เมื่อนน้ั นางพิรากวนยกั ษา
ขนึ้ เสียงเถียงตอบอสรุ า เหตุใดมาว่าดังน้ี
เรามาผู้เดียวกเ็ ห็นอยู่ เมือ่ ตราชูยนต์ของยักษี
คร่าคร่ามานานกว่าแสนปี ไม่ดีหักเองจะโทษใคร
อนิจจาเห็นวากูตกยาก น้าท่วมปากแล้วก็ว่าได้
จะทากระไรก็ตามใจ ไม่อาลัยแก่ชพี ชวี ัน
นางพิรากวนจงึ ข้ึนเสียงเถียงกับยกั ษ์ที่เฝา้ ประตไู ปว่า
“ทาไมถึงพดู แบบนี้ ก็เห็นอยวู่ ่าข้ามาคนเดียว ตาชง่ั น้เี ก่าใช้มานาน
แลว้ พอมนั หกั กม็ าโทษข้า เหน็ ว่าข้ากาลงั ตกยากแล้วก็มาว่าข้า
พวกเจ้าจะทาอะไรก็ทาข้าไม่กลวั ตายหรอก”
บดั น้ัน นายประตหู มู่มารตัวขยัน
ฟงั นางว่าขึงดงึ ดนั ไมท่ นั รู้กลมารยา
ตา่ งคนตา่ งเห็นเปน็ จรงิ ทกุ สิ่งมิได้กงั ขา
แตเ่ หลียวดูหนา้ กันไปมา ไมต่ อบวาจาเทวี
นางพริ ากวนยักษี
เมอ่ื นั้น เข้ามายังที่ทวารชัย
เถียงพลางทางรีบจรลี วายบุ ตุ รวุฒไิ กรชัยศรี
ขุนกระบ่รี ่ายเวทกาบงั กาย
บดั นน้ั ทั้งตนแลเงาก็สญู หาย
ยอกรเหนอื เกล้าเมาคลี ยงั ท้ายพารากมุ ภัณฑ์
เดชะด้วยวิทยามนตร์
รบี ตามองค์พระนารายณ์
ยักษ์ผู้เฝ้าประตูได้ฟังดังนั้นก็เชื่อว่าเป็นความจริง ต่างคนต่าง
มองหนกันไม่มีใครว่าอะไร ส่วนนางพิรากวนก็รีบเดินเข้าไปในประตู
หนุมานประนมมือขึ้นร่ายมนตร์ รีบหายตัวไปตามพระรามยังดงตาล
ท้ายเมอื งยกั ษ์
คร้ันมาถึงที่ดงตาล เห็นหมมู่ ารรกั ษากวดขัน
น่งั นอนลอ้ มวงหลายช้ัน ผลดั กันกั้นตระเวนตรวจตรา
ขุนกระบีผ่ มู้ ฤี ทธิรอน ยกกรเหนือเกล้าเกศา
จง่ึ รา่ ยพระเวทวิทยา สะกดนิทราหมมู่ าร
มดื มนท่ัวทิศาศาน
เสียงสนัน่ คร่ันครืน้ โพยมหน ปานด่ังฤดเู หมันต์
เยือกเยน็ ไปท้ังบาดาล
เม่ือมาถึงดงตาล หนุมานก็เห็นว่ามียักษ์รักษาอยู่หลายช้ัน
หนุมานจึงยกมือประนมร่ายเวทมนตร์เพื่อสะกดหมู่ยักษ์ เกิดเสียงดัง
หวั่นไหว ท้องฟ้ากม็ ืดมน ดูเยือกเย็นดั่งฤดฝู น
บดั นั้น ฝา่ ยพวกอสุราพลขันธ์
ต้องเวทหนุมานชาญฉกรรจ์ ให้บนั ดาลมวั ตามัวใจ
ล้มหลบั ทบั กันทั้งไพร่นาย จะเกริ่นกรายตรวจตรากห็ าไม่
บ้างกรนบ้างครางวนุ่ ไป ไม่เปน็ สติสมประดี
ลูกพระพายผชู้ าญชัยศรี
บัดนั้น ขุนกระบี่กเ็ ดินเข้าไป
ครั้นเสร็จสะกดดอสุรี หลบั อยู่ในกรงเหล็กใหญ่
ซบพักตร์ร่าไห้โศกา
จง่ึ เห็นสมเดจ็ พระหรวิ งศ์
กราบลงแทบบาทภวู ไนย
พวกยักษ์ที่เฝ้าประตู เม่ือถูกเวทมนตร์ของหนุมานก็หูตามัว
นอนหลับทบั กนั ไมม่ ใี ครลกุ ขึ้นมาตรวจตราได้
เม่ือสะกดพวกยักษ์ได้แล้ว หนุมานก็เดินเข้าไปในดงตาล เห็น
พระรามถกู ขงั อยู่ในกรงเหล็กใหญ่ หนุมานรีบก้มลงกราบเท้าพระราม
แลว้ ร้องไห้
โอ้วา่ พระจอมมงกุฎเกศ ลือเดชทัว่ ทศทิศา
เปน็ ที่พง่ึ มนษุ ยเ์ ทวา ควรฤามานอนอยู่ในกรง
อนิจจาเป็นน่าอนาถจิต พระกายติดไปด้วยธุลีผง
ไร้ทั้งภูษาผทมทรง ใบไม้จะรององค์กไ็ ม่มี
