8. การวัดและการประเมินผล ลงชื่อ (ผู้สอน) ( นายกนกพร สุภรณ์) จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรียนมีความรู้และความ เข้าใจวิธีการฝึกเสิร์ฟลูกเซปัก ตะกร้อ (K) แบบสอบถาม แบบประเมินจาก แบบสอบถาม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80 2. นักเรียนสามารถปฏิบัติตาม ทักษะการเสิร์ฟลูกเซปักตะกร้อ ได้อย่างถูกต้อง (P) สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80 3. นักเรียนมีความกระตือรือร้น ในฝึกทักษะการเสิร์ฟลูกเซปัก ตะกร้อ (A) สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80
แบบประเมินทักษะการนำความรู้มาใช้ในการตอบคำถาม คำชี้แจง ให้ครูทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนตามเกณฑ์การประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๑. ความรู้และทักษะ - การนำความรู้มาใช้ในการตอบคำถาม ๒. การแสดงออก -ความตั้งใจ ความมั่นใจและกล้าแสดงออก เกณฑ์การประเมินทักษะการนำความรู้มาตอบคำถาม พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๑.ความรู้และทักษะ - การนำความรู้มาใช้ ในการตอบคำถาม มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องทั้งหมด มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องมากกว่า ๘๐% มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องมากกว่า ๕๐% มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องน้อย ๕๐% ๒. ความตั้งใจ ความ มั่นใจและกล้า แสดงออก มีความตั้งใจ ความ มั่นใจกล้า แสดงออก มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก ไม่มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก ไม่มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ คะแนนระหว่าง ๖ คะแนน หมายถึง ดีมาก คะแนนระหว่าง ๔ – ๕ คะแนน หมายถึง ดี คะแนนระหว่าง ๒ – ๓ คะแนน หมายถึง ผ่าน คะแนนระหว่าง ๐ – ๑ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง
แบบประเมินทักษะกระบวนการพลศึกษา ชื่อ ชั้น คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 ปฏิบัติได้ตามวิธีการ 2 ปฏิบัติได้อย่างคล่องแคล่ว 3 ปฏิบัติได้ตามเวลาที่กำหนด 4 ปฏิบัติด้วยความระมัดระวังด้านความปลอดภัย 5 มีน้ำใจนักกีฬา รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่14 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา รายวิชาเซปักตะกร้อ รหัสวิชา พ 23104 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ทักษะการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ แผนจัดการเรียนรู้ที่ 14 การรับลูกเสิร์ฟเซปักตะกร้อ เวลาเรียน 1 ชั่วโมง วันที่.........เดือน............พ.ศ............. ครูผู้สอนนายกนกพร สุภรณ์ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกายภาพ การเล่นเกม และกีฬา ตัวชี้วัด พ 3.1 ม.3/1 เล่นกีฬาไทยและกีฬาสากล ได้อย่างละ 1 ชนิดโดยใช้เทคนิค ที่เหมาะสมกับตนเองและ ทีม 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 นักเรียนมีความรู้และความเข้าใจวิธีการฝึกการรับลูกเสิร์ฟเซปักตะกร้อ (K) 2.2 นักเรียนสามารถปฏิบัติตามทักษะการรับลูกเสิร์ฟเซปักตะกร้อได้อย่างถูกต้อง (P) 2.3 นักเรียนมีความกระตือรือร้นในฝึกทักษะการรับลูกเสิร์ฟเซปักตะกร้อ (A) 3. สาระสำคัญ การรับลูกเสิร์ฟหรือการเปิดลูกเสิร์ฟ หมายถึง การเล่นลูกตะกร้อครั้งที่ 1 จากการเสิร์ฟของคู่แข่งขัน โดยใช้อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย ได้แก่ ศีรษะ เข่า หลังเท้า ข้างเท้าด้านในและอวัยวะส่วนอื่นๆ ที่ไม่ ผิดกติกา การรับลูกเสิร์ฟเป็นขั้นตอนที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง หากรับเสียจะทำให้เสียคะแนน หรือหากคุณภาพใน การรับไม่ดี จะทำให้การสร้างกระบวนการรุกไม่ดีไปด้วย หรือทำให้ประสิทธิภาพการโต้ตอบกลับไม่ดี ดังนั้น การรับลูกเสิร์ฟครั้งแรกจะต้องทำให้เป็นลูกดีเสมอ (ซึ่งเป็นการยากหากผู้เล่นได้พบกับลูกเสิร์ฟที่มีความรุนแรง) เพื่อส่งผลให้การเล่นลูกตะกร้อครั้งที่ 2 มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นหรือง่ายต่อการเล่น 4. สาระการเรียนรู้ 1. ทักษะการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ (การรับลูกเสิร์ฟเซปักตะกร้อ) 5. จุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มีวินัย ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. ความสามารถในการสื่อสาร
6. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นเตรียมและอบอุ่นร่างกาย 1. ให้นักเรียนเข้าแถวตอนลึก 4 แถว 2. ให้นักเรียนนั่งลงกับพื้นฟังรายละเอียดกิจกรรม 3. ครูผู้สอนสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับทักษะการรับลูกเสิร์ฟเซปักตะกร้อ พร้อมสาธิตและ ชี้ให้เห็นถึงการรับลูกเสิร์ฟเซปักตะกร้อ เป็นทักษะที่สำคัญในการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ 4. ให้นักเรียนทำท่ากายบริหาร (ตัวแทนนักเรียนเป็นผู้นำ) ขั้นอธิบายและสาธิต 1. นักเรียนแบ่งกลุ่มให้นักเรียน 4 กลุ่ม 2. ครูสาธิตทักษะการรับลูกเสิร์ฟเซปักตะกร้อ 3. ครูสาธิตทักษะการรับลูกเสิร์ฟเซปักตะกร้อ นักเรียนสอบถานในจุดที่สงสัยและเริ่มฝึก ปฏิบัติ
ขั้นฝึกปฏิบัติ แบบฝึกที่ 1 การรับลูกเสิร์ฟเซปักตะกร้อ (ด้วยข้างเท้าด้านใน) วิธีฝึก ให้นักเรียนเตรียมพร้อมตามองลูก ผู้ส่งส่งลูกมาระดับต่ำกว่าเอว ผู้ระดับเคลื่อที่ไปรับลูกเซปัก ตะกร้อด้วยข้างเท้าด้านใน โดยห้ามนักเรียนออกแรงปะทะกับลูกตะกร้อเพราะจะทำให้ลูกกระดอนไปไกลตัว แค่ยกเท้าขึ้นมารอรับลูกเท่านั้น แบบฝึกที่ 2 การรับลูกเสิร์ฟเซปักตะกร้อ (ด้วยเข่า) วิธีฝึก ให้นักเรียนเตรียมพร้อมตามองลูก ผู้ส่งส่งลูกมาระดับเอวหรือเข่า ผู้รับเคลื่อนที่ไปรับลูกเซปัก ตะกร้อด้วยเข่า โดยห้ามนักเรียนออกแรงปะทะกับลูกตะกร้อเพราะจะทำให้ลูกกระดอนไปไกลตัว แค่ยกเข่า ขึ้นมารอรับลูกเท่านั้น ขั้นนำไปใช้ 1.ให้นักเรียนรับลูกเสิร์ฟให้เข้าแดนหน้าที่ ตามครูกำหนดไว้ จุดเท้าสัมผัสลูก
