E-book ระบำลีลาชาชัก 3 ภาษา

หนังสืออิเล็กทรอนิกส์

E-Book 3 ภาษา

ภาษาไทย-ภาษาอังกฤษ-ภาษามลายู

ระบำลีลาชาชัก

CHA CHAK DANCE

โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคมของแบนดูรา
BY SOCIAL LEARNING THEORY BANDURA

ระบำลีลาชาชัก

โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคมของแบนดูรา

คำนำ ก

หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) เล่มนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับ "ระบำลีลาชาชัก" โดยใช้
ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคมของแบนดูรา ซึ่งเนื้อหาข้างในจะประกอบไปด้วย ประวัติความเป็น
มาของระบำลีลาชาชัก เครื่องแต่งกาย ท่ารำของการแสดง ดนตรีประกอบการแสดง
อุปกรณ์การแสดง และ โอกาสที่ใช้ในการแสดง รวมถึงการเชื่อมโยงเนื้อหาวิจัยเข้ากับทฤษฎี
ทางการศึกษาโดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคมของแบนดูรา


ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) เล่มนี้จะเป็นประโยชน์

ไม่มากก็น้อยให้แก่ผู้ที่จะศึกษา และเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติชาชักหรือการแสดงระบำลีลาชาชัก
ของวิทยาลัยนาฏศิลปนครศรีธรรมราช ตลอดจนการจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียนและนำ
ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันต่อไป

และสุดท้ายนี้หากหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) เล่มนี้มีข้อผิดพลาดประการใดทาง
ตัวผู้จัดทำเองต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

ภาคภูมิ ศรีประเสริฐ

สารบัญ ข

คำนำ ก
สารบัญ ข
ประวัติความเป็ นมาของระบำลีลาชาชัก 1
เครื่องแต่งกาย 2
ท่ารำของการแสดง 5
ดนตรีประกอบการแสดง 11
อุปกรณ์การแสดง 12
โอกาสที่ใช้ในการแสดง 13
ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคมของแบนดูรา 14
บรรณานุกรม 18
ประวัติผู้จัดทำ 19

1

ประวัติความเป็นมา
ของระบำลีลาชาชัก

"ชาชัก" จัดว่าเป็นสินค้าโอทอปที่เป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนที่ได้รับความนิยมกันอย่าง

แพร่หลาย อันเป็นผลจากความโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นภาคใต้ ซึ่งใน

จังหวัดนครศรีธรรมราชเอง มักจะพบเห็นการโชว์ลีลาการชงชาชักในการจัดงานต่างๆ

โดยทั่วไปไม่ว่าจะเป็น งานเลี้ยง งานแสดงสินค้า มหกรรมอาหาร งานเทศกาลประเพณี

งานแสดงทางศิลปวัฒนธรรม ฯลฯ ก็จะพบเห็น "ชาชัก" เข้าร่วมออกร้านจำหน่ายชาชัก

ไปพร้อมๆกับการโชว์ลีลาการชักชาในรูปแบบที่แตกต่างกันตามเทคนิควิธีการ อันเป็น

ลักษณะเฉพาะตัวของร้านนั้น ๆ ในการดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภค ให้จับจ่ายซื้อหา

ชาชักไปลิ้มลองรสชาติ

นับเป็นเวลาไม่น้ อยกว่า 10 ปี ที่ร้านชาชักได้มีการพัฒนาตนเองให้เป็นที่รู้จัก

กันอย่างแพร่หลายมากขึ้น ไม่เพียงแต่เฉพาะในภาคใต้เท่านั้น แต่ปัจจุบันชาชักยังเป็น

สินค้าที่ติดอันดับมาตรฐานในระดับประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ก็คงเป็นไปได้ว่ามีผล

มาจากมนต์เสน่ห์ของลีลาท่าทางการชักชาตลอดจนรสชาติอัน กลมกล่อม หอมละมุน

เป็นที่ถูกปาก ถูกใจ ของผู้บริโภคโดยทั่วไป ซึ่งจุดที่น่าสนใจของการชักชาชักคือขั้น

ตอนที่ต่อเนื่องหลังจากการนำส่วนผสมประกอบเข้าด้วยกัน กล่าวคือน้ำชาที่เดี่ยวจน

ได้ที่ นมสด และนมข้นหวาน ผสมรวมเข้าด้วยกันในกระบอกชาตามสัดส่วนหรือตาม

สูตรที่กำหนดแล้วในกระบอกใดกระหนึ่ ง จากนั้นผู้ชงชาจะถือกระบอกชาข้างละ

1 กระบอก แล้วยกกระบอกที่มีส่วนผสมอยู่ให้สูงขึ้น แล้วเทชาลงสู่กระบอกเปล่า

ที่ถืออยู่ในระดับต่ำกว่า และเทสลับกันไปตามท่วงทีลีลา อันเป็นอัตลักษณ์เฉพาะตัว

ของผู้ชงชาแต่ละคนไปตามความสัมพันธ์ของแรงโน้ มถ่วง ผ่านอากาศอันจะช่วยให้เป็น

ตัวเสริมในการทำปฏิกิริยาให้ชาเกิดเป็ นฟอง ที่สวยงามและมีรสชาดที่ชวนชิม

ลิ้มลอง

จากเทคนิควิธีการชงชาที่ต้องอาศัยทักษะ ความชำนาญ ในท่วงที ลีลา ต่าง ๆ

จึงเป็นมูลเหตุให้ผู้วิจัย มีความสนใจที่จะศึกษาเรื่อง การชักชา เพื่อร่วมอนุรักษ์และ

