44
5. ตรวจแบบประเมินผลการเรยี นรู้ และแบบฝึกปฏบิ ตั ิ
6. การสังเกตและประเมนิ พฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ มและคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
เคร่ืองมือวดั ผล
1. แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล
2. แบบประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม (โดยครู)
3. แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม (โดยผู้เรียน)
4. แบบประเมนิ กจิ กรรมใบงาน
5. แบบประเมินผลการเรยี นรู้ และแบบฝกึ ปฏิบัติ
6. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยครูและผูเ้ รียน
ร่วมกนั ประเมิน
เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล ต้องไมม่ ีชอ่ งปรับปรงุ
2. เกณฑ์ผา่ นการประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50 % ข้นึ ไป)
3. เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่ คือ ปานกลาง (50% ขนึ้ ไป)
4. กจิ กรรมใบงาน เกณฑ์ผ่าน คือ 50%
5. แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ และแบบฝึกปฏบิ ัติมเี กณฑผ์ า่ น 50%
6 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยู่กับการ
ประเมนิ ตามสภาพจริง
กิจกรรมเสนอแนะ
1.แนะนาใหผ้ ู้เรียนศึกษาขอ้ มูลเก่ยี วกับวสิ าหกิจชมุ ชน
2.ผู้เรยี นศกึ ษาผลติ ภณั ฑ์ของวสิ าหกจิ ชมุ ชนในแต่ละภาค
45
บนั ทึกหลังการสอน
ขอ้ สรุปหลงั การสอน
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
................................................................................................................... ...............................
............................................................................................................................... ...................
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
....................................................................................... ...........................................................
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
................................................................................................................... ...............................
ปัญหาที่พบ
................................................................................................................... ...............................
............................................................................................................. .....................................
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .....................
................................................................................................................... ...............................
........................................................................................................ ..........................................
................................................................................................................... ...............................
แนวทางแกป้ ญั หา
................................................................................................................... ...............................
.............................................................................................. ............................................ ........
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
................................................................................................................... ...............................
46
แผนการจัดการเรยี นรูแ้ บบบูรณาการท่ี 7 หน่วยที่ 4
รหสั 2202-2109 การจดั การผลิตภณั ฑ์ทอ้ งถ่นิ (2-2-3) สอนครั้งที่ 7 (25-28)
ช่ือหน่วย/เร่ือง ประเภทผลติ ภณั ฑ์ท้องถนิ่
จานวน 4 ช.ม.
แนวคดิ
กรมการพฒั นาชมุ ชนแบ่งผลิตภณั ฑท์ ้องถน่ิ ออกเปน็ ประเภทต่างๆ เพอ่ื ใหง้ ่ายต่อการจัดหมวดหมู่ได้อย่าง
ชัดเจน และสะดวกในการดาเนินโครงการต่างๆ เชน่ โครงการคัดสรรสุดยอดหน่ึงตาบลหนง่ึ ผลิตภณั ฑ์ เปน็ ต้น
นอกจากด้านการจัดประเภทของผลิตภัณฑ์แล้ว กรมการพัฒนาชมุ ชนยังไดส้ ง่ เสรมิ ให้หมู่บา้ นกลายเป็นหม่บู ้าน
โอทอป เพอื่ ใหเ้ ปน็ สถานที่ทอ่ งเทีย่ ว โดยหวังใหช้ ุมชนมรี ายไดจ้ ากการขายสินคา้ หรือให้บริการนกั ท่องเทีย่ วดว้ ย
ผลการเรยี นรู้ท่ีคาดหวัง
1 แสดงความรเู้ กี่ยวกับประเภทของผลิตภณั ฑท์ ้องถิน่ ได้
2.มีการพัฒนาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ของผู้สาเรจ็ การศกึ ษา
สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ท่ีครสู ามารถสังเกตได้ขณะทาการสอนในเรื่อง
2.1 ความมมี นษุ ยสัมพันธ์
2.2 ความมีวินัย
2.3 ความรบั ผดิ ชอบ
2.4 ความซอื่ สัตยส์ จุ ริต
2.5 ความเชอื่ มั่นในตนเอง
2.6 การประหยัด
2.7 ความสนใจใฝ่รู้
2.8 การละเว้นส่ิงเสพตดิ และการพนัน
2.9 ความรกั สามัคคี
2.10 ความกตัญญูกตเวที
สมรรถนะรายวิชา
1. แสดงความรู้เกีย่ วกบั หลักการและกระบวนการจัดการผลิตภณั ฑท์ ้องถน่ิ
2. แสดงความรูเ้ กยี่ วกบั หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง หลักธรรมาภบิ าล กฎหมายและองค์การท่ี
เกี่ยวขอ้ ง
47
กับการจดั การผลติ ภณั ฑ์ท้องถิน่
3. วางแผนและจัดการผลติ ภณั ฑท์ ้องถ่นิ ตามหลักการและสถานการณ์ทางการตลาด
4. ประยุกต์ใชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและหลกั ธรรมาภิบาลในการจดั การผลิตภัณฑท์ อ้ งถ่นิ
5. ประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สารกบั การจดั การผลิตภณั ฑท์ ้องถ่ิน
สาระการเรียนรู้
1 ประเภทของผลติ ภัณฑ์ทอ้ งถนิ่
กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขัน้ นาเข้าสูบ่ ทเรียน
1.ครูใช้เทคนิคการสอนแบบซิปปาโมเดล (CIPPA MODEL) โดยการทบทวนความรู้เดิมจากสปั ดาหท์ ี่
ผา่ นมา โดยดึงความรูเ้ ดมิ ของผเู้ รยี นในเรือ่ งทจี่ ะเรียน เพ่ือชว่ ยให้ผูเ้ รียนมคี วามพร้อมในการเชอ่ื มโยงความรใู้ หม่
กับความรู้เดิมของตน ผู้สอนใชก้ ารสนทนาซกั ถามใหผ้ ูเ้ รียนเล่าประสบการณ์เดมิ
2.ผู้เรียนยกตวั อยา่ งผลติ ภณั ฑ์ทอ้ งถ่ินของกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เชน่ อาหาร
เคร่ืองดื่ม เส้อื ผา้ เป็นตน้
ขั้นสอน
3.ครแู ละผู้เรียนใช้เทคนิคการจัดการเรียนร้แู บบอภิปราย (Discussion Method) และการจัดการ
เรียนรแู้ บบสาธติ (Demonstration Method เก่ียวกับประเภทของผลิตภัณฑท์ ้องถ่นิ กรมการพฒั นาชมุ ชน
กระทรวงมหาดไทย จดั ประเภทของผลิตภณั ฑ์ท้องถิน่ ไว้ดงั นี้
3.1 ประเภทอาหาร
3.2 ประเภทเครื่องด่ืม
3.3 ประเภทผ้า เคร่อื งแตง่ กาย
3.4 ประเภทของใช้/ของตกแตง่ /ของท่ีระลึก
3.5 ประเภทสมุนไพรท่ีไมใ่ ช่อาหาร
4.ครแู ละผู้เรียนใชเ้ ทคนคิวิธีสอนแบบนเิ ทศ (Supervised Plan) เปน็ วิธีสอนท่คี รูให้คาแนะนาแก่
นกั เรยี นในการ
48
ปฏบิ ตั ิการเรยี นรูท้ ล่ี ะขนั้ ตอนทงั้ ท่เี ป็นรายบุคคลหรอื รายกลุม่ นักเรยี นมีโอกาสในการเรียนรู้ตามลาพัง โดยมีครู
คอยชว่ ยเหลอื การสอนแบบนเิ ทศเนน้ ยา้ ใหน้ ักเรยี นเข้าใจเทคนคิ วธิ ีการเรยี นให้เกิดผลดี โดยสามารถทาไดส้ อง
แบบ คอื
4.1.ผู้เรยี นเรยี นรเู้ ปน็ รายบุคคล
4.2.ผู้เรยี นเรียนรเู้ ป็นกล่มุ
โดยแบ่งกลมุ่ ผู้เรยี นออกตามประเภทของผลิตภัณฑ์ท้องถน่ิ ไวด้ งั นี้
กลมุ่ ท่ี 1 ประเภทอาหาร
กลมุ่ ที่ 2 ประเภทเคร่ืองดมื่
กลมุ่ ท่ี 3 ประเภทผา้ เครือ่ งแต่งกาย
กลมุ่ ที่ 4 ประเภทของใช้/ของตกแตง่ /ของที่ระลึก
กลุ่มท่ี 5 ประเภทสมนุ ไพรท่ีไม่ใชอ่ าหาร
5.ครเู น้นให้ผเู้ รยี น0จดั ประเภทของผลิตภัณฑท์ ้องถิ่น โดยใชค้ วามมเี หตุมีผล และความรอบคอบ
ระมัดระวงั ซ่ึงจะเปน็ ภูมิค้มุ กันทีดใี นตัวเองได้ ซง่ึ ความมเี หตุผล หมายถึง การตดั สนิ ใจเกี่ยวกับระดับของความ
พอเพยี งจะตอ้ งเป็นไปอยา่ งมีเหตผุ ล โดยพิจารณาจากเหตปุ ัจจัยทเี่ กยี่ วขอ้ งคานงึ ถงึ ผลทีค่ าดว่าจะเกดิ ขึน้ จาก
การกระทานัน้ ๆ อย่างรอบคอบ ส่วน การมีภมู ิคุ้มกันท่ดี ีในตวั หมายถงึ การเตรียมตวั ให้พร้อมรับผลกระทบ
และการเปลย่ี นแปลงดา้ นต่างๆ ท่ีจะเกิดขนึ้ โดยคานึงถงึ ความเปน็ ไปไดข้ องสถานการณ์ต่างๆทคี่ าดว่าจะเกิดขน้ึ
ในอนาคต
ขน้ั สรุปและการประยกุ ต์
6.ครแู ละผู้เรียนสรปุ เนื้อหาประเภทของผลติ ภัณฑท์ ้องถิ่น โดยใช้คาถามและตอบ
7.สรปุ สาระสาคัญเพ่ือให้เกิดการเรยี นรู้และนาไปปฏบิ ตั ไิ ด้ และประเมนิ ผูเ้ รยี นดังนี้
ชื่อผ้เู รียน ธรรมชาติของผ้เู รยี น วธิ ีการเรียนรู้
ความสนใจ สตปิ ญั ญา วุฒิภาวะ
1.
2.
3.
4.
5.
49
สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้
1.หนงั สอื เรียน วชิ าการจัดการผลิตภณั ฑท์ ้องถนิ่ ของสานักพิมพ์เอมพนั ธ์
2.รูปภาพผลติ ภณั ฑ์แตล่ ะประเภท
3.กจิ กรรมการเรยี นการสอน
4.แผ่นใส
5.ส่อื อเิ ล็กทรอนิกส,์ VDO, ส่ือ PowerPoint
6.แบบประเมินผลการเรียนรู้
หลกั ฐาน
1.บันทึกการสอน
2.ใบเช็ครายชอื่
3.แผนจดั การเรยี นรู้
4.การตรวจประเมินผลงาน
การวัดผลและการประเมินผล และคุณลกั ษณะอนั พึง
วิธีวัดผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. ประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกล่มุ
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม
4. ตรวจใบงาน
5. ตรวจแบบประเมินผลการเรยี นรู้ และแบบฝกึ ปฏิบตั ิ
6. การสงั เกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม
ประสงค์
เครื่องมอื วดั ผล
1. แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล
2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยครู)
3. แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม (โดยผู้เรยี น)
4. แบบประเมนิ กจิ กรรมใบงาน
5. แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ และแบบฝึกปฏิบตั ิ
50
6. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ โดยครแู ละผูเ้ รยี น
ร่วมกันประเมิน
เกณฑ์การประเมนิ ผล
1. เกณฑ์ผา่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ต้องไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ
2. เกณฑ์ผ่านการประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกล่มุ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)
3. เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม คือ ปานกลาง (50% ขึ้นไป)
4. กิจกรรมใบงาน เกณฑผ์ ่าน คือ 50%
5. แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ และแบบฝึกปฏบิ ัติมเี กณฑ์ผ่าน 50%
6 แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนขึน้ อยู่กับ
การประเมนิ ตามสภาพจรงิ
กิจกรรมเสนอแนะ
1.แนะนาใหผ้ ู้เรยี นทากจิ กรรมใบงาน และแบบฝึกปฏบิ ตั ิเพื่อฝกึ ทักษะใหเ้ กดิ ความชานาญ
2.อา่ นและทบทวนเนื้อหา
51
บนั ทึกหลังการสอน
ข้อสรุปหลังการสอน
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
................................................................................. .................................................................
............................................................................................................................. .....................
..................................................................................................................................................
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
.................................................................................................................. ................................
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
ปญั หาท่ีพบ
................................................................................................................... ...............................
.................................................................................................. ................................................
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
............................................................................................................................. .....................
................................................................................................................... ...............................
............................................................................................. .....................................................
................................................................................................................... ...............................