เสียแรงเลี้ยงทหารชานาญยุทธ์ นับสมุทรไว้ใต้บทศรี
แจ้งว่าไมยราพอสุรี ในราตรีจะลอบขึน้ ไป
ทาการสะกดแต่เพียงนั้น ช่วยกันรักษาไว้ไม่ได้
เสียทีมีฤทธิไกร มาหลับใหลด้วยเวทวิทยา
มันจึง่ ไดพ้ าพระจกั รี มาถึงบรุ ยี กั ษา
หาไม่ทีไ่ หนอสุรา จะรอดลงมายังบาดาล
จะพิฆาตฟาดฟนั ด้วยตรีเพชร ให้เศียรเดด็ เสียบไว้กับหน้าฉาน
จึง่ จะสมน้าหน้าไอส้ าธารณ์ ที่อหงั การกาเรบิ ใจ
ร่าพลางฟูมฟายชลนา ซบพักตร์โศกาสะอืน้ ไห้
ด่ังหนึ่งจะสิ้นชีวาลยั ไม่เปน็ สติสมประดี
อภิวนั ท์เหนือเกล้าเกศี
ครั้นคลายแสนโศกจาบลั ย์ ด้วยกาลังฤทธีพาจร
ทาลายกรงช้อนองพระจักรี
เมื่อหนมุ านเห็นพระรามถูกขังอยู่ในกรงจึงพูดวา่ “พระองคไ์ ม่ควร
ท่ีจะมาถูกขังอยู่ในกรงเช่นน้ีเลย ดูเน้ือตัวก็เต็มไปด้วยฝุ่น แม้แต่ผ้าหรือ
ใบไม้มารองนอนซักใบก็ไม่มี เจ้าไมยราพมันข้ึนไปสะกดให้หลับใหล
แล้วพาพระองค์มาขังไว้ท่ีเมืองยักษ์ ข้าจะฆ่ามันด้วยตรีเพชรของข้า”
พูดแลว้ หนมุ านซบหนา้ ร้องไห้ จากนั้นก็ทาลายกรงเหล็กใหญ่แล้วอุ้มเอา
พระรามออกมา
รีบออกมาจากเมืองมาร ถึงเขาสุรกานต์สงิ ขร
ตรงลงยงั เชิงครี ินทร วานรเพิ่งพิศไปมา
เหน็ แท่นสวุ รรณบัลลังก์อาสน์ อยู่ในนพมาศคหู า
เอกเอี่ยมเทียมทพิ ย์ไสยา กว็ างพระจกั ราดว้ ยยินดี
หนุมานพาพระรามออกมาจากเมืองยักษ์ไปยังเขาสุรกานต์
เม่ือไปถึงหนุมานมองไปรอบ ๆ เพื่อหาที่วางพระราม จนไปเห็นแท่น
บลั ลงั ก์ทองทีอ่ ยู่ในถ้าทองจงึ พาพระรามไปวางไว้บนนั้น
แล้วจ่งึ บังคมก้มเกศ กราบเบอื้ งบทเรศทงั้ สองศรี
คารพจบพ้ืนพระธรณี ชุลีกรประกาศดว้ ยวาจา
ของฝูงเทวาสรุ าฤทธ์ิ ซึ่งสถติ สิงสใู่ นภผู า
ทงั้ หกห้องสวรรคช์ ้ันฟ้า มาช่วยรักษาพระทรงธรรม์
ตวั ข้าจะไปสังหาร ไมยราพขุนมารให้อาสญั
ฝากแล้วก็รีบจรจรลั ผันพักตรค์ นื เขา้ ยังธรณี
เม่ือหนุมานวางพระรามลงบนแท่นบัลลังก์ทองแล้ว ก็ก้มลง
กราบและพูดว่า ขอให้เทวดาที่อาศัยอยู่ที่แห่งนี้ ได้มาช่วยดูแลรักษา
พระรามด้วย ส่วนตัวขา้ จะไปฆ่าไมยราพให้ถึงแก่ความตาย
มาจะกลา่ วบทไป ถึงเทพไทเรืองศรี
อันสถิตถ้าธารคีรี มที ิพโสตนัยนา
เลง็ มาเห็นลกู พระพาย พาองคพ์ ระนารายณ์นาถา
ออกจากกรงเหลก็ อสุรา มาไว้ปากถ้าสรุ กานต์
บดั น้ีจะกลับไปชิงชัย ฆา่ อ้ายไมยราพใจหาญ
กพ็ าฝงู เทพบริวาร เหาะทะยานมายังพระจกั รี
ขบั กล่อมบาเรอดีดสี
คร้ันถึงจึงเข้าแวดลอ้ ม ฉา่ เฉือ่ ยเรือ่ ยรี่จบั ใจ
จาเรียงเสียงทิพยด์ นตรี บ้างลอ้ มวงตามเชิงเขาใหญ่
บ้างโบกปดั พัดวรี ะวงั องค์ มใิ ห้ราคีบีฑา
พทิ ักษร์ ักษาพระภูวไนย
เทพเทวดาทั้งหลายที่อยู่อยู่ในถ้าน้ัน เห็นหนุมานพาพระรามออกจากรงเหล็กในเมือง
ยกั ษ์มาไว้ทีถ่ ้าตรงเขาสุรกานต์ ก็ไดพ้ ากันมาเฝา้ พระรามไว้