สืบสานตำนานการชักชาของชาวใต้ที่คงความเป็นเอกลักษณ์ให้แพร่หลายต่อไป ทั้งร่วม

ส่งเสริมการท่องเที่ยว และการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน โดยการนำเสนอผลการศึกษาใน

มิติของการสร้างสรรค์ผลงานการแสดงชุด ระบำลีลาชาชัก ของวิทยาลัยนาฏศิลป

นครศรีธรรมราช

2

เครื่องแต่งกายระบำลีลาชาชัก

การออกแบบเครื่องแต่งการของการแสดงชุดระบำลีลาชาชักชุดของนักแสดง
ชายจะใช้เป็นรูปแบบเดียวกันคือแต่งกายแบบภาคใต้ตอนล่าง ที่สำคัญที่สุดของ
เครื่องแต่งกายของนักแสดงชายคือหมวกกะปิเยาะห์ ซึ่งปกติจะเป็นเพียงหมวก
ธรรมดาแต่ทางผู้สร้างสรรค์ ได้นำมาปักตกแต่งด้วยเลื่อมและลูกปัดให้เกิดความ
สวยงามและโดดเด่น ส่วนการแต่งกายของนักแสดงหญิงจะแบ่งออกเป็น 2 สี
คือ สีฟ้ าและสีชมพู เนื่องจากเป็นสีที่ตัดกันและไม่เป็นสีที่แจ่มเกินไป และเลือก
ใช้รูปแบบชุดแต่งงานแบบมุสลิม เนื่องจากระบำลีลาชาชักเป็นสินค้าโอทอปของ
ชาวมุสลิม ผู้สร้างสรรค์จึงเลือกใช้รูปแบบของชุดในการแสดงเป็นชุดแต่งงาน
แบบมุสลิม เพื่อให้เหมาะสมกับการแสดงชุดระบำลีลาชาชักซึ่งเป็นสินค้าโอทอป
ขึ้นชื่อของชาวมุสลิม

3

เครื่องแต่งกายระบำลีลาชาชัก

• การแต่งกายนักแสดงชาย
1. เสื้อ (ยูเบาะห์) เป็นเสื้อคอตั้ง แขนยาว ด้านหน้ าของตัวเสื้อและปลายแขนของ
แขนเสื้ อปั กด้วยเลื่ อมและลูกปั ด
2. กางเกงขายาว เป็นกางเกงขายาว ปลายขาเข้ารูป
3. ผ้านุ่ง ใช้ผ้าพื้นเมืองของชาวมุสลิมทางภาคใต้
4. เข็มขัด
5. หมวก เป็นหมวกกะปิเยาะห์ ตกแต่งด้วยเลื่อมและลูกปัด

4

เครื่องแต่งกายระบำลีลาชาชัก

• การแต่งกายนักแสดงหญิง
1. เสื้อในนาง ข้างหน้ าของตัวเสื้อปักด้วยเลื่อมและลูกปัดให้เป็นลวดลายดอกไม้
2. เสื้อกุหรง (ประยุกต์) ใช้สำหรับเป็นเสื้อตัวนอก ตัดเย็บด้วยผ้าลูกไม้แบบโปร่ง
ตัวเสื้อยาวคลุมสะโพก แขนยาวจรดข้อมือ
3. กระโปรง ตัดเย็บด้วยผ้าปาเต๊ะ ยาวคลุมข้อเท้า ปลายกระโปรงปักด้วยเลื่อม
และลูกปั ดเป็ นลวดลายดอกไม้
4. ผ้าคลุมศีรษะ (ฮิญาบ)
5. เครื่องประดับ สร้อยคอ เข็มขัด กำไล

5

ท่ารำที่ใช้ในการแสดง
ระบำลีลาชาชัก

รูปแบบท่ารำของระบำลีลาชาชัก มีแนวคิดมาจากการศึกษาและเลียนแบบ
ท่าทางลีลาของการชงชาชัก โดยได้คัดเลือกจากท่ารำจากการประกอบอาชีพ
ของผู้ประกอบอาชีพชงชาชัก นำมาเรียบเรียง สร้างสรรค์ และดัดแปลงลีลาการ
ชักชา ให้เป็นท่ารำที่ยังคงความถูกต้องของการชงชาชัก ซึ่งจากการศึกษาข้อมูล
เบื้องต้นแล้วนั้น ท่ารำของระบำลีลาชาชัก แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มท่า คือ 5 ท่าพื้น
ฐาน และ 3 ท่าพิเศษ ดังนี้