แนวทางแก้ปัญหา
..................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .....................
................................................................................................................... ...............................
............................................................................................................... ...................................
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
แผนการจัดการเรยี นรแู้ บบบรู ณาการที่ 8 52
รหัส 2202-2109 การจดั การผลติ ภัณฑ์ทอ้ งถ่นิ (2-2-3)
ชอ่ื หน่วย/เรื่อง ประเภทผลติ ภณั ฑ์ท้องถิน่ หนว่ ยท่ี 4
สอนคร้ังที่ 8 (29-32)
จานวน 4 ช.ม.
แนวคดิ
กรมการพฒั นาชมุ ชนแบง่ ผลิตภณั ฑท์ ้องถนิ่ ออกเปน็ ประเภทตา่ งๆ เพอื่ ให้ง่ายต่อการจัดหมวดหมไู่ ด้อยา่ ง
ชัดเจน และสะดวกในการดาเนินโครงการตา่ งๆ เช่น โครงการคดั สรรสุดยอดหนงึ่ ตาบลหนง่ึ ผลิตภัณฑ์ เป็นตน้
นอกจากดา้ นการจัดประเภทของผลติ ภณั ฑ์แลว้ กรมการพัฒนาชมุ ชนยังได้ส่งเสริมใหห้ มู่บ้านกลายเป็นหมบู่ ้าน
โอทอป เพ่ือใหเ้ ป็นสถานที่ทอ่ งเทีย่ ว โดยหวังให้ชมุ ชนมรี ายไดจ้ ากการขายสินค้าหรอื ให้บริการนกั ท่องเที่ยวด้วย
ผลการเรียนรทู้ ่ีคาดหวัง
2 แสดงความรูเ้ กี่ยวกับหมู่บ้านโอทอปได้
3.มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยมและคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ของผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา
สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ท่ีครูสามารถสังเกตได้ขณะทาการสอนในเร่ือง
3.1 ความมมี นษุ ยสัมพันธ์
3.2 ความมวี ินยั
3.3 ความรบั ผดิ ชอบ
3.4 ความซ่ือสตั ย์สจุ รติ
3.5 ความเช่อื มั่นในตนเอง
3.6 การประหยดั
3.7 ความสนใจใฝ่รู้
3.8 การละเว้นสง่ิ เสพติดและการพนัน
3.9 ความรักสามัคคี
3.10 ความกตัญญูกตเวที
สมรรถนะรายวิชา
1. แสดงความรเู้ กย่ี วกับหลักการและกระบวนการจดั การผลิตภัณฑ์ท้องถิน่
2. แสดงความร้เู กีย่ วกบั หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง หลักธรรมาภิบาล กฎหมายและองค์การท่ี
เกีย่ วข้อง
53
กับการจดั การผลติ ภณั ฑ์ท้องถิ่น
3. วางแผนและจดั การผลิตภณั ฑ์ท้องถนิ่ ตามหลกั การและสถานการณ์ทางการตลาด
4. ประยกุ ต์ใชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงและหลักธรรมาภิบาลในการจัดการผลิตภณั ฑ์ทอ้ งถนิ่
5. ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารกบั การจัดการผลิตภณั ฑท์ ้องถิ่น
สาระการเรียนรู้
2 หม่บู า้ นโอทอป
กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขัน้ นาเขา้ สู่บทเรียน
1.ครูใช้เทคนิคการสอนแบบซิปปาโมเดล (CIPPA MODEL) โดยการทบทวนความรู้เดิมจากสัปดาหท์ ี่
ผ่านมา โดยดงึ ความรู้เดิมของผูเ้ รยี นในเรอื่ งท่ีจะเรยี น เพ่ือช่วยใหผ้ เู้ รยี นมคี วามพร้อมในการเชอื่ มโยงความรใู้ หม่
กบั ความรู้เดิมของตน ผู้สอนใช้การสนทนาซกั ถามให้ผู้เรียนเลา่ ประสบการณ์เดมิ
2.ครูและผู้เรยี นยกตวั อยา่ งแสดงความคิดคดิ รว่ มกันเก่ียวกับหมู่บา้ น OTOP ของแต่ละทอ้ งถน่ิ
3.ครูกล่าวว่ากรมการพัฒนาชุมชนมีการดาเนินการโครงการหมู่บ้านโอทอป เพื่อให้ผู้บริโภคเข้า
ท่องเที่ยวพร้อมกับเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์ชุมชน ที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถ่ิน ศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิต แหล่ง
ท่องเที่ยวและบริการรวมท้ังกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อสร้างความเข้มแข็งของชุมชนอย่างย่ังยืน
กรมการพัฒนาชุมชนได้จัดให้มีการประกวดหมู่บ้าน OVC (OTOP Village Champion) และดาเนินการพัฒนา
ต่อยอดหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว สง่ เสริมหมู่บ้านท่ีเข้าร่วมโครงการพัฒนาใหส้ ามารถรับนักท่องเที่ยวที่
เขา้ มาเยี่ยมชม ใชจ้ ่ายในหมบู่ า้ น ไดร้ บั การตอ้ นรบั ท่อี บอุ่นและอยากกลับมาเท่ียวซ้าอีก
ข้นั สอน
4.ครแู ละผู้เรียนแสดงการสาธติ หมู่บ้านโอทอป การส่งเสรมิ ใหห้ มู่บา้ นกลายเปน็ หมบู่ า้ นโอทอป เพ่ือให้
เปน็ สถานท่ีท่องเท่ียว โดยการจดั ประกวดหมู่บา้ น OTOP Village Champion น้ัน ใช้ 4 P เปน็ เกณฑ์ในการ
พิจารณา ดังนี้
54
5.ครแู ละผเู้ รียนใชเ้ ทคนิคการเรยี นแบบ Integration การจัดการเรยี นรู้แบบบูรณาการ หมายถงึ การ
เรยี นรู้ท่เี ช่อื มโยงศาสตรห์ รือเนอ้ื หาสาขาวชิ าตา่ ง ๆ ท่ีมีความสัมพันธ์เก่ียวขอ้ งกนั มาผสมผสานเขา้ ดว้ ยกัน
เพ่อื ใหเ้ กิดความรทู้ ี่มีความหมาย มีความหลากหลายและสามารถนาไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้จรงิ ในชีวิตประจาวนั โดย
จัดทาหมบู่ า้ นเป็นรายบุคคลหรือรายกลุ่ม ทั้งน้ขี ้นึ อย่กู บั สภาพการเรยี นรู้ที่แท้จรงิ ของห้องเรียน
6.ผเู้ รยี นแสดงความคดิ เห็นว่า หากคนไทยนยิ มใช้ผลติ ภณั ฑ์ท้องถ่ิน จะก่อให้เกิดผลดีต่อประเทศ
อยา่ งไร จงแสดงความคดิ เหน็ พร้อมยกเหตุผลประกอบอยา่ งละเอียด
7.ผู้เรยี นบอกรายละเอียดของผลิตภณั ฑท์ ้องถน่ิ ของนักเรียน โดยกลา่ วถึงว่าผลติ ภณั ฑน์ น้ั คอื อะไร จัด
อยู่ในประเภทใด พร้อมบอกคุณสมบัติ คุณประโยชน์ แหล่งทจี่ ดั จาหนา่ ย และรายละเอียดอื่นๆทีส่ าคัญ
8.ผู้เรยี นพจิ ารณาศักยภาพท้องถิ่นของตนว่ามจี ดุ เด่นและจุดดอ้ ยอย่างไร และจะมโี อกาสพฒั นาเป็น
หมูบ่ า้ นโอทอปอย่างไร อธิบายอยา่ งละเอยี ด
9.ผเู้ รียนคน้ หาหมบู่ า้ นโอทอปที่นักเรียนสนใจมา 1 หม่บู ้าน แลว้ บันทกึ รายละเอียดของหมบู่ ้านพร้อม
กลา่ วถึงเหตผุ ลท่ีตนเองสนใจหมบู่ า้ นดังกล่าว เก่ียวกับหมู่บ้าน OTOP ทส่ี นใจ ข้อมูลของหมู่บ้าน OTOP และ
เหตุผลทีส่ นใจ
10.ครูเน้นการค้นหาหมู่บา้ น OTOP โดยใช้ความมเี หตุมีผล และความรอบคอบ ระมัดระวงั ซง่ึ จะเป็น
ภมู ิค้มุ กันทีดีในตัวเองได้ ซ่ึงความมีเหตุผล หมายถงึ การตัดสินใจเก่ียวกับระดบั ของความพอเพียงจะต้องเป็นไป
อย่างมีเหตุผล โดยพิจารณาจากเหตุปัจจยั ทเี่ กี่ยวขอ้ งคานงึ ถึงผลทคี่ าดวา่ จะเกดิ ขน้ึ จากการกระทาน้นั ๆ อย่าง
รอบคอบ สว่ นการมภี ูมคิ ุ้มกันที่ดใี นตัว หมายถึง การเตรียมตวั ใหพ้ รอ้ มรบั ผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้าน
ตา่ งๆ ทจ่ี ะเกดิ ขึ้นโดยคานึงถึงความเปน็ ไปได้ของสถานการณต์ ่างๆท่ีคาดวา่ จะเกดิ ขึ้นในอนาคต
ข้นั สรปุ และการประยกุ ต์
11.ครสู รปุ โดยถามคาถามหรือกาหนดปัญหาโดยให้ผู้เรยี นระดมสมองช่วยกนั คิดหาคาตอบแล้วอธิบาย
คาตอบเกี่ยวกับหม่บู ้าน OTOP
12.ครใู ช้วธิ ีสุ่มผู้เรียนทกุ กลุ่มตอบคาถามและอธบิ ายให้เพื่อนฟังทงั้ ช้ันเรียน
สื่อและแหล่งการเรยี นรู้
1.หนังสือเรียน วิชาการจดั การผลิตภัณฑ์ท้องถ่ิน ของสานกั พิมพ์เอมพันธ์
2.รูปภาพหมู่บา้ น OTOP แตล่ ะแห่ง
3.กิจกรรมการเรยี นการสอน
4.แผน่ ใส
55
5.ส่ืออิเล็กทรอนิกส,์ สือ่ PowerPoint
5.แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้
หลักฐาน
1.บันทกึ การสอน
2.ใบเชค็ รายชอ่ื
3.แผนจดั การเรยี นรู้
4.การตรวจประเมนิ ผลงาน
การวดั ผลและการประเมินผล
วธิ วี ดั ผล
1. สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล
2. ประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุม่
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่
4. ตรวจใบงาน
5. ตรวจแบบประเมินผลการเรียนรู้ และแบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ
6. การสงั เกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์
เคร่ืองมอื วัดผล
1. แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล
2. แบบประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลมุ่ (โดยครู)
3. แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม (โดยผู้เรยี น)
4. แบบประเมินกจิ กรรมใบงาน
5. แบบประเมินผลการเรยี นรู้ และแบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ
6. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ โดยครแู ละผู้เรยี น
รว่ มกันประเมนิ
เกณฑ์การประเมินผล
1. เกณฑผ์ า่ นการสังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล ต้องไม่มีชอ่ งปรับปรุง
2. เกณฑ์ผ่านการประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่ คือ ปานกลาง (50 % ขึ้นไป)
56
3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกล่มุ คือ ปานกลาง (50% ข้ึนไป)
4. กิจกรรมใบงาน เกณฑ์ผ่าน คือ 50%
5. แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ และแบบฝกึ ปฏบิ ัติ มเี กณฑ์ผา่ น 50%
6 แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนขึน้ อยู่กับ
การประเมนิ ตามสภาพจรงิ
กิจกรรมเสนอแนะ
1.ฝกึ ทกั ษะโดยทากิจกรรมใบงาน แบบฝึกปฏิบัติ เพื่อให้เกิดความชานาญ
2.อ่านทบทวนเน้ือหา
57
บนั ทึกหลังการสอน
ขอ้ สรปุ หลงั การสอน
................................................................................................................... ...............................
.................................................................................... ..............................................................
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
................................................................................................................... ...............................
ปญั หาที่พบ
..................................................................................................................................................
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................... .............................................
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .....................
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
แนวทางแกป้ ญั หา
................................................................................................................... ...............................
.............................................................................................. ............................................ ........
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
................................................................................................................... ...............................
แผนการจัดการเรียนรแู้ บบบรู ณาการท่ี 9 58
รหัส 2202-2109 การจัดการผลิตภณั ฑท์ ้องถน่ิ (2-2-3)
ช่ือหน่วย/เรื่อง การพฒั นาผลิตภณั ฑ์ทอ้ งถ่นิ หนว่ ยท่ี 5
สอนคร้ังท่ี 10 (33-36)
จานวน 4 ช.ม.
