III àÅèÁ ๙ - พระ ศักดา วิมลจันทร์ เสกสรรค์เป็นสังฆบูชา นิยายภาพชีวประวัติท่านปัญญานันทภิกขุ
IV
V
VI ข้อมูลทางบรรณานุกรมของหอสมุดแห่งชาติ ศักดา วิมลจันทร์ เส้นทางนักรบ เล่ม 9.--นนทบุรี : โครงการ “กตัญญูกตเวที สองศรีพระศาสนา” ห้องสมุดจำ ปีรัตน์ วัดชลประทานรังสฤษฎ์ 2554 88 หน้า 1. ปัญญานันทภิกขุ. 1. พระพรหมมังคลาจารย์ (ปั่น ปัญญานันโท), 2454-2550. 1. ชื่อเรื่อง. 294.30922 ISBN 978-974-7808-82-7 àÅèÁ ๙ - พระ ๗๓ กลับบ้าน 641 ๗๔ งานบุญ-งานบาป 649 ๗๕ หนุ่มสาว 653 ๗๖ อุปสมบท 659 ๗๗ เปลี่ยนเส้นทาง 669 ๗๘ วัดหน้าพระธาตุ 675 ๗๙ มะเดื่อร้องได้ 683 ๘๐ ท่องปาติโมกข์ 699 ๘๑ เทศน์ครั้งแรก 704 ๘๒ เส้นทางนักเทศน์ 710 ๘๓ นักเทศน์เทียนดับ 721 นิยายภาพชีวประวัติท่านปัญญานันทภิกขุ ที่ปรึกษา พระครูสังฆกิจพิมล (สุรศักดิ์สุรญาโณ) วัดชลประทานรังสฤษฎ์ พระวิสุทธิฐานากโร วัดปทุมวนาราม ร้อยเอ็ด สัมพันธ์ก้องสมุทร สิต อภัยรัตน์ ขอบคุณ www.f0nt.com เรื่องและภาพโดย ศักดา วิมลจันทร์ [email protected] จัดพิมพ์โดย โครงการ “กตัญญูกตเวที สองศรีพระศาสนา” ห้องสมุดจำ ปีรัตน์ วัดชลประทานรังสฤษฎ์ อ. ปากเกร็ด นนทบุรี11120 081 412 3337 พิมพ์ที่ บริษัท พิมพ์ดีจำ กัด 02 803 2694-7 พิมพ์ครั้งแรก กุมภาพันธ์๒๕๕๕ 80 บาท
VII ผู้ร่วมสร้างสรรค์ ฝรั่งพูดว่า “Last but not least.” แปลว่า อยู่ท้ายสุด แต่มิใช่ (สำคัญ) น้อยสุด อันที่จริง การอยู่ท้ายสุดในที่นี้ น่าจะมีความหมายว่า สำคัญที่สุด ในทำ นองเดียวกับการขยักลูกชิ้นในก๋วยเตี๋ยวเอาไว้กินเป็น คำ สุดท้าย นั่นเอง ในคำ นำ เล่มสุดท้ายนี้ ผมขอกล่าวถึงบุคคล ๒ ท่าน ซึ่งเป็นผู้ ร่วมสร้างสรรค์นิยายภาพเรื่อง “เส้นทางนักรบ” นี้ โดยคอยตอบคำถาม เกี่ยวกับความเป็นอยู่ และพฤติกรรมของตัวละคร ได้แก่ เด็กเลี้ยงควาย, เด็กวัด, พระ, เณร เถร, ชี เป็นต้น ทำ ให้การ์ตูนเรื่องนี้มีความสมจริง มีบรรยากาศ มีกลิ่นไอในเรื่องราว การหลบเลี่ยงรายละเอียดที่จำ เป็น เหล่านี้ย่อมทำ ให้การ์ตูนเรื่องนี้หมดรสหมดกลิ่นที่ควรมี หรือถ้าจะเขียน ไปตามความไม่รู้จริงของตัวเอง ก็อาจจะมีข้อผิดพลาด ทำ ให้ผู้อ่านต้อง หงุดหงิด จนหมดอารมณ์ที่จะอ่าน แม้กระนั้น ผมเชื่อว่ายังมีข้อผิด พลาดอยู่อีกบ้าง แต่ก็หวังว่าท่านผู้อ่านคงพอจะอภัยให้ได้ ท่านแรกคือ พระวิสุทธิ ฐานากโร หรือหลวงพี่เอ แห่งวัดปทุมวนาราม อ. เมืองสรวง จ. ร้อยเอ็ด ซึ่งแม้เพิ่งรู้จักกันในระหว่างทำ งาน ชิ้นนี้ แต่ผมก็รักเคารพอย่างสนิทใจราวกับรู้จักกันมาหลายปี หลวงพี่เอ ช่วยตอบคำถาม และให้คำ แนะนำ เกี่ยวกับธรรมเนียมของพระภิกษุใน เรื่องต่างๆ ว่าควรเป็นอย่างไร ท่านที่สองคือ คุณสิต อภัยรัตน์ข้าราชการบำ นาญ มหาบัณฑิต ด้านคติชน ชาวพัทลุงตัวจริงยิ่งกว่าผม เรารู้จักกันมา ๓๕ ปีแล้ว ซึ่งผม รักและนับถือประดุจพี่ชาย ท่านนี้บอกผมเรื่อง เด็กเลี้ยงควายปีนขึ้นหลัง ควายโดยเอาหัวแม่ตีนคีบเอ็นตรงส้นตีนควาย, วิธีเล่นเกมเสือกินวัว ซึ่ง เกือบสูญไปแล้ว, คำ พูดจาและศัพท์แสงของคนใต้ (ซึ่งท่านก็ยอมลด หย่อนให้บ้าง เพื่อไม่ให้ผู้อ่านสะดุด หรือฉุนกลิ่นไอที่มากไป), ฯลฯ ผมขอกราบขอบพระคุณอย่างสูงต่อท่านทั้งสองมา ณ ที่นี้.
