The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kebom2547, 2022-02-23 10:43:01

มิตรภาพต่างสายพันธ์ุ

เล่มเล็กไทย

มิตรภาพต่าง
สายพันธุ์

คำนำ

หนังสืออ่านนอกเวลา “มิตรภาพต่างสายพันธุ์” เล่มนี้
เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาภาษาไทย ท๓๒๑๐๒ โดยมีเนื้อหา
เกี่ยวกับเรื่องราวแห่งมิตรภาพ ที่เรียกว่า มิตรภาพต่างสาย
พันธุ์

ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือมิตรภาพต่างสาย
พันธุ์เล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกท่าน ขอขอบคุณ
เจ้าของข้อมูลด้านหนังสือที่มีส่วนช่วยในการจัดทำ หากมีข้อ
ผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำขอน้อมรับและต้องขออภัยมา ณ
โอกาสนี้

ณัฐมิกา หนูสิงห์
ผู้จัดทำ

สารบัญ

๑ กองไฟ ๓๖ บางความทรงจำที่ภูเขียว
๓ นกในดวงใจ ๓๙ ป่าและความเชื่อ
๖ มิตรภาพ ๔๒ เสียงเรียก
๘ หนทางข้างหน้า ๔๔ เดินทาง
๑๑ ภูเขา ๔๘ ลูกผู้ชาย ใบไม้ และป่าทึบ
๑๔ เสือดาวกับรั้ว ๕๒ เสือนอกกรง
๑๗ ชะตากรรมของนักล่า ๕๔ เสือในวัด
๑๙ บทเพลงของพฤกษ์ไพร ๕๖ ข้างหลังช้าง
๒๒ ซือดะ ๕๘ สัตว์ป่าและการถ่ายภาพ
๒๕ ตรีมอกาเซะ ๖๑ หลังเลนส์ในดงลึก
๒๗ คนกับช้าง ๖๔ กล้องกับรถ
๒๙ เราและเธอ ๖๖ บรรณานุกรม
๓๑ อีกฟากหนึ่งของภูเขา
๓๔ บนยอดดอย

กองไฟ

-๒-

เพื่อนที่ดีที่สุดของคนเดินป่าสิ่งหนึ่งก็คือ “กองไฟ” ไม่ว่า
จะอยู่ในป่าเป็นหมู่คณะหรือเพียงลำพัง ดูเหมือนว่าความรู้สึก
เปล่าเปลี่ยวจะมลายหายไปได้ เมื่อนั่งลงใกล้ๆมองดูเปลวไฟร่ายรำ

หากเดินทางเป็นหมู่คณะ นี่ย่อมเป็นช่วงเวลาที่จะทำความรู้จัก
กันและกันในระหว่างเพื่อนร่วมทาง

สามปีที่ผ่านมา ผมทำงานและใช้เวลาเกือบทั้งหมดอยู่ในป่า
ห้วยขาแข้ง หลายครั้งขณะนั่งมองเปลวไฟร่ายรำ ผมหวนคิดถึง
บรรพบุรุษตั้งแต่สมัยยังอาศัยอยู่ตามถ้ำ พวกเขาก็คงนั่งมอง เปลว
ไฟในยามค่ำคืนเช่นกัน

ขณะที่นั่งมองเปลวไฟ ผมรู้สึกได้เสมอว่าผมไม่ได้อยู่ในป่า
เพียงเพื่อทำความรู้จักกับนกหรือสัตว์ป่าสิ่งเหล่านี้รวมถึงภาพที่
บันทึกได้ มันดูคล้ายเป็นเพียงผลพลอยได้เท่านั้น

สิ่งสำคัญดูเหมือนว่าชีวิตในป่าต่างหากที่สอนให้ผมรู้ถึงความ
หมายบางส่วนของชีวิต

การอยู่ในป่าไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยาก ไม่ใช่เรื่องขอ'อุปกรณ์รุงรัง
แต่การอยู่ในป่าแบบวิถีดั้งเดิม อาจทำให้รู้ว่าการปรับตัวเพื่อให้มีชีวิต
อยู่รอด ไม่ใช่เรื่องยากเย็นนัก

ความลำบากอาจอยู่ที่การมีชีวิตอยู่

นกในดวงใจ

-๔-

ผมเคยบอกเอาไว้ว่า นกในดวงใจของผมคือ “นกอีโก้ง”
ผมรู้สึกเช่นนี้เมื่อมีโอกาสมองนกอีโก้งผ่านเทเลสโคปกำลังขยาย
20 เท่า เป็นครั้งแรก ณ บริเวณทุ่งนาแห่งหนึ่งใกล้ๆอำเภอปะทิว
จังหวัดชุมพร

วินาทีแรกที่เห็น เป็นการพบเห็นซึ่งผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าใน
โลกนี้มีนกสีม่วง รวมทั้งไม่เคยรู้มาก่อนเช่นกันว่า นกธรรมดา ๆ
หากมองผ่านเลนส์ขยายแล้วจะสวยงามถึงเพียงนี้

ผมก้าวเท้าออกจากชีวิตในกรอบแปดโมงเช้าถึงห้าโมงเย็น
จากรอบรั้วโรงงานอุตสาหกรรม มาดำเนินชีวิตตามที่อยากเป็นได้
เพราะการ “ดูนก”

ทุก ๆ ครั้งที่เห็นนกอีโก้ง เหตุการณ์ตอนที่เห็นนกชนิดนี้
ครั้งแรกจะแวบเข้ามา และผมจะบอกใคร ๆ เสมอว่า นี่แหละนกใน
ดวงใจ

ต่อมานอกจากกล้องสองตาและเทเลสโคป ในมือของผมมี
กล้องถ่ายรูป สิ่งนี้มันทำให้ผม “ดูนก” น้อยลงทั้ง ๆ ที่ใช้เวลาอยู่ใน
ป่ามากขึ้น พบเห็นชนิดของนกน้อยลง แต่ผมรู้สึกว่าได้รู้จักนกชนิด
ที่หาดูได้ง่ายๆ มากขึ้น

ไม่เพียงแต่เฉพาะนก การที่ใช้เวลาเกือบทั้งหมดที่มีอยู่ในป่า
ทำให้ผมมีเวลาอยู่กับสัตว์ป่าหลากหลายชนิด

-๕-

๑๐ กว่าปีที่แล้ว ผมเริ่มต้นการเป็นช่างภาพสัตว์ป่าแต่ถึงที่
สุดแล้ว ดูเหมือนว่าสิ่งที่ผมได้รับรู้จะมีค่ามากกว่าภาพสัตว์ป่าคล้าย
จะเป็นเพียงแค่ผลพลอยได้