เทพเทวดาเมือ่ มาถึงตรงที่พระรามอยู่ ก็ได้พากันปรนนิบัติพัดวีบ้างก็ดีดสีบรรเลงเพลง
ให้พระรามฟัง
บัดนนั้ วายบุ ุตรวฒุ ิไกรใจกลา้
เขม้นหมายจะลา้ งอสรุ า ก็ตรงมายงั หน้าพระลาน
วานรสาแดงกาลังหาญ
ครน้ั ถงึ ปราสาทอลงกรณ์ ถีบถงึ บานสหี บญั ชรชยั
กระทืบเท้าผาดโผนโจนทะยาน
หนุมานมีความตั้งใจอย่างแน่วแน้ทีจ่ ะกาจดั ไมยราพ
เมือ่ มาถึงทีอ่ ยู่ของไมยราพ กไ็ ด้กระทบื เทา้ แสดงอิทฤทธ์ิ
และถบี บานประตูเขา้ ไป
เสียงสนน่ั ครั่นครืน้ กุลาหล พังลงไม่ทนกาลังได้
แล้วมวี าจาประกาศไป เหวยอ้ายไมยราพกมุ ภณั ฑ์
เป็นไฉนตัวมงึ ไปลอบลัก องคพ์ ระหรริ ักษ์รงั สรรค์
กูเป็นทหารชาญฉกรรจ์ ตามมาโรมรนั อสรุ า
ชื่อวา่ หนมุ านชาญณรงค์ อาจองดงั่ พญาราชสีห์
ตัวมงึ ด่ังหน่งึ มฤคี วันนจี้ ะม้วยวายปราณ
หลงั จากหนมุ านใชเ้ ท้าถีบประตกู เ็ กิดเสียงดังสนั่นหว่ันไหวจนประตู
พังลง จากนั้นหนุมานก็พูดว่า”ไอ้ไมยราพเหตุใดมึงจึงไปลักพาตัวพระราม
มา ข้านี้เป็นทหารของพระรามมีชื่อว่าหนุมาน วันนี้จะตามเอาเร่ืองมึงจน
ชีวติ มงึ ตอ้ งถึงแก่ความตาย”
เมอ่ื น้ัน พญาไมยราพใจหาญ
ผวาต่นื จากแท่นอลงการ ขนุ มารกเ็ หลอื บแลไป
เหน็ วานรเข้ามาถึงปราสาท องอาจกล่าวคาหยาบใหญ่
โกรธาฉวยคว้าพระขรรค์ชัย ผดุ ลกุ ขึน้ ได้ก็รอ้ งมา
เหม่เหม่ดดุ ู๋อ้ายชาติลงิ เยอ่ หยิง่ อวดฤทธิ์วา่ แกล้วกล้า
ตวั กผู ู้ทรงศกั ดา ใตฟ้ ้าไม่มีใครเทียมทัน
มึงดัง่ หง่ิ ห้อยน้อยแสดง ฤาจะแข่งกับดวงสุรยิ ฉ์ นั
วา่ พลางขบเขีย้ วเคี้ยวฟนั แกว่งพระขรรค์ออกไล่ราญรอน
ไมยราพที่นอนหลับอยู่ก็สะดุ้งต่ืน หันไปเห็นหนุมานเข้ามาถึงในห้อง
จึงคว้าเอาพระขันและตะโกนด่าหนุมานว่า “ไอ้ชาติลิงแกช่างกล้ามาอวดเก่ง ตัวข้าน้ีมี
อทิ ธิฤทธิ์มากจนในโลกนีไ้ มม่ ใี ครเทียบได้ ตวั แกก็เหมอื นหิ่งห้อยที่มีแสงนอ้ ยนิด จะมาสู้ข้าที่
เหมือนพระอาทิตย์ที่มีแสงสว่าไสวได้อย่างไร” ไมยราพท้ังพูดท้ังขบฟันด้วยความโกรธ
จากนน้ั ก็แกวง่ พระขรรค์เข้าไปต่อสกู้ ับหนมุ าน
บดั น้ัน คาแหงหนมุ านชาญสมร
รบั รองป้องกนั ประจญั กร วานรถีบโถมด้วยฤทธา
ไล่ประจญถอยประจญั เข่นฆา่
ถ้อยตีถ้อยรับสบั สน ต่างหาญต่างกล้าไม่ลดกัน
ฟังแทงแย้งยุทธิก์ นั ไปมา
ฝ่ายหนุมานกต็ ั้งรับต่อสู้ใช้เท้าถีบป้องกนั ต่างฝ่ายต่างเปลีย่ น
กนั รุกและเปลี่ยนกนั รับฟันแทงกันไปมา แตต่ ่างฝ่ายต่างสกู้ นั แบบ
ไม่มใี ครยอมใคร
เมื่อนนั้ ไมยราพฤทธิแรงแข็งขัน
รบั รองปอ้ งปดั โรมรัน ขบฟันโลดโผนโจนมา
กรแกว่งพระขรรค์เงือ้ ง่า
เท้าหนึ่งเหยียบเขา่ วานร หันเหยี นเปลย่ี นทา่ ทนั ที
กลอกกลบั จับกันเป็นโกลา
ฝ่ายไมยราพนนั้ กโ็ ผนทะยานไปมา ใช้เท้าขา้ งหนง่ึ
เหยียบเข่าของหนมุ านไว้ส่วนมื้อกแ็ กว่งพระขรรคไ์ ปมา
บดั นั้น หนมุ านผู้ชาญชัยศรี