VIII àส้นทางนักรบ พ่อวัน ช่วยดูแลงาน บวชลูกชาย อย่างแข็งขัน ทั้งที่สุขภาพ ไม่ดีเท่าไร แม่คล้าย รอคอยวันบวชพระ ของลูกชายมา ๒๐ ปี ในที่สุดก็สมใจเสียที พระปั่น ชายหนุ่มที่ชีวิตอัน ผันผวนดูเหมือน จะลงเอยด้วยดี แต่ก็ยังมีเรื่อง พลิกผันอีกจนได้ หนูกลิ่น น้องสาวที่ตื่นเต้น กับเพศใหม่ของ พี่ชาย เสียจน ไม่ทันสังเกตเรื่อง ลึกซึ้งบางอย่าง ลุงหลวงพุ่ม มาช่วยกำกับงานบวช ของหลานชาย คนสำคัญ พระแป้น ญาติและเพื่อนสนิท ที่เลี้ยงควายและเรียน หนังสือมาด้วยกัน ได้กลับมาร่วมเส้นทาง การเรียนรู้กันอีกครั้ง เนียน เพื่อนหนูกลิ่น ที่กลายเป็นสาว อาจเป็นต้นเหตุ ของความพลิกผัน ปั่นป่วน
IX àÅèÁ ๙ - พระ พระใบฎีกาทอง เจ้าอาวาสวัดปากนคร ผู้ทิ้งงานสำคัญไว้ ให้พระปั่น โดยไม่ บอกล่วงหน้า เณรเลียบ บททดสอบ ขันติธรรม ของพระปั่น มหาพลอย พระรุ่นพี่ ที่เอื้อเฟื้อ พระปั่น หลายเรื่อง ท่านกลาง บททดสอบ ความสามารถ ในการเทศน์ ของพระปั่น
X àÅèÁ ๙ - พระ “คุณโยมผู้หญิงสั่งไว้ว่า ไปไหนแม่ไม่ว่า แต่อายุครบบวช ต้องกลับบ้าน นึกถึงคำสั่งนี้อยู่ตลอดเวลา ว่าอายุยี่สิบต้องไปบวช ให้แม่ ... พอไปถึงบ้านที่พัทลุงได้ห้าวัน ก็บวชพระเลย ... บวช เสร็จแล้วคิดว่าจะกลับระนอง แต่เพื่อนที่ชื่อแป้นนี่ เราเห็นเก็บข้าว เก็บของจัดเนื้อจัดตัวอยู่ ถามว่าไปไหนนี่? จะไปนครพรุ่งนี้อ้าว! ไปด้วยซี! นึกขึ้นมาอย่างนั้นเอง ... อ้าว! ไปทำ ไม? ก็เราไปทำ ไม ล่ะ? ไปเรียนหนังสือ ผมก็เรียนด้วยซิ! ไปไม่ได้! ไม่มีที่จะอยู่! ช่าง มันเถอะ ไปก็แล้วกัน ... มาถึงก็ไม่มีที่จริงๆ เที่ยวเดินหา เดินไป เดินมา มีกุฏิอยู่หลังหนึ่ง ข้างบนมีสามเณรอยู่ แต่ห้องระเบียงไม่มี คน มันเล็กเหลือเกิน อาตมานอนเท้าจดฝาโน้น หัวชนฝานี้พอดี จะกางแขนก็ไม่ได้... เณรโค่งอยู่ข้างบน ... กวาดขี้ทรายใส่ทุกที กวาดให้มันลงในห้องอาตมาทุกที... ช่างเขาเถอะ กวาดได้กวาด ไป ... ตอนได้นักธรรมโทนี้เริ่มเป็นนักเทศน์... น่าขำ คือ ยัง เทศน์กับเขาไม่เป็นหรอก ... วันนั้นเป็นวันพระ ๘ ค่ำ ญาติโยม มากันหลายคน อาตมาถามว่า มาทำ ไม? มาฟังเทศน์ใครเทศน์? ท่านแหละเทศน์ ฮื้อ! เทศน์ไม่เป็น! ฮึ! ได้นักธรรมโทแล้ว มันต้อง เทศน์ได้! เอ! จะแย่นา! ... พอขึ้นนั่งบนธรรมาสน์จับพัดให้ศีล มัน สั่นเอาอย่างนี้เชียวละโยม สั่นจนธรรมาสน์ไหวเชียวนะ! ... ทั้งๆ ที่ สั่นอย่างนั้นแหละ เทศน์ปรู๊ดไปเลย!” (จากหนังสือ “ชีวิตของข้าพเจ้า” อัตชีวประวัติจากปากคำของหลวงพ่อปัญญาฯÒÏ)
641 โพล้เพล้ วันพุธที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๔ แม่! มีพระมายืนอยู่หน้าบ้าน! ไปถามท่านซิ มาหาใครแถวนี้ ถ้าไม่รู้เรื่องก็นิมนต์ ท่านเข้ามาก่อน นมัสการค่ะ ท่านมาหาบ้านใคร แถวนี้หรือคะ? บ้านโยมหนูกลิ่น โยมรู้จักไหม?
