วเิ คราะหห์ นังสอื เรียนรายวิชาพื้นฐานภาษาไทย
ภาษาพาที ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๓
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑
โดย
นางสาวสุพสั ตรา กาบพงั เทียม
การวิเคราะหห์ นงั สอื เรยี นรายวิชาภาษาไทยนี้เปน็ ส่วนหนึ่งของรายวชิ า
ED ๑๐๓๓ ววิ ฒั นาการแบบเรยี นไทย
หลักสูตรศกึ ษาศาสตรบัณฑิต สาขาวชิ าการสอนภาษาไทย
มหาวิทยาลยั มหามกุฏราชวทิ ยาลยั วิทยาเขตอสี าน
ปีการศกึ ษา ๒๕๖๕
ก
คานา
การวิเคราะห์หนงั เรียนรายวชิ าภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๓ เลม่ น้ี เปน็ รายงานการ
วเิ คราะหห์ นังสอื เรยี นรายวชิ าภาษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้
พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ซ่งึ เป็นส่วนหนง่ึ ของรายวิชา ED ๑๐๓๓ ววิ ัฒนาการแบบเรียนไทย โดย
รายงานเล่มนมี้ วี ัตถปุ ระสงค์เพอื่ เพื่อใหน้ ักศกึ ษาได้ฝึกวเิ คราะหห์ นงั สือเรยี นรายวชิ าภาษาไทยกบั
หลักสตู รแกนกลางขนั้ พ้นื ฐานพทุ ธศักราช ๒๕๕๑ โดยมงุ่ หวงั ใหเ้ กดิ ความรู้ ความสามารถ ทกั ษะ เจต
คติ และประสบการณเ์ กี่ยวกับการจัดการเรยี นรใู้ นการประกอบวชิ าชพี ครู ผรู้ ายงานได้เรียบเรยี งผล
ของการทางานเปน็ ท้งั หมดจานวน ๕ บท ไดแ้ ก่ บทที่ ๑ องคป์ ระกอบภายนอกของแบบเรยี น, บทท่ี
๒ องค์ประกอบภายในของแบบเรยี น, บทที่ ๓ วิเคราะห์ความสอดคลอ้ งของเนือ้ หากับหลกั สตู ร
(ตวั ชีว้ ัด), บทที่ ๔ วิเคราะห์ความสอดคลอ้ งกับกจิ กรรมและการประเมนิ ผลของ Benjamin Bloom,
และ บทท่ี ๕ วิเคราะหข์ ้อดีและข้อบกพร่องของแบบเรยี น
หวังว่ารายงานเล่มนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อผูศ้ กึ ษาแนวทางการเรียนวชิ าชีพครู อย่างไรก็ดี
อาจจะมสี ่วนที่ไม่ครบสมบรู ณ์อยบู่ ้าง ผจู้ ัดทารายงานขอน้อมรับคาแนะนาด้วยความเคารพยงิ่
ลงช่อื สพุ สั ตรา กาบพังเทียม ผ้จู ัดทารายงาน
(สุพสั ตรา กาบพังเทยี ม)
๑๖/๐๘/๖๕
ข
สารบญั
เน้อื เรอ่ื ง หน้า
บทที่ ๑. องคป์ ระกอบภายนอกของแบบเรยี น ๑
๑.๑ ข้อมลู ทัว่ ไปของแบบเรยี น ๑
๑.๒ ปกหนงั สอื
๑.๒.๑ ปกหนา้ ดา้ นนอกวเิ คราะห์ ๒
๑.๒.๒ ปกหน้าดา้ นใน ๓
๑.๒.๓ ปกรอง ๓
๑.๒.๔ ใบรองปกด้านหนา้ ๔
๑.๒.๕ ปกรองด้านหลงั ๕
๑.๒.๖ ปกหลงั ดา้ นใน ๖
๑.๒.๗ ปกหลงั ๖
๗
บทที่ ๒ องคป์ ระกอบภายในของแบบเรยี น ๗
๒.๑ การวเิ คราะห์เนอ้ื หาแบบเรยี น ๑๑
๒.๒ รปู แบบการจดั แบง่ เน้ือหาแบบเรียน ๑๒
๒.๓ ความถูกต้องของเนื้อหา ๑๒
๒.๔ ภาพประกอบ ๑๓
๒.๕ ดา้ นการใชภ้ าษา ๑๔
๒.๖ ความเหมาะสมตอ้ การเรยี นรูข้ องผูเ้ รยี นและการจดั การเรยี นรขู้ องครู ๑๕
๒๘
บทท่ี ๓ วิเคราะห์ความสอดคล้องของเนอ้ื หากบั หลักสตู ร (ตวั ช้วี ดั )
บทที่ ๔ วิเคราะห์ความสอดคลอ้ งกับกจิ กรรมและการประเมนิ ผลของ ๔๘
Benjamin Bloom
บทที่ ๕ วิเคราะห์ข้อดแี ละข้อบกพรอ่ งของแบบเรยี น
วิเคราะหแ์ บบเรยี นรายวิชาภาษาไทย
ช้ัน ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน: พุทธศักราช:๒๕๕๑
องค์ประกอบภายนอกของบทเรียน
๑. องคป์ ระกอบภายนอกของแบบเรยี น ได้แก่ ข้อมูลท่ัวไปของแบบเรยี น ปกหนงั สื อ สันหนงั สือ รอง
ปก สว่ นประกอบทสี่ าคัญของหนังสือ แนวทางการใชแ้ บบเรยี น การพมิ พต์ ัวอกั ษรและสีสนั การจดั
ระเบียบการพิมพ์ ภาพประกอบ กระดาษและการเข้าเลม่ และราคา
๒. องค์ประกอบภายในของแบบเรียน ได้แก่ การวเิ คราะหเ์ น้อื หาแบบเรยี น รูปแบบ การจดั แบง่
เน้ือหาแบบเรยี น ความถูกตอ้ งของเนอ้ื หา ภาพประกอบ การใช้ภาษา ความยากง่ายของเน้อื หา
๓. วิเคราะห์ความสอดคล้องของเนอื้ หากบั หลักสตู ร (ตัวชี้วัด)
๔. วิเคราะหค์ วามสอดคล้องกบั กิจกรรมและการประเมนิ ผลของ Benjamin Bloom
๕. วิเคราะห์ขอ้ ดแี ละข้อบกพร่องของแบบเรียน
บทท่ี ๑
องค์ประกอบภายนอกของแบบเรียน
๑.๑ ขอ้ มลู ทวั่ ไปของแบบเรียน
หนงั สือเรยี นรายวชิ าภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่อื ชวี ติ “ภาษาพาที” ชน้ั ประถมศึกษาปี
ที่ ๓จัดพิมพโ์ ดยสานักพมิ พ์องค์กรการค้าของ สกสค. โรงพมิ พ์ สกสค. ลาดพรา้ ว
ขนาดของหนังสือ: -
จานวนหน้า: ๒๒๐ หนา้
ชนดิ กระดาษที่ใช้: -
เน้อื หาใช:้ กระดาษฟอกขาว
ลักษณะการเขา้ เล่ม: ใช้วิธีการเย็บเล่มดว้ ยสนั กาวเย็บเลม่ สนั กาวมีความเรยี บร้อย
แขง็ แรง และคงทนตอ่ การใช้งาน
๒
๑.๒ ปกหนงั สือ
๑.๒.๑ ปกหนา้ ดา้ นนอก
ปกดา้ นนอกของหนงั สือเรียน “ภาษาพาทชี ้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๓ มีการพมิ พช์ นิด ๘ สี โดยใช้
สีฟ้าม่วงจางๆเปน็ ภาพพ้ืนหลงั ส่วนดา้ นบนและด้านลา่ งปกจะเป็นขอ้ มลู เบอื้ งต้นของหนงั สือเรียน
โดยประกบดว้ ยชื่อหนงั สือทม่ี ขี นาดใหญใ่ ช้ตัวอกั ษรสชี มพกู บั สเี ขียวตดั กบั สีฟา้ มว่ งจางๆทาใหม้ อง
เด่นชดั สะดดุ ตา โดยระบคุ าว่า “ภาษา พาที”ถัดมาเปน็ การระบรุ ะดบั ชนั้ ด้วยตวั อกั ษรสีน้าเงนิ ขนาด
เล็กรองลงมาแต่มสี ีค่อนข้างเขม้ กลมกลนื ไปกับสีพื้นหลงั ของหนังสือโดยระบคุ าว่า “ชั้นประถมศกึ ษาปี
ที่ ๓ ” ถัดลงมาเป็นการระบกุ ลมุ่ สาระการเรยี นรู้และหลกั สตู รโดยใช้ตัวหนงั สอื สีน้าเงนิ เขม้ ทาใหม้ อง
ไดช้ ดั เจน ส่วนด้านบนมุมซา้ ยสดุ ประกอบดว้ ยตาสญั ลกั ษณก์ ระทรวงศกึ ษาธิการ และราคาหนงั สืออยู่
โนล่างขวาสดุ ทาให้มองเห็นได้ชัดเจน
สรปุ โดยรวมแล้วหนา้ ปกมีความเหมาะสมพอใชไ้ ดเ้ นื่องจากมีตวั หนงั สอื ของช่อื หนงั สือท่ีมี
