วชิ าภาษาไทย
๖/๘ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี
รามเกียรต์ิ ตอนศกึ ไมยราพ
หลกั ภาษาและการใช้ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๖ นางวริ งรอง ศรีพอ
ครูผสู้ อน
ราม + เกียรติ หมายถงึ เกียรติของพระราม
ตามคติฮนิ ดูมีความเชื่อวา่ พระราม คอื พระนารายณอ์ วตารลงมายังโลก
มนษุ ย์เพ่อื ปราบยคุ เข็น
รามเกียรติ์ มที ี่มาจากวรรณคดีเรอ่ื ง
รามายณะ ซึ่งเปน็ วรรณคดีสาคัญและมมี านาน
กวา่ ๒,๐๐๐ ปี ถือเป็นเรื่องท่ยี ิง่ ใหญ่และมชี ่อื เสียง
ไทยได้นาวรรณคดีเรือ่ งรามเกียรติ์ มาแสดง
เปน็ หนงั ใหญ่ โขน ละคร นอกจากนย้ี ังไดน้ ามาวาด
เป็นภาพจิตกรรมฝาผนงั อกี ด้วย
เป็นเรือ่ งราวการทาสงครามระหว่างฝ่ายธรรมะกบั
ฝา่ ยอธรรม ฝา่ ยธรรมะคือพระราม พระลกั ษมณ์
ฝ่ายอธรรมคือทศกณั ฐ์ ซึง่ สาเหตแุ ห่งความขัดแย้ง
มาจากความหลงใหลในอิสตรีอยา่ งไรเ้ หตผุ ลของ
ทศกัณฐ์ ทีล่ ักพาตัวนางสีดาชายาของพระรามมาเพื่อ
หวังจะครอบครอง และสุดทา้ ยวรรณคดเี รือ่ งนีก้ แ็ สดงให้
เห็นว่าธรรมะยอ่ มชนะอธรรม
บทละครเรอ่ื งรามเกียรติ์ แต่งเปน็ กลอนบทละคร
ลกั ษณะของกลอนบทละคร จะมลี กั ษณะเหมือน
กลอนสุภาพหรือกลอนแปด แตม่ ีการใชค้ าขน้ึ ต้น
การใชค้ าขน้ึ ต้นของกลอนบทละคร
มาจะกล่าวบทไป : ใช้ขึ้นตน้ สาหรบั ขึ้นต้นเรือ่ ง หรือกล่าวถงึ
เรื่องทีแ่ ทรกเข้ามา
เม่อื นนั้ : ใชส้ าหรบั ขึ้นตน้ เมือ่ กลา่ วถงึ ผทู้ ่มี ียศศักดิ์ เช่น เทวดา
กษัตริย์
บดั นั้น : ใช้สาหรบั ขึน้ ต้นเมือ่ กลา่ วถงึ ผูน้ ้อย หรือใตบ้ ังคบั บญั ชา
เชน่ เสนา อามาตย์ ทหาร และสามญั ชน
หนุมาน
เปน็ ลิงเผอื ก (กายสขี าว) มีเขย้ี วแก้วอยู่
กลางเพดานปาก มีกุณฑลขนเพชร สามารถ
แผลงฤทธิ์ให้มีสห่ี นา้ แปดมือ และหาวเป็นดาว
เปน็ เดอื นได้ ใช้ตรีเพชร
(สามงา่ ม) เป็นอาวุธประจาตวั มีความ
เก่งกล้ามาก สามารถแปลงกายหายตัวได้ แม้
ถกู อาวธุ ของศตั รจู นตาย เม่อื มีลมพัดมากจ็ ะ
ฟืน้ คืนชพี ได้
หนุมาน (ตอ่ )
เมือ่ นางสวาหะถกู สาปใหไ้ ปยีนตีนเดียว
เหนีย่ วกินลม พระอิศวรจึงมีคาบัญชาให้พระพาย
นาเทพอาวุธของพระองคไ์ ปซัดเข้าปากของนาง
นางจึงตงั้ ครรภ์และคลอดบตุ รเปน็ ลิงเผือกเหาะ
ออกมาจากปาก ไดช้ ือ่ ว่า “หนุมาน” หนุมานจึง
ถอื ว่าพระพายเปน็ บิดาของตน เพราะเหตนุ ี้เมือ่ ใด
ก็ตามที่หนมุ านส้นิ ใจ เพียงมลี มพัดโดนตัวหนมุ าน
ก็จะฟืน้ คืนชีพ หนมุ านได้ถวายตัวเปน็ ทหารเอก
ของพระราม และชว่ ยทาสงครามจนจบสน้ิ
มัจฉานุ
เป็นบุตรของหนมุ านกบั นางสุพรรณมจั ฉาจึงมี
ร่างกายเป็นลิงเผือกเชน่ เดียวกบั หนุมานแต่มีหางเปน็
ปลา เมือ่ นางสพรรณมัจฉาคลอดมัจฉานุออกมาแล้ว
กลัวทศกัณฐจ์ ะรู้ จงึ นามัจฉานไุ ปทิง้ ทช่ี ายหาด ไมยราพ
ซึง่ เป็นญาติกบั ทศกณั ฐ์ไปพบเข้าจงึ มีความสงสารได้
นาไปเลี้ยงเป็นบตุ รบุยธรรม
ต่อมาไมยราพลักพาตวั พระรามไปไว้ทเ่ี มือง
บาดาล หนมุ านติดตามมาช่วย จงึ ได้พบกับมัจฉานุและ
ต่อสู้กัน แต่ไม่มีใครเอาชนะไดจ้ นกระทง้ั ร้คู วามจริงว่า
เป็นพอ่ ลกู กัน
ไมยราพ
