หลักการทั่วไปสำหรับเงินราชการ

101 วันที่ …1 ตุลาคม 2559…… จ่าย พ.ท.ปฏิวัติ ค าหอม..….…………………………………………หรือผู้ถือ บาท=ห้าหมื่นบาทถ้วน-………….…………………………………………. ธนาคารแห่งประเทศไทย บำงขุนพรหม กรุงเทพมหำนคร ……………………. ส ำหรับธนำคำร XX XXX XXXXXXXXXX บำท =50,000 ออกเช็คในนามเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ ห้ามออกเช็ค “เงินสด” การสั่งจ่ายเพื่อถอนเงินสดมาจ่าย 100 xx พ.ท.ฝกง.หน่วยฯ พล.ต.ผบ.หน่วย

•การเขียนตัวเลขในเช็ค =15,000 =96,000 xx 100 75 100

หลักการทั่วไปเกี่ยวกับเงินราชการ หมวดที่ 9 การป้องกันอันตรายในการไปรับ หรือจ่ายเงิน

หมวดที่ 9 การจ่ายเงิน การป้องกันอันตรายในการไปรับหรือจ่ายเงิน “ ผู้ป้องกันอันตราย ” (ขกง.๕๔ ข้อ ๕.๑๘) หมายถึง ผู้ที่ผู้มีอ านาจสั่งจ่ายเงิน สั่งให้ท าหน้าที่ ดังต่อไปนี้ 1. ควบคุมการไปรับไปจ่ายเงิน นอกบริเวณส านักงานการเงินเพื่อรักษาความปลอดภัย 2.รายงานผลการปฏิบัติหน้าที่ให้ผู้มีอ านาจสั่งจ่ายทราบ (ลงชื่อในใบถอนเงินฝาก (กง.7)) นายทหารสัญญาบัตร ที่ท าหน้าที่เกี่ยวกับการเงิน

การรายงานและการแต่งตั้งผู้ป้องกันฯ การไปรับหรือจ่ายเงินนอกบริเวณที่ท าการ บาท ๑ ๑๐,๐๐๐ ๕๐,๐๐๐ เกินกว่า ๕๐,๐๐๐ บาทขึ้นไป รายงานขอแต่งตั้งผู้ป้องกันอันตราย ตั้งแต่ ๑ หมื่น ถึง ๕ หมื่น บาท รายงานผู้อ านาจสั่งจ่ายเพื่อทราบ แต่ไม่ต้องแต่งตั้งผู้ป้องกันฯ ตั้งแต่ ๑ – ๙,๙๙๙ บาท ไม่ต้องรายงาน ๕๐,๐๐๑ ๙,๙๙๙

หลักการทั่วไปเกี่ยวกับเงินราชการ หมวดที่ 10 เงินทดรองราชการ

เงินทดรองราชการ •เป็นเงินนอกงบประมาณประเภทที่ ๑ ที่เบิกจากคลัง (ข้อ๗๓) • หน.นายทหารการเงินหรือเจ้าหน้าที่การเงิน เป็นผู้เบิก โดยใช้ ฎีกาเบิกเงินทดรองราชการ(ข้อ ๗๔) •การเบิก การจ่าย การเก็บรักษา ถือปฏิบัติตามระเบียบ เงินทดรองราชการ ที่ กค. หรือที่ กห.ก าหนดโดยได้รับความ ตกลงจาก กค.(ข้อ ๗๕) หมวดที่ 10 เงินทดรองราชการ