ถึงวันนี้ หากมีคำถามถึงนกในดวงใจ ผมจะตอบอย่างมั่นใจ
ว่า “ไม่มีหรอก” ความหมายของมันก็คือ ผมไม่ได้ยิ่งใหญ่พอที่จะ
เป็นเจ้าของสิ่งใดได้ แม้แต่จะเก็บไว้ในใจ

มิตรภาพ

-๗-

ชาวบ้านแถบอำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส เรียกผู้ชาย
ซึ่งสูงวัยกว่าด้วยความเคารพว่า “แบ” อันมีความหมายในภาษา
ยาวีว่า “พี่ชาย” นำหน้าชื่อของผู้ชายคนนั้น

ย้อนหลังกลับไปสัก ๑๐ ปี นอกจากทำสวนลองกอง เงาะ
มังคุด และยางพาราแล้ว งานที่ทำรายได้เป็นอย่างดีให้กับแบมุคือ
การจับลูกนกไปขาย

ลูกนกเงือกหัวแรด นกชนหิน นกเงือกหัวหงอกเหล่านี้ แบมุ
นำไปขายให้พ่อค้าในอำเภอตันหยง ได้ราคาตัวละไม่ต่ำกว่า ๑,๐๐๐
บาท หากพูดให้ถูกคงต้องพูดว่า มันเป็นวิธีการที่ง่ายดายจนกระทั่ง
เขาลืมความรู้สึกของความเป็นพ่อ พ่อซึ่งออกไปหาอาหารด้วยความ
เหน็ดเหนื่อย และกลับมาพบโพรงอันว่างเปล่า

แบมุในวัย ๕๖ เข้าร่วมเป็นสมาชิกโครงการช่วยเหลือเหล่า
นกเงือกบนเทือกเขาบูโด นั่นทำให้แบมุ อาจารย์พิไล และเจ้าหน้าที่
มูลนิธิวิจัยนกเงือกต่างก็เป็นมิตรที่ดีต่อกัน

สำหรับผู้ชายที่เลือกเดินไปตามหนทางที่ตั้งใจบนเส้นทางอัน
ว่างเปล่า การมี “แบ” คอยห่วงใย เส้นทางอันยาวไกลก็ดูคล้ายจะไม่
เงียบเหงาเท่าใดนัก

หนทางข้างหน้า

-๙-

ซากหรือร่างอันไร้ชีวิตของควายป่าตัวซึ่งมีน้ำหนักร่วม ๆ
ตันตัวนั้นนอนตะแคงอยู่ในลำห้วยที่ระดับน้ำลดลงจนกระทั่งเหลือ
เป็นร่องน้ำแคบ ๆ

ลักษณะลำห้วยในช่วงนี้ ด้านหนึ่งเป็นดงไผ่ซึ่งอยู่บนตลิ่งสูง
ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นหน้าผาชัน ดงหญ้าใต้หน้าผามีร่องรอยหญ้า
แหลกเป็นวงกว้าง

ร่องรอยที่พบทำให้ภาพของการล่าครั้งนี้ชัดเจนขึ้น เสือ
โคร่งไล่ล่าควายป่าตัวนี้ให้มาจนมุมอยู่ตรงบริเวณที่เขากำหนดไว้
หน้าผาชันเกือบ 90 องศาที่มีหญ้ารกๆ ปกคลุมไว้หนาทึบ ทำให้
ควายป่าตัวนี้พลาด ผมยืนมองซากสลับกับมองขึ้นไปบนหน้าผา
ขณะนึกยกย่องความเป็นเลิศของนักล่าตัวนี้อยู่ในใจ

สองปีที่แล้ว ในเวลาเกือบสามอาทิตย์ โดยใช้เวลาตั้งแต่หก
โมงเช้าถึงพลบค่ำ เขาไม่เคยปรากฏตัว แต่รุ่งเช้า เมื่อมาเข้าซุ้ม
บังไพร ผมก็พบร่องรอยกัดกิน และเสียงคำรามตอนใกล้รุ่ง ก็ทำให้
ดูราวกับว่านี่เป็นบททดสอบอย่างหนึ่ง

เราเดินไปตามด่านผ่านดงไผ่ร่มครึ้มอากาศเย็นยะเยือกดู
เหมือนว่าฤดูหนาวปีนี้ค่อนข้างรุนแรง

- ๑๐ -

จากดงไผ่เราผ่านลำห้วยสายเล็ก ๆ ซึ่งไหลลงลำห้วยสาย
ใหญ่ ริมลำห้วยซึ่งบัดนี้รกด้วยหญ้าแห้ง ๆ เป็นบริเวณที่เมื่อสองปี
ก่อนผมตั้งแคมป์ปักหลักอยู่นาน

ในคราวนั้น คงกล่าวได้ว่ามันไม่ใช่การรอคอยที่สูญเปล่า
เสียทีเดียว หมาในฝูงหนึ่งที่เข้ามากินซากทำให้ผมได้ภาพที่พอใจ
ไม่เพียงเท่านั้น หมาในที่เข้ามารุมล้อมซุ้มบังไพรด้วยท่าทางอยากรู้
อยากเห็น ทำเอาผมต้องกลับไปบอกสงค์ คนงานป่าไม้ซึ่งอยู่แคมป์
ในตอนกินข้าวเย็นว่าวันนี้ผมกลัวหมาในแทบตาย

หลังจากพบซากที่ตายด้วยเขี้ยวเล็บของเหล่านักล่า หลาย
ครั้งซากเหล่านั้นก็พอจะทำให้ผมได้รู้บ้างว่า ท้ายที่สุดเรากำลังมุ่ง
หน้าไปทางใด

จะว่าไปมนุษย์อาจต้องเดินเฉออกนอกเส้นทางบ้าง เพื่อจะ
ได้ “เห็น” ว่าสองฟากทางนั้นเป็นเช่นไร

ภูเขา

- ๑๒ -

ขณะเดินสู่ซุ้มบังไพรบนเทือกเขาบูโดเพื่อเฝ้าดูนกชนหิน
บนเส้นทางชัน อาแซเดินล่วงหน้าไปไกล ผมคิดถึงเพื่อนผู้เฒ่า
ชาวมูเซอดำ “จะปุ๊”

เมื่อเริ่มต้นเดินทาง รู้ว่าจุดหมายที่จะไปนั้นมันไกลแต่สักวัน
ย่อมไปถึง

ป่าในเทือกเขาบูโดอยู่ในบริเวณที่เรียกได้ว่าเป็นป่าดิบฝน
สภาพป่าเช่นนี้คือรกทึบและพื้นที่โดยส่วนใหญ่เป็นภูเขา ถึงแม้ว่า
เทือกเขาบูโดจะถูกล้อมรอบด้วยเมืองและหมู่บ้าน จนมีสภาพไม่ต่าง
ไปจากเกาะ