ขนาดใหญ่ทาใหม้ องเหน็ ได้ชัดเจนเหมาะสาหรบั ผเู้ รียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓ แมว้ า่ จะมีข้อบกพรอ่ ง
เล็กนอ้ ยในการเลือกใช้สีของตัวหนงั สอื ในบางสว่ นท่ีใชส้ เี ข้มใกลเ้ คียงกับสขี องพื้นหลังอาจจะทาใหม้ อง
ไม่ชดั เจน ควรจะเลือกใชส้ พี ้นื หลงั ท่ีออ่ นกว่าตวั หนงั สอื จะทาให้มองเห็นได้ชดั เจนยง่ิ ขึน้ เป็นหน้าปกที่
๓
ระบุขอ้ มูลทคี่ วรมีไว้อย่างครบถว้ นไม่ขาดองคป์ ระกอบใด ๆ ทีจ่ าเปน็ ขนาดของตัวอกั ษรใหญเ่ ล็ก
ตามลาดบั ความสาคัญ นอกจากนกี้ ารลงภาพประกอบไดส้ ือ่ กับหนงั สอื ออกแบบสวยงามตามความ
พอดสี อดคล้องกบั หวั ขอ้ ช่อื หนงั สอื อยู่พอสมควร
๑.๒.๒ ปกหนา้ ด้านใน
เป็นหนา้ ว่าง
๑.๒.๓ ปกรอง ประกอบขอ้ มูลดงั น้ี
เปน็ คานาอธิบายชแ้ี จงเหตหุ รอื จดุ ประสงคท์ จี่ ัดพมิ พ์หนงั สอื “ภาษา พาที”ซึ้งในสว่ นของคา
นาในหนังสอื เล่มนี้กลา่ วถงึ จดุ ประสงคท์ ีจ่ ัดพมิ พ์ เพอื่ มงุ่ เนน้ ให้นกั เรียนไดเ้ รยี นรู้ทกั ษะทางภาษาการ
อ่าน ฟงั ดู พูด เรอื่ งที่นา่ สนใจ ผสานความเข้าใจในลกั ษณะของภาษาไทย ตระหนกั และเรยี นรู้ใน
ความงามของภาษาภูมปิ ญั ญาทางภาษา เพอื่ นาไปสู่การพฒั นาตนเองเพมิ่ ศกั ยภาพและพฒั นาตนเอง
และปลกู ฝังความเป็นไทยอนรุ ักษ์ความเป็นไทยส่งเสรมิ ให้เดก็ เรียนรู้และเขา้ ใจทางด้านภาษาไดอ้ ยา่ ง
ถอ่ งแท้
๔
๑.๒.๔ ใบรองปกด้านหน้า ประกอบดว้ ยขอ้ มูลดงั น้ี
เปน็ คาแนะนาสาหรับครู การวางแผนจดั การเรยี นรภู้ าษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๓
ครจู าเปน็ ตอ้ ง ศกึ ษาหลกั สตู รและเอกสารทเี่ ก่ียวข้องกบั หลกั สตู ร เพอ่ื ใหเ้ ข้าใจมาตรฐาน
ตวั ช้ีวดั หรือสงิ่ อันพงึ ประสงค์ท่คี วรจะเกดิ แกน่ ักเรยี น และเป็นการเลา่ รายละเอียดของหนังสือ
ประกอบไปดว้ ย บทอ่าน มีตัวละครท่ีน่าสนใจ เพื่อให้นกั เรียนเกดิ ความรสู้ นุกสนานเพลิดเพลนิ
สง่ เสรมิ นสิ ัยรกั การอ่าน รจู้ ักใชภ้ าษาไทยท่ถี กู ต้อง ไพเราะสละสรวย และแทรกเนอื้ หาการเรียนรู้แบบ
บรู ณาการ การเข้าใจความเปน็ ไทย ภูมิปญั ญาทอ้ งถนิ่ ส่งเสริมคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และรเู้ ทา่ ทันโลก
ตามวัยประสบการณ์ และชั้นปี
๕
๑.๒.๕ ปกรองด้านหลงั
ประกอบดว้ ยคณะผจู้ ดั ทาหนงั สอื เรียน และอกี หน้าหนงึ่ เปน็ ใบอนญุ าตให้ใชส้ อ่ื การ
เรียนรูปในสถานศึกษา ซ่งึ เป็นองคป์ ระกอบที่จาเปน็ ต้องมีสาหรับหนังสือเรียนจึงจะสามารถ
นามาใช้ในโรงเรยี นไดโ้ ดยแสดงเนอ้ื หา ในใบอนญุ าตไว้อยา่ งชัดเจน ทาให้แบบเรยี นเลม่ นี้
นา่ เชื่อถอื
๖
๑.๒.๖ ปกหลงั ดา้ นใน บอกรายชื่อหนังสือแบบเรยี นรายวิชาพน้ื ฐานภาษาไทยของระดับชั้น
มัธยมศึกษาปที ี่ ๓ ดงั น้ี
๑. หนงั สอื เรยี น ชดุ ภาษาเพ่อื ชวี ิต ภาษาพาที
๒. หนงั สอื เรยี น ชดุ ภายาเพอ่ื ชวี ติ วรรณดลี านา
๓. แบบฝกึ หดั ชดุ ภาษาเพอ่ื ชวี ิต ทักษะภาษา
๔. หนงั สอื เรียน ชดุ ภาษาเพื่อชวี ิต วรรณกรรมปฏสิ ัมพันธ์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑-๓
๕. แบบฝกึ หัด ชุด ภาษาเพอื่ ชวี ิต ทักษะปฏิสัมพันธ์ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑-๓
(รายการที่ ๕ - ๕ เปน็ หนงั สอื สาหรบั นักเรยี นท่ีตอ้ งการพฒั นาความสามารถทางภายา
และวรรณกรรมเป็นพเิ ศษ มไี ด้บงั คบั สาหรับนักเรียนทว่ั ไป)
๑.๒.๗ ปกหลัง ไม่เป็นทป่ี รากฏ e-book
บทที่ ๒
องค์ประกอบภายในของแบบเรียน
๒.องคป์ ระกอบภายในของแบบเรยี น
๒.๑ การวิเคราะหเ์ นอ้ื หาแบบเรียน และการวเิ คราะห์รูปแบบการจัดแบ่งเน้อื หาแบบเรยี น
๑) ดา้ นเนื้อหาท่ปี รากฏในหนงั สอื เรียน รายวชิ าพื้นฐานภาษาไทย ภาษา พาที ระดับช้นั
ประถมศึกษาปีที่ ๓ ของกระทรวงศึกษาธิการ ประกอบด้วยเน้ือหาดังน้ี
๑.๑ คาแนะนาการใช้หนังสอื เรียน
๑. ศกึ ษาหลกั สตู รและเอกสารทเี่ กยี่ วข้องกบั หลักสตู รเพ่อื ใหเ้ ขา้ ใจมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ขี้วดั
หรือสง่ิ อนั พึงประสงค์ทีค่ วรจะเกิดแกน่ กั เรยี น
๒. ศกึ ษาหนังสือเรยี น ภาษาพาที หนงั สือเรยี น แล้ววางแผนจัดการเรียนรู้ โดยใชเ้ นอ้ื หาแตล่ ะบทของ
หนงั สอื เรยี นทง้ั ๒ เลม่ สลบั บทกันตามความเหมาะสม เพอ่ื ให้นักเรยี นไดเ้ รยี นรูจ้ ากหนงั สอื เรียน
ภาษาพาที ตลอดปกี ารศึกษา และเรยี นรจู้ ากหนงั สือเรยี น วรรณคดลี านา ตลอดปกี ารศกึ ษา
เชน่ เดยี วกัน
๓. ศึกษาหนังสือเรียน ภาษาพาที และแบบฝกึ หดั ทักษะภาษา ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๓ ทกุ เลม่ ทกุ บท
อย่างละเอยี ดเพ่อื ใชเ้ ปน็ ส่ือหลกั ในการจดั การเรียนการสอนภาษาไทยรวมทั้งหนงั สือเรยี น วรรณกรรม
ปฏิสมั พนั ธ์ แบบฝกึ หดั ทกั ษะปฏสิ ัมพันธ์ หนงั สอื หรอื สื่ออน่ื ๆ เพือ่ ใช้เป็นสื่อเสรมิ ในการจัดการเรียน
การสอนภาษาไทย แล้วจัดหน่วยการเรยี นร้แู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ตามความเหมาะสม
๔. ศกึ ษาพน้ื ฐานความร้คู วามสามารถดา้ นภาษาไทยและด้านอื่นๆ ของนักเรยี น
นอกจากไดน้ ้ยี ังไดข้ ้อแนะนาวธิ กี ารใช้หนงั สอื ดงั น้ี
(๑) อา่ นสารบัญเพื่อจะได้ทราบวา่ ในหนงั สอื มีบทเรยี นอะไรบ้าง
(๒) ใชเ้ วลาทีโ่ รงเรียนหรือที่บ้าน อา่ นทาความเข้าใจเปน็ เรอ่ื ง ๆ
(๓) ทากจิ กรรมท้ายเองทุกขอ้ ทก่ี าหนดไว้ใหค้ รบถ้วน เพอ่ื ทบทวนความรู้ฝกึ ใช้ความคิด การ
อภปิ รายแลกเปลีย่ นความเข้าใจของกันและกันอนั เปน็ วิธีการนาไปส่คู วามเขา้ ใจและมีทกั ษะอย่าง
แท้จรงิ