แนวคิด
การดาเนินการตามโครงการหนึ่งตาบลหนึ่งผลติ ภัณฑ์พบว่ายงั มปี ญั หาหลายประการ รวมถึงปญั หาการ
ขาดองค์ความรู้ด้านต่างๆ ทีจ่ าเปน็ ต่อการขยายการผลิตและการจาหนา่ ย เพอ่ื สร้างรายไดแ้ ละความเขม้ แขง็
ของชมุ ชน โครงการสง่ เสรมิ กระบวนการเครอื ข่า ยองคค์ วามรู้ (Knowledge-Based OTOP: KBO) จงึ มี
บทบาทสาคัญในการขบั เคลื่อนใหผ้ ู้ผลติ ผ้ปู ระกอบการโอทอป มีความสามารถในการดาเนินการมากข้นึ
นอกจากนก้ี รมการพัฒนาชุมชนยังมกี ารแบ่งกลุ่มผลติ ภณั ฑ์ เพ่ือให้งา่ ยต่อการพฒั นาอกี ดว้ ย
ผลการเรยี นรู้ที่คาดหวงั
1 แสดงความรู้เก่ียวกบั การสง่ เสรมิ กระบวนการเครือข่ายองค์ความร้ไู ด้
2 แสดงความรเู้ ก่ยี วกับการพัฒนาผลติ ภณั ฑต์ ามการจดั
3.มีการพัฒนาคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ของผูส้ าเรจ็ การศกึ ษา
สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ที่ครสู ามารถสังเกตได้ขณะทาการสอนในเร่ือง
3.1 ความมีมนุษยสัมพันธ์
3.2 ความมวี นิ ัย
3.3 ความรับผิดชอบ
3.4 ความซ่ือสัตยส์ จุ ริต
3.5 ความเชือ่ ม่นั ในตนเอง
3.6 การประหยัด
3.7 ความสนใจใฝร่ ู้
3.8 การละเว้นสิง่ เสพตดิ และการพนนั
3.9 ความรักสามคั คี
3.10 ความกตัญญกู ตเวที
59
สมรรถนะรายวิชา
1. แสดงความรู้เกยี่ วกบั หลักการและกระบวนการจัดการผลติ ภัณฑท์ ้องถิ่น
2. แสดงความรเู้ กี่ยวกบั หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง หลักธรรมาภิบาล กฎหมายและองค์การท่ี
เกย่ี วขอ้ ง
กับการจัดการผลติ ภัณฑท์ ้องถิ่น
3. วางแผนและจดั การผลิตภณั ฑท์ ้องถน่ิ ตามหลักการและสถานการณ์ทางการตลาด
4. ประยุกต์ใชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและหลักธรรมาภิบาลในการจัดการผลิตภัณฑท์ ้องถ่ิน
5. ประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารกับการจดั การผลติ ภัณฑ์ท้องถ่นิ
สาระการเรียนรู้
1 การสง่ เสรมิ กระบวนการเครอื ขา่ ยองค์ความรู้
2 การพัฒนาผลติ ภัณฑต์ ามการจัดกลมุ่ Quadrant (A B C D)
กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้ันนาเข้าสู่บทเรยี น
1.ครแู ละผูเ้ รยี นทบทวนเนอ้ื หาจากสปั ดาหท์ ่ีแล้วเรอ่ื งหมู่บ้าน OTOP แต่ละชมุ ชนในแต่ละภาค
2.ครูและผู้เรียนสนทนา เพื่อการพัฒนาผลติ ภัณฑ์ท้องถ่ินให้มีคณุ ภาพ มาตรฐาน เป็นที่ยอมรบั ในตลาด
ที่กว้าง
ขึน้ กรมการพฒั นาชุมชนจึงได้จดั ทาโครงการส่งเสริมกระบวนการเครอื ข่ายองคค์ วามรู้ (Knowledge-Based
OTOP : KBO) ขึ้น การดาเนินการตามโครงการมีการนาร่องใน 4 ภาค ภาคละ 1 จังหวดั ไดแ้ ก่ เชยี งใหม่
อุดรธานี ราชบรุ ี และสงขลา เพ่อื ศกึ ษาหารูปแบบการดาเนินงานของเครือขา่ ยองค์ความรู้ KBO จงั หวดั ในการ
พฒั นาขีดความสามารถแกผ่ ู้ผลติ ผู้ประกอบการ OTOP โดยโครงการนจี้ ะต้องดาเนินการใหท้ ัว่ ประเทศในปี
พ.ศ. 2550 ภายใตแ้ นวคดิ การเช่อื มโยงสถาบันการศึกษาในท้องถนิ่ กับชุมชน ด้วยการจัดตงั้ เครือขา่ ยเป็นศูนย์พี่
เลย้ี ง/ฝึกวชิ าชพี OTOP ออกแบบหลักสูตรใหส้ อดรับกบั ภมู ปิ ญั ญาในแตล่ ะท้องถน่ิ โดยต้องการสง่ เสริมให้
เครือข่ายองค์ความรู้ KBO จงั หวดั เปน็ ศนู ยก์ ลางในการให้ความชว่ ยเหลือและสนบั สนุนใหผ้ ้ผู ลิต ผู้ประกอบการ
OTOP พัฒนาขีดความสามารถในการประกอบการ และพัฒนาผลิตภณั ฑ์ OTOP ให้มคี ุณภาพ มาตรฐาน เปน็ ท่ี
ต้องการของตลาด สามารถจาหนา่ ยได้ทงั้ ในและต่างประเทศ โดยมเี ปา้ หมายให้ชมุ ชนสามารถพึ่งตนเองได้อยา่ ง
ยง่ั ยืน
60
ขน้ั สอน
3.ครแู ละผเู้ รยี นใช้เทคนิควธิ สี อนแบบ Integration การจัดการเรียนรแู้ บบบรู ณาการ หมายถึง การ
เรยี นรทู้ ่เี ช่อื มโยงศาสตร์หรือเน้อื หาสาขาวิชาต่าง ๆ ท่ีมีความสมั พันธเ์ กยี่ วข้องกนั มาผสมผสานเขา้ ดว้ ยกัน
เพือ่ ให้เกิดความร้ทู ่ีมีความหมาย มีความหลากหลายและสามารถนาไปใช้ประโยชน์ไดจ้ รงิ ในชวี ิตประจาวัน เรอ่ื ง
การสง่ เสรมิ กระบวนการเครือข่ายองคค์ วามรู้ จากผลการดาเนนิ งานตามโครงการต่างๆ เพื่อการจดั การ
ผลติ ภัณฑท์ อ้ งถ่ิน ทาใหก้ รมการพัฒนา
ชมุ ชนทราบรายละเอยี ด จานวน และศักยภาพของผผู้ ลิต ผูป้ ระกอบการ OTOP มากขนึ้ จงึ งา่ ยตอ่ การ
ดาเนินการสาหรบั การพัฒนาในลาดบั ขน้ั ต่อไป โดยครูแนะแนวทาง ข้นั ตอน และวธิ ีการดาเนนิ งานตามโครงการ
4.ครแู ละผเู้ รียนใชเ้ ทคนิควธิ สี อนแบบใช้คาถาม (Questioning Method) เพอื่ มุ่งพฒั นากระบวนการทาง
ความคดิ
ของผูเ้ รียน โดยผู้สอนจะป้อนคาถามในลกั ษณะต่าง ๆ ทีเ่ ป็นคาถามทีด่ ี สามารถพัฒนาความคิดผู้เรยี น ถาม
เพ่อื ให้ผเู้ รียนใชค้ วามคดิ เชงิ เหตผุ ล วิเคราะห์ วิจารณ์ สงั เคราะห์ หรือ การประเมนิ คา่ เพือ่ จะตอบคาถาม
เหลา่ น้ันในเรื่องรปู แบบการพัฒนาผลิตภณั ฑข์ องผู้ผลติ ผ้ปู ระกอบการ OTOP โดยเครือขา่ ยองคค์ วามรู้ KBO
จังหวดั และผลการดาเนนิ งาน
5 ครูและผ้เู รยี นใชเ้ ทคนคิ วิธสี อนแบบบโมเดลซปิ ปา ใชว้ ธิ กี ารและกระบวนการที่หลากหลาย อาจจดั เปน็
กิจกรรมการเรยี นการสอน ท่ีม่งุ เนน้ ใหน้ ักเรียนศกึ ษาคน้ ควา้ รวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง การมีสว่ นรว่ มในการ
สร้างคามรู้ การมปี ฏิสัมพนั ธก์ ับผ้อู ืน่ และการแลกเปลย่ี นความรู้ การไดเ้ คล่ือนไหวทางกาย การเรยี นรู้
กระบวนการต่าง ๆ และการนาความรู้ไปประยกุ ต์ใช้ในเรือ่ งการพฒั นาผลติ ภัณฑต์ ามการจัดกลมุ่ Quadrant (A
B C D)
6.ครแู นะนาให้ผู้เรยี นบันทึกบัญชีครวั เรือน เพ่ือให้เกิดการปฏบิ ตั ิพัฒนาความรู้ ความคดิ และปฏิบัติ
ถกู ต้อง กอ่ ใหเ้ กิดความเจรญิ ในด้านอาชพี หรือเศรษฐกจิ สงั คม และวัฒนธรรม ซึง่ การทาบัญชีครัวเรือนเปน็ เรอื่ ง
การบันทกึ รายรับรายจา่ ยประจาวนั /เดอื น/ปี ว่ามีรายรับรายจา่ ยจากอะไรบ้าง จานวนเท่าใด รายการใดจ่าย
นอ้ ยจา่ ยมาก จาเปน็ นอ้ ยจาเป็นมาก ก็อาจลดลงหรือเพิ่มข้ึนตามความจาเปน็ ถา้ ทุกคนคิดได้ก็แสดงวา่ เปน็ คน
รจู้ กั พัฒนาตนเอง มีเหตุมีผล รู้จักพอประมาณ รักตนเอง รักครอบครัว รักชมุ ชน และรักประเทศชาติมากขน้ึ จึง
เห็นได้วา่ การทาบัญชคี รัวเรอื น คือวิถแี หง่ การเรยี นรเู้ พ่ือพัฒนาชวี ิตตามปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง
61
ขน้ั สรุปและการประยุกต์
7.ครแู ละผู้เรียนสรุปโดยผเู้ รียนตอบคาถาม เกี่ยวกับการสง่ เสริมกระบวนการเครอื ขา่ ยองค์ความรู้ การ
พฒั นาผลติ ภัณฑ์ตามการจดั กลุม่ Quadrant (A B C D)
8.ผู้เรียนทาแบบประเมินผลการเรยี นรู้ ทาใบงาน
สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้
1.หนังสือเรยี น วชิ าการจัดการผลิตภัณฑ์ทอ้ งถ่ิน ของสานกั พมิ พ์เอมพันธ์
2.รูปภาพการพฒั นาผลติ ภัณฑท์ ้องถิ่น
3.กจิ กรรมการเรียนการสอน
4.แผ่นใส
5.สื่ออเิ ล็กทรอนิกส,์ สอื่ PowerPoint
5.แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
หลักฐาน
1.บนั ทึกการสอน
2.ใบเช็ครายช่ือ
3.แผนจัดการเรียนรู้
4.การตรวจประเมนิ ผลงาน
การวัดผลและการประเมินผล
วธิ วี ดั ผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. ประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกล่มุ
3. สังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม
4. ตรวจใบงาน
5. ตรวจแบบประเมินผลการเรยี นรู้ และแบบฝึกปฏิบตั ิ
6. การสังเกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พึง
ประสงค์
62
เครือ่ งมือวัดผล
1. แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล
2. แบบประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม (โดยครู)
3. แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม (โดยผู้เรียน)
4. แบบประเมินกจิ กรรมใบงาน
5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ และแบบฝึกปฏิบตั ิ
6. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ โดยครูและผเู้ รียน
ร่วมกนั ประเมิน
เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ต้องไมม่ ชี อ่ งปรับปรุง
2. เกณฑ์ผ่านการประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกล่มุ คือ ปานกลาง (50 % ข้นึ ไป)
3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ คือ ปานกลาง (50% ขึ้นไป)
4. กิจกรรมใบงาน เกณฑ์ผา่ น คือ 50%
5. แบบประเมินผลการเรยี นรู้ และแบบฝกึ ปฏบิ ตั ิมีเกณฑ์ผา่ น 50%
6 แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนข้ึนอยู่กับ
การประเมินตามสภาพจริง
กจิ กรรมเสนอแนะ และการพฒั นาผลิตภณั ฑต์ าม
1.แนะนาให้ฝกึ ทกั ษะในกิจกรรมใบงาน เพ่ือฝกึ ทกั ษะในการเรียนรู้
2.อ่านและทบทวนเนื้อหาารส่งเสรมิ กระบวนการเครือขา่ ยองคค์ วามรู้
การจัดกลมุ่ Quadrant (A B C D)
63
บนั ทึกหลังการสอน
ข้อสรปุ หลงั การสอน
...................................................................................................... ............................................
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .....................
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................. .................................................
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
ปญั หาที่พบ
................................................................................................................... ...............................
.................................................................................................. ................................................
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
............................................................................................................................. .....................
................................................................................................................... ...............................
............................................................................................. .....................................................
................................................................................................................... ...............................