ในป่าดิบชื้นที่รกทึบ ดูเหมือนว่าดอกไม้และเห็ดสีสวย ๆ การ
เดินไปดูทำให้ผมออกนอกเส้นทางโดยไม่รู้ตัวอยู่เสมอ กว่าจะเดินไป
ถึงจุดที่อาแซนั่งสูบบุหรี่รออยู่ เวลาก็ผ่านไปนาน พูดได้ว่าเทือกบูโด
เกือบจะไม่มีทางราบ ๆ มีความแตกต่างกันเห็นได้ชัดอยู่ที่ในเที่ยวเดิน
กลับดอยม่อนจองนั้น ระหว่างการเดินขึ้นกับลงดูจะมีความเมื่อยล้า
เท่า ๆ กัน เพราะต้องขึ้น ๆ ลง ๆ

เมื่อกว่าสามปีที่ผ่านมา ผมทำงานชิ้นหนึ่งทำอย่างต่อเนื่อง
ด้วยจุดมุ่งหมายให้มันเป็นหนังสือภาพสัตว์ป่าที่ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตไป
กับฤดูกาลอันเปลี่ยนแปลง

- ๑๓ -

ณ วันที่เริ่มต้น ผมไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าจะมีสำนักพิมพ์ใดยอม
ทำงานที่ต้องใช้เงินทุนสูงเช่นนี้หรือไม่ พองานใกล้เสร็จผมจึงนำไป
เสนอ โชคดีที่งานชิ้นนี้ กลายเป็นหนังสือภาพสัตว์เล่มหนึ่ง

ฤดูหนาวนี้ ผมจะขึ้นไปบนดอยเพื่อบอกเขาว่าความเชื่อของ
เขาถูกต้อง แต่ผมจะเพิ่มเติมเหมือนเดิมว่า แท้จริงแล้วเราต้องแน่ใจ
ด้วยว่าจุดหมายมันอยู่บนภูเขาที่กำลังก้มหน้าเดินไปเรื่อย ๆ

ไม่เช่นนั้น มันไม่เพียงแต่เสียเวลา บางทีหนทางข้างหน้า มัน
อาจจะชันเกินกว่าจะลงมาได้

เสือดาวกับรั้ว

- ๑๕ -

สามปีที่แล้ว เสือดาวซึ่งนอนไล่จับผีเสื้อตัวหนึ่ง ไม่เพียง
ทำให้ผมได้เห็นภาพว่าขณะไม่ได้อยู่ในหน้าที่ นักล่าตัวหนึ่งเป็นเช่น
ไรเท่านั้น มันยังทำให้ผมเข้าใจได้มากขึ้นอีกด้วยว่า เราต่างล้วนมี
ชีวิตอยู่ภายในกรงและเป็นกรงที่เราสร้างมันขึ้นมาเอง

หลังจากการพบกันโดยบังเอิญระหว่างเสือดาวกับผม เราได้
มีโอกาสอยู่ใกล้ชิดกันเป็นเวลานาน เขาเงยหน้าไล่งับผีเสื้อสีเหลืองตัว
เล็ก ๆ ขณะผมพยายามบันทึกภาพ

เย็นวันนั้นที่แคมป์ค่อนข้างอบอุ่น ไม่ได้มีเพียงแค่ความเงียบ
สงัดและเสียงฟืนแตกปะทุ เพราะทีมสำรวจประชากรเสือโคร่งแวะเข้า
มาพักอยู่ด้วย

“วันนี้ตอนกลางวันเจอช้างหลายตัวมีลูกเล็ก ๆ ด้วย เจอใกล้
มากกำลังคาบหญ้าอยู่ ผมนั่งดูตั้งนาน” สุขุม หนึ่งในทีมสำรวจเสือ
คุย ที่จริงมันก็เป็นการ “เกทับ” เล็ก ๆ นั่นแหละ พวกเขาก็รู้ว่าผม
อยากได้ภาพอย่างนี้ และยังไม่ประสบผลสำเร็จ

ผ่านช่วงเวลานั้นมาหลายปี ผมเกิดรู้สึกว่า “กรง” นั้นกว้าง
ออกไปเหลือเป็นเพียงรั้ว ไม่เพียงเท่านั้น ผมก็รู้สึกได้ถึงความกว้าง
โล่งและหนทางเดินอันยาวไกลของพื้นที่อีกด้านหนึ่งของรั้ว

- ๑๖ -

ผมพบกับเขาในทุกสภาวะ ไม่ว่าจะเป็นขณะที่ทำงานอย่าง
เป็นผลสำเร็จ ขณะพักผ่อนหรือแม้แต่ขณะยอมรับความพ่ายแพ้
ต่อฝูงควายป่าที่ตั้งท่าเตรียมรับมือชนิดไม่ยอมจำนน

ในป่าเสือคือนักล่าหมายเลขหนึ่งมันทำงานเพียงลำพังอย่าง
โดดเดี่ยว รูปร่างลักษณะของเสือถูกออกแบบมาให้มีความเหมาะสม
กับการล่าเป็นอย่างยิ่ง

ผมไม่ค่อยแปลกใจนักที่เสือคงสัญลักษณ์ของความโหดร้าย
หวาดกลัวไว้ได้ตลอด

โดยข้อเท็จจริงหากได้เรียนรู้อุปนิสัยของเสือแล้วคงเข้าใจได้
ไม่ยาก ว่าเสือไม่ใช่ชีวิตที่โหดร้าย

ชะตากรรมของนักล่า

- ๑๘ -

เสือโคร่งหรือเสือลายพาดกลอน ว่าไปแล้วก็คือผู้ที่อยู่ใน
ตำแหน่งสูงสุดของ “นักล่า” ไม่เพียงเพราะเป็นเสือที่มีขนาดใหญ่
ที่สุดในบรรดาเสือด้วยกัน แต่ศักดิ์ศรีของมันทำให้ใคร ๆ ก็ครั้นก็
ครั้นคร้าม

ข้อควรจำของคนเข้าป่าคือห้ามพูดคุยถึงเสือไม่เช่นนั้นเสือจะ
ปรากฏตัวให้เห็นและจะเป็นอันตราย ดังนั้นจึงจะเรียกด้วยสมญานาม
แทน

เสือโคร่งเป็นนักล่าขี้ร้อน จึงชอบเตร็ดเตร่อยู่ใกล้ๆแหล่งน้ำ
หรือที่ที่มีร่มเงาให้หลบแสงแดด