เป็นยกั ษ์ทม่ี ีกายสีมว่ ง เป็นญาติกบั ทศกัณฐ์
ปกครองเมืองบาดาล มีอาวุธประจากายคือกลอ้ งยา
สะกด ใชส้ าหรับเปา่ เพือ่ สะกดให้กองทัพฝา่ ยขา้ ศึก
หลับใหล
ไมยราพถอดดวงใจใสต่ วั แมลงภู่ ซ่อนไวบ้ นยอด
เขาตรกี ูฏ จงึ ไมม่ ีใครฆา่ ให้ตายได้
ไมยราพชว่ ยทศกณั ฐ์ทาสงคราม โดยเป่ากลอ้ ง
ยาสะกดใส่กองทพั ของพระราม แลว้ จับพระรามไปขังไว้
ท่เี มืองบาดาล หนุมานตามไปชว่ ยพระรามและสามารถ
ฆา่ ไมยราพได้ โดยการจับแมลงภ่ทู ี่ไมยราพถอดหัวใจ
ฝากไวม้ าขยี้
สุพรรณมัจฉา
เป็นลูกของทศกัณฐก์ บั นางปลา รูปร่างท่อนบน
ของนางจึงเปน็ มนษุ ย์ ส่วนทอ่ นล่างเป็นปลา
เมื่อพระรามสัง่ ให้หนุมานพาบรวิ ารขนหินมาถม
สมทุ ร เพือ่ ทาถนนไปยงั กรงุ ลงกา ทศกณั ฐ์ก็ส่งั ใหน้ าง
สพุ รรณมัจฉากับพวกปลาทง้ั หลาย ชว่ ยกนั ขนหนิ ไปทิง้
หนุมาณเกิดความสงสยั จงึ ดานา้ ลงไปดจู งึ พบนาง
สพุ รรณมจั ฉา ท้ังสองมีความรักต่อกัน นางยอมเป็น
ภรรยาของหนมุ าน ต่อมานางสุพรรณมจั ฉาตง้ั ครรภ์
และคลอดบุตรชายชอ่ื มจั ฉานุ
พระราม
พระนารายณ์อวตาร (แบ่งภาค) ลงมาถือ
กาเนิอเป็นพระโอรสของทา้ วทศรถกบั นางเกา
สรุ ิยา แห่งกรงุ อยุธยา เพื่อปราบทศกัณฐ์
พระรามมีพระอนชุ า (นอ้ งชาย) ตา่ งมารดา
๓ พระองค์ คอื พระพรต พระลักษมณ์ และพระ
สัตรุต พระมเหสีของพระรามคือ นางสีดา
พระรามมีกายสีเขียว สามารถปรากฏรา่ งเปน็ พระ
นารายณ์มีสี่กรได้ อาวุธประจากายคือ ศร ซึ่งเปน็
อาวธุ วเิ ศษที่พระอศิ วรประทานให้
ทศกณั ฐ์
ยกั ษ์นนทกกลบั ชาติมาเกิดเพือ่ รบกบั พระ
นารายณท์ ี่อวตารลงมาเปน็ มนุษยธ์ รรมดา
ทศกัณฐ์ เป็นกษัตรยิ แ์ หง่ กรุงลงกา มี ๑๐ หนา้
๒๐ มือ มีกายเป็นสีเขียว ไม่มีใครฆา่ ได้ เพราะถอด
ดวงใจใส่กลอ่ งฝากไว้กบั พระฤๅโคบตุ รผเู้ ปน็ อาจารย์
ทศกณั ฐม์ ีนิสยั เจ้าชู้ มีชายาและนางสนม
มากมาย แตถ่ งึ กระน้นั เมื่อร้วู ่านางสีดาเปน็ หญิงทีม่ ี
ความงดงาม แมน้ างจะมีพระสวามีอยู่แล้วก็ยังไปลักพา
ตัวนางมา จงึ เป็นสาเหตใุ หต้ อ้ งทาศึกกับพระราม จน
สุดทา้ ยตนต้องถูกพระนารายณ์ฆา่ ตาย
นางพิรากวน
นางพริ ากวนเป็นพระธิดาองค์โตของทา้ วยมยักษ์ และนาง
จันท-ประภา หลานสาวของทา้ วสหมลิวันเพอื่ นท้าวลสั เตยี น (ปู่
ของไมยราพกบั พ่อของทศกณั ฐเ์ ปน็ เพอื่ นกัน) มนี ้องชายร่วมไส้
ช่อื ไมยราพ มลี ูกชายชื่อ ไวยวกิ เมื่อไมยราพทาศกึ ลกั พระราม
มาเมอื งบาดาล ไปทาพิธบี ดยาเตรียมสะกดทพั พระกลบั มาก็ฝัน
วา่ แสงดาวกลบแสงจนั ทร์ พอให้โหรทานาย โหรทานายว่าพระ
ญาติทีด่ วงสูงจะได้ครองเมือง ไมยราพจึงสั่งจบั ไวยวิกกบั นาง
พิรากวนเข้าตรพุ ร้อมถอดยศเตรยี มฆ่าพรอ้ มพระราม ใชน้ าง
พริ ากวนตา่ งทาสใหไ้ ปตกั นา้ นอกประตเู มอื ง นางก็จาใจไปตกั จน
ไดพ้ บกับหนมุ าน
บทละครเร่อื ง รามเกยี รติ์
ตอน “ศึกไมยราพ” ผู้แต่งคอื
พระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟา้ จฬุ า
โลก-มหาราช (รัชกาลที่ ๑)
เน้อื เรือ่ งย่อ
ไมยราพเจ้าเมืองบาดาล มีกล้องยาวิเศษพร้อมมนต์
สะกด เม่ือเป่ายาและร่ายมนต์ก็สามารถสะกดคนให้หลับ
หมดได้ ไมยราพได้รับบัญชาจากทศกัณฐ์ให้มาช่วยรบกับ
