องอากาศบางเด ื อนท ี่แตกต ่ างกนัแบ่งย่อย เป็ น Dwa, Dwb, Dwc, และ Dwd 5. กล ุ่มภูมอ ิ ากาศ ขั้วโลกหรือ น ้าแข็ง (E) ภูมอ ิ ากาศแบบทุนดรา (ET) พบใกล้ขั้วโลก มน ี า้แข ็ งปกคลุมเก ื อบตลอดปี เดือนที่มี อุณหภูมร ิ้ อนท ี่สุดตา ่กว ่ า 10 องศาเซลเซียส แต่ไม่ถึง จุดเย ื อกแข ็ ง ภูมอ ิ ากาศแบบพ ื ดน า้แข็ง (Dw) พบบร ิ เวณข้ัวโลก มน ี า้แข ็ งปกคลุมตลอดปี อณุหภูม ิ เด ื อนท ี่ร ้ อนท ี่สุดตา ่กว ่ าจุดเย ื อกแข ็ ง 23 2.2การเปลย ี ่ นแปลงทางกายภาพทส ี ่ ่ งผลต ่ อภ ู มอ ิ ากาศ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
2.2.3 สาเหต ุ การเปล ี่ยนแปลงทางกายภาพท ี่ส ่ งผลต ่ อภ ู มอากาศ ิ คาร์บอนไดออกไซด์ มีเทน ไนตรัสออกไซด์ CO2 CH4 N2O 24 2.2การเปลย ี ่ นแปลงทางกายภาพทส ี ่ ่ งผลต ่ อภ ู มอ ิ ากาศ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
ท าให้เกิดก๊าซชนิดต่าง ๆ ลอยขึ้นส ่ ู ช ้ ั น บรรยากาศ ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงและเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งส่งผลให้สภาพ ภ ู ม ิ อากาศเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะจากการปะท ุ ของภ ู เขาไฟ 25 2.2การเปลย ี ่ นแปลงทางกายภาพทส ี ่ ่ งผลต ่ อภ ู มอ ิ ากาศ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
การปะท ุ ทร ี ่ ุ นแรงของภ ู เขาไฟ ส ่ งผลให ้ เถ ้ าธ ุ ลแ ี ละก ๊ าซชน ิ ดต ่ าง ๆ ลอยขน ึ ้ ส ่ ู บรรยากาศ เถ้าถ่านและเศษหิน ชั้นสแตรโตสเฟี ยร์ รวมทั้งแพร่กระจายออก ไปเป็ นบริเวณกว้างและลอย อย ่ ู เป็ นเวลานาน บดบังรังสี จากดวงอาทิตย์ที่แผ่มายังพื้นโลก 26 2.2การเปลย ี ่ นแปลงทางกายภาพทส ี ่ ่ งผลต ่ อภ ู มอ ิ ากาศ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
เมื่อเถ ้ าธ ุ ลแ ี ละก๊าซชนิดต่าง ๆ ที่ลอยอย ่ ู ในอากาศจางลงและปล ่ อยให้ รังสีจากดวงอาทิตย์แผ่ลงมายังพื้นโลกมากขึ้น ท าให ้ อณ ุ หภ ู มข ิ องโลกส ู งขน ึ ้ น า ้ แขง ็ ละลาย โลกเข ้ าช ่ วงอบอ ่ น ุ ท าให ้ อ ุ ณหภ ู ม ิ ของโลก ลดลงจนเก ิ ดย ุ คน ้ าแข ็ ง 27 2.2การเปลย ี ่ นแปลงทางกายภาพทส ี ่ ่ งผลต ่ อภ ู มอ ิ ากาศ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
28 2.2การเปลย ี ่ นแปลงทางกายภาพทส ี ่ ่ งผลต ่ อภ ู มอ ิ ากาศ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
ดังนั้นเมื่อก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้นจะ ท าให้การสะสมของรังสีความร้อนใน ชั้นบรรยากาศมีมากขึ้นจนเกินสมด ุ ล ส่งผลให้อ ุ ณหภ ู ม ิ ของโลกส ู ง ขึ้นจนเกิดปัญหาภาวะโลกร้อน ปรากฏการณ์เรือนกระจก (greenhouse effect) ก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศโดยเฉพาะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ด ู ดซับรังสีความร้อนที่สะท้อนมาจากพื้นโลกท าให้เกิด การสะท้อนความร้อนบนพื้นโลกมากขึ้น CO2 29 2.2การเปลย ี ่ นแปลงทางกายภาพทส ี ่ ่ งผลต ่ อภ ู มอ ิ ากาศ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