รบชดิ ติดพนั ประจญั ตี ได้ทีโจมจบั กมุ ภัณฑ์
กรขวาฉวยชงิ พระขรรค์
โผนเผน่ ขึน้ ยืนเหยียบบ่า ฟาดฟนั ตอ้ งกายขุนมาร
กรอกกลับสปั ระยุทธ์พัลวัล วานรถีบด้วยกาลงั หาญ
พระขรรคก์ ห็ ักเป็นสองท่อน ขุนกระบี่ทะยานตามตี
อสรุ ีลม้ ลกุ คลกุ คลาน
หนุมานได้ทีเข้าไปประชิดจับตัวไมยราพไว้ ขึ้นไปยืนใช้เท้าเหยียบบน
บ่าของไมยราพ สว่ นมือกวาก็ไปแย่งพระขรรค์มาได้ แล้วฟันลงไปบนตัวของ
ไมยราพจนพระขรรค์หักเปน็ สองท่อน หนมุ านจงึ ใชเ้ ท้าถีบจนไมยราพล้มลง
บดั น้ัน หนุมานผู้ชาญชัยศรี
รบชิดตดิ พนั ประจญั ตี ได้ทีโจมจบั กุมภณั ฑ์
กรขวาฉวยชิงพระขรรค์
โผนเผ่นขึน้ ยืนเหยียบบ่า ฟาดฟนั ตอ้ งกายขุนมาร
กรอกกลับสปั ระยทุ ธ์พัลวัล วานรถีบด้วยกาลังหาญ
พระขรรค์ก็หกั เป็นสองท่อน ขุนกระบีท่ ะยานตามตี
อสุรีลม้ ลกุ คลกุ คลาน
หนุมานได้ทีเข้าไปประชิดจับตัวไมยราพไว้ ขึ้นไปยืนใช้เท้า
เหยียบบนบ่าของไมยราพ ส่วนมือกวาก็ไปแย่งพระขรรค์มาได้
แล้วฟันลงไปบนตัวของไมยราพจนพระขรรค์หักเป็นสองท่อน หนุ
มานจงึ ใช้เท้าถีบจนไมยราพล้มลง
เมือ่ น้ัน ไมยราพสิทธิศักดิย์ กั ษี คทา
เสียพระขรรค์เพชรอนั ฤทธี อสุรีคว้าได้คทาวุธ
กวดั แกว่งแสงวาบปลาบตา กระทืบบาทาอึงอุด
ผาดแผลงสาแดงฤทธิรทุ ร กลับเข้าสัประยทุ ธ์ชงิ ชัย
เข้าออกเป็นทีหนไี ล่
ต่างคนตา่ งรบั ต่างตี ฉวยได้หอกใหญ่เขา้ รอนราญ
จนตระบองน้ันหัดกระเดน็ ไป
ตระบอง หอก
เมือ่ ไมยราพได้เสียพระขรรค์เพชรไปแลว้ ก็ไปคว้าได้คทา
แล้วกลับไปสู้กับหนุมานตอ่ ต่างฝ่ายต่างสู้กนั ตระบองหักกระเด็น
ไป แตก่ ไ็ ปคว้าได้หอกนามาสกู้ ันต่อ
บัดนั้น วายุบตุ รวุฒิไกรใจหาญ โตมร
หลีกหลบรบรนั ประจัญบาน โถมทะยานเข้าไล่ราวี ตรีเพชร
ได้ด้วยฤทธิรอนกระบี่ศรี
มอื ขวาฉวยชิงโตมร จนหอกอสรุ ีนน้ั หกั ไป
แทงต้องกมุ ภณั ฑ์เปน็ หลายที ลกู พระพายฟ้อนฟันกระช้ันไล่
แล้วชักตรเี พชรออกจากกาย มไิ ด้ดารงกายทัน
หวดซ้ายป่ายขวาวอ่ งไว
หนุมานหลบหลีกได้วิง่ เข้าต่อสู้ มอื ขวาคว้าได้ตรีเพชรแลว้ แทง
เข้าตัวไมยราพไปหลายคร้ังจนหอกของไมยราพหกั จากน้ันดงึ ตรีเพชร
ออกจากตวั ของไมยราพแล้วฟาดฟนั จนไมยราพหลบหลีกไม่ทัน
เมอ่ื นั้น ไมยราพฤทธิแรงแขง็ ขนั
สิน้ สุดอาวุธโรมรัน กุมภณั ฑถ์ วิลจินดา
วานรตนนีส้ ามารถ ฤทธิรงค์องอาจแกล้วกลา้
ยง่ิ กว่าเทวญั ในช้ันฟ้า นักสิทธว์ ิทยยานาคี
จาเป็นจะคิดอุบายกล ด้วยแบบแยบยลลวงฆ่ากระบ่ี
ถึงมาตรมนั จะกลับตี กนู ีไ้ ม่ครั่นครา้ มใจ
ด้วยดวงจิตไม่อยกู่ บั กาย อนั ที่จะตายนนั้ หาไม่
คิดแลว้ จึ่งร้องไปวา่ เหวยไอ้ลงิ ไพรพาลา
ตัวเราทง้ั สองประลองยทุ ธ์ สัประยทุ ธ์ขบั เคี่นวกันหนักหนา
ถ้อยทีไม่แพ้ฤทธา มาตง้ั สจั จาสญั ญากนั
ให้เป็นธรรมยุทธ์สุจริต ตา่ งตนอย่าคิดผิดผนั