แนวทางแกป้ ญั หา
..................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .....................
................................................................................................................... ...............................
............................................................................................................... ...................................
................................................................................................................... ...............................
แผนการจัดการเรยี นรู้แบบบูรณาการท่ี 10 64
รหสั 2202-2109 การจดั การผลิตภัณฑ์ทอ้ งถิ่น (2-2-3)
ชอื่ หน่วย/เร่อื ง ทบทวน/สอบกลางภาคเรียน หน่วยที่ -
สอนครั้งท่ี 10 (37-40)
จานวน 4 ช.ม.
แนวคดิ
-
ผลการเรียนรู้ท่คี าดหวงั
1.ผู้เรยี นเกดิ การเรยี นรู้ในเนื้อหาสาระ และนาความคดิ รวบยอดไปประยุกตใ์ ชต้ อ่ ไป
2.มีการพฒั นาคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ของผู้สาเร็จการศกึ ษา
สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา ท่ีครสู ามารถสังเกตได้ขณะทาการสอนในเรื่อง
2.1 ความมีมนุษยสัมพันธ์ 2.6 การประหยดั
2.2 ความมวี นิ ยั 2.7 ความสนใจใฝ่รู้
2.3 ความรบั ผดิ ชอบ 2.8 การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนนั
2.4 ความซ่อื สตั ยส์ ุจรติ 2.9 ความรักสามัคคี
2.5 ความเช่อื มน่ั ในตนเอง 2.10 ความกตัญญกู ตเวที
สมรรถนะรายวิชา
1. แสดงความรเู้ ก่ยี วกับหลักการและกระบวนการจดั การผลิตภัณฑ์ท้องถิน่
2. แสดงความรเู้ ก่ียวกับหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง หลักธรรมาภิบาล กฎหมายและองคก์ ารที่
เกยี่ วขอ้ ง
กับการจัดการผลิตภัณฑท์ ้องถน่ิ
3. วางแผนและจัดการผลิตภณั ฑ์ท้องถ่นิ ตามหลกั การและสถานการณ์ทางการตลาด
4. ประยุกตใ์ ชห้ ลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและหลักธรรมาภิบาลในการจัดการผลิตภณั ฑ์ท้องถ่นิ
5. ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารกบั การจดั การผลติ ภณั ฑ์ท้องถิน่
ผลการเรียนรทู้ ค่ี าดหวัง
ทบทวน/สอบกลางภาคเรยี น
65
บนั ทึกหลังการสอบ
ขอ้ สรุปหลงั การสอน
..................................................................................................................................................
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .....................
................................................................................................................... ...............................
........................................................................................................ ..........................................
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
ปญั หาท่ีพบ
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
........................................................................................ ..........................................................
............................................................................................................................. .....................
..................................................................................................................................................
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
แนวทางแก้ปัญหา
.......................................................................................................... ........................................
............................................................................................................................. .....................
..................................................................................................................................................
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
แผนการจดั การเรยี นรแู้ บบบูรณาการที่ 11 66
รหัส 2202-2109 การจัดการผลิตภัณฑท์ ้องถิ่น (2-2-3)
ชือ่ หน่วย/เรอ่ื ง การพัฒนาผลติ ภัณฑ์ทอ้ งถน่ิ หน่วยที่ 5
สอนคร้งั ที่ 11 (41-44)
จานวน 4 ช.ม.
แนวคดิ
การดาเนินการตามโครงการหนง่ึ ตาบลหนึง่ ผลติ ภัณฑพ์ บวา่ ยังมปี ญั หาหลายประการ รวมถงึ ปญั หาการ
ขาดองค์ความรู้ด้านตา่ งๆ ทจ่ี าเป็นต่อการขยายการผลติ และการจาหนา่ ย เพ่ือสร้างรายไดแ้ ละความเขม้ แขง็
ของชมุ ชน โครงการสง่ เสรมิ กระบวนการเครอื ข่า ยองคค์ วามรู้ (Knowledge-Based OTOP: KBO) จึงมี
บทบาทสาคญั ในการขบั เคล่ือนให้ผผู้ ลติ ผ้ปู ระกอบการโอทอป มีความสามารถในการดาเนนิ การมากขน้ึ
นอกจากนีก้ รมการพัฒนาชมุ ชนยงั มีการแบง่ กลมุ่ ผลติ ภณั ฑ์ เพื่อใหง้ ่ายต่อการพัฒนาอกี ด้วย
ผลการเรียนรทู้ ค่ี าดหวัง
3 แสดงความร้เู กีย่ วกบั การจัดกล่มุ OTOP Segmentation ได้
4.มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมคา่ นยิ ม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ของผสู้ าเร็จการศึกษา
สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ท่คี รสู ามารถสังเกตได้ขณะทาการสอนในเรื่อง
4.1 ความมมี นุษยสัมพนั ธ์
4.2 ความมีวนิ ัย
4.3 ความรับผดิ ชอบ
4.4 ความซื่อสัตยส์ ุจรติ
4.5 ความเช่ือมน่ั ในตนเอง
4.6 การประหยัด
4.7 ความสนใจใฝ่รู้
4.8 การละเว้นสงิ่ เสพติดและการพนนั
4.9 ความรกั สามัคคี
4.10 ความกตัญญูกตเวที
67
สมรรถนะรายวิชา
1. แสดงความรเู้ กย่ี วกับหลักการและกระบวนการจัดการผลติ ภณั ฑท์ ้องถ่ิน
2. แสดงความร้เู กยี่ วกับหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง หลกั ธรรมาภิบาล กฎหมายและองค์การที่
เกย่ี วขอ้ ง
กับการจัดการผลิตภณั ฑ์ท้องถิ่น
3. วางแผนและจดั การผลิตภัณฑ์ท้องถนิ่ ตามหลักการและสถานการณ์ทางการตลาด
4. ประยกุ ตใ์ ชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและหลักธรรมาภิบาลในการจัดการผลิตภัณฑท์ อ้ งถน่ิ
5. ประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สารกับการจดั การผลติ ภัณฑ์ท้องถ่ิน
สาระการเรียนรู้
3 การจัดกล่มุ OTOP Segmentation
กจิ กรรมการเรียนรู้
ขนั้ นาเขา้ สูบ่ ทเรียน
1. ครใู ช้เทคนคิ การสอนแบบซิปปาโมเดล (CIPPA MODEL) โดยการทบทวนความร้เู ดิมจากสปั ดาห์ที่
ผ่านมา โดยดึงความร้เู ดิมของผเู้ รยี นในเรื่องทีจ่ ะเรียน เพื่อช่วยให้ผเู้ รยี นมคี วามพรอ้ มในการเชื่อมโยงความรูใ้ หม่
กบั ความรู้เดิมของตน ผู้สอนใช้การสนทนาซักถามให้ผูเ้ รียนเลา่ ประสบการณ์เดมิ
2.ผ้เู รยี นยกตวั อย่างผลิตภัณฑ์ OTOP ทีพ่ ัฒนาแล้ว
ขน้ั สอน
3.ครูใชเ้ ทคนคิ แบบ Integration การจดั การเรยี นรู้แบบบูรณาการ หมายถึง การเรียนรู้ทีเ่ ชอื่ มโยง
ศาสตร์หรือ
เนอื้ หาสาขาวชิ าตา่ ง ๆ ที่มีความสมั พนั ธเ์ กี่ยวข้องกนั มาผสมผสานเขา้ ดว้ ยกัน เพื่อให้เกดิ ความรทู้ ่มี ีความหมาย มี
ความหลากหลายและสามารถนาไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้จริงในชีวติ ประจาวนั เรือ่ งการจัดกลมุ่ OTOP Segmentation
4.ครูและผู้เรยี นใช้เทคนิคแบบการจัดนิทรรศการ โดยแบง่ เป็น 4 กลุ่มผเู้ รยี น เกี่ยวแนวทางการพฒั นา
ผลิตภณั ฑ์เฉพาะกลุ่ม ใชก้ ลยุทธก์ ารแบง่ ผลติ ภณั ฑ์ออกเป็นกลมุ่ อยา่ งชัดเจนโดยจาแนกได้ 4 กลมุ่ ไดแ้ ก่
๏ กล่มุ A ดาวเด่นสสู่ ากล เปน็ กลุม่ สินค้ามีคุณภาพ ราคาสูง ผลิตได้ปริมาณมาก
68
๏ กลุ่ม B อนุรักษส์ รา้ งคุณค่าในกล่มุ ลูกค้าเฉพาะ เป็นกลุม่ สินคา้ มีคณุ ภาพ ราคาสูงและผลติ ใน
ปริมาณนอ้ ย เพ่ือตอบสนองลูกค้าเฉพาะราย
๏ กลมุ่ C พฒั นาเข้าสู่ตลาดการแขง่ ขนั เปน็ กลุ่มสินคา้ ทม่ี ีคุณภาพและราคาต่าผลิตได้ในปรมิ าณ
มาก
๏ กลุ่ม D ปรับตัวเขา้ สหู่ ว่ งโซ่อุปทานการผลติ เป็นกลุ่มสนิ ค้าทม่ี ีคุณภาพตา่ ราคาตา่ ผลิตได้
ปรมิ าณนอ้ ย
5.ผู้เรียนค้นหาขอ้ มลู ของปราชญ์ชาวบา้ น พร้อมอธิบายรายละเอียดเกยี่ วกับองค์ความร้ขู องปราชญ์
ชาวบา้ นทา่ นน้ัน
6.ผู้เรียนสมมติตนเองเปน็ สมาชิกวสิ าหกจิ ชุมชน และเป็นผ้ผู ลติ ไวน์มัลเบอร์ร่ี ตอ้ งการจะพฒั นาผลติ ภัณฑ์
ใหเ้ ปน็ ทตี่ ้องการของตลาดมากยง่ิ ขนึ้ ควรจะเชอ่ื มโยงองค์ความรเู้ กย่ี วกบั สิ่งใดในการนามาอบรมให้แกผ่ ผู้ ลิตใน
กลุ่ม เพ่ือการพฒั นาดงั กล่าว จงอธิบายอย่างละเอยี ด
7.ผู้เรยี นแสดงความคดิ เหน็ วา่ การเปน็ ผู้ผลติ และจาหนา่ ยผลติ ภัณฑ์เป่าแก้ว นักเรียนคิดวา่ จะต้องมีองค์
ความรเู้ กี่ยวกับสิ่งใดบา้ งจงอธิบายอย่างละเอียด
8.ครแู สดงรปู ภาพแลว้ ให้ผ้เู รยี นแสดงความคดิ เหน็ จากภาพและรายละเอียดเก่ียวกับผลิตภัณฑ์ สามารถ
เพมิ่ มูลคา่ ของสินคา้ ได้อยา่ งไรบา้ งจงแสดงความคดิ เห็น
9.ครูแนะนาให้ผู้เรยี นบันทึกบัญชคี รัวเรือน เพ่ือใหเ้ กิดการปฏบิ ตั พิ ัฒนาความรู้ ความคดิ และปฏบิ ัติ
ถูกต้อง ก่อให้เกดิ ความเจริญในดา้ นอาชีพหรือเศรษฐกจิ สงั คม และวฒั นธรรม ซึ่งการทาบัญชคี รัวเรอื นเปน็ เร่ือง
การบันทึกรายรับรายจ่ายประจาวนั /เดือน/ปี ว่ามีรายรบั รายจ่ายจากอะไรบ้าง จานวนเทา่ ใด รายการใดจ่าย
น้อยจา่ ยมาก จาเปน็ น้อยจาเปน็ มาก กอ็ าจลดลงหรอื เพ่ิมข้ึนตามความจาเปน็ ถ้าทุกคนคิดได้ก็แสดงว่าเป็นคน
รู้จักพฒั นาตนเอง มเี หตมุ ผี ล รู้จกั พอประมาณ รักตนเอง รักครอบครัว รกั ชมุ ชน และรกั ประเทศชาติมากขึ้น จึง
เห็นไดว้ ่าการทาบัญชคี รัวเรอื น คอื วถิ ีแห่งการเรียนรู้เพ่ือพัฒนาชีวติ ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์
10.ครูใช้คาถามหรือกาหนดปัญหาโดยให้ผู้เรียนระดมสมองชว่ ยกันคิดหาคาตอบแล้วอธิบายคาตอบ
11.ครใู ช้วธิ สี ุ่มผู้เรยี นทกุ กลุ่มตอบคาถามและอธบิ ายใหเ้ พื่อนฟังทง้ั ช้นั เรียน
12 ผเู้ รียนสรุปโดยการถามตอบ
13.ผเู้ รียนฝกึ ทักษะทาแบบฝึกปฏบิ ัติ ใบงาน และแบบประเมนิ ผลการเรยี น
69
สือ่ และแหล่งการเรียนรู้
1.หนงั สือเรียน วิชาการจดั การผลิตภัณฑ์ท้องถน่ิ ของสานักพิมพ์เอมพนั ธ์
2.รูปภาพการพัฒนาผลิตภณั ฑ์
2.กิจกรรมการเรียนการสอน
3.สื่ออิเล็กทรอนิกส,์ ส่ือ PowerPoint
4.แบบประเมินผลการเรียนรู้
หลกั ฐาน
1.บันทกึ การสอน
2.ใบเช็ครายช่อื
3.แผนจัดการเรียนรู้
4.การตรวจประเมนิ ผลงาน
การวดั ผลและการประเมนิ ผล และคุณลกั ษณะอนั พึง
วิธีวดั ผล
1. สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล
2. ประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
3. สังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุ่ม
4. ตรวจใบงาน
5. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ และแบบฝกึ ปฏิบตั ิ
6. การสังเกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม
ประสงค์
เครือ่ งมือวดั ผล
1. แบบสังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล
2. แบบประเมินพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยครู)
3. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม (โดยผู้เรยี น)
4. แบบประเมนิ กจิ กรรมใบงาน
5. แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ และแบบฝึกปฏิบัติ
70
5. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยครูและผเู้ รยี น
รว่ มกันประเมิน
เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
1. เกณฑผ์ ่านการสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ต้องไมม่ ชี อ่ งปรับปรุง
2. เกณฑ์ผ่านการประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม คือ ปานกลาง (50 % ขึน้ ไป)
3. เกณฑผ์ ่านการสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คือ ปานกลาง (50% ข้ึนไป)
4. กิจกรรมใบงาน เกณฑผ์ า่ น คือ 50%
5. แบบประเมินผลการเรียนรู้ และแบบฝึกปฏบิ ัติมีเกณฑผ์ า่ น 50%
6 แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนขึน้ อยู่กับ
การประเมินตามสภาพจริง
กจิ กรรมเสนอแนะ
1.ทากจิ กรรมใบงาน แบบฝกึ ปฏิบตั เิ พื่อฝึกทกั ษะ
2.อ่านและทบทวนเนือ้ หา
3.ฝกึ ทกั ษะพัฒนาผลิตภณั ฑ์
71
บันทึกหลังการสอน
ขอ้ สรุปหลงั การสอน
..................................................................................................................................................