ให้ปฏิบัติดังนี้ ให้นักเรียนรอในท่าเตรียมพร้อม แล้วรอรับลูกเสิร์ฟจากฝั่งตรงข้าม เมื่อลูกตะกร้อข้าม มาให้นักเรียนรับลูกตะกร้อให้เข้าเขตที่ครูกำหนด โดยมีโอกาสจำนวน 5 ลูก ขั้นสรุป 1. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเรื่องเกี่ยวกับการรับลูกเสิร์ฟ หลังจากนั้นร่วมกันอภิปราย ซักถาม 2. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ซักถามและนัดหมายการเรียนในสัปดาห์หน้า 3. เก็บรักษาอุปกรณ์การเรียน 4. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมสุขปฏิบัติ ( ทำความสะอาดร่างกาย เช่น มือ แขน และใบหน้า ) 7. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ - สนามกีฬาเซปักตะกร้อ - Internet -ห้องสมุดโรงเรียน -ห้องพลศึกษา 8. การวัดและการประเมินผล ลงชื่อ (ผู้สอน) ( นายกนกพร สุภรณ์) จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรียนมีความรู้และความ เข้าใจวิธีการฝึกการรับลูกเสิร์ฟ เซปักตะกร้อ (K) แบบสอบถาม แบบประเมินจาก แบบสอบถาม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80 2. นักเรียนสามารถปฏิบัติตาม ทักษะการรับลูกเสิร์ฟเซปัก ตะกร้อได้อย่างถูกต้อง (P) สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80 3. นักเรียนมีความกระตือรือร้น ในฝึกทักษะการรับลูกเสิร์ฟเซปัก ตะกร้อ (A) สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80 : นักเรียน : ทิศทางการเคลื่อนที่ : สนามและคะแนน
แบบประเมินทักษะการนำความรู้มาใช้ในการตอบคำถาม คำชี้แจง ให้ครูทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนตามเกณฑ์การประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๑. ความรู้และทักษะ - การนำความรู้มาใช้ในการตอบคำถาม ๒. การแสดงออก -ความตั้งใจ ความมั่นใจและกล้าแสดงออก เกณฑ์การประเมินทักษะการนำความรู้มาตอบคำถาม พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๑.ความรู้และทักษะ - การนำความรู้มาใช้ ในการตอบคำถาม มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องทั้งหมด มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องมากกว่า ๘๐% มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องมากกว่า ๕๐% มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องน้อย ๕๐% ๒. ความตั้งใจ ความ มั่นใจและกล้า แสดงออก มีความตั้งใจ ความ มั่นใจกล้า แสดงออก มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก ไม่มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก ไม่มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ คะแนนระหว่าง ๖ คะแนน หมายถึง ดีมาก คะแนนระหว่าง ๔ – ๕ คะแนน หมายถึง ดี คะแนนระหว่าง ๒ – ๓ คะแนน หมายถึง ผ่าน คะแนนระหว่าง ๐ – ๑ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง
แบบประเมินทักษะกระบวนการพลศึกษา ชื่อ ชั้น คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 ปฏิบัติได้ตามวิธีการ 2 ปฏิบัติได้อย่างคล่องแคล่ว 3 ปฏิบัติได้ตามเวลาที่กำหนด 4 ปฏิบัติด้วยความระมัดระวังด้านความปลอดภัย 5 มีน้ำใจนักกีฬา รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่15 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา รายวิชาเซปักตะกร้อ รหัสวิชา พ 23104 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ทักษะการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ แผนจัดการเรียนรู้ที่ 15 การรับลูกเสิร์ฟเซปักตะกร้อ (ต่อ) เวลาเรียน 1 ชั่วโมง วันที่.........เดือน............พ.ศ............. ครูผู้สอนนายกนกพร สุภรณ์ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกายภาพ การเล่นเกม และกีฬา ตัวชี้วัด พ 3.1 ม.3/1 เล่นกีฬาไทยและกีฬาสากล ได้อย่างละ 1 ชนิดโดยใช้เทคนิค ที่เหมาะสมกับตนเองและ ทีม 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 นักเรียนมีความรู้และความเข้าใจวิธีการฝึกการรับลูกเสิร์ฟเซปักตะกร้อ (K) 2.2 นักเรียนสามารถปฏิบัติตามทักษะการรับลูกเสิร์ฟเซปักตะกร้อได้อย่างถูกต้อง (P) 2.3 นักเรียนมีความกระตือรือร้นในฝึกทักษะการรับลูกเสิร์ฟเซปักตะกร้อ (A) 3. สาระสำคัญ การรับลูกเสิร์ฟหรือการเปิดลูกเสิร์ฟ หมายถึง การเล่นลูกตะกร้อครั้งที่ 1 จากการเสิร์ฟของคู่แข่งขัน โดยใช้อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย ได้แก่ ศีรษะ เข่า หลังเท้า ข้างเท้าด้านในและอวัยวะส่วนอื่นๆ ที่ไม่ ผิดกติกา การรับลูกเสิร์ฟเป็นขั้นตอนที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง หากรับเสียจะทำให้เสียคะแนน หรือหากคุณภาพใน การรับไม่ดี จะทำให้การสร้างกระบวนการรุกไม่ดีไปด้วย หรือทำให้ประสิทธิภาพการโต้ตอบกลับไม่ดี ดังนั้น การรับลูกเสิร์ฟครั้งแรกจะต้องทำให้เป็นลูกดีเสมอ (ซึ่งเป็นการยากหากผู้เล่นได้พบกับลูกเสิร์ฟที่มีความรุนแรง) เพื่อส่งผลให้การเล่นลูกตะกร้อครั้งที่ 2 มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นหรือง่ายต่อการเล่น 4. สาระการเรียนรู้ 1. ทักษะการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ (การรับลูกเสิร์ฟเซปักตะกร้อ) 5. จุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มีวินัย ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. ความสามารถในการสื่อสาร
6. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นเตรียมและอบอุ่นร่างกาย 1. ให้นักเรียนเข้าแถวตอนลึก 4 แถว 2. ให้นักเรียนนั่งลงกับพื้นฟังรายละเอียดกิจกรรม 3. ครูผู้สอนสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับทักษะการรับลูกเสิร์ฟเซปักตะกร้อ พร้อมสาธิตและ ชี้ให้เห็นถึงการรับลูกเสิร์ฟเซปักตะกร้อ เป็นทักษะที่สำคัญในการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ 4. ให้นักเรียนทำท่ากายบริหาร (ตัวแทนนักเรียนเป็นผู้นำ) ขั้นอธิบายและสาธิต 1. นักเรียนแบ่งกลุ่มให้นักเรียน 4 กลุ่ม 2. ครูสาธิตทักษะการรับลูกเสิร์ฟเซปักตะกร้อ 3. ครูสาธิตทักษะการรับลูกเสิร์ฟเซปักตะกร้อ นักเรียนสอบถานในจุดที่สงสัยและเริ่มฝึก ปฏิบัติ