หลักการทั่วไปเกี่ยวกับเงินราชการ หมวดที่ 11 การยืมเงิน

การยืมเงิน • ประเภทเงินยืม ๔ ประเภท(หมวด ๑๑ ข้อ ๗๖) • ๗๖.๑ เงินยืมประจ าส่วนราชการ • ๗๖.๒ เงินยืมประจ าเจ้าหน้าที่ • ๗๖.๓ เงินยืมชั่วคราว • ๗๖.๔ เงินยืมเงินเดือน หรือ ค่าจ้าง •ผู้ยืม • ต้องเป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินตาม “ ระเบียบ ” •การช าระหนี้ • เงินยืมทุกประเภท ให้ หน.นายทหารการเงินหรือเจ้าหน้าที่ การเงินเรียกชดใช้ให้ เสร็จสิ้นโดยเร็ว อย่างช้าไม่เกิน ๖๐ วัน นับแต่วันครบก าหนด หมวดที่ 11 การยืมเงิน

110 เงินยืมประจ าส่วนราชการ (ข้อ ๗๗) • จ่ายจาก • เงินนอกงบประมาณประเภทที่ ๒ • ส าหรับ • จ่ายทดรองราชการ หรือ ลงทุนในการด าเนินงาน • ผู้ยืม • หน.นายทหารการเงินหรือเจ้าหน้าที่การเงิน • การช าระหนี้ • เมื่อหมดความจ าเป็น • ภายใน ๓๐ วัน หมวดที่ 11 การยืมเงิน

111 เงินยืมประจ าเจ้าหน้าที่ (ข้อ ๗๘) • จ่ายจาก • เงินนอกงบประมาณประเภทที่ ๒ หรือ เงินทดรองราชการ • ส าหรับ • หมุนเวียน จ่ายทดรองราชการตามความจ าเป็น ภายในแต่ละปี งบประมาณ • ผู้ยืม - เจ้าหน้าที่ • การช าระหนี้ • เมื่อสิ้นปีงบประมาณ • กรณีจ ำเป็นผู้มีอ ำนำจสั่งจ่ำยอนุมัติให้ส่งใช้หนี้ภำยใน ๓๐ วัน นับจำกสิ้นปีงบประมำณ • ถ้าผู้ยืมหมดความจ าเป็นหรือพ้นหน้าที่ใช้หนี้ ภายใน ๑๕ วันท าการ หมวดที่ 11 การยืมเงิน

112 เงินยืมชั่วคราว (ข้อ ๗๙) จ่ายจาก - เงินยืมประจ าส่วนราชการ เงินนอกงบประมาณประเภทที่ ๒ - เงินทดรองราชการ หรือ เงินงบประมาณ ส าหรับ - ใช้จ่ายทดรองราชการ หรือ เมื่อมีราชการจ าเป็น เป็นครั้งคราว ผู้ยืม - หน.ส่วนราชการ กรณีใช้จ่ายทดรองราชการ เป็นครั้งคราว - ข้าราชการ/จนท. ในหน่วย กรณีมีราชการจ าเป็น เป็นครั้งคราว หลักฐานการยืมเงิน 1. ใบยืมเงิน 2. ประมาณการค่าใช้จ่ายเงินยืม 3. ค าสั่งเดินทางฯ หมวดที่ 11 การยืมเงิน

เงินยืมชั่วคราว (ข้อ ๗๙) ใบยืมเงิน ต้องเสนอผ่าน นายทหารงบประมาณ หรือ หน.นายทหารการเงิน เพื่อพิจารณา งปม. และตรวจสอบรับรองความถูกต้องก่อน การช าระหนี้ ผู้ยืมต้องใช้หนี้เมื่อใด • ส่วนราชการ เป็นผู้ยืม เมื่อจบภารกิจ •ขรก./จนท.ในหน่วยเดียวกัน เป็นผู้ยืม เมื่อจบภารกิจ กรณียืมเดินทางไปราชการชั่วคราว ปฏิบัติตามที่ กค.ก าหนด ใบส าคัญ ภายใน ๑๐ วันท าการ เงินสด ภายใน ๓ วันท าการ ให้ใช้หนี้เงินยืมโดยเร็ว ช าระหนี้เงินยืม ภายใน ๑๕ วันนับจากวันกลับมาถึง (รบ.กค.ปี๕๑)