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
....................................................................................................................... ...........................
................................................................................................................... ...............................
................................................................................. .................................................................
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
ปญั หาท่ีพบ
....................................................................................................... ...........................................
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
................................................................................................................... ...............................
............................................................................................................................. .....................
.................................................................................................. ................................................
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
แนวทางแก้ปัญหา
................................................................................................................... ...............................
.................................................................................................................................... ..............
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
แผนการจดั การเรยี นรู้แบบบรู ณาการท่ี 12 72
รหัส 2202-2109 การจัดการผลิตภัณฑ์ทอ้ งถิน่ (2-2-3)
ช่อื หน่วย/เรอ่ื ง การตลาดผลิตภัณฑท์ ้องถน่ิ หน่วยที่ 6
สอนครง้ั ที่ 12 (45-48)
จานวน 4 ช.ม.
แนวคดิ
ส่งิ สาคญั ของการประกอบธุรกิจ คือ ธรุ กจิ จะตอ้ งมรี ายได้ หรือกาไรจากการประกอบการ กิจกรรมท่ี
นามาซึง่ รายได้ ได้แกก่ จิ กรรมการขาย ถอื เปน็ สว่ นหนงึ่ ของการดาเนินการด้านการตลาด ผู้ประกอบการท่ีมี
ประสิทธิภาพจะสามารถบรหิ ารงานด้านการตลาดได้อย่างเหมาะสม ทั้งในด้านของการผลิตผลิตภัณฑใ์ หต้ รงกบั
ความตอ้ งการของผู้บรโิ ภค การกระจายสนิ ค้าถงึ มือผู้บริโภคอย่างท่ัวถงึ ทนั เวลาทล่ี ูกค้าต้องการ และในปรมิ าณที่
ถกู ต้อง อีกท้ังยังตอ้ งมีการพัฒนาปรับปรงุ การบรหิ ารงานด้านการตลาดใหเ้ ข้ากบั ยุคสมัยทเี่ ปล่ยี นแปลงไปด้วย
ผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวงั
1 แสดงความร้เู ก่ียวกับการตลาดทผ่ี ู้ประกอบการควรทราบได้
2 วางแผนการตลาดผลติ ภณั ฑท์ ้องถ่ินได้
3.มกี ารพัฒนาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ของผ้สู าเรจ็ การศกึ ษา
สานกั งาน
คณะกรรมการการอาชีวศึกษา ทคี่ รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรอ่ื ง
3.1 ความมีมนุษยสัมพันธ์
3.2 ความมวี นิ ยั
3.3 ความรับผิดชอบ
3.4 ความซอ่ื สตั ย์สจุ ริต
3.5 ความเช่อื ม่นั ในตนเอง
3.6 การประหยัด
3.7 ความสนใจใฝร่ ู้
3.8 การละเวน้ ส่งิ เสพติดและการพนัน
3.9 ความรักสามคั คี
3.10 ความกตัญญูกตเวที
73
สมรรถนะรายวิชา
1. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั หลักการและกระบวนการจดั การผลิตภณั ฑ์ท้องถ่ิน
2. แสดงความรเู้ กี่ยวกบั หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง หลักธรรมาภบิ าล กฎหมายและองคก์ ารท่ี
เก่ียวขอ้ ง
กบั การจดั การผลติ ภัณฑ์ท้องถ่ิน
3. วางแผนและจัดการผลิตภัณฑท์ ้องถน่ิ ตามหลกั การและสถานการณ์ทางการตลาด
4. ประยุกตใ์ ช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและหลกั ธรรมาภบิ าลในการจัดการผลติ ภณั ฑท์ ้องถน่ิ
5. ประยกุ ตใ์ ช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารกบั การจดั การผลิตภณั ฑท์ ้องถิน่
สาระการเรียนรู้
1 ความรเู้ ก่ียวกับการตลาดที่ผู้ประกอบการควรทราบ
2 การตลาดผลติ ภัณฑ์ท้องถิ่น
กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้นั นาเขา้ สบู่ ทเรียน
1. ครูใช้เทคนคิ การสอนแบบซิปปาโมเดล (CIPPA MODEL) โดยการทบทวนความรูเ้ ดมิ จากสัปดาหท์ ่ี
ผา่ นมา โดยดึงความรู้เดมิ ของผู้เรียนในเร่อื งทจี่ ะเรียน เพื่อช่วยใหผ้ เู้ รียนมคี วามพรอ้ มในการเช่อื มโยงความรใู้ หม่
กบั ความรู้เดิมของตน ผ้สู อนใช้การสนทนาซักถามให้ผู้เรยี นเลา่ ประสบการณ์เดิม
2.เปิดโอกาสใหผ้ เู้ รยี นแสดงความคดิ เหน็ และสนทนากันระหว่างเพ่ือนในชน้ั เรยี น
3.ครกู ล่าวว่านอกจากเรือ่ งของการผลติ และการมคี วามรู้เก่ียวกับสนิ ค้าแล้ว ผ้ผู ลติ ผู้ประกอบการ
OTOP
ควรมีความรเู้ กีย่ วกบั การตลาดดว้ ย
ข้นั สอน
4.ครอู ธบิ ายจัดการเรยี นรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method) และใช้ Power Point เปน็ ส่ือ
ประกอบ เกี่ยวกบั ความรู้เกีย่ วกบั การตลาดที่ผ้ปู ระกอบการควรทราบ ซง่ึ หลกั การตลาดเบ้อื งตน้ ที่ผผู้ ลติ ผู้
ประการ OTOP รวมถงึ ผูป้ ระกอบการอืน่ ๆ ควรทราบมดี ังน้ี
4.1 ผลิตภณั ฑ์
4.2 ช่องทางการจาหนา่ ย
74
4.3 การสง่ เสรมิ การขายและบรรจภุ ณั ฑ์
4.4 การลดต้นทนุ
4.5 การกาหนดราคา
4.6 แรงกระทบทั้ง 5 ประกอบด้วย ผขู้ ายวตั ถุดิบ ผ้ซู ้ือสนิ คา้ ผู้แข่งขนั รายใหม่ สินค้าทดแทน
และการแข่งขนั ระหวา่ งคู่แขง่ ในอตุ สาหกรรมเดียวกนั
4.7 แผนภูมกิ ารเติบโต
4.8 วงจรชีวิตผลิตภัณฑ์
4.9 การวเิ คราะหง์ บกระแสเงินสด
5.ครูและผ้เู รียนใช้เทคนิคการสอนแบบแสดงบทบาท (Role Playing Method) เปน็ วธิ ีสอนท่ีใชก้ ารแสดง
บทบาทสมมุติ หรอื การเทยี บเคียงสถานการณท์ ่เี ปน็ จรงิ มาเป็นเครื่องมือในการสอน โดยท่คี รูสร้างสถานการณ์
สมมตุ แิ ละบทบาทขนึ้ มาให้ผู้เรียนได้แสดงออกตามท่ตี นคดิ วา่ ควรจะเปน็ การแสดงบทบาทอาจกระทาได้ทั้ง
ทางดา้ นความรู้ความคิด และพฤติกรรมของผแู้ สดง วธิ กี ารนี้จะสร้างความเขา้ ใจและความรู้สกึ ให้เกดิ กับผู้เรยี น
ไดด้ ี เรื่องท่จี ะนามาศึกษาคอื เทคนคิ การขาย โดยเทคนิคการขาย คอื กลวธิ ใี นการโนม้ นา้ วจิตใจด้วยวธิ ีการตา่ งๆ
เพ่ือให้ผบู้ รโิ ภคตดั สินใจซ้ือสามารถปดิ การขายไดเ้ ร็ว โดยมีข้ันตอนของวธิ สี อนแบบแสดงบทบาทดังน้ี
5.1. เลือกปัญหาที่นักเรียนทาความเข้าใจยาก จายากสับสน หรอื กล่าวตามสภาพจรงิ ไม่ไดม้ า
เปน็ เร่อื งทจ่ี ะแสดงบทบาท ไดแ้ ก่เทคนิคการขายท่ชี ่วยให้การขายมีประสิทธภิ าพ มีดังน้ี
(1) เทคนิคท่ตี ้องใส่ใจก่อนการซ้ือขาย
(2) เทคนคิ การขายระหว่างทาการซอ้ื ขาย
(3) เทคนคิ การขายหลงั การซ้ือ
5.2. ให้ผู้เรียนร่วมกันกาหนดตวั บุคคลให้เหมาะสมกับบทบาทน้นั ๆ เทา่ ทีล่ ักษณะของบุคคล
จะเอ้ืออานวยให้กบั สภาพความเปน็ จรงิ
6 ครใู ชเ้ ทคนิควธิ สี อนแบบอภิปราย (Discussion Method) เป็นการสอนโดยท่ีผู้เรยี นแลกเปล่ยี นความ
คิดเหน็ ซ่งึ กนั และกันเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องการตลาดท้องถน่ิ การอภิปรายกระทาระหวา่ งครูกับผู้เรยี น หรอื
ระหวา่ งผู้เรียนดว้ ยกนั โดยมคี รเู ปน็ ผปู้ ระสานงาน วิธกี ารสอนแบบอภิปรายจะชว่ ยสง่ เสรมิ ให้ผู้เรียนคดิ เปน็ พูด
เป็น และสรา้ งความเป็นประชาธิปไตยเกี่ยวกับการตลาดผลิตภณั ฑท์ ้องถ่นิ ซง่ึ จากการจาหน่ายผลติ ภณั ฑ์ทอ้ งถ่นิ
หรือผลิตภัณฑ์หน่งึ ตาบลหน่ึงผลติ ภัณฑท์ ผ่ี ่านมา พบว่ายงั มีปญั หาหลายประการ กรมการพัฒนาชมุ ชนทราบถึง
ปัญหาน้ันและไดม้ ีการดาเนินการปรบั ปรงุ แกไ้ ขเพ่ือการพัฒนาผลิตภณั ฑใ์ ห้มคี วามสมบรู ณส์ ามารถเข้าสกู่ าร
แข่งขันในตลาดทใี่ หญ่ขน้ึ ได้สงิ่ ที่ไดป้ ฏบิ ัตมิ าแลว้ เชน่ การจัดตั้งเครอื ขา่ ยองค์ความรู้ เพ่ือใหผ้ ู้ผลติ
75
ผู้ประกอบการ OTOP ได้มาใชบ้ ริการหาความร้เู พ่ือการนาไปใช้ในการพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ รวมถึงการเปน็
ผปู้ ระกอบการที่ประสบความสาเร็จด้วย
7.ครูและผู้เรียนใช้เทคนิคการสอนแบบบรู ณาการ (Integration Instruction) เป็นการสอนทนี่ าเอา
ศาสตรส์ าขาวิชาต่างๆ ที่มคี วามสมั พนั ธ์เก่ยี วขอ้ งกันเข้ามาผสมผสานกันเพ่อื ให้เกิดความรู้ท่ีหลากหลายและ
สอดคลอ้ งกับชวี ติ ประจาวัน จุดเนน้ ของการบรู ณาการคือการองคร์ วมของวชิ ามากกวา่ รายละเอียดของวชิ า
การบรู ณาการจาแนกเปน็ บรู ณาการตามจานวนผู้สอน ได้แก่ บูรณาการแบบผู้สอนคนเดียว แบบคขู่ นาน แบบ
เป็นทมี บูรณาการตามกลุ่มสาระการเรยี นรู้ และ
บูรณาการแบบสหวิทยาการและแบบพหวุ ิทยาการ โดยข้ันตอนของการบูรณาการมี ดังนี้
7.1 ศกึ ษาการผลิตผลติ ภณั ฑไ์ ม่ตรงกบั ความตอ้ งการของตลาดในภาพรวม และวิเคราะห์จากนั้นจึง