ความเป็นที่สุดของเสือโคร่งนี่พูดไปตามศักดิ์ศรีนั้นมากกว่า
จริง ๆ แล้วสัตว์กินพืชตายเพราะเสือน้อยมากนาน ๆ เสือจะฆ่าสัก
ครั้ง และเมื่อได้เหยื่อแล้วจะกินเป็นเวลานาน โดยจะย้อนมากินจนซาก
หมด

เสือเป็นสัตว์นักล่าไม่ใช่นักฆ่าที่ลงมือทุกครั้งที่เห็นเหยื่อและ
หากจะต้องสรุปถ้อยคำในยามที่ต้องพูดถึงเสือ ผมคงบอกได้ว่า เสือ
นักล่าผู้ทำหน้าที่อย่างเคร่งครัด คงเป็นเพราะสาเหตุนี้จึงทำให้ไม่มีผู้
ใดเข้าใจ

บทเพลงของพฤกษ์ไพร

- ๒๐ -

ขณะอยู่ในป่า สิ่งหนึ่งที่ผม “หลงรัก” มาก ๆ ก็คือการ
ฟังเสียงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น

เสียงนกที่มีท่วงทำนองไพเราะ ผมคงพูดไม่ผิดว่านั่นคือเป็น
ท่วงทำนองไพเราะกว่าเสียงดนตรีที่คนเราทำขึ้นมา แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้น
อยู่กับอารมณ์ของเจ้าของเสียงด้วยเหมือนกัน เพราะนกจะส่งเสียง
เป็นทำนองใดก็อยู่ที่ความรู้สึกของเขาด้วย

พ่อเคยเล่าให้ผมฟังว่า ในสมัยมาอยู่ปากช่องใหม่ ๆ นั้นป่า
ยังเยอะ การล่าสัตว์ป่าก็เพื่อเอามาเป็นอาหารหรืออ้างว่าเป็น “กีฬา”
คุณอาหนุ่มชาวกรุงอยากล่าสัตว์จึงไปนั่งห้าง พอถึงตอนเย็น ๆ ก็ได้
ปรากฏว่าวิ่งหน้าตื่นกลับแคมป์ เพราะตกใจเสียงนกเงือกและกลาย
มาเป็นเรื่องล้อเลียนมาจนถึงทุกวันนี้

ถ้าโชคดีพักพิงอยู่ริมบึงน้ำในช่วงกลางคืน นอกจากจะถูก
ห่มคลุมด้วยประกายระยิบระยับของดาวจำนวนมหาศาลแล้วรอบ ๆ
แคมป์จะระงมไปด้วยเสียงประสาน เปรียบเทียบกับสังคมมนุษย์ก็ไม่
ต่าง จากกำลังอยู่หน้าวงออร์เคสตรา

อยู่ในป่าเงียบๆ ฟังไปฟังมาเหมือนมีเสียงคนแก่มาคุยกัน
อยู่ใกล้ ๆ ไม่เหมือนเสียงนก และก็มักจะหาตัวเจ้าของเสียงไม่พบ
เพราะชอบแอบอยู่บนยอดไม้สูง ๆ

- ๒๑ -

ในสังคมของชีวิตในป่า ดู ๆ ไปก็คล้ายกับในเมือง การเดิน
ทางไปหากินของชีวิตในนั้นทำซ้ำ ๆ กันทุกวันอย่างตรงต่อเวลา

มีจังหวะว่านกชนิดใดจะลงไปกินน้ำในโป่งก่อน และตามด้วย
ชนิดไหน ใครจะทำหน้าที่เป็นยามสังเกตการณ์ซึ่งผมเคยเห็นนกอีเสือ
หลังแดงตัวหนึ่งมันบินมาเกาะที่กิ่งไม้แห้งข้าง ๆ บังไพรกในตอนบ่าย
สามโมงของทุกวัน

ความจริงเช่นนี้ก็อยู่รอบ ๆ ตัวของเราและจะเห็นได้ก็ต่อเมื่อ
มันพร้อมที่จะเฝ้ามองพวกเขา แม้จะเป็นดวงตาคู่เดิมแต่ถ้าหากผ่าน
หัวใจ บางทีนกอาจจะไม่ได้เป็นเพียง“อะไร” ที่บินไป-มาได้เช่นเดิม

ซือดะ

- ๒๓ -

“ซือดะ"เป็นภาษายาวีคำแรกที่ผมพูดมันมีความหมายว่า
“อร่อย” ที่จริงควรจะเป็นคำว่า “อัสสลามุอะลัยกุม” อันหมายถึง
“สวัสดี” หรือคำทักทายและคำว่า “ตรีมอกาเซะ” ซึ่งคำนี้แปลว่า
“ขอบคุณ” มากกว่า ทว่าผมกลับต้องถามอาแซ ผู้มีหน้าที่แนะนำ
พื้นที่ป่าแถบเทือกเขาบูโดให้ผม ว่าอะไรคือความหมายของคำว่า
“อร่อย”

ระหว่างทางขึ้นภูเขามีกระท่อมเล็ก ๆ อยู่สองหลังซึ่งเป็นของ
ชาวบ้านที่ขึ้นมาพักเพื่อดูแลต้นยางพาราและสะตอ และมีอยู่หลังหนึ่ง
ที่ร้างไปนานแล้ว ไม่มีหลังคาแต่พื้นยังดีอยู่ หลังจากที่ได้ขออนุญาต
ผู้ใหญ่บ้านแล้ว อาแซก็ช่วยผมเอาผ้ายางคลุมทำหลังคา เท่านี้มันก็
เป็นบ้านที่ผมจะพำนักได้ตลอดฤดูกาลทำงานที่นี่

ผมต้องใช้ภาษามือ ขณะนั่งคุยกับชาวบ้านที่เจ้าของสวนยาง
พวกเขาสนุกสนาน หัวเราะ และได้มีการสอบถามเรื่องราวของตัวผม
เป็นภาษายาวี

คนแก่และเด็กไม่เข้าใจภาษาไทย ส่วนผมไม่เข้าใจ ภาษายาวี
แต่ที่นี่มันคือบ้านของพวกเขา ดังนั้นจึงจำเป็นที่ผมจะต้องพยายาม
เรียนรู้ภาษายาวีให้ได้โดยเร็ว

วันศุกร์เป็นวันหยุดทำงาน และผู้ชายในหมู่บ้านทุกคนจะไป
มัสยิดตอนเที่ยงเพื่อร่วมกันทำละหมาด