หมวดที่ 11 การยืมเงิน ฝ่ายยุทธการ มทบ. มทบ./กรมบัญชีกลาง กองพัน/หน่วย รับการสนับสนุน 10 วันท าการ 10 วันท าการ 3 วันท าการ 3 วันท าการ โดยเร็วแต่ไม่เกิน 60 วัน นับแต่วันครบก ำหนด

115 เงินยืมชั่วคราวกรณีที่ใช้หนี้ยังไม่เสร็จสิ้น (ให้ปฏิบัติตามค าสั่ง ทบ.ที่63/2516 ลง 15 ก.พ.16 เรื่อง ให้กวดขันการช าระหนี้เงินยืม) 1. ผู้ยืมยังไม่ได้ใช้หนี้เงินยืมเก่าให้เสร็จสิ้น ห้ามมิให้จ่ายเงินให้ยืมใหม่ เว้นแต่มีเหตุผลสมควร 2. ต้องให้ผ่านการพิจารณาของ หน.การเงิน หรือ จนท.การเงิน ก่อนเพื่อเสนอความเห็น 3 .การอนุมัติให้ยืมใหม่ได้หรือไม่นั้น ให้อยู่ในดุลพินิจของ ผบ.หน่วย หมวดที่ 11 การยืมเงิน

116 เงินยืมทุกประเภท (ผู้ยืมไม่ช าระคืนภายในก าหนด ต้องด าเนินการอย่างไร) 1. ให้ หน.นายทหารการเงิน เรียกชดใช้เงินยืมตามเงื่อนไขใบยืมเงิน ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว อย่างช้าไม่เกิน 60 วันนับแต่วันครบก าหนด 2. ถ้าไม่สามารถด าเนินการตามข้อ 1 ได้ ให้รายงาน ผบ.หน่วยเพื่อพิจารณา สั่งการบังคับให้เป็นไปตามสัญญา 3. เงินยืมรายใด ที่ผู้ให้ยืม ไม่สามารถเรียกคืนจากผู้ยืมได้ ให้ส่วนราชการนั้น พิจารณาด าเนินการตามหมวด 16 (การรับผิดชอบชดใช้เงิน) หมวดที่ 11 การยืมเงิน

หลักการทั่วไปเกี่ยวกับเงินราชการ หมวดที่ 12 เงินรายรับ

เงินรายรับ ๖ ประเภท (หมวด ๑๒ ข้อ๘๕) ๑. เงินรายได้แผ่นดิน ๒. เงินที่ได้รับตามโครงการช่วยเหลือ ๓. เงินรายรับเพื่อบูรณะทรัพย์สิน ๔. เงินรายรับของส่วนราชการที่เป็น สถานพยาบาล สถานศึกษา หรือ สถานอื่นใดที่อ านวยบริการ อันเป็นสาธารณะประโยชน์ หรือประชาสงเคราะห์ ๕. เงินที่ได้รับในลักษณะผลพลอยได้จากการปฏิบัติงานตามอ านาจหน้าที่ ๖. เงินบ ารุง หมวดที่ 12 เงินรายรับ

เงินรายได้แผ่นดิน (ม.๑๒ ข้อ ๘๖) เงินรายได้แผ่นดิน หมายความว่า 1. เงินทั้งปวงที่ส่วนราชการจัดเก็บ หรือ 2. ได้รับไว้เป็นกรรมสิทธิ์ตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับหรือจากนิติกรรม หรือนิติเหตุ กม.ว่าด้วยเงินคงคลัง และ กม.ว่าด้วยวิธีการงบประมาณ 3. ไม่ให้น าไปใช้หรือหักไว้เพื่อการใด ๆ เช่น ค่าเช่า ค่าปรับ ค่าธรรมเนียม ภาษี ค่าออกใบอนุญาต ค่าขายสิ่งของที่ทางราชการเลิกใช้ ดอกผลที่เกิด จากทรัพย์สินราชการ และรายได้เบ็ดเตล็ดอื่น 4.ส่วนราชการจะต้องน าส่งส่วนราชการบังคับบัญชา จนถึงหน่วยที่เบิกเงินตรง ต่อคลังเพื่อน าส่งคลัง หมวดที่ 12 เงินรายรับ