จะเอาตาลสามต้นมาพัน ตะบิดฟ่ันให้เปน็ ตระบองตาล
ผลดั กันตีคนละสามที ใครดกี ไม่ม้วยสังขาร
ให้ปรากฏไวใ้ นไตรตาล ตวั ท่านจะเห็นประการใด
เมือ่ ไมยราพหมดอาวุธทีจ่ ะมาต่อสู้ จงึ คดิ ว่าทาไมลิงตวั นถี้ ึงได้มอี ิทธิฤทธิ์
มากยิ่งกว่าเทวดาทีอ่ ยู่บนสวรรค์ แตต่ ัวข้านีถ้ ึงฆ่ายังไงกฆ็ ่าไม่ตาย เพราะหัวใจไม่ได้
อยู่กับตัวข้าจงึ คดิ แผนการทีจ่ ะกาจัดหนุมาน แลว้ ร้องบอกไปว่า “เราสองคนกส็ ู้กนั
มานานแลว้ แตไ่ ม่มใี ครชนะสักที เอาอย่างน้ไี หม เราเอาต้นพนั กันใหเ้ ปน็ ตระบอง
แล้วนามาผลัดกันตีคนละสามที เพือ่ หาผแู้ พ้ผู้ชนะ ท่านจะว่าอย่างไร”
บัดน้ัน คาแหงหนุมารทหารใหญ่
ได้ฟงั ก็ดารติ รไิ ตร อันอา้ ยไมยราพอสุรา
มนั คิดเปรียบเทียบดัง่ น้ี เหน็ จะมีอบุ ายยกั ษา
กูกไ็ ม่เกรงฤทธา จะซ้อนกลฆ่ามนั ใหว้ ายปราณ
ถึงตัวตายแมน้ จะต้องพระพายพดั กอ็ ุบตั ิคนื ชีพสงั ขาร
อันตัวของอา้ ยขุนมาร นยั จะแหลกลาญด้วยฤทธี
คิดแลว้ จึ่งร้องตอบไป ว่าจรงิ ฤๅไฉนยกั ษี
เกลือกจักไมเ่ หมอื นหนึง่ พาที ทีค่ าอสรุ สี ัญญา
หนมุ านเม่อื ได้ยินกค็ ิดว่า นตี้ ้องเป็นแผนที่ไมยราพหลอกเราแน่
ๆ แตอ่ ย่างนน้ั ข้าก็ไม่กลัวหรอก ข้าจะซ้อนแผนเพื่อกาจดั ไมยราพให้ได้
เพราะตวั ข้านีถ้ ึงจะตายไปแล้ว แต่หากมีลมพดั มาโดนตัวก็จะฟืน้ ขึ้นมา
เมือ่ คิดได้ดงั น้ันหนุมานจงึ รอ้ งตอบไปว่า “ที่เจ้าพดู มานี่จริงหรอื ไม่ แลว้
ข้าจะเชอ่ื ทีเ่ จา้ พูดได้หรอื ไม”่
เมื่อนนั้ พญาไมยราพยักษา
ได้ฟงั จ่งึ ตอบวาจา อันคาเราวา่ นโี้ ดยธรรม์
แม้นมาตรมคิ งในสจั ขอจงหสั นยั นร์ งั สรรค์
กับฝูงเทวาท้ังน้ัน สังหารชีวาให้บรรลยั
แตเ่ ราจะตีสามทีก่อน ครบแล้วจะนอนลงให้
ตวั เอ็งจะลกุ ขึ้นตีไป ตามที่เราได้ปฏญิ าณ
ไมยราพจงึ ตอบว่า “ที่ข้าพดู ไปนั้นเชอ่ื ถือได้ แตถ้ ้าข้าผิดคาพูดก็
ขอให้เทพเทวดาท้ังหลายลงโทษข้าให้ชีวติ จบสิ้น แตว่ ่าการขา้ ขอเปน็ คน
ตีสามทีก่อน เมื่อตคี รบสามคร้ังแล้ว ข้าจะนอนลงให้เจา้ ตี
บัดน้ัน วายุบุตรวฒุ ิไกรใจหาญ
ฟังคาไมยราพขนุ มาร ตบหตั ถ์ฉดั ฉานแล้วตอบไป
ไฉนจ่งึ มาเลอื กวา่ สัญญาเอาเปรยี บก็เปน็ ได้
ตวั เราเป็นแขกมาแต่ไกล ชอบให้ตีกอ่ นอสรุ ี
ซึ่งว่าท้ังน้แี ตพ่ ึง่ รู้ ใช่กจู ะโง่กวา่ ยักษี
เอ็งจะตีกอ่ นก็เรง่ ตี ใครดีจะรอดชวี า
เม่อื หนุมารได้ฟังคาของไมยราพกป็ รบมอื เสียงดังแลว้ พูดขนึ้ วา่ “ทาไมถึงมา
เลอื กวา่ จะตกี ่อน น่เี ปน็ การเอาเปรียบหรือไม่ ข้าน้ีเป็นผู้มาเยอื นตอ้ งไดต้ กี ่อน แตไ่ ม่
เป็นไรถ้าเจ้าจะตกี ่อนก็เอาเถอะ เพราะถ้าใครดีคนนนั้ ก็จะรอด”
เมือ่ นนั้ พญาไมยราพยักษา
ได้ฟงั กระบีก่ ็ปรีดา อสุราเข้าถอดเอาต้นตาล
ก็หลดุ ขึน้ ด้วยกาลังหาญ
เท้ายันบ่าดันกระชากฉุด ขุนมารบิดเป็นคทาธร