642 เอ๊ะ! มาหาเรารึ? ท่านมีธุระ อะไรกับเขา หรือเจ้าคะ? จะบอกเขาว่า พี่หลวงมาหา เอ๊ะ! พี่หลวง มาหาเหรอ? อ๊ะ! พี่หลวง! ๊ แม่! พี่หลวง! พี่หลวงมา! หึหึ!
643 พี่หลวงอะไร ของเอ็ง อีหมา? ก็พี่หลวงปั่นไง้! มายืนอยู่นั่นแล้ว! ไหน? มึงว่าปรือ . . . เอ๊ะ! นั่น! อะ - ไอ้หมา! เจริญพร โยม! แหม! ดีที่ยังจำกันได้ ไม่งั้นคืนนี้เณรไม่รู้ จะไปนอนไหน! คุณเณร! นิมนต์ค่ะ! นิมนต์ค่ะ! หนูกลิ่นเอาสาด* ปูรับท่านหน่อย! จ้า! จ้า! * สาด = เสื่อ
644 ขอโทษด้วย! สงสัยจะ ลืมบอกมาในจดหมาย ว่าบวชเณรแล้ว เอ็ง - เอ๊ย! เณร จะแกล้งโยมน่ะซี! ไม่ได้แกล้ง! พี่หลวงระวัง อย่าผิดศีลข้อสี่นะ! ศีลข้อสี่เหรอ? ว่าไงล่ะ? มุสา วาทา . . . ก็ได้! ก็ได้! เณร จะให้โยมแปลกใจ นิดหน่อยน่ะ! โยมก็แปลกใจ จริงๆ น่ะแหละ ฮ่ะฮ่ะ!
645 เณรสูงใหญ่ล่ ำสันขึ้นมาก ไม่หย็องแหย็งอย่างเก่าเลย หนูถึงจำ ไม่ได้ไงล่ะ! หึหึ! เณรอายุครบบวช ตั้งแต่เดือนหก โยมก็นึกว่าจะ กลับมาตอนนั้น คอยแล้วคอยอีก ผ้าไตร* ที่แม่เตรียมไว้ ก็เอามาลูบคลำ เสีย จนจะขาด แล้วมั้ง! อ้าว! ก็เณรบอกแล้ว ไม่ใช่หรือว่า ผ้าไตร มีแล้ว! ที่ได้รางวัล มาไงล่ะ! นั่นมันผ้าไตรของคนอื่น เณรเอาไว้ผลัดก็แล้วกัน แต่ตอนบวชนี่ ขอให้เป็นผ้าไตร ของโยมเถอะ! คุณโยมผู้ชาย เป็นไงมั่ง? ก็ทรงๆ อยู่ อย่างเดิม ดีที่หยุดสูบยาเสียได้ ก็ไอน้อยลง * ผ้าไตร คือ ผ้า ๓ ชิ้น ได้แก่ สบง จีวร สังฆาฏิ อันเป็นเครื่องนุ่งห่มของสงฆ์
646 พี่หลวงเล่าเรื่องการ ผจญภัยให้ฟัง หน่อยซี! เล่าแน่! แต่ขอพี่หลวง อาบนำ ้ก่อนได้ไหม? เอ็งไม่เหม็นเหรอ? พี่หลวงน่ะหอมอยู่แล้ว สีเหลืองสุกซะขนาดนี้! ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ! ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ! คืนนี้นิมนต์เณรจำวัดที่บ้าน ก่อนนะคะ พรุ่งนี้โยมจะไป นิมนต์ลุงหลวงมา แล้วจะอยู่ที่ไหนก็ แล้วแต่ท่าน ให้ท่านมา จะดีหรือ? เราไปหาท่านเอง จะดีกว่ามั้ง! ไม่ปรือ! ท่านน่ะอยากมา ตั้งแต่เดือน ๖ โน่นแล้วหละ จะได้ปรึกษากับโยมผู้ชาย แล้วแต่โยมละกัน
647 คืนนั้น เณรปั่นเล่าเรื่องการไป ผจญภัย ๕ ปีให้ญาติโยมฟัง . . . สงสัยจะแพ้นำ ้มัน หน้าตาบวม มือบวม จะหยิบจับอะไรก็ไม่ถนัด ตีนก็บวมจนใส่เกือกไม่ได้ โธ่เอ๋ย! น่าสงสาร! . . . เจ๊กมันว่า ลื้อขื่อกงซี้! เราก็นึกว่า ให้ไปรอที่กงสี ฮาฮาฮา! . . . คิดดูซี ต้นยางต้นละบาท! เราถางหญ้าทั้งวันยังไม่ได้เลย . . . โถ! เจ้าประคุณ!