พระรามก่อนทาศึกกบั พระราม ไมยราพฝันเป็นลางว่า มีดาว
ดวงน้อยเปล่งรัศมีมาบดบังดวงจันทร์ โหรทานายว่าพระ
ญาติ(ไวยวิก)จะได้ขึ้นครองเมืองแทน ไมยราพจึงหาทาง
ป้องกันมิให้เป็นไปตามคาทานายโดยการจับไวยวิกและ
มารดาคือนางพริ ากวน (พีส่ าวของไมยราพ) ไปขังไว้
เน้ือเรื่องย่อ
ฝ่ายพระรามก็ฝันว่าราหูมาบดบัง พระอาทิตย์และจับไป
พิเภกทานายว่าพระรามจะถูกลักพาตัวไป แต่ก็จะรอด
กลบั มาได้ กองทัพของพระรามจึง เตรยี มการป้องกันอย่าง
แข็งขัน โดยมีหนุมานแปลงกายใหญ่โตอมพลับพลาของ
พระรามไว้ ไมยราพปลอมตัวเป็นพลลิงแอบรู้ความลับว่า
เม่ือพระอาทิตย์ขึ้นพระรามก็พ้นเคราะห์ จึงวางอุบายโดย
เหาะขึน้ ไปบนอากาศ กวัดแกว่งกล้องทิพย์จนเกิดประกาย
คล้ายแสงอาทิตย์
เน้ือเรื่องย่อ
พลลงิ ทีอ่ ยู่ยามเข้าใจว่าเชา้ แลว้ ก็พากันหลบั ไมยราพจึงเข้าไป
เป่ายาสะกดไพรพ่ ลในกองทพั ของพระรามจนหลบั หมด
เน้ือเรื่องย่อ
แล้วพาพระรามแทรกแผ่นดินไปยังเมืองบาดาล ขังไว้ที่
ดงตาล สั่งทหารยักษ์ให้ป้องกันอย่างแน่นหนา และสั่งให้
นางพิรากวนไปตักน้าใส่กระทะเพื่อต้มไวยวิกและพระรามใน
วันรุ่งขึ้น หนุมานเม่ือทราบว่าพระรามถูกลักพาตัวไปก็ตาม เพื่อ
จะไปช่วยพระราม ก่อนถึงเมืองบาดาลหนุมานต้องผ่านด่าน
ต่างๆ คือ ด่านกาแพงป้อมค่าย ด่านพญาช้าง ด่านเขากระทบ
กัน มียักษ์รักษา ด่านยุง และด่านของมัจฉานุบุตรของหนุมาน
ต่อสู้กบั มจั ฉานุไม่มีใครแพ้ไมม่ ใี ครชนะ
เน้ือเรือ่ งย่อ
สอบถามกันจึงรู้ความจริงว่าเป็นพ่อลูกกัน หนุมานถาม
ทางลงไปเมืองบาดาล แต่มัจฉานมุ คี วามกตัญญตู ่อไมยราพซึ่งเป็น
พ่อบุญธรรม จึงบอกเป็นนัยว่าหนุมานมาทางไหนก็ให้ไปทางนั้น
หนุมานจึงหักก้านบัวลอดลงไปถึงเมืองบาดาลและพบนางพิราก
วน ได้ปลอมตัวเป็นใยบัวติดสไบนางพิรากวนเข้าไปในเมือง
บาดาล หนมุ านสะกดพวกยักษ์ที่คอยเฝ้าพระรามและนาพระราม
ไปไว้ยงั เขาสุรกานต์ ฝากใหเ้ ทวดาช่วยเฝา้ ไว้
เน้อื เรื่องย่อ
ส่วนตนเองกลับไปต่อสู้กับไมยราพสู้กัน
ด้วยอาวุธและตีกันด้วยกระบองตาลไม่มี
ใครแพ้ชนะ นางพิรากวนจึงบอกความลับ
ของไมยราพว่า ไมยราพถอดดวงใจเป็น
แมลงภู่ ใส่กล่องมณีซ่อนไว้ที่ยอดเขา
ตรีกูฏ
เนื้อเรื่องย่อ
หนมุ านจึงนิรมิตกายใหใ้ หญ่เท่าภเู ขา มีสีห่ น้า
แปดมือ เอาเท้าซา้ ยเหยยี บอกไมยราพไว้ เท้า
ขวาก้าวไปยังเขาตรีกูฏ เอื้อมมือง้างภูเขา จบั
ตวั แมลงภู่ หวั ใจของไมยราพมาขย้ี พร้อมกับ
ตดั เศียรของไมยราพไปพร้อมๆ กนั ด้วย
ไมยราพจึงสนิ้ ชีวิต
บดั นั้น มจั ฉานผุ ใู้ จแกล้วกล้า
ซึ่งอยู่ในสระคงคา เป็นด่านรกั ษาชั้นใน
ราตรเี ทีย่ งคนื เคยเทีย่ ว ลดเลี้ยวกระเวนทางใหญ่
ก็สาแดงแผลงฤทธิเกรียงไกร ขนึ้ ไปจากท้องชลธาร
ถึงขอบสระกห็ ยุดอยู่ แลดไู ปทัว่ ทกุ สถาน
เหน็ วานรเผือกผอู้ หังการ ล่วงด่านผ่านทางเข้ามา
โกรธาขบฟนั กระทืบบาท ทาอานาจออกยืนขวางหนา้
แล้วรอ้ งประกาศด้วยวาจา เหวยอ้ายพาลาใจฉกรรจ์
ตัวเอง็ มานจี้ ะไปไหน ไม่กลวั ชวี าจะอาสัญ
องอาจล่วงด่านกมุ ภณั ฑ์ กจู ะหนั่ ให้ยับลงกับกร
มจั ฉานุได้ขนึ้ จากเมอื งบาดาล เม่ือขึ้นไปถึงขอบสระก็ได้มองไป