หมวดที่ 12 เงินรายรับ ผู้จัดเก็บเงินรายได้แผ่นดิน ไม่เกิน 3 วันท าการ ไม่เกิน 3 วันท าการ ไม่เกิน 3 วันท าการ อย่างน้อยเดือนละ 1ครั้ง วันใดเกิน 1 หมื่นบาท ส่งอย่างช้า 3 วันท าการถัดไป ฝ่ายการเงินหน่วยบัญชีย่อย มทบ./หน่วยเบิกคลัง

เงินที่ได้รับตามโครงการช่วยเหลือ(หมวด ๑๒ ข้อ๘๗) •เป็นเงินนอกงบประมาณประเภทที่ ๑ •ได้รับตามโครงการช่วยเหลือหรือร่วมมือกับรัฐบาลต่างประเทศ , องค์การ สหประชาชาติ , องค์การระหว่างประเทศ รวมทั้งเงินสืบเนื่องจาก โครงการช่วยเหลือหรือร่วมมือเช่นว่านี้ • ส่วนราชการขึ้นตรง กห., บก.ทท., ทบ., ทร., ทอ. ก าหนดระเบียบขึ้นและเสนอ กห. เพื่อขอตกลงกับ กค. หมวดที่ 12 เงินรายรับ

เงินรายรับเพื่อบูรณะทรัพย์สิน (หมวด ๑๒ ข้อ ๘๘) เงินนอกงบประมาณประเภทที่ ๑ เป็นเงินที่ได้รับไว้ เพื่อบูรณะทรัพย์สิน หรือให้ได้ทรัพย์สินนั้นคืนมา •ได้รับในลักษณะชดใช้ค่าเสียหายหรือสิ้นเปลืองแห่งทรัพย์สิน •ค่าขายปันพัสดุ •ค่าไฟฟ้าประปา ที่บริการบุคคลที่พักอาศัยในสถานที่ของราชการ หมวดที่ 12 เงินรายรับ

เงินรายรับเพื่อบูรณะทรัพย์สิน (หมวด ๑๒ ข้อ ๘๘) การน าส่ง (ข้อ ๘๘.๑, ๘๘.๒) 1.ผู้รับเงิน น าส่งเข้าบัญชีของหน่วยโดยเร็วแต่อย่างช้ากี่วัน 2. หน่วยที่ได้รับเงิน น าส่งหน่วยตามล าดับแห่งละไม่เกินกี่วัน 3. หน่วยเบิกเงินต่อคลัง น าส่งคลังภายในกี่วัน ห้ามน าไปจ่ายก่อนน าส่งฝากคลัง หมวดที่ 12 เงินรายรับ

หมวดที่ 12 เงินรายรับ ผู้จัดเก็บเงินบูรณะทรัพย์สิน ไม่เกิน 3 วันท าการ ไม่เกิน 3 วันท าการ ไม่เกิน 7 วันท าการ ไม่เกิน 7 วันท าการ ฝ่ายการเงินหน่วยบัญชีย่อย มทบ./หน่วยเบิกคลัง ไม่เกิน 15 วันท าการ

เงินรายรับของส่วนราชการที่เป็นสถานพยาบาล สถานศึกษา หรือสถานอื่นใด(ที่ให้บริการอัน เป็นสาธารณประโยชน์)หรือประชาสงเคราะห์ (หมวด๑๒ ข้อ ๘๙) เงินนอกงบประมาณประเภทที่ ๑ 1. เป็นเงินที่ส่วนราชการได้รับไว้เป็นกรรมสิทธิ์ เนื่องจากการด าเนินงานตามหน้าที่ของ สรก. 2. ให้ปฏิบัติตามระเบียบ กห. ( ที่ได้รับความตกลงจากกระทรวงการคลัง , ส านักงบประมาณ ) หมวดที่ 12 เงินรายรับ