ขั้นฝึกปฏิบัติ แบบฝึกที่ 1 การรับลูกเสิร์ฟเซปักตะกร้อ (ด้วยศีรษะ) วิธีฝึก ให้นักเรียนเตรียมพร้อมตามองลูก ผู้ส่งส่งลูกมาระดับศีรษะ ผู้ระดับเคลื่อที่ไปรับลูกเซปัก ตะกร้อด้วยศีรษะ โดยห้ามนักเรียนออกแรงปะทะกับลูกตะกร้อเพราะจะทำให้ลูกกระดอนไปไกลตัว แค่ให้ ศีรษะสัมผัสกับลูกตะกร้อเท่านั้น แบบฝึกที่ 2 การรับลูกเพื่อเล่นเกมรุก วิธีฝึก ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 3 คน เตรียมพร้อมตามองลูก ผู้ส่งส่งลูกมาระดับใดก็ได้ เมื่อลูกข้า มตะข่ายให้ผู้รับเคลื่อนที่ไปรับลูกเซปักตะกร้อโดยต้องเปิดมาให้ผู้เล่นแดนหน้าจะให้ฝั่งใดก็ได้ โดยให้นักเรียน ปฏิบัติจำนวน 3 ลูกแล้วเป็นเพื่อนในกลุ่มมาเป็นตัวรับหรือตัวเปิด จนเกิดความชำนาญ ขั้นนำไปใช้ 1.ให้นักเรียนรับลูกเสิร์ฟให้เข้าแดนหน้า ที่ตามครูกำหนดไว้
ให้ปฏิบัติดังนี้ ให้นักเรียนรอในท่าเตรียมพร้อมที่กรวยที่ครูกำหนด แล้วรอรับลูกเสิร์ฟจากฝั่งตรงข้าม เมื่อลูกตะกร้อข้ามมาให้นักเรียนวิ่งไปรับหรือเปิดลูกตะกร้อ ให้เข้าแดนหน้าให้ผู้เล่นตัวชงเล่นต่อได้ โดยมี โอกาสจำนวน 5 ลูก ขั้นสรุป 1. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเรื่องเกี่ยวกับการรับลูกเสิร์ฟ หลังจากนั้นร่วมกันอภิปราย ซักถาม 2. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ซักถามและนัดหมายการเรียนในสัปดาห์หน้า 3. เก็บรักษาอุปกรณ์การเรียน 4. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมสุขปฏิบัติ ( ทำความสะอาดร่างกาย เช่น มือ แขน และใบหน้า ) 7. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ - สนามกีฬาเซปักตะกร้อ - Internet -ห้องสมุดโรงเรียน -ห้องพลศึกษา 8. การวัดและการประเมินผล ลงชื่อ (ผู้สอน) ( นายกนกพร สุภรณ์) จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรียนมีความรู้และความ เข้าใจวิธีการฝึกการรับลูกเสิร์ฟ เซปักตะกร้อ (K) แบบสอบถาม แบบประเมินจาก แบบสอบถาม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80 2. นักเรียนสามารถปฏิบัติตาม ทักษะการรับลูกเสิร์ฟเซปัก ตะกร้อได้อย่างถูกต้อง (P) สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80 3. นักเรียนมีความกระตือรือร้น ในฝึกทักษะการรับลูกเสิร์ฟเซปัก ตะกร้อ (A) สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80 : นักเรียน : ทิศทางการเคลื่อนที่ : สนามและคะแนน
แบบประเมินทักษะการนำความรู้มาใช้ในการตอบคำถาม คำชี้แจง ให้ครูทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนตามเกณฑ์การประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๑. ความรู้และทักษะ - การนำความรู้มาใช้ในการตอบคำถาม ๒. การแสดงออก -ความตั้งใจ ความมั่นใจและกล้าแสดงออก เกณฑ์การประเมินทักษะการนำความรู้มาตอบคำถาม พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๑.ความรู้และทักษะ - การนำความรู้มาใช้ ในการตอบคำถาม มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องทั้งหมด มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องมากกว่า ๘๐% มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องมากกว่า ๕๐% มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องน้อย ๕๐% ๒. ความตั้งใจ ความ มั่นใจและกล้า แสดงออก มีความตั้งใจ ความ มั่นใจกล้า แสดงออก มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก ไม่มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก ไม่มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ คะแนนระหว่าง ๖ คะแนน หมายถึง ดีมาก คะแนนระหว่าง ๔ – ๕ คะแนน หมายถึง ดี คะแนนระหว่าง ๒ – ๓ คะแนน หมายถึง ผ่าน คะแนนระหว่าง ๐ – ๑ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง
แบบประเมินทักษะกระบวนการพลศึกษา ชื่อ ชั้น คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 ปฏิบัติได้ตามวิธีการ 2 ปฏิบัติได้อย่างคล่องแคล่ว 3 ปฏิบัติได้ตามเวลาที่กำหนด 4 ปฏิบัติด้วยความระมัดระวังด้านความปลอดภัย 5 มีน้ำใจนักกีฬา รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่16 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา รายวิชาเซปักตะกร้อ รหัสวิชา พ 23104 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ทักษะการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ แผนจัดการเรียนรู้ที่ 16 การเล่นเกมรุก เวลาเรียน 1 ชั่วโมง วันที่.........เดือน............พ.ศ............. ครูผู้สอนนายกนกพร สุภรณ์ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกายภาพ การเล่นเกม และกีฬา ตัวชี้วัด พ 3.1 ม.3/1 เล่นกีฬาไทยและกีฬาสากล ได้อย่างละ 1 ชนิดโดยใช้เทคนิค ที่เหมาะสมกับตนเองและ ทีม 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 นักเรียนมีความรู้และความเข้าใจวิธีการฝึกการเล่นเกมรุก (K) 2.2 นักเรียนสามารถปฏิบัติตามทักษะการเล่นเกมรุกได้อย่างถูกต้อง (P) 2.3 นักเรียนมีความกระตือรือร้นในฝึกทักษะการเล่นเกมรุก (A) 3. สาระสำคัญ การรุก หมายถึง การเล่นตะกร้อ ครั้งที่ 1, 2 หรือ 3 ก็ได้ หากมีโอกาสหรือสร้างโอกาสได้เองหรือ แล้วแต่สถานการณ์ของเกมการเล่นด้วยการรุกในท่าต่างๆ ที่ตนเองถนัด ส่วนมากจะมีท่าการรุกที่ถนัดเป็นหลัก ในการรุกอยู่แล้ว ส่วนท่ารุกอย่างอื่นจะเป็นท่ารุกสำรอง แล้วแต่โอกาสที่จะนำออกมาใช้ เช่น การรุกโดยการ กระโดดลอยตัวกลางอากาศเตะลูกหลังเท้า การกระโดดสลับเท้าด้านหลัง การกระโดดใช้ศีรษะกดลูกตะกร้อลง การกระโดดเหยียบด้วยฝ่าเท้า การกระโดดปาดด้านข้างด้วยฝ่าเท้า เป็นต้น ประสิทธิภาพของการรุกจะดีหรือไม่ ย่อมขึ้นอยู่กับกระบวนการที่ใกล้ชิดที่สุด คือ การตั้งลูกหรืออีก ความหมายหนึ่ง "การตั้งลูกดีจะมีผลทำให้การรุกมีประสิทธิภาพดีด้วย" ซึ่งข้อความดังกล่าวเป็นเพียงเหตุผล หนึ่งเท่านั้น เหตุผลที่สำคัญ คือ จะต้องมีการฝึกฝนปฏิบัติพัฒนาขีดความสามารถเฉพาะตำแหน่งในการเล่น ของตนเองให้ดีด้วย เพื่อจะได้ส่งผลหรือเอื้อประโยชน์ต่อกันในการแก้ไขปรับปรุงให้ประสิทธิภาพในการรุกดีขึ้น 4. สาระการเรียนรู้ 1. ทักษะการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ (การเล่นเกมรุก) 5. จุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มีวินัย ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแก้ปัญหา