- กลุ่มท่าพื้นฐาน
1. ท่าเท
2. ท่าดิ่งชา
3. ท่าเทสลับไป-มา
4. ท่าดิ่งชาหมุนตัว
5. ท่าไขว้มือใต้ศอก

- กลุ่มท่าพิเศษ
1. ท่าเทเอี้ยวตัว
2. ท่าผีเสื้อ
3. ท่าเทตะแคงออกนอกไขว้มือต่ำ

6

ท่ารำที่ใช้ในการแสดง
ระบำลีลาชาชัก

ท่าที่ 1 ท่าเท

ท่าที่ 2 ท่าดิ่งชา

7

ท่ารำที่ใช้ในการแสดง
ระบำลีลาชาชัก

ท่าที่ 3 ท่าเทสลับไป-มา

ท่าที่ 4 ท่าดิ่งชาหมุนตัว

8

ท่ารำที่ใช้ในการแสดง
ระบำลีลาชาชัก

ท่าที่ 5 ท่าไขว้มือใต้ศอก

ท่าที่ 6 ท่าเทเอี้ยวตัว

9

ท่ารำที่ใช้ในการแสดง
ระบำลีลาชาชัก

ท่าที่ 7 ท่าผีเสื้อ

ท่าที่ 8 ท่าเทตะแคงออกนอกไขว้มือต่ำ

10

วีดีโอการแสดง
ระบำลีลาชาชัก

ที่มา : ช่องYoutube Siam Thai

11

ดนตรีที่ใช้ในการแสดง
ระบำลีลาชาชัก

ดนตรีที่ใช้ในการแสดงระบำลีลาชาชัก

วงดนตรีที่ใช้ประกอบการแสดงชุด ระบำลีลาชาชัก ใช้วงดนตรีพื้นบ้านภาคใต้
(ตอนล่าง) มี 2 ประเภท คือ

เครื่องดำเนินทำนอง ประกอบด้วย
1.แ​ มนโดลิน
2.​ไวโอลิน
3.​แอ๊คคอร์เดียน
4.​เบส

เครื่องดำเนินจังหวะ ประกอบด้วย
1.​แทมโบรีน
2.ม​ าราคัส
3.ร​ ำมะนา
4.​ฆ้อง
5.​กลอง
6.​ต๊อกแต๊ก

12

อุปกรณ์ที่ใช้ในการแสดง
ระบำลีลาชาชัก

อุปกรณ์ที่ใช้ในการแสดงระบำลีลาชาชัก ประกอบไปด้วย กระบอกชงชา จำนวน 2 ใบ
ซึ่งนักแสดงหนึ่งคนจะใช้กระบอกชงชาจำนวน 2 ใบ โดยบนกระบอกชงชาจะประดับ
ด้วยเพชรลิเกเพื่อตกแต่งให้สวยงาม เมื่อเวลาขึ้นแสดงบนเวทีจะเป็นการเร้าให้เกิด
ความสนใจในท่วงท่าลีลา การชักชาซึ่งเป็นจุดเด่นและจุดสำคัญของการแสดงชุดนี้

13

โอกาสที่ใช้ในการแสดง
ระบำลีลาชาชัก

ระบำลีลาชัก เป็นชุดการแสดงที่ใช้ได้ทั่วไปทุกๆโอกาส ไม่มีการเจาะจงว่าจะต้องใช้
ในงานใด สามารถใช้ได้ทุกโอกาสไว่ว่าจะเป็น งานศพ งานรื่นเริง งานฉลองต่างๆ หรือ
งานจัดแสดงสินค้าโอทอป มหกรรมอาหารท้องถิ่นใต้ เป็นต้น

14

ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคม
ของแบนดูรา

จากการสัมภาษณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนาฏศิลป์ อาจารย์สุณี ลิมป์ปิยพันธ์ เรื่องระบำ
ลีลาชาชักสามารถนำมาเชื่อมโยงกับทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคมของแบนดูรา 4 ขั้น
ได้แก่ กระบวนการใส่ใจ กระบวนการจดจำ กระบวนการแสดงพฤติกรรม และ
กระบวนการจูงใจ ได้ดังนี้

ขั้นที่ 1 กระบวนการใส่ใจ
กระบวนการใส่ใจ เป็นกระบวนการแรกที่ผู้เรียนจะต้องรับรู้ส่วนประกอบต่างๆ