สามต้นสูงเทียมคัคนานต์ มึงอวดฤทธาว่าชาญสมร
แล้วรอ้ งว่าเหวยอ้ายลิงป่า จงนอนลงให้กตู ี
ใครดีจะได้เหน็ กร
เมือ่ ไมยราพได้ฟังกย็ ินดรี ีบไปถอนเอาตน้ ตาลที่สงู เทียมฟ้ามา
สามตน้ แล้วเอามาบิดเปน็ คทา แล้วรอ้ งบอกว่า “ไอ้ลิงป่ามึงอวดดีว่าเก่ง
นกั หน้า มาดวู ่าใครจะเก่งกว่ากนั นอนลงให้ข้าตีเดยี๋ วน”ี้
บัดนั้น หนมุ านผู้ชาญชัยศรี
ได้ฟงั อสุราพาที ขนุ กระบ่รี ่ายวิทยามนตร์
ครั้นครบเจด็ คาบก็เป่าไป กล้ันใจลูบกายสามหน
ให้คงทรหดอดทน แลว้ ทอดตนกวกั เรียกอสรุ า
เม่อื นนั้ พญาไมยราพยักษา
เหน็ กระบน่ี อนทอดกายา กป็ รีดาเงอื ดเง้ือตระบองตาล
กวัดแกว่งสาแดงแผลงฤทธิ์ เสียงสนัน่ ครรชติ ทุกทิศาน
สองเท้ากระเหยง่ เผ่นทะยาน ขุนมารกต็ ีลงไป
สามทีสนั่นดง่ั ฟ้าฟาด ปถั พีกมั ปนาทหวาดไหว
อันกายหนุมานชาญชยั กจ็ มลงในพ้ืนพสธุ า
เม่ือหนุมานได้ฟังไมยราพ ก็ท่องเวทมนตร์คาถาให้ครบเจ็ดรอบแล้วเป่า จากน้ันก็กลั้นใจ
ลบู ร่างกายตนเองแล้งขอให้ร่างกายตนน้คี งทนไม่เป็นอะไร” จากน้ันก็นอนลงแลว้ กวกั มือเรียกไมยราพ
เมอ่ื ไมยรพาเห็นหนมุ านนอนลง กย็ กตระบอกตาลกวดั แกว่งจนเสยี งดงั สน่นั หว่ันไหว จากนนั้ กเ็ ขยง่ เท้า
แล้วฟาดตระบองตาลลงไปบนตัวหนุมานสามครั้ง เสียงดังเหมือนเสียงสายฟ้าแผ่นดินก็ส่ันไหว ส่วน
ร่างกายของ หนมุ านกจ็ มลงไปในแผ่นดนิ
บดั น้ัน วายบุ ุตรวุฒิไกรใจกล้า
มิได้เจ็บชา้ กายา ผุดลุกขนึ้ มาด้วยว่องไว
รู้จักพระกาฬฤๅหาไม่
ร้องว่าเหวยเหวยขนุ มาร สง่ ตระบองมาให้กตู ี
เร่งนอนลงเถดิ อา้ ยจญั ไร จะถา่ ยชีวิตยักษี
แม้นมึงรกั ตวั กลวั ตาย จึง่ จะไวช้ ีวอี สรุ า
กราบลงที่ตีนของกูนี้
ร่างกายของหนมุ านไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย รีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็วแลว้ ร้องวา่ “
เจ้าไมร่ ู้จกั ข้า รีบนอนลงเถอะแล้วส่งตระบองมาให้ขา้ ตีเดยี๋ วน้ี แตถ่ ้าเจ้ากลวั ตายก็กราบลงที่
เท้าของข้าแล้วข้าจะไวช้ ีวิตเจ้า”
เมื่อน้ัน พญาไมยราพยักษา
เห็นวานรไม่ส้ินชีวา อหงั การเ์ ยาะเย้ยไยไพ
ให้ประหวน่ั ครั่นครา้ มขสมฤทธิ์ ร้อนจิตด่งั หนง่ึ เพลิงไหม้
แล้วร้อื มานะหักใจ กจู ะเกรงมันไยอ้ายสาธารณ์
คิดแลง้ จึง่ ตอบวาจา เหวยอ้ายพาลาเดียรจั ฉาน
กไู มป่ ระณตบทมาลย์ มงึ อย่าอวดหาญพาที
ว่าแล้วก็ทอดกายลง ส่งตระบองให้กระบี่ศรี
ตัวเอ็งจงเร่งมาตี ตามทีซ่ ึง่ ได้สัญญา
ไมยราพโกรธมากทีเ่ หน็ ว่าหนมุ านไม่เป็นอะไร และยงั มาพูดจาเยาะ
เย้ยตนอกี จงึ ตอบไปว่า “ข้าไม่ยอมก้มกราบแกหรอก อย่าอวดเก่งให้มากนกั
เลย” จากน้ันไมยราพ กน็ อนลงส่งตระบองให้หนมุ าน แล้วบอกว่า “
แกรีบมาตเี ถอะ”
บดั นั้น วายบุ ตุ รวุฒิไกรใจกล้า