กาหนดส่งิ ทตี่ ลาดต้องการ
7.2 จัดทาส่งิ ทต่ี ้องการเรยี นรู้ และเน้น
7.3 สร้างเนอ้ื หาการเรยี นรู้ท่ีสมั พนั ธ์กัน
8.ครใู ช้เทคนคิ วธิ ีสอนตามคาดหวัง (Expectation Method) เป็นวิธีสอนทคี่ รจู ัดกิจกรรมการเรยี นการ
สอนตามความคาดหวงั ของผู้เรียน ผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้ด้วยตวั เองตามส่ือ/ประสบการณท์ คี่ รจู ัดให้เกย่ี วกับ
ผลติ ภณั ฑข์ าดเอกลกั ษณ์ โดยมีข้ันตอนของวธิ ีสอนตามความคาดหวงั
8.1. ให้ผ้เู รียนสร้างเอกลักษณ์ หรอื แบรนดข์ องผลิตภัณฑ์ตามท่ผี เู้ รยี นตอ้ งการ
8.2. ครูแจกกระดาษให้
8.3. เปรียบเทยี บความคาดหวงั ของแตล่ ะกลุ่มหรอื รายบุคคลตามทต่ี ้องการกับจดุ ประสงคท์ ่กี าหนดไว้
8.4. ครจู ัดสอื่ หรือวตั กรรมการเรยี นการสอนจาแนกตามความคาดหวงั ของนักเรยี น และความคาดหวงั
ของครู
8.5. ผู้เรียนปฏบิ ัติกจิ กรรมกลุ่มตามสื่อ หรือวัตกรรมที่ครูจัดเตรียมให้
8.6. ครูแสดงความคาดหวังของตนและแสดงให้ผู้เรียนได้รับทราบ
8.7 ให้สรปุ วา่ การเรียนรู้ได้รบั ตามความคาดหวงั หรอื ไม่
8.8 ให้รายงานผลการศึกษาค้นคว้าหรือเรียนรตู้ ามความคาดหวังของตนเองและความคาดหวัง
9.ผ้เู รยี นออกแบบบรรจภุ ณั ฑ์ใหส้ อดคล้องกับความต้องการของตลาด
10.ผูเ้ รยี นทาใบงาน และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
11.ครเู นน้ การนาความรู้ในการออกแบบผลิตภณั ฑ์ไปใช้ในการประกอบอาชพี อยา่ งมีคุณธรรมไม่
เบยี ดเบยี นผู้อน่ื เช่น ไมม่ พี ฤติกรรมทฉ่ี ้อโกง ไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ จนเกดิ ความเดอื ดรอ้ น ดงั นนั้ เมื่อ
76
ผูเ้ รียนจบการศึกษาไปแล้ว และไปประกอบอาชีพเป็นผู้ประกอบการ หรือลูกจ้างกต็ าม ควรยึดหลกั คุณธรรมตาม
เง่ือนไขแหง่ ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง
ขั้นสรุปและการประยุกต์
11.ครูใช้คาถามหรือกาหนดปัญหาโดยให้ผู้เรียนระดมสมองชว่ ยกันคดิ หาคาตอบแลว้ อธิบายคาตอบ
12.ครใู ชว้ ิธีสุ่มผเู้ รยี นทกุ กล่มุ ตอบคาถามและอธบิ ายใหเ้ พื่อนฟังท้งั ชั้นเรียน
13.ผเู้ รยี นทากจิ กรรมเกีย่ วกบั ความรู้เกย่ี วกบั การตลาดท่ผี ูป้ ระกอบการควรทราบ และการตลาด
ผลิตภัณฑ์ท้องถนิ่
14.ผู้เรยี นฝกึ ปฏบิ ตั ิใบงาน และทาแบบประเมนิ ผลหลงั เรยี น
ส่อื และแหล่งการเรียนรู้
1.หนังสอื เรยี น วิชาการจัดการผลติ ภัณฑ์ท้องถน่ิ ของสานกั พิมพ์เอมพันธ์
2.รูปภาพบรรจภุ ณั ฑ์ และตราสนิ คา้
3.กจิ กรรมการเรียนการสอน
4.แผ่นใส
5.สอิ่ อเิ ล็กทรอนิกส์ , ส่อื PowerPoint
6.แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้
หลักฐาน
1.บนั ทึกการสอน
2.ใบเชค็ รายชอื่
3.แผนจดั การเรียนรู้
4.การตรวจประเมินผลงาน
การวดั ผลและการประเมนิ ผล
วธิ ีวดั ผล
1. สังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. ประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
3. สังเกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม
4. ตรวจใบงาน
77
5. ตรวจแบบประเมินผลการเรยี นรู้ และแบบฝึกปฏิบัติ
6. การสงั เกตและประเมนิ พฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พึง
ประสงค์
เครือ่ งมอื วัดผล
1. แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล
2. แบบประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม (โดยครู)
3. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม (โดยปผู้เรียน)
4. แบบประเมินกจิ กรรมใบงาน
5. แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ และแบบฝกึ ปฏิบตั ิ
6. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ โดยครูและผู้เรียน
รว่ มกันประเมิน
เกณฑ์การประเมินผล
1. เกณฑ์ผา่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ต้องไมม่ ีช่องปรบั ปรุง
2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)
3. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ คือ ปานกลาง (50% ข้นึ ไป)
4. กิจกรรมใบงาน เกณฑผ์ ่าน คือ 50%
5. แบบประเมินผลการเรียนรู้ และแบบฝกึ ปฏิบัติมีเกณฑ์ผ่าน 50%
6 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนข้นึ อยู่กับ
การประเมินตามสภาพจรงิ
กจิ กรรมเสนอแนะ
1.ทาแบบฝกึ ปฏบิ ตั ิเพอ่ื ฝึกทักษะออกแบบผลิตภัณฑ์ และตราสินคา้
2.อา่ นและทบทวนเนื้อหา
78
บนั ทึกหลังการสอน
ข้อสรุปหลงั การสอน
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
......................................................................................... .........................................................
............................................................................................................................. .....................
..................................................................................................................................................
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
.................................................................................... ..............................................................
ปญั หาท่ีพบ
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
.......................................................................................................... ........................................
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
................................................................................................................... ...............................
แนวทางแกป้ ญั หา
................................................................................................................... ...............................
...................................................................................... .................................................... ........
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
................................................................................................................... ...............................
79
แผนการจัดการเรยี นรแู้ บบบูรณาการที่ 13 หน่วยท่ี 6
รหสั 2202-2109 การจดั การผลติ ภัณฑ์ทอ้ งถิ่น (2-2-3) สอนครัง้ ที่ 13 (49-52)
ช่อื หน่วย/เร่ือง การตลาดผลติ ภัณฑท์ อ้ งถิน่
จานวน 4 ช.ม.
แนวคิด
ส่งิ สาคญั ของการประกอบธุรกิจ คอื ธุรกจิ จะตอ้ งมีรายได้ หรอื กาไรจากการประกอบการ กจิ กรรมที่
นามาซึ่งรายได้ ไดแ้ ก่กจิ กรรมการขาย ถือเปน็ สว่ นหน่งึ ของการดาเนนิ การดา้ นการตลาด ผูป้ ระกอบการท่ีมี
ประสทิ ธิภาพจะสามารถบริหารงานด้านการตลาดได้อยา่ งเหมาะสม ท้ังในดา้ นของการผลติ ผลิตภณั ฑ์ให้ตรงกบั
ความตอ้ งการของผูบ้ รโิ ภค การกระจายสนิ ค้าถึงมือผบู้ ริโภคอยา่ งทัว่ ถึงทันเวลาท่ลี ูกคา้ ต้องการ และในปริมาณท่ี
ถกู ต้อง อกี ทัง้ ยงั ต้องมกี ารพัฒนาปรบั ปรุงการบรหิ ารงานดา้ นการตลาดให้เขา้ กับยุคสมัยทีเ่ ปลยี่ นแปลงไปด้วย
ผลการเรยี นร้ทู คี่ าดหวัง
3 วางแผนการจัดจาหนา่ ยผลิตภณั ฑท์ ้องถนิ่ ได้
4 ประยกุ ตใ์ ชแ้ นวทางการบริหารการตลาดผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นได้
5.มีการพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ของผู้สาเรจ็ การศึกษา
สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสังเกตได้ขณะทาการสอนในเร่ือง
5.1 ความมมี นษุ ยสัมพันธ์
5.2 ความมีวนิ ยั
5.3 ความรบั ผดิ ชอบ
5.4 ความซ่อื สัตยส์ ุจริต
5.5 ความเชือ่ ม่นั ในตนเอง
5.6 การประหยดั
5.7 ความสนใจใฝ่รู้
5.8 การละเว้นสง่ิ เสพตดิ และการพนัน
5.9 ความรกั สามัคคี
5.10 ความกตัญญูกตเวที
80
สมรรถนะรายวิชา
1. แสดงความรู้เกีย่ วกับหลักการและกระบวนการจดั การผลิตภณั ฑท์ ้องถ่ิน
2. แสดงความรู้เกี่ยวกบั หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง หลักธรรมาภิบาล กฎหมายและองค์การท่ี
เกี่ยวข้อง
กับการจัดการผลิตภณั ฑ์ท้องถิน่
3. วางแผนและจดั การผลติ ภณั ฑ์ท้องถนิ่ ตามหลักการและสถานการณ์ทางการตลาด
4. ประยุกตใ์ ช้หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและหลกั ธรรมาภบิ าลในการจดั การผลติ ภณั ฑ์ทอ้ งถน่ิ
5. ประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สารกับการจัดการผลติ ภณั ฑท์ ้องถน่ิ
สาระการเรียนรู้
3 การจัดจาหนา่ ยผลติ ภัณฑท์ ้องถ่ิน
4 แนวทางการบริหารการตลาดผลติ ภัณฑท์ ้องถน่ิ
กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้ันนาเขา้ สู่บทเรยี น
1.ครใู ช้เทคนิคการสอนแบบซิปปาโมเดล (CIPPA MODEL) โดยการทบทวนความรูเ้ ดิมจากสัปดาห์ที่ผ่าน