ดงั นัน้ กิจกรรมจึงไม่ใชก่ ารสอบหรือการวัดการเรียนรู้
(๔) ฝึกเรยี งความตามทีเ่ สนอแนะไวใ้ นช้นั เรียน
๘
๒) เน้ือหา จะเป็นหลักการใช้ภาษาทั้งหมด เปน็ ความรเู้ กยี่ วกับภาษา
มจี ดุ ประสงคเ์ พอื่ มงุ่ เน้นให้นกั เรยี นไดเ้ รยี นรทู้ ักษะของภาษาจากการอา่ น เขียน ฟัง ดู พดู
ผสานให้เข้าใจลักษณะของภาษาไทย ตระหนกั รใู้ นด้านความงามของภาษาภูมิปญั ญา พรอ้ มทงั้ ให้
เรียนรหู้ ลักสาคญั บางประการควบไปด้วย ดังน้ี
ปฎบิ ตั ิการสายลบั จิ๋ว อา่ นเสริม : มดดามดแดง
๑. พยัญชนะ สระและวรรณยุกต์
นาเขา้ สู่บทเรียนด้วยการกลา่ วถงึ การทบทวนอกั ษรไทยการใชถ้ ้อยคาสุภาพ วา่ ภาษานน้ั เป็น
อยา่ งไรเลอื กใช้ในสถานการณ์ใดบา้ ง
๑.๑. เสยี งสระเดีย่ ว
กจิ กรรมเพ่ือการเรียนรู้
๑.๒ เสยี งประสม
กิจกรรมเพอื่ การเรยี นรู้
๑.๓ เสียงสระท่ีมเี สยี งพยญั ชนะท้าย
กจิ กรรมเพอื่ การเรียนรู้
๑.๔ อา่ นและสงั เกตวรรณยกุ ต์
หาข้อสงั เกตรูปเสยี งในวรรณยกุ ต์ วรรณยุกต์ยกุ ตม์ ี ๔ รปู ได้แก่ ไมแอก ไม้โท ไม้ตรี
ไม้จตั วาสังเกตเสียงในวรรณยกุ ต์มี ๕ เสียง เสยี งสามัญ เสยี งเอก เสยี งโท เสียงตรี เสียงจตั วา
๑.๕ การใช้ถ้อยคาทสี่ ภุ าพ
เรยี นรแู้ ละใชถ้ ้อยคาท่มี ีความหมายโดยตรงโดยนัย ตอ้ งระมดั ระวังในการใช้ถอ้ ยคา
ใหก้ ระชบั แบะยกบรบิ ทให้มคี วามชัดเจนมากยง่ิ ขึน้
แตเ่ ด็กซ่อื ไว้ อา่ นเสรมิ : เทพารักษ์ กบั คนตดั ไม้
๒.ตัวสระกด สระเปลยี่ นรปู เกรน่ิ ถงึ การทบทวนตัวสะกดและสงั เกตสระบางรปู เมอื่ ไม่มตี วั
สระกด สระเปลย่ี นรูป วิธกี ารดูและสังเกตสระไมม่ ตี วั สะกด
-กจิ กรรมชวนกนั คิด ชวนกันตอบ
๙
๓. มาตราตัวสะกด อา่ นและสงั เกตกลมุ่ คาท่มี ีตัวสะกด แม่ กง แม่กน แม่กม แม่เกย แม่เกอว แม่กก
แม่กบ แม่ ก กา
- กิจกรรมช่วยกันคิดช่วยกันทา
อาหารดีชีวมี สี ุข : อา่ นเสรมิ อาหารเพอื่ สขุ ภาพ
๔.การผนั วรรณยกุ ต์ อกั ษรกลาง อักษรสงู และอกั ษรต่า รวมเรียกวา่ อักษร ๓ หมู่ น้ัน
ถ้าเขา้ ใจและจาได้ ก็จะผันวรรณยกุ ต์ไดถ้ กู ตอ้ ง
๔.๑ อกั ษร ๓ หมู่
-อักษรกลาง ได้แก่ ก จ ฎ ฏ ด ต บ ป อ ผนั ได้ ๕ เสยี ง คอื เสียงสามญั เสยี งเอก เสยี งโท
เสยี งตรี และเสียงจัตวา โดยมรี ปู วรรณยกุ ตก์ บั เสียงตรงกนั เชน่ กา กา่ กา้ ก๊า ก๋า
-อักษรสงู ได้แก่ ข ข ฉ ฐ ถ ผ ฝ่ ศ ษ ส ห ผันได้ ๓ เสยี ง คือ เสียงเอก เสยี งโท และเสยี
จัตวา เช่น ข่า ข้า ขา (ขา เป็นเสยี งจตั วาไมม่ รี ูปวรรณยุกต)์
-อักษรตา่ ไดแ้ ก่ ค ต ฆ ง ช ช ฌ ญ ฑ ฒ ณ ท ธ น พ ฟ ภ ม ย ร ล ว ฬ ฮ ผันได้ ๓ เสียง
คือ เสยี งสามญั เสียงโทและเสยี งตรี แต่รูปวรรณยุกตก์ บั เสยี งไม่ตรงกนั เชน่ คา ค่า ค้า
๔.๑ คาทปี่ ระวสิ รรชนยี ์และไม่ประวสิ รรชนีย์ อา่ น และสังเกตคามรี ูปสระ _ะ และออกเสยี ง อะ
-ชวนกันคิด ชว่ ยกนั ตอบ
-อา่ นเสรมิ เตมิ ความหมาย
ทาดี อย่าหวน่ั อา่ นเสรมิ : ไตร่ตรองก่อนเชอ่ื
พลงั งานคอื ชีวติ อ่านเสริม : ใชโ้ ทรทศั นใ์ หป้ ระหยดั คา่ ไฟ
ความฝนั เปน็ จริงได้ อ่านเสริม: มนุษยก์ บั การบิน
๕.คา เกรนิ่ นาถึงสว่ นประกอบไดแ้ ก่เสียงและความหมาย ซงึ่ คาภาษาไทยประกอบดว้ ยเสยี ง สระ
และพยญั ชนะ และเสยี งวรรณยกุ ต์ สว่ นของความหมายคากแ็ ตกต่างกนั ไป
๕.๑ คาคลอ้ งจอง อา่ นและสงั เกตคาคลอ้ งจองไดค้ าทม่ี ีเสียงสมั ผสั โดยใช้สระเดยี วกัน และ
ใช้สะกดแมเ่ ดยี วกนั จะเรียกวา่ คาคล้องจอง และคาคลอ้ งจองทีส่ มั ผสั กนั นั้นคาสุดทา้ ยจะส่งสมั ผสั ไปยงั
คาแรก หรือคาทสี่ องของกลุ้มคาต่อไป
-อ่านเพิม่ เตมิ ความหมาย
-ชว่ ยกนั คิด ชว่ ยกันตอบ
-ช่วยกนั ต่อคาคล้องจอง
๑๐
๕.๒ การอา่ นคาทเี่ ป็นคาควบกลา้
อ่านคาหรือกลุ่มคาทพี่ ยัญชนะ
๕.๓ การอา่ นคาทีเ่ ป็นอักษร
อ่านคาหรือกลุม่ คาทเ่ี สยี งพยญั ชนะตัวหน้านาพยัญชนะตวั หลัง
๕.๔ การอา่ นคาแบบเรียงพยางค์
พยัญชนะตวั หนา้ เป็นอักษรต่า นาพยัญชนะตัวหลัง ง ญ น ญ ร ล ว ซงึ่ เป็นอกั ษรตา่ ด้วยกนั ให้ออก
เสียง อะ ทพี่ ยางค์หน้าเพยี งครง่ึ เสียง พยางค์หลงั ออกเสยี ง อกั ษรต่าประสมตามปติ
-กิจกรรมชว่ ยกันคิดชว่ ยกนั ตอบ
๕.๕ การอา่ นคาเรียนแบบอักษรนา
๕.๖ คาทมี่ ี ร ฤา คาทีใ่ ช้ บ บรร คาที่ใช้ ร (รร)
-กิจกรรมชชวนกนั คิดชว่ ยกนั ตอบ
ภูมิใจในภาษาของเรา อา่ นเสรมิ ในโลกน้มี อี ะไรเปน็ ไทยแท้
หลักการใชภ้ าษา –คาพอ้ ง
-คาทีม่ ตี วั อกั ษรไมอ่ อกเสยี งภาษาไทยถิน่
-อ่านเพิ่ม เตมิ ความหมาย
-ชว่ ยกันคิด ช่วยกันตอบ
-ชว่ ยกนั ค้นคว้า ชว่ ยกนั เขียน
-ชว่ ยกันพูด ชว่ ยกนั ฟัง
คิดไป รู้ไป อา่ นเสริม: พาราลมิ ปิกเกมส์
หลักและการใช้ภาษา : คาที่มีเครอื่ งหมายทัณฑฆาต
การเลา่ เรอื่ งจากการฟังและการอา่ น
-ช่วยกนั คิดช่วยกันตอบ
-อ่านเพิม เติมความหมาย
-ชว่ ยกันอ่านชว่ ยกันคานวณ
-ช่วยกันอา่ นชว่ ยกนั คานวณ
นอกเมอื ง…ในกรงุ อา่ นเสริม : ความสขุ อย่ทู ไี่ หน
๑๑
หลักและการใช้ภาษา เรือ่ งชนิดของคา คานาม คาสรรพนาม คากริยา คาวิเศษณ์
การพดู การเขียนบรรยาย
-กิจกรรมเพอื่ การเรียนรู้
-ช่วยกันคดิ ช่วยกนั ตอบ
ส่งขา่ วเลา่ เร่อื ง อา่ นเสรมิ : กิริยาวาจาดี
-การเขยี นจดหมาย ลาป่วย ลากิจ
-กจิ กรรมเพอื่ การเรยี นรู้
-ชว่ ยกนั คดิ ช่วยกันตอบ
ประชาธปิ ไตยใบเลก็ อา่ นเสรมิ : ประชาธปิ ไตย อะไรหนอ
-การต้ังคาถามและตอบคาถาม
-การอวยพร
-การอ่านข้อมลู จากแผนที่
-กิจกรรมเพื่อการเรียนรู้
-อ่านเพม่ิ เตมิ ความหมาย
๖.ประโยคและการสอื่ สาร เกรนิ่ นาดว้ ยการใช้ภาษาเปน็ ทกั ษะสาคัญทผี่ ู้เรียนตอ้ งฝึกให้เต็มศกั ยภาพ