ที่สำคัญ ของพฤติกรรมของผู้เรียนซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญ ต้นแบบหรือตัวแบบมี
อิทธิพลต่อผู้เรียนมีความเข้าใจต่อการใส่ใจ ผู้เรียนจะมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป
และผู้เรียนมีความสัมพันธ์กับกระบวนการใส่ใจ ระบำลีลาชาชักจะสอดแทรกการใส่ใจ
ในองค์ประกอบต่างๆในการแสดง เช่น เครื่องแต่งกายก็จะใส่ใจถึงความคล่องแคล่ว
ของนักแสดง แต่ยังคงอยู่ซึ่งความสวยงามตามแบบฉบับชุดแต่งงานของชาวไทย
มุสลิม ด้านท่ารำ ผู้สร้างสรรค์ได้ลงพื้นที่ศึกษาการชงชาจากผู้ประกอบการร้านชาชัก
จากหลายๆจังหวัดในภาคใต้ อาทิเช่น สงขลา สตูล ปัตตานี กระบี่ ระนอง
นครศรีธรรมราช แล้วจึงคัดเลือกเฉพาะท่าหลักหรือท่าพื้นฐาน และท่าพิเศษ นำมาส
ร้างสรรค์ เรียบเรียง และดัดแปลงลีลาท่าทางการชักชา ให้เป็นท่ารำที่ยังคงความถูก
ต้องตามวิธีการชงชา โดยสร้างสรรค์ขึ้นตามหลักวิธีการทางนาฏศิลป์ไทย ที่มีการผสม
ผสานความเป็นเอกลักษณ์ของรูปแบบการแสดงพื้นเมืองภาคใต้ คือ รองเง็ง ยอเก็จ
และลิเกฮูลู เป็นต้น

15

ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคม
ของแบนดูรา

จากการสัมภาษณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนาฏศิลป์ อาจารย์สุณี ลิมป์ปิยพันธ์ เรื่องระบำ
ลีลาชาชักสามารถนำมาเชื่อมโยงกับทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคมของแบนดูรา 4 ขั้น
ได้แก่ กระบวนการใส่ใจ กระบวนการจดจำ กระบวนการแสดงพฤติกรรม และ
กระบวนการจูงใจ ได้ดังนี้

ขั้นที่ 2 กระบวนการจดจำ
แบนดูราพบว่า ผู้เรียนหรือผู้สังเกตสามารถอธิบายพฤติกรรมหรือการกระทำของตัว
แบบได้ด้วยคำพูดหรือภาพพจน์ ซึ่งองค์ประกอบที่สามารถมองเห็นได้ถึงกระบวนการ
จดจำของผู้เรียนหรือผู้สังเกตเลยก็คือทำนอง และ ท่ารำ กล่าวคือ ในการแสดงชุด
ระบำลีลาชาชักมีทั้งเพลงที่มีท่วงทำนองแบบภาคใต้ตอนล่าง และเป็นเพลงที่ประพันธ์
ขึ้นใหม่ตามหลักของทางดุริยางคศิลป์ไทย โดยแนวคิดของเพลงนำมาจากเพลงพื้น
เมืองภาคใต้ ส่วนกระบวนการจำท่ารำในการแสดงชุดระบำลีลาชาชัก ผู้สร้างสรรค์ผล
งานได้ทำการศึกษาและวิเคราะห์ท่ารำ ซึ่งแบ่งกลุ่มท่ารำออกเป็น 2 กลุ่มท่าคือ ท่าพื้น
ฐาน และ ท่าพิเศษ ซึ่งท่ารำทั้ง 2 กลุ่มนั้นมีความยากและมีเทคนิคเฉพาะตัว ผู้แสดง
หรือผู้สังเกตจึงจำเป็นที่จะต้องจดจำรายละเอียดต่างๆของทำนองและท่ารำ ในขณะที่ผู้
สร้างสรรค์กำลังฝึกซ้อม จึงจะทำให้กระบวนการจดจำเกิดศักยภาพตามเป้ าหมาย

16

ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคม
ของแบนดูรา

จากการสัมภาษณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนาฏศิลป์ อาจารย์สุณี ลิมป์ปิยพันธ์ เรื่องระบำ
ลีลาชาชักสามารถนำมาเชื่อมโยงกับทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคมของแบนดูรา 4 ขั้น
ได้แก่ กระบวนการใส่ใจ กระบวนการจดจำ กระบวนการแสดงพฤติกรรม และ
กระบวนการจูงใจ ได้ดังนี้

ขั้นที่ 3 กระบวนการแสดงพฤติกรรม

เป็นกระบวนการที่ตัวผู้เรียนนั้นสามารถแสดงหรือปฏิบัติในสิ่งที่ตนจดจำได้ สามารถ

ลอกเลียนแบบได้ ในการแสดงระบำลีลาชาชักนี้ ได้ประดิษฐ์ท่ารำขึ้นจากการศึกษา

ท่าทางในการประกอบอาชีพชาชักจริงๆ นำมาสร้างสรรค์ เรียบเรียง และดัดแปลงลีลา

ให้เป็ นท่ารำที่สวยงามแต่ยังคงไว้ซึ่งความถูกต้องตามหลักวิธรชงชา จึงเกิดเป็ น

ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสิ่งแวดล้อมและการเลียนแบบ ทำให้มีอิทธิพลต่อกันเป็นท่าต่างๆ