648 แต่คิดอีกที ฉันก็ไม่ ระมัดระวังเองแหละ ก็หญ้ามันรก! ใครจะไปเห็น! แหม! เอ็งพูดเหมือน ตาเห็นเชียวนิ! ก็มันยัวะแทนอ้ะ! วันนี้พอแค่นี้ก่อนเถอะ เณรเดินทางมาไกล จะได้พักผ่อนมั่ง พรุ่งนี้พี่หลวง ต้องเล่าต่อนะ! ด้า-า-ย!
649 โอ้โห! เหลืองอร่าม เชียวโว้ย! นมัสการ แหม! ท่านให้ ผมรอเก้อ! เอ๋! รออะไรเหรอ? ก็ตอนแรกคุณป้าคิดว่าท่านจะกลับ มาบวชคงไม่เกินวันที่ ๑๕ พ่อผม ก็อยากให้ผมบวชด้วยกัน จะได้จัดเป็นงานใหญ่ งานเดียว พ่อผมเตรียมหางัวไว้แล้ว*! เหล้าก็เตรียมสั่งไว้ สามสี่เท** พอท่านไม่มา ก็เลยเก้อกันไป * คือเตรียมวัวไว้ฆ่าเป็นอาหารเลี้ยงคนจำ นวนมากที่มางาน ** เท (มาตราตวง) = ๒๐ ทะนาน, ๑ ทะนานหลวง = ๑ ลิตร โยมแป้น!
650 ดีแล้วที่พี่หลวงยังไม่มา ไม่ต้องทำ บาปฆ่างัวกะ กินเหล้า! อาตมาไม่รู้ว่าโยม แป้นจะรอบวชด้วย แล้วนี่ท่านจะบวช พระเมื่อไหร่? จะได้ บวชพร้อมกัน ยังไงก็ก่อนเข้าพรรษา นี่แหละ แล้วแต่ โยมแม่กับลุงหลวง นี่เหลืออีกไม่กี่วันแล้ว จะบอกบุญไม่ได้มาก บอกได้แค่ไหนก็ แค่นั้นแล้วกัน นะโยมนะ ผมน่ะปรือก็ได้ แต่พ่อน่ะซี! ว่าบวชลูกทั้งที ก็ต้องให้ สมศักดิ์ศรี! ถ้างุบงิบทำ ก็กลัวคนเขาว่า! อืมม ... แต่ตอนที่อาตมาบวชเณร ไม่เห็นต้องมีอะไร ก็บวชได้เรียบร้อย
651 แต่นั่นเพราะบวชห่างบ้าน ถ้าบวชที่บ้าน คุณโยม ผู้ชายจะว่าปรือ? ก็ต้องเอากะเขาด้วยนั่นแหละ ก็ลูกชายบวชทั้งที! ตั้งแต่อาตมาไปปีนัง โยมแป้นเป็นปรือมั่ง? โอ๊ย! เรื่องมันยาว เล่าตอนนี้ไม่เหมาะหรอก! ที่บวชนี่ ก็ตั้งใจจะเรียนอะไรๆ เพิ่มสักหน่อย คนรุ่นเดียวกัน จบ ม. ๖ เหมือนกัน เราสอบ เข้างานสู้เขาไม่ได้ เพราะไม่มี เส้นสาย จะให้ทำ นา ผมก็สู้ไม่ไหว ไม่เหมือนท่าน เออ! เรื่องทำ นานี่ ไม่ใช่ เล่นๆ ถ้าไม่รักจริง ไม่ แข็งจริง ก็เห็นจะไม่ไหว อ้อ! ลุงหลวง มาแล้ว! อ้าว! พ่อนี่ก็ ...
652 ปรือ? เณร! เออ! ดีแล้ว! ปรือ? ไอ้แป้น! มึงยัง จะบวชอยู่หรือเปล่า? บวชจ้ะ! ลุงหลวง! เออ! ดีแล้ว ไปตาม พ่อมึงมานัดแนะซะ ด้วยกันเลย การนัดแนะที่มีลุงหลวงเป็นประธานตกลงกันว่า จะบวชบ่ายวันอังคารที่ ๒๘ กรกฎาคม ที่วัดนางลาด มีพระครูจรูญกรณีย์เป็นพระอุปัชฌาย์ นมัสการ ครับ
653 เณรปั่นย้ายมาพำ นักที่ วัดท่ามิหรำกับลุงหลวง ซึ่งมาพำ นักเป็นการ ชั่วคราว แป้นมานอน กับเณรปั่นเพื่อท่อง คำขานนาคและเรียนรู้ ธรรมเนียมปฏิบัติต่างๆ พี่หลวง! นิมนต์ออกมา รับถวายอาหารหน่อยจ้า! เอาอะไรมา หนูกลิ่น? เอ๊ะ! เอ็งพาใครมาน่ะ? นมัสการค่ะ . . . พี่หลวงปั่น!