รอบ ๆ จึงเห็นวานรเผือกตนหน่ึง มัจฉานุโมโหมากจนกัดฟันกระทืบเท้า
รีบมายนื ขวางทางไว้ แลว้ เอย่ ถามวานรเผือกตนนั้นวา่ เป็นใครมาจากไหน
ผ่านดา่ นยกั ษ์มาได้อยา่ งไร
บัดนั้น คาแหงหนมุ านชาญสมร
เห็นลิงน้อยขึ้นจากสาคร อ้างอวดฤทธิ์รอนอหังการ์
จง่ึ คดิ ว่าวานรน้ี เหตใุ ดมีหางเปน็ มัจฉา
รูปทรงองอาจประหลาดตา ถ้อยคาหยาบชา้ ทะนงใจ
จง่ึ รอ้ งวา่ เหวยไอ้ลงิ เลก็ จะเจียมตัววา่ เด็กก็หาไม่
มงึ อย่าขวางหน้ากูไว้ ถอยไปให้พ้นอ้ายสาธาร
เมื่อหนุมานเห็นมัจฉานุก็เกิดความสงสัยว่าทาไมจึงมี
รูปร่างประหลาด มีตัวเป็นลิงแต่มีหางเป็นปลา และ
ตะโกนบอกมัจฉานุว่าตัวเล็กแค่นี้ให้รู้จักเจียมตัว รีบ
หลบไปอย่าได้มาขวางทาง
บดั นั้น มัจฉานฤุ ทธิไกรใจหาญ
ได้ฟังกรวิ้ โกรธคือไฟกาฬ ตบมือฉัดฉานแล้วตอบไป
ถึงตัวกูน้อยเท่านี้ จะกลวั ฤทธีเองกห็ าไม่
อย่าพกั อาจองทะนงใจ ใครดีจะได้เห็นกัน
ว่าแล้วสาแดงเดชา พสุธาบาดาลไหวหวั่น
โฟลนโผนโจนรุกบุกบนั เข้าไล่โรมรันราวี
หนมุ านผชู้ าญชยั ศรี
บัดนั้น ขุนกระบี่รับระปะทะกร
กริว้ โกรธพิโรธด่งั อคั คี ต่างคนต่างหาญชาญสมร
เคล่าคล่องว่องไวทั้งสองข้าง ต่อกรไม่ลดละกัน
ถ้อยทีถ้อยมีฤทธิรอน
มัจฉานุเมอ่ื ได้ฟงั เชน่ นนั้ ก็ยิง่ โกรธมากขนึ้ แล้วตอบกลับหนุมานไปว่า ถึงตัวข้า
จะน้อยแต่ก็ไม่ได้หวาดกลัวต่อตัวท่านเลย เม่ือพูดเสร็จก็แสดงอิทธิฤทธิ์ให้ดู
จนพ้ืนดินและแผ่นน้าส่ันไหว จากนั้นก็เข้าโจมตีหนุมานเม่ือหนุมารได้ยิน
เชน่ นน้ั กโ็ กรธมาก รบี รบั มอื มจั ฉานุที่เข้ามาโจมตี และต่างคนต่างต่อสู้กันไม่มี
ใครยอมใคร
บัดนนั้ มัจฉานุฤทธิแรงแข็งขนั
ปลา้ ปลุกคลกุ คลีตีประจญั พลั วนั หลบหลกี ไปในที
ถีบกัดวัดเหว่ยี งอุตลดุ ทะยานยุทธ์ไมท่ ้อถอยหนี
กอดรดั ฟัดกันเป็นโลกี เปลี่ยนท่าเปลี่ยนทีรอนราญ
วายุบุตรวุฒิไกรใจหาญ
บดั น้ัน เผ่นทะยานโถมถีบด้วยบาทา
รบั รุกบกุ บันประจญั บาน ฉวยรวบเท้าได้ทั้งซ้ายขวา
ถกู มัจฉานซุ วนไป ดว้ ยกาลังศักดาราวี
ฟาดลงกับแผ่นศิลา
มัจฉานุก็เข้าปลุกปล้าต่อสู้กับหนุมานจนอุตลุด กอดรัดฟัดเหว่ียงสู้กัน
โดยไม่มีท่าทีจะถอยหนีฝ่ายหนมุ านกไ็ มไ่ ด้เกรงกลัว ใช้เท้าพุ่งถีบมัจฉานุจนเซไป
แลว้ รีบเข้าไปรวบเท้าของมัจฉานุไว้ทั้งสองข้อง จากนน้ั ฟาดมจั ฉานุลงกบั แผ่นหนิ
ด้วยพละกาลังที่มากมาย
บัดน้ัน มัจฉานุผชู้ าญชัยศรี
มิได้ชอกช้าอินทรีย์ โกรธดั่งอคั คีบรรลัยกลั ป์
ผดุ ลกุ ขึ้นได้กระทืบบาท ทาอานาจผาดเสียงดังฟา้ ลั่น
วิ่งผลนุ หนุ เขา้ บุกบนั โรมรันไม่คดิ ชีวี
บดั น้ัน วายบุ ุตรวฒุ ิไกรใจกล้า
หันเหยี นเปลีย่ นท่าราวี
โถมรบั กลับกรอกไปมา
ร่างกายของมัจฉานุไม่ได้บอบช้าเลยหลังจากที่ถูกฟาดกับแผ่น
หิน แต่ยิ่งทาให้มัจฉานุโกรธมากขึ้น รีบลุกขึ้นแล้วกระทืบเท้า
ตะโกนเสียงดังลั่นแล้วรีบวิ่งเข้าสู้กับหนุมานอย่างไม่คิดชีวิต
ฝ่ายหนมุ านตงั้ ตงั้ รบั มจั ฉานทุ ี่บกุ เข้ามาโจมตี
รบพลางราพึงคะนึงคิด สงสัยในจิตกระบีศ่ รี
เหตใุ ดวานรน้อยน้ี จ่งึ ลา้ งชีวไี ม่บรรลัย
หรหดอดทนสามารถ องอาจตอ่ สู้ด้วยกไู ด้