ทั้งตัวแม่แบบจริงที่เป็ นสัญลักษณ์หรือพฤติกรรมของมนุษย์และสิ่งต่างๆ

17

ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคม
ของแบนดูรา

จากการสัมภาษณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนาฏศิลป์ อาจารย์สุณี ลิมป์ปิยพันธ์ เรื่องระบำ
ลีลาชาชักสามารถนำมาเชื่อมโยงกับทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคมของแบนดูรา 4 ขั้น
ได้แก่ กระบวนการใส่ใจ กระบวนการจดจำ กระบวนการแสดงพฤติกรรม และ
กระบวนการจูงใจ ได้ดังนี้

ขั้นที่ 4 กระบวนการจูงใจ
กระบวนการจูงใจของแบนดูราได้อธิบายไว้ว่า แรงจูงใจของตัวผู้เรียนที่จะแสดง

พฤติกรรมเหมือนตัวแบบที่ตนจดจำหรือสังเกต เนื่องจากมีความคาดหวังว่าการเลียน
แบบน่าจะนำไปใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด การแสดงพฤติกรรมต่างๆที่ครูหรือตัวแม่
แบบจะทำให้ผู้เรียนเห็นก็จะเกิด การเรียนรู้โดยการสังเกตและเป็นแรงจูงใจให้กับผู้
เรียน แสดงพฤติกรรมในการสอนให้เห็นถึงความสำคัญของการเสริมแรงทางบวกมีผล
ต่อพฤติกรรมของผู้เรียนต่อการเรียน จะทำให้ตัวของผู้เรียนเองเกิดความตั้งใจเรียน
ตามตัวแม่แบบมากขึ้น

18

บรรณานุกรม

สุณี ลิมป์ปิยพันธ์. ( 2556 ).ระบำลีลาชาชัก. ผลงานทางวิชาการ.นครศรีธรรมราช:วิทยาลัยนาฏศิลป
นครศรีธรรมราช

จิราวรรณ จันทร์โยธา. ( 2560 ).ศึกษาเรื่อง การสร้างสรรค์การแสดงพื้นบ้าน.วิทยาลัยนาฏศิลป
นครศรีธรรมราช

19

ประวัติผู้จัดทำ

ช​ื่อ – นามสกุล ภาคภูมิ ศรีประเสริฐ

ค​ุณวุฒิ ระดับปริญญาตรี

​ตำแหน่ง นักศึกษา

ส​ าขาวิชา นาฏยศิลป์ศึกษา

ค​ ณะ มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์

ต​ิดต่อ 084-6292575

E​ -mail [email protected]

ท​ี่อยู่ 179 ถนน พัฒนาการทุ่งปรัง ตำบล ในเมือง
อำเภอ เมือง จังหวัด นครศรีธรรมราช 80000

…C…HBY ASOCICALHLEAARNKING DANCE…THEORY BANDURA…

A

Preface



This electronic book (e-book) is about ‘Leela Cha Chak Dance’ (In Thai, Leela means
elegant gestures while Cha Chak means Thai pulled milk tea.) using Bandura’s social learning
theory. The contents have included the history of Leela Cha Chak Dance, costumes, dance
gestures, musical instruments, props, and occasions for performance, including linking the
research contents to educational theory using the Bandura’s social learning theory.

The author sincerely hopes that this e-book will be beneficial to those who would like
to study and learn about the history of Cha Chak or Leela Cha Chak Dance of Nakhon Si
Thammarat College of Dramatic Arts. The advantages of this media can be used in teaching
in the classroom and apply in daily life as well.

Finally, if any mistakes are found in this e-book, I, as an author, sincerely apologize
for any mistakes caused, in advance.

Table of Contents B

Preface A
Table of Contents B
The History of Leela Cha Chak Dance 1
Costumes 2
Dance Gestures 5
Musical Instruments 11
Props 12
Occasions for Performance 13
Bandura Social Learning Theory 14
References 18
Author’s Profile 19

1

The History of Leela Cha Chak Dance

‘Cha Chak’ is one of the OTOP products made in the community that gains
enormous popularity from the unique distinction in Nakhon Si Thammarat
province, southern Thailand. The styles of making Cha Chak can usually be
seen at various events such as celebrated events, trade shows, food fairs,
traditions and festivals, art and culture exhibitions, etc. While entering those
events, you can watch the making of ‘Cha Chak’ in those shops that sell this
drink. At the same time, you can observe different styles in making this tea
based on individual techniques and methods of each shop to attract
customers to buy and try drinking this drink.