3. ความสามารถในการสื่อสาร 6. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นเตรียมและอบอุ่นร่างกาย 1. ให้นักเรียนเข้าแถวตอนลึก 4 แถว 2. ให้นักเรียนนั่งลงกับพื้นฟังรายละเอียดกิจกรรม 3. ครูผู้สอนสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับทักษะการเล่นเกมรุก พร้อมสาธิตและชี้ให้เห็นถึงการ เล่นเกมรุก เป็นทักษะที่สำคัญในการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ ในการฝึกเกมรุกต้องทำการฝึกด้วยความระมัดระวัง 4. ให้นักเรียนทำท่ากายบริหาร (ตัวแทนนักเรียนเป็นผู้นำ) ขั้นอธิบายและสาธิต 1. นักเรียนแบ่งกลุ่มให้นักเรียน 4 กลุ่ม 2. ครูสาธิตทักษะการเล่นเกมรุก 2.1. การกระโดดใช้ศีรษะกดลูกตะกร้อ 2.2. การใช้ฝ่าเท้ากระโดดเหยียบลูกตะกร้อ 2.3. การใช้ฝ่าเท้ากระโดดปาดลูกตะกร้อ 2.4. การกระโดดลอยตัวเตะลูกตะกร้อด้วยการสลับเท้า 2.5. การกระโดดลอยตัวเตะลูกตะกร้อกลางอากาศ
วิธีการฝึกลูกต่างๆ ควรใช้วิธีฝึกจากง่ายไปหายาก เช่น การฝึกโยนให้เล่นในระดับต่ำกว่าตา ข่าย เป็นต้น 3. ครูสาธิตทักษะการเล่นเกมรุก นักเรียนสอบถานในจุดที่สงสัยและเริ่มฝึกปฏิบัติ ขั้นฝึกปฏิบัติ แบบฝึกที่ 1 การกระโดดใช้ศีรษะกดลูกตะกร้อ วิธีฝึก ให้นักเรียนเตรียมพร้อมตามองลูกตะกร้อ จุดที่จะโหม่งต้องโหม่งบริเวณด้านบนของลูกตะกร้อ ใช้บริเวณหน้าผากด้านหน้า หรือด้านข้างเป็นจุดสัมผัสลูกตะกร้อ เมื่อลูกลอยมาในระยะเหนือศีรษะให้นักเรียน กระโดดแล้วใช้ศีรษะกดลูกตะกร้อให้ข้ามเน็ตไป ยิ่งสะบัดศีรษะกระทบลูกแรงขนาดไหนลูกตะกร้อพุ่งไป ด้านหน้ายิ่งแรงขึ้น แบบฝึกที่ 2 การใช้ฝ่าเท้ากระโดดเหยียบลูกตะกร้อ วิธีฝึก ให้นักเรียนเตรียมพร้อมตามองลูกตะกร้อ จุดที่จะเหยียบต้องเหยียบบริเวณด้านบนของลูก ตะกร้อใช้บริเวณฝ่าเท้าเป็นจุดสัมผัสลูกตะกร้อ เมื่อลูกลอยมาในระยะเหนือตาข่ายให้นักเรียนกระโดดโดยขา ข้างที่ไม่ถนัดเป็นขากระโดด กางแขนเพื่อรักษาสมดุด เตะขาข้างที่ถนัดขึ้นเหนือลูกตะกร้อแล้วเหยียบลง บริเวณด้านบนลูกเตะกร้อ ยิ่งสะบัดฝ่าเท้ากระทบลูกแรงขนาดไหนลูกตะกร้อพุ่งไปด้านหน้ายิ่งแรงขึ้น
แบบฝึกที่ 3 การใช้ฝ่าเท้ากระโดดปาดลูกตะกร้อ วิธีฝึก ให้นักเรียนเตรียมพร้อมตามองลูกตะกร้อ จุดที่จะเหยียบต้องเหยียบบริเวณด้านข้างของลูก ตะกร้อใช้บริเวณฝ่าเท้าเป็นจุดสัมผัสลูกตะกร้อ เมื่อลูกลอยมาในระยะเหนือตาข่ายให้นักเรียนกระโดดโดยขา ข้างที่ไม่ถนัดเป็นขากระโดด กางแขนเพื่อรักษาสมดุด เตะขาข้างที่ถนัดขึ้นใช้ฝ่าเท้าปาดด้านข้างของลูกตะกร้อ ยิ่งสะบัดฝ่าเท้ากระทบลูกแรงขนาดไหนลูกตะกร้อพุ่งไปด้านหน้ายิ่งแรงขึ้น ขั้นนำไปใช้ 1.ให้นักเรียนเล่นเกมรุกให้ลูกตกในแดนหน้าของฝ่ายตรงข้าม ตามที่ครูกำหนดไว้ ให้ปฏิบัติดังนี้ ให้นักเรียนรอในท่าเตรียมพร้อมที่กรวยที่ครูกำหนด แล้วรอเล่นเกมรุกด้วยวิธีใดก็ได้ให้ ลูกตกในแดนหน้าเขตที่ครูกำหนด โดยมีโอกาสจำนวน 5 ลูก ขั้นสรุป 1. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเรื่องเกี่ยวกับการเล่นเกมรุก หลังจากนั้นร่วมกันอภิปราย ซักถาม 2. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ซักถามและนัดหมายการเรียนในสัปดาห์หน้า 3. เก็บรักษาอุปกรณ์การเรียน 4. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมสุขปฏิบัติ ( ทำความสะอาดร่างกาย เช่น มือ แขน และใบหน้า )
7. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ - สนามกีฬาเซปักตะกร้อ - Internet -ห้องสมุดโรงเรียน -ห้องพลศึกษา 8. การวัดและการประเมินผล ลงชื่อ (ผู้สอน) ( นายกนกพร สุภรณ์) จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรียนมีความรู้และความ เข้าใจวิธีการฝึกการเล่นเกมรุก (K) แบบสอบถาม แบบประเมินจาก แบบสอบถาม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80 2. นักเรียนสามารถปฏิบัติตาม ทักษะการเล่นเกมรุกได้อย่าง ถูกต้อง (P) สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80 3. นักเรียนมีความกระตือรือร้น ในฝึกทักษะการเล่นเกมรุก (A) สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80 : นักเรียน : ทิศทางการเคลื่อนที่ลูก : ทิศทางการเคลื่อนที่นักเรียน : สนามเขตตก
แบบประเมินทักษะการนำความรู้มาใช้ในการตอบคำถาม คำชี้แจง ให้ครูทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนตามเกณฑ์การประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๑. ความรู้และทักษะ - การนำความรู้มาใช้ในการตอบคำถาม ๒. การแสดงออก -ความตั้งใจ ความมั่นใจและกล้าแสดงออก เกณฑ์การประเมินทักษะการนำความรู้มาตอบคำถาม พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๑.ความรู้และทักษะ - การนำความรู้มาใช้ ในการตอบคำถาม มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องทั้งหมด มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องมากกว่า ๘๐% มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องมากกว่า ๕๐% มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องน้อย ๕๐% ๒. ความตั้งใจ ความ มั่นใจและกล้า แสดงออก มีความตั้งใจ ความ มั่นใจกล้า แสดงออก มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก ไม่มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก ไม่มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ คะแนนระหว่าง ๖ คะแนน หมายถึง ดีมาก คะแนนระหว่าง ๔ – ๕ คะแนน หมายถึง ดี คะแนนระหว่าง ๒ – ๓ คะแนน หมายถึง ผ่าน คะแนนระหว่าง ๐ – ๑ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง
แบบประเมินทักษะกระบวนการพลศึกษา ชื่อ ชั้น คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 ปฏิบัติได้ตามวิธีการ 2 ปฏิบัติได้อย่างคล่องแคล่ว 3 ปฏิบัติได้ตามเวลาที่กำหนด 4 ปฏิบัติด้วยความระมัดระวังด้านความปลอดภัย 5 มีน้ำใจนักกีฬา รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่17 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา รายวิชาเซปักตะกร้อ รหัสวิชา พ 23104 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ทักษะการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ แผนจัดการเรียนรู้ที่ 17 การเล่นเกมรุก(ต่อ) เวลาเรียน 1 ชั่วโมง วันที่.........เดือน............พ.ศ............. ครูผู้สอนนายกนกพร สุภรณ์ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกายภาพ การเล่นเกม และกีฬา ตัวชี้วัด พ 3.1 ม.3/1 เล่นกีฬาไทยและกีฬาสากล ได้อย่างละ 1 ชนิดโดยใช้เทคนิค ที่เหมาะสมกับตนเองและ ทีม 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 นักเรียนมีความรู้และความเข้าใจวิธีการฝึกการเล่นเกมรุก (K) 2.2 นักเรียนสามารถปฏิบัติตามทักษะการเล่นเกมรุกได้อย่างถูกต้อง (P) 2.3 นักเรียนมีความกระตือรือร้นในฝึกทักษะการเล่นเกมรุก (A) 3. สาระสำคัญ การรุก หมายถึง การเล่นตะกร้อ ครั้งที่ 1, 2 หรือ 3 ก็ได้ หากมีโอกาสหรือสร้างโอกาสได้เองหรือ แล้วแต่สถานการณ์ของเกมการเล่นด้วยการรุกในท่าต่างๆ ที่ตนเองถนัด ส่วนมากจะมีท่าการรุกที่ถนัดเป็นหลัก ในการรุกอยู่แล้ว ส่วนท่ารุกอย่างอื่นจะเป็นท่ารุกสำรอง แล้วแต่โอกาสที่จะนำออกมาใช้ เช่น การรุกโดยการ กระโดดลอยตัวกลางอากาศเตะลูกหลังเท้า การกระโดดสลับเท้าด้านหลัง การกระโดดใช้ศีรษะกดลูกตะกร้อลง การกระโดดเหยียบด้วยฝ่าเท้า การกระโดดปาดด้านข้างด้วยฝ่าเท้า เป็นต้น ประสิทธิภาพของการรุกจะดีหรือไม่ ย่อมขึ้นอยู่กับกระบวนการที่ใกล้ชิดที่สุด คือ การตั้งลูกหรืออีก ความหมายหนึ่ง "การตั้งลูกดีจะมีผลทำให้การรุกมีประสิทธิภาพดีด้วย" ซึ่งข้อความดังกล่าวเป็นเพียงเหตุผล หนึ่งเท่านั้น เหตุผลที่สำคัญ คือ จะต้องมีการฝึกฝนปฏิบัติพัฒนาขีดความสามารถเฉพาะตำแหน่งในการเล่น ของตนเองให้ดีด้วย เพื่อจะได้ส่งผลหรือเอื้อประโยชน์ต่อกันในการแก้ไขปรับปรุงให้ประสิทธิภาพในการรุกดีขึ้น 4. สาระการเรียนรู้ 1. ทักษะการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ (การเล่นเกมรุก) 5. จุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มีวินัย
ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. ความสามารถในการสื่อสาร 6. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นเตรียมและอบอุ่นร่างกาย 1. ให้นักเรียนเข้าแถวตอนลึก 4 แถว 2. ให้นักเรียนนั่งลงกับพื้นฟังรายละเอียดกิจกรรม 3. ครูผู้สอนสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับทักษะการเล่นเกมรุก พร้อมสาธิตและชี้ให้เห็นถึงการ เล่นเกมรุก เป็นทักษะที่สำคัญในการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ ในการฝึกเกมรุกต้องทำการฝึกด้วยความระมัดระวัง 4. ให้นักเรียนทำท่ากายบริหาร (ตัวแทนนักเรียนเป็นผู้นำ) ขั้นอธิบายและสาธิต 1. นักเรียนแบ่งกลุ่มให้นักเรียน 4 กลุ่ม 2. ครูสาธิตทักษะการเล่นเกมรุก 2.1. การกระโดดใช้ศีรษะกดลูกตะกร้อ 2.2. การใช้ฝ่าเท้ากระโดดเหยียบลูกตะกร้อ
2.3. การใช้ฝ่าเท้ากระโดดปาดลูกตะกร้อ 2.4. การกระโดดลอยตัวเตะลูกตะกร้อด้วยการสลับเท้า 2.5. การกระโดดลอยตัวเตะลูกตะกร้อกลางอากาศ วิธีการฝึกลูกต่างๆ ควรใช้วิธีฝึกจากง่ายไปหายาก เช่น การฝึกโยนให้เล่นในระดับต่ำกว่าตา ข่าย เป็นต้น 3. ครูสาธิตทักษะการเล่นเกมรุก นักเรียนสอบถานในจุดที่สงสัยและเริ่มฝึกปฏิบัติ ขั้นฝึกปฏิบัติ แบบฝึกที่ 1 การกระโดดลอยตัวเตะลูกตะกร้อด้วยการสลับเท้า วิธีฝึก ให้นักเรียนเตรียมพร้อมตามองลูกตะกร้อ จุดที่จะเตะลูกตะกร้อบริเวณด้านบนของลูกตะกร้อ ใช้บริเวณหลังเท้าในการสัมผัส เมื่อลูกลอยมาในระยะเหนือตาข่าย ให้นักเรียนกระโดดเตะขาไม่ถนัดขึ้นก่อน แล้วเตะขาข้างที่ถนัดขึ้นเหนือข้างที่ไม่ถนัดแล้วเตะบริเวณด้านบนของลูก ไม่ต้องหมุนตัว ยิ่งสะบัดเท้ากระทบ ลูกแรงขนาดไหนลูกตะกร้อพุ่งไปด้านหน้ายิ่งแรงขึ้น*การฝึกนี้เหมาะสำหรับนักกีฬาควรฝึกอย่างระมัดระวัง* แบบฝึกที่ 2 การกระโดดลอยตัวเตะลูกตะกร้อกลางอากาศ วิธีฝึก ให้นักเรียนเตรียมพร้อมตามองลูกตะกร้อ จุดที่จะเตะลูกตะกร้อบริเวณด้านบนของลูกตะกร้อ ใช้บริเวณหลังเท้าในการสัมผัส เมื่อลูกลอยมาในระยะเหนือตาข่าย ให้นักเรียนกระโดดเตะขาข้างที่ไม่ถนัดขึ้น ก่อนแล้วเตะขาข้างที่ถนัดขึ้นเหนือข้างที่ไม่ถนัด แล้วเตะบริเวณด้านบนของลูก หมุนตัว ยิ่งสะบัดเท้ากระทบลูก แรงขนาดไหนลูกตะกร้อพุ่งไปด้านหน้ายิ่งแรงขึ้น*การฝึกนี้เหมาะสำหรับนักกีฬาควรฝึกอย่างระมัดระวัง*
ขั้นนำไปใช้ 1.ให้นักเรียนเล่นเกมรุกให้ลูกตกในแดนหน้าของฝ่ายตรงข้าม ตามที่ครูกำหนดไว้ ให้ปฏิบัติดังนี้ ให้นักเรียนรอในท่าเตรียมพร้อมที่กรวยที่ครูกำหนด แล้วรอเล่นเกมรุกด้วยวิธีใดก็ได้ให้ ลูกตกในแดนหน้าเขตที่ครูกำหนด โดยมีโอกาสจำนวน 5 ลูก ขั้นสรุป 1. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเรื่องเกี่ยวกับการเล่นเกมรุก หลังจากนั้นร่วมกันอภิปราย ซักถาม 2. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ซักถามและนัดหมายการเรียนในสัปดาห์หน้า 3. เก็บรักษาอุปกรณ์การเรียน 4. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมสุขปฏิบัติ ( ทำความสะอาดร่างกาย เช่น มือ แขน และใบหน้า ) 7. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ - สนามกีฬาเซปักตะกร้อ - Internet -ห้องสมุดโรงเรียน -ห้องพลศึกษา : นักเรียน : ทิศทางการเคลื่อนที่ลูก : ทิศทางการเคลื่อนที่นักเรียน : สนามเขตตก
8. การวัดและการประเมินผล ลงชื่อ (ผู้สอน) ( นายกนกพร สุภรณ์) จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรียนมีความรู้และความ เข้าใจวิธีการฝึกการเล่นเกมรุก (K) แบบสอบถาม แบบประเมินจาก แบบสอบถาม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80 2. นักเรียนสามารถปฏิบัติตาม ทักษะการเล่นเกมรุกได้อย่าง ถูกต้อง (P) สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80 3. นักเรียนมีความกระตือรือร้น ในฝึกทักษะการเล่นเกมรุก (A) สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80