คิดแลว้ จึงรองถามไป เหวยไอ้ลิงนอ้ ยเท่าแมลงวนั
เป็นไฉนมาอยู่รักษาด่าน ไมยราพขนุ มารโมหนั ธ์
เช้อื ชาติสุริย์วงศพ์ งศพ์ ันธ์ุ นามนน้ั ชือ่ ใดวานร
ระหว่างที่รบกันหนุมานก็เกิดความสงสัยว่าทาไมมัจฉานุถึง
ฆา่ ไมต่ าย และทาไมสามารถต่อสู้กับตนได้ จึงได้ถามออกไปวา่ พอ่ แม่
ของมัจฉานเุ ปน็ ใคร และทาไมจึงได้มารกั ษาดา่ นประตใู ห้กับไมยราพ
บดั น้ัน มจั ฉานกุ มุ ารชาญสมร
ฟงั ความถามถึงนามกร พงศ์พันธม์ุ ารดรแลบดิ า
จ่งึ คดิ ว่าวานรตวั นี้ ฤทธีองอาจแกล้วกล้า
หกั ด่านผา่ นทางลงมา ถึงมหานคราบาดาล
รปู กายก็คล้ายกับกู สองหพู รรณรายฉายฉาน
ฤๅจะเป็นกุณฑลสุรกานต์ เหมอื นมารดาสง่ั ความไว้
คร้ันว่าจะนิ่งเสียบัดนี้ จะแจ้งเหตุร้ายดีก็หาไม่
คดิ แล้วจึ่งร้องตอบไป ตัวเรานไี้ ด้นามกร
ชือ่ มจั ฉานุวัยวุฒิ บุตรนางมัจฉาดวงสมร
สารอกไว้ริมสาคร ไมยราพฤทธิรอนได้มา
เลีย้ งไว้เป็นบตุ รบญุ ธรรม์ ให้อยู่ด่านขณั ฑ์ยกั ษา
บติ เุ รศของเราผศู้ กั ดา ชือ่ วา่ คาแหงหนุมาน
ตัวท่านนีเ้ ป็นวานร นามกรชือ่ ไรจ่งึ อาจหาญ
ล่วงมาถึงมือพระกาฬ ไม่กลัววายปราณฤาว่าไร
เม่ือมัจฉานุได้ฟังดังนั้น จึงคิดว่าวานรตัวน้ีเป็นใคร ทาไมถึงได้มีฤทธิ์มากมายเช่นน้ี อีกท้ังมี
รูปร่างเหมือนกับตนเอง จึงได้ร้องตอบออกไปว่า “ข้ามีชื่อว่ามัจฉานุเป็นลูกของนางสุพรรณมัจฉาที่
สารอกไว้ แล้วไมยราพได้นามาเล้ยี งเป็นลูกบญุ ธรรม และให้ทาหน้าที่รกั ษาดา่ นของเมอื งยักษ์ ส่วนพ่อ
ของข้ามชี ือ่ วา่ หนุมาน แล้วท่านมีชื่อวา่ อย่างไร มาทีนี่ทาไม แลว้ ท่านไมก่ ลวั ตายหรือ”
บดั นั้น คาแหงหนมุ านทหารใหญ่
ฟงั ความจะแจ้งไม่แคลงใจ ยินดีด่ังได้ฟากฟ้า
พินศิ พิจดดู วงพักตร์ แสนรักพูนเพิม่ เสน่หา
ตบมือสารวลไปมา อนจิ จาเป็นได้ถึงเพียงน้ี
จง่ึ ว่าดกู รมจั ฉานุ ดวงจักษุพ่อเฉลิมศรี
เจ้าอย่าโกรธาราวี เรานีค้ ือศรีหนุมาน
บญุ แลว้ จ่งึ ฆา่ กันไมต่ าย สายสวาทพ่อยอดสงสาร
ท้ังเทเวศผปู้ รีชาชาญ บนั ดาลใหม้ าพบกัน
เมือ่ หนมุ านได้ยินดงั น้ันกม็ คี วามยินดีเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งมองดูหน้าของ
มัจฉานุก็ยิ่งรักเพิ่มมากขึ้น แล้วบอกมัจฉานุว่า “เรานี้แหละคือหนุมาน เป็น
บญุ ทีเ่ ราฆ่ากนั แล้วไม่มใี ครตาย เทวดาคงบนั ดาลให้เรามาพบกัน”
บัดน้ัน มจั ฉานุฤทธิแรงแขง็ ขนั
ฟังลกู พระพายเทวัญ ขบฟนั ชหี้ นา้ แลว้ ร้องไป
เหมเ๋ หมด๋ ูดู๋กระบีศ่ รี มุสาพาทีกเ็ ปน็ ได้
ถ้อยคาหยาบชา้ ไม่เกรงใจ ใครจกั เช่อื ฟงั วานร
แม้นหาวเปน็ ดาวเดือนตะวนั ให้เห็นสาคัญประจักษ์ก่อน
เราจึ่งจะเช้ือวา่ บิดร ทหารสีก่ รอวตาร
เม่ือมัจฉานุได้ฟังที่หนุมานพูดก็ไม่เชื่อหาว่าหนุมานโกหก
จงึ บอกกบั หนุมารไปว่าถ้าหาวเป็นดาวเปน็ เดือนได้ ถึงจะยอมเชื่อว่า
หนมุ านเป็นบิดา”
บดั น้ัน วายบุ ุตรผู้ปรีชาหาญ
ฟังมัจฉานุกมุ าร ว่าขานกินแหนงแคลงใจ
รับขวัญแล้วกล่าวพจนา สดุ สวาทของพ่ออย่าสงสยั
ว่าพลางกเ็ หาะข้ึนไป อยู่ในอากาศดว้ ยฤทธา
เขจรสว่างเวหา
หาวเป็นดาวเดือนทินกร ยงั พืน้ พสธุ าทันที
เสร็จแล้วก็กลบั ลงมา
เมือ่ หนมุ านได้ยินมจั ฉานกุ ล่าวจึงตอบว่า