Cha Chak shops have been developed to be widely known for no less than
10 years. Nowadays, Cha Chak is considered to be a standard-rated product
not only in southern Thailand but also at the national and international levels.
It could be said that this is the consequence of the enchanted moves while
making Cha Chak with flavorful milk tea and a savory aroma that suits the
customers’ taste. The fascinating point of making Cha Chak is the process
after finishing mixing ingredients which is when tea is lightly simmering, fresh
milk, and sweetened condensed milk are mixed in one of Thai-style stainless
steel coffee jugs in the specific proportion. Then the tea maker holds one jug
with the mix inside and the empty one and raises one jug containing the mix-
up. After that, he pours the mix into the empty jug held in the lower level and
alternately pours the mix by following the individual styles of making Cha
Chak. Based on the law of gravity, the air will help, as a supplement, to make
tea become beautifully and deliciously foamy.

Due to the need for skilled techniques and styles in making tea, the author
was interested to study tea pulling to conserve and prevail the unique tea
pulling of people in the South, promote tourism, and stimulate the economy of
the local community by presenting the result in the form of the creative
performance titled ‘Leela Cha Chak Dance’ of Nakhon Si Thammarat College
of Dramatic Arts.

Costumes 2

The design of the costumes in ‘Leela Cha Chak Dance’
performance for the male performers will be in the same pattern
as lower southern Thailand styles. The most important part of
their costumes is the Kapiah or Kopiah (Arabian traditional
headwear) which is normally simple headwear; however, the
author decided to have ornaments such as sequins and beads,
making it more beautiful and remarkable. At the same time, the
female performers’ costumes are in light blue and pink colors
because these colors are contrasting and not too bright. The
author decided to use the pattern of the Muslim wedding dress
because Leela Cha Chak Dance is from Muslims and Cha Chak,
the famous OTOP products of Muslims, is included in this dance.

3

Male performers’
costumes are included

1.Jubah is a Muslim robe with a long sleeve and stand-up collar.
There are also sequins and beads embroidered on the front of the
robe and the end of the sleeve.

2.Trousers with a fit shape on the bottom of the leg
3.Sarong of Muslims in the South
4. Belt
5.Kapiah or Kopiah embroidered with sequins and beads.

4

Female performers’
costumes are included



1.Suea Nai Nang (strapless top for Thai dancing) embroidered with

sequins and beads at the front to be a floral pattern.
2.Kurung or newly applied Kurung (Muslim traditional clothing), a full-

length dress with long a sleeve, which is made from sheer lace and
used as an outer garment.
3.Ankle-length skirt made from batik and embroidered with sequins and
beads to be a floral pattern at the end of the skirt.
4.Muslim head covering scarf or Hijab
5.Jewelry, necklaces, belts, bracelets

Dance Gestures 5

The dance gestures of Leela Cha Chak Dance come from the idea of
studying and imitating the style of making Cha Chak which was selected
from the gestures of tea maker by compiling, creating, and modifying the
tea-making style to be dance gestures that still maintains the accuracy of
making Cha Chak. From the primary research, dance gestures used in
Leela Cha Chak Dance are divided into two groups. There are five basic
gestures and three particular gestures as follows
- Basic gestures

1.Pouring gesture
2.Pouring straight down gesture
3.Alternately pouring gesture
4.Pouring straight down and swirling gesture
5.Crossed hands under the elbows gesture
- Particular gestures
1.Pouring gesture while body twisting
2.Butterfly gesture
3.Pouring while tilting the body with crossed hands at a low level.

6

Dance gesture
for Performance

1. Pouring gesture

2. Pouring straight down gesture

7

Dance gesture
for Performance

3. Alternately pouring gesture

4. Pouring straight down and swirling gesture

8

Dance gesture
for Performance

5. Crossed hands under the elbows gesture

6. Pouring gesture while body twisting

9

Dance gesture
for Performance

7. Butterfly gesture

8. Pouring while tilting the body with crossed
hands at a low level.

Video show 10

“CHA CHAK DANCE”

Source : Youtube Siam Thai channel

Musical 11
Instruments

Musical Instruments used in Leela Cha Chak Dance are two
types of (lower region) southern folk music brands which are
melodic instruments and percussion instruments as follows

Melodic instruments
1. Mandolin
2. Violin
3. Accordion
4. Bass

Percussion instruments
1. Tambourine
2. Maracas
3.Rammana (Thai small, higher-pitched frame drum)
4.Gong (a percussion instrument formed from a circular metal

disc)
5. Drum
6.Tok Kaek

Props 12

Props used in Leela Cha Chak Dance are two Thai-style
stainless steel coffee jugs which each of the performers must
use two jugs while performing. Each of the jug’s tops is
decorated with Likay diamonds so that when performing on
the stage, it can attract the audience to focus on the gestures
of making this tea which is the highlight of the performance.