เงินที่ได้รับในลักษณะผลพลอยได้ จากการปฏิบัติงานตามอ านาจหน้าที่(หมวด ๑๒ ข้อ ๙๐) เงินนอกงบประมาณประเภทที่ ๑ 1. เป็นเงินที่ส่วนราชการได้รับในลักษณะผลพลอยได้ตามกฎหมายว่าด้วย วิธีการงบประมาณ และ 2. ตามที่ กค. ก าหนดให้ส่วนราชการที่ขึ้นตรงต่อ กห., บก.ทท., ทบ., ทร., ทอ. ก าหนดระเบียบเสนอ กห. เพื่อขอท าความตกลงกับ กค. และส านัก งบประมาณ หมวดที่ 12 เงินรายรับ

เงินบ ารุง (หมวด๑๒ ข้อ ๙๑) เป็นเงินที่ได้รับบริจาค หรือ มีผู้มอบให้ รวมทั้งดอกผล แบ่งเป็น ๒ ประเภท 1. เงินบ ารุงประเภทที่ ๑ (ม.๑๒ ข้อ ๙๑.๑) เพื่อใช้จ่ายในกิจการของส่วนราชการนั้น 2. เงินบ ารุงประเภทที่ ๒ (ม.๑๒ ข้อ ๙๑.๒) เพื่อใช้จ่ายในการสวัสดิการข้าราชการ และลูกจ้าง ของส่วนราชการนั้น ส่วนราชการขึ้นตรง กห., บก.ทท., ทบ., ทร., ทอ. ก าหนดระเบียบที่เหมาะสม และ สอดคล้องที่ กค.ก าหนด เพื่อควบคุมการใช้จ่ายเงินบ ารุงได้เอง หมวดที่ 12 เงินรายรับ

หลักการทั่วไปเกี่ยวกับเงินราชการ หมวดที่ 13 การบัญชี

การบัญชีเงินราชการ (หมวด ๑๓ ข้อ ๙๒-๙๓) ปัจจุบัน ระเบียบ กห ว่าด้วยบัญชีเงินราชการ พ.ศ.2555 (บังคับใช้ตั้งแต่ 1 ต.ค.55) หลักการและนโยบายบัญชีส าหรับหน่วยงานภาครัฐ - ใช้หลักบัญชีคู่ - เกณฑ์ คงค้าง (Accrual basis)/และตามระบบGFMIS หมวดบัญชี ๑ ทรัพย์สิน, ๒ หนี้สิน, ๓ ทุน, ๔ รายได้ และ ๕ ค่าใช้จ่าย หมวดที่ 13 การบัญชี

การบัญชีเงินราชการ (หมวด ๑๓ ข้อ ๙๒-๙๓) ปัจจุบัน ตามระเบียบ กห ว่าด้วยบัญชีเงินราชการ พ.ศ.2555 ระบบบัญชีเงินราชการ แยกเป็น 3 ระบบ 1. ระบบบัญชี ส าหรับส่วนราชการที่เบิกเงินตรงจากคลัง ที่ปฏิบัติงานในระบบ 2. ระบบบัญชี ส าหรับส่วนราชการที่ไม่ได้เบิกเงินตรงจากคลัง แต่ได้รับจัดสรรงบประมาณ 3. ระบบบัญชี ส าหรับส่วนราชการที่ไม่ได้รับจัดสรรงบประมาณ แต่มีการเบิกจ่ายเงินราชการ หมวดที่ 13 การบัญชี

หลักการทั่วไปเกี่ยวกับเงินราชการ หมวดที่ 14 การตรวจเงินและบัญชี

การตรวจเงินและบัญชี ให้ส่วนราชการขึ้นตรงต่อกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ จัดให้มีการตรวจสอบภายใน ของส่วนราชการนั้นๆ ตามที่กระทรวงกลาโหมก าหนด ( ขกง.๕๔ ข้อ ๙๔ ) ส าหรับในส่วนของ ทบ. ได้จัดให้มีหน่วยที่ท าหน้าที่ตรวจสอบภายใน คือ สตน.ทบ. (อยู่ในส่วนบัญชาการ กรมฝ่ายกิจการพิเศษ) หมวดที่ 14 การตรวจเงินและบัญชี