654 เนียน! เนียนใช่มั้ย? เอ่อ . . . หนูพา คุณช่วงมาไหว้ พี่หลวงด้วยค่ะ นมัสการ ครับ เจริญพร โยม เนียนเล่าให้ฟังว่า พี่หลวงใจดีมาก ก็เพื่อนบ้านกันนี่ โยม ตอนนี้ยังไม่เพล อาตมายัง ไม่ฉัน แต่จะรับประเคนไว้ ก่อนละกัน
655 วันบวชหนูจะมา ร่วมงานด้วยค่ะ ขอบใจโยม หนุ่มสาวอยู่คุยกับเณรอีกพักหนึ่ง... อคฺคโต เว ปสนฺนานํ * . . . ก่อนจะลากลับ * ขอให้มีความผ่องใสยิ่งในภายหน้า
656 ที่มากับเนียนนั่น ไอ้ช่วงหรือเปล่า? เขาชื่อช่วง ลูกปลัด อำ เภอเขาชัยสน นึกแล้วเชียว! พ่อมัน นี่แหละ มีเรื่องกับพวก ผมคราวนั้น ก่อนที่เณร จะไปปีนังน่ะ เรื่องที่ เพื่อนพี่ยอดเขาถูกโกง ที่ดิน แล้วไอ้กำ นันที่นั่น ไปเข้าข้างฝ่ายโน้น แล้วพี่ยอดเขาจะเอา พวกไปลักงัวสั่งสอน จำ ได้ไหม? อ้อ! เรื่องนั้นรึ! จำ ได้ เรื่องเป็นปรือ? ก็ไปลักงัวกันนั่นแหละ แต่พวกอ่อนหัดที่ไปด้วย คนหนึ่ง ทำ เสียเรื่อง ให้ ฝ่ายโน้นรู้ระแคะระคาย ว่ามีใครมั่ง เพียงแต่ไม่มี หลักฐานชัดเจน ก็ปลัด อำ เภอพ่อไอ้ช่วงนี่แหละ พาตำรวจมาแกะรอย . . .
657 พอทำ ท่าว่าจะเข้ามาใกล้ตัว พวกเรา ซึ่งตอนนั้นก็กำลัง เรียนหนังสือกันอยู่ทุกคน ยกเว้น ไอ้ไข่นุ้ย แต่ก็แทบจะไม่เป็นอันเรียน กันแล้ว . . พี่ยอดก็หายไป แล้วปล่อยข่าวว่าเป็น คนทำคนเดียว เพื่อให้ พวกนั้นเลิกสืบสาวต่อ บังเอิญพี่ยอดเขามี ประวัติอยู่ก่อนแล้ว พวกนั้นถึงเชื่อ ผมละ! นับถือน้ำ ใจ พี่ยอดจริงๆ! เพราะเรื่องยุ่งๆ นี้ ทำ ให้ผมตกซำ ้ชั้น ฟังอยู่หรือ เปล่า? หือ?
658 เพราะเรื่องยุ่งๆ นี้ ทำ ให้ ผมตกซำ ้ชั้นอยู่ปีนึง อือ! จบหกมา ๒ ปีแล้ว ยังทำอะไรไม่ได้ สักอย่าง อือ! บวชแล้ว ผมว่าจะไปนครฯ . . .
659 พิธีทำขวัญนาค ที่บ้านแป้น ในวันสุกดิบ* พ่อนาคเอ่ย วันพรุ่งนี้แล้ว พ่อจะบรรพชาสิ้นมัวหมอง ทรงผ้ากาสาวพัสตร์ห่มครอง เป็นภิกษุสงฆ์ . . . * วันเตรียมการก่อนถึงวันงาน พ่อนาคเอ่ย อันการที่จะได้ เกิดเป็นมนุษย์ นี้นับว่ายาก โดยอเนก จำนวน ส่วนมาก มักไปทาง ต่ ำ . . . การที่จะได้พบพระ พุทธศาสน์ก็ยิ่งล้น ยากแสนยาก . . . . . . พ่อร้อยชั่ง ก็คลอดเคลื่อน ออกมา . . . . . . ยามเมื่อเจ้าร้องไห้อ้อน ทำโยเยแม่ก็แกว่งไกวเปล แล้วเห่กล่อม . . . แม่เจ้านาคซึ้งซะเอง
660 นอกบ้าน รุ่งขึ้น วันที่ ๒๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๔ โห่-ฮี้-โห่-ฮี้-โห่---
661 ... เฮ้ว-ว-ว! วัดนางลาด ไอ้นาคแป้นมาแล้ว! วันที่ทุกคน มีความสุข