“ลกู ของพ่ออย่าได้สงสยั เลย” จากนั้นกเ็ หาะขึน้ ไปบนอากาศ
แล้วหาวเป็นดาว เปน็ เดือน เสร็จแล้วก็กลบั ลงมายงั พืน้ ดิน
บัดนน้ั มจั ฉานผุ ู้ชาญชยั ศรี
เหน็ ประจกั ษเ์ หมือนคาชนนี ยินดีกว็ ่งิ เข้าไป
ยกกรขนึ้ เหนอื ศิโรเพฐน์ นอ้ มเกศบังคมประนมไหว้
ตวั ลกู ไม่แจ้งประจักษ์ใจ จึ่งชิงชัยกับพระบดิ า
อนั โทษนีใ้ หญ่หลวงนัก ลูกรกั จกั ขอโทษา
อย่าให้เป็นกรรมเวรา แก่ข้านอ้ ยน้สี ืบไป
เมื่อมัจฉานุเห็นด่ังเช่นท่ีแม่บอกไว้ ก็ดีใจรีบวิ่ง
เข้าไปหาหนุมารยกมือข้ึนไหว้ แล้วบอกว่าเพราะลูก
ไม่รู้ว่าท่านเป็นพ่อ จึงได้เข้ามาสู้รบด้วย ซึ่งการ
กระทาคร้ังน้ีถือว่าผิดเป็นอย่างมาก ลูกจึงอย่า
ขอโทษ และอย่าให้เป็นบาปตดิ ตัวลูกไปเลย
บัดน้ัน คาแหงหนุมานทหารใหญ่
สวมสอดกอดลูกเข้าไว้ ลบู ไลไ้ ปท่ัวทั้งอนิ ทรีย์
รับขวญั จุมพิตแลว้ พศิ พกั ตร์ดวงจักษพุ อ่ เฉลิมศรี
ซึ่งเจ้าต่อยทุ ธบ์ ิดาน้ี เพราะมิได้รู้จกั กัน
ถ้อยทีถอ้ ยรกั ษาตัว ดว้ ยกลัวชีวาจะอาสญั
อนั ซึง่ ผิดพลั้งทั้งนั้น ไมถ่ ือโทษทณั ฑ์แก่ลูกรัก
พอ่ จักอยู่ช้าก็ไมไ่ ด้ จะรีบไปตามองค์พระทรงจกั ร
สงั หารไมยราพขนุ ยักษ์ ซึ่งมันไปลกั พระองคม์ า
ตวั เจ้าค่อยอยู่เปน็ สขุ ก่อน อยา่ อาวรณ์เศร้าโทมนสั า
อันทางบาดาลนครา แก้วตาจงบอกให้พ่อไป
หนมุ านได้เข้าไปกอดลกู มจั ฉานไุ ว้ พร้อมทั้งจูบรบั ขวัญ แล้วพูดกับมัจฉานุ
ว่า “เจ้าแก้วตาของพ่อ ที่เจ้ามาสู้รบกับพ่อน้ีเป็นเพราะว่าเจ้าไม่รู้ว่าข้าน้ี
คือพอ่ เพราะฉะนั้นพอ่ ไม่ได้ถือโทษโกรธเจ้าหรอก แตพ่ อ่ นจี้ ะอยู่นานไม่ได้
เพราะต้องรีบไปตามหาพระรามที่ไมยราพจับตัวมา ดังนั้นพ่อจะขอให้เจ้า
บอกทางไปเมอื งบาดาลแก่พ่อ”
บัดน้ัน มจั ฉานุผู้มีอชั ฌาสัย
ได้ฟังอดั อน้ั ตันใจ บงั คมไหว้แลว้ ตอบวาที
ข้อน้ีขัดสนเป็นพ้นคิด พระบดิ าจงโปรดเกศี
ด้วยพญาไมยราพอสรุ ี ได้เลยี้ งลกู นีจ้ นใหญ่มา
พระคุณดั่งคณุ บติ เุ รศ ซึง่ บังเกิดเกศเกศา
อนั ซึ่งจะบอกมรคา ดงั่ ขา้ ไมม่ กี ตัญญู
บิดาลงมาทางไหน ทางนั้นจะไปยงั มีอยู่
จงเร่งพินิจพศิ ดู ก็จะรู้ด้วยปรีชาชาญ
มัจฉานุได้ฟังเช่นนั้นก็เกิดความรู้สึกอัดอั้นตันใจ เพราะไมยราพมีพระคุณ
กับตนมาก ดูแลเลี้ยงดูตนมาจนใหญ่ ถ้าจะบอกทางแก่หนุมานก็เหมือนตนเองไม่มี
ความกตัญญู จึงไดบ้ อกหนุมานว่าพ่อลงมาทางไหนกใ็ ห้พ่อไปทางนั้นต่อ แล้วพ่อก็จะรู้
ว่าทางไปอยู่ตรงไหน
บดั นน้ั วายบุ ตุ รวฒุ ิไกรใจหาญ
ฟังมัจฉานกุ มุ าร ว่าขานหลกี เลี่ยงเปน็ คานยั
ขนุ กระบผ่ี ู้มีกาลังฤทธิ์ นง่ิ คิดก็คดิ ขึน้ ได้
จึ่งหักก้านบุษบงว่องไว ลอดไปตามไส้ปทุมา
เมื่อหนุมานได้ฟังคาหนุมาน ก็คิดข้ึนได้แล้วรีบ
หกั เอาก้านบวั มาแล้วลอดลงไปตามก้านบวั นน้ั
ครั้นถึงซึ่งสระชลธาร ใกล้ทวารนิเวศของยักษา เม่ือไปถึงประตูของ
เห็นหมูอสรุ โยธา ตรวจตรารอบราชธานี เมอื งยักษ์ ก็เห็นพวกยักษ์เดิน
จ่งึ หยุดยืนราพึงคะนงึ คิด จะตรงไปต่อฤทธิ์ด้วยยักษี ตรวจตรารอบ ๆ บริเวณอยู่
ไหนจะรู้ข่าวพระจกั รี ว่าอยู่ทีแ่ ห่งหนตาบลใด เป็นจานวนมาก หนุมานจึง