หลักการทั่วไปเกี่ยวกับเงินราชการ หมวดที่ 15 การรับ - ส่งหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ในส านักงานการเงิน

การรับ-ส่ง หน้าที่ของ หน.นายทหารการเงิน (หมวด ๑๕ ข้อ ๙๕-๙๙) ผู้ส่งหน้าที่ 1.ต้องจัดท ารายงานการเงิน พร้อมรายละเอียดจนถึงวันส่งหน้าที่ 2. จัดท าบัญชีรับ-ส่งหน้าที่ แสดงรายการ จ านวนเงิน ตลอดจน รายละเอียดเกี่ยวกับบัญชี และหลักฐานต่าง ๆ ผู้รับหน้าที่ ต้องตรวจสอบเงินและหลักฐานต่างๆ ให้ถูกต้องตรงกันกับบัญชีรับ-ส่งหน้าที่ บัญชีรับ-ส่งหน้าที่และรายงานการเงิน ต้องท า กี่ ชุด หมวดที่ 15 การ รับ - ส่งหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในส านักงานการเงิน

ชุด 1 ชุด 2 ชุด 3เก็บไว้ที่ เก็บไว้ที่ ผู้รับ-ผู้ส่ง รายงาน ผู้ส่ง หน้าที่ ส านักงาน การเงิน ผู้มีอ านาจ สั่งจ่าย รายงานการเงิน บัญชีรับส่งหน้าที่ ไม่เกิน 7 วัน กง. ทบ.

การรับ-ส่ง หน้าที่ของ หน.นายทหารการเงิน (หมวด ๑๕ ข้อ ๙๕-๙๙) การรับ-ส่งหน้าที่ (หมวด ๑๕ ข้อ ๙๙) ต้องท าการรับ-ส่งหน้าที่ ให้แล้วเสร็จ โดยเร็ว อย่างช้าไม่เกิน 30 วัน นับตั้งแต่วันสิ้นเดือนที่ได้รับทราบค าสั่ง (เมื่อครบก าหนดแล้วยังไม่ เสร็จ ให้ หน.หน่วยขึ้นตรงต่อ ทบ. พิจารณาขยายเวลาได้ตามความจ าเป็น) การรายงาน เมื่อรับ-ส่งหน้าที่เสร็จแล้ว ( หมวด ๑๕ ข้อ ๙๖) - ให้รายงานให้ผู้มีอ านาจสั่งจ่าย ทราบภายใน ๗ วัน นับตั้งแต่วันรับส่งหน้าที่เสร็จ - หน่วยต้องส่งส าเนา ให้ หน.สายวิทยาการด้านการเงิน (กง.ทบ.)ทราบภายใน ๑๕ วัน นับตั้งแต่วันที่รับส่งหน้าที่เสร็จ หมวดที่ 15 การ รับ - ส่งหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในส านักงานการเงิน

ค าสั่งย้าย 15 ก.พ. รับทราบค าสั่ง 19 มี.ค. ไปถึงหน่วย ต้องอย่างช้าไม่เกิน 30 วัน นับตั้งแต่วันสิ้ นเดือนที่ได้รับทราบค าสั่ง 31 มี.ค. 29 เม.ย. ภายใน 30 วัน เริ่มนับ นับถึง ต้องรับส่งหน้าที่ให้เสร็จ