- ๒๔ -

บทสวดจากมัสยิดก้องกังวานขึ้นไปถึงบนภูเขา ช่วงบ่าย ๆ
อาแซจะเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินขึ้นมาหาผม พร้อมกับซาลาเปาทอด
ซึ่งเป็นขนมเพียงอย่างเดียวที่มีขายในหมู่บ้าน

ผมสบตากับผู้ชายหน้าคล้ำเข้มไร้รอยยิ้ม
“ซือดะ !” ผมพูดหลังจากกินซาลาเปาทอดอันเย็นชืด น้ำมัน
เยิ้มเข้าไป
มันเป็นภาษายาวีคำแรกที่ผมพูดกับมิตรภาพที่ได้รับ ผมเชื่อ
ว่ามันเหมาะสม

ตรีมอกาเซะ

- ๒๖ -

ต่อจากคำว่า “ซือดะ” ซึ่งหมายความว่า “อร่อย” ภาษา
ยาวี อีกคำที่ผมใช้อยู่เสมอๆ คือคำว่า “ตรีมอกาเซะ” ซึ่ง
หมายความว่า “ขอบคุณ”

ผมใช้คำนี้กระทั่งติดปาก หลังจากพูดโดยสำเนียงคงพี้ยน
ไปบ้าง สิ่งที่ได้รับกลับมาคือรอยยิ้ม และการที่ได้มาอยู่ร่วมกับผู้ที่มี
วัฒนธรรมประเพณีแตกต่างออกไปเช่นนี้ มันคือความตื่นตาตื่นใจ

เมื่อ ๒ เดือนก่อนราว ๆ ตีหนึ่งผมเพิ่งถึงอำเภอ ควนขนุน
จังหวัด พัทลุง ผมเลี้ยวซ้ายสู่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยและแวะพัก
ที่บ้านนาคิน

นาคิน หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าแห่งเขตห้ามล่าสัตว์ป่าที่ทะเล
น้อยเขาเป็นผู้ร่วมเสนอรายงาน จนกระทั่งพื้นที่บริเวณหน่วยพิทักษ์
ป่าควนขี้เสียนได้รับการยอมรับว่ามีความสมบูรณ์ที่จะเข้าร่วมอันเป็น
อนุสัญญาเกี่ยวกับพื้นที่ชุ่มน้ำซึ่งมีความสำคัญระดับนานาชาติ

ในระหว่างการเดินทางอันเมื่อยล้าบนหนทางยาวไกล ถ้าได้
รู้ว่าระหว่างทางมีที่ให้แวะพักได้ มันก็เป็นเรื่องน่ายินดี

ก่อนกลับผมบอกนาคินว่า “ตรีมอกาเซะ”
ข้อสำคัญ มันไม่ใช่เพียงแค่ที่พัก แต่มันหมายถึงมิตรภาพ
หมายถึงเพื่อนที่จะคุยกันได้อย่างเข้าใจ แต่กระนั้น จุดหมายก็เป็นสิ่ง
สำคัญ ละสมควรไปให้ถึง

คนกับช้าง

- ๒๘ -

เรื่องราวต่อไปนี้ผมเคยเขียนมาหลายครั้ง
เช่นเดียวกับที่ผมเคยบอกเสมอ แม้อาชีพของผมอาจจะมี
เกี่ยวข้องอยู่กับป่าและดูเหมือนว่าต้องกล้า เข้มแข็ง ไม่หวาดหวั่น
แต่ยามที่ต้องพบเจอสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ บางครั้งแม้ดูภาพข่าวจาก
โทรทัศน์ผมก็น้ำตาซึมได้
เมื่อได้ดูข่าวช้างตัวหนึ่งถูกเลี้ยงโดยใช้ไม้ทุบตี ข้อหที่าช้างตัว
นั้นสะบัดคนเลี้ยงตกพื้น เราไม่อาจรู้ได้เลยว่าช้างตัวนี้โดนอะไรมาบ้าง
แต่การ“สั่งสอน” ที่ได้จากสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “คน” นั้นดูท่าที่จะหนัก
หนาเอาการ ช้างบางตัวอาจโชคดี มีคนช่วยเหลือ แต่ยังมีช้างอีกมาก
ที่ไม่ได้โชคดีเช่นนั้น
ในบางครั้งภาพอันน่าเวทนาของสัตว์ที่ได้รับบาดเจ็บ ก็ทำให้
คนมีความรู้สึกร่วมด้วย พยายามช่วยกันแต่ก็เป็นไปได้ไม่กี่วัน สัตว์
ต่าง ๆ อาจมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเพราะคน และคนอีกนั้นแหละที่
เป็นคนทำร้ายสัตว์เหล่านั้น
ถึงที่สุดแล้วหากมีป่าหรือพื้นที่สักแห่งเป็นบ้านถาวรและภาพ
ช้างถูกสั่งสอนอาจลดน้อยลงบ้างก็เป็นได้

เราและเธอ

- ๓๐ -

เมื่อใดที่นึกถึงนก คงต้องคิดถึงต้นไม้ เพราะนกส่วนใหญ่
จะอยู่บนต้นไม้แต่ก็ไม่แน่เสมอไป เพราะมีนกหลายชนิดสมัครใจจะ
ใช้เวลาเกือบทั้งหมดเดินอยู่ตามพื้นดิน ทั้งนี้ทั้งนั้นก็บเป็นเพราะว่า
พวกเขาต้องจัดการกับแมลงที่มีอยู่ทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นที่บนต้นไม้
หรือตามพื้นดิน

นกทุกตัวถูกกำหนดให้มีหน้าที่ความรับผิดชอบอย่างเหมาะ
สมกับลักษณะนิสัยรวมทั้งความชำนาญที่มีอยู่

ในตอนแรกที่ผมเริ่มต้นดูนกก็ไม่พ้นที่จะตั้งความหวังไว้กับ
การพบเห็นนกหายาก การได้ทำเครื่องหมายไว้ที่รายชื่อนกที่พบเห็น
พร้อมวันเวลาที่พบไว้ในหนังสือคู่มือมากขึ้นเรื่อย ๆ คือความสุข
ประการหนึ่ง

วันหนึ่งมีเสือดาวตัวหนึ่งโผล่มาอยู่ตรงแสงสวย ๆ ตำแหน่ง
ที่ผมปรับระยะชัดไว้โดยไม่รู้ตัว ผมกดชัตเตอร์โดยที่ไม่ต้องมองจาก
ช่องมองภาพ เมื่อล้างฟิล์มออกมาดูผมพบว่าผมนั้นได้รูปเสือดาวที่
สวยงามมาก