ของตน เพราะเปน็ ทักษะทจ่ี าเปน็ มากต่อการดารงชีวติ และประกอบอาชพี การใช้สานวนต่างๆ
-การเขยี นแสดงความรู้สกึ ผิด
-การเขยี นอวยพร
-กจิ กรรมเพือ่ การเรยี นรู้
-อา่ นเพ่ิมเตมิ ความหมาย
๒.๒ ดา้ นการจัดแบง่ เนือ้ หา
หนงั สอื เรยี น รายวชิ าภาษา พาที ระดับช้นั ประถมศกึ ษาศกึ ษาปีที่ ๓ จัดแบง่ เนื้อหาไดด้ ังนี้
๒.๑ บทเกรน่ิ นา เมื่อขนึ้ หน่วยการเรียนรู้ใหม่ กอ่ นเข้าสบู่ ทเรยี นจะมกี ารเกริน่ นาถึงเน้ือหาที่จะเรียน
ในบทนน้ั ๆ เป็นบทกลอน บางบทยาวถงึ ๘ วรรค เทา่ นั้น และหลงั จากนัน้ เรมิ่ เขา้ สเู่ นื้อหาการอ่าน
๒.๒ หัวข้อรองทป่ี รากฏในสารบัญ หวั ขอ้ รองพมิ พ์ดว้ ยตวั อกั ษรสีดา แตกต่างไปตามเนื้อหาที่
ครอบคลมุ บางบทมหี ัวขอ้ รองถึง๖ หัวข้อ ในขณะท่บี างบทมหี ัวข้อรองเพียง ๒หวั ขอ้ เทา่ น้นั
๑๒
๒.๓ กจิ กรรมเพ่ือการเรยี นรู้ แบบเรียน ภาษาพาทีไมไ่ ด้นาแบบฝกึ ทกั ษะไปไวท้ ที่ ้ายหนว่ ยการเรยี นรู้
เพียงอยา่ งเดยี ว แตส่ อดแทรกอยเู่ นือ้ เนือ้ หาตลอด เมอื่ นบั ดแู ล้วพบวา่ มีกจิ กรรมการเรยี นรปู้ ระมาณ
๖๖ กจิ กรรม ซงึ่ กิจกรรมเพ่ือการเรยี นรนู้ ม้ี กั ปรากฏเมื่อจบเน้ือหาของหวั ขอ้ รอง
๒.๓ ด้านความถูกตอ้ งของเน้ือหา
เนอ้ื หาในแบบเรยี น ภาษาพาทีน้ี ถูกตอ้ งครบสมบูรณต์ ามตวั ชี้วัดจากหลกั สูตรแกนกลางขั้น
พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ แต่บางตัวอย่างท่ียกประกอบในบทเรียนยกไวต้ ้ังแต่ตพี มิ พค์ ร้งั แรก แต่
ยังไม่ได้ปรบั เปล่ยี นมาจนถึงปจั จบุ นั นัน้ อาจเรม่ิ ไมท่ นั เหตกุ ารณ์ และไม่กอ่ ใหเ้ กดิ ประโยชนต์ ่อผเู้ รียน
ไดเ้ ท่าเมื่อคร้งั ทีต่ ีพิมพ์ใหม่ ๆ เช่น บทอา่ น สง่ ข่าว เล่าเร่ืองซ่ึงปรากฎในกจิ กรรมเพอ่ื การเรียนรใู้ น
บทเรยี นรบั สารดว้ ยการอ่าน เป็นต้น
๒.๔ ด้านภาพประกอบ
ภาพประกอบภายในรปู เล่ม หนงั สือเรียน รายวิชา ภาษาพาทชี ัน้ ประถมศกึ ษาศึกษาปที ี่ ๓ ผวู้ าด
ภาพประกอบ นายพนิ ิจ มนรตั น์ และกลุ่มงานวาดภาพ องค์กรการคา้ ของ สกสค.
๔.๑ จานวน แบบเรียนมภี าพประกอบทง้ั สิน้ จานวน ๑๙๖ ภาพ รวมปก
๔.๒ ขนาด ภาพประกอบส่วนใหญ่ใหญเ่ ฉพาะข้ึนบททแี่ ละภาพเล็กนอ้ ยลงไปตามหวั ขอ้
๔.๓ คาอธบิ ายภาพ ไม่มีคาอธบิ ายรปู ภาพ
๔.๔ สี พมิ พ์ดว้ ยหมึกหลากหลายสีตามเน้อื หาบทและองค์ประกอบเน้ือหา ทาใหภ้ าพประกอบ
ค่อนข้างเด่นชัด
๔.๕ ความสอดคลอ้ งของภาพประกอบกบั เนื้อหา ภาพประกอบสว่ นใหญส่ อดคลอ้ ง และมี
ความสาคัญและจาเปน็ ตอ่ เนื้ออย่างมากเพราะเดก็ เปน็ ชัน้ ป.๓ ตอ้ งเรียนรผู้ ่านภาพเพอ่ื ใหเ้ กดิ ทักษะ
และจนิ ตนาการทเี่ ด่นชดั
๑๓
ตวั อยา่ งภาพ
๒.๕.ดา้ นการใชภ้ าษา
ภาษาที่เลอื กใชใ้ นแบบเรียนน้ีนบั ว่ามีความเหมาะสมและเขา้ ใจง่ายเนอื้ หาไมเ่ ยอะเท่าไหรเ่ น้น
การอา่ นบทความเน้ือเรือ่ งทสี่ นกุ และเข้าใจงา่ ยสอดแทรกเนอื้ หาความรเู้ ข้าไปตามฉบบั ช้นั
ประถมศกึ ษาปีที่๓มจี านวนตวั อักษรมากปานกลางแต่บางเนอ้ื หาก็ได้กลา่ วใหก้ ระชับมากขึน้ บาง
เนอื้ หาก็ตอ้ งอาศัยการอธบิ ายเพิ่มเตมิ เพราะนักเรียนอาจจะไม่เขา้ ใจเนอื้ หา พบขอ้ บกพรอ่ งเปน็ ส่วน
นอ้ ยจะเปน็ เพียงแคก่ ารการใช้ภาษาคาราชาศัพท์ทเี่ ด็กช้นั ประถมศึกษาปที ี่๓อาจจะไมค่ อ่ ยเขา้ ใจมาก
นักจึงต้องอาศัยครผู ูส้ อนในการอธิบาย
๒.๖.ดา้ นความยากง่ายของเนอ้ื หา
ความยากง่ายของเน้ือหาภายในแบบเรียน เลอื กสรรเนอื้ หาได้อย่างเหมาะสม มเี นอื้ หาภายใน
แบบเรียนเหมาะสมกบั ผเู้ รยี นระดบั ช้ันประถมศึกษาปที ่ี๓ สอดคล้องกบั พฒั นาการตามชว่ งวยั ของ
นกั เรยี นเน้ือหาสว่ นใหญ่เหมาะสมกบั การเรยี นรรู้ ะดับช้นั ประถมศกึ ษา มุ่งเน้นเน้อื หาทางดา้ นการ ฟงั
ดู พูด อ่าน เขยี น ให้ถกู ตอ้ ง ทง้ั ดา้ น วรรณยุกต์ อักษร การพูดในโอกาสตา่ งๆ
๒.๗ ความสอดคลอ้ งของแบบเรียนกบั หลกั สตู ร
หนังสอื เรียนรายวิชาภาษาไทย ภาษาพาที ระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๓ ของ
กระทรวงศึกษาธกิ าร จดั ทาขน้ึ เพอ่ื ใช้เปน็ สอื่ การเรยี นรู้ในสถานศกึ ษาตามหลกั สตู รแกนกลาง
การศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ การพจิ ารณาความสอดคลอ้ งของเนื้อหากับหลักสตู ร
แกนกลางการศึกษา ขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ จงึ ทาไดโ้ ดยนาเน้อื หาในแบบเรียนเลม่ นี้ มา
๑๔
วเิ คราะหห์ าความสอดคล้องกบั ตัวชวี้ ดั ในกลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย โดยตวั ชว้ี ัด ช้นั ประถมศกึ ษา
๑-๓ เปน็ ตวั ช้วี ัดชว่ งช้นั ซ่งึ หนงั สือเรียนเลม่ นี้ตรงตามตวั ชว้ี ัดในกลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ๔
สาระ (จากทง้ั หมด ๕ สาระ ไดแ้ ก่ สาระที่ ๑ การอา่ น สาระที่ ๒ การเขียน สาระท่ี ๓
บทที่ ๓
วเิ คราะหค์ วามสอดคล้องของเน้อื หากับหลักสูตร (ตัวชีว้ ัด)
๓. วเิ คราะห์ความสอดคลอ้ งของเนอื้ หากบั หลกั สตู ร (ตัวชวี้ ดั )
๓.๑ สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ภาษาไทย
สาระท่ี ๑ การอา่ น
ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรู้และความคิด เพ่อื นาไปใช้ตดั สนิ ใจ
แก้ปัญหาในการดาเนินชวี ติ และมีนิสยั รักการอ่าน
สาระท่ี ๒ การเขียน
ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียน เขียนสื่อสาร เขยี นเรยี งความ ยอ่ ความ และ
เขยี นเรือ่ งราวในรปู แบบต่างๆ เขยี นรายงานข้อมลู สารสนเทศและ
รายงานการศึกษาค้นควา้ อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