เกิดจากจ ุ ดด ั บบนดวงอาทิตย์ เมื่อเก ิ ดจ ุ ดด ั บขึ้น บนดวงอาท ิ ตย ์ บร ิ เวณจ ุ ดด ั บม ี อ ุ ณหภ ู ม ิ ต ่ากว ่าบริเวณ โดยรอบ ส่งผลต่อการแผ่รังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์ มายังพื้นโลก ถ้าจ ุ ดด ั บมาก ท าให้การแผ่รังสีความร้อน จากดวงอาท ิ ตย ์ ลดลงอ ุ ณหภ ู ม ิ ของโลกก ็ ลดลงด้วย 30 2.2การเปลย ี ่ นแปลงทางกายภาพทส ี ่ ่ งผลต ่ อภ ู มอ ิ ากาศ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
ค.ศ1940–1960 มีค ่ าจ ุ ดดบ ั ส ู ง มากท าให ้ อ ุ ณหภ ู มผ ิ ว ิ น า้ทะเล ของโลกมีค่าลดลง ค.ศ. 1980 จ ุ ดดบ ั มจ ี า นวนลดลง ท าให ้ อ ุ ณหภ ู มข ิ องโลกเพม ิ่ข ึ น้อย ่ างต ่อเนื่อง การเปล ี่ยนแปลงของจ ุ ดด ั บบนดวงอาท ิ ตย ์ ม ี วฏ ั จ ั กรในการเก ิ ดท ุก ๆ 11 ปี 31 2.2การเปลย ี ่ นแปลงทางกายภาพทส ี ่ ่ งผลต ่ อภ ู มอ ิ ากาศ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
ม ิ ล ู ต ิ น มิลานโควิทซ์(MilutinMilankovitch) นักวิทยาศาสตร์ชาวเซอร์เบียได้ศึกษาตัวแปร 3 ประการ ที่ท าให้เกิดการผันแปรวงโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ เรียกว่า วัฏจักรมิลานโควิทช์(Milankovitchcycles) ซึ่ง 3 ลักษณะ ได้แก่ 32 2.2การเปลย ี ่ นแปลงทางกายภาพทส ี ่ ่ งผลต ่ อภ ู มอ ิ ากาศ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
การสายของแกนโลกคล ้ ายถ ู กล ู กข ่ าง ซ ึ่งท าให้โลกหม ุ น ช้าลง มีผลโดยตรงต่อการกระจายของรังสีความร้อน จากดวงอาท ิ ตย ์ บนพ ื น ้ โลกในท ุ กๆ 21,000 ปี การผันแปรทั้ง 3ลักษณะ ส่งผลต่อรังสีความร้อนที่โลก ได้รับจากดวงอาทิตย์ ซึ่งท าให้ ภ ู ม ิ อากาศของโลกเก ิ ดการ เปลี่ยนแปลง ค่าความรีของแนววงโคจรโลกรอบดวงอาทิตย์ ลดลงในท ุ กๆ 100,000 ปี การแปรผ ั นแปรการเอ ี ยงของแกนโลกท ี่ท าม ุ มกับ ระนาบวงโคจรระหว่าง 22.5–24.5 องศา ในท ุ กๆ 41,000 ปี 1 2 3 33 2.2การเปลย ี ่ นแปลงทางกายภาพทส ี ่ ่ งผลต ่ อภ ู มอ ิ ากาศ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
34 1. ปร ิ มาณฝนนอย ่ ู ระหว ่ าง250–750 มิลลิเมตรต่อปี แบ่งย่อยออกไป ตามพ ื น ้ ท ี่ท ี่อย ่ ู โดยรอบทะเลทราย 2. ม ีฝนนตกกระจายตลอดปี เด ื อนท ี่ฝนนตกน ้ อยท ี่ส ุ ดม ีปร ิ มาณฝนนมากกว่า 30 ม ิ ลล ิ เมตร ม ี อ ุ ณหภ ู ม ิ ของอากาศบางเด ื อนท ี่แตกต ่ างก ั น 3. ม ีปร ิ มาณฝนนส ู งในฤด ู หนาว ม ี อ ุ ณหภ ู ม ิ ของอากาศบางเด ื อนที่ แตกต่าง Cs Bs Cfa 4. ม ีปร ิ มาณฝนนมาก ปร ิ มาณฝนนเด ื อนท ี่น ้ อยท ี่ส ุ ดมากกว ่ า30 มิลลิเมตร Af Bs Cs Cfa Af กิจกรรม หากันจนเจอ
การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ ที่ส่งผลต่อทรัพยากรธรรมชาติ 35 2. การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพท ี่ส ่ งผลต ่ อภ ู มปิ ระเทศ ภ ู มอ ิ ากาศ และทร ั พยากรธรรมชาติ 2.3 การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่ส่งผลต่อทรัพยากรธรรมชาติ
1. การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่ส่งผลต่อทรัพยากรดิน ด ิ นเป็ นวต ั ถ ุ ธรรมชาต ิ ท ี่ม ี การเปล ี่ยนแปลงอย ่ ู ตลอดเวลาข ึ น ้ อย ่ ูกับปัจจัยต่าง ๆ ปัจจัยทางกายภาพที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลง และพัฒนาการของดินมี 5 ประการ ได้แก่ วต ั ถ ุ ต ้ นก าเน ิ ดดิน เวลา ลักษณะ ภ ู ม ิประเทศ ภ ู ม ิ อากาศ ชีวปัจจัย 36 2.3 การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่ส่งผลต่อทรัพยากรธรรมชาติ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
เกิดจากการผ ุ พง ั สลายของ หินหรือแร่ประกอบหิน เช่น หินแกรนิต หินทราย ห ิ นป ู น ท ้ ั งจากการผ ุ พัง สลายอย ่ ู ก ั บท ี่และจับตะกอน ที่ถ ู กเคล ื่อนย ้ ายมาจากแหล่งอื่น ท าให้ดินมีความแตกต่างกันทั้งเนื้อดิน สีดิน ชนิด และปริมาณของธาต ุ อาหารในดิน 1.1 วต ั ถ ุ ต ้ นก าเน ิดดิน 37 2.3การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่ส่งผลต่อทรัพยากรธรรมชาติ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
1.2ลักษณะ ภ ู ม ิประเทศ – ด ิ นในเขตท ี่ลาดเช ิ งเขา ม ั กถ ู กน ้ าชะล ้ างหน ้ าด ิ นได ้ มากกว ่ า ด ิ นช ้ ันบนจึงบางหรือ อาจไม่มีเลย – ด ิ นกลายเป็ นด ิ นต ื ้ น แต ่ ด ิ นถ ู กน ้ าชะล ้ างพด ั พาลงมาท ั บถมในเขตท ี่ราบ ซึ่งท าให้ ในเขตท ี่ราบม ี ด ิ นช ้ ั นบนหนา ม ี ด ิ นล ึ กกว ่ าและม ี อ ิ นทร ี ยวต ั ถ ุ และความชื้นมากกว่า ล ั กษณะภ ู ม ิประเทศท ี่ม ี ผลต ่ อการพฒ ั นาของด ิ น ค ือ ระดับ ความส ู ง–ต ่าของภ ู ม ิประเทศท ี่แตกต ่ างกัน 1. ความลาดช ั นของพ ื น ้ ท ี่จากท ี่ส ู งลงส ่ ู ที่ต ่า 2. เป็ นล ั กษณะท ี่ควบค ุ มการไหลของน ้ าท ี่ม ี ผลต ่ อการชะล ้ างหน ้าดิน เช่น ส่งผลให้เกิด 38 2.3การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่ส่งผลต่อทรัพยากรธรรมชาติ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
วต ั ถ ุ ต ้ นก าเน ิ ดด ิ นเป็ นห ิ นทรายท ี่ม ี แร ่ ส ่ วนใหญ ่ ม ี ส ี จางเป็ นองค ์ประกอบ เม ื่อเก ิ ดการผ ุ พง ั สลายตัวและพัฒนาเป็ นดินท าให้ได้ ถ ้ าวต ั ถ ุ ต ้ นก าเน ิ ดด ิ นเป็ นห ิ นป ู น หินบะซอลต์ที่มีแร่ส่วนใหญ่ที่มีสีเข้มเป็ นองค์ประกอบ เม ื่อเก ิ ดการผ ุ พง ั สลายต ั วและพฒ ั นาเป็ นด ิ นท าให ้ได ้ ด ิ นเน ื ้ อละเอ ี ยด ม ีสีด า น ้าตาล เหลือง หร ื อแดง ม ี ความอ ุ ดมสมบ ู รณ ์ ต ้ ั งแต ่ น ้ อยไปจนถ ึ งมาก ดินเนื้อ หยาบ มีสีจาง ธาต ุ อาหารน้อย ไม่ค่อย สมบ ู รณ ์ 39 2.3การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่ส่งผลต่อทรัพยากรธรรมชาติ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
นอกจากนี้ บริเวณยอดเขา ดินเกิดการชะล้างได้ง่าย ท าให้ชั้นดินบนบาง การพัฒนาเกิดในดินชั้นล่างมากกว่า ขณะที่อ ุ ณหภ ู ม ิ บนยอดเขา ท าให ้ เก ิ ดพ ื ชพน ั ธ ์ ุ ธรรมชาต ิ ท ี่แตกต ่ างจากด ิ นบร ิ เวณเช ิ งเขา ด้านล่าง ส่งผลให้ดินมีอ ิ นทร ี ยวต ั ถ ุ จากพืชพน ั ธ ์ ุ ธรรมชาติที่แตกต่างจากดินบริเวณเชิงเขา ด้านล่างเช่นกัน 40 2.3การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่ส่งผลต่อทรัพยากรธรรมชาติ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
1. การผ ุ พง ั สลายต ั วของวต ั ถ ุ ต ้ นก าเนิด 2. การย่อยสลายของสิ่งมีชีวิต ท าให้ดินมีพัฒนาการแตกต่างกัน เช่น ในเขตภ ู ม ิ อากาศร ้ อนช ื ้ น ฝนนตกช ุ ก อ ุ ณหภ ู ม ิ ส ู งเก ิ ดการชะล ้ างแร ่ ธาต ุ ในดินชั้นบน ลงไปสะสมอย ่ ู ในด ิ นช ้ ั นล่างท าให ้ ด ิ นช ้ ั นบนม ี ความอ ุ ดมสมบ ู รณ ์ต ่า ปัจจัยส าคัญต่อพัฒนาการของด ิ น ค ื ออ ุ ณหภ ู ม ิ และปริมาณฝนน ส่งผลต่อ 1.3 ภ ู มอ ิ ากาศ ด ั งน ้ ั นในแต ่ ละเขตภ ู ม ิ อากาศจะม ี อ ั ตราการสลายต ั วและย ่ อยสลายท ี่แตกต่างกัน 41 2.3การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่ส่งผลต่อทรัพยากรธรรมชาติ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
1.4 ชีวปัจจัย ได้ แก่ สิ่ งมีชี วิตทั้ งพืชและสั ตว์ เมื่อตายและย่ อมสลาย จะกลายเป็ นอ ิ นทร ี ยว ั ตถ ุ สะสมในด ิ น แต ่ ละเขตภ ู ม ิ อากาศ มีปัจจัยทางชีวะแตกต่างกัน จ ึ งส ่ งผลต ่ อพ ั ฒนาการและความอ ุ ดมสมบ ู รณ ์ ของด ิ น แตกต ่ างก ั น เช ่ น ด ิ นในเขตภ ู ม ิ อากาศแบบท ่ ุ งหญ้าสเตปป์ ในฤด ู แล ้ งซากพ ื ชจะสลายต ั วเป็ นอ ิ นทร ี ยว ั ตถ ุ ในด ินท าให้ ด ิ นช ้ ั นบนม ี ความอ ุ ดมสมบ ู รณ ์ ข ึ น ้ 42 2.3การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่ส่งผลต่อทรัพยากรธรรมชาติ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
เม ื่อด ิ นได ้ ร ั บอ ิ ทธ ิ พลจากปั จจ ั ยต ่ างๆ ท ้ ั งวต ั ถ ุ ต ้นก าเนิดดิน ล ั กษณะภ ู ม ิประเทศ ภ ู ม ิ อากาศ และช ี วปั จจ ั ยแล ้ ว 1.5 เวลา ชีวปัจจัย เวลาที่ด าเนินไปช่วยให้เกิดกระบวนการ ในการพัฒนาชั้นดิน เกิดกระบวนการ ในการพัฒนาชั้นดิน 43 2.3การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่ส่งผลต่อทรัพยากรธรรมชาติ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
– ในช ่ วงระยะเวลาแรกจะม ี ล ั กษณะเป็ นวต ั ถ ุ ต ้ นก าเน ิ ดด ิ นท ี่เกด ิ จากการผ ุ พง ั อย ่ ู ก ั บท ี่หร ื อถ ู กพด ั พามา – ต ่ อมาด ิ นจ ึ งเร ิ่มพฒ ั นาเป็ นด ิ นช ้ ั นบน ม ี อ ิ นทร ี ยวต ั ถ ุ ต ้ นก าเนิดดินที่เกิดจาก การย่อยสลายของซากพืชและซากสัตว์ – ก ่ อนท ี่ในระยะส ุ ดท ้ ายเก ิ ดการพฒ ั นาเป็ นด ิ นช ้ ั นล ่ างการพฒ ั นาชั้นดินจน สมบ ู รณ ์ อาจใช ้ ระยะเวลายาวนานหลายพน ั ปี ข ึ น ้ อย ่ ู ก ั บอ ิ ทธ ิ พลของปัจจัย ต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้น 44 2.3การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่ส่งผลต่อทรัพยากรธรรมชาติ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
2. การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่ส่งผลต่อทรัพยากรน ้า ในแต่ละพื้นที่ของโลกมีปริมาณทรัพยากรน ้าที่มากหรือน้อย แตกต่างกันไป เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพขึ้น มักท าให้ปริมาณทรัพยากรน ้าเกิดความเปลี่ยนแปลงไป บริเวณที่มีทรัพยากรน ้าน้อย เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลง ทางกายภาพท าให้มีทรัพยากรน ้ามากขึ้น เช่น กรณีการเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ (El Niño) 45 2.3การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่ส่งผลต่อทรัพยากรธรรมชาติ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
ท าให้บริเวณนี้ มีอ ุ ณหภ ู มส ิ ู งและ มีฝนนตกมากกว่าปกติ ส่งผลให้มีทรัพยากร น ้ามากขึ้น อเมริกาเหนือ ชุ่มช ื้นมากกว่าปกติ ฝนนตกน้อยกว่าปกติ ออสเตรเลีย เอเซีย ความกดอากาศสูงขนึ้ กระแสศูนย ์ สูตรสวนทาง ความกดอากาศต ่าลง น า้อ่นุ เอกวาดอร์ เปรู ชิลิ กระแสน า้เยน็เปรูอ่อนกา ลงั ซึ่งเกิดจากลมค้าตะวันออกเฉียงใต้ใน มหาสม ุ ทรแปซ ิฟิ กเขตร้อนอ่อนก าลังลง ท าให ้ กระแสน า ้ อ ่ ุ นจากศ ู นย ์ ส ู ตรไหลเข ้ ามาแทนท ี่กระแสน ้าเย็น เปร ู บริเวณชายฝนั่งตะวันตกของทวีปอเมริกาใต้ ส่วนบริเวณชายฝนั่งประเทศอินโดนีเซียและทาง ตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศออสเตรเลีย มีความกดอากาศส ู งข ึ น ้ ท าให้ฝนนตก น้อยลง ซึ่งเก ิ ดจากลมค ้ าตะว ั นออกเฉ ี ยงใต ้ในมหาสม ุ ทรแปซ ิฟิ กเขตร้อนอ่อน ก าล ั งลง ท าให ้ กระแสน ้ าอ ่ ุ นจากศ ู นย ์ ส ู ตรไหลเข ้ ามาแทนท ี ่กระแสน ้า เย ็ นเปร ู บร ิ เวณชายฝนั ่ งตะว ั นตกของทว ีปอเมร ิ กาใต ้ ท าให ้ บร ิ เวณนี้ มีอ ุ ณหภ ู ม ิ ส ู งและม ีฝนนตกมากกว ่ าปกต ิ ส ่ งผลให ้ ม ี ทร ั พยากรน ้ามากขึ้น ส่ วนบริเวณชายฝนั่งประเทศอินโดนีเซียและทางตะวันออกเฉียงเหนือ ของประเทศออสเตรเลย ี ม ี ความกดอากาศส ู งขน ึ ้ ท าให ้ฝนนตกน ้ อยลง 46
ขณะเดียวกันบริเวณที่มีทรัพยากรน ้ามากหรือมีอย่าง เพียงพอต่อการด ารงชีวิต เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลง ทางกายภาพท าให้มีทรัพยากรน ้าน้อยลง เช่น กรณีการเกิดปรากฏการณ์ ลานีญา (La Niño) ซึ่งลานีญามักเกิดจากการเกิดเอลนีโญ 47 2.3การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่ส่งผลต่อทรัพยากรธรรมชาติ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
ลมค ้ าตะวน ั ออกเฉ ี ยงใต ้ในมหาสม ุ ทรแปซ ิฟิ กเขตร ้ อนพด ั พาน ้ าอ ่ ุ นจาก ทางด ้ านตะวน ั ออกของมหาสม ุ ทรไปสะสมต ั วอย ่ ู ทางด ้ านตะวน ั ตก ท าให้บริเวณชายฝนั่งตะวันออกของประเทศอินโดนีเซียและทาง ตะวน ั ออกเฉ ี ยงเหน ื อของประเทศออสเตรเล ี ยม ี อ ุ ณหภ ู ม ิ ส ู งกว ่าปกติ ส่งผลให้เกิดฝนนตก มากข ึ น ้ ร ุ นแรงข ึ น ้ ขณะที่บริเวณชายฝนั่ง ทางด้านตะวันตกของ ทวีปอเมริกาใต้มี กระแสน า้เยน ็ เปร ู กา ลัง แรงไหลเข ้ ามาปกคล ุ ม ท าให ้ อ ุ ณหภ ู ม ิ ผ ิวน ้า ทะเลลดลง และเกิด ความแห้งแล้งมาก เกิดจากลมค ้ าตะว ั นออกเฉ ี ยงใต ้ในมหาสม ุ ทรแปซ ิฟิ กเขตร ้ อนพัดพา น ้ าอ ่ ุ นจากทางด ้ านตะว ั นออกของมหาสม ุ ทรไปสะสมต ั วอย ่ ู ทางด้าน ตะวันตก ท าให้บริเวณชายฝนั่งตะวันออกของประเทศอินโดนีเซียและ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศออสเตรเล ี ยม ี อ ุ ณหภ ู ม ิ ส ู งกว่า ปกต ิ และส ่ งผลให ้ เก ิ ดฝนนตกมากข ึ น ้ ร ุ นแรงข ึ น ้ ขณะท ี ่ บร ิเวณชายฝนั่ง ทางด ้ านตะว ั นตกของทว ีปอเมร ิ กาใต ้ ม ี กระแสน ้ าเย ็ นเปร ู ก าลังแรง ไหลเข ้ ามาปกคล ุ ม ท าให ้ อ ุ ณหภ ู ม ิ ผ ิ วน ้ าทะเลลดลง และเก ิ ดความ แห้งแล้งมาก ปรากฏการณ์ลานีญามักเกิดจากการเกิดเอลนีโญ 48
3. การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่ ส่งผลต่อพืชพรรณธรรมชาติ การเปล ี่ยนแปลงของชน ิ ดหร ื อช ุ มน ุ มใน ระบบนิเวศตามเวลา เริ่มจากการพัฒนาของสังคม สิ่งมีชีวิตใหม่แทนที่สังคมสิ่งมีชีวิตเดิม เรียกว่า 3.1การแทนที่ขั้นต้นหรือการแทนที่ชั้นบ ุ กเบ ิ ก 3.2 การแทนที่ขั้นที่สองหรือการแทนที่ขั้นทดแทน กระบวนการแทนที่ (succession) กระบวนการแทนที่ของ สิ่งมีชีวิตแบ่งได้เป็ น 2 ประเภท คือ 49 2.3การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่ส่งผลต่อทรัพยากรธรรมชาติ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
3.1 การแทนท ี่ข ้ ั นต ้ นหร ื อการแทนท ี่ช ้ ั นบ ุ กเบ ิ ก(primary succession) เม ื่อความอ ุ ดมสมบ ู รณ ์ ของธาต ุ อาหารในด ิ นม ี มากข ึ น ้ ท าให ้ เก ิ ดส ิ่งม ี ช ี วต ิ กล ่ ุ มแรกเช ่ น ไลเคน จากน ้ ั นจะเก ิ ดพ ื ชจ าพวกมอส หญ ้ า พ ื ชล ้ มล ุ ก ไม้พ ่ ุ ม จนกระท ั่งในท ี่ส ุ ดเก ิ ดเป็ นส ั งคมพ ื ช เป็ นการแทนท ี่พ ื น ้ ท ี่ท ี่ไม ่ เคยปรากฏส ิ่งม ี ช ี วต ิใด ๆ มาก ่ อน เช ่ น บร ิ เวณภ ู เขาไฟปะท ุ ใหม ่ การเกิดแหล่งน ้าใหม่ลานหิน ต่อมาหินนั้นจะเริ่มกร่อน เนื่องจากความชื้นและสิ่งมีชีวิต ท าให ้ เก ิ ดอน ุ ภาคของด ิ นและสารอ ิ นทร ี ย ์ ของซากส ิ่งม ี ช ี วต ิ สะสมเพม ิ่ข ึ น ้ 50 2.3การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่ส่งผลต่อทรัพยากรธรรมชาติ 2. การเปลย ี่นแปลงทางกายภาพท ี่ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