The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนจัดการเรียนรู้พลศึกษา2 /2566

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 62100189130, 2024-01-29 11:41:58

แผนจัดการเรียนรู้พลศึกษา 2/2566

แผนจัดการเรียนรู้พลศึกษา2 /2566

แบบประเมินทักษะกระบวนการพลศึกษา ชื่อ ชั้น คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 ปฏิบัติได้ตามวิธีการ 2 ปฏิบัติได้อย่างคล่องแคล่ว 3 ปฏิบัติได้ตามเวลาที่กำหนด 4 ปฏิบัติด้วยความระมัดระวังด้านความปลอดภัย 5 มีน้ำใจนักกีฬา รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง


แผนการจัดการเรียนรู้ที่7 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา รายวิชาเซปักตะกร้อ รหัสวิชา พ 23104 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การสร้างความคุ้นเคยในการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ แผนจัดการเรียนรู้ที่ 7 การเดาะลูกเซปักตะกร้อ (หลังเท้า) เวลาเรียน 1 ชั่วโมง วันที่.........เดือน............พ.ศ............. ครูผู้สอนนายกนกพร สุภรณ์ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกายภาพ การเล่นเกม และกีฬา ตัวชี้วัด พ 3.1 ม.3/1 เล่นกีฬาไทยและกีฬาสากล ได้อย่างละ 1 ชนิดโดยใช้เทคนิค ที่เหมาะสมกับตนเองและ ทีม 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 นักเรียนมีความรู้และความเข้าใจวิธีการเดาะลูกเซปักตะกร้อ(หลังเท้า) (K) 2.2 นักเรียนสามารถปฏิบัติตามทักษะการเดาะลูกเซปักตะกร้อ(หลังเท้า) ได้ (P) 2.3 นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการฝึกเดาะลูกเซปักตะกร้อ(หลังเท้า) (A) 3. สาระสำคัญ การเล่นกีฬาทุกชนิด ก่อนการฝึกทักษะผู้เล่นจะต้องได้รู้จักหรือสัมผัสกับอุปกรณ์ หรือวัสดุฝึกของกีฬา ชนิดนั้นก่อน กีฬาเซปักตะกร้อก่อนการฝึกก็จะมีกิจกรรมสร้างความคุ้นเคยกับลูกเซปักตะกร้อ การสร้าง ความคุ้นเคยกับอุปกรณ์นั้น ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรจะต้องปฏิบัติ การเดาะลูกตะกร้อเป็นการบังคับลูกบอลโดยใช้ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย คือ หลังเท้า เข่า ศีรษะ ข้างเท้าด้านนอก ข้างเท้าด้านใน 4. สาระการเรียนรู้ 1. การสร้างความคุ้นเคยในการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ (การเดาะลูกเซปักตะกร้อหลังเท้า) 5. จุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มีวินัย ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. ความสามารถในการสื่อสาร


6. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นเตรียมและอบอุ่นร่างกาย 1. ให้นักเรียนเข้าแถวตอนลึก 4 แถว 2. ให้นักเรียนนั่งลงกับพื้นฟังรายละเอียดกิจกรรม 3. ครูผู้สอนสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับขนาด น้ำหนัก และความยืดหยุ่น ของลูกเซปัก ตะกร้อ พร้อมสาธิตและชี้ให้เห็นถึงทักษะการเดาะลูกเซปักตะกร้อ ที่เป็นทักษะพื้นฐาน ในการฝึกทักษะอื่นๆ ต่อไป 4. ให้นักเรียนทำท่ากายบริหาร (ตัวแทนนักเรียนเป็นผู้นำ) ขั้นอธิบายและสาธิต 1. นักเรียนแบ่งกลุ่มให้นักเรียน 4 กลุ่ม 2. ครูสาธิตทักษะการเดาะลูกเซปักตะกร้อด้วยหลังเท้า 3. ครูสาธิตทักษะการเดาะลูกเซปักตะกร้อด้วยหลังเท้า นักเรียนสอบถานในจุดที่สงสัยและ เริ่มฝึกปฏิบัติ


ขั้นฝึกปฏิบัติ แบบฝึกที่ 1 ท่ายืนเตรียมพร้อมในการเดาะลูกเซปักตะกร้อด้วยหลังเท้า วิธีฝึก ให้นักเรียนยืนตรงในท่าเตรียมพร้อม ปลายเท้าทั้ง 2 ข้างห่างกันกว้าเท่าหัวไหล่ และให้นักเรียน ย่อและยกเท้าข้างที่ถนัดยกขึ้น เกร็งข้อเท้าให้ขนานพื้น ทำจำนวน 20 ครั้ง แบบฝึกที่ 2 จุดที่ลูกเซปักตะกร้อสัมผัสหลังเท้า วิธีฝึก ให้นักเรียนถือลูกตะกร้อแล้วปล่อยลูกเซปักตะกร้อ แล้วยกเท้าขึ้นมารอลูกตะกร้อตกลงใส่หลัง เท้า ให้นักเรียนจำจุดที่ลูกตะกร้อตกใส่ เพื่อเป็นการสร้างความคุ้นเคย ทำจำนวน 20 ครั้ง แบบฝึกที่ 3 การเดาะลูกเซปักตะกร้อด้วยหลังเท้า วิธีฝึก ให้นักเรียนถือลูกตะกร้อแล้วปล่อยลูกเซปักตะกร้อ แล้วยกเท้าขึ้นมารอลูกตะกร้อตกลงใส่หลัง เท้า ให้นักเรียนจำจุดที่ลูกตะกร้อตกใส่ แล้วเดาะลูกตะกร้อ 1 ครั้งจับ เมื่อชำนาญเพิ่มเป็น 2 ครั้งจับ และเพิ่ม จำนวนขึ้นไปเรื่อย ๆ เพื่อเป็นการสร้างความคุ้นเคย เมื่อชำนาญเท้าข้างถนัดแล้วให้ฝึกข้างที่ไม่ถนัดเพิ่มเติม จุดที่ลูกตะกร้อสัมผัสเท้า


ขั้นนำไปใช้ 1. ให้นักเรียน 1 คนมีตะกร้อ 1 ลูก โดยจะแข่งเดาะลูกเซปักตะกร้อ ให้ปฏิบัติดังนี้ ให้นักเรียนเข้าแถวเป็นแถวหน้ากระดาน เมื่อครูสั่งเริ่มให้นักเรียนเริ่มเดาะลูกตะกร้อ ให้นักเรียนทำตกได้แค่คนละ 2 ครั้ง นับรวมกัน ใครเดาะได้มากที่สุดจะได้คะแนนพิเศษ ขั้นสรุป 1. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเรื่องเกี่ยวกับการเดาะลูกเซปักตะกร้อ หลังจากนั้นร่วมกัน อภิปราย ซักถาม 2. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ซักถามและนัดหมายการเรียนในสัปดาห์หน้า 3. เก็บรักษาอุปกรณ์การเรียน 4. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมสุขปฏิบัติ ( ทำความสะอาดร่างกาย เช่น มือ แขน และใบหน้า ) 7. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ - สนามกีฬาเซปักตะกร้อ - Internet -ห้องสมุดโรงเรียน -ห้องพลศึกษา : นักเรียน : ทิศทางการเคลื่อนที่ : กรวย : ทิศทางการยกเท้า


8. การวัดและการประเมินผล ลงชื่อ (ผู้สอน) ( นายกนกพร สุภรณ์) จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรียนมีความรู้และความ เข้าใจวิธีการเดาะลูกเซปักตะกร้อ (หลังเท้า) (K) แบบสอบถาม แบบประเมินจาก แบบสอบถาม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80 2. นักเรียนสามารถปฏิบัติตาม ทักษะการเดาะลูกเซปักตะกร้อ (หลังเท้า) ได้ (P) สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80 3. นักเรียนมีความกระตือรือร้น ในการฝึกเดาะลูกเซปักตะกร้อ (หลังเท้า) (A) สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80