662 ชีวิตที่สอง ถัดจากการเกิด คือ การบวช ผู้ชายทุกคนเมื่ออายุครบแล้วจะต้องบวช เพื่ออบรมบ่มนิสัยให้เป็นคนดีมีศีลธรรม และเป็นการตอบแทนบุญคุณของ บิดามารดาผู้ให้กำ เนิด การบวชเป็นประเพณีที่จำ เป็นสำ หรับลูกผู้ชายทุกคน คำว่า บวช มาจากศัพท์ว่า ปะวะชะ แปลว่า งดเว้น ได้แก่ งดเว้นในสิ่งที่ควร งดเว้น คือ เว้นจากกิจบ้านการเรือนมาบำ เพ็ญเพียรทำกิจพระศาสนา บวชสามเณร เรียก บรรพชา บวชพระภิกษุ เรียก อุปสมบท มี ๓ อย่าง คือ ๑. เอหิภิกขุอุปสัมปทา : พระพุทธเจ้าบวชให้ ๒. ติสรณคมนูปสัมปทา : พระสาวกบวชให้ ด้วยการเปล่งวาจาถือพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ๓. ญัตติ- จตุตถกรรมวาจาอุปสัมปทา : พระสงฆ์ ๕ รูป รวมพระอุปัชฌาย์บวชให้ การบวชข้อที่ ๓ นี้ เป็นการบวชที่ทำอยู่ในปัจจุบัน บวชพระ มาทางนี้โว้ย! ไอ้ปั่นไอ้แป้นบวชหมดห่วงไปแล้ว พวกเรามากินเหล้าต่อกันดีกว่า! โอ้ก! กูยางม่ายมาว . . . http://www.isangate.com/life/labuad.html
663 ๑. มีอายุครบ ๒๐ ปี ๒. มีอาชีพ มีหลักฐาน ๓. ไม่ติดฝิ่น กัญชา และสุรา ๔. มีความรู้อ่านออกเขียนได้ ๕. ปราศจาก บรรพชาโทษ (ความผิดแก่การบวช ๑๓ ข้อ, อ่านข้างล่าง) ๖. ไม่พิการ หรือชราจนช่วยตัวเองไม่ได้ ๗. ไม่ได้หลบหนีอาญาแผ่นดิน ๘. ไม่ได้หลบ หนีราชการ ๙. ไม่มีคดีค้างในศาล ๑๐. ไม่ได้ถูกตัดสินจำคุกฐานเป็นผู้ร้าย สำคัญ ๑๑. ไม่ได้ถูกห้ามอุปสมบทโดยเด็ดขาด ๑๒. ไม่เป็นโรคติดต่อ บรรพชาโทษระหว่างขอบวชพระคู่สวดจะถามผู้ขอบวช ๑๓ ข้อ ว่าเป็นบรรพชาโทษหรือไม่ ได้แก่ ๑. เป็นโรคเรื้อน? ๒. เป็นโรคฝี? ๓. เป็น โรคกลาก? ๔. เป็นโรคหืด? ๕. เป็นโรคลมบ้าหมู? ๖. เป็นมนุษย์? ๗. เป็น ชาย? ๘. เป็นไทมิใช่ทาส? ๙. ปลอดหนี้? ๑๐. ไม่เป็นราชภัฏ*? ๑๑. บิดา มารดาอนุญาตแล้ว? ๑๒. อายุยี่สิบปีแล้ว? ๑๓. บาตรจีวรครบแล้ว? คุณสมบัติของผู้ที่จะบวชได้ * ราชภัฏ = ข้าราชการ
664 ศีล ๒๒๗ ข้อของพระภิกษุ ศีล ๒๒๗ ข้อที่เป็นวินัยของสงฆ์ ทำผิดถือว่าเป็นอาบัติ สามารถแบ่งออก ได้เป็นลำดับขั้น ตั้งแต่ขั้นรุนแรงสุดจนถึงเบาที่สุด ดังนี้ ปาราชิก ๔ ข้อ ๑. ร่วมสังวาสกับคนหรือสัตว์ ๒. ขโมย ตั้งแต่ ๕ มาสกขึ้นไป ๓. ฆ่าคน หรือหาอาวุธจะไปฆ่า ๔. ไม่รู้จริง แต่อวดว่ารู้ สังฆาทิเสส (อาบัติที่ต้องอยู่ปริวาส) ๑๓ ข้อ อนิยต (อาบัติที่ไม่ชัดเจน) ๒ ข้อ นิสสัคคิยปาจิตตีย์ (อาบัติที่ต้องสละสิ่งของ) ๓๐ ข้อ ปาจิตตีย์ (ว่าด้วยอาบัติที่ไม่ต้องสละสิ่งของ) ๙๒ ข้อ ปาฏิเทสนียะ (อาบัติที่พึงแสดงคืน) ๔ ข้อ เสขิยะ (มารยาท) ๗๕ ข้อ ได้แก่ สารูป (การเป็นสมณะ) ๒๖ ข้อ โภชนปฏิสังยุตต์ (การฉันอาหาร) ๓๐ ข้อ ธัมมเทสนาปฏิสังยุตต์ (การแสดงธรรม) ๑๖ ข้อ ปกิณสถะ (เบ็ดเตล็ด) ๓ ข้อ อธิกรณสมถะ (วิธีระงับคดีความที่ตกลงกันไม่ได้) ๗ ข้อ รวมทั้งหมด ๒๒๗ ข้อ การแสดงอาบัติ สามารถกล่าวกับพระภิฏษุรูปอื่น