Occasions for13
Performance

Leela Cha Chak Dance can be performed on any occasion such as
funerals, festivals, celebrations, OTOP exhibitions, southern local food
festivals, etc.

14

Bandura Social Learning Theory

According to the interview with Thai classical dance expert,
Suni Limpiyaphan, Leela Cha Chak Dance can be linked to four
steps of Bandura’s social learning theory which namely are
attention, retention, reproduction, and motivation.

Step 1: Attention
Attention is the first crucial process, and learners have to observe the

important components of their behaviors. The model influences the learners to
understand the importance of attention, so learners will have different
characteristics and be related to the process of attention. Leela Cha Chak
Dance also considers the components in the dance. For example, the costumes
had to be in line with the dexterity of the performers but remained the beauty of
Thai-Muslim traditional wedding dress. For the dance gestures, the author visited
the Cha Chak shop and learned how to make Cha Chak from the tea shops’
owners from various provinces in the South such as Songkhla, Satun, Pattani,
Krabi, Ranong, and Nakhon Si Thammarat. After that, the author selected only
the main or basic gestures, and particular gestures to design, arrange and
modify the movement of making Cha Chak be the dance gestures based on the
accuracy of making tea, and the unique combination of the basis of Thai
classical dance and the traditional southern performance such as Ronggeng
dance, Joget dance, and Likay Hulu, etc.

15

Bandura Social Learning Theory

According to the interview with Thai classical dance expert,
Suni Limpiyaphan, Leela Cha Chak Dance can be linked to four
steps of Bandura’s social learning theory which namely are
attention, retention, reproduction, and motivation.

Step 2: Retention
Bandura found that learners or observers can explain the behaviors or

actions of the model through visible words and images. The components
seen and remembered by learners or observers are melodies and dance
gestures. Leela Cha Chak Dance contains melodies from the lower southern
region and newly composed songs from Thai arts of playing music’s
principles. The concept of the newly composed song is from southern folk
songs. During the process of memorizing dance gestures in this performance,
the author studied and analyzed those gestures, and divided them into two
groups which are the basic and particular gestures. Both groups had
difficulties and unique techniques, so performers or observers had to
memorize every detail in the melody and gestures while the author was
practicing. Therefore, the process of memorizing can potentially follow the
goals.

16

Bandura Social Learning Theory

According to the interview with Thai classical dance expert,
Suni Limpiyaphan, Leela Cha Chak Dance can be linked to four
steps of Bandura’s social learning theory which namely are
attention, retention, reproduction, and motivation.

Step 3: Reproduction
This is the process that learners can express, perform or imitate what they

remembered. In this performance, dance gestures were created from the real
Cha Chak career, which was designed arranged, and modified to be beautiful
dance gestures, but remained the accuracy of making tea. As a result, the
interaction between environment and imitation influences the gestures in the real
model which are symbols or human and things behaviors.

17

Bandura Social Learning Theory

According to the interview with Thai classical dance expert,
Suni Limpiyaphan, Leela Cha Chak Dance can be linked to four
steps of Bandura’s social learning theory which namely are
attention, retention, reproduction, and motivation.

Step 4: Motivation
Bandura motivation process is described by the learner's motivation to

act like a model they remembered or observed because of the expectation
that it will probably be useful from the imitation. The behaviors acted by the
teachers or models will be seen by learners and cause the learning through
observation. It will also motivate the learners to recognize the importance of
positive reinforcement in teaching that can affect the learners’ behaviors. This
will make the learners have the willingness to study like the model.

18

References

Chanyotha, C. (2017). The study of folk performances.
Nakhon Si Thammarat College of Dramatic Arts.

Limpiyaphan, S. (2013). Academic works titled Leela Cha Chak Dance.
Nakhon Si Thammarat: Nakhon Si Thammarat College of Dramatic Arts.

Author’s Profile 19

Name – Surname: Phakpoom Sriprasert

Degree: Bachelor's degree
Occupation: University student
Program: Dance Education
Faculty: Faculty of Humanities and Social Sciences
Contact: 084-6292575
E-mail: [email protected]

Address: 179 Phatthanakan Thung Prang Road, Tambon Nai Mueang,
Amphur Mueang ,Nakhon Si Thammarat, 80000

“Tarian Gaya Teh Tarik”

Dengan menggunakan teori pembelajaran kemasyarakatan bandura

A

PENDAHULUAN

Buku Elektronik (E-book) ini mempunyai kandungan tentang “Tarian
Gaya Teh Tarik” dengan menggunakan teori pembelajaran
kemasyarakatan bandura yang mengandungi sejarah tarian Teh Tarik,
pakaian, gaya menari persembahan, muzik persembahan, alatan
persembahan dan peluang untuk menggunakan dalam persembahan
termasuk perhubungkan diantara kandungan kajian dan teori pendidikan
melalui penggunaan teori pembelajaran kemasyarakatan bandura.