แบบประเมินทักษะการนำความรู้มาใช้ในการตอบคำถาม คำชี้แจง ให้ครูทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนตามเกณฑ์การประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๑. ความรู้และทักษะ - การนำความรู้มาใช้ในการตอบคำถาม ๒. การแสดงออก -ความตั้งใจ ความมั่นใจและกล้าแสดงออก เกณฑ์การประเมินทักษะการนำความรู้มาตอบคำถาม พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๑.ความรู้และทักษะ - การนำความรู้มาใช้ ในการตอบคำถาม มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องทั้งหมด มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องมากกว่า ๘๐% มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องมากกว่า ๕๐% มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องน้อย ๕๐% ๒. ความตั้งใจ ความ มั่นใจและกล้า แสดงออก มีความตั้งใจ ความ มั่นใจกล้า แสดงออก มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก ไม่มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก ไม่มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ คะแนนระหว่าง ๖ คะแนน หมายถึง ดีมาก คะแนนระหว่าง ๔ – ๕ คะแนน หมายถึง ดี คะแนนระหว่าง ๒ – ๓ คะแนน หมายถึง ผ่าน คะแนนระหว่าง ๐ – ๑ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง


แบบประเมินทักษะกระบวนการพลศึกษา ชื่อ ชั้น คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 ปฏิบัติได้ตามวิธีการ 2 ปฏิบัติได้อย่างคล่องแคล่ว 3 ปฏิบัติได้ตามเวลาที่กำหนด 4 ปฏิบัติด้วยความระมัดระวังด้านความปลอดภัย 5 มีน้ำใจนักกีฬา รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง


แผนการจัดการเรียนรู้ที่8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา รายวิชาเซปักตะกร้อ รหัสวิชา พ 23104 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การสร้างความคุ้นเคยในการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ แผนจัดการเรียนรู้ที่ 8 การเดาะลูกเซปักตะกร้อ (เข่า ศีรษะ) เวลาเรียน 1 ชั่วโมง วันที่.........เดือน............พ.ศ............. ครูผู้สอนนายกนกพร สุภรณ์ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกายภาพ การเล่นเกม และกีฬา ตัวชี้วัด พ 3.1 ม.3/1 เล่นกีฬาไทยและกีฬาสากล ได้อย่างละ 1 ชนิดโดยใช้เทคนิค ที่เหมาะสมกับตนเองและ ทีม 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 นักเรียนมีความรู้และความเข้าใจวิธีการเดาะลูกเซปักตะกร้อ(เข่า ศีรษะ) (K) 2.2 นักเรียนสามารถปฏิบัติตามทักษะการเดาะลูกเซปักตะกร้อ(เข่า ศีรษะ) ได้ (P) 2.3 นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการฝึกเดาะลูกเซปักตะกร้อ(เข่า ศีรษะ) (A) 3. สาระสำคัญ การเล่นกีฬาทุกชนิด ก่อนการฝึกทักษะผู้เล่นจะต้องได้รู้จักหรือสัมผัสกับอุปกรณ์ หรือวัสดุฝึกของกีฬา ชนิดนั้นก่อน กีฬาเซปักตะกร้อก่อนการฝึกก็จะมีกิจกรรมสร้างความคุ้นเคยกับลูกเซปักตะกร้อ การสร้าง ความคุ้นเคยกับอุปกรณ์นั้น ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรจะต้องปฏิบัติ การเดาะลูกตะกร้อเป็นการบังคับลูกบอลโดยใช้ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย คือ หลังเท้า เข่า ศีรษะ ข้างเท้าด้านนอก ข้างเท้าด้านใน 4. สาระการเรียนรู้ 1. การสร้างความคุ้นเคยในการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ (การเดาะลูกเซปักตะกร้อด้วยเข่า ศีรษะ) 5. จุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มีวินัย ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. ความสามารถในการสื่อสาร


6. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นเตรียมและอบอุ่นร่างกาย 1. ให้นักเรียนเข้าแถวตอนลึก 4 แถว 2. ให้นักเรียนนั่งลงกับพื้นฟังรายละเอียดกิจกรรม 3. ครูผู้สอนสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับขนาด น้ำหนัก และความยืดหยุ่น ของลูกเซปัก ครูผู้สอนสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับขนาด น้ำหนัก และความยืดหยุ่น ของลูกเซปักตะกร้อ พร้อมสาธิตและ ชี้ให้เห็นถึงทักษะการเดาะลูกเซปักตะกร้อ ที่เป็นทักษะพื้นฐาน ในการฝึกทักษะอื่นๆต่อไป 4. ให้นักเรียนทำท่ากายบริหาร (ตัวแทนนักเรียนเป็นผู้นำ) ขั้นอธิบายและสาธิต 1. นักเรียนแบ่งกลุ่มให้นักเรียน 4 กลุ่ม 2. ครูสาธิตทักษะการเดาะลูกเซปักตะกร้อด้วยเข่า ศีรษะ 3. ครูสาธิตทักษะการเดาะลูกเซปักตะกร้อด้วยเข่า ศีรษะ นักเรียนสอบถานในจุดที่สงสัยและ เริ่มฝึกปฏิบัติ


ขั้นฝึกปฏิบัติ แบบฝึกที่ 1 ท่ายืนเตรียมพร้อมในการเดาะลูกเซปักตะกร้อด้วยเข่า วิธีฝึก ให้นักเรียนยืนตรงในท่าเตรียมพร้อม ปลายเท้าทั้ง 2 ข้างห่างกันกว้าเท่าหัวไหล่ และให้นักเรียน ยืนยกเข่าขึ้นมาขนานกับพื้น ทำมุมโดยประมาณ 90 องศาจะทำให้สามารถควบคุมลูกได้ง่าย ทำ จำนวน 20 ครั้ง แบบฝึกที่ 2 จุดที่ลูกเซปักตะกร้อสัมผัสเข่า วิธีฝึก ให้นักเรียนถือลูกตะกร้อแล้วปล่อยลูกเซปักตะกร้อ แล้วยกเข่าขึ้นมารอลูกตะกร้อตกลงใส่ บริเวณหน้าขา ให้นักเรียนจำจุดที่ลูกตะกร้อตกใส่ ปล่อยแล้วจับทีละ 1 ครั้ง เพื่อเป็นการสร้างความคุ้นเคย ทำจำนวน 20 ครั้ง แบบฝึกที่ 3 การเดาะลูกเซปักตะกร้อด้วยเข่า วิธีฝึก ให้นักเรียนถือลูกตะกร้อแล้วปล่อยลูกเซปักตะกร้อ แล้วยกเท้าขึ้นมารอลูกตะกร้อตกลงใส่เข่า ให้นักเรียนจำจุดที่ลูกตะกร้อตกใส่แล้วลูกเด้งลอยขึ้นมาตรง แล้วเดาะลูกตะกร้อ 1 ครั้งจับ เมื่อชำนาญเพิ่มเป็น 2 ครั้งจับ และเพิ่มจำนวนขึ้นไปเรื่อย ๆ เพื่อเป็นการสร้างความคุ้นเคย เมื่อชำนาญเท้าข้างถนัดแล้วให้ฝึกข้าง ที่ไม่ถนัดเพิ่มเติม