เพื่อเป็นการแสดงตนต่อความผิดได้ แต่ขั้นปาราชิก ต้องสึกอย่างเดียว ในที่นี้ผู้เขียนจะเลือกยกตัวอย่างที่ควรรู้หรือที่เห็นว่าแปลกมาแสดงเป็น การ์ตูนเท่าที่มีเนื้อที่ โดยสังเขป ทั้งคำและภาพ โดยมีรหัสหมวดกำกับ (รหัสย่อ) ปร = ปาราชิก, สฆ = สังฆาทิเสส, อน = อนิยตกัณฑ์, นส = นิสสัคคิยปาจิตตีย์, ปจ = ปาจิตตีย์, ปฏ = ปาฏิเทสนียะ, สข = เสขิยะ, ภช =โภชนปฏิสังยุตต์, ธม = ธัมมเทสนาปฏิสังยุตต์, ปก = ปกิณสถะ, อธ = อธิกรณสมถะ http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=7813
665 (ปร) อวดคุณวิเศษที่ไม่มีในตน (สฆ) ทำตัวเป็นสื่อรัก (สฆ) ขอสร้างกุฏิใหญ่เกิน ให้ตัวเอง (อน) นั่งในที่ลับตากับสตรี ถูกพบเห็นโดยผู้ที่เชื่อถือได้ (นส) เก็บจีวรที่เกินจำ เป็น เกิน ๑๐ วัน (นส) อยู่โดยไม่มีจีวร แม้แต่คืนเดียว (นส) ให้จีวรภิกษุแล้วชิงคืน (ปจ) นอนร่วมกับผู้ไม่ใช่ ภิกษุเกิน ๓ คืน (ปจ) บอกคุณวิเศษที่มีจริง แก่ผู้มิได้บวช (ปจ) ขุดดินหรือใช้ให้ขุด (ปจ) ทำลายต้นไม้ (ปจ) ฉันอาหารที่เก็บไว้ ค้างคืน
666 (ปจ) รับนิมนต์แล้วไป ที่อื่นโดยไม่บอกลา (ปจ) จี้ภิกษุ (ปจ) ว่ายน้ำ เล่น (ปจ) หลอกภิกษุให้กลัว (ปจ) ซ่อนบริขารภิกษุอื่น (สข) หัวเราะดัง เมื่ออยู่นอกวัด (ปจ) เงื้อมือจะทำร้ายภิกษุ (ปจ) แอบฟังภิกษุ ทะเลาะกัน (ปจ) ทำจีวรขนาดเกินพอดี (สข) นั่งโคลงกายนอกวัด (สข) ไกวแขนนอกวัด (สข) มือค้ำกาย เมื่ออยู่นอกวัด
667 (สข) เดินกระโหย่งเท้า เมื่ออยู่นอกวัด (สข) นั่งรัดเข่า เมื่ออยู่นอกวัด (ภช) รับบิณฑบาต เกินขอบปากบาตร (ภช) ทำคำข้าวใหญ่เกินไป (ภช) พูดขณะมีข้าวในปาก (ภช) ฉันกัดคำข้าว (ภช) ฉันกระพุ้งแก้มตุ่ย (ภช) ฉันโปรยเมล็ดข้าว (ภช) ฉันแลบลิ้น (ภช) ฉันดังจับๆ (ภช) ฉันดังซูดๆ (ภช) ฉันเลียริมฝีปาก
668 (ธม) แสดงธรรมแก่คน ไม่เป็นไข้ที่มีอาวุธในมือ (ธม) แสดงธรรมแก่คน ไม่เป็นไข้ที่สวมรองเท้าไม้ (ธม) แสดงธรรมแก่คน ไม่เป็นไข้ที่สวมรองเท้า (ธม) แสดงธรรมแก่คน ไม่เป็นไข้ที่ไปในยาน (ธม) แสดงธรรมแก่คน ไม่เป็นไข้ที่อยู่บนที่นอน (ธม) แสดงธรรมแก่คน ไม่เป็นไข้ที่นั่งรัดเข่า (ธม) แสดงธรรมแก่คนที่ นั่งบนอาสนะสูงกว่าภิกษุ (ธม) แสดงธรรมแก่คน ไม่เป็นไข้ที่คลุมศีรษะ (ธม) ภิกษุเดินข้างหลัง แสดงธรรมแก่คนที่เดิน ไปข้างหน้า
669 เย็นนั้น ที่กุฏิพระบวชใหม่ ไม่ทันไร มารก็มา ประจญแล้วหรือ?! อื๋อ? กุกกัก! กุกกัก!
670 เก็บข้าวของ จะไปไหนน่ะ? ไปนครฯ จะไปเมื่อไหร่? พรุ่งนี้ พรุ่งนี้ ตามกำ หนดเดิม พระปั่นก็จะกลับระนอง แต่แล้ว ไม่รู้อะไร มาดลใจ . . . ไปทำ ไม? ก็เราไป ทำ ไมล่ะ? ไปเรียน หนังสือ ผมก็ไปเรียน ด้วยซี! ไปด้วยซี!