จากจู ะทาอุบายกล แอบตนฟงั ความให้จงได้ คิดถ้าเข้าไปต่อสู้กับพวกยักษ์
คิดพลางยืนอยู่แต่ไกล สารวมใจกาบงั กายา ก็ จ ะ ไ ม่ รู้ ว่ า ไ ม ย ร า พ จั บ
พระรามไปไว้ที่ไหน ดังน้ันหนุ
มานจึงคิดวา่ จะแอบฟังเพอ่ื ให้
รู้ที่ซ่อนของพระราม
แล้วเข้าแอบต้นโศกอยู่ คอยฟงั คาหมู่ยักษา
เข้าออกบอกกนั จานรรจา ริมท่าสระโบกขรณี
ฝ่ายนางพิรากวนยกั ษี
เมื่อนั้น กบั ด้วยอสรุ ีลกู รัก
ต้องจาลาบากพนั ทวี แสนทุกข์ทรมานเพียงอกหัก
อยู่ในเรอื นตรกุ ันดาร ใช้ใหไ้ ปตกั คงคา
ไมยราพอสรุ าพญายักษ์ ให้ตายด้วยพระรามนาถา
ใส่กระทะจะต้มลกุ ชาย ออกจากทวาราธานี
ก็กระเดียดกระออมเดินมา
หนุมานได้ไปแอบอยู่ตนโศก เพือ่ แอบฟงั พวกยกั ษ์คุยกัน
นางพิรากวน (พี่สาวของไมยราพ) ถูกไมยราพใช้ให้มา
ตักน้าไปใส่กระทะเพื่อจะนาไปต้มลูกชายของ
นาง (ไวยวิก) ให้ตายไปพร้อมกบั พระราม
ครั้นถึงที่สระบษุ บง น่ังลงริมท่าวารีศรี
คิดถึงลูกรกั ร่วมชีวี ตที รวงเข้าร่าโศกา
โอว้ า่ ไวยวกิ ของแมเ่ อย๋ ทรายเชยผู้ยอดเสน่หา
เสียแรงบารงุ เลยี้ งมา จนชันษาจาเริญวยั
ควรฤๅไมยราพขนุ มาร คิดการพาลผิดก็เป็นได้
โทษกรณ์ไม่มีเท่ายองใย ใสไ่ คล้จะลา้ งชวี าวัน
อนิจจาสงสารตัวเจ้า รุ่งเชา้ กจ็ ะม้วยอาสญั
กบั องค์พระรามดว้ ยกนั ใครจะช่วยได้น้ันกไ็ มม่ ี
สุดที่แม่แล้วนะแก้วตา ซึง่ จะพ้นอาญายักษี
แมน้ เจ้าสนิ้ ชีพชวี ี แมน่ ้ีไม่อยจู่ ะสู้ตาย
ก้มหนา้ ไปตามทรามสวาท ให้ประจักษ์โลกธาตุท้ังหลาย
ถึงอยไู่ ปก็จะทรมานกาย จะฟมู ฟายชลเนตรทุกเวลา
พรุ่งนีก้ จ็ ะจากอกไป ทีไ่ หนแม่จะไดเ้ หน็ หนา้
รา่ พลางแสนโศกโศกา ด่ังวา่ จะสนิ้ ชีวนั
เมื่อนางเดินมาถึงขอบสระ นางก็ได้ตี
อกร้องไห้แล้วว่า “ไวยวิกลูกแม่ แม่อุตส่าห์
เล้ียงดูเจ้ามาจนใหญ่ แต่เหตุใดไมยราพจึง
คิดจะฆ่าลูก” ยิ่งคิดนางก็ยิ่งสงสารลูก
พรุ่งน้ีเช้าลูกของนางก็จะถูกฆ่าพร้อมกับ
พระราม มองหาคนท่ีจะช่วยก็ไม่มี ถ้าเจ้า
ตายไปแม่ก็จะขอตายตามไปด้วย เพราะถึง
จะอยู่ไปแม่ก็คงจะไม่มีความสุข ยิ่งคิดนางก็
ยิง่ ร้องไห้เหมือนจะขาดใจ
บดั นั้น ฝ่ายลกู พระพายรังสรรค์
เห็นนางโศกาจาบลั ย์ ราพนั ออกนามพระรามมา
ว่ารุ่งเช้าชีวติ จะวายปราณ กบั ไวยวิกขนุ มารยกั ษา
จึง่ คลายพระเวทกาบงั ตา เดินเข้าไปหาในทันที
เมื่อหนมุ านเชา้ พระรามจะถูกฆา่ พร้อมกับไวยวิก จึงออกมาจาก
ที่กาบงั ตนแได้ยินว่าพรุ่งน้ีแล้วเดินไปหานางพิรากวน
นั่งลงแลว้ กล่าววาที ยายอย่าโศกีละหอ้ ยไห้
เราเป็นทหารพระภวู ไนย ผใู้ ดไม่รอดต่อกร
ชื่อว่าหนุมานชาญณรงค์ มาตามพระองคท์ รงศร
ด้วยอ้ายไมยราพฤทธิรอน มนั พาภูธรลงมา
ไม่รู้วา่ อยู่ตาบลใด จนใจทีจ่ ะเสาะแสวงหา
จงพาเราไปในพารา จะฆ่ามนั ใหม้ ว้ ยชวี ี
จะช่วยไวยวิกใหพ้ ้นตาย ตวั ยายก็จะสุขเกษมศรี
เปน็ เจ้าแก่หมู่อสรุ ี ในทีน่ ครบาดาล
หนุมานน่ังลงแล้วพูดกับนางพิรากวนว่า “อย่าร้องไห้เลย เราช่ือหนุมานเป็นทหาร
ของพระราม เรามาตามหาพระรามทีถ่ ูกไมยราพจับตัวมา แต่เราไม่รู้ว่าไมยราพเอาไปซ่อนไว้
ที่ไหน เจ้าตอ้ งพาเราเข้าไปในเมอื งของไมยราพ แล้วข้าจะฆ่าไมยราพให้ตาย จากนั้นก็จะช่วย