ฉวยจับตระบองตาลมา เง้ือง่าด้วยกาลงั ฤทธิรอน
ตาหมายเขม้นจะพิฆาต องอาจดัง่ พญาไกรสร
สองมอื กวดั แกว่งคทาธร วานรก็ฟาดลงสามที
ตระบองแหลกกายขาดไปกับที่
เสียงสน่ันครัน่ คร้นื อากาศ ขุนกระบี่ขว้างไปด้วยฤทธา
แลว้ ฉีกแขนขาอสรุ ี
หนมุ านจับตระบองตาลไว้ สายตาอาฆาตมองมายงั ไมยราพแลว้ กวดั
แกว่งตระบองตาลฟาดลงบนตัวไมยราพสามที จนตระบอกหกั และตัวไมยราพ
ขาดจากกัน จากน้ันฉีกแขนขาของไมยราพกว้างออกไป
เมือ่ นน้ั พญาไมยราพยกั ษา
เท้ากรกลับตดิ กายา อสุราไม่ม้วยบรรลัย
ลกุ ขนึ้ กระทืบบาทผาดร้อง กึกก้องกัมปนาทหวาดไหว
โผนไปดว้ ยกาลังว่องไว เข้าไล่ประจญประจญั บาน
ร่างกายและแขนขาของไมยราพท่ีฉีกขาดกลับเข้ามา
ติดกัน ไมยราพลุกข้ึนกระทืบเท้า และร้องจนเสียงดังสน่ัน
หว่ันไหว จากนน้ั รีบวิ่งเขา้ ไปเพอ่ื ต่อสกู้ บั หนุมาน
บดั นั้น วายบุ ุตรวฒุ ิไกรใจหาญ
หักเอาดว้ ยกาลังชยั ชาญ โถมทะยานถีบต้องอสรุ า
ล้มลงกับพืน้ พสธุ า ด้วยศักดาเดชเรืองศรี
โลดโผนโจนไปทันที ขุนกระบี่เหยียบอกลงไว้
ไมยราพขนุ ยกั ษ์น้ีไฉน
จ่งึ ถามพิรากวนนงลกั ษณ์ สงสัยเป็นพ้นพรรณนา
ฆ่ามันจึงไม่บรรลยั
หนุมานถีบไมยราพจนลม้ ลงกบั พืน้ แลว้ ใช้เทา้ เหยียบอกไว้
แล้วรอ้ งถามนางพริ ากวนวา่ “ทาไมไมยราพจึงฆ่าไม่ตาย”
เมื่อนนั้ นางพิรากวนยกั ษา
ฟงั วายุบุตรกป็ รีดา จึ่งรอ้ งบอกมาทนั ที
ซึง่ ว่าฆ่ามนั ไม่ตาย เพราะดว้ ยอุบายยักษี
ถอดจติ ออกเปน็ ภุมรี ใสก่ ลอ่ งมณีอลงกรณ์
แล้วเอาลงไปซ่อนไว้ ในยอดตรีกูฏสิงขร
ทา่ นจงคิดฆ่าตัวภมร ไมยราพฤทธริ อนจะวายปราณ
นางพรากวนบอกหนมุ าณว่า ทีไ่ มยราพฆา่ ไม่ตายเปน็ เพราะ
ไมยราพไดถ้ อดดวงใจเป็นแมลงภู่แล้วใส่กล่องซ่อนไว้ทีย่ อดเขา
ตรีกูฏ ถ้าฆ่าแมลงภู่ตวั นนั้ ได้ไมยราพกจ็ ะตายในที่สุด”
เม่อื นั้น วายบุ ุตรปรีชาหาญ
ฟงั นางบอกแจ้งทุกประการ ยนิ ดีปานได้ฟากฟา้
เท้าเหยียบอสรุ าไวม้ นั่ กรนั้นประนมเหนอื เกศา
กร็ า่ ยพระเวทอนั ศักดา นมิ ติ กายกายาวานร
สูงตระหง่านดัง่ หนึ่งสิงขร
รปู นนั้ ใหญ่เท่าพรหมาน สาแดงฤทธิรอนเกรยี งไกร
พร้อมท้ังส่พี กั ตร์แปดกร มใิ ห้เคลื่อนจากทีข่ ้นึ ได้
เท้าซ้ายเหยยี บอกอสุรี ยงั ในตรีกฏู บรรพตา
เท้าขวานั้นก้าวทะยานไป
เม่ือหนุมานได้ยินที่นางพิรากวนบอกก็ดีใจมาก ใช้เท้า
เหยียบไมยราพไว้ แล้วยกมือประนมขึ้นเหนือหัวร่ายเวทมนตร์
แปลงร่างจนตัวใหญ่เท่าภูเขา มีส่ีหน้าแปดมือ เท้าซ้ายเหยียบอก
ไมยราพไว้สว่ นเท้าขวาก้าวไปทีเ่ ข้าตรีกฏู
มอื หน่งึ ง้างยอดคีรนิ ทร กรหนง่ึ นน้ั คว่าค้นหา
จบั ได้แมลงภุมรา กเ็ อาขนึ้ มาชูไว้
เหวยเหวยไมยราพยักษี นีห่ วั ใจมงึ ฤๅมิใช่
ว่าแล้วขยีเ้ ป็นจรุ ณไป ตดั เศียรลงให้พรอ้ มกนั
มาฟันฟาดดว้ ยคมแสงขรรค์
ด่ังหนึง่ พระกาฬพาลราช กุมภัณฑ์ก็มว้ ยชวี ี