แบบฝึกที่ 4 ท่ายืนเตรียมพร้อมในการเดาะลูกเซปักตะกร้อด้วยศีรษะ วิธีฝึก ให้นักเรียนยืนตรงในท่าเตรียมพร้อม ยืนอยู่ในท่าตรง เท้าแยกห่างกันประมาณช่วงไหล่ เท้าที่ ไม่ถนัดเป็นเท้านำอยู่ด้านหน้าสำหรับการเคลื่อนที่ ย่อตัวลงพอประมาณ ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นในลักษณะตั้ง เพื่อประคองร่างกายให้สมดุลและการทรงตัว และเพื่อเป็นกรอบในการเล่นลูกตะกร้อเกิดความชัดเจน และเพิ่ม ความแน่นอนมากยิ่งขึ้น ใบหน้าเงยเล็กน้อย เปิดสันเท้าเพื่อความรวดเร็วในการเคลื่อนที่ สายตามองลูกตะกร้อ และคาดคะเนจุดกระทบระหว่างลูกตะกร้อกับบริเวณศีรษะให้พอดี แบบฝึกที่ 5 การเดาะลูกเซปักตะกร้อด้วย วิธีฝึก ให้นักเรียนถือลูกตะกร้อแล้วโยนลูกเซปักตะกร้อ แล้วใบหน้าเงยเล็กน้อย เปิดสันเท้าเพื่อความ รวดเร็วในการเคลื่อนที่ สายตามองลูกตะกร้อ และคาดคะเนจุดกระทบระหว่างลูกตะกร้อกับบริเวณศีรษะ แล้วเดาะลูกตะกร้อ 1 ครั้งจับ เมื่อชำนาญเพิ่มเป็น 2 ครั้งจับ และเพิ่มจำนวนขึ้นไปเรื่อย ๆ เพื่อเป็นการสร้าง ความคุ้นเคย เมื่อชำนาญเท้าข้างถนัดแล้วให้ฝึกข้างที่ไม่ถนัดเพิ่มเติม ขั้นนำไปใช้ 1. ให้นักเรียน 1 คนมีตะกร้อ 1 ลูก โดยจะแข่งเดาะลูกเซปักตะกร้อ รอบที่ 1 เดาะลูกเซปักตะกร้อด้วยเข่า รอบที่ 2 เดาะลูกเซปักตะกร้อด้วยศีรษะ


ให้ปฏิบัติดังนี้ ให้นักเรียนเข้าแถวเป็นแถวหน้ากระดาน เมื่อครูสั่งเริ่มให้นักเรียนเริ่มเดาะลูกตะกร้อ ให้นักเรียนทำตกได้แค่คนละ 2 ครั้ง นับรวมกัน ใครเดาะได้มากที่สุดจะได้คะแนนพิเศษ ขั้นสรุป 1. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเรื่องเกี่ยวกับการเดาะลูกเซปักตะกร้อ หลังจากนั้นร่วมกัน อภิปราย ซักถาม 2. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ซักถามและนัดหมายการเรียนในสัปดาห์หน้า 3. เก็บรักษาอุปกรณ์การเรียน 4. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมสุขปฏิบัติ ( ทำความสะอาดร่างกาย เช่น มือ แขน และใบหน้า ) 7. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ - สนามกีฬาเซปักตะกร้อ - Internet -ห้องสมุดโรงเรียน -ห้องพลศึกษา 8. การวัดและการประเมินผล ลงชื่อ (ผู้สอน) ( นายกนกพร สุภรณ์) จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรียนมีความรู้และความ เข้าใจวิธีการเดาะลูกเซปักตะกร้อ (เข่า ศีรษะ) (K) แบบสอบถาม แบบประเมินจาก แบบสอบถาม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80 2. นักเรียนสามารถปฏิบัติตาม ทักษะการเดาะลูกเซปักตะกร้อ (เข่า ศีรษะ) ได้ (P) สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80 3. นักเรียนมีความกระตือรือร้น ในการฝึกเดาะลูกเซปักตะกร้อ (เข่า ศีรษะ) (A) สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80 : นักเรียน : ทิศทางการเคลื่อนที่ : กรวย : ทิศทางการยกเท้า


แบบประเมินทักษะการนำความรู้มาใช้ในการตอบคำถาม คำชี้แจง ให้ครูทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนตามเกณฑ์การประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๑. ความรู้และทักษะ - การนำความรู้มาใช้ในการตอบคำถาม ๒. การแสดงออก -ความตั้งใจ ความมั่นใจและกล้าแสดงออก เกณฑ์การประเมินทักษะการนำความรู้มาตอบคำถาม พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๑.ความรู้และทักษะ - การนำความรู้มาใช้ ในการตอบคำถาม มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องทั้งหมด มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องมากกว่า ๘๐% มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องมากกว่า ๕๐% มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องน้อย ๕๐% ๒. ความตั้งใจ ความ มั่นใจและกล้า แสดงออก มีความตั้งใจ ความ มั่นใจกล้า แสดงออก มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก ไม่มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก ไม่มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ คะแนนระหว่าง ๖ คะแนน หมายถึง ดีมาก คะแนนระหว่าง ๔ – ๕ คะแนน หมายถึง ดี คะแนนระหว่าง ๒ – ๓ คะแนน หมายถึง ผ่าน คะแนนระหว่าง ๐ – ๑ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง


แบบประเมินทักษะกระบวนการพลศึกษา ชื่อ ชั้น คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 ปฏิบัติได้ตามวิธีการ 2 ปฏิบัติได้อย่างคล่องแคล่ว 3 ปฏิบัติได้ตามเวลาที่กำหนด 4 ปฏิบัติด้วยความระมัดระวังด้านความปลอดภัย 5 มีน้ำใจนักกีฬา รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง


แผนการจัดการเรียนรู้ที่9 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา รายวิชาเซปักตะกร้อ รหัสวิชา พ 23104 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การสร้างความคุ้นเคยในการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ แผนจัดการเรียนรู้ที่ 9 การเดาะลูกเซปักตะกร้อ (กระทบผนัง) เวลาเรียน 1 ชั่วโมง วันที่.........เดือน............พ.ศ............. ครูผู้สอนนายกนกพร สุภรณ์ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกายภาพ การเล่นเกม และกีฬา ตัวชี้วัด พ 3.1 ม.3/1 เล่นกีฬาไทยและกีฬาสากล ได้อย่างละ 1 ชนิดโดยใช้เทคนิค ที่เหมาะสมกับตนเองและ ทีม 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 นักเรียนมีความรู้และความเข้าใจวิธีการเดาะลูกเซปักตะกร้อกระทบผนัง (K) 2.2 นักเรียนสามารถปฏิบัติตามทักษะการเดาะลูกเซปักตะกร้อกระทบผนังได้อย่างถูกต้อง (P) 2.3 นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการฝึกเดาะลูกเซปักตะกร้อกระทบผนัง (A) 3. สาระสำคัญ การเล่นกีฬาทุกชนิด ก่อนการฝึกทักษะผู้เล่นจะต้องได้รู้จักหรือสัมผัสกับอุปกรณ์ หรือวัสดุฝึกของกีฬา ชนิดนั้นก่อน กีฬาเซปักตะกร้อก่อนการฝึกก็จะมีกิจกรรมสร้างความคุ้นเคยกับลูกเซปักตะกร้อ การสร้าง ความคุ้นเคยกับอุปกรณ์นั้น ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรจะต้องปฏิบัติ การเดาะลูกตะกร้อเป็นการบังคับลูกบอลโดยใช้ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายการเดาะลูกกระทบผนังจะทำ ให้นักเรียนเกิดความชนาญในการควบคุมลูกเซปักตะกร้อมากขึ้น 4. สาระการเรียนรู้ 1. การสร้างความคุ้นเคยในการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ (การเดาะลูกตะกร้อกระทบผนัง) 5. จุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มีวินัย ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. ความสามารถในการสื่อสาร


6. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นเตรียมและอบอุ่นร่างกาย 1. ให้นักเรียนเข้าแถวตอนลึก 4 แถว 2. ให้นักเรียนนั่งลงกับพื้นฟังรายละเอียดกิจกรรม 3. ครูผู้สอนสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับขนาด น้ำหนัก และความยืดหยุ่น ของลูกเซปัก ตะกร้อ พร้อมสาธิตและชี้ให้เห็นถึงทักษะการเดาะลูกเซปักตะกร้อ ที่เป็นทักษะพื้นฐาน ในการฝึกทักษะอื่นๆ ต่อไป 4. ให้นักเรียนทำท่ากายบริหาร (ตัวแทนนักเรียนเป็นผู้นำ) ขั้นอธิบายและสาธิต 1. นักเรียนแบ่งกลุ่มให้นักเรียน 4 กลุ่ม 2. ครูสาธิตทักษะการเดาะลูกตะกร้อกระทบผนัง 3. ครูสาธิตทักษะการเดาะลูกตะกร้อกระทบผนัง นักเรียนสอบถานในจุดที่สงสัยและเริ่มฝึก ปฏิบัติ


ขั้นฝึกปฏิบัติ แบบฝึกที่ 1 โยนลูกตะกร้อกระทบผนังและรับลูกด้วยข้างเท้าด้านใน วิธีฝึก ให้นักเรียนยืนตรงในท่าเตรียมพร้อม จากนั้นโยนลูกตะกร้อกระทบผนังและพักลูกด้วยข้างเท้า ด้านใน 1 ครั้งและจับ แล้วโยนลูกตะกร้อกระทบผนังและพักลูกด้วยข้างเท้าด้านใน 2 ครั้งและจับ ทำจนชำนาญ จำนวน 10 ครั้ง แบบฝึกที่ 2 เดาะลูกตะกร้อกระทบผนังและรับลูกด้วยข้างเท้าด้านใน วิธีฝึก ให้นักเรียนยืนตรงในท่าเตรียมพร้อม จากนั้นโยนลูกตะกร้อแล้วเดาะลูกกระทบผนังและพักลูก ด้วยข้างเท้าด้านใน 2 ครั้งและเดาะลูกลูกตะกร้อกระทบผนังและรับลูกด้วยข้างเท้าด้านใน 2 ครั้ง ทำเพิ่มไป เรื่อย ๆ ทำจนชำนาญ จำนวน 10 ครั้ง ขั้นนำไปใช้ 1.ให้นักเรียน 1 คนมีตะกร้อ 1 ลูก โดยจะแข่งเดาะลูกเซปักตะกร้อกระทบผนังเข้ากรอบที่ ครูกำหนด ให้ปฏิบัติดังนี้ ให้นักเรียนยืนหันหน้าเข้ากำแพง เมื่อครูสั่งเริ่มให้นักเรียนเริ่มเดาะลูกตะกร้อกระทบ ผนังให้ได้มากที่สุด ให้นักเรียนทำตกได้แค่คนละ 2 ครั้ง นับรวมกัน ใครเดาะได้มากที่สุดจะได้คะแนนพิเศษ


ขั้นสรุป 1. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเรื่องเกี่ยวกับการเดาะลูกเซปักตะกร้อ หลังจากนั้นร่วมกัน อภิปราย ซักถาม 2. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ซักถามและนัดหมายการเรียนในสัปดาห์หน้า 3. เก็บรักษาอุปกรณ์การเรียน 4. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมสุขปฏิบัติ ( ทำความสะอาดร่างกาย เช่น มือ แขน และใบหน้า ) 7. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ - สนามกีฬาเซปักตะกร้อ - Internet -ห้องสมุดโรงเรียน -ห้องพลศึกษา 8. การวัดและการประเมินผล ลงชื่อ (ผู้สอน) ( นายกนกพร สุภรณ์) จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรียนมีความรู้และความ เข้าใจวิธีการเดาะลูกเซปักตะกร้อ กระทบผนัง (K) แบบสอบถาม แบบประเมินจาก แบบสอบถาม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80 2. นักเรียนสามารถปฏิบัติตาม ทักษะการเดาะลูกเซปักตะกร้อ กระทบผนังได้อย่างถูกต้อง (P) สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80 3. นักเรียนมีความกระตือรือร้น ในการฝึกเดาะลูกเซปักตะกร้อ กระทบผนัง (A) สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80 : นักเรียน : ทิศทางการเคลื่อนที่ : ผนัง : ทิศทางการยกเท้า


แบบประเมินทักษะการนำความรู้มาใช้ในการตอบคำถาม คำชี้แจง ให้ครูทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนตามเกณฑ์การประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๑. ความรู้และทักษะ - การนำความรู้มาใช้ในการตอบคำถาม ๒. การแสดงออก -ความตั้งใจ ความมั่นใจและกล้าแสดงออก เกณฑ์การประเมินทักษะการนำความรู้มาตอบคำถาม พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๑.ความรู้และทักษะ - การนำความรู้มาใช้ ในการตอบคำถาม มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องทั้งหมด มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องมากกว่า ๘๐% มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องมากกว่า ๕๐% มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องน้อย ๕๐% ๒. ความตั้งใจ ความ มั่นใจและกล้า แสดงออก มีความตั้งใจ ความ มั่นใจกล้า แสดงออก มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก ไม่มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก ไม่มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ คะแนนระหว่าง ๖ คะแนน หมายถึง ดีมาก คะแนนระหว่าง ๔ – ๕ คะแนน หมายถึง ดี คะแนนระหว่าง ๒ – ๓ คะแนน หมายถึง ผ่าน คะแนนระหว่าง ๐ – ๑ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง


แบบประเมินทักษะกระบวนการพลศึกษา ชื่อ ชั้น คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 ปฏิบัติได้ตามวิธีการ 2 ปฏิบัติได้อย่างคล่องแคล่ว 3 ปฏิบัติได้ตามเวลาที่กำหนด 4 ปฏิบัติด้วยความระมัดระวังด้านความปลอดภัย 5 มีน้ำใจนักกีฬา รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง


แผนการจัดการเรียนรู้ที่10 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา รายวิชาเซปักตะกร้อ รหัสวิชา พ 23104 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ทักษะการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ แผนจัดการเรียนรู้ที่ 10 การเดาะลูกเซปักตะกร้อ (แบบคู่) เวลาเรียน 1 ชั่วโมง วันที่.........เดือน............พ.ศ............. ครูผู้สอนนายกนกพร สุภรณ์ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกายภาพ การเล่นเกม และกีฬา ตัวชี้วัด พ 3.1 ม.3/1 เล่นกีฬาไทยและกีฬาสากล ได้อย่างละ 1 ชนิดโดยใช้เทคนิค ที่เหมาะสมกับตนเองและ ทีม 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 นักเรียนมีความรู้และความเข้าใจวิธีการเดาะลูกเซปักตะกร้อแบบคู่ (K) 2.2 นักเรียนสามารถปฏิบัติตามทักษะการเดาะลูกเซปักตะกร้อแบบคู่ได้อย่างถูกต้อง (P) 2.3 นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการฝึกเดาะลูกเซปักตะกร้อแบบคู่ (A) 3. สาระสำคัญ การเดาะลูกตะกร้อเป็นการบังคับลูกบอลโดยใช้ส่วนต่าง ๆ การเดาะลูกและพักลูกแบบคู่ในการเล่น เซปักตะกร้อเป็นพื้นฐานมี่สำคัญมาก หากมีความชำนาญในการเดาะแบบคู่นักเรียนจะสามารถนำมา ประยุกต์ใช้ในการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อได้เป็นอย่างดี และนำไปสู่ความเป็นเลิศในการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ 4. สาระการเรียนรู้ 1. ทักษะการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ (การเดาะลูกตะกร้อแบบคู่) 5. จุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มีวินัย ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. ความสามารถในการสื่อสาร


6. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นเตรียมและอบอุ่นร่างกาย 1. ให้นักเรียนเข้าแถวตอนลึก 4 แถว 2. ให้นักเรียนนั่งลงกับพื้นฟังรายละเอียดกิจกรรม 3. ครูผู้สอนสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับทักษะการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อการเดาะลูกตะกร้อ แบบคู่พร้อมสาธิตและชี้ให้เห็นถึงทักษะการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อการเดาะลูกตะกร้อแบบคู่เป็นทักษะพื้นฐาน ในการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ 4. ให้นักเรียนทำท่ากายบริหาร (ตัวแทนนักเรียนเป็นผู้นำ) ขั้นอธิบายและสาธิต 1. นักเรียนแบ่งกลุ่มให้นักเรียน 4 กลุ่ม 2. ครูสาธิตทักษะการเดาะลูกตะกร้อแบบคู่ 3. ครูสาธิตทักษะการเดาะลูกตะกร้อแบบคู่ นักเรียนสอบถานในจุดที่สงสัยและเริ่มฝึกปฏิบัติ


ขั้นฝึกปฏิบัติ แบบฝึกที่ 1 โยนลูกตะกร้อและพักลูกด้วยข้างเท้าด้านใน วิธีฝึก ให้นักเรียนยืนตรงในท่าเตรียมพร้อม จากนั้นให้คู่ 1 คนโยนลูกตะกร้อ และอีก 1 คนเป็นคนพัก ลูกด้วยข้างเท้าด้านใน 1 ครั้งและจับ แล้วโยนลูกตะกร้อกลับให้คู่ตัวเอง และทำเพิ่มจำนวนไปเรื่อย ๆ ทำจนชำนาญ แบบฝึกที่ 2 เดาะลูกตะกร้อและพักลูกด้วยข้างเท้าด้านในแบบคู่ วิธีฝึก ให้นักเรียนยืนตรงในท่าเตรียมพร้อม จากนั้นให้คู่ 1 คนเดาะลูกตะกร้อส่งไปให้อีก 1 คน เป็นคนพักลูกด้วยข้างเท้าด้านใน และเดาลูก 2 ครั้ง แล้วเดาะลูกตะกร้อกลับให้คู่ตัวเองพักลูกด้วยข้างเท้าด้าน ใน และเดาลูก 2 ครั้ง และทำเพิ่มจำนวนไปเรื่อย ๆ ทำจนชำนาญ ขั้นนำไปใช้ 1.ให้นักเรียนจับคู่ โดยทุกคู่มีตะกร้อ 1 ลูก โดยจะแข่งเดาะลูกเซปักตะกร้อแบบคู่ ให้ปฏิบัติดังนี้ ให้นักเรียนยืนหันหน้าเข้าหาคู่ตนเอง เมื่อครูสั่งเริ่มให้นักเรียนเริ่มเดาะลูกตะกร้อส่งให้ ฝ่ายตรงข้ามพักและเดาะกลับมานับ เป็น 1 ครั้ง ให้นักเรียนทำตกได้แค่คู่ละ 2 ครั้ง นับรวมกัน คู่ใครเดาะได้ มากที่สุดจะได้คะแนนพิเศษ


ขั้นสรุป 1. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเรื่องเกี่ยวกับการเดาะลูกเซปักตะกร้อ หลังจากนั้นร่วมกัน อภิปราย ซักถาม 2. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ซักถามและนัดหมายการเรียนในสัปดาห์หน้า 3. เก็บรักษาอุปกรณ์การเรียน 4. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมสุขปฏิบัติ ( ทำความสะอาดร่างกาย เช่น มือ แขน และใบหน้า ) 7. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ - สนามกีฬาเซปักตะกร้อ - Internet -ห้องสมุดโรงเรียน -ห้องพลศึกษา 8. การวัดและการประเมินผล ลงชื่อ (ผู้สอน) ( นายกนกพร สุภรณ์) จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรียนมีความรู้และความ เข้าใจวิธีการเดาะลูกเซปักตะกร้อ แบบคู่ (K) แบบสอบถาม แบบประเมินจาก แบบสอบถาม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80 2. นักเรียนสามารถปฏิบัติตาม ทักษะการเดาะลูกเซปักตะกร้อ แบบคู่ได้อย่างถูกต้อง (P) สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80 3. นักเรียนมีความกระตือรือร้น ในการฝึกเดาะลูกเซปักตะกร้อ แบบคู่ (A) สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80 : นักเรียน : ทิศทางการเคลื่อนที่ : ผนัง : ทิศทางการยกเท้า


แบบประเมินทักษะการนำความรู้มาใช้ในการตอบคำถาม คำชี้แจง ให้ครูทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนตามเกณฑ์การประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๑. ความรู้และทักษะ - การนำความรู้มาใช้ในการตอบคำถาม ๒. การแสดงออก -ความตั้งใจ ความมั่นใจและกล้าแสดงออก เกณฑ์การประเมินทักษะการนำความรู้มาตอบคำถาม พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๑.ความรู้และทักษะ - การนำความรู้มาใช้ ในการตอบคำถาม มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องทั้งหมด มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องมากกว่า ๘๐% มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องมากกว่า ๕๐% มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องน้อย ๕๐% ๒. ความตั้งใจ ความ มั่นใจและกล้า แสดงออก มีความตั้งใจ ความ มั่นใจกล้า แสดงออก มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก ไม่มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก ไม่มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ คะแนนระหว่าง ๖ คะแนน หมายถึง ดีมาก คะแนนระหว่าง ๔ – ๕ คะแนน หมายถึง ดี คะแนนระหว่าง ๒ – ๓ คะแนน หมายถึง ผ่าน คะแนนระหว่าง ๐ – ๑ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง


แบบประเมินทักษะกระบวนการพลศึกษา ชื่อ ชั้น คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 ปฏิบัติได้ตามวิธีการ 2 ปฏิบัติได้อย่างคล่องแคล่ว 3 ปฏิบัติได้ตามเวลาที่กำหนด 4 ปฏิบัติด้วยความระมัดระวังด้านความปลอดภัย 5 มีน้ำใจนักกีฬา รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง


แผนการจัดการเรียนรู้ที่11 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา รายวิชาเซปักตะกร้อ รหัสวิชา พ 23104 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ทักษะการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ แผนจัดการเรียนรู้ที่ 11 การโยนลูกเซปักตะกร้อ เวลาเรียน 1 ชั่วโมง วันที่.........เดือน............พ.ศ............. ครูผู้สอนนายกนกพร สุภรณ์ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกายภาพ การเล่นเกม และกีฬา ตัวชี้วัด พ 3.1 ม.3/1 เล่นกีฬาไทยและกีฬาสากล ได้อย่างละ 1 ชนิดโดยใช้เทคนิค ที่เหมาะสมกับตนเองและ ทีม 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 นักเรียนมีความรู้และความเข้าใจวิธีการโยนลูกเซปักตะกร้อ (K) 2.2 นักเรียนสามารถปฏิบัติตามทักษะการโยนลูกเซปักตะกร้อได้อย่างถูกต้อง (P) 2.3 นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการโยนลูกเซปักตะกร้อ (A) 3. สาระสำคัญ การโยน ผู้โยนจะต้องมีทักษะที่ดีพอ โดยต้องโยนให้พอดีมีความสัมพันธ์กับจังหวะของการเสิร์ฟ ซึ่งจะ ส่งผลให้การเสิร์ฟมีประสิทธิภาพ ถือเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งหรืออาจจะไม่มีความสำคัญเลยก็ ได้ ถ้าหากเกิดความผิดพลาดในการโยน เนื่องจากคะแนนที่ได้จากการเสิร์ฟ ถือได้ว่ามีผลมาจากคุณภาพของ การโยนเป็นสำคัญ 4. สาระการเรียนรู้ 1. ทักษะการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ (การโยนลูกเซปักตะกร้อ) 5. จุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มีวินัย ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. ความสามารถในการสื่อสาร


6. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นเตรียมและอบอุ่นร่างกาย 1. ให้นักเรียนเข้าแถวตอนลึก 4 แถว 2. ให้นักเรียนนั่งลงกับพื้นฟังรายละเอียดกิจกรรม 3. ครูผู้สอนสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับทักษะการโยนลูกเซปักตะกร้อ พร้อมสาธิตและ ชี้ให้เห็นถึงทักษะการโยนลูกเซปักตะกร้อ เป็นทักษะที่สำคัญในการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ 4. ให้นักเรียนทำท่ากายบริหาร (ตัวแทนนักเรียนเป็นผู้นำ) ขั้นอธิบายและสาธิต 1. นักเรียนแบ่งกลุ่มให้นักเรียน 4 กลุ่ม 2. ครูสาธิตทักษะการโยนลูกเซปักตะกร้อ 3. ครูสาธิตทักษะการโยนลูกเซปักตะกร้อ นักเรียนสอบถานในจุดที่สงสัยและเริ่มฝึกปฏิบัติ


ขั้นฝึกปฏิบัติ แบบฝึกการโยนลูกตะกร้อให้ผู้เสิร์ฟ วิธีฝึก ให้นักเรียนวางเท้าอยู่ในเสี้ยวงกลมทั้งสองเท้า โดยวางเท้าหลักเท้าข้างที่ถนัด อยู่ด้านหน้า เท้าข้างที่ไม่ถนัดอยู่ด้านหลัง หันปลายเท้าชี้ไปทางด้านผู้เสิร์ฟ วางลูกตะกร้อไว้บนฝ่ามือข้างที่ถนัดประคองลูก ตะกร้อไว้ในอุ้งมือ ไม่กำลูกตะกร้อแน่นมาก ยกแขนซูลูกตะกร้อขึ้นสูง สายตาคาดคะเนลูกตะกร้อให้ตรง เป้าหมาย (ต้องทำความเข้าใจกับผู้เสิร์ฟด้วยว่า ผู้เสิร์ฟชอบการโยนแบบลูกตะกร้อพุ่งรวดเร็ว ลูกสูงย้อย ลูกใกล้ตัวหรือลูกไกลตัว) ย่อเข่าทั้งสองข้างลง ลดแขนข้างที่ถือลูกตะกร้อลงด้วย เมื่อได้จังหวะที่ดีพร้อมยืดเข่า ลำตัวขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ปล่อยลูกตะกร้อให้หลุดออกจากมือในลักษณะลูกตะกร้อหมุนกลิ้งรอบตัวไปด้านหนึ่ง เพื่อไปสู่ทิศทางและเป้าหมายที่ต้องการ ขั้นนำไปใช้ 1.ให้นักเรียนโยนลูกตะกร้อเข้าจุดที่ครูกำหนด ให้ปฏิบัติดังนี้ ให้นักเรียนยืนในเขตโยนลูกแล้วโยนตะกร้อให้เข้าเขตที่ครูกำหนด โดยมีโอกาสในการ โยนจำนวน 10 ลูก ภายในระยะเวลา 2 นาที


ขั้นสรุป 1. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเรื่องเกี่ยวกับการโยนลูกเซปักตะกร้อ หลังจากนั้นร่วมกัน อภิปราย ซักถาม 2. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ซักถามและนัดหมายการเรียนในสัปดาห์หน้า 3. เก็บรักษาอุปกรณ์การเรียน 4. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมสุขปฏิบัติ ( ทำความสะอาดร่างกาย เช่น มือ แขน และใบหน้า ) 7. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ - สนามกีฬาเซปักตะกร้อ - Internet -ห้องสมุดโรงเรียน -ห้องพลศึกษา 8. การวัดและการประเมินผล ลงชื่อ (ผู้สอน) ( นายกนกพร สุภรณ์) จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรียนมีความรู้และความ เข้าใจวิธีการโยนลูกเซปักตะกร้อ (K) แบบสอบถาม แบบประเมินจาก แบบสอบถาม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80 2. นักเรียนสามารถปฏิบัติตาม ทักษะการโยนลูกเซปักตะกร้อได้ อย่างถูกต้อง (P) สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80 3. นักเรียนมีความกระตือรือร้น ในการโยนลูกเซปักตะกร้อ (A) สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80 : นักเรียน : ทิศทางการเคลื่อนที่ : ผนัง : ทิศทางการยกเท้า


แบบประเมินทักษะการนำความรู้มาใช้ในการตอบคำถาม คำชี้แจง ให้ครูทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนตามเกณฑ์การประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๑. ความรู้และทักษะ - การนำความรู้มาใช้ในการตอบคำถาม ๒. การแสดงออก -ความตั้งใจ ความมั่นใจและกล้าแสดงออก เกณฑ์การประเมินทักษะการนำความรู้มาตอบคำถาม พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๑.ความรู้และทักษะ - การนำความรู้มาใช้ ในการตอบคำถาม มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องทั้งหมด มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องมากกว่า ๘๐% มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องมากกว่า ๕๐% มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องน้อย ๕๐% ๒. ความตั้งใจ ความ มั่นใจและกล้า แสดงออก มีความตั้งใจ ความ มั่นใจกล้า แสดงออก มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก ไม่มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก ไม่มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ คะแนนระหว่าง ๖ คะแนน หมายถึง ดีมาก คะแนนระหว่าง ๔ – ๕ คะแนน หมายถึง ดี คะแนนระหว่าง ๒ – ๓ คะแนน หมายถึง ผ่าน คะแนนระหว่าง ๐ – ๑ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง


แบบประเมินทักษะกระบวนการพลศึกษา ชื่อ ชั้น คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 ปฏิบัติได้ตามวิธีการ 2 ปฏิบัติได้อย่างคล่องแคล่ว 3 ปฏิบัติได้ตามเวลาที่กำหนด 4 ปฏิบัติด้วยความระมัดระวังด้านความปลอดภัย 5 มีน้ำใจนักกีฬา รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง


แผนการจัดการเรียนรู้ที่12 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา รายวิชาเซปักตะกร้อ รหัสวิชา พ 23104 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ทักษะการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ แผนจัดการเรียนรู้ที่ 12 การเสิร์ฟลูกเซปักตะกร้อ เวลาเรียน 1 ชั่วโมง วันที่.........เดือน............พ.ศ............. ครูผู้สอนนายกนกพร สุภรณ์ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกายภาพ การเล่นเกม และกีฬา ตัวชี้วัด พ 3.1 ม.3/1 เล่นกีฬาไทยและกีฬาสากล ได้อย่างละ 1 ชนิดโดยใช้เทคนิค ที่เหมาะสมกับตนเองและ ทีม 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 นักเรียนมีความรู้และความเข้าใจวิธีการฝึกเสิร์ฟลูกเซปักตะกร้อ (K) 2.2 นักเรียนสามารถปฏิบัติตามทักษะการเสิร์ฟลูกเซปักตะกร้อได้อย่างถูกต้อง (P) 2.3 นักเรียนมีความกระตือรือร้นในฝึกทักษะการเสิร์ฟลูกเซปักตะกร้อ (A) 3. สาระสำคัญ การเสิร์ฟ คือ การส่งลูกตะกร้อ การเสิร์ฟเป็นขั้นตอนที่ต่อเนื่องจากการโยน บางครั้งเรียกการเสิร์ฟว่า เป็นลักษณะของการรุกอย่างหนึ่ง คือ รุกด้วยการเสิร์ฟการเสิร์ฟที่มีประสิทธิภาพสูง มีความแน่นอน แม่นยำ ย่อมมีผลตอบแทนที่มีค่าสูงอย่างยิ่ง คือการได้รับคะแนนถือว่าเป็นคะแนนที่มีความโชคดี ที่ผู้เล่นไม่ต้องออก แรงกันทั้งทีม อย่าลืมว่าเกมการแข่งขันกีฬาเซปักตะกร้อ มีคะแนนสำหรับผู้ชนะเซ็ตละ 21 คะแนน (ดิวส์คู่ไม่ เกิน25 คะแนน) หากครึ่งหนึ่งของคะแนนในแต่ละเกม ได้มาจากการเสิร์ฟ จะทำให้เป็นผู้ชนะในเกมการ แข่งขันได้โดยไม่ยาก 4. สาระการเรียนรู้ 1. ทักษะการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ (การเสิร์ฟลูกเซปักตะกร้อ) 5. จุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มีวินัย ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. ความสามารถในการสื่อสาร


6. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นเตรียมและอบอุ่นร่างกาย 1. ให้นักเรียนเข้าแถวตอนลึก 4 แถว 2. ให้นักเรียนนั่งลงกับพื้นฟังรายละเอียดกิจกรรม 3. ครูผู้สอนสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับทักษะการเสิร์ฟลูกเซปักตะกร้อ พร้อมสาธิตและ ชี้ให้เห็นถึงการเสิร์ฟลูกเซปักตะกร้อ เป็นทักษะที่สำคัญในการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ 4. ให้นักเรียนทำท่ากายบริหาร (ตัวแทนนักเรียนเป็นผู้นำ) ขั้นอธิบายและสาธิต 1. นักเรียนแบ่งกลุ่มให้นักเรียน 4 กลุ่ม 2. ครูสาธิตทักษะการเสิร์ฟลูกเซปักตะกร้อ การเสิร์ฟมีอยู่ด้วยกัน 3 วิธี 1. การเสิร์ฟลูกตะกร้อด้วยข้างเท้าด้านใน 2. การเสิร์ฟด้วยฝ่าเท้า 3. การเสิร์ฟลูกหลังเท้า 3. ครูสาธิตทักษะการเสิร์ฟลูกเซปักตะกร้อ นักเรียนสอบถานในจุดที่สงสัยและเริ่มฝึกปฏิบัติ


ขั้นฝึกปฏิบัติ แบบฝึกที่ 1 การเสิร์ฟลูกตะกร้อด้วยข้างเท้าด้านใน (ลูกแป) วิธีฝึก ให้นักเรียนผู้เสิร์ฟยืนในวงกลมกว้างเท้าข้างที่ไม่ถนัดมาด้านหน้า และก้าวเท้าข้างที่ถนัดไป ด้านหลัง ยกมือเพื่อแสดงจุดที่ต้องการให้ลูกตะกร้อตก เมื่อผู้โยนโยนลูกมาให้ก้าวเท้าข้างที่อยู่ด้านหลังมา ยก เท้าขึ้นในลักษณะการเล่นลูกด้วยข้างเท้าด้านในพร้อมโน้มตัวไปด้านหน้าเพื่อให้ลูกพุ่งไปด้านหน้า ฝึกจำนวน 10 ลูก เมื่อชำนาญแล้วเปลี่ยนเพื่อนคนต่อไปมาฝึกเสิร์ฟ ครูคอยให้คำแนะนำนักเรียน แบบฝึกที่ 2 การเสิร์ฟลูกตะกร้อด้วยข้างเท้าด้านใน (มุมบน) วิธีฝึก ให้นักเรียนผู้เสิร์ฟยืนในวงกลมกว้างเท้าข้างที่ไม่ถนัดมาด้านหน้า และก้าวเท้าข้างที่ถนัดไป ด้านหลัง ยกมือเพื่อแสดงจุดที่ต้องการให้ลูกตะกร้อตก เมื่อผู้โยนโยนลูกมาให้ก้าวเท้าข้างที่อยู่ด้านหลังมา ยกเท้าขึ้นในลักษณะเหวี่ยงและเตะเท้ามาด้านหน้า พร้อมโน้มตัวไปด้านหน้าเพื่อให้ลูกพุ่งไปด้านหน้า ฝึกจำนวน 10 ลูก เมื่อชำนาญแล้วเปลี่ยนเพื่อนคนต่อไปมาฝึกเสิร์ฟ ครูคอยให้คำแนะนำนักเรียน จุดเท้าสัมผัสลูก จุดเท้าสัมผัสลูก


ขั้นนำไปใช้ 1.ให้นักเรียนเสิร์ฟลูกตะกร้อเข้าจุดที่ครูกำหนด ให้ปฏิบัติดังนี้ ให้นักเรียนยืนในวง แล้วเสิร์ฟลูกตะกร้อให้เข้าเขตที่ครูกำหนด โดยมีโอกาสในการเสิร์ฟ จำนวน 3 ลูก ภายในเขตจะมีคะแนนระบุนับคแนน 3 ครั้งรวมกัน ขั้นสรุป 1. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเรื่องเกี่ยวกับการเสิร์ฟลูกเซปักตะกร้อ หลังจากนั้นร่วมกัน อภิปราย ซักถาม 2. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ซักถามและนัดหมายการเรียนในสัปดาห์หน้า 3. เก็บรักษาอุปกรณ์การเรียน 4. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมสุขปฏิบัติ ( ทำความสะอาดร่างกาย เช่น มือ แขน และใบหน้า ) 7. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ - สนามกีฬาเซปักตะกร้อ - Internet -ห้องสมุดโรงเรียน -ห้องพลศึกษา : นักเรียน : ทิศทางการเคลื่อนที่ : สนามและคะแนน 4 3 5 4 3 5 2 1 2


8. การวัดและการประเมินผล ลงชื่อ (ผู้สอน) ( นายกนกพร สุภรณ์) จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรียนมีความรู้และความ เข้าใจวิธีการฝึกเสิร์ฟลูกเซปัก ตะกร้อ (K) แบบสอบถาม แบบประเมินจาก แบบสอบถาม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80 2. นักเรียนสามารถปฏิบัติตาม ทักษะการเสิร์ฟลูกเซปักตะกร้อ ได้อย่างถูกต้อง (P) สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80 3. นักเรียนมีความกระตือรือร้น ในฝึกทักษะการเสิร์ฟลูกเซปัก ตะกร้อ (A) สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80


แบบประเมินทักษะการนำความรู้มาใช้ในการตอบคำถาม คำชี้แจง ให้ครูทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนตามเกณฑ์การประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๑. ความรู้และทักษะ - การนำความรู้มาใช้ในการตอบคำถาม ๒. การแสดงออก -ความตั้งใจ ความมั่นใจและกล้าแสดงออก เกณฑ์การประเมินทักษะการนำความรู้มาตอบคำถาม พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๑.ความรู้และทักษะ - การนำความรู้มาใช้ ในการตอบคำถาม มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องทั้งหมด มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องมากกว่า ๘๐% มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องมากกว่า ๕๐% มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องน้อย ๕๐% ๒. ความตั้งใจ ความ มั่นใจและกล้า แสดงออก มีความตั้งใจ ความ มั่นใจกล้า แสดงออก มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก ไม่มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก ไม่มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ คะแนนระหว่าง ๖ คะแนน หมายถึง ดีมาก คะแนนระหว่าง ๔ – ๕ คะแนน หมายถึง ดี คะแนนระหว่าง ๒ – ๓ คะแนน หมายถึง ผ่าน คะแนนระหว่าง ๐ – ๑ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง


แบบประเมินทักษะกระบวนการพลศึกษา ชื่อ ชั้น คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 ปฏิบัติได้ตามวิธีการ 2 ปฏิบัติได้อย่างคล่องแคล่ว 3 ปฏิบัติได้ตามเวลาที่กำหนด 4 ปฏิบัติด้วยความระมัดระวังด้านความปลอดภัย 5 มีน้ำใจนักกีฬา รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง


แผนการจัดการเรียนรู้ที่13 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา รายวิชาเซปักตะกร้อ รหัสวิชา พ 23104 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ทักษะการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ แผนจัดการเรียนรู้ที่ 13 การเสิร์ฟลูกเซปักตะกร้อ(ต่อ) เวลาเรียน 1 ชั่วโมง วันที่.........เดือน............พ.ศ............. ครูผู้สอนนายกนกพร สุภรณ์ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกายภาพ การเล่นเกม และกีฬา ตัวชี้วัด พ 3.1 ม.3/1 เล่นกีฬาไทยและกีฬาสากล ได้อย่างละ 1 ชนิดโดยใช้เทคนิค ที่เหมาะสมกับตนเองและ ทีม 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 นักเรียนมีความรู้และความเข้าใจวิธีการฝึกเสิร์ฟลูกเซปักตะกร้อ (K) 2.2 นักเรียนสามารถปฏิบัติตามทักษะการเสิร์ฟลูกเซปักตะกร้อได้อย่างถูกต้อง (P) 2.3 นักเรียนมีความกระตือรือร้นในฝึกทักษะการเสิร์ฟลูกเซปักตะกร้อ (A) 3. สาระสำคัญ การเสิร์ฟ คือ การส่งลูกตะกร้อ การเสิร์ฟเป็นขั้นตอนที่ต่อเนื่องจากการโยน บางครั้งเรียกการเสิร์ฟว่า เป็นลักษณะของการรุกอย่างหนึ่ง คือ รุกด้วยการเสิร์ฟการเสิร์ฟที่มีประสิทธิภาพสูง มีความแน่นอน แม่นยำ ย่อมมีผลตอบแทนที่มีค่าสูงอย่างยิ่ง คือการได้รับคะแนนถือว่าเป็นคะแนนที่มีความโชคดี ที่ผู้เล่นไม่ต้องออก แรงกันทั้งทีม อย่าลืมว่าเกมการแข่งขันกีฬาเซปักตะกร้อ มีคะแนนสำหรับผู้ชนะเซ็ตละ 21 คะแนน (ดิวส์คู่ไม่ เกิน25 คะแนน) หากครึ่งหนึ่งของคะแนนในแต่ละเกม ได้มาจากการเสิร์ฟ จะทำให้เป็นผู้ชนะในเกมการ แข่งขันได้โดยไม่ยาก 4. สาระการเรียนรู้ 1. ทักษะการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ (การเสิร์ฟลูกเซปักตะกร้อ) 5. จุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มีวินัย ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. ความสามารถในการสื่อสาร


6. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นเตรียมและอบอุ่นร่างกาย 1. ให้นักเรียนเข้าแถวตอนลึก 4 แถว 2. ให้นักเรียนนั่งลงกับพื้นฟังรายละเอียดกิจกรรม 3. ครูผู้สอนสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับทักษะการเสิร์ฟลูกเซปักตะกร้อ พร้อมสาธิตและ ชี้ให้เห็นถึงการเสิร์ฟลูกเซปักตะกร้อ เป็นทักษะที่สำคัญในการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ 4. ให้นักเรียนทำท่ากายบริหาร (ตัวแทนนักเรียนเป็นผู้นำ) ขั้นอธิบายและสาธิต 1. นักเรียนแบ่งกลุ่มให้นักเรียน 4 กลุ่ม 2. ครูสาธิตทักษะการเสิร์ฟลูกเซปักตะกร้อ การเสิร์ฟมีอยู่ด้วยกัน 3 วิธี 1. การเสิร์ฟลูกตะกร้อด้วยข้างเท้าด้านใน 2. การเสิร์ฟด้วยฝ่าเท้า 3. การเสิร์ฟลูกหลังเท้า


3. ครูสาธิตทักษะการเสิร์ฟลูกเซปักตะกร้อ นักเรียนสอบถานในจุดที่สงสัยและเริ่มฝึกปฏิบัติ ขั้นฝึกปฏิบัติ แบบฝึกที่ 1 การเสิร์ฟลูกตะกร้อด้วยหลังเท้า วิธีฝึก ให้นักเรียนผู้เสิร์ฟยืนในวงกลมกว้างเท้าข้างที่ไม่ถนัดมาด้านหน้า ยกมือเพื่อเตรียมแสดงจุดที่ ต้องการให้ลูกตะกร้อตก และก้าวเท้าข้างที่ถนัดไปด้านหลังประมาณ 90 องศา กึ่ง ๆ หันหลังให้เน็ต เมื่อผู้โยน โยนลูกมาให้ก้าวเท้าเตะขึ้นจากด้านหลังไปข้างหน้า และเดินหน้าไป 2 ก้าวเข้าท่าเตรียมพร้อม ฝึกจำนวน 10 ลูก เมื่อชำนาญแล้วเปลี่ยนเพื่อนคนต่อไปมาฝึกเสิร์ฟ ครูคอยให้คำแนะนำนักเรียน แบบฝึกที่ 2 การเสิร์ฟลูกตะกร้อด้วยฝ่าเท้า จุดเท้าสัมผัสลูก จุดเท้าสัมผัสลูก


วิธีฝึก ให้นักเรียนผู้เสิร์ฟยืนในวงกลมกว้างเท้าข้างที่ไม่ถนัดมาด้านหน้า ยกมือเพื่อเตรียมแสดงจุดที่ ต้องการให้ลูกตะกร้อตก และก้าวเท้าข้างที่ถนัดไปด้านหลังประมาณ 45 องศา เมื่อผู้โยนโยนลูกมาให้ก้าวเท้า เตะขึ้นจากด้านหลังไปข้างหน้า เปิดฝ่าเท้าให้สัมผัสกับลูกตะกร้อ และเดินหน้าไป 2 ก้าวเข้าท่าเตรียมพร้อม ฝึกจำนวน 10 ลูก เมื่อชำนาญแล้วเปลี่ยนเพื่อนคนต่อไปมาฝึกเสิร์ฟ ครูคอยให้คำแนะนำนักเรียน ขั้นนำไปใช้ 1.ให้นักเรียนเสิร์ฟลูกตะกร้อเข้าจุดที่ครูกำหนด ให้ปฏิบัติดังนี้ ให้นักเรียนยืนในวง แล้วเสิร์ฟลูกตะกร้อให้เข้าเขตที่ครูกำหนด โดยมีโอกาสในการเสิร์ฟ จำนวน 3 ลูก ภายในเขตจะมีคะแนนระบุนับคแนน 3 ครั้ง นับคะแนนรวมกัน ขั้นสรุป 1. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเรื่องเกี่ยวกับการเสิร์ฟลูกเซปักตะกร้อ หลังจากนั้นร่วมกัน อภิปราย ซักถาม 2. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ซักถามและนัดหมายการเรียนในสัปดาห์หน้า 3. เก็บรักษาอุปกรณ์การเรียน 4. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมสุขปฏิบัติ ( ทำความสะอาดร่างกาย เช่น มือ แขน และใบหน้า ) 7. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ - สนามกีฬาเซปักตะกร้อ - Internet -ห้องสมุดโรงเรียน -ห้องพลศึกษา : นักเรียน : ทิศทางการเคลื่อนที่ : สนามและคะแนน 4 3 5 4 3 5 2 1 2


Click to View FlipBook Version