แบบประเมินทักษะการนำความรู้มาใช้ในการตอบคำถาม คำชี้แจง ให้ครูทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนตามเกณฑ์การประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๑. ความรู้และทักษะ - การนำความรู้มาใช้ในการตอบคำถาม ๒. การแสดงออก -ความตั้งใจ ความมั่นใจและกล้าแสดงออก เกณฑ์การประเมินทักษะการนำความรู้มาตอบคำถาม พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๑.ความรู้และทักษะ - การนำความรู้มาใช้ ในการตอบคำถาม มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องทั้งหมด มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องมากกว่า ๘๐% มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องมากกว่า ๕๐% มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องน้อย ๕๐% ๒. ความตั้งใจ ความ มั่นใจและกล้า แสดงออก มีความตั้งใจ ความ มั่นใจกล้า แสดงออก มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก ไม่มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก ไม่มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ คะแนนระหว่าง ๖ คะแนน หมายถึง ดีมาก คะแนนระหว่าง ๔ – ๕ คะแนน หมายถึง ดี คะแนนระหว่าง ๒ – ๓ คะแนน หมายถึง ผ่าน คะแนนระหว่าง ๐ – ๑ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง
แบบประเมินทักษะกระบวนการพลศึกษา ชื่อ ชั้น คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 ปฏิบัติได้ตามวิธีการ 2 ปฏิบัติได้อย่างคล่องแคล่ว 3 ปฏิบัติได้ตามเวลาที่กำหนด 4 ปฏิบัติด้วยความระมัดระวังด้านความปลอดภัย 5 มีน้ำใจนักกีฬา รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่18 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา รายวิชาเซปักตะกร้อ รหัสวิชา พ 23104 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ทักษะการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ แผนจัดการเรียนรู้ที่ 18 การบล็อคหรือสกัดกั้น เวลาเรียน 1 ชั่วโมง วันที่.........เดือน............พ.ศ............. ครูผู้สอนนายกนกพร สุภรณ์ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกายภาพ การเล่นเกม และกีฬา ตัวชี้วัด พ 3.1 ม.3/1 เล่นกีฬาไทยและกีฬาสากล ได้อย่างละ 1 ชนิดโดยใช้เทคนิค ที่เหมาะสมกับตนเองและ ทีม 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 นักเรียนมีความรู้และความเข้าใจวิธีการฝึกทักษะการสกัดกั้นหรือการบล็อก (K) 2.2 นักเรียนสามารถปฏิบัติตามทักษะการสกัดกั้นหรือการบล็อกได้อย่างถูกต้อง (P) 2.3 นักเรียนมีความกระตือรือร้นในฝึกทักษะการสกัดกั้นหรือการบล็อก (A) 3. สาระสำคัญ การสกัดกั้นหรือการบล็อก หมายถึง การตั้งรับที่เกิดขึ้นภายหลังจากการรุก ซึ่งเป็นการรุกที่รุนแรง และรวดเร็ว ยากแก่การตั้งรับแบบธรรมดา จึงเกิดแนวคิดหาวิธีสกัดกั้นที่มีประสิทธิภาพ การสกัดกั้น คือ การนำเอาอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกาย ยกเว้นส่วนที่เป็นแขน (ตั้งแต่หัวไหล่ลงไป จนถึงปลายนิ้วมือ) ขึ้นสกัดกั้นการรุกของคู่แข่งเหนือตาข่าย การสกัดกั้นเปรียบเสมือนการตั้งรับอย่างหนึ่ง แต่เป็นการตั้งรับเฉพาะการรุกที่รุนแรงเท่านั้น การสกัดกั้นที่ได้ผลดีนั้นต้องคำนึงถึงจังหวะของผู้สกัดกั้นกับ จังหวะของผู้รุกให้มีความสัมพันธ์กัน โดยการกะระยะให้พอดีพร้อมกับจัดระเบียบส่วนต่างๆ ของร่างกายให้ รัดกุมและไม่เสียการทรงตัว การสกัดกั้นเป็นการสร้างความกดดันให้เกิดขึ้นกับคู่แข่งขัน หากสามารถทำได้ผล ติดต่อกันหลายๆ ครั้ง 4. สาระการเรียนรู้ 1. ทักษะการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ (การบล็อคหรือสกัดกั้น) 5. จุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มีวินัย ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. ความสามารถในการสื่อสาร
6. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นเตรียมและอบอุ่นร่างกาย 1. ให้นักเรียนเข้าแถวตอนลึก 4 แถว 2. ให้นักเรียนนั่งลงกับพื้นฟังรายละเอียดกิจกรรม 3. ครูผู้สอนสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับทักษะการสกัดกั้นหรือการบล็อก พร้อมสาธิตและ ชี้ให้เห็นถึงการสกัดกั้นหรือการบล็อก เป็นทักษะที่สำคัญในการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ 4. ให้นักเรียนทำท่ากายบริหาร (ตัวแทนนักเรียนเป็นผู้นำ) ขั้นอธิบายและสาธิต 1. นักเรียนแบ่งกลุ่มให้นักเรียน 4 กลุ่ม 2. ครูสาธิตทักษะการสกัดกั้นหรือการบล็อกการสกัดกั้นมี 2 แบบ คือ 1. การสกัดกั้นด้วยขาและลำตัว 2. การสกัดกั้นด้วยแผ่นหลัง 3. ครูสาธิตทักษะการบล็อคหรือสกัดกั้น นักเรียนสอบถานในจุดที่สงสัยและเริ่มฝึกปฏิบัติ
ขั้นฝึกปฏิบัติ แบบฝึกที่ 1 การสกัดกั้นด้วยขาและลำตัว วิธีฝึก ให้นักเรียนเตรียมพร้อมหันข้างเข้าหาตาข่ายตามองลูกตะกร้อ มองจุดที่ลูกตะกร้อจะพุ่งมา จากนั้นเตะขาข้างที่จะบล็อคขึ้นเหนือตาข่าย ขาหลังสติงขึ้น งอขาข้างที่จะบล็อกเล็กน้อย มือข้างเดียวกับขาที่ บล็อคยกปิดป้องใบหูและลำตัว นักเรียนปฏิบัติจำนวน 10 ครั้ง แบบฝึกที่ 2 การสกัดกั้นด้วยแผ่นหลัง วิธีฝึก ให้นักเรียนเตรียมพร้อมหันหลังเข้าหาตาข่ายกระโดดขึ้นให้แผ่นหลังเหนือตาข่าย ใช้แผ่นหลัง ในการบล็อค นักเรียนปฏิบัติจำนวน 10 ครั้ง ขั้นนำไปใช้ 1.ให้นักเรียนบล็อคลูกให้ลูกตกในแดนหน้าของฝ่ายตรงข้าม ตามที่ครูกำหนดไว้
ให้ปฏิบัติดังนี้ ให้นักเรียนรอในท่าเตรียมพร้อม แล้วบล็อกลูก บล็อกด้วยวิธีใดก็ได้ ให้ลูกตกในแดน หน้าเขตที่ครูกำหนด โดยมีโอกาสจำนวน 5 ลูก ขั้นสรุป 1. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเรื่องเกี่ยวกับการสกัดกั้นหรือการบล็อก หลังจากนั้นร่วมกัน อภิปราย ซักถาม 2. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ซักถามและนัดหมายการเรียนในสัปดาห์หน้า 3. เก็บรักษาอุปกรณ์การเรียน 4. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมสุขปฏิบัติ ( ทำความสะอาดร่างกาย เช่น มือ แขน และใบหน้า ) 7. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ - สนามกีฬาเซปักตะกร้อ - Internet -ห้องสมุดโรงเรียน -ห้องพลศึกษา 8. การวัดและการประเมินผล ลงชื่อ (ผู้สอน) ( นายกนกพร สุภรณ์) จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรียนมีความรู้และความ เข้าใจวิธีการฝึกทักษะการสกัดกั้น หรือการบล็อก (K) แบบสอบถาม แบบประเมินจาก แบบสอบถาม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80 2. นักเรียนสามารถปฏิบัติตาม ทักษะการสกัดกั้นหรือการบล็อก ได้อย่างถูกต้อง (P) สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80 3. นักเรียนมีความกระตือรือร้น ในฝึกทักษะการสกัดกั้นหรือการ (A) สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80 : นักเรียน : ทิศทางการเคลื่อนที่ลูก : ทิศทางการเคลื่อนที่นักเรียน : สนามเขตตก