ไวยวกิ ออกมา แลว้ ไวยวกิ กจ็ ะได้ครองเมอื งบาดาลแห่งนี้”
เม่อื นั้น พิรากวนผู้ยอดสงสาร
ได้ฟังคาแหงหนมุ าน นงคราญค่อยคลายจาบลั ย์
มีความชื่นชมโสมนัส ด่ังได้สมบัติในสวรรค์
จึ่งวา่ ไมยราพชาญฉกรรจ์ มนั เอาพระองค์ไปไว้
ดงตาลทา้ ยเมืองอสุรี อยทู่ ่ใี นกรงเหลก็ ใหญ่
อสรุ ารักษาทงั้ นอกใน ซึง่ จะพาเข้าไปนน้ั ยากนกั
ด้วยว่ากมุ ภณั ฑน์ ายประตู ชงุ่ ดมู ิให้เบาหนกั
ถึงจะเหาะข้ามกาแพงยกั ษ์ ก็จะต้องจักรกรดมรณา
มาตรแมน้ จะแปลงเป็นแมลงวนั อย่าสาคัญจะพ้นยกั ษา
ขุนกระบีผ่ ู้มีปรีชา ตรึกตราอย่าให้เสียการ
เมื่อนางพิรากวนได้ยินดงั นั้น นางกด็ ีใจเปน็ อย่างมาก แล้วบอกหนุมานว่า “ไมยราพจับตัวพระรามไป
ขงั ไว้ในกรงทีด่ งตาลท้ายเมือง แต่การทีจ่ ะเข้าไปในนั้นยากมากเพราะมียักษ์เฝ้ายามอยู่อย่างแน่นหนา ถึงจะ
เหาะเข้าไปก็จะถูกจกั รฆ่าตาย ถึงจะแปลงกายเป็นแมลงวนั กไ็ ม่สามารถรอดพ้นสายตายกั ษ์พวกนั้นได้” เมือ่ หนุ
มานได้ฟงั กน็ ิ่งแล้วคดิ หาวิธี
เม่อื น้ัน วายบุ ุตรผู้ปรีชาหาญ
ฟงั พริ ากวนนางมาร บอกขานจะแจ้งไม่แคลงใจ
จึง่ วา่ เพียงน้ีไม่ยากนกั ตัวขา้ พอจักคิดได้
จะแปลงเปน็ ใยบัวติดสไบ เข้าไปมิให้สงกา
แมน้ วา่ ช่ังหนักจะหกั ลง จงเอาสานวนนีว้ า่
คันชั่งอยคู่ รั้งบรุ าณมา เก่าแก่คร่าครา่ ชา้ นาน
ข้ามไิ ด้พาผู้ใด มาในพระราชฐาน
จงดเู อาเถิดนะขนุ มาร อย่าแสร้งมาพาลพาที
หนุมานบอกนางพิรากวนว่า “ข้าพอจะคิดได้ ข้าจะแปลงเป็น
ใยบัวตดิ สไบของเจ้าเขา้ ไปคนอน่ื จะได้ไม่สงสัย หรือถ้าพวกยักษ์จับเจ้าขึ้น
ช่งั แลว้ มนี า้ หนกั มากขึน้ ก็ให้บอกวา่ ตาชั่งน้เี ก่ามากแล้ว ข้าไม่ได้พาใครเข้า
มาอย่ามาหาเรือ่ งข้า
เมอ่ื น้ัน นางพิรากวนยักษี
ได้ฟงั ทหารพระจกั รี ยนิ ดแี ลว้ ตอบวาจา
อนั ความคิดน้ีประเสริฐนัก เราจกั ตอบตามท่านว่า
จงเร่งนิมิตกายา ตัวข้าจะพาบทจร
คาแหงหนุมานชาญสมร
บดั นนั้ สงั วรใจนิมิตอนิ ทรีย์
ประนมหัตถร์ ่ายเวทฤทธิรอน นางพรากวนยักษี
อสุรีไม่เห็นกายา
เปน็ ใยบวั ตดิ สไบบาง นางพิรากวนยกั ษา
ดว้ ยเดชพระมนตร์อันฤทธี ขนึ้ มากระเดียดเดินไป
เม่อื น้ัน
เอากระออมนนั้ ตกั คงคา
เม่ือนางพิรากวนได้ฟังที่หนุมานพุด “ก็บอกว่าความคิดท่านดีมาก
ท่านรีบแปลงกายเถอะเราจะพาเข้าไปในเมือง” หนุมานประนมมือขึ้นท่องมนตร์
แปลงกายเป็นใยบัวแล้วไปติดอยู่ที่สไบของนางพิรากวน ส่วนนางพิรากวนก็ใช้
กระออมตกั น้าแลว้ เดินเข้าไปในเมือง
บัดนั้น อสรุ ยักษ์รักษาทวารใหญ่
เหน็ นางพริ ากวนอรไท ไปตกั ซึ่งชลธีมา
จง่ึ เอากระออมกับตัวนาง วางเหนอื ตราชูยักษา
ชงั่ ดูกับลกุ ศลิ า ทีเ่ คยตรวจตราทกุ ที
ครั้นตราชยู นต์หนกั นกั ก็ลนั่ เดาะหักลงกับที่
กระออมแตกยบั ไม่สมประดี อสุรีเขา้ จบั วุ่นไป
แล้วตง้ั กระทู้ขถู่ าม นางน้ีทาความเปน็ ไฉน
พาใครเข้ามาฤๅว่าไร จงบอกไปแตโ่ ดยสัจจา
เมื่อนางเดินไปถึงประตูเมือง ยักษ์ผู้เฝ้าประตูก็จับเอากระออมกับ
ตวั นางชั่งนา้ หนกั เช่นทีเ่ คยทา แต่ปรากฏว่าที่ชั่งได้หักลงมาเพราะมีน้าหนัก
มากเกินไป พวกยักษ์ที่เฝ้าประตูจึงถามว่า “ได้พาใครเข้ามาหรือไม่ ให้
บอกความจรงิ มา”