Pihak penganjur amat berharap agar buku elektronik (E-book) ini
dapat memberi manfaat kepada mereka yang akan mempelajarinya
termasuk persembahan tarian Teh Tarik dari kolej Nattasin Nakhon Si
Thammarat serta dapat menggunakannya dalam pengajaran dan
pembelajaran dalam bilik darjah dan sebagainya dan dapat
menggunakan manfaatnya dalam kehidupan seharian.

Akhir ini, jikalau buku elektronik (E-book) ini terdapat kesalahan dan
kesilapan pihak penganjur memohon kemaaffan di sini.

B

ISI KANDUNGAN

PENDAHULUAN A
B
ISI KANDUNGAN
2
SEJARAH TARIAN GAYA TEH TARIK
1

PAKAIAN

GAYA MENARI PERSEMBAHAN
5

MUZIK PERSEMBAHAN
11

ALATAN PERSEMBAHAN
12

PELUANG YANG DIGUNAKAN DALAM PERSEMBAHAN
13

TEORI PEMBELAJARAN KEMASYARAKATAN MANDURA
14

BIBLIOGRAFI
18

BIODATA PENULIS

1

SEJARAH TARIAN GAYA TEH TARIK

“Teh Tarik”dianggap sebagai produk OTOP yang merupakan produk popular masyarakat
hasil daripada menonjol yang menjadi keunikan selatan yang di Wilayah Nakhon Si
Thammarat sendiri sering dilihat dalam persembahan gaya membuat teh dalam acara umum
seperti pesta, pameran perdagangan, pesta makanan, perayaan tradisional pertunjukkan seni
dan budaya dan sebagainya. Akan ada “Teh Tarik”menyertai jual Teh Tarik serta dengan
menunjukkan gaya teh dengan cara yang berbeza mengikut teknik yang mempunyai keunikan
setiap kedai itu untuk menarik perhatian terhadap pembeli dan serta boleh mencuba Teh
Tarik.

Dikira sekurang-kurangnya 10 tahun kedai Teh Tarik telah mengembangkan dirinya untuk
dikenali secara meluas lebih bukan sehaja di selatan tetapi sekarang Teh Tarik masih
merupakan produk yang terkenal sebagai standard kebangsaan dan di luar negara
berkemungkinan ini adalah hasil daripada daya gaya pembuat Teh Tarik serta rasa yang
enak lembut, wangi, sedap dan suka daripada pembelanjanya. Perkara yang menarik dalam
membuat Teh Tarik adalah proses yang berterusan selepas bahan-bahan digabungkan iaitu
teh yang bersendirian sehingga susu segar dan susu pekat manis campurkan bersama dalam
silinder teh mengikut perkadaran atau mengikut formula yang telah ditetapkan dalam salah
satu silinder kemudian pembuat teh akan memegang silinder teh 1 pada setiap sisi dan
mengangkat silinder yang mengandungi bahan-bahan itu ke ketinggian kemudian tuangkan
teh ke dalam silinder kosong dipegang di peringkat yang lebih rendah dan dituangkan secara
bergantian dengan cara yang mengalir. Ini merupakan identiti setiap pembuat teh hubungan
graviti melalui udara yang akan membantu sebagai tambahan kepada tindak balas teh untuk
menghasilkan buih yang indah dan rasa yang lazat.

Daripada teknik cara membuat teh yang memerlukan mengguna kemahiran kepakaran
dalam pelbagai gaya menjadi alasan pengkaji berminat untuk mengkaji subjek membuat teh
untuk memulihara dan meneruskan legenda membuat teh orang selatan yang masih menjadi
unik yang diterkenalkan terus memasuk mempromosikan pelancongan dan untuk merangsang
ekonomi masyarakat dengan presentation hasil kajian dalam dimension kreatif persembahan
kumpulan tarian gaya Teh Tarik daripada kolej Nakhon Si Thammarat.

2

PAKAIAN

Reka bentuk pakaian persembahan kumpulan tarian gaya Teh
Tarik pakaian pelakon lelaki digunakan tema yang sama iaitu
pakaian bahagian bawah selatan yang penting sekali pakaian
pelakon lalaki iailah topi kapiyah. Yang biasanya hanya topi bisa
tetapi pembuat telah dihiasi dengan labuchi dan manik menjadi
cantik dan luar biasa.

Bahagian pakaian pelakon wanita itu terbahagi kepada 2 warna
iaitu biru dan merah jambu Kerana ia adalah warna yang kontras dan
tidak terlalu terang dan memilih untuk menggunakan gaya pakaian
perkahwinan muslim kerana tarian gaya Teh Tarik menjadi produk
OTOP Muslim oleh itu, pembuat memilih gaya pakaian dalam
persembahan menjadi pakaian perkahwinan muslim agar sesuai
dengan persembahan kumpulan tarian gaya Teh Tarik yang
merupakan produk OTOP dan popular bagi orang Muslim.