สาระที่ ๓ การฟงั การดู และการพดู
ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟงั และดูอยา่ งมวี จิ ารณญาณ และพดู แสดงความรู้
ความคิด ความรูส้ กึ ในโอกาสต่างๆ อยา่ งมีวิจารณญาณ และสรา้ งสรรค์
สาระที่ ๔ หลกั การใช้ภาษาไทย
ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของ
ภาษาและพลังของภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทย
ไว้เป็นสมบัติของชาติ
สาระท่ี ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม
ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดี และวรรณกรรมไทย
อย่างเหน็ คุณคา่ และนามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตจรงิ
๓.๓ สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
๑) ความสามารถในการส่อื สาร หมายถงึ ใชภ้ าษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ ความเขา้ ใจ ความร้สู ึก
และทัศนะของตนเอง เพื่อเปลี่ยนขอ้ มลู ขา่ วสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพฒั นาุ
ตนเองและสงั คมรวมทง้ั การเจรจาตอ่ รองเพื่อขจดั และลดปญั หาความขัดแย้งตา่ งๆการเลือกรบั หรือไม่
รับขอ้ มลู ข่าวสารด้วยหลักเหตผุ ลและความถูกตอ้ งตลอดจนการเลือกใช้วิธีการสอ่ื สารท่มี ปี ระสทิ ธภิ าพ
โดยคานึงถงึ ผลกระทบท่มี ตี อ่ ตนเองและสงั คม
๑๖
๒) ความสามารถในการคิด หมายถงึ รู้จักคิดวิเคราะห์ คิดสงั เคราะห์ คดิ อยา่ งสร้างสรรค์ คิดอยา่ งมี
วิจารณญาณและคดิ เป็นระบบเพอื่ นาไปสกู่ ารสรา้ งองคค์ วามรูห้ รือสารสนเทศเพือ่ การตัดสินใจ
เกีย่ วกบั ตนเองและสงั คมไดอ้ ย่างเหมาะสม
๓) ความสามารถในการแกป้ ัญหา หมายถึง เขา้ ใจความสมั พนั ธ์และการเปลย่ี นแปลงของเหตุการณ์
ตา่ งๆในสงั คมแสวงหาความรปู้ ระยกุ ต์ความรมู้ าใชใ้ นการป้องกนั และแก้ไขปัญหาได้อย่างถกู ตอ้ ง
เหมาะสมบนพนื้ ฐานของหลักเหตผุ ลคณุ ธรรมและข้อมูลสารสนเทศรวมทง้ั ตัดสนิ ใจท่มี ปี ระสิทธภิ าพ
โดยคานงึ ถึงผลกระทบท่เี กิดข้ึนต่อตนเองสงั คมและสงิ่ แวดลอ้ ม
๔)ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ หมายถงึ ใชก้ ระบวนการตา่ ง ๆ ในการดาเนนิ ชีวติ ประจาวัน
เรยี นรดู้ ว้ ยตนเองต่อเนอ่ื งทางานและอยู่ร่วมกันในสงั คมดว้ ยการสรา้ งเสรมิ ความสัมพนั ธอ์ ันดรี ะหวา่ ง
บคุ คล จัดการปญั หาและความขัดแยง้ ต่าง ๆอยา่ งเหมาะสมรู้จักปรบั ตัวให้ทันกบั การเปลยี่ นแปลงของ
สังคมสภาพแวดล้อม และหลกี เล่ยี งพฤตกิ รรมไมพ่ งึ ประสงคท์ ี่ส่งผลกระทบตอ่ ตนเองและผ้อู นื่
๕) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี หมายถงึ รจู้ กั เลอื กและใชเ้ ทคโนโลยดี ้านตา่ งๆทางเทคโนโลยี
เพอื่ การพฒั นาตนเองและสงั คมในด้านการเรียนรู้การสอ่ื สารการทางานการแก้ แก้ปัญหาอย่าง
สรา้ งสรรค์ ถกู ต้องเหมาะสมและมีคณุ ธรรม
วิเคราะหค์ วามสอดคล้องของเนอ้ื หาของหนงั สือเรียนรายวิชาภาษาไทยชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี๓
"ภาษาพาที" ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ตัวชีว้ ัด)
วเิ คราะห์ตามประเด็นดงั นี้
๑. เน้อื หา กับ สาระการเรียนรู้ และตัวชีว้ ัด
๒. กิจกรรมการเรยี นรู้ กบั สาระการเรียนรู้ และตวั ชว้ี ดั
๓. กิจกรรมการเรียนรู้ กับ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น
๑๗
บทท่ี สาระการเรยี นรู้ ตัวชว้ี ัด สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
บทที่๑ เน้ือหา ท ๑.๑
ป.๓/๑ -ความสามารถในการสอ่ื สาร
เนอ้ื หา ป.๓/๒ -ความสามารถในการคดิ
ปฏิบัติการสายลบั จวิ๋ ป.๓/๖ -ความสามารถในการแก้ปญั หา
อ่านเสริมมดดามดแดงหลักและการใช้
ภาษาทบทวนพยญั ชนะสระและ
วรรณยกุ ต์พยัญชนะ
การใชถ้ ้อยคาสภุ าพ
กิจกรรมการเรยี นรู้ ท ๑.๑ ป.๓/๑ -ความสามารถในการส่อื สาร
ป.๓/๗ -ความสามารถในการคดิ
๑.อ่านเพิม่ เติมความหมาย
๑.๑ อ่านประโยค -ความสามารถในการใชท้ ักษะ
๒.อธบิ ายเพ่ิมเติมความรู้ ชีวิต
๑.๒ ทบทวนพยญั ชนะ สระ และ -ความสามารถในการแก้ปญั หา
วรรณยกุ ต์
๒.อ่านเสรมิ มดดามดแดง
๓.ชวนกันคิดชว่ ยกนั ตอบ
-ช่วยกนั ทา
-ชว่ ยกันหา
-ช่วยกันเล่นชว่ ยกันแสดง
บทที่ สาระการเรยี นรู้ ตัวช้ีวัด สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
บทที่ ๒ เนื้อหา
ท.๑.๑ ป.๓/๑ -ความสามารถในการส่ือสาร
เนื้อหา ป.๓/๒ -ความสามารถในการคิด
แต่เดก็ ซอื่ ไว้ ป.๓/๖ -ความสามารถในการใช้ทักษะ
อา่ นเสริม เทพารกั ษก์ ับคนตัดไม้ ชวี ิต
หลักและการใช้ภาษาทบทวนตัวสะกด -ความสามารถในการแกป้ ัญหา
สระเปลี่ยนรูป
๑๘
กจิ กรรมการเรยี นรู้ ท.๑ ป.๓/๑ -ความสามารถในการสือ่ สาร
ป.๓/๒ -ความสามารถในการคิด
๑.อา่ นเพม่ิ เติมความหมาย ป.๓/๖ -ความสามารถในการใชท้ ักษะ
๑.๑ อา่ นประโยคเนื้อหา ชวี ติ
๒.อธบิ ายเพมิ่ เตมิ ความรู้ ป.๓/๑ -ความสามารถในการแกป้ ัญหา
๑.๒ทบทวนตวั สะกดอ่านคาและสงั เกต ป.๓/๒
สระบางรปู เมอ่ื ไม่มตี ัวสะกดและมี ป.๓/๖ -ความสามารถในการสอื่ สาร
ตวั สะกด -ความสามารถในการคดิ
-ช่วยกันคดิ ช่วยกนั ตอบ -ความสามารถในการใช้ทักษะ
-ชว่ ยกนั ทา ชีวิต
-ชว่ ยกนั แตง่ -ความสามารถในการแก้ปญั หา
บทที่ ๓ เนือ้ หา ท.๒.๑
เนือ้ หา
ปา่ น้มี ีคณุ
อ่านเสริม : ป่าชายเลน
หลกั และการใชภ้ าษา : มาตราตัวสะกด
ความหมายของคา
กิจกรรมการเรยี นรู้
๑๙
๑.อ่านเสรมิ ท.๑.๑ ป.๓/๑ -ความสามารถในการสื่อสาร
๑.๑ ประโยชน์ของป่าชายเลน ท.๒.๑ ป.๓/๒ -ความสามารถในการคดิ
๒.อ่านเพม่ิ เตมิ ความหมาย ป.๓/๔ -ความสามารถในการใช้ทกั ษะ