กายดิน้ ระด่าวแดยนั
หนมุ านใชม้ อื ข้างหนึง่ ยกยอดเขาขึน้ ส่วนมืออีกข้างจบั เอาแมลงภู่
ขนึ้ มาชูไว้ แลว้ ถามไมยราพว่า “นใี้ ช่หวั ใจของแกใช่หรอื ไม่ ถามจบแล้ว
ไมยราพก็บีบขยีแ้ มลงภจู่ นละเอียด แล้วใชพ้ ระขรรค์ตดั หวั ไมยราพจนขาด
ไมยราพดนิ้ ทรุ นทรุ ายและสิน้ ใจตายในทีส่ ดุ ”
คุณค่าของวรรณคดี
การใชโ้ วหารเปรียบเทียบเพือ่ ใหเ้ กิดความรสู้ กึ
การเปรียบเทยี บให้เหน็ ความรกั ของพอ่ ท่มี ีต่อลูก
เชน่ ตอนที่หนมุ านรวู้ ่ามจั ฉานคุ อื ลกู ของตน
ตวั อย่างบทประพันธ์
บัดนน้ั หนุมานคาแหงทหารใหญ่
สวมสอดกอดลกู เข้าไว้ ลูบไล้ไปทั่วอนิ ทรีย์
รับขวัญจุมพิตแลว้ พิศพกั ตร์ ดวงจักษุพอ่ เฉลิมศรี
ซึ่งเจ้าตอ่ ยุทธ์บิดาน้ี เพราะมไิ ดร้ จู้ ักกนั
คุณค่าของวรรณคดี
การใช้โวหารเปรียบเทียบเพือ่ ใหเ้ กิดความร้สู กึ
การเปรียบเทยี บใหเ้ ห็นความโกรธ
เชน่ ตอนทีม่ ัจฉานุโกรธตอนทตี่ ่อสู้กบั หนมุ าน
ตัวอย่างบทประพนั ธ์
บัดน้ัน มัจฉานฤุ ทธิไกรใจหาญ
ได้ฟังกริว้ โกรธคือไฟกาฬ ตบมือฉัดฉานแล้วตอบไป
ถึงตัวกนู ้อยเท่านี้ จะกลวั ฤทธีเอ็งก็หาไม่
อย่าพกั อาจองทะนงใจ ใครดีจะได้เหน็ กนั
คุณค่าของวรรณคดี
การใช้โวหารเปรียบเทียบเพื่อให้เกิดความรู้สกึ
การเปรียบเทยี บใหเ้ หน็ ความดีใจ
เชน่ ตอนที่นางพริ ากวนดใี จเมือ่ รู้วา่ หนุมานจะชว่ ยกาจดั ไมยราพ
ตวั อย่างบทประพนั ธ์
เมื่อนั้น พริ ากวนผยู้ อดสงสาร
ได้ฟงั คาแหงหนมุ าน นงคราญค่อยคลายจาบลั ย์
มีความชื่นชมโสมนสั ดง่ั ได้สมบัติในสวรรค์
จ่งึ วา่ ไมยราพชาญฉกรรจ์ มนั เอาพระองคไ์ ปไว้
คณุ คา่ ของวรรณคดี
การใช้โวหารเปรียบเทียบเพือ่ ใหเ้ กิดความร้สู ึก
การเปรียบเทียบใหเ้ ห็นความเศร้าโศก
เช่น ตอนที่นางพิรากวนเสียใจเมือ่ ไมยราพจะฆ่าไวยวิก
ตวั อย่างบทประพนั ธ์
ครั่นถึงที่สระบุษบง นงั่ ลงริมทา่ วารศี รี
คิดถึงลูกรักรว่ มชวี ี ตที รวงเขา้ ร่าโศกา
โอ้ว่าไวยวิกของแมเ่ อย๋ ทรายเชยผยู้ อดเสนห่ า
เสียแรงบารุงเลยี้ งมา จนชันษาจาเริญวัย
คุณค่าของวรรณคดี
การใชโ้ วหารเปรียบเทียบเพื่อให้เกิดความรู้สกึ
ความเชื่อเกี่ยวกบั เทพเทวดา
เชน่ ตอนท่หี นมุ านนาพระรามไปไว้ท่เี ขาสรุ กานตแ์ ละฝากเทพ
เทวดาให้ปกป้องดูและพระราม
ตัวอย่างบทประพันธ์
ขอฝงู เทวาสุราฤทธิ์ ซึง่ สถิตสิงสู่ในภผู า
ทัง้ หกหอ้ งสวรรค์ชน้ั ฟ้า มาช่วยรกั ษาพระทรงธรรม์
คณุ คา่ ของวรรณคดี
การเลอื กสรรคาที่มคี วามหมาย
มาเรียกตัวละคร
หนุมาน วายบุ ตุ ร, ขนุ กระบี,่ วานร
ไมยราพ ขุนมาร, กุมภัณฑ์, อสุรี, อสุรา
ข้อคิด
๑ สะท้อนให้เหน็ ความรกั ความผกู พนั ระหว่างพ่อลกู
๒ สะทอ้ นให้เหน็ ความรกั ความรกั ทีแ่ มม่ ีตอ่ ลกู
๓ ความดียอ่ มชนะความชั่ว
อย่าลืมอ่านทบทวนดว้ ยนะคะ