แบบประเมินทักษะการนำความรู้มาใช้ในการตอบคำถาม คำชี้แจง ให้ครูทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนตามเกณฑ์การประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๑. ความรู้และทักษะ - การนำความรู้มาใช้ในการตอบคำถาม ๒. การแสดงออก -ความตั้งใจ ความมั่นใจและกล้าแสดงออก เกณฑ์การประเมินทักษะการนำความรู้มาตอบคำถาม พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๑.ความรู้และทักษะ - การนำความรู้มาใช้ ในการตอบคำถาม มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องทั้งหมด มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องมากกว่า ๘๐% มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องมากกว่า ๕๐% มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องน้อย ๕๐% ๒. ความตั้งใจ ความ มั่นใจและกล้า แสดงออก มีความตั้งใจ ความ มั่นใจกล้า แสดงออก มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก ไม่มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก ไม่มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ คะแนนระหว่าง ๖ คะแนน หมายถึง ดีมาก คะแนนระหว่าง ๔ – ๕ คะแนน หมายถึง ดี คะแนนระหว่าง ๒ – ๓ คะแนน หมายถึง ผ่าน คะแนนระหว่าง ๐ – ๑ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง
แบบประเมินทักษะกระบวนการพลศึกษา ชื่อ ชั้น คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 ปฏิบัติได้ตามวิธีการ 2 ปฏิบัติได้อย่างคล่องแคล่ว 3 ปฏิบัติได้ตามเวลาที่กำหนด 4 ปฏิบัติด้วยความระมัดระวังด้านความปลอดภัย 5 มีน้ำใจนักกีฬา รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่19 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา รายวิชาเซปักตะกร้อ รหัสวิชา พ 23104 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ทักษะการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ แผนจัดการเรียนรู้ที่ 19 ตำแหน่งและหน้าที่ของแต่ละตำแหน่ง เวลาเรียน 1 ชั่วโมง วันที่.........เดือน............พ.ศ............. ครูผู้สอนนายกนกพร สุภรณ์ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกายภาพ การเล่นเกม และกีฬา ตัวชี้วัด พ 3.1 ม.3/1 เล่นกีฬาไทยและกีฬาสากล ได้อย่างละ 1 ชนิดโดยใช้เทคนิค ที่เหมาะสมกับตนเองและ ทีม 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 นักเรียนมีความรู้และความเข้าใจวิธีการฝึกตำแหน่งและหน้าที่ของแต่ละตำแหน่ง (K) 2.2 นักเรียนสามารถปฏิบัติตามทักษะของตำแหน่งและหน้าที่ของแต่ละตำแหน่งได้อย่างถูกต้อง (P) 2.3 นักเรียนมีความกระตือรือร้นในฝึกทักษะของตำแหน่งและหน้าที่ของแต่ละตำแหน่ง (A) 3. สาระสำคัญ ตำแหน่งและหน้าที่ของแต่ละตำแหน่งเป็นสิ่งที่สำคัญในการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ ทีมเซปักตะกร้อ จะ ประสบความสำเร็จได้ นอกจากทักษะของผู้เล่นแต่ละคนในทีมแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ “การวางแผนการ เล่น” ที่จะกำหนดตำแหน่งของนักตะกร้อซึ่งมีความถนัดแตกต่างกันให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด 4. สาระการเรียนรู้ 1. ทักษะการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ (ตำแหน่งและหน้าที่ของแต่ละตำแหน่ง) 5. จุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มีวินัย ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. ความสามารถในการสื่อสาร
6. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นเตรียมและอบอุ่นร่างกาย 1. ให้นักเรียนเข้าแถวตอนลึก 4 แถว 2. ให้นักเรียนนั่งลงกับพื้นฟังรายละเอียดกิจกรรม 3. ครูผู้สอนสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับตำแหน่งและหน้าที่ของแต่ละตำแหน่ง พร้อมสาธิต และชี้ให้เห็นถึงตำแหน่งและหน้าที่ของแต่ละตำแหน่ง เป็นทักษะที่สำคัญในการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ 4. ให้นักเรียนทำท่ากายบริหาร (ตัวแทนนักเรียนเป็นผู้นำ) ขั้นอธิบายและสาธิต 1. นักเรียนแบ่งกลุ่มให้นักเรียน 4 กลุ่ม 2. ครูสาธิตทักษะการเล่นในแต่ละตำแหน่งและหน้าที่ของแต่ละตำแหน่ง 3. ครูสาธิตทักษะการเล่นเกมรุก นักเรียนสอบถานในจุดที่สงสัยและเริ่มฝึกปฏิบัติ
ขั้นฝึกปฏิบัติ แบบฝึกตำแหน่งและหน้าที่ของแต่ละตำแหน่ง ตำแหน่งและหน้าที่ของแต่ละตำแหน่ง ผู้เล่นเสิร์ฟ มีหน้าที่ เป็นตัวส่งลูกเริ่มเล่นหากมีทักษะการส่งลูกที่ดีหรือการเสิร์ฟดีจะทำให้ได้เปรียบ ในการแข่งขันอีก ๑ ข้อที่สำคัญตัวเสิร์ฟต้องเป็นผู้นำของเป็นหัวใจของทีม ผู้เล่นหน้าซ้าย (ตัวชง) มีหน้าที่ เป็นตัวเล่นลูกในจังหวะที่ ๒ เพื่อให้ตัวทำทำคะแนนให้กับทีมได้ หากตัวชงมีพื้นฐานที่ดี ชงในตามตำแหน่งจะทำให้ได้เปรียบมากขึ้น ผู้เล่นหน้าขวา (ตัวทำ) มีหน้าที่ เป็นตัวทำคะแนนของทีม ตัวทำต้องมีทักษะและความคล่องตัวสูง เพราะจะทำได้คะแนนได้ง่ายขึ้น ขั้นนำไปใช้ 1. ให้นักเรียนฝึกเล่นตามตำแหน่งที่สนใจ ให้ปฏิบัติดังนี้ ให้นักเรียนทุกคนที่สนใจในตำแหน่งไหนให้ฝึกเล่นตามตำแหน่งที่ตนเองต้องการ ครูคอยให้คำแนะนำนจุดที่นักเรียนบกพร่อง และคอยกระตุ้นนักเรียนตลอดเวลาที่ฝึก ขั้นสรุป 1. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเรื่องเกี่ยวกับตำแหน่งและหน้าที่ของแต่ละตำแหน่ง หลังจาก นั้นร่วมกันอภิปราย ซักถาม 2. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ซักถามและนัดหมายการเรียนในสัปดาห์หน้า 3. เก็บรักษาอุปกรณ์การเรียน 4. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมสุขปฏิบัติ ( ทำความสะอาดร่างกาย เช่น มือ แขน และใบหน้า ) 7. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ - สนามกีฬาเซปักตะกร้อ - Internet -ห้องสมุดโรงเรียน -ห้องพลศึกษา : นักเรียน : ทิศทางการเคลื่อนที่ลูก : ทิศทางการเคลื่อนที่นักเรียน : สนามเขตตก ผู้เล่นเสิร์ฟ ผู้เล่นหน้าซ้าย (ตัวชง) ผู้เล่นหน้าขวา (ตัวทำ)