๑.๒ อา่ นประโยค ป.๓/๕ ชีวติ
๓.อธบิ ายเพม่ิ เติมความรู้ -ความสามารถในการแก้ปญั หา
๑.๓มาตราตวั สะกดอ่านและสงั เกตคา
กลมุ่ คา
-ชว่ ยกันคิด ชว่ ยกันทา
-ชว่ ยกันหา
-ช่วยกันร้องเล่น
บทที่ ๔ เน้ือหา
เนื้อหา ท.๑.๑ ป.๓/๑ -ความสามารถในการใช้ทักษะ
ป.๓/๒ ชวี ิต
อาหารดี ซวี มี ีสุข ท.๒.๑ ป.๓/๖ -ความสามารถในการแก้ปญั หา
อ่านเสริม : อาหารเพอื่ สขุ ภาพหลักและ
การใช้ภาษา : การผันวรรณยุกต์
คาทป่ี ระวสิ รรชนยี ์และไมป่ ระวิสรรชนีย์
กจิ กรรมเพือ่ การเรียนรู้
๑.อ่านเสรมิ อาหารเพื่อสุขภาพ ท.๑.๑ ป.๓/๑ -ความสามารถในการสอ่ื สาร
๒.อ่านเพ่ิมเตมิ ความหมาย ท.๒.๑ ป.๓/๒ -ความสามารถในการคดิ
-อ่านประโยค ป.๓/๖ -ความสามารถในการใช้ทกั ษะ
ชวี ติ
๓.อธบิ ายเพม่ิ เติมความรู้ -ความสามารถในการแกป้ ญั หา
-การผนั วรรณยุกต์
๔.กจิ กรรม
-ชว่ ยกันคดิ ช่วยกันตอบ
-ชวนกันเล่น
-ช่วยกนั หาทามาฝึกฝน
-ช่วยกนั แต่ง
-ชว่ นกันอ่านช่วยกันเขียน
๒๐
บทที่ ๕ เน้ือหา ท.๔.๑ ป.๓/๓ -ความสามารถในการใชท้ ักษะ
ป.๓/๔ ชีวิต
เนอื้ หา ท.๔.๑ ป.๓/๗ -ความสามารถในการแก้ปญั หา
ทาดี...อย่าหวัน่ ไหว ท.๓.๑
อ่านเสริม : ไตรต่ รองก่อนเชื่อ ป.๓/๔ ความสามารถในการสื่อสาร
หลักและการใช้ภาษา : คาคล้องจอง ป.๓/๕ -ความสามารถในการคิด
กลอนส่ี ป.๓/๖ -ความสามารถในการใช้ทักษะ
กิจกรรมเพอ่ื การเรียนรู้ ชีวติ
-ความสามารถในการแกป้ ญั หา
๑.อ่านเสริม
๑.๑ ไตรต่ รองก่อนเช่ือ
๒.อ่านเพ่มิ เตมิ ความหมาย
๑.๒ อา่ นประโยค
๓.อธิบายเพ่มิ เติมความรู้
๑.๓ คาคล้องจองอ่านและสงั เกต
คาคลอ้ งจอง
กิจกรรม
-ช่วยกนั คดิ ช่วยกนั ทา
-ช่วยกันหาคาคล้องจอง
-ช่วยกันร้องเลน่
-ชวนกันเล่านิทาน
-ชวนกันเขยี น
-ชวนกันตอบและสรปุ เนื้อหาของนิทาน
บทที่ ๖ เน้ือหา
เนื้อหา
ท.๑.๑ ป.๓/๑ -ความสามารถในการสื่อสาร
ป.๓/๒ -ความสามารถในการคิด
พลงั งานคือชีวิต ท.๓.๑ ป.๓/๓ -ความสามารถในการใชท้ ักษะ
ชวี ิต
อา่ นเสรมิ :ใช้โทรทศั น์ ให้ประหยัดค่าไฟฟา้ ท ๔๑ -ความสามารถในการแก้ปัญหา
หลักและการใช้ภาษา : การอา่ นคาท่ีเป็น
อกั ษรควบกล้า
๒๑
การอ่านคาทเี่ ปน็ อกั ษรนา ท.๑.๑ ป.๓/๒ ความสามารถในการส่ือสาร
การอ่านคาแบบเรียงพยางค์
การอ่านคาเลียนแบบอักษรนา ท.๓.๑ ป.๓/๓ -ความสามารถในการคิด
คาขวัญ
-ความสามารถในการใชท้ กั ษะ
กจิ กรรมเพอื่ การเรียนรู้
ชวี ิต
๑.อ่านเสรมิ
๑.๑ ใชโ้ ทรทัศน์ให้ประหยัดไฟฟ้า ท ๑.๑ ป.๓/๑ ความสามารถในการส่ือสาร
๒.อ่านเพ่มิ เติมความหมาย
๑.๒ อ่านประโยค ป.๓/๒ -ความสามารถในการคิด
๓.อธิบายเพิม่ เตมิ ความรู้
๑.๓ อา่ นคาอกั ษรควบกล้า ป.๓/๔ -ความสามารถในการใช้ทักษะ
กิจกรรม ชวี ติ
-ชว่ ยกนั คดิ ชว่ ยกนั ทา
-ช่วยกนั สารวจ ท ๑.๑ ป.๓/๑ ความสามารถในการสื่อสาร
-ชว่ ยกนั เขียน ท.๓.๑ ป.๓/๒ -ความสามารถในการคิด
-ชวนกันหา ท ๔๑ ป.๓/๔ -ความสามารถในการใชท้ ักษะ
บทท่ี๗ เนื้อหา ชวี ติ
ความฝันเปน็ จริงได้ -ความสามารถในการแก้ปญั หา
อา่ นเสรมิ : มนุษย์กบั การบิน
หลกั และการใชภ้ าษา :
คาที่มี ฤ ฤๅ คาที่ใช้ บนั บรร
คาทใี่ ช้ รร (ร หัน)
กจิ กรรมการเรียนรู้
๑.อ่านเสรมิ
๑.๑ ใช้โทรทศั นใ์ หป้ ระหยดั ไฟฟ้า
๒.อ่านเพ่มิ เติมความหมาย
๑.๒ อ่านประโยค
๓.อธบิ ายเพิ่มเตมิ ความรู้
๑.๓ อ่านคาอักษรควบกลา้
๒๒
กจิ กรรม
-ช่วยกนั คดิ ชว่ ยกันทา
-ชว่ ยกนั สารวจ
-ช่วยกันเขียน
-ชวนกันหา
บทที่ ๘ เนื้อหา
ภูมใิ จภาษาไทยของเรา ท.๒.๑ ป.๓/๑ -ความสามารถในการสอ่ื สาร
ป.๓/๒
อา่ นเสรมิ : ในโลกนีม้ ีอะไรเปน็ ไทยแทห้ ลัก ท ๓.๑
และการใชภ้ าษา : คาพ้องคาที่มีตัวอักษร ท ๔.๑
ไมอ่ อกเสียงภาษาไทยถ่นิ
กจิ กรรมการเรยี นรู้
๑.อ่านเสริม ท.๒.๑ ป.๓/๑ -ความสามารถในการสอ่ื สาร
๑.๑ ใชโ้ ทรทัศนใ์ หป้ ระหยดั ไฟฟา้ ป.๓/๒ -ความสามารถในการคดิ
๒.อ่านเพ่มิ เติมความหมาย ป.๓/๕ -ความสามารถในการใช้ทกั ษะ
๑.๒ อา่ นประโยค ชวี ติ
๓.อธบิ ายเพมิ่ เติมความรู้
๑.๓ อา่ นคาอกั ษรควบกล้า
กจิ กรรม
-ช่วยกันคดิ ช่วยกนั ทา
-ชว่ ยกนั สารวจ
-ชว่ ยกันเขยี น
-ชวนกันหา
บทท่ี ๑๐ เนือ้ หา ท.๑.๑ ป.๓/๑ -ความสามารถในการสอ่ื สาร
ท ๒.๑ ป.๓/๒ -ความสามารถในการคดิ
นอกเมอื ง...ในกรุง ท ๓.๑ -ความสามารถในการใช้ทกั ษะ
อ่านเสรมิ : ความสุขอยู่ที่ไหน ชีวติ
หลักและการใชภ้ าษา : คานาม
การพดู และเขียนบรรยาย
๒๓
กจิ กรรมการเรียนรู้ ท.๑.๑ ป.๓/๑ -ความสามารถในการสอ่ื สาร
ท ๓.๑ ป.๓/๖ -ความสามารถในการคิด
อ่านเสรมิ ท.๔๑ -ความสามารถในการใช้ทักษะ
ความสุขอยทู่ ไ่ี หน ชีวิต
อ่านเพ่ิมเติมความรู้ ท.๑.๑
-อา่ นประโยค ท ๓.๑ ป.๓/๑ ความสามารถในการสื่อสาร
อธิบายเพิม่ เตมิ ความรู้ ท.๔๑ ป.๓/๖ -ความสามารถในการคดิ
-การพูดการเขยี นคาบรรยาย -ความสามารถในการใชท้ ักษะ
กิจกรรมการเรียนรู้ ชวี ิต
บทที่ ๑๑ เน้ือหา
สง่ ข่าว...เล่าเรือ่ ง
อ่านเสรมิ : กิริยาวาจาดี
หลักและการใช้ภาษา : คาสรรพนาม
การเขียนจดหมายลาป่วย ลากจิ
กจิ กรรมการเรียนรู้
อ่านเสริม ท.๑.๑ ป.๓/๑ ความสามารถในการส่ือสาร
อา่ นเพิ่มเติมความหมาย ท ๒.๑ ป.๓/๖ -ความสามารถในการคิด
อา่ นประโยค ท ๔๑ -ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิ
คาสรรพนาม
การเขยี นจดหมายลาป่วย ลากจิ
ชวนกันเล่น ชวนกันอ่าน
ชวนกนั คดิ
ช่วยกันตอบ
บทที่ ๑๒ เน้ือหา
ประชาธปิ ไตยใบเลก็ ท ๑.๑ ป.๓/๑ ความสามารถในการส่ือสาร
ป.๓/๖ -ความสามารถในการคดิ
อา่ นเสริม : ประชาธิปไตย...อะไรหนอหลัก ท ๔.๑ ป.๓/๗ -ความสามารถในการใช้ทกั ษะ
ชวี ิต
และการใชภ้ าษา : คากริยา -ความสามารถในการแกป้ ัญหา