มา โดยดึงความร้เู ดมิ ของผู้เรยี นในเรอื่ งทีจ่ ะเรียน เพ่ือช่วยใหผ้ เู้ รยี นมีความพรอ้ มในการเชือ่ มโยงความร้ใู หม่กบั
ความรู้เดมิ ของตน ผสู้ อนใช้การสนทนาซกั ถามใหผ้ ูเ้ รียนเล่าประสบการณ์เดิม
2.ครแู ละผ้เู รยี นสนทนาถึงการด้านการจดั จาหนา่ ยผลิตภัณฑท์ อ้ งถน่ิ ดังน้ี
2.1. ประชาสมั พนั ธผ์ ลติ ภัณฑ์ของผผู้ ลิต ผปู้ ระกอบการ ในแตล่ ะท้องถิน่ ใหเ้ ป็นท่รี ูจ้ ักอย่างแพร่หลายโดย
อาศัยสื่อมวลในการชว่ ยสร้างกระแส
2.2 พฒั นาผลิตภณั ฑด์ ง้ั เดิมในท้องถ่นิ ใหม้ ีศักยภาพพอทีจ่ ะขายได้ทง้ั ตลาดในประเทศและตา่ งประเทศ
โดยทาการสารวจความต้องการ พร้อมทง้ั ใชเ้ ทคโนโลยกี ารผลติ ทเ่ี หมาะสมและออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้นา่ สนใจ
2.3. ขอความชว่ ยเหลือจากหน่วยงานตา่ งๆ ชว่ ยสนบั สนนุ และผลกั ดนั ในเรื่องของกจิ กรรม เช่น การ
โฆษณา การประชาสัมพันธ์ และจัดกิจกรรมการจดั แสดงสินค้า เป็นตน้ เพ่ือใหส้ ินค้าเป็นทรี่ ูจ้ กั และกระตนุ้ ให้
ผบู้ รโิ ภคเกิดความตอ้ งการ
81
ขนั้ สอน
3.ครจู ัดการเรยี นร้แู บบใช้คาถาม (Questioning Method) เพื่อมุ่งพัฒนากระบวนการทางความคดิ ของ
ผเู้ รยี น โดยผู้สอนจะป้อนคาถามในลกั ษณะตา่ ง ๆ ทีเ่ ป็นคาถามท่ดี ี สามารถพฒั นาความคิดผู้เรยี น ถามเพ่ือให้
ผเู้ รียนใช้ความคิดเชิงเหตผุ ล วเิ คราะห์ วิจารณ์ สังเคราะห์ หรอื การประเมินค่าเพื่อจะตอบคาถามเหล่านั้น
เก่ยี วกับการจดั จาหน่ายผลิตภณั ฑท์ ้องถนิ่
5.ครจู ัดการเรียนตามวธิ ีสอนแบบใชโ้ สตทศั นวัสดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method)
เป็นวิธีสอนท่นี าอุปกรณ์โสตทัศน์วสั ดุมาชว่ ยพฒั นาคุณภาพการเรียนการสอน โสตทศั น์วัสดุดังกล่าว ไดแ้ ก่
เครอ่ื งเลน่ เทปซีดี จากการที่กรมการพฒั นาชุมชนไดม้ ีการจัดกลุ่มผลิตภัณฑ์ เพ่อื ให้ง่ายต่อการพฒั นาด้านตา่ งๆ
รวมถึงด้านการตลาดและการจดั จาหน่ายด้วย การจดั จาหน่ายผลติ ภัณฑส์ รุปได้ดงั นี้
1 ตั้งศนู ยจ์ าหน่ายประจาท้องถนิ่
2 จัดกจิ กรรมในทอ้ งถ่ิน
3 เช่อื มโยงกับอุตสาหกรรมท่องเทย่ี ว
4 การจดั งานนทิ รรศการ
5 การวางขายในร้านค้าปลีก
6 การส่งออก
7 การจาหน่ายทาง www.thaitambon.com
8 วางขาย ณ ทท่ี าการไปรษณีย์
9.การจาหนา่ ยผ่านส่อื
6 ครจู ดั การเรียนรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method) เพ่อื มุ่งพฒั นากระบวนการทางความคดิ ของ
ผ้เู รยี น โดยผสู้ อนจะป้อนคาถามในลกั ษณะต่าง ๆ ทีเ่ ปน็ คาถามที่ดี สามารถพัฒนาความคดิ ผูเ้ รยี น ถามเพ่ือให้
ผเู้ รยี นใชค้ วามคิดเชิงเหตุผล วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ สังเคราะห์ หรือ การประเมินคา่ เพื่อจะตอบคาถามเหลา่ นั้น เพอ่ื
ศกึ ษาแนวทางการบริหารการตลาดผลิตภณั ฑ์ทอ้ งถน่ิ
7.ผูเ้ รยี นยกตัวอยา่ งผลติ ภัณฑ์ท่หี ายไปจากตลาดจานวน 1 ผลิตภณั ฑ์ แลว้ พจิ ารณาหาสาเหตทุ ่ี
ผลติ ภัณฑ์ต้องออกจากตลาดไป
8.ผูเ้ รียนพจิ ารณารปู ภาพทคี่ รูแจกให้ แลว้ พิจารณาว่าจากผลติ ภัณฑ์ฝาชีขนาดเล็ก นกั เรียนพจิ ารณาว่า
ผลติ ภัณฑม์ จี ดุ เดน่ และจดุ ดอ้ ยอยา่ งไร จงแสดงความคิดเห็น
9.ผู้เรียนสืบคน้ ข้อมลู ศนู ย์โอทอป จานวน 1 แหง่ อธิบายรายละเอียดเก่ยี วกับผลิตภณั ฑ์ท่ีจาหน่าย
พร้อมแสดงความคิดเห็นศูนย์โอทอปดังกล่าว ควรมกี ารปรับปรงุ และพฒั นาเกี่ยวกบั สิ่งใดบ้าง
82
10.ผู้เรียนพิจารณาว่าผลิตภัณฑ์ท้องถ่นิ ประเภทใดทผี่ ูผ้ ลิต หรือผู้ประกอบการ OTOP ควรตัง้ รา้ น เพอ่ื
การจาหนา่ ยเอง อธิบายพร้อมยกเหตุผลประกอบอยา่ งละเอียด
11.ครแู นะนาใหผ้ ูเ้ รียนเขียนโปรแกรมด้วยความละเอียดรอบคอบ มีความเพียรพยายามในการนา
ความรไู้ ปใช้ใหป้ ระสบความสาเร็จ และมีความระมดั ระวงั ข้อผดิ พลาดที่อาจจะเกิดขน้ึ ไดใ้ นระหวา่ งการทางาน
หรอื หลังจากปฏบิ ตั หิ น้าที่ด้วยความรบั ผิดชอบ ซึง่ เปน็ การสร้างภูมคิ ุ้มกนั ทด่ี ีในตัวเองตามแนวทางปรชั ญา
เศรษฐกจิ พอเพียง ดังนนั้ ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง จึงเป็นหลักการดาเนนิ ชวี ติ การทางาน การบรหิ าร การ
พัฒนา รวมถึงการดาเนนิ กจิ กรรมในดา้ นตา่ งๆ ของมนษุ ย์ ท่เี น้นแนวทางสายกลางยึดหลักความพอประมาณ
ความมีเหตผุ ล และมภี ูมิคุ้มกันทด่ี ี ภายใตเ้ งื่อนไขความรอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวงั และเง่ือนไขคุณธรรม ความ
ซ่ือสัตย์สจุ ริต ความเพยี ร ขยันอดทน และการแบ่งปนั
ขน้ั สรปุ และการประยกุ ต์
12.ครูและผู้เรียนสรุปโดยการการจัดจาหน่ายผลิตภัณฑ์ท้องถ่ิน และแนวทางการบริหารการตลาด
ผลิตภณั ฑ์ทอ้ งถน่ิ โดยการถามตอบ
13.ทาแบบประเมินผล ใบงาน และประเมินตนเองจากแบบประเมินตนเอง รวมท้ังกจิ กรรมการจัด
ประสบการณ์การเรียนรู้
14.ประเมินผู้เรยี นตามแบบฟอร์มต่อไปน้ี
ชอื่ ผูเ้ รียน ประสบการณ์พืน้ ฐานการเรียนรู้ วธิ ีการเรียนรู้
ความรู้ ทักษะ ผลงาน
1.
2.
3.
4.
5.
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
1.หนังสือเรยี น วิชาการจัดการผลิตภัณฑ์ทอ้ งถิน่ ของสานกั พมิ พ์เอมพันธ์
2.รปู ภาพการจดั จาหน่ายผลติ ภัณฑ์ท้องถ่นิ
3.กจิ กรรมการเรยี นการสอน
4.แผน่ ใส
5.สอ่ื อเิ ล็กทรอนิกส์ , ส่ือ PowerPoint
83
6.แบบประเมินผลการเรียนรู้
หลกั ฐาน
1.บนั ทึกการสอน
2.ใบเชค็ รายชือ่
3.แผนจดั การเรียนรู้
4.การตรวจประเมนิ ผลงาน
การวดั ผลและการประเมนิ ผล
วธิ วี ดั ผล
1. สงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล
2. ประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม
3. สังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุม่
4. ตรวจใบงาน
5. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ และแบบฝึกปฏบิ ตั ิ
6. การสังเกตและประเมินพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอันพึง
ประสงค์
เคร่อื งมือวัดผล
1. แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล
2. แบบประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุม่ (โดยครู)
3. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม (โดยผู้เรียน)
4. แบบประเมนิ กจิ กรรมใบงาน
5. แบบประเมินผลการเรียนรู้ และแบบฝึกปฏิบตั ิ
6. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยครูและผเู้ รียน
รว่ มกนั ประเมนิ
เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล ต้องไมม่ ีช่องปรับปรุง
2. เกณฑ์ผา่ นการประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คือ ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)
3. เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกล่มุ คือ ปานกลาง (50% ขึ้นไป)
84
4. กจิ กรรมใบงาน เกณฑ์ผ่าน คือ 50%
5. แบบประเมินผลการเรยี นรู้ และแบบฝึกปฏบิ ัติมีเกณฑ์ผ่าน 50%
6 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนข้นึ อยู่กับ
การประเมนิ ตามสภาพจริง
กิจกรรมเสนอแนะ
1.ทากิจกรรมใบงาน ฝึกปฏิบัติ เพอ่ื นาไปใช้ไดจ้ ริง
2.อา่ นและทบทวนเนอื้ หาการจัดจาหนา่ ยผลิตภณั ฑ์ท้องถ่ิน และแนวทางการบรหิ ารการตลาดผลิตภณั ฑ์
ทอ้ งถ่ิน
85
บนั ทึกหลังการสอน
ขอ้ สรปุ หลงั การสอน
............................................................................................................ ......................................
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .....................
..................................................................................................................................................
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
....................................................................................................... ...........................................
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
ปัญหาที่พบ
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
....................................................................................... ...........................................................
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
แนวทางแกป้ ญั หา
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
................................................................................................................... ...............................
86
แผนการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการที่ 14 หน่วยที่ 7
รหสั 2202-2109 การจดั การผลติ ภณั ฑ์ท้องถิ่น (2-2-3) สอนครงั้ ท่ี 14 (53-56)
ชอื่ หน่วย/เรอื่ ง หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและหลัก
ธรรมาภบิ าลกบั การจดั การผลิตภณั ฑ์ทอ้ งถ่นิ จานวน 4 ช.ม.