8. การวัดและการประเมินผล ลงชื่อ (ผู้สอน) ( นายกนกพร สุภรณ์) จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรียนมีความรู้และความ เข้าใจวิธีการฝึกตำแหน่งและ หน้าที่ของแต่ละตำแหน่ง (K) แบบสอบถาม แบบประเมินจาก แบบสอบถาม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80 2. นักเรียนสามารถปฏิบัติตาม ทักษะของตำแหน่งและหน้าที่ ของแต่ละตำแหน่งได้อย่าง ถูกต้อง (P) สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80 3. นักเรียนมีความกระตือรือร้น ในฝึกทักษะของตำแหน่งและ หน้าที่ของแต่ละตำแหน่ง (A) สังเกตพฤติกรรม แบบสังเกต พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การ ประเมิน ร้อยละ 80
แบบประเมินทักษะการนำความรู้มาใช้ในการตอบคำถาม คำชี้แจง ให้ครูทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนตามเกณฑ์การประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๑. ความรู้และทักษะ - การนำความรู้มาใช้ในการตอบคำถาม ๒. การแสดงออก -ความตั้งใจ ความมั่นใจและกล้าแสดงออก เกณฑ์การประเมินทักษะการนำความรู้มาตอบคำถาม พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๑.ความรู้และทักษะ - การนำความรู้มาใช้ ในการตอบคำถาม มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องทั้งหมด มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องมากกว่า ๘๐% มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องมากกว่า ๕๐% มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องน้อย ๕๐% ๒. ความตั้งใจ ความ มั่นใจและกล้า แสดงออก มีความตั้งใจ ความ มั่นใจกล้า แสดงออก มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก ไม่มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก ไม่มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ คะแนนระหว่าง ๖ คะแนน หมายถึง ดีมาก คะแนนระหว่าง ๔ – ๕ คะแนน หมายถึง ดี คะแนนระหว่าง ๒ – ๓ คะแนน หมายถึง ผ่าน คะแนนระหว่าง ๐ – ๑ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง
แบบประเมินทักษะกระบวนการพลศึกษา ชื่อ ชั้น คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 ปฏิบัติได้ตามวิธีการ 2 ปฏิบัติได้อย่างคล่องแคล่ว 3 ปฏิบัติได้ตามเวลาที่กำหนด 4 ปฏิบัติด้วยความระมัดระวังด้านความปลอดภัย 5 มีน้ำใจนักกีฬา รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่20 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา รายวิชาเซปักตะกร้อ รหัสวิชา พ 23104 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ทักษะการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ แผนจัดการเรียนรู้ที่ 20 การเล่นเซปักตะกร้อเพื่อการแข่งขัน เวลาเรียน 1 ชั่วโมง วันที่.........เดือน............พ.ศ............. ครูผู้สอนนายกนกพร สุภรณ์ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกายภาพ การเล่นเกม และกีฬา ตัวชี้วัด พ 3.1 ม.3/1 เล่นกีฬาไทยและกีฬาสากล ได้อย่างละ 1 ชนิดโดยใช้เทคนิค ที่เหมาะสมกับตนเองและ ทีม 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจและสามารถอธิบายวิธีการเล่นเซปักตะกร้อเพื่อการแข่งขันได้ (K) 2.2 นักเรียนสามารถปฏิบัติตามวิธีการเล่นเซปักตะกร้อเพื่อการแข่งขันได้อย่างถูกต้อง ถูกต้อง (P) 2.3 นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการเล่นเซปักตะกร้อเพื่อการแข่งขัน (A) 3. สาระสำคัญ การเล่นกีฬาเซปักตะกร้อต้องใช้ความสามารถในทักษะการเล่นต่างๆ อย่างชำนาญ มีการตัดสินใจที่ รวดเร็ว และมีการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วว่องไว เป็นองค์ประกอบให้ประสบความสำเร็จในการแข่งขัน 4. สาระการเรียนรู้ 1. การเล่นเซปักตะกร้อเพื่อการแข่งขัน 5. จุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มีวินัย ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. ความสามารถในการสื่อสาร 6. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นเตรียมและอบอุ่นร่างกาย 1. ครูรวมนักเรียนและสำรวจความพร้อมของนักเรียน มีนักเรียนคนไหนบาดเจ็บหรือไม่ พร้อมในการเรียนบ้าง ครูต้องคำนึงถึงความปอดภัยเด็กเป็นอันดับแรก 2. ทบทวนบทเรียนที่ผ่านมา 3. แจ้งหัวข้อที่เรียนในคาบนี้ 4. นักเรียนอบอุ่นร่างกายก่อนเล่นกีฬา
- ให้นักเรียนยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ขั้นอธิบายและสาธิต 1. ครูนำเข้าสู่บทเรียน - ครูพูดคุยกับนักเรียนเกี่ยวกับการเล่นเซปักตะกร้อเพื่อการแข่งขัน ให้นักเรียน เข้าใจกับวิธีการการแข่งขันและเรียนรู้กติการในการแข่งขัน 2. ครูอธิบาย - ครูอธิบายกติกาและการนับประตูในการเล่นเซปักตะกร้อเพื่อการแข่งขัน 3. ครูสาธิต - ครูสาธิตการเล่นเซปักตะกร้อเพื่อการแข่งขัน ขั้นฝึกปฏิบัติ 1. แบ่งกลุ่มละ 5 - 6 คน ให้ช่วยกันเขียนอธิบายกติกาและสิ่งที่ผู้เล่นควรทราบมาโดย ละเอียดโดยให้นักเรียนแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน 2. ครูคอยให้คำแนะนำในจุดที่นักเรียนไม่เข้าใจ 3. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรมจัดการแข่งขันกีฬาเซปักตะกร้อภายในห้องเรียน ขั้นนำไปใช้ 1. นักเรียนแข่งขันกันภายในห้องเรียน เป็นการแข่งขันแบบแพ้ตกรอบ ขั้นสรุป 1. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเรื่องเกี่ยวกับการเล่นเซปักตะกร้อเพื่อการแข่งขัน หลังจากนั้นร่วมกันอภิปราย ซักถาม 2. ให้นักเรียนทำการสรุปการเล่นเซปักตะกร้อเพื่อการแข่งขัน 3. เก็บรักษาอุปกรณ์การเรียน 4. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมสุขปฏิบัติ ( ทำความสะอาดร่างกาย เช่น มือ แขน และใบหน้า )