คาที่ใช้ และ "ม คาที่ใช้ ใ ไ ไย และ _ย
๒๔
กจิ กรรมเพอื่ การเรียนรู้ ท.๑.๑ ป.๓/๑ ความสามารถในการสื่อสาร
ท.๔.๑ ป.๓/๖ -ความสามารถในการคดิ
อ่านเสริม ประชาธปิ ไตยอะไรหนอ ป.๓/๗ -ความสามารถในการใช้ทักษะ
อา่ นเพิ่มเติมความหมาย ท ๔๑ ชีวิต
อธบิ ายเพม่ิ เตมิ ความรู้ ท ๓.๑
กิจกรรมชวนกันคิดชวนกันเลน่ ท ๒.๑ ป.๓/๑ -ความสามารถในการส่ือสาร
ชวนกนั แสดงความคิดเหน็ ป.๓/๒ -ความสามารถในการคิด
บทที่ ๑๓ เนอื้ หา ท ๑.๑ -ความสามารถในการใชท้ กั ษะ
ท.๓.๑ ชีวติ
ของดีในตาบล ท ๔๑ -ความสามารถในการแก้ปญั หา
อา่ นเสริม : เมอื งไทยใหญ่อดุ ม
หลกั และการใช้ภาษา : คาวิเศษณ์ ป.๓/๑ ความสามารถในการสื่อสาร
การตงั้ คาถามและตอบคาถาม ป.๓/๒ -ความสามารถในการคดิ
การอวยพร ป.๓/๕ -ความสามารถในการใช้ทกั ษะ
การอ่านข้อมูลจากแผนที่ ชีวติ
-ความสามารถในการแก้ปัญหา
กิจกรรมการเรยี นรู้
อา่ นเพิ่มเติมความหมาย
เมอื งไทยใหญ่อุดม
อา่ นเพิ่มเตมิ ความหมาย
อธิบายเพมิ่ เติมความรู้
กิจกรรมช่วนกันคดิ ชวนกนั อา่ น
บทที่ ๑๔ เนอื้ หา
ธรรมชาติเจา้ เอย ท ๑.๑ ป.๓/๑ ความสามารถในการส่ือสาร
ป.๓/๒ -ความสามารถในการคิด
อ่านเสรมิ : โลกแสนสวย ชีวิตแสนสขุ ท ๒.๑ ป.๓/๗ -ความสามารถในการใชท้ กั ษะ
ชวี ิต
หลกั และการใช้ภาษา : ประโยคเพือ่ การ ท ๓.๑ -ความสามารถในการแก้ปญั หา
ส่ือสาร การเขยี นแสดงความรสู้ ึกนึกคิด
กิจกรรมการเรยี นรู้ ท ๑.๑ ป.๓/๑ -ความสามารถในการคิด
อ่านเสรมิ
๒๕
โลกแสนสวย ชีวิตแสนสขุ ท ๔.๑ ป.๓/๒ -ความสามารถในการใชท้ กั ษะ
อ่านเพ่ิมเตมิ ความหมาย ป.๓/๕ ชวี ติ
อธิบายเพม่ิ เติมความรู้ ท.๑.๑
กจิ กรรม ชวนกนั คดิ ช่วยกนั ตอบ ท.๔๑ ป.๓/๑ ความสามารถในการส่ือสาร
ช่วยกันเขยี น ช่วยกันวาด ป.๓/๕ -ความสามารถในการคิด
บทที่ ๑๕ -ความสามารถในการใชท้ ักษะ
ชีวติ
เลน่ คาทาย -ความสามารถในการแก้ปญั หา
อา่ นเสริม : น้าขึ้นใหร้ ีบตกั
หลักและการใช้ภาษา : สานวน
การใชพ้ จนานุกรม
บนั ทกึ กิจกรรมการเรียนรู้ ท ๑.๑ ป.๓/๑ ความสามารถในการส่ือสาร
อ่านเสรมิ นา้ ขึ้นใหร้ ีบตกั ท.๓.๑ ป.๓/๒ -ความสามารถในการคดิ
อ่านเพิ่มเตมิ ความหมาย ท ๔๑ ป.๓/๕ -ความสามารถในการใช้ทกั ษะ
อธิบายเพ่ิมเตมิ ความรู้ ชีวิต
กจิ กรรม -ความสามารถในการแก้ปญั หา
ชวนกันคิดชวนกนั อ่าน
ชวนกนั เล่นชวนกันอา่ น
บทที่ ๑๖
บันทึกความหลัง ท.๑.๑ ป.๓/๑ -ความสามารถในการส่ือสาร
ป.๓/๒ -ความสามารถในการคดิ
อ่านเสรมิ : เทย่ี วกรุงเกา่ (กรงุ ศรีอยุธยา) ท ๓.๑ -ความสามารถในการใชท้ กั ษะ
ชวี ิต
หลักและการใช้ภาษา การใช้เคร่อื งหมาย ท.๔๑ -ความสามารถในการแกป้ ัญหา
ต่างๆ การบันทึกเหตกุ ารณป์ ระจาวัน
บันทกึ การเรียนรู้ ท ๑.๑ ป.๓/๑ -ความสามารถในการส่ือสาร
ท ๒.๑ ป.๓/๒ -ความสามารถในการคิด
อา่ นเสรมิ เท่ยี วกรุงเก่า กรุงศรอี ยุธยา -ความสามารถในการใช้ทกั ษะ
อา่ นเพิ่ม เตมิ ความหมาย
อธบิ ายเพ่ิม เตมิ ความรู้
๒๖
กิจกรรม ท ๓.๑ ป.๓/๕ ชีวติ
ชวนกนั คดิ ชวนกันอ่าน
ชวนกนั ทา ชวนกันเขียน
บทที่ ๔
วเิ คราะหค์ วามสอดคล้องกบั กิจกรรมและการประเมินผลของ Benjamin Bloom
ตารางวเิ คราะหค์ วามสอดคล้องระหวา่ งกิจกรรมชวนคิดพนิ จิ คณุ คา่ กับพฤติกรรมดา้ นพุทธิพิสยั
(Cognitive Domain)ตามทฤษฎกี ารเรยี นรขู้ อง Benjamin Bloom
มติ กิ ระบวนการทางปญั ญา (Cognitive ProcessDimension)
พฤติกรรมการเรยี นรูด้ า้ นพุทธพิ สิ ยั ตามแนวคดิ ของบลมู ท่ปี รบั ใหมไ่ ด้ปรบั คาศพั ทจ์ าก “คานาม” เปน็
“คากรยิ าเพือ่ อธิบายพฤตกิ รรมการเรียนร้ดู ้านพทุ ธิพสิ ัยไดช้ ัดเจนยิง่ ขึ้น และปรบั กระบวนการทาง
ปัญญา (Cognitive Process Dimension) โดยแบ่งระดบั พฤติกรรมการเรียนร้ดู า้ นพุทธพิ สิ ัยเปน็ 6
ขนั้ ดังน้ี
๑. จา (Remember) เปน็ ความสามารถการสาระตา่ ง ๆ ของผูเ้ รยี นที่ไดเ้ รยี นร้มู า พฤตกิ รรมการ
เรยี นรูใ้ นส่วนน้ีมงุ่ วดั ความสามารถในการจัดเก็บความรู้ (Retention)ในตัวผเู้ รยี น
๒. เข้าใจ (Understand) เปน็ ความสามารถของบุคคลในการนาเสนอความรู้ แนวคดิ ด้วยถอ้ ยคา
ภาษาเขียน ท่าทาง สัญลกั ษณ์ รปู ภาพหรอื วธิ กี ารอืน่ ๆ ใหบ้ คุ คลอ่ืนทราบ โดยเน้นให้สามารถสื่อ
ความหมายของสาระบทเรยี นทไี่ ดเ้ รียนร้มู าในรปู ของการแปลความการตคี วาม และการขยายความ
๓. ประยกุ ตใ์ ช้ (Apply) เปน็ ความสามารถในการนาความรทู้ ไี่ ด้เรียนไปใช้แกป้ ญั หาในสถานการณท์ ี่
ตอ้ งเผชญิ หรอื เกดิ ข้ึนในชวี ิตจริง ทง้ั นจี้ ะตอ้ งเป็นสถานการณใ์ หม่ท่ีต่างไปจากเดิม
๔. วเิ คราะห์ (Analyze) เป็นการพจิ ารณาแยกแยะเรอ่ื งราวหรือปรากฏการณ์ใด ๆ แลว้ สามารถรู้
เบอ้ื งหลงั ความเปน็ มาเป็นไปหรอื ส่วนประกอบทเ่ี ป็นรายละเอียดของส่งิ น้ัน การคดิ หาเหตผุ ลหรือ
คาตอบด้วยตนเองโดยใชข้ อ้ มลู พืน้ ฐานทต่ี นสามารถรับรูไ้ ด้ เชน่ การอธิบายว่าทาไมผึง้ ในรังหนึ่งจึงมี
ปริมาณลดลงในฤดรู อ้ นการใหเ้ หตผุ ลว่าทาไมพ้ืนท่จี ุดหน่ึงนา้ จึงทว่ มขงั ในขณะทอ่ี กี จุดหนึ่งซึง่ อยู่ใกล้
กนั ไมม่ นี า้ ท่วม เป็นตน้
๕. ประเมนิ (Evaluate) เป็นการสรุปตัดสินคุณค่าของกจิ กรรม การกระทา หรือปรากฏการณใ์ ด ๆ
ตามเกณฑแ์ ละมาตรฐานที่กาหนด
๖. สรา้ งสรรค์ (Create) เปน็ การคิด พัฒนาประดิษฐ์ สรา้ ง หรอื จดั กระทาสง่ิ ใหม่ ๆ ให้เกดิ ขึ้นจาก
ความคดิ ของผสู้ ร้างเอง โดยมิได้ลอกเลยี นงานของผอู้ นื่ ในลกั ษณะการลอกทง้ั ชิ้นงาน รวมทงั้ การนาส่ิง
ต่าง ๆท่มี ลี ักษณะเปน็ ส่วนยอ่ ยมาพัฒนารวมกันใหเ้ กิดข้ึนเปน็ ผลงานช้นิ ใหมท่ แ่ี ตกต่างไปจากเดมิ เชน่