การรับ-ส่ง หน้าที่ การรับ-ส่งหน้าที่ของ นายทหารบัญชี 1. ให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับ หน.นายทหารการเงิน 2. ผู้ส่งหน้าที่ ต้องท าบัญชีรับ-ส่งหน้าที่ แสดงรายละเอียด จ านวนบัญชี หลักฐานและรายละเอียดต่าง ๆ ประกอบบัญชีในความรับผิดชอบ มอบให้แก่ผู้รับฯ 3. ผู้รับหน้าที่ ต้องตรวจสอบหลักฐานต่างๆ ให้ถูกต้องตรงกันกับบัญชี รับ-ส่งหน้าที่ 4. การรายงานการรับส่งหน้าที่ ให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับ หน.นายทหารการเงิน หมวดที่ 15 การ รับ - ส่งหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในส านักงานการเงิน

หลักการทั่วไปเกี่ยวกับเงินราชการ หมวดที่ 16 การรับผิดชดใช้เงิน

การพิจารณาเมื่อเกิดความเสียหายแก่เงินราชการ •ทางวินัย • ทัณฑ์ทางวินัย •ทางแพ่ง •ชดใช้กรณี “ ละเมิด ” •ทางอาญา •โทษทางอาญา กรณีถูกกล่าวหาว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ •ทางวินัยทางการงบประมาณและการคลัง • โทษปรับ ตั้งแต่ไม่เกิน เงินเดือน 1 เดือน สูงสุดไม่เกิน 12 เดือน

หลักการทั่วไปเกี่ยวกับเงินราชการ หมวดที่ 17 บาทเบ็ดเสร็จ

ข้อ 101 ส่วนราชการใดที่ไม่มีข้าราชการที่จะปฏิบัติหน้าที่พยานประจ าวัน ผู้ ป้องกันอันตรายตามนัยแห่งข้อบังคับนี้ หรือมีไม่พอ ก็ให้ผู้มีอ านาจสั่งจ่ายเงิน แต่งตั้งลูกจ้างประจ าให้ท าหน้าที่ดังกล่าวได้โดยเทียบค่าจ้างให้ใกล้เคียงกับ ข้าราชการในหน้าที่นั้น ๆ ข้อ 102 การงบประมาณ การเงิน การบัญชีและการพัสดุซึ่งมิได้ก าหนดไว้ใน ข้อบังคับนี้ให้ถือปฏบัติตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ ข้อ 103 ส่วนราชการขึ้นตรงต่อกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ จะออกระเบียบปลีกย่อยโดยไม่ขัดกับ ข้อบังคับนี้ก็กระท าได้ และให้ส่งกรมการเงินกลาโหมทราบด้วย หมวดที่ 17 บทเบ็ดเสร็จ

หลักการทั่วไปเกี่ยวกับเงินราชการ เกร็ดความรู้เพิ่มเติม

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ลักษณะที่ 5 หมวดที่ 1 การละเมิด มาตรา 420 ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ท าต่อบุคคลอื่นโดยผิด กฎหมาย ให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สิน หรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่า “ผู้นั้นท าละเมิด” จ าต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น

พรบ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 มาตรา 5 หน่วยงานของรัฐ ต้องรับผิดชอบ ต่อผู้เสียหายใน ผลแห่งละเมิด ที่เจ้าหน้าที่ของตนได้กระท าในการปฏิบัติหน้าที่ ในกรณีนี้ผู้เสียหายอาจฟ้องหน่วยงานของรัฐดังกล่าวได้ โดยตรง “แต่จะฟ้องเจ้าหน้าที่ไม่ได้” มาตรา 6 ถ้าการกระท าละเมิดของ จนท.มิใช่เป็นการกระท า ในการปฏิบัติหน้าที่ กรณีนี้ถือเป็นความผิดเฉพาะตัว ผู้เสียหายอาจฟ้อง จนท. ได้โดยตรง "แต่จะฟ้องหน่วยงานของรัฐไม่ได้"

พรบ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 มาตรา 8 ในกรณีหน่วยงานของรัฐต้องรับผิดชอบใช้ค่าสินไหม ทดแทน แก่ผู้เสียหายเพื่อการละเมิดของเจ้าหน้าที่ ให้หน่วยงานของรัฐมีสิทธิเรียกให้เจ้าหน้าที่ผู้ท าละเมิด ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนดังกล่าวให้แก่หน่วยงานของรัฐได้ ถ้า เจ้าหน้าที่ได้กระท าการนั้นไปด้วยความจงใจหรือประมาทเลินเล่อ อย่างร้ายแรง