671 เฮ่ย! ไปไม่ได้ ไม่มีที่จะอยู่! ที่ผมมี เพราะ บอกกับเพื่อน ที่เป็นพระที่นั่น ไว้ก่อนแล้ว วันเข้าพรรษา คือ วันมะรืนนี้แล้ว! ในระหว่างพรรษา พระภิกษุจะย้ายวัด ไม่ได้ ถ้าจะตัดสินใจ ว่าอยู่ไหน หรือจะไปไหน ก็ต้องตัดสินใจเดี๋ยวนี้! ไม่ปรือ! ผมนอน ไหนก็ได้ไม่เกี่ยง! ตอนเป็นจับกังน่ะ มีแต่หลังคากับ ฝาข้างเดียว ยังอยู่ได้เลย! จับกังกับพระ ไม่เหมือน กันนะ สมัยพุทธกาล พระอาศัยนอน ใต้โคนไม้เท่านั้น! แหม! เล่นพูดยังงี้ ผมไม่ห้ามคุณแล้ว! แต่ไปแล้วไม่มีที่อยู่ ก็อย่ามาว่ากันนะ!
672 เออน่ะ! อ้าว! แล้วทาง ระนองล่ะ? ผมจะไม่กลับ ไปแล้ว . . . เอางั้นหรือ? อือ! ที่กุฏิลุงหลวง ผมมาลาไปเรียน นักธรรมต่อที่นครฯ กับพระแป้น เออ! ไปถึง แล้ว อย่าลืมไป ไหว้พระธาตุ ตั้งจิตอธิษฐานกับท่าน ว่า จะทำอะไรในชีวิต แล้วจะได้ ความสำ เร็จ ครับ ผมไม่ลืมครับ
673 เช้าวันต่อมา ที่สถานีรถไฟ เดี๋ยว! ขอผมแวะ ส่งจดหมายหน่อย จดหมาย ลาใครรึ? ไม่ลาใคร แต่ลาออก! อ้อ! ต้น*ส่งข่าว มาบ้างนะ ตั้งใจเรียนนะ ... * ต้น = สรรพนามที่โยมใช้เรียกพระที่เป็นญาติ
674 ขอโทษด้วยนะ ทุกคน ฉันมีเรื่องที่จะต้องเรียนรู้ ต้องค้นหา มากกว่าที่นั่น ฝากด้วยนะ ครูอ๊อด! ท่านอาจารย์ ขมถ เม ภนฺเต - โปรด อดโทษแก่กระผม
675 * ชื่อเต็ม ว่า วัดหน้าพระบรมธาตุ คณะ ๕ ไปทางไหนครับ? เราจะเรียนกัน ที่นี่ละ! ท่าทางจะคึกคักดีนะ
676 พระโมกอยู่มั้ยครับ? อ้อ! มาแล้วรึ! พระแป้น! เข้ามา! เข้ามา! ห้องแคบ หน่อยนะ! ท่านชื่อ พระเอก ๒ พรรษาเท่าผม รบกวนด้วยครับ พอจะหา ที่พักให้ เพื่อนผม ได้ไหม? เห็นจะยาก! เท่าที่รู้ตอนนี้ ไม่มีกุฏิไหนว่างเลย
677 ทุกกุฏิเรียกได้ว่า เต็มอยู่แล้ว พระที่จะเข้าอยู่ใหม่ต้องรู้จัก พระที่อยู่เก่า อย่างเรา นี่แหละ พระที่อยากจะมาเรียน ที่นี่ มักจะต้องไปหา ที่อยู่ ที่วัดอื่นแทน แต่ที่อยู่ใกล้ๆ ก็มักจะเต็ม แล้วทั้งนั้น! ผมบอกคุณแล้ว! ทีนี้จะทำ ไงล่ะ? ก็มาแล้วนี่! เดี๋ยวผม จะลองเดินสำรวจดู ถ้าไม่มีจริงๆ ก็ต้อง ไปอาศัยวัดอื่นอยู่ ไปพลางๆ ก่อน ขอฝากของไว้ ที่นี่ก่อนนะ
678 เอ๊ะ! ห้องเก็บของนั่น! ? ยาววาหนึ่ง ใช้ได้! เราแค่ย้ายของ ในห้องนี้ . . . ไปรวมกับ ห้องโน้น . . . แต่ต้องบอกกล่าวคนที่ อยู่ในห้องเสียก่อน เพราะ เราจะมาอยู่หน้าห้องเขา
679 มีใครอยู่มั้ยครับ? มาหาใครครับ? ไม่ได้มาหาใครครับ แต่มาหาที่อยู่น่ะครับ ผมจะมาเรียน นักธรรมที่นี่ อ้อ! แต่ที่กุฏินี้ ไม่มีห้อง ว่างแล้ว! ไม่ปรือครับ ผมเห็นที่ แล้ว . . . ห้องระเบียง หน้าห้องท่าน นี่ไงครับ! ผมขอใช้ได้ไหม? อะ-เอ้อ . . . ก็เอาซี! กุฏินี้ไม่ใช่ของผม! ถ้าคุณจะอยู่ ...
680 งั้นผมขอเก็บกวาด เลยนะครับ เชิญ! ห้องเล็กๆ นี่ เช็ดถู เดี๋ยวเดียวก็เสร็จ ดีกว่า ห้องใหญ่ๆ ซะอีก! อันกายเราก็เท่านี้ กว้างศอกยาววาหนาคืบ จะอะไรกันนักหนา! ด้วยความมุ่งมั่น พระปั่นก็ได้ที่พัก อยู่เรียนนักธรรม ที่วัดหน้าพระธาตุ สมปรารถนา