ข้อเขียนหรอื บทความชนิ้ งาน ผลงานประดิษฐ์ โครงการภาพวาด ตาราหรอื ทฤษฎี ฯลฯ
กจิ กรรมการเรียนรู้ ความ ูร้ความจาพฤติกร
ตามทฤ
บทท่ี ๑ ปฎบิ ัติการสายลบั จว๋ิ
กิจกรรมเรียนรู้ √
๑.ชวนกนั คดิ ชวนกนั ตอบ
๒.ชวนกนั ทา
๓.ชวนกนั หา
๒๘
รรมดา้ นพทุ ธพิสัย(Cognitive Domain)
ฤษฎกี ารเรยี นรู้ของ Benjamin Bloom
ความเข้าใจ ผลการวเิ คราะห์
การนาไปใ ้ช
การ ิวเคราะ ์ห
การประเมิน ่คา
การสร้างสรร ์ค
√ ตอ้ งมีความรู้ความจาในเนือ้ หาที่
√ ศึกษาหาความรู้
ต้องมคี วามเข้าใจในเนอื้ หา
ตอ้ งมกี ารวิเคราะหส์ ว่ นของเนือ้ หา
ให้ถกู ตอ้ ง
กิจกรรมการเรียนรู้ ความ ูร้ความจาพฤติกรรม
ตามทฤษฎ
บทท่ี ๒ แต่เดก็ ซอ่ื ไว้
กิจกรรมเรียนรู้ √
๑.ชวนกนั คดิ ชวนกันตอบ √
๒.ชวนกนั ทา √
๓.ชวนกันแตง่
๒๙
มดา้ นพทุ ธพสิ ยั (Cognitive Domain)
ฎกี ารเรยี นรู้ของ Benjamin Bloom
ความเข้าใจ ผลการวเิ คราะห์
การนาไปใ ้ช
การ ิวเคราะ ์ห
การประเมิน ่คา
การสร้างสรร ์ค
ตอ้ งมคี วามร้คู วามจาในเนอื้ หาท่ี
ศกึ ษาหาความรู้
√ ต้องมีความเข้าใจในเนื้อหา
ต้องมีความรูค้ วามจาในการแตง่
ประโยคทีถ่ ูกต้อง
กิจกรรมการเรยี นรู้ ความ ูร้ความจาพฤตกิ
ตามท
บทท่ี ๓ ปา่ นีม้ ีคุณ
กิจกรรมเรยี นรู้ √
๑.ชวนกันคิดชวนกนั ทา
๒.ชวนกันหา
๓.ชวนกันเลน่
๓๐
กรรมด้านพทุ ธพสิ ยั (Cognitive Domain)
ทฤษฎกี ารเรยี นรู้ของ Benjamin Bloom
ความเข้าใจ ผลการวเิ คราะห์
การนาไปใ ้ช
การ ิวเคราะ ์ห
การประเมิน ่คา
การสร้างสรร ์ค
√ ตอ้ งมกี ารวเิ คราะห์การใช้คาท่ี
ถูกตอ้ ง
ตอ้ งมีความร้คู วามจาในบทร้อย
กรองทีถ่ ูกตอ้ ง
√ ต้องมคี วามเขา้ ใจในประเภทของ
เสียงร้องของสตั ว์
กิจกรรมการเรยี นรู้ ความ ูร้ความจาพฤตกิ รรม
ตามทฤษฎ
บทท่ี ๔ อาหารดี ชวี มี สี ุข
กจิ กรรมเรยี นรู้ √
๑.ชวนกันคิดชวนกันตอบ
๒.ชวนกนั เล่น
๓.ชวนกนั หาคามาฝึกผนั
๓๑
มด้านพทุ ธพสิ ัย(Cognitive Domain)
ฎกี ารเรยี นรู้ของ Benjamin Bloom
ความเข้าใจ ผลการวิเคราะห์
การนาไปใ ้ช
การ ิวเคราะ ์ห
การประเมิน ่คา
การสร้างสรร ์ค
√ ตอ้ งมกี ารวเิ คราะหเ์ นื้อหาที่ถูกตอ้ ง
√ ตอ้ งมกี ารวิเคราะหป์ ระเภทของคา
ท่ีถกู ต้อง
√ ตอ้ งมคี วามรู้ความจาในการผัน
วรรณยกุ ต์จงึ สามารถมาวเิ คราะห์
เสียงได้อยา่ งคลอ่ ง
กิจกรรมการเรยี นรู้ ความ ูร้ความจาพฤตกิ รรม
ตามทฤษฎ
บทที่ ๕ ทาด…ี อย่าหวัน่ ไหว
กจิ กรรมเรียนรู้ √
๑.ชวนกันคิดชวนกนั ตอบ
๒.ชวนกันหา
๓.ชวนกนั หาต่อคาคล้องจอง
๓๒
มดา้ นพุทธพิสยั (Cognitive Domain)
ฎกี ารเรยี นรู้ของ Benjamin Bloom
ความเข้าใจ ผลการวิเคราะห์
การนาไปใ ้ช
การ ิวเคราะ ์ห
การประเมิน ่คา
การสร้างสรร ์ค
√ ต้องมกี ารวเิ คราะห์เนอ้ื หาทถี่ กู ตอ้ ง
√ ต้องมกี ารวเิ คราะหป์ ระเภทของ
คาศพั ทแ์ ละความหมายทีถ่ ูกต้อง
ชวนกนั ต่อคาคลอ้ งจอง
√ ต้องมคี วามรูค้ วามจาในการใชค้ าจึง
สามารถวิเคราะหเ์ สยี งมาเปน็ คา
คล้องจองได้
กิจกรรมการเรียนรู้ ความ ูร้ความจาพฤตกิ รรม
ตามทฤษฎ
บทท่ี ๖ พลังงานคือชวี ิต
กิจกรรมเรยี นรู้ √
๑.ชวนกันคิดชวนกนั ทา √
๒.ชวนกันเขยี น
๓.ชวนกันสารวจ
๓๓
มด้านพทุ ธพิสยั (Cognitive Domain)
ฎกี ารเรยี นรู้ของ Benjamin Bloom
ความเข้าใจ ผลการวิเคราะห์
การนาไปใ ้ช
การ ิวเคราะ ์ห
การประเมิน ่คา
การสร้างสรร ์ค
√ ตอ้ งมกี ารวิเคราะหก์ ารเขยี นท่ีดี
√
ต้องมีความร้คู วามจาในเรื่อง
ประเภทของการเขียน
ต้องมีความรู้ความเขา้ ใจเร่อื งของคา
และพยัญชนะ
กจิ กรรมการเรยี นรู้ ความ ูร้ความจาพฤติกรรม
ตามทฤษฎ
บทที่ ๗ ความฝันเปน็ จรงิ ได้
กิจกรรมเรียนรู้ √
๑.ชวนกนั คดิ ชวนกันตอบ √
๒.ชวนกันคุย
๓.ชวนกันรวบรวม √
๓๔
มดา้ นพุทธพสิ ัย(Cognitive Domain)
ฎกี ารเรยี นรขู้ อง Benjamin Bloom
ความเข้าใจ ผลการวเิ คราะห์
การนาไปใ ้ช
การ ิวเคราะ ์ห
การประเมิน ่คา
การสร้างสรร ์ค
ต้องมคี วามรคู้ วามจาเก่ยี วกบั
ประเภทของดวงดาวทถ่ี ูกตอ้ ง
√ ตอ้ งมคี วามเข้าใจเก่ยี วกับเนอ้ื หาที่
ศกึ ษา ตวั อยา่ งเร่ือง ความฝนั
ต้องมคี วามรคู้ วามจาเกยี่ วกบั การใช้
คา บัน บรร และ รร ทีถ่ ูกต้อง
พฤติกรรม
ตามทฤษฎ
กิจกรรมการเรียนรู้ ความ ูร้ความจา
บทท่ี ๘ ภมู ิใจภาษาไทยขงเรา
กจิ กรรมเรยี นรู้
๑.ชวนกันคิดชวนกนั ตอบ
๒.ชวนกนั คน้ ควา้
๓.ชวนกันพดู ชวนกนั ฟงั
๓๕
มด้านพทุ ธพิสัย(Cognitive Domain)
ฎกี ารเรยี นรขู้ อง Benjamin Bloom
ความเข้าใจ ผลการวเิ คราะห์
การนาไปใ ้ช
การ ิวเคราะ ์ห
การประเมิน ่คา
การสร้างสรร ์ค
√ ตอ้ งมีการสรา้ งสรรค์ในการจดั
กจิ กรรม
√ ตอ้ งมีการวเิ คราะห์คาพอ้ งรูปและ
พอ้ งเสยี งจากหนังสือท่ถี ูกต้อง
√ ต้องมคี วามสรา้ งสรรค์ในการจดั
กจิ กรรม
กิจกรรมการเรยี นรู้ ความ ูร้ความจาพฤตกิ รรม
ตามทฤษฎ
บทท่ี ๙ คดิ ไปรไู้ ป
กิจกรรมเรียนรู้ √
๑.ชวนกันคดิ ชวนกนั ตอบ √
๒.ชวนกนั อา่ นชวนกนั ทา
๓.ชวนกนั คดิ คานวน
๓๖
มดา้ นพุทธพสิ ยั (Cognitive Domain)
ฎีการเรยี นร้ขู อง Benjamin Bloom
ความเข้าใจ ผลการวิเคราะห์
การนาไปใ ้ช
การ ิวเคราะ ์ห
การประเมิน ่คา
การสร้างสรร ์ค
√ ตอ้ งมคี วามร้คู วามจาในเรอื่ งการ
√ แข่งขันกีฬาโอลิมปิก
ตอ้ งมีความเข้าใจในเรอื่ งของ
ประเภทของคาทจี่ ะนามาเลน่ หรอื
ทากิจกรรม
ต้องมกี ารวเิ คราะหค์ านวนให้
ถกู ต้อง
กิจกรรมการเรียนรู้ ความ ูร้ความจาพฤตกิ รรม
ตามทฤษฎ
บทที่ ๑๐ นอกเมอื ง...ในกรงุ
กิจกรรมเรียนรู้ √
๑.ชวนกันดู ชวนกันสรปุ
๒.ชวนกนั ตอบ √
๓.ชวนกนั คิดหาคานามาแตง่ ประโยค