แนวคดิ
จากแนวคิดตามปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั ให้ประชาชนดารงชีวติ
อยโู่ ดยการพ่ึงพาตนเอง จดั หาทรพั ยากรทม่ี ีอยู่ในท้องถนิ่ มาใช้ในการผลิตเพ่ือกิน ใชใ้ นครัวเรือน หากเหลอื จงึ นา
ออกขายเพ่อื สรา้ งรายได้อกี ทางหนึ่ง สอดคล้องกับโครงการหนง่ึ ตาบลหน่งึ ผลิตภัณฑ์ ทดี่ าเนินการเพื่อใหช้ ุมชน
ใช้วัตถุดิบในท้องถ่ินผสานเข้ากับอัตลักษณ์และวฒั นธรรมหมบู่ ้าน ผลติ ผลติ ภัณฑจ์ ากภมู ิปญั ญาส่สู ากล ซง่ึ
สามารถนาผลติ ภณั ฑ์ทช่ี มุ ชนมอี ยมู่ าพัฒนาใหต้ รงกับความตอ้ งการของผบู้ รโิ ภค และในส่วนของการดาเนนิ งาน
การจดั การผลติ ภัณฑ์ทอ้ งถน่ิ จะตอ้ งอาศยั ความร่วมมอื ของชุมชน รว่ มกนั คดิ ร่วมกันผลิตและเติบโตข้นึ อาจขยาย
เปน็ กจิ การธุรกจิ SMEs การทางานร่วมกนั หรือการบรหิ ารงานให้ประสบความสาเรจ็ จาเป็นอย่างย่ิงท่ีจะต้องนา
หลักธรรมาภบิ าลเข้ามาใช้
ผลการเรยี นรู้ที่คาดหวงั
1 แสดงความร้เู กย่ี วกบั เศรษฐกจิ พอเพยี งได้
2 ประยกุ ต์ใชห้ ลักปรชั ญาพอเพียงกบั การจัดการผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นได้
3 แสดงความรูเ้ ก่ยี วกับหลกั ธรรมาภบิ าลได้
4. มกี ารพัฒนาคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคข์ องผ้สู าเรจ็ การศึกษา
สานักงาน
คณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ทคี่ รูสามารถสังเกตได้ขณะทาการสอนในเร่ือง
4.1 ความมมี นษุ ยสัมพนั ธ์
4.2 ความมวี นิ ัย
4.3 ความรบั ผิดชอบ
4.4 ความซ่ือสัตย์สุจริต
4.5 ความเช่ือมัน่ ในตนเอง
4.6 การประหยดั
4.7 ความสนใจใฝ่รู้
87
4.8 การละเวน้ ส่งิ เสพติดและการพนัน
4.9 ความรักสามัคคี
4.10 ความกตัญญูกตเวที
สมรรถนะรายวิชา
1. แสดงความรู้เก่ียวกบั หลักการและกระบวนการจัดการผลิตภัณฑท์ ้องถิ่น
2. แสดงความรูเ้ ก่ียวกับหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง หลักธรรมาภบิ าล กฎหมายและองค์การที่
เก่ียวข้อง
กบั การจัดการผลิตภัณฑท์ ้องถิ่น
3. วางแผนและจัดการผลิตภัณฑ์ท้องถน่ิ ตามหลักการและสถานการณ์ทางการตลาด
4. ประยุกตใ์ ชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและหลักธรรมาภิบาลในการจดั การผลิตภัณฑท์ อ้ งถ่นิ
5. ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารกับการจดั การผลติ ภณั ฑท์ ้องถน่ิ
สาระการเรยี นรู้
1 ความรูเ้ ก่ียวกบั เศรษฐกิจพอเพียง
2 หลกั ปรชั ญาพอเพียงกบั การจัดการผลิตภัณฑ์ท้องถน่ิ
3 หลกั ธรรมาภิบาล
กิจกรรมการเรียนรู้
ขัน้ นาเขา้ สูบ่ ทเรียน
1.ครูใช้เทคนิคการสอนแบบซิปปาโมเดล (CIPPA MODEL) โดยการทบทวนความรู้เดิมจากสัปดาห์ท่ี
ผา่ นมา โดยดึงความรเู้ ดิมของผู้เรียนในเรื่องทีจ่ ะเรียน เพอื่ ช่วยใหผ้ ู้เรยี นมคี วามพรอ้ มในการเช่ือมโยงความรู้ใหม่
กับความรู้เดิมของตน ผูส้ อนใชก้ ารสนทนาซักถามใหผ้ เู้ รยี นเลา่ ประสบการณเ์ ดิม
2. ครูกลา่ ววา่ เศรษฐกิจพอเพียง เปน็ ปรัชญาท่ีพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู วั มีพระราชดารสั ช้แี นะ
แนวทาง
การดาเนนิ ชีวิตของพสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอด ทรงเนน้ ย้าแนวทางใหป้ ระชาชนชาวไทยหาทางเพ่ือใหร้ อดพ้น
และสามารถดารงชวี ติ อย่ไู ด้หลังจากเกิดเหตุการณว์ กิ ฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ
88
ขัน้ สอน
3. ครูจดั การเรยี นรแู้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) เรือ่ งความรู้เกีย่ วกับเศรษฐกิจพอเพยี ง
เศรษฐกิจพอเพยี งเป็นปรัชญาทีช่ ้ถี งึ แนวทางการดารงอยแู่ ละการปฏบิ ตั ิตนของประชาชนทุกระดับต้ังแตร่ ะดบั
ครอบครวั จนถึงระดบั รฐั ทั้งการบรหิ ารประเทศใหด้ าเนนิ ไปในทางสายกลางโดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกจิ
เพ่ือให้ก้าวหน้าทนั ต่อการเปลย่ี นแปลงในยคุ โลกาภิวตั น์ โดยเศรษฐกจิ พอเพียง (Sufficiency Economy) เป็น
ปรัชญาทพ่ี ระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัวทรงชแี้ นะแนวทางการดารงชวี ติ และปฏิบตั ิตนของประชาชนทกุ ระดับ
ตั้งแตร่ ะดับครอบครวั ระดับชุมชน จนถึง
ระดบั รัฐ ทัง้ ในการพัฒนาและบริหารประเทศใหด้ าเนนิ ไปตาม ทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจ
เพอ่ื ให้ทันต่อยคุ โลกาภวิ ัตน์
คานยิ ามเศรษฐกิจพอเพยี ง 3 หว่ ง 2 เงอ่ื นไข ประกอบดว้ ยคุณลกั ษณะ 3 ประการที่เปน็ หว่ ง
ประสานกนั เพ่ือนาไปสู่การปฏบิ ัติ และเง่อื นไข 2 ประการ เพื่อการตัดสินใจและดาเนนิ กิจกรรมต่างๆ ให้อยู่ใน
ระดบั พอเพียง
4.ครูอภปิ รายความสาคัญของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางการแก้ไขเพื่อให้
ประเทศไทยสามารถดารงชีวิตอยู่ได้อยา่ งย่ังยนื ภายใตก้ ระแสโลกาภิวตั น์และความเปล่ยี นแปลงท่ีจะเกิดขนึ้ ในทกุ
ดา้ น ดงั นน้ั จงึ เนน้ การปฏิบตั ิทไี่ มป่ ระมาท กล่าวคือ เนน้ ให้ดาเนนิ ชวี ิตบนทางสายกลาง ก็คือ ความพอเหมาะ
พอดี ดั
89
5.ครูและผ้เู รยี นจดั การเรียนรู้โดยใช้การอภิปรายกลมุ่ ย่อย คอื กระบวนการเรยี นรูท้ ่ผี ้สู อนจดั กลมุ่ ผเู้ รยี น
ออกเปน็ กลมุ่ ย่อยประมาณ 4 – 8 คน ให้ผู้เรียนในกลุ่มมีโอกาสสนทนาแลกเปล่ยี นข้อมูลความคดิ เห็น
ประสบการณ์ในประเดน็ หรอื ปัญหาที่กาหนด และสรปุ ผลการอภปิ รายออกมาเป็นข้อสรุปของกล่มุ เก่ียวกบั หลัก
ปรัชญาพอเพยี งกบั การจัดการผลติ ภณั ฑท์ อ้ งถิน่ ดังน้ี
กลุ่มท่ี 1 แนวทางการพึง่ พาตนเอง
กลุ่มท่ี 2 การจัดการผลติ ภณั ฑ์ท้องถ่ิน
6.ครูและผู้เรียนจัดการเรียนรู้โดยใช้การอภปิ รายกลมุ่ ย่อยต่อเนือ่ งจากข้อ 6 เรือ่ งหลกั ธรรมาภิบาล
กลุ่มที่ 3 ความหมายและความสาคญั ของธรรมาภบิ าล
กลมุ่ ท่ี 2 หลักการพนื้ ฐานของการสรา้ งธรรมาภบิ าล
7.ครแู นะนาให้ผเู้ รยี นรู้จักการนาเอาความพอเพยี งไปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์ ซ่งึ เป็นความพอประมาณ ความ
มีเหตุผล รวมถึงความจาเป็นทีต่ อ้ งมรี ะบบภูมิคมุ้ กันในตวั ท่ดี พี อสมควรต่อผลกระทบใดๆ อนั เกดิ จากการ
เปล่ียนแปลงท้ังภายนอกและภายใน การตดั สนิ ใจและการดาเนินกจิ กรรมตา่ งๆให้อยใู่ นระดบั พอเพียงนั้น ต้อง
อาศยั ท้ังความรูแ้ ละคุณธรรมเป็นพืน้ ฐาน
8.ครูแนะนาใหผ้ เู้ รียนร้จู ักชว่ ยเหลือสงั คมส่วนรวม รู้จักประหยดั พลังงาน เช่น เปิดปดิ ไฟฟ้าในเวลาที่
เหมาะสม
9.ครเู น้นปฏบิ ัติการงานด้วยความระมดั ระวัง และให้สามารถนาไปใช้ไดจ้ ริง เพ่ือสร้างภูมิค้มุ กนั ในตัวเอง
และเสนอแนะการนาความรู้ไปประกอบอาชพี เพื่อสรา้ งรายไดใ้ หแ้ ก่ตนเองและครอบครัวต่อไป
ข้นั สรุปและการประยุกต์
10.ครูและผู้เรยี นสรุปเน้อื หาความร้เู ก่ยี วกบั เศรษฐกจิ พอเพียง หลักปรชั ญาพอเพยี งกับการจดั การ
ผลิตภัณฑท์ ้องถน่ิ และหลักธรรมาภิบาล โดยการถามตอบ
11.ทาแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ ฝึกปฏิบัติ และประเมินตนเองจากแบบประเมินตนเอง พรอ้ มทา
กิจกรรมการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้
90
12.ประเมนิ ผูเ้ รยี นตามแบบฟอรม์ ต่อไปนี้
ชื่อผ้เู รียน ประสบการณ์พืน้ ฐานการเรียนรู้ วิธกี ารเรียนรู้
ความรู้ ทกั ษะ ผลงาน
1.
2.
3.
4.
5.
สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้
1.หนงั สือเรยี น วิชาการจดั การผลิตภัณฑ์ท้องถน่ิ ของสานักพมิ พเ์ อมพนั ธ์
2.รปู ภาพเศรษฐกจิ พอเพยี ง
3.กจิ กรรมการเรียนการสอน
4.แผน่ ใส
5.สอื่ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ , สอ่ื PowerPoint
6.แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
หลักฐาน
1.บนั ทกึ การสอน
2.ใบเชค็ รายชอ่ื
3.แผนจัดการเรียนรู้
4.การตรวจประเมนิ ผลงาน
การวัดผลและการประเมินผล
วธิ วี ดั ผล
1. สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล
2. ประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
3. สังเกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกล่มุ
4. ตรวจใบงาน
91
5. ตรวจแบบประเมินผลการเรียนรู้
6. การสังเกตและประเมนิ พฤติกรรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พึง
ประสงค์
เคร่ืองมอื วัดผล
1. แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล
2. แบบประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุม่ (โดยครู)
3. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม (โดยผู้เรยี น)
4. แบบประเมินกิจกรรมใบงาน
5. แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ และแบบฝึกปฏิบัติ
6. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ โดยครแู ละผูเ้ รยี น
รว่ มกนั ประเมนิ
เกณฑ์การประเมนิ ผล
1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล ต้องไม่มีชอ่ งปรบั ปรุง
2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คือ ปานกลาง (50 % ขึ้นไป)
3. เกณฑ์ผา่ นการสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คือ ปานกลาง (50% ขึน้ ไป)
4. กิจกรรมใบงาน เกณฑผ์ ่าน คือ 50%
5. แบบประเมินผลการเรยี นรู้ และแบบฝึกปฏบิ ัติมีเกณฑผ์ า่ น 50%
6. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยู่กับการ
ประเมินตามสภาพจรงิ
กจิ กรรมเสนอแนะ
1.ทาแบบใบงาน ฝึกปฏิบตั ิเพื่อให้เกดิ ความชานาญและปฏิบตั ไิ ดจ้ รงิ
2.อ่านและทบทวนเนอ้ื หาเศรษฐกิจพอเพยี ง
92
บนั ทึกหลังการสอน
ขอ้ สรุปหลังการสอน
..................................................................................................................................................
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .....................
................................................................................................................... ...............................
........................................................................................................ ..........................................
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
ปญั หาท่ีพบ
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
........................................................................................ ..........................................................
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
................................................................................................................... ...............................
............................................................................................................................. .....................
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................................................................
แนวทางแกป้ ัญหา
................................................................................................................... ...............................
.......................................................................................................................................... ........
................................................................................................................... ...............................
................................................................................................................... ...............................
..................................................................................................... .............................................
93
แผนการจัดการเรยี นรูแ้ บบบรู ณาการท่ี 15 หน่วยที่ 7
รหัส 2202-2109 การจัดการผลิตภัณฑท์ ้องถน่ิ (2-2-3) สอนคร้ังท่ี 15 (57-60)
ชอ่ื หน่วย/เรื่อง หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและหลัก
ธรรมาภิบาลกบั การจัดการผลิตภณั ฑท์ ้องถน่ิ จานวน 4 ช.ม.
แนวคดิ
จากแนวคดิ ตามปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั ให้ประชาชนดารงชีวิต
อย่โู ดยการพึ่งพาตนเอง จดั หาทรัพยากรท่มี ีอยูใ่ นท้องถนิ่ มาใชใ้ นการผลติ เพื่อกนิ ใช้ในครวั เรอื น หากเหลอื จึงนา
ออกขายเพอ่ื สรา้ งรายได้อกี ทางหนึง่ สอดคล้องกับโครงการหนง่ึ ตาบลหน่ึงผลติ ภณั ฑ์ ทดี่ าเนนิ การเพ่ือให้ชุมชน
ใชว้ ัตถุดบิ ในท้องถิ่นผสานเข้ากับอัตลักษณ์และวัฒนธรรมหมู่บา้ น ผลติ ผลิตภณั ฑจ์ ากภูมิปัญญาสู่สากล ซง่ึ
สามารถนาผลิตภณั ฑ์ทช่ี มุ ชนมอี ยูม่ าพัฒนาให้ตรงกับความต้องการของผู้บรโิ ภค และในส่วนของการดาเนนิ งาน
การจัดการผลิตภณั ฑ์ทอ้ งถ่ินจะตอ้ งอาศยั ความรว่ มมอื ของชุมชน รว่ มกันคดิ ร่วมกันผลิตและเติบโตขนึ้ อาจขยาย
เปน็ กจิ การธรุ กจิ SMEs การทางานรว่ มกนั หรือการบริหารงานใหป้ ระสบความสาเร็จจาเป็นอย่างยงิ่ ท่ีจะต้องนา
หลักธรรมาภบิ าลเขา้ มาใช้
ผลการเรียนรู้ทีค่ าดหวัง
4 การประยุกต์ใชห้ ลักธรรมาภบิ าลในการจดั การผลิตภณั ฑ์ทอ้ งถนิ่ ได้
5.มีการพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ของผสู้ าเร็จการศึกษา
สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ท่ีครสู ามารถสงั เกตได้ขณะทาการสอนในเร่ือง
5.1 ความมีมนษุ ยสัมพันธ์ 5.8 การละเว้นสงิ่ เสพตดิ และการพนนั
5.2 ความมีวินยั 5.9 ความรักสามคั คี
5.3 ความรับผดิ ชอบ 5.10 ความกตัญญกู ตเวที
5.4 ความซื่อสตั ย์สุจรติ
5.5 ความเช่ือม่ันในตนเอง
5.6 การประหยดั
5.7 ความสนใจใฝ่รู้