ประมวลกฎหมายอาญา ลักษณะที่ 2 หมวดที่ 2 ควำมผิดต่อต ำแหน่งหน้ำที่ มาตรา 157 ผู้ใดเป็นพนักงาน ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใด หรือ ปฏิบัติ หรือ ละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยสุจริต ต้องระวางโทษ จ าคุก ตั้งแต่ 1 ปีจนถึง 10 ปี หรือปรับ ตั้งแต่ 2 พันบาท ถึง 2 หมื่นบาท หรือทั้งจ าทั้งปรับ

ระเบียบคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (ข้อ 3) ว่าด้วยวินัยทางงบประมาณและการคลัง พ.ศ.2544 โทษปรับทางปกครอง หมายความว่า โทษปรับโดยการหักเงินเดือนหรือค่าจ้าง หรือการ เรียกให้ช าระเงินตามอัตราที่ก าหนดไว้ในระเบียบนี้ เงินเดือน หมายความว่า เงินที่จ่ายให้แก่ เจ้ำหน้ำที่ เป็นราย เดือน โดยมีอัตราก าหนดไว้แน่นอนในบัญชีอัตราเงินเดือนและค่าจ้าง หรือก าหนดไว้ใน เอกสารส าคัญอื่นใด แต่ทั้งนี้ไม่รวมถึงเงินอื่นที่จ่ายควบกับเงินเดือนและค่าจ้าง เจ้าหน้าที่ หมายความว่า ข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงาน หรือผู้ปฏิบัติงานประเภท อื่นของหน่วยรับตรวจ

ระเบียบคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (ข้อ 3) ว่าด้วยวินัยทางงบประมาณและการคลัง พ.ศ.2544 ผู้บังคับบัญชา หมายความว่า จนท.ของหน่วยรับตรวจผู้มีอ านาจหน้าที่ อนุมัติ อนุญาตรับรอง ให้ความเห็นชอบ หรือกระท าการอื่นใดใน ท านองเดียวกัน เกี่ยวกับเรื่องการรับจ่ายการเก็บรักษา การตรวจสอบ หรือการอื่นใด อันเป็นผลต่อเงิน ทรัพย์สิน สิทธิ และผลประโยชน์ใดๆ ของรัฐ ความเสียหายแก่รัฐ หมายความว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรัฐหรือหน่วยงานของ รัฐ เนื่องจากการฝ่าฝืนมาตรการเกี่ยวกับการควบคุมการเงินของรัฐ ไม่ว่าจะสามารถ ค านวณความเสียหายนั้นเป็นตัวเงินได้หรือไม่ก็ตาม

ระเบียบคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน(ข้อ 3) ว่าด้วยวินัยทางงบประมาณและการคลัง พ.ศ.2544 มาตรการเกี่ยวกับการควบคุมการเงินของรัฐ หมายความว่า ข้อก าหนด เกี่ยวกับ การบริหารการเงินและการคลัง ที่ออกตามความใน กฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ หรือ ข้อก าหนดอื่นใด ซึ่งการฝ่าฝืนนั้นเป็นความผิดวินัยทางงบประมาณและการคลัง และมี โทษปรับทางปกครองตามระเบียบนี้ เจ้าหน้าที่ผู้ใดจงใจฝ่าฝืน มาตรการเกี่ยวกับการควบคุมการเงินของ รัฐตามที่ก าหนดในหมวด 2 นี้ ถือว่ากระท าความผิดวินัยทาง งบประมาณและการคลัง ต้องรับโทษปรับทางปกครองตามระเบียบนี้ (หมวด 1 (ส่วนที่ 1 การบังคับใช้)ขัอ 5)