ในแง่ของความเป็นช่างภาพนั้นนี่เป็นสิ่งที่ดี แต่ในความเป็น
ชีวิต มันคล้ายเป็นเรื่องเศร้า

ผมชื่นชมกับรูปเสือดาวในแสงสวย ๆ โดยเจ้าตัวเองนั้นไม่รู้
ด้วยซ้ำว่าผมอยู่ตรงนั้น

อีกฟากหนึ่งของภูเขา

- ๓๒ -

กลางฤดูหนาว, ดอยอินทนนท์
ผมปักหลักอยู่ที่ร้านลุงแดง ร้านอาหารเล็ก ๆ นั้นบริเวณ
กิโลเมตรที่ ๓๑ บนเส้นทางสู่ยอดดอยอินทนนท์ ร้านซึ่งไม่เพียงแต่
ขายอาหารง่าย ๆ แต่มันคือจุดศูนย์กลางของคนดูนกมาเนิ่นนาน
นามบัตรและรูปภาพซึ่งเคยติดไว้บนผนังแคบ ๆ บัดนี้ขยาย
จนกระทั่งติดไว้เกือบทุกตารางนิ้ว ภาพนกจำนวนมากมาย ไม่เฉพาะ
นกที่พบเห็นบนดอยนี้ หลายภาพเป็นรูปนกที่พบอาจเห็นได้ยากจาก
แหล่งอาศัยตามป่าในส่วนต่าง ๆ ของประเทศ
สาย ๆ ของวันหนึ่ง มีเด็กชายอธิบายให้พ่อฟังอย่างฉะฉาน
ไม่เพียงแต่บอกชื่อสามัญของนกเหล่านั้น แต่เขายังสามารถจดจำชื่อ
วิทยาศาสตร์ได้อย่างแม่นยำอีกด้วย
เวลาล่วงพ้นไปหลาย ๆ สิ่งเปลี่ยนแปลง สำหรับผมการได้
มาเยือนดอยแห่งนี้ดูคล้ายจะมีความหมายเพียงการแวะมาเยี่ยมเยียน
ลุงแดงหรือมิสเตอร์แดงของเหล่านักดูนกเท่านั้น
ใช่ว่าความกระตือรือร้นหายไป ตัวผมนั้นเริ่มต้นเส้นทางสาย
นี้ด้วยการดูนก จนกระทั่งผมรู้ว่าสิ่งเหล่านี้มันซึมซับอยู่ภายใน ภาพ
ในใจของผมไม่เคยเปลี่ยนแปลง
หลังจากดูนกอย่างกระตือรือร้นและเอาจริงเอาจัง ในชั่วระยะ
เวลาหนึ่ง ผมก็รู้สึกเช่นนี้

- ๓๓ -

ดอยอินทนนท์เป็นยอดดอยสูงสุดของประเทศ ระยะทาง ๔๐
กว่ากิโลเมตร ด้วยที่ถนนนั้นราบเรียบจึงใช้เวลาเดินทางด้วยรถมาก
สมรรถนะในเวลาไม่นาน แต่อีกฟากหนึ่งของภูเขานั้นมีเส้นทางสู่ยอด
ดอยอีกเส้นหนึ่ง เส้นทางขรุขระที่ต้องเดินไปอย่างช้า ๆ

ผมเริ่มต้นด้วยการทําความรู้จักและเดินทางสู่ดอยแห่งนี้อย่าง
กระตือรือร้นและเร่งรีบ ก่อนที่จะได้พบว่ายังมีอีกเส้นทางซึ่งอยู่อีกฝั่ง
หนึ่งของดอย

เมื่อเลือกที่จะเดินไปอย่างช้า ๆ บนเส้นทางขรุขระก็กลับรู้สึก
เหมือนว่ายอดดอยที่เคยเห็นอยู่รางเลือนจะเด่นชัดขึ้น

บนยอดดอย

- ๓๕ -

"เมื่อวานบนยอดดอยอุณหภูมิลบเจ็ดองศาฯ แน่ะ ดูสิ"
ลุงแดง ผู้ชายสูงอายุหรือมิสเตอร์แดงของเหล่าคนดูนกพูดพลาง
ยื่น หนังสือพิมพ์รายวันที่ลงข่าวนี้ในหน้าหนึ่งให้ผมดู

ไม่ว่าจะอยู่แห่งหนใด ผมคิดถึงดอยแห่งนี้เสมอ หลายครั้งที่
ผมพูดถึงดอยแห่งนี้ และทุกครั้ง มันจะมีชื่อของ ไมเคิล แม็กมิล
แลนด์ วอลซ์ นักสัตววิทยาจากเมืองคาลเกอรี ประเทศแคนาดา
ปรากฏอยู่ด้วย

ผมพบกับไมค์บนถนนสู่ยอดดอยอินทนนท์ในฤดูฝน ซึ่งผม
พบเขาไม่ต่างจากเวลาที่พบนกเค้าลมหลังเทา อาคารหลังเล็ก ๆ
บริเวณยอดดอยเป็นที่รวบรวมรูปภาพ รวมทั้งข้อมูลเพื่อให้ผู้เข้าชม
เข้าใจพื้นที่บริเวณนี้มากขึ้น แต่ไม่ทันที่ศูนย์ของเขาจะเสร็จ ไมค์ก็ไม่
ตื่นขึ้นมาอีกเลย

ก่อนจากกัน เขาบอกว่า “เราจะไปดูนกกันให้ทั่วประเทศเลย”
เราไม่มีโอกาสได้ทำเช่นนั้น อาคารหลังเล็กดูเงียบสงบ ไม่มีใครสนใจ
บริเวณนี้อีก

ผมเริ่มรู้จักดอยแห่งนี้เพราะการดูนกถึงแม้หลาย ๆ สิ่งจะ
เปลี่ยนแปลงไปในช่วงหลัง ๆ ผมก็ยังคงแวะเวียนมาที่ดอยแห่งนี้อยู่
เสมอ แต่ไม่ใช่เพื่อการดูนก แต่เพื่อการรำลึกห้วงเวลาก่อนหน้านี้

บางความทรงจำที่ภูเขียว

- ๓๗ -

หลังจากห่างเหินไปหลายปี ผมกลับไปที่ภูเขียวอีกครั้ง จะ
ว่าไปแล้ว ภูเขียวเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่คงสภาพความเป็น
ป่าอุดมสมบูรณ์ เป็นเสมือนตัวแทนที่หลงเหลืออยู่ของความเป็น
ป่าแห่งพื้นที่ภาคอีสาน ร่องรอยสัตว์ป่าที่เชื่อกันว่าสูญพันธุ์ไปจาก
ประเทศไทยแล้วอย่าง “กระซู่” ซึ่งเจ้าหน้าที่ของเขตตรวจพบ ก็
ทำให้เชื่อได้ว่าป่าแห่งนี้ยิ่งใหญ่เพียงไร

ราวปี พ.ศ. 2533 ผมเคยใช้เวลาอยู่ริมบึงน้ำ ซึ่งต้องเดิน
จาก สำนักงานเขตไปสักหนึ่งชั่งโมง อยู่กว่าสองสัปดาห์ เพื่อเฝ้ารอ
นกเป็ดก่า นกน้ำอีกชนิดหนึ่งที่ในช่วงเวลานั้นไม่ได้มีผู้ใดพบเห็นมา
เนิ่นนาน

ภาพที่ดีที่สุดในการทำงานเที่ยวนั้น คือภาพเหี้ยตัวโตอยู่ใน
แสงเงาสวยงาม คาบปลาไหลอยู่ในปาก

ไม่ไกลจากบ้านพักเท่าไหร่ มีทุ่งหญ้ากว้างเป็นบริเวณที่
กวางและเนื้อทรายใช้เป็นที่เรียนรู้และปรับตัว

ในความเป็นจริง ทั้งเนื้อทรายและนกกระเรียนคือสัตว์เลี้ยง
ลูกด้วยนมและนกที่สาบสูญไปจากป่าแล้ว เนื้อทรายถูกนำมาปล่อย
นกกระเรียนก็เป็นนกที่กำเนิดจากในกรงทุ่งกระมัง จึงเปรียบเสมือน
พื้นที่อนุบาลอันจะทำให้พวกเขาได้รู้วิถีที่จะกลับไปอยู่ในป่าได้อีกครั้ง

- ๓๘ -

ในเวลากลางคืนจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะได้ยินเสียงฝูงหมาใน
ไล่ล่ากวางหรือเนื้อทราย

การเอาชีวิตให้รอดเป็นบทเรียนแรก ๆ ที่พวกเขาต้องเรียน
รู้บนเส้นทางแต่ละเส้นล้วนแต่มีด่าน คงมีชีวิตไม่น้อยที่ผ่านไปไม่ได้

หลังจากทำงาน หรือพูดตามความรู้สึกจริง ๆ ว่าหลังจาก
ทำความฝันเสร็จไปชั้นหนึ่ง ก่อนที่ความฝันขึ้นใหม่จะเริ่มต้น การได้
อยู่นิ่งๆบ้างก็นับว่าเป็น "ข้ออ้าง” กับตนเองที่สมควร

ป่าและความเชื่อ

- ๔๐ -

ในช่วงหลังๆ มานี้ โดยภาระของคนเขียนหนังสือ ทำให้
ผมต้องไปร่วมงานหรือพบปะผู้คนอยู่หลายครั้ง

ในการร่วมชุมนุม ผมจะได้รับคำถามหนึ่งซึ่งจะใช้ถามด้วย
ข้อความคล้ายกันว่า ขณะที่ทำงานในป่า ผมเคยพบเจอเรื่องราว
แปลก ๆ ที่อธิบายไม่ได้หรือเรื่องราวลี้ลับตื่นเต้นบ้างไหม

พูดตามตรง ผมพบเจอเรื่องราวแปลกๆอยู่เรื่อย แต่เกือบ
ทุกครั้งก็หาสาเหตุได้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันเกิดขึ้นจากอะไร แต่มันเป็นการ
เปลี่ยนแปลงที่ทำให้รู้ว่า ไม่ว่าจะเชื่ออย่างไรก็ตามความเชื่อนั้นจะต้อง
ออกมาจากใจจริง

ผมเคยทำงานร่วมกับพิทักษ์ป่าอาวุโสคนหนึ่งชื่อฟื้น เรามี
ความเชื่ออันแตกต่าง ขณะผมเข้าป่าอย่างเชื่อมั่นว่าไม่มีสัตว์ร้าย แต่
สำหรับพี่ฟื้น เขาเชื่อว่าการอยู่ในป่าเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังตลอด
เวลา

วันหนึ่งมีควายป่ากำลังแช่น้ำอยู่ ลุกพรวดวิ่งเข้าหาเรา
“ขอทางเถอะโยม อาตมามาดี” เสียงพี่ฟื้นพูดดังๆ ควายป่า
จึงวิ่งไป
ความเชื่อของเราต่างกัน พี่ฟื้นใช้คาถาป้องกัน ส่วนผมใช้
ความรู้จักและเชื่อมั่นเป็นคาถา กระนั้นก็เถอะ ผมไม่มีสิทธิ์หัวเราะใน
ความเชื่อของพี่ฟื้น เหตุการณ์จบลงด้วยดี เพราะเราต่างมีความเชื่อ
มั่น

- ๔๑ -

อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นอันมาจากใจ ทำให้ผมยอมรับ
ในการหยุดช้างและควายป่าด้วย “คาถา” ได้ไม่ง่ายนัก

ผมเชื่อว่าระหว่างมนุษย์กับสัตว์ป่ามีขอบเขตหรือเส้นบาง ๆ
กั้นเอาไว้ เราจะเห็นแต่ความดุร้ายของสัตว์ แต่หากยอมให้พวกเขา
ก้าวล้ำเส้นเข้ามา บางทีเราจะเห็นความเป็นชีวิตได้ชัดขึ้น

เสียงเรียก

- ๔๓ -

เสียงเรียกในที่นี้ ผมหมายถึงการใช้เสียงเพื่อเรียกสัตว์ป่า
หรือ ให้ออกมาปรากฏตัว จะว่าไปการกระทำเช่นนี้ หากเป็นใน
สมัยก่อน อาจคิดถึงเรื่องคาถาอาคมก็เป็นได้

“พราน” ในสมัยก่อนมีเคล็ดลับในการล่าสัตว์ หรืออันที่จริง
เคล็ดลับเหล่านี้ ก็คือการศึกษาเรียนรู้นิสัยของสัตว์ป่าเป็นอย่างดี
นั่นเอง

สำหรับสัตว์ป่าซึ่งโดยส่วนใหญ่จะมีอาณาเขตเป็นของตนเอง
วิธีเลียนเสียงสัตว์ชนิดนั้นๆ โดยแสร้งทำเป็นผู้บุกรุกเป็นวิธีเรียกเขา
ออกมาที่ค่อนข้างได้ผล

แต่นักล่าในสมัยนี้ ใช้วิธีเปิดเทปเสียงสัตว์นั้นๆ เลยได้ผล
รวดเร็วกว่ามาก บางครั้งก็ต้องใช้วิธี “หลอก” บ้างซึ่งในการถ่ายรูป
ก็ใช้วิธีนี้

เวลาผ่านไปหลังจากงานเสร็จ หลายครั้งที่ขับรถอยู่ ผมอด
ไม่ได้ที่จะแอบเอารถเข้าข้างทาง และลงมายืนมองป่าเขียวชอุ่มเบื้อง
ล่าง เสียงจากป่าทำให้สมาธิที่กระจัดกระจายเริ่มเข้าที่เข้าทาง ใน
ทำนองเดียวกันก็คล้ายเรียกให้เข้าหา ผมแบกเป้มุ่งหน้าสู่ป่า ผม
ได้ยินเสียงเรียก มันชัดยิ่งขึ้นเพราะมันไม่ได้มาจากราวป่า

มันเป็นเสียงเรียก ซึ่งดังมาจากข้างในใจ

เดินทาง

- ๔๕ -

มันเป็นบ่ายที่อากาศค่อนข้างสดใส แนวขอบฟ้าเป็นสี
ครามเข้ม ปุยเมฆขาวกระจายเป็นหมู่ๆผืนแผ่นดินเบื้องล่างถูก
ปกคลุมไว้ ด้วยป่าแน่นทึบ บางช่วงดูโล่งเตียนคล้ายลานหิน ถัด
จากหน้าผาชันทางด้านขวามือคือสายน้ำกว้าง ซึ่งมองเห็นสีขุ่น
แดงชัดเจน

ผมอยู่บนเครื่องบินเหนือผืนป่าดงนาทาม เครื่องบินบินเลาะ
เลียบสายน้ำโขง ซึ่งเป็นสายน้ำที่แบ่งแผ่นดินเป็นสองฟาก

เรากำลังอยู่เหนือผาชะนะได ๓-๔ วันที่แล้วผมอยู่บริเวณ
หน้าผาแห่งนั้นด้วยทำเลที่อยู่ในตำแหน่งตะวันออกสุดของผืนแผ่น
ดินไทย ทำให้ใครก็ตามที่อยู่ในตำแหน่งนั้นในยามรุ่งอรุณ จะได้เห็น
แสงแรกของดวงอาทิตย์เป็นคนแรก

ต่ำจากหน้าผาเป็นหมู่บ้านปากลา และอีกฟากของสายน้ำ
คือหมู่บ้านห้วยเดื่อ สองหมู่บ้านนี้ส่วนใหญ่เป็นพี่น้องกัน ไม่ได้แยก
คนไทย คนลาว

บ่ายกลางฤดูร้อน เครื่องบินปีกหมุนบินเรี่ยยอดไม้ การ
ค้นหาสัตว์ป่าจากทางอากาศดูจะเป็นวิธีหาตัวสัตว์ป่าได้ไม่ยาก โดย
เฉพาะในฤดูแล้ง สัตว์เกือบทุกประเภท ทั้งกินพืชและกินเนื้อ ต่างก็
มุ่งหน้ามาบริเวณลำห้วยในช่วงเวลาบ่ายๆ

- ๔๖ -

เราเริ่มพบกับนกยูงฝูงใหญ่ตั้งแต่เครื่องบินพ้นจากอ่างเก็บ
น้ำกว้าง ทั้งฝูงแตกฮือ บินเข้าซุกในพงอ้อทันทีที่เครื่องบินลดระดับ
และด้วยเพื่อให้ผมมีมุมบันทึกภาพ

“ควายป่า” ยืนอยู่ในน้ำตื้น ๆ ที่กำลังแผ่เป็นริ้ว ๆ เพราะ
แรงใบพัด

เราบินต่อและพบกับช้างฝูงใหญ่ในร่องหุบเขา ช้างตัวโต ๆ
เริ่มต้อนเจ้าตัวเล็ก ๆ ให้เร่งเดินหลบเข้าป่าทึบ ตัวที่ยังอยู่ที่โล่ง ๆ
ถูกช้างตัวโตเข้าประกบให้อยู่ตรงกลางท่าทางตื่นตกใจและอาการตื่น
หนี ทำให้ผมละมือจากการกดชัตเตอร์

ดูเหมือนว่าความรู้สึกจะเปลี่ยนไป เมื่อผมมองพวกเขาโดย
ไม่ผ่านช่องมองภาพของกล้อง

จากฝูงช้าง ผืนทรายกว้างๆริมลำห้วยซึ่งเหลือเพียงสายน้ำ
ไหลเอื่อย ๆ คือที่ชุมนุมของกวางจำนวนมาก บางตัวยืน มีไม่น้อย
กำลังแช่น้ำตื้น ๆ แต่ทุกตัวมีอาการเช่นเดียวกันเมื่อเครื่องบินมาถึง
บริเวณนี้นั่นคือตื่นหนี และพยายามวิ่งเข้าป่าทึบ

ผมเริ่มเข้าใจว่าความหมายของคำว่า “พบ” ต่างจากคำว่า
“เห็น” เช่นไรความรู้สึกนี้เกิดขึ้นขณะเคลื่อนที่ไปในอากาศ ล่องลอย
อยู่เบื้องบน

- ๔๗ -

กลางหมู่บ้านปากลา ผมนั่งลงข้างๆ คุณยายขาลีบเล็กและ
ได้ถามถึงชีวิตความเป็นอยู่ของคนที่นี่และได้รู้ว่า อาชีพหลักของ
คนในหมู่บ้านปากลาคือจับปลาในแม่น้ำโขง

“พวกเราไม่ได้ทำนาหรอก” คุณยายเริ่มเล่า
“ทุกคนในหมู่บ้านจะมีแหล่งหาปลาในแม่น้ำ จับจองเอาไว้
คนละแห่ง ไม่เคยแย่งกันมันเป็นญาติกันหมด นี่ลูกชายยายก็ไปอยู่
กับเมียที่บ้านห้วยเดื่อฝั่งโน้น”
นี่กระมังคือความหมายอีกอย่างหนึ่งของคำว่าชีวิตอันพอ
เพียงชีวิตเรียบง่ายและเพียงพอปรากฏให้เห็นเป็นภาพจริงในหมู่บ้าน
ปากลา
เครื่องบินปีกหมุนค่อย ๆ ลอยตัวสูงขึ้น ภาพคนกลุ่มใหญ่
โบกมือและแหงนหน้ามองค่อย ๆ เล็กลงและลับหายไปจากสายตา
ผมเอนหลังพิงพนักหลับตา รับรู้ว่าชีวิตส่วนหนึ่งที่อยู่กับ
การเดินทาง มันคงไม่ใช่เวลาที่สูญเปล่าจนเกินไปนัก


Click